Tag Archives: จารุณี สุขสวัสดิ์

ฟ้ามีตะวัน หัวใจฉันมีเธอ

คุณหญิงดารา สุริยกานต์ หอบลูกชาย ด.ช.ปรมี ไปอยู่ออสเตรเลีย หลังจาก ม.ล.ปารมี คว้า เสลา สาวใช้มาเป็นเมียน้อย พอคุณหญิงหนีไป เสลา จึงขึ้นเป็นใหญ่ในบ้านและเปลี่ยนชื่อเป็น เนตรเสลา แต่ไม่มีทายาท จึงขอ ด.ญ.นัยน์นภา หรือ แนน มาเป็นบุตรบุญธรรม จน ปารมี ถึงแก่อนิจกรรม

เวลาล่วงไปนับสิบปี ปรมี กลับมาในฐานะนักธุรกิจใหญ่ในชื่อ พอล เพื่อทวงทุกสิ่งที่เป็นของเขากลับคืนจาก เนตรเสลา ผู้กุมบังเหียนบริษัทจิวเวลรี่ยักษ์คราวน์ไดม่อน ซึ่งสภาวะการเงินย่ำแย่เพราะ เนตรเสลา ยักยอกไปเล่นการพนัน ปรมี จึงขอยืมเงินจาก มร.เดสมันต์ พ่อเลี้ยง เพื่อเข้าไปเป็นหุ้นส่วน เนตรเสลา หลงใหลความหล่อของ พอล จึงทำให้ สิงขร เลขาฯ ชู้รักลับๆไม่พอใจ ปรมี ได้พบแนนขณะเดินแฟชั่นโชว์เครื่องเพชร

พอลใ้ช้วิธีก้าวเข้ามาโดยมีแผนว่าจะเป็นหุ้นส่วนกับเนตรเสลา แต่สร้างความลำบากให้กับแนนมาก ทั้งเรื่อง ขายสร้อยเพชร ที่ขอยืมมาจากที่อื่น และเมื่อเนตรเสลานำเพชรที่จะไปทำสร้อยให้กับคุณหญิงอรอุษาไปใช้หนี้การพนัน และนำโมอิสไปทำขายแทน เมื่อแนนตรวจพบและบอกความจริงนั้น ทำให้เนตรเสลาโกรธมาก

เนตรเสลา จะยกแนนให้ สิงขร แต่ ปรมี ตามมาช่วยทัน และเมื่อเนตรเสลา เพิ่งรู้ตัวว่า ปรมี หรือ พอล ประธานบริษัทคนใหม่คือผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวง หล่อนจึงจับตัวทั้งคู่ไป แต่พลาดยิงไปถูกสิงขรเสียชีวิต เนตรเสลามีอาการเส้นเลือดในสมองแตก จนป่วยเป็นคนพิการ  ปรมี แต่งงานกับ นัยน์นภา ในที่สุด

แฝดพี่ฝาดน้อง

เรื่องราวของฝาแฝด 3 รุ่น ที่มีชีวิตผิดแผกกันดุจโชคชะตาเล่นตลก ชีวิตจึงล้มเหลว และการกระทำของตนส่งผลกระทบมาถึงรุ่นลูกหลาน แต่ชีวิตทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ ถ้ามีมือที่เข้มแข็งมีเมตตาโอบอุ้มด้วยความรักอย่างแท้จริง

เสงี่ยมและสงัด สองสาวฝาแฝดที่เกิดมาหน้าตาสะสวยแต่ยากจน เป็นภรรยาลับๆของท่านนายพลอาทิตย์ด้วยกันทั้งคู่ ความมาแตกเอาเมื่อวันที่ท่านนายพลอาทิตย์จะเข้าพิธีแต่งงานกับคุณหญิง ปราศรัย ลูกสาวเศรษฐีและผู้ดีเก่า เพราะสงัดพาเสงี่ยมบุกเข้ามาอาละวาดกลางงาน สร้างความอับอายแก่คุณหญิงปราศรัยเป็นอย่างมากจนเกือบจะล้มพิธี แต่ป้าอ้วน คนสนิทของคุณหญิงปราศรัยห้ามเอาไว้ และแนะนำให้คุณหญิงปราศรัยยอมให้ท่านนายพลอาทิตย์พาเสงี่ยมและสงัดเข้ามา อยู่ร่วมชายคาบ้านด้วย เพราะดีกว่าปล่อยให้ท่านนายพลอาทิตย์ออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน คุณหญิงปราศรัยเลยให้เสงี่ยมและสงัดอยู่เรือนหลังเล็กในอาณาบริเวณบ้านประภาวิสิทธิ์ด้วยกัน

ต่อมาเสงี่ยมตั้งท้องเป็นคนแรก ท่านนายพลอาทิตย์ดีใจมาก เอาใจเสงี่ยมจนสงัดอิจฉา เลยหาทางกลั่นแกล้งทำให้เสงี่ยมตกบันไดหวังให้แท้ง แต่เสงี่ยมไม่แท้ง แต่คลอดลูกชายฝาแฝดก่อนกำหนด ท่านนายพลอาทิตย์ดีใจมาก ยกเครื่องเพชรให้เสงี่ยมเป็นรางวัลที่มีลูกชายให้ชุดหนึ่ง แต่สงัดก็แย่งเอาไป ท่านนายพลตั้งชื่อลูกชายฝาแฝดว่าปรัชญาและประวรรต

ต่อมาไม่นานคุณหญิงปราศรัยก็ท้องและคลอดลูกสาว ให้ชื่อว่าอาทิตยา ฝ่ายสงัดเมื่อไม่สามารถมีลูกสืบสกุลให้ท่านนายพลได้เหมือนอย่างเมียคนอื่นๆจึงตกกระป๋อง สงัดแค้นใจมาก เลยเสี้ยมสอนยุยงให้ปรัชญา ประวรรต และอาทิตยาตีกันบ่อยๆ แต่ปรัชญากับอาทิตยานั้นไม่ค่อยเชื่อคำเสี้ยมสอนของสงัด มีเพียงประวรรตเท่านั้นที่เชื่อฟังสงัด ซึ่งมักจะสอนอยู่เรื่อยๆว่า การเกิดมามีฝาแฝดนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายของชีวิต เพราะแทนที่จะได้รับความรักจากพ่อแม่ และคนรอบข้างอย่างเต็มที่ กลับต้องถูกแบ่งปันความรักออกไป ทำให้ประวรรตเริ่มเกลียดปรัชญา เหมือนอย่างที่สงัดเกลียดเสงี่ยม

วันหนึ่งสงัดคิดฆ่าอาทิตยาโดยการวางยาพิษใส่ในไอศครีมเพราะเชื่อว่าตั้งแต่อาทิตยาเกิดมา ทำให้ชีวิตสงัดตกอับยิ่งกว่าเดิม แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร สงัดกลับเป็นคนโดนยาพิษนั้นเสียเอง สงัดคิดว่าคนที่สลับถ้วยไอศครีมที่มียาพิษมาให้ตนกินคือประวรรต สงัดจึงจับประวรรตโยนตกระเบียงไปก่อนสิ้นใจตาย เสงี่ยมเห็นเหตุการณ์ตอนที่สงัดโยนประวรรตตกระเบียงไปก็คิดว่าลูกตายแน่ จึงช็อคหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เสงี่ยมก็กลายเป็นคนสติเลอะเลือน จึงไม่รู้ว่าประวรรตนั้นยังไม่ตาย

เมื่อประวรรตเริ่มโตขึ้น ความเกลียดชังที่มีต่อปรัชญาและอาทิตยาก็มากขึ้นด้วย เขามักจะทำความผิดแล้วโยนบาปให้ปรัชญาอยู่เสมอ ซึ่งปรัชญาก็มักจะยอมรับความผิดนั้นเป็นของตนแทนประวรรต ต่อมาประวรรตไปปล้ำเพื่อนสาวของอาทิตยาซึ่งเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลท่านหนึ่ง ทำให้คุณหญิงปราศรัยตัดสินใจส่งประวรรตไปเป็นทหารเพื่อให้เรื่องเงียบ ส่วนปรัชญานั้นเรียนจนจบปริญญาตรีในเมืองไทย คุณหญิงปราศรัยจึงส่งปรัชญาไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมกับอาทิตยา

เมื่อประวรรตไปเป็นทหาร ก็ยังคงสร้างปัญหาไม่หยุด เขาไปได้สาลี – สาวงามประจำจังหวัดเป็นภรรยาจนตั้งท้อง ประวรรตจำยอมจดทะเบียนสมรสกับสาลีแต่กลับใส่ชื่อปรัชญาเป็นเจ้าบ่าวโดยหลอก สาลีว่าเป็นชื่อเดิมก่อนมาเป็นทหาร ขณะเดียวกันประวรรตก็ลักลอบขายอาวุธเถื่อนและยาบ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน อภิพจน์ เพื่อนนายทหารรุ่นเดียวกัน ซึ่งหลงรักสาลีอยู่ก่อนจับได้ ประวรรตจึงหลอกอภิพจน์ให้ไปเหยียบกับระเบิด แต่อภิพจน์ยังไม่ถึงฆาต เพียงแค่ขาขาดแต่ไม่ตาย ส่วนประวรรตก็หลบหนีคดีเข้าไปอยู่ในป่ากับพวกกองกำลังค้ายาบ้าและอาวุธ

สาลีเมื่อรู้ความจริงว่าประวรรตเป็นคนอย่างไรก็ตรอมใจและสิ้นใจในวันที่ให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝดการะเกด และชมพู่ ทำให้สุรภี น้องสาวของสาลีต้องออกจากการเรียนกลางครันเพื่อมาเลี้ยงหลานสาวฝาแฝด โดยมีนรินทร์ เพื่อนชายคนสนิทคอยให้ความช่วยเหลือ ส่วนอภิพจน์เมื่อรู้ข่าวสาลีตายก็เสียใจมาก ตัดสินใจหันหน้าเข้าวัดเพื่อหาทางปลง

เวลาผ่านไป 7 ปี บ้านที่สุรภีอยู่กับหลานสาวสองคนเกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว นรินทร์จึงแนะนำให้สุรภีพาหลานเข้ากรุงเทพฯเพื่อตามหา “ปรัชญา” เพราะมีชื่อเขาเป็นพ่อเด็กแฝดในทะเบียนเกิด

ทันทีที่คุณหญิงปราศรัยเห็นหน้าหลานแฝดและทะเบียนสมรสของสาลีกับ “ปรัชญา” ก็เดาออกว่าประวรรตก่อเรื่องอีกแล้ว แต่ก็ยอมรับสุรภีและหลานสาวฝาแฝดทั้งสองให้เข้ามาอยู่ในบ้าน โดยสั่งห้ามทุกคนในบ้านพูดเรื่องประวรรตให้สุรภีได้ยินเป็นอันขาด เพื่อรอปรัชญาเรียนสำเร็จและกลับมาจากเมืองนอก และให้ปรัชญาตัดสินใจเอาเองว่าจะยอมรับเด็กแฝดเป็นลูกตามใบทะเบียนเกิดหรือ ไม่

เมื่อ ปรัชญาและอาทิตยากลับจากเมืองนอกและได้เจอกับเด็กแฝด ปรัชญาก็ยอมรับเป็นลูกของตนแต่โดยดี ฝาแฝดเองก็ติดคุณพ่อรูปหล่อใจดีแจ ส่วนสุรภีเมื่อพบปรัชญาครั้งแรกก็ต่อว่าเขามากมายด้วยวาจารุนแรง เพราะอคติที่เขาทำให้พี่สาวเธอต้องตายไปโดยไม่ได้ใส่ใจใยดี ปรัชญาไม่ได้อธิบายถึงความจริงเพราะเห็นแก่น้องชายที่ทุกคนเชื่อว่าตายไป แล้วในป่า และเรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ถึงจะพยายามอธิบายก็ไม่แน่นักว่าเธอจะเชื่อ แต่สุรภีก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ไม่เห็นท่าทีเจ้าชู้ของปรัชญา ดูเขาเป็นสุภาพบุรุษ ทำงานจริงจังและใส่ใจบุตรสาวฝาแฝดเยี่ยงพ่อที่ดีพึงกระทำ แต่ปรัชญาก็ถูกสุรภีพูดจากระทบกระเทียบอยู่เสมอ ปรัชญาไม่ถือสากลับมองเห็นว่าเธอน่ารักตรงไม่มีมารยาเปิดเผยจริงใจ ทั้งยังหวังว่าสักวัน…สุรภีจะมองเห็นตัวตนจริงๆของเขาและยอมรับเขาได้ในที่สุด

ฝ่าย ประวรรตเมื่อรู้ว่าปรัชญากับอาทิตยากลับมาจากเมืองนอก และยอมรับเด็กแฝดเป็นลูก ก็อิจฉาว่าปรัชญาจะได้เสวยสุขกับทรัพย์สมบัติของประภาวิสิทธิ์ในขณะที่เขา ยังรอนแรมอยู่กับกองโจรในป่า จึงตัดสินใจออกจากป่าเข้ากรุงเทพฯมาอาศัยอยู่กับสง่า น้าชาย

ส่วนนรินทร์นั้นเมื่อตามสุรภีเข้ามากรุงเทพฯด้วยและได้รู้จักกับอาทิตยา ก็เห็นว่าอาทิตยานั้นสวย มีความรู้ดี ชาติตระกูลดี และรวยกว่าสุรภี เขาจึงเปลี่ยนใจจากสุรภีหันไปหาอาทิตยาทันที เมื่อมิเชลแฟนของอาทิตยาตามมาหาอาทิตยาที่เมืองไทย นรินทร์ก็ขัดขวางทุกอย่างจนทะเลาะกับอาทิตยา

นรินทร์ผิดหวังและอารมณ์เสียมากจึงไปกินเหล้าที่ผับของสง่าจนได้เจอกับประวรรตเข้า ก็เข้าใจผิดคิดว่าประวรรตคือปรัชญา ประวรรตเห็นสบช่องทางทำลายอาทิตยาจึงยุให้นรินทร์ปล้ำอาทิตยา แต่ก็ผิดแผนเพราะอภิพจน์ตามไปช่วยไว้ได้ทัน ทำให้อาทิตยารู้ใจตัวเองดีขึ้นว่าเธอนั้นไม่ได้รักมิเชล แต่รักอภิพจน์ หากในขณะเดียวกันอภิพจน์ก็ไม่กล้าเอ่ยปากฝากรักอาทิตยาเพราะเจียมตัวว่าเป็นคนพิการขาขาด ซ้ำยังสำนึกผิดที่ไม่เคยช่วยสุรภีเลี้ยงชมพู่ การะเกด ลูกที่เกิดจากสาลี อดีตคนรัก อภิพจน์จึงพยายามจะแก้ตัวด้วยการช่วยเหลือสุรภีในทุกทาง ทำให้อาทิตยาเข้าใจผิดคิดว่าอภิพจน์ชอบสุรภี

ฝ่ายประวรรตเมื่อสบโอกาสก็จัดการลักพาตัวปรัชญามากักขังไว้ที่ผับสง่า แล้วปลอมตัวเป็นปรัชญากลับเข้าไปอยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์ เพื่อหาทางฆ่าคุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยา เพื่อที่สมบัติทั้งหมดจะได้ตกอยู่กับ “ปรัชญา”

ประวรรตแกล้งตัดสายเบรครถหวังให้คุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยาประสบอุบัติเหตุ แต่กลับพลิกล็อคเสงี่ยมที่สติไม่ดีวิ่งทะเร่อทะร่ามาขวางก่อนรถจะออกจากบ้าน ทำให้รถชนเสงี่ยมแล้วแฉลบไปชนรั้วบ้าน คุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่เสงี่ยมศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง ยังผลให้ความจำของเสงี่ยมเริ่มกลับคืนมาทีละเล็กทีละน้อย

ส่วนสุภีเองก็รู้สึกว่า “ปรัชญา” คนนี้ดูแปลกแตกต่างไปจากเดิม จึงเล่าเรื่องให้เตย เพื่อนสนิทที่เป็นนักข่าวสายอาชญากรรมฟัง เตยสืบจนรู้เรื่องว่าปรัชญานั้นมีฝาแฝดชื่อประวรรต และเชื่อว่าคนที่อยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์เวลานี้คือประวรรตที่ก่อคดีติดตัวมากมาย แต่ยังไม่ทันที่เตยจะเอาความจริงนี้ไปบอกกับสุรภี เธอก็ถูกประวรรตลากตัวไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งปิดปากเสียก่อน

แต่ในขณะเดียวกันคนรอบข้างก็เริ่มสงสัยในตัวปรัชญาปลอมนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะชมพู่ที่บอกสุรภีอยู่เรื่อยว่า “พ่อ” คนที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกนั้นมีแผลเป็นที่หัว (แผลเป็นที่เกิดจากปรัชญาเคยถูกประวรรตตีหัวแตกในตอนเด็ก) แต่ “พ่อ” คนปัจจุบันกลับมีแผลเป็นที่หลัง (แผลเป็นที่เกิดจากการที่ประวรรตถูกสงัดเหวี่ยงตกระเบียงในตอนเด็ก) ทำให้สุรภีพยายามจับพิรุธปรัชญาปลอมมากขึ้น

ฝ่ายอภิพจน์ก็เชื่อว่าคนที่อยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์เวลานี้คือประวรรตจึงตัดสินใจบอกกับอาทิตยา ทำให้อาทิตยาตกใจมาก ขณะเดียวกันคุณหญิงปราศรัยกับป้าอ้วนก็สงสัยในตัวปรัชญาปลอมไม่แพ้กัน จึงตัดสินใจเปลี่ยนพินัยกรรมยกสมบัติให้อาทิตยา กับชมพู่และการะเกดเท่านั้น ปรัชญาปลอมรู้เข้าจึงบังคับคุณหญิงปราศรัยให้เซ็นเปลี่ยนพินัยกรรมเสียใหม่โดยยกสมบัติทั้งหมดให้ “ปรัชญา” แต่เพียงผู้เดียว แล้วจัดการช็อตไฟฟ้าคุณหญิงปราศรัยหวังให้ตาย แต่ถูกสุรภีและป้าอ้วนจับได้เสียก่อน

ประวรรตเห็นว่าความจริงถูกเปิดโปง แถมอภิพจน์กับอาทิตยายังพากำลังตำรวจมาล้อมจับอีกด้วย ประวรรตแค้นใจมาก จึงยิงอาทิตยาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วจับสุรภีเป็นตัวประกันหนีไปชายแดน ผลจากการบาดเจ็บของอาทิตยาคราวนี้ทำให้อาทิตยาได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วอภิพจน์นั้นรักเธอ ไม่ได้รักสุรภีอย่างที่อาทิตยาเข้าใจผิดไป ทั้งคู่จึงปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

ประวรรตจับตัวสุรภีไปก็พาไปขายให้เสี่ยตง หวังจะเอาเงินแล้วหนีเข้าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ปรัชญา อภิพจน์ และเสงี่ยมซึ่งเวลานี้ความจำกลับคืนมาทั้งหมดแล้วตามมาทันก่อนที่ประวรรตจะ หนีออกไปได้ ปรัชญาและเสงี่ยมพยายามเกลี้ยกล่อมให้ประวรรตยอมมอบตัว แต่ประวรรตตัดสินใจหนีต่อเพราะรู้ดีว่าคดีร้ายแรงต่างๆที่ตนเองก่อขึ้นนั้น โดนโทษประหารอย่างแน่นอน

ประวรรตหนีไปจนถึงริมหน้าผา ปรัชญาตามไปทันพร้อมเสงี่ยมกับตำรวจ ประวรรตจึงจับปรัชญาเป็นตัวประกัน ทั้งคู่สู้กัน ประวรรตผลัดตกหน้าผาแต่ปรัชญาคว้ามือเอาไว้ได้ทัน แต่น้ำหนักตัวของประวรรตดึงให้ร่างปรัชญาเกือบจะตกไปด้วยกัน แต่ปรัชญาก็ไม่ยอมปล่อยมือประวรรต บอกว่าเกิดพร้อมกันก็จะยอมตายพร้อมกัน ทำให้ประวรรตสำนึกในความผิดบาปที่ตนได้ก่อและโยนความผิดนั้นให้ปรัชญาเรื่อยมา จึงตัดสินใจปล่อยมือปรัชญาเพื่อจะได้ตายเพียงคนเดียว

หลังการตายของประวรรต ปรัชญาตัดสินใจบวชหน้าไฟอุทิศส่วนกุศลให้กับฝาแฝดของเขา ส่วนสุรภีเมื่อรู้ความจริงก็อายมาก เพราะเคยต่อว่าปรัชญาอย่างรุนแรงมาโดยตลอดด้วยความเข้าใจผิด จึงพาลโกรธที่ปรัชญาไม่อธิบายความจริงให้เธอรู้ก่อนหน้านี้ ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงปากร้ายไร้เหตุผล ซ้ำยังเรียกร้องให้เขาขอโทษเธออีก

ปรัชญาเอาความมาปรึกษาอาทิตยา อาทิตยาเจ้ากี้เจ้าการให้ปรัชญาง้องอนและขอโทษสุรภีด้วยการพาสุรภีไปชมคอนเสิร์ต ทั้งคู่เกือบจะเข้าใจกันได้อยู่แล้ว แต่สุรภีกลับเข้าใจผิดคิดว่าปรัชญามีแฟนอยู่แล้วแต่ยังมาทำดีกับเธออีก สุรภีจึงตัดสินใจสอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอก ร้อนถึงอาทิตยา อภิพจน์ และหลานสาวฝาแฝด ชมพู่ การะเกด ที่อยากให้ปรัชญากับสุรภีได้ลงเอยกัน จึงออกอุบายทำทีเป็นว่าเด็กแฝดหนีออกจากบ้านเพราะเสียใจที่สุรภีจะไปเมืองนอก

สุรภีร้อนใจมากจึงชวนปรัชญาออกติดตามหาเด็กแฝด แต่พอรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนลวง สุรภีก็ยิ่งโกรธหนัก แต่ปรัชญาบอกว่าถ้าไม่ทำอย่างนี้สุรภีก็คงจะหนีเขาไปเมืองนอก และห่างเหินกันไป ซึ่งเขาคงทนไม่ได้เพราะรักเธอ แล้วปรัชญาก็ขอสุรภีแต่งงานท่ามกลางเสียงเชียร์ของทุกคน

ในที่สุดสุรภีก็ใจอ่อนยอมตกลงแต่งงานกับปรัชญาพร้อมกับคู่ของอาทิตยาและอภิพจน์ ทั้งสองตั้งใจจะเลี้ยงเด็กแฝดอย่างดี ไม่ให้เกิดกรณี “แฝดพี่ ฝาดน้อง” เช่นที่เคยเกิดขึ้นกับคู่ของปรัชญา-ประวรรต และเสงี่ยม-สงัดมาแล้ว

แผ่นดินของเรา

แผ่นดินของเรา เป็นเรื่องราวที่เริ่มขึ้นในบ้านจิระเวสน์ พระวรนาตประณต (ผิน) พ่อนางเอก พาครอบครัว คือ เพทาย ภรรยาใหม่ ภัคคินี ลูกสาวของภรรยาใหม่กับตน และลูกสาวสองคน คือ อัจฉรา กับ สายสวรรค์ ที่เกิดกับรำเพย ภรรยาเก่าผู้ล่วงลับ  ไปเยี่ยมธำรง เพื่อนเก่าที่หนีไปทำสวนมะพร้าวที่ทุ่งวัวแล่นเพราะต้องการตัดใจจากท่านหญิงที่เคยรัก

อุบัติเหตุที่เกิดกับธำรงทำให้เขาต้องมารักษาตัวที่ คฤหาสน์จิระเวสน์ที่กรุงเทพ ฯ  ระหว่างรักษาตัวได้เกิดความผูกพันทางใจกับภัคคินี เขาคิดว่าไม่มีหวังและต้องการกลับทุ่งวัวแล่น แต่แล้วเมื่อภัคคินีแสดงอย่างเปิดเผยว่าไม่รังเกียจ ทั้งคู่จึงตกลงแต่งงานกันก่อนกลับไปทุ่งวัวแล่น

ครอบครัวของพระวรนาตเดินทางไปพักผ่อนกับลูกสาวและลูกเขยที่ทุ่งวัวแล่น ภัคคินีได้พบกับนเรนทร์ คู่หมั้นของอัจฉราที่เพิ่งกลับจากฝรั่งเศส เค้าลางบางอย่างเริ่มก่อตัวระหว่างความสัมพันธ์ของพี่สาวกับคู่หมั้น

ภัคคินีเดินทางขึ้นมารักษาตัวที่กรุงเทพ ฯ เพราะป่วยกระเสาะกระแสะมานานหลังโดนงูกะปะกัดและนเรนทร์ช่วยไว้ เธอได้รับรู้ว่าพี่สาวกำลังจะแต่งงานกับนเรนทร์

นเรนทร์สารภาพความในใจกับภัคคินีในวันงานขึ้นบ้านใหม่ของหม่อมอ่อน และได้รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็คิดเหมือนกัน งานแต่งงานที่เตรียมกันแทบล้มประดาตายก็จบสิ้นลงในคืนวันสุกดิบนั่นเอง เนื่องจากเจ้าบ่าวกับน้องเจ้าสาวหนีตามกันไป สร้างความเจ็บช้ำให้กับทุกคน อัจฉราตัดสินใจไปอยู่ทุ่งวัวแล่นกับธำรงเนื่องจากเธอมีเลือดเนื้อเชื้อไขของชายคนรักในท้อง

หลายปีผ่านไป สุดา เพื่อนเก่าของนเรนทร์ และสามีของเธอไปพบกับนเรนทร์ในสภาพที่น่าสมเพช ใช้ชีวิตไปวัน ๆ มีภรรยาอีกหลายคน ทั้ง ๆ ที่ยังอยู่กับภัคคินี  สุดาได้เจอกับภัคคินีเพราะไฟไหม้ตลาดปากน้ำโพเช่นกัน

คุณหญิงวินิจนฤปกรณ์ แม่ของนเรนทร์ไปเยี่ยมเพทาย แม่ของภัคคินีที่กำลังเจ็บหนักด้วยโรคหัวใจ เธอขอร้องให้ธำรงไปพาภัคคินีกลับมาเยี่ยมแม่ เผื่อว่าเพทายจะมีหวังรอดชีวิต

ธำรง ตามหาภัคคินีจนเจอ และพบว่าเธอใช้ชีวิตตกต่ำอย่างที่สุดด้วยการขายร่างกายแลกกับเงินเพื่อรักษา อาการของนเรนทร์ ธำรงยังไม่ทันพาภัคคินีกลับไป เพทายก็เสียชีวิตเสียก่อน

พระวรนาตตัดสินใจขายจิระเวสน์ให้หม่อมอ่อนแล้วพาสายสวรรค์ไปอยู่พะเยา แล้ววันหนึ่งภัคคินีก็ซมซานกลับมาที่ทุ่งวัวแล่น ตามที่ธำรงเคยบอกว่า กลับมาหาฉันถ้าเขาไม่ต้องการเธออีกต่อไป  เธอจบชีวิตที่นี่โดยได้ปรับความเข้าใจกับอัจฉราเป็นครั้งสุดท้าย

อัจฉรา ตัดสินใจแต่งงานกับธำรงแต่ในวันแต่งงานก็เกิดเรื่องขึ้น (เข้าใจว่าอัจฉราโรคหัวใจกำเริบกระทันหัน) ธำรงเลี้ยงดูอรินทร์ ลูกชายของนเรนทร์กับอัจฉรา มาจนโต และสุดท้ายได้ไปประมูลจิระเวสน์มาไว้จนสำเร็จ ในวันประมูลเขาได้พบกับนเรนทร์ผู้เป็นชายที่ดูแก่กว่าวัยและใกล้ถึงมรณกาล เพราะความยากจนและโรค ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน ธำรงนั่งดูภาพภัคคินีอยู่ในจิระเวสน์และจากไปอย่างสงบ

แผ่นดินของเรา

นักแสดงละคร แผ่นดินของเรา

ใหม่ เจริญปุระ แสดงเป็น ภัคคิณี
ยุรนันท์ ภมรมนตรี แสดงเป็น ธำรง
จอนนี่ แอนโฟเน่ แสดงเป็น นเรนทร์
ภัสสร บุญยเกียรติ แสดงเป็น อัจฉรา
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น สายสวรรค์

ดอกโศก

พลเอกสุดเขต รัตนชาติพัลลภ (เกรียงไกร อุณหะนันท์) พบว่าเด็กหญิงขายหนังสือพิมพ์ ณ สี่แยกแห่งหนึ่งที่มาเป็นลม ล้มอยู่ข้างรถ คือ หลานที่เกิดจากลูกสาวของสมใจ (ปวีณา ชารีฟสกุล) เมียคนใช้ของตนที่หนีออกจากบ้านไปเมื่อกว่า 30 ปีมาแล้ว สุดเขตจะเอาหลานมาเลี้ยง แต่สมใจไม่ยอม ท่านจึงให้เพ็ญพักตร์ (เมทินี กิ่งโพยม) ลูกสาวคนโตไปซื้อตัวดอกโศก (ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) จากสามีใหม่ผู้เห็นแก่เงินของสมใจ

สุดเขต เปลี่ยนชื่อหลานสาวจากดอกโศกเป็น อภิริมย์ฤดี การมาอยู่ในตึกใหม่ของสกุลเก่าแก่ไม่ทำให้ดอกโศกสุขสบาย ทั้งบ้านมีแต่คนเกลียดชังเธอ นับตั้งแต่เพ็ญพักตร์และเพ็ญตระการ (แอริณ ยุกตะทัต) ลูกสาว สุดสวย (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) ลูกสาวคนเล็กของคุณดา ช่วงแรกดอกโศกไม่ยอมและตอบโต้ด้วยวิธีการของเด็กที่เติบโตมาอย่างตีนถีบปากกัด หลายปีผ่านไป ดอกโศกโตขึ้นพร้อมกับความตระหนักว่าต้องอดทน สงบเสงี่ยมเจียมตนและต้องเอาความดีชนะความโกรธเกลียดทั้งปวง เธอจึงอยู่ได้อย่างมีความสุข

ย้อนไปเมื่อตอนดอกโศกยังขายหนังสือพิมพ์ที่สี่แยก เด็กหญิงได้พบอัศนัย (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ชายหนุ่มใจดีที่ซื้อหนังสือพิมพ์เป็นประจำ อัศนัยรู้สึกผูกพันกับดอกโศกอย่างประหลาด และบังเอิญเหลือเกินที่อัศนัยเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับตระกูล (เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) สามีของเพ็ญพักตร์ เขาจึงมีโอกาสติดตามชีวิตของดอกโศกด้วยความเมตตาจริงใจ คอยปลอบโยนให้กำลังใจและช่วยเหลือดอกโศกจนโตเป็นสาวรุ่น ดอกโศกจึงบูชาอัศนัย ความผูกพันซึ่กันและกันถูกถักทอจนกลายเป็นความรักอย่างลึกซึ้ง แต่ความรักนี้ต้องซ่อนเร้นเพราะเพ็ญตระการก็หลงรักอัศนัยอยู่เช่นกัน

วันหนึ่งอัศนัยพบปรียากมล (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) แม่ม่ายสาวสวยที่หวนกลับมาเพื่อรื้อฟื้นความรักความหลังที่มีต่อกันเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น ปรียากมลรุกอัศนัยตลอดเวลาด้วยชั้นเชิงของผู้หญิงที่เจนจัดในสนามรัก จนอัศนัยเกือบจะเผลอกายไปหลายครั้ง และเธอยังทราบอีกว่าบัดนี้มีผู้หญิงที่เป็นศัตรูหัวใจถึงสองคน คือ ดอกโศก และเพ็ญตระการ เธอจึงตั้งใจว่าจะสู้จนสุดชีวิต เพื่อไม่ให้สูญเสียอัศนัยไป

เมื่อสุดเขตเกิดเสียชีวิตกระทันหัน ดอกโศกตัดสินใจกลับมาอยู่กับยาย และทำงานเป็นไกด์นำเที่ยว ทำให้เธอได้พบกับ มิสซิสเบนส์ (จารุณี สุขสวัสดิ์) ทันทีที่เห็นสร้อยกางเขนที่ดอกโศกสวม มิสซิสเบนส์ก็รู้ว่านี่คือหลานสาวที่เกิดจากลูกชายของตนที่ตายไป เธอจึงพาดอกโศกไปอยู่อเมริกา เพราะต้องการให้หลานสาวหลุดพ้นจากการรุกรานของปรียากมล และเพ็ญตระการ มิสซิสเบนส์ชักนำเอ็ดดี้ (กันต์ดนย์ อะคหแซน) หนุ่มน้อยชาวอเมริกันให้ดอกโศก แต่ดอกโศกไม่มีใจให้ใครอีก คุณย่าจึงพาดอกโศกกลับเมืองไทยเพื่อพิสูจน์ความรักของอัศนัยอีกครั้ง ดอกโศกไปทำงานที่โรงแรมของภักดิ์ภูมิ (อรรค นิมิตรชัย) ชายหนุ่มที่หลงรักดอกโศกเมื่อแรกพบ แม้ว่าเขาเองจะมีฉัตรทอง (กวาง เดอะสตาร์) ลูกสาวเพื่อนพ่อที่เป็นคู่หมายกันอยู่

ความรักหลายเส้าดำเนินไปอย่างเข้มข้น เพ็ญพักตร์ผลักดันลูกสาวให้อัศนัยอย่างเต็มที่ ปรียากมลเองก็ใช้ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับอัศนัยเป็นเครื่องผูกมัด แต่อัศนัยไม่ยอมและยังแสดงออกทุกอย่างว่าดอกโศกเท่านั้นที่เป็นตัวจริง โชคเข้าข้างเพ็ญพักตร์เมื่อรู้ว่าปรียากมลนั้นแท้จริงคือแม่แท้ๆ ของดอกโศก เพ็ญพักตร์จึงหวังจะใช้ความลับนี้เป็นเครื่องมือกำจัดสองแม่ลูกไปให้พ้นทาง แต่การณ์กลับผิดคาด เพราะแทนที่ปรียากมลจะหยุด กลับยิ่งทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะดอกโศกให้ได้ สุดท้ายสงครามความรักระหว่างแม่กับลูกในไส้จะลงเอยเช่นไร อัศนัยกับดอกโศกจะสมหวังในรักหรือไม่ ตามลุ้นต่อได้ในละคร ดอกโศก

รายชื่อนักแสดงละคร ดอกโศก

ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ แสดงเป็น อัศนัย
โสภิตนภา ชุมภาณี แสดงเป็น ปรียากมล
ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ แสดงเป็น ดอกโศก
อรรค นิมิตรชัย แสดงเป็น ภักดิ์ภูมิ
เมทินี กิ่งโพยม แสดงเป็น เพ็ญพักตร์
แอริน ยุกตะทัต แสดงเป็น เพ็ญตระการ
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ แสดงเป็น สุดสวย
ปวีณา ชารีฟสกุล แสดงเป็น สมใจ
เกรียงไกร อุณหะนันท์ แสดงเป็น สุดเขต
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น มิสซิสเบนส์
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล แสดงเป็น ตระกูล
กันต์ดนย์ อะคหแซน แสดงเป็น เอ็ดดี้
ปฎิภาณ หล่อเสถียร แสดงเป็น ป้อม
กรวรรณ สุทธิวงษ์ แสดงเป็น ฉัตรทอง
ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร แสดงเป็น อ้น
อิษฎ์อาณิก อินทรสูตร แสดงเป็น โอ๋
อริสรา วงษ์ชาลี แสดงเป็น สมปอง
กิตติพงศ์ ตันติชินานท์ แสดงเป็น สมหมาย
กลศ อัทธเสรี แสดงเป็น ตา
รสริน จันทรา แสดงเป็น คุณนายประดับ
ณัฎฐพงษ์ ชาติพงศ์ แสดงเป็น หมื่น

นิมิตมาร

ภาขวัญ (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) หญิงสาวสวยเพิ่งเรียนจบและเข้ารับราชการในกระทรวงกลางใจเมือง ภาขวัญจึงต้องย้ายหอพักเข้ามาอยู่ในเมือง ภาขวัญชวน เต็มใจ (ธนิดา กาญจนวัฒน์) เพื่อนสนิทตระเวนหาหอพักจนมาสะดุดตากับ นทีคอร์ท อพาร์ทเม้นท์หรู ซึ่งมี นทีทอง (จารุณี สุขสวัสดิ์) สาวใหญ่เป็นเจ้าของ เต็มใจพยายามค้านเพราะอพาร์ทเม้นท์ดูเงียบเชียบแถมเจ้าของ ดูลึกลับ แต่ภาขวัญไม่ใส่ใจ ภาขวัญเคยมีแฟนไฮโซชื่อ คมกริช (แซม โชติบัณฑ์) แต่คมกริชหันไปคบกับ ลิสา คุณหนูไฮโซ ทำให้ ภาขวัญอกหัก หลังจากย้ายเข้ามาอยู่ที่นทีคอร์ท ภาขวัญเริ่มรู้สึกถึงความแปลกๆ ของสถานที่แห่งนี้ คนเช่าอพาร์ทเม้นท์มีเพียงสองคนคือ ภาขวัญและ ภณา (วิทยา วสุไกรไพศาล) เป็นตากล้องให้ทีมงานสารคดี ภณาเป็นชายหนุ่มที่มีสัมผัสที่หกและมักรับรู้ได้ถึงลางร้าย

ภณา กับเต็มใจเป็นคนอัธยาศัยดี ทำให้รู้เรื่องราวของครอบครัวนทีทองและบ้านโบราณจากชาวบ้านแถบนั้น คือ ตาภพ คุณป้าประจวบศรี น้องกุ๊กไก่ เมื่อร้อยกว่าปีก่อนมีพระยาเป็นเจ้าของเมื่อตายก็ถูกปล่อยร้าง ธำรง พ่อของนทีทองมาซื้อเอาไว้เมื่อสามสิบปีก่อน นารถฤดี (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) ซึ่งเป็นแม่ของนทีทองจู่ๆ ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ นทีทองเสียใจมากจนทำให้สติไม่ใคร่อยู่กับตัว และเมื่อธำรงตาย นทีทองก็สร้างหอพักสตรีบริเวณบ้านและมีการตายอย่างประหลาดเกิดขึ้นในจำนวน ผู้หญิงที่ตายมี เพลงพิณ กับ วันงาม รวมอยู่ด้วย เพลงพิณสนิทกับกุ๊กไก่มากและเขียนจดหมายเล่าว่าตนโดนวิญญาณร้ายจะเอาชีวิต ก่อนจะป่วยตาย ส่วนวันงามเล่าให้ภณาฟังว่าตนโดนวิญญาณร้ายรังควานคงหนีไม่รอดจึงตัดสินใจ กระโดดตึก ภณาจึงมาขอเช่าห้องพักที่นทีคอร์ทเพื่อสืบหาความจริงที่เกิดขึ้น

อยู่ที่นี่ไม่นานภาขวัญก็เริ่มเริ่มฝันแปลกๆ หล่อนพบกับ ทวารัศมิ์ (กฤษฎา พรเวโรจน์) ชายหนุ่มรูปงามราวท่านชายสมัยโบราณชักชวนเธอไปงานเลี้ยงที่คฤหาสน์ของเขา ด้านหลังนทีคอร์ทแห่งนี้ ทั้งที่ยามกลางวันนั้นมองเห็นเป็นแค่บ้านร้างอายุร้อยกว่าปีที่ทรุดโทรมเท่า นั้น และเริ่มฝันบ่อยขึ้นทวรารัศมิ์นั้นรูปงามอ่อนหวานโรแมนติก จนภาขวัญล่องลอยราวกับเป็นซินเดอเรลล่า ทวารัศมิ์ชักชวนให้ภาขวัญมาอยู่กับเขาในคฤหาสน์หลังนี้ ภาขวัญฝันอยู่บ่อยครั้งจนเริ่มแยกไม่ออกว่าเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน ภาขวัญพบว่าตัวเองเดินละเมอไปหลับอยู่หน้าบ้านนั้น ภาขวัญก็เริ่มวิตกกังวลขึ้นเรื่อยๆ

ทวารัศมิ์ขอภาขวัญแต่งงาน แต่ภาขวัญปฏิเสธเพราะเป็นห่วงพ่อกับแม่และ ภากร (ฐากูร การทิพย์) น้องชาย ด้านคมกริชบอกเลิกกับลิสาและกลับมาขอคืนดีกับภาขวัญ เพื่อเป็นการเอาคืนที่เคยทิ้งตนไป ภาขวัญเลยตั้งใจจะควงคมกริชให้คนรู้แล้วก็จะทิ้งคมกริชไปบ้าง ทำให้ทวารัศมิ์โกรธจึงเนรมิตตะขาบไปกัด ภาขวัญเริ่มรู้สึกว่าทวารัศมิ์ไม่ใช่คน จึงเล่าให้เต็มใจและภณาฟัง เต็มใจแนะนำให้ ภาขวัญย้ายออกจากนทีคอร์ท ภาขวัญทำตามคำแนะนำของเต็มใจ แต่ดูเหมือนจะช้าไปเสียแล้ว

อาถรรพณ์ ที่นทีคอร์ตเริ่มต้นขึ้นแล้ว เต็มใจซึ่งกลับมาเก็บเสื้อผ้าให้ภาขวัญกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ หลังเห็นภาขวัญเดินเข้าไปในบ้านโบราณ พอเต็มใจจึงเดินตามเข้าไปจึงถูกทวารัศมิ์ขังอยู่ห้องใต้หลังคา วิญญาณของทวารัศมิ์ก็เฝ้าติดตามภาขวัญไปทุกที่เพื่อดึงเธอกลับมาอยู่ร่วมกับ เขาให้จงได้ ภณาและภาขวัญเชื่อมั่นว่าเต็มใจถูกทวารัศมิ์ลักพาตัวไปจึงพากันค้นคฤหาสน์ ร้างแต่ก็หาเต็มใจไม่พบ

หลังจากนั้นไม่นาน ยายอวน (น้ำเงิน บุญหนัก) พี่เลี้ยงของนทีทองเสียชีวิต ภาขวัญคิดว่าวิญญาณของยายอวนคอยตามหลอกหลอน แต่ภณารู้ว่ายายอวนต้องการจะสื่อสารข้อความบางอย่างกับภาขวัญ จึงพยายามหาหนทางช่วยจนเมื่อค้นเจอสมุดบันทึกของนารถฤดี จึงพบที่มาของเรื่องราวแห่งความเร้นลับที่เคยเกิดขึ้นในอดีตว่า ทวารัศมิ์เป็นลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าคุณแต่เกิดมาพิการหน้าตาอัปลักษณ์ จึงทำให้ผู้หญิงทุกคนรังเกียจ ทวารัศมิ์เสียชีวิตไปแล้ว แต่วิญญาณยังคงอยู่จึงคิดแค้นหญิงสาวทุกคนที่รังเกียจหน้าตาของเขา จึงให้นทีทองหลอกหญิงสาวมาฆ่าและกักวิญญาณไว้ที่ห้องใต้หลังคาในบ้านโบราณ แห่งนี้ โดยบอกนทีทองว่าถ้าทำได้จะปลดปล่อยวิญญาณของนารถฤดี พอนทีทองทราบความจริงจึงเผาบ้านหลังนี้เพื่อแก้แค้นทวารัศมิ์ทันที ภณาและภาขวัญติดอยู่ข้างใน วิญญาณทวารัศมิ์แผลงฤทธิ์ทำให้ทุกคนไม่เห็นทางออก แต่วิญญาณของเต็มใจมาช่วยภาขวัญและภณาไว้และเสียชีวิตในบ้านหลังนี้ เพื่อช่วยชีวิตคนที่เธอรัก

ปมความลับในอดีต ทั้งความรัก ความฝัน และการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นที่นทีคอร์ตแห่งนี้ จะจบลงเช่นไร , ความรักของภณาและภาขวัญจะสมหวังหรือไม่, ใครจะเป็นผู้ยุติความแค้นของทวารัศมิ์ ติดตามชมบทสรุปของละครลึกลับ “นิมิตมาร

ทูตมรณะ

ทูตมรณะทูตมรณะ เป็นเรื่องของมือสังหารชื่อ เทพกร คำนึง(รับบทโดย สรพงศ์ ชาตรี) เดิมเป็นคนดี ฐานะยากจนแต่ไม่รู้ว่าพ่อคือใคร แต่ก่อนที่แม่ของเทพกรจะตาย ได้ทิ้งปริศนาไว้ว่าพ่อคือดาวคุกที่หายสาบสูญ เทพกรจึงตั้งใจตามหาแต่ชีวิตขาดที่พึ่ง ซ้ำยังเจอความอยุติธรรม เทพกรจึงเดินเข้าหาอาชีพทุจริต เป็นมือปืน โดยมีเจ้าพ่อเป็นหนุนหลัง

แต่แล้ว เทพกรพยายามกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี เมื่อได้หลงรัก รติการ (รับบทโดย จารุณี สุขสวัสดิ์) แต่รติการก็มีความลับบางอย่างที่ยอมเป็นของกร เพราะต้องการเข้าถึงตัวเขา และพบว่า อำรุง คำนึง (รับบทโดย สมบัติ เมทะนี) ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คือพ่อของเขา  และผู้ใหญ่ที่คอยหนุนหลังเจ้าพ่อคือพ่อของเขาเอง ซ้ำยังเปิดทางให้ตำรวจ(รับบทโดย จอนนี่, อธิวัฒน์, รณ) สังหารตน เพราะไม่รู้ว่าเทพกรคือลูก

ผลิตโดย : กันตนา
เขียนบท : วิลาสิณี
บทประพันธ์ : กัณหา แก้วไทย

นักแสดง

สรพงษ์ ชาตรี,จารุณี สุขสวัสดิ์,จอนนี่ แอนโฟเน่,กวาง กมลชนก โกมลฐิติ,สมบัติ เมทะนี,ดวงตา ตุงคะมณี

ทายาทอสูร 2544

ทายาทอสูร

คุณยายวรนาฏ สตรีผู้สวยสง่าราวท่านหญิง คงความสวยไว้เหมือนสาว 40 ทั้งๆ ที่อายุ 80 กว่าปี คุณยายวรนาฏเตรียมพิธีสืบทอดทายาทอสูรให้กับหลานสาว วรินทร์ คือหนึ่งในหลาน สาวสวยของอสูรร้ายต้องการร่างเพื่อสืบทอดความเป็นอสูร วรินทร์ลูกสาวคนที่สามคนสุดท้อง ของ โอฬารและสุดาดวง พร้อมพี่ชายคนโตอีกสองคนคือ รัชโรจน์ , รังสรรค์

วันหนึ่ง วรินทร์ ไปทัศนศึกษาที่สุโขทัย พบตุ๊กตาสังคโลกลายตะขาบ เมื่อวรินทร์กลับมา ถึงบ้านมักจะฝันผวา และพบภาพหลอนแปลก ๆ บ่อยครั้งขึ้น ในขณะเดียวกัน คุณยายวรนาฏได้เดิน ทางจากต่างจังหวัด มาพักที่บ้านวรินทร์ ในช่วงเวลาที่คุณยายฯ มากับเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ แปลก ๆ เช่น ซินแสมังกรตายอย่างไร้สาเหตุ เพียงเพราะเข้ามาเตือน โอฬาร พ่อของวรินทร์ถึงภัยร้ายจาก อสูร

เมื่อคุณยายวรนาฏมาพักที่บ้าน คุณยายฯ พยายามใกล้ชิดกับ วรินทร์มากที่สุด แต่ไม่ สามารถเข้าใกล้วรินทร์ได้ เพราะเธอมักจะสวมพระขรรค์เงินไว้เสมอ แม้ว่าคุณยายฯ จะใช้พลัง ต่าง ๆ เพื่อให้วรินทร์ถอดสร้อยพระออกก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใน บ้าน เริ่มเป็นที่สงสัย

โอฬารพร้อมรัชโรจน์ ลูกชายคนโตเดินทางไปตามหา มหาจรวย และแม่ชีแสงบุญ เพื่อ ต้องการวิธีกำจัดอสูรร้าย ซึ่งได้รับคำชี้แนะว่า ต้องใช้พระขรรค์เงินต้นแบบ มาทำลายอสูร และ คนที่ทำลายอสูรได้ คือ สนทรรศน์ เพื่อนชายของวรินทร์นั่นเอง ยิ่งใกล้วันทำพิธีเข้ามาทุกขณะ คุณยายฯ เปลี่ยนใจให้ นัยน์เนตร หลานสาวอีกคนสืบทายาทแทน แต่ขณะพิธีกรรมใกล้สำเร็จ แม่ชีแสงบุญทำพิธีสกัดกั้น ให้พิธีกรรมสืบทอดไม่สำเร็จ

พร้อมทั้ง เปิดเผยว่า แท้ที่จริงอสูรร้ายคือ คุณยายวรนาฏตามที่ทุกคนสงสัย คุณยายวรนาฏ หนีออกจากบ้าน พร้อมสะกดจิต สุดาดวงแม่ของ วรินทร์ พร้อมสะกดนัยเนตร และวรินทร์ ไปยังโรงแรมร้างแห่งหนึ่ง โอฬารรู้ว่าสุดาดวงถูกสะกด จึงตามไปช่วยพร้อมมหาจรวย แต่ที่สุดทั้งสองก็ พ่ายภัยของอสูรร้าย รังสรรค์ ลูกชายคนรองของโอฬารกับวรินทร์ตามไป

โดนมนต์ของอสูรร้ายทำให้แยกกัน ไปคนละทาง เมื่อทั้งคู่แยกไปคนละทางสำเร็จ วรินทร์ หลงกลอสูรร้าย โดนบีบบังคับให้โยนสร้อย พระขรรค์เงินทิ้ง ไม่อย่างงั้นอสูรร้ายจะฆ่าสุดาดวง วรินทร์จึงยอม เพราะต้องการช่วยชีวิตแม่ของตนเอง อสูรร้ายได้โอกาส รีบทำพิธีกรรมสะตวงสืบ ทอดทายาททันที แต่ยังไม่สำเร็จ

รัชโรจน์กับสนทรรศน์ เข้ามาช่วยไว้ก่อน โดย รัชโรจน์ใช้วิธีลดพลังสร้างความเจ็บปวดให้แก่อสูรร้ายตามที่แม่ชีแสงบุญแนะ นำมา ส่วน สนทรรศน์ เตรียมเอาพระขรรค์เงินเทวดาต้นแบบ แทงไปที่ร่างอสูรร้าย อาถรรพ์ตะขาบจะหมดฤทธิ์ หมายถึงจุดจบของเจ้าอสูรร้าย แต่…มหิทธานุภาพ ของ จอมอสูรร้ายสะสมพลังมานานกว่าเจ็ดศตวรรษ จะสิ้นฤทธิ์พ่ายแก่พระขรรค์เงินเทวดาต้นแบบแค่นั้นจริงหรือ ?

ผู้กำกับ : นิรัตติศัย กัลย์จาฤก
ผลิตโดย : กันตนา
เขียนบท : เขมมินี
บทประพันธ์ : ตรี อภิรุม

รายชื่อนักแสดง ทายาทอสูร

1. สินจัย เปล่งพานิช แสดงเป็น วรนาฏ
2. อัมรินทร์ สิมะโรจน์ แสดงเป็น รัชโรจน์
3. เอมี่ กลิ่นประทุม แสดงเป็น วรินทร์
4. สโรชา วาทิตตพันธ์ แสดงเป็น นัยเนตร
5. สาริน บางยี่ขัน แสดงเป็น สนทรรศน์
6. นิพิธ ฮันเก้ แสดงเป็น รังสรรค์
7. จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น สุดาดวง
8. สันติสุข พรหมศิริ แสดงเป็น โอฬาร
9. แชมเปญ เอ็กซ์ แสดงเป็น นิลุบล
10. หาญส์ หิมะทองคำแสดงเป็น ศักดิ์
11. ศิริพิชญ์ กฤษณะเศรณี แสดงเป็น พรรณทิพย์
12. ชุมพร เทพพิทักษ์ แสดงเป็น ปู่สุธรรม
13. จิระวดี อิศรางกูรฯ แสดงเป็น แม่ชีแสงบุญ
14. ดวงใจ หทัยกาญจน์ แสดงเป็น ป้าทรัพย์
15. ชุดาภา จันทเขต แสดงเป็น นาเรศ
16. ยอดชาย เมฆสุวรรณ แสดงเป็น มานพ
17. กรองทอง รัชตะวรรณ แสดงเป็น วรรณา
18. ภานุเดช วัฒนสุชาติ แสดงเป็น เจ้าโขน
19. มณีรัตน์ วัยวุฒิ แสดงเป็น ดาวเรือง

ตะวันยอแสง

ตะวันยอแสง เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ชีวิตหักเหตั้งแต่แบเบาะ จากทายาทตระกูลผู้ดีไปเป็นลูกของชาวบ้านที่มีฐานะยากจน หนำซ้ำต้องผจญชะตากรรมกับพ่อเลี้ยงที่คอยคิดร้ายอยู่ตลอดเวลา มีเพียงแม่ที่แม้จะไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ก็เลี้ยงดูรักเหมือนลูกแท้ๆ สุดท้ายโชคชะตาก็นำพาให้เธอกลับเข้าสู่อ้อมอกของครอบครัว แม้จะในฐานะของคนนอกก็ตาม กว่าความจริงจะปรากฏว่าเธอคือทายาทตัวจริงของครอบครัว ก็ทำให้เธอต้องฟันฝ่ากับเรื่องเลวร้ายมากมาย แต่บนความเลวร้ายนั้นก็มีความเมตตาของชายหนุ่มที่คอยดูแลและปกป้องเธออยู่ ตลอด จากความเอ็นดูก็กลายเป็นความรักในที่สุด

ตะรุเตา

ตะรุเตา เป็นเรื่องราวของเอื้อย นักโทษการเมือง ที่ต้องย้ายจากบางขวางไปอยู่เกาะตะรุเตา ซึ่งที่นั่นต้องพบกับความยากลำบากต่างๆ มากมาย จากผู้คุม และเหล่านักโทษด้วยกัน

นักแสดงละคร ตะรุเตา

จารุณี สุขสวัสดิ์
ฉัตรชัย เปล่งพานิช
นพพล โกมารชุน
รัชนี ศิระเลิศ

 

ดั่งดวงหฤทัย 2539

ดั่งดวงหฤทัย  เป็นเรื่องราวของแคว้นกาสิก พันธุรัฐ และทานตะ เป็นสามแคว้นที่อยู่ติดกัน กาสิกอยู่ด้านเหนือสุด เป็นแคว้นที่ร่ำรวย และมีทรัพยากรมาก แต่ไม่มีทางออกทะเล พันธุรัฐอยู่กลาง ค่อนข้างอุดมสมบรูณ์ และทานตะอยู่ใต้สุด ซึ่งเป็นแคว้นที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่มีทางออกทะเล กาสิกต้องการทางออกทะเลเพื่อขนส่งสินค้า เพื่อการนี้ รังสิมันต์ เจ้าหลวงแห่งกาสิกจึงตัดสินใจอภิเษกกับเจ้าหญิงแห่งทานตะ

รังสิมันต์ กริ้วมากเมื่อทรงทราบข่าวจากกองทหารที่ส่งไปรับเสด็จ เจ้าหญิงมณิสรา พระคู่หมั้นจากแคว้นทานตะ ถวายรายงานว่าเจ้าหญิงหายไปที่รอยต่อชายแดน สามแคว้นคือ กาสิก พันธุรัฐ และ ทานตะ และน่าจะเป็นไปได้ว่าเจ้าหญิงหายเข้าไปในพันธุรัฐ แล้วเหตุใดพันธุรัฐถึงไม่ส่งตัวเจ้าหญิงกลับมา นั้นเท่ากับเป็นการหมิ่นพระเกียรติของเจ้าหลวง แห่งกาสิกอย่างยิ่ง เจ้าหลวงจึงตัดสินพระทัยไปสืบข่าวนี้ด้วยพระองค์เอง

แท้จริงแล้ว เจ้าหญิงมณิสราได้ตัดสินใจหลบหนีเองเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับชายที่ไม่ได้ รัก โดยเฉพาะยิ่งเป็นเจ้าหลวงกาสิก ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือทางด้านความโหดเหี้ยม เจ้าหญิงควบม้าหนีเข้ามาในชายแดนพันธุรัฐ ด้วยความที่ไม่ชำนาญในการขี่ม้ามากนัก เจ้าหญิงจึงตกจากหลังม้าทำให้ขาแพลง และยังเดินไปติดกับดักตาข่ายล่าสัตว์ของนายพรานถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ ขณะที่เจ้าหญิงกำลังสิ้นหวังและอ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากชายคนหนึ่งนั้นคือ เจ้าชายทยุติธร องค์รัชทายาทของแคว้นพันธุรัฐ เจ้าชายทยุติธรพาเจ้าหญิงมณิสราไปรักษาตัวที่ตำหนักป้อมปืน เจ้าหญิงจึงขอร้องเจ้าชายขอลี้ภัยอยู่ในพันธุรัฐ แต่ถ้าเจ้าชายยังยืนยันที่จะส่งตัวกลับ ก็จะขอให้ฆ่าตัวเองเสียดีกว่า ชายชาติทหารอย่างเจ้าชายทยุติธรจึงจำต้องอนุญาตให้เจ้าหญิงประทับอยู่ชั่วคราว

เมื่อเจ้าหญิงทรรศิกา พระขนิษฐาของเจ้าชายทยุติธร ทรงทราบข่าวลับ ๆ ว่าเจ้าชายช่วยเหลือเจ้าหญิงมณิสราไว้ โดยไม่ส่งตัวกลับในกาสิกก็ร้อนใจ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้อาจทำให้เกิดสงครามตามมาได้ จึงตัดสินใจจะไปที่ตำหนักป้อมปืนเพื่อทูลเชิญ เจ้าหญิงมณิสราเสด็จมาประทับฝ่ายในเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียพระเกียรติ แต่ระหว่างทางขบวนเสด็จถูกกลุ่มชายชุดดำซุ่มโจมตี ม้าของเจ้าหญิงเตลิดเข้าไปในป่า พลัดหลงกับองครักษ์ เจ้าหญิงทรรศิกาหนีเข้ามาในป่าเจอกับชายชุดดำ จึงขอร้องให้ช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าเจ้าหญิงกลับถูกวางยาสลบลงในน้ำชา

เมื่อฟื้นขึ้น เจ้าหญิงทรรศิกาจึงรู้ว่าถูกเจ้าหลวงแห่งกาสิก ผู้สามารถสั่งตัดหัว ตัดมือนักโทษได้ในระหว่างเสวยโดยไม่สะทกสะท้าน จับตัวมา เจ้าหลวงพยายามสอบถามเกี่ยวกับเจ้าหญิงมณิสรา แต่เจ้าหญิงทรรศิกาก็ไม่ทรงยอมตอบคำถามใด ๆ ซ้ำยังเห็นใจเจ้าหญิงมณิสราที่ต้องโดนบังคับแต่งานกับผู้ชายโหดเหี้ยม ป่าเถื่อนเช่นนี้ เจ้าหลวงโกรธมาก จึงตัดสินใจจับเจ้าหญิงทรรศิกาไว้เป็นตัวประกัน

ในขบวนมีแต่ทหารซึ่งเป็นผู้ชายทั้งนั้น เมื่อจู่ๆ ก็มีเจ้าหญิงอยู่ในขบวน เจ้าหลวงจึงสั่งให้ เบนลี ราชองค์รักษ์คู่ใจไปจ้าง กระวาน สาวชาวป่ามาเป็นนางกำนัลชั่วคราวให้เจ้าหญิงระหว่างทาง เจ้าหญิงทรรศิกาหลอกให้กระวานใส่เสื้อของพระองค์ แล้วพระองค์ก็ใส่เสื้อของกระวาน แอบขโมยม้าหนีออกไปนอกค่าย แต่กลับถูกเจ้าหลวงจับได้ ขี่ม้าไล่ตามมา เจ้าหญิงหนีไปจนถึงน้ำตกตัดสินใจกระโดดน้ำตกหนี ขอตายเสียดีกว่าตกอยู่ในเงื้อมือของเจ้าหลวงรังสิมันต์ เจ้าหลวงพาตัวเจ้าหญิงขึ้นมาจากน้ำตกได้ แต่ก็ทำให้ต้องพลัดกับขบวน เจ้าหลวงโมโหมากที่เจ้าหญิงทรรศิกาทำท่ารังเกียจพระองค์ขนาดนี้ทั้ง ๆที่ตอนแรกได้ปฏิบัติอย่างดีกับเจ้าหญิง ต่อแต่นี้ไปเจ้าหญิงจะได้รู้จักความป่าเถื่อนของชาวกาสิกจริง ๆ เสียที

เจ้าหลวงรังสิมันต์พาเจ้าหญิงทรรศิกามาสมทบ กับขบวนที่รออยู่ เจ้าหลวงสั่งลงโทษ ตัดมือกระวานที่ปล่อยให้เจ้าหญิงหนีไป เจ้าหญิงเข้ามาช่วยบอกว่ากระวานเป็นคนของพระองค์ ถ้าจะลงโทษกระวานก็ต้องลงโทษพระองค์ด้วย เจ้าหลวงบอกว่าตอนนี้พระองค์ไม่มีสิทธิเพราะอยู่ในฐานะเชลย แต่ตามประเพณีของชาวกาสิก ชีวิตก็แลกด้วยชีวิต ถ้าอยากให้ยกโทษให้กระวานก็ต้องเอาชีวิตมาแลกกัน เจ้าหลวงให้เรียก ราชิด ทหารคู่ใจอีกคนหนึ่ง ยืนมือให้เจ้าหญิงตัดแทนกระวาน แล้วแกล้งโยนดาบวางให้เจ้าหญิงเลือกว่าจะตัดมือใคร เจ้าหญิงอึ้งในความโหดร้ายของเจ้าหลวง จึงตัดสินใจหยิบดาบ เชือดมือตัวเอง แต่เจ้าหลวงจับไว้ทัน

เจ้าหลวงพาเจ้าหญิงทรรศิกาเดินทางลึกเข้ามา ในกาสิกเรื่อย ๆ โดยใช้เส้นทางที่ธุระกันดาร แต่เจ้าหญิงก็ไม่ย่อท้อ หรือปริปากบ่นไม่ว่าเจ้าหลวงจะแกล้งด้วยวิธีใด ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้นิสัยซึ่งกันและกัน ในขณะที่เจ้าหลวงเริ่มรู้จักทั้งความอ่อนหวานและเด็ดเดี่ยวของเจ้าหญิงทรรศิกา เจ้าหญิงทรรศิกาก็เรียนรู้ว่าเจ้าหลวงผู้เอาแต่ใจ ก็มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่เช่นกันและไม่โหดร้ายอย่างที่เห็น

สาธิน เสนาบดีมหาดไทยของกาสิก ร้อนใจมากเมื่อไม่สามารถติดต่อเจ้าหลวงได้ มีนา ลูกสาวของสาธิน จึงอาสาไปดักพบเจ้าหลวงที่ตำหนักวสุธรา มีนาเติบโตมาพร้อมกับเจ้าหลวง เบนลี และราชิด เจ้าหลวงเอ็นดูมีนามากเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ฝึกขี่ม้าและยิงธนูให้ มีนาก็สามารถทำได้ดีเท่ากับผู้ชายคนหนึ่ง มีนาแอบหลงรักเจ้าหลวงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเจ้าหลวงประกาศหมั้นกับเจ้าหญิงแห่งทานตะ เธอเจ็บปวดอย่างยิ่งแต่อย่างน้อยหัวใจของเจ้าหลวงก็ยังไม่มีผู้หญิงคน ไหนครอบครองเพราะการแต่งงานครั้งนี้ เจ้าหลวงทำเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมืองเท่านั้น

มีนาไปดักพบเจ้าหลวงที่ตำนักวสุธรา จึงรู้ว่าเจ้าหลวง จับเจ้าหญิงทรรศิกามาเป็นเชลย เจ้าหลวงสั่งให้มีนากลับไปบอกสาธินว่าจะประพาสต่อไปตำหนักอิสินธร เรื่องต่างๆ ในเมืองหลวงให้สาธิน เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนเรื่องเจ้าหญิงมณิสราให้ทางทานตะหาตัวเจ้าหญิงให้พบ ก่อนจึงค่อยพูดเรื่องการอภิเษกอีกที

เมื่อกาสิกบีบให้ทางทานตะจัดการเรื่องนี้ เจ้าหลวงแห่งทานตะร้อนใจมากจึงส่งทูตเข้าไปยังพันธุรัฐ เจ้าชายทยุติธรให้เจ้าหญิงมณิสราตัดสินใจเองว่าจะกลับทานตะหรือไม่ เจ้าหญิงฝากจดหมายกลับไปว่าจะขออยู่ที่พันธุรัฐ และ จะไม่แต่งงานกับเจ้าหลวงรังสิมันต์เด็ดขาด ขอให้เจ้าหลวงทานตะคิดเสียว่าไม่มีลูกคนนี้ เจ้าหลวงทานตะถึงกับประชวรเมื่อได้รับจดหมายจากเจ้าหญิงมณิสรา เสนาบดีของพันธุรัฐต่างก็เตือนเจ้าชายทยุติธรว่าทำเช่นนี้อาจเกิดสงครามกับ กาสิกได้ ชาวพันธุรัฐก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวกาสิก แต่เสนาบดีทูลว่าหน่วยข่าวกรองรายงานว่าที่เจ้าหญิงทรรศิกาหายไปอาจถูกทางกา สิกจับตัวไป เจ้าชายทยุติธรยิ่งโกรธ เพราะทำเช่นนั้นเป็นการหมิ่นเกียรติของพันธุรัฐอย่างยิ่ง จึงสั่งให้คนเข้าไปหาทางช่วยเจ้าหญิงทรรศิกาออกมาให้ได้ก่อน

พระราชเทวีแห่งพันธุรัฐ เสด็จกลับจากแปรพระราชฐานก่อนกำหนด เจ้าชายทยุติธรพยายามปิดเรื่องที่เจ้าหญิงทรรศิกาหายไป แต่ไม่สามารถปิดเรื่องเจ้าหญิงมณิสราได้ พระราชเทวีจึงสั่งให้เจ้าหญิงมณิสรามาประทับที่ตำหนักฝ่ายใน แทนตำหนักป้อมปืน และสังเกตเห็นว่าเจ้าชายทยุติธรและเจ้าหญิงมณิสรามีกริยาแปลก ๆ ต่อกัน

เจ้าหลวงรังสิมันต์พาเจ้าหญิงทรรศิกามายัง ตำหนักอิสินธร และให้เจ้าหญิงปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ พร้อมพระองค์ เจ้าหญิงทรรศิกาเข้าใจว่าทั้งหมดที่เจ้าหลวงทำก็เพราะเห็นเธอเป็นเพียงแค่ ตัวแทนของพระคู่หมั้นเท่านั้น เจ้าหลวงรังสิมันต์ตัดสินใจให้ ราชิด ไปบอกสาธินให้ส่งข้อเสนอใหม่ไปยังพันธุรัฐ นั้นคือพันธุรัฐจะต้องรับผิดชอบในการเสื่อมเสียพระเกียรติของเจ้าหญิงมณิสรา และกาสิกจะรับผิดชอบต่อเจ้าหญิงทรรศิกา แต่สาธิน กลับไม่ยอมส่งสารนี้ และยังลอบวางยา ฆ่าเสนาบดีฝ่ายมหาดไทย โดยใช้มีนาเป็นเครื่องมือ มีนาตกใจมากที่พ่อคิดเป็นใหญ่ครอบครองบัลลังค์กาสิกเสียเอง จึงหนีไปหาเจ้าหลวงรังสิมันต์เพื่อบอกแผนการ แต่เมื่อมาถึงที่อิสินธร ก็พบว่าหัวใจของเจ้าหลวงรังสิมันต์มีเจ้าหญิงทรรศิกา มีนาเสียใจมาก จึงกลับไปเมืองหลวงร่วมมือกับพ่อ ล้มราชบัลลังก์

เจ้าหญิงทรรศิกาแอบได้ยินเรื่องข้อเสนอที่ เจ้าหลวงส่งไป และพร้อมจะทำสงครามถ้าพันธุรัฐไม่ตกลง เจ้าหญิงน้อยใจมากที่เจ้าหลวงรังสิมันต์จะแต่งงานกับตัวเองนั้นก็เพื่อรักษา เกียรติของตัวเอง ไม่ใช่เพราะความรัก เจ้าหญิงทรรศิกาจึงตัดสินใจให้กระวานแอบติดต่อ ราชิด พาหนี เพราะอย่างน้อย ราชิด ก็มีเลือดชาวพันธุรัฐครึ่งหนึ่ง ราชิดซึ่งไม่อยากให้เกิดสงครามอยู่แล้วจึงรับปากพาเจ้าหญิงทรรศิกาหนี แต่โดนเจ้าหลวงจับได้ เจ้าหลวงโกรธมากจนเกือบฆ่าราชิด แต่เจ้าหญิงทรรศิกาทูลขอไว้ ราชิดจึงได้ลดโทษเหลือแค่ขังคุก เจ้าหลวงรังสิมันต์ ทั้งโกรธทั้งน้อยใจที่เจ้าหญิงทรรศิกาทำเช่นนี้ เจ้าหญิงทรรศิกาเองคิดว่าตัวเองจะต้องโดนฆ่าแน่ๆ จากการหนีครั้งนี้ เตรียมตัวยอมรับคมดาบแต่โดยดี แต่ในที่สุดเจ้าหลวงก็หลุดปากสารภาพรักเจ้าหญิงทรรศิกาออกมา ทั้งสองคนเข้าใจกัน เจ้าหลวงตกลงใจจะส่งเจ้าหญิงทรรศิกากลับพันธุรัฐ และมอบมงกุฏแห่งกาสิกให้กับเจ้าหญิงทรรศิกา เพื่อให้เสด็จกลับพันธุรัฐได้อย่างสมพระเกียรติ แต่ระหว่างทางนั้นเอง สาธินก็ส่งคนปลอมเป็นทหารของพันธุรัฐเข้ามาลอบปลงพระชนม์

เจ้าหลวงรังสิมันต์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เจ้าหญิงทรรศิกาตัดสินใจพาเจ้าหลวงเข้าไปผ่าตัดที่ตำหนักป้อมปืนของแคว้น พันธุรัฐ จึงทราบความจริงว่า เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ฝีมือของเจ้าชายทยุติธร แต่เป็นสาธิน คนของเจ้าหลวงเองที่หักหลัง เจ้าหลวง โกรธมาก ในขณะที่เจ้าหลวงรังสิมันต์พักรักษาตัวอยู่ที่ตำหนักป้อมปืน พระราชเทวี มีรับสั่งให้เจ้าหญิงมณิสราไปคอยดูแลเจ้าหลวงรังสิมันต์ในฐานะที่เป็นพระคู่ หมั้น เจ้าหญิงทรรศิกาจึงหลบหน้าไม่ยอมไปเยี่ยมเจ้าหลวงอีก ในขณะที่ เจ้าชายทยุติธรก็มักจะหงุดหงิดเมื่อเห็นเจ้าหญิงมณิสราคอยดูแลเจ้าหลวง ในที่สุด เจ้าหลวงรังสิมันต์ก็ตัดสินใจบุกเข้าไปหาพระราชเทวี ทูลเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเจ้าหญิงทรรศิกาและเรื่องราวทั้งหมด ขออภิเษกกับเจ้าหญิงทรรศิกา พระราชเทวีถามถึงเรื่องเจ้าหญิงมณิสรา เจ้าหลวงบอกว่าที่หมั้นกับเจ้าหญิงมณิสราก็เพราะเพื่อผลประโยชน์ที่ต้องการ ขนส่งสินค้าไปยังทางออกทะเลของทานตะ แต่ตอนนี้ตนรู้แล้วว่าตนไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักได้ และเจ้าหญิงมณิสราก็ขอถอนหมั้นกับตัวเองแล้ว

เจ้าหลวงรังสิมันต์ขอให้เจ้าหญิงทรรศิการอ และจะกลับมาหาเมื่อกู้ราชบัลลังก์คืนได้ เจ้าหลวงรังสิมันต์พร้อมด้วยเบนลี ลอบกลับไปที่กาสิกอีกครั้งช่วยราชิดออกมา ร่วมมือกันปราบกบฎ สาธินถูกจับ มีนาขอร้องไม่ให้เจ้าหลวงฆ่าพ่อ เจ้าหลวงก็ยอมเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ แต่สาธินกลับคว้าดาบเข้าแทงเจ้าหลวง มีนาจึงกระโดดขวางเข้ารับดาบแทนสิ้นใจตาย สาธินเสียใจมากที่พลั้งมือฆ่าลูกสาวตัวเอง จึงฆ่าตัวตายตาม เจ้าหลวงรังสิมันต์เสด็จกลับไปรับเจ้าหญิงทรรศิกามานั่งบัลลังค์ด้วยกันตามสัญญา เจ้าชายทยุติธรได้ราชาภิเษกขึ้นเป็นเจ้าหลวง เสด็จเยี่ยมทานตะอย่างเป็นทางการ และกำลังจะประกาศหมั้นกับเจ้าหญิงมณิสรา ทั้งสามแคว้นจึงอยู่กันอย่างสงบสุขเรื่อยมานับแต่นั้น

นักแสดงละคร ดั่งดวงหฤทัย

ศรราม เทพพิทักษ์ แสดงเป็น รังสิมันต์
นัท มีเรีย แสดงเป็น ทรรศิกา
โอลิเวอร์ พูพาท แสดงเป็น ทยุติธร
เกวลิน คอตแลนด์ แสดงเป็น เจ้าหญิงมณิสรา
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น พระเทวีแห่งพันธุรัติ
กษาปณ์ จำปาดิบ แสดงเป็น ราชิต