พุทธศักราช 2448 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกเลิกการมีทาสไปแล้ว ผู้ชายโดยเฉพาะเจ้าขุนมูลนายนิยมมีภรรยาหลายคน ขณะที่ฝ่ายชายต่อสู้และแย่งชิงตำแหน่งและหน้าที่ทางสังคม ฝ่ายหญิงก็ต่อสู้เพื่ออำนาจในเรือน ครอบครัวของ คุณหลวงปราบ ธำรงค์นครา (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) เองก็เช่นกัน คุณหลวงมีภรรยาเอกคือ ชมนาด (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) หญิงสาวจากตระกูลสูง และ เอื้องคำ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวพ่อค้าจากเชียงใหม่
ทั้งสองคนต่างต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อให้เป็นคนโปรดของคุณหลวง ชมนาด นั้นมี อีอี่ (รัญญา ศิยานนท์) เป็นบ่าวคนสนิทคอยรับใช้เป็นหูเป็นตาให้ ส่วน เอื้องคำ มี อีมุ่ย (ณหทัย พิจิตรา) บ่าวที่ติดตามมาจากเชียงใหม่เป็นบ่าวคนสนิท และคอยเป็นหูเป็นตาเช่นกัน ทั้งชมนาดและเอื้องคำมักมีเรื่องกันบ่อยครั้ง เพราะเอื้องคำนั้นมีนิสัยเอาแต่ใจ เจ้าคิดเจ้าแค้น จึงไม่ยอมลงให้กับชมนาดเมียเอก ส่วนชมนาดนั้น ภายนอกดูเป็นคนจิตใจดี มีเมตตากรุณา แต่ซ่อนความเลือดเย็นเอาไว้ แต่เอื้องคำและอีมุ่ยมองทะลุเข้าไปถึงใต้ท่าทีเหล่านั้น จึงไม่วางใจในตัวชมนาด
เมื่อเมียบ่าวที่ชื่อ สร้อย (อุทัยศรี ศรีณรงค์) เกิดตั้งท้องขึ้นมา ชมนาดก็แอบจัดการฆ่าไปเสียโดยใช้บึ้งชะงัก แล้วแอบใส่ความโยนความผิดให้เอื้องคำ ระหว่างนั้นเอื้องคำเกิดตั้งท้อง คุณหลวงจึงให้รอคลอดลูกให้เรียบร้อย แล้วไสหัวเอื้องคำและอีมุ่ยออกไป เอื้องคำแค้นใจมากที่ไม่มีใครเชื่อตน ด้วยความแค้นเอื้องคำจึงแอบไปบนเรือนชมนาดจะฆ่า แต่ก็พลาดต้องตกบันไดลงมาแท้งลูก ทำให้เอื้องคำไม่เหลืออะไรอีกแล้ว รอเพียงวันที่จะออกไปจากเรือนเท่านั้น
ปราฏว่าในวันที่ต้องออกไปจากเรือน เอื้องคำเกิดเสียสติร้องหาลูก ทำให้คุณหลวงสงสารเลี้ยงดูให้อยู่ในเรือนต่อไป แม้เอื้องคำจะตกต่ำลงไปแล้ว ชมนาดก็ยังนอนใจไม่ได้ เพราะยังเหลือ มะลิ (โสภิตนภา ชุมภาณี) เมียบ่าวแสนซื่อของคุณหลวงอีกคนที่เป็นหนามยอกอก ยิ่งไปกว่านั้น มะลิ และ ไอ้มิ่ง (อาณัตพล ศิริชุมแสง) บ่าวชายเกิดไปรู้เห็นเรื่องบึ้งชะงักเข้า ยิ่งทำให้ชมนาดต้องกำจัดมะลิกับไอ้มิ่ง ด้วยการใส่ความว่าทั้งสองคนเป็นชู้กัน เมื่อคุณหลวงมาเห็นก็โมโหมาก สั่งลงโทษและไล่ออกจากเรือนไป
มะลิ ไอ้มิ่งและ ป้าพิศ (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) ป้าของไอ้มิ่งหนีไปตั้งหลักที่วัด ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านคุณหลวงมากนัก หลวงตาน้อย (สรพงศ์ ชาตรี) พระที่ให้ความช่วยเหลือ ให้ทั้งหมดอยู่ที่กระท่อมท้ายวัด ปรากฏว่า มะลิมีลูกคุณหลวงติดท้องมาด้วย ทำให้ทุกคนยังออกเดินทางไปตั้งรกรากที่อื่นไม่ได้ ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน ส่วนชมนาดเองก็เกิดตั้งท้องขึ้นมาเช่นกัน
วันหนึ่ง อีอี่ไปที่วัดก็แอบเห็นไอ้มิ่งแล้วตามไป จึงได้รู้ว่ามะลิตั้งท้องลูกของคุณหลวงเช่นกัน ชมนาดสั่งอีอี่ให้จัดการพวกของมะลิ เย็นวันนั้นมะลิคลอดลูกแฝดชายออกมา พอตกดึกอีอี่แอบตามมาเผาบ้านหวังให้ทุกคนตายคากองเพลิง มะลิคว้าลูกมาได้เพียงคนเดียว ส่วนลูกอีกคนที่หน้าอกโดนพระที่หลวงตาน้อยให้มาร่วงใส่อกจนเป็นรอยแผลเป็นนั้นคาอยู่ในกองไฟกับป้าพิศ มะลิและไอ้มิ่งหนีออกมาได้ก็สลบอยู่ที่ข้างบ้าน หารู้ไม่ว่าป้าพิศโยนเด็กอีกคนออกมาได้ เด็กไปคาอยู่บนกอผักบุ้ง
ทางฝั่งชมนาดที่รออีอี่กลับมารายงานนั้น ก็เกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกเช่นกัน แต่ร้องหาบ่าวไพร่ไม่ได้สักคนเพราะบ่าวไพร่มัวแต่ไปช่วยกันดับไฟที่เรือนบ่าว คนที่ขึ้นมาดูชมนาดก็คือเอื้องคำ เมื่อชมนาดคลอดลูกสาว เอื้องคำก็แย่งเอาลูกไป ทำให้ชมนาดรู้ทันทีว่าเอื้องคำแกล้งบ้า เอื้องคำสะใจ อุ้มลูกสาวชมนาดหนีออกไปกับอีมุ่ยในคืนนั้นเอง เมื่ออีอี่กลับมาพบจึงรีบออกไปตามหาเอื้องคำเพื่อเอาลูกชมนาดกลับมา แต่เด็กที่อีอี่ได้กลับมานั้น คือลูกชายของมะลิ ที่หลวงตาน้อยเป็นคนไปพบบนกอบัว ชมนาดจึงตกกระไดพลอยโจนเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงแทนลูกตนเอง
อีอี่นั้นแม้จะรู้จากหลวงตาน้อยว่าเป็นลูกของมะลิ แต่ก็มิได้บอกชมนาด ฝั่งมะลินั้นเมื่อเข้าใจว่าลูกอีกคนตายไปในกองเพลิงกับป้าพิศแล้วก็เศร้าโศกเสียใจ พากันย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่อยุธยา ระหว่างทางได้เจอกันหญิงท้องแก่คนหนึ่ง ซึ่งเกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกกะทันหัน หญิงคนนั้นรู้ว่าตนจะไม่รอด จึงฝากลูกสาวที่เพิ่งคลอดให้มะลิช่วยดูแลแทนตน ก่อนจะขาดใจตายไป มะลิตั้งชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า สายหยุดและตั้งชื่อลูกชายของตนว่า เมือง
ส่วนเอื้องคำและอีมุ่ยที่ขโมยลูกชมนาดไป จับพลัดจับผลูได้ไปเป็นเมียของเถ้าแก่ซ้ง (ประกาศิต โบสุวรรณ) เจ้าของโรงฝิ่น เอื้องคำตั้งชื่อให้ลูกสาวชมนาดว่า ชวนชม และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เหม่ยฟาง ส่วนอีมุ่ยก็เปลี่ยนเป็นชื่อเง็ก เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมเป็นอย่างดี ให้ฝึกหัดทุกอย่างตามแบบฉบับของสาวชาววัง ท่ามกลางความแปลกใจของอีมุ่ยว่าเหตุใดต้องทำเช่นนั้น
คุณหลวงรักและหลงลูกชายคนแรกมาก ตั้งชื่อให้ว่า สุข เพราะเชื่อว่าลูกจะนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้าน จากนั้นไม่นาน ชมนาดตั้งท้องอีกครั้ง คราวนี้ชมนาดได้ลูกชาย และให้ชื่อว่า เทพ ชมนาดเลี้ยงดูลูกอย่างลำเอียง ทำให้มีปากเสียงกับคุณหลวงบ่อยครั้ง อีอี่นั้นเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูสุขด้วยความสงสาร ฝั่งมะลิและไอ้มิ่งก็เลี้ยงดู เมือง และ สายหยุดมาเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งสองเข้าใจว่ามะลิและไอ้มิ่งคือพ่อแม่ที่แท้จริงของตน ทั้งที่ความจริงแล้วมะลิและไอ้มิ่งอยู่กันแบบพี่น้องเรื่อยมา
18 ปีผ่านไป รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คุณหลวงได้เลื่อนขั้นเป็นคุณพระธำรงค์นครา สุขนั้นเติบใหญ่มาท่ามกลางความเกลียดชังของชมนาด เพราะคุณพระรักและหลงในตัวสุขมาก ยิ่งสุขเรียนเก่งและดีเท่าไร ก็ยิ่งเป็นข้อเปรียบเทียบกับเทพ ลูกแท้ ๆ ของชมนาด เทพไม่สนใจการเรียน เอาแต่หาเรื่องเที่ยวเตร่ สนุกสนานไปวัน ๆ ไม่ได้อย่างใจคุณหลวง แม้สุขจะรู้สึกอยู่เสมอว่าแม่ไม่รักตน ก็ยังเฝ้ากตัญญูพยายามทำให้แม่รักตน และไม่เคยอิจฉาริษยาน้องเลย คุณพระนั้นหวังให้เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับ เดือน ลูกสาวของ คุณหลวงไว (ศรุต วิจิตรานนท์) เพื่อนของตนเอง ส่วนมะลิและไอ้มิ่งนั้น เลี้ยงเมืองและสายหยุดมาจนเติบโต เมืองไปมีเรื่องกับนักเลงที่จะมาฉุดสายหยุด จนพวกนักเลงตามไล่ฆ่า ทำให้ทั้งครอบครัวนั้นหนีลงเรือ จับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ที่พระนครอีกครั้ง
วันหนึ่ง เถ้าแก่ซ้งเกิดรู้ว่าที่แท้ชวนชมเป็นลูกสาวของชมนาดกับคุณพระ ก็ตั้งใจจะไปบอกความจริงกับคุณพระ เอื้องคำเลยใช้แก่นรัญจวนแก่นไม้ที่เพิ่มกำหนัด ซึ่งเอื้องคำเคยใช้ได้ผลมาหลายครั้งทั้งตอนที่ยั่วยวนคุณหลวง และเถ้าแก่ซ้งมาแล้ว แต่คราวนี้ออกฤทธิ์หนักจนทำให้เถ้าแก่ซ้งตายคาอกเอื้องคำ ทำให้เอื้องคำได้ขึ้นเป็นใหญ่ทันที เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมอย่างดี ชวนชมทำตามคำสั่งเอื้องคำทุกอย่าง และเฝ้ารอเพียงวันที่เอื้องคำจะบอกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเป็นใคร อีมุ่ยเพิ่งจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ทุกอย่างที่เอื้องคำทำมาทั้งหมด ก็เพียงเพื่อจะรอวันแก้แค้นชมนาด ให้ชมนาดเจ็บปวดอย่างสาสม! โศกนาฏกรรมความเสน่หาอาฆาตบทนี้ จะลงเอยเช่นไร? ติดตามกันต่อได้ใน ละครเรือนเสน่หา
Tag Archives: ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง
หงส์เหนือมังกร
หงส์เหนือมังกร เป็นเรื่องราวของ หลิว (มาช่า วัฒนพานิช) บุตรีของ ตี๋ซุ้ง (จรัล มโนเพ็ชร) เจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการนักเลงเมืองไทย การเติบโตขึ้นมาท่ามกลางเหล่ามิจฉาชีพ และด้วยการสั่งสอนอบรมของ ตี๋ซุ้ง และเต็งล้อ (นพพล โกมารชุน) ที่ปรึกษาเจ้าพ่อทำให้หลิว แปลกแยกและแตกต่างจากเด็กสาวคนอื่น ๆ ทั้งที่ภายในจิตใจที่เงียบเหงาของเธอนั้นก็ปรารถนาเพียงชีวิตที่เรียบง่าย เหมือนปุถุชนทั่วไป ดั่งหงส์ที่เฝ้าอิจฉาฝูงนกนอกกรงทอง
ในงานฉลองตรุษสารทงานหนึ่ง หลิว อ้อนวอนพ่อจนได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวได้ตามลำพัง ในงานนั้นเธอได้พบกับจางเหา (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) จีนฮ่อผู้มีอดีตอันขมขื่น ภรรยาของเขาถูกเหล่าอันธพาลฆ่าตาย ด้วยความเป็นคนยึดมั่นในเรื่องบุญคุณ ความแค้นทำให้ จางเหาบุกไปสังหารเหล่าอันธพาลตายหมดสิ้น ส่วนตัวเขาก็ลอบหนีเข้ากรุงเทพมาทำงานเป็นคนครัวให้กับเหลา ตี๋ซา (กำธร ทัพคัลไลย) มาเฟียผู้เป็นน้องร่วมสาบานของ ตี๋ซุ้ง จางเหา และ หลิว พูดคุยถูกชะตากันอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเอง เสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่ทำให้ฝูงชน ในงานเกิดความโกลาหลอลหม่าน แต่ก่อนที่กระสุนเหล่านั้นจะปลิดชีวิต หลิวที่ยืนตะลึงอยู่ จากเหา ก็ได้เสียงชีวิตเข้าช่วยเธอไว้เหตุการณ์นี้ทำให้ จางเหา ได้รู้ว่า หลิว เป็นลูกสาวเจ้าพ่อ ตี๋ซุ้ง ผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนหลิว ก็รู้สึกประทับใจในตัว จางเหา
ต่อมา ตี๋ซุ้ง สืบจนรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับ ลูกสาวตนนั้นเป็นประกาศศักดาของ ป๋าเสริฐ (กรุง ศรีวิไล) นักเลงใหญ่ ที่คิดจะทาบรัศมีเจ้าพ่อยังไม่อยากโต้ตอบ ทำให้เขาและ ตี๋ซา ต้องทะเลาะ กันอย่างรุนแรง เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกขึ้นในกุล่ม และส่งผลให้พี่น้องร่วม สาบานต้องแตกหัก ตี๋ซาต้องการกำจัดตี๋ซุ้ง แต่ก่อนที่จะลงมือสำเร็จ หลิวเข้ามาพบเหตุการณ์และเพื่อปกป้องชีวิตพ่อ หลิวจำเป็นต้องชิงสังหารตี๋ซาเสียก่อน การตายของผู้มีพระคุณสร้างความเคียดแค้นให้กับ จางเหาเป็นอันมา เขาสาบานจะต้องกำจัด ตี๋ซุ้ง เป็นการชำระแค้นให้ได้ และหลังจากรอคอย โอกาสมานานในที่สุดจางเหา ก็สามารถบุกเข้าถึงตัว ตี๋ซุ้ง และล้างแค้นได้สำเร็จ
จุดจบของเจ้าพ่อเมื่อหลวงสร้างความตื่นตะลึงไปทั่ววงการ งานศพถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีแขกในวงการนักเองมาร่วมงานมากมาย ทุกคนต่างวิพากษ์จารณ์ถึงอนาคตของแก็งค์ซึ่งขาดหัวหน้า รวมทั้งกังวลกับพฤติกรรมของป๋าเสริฐซึ่งเป็นแก็งค์คู่แข่ง หลังจากงานศพ เต็งล้อ ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมของ ตี๋ซุ้ง เพื่อหาหัวหน้าคนใหม่มาสะสางปัญหาทั้งหมด และแล้วสิ่งที่ไม่มีคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพินัยกรรมของ ตี๋ซุ้ง ระบุให้หลิวเป็นผู้รับช่วงอำนาจ ส่วนตี๊เล็ก (พนมกร ดังทัตสวัสดิ์) ลูกชายคนเดียวของตี๋ซุ้ง กลับไม่ได้อะไรเลย เต็งล้อ เฉลยความลับให้แก่ หลิว ว่าแท้จริงแล้วตี๋เล็ก เป็นลูกของคนร้ายที่บุกเข้ามาข่มขืนเหมย (เดือนเต็ม สาลิตุล) ภรรยาของ ตี๋ซุ้ง ในช่วงที่ตี๋ซุ้งติดคุกอยู่ อันเป็นเหตุให้ ตี๋ซุ้ง เย็นชาจน เหมย ต้องแยกตัวไปถือศีลกินเจอยู่คนเดียว และทำให้ตี๋เล็ก ไม่เคยได้รับความเอาใจใส่จาก ตี๋ซุ้ง แม้แต่น้อย ซึ่งทำให้ ตี๋เล็ก กลายเป็นคนมีปัญหาใจร้อน บ้าระห่ำไม่เคยเกรงกลัวใคร ทว่า เต็งล้อ ไม่ได้ปริปากเล่าเรื่องสำคัญก็คือ คนร้ายที่ว่านั้นก็คือเขานั้นเอง
การขึ้นรับตำแหน่งต่อจาก ตี๋ซุ้ง กะทันหัน สร้างความกังวลใจแก่หลิวเป็นอย่างมาก แต่ด้วยคำขอร้องแกมบังคับของเต็งล้อที่ยกเอาความกตัญญูมาเป็นข้ออ้าง ทำให้หลิวยอมรับ ในวันก่อนรับตำแหน่งนั้นเอง หลิวตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย และตัดหางเปียของตัวเองทิ้งไป ด้วยจิตใจแน่วแน่ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นหงส์เหนือมังกร ให้สมดังเจตนารมณ์ ตี๋ซุ้ง ผู้เป็นบิดา แต่หลิวไม่เชื่อว่าคนที่เธอแอบรักนี้จะเป็นคนฆ่าพ่อ รวมทั้งหลักฐานที่ชี้ชัดก็ไม่มีเธอจึงตัดนิ้วของเขาแทนเพื่อยุติปัญหา แต่นั่นกลับยิ่งทำให้เหล่าลูกน้องมองว่าเธอเป็นเพียงแค่เด็กหญิงใจอ่อนคน หนึ่งเท่านั้น แม้แต่ตี๋เล็กน้องชายก็ไม่พอใจพฤติกรรมของเธอ จนเกิดทะเลาะกันขึ้น และตี๋เล็ก พาพรรคพวกออกไปรุมซ้อมจากเหา จนเกือบตาย
นับตั้งแต่นั้น จางเหาที่ต้องเสียนิ้ว เสียทั้งศักดิ์ศรี และเกือบต้องเสียชีวิต ทำให้เขาผูกใจอาฆาตหลิว และหอบความแค้นเหล่านี้ไปหลบซ่อนตัวเพื่อรอวันล้างแค้น การที่หลิว ไว้ชีวิตจางเหา ทำให้คนในพรรคไม่ยำเกรงเธอการปกครองจึงระส่ำระส่าย ทำให้ป๋าเสริฐ ยิ่งเหิมเกริมแผ่ขยายอำนาจกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนตี๋เล็ก มีหน้าที่ดูแลบ่อนหมดความอดทน ลงมือสังหารลูกชายของ ป๋าเสริฐ จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ หลิวต้องขอความช่วยเหลือจาก เวคิน (มานพ อัศวเทพ) นักการเมื่อผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของป๋าเสริฐให้ช่วย เจรจายอมความ แต่เธอกลับต้องถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี เมื่อเวคิน ยื่นเงื่อนไขให้เธอพลีตัวแลกเปลี่ยน หลิวจำยอมรับปากเพื่อรักษาชีวิตน้องชาย หากแต่เธอก็ผูกใจเจ็บ เวคินมานับแต่วินาทีนั้น ซึ่งสร้างความอึกอัดให้แก่ เต็งล้อ เป็นอันมาก เพราะเต็งล้อกำลังวางแผนจะหักหลังหลิวและอาศัยเวคิน เป็นบันไดก้าวขึ้นเป็นใหญ่เสียเอง
ทางด้านจางเหา เมื่อเริ่มทุเลาจากอาการบาดเจ็บก็เริ่มหัดใช้ปืนมือซ้าย และส่งเก๊า ลูกน้องคนสนิทเขาไปเป็นสายสืบในบ้านของหลิว เพื่อเตรียมล้างแค้น แต่เก๊ากลับมารายงานว่า ที่หลิวต้องตัดนิ้วของจางเหา ก็เพื่อรักษาชีวิตของเขา ฝ่ายเวคิน หลังจากเจรจากับ ป๋าเสริฐ สำเร็จก็ทวงสัญญากับหลิว อย่างอุกอาจ ทำให้หลิวตัดสินใจสั่งให้เต็งล้อส่งคนไปสังหาร เวคินหลังจากใคร่ครวญแล้ว เต็งล้อเห็นว่าการมี หลิว เป็นหุ่นเชิดนั้นเป็นประโยชน์ ต่อตนมากกว่าเต็งล้อจึงจัดการสังหารเวคินเสีย
การสังหาร เวคินกลายเป็นบทเรียนแรกที่ทำให้หลิวได้รู้จักการใช้อำนาจของเธอ เพราะการตายของ เวคินทำให้คนในพรรคยอมศิโรราบต่อเธอมันกลายเป็นจุด ที่เปลี่ยนให้เธอมีความเชื่อมั่น กลายเป็นหงส์ที่ทะยานสูงไม่แพ้มังกรอย่างผู้เป็นพ่อ จนแม้แต่เต็งล้อก็คาดไม่ถึง หลิวแสดงอำนาจของเจ้าแม่อีกครั้งด้วยการสั่ง เก็บศัตรูอย่าง ป๋าเสริฐชื่อเสียงของเธอเริ่มโด่งดังในวงการเป็นเหตุให้จางเหา ต้องเร่งรัดแผนการณ์ล้างแค้นของตน เขาตัดสินใจจะปลิดชีวิตเธอด้วยมือของเขาเอง และในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง จางเหาก็ได้โอกาสที่จะลงมือ แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น กลับมีมือสังหารอีกผู้หนึ่งชิงลงมือก่อนหน้าเขา และสภาพของหลิว ที่ตื่นตระหนกท่ามกลางกระสุน หวนให้จางเหาระลึกถึงวันแรกที่เขาพบเธอ และช่วยชีวิตเธอ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นทำให้เขาลังเล และในที่สุด สมุนของหลิวก็ช่วยเธอ ออกไปได้สำเร็จ
ไม่นานต่อมา หลิวได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมกลุ่ม มังกร 14 เค ซึ่งเป็นองค์กร อาชญากรรมใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ซึ่งการได้รับเชิญนี้มีทางเป็นไปได้สองทางก็คือ องค์การต้องการรับเธอเข้าไปเสริมแทนเวคินที่ตายไปหรือองค์การต้องการกำจัด เธอ ในฐานะที่ฆ่าเวคิน เต็งล้อ แนะนำให้ หลิวไปฝาฝังตัวกับทาเคชิ วาตานาเบะ ยากูซ่าชาวญี่ปุ่นผู้เป็นสหายสนิทของ ตี๋ซุ้ง เพื่ออาศัยบารมีของเขาคุ้มครอง ทางด้าน จางเหา ก็หาโอกาสสังหาร หลิวได้อีกครั้ง แต่ด้วยความลังเลใจ ทำให้เขาถูกสมุนของ หลิวจับได้ แต่หลิวก็ละเว้นชีวิตเขาเป็นครั้งที่สองเป็นผลให้จางเหา แน่ใจในความรู้สึกของหลิวที่มีต่อตน
ความขัดแย้งระหว่างความแค้นกับความรักนี้ทำให้จางเหาตัดสินใจถอนตัว ออกจากวงการไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด ใกล้ถึงวันประชุมหลิวของเข้าพบทาเคชิตามลำพัง เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รู้ก็คือ ทาเคชิ เป็นผู้บงการกลุ่มมือปืนที่เข้ามาสังหาร เธอในงานเลี้ยงนั่นเอง แบะการนับพบในวันนี้ก็คือการล่อให้หลิวก้าวเข้าสู่กับดัก แม้ว่าจะอยู่วงล้อมของศัตรู แต่หลิวใช้ปฏิญาณไหวพริบยืดเวลาของชีวิตเธออกไป และเมื่อสบโอกาสเธอก็จัดการสังหารทาเคชิและหนีออกมาสำเร็จ
เมื่อถึงวันประชุมกลุ่มมังกร 14 เค หลิวได้รับรองจากองค์การให้เป็นสมาชิก ซึ่งเท่ากับว่าได้บรรลุสู่ความเป็นหงส์เหนือมังกรอย่างเต็มภาคภูมิแต่ช่วง เวลาแห่งความภูมิใจ จบสิ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อตี๋เล็กน้องชายถูกศัตรูเก่าสังหารจบชีวิต เป็นเหตุให้ เหมย ผู้เป็นแม่ล้มเจ็บหนัก ก่อนตาย เหมยสารภาพความจริงว่า เต็งล้อ คือพ่อของ ตี๋เล็ก และที่เต็งล้อ ปล่อยให้เธอขึ้นครองอำนาจก็เพื่อหลอกให้เป็นเชิดหาผลประโยชน์ใส่ตัว และขณะนี้ เต็งล้อก็เริ่มจะระแวงและหาทางกำจัดเธอแล้ว
ความจริงทั้งหมดทำให้ หลิวเจ็บปวดจนไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับวงการนี้ต่อไป เธอตัดสินใจหนีไปใช้ชีวิตอยู่จางเหา ที่ต่างจังหวัดด้วยความหวัง ที่จะมีชีวิตที่สงบสุขอย่างคนทั่วไป แต่สิ่งที่เธอรู้ในเวลาต่อมากลับสร้างความปวดร้าว ให้เธอมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเธอค้นพบว่า แท้จริงแล้ว จางเหา คือ ฆาตกรผู้เป็นคนฆ่าพ่อของเธอนั่นเอง และแล้วก็ถึงเวลาที่เธอจะตัดสินใจ ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ระหว่างความรักกับความแค้น เธอจะเลือกอะไร หงส์อย่างเธอจะยังสามารถยืนอยู่เหนือมังกรได้หรือไม่
สามหนุ่มสามมุม
3 หนุ่ม 3 มุม เป็น ละครซิทคอม (Situation Comedy) เรื่องแรกๆของเมืองไทย สร้างสรรค์และกำกับการแสดงโดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ 3 หนุ่ม 3 มุม เป็นเรื่องราวของ 3 หนุ่มพี่น้อง ตัวแทนของคนต่างวัยในสังคม ที่มีความคิดและมุมมองต่างกันในการพบเจอเรื่องราวต่างๆ มากมายในสังคม เป็นละครสั้นจบในตอน หรือที่ปัจจุบันเรียกกันว่า ‘ละครซิทคอม’ ได้รับการพูดถึงว่าเป็นละครแนวสร้างสรรค์ สะท้อนปัญหาและเหตุการณ์ของสังคมในยุคนั้นได้ดีเรื่องหนึ่ง รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงความรักความผูกพันของคนในครอบครัว เป็นละครที่มีระยะเวลาการออกอากาศยาวนานมาก (พ.ศ. 2534 – พ.ศ. 2541)
3 หนุ่ม 3 มุม เป็นเรื่องราวของ 3 พี่น้อง ตระกูลเบญจวรการ ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน
พี่คนโต “เอกพล” รับบทโดย ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ผู้จัดการธนาคารหนุ่มวัยกลางคน ที่มีการดำเนินชีวิตที่เป็นระบบ มีแบบแผน และมีแนวความคิดหัวโบราณนิดๆ
พี่คนกลาง “ทศพล” รับบทโดย ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง มีอาชีพสถาปนิก รักอิสระ ใช้ชีวิตง่ายๆสบายๆ ไม่ชอบอยู่ในกฏเกณฑ์หรือการถูกบังคับ ค่อนข้างหัวสมัยใหม่ เพราะเป็นนักเรียนนอก และเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ
น้องคนเล็ก “พีรพล” รับบทโดย ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ นักศึกษามหาวิทยาลัยวัยรุ่นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่กำลังค้นหาตัวเองว่าชอบ ไม่ชอบอะไร และควรจะดำเนินชีวิตไปในทิศทางไหน
รักในรอยแค้น
รักในรอยแค้น เป็นเรื่องของความรักของ 2 หนุ่ม-สาวที่ไม่อาจเป็นไปได้เพราะมาอยู่ตรงกลางระหว่างความแค้นของ 2 ตระกูล
นักแสดงละคร รักในรอยแค้น
ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง
นุสบา วานิชอังกูร
รุจน์ รณภพ
มานพ อัศวเทพ
แผ่นดินหัวใจ
โมฬี เป็นสาวชาวกรุงซึ่งเลือกที่มารับราชการที่อำเภอบางส้มเปรี้ยวในตำแหน่ง พัฒนากร ต่อมาเมื่อเธอได้สร้างความคุ้นเคยกับชาวบ้านมากขึ้น ก็รู้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ทางจังหวัดมักจะส่งปุ๋ยมาช้า ทำให้ต้องไปซื้อจากร้านเถ้าแก่ฮงในจังหวัดซึ่งมีอยู่ร้านเดียวและแพงมาก หลังจากนั้นโมฬีก็ร่วมงานกับ กำนันไก่โต้ง หรือ ศรา กำนันของอำเภอบางส้มเปรี้ยว โมฬีและศรามักจะมีปากเสียงกันอยู่เสมอๆ เพราะศราไม่แน่ใจในความสามารถของโมฬี
งานแรกที่ทั้งคู่ต้องทำร่วม กันคือเข้าไปเก็บข้อมูลจากแรงงานคืนถิ่น โมฬีให้คำแนะนำเรื่องการปลูกพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นการเสริมรายได้อีกทาง หนึ่ง จากการปรึกษาเรื่องแรงงานคืนถิ่นทำให้ทั้งสองรู้ว่ามีทัศนคติในการดำเนินการ เรื่องนี้ โดยยึดหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียงของในหลวงเหมือนกัน ท่ามกลางความราบรื่นในเรื่องการปรึกษางาน ศราก็อดไม่ได้ที่จะยั่วเย้าให้เกิดการต่อปากต่อคำ และแล้วเมล็ดดอกรักที่เริ่มฝังตัวในหัวใจ รอวันผลิบานโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว
และเรื่องเร่งด่วนที่ทั้งสองคนจะ ต้องรีบทำก่อนคือเรื่องปุ๋ยที่ขาดแคลน ศราสงสัย กำนันเลิศฤทธิ์ ที่แนะนำชาวบ้านให้ซื้อปุ๋ยแพงจากร้านเถ้าแก่ฮงแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ โมฬีไปตามเรื่องปุ๋ยกับ สืบศักดิ์ เกษตรจังหวัดที่ถูกระบบอิทธิพลกลืนกิน แต่ด้วยความอ่อนหวานและนอบน้อมของโมฬีทำให้สืบศักดิ์รับปากว่าจะเร่งเรื่อง ปุ๋ยให้ ในที่สุดโมฬีก็สามารถทำให้บางส้มเปรี้ยวได้รับปุ๋ยมาใช้ เรื่องที่บางส้มเปรี้ยวได้ปุ๋ยไปใช้ทำให้ ส.ส.พล ผู้มีอิทธิพลใหญ่โกรธมาก เพราะที่ผ่านมาเขาใช้อิทธิพลหน่วงเหนี่ยวการสั่งจ่ายปุ๋ยให้ล่าช้า เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
ส.ส.พลเรียกกำนันเลิศฤทธิ์ลูกน้องคนสนิทมา สั่งการ หลังจากนั้นกำนันเลิศฤทธิ์ก็ไปข่มขู่สืบศักดิ์ไม่ให้ขัดขวางการทำงานของระบบ อิทธิพล และรายต่อไปที่เลิศฤทธิ์ต้องจัดการคือศราแต่คนที่รับเคราะห์แทนก็คือโมฬี แต่เธอไม่เป็นอะไรเพราะคนร้ายเพียงแค่ยิงขู่เท่านั้น เรื่องนี้โมฬีไม่กล้าบอกใคร เธอแน่ใจว่าคนที่คนร้ายต้องการขู่นั้นน่าจะเป็นศรามากกว่า เพราะเป็นเจ้าของรถที่เธอขับไป โมฬีสับสนและกลัวจึงกลับบ้านที่กรุงเทพ แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจกลับไปทำงานต่อที่บางส้มเปรี้ยว และเพื่อไปเตือนศราที่กำลังมีคนคิดปองร้าย
เมื่อศรารู้ความจริงจาก โมฬีก็ตกใจมาก เขาแสดงความรู้สึกของหัวใจอกมาเป็นคำพูดห่วงใย เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งโครงการต่างๆที่โมฬีร่วมคิดร่วมทำกับศราก็ สำเร็จเป็นรูปร่างขึ้นทำให้ชาวบ้านที่ตกงานมีรายได้พอเลี้ยงตัว พร้อมกับความสัมพันธ์ของโมฬีกับศราก็แนบแน่น ศรารู้ตัวว่ารักโมฬีแต่ไม่กล้าบอกเธอ ส่วนโมฬีเองก็มีความรู้สึกที่ดีตอบเช่นกัน และเมื่อโมฬีมีปัญหาเรื่องการหาตลาดสมุนไพรไม่ได้เพราะขาดประสบการณ์ ศราแสดงให้โมฬีรู้ว่าเธอจะไม่ต้องเดียวดายเพียงลำพัง เขาพร้อมที่จะโอบอุ้มและฝ่าฟันไปด้วยกันกับเธอ
โดยได้รับความช่วย เหลือจาก หลวงตาบูลย์ ผู้ที่ชาวบ้านให้ความนับถือ ทำให้ปัญหาทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดี ส.ส.พลวางแผนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความสำเร็จของโครงการปลูกพืชผักไว้ เสริมอาชีพของศราและโมฬี โดยแทรกอิทธิพลเข้ามาเพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับอย่างมหาศาล โดยจัดส่งเมล็ดพันธุ์ผักมาให้ทดลองปลูกฟรี แต่ส่งมาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นและราคาที่ระบุไว้ก็แพงมาก ศราและโมฬีตัดสินใจให้ลูกบ้านเข้าร้องเรียนรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรโดยผ่านทาง อินเตอร์เน็ต โมฬีกลับบ้านที่กรุงเทพ
และขอให้ วิริยา นักข่าวสาวเพื่อนสนิทให้ช่วยทำข่าวความไม่ชอบมาพากลของเมล็ดพันธุ์ผักและ ปุ๋ยราคาแพงที่แพร่ระบาดไปทั่วท้องถิ่น ดร.อนล ติดต่อกับศราว่าท่านรัฐมนตรีได้รับอีเมล์ของชาวบ้านแล้วและไฟเขียวให้ลุยสืบ ข้อเท็จจริงได้ แต่เป็นข่าวร้ายของส.ส.พล ดังนั้นเขาจึงสั่งกำนันเลิศฤทธิ์ให้ไปทำลายหลักฐานที่มีอยู่กับสืบศักดิ์ให้ หมดสิ้น โมฬีไปสืบหาหลักฐานจากสืบศักดิ์และได้พบเอกสารหลักฐานชิ้นหนึ่งโดยบังเอิญ แต่ไม่สามารถนำออกมาได้
ส.ส.พลและคณะมาเยี่ยมชมที่อำเภอบางส้ม เปรี้ยวมีนักข่าวติดตามมาทำข่าวเป็นกลุ่มใหญ่รวมทั้งวิริยาด้วย โมฬีบังเอิญได้ยินกำนันเลิศฤทธิ์ข่มขู่สืบศักดิ์เรื่องให้ทำลายหลักฐาน ทำให้โมฬีฉุกคิดถึงเอกสารที่เห็นในห้องทำงานของสืบศักดิ์ เธอตัดสินใจที่จะไปเอาเอกสารนี้มาให้ได้ เมื่อถึงห้องทำงานของสืบศักดิ์โมฬีก็ลงมือค้นจนเจอเอกสารแล้วรีบโทรหาวิริยา ซึ่งอยู่ที่งาน ขณะกำลังจะกลับโมฬีก็เจอสืบศักดิ์ยืนอยู่ที่หน้าประตู เขาขอร้องไม่ให้โมฬียุ่งกับเรื่องนี้พร้อมกับขอเอกสารคืน เมื่อโมฬีไม่ยอมจึงเกิดการยื้อแย่งขึ้น
โมฬีตีศีรษะชายหนุ่มด้วย เซรามิค เมื่อได้หลักฐานมาแล้ววิริยาก็ทำการออกอากาศสดเปิดโปงหลักฐานการฉ้อฉลของ ขบวนการนี้ทั้งหมด โมฬีหนีศรากลับกรุงเทพเพราะความเข้าใจผิด ศราวางแผนไปสู่ขอโมฬีถึงที่บ้านโดยไม่ให้รู้ตัว พร้อมกับโทรไปขอความร่วมมือจากพ่อ-แม่ของโมฬีด้วย วันงานมาถึงโมฬีแปลกใจที่เห็นชาวบ้านกลุ่มใหญ่และขบวนกลองยาวแห่ขันหมาก ศราปรับความเข้าใจกับโมฬีพร้อมทั้งสารภาพว่ารักเธอตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว
รายชื่อนักแสดงละคร แผ่นดินหัวใจ
ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับบท ศรา ภัยหลีก ( ไก่โต้ง )
ศิรพันธ์ วัฒนจินดา รับบท โมฬี
ศิระ แพทย์รัตน์ รับบท ชยา ภัยหลีก ( ไก่ต๊อก )
โชติรส แก้วพินิจ รับบท กมลมาศ
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบท ส.ส.พล
สุธีร์ เสียงหวาน รับบท กาย
รุษยา เกิดฉาย รับบท เม้า
เศรษฐา ศิระฉายา รับบท กำนันเดช
ด.ญ.ณัฐนิชา เชิดชูบุพการ รับบท มะปราง
ด.ญ.สุชาดา เชิดลีย์ รับบท ส้มโอ
บางรักซอย 9
บางรักซอย 9 คือ ละคร ซิทคอม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ชัดเจน สถาปนิกหนุ่มเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ และได้เช่าบ้านของแป้ง เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในบ้าน และความสัมพันธ์ของชัดเจนกับแป้งที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
ทีเด็ดครูพันธุ์ใหม่ จิตพิสัยเดือด
ทีเด็ด หัวหน้าแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ชื่อ แก๊งค์กวนใจ เกิดรักแรกพบกับ เชอร์รี่ สาวแสนสวย ฐานะที่ร่ำรวยมาก ทีเด็ดตามเชอร์รี่ไปโรงเรียนอัจฉริยะวิทย์ และได้รู้ว่าเชอร์รี่คืออาจารย์สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้นั่นเอง ทีเด็ดต้องการจะจีบเชอร์รี่ และประจวบเหมาะกับว่ามีอาจารย์ประจำชั้นของเด็กนักเรียนเหลือขอโรงเรียน มัธยมแห่งนี้เพิ่งลาออกไป
ทีเด็ดได้เข้ามาสอนในโรงเรียนแห่งนี้ และได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการโรงเรียน โดยเขาได้รับมอบหมายให้เป็น ครูประจำชั้นคนใหม่ของห้องที่รวบรวมไปด้วยนักเรียนตัวแสบเอาไว้หลากหลายรูป แบบทั้งชายและหญิง เริ่มจากแก๊งค์ห้ามังกร ซึ่งมีไม้ เป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดี บ้านฐานะดี อยู่กับแม่สองคน ไม้เป็นเด็กที่ฉลาดเป็นจอมวางแผน เรียนเก่ง แต่เกเร และเป็นหัวหน้าของแก๊งค์นี้ด้วย เคน ฐานะที่บ้านยากจน อาศัยอยู่กับป้า ซึ่งเวลาที่เคนอยู่บ้านจะแตกต่างกับเมื่ออยู่ที่โรงเรียน อยู่บ้านเคนจะเรียบร้อยเอาการเอางานมาก แต่เวลาที่เขาอยู่ที่โรงเรียนเขาจะเกเรมาก ชอบแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลัง และเป็นขาลุยประจำแก๊งค์นี้
ก็ อต ซึ่งมีฉายาว่า ก๊อตโช๊ะ เพราะมีคำพูดที่ติดปากว่า โช๊ะ เวลาที่ดีใจหรือว่าเสียใจ ก็อตเป็นเด็กอัจฉริยะ เรียนเก่ง ชอบเรียนรู้ในเรื่องของเทคโนโลยี จึงเป็นนักคอมพิวเตอร์ตัวฉกาจ เพลง เพลงเกิดในครอบครัวศิลปิน ที่บ้านของเพลงจะเล่นดนตรีไทยกันทั้งบ้าน ก็เลยส่งผลให้เพลงเป็นคนที่ละเอียดอ่อน ชอบงานศิลปะ เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และเป็นนักเป่าขลุ่ยที่มีฝีมือดีมาก ๆ และปักเป้า เป็นเด็กที่ไม่เอาไหนที่สุดในกลุ่ม เรียนก็ไม่เก่ง
และอีกหนึ่ง แก๊งค์ก็คือแก๊งค์ดอกไม้เหล็ก ที่มีโม สาวน้อยที่ปราดเปรียวเป็นหัวหน้ากลุ่มนี้ ป๊อก สาวห้าวประจำกลุ่ม ซึ่งโตกว่าผู้หญิงด้วยกันจึงเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัว เอง โก๊ะ ฉายา โก๊ะแช๊ด เป็นคู่กัดกับ ก๊อตโช๊ะ ชอบเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นชีวิตจิตใจ แช๊ทได้ทั้งวัน และมีนิสัยร่าเริง เป็นเซียนคอมพิวเตอร์ประจำแก๊งค์นี้ แจ๊ด สาวเปรี้ยวประจำกลุ่ม เป็นผู้นำแฟชั่น เป็นคนที่รักเพื่อน มีน้ำใจ และฮาย เป็นเด็กสวย น่ารัก เรียนเก่ง เรียบร้อย เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี เป็นเพื่อนรักของโม และเป็นคนที่คอยช่วยเหลือโมตลอดเวลา
เด็ก ๆ ในห้องไม่ยอมรับทีเด็ดเป็นครูประจำชั้น เด็กทั้งสองกลุ่มท้าทายกันเองว่าใครจะสามารถทำให้ทีเด็ดลาออกได้ก่อนก็จะ เป็นฝ่ายชนะและมีการเดิมพันกันเอาไว้ด้วย จากนั้นทีเด็ดก็ได้พบกับฤทธิ์เดชของเด็ก ๆ มากมาย แต่ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ มาได้อย่างเจ็บตัวบ้างไม่เจ็บตัวบ้าง ส่วนครูจารุ หัวหน้าฝ่ายปกครองของโรงเรียนก็จ้องที่จะเอาผิดกับครูทีเด็ด เพราะความเป็นครูคนละแบบ และเป็นคนที่เจ้าระเบียบสุด ๆ เด็ก ๆ นักเรียนจึงไม่ค่อยชอบ
ในขณะที่สร้างวีรกรรมแกล้งครูคนใหม่ เด็ก ๆ ก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับตนเองเช่นกัน เริ่มจากการแตกเนื้อสาวของ แก๊งค์ดอกไม้เหล็ก ทำให้เกิดเรื่องวุ่น ๆ มากมาย ต่อมาแก๊งค์ห้ามังกรก็แตกเนื้อหนุ่มบ้าง การเป็นแมนได้ถูกตีความแบบผิด ๆ ครูทีเด็ดช่วยเด็ก ๆ ให้เห็นว่าความเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริงนั้นอยู่ตรงไหน ในช่วงนี้เด็ก ๆ ในห้องจะได้รับความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาและความเคารพในเพศตรงข้ามไปพร้อม ๆ กัน
เด็ก ๆ แต่ละคนทั้งประสบและสร้างปัญหาแตกต่างกัน ครูทีเด็ดจะต้องช่วยเหลือและดูแลนักเรียนเหล่านี้ให้ได้ เพื่อความฝันอันสูงสุดของเขา หากเขาทำไม่ได้ นอกจากจะไม่ได้เงินเดือนแล้วเขาจะต้องพลาดหวังในตัวและหัวใจของครูเชอร์รี่ ด้วย
ทีเด็ดจะบรรลุความฝันของเขาได้หรือไม่ เหล่านักเรียนตัวป่วนทั้งหลายจะงัดไม้ตายอะไรออกมาแกล้งครู ทีเด็ด เชอร์รี่จะรับรักทีเด็ดหรือไม่ ต้องติดตามในละคร ทีเด็ดครูพันธ์ใหม่ จิตพิสัยเดือด
นักแสดงละคร ทีเด็ดครูพันธุ์ใหม่ จิตพิสัยเดือด
1. ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง
2. ศรีริต้า เจนเซ่น
3. มยุริญ ผ่องผุดพันธุ์
4. อภิชาต ชูสกุล
5. เบญจรัตน์ วิศิษฐ์กิจการ
6. ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ
7. แพร ธรรมเสถียร
8. ศุลีพร ตันตระกูล
9. ธีรภัทธ แก้วเกษ
10. เชตวิทย์ พิมลพันธุ์
ตะวันตัดบูรพา
ตะวันตัดบูรพา
แนวละคร แอ็คชั่นดราม่า
บทโทรทัศน์ ประโชน์ สุศรีเจริญสุข
อำนวยการผลิต ถกลเกียรติ วีรวรรณ
ผลิตโดย : เอ็กแซ็คท์
ผู้กำกับ : นิพนธ์ ผิวเณร
ออกอากาศ : ละครช่อง5, ละครปี 2544
ออกอากาศ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.25 น.
ต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2544
ตะวันตัดบูรพา คือเรื่องราวของสองพี่น้อง ตะวันฉายและบูรพา ที่มีความขัดแย้งในเรื่องของหน้าที่และความถูกต้อง
ตะวันฉาย (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) และบูรพา (เจษฎาภรณ์ ผลดี) สองพี่น้องที่เติบโตในครอบครัวตำรวจ ซึ่งมีจ่าเวศ(จรัล มโนเพ็ชร) เป็นหัวหน้าครอบครัว พวกเขาทั้งสองแตกต่างกันทั้งอุปนิสัยและความคิด ขณะที่ตะวันฉายนั้นเถรตรงและยึดมั่นในกฎเกณฑ์ความถูกต้องเช่นเดียวกับบิดา แต่บูรพานั้นกลับช่างฝันทะเยอทะยานคล้ายผกาผู้เป็นแม่
ทุกอย่างดำเนินไป จนกระทั่งตะวันฉายเกิดไปรู้เห็นการทุจริตของผู้มีอิทธิพล และได้เป็นพยานชี้ตัวคนร้ายโดยไม่สนใจคำเตือนของบูรพา ทำให้พรรคพวกของผู้ต้องหาผูกใจเจ็บ หวนมาแก้แค้นตะวันฉายในวันเกิดของจ่าเวศ ความรุนแรงดังกล่าวเป็นผลให้จ่าเวศกลายเป็นคนพิการ ในขณะที่ผกานั้นจบชีวิตลง
ด้วยความโกรธ บูรพาบุกไปล้างแค้นพวกทรชนจนพลั้งมือสังหารหัวโจกตาย ด้วยความกลัวในความผิดของตน บูรพาขอร้องให้ตะวันฉายพาเขาหลบหนีไปที่อื่น แต่ตะวันฉายกลับบอกให้บูรพากล้าเผชิญหน้า เพราะเขาคิดว่ากฎหมายจะต้องให้ความยุติธรรม หากแต่รูปคดีไม่เป็นไปตามคาด เมื่อมีการใช้เส้นสาย เป็นเหตุให้บูรพาถูกพิพากษาจำคุก แรงกดดันต่างๆบีบให้บูรพาชิงชังในตัวพี่ชายจนกลายเป็นความแค้นและจุดแตกหัก ระหว่างพี่น้องไปในที่สุด
วันเวลาผ่านไป ตะวันฉายซึ่งมุ่งมั่นที่จะรื้อฟื้นความยุติธรรมของกฎหมาย ได้ตัดสินใจเบนเข็มเข้าสอบเป็นนายตำรวจกองปราบและได้ร่วมทีมกับ หมู่เสือ(พนมกร ตังทัตสวัสดิ์)และพวกที่ทั้งสามัคคีและจงรักภักดีกับตะวันฉาย ส่วนบูรพาติดคุกมาเกือบปีเต็มแล้ว และได้รู้จักกับ เคี้ยง มังกรแดง(โกวิท วัฒนกุล) ผู้ถ่ายทอดวิชาป้องกันตัวให้ ทำให้เขาได้ ถึงแก่นแท้ของคำว่าเอาตัวรอด นอกจากนี้ยังได้รู้จักกับ จ๊อด กุญแจผี (นพพร กำธรเจริญ)จนกระทั่งเป็นเพื่อนรักกัน เมื่อถึงวันพ้นโทษ บูรพาเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยตัดสินใจเดินตามคำแนะนำของเคี่ยง บูรพาและจ๊อดตระเวณหางานสุจริตทำ จนได้งานในสถานบันเทิงของ เสี่ยเจริญ (กำธร ทัพคัลไลย) มาเฟียขาใหญ่ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นแหล่งซ่องสุมในการค้ายาเสพติด
ทั้งคู่ถูกข่มเหงจาก ชัยชัย (อรรพร ธีมากร) หลานชายเสี่ยวเจริญที่ไม่ถูกชะตากับบูรพาตั้งแต่แรกเห็น สิ่งดีๆสิ่งเดียวที่บูรพาได้เจอนับตั้งแต่ออกจากคุก คือการได้รู้จักธิชา (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกรณ์) จิตรกรสาว ทั้งสองสนิทกันจนเกิดเป็นความรัก แต่เพราะไม่ต้องการให้ชีวิตต้องผูกพันใคร บูรพาพยายามหักห้ามใจปิดกั้นตัวเองถอยออกห่างจากชีวิตของธิชา สร้างความร้าวรานให้กับ ธิชาลึกๆ อยู่ในใจ
ตะวันฉายมีโอกาสได้เจอบูรพาหลังจากสืบคดีของเสี่ยเจริญ โดยตะวันฉายพยายามปรับความเข้าใจกับบูรพาแต่ไม่เป็นผล สร้างความเสียใจให้ตะวันฉายอย่างมาก จนวันหนึ่งตะวันฉายได้มารู้จักกับธิชา และทราบถึงความสนิทสนมระหว่างเธอกับบูรพา ตะวันฉายเลยอาศัยถามข่าวคราวของบูรพาจากเธอ จนตะวันฉายเริ่มสนิทกับธิชาและรู้สึกชอบพอเธออยู่ในใจ ในเวลาเดียวกัน โจ (ตุ๊กตา อินทิรา แดงจำรูญ)เด็กส่งยาที่ทำหน้าที่เป็นสายตำรวจก็เริ่มประทับใจตะวันฉายทีละนิด
ด้านบูรพาความซื่อตรงและไม่สอพลอของเขา ทำให้เสี่ยเจริญวางใจเลื่อนชั้นขึ้นมาเรื่อยๆ เริ่มจากการรับหน้าที่ ในการส่งมอบสินค้าและเพื่อทานอำนาจของชัชชัย ที่นับวันยิ่งชักจะล้ำเส้นในหน้าที่ตนทำอยู่ ชัชชัยไม่พอใจที่เสี่ยเจริญให้บูรพาเป็นตามติด เลยคิดวางแผนกำจัดบูรพาด้วย
ในช่วงนั้นเองเสี่ยเจริญเริ่มมีปัญหาขัดแย้งกับหัวจักร คู่แข่งทางการค้ายา และทั้งสองฝ่ายนัดเจรจากันหลายต่อหลายครั้งแต่การเจรจาก็ไม่เป็นผล จนถึงขั้นยกพวกถล่มกัน จนเรื่องไปเข้าหูตะวันฉายที่ หวังใช้โอกาสนี้จับกุมทั้งคู่ ตะวันฉายเร่งมือสานงานของเขาต่อเพื่อหาทางจับเสี่ยเจริญ และจังหวะนั้นเองทัศน์ (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) มือขวาของ ท่านรองบารมี (อภิชาต หาลำเจียก)รองหัวหน้าพรรคการเมืองและอีกด้านหนึ่งเป็นเอเย่นค้ายาอันดับ หนึ่ง ที่ต้องการกำจัดเสี่ยเจริญเพื่อผลประโยชน์เรื่องธุรกิจค้ายา ได้บอกเบาะแสกับตะวันฉายว่าเสี่ยเจริญมีการนำเข้ายา ครั้งใหญ่ แต่การบอกเบาะแสของทัศน์ครั้งนี้ เพราะหวังยืมมือตะวันฉายสะกัดโครงการขยายอำนาจของเสี่ยเจริญ ในขณะเดียวกันก็ส่งมือปืนไปซุ่มยิงทั้งสองฝ่ายด้วย
ตะวันฉายรีบไปเตือนบูรพาให้ทราบถึงการบุกจับผู้ค้ายาที่ท่าเรือจุดนัดพบ ของเสี่ยเจริญและหัวจักร เพราะไม่ต้องการให้บูรพาเข้าร่วมวง แต่บูรพายืนยันจะไป เสี่ยเจริญรู้เรื่องตำรวจจึงเปลี่ยนสถานที่ใหม่แต่ได้รับความเสียหายอย่าง หนักจากการซุ่มยิงของฝ่ายทัศน์ และครั้งนั้นเองหัวจักรสิ้นอำนาจลง หลังจากเหตุการณืนั้นเอง บูรพาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นมือขวาของเสี่ยเจริญ และหมู่เสือรู้ความจริงเกี่ยวกับสายสัมพันธ์พี่น้อง
ตะวันฉายและบูรพาเผชิญหน้ากันหลายครั้งหลายคราวด้วยความเจ็บปวด และเข้าใจผิดต่อกันเพิ่มพูนไปอีกทั้งเรื่องงานและเรื่องความรักซึ่งทั้งพี่ น้องต่างหลงรักธิชาเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตะวันฉายเองก็ไม่กล้าทำร้ายน้องชายแท้ๆของตัวเอง ทั้งยังใจอ่อนดำเนินการล่าช้าในหลายๆครั้ง ทางฝ่ายบูรพาที่มีโอกาสฆ่าพี่ชายตัวเองหลายครั้ง ก็ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ และแอบช่วยเหลือพี่ชายตัวเองให้รอดจากความตาย ทำให้เสี่ยเจริญสงสัยว่าบูรพาเป็นสายตำรวจ ขณะที่ชัชชัยก็จ้องจับผิดบูรพาตลอด ส่วนตะวันฉายถูกสารวัตรเมธา (วิศิษฐ์ ยุตติยงค์)ตำหนิ และเร่งให้ดำเนินคดีโดยเร็ว
เสี่ยเจริญเมื่อทราบถึงความเคลื่อนไหวของรองบารมีที่จะกำจัดตน ก็คิดจะขยายอำนาจโดยการปั้มยาขายเองผ่านนายทุนญี่ปุ่น แต่แล้วทัศน์ซึ่งรู้ถึงการเป็นสายตำรวจของโจก็เริ่มดำเนินการลับ เพื่อขัดขวางเสี่ยเจริญ จนกระทั่งรู้ว่าตะวันฉายกับบูรพาเป็นพี่น้องกัน จึงปล่อยข่าวเป็นเหตุให้ตะวันฉายถูกถอดจากกองปราบและไปเป็นตำรวจท้องที่ ในขณะที่บูรพาก็ถูกชัชชัยจับไปพร้อมกับธิชาเพื่อฆ่าทิ้ง แต่วันนั้นเอง เคี้ยงมังกรแดง ได้รับนิรโทษกรรมออกมาจากคุก และมาช่วยชีวิตบูรพาพร้อมกับเสี่ยเจริญ อำนาจของชัชชัยเริ่มหมดไป หวังหักหลังเสี่ยเจริญจากการชักนำของทัศน์ และถูกยุยงโดยภรรยาเก็บของเสี่ยเจริญ ผู้มีนิสัยเหมือนงูพิษลิ้นสองแฉก เจิมฉัตร (โยโกะ ทาคาโน)
ชัชชัยเริ่มหักหลังเสี่ยเจริญทีละนิด จนทัศน์ผู้วางแผนได้ลอบส่งข่าวให้เสี่ยเจริญรู้ ชัชชัยและเสี่ยเจริญแตกหักกัน เจิมฉัตรยิงเสี่ยเจริญและเกลี้ยกล่อมให้ชัชชัยเอาเสี่ยเจริญไปฆ่าทิ้งและ อำพรางศพ เคี้ยงและบูรพารู้ว่าเป็นฝีมือของชัชชัย ชัชชัยหลบหนีไป และถูกตามล่า เนื่องจากทางเลือกไม่มี เคี้ยงดันบูรพาขึ้นเป็นหัวหน้าใหญ่แทนเสี่ยเจริญ
ชัชชัยเริ่มหมดหนทางแต่เพราะกุมความลับเอาไว้มากเกินไป ทัศน์ตามเก็บชัชชัยและยิงตกนํ้าไป แต่ชัชชัยไม่ตายและโทรหาตะวันฉาย พร้อมกับข้อตกลงขอเป็นพยานให้ตำรวจ และต่อรองกับกองปราบให้ตะวันฉายกลับไปทำงานได้อีกครั้ง เหตุการณืนั้นเองทำให้ทัศน์ และ บูรพา ต้องตามล่าชัชชัย ฝ่ายของทัศน์บุกไปยังที่ซ่อน และฆ่าจ่าคนสนิทของตะวันฉายและหมู่เสือ ในขณะที่ชัชชัยหนีไปได้ และถูกบูรพาจับได้ในที่สุด เหตุการณ์นั้นเองเสือเข้าใจผิดตะวันฉาย และทั้งคู่แตกคอกัน
ด้านชัชชัยหนีออกจากบูรพาและพวกได้ แต่ก็ถูกทัศน์และเจิมฉัตรที่เข้าพวกกัน ตามล่า ด้วยความจนตรอกของชัชชัย จึงฆ่าเจิมฉัตรและหวังเสี่ยงกับทัศน์ แต่ก็จบชีวิตลงในวันนั้นเอง ชัชชัยแอบทิ้งเบาะแสของหลักฐานเอาผิดรองบารมีไว้ ทำให้บูรพาไปเจอสมุดบัญชีที่กุมความลับของรองบารมี บูรพาที่หวังจะถอนตัวและเริ่มต้นใหม่กับธิชาจึงต้องล้มเลิก เพราะถึงจุดแตกหักกับฝ่ายบารมี รวมทั้งถูกขึ้นบัญชีดำของตำรวจ
ทัศน์ตามล่าบูรพา เคี้ยงและพวก เพื่อกำจัดและแย่งเอาสมุดบัญชีคืน ด้วยวิธีสกปรก จนทำให้เคี้ยงและจ๊อดตายในเหตุการณ์นี้ แต่เสี้ยนหนามสุดท้ายอย่างบูรพายังไม่ตายและสมุดยังไม่หายไปแต่เสือกลับเข้า จับกุมบูพาได้ก่อนและตายด้วยฝีมือของทัศน์ที่ซ้อนแผนเอาไว้ บูรพาหวังหนีไปต่างประเทศพร้อมธิชา ในขณะที่ความเป็นพี่ของตะวันฉาย ทำให้เขาช่วยบูรพาหนีอีกครั้งเพื่อไปที่ท่าเรือตะวันออก ทัศน์และพวกจำนวนมากตามล่าไปถึงที่นั่นและเกือบจบชีวิตสองพี่น้องได้สำเร็จ แต่โชคเข้าข้างสองพี่น้องจัดการกับทัศน์ได้ ในขณะเดียวกันฝ่ายตำรวจสั่งจับตายบูรพา
ศึกครั้งนี้ใกล้ถึงจุดยุติ บูรพาจะอยู่หรือตาย ตะวันฉายจะเลือกน้องหรือความถูกต้อง ติดตามชมเรื่องราวความรัก และความแค้นระหว่างสองพี่น้องได้ ในละคร ตะวันตัดบูรพา
ตราบาปสีขาว
ตราบาปสีขาว เป็นเรื่องราวของสามสาวเพื่อนรักที่เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า เดือนเพ็ญ (นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้) เป็นคนใจเด็ด เข็มแข็ง แก้วตา (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) เป็นคนใจอ่อน เรียบร้อยอ่อนหวาน ส่วน คำเอื้อย (ปานวาด เหมมณี) เป็นคนร่าเริ่งแจ่มใส มองโลกในแง่ดี ทั้งสามคนรักกันราวกับพี่น้องคลานตามกันมา
เมื่อ เดือนเพ็ญได้ไปพบรักกับ พรชัย (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) นักเลงหัวไม้ เธอจึงตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าเพื่อมาอยู่กินกับเขาทันที เดือนเพ็ญชวนแก้วตาและคำเอื้อยออกมาด้วย แต่ชีวิตของเดือนเพ็ญไม่สวยงามอย่างที่คิด เมื่อพรชัยชอบทุบตีเธอเพื่อรีดไถเอาเงินที่เธอหาได้ไปเล่นไพ่และกินเหล้าจน หมด เดือนเพ็ญจึงตัดสินใจหนีจากพรชัยเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อื่น คำเอื้อยรู้เข้าจึงขอติดตามเดือนเพ็ญไปด้วย
เมื่อวันสงกรานต์ อนล (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) วิศวกรหนุ่มจากกรุงเทพฯ ได้พาภรรยากับลูกชายแรกเกิดมาเยี่ยมแม่ยายของเขาที่เชียงใหม่ เป็นเวลาเดียวกับที่คำเอื้อยและเดือนเพ็ญตั้งใจไปบอกลาแก้วตาที่ร้านทอง แต่ไปเจอแก้วตาโดนเสี่ยเจ้าของร้านไล่ปล้ำ ทั้งสองจึงเข้าไปช่วยจนพลั้งมือทำร้ายเสี่ยร้านทองสลบไป
ในขณะที่สามสาวกำลังจะหนี ก็ดันไปเจอกับพรชัยที่ตั้งใจมาตามเดือนเพ็ญกลับบ้าน แต่พรชัยกลับเปลี่ยนใจไปขโมยของในร้านทองแทน สามสาวไม่ยอมเพราะรู้ดีว่าพรชัยจะป้ายความผิดให้พวกเธอ แต่ถูกพรชัยชักปืนขึ้นมาขู่ เดือนเพ็ญกับคำเอื้อยจึงเข้าไปแย่งปืนจนปืนลั่นใส่พรชัย สามสาวตกใจมากเพราะคิดว่าพรชัยตายแล้ว จึงขโมยรถที่จอดอยู่หลบหนีตำรวจทันที แต่ในรถคันนั้นดันมีกานดาและลูกชายอยู่ด้วย
ในระหว่างการหลบหนีเดือนเพ็ญกับแก้วตาทำปืนลั่นไปหลายนัด แต่แล้วพวกเธอก็ต้องตกใจอย่างสุดขีด เมื่อพบว่ากานดาเสียชีวิตเพราะโดนลูกหลงกระสุนปืนจากเดือนเพ็ญ ทั้งสามตัดสินใจขึ้นเรือขนสินค้าเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยพาลูกชายของกานดาไปด้วย
ที่ กรุงเทพฯ สามสาวได้ปลอมแปลงเอกสารเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เดือนเพ็ญเปลี่ยนเป็นดารณี แก้วตาเปลี่ยนเป็นการะเกด และคำเอื้อยเปลี่ยนเป็นอรทิพย์ โดยการะเกดขอตั้งชื่อเด็กว่า สงกรานต์ (สิงโต สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี) ตามวันและเวลาที่โชคชะตาของพวกเธอต้องพลิกผัน และด้วยความสงสารไม่อยากให้เด็กต้องมีสภาพเป็นเด็กกำพร้าเหมือนพวกเธอ การะเกดจึงให้สงกรานต์เรียกเธอว่าแม่
19 ปีต่อมา…สามสาวใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านห้องแถว อันเป็นมรดกที่ได้มาจากหญิงชาวจีน ทุกคนต่างตั้งตารอคอยวันที่คดีจะหมดอายุความ พวกเธอจะได้เป็นอิสระสักที แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอทั้งสามเมื่ออนลได้พบกับสงกรานต์ โดยที่ไม่รู้เลยว่าความจริงแล้วทั้งคู่คือพ่อลูกที่พลัดพรากกันมาถึง 19 ปี อีกทั้งอนลยังหลงรักแก้วตา ที่เขาเข้าใจว่าเป็นแม่แท้ ๆ ของสงกรานต์อีกด้วย ถ้าอนลรู้ความจริงว่า ผู้หญิงคนที่เขายอมเปิดหัวใจรักอีกครั้ง คือฆาตกรที่ฆ่าภรรยาของเขาเอง และสงกรานต์คือลูกชาย อนลจะทำยังไงกับสามสาว? ติดตามชม ละครตราบาปสีขาว
นักแสดงละคร ตราบาปสีขาว
ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับบทเป็น อนล
นัท มีเรีย รับบทเป็น เดือนเพ็ญ / ดารณี
โสภิตนภา ชุ่มภาณี รับบทเป็น แก้วตา / การะเกด
ปานวาด เหมมณี รับบทเป็น คำเอื้อย / อรทิพย์
สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี รับบทเป็น สงกรานต์
ภัสสร คงมีสุข รับบทเป็น ปลายฟ้า
เพ็ญเพชร เพ็ญกุล รับบทเป็น พรชัย
สถาพร นาควิไล รับบทเป็น จ่าดำรงค์
ตฤณ เศรษฐโชค รับบทเป็น เสี่ยวิบูลย์
ภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ รับบทเป็น ณัฐ
จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม รับบทเป็น กุ้ง
จับตายวายร้ายสายสมร
แหวน(บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) แหม่ม(ป่าน-อุทัยศรี ศรีณรงค์) ลิลลี่(เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ สามสาววายร้ายสายสมร เป็นกลุ่มมือปืนรับจ้างที่ตำรวจกำลังออกตามล่าแทบพลิกแผ่นดิน ผู้พันเสือ(แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) และ หมวดจ๊อด(ณัฎฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) สองตำรวจลับ มีธุรกิจบังหน้าเป็นเจ้าของร้านหนังสือและขายของเก่า ทั้งคู่ได้รับมอบหมายให้จับตายกลุ่มวายร้ายสายสมร ผู้พันเสือเป็นคนเคร่งเครียดและจริงจังกับงาน แต่หมวดจ๊อด นายตำรวจหนุ่มคู่หูรุ่นน้องจอมทะเล้น กลับเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนไหว
แหวน แหม่ม ลิลลี่ เคยถูกคนร้ายจับไปขายซ่อง แต่หนีออกมาได้ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งที่พวกเธอเรียกว่าพ่อ พ่อเป็นเอเย่นต์รับจ้างฆ่าคนตามใบสั่ง พ่อเอาสามสาวมาเลี้ยงและฝึกให้เป็นนักฆ่าโดยใช้ฉายาว่า สายสมร ทั้งสามจึงรักและผูกพันเหมือนพี่น้องร่วมสาบาน แหวนอายุมากสุด จึงรับหน้าที่เป็นพี่สาวคนโต จิตใจเย็นชา ไม่ไว้ใจใคร โดยเฉพาะผู้ชาย แหม่มเป็นน้องสาวคนกลาง น่ารัก อ่อนหวาน ส่วนลิลลี่เป็นน้องเล็ก ห้าว ปากกล้า ด่าเก่ง สดใส ร่าเริงและผูกพันกับพี่สาวสองคนมาก
ระหว่างที่เสือและจ๊อดกำลังออกตามหาวายร้ายสายสมร สองหนุ่มก็ได้รู้จักกับแหวน แหม่ม ลิลลี่ โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าเบื้องหลังของอีกฝ่ายเป็นใคร จ๊อดและลิลลี่เริ่มต้นความสัมพันธ์จากการเป็นคู่กัดและพัฒนาเป็นความรัก ในขณะที่แหม่มหลงรักเสือตั้งแต่แรกพบ โดยไม่รู้ว่าเสือสนใจแหวน ส่วนแหวนก็โกหกตัวเองว่าไม่ได้สนใจเสือ
แหม่ม ชอบพูดถึงเสือให้แหวนฟัง จนแหวนต้องถอยตัวออกห่างจากเสือ เพราะกลัวแหม่มเสียใจ แต่แหวนก็ไม่สามารถฝืนใจตัวเองได้จนเธอตกเป็นของเสือในคืนหนึ่ง แหวนรู้สึกผิด จึงขอร้องให้เสือเลิกกับเธอ เสือไม่ยอมและจะไปบอกความจริงกับแหม่มว่า เขารักแหม่มเหมือนน้องสาว แต่แหม่มบังเอิญรู้เรื่องเสียก่อน เธอช็อคมากเพราะไม่คิดว่าแหวนจะหักหลัง แหวนพยายามอธิบาย แต่แหม่มไม่ฟังและประกาศตัดพี่น้องกับแหวน แหวนโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุ จึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่เสือเข้ามาพบและช่วยเหลือได้ทันเวลา
หลังจากเกิดเรื่องแหม่มก็แยกตัวไปคบกับสองพี่น้องวิปริตคือ จันดารา(ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา) และ อินคา(อาร์-อาณัตพล ศิริชุมแสง) เป็นมือปืนอีกคู่ที่พ่อเลี้ยงไว้ จันดาราเป็นเลสเบี้ยน และเกลียดพวกสายสมร เธอจึงยุให้แหม่มหาทางฆ่าแหวนกับลิลลี่ ส่วนอินคาเป็นพวกซาดิสม์ที่แอบหลงรัก ลิลลี่ และพยายามฆ่าจ๊อดเพื่อให้ได้ลิลลี่มา แต่จ๊อดก็เอาตัวรอดมาได้ และจัดการฆ่าอินคาในที่สุด
หลัง ผ่านพ้นเรื่องราวร้าย ๆ เสือและจ๊อดขอแหวนกับลิลลี่แต่งงาน สองสาวจึงไปบอกพ่อเพื่อขอชีวิตอิสระ แต่พ่อรู้มาว่าเสือและจ๊อดเป็นตำรวจ พ่อจึงให้แหม่มจัดการฆ่าแหวนกับลิลลี่ปิดปากซะ เพื่อตัดตอนไม่ให้ทั้งสองถูกเสือกับจ๊อดจับและเชื่อมโยงมาถึงตัว แหม่มอึ้งหลังรู้ความต้องการของพ่อ แต่ด้วยความผูกพันที่มีให้กันมา แหม่มฆ่าทั้งคู่ไม่ลง จึงบอกความจริงกับทั้งคู่ว่าเสือกับจ๊อดเป็นตำรวจปลอมตัวมาเพื่อจับสายสมร เช่นเดียวกัน เมื่อเสือและจ๊อดรู้ความจริงว่าคนรักของตนเป็นโจรที่ตัวเองกำลังตามล่า ก็ช็อคไม่แพ้กัน สุดท้าย 3 สาวจะจัดการกับความรักของพวกเธอยังไง? ติดตามชม จับตายวายร้ายสายสมร ได้ทุกคืนวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 5 จับตายวายร้ายสายสมร เริ่มตอนแรก วันพุธที่ 31 มีนาคมนี้
ผลิตโดย : เอ็กแซคท์
รายชื่อนักแสดงละคร จับตายวายร้ายสายสมร
ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง แสดงเป็น ผู้พันเสือ
น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ แสดงเป็น แหวน
อุทัยศรี ศรีณรงค์ แสดงเป็น แหม่ม
ณัฎฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา แสดงเป็น หมวดจ๊อด
ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ แสดงเป็น ลิลลี่
อภิษฎา เครือคงคา แสดงเป็น จันดารา
อาณัตพล ศิริชุมแสง แสดงเป็น อินคา
นักแสดงรับเชิญ จับตายวายร้ายสายสมร
นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับเชิญในบท พ่อ
กลศ อัทธเสรี รับเชิญในบท ผู้การเทพ
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับเชิญในบท บุษกร
เรืองฤทธ์ วิสมล รับเชิญในบท พร
พีรวัชร์ เหราปัตย์ รับเชิญในบท พล
พงษ์พันธุ์ เพชรบัรฑูร รับเชิญในบท เคนจิ
นภัสสรณ์ มั่นวงษ์สิริกุล รับเชิญในบท ยูริ
พศิน ศรีธรรม รับเชิญในบท นิคม
สรรัศมิ์ อัศวลาภสกุล รับเชิญในบท หมูเล็ก
ฐิติอานันท์ พัทธไพสิฐ รับเชิญในบท จีจี้
ชัยวัฒน์ ทองแสง รับเชิญในบท โจโจ้