Tag Archives: นัท มีเรีย

มารกามเทพ

รักที่ยาก..จะสมหวัง เมื่อความแค้นชิงชัง คือ…มารกามเทพ

น้ำหนึ่ง หรือ เพชรน้ำบุศย์(มนชนก แสงฉายเพียรเพ็ญ) ดีใจมากที่ได้เจอเพชร(ฌวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) วิศวกรหนุ่มหล่อรุ่นพี่ ที่น้ำหนึ่งแอบปลื้มตั้งแต่สมัยมัธยม แม่เพชรบอกรักและแสดงออกด้วยความจริงใจ น้ำหนึ่ง จึงรับรักเพชร เพชรดีใจมากขอน้ำหนึ่งแต่งงาน แต่รมต.เกรียงศักดิ์(สุรวุฑ ไหมกัน) และคุณหญิงดาราณี(กชกร นิมากรณ์) พ่อแม่ของน้ำหนึ่งไม่ยอมเพราะเห็นว่าสถานภาพทางสังคมของน้ำหนึ่งและเพชรแตกต่างกันเกินไป แต่เพชรก็บอกกับน้ำหนึ่งว่าเขาจะพิสูจน์ความรักจนกว่าพ่อแม่ของน้ำหนึ่งจะเห็นใจ น้ำหนึ่งดีใจมาก

แต่ภาคย์(เอเคอร์-ชมะนันทน์ อรรถจินดา) เพื่อนรุ่นพี่ของน้ำหนึ่ง ลูกชายของสมบัติ(สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) กับอารีย์(ภัสสร บุณยเกียรติ)เจ้าของร้านเพชร เสียใจมากเพราะภาคย์แอบหลงรักน้ำหนึ่งอยู่ แม้จะมีอลิส(แอริณ ยุกตะทัต) สาวไฮโซลูกสาวคนเดียวของคุณชายศิริศักดิ์ มาดามหัวใจ ภาคย์ก็ไม่สนใจ ทำให้อลิสโกรธมาก เพราะอลิสเป็นคู่แข่งของน้ำหนึ่งมาตั้งแต่ไหนๆ อลิสพยายามทำทุกอย่างให้น้ำหนึ่งไปจากชีวิตของเธอ

ที่สุดน้ำหนึ่งก็ได้แต่งงานกับเพชร ท่ามกลางความไม่เห็นชอบของรมต.ศิริศักดิ์และคุณหญิงดาราณีหลังแต่งงาน เพชรพาน้ำหนึ่งไปอยู่ที่บ้านเชิงเขา ที่นั่น น้ำหนึ่งได้พบกับทับทิม(อภิรดี ภวภูตานนท์) แม่ของเพชร และพลอย(นัท มีเรีย) พี่สาวขาพิการของเพชร สองคนมีทีท่ามึนตึงเฉยชากับน้ำหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะพลอยที่มีทีท่าว่าเกลียดชังน้ำหนึ่งตั้งแต่แรกเห็นน้ำหนึ่งไม่เข้าใจ แต่พยายามไม่สนใจ เพราะสงสารพลอยที่ขาพิการแต่แล้วน้ำหนึ่งต้องช็อกเมื่อพลอยพา รจนา(แคท-เปรมนลิน ธรรมเจริญ) เข้ามาในบ้าน พร้อมทั้งแนะนำว่ารจนาคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเพชร นั่นหมายถึง น้ำหนึ่งต้องตกอยู่ในฐานะ ภรรยาน้อย หรือภรรยาเก็บ เพราะน้ำหนึ่งไม่ได้จดทะเบียน น้ำหนึ่งเสียใจและตกใจมาก ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพชรจึงบอกในอดีตพ่อของน้ำหนึ่งได้ปลุกปล้ำขืนใจพลอย หนำซ้ำยังขับรถไล่ชนพลอยพิการ เพราะกลัวแม่ของน้ำหนึ่งรู้เรื่อง แต่เมื่อคุณหญิงดาราณีรู้เรื่อง ก็ยังส่งคนมาทำร้ายรังควานพลอยไม่สิ้นสุด ทำให้เพชรและครอบครัวโกรธแค้นมาก

เพชรบอกน้ำหนึ่งเขาไม่เคยรักเธอ ที่ทำทุกอย่างเพื่อให้น้ำหนึ่งตกหลุมรักเขาเท่านั้น น้ำหนึ่งจะต้องตกอยู่ในสภาพเมียเก็บ นางบำเรอของเขา เหมือนที่พลอยถูกพ่อของน้ำหนึ่งกระทำ น้ำหนึ่งทั้งตกใจและเสียใจมาก เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ทำร้ายพลอย และเพชรไม่เคยรักเธอ ต้องการตัวเธอมาเพื่อแก้แค้นเท่านั้น ด้วยความรัก น้ำหนึ่งยอมก้มหน้าชดใช้ความผิดแทนที่พ่อแม่โดยไม่คิดหนีกลับกรุงเทพแต่อย่างใด

ที่บ้านเชิงเขา น้ำหนึ่งต้องถูกเพชร พลอย และทับทิม ตลอดจนรจนาทำร้ายกายและหัวใจโดยเฉพาะต้องทนอยู่กับคนที่เหมือนมีอาการประสาทตลอดเวลาอย่างพลอย ไม่มีใครเห็นใจน้ำหนึ่ง มีแต่คนสะใจยกเว้นพจนีย์(อินทิรา เกตุวรสุนทร) พี่สาวของรจนา เพราะพจนีย์รู้ดีว่าความจริงแล้วเพชรและรจนาไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พจนีย์บอกน้ำหนึ่งไม่ได้ เพราะพลอยมีบุยคุณกับเธอ

ตาหวาน(คิตตี้-กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ) ที่ติดตามมารับใช้ดูแลน้ำหนึ่ง ไปบอกกับนวล(สุปราณี เจริญผล) แม่บ้านเรื่องน้ำหนึ่งถูกเพชรทำร้ายร่างกายและหัวใจ นวลสงสารน้ำหนึ่งมาก ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังเพชร นวลหาโอกาสเข้าไปเยี่ยมน้ำหนึ่งที่บ้านเชิงเขา เมื่อไปถึงที่นั่น นวลตกใจมากที่ได้เจอกับทับทิม เพราะในอดีตนวลพลั้งมือฆ่าคนตายต้องหนีหัวซุกหัวซุน นวลทั้งดีใจ เสียใจ ตกใจที่ได้ที่ได้รู้ว่าเพชรคือลูกชายของเธอ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นวลตกใจมากที่ได้รู้ว่าเพชรคือลูกชายของเธอ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นวลตกใจมากที่ได้รู้ว่าพลอยคือลูกสาวของทับทิม เพราะความจริงแล้ว พลอยคือหน้าห้องของเกรียงศักดิ์ที่ต้องการเป็นอนุ แต่เกรียงศักดิ์เป็นคนรักครอบครัว ไม่ได้ต้องการพลอยแบบนั้น พลอยโกรธและเสียใจมากที่ถูกปฏิเสธ วิ่งให้รถชนตาย แต่หมอณัฐ(แอม ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน) ลูกพี่ลูกน้องของอลิสช่วยเอาไว้ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พลอยขาพิการ แต่พลอยสร้างเรื่องโบ้ยความผิดว่าเป็นฝีมือของเกรียงศักดิ์และดาราณีทำให้ เพชรกับทับทิมโกรธแค้นมาก ที่สุดความแค้นมาตกที่น้ำหนึ่ง อลิสตามมาแฉซ้ำเรื่องความเลวร้ายของพลอย เพราะอลิสรู้เรื่องทุกอย่างดี พลอยโกรธมาก ฆ่าอลิส และทุกคนที่ขวางทางเธอ เพชรเสียใจมากที่สำร้ายน้ำหนึ่ง คนที่รักเขาสุดหัวใจ และยิ่งตกใจหนักเมื่อเพชรรู้ว่าที่แท้จริงแล้วพลอยแอบหลงรักเขาอยู่

เพชรจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่า “พลอย” พี่สาวที่แสนรัก น่าสางสารของเขาแท้จริงแล้วคือ “มารกามเทพ” ระหว่างเขากับน้ำหนึ่ง และพลอยจะทำอย่างไรเมื่อความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย เธอไม่ใช่คนน่าสงสาร แต่เธอคือ “มาร” คือความเลวร้าย สำหรับทุกคน

วังวารี

วังวารีวังวารี คฤหาสน์หลังงามที่แฝงไว้ด้วยความน่าสะพรึงกลัวบนเกาะแห่งทะเลอันดามัน โดยมีภาดล ชายหนุ่มรูปงามลึกลับเป็นเจ้าของรีสอร์ท การหายสาบสูญไปของหญิงสาวหลายคน รวมทั้งน้องสาวเพื่อนรัก ทำให้ริสา ต้องเข้ามาค้นหาความจริงใน วังวารี

ริสา กำพร้าพ่อแม่ เธอเลือกใช้ชีวิตอยู่คนเดียว โดยหวังว่าจะเป็นนักเขียนที่ทุกคนยอมรับ เธอได้กำลังใจจากเนตรศิริ เพื่อนรัก รวมถึงจงจิตต์ น้องสาวของเนตรศิริ ตลอดมา

จงจิตต์เป็นเด็กสาวชอบท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพียงลำพัง ล่าสุดเธอส่งจดหมายพรรณนาความงามของวังวารี และภาดล ผู้เป็นเจ้าของอย่างชื่นชม หลายเดือนต่อมา จงจิตต์ขาดการติดต่อไป เนตรศิริต้องการเดินทางไปตามหาน้องสาว แต่ประสบอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาลก่อน เนตรศิริขอร้องให้ริสาช่วย ริสาจึงเดินทางไปยังวังวารี โดยสวมรอยเป็นเนตรศิริ

ณ วังวารี ภาดลไม่ต้อนรับริสาเท่าไหร่นัก เมื่อรู้ว่าเธอมาตามหาจงจิตต์ รวมทั้งมยุรี ลูกพี่ลูกน้องของภาดล ก็ปฏิเสธเรื่องราวของจงจิตต์เช่นกันโดยย้ำว่าจงจิตต์เดินทางกลับกรุงเทพฯไป แล้ว ริสาจึงเลิกล้มความตั้งใจจะกลับกรุงเทพฯ แต่ที่สนามบิน เธอได้พบกับภุชงค์ เจ้าของเกาะมุก ภุชงค์มีน้องสาวชื่ออรทัย ซึ่งหายสาบสูญไปเช่นกัน และที่สำคัญ อรทัยคือคู่หมั้นของภาดลนั่นเอง

อรทัยหายไปเมื่อสองปีก่อน ภุชงค์ให้ตำรวจเข้าค้นวังวารีทุกซอกทุกมุมแต่ก็ไม่พบ ตั้งแต่นั้นมา ความเป็นเพื่อนของเขาและภาดลก็ขาดกัน รวมทั้งความสัมพันธ์ของเขากับมยุรีก็สิ้นสุดลง ภุชงค์มั่นใจว่าภาดลฆ่าน้องสาวของเขาและหญิงสาวอีกหลายคน แม้ริสาจะไม่ปักใจเชื่อ แต่เธอก็หวาดระแวงว่าภาดลน่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับการหายไปของจงจิตต์

ภุชงค์และริสากลับไปวังวารีอีกครั้ง ริสาค้นพบเรื่องราวมากมายที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น กุลยาน้องสาวอมโรคของภาดล โฉมฉาย พี่เลี้ยงร่างยักษ์ของกุลยา ในวังวารีไม่มีใครเข้าใกล้ริสา ยกเว้นฉัตรชัย พี่ชายมยุรีที่คอยเฝ้าตามริสาตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ ริสาเริ่มรู้ถึงความแตกแยกในวังวารี ว่าฉัตรชัยต้องการขายวังวารีให้นายหัวโชติ แต่ภาดลและมยุรีไม่ยอม

เวลาผ่านไป ริสาเริ่มค้นพบว่าภาดลนั้น แม้ภายนอกจะเงียบขรึม แต่ความจริงเขาเป็นคนอ่อนโยน เอาใจใส่ต่อกุลยา น้องสาวคนเดียวของเขา ริสาเริ่มมีใจให้ภาดลโดยไม่รู้ตัว

ดาลัด ลูกสาวของนายหัวโชติ เข้ามาพัวพันกับภาดล กุลยาออกอาการหวงพี่ชายจนดาลัดไม่พอใจ โฉมฉายออกโรงปกป้องกุลยา สร้างความแค้นใจให้แก่ดาลัดเป็นอย่างมาก ฉัตรชัยวางแผนลวงริสาไปทำมิดีมิร้ายบนเกาะสวรรค์ โชคดีที่ภาดลเป็นคนพาริสาไปแทน ทำให้ทั้งคู่ติดพายุอยู่บนเกาะ ที่นี่ทั้งสองคนเปิดใจรับรู้ถึงความในใจที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน

เมื่อกลับถึงวังวารี ทั้งสองต่างปกปิดความรู้สึกของตัวเองไม่ให้ใครรู้ ดาลัดวางแผนมอมยาภาดล จนภาดลต้องยอมตกลงแต่งงานกับดาลัด แต่ก่อนที่งานแต่งงานระหว่างภาดลและดาลัดจะมีขึ้น อาถรรพณ์แห่งวังวารีก็เกิดขึ้นอีกเมื่อดาลัดหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ภาดลหนักใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ริสาออกจากวังวารีโดยเร็วที่สุด แต่ริสาปฏิเสธ

นายหัวโชติส่งคนมายิงภาดล เพราะคิดว่าเขาคือคนฆ่าดาลัด ภาดลบาดเจ็บสาหัส ริสาเชื่อว่ามีผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลึกลับในวังวารี เธอจึงใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ทำทีเข้าไปใกล้ชิดกับภาดลมากขึ้น แผนการของริสาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ฆาตกรตัวจริงจะเผยโฉมหน้าออกมา หรือว่าริสาจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป

ผู้กำกับ : คนโพอิน
ผลิตโดย : โพลีพลัส
เขียนบท : ลลิตา ฉันทศาสตร์โกศล
บทประพันธ์ : โสภี พรรณราย

นักแสดง
เจษฎาภรณ์ ผลดี
นัท มีเรีย
นาเดีย นิมิตรวานิช
ปวริศร์ มงคลพิสิฐ
สมาพร เขียวบวร
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์

นิยายรักภาค 2

กฤช เจ้าของรายการวิทยุที่กำลังดัง เขาเป็นชายหนุ่มเคร่งขรึม บ้างานจนสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว กฤชมีพี่สาวคนเดียวชื่อ กัลย์ กฤชคอยเป็นห่วงใยดูแลกัลย์เพราะทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้า และกฤชสงสารกัลย์ที่ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตใน วันงานแต่งงาน วันหนึ่งวิชาญ ผู้จัดการทั่วไปพาหญิงสาวคนหนึ่งมาสมัครเป็นดีเจ เธอเป็นสาวสวยอารมณ์ดีดูร่าเริง ชื่อ พิมพ์ เมื่อพิมพ์กับกฤชพบกัน ทั้งสองคนมีอาการแปลกไป กฤชผลุนผลันออกจากบริษัท และขับรถไปเรื่อยจนมาถึงชายหาดเงียบสงบแห่งหนึ่งในพัทยา ความหลังเก่า ๆ พรั่งพรูเข้ามา สมัยกฤชเรียนนิเทศที่มหาวิทยาลัย กฤชเคยรักพิมพ์มาก เขาพยายามจะบอกรักพิมพ์ แต่พิมพ์บอกว่าให้คิดให้ดีก่อน เพราะคำคำนี้มีความหมายกับพิมพ์มาก กฤชพยายามแต่งเพลงให้พิมพ์ ทำให้เขาต้องใกล้ชิดกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเพราะกฤชไปขอคำแนะนำจากเธอ แต่งานนี้เขาเก็บเป็นความลับกับพิมพ์ ทำให้พิมพ์ เข้าใจผิดคิดว่ากฤชเปลี่ยนไป หลังจากนั้นพิมพ์ไปออกค่ายที่ต่างจังหวัดก็มีรุ่นพี่ ชื่อภูริ มาหลงรัก ความเข้าใจผิดของพิมพ์ที่มีต่อกฤชทำให้พิมพ์เสียใจมาก จึงเป็นโอกาสให้ภูริเข้ามาคอยเทคแคร์พิมพ์ กฤชได้ข่าวพิมพ์กับภูริและได้เห็นความสนิทสนมของทั้งคู่ กฤชเข้าใจว่าพิมพ์มีคนใหม่ทั้งสองเข้าใจผิดกันอย่างรุนแรง และเป็นเวลาเดียวกับที่พ่อแม่และว่าที่พี่เขยของกฤชประสบอุบัติเหตุทางรถ ยนต์เสียชีวิตพร้อม ๆ กันทำให้เขาเสียใจมาก ทำให้กฤชกฤชตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย และบินเรียนต่อต่างประเทศกระทันหัน ทิ้งเรื่องระหว่าง 2 คนไว้เป็นรอยแผลในใจ เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป พิมพ์เป็นแฟนภูริหลังจากเรียนจบพิมพ์และภูริก็ไปเรียนต่อที่อเมริกาจนจบ ปริญญาโท เมื่อกลับมาเมืองไทย ภูริเปิดร้านขายจิลเวอรี่ ภูริและแพรแม่ของพิมพ์พยายามช่วยเหลือและสนับสนุนให้ความฝันของพิมพ์ที่อยาก เป็นดีเจเป็นจริง แพรเลยฝากฝังพิมพ์กับวิชาญซึ่งเป็นน้องของเพื่อนแพร พิมพ์ได้ทำงานดีเจในบริษัท BLUE WAVE โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นบริษัทของใคร หลังจากที่ไปสัมภาษณ์งานและได้เจอกับกฤช พิมพ์ไปปรับทุกข์กับ แต่เพื่อนรักว่ารู้สึกแปลก ๆ ที่ได้พบกฤช ตู่โวยว่าพิมพ์ยังรักกฤชอยู่ พิมพ์กลับไปบ้านเธอก็นึกถึงแต่เรื่องในอดีตของเธอกับกฤช พิมพ์รู้ดีว่าความรักที่เธอมีต่อกฤชไม่เคยจางหายไป กฤชติดต่อกลับมาหาพิมพ์ว่าต้องการให้เธอไปเป็นดีเจให้เขา พิมพ์ตอบตกลงโดยบอกตู่ให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เมื่อได้มาทำงานด้วยกันอีกครั้ง กฤชและพิมพ์ต่างก็ตระหนักดีว่า ความรู้สึกของทั้งคู่ไม่เคยเปลี่ยนไป วันหนึ่งในงานเลี้ยงของบริษัท พิมพ์ได้ร้องเพลงแห่งความหลังของทั้งเธอและกฤช และในคืนนั้นเองกฤชตัดสินใจที่จะลืมความเจ็บช้ำในอดีตและมาเริ่มต้นใหม่กับ พิมพ์อีกครั้ง แต่เมื่อภูริปรากฎตัวขึ้นมารับพิมพ์และบอกกฤชว่าเขากับพิมพ์กำลังจะหมั้นกัน แล้ว กฤชรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ความรู้สึกดี ๆ ที่กฤชกำลังจะมีให้เธอจบลงไปอีกครั้ง แต่แล้วในงานสัมมนาประจำปีของบริษัท ทุกคนโหวตให้จัดไปเที่ยวพัทยา ทั้ง ๆ ที่พิมพ์และกฤชคัดค้านกันอย่างสุดกำลัง ตกกลางคืนพิมพ์ไปเดินเล่นแล้วนึกถึงความหลัง ในขณะที่กฤชก็นอนไม่หลับเช่นกัน กฤชเดินมาเจอพิมพ์ในที่ที่กฤชเคยบอกรักพิมพ์ พิมพ์ขอตอบคำถามที่กฤชเคยถาม ซึ่งเธอยังไม่ได้ตอบว่าไม่เคยรู้สึกกับใครเหมือนอย่างที่รู้สึกต่อกฤช ทั้งคู่ปรับความเข้าใจและคืนดีกัน เมื่อกลับมากรุงเทพทั้งคู่พบว่าภูริรออยู่ ทั้งสองยิ่งทรมานใจกับโลกของความจริงที่เผชิญอยู่ พิมพ์เองไม่สามารถที่จะทิ้งภูริโดยที่เขาไม่ผิดอะไร กฤชก็ทุกข์ทรมานเมื่อเห็นคนที่ตนรักต้องอยู่กับผู้ชายคนอื่น ระหว่างหัวใจรักกับความถูกต้อง พิมพ์ควรจะเลือกใคร เธอจะมีความสุขจริงไหมถ้าเลือกความถูกต้อง แต่จะเป็นไปได้หรือถ้าหากเธอตัดสินใจเลือกหัวใจรักของเธอเอง โดยไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง

น้ำใสใจจริง 2537

น้ำใสใจจริง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความผูกพันของนักเรียน นักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเปิดใหม่ นอกกรุงเทพมหานคร แต่ละคนมาจากคนละที่ ต่างถิ่น ต่างความคิด และต่างนิสัย แต่ไม่มีวันทอดทิ้งกัน แม้ในยามเกิดปัญหา ความเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากก็คอยให้กำลังใจกัน ร่วมสุขร่วมทุกกัน มีความจริงใจมอบให้แก่กัน ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคหรือปัญหามาด้วยกันได้

นักแสดง น้ำใสใจจริง 2537

ศรราม เทพพิทักษ์
แคทลียา อิงลิช

ตราบาปสีขาว

ตราบาปสีขาว เป็นเรื่องราวของสามสาวเพื่อนรักที่เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า เดือนเพ็ญ (นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้) เป็นคนใจเด็ด เข็มแข็ง แก้วตา (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) เป็นคนใจอ่อน เรียบร้อยอ่อนหวาน ส่วน คำเอื้อย (ปานวาด เหมมณี) เป็นคนร่าเริ่งแจ่มใส มองโลกในแง่ดี ทั้งสามคนรักกันราวกับพี่น้องคลานตามกันมา

เมื่อ เดือนเพ็ญได้ไปพบรักกับ พรชัย (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) นักเลงหัวไม้ เธอจึงตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าเพื่อมาอยู่กินกับเขาทันที เดือนเพ็ญชวนแก้วตาและคำเอื้อยออกมาด้วย แต่ชีวิตของเดือนเพ็ญไม่สวยงามอย่างที่คิด เมื่อพรชัยชอบทุบตีเธอเพื่อรีดไถเอาเงินที่เธอหาได้ไปเล่นไพ่และกินเหล้าจน หมด เดือนเพ็ญจึงตัดสินใจหนีจากพรชัยเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อื่น คำเอื้อยรู้เข้าจึงขอติดตามเดือนเพ็ญไปด้วย

เมื่อวันสงกรานต์ อนล (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) วิศวกรหนุ่มจากกรุงเทพฯ ได้พาภรรยากับลูกชายแรกเกิดมาเยี่ยมแม่ยายของเขาที่เชียงใหม่ เป็นเวลาเดียวกับที่คำเอื้อยและเดือนเพ็ญตั้งใจไปบอกลาแก้วตาที่ร้านทอง แต่ไปเจอแก้วตาโดนเสี่ยเจ้าของร้านไล่ปล้ำ ทั้งสองจึงเข้าไปช่วยจนพลั้งมือทำร้ายเสี่ยร้านทองสลบไป

ในขณะที่สามสาวกำลังจะหนี ก็ดันไปเจอกับพรชัยที่ตั้งใจมาตามเดือนเพ็ญกลับบ้าน แต่พรชัยกลับเปลี่ยนใจไปขโมยของในร้านทองแทน สามสาวไม่ยอมเพราะรู้ดีว่าพรชัยจะป้ายความผิดให้พวกเธอ แต่ถูกพรชัยชักปืนขึ้นมาขู่ เดือนเพ็ญกับคำเอื้อยจึงเข้าไปแย่งปืนจนปืนลั่นใส่พรชัย สามสาวตกใจมากเพราะคิดว่าพรชัยตายแล้ว จึงขโมยรถที่จอดอยู่หลบหนีตำรวจทันที แต่ในรถคันนั้นดันมีกานดาและลูกชายอยู่ด้วย

ในระหว่างการหลบหนีเดือนเพ็ญกับแก้วตาทำปืนลั่นไปหลายนัด แต่แล้วพวกเธอก็ต้องตกใจอย่างสุดขีด เมื่อพบว่ากานดาเสียชีวิตเพราะโดนลูกหลงกระสุนปืนจากเดือนเพ็ญ ทั้งสามตัดสินใจขึ้นเรือขนสินค้าเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยพาลูกชายของกานดาไปด้วย

ที่ กรุงเทพฯ สามสาวได้ปลอมแปลงเอกสารเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เดือนเพ็ญเปลี่ยนเป็นดารณี แก้วตาเปลี่ยนเป็นการะเกด และคำเอื้อยเปลี่ยนเป็นอรทิพย์ โดยการะเกดขอตั้งชื่อเด็กว่า สงกรานต์ (สิงโต สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี) ตามวันและเวลาที่โชคชะตาของพวกเธอต้องพลิกผัน และด้วยความสงสารไม่อยากให้เด็กต้องมีสภาพเป็นเด็กกำพร้าเหมือนพวกเธอ การะเกดจึงให้สงกรานต์เรียกเธอว่าแม่

19 ปีต่อมา…สามสาวใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านห้องแถว อันเป็นมรดกที่ได้มาจากหญิงชาวจีน ทุกคนต่างตั้งตารอคอยวันที่คดีจะหมดอายุความ พวกเธอจะได้เป็นอิสระสักที แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอทั้งสามเมื่ออนลได้พบกับสงกรานต์ โดยที่ไม่รู้เลยว่าความจริงแล้วทั้งคู่คือพ่อลูกที่พลัดพรากกันมาถึง 19 ปี อีกทั้งอนลยังหลงรักแก้วตา ที่เขาเข้าใจว่าเป็นแม่แท้ ๆ ของสงกรานต์อีกด้วย ถ้าอนลรู้ความจริงว่า ผู้หญิงคนที่เขายอมเปิดหัวใจรักอีกครั้ง คือฆาตกรที่ฆ่าภรรยาของเขาเอง และสงกรานต์คือลูกชาย อนลจะทำยังไงกับสามสาว? ติดตามชม ละครตราบาปสีขาว

นักแสดงละคร ตราบาปสีขาว

ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับบทเป็น อนล
นัท มีเรีย รับบทเป็น เดือนเพ็ญ / ดารณี
โสภิตนภา ชุ่มภาณี รับบทเป็น แก้วตา / การะเกด
ปานวาด เหมมณี รับบทเป็น คำเอื้อย / อรทิพย์
สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี รับบทเป็น สงกรานต์
ภัสสร คงมีสุข รับบทเป็น ปลายฟ้า
เพ็ญเพชร เพ็ญกุล รับบทเป็น พรชัย
สถาพร นาควิไล รับบทเป็น จ่าดำรงค์
ตฤณ เศรษฐโชค รับบทเป็น เสี่ยวิบูลย์
ภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ รับบทเป็น ณัฐ
จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม รับบทเป็น กุ้ง

ดั่งดวงหฤทัย 2539

ดั่งดวงหฤทัย  เป็นเรื่องราวของแคว้นกาสิก พันธุรัฐ และทานตะ เป็นสามแคว้นที่อยู่ติดกัน กาสิกอยู่ด้านเหนือสุด เป็นแคว้นที่ร่ำรวย และมีทรัพยากรมาก แต่ไม่มีทางออกทะเล พันธุรัฐอยู่กลาง ค่อนข้างอุดมสมบรูณ์ และทานตะอยู่ใต้สุด ซึ่งเป็นแคว้นที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่มีทางออกทะเล กาสิกต้องการทางออกทะเลเพื่อขนส่งสินค้า เพื่อการนี้ รังสิมันต์ เจ้าหลวงแห่งกาสิกจึงตัดสินใจอภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งทานตะ

รังสิมันต์ กริ้วมากเมื่อทรงทราบข่าวจากกองทหารที่ส่งไปรับเสด็จ เจ้าหญิงมณิสรา พระคู่หมั้นจากแคว้นทานตะ ถวายรายงานว่าเจ้าหญิงหายไปที่รอยต่อชายแดน สามแคว้นคือ กาสิก พันธุรัฐ และ ทานตะ และน่าจะเป็นไปได้ว่าเจ้าหญิงหายเข้าไปในพันธุรัฐ แล้วเหตุใดพันธุรัฐถึงไม่ส่งตัวเจ้าหญิงกลับมา นั้นเท่ากับเป็นการหมิ่นพระเกียรติของเจ้าหลวง แห่งกาสิกอย่างยิ่ง เจ้าหลวงจึงตัดสินพระทัยไปสืบข่าวนี้ด้วยพระองค์เอง

แท้จริงแล้ว เจ้าหญิงมณิสราได้ตัดสินใจหลบหนีเองเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับชายที่ไม่ได้ รัก โดยเฉพาะยิ่งเป็นเจ้าหลวงกาสิก ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือทางด้านความโหดเหี้ยม เจ้าหญิงควบม้าหนีเข้ามาในชายแดนพันธุรัฐ ด้วยความที่ไม่ชำนาญในการขี่ม้ามากนัก เจ้าหญิงจึงตกจากหลังม้าทำให้ขาแพลง และยังเดินไปติดกับดักตาข่ายล่าสัตว์ของนายพรานถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ ขณะที่เจ้าหญิงกำลังสิ้นหวังและอ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งนั้นคือ เจ้าชายทยุติธร องค์รัชทายาทของแคว้นพันธุรัฐ เจ้าชายทยุติธรพาเจ้าหญิงมณิสราไปรักษาตัวที่ตำหนักป้อมปืน เจ้าหญิงจึงขอร้องเจ้าชายขอลี้ภัยอยู่ในพันธุรัฐ แต่ถ้าเจ้าชายยังยืนยันที่จะส่งตัวกลับ ก็จะขอให้ฆ่าตัวเองเสียดีกว่า ชายชาติทหารอย่างเจ้าชายทยุติธรจึงจำต้องอนุญาตให้เจ้าหญิงประทับอยู่ชั่วคราว

เมื่อเจ้าหญิงทรรศิกา พระขนิษฐาของเจ้าชายทยุติธร ทรงทราบข่าวลับ ๆ ว่าเจ้าชายช่วยเหลือเจ้าหญิงมณิสราไว้ โดยไม่ส่งตัวกลับในกาสิกก็ร้อนใจ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้อาจทำให้เกิดสงครามตามมาได้ จึงตัดสินใจจะไปที่ตำหนักป้อมปืนเพื่อทูลเชิญ เจ้าหญิงมณิสราเสด็จมาประทับฝ่ายในเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียพระเกียรติ แต่ระหว่างทางขบวนเสด็จถูกกลุ่มชายชุดดำซุ่มโจมตี ม้าของเจ้าหญิงเตลิดเข้าไปในป่า พลัดหลงกับองครักษ์ เจ้าหญิงทรรศิกาหนีเข้ามาในป่าเจอกับชายชุดดำ จึงขอร้องให้ช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าเจ้าหญิงกลับถูกวางยาสลบลงในน้ำชา

เมื่อฟื้นขึ้น เจ้าหญิงทรรศิกาจึงรู้ว่าถูกเจ้าหลวงแห่งกาสิก ผู้สามารถสั่งตัดหัว ตัดมือนักโทษได้ในระหว่างเสวยโดยไม่สะทกสะท้าน จับตัวมา เจ้าหลวงพยายามสอบถามเกี่ยวกับเจ้าหญิงมณิสรา แต่เจ้าหญิงทรรศิกาก็ไม่ทรงยอมตอบคำถามใด ๆ ซ้ำยังเห็นใจเจ้าหญิงมณิสราที่ต้องโดนบังคับแต่งานกับผู้ชายโหดเหี้ยม ป่าเถื่อนเช่นนี้ เจ้าหลวงโกรธมาก จึงตัดสินใจจับเจ้าหญิงทรรศิกาไว้เป็นตัวประกัน

ในขบวนมีแต่ทหารซึ่งเป็นผู้ชายทั้งนั้น เมื่อจู่ๆ ก็มีเจ้าหญิงอยู่ในขบวน เจ้าหลวงจึงสั่งให้ เบนลี ราชองค์รักษ์คู่ใจไปจ้าง กระวาน สาวชาวป่ามาเป็นนางกำนัลชั่วคราวให้เจ้าหญิงระหว่างทาง เจ้าหญิงทรรศิกาหลอกให้กระวานใส่เสื้อของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ใส่เสื้อของกระวาน แอบขโมยม้าหนีออกไปนอกค่าย แต่กลับถูกเจ้าหลวงจับได้ ขี่ม้าไล่ตามมา เจ้าหญิงหนีไปจนถึงน้ำตกตัดสินใจกระโดดน้ำตกหนี ขอตายเสียดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมือของเจ้าหลวงรังสิมันต์ เจ้าหลวงพาตัวเจ้าหญิงขึ้นมาจากน้ำตกได้ แต่ก็ทำให้ต้องพลัดกับขบวน เจ้าหลวงโมโหมากที่เจ้าหญิงทรรศิกาทำท่ารังเกียจพระองค์ขนาดนี้ทั้ง ๆที่ตอนแรกได้ปฏิบัติอย่างดีกับเจ้าหญิง ต่อแต่นี้ไปเจ้าหญิงจะได้รู้จักความป่าเถื่อนของชาวกาสิกจริง ๆ เสียที

เจ้าหลวงรังสิมันต์พาเจ้าหญิงทรรศิกามาสมทบ กับขบวนที่รออยู่ เจ้าหลวงสั่งลงโทษ ตัดมือกระวานที่ปล่อยให้เจ้าหญิงหนีไป เจ้าหญิงเข้ามาช่วยบอกว่ากระวานเป็นคนของพระองค์ ถ้าจะลงโทษกระวานก็ต้องลงโทษพระองค์ด้วย เจ้าหลวงบอกว่าตอนนี้พระองค์ไม่มีสิทธิเพราะอยู่ในฐานะเชลย แต่ตามประเพณีของชาวกาสิก ชีวิตก็แลกด้วยชีวิต ถ้าอยากให้ยกโทษให้กระวานก็ต้องเอาชีวิตมาแลกกัน เจ้าหลวงให้เรียก ราชิด ทหารคู่ใจอีกคนหนึ่ง ยืนมือให้เจ้าหญิงตัดแทนกระวาน แล้วแกล้งโยนดาบวางให้เจ้าหญิงเลือกว่าจะตัดมือใคร เจ้าหญิงอึ้งในความโหดร้ายของเจ้าหลวง จึงตัดสินใจหยิบดาบ เชือดมือตัวเอง แต่เจ้าหลวงจับไว้ทัน

เจ้าหลวงพาเจ้าหญิงทรรศิกาเดินทางลึกเข้ามา ในกาสิกเรื่อย ๆ โดยใช้เส้นทางที่ธุระกันดาร แต่เจ้าหญิงก็ไม่ย่อท้อ หรือปริปากบ่นไม่ว่าเจ้าหลวงจะแกล้งด้วยวิธีใด ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้นิสัยซึ่งกันและกัน ในขณะที่เจ้าหลวงเริ่มรู้จักทั้งความอ่อนหวานและเด็ดเดี่ยวของเจ้าหญิงทรรศิกา เจ้าหญิงทรรศิกาก็เรียนรู้ว่าเจ้าหลวงผู้เอาแต่ใจ ก็มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่เช่นกันและไม่โหดร้ายอย่างที่เห็น

สาธิน เสนาบดีมหาดไทยของกาสิก ร้อนใจมากเมื่อไม่สามารถติดต่อเจ้าหลวงได้ มีนา ลูกสาวของสาธิน จึงอาสาไปดักพบเจ้าหลวงที่ตำหนักวสุธรา มีนาเติบโตมาพร้อมกับเจ้าหลวง เบนลี และราชิด เจ้าหลวงเอ็นดูมีนามากเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ฝึกขี่ม้าและยิงธนูให้ มีนาก็สามารถทำได้ดีเท่ากับผู้ชายคนหนึ่ง มีนาแอบหลงรักเจ้าหลวงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเจ้าหลวงประกาศหมั้นกับเจ้าหญิงแห่งทานตะ เธอเจ็บปวดอย่างยิ่งแต่อย่างน้อยหัวใจของเจ้าหลวงก็ยังไม่มีผู้หญิงคน ไหนครอบครองเพราะการแต่งงานครั้งนี้ เจ้าหลวงทำเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมืองเท่านั้น

มีนาไปดักพบเจ้าหลวงที่ตำนักวสุธรา จึงรู้ว่าเจ้าหลวง จับเจ้าหญิงทรรศิกามาเป็นเชลย เจ้าหลวงสั่งให้มีนากลับไปบอกสาธินว่าจะประพาสต่อไปตำหนักอิสินธร เรื่องต่างๆ ในเมืองหลวงให้สาธิน เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนเรื่องเจ้าหญิงมณิสราให้ทางทานตะหาตัวเจ้าหญิงให้พบ ก่อนจึงค่อยพูดเรื่องการอภิเษกอีกที

เมื่อกาสิกบีบให้ทางทานตะจัดการเรื่องนี้ เจ้าหลวงแห่งทานตะร้อนใจมากจึงส่งทูตเข้าไปยังพันธุรัฐ เจ้าชายทยุติธรให้เจ้าหญิงมณิสราตัดสินใจเองว่าจะกลับทานตะหรือไม่ เจ้าหญิงฝากจดหมายกลับไปว่าจะขออยู่ที่พันธุรัฐ และ จะไม่แต่งงานกับเจ้าหลวงรังสิมันต์เด็ดขาด ขอให้เจ้าหลวงทานตะคิดเสียว่าไม่มีลูกคนนี้ เจ้าหลวงทานตะถึงกับประชวรเมื่อได้รับจดหมายจากเจ้าหญิงมณิสรา เสนาบดีของพันธุรัฐต่างก็เตือนเจ้าชายทยุติธรว่าทำเช่นนี้อาจเกิดสงครามกับ กาสิกได้ ชาวพันธุรัฐก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวกาสิก แต่เสนาบดีทูลว่าหน่วยข่าวกรองรายงานว่าที่เจ้าหญิงทรรศิกาหายไปอาจถูกทางกา สิกจับตัวไป เจ้าชายทยุติธรยิ่งโกรธ เพราะทำเช่นนั้นเป็นการหมิ่นเกียรติของพันธุรัฐอย่างยิ่ง จึงสั่งให้คนเข้าไปหาทางช่วยเจ้าหญิงทรรศิกาออกมาให้ได้ก่อน

พระราชเทวีแห่งพันธุรัฐ เสด็จกลับจากแปรพระราชฐานก่อนกำหนด เจ้าชายทยุติธรพยายามปิดเรื่องที่เจ้าหญิงทรรศิกาหายไป แต่ไม่สามารถปิดเรื่องเจ้าหญิงมณิสราได้ พระราชเทวีจึงสั่งให้เจ้าหญิงมณิสรามาประทับที่ตำหนักฝ่ายใน แทนตำหนักป้อมปืน และสังเกตเห็นว่าเจ้าชายทยุติธรและเจ้าหญิงมณิสรามีกริยาแปลก ๆ ต่อกัน

เจ้าหลวงรังสิมันต์พาเจ้าหญิงทรรศิกามายัง ตำหนักอิสินธร และให้เจ้าหญิงปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ พร้อมพระองค์ เจ้าหญิงทรรศิกาเข้าใจว่าทั้งหมดที่เจ้าหลวงทำก็เพราะเห็นเธอเป็นเพียงแค่ ตัวแทนของพระคู่หมั้นเท่านั้น เจ้าหลวงรังสิมันต์ตัดสินใจให้ ราชิด ไปบอกสาธินให้ส่งข้อเสนอใหม่ไปยังพันธุรัฐ นั้นคือพันธุรัฐจะต้องรับผิดชอบในการเสื่อมเสียพระเกียรติของเจ้าหญิงมณิสรา และกาสิกจะรับผิดชอบต่อเจ้าหญิงทรรศิกา แต่สาธิน กลับไม่ยอมส่งสารนี้ และยังลอบวางยา ฆ่าเสนาบดีฝ่ายมหาดไทย โดยใช้มีนาเป็นเครื่องมือ มีนาตกใจมากที่พ่อคิดเป็นใหญ่ครอบครองบัลลังค์กาสิกเสียเอง จึงหนีไปหาเจ้าหลวงรังสิมันต์เพื่อบอกแผนการ แต่เมื่อมาถึงที่อิสินธร ก็พบว่าหัวใจของเจ้าหลวงรังสิมันต์มีเจ้าหญิงทรรศิกา มีนาเสียใจมาก จึงกลับไปเมืองหลวงร่วมมือกับพ่อ ล้มราชบัลลังก์

เจ้าหญิงทรรศิกาแอบได้ยินเรื่องข้อเสนอที่ เจ้าหลวงส่งไป และพร้อมจะทำสงครามถ้าพันธุรัฐไม่ตกลง เจ้าหญิงน้อยใจมากที่เจ้าหลวงรังสิมันต์จะแต่งงานกับตัวเองนั้นก็เพื่อรักษา เกียรติของตัวเอง ไม่ใช่เพราะความรัก เจ้าหญิงทรรศิกาจึงตัดสินใจให้กระวานแอบติดต่อ ราชิด พาหนี เพราะอย่างน้อย ราชิด ก็มีเลือดชาวพันธุรัฐครึ่งหนึ่ง ราชิดซึ่งไม่อยากให้เกิดสงครามอยู่แล้วจึงรับปากพาเจ้าหญิงทรรศิกาหนี แต่โดนเจ้าหลวงจับได้ เจ้าหลวงโกรธมากจนเกือบฆ่าราชิด แต่เจ้าหญิงทรรศิกาทูลขอไว้ ราชิดจึงได้ลดโทษเหลือแค่ขังคุก เจ้าหลวงรังสิมันต์ ทั้งโกรธทั้งน้อยใจที่เจ้าหญิงทรรศิกาทำเช่นนี้ เจ้าหญิงทรรศิกาเองคิดว่าตัวเองจะต้องโดนฆ่าแน่ๆ จากการหนีครั้งนี้ เตรียมตัวยอมรับคมดาบแต่โดยดี แต่ในที่สุดเจ้าหลวงก็หลุดปากสารภาพรักเจ้าหญิงทรรศิกาออกมา ทั้งสองคนเข้าใจกัน เจ้าหลวงตกลงใจจะส่งเจ้าหญิงทรรศิกากลับพันธุรัฐ และมอบมงกุฏแห่งกาสิกให้กับเจ้าหญิงทรรศิกา เพื่อให้เสด็จกลับพันธุรัฐได้อย่างสมพระเกียรติ แต่ระหว่างทางนั้นเอง สาธินก็ส่งคนปลอมเป็นทหารของพันธุรัฐเข้ามาลอบปลงพระชนม์

เจ้าหลวงรังสิมันต์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เจ้าหญิงทรรศิกาตัดสินใจพาเจ้าหลวงเข้าไปผ่าตัดที่ตำหนักป้อมปืนของแคว้น พันธุรัฐ จึงทราบความจริงว่า เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ฝีมือของเจ้าชายทยุติธร แต่เป็นสาธิน คนของเจ้าหลวงเองที่หักหลัง เจ้าหลวง โกรธมาก ในขณะที่เจ้าหลวงรังสิมันต์พักรักษาตัวอยู่ที่ตำหนักป้อมปืน พระราชเทวี มีรับสั่งให้เจ้าหญิงมณิสราไปคอยดูแลเจ้าหลวงรังสิมันต์ในฐานะที่เป็นพระคู่ หมั้น เจ้าหญิงทรรศิกาจึงหลบหน้าไม่ยอมไปเยี่ยมเจ้าหลวงอีก ในขณะที่ เจ้าชายทยุติธรก็มักจะหงุดหงิดเมื่อเห็นเจ้าหญิงมณิสราคอยดูแลเจ้าหลวง ในที่สุด เจ้าหลวงรังสิมันต์ก็ตัดสินใจบุกเข้าไปหาพระราชเทวี ทูลเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเจ้าหญิงทรรศิกาและเรื่องราวทั้งหมด ขออภิเษกกับเจ้าหญิงทรรศิกา พระราชเทวีถามถึงเรื่องเจ้าหญิงมณิสรา เจ้าหลวงบอกว่าที่หมั้นกับเจ้าหญิงมณิสราก็เพราะเพื่อผลประโยชน์ที่ต้องการ ขนส่งสินค้าไปยังทางออกทะเลของทานตะ แต่ตอนนี้ตนรู้แล้วว่าตนไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักได้ และเจ้าหญิงมณิสราก็ขอถอนหมั้นกับตัวเองแล้ว

เจ้าหลวงรังสิมันต์ขอให้เจ้าหญิงทรรศิการอ และจะกลับมาหาเมื่อกู้ราชบัลลังก์คืนได้ เจ้าหลวงรังสิมันต์พร้อมด้วยเบนลี ลอบกลับไปที่กาสิกอีกครั้งช่วยราชิดออกมา ร่วมมือกันปราบกบฎ สาธินถูกจับ มีนาขอร้องไม่ให้เจ้าหลวงฆ่าพ่อ เจ้าหลวงก็ยอมเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ แต่สาธินกลับคว้าดาบเข้าแทงเจ้าหลวง มีนาจึงกระโดดขวางเข้ารับดาบแทนสิ้นใจตาย สาธินเสียใจมากที่พลั้งมือฆ่าลูกสาวตัวเอง จึงฆ่าตัวตายตาม เจ้าหลวงรังสิมันต์เสด็จกลับไปรับเจ้าหญิงทรรศิกามานั่งบัลลังค์ด้วยกันตามสัญญา เจ้าชายทยุติธรได้ราชาภิเษกขึ้นเป็นเจ้าหลวง เสด็จเยี่ยมทานตะอย่างเป็นทางการ และกำลังจะประกาศหมั้นกับเจ้าหญิงมณิสรา ทั้งสามแคว้นจึงอยู่กันอย่างสงบสุขเรื่อยมานับแต่นั้น

นักแสดงละคร ดั่งดวงหฤทัย

ศรราม เทพพิทักษ์ แสดงเป็น รังสิมันต์
นัท มีเรีย แสดงเป็น ทรรศิกา
โอลิเวอร์ พูพาท แสดงเป็น ทยุติธร
เกวลิน คอตแลนด์ แสดงเป็น เจ้าหญิงมณิสรา
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น พระเทวีแห่งพันธุรัติ
กษาปณ์ จำปาดิบ แสดงเป็น ราชิต

เฉพาะหัวใจให้เธอ

ดำเนิน เป็นคนขี้ตืดมากๆ คือไม่เคยให้ทาน ไม่แบ่งของ ไม่เลี้ยงสัตว์ ไม่ทำบุญ แต่ก็มาเจอคุณวา ซึ่งเป็นคนเผื่อแผ่ ตรงข้ามกับนายดำเนินโดยสิ้นเชิง ทั้งคู่เจอกันก็รุ้สึกถูกผูกพันและชอบกันในทันที นายดำเนินต้องการทำให้วาประทับใจ จึงคิดบริจาคเลือด แต่เพราะเป็นคนกลัวแสนกลัว เลือดจึงทำให้เป็นลม แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้กับวิธีจีบสาววิธีการนี้ ดำเนินต้องการทำให้ว่าประทับใจ เลยไปทำการบริจาคอวัยวะ แต่ก็ขอบริจาคเพียงส่วนเดียว นั่นคือ หัวใจ วันที่นัดบริจาคเลือดพี่ก็ประสบอุบัติเหตุ ความจำเสื่อม กว่าจะนึกออก ก็ถึงเวลานัดเดทแรกของคนทั้งคู่ดำเนินจึงให้จ๋อยขี่มอไซด์เพื่อความรวดเร็ว กลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ ขณะเดียวกับที่ คุณวา เกิดโรคหัวใจกำเริบเช่นกัน หัวใจที่ดำเนินบริจาคไว้ จึงนำมาให้กับวา ดังพรหมลิขิต แต่หัวใจของดำเนินก็ไม่สมบูรณ์ ทำให้ วาไม่แข็งแรงเหมือนปกติ และไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยุ่ได้อีกนานเท่าไหร่ ฝ่ายดำเนินกับจ๋อยตายไปพบยมบาล ยมบาลเซ็งฮะ ไอ้หมอนี่ไม่เคยทำดี ไม่มีบริจาค แต่ก็ไม่เคยทำชั่วไม่รู้จะให้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกดี จึงต้องอยู่บนโลกมนุษย์ทำความดีเพื่อสะสมแต้ม ตรงข้ามกับจ๋อย ที่ทำความดี จนสามารถขึ้นสวรรค์ได้ พี่คุณดำเนินเลยวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ เพื่อคอยเก็บสะสมแต้มความดี วาหลังจากได้รับหัวใจของดำเนิน ทำให้สามารถกลับมามีชีวิตอยู่ได้ ตลอดเวลาวารู้สึกว่าดำเนินอยู่ใกล้ๆ หลังจากหายดี แม่ของวาต้องการให้วาแต่งงานกับพี่ชายที่รู้จักกับคุณวามาตั้งแต่เด็กๆ ชอบคุณวามานานแสนนาน และจะมาหมั้นในงานหมั้น เพื่อนของดำเนิน มาทำหน้าที่เป็นช่างกล้อง ดำเนินเสียใจมากที่วาจะหมั้นกับคนอื่น จึงหาทางปรากฏตัวให้วาเห็นในงานหมั้น จึงทำให้เพื่อนของดำเนิน บอกความจริงกับวา ว่าดำเนินเสียชีวิตนานแล้ว วารู้ก็ช๊อคหมดสติไปทันทีดำเนินพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้วาฟื้นกลับคืนมา เมื่อวาฟื้นกลับมาก็เสียใจมาก จึงคิดที่จะฆ่าตัวตายไม่มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ ระหว่างหมดสติ ในความฝัน ที่นั่น วาได้พบกับดำเนิน และอยู่อย่างมีความสุข พี่ชายกบก็เศร้าสิครับ ก็ต้องทำต่างๆนานาเพื่อชนะใจหญิง และเอาชนะผีหวงก้างคุณผีดำเนินก็ไม่ยอม หัวใจของผมอยู่ในตัวคุณวา ผมเป็นผู้เสียสละขนาดนี้ คุณวาก็รักผมคุณเทวดาที่คอยดูแลนายดำเนิน ก็ได้ให้นายดำเนินดูเหตุการณ์ในอดีต แบบพาย้อนเวลาไปสมัยคุณวายังเด็กๆ ให้ไปเห็นว่าคุณพี่กบ ก็เคยช่วยชีวิตคุณวาไว้เหมือนกัน คุณพี่กบเกือบถึงแก่กรรมด้วยถึงแม้จะไม่ได้สละชีวิตจริงๆ แต่พี่เขาก็ไม่ได้สนใจชีวิตตัวเองต่างจากดำเนินที่บังเอิญช่วยชีวิตดำเนิน จึงพบว่าตัวเองเป็นกบในกะลา คิดว่าตนเองเสียสละให้คุณวามากกว่าคนอื่นจริงๆแล้วคุณวาก็มีคนที่เสียสละ เพื่อเธอทุกอย่างทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แล้วคุณดำเนินก็เลยยอมเสียสละ เป็นฝ่ายจากไปในที่สุด ด้วยความเสียสละนี้ ก็ทำให้คุณดำเนินได้ไปเป็นเทวดาและรอคอยการพบเจอกันเมื่อถึงเวลา…

เจ้าสาวสายฟ้าแลบ

อุบัติเหตุเล็ก ๆ จุดชนวนการปะทะคารมระหว่าง ยศวิน พ่อม่ายหนุ่มนักธุรกิจเนื้อหอม กับเต็มตรอง สาวพนักงาน ขาย ที่สุดแสนจะกะโปโล จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตเมื่อ ยศวินยกเลิกการเซ็นสัญญาซื้อขายระหว่างบริษัทตน กับบริษัททะเลยิ้มของเต็มตรอง ทำให้เต็มตรองผิดหวังมาก

ขณะเดียวกัน เขมชาติ อดีตคนรักเก่าของเต็มตรองงจะขอกลับมาคืนดี เต็มตรอง รู้สึกลังเล ใจ แต่แพรวาแฟนสาวของเขมชาติเสียใจมาก ขอร้องให้ยศวินซึ่งเธอนับถือ เหมือนพี่ชาย และคอยให้คำปรึกษา ช่วยเหลือตลอด ให้ช่วยกันเต็มตรองไม่ให้ มายุ่ง เกี่ยวกับเขมชาตตติพัฒน์ เพื่อนของยศวิน และเป็นพี่ชายของเต็มตรอง ไม่เห็นด้วยที่ จะให้เต็มตรองคืนดีกับเขมชาติเช่นกัน ก็เลยร่วมมือกับยศวิน โดยยศวินวางแผนขอ เต็มตรองแต่งงาน เพื่อกันเธอออกจากเขมชาติ ตติพัฒน์คิดว่าถ้ายศวินแต่งงาน กับ เต็มตรอง ความน่ารักของน้องสาวจะทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่รักกันจริง ๆ ก็เลยช่วย ยศวินวางแผนโดยบอกกับเต็มตรองว่าบริษัทกำลังจะล้มละลาย ได้ยศวินช่วยกอบกู้ แล้วยศวินก็แอบหลงรักเต็มตรองด้วย อยากจะขอแต่งงานอย่างถูกต้อง เต็มตรองเห็น แก่บริษัทและพ่อแม่ ก็เลยยอมแต่งงานกับยศวิน

หลัง แต่งงาน ยศวินกับเต็มตรองยังแง่งอนใส่กัน เพราะเขมชาติยังตามมาวุ่นวาย และแพรวาก็คอยตามหึงหวง รวมทั้งมิรันตรี ลูกสาวของคุณนายเอมสาย ลูกน้องที่ทำงานกับยศวิน ที่มาคอยให้ท่าเกี่ยวพันกับยศวิน ทำให้ตติพัฒน์หมั่น ไส้มากเพราะมิรันตรีเคยเป็นแฟนกับตติพัฒน์ เต็มตรองก็แกล้งทำตัวสนิทสนม กับอนุชิต ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่ชาย และทำงานอยู่บริษัททะเลยิ้ม รู้จักกันมานาน เพื่อแกล้งปั่นหัวยศวินแต่แล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มดีขึ้น เมื่อยศวินพา เด็กหญิงมะเหมี่ยว ลูกสาวที่เกิดกับภรรยาฝรั่งกลับมาเมืองไทย ด้วยความที่ เต็มตรองเป็นคนรักเด็ก เธอจึงเข้ากับมะเหมี่ยวได้ดี เขมชาติแสดงออกต่าง ๆ นานาว่าต้องการเต็มตรองกลับคืนมา ทำให้ยศวินไม่พอใจมาก ทั้งคู่ทะเลาะ กันบ่อย

วัน หนึ่งพ่อยิ้มพ่อของเต็มตรองหายไปในทะเล เต็มตรองเชื่อว่าพ่อยังไม่ตาย จึงดื้อจะออกทะเลหาพ่อ ยศวินและ มะเหมี่ยวไปเป็นเพื่อนด้วย คราวเคราะห์เจอพายุอีกครั้ง ทั้งสามคนเลยติดเกาะอยู่กลางทะเล การใช้ชีวิตด้วยกันบน เกาะ ทำให้เต็มตรองและยศวินรักและเข้าใจกัน พร้อมกันนั้นเต็มตรองยังได้เจอกับพ่อยิ้มที่ยังไม่ตายด้วย ทางบ้าน ของพ่อยิ้มและยศวินคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว จึงจัดงานศพให้ เต็มตรองและพ่อยิ้มกลับไปพอดีกับงานเผาศพ ทุกคน มีความสุขที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง ตติพัฒน์กับมรันตรีก็เข้าใจกันและตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน

ยศวิ นกับเต็มตรองกำลังจะมีความสุขในชีวิตคู่ ก็มีเรื่องแพรวาเข้ามาอีก เมื่อแพรวา กีดข้อมือตัวตายเพราะเขมชาติขอเลิก ยศวินโทษว่าเป็นความผิดเต็มตรอง ทั้งคู่ หมางเมินกันอีกครั้ง แล้วยังมีเรื่องที่เต็มตรอง รู้ความจริงว่ายศวินแต่งงานกับเธอ เพื่อกันเธออกจากเขมชาติ ทำให้เต็มตรองโกรธมาก ขอกลับไปอยู่ที่บ้าน ยศวินพยายามง้อคืนดีก็ไม่เป็นผลแพรวา ซึ่งชอบทะเลาะกับแม่แพรวอาภา ได้เล่าให้แม่ฟังว่า มะเหมี่ยวเป็นลูกของเธอและเป็นหลานของแม่ สองแม่ลูกคุยกันด้วยความเข้าใจ เขมชาติหันไปเล่นการพนันจนหมดเนื้อหมดตัว จะขอคืนดีกับเต็มตรองก็ไม่สำเร็จ ก็เลยตัดสินใจบุกฉุดเต็มตรองในงานเลี้ยงส่งยศวินไปเมืองนอก ยศวินกับตติพัฒน์ ตามไปช่วยกลับมาได้สำเร็จ แต่เขมชาติยังไม่วางมือ

ในงานเลี้ยงแต่งงานของตติพัฒน์และมิรันตรี ขณะที่ทุกคนมีความสุขกันอยู่เขมชาติก็บุกเข้ามายิงกลางงาน ที่สุดก็โดนตำรวจจับจนได้ เขมชาติสติแตกเหมือนคนบ้า แพรวาเล่าความจริงเรื่องมะเหมี่ยวว่าเป็นลูกของเธอเอง ที่เกิดจากแฟนฝรั่งให้เต็มตรองฟังพร้อมยืนยันว่ายศวินรักเต็มตรองด้วยความ จริงใจ ขอให้กลับไปคืนดีกัน ขณะที่ยศวินกำลังจะไปต่างประเทศ เต็มตรองจะไปตามหัวใจของตัวเองกับยศวินได้ทันหรือไม่

นักแสดงละคร เจ้าสาวสายฟ้าแลบ

นิธิ สมุทรโคจร แสดงเป็น ยศวิน
นัท มีเรีย แสดงเป็น เต็มตรอง
ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ แสดงเป็น เขมชาติ
สมาพร เขียวบวร แสดงเป็นแพรวา
เจมี่ บูเฮอร์ แสดงเป็นมิรันตรี

คือหัตถาครองพิภพ 2538

คือหัตถาครองพิภพคือหัตถาครองพิภพ เริ่มต้นเรื่องราวของ คุณหญิงศรี (จารุณี สุขสวัสดิ์) เป็นเมียพระราชทานของเจ้าพระยาสมิติภูมิ (ธรรมชาติ แฟร์เน็ต) ที่เป็นฝรั่งมาจากประเทศอังกฤษ แต่งงานโดยไม่เต็มใจเพราะอุปนิสัยตัวเองไม่ชอบผู้ชาย จึงหาเมียบ่าวให้เจ้าคุณอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าหญิงคนไหนตั้งท้อง คุณหญิงจะหาทางกำจัดไปในทันที โดยมี เมี้ยน (อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ) บ่าวที่จงรักภักดีเป็นคนจัดการให้ สองพี่น้อง สังวร สังเวียน บ่าวผู้หญิงที่อยู่ในบ้าน ก็ไม่พ้นชะตากรรมนั้น จนกระทั่งสบันงา (ปรียานุช ปานประดับ) ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้เกิดปัญหารักสามเส้า ระหว่างศุกล (ทรงสิทธ์ รุ่งนพคุณศรี) น้องชายของคุณหญิง และท่านเจ้าคุณ จนเกิดเป็นเรื่องร้ายแรงต่างๆ ตามมา

ผู้กำกับ : สยาม สังวริบุตร
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท : ศัลยา
บทประพันธ์ : น้ำอบ

นักแสดงละคร คือหัตถาครองพิภพ

ปรียานุช ปานประดับ เป็น “สบันงา” (รางวัลเมขลา ผู้แสดงนำหญิงดีเด่น ประจำปี 2538)
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น “คุณหญิงศรี” (รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ดารานำหญิงดีเด่น ประจำปี 2538)
ธรรมชาติ แฟร์เน็ต แสดงเป็น “เจ้าพระยาสมิติภูมิ”
อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ์ แสดง เป็น “เมี้ยน”
ทรงสิทธ์ รุ่งนพคุณศรี แสดงเป็น “ศุกล”
นัท มีเรีย แสดงเป็น “พริ้มเพรา”
คลาวเดีย จักรพันธุ์ แสดงเป็น “พราวพิลาศ”
ชาช่า อัลเทอร์เมท แสดงเป็น “แพรวพรรณราย”
มิเชล ชีเกรฟเดลี่ แสดงเป็น “พริสซิล่า”
อัษฎา พานิชกุล แสดงเป็น พจน์
สวิช เพชรวิเศษศิริ แสดงเป็น พฤกษ์
มาฬิศร์ เชยโสภณ แสดงเป็น ศีล
ฟร้อนท์ มอนท์โกเมอรี่ แสดงเป็น อลิซาเบธ
คริสโตเฟอร์ มาวิน แสดงเป็น พอล
ชัยวัฒน์ ฮิลเดอบรานด์ แสดงเป็น ธรรม์
วิทิต แลต แสดงเป็น ทอง
สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ แสดงเป็น เมขลา
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล แสดงเป็น หมออุดร
แรม วรธรรม แสดงเป็น คุณหลวงหมออดุลย์
เสาวลักษณ์ ศรีอรัญญ์ แสดงเป็น สังวร
นุจรินทร์ วงศ์จินดา แสดงเป็น สังเวียน
ปริญญ์ วิกรานต์ แสดงเป็น ซ้ง
วชิรา เพิ่มสุริยา แสดงเป็น แกละ
อรุโณทัย จิตรีขันธ์ แสดงเป็น แม่เดือน
สิริยา นฤนาท แสดงเป็น แม่ดา
นรินทร ณ บางช้าง แสดงเป็น ปานวาด
สุดารัตน์ เดชากุล แสดงเป็น คุณหญิงละออศรี
พูลสวัสดิ์ ธีมากร แสดงเป็น กุ๊กฮก
รจิต ภิญโญพานิช แสดงเป็น แม่ปริก
พูนสวัสดิ์ ธีมากร แสดงเป็น กุ๊กฮก
เพ็ญศิริ สุภาพันธ์ แสดงเป็น น้อย

นักแสดงรุ่นเด็ก
หยาดทิพย์ ราชปาล แสดงเป็น พริ้มเพรา
สกุลรัตน์ ใจซื่อ แสดงเป็น แพรวพรรณราย
อุษามณี ไวทยานนท์ แสดงเป็น พราวพิลาศ
นัทธฤทัย ปานวิเชียร แสดงเป็น พริสซิลล่า

ออกอากาศวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม ถึง วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน 2538

นักแสดงที่วางตัวไว้จะเล่นบท พจน์ คือ ธรรม์ โทณะวณิก ซึ่งเป็นลูกชายของ คุณน้ำอบ ผู้แต่งนวนิยาย คือหัตถาครองพิภพ มาถ่ายภาพฟิตติ้งไว้ แต่เสียชีวิตซะก่อน