Tag Archives: ใหม่ เจริญปุระ

กรงกรรม

กรงกรรมเรื่องย่อ กรงกรรม

ในปี พ.ศ. 2510 ย้อย เจ้าของกิจการร้านค้าและโรงสี เธอแต่งงานกับเจ๊กเซ้ง และได้มีลูกด้วยกัน 4 คนคือ ปฐม ประสงค์ กมล และมงคล ย้อยเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการคนในครอบครัว

ปฐม ลูกชายคนโต ได้กลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากที่ไปเป็นทหารที่ตาคลี และพาหญิงสาวชื่อเรณูมาด้วย เพราะเธอบอกว่าเธอได้ท้องกับปฐม เรณูเป็นสาวขายบริการในบาร์ ย้อยจึงไม่พอใจ เพราะนอกจากที่ปฐมจะพาหญิงขายบริการเข้าบ้าน  ปฐมก็ยังมีคู่ที่หมั้นหมายกันไว้อยู่แล้ว คือพิไล ลูกสาวเถ้าแก่โรงสี ที่เพียบพร้อมทั้งฐานะหน้าตาและการศึกษา ย้อยไม่อยากให้พิไลมาอยู่ในบ้านเดียวกัน จึงจะให้ไปอยู่บ้านในตรอกที่ตนไปจำนองมา ย้อยแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการจับให้ ประสงค์ ที่บวชอยู่วัดสึกออกมาแต่งงานกับพิไลแทน แต่ประสงค์นั้นไม่อยากแต่งงานเพราะเขาชอบจันตาลูกจ้างร้านสังฆภัณฑ์ แต่ก็ไม่อาจขัดใจแม่ได้  ย้อยรีบไปบอกพิไล แต่พิไลก็ยื่นข้อเสนอว่าขอสินสอดใหม่ทั้งหมดและเรื่องค่าจัดงาน ย้อยต้องเป็นคนรับผิดชอบ

เมื่อถึงฤกษ์แต่งงาน ย้อยได้ไล่เรณูไปอยู่ที่บ้านหลังโรงสี และเอาบ้านที่อยู่ในตรอกให้เป็นเรือนหอของประสงค์และพิไลแทน หลังจากที่เรณูได้ถูกย้ายไปที่ใหม่ เธอก็ได้สร้างกระท่อมเล็กๆขึ้นมาใหม่เพื่อไว้ใช้ทำขนม โดยได้ความช่วยเหลือจาก เจ๊กเซ้งและกมล

มงคลได้ไปเรียนที่ปากน้ำโพ เขาได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่ชุมแสง จนบังเอิญเจอวรรณาซึ่งเป็นน้องสาวของเรณูที่เธอเรียนตัดเย็บอยู่ มงคลจีบวรรณาตามประสาคนเจ้าชู้ วรรณาได้มาตามเรณูกลับบ้าน เพราะแม่ของเธอ เรไร กำลังป่วยหนัก เมื่อเรณูรู้ข่าวเธอจึงได้ไปเยี่ยมแม่ทันที หลังจากที่ได้สั่งเสียกันเสร็จ แม่ของเธอก็สิ้นลม เรณูจัดการเรื่องงานศพแม่อยู่ 3 วัน  หลังจากที่แม่เสีย เรณูก็ตั้งใจว่าจะเอาป๊อก ลูกของเธอที่เกิดจากการโดนพี่เขยข่มขืนไปอยู่ด้วยกัน แต่ป๊อกก็ขออยู่กับหลวงพ่อที่วัด

ย้อยได้ไปที่กฤชและได้แวะพักที่ปากน้ำโพหนึ่งคืน และบังเอิญไปได้ยินคนในตลาดคุยกันเรื่องเรณูนั้นมีลูกมาก่อนแล้ว ย้อยโมโหมากที่เรณูมาหลอกลูกชายของตน เมื่อกลับชุมแสงก็ได้เอากุญแจล็อคบ้านหลังโรงสีของเรณูทันที เรณูกลับมาเข้าบ้านไม่ได้ เรณูจึงได้ไปขอกุญแจจากย้อยแต่ย้อยก็ไม่ให้บอกพรุ่งนี้ค่อยมาเอา เรณูไม่มีที่นอนเธอจึงได้ไปขอนอนที่บ้านของจันตาหนึ่งคืน พอเช้าตรู่ก็รีบออกมาที่หน้าร้านของย้อยแต่เช้า แสร้งทำว่าเธอนั้นนอนอยู่หน้าบ้านของย้อยทั้งคืนเพื่อให้ชาวบ้านเห็นใจสงสาร และต่อว่าย้อยว่าใจดำกับคนท้อง ไม่นาน เรณูก็ปล่อยข่าวว่าเธอแท้ง เพราะทำงานหนักจนลื่นล้ม ย้อยไม่เชื่อและอยากจะกำจัดเรณูให้เร็วที่สุด

เมื่องานแต่งงานของประสงค์และพิไลผ่านไป ทั้งสองก็ได้ย้ายไปอยู่บ้านในตรอกของย้อย  พิไลได้จ้างคนมาทำงานบ้าน เพราะเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ป้อมและบุญปลูก สองพี่น้องทำงานอยู่ร้านย้อยนึกสงสารประสงค์ จึงได้เข้ามาช่วยทำงานบ้านอยู่บ่อยครั้ง

เพื่อนที่เคยทำงานกับเรณูในบาร์อย่างประนอมและติ๋มมาทำธุระที่ชุมแสง เรณูได้เล่าชีวิตของเธอให้เพื่อนฟัง เมื่อติ๋มได้ฟังเรื่องราวของเพื่อนที่ถูกนางย้อยรังแก ก็ได้แนะนำเรณูให้ทำเสน่ห์ใส่ย้อย เหมือนที่เคยได้ทำใส่ปฐม เมื่อย้อยเห็นเรณูพาเพื่อนที่ขายบริการมาบ้าน ก็ตามไปด่าถึงบ้าน เธอจึงได้รู้ว่าปฐมนั้นโดนทำเสน่ห์ ย้อยให้ป้อมหาหมอมาช่วยแก้ จึงนั่งเรือไปหาหมอฝีมือดีที่เกยไชย เมื่อหมอได้ตรวจดูแล้วก็พบว่าปฐมนั้นโดนเสน่ห์จริง และบอกว่าถ้าอยากจะแก้ต้องพาปฐมมาด้วยเท่านั้น เรณูรู้ข่าวว่าย้อยจะพาปฐมไปถอนเสน่ห์ จึงได้รีบไปหาหมอก้อนทำเสน่ห์ให้ ติ๋มได้แนะนำให้เรณูทำของใส่ย้อยและอาสาจะออกเงินให้เอง เพราะติ๋มนั้นก็แค้นย้อยที่เคยโดนยึดบ้านไปทำให้เธอนั้นต้องไปขายบริการที่ตาคลี และอยากให้เรณูแก้แค้นแทนเธอ

นางศรี ลูกค้าประจำร้านชอบนิสัยของกมลจึงอยากได้มาเป็นหลายเขยของตน ย้อยจึงได้พยายามจับคู่ให้กมลกับเพียงเพ็ญ หลานของนางศรี ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของกำนันศรที่ตำบลฆะมัง ซึ่งมีข้อตกลงว่าถ้าแต่งงานกันแล้วต้องให้กมลไปอยู่ที่ฆะมังด้วย แต่หารู้ไม่ว่าเพียงเพ็ญนั้นรักใคร่อยู่กับก้านและได้เสียกันไปแล้ว และตอนนี้เธอก็กำลังตั้งท้องกับก้าน ส่วนกมลนั้นก็แอบชอบกับจันตา เมื่อย้อยรู้ว่ากมลแอบมีใจให้กับจันตา เธอจึงบังคับให้กมลนั้นแต่งงานทันที

ก้านมาร้านยาเพื่อที่จะซื้อยาไปให้นางกุ่นผู้เป็นแม่ แต่ดันเงินไม่พอ บังเอิญที่กมลนั้นมาซื้อยาพอดี เห็นว่าก้านนั้นเงินไม่พอจ่ายค่ายาจึงได้ออกช่วย ก้านรู้สึกซาบซึ้งใจมาก โดยที่ทั้งคู่นั้นไม่รู้จักกันและได้แยกกันไป ต่อมาก้านได้แอบไปหาเพียงเพ็ญเพราะรู้ว่ากำนันศรกำลังบังคับให้เพียงเพ็ญแต่งงานกับกมล ก้านตั้งใจที่จะฆ่ากมล แต่พอเมื่อเจอกมลก็จำได้ว่ากมลคือคนที่ได้ออกเงินค่ายาให้แม่ของเขา ทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจ และได้ย้ายไปอยู่กับวงดนตรีที่กรุงเทพฯ  เพราะให้เพ็ญเพียงและกมลแต่งงานกันตามความต้องการของผู้ใหญ่

ด้านย้อยเมื่อโดนเสน่ห์ของเรณู ย้อยก็เอ็นดูเรณูมากขึ้น และยังจ้างเรณูทำขนมในงานแต่งงานของกมลด้วย ฝ่ายพิไลเมื่อเห็นว่าย้อยเอ็นดูเรณูกว่าตนก็รู้สึกอิจฉา แต่ยิ่งพิไลพยายามยุยงให้ย้อยเกลียดเรณู มากเท่าไหร่ ย้อยก็กลับรักเรณูมากยิ่งขึ้น

เมื่องานแต่งกมลมาถึง ย้อยได้ให้สร้อยทองกับเรณูเพื่อใส่ไปงาน แม้เรณูว่าจะคืนให้หลังจบงานแต่ย้อยก็บอกให้แล้วให้เลยไม่เอาคืน พิไลเริ่มสงสัยความผิดปกติของย้อยคิดว่าเรณูต้องทำของใส่ จึงได้ไปหาหมอเพื่อแก้คุณไสย พิไลจึงไปหาหมอมี แต่หมอมีดันป่วยตายกะทันหัน พิไลจึงต้องกลับบ้านมือเปล่า เชิดไปที่ตาคลีเพื่อสืบข่าว บังเอิญได้เจอกับติ๋มและเล่าเรื่องพิไลกับเรณูให้ฟัง ติ๋มจึงแนะนำหมอบาง ซึ่งเป็นเจ้าแม่ร่างทรงชอบหลอกเก็บเงินแพง ๆ เพื่อเลี่ยงให้เชิดไม่เจอกับหมอก้อนผู้ทำเสน่ห์ให้เรณู เชิดไปหาหมอบางและได้ความว่าต้องเอาคนถูกคุณไสยมา พิไลยังคิดหาทางพาย้อยไปไม่ได้จึงหาทางแก้แค้นเรณู โดยให้เชิดไปขโมยสร้อยทองที่ย้อยให้เรณู แต่ย้อยกลับให้สร้อยทองใหม่กับเรณูอีก อีกทั้งยังบอกว่าจะเปิดร้านตัดเสื้อผ้าให้วรรณาเมื่อเรียนจบด้วย

หลังจากแต่งงานเพียงเพ็ญก็แพ้ท้องอย่างหนัก เพียงเพ็ญยังซื่อสัตย์ต่อก้าน จึงอ้างว่าตนไม่สบายกลัวกมลติดไข้ จึงขอแยกเตียงนอนกับกมล ซึ่งกมลก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ฝ่ายก้านหลังจากไปกรุงเทพไม่นานก็ต้องกลับมาเพราะบังอรส่งข่าวไปว่านางกุ่นป่วยหนัก บังอรเป็นลูกของเจ้าของที่นาในฆะมังที่ก้านและกุ่นไปรับจ้างทำนาให้ บังอรแอบชอบก้านและหวังจะแต่งงานด้วยจึงมาคอยดูแลนางกุ่น นางกุ่นขอให้ก้านตัดใจจากเพียงเพ็ญและแต่งงานกับบังอร กำนันศรต้องการตัดขาดก้านกับเพียงเพ็ญ จึงเสนอเงินส่วนหนึ่งให้บังอรรีบจัดงานแต่งงานกับก้านให้เร็วที่สุด แต่ก่อนงานแต่งงานหนึ่งวันนางกุ่นก็สิ้นลม ทำให้งานแต่งงานถูกยกเลิกไป

ฝ่ายเพียงเพ็ญตัดสินใจบอกกมลเรื่องที่ตนท้องมาก่อนแต่งงาน และให้กมลตัดสินใจทำตามใจตนเองว่าจะเอาอย่างไรต่อไป สุดท้ายทั้งคู่ตัดสินใจไปเซ็นต์ใบหย่ากันเงียบ ๆ ที่อำเภอ กมลบอกกับพ่อแม่ของเพ็ญว่าตนเอง จะกลับไปเฝ้าพ่อที่กำลังป่วยที่ชุมแสง ส่วนเพ็ญก็หนีออกจากบ้านไปอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ต้องอับอายไปมากกว่านี้

หลังจากเจ๊กเซ้งป่วยมะเร็งปอดไม่นานก็เสียชีวิต ทั้งเรณูและพิไลต่างก็มาช่วยงานศพ พิไลคิดแค้นเรณูจึงป่าวประกาศให้ทุกคนในงานศพรู้ว่าเรณูทำคุณไสยใส่ย้อย แม้ว่าเรณูจะทำเป็นไม่สนใจ แต่ในใจเธอนั้นรู้สึกเสียใจและละอายใจที่ตนทำคุณไสยใส่ทั้งปฐมและย้อยไป ย้อยรู้ความจริงในที่สุด ว่ากมลหย่ากับเพียงเพ็ญแล้ว ย้อยแค้นใจที่ถูกย้อมแมวขาย กมลกราบเท้าแม่ ขอกลับมาอยู่ชุมแสงอีกครั้ง เพียงเพ็ญเป็นลมหมดสติอยู่ที่สถานีรถไฟ กมลมาเจอเข้า จึงช่วยไว้ และพาไปอยู่ที่บ้านสวนท้ายโรงสี ก้านมาตามหาเพ็ญ กมลจึงฝากก้าน ทำงานที่โรงสี อยู่กับประสงค์ ก้านกับเพียงเพ็ญได้พบกันในที่สุด กมลให้ก้าน ทำความดี ชนะใจเพียงเพ็ญให้ได้

มาลาท้องกับมงคล แต่มงคลไม่อยากรับผิดชอบและขอให้ไปทำแท้ง แต่มาลาไม่กล้าทำและไม่กล้าบอกพ่อแม่จึงมาหาย้อยเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยขอให้วรรณาไปเป็นเพื่อนและเป็นพยานว่าเธอคบกับมงคลจริง แต่ย้อยไม่เชื่อและให้มาลาสาบาน มาลาจึงกล่าวสาบานกับเจ้าพ่อชุมแสงว่าถ้าตนโกหกขอให้มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวัน แต่ถ้าพูดความจริงแล้วไม่ช่วยอะไรขอให้มงคลมีอันเป็นไปแทน ไม่กี่วันต่อมามงคลก็จมน้ำตาย

เรณูจะไปแจ้งข่าวเรื่องการตายของมงคลกับปฐมที่ค่ายทหาร แต่กลับพบปฐม อยู่กับอรพรรณี ลูกสาวเจ้านาย เรณูเริ่มทำใจ รู้ว่าความรักของเขากับปฐม จะกลายเป็นเรื่องอดีตไปจริง ๆ เรณูเศร้าใจ เพราะตอนนี้เธอกำลังอุ้มท้อง ลูกของปฐมอยู่ ในขณะที่พิไลรู้ข่าวก็คับแค้นใจอย่างหนัก คิดจะพาย้อยไปเอาเสน่ห์ออกให้เร็วขึ้น เพราะกลัวว่าสมบัติที่ตัวเองควรได้จะตกไปอยู่ที่เรณูและลูก

เชิดเห็นติ๋มมาเยี่ยมเรณูที่ชุมแสง จึงรู้ว่าตัวเองถูกหลอกให้ไปหาหมอบางแน่ พิไลจึงสั่งให้เชิดไปเค้นมาว่าเรณูทำคุณไสยที่ไหน แต่ด้วยความแค้นเชิดจึงซ้อมจนติ๋มจนบาดเจ็บสาหัส

ด้านจันตา หลังจากกมลแต่งงานไป ปลัดจินกรก็มาสู่ขอจันตา แต่ในวันงาน กรองแก้วซึ่งเป็นญาติของปลัด จินกรมาพร้อมกับสามี เมื่อเห็นหน้าจันตาก็ป่าวประกาศว่าจันตาเคยเป็นเมียน้อยของสามีเธอ รวมถึงเคยท้องและทำแท้งมาก่อนด้วย งานแต่งงานจึงต้องยกเลิกกลางคัน จันตาตัดสินใจจะกลับไปอยู่สุโขทัยบ้านเกิด กมลเครียดหนัก คิดไม่ตก เพราะถ้าหากเขาปล่อยจันตาไป ในชีวิตนี้อาจไม่ได้พบเธออีก จึงไปกราบลาย้อย ขอใช้ชีวิตในแบบของตนเองสักครั้ง อยู่ปกป้องคนที่ตนเองรัก กมลตามจันตาไปที่สถานีรถไฟ และซื้อตั๋วไปเชียงใหม่ ขอเริ่มต้นชีวิตคู่กับจันตาที่นั่น ย้อยตามมา เอาเงินสินสอดที่ได้คืนจากเพียงเพ็ญให้กมล และจันตา ไปทำทุนค้าขาย เริ่มต้นชีวิตใหม่ กมล จันตา กราบขอบคุณย้อย

พิไลได้หมอมือดีชื่ออาจารย์สมดีจากทับกฤช จึงไปรับมาเปิดโปงเรื่องที่เรณูทำคุณไสยให้คนทั้งตลาดฟัง เรณูรู้สึกอับอายมาก จึงย้ายไปอยู่พยุหะคีรีพร้อมกับวรรณา และขอให้หมอก้อนเอาคุณไสยออกจากปฐมฝ่ายติ๋มแค้นที่ตนถูกนายเชิดทำร้ายร่างกาย ไปขอให้หมอบางช่วย แต่หมอบางปฏิเสธเรื่องการทำไสยดำจนถึงแก่ความตาย ติ๋มจึงวานต๋อมพี่ชายไปหาหมอเบี้ยว เมื่อทำคุณไสยเสร็จ พิไลก็ทุรนทุราย เพ้อว่าจะมีคนมาฆ่าตลอดเวลา จนมีข่าวลือว่าพิไลอาการเหมือนผีเข้าและเรณูเป็นคนทำเพื่อชำระแค้น ติ๋มกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายไปถึงเรณู จึงออกไปประกาศหน้าบ้านย้อยว่าเป็นฝีมือตน ถ้าพิไลอยากหายดีก็ต้องให้พิไลมาคุยกันหน้าบ้าน ไม่เช่นนั้นประสงค์จะโดนไปด้วย ย้อยกลัวว่าประสงค์จะเดือดร้อนจึงเรียกพิไลออกมา และต้องป่าวประกาศเรื่องร้าย ๆ ที่ตนทำไว้ให้คนทั้งชุมแสงฟัง อาจารย์สมดีขอให้พิไลคลายความเคียดแค้นและความละโมบในใจออกมาพร้อมกับนึกถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อยู่พักใหญ่จึงจะหายดี เมื่อพิไลได้สติก็ขอกลับไปอยู่ที่ทับกฤชเพราะอายชาวบ้าน โดยอ้างว่าจะขอกลับไปบวชชี

เมื่อเรณูย้ายมาก็เปิดร้านขายข้าวเกรียบปากหม้อเพื่อหารายได้ ฝ่ายปฐมปลดทหารก็กลับไปบ้าน พร้อมกับอรพรรณี ปฐมตั้งใจจะมา ตกลงกับเรณูเรื่องลูกและเมียใหม่ของเขา แต่เรณูย้ายไปแล้วจึงไม่ได้เจอกัน ปฐมกราบลาย้อย ขอไปใช้ชีวิตอยู่กับอรพรรณี ปฐมออกจากบ้านแบ้ไปแล้วจริง ๆ กมลพาจันตากลับมาเยี่ยมย้อยในเวลาต่อมา กมลกับจันตาค้าขายจนตั้งตัวได้ และมีความสุขมาก ย้อยจึงยกตึกแถวของตนที่ปากน้ำโพให้ทั้งสอง และตั้งใจว่าตนจะย้ายไปอยู่ด้วยเพราะใกล้โรงพยาบาลมากกว่าที่ชุมแสง ส่วนประสงค์นั้นให้ดูแลกิจการทั้งหมดที่มีในชุมแสงต่อไป

3 ปีต่อมา ย้อยก็เหมือนมีลูกเล็กอีกคน เพราะมาลาคลอดลูกแล้วมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง ส่วนมาลากลับไปแต่งงานที่เขากะลา ประสงค์แต่งงานกับบุญปลูก กมลแต่งงานกับจันตา วรรณาได้แต่งงานกับปลัดจินกร เรณูรับป๊อกมาอยู่ด้วยกันที่ร้านที่พยุหะคีรี โดยมีกิจการขายขนมไทย ข้าวเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมูที่เป็นไปได้ด้วยดี ฝั่งปฐม แม้จะได้เรียนสูงและไปทำงานในบริษัทของ อรพรรณี มีลูกด้วยกัน1คน แต่เขาไม่มีความสุขเลย อรพรรณีเที่ยวเล่นทุกวัน เขาลาไปเยี่ยมแม่ที่บ้านและบังเอิญได้พบกับเรณูที่มาเยี่ยมย้อยเช่นกัน ทั้งคู่ได้เจอกันและปรับความเข้าใจกัน

บั้นปลายชีวิต เบาหวานของย้อยกำเริบหนักจนต้องตัดขาทิ้ง ระหว่างพักฟื้น ปฐมตั้งใจขับรถกลับมาเยี่ยมแม่ แต่เกิดอุบัติเหตุรถชนจนบาดเจ็บสาหัส ย้อยได้ยินข่าวก็ช็อกจนขาดใจตาย อรพรรณีได้ยินข่าวอุบัติเหตุเห็นว่ารักษาไปก็ไม่หายเป็นปกติแน่จึงปฏิเสธเรื่องการช่วยเหลือทางการเงินใดๆ ประสงค์และกมลจึงตัดสินใจจำนองที่ดินที่ย้อยแบ่งให้ปฐมจนหมดเพื่อเป็นค่ารักษา ปฐมรักษาตัวอยู่ 3 ปีก็กลับมาเป็นปกติโดยมีเรณูคอยดูแล ทั้งสองคนช่วยกันขยายกิจการร้านขนมของเรณูจนเปิดโรงงานขนมได้ และอยู่กันอย่างมีความสุข

ติดตามชมละครเรื่องกรงกรรมได้ทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 และช่อง 33 ออกอากาศตอนแรกวันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562

ผู้กำกับ : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ผลิตโดย : บริษัท แอคอาร์ด เจเนเรชั่น จำกัด
เขียนบท : ยิ่งยศ ปัญญา
บทประพันธ์ : จุฬามณี

นักแสดง กรงกรรม

ราณี แคมเปน แสดงเป็น เรณู
ฐกฤต ตวันพงค์ แสดงเป็น ปฐม (เฮียใช้)
ชนาธิป โพธิ์ทองคำ แสดงเป็น ประสงค์ (อาตง)
จิรายุ ตั้งศรีสุข แสดงเป็น กมล (อาซา)
วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ แสดงเป็น มงคล (อาสี่)
ใหม่ เจริญปุระ แสดงเป็น ย้อย
ปรียากานต์ ใจกันทะ แสดงเป็น จันตา
จิตรภาณุ กลมแก้ว แสดงเป็น ปลัดจินกร
รินรดา แก้วบัวสาย แสดงเป็น วรรณา
พิชชาภา พันธุมจินดา แสดงเป็น พิไล
ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ แสดงเป็น บุญปลูก
เด่นคุณ งามเนตร แสดงเป็น ก้าน
อรเณศ ดีคาบาเลส แสดงเป็น เพียงเพ็ญ
ปริญญ์ วิกรานต์ แสดงเป็น หลักเซ้ง
กษมา นิสสัยพันธุ์ แสดงเป็น กำนันศร
ปริศนา กล่ำพินิจ แสดงเป็น นางสมพร (เมียกำนัน)
จรรยา ธนาสว่างกุล แสดงเป็น นางศรี (น้องสาวกำนันศร)
ณัฐนี สิทธิสมาน แสดงเป็น นางแรม
อรรณพล เทศทะวงศ์ แสดงเป็น ป้อม
อ้อยใจ แดนอีสาน แสดงเป็น ประนอม
ปาจรีย์ ณ นคร แสดงเป็น หวาน
สุเชาว์ พงษ์วิไล แสดงเป็น อาจารย์ก้อน
ชลัฏ ณ สงขลา แสดงเป็น เชิด
คัดกิ่งรักส์ คิดคิดสะระณัง แสดงเป็น เจ้อ๋า (เจ้าของร้านทอง)
ณภัทร ชุ่มจิตตรี แสดงเป็น ไอ้หวัง
นิศาชล ต้วมสูงเนิน แสดงเป็น บังอร
วราพรรณ หงุ่ยตระกุล แสดงเป็น หมุ่ยนี้
กุณกนิช คุ้มครอง แสดงเป็น นางกุ่น (แม่ก้าน)

ละคร ระบำบุญ ภาคต่อ กรงกรรม

 

วังน้ำวน

อาโป  เพียงธาร และ ระริน  เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยที่เรียนโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ทั้งสามทั้งมีความฝันเป็นของตัวเอง อาโปมีฐานะทางครอบครัวดีกว่าเพื่อน เธอฝันว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศหลังเรียนจบ ผิดกับเพียงธารที่มีฐานะยากจน เธอจึงรับหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัวทุกอย่าง ระรินมีความฝันไม่ต่างจากเพื่อนๆ เธอใฝ่ฝันว่าอยากเป็นนางเอกละคร แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเธอทั้งสามคิดเหมือนกัน ก็คือการแอบชอบ ต้นสาย  ครูฝึกสอนหนุ่มหน้าตาดีที่เข้ามาฝึกสอนอยู่ที่โรงเรียน
 
เพียงธารออก หางานพิเศษทำทุกอย่างเพื่อส่งเสียครอบครัว งานแรกคือการเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอางค์ ซึ่งทำให้เธอได้พบกับ ทัดดาว จึงถูกชักชวนไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อจะได้มีรายได้ดีกว่าเดิม และอาจจะมีโอกาสก้าวสู่การเป็นนางแบบได้ แต่เมื่อระรินรู้ จึงอยากรู้จักทัดดาวด้วย เพื่อหวังว่าตัวเองจะได้เป็นดาราอย่างที่ฝันไว้ วันหนึ่งทั้งสามสาวแอบโดดเรียนไปเล่นน้ำที่แม่น้ำ แต่อาโปว่ายน้ำไม่แข็งจึงถูกดูดลงไปในใต้น้ำซึ่งเป็นน้ำวน ต้นสายเห็นเข้าจึงกระโดดลงไปช่วยอาโปไว้ทัน ทำให้อาโปรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเขามาก ต้นสายมาลาอาโป เพื่อกลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ทั้งสองจึงเผยความรู้สึกในใจต่อกัน
 
วันหนึ่งขณะที่ต้นสายกำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางได้ช่วยระรินที่กำลังถูกพ่อเลี้ยงปลุกปล้ำ ระรินจึงขอเข้ากรุงเทพฯ กับต้นสาย เพื่อไปทำงานกับทัดดาว แต่พอถึงกรุงเทพฯ ระรินกลับติดต่อกับทัดดาวไม่ได้ ต้นสายจึงให้ระรินพักกับตนไปก่อน จนทำให้ทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน อาโปและเพียงธาร รู้สึกผิดหวังมากเพาะคิดว่าต้นสายเป็นคนพาระรินหนี
 
หลังสอบปลายภาค เพียงธารตัดสินใจมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสียครอบครัว อาโปจึงเสนอให้ไปอยู่บ้านป้าพร้อมกับตัวเอง อาโปไปสมัครเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อ เลยทำให้เธอได้พบกับ กลางชล ครูสอนภาษาเยอรมัน ส่วนเพียงธารได้ไปทำงานที่ร้านดอกไม้ คุณปอง  อดีตดาราที่เคยเดินทางผิด เธอจึงคอยตักเตือนเพียงธารอยู่เสมอๆ เพราะกลัวว่าเพียงธารจะมีชีวิตที่ซ้ำรอยแบบเธอ ยิ่งเมื่อได้รู้จักกับ สินธู ( นพชัย มัททวีวงศ์ ) นักธุรกิจหนุ่มเพลย์บอย คุณปองก็ยิ่งเป็นห่วงเธอมากขึ้น ระรินถูกสินธู ชักชวนให้เล่นหนังวีซีดี เพราะสนใจในตัวระริน โดยที่ระรินก็เล่นด้วย สินธูอาสาเลี้ยงดูระรินโดยซื้อบ้านให้อยู่ ระรินจึงหนีจากต้นสายมาอยู่กับสินธู
 
ทางด้านเพียงธารเป็นหญิงสาวที่ สินธูหวังครอบครองเป็นเจ้าของ แต่มีคุณปองคอยขัดขวาง กลางชลมีโอกาสได้ใกล้ชิดเพียงธารมากขึ้น เมื่อเพียงธารย้ายออกมาอยู่อพาร์ทเมนท์ตรงข้ามกับบ้านของเขา ทำให้กลางชลเริ่มหวั่นไหว จึงขอหมั้นกับอาโปแล้วชวนกันไปอยู่ที่เยอรมันด้วยกัน แต่อาโปปฏิเสธเพราะยังสนุกกับงานที่ทำอยู่ อาโปนำเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อรถ เป็นจังหวะที่เพียงธารเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะหาเงินไปรักษาพ่อที่ป่วย จึงมาขอยืมอาโป แต่อาโปไม่มี เพียงธารหมดหนทางจึงตัดสินใจขอยืมสินธู สินธูจึงสั่งให้ลูกน้องนำเงินไปให้ทันที
 
เพียงธารต้องการหาเงินให้ ให้สินธูโดยเร็ว จึงทำงานเพิ่มมากขึ้น กลางชลแนะนำให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทของเพื่อน อาโปก็ไปสมัครงานนี้เช่นกัน แต่ปรากฏว่าเพียงธารถูกเลือกแทน เพียงธารนำเงินไปคืนสินธู แต่เขาไม่รับและขอแลกกับการคบกับเพียงธารแทน แต่เพียงธารยังไม่ยอมรับ กลางชลใกล้ชิดกับเพียงธารมากขึ้น โหน่ง  พยายามเตือนอาโป แต่อาโปไม่เชื่อว่าเพื่อนจะทำร้ายเพื่อนได้ ระรินเริ่มออกอาการหึงหวงสินธูมากขึ้นจนเสียการเสียงงาน สินธูวางแผนเปิดกล้องภาพยนตร์ 3 เรื่องพร้อมกัน โดยมี เพียงธาร, อาโป, ระริน นำแสดงในแต่ละเรื่อง โดยวางกลางชลแสดงคู่กับอาโป
 
ระรินติดต่ออาโปให้สินธู แต่หลอกว่ามีฉากวับๆ แวมๆ อาโปจึงปฏิเสธ แต่มารู้ทีหลังวาเป็นหนังชีวิตธรรมดาจึงตอบรับ พออาโปรู้ว่ากลางชลถอนตัวจึงผิดหวังในที่สุดจึงตัดสินใจไม่รับเล่น และก็ยังไม่อยากไปเรียนต่อ กลางชลจึงแนะนำให้อาโปไปเรียนการแสดง จนได้รู้จักกับ แจ็ค ผู้กำกับที่กำลังหานางเอกใหม่อยู่ อาโปได้เจอกับต้นสายอีกครั้ง อาโปจึงแนะนำให้ต้นสายไปเป็นแสตนด์อินในละครที่เธอเล่น อาโปประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงมากก่าเพื่อนทั้งสอง สินธูคิดจะสร้างหนังใหญ่เรื่อง “วังน้ำวน” โดย พัฒน์ ผู้กำกับต้องการ อาโป มาเล่น เพราะอาโปกำลังได้รับความนิยม แต่สินธูต้องการ เพียงธาร และ ระริน เล่นเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่เป็นนักแสดงในสังกัดของเขา พัฒน์เลือกอาโปกับระริน เพราะบทเหมาะกว่า เพียงธารไปหาคุณปอง แต่พบว่าคุณปองฆ่าตัวตาย เพราะเมียหลวงมาอาละวาดที่ร้าน เพียงธารเสียงใจมาก รวมทั้งเห็นอาโปและกลางชลหวานชื่นกัน เพียงธารหมดหนทางจึงตัดสินใจไปหาสินธู และวันนั้นเธอก็ค้างที่คอนโดสินธูอย่างเต็มใจ จนเพียงธารรู้ว่าตัวเองไม่ได้เล่นหนัง “วังน้ำวน” แล้ว จึงขอสินธูเปลี่ยนตัว ให้เธอได้เล่นเรื่องนี้ เพื่อทำให้ความฝันของคุณปองให้เป็นจริง
 
พัฒน์เลือก อาโป กับ เพียงธาร โดยตัดระรินออกจากหนังเรื่องนี้ ทำให้ระรินเสียใจมาก บังเอิญพระเอกของเรื่องนี้ถอนตัว สินธูจึงไปขอร้องให้กลางชลมาแสดงแทน กลางชลตอบตกลง เพราะจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเพียงธาร ทางด้านอาโปจึงเริ่มไม่ไว้ใจเพียงธารมากขึ้นและเริ่มหึงหวงกลางชล เมื่อเขาเริ่มเปลี่ยนไป ระรินมาอาละวาดกับเพียงธารที่กองถ่ายเรื่องของสินธู กลางชลออกหน้าปกป้องเพียงธาร อาโปน้อยใจกลางชลที่เริ่มตีตัวออกห่าง แจ็ค มาขอให้อาโปกับเพียงธารไปเดินแบบงานแฟชั่นการกุศล พอระรินจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองได้ไปเดินแฟชั่นงานนี้ด้วย
 
ใน งานแฟชั่น กลางชลตัดสินใจบอกเลิกกับอาโป เพียงธาร, อาโป, ระริน ต้องเผชิญหน้ากันในห้องแต่งตัว ทั้งสามทะเลาะกัน เมื่อออกมาหน้าเวทีจึงแกล้งเดินชน แล้วเหยียบเท้ากัน เลยเถิดไปถึงขั้นตบตีกันด้านหลัวเวที สินธูกับกลางชลตามมาช่วย แต่ก็เกิดชกต่อยกันเองเพราะความหึงหวง สินธูดึงเพียงธารไปเคลียร์ปัญหาที่ค้างคากันอยู่ ส่วนระรินถึงกับขาดสติจนต้องเข้าโรงพยาบาล อาโปไม่สามารถเข้าฉากกับเพียงธารและกลางชล ได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น
 
ความรักของเพื่อนทั้งสาม ขาดสะบั้นลง เมื่อความรักกลายเป็นวังวน ที่พัวพันรอบตัวพวกเธอ จนไม่สามารถสะบัดหลุดไปได้ จุดจบความรักของทั้งสามจะเป็นอย่างไร พวกเธอจะหาทางออกจาก “วังน้ำวน” แห่งนี้ได้หรือไม่ หรือยังคงหลงอยู่ในวังวนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

แผ่นดินของเรา

แผ่นดินของเรา เป็นเรื่องราวที่เริ่มขึ้นในบ้านจิระเวสน์ พระวรนาตประณต (ผิน) พ่อนางเอก พาครอบครัว คือ เพทาย ภรรยาใหม่ ภัคคินี ลูกสาวของภรรยาใหม่กับตน และลูกสาวสองคน คือ อัจฉรา กับ สายสวรรค์ ที่เกิดกับรำเพย ภรรยาเก่าผู้ล่วงลับ  ไปเยี่ยมธำรง เพื่อนเก่าที่หนีไปทำสวนมะพร้าวที่ทุ่งวัวแล่นเพราะต้องการตัดใจจากท่านหญิงที่เคยรัก

อุบัติเหตุที่เกิดกับธำรงทำให้เขาต้องมารักษาตัวที่ คฤหาสน์จิระเวสน์ที่กรุงเทพ ฯ  ระหว่างรักษาตัวได้เกิดความผูกพันทางใจกับภัคคินี เขาคิดว่าไม่มีหวังและต้องการกลับทุ่งวัวแล่น แต่แล้วเมื่อภัคคินีแสดงอย่างเปิดเผยว่าไม่รังเกียจ ทั้งคู่จึงตกลงแต่งงานกันก่อนกลับไปทุ่งวัวแล่น

ครอบครัวของพระวรนาตเดินทางไปพักผ่อนกับลูกสาวและลูกเขยที่ทุ่งวัวแล่น ภัคคินีได้พบกับนเรนทร์ คู่หมั้นของอัจฉราที่เพิ่งกลับจากฝรั่งเศส เค้าลางบางอย่างเริ่มก่อตัวระหว่างความสัมพันธ์ของพี่สาวกับคู่หมั้น

ภัคคินีเดินทางขึ้นมารักษาตัวที่กรุงเทพ ฯ เพราะป่วยกระเสาะกระแสะมานานหลังโดนงูกะปะกัดและนเรนทร์ช่วยไว้ เธอได้รับรู้ว่าพี่สาวกำลังจะแต่งงานกับนเรนทร์

นเรนทร์สารภาพความในใจกับภัคคินีในวันงานขึ้นบ้านใหม่ของหม่อมอ่อน และได้รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็คิดเหมือนกัน งานแต่งงานที่เตรียมกันแทบล้มประดาตายก็จบสิ้นลงในคืนวันสุกดิบนั่นเอง เนื่องจากเจ้าบ่าวกับน้องเจ้าสาวหนีตามกันไป สร้างความเจ็บช้ำให้กับทุกคน อัจฉราตัดสินใจไปอยู่ทุ่งวัวแล่นกับธำรงเนื่องจากเธอมีเลือดเนื้อเชื้อไขของชายคนรักในท้อง

หลายปีผ่านไป สุดา เพื่อนเก่าของนเรนทร์ และสามีของเธอไปพบกับนเรนทร์ในสภาพที่น่าสมเพช ใช้ชีวิตไปวัน ๆ มีภรรยาอีกหลายคน ทั้ง ๆ ที่ยังอยู่กับภัคคินี  สุดาได้เจอกับภัคคินีเพราะไฟไหม้ตลาดปากน้ำโพเช่นกัน

คุณหญิงวินิจนฤปกรณ์ แม่ของนเรนทร์ไปเยี่ยมเพทาย แม่ของภัคคินีที่กำลังเจ็บหนักด้วยโรคหัวใจ เธอขอร้องให้ธำรงไปพาภัคคินีกลับมาเยี่ยมแม่ เผื่อว่าเพทายจะมีหวังรอดชีวิต

ธำรง ตามหาภัคคินีจนเจอ และพบว่าเธอใช้ชีวิตตกต่ำอย่างที่สุดด้วยการขายร่างกายแลกกับเงินเพื่อรักษา อาการของนเรนทร์ ธำรงยังไม่ทันพาภัคคินีกลับไป เพทายก็เสียชีวิตเสียก่อน

พระวรนาตตัดสินใจขายจิระเวสน์ให้หม่อมอ่อนแล้วพาสายสวรรค์ไปอยู่พะเยา แล้ววันหนึ่งภัคคินีก็ซมซานกลับมาที่ทุ่งวัวแล่น ตามที่ธำรงเคยบอกว่า กลับมาหาฉันถ้าเขาไม่ต้องการเธออีกต่อไป  เธอจบชีวิตที่นี่โดยได้ปรับความเข้าใจกับอัจฉราเป็นครั้งสุดท้าย

อัจฉรา ตัดสินใจแต่งงานกับธำรงแต่ในวันแต่งงานก็เกิดเรื่องขึ้น (เข้าใจว่าอัจฉราโรคหัวใจกำเริบกระทันหัน) ธำรงเลี้ยงดูอรินทร์ ลูกชายของนเรนทร์กับอัจฉรา มาจนโต และสุดท้ายได้ไปประมูลจิระเวสน์มาไว้จนสำเร็จ ในวันประมูลเขาได้พบกับนเรนทร์ผู้เป็นชายที่ดูแก่กว่าวัยและใกล้ถึงมรณกาล เพราะความยากจนและโรค ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน ธำรงนั่งดูภาพภัคคินีอยู่ในจิระเวสน์และจากไปอย่างสงบ

แผ่นดินของเรา

นักแสดงละคร แผ่นดินของเรา

ใหม่ เจริญปุระ แสดงเป็น ภัคคิณี
ยุรนันท์ ภมรมนตรี แสดงเป็น ธำรง
จอนนี่ แอนโฟเน่ แสดงเป็น นเรนทร์
ภัสสร บุญยเกียรติ แสดงเป็น อัจฉรา
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น สายสวรรค์