นักแสดงละคร เยาวราชในพายุฝน
ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์
ศิริลักษณ์ ผ่องโชค แสดงเป็น เห็งม่วย
สายฟ้า เศรษฐบุตร
นักแสดงละคร เยาวราชในพายุฝน
ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์
ศิริลักษณ์ ผ่องโชค แสดงเป็น เห็งม่วย
สายฟ้า เศรษฐบุตร
บำรุง ธานินทร์นิมิตร ( พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ) และวัชระ นิเวศวัตร ( สันติสุข พรหมศิริ ) ต่างก็เคยเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเลงตอนหนุ่ม ๆ แต่เพราะความเข้าใจผิดจึงทำให้ทั้งสองกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ไม่มีวันจะ ยอมลงให้กันได้…
18 ปี ผ่านไปต่างฝ่ายต่างก็ดำเนินธุรกิจจนมีชื่อเสียงร่ำรวย ครอบครัวของบำรุงจัดว่าเป็นครอบครัวนักธุรกิจตัวอย่าง ด้วยความเป็นคนรักครอบครัวและความเป็นนักสังคมของ ฉัตรสุดา ( กาญจนา จินดาวัฒน์ ) ภรรยาของบำรุง ทำให้ครอบครัวธานินทร์นิมิตร เป็นที่รู้จักและมีความสุขมากครอบครัวหนึ่ง
โดย บำรุงมีอารักษ์ ( ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ ) ลูกชายคนโตที่หวังจะเจริญรอยตามอย่างพ่อ คอยช่วยเหลือบำรุงต่าง ๆ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์และนิสัยที่ชอบใช้ความรุนแรงเข้าแก้ปัญหาของ อารักษ์ จึงทำให้อารักษ์มักจะถูกบำรุงตำหนิติเตียนอยู่เสมอ บำรุงเองลึก ๆ ก็หวังว่าสักวันหนึ่งเขาอยากให้อารักษ์มาทำหน้าที่แทน ตนเองจึงค่อนข้าง งวดกับอารักษ์มาก
ผิดกับอิงอร ( แน้ท – เอวิตรา ศิระศาสตร์ ) ลูกสาวคนเล็กที่เพิ่งเรียนจบการศึกษาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และกลับมาร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขายของออกแบบตกแต่งบ้าน บำรุงไม่ต้องการให้องอรเข้ามาร่วมรับรู้ความเป็นไปในแวดวงธุรกิจที่ตนเองทำ อยู่ ซึ่งตรงกับความต้องการขององอร ผิดกันที่ว่าองอรก็ต้องการให้บำรุงวางมือและหันมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่น กัน
ทางด้านครอบครัววัชระ หลังจากเหตุการณ์รถคว่ำที่ทำให้เขาต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รักไป วัชระปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของบำรุงที่ต้องการแก้แค้นเขา วัชระเหลือเพียงพัดยศ ( ป้อง – ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ) ลูกชายคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฎิหารย์จากเหตุการณ์ดังกล่าว
พัด ยศมี กรุณา ( เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ) เลขานุการเก่าของบำรุงที่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอเองก็มีส่วนต้อง ร่วมรับผิดชอบ กรุณาจึงมาอยู่กับวัชระและเลี้ยงดูพัดยศ จนพัดยศจบการศึกษากลับมาจากอเมริกา แต่ด้วยความเป็นคนรักสงบ อ่อนโยน และรักศิลปะเหมือนแม่ซึ่งแตกต่างจากวัชระโดยสิ้นเชิง ทำให้ทั้งสองพ่อลูกมักจะมีเรื่องถกเถียงกันบ่อย ๆ
ท่าม กลางความพยายามที่จะประสานรอยร้าวของกรุณา และวังธวัช ( กริช หิรัญพฤกษ์ ) เด็กที่วัชระเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก เพราะต้องการให้เป็นทั้งเพื่อน พี่และบอดี้การ์ดของพัดยศ ทั้งสองรักและเข้าใจกันเหมือนพี่น้องที่เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน วังธวัชเองพยายามให้พัดยศเข้าใจวัชระ จนกระทั่งเกิดเหตุลอบยิงวัชระแต่พลาด ทำให้วัชระต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล พัดยศได้รู้จากวัชระในวันที่วัชระฟื้น ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่เขาไม่ยอมยกโทษให้บำรุง นอกจากความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจแล้ว ยังเป็นเพราะวัชระ เชื่อมาตลอดเวลาว่าบำรุงคือคนที่ฆ่าแม่ของพัดยศ
พัดยศตัดสินใจเข้า ช่วยงานของพ่อ ด้วยความเป็นคนอ่อนโยน จริงใจ และฉลาดของพัดยศทำให้ธุรกิจต่าง ๆ เหมือนจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น จนแม้กระทั่งบำรุงก็ต้องยอมรับความสามารถของพัดยศอยู่ลึก ๆ และยิ่งทำให้อารักษ์ยิ่งเกลียดพัดยศมากขึ้นไปอีก
และแล้วเหตุการณ์ ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เมื่อพัดยศและองอรได้พบและรักโดยต่างฝ่ายไม่รู้เลยว่าครอบครัวของทั้งสอง เป็นศัตรูกัน ในงานเลี้ยงคืนหนึ่ง บำรุงอนุญาตให้องอรพาเพื่อนสนิทที่องอรบอกว่าอยากแนะนำให้พ่อรู้จักมาพบ บำรุงเพิ่งรู้ว่าคนที่ลูกของตนหลงรักคือพัดยศ และด้วยความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจ ประกอบกับความเข้าใจผิดที่อารักษ์พยายามกรอกหูบำรุงว่าพัดยศเป็นคนไม่ดี เพราะอารักษ์อิจฉาพัดยศที่แม้แต่บำรุงพ่อของเขาก็ดูเหมือนจะชอบพัดยศอยู่ลึก ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกของศัตรู
ทั้งหมดนี้ทำให้บำรุงเข้าใจว่าพัดยศ จงใจมาหลอกองอรเพื่อหวังผลประโยชน์ในเรื่องธุรกิจ บำรุงสั่งห้ามองอรไม่ได้คบกับพัดยศอีกเด็ดขาด แต่เหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ ท่ามกลางความแค้นและความขัดแย้งของทั้งสองตระกูล ความรักของพัดยศองอรยิ่งกระชับแน่นมากขึ้น ๆ พัดยศกลับพยายามจะพิสูจน์ให้บำรุงและคนในครอบครัวขององอรเห็นถึงความตั้งใจ จริงของเขา และเห็นถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เขามีต่อองอร
เขาและ องอรหวังลึกๆว่าความรักของเขาจะสามารถทลายกำแพงความแค้นที่ทั้งสองตระกูลมี ต่อกันลงไปได้ แม้จะต้องทำให้เขามีปากเสียงกับวัชระพ่อของเขาก็ตาม ในที่สุดความพยายามของพัดยศก็เห็นผล เมื่อพัดยศสามารถเจรจากับเจ้าของที่ดินผืนสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายต่างพยายาม แย่งซื้อมาได้สำเร็จ ที่ดินผืนนี้หมายถึงศักดิ์ศรีที่ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมลงให้กัน เจ้าของยอมขายที่ดินนั้นให้พัดยศเพราะเห็นถึงความตั้งใจและความรักอันยิ่ง ใหญ่ที่เขามีต่อองอร
พัด ยศตั้งใจที่ใช้ที่ดินผืนนี้เป็นข้อยุติปัญหาทุกเรื่องโดยเขาตั้งใจจะมอบ ที่ดินผืนนี้ให้องอร เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของเขา วัชระพยายามคัดค้านทุกวิถีทางแต่พัดยศก็ไม่สนใจ การเจรจาระหว่างพัดยศและบำรุงน่าจะดำเนินการผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าไม่ถูกวัชระวางแผนซ้อนเสียก่อน วัชระวางแผนให้บำรุงเข้าใจพัดยศผิด ว่าสาเหตุแท้จริงที่พัดยศยอมมอบที่ดินให้องอรเพราะพัดยศมีความหวังว่า สักวันหนึ่งเมื่อเขาและองอรแต่งงานกัน ทุกอย่างก็ต้องกลับกลายมาเป็นของนิเวศวัตรอยู่ดี บำรุงโกรธมากที่ถูกเด็กรุ่นเล็กอย่างพัดยศหลอก จึงปฎิเสธไม่มีการเจรจาต่อรองใดใดทั้งสิ้น ไม่ว่าพัดยศจะพยายามอธิบายถึงเหตุผลที่แท้จริงของตนอย่างไร
จน กระทั่งวันหนึ่งระหว่างการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย พัดยศไว้ชีวิตอารักษ์และตนเองเป็นฝ่ายบาดเจ็บ ทำให้อารักษ์เริ่มมองพัดยศในมุมต่างจากที่เคยมอง อารักษ์เริ่มเห็นใจในความรักที่มั่นคงของทั้งคู่ ในที่สุดอารักษ์ตัดสินใจจะช่วยให้พัดยศและองอรได้สมหวัง โดยแลกเปลี่ยนกับที่ดินผืนสำคัญนั้นซึ่งพัดยศยินดีที่จะมอบให้องอรเพื่อแสดง ความบริสุทธิ์ใจของเขา
แต่แล้วแผนการณ์ทั้งหมดก็ล้มเหลวลงในวินาที สุดท้าย เพราะวรเชษฐ์ ( ว่าน – ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง ) ลูกชายนายทหารเพื่อนบำรุงที่มาติดพันองอรรู้ข่าวและเข้าไปห้ามทำให้เกิด เหตุการณ์ไม่คาดฝัน วังธวัชเข้ามาบังกระสุนที่วรเชษฐ์จงใจยิงใส่พัดยศ วังธวัชตาย พัดยศและวรเชษฐ์แย่งปืนกัน ทำให้ปืนลั่นถูกอารักษ์ตายในที่เกิดเหตุ พัดยศถูกวรเชษฐ์ใส่ความว่าเป็นฆาตรกรที่ฆ่าคนทั้งสอง เขากลายเป็นฆาตรกรคดีอุฉกรรจ์ที่ทั้งคนของฝ่ายบำรุงและตำรวจต้องการตัว
ด้วย ความสนใจและโกรธแค้น บำรุงเชื่อวรเชษฐ์และสั่งตามล่าตัวพัดยศให้ได้ พัดยศต้องหนีการตามล่าหัวซุกหัวซุนจนเกือบจะถูกจับได้หลายครั้ง แต่เพราะมีองอรและเมธาวี ( ศิรนุช โรจนเสถียร ) เพื่อนขององอรคอยแอบส่งข่าวช่วยพัดยศ จึงทำให้พัดยศรอดพ้นมาได้ จนกระทั่งองอรถูกบำรุงจับได้และกักบริเวณให้อยู่แต่ภายในห้อง ไม่ให้องอรติดต่อกับใครทั้งสิ้น
บำรุงทำทุกอย่างที่จะให้องอรเลิก รักพัดยศ เพราะคิดและเชื่อตลอดเวลาว่าพัดยศเป็นคนผิด บำรุงยอมรับหมั้นวรเชษฐ์ให้องอร เพราะหวังจะให้องอรตัดใจเลิกคิดหวังที่จะรักกับพัดยศ แต่กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้องอรหนีออกจากบ้านไปหาพัดยศที่หัวหิน ด้วยความคิดถึงและความรักที่มีต่อกัน พัดยศและองอรเป็นของกันและกัน
บำรุง ตามไปเอาตัวองอรกับมาได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น และจงใจทิ้งการ์ดงานแต่งงานขององอรและวรเชษฐ์ไว้ เพื่อให้พัดยศเดินเข้าไปให้ตนได้แก้แค้นอย่างสาสม พัดยศตัดสินใจไปหาบำรุงทั้ง ๆ ที่รู้ว่าบำรุงจงใจวางแผนล่อให้ตนเองเดินเข้าไป โดยไม่ฟังคำท้วงติงของกรุณาและวัชระ เขาเชื่อว่าความรักอันบริสุทธิ์และความจริงใจที่เขามีต่อองอรและคนในครอบ ครัวของเธอ จะช่วยทำให้เขาผ่านพ้นอุปสรรคและความโกรธแค้นต่าง ๆ ไปได้
แล้ว เมื่อวันนั้นมาถึง…พัดยศกับองอรจะใช้ความรักของเขาและเธอ เอาชนะความแค้นของทั้งสองตระกูลไปได้หรือไม่ พัดยศจะต้องตายด้วยกระสุนของบำรุงเหมือน “รักในรอยแค้น” เมื่อ 10 ปี ที่แล้ว หรือไม่ ติดตามชมละคร “รักในรอยแค้น“
ฟ้าเพียงดิน เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ” พลโท สรายุทธพิชัย ” ซึ่งลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ที่กัมพูชาหลายสิบปีได้รับนิรโทษกรรมจากรัฐบาล ไทย จึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ พร้อม ” ชมพู่ ” บุตรสาวที่เกิดในกัมพูชา ระหว่างทางรถที่โดยสารมาเกิดยางแตกผู้ใหญ่บุญทองผ่านมาจึงเข้ามาช่วยเหลือ และเมื่อท่านนายพลรู้ว่าผู้ใหญ่บุญทองกำลังจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จึงชวนให้เดินทางไปด้วยกัน กลางดึกคืนนั้นมีโจรเข้าดักปล้น
หลัง จากต่อสู้กันท่านนายพลเสียชีวิต แต่ก่อนสิ้นลม ท่านนายพลได้ฝากฝัง ” ชมพู่ ” พร้อมพินัยกรรมไว้กับผู้ใหญ่บุญทอง พร้อมบอกความลับบางประการไว้ให้พิทักษ์ ผู้เป็นน้องเขยของท่านนายพลฉวยโอกาสเข้ามาจัดการทรัพย์สินทั้งหมด โดยอ้างว่าเทวราช ซึ่งเป็นลูกของตนที่เกิดจากพิกุล และได้ยกให้เป็นลูกบุญธรรมของท่านนายพลตั้งแต่แบเบาะเป็นทายาทคนเดียวที่ เหลืออยู่พร้อมกันนั้นได้สั่งให้ หาญ ซึ่งเป็นชู้รักของ รัสมี น้องสาวของตนเอง และเป็นผู้ร่วมวางแผนสังหารท่านนายพลไปติดตาม และกำจัดชมพู่
ผู้ใหญ่บุญทองพาชมพู่หนีมาอยู่ที่โพธาราม และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ” สาลิกา ” เพื่อปิดบังความจริง ” สาลิกา ” เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของคนรอบข้าง พร้อมกับ ” ครุฑ ” ลูกชายของเพื่อนผู้ใหญ่บุญทอง ซึ่งต่างไปจากเทวราชที่เติบโตมาอย่างไร้ระเบียบเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง เพราะทนงตนว่าเป็นเจ้ามรดกมหาศาล และคิดว่าเงินสามารถซื้อได้ทุกอย่างในโลก เทวราชกับสาลิกา ได้มาพบกันโดยบังเอิญ เมื่อเทวราชติดตามจ่าพุฒ ลูกน้องเก่าของท่านนายพลมาดูที่ดินซึ่งอยู่ติดกับไร่ของผู้ใหญ่บุญทองเพื่อ วางแผนสร้างคอกม้าตามคำสั่งของพิทักษ์ เทวราชมีนิสัยเกเรมากขึ้นทุกวัน พิทักษ์ จึงจับส่งไปเรียนต่างประเทศพร้อมกับอินทรีย์ ลูกชายของจ่าพุฒ และเรืองรอง ลูกสาวของรัสมี พิกุล
เมื่อ พบหน้าสาลิการู้สึกถูกชะตาเป็นอย่างมาก ประจวบกับผู้ใหญ่บุญทอง และพ่อของครุฑ เสียชีวิตเพราะถูกโจรปล้น พิกุล จึงชวนสาลิกา ให้ไปอยู่ที่บ้านสรายุทธพิชัยด้วยกันในฐานะลูกอุปถัมภ์ พิทักษ์จัดการให้สาลิกาเรียนทางด้านบัญชี และกฎหมาย โดยวางแผนไว้ว่าจะให้มาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการมรดกหลังจากเรียนจบ ซึ่งสร้างความพอใจให้กับสาลิกาเป็นอย่างมาก
การศึกษาในต่างประเทศไม่ ได้ทำให้เทวราชเปลี่ยนนิสัย พิทักษ์จึงคิดจะใช้สาลิกาเป็นตัวแทนของชมพู่ด้วยการสร้างหลักฐานเท็จเข้ามา อ้างสิทธิ์เพื่อยังยั้งความยโสของเทวราช หลังจากเรียนจบเทวราช อินทรีย์ และเรืองรองเดินทางกลับมาเมืองไทย เมื่อมาถึงเทวราชสั่งให้พิทักษ์โอนทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับเขาเพราะสงสัย ว่าพิทักษ์จะยักยอกทรัพย์สิน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับพิทักษ์เป็นอย่างมาก
ใน เวลาเดียวกันนั้นเองพิทักษ์ได้รับรู้ความจริงว่า สาลิกา คือ ชมพู่ ดังนั้นเขาจึงซ้อนแผนด้วยการบอกกับทุกคนว่า สาลิกา เข้ามาอยู่ในบ้านสรายุทธพิชัยเพราะต้องการสมบัติ โดยการสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาเอง เทวราช ไล่สาลิกาออกจากบ้าน สาลิกาจึงกลับไปอยู่โพธารามและได้พบกับครุฑ สาลิกาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ครุฑฟังและขอให้เขาช่วยหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ ความจริง หาญกับพวกตามมาจับสาลิกาไปในขณะเดียวกัน เทวราช จ่าพุฒ และอินทรีย์ก็เดินทางมาหาสาลิกา เพื่อค้นหาความจริง
เทวราชจะทำอย่าง ไร ถ้าเขาได้พบความจริงว่าสาลิกา คือ ชมพู่ เจ้าของมรดกที่แท้จริงของสรายุทธพิชัย ระหว่างความรัก และความหยิ่งในศักดิ์ศรีเขาจะเลือกอะไร
นารีสโมสร เป็นเรื่องราวความรักของผู้หญิง 4 คน 4 แบบ ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตและทัศนคติในด้านความรักต่างกัน นาง ความรักของเธอคือการรอคอย เธอเฝ้ารอ ศุภเมธ ชายหนุ่มที่เธอเชื่อว่าเป็นรักแท้ ความหวังของนางห่างไกลจากความจริง เพราะศุภเมธแต่งงานแล้วแต่เขามักจะมีปัญหากับภรรยาบ่อยๆ ทุกครั้งที่ศุภเมธมีปัญหานางก็มักเกิดความขัดแย้งในใจ
เพราะใจหนึ่ง เธออยากให้เขาเลิกกัน แต่มนุษยธรรมทำให้เธอคิดอย่างนั้นไม่ได้ นางจึงเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่หวังลมๆ แล้งๆ ถึงแม้จะมี เชน ครูสอนว่ายน้ำที่เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั่วไปมาชอบ นางก็ไม่สามารถเปิดใจรับเขาเข้ามาในใจได้ ใครๆ ก็ล้อเธอว่าจะเป็นสาวขึ้นคาน และไม่มีวันจะได้เป็น นาง สมชื่อ
ตา ความรักของเธอคือสามีและลูกวัย 5 ขวบ ตาเป็นสะใภ้คนแรกของบ้าน ชีวิตของตาอุทิศได้เพื่อครอบครัว ตาเหมือนเป็นผู้หญิงหลายๆ คนที่คิดว่าความดีจะเอาชนะความกะล่อนของสามีได้แต่ โป้ง สามีของตากลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะโป้งไม่เคยหยุดที่จะมีผู้หญิงอื่น ผู้หญิงอย่างตาจึงจำเป็นที่จะต้องลุกขึ้นมาตามจับตามจิกสามี แต่ทั้งหมดที่เธอทำก็เพราะว่าเธอรักและไม่อาจจะตัดใจเลิกกับเขาได้
แจ น ความรักของเธอคือการมีครอบครัวที่มีความสุขและสมบูรณ์แบบ เธอเป็นสะใภ้คนรองของบ้าน เป็นต้นแบบของความเพอร์เฟ็คท์ ทุกอย่างที่ผ่านการสแกนของแจนจะต้องไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเป็นอันขาด สามีของเธอคือ กลาง เขาเป็นรักแรกและรักเดียวในชีวิตของแจน เธอรักเขามากและอยากทำทุกอย่างเพื่อเขา แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีเวลาสำหรับเธอเลย แจนได้แต่น้อยใจว่ากลางเห็นงานสำคัญกว่าเธอ แต่ทุกอย่างที่กลางทำก็เพราะกลางรักแจนเช่นกัน
ก้อย ความรักของเธอคือสิ่งที่เธอกำลังค้นหา ก้อยเป็นน้องสาวคนสุดท้องของบ้าน เป็นที่รักของพี่ๆ เธอเป็นสาวโสดที่ทั้งแสบทั้งซน โดยมี อาร์ม หนุ่มที่อยู่ในหมู่บ้านที่เป็นทั้งเพื่อนและทำหน้าที่เป็นไม้กันหมาให้กับ ก้อย ก้อยรู้ว่าอาร์มชอบเธอแต่เธอก็เลือกปฏิบัติต่อเขาแค่เพื่อน เพราะจากที่เห็นตัวอย่างของพี่ๆ แล้ว ก้อยยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะอยู่เป็นโสดเหมือนพี่นาง หรือจะมีครอบครัวอย่างพี่ตาและพี่แจนดี
บรรดาพี่น้องและสะใภ้ตรกู ลวิริยะพัฒน์ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ปัญหาและความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นจากความแตกต่างในหลายด้าน แต่บางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องร้าย กลับกลายเป็นเรื่องดีและช่วยให้ผู้หญิงทั้งสี่คนสี่แบบได้ปรับตัว และเรียนรู้ที่จะให้ชีวิตให้มีความสุขร่วมกัน
รายชื่อนักแสดงในละคร นารีสโมสร
จันทร์จิรา จูแจ้ง แสดงเป็น นาง
นุสบา ปุณณกันต์ แสดงเป็น ตา
โสภิตนภา ชุ่มภาณี แสดงเป็น แจน
อรจิรา แหลมวิไล แสดงเป็น ก้อย
กนิษฐ์ สารสิน แสดงเป็น ศุภเมธ
นัทบดี บุญพราหมณ์ แสดงเป็น เชน
ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ แสดงเป็น โป้ง
เกริกพล มัสยวานิช แสดงเป็น กลาง
วิทวัส สิงห์ลำพอง แสดงเป็น อาร์ม
โยธิน ราชอิงควัตร (สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ได้เดินทางเข้าป่าเพื่อตามหาเมืองแห่งพุทธะ เมืองลึกลับในตำนาน เพื่อสานฝันของภรรยาสุดที่รักซึ่งเป็นนักโบราณคดีให้เป็นจริง เขาออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าป่าต้องห้ามทิ้งให้ เฌอปรางค์ (เจนสุดา ปานโต) ทายาทสาวคนเดียว เป็นผู้ดูแลกิจการแทน
โยธา (ทองขาว ภัทรโชคชัย) น้องชายของโยธิน มีแผนฮุบสมบัติ จึงจ้างทหารรับจ้างตามไปฆ่าโยธินในป่า ทหารรับจ้างฆ่าลูกหาบเสียชีวิตส่วนโยธินหนีไปได้จนพบถ้ำที่เป็นปากทางเข้า เมืองแห่งพุทธะและผ่านเข้าไปจนถึงเมืองแห่งพุทธะที่สุขสงบแล้วหมดสติไป ส่วนพวกทหารรับจ้างด้วยความละโมบโลภเมื่อเห็นสมบัติในถ้ำทำให้ถูกวิญญาณของ ผีหลวงที่ปกปักรักษาเมืองลึกลับทำร้ายจนเสียชีวิตทั้งหมด
ทางกรุงเทพฯ โยธาฉวยโอกาสที่โยธินหายเข้าป่าวางแผนยักยอกเงิน แต่เฌอปรางค์ขัดขวางไว้สร้างความไม่พอใจให้โยธา วันหนึ่งเฌอปรางค์ได้ข่าวจากสรวงทนายประจำตระกูล ว่ามีคนพบศพลูกหาบของโยธิน ทั้งโยธาและศรีวรางค์ (วิยะดา อุมารินทร์) อาสะใภ้ของเฌอปรางค์เป็นภรรยาของโยธีน้องชายคนเล็กของโยธิน ปิ่นแก้ว (จุฬาลักษณ์ กฤติยารัตน์) ลูกสาวของศรีวรางค์ และญาติคนอื่นๆ ที่หวังในสมบัติของโยธิน ต่างก็เชื่อว่าโยธินตายแล้วและเร่งรัดให้สรวงเปิดพินัยกรรม..ยกเว้น เฌอปรางค์ที่ยืนกรานว่าจะออกตามหาพ่อ..สรวงอยากช่วยเฌอปรางค์จึงโกหกว่า โยธินได้นำเอาพินัยกรรมติดตัวไปด้วย ทุกคนจึงคิดจะติดตามเฌอปรางค์ไปตามหาโยธิน รวมทั้งธนาคาร (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) คู่หมั้นหนุ่มของเฌอปรางค์ก็คิดจะติดตามเธอไปด้วย
แม่อบ (มาเรียม คำเมือง) แม่นมของเฌอปรางค์ขอให้ บารมี (คงกระพัน แสงสุริยะ) ลูกชายซึ่งเป็นนายทหารพรานฝีมือดีนำทางให้ และขอตามไปดู้แลเฌอปรางค์ในป่าด้วย บารมีแนะนำว่านายพรานผู้เก่งกล้าพอที่จะนำทางเฌอปรางค์เข้าไปที่ป่าอาถรรพ์ และเมืองลึกลับนั้น มีเพียงคนเดียวคือ สิงห์ สมิงไพร (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) แต่สิงห์ปฏิเสธงานนี้ เพราะเขารู้ดีว่าที่นั่นมีอันตรายมาก เฌอปรางค์จึงตัดสินใจเดินทางไปขอร้องสิงห์ด้วยตัวเอง ทั้งคู่ไม่ถูกชะตากันตั้งแต่ต้น สิงห์เตือนให้เธอเลิกล้มความคิดพร้อมเล่าตำนานเมืองพุทธะให้ฟัง เมื่อธนาคารได้ยินว่าเมืองพุทธะเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมายก็ยิ่งสนใจมาก แต่เฌอปรางค์ต้องการจะไปตามพ่อของเธอ สิงห์เห็นแก่ความรักที่เฌอปรางค์มีต่อพ่อ จึงยอมรับจ้าง
และอีกเหตุผลที่ทำให้สิงห์ตัดสินใจเดินทางเข้าป่าอาถรรพ์เพราะเมื่อ 20 ปีก่อน ขามพ่อของเขาได้นำทางนักโบราณคดีคนหนึ่ง (แม่ของเฌอปรางค์)เข้าไปที่นั่นแล้วทั้งคณะเสียชีวิตลงก่อนที่จะไปถึง มีเพียงเฒ่าบ้า (ครูช่าง ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง) พรานผู้เชี่ยวชาญอาคมคนเดียวที่รอดออกมาได้ สิ่งนี้เป็นฝันร้ายที่ฝีงใจสิงห์มาตลอด และเขาต้องการจะไปค้นหาความลับของเมืองนี้เช่นกัน
สิงห์เตรียมคนออกเดินทางมีเฒ่าบ้า และหนานเมือง เป็นพรานคู่ใจส่วนไพร (ตวง ภัสสรี กังวานพงศ์) พรานสาวคู่หูของสิงห์ ที่เคยทำงานร่วมกัน บังเอิญได้รับบาดเจ็บสิงห์จึงเข้าป่าไปโดยไม่ชวนไพร นอกจากนี้ยังมีมะเมี๊ยะ (ภุมวารี ยอดกมล) เด็กสาวชาวเขาจอมแก่นเป็นลูกทีมด้วย
เมื่อถึงวันเดินทางเฌอปรางค์ตกใจเมื่อเห็นว่าญาติๆ ของเธอขอติดตามไปด้วย เพราะต่างหวังในมรดกของโยธิน รวมทั้งธนาคารและกรินทร์ (สรณัฐ มัสยวาณิช) น้องชาย สิงห์เห็นคณะของเฌอปรางค์ที่ยกโขยงกันมา ก็ไม่พอใจแต่ก็จำใจเดินทางต่อไป
ศักดิ์ลูกน้องของโยธา ได้รับคำสั่งตามหาโยธินแย่งเอาพินัยกรรมมาให้ได้ก่อน ศักดิ์ติดต่อไพรให้เป็นพรานนำทาง ไพรตกลงโดยหวังจะเดินทางตามสิงห์ที่ล่วงหน้าไปก่อนให้ทัน ด้วยความเป็นห่วงส่วนโยธาคิดฉวยโอกาสที่เฌอปรางค์ไม่อยู่ยักยอกเงินบริษัท แต่เฌอปรางค์ สั่งระงับคำสั่งทุกอย่างของโยธาไว้ก่อน โยธาโกรธมากสั่งให้ศักดิ์เปลี่ยนแผนตามหาโยธินมาเป็นตามฆ่าเฌอปรางค์แทน
ระหว่างการเดินทางปิ่นแก้วและศรีวรางค์สร้างความปั่นป่วนอยู่ตลอดเวลา ปิ่นแก้วเป็นไม้เบื่อไม้เมากับมะเมี๊ยะ แต่กรินทร์กลับสนใจในความซื่อบริสุทธิ์ของเธอ สิงห์กับเฌอปรางค์ก็งัดข้อกันไปตลอดทางปิ่นแก้วยุให้ธนาคารปล้ำเฌอปรางค์ แต่สิงห์มาช่วยไว้ทัน เฌอปรางค์โกรธและยกเลิกการหมั้นกับธนาคาร
พวกของศักดิ์ที่นำโดยไพรเร่งเดินทางตามมา ศักดิ์กลัวจะตามคณะของสิงห์ไม่ทันจึงวิทยุไปบอกพวกทหารกะเหรี่ยงให้ดักจับ ตัวพวกสิงห์ไว้ คืนนั้นทหารกะเหรี่ยงบุกเข้ามาจับตัวทุกคน สิงห์ได้พบกับไพรและพวกของศักดิ์ ไพรขอร้องให้ปล่อยสิงห์ไปศักดิ์จึงจับไพรขังอีกคน เฌอปรางค์รู้ความจริงว่าโยธาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมด สิงห์วางแผนหนีจนเกิดการต่อสู้ขึ้น ไพรและเฌอปรางค์หนีไม่รอดถูกจับตัวไปได้อีก ภายในห้องขังไพรบอกเฌอปรางค์เป็นนัยๆ ว่าสิงห์กับตนเป็นคู่รักกัน โยธาได้รู้เรื่องทรัพย์สมบัติในเมืองพุทธะเขาละโมบอยากได้สมบัติจึงบังคับ ให้ไพร เป็นพรานนำทางเข้าเมืองพุทธะและตามหาโยธิน
ไพรวางแผนพาเฌอปรางค์หนีออกมาได้ เฌอปรางค์วิ่งหนีเข้าป่าหลงทางกับไพรและสลบไป แต่ด้วยอำนาจของผีหลวงที่ปกป้องคนดี ได้นำทางให้สิงห์มาพบเธอ สิงห์อุ้มเฌอปรางค์กลับไปที่แคมป์เฌอปรางค์ฟื้นในเวลาต่อมา พร้อมกับบอกสิงห์ถึงจุดนัดพบที่ไพรบอกไว้ แต่สิงห์มาช้าเกินไปเพราะไพรได้รับบาดเจ็บและหมดสติจนชาวเขาเข้ามาช่วยไว้ สิงห์เลยหาไพรไม่พบ
ไพรฟื้นสติมาได้ นึกโทษว่าเป็นความผิดของเฌอปรางค์และคิดแค้น จึงรีบออกตามหาคณะเดินทาง การเดินทางลำบากขึ้น ศรีวรางค์ป่วยหนักและเสียชีวิต ปิ่นแก้วคิดฆ่าเฌอปรางค์ เฌอปรางค์วิ่งหนีเข้าป่าและตกลงไปในหลุมขวาก สิงห์ตามมาช่วยแต่ทั้งคู่กลับหลงป่าและเฌอปรางค์ล้มป่วย สิงห์ดูแลอย่างใกล้ชิด และนี่เองที่ทำให้ทั้งสองเรียนรู้กันและกันอย่างลึกซึ้ง จนกลายเป็นความรัก แต่ต่างฝ่ายก็หยิ่งเกินกว่าจะบอกให้อีกฝ่ายได้รู้ ฝ่ายบารมีกลายเป็นหัวหน้าคณะแทนสิงห์ออกเดินทางตามหาสิงห์และเฌอปรางค์จนพบ
ในที่สุดพวกของสิงห์ก็มาพบไพร ไพรด่าว่าเฌอปรางค์ที่ทิ้งเธอโดยที่หยิงสาวไม่มีโอกาสแก้ตัวเลย คณะทั้งหมดเดินทางไปถึงทางเข้าเมืองพุทธะ พวกโยธาตามมาติดๆ พวกสิงห์รีบหนีเข้าป่าอาถรรพ์เฒ่าบ้าเริ่มคลุ้มคลั่งในป่าอาถรรพ์แห่งนี้ บาดแผลและด้านมืดในใจของทุกคนก็ค่อยๆ ปรากฎออกมา สิงห์เริ่มมีอาการหวาดกลัว จากเรื่องราวในอดีต ไพรคิดฆ่าเฌอปรางค์โดยยืมมือปิ่นแก้ว สิงห์ช่วยเฌอปรางค์ไว้ได้แต่เจ็บตัวเสียเอง ทำให้ไพรยิ่งแค้นใจ
ในที่สุด โยธา ก็ตามมาทันพวกสิงห์หนีต่อเข้าไปในถ้ำและไล่ฆ่ากัน ความชั่วร้ายนี้ได้ปลุกวิญญาณอารักขาออกมาตรงเข้าทำร้ายทุกคนในถ้ำ จนต้องหนีตายกันอีกครั้ง ระหว่างทางที่หนีไพรต่อว่าสิงห์ และพูดถึงความสัมพันธ์เก่าๆ สิงห์จึงพูดให้ไพรเข้าใจว่าเขาไม่เคยรักไพรอย่างคู่รักเลย เขาให้ได้แค่ความรักของพี่น้องเท่านั้น ไพรเข้าใจเรื่องทั้งหมดด้วยหัวใจที่แตกสลาย สุดท้ายไพรสละชีวิตเพื่อป้องกันเฌอปรางค์ เป็นการชดใช้ความผิดที่เธอเคยทำไว้กับเฌอปรางค์
โยธาหนีมาเจอพวกสิงห์และเกิดการต่อสู้กันอีก ผีหลวงที่ตามมาตรงเข้าทำร้ายโยธา แต่โยธาสังเกตว่าผีหลวงไม่ทำร้ายเฒ่าบ้าเลย จึงจับตัวเฒ่าบ้าไว้พร้อมๆ กับที่สิงห์พาเฌอปรางค์หนีไปจนถึงทุ่งกว้างสีเขียวขจีและได้พบกับโยธิน เฌอปรางค์ขอร้องให้พ่อกลับไปอยู่กับตน แต่โยธินได้รับรู้และเข้าใจถึงความสงบสุขทางจิตใจที่ได้รับจากดินแดนพุทธะ แห่งนี้ และเชื่อว่าเฌอปรางค์เติบโตได้โดยไม่ต้องมีพ่ออีกต่อไปแล้ว…
โยธาที่ตามมา ทวงถามเรื่องพินัยกรรมจากโยธิน พอรู้ว่าไม่มีพินัยกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ก็คลุ้มคลั่ง จับเฌอปรางค์เป็นตัวประกัน พระพุทธรูปทองคำในเมืองพุทธะเกิดมีน้ำตาไหลออกมาเป็นสายเลือด ก่อนจะค่อยๆ ปริร้าวทีละน้อยๆ โยธาที่คลุ้มคลั่งหนักขึ้น ไล่ยิงทุกคน ก่อนที่พระพุทธรูปทองคำจะหักโค่นลงมาเศษองค์พระกลิ้งหล่นลงมาทับโยธาตาย…
องค์พระที่ปริร้าวลงเรื่อยๆ จนใต้ฐานบังเกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ดูดวิญญาณของเฌอปรางค์ลงไป โยธินให้สิงห์รีบลงไปช่วย มิเช่นนั้นเธอจะไม่ได้กลับมาอีก สิงห์นึกถึงคำของเฌอปรางค์ ที่ว่า “ถ้าเราไม่สู้ เราก็ต้องกลัวตลอดไป” “เอาชนะความกลัวด้วยความไม่กลัว” สิงห์กระโดดตามลงไป..
สิงห์ตรงเข้าไปช่วยเฌอปรางค์ไว้ได้ พร้อมๆ กับที่ภาพของเมืองพุทธะที่ถูกทำลายไปจะเป็นเหมือนวิดีโอที่ถูกกรอกลับ มาเป็นเมืองสงบสุขสวยงามเช่นเดิม…ทุกคนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ
นายสรวงขอโทษและสารภาพว่า เขาเป็นคนเก็บพินัยกรรมไว้เอง แต่เฌอปรางค์กลับขอบคุณที่ทำให้เธอได้พบพ่ออีกครั้ง…สิงห์กลับไปเป็นหมอ อีกครั้ง ในวันที่เฌอปรางค์ให้กำเนิดทายาทตัวน้อยๆ ของเขาและเธอ
รายชื่อนักแสดงละคร ขุมทรัพย์อมตะนคร
ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง แสดงเป็น สมิงไพร
เจนสุดา ปานโต แสดงเป็น เฌอปรางค์
คงกะพัน แสงสุริยะ แสดงเป็น บารมี
ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ แสดงเป็น ธนาคาร
ภัสสรี กังวานพงศ์ แสดงเป็น ไพร
จุฬาลักษณ์ กฤติยารัตน์ แสดงเป็น ปิ่นแก้ว
ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง แสดงเป็น เฒ่าบ้า
สรณัฐ มัสยวาณิช แสดงเป็น กรินทร์
ภุมวารี ยอดกมล แสดงเป็น มะเมี๊ย
ทองขาว ภัครโชคชัย แสดงเป็น โยธา
วิยะดา อุมารินทร์ แสดงเป็น ศรีวรางค์
มาเรียม คำเมือง แสดงเป็น แม่นม