เบญจรงค์ห้าสี เป็นเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงห้าคน ห้าแบบที่แทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย…มีอยู่อย่างเดียวคือ ทั้งห้าคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน
เริ่มตั้งแต่มนสินี ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ภายนอกเธอดูเป็นผู้ใหญ่กว่าใครเพื่อน ฉลาด สุขุมและเยือกเย็น…มั่นคงทั้งฐานะ และอาชีพการงาน…แต่ใครเลยจะรู้ว่าภายใต้ท่าทีที่มั่นคงของเธอนั้น เธอซ่อนความอ่อนไหวเอาไว้อย่างเงียบงัน จนวันหนึ่งเมื่อมันแสดงตัวออกมา…นั่นก็เกือบจะทำให้เธอต้องตกลงไปในหุบเหวแห่งชีวิตอันเต็มไปด้วยขวากหนาม…
คนที่สอง…วาตี วาตีเป็นสาวเปรี้ยว มีนิสัยตรงไปตรงมาจนออกจะดูโผงผางในบางครั้ง ถ้าเป็นสมัยนี้ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสาวมั่น…แต่ลึก ๆ ในใจเธอ เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองช่างว่างเปล่า จนเธอต้องเพียรหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาเติมให้เต็มอยู่เสมอ…
คนที่สาม…ช้องนาง…หญิงสาวผู้มีชีวิตอยู่ในกฏระเบียบอันครัดเคร่ง…ด้วยความที่เธอต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่ยังเยาว์ และความภาคภูมิใจในอาชีพครูของเธอ…แต่เมื่อความรักเข้ามาเยือน เธอก็จำต้องย่อหย่อนผ่อนปรนความเคร่งครัดของกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ลงไปเพื่อประคับประคองความรักของเธอให้อยู่รอด…
คนที่สี่…พวงแสด…พวงแสดเป็นน้องสาวของช้องนาง แต่ทั้งคู่ไม่ได้เติบโตมาด้วยกันเพราะพ่อแม่ของเธอแยกทางกันตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ เธอมีบุคลิกและนิสัยใจคอที่แตกต่างกับช้องนางอย่างสิ้นเชิง…ด้วยเธอเป็นเด็กสาวที่ใส บริสุทธิ์และมองโลกในแง่ดี ถึงแม้เธอจะยังอ่อนเยาว์นัก แต่เธอก็มีความมั่นคงในอารมณ์พอที่จะเรียนรู้ว่า ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย
คนที่ห้า…สุดท้าย…ปาริมา เด็กสาวที่มาจากครอบครัวแร้นแค้น เธอต้องออกจากโรงเรียนกลางคันเพื่อมาทำงานหาเลี้ยงตัวเองและน้อง ๆ โชคดีที่เธอมีรูปโฉมเป็นใบเบิกทางให้เธอก้าวเข้าสู่แวดวงสังคมของคนอีกระดับหนึ่ง…แต่มันก็เกือบจะทำให้เธอก้าวถลำลงไปในวังวนมายาอันยากจะถอนตัวได้
นักแสดง เบญจรงค์ห้าสี พ.ศ. 2528
เดือนเต็ม สาลิตุล (มนสินี)
มยุรา ธนะบุตร (วาตี)
ดวงใจ หทัยกาญจน์ (ช้องนาง)
อุทุมพร ศิลาพันธ์ (ปาริมา)
อลิษา ขจรไชยกุล (พวงแสด)
นพพล โกมารชุน (ระพีพัฒน์)
ธงไชย แมคอินไตย์ (ชนายุ)
เป็นหนึ่ง ไชยชิต (ปัญจะ)
ชลิต เฟื่องอารมย์ (ณัฐการ)
อภิชาติ หาลำเจียก (ราวี)
จริยา สรณคม (เม้ย-เมธ์วดี)
วรายุฑ มิลินทจินดา (ไก่)
ด.ญ.ยศสินี ณ นคร (แป้งหอม)
และร่วมด้วย รัญญา ศิยานนท์
Tag Archives: ธงไชย แมคอินไตย์
เพลงชีวิต
หฤทัย (ก้ามปู สุวรรณปัทม์) ลูกสาวของ นายพินิจ (ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง) นักดนตรีพิการ หฤทัยมีความใฝ่ฝันจะได้เป็นนักดนตรีมีชื่อเสียง เธอเติบโตมาท่ามกลางเสียงดนตรี โดยเฉพาะเปียโน ที่เธอประทับใจเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนจริงจังเพราะฐานะทางบ้านไม่อำนวย
ทุกวันหยุดจะมีนักดนตรีสมัครเล่นมาซ้อมดนตรีกันที่บ้าน โดยมีนายพินิจร่วมสีไวโอลินด้วย หฤทัยเองก็มักจะเข้าร่วมวงร้องเพลงให้ นายพินิจกับนางสาคร (มารศรี ณ บางช้าง) ยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งชื่อ ณัฐ (ธงไชย แมคอินไตย) ซึ่งเป็นนักดนตรีเหมือนกัน ณัฐจะช่วยหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการไปเล่นดนตรีที่ร้านอาหารเล็กๆ ในตอนกลางคืน หฤทัยเองก็กำลังจะเรียนจบชั้น ม.8 และคิดจะขอทุนเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
หฤทัยเป็นเด็กขยัน เธอมักจะไปที่บ้านของครูเพื่อติวพิเศษบ่อยๆ ครูนรี (สุกัญญา นาคสนธิ์) เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งรักและเอ็นดูหฤทัยมาก เธอสังเกตเห็นว่าหฤทัยชอบเล่นเปียโน จึงอนุญาตให้หฤทัยมาหัดเปียโนที่บ้านของเธอยามว่าง โดยช่วยแนะนำสั่งสอนขั้นพื้นฐานให้ และก็พบว่าหฤทัยเรียนได้เร็วมาก วันหนึ่งหฤทัยได้พบกับ คุณเอื้อ (บุศรา นฤมิตร) ซึ่งมาเยี่ยมเยือนครูนรีที่บ้าน คุณเอื้อรู้สึกถูกชะตากับหฤทัยและคุ้นหน้าอยู่มาก ครูนรีเล่าถึงเรื่องทางบ้านหฤทัยให้คุณเอื้อฟังจนเธอรู้สกสงสารและอยากจะอุปการะหฤทัย
ต่อมาหฤทัยได้ไปงานวันเกิดเพื่อน เธอได้รู้จักกับ คีตา (นพพล โกมารชุน) ลูกชายของพันโทหลวงนิติธรรม ซึ่งเพื่อนๆ เล่าให้หฤทัยฟังว่าตระกูลของคีตามีประวัติด่างพร้อย คนในตระกูลค่อนข้างเห็นแก่ตัว หฤทัยได้เล่นเปียโนอวยพรเพื่อน คีตาฟังแล้วเกิดความสนใจหฤทัยขึ้นมาทันที เมื่องานเลิก คีตาเก็บสร้อยคอของหฤทัยได้ก็แปลกใจมากเมื่อเห็นรูปลักษณะของสร้อย คีตาเก็บสร้อยไว้ หฤทัยกลุ้มใจมากเมื่อรู้ว่าสร้อยคอหายไปเพราะเป็นของติดตัวมาตั้งแต่เกิด ต่อมาเธอได้รู้จัก ภควี (ธำรงค์ เตชะวิจิตรสาร) โดยบังเอิญในร้านอาหาร ทั้งคู่ถูกชะตากันมาก เพราะมีนิสัยร่าเริงเหมือนกัน หฤทัยได้ปรับทุกข์เรื่องสร้อยคอให้ภควีฟัง และบอกว่าจะต้องไปหาคนที่ชื่อคีตา ภควีอาสาพาไปที่บ้านนิติธรรม ซึ่งหฤทัยได้รู้ความจริงว่าที่แท้ภควีก็เป็นหลานชายของหลวงนิติธรรมนั่นเอง เมื่อได้พบคีตา หฤทัยก็ต้องผิดหวัง เพราะคีตาไม่ยอมคืนสร้อยให้เธอ กลับบ่ายเบี่ยงท่านั้นท่านี้ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน หฤทัยกลับบ้านอย่างอารมณ์เสีย
ที่แท้คีตาสงสัยว่าหฤทัยจะเป็นทายาทของ รัฐมนตรีปกรณ์ (อำนวย ศิริจันทร์) กับพิมลา ที่หายสาปสูญไป 10 กว่าปีแล้ว กรณีนี้ำทำให้ตระกูลของคีตาต้องด่างพร้อย เนื่องจากหลวงนิติธรรมนั้นเป็นคนรักเก่าของพิมลา พิมลาหายสาปสูญไปพร้อมกับลูกสาววัย 3 ขวบ เหตุเกิดในงานเลี้ยงวันเกิดของหลวงนิติธรรม ท่านจึุงถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลักพาตัวพิมลาและลูกไป หลวงนิติธรรมต้องโทษอยู่ในเรือนจำหลายปี และเมื่อพ้นโทษออกมาไม่เท่าไรก็เสียชีวิต เมื่อคีตาเห็นสร้อยคอของหฤทัยซึ่งเป็นรูปหัวใจสลัำกคำว่า “พิม” คีตาจึงสงสัยมากเพราะตนเองมีรูปวาดของพิมลาซึ่งสวมสร้อยแบบเดียวกันนี้ คีตาตัดสินใจไปหาพ่อของหฤทัยและไถ่ถามความเป็นมาของเธอ แต่นายพินิจก็ไม่ให้ความร่วมมือ และยังแสดงพิรุธให้เห็น ทำให้คีตามั่นใจยิ่งขึ้น
ต่อมาครอบครัวของหฤทัยมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายที่อยู่ เนื่องจากมีการตัดถนนผ่าน นายพินิจจะย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด คุณเื้อื้อทราบเรื่องขึงถือโอกาสชวนหฤทัยไปอยู่ด้วย และสัญญาว่าจะสอนเปียโนให้ พร้อมทั้งจ้างครูมาสอนให้ที่บ้านด้วย หฤทัยเริ่มลังเล เธออยากเรียนเปียโนมากแต่ก็เป็นห่วงพ่อแม่มาก นายพินิจเองเริ่มตะหนักว่า อาจจะถึงเวลาแล้วที่หฤทัยจะได้รู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง จึงยอมให้ลูกสาวพักอาศัยอยู่กับคุณเือื้อ ส่วนรัฐเสียใจมากแต่ก็ต้องจากไปในที่สุด หฤทัยย้ายมาอยู่กับคุณเอื้อได้พบกับคีตาและภควีอีก คีตาเข้มงวดหฤทัยมาก เขาเริ่มอบรมมารยาทของผู้ดีแก่หฤทัย และบอกว่าจะพาเธอเข้าสังคม หฤทัยแปลกใจเป็นที่สุด เธอเริ่มอึดอัดใจมากที่ต้องถูกบังคับให้อยู่ในกรอบ ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของคีตา คือ นำหฤทัยไปคืนให้รัฐมนตรีปกรณ์ เพื่อล้างมลทินของตระกูลของตน
คีตามีความสัมพันธ์อยู่กับปรยา ลูกสาวของนายประดิษฐ์ (จีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) ซึ่งเป็นน้องชายของ คุณหญิงเนื้อทาง (เมตตา รุ่งรัตน์) ภรรยาของรัฐมนตรีปกรณ์ ปรียาหลงรักคีตาและมักจะมาเยี่ยมเยียนเขาบ่อยๆ เธอถึงหึงหวงหฤทัยมากจนคิดกลั่นแกล้งให้หฤทัยเสียหน้า โดยเชิญเธอไปในงานวันเกิดและให้เล่นเปียโนให้ผู้ร่วมงานฟัง คีตาให้กำลังใจหฤทัยเป็นอย่างดี หฤทัยเล่นเปียโนได้ดีมาก ทุกคนชื่นชมเธอโดยเฉพาะคุณหญิงลักษณาซึ่งบอกกับหฤทัยว่าเธอทำให้คุณหญิงรำลึกถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่ชื่อ พิมลา เป็นนักเปียโนที่มีชื่อเสียงมากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณหญิงลักษณา คุณเอื้อ และพิมลาเป็นเพื่อนสนิทกัน ทังสามมักจะแข่งขันกันในเรื่องดนตรีเสมอ คีตาเล่าให้คุณหญิงฟังถึงเรื่องสร้อยคอ ทำให้คุณหญิงสนใจมาก และค่อนข้างแน่ใจว่า หฤทัยคือลูกสาวของพิมลา ทั้งคุณหญิงลักษณาและคีตาจึงคิดพาหฤทัยไปหารัฐมนตรีปกรณ์ ข่าวเรื่องนี้แพร่ไปถึงหูนายประดิษฐ์ซึ่งเดือดร้อนมาก เพราะตนเองเป็นคนลักพาตัวพิมลาและลูก โดยร่วมมือกับนางเนื้อทอง เพื่อหวังสมบัติของรัฐมนตรีปกรณ์ นายประดิษฐ์เริ่มคิดหาทางกำจัดหฤทัย ขณะที่ความจริงทุกอย่างเริ่มกระจ่าง คีตาพาหฤทัยไปพบรัฐมนตรีปกรณ์ซึ่งป่วยหนัก ก่อนตายท่านสั่งเสียให้ดูแลหฤทัยให้ดี มล. เลอลักษณ์ตัดสินใจรับหฤทัยมาอยู่ที่คฤหาสน์ของรัฐมนตรีปกรณ์ คุณเนื้อทองคัดค้านเท่าไรก็ไม่เป็นผล ทางด้านนายประดิษฐ์ก็วางแผนจะกำจัดหฤทัยในวันเลี้ยงต้อนรับ ขณะเดียวกันรัฐมาตามหาหฤทัย แต่ก็ได้รับอุบัติเหตุโดยปรียาขับรถเฉี่ยวเข้า ปรียารีบพาณัฐไปพยาบาลที่บ้าน ณัฐเพ้อถึงหฤทัยตลอดเวลา นายประดิษฐ์จึงจับได้ว่าณัฐต้องรู้ัจักกับหฤทัย เขาจึงเก็บตัวณัฐไว้โดยหวังจะใช้ประโยชน์ วันหนึ่งณัฐแอบได้ยินแผนกำจัดหฤทัย นายประดิษฐ์จึงจับณัฐขังไว้ ที่งานนายประดิษฐ์ใช้แผนล่อลวงหฤทัยออกมาในที่เปลี่ยว แต่ณัฐออกมาขัดขวางได้ทันการณ์และถูกลูกหลงเสียชีวิต นายประดิษฐ์ถูกจับได้เพราะลูกน้องสารภาพหมด จากนั้นไม่นานคีตาก็ไปเียี่ยมนายประดิษฐ์ ซักถามกันจนได้รู้ความจริงว่า นายประดิษฐ์เป็นผู้ฆ่าพิมลา ซึ่งเท่ากับตระกูลของคีตาหมดมลทิน
ในวันชุมนุมนักดนตรี หฤทัยได้แสดงฝีมือเปียโนเต็มที่ ทุกคนปรบมือยกย่อง คีตาส่งดอกไม้ไปให้หฤทัย เธอรีบออกมาพบเขาทันที เรื่องจบลงอย่างมีความสุข
วันนี้ที่รอคอย
วันนี้ทีรอคอย เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เจ้าชายน่านปิงนรเทพ ต้องหนีออกจากคีรีรัฐ เพราะเสด็จพ่อถูกเสด็จอาช่วงชิงบัลลังก์ จนเสด็จพ่อต้องทรงปลงพระชนม์ชีพพระองค์เอง เขาหนีจากเมืองเกิดพร้อมกับเสด็จแม่และม่านฟ้า น้องสาวบุญธรรม มายังเมืองไทย จากนั้นแต่ละคน ก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทางตามชะตาชีวิต
น่าน ปิงนรเทพ เติบโตมาโดยการอุปการะของจ้าวฉินเย่ห์ นักธุรกิจฮ่องกง ณ ปัจจุบัน เขาคือจ้าวซัน นักธุรกิจหนุ่มผู้มีอนาคตก้าวไกล ส่วนม่านฟ้า ถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวนายทหารทางเมืองเหนือ เธอคือ บราลี ในวันนี้ หญิงสาวจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา และแวะมาเยี่ยมเพื่อนที่ฮ่องกง แต่คนที่มาต้อนรับเธอกลับเป็น เจ้าซัน ซึ่งทำการค้ากับบิดาของเธอ เจ้าซันรู้มาตลอดว่าบราลีคือม่านฟ้า และเฝ้าติดตามมาตลอดด้วยความห่วงใย
เหม่ ยอิง บุตรสาวของเจ้าฉินเย่ห์ ต้องการมีส่วนในการทำธุรกิจของครอบครัว แต่ก็ไม่มีโอกาสเพราะถูกตั้งแง่ว่าเป็นผู้หญิง ในขระที่ฉินเจียง พี่ชายต่างมารดาของเหม่ยอิงก็ได้แต่ใช้ชีวิตแสนสำราญโดยไม่เหลียวแลธุรกิจ เธอกำลังดำเนินแผนการบางประการ ในขณะที่เจ้าชายรัชทายาทคีรีรัฐมีหมายกำหนดการเยือนฮ่องกง และเจ้าซันวุ่นวายอยู่กับการเตรียมงานต้อนรับ รวมทั้งความวุ่นวายหัวใจที่มีต่อบราลี
คนสนิทของเจ้าชายรัชทายาท ติดต่อซื้ออาวุธสงครามจากฉินเจียงเพื่อเตรียมก่อกบฏ ในขณะที่จ้าวซันเองก็ถูกจับตาดูว่า เขามีแผนการที่จะทวงบัลลังก์คืนหรือไม่ เขาต้องการกู้ศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่กลับคืน หรือต้องการเพียงใครคนหนึ่งที่จะคอยเป็นกำลังใจให้และอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
นักแสดงละคร วันนี้ที่รอคอย
ธงไชย แมคอินไตย์ แสดงเป็น จ้าวซัน
สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ แสดงเป็น บราลี
สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์
จักรพรรณ์ อาบครบุรี
รักในสายหมอก 2528
รักในสายหมอก เป็นเรื่องราวความรักของคนคู่หนึ่ง คือปฤณ เป็นหมอ กับนฎา ที่ยอมหมั้นหมายกับนักไวโอลินเพื่อตามใจคุณยาย เพราะเป็นหลานรัก แต่แล้วนฎาก็ตาบอดชั่วคราวจากอาการป่วยทางภาวะจิตใจ ปฤนจึงรักษาทางจิตเวชด้วยดนตรี
พลับพลึงสีชมพู
เธอจะเป็นใคร มาจากไหน แม้แต่ชื่อเสียงของเจ้าหล่อนเขาก็ไม่เคยสนใจไต่ถาม เจสรู้เพียงว่า เธอเป็นผู้หญิงมีเสน่ห์น่ารักนักเธอคือพลับพลึงผู้อ่อนหวาน แฝงด้วยความดื้อถือดีนิด ๆ แต่มีเหตุผล เธอทำให้เขา ‘วิศรุต มรุพงศ์’ ได้สัมผัสกับความอบอุ่นสดชื่นอีกครั้ง หัวใจของเราหลอมรวมเป็นดวงเดียวกัน และในวันนี้ พร้อมที่จะศิโรราบให้กับ “ความรัก”
นิรมิต
นิรมิต เป็นเรื่องราวของเรื่องราวของภูวงกับจินตนาการของเขา ที่สร้างขึ้นเพื่อทดแทนความต่างในชีวิตซึ่งตนไม่มี ด้วยอำนาจพิเศษที่เขาทำให้ภาพวาดจินตนาการเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้ แต่แล้วกลับควบคุมมันไม่ได้ และมันกลับก้าวเข้ามาหาเขาเพื่อที่จะทำลายเขาลงเสียเอ ภูวง เป็นผู้สร้างมนุษย์ 2 คนนี้ขึ้นมา โดยใช้ความสามารถในการวาดรูปของเขาเพื่อสร้าง ภังคี ให้เป็นตัวแทนของเขา ทำในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ เป็นไม่ได้ ภูวง สร้าง ภังคี ขึ้นมาจากความโกรธแค้นของเขา จึงทำให้ ภังคี มีแต่ความชั่วร้าย เป็นปีศาจร้าย ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ มีแต่ทำลาย ไม่มีชีวิตจิตใจ มีแต่ความโหดร้าย ทารุณ ภูวง จึงเกิดสำนึกผิดคิดสร้างอีกคนนึงขึ้นมาเพื่อปราบ ภังคี แต่ครั้งนี้ ภูวง ได้สร้างจากความรัก ความดี ใส สะอาด บริสุทธิ์ ทำให้เกิดเป็น ไทวัน
นักแสดงละคร นิรมิต
ธงไชย แมคอินไตย์ แสดงเป็น ภังคี ภูวง ไทวัน
อารียา สิริโสภา
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์
ธรรมชาติ แฟร์เน็ต
นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร
เปียเชอร์ คริสเตนเช่น
อนิรุทธ์ เถรว่อง
ฟรอนท์ มอนโกเมอรี่
นักแสดงรับเชิญ
เอกรัตน์ สารสุข
อรอนงค์ ปัญญาวงศ์
นัดดา วิยกาญจน์
ดวงดาว จารุจินดา
เพลงในละครเรื่อง นิรมิต
เพลง ฉันมีหัวใจ
ขับร้อง ธงไชย แมคอินไตย์
คำร้อง สรัชยา พรหม
ทำนอง-เรียบเรียง รามจิตติ หงสกุล
เพลง น้ำค้าง
คำร้อง ชนะ เสวิกุล
ทำนอง-เรียบเรียง บรูโน
เพลง ที่สุดในหัวใจ (End Title)
ขับร้อง ธงไชย แมคอินไตย์
คำร้อง อาทิตย์ สาระจูฑะ
ทำนอง-เรียบเรียง จีระศักดิ์ ปานพุ่ม
น้ำตาลไหม้ 2526
นํ้าตาลไหม้
Burn Sugar
นักแสดง
นพพล โกมารชุน – ปวัน
ลินดา ค้าธัญเจริญ – ธุมา หรือ โป ผู้หญิงที่เข้มแข็ง ทันสมัย แต่งตัวเก๋ คล่องแคล่วในสังคม แต่ต้องประสบกับชะตากรรมในชีวิตแต่งงาน ที่ไม่สามารถจะบอกใครได้ เพราะต้องการรักษาชื่อเสียงของสามีและวงศ์ตระกูลของสามีไว้
พรพรรณ เกษมมัสสุ – เนียน
ชลิต เฟื่องอารมย์ – ตาว
ธงไชย แมคอินไตย์ – แอ ** ละครเรื่องแรกของพี่เบิร์ด ธงไชย
ออกอากาศวัน จันทร์ – อาทิตย์ เวลา 21.00 น. ทางช่อง 3 ปี พ.ศ. 2526
คู่กรรม 2533
คู่กรรม พ.ศ. 2533
อังศุมาลิน ชลาสินธุ์ (กวาง กมลชนก โกมลฐิติ) นิสิตสาวคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกิดและเติบโตมาท่ามกลางความรักและความอบอุ่นของ แม่อร และยาย ที่บ้านริมคลองบางกอกน้อย พ่อของอังศุมาลินเป็นอดีตทหารเรือ ชื่อ หลวงชลาสินธุราช อังศุมาลินมีเพื่อนชายที่รู้ใจและสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก ชื่อ วนัส นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ที่ในใจลึก ๆ ของเขาแอบรักอังมากกว่าน้องสาว แต่เธอคิดว่ายังไม่พร้อมที่จะมีความรัก จนวนัสเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ อังศุมาลินกับครอบครัวมีโอกาสได้รู้จักสนิทสนมกับ หมอโยชิ หมอทหารชาวญี่ปุ่นผู้แสนใจดีและเป็นมิตร หมอโยชิเอ็นดูอังศุมาลินจนเสนอตัวสอนภาษาญี่ปุ่นให้เธอด้วยความเต็มใจ
แล้วอังศุมาลินก็ได้พบกับ โกโบริ (เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ) ขณะที่เธอว่ายน้ำไป แอบดูอู่เรือของทหารญี่ปุ่นที่มาตั้งรกรากอยู่ใกล้ ๆ สวนบ้านเธอ โกโบริเป็นนายช่างใหญ่ประจำอู่ เขากล่าวทักทายอังศุมาลินอย่างเป็นมิตร แต่อังศุมาลินไม่พูดด้วย เพราะอคติกับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะทหารโกโบริก็เริ่มแสดงไมตรีกับครอบครัวอังศุมาลิน โดยใช้ให้ทหารลูกน้องส่งข้าวของผลไม้สำหรับ คนป่วยมาให้ยายของอังศุมาลิน พาหมอมาดูอาการยาย จนทำให้ทั้งแม่กับยายเริ่มเอ็นดูและมองเห็นถึงน้ำใจไมตรีของโกโบริ และเรียกโกโบริว่า “พ่อดอกมะลิ” ขณะที่อังศุมาลิน ก็ยังอคติกับเขาอย่างเดิม
สัญญาณระเบิดดังขึ้น ในคืนที่อังศุมาลินอยู่บ้านคนเดียว โกโบริซึ่งแวะมาหาพอดี เลยมีโอกาสได้ช่วยเหลือพาอังศุมาลินไปหลบภัยที่ท้ายสวน ทั้งคู่วิ่งฝ่ากระสุน โกโบริกอดอังศุมาลินวิ่งเอาตัวเป็นกำบังให้ และพาอังศุมาลินไปหลบในท้องร่องและกอดอังไว้แน่น ระเบิดก็ลงใกล้ ๆ จุดนั้น โกโบริยอมเสี่ยงชีวิตเจ็บตัวแทนอังศุมาลิน และก่อนที่เขาจะหมดสติไป โกโบริก็บอกรักอังศุมาลิน แม้ลึก ๆ แล้วเธอจะรัก แต่เพราะโกโบริเป็นชาวญี่ปุ่น เป็นศัตรูที่เข้ามากร้ำกรายบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ อังศุมาลิน จึงปฏิเสธโกโบริอย่างไม่ใยดี โกโบริมาขอโทษอังศุมาลิน ที่เรื่องของเขากับเธอกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต และมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างบีบคั้น
จนในที่สุด อังศุมาลิน ก็จำต้องจำยอมแต่งงานกับ โกโบริด้วยเหตุผลทางการเมือง ความสุภาพแสนดีของโกโบริ เริ่มทำให้อังศุมาลิน เริ่มมองเขาในแง่ดีมากขึ้นทีละนิด จนคืนหนึ่งขณะที่เธอมายืนนึกถึงสัญญาที่เคยให้ไว้กับวนัสที่ใต้ต้นลำพู โกโบริก็มาเจอ อังศุมาลินจึงสารภาพกับโกโบริว่าเธอมีคนที่เธอรออยู่แล้ว คือ วนัส โกโบริเสียใจแต่ไม่แสดงออก แต่อังศุมาลินกลับเป็นฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองได้ทำร้ายจิตใจของโกโบริ เธอเห็นใจและสงสารโกโบริจับใจโกโบริมุงานหนัก นอนที่อู่เรือไม่ยอมกลับบ้าน พร้อมกับทำเรื่องขอย้ายไปประจำที่พม่า เพราะสถานการณ์ที่พม่ากำลังวุ่นวาย เขาไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นทหารที่เลือกแต่งานสบาย แต่หมอโยชิรู้ดีว่าโกโบริมีเหตุผลมากกว่านั้น เพราะสังเกตเห็นว่าโกโบริกับอังศุมาลินมีปัญหาไม่เข้าใจกัน
หมอโยชิจึงพยายามเข้ามาประสานความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ก็ไม่เป็นผลแล้วคืนหนึ่ง วนัสก็แอบมาพบกับอังศุมาลิน วนัสเปิดเผยว่าตนเป็นเสรีไทย วนัสรู้เรื่องอังศุมาลินดีทุกอย่าง เขารู้ดีว่าอังศุมาลิน กำลังสับสนใจระหว่างโกโบริกับเขา จึงให้อิสระอังศุมาลิน ได้เลือกคนที่เธอรัก พร้อมกับฝากให้อังศุมาลินบอกโกโบริด้วยว่า อย่าไปสถานีรถไฟบางกอกน้อยตอน มีระเบิดลง อังศุมาลินซึ้งใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของวนัส เมื่อระเบิดลงชุดใหญ่ทำให้อังศุมาลินกลัวว่าโกโบริจะเป็นอันตราย จึงรีบตามไปบางกอกน้อยโดยไม่สนคำทัดทานของใครเมื่อไปถึงปรากฏว่าสถานีรถไฟ บางกอกน้อยโดนถล่ม ทหารนอนตาย บาดเจ็บมากมาย อังศุมาลินเจอหมอโยชิ ซึ่งก็กำลังตามหาโกโบริอยู่เหมือนกัน
อังศุมาลินขอพรลูกในท้องให้ช่วยคุ้มครองโกโบริ อังศุมาลินเดินตามหาโกโบริอย่างรุ่มร้อนใจ จนในที่สุดอังศุมาลินก็พบโกโบรินอนบาดเจ็บ อาการสาหัส อังศุมาลิน ไม่ยอมให้โกโบริจากเธอไป แต่โกโบริรู้ตัวดีว่าเขาคงไม่รอด จึงฝากให้อังศุมาลินช่วยดูแลลูกแทนเขาด้วย อังศุมาลินบอกรักโกโบริก่อนที่เขาจะสิ้นลมบนตักอังศุมาลิน นั่นเอง จบที่งานศพของ โกโบริ ทุกคนร่ำไห้เสียใจ อังศุมาลินให้สัญญาต่อหน้าศพโกโบริว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูก และจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเพื่อ โกโบริ ชายที่เธอรักสุดหัวใจ
นักแสดงละคร คู่กรรม
ธงไชย แมคอินไตย์ รับบทเป็น โกโบริ
กมลชนก โกมลฐิติ รับบทเป็น อังศุมาลิน
ความทรงจำใหม่หัวใจเดิม
เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ต้องสูญเสียความทรงจำไป เมื่อพบว่าคู่หมั้นของเธอพาหญิงสาวอื่นเข้าโรงแรม และจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้>เธอได้มาพบกันเขา…ชายหนุ่มผู้ที่ห่างหายจากความรักมาเกือบสิบปี… การได้มาพบกันของคนทั้งคู่ ทำให้ก่อเกิดความรู้สึกดีๆขึ้นในหัวใจ โดยเฉพาะสำหรับเขา ซึ่งห่างหายจากความรักมาเกือบสิบปี เขาได้เรียนรู้ที่จะรักใหม่ แต่ยังไม่ทันที่ความรักของเขาจะสมหวัง เขาก็ได้พบกับความจริงที่ว่า เธอ…หญิงสาวที่เขากำลังมอบความรักครั้งใหม่ให้นั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว… แม้จะเจ็บปวดกับความจริงนี้ แต่เขาก็ยังมอบสิ่งดีๆให้กับเธอ คือพยายามช่วยฟื้นความจำให้เธอ และเมื่อหญิงสาวกลับมามีความทรงจำอีกครั้ง ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับคู่หมั้นของเธอก็เปิดเผยออกมา ทำให้เขาเริ่มมีความหวังอีกครั้ง…
ขมิ้นกับปูน 2527
ขมิ้นกับปูน เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคตั้งแต่ก่อนสงคราม, สงคราม และ หลังสงคราม ระหว่าง พ.ศ. 2475 2500)
พระยาอภิบาลบํารุง ข้าราชสํานักผู้จงรักและพระวิจิตรศิลปการเป็นอริกัน เนื่องมาแต่ครั้งมารดา พระยาอภิบาลฯ หนีตามบิดาพระวิจิตรไป พระยาอภิบาลทั้งอับอายและโกรธแค้น ฉะนั้น 2 ตระกูลจึงตั้งตัวเป็นศัตรูกันอย่างออกหน้าทั้ง ๆ ที่รั้วบ้านอยู่ ติดกัน
พระยาอภิบาล (ส.อาสนจินดา) มีบุตรชาย 1 คน คือ
1. พระนิติรักษ์ธรรมสถิตย์ (อดิศักดิ์ เศวตนันท์) และมีลูกสาว 3 คน
2. คุณปริก (กิ่งดาว)
3. คุณจําปา (ณัฐนี สิทธิสมาน)
4. คุณปีป (เรไร สุขอุดม)
คุณ ๆ ทั้ง 3 เป็นสาวแก่ไม่ได้แต่งงาน คุณปีปนั้นเคยรักกับนายทํานอง (บุตรชายคนที่ 2 ของพระ วิจิตรศิลปการ) แต่เนื่องจากผู้ใหญ่เป็นศัตรูกันก็จําต้องเลิกร้างกันไป แต่ทั้งคู่ก็ยังอาวรณ์ถึงกันอยู่
พระนิติรักษ์ธรรมสถิตย์ มี ลูกสาว 3 คน
1. ปัทมา(เดือนเต็ม สาลิตุลย์)
2. ปวีณา (ลินดา ค้าธัญเจริญ)
3. ปารมี (กาญจนา จินดาวัฒน์)
ฝ่ายพระวิจิตรศิลปการ (สมควร กระจ่างศาสตร์) มีลูกชาย 3 คน
1. นายทํานุ
2. นายทํานอง(ทม) วิชา วัชระ
3. นายธนา(นิรุตต์ ศิริจรรยา) เกิดจากภรรยาคนสุดท้าย
นายทํานุ แต่งงานกับนางพิศมร (พงษ์ลดา) ลูกผู้มีอันจะกินมีบุตรชายด้วยกัน 2 คน (และอายุไล่เลี่ยกับ ธนา น้องชายคนสุดท้อง)
1. นายแทนพงศ์หรือ(วิวัฒน์ ผสมทรัพย์)
2. นายทันพันธุ์ พระเอก(ธงชัย แมคอินไตย)
ทั้งคู่ไม่มีลูกสาวจึงขอหลานข้างเมียมาเลี้ยง 1 คนชื่อ ทานตะวัน (กัลยาณี) แม้ครอบครัวทั้ง 2 จะเป็นอริกัน แต่ทานตะวันกับปัทมาก็แอบคบกันเป็นเพื่อนสนิท เพราะเรียนโรง เรียนเดียวกันโดยผู้ใหญ่ทางบ้านไม่รู้
พระยาอภิบาลฯ และลูกชายลาออกจากราชการสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง และยังฝังใจอยู่กับค่านิยมเก่า ๆ ทําให้ฐานะตกต่ําลง ผิดกับครอบครัวพระวิจิตร ที่ขึ้นลงตามน้ำ ทําให้เฟื่องฟูทุกยุคมีแต่ความหรูหราฟุ่มเฟือยและไม่แคร์ต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทําให้ครอบครัวพระยาอภิบาลดูแคลนและเกลียดชัง
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น คุณพระนิติรักษ์ ก็ยังไม่มีโอกาสเข้ารับราชการ คุณปริก, คุณจําปา, คุณปีป ต้องทําขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ขาย เพื่อจุนเจือครอบครัว ถึงกับต้องเอาเครื่องประดับเก่าแก่ออกขายที่บ้านหม้อ คุณพิศมรเป็นผู้ไปซื้อกลับมา สร้างความขบขันให้แก่พระวิจิตรยิ่งนัก ส่วนปัทมาก็รุ่นสาวแล้ว และถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจําที่ศรีราชา พร้อมกับทานตะวัน ธนา (นิรุตต์) มาเยี่ยมทานตะวันบ่อย ๆ เกิดรักปัทมา ปวีณา น้องสาวจับ จ.ม.ได้ และฟ้อง เจ้าคุณปู่ (พระยาอภิบาล) คุณปู่โกรธจัด พรากเอาปัทมาไปจะให้บวชชี แต่ความรักนั้นยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ โดยความช่วยเหลือของทานตะวัน ธนาแอบพาปัทมาหนีออกมาจากวัดได้สําเร็จ
พระวิจิตรฯ ถือเป็นชัยชนะอย่างใหญ่หลวงที่ลูกชายขโมยหลานสาวพระยาอภิบาลฯมาได้เหมือนครั้ง มารดา และได้จัดการแต่งงานธนาและปัทมาอย่างหรูหราที่ทําเนียบรัฐบาล โดยได้ส่งการ์ดเชิญไปให้พระยาอภิบาลฯ พระยาอภิบาลฯ โกรธพระ วิจิตร ทําการหยามนําหน้าอย่างอภัยให้ไม่ได้
ส่วนปัทมานั้น เมื่อแต่งงานกับธนา แม้ว่าทุกคนจะรักใคร่ปัทมา แต่ก็ไม่อาจเข้ากับครอบครัวพระวิจิตรได้สนิทใจเพราะมักจะได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์คุณปู่ของตนเยี่ยงตัวตลกอยู่เสมอ ทําให้ปัทมาหงุดหงิดและพาล เป็นปากเสียงกับธนา
ปวีณา น้องสาวปัทมา เติบโตเป็นสาวไม่สวยเท่าน้อง จึงมีปมด้อย ขี้อิจฉาช่างฟ้องและคิดว่าตัววิเศษกว่าใคร คุณปู่โปรดปรานมาก ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่แทนพงศ์ (วิวัฒน์) ลูกชายนายทํานุ เป็นอาจารย์สอน ปวีณาทําตัวเป็นศัตรูอย่างเปิดเผย และได้หลอกถามที่อยู่ปัทมาต่อแทนพงศ์ แล้วนําไปบอก์เจ้าคุณปู่ ๆ ก็ตามไป พรากตัวปัทมากลับบ้าน เป็นขณะ เดียวกับที่ธนาจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ธนามาตามปัทมาแต่ถูกเจ้าคุณอภิบาลไล่ตะเพิดกลับไป ปัทมา เสียใจจนผูกคอตายแต่ช่วยไว้ทัน
ปารมี (กาญจนา) น้องสุดท้อง อ่อนหวาน ไม่มีปากเสียงแต่ซ่อนความฉลาดไว้เงียบ ๆ คุณปู่ไม่รักเพราะอคติว่าจะทําตัวแบบปัทมา จึงไม่ให้เรียนต่อ ปารมีสงสารปัทมา แต่ก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้ นอกจากปลอบใจและยามว่างก็ช่วยคุณอาทําขนมขาย
พระนิติรักษ์ฯ บิดาของปัทมา เมื่อออกจากราชการไปประกอบอาชีพใดก็ไม่เคยสําเร็จ ยิ่งทําให้พระอภิบาลฯ ท้อแท้และขังตัวเองอยู่แต่ในรั้วบ้าน ฐานะก็ยิ่งแย่ลง คุณปริกและน้อง ๆ ขออนุญาตเปิดร้านอาหารในบ้าน ยิ่งทําให้เจ้าคุณขมขึ้นมากขึ้น เพราะเคยเป็นหลักให้ลูก ๆ กลับจะต้องเกาะลูกกิน ไม่อยากให้ได้ชื่อว่าลูก ๆ เป็น แม่ค้าขายข้าวแกงแต่ก็สุดจะทัดทาน เพราะความจําเป็นบังคับ
ส่วนครอบครัวพระวิจิตรฯ เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของบ้านพระยาอภิบาลอย่างขบขันและสมเพช ผิดกับทํานองผู้ลูกและหลาน ๆ คือแทนพงศ์และทันพันธุ์ ซึ่งเห็นใจบ้านพระยาอภิบาลฯ โดยเฉพาะทันพันธุ์ ลูกชายนายทํานุ สถาปนิกหนุ่มหัวสมัยใหม่ เพิ่งกลับจากเมืองนอก ทันพันธุ์ไม่ยอมทําราชการที่บิดาฝากให้ นับว่าเป็นไม้แข็งต่างจากปู่และบิดาซึ่งเอาตัวรอดด้วยการเป็นไม้อ่อนลู่ลม
ทันพันธุ์ เห็นว่าเรื่องโกรธเคืองของ 2 ตระกูลเป็นเรื่องเหลวไหล เผอิญเกิดพอใจปารมีด้วย จึงพยายามหาทางเข้าบ้านเจ้าคุณอภิบาล ฉะนั้นในวันเปิดร้านอาหาร ขณะเลี้ยงพระเพล ทันพันธุ์จึงเดินเทิง ๆ เข้าไปกราบเจ้าคุณ อย่างเรียบร้อย และคุยกับเจ้าคุณฯ ได้สนิทสนม โดยท่านไม่รู้ว่าเป็นหลานพระวิจิตร เล่นเอาคุณ ๆ ทั้ง 3 พาลจะหัวใจวาย ทันพันธุ์เป็นคนเชื่อมั่น ในตัวเอง และไม่ยอมก้มศีรษะให้ใครง่าย ๆ และมีความดื้อรั้น โผงผาง อันตรง กับอุปนิสัยของเจ้าคุณพอดี ก็เลยคุยกันอย่างถูกคอ พอถามและรู้ว่าทันพันธุ์เป็นลูกหลานพระวิจิตรคู่อาฆาต เจ้าคุณจะไล่ไปก็ใช่ที่ เพราะเกรงใจแขกเหรื่อในงาน จึงได้แต่นิ่งขึงด้วยทิฐิ ทั้ง ๆ ที่พอใจทันพันธุ์อยู่ไม่น้อย
ทานตะวันเพื่อนสนิทของปัทมา ไปเรียนเมืองนอกก่อนธนา ด้วยความว้าเหว่ที่ถูกพรากปัทมาไป ทําให้ธนาต้องปรับทุกข์กับทานตะวัน ทั้งคู่เกิดเห็นใจกัน ข่าวลือมาถึงเมืองไทย ปวีณา ผู้ริษยาเยาะเย้ย ปัทมาว่าถูกผัวทิ้ง เพราะธนาจะแต่งงานกับทานตะวัน ปัทมาก็เลยกินยาตายแต่นําส่งโรงพยาบาลได้ทัน ปารมีน้องสาวมาเฝ้าปัทมาที่โรงพยาบาล ทันพันธุ์มาเยี่ยมบ่อย ๆ ด้วยความสงสารและถือโอกาสคุ้นเคยกับปารมีด้วย ปวีณามาเห็นทันพันธุ์เยี่ยมปัทมาและคุยกับปารมีด้วยความอิจฉาที่ไม่มีใครสนใจ ตนก็เก็บไปฟ้องคุณปู่ ปารมีถูกคุณปู่ เรียกไปคุย แต่ปารมีผู้น่ารักก็รับฟัง โดยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เช่นปัทมา คุณปู่จึงไม่อาจลงโทษได้
พี่น้องของธนา, ทํานอง (ทม วิศวชาติ) แทนพงศ์ (วิวัฒน์) และ ทันพันธุ์ เมื่อมาเห็นสภาพปัทมาที่ โรงพยาบาล ก็เขียนจดหมายประณามคนทั้งคู่ว่าฆ่าปัทมาอย่างเลือดเย็น ขอให้เลิกล้มการแต่งงานเสีย เผอิญ จดหมายสวนทางกับจดหมายของธนา ที่ส่งมาถึงเจ้าคุณปู่และแนบใบหย่ามาให้ปัทมาเซ็นชื่อด้วย เจ้าคุณปู่แค้นมากถือว่าถูกเหยียบย่ํา จนลืมเวทนาปัทมาที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล โดยเอาใบหย่าให้ดู พอเห็นหนังสือหย่าจากสามีถึงกับสติวิปลาสไปเลย
ทันพันธุ์รักปารมีแต่ไม่มีใครเห็นด้วย จึงให้ท่านหญิงพิไลลักขณา ไปสู่ขอบารมีให้ ด้วยความแค้น เจ้าคุณพาทันพันธุ์ไปดูสภาพของปัทมาที่เป็นบ้า ทันพันธุ์สลดใจและยอมรับผิดร่วมกับธนาทั้งที่ตนมิใช่ต้นเหตุ แม้กระนั้น เจ้าคุณก็ยังไม่ยอมออกปากยกปารมี
เมื่อธนารู้เรื่องเข้าก็รีบกลับ เมืองไทยเพื่อรับผิดชอบปัทมาและอยาก ให้ทันพันธุ์สมหวังแต่ทันพันธุ์กลับโกรธและประณามธนาว่าโหดร้ายต่อปัทมา ข้างพระวิจิตรก็โกรธทันพันธุ์ ที่ไปกราบกรานขอหลานสาวศัตรู
ถึงกับจะตัดขาด ทันพันธุ์จึงเกิดความเครียดและโกลาหลกันทั้ง 2 บ้านแต่ทันพันธุ์กลับไม่สนใจคงปฏิบัติตัวต่อพระยาอภิบาลอย่างสม่ําเสมอจนกระ ทั้งท่านใจอ่อนยอมยกปารมีให้ แต่มีข้อแม้อยู่ 2 ข้อ
1. ต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุล ของพระยาอภิบาล เพราะต้องการสายเลือดดี ๆ มาเป็นผู้สืบสกุล
2. ขอเป็นผู้รดน้ำบ่าวสาว แต่เพียงคนเดียว ซึ่งทันพันธุ์ก็ยอมตกลง ทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันอย่างสมใจ และธนาก็เลิกล้มที่จะแต่งงานกับทานตะวันและ ขอรับผิดชอบปัทมาที่เป็นบ้า ธนาหวัง – ว่าสักวันหนึ่ง…ปัทมาจะหายกลับมา เป็นปัทมาคนเดิมได้และชีวิตแต่งงาน ที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ก็คงจะราบรื่นเสียที่
ผู้กำกับ : อารีย์ นักดนตรี
ผลิตโดย :
เขียนบท : สุภาว์ เทวกุล
บทประพันธ์ : จุลลดา ภักดีภูมินทร์
นักแสดงละคร ขมิ้นกับปูน 2528
นิรุตติ์ ศิริจรรยา
ธงไชย แมคอินไตย์
กาญจนา จินดาวัฒน์
เดือนเต็ม สาลิตุล
ส.อาสนจินดา