พุทธศักราช 2448 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกเลิกการมีทาสไปแล้ว ผู้ชายโดยเฉพาะเจ้าขุนมูลนายนิยมมีภรรยาหลายคน ขณะที่ฝ่ายชายต่อสู้และแย่งชิงตำแหน่งและหน้าที่ทางสังคม ฝ่ายหญิงก็ต่อสู้เพื่ออำนาจในเรือน ครอบครัวของ คุณหลวงปราบ ธำรงค์นครา (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) เองก็เช่นกัน คุณหลวงมีภรรยาเอกคือ ชมนาด (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) หญิงสาวจากตระกูลสูง และ เอื้องคำ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวพ่อค้าจากเชียงใหม่
ทั้งสองคนต่างต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อให้เป็นคนโปรดของคุณหลวง ชมนาด นั้นมี อีอี่ (รัญญา ศิยานนท์) เป็นบ่าวคนสนิทคอยรับใช้เป็นหูเป็นตาให้ ส่วน เอื้องคำ มี อีมุ่ย (ณหทัย พิจิตรา) บ่าวที่ติดตามมาจากเชียงใหม่เป็นบ่าวคนสนิท และคอยเป็นหูเป็นตาเช่นกัน ทั้งชมนาดและเอื้องคำมักมีเรื่องกันบ่อยครั้ง เพราะเอื้องคำนั้นมีนิสัยเอาแต่ใจ เจ้าคิดเจ้าแค้น จึงไม่ยอมลงให้กับชมนาดเมียเอก ส่วนชมนาดนั้น ภายนอกดูเป็นคนจิตใจดี มีเมตตากรุณา แต่ซ่อนความเลือดเย็นเอาไว้ แต่เอื้องคำและอีมุ่ยมองทะลุเข้าไปถึงใต้ท่าทีเหล่านั้น จึงไม่วางใจในตัวชมนาด
เมื่อเมียบ่าวที่ชื่อ สร้อย (อุทัยศรี ศรีณรงค์) เกิดตั้งท้องขึ้นมา ชมนาดก็แอบจัดการฆ่าไปเสียโดยใช้บึ้งชะงัก แล้วแอบใส่ความโยนความผิดให้เอื้องคำ ระหว่างนั้นเอื้องคำเกิดตั้งท้อง คุณหลวงจึงให้รอคลอดลูกให้เรียบร้อย แล้วไสหัวเอื้องคำและอีมุ่ยออกไป เอื้องคำแค้นใจมากที่ไม่มีใครเชื่อตน ด้วยความแค้นเอื้องคำจึงแอบไปบนเรือนชมนาดจะฆ่า แต่ก็พลาดต้องตกบันไดลงมาแท้งลูก ทำให้เอื้องคำไม่เหลืออะไรอีกแล้ว รอเพียงวันที่จะออกไปจากเรือนเท่านั้น
ปราฏว่าในวันที่ต้องออกไปจากเรือน เอื้องคำเกิดเสียสติร้องหาลูก ทำให้คุณหลวงสงสารเลี้ยงดูให้อยู่ในเรือนต่อไป แม้เอื้องคำจะตกต่ำลงไปแล้ว ชมนาดก็ยังนอนใจไม่ได้ เพราะยังเหลือ มะลิ (โสภิตนภา ชุมภาณี) เมียบ่าวแสนซื่อของคุณหลวงอีกคนที่เป็นหนามยอกอก ยิ่งไปกว่านั้น มะลิ และ ไอ้มิ่ง (อาณัตพล ศิริชุมแสง) บ่าวชายเกิดไปรู้เห็นเรื่องบึ้งชะงักเข้า ยิ่งทำให้ชมนาดต้องกำจัดมะลิกับไอ้มิ่ง ด้วยการใส่ความว่าทั้งสองคนเป็นชู้กัน เมื่อคุณหลวงมาเห็นก็โมโหมาก สั่งลงโทษและไล่ออกจากเรือนไป
มะลิ ไอ้มิ่งและ ป้าพิศ (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) ป้าของไอ้มิ่งหนีไปตั้งหลักที่วัด ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านคุณหลวงมากนัก หลวงตาน้อย (สรพงศ์ ชาตรี) พระที่ให้ความช่วยเหลือ ให้ทั้งหมดอยู่ที่กระท่อมท้ายวัด ปรากฏว่า มะลิมีลูกคุณหลวงติดท้องมาด้วย ทำให้ทุกคนยังออกเดินทางไปตั้งรกรากที่อื่นไม่ได้ ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน ส่วนชมนาดเองก็เกิดตั้งท้องขึ้นมาเช่นกัน
วันหนึ่ง อีอี่ไปที่วัดก็แอบเห็นไอ้มิ่งแล้วตามไป จึงได้รู้ว่ามะลิตั้งท้องลูกของคุณหลวงเช่นกัน ชมนาดสั่งอีอี่ให้จัดการพวกของมะลิ เย็นวันนั้นมะลิคลอดลูกแฝดชายออกมา พอตกดึกอีอี่แอบตามมาเผาบ้านหวังให้ทุกคนตายคากองเพลิง มะลิคว้าลูกมาได้เพียงคนเดียว ส่วนลูกอีกคนที่หน้าอกโดนพระที่หลวงตาน้อยให้มาร่วงใส่อกจนเป็นรอยแผลเป็นนั้นคาอยู่ในกองไฟกับป้าพิศ มะลิและไอ้มิ่งหนีออกมาได้ก็สลบอยู่ที่ข้างบ้าน หารู้ไม่ว่าป้าพิศโยนเด็กอีกคนออกมาได้ เด็กไปคาอยู่บนกอผักบุ้ง
ทางฝั่งชมนาดที่รออีอี่กลับมารายงานนั้น ก็เกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกเช่นกัน แต่ร้องหาบ่าวไพร่ไม่ได้สักคนเพราะบ่าวไพร่มัวแต่ไปช่วยกันดับไฟที่เรือนบ่าว คนที่ขึ้นมาดูชมนาดก็คือเอื้องคำ เมื่อชมนาดคลอดลูกสาว เอื้องคำก็แย่งเอาลูกไป ทำให้ชมนาดรู้ทันทีว่าเอื้องคำแกล้งบ้า เอื้องคำสะใจ อุ้มลูกสาวชมนาดหนีออกไปกับอีมุ่ยในคืนนั้นเอง เมื่ออีอี่กลับมาพบจึงรีบออกไปตามหาเอื้องคำเพื่อเอาลูกชมนาดกลับมา แต่เด็กที่อีอี่ได้กลับมานั้น คือลูกชายของมะลิ ที่หลวงตาน้อยเป็นคนไปพบบนกอบัว ชมนาดจึงตกกระไดพลอยโจนเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงแทนลูกตนเอง
อีอี่นั้นแม้จะรู้จากหลวงตาน้อยว่าเป็นลูกของมะลิ แต่ก็มิได้บอกชมนาด ฝั่งมะลินั้นเมื่อเข้าใจว่าลูกอีกคนตายไปในกองเพลิงกับป้าพิศแล้วก็เศร้าโศกเสียใจ พากันย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่อยุธยา ระหว่างทางได้เจอกันหญิงท้องแก่คนหนึ่ง ซึ่งเกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกกะทันหัน หญิงคนนั้นรู้ว่าตนจะไม่รอด จึงฝากลูกสาวที่เพิ่งคลอดให้มะลิช่วยดูแลแทนตน ก่อนจะขาดใจตายไป มะลิตั้งชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า สายหยุดและตั้งชื่อลูกชายของตนว่า เมือง
ส่วนเอื้องคำและอีมุ่ยที่ขโมยลูกชมนาดไป จับพลัดจับผลูได้ไปเป็นเมียของเถ้าแก่ซ้ง (ประกาศิต โบสุวรรณ) เจ้าของโรงฝิ่น เอื้องคำตั้งชื่อให้ลูกสาวชมนาดว่า ชวนชม และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เหม่ยฟาง ส่วนอีมุ่ยก็เปลี่ยนเป็นชื่อเง็ก เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมเป็นอย่างดี ให้ฝึกหัดทุกอย่างตามแบบฉบับของสาวชาววัง ท่ามกลางความแปลกใจของอีมุ่ยว่าเหตุใดต้องทำเช่นนั้น
คุณหลวงรักและหลงลูกชายคนแรกมาก ตั้งชื่อให้ว่า สุข เพราะเชื่อว่าลูกจะนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้าน จากนั้นไม่นาน ชมนาดตั้งท้องอีกครั้ง คราวนี้ชมนาดได้ลูกชาย และให้ชื่อว่า เทพ ชมนาดเลี้ยงดูลูกอย่างลำเอียง ทำให้มีปากเสียงกับคุณหลวงบ่อยครั้ง อีอี่นั้นเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูสุขด้วยความสงสาร ฝั่งมะลิและไอ้มิ่งก็เลี้ยงดู เมือง และ สายหยุดมาเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งสองเข้าใจว่ามะลิและไอ้มิ่งคือพ่อแม่ที่แท้จริงของตน ทั้งที่ความจริงแล้วมะลิและไอ้มิ่งอยู่กันแบบพี่น้องเรื่อยมา
18 ปีผ่านไป รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คุณหลวงได้เลื่อนขั้นเป็นคุณพระธำรงค์นครา สุขนั้นเติบใหญ่มาท่ามกลางความเกลียดชังของชมนาด เพราะคุณพระรักและหลงในตัวสุขมาก ยิ่งสุขเรียนเก่งและดีเท่าไร ก็ยิ่งเป็นข้อเปรียบเทียบกับเทพ ลูกแท้ ๆ ของชมนาด เทพไม่สนใจการเรียน เอาแต่หาเรื่องเที่ยวเตร่ สนุกสนานไปวัน ๆ ไม่ได้อย่างใจคุณหลวง แม้สุขจะรู้สึกอยู่เสมอว่าแม่ไม่รักตน ก็ยังเฝ้ากตัญญูพยายามทำให้แม่รักตน และไม่เคยอิจฉาริษยาน้องเลย คุณพระนั้นหวังให้เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับ เดือน ลูกสาวของ คุณหลวงไว (ศรุต วิจิตรานนท์) เพื่อนของตนเอง ส่วนมะลิและไอ้มิ่งนั้น เลี้ยงเมืองและสายหยุดมาจนเติบโต เมืองไปมีเรื่องกับนักเลงที่จะมาฉุดสายหยุด จนพวกนักเลงตามไล่ฆ่า ทำให้ทั้งครอบครัวนั้นหนีลงเรือ จับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ที่พระนครอีกครั้ง
วันหนึ่ง เถ้าแก่ซ้งเกิดรู้ว่าที่แท้ชวนชมเป็นลูกสาวของชมนาดกับคุณพระ ก็ตั้งใจจะไปบอกความจริงกับคุณพระ เอื้องคำเลยใช้แก่นรัญจวนแก่นไม้ที่เพิ่มกำหนัด ซึ่งเอื้องคำเคยใช้ได้ผลมาหลายครั้งทั้งตอนที่ยั่วยวนคุณหลวง และเถ้าแก่ซ้งมาแล้ว แต่คราวนี้ออกฤทธิ์หนักจนทำให้เถ้าแก่ซ้งตายคาอกเอื้องคำ ทำให้เอื้องคำได้ขึ้นเป็นใหญ่ทันที เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมอย่างดี ชวนชมทำตามคำสั่งเอื้องคำทุกอย่าง และเฝ้ารอเพียงวันที่เอื้องคำจะบอกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเป็นใคร อีมุ่ยเพิ่งจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ทุกอย่างที่เอื้องคำทำมาทั้งหมด ก็เพียงเพื่อจะรอวันแก้แค้นชมนาด ให้ชมนาดเจ็บปวดอย่างสาสม! โศกนาฏกรรมความเสน่หาอาฆาตบทนี้ จะลงเอยเช่นไร? ติดตามกันต่อได้ใน ละครเรือนเสน่หา
Tag Archives: น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์
แสงสูรย์
ติรกา ดาวเด่นแห่งวงสังคมชั้นสูงประกาศหมั้นกับ ม.ร.ว.ไอศูรย์ สุริยฉัตร ( คุณต้อง ) ชายผู้งดงามเป็นทายาทสืบทอดวังแสงสูรย์แห่งตระกูลสุริยฉัตร ทำให้ตำแหน่งคุณหญิงผู้ครอบครองวังแสงสูรย์ตกมาอยู่ในมือของเธอ ในงานหมั้น ม.ร.ว.ภาสวร สุริยฉัตร ( คุณต้อย ) น้องชายฝาแฝดของไอศูรย์ ซึ่งโกรธและอิจฉาที่ไอศูรย์แย่งติรกาไปมาร่วมงานพร้อมกับ รัตนานงเยาว์ หญิงสาวเฝ้าหลงรักไอศูรย์ งานหมั้นผ่านไปด้วยดีติรกาจึงมั่นใจว่าตำแหน่งท่านหญิงจะต้องเป็นของเธอ แต่ทันใดนั้นก็มีทหารนำหมายเรียกตัวไอศูรย์ไปเป็นทหารอาสา หลังจากที่ไอศูรย์ไปรบติรกาก็คอยติดตามข่าวสารตลอด ระหว่างนั้นภาสวรก็เข้ามาเกี้ยวพาราสีแต่ติรกาไม่สนใจ จนกระทั่งเธอได้ข่าวว่าไอศูรย์เสียชีวิต
ภาสวรจึงใช้โอกาสที่ตนเป็นทายาทมีสิทธิ์ครอบครองแสงสูรย์เอาชนะใจติรกา โดยพาไปเที่ยวตากอากาศที่หัวหิน ที่นั่นภาสวรจึงได้พบกับ โชติรส และอ้างว่าตนเองคือไอศูรย์ ทางด้าน หม่อมศุภางค์ ย่าของไอศูรย์และภาสวร รังเกียจติรกาเพราะรู้ว่าจะเข้ามาครอบครองวังแสงสูรย์ ฝ่ายติรกาเมื่อถูกหม่อมศุภางค์ดูถูกก็ยิ่งทำให้เธออยากจะเป็นเจ้าของแสง สูรย์มากขึ้น เมื่อภาสวรเอ่ยปากขอหมั้นติรกาจึงตอบตกลงทันที ขณะที่ภาสวรกำลังสวมแหวนหมั้นก็มีข่าวด่วนว่าไอศูรย์ยังมีชีวิตอยู่ ติรกาช็อคมากเพราะเวลานี้เธอเป็นคู่หมั้นของภาสวรไปแล้ว ติรกาจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปตั้งหลักที่บ้านของมารดาที่นครสวรรค์ ทำให้ภาสวรคลุ้มคลั่งมาก สองอาทิตย์ต่อมาไอศูรย์เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยรถไฟ
ระหว่างทางเค้าได้พบกับโชติรสเด็กสาวที่ภาสวรเคยจีบ เธอโวยวายเรื่องที่ไอศูรย์จีบเธอที่หัวหินทั้งๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือติรกา ตอนแรกไอศูรย์คิดว่าโชติรสจำคนผิด แต่สุดท้ายไอศูรย์ก็นึกถึงภาสวรขึ้นมาได้และสารภาพว่าตนเองมีคู่แฝด ทำให้โชติรสเข้าใจอะไรมากขึ้น เมื่อไอศูรย์กลับไปถึงแสงสูรย์ หม่อมศุภางค์ได้ขอให้ไอศูรย์เสียสละยกติรกาให้กับภาสวร และสั่งให้ไอศูรย์ไปตามติรกากลับมา วันต่อมาไอศูรย์นั่งรถไฟไปยังนครสวรรค์เพื่อไปรับติรกา เค้าได้พบโชติรสอีกครั้ง เมื่อโชติรสรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็เห็นใจและสงสารไอศูรย์มาก จึงอาสาช่วยเหลือโดยปลอมตัวเป็นคู่หมั้นคนใหม่ของไอศูรย์ เพื่อให้ติรกาตัดใจและยอมกลับไปหาภาสวร เมื่อไอศูรย์มาถึงก็แนะนำว่าโชติรสคือคู่หมั้นคนใหม่
ติรกากลัวว่าแสงสูรย์จะหลุดมือไปเธอจึงตัดสินใจกลับ แสงสูรย์แต่โดยดี เมื่อทั้งหมดกลับมาถึงแสงสูรย์ติรกาก็วางแผนกลั่นแกล้งโชติรสจนทำให้หม่อม ศุภางค์โกรธไล่โชติรสออกไปจากวัง หลังจากโชติรสลากลับบ้านที่สุโขทัย ติรกาก็พยายามเข้าหาไอศูรย์และประวิงเวลาการแต่งงานกับภาสวรออกไป ทำให้ภาสวรโทษไอศูรย์ หม่อมศุภางค์จึงตัดสินใจตามโชติรสกลับมายังวังแสงสูรย์และให้แต่งงานกับ ไอศูรย์โดยเร็ว แต่โชติรสอ้างว่ายังไม่พร้อม ขณะเดียวกันติรกาก็หาวิธีกำจัดโชติรสโดยยืมมือรัตนานงเยาว์ ซึ่งในขณะนั้นเธอกำลังคบหาอยู่กับ ยศไกร นายตำรวจหนุ่มซึ่งเคยคบหากับโชติรสมาก่อน เมื่อติรกาเชิญรัตนานงเยาว์มาสังสรรค์ที่วังรัตนานงเยาว์พายศไกรมาด้วย
โชติรสจึงได้พบกับยศไกรยศไกรรู้สึกเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าโชติรสตกลงใจหมั้นกับ ไอศูรย์ ไอศูรย์รู้ว่าโชติรสจะกลับบ้านจึงรีบเปิดเผยโครงการก่อตั้งมูลนิธิเลี้ยง เด็กกำพร้า โดยขอให้โชติรสเป็นครูดูแลเด็กๆ เมื่อติรการู้เข้าจึงรีบไปฟ้องภาสวรเพื่อให้คัดค้าน ทำให้ไอศูรย์และภาสวรทะเลาะกัน ขณะเดียวกันภาสวรเห็นติรกาเข้าไปยุ่งกับไอศูรย์จนไม่เหลือเยื่อใยให้ตน ก็เครียดจัดเลยออกไปเที่ยวเสเพลนอกบ้านจนไปได้เสียกับ กานดา นักร้องในผับแห่งหนึ่ง แถมยังแอบอ้างว่าตนคือไอศูรย์อีกด้วย เมื่อหม่อมศุภางค์เห็นภาสวรทำตัวสำมะเลเทเมาก็เป็นห่วงจึงสั่งให้ไอศูรย์รีบ แต่งงานกับโชติรสด่วน ไอศูรย์อ้างว่าตนยังไม่พร้อมแล้วไปขอร้องให้ติรกาแต่งงานกับภาสวรแทน แต่ติรกาไม่ยอม
ขณะนั้นกานดาซึ่งตั้งครรภ์กับภาสวรได้ให้กำเนิดทารกขึ้นมา โดยเข้าใจว่าไอศูรย์คือพ่อของเด็กจึงเข้ามาขอค่าเลี้ยงดูที่แสงสูรย์ ไอศูรย์และโชติรสจึงปรึกษากันและตัดสินใจรับลูกของกานดามาเลี้ยง โดยไอศูรย์จะรับเป็นพ่อของเด็ก ไอศูรย์เข้าไปต่อว่าภาสวรติรกามาแอบได้ยินจึงเอาเรื่องนี้ไปเป็นข้ออ้างใน การถอนหมั้น ทำให้ภาสวรโกรธแค้นมากเพราะเข้าใจว่าไอศูรย์กลั่นแกล้งตนเพื่อแย่งติรกาไป ภาสวรเลยวางแผนแกล้งหนีออกจากแสงสูรย์ เมื่อหม่อมศุภางค์รู้เข้าก็โกรธและเสียใจจนล้มป่วย และโทษว่าไอศูรย์เป็นผู้ที่ทำให้ภาสวรหนีไป จึงสั่งให้ไอศูรย์ออกตามหาภาสวร ต่อมามีโทรเลขส่งมาจากปักษ์ใต้แจ้งว่าภาสวรตายแล้ว ไอศูรย์เดินทางไปรับศพน้องชายที่ปักษ์ใต้
ระหว่างทางได้พบกับ เชิดศักดิ์ ผู้ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของภาสวร เชิดศักดิ์วางยาสลบไอศูรย์แล้วเอาร่างของไอศูรย์ใส่เรือทิ้งไว้กลางทะเล แล้วจมเรือเพื่อให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ ส่วนภาสวรไม่ได้ตายจริงๆ ก็สวมรอยเป็นไอศูรย์แล้วเดินทางกลับ ระหว่างที่ไอศูรย์ตัวปลอมกำลังเดินทางกลับ ติรกาก็แกล้งโชติรสโดยหลอกเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลงไปเล่นในเรือจนทำให้ เด็กๆ เกือบจมน้ำตาย โชติรสเสียใจมากจึงตัดสินใจกลับบ้านที่สุโขทัย ไอศูรย์ตัวปลอมรู้เข้าก็หาทางเกลี้ยกล่อมให้โชติรสอยู่ต่อ โชติรสตกลงเพราะคิดว่าไอศูรย์เริ่มมีใจให้กับเธอ ฝ่ายติรกากับไอศูรย์ตัวปลอมก็ทวีความใกล้ชิดกันอย่างออกนอกหน้าจนผู้คนซุบ ซิบว่าทั้งคู่จะแต่งงานกัน ข่าวนี้ได้แพร่ไปถึงยศไกรและนำมาเล่าให้โชติรสฟัง
โชติรสจึงต้องเล่าเรื่องคู่หมั้นปลอมให้ยศไกรฟัง ยศไกรดีใจมากและสารภาพรักกับโชติรส ส่วนติรกาก็พยายามหาทางกำจัดโชติรสให้ออกไปจากวังให้ได้ เธอยุไอศูรย์เลิกสถานเลี้ยงเด็ก เมื่อไอศูรย์ตัวปลอมยอมทำตามจึงเกิดทะเลาะกับโชติรสอย่างแรง พอดีกับที่เชิดศักดิ์เข้ามาหาภาสวรติรกาเห็นพิรุธของไอศูรย์ตัวปลอมที่มีต่อ เชิดศักดิ์ จึงแอบฟังและใช้ความลับที่รู้มานี้เป็นข้อต่อรองกับภาสวร เพื่อที่จะได้ครอบครองวังแสงสูรย์ติรกาเริ่มแผนร้าย ด้วยการยุให้ภาสวรกำจัดเชิดศักดิ์ด้วยการวางยาพิษในอาหาร แต่เชิดศักดิ์ไม่ได้กิน ติรกาจึงเปลี่ยนแผนให้ภาสวรไปยิงเชิดศักดิ์แทน เมื่อเชิดศักดิ์รู้ว่ามีคนปองร้ายจึงพยายามหนี แต่ก็ไม่รอดถูกภาสวรยิงจนบาดเจ็บ เชิดศักดิ์หนีไปขอความช่วยเหลือจากโชติรสและเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง
ชติรสตกใจมากจึงรีบไปปรึกษายศไกร ส่วนติรการู้ว่าเชิดศักดิ์หนีไปได้จึงจ้างวานต่อพงษ์น้องชายตนที่เป็นมือปืน ให้ฆ่าปิดปาก หม่อมศุภางค์เห็นความใกล้ชิดระหว่างติรกาและไอศูรย์ปลอมก็เกิดความไม่พอใจ จึงยื่นคำขาดให้ไอศูรย์ปลอมรีบแต่งงานกับโชติรส โดยขู่ว่าถ้าไอศูรย์ไม่ยอมแต่งจะไม่ยอมยกสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่งของวังแสงสูรย์ ให้ คำสั่งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับติรกาอย่างมากเธอจึงตัดสินใจกำจัดหม่อมย่า อีกคน โดยสั่งให้ภาสวรวางยาพิษหม่อมศุภางค์ แต่ภาสวรไม่กล้าลงมือเพราะยังมีความรักต่อหม่อมย่าอยู่ ติรกาจึงยอมได้เสียกับภาสวรและเกลี้ยกล่อมจนภาสวรยอมทำตาม ส่วนโชติรสเห็นว่าหม่อมศุภางค์มีอาการซึมเศร้าก็เอะใจเลยเก็บยาส่งไปให้หมอ ตรวจจึงรู้ว่าเป็นยาพิษ
ทางด้านไอศูรย์ปลอมหรือภาสวรเครียดจัดเลยออกไปเที่ยวกินเหล้าจนเมามายทำให้ ขับรถคว่ำ รัตนานงเยาว์ขับรถตามมาพอดีเลยเข้าไปช่วย และพาภาสวรไปรักษาตัวที่บ้านเพราะคิดจะเป็นไอศูรย์ตัวจริง เผื่อในอนาคตเธอจะได้เป็นท่านผู้หญิงเสียเอง แต่ในระหว่างที่ภาสวรอยู่ที่บ้านรัตนานงเยาว์ เขาก็ฝันร้ายเห็นผีหม่อมศุภางค์มาหลอก ทำให้ภาสวรร้องโวยวายจนตกเตียงกระดูกสันหลังหักกลายเป็นอัมพาต หลังจากที่ไอศูรย์ปลอมหายไปติรกาก็ตั้งท้องได้เดือนกว่า ในขณะที่หม่อมศุภางค์ก็แข็งแรงขึ้นและคิดว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเป็นเพราะ ติรกา จึงได้ออกปากไล่ติรกาออกจากวัง ติรกาจึงบอกเรื่องที่เธอกำลังจะมีทายาทให้กับสุริยฉัตร หม่อมศุภางค์โกรธมากและบอกจะรับเลี้ยงดูเฉพาะทายาทเท่านั้น
ส่วนติรกาต้องไปอยู่ที่อื่นเพราะว่าตนกำลังจะเดินทางไปสู่ขอโชติรสให้กับ ไอศูรย์ หม่อมศุภางค์ยังพยายามทำดีกับโชติรส โดยการพาชมห้องสีน้ำเงินและพูดถึงการแต่งงานเพื่อแทงใจดำติรกา โชติรสทราบข่าวจากยศไกรว่าพบไอศูรย์ตัวจริงที่ภาคใต้และกำลังจะพากลับมา โดยขอร้องให้โชติรสเก็บเป็นความลับส่วนติรกาพอรู้ว่า ต่อพงษ์ ได้สารภาพความจริงกับตำรวจไปแล้วว่า ได้รับการจ้างวานจากตนให้ฆ่าเชิดศักดิ์ ติรกาเลยสารภาพความจริงต่อทุกคนและตัดสินใจที่จะจบชีวิตของตัวเองไปพร้อมๆ กับวังแสงสูรย์ ไอศูรย์ตัวจริงเดินทางกลับมาถึงพร้อมยศไกร และพบว่าแสงสูรย์จมอยู่ในกองเพลิงเนื่องจากติรกาได้ตัดสินใจเผาแสงสูรย์ให้ มอดไหม้ไปพร้อมกับตัวเธอและโชติรส ไอศูรย์รีบเข้าไปช่วยทั้งคู่ โศกนาฏกรรมครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมได้ใน ละคร “แสงสูรย์”
สงครามนางฟ้า
มณีริน (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) สาวสวยที่มาฝึกอบรมสำหรับการเป็นพนักงานต้อนรับของสายการบินเมขลาแอร์ ทำให้เธอรู้จักกับ หนุ่ย (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) และ กิ๊บ (ภัทรา มั่นพิริยะกุล) เพราะความสวยของรินทำให้เธอได้รับคัดเลือกให้ทำกิจกรรม ทำให้เพื่อนบางคนหมั่นไส้ โดยเฉพาะ หน่อย (อภิษฎา เครือคงคา) ที่อิจฉาความสวยของรินทำให้เธอก้าวหน้าเร็วกว่าเพื่อน
วันหนึ่งรินก็ได้พบกับ อิน (สหรัถ สังขปรีชา) กัปตันเครื่องบิน อินหลงรักรินตั้งแต่แรกเห็น ทั้ง ๆ ที่มีภรรยาอยู่แล้วชื่อ จิ๋ม (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) รินมักได้รับของขวัญจากใครบางคน จนวันหนึ่งรินบินไปสิงคโปร์และเจออิน ทำให้เธอรู้ว่าอินเป็นคนส่งของมาให้ อินพารินไปเที่ยวที่ต่างๆ ทำให้รินหลงรักอิน แต่พอกลับมารินก็ต้องเจอ จิ๋ม ภรรยาขี้หึงของอิน ตามมาอาละวาดที่สนามบิน ทำให้รินอับอาย และ หนิง (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) กัปตันอีกคนที่เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มากและเป็นเสือผู้หญิง ก็ได้โอกาสเข้ามาปลอบใจริน แต่อินก็หาโอกาสที่จะบอกรักริน และบอกว่าจะหย่ากับจิ๋ม
หนิงแสร้งว่าจะช่วยอิน อินฝากจดหมายไปให้รินแต่หนิงไม่เคยเอาให้เธอ
รินคิดว่าอินตัดขาดความสัมพันธ์ และหนิงก็ใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดริน พออินรู้ว่าหนิงจีบรินก็ไม่พอใจและพยายามจะบอกรินว่าหนิงเป็นคนเจ้าชู้ ซึ่งรินก็บอกว่าอินต่างหากที่เป็นคนตัดความสัมพันธ์กับเธอ ทำให้ทั้งคู่รู้ว่าหนิงเก็บจดหมายไว้ รินจึงโทรศัพท์ไปต่อว่าหนิง หนิงรู้ว่าอินอยู่กับริน จึงโทรศัพท์ไปบอกจิ๋มว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ทำให้เธอไปอาละวาด รินจึงออกไปกับหนิง และในที่สุดรินก็ตกเป็นของหนิง
รินจำเป็นต้องแต่งงานกับหนิงเพราะเธอท้อง
และเธอก็ได้รู้ว่าหนิงเคยมีลูกมาแล้ว 1 คน กับกิ๊บนั่นเอง ชื่อ หนอน น้องสาวของหนิงก็คือหน่อย เป็นศัตรูของเธออีกต่างหาก รินเจอกับเหตุการณ์ที่เลวร้าย ไหนจะโดนแม่สามี (ภัสสร บุญยเกียรติ) หน่อย และหนอนที่คอยแกล้งเธอ แต่เธอก็อดทนเรื่อยมา หนิงคงยังเจ้าชู้ไม่เลิกจนได้พบกับ เชอรี่ (ปานวาด เหมมณี) แอร์โฮสเตสน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามา หนิงตามจีบเชอรี่และเชอรี่ก็ให้ท่าแก่หนิงจนได้เสียกัน เชอรี่ก็ตามรังควาญริน ในขณะที่ทางหนุ่ยเป็นเกย์แต่ไม่กล้าเปิดเผยให้พ่อ (อภิชาติ หาลำเจียก) ที่เป็นโรคหัวใจได้รับรู้ เพราะพ่อไม่อาจรับได้
รินยังคงต้องผจญกับชีวิต จนทนไม่ไหวเธอพยายามแยกบ้านอยู่ต่างหากกับหนิงและครอบครัว และพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับหนิง แต่หนิงก็ยังตามง้อเธออยู่เรื่อย ๆ และเธอก็ต้องใจอ่อนทุกที ส่วนจิ๋มภรรยาขี้หึงของอินก็เสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง อินดูแลจิ๋มจนวันสุดท้ายของชีวิต
ในที่สุด เชอรี่ก็ท้องกับหนิงและตามมาถึงที่บ้านและมาอาศัยอยู่ด้วยในฐานะภรรยาคนหนึ่งของหนิง รินทนความเจ้าชู้ของหนิงไม่ไหว ยื่นฟ้องต่อศาลขอหย่ากับหนิง และเมื่อเธอไปที่สิงคโปร์อีกครั้งท่ามกลางความสับสนในใจ เธอได้พบกับอิน ซึ่งเป็นผู้ชายที่จริงใจกับเธอมาโดยตลอด และในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
วิมานทราย
ภาณิน นิราภัย วิศวกรหนุ่ม ทายาทบริษัทเรียลเอสเตทชื่อดังไปตรวจงานที่จ.ระยอง และขณะเดินทางกลับ บังเอิญไปเจอขโมยสองคนกำลังทุบรถของเขาเพื่อขโมยของ ภาณินวิ่งไล่จับขโมยมาจนถึงชายหาด และเกิดการต่อสู้จนทำให้ไปโดนปราสาททรายที่ อลิศรา ชุณหกร จิตรกรสาวสวยที่สร้างไว้เป็นแบบพังลงมา อลิศราโวยวาย แต่ก็เข้าช่วยเหลือภาณินที่โดนรุมทำร้ายจนสลบไป เมื่อภาณินฟื้นและได้คุยกัน ทำให้อลิศราเข้าใจว่าเขาเป็นเพียงโฟร์แมนคุมงานก่อสร้างแถวนั้น ส่วนภาณินก็รู้สึกประทับใจในน้ำใจและความคิดที่แข็งแกร่งของอลิศรา เมื่อทั้งคู่กลับมากรุงเทพฯ ระหว่างที่อลิศรารอรถอยู่ที่ป้ายรถเมย์ มีจิ๊กโก๋เข้ามาลวนลาม แต่โชคดีที่ภาณินเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ภาณินอาสาไปส่งเธอที่บ้าน แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้อลิศราลืมโทรศัพท์มือถือไว้กับภาณิน ทั้งสองจึงได้นัดเจอกันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ภาณินดีใจมากที่จะได้เจอกับอลิศรา แต่เหมือนถูกโชคชะตากลั่นแกล้ง ภาณินได้รู้ความจริงในวันนั้นว่าอลิศราคือผู้หญิงที่ ภิญโญ นิราภัย น้องชายสุดที่รักของเขาหลงรัก ส่วนอลิศราก็โกรธจัดเพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก เมื่อรู้ความจริงว่าภาณินไม่ใช่โฟร์แมน แต่กลับกลายเป็นลูกชายของ ภุชงค์ นิราภัย เจ้าพ่อธุรกิจเรียลเอสเตทที่มั่งคั่งที่สุด แถมเขายังเป็นพี่ชายแท้ๆ ของภิญโญ เพื่อนสนิทของเธออีกด้วย ภาณินเสียใจมากที่เรื่องราวกลับกลายเป็นแบบนี้ แต่ก็พยามตัดใจเพราะเห็นว่าความสุขของน้องนั้นสำคัญกว่า และเมื่อภิญโญตัดสินใจขออลิศราแต่งงาน แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะอลิศราคิดกับภิญโญแค่เพื่อน ภิญโญเสียใจมาก โหมดื่มเหล้าจนไม่เป็นผู้เป็นคน ทำให้ภุชงค์ไม่พอใจและนึกเกลียดอลิศราขึ้นมา ส่วนภาณินก็รับอาสาภิญโญว่าจะไปคุยกับอลิศราให้ แต่เมื่อภาณินไปถึงกลับเห็นอลิศราอยู่กับ นนท์ ช่างภาพหนุ่มมาดเซอร์ที่เพิ่งอกหัก และได้อลิศราเป็นเพื่อนช่วยปลอบใจ นนท์มาหาอลิศราเพื่อบอกลาเรื่องจะไปเรียนต่อ ภาณินเกิดความหึงหวง และเข้าใจผิดคิดว่าที่อลิศราปฏิเสธภิญโญเพราะมีนนท์อยู่อีกคน ภาณินจึงเข้าไปต่อว่าอลิศราว่าเป็นผู้หญิงหลายใจ คบผู้ชายไม่เลือกหน้า ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงและเกิดได้เสียกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ภาณินรู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป จึงขอรับผิดชอบทุกอย่าง แต่อลิศรากลับปฏิเสธและไล่ภาณินออกไปจากชีวิต หลังจากเหตุการณ์นั้นอลิศราก็ตัดสินใจไปเป็นครูอยู่ที่สุพรรณกับ ลินจง เพื่อนสนิท แต่เมื่อผ่านไปสองเดือนอลิศราพบว่าได้ตั้งท้องลูกของภาณิน ส่วนลินจงที่คิดว่าภิญโญคือพ่อของเด็ก จึงไปต่อว่าและบอกให้มารับผิดชอบ ภิญโญบอกว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของตน แต่ก็พร้อมจะดูแลอลิศราและลูก และในวันนั้นภิญโญก็ตัดสินใจขออลิศราแต่งงาน อลิศราตอบตกลงโดยมีเงื่อนไขว่าเธอจะไม่เข้าไปอยู่ที่บ้านนิราภัยเด็ดขาด เมื่อภุชงค์ทราบเรื่องก็ไม่พอใจ และคัดค้านที่ภิญโญตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างอ ลิศรา ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก และไล่ภิญโญออกจากบ้าน ส่วนภาณินก็เอาแต่ดื่มเหล้าเพื่อให้ลืมควาด จนได้เจอกับ สิริรัศมี สาวไฮโซที่เห็นผู้ชายเป็นแค่ของเล่น เธอเริ่มด้วยการหว่านเสน่ห์ให้ภาณินต่างๆ นาๆ แต่ภาณินไม่สนใจ ทำให้สิริรัศมีเสียหน้าและตั้งใจเอาชนะภาณินให้ได้ แล้วสิริรัศมีก็เริ่มแผนการพิชิตใจภาณินด้วยวิธีการต่างๆ โดยมีภุชงค์เป็นแนวร่วม เพราะเห็นว่าสิริรัศมีคือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นสะใภ้นิราภัย ภิญโญพาอลิศรามาอยู่ที่ชลบุรี และทำงานเป็นพนักงานบัญชีอย่างขยันขันแข็งเพื่อเลี้ยงดูอลิศราและลูก ช่วงใกล้คลอดลินจงมาอยู่เป็นเพื่อนอลิศรา ลินจงคาดคั้นจนอลิศราบอกความจริงว่าพ่อของเด็กคือภาณิน เป็นเวลาเดียวกับที่ภิญโญเข้ามาได้ยินพอดี จึงดื่มเหล้าจนเมา แล้วขับรถกลับกรุงเทพฯ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ภุชงค์เข้าใจว่าอลิศราคือสาเหตุที่ทำให้ภิญโญเสียชีวิต จึงยิ่งเกลียดชังอลิศรามากขึ้น ภาณินไปหาอลิศราและแจ้งข่าวการตายของภิญโญ อลิศราช็อคจนเป็นลม ภาณินรีบพาไปส่งโรงพยาบาล แล้วอลิศราก็คลอดลูกชายคือ น้องพีท หรือ ภิญเญศ ลูกของภาณินในคืนนั้น ภุชงค์รู้ข่าวว่าอริศราคลอดลูกก็คิดที่จะเอาหลานมาเลี้ยงและกำจัดอลิศราออก ไปจึงร่วมมือกับสิริรัศมี โดยภุชงค์เสนอเงินให้ 1 ล้านเพื่อแลกกับพีท แต่อลิศราปฏิเสธ ระหว่างนั้นหมอเข้ามาแจ้งว่าหัวใจของน้องพีทมีปัญหาต้องเข้ารับการผ่าตัดโดย ด่วน ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมาก ภุชงค์จึงได้โอกาสยื่นข้อเสนอว่าจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษา และจะเลี้ยงดูพีทเป็นอย่างดี แต่อลิศราต้องออกไปจากชีวิตของพีทอย่างเด็ดขาด อลิศราไม่มีทางเลือก จึงต้องยอมรับข้อเสนอของภุชงค์ พร้อมกับยอมทำสัญญายกพีทให้กับภุชงค์โดยไม่ยอมรับเงินแม้แต่บาทเดียว หลังจากอลิศราจากไป ภุชงค์เอาสัญญาที่ให้อลิศราเขียนมาให้ภาณินดูและใส่ร้ายอลิศราว่าหนีไปเพราะ ต้องการเงินเพื่อไปสร้างครอบครัวกับผู้ชายคนใหม่ ทำให้ภาณินโกรธแค้นอลิศรามาก หลังจากที่พีทผ่าตัดหัวใจเรียบร้อยแล้ว ภาณินพาพีทไปรักษาตัวต่อที่อเมริกา ขณะที่อลิศราก็เข้ามาสมัครงานเป็นครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯโดย หวังว่าสักวันอาจจะได้เจอหน้าลูกบ้าง… ห้า ปีผ่านไปขณะที่ภาณินพาพีทไปสมัครเรียน แล้วเกิดพลัดหลงกันจนพีทเกือบโดนรถชน แต่อลิศรามาช่วยพีทไว้ได้ทัน และทำให้รู้ว่าพีทคือลูกของเธอ จึงกอดพีทด้วยความโหยหา ขณะที่พีทก็รู้สึกอบอุ่น เพราะไม่เคยได้รับความรักจากแม่มาก่อน ภาณินมาเห็นเข้าก็ตกใจ รีบพาพีทกลับบ้าน อลิศราจึงได้แต่มองตามด้วยความอาลัย หลังจากวันนั้นอลิศราพยายามขอร้องภาณินเพื่อพบลูกบ้าง แต่ก็โดนปฏิเสธ ส่วนภาณินเมื่อได้เจออลิศราหลายๆ ครั้งจึงทำให้รู้ว่าในใจของเขาไม่เคยลืมเธอได้เลย ประกอบกับการที่พีทเรียนช้ากว่าเด็กปกติ ภาณินจึงต้องหาครูพิเศษมาสอน แต่ทุกคนก็ทนฤทธิ์เดชของพีทไม่ไหว ภาณินหนักใจมาก ในที่สุดจึงต้องไปจ้างอลิศราเพื่อมาสอนหนังสือให้พีท โดยมีข้อแม้ว่าอลิศราจะต้องเข้ามาอยู่ที่นิราภัยและห้ามบอกใครว่าเธอเป็นแม่ ของพีท อลิศราเข้ามาอยู่ที่นิราภัยในนามของครูพัชชา พีทมีความสุขมากขึ้นและเรียนดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนภาณินก็ได้ใกล้ชิดกับอลิศรามากขึ้นจนทำให้ความรู้สึกเก่าๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง ขณะเดียวกับที่ โภไคย ลูกชายของ ศรีนวล แม่บ้านที่เป็นเมียบ่าวของภุชงค์ ที่รู้สึกอิจฉาภาณินมาโดยตลอดก็อาศัยช่วงที่ภุชงค์ไม่อยู่โกงเงินบริษัท ด้านนนท์ทสนิทสนมกับลินจงมากขึ้นเรื่อยๆ จากคู่กัดก็กลายเป็นเพื่อนสนิท แต่วันหนึ่งขณะที่นนท์มาหาลินจงที่ห้อง เกิดได้ยินว่าอลิศราอยู่ที่นิราภัย นนท์โกรธลินจงมากที่โกหกเขามาตลอด จึงไปหาอลิศราที่นิราภัยจนมีเรื่องชกต่อยกับภาณิน จากเหตุการณ์นี้ทำให้โภไคยเริ่มสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของภาณินกับครูพัชชา ส่วนนนท์ก็เกิดไปมีเรื่องและไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหาย ลินจงจึงออกให้ก่อน และถือโอกาสเข้ามาควบคุมความประพฤติของนนท์ ทำให้นนท์และลินจงเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกันโดยที่ไม่รู้ตัว ฝ่ายลินจงที่รู้ความรู้สึกของตัวเองดี จึงได้แต่น้อยใจทุกครั้งที่นนท์พร่ำเพ้อถึงอลิศรา สิริรัศมีเริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เห็นภาณินใกล้ชิดกับครูพัชชา จึงจ้างโภไคยให้สืบประวัติครูพัชชา ประกอบกับที่โภไคยก็สงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่เป็นทุนเดิมจึงยอม ร่วมมือ และโภไคยก็สืบจนรู้ความจริงว่าพัชชาคือ อลิศรา ชุณหกร แม่ของพีท สิริรัศมีจึงรีบโทรบอกภุชงค์ ภุชงค์จึงรีบกลับมาจากต่างประเทศและไล่อลิศราออกจากนิราภัย ภาณินโกรธสิริรัศมีมากที่เข้ามาวุ่นวายเรื่องระหว่างตนและอลิศรา จึงต่อว่าสิริรัศมีอย่างรุนแรง ภาณินพาอลิศราไปอยู่ที่บ้านสวนด้วยกันอย่างมีความสุข สิริรัศมีที่ยังอยากจะเอาชนะภาณินให้ได้จึงร่วมมือกับโภไคยซื้อหุ้นจากผู้ ถือหุ้นนิราภัยจนได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ระหว่างที่ปฏิบัติการแผนนี้โภไคยได้รวบหัวรวบหางสิริรัศมีและถ่ายรูปเก็บไว้ ภาณินตั้งใจว่าจะให้อภัยอลิศราและขอเธอแต่งงาน ขณะที่อลิศราก็เตรียมจะบอกความจริงว่าพีทคือลูกของเขา แต่เมื่อภาณินกลับถึงบ้านกลับได้รับข่าวร้ายว่าสิริรัศมีซื้อหุ้นบริษัท เพื่อหวังจะหุบกิจการของนิราภัยหากภาณินไม่ยอมแต่งงานกับเธอ เมื่อได้ฟังข่าวนี้ภุชงค์ถึงกับเครียดจนเข้าโรงพยาบาล พร้อมกับขอร้องให้ภาณินยอมแต่งงานกับสิรรัศมีเพราะทนเห็นสิ่งที่สร้าง มาไปอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้ ภาณินจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อ วิมาน ที่เขาวาดไว้ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เขาจะยอมแต่งงานกับสิริรัศมีโดยทิ้งอลิศรา คนที่อยู่ส่วนลึกในจิตใจเขามาตลอดเพื่อพ่อบังเกิดเกล้าหรือไม่ ติดตามชมได้ในละครเรื่อง วิมานทราย คำตอบสุดท้ายแห่งรักแท้ คือ ให้อภัย ซึ่งเป็นกาวใจชิ้นพิเศษที่ต่อติดหัวใจอันแหลกสลายเหมือนเม็ดทรายที่ปลิว กระจาย ให้กลับมาเป็นวิมานแห่งรักแท้ชั่วนิจนิรันดร์
รายชื่อนักแสดงวิมานทราย
ชาคริต แย้มนาม รับบท ภาณิน
น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ รับบท อลิศรา
นิรุตต์ ศิริจรรยา รับบท ภุชงค์
นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบท โภไคย
พิชญ์นาฏ สาขากร รับบท สิริรัศมี
อชิตะ สิกขมานา รับบท ลินจง
พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ รับบท ภิญโญ
ชาญชัย วราวิทยา รับบท นนท์
ด.ช.ณชวนนท์ เหาตะวานิช รับบท ภิญเยศ
มารยาริษยา 2555
มารยาริษยา เป็นเรื่องราวการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด ทั้ืงเรื่องความรัก ธุรกิจ ของ 2 นางแบบ เพียงดาว ซูเปอร์โมเดลเจ้าอารมณ์ขาวีนจอมเหวี่ยง นางแบบเบอร์ 1 แห่งวงการที่กำลังถูกเขย่าบัลลังก์เพราะวัยที่มากขึ้น เพียงดาวเป็นนางแบบสาวรุ่นใหญ่เป็นคนปิดตัวเอง เพราะมีอดีตในชีวิต กับครอบครัวที่แตกแยก เป็นคนตรงๆ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
เพียงดาว แอบลักลอบอยู่กินไปช่างภาพหนุ่มโอม และมีเพื่อนสนิท 2 คน คือ แต้ว บก. นิตยสาร และ ป้าอู๋ เพื่อนสาวประเภทสองที่รู้ ด้วยหน้าที่การงานทำให้เธอไม่สามารถเปิดเผยความจริงได้ มีเพียงเพื่อนสนิท แต้วและป้าอู๋ ที่รู้
วันหนึ่งเพียงดาวมาเจอกับนางแบบรุ่นน้อง ดีนี่ เธอเข้ามาเป็นดาวดวงใหม่ของวงการนางแบบที่เปลือกนอกแสนบริสุทธิ์สดใส แต่ภายในเต็มไปด้วยไฟแห่งริษยาและทะเยอทะยาน ดีนี่ แอบชอบ โอม สามีของเพียงดาว และทำทุกอย่างเพื่อให้โอมหันมาสนใจ และโอมก็คือต้นเหตุที่ให้ เพียงดาว และ ดีนี่ มีปัญหากัน เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ห้ามพลาด มารยาริษยา
เลือดหงส์
เลือดหงส์
เรื่องราวของสาวสวยตระกูลผู้ดีที่วัยเด็กนั้น เธอถูกสลับสับเปลี่ยนให้ไปเป็นลูกของแม่ที่มีฐานะยากจน ในทางกลับกันหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ที่แม่ของเธอมุ่งมั่นให้ไปเติบโตในตระกูลผู้ดี ต่อมาวันเวลาก็พิสูจน์ให้เห็นว่า น้ำฝน แม้ว่าจะเจอกับสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ก็ไม่ลบกลืนสายเลือดแห่งความเป็นหงส์ของเธอได้ ผิดกับ อพัชชา ที่จิตใจเธอมีแต่ความอิจฉาริษยา แม้ว่าจะได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีเพีงไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนจิตใจเธอได้
บทโทรทัศน์ กษิตินทร์ แสงวงศ์ / ดวงทิพย์ ยุวชิต / เวฬุรีย์ เมธาวีวินิจ
กำกับการแสดง กิตติ บุญสกุลศักดิ์
อำนวยการผลิต ถกลเกียรติ วีรวรรณ
ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.20 น.
ออกอากาศ : ละครช่อง5, ละครปี 2544
นักแสดงนำ :
สันติภาพ สุวรรณพิมพ์, น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์, ราศี วัชราพลเมฆ, ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์
ที่บ้านพักตากอากาศกาญจนบุรี นารี (อรัญญา นามวงศ์) สะใภ้หม้ายของตระกูล ไกรศุภวรรณ เจ้าของกิจการโรงแรมและรีสอร์ท ในอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย เกิดปวดท้องคลอดขึ้นมากะทันหัน หมอตำแยจากหมู่บ้านใกล้ ๆ มาทำคลอดให้ นารีคลอดลูกสาวแล้วหมดสติไป แก้ว (ณัฐินี สิทธิสมาน) สาวใช้ต้นห้องผูกขวัญเด็กด้วยสร้อยข้อเท้าที่ย่าอนงค์(วิไลวรรณ วัฒนพานิช) ย่าของเด็กฝากมาด้วย แต่เด็กก็ยังร้องให้ไม่หยุด
หมอตำแยเพิ่งทำคลอดหญิงสาวในหมู่บ้านเมื่อตอนกลางวัน จึงให้แก้วไปจ้างหญิงผู้นั้นมาให้นมเด็กชั่วคราว สาวชาวบ้านคนนั้นคือ สร้อย (จารุณี สุขสวัสดิ์) เธอไม่รู้ว่าจะเลี้ยงลูกให้รอดชีวิตได้หรือไม่ แต่สร้อยก็ยอมไปช่วยนารีเพราะเห็นแก่เด็ก
ระหว่างที่สร้อยให้นมลูกสาวนารีเพียงลำพัง ความคิดหนึ่งก็ผ่านมาในหัวของสร้อย เธอตัดสินใจเปลี่ยนลูกของเธอกับลูกของนารี ยี่สิบสองปีผ่านไป ลูกสาวของสร้อยเติบโตขึ้นท่ามกลางความเพียบพร้อมในทุก ๆอย่าง นารีตั้งชื่อให้เธอว่า อพัชชา (ออแกน ราศี วัชราพลเมฆ) เพราะการเลี้ยงดูอย่างเต็มใจ ทำให้อพัชชาเป็นคนเอาแต่ใจตนเองใครขัดขืนใจไม่ได้ ซึ่งทั้งครอบครัวก็รู้นิสัยของเธอดี
ในครอบครัวของนารียังมี ย่าอนงค์ แม่สามีของนารี ที่แม้จะเกษียณตัวเองจากธุรกิจทั้งหลายแล้ว แต่ทุกคนก็ยังให้ความเคารพนับถืออยู่ ส่วนรสิน (ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) และบารมี (กอล์ฟ กริช หิรัญพฤกษ์) ลูกชายของนารี เมื่อโตขึ้นมาก็มีนิสัยต่างกันมาก บารมีคนน้องมีนิสัยขี้โอ่ เจ้าชู้ ชอบเล่นการพนัน ส่วนรสินคนโตนั้น เป็นคนสุภาพและอบอุ่น รสินชอบงานศิลปะมากกว่างานบริหารโรงแรม แต่ในฐานะกรรมการผู้จัดการโรงแรมของครอบครัว เขาก็ไม่เคยทำให้งานเสียหาย เพราะเขามีกฤติกานต์ (ติว สันติภาพ สุวรรณพิมพ์) ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงกาญจนา (ปิยะมาศ โมนยะกุล) ผู้มีชื่อเสียงในวงสังคมชั้นสูงเป็นเพื่อนสนิท
กฤติกานต์ทำหน้าที่ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม คอยดูแลทุกอย่างให้ และดูเหมือนจะได้เป็นเขยของตระกูลไกรศุภวรรณ ถ้ากฤติกานต์ยอมรับนิสัยเสียๆ ของอพัชชาได้ ส่วนอพัชชานั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบกฤติกานต์ ทางด้านน้ำฝน (บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) ลูกสาวที่แท้จริงของนารีที่สร้อยนำไปเลี้ยงนั้นกลับมีชีวิตที่ยากลำบาก แม้เธอจะเรียนจบปริญญาตรีการโรงแรมจากวิทยาลัยในจังหวัด แต่ระหว่างรองานเธอก็ช่วยสร้อยขายข้าวแกงอยู่ในตลาด
วันหนึ่งแก้วซึ่งบัดนี้ทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัวของนารี เดินทางมาที่กาญจนบุรี เพื่อดูแลเรื่องการขายบ้านพักตากอากาศ แก้วได้พบกับสร้อย ทั้งสองดีใจมาก โดยเฉพาะสร้อยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้พบลูก ในขณะนั้นเองเกิดไฟไหม้ในละแวกที่พักของสร้อย เพลิงได้เผาพลาญทุกอย่างจนหมดสิ้น ทั้งสร้อยและน้ำฝนไม่มีที่จะไป แก้วสงสารสร้อยมาก เธอให้สร้อยพาลูกสาวไปอยู่กับนารี สร้อยลังเล แต่เมื่อได้ยินแก้วพูดว่า อพัชชาจะแต่งงานและออกเรือนไปเร็ว ๆ นี้
สร้อยตัดสินใจตามแก้วไป เพราะหวังจะได้เห็นคู่ชีวิตของอพัชชาลูกสาวแท้ ๆ ของตน แก้วพาสร้อยและน้ำฝนมาที่บ้านของนารี และขอให้นารีจ้างสร้อยแทนแม่ครัวคนเก่าที่ทนฤทธิ์อพัชชาไม่ไหว ทันที่ที่นารีได้เห็นหน้าน้ำฝนเธอก็รู้สึกประทับใจอย่างประหลาด เธอยินดีรับน้ำฝนไว้และสร้อยกับน้ำฝนไปอยู่ที่เรือนคนใช้ การมาถึงของสร้อยและน้ำฝนสร้างความรู้สึกต่างกันไป สำหรับสมาชิกในครอบครัวของนารี
อพัชชาไม่ชอบน้ำฝน เธอมองว่าฝนชอบประจบแม่เธอมากเกินไป และอพัชชายังรำคาญสร้อยที่ชอบมาคุยกับเธอและ แอบมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ ฝ่ายลูกชายทั้งสองของนารี ต่างก็มีความรู้สึกของน้ำฝนแตกต่างกัน รสินถูกชะตาน้ำฝนมาก เขารู้สึกว่าน้ำฝนจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีของเขาได้ แต่บารมีกลับพึงใจในตัวน้ำฝนถึงขนาดต้องการให้น้ำฝนมาเป็นของเขา
ส่วนน้ำฝนเองก็ประทับใจในความสุภาพและอบอุ่นของรสิน แต่ตลอดเวลาเธอก็จะถูกสร้อยห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายในครอบครัวนี้ น้ำฝนเข้าใจว่าสร้อยคิดถึงความแตกต่างกันในฐานะตนกับคนในตระกูลใหญ่แต่สร้อยรู้ดีว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร ด้วยความเป็นคนที่มีจิตใจงาม จึงทำให้ทุกคนจะพึงใจในตัวน้ำฝนมากขึ้นจนอพัชชาเก็บความอิจฉาริษยาไว้ไม่ได้
เธอเริ่มหาวิธีกลั่นแกล้งน้ำฝน จนถึงขนาดแกล้งผลักตกน้ำ เคราะห์ดีที่กฤติกานต์เข้ามาช่วยไว้ทัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ สร้อยเข้าข้างอพัชชาลูกสาวแท้ๆ ของเธอ ดุด่าน้ำฝน ส่วนนารียุติปัญหานี้ ด้วยการให้น้ำฝนไปทำงานที่โรงแรม ไม่ต้องอยู่ที่บ้าน แต่นั่นกลับทำให้กฤติกานต์เห็นความดีในตัวน้ำฝนที่รักแม่มาก และไม่ยอมตอบโต้อพัชชาเพราะเห็นแก่แม่
กฤติกานต์เริ่มรู้สึกดีๆกับน้ำฝน ด้านน้ำฝนเอง เมื่อได้ใกล้ชิดกฤติกานต์มากขึ้น เธอก็เริ่มหวั่นไหวในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา แต่เพราะไม่ต้องการมีปัญหากับอพัชชา เธอจึงได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้ข้างใน ด้านบารมีหลังจากเพียรจีบน้ำฝนอยู่นาน แต่น้ำฝนไม่ยอมเล่นด้วย บารมีตัดสินใจแอบใส่ยานอนหลับให้น้ำฝนกิน และตั้งใจพาไปข่มขืนที่โรงแรม แต่รสินก็เข้ามาช่วยน้ำฝนไว้ทันพี่น้องต่อสู้กัน บารมีชกรสินล้มลงและหมดสติไป ทั้งบ้านตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รสินถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่า รสินมีเนื้องอกในสมองที่ร้ายแรง กฤติกานต์ขอร้องหมอไม่ให้บอกใคร แม้แต่ตัวรสินเองส่วนตัวเขาตัดสินใจว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนของเขามีความสุข ก่อนจะถึงวาระสุดท้าย ส่วนบารมีหลังจากเกิดเรื่อง เขาก็ไม่สามารถเข้าหน้าน้ำฝนได้อีก เขาหันมาเที่ยวเตร่และติดการพนันอย่างหนัก กฤติกานต์พยายามผลักดันให้น้ำฝนรับหน้าที่ดูแลรสิน แม้ว่าน้ำฝนยินดีทำอยู่แล้ว แต่ความเจ้ากี้เจ้าการของกฤติกานต์ก็ทำให้น้ำฝนคิดไปว่า กฤติกานต์ไม่ได้คิดอะไรกับเธอ
อย่างไรก็ตาม การที่ทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกันช่วยดูแลรสิน ทำให้อพัชชาไม่พอใจ และคิดไปว่าน้ำฝนพยายามแย่งกฤติกานต์ของเธอ อพัชชาจึงคิดหาทางกลั่นแกล้งน้ำฝนอีก วันหนึ่งเมื่อเธอเห็นน้ำฝนเอาเครื่องเพชรของคุณย่างอนงค์มาทำความสะอาด อพัชชาขโมยเครื่องเพชรนั้นออกมาและให้บารมีเอาไปขายใช้หนี้ส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือเอาไปซ่อนในห้องน้ำฝน
เมื่อย่าอนงค์พบว่าเครื่องเพชรหายจึงแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่พบเครื่องเพชรส่วนหนึ่งอยู่ที่น้ำฝนน้ำฝนจึงถูกตำรวจจับ สร้อยรู้ดีว่าเป็นฝีมือของอพัชชาจึงไปขอร้องให้ช่วย แต่อพัชชากลับให้สร้อยปรักปรำน้ำฝนเพื่อพิสูจน์ความรักที่มีต่อเธอ สร้อยจึงทำเป็นดุด่าว่าน้ำฝน แต่สุดท้ายรสินก็ยื่นมือเข้ามาช่วยประกันตัวน้ำฝนออกมาจนได้ ทำให้สร้อยรู้สึกโล่งใจที่เธอไม่ทำร้ายน้ำฝนมากไปกว่านี้
ทางด้านอพัชชาพอรู้ว่าน้ำฝนหลุดคดีมาได้ ก็โกรธมาก เธอด่าว่าสร้อยอย่างรุนแรงพร้อมกับถีบสร้อยจนหกล้ม สร้อยเพิ่งแน่ใจเดี๋ยวนี้เองว่าลูกสาวแท้ ๆ ของเธอเป็นคนอย่างไร อพัชชาขู่สร้อยไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่เธอไม่รู้ว่า แก้วแอบได้ยินเรื่องทั้งหมด แก้วตั้งใจจะมาถามน้ำฝนเรื่องสร้อยที่ตั้งใจเข้าข้างอพัชชา ทำร้ายลูกตัวเองแต่น้ำฝนไม่อยู่ที่ห้อง ด้วยความบังเอิญ แก้วเห็นห่อสร้อยข้อเท้าเด็กตกอยู่ จึงเปิดออกดู แล้วแก้วก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นสร้อยข้อเท้าที่เธอเป็นคนใส่ให้ลูกสาวของนารีเมื่อยี่สิบสองปีก่อน แก้วพอจะสรุปอะไรได้บ้างแล้ว
ในงานดนตรีการกุศล ขณะที่อพัชชากำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยการประกาศหมั้นของเธอและกฤติกานต์จากคุณหญิงกาญจนา แก้วก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับสร้อย แก้วเอาสร้อยข้อเท้าออกมา แล้วถามความจริงต่อหน้าอพัชชา สร้อยสารภาพว่าอพัชชาเป็นลูกแท้ ๆ ของเธอ อพัชชาไม่ยอมเชื่อและไม่พอใจมาก
ขณะที่แก้วคิดจะนำเรื่องนี้ไปบอกนารีและคุณหญิงกาญจนาให้รู้เรื่อง อพัชชายอมไม่ได้ที่จะถูกยกเลิกงานหมั้น เธอจึงกำจัดแก้วไปให้พ้นทาง โดยออกอุบายว่ามีคนร้ายเข้ามาในห้องและบุกเข้ามาขโมยของในงานแล้วฆ่าแก้วปิดปาก ทั้งงานเกิดโกลาหล ในที่สุดคุณหญิงก็ไม่ได้ประกาศงานหมั้นของกฤติกานต์กับอพัชชา ตำรวจสับสนไม่รู้ว่าใครเป็นฆาตกร พบแต่หลักฐานสร้อยข้อเท้าเด็ก ซึ่งมีเพียงย่าอนงค์คนเดียวเท่านั้นที่จำได้
รุ่งขึ้นย่าอนงค์พยายามซักไซ้อพัชชา จน อพัชชาพลั้งมือผลักย่าตกบันได ย่าอนงค์ได้รับความกระทบกระเทือนที่สมองจนถึงขั้นพิการ และไม่สามารถพูดได้ ส่วนอพัชชาก็เริ่มผิดปกติมากขึ้น เธอเกิดอาการหวาดระแวงทุก ๆ คน อพัชชาระแวงย่าและสร้อยที่กุมความลับทั้งหมดไว้ แต่ก็ยังคิดหาทางกำจัดไม่ได้ เธอจึงแกล้งทำดีกับทุกคนโดยเฉพาะสร้อย
นารีพยายามยุติปัญหาในบ้านด้วยการให้รสินแต่งงานกับน้ำฝน ก่อนที่รสินจะให้คำตอบใด ๆ อาการป่วยของเขาก็กำเริบขึ้นมา ในที่สุดทุกคนก็รู้ความจริงว่ารสินป่วยเป็นโรคอะไร และมีเวลาเหลืออีกเท่าไหร่ ดังนั้นการแต่งงานของเขากับน้ำฝนจึงจำเป็นต้องยกเลิกไป แต่อพัชชาไม่ยอมยกเลิกแค่นั้น เธอยุให้นารีจับน้ำฝนแต่งงานกับบารมีแทน เพื่อให้บารมีกลับใจเป็นคนดี โดยขอร้องกฤติกานต์ให้เป็นคนเกลี่ยกล่อมน้ำฝน
น้ำฝนโกรธมากที่ทุกคนเห็นเธอที่เป็นสิ่งของ เธอจึงตัดสินใจหนีไปอยู่ต่างจังหวัด แต่กฤติกานต์ก็ตามเธอพบจนได้ กฤติกานต์พยายามเกลี้ยกล่อมน้ำฝนอีกครั้ง จนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ในที่สุดกฤติกานต์ก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหว เขาเข้าปลุกปล้ำน้ำฝน รุ่งขึ้นกฤติกานต์พาน้ำฝนกลับมาถึงบ้าน น้ำฝนประชดกฤติกานต์ด้วยการยอมแต่งงานกับบารมี
สร้อยไม่รู้จะทำอย่างไร จึงแอบไประบายเรื่องของน้ำฝนและอพัชชาให้ย่าอนงค์ฟัง จนต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าย่าอนงค์สามารถพูดได้บ้าง อพัชชารู้ข่าวก็ตกใจ เธอแอบออกจากบ้านเพื่อจะไปจัดการกับย่าอนงค์ สร้อยเองเมื่อรู้เรื่องก็กลัวความลับของตัวและลูกจะเปิดเผย สร้อยจึงไปโรงพยาบาลเหมือนกัน
รายชื่อนักแสดง เลือดหงส์
1. สันติภาพ สุวรรณพิมพ์ รับบท กฤติกานต์
2. น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ รับบท น้ำฝน
3. ราศี วัชราพลเมฆ รับบท อพัชชา
4. ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท รสิน
5. กริช หิรัญพฤกษ์ รับบท บารมี
6. จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบท สร้อย
7. อรัญญา นามวงศ์ รับบท นารี
8. วิไลวรรณ วัฒนพานิช รับบท ย่าอนงค์
9. ปิยะมาศ โมนยะกุล รับบท กาญจนา
10. ฉันทนา กิตติยพันธ์ รับบท สวาท
11. ณัฐิณี สิทธิสมาน รับบท แก้ว
12. สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ รับบท มิ้นท์
13. ไอริน ศรีแกล้ว รับบท จอย
14. ยอดชัย ภัยขยาด รับบท โจ
15. ไกลลาศ เกรียงไกร รับบท เขียว
เมียไม่ใช่เมีย
แก้วตา มั่นใจรัก (อรจิรา แหลมวิไล) สาวบ้านนอกจอมโก๊ะ ใช้ชีวิตคู่กับสามีแสนดี วันชัย (รัชชานนท์ สุประกอบ) แก้วตาได้งานทำที่สปาของไฮโซสาว วิกานดา กังวานไกล (น้ำทิพย์ จงรัชตะวิบูลย์) วิกานดาระแวงสามีจอมเจ้าชู้ อภิวัฒน์ (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) เลยจ้างนักสืบคอยตามจับผิด เมื่อรู้ว่าอภิวัฒน์กำลังพาผู้หญิงไปมั่วในโรงแรม วิกานดาจึงตัดสินใจขับรถไปเอาเรื่องโดยมีแก้วตาบังเอิญติดรถไปด้วย วิกานดาขับรถไล่ตามอภิวัฒน์จนชนเข้ากับรถสิบล้อคันใหญ่เต็มแรง วิกานดาและแก้วตาหมดสติไปทั้งคู่เมื่อวิกานดาและแก้วตารู้สึกตัวที่โรง พยาบาลก็พบว่าวิญญาณของทั้งคู่สลับร่างกัน วิกานดาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกลับร่างเดิม จนทุกคนคิดว่าเธอเป็นบ้า วันชัยจึงต้องรีบพาวิกานดาในร่างแก้วตากลับบ้าน ด้านแก้วตาในร่างของวิกานดามีอาการสับสนความจำเลอะเลือน อภิวัฒน์เลยฉวยโอกาสนี้พาแก้วตาในร่างวิกานดากลับบ้านพร้อมให้ยากล่อมประสาท เพื่อหวังดูดทรัพย์ของวิกานดาไปเรื่อย ๆ วิกานดาแอบเข้าไปในบ้านของตัวเองจนพบอภิวัฒน์นัวเนียอยู่กับ สายสวาท (ปานวาด เหมมณี) เลขาของเธอเอง ถึงจะโกรธที่โดนสายสวาททรยศแต่วิกานดาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะติดอยู่ในร่างแก้ว ตา เธอจึงแอบเอาเอกสารการเงินทุกอย่างหนีไป วิกานดาวางแผนให้แก้วตาจ้างตัวเองมาเป็นคนใช้ แล้วช่วยกันจับผิดอภิวัฒน์เพื่อใช้เป็นเหตุฟ้องหย่า ด้วยความเป็นห่วงเมีย วันชัยจึงขอมาอยู่ด้วยอีกคน วิกานดาให้วันชัยแอบขโมยหลักฐานยักยอกเงินที่อภิวัฒน์ซ่อนไว้ แต่อภิวัฒน์จับได้จึงใช้ปืนยิงวันชัย แก้วตาพุ่งเอาร่างเข้าขวาง แก้วตากลัวตัวเองจะไม่รอดจึงตัดสินใจบอกความจริงกับวันชัยว่าเธอกับวิกานดา สลับวิญญาณกัน วันชัยช็อคเมื่อได้รู้ว่าสิ่งที่สงสัยมานานเป็นเรื่องจริง เมื่อแก้วตาอาการดีขึ้น วันชัยก็พาแก้วตาและวิกานดาไปทำพิธีสลับวิญญาณ สายสวาทแอบได้ยินจึงไปบอกอภิวัฒน์ อภิวัฒน์กลับคิดว่าวิกานดาอาจคบชู้กับวันชัย จึงตามไปเพื่อเก็บหลักฐานไว้ฟ้องหย่า แต่เมื่ออภิวัฒน์เห็นว่าทั้งคู่สลับวิญญาณกันจริง ๆ จึงลักพาตัวแก้วตา แล้วต่อรองให้วิกานดาเซ็นยกทุกอย่างให้เขาแลกกับชีวิตแก้วตา
วิกานดาไม่ยอมทำตามที่อภิวัฒน์ต้องการ ทั้งคู่ทะเลาะกันจนวิกานดาโดนอภิวัฒน์ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส แก้วตาอาศัยจังหวะที่อภิวัฒน์เผลอพาวิกานดาขับรถหนี ด้วยความร้อนรนจะหนีอภิวัฒน์แก้วตาเลยไม่ทันระวังขับชนเข้ากับสิบล้อที่มา ขวางทาง ทั้งแก้วตาและวิกานดาหมดสติ อภิวัฒน์เลยคิดจะกำจัดทั้งคู่ให้สิ้นซาก แต่วันชัยพาตำรวจตามมาจับอภิวัฒน์ไว้ได้ทัน ทั้งวิกานดาและแก้วตาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล วิญญาณของวิกานดาและแก้วตาจะกลับคืนสู่ร่างเดิมได้หรือไม่? ติดตามชมและร่วมลุ้นได้ใน ละคร เมียไม่ใช่เมีย
เพลิงมายา
จากตำแหน่งเทพีบ่อสร้างที่ไปรยา ได้รับมาครั้งล่าสุดหลังจากที่เธอได้ครองตำแหน่งนางงามมาแล้วมากมายหลายเวที ทำให้หญิงสาวยิ่งเชื่อมั่นในความงามของตน แม้ว่าเธอจะแต่งงานกับ สุเทพ และมีลูกสาววัย 4 เดือนชื่อ ปรางค์ฉาย แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของไปรยาลดน้อยลงไป ตรงกันข้ามหญิงสาวกับมีเสน่ห์ชวนพิศมากยิ่งขึ้น กอปรกับความชื่นชมที่ได้รับจาก เหมียว และแหม่ม สองพี่น้องเจ้าของ สตาร์ โมเดลลิ่ง ที่จัดประกวดเทพีบ่อสร้างก็ยิ่งทำให้ความฝันของไปรยาที่อยากจะเป็นนางแบบ ชื่อดังชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปัญหาจากชีวิตการแต่งงานที่ไปรยาได้รับจากผู้เป็นสามีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ความขี้หึง ความเห็นแก่ตัว ความไม่มีเหตุผลและการเอาแต่ใจตัวเองของสุเทพ ทำให้ไปรยาเบื่อหน่ายการใช้ชีวิตคู่เป็นอย่างที่สุด ทั้งๆ ที่เธอรักและแสนห่วงใยปรางค์ฉายลูกสาววัย 4 เดือนมากแค่ไหน แต่ไปรยาก็ตัดสินใจที่จะทิ้งครอบครัวมุ่งเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปหาเหมียวและแหม่มที่เคยให้ความหวังและสัญญาว่าจะปั้นเธอให้ได้เป็น นางแบบชื่อดังเหมือนกับทีไปรยาเคยฝันเอาไว้
ใน ที่สุดความฝันของไปรยาก็เป็นจริง ด้วยเพราะพรสวรรค์บวกกับความงดงามที่พระเจ้าสร้างมาให้กับเธอ เมื่อสองเจ้าของบริษัทโมเดลลิ่งเปิดโอกาสให้ไปรยาได้ขึ้นวาดลีลานางแบบบนแค ทวอล์ค สาวชาวเหนือก็ไม่ทำให้ผิดหวังในตัวเธอเลยแม้แต่น้อย เธอได้ก้าวเข้าสู่วงการนางแบบและมีชื่อเสียงในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่ว่าชีวิตของไปรยาจะเปลี่ยนแปลงไปมากสักเพียงไร เธอก็ไม่เคยลืมครอบครัวโดยเฉพาะปรางค์ฉายที่เป็นเสมือนแก้วตาดวงใจของเธอ ตลอดมา ไปรยาพยายามส่งข่าวและเงินทองมาให้สามีและลูกเสมอ แต่สุเทพโกรธแค้นที่หญิงสาวทอดทิ้งเขากับเลือดในอกของเธอไป ชายหนุ่มจึงไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ปรางค์ฉายได้รับรู้ นอกเสียจากจะใส่ร้ายมารดาของเธอว่าได้หนีตามชายชู้ไปตั้งแต่ยังแบเบาะ โดยไม่เคยกลับมาดูดำดูดีผู้เป็นลูกสาวเลยแม้แต่ครั้งเดียว สุเทพพยายามกีดกันสองแม่ลูกไม่ให้มีโอกาสได้พบกับทุกวิถีทางแต่ไปรยาก็ได้ รับรู้ข่าวคราวของปรางค์ฉายจาก ปองจิต น้องสาวของเธอซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับสุเทพ เพราะไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ผลการเล่าเรียน และนิสัยใจคอของผู้เป็นหลานสาว ปองจิตล้วนแล้วแต่เป็นคนส่งข่าวให้พี่สาวรับรู้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อ ปรางค์ฉายโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่น จะด้วยความผูกพันทางสายเลือดหรือพรสวรรค์ใดๆ ก็ตาม เธอได้ให้ความชื่นชมในตัวนางแบบไปรยาเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งเธอจะต้องเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียง เหมือนกับไปรยาบ้าง โดยที่เด็กสาวหารู้ไม่ว่า ไปรยา คือ แม่ที่แท้จริงของเธอ เพราะสุเทพได้ตัดขาดความเป็นแม่ลูกของทั้งสองออกด้วยการแต่งงานใหม่กับอัปสร สาวชาวเหนือในหมู่บ้านเดียวกัน เมื่อสุเทพรู้ว่าปรางค์ฉายแอบปลื้มในตัวไปรยา เขาโกรธเคืองมากถึงกับลงไม้ลงมือตบตีลูกสาวโดยไม่มีเหตุผล ทำให้ปรางค์ฉายน้อยใจในความไร้เหตุผลของพ่อ ส่งผลให้ความคิดที่จะพยายามเป็นนางแบบเหมือนกับไปรยาของเด็กสาวทวีความ รุนแรงมากยิ่งขึ้น
กำนันฉ่ำ มองเห็นความงดงามในตัวของปรางค์ฉาย หนุ่มใหญ่วัยกลางคนจึงมาทาบทามเด็กสาวเพื่อส่งเข้าประกวดตามเวทีต่าง ๆ แต่สุเทพสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดเพราะเกรงว่าลูกสาวจะดำเนินรอยตามเท้าของผู้ เป็นแม่ สร้างความไม่พอใจให้กับปรางค์ฉายเป็นอย่างยิ่ง เธอจึงมักไประบายความทุกข์ ความกดดันทั้งหมดให้กับ แวววรรณ เพื่อนสนิทได้รับฟังอย่างเสมอ ความผูกพันทางสายเลือดที่ปรางค์ฉายมีต่อไปรยา อีกทั้งความใฝ่ฝันของเด็กสาวที่อยากจะเป็นนางแบบ จึงทำให้ปรางค์ฉายคิดที่จะติดต่อกับไปรยา จนกระทั่งเธอได้ที่อยู่ของนางแบบในฝันจากนิตยสารฉบับหนึ่ง ปรางค์ฉายจึงใช้จดหมายในการติดต่อพูดคุยกับไปรยา ซึ่งเมื่อสาวใหญ่ได้อ่านข้อความนั้นพร้อมรูปถ่ายที่ส่งมา เธอก็รู้ทันทีว่านั่นคือลูกสาวของเธอ สร้างความดีใจให้กับไปรยาเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อผู้เป็นแม่รู้ถึงความทุกข์ใจของลูกจากจดหมายที่เขียนมา ไปรยาก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะหาทางช่วยเหลือลูกสาวของเธอ สาวใหญ่ตัดสินใจหาวิธีให้ปรางค์ฉายหนีเข้ากรุงเทพฯ เพื่อพบกับเธอจนเป็นผลสำเร็จ แต่เธอก็ไม่ได้บอกความจริงให้เด็กสาวรับรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอก็คือแม่ บังเกิดเกล้าของเด็กสาวนั่นเอง ปรางค์ฉายเล่าถึงความฝันของเธอที่อยากเป็นนางแบบให้ไปรยาฟัง ผู้เป็นแม่จึงไม่อาจทำลายความฝันของลูกเหมือนกับที่เธอได้เคยถูกขัดขวางจาก ผู้เป็นสามีมาก่อน สาวใหญ่จึงสนับสนุนปรางค์ฉายในทุกๆ ด้าน จนผู้เป็นลูกสาวได้เป็นนางแบบสมใจ และเริ่มโด่งดังในหมู่สังคมชั้นสูง สร้างความลำพองใจให้กับเด็กสาวไม่น้อย ไปรยาสังเกตเห็นความหลงใหลในชื่อเสียงและเงินทองของลูกสาวจนเกินที่จะห้าม ปราม เธอจึงได้ระบายความทุกข์ใจและกังวลใจให้กับอรรถ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่มักจะว่าจ้างเธอให้ไปเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าให้กับเขา จนทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างลึกซึ้ง
ความ สัมพันธ์ระหว่างไปรยากับอรรถสร้างความไม่พอใจให้กับแสงแข อดีตภรรยาของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ด้วยความที่ยังหวงแหนในตัวอดีตสามีเธอจึงได้ส่ง รุจ ผู้เป็นลูกชายไปคอยสอดส่องดูแลความประพฤติของอรรถที่บ้านและรายงานความ เคลื่อนไหวให้เธอได้รู้เป็นระยะ เพราะรุจไม่เคยทราบว่าพ่อของเขานั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับไปรยาเกินกว่า คำว่าเพื่อนและผู้ร่วมงาน ชายหนุ่มจึงเผลอใจหลงใหลในความสวยและความสามารถของไปรยา จนทึกทักว่าเขาหลงรักในตัวนางแบบสาวใหญ่ แต่ด้วยความที่ไปรยาพยายามที่จะทำตัวให้เข้ากับครอบครัวของอรรถเธอจึงไม่ ระแคะระคายในความรู้สึกที่รุจมีให้กับเธอ ไปรยาคิดเพียงว่าที่รุจมีไมตรีอันดีต่อเธอนั้นเสมอเหมือนเด็กพึงมีต่อ ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ยังหวังที่จะให้รุจแต่งงานกับปรางค์ฉายในอนาคตข้างหน้า แต่ปรากฎว่าทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมากันอย่างรุนแรง เพราะรุจมองเห็นว่าปรางค์ฉายนั้นน่าจะตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือมากกว่าการ ที่ที่จะมาเฉิดฉายตัวบนเวทีแคทวอล์ค หรือตามหน้านิตยสารต่าง ๆ ในขณะที่ปรางค์ฉายก็เข้าใจว่ารุจต้องการที่จะกีดกันเธอออกไปจากชีวิตของไป รยา เพราะต้องการอยู่ใกล้ชิดนางแบบสาวใหญ่อย่างเต็มที่นั่นเอง
ความ ก้าวหน้าในหน้าที่การงานของสองแม่ลูกทำให้ กิรณา นางแบบสาวในสังกัดเดียวกันเกิดความอิจฉาริษยา หล่อนจึงมักหาทางกลั่นแกล้งสองแม่ลูกอยู่เสมอ โดยมีภาวิณี เพื่อนสนิทให้ความช่วยเหลือ กิรณากับภาวิณีมักจะไปขอเลือกชุดที่จะเดินแบบให้กับห้องเสื้อของ เพียงใจ ตัดหน้าสองแม่ลูกก่อนเสมอ เพราะอยากเดินแบบในชุดที่สวยกว่า ครั้นไปรยาต่อว่าคุณเพียงใจ แต่ความผิดทั้งหมดก็จะตกอยู่ที่แป๋ว ผู้เป็นลูกมือของดีไซน์เนอร์เสมอ ยิ่งไปกว่านั้น กิรณาก็แอบมีใจชอบในตัวรุจอยู่มาก แต่ชายหนุ่มไม่เคยสนใจในตัวเธอแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่กิรณาเสนอตัวที่จะเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าให้กับบริษัทของเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่รุจก็ไม่เคยเลือกเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว จึงยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับกิรณาเป็นอย่างมากจนทำให้หญิงสาวถึงกับคิดที่ จะทำลายชื่อเสียงของสองแม่ลูก และโค่นล้มทั้งคู่ลงจากเวทีแคทวอล์คให้จงได้ แต่เมื่อกิรณามองไม่เห็นหนทางจึงไปขอร้องให้เมธิส เพื่อนผู้เป็นนายแบบและนักร้องชื่อดังมาช่วยอีกแรง หนึ่งเพราะเขาเองก็มีใจชอบพอในตัวปรางค์ฉายอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว แผนการร้ายของทั้งสามที่จะทำลายชื่อเสียงของสองแม่ลูกจึงดำเนินต่อไปอย่าง แยบยล ปรางค์ฉายที่ไม่เคยนึกถึงอะไรนอกเสียจากหนทางที่จะโด่งดังให้ทัดเทียมกับไป รยา เธอจึงยอมคบหากับเมธิสอย่างออกนอกหน้าสร้างความหนักใจให้กับไปรยาเป็นอย่าง ยิ่ง กิรณาพยายามหาเรื่องมาปั่นหัวให้ปรางค์ฉายเข้าใจผิดในตัวของไปรยา เหตุเพราะนางแบบสาวใหญ่สั่งห้ามไม่ให้ลูกสาวถ่ายแบบในชุดว่ายน้ำ เพราะยังดูไม่เหมาะสม แต่ปรางค์ฉายกลับมองว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย ค่าตัวในการถ่ายแบบก็ค่อนข้างสูง น่าจะฉกฉวยโอกาสนี้ไว้ แต่ไปรยาก็ยังยืนยันคำสั่งห้ามเดิม ในขณะที่ตัวของเธอเองกลับถ่ายแบบในชุดว่ายน้ำเสียเอง กิรณาจึงใส่ไปไปรยาว่าเป็นเพราะกลัวเด็กสาวจะโด่งดังกว่าตน ทำให้ปรางค์ฉายเริ่มคลางแคลงใจในตัวไปรยา และพยายามดึงดันที่จะถ่ายแบบในชุดว่ายน้ำ นางแบบสาวใหญ่ระบายความทุกข์ในครั้งนี้ให้กับอรรถได้รับรู้ หนุ่มใหญ่จึงหาทางออกด้วยการขอร้องให้รุจช่วยเหนี่ยวรั้งปรางค์ฉายเอาไว้ บ้าง
รุจ เริ่มสงสัยในความสนิทสนมของพ่อกับไปรยา เขาจึงเฝ้าจับตามองพฤติกรรมของคนทั้งสอง จนจับได้ว่าพ่อของเขากับไปรยามีความสัมพันธ์กันฉันท์สามีภรรยา ชายหนุ่มเสียใจมากกับเรื่องนี้ เขาจึงโยนความผิดทั้งหมดให้กับไปรยา แต่มาระบายความโกรธแค้นลงที่ตัวของปรางค์ฉาย กิรณาและเมธิสจึงใช้เรื่องนี้ใส่ร้ายไปรยาว่าเป็นต้นเหตุทั้งหมด จึงทำให้ความบาดหมางของสองแม่ลูกและรุจกับอรรถทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ปรางค์ฉายคิดอยากจะมีชื่อเสียงโด่งดังเพื่อแข่งรัศมีกับไปรยา ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจแยกตัวออกมาจากบริษัท สตาร์ โมเดลลิ่ง ของเหมียวและแหม่มไปอยู่กับค่ายมาโนช ซึ่งแท้จริงแล้วเบื้องหลังธุรกิจโมเดลลิ่งของหนุ่มใหญ่ คือ เอเจนซี่ส่งนางแบบสาวให้บรรดาเสี่ยๆ นักการเมือง และผู้มีอิทธิพลทั้งหลายในราคาที่สูงลิบ มาโนชจึงทำทีสนับสนุนป้อนงานดีๆ ให้กับปรางค์ฉายเพื่อให้หญิงสาวตายใจ
เมื่อปรางค์ฉายออกไปใช้ชีวิต ตามลำพังในสังคมที่รายล้อมด้วยอันตราย ด้วยความห่วงใยที่ผู้เป็นแม่มีให้กับลูกเสมอมา ไปรยาจึงไปขอร้องให้ปรางค์ฉายกลับมาอยู่ที่บ้านของเธอ แต่นางแบบสาวใหญ่กลับถูกเลือดในอกต่อว่ามาอย่างสาดเสียเทเสีย สร้างความปวดร้าวให้กับไปรยาเป็นอย่างยิ่ง แต่รุจกลับสาสมใจเมื่อเห็นไปรยาตกอยู่ในความทุกข์ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังแกล้งทำทีไปปลอบใจปรางค์ฉายเพื่อให้หญิงสาวเข้าใจว่า ตัวเขานั้นหวังดีต่อเธอ แต่แท้จริงแล้วชายหนุ่มได้ซ่อนแผนการร้ายเพื่อที่จะทำให้ปรางค์ฉายผิดหวัง และเสียใจในภายหลัง กิรณาที่จ้องทำลายสองแม่ลูกอยู่ตลอดเวลา วันหนึ่งเธอบังเอิญได้รู้จักกับแวววรรณซึ่งหญิงสาวไม่อาจรู้ว่ากิรณานั้น จ้องที่จะทำร้ายเพื่อนรักของเธอ แวววรรณจึงเล่าประวัติความเป็นมาของปรางค์ฉายให้กิรณาและเมธิสรู้ทั้งหมด นางแบบสาวขี้อิจฉาจึงเอาเรื่องดังกล่าวที่ได้รู้มาไปขู่ไปรยาและรีดไถเงิน จากนางแบบสาวใหญ่ชื่อดังเพื่อเป็นค่าปิดปาก ปรางค์ฉายสนุกอยู่กับการใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีในโลกกว้างของเธอโดยที่ไม่ อาจมีใครทัดทานเธอได้ เรื่องนี้รู้ไปถึงสุเทพ เขาโกรธมากที่ไปรยาไม่อาจดูแลบุตรสาวได้ดี หนุ่มใหญ่จึงคิดที่จะขึ้นมากรุงเทพฯ เพื่อพาตัวปรางค์ฉายกลับไปใช้ชีวิตที่บ่อสร้างดังเดิม แต่ถูกอัปสรห้ามเอาไว้ โดยผู้เป็นภรรยาให้เหตุผลว่ารอดูเหตุการณ์ไปอีกสักระยะหนึ่งเผื่อว่าจะมี อะไรที่ดีขึ้น รุจสะใจมากที่เห็นปรางค์ฉายทำตัวเหลวแหลก เขาขู่ไปรยาว่าจะเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตของปรางค์ฉาย ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รักเด็กสาวผู้นั้นเลย สร้างความกังวลใจให้กับไปรยาเป็นยิ่งนัก แต่อรรถก็ปลอบใจว่าลูกชายของเขานั้นมีความรับผิดชอบขออย่าได้เป็นกังวลใจให้ กับไปรยาเป็นยิ่งนัก แต่อรรถก็ปลอบใจว่าลูกชายของเขานั้นมีความรับผิดชอบขออย่าได้เป็นกังวล
กิรณา โกรธและแค้นใจมากเมื่อเห็นปรางค์ฉายสนิทสนมและไปมากับรุจอยู่บ่อยครั้ง เธอจึงบอกให้มาโนชรีบทำลายอนาคตเด็กสาวเสีย แต่เมธิสไม่เห็นด้วยเพราะเขามีใจรักปรางค์ฉายอย่างแท้จริง ชายหนุ่มจึงพยายามขัดขวางมาโนชทุกวิถีทาง จนกระทั่งถูกสมุนของเจ้าของบริษัทโมเดลลิ่งเจ้าเล่ห์จับไปรุมซ้อมตักเตือน อยู่หลายครั้ง ชื่อเสียงของปรางค์ฉายเริ่มโด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการนางแบบ แต่ก็ยังไม่อาจเทียบเท่ากับไปรยาได้ ทั้งนี้ก็เพราะรุจคอยส่งเสริมหญิงสาวในทางที่ผิดๆ เสมอ แต่มีบางสิ่งที่ชายหนุ่มเริ่มสงสารปราค์ฉาย ด้วยเพราะหญิงสาวมักจะเพ้อฝันถึงครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่ลูกอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาให้เขาฟังอยู่เสมอ จึงเป็นจุดอ่อนทำให้ชายหนุ่มคลายความโกรธแค้นและเริ่มหลงรักหญิงสาวในที่สุด
เมื่อ กิรณาไม่อาจทำลายสองแม่ลูกและไม่อาจทำให้รุจหันมาสนใจในตัวเธอได้ หญิงสาวจึงนำเรื่องเสื่อมเสียของปรางค์ฉายไปเล่าให้สุเทพฟัง หนุ่มใหญ่โกรธมากเมื่อรู้ว่าลูกสาวทำตัวเหลวแหลกจึงตามกิรณาขึ้นมาที่ กรุงเทพฯ ในขณะที่ปรางค์ฉายกำลังจะเดินแบบในงานการกุศลครั้งยิ่งใหญ่โดยมีไปรยากับรุจ ให้กำลังใจอยู่ข้างเวที เมธิสรู้แผนการที่กิรณาจะทำลายชื่อเสียงของสองแม่ลูกและยังวางแผนที่จะส่ง เด็กสาวให้กับ เสี่ยวิโรจน์ หนึ่งในลูกค้าของมาโนชด้วยค่าตัวสูงลิบ ดังนั้นชายหนุ่มจึงตั้งใจว่าจะพยายามดึงตัวปรางค์ฉายออกไปจากงานโดยเร็วที่ สุด แต่ความตั้งใจของชายหนุ่มก็มิอาจเป็นจริงขึ้นมาได้เพราะเขาถูกลูกน้องของมา โนชทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต การเดินแบบการกุศลในครั้งนั้นคุณเพียงใจได้วางตัวให้ปรางค์ฉายเดินแบบในชุด สุดท้าย แต่ทุกอย่างก็พลิกผันเมื่อชุดสุดท้ายที่เตรียมมานั้นอยู่ในขนาดของไปรยา ด้วยเพราะกิรณาหลอกแป๋วว่าเพียงใจเปลี่ยนให้ไปรยาสวมชุดนั้นเพราะเกรงว่าจะ ออกมาไม่งดงาม และอาจทำให้การประมูลได้ราคาต่ำ ดังนั้นนางแบบในชุดสุดท้ายจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากไปรยาเพียงผู้เดียว นางแบบสาวใหญ่ชื่อดังไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของผู้จัดงานได้ อีกทั้งเหมียวและแหม่มก็ออกปากขอร้อง ไปรยาจึงจำใจต้องรับหน้าที่นางแบบกิตติมศักดิ์ในชุดสุดท้าย และเธอก็พยายามส่งสายตาขอโทษปรางค์ฉายซึ่งกำลังยืนผิดหวังและโกรธแค้นในตัว เธออย่างรุนแรง
ในขณะที่ไปรยา กำลังวาดลีลานางแบบตลอดกาลบนแคทวอล์ค ตรึงสายตาของแขกที่มาร่วมงานทุกคู่ให้จดจ้องมาที่เธอแต่เพียงผู้เดียว กิรณาก็พาสุเทพขึ้นไปบนเวทีแล้วประกาศว่าสุเทพคือพ่อที่แท้จริงของปรางค์ฉาย ส่วนแม่ของเธอคือไปรยานางแบบสาวใหญ่ชื่อดังที่กำลังยืนอยู่กลางเวทีนั่นเอง ปรางค์ฉายอับอายต่อเสียงวิพากย์วิจารณ์ของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเป็นอย่าง ยิ่ง หญิงสาวร้องไห้เสียใจและวิ่งเตลิดเปิดเปิงออกไปจากงาน เคราะห์ร้ายเธอถูกลูกสมุนของมาโนชจับตัวไป แต่รุจก็ออกมาเห็นเหตุการณ์นั้นพอดี ชายหนุ่มจึงรีบขับรถติดตามไปเพื่อช่วยเหลือหญิงที่ตนรัก รุจติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยสกัดจับผู้ร้ายกลุ่มนี้อีกทางหนึ่ง แต่ชายหนุ่มกลับโชคร้ายประสบอุบัติเหตุรถคว่ำลงข้างทางจนสิ้นสติไปก่อน ปรางค์ฉายได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันท่วงที ส่วนกิรณากับมาโนชก็ถูกกระชากหน้ากากอันแท้จริงของเธอและเขาออกมา และถูกจับกุมดำเนินคดีในเวลาต่อมา อัปสร แวววรรณ และปองจิต ตามสุเทพขึ้นมาที่กรุงเทพฯ เพื่อเตือนสติหนุ่มใหญ่ว่าอย่าทำอะไรที่ทำร้ายจิตใจปรางค์ฉายไปมากกว่านี้ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดก็ทำให้เด็กสาวช้ำชอกใจพออยู่แล้ว สุเทพจึงยอมให้ปรางค์ฉายอยู่ในความดูแลของไปรยาตราบเท่าที่บุตรสาวต้องการ ปองจิตนำหลักฐานที่ไปรยาติดต่อกับเธอตั้งแต่จากบ่อสร้างไปเพื่อต้องการไป เป็นนางแบบอย่างที่ฝันเอาไว้มาให้หลานสาวได้รับรู้ ด้านสุเทพเองก็ยอมรับว่าเขานั้นกีดกันไม่ให้สองแม่ลูกมีโอกาสได้พบกันตลอดมา
ปรางค์ฉายขอโทษไปรยากับทุกสิ่งที่ผ่านมา เธอสารภาพว่าเป็นทิฐิและความอิจฉาริษยาในความโด่งดังของผู้เป็นแม่จึงเป็น ต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ร้ายทั้งหมดอีกทั้งยังต้องมาสูญเสียเพื่อนสนิทอย่าง เมธิสไป สองแม่ลูกปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ปรางค์ฉายตัดสินใจออกจากวงการนางแบบ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่บ่อสร้าง แต่แวววรรณก็ห้ามหญิงสาวเอาไว้เพราะตราบใดที่รุจยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ เนื่องจากต้องเสี่ยงชีวิตไปช่วยเหลือเธอ ดังนั้นปรางค์ฉายจึงต้องมีหน้าที่พยาบาลรุจให้หายดีเสียก่อน สองหนุ่มสาวปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด รุจยอมรับว่าเขากลั่นแกล้งปรางค์ฉายไปทั้งหมดก็เพราะเขาผิดหวังในตัวของไป รยาแม่ของเธอ แต่ ณ เวลานี้ชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าไปรยานั้นไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ครองของเขาทั้ง ด้วยเรื่องอายุ และสภาพแวดล้อมทางสังคม ซึ่งปรางค์ฉายก็เข้าใจในเหตุผลทั้งหมดของชายหนุ่ม ทั้งคู่อาจจะปรับความเข้าใจและลงเอยกันอย่างมีความสุขถ้าไม่มีแสงแขเข้ามา กีดกันเสียก่อน สาวใหญ่ขับไล่ไสส่งปรางค์ฉายให้ออกไปจากชีวิตของลูกชายเธอ เพราะคุณแสงแขแค้นใจที่อรรถตัดสินใจที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับไปรยา
ปรางค์ฉายเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธออ้อนวอนให้สุเทพ อัปสร แวววรรณ และปองจิต พาเธอกลับไปใช้ชีวิตที่บ่อสร้างอย่างที่เคยตั้งใจไว้ แต่ก่อนกลับปรางค์ฉายก็ได้ฝากจดหมายร่ำลาให้แวววรรณไปมอบให้กับรุจ ชายหนุ่มทนไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียปรางค์ฉายไปอีกคนหนึ่ง เขาจึงพยายามชี้แจงความรู้สึกที่มีต่อปรางค์ฉายให้ผู้เป็นแม่เข้าใจ จนกระทั่งแสงแขใจอ่อนยอมให้ลูกชายติดตามปรางค์ฉายกลับคืนมาโดยที่เธอจะไม่ ขัดขวางความรักของเขาทั้งสองอีกต่อไป
นำแสดงโดย
1. มยุรา เศวตศิลา แสดงเป็น ไปรยา
2. น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ แสดงเป็น ปรางค์ฉาย
3. อานัส ฬาพานิช แสดงเป็น รุจ
4. สิรินยา เบอร์บริดจ์ แสดงเป็น กิรณา
5. โอลิเวอร์ พูพาร์ท แสดงเป็น เมธิส
6. มาริสา สัมฤทธิ์สุข แสดงเป็น ภาวิณี
พรายปรารถนา
ปมปริศนาการตายอย่างลึกลับของ จุลจันทร์ หญิงสาวสวย เรียบร้อยอ่อนหวาน และยึดมั่นในความรักแม้ว่าความตายก็ไม่สามารถพรากเธอไปจากแฟนหนุ่ม นิมมาน ชายหนุ่มที่มีบุคลิกเงียบขรึม ค่อนข้างใจร้อน ลูกชายคนเดียวของท่านนายพลนครที่ไม่ค่อยชอบจุลจันทร์มากนัก จนทำให้วิญญาณรักของเธอยังวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุไม่ไปไหน หลังจากการตายของจุลจันทร์ เรื่องราวทั้งหมดก็ถูกปิดเงียบไม่มีใครพูดถึง จนกิรณา AE สาวประจำบริษัทโฆษณาของเด่นภูมิ ได้ย้ายเข้ามาพักในห้องที่จุลจันทร์ถูกฆ่าตาย
ทุกๆ คืนกิรณาก็พบกับความฝันแปลกๆ ที่เห็นภรรยาสาวท้องอ่อนๆ ที่เฝ้าดูแลกันด้วยความรักภายในห้องของเธอ รวมถึงภาพการฆาตกรรมที่ไม่เห็นหน้าของผู้ร้าย จนวันหนึ่งเธอก็ได้มาพบกับนิมมานเพื่อนของเด่นภูมิ ทำให้เธอรู้ว่านิมมานเป็นผู้ชายคนเดียวกับคนที่เธอเห็นในฝัน และเธอก็รู้ว่าความฝันที่เธอได้เห็นนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดา มีบางอย่างที่อยากจะให้เธอช่วย กิรณาเลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ พีรยศ สาวประเภทสองเพื่อนสนิทในที่ทำงานของเธอฟัง ทั้งสองพยายามสืบค้นเรื่องราวการตายของจุลจันทร์ แต่ก็ถูกขัดขวางจากเด่นภูมิ และวิรตี ภรรยาสาวของเด่นภูมิที่แอบหลงรักนิมมาอยู่
วิญญาณ ของจุลจันทร์มาขอให้กิรณาพานิมมานมาหาเธอที่ห้องนี้อีกครั้ง ยิ่งสืบค้นเท่าไหร่ก็ทำให้กิรณาใกล้ชิดกับนิมมานสนิทกันมากขึ้นจนเกิดเป็น ความรัก ทำให้วิรตีไม่พอใจขู่ว่าจะทำร้ายเธอถ้าหากเธอมายุ่งกับนิมมาน รวมทั้งวิญญาณของผีสาวที่คิดว่ากิรณาจะมาแย่งคนรักไป เลยเปลี่ยนมาเป็นความริษยาต่อกิรณาแทน ทำร้ายกิรณาจนเข้าโรงพยาบาล พอนิมมานรู้เรื่องทั้งหมดก็รีบไปพบวิญญาณของจุลจันทร์ที่ห้องนั้นอีกครั้ง นิมมานอธิบายความรู้สึกทั้งหมดว่าเขาไม่เคยหมดรักเธอเลย แต่ทั้งเขาและเธอต่างอยู่กันคนละโลก จุลจันทร์เข้าใจและหายตัวไปจากห้องนั้นไม่ปรากฏร่างให้เห็นอีกเลย
นิมมาน ตัดสินใจที่จะรื้อฟื้นคดีฆาตกรรมของจุลจันทร์ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ถูกขัดขวางจากหลายๆ คนทั้ง เด่นภูมิ, วิรตี และ เกริก ทหารคนสนิทของพ่อที่เกิดและเติบโตมาพร้อมๆ กับนิมมาน ระหว่างที่นิมมานพากิรณามาเก็บข้าวของในห้องพักเพื่อหาที่อยู่ใหม่ แต่แล้วบุคคลลึกลับก็บุกเข้ามาในห้องแล้วทำร้ายนิมมานจนสลบก่อนจะหันไปรัดคอ กิรณา บุคคลลึกลับคนนั้นคือ…เกริก เขาพยายามที่จะฆ่าปิดปากกิรณาและนิมมานเพราะเขาเองคือฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าจุลจันทร์
ใน วันที่เกิดเหตุท่านนายพลสั่งให้เกริก ไปสั่งสอนจุลจันทร์ว่าไม่ให้ยุ่งกับนิมมาน แต่เกริกกลับอิจฉาริษยาทั้งหน้าที่การงาน และความรักของนิมมานเลยจัดการฆ่ารัดคอจุลจันทร์ และลวงให้ทุกคนคิดว่าเป็นฝีมือของนิมมาน ส่วนเด่นภูมิจริงๆแล้วเป็นเกย์แอบหลงรักนิมมานอยู่ ที่ต้องแต่งงานกับวิรตีเพราะว่าในวันที่เกิดเหตุ เด่นภูมิปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อจะเข้าไปแกล้งบอกกับจุลจันทร์ว่าอย่ามายุ่ง กับนิมมานแต่เห็นจุลจันทร์นอนตายอยู่ เลยตกใจรีบไปบอกวิรตี เวลานั้นวิรตีคิดแต่จะช่วยเด่นภูมิจึงให้เด่นภูมิแต่งงานกับเธอเพื่อกลบเกลื่อน
ในขณะที่กิรณากำลังจะหมดลมหายใจ วิญญาณของจุลจันทร์ก็ปรากฏตัวขึ้นมาช่วยกิรณา และแก้แค้นเกริกได้ในที่สุด หลังจากทุกอย่างคลี่คลายกิรณาและนิมมานกลับไปที่ห้องพักนั้นอีกครั้ง กลิ่นหอมของดอกจันทร์กระพ้ออบอวล วิญญาณของจุลจันทร์มาร่ำลากิรณา และฝากฝังให้กิรณามีความรักที่มั่นคงกับนิมมาน กิรณารับปากว่าจะรักและดูแลนิมมานอย่างดีสมกับความปรารถนาของจุลจันทร์
รายชื่อนักแสดงละคร พรายปรารถนา
ธนากร โปษยานนท์ รับบท นิมมาน
ธัญญาเรศ รามนรงค์ รับบท จุลจันทร์
น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ รับบท กิรณา
เมธี อมรวุฒิ รับบท เด่นภูมิ
พรนภา เทพทินกร รับบท วิรตี
สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ รับบท เกริก
ฝันเด่น จรรยาธนากร รับบท พีรยศ
ละคร พรายปรารถนา
ออกอากาศ ในวันจันทร์-อังคาร เวล า 20.15 น. ทางช่อง 3
บ่วงรักกามเทพ
สุมน(ดวงตา ตุงคะมณี)เรียกตัวภูบดี(ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์)กลับจากอเมริกาด่วน เพื่อมาจัดการปัญหาใหญ่ของครอบครัว เพราะภาวัต(ชยธร เศรษฐจินดา)น้องชายคนเดียวดันไปติดพันอรณี(สิ นิทธา บุญยศักดิ์) แม่หม้ายอายุแก่กว่าถึง 5 ปี ภูบดีทนไม่ได้ที่เห็นมารดาไม่สบายใจจึงเข้ามาสะสางปัญหา แต่ภาวัตก็ยืนกรานกับภูบดีว่ารักอรณีอย่างจริงใจถึงแม้เธอจะเคยมีสามีมาแล้ว และเป็นเพียงช่างเย็บผ้าจนๆ ภาวัตยอมทุกอย่างแม้ถูกตัดออกจากกองมรดก ทำให้ภูบดีเปลี่ยนแผนแอบไปเจรจากับอรณีแทน ภูบดีมั่นใจว่าเขาจะสามารถสะสางปัญหานี้ได้ด้วยเงิน
แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อคนที่มาเจรจาไม่ใช่อรณีแต่เป็นอรณิชา(น้ำ ทิพย์ จงรัชตวิบูลย์)น้องสาวปากกล้าไม่กลัวใคร ภูบดีเปิดฉากต่อว่าและดูถูกอรณิชาเพราะคิดว่าเป็นอรณี จนอรณิชาทนไม่ได้ตอบโต้กลับอย่างแรง ทำให้การเจรจาครั้งแรกไร้ผลเพราะอรณิชายืนยันไม่รับเงิน
จากเหตุการณ์นี้ทำให้อรณิชาเกลียดท่าทางหยิ่งยะโสและดูถูกคนของภูบดีเข้าไส้ เธอจึงบอกภาวัตว่าพี่ชายแอบมายัดเงินจ้างให้เลิก ทำให้ภาวัตไม่พอใจกลับไปต่อว่าภูบดี ทั้งสองคนทะเลาะกันรุนแรงจนสุมนต้องเร่งรัดให้ภูบดีจัดการเรื่องนี้ให้เรียบ ร้อยก่อนจะบานปลายมากไปกว่านี้ ภูบดีเลยยื่นข้อเสนอว่าถ้าอรณีรักภาวัตด้วยใจจริงต้องยอมให้ภาวัตไปดู งานบริษัทเปิดใหม่ที่อเมริกาเป็นเวลา 1 ปี ถ้าภาวัตจัดการงานสำเร็จและอรณียังรอได้โดยไม่มีคนอื่นจะยอมให้ทั้งคู่แต่ง งานกัน ทั้งภาวัตและอรณีต่างยอมรับข้อเสนอ มีเพียงอรณิชาที่ไม่วางใจ ก่อนเดินทางภาวัตแอบพาอรณีไปจดทะเบียนสมรสโดยมีทวี(ปกรณ์ มะโน)เพื่อนทนายคนสนิทมาเป็นพยาน ภาวัตให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหาอรณีเมื่อครบ 1 ปี โดยไม่เอะใจเลยว่าทุกอย่างเป็นเพียงกลลวงของ ภูบดี
ทันทีที่ภาวัตไปต่างประเทศ ภูบดีก็เริ่มแผนการบ่อนทำลายต่างๆ ให้สองคนติดต่อกันไม่ได้ แถมยังส่งนีน่า(พิชญ์นาฏ สาขากร)ลูกสาวคุณนายเนื้อนวล(รัญ ญา ศิยานนท์)เพื่อนสนิทสุมนไปประกบเพื่อสร้างกระแสข่าวในวงสังคมว่าทั้งคู่ กำลังคบหาดูใจกัน ทำให้อรณีเริ่มหวั่นไหวและเหตุการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่ออุทัย(สันติ สุข พรหมศิริ)พ่อของอรณีล้มป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตกต้องเข้ารับการผ่าตัด ด่วน ภูบดีรู้ข่าวรีบฉวยโอกาสยื่นเงินช่วยเหลือเพื่อแลกกับการเลิกกับภาวัต อรณีเก็บข้อเสนอของภูบดีมาคิดหนัก เพราะอาการของพ่อทรุดลงอย่างรวดเร็วอรณีจึงตัดสินใจรับข้อเสนอของภูบดี ซึ่งกว่าอรณิชาจะรู้เรื่องอรณีก็ทำสัญญาเลิกกับภาวัตไปเรียบร้อยแล้ว ภูบดีแกล้งซ่อนกล้องแอบถ่ายอรณีตอนมาขอเงินเพื่อเลิกกับภาวัต แล้วนำไปให้ภาวัตดูเพื่อยืนยันความเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินของอรณี แต่ภาวัตไม่เชื่อรีบกลับประเทศไทยทันทีเพื่อถามความจริงกับอรณีด้วยตัวเอง แล้วในที่สุดภาวัตก็ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต
เมื่ออรณีรู้ข่าวก็ร้องไห้แทบขาดใจ ที่งานศพภาวัตอรณิชาพาอรณีไปร่วมงาน สุมนด่าทออรณีกลางงานโทษฐานที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกชายตาย แต่อรณิชาด่ากลับว่าภูบดีและสุมนต่างหากคือต้นเหตุที่แท้จริง ภูบดีไล่ตะเพิดทั้งสองคนออกจากงานศพและประกาศก้องไม่ให้สองพี่น้องมาให้เห็น หน้าอีก อรณิชาพาอรณีออกจากงานไปพร้อมจิตใจที่บอบช้ำ อรณีหมดหวังในชีวิตจึงคิดสั้นฆ่าตัวตายตามภาวัต แต่อรณิชามาเห็นจึงรีบพาส่งโรงพยาบาล หมอช่วยชีวิตไว้ทันและบอกว่าเธอตั้งท้องได้ 2เดือน อรณีขอโทษทุกคนและตั้งใจว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูก ด้านภูบดีก็ได้รู้จากทวีว่าภาวัตจดทะเบียนสมรสกับอรณีแล้ว เธอจึงมีสิทธิ์ในสมบัติของครอบครัว ภูบดีจำใจต้องตามหาอรณีแต่กลับพบว่า
ครอบครัวของอรณีย้ายบ้านหนีไปแล้ว ภูบดีไปโรงพยาบาลที่อรณิชาทำงาน ก็ได้รู้ว่าเธอเพิ่งลาออกไป กิฟท์เก๋(อรจิรา แหลมวิไล)พยาบาลเพื่อนซี้ของอรณิชาบอกว่าเธอย้ายไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่ต่าง จังหวัด เพราะไม่อยากยุ่งกับครอบครัว ภูบดีอีก
อรณิชาพาอรณีกลับไปอยู่บ้านเก่าของพ่อที่แม่ฮ่องสอน อุทัยกลับไปทำไร่ อรณิชาไปเป็นพยาบาลในอนามัยเล็กๆ ส่วนอรณีทำหน้าที่เป็นแม่บ้านดูแลลูกในท้อง จนถึงวันคลอดเด็กปลอดภัยแต่อรณีเสียเลือดมากจนทนความเจ็บปวดไม่ไหวเสียชีวิต อรณิชาจึงต้องรับหน้าที่ดูแลต้นกล้า(เพลงไทย นิยมไทย)หลานชายในฐานะ”แม่นิ” นับจากนั้นเป็นต้นมา ส่วนภูบดีก็ต้องกลายมาเป็นเสาหลักในบ้าน เพราะพิภพ(นิ รุตติ์ ศิริจรรยา)เกษียณตัวเองจาตำแหน่งประธานบริษัทแล้วหันหน้าเข้าวัดเพราะรู้สึก ผิดที่ไปเจ้ากี้เจ้าการกับภาวัต ส่วนสุมนก็หม่นหมองซึมเศร้า ในขณะที่คุณนายเนื้อนวลและนีน่าเปลี่ยนเป้าหมายมาจับภูบดีแทน
ภูบดียังคงตามหาอรณีต่อไปจนกระทั่ง 5 ปีผ่านไป นักสืบนำข้อมูลการเสียชีวิตของอรณีมาบอกและแจ้งว่าเธอได้ให้กำเนิดบุตรชาย ไว้ 1 คน ภูบดีรู้ทันทีว่าเด็กคนนี้ต้องเป็นลูกของภาวัต ภูบดีนำความไปบอกสุมนเธอเลยขอร้องให้ภูบดีออกตามหาลูกของอรณีให้เจอ เพราะเธอคิดว่าการได้เลี้ยงลูกของภาวัตจะทำให้ความรู้สึกผิดในใจหมดสิ้นไป ภูบดีจึงต้องออกตามหาลูกของอรณีอย่างหนัก และแล้วการรอคอยที่เหนื่อยล้าก็จบสิ้น หลังจากอุทัยเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ กิฟท์เก๋ขึ้นมาร่วมงานศพและชวนอรณิชาไปทำงานที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ กิฟท์เก๋หว่านล้อมและเสนอเงินเดือนให้อรณิชาอย่างงามจนเธอสนใจ เพราะต้องการเงินสำหรับเลี้ยงดูต้นกล้าที่เริ่มโตขึ้น อรณิชาตัดสินใจกลับเข้ามาทำงานที่กรุงเทพอีกครั้ง และการกลับมาครั้งนี้ก็ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงตลอดไป
ในขณะที่ความหวังของภูบดีริบหรี่เต็มทนจนเขาเริ่มถอดใจ แต่เมื่อภูบดีต้องพาสุมนมาหาหมอประจำตัวที่โรงพยาบาลเดียวกับที่อรณิชาเข้า มาทำงาน เมื่อทั้งคู่ได้เจอกันภูบดีจำอรณิชาไม่ได้เพราะเธอดูสวย และเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจนผิดตา แต่สำหรับอรณิชาเธอจำเขาได้ขึ้นใจ ความโกรธแค้นในอดีตถูกปลุกขึ้นมาอีก อรณิชาแกล้งภูบดีให้ต้องอับอายหลายครั้ง ภูบดีสืบจนรู้ว่าเธอคนนั้นคืออรณิชาหญิงสาวที่เขาตามหามาตลอด 5 ปี ความหวังที่ดับวูบจึงเปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง
ภูบดีแอบสะกดรอยตามอรณิชาไปถึงบ้านจนได้เห็นต้นกล้า เขาถึงกับตะลึงเพราะต้นกล้าหน้าเหมือนภาวัตราวกับคนเดียวกัน แต่อรณิชายืนยันว่าต้นกล้าเป็นลูกของเธอ ภูบดีไม่เชื่อท้าให้ตรวจดีเอ็นเอจนอรณิชาต้องยอมรับว่าเป็นลูกของอรณีกับภา วัต แต่ยังไงภูบดีก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวต้นกล้าเพราะเธอมีจดหมายที่อรณีมอบสิทธิ์ ให้เธอเป็นผู้ดูแลต้นกล้าแต่เพียงผู้เดียว ทวีจึงถูกเรียกตัวมาเป็นที่ปรึกษาในการต่อสู้แย่งตัวต้นกล้า โดยทวียืนยันว่าหลักฐานที่อรณิชามีรัดกุมมาก ภูบดีไม่สามารถเอากฎหมายมาเล่นงานอรณิชาได้ เพราะฉะนั้นทางเดียวที่เขาจะได้ตัวหลานชายมาดูแลคือต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกล โกง
งานนี้ ภูบดีจะใช้แผนอะไรเพื่อให้ได้ตัวต้นกล้ามาดูแลและอรณิชาจะยอมหรือไม่ ? ศึกครั้งนี้ของภูบดีกับอรณิชาจะลงเอยอย่างไร ? ติดตามค้นหาคำตอบได้ในละคร บ่วงรักกามเทพ
รายชื่อนักแสดงละคร บ่วงรักกามเทพ
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ แสดงเป็น ภูบดี
น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ แสดงเป็น อรณิชา
อรจิรา แหลมวิไล แสดงเป็น กิฟท์เก๋
พิชญ์นาฏ สาขากร แสดงเป็น นีน่า
ปกรณ์ มะโน แสดงเป็น ทวี
นิรุตติ์ ศิริจรรยา แสดงเป็น พิภพ
ดวงตา ตุงคะมณี แสดงเป็น สุมน
สันติสุข พรหมศิริ แสดงเป็น อุทัย
รัญญา ศิยานนท์ แสดงเป็น เนื้อนวล
สินิทธา บุญยศักดิ์ รับเชิญในบท อรณี
ชยธร เศรษฐจินดา รับเชิญในบท ภาวัต
ด.ช. เพลงไทย นิยมไทย แสดงเป็น ต้นกล้า