Tag Archives: เขตต์ ฐานทัพ

อภินิหารคุณยายทองคำ

เมื่อยอดมนุษย์คนใหม่ ดูคล้ายคุณยายของเรา “แก้ว” ตำรวจหนุ่มยศเล็กๆ คนหนึ่ง ใฝ่ฝันอยากจะเติบโตในหน้าที่การงานอย่างใครๆ กลับมาหลงรัก “นับดาว” หญิงสาวผู้เป็นรักแรกในวัยเด็ก ซึ่งกลายเป็นนางฟ้าผู้ทำหน้าที่ประกาศข่าวทางทีวี ที่มี “ปกรณ์” นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมผู้เพียบพร้อม มาเป็นคู่แข่งทางความรัก

ก่อน ที่แก้วจะล้มเลิกความหวังใหม่อย่างรวดเร็ว “ขวัญ” น้องสาวแก้วผู้เป็นนักข่าวอาชญากรรมได้พา “คุณยายทองคำ” คุณยายแก่ๆ คนหนึ่งมาที่บ้านเพื่อขออาศัยอยู่ด้วย คุณยายไม่มีอะไรดูแตกต่างจากคุณยายที่เห็นทั่วๆ ไป เว้นแต่ คุณยายมีพลังกายสิทธิ์

แก้วและคุณยายต้องออกไปสืบสวนในสถานที่ต่างๆ แล้วแต่คดีไป แม้จะไม่ประสบความสำเร็จทุกครั้งแต่ก็พอเอาตัวรอดมาได้ด้วยอภินิหารคุณยาย

แหวนทองเหลือง

แหวนทองเหลือง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นเปิดการโจมตีทั้งทางอากาศ ทางบก และทางเรือ ต่อประเทศกลุ่มที่เป็นพันธมิตรของอังกฤษ อเมริกา และเนเธอแลนด์ ส่วนหนึ่งของกองทัพญี่ปุ่น ได้บุกขึ้นประเทศไทยหลายจุด กองทัพไทยต้องยอมจำนน ต้องทำสัญญาเข้าร่วมรบกับฝ่ายอักษะ ประกอบด้วยญี่ปุ่น เยอรมัน และอิตาลี ทำให้ชาติไทยต้องตกอยู่ในภาวะสงครามตั้งแต่นั้นโดยที่ไม่มีใครต้องการ คนไทยกลุ่มหนึ่งทั้งในและนอกประเทศ ประกอบด้วยทั้งทหารและพลเรือน ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยขึ้นอย่างลับๆ เพื่อกู้ชาติและเพื่อศักดิ์ศรีของชาติ ในขั้นแรก ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายชนะ รุกไล่ฝ่ายสัมพันธมิตรจนฐานทัพเรือที่เพิร์ลฮาเบอร์ เกาะฮาวายของสหรัฐถูกถล่ม ยึดครองเกาะเล็กเกาะน้อยในมหาสมุทรแปซิฟิก ยึดครองฟิลิปปินส์มุ่งหน้าเข้าพม่า ขับไล่อังกฤษผู้ยึดครองพม่าออกไป และเริ่มลุกลามเข้าสู่อินเดีย แต่แล้วในที่สุดญี่ปุ่นผู้เริ่มรุกราน ก็ถูกตีถอยร่นมาจากทุกสมรภูมิ สัมพันธมิตรจึงส่งเครื่องบินเข้าโจมตีไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ทำให้ประชาชนเกิดการระส่ำระสายต้องอพยพหลบหนีกันอลหม่านทุกวัน จนกระทั่งญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม

 

จากนั้นทหารพันธมิตรก็เข้ามาเต็มเมือง ธุรกิจการค้าต่างเริ่มเฟื่องฟูรุ่งเรือง  คนไทยบางกลุ่มก็กลายเป็นเศรษฐีใหม่ ดวงใจ  หญิงสาวชาวบ้านผู้ต่ำต้อย ซึ่งหลงรักร้อยเอกกฤษฎา ลูกชายท่านเจ้าคุณเทศา ผู้เป็นนายของกำนันปานผู้บิดา ดวงใจหลงรักรูปของกฤษฎามาตั้งแต่แตกเนื้อสาว และแล้ววันหนึ่งโดยไม่คาดฝัน กฤษฎาก็พาตัวจริงมาให้ดวงใจพบเห็น ใช่แต่ดวงใจจะหลงรักกฤษฎาฝ่ายเดียว กฤษฎาเองก็หลงรักดวงใจไม่ต่างกัน ทั้งสองหลบหลีกผู้คนไปท่องเที่ยวหาความสุขด้วยกัน จนได้เสียกัน แต่แล้วด้วยความรักชาติซึ่งยิ่งใหญ่ที่สุด ทำให้กฤษฎาต้องจากดวงใจมาทั้งๆ ที่ไม่อยากจาก เพียงแต่หวังว่าเมื่อหน้าที่ของเสรีไทยซึ่งเป็นหน่วยกู้ชาติใต้ดิน และสงครามสิ้นสุดจะกลับมาหาดวงใจ ก่อนจากกันกฤษฎามอบสร้อยคอและล็อคเก็ตให้ดวงใจไว้ ส่วนดวงใจมอบแหวนทองเหลือไร้ค่าให้กฤษฎาไว้เช่นกัน กฤษฎาไม่เคยถอดแหวนวงนี้ออกจากมือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

ดวงใจเฝ้ารอการกลับมาของร้อยเอกกฤษฎาด้วยความหวัง แต่ดวงใจตั้งครรภ์ขึ้นมาจึงทำให้กันปานโกรธแค้นยิ่งนัก ยิ่งรู้ดวงใจท้องกับกฤษฎายิ่งเสียใจ และด้วยความจงรักภักดีต่อเจ้าคุณเทศา ผู้มีบุญคุณช่วยชุบชีวิตกำนันจากโจรให้มาเป็นพลเมืองดี ทำให้กำนันไม่ปริปากเอ่ยให้ผู้ใดรู้ว่าดวงใจท้องกับกฤษฎา และสั่งห้ามดวงใจเอ่ยชื่อกฤษฎาให้ได้ยินอีกเป็นอันขาด กำนันได้ใช้โซ่ตรวนกักขังดวงใจไว้ในบ้าน เนื่องจากดวงใจพยายามจะหนีไปตามหากฤษฎาให้ได้ ต่อมาได้มีลูกชายเศรษฐีผู้หนึ่ง ซึ่งหลงรักดวงใจตั้งแต่ก่อนบวช พอสึกออกมาแล้วจึงได้ส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอ และไม่รังเกียจแม้ว่าดวงใจจะท้องไม่มีพ่อก็ตามที แม้ไม่เต็มใจ แต่เพื่อรักษาหน้าของลูกสาว กำนันปานตัดสินใจรับการสู่ขอ มิใยที่ดวงใจจะทัดทาน มิใยจะต้องทุบตีลูกสาวที่รักเหมือนดวงใจของกำนันเอง กำนันก็ต้องยอม วันแต่งงาน ดวงใจถูกล่ามโซ่รออยู่ในห้อง ขบวนขันหมากแห่ใกล้เข้ามาทุกที ดวงใจพยายามสะเดาะโซ่มาหลายวันแล้ว แต่ไม่อาจทำสำเร็จได้ ผลที่สุดด้วยใจอันมุ่งมั่นแน่วแน่และด้วยความเข็มแข็งของดวงใจ ทำให้ดวงใจตัดสินใจเฉือนเนื้อตัวเองที่ส้นเท้าออกไป เพื่อให้เท้าลอดออกมาจากห่วงโซ่ได้ และเธอก็ทำสำเร็จ ดวงใจกระโดดหนีลงจากเรือนกระเซอะกระเซิงเข้าไปในป่า กำนันส่งคนติดตามไล่ล่าเต็มที่ ดวงใจได้รับความช่วยเหลือจากชาวป่าสองผัวเมีย เมียท้องพอๆ กับดวงใจ ดวงใจขอแลกเสื้อผ้ากับเมียชาวป่า และขายสร้อยคอเพื่อเอาเงินติดตัวเดินทาง แล้วอาศัยล่องแพมากับคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในเมือง

 

หลายวันต่อมา บรรดาคนติดตามดวงใจได้พบศพของผัวเมียคู่นั้นถูกเสือฆ่าตาย จึงพากันเข้าใจผิดว่าดวงใจตาย เพราะหญิงคนนั้นใส่ชุดของดวงใจและใส่สร้อยของดวงใจ กำนันเสียใจมาก นำศพของดวงใจมาฝังไว้หลังบ้าน และทำการปิดตายเรือนรับรองหลังใหญ่ของเจ้าคุณเทศาที่กฤษฎามาพัก ดวงใจมาที่สถานีรถไฟเพื่อขึ้นกรุงเทพตามหากฤษฎา แต่เงินที่มีอยู่ร่อยหรอลง ทำให้ไม่พอค่าโดยสาร ดวงใจตัดสินใจเดินตามทางรถไฟไปเรื่อยๆ ด้วยหวังว่าวันหนึ่งจะถึงกรุงเทพ เดินทางรอนแรมมาหลายวัน ดวงใจหมดแรงล้มลงอยู่บนทางรถไฟนั่นเอง ขณะนั้นนายสถานีกำลังโยกรถตรวจสภาพรางรถไฟมาพบเข้า คิดว่าดวงใจอยากฆ่าตัวตาย จึงช่วยพาดวงใจกลับมาส่งไว้ที่บ้านนายสถานีอนามัย เมื่อดวงใจรู้สึกตัว ก็เริ่มเจ็บท้องจะคลอดลูก พอดีในช่วงนั้นหมอเมตตามาจากกรุงเทพฯ เพื่อตรวจอนามัยจังหวัดที่นั่น หมอจึงทำคลอดให้ดวงใจ ได้ลูกเป็นหญิง หมอสอบถามดวงใจได้ความว่าดวงใจต้องการไปกรุงเทพฯเพื่อตามหาสามีชื่อร้อยเอก กฤษฎา บ้านอยู่ทุ่งมหาเมฆ มีต้นเฟื่องฟ้าสีแดงสดหน้าบ้านที่กรุงเทพฯให้ได้ หมอเกิดความเวทนาและเอ็นดูดวงใจ จึงให้ดวงใจติดตามเข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามหาสามี

 

ทางด้านร้อยเอกกฤษฎา ทำหน้าที่เสรีไทยด้วยความเข้มแข็ง และซื่อสัตย์ ไม่ยอมให้ผู้ใดรู้ที่อยู่ และรู้ว่ากำลังทำสิ่งใด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของขบวนการ ทั้งๆ ที่คิดถึงดวงใจและห่วงเจ้าคุณเทศาผู้บิดามาก กฤษฎาทนกล้ำกลืนความคิดถึงและความทุกข์โศกทั้งหมด แล้วตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีที่สุด จนได้รับความเชื่อถือยกย่องจากหัวหน้าหน่วย และเพื่อนร่วมงานทั่วไป ทางฝ่ายเจ้าคุณเทศา ตรอมใจที่ลูกชายคือกฤษฎาหายไปไม่มีวี่แวว ถึงกับล้มป่วยและได้ทำพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดให้การกุศล ส่วนบ้านที่อยู่ยกให้ภรรยาน้อย ภรรยาน้อยได้นำบ้านหลังนั้นไปขายให้กับนักธุรกิจ เปิดบ่อน เปิดคลับกลางคืนสำหรับนักท่องเที่ยว หมอเมตตาพาดวงใจมาถึงกรุงเทพฯ ให้ดวงใจอาศัยที่บ้าน แม่ของหมอเอ็นดูดวงใจโดยเฉพาะลูกสาวของดวงใจมาก ดวงใจนั้นขยันขันแข็งไม่ดูดาย ทำงานบ้านทุกอย่าง ตลอดจนช่วยหมอในเรื่องรักษาพยาบาลคนป่วย จนสามารถรู้จักชื่อยา และหยิบยาได้ถูกต้อง ถูกใจหมอและคุณแม่ของหมอมาก

 

ดวงใจใช้เวลาว่างตามหากฤษฎาเป็นปี ทั่วทุ่งมหาเมฆ หาบ้านที่มีดอกเฟื่องฟ้า ซึ่งมีเป็นจำนวนมากมาย ในที่สุดดวงใจก็พบบ้านของกฤษฎา โดยสอบถามจากคนเก่าแก่ในบ้าน ทราบว่ากฤษฎาหายสาบสูญและบ้านได้ถูกขายไปทำคลับและบ่อนแล้ว โดยภรรยาน้อยของเจ้าคุณพ่อของกฤษฎานั่นเอง คนใช้เก่าแก่ยังเล่าอีกว่า ได้ข่าวลือมาว่ากฤษฎาเสียชีวิตในสงครามไปแล้ว ดวงใจเศร้าเสียใจมาก ซมซานกลับ ปรับทุกข์กับหมอ หมอเห็นอกเห็นใจดวงใจ หมอแอบหลงรักดวงใจมานาน ยิ่งเมื่อทราบว่าสามีของดวงใจเสียชีวิต หมอจึงเกิดความหวัง ในที่สุดวันหนึ่งหมอจึงเสนอตัวขอแต่งงานกับดวงใจ ดวงใจตกใจมาก เพราะคิดไม่ถึง ดวงใจปฏิเสธหมอ โดยบอกว่าได้ให้คำมั่นสัญญากับสามี และตัวเองไว้ว่าจะไม่มีชายอื่นอีกแล้ว นอกจากกฤษฎา

 

ดวงใจเกิดความรู้สึกผิดและไม่สบายใจที่ทำให้ผู้มีพระคุณต้องผิดหวัง เมื่อไม่สามารถจะทดแทนพระคุณได้ ดวงใจจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านหมอ ในตอนเช้าตรู่วันหนึ่ง ดวงใจอุ้มลูกน้อยกระเซอะกระเซิงออกมา พร้อมด้วยเงินในกระเป๋าจำนวนหนึ่งที่เก็บสะสมไว้จากการที่หมอให้เป็นค่าตอบ แทนในการทำงานให้หมอ ขณะอุ้มลูกเดินมา เสียงหวอดังขึ้น ดวงใจพาลูกหาที่หลบระเบิด ปรากฏว่ามีคนร้ายถือโอกาสกระชากกระเป๋าดวงใจไป ทำให้ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่แดงเดียว จนกระทั่งพบแม่ค้าข้าวแกง หนูน้อยเกิดหิวร้องงอแงขอกินอาหาร ดวงใจตัดสินใจเรียกแม่ค้าหาบเร่ผู้นั้นหยุด แม่หนูทานจนอิ่ม แม่ค้าขอเก็บเงิน ดวงใจไม่มีให้ เกือบถูกแม่ค้าเล่นงาน หาว่าหลอกกินฟรี ในที่สุดแม่ค้าก็เข้าใจ และกลับสงสารดวงใจ จึงพาไปหายายประคองเจ้าของบ้านที่แม่ค้าอาศัยอยู่เช่นกัน ยายประคองผู้ปากร้ายแต่ใจดี ไม่พอใจในขั้นแรก แต่เมื่อเสาวรสซึ่งเป็นหญิงสาวพเนจรเหมือนกันและมาอาศัยอยู่กับยายประคอง รับรอง ยายประคองก็ใจอ่อนให้ดวงใจอาศัยอยู่ด้วย ดวงใจ เสาวรส จึงสนิทสนมกัน และสาบานเป็นพี่น้องกันตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

 

กิจการหาบเร่ของยายประคองรุ่งเรือง แบ่งออกเป็นสองสาย สายหนึ่งเสาวรส สายที่สองดวงใจ แยกย้ายกันไปขายตามที่ต่างๆ ของหมดทุกวัน วันหนึ่งดวงใจนำห่อหมกหาบไปขายที่ซ่องนางโลมของนางช้อย ปรากฏว่าขายดิบดีเป็นเทน้ำเทท่า บรรดาแมงดา และลูกเล้าทั้งหลายต่างชื่นชมในความสวยของดวงใจ และเล่าลือกันไปถึงนางช้อย นางช้อยรีบส่งคนมาติดต่อดวงใจให้ไปเป็นโสเภณีประจำซ่อง ดวงใจปฏิเสธทันที นางช้อยไม่ละความพยายามมาหาเองถึงบ้านยายประคอง ถูกด่าและถูกไล่ด้วยตะหลิวเปิดก้นออกจากบ้านแทบไม่ทัน เนื่องจากยายประคองนั้นรังเกียจพวงซ่องนางโลมมาก  พวกนางช้อยไม่ละความพยายาม พวกแมงดาตัวเอ้ของนางช้อยวางแผนฉุดคร่าดวงใจ และในที่สุดวันหนึ่งดวงใจกับเสาวรสก็โดนจับตัว เสาวรสต่อสู้หลุดออกมาได้ พวกแมงดาจึงข่มขืนดวงใจเพราะเชื่อว่านี่เป็นจุดที่จะทำให้ดวงใจยอมเป็น โสเภณี เสาวรสหนีกลับไปบอกยายประคองแต่ก็สายไปแล้ว

 

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ดวงใจเสียขวัญมาก เพราะไม่สามารถรักษาตัวไว้ได้ ตามที่สัญญาไว้กับตัวเองและกฤษฎา ดวงใจตัดสินใจหอบลูกน้อยไปไว้ที่หน้าบ้านของหมอเมตตา คุณแม่ของหมอเป็นผู้พบหนูน้อย ในย่ามของหนูน้อยพบจดหมายของดวงใจที่ยกลูกสาวให้หมอ พร้อมทั้งมอบล็อคเก็ตของกฤษฎาไว้ให้ลูกสาวด้วย ดวงใจแจ้งในจดหมายว่าเพื่ออนาคตที่ดีของหนูน้อย หมอรับเลี้ยงลูกสาวของดวงใจและได้ตั้งชื่อให้เด็กว่า นาตยา ดวงใจได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ย้อนกลับไปที่ซ่องของนางช้อย เพื่อไปสมัครเป็นโสเภณี ขณะนั้นระเบิดลงที่ย่านนั้น ทั้งซ่องและบ้านยายประคองถูกระเบิดลงเสียหายหนัก ตัวดวงใจเองได้รับความช่วยเหลือจากนายทหารญี่ปุ่นคนหนึ่งชื่อพันเอกโตชิโจ๊ะ โตชิโจ๊ะพาดวงใจมาที่บ้าน ให้ทำงานเป็นแม่บ้าน ไม่ยอมให้ทำงานที่ซ่อง โตชิโจ๊ะเกิดหลงรักดวงใจขึ้นมาอีกราย มิใยดวงใจจะเล่าว่าเคยมีสามีมาแล้ว และถูกแมงดาที่ซ่องนางช้อยข่มขืนมาแล้วก็ตาม โตชิโจ๊ะก็ไม่สนใจ ความดีของโตชิโจ๊ะและประกอบกับสูญเสียคำมั่นสัญญาของตัวเองไปกับการถูกข่มขืนครั้งนั้น ทำให้ดวงใจยอมเป็นภรรยาของโตชิโจ๊ะ เพื่อทดแทนบุญคุณ และเรียกโตชิโจ๊ะว่านายทุกคำ โตชิโจ๊ะเลี้ยงดูดวงใจอย่างดี ให้เงินทางใช้สอย ดวงใจมีความสุขขึ้น ถึงแม้ในส่วนลึกยังคงคิดถึงกฤษฎาอยู่เสมอ

 

วันหนึ่งโตชิโจ๊ะได้พาหญิงรุ่นพี่ซึ่งอายุมากกว่าดวงใจเล็กน้อยคนหนึ่งมาหา และบอกว่าให้มารับใช้ดวงใจ หญิงนั่นคือ เสาวรสนั่นเอง เสาวรสโทรมจนดวงใจจำไม่ได้ ซึ่งในที่สุดดวงใจก็จำเสาวรสได้ ดวงใจดีใจมาก ชีวิตของดวงใจมีความสุขมากขึ้นหลังจากที่เสาวรสมาอยู่ด้วย ต่อมาพักหลังนายเริ่มติดธุระมากขึ้นและเครียดจัด และในที่สุด ทุกคนก็ทราบว่าญี่ปุ่นทำท่าจะแพ้สงคราม โตชิโจ๊ะถูกเรียกตัวกลับญี่ปุ่น ก่อนไปมอบเงินจำนวนหนึ่งมากพอสมควรให้ดวงใจไว้ใช้ และสั่งไว้ว่าให้เช่าบ้านหลังนี้เอาไว้จนถึงที่สุด รอจนกว่าเขาจะกลับมา แต่ทั้งสองหารู้ไม่ว่าโตชิโจ๊ะจะไม่กลับมาแล้ว เนื่องจากเขาได้ตัดสินใจทำฮาราคีรีขณะนั่งเรือกลับญี่ปุ่น หลังจากได้รับทราบการประกาศยอมแพ้สงครามอย่างเป็นทางการ ทางฝ่ายดวงใจกับเสาวรสคอยนายจนจากเดือนเป็นปี เงินทองร่อยหรอ ไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน ถูกคุณนายเจ้าของบ้านเช่าทวงค่าเช่าเช้าเย็นและไล่ออกจากบ้าน ดวงใจยังคงยึดมั่นคำสั่งของนาย ตัดสินใจขายของใช้ดีๆ ในบ้านไปบ้าง ผลที่สุดแอบไปสมัครเป็นโสเภณี แต่ด้วยความอดอยากในระยะหลัง ทำให้ดวงใจดูรุดโทรม จึงถูกเย้ยหยันตะเพิดออกจากซ่องแทบไม่ทัน

 

ดวงใจกับเสาวรสหมดหนทางหาเงินมาใช้จ่าย ทั้งสองกลัดกลุ้มมาก ขณะนั้นดวงใจเดินสะดุดไม้ที่อยู่ใต้พรมซึ่งคุณนายเจ้าของบ้านเพิ่งมาริบไป ทำให้เห็นไม้เผยอขึ้นเห็นสิ่งหนึ่งเหลืองอร่ามตาอยู่ใต้ไม้นั้น ทั้งสองเกิดความสงสัยแงะออกมาดูแล้วตกตะลึงพรึงเพริด เพราะใต้พื้นไม้นั่นเต็มไปด้วยทองคำแท่งจำนวนมหาศาลของนายญี่ปุ่นซึ่งซ่อน เอาไว้ เสาวรสลองนำเอาทองแท่งไปขายหนึ่งแท่ง ได้เงินมามากพอสมควร ดังนั้นเมื่อคุณนายเจ้าของบ้านมาถึงพร้อมคนงานจะเตรียมมาบุกไล่ทั้งสอง จึงเจอทีเด็ดเอาเงินฟาดหัว และถีบก้นส่งขณะนับเงิน เงินกระจาย ทั้งสองตัดสินใจขายทองไปซื้อบ้านใหม่อยู่ เอาทองไปฝากธนาคาร แบ่งจำนวนหนึ่งขายมาเป็นเงินลงทุนทำธุรกิจซึ่งกำลังบูมในช่วงนั้น โดยมีเสาวรสเป็นหัวเรือใหญ่ในทางธุรกิจ เสาวรสดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัททุกแห่งของดวงใจซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานทุกบริษัทเช่นกัน พร้อมกันนั้นดวงใจได้เปลี่ยนชื่อเป็นหทัยทิพย์ นามสกุล ดวงใจ เพื่อกันคนจำได้ ทุกคนในวงสังคมรู้จักเสาวรส และหทัยทิพย์อย่างดีว่าร่ำรวยและสวยแถมยังใจบุญ ชอบบริจาคเงินเพื่อการกุศล

 

หลังสงคราม ร้อยเอกกฤษฎา กลับมาบ้าน พบว่าบ้านถูกขายไปแล้ว พ่อตาย ทรัพย์มรดกสูญหาย คงเหลือแต่บ้านเชียงใหม่หลังเดียว กฤษฎารีบกลับไปหาดวงใจที่เชียงใหม่พบแต่กำนันบ้าน ทราบว่าดวงใจตายและกำนันยังพาไปดูหลุมฝังศพของดวงใจอีก ทำให้กฤษฎาเสียใจยิ่งนัก และประกาศขายบ้านเชียงใหม่และกลับกรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ กฤษฎายากจนมาก ไม่มีสิทธิ์เลือกงาน และประกอบกับหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ทำให้กฤษฎาประชดชีวิตด้วยการไปสมัครเป็นยามที่บริษัทแห่งหนึ่ง ความมั่งมีร่ำรวยไม่ทำให้หทัยทิพย์มีความสุขเพราะยังจมอยู่กับอดีตและยังมี ความหวังว่าสักวันคงจะได้พบลูกและสามี เธอจึงใช้เหล้าย้อมใจสม่ำเสมอ โดยไม่ฟังคำทัดทานของเสาวรส หทัยทิพย์ได้ส่งคนไปสืบหายายประคอง ทราบว่าอยู่คลองเตย หทัยทิพย์ต้องการตอบแทนบุญคุณแก่ทุกคนที่มีพระคุณโดยไม่แสดงตัว ทั้งเสาวรสและหทัยทิพย์ทั้งสองจึงวางแผนช่วยยายประคองจนกลายเป็นเศรษฐีน้อยๆ โดยไม่รู้ว่ามีคนแอบช่วย เสาวรสเอาประกาศขายบ้านพักผ่อนเชียงใหม่มาให้หทัยทิพย์ดู หทัยทิพย์ถึงกับตกตะลึงเพราะนั่นคือบ้านของกฤษฎา ทำให้เกิดความหวังขึ้นมาบ้าง ว่ากฤษฎายังมีชีวิตอยู่ หทัยทิพย์มอบหมายให้เสาวรสไปจัดการซื้อบ้านหลังนั้นมา และปรับปรุงให้มีสภาพเหมือนเดิมและให้จ้างกำนันเฝ้าบ้านตามเดิมด้วยราคาอัน แพงลิบ โดยมีสายคำเพื่อนผู้พี่คนเดิมคอยดูแลกำนันอีกทีหนึ่ง กฤษฎาได้เงินจากการขายบ้าน จึงนำมาซื้อบ้านหลังกระทัดรัดอยู่หลังหนึ่ง และทำงานเป็นยามต่อไป ส่วนหทัยทิพย์เริ่มส่งคนไปสืบหากฤษฎา หมอเมตตาและลูกอย่างไม่หยุดยั้ง นาตยาลูกสาวของดวงใจเรียนจบแล้ว และเข้าใจว่าตัวเองคือลูกสาวจริงๆ ของนายแพทย์เมตตา หมอไม่ได้แต่งงาน ละโกหกนาตยาว่าแม่ของนาตยาเสียชีวิตตั้งแต่นาตยายังเล็กๆ อยู่ หมอได้ย้ายไปตั้งคลีนิคหมอเมตตาอยู่ที่กาญจนบุรี รักษาคนไข้ผู้ยากจนและก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือคนไข้ผู้ยากไร้ขึ้นมา และอนุญาตให้นาตยาไปหางานทำที่กรุงเทพฯ

 

ในที่สุดนาตยาก็ได้มาทำงานกับหทัยทิพย์ โดยได้รับการฝากฝังจากพิธี พนักงานชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง หทัยทิพย์รู้สึกสะกิดใจบางอย่างในตัวนาตยา รู้สึกเอ็นดูนาตยา แต่นาตยารู้สึกไม่ปลื้มหทัยทิพย์นัก เนื่องจากได้ยินคำเล่าลือว่าหทัยทิพย์เป็นผู้หญิงขายตัวมาก่อน นาตยาพักอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง และคบค้ากับหอมลูกชายเจ้าของหอ ลูกชายเสี่ยหยงเจ้าของธุรกิจที่ไม่ถูกเส้นกับบริษัทแห่งหนึ่งในเครือหทัยทิพย์ หอมชอบเล่นดนตรีและแนะนำให้นาตยารู้จักกับเพื่อนประเภทนักเที่ยวไม่เอาไหน อีกแก๊งหนึ่ง หอมออกจะชอบนาตยา แต่นาตยาค่อนข้างจะรักนวลสงวนตัว แม้จะชอบเที่ยวก็ตาม หมวดนิทัศน์ญาติห่างๆ ของหมอเมตตา ก็เป็นหนึ่งที่มาติดใจนาตยา และพยายามเตือนนาตยาให้ตีตัวออกห่างแก๊งของหอม แต่นาตยาไม่ฟัง และมีปากเสียงกันเสมอ หมอเองก็เขม่นนิทัศน์ที่มาติดพันนาตยา ในที่สุดนาตยาก็ถูกหอมหลอกล่อให้ติดยาเสพติดตั้งแต่กัญชาและอื่นๆ อีกไปจนเริ่มจะลองผงขาว สายสืบมาแจ้งแก่เสาวรสและหทัยทิพย์ว่าพบหมอเมตตาแล้ว และหมอกำลังต้องการเงินทุนจำนวนหนึ่งเพื่อไปใช้จ่ายสำหรับคนจนในมูลนิธิ มตตาของหมอ หทัยทิพย์รีบส่งผ่านเงินนี้ไปทางพิธีและเสาวรสทันทีจำนวนมากพอสมควร หมอเมตตาซาบซึ้งในความกรุณาครั้งนี้และขอเดินทางมาพบเพื่อแสดงความขอบคุณ ด้วยตัวเอง แต่ถูกปฏิเสธจากหทัยทิพย์

 

ต่อมาโชคชะตาก็บันดาลให้หทัยทิพย์ขับรถชนกฤษฎาทที่โรงงานซึ่งกฤษฎาเป็น ยามอยู่ที่นั่น นาตยาสามารถจำกฤษฎาได้ทันทีและยิ่งเห็นแหวนทองเหลืองที่นิ้วของกฤษฎา หทัยทิพย์ก็ยิ่งมั่นใจแน่นอน แต่กฤษฎาไม่สามารถจำหทัยทิพย์ได้ เพียงแต่รู้สึกว่าช่างคล้ายกับดวงใจมาก หทัยทิพย์พากฤษฎามารักษาตัวที่โรงพยาบาลประคบประหงมจนหายและให้เสาวรสชักชวน ให้กฤษฎา มาทำงานที่บริษัทด้วยกัน ตั้งให้เป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มิใยที่เสาวรสจะเคี่ยวเข็ญให้บอกความจริงกับกฤษฎา หทัยทิพย์ก็ไม่ยอมเพราะคิดว่ากฤษฎาต้องไม่ยอมรับอดีตที่ผ่านมาของเธอที่คน เล่าลือกัน สำหรับกฤษฎา ก็เท่ากับเป็นหัวหน้าโดยตรงของนาตยา กฤษฎาเอ็นดูนาตยาโดยไม่รู้สาเหตุ แต่นาตยาขั้นแรกรู้สึกรำคาญกฤษฎา เนื่องจากกฤษฎาช่างสังเกตและชอบตักเตือน เรื่องความประพฤติส่วนตัวของนาตยาเรื่องสูบยา แต่ในสายตาของหทัยทิพย์กลับมองเป็นว่ากฤษฎากำลังจีบนาตยา ทำให้หทัยทิพย์ดื่มเหล้ามากขึ้น

 

นาตยาเองก็เคยจับสังเกตเห็นความรู้สึกของหทัยทิพย์ว่าแอบชอบกฤษฎาแน่นอน และเคยบอกกฤษฎา แต่กฤษฎาบอกว่านาตยาเหลวไหล คนดีพร้อมอย่างหทัยทิพย์ไม่สนใจคนต่ำต้อยอย่างเขาแน่นอน ต่อมาผู้ใหญ่ปานเสียชีวิตลงและทำการเผาไปเรียบร้อยแล้ว สายคำจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาแจ้งข่าวกับเสาวรสทราบ สายคำจำหทัยทิพย์ไม่ได้เช่นกัน แต่กฤษฎาดีใจมากที่พบสายคำ และชักชวนให้สายคำไปพักอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านของเขา นาตยาติดยาหนักขึ้นทุกที กฤษฎาเริ่มห่วงมาก ซึ่งทำให้หทัยทิพย์ไม่เข้าใจผิดมากขึ้นทุกที และดื่มเหล้ามากขึ้น จนเสาวรสกลุ้มใจ กฤษฎาร่วมมือกับนิทัศน์ไปเกลี้ยกล่อมนาตยาโดยขู่ว่าจะไปบอกความจริงให้กับ หมอเมตตาทราบ นาตยาขอร้องไว้ และยอมรับปากรักษาตัว หลบพวกหอมไปรักษาอาการติดยาอยู่ที่บ้านของกฤษฎา มีสายคำคอยดูแล นาตยาหายอาการติดยาแล้ว และเกิดหลงรักกฤษฎาอย่างมากมาย ถึงกับปฏิเสธนิทัศน์ขณะ เดียวกันหทัยทิพย์ก็เกิดขัดแย้งกับเสี่ยหยงพ่อของหอมขั้นรุนแรง เสี่ยหยงวางแผนจับตัวหทัยทิพย์ แต่เพื่อให้ดูแนบเนียนจึงมีการเรียกค่าไถ่ด้วย เสาวรสนำเงินไปไถ่ตัวหทัยทิพย์ตามคำขู่ โดยมีนิทัศน์และตำรวจกลุ่มหนึ่งลอบติดตามไปด้วยขณะที่แกล้งแลกเงินเพื่อไถ่ ตัวหทัยทิพย์ และคิดจะตลบหลังจับทั้งเสาวรสและหทัยทิพย์ไปฆ่า นิทัศน์กำลังจะเข้าจู่โจม พวกคนร้ายรู้ตัวก่อน จึงยิงเสาวรสตาย นิทัศน์ช่วยหทัยทิพย์ออกมาได้ การตายของเสาวรสทำให้หทัยทิพย์จิตใจแย่ลง

 

กฤษฎาเข้าช่วยเหลือทำหน้าที่แทนเสาวรส ด้วยความเอ็นดูและห่วงใยนาตยาเหมือนลูกหลาน กฤษฎาขอโอนนาตยามาเป็นเลขาทำให้หทัยทิพย์ถึงกับพูดไม่ออก นาตยาแสดงความพอใจที่มีต่อกฤษฎาจนออกนอนหน้า เมื่อถูกหทัยทิพย์ซักถาม นาตยายอมรับอย่างหน้าชื่นว่าหลงรักกฤษฎา หวังจะให้กฤษฎาของแต่งงานด้วย ทำให้หทัยทิพย์ใจเสียยิ่งขึ้น นาตยานำข่าวการเลื่อนตำแหน่ง และขึ้นเงินเดือนไปอวดหมอเมตตาที่กาญจนบุรี หมอเมตตาเห็นว่านาตยาโตพอที่จะทราบความจริงได้แล้ว จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้นาตยารู้และมอบล็อคเก็ตให้นาตยาบอกว่านี่คือของที่ พ่อนาตยามอบให้ดวงใจ แม่ที่แท้จริงของนาตยา และดวงใจก็ได้มอบสิ่งนี้ไว้ให้กับหมอ เพื่อให้กับนาตยาอีกทีหนึ่ง นาตยามาทำงานแต่เช้า พบหทัยทิพย์คนแรก หทัยทิพย์แทบช็อคที่เห็นนาตยาใส่ล็อคเก็ตอันนี้ นาตยาบอกว่าคือของแม่แท้ๆ ของเธอ พ่อเลี้ยงของเธอชื่อ หมอเมตตา หทัยทิพย์กลัวว่ากฤษฎาจะเห็นล็อคเก็ตนี้จึงขอยืมนาตยาไว้ อ้างว่าชอบและจำไปทำเลียนแบบบ้าง หทัยทิพย์ตื่นเต้นเป็นที่สุดเพราะทั้งสามีและลูก ได้มารวมตัวทำงานอยู่ด้วยกันแล้วจึงคิดหาทางจะบอกความจริงให้ทุกคนทราบ

 

หทัยทิพย์เชิญกฤษฎาให้ไปงานวันเกิดของเธอ ในอีกเจ็ดวันข้างหน้า รวมทั้งนาตยาและหมอเมตตาพ่อของนาตยาและนิทัศน์ด้วย ถึงวันเกิดของหทัยทิพย์ หทัยทิพย์แต่งตัวในชุดสาวเหนือแบบเดียวกับที่ดวงใจเคยแต่ง กฤษฎามาถึงคนแรกตามเวลาหทัยทิพย์กำหนดไว้ก่อนคนอื่น กฤษฎาได้พบกับภาพที่ไม่นึกฝันเพราะนั่นราวกับภาพของดวงใจในอดีตมาปรากฎอยู่ ตรงหน้า ทำให้กฤษฎาถึงกับมั่นใจว่าหทัยทิพย์คือดวงใจ และดวงใจยังไม่ได้ตายไปตามความเข้าใจผิดของทุกคนแน่นอน หทัยทิพย์ไม่รับ ไม่ปฏิเสธ และส่งกล่องล็อคเก็ตให้กฤษฎา แล้วหลบหนีออกไปจากบ้านหลังนั้น ทิ้งท้ายไว้ให้เข้าใจว่าเธอจะกลับไปยังที่ที่เธอจากมา ขณะเดียวกันนั้น พวกนิทัศน์ หมอเมตตาและนาตยาเดินทางมาถึงตามเวลานัดเช่นกัน ทุกคนพบแต่กฤษฎาซึ่งนั่งซึมอยู่ กฤษฎาแกะกล่องออกมาพบล็อคเก็ต ที่ตนมอบให้กับดวงใจ นาตยาบอกว่านั่นคือ ของที่พ่อจริงของเธอได้มอบให้กับแม่ หมอรับรองอีกคนว่าเขาคือผู้รักษาล็อคเก็ตนี้ไว้ในฐานะพ่อเลี้ยงของนาตยา ทุกคนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด นิทัศน์ได้โอกาสแสดงความในใจต่อนาตยาอีกครั้ง กฤษฎามั่นใจว่าดวงใจต้องไปบ้านเชียงใหม่ เพราะนั่นคือที่ที่เธอจากมานั่นเอง กฤษฎาก็ได้พบดวงใจที่นั่นจริงๆ ทั้งสองต่างเล่าสู่เรื่องราวที่ผ่านมาของกันและกัน ทั้งสองได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันต่อไปอย่างมีความสุข

นักแสดงละคร แหวนทองเหลือง

1. พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงเป็น ร้อยเอกกฤษฎา

2. กมลชนก เขมะโยธิน แสดงเป็น ดวงใจ / หทัยทิพย์

3. เขตต์ ฐานทัพ แสดงเป็น ร้อยโทนิทัศน์

4. จีระนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น นาตยา

5. วรุฒ วรธรรม แสดงเป็น พันเอกโตชิโระ นาตาเบ

6. ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ แสดงเป็น หมอเมตตา

7. สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ แสดงเป็น กำนันปาน

8. สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ แสดงเป็น เสาวรส

9. กชกร นิมากร แสดงเป็น สายคำ

10. สรพงศ์ ชาตรี แสดงเป็น หัวหน้าหน่วยทริงโคมาลี

11. เอกพัน บรรลือฤทธิ์ แสดงเป็น หนานอุย

12. วีรประวัติ วงศ์พัวพันธ์ แสดงเป็น ทิดอาด

13. วิทิต แลด แสดงเป็น สุวัฒน์

14. ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี แสดงเป็น มัสยา

เสน่ห์รักนางซิน

เสน่ห์รักนางซิน เป็นเรื่องราวของ พริม สาวสวยแต่ไม่รวยทรัพย์ เธอกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก ดีที่ได้ ลุงฟัก กับป้ารำไพ คนเฝ้าบ้านชายทะเลของ ปรีชา เลี้ยงดูพริมมาเหมือนลูกคนหนึ่ง พริมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเท้ามากจึงผูกพันกับรองเท้าเป็นพิเศษ พอโตขึ้นพริมจึงเลือกทำงานเป็นพนักงานขายรองเท้าในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นของ บารมี และที่นี่พริมได้เจอเพื่อนสนิทอีกสองคนคือ บุสกร กับปริตา พริมกับเพื่อนๆ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เพราะอยากมีอนาคตที่ดีขึ้น แต่จู่ๆ พริมก็โดนลูกค้า แก๊งค์สามบึ้ม หาเรื่อง ปวีณา หัวหน้าแผนกกลับลงโทษพริมกับเพื่อนอย่างไม่เป็นธรรม พริมกับเพื่อนทนไม่ไหวเลยลงไม้ลงมือกับปวีณาจนชั้นวางรองเท้านับร้อยคู่ถล่ม ลงมาทับปวีณาบาดเจ็บ พริมกับเพื่อนๆ ชิงลาออกทันทีก่อนจะถูกไล่ออก พวกเธอรีบออกจากห้างฯ จนพริมเกือบโดนรถบารมีชน แต่ทันทีที่บารมีเห็นพริมเค้าตกใจมากเพราะหน้าพริมคล้ายคนรักของเค้าที่หาย ไป บารมีเลยจ้างให้นักสืบตามหาพริมจน พัชรา ภรรยาคนปัจจุบันเริ่มไม่ไว้ใจสามี ส่วนพริมหลังออกจากงานเธอพาปริตากับบุสกรไปตั้งหลักที่ภูเก็ต เป็นจังหวะเดียวกับที่ลุงฟักกับป้ารำไพได้รางวัลไปทัวร์ยุโรป 15 วัน จากการส่งฉลากปลากระป๋องไปชิงโชค พริมเลยอาสาเฝ้าบ้านให้โดยมีไอเดียว่าภายใน 15 วันนี้ พวกเธอจะปลอมเป็นสาวไฮโซ เผื่อแจ๊กพ็อตมีหนุ่มๆ ไฮโซมาติดกันบ้าง เริ่มแผนการวันแรกพวกเธอพากันไปสปอร์ตคลับหรูของ ภควัต แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อปริตาลื่นตกสระน้ำดีที่ อินทัช ลงไปช่วยทัน ทันทีที่พริมกับบุสกรเห็นเพื่อนตกน้ำก็รีบวิ่งไปช่วยจนไปชนภควัต กับภูรี ตกน้ำไปด้วย แต่เมื่อทุกคนขึ้นจากน้ำอย่างปลอดภัย พริมเลยออกปากเลี้ยงขอบคุณทั้งสามหนุ่ม เมื่อถึงเวลานัดก็เกิดเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ภควัตต้องมาในฐานะเชฟทำอาหาร ส่วนภูรีก็กลายเป็นนักดนตรีเป่าแซกโซโฟนโดยไม่ตั้งใจ ทำให้พริมคิดว่าพวกหนุ่มๆ เป็นพวกนายกระจอกที่ชอบสีคุณหนูไฮโซ ท่าทางของพริมทำให้ภูรีรู้สึกหมั่นไส้เธอเอามากๆ ขณะกลับบ้านพริมเจอกับ พงศกร โดยบังเอิญ ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว เมื่ออินทัชชวนพริมกับเพื่อนๆ ไปล่องเรือ พริมจึงพาพงศกรไปด้วย ระหว่างเดินทางพงศกรคุยโม้อวดรวยจนภูรีหมั่นไส้เลยให้ภควัตถีบพงศกรตกน้ำ พอถึงเกาะทุกคนแยกย้ายชมวิวกันตามสบาย แต่จู่ๆ พวกหนุ่มๆ ก็หลงป่าบนเกาะโชคดีที่พริมช่วยไว้ทัน เหตุการณ์นี้ทำให้ภูรีประทับใจพริมขึ้นมา แต่พวกพริมกลับไม่อยากข้องแวะกับพวกหนุ่มๆ อีกแล้ว เมื่อรู้าภูรีวางแผนตั้งใจให้เรือติดเกาะ พงศกรคิดว่าภควัตกับภูรีเป็นแค่พนักงานของโรงแรมมุกทะเล เค้าจึงแก้แค้นสองหนุ่มด้วยการสั่งให้ผู้จัดการโรงแรมไล่ภูรีกับภควัตออกจาก งาน สามหนุ่มเลยได้ทีมาขออาศัยบ้านพริมโดยอ้างว่าพริมทำให้พวกเค้าต้องตกงานพริม เลยจำต้องยอมให้อยู่ การได้อยู่บ้านเดียวกันนานวันยิ่งทำให้พริมกับภูรีรู้สึกดีต่อกันขึ้น เรื่อยๆ แต่พริมก็ยังไปออกเดทกับพงศกรอยู่บ่อยๆ จนถูกมอมยาแต่เคราะห์ดีที่ภูรีช่วยไว้ทัน หลังจากช่วยพริมแล้วภูรีต้องไปฟาร์มเลี้ยงมุกบนเกาะกลางทะเลกระทันหัน เค้าเลยต้องพาพริมไปด้วยทั้งๆ ที่เธอสลบอยู่ รุ่งเช้าพอพริมฟื้นเธอรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของพงศกรมาก แถมยังถูกภูรีจับได้ว่าไม่ใช่ไฮโซจริงพริมจึงคิดจะหนีกลับภูเก็ต จนภูรีต้องขู่ว่าจะแจ้งตำรวจจับพริมและลุงกับป้าในฐานสมรู้ร่วมคิด พริมเลยต้องอยู่บนเกาะต่อไป และที่นี่เองทำให้พริมกับภูรีได้เรียนรู้กันมากขึ้นจนทั้งคู่เริ่มรักกัน ในที่พริมก็ตัดสินใจเล่าความจริงเรื่องปลอมตัวกับภูรี แต่ภูรีกลับไม่กล้าเผยตัวจริงเพราะต้องการจะเลิกกับ วิกกี้ ก่อน ขณะที่พริมจะบอกรักภูรีเธอก็พบหลักฐานที่แสดงให้รู้ว่าภูรีเป็นมหาเศรษฐีที่ มีคู่หมั้นแล้ว พริมโกรธที่ถูกภูรีหลอกเธอหนีกลับกรุงเทพฯ ทันที แต่ภูรีก็ตามมาง้อถึงกรุงเทพฯ โดยมีภควัตเป็นลูกคู่ตามตื้อบุสกรเช่นกัน ภูรีกับภควัตเรียกร้องความสนใจจนสองสาวใจอ่อนยอมไปงานกาล่าดินเนอร์ด้วย งานนี้วิกกี้ดันทุรังขอไปด้วยทำภควัตต้องคอยสับรางแทนภูรีแทบไม่ทัน แต่แล้วพริมกับวิกกี้ก็เจอกันจนได้มิหนำซ้ำวิกกี้ยังประกาศจะแต่งงานกับภูรี กลางงาน พริมเสียใจมากจนเตลิดออกจากงานไป ส่วนปริตาพอตามหาอินทัชไม่เจอทำให้เธอน้อยใจ เพราะคิดว่าอินทัชคงแค่หลอกเธอเล่นๆ คืน นั้นสามสาวจึงตัดสินใจร่วมต้นชีวิตใหม่ และสัญญาว่าจะไม่เชื่อผู้ชายหน้าไหนอีก ทำให้ภูรีร้อนใจและเริ่มห่างเหินกับวิกกี้ ร้อนถึงพัชราที่ทนเห็นลูกสาวแพ้เด็กขายรองเท้าไม่ได้เลยสั่งให้บารมีไปพูด กับภูรี ด้วยความรักลูกบารมีลงทุนไปคุกเข่าขอร้องให้ภูรีดูแลวิกกี้ที่เป็นโรคหัวใจ บ้าง ทำให้ภูรีสงสารจนต้องเลิกล้มความคิดที่จะถอนหมั้นกับวิกกี้ ส่วนพริมหลังจากเก็บตัวอยู่พักใหญ่เธอก็ได้ทำงานกับ มอส งานชิ้นแรกของพริมคือจัดงานอีเว้นท์ที่ห้างฯ บารมี ที่นี่พริมเจอกับพงศกรและภูรีอีกครั้ง ด้วยความเจ็บใจเธอแกล้งทำเป็นอี๋อ๋อกับพรศกรเพื่อยั่วให้ภูรีโกรธ เมื่อวิกกี้เห็นภูรียังมีใจกับพริมเธอเลยแกล้งป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจจน ภูรีต้องห่างจากพริมไป ด้านพัชราก็เล่นไม่เลิกใช้อิทธิพลมืดสั่งมอสให้ไล่พริมออกจากงาน แล้วพัชราก็ส่งภูรีกับวิกกี้ไปชิคาโกเพราะไม่อยากให้ภูรีเจอพริมอีก แต่ปัญหาไม่จบแค่นั้นเมื่อพัชราเห็นบารมีเอ็นดูพมออกนอกหน้า ทำให้เธอคิดว่าทั้งคู่เป็นชู้กัน พัชราวีนบารมีจนบารมีต้องย้ายไปอยู่คอนโดลำพัง ยิ่งทำให้พัชราเข้าใจว่าบารมีพาพริมไปกกที่คอนโดด้วย เธอโทรตามวิกกี้กับภูรีให้กลับกรุงเทพฯ ด่วน เมื่อพริมรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้บารมีกับพัชราทะเลาะกัน เธอเลยไปเคลียร์กับบารมีที่คอนโด เป็นจังหวะเดียวกับที่วิกกี้และภูรีมาหาบารมีพอดี สิ่งที่เห็นมันชวนให้ภูรีเข้าใจว่าพริมเป็นเมียน้อยบารมีแน่นอน เรื่องยิ่งบานปลายเมื่อพริมตกเป็นข่าวพัวพันกับพงศกรที่หนีตำรวจเรื่องเล่น ยามาหลบอยู่กับพริม ความสันพันธ์อันคลุมเครือระหว่างพริม, บารมี และพงศกร ทำให้ภูรีน้อยใจเลยประชดด้วยการขอวิกกี้แต่งงาน แต่จู่ๆ พริมก็พบความจริงจากไดอารี่ของแม่ว่าพ่อของเธอคือ บารมี นั่นก็หมายถึงเธอเป็นพี่น้อยต่างมารดากับวิกกี้และพงศกร พริมสับสนกับเรื่องทั้งหมดจนตัดสินใจออกบวช แต่ มาเซอร์ มารีอา ไม่ต้องการให้พริมหนีปัญหาด้วยวิธีนี้ ประกอบกับพริมเจอประกาศที่ภูรีตามหา เธอจึงล้มเลิกความคิดที่จะบวชแล้วรีบไปหาภูรีที่ตามนัด แต่เมื่อถึงที่นัดหมายเธอกลับไม่เจอใคร เพราะภูรีมีเหตุจำเป็นต้องรีบไปช่วยวิกกี้ที่ถูกวัยรุ่นรุมโทรม แต่มันก็ทำให้พริมคิดได้ว่าถึงแม้ความรักของเธอจะไม่สมหวัง แต่เธอก็ยังเหลือฝันอีกอย่างคือ การเปิดร้านรองเท้า แล้วธุรกิจ ใหม่ของเธอก็ไปได้สวย เมื่อปริตากับบุสกรรู้ข่าวว่าพริมประสบความสำเร็จกับธุรกิจรองเท้า มันทำให้สองสาวคิดจะตามฝันของตัวเองบ้าง ปริตาตัดสินใจแต่งงานกับอินทัชทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอปฏิเสธมาตลอด ส่วนบุสกรได้ทำงานเป็นอาสาสมัครบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมอย่างที่เธอตั้งใจ ไว้ตั้งแต่ต้น เอ๊ะ..แล้วเรื่องราววุ่นๆ ของพริม, ภูรี และวิกกี้ จะลงเอยกันอีท่าไหน ?? ถ้าบอกหมดเดี๋ยวจะไม่สนุกก็เลยต้องอุบไต๋ไว้นิดนึง แต่ถ้าใครอยากรู้จริงๆ ละก้อต้องติดตามชมในละคร เสน่ห์รักนางซิน

รายชื่อนักแสดง เสน่ห์รักนางซิน
เขตต์ ฐานทัพ รับบท ภูรี
บัวชมพู ฟอร์ด รับบท พริม
อัศนัย เทียนทอง รับบท ภควัต
นาเดีย นิมิตวานิช รับบท บุสกร
กฤตภาศ ศักดิ์ดิษฐานนท์ รับบท อินทัช
ปวีณา ตันท์ศรีสุโรจน์ รับบท ปริตา
เมย์ เฟื่องอารมย์ รับบท วิกกี้
อรรถพล อนุรุทธิกร รับบท พงศกร

สมหวังสู้สู้

หลังจาก โต้ง (เขตต์ ฐานทัพ) ครีเอทีฟค่ายเพลงกับ น้ำขิง (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) สาวนักประชาสัมพันธ์ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน ทั้งสองจึงนัดกันที่จะไปลองชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ร้านวิวาห์ของ ผ่องพรรณ (มณีนุช เสมรสุต) แม่หม้ายลูกติดที่เป็นครูสอนร้องเพลงด้วย และเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของโต้งและน้ำขิง แต่โต้งกลับมาช้าเพราะมัวแต่ทำงานจนลืมเวลา โดยมีสมหวัง สุนัขแสนรู้คอยเตือนแต่โต้งก็ไม่ได้สนใจ พอเห็นเวลาล่วงเลยไปมากแล้วโต้งจึงรีบขับรถไปอย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้รถเฉี่ยว รุ้งแก้ว (ธิดารัตน์ จักรสิงโต) ดีเจสาวที่หน้าร้าน ด้วยความตกใจโต้งรีบประคองรุ้งแก้วไปส่งโรงพยาบาล จังหวะเดียวกับที่น้ำขิงเดินออกมาหน้าร้านพอดี ขณะเดียวกัน แจ๊ค (มณฑล ปริวัฒน์) ขับรถผ่านมา น้ำขิงขอให้แจ๊คขับรถตามรถโต้งไปที่โรงพยาบาล

พอไปถึงโรงพยาบาล บัวลอย (อรุณ ภาวิไล) กับ ไข่หวาน (สมิทธิ์ สุขไพบูลย์) ลูกน้องของ เสี่ยจั๊ว (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) พ่อของแจ๊คที่ปลอมตัวมาเป็นหมอ บอกให้โต้งเซ็นหนังสือรับผิดชอบถ้ารุ้งแก้วและลูกในท้องเป็นอะไรไป โต้งจำเป็นต้องเซ็นเพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนผิด โดยหารู้ไม่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแผนการที่แจ๊คสร้างขึ้นมา เพราะอยากให้โต้งกับน้ำขิงเกิดการเข้าใจผิดกัน เพราะแจ๊คหลงรักน้ำขิงมานาน ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็มีรุ้งแก้วเป็นเมียลับ ๆ อยู่แล้ว แผนการครั้งนี้สำเร็จเพราะน้ำขิงมาทันเห็นโต้งประคองรุ้งแก้วออกจากโรง พยาบาลพอดี

รุ้งแก้วบอกให้แจ๊ครับผิดชอบลูกในท้องของเธอ แต่แจ๊คขอให้รุ้งแก้วร่วมมือกับเขาเพื่อแก้แค้นครอบครัวโต้งก่อน เพราะในอดีตพ่อของเขาถูก โต (ขมิ้น เชิญยิ้ม) พ่อของโต้งมาแย่งคนรักไป ถ้าการแก้แค้นสำเร็จเขายินดีที่จะรับผิดชอบรุ้งแก้วและลูกในท้อง รุ้งแก้วเชื่อเพราะรักแจ๊คมากและยังโดน แจ่มใส (ราตรี วิทวัส) แม่ที่ติดการพนันและเป็นลูกหนี้รายใหญ่ของเสี่ยจั๊ว คอยกำชับให้เธอคอยช่วยเหลือแจ๊คมิฉนั้นไม่มีบ้านจะอยู่ รุ้งแก้วจำเป็นต้องฝืนใจทำตามที่แจ๊คและเสี่ยจั๊วคอยบงการทุกอย่าง

น้ำขิงเสียใจและโกรธโต้งมากเลยคิดที่จะล้มเลิกงานแต่งงาน เธอจึงไปปรับทุกข์กับ หมอเฟิร์น (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) เพื่อนสนิทที่เป็นสัตวแพทย์ ส่วนโต้งก็ให้ เต๋อ (วิชญ จารุจินดา) เพื่อนสนิทเจ้าของบริษัทค่ายเพลงและเป็นแฟนกับหมอเฟิร์น ช่วยเป็นสื่อกลางอธิบายให้น้ำขิงเข้าใจว่าตนกับรุ้งแก้วไม่ได้มีอะไรกัน แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้เพราะน้ำขิงไม่ยอมรับฟัง

สมหวังเห็นเจ้านายเครียดก็ไม่สบายใจจึงไปปรึกษา ข้าวเหนียว (สุนัขของน้ำขิง) และเรียกสุนัขเพื่อนบ้านมาประชุมด่วน เพื่อหาทางช่วยให้โต้งและน้ำขิงคืนดีกัน โดยมีสมาชิกสุนัขเข้าร่วมประชุมคือ ข้าวสวยสุนัขของผ่องพรรณ, ต้มยำสุนัขของ ปราชญ์ (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) ตำรวจนักสืบประจำหมู่บ้าน และ จิ๊กโก๋สุนัขของ เปรื่อง (ไพโรจน์ สังวริบุตร) พ่อหม้ายลูกติด ที่แย่งกันจีบผ่องพรรณแข่งกับปราชญ์ชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร แก๊งสี่ขาวางแผนแกล้งป่วยไม่ยอมทานอาหาร หมอเฟิร์นแนะนำให้พาแก๊งสี่ขาไปพักผ่อนตากอากาศแล้วอาการก็จะดีขึ้น เพราะสุนัขทุกตัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องรักษาด้วยการบำบัดทางจิตใจ ทุกคนจึงพร้อมใจกันพาสุนัขไปพักผ่อนโดยมีหมอเฟิร์นกับเต๋อไปด้วย

แก๊งสี่ขาวางแผนให้โต้งกับน้ำขิงดีกัน โดยแอบหนีเข้าไปในป่าเพื่อให้ทั้งสองตามหา แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันทำให้ น้องโทน (ด.ช.นครินทร์ สุขไพบูลย์) ลูกชายของเปรื่อง และ น้องพริ้มเพรา (ด.ญ.ธนันท์รัฐ ศรีหาจันทร์) ลูกสาวของผ่องพรรณหลงป่า เพราะถูกแจ๊คที่มาตามหาน้ำขิงหลอกให้พาไปหาน้ำขิง พอเจอเรื่องร้ายกลางป่าแจ๊คกลับทิ้งเด็ก ๆ แล้วหนีเอาตัวรอด พริ้มเพราเดินข้ามสะพานไม้ที่เก่าจนพลาดตกสะพาน แล้วไหลไปตามกระแสน้ำที่เชี่ยว โทนร้องเรียกให้คนช่วย!!!….สมหวังกับข้าวเหนียวเข้าช่วยพริ้มเพรา ที่เกาะติดอยู่กลางกระแสน้ำเอาไว้ได้ ในขณะที่โต้งและน้ำขิงช่วยกันตามหาสุนัขของตัวเอง น้ำขิงสะดุดล้มจนเจ็บข้อเท้าโต้งคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ทั้งสองมีโอกาสปรับความเข้าใจกันเรื่องรุ้งแก้ว

เสี่ยจั๊วและแจ๊คเจ็บใจมากเมื่อรู้ว่าโต้งกับน้ำขิงกลับมารักกันและไม่ยก เลิกการแต่งงาน จึงคิดแผนร้ายใช้รุ้งแก้วกับแจ่มใสเป็นเครื่องมือ โดยเอาเงินมาเป็นตัวล่อแจ่มใส ในวันที่โต้งยกขันหมากมาสู่ขอน้ำขิง แจ่มใสพารุ้งแก้วมาโวยวายว่า โต้งทำลูกสาวท้องแล้วไม่รับผิดชอบ และยังจะไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก น้ำขิงได้ยินเสียงเอะอะจึงออกมาดู รุ้งแก้ววิ่งไปกอดน้ำขิงแล้วร้องไห้ฟูมฟาย และขอโต้งซึ่งเป็นพ่อของลูกในท้องคืน น้ำขิงจำรุ้งแก้วได้ว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอ และยังเป็นคนเดียวกับที่โต้งประคองไปโรงพยาบาล

แจ่ม ใสแกล้งร้องไห้ฟูมฟายขอความเป็นธรรมจากคนที่มาร่วมงาน และต่อว่าน้ำขิงจนเธอรู้สึกอับอายและโกรธโต้งมาก เสี่ยจั๊วกับแจ๊คก็มารุมว่าโต้งเสีย ๆ หาย ๆ รุ้งแก้วยืนยันว่ามีความสัมพันธ์กับโต้งจริง และเธอเคยอยู่ที่บ้านโต้งด้วย เพื่อความบริสุทธิ์ใจโต้งพาทุกคนไปพิสูจน์ความจริงที่บ้าน เมื่อไปถึงบ้านโต้งถึงกับตกใจ เพราะข้าวของเครื่องใช้ของรุ้งแก้วอยู่ในห้องนอนของเขา โด่ง (ไพโรจน์ ใจสิงห์) พ่อของน้ำขิงโกรธมากจึงเข้าไปต่อยโต้ง และบอกว่าโต้งไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำให้งานแต่งระหว่างโต้งกับน้ำขิงถูกล้มกลางคัน

แจ๊คตามจีบน้ำขิงและค่อยพูดให้ร้ายโต้งอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันรุ้งแก้วกับแจ่มใสก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านโต้ง โดยที่โต้งไม่อาจจะปฏิเสธได้ เพราะพ่อเป็นคนอนุญาตเพื่อเห็นแก่เด็กในท้อง เฟิร์นและเต๋อทนเห็นสถานการณ์ระหว่างเพื่อนรักทั้งสองคนต่อไปไม่ได้ จึงวางแผนให้ทั้งคู่มาทำงานร่วมกัน ซึ่งทั้งคู่ก็ยอมรับที่จะทำงานให้ โดยที่น้ำขิงตอบตกลงไปอย่างเสียไม่ได้ น้ำขิงร้องไห้เสียใจทุกวันที่เห็นภาพโต้งคอยเอาใจรุ้งแก้ว เมื่อทนไม่ไหวน้ำขิงตัดสินใจไปอยู่ที่รีสอร์ตของพ่อที่พัทยา โต้งมาหาน้ำขิงที่บ้านเพื่อปรึกษาเรื่องงาน แต่ไม่พบ ผ่องพิศ(กรุณา มอริส) ดีไซเนอร์น้องสาวผ่องพรรณ บอกว่าน้ำขิงไม่อยู่ไปพัทยา โต้งตัดสินใจตามไปทันที ส่วนแจ๊คก็มาหาน้ำขิงที่พัทยาและมาถึงก่อนโต้ง จึงชวนน้ำขิงไปทำบุญที่วัดเพื่อสร้างภาพว่าตนเป็นคนดี พอกลับออกมาจากวัดได้เจอกับโต้งที่มาวัดเช่นกัน แต่ทั้งคู่ต่างนิ่งเฉยใส่กัน

โตมาหาโด่งเพื่อขอร้องให้น้ำขิงช่วยทำการประชาสัมพันธ์ตลาดน้ำ 4 ภาคของตน เนื่องจากระยะหลังนักท่องเที่ยวลดลงโดยมีโต้งคอยช่วย โด่งยอมช่วยเหลือในฐานะที่เป็นเพื่อนมานาน แจ๊คและเสี่ยจั๊วแอบได้ยินจึงคิดวางแผนร้ายกลั่นแกล้ง โดยใช้รุ้งแก้วกับแจ่มใสเป็นเครื่องมือเช่นเคย ตลาดน้ำ 4 ภาคเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นมากมาย ทั้งฉก ชิง วิ่งราว นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความปลอดภัย ทำให้ธุรกิจของโตแย่ลงซึ่งก็เป็นไปตามแผนที่สองพ่อลูกวางไว้ โต้งกับน้ำขิงช่วยกันประชาสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมต่าง ๆ เข้าช่วย จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ยิ่งสร้างความแค้นใจให้กับเสี่ยจั๊วและแจ๊คมากขึ้น ถึงแม้จะทำงานร่วมกันน้ำขิงยังปฏิเสธโต้งเรื่องที่จะกลับมารักกันเหมือนเดิม โต้งพยายามต่อรองทุกทางเพราะรักน้ำขิงมาก น้ำขิงจำใจยื่นขอเสนอให้คบกันแบบเพื่อน โต้งตอบตกลงอย่างไม่มีทางเลือก เพราะไม่อยากเสียน้ำขิงไป ทั้งที่หัวใจทั้งคู่ยังคงรักกัน

พ่อของหมอเฟิร์นได้อาหารสัตว์มาเป็นสปอนเซอร์ในการจัดงานโรงพยาบาลสัตว์ โดยมีเต๋อรับหน้าที่ถ่ายโฆษณาให้กับลูกค้าแต่มีข้อแม้ว่า ต้องให้สมหวังกับข้าวเหนียวเป็นพรีเซนเตอร์ แต่เหตุการไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อสุนัขหายไป จากการวางแผนของสองพ่อลูกสุดแสบ เป็นเหตุให้เต๋อไม่สามารถถ่ายทำได้ทันตามกำหนด เต๋อเครียดมากเพราะถ้าผิดสัญญากับลูกค้า จะต้องถูกปรับเป็นเงินหลายล้านบาท เสี่ยจั๊วจึงแกล้งเสนอตัวเข้ามาที่จะช่วยจ่ายค่าปรับแทน แต่ต้องให้เขาเข้ามาถือหุ้นใหญ่ในค่ายเพลงของเต๋อ เมื่อไม่มีทางเลือกเต๋อจึงยอมถึงแม้โต้งจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

เสี่ยจั๊วมีโอกาสเจอกับ บุญกล้า (เทวัญ ไชยสมบูรณ์) เด็กหนุ่มบ้านนอกเกิดถูกใจ โดยมีบัวลอยและไข่หวานสองลูกน้องตัวแสบคอยจัดแจงให้ เพราะตั้งแต่เมียตายและจนแจ๊คโตเป็นหนุ่ม เสี่ยจั๊วยังไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ทั้งสองต่างสงสัยว่าเสี่ยจั๊วจะชอบไม่ป่าเดียวกัน ทางด้านเสี่ยจั๊วก็เริ่มไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน โต้งไม่อนุญาตให้รุ้งแก้วและแจ่มใสมาอยู่ด้วยที่บ้าน เพราะไม่อยากให้น้ำขิงเข้าใจผิด แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะแผนการของสองแม่ลูก ที่มีเสี่ยจั๊วและแจ๊คได้วางแผนไว้ให้ รุ้งแก้วบอกให้แจ่มใสเลิกเล่นการพนัน เพราะไม่อยากใช้ชีวิตที่ต้องเป็นเครื่องมือของเสี่ยจั๊วอีก แจ่มใสบอกถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย รุ้งแก้วบอกเธอจะไปเป็นนักร้องในค่ายเพลงของเสี่ยจั๊ว และบอกแจ่มใสว่าเธอไม่ได้ท้อง พร้อมทั้งวางแผนทำเป็นแท้งลูกเพื่อให้แจ๊คหลงเชื่ออีก

เสี่ย จั๊วใช้อำนาจในการเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของค่ายเพลง พาบุญกล้าไปฝากโต้งและเต๋อช่วยจัดการ ทำให้บุญกล้ากลายเป็นนักร้องดังให้ได้ และยังพ่วงรุ้งแก้วไปอีกคนตามความต้องการของแจ๊ค สมหวังมีส่วนช่วยให้บุญกล้ามีความมั่นใจและร้องเพลงได้ดีขึ้น แจ๊คเริ่มทำธุรกิจผิดกฎหมายโดยที่เสี่ยจั๊วไม่รู้ โดยบังคับให้รุ้งแก้วขายยาเสพติดให้กับคนในวงการ ยาเสพติดเริ่มแพร่กระจายไปในชุมชนหมู่บ้านมากขึ้น ปราชญ์และเปรื่องสงสัยบัวลอยกับไข่หวาน จึงวางแผนสืบราชการลับเพื่อหานายทุนค้ายาให้ได้ ทางการส่ง นีน่า (กัณจนาณัฏ พัฒนะสิริกุลชัย) มาช่วยปราชญ์และเปรื่องในคดีนี้

โต้งและเต๋อถูกตำรวจจับในคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง ซึ่งเป็นแผนการที่แจ๊ควางไว้เพื่อต้องการแก้แค้นทั้งสองคน น้ำขิง หมอเฟิร์น และทุกคน รวมทั้งแก๊งสี่ขาต่างช่วยกันหาหลักฐานมาสู้คดี เพราะไม่เชื่อว่าโต้งและเต๋อมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สมหวังกับข้าวเหนียวพร้อมพ้องเพื่อนสืบหาหลักฐานได้สำเร็จ จนตำรวจสามารถจับกุมบัวลอยกับไข่หวานและผู้ค้ารายใหญ่ได้ แจ๊คถูกตำรวจไล่ล่าจึงจับน้ำขิงเป็นตัวประกัน โต้งและทุกคนพยายามหาทางช่วยน้ำขิง สมหวังมีส่วนสำคัญที่เข้าช่วยน้ำขิงได้สำเร็จ แต่ถูกแจ๊คยิงบาดเจ็บสาหัส สมหวังเสียเลือดมากหมอเฟิร์นต้องการเลือดที่เป็นกรุ๊ปเดียวกันด่วน โต้ง น้ำขิง เต๋อ ต่างช่วยกันประกาศหาเลือดของสุนัขแต่หาไม่ได้ สุดท้ายสมหวังก็ได้เลือดของข้าวเหนียวมาช่วยได้ทันเวลา

ความรักของสมหวังกับข้าวเหนียวสุดแสนจะแฮปปี้ แต่…ความรักของเจ้านายอย่างโต้งและน้ำขิง จะลงเอยกันด้วยดีเหมือนสุนัขตัวเองอย่างไร ? โปรดติดตามหาคำตอบและรับชมเรื่องราวที่สนุกสนานระหว่างคนกับสุนัขแสนรู้ใน ละครสมหวังสู้สู้

รายชื่อนักแสดงละคร สมหวังสู้สู้

เขตต์  ฐานทัพ   รับบท   โต้ง
ปุณยาพร  พูลพิพัฒน์   รับบท   น้ำขิง
วิชญ  จารุจินดา   รับบท   เต๋อ
ชมพูนุช  ปิยธรรมชัย   รับบท   หมอเฟิร์น
ไพโรจน์  ใจสิงห์   รับบท   โด่ง  เมืองชล
ไพโรจน์  สังวริบุตร   รับบท   เปรื่อง
เอกพัน  บรรลือฤทธิ์   รับบท   ปราชญ์
มณีนุช  เสมรสุต   รับบท   ผ่องพรรณ
สุเทพ  ประยูรพิทักษ์   รับบท   เสี่ยจั๊ว
มณฑล  ปริวัฒน์   รับบท   แจ๊ค
ธิดารัตน์  จักรสิงโต   รับบท   รุ้งแก้ว
ราตรี  วิทวัส   รับบท   แจ่มใส
กรุณา  มอริส   รับบท   ผ่องพิศ
อรุณ  ภาวิไล   รับบท   บัวลอย
สมิทธิ์  สุขไพบูลย์   รับบท   ไข่หวาน
ขมิ้น  เชิญยิ้ม   รับบท   โต
กัณจนาณัฏ  พัฒนะสิริกุลชัย   รับบท   นีน่า
ด.ช.นครินทร์  สุขไพบูลย์   รับบท   น้องโทน
ด.ญ.ธนันท์รัฐ  ศรีหาจันทร์   รับบท   น้องพริ้มเพรา
สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์   รับบท   สมหวัง
สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์   รับบท   ข้าวเหนียว
สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล   รับบท   จิ๊กโก๋
สุนัขพันธุ์เฟรนซ์บูลด็อก   รับบท   ต้มยำ
สุนัขพันธุ์ชเนาว์เซอร์   รับบท   ข้าวสวย
สุนัขไทย   รับบท   น้ำมนต์

วัยอลเวง

ธนัย นักศึกษาหนุ่มที่ทั้งหล่อและรวย ปริทัศน์ ผู้เป็นพ่อเป็นนักธุรกิจระดับพันล้าน ส่วน ริษา ผู้เป็นแม่ก็เป็นนักธุรกิจสาวสวย ปริทัศน์กับริษาหย่ากันเมื่อธนัยกำลังอยู่ในช่วงของวัยรุ่น เขาไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้แม่ต้องทิ้งเขาไปอยู่อเมริกา ธนัยต้องอยู่กับพี่เลี้ยงเป็นส่วนใหญ่เพราะปริทัศน์ไม่ค่อยมีเวลาให้ ปริทัศน์กำลังสนุกกับงานธุรกิจทุกอย่างที่เขาทำประสบความสำเร็จอย่างน่าภูมิใจ ปริทัศน์ทำงานจนแทบจะลืมลูก สิ่งที่เขาให้ธนัยอย่างไม่อั้นก็คือเงิน โดยไม่รู้ว่าธนัยต้องการความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ่น จากพ่อบ้าง

ในช่วงปิดเทอมปริทัศน์จะให้ธนัยไปหาริษาที่อเมริกา ทว่าไม่กี่ปีทั้งปริทัศน์และริษาก็แต่งงานใหม่ ปริทัศน์แต่งงานกับ มณีมัย นักธุรกิจสาวสวย ธนัยไม่ยอมรับทั้งแม่เลี้ยงอย่างมณีมัยและ พ่อเลี้ยงชาวอเมริกัน สามีใหม่ของริษา เขาหวังจะให้พ่อและแม่กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เขาต้องการครอบครัวที่อบอุ่นของเขาคืนมา แต่เมื่อทั้งคู่แต่งงานใหม่ ธนัยจึงรู้สึกเหมือนถูกทำร้ายและถูกทอดทิ้ง เขาฝังใจว่ามณีมัยแย่งพ่อไปจากเขาอีกคน นอกไปจากงานที่มากมายของปริทัศน์ยิ่งเมื่อมณีมัยมีลูกกับพ่อเขาอีกสองคน ธนัยก็ยิ่งโดดเดี่ยวมากขึ้น เขาเติบโตมาอย่างคนที่ขาดความรัก ความอบอุ่น และโหยหามันอย่างมากธนัยไม่มีความสุขสักครั้งเมื่ออยู่บ้าน เขารู้สึกเหมือนเป็นคนอื่นในบ้านของตัวเอง ธนัยจึงอยู่กับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ และทำตัวเป็นเจ้ามือพาเพื่อนเที่ยวเสมอ เขาจะกลับบ้านก็ต่อเมื่อไม่มีเงินหรือว่าหมดแรงเท่านั้น
มณีมัยเข้าใจความรู้สึกของธนัยดี ว่าเขาเกลียดและไม่ยอมรับเธอเป็น “แม่คนใหม่” แม้เธอจะพยายามอย่างไรก็ตามแต่ ธนัยกลับต่อต้านรุนแรงจนเธอนึกท้อ มณีมัยรักและเป็นห่วงธนัยอย่างจริงใจ เธออยากให้ปริทัศน์มีความสุขมากกว่านี้ มณีมัยรู้ดีว่าปริทัศน์รักธนัยมาก แต่เขาจะเข้มงวดและแข็งกร้าวกับลูกเสมอ จนธนัยเข้าใจว่าพ่อไม่รัก ในความเป็นจริงแล้วปริทัศน์ต้องการให้ธนัยเข้มแข็งและเป็นหลักให้ครอบครัวแทนเขา ปริทัศน์จึงเข้มงวดกับธนัยมากจนชายหนุ่มต่อต้าน สิ่งที่เขาต้องการคือความรัก ความเข้าใจจากพ่อ แต่ปริทัศน์กลับทำในสิ่งตรงข้าม พ่อกับลูกจึงทะเลาะกันรุนแรงทุกครั้งที่พบกัน

ทางด้านการเรียน ธนัยเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยเปิดของรัฐ แต่ไม่เคยเข้าเรียนเลย เขาใช้วิธีให้เพื่อนสนิทชื่อ สืบสาย หา Sheet หรือจ้างคนเข้าเรียนแล้วถอดเทปให้ ซึ่งธนัยก็เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง เพราะพื้นฐานทางการเรียนของเขาค่อนข้างดี ธนัยมีเพื่อนสาวที่สนิทกันมากเป็นสาวสวยชื่อศิริวิมล ทั้งคู่สนิทกันมากจนใครๆ เข้าใจว่าเป็นแฟนกัน ซึ่งทั้งธนัยกับศิริวิมลไม่ปฏิเสธ ธนัยยอมรับอย่างนึกสนุกมากกว่าจะจริงจัง ส่วนศิริวิมลรักและเข้าใจธนัยมากกว่าคนอื่นๆ เธอจึงยอมเขาทุกอย่าง แม้ธนัยจะไม่เคยคิดกับเธอเกินไปกว่าความเป็นเพื่อนก็ตาม วันหนึ่งธนัยพาเพื่อนกลุ่มใหญ่ไปกินโดนัทที่ร้านหน้ามหาวิทยาลัย เขาพบแคชเชียร์สาวสวยชื่อธาริน เมื่อเห็นธนัยมองธารินอย่างสนใจ สืบสายจึงบอกว่าเขาจ้างธารินให้เข้าเรียนและถอดเทปทำ Sheet ให้ธนัย ด้วยบุคลิกคล่องแคล่ว มั่นใจของธาริน ทำให้ธนัยมองเธอทำงานอย่างเพลิดเพลิน สืบสายบอกว่าธารินเป็นคนเก่งและขยัน มีความสามารถหลายอย่าง

แต่เพราะครอบครัวค่อนข้างยากจน กำพร้าพ่อและอยู่กับแม่ซึ่งอายุมากแล้ว ธารินจึงต้องทำงานไปพร้อมกับเรียนไปด้วย เธอมีงานพิเศษทำมากกว่าหนึ่งอย่าง ถึงทำงานมากแต่ผลการเรียนของธารินก็อยู่ในเกณฑ์ดีมาก สืบสายย้ำว่าธารินเป็นเด็กดี เรียบร้อย และไม่ชอบเที่ยว ที่สืบสายย้ำบอกธนัยเหมือนเป็นการปรามไม่ให้ยุ่งกับธาริน เพราะเขารู้ดีว่าธนัยเจ้าชู้มาก สืบสายไม่อยากให้ธารินต้องมาเสียใจเพราะธนัย จะอย่างไรก็ตามธนัยกลับติดใจธารินจริงๆ จังๆ ยิ่งเธอเมินเฉยไม่สนใจเขา ง่วนทำแต่งานตรงหน้า ก็เหมือนยิ่งยั่วให้ธนัยอยากเอาชนะเธอมากขึ้น ธนัยมั่นใจและทะนงในเสน่ห์ของตัวเองมาก

เมื่อธารินไม่หลงไปกับความหล่อและรวยของเขา ธนัยจึงขัดใจและอยากเอาชนะเธอมากโดยไม่รู้ตัว ส่วนธารินนั้นเป็นเพราะลำบากช่วยแม่ทำมาหากินตัวเป็นเกลียวมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับนางลำไยผู้เป็นแม่อบรมสั่งสอนธารินด้วยความรัก มีเหตุผล และอ่อนโยนตลอดมา จึงทำให้ธารินมีความมั่นคงทางจิตใจ มีวุฒิภาวะสูงมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ และมีความรับผิดชอบเกินตัว ธารินทำงานมาตั้งแต่เด็กจนโตเธอจึงรู้จัก “ค่าของเงิน” และใช้เงินเป็น

เมื่อธารินเห็นธนัยใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายเหมือนไม่รู้จักคุณค่าและความลำบากของผู้ที่หาม แม้ว่าจะเป็นเงินของ พ่อ – แม่ เขาก็ตาม ในความรู้สึกของธารินแล้ว ธนัยไม่มีอะไรที่น่าชื่นชมสักอย่าง มีแต่ความเป็นเด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบ ซึ่งเธอเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด ดังนั้นการที่ธนัยตามวอแว จีบเธอ จึงทำให้ธารินรำคาญมาก เธอเคยว่าเขาแรงๆ แต่ธนัยก็ไม่โกรธ เพราะธารินไม่หยาบคาย

เธอพูดเรียบร้อยแต่ใช้วิธีเหน็บให้เจ็บใจ เพื่อเตือนสติมากกว่า ธนัยจึงชอบยั่วเธอให้โมโหเพื่อเอาชนะแต่ก็ไม่สำเร็จสักที วันหนึ่งธนัยพบธารินคุยกับ วอน นักศึกษาแพทย์ ซึ่งเป็นแฟนของธาริน ธนัยโกรธและหึงหวงเธออย่างไม่รู้ตัว ยิ่งวอนแสดงท่าว่าเป็นแฟนของธาริน ก็ยิ่งทำให้ธนัยโมโหมากขึ้น คืนหนึ่งธนัยแอบตามธารินและวอนไปจนถึงบ้านของธาริน ภาพของธารินที่คุยกับวอนอย่างน่ารัก สนิทสนม ทำให้ธนัยแทบคลั่ง ด้วยความหวงทั้งที่ไม่มีสิทธิ์

ทว่าธนัยซึ่งใช้เงินซื้อทุกอย่าง และได้ดั่งใจเสมอมา จึงมองเห็นธารินเหมือนสิ่งท้าทายที่ต้องเอาชนะให้ได้ วันหนึ่ง นางลำไย ล้มป่วยอย่างกะทันหัน ธารินรีบพาส่งโรงพยาบาล เธอใจเสียเมื่อรู้ว่ามารดาป่วยเป็นมะเร็งในสมอง แม้วอนจะให้กำลังใจอย่างไร แต่ธารินก็ยอมรับความจริง เธอรู้ว่าต้องใช้เงินมากเพื่อรักษามารดา เงินเก็บที่ออมมาตลอดชีวิต คงไม่มากพอที่จะรักษามารดาได้ ธารินจึงยอมรับงานเล่นดนตรีและร้องเพลงที่พัทยา

ซึ่งสืบสายช่วยหางานให้เมื่อรู้ว่าแม่เธอป่วย ธารินต้องใช้เงินมาก สืบสายเป็นรุ่นพี่ที่ดีน่าเคารพ เขาช่วยรุ่นน้องที่ลำบากเสมอถ้าช่วยได้ ธารินจึงคบได้อย่างสนิทใจ แม้จะเคยนึกแปลกใจว่าคนอย่างสืบสาย ไม่น่าจะมีเพื่อนที่ไร้สาระอย่างธนัยได้เลย สืบสายไม่เคยบอกว่าจริงๆแล้ว ธนัยเป็นคนขี้สงสารและชอบทำบุญ เขาบริจาคเงินให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และช่วยเหลือให้ทุนการศึกษากับเด็กที่ขาดแคลนอยู่เสมอโดยไม่เคยบอกใครนอกจากสืบสาย เพราะธนัยจะชวนไปด้วยกันทุกครั้ง

งานเลี้ยงที่พัทยานี้ก็เช่นกัน ธนัยจัดงานวันเกิดเมื่อรู้เรื่องแม่ของธาริน เขาก็ให้สืบสายติดต่อธารินมาร้องเพลง เมื่อรู้ว่าเธอมีความสามารถและพรสวรรค์ โดยยอมจ่ายค่าจ้างอย่างงามจนธารินไม่กล้าปฏิเสธ แม้จะต้องค้างหนึ่งคืนก็ตาม ธารินยอมเหนื่อยเพื่อหาเงินมารักษามารดาให้ได้ คืนนั้นธารินสวยมากในเสื้อผ้าที่สืบสายหาไว้ให้ซึ่งเป็นชุดเรียบเก๋แต่เหมาะกับตัวเธอที่สุด ธารินร้องเพลงเพราะจนธนัยตะลึงและหลงเสน่ห์เธอมากขึ้น เมื่อมีหนุ่มๆไปวอแวใกล้ธาริน ธนัยก็อดใจไม่ไหว เขาปรากฏตัวออกมาจนธารินรู้ความจริงจนได้ ว่าเขาคือเจ้าภาพงานเลี้ยงที่จ้างเธอมา

ธารินโกรธสืบสายที่หลอกเธอ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ธนัยกับธารินทะเลาะกันค่อนข้างรุนแรง ธารินหนีกลับห้องพักเมื่อเห็นธนัยพูดไม่รู้เรื่องเพราะเมามาก ทว่าธนัยก็ตามไปอีกจนได้ เรื่องเลยเถิดเมื่อธารินโกรธและว่าเขาแรงมากขึ้นซ้ำยังยอมรับว่าเธอรักวอนและจะแต่งงานกับเขาทันทีที่เรียนจบ ธนัยหึงจนขาดสติ เขาปล้ำเธอเพื่อเอาชนะและไม่ยอมให้เธอไปแต่งงานกับวอน ธนัยคิดจะแกล้งเธอโดยไม่รู้ว่าเขาทำตามแรงปรารถนาของหัวใจ

ธนัยรักธารินมาก โดยไม่รู้ตัวมาตั้งแต่แรกพบกัน ส่วนธารินพยายามสู้แต่ก็แพ้แรงของธนัย คืนนั้นธารินจึงบอบช้ำทั้งใจและกาย เธอร้องไห้อย่างแค้นใจจนหลับไปในอ้อมกอดของธนัยนั่นเอง วันรุ่งขึ้นธารินเก็บของออกจากที่พักแต่เช้า เธอขอให้สืบสายหารถไปส่งเธอกลับกรุงเทพฯ โดยอ้างว่าห่วงแม่ อาการซึมเศร้าตาบวมแดงเหมือนร้องไห้มาทั้งคืน ทำให้สืบสายสงสัยแต่ก็เข้าใจว่าธารินเป็นห่วงแม่จริงๆ ธารินนั่งร้องไห้ตลอดทางจนถึงบ้าน เธอโกรธเกลียดธนัยมาก เขาคือมารร้าย

ในชีวิตเธอจริงๆ ธารินสับสน เจ็บปวด และต้องการกำลังใจอย่างมาก เธอไปหาวอนที่หอพัก ทว่าเมื่อพบกัน เธอกลับพูดไม่ออก อีกประการหนึ่งท่าทางของวอนที่ดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจทำให้ธารินไม่กล้าพูด ส่วนธนัยตื่น

เมื่อสายมากแล้ว ถึงเขาจะเมามากเมื่อคืนแต่ก็ไม่ลืมว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงร้องไห้ของธารินยังก้องอยู่ในหู ธนัยควานหาธารินที่เขาจำได้ว่ากอดเธอจนหลับไปแต่เมื่อไม่พบ ธนัยตกใจมาก ซ้ำร้ายกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอก็หายไป เขารีบไปหาสืบสายทันทีและเมื่อรู้ว่าธารินกลับกรุงเทพตั้งแต่เช้า ธนัยก็สั่งให้ทุกคนเตรียมตัวกลับเร็วที่สุด

สืบสายคว้าตัวธนัยไว้ก่อนที่เขาจะไป สืบสายมองรอยเล็บบนแขนและอกของธนัยอย่างสงสัย สีหน้าและแววตาของธารินเมื่อเช้าแวบเข้ามาในสมอง สืบสายปะติดปะต่อเรื่องได้ทันที เขาโกรธธนัยมาก แต่ธนัยกลับบอกสืบสายว่าเขาจะรับผิดชอบทุกอย่างรวมถึงจะแต่งงานกับธารินด้วย สืบสายอึ้งไป เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจกับ ธารินดี ที่เสือร้ายอย่างธนัยยอมแต่งงานกับเธออย่างง่ายดายโดยที่ไม่มีใครบังคับ

ธนัยมาดักรอธารินที่บ้านอย่างกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นประตูใส่กุญแจไว้จนค่ำเขาจึงเห็นธารินกลับมากับวอน ธนัยทั้งโกรธ ทั้งหึง แต่เมื่อเห็นว่าวอนส่งแค่หน้าประตูแล้วกลับ ธนัยยอมอดใจรอจนแน่ใจว่าวอนกลับไปแล้วแน่ๆ จึงหาทางเข้าบ้านธาริน

ส่วนธารินเป็นไข้เพราะบอบช้ำมาก เธอไข้ขึ้นสูงจนเพ้อ ธนัยหาเหตุให้เด็กข้างบ้านธารินชื่อ ดำ ช่วยจนสามารถเข้าบ้านธารินจนได้ คืนนั้นเขาอยู่ดูแลเธอทั้งคืน ธารินทำให้ธนัยรู้จักความรัก ห่วงใย เขารู้สึกผูกพันกับธารินอย่างบอกไม่ถูก นับจากวันนั้นไม่ว่าธารินจะไล่หรือว่าเขารุนแรงอย่างไร ธนัยก็ไม่โกรธและไม่ยอมแพ้ ธนัยรู้ตัวว่าข่มเหงน้ำใจธารินมากเกินไป เขาพร้อมจะรับผิดชอบและทำทุกอย่างให้เธอหายโกรธ ธนัยเจ้ากี้เจ้าการย้ายนางลำไยไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเอกชน และรับเป็นเจ้าของไข้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่อยากให้วอนมาอยู่ใกล้ธารินอีก ธนัยจึงเช่าคอนโดและหาเหตุแกล้งทวงบุญคุณเรื่องการรักษาตัวของนางลำไย เพื่อบังคับให้ธารินไปอยู่กับเขาจนได้ ระหว่างอยู่ด้วยกันทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้าง

ทั้งคู่ค่อยๆ เรียนรู้และปรับตัวเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว ธนัยกลับบ้านบ้างนานๆ ครั้งจนปริทัศน์เป็นห่วง มณีมัยจึงรับเป็นธุระตามหาธนัยให้ แต่ยังไม่ทันทำอะไรมาก ธนัยก็กลับมาเพราะเงินหมด ค่ารักษาพยาบาลของนางลำไยสูงมากแต่เขาก็ใจดำกับธาริน ไม่ลง ยิ่งเมื่อเห็นเธอดูแลมารดาอย่างอ่อนโยน และมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาเยี่ยมนาง เขาก็มีความสุขไปด้วย ธนัยขอเงินจากปริทัศน์ก้อนใหญ่โดยไม่บอกเหตุผลว่าเอาไปทำอะไร จนปริทัศน์สงสัยและไม่ยอมให้ ธนัยจึงทวงเงินมรดกหลายล้านที่ริษาฝากปริทัศน์ไว้ให้เขา ทว่าปริทัศน์ก็ไม่ยอมให้ด้วยเป็นห่วงว่าลูกชายจะเอาไปผลาญเสียหมด จะอย่างไรเขาก็รักและห่วงธนัยเสมอ วันนั้นปริทัศน์กับธนัยทะเลาะกันรุนแรง

ธนัยผลุนผลันออกจากบ้าน เขาคิดหาวิธีให้ได้เงิน ในที่สุดธนัยตัดสินใจขายรถยุโรปคันหรูที่เขารักมาก แต่เพื่อธารินเขายอมได้ ธนัยขับรถไปขายที่โชว์รูมของเพื่อนมณีมัย และซื้อรถญี่ปุ่นแทน เขาต้องการซื้อรถให้ธารินไว้ใช้ แต่เธอไม่ยอมรับจนธนัยโมโห

จากการขายรถของธนัยทำให้มณีมัยสงสัยมาก เธอไปหาศิริวิมลและสืบสายเพื่อให้ช่วยตามหาธนัย ส่วนนางลำไยหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ ธารินจึงรับมารดากลับมาบ้าน ก่อนจะไปเก็บเสื้อผ้าที่คอนโด เธอตั้งใจจะบอกธนัยเรื่องมารดาเหมือนกัน

แต่เมื่อธารินถึงคอนโด เธอพบศิริวิมลอยู่กับธนัย ธารินเสียใจมากผลุนผลันกลับบ้าน ศิริวิมลตกใจและให้ธนัยไปตามธาริน แต่ชายหนุ่มกำลังน้อยใจที่ธารินไม่เคยเห็นความหวังดีของเขาเลย จึงไม่ยอมไป เรื่องชุลมุนวุ่นวายเมื่อสืบสายพามณีมัยมาที่บ้านธาริน มณีมัยให้ธารินเลิกยุ่งเกี่ยวกับธนัยอีกโดยมณีมัยจะตอบแทนด้วยเงินก้อนใหญ่ ธารินโกรธมากที่มณีมัยทำเหมือนดูถูกเธอทั้งที่ธนัยร้ายกับเธอที่สุด แต่ทุกคนกลับคิดว่าธารินคือตัวต้นเหตุทำลายอนาคตธนัย ธารินซึ่งกำลังเข้าใจผิดเรื่องธนัยกับศิริวิมลอยู่แล้วจึงพาลโกรธธนัยมากขึ้น

เย็นวันนั้นเมื่อธนัยมาบ้านธารินเพื่อจะง้อเธอ เขาพบวอนซึ่งมาเยี่ยมนางลำไย ธารินแกล้งหวานกับวอนและไม่สนใจธนัย จนธนัยโกรธมากเขาฉุดธารินให้ไปกับเขา วอนเข้าขวางไว้ แต่ธนัยไม่ยอม แถมยังประกาศว่าวอนไม่มีสิทธิ์เพราะธารินเป็นเมียเขา ธารินทั้งโกรธและอายเธอพยายามห้ามธนัยทว่ากลับเหมือนจะยั่วโมโหเขามากขึ้น ในที่สุดธนัยกับวอนก็ต่อยกันจนได้เรื่องลุกลามใหญ่โตจนตำรวจต้องมาห้ามและจับทั้งคู่ไปโรงพัก ธารินตัดสินใจโทรบอกสืบสายให้ตามปริทัศน์กับ มณีมัยมาประกันตัวธนัย ปริทัศน์โกรธมากที่ธนัยทำเรื่องให้เขาต้องอับอาย ส่วนธนัยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเขาบอกปริทัศน์ว่าธารินเป็นเมียเขา และเขาจะแต่งงานกับเธอ ปริทัศน์กับมณีมัยโวยวายปฏิเสธทันที

ธารินมองปริทัศน์กับมณีมัยอย่างเสียใจที่ทำเหมือนดูถูกเธอ ธารินเดินไปกอดแขนวอนและพูดจริงจังว่าวอนเป็นคนรักของเธอซึ่งจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ คนอย่างเธอไม่เคยสนใจผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รู้จักทำมาหากิน และเอาตัวไม่รอดอย่างธนัย เธอไม่คิดจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายที่ไม่สามารถรับผิดชอบอะไรได้แม้แต่ชีวิตตัวเองอย่างนี้แน่นอน ธารินมองธนัยอย่างเมินเฉยก่อนจะจูงมือวอนลงจากโรงพัก ส่วนวอนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะธนัยว่าในที่สุดแล้วเขาต่างหากคือคนที่ธารินรักอย่างแท้จริง ระหว่างทางกลับบ้านวอนถามเรื่องที่ธนัยพูดว่าจริงหรือไม่ เขามองเธออย่างหวาดระแวงและรังเกียจ

ท่าทางของวอนทำให้ธารินพูดไม่ออก ธารินจึงถามวอนบ้าง เรื่องที่เขาจะแต่งงานกับญาติสาวซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน วอนอึ้งไปทันที เขายอมรับว่าเตี่ยไม่ชอบธาริน ยิ่งมีเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ต่อให้เขาฝืนขัดใจแต่งงานกับเธอเตี่ยคงโกรธเขามาก คำตอบของวอนทำให้ธารินเสียใจ เธอบอกลาวอนทั้งน้ำตาและอวยพรให้เขามีความสุขก่อนจะแยกกลับบ้านไป ส่วนธนัยนั่งซึมเครียดตลอดทางจากโรงพักกลับบ้าน จนปริทัศน์และมณีมัยเป็นห่วง เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน เมื่อโกรธธนัยมักจะโวยวายเสียงดัง แต่คราวนี้เขากลับเงียบ

ภาพของธารินที่เมินเฉยและคำพูดดูถูกของเธอทำร้ายจิตใจเขามาก เขารักเธอแต่ธารินทำเหมือนเกลียดเขาเหลือเกิน ธนัยตัดสินใจจะออกจากบ้านไปหางานทำเพื่อพิสูจน์ว่าลูกผู้ชาย อย่างเขาก็ทำมาหากินเป็นเหมือนกันธนัยหนีออกจากบ้านกลางดึก และตั้งใจจะไม่กลับมาอีกหากเขาไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ การจากไปของธนัยทำให้ปริทัศน์เป็นห่วงมาก เขาส่งคนตามหาทุกแห่งที่ธนัยเคยไปแต่ก็ไม่พบ มณีมัยตัดสินใจไปตามที่บ้านธาริน แต่ก็ไม่พบเช่นกัน ธารินตกใจมากที่รู้เรื่องธนัยหนีไป เธอบอกว่าเธอไม่เคยพบเขาอีกเลยนับจากวันที่มีเรื่องกันวันนั้น

มณีมัยกลับไปแล้ว ธารินร้องไห้เสียใจ ที่เป็นต้นเหตุให้ธนัยลำบาก เธอรักและเป็นห่วงเขามาก จึงไม่ต้องการให้เขามาตกระกำลำบากอยู่กับเธอ ธารินจึงแกล้งพูดให้ธนัยเจ็บใจทั้งที่ตัวเอง เจ็บมากกว่าเขาเสียอีก เธอหวังจะเห็นธนัยกลับไปอยู่บ้านกับบิดาอย่างอบอุ่นเหมือนเดิมมากกว่าต้องเป็นแบบนี้

วันเวลาผ่านไป ธารินเรียนจบจนได้ ส่วนวอนจบแพทย์ก็แต่งงานทันทีกับญาติซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องตามความต้องการของเตี่ย ธารินส่งจดหมายสมัครงานที่โรงงานทำน้ำตาลแห่งหนึ่งในจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพ เธอได้งานทำที่นี่โดยไม่รู้ว่าธนัยก็ทำงานเป็นผู้จัดการโรงงานอยู่ที่นี่เช่นกัน ธนัยนั้นมาทำงานที่นี่ตั้งแต่ออกจากบ้านมาเขาใช้ชื่อ “นัย” เท่านั้นในการทำงาน เขาเริ่มงานตั้งแต่เป็นคนงานกรีดน้ำตาล จนเลื่อนขึ้นเป็นผู้จัดการด้วยความสามารถของเขาเอง แม้คุณนายละเอียดเจ้าของโรงงานสาวสวย และเพิ่งเป็นม่ายเพราะสามีตายจะแสดงออกชัดเจนว่าชอบเขา แต่ธนัยไม่เคยสนใจ เขาทำแต่งานและเก็บเงินเพื่อธาริน ธนัยตั้งใจว่ามีเงินมากอีกหน่อยเขาจะกลับไปหาธาริน และถ้าเธอยังอยู่คนเดียว เขาจะขอเธอแต่งงาน

วันหนึ่งธารินกับธนัยก็พบกันจนได้ที่โรงงานนี้เอง ธนัย ดีใจมากเขาหาโอกาสอยู่ใกล้เธอเสมอ แต่ธารินกลับระวังตัวเพราะข่าวเรื่องคุณนายละเอียดชอบธนัยรบกวนใจเธอเช่นกัน เธอพยายามสังเกตว่าธนัยชอบคุณนายละเอียดหรือไม่ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ธนัยดูจะระวังตัวเองทุกครั้งที่คุณนายหาเหตุมาทำงานใกล้ๆ ตรงข้ามกับธารินที่ธนัยสนุกกับการที่ได้แกล้งเธอด้วยการอ้อนให้ทำโน่นทำนี่ไม่หยุด ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเธอเลย

แต่ธารินก็ใจอ่อนทำให้ทุกครั้งเพราะ ธนัยนั้นเปลี่ยนไปมาก เขาน่ารัก อ่อนโยน รับผิดชอบและทำงานเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งคู่เป็นพ่อแง่แม่งอนกันได้ไม่นานก็เกิดเรื่องเมื่อธนัยป่วยหนัก คุณนายละเอียดกับธารินต้องพาเขาส่งโรงพยาบาล ระหว่างทางไปโรงพยาบาลธนัยซึ่งไข้ขึ้นสูงเพ้อเรียกหาแต่ธาริน และบอกว่าเขารักเธอ ส่วนธารินเองได้แต่กอดธนัยไว้แนบอกและร้องไห้ด้วยความรัก สงสาร และเป็นห่วง

เมื่อถึงโรงพยาบาลธนัยถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินแล้ว คุณนายละเอียดจึงซักถามความจริงจากธารินซึ่งเธอยอมเล่าให้ละเอียดฟังทุกอย่าง ละเอียดยอมตัดใจจากธนัยเพราะสงสารธาริน เธอบอกให้ธารินติดต่อบอกพ่อของธนัย ซึ่งปริทัศน์กับ มณีมัยก็รีบมาทันทีเช่นกัน ธนัยต้องอยู่ห้อง ไอ ซี ยู หลายวันกว่าจะพ้นขีดอันตรายโดยมีธารินคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ปริทัศน์ปลื้มใจมากที่ในที่สุดธนัยก็สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเขาก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งเมื่อธนัยหายป่วยจึงแต่งงานกับธารินเงียบๆ  แต่ยังไม่ยอมกลับบ้านเพื่อบริหารบริษัทของตัวเอง

เขาบอกปริทัศน์ว่าขอเพิ่มประสบการณ์ชีวิตอีกนิดแล้วจะกลับไป แต่แล้วแผนทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนเมื่อธารินบอกว่าเธอท้อง ธนัยดีใจมากรีบบอกปริทัศน์ทันทีซึ่งปริทัศน์กับมณีมัยก็เห่อหลานไม่แพ้กัน ทั้งคู่รีบมารับ ธนัยกับธารินกลับบ้านซึ่งคราวนี้ธนัยไม่ปฏิเสธ เขาอยากให้ลูกเขาเกิดมาในสภาพที่พร้อมอย่างที่ควรจะเป็น ธนัยเข้าไปกราบขอโทษปริทัศน์ที่ทำให้ต้องเป็นห่วงเขาตลอดมา

วันนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่าความรักของ “พ่อ” ที่มีต่อลูกนั้นมากมายเพียงใด ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี

รายชื่อนักแสดงละคร วัยอลเวง

มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ รับบทเป็น  ธาวิน
เขตต์ ฐานทัพ รับบทเป็น  ธนัย
ศราวดี เพิ่มสินทวี รับบทเป็น   ศิริวิมล
ดวงดาว จารุจินดา รับบทเป็น   ลำไย
คาเมล ชาลวาลา รับบทเป็น  ปริทัศน์
เปียเชอร์ คริสเต็นเซ็น รับบทเป็น  มณีมัย
กรองทอง รัชตะวรรณ รับบทเป็น  ริสา
เชษฐวุฒิ วัชรคุณ รับบทเป็น   สืบสาย
พศิน ศรีธรรม รับบทเป็น  วอน
จุฑารัตน์ อัตถากร รับบทเป็น  ละเอียด
ชนากาญจน์ ผิวงาม รับบทเป็น  หมวยเล็ก
ณัฐวุฒิ สิงหอำพล รับบทเป็น   จอห์นนี่
นริสา พรหมสุภา รับบทเป็น  สายสืบ
สันติภาพ บุนนาค รับบทเป็น   เตี่ยวอน
ปิยะมาศ พัฒนาหิรัญ รับบทเป็น  อาม่าวอน
ไชยวัฒน์ อินทรสังขนาวิน รับบทเป็น  กู๋เปรม
สุระ บุรเมธานนท์ รับบทเป็น  นิพนธ์
กุสุมา ตันสกุล รับบทเป็น  ลูกกวาด
ฐานมาศ ขวัญมาศ รับบทเป็น   อ้อยอิ่ง
บริพันธ์ ชัยภูมิ รับบทเป็น  บอม
หนุ่ม มาวิน รับบทเป็น  บีม
โอฬาร ชูชาญ รับบทเป็น  บอย
ปุณิกา ฉายชูผล รับบทเป็น  ลูกชิ้น
เมธินี ใบม่วง รับบทเป็น  ลูกปลา
เสกสรร รอดประเสริฐ รับบทเป็น  บูม
ไพลิน นิลตระการ รับบทเป็น   แจ๋วแหวว
ด.ช.จักรพรรดิ์ นรางกูลย์ รับบทเป็น  เมธาวี
ด.ญ.กอบบุญ ค้าแหวน รับบทเป็น  มณีทัศน์
ด.ช.ปัณญ์ ประเสริฐธีรชัย รับบทเป็น  ธนัยเด็ก
ด.ช.ไชยธวัช คงมีสุข รับบทเป็น  ดำ

 

รักได้ไหมถ้าหัวใจไม่เพี้ยน

ผู้ชายขี้เก๊ก ฟอร์มจัด เกลียดพวกผิดเพศทั้งที่ในใจยอมรับว่าหลงรักทอมเข้าให้แล้ว
เขาผิดปกติหรือเปล่าที่ชอบทอม แล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะได้แต่งงานกับเธอนะ..
ยัยปีเตอร์แพน

..ปั้นดาว..
สาวสวยที่ชอบแต่งตัวง่ายๆจนใครๆคิดว่าเธอเป็นทอม เมื่อมาเจอกับเขาผู้เกลียดทอม
ขึ้นสมองก็ทำให้เธอหมั่นไส้ ถ้าเขาคิดว่าเธอเป็นทอมแล้วจะมายุ่งกับเธอทำไม ลึกๆ
ในใจเธอก็รักเขาเข้าแล้วเช่นกัน แต่ตราบใดที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขารักเธอที่เป็นเธอ
ก็รอต่อไปเถอะ..อีตาหัวหน้าเผ่า

นักแสดงละคร รักได้ไหมถ้าหัวใจไม่เพี้ยน

เขตต์ ฐานทัพ —————– ธาวัน / หนึ่ง
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ —— ปั้นดาว / แพน
รพีภัทร เอกพันธ์กุล ———- ธัญธร / สอง
ไปรยา สวนดอกไม้ ———- ไข่แก้ว
สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ —— พีรพล
ปาลิตา โกศลศักดิ์ ———– เจนนี่
อมรพรรณ กองตระการ —— ช่อเพชร
พิชญา ศรีเทพย์ ————– ธัญมน / สาม
พัชรินทร์ จัดกระบวนพล —– พิไล
อินทิรา เกตุวรสุนทร ——— ดีดี้
วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ ———— พ่อของหนึ่ง สอง สาม
คนางค์ ดำรงหัด ————– แม่ของหนึ่ง สอง สาม

รักแท้แซบหลาย

ชมจันทร์ เป็นแม่ค้าขายปลาร้า มีน้องสาวชื่อ เมทินี ทั้งสองกำพร้าพ่อแม่ ชมจันทร์ทำงานส่งเสียน้องสาวด้วยสูตรทำปลาร้าของครอบครัวที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนส่งเมทินีไปเรียนต่ออเมริกาได้ วันหนึ่งเมทินีโทรฯ มาบอกว่าจะเดินทางกลับพร้อมครอบครัวของคนรัก ชมจันทร์จึงไปรับที่สนามบิน ชมจันทร์เดินตามหาเมทินีแล้วบังเอิญเห็นโทรศัพท์วางอยู่บนเก้าอี้จึงหยิบ ขึ้นมา เจ้าของโทรศัพท์ปักใจเชื่อว่าเธอเป็นขโมย ชมจันทร์พยายามอธิบายแต่เจ้าของโทรศัพท์ไม่เชื่อและจะจับเธอส่งตำรวจ ชมจันทร์วิ่งหนีจนมาเจอเมทินีแล้วแนะนำให้รู้จักกับ นคร และคุณครรชิต พ่อของนคร ชมจันทร์แทบเป็นลมอีกครั้งเมื่อถูกแนะนำให้รู้จักกับ โภคิน อาของนครคือ ผู้ชายเจ้าของโทรศัพท์นั่นเอง เมทินีบอกกับทุกคนว่าชมจันทร์เป็นนักธุรกิจส่งออกผ้าไหม เพราะกลัวครอบครัวของนครจะรังเกียจ ถ้ารู้ว่าเธอมีพี่สาวขายปลาร้า เพราะความรักน้องทำให้ชมจันทร์ต้องยอมโกหก ชมจันทร์ต้องเดือดร้อนอีกครั้งเมื่อครอบครัวของนครขอมาเที่ยวที่บ้าน เป็นเหตุให้ชมจันทร์ต้องควักเงินก้อนใหญ่เช่าบ้านของ เสี่ยมงคล เศรษฐีเจ้าของที่ดินและตลาดบางสำลี เพื่อเล่นละครที่เมทินีสร้างขึ้น โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ครูจิราพร เมทินีรักนครมากจนลืมความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ลืมปลาร้าที่ส่งเสียให้เรียนเมืองนอกเมืองนา ชมจันทร์เสียใจที่เมทินีเปลี่ยนไป กลายเป็นนักเรียนนอกหัวสูง ทำตัวไฮโซ ดูถูกคนอื่น และรังเกียจปลาร้า เมทินีขอให้ชมจันทร์เลิกขายปลาร้า แต่ชมจันทร์ไม่ยอมเพราะเธอรักปลาร้ายิ่งกว่าชีวิต ชมจันทร์ขายปลาร้าที่ตลาดบางสำลีมี กลอย เป็นลูกมือ ปลาร้านพเก้าสูตรสมุนไพรของชมจันทร์ขายดีมากมีลูกค้าแน่นร้านทุกวัน จน พงา และแดง แม่ค้าขายข้าวแกงแผงตรงข้ามหมั่นไส้ คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งชมจันทร์ตลอดเวลาจน ลำดวน และกานดา สองสาวบาร์ที่รักและเคารพชมจันทร์ในฐานะพี่สาว ต้องเปิดศึกตบล้างตลาดกับสองแม่ลูกขี้อิจฉาอยู่เป็นประจำ จน สมศรี ลูกน้องเสี่ยมงคลขู่จะเก็บค่าเช่าแผงเพิ่มถ้าใครมีเรื่องตบตีกัน เพราะเหตุการณ์ที่สนามบินวันนั้นทำให้โภคินปักใจเชื่อว่าชมจันทร์มีนิสัยขี้ ขโมย จึงทำให้ทั้งคู่ไม่ลงรอยกันหาเรื่องทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอ ชมจันทร์รู้ว่าโภคินเกลียดปลาร้าจนขึ้นสมอง เลยชอบแกล้งทำอาหารใส่ปลาร้าหลอกให้โภคินกินจนโรคภูมิแพ้ปลาร้าของโภคิน กำเริบ นานวันผ่านไปโภคินเริ่มเกิดความสงสัยในพฤติกรรมของชมจันทร์มากขึ้น โภคินแอบสะกดรอยตามชมจันทร์มาที่ตลาด ความจริงจึงถูกเปิดเผยชมจันทร์ยอมรับผิดและขอโทษโภคิน ซึ่งโภคินก็ยกโทษให้และสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับนคร เพราะเขาได้หลงรักชมจันทร์เสียแล้ว นครและเมทินีวางแผนที่จะแต่งงานกัน แต่เรื่องทุกอย่างกลับวุ่นวายเมื่อ อินทิรา ลูกสาวของเสี่ยมงคลผู้รู้ภูมิหลังของเมทินีอย่างละเอียดปรากฏตัวขึ้น และอินทิราก็ต้องการแต่งงานกับนครเช่นกัน ชมจันทร์หว่านล้อมให้เมทินีบอกความจริงกับนคร แต่เธอกลับปฏิเสธโดยอ้างว่าจะบอกเรื่องทั้งหมดให้นครฟังหลังจากที่ทั้งสอง ได้แต่งงานกันแล้ว แต่แล้วเธอก็ต้องเสียใจ เมื่อ ความลับถูกเปิดเผย เพราะชมจันทร์และกานดาบุกไปทวงเงิน กิตติ ลูกชายของเสี่ยมงคลที่หลอกเอาเงินลำดวนไปที่บ้าน กิตติออกมาไล่โวยวายเสียงดังจนครอบครัวของครรชิตที่แวะมาหาเสี่ยมงคลเดินออก มาดู ทุกคนเห็นชมจันทร์ในมาดแม่ค้าขายปลาร้า ชมจันทร์สารภาพความจริงทั้งหมดว่าที่เมทินีทำไปเพราะความรักและขอโทษคุณ ครรชิตกับนคร นครโกรธมากที่โดนเมทินีหลอก มีเพียงโภคินที่เห็นใจชมจันทร์ เมทินีรู้เรื่องก็ร้องไห้และโทษว่าเป็นความผิดของชมจันทร์ คุณครรชิตเครียดมากที่นครเอาแต่กินเหล้าจนล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ เมื่อชมจันทร์และครูจิราพรรู้ข่าวจาก เทวัญ ลูกบุญธรรมของครูจิราพรก็รีบมาเยี่ยม เมื่อโภคินพบครูจิราพรก็จำได้ทันทีว่าครูจิราพรคือภรรยาของครรชิต และเป็นแม่ของนคร ครูจิราพรขอร้องโภคินให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ โภคินเล่าความจริงทั้งหมดให้ชมจันทร์ฟังและขอร้องให้ช่วยพูดให้ครูจิราพรใจ อ่อน ชมจันทร์จึงวางแผนให้ครูจิราพรได้ปรับความเข้าใจกับครรชิต และกลับมาอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก นครเลิกเหล้าแล้วออกตามหาเมทินีและขอคืนดี ส่วนโภคินได้เข้าไปสารภาพกับชมจันทร์ว่าชอบทานปลาร้า และรักชมจันทร์ที่เป็นแม่ค้าปลาร้า ทั้งสองจึงเข้าใจกันและสัญญาว่าถ้ามีลูกก็จะหัดให้ลูกกินปลาร้า ส่วนเรื่องราวจะสนุกแค่ไหนติดตามต่อในละคร “รักแท้แซบหลาย”

รายชื่อนักแสดงละคร รักแท้แซบหลาย

ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบท โภคิน
ปิยธิดา วรมุกสิก รับบท ชมจันทร์
เขตต์ ฐานทัพ รับบท นคร
อารยา เอ.ฮาร์เกตต์ รับบท เมทินี
ภูชิสสะ ธนพัฒน์ รับบท กิตติ
กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า รับบท อินทิรา
ไพโรจน์ สังวริบุตร รับบท ครรชิต
สุคนธวา เกิดนิมิตร รับบท กานดา
ปวีณา ชารีฟสกุล รับบท จิราพร
เด่น ดอกประดู่ รับบท เสี่ยมงคล

รักเต็มร้อย

นักแสดงละคร รักเต็มร้อย

เขตต์ ฐานทัพ
วรนุช วงษ์สวรรค์
วีรยุทธ รสโอชา
ปวีณา ชารีฟสกุล
อรรถชัย อนันตเมฆ
ปิยะดา เพ็ญจินดา
สุรัตนา ข้องตระกูล
ชมพูนุช ปิยธรรมชัย
มิวธวัช ชื่นทรวง
กวินนา สุวรรณประทีป
ภาคภูมิ เจซาดาล

รักอยู่หมัด

“เกียรติ ของนักศึกษา คือการได้รับใช้ประชาชน” นี่คือปณิธานของกลุ่ม “เพื่อนช่วยเพื่อน” ที่มีปลายฟ้า นักศึกษาสาวที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ในการช่วยเหลือประชาชนเป็นสมาชิกอยู่ด้วย ปลายฟ้าสมัครเข้าชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน ซึ่งเป็นชมรมที่ทำกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชนในมหาวิทยาลัยเอกชนที่เธอเรียนอยู่ โดยมีสมาชิกของชมรมคนสำคัญก็คือ ธารวิ สาวสวยเพื่อนสนิทของปลายฟ้า และแก้วนักศึกษาหนุ่มหน้าตาเกือบหล่อ และสติปัญญาเกือบฉลาด ซึ่งกิจกรรมที่ปลายฟ้า และเพื่อนๆ ในชมรมทำส่วนใหญ่นั้นจะเป็นกิจกรรมที่มีโอกาสเสี่ยงภัยเกือบทั้งนั้น

ครั้งหนึ่งปลายฟ้าออกค่ายอาสาที่ชุมชนแห่งหนึ่ง เธอพบกับเด็กชายคนหนึ่งดูท่าทางซึมเศร้า เธอจึงเข้าไปพูดคุยด้วย และพบว่าพ่อของเด็กติดการพนันไม่มีเงินให้เขาไปเรียนหนังสือ ปลายฟ้า ธารวิ และแก้วจึงตัดสินใจปลอมตัวเข้าไปในบ่อน เพื่อไปเตือนสติพ่อของเด็ก แต่ด้วยความที่เป็นคนซุ่มซ่ามไม่ระวังตัว หนวดของแก้วเกิดหลุด ทำให้นักเลงคุมบ่อนจำได้ว่าเป็นนักศึกษา และจะเข้ามาทำร้าย โชคดีที่ปกรณ์แฟนหนุ่มของปลายฟ้าไปตามตำรวจมาทันเวลา ไม่เช่นนั้นเธอคงจะตกอยู่ในอันตราย

…เหตุการณ์ทั้งหมดไม่รอดพ้นสายตา คุณหญิงเนตรดาวแม่ของปลายฟ้า เพราะปกรณ์นำเรื่องไปฟ้อง ปกรณ์ไม่อยากให้ปลายฟ้าทำกิจกรรมช่วยคนจนที่เขาแสนจะรังเกียจ ซึ่งมีจุดประสงค์เดียวกับคุณหญิงที่เป็นห่วง และไม่อยากให้ลูกสาวไปทำงานช่วยเหลือสังคมที่เสี่ยงอันตราย เพราะเข้าใจดีว่าลูกของเธอยังอ่อนต่อโลกนัก แต่ในที่สุดคุณหญิงก็ต้องยอมแพ้ความมุ่งมั่นของปลายฟ้า ยอมให้เธอทำงานที่เธอรัก โดยมีข้อแม้อยู่อย่างเดียว นั่นก็คือ… “ต้องให้บอดี้การ์ดที่แม่หามาติดตามไปด้วย” คุณหญิงประกาศกร้าว
คุณหญิงแนะนำให้ปลายฟ้ารู้จักกับ ธงไทบอดี้การ์ดหนุ่มลูกชายเพื่อนสนิทของคุณหญิง ธงไทดูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่เบื้องหลังเขากลับเป็นนักมวยที่มีฝีมือครบเครื่อง ถ้าไม่ติดเรียนธงไทอาจจะไปเป็นนักมวยอาชีพแล้วก็ได้ ธงไทเรียนอยู่ที่คณะนิติศาสตร์ของมหาลัยเปิดแห่งหนึ่ง โดยฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้เป็นผู้พิพากษา ด้วยความที่ต้องหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงต้องทำงานทุกอย่างที่พอจะได้เงิน รวมถึงการเป็นบอดี้การ์ดด้วย

“นายนี่นะ จะมาเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน ดูแลตัวเองยังไม่ได้เลยมั๊ง”…ปลายฟ้าก็สบประมาทธงไทตั้งแต่แรกเห็น เพราะบอดี้การ์ดในความคิดของเธอต้องเป็นหนุ่มล่ำ แต่งตัวดี ใส่สูทใส่แว่นดำ แต่ธงไทตรงกันข้ามทุกอย่าง ธงไทมาในชุดสบายๆ รูปร่างของเขาแม้ จะไม่ผอม..แต่ก็ไม่ได้ล่ำอย่างที่เธอคิด ปลายฟ้าปฏิเสธบอกแม่ว่าสาระรูปอย่างนี้จะดูแลใครได้ต่อหน้าธงไท
เย็นวันนั้นธงไทกลับมาบ้านซ้อมมวยอย่างอารมณ์เสีย บ่นเรื่องปลายฟ้ากับน้าเดชครูมวยเก่าที่เป็นคนสอนวิชามวยไทยให้กับธงไท และป้องเพื่อนสนิทที่อยู่บ้านเดียวกันว่าต้องหาทางเอาชนะคุณหนูจอมแสบให้ได้ “ยัยคุณหนูปากจัด คอยดูนะ ต้องแกล้งให้เข็ด”…. ป้องเองก็บอกว่าวันนี้ตนไปเจอนักศึกษาคนหนึ่งสวยมาก และตกหลุมรักเข้าให้แล้ว “ผู้หญิงอะไรน่ารักชะมัด”…ป้องได้แต่เพ้อถึงสาวที่เขาเจอวันนี้… .จนน้าเดชทนไม่ไหวเตะก้านคอป้องเบาๆ หนึ่งทีด้วยความเอ็นดู และบอกว่าน้ำหน้าอย่างเอ็งใครจะสน แต่ดูเหมือนแข้งของน้าเดชจะไม่สามารถห้ามป้องให้คิดถึงสาวสวยที่เขาเจอเมื่อ ตอนกลางวันได้

วันแรกที่เริ่มงาน ป้องขอตามธงไทไปด้วยเพราะไม่มีอะไรทำ และมาเจอปลายฟ้ากับธารวิป้องตกใจที่โลกกลมเพราะธารวิคือคนที่เขาเจอเมื่อวาน นั่นเอง ธารวิเองก็ดูเหมือนจะประทับใจป้องมากถึงกับตะโกนออกมาว่า “นายชีกอ คนเมื่อวาน” …….วันแรกปลายฟ้าก็ก่อเรื่องให้ธงไทปวดหัว ด้วยความที่เป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นของเธอ ปลายฟ้าเดินไปเจอนักเลงทวงหนี้นอกระบบกำลังทวงหนี้แม่ค้าคนหนึ่งอยู่ ปลายฟ้าเข้าไปช่วย ต่อว่านักเลงพวกนั้น ตอนแรกธงไทก็อยากจะให้ปลายฟ้าได้รับบทเรียนด้วยตัวเอง แต่ก็ทนไม่ได้เพราะคุณหญิงฝากฝังปลายฟ้าไว้กับธงไท ถ้าเธอเป็นอันตรายคุณหญิงต้องเล่นงานเขาแน่ๆ ธงไทจึงเข้าไปช่วยปลายฟ้าจากนักเลงพวกนั้น ด้วยการขับรถคันงามของปลายฟ้าชนเข้าไปที่รถของนักเลง และต่อสู้กันทำให้ปลายฟ้ารู้ว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูง่ายๆ สบายๆ ของธงไทนั้นซ่อนฝีมือการต่อสู้อันเก่งกาจแบบที่เธอไม่เคยเห็น และทำให้เธอรู้อีกว่ารถคันงามของเธอตอนนี้กลายเป็นเศษเหล็กแล้ว
ธงไทตามปลายฟ้าเหมือนเงาตามตัว จนทำให้ปกรณ์แฟนหนุ่มไฮโซของปลายฟ้าไม่พอใจ พยายามหาทางแกล้งธงไทตลอด ตรงกันข้ามกับธารวิกับแก้วที่เห็นว่าธงไทน่ารักดี น่าเป็นแฟนกับปลายฟ้ามากกว่านายปกรณ์ขี้เก๊กตั้งเยอะในขณะเดียวกับป้องก็ เฝ้าตามติดตามกวนใจธารวิไม่ห่าง
การเป็นบอดี้การ์ดของธงไทให้ปลายฟ้าดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่เขาคิดเลย เพราะปลายฟ้าชอบเอาตัวเข้าไปแก้ปัญหาให้ชาวบ้านในเกือบทุกเรื่อง เช่น

-ธงไท และป้องต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิง เข้าไปช่วยปลายฟ้า และธารวิที่ถูกจับไป เพราะทั้งคู่พยายามเข้าไปช่วยหญิงสาวคนหนึ่ง จากการถูกหลอกไปขาย

-ปลายฟ้าเจอเด็กหลงทางคนหนึ่งเลยมาฝากธงไทเลี้ยง โดยกำชับว่าต้องเลี้ยงเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด ธงไทจำใจรับ แต่สุดท้ายแก๊งค์ลักเด็กมาตามหาเด็กคนนี้เพราะหนีมา ธงไทจึงต้องเดือดร้อนเข้าไปปราบแก๊งค์ลักเด็กโดยเลี่ยงไม่ได้

-ปลายฟ้าไปออกค่ายอาสาพัฒนาชุมชนของชมรม ทำให้ธงไทที่ใกล้สอบต้องไปด้วย และด้วยความที่เป็นคุณหนูไม่เคยลำบากก็ต้องเดือดร้อนธงไท เรื่องจะนอนยังไง จะอาบน้ำยังไง จนเขาแถบจะไม่มีเวลาอ่านหนงสือหนำซ้ำปลายฟ้ายังไปก่อเรื่องพังบ่อนไพ่ในหมู่ บ้านเขาอีก

เพราะความเจตนาดีของเธอทำให้เธอต้องตกอยู่ในอันตราย จึงร้อนถึงธงไทต้องใช้ความสามารถทางด้านหมัดมวย และศิลปะป้องกันตัวเข้าไปช่วยเหลือทุกครั้งไป

…ความที่ต้องใกล้ชิดกัน และต้องอยู่ด้วยกันตลอด ต้องฝ่าฟันอันตรายด้วยกัน จากคู่กัดปะทะคารมกัน ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรักอย่างช้าๆ แม้ทั้งคู่จะพยายามปฏิเสธความรู้สึกนั้น แต่หลอกคนอื่นหลอกได้ หลอกตัวเองกลับไม่สำเร็จ ติดตามความรักการผจญภัยของทั้งคู่ ร่วมลุ้นไปกับภารกิจตื่นเต้นระทึกใจของทั้งปลายฟ้า และธงไทได้ใน …รักอยู่หมัด

นักแสดงละคร รักอยู่หมัด

เขตต์  ฐานทัพ    รับบทเป็น    ธงไท
ลลนา  ก้องธรนินทร์    รับบทเป็น    ปลายฟ้า
ปิติศักดิ์  เยาวนานนท์    รับบทเป็น    ป้อง
ธันย์ชนก  ฤทธินาคา    รับบทเป็น    รุจี
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์     รับบทเป็น ปกรณ์
วีรินทร์ เชยอรุณ    รับบทเป็น  คุณหญิงเนตรดาว
ค่อม ชวนชื่น    รับบทเป็น  น้าเดช
แจ๊ค หมู่ 7     รับบทเป็น แก้ว

ภูตพิศวาส

มารุต กสิกรรม ชายหนุ่มนักศึกษากฏหมายวัย 21 ปี เป็นคนขยันหมั่นเพียร ใฝ่หาความรู้ เรียนหนังสือด้วยตนเองทางไปรษณีย์ช่วงใกล้สอบจะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อลงทะเบียนสอบ จึงได้รู้จักกับเพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันชื่อ มนัส และ ประพาส เพื่อนใหม่ทั้ง 2 คน ได้ชวนมารุตมาพักอาศัยที่วัดแสงใต้ตั้งอยู่แถวฝั่งธน เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว พระเทพ ได้ให้ที่พักแก่ประพาสและมนัสครั้งยังเรียนระดับมัธยม ปัจจุบันพระเทพได้ตายเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยเป็นวัณโรค แต่สาเหตุการตายที่แท้จริงเป็นเรื่องลึกลับ ยกเว้น ลุงอินเพียงผู้เดียว ที่กุฏิของพระเทพได้กลายเป็นที่พักของลุงอินสัปเหร่อ วัดแสงใต้ผู้ให้ที่พักแก่ 3 หนุ่มได้แก่ มารุต ประพาส และมนัส ลุงอินมีคำเตือน 3 ข้อที่ให้ 3หนุ่ม ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดคือ ต้องเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคง, ห้ามเปิดประตูหน้าต่างยามวิกาล, เมื่อได้ยินเสียงใครมาเรียก ห้ามตอบ ถ้าเห็นว่าไม่ชอบมาพากล ให้ร้องเรียกลุงอิน

การตายได้คืบคลานเข้ามาหาประพาสเป็นคนแรก ตามด้วยมนัส ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง ที่น่าสังเกตคือใต้แขนพับใกล้เส้นเลือดใหญ่ มีรอยเจาะเลือด 2 รูของคนตายทุกคน คืนหนึ่งผี ดาว สาวสวยได้มีโอกาสเข้ามาคุยในห้องของมารุต โดยมีมารุตทนฟังคำออดอ้อนวิงวอนเจ้าคารมของดาวไม่ได้ จึงใจอ่อนยอมเปิดประตูรับตอนสองยาม ดาวพยายามพูดทุกวิถีทางเพื่อให้มารุตใจอ่อนยอมนอนกับตน แต่ด้วยความเป็นคนมีจิตใจมั่นคง มีเหตุผล มารุตสามารถเอาตัวรอดได้โดยการไล่ดาวออกจากห้องของตน และไม่ยอมตกเป็นทาสกามารมณ์ต่อคำพูดและท่าทางยั่วยวนชวนนอนของดาว ตอนรุ่งเช้าลุงอินมาเคาะประตูถามถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ก็พึงพอใจที่มารุตไม่หลงกลของผีสาวเจ้าเสน่ห์ ลุงอินเชื่อแน่ว่า

เมื่อ มารุตสอบเสร็จ ต้องขอนอนที่กุฏิตามเดิม มารุตไปสอบด้วยความมั่นใจ แต่ไม่วายอดคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน และคาดว่าคืนนี้จะต้องคุยกับดาวเช่นเดิม ตกกลางคืนดาวมาหามารุตเช่นเคย นำเครื่องเพชรและทองคำมากมายมาให้แล้วอ้างว่าปวดหัว ร้องไห้โอดครวญสารพัด พยายามทำทุกทางเพื่อให้มารุตเปิดประตูให้ ด้วยความเป็นคนขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จึงยอมเปิดประตูนำยาแก้ปวดหัวไปให้ ดาวเข้ามาหามารุตพร้อมเล่าเรื่องราวการตายของเพื่อนทั้ง 2 คนว่าเป็นฝีมือของดาวเอง และเล่าว่าเหตุที่ดาวจากเป็นทาสรับใช้จอมปีศาจเพื่อแลกกับวิญญาณพ่อแม่ให้ ได้ไปผุดไปเกิด โดยดาวยอมตกเป็นบริวารคอยดูดเลือดเพื่อนำเป็นเครื่องสังเวยจอมปีศาจ ดาวเผยว่าตนทนทุกข์ทรมานมากไม่อยากทำกรรมอุบาทว์อีกต่อไป วอนให้มารุตช่วยโดยการนำศพของดาวออกจากป่าช้าวัดแสงใต้ไปอยู่บ้านนอกกับ มารุต พร้อมตั้งศาลเพียงตา เพื่อป้องกันอำนาจชั่วร้ายของจอมปีศาจนายใหญ่ เมื่อลุงอินรู้เรื่องราวทั้งหมด จึงรับปากจะช่วยเหลือเต็มที่

ที่ บ้านนอก ดาวขอเข้าไปปรนนิบัติรับใช้มารุตตอนกลางคืน และขอร้องให้มารุตเล่าเรื่องดาวว่าเป็นใคร มาจากไหนให้แม่มณีรับรู้ และบอกว่าแม่มณีเตรียมหาสะใภ้ให้มารุตแล้ว รุ่งขึ้นแม่มณีเรียกมารุตไปคุยเรื่องหมั้น เง็กลั้ง หรือ บุหงา ให้แล้ว สร้างความขุ่นข้องหมองใจแก่มารุตยิ่งนัก เพราะเขาไม่ชอบการคลุมถุงชน และไม่เคยเห็นหน้าบุหงาด้วยช้ำ นับวันบุหงาเริ่มสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับมารุตยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแผนของแม่มณี เพราะกลัวว่าลูกชายจะไปหลงรักดาวผีดิบ มารุตทนบุหงาให้ท่าทอดกายให้เขาชมไม่ได้ จึงปล่อยใจเผลอไผลไปกับรูปร่างเร่าร้อน ยั่วยวน อวบอิ่มของบุหงา ขณะเดียวกับมารุตเริ่มรักและสงสารเห็นใจดาวมากขึ้นที่ถูกมารดากลั่นแกล้ง จึงหาทางทำพิธีชุบชีวิตดาวให้กลายเป็นคนโดยมีข้อควรปฏิบัติ 3 ข้อคือ ทั้งคู่ต้องร่วมกันสวดมนต์ทุกคืน ๆ ละครึ่งชั่วโมง, ทั้ง 2 ต้องประพฤติพรหมจรรย์, ทุกเช้าอาหารที่นำไปให้ดาวทุกถ้วยๆ ต้องหยดเลือด 1 หยด เพราะนั่นคือชีวิตใหม่ของดาว

ทั้งมารุตและดาวร่วมฟันฝ่าอุปสรรค มาด้วยกันจนดาวได้เป็นคน กลับทำให้มารุตสุขภาพย่ำแย่เพราะเสียเลือดไปมาก แม่มณีไม่ยอมรับดาวให้เข้ามาอยู่ในบ้าน ส่วนดาวก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจแม่มณี โดยการทำหน้าที่เป็นแม่บ้านมิให้ขาดตกบกพร่อง มีชายหนุ่มมาชอบดาวชื่อ วัยวุฒิ เป็นลูกชายนายอำเภอ เรียนจบกฏหมาย หน้าตาหล่อเหลา สุภาพเรียบร้อย พูดจาจริงจัง ไม่เจ้าชู้ มารุตเริ่มหึงดาว จนเกิดการทะเลาะมีปากเสียงกัน แม่บอกดาวเรื่องงานแต่งระหว่างมารุตและบุหงา เมื่อแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านนี้ ดาวเสียใจมากไม่ยอมจากมารุตไปไหน จึงเข้าห้องทำลายความสวยเพื่อจะได้อยู่บ้านนี่ โดยการกร้อนผม โกนคิ้ว ตัดขนตา ทั้งแม่และมารุตตกใจมากจึงยอมให้ดาวอยู่รับใช้ต่อไป

มารุต สงสารและรักดาวมากขึ้น จึงลอบได้เสียเป็นผัวเมียกับดาว ก่อนแต่งงานกับบุหงา เพราะมารุตเป็นคนมั่นคงในความรักที่มีต่อดาวคนเดียว วันรุ่งขึ้นมารุตแต่งงานกับบุหงา แล้วไปอยู่บ้านบุหงาเป็นเดือนๆ ไม่ยอมกลับมาหาดาว ลุงอินเห็นผิดสังเกตุเลยทำอุบายบอกให้แม่มณีจดหมายให้มารุตมาหาที่บ้าน บุหงากับดาวเกิดมีปากเสียงกันบุหงาจึงรู้ว่าดาวเป็นเมียคนแรกของมารุตถึงกับ เป็นลมล้มไป มารุตโกรธมาก ถึงขนาดตบตีดาวจนเลือดตกยางออก ลุงอินเชื่อว่าที่มารุตทำกับดาวได้ถึงเพียงนี้ เพราะเขาถูกเสน่ห์ยาแฝด

ทั้ง ลุงอินและแม่มณีทำทุกวิถีทางที่จะทำให้มารุตกลับสู่สภาพเดิม ขณะเดียวกับดาวเกิดตั้งท้อง 2 เดือน ภายหลังรู้ว่าวัยวุฒิกับดาวเป็นญาติกัน เพราะนามสกุลเดียวกัน ลุงอินหาทางแก้เสน่ห์ยาแฝดของบุหงาที่ทำต่อมารุต โดยการแอบปีนเข้าทางหน้าต่าง แล้วสวมแหวนนพเก้าที่นิ้วกลางของมารุต มารุตเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาปวดหัวหนัก จึงค้นใต้หมอน พบว่ามีกางเกงในเปื้อนประจำเดือนของบุหงา 2 ตัว ยัดนุ่นในหมอนนอนหนุนทุกคืน จึงเข้าใจเรื่องทั้งหมด รีบแจ้นกลับบ้าน เพราะคิดถึงแม่และดาวเมียรัก

บุหงา โกรธมากสั่งคนลอบวางเพลิงที่เรือนหอหลังใหม่ใกล้โรงสี ตำรวจจับได้ความว่า นางตาบคนครัวเป็นไส้ศึกให้บุหงา เพราะได้รับอามิสสินจ้าง คนร้ายสารภาพว่าบุหงาเป็นผู้บงการเรื่องทั้งหมด บุหงาถูกจับเข้าคุก และถูกบังคับให้เซ็นใบหย่าให้มารุต ในที่สุดเวรกรรมตามทัน บุหงากลายเป็นฮิสทีเรีย เสียตัวกับหมอทำเสน่ห์ เมื่อลูกสาวของดาวและมารุตมีอายุครบ 1 ขวบ ดาวโดนยมบาลเรียกไปชดใช้กรรมเมื่อครั้งยังเป็นผีดิบดูดเลือด ลุงอินตามไปช่วยเจรจาขอผ่อนผันไปอีก 5 ปี ถึงจะสิ้นอายุขัยของดาว ท่านยมบาลยอมจำนนปล่อยดาวไป ปัจจุบันมารุต ดาว และ ลูกแก้ว เป็นครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุขมาก ส่วนอีก 5 ปี ข้างหน้าเป็นอย่างไรไม่มีใครล่วงรู้…

รายชื่อนักแสดง ภูตพิศวาส

เขตต์ ฐานทัพ รับบท มารุต
วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบท ดาว
น้ำทิพย์ เสียมทอง รับบท บุหงา
ดวงดาว จารุจินดา รับบท มณี
ภัสสร มามีเกตุ รับบท พิณ
วุฒิชัย ไหมกัน รับบท วัยวุฒิ
รวิช ไรวินท์ รับบท แผ้ว
ชุมพร เทพพิทักษ์ รับบท ลุงอิน