ศลัยลา ( อรจิรา กุลดิลก ) นักโบราณคดีสาวสวยที่มีความมั่นใจสูง มีคนรักคือภูฉาย ( ศรราม เทพพิทักษ์ ) เป็นคนที่มีความสุภาพ อ่อนโยน และยังเป็นคนรักแม่มากคือ คุณสลัก ( จารุณี สุขสวัสดิ์ ) ศลัยลาอาศัย อยู่กับแม่ คือ คุณนวล ( สาวิตรี สามิภักดิ์ ) และน้องชายชื่อภาษิต ( อัครัฐ นิมิตรชัย ) ภาษิตมีเพื่อนสนิทสองคน คือ เพียงนภา ( บุษกร ตันติภนา ) หลานสาวของคุณสลัก และลายสือ ( ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ) ภาษิตหลงรักเพียงนภา แต่เพียงนภากับหลงรักลายสือ เมื่อศลัยลาเรียนจบก็แต่งงานกับภูฉาย โดยที่มารดาของทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วย ภูฉายรู้ว่าแม่ไม่ค่อยชอบคนรัก จึงพยายามเกลี่ยกล่อมให้ศลัยลาเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ศลัยลาก็ไม่สนใจ คุณสลักยอมให้ภูฉายแต่งงานกับศลัยลาเพื่อหวังสมบัติ
หลังจากแต่งงานแล้วสลักต้องผิดหวังเมื่อคุณนวลขนของมีค่าออกนอกบ้าน คุณสลักเริ่มยื่นมือเข้ามาทำลายความสงบสุขในครอบครัวของศลัยลาโดยใช้ภูฉาย เป็นเครื่องมือ ถึงแม้ภูฉายจะแต่งงานแล้วแต่ภูฉายก็ยังอยู่ใต้อำนาจแม่ ภาพที่ศลัยลาเคยประทับใจกลายเป็นความน่ารังเกียจ เมื่อศลัยลาท้องกำลังจะคลอดลูก ด้วยความน้อยใจและเสียใจทำให้ศลัยลาเกิดทิฐิ เมื่อเธอใกล้คลอดศลัยลาห้ามคุณนวลไม่ให้โทรบอกภูฉาย ภูฉายจึงเป็นคนที่รู้เรื่องและมาเยี่ยมเป็นคนสุดท้าย เมื่อศลัยลาคลอดลูกมา คุณสลักได้บอกภูฉายว่าจะเอาหลานไปเลี้ยง ภูฉายตอบตกลงโดยไม่บอกศลัยลา ความอดทนของศลัยลาสิ้นสุดลงเมื่อถูกพรากลูก และยังต้องทนกับความร้ายกาจของคุณสลักโดยมีภูฉายปกป้องผู้เป็นแม่ ศลัยลาจึงขอแยกทางกับภูฉาย ภูฉายพยายามตามง้อศลัยลาโดยที่ศลัยลาได้ยื่นคำขาด หากต้องการชีวิตคู่ต่อเธอจะขอเลี้ยงลูกเอง แต่ภูฉายก็ยังเข้าข้างคุณสลัก ศลัยลาเสียใจมาก เธอจึงตัดสินใจไปทำงานที่ขอนแก่น ที่ขอนแก่นศลัยลาได้พบลายสือซึ่งความใกล้ชิด ทำให้ศลัยลาเผลอรับเอาลายสือเข้ามาในใจ เมื่อศลัยลากลับมาบ้านที่กรุงเทพฯ เธอไม่พบภูฉายอยู่บ้านเธอแล้ว ศลัยลาไปหาลูกเพื่อจะเอาลูกมาเลี้ยงและขอหย่า ภูฉายไม่ยอมหย่า ทำให้คุณสลักใส่ร้ายหาว่าศลัยลาคบชู้
ศลัยลาได้ชวนภาษิตไปอุ้มลูกออกจากบ้านคุณสลัก และทำเรื่องฟ้องหย่ากับภูฉายโดยให้ภมร เพื่อนทนายเป็นคนเดินเรื่อง คุณสลักเกรงว่าจะต้องเสียค่าทนายเลยโทรนัดกับศลัยลาไปอำเภอและได้หลอกภูฉายให้ไปหย่ากับศลัยลา แต่ภูฉายไม่ยอมหย่า ลายสือได้งานที่เคนยา เขาได้ไปขอคำแนะนำจากศลัยลา เธอแนะนำให้เขารับงานนี้ ทำให้ลายสือเสียใจมากและกลัวเสียความรักทำให้เผลอกอดจูบศลัยลา ภูฉายแอบเห็นเข้า ก็โกรธมากเลยทำร้ายร่างกายและข่มขืนศลัยลา เมื่อภาษิตรู้ว่าชายชู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้กับพี่สาว คือ ลายสือ เพื่อนสนิท เขาจึงตามไปเอาเรื่อง พอดีเพียงนภามาเห็นเธอเผลอตัวไปปกป้องลายสือไว้ ทำให้ภาษิตโกรธและกล่าวว่าตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างเพียงนภากับเขาสิ้นสุดลง ลายสือได้ไปขอร้องให้ภูฉายหย่ากับศลัยลา ภูฉายถ่มน้ำลาย ใส่หน้า ถ้าอยากได้ศลัยลาให้กราบเท้าเขาแล้วจะยกศลัยลาให้ ลายสือขู่ว่าเขาจะต้องสูญเสียทั้งเมีย และทุกสิ้นทุกอย่าง ภูฉายจึงพาศลัยลาไปหัวหินเพื่อปรับความเข้าใจแต่ศลัยลายังไม่ยอมใจอ่อน
ลายสือและภูฉายมาหาศลัยลาที่บ้านพร้อมกัน ทำให้เกิดปะทะคารมกันจนต้องขึ้นโรงพัก ทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกัน เมื่อคุณสลักเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยปกป้องภูฉายอย่างสุดตัว ภูฉายรู้สึกกดดันจึงระเบิดอารมณ์ใส่คุณสลักเป็นครั้งแรก ทำให้คุณสลักช็อกจนต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อศลัยลากลับบ้านพบว่าลูกป่วยด้วยความสงสารลูก ทำให้เธอยอมปรับความเข้าใจอีกครั้ง ภูฉายเองยอมรับความผิด ศลัยลาให้อภัยภูฉาย ส่วนลายสือเมื่อเห็นครอบครัวของศลัยลามีความสุข ลายสือก็ตัดสินใจไปทำงานที่ต่างประเทศ คุณสลักซึ่งนอนป่วยอยู่โรงพยาบาลเริ่มรู้สึกสำนึกผิด ศลัยลาจึงไปเยี่ยม และกราบคุณสลัก ภูฉายขอบคุณศลัยลาที่เยี่ยมไปคุณสลัก วันที่ลายสือไปต่างประเทศศลัยลาได้ไปส่งที่สนามบิน แม้จะเป็นการได้พบกันเพื่อจาก ทั้งคู่ต่างก็มีความสุขที่ได้ ” รัก ” และ ” เลือก ” ในสิ่งที่ถูกต้อง
Tag Archives: ภาคิน คำวิลัยศักดิ์
เสแสร้งแกล้งรัก
เสแสร้งแกล้งรัก เมื่อคาสโนว่า’ตัวพ่อ’ ต้องแต่งงานกำมะลอกับคาสโนวี่’ตัวแม่’ โดยมีมรดกของคุณย่าเป็นเดิมพัน ความรักแบบ”เสแสร้ง”ที่ทั้งคู่ต้อง”แกล้ง”ทำเป็นว่า”รัก”จึงเริ่มต้นขึ้น ด้วยแผนร้ายที่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแผนรัก
บ่วงวันวาร
สมัย ร.5 ฉัตร (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) และ ฉาย (อัครัฐ นิมิตชัย) 2 พี่น้อง สำเร็จการศึกษาจากรัสเซีย พระยาโกสินทร์ (สรพงษ์ ชาตรี) จึงคิดจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของบุตรชายทั้งสองอย่างเอิกเกริก แต่ฉายพาแอนนาเมียแหม่มกลับมาด้วย พระยาโกสินทร์จึงฝากความหวังเรื่องลูกสะใภ้สมหน้าสมตาไว้ที่ฉัตรคนเดียว
นายชด (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) เป็นหนี้พระยาสมาน (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) จึงเอาบัว (วรัทยา นิลคูหา) ลูกสาวคนเดียวมาเป็นทาสขัดดอก พระยาสมานคิดจะเอาบัวเป็นเมียคนล่าสุดให้ได้ จึงฝากให้อยู่ในความดูแลของน้อย (พิชญา เชาวลิต) ทาสในเรือนเบี้ย ทำให้ด้วง (เก็จมณี วรรธนะสิน) เมียทาสที่อยากขึ้นเป็นคุณหญิงคนใหม่ชังน้ำหน้าบัวขึ้นมาทันที จึงเอาเรื่องบัวไปเล่าให้พิศ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวคนเดียวของพระยาสมานฟัง แต่พิศกำลังวุ่นวายเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงฉัตรและฉาย จึงทำให้ยังไม่ได้เห็นหน้าบัว
ในงานเลี้ยง พระยาสมานแสร้งไม่สบายเพื่อขอลากลับก่อน พิศที่หลงรักฉัตรทันทีที่เห็นหน้าก็แสร้งทำเป็นไม่สบายอ้อนฉัตรเช่นกัน ในขณะที่พระยาสมานแอบกลับบ้านเพื่อจะไปเอาบัวเป็นเมียในคืนนี้ให้ได้ แต่ขณะที่พระยาสมานกำลังจะข่มเหงบัว ฉัตรก็เข้ามาช่วยบัวเอาไว้ได้ทัน เพราะฉัตรพาพิศที่แกล้งไม่สบายกลับมาส่งบ้าน ฉัตรเห็นหน้าบัวก็หลงรักทันที พิศจึงเกลียดบัวตั้งแต่นาทีนั้นจับใจและสั่งย้ายบัวจากเรือนทาสไปอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนและหาวิธีกลั่นแกล้งบัวต่างๆ นานา ถึงแม้ฉัตรจะรู้ว่าบัวเป็นเพียงทาสขัดดอกก็ไม่ได้รังเกียจ น้อยเป็นคนคอยส่งข่าวสารให้ระหว่างบัวกับฉัตร แต่น้อยก็ต้องระวังตัวแจเพราะกลัวจะถูกพิศลงโทษ
หลังจากวันนั้นพระยาสมานยังไม่กล้าทำอะไรบัวเพราะเกรงใจพิศ แต่สั่งเพียร (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ลูกทาสที่เกิดจากนางพุ่ม (ปวีณา ชารีฟสกุล) เมียทาสคนหนึ่งให้คอยจับตาไว้ เพียรอยากเอาใจพ่อด้วยหวังว่าจะได้ความเมตตาจากพระยาสมานให้กับตัวเขาและแม่มากกว่าที่เป็นอยู่ จึงเฝ้าดูและส่งข่าวบัวให้พระยาสมานเป็นระยะ เพียรเองก็แอบชอบน้อยมานานแล้ว แต่น้อยไม่เล่นด้วยเพราะรู้ว่าไม่ใช่คนดี
วันหนึ่งนายชดไปหาปลาแล้วเกิดงมเอา ตรวนทองคำ ขึ้นมาได้ จึงเอามาไถ่ตัวบัว พระยาสมานเห็นตรวนทองคำเป็นของแปลกมหัศจรรย์ก็อยากได้ จึงสั่งให้เพียรฆ่านายชดหมกป่าแล้วเอาตรวนทองคำมาให้ แต่เมื่อพิศมาเห็นเข้าก็ชอบจึงเอ่ยปากขอจากพ่อ พระยาสมานจึงต้องตามใจลูกสาว ยกตรวนทองคำให้แก่พิศไป นางด้วงโทษว่าพระยาสมานเปลี่ยนใจไปจากเธอเพราะบัว จึงคิดยืมมือพิศฆ่าบัวทิ้ง โดยเขียนจดหมายในชื่อบัว ลวงฉัตรให้มาที่กระท่อมท้ายสวน แล้วเขียนจดหมายอีกฉบับที่เหมือนกันแล้วเอาไปให้พิศ อ้างว่าได้มาขณะที่บัวฝากน้อยให้เอาไปส่งให้ฉัตร พิศอ่านจดหมายนั้นก็โกรธมาก พุ่งตรงไปที่กระท่อมท้ายสวนทันที
ฉัตรไปหาบัวที่กระท่อมท้ายสวนและรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็คิดจะพาบัวหนี แต่ไม่ทันพิศที่เข้ามาตบตีบัว ฉัตรจึงลากบัววิ่งหนี พิศวิ่งตามแต่สะดุดตะเกียงแล้วถูกไฟครอกจนเสียโฉม ฝ่ายฉัตรที่พาบัวหนีเกิดไปพบพวกพระยาสมานเข้าอีก จึงยื้อยุดฉุดกระชากกันจนพระยาสมานหกล้มทับหลาวแหลมจนเสียชีวิต พิศที่ตามมาตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าพ่อตาย จึงสั่งเพียรจับฉัตรและบัวล่ามด้วยตรวนทองคำแล้วพาขึ้นเรือไปกลางแม่น้ำ พิศที่เสียใจมากที่ทำดีกับฉัตรเท่าไหร่เขาก็ไม่เคยสนใจ ซ้ำทั้งฉัตรและบัวยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อเธอตายและทำให้เธอเสียโฉมด้วย เมื่อรักกันมากนักก็จงตายไปด้วยกันเสีย และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติก็จะขอจองล้างจองผลาญไม่ให้ฉัตรกับบัวสมหวังในรักได้เป็นอันขาด พูดจบพิศก็ถีบฉัตรและบัวตกน้ำไป
พ.ศ.2555 (ปัจจุบัน) ฉัตร, บัว, พิศ, พระยาสมาน, ไอ้เพียร และอีกหลากหลายชีวิตในอดีตชาติ ต่างพากันกลับมาเกิดร่วมกรรมกันอีกในชาตินี้ แต่มีเพียงคนๆเดียวเท่านั้นที่สามารถระลึกชาติได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นในชาติที่แล้ว และนั่นคือพิศ หนำซ้ำชาตินี้เธอยังได้ตรวนทองคำมาครอบครองอีกครั้งเสียด้วย พิศไม่ต้องการผิดหวังในรักซ้ำอีก เธอจึงเริ่มตามฆ่าบัวอีกครั้ง ความรักระหว่างบัวและฉัตรในชาตินี้จะถูกจองจำด้วยตรวนทองคำอีกหรือไม่ หาคำตอบได้ใน บ่วงวันวาร
นางสิงห์สะบัดช่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้วที่อิทธิพลเถื่อนของ “กำนันศร” (สมเล็ก ศักดิกุล) ปกคลุมบ้านไม้งาม “ผู้ใหญ่ทอง” (สันติสุข พรหมศิริ) จึงคิดขัดขวาง เป็นเหตุให้ถูกสังหารหมู่ มีแค่บัว ลูกสาว และ “แก้ว” (แป้ง – อรจิรา แหลมวิไล) เด็กรับใช้หนีรอดมาได้ แก้วถูกกลุ่มโจรสามเศียร “เสือพราย” (มานพ อัศวเทพ), “เสือเทพ” (ดามพ์ ดัสกร) และ “เสือยักษ์” (ฤทธิ์ ลือชา) ช่วยฝึกฝนวิชาการต่อสู้และอาคมจนกล้าแกร่ง
เมื่อแก้วโตขึ้น เธอปลอมตัวเป็นผู้ชายชื่อ “เก่ง” กลับมาแก้แค้น พอตกกลางคืน เธอสวมหน้ากากเป็นนางสิงห์ชุดดำ ออกขวางแผนชั่วกำนันศร เดือดร้อนถึง “ผู้กองธัมโม” (มอส – ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) ที่กำนันศรกดดันให้จับตัวนางสิงห์ให้ได้ ฟาก “ย้ง” (โตโน่ – ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) หนุ่มซื่อประจำหมู่บ้านรู้ความจริงว่านางสิงห์คือใคร แต่ยินดีเก็บเป็นความลับ เพราะแก้วหรือนางสิงห์เคยช่วยชีวิตเขาไว้
กำนันศรคิดจะให้ “วาสนา” (วิว – วรรณรท สนธิไชย) ลูกสาวแต่งงาน กับ “จำเริญ” (บอล – วิทวัส สิงห์ลำพอง) ลูกชายของเสี่ยเล้ง (ปู – อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) หุ้นส่วนค้าไม้เถื่อน แต่วาสนาก็ให้ย้งคอยเป็นไม้กันหมา ขณะเดียวกันเสี่ยเล้งก็ส่ง “เพลินตา” (ฝ้าย – อริญรดา ปิติมารัชต์) ลูกสาวไปอ่อยธัมโม แต่ธัมโมไม่สน แก้วจึงเริ่มเชื่อใจและยอมร่วมมือในคราบของนางสิงห์ กระทั่งธุรกิจค้าไม้เถื่อนเริ่มวิกฤติ กำนันศรกับเสี่ยเล้งก็แตกคอกัน กำนันศรพยายามลอบฆ่าธัมโมเพื่อจบปัญหา ขณะเดียวกัน ทางการได้ส่ง “สารวัตรดนัย” (แมน – ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) และ “หมวดเพ็ญพร” (เอ้ก บุษกร ตันตินภา) มาเสริมทัพ แก้วกับเพ็ญพรรู้สึกคุ้นเคยกันอย่างประหลาด เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านไม้งามเริ่มทวีความนองเลือดและดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
เรือนแพ
เพื่อนรักสามคน แก้ว (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์), ริน (นภัทร อินทร์ใจเอื้อ), เจน (สน ส่งไพศาล) ได้ให้สัญญาต่อกันและกันว่าจะเป็นเพื่อนรักกันและดูแลกันตลอดไป จนเมื่อเจนซึ่งสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ต้องเข้ากรุงเทพฯ รินและแก้วจึงตามมาเพื่อดูแลเพื่อนและมาตามความฝัน แก้วอยากเป็นนักมวย ส่วนรินอยากเป็นนักร้อง ทั้งสามคนเดินเข้ากรุงเทพฯ ด้วยความมุ่งหวังจะสร้างอนาคตของตัวเอง
แต่โชคชะตากลับเล่นตลกกับพวกเขา เมื่อทั้งสามได้เจอ เพ็ญ (บุษกร ตันติภนา) ลูกสาวของ เถ้าแก่ตง (ดิลก ทองวัฒนา) และนางพร (ภัสสร บุญเกียรติ) ผัวเมียเจ้าของเรือนแพที่ทั้งสามคนเช่าอยู่ ทั้งสามหลงรักเพ็ญในทันทีที่ได้พบ โดยที่ต่างคนต่างก็ไม่รู้ว่าเพื่อนทั้งสองของตัวเองก็เช่นกัน ส่วนเพ็ญนั้นแม้จะมีผู้ชายมาชอบถึงสามคน แต่ใจของเธอกลับมอบให้แก้วเพียงคนเดียว แต่ด้วยความที่แก้วนั้นไร้การศึกษา เป็นเพียงนักมวยที่ไร้อนาคตต่างกับเจน ทำให้เจนมีภาษีดีกว่าแก้วและริน เถ้าแก่ตงจึงอนุญาติให้เจนเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถไปมาหาสู่เพ็ญได้ แก้วกับรินจึงยอมหลีกทางให้เพื่อน
แก้ว กับรินจึงมุ่งตามหาความฝันของตัวเองเพื่อลืมความรักที่มีต่อเพ็ญให้ได้ แก้วไปสมัครค่ายมวย ทางด้านรินไปสมัครทำงานที่สถานีวิทยุ เผื่อว่าวันหนึ่งเสียงของเขาจะเข้าหูครูกิตติครูเพลงชื่อดังเข้าสักวัน เมื่อถึงเวลาที่เจนต้องเข้าเรียนประจำที่โรงเรียนนายร้อย เจนได้ฝากเพ็ญไว้ให้แก้วดูแล แต่ความรักที่เพ็ญและแก้วมีให้กันนั้น เหมือนยิ่งหนีก็ยิ่งใกล้ จนวันหนึ่งก็ถึงเวลาที่ฟ้าผ่าลงมากลางความสัมพันธ์ของคนทั้งสี่ เมื่อแก้วและเพ็ญยอมแพ้ต่อแรงปรารถนาของกันและกัน ทั้งสองเป็นของกันและกันในคืนหนึ่งที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ทั้งคู่จึงต้องปกปิดความสัมพันธ์นี้ไม่ให้เจนรู้ โดยแก้วตั้งใจว่าจะบอกเจนในวันหนึ่ง
แต่โอกาสนั้นก็หมดไป เมื่อเจนที่เรียนจบแล้วชื้อแหวนมาขอเพ็ญแต่งงาน และมาพบทั้งสองอยู่ด้วยกัน ทำให้เจนเสียใจอย่างสุดซึ้ง สุดท้ายมิตรภาพ ความรัก และความผูกพันของเพื่อนจะแตกหักลง เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวหรือไม่? ติดตามชมได้ใน ละครเรือนแพ