Tag Archives: ชาคริต แย้มนาม

ลายมนุษย์

ศิลา ( ชาคริต แย้มนาม ) เป็นลูกชายคนสุดท้ายของ ฉัตร ชโยดม เรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกามีพี่น้องต่างมารดา 2 คน ซึ่งเป็นลูกของประวีณาภรรยาหลวงของฉัตร คนโตคือ วัชรพล ( เพ็ญเพ็ชรเพ็ญกุล ) มีนิสัยเลือดร้อน เจ้าชู้คนรองคือ ธนกร ( วรรธนะ กัมทรทิพย์ ) จะมีนิสัยต่างกับวัชรพลมาก คือเรียบร้อย และหัวอ่อน ในวันที่ศิลาเดินทางกลับมาถึงเมืองไทย มีการจัดงานเลี้ยงอย่างเอิกเกริก ศิลาดีใจที่ได้พบ ลลิตา ( เจมี่ บูเฮอร์ ) คนรักที่ต้องห่างกันไปเพราะต้องไปเรียนต่อ ส่วนลลิตากลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะตอนนี้เธอเป็นดาราดังระดับแนวหน้า จึงคิดที่จะหาคนที่ดีกว่า แต่การกลับมาของศิลาทำให้ปานวาด (พรชิตา ณ สงขลา) ซึ่งเป็นลูกสาวของ ชลัม เพื่อนสนิทของครอบครัวชโยดม ทั้งตื่นเต้นและปวดร้าว เพราะภายในใจของปานวาดมีแต่ศิลา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอนั้นถูกผู้ใหญ่กำหนดตัวไว้แล้วว่า จะให้แต่งงานกับวัชรพล

ฉัตรตกลงใจแบ่งงานให้ลูก ๆ ดูแล วัชรพลได้งานทางสถานบันเทิงทั้งหมด ธนกรดูแลสำนักงานและอสังหาริมทรัพย์ ศิลาดูแลศูนย์การค้า แต่ยังไม่ทันมอบหมายงานอย่างจริงจัง ฉัตรประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัสก่อนเป็นเจ้าชายนิทรา ฉัตรพูดกับ”ปัญญา”คนสนิทที่เปรียบเสมือนมือขวาว่า เกลือเป็นหนอน ทำให้ปัญญาสงสัยทุกคนในตระกูลชโยดม บริษัทมีการคัดเลือกผู้บริหารใหม่ วัชรพลวิ่งวุ่นเพื่อหาเสียง โดยเฉพาะกับ พิมพิกา ( ศรุตา เรืองวิริยะ ) ลูกของปัญญาที่หลงรักวัชรพล และเมื่อถึงเวลา วัชรพลได้ตำแหน่งตามที่คิดไว้ ศิลามีโอกาสพบปานวาดบ่อยครั้งด้วยหน้าที่การงาน ศิลาพอใจและชอบอัธยาศัยของปานวาดที่เป็นคนเก่งและฉลาด แต่ก็ระแวงที่ปานวาดมาดีกับตน เพราะเป็นแผนของชลัมที่คิดจะฮุบบริษัท

เมื่อบริษัทมีปัญหาหลายเรื่องเข้ามา ศิลามักไประบายกับฉัตร ปานวาดแอบได้ยินและแสดงความเห็นใจต่อศิลา แต่ศิลากลับเข้าใจเป็นอย่างอื่น ตำหนิและสั่งห้ามไม่ให้ปานวาดมายุ่งกับตนอีก ขณะที่ศิลาไปขอโทษปานวาดที่พูดแรงเกินไปศิลาถูกลอบยิงและในขณะที่เขาใกล้หมดสติ ภาพของปานวาดที่ผวาเข้ามากอดแล้วร้องไห้นั้น ยังตรึงอยู่ในความทรงจำของศิลาตลอดเวลา แม้ในยามที่เขาหมดสติไป ก็เอาแต่พร่ำหาปานวาด จนทำให้ลลิตาโกรธเป็นอย่างมาก

ชลัมห้ามไม่ให้ปานวาดยุ่งกับศิลาเพื่อตัดปัญหา แต่ศิลากลับเป็นฝ่ายโหยหาปานวาดจนลลิตาสังเกตได้ ลลิตาแค้นปานวาดจึงออกอุบายให้วัชรพลวางยาปานวาด แต่ธนกรตามไปขวางไว้ทัน วัชรพลโกรธธนกรและแก้แค้นโดยการหว่านเสน่ห์ จนพิมพิกามอบความบริสุทธิ์ให้ หลังจากนั้นวัชรพลเร่งรัดให้ประวีณาสู่ขอปานวาด ปานวาดตอบตกลง เพราะจะได้ตัดใจจากศิลา

ในงานหมั้นของวัชรพล และปานวาด พิมพิกามีอาการแพ้ท้อง ศิลาถาม ได้ความว่าท้องกับวัชรพล ศิลาตามดูความประพฤติของวัชรพล พบว่าเขาติดการพนัน ศิลาไปดักรอหน้าบ่อนพบกับวัชรพลกำลังขวัญเสีย เขาสารภาพว่ายิงคนตายและต้องการให้ศิลารับผิดแทนเพื่อเห็นแก่วงศ์ตระกูลศิลาจะตัดสินใจอย่างไร

นักแสดงละคร ลายมนุษย์
1. ชาคริต แย้มนาม แสดงเป็น ศิลา
2. พรชิตา ณ สงขลา แสดงเป็น ปานวาด
3. เจมี่ บูเฮอร์ แสดงเป็น ลลิตา
4. เพ็ญเพชร เพ็ญกุล แสดงเป็น วัชรพล
5. วรรธนะ กัมทรทิพย์ แสดงเป็น ธนกร
6. ศรุตา เรืองวิริยะ แสดงเป็น พิมพิกา

โรงแรมผี

​โรง​แรมผี” ​เป็น​เรื่องราวของ​ความรัก​และ​ความ​แค้น… ​เมื่อ ปั้น (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) พาสารภี (น้ำชา ชีรณัฐ) ​เจ้าสาวของครู​เพชฌฆาต​เลื่องชื่อ​แห่งคุกหลวง หลวงนฤบาลบุรีรักษ์ (ชาคริต ​แย้มนาม) หนี ​เขา​ได้รับ​โทษอย่าง​แสนสาหัส ทว่าภายหลัง​ทั้งคู่​ได้รับมรดกบ้านบางละมุงที่มีวิญญาณอาฆาตของหลวงนฤบาล บุรีรักษ์รอ​แก้​แค้นอยู่ ​แต่วิญญาณ​ไม่สามารถ​ทำอะ​ไร​ได้ ​เนื่องจาก​ทั้งคู่มาพร้อมพระพุทธรูป​เชียง​แสน

วิญาณหลวงนฤบาลบุรีรักษ์ต้องถูกกักขังอยู่นาน​ถึง 25 ปี จนกระทั่ง ปริญญา (​เปป​เปอร์ รัฐศาสตร์) ทายาทของปั้นกับสารภี​ได้​เปลี่ยนบ้าน​ให้​เป็น​โรง​แรม ​ความวิบัติ​ก็​ได้มา​เยือนครอบครัวนี้ทีละคนๆ ​โดย​เฉพาะปัทมา (น้ำชา ชีรณัฐ) ลูกสาวคนสุดท้องที่หน้า​เหมือนสารภี​ผู้​เป็น​แม่ ปริญญาต้อง​ทำทุกวิถีทาง​เพื่อหยุดยั้งวิญญาณอาฆาต ​โดยร่วมมือกับวิสูตร (ต้น ​เดอะสตาร์) คนรักของปัทมา ตามล่า​โลงศพของหลวงนฤบาลบุรีรักษ์ ​ซึ่งต้องสัง​เวยชีวิตหมอผีคน​แล้วคน​เล่า!!

รายชื่อนักแสดงนำในละคร โรงแรมผี

ชาคริต แย้มนาม    รับบทเป็น     หลวงนฤบาลบุรีรักษ์
ชีรณัฐ ยูสานนท์    รับบทเป็น     สารภี / ปัทมา
ชยธร เศรษฐจินดา    รับบทเป็น     วิสูตร
รัฐศาสตร์ กรสูต    รับบทเป็น     ปริญญา
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์    รับบทเป็น     ปั้น
ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์    รับบทเป็น     เปลื้อง
อรรถพร ธีมากร    รับบทเป็น     ผู้กำกับชิงชัย
อภัสนันท์ วรภิรมย์รักษ์    รับบทเป็น     มยุรี
ทองขาว ภัทรโชคชัย     รับบทเป็น     ทนายเพิ่ม
ปานวาด เหมมณี    รับบทเป็น     เฉิดโฉม
นภัสศรณ์ มั่นวงษ์ศิริกุล     รับบทเป็น     มาริสา
บริบูรณ์ จันทร์เรือง     รับบทเป็น     เสี่ยเพ้ง
โอลิเวอร์ บีเวอร์     รับบทเป็น     ปราโมทย์
วินัย ไกรบุตร     รับบทเป็น     อาจารย์เติม
ปราบ ยุทธพิชัย     รับบทเป็น     เทียม
ภัสสร บุณยเกียรติ    รับบทเป็น     ป้าชื่น
ปนัดดา โกมารทัต     รับบทเป็น     ป้าเจิม
สมเจต พยัฆโส     รับบทเป็น     หมู่กรี
จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม     รับบทเป็น     น้อย

เรือนรักเรือนทาส

จำลอง หญิงสาวที่เป็นลูกสาวของนักร้องลำตัดชื่อดัง ต้องกลายมาเป็นทาสขัดดอกพร้อมกับ ก้อย พี่ชายในเรือนของ นพ เพราะพ่อของทั้งคู่เสียการพนัน พ่อแม่ของเธอจมน้ำตายก่อนจะมาไถ่ตัวทั้งคู่ไป นพหวังจะเอาจำลองมาเป็นอนุอีกคนแต่จู่ๆ จำลองก็ตั้งท้องขึ้นมา นพสอบสวนจำลองอย่างหนัก โดยมี น้อม ผู้เป็นน้องชายและ ฉายแสง น้องสะใภ้อยู่ด้วย แม้จะถูกเฆี่ยนตีอย่างหนักจำลองไม่ปริปากพูดถึงพ่อของเด็กแม้แต่น้อย จำลองสิ้นใจในวันที่คลอดลูกสาวออกมาโดยทิ้งปริศนาชาติกำเนิดของลูกสาว และทิ้งสมบัติเพียงชิ้นเดียวคือพระพุทธรูปห้อยคอเอาไว้ให้ลูกของตน เมื่อ จำเรียง แตกเนื้อสาวก็ได้รู้เรื่องราวของจำลองแม่ของตนจากลุงก้อย และถูกสอนให้รักนวลสงวนตัวอย่างทำตัวเหมือนแม่ แต่เพราะ พัฒน์ ลูกชายคนเดียวของนพหมายปองในตัวจำเรียง ทั้งคู่ต่างมีใจให้กันและจำเรียงรักพัฒน์จนยอมมอบร่างกายและหัวใจให้พัฒน์ ทั้งคู่แอบนัดพบกันโดยมี มิตร หัวหน้าช่างประจำโรงเหล็กเป็นคนช่วยเหลือ มิตรยอมรับตรงๆ ว่าแอบรักจำเรียง แต่มิตรเต็มใจที่จะหยุดความคิดนั้นเมื่อเจ้านายหมายปอง ฉุน หัวหน้าทาสเรือนนพเป็นคนคอยดูแลความสงบของเรือนทาส ลับหลังฉุนชอบลวนลามทาสสาวๆ และชอบแทะโลมจำเรียง มิตรปกป้องจำเรียงทุกครั้งที่ฉุนจะลวนลามทำให้ทั้งคู่เป็นศัตรูกัน ความรักของพัฒน์และจำเรียงกำลังหวานชื่น แต่แล้วพัฒน์ก็ถูกสั่งให้ไปเมืองน่านกะทันหันเพื่อไปรับตัว โฉมฉาย ลูกสาวของน้อมและฉายแสงมาอยู่อยุธยาสักระยะ เพื่อหวังจะให้ออกห่างจากคนเลี้ยงช้างที่โฉมฉายสนิทสนมเป็นพิเศษ ก่อนเดินทางพัฒน์อดเป็นห่วงจำเรียงไม่ได้จึงสั่งให้มิตรดูแลเป็นอย่างดี มิตรรับคำจะปกป้องจำเรียงด้วยชีวิต การเดินทางไปเมืองน่านเต็มไปด้วยความยากลำบากและใช้เวลานานแรมเดือน ตั้งแต่พัฒน์ไปถึงเมืองน่านโฉมฉายเอาอกเอาใจพัฒน์เป็นพิเศษ อีกทั้งยังทำตัวสนิทสนมจนพัฒน์อึดอัดใจ โฉมฉายออกอุบายต่างๆ ให้พัฒน์สนใจ แต่ด้วยความรักมั่นที่มีต่อจำเรียงทำให้พัฒน์ไม่เคยเผลอใจแม้สักครั้ง ช่วงเวลาที่พัฒน์ไปเมืองน่านจำเรียงเริ่มมีอาการแพ้ท้องจนผู้คนทั่วไปเริ่ม ลือ มิตรรู้ว่าเด็กในท้องจำเรียงต้องเป็นลูกของพัฒน์อย่างแน่นอน แม่ของพัฒน์ให้ฉุนเอาจดหมายไปส่งที่ชัยนาทเพื่อสู่ขอ แววตา ลูกสาวของพี่ชายเป็นสะใภ้ ระหว่างเดินทางกลับอยุธยาโฉมฉายเป็นไข้ป่า พัฒน์จึงต้องแวะที่ชัยนาทบ้านของปู่กับย่าเพื่อรักษาโฉมฉาย และเค้าก็ได้เจอกับแววตาที่นั่นเอง โฉมฉายทำตัวสนิทสนมกับแววตาเพราะมีแผนในใจ เมื่อฉุนกลับมาจากชัยนาทก็รู้ข่าวเรื่องจำเรียงท้อง จึงนำเรื่องไปบอกนพให้สั่งลงโทษข้อหาที่สมสู่กับทาสด้วยกันจนท้อง มิตรออกรับแทนเพื่อปกป้องเมียนายของตนไม่ให้เจ็บตัว แต่ทั้งสองก็ไม่พ้นผิดต่างก็ถูกลงโทษ แต่พอพัฒน์กลับมามิตรกับจำเรียงก็พ้นข้อครหาพัฒน์บอกฉุนว่าจำเรียงท้องกับตน และให้ฉุนสาบานว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แต่ตอนที่อยู่ที่อยุธยาโฉมฉายและ เรือนแก้ว คนสนิทออกเที่ยวเตร่ทุกวันโดยมีฉุนดูแล ฉุนมีความสัมพันธ์กับเรือนแก้วเพราะหวังเข้าถึงโฉมฉาย ฉุนขอตามโฉมฉายกลับเมืองน่านและบอกความจริงที่พัฒน์เป็นพ่อของเด็กในท้อง จำเรียง ตั้งใจสร้างรอยแค้นแก่โฉมฉาย นวลได้รับข่าวว่าแววตาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน มีเพียงโฉมฉายที่รู้ว่าเป็นเพราะยาพิษที่ตนวางเพราะต้องการให้แววตาตาย ฉุนออกอุบายเพื่อแก้แค้นมิตร ขณะที่โฉมฉายต้องการล้างแค้นจำเรียงโดยจับจำเรียงไปมัดไว้ในโรงเหล็ก ตบตีและหวังจะทำให้เสียโฉม แต่ก็พลาดไปโดนเรือนแก้วแทน แต่มิตรและสาหร่ายรู้ทันในอุบายจึงมาช่วยได้ทัน น้อมและโฉมฉายเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่มิตรกลับเล่าความจริงทั้งหมดให้นพฟังโดยไม่พาดพิงถึงโฉมฉายเลย พัฒน์จึงแสดงน้ำใจโดยการไถ่ตัวมิตรกับสาหร่ายเป็นอิสระ พัฒน์บอกกับนพว่าตนเป็นพ่อของลูกในท้องจำเรียง และยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆ หนึ่งใบ ซึ่งจำเรียงบอกว่าหล่นมาจากโฉมฉายที่โรงเหล็กและจำเรียงก็เก็บไว้ได้ ข้อความในนั้นบอกว่าน้อมคือพ่อของจำเรียง ปมปริศนาเรื่องใครเป็นพ่อของจำเรียงก็ถูกเปิดเผย นพทราบเรื่องจึงบอกน้องชายน้อมทราบเรื่องก็ยอมรับแต่โดยดี ขณะที่ฉายแสงโกรธมากและต่อว่าน้อมอย่างหนัก น้อมทนไม่ได้จึงไล่เมียและลูกไปอยู่เมืองน่าน สุดท้ายโฉมฉายสำนึกผิดขอให้จำเรียงอโหสิให้ซึ่งจำเรียงก็ยินดี มิตรและสาหร่ายก็ได้รับการไถ่ตัวพร้อมได้รับของขวัญพิเศษจากพัฒน์ จำเรียงแต่งงานกับพัฒน์แล้วคลอดลูกอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวของตนอย่างมี ความสุข

รายชื่อนักแสดง เรือนรักเรือนทาส
ชาคริต แย้มนาม รับบท พัฒน์
ศิริลักษณ์ ผ่อนโชค รับบท จำลอง / จำเรียง
ธัญญาเรศ เองตระกูล รับบท โฉมฉาย
สันติสุข พรหมศิริ รับบท นพ
สินิทรา บุญยศักดิ์ รับบท ฉายแสง
กมล ศิริธรานนท์ รับบท น้อม
สุพรรณษา เนื่องภิรมย์ รับบท นวล
จาตุรงค์ โกลิมาศ รับบท ก้อย
พิเชษฐไชย ผลดี รับบท มิตร
พรรษชล สุปรีย์ รับบท สาหร่าย

เรือนนพเก้า

เรือนนพเก้า ณ ริมแม่น้ำนครไชยศรี มีเรือนไม้หลังใหญ่ตั้งอยู่อย่างโอ่อ่าสง่างาม แต่ขณะเดียวก็แฝงด้วยความลึกลับ ที่ไม่มีใครบังอาจเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะวิญญาณของผอบแก้ว ยังคงล่องลอยอยู่ ณ ที่นี้ อีกทั้งผีปรางที่ผูกคอตายมักออกมาอาละวาดหลอกชาวบ้านแถวนั้น คงมีแต่บุญทิพย์ และสร้อยสน ที่สามารถอาศัยที่เรือนนพเก้าได้

บุญทิพย์เห็นวิญญาณของผอบแก้ว ก่อนที่เธอจะมาเป็นเจ้าของบ้านคนใหม่ บุญทิพย์เห็นใจในชีวิตที่น่าสงสารของผอบแก้ว

ใน อดีตย้อนไปเมื่อร้อยปีก่อน ผอบแก้วเป็นลูกสาวของข้าราชการผู้ใหญ่ มีชีวิตอย่างสุขสบาย จนมารดาของเธอเสียชีวิตลง ชีวิตของเธอก็ตกอับ จนต้องออกไปอาศัยอยู่กับอาชื่น ชื่นมีลูกเลี้ยงคือพระยารัชดาปริวรรตซึ่งแอบชอบผอบแก้วอยู่เงียบ ๆ เพราะผอบแก้วหมั้นหมายกับเขมแล้ว

เมื่อผอบแก้วตกอับ พ่อแม่ของเขมก็ส่งเขมไปเรียนต่อเมืองนอก เพื่อแยกเขมออกจากผอบแก้ว เขมมอบแหวนรูปพญานาคให้ผอบแก้ว โดยสัญญาว่าจะรีบกลับมา หลังจากนั้นไม่นานพ่อแม่ของเขมก็มาขอถอนหมั้น ผอบแก้วเสียใจจนล้มเจ็บ เจ้าคุณมีโอกาสเข้ามาดูแลเธออย่างดี จนผอบแก้วนึกเห็นใจ และแต่งงานกัน เจ้าคุณปลูกเรือนหอหลังใหม่ให้ชื่อว่า “เรือนนพเก้า” พร้อมมอบแหวนนพเก้าเป็นของขวัญให้ผอบแก้ว ผอบแก้วกลับไม่ยอมสวมแหวนวงนี้ เพราะเธอยังมีแหวนของเขมติดนิ้วอยู่

เมื่อเขมกลับมาจากต่างประเทศ เขาพยายามดึงผอบแก้วกลับไป ผอบแก้วหนีไปอยู่กับเขม เจ้าคุณไปตามตัวกลับมาได้ หลังจากนั้นเขมก็แต่งงานกับเสลาแทน เจ้าคุณสั่งย้ายเรือนนพเก้าไปปลูกใหม่ ที่ริมแม่น้ำนครไชยศรี และส่งผอบแก้วไปอยู่ที่นั่น ผอบแก้วอยู่ในบ้านเหมือนติดคุก จนได้พบนล ลูกชายของคนในบ้านเจ้าคุณที่เป็นคนส่งข้าวส่งน้ำ นลแอบหลงรักผอบแก้ว จนคิดจะพาเธอหนี ผอบแก้วมอบแหวนพญานาคของเขมให้นลนำกลับไปคืน แต่นลประสบอุบัติเหตุเรือคว่ำ จมน้ำตายเสียก่อน

สุบัณรสรี หลานสาวของบุญทิพย์ พานิชา ลูกของน้องชายเธอมาคอยปรนนิบัติบุญทิพย์ เพื่อหวังสมบัติ ขณะเดียวกัน สืบเกียรติ หลานอีกคนของบุญทิพย์ ก็พาเมฆ เข้ามาอยู่กับบุญทิพย์เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน

นิชาเห็นวิญญาณผอบ แก้ว จึงขอความช่วยเหลือจาก แดนสรวง เป้ง และแมงเม่า ครั้งหนึ่ง เมฆเห็นวิญญาณผอบแก้ว และนึกว่าเป็นนิชา จึงเข้าใจผิดว่านิชาให้ท่า จึงไปหาถึงห้องนอน นิชาโกรธมากคิดว่าเมฆเป็นพวกบ้ากามทั้งคู่ผิดใจกัน แดนสรวงมาอยู่เป็นเพื่อนนิชา ผอบแก้วเห็นแดนสรวงซึ่งหน้าตาคล้ายนล ผอบแก้วจึงเข้าฝันแดนสรวง เพื่อถามถึงแหวนพญานาค

สร้อยสนหึงนิชาที่ สนิทกับแดนสรวง จึงวางแผนฆ่านิชา แต่โชคดีที่นิชาไม่ตาย แต่วิญญาณกลับออกจากร่าง และผอบแก้วเข้าไปสิงในตัวนิชาแทนโดยบังเอิญ สร้อนสนแค้นใจที่กำจัดนิชาไม่ได้เลยย้อนกลับมาเผาเรือนนพเก้า

เพื่อหวังเอาใจบุญทิพย์ สุบัณรสีพยายามหาแหวนพญานาคมาให้บุญทิพย์ บุญทิพย์มอบแหวนให้ผอบแก้ว ทำให้ผอบแก้วสามารถคืนแหวนนี้ให้วิญญาณของเขม เขมขอให้ผอบแก้วไปอยู่กับตน แต่ผอบแก้วเลือกที่จะไปกับท่านเจ้าคุณวิญญาณของผอบแก้วติดตามท่านเจ้าคุณไป อย่างมีความสุข นิชาฟื้นขึ้นเป็นคนเดิมอีกครั้ง เมฆดีใจมากและขอนิชาแต่งงานด้วยแหวนนพเก้าที่ยายบุญทิพย์มอบให้เมฆ

บุญทิพย์ยกเรือนนพเก้าให้นิชาและเมฆเป็นของขวัญแต่งงาน หลังจากนั้นเธอก็เสียชีวิตอย่างสงบ สร้อยสนหมดหวังในชีวิต และผูกคอตายที่ต้นไทรริมท่าน้ำ ผีปรางพยายามห้ามไว้แต่ไม่สำเร็จ วิญญาณสร้อยสนจึงมาอยู่แทนที่ปรางซึ่งได้ไปเกิดใหม่ในที่สุด

นักแสดงละคร เรือนนพเก้า

1. สันติสุข พรหมศิริ เป็น พระยารัชดาปริวรรต
2. กมลชนก โกมลฐิติ เป็นผอบแก้ว
3. ชาคริต แย้มนาม เป็น เมฆ
4. พรชิตา ณ สงขลา เป็น นิชา
5. นภัสกร มิตรเอม เป็น แดนสรวง
6. รอน บรรจงสร้าง เป็น เขม

เมืองมายา

โลกมายา ดินแดนที่ดูสวยสดงดงามสำหรับบุคคลภายนอก แต่ผู้ที่ต้องเวียนว่ายอยู่ในนี้กลับต้องพบแต่ความเจ็บปวด เพราะการโกหกหลอกลวง นี่คือเรื่องราวของหลายชีวิตที่ผ่านเข้ามา ได้เผชิญกับทุกข์และสุข ความรักและความชิงชัง หลายชีวิตผ่านเข้ามาแล้วออกไป หลายชีวิตยังคงอยู่ได้ ในสังคมนี้ แต่ไม่มีใครที่อยู่กับมันโดยไม่มีบาดแผล

ในงานเลี้ยงจัดหาทุนของสมาคมสตรี รัญชลี ลูกสาวของ ราตรี วิธานกมล กำลังเดินแบบอยู่บนเวที รัญชลีเป็นสาวไฮโซที่มีเสน่ห์ชวนให้หลงไหล ฉลาด และรู้จักพูดสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คน ต่อหน้าคนอื่น ๆ เธอจะรักษาความเป็นกุลสตรีของเธอไว้เสมอ แต่ความจริงเธอทำอะไรได้หลายๆ อย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง รัญชลีฝันอยากเป็นดาว และต้องเป็นดาวค้างฟ้าที่อยู่ในใจคนตลอดไปด้วย แต่วันนี้เธอยังเก็บความฝันของเธอไว้ในใจเพียงผู้เดียว เพราะเธอกำลังรอคอยจังหวะที่เหมาะสม ในงานนี้เธอได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างมาก หลายคนถามว่าเมื่อไหร่เธอจะเข้าสู่วงการบันเทิง ราตรีตอบแทนลูกสาวว่ารัญชลีไม่มีทางยึดอาชีพเต้นกินรำกิน แต่สำหรับรัญชลีเธอกลับตอบว่ายังไม่ถึงเวลา

อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ ในงานแถลงข่าวเปิดตัวละครเรื่องใหม่สถานีโทรทัศน์ช่อง 2 ก้องสกุล ผู้บริหารคนหนึ่งของสถานีได้ถือโอกาสแนะนำตัวนางเอกใหม่ของสถานี ภาวิดา ทิพย์ปิติ บรรดานักข่าวต่างสนใจในตัวภาวิดาเป็นพิเศษ เพราะความสดใสน่ารักของเธอ

ภาวิดาพักอาศัยอยู่กับแม่และน้องชายที่ประเทศอังกฤษ เธอย้ายไปหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิต แม่ของเธอเปิดร้านอาหารไทยที่นั่น ภาวิดาเป็นสาวท่าทางสดใส และทันสมัย เธอเป็นคนจริงใจกับทุกคน และมักจะทำและพูดอะไรอย่างตรงไปตรงมา การเป็นคนเช่นนี้ ประกอบกับการที่อยู่ต่างประเทศมาหลายปี หลายครั้งจึงทำให้คนเข้าใจคำพูดหรือการกระทำของเธอผิด ภาวิดาไม่ได้ฝันอะไรมาก เธอต้องการเพียงใครคนหนึ่งที่จะเป็นเหมือนพระเอกในละครชีวิตของเธอ ที่จะรักและเข้าใจเธอ ภาวิดาหวังจะได้มีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุข เธอจึงมอบความรักให้แก่ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธออย่างจริงใจ แต่มักจะต้องผิดหวังกับชายเหล่านั้น เธอแสวงหาความรักไปเรื่อย ๆ จนทำให้คนอื่น ๆ มองว่าเธอเป็นผู้หญิงเจ้าชู้
ภาวิดาได้รับการชักชวนจากจงรักษ์ ผู้จัดการดารา และแมวมอง ให้มาทดสอบหน้ากล้องที่เมืองไทย และได้รับข้อเสนอให้เซ็นสัญญากับสถานีช่อง 2 ทันที ภาวิดาเช่าบ้านพักอยู่ เพื่อนบ้านของเธอคือ อัศนี นักประพันธ์หนุ่ม ผู้สุภาพและใจเย็น ซึ่งต่อมาเธอได้รู้ว่าอัศนีแตกต่างจากชายทั่วไป เพราะคนรักของเขาคือ เอกภพ พระเอกชื่อดังซึ่งเธอกำลังจะแสดงละครด้วย

วันหนึ่ง ภาวิดาได้มีโอกาสพบกับรัญชลี เราจึงได้รู้ว่าทั้งสองเคยเป็นเพื่อนนักเรียนชั้นประถมที่มาแตร์มาด้วยกัน เมื่อรัญชลีได้รู้ว่าภาวิดากลับมาเมืองไทยเพื่อแสดงละคร เธอก็รู้สึกว่าทำไมคนธรรมดาอย่างภาวิดาถึงได้มีโอกาสดีมากกว่าเธอ ไม่ใช่เพียงเรื่องการได้เข้าไปในวงการบันเทิง แต่ในเรื่องของความรัก ภาวิดาก็เหมือนมีโอกาสดีกว่ารัญชลี ภาวิดาได้มีโอกาสรู้จัก กานต์ ยุทธนันท์ พระเอกหนุ่มคนดัง ผู้ซึ่งโด่งดังขึ้นมาในวงการเพราะโชคช่วย กานต์เป็นเด็กหนุ่มจากต่างจังหวัด หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย ก็เข้ามาหางานทำในเมือง เขาได้รับเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายโฆษณาสินค้าชิ้นหนึ่ง ก้องสกุลเห็นแววพระเอกในตัวเขา จึงชักชวนให้มาแสดงละคร ด้วยบุคคลิกที่ง่าย ๆ และดูเป็นกันเอง ทำให้ผู้ชมชื่นชอบกานต์ภายในเวลารวดเร็ว และบุคคลิกนี้ของกานต์ก็ดึงดูดใจภาวิดาด้วย

หลังจากคบกันไม่นาน ทั้งสองตกหลุมรักกัน ขณะที่ รัญชลีเองก็แอบปลื้มในตัวกานต์ในฐานะแฟนละครอยู่ เมื่อรัญชลีได้รู้ว่ากานต์เป็นคนรักของ ภาวิดา เธอก็ไม่พอใจ แต่เธอก็ตัดสินใจว่า เธอควรจะต้องได้ในสิ่งที่เธอต้องการ เธอจะไม่ปล่อยกานต์ให้ภาวิดา

รัญชลีหาโอกาสเข้ามาใกล้ชิดกานต์มากขึ้น ภาวิดาไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเห็นว่า รัญชลีเป็นเพื่อน เธอจึงเปิดโอกาสให้รัญชลีและกานต์ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ต่อมาเมื่อก้องสกุลรู้ว่ากานต์สนิทกับรัญชลี เขาก็ขอให้กานต์ชวนรัญชลีมาแสดงละครให้สถานี รัญชลีตอบรับคำเชิญทันที

ละครที่กานต์และรัญชลีแสดงด้วยกันได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ทั้งสองกลายเป็นดาราคู่ขวัญอย่างรวดเร็ว ก้องสกุลถือโอกาสนี้ สร้างข่าวว่าทั้งสองเป็นคู่รักกันจริง ๆ และในคืนวันเลี้ยงฉลองความสำเร็จ รัญชลีและกานต์ก็ปลีกตัวหายไปด้วยกัน แล้วทั้งสองก็ตกเป็นของกันและกัน

ทางด้านภาวิดา แม้ว่าจะไม่ค่อยอยากเชื่อข่าวเกี่ยวกับกานต์และรัญชลีนัก แต่เธอก็อดไม่สบายใจไม่ได้ ที่สุดเธอก็ตัดสินใจขอให้กานต์แต่งงานกับเธอ และร่วมกันสร้างครอบครัว กานต์ปฏิเสธ เขาบอกว่าเขาไม่พร้อมจะผูกมัดตัวเอง แต่แล้วภาวิดาก็ได้รู้ว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง เมื่อเธอได้แอบเห็นกานต์กับรัญชลีแสดงความรักกันอย่างดูดดื่ม ภาวิดาถามเรื่องนี้กับกานต์ กานต์จึงบอกเลิกกับภาวิดา และหันไปคบหากับรัญชลีอย่างเปิดเผยแทน ภาวิดาปวดร้าวกับเรื่องนี้มากจนถึงกับไม่สนใจการงาน แดน ซึ่งมีปัญหาด้านการเรียนที่อังกฤษจนถูกไล่ออกจากโรงเรียน ได้เดินทางมาอยู่กับพี่สาว เพื่อจะหาที่ศึกษาต่อและมาอยู่เป็นเพื่อนเธอแม้ว่าจะช่วยได้ไม่มากนัก แต่ก็พอทำให้เธอมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ไม่นานภาวิดาได้รับเลือกให้พรีเซ็นเตอร์สบู่ยี่ห้อหนึ่ง ที่นี่เอง เธอได้พบกับ ชลทิศ เจ้าของสินค้า เขาเป็นหนุ่มใหญ่ที่สุภาพและจะรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้ แต่เขามีครอบครัวแล้ว ภรรยาของชลทิศชื่อ มัทนา เธอเป็นนักธุรกิจหญิงที่ทำงานหนัก และมักจะต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เสมอ ภาวิดาพอจะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ชลทิศกับมัทนาไม่ค่อยราบรื่นนัก ทั้งสองมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง

ข่าวความรักของกานต์กับรัญชลีทำให้ภาวิดายิ่งรู้สึกปวดร้าว ชลทิศ เข้ามาปลอบใจเธอ และพยายามช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น แม้เขาจะอ้างว่าเขาทำเพื่อให้เธอสบายใจจะได้ทำงานให้เขาได้ดีที่สุด แต่ลึกๆ แล้ว เธอรู้ว่าชลทิศรู้สึกเหงาและปรารถนาความรักจากเธอเช่นกัน จนวันหนึ่งเมื่อรัญชลีให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่าเพื่อนที่รู้ใจเธอมากที่สุดก็ คือกานต์ แม้จะไม่ได้ยอมรับว่ากานต์เป็นคนรักของเธอ แต่ก็เท่ากับประกาศเป็นนัยว่ารัญชลีและกานต์ คือคู่รักกัน ข่าวนี้ทำให้ภาวิดาเจ็บปวดมาก มีเพียงชลทิศ คนเดียวที่อยู่ข้างๆ เธอ เขาเข้าใจและให้ความอบอุ่นแก่เธอมากเหลือเกิน ภาวิดารู้สึกหวั่นไหวจนไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ที่สุดเธอก็ยอมเป็นของชลทิศ

ชลทิศแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เขาสัญญาว่าจะขอหย่าขาดจากมัทนาโดยเร็ว ภาวิดาเฃื่อชลทิศ และยอมคบกับชลทิศต่อไป แดนไม่พอใจการกระทำของพี่สาว ภาวิดาบอกว่าเธอต้องการเพียงคนๆ หนึ่งที่รักเธอ และครองชีวิตไปด้วยกันอย่างมีความสุข แดนโต้ว่าคนๆ นั้นควรจะรักเธอเพียงคนเดียวด้วย และบอกว่าความรักของเธอกับชลทิศจะไม่มีวันเป็นความรักที่สมบูรณ์ ภาวิดาไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรอีก เธอได้แต่ร้องไห้สับสน แดนไม่อยากทำให้พี่ต้องไม่สบายใจ จึงต้องยอมรับการตัดสินใจของเธอ
ทางด้านกานต์และรัญชลี หลังจากที่ข่าวของทั้งสองแพร่ออกไป วงการไฮโซก็วิจารณ์กันไปทั่ว พ่อแม่ของรัญชลีไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง พวกเขาเห็นว่ากานต์เป็นคนไม่มีสกุลรุนชาติ รัญชลีปกป้องกานต์ทุกอย่าง และพยายามทำให้กานต์เป็นชายสมบูรณ์แบบอย่างที่ทุกคนต้องการ กานต์เริ่มรู้สึกอึดอัด ไม่เพียงแต่เรื่องฐานะที่แตกต่างกัน แต่ในด้านงานอาชีพ รัญชลีก็เริ่มเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น งานวิ่งเข้ามาหารัญชลีไม่หยุดหย่อน ทำให้กานต์เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ยิ่งรัญชลีขึ้นสูง กานต์ก็ยิ่งตกต่ำลง และพ่อแม่รัญชลีก็ยิ่งกีดกันเขามากขึ้นเป็นเงาตามตัว

ทางด้านภาวิดา ความรักอันหวานชื่นระหว่างเธอกับชลทิศที่เธอเคยหวังไว้ ก็เริ่มกลายเป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ มากขึ้นทุกที ไม่เพียงแต่เธอจะต้องปิดบังซ่อนเร้นเรื่องของเธอกับชลทิศแต่คำสัญญาที่ชลทิศ เคยให้ไว้ว่าจะหย่าขาดจากมัทนา ก็ดูเหมือนจะถูกถ่วงเวลาให้เนิ่นนานออกไป ทุกครั้งที่มัทนากลับจากต่างประเทศ ชลทิศจะต้องกลับไปอยู่กับครอบครัว ภาวิดาเหมือนจะเป็นส่วนเกินไปทันทีเธอเริ่มสับสนกับชีวิตของตนเอง
วันหนึ่ง จงรักษ์มาบ้านภาวิดาและได้พบกับแดน จึงชักชวนแดนให้ไปถ่ายแบบ แดนรู้สึกสนุก และอยากหาเงินใช้ จึงยอมรับงาน เขาไม่รู้เลยว่าอาชีพในวงการแสดงนั้นไม่เหมาะกับนิสัยตรงไปตรงมา และถึงลูกถึงคนของเขา ด้วยความที่แดนเป็นคนพูดตรง แม้ว่าจะไม่ได้คิดร้ายอะไรกับใคร แต่ก็ทำให้สื่อมวลชนไม่ชอบ ยิ่งต่อมาเมื่อแดนเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเริ่มมีสาว ๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา สื่อมวลชนก็สรุปว่าแดนเป็นคนเจ้าชู้ ถึงกับตั้งฉายาให้ว่า แดนฮวน (แปลงมาจาก ดอนฮวน) และบอกว่าสมแล้วที่แดนและภาวิดาเป็นพี่น้องกัน เพราะพูดไม่ดีและเจ้าชู้เหมือนกัน แดนไม่สนใจคำวิจารณ์ของสื่อมวลชน และไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ในการถ่ายแบบโฆษณา แดนได้พบกับรินรดี หรือริน น้องสาวของรัญชลี เด็กสาววัยรุ่นที่ร่าเริงและคุยเก่ง รินพยายามวางตัวเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ แต่ถึงเวลาเมื่ออยู่กับเพื่อน เธอก็แสดงออกให้เห็นว่าเธอยังเป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่ง รินอยากให้มีชายหนุ่มมาสนใจเธอ แต่ก็รู้จักระมัดระวังตัวไม่ให้ถูกใครตำหนิได้ รินได้รับการชักชวนจากบริษัทโมเดลลิ่งให้มาถ่ายโฆษณา

ครั้งแรกที่รินกับแดนพบกัน ทั้งสองก็รู้สึกดีต่อกัน แต่ต่อมาเมื่อต่างรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งคือน้องของศัตรูพี่สาวตน ทั้งสองก็เริ่มแสดงตัวเป็นปฏิปักษ์กัน รินกับเพื่อนนางแบบวัยรุ่นของเธอก็จะหาเรื่องแกล้งแดนตลอดเวลา ขณะที่แดนเองก็จะแกล้งรินกลับด้วยวิธีต่าง ๆ กระทั่งครั้งสุดท้าย แดนแกล้งขโมยกุญแจรถรินไปซ่อน ทำให้รินกลับบ้านไม่ได้ รินต้องอยู่ลำพังคนเดียวในตอนกลางคืน รินทั้งโมโหและกลัวจนร้องไห้ แดนซึ่งแอบดูอยู่เริ่มรู้สึกผิด แล้วทันใดก็มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาพูดจาแทะโลมริน และทำท่าเหมือนจะลวนลามริน แดนจึงเข้ามาช่วย แดนต่อสู้กับกลุ่มวัยรุ่น และถูกกลุ่มวัยรุ่นแทง รินพาแดนไปโรงพยาบาล รินรู้สึกประทับใจที่แดนเข้ามาช่วยเหลือเธอ แดนเองก็ขอโทษรินที่แกล้งเธอแรงไป ทั้งสองกลับมามีความรู้สึกที่ดีต่อกันอีกครั้ง

รัญชลีเริ่มรู้สึกว่าน้องสาวผิดปกติไป แต่แม้จะพยายามซักไซร้รินเท่าไหร่ รินก็ปฏิเสธไม่ยอมบอกอะไรทั้งสิ้น เธอได้แต่เก็บความสงสัยไว้

สำหรับกานต์ หลังจากถูกบับคั้นให้ปรับปรุงตัวเองตลอดเวลา เขาก็รู้สึกอึดอัดมากขึ้นจนถึงกับมีเรื่องทะเลาะกับพ่อแม่รัญชลี วันหนึ่งเขาได้พบกับภาวิดาที่สตูดิโอ ภาวิดาซึ่งขณะนั้นกำลังสับสนในเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับชลทิศ เมื่อได้พบกานต์ มันก็ทำให้เธอรู้สึกดี แต่เธอเองก็ยังต้องระมัดระวังท่าทีไม่ให้ทำสิ่งที่ผิดๆ ทั้งสองได้พูดคุยกัน ต่างก็เล่าถึงชีวิตของตนในส่วนที่ดีและปิดบังความทุกข์ไว้ภายในใจ แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นการสนทนาที่ตรงไปตรงมานัก แต่ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกดี และสัญญาว่าจะติดต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่ห่างหายกันไปเหมือนเช่นก่อน
การพบกันระหว่างกานต์กับภาวิดารู้ไปถึงหูของรัญชลี เธอระแวงว่ากานต์จะกลับไปหา ภาวิดา กานต์ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้กลับไปหาภาวิดา แต่ข่าวเรื่องกานต์กับภาวิดาก็เริ่มมีมากขึ้น รัญชลีตัดสินใจเอาเรื่องที่ภาวิดาคบกับชลทิศไปบอกกับ อัณณ์ นักข่าวบันเทิง เพื่อแก้ข่าวที่ว่าภาวิดาจะกลับมาคืนดีกับกานต์

ข่าวภาวิดาคบกับชายที่แต่งงานแล้วดังไปทั่วทั้งวงการ มัทนากลับจากต่างประเทศ เธอให้ ชลทิศเลือกระหว่างตัวเธอกับภาวิดา ในระหว่างที่ชลทิศกำลังสับสนไม่รู้จะเลือกใคร ลูกของชลทิศก็เกิดป่วยหนัก ชลทิศทุ่มเทเวลาทั้งหมดอยู่กับลูก ตรงนี้เองที่ภาวิดาได้รู้ว่าแท้จริงแล้วชลทิศยังคงรักครอบครัวของตนเองอยู่ เธอจึงขอเป็นฝ่ายไปจากชลทิศเอง ด้วยความเศร้าโศรกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นภาวิดาไปเที่ยวกับเพื่อนนัก แสดงในผับ คืนนั้นตำรวจบุกเข้ามาจับยาอี และเธอถูกตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ เพราะเพื่อนแอบใส่ยาในเครื่องดืมของเธอ กว่าที่เธอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ สังคมก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่าเธอเป็นคนไม่ดี ผลที่ภาวิดาได้รับก็คือ ก้องสกุลซึ่งโมโหเธออยู่แล้วเพราะเรื่องชลทิศ ตัดสินใจถอดเธอออกจากละครที่กำลังแสดงอยู่ โดยให้เขียนบทให้นางเองตายกลางเรื่อง และมีนางเอกใหม่เข้ามาแทน

กานต์รู้สึกสงสารภาวิดา และพยายามหาโอกาสพบกับเธอ แต่ภาวิดาไม่ยอมพูดกับเขาเธอสับสนเสียใจ และไม่อยากให้เกิดข่าวในทางลบอีก กานต์กลับไปต่อว่ารัญชลีว่าเห็นแก่ตัว และเป็นคนทำลายภาวิดา รัญชลีคิดว่าภาวิดาพูดใส่ร้ายเธอ ทำให้กานต์โกรธเธอ จึงตัดสินใจไปหาภาวิดาที่บ้าน เพื่อจะต่อว่า แต่สิ่งที่รัญชลีได้พบ กลับทำให้เธอต้องตกใจยิ่งกว่า เธอได้เห็นรินน้องสาวเธออยู่กับแดนในบ้านภาวิดา และทั้งสองมีท่าทางสนิทสนมกันมาก รัญชลีโกรธมาก เธอฉุดกระชากรินจะพาออกจากบ้าน ภาวิดากลับมาพอดี ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง

กานต์ได้รับบทพระเอกคู่กับรัญชลีอีกครั้ง ในเรื่องนี้ กานต์ต้องแสดงร่วมกับ กนกกร ดาราวัยรุ่น กนกกรสนใจในตัวกานต์ทันที เธอคิดว่ากานต์จะเป็นบันไดให้เธอก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ และเมื่อกานต์กับ รัญชลีทะเลาะกัน กนกกรก็เข้ามาแทนที่ ไม่นานกนกกรก็ตกเป็นของกานต์ กานต์รู้ตัวว่ากำลังทำผิดก็บอกเลิกกับกนกกรทันที แต่กนกกรไม่ยอมง่าย ๆ เธอให้ข่าวเรื่องเธอกับกานต์ รัญชลีไม่พอใจ กานต์ปฏิเสธเรื่องนี้ รัญชลียังลังเลที่จะเชื่อ

สำหรับแดนและริน ความรักของทั้งสองต้องพบแต่อุปสรรค ทั้งภาวิดาและรัญชลีต่างก็ทำทุกอย่างเพื่อกีดกันไม่ให้แดนกับรินได้พบกันอีก รัญชลีได้รู้จักกับ อายุธ นักเรียนนอก ทายาทนักธุรกิจพันล้าน ท่าทางสุภาพและพูดจาดี แต่ก็ซ่อนความเป็นเพลย์บอยไว้ภายใน รัญชลีจึงแนะนำให้อายุธได้รู้จักกับริน เพื่อหวังให้อายุธแยกรินจากแดน
ทางด้านภาวิดา เธอพยายามติดต่อหางานแสดง แต่ทุก ๆ แห่งต่างก็ปฏิเสธเธอ อัศนีรู้เรื่องและรู้สีกเห็นใจ เขาจึงระบุกับบริษัทละครที่เอานวนิยายของเขาไปทำว่า นางเอกที่จะนำแสดงในละครที่ทำจากนวนิยายของเขา จะต้องเป็นภาวิดาเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่ขายลิขสิทธิ์นิยายให้ บริษัทจำเป็นต้องยอมรับ ภาวิดาดีใจมาก เธอจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อขอบคุณอัศนี แต่ในงานนี้ แทนที่อัศนีจะมีความสุข ภาวิดากลับเห็นเขาร้องไห้ เมื่อเธอถามเขา เธอจึงได้รู้ว่า เขาเพิ่งถูกเอกภพคนรักของเขา ทิ้งเขาไปอยู่กินกับมณฑวรรณ สาวไฮโซ

ภาวิดารู้สึกสงสารอัศนี เธอเข้าใจความสูญเสียของอัศนี เพราะตัวเธอเองก็เพิ่งผ่านมันมาสองครั้ง ภาวิดาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อปลอบใจอัศนี ส่วนอัศนีก็มีความสุภาพอบอุ่นช่วยรักษาความปวดร้าวใจของภาวิดาที่เกิดจาก กานต์และชลทิศ ด้วยความที่ทั้งสองต่างก็เหงาและขาดความรัก ไม่นานต่างก็รู้สึกว่าสามารถทดแทนช่องว่างของกันและกันได้ ภาวิดาเปลี่ยนให้อัศนีกลับมาเป็นชายแท้ และมอบความรักให้แก่กันและกัน เอกภพรู้เรื่องของทั้งสอง ก็พยายามจะกลับมาคืนดีกับอัศนี แต่อัศนียังปฏิเสธอยู่

แดนรู้เรื่องภาวิดากับอัศนี เขาเห็นด้วยเพราะอัศนีเป็นคนดี แต่ตอนนี้เขาเองก็กำลังหนักใจกับปัญหาของตัวเอง รัญชลีผลักดันให้อายุธรุกรินหนักขึ้นทุกที พร้อมกับทำทุกอย่างเพื่อกีดกันแดน จนทำให้เขาไม่ได้ไปร่วมงานวันเกิดของริน รินเริ่มไม่แน่ใจในตัวแดน รัญชลีจึงใส่ความแดนอาจจะเปลี่ยนใจจากรินแล้วก็ได้ และเพื่อให้รินเลิกกับแดนได้เด็ดขาดจริง ๆ รัญชลีจึงให้อายุธจัดส่ง ผู้หญิงไปให้แดน แล้วเธอก็พารินไปดู รินโกรธมาก และประกาศไม่ยุ่งกับแดนอีก

กนกกรสร้างปัญหาใหม่ให้รัญชลีอีก เธอให้ข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของกานต์กับเธอ รัญชลีมาเจรจากับกนกกร แต่เธอกลับต้องตกตะลึง เมื่อกนกกรบอกว่าเธอกำลังมีท้องกับกานต์ พ่อแม่ของรัญชลีโกรธมาก และยืนยันให้รัญชลีเลิกกับกานต์ กานต์ไม่เชื่อว่าเด็กในท้องจะเป็นลูกเขา รัญชลีให้โอกาสกานต์พิสูจน์เรื่องนี้ กานต์ไปเจรจากับกนกกรของให้พิสูจน์ดีเอ็นเอ ถ้าเด็กในท้องเป็นลูกเขา เขาจะยินดีรับผิดชอบ กนกกรยอมพิสูจน์

ข่าวของกานต์ ทำให้ภาวิดาไม่สบายใจไปด้วย สำหรับภาวิดาแม้ชีวิตของเธอเองจะไม่ได้มีความสุขนัก แต่เธอก็ยังสนใจติดตามข่าวของรัญชลีและกานต์อยู่ตลอด เธอบอกกับอัศนีว่า เพราะเธอกับกานต์เคยรู้จักกัน จึงอดสนใจไม่ได้ แต่อัศนีรู้ว่าภาวิดาไม่ได้รู้สึกเพียงแค่นั้น เมื่อกานต์เอาปัญหาของกนกกรมาเล่าให้ภาวิดาฟัง ภาวิดาก็พร้อมจะเป็นเพื่อน และคอยปลอบโยนให้กำลังใจเขา เพราะสำหรับภาวิดาแล้ว อย่างไรกานต์ก็คือชายที่เธอรักมากที่สุด สำหรับแดน หลังจากพยายามที่จะพบรินหลายครั้ง เพื่ออธิบายความจริง แต่รินก็ไม่ยอมพบ อายุธเองก็คอยขัดขวาง ที่สุดแดนจึงมีเรื่องชกต่อยกับอายุธ หนังสือพิมพ์เข้าข้างอายุธมากกว่าเพราะอายุธรู้จักประจบนักข่าว และแดนเองก็มีภาพลบในสายตาสื่อมวลชนอยู่แล้ว ชื่อเสียงของแดนเสียหายหนักขึ้น

ในระหว่างที่กานต์รอผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอ รัญชลีได้รับการติดต่อจากบริษัทสร้างหนังในฮอลลีวู้ดว่ากำลังหานักแสดงเอเซีย เพื่อร่วมแสดงในภาพยนต์ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง รัญชลียอมรับข้อเสนอที่จะทำการทดสอบ แต่เธอก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อรู้ว่าภาวิดาได้รับข้อเสนอด้วย

ภาวิดาและรัญชลีได้พบกัน ภาวิดารู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นกานต์มาเป็นเพื่อนรัญชลี อัศนีซึ่งมากับภาวิดาพอจะมองออกว่าภาวิดายังคงรักกานต์อยู่ เขาเริ่มตัดสินใจว่าจะไปจากภาวิดา แล้วคืนหนึ่ง เมื่อภาวิดาเข้าไปในห้องของอัศนีโดยไม่ได้เคาะประตู เธอก็เห็นอัศนีกับเอกภพอยู่ด้วยกันบนเตียง ภาวิดารู้สึกเจ็บปวด เธอโกรธอัศนีที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอ แต่อัศนีกลับบอกว่าภาวิดาต่างหากที่คิดถึงแต่กานต์ ภาวิดาพูดไม่ออก เธอรู้แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอัศนีสิ้นสุดลงแล้ว

การคัดเลือกดำเนินไปอย่างเข้มข้น จนใกล้จะถึงวันประกาศผล รัญชลีตัดสินใจว่าเธอจะต้องทำให้ผู้คัดเลือกตัดสินใจเลือกเธอ คืนวันก่อนประกาศผล รัญชลีแอบมาพบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฮอลลีวู้ดที่จะทำการคัดเลือก และยอมเสนอตนเองให้เขา เพื่อหวังว่าเขาจะคัดเลือกตนไปฮอลลีวู้ด เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น รัญชลีกำลังจะกลับ เธอพบว่ากานต์มาดักรอพบเธออยู่ กานต์ตั้งใจจะเอาผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอ ซึ่งระบุว่าเขาไม่ใช่พ่อของเด็กในท้องมาให้รัญชลีดู แต่เมื่อกานต์รู้ว่ารัญชลีทำอะไร เขาก็รู้สึกเจ็บปวดมาก รัญชลีพยายามบอกว่าเธอทำเพื่อทั้งสอง แต่กานต์บอกว่ารัญชลีทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แล้วกานต์วิ่งหนีไป รัญชลีรู้สึกเจ็บปวดที่รู้ว่าได้สูญเสียกานต์ไปแล้ว กานต์เองก็เตลิดหนีไปพักอยู่บนเกาะ จนไม่มีใครติดต่อเขาได้

รัญชลีกลับบ้านพร้อมกับความเจ็บปวด เธอระบายใส่แม่ของเธอ และเผลอพูดเรื่องของแดนกับรินไปด้วย ทำให้รินรู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นแผนของรัญชลี รินโกรธมาก และหนีออกจากบ้านไปพบแดน คืนนั้นทั้งสองตกเป็นของกันและกัน รัญชลีออกตามหารินทั้งคืน ในที่สุดก็รู้ว่ารินเข้าพักในโรงแรมกับแดน รัญชลีตามไปที่โรงแรม ได้พบแต่ริน เธอตบหน้าน้อง แล้วพารินตรงไปที่บ้านภาวิดา เพื่อตามหาแดน เมื่อมาถึงบ้านภาวิดา รัญชลีไม่พบแดน จึงทำลายข้าวของในบ้านภาวิดา ภาวิดาโกรธมากแจ้งตำรวจจับรัญชลี แต่รัญชลีกลับแจ้งความกลับว่าแดนข่มขืนริน

ภาวิดาโกรธแดนมาก ด่าว่าแดนอย่างรุนแรง แดนรู้สึกเสียใจ และขับรถหนีไป แดนขับรถเร็วมาก รถแดนเสียหลักชนกับราวสะพานพลิกคว่ำ แดนเสียชีวิตในอุบัติเหตุนี้

เมื่อรู้ข่าวการเสียชีวิตของแดน รินก็รู้สึกเสียใจเป็นที่สุด เธอโทษว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากรัญชลี เธอไม่พูดกับพี่สาวอีก ไม่เพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ทำให้รัญชลีต้องเจ็บปวด บริษัทจากฮอลลีวู้ดประกาศผลการคัดเลือก ผู้ได้รับการคัดเลือกคือดาราสาวจากฮ่องกง รัญชลีโกรธมาก เธอบุกไปพบกับเจ้าหน้าที่ ได้รับคำตอบว่า เขาต้องคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถทางการแสดง ไม่ใช่ความสามารถบนเตียง รัญชลีได้แต่ตะลึง ทำอะไรไม่ถูก รัญชลีรู้สึกเจ็บปวดมาก เธอต้องการใครซักคนที่จะมาอยู่ข้าง ๆ เธอ และก็รู้ว่าคน ๆ นั้นคือกานต์ กานต์เท่านั้นที่รักเธอจริง
สำหรับภาวิดา การตายของแดนคือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของเธอ บัดนี้เธอไม่มีใครอีกแล้ว อัศนีก็ทิ้งเธอไป และเมื่อถามถึงกานต์ เขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อไม่มีใครอยู่เคียงข้างเธอ เธอก็รู้สึกว่าชีวิตของเธอไร้ค่า ภาวิดาตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่เดชะบุญที่รัญชลี ซึ่งกำลังตามหากานต์ และคิดว่าเขาจะมาอยู่กับภาวิดา มาถึงพอดีรัญชลีช่วยฃีวิตภาวิดาไว้ได้ทัน

หลังจากพักฟื้นไประยะหนึ่ง รัญชลีก็มาเยี่ยมภาวิดา เธอพยายามขอโทษกับสิงที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม้ภาวิดาจะรู้ว่ารัญชลีเป็นคนช่วยชีวิตเธอ แต่ความทุกข์ทรมานที่รัญชลีสร้างไว้ให้เธอมันมากเกินกว่าที่เธอจะยอมรับได้ ภาวิดาต้องสูญเสียน้องชายของเธอ ต้องสูญเสียกานต์ผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด รัญชลีทำลายความฝันของเธอ เธอปรารถนาเพียงมีครอบครัวเล็ก ๆ ที่อบอุ่น แต่ทุกอย่างก็สลายไปหมดแล้ว ภาวิดาบอกรัญชลีว่า เธอจะไม่ลืมว่ารัญชลีได้ช่วยชีวิตของเธอไว้ แต่เธอขอร้องว่า อย่าขอให้เธอให้อภัย รัญชลีเลย เพราะมันยากเกินกว่าที่เธอจะทำได้
เมื่อกานต์กลับมาจากต่างจังหวัด และรู้เรื่องการตายของแดน กับการฆ่าตัวตายของภาวิดา กานต์ก็ตรงมาที่โรงพยาบาลทันที กานต์เข้ามาภายในห้อง รัญชลีก็ยืนอยู่ที่นั่น แต่เขาไม่เอ่ยทักรัญชลีเลย กลับตรงมาหาภาวิดา เขาขอโทษที่ไม่ได้อยู่กับเธอตอนที่แดนเสียชีวิต เพราะเขาไปอยู่บนเกาะตัดขาดจากผู้คน แต่ทันทีที่รู้ เขาก็รีบกลับมา เขาเกือบไม่ได้พบกับภาวิดาอีกแล้ว แล้วกานต์ก็บอกกับภาวิดาว่า เขารู้แล้วว่าคนที่เขาควรจะรักคือใคร คือภาวิดานั่นเอง รัญชลีรู้ว่าเธอไม่มีความหมายอีกแล้วจึงออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

เมื่อภาวิดาออกจากโรงพยาบาลได้ เธอและกานต์ก็ตัดสินใจละทิ้งวงการบันเทิงที่มีแต่ความเจ็บปวดให้เธอ แล้วเดินทางกลับไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษด้วยกัน สำหรับรัญชลีเธอยังคงอยู่ในวงการมายาต่อไป พร้อมกับความเข้าใจในโลกแห่งแสงสีนี้มากขึ้น ทั้งคู่รู้แล้วว่า วงการมายาอาจจะดูน่ากลัว และดูเหมือนเต็มไปด้วยการหลอกลวง แต่หากผู้ใดได้เข้าใจความเป็นไปที่แท้จริงของวงการนี้ เขาก็จะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย เพียงแต่เขาต้องมีแว่นวิเศษอันหนึ่ง ที่จะส่องผ่านเข้าไปเห็นความจริงในโลกมายาใบนี้

ผลิตโดย : เอ็กแซกท์

นักแสดงละคร เมืองมายา
คัทลียา แมคอินทอช, นุสบา วานิชอังกูร, ชาคริต แย้มนาม, สัญญา คุณากร, ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี

ภูแสนดาว

ทันมาย เป็นอาจารย์หนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-เวียดนาม เขาเกลียดสงคราม เพราะสงครามทำให้เขาเป็นเด็กกำพร้า และไม่ชัดเจนว่าตัวเอง “เป็นใคร” บนโลกใบนี้ อเมริกันหรือเวียดนาม แต่สิ่งนี้ก็ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด ทันมายเดินทางเข้าไปยังเมืองเมือน ในฐานะผู้ประสานงานให้แก่ คณะนักวิจัยจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีดอกเตอร์ลิลิตร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะนักวิชาการจากประเทศในเอเชียที่ ร่วมงานวิจัยชิ้นนี้ ไม่มีใครในทีมวิจัยล่วงรู้ว่าดอกเตอร์ลิลิตเป็นตัวแทนของ “ช้างเผือก” ที่เดินทางมาเพื่อเจรจาเรื่องความช่วยเหลือในการปลดแอกเมืองเมือนและแม้ซอง ลีล่ายและฮองตันเองก็ไม่รู้ว่าดอกเตอร์ลิลิตมีจุดประสงค์อื่นร่วมกับเหงียน ตันสุย นั่นคือการค้นหาความลับเกี่ยวกับภูแสนดาว

ระหว่างการทำวิจัย ที่ทันมายเริ่มรู้สึกถูกชะตากับซองลีลิว ลูกสาวของผู้ท้าวแห่งเมืองเมือน ความลับเรื่องการปลดแอกตัวเองของเมืองเมือนก็รั่วไหลไปถึงหูของเหงียนตันสุ ยและนายจนได้ และเมืองเมือนก็ถูกเชือดให้ชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆ ดูทันที โดยการที่ฮานอยส่ง กองกำลังพิเศษบุกโจมตีปราบปรามกบฏเมืองเมือน การสู้รบเมืองเมือนทำให้ทันมายและซองลีลิวต้องหลบหนีออกจากเมืองเมือนด้วย กันเพียงลำพัง โดยฮองตันซึ่งหลงรักลีลิวอยู่นั้นเข้าใจว่า ทันมายพาตัวลีลิวออกมามอบให้แก่เหงียนตันสุยใช้เป็นตัวประกัน ขณะที่เหงียนตันสุยเองก็ต้องการจับตัวลีลิวให้ได้เพราะเข้าใจว่าความลับของ ภูแสนดาวที่รับรู้กันในนามหมายตราแห่งแสงตะวันนั้นจะต้องอยู่ที่ซองลีลิวลูก สาวผู้ท้าวแห่งเมืองเมือนอย่างแน่นอน

การหลบหนีและการไล่ล่าดำเนินมา ตลอดตั้งแต่ดินแดนตอนเหนือของเวียดนาม ไล่เรื่อยลงมาถึงตอนกลางและตอนใต้ ภายใต้ความพยายามของทันมายที่จะขอความช่วยเหลือจากองค์กรต่างประเทศให้เข้า มาสงบศึก ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมืองเมือนให้ได้ เพราะตัวเขาเองนั้น ก็มีปมอยู่ในใจเรื่องสงครามมาตลอดชีวิต จนไม่สามารถ “เป็นใครที่แน่ชัดได้” ในขณะที่ซองลีลิวนั้นก็ขัดแย้งกับทันมายมาโดยตลอด เพราะหล่อนเชื่อว่าความสงบสุข สันติภาพ และเอกราชของเมืองเมือนนั้นจะได้มาก็ด้วยการสู้รบ และสงคราม และความคิดนั้นก็มาจากการ ที่หล่อนเป็นลูกสาวของผู้ท้าวเมืองเมือนนั่นเอง

แต่ แล้วสิ่งที่ได้พบเจอระหว่างการเดินทางหลบหนีลงมาบนแผ่นดินเวียดนามที่เคยลุก ร้อนด้วยไฟสงครามก็ทำให้ความคิดของซองลีลิวเปลี่ยนไปหล่อนเห็น และรับรู้แล้วว่าสงครามไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลย คนเวียดนามมากมายที่หล่อนพบเจอระหว่างการหลบหนีไล่ล่าคือ ผลพวงของสงครามเวียดนามอันโหดร้าย รุนแรง แม้มันจะผ่านพ้นมาแล้วแต่พวกเขายังมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานทั้งทางกายและ ใจ ทั้งทหารผ่านศึกทุพพลภาพ คนพิการ แม่ม่ายสงคราม เด็กกำพร้า เด็กลูกครึ่ง ฯลฯ และสุดท้ายก็คือ ลีลิวมองเห็นและรับรู้อย่างเต็มหัวใจในสิ่งที่ทันมายเป็นและต้องแบกรับมา ตลอด ชีวิตของเขานั่นเอง ซองลีลิวตัดสินใจร่วมมือกับทันมาย พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีการเจรจาสันติภาพให้ได้

ระหว่าง นั้นเองความลับของตราแห่งแสงตะวันก็เปิดเผย ซองลีล่ายผู้ท้าวแห่งเมืองเมือนมิได้เป็นผู้ถือหมายตราฯ เอาไว้ตามที่เขาบอกทุกคนในเมืองเมือน รวมทั้งพวกข่อยที่ทำงานที่ภูแสนดาว ด้วยความเชื่อมาตลอดว่า “ผู้ใดครอบครองหมายแห่งแสงตะวัน ผู้นั้นครอบครองภูแสนดาว” ที่แท้ซองลีล่ายเป็นผู้ฆ่าพ่อแม่ของฮองตัน เพื่อแย่งชิงหมายตราฯ มาเป็นของตัว แต่สุดท้ายเขากลับหามันไม่พบ และเลือกที่จะโกหกทุกคนมาตลอดว่าเขาเป็นผู้ถือหมายตราฯ นั้นไว้ ในความเป็นจริงหมายตราแห่งแสงตะวันก็อยู่กับตัวของฮองตัน หลานชายที่เขารับเลี้ยงดูแต่เล็กแต่น้อย โดยปิดบังความจริงเรื่องความตายของพ่อแม่นั่นเอง ติดตามเรื่องราวของสงครามที่นำมาซึ่งความเดือดร้อน และหัวใจรักของคนทั้งสอง ว่าจะสามารถดับไฟสงครามให้ มอดลงได้หรือไม่ใน “ภูแสนดาว”

รายชื่อนักแสดง

ชาคริต แย้มนาม รับบท ทันมาย
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ รับบท ซองลิลิว
มนตรี เจนอักษร รับบท ซองลีล่าย
วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ รับบท ฮองตัน
ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ รับบท เลอติน
พิสมัย วิไลศักดิ์ รับบท ยายเฒ่าเหมี่ยน
สะอาด เปี่ยมพงษ์ศานต์ รับบท ลุงเถียน
ทัศน์วรรณ เสนียย์วงศ์ ณ อยุธยารับบท ป้าเหม่ย
วัชรเกียรติ บุญภักดี รับบท ตวนธาน

ไฟอมตะ

ไฟรัก ไฟแค้น และ ไฟฝัน ที่ไม่วันมอดไหม้

อาทิตย์ เกือบจะกลายเป็นฆาตกรปลิดชีวิตบิดาบังเกิดเกล้า ด้วยเหตุที่พ่อบันดาลโทสะใช้ปืนยิงหัววิฑิต น้องคนที่สามของเขา แม้ว่าแม่จะบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเวรกรรมของแม่ แต่สำหรับอาทิตย์แล้วมันไม่ใช่ เรื่องราววุ่นวาย ปัญหาร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว มันเกิดขึ้นเพราะพ่อเพียงคนเดียว พ่อไม่เคยรู้จักคำว่าพอ มีเมียเล็กเมียน้อยนับไม่ถ้วน พ่อทะเลาะกับแม่ และเมื่อโกรธก็จะเฆี่ยนตีลูกจนปางตาย หากไม่คิดถึงแม่ผู้เป็นที่รักยิ่ง ไม่ห่วงว่าใครจะดูแลน้อง ๆ แล้วล่ะก็ อาทิตย์คงต้องก่อกรรมอันใหญ่หลวง สร้างตราบาปอันฝังลึกที่กี่ปีกี่ชาติก็ไม่มีวันลบเลือนได้…….

ย้อนไปในวันที่เด็กชายฟ้งลืมตาดูโลก ที่กาญจนบุรี สร้างความตื่นเต้นดีใจให้แก่พ่อแม่ที่ได้ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย ปู่ผูกดวงให้พร้อมทำนายว่า ในอนาคตฟ้งจะเป็นคนเก่ง มีบุญวาสนาทำให้ตระกูลเจริญรุ่งเรือง

ครอบครัวคนจีนมักจะสอนให้ลูกทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ ฟ้งจึงมีหน้าที่ดูแลน้อง ๆ ที่คลานตามกันออกมาทุกปี แถมยังต้องทำงานบ้าน ช่วยแม่นึ่งปลาทู ทำความสะอาดปลาเค็ม เพื่อเอาไปขายในตลาด  พ่อเองก็สอนให้เขารู้จักจัดสินค้า ขายของที่ร้านหน้าบ้าน แม้จะต้องทำงานหนัก แต่ฟ้งก็ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย คงเป็นเพราะความรักที่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายและญาติ ๆ มีให้อย่างเปี่ยมล้นนั่นเอง

ฟ้งอยากไปโรงเรียน แต่พ่อก็ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าจะไม่มีใครช่วยทำงาน แม่จึงช่วยพูดจนพ่อก็ใจอ่อน แต่มีข้อแม้ว่าฟ้งต้องทำหน้าที่ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ฟ้งดีใจมาก เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งตามที่รับปากไว้ ช่วยเตรียมของ ขายสินค้า แถมยังต้องเลี้ยงดูน้อง ๆ ที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน ขนาดวิฑิตหนีโรงเรียนแล้วโดนพ่อตี พี่ใหญ่อย่างฟ้งก็เข้ามาปลอบ สอนน้องให้รู้จักรักการเรียน และพาน้องกลับไปส่งที่โรงเรียนประจำ

วันตรุษจีน ฟ้งได้เงินแต๊ะเอีย 40 บาท ฟ้งเอาเงินไปฝากแม่ แต่วันที่ไปขอเงินมาซื้อขนมให้น้อง แม่กลับบอกว่าเงินหมดแล้ว แถมยังบอกว่าเงินนั่นก็คือเงินที่แม่ให้ฟ้งกินขนมอยู่ทุกวันนั่นเอง ฟ้งร้องไห้ผิดหวังเสียใจเหมือนฟ้าดินถล่มทลาย เมื่อไม่มีเงิน ฟ้งจึงแอบขโมยเงินย่าที่ซ่อนไว้ใต้ที่นอนไปซื้อขนมให้น้อง ๆ กิน พ่อรู้เข้าก็ดุด่าเฆี่ยนตีฟ้งอย่างสาหัส ฟ้งร้องไห้อย่างเจ็บปวด ทำไมพ่อจึงลงโทษเหมือนเขาไม่ใช่ลูก ภาพความรักที่พ่อเคยมีให้ในอดีต ภาพที่พ่อโอบอุ้มเล่นหัว ภาพที่พ่อพร่ำสอนในไร่ หรือแม้แต่ภาพที่พ่อเอาเขาซ้อนท้ายรถเครื่องไปดูหนังกลางแปลง ภาพความอบอุ่นเหล่านั้นมันเลือนหายไปหมดในทันที………

ตรุษ จีนเวียนมาถึงในปีต่อมา ฟ้งไม่ไว้ใจแม่อีกแล้ว เขานำเงินแต๊ะเอียไปฝากธนาคารใกล้ ๆ บ้าน มันปลอดภัยที่สุดแถมยังได้ดอกเบี้ยอีกด้วย ฟ้งกอดสมุดเงินฝากเล่มแรกในชีวิตอย่างมีความสุข และตัวเลขเงินฝากก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อป้าเฮียงย้ายเข้าไปกรุงเทพฯ แล้วยกอุปกรณ์การทำถั่วคั่วให้ ย่าและฟ้งช่วยกันทำถั่วคั่วอย่างแข็งขัน ฟ้งนำถั่วคั่วไปขายที่ลานหนังกลางแปลง เสริมด้วยการขายหนังสือพิมพ์เอาไว้ปูนั่งดูหนัง ฟ้งจึงมีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น

เมื่ออายุสิบสอง ฟ้งต้องเข้าไปช่วยพ่อทำไร่ คอยคุมคนงานตัดอ้อย ฟ้งมีน้ำใจให้คนงานเสมอ เขามักจะแอบเอากับข้าวของแห้งในครัวไปแบ่งปันให้คนงานอยู่บ่อย ๆ บางคราวฟ้งก็ต้องขับรถไถเอง แต่ความที่ขับรถไม่เก่งนัก ทำให้วันหนึ่งฟ้งขับรถไถไปครูดกับรถขนอ้อย พ่อโกรธมากใช้กระบอกไฟฉายอันใหญ่ขว้างใส่ฟ้ง กระบอกไฟฉายพุ่งเข้าใส่ขาของฟ้งเต็มแรง ฟ้งทั้งเจ็บปวด และคับแค้นใจ ทำไมพ่อต้องอารมณ์ร้ายขนาดนี้ ถ้ากระบอกไฟฉายมันพุ่งโดนหัวของเขา อะไรจะเกิดขึ้น

นอกจากพ่อจะอารมณ์ร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อยังเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า พี่เลี้ยงและสาวใช้ในบ้านคนแล้วคนเล่าต่างก็ตกเป็นเมียของพ่อ พ่อทะเลาะกับแม่ไว้เว้นแต่ละวัน และพ่อก็มักจะระบายอารมณ์ด้วยการเฆี่ยนตีฟ้งแทน แต่ฟ้งก็ไม่เคยปริปากบ่น อะไรที่ทำให้พ่อแม่สบายใจ ทำให้น้อง ๆ มีความสุข ฟ้งจะรีบกุลีกุจอทำให้ แม้งานจะหนัก จะหิว จะเหนื่อยแสนเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม

เมื่อเรียนจบมัธยมต้น ฟ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็น อาทิตย์ เพื่อเตรียมสอบเข้าเตรียมทหาร แต่พอเห็นไถ่ลูกชายป้าเฮียง กลับจากไต้หวันมาเยี่ยมบ้าน ชุดเครื่องแบบนักเรียนของไถ่ดูโก้ สร้างแรงบันดาลใจให้อาทิตย์ไม่น้อย และพ่อเองก็มีความคิดจะให้ลูกชายคนโตมีความรู้มาช่วยกิจการ พ่อจึงตัดสินใจส่งอาทิตย์ไปเรียนที่ไต้หวันบ้าง นั่นจึงเป็นจุดหักเหของชีวิตที่ฟ้งยินดียิ่ง เพราะได้ออกไปจากสภาพซ้ำซากจำเจที่ทำร้ายจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไปสู่การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่ ไต้หวัน

ที่นั่น อาทิตย์ต้องเรียนภาษาจีน ปรับตัวกับการอยู่คนเดียว ต้องต่อสู้ อดทน และที่นั่น เขายังได้พบกับ..เคลลี่ เขาพบเธอครั้งแรกที่โต๊ะปิงปอง เคลลี่สวยน่ารัก ไม่ถือตัว มีน้ำใจไมตรี และคอยช่วยเหลือคนต่างถิ่นอย่างอาทิตย์ เคลลี่พาอาทิตย์ไปเที่ยวตลาด ไปเที่ยววัดในวันตรุษจีน ชวนกันขี่จักรยานชมธรรมชาติ ความประทับใจจึงเกิดขึ้น และกลายเป็นความรักทีละเล็กละน้อย เคลลี่เป็นรักแรก และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อาทิตย์ตั้งปณิธานว่าจะแต่งงานด้วย

อาทิตย์ สอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เขาเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ กำยำ มีเสน่ห์ไม่น้อย อาทิตย์เล่นกีฬาเก่ง เขาได้เป็นนักกีฬาเหรียญทอง และก็มีเคลลี่อยู่ชิดใกล้ แต่อาทิตย์กลับยังมีความเป็นห่วง คิดถึงแม่ และน้อง ๆ เพราะน้อง ๆ เขียนจดหมายมาเล่าว่า ที่บ้านของเขานั้นยังคงขาดความอบอุ่นอยู่เช่นเดิม พ่ออารมณ์ร้ายมากขึ้น ใช้งานและลงโทษน้อง ๆ อย่างหนัก  แม่ก็ยังบ่นด่าทะเลาะกับพ่อเป็นประจำ

เมื่อจากบ้านไป 3 ปี อาทิตย์จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน และได้พบกับเหตุการณ์เดิม ๆ พ่อทะเลาะกับแม่เรื่องผู้หญิงอื่น อาทิตย์ทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง และเมื่อพ่อเริ่มใช้กำลังทำร้ายเขา อาทิตย์ก็จำต้องตอบโต้ด้วยการชกพ่อเป็นครั้งแรก แต่แล้วเขาเองกลับพลาดท่า กลายเป็นกระสอบทรายให้พ่อถลุง สายใยพ่อลูกจึงขาดผึง เขาจึงจำใจลาพ่อด้วยน้ำตา และตั้งใจว่าจะไม่กลับมาบ้านนี้อีก และนับจากนี้ พ่อจะไม่มีอิทธิพลต่อชีวิตเขาอีกต่อไป เขาต้องกลับไปเรียนต่อและต้องพึ่งตนเอง

แม่เอาเครื่องประดับมาให้อาทิตย์ไปขายเพื่อเป็นค่ากินอยู่และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิตย์จึงเกิดความคิดที่จะทำธุรกิจเล็ก ๆ ขึ้น เขาร่วมหุ้นกับจิตรกร เพื่อนคนไทยที่เรียนด้วยกัน ช่วยกันกว้านซื้อเครื่องประดับสวย ๆ จากโรงรับจำนำ แล้วเอาไปขายที่ไต้หวัน กิจการของเขาไปได้สวย มีกำไรงาม

อาทิตย์กลับเมืองไทยอีกหลายครั้งในช่วงปิดเทอม เขาติดต่อร้านค้าหลายแห่ง เพื่อสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวันมาขายในเมืองไทย แม้จะเหน็ดเหนื่อยที่ต้องขึ้นรถเมล์ เดินท่อม ๆ ทั้งวัน แต่อาทิตย์ก็ไม่ย่อท้อ เพราะเขาตั้งใจจะหาเงินเป็นทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่แคนาดา

อาทิตย์นำจักรยานเก่า ๆ ที่รุ่นพี่ที่เรียนจบทิ้งไว้มาซ่อมแซม แล้วขายให้แก่นักศึกษาใหม่ เขาเก็บเงินได้จนซื้อมอเตอร์ไซค์ได้คันหนึ่ง แต่ก็โดนโกง เมื่อนายเฉินเหลยเจ้าของห้องเช่าขอยืมเงิน โดยหลอกให้อาทิตย์นำรถไปจำนำ สุดท้ายเจ้าของบ้านก็หายตัวไป มาสืบรู้ภายหลังว่าเป็นนักพนันตัวยง แถมยังไม่ใช่เจ้าของบ้านที่แท้จริงอีกด้วย อาทิตย์เจ็บใจเป็นที่สุด เสียเงินไม่เท่าเสียรู้คน

เมื่อเรียนจบ พ่อก็เรียกให้เขาไปเป็นผู้จัดการโรงงานอาหารสัตว์ที่พ่อเปิดใหม่ ด้วยความรัก ความห่วงใยแม่ เขาจึงตัดสินใจกลับเข้าบ้านและทำงานให้พ่อ แต่แล้วความขัดแย้งก็เกิดขึ้นอีก คราวนี้ เขาตัดใจทิ้งโรงงานของพ่อ และเดินจากมาอีกครั้ง พ่อโกรธมากและประกาศตัดเป็นตัดตาย และในที่สุดโรงงานของพ่อก็ประสบภาวะขาดทุน ก่อหนี้สินรุงรัง และก่อไฟแค้นที่ไม่มีวันดับ ในใจของพ่อ

อาทิตย์ มุ่งหน้าไปสู้ชีวิตด้วยตนเองที่กรุงเทพฯ เขาทำธุรกิจส่งออกแต่ก็เป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่เขาก็สู้ไม่ถอย บางวัน..ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว บางวัน..ยังต้องเชิดหน้าทระนงแม้ไม่มีใครให้กู้เงิน แต่บางวันก็ตื้นตันใจยิ่งเมื่อเปิดจดหมายของเคลลี่ที่ส่งมาจากไต้หวันและพบ ว่ามีเงินดอลล่าสอดอยู่ และวัน..ที่มีความสุขที่สุด คือวันที่เคลลี่ตกลงใจแต่งงานด้วย และย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย

เขามีใจมุ่งมั่นที่จะสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น เขาจึงทำงานหนัก ธุรกิจดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้เป็นตัวแทนขายซอสมะเขือเทศ ส่งปลาทูน่ากระป๋องไปขายยังสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันกิจการส่งออกแป้งมันก็เจริญก้าวหน้า ทำให้บริษัทมีเงินหมุนเวียนเป็นกอบเป็นกำ

แต่แล้ว ความเป็นไปในครอบครัวที่เมืองกาญจน์กลับถึงขีดวิกฤต พ่อยักย้ายเงินกงสีซึ่งเป็นเงินของครอบครัวไปใช้จ่ายส่วนตัว แม่จึงต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้ พ่อหาว่าแม่ยักยอกเงินไว้จึงทะเลาะกันใหญ่โต ที่ร้ายที่สุดก็คือพ่อพาเจ๊แอ๊ด เมียใหม่สาวสวย ฐานะดี เข้ามายกย่องในบ้าน

เหตุการณ์ในบ้านเริ่มเลวร้ายมากขึ้น เมื่อเจ๊แอ๊ดแสดงอำนาจบาตรใหญ่ แสดงกิริยาไม่ดีต่อแม่ วิฑิตน้องชายคนที่สามอึดอัดใจเป็นที่สุด เขาทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง แต่ก็พลาดท่าเมื่อพ่อเอาปืนยิงหัว อาทิตย์รู้ข่าวน้องรักถูกพ่อยิง เขาเจ็บแค้นมาก ขับรถห้อตะบึงไปเมืองกาญจน์ด้วยไฟลุกโชน เขาไม่เข้าใจว่าพ่อยิงลูกในไส้ของตนได้อย่างไร พ่อทำร้ายลูก ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก และรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนครั้งนี้ถึงกับเอาชีวิต ดังนั้นหนทางเดียวที่จะยุติเรื่องราวเลวร้ายทั้งปวง คือพ่อต้องยุติชีวิตลงด้วยเช่นกัน

แต่ระหว่างทาง ภาพชีวิตทุกภาพได้ย้อนกลับมา ภาพความรัก และ ความผูกพันภายในครอบครัว อาทิตย์สับสนใจยิ่ง และแล้วคำว่า ผู้ให้กำเนิดก็แล่นเข้ามาจับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และเข้ามาหยุดอารมณ์อันพลุ่งพล่านของเขาได้ทันท่วงที หยุด..ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายอย่างมิอาจแก้ไข

อาทิตย์ใจสงบลง และตั้งสัจจะกับตัวเองว่า ต่อไปนี้เขาจะไม่มีวันทิ้งน้อง ๆ และแม่ เขาจะสร้างบ้านใหม่ บ้านที่ทุกคนจะได้มาอยู่รวมกัน สร้างความรัก ความสุข สร้างครอบครัวอย่างที่ทุกคนเฝ้าฝัน และ เขาจะเป็นผู้สานฝัน โอบอุ้ม ดูแล ให้ความรักแก่ทุกคนด้วยตัวเอง แม้วันนี้จะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่อาทิตย์เชื่อว่า ความมุ่งมั่น ความอดทน ความไม่ย่อท้อจะทำให้เขาสร้างอาณาจักรอมตะในฝันของเขาได้สำเร็จ

โชคดีที่ปาฏิหาริย์ก็มีจริง วิทิตรอดชีวิตแต่กลายเป็นคนที่มีร่างกายที่ไม่สมบรูณ์ดังเดิม แม่ยอมหย่ากับพ่อ และพาน้อง ๆ เข้ามาอยู่รวมกันในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ของอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ แต่ชีวิตก็ไม่ได้เป็นดั่งฝัน เขาเริ่มระหองระแหงกับเคลลี่ จนเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่อาจคลี่คลาย และจบลงด้วยการหย่าร้าง อาทิตย์ปวดร้าวและอ้างว้าง ภาพรักอันงดงามปลิวหายไปกับสายลม ไกลเกินกว่าจะไขว่คว้า ต่อจากนี้ไปเขาต้องยืนหยัดต่อสู้เพียงลำพัง

อาทิตย์ จึงมุทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลืมรักร้าว แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ นรี นักธุรกิจสาว เธอสวย ฉลาด ทำงานเก่ง ให้คำแนะนำเรื่องธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งสองจึงกลายเป็นคนใกล้ชิดที่เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ความสัมพันธก็ไม่ได้ยั่งยืน อาทิตย์เจ็บปวดอีกครั้ง แต่เขาก็ได้พบ แมว สาวสวยนัยน์ตาคมขำ เธอช่างเอาอกเอาใจ มองโลกในแง่ดี แต่อาทิตย์ไม่ก็กล้ารักใครอีก

อาทิตย์ประสบความสำเร็จในธุรกิจ มีความมั่นคงในชีวิต แต่นี่มิใช่ความภาคภูมิใจที่เขาปรารถนา ครอบครัวที่อบอุ่นต่างหากที่เขาเฝ้าฝันมาตลอดทั้งชีวิต เขารับน้อง ๆ คนละแม่ที่พ่อทิ้งขว้างมาดูแล เขาแบ่งงานให้ทุกคนทำตามความถนัด จัดสรรรายได้อย่างยุติธรรม รวมถึงวางแผนอนาคตที่มั่นคงให้น้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคน อาทิตย์เติมสิ่งที่ขาดให้กับทุกคน แต่ทำไม..ในหัวใจของเขาเองกลับยังอ้างว้างนัก..

แต่แล้วเคลลี่ก็กลับมาเยี่ยมเขาในวันหนึ่ง เธอตั้งใจมาขอบคุณที่แม้แยกทางกันไปแต่อาทิตย์ยังช่วยดูแลพ่อและแม่ของเธอ เป็นอย่างดี และก็เธอตกใจที่เห็นภาพรักหวานในอดีตยังคงติดอยู่ที่เดิม ทำให้เธอรู้ว่า แท้จริงแล้ว เขายังคงคิดถึงเธออยู่ทุกลมหายใจ เคลลี่เข้าใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และแม้เส้นทางรักอาจไม่หวนคืน แต่เธอและเขาต่างก็เข้าใจกัน

วันที่แม่ป่วยและจากไป เป็นวันที่อาทิตย์เศร้าโศกเสียใจเป็นที่สุด เขาย้อนนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตและครอบครัวของเขา ยังคงเหลือปมระหว่างเขาและพ่อที่ยังไม่คลี่คลาย อาทิตย์รู้ดีว่าพ่อยังคงใช้อารมณ์ และใช้ชีวิตแบบเดิม และเขาก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรพ่อไม่ได้ อาทิตย์จึงตัดสินใจบวชเพื่อทดแทนพระคุณแม่ ผู้เป็นที่รักยิ่ง และตั้งจิตอโหสิกรรมทุกอย่างที่พ่อเคยทำ ถึงอย่างไร พ่อก็คือผู้มีพระคุณในชีวิตของลูก

เส้นทางชีวิตของอาทิตย์จะเป็นอย่างไรต่อไป..เขาไม่อาจรู้ แต่เขารู้ว่า เขาจะไม่ย่อท้อ เขาจะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง…. ไฟแห่งความดีงามในใจของเขาจะไม่มอดไหม้ และจะเป็น ไฟอมตะ เช่นนี้ตลอดไป โปรดติดตามชม ละครไฟอมตะ

ไฟสีเงิน

มุกมณี สาวสวยเจ้าของไร่ดอกไม้แถบชานเมือง มีรายได้จากการตัดดอกไม้ขาย มุกมณีมีน้องสาวหนึ่งคน ชื่อ กอบกุล มุกมณีและน้องมักจะมีเรื่องทะเลาะกับแม่เลี้ยงเสมอ เพราะธนาลูก ติดของแม่เลี้ยงมักจะหาโอกาสลวนลามมุกมณีและน้องสาวอยู่บ่อยๆ จนวันหนึ่งกอบกุลทนไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านไป เพราะพ่อเข้าข้างธนากับแม่เลี้ยง มุกมณีเองก็เสียใจเช่นเดียวกัน จึงย้ายไปอยู่เรือนหลังเล็กท้ายไร่เพียงลำพัง และในคืนนั้น มุกมณีก็ได้ช่วยเหลือชายหนุ่มปริศนาคนหนึ่งเอาไว้ หลังจากที่เห็นเขาถูกนำมาทิ้งไว้ที่ธารน้ำท้ายไร่ ในสภาพที่บาดเจ็บ และเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา เขาก็จำอะไรไม่ได้ แม้แต่ตัวเอง มุกมณีจึงเรียกเขาว่า นายวี เพราะในตัวเขามีเพียงไปแช็กเพียงอันเดียว และที่ไฟแช็กนั้นมีตราของ “โรงแรมวีวิช” ติดอยู่
มุกมณี แนะนำให้นายวีแจ้งตำรวจว่าถูกคนทำร้าย และเผื่อว่าเขาจะได้รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่นายวีกลับรู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่ควรแจ้งตำรวจโดยเด็กขาด เขาจะต้องพยายามรื้อฟื้นความทรงจำและต้องรู้ให้ได้ว่าใครที่เป็นคนต้องการ ฆ่าเขา มุกมณีจึงให้นายวีทำงานอยู่ที่ไร่ดอกไม้ของคนไปก่อน โดยให้นายวี พักอยู่ที่เรือนหลังเล็กด้วย ธนาเห็นว่ามุกมณีอยู่กับผู้ชายจึงเอาเรื่องไปบอกพ่อ ทำให้พ่อไม่พอใจมาก สั่งให้ไล่นายวีออกไปจากไร่ แต่มุกมณีไม่ยอม จึงทำให้มุกมณีกับพ่อยิ่งไม่เข้าใจกันมากขึ้น

วันหนึ่ง กอบกุลติดต่อกลับมาบอกว่า จะไปเป็นเมียเก็บของเศรษฐีคนหนึ่ง ไม่ว่ามุกมณีจะห้ามหรือข้อร้องยังไงก็ไม่ฟัง ทำให้มุกมณีกลุ้มใจมาก จึงปรึกษานายวี แต่เขากลับบอกว่าให้มุกมณีทำใจยอมรับ เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะจิตใต้สำนึกบอกเขาว่า “ผู้หญิงทุกคนซื้อได้ด้วยเงิน!!!” พอถึงวันทที่กอบกุลต้องถูกส่งตัวไปพบ “ท่าน” แต่บังเอิญวันนั้น “ท่าน” ติดธุระด่วนมาไม่ได้ จึงให้คนมาบอกว่าให้กลับไปก่อน และในวันนั้น กอบกุลก็ได้พบกับ พิริยะ น้อง ชายของท่าน ซึ่งมาที่โรงแรมพอดี เมื่อ พิริยะเห็นกอบกุลนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวประจำ ทำให้เขารู้ทันทีว่ากอบกุลมาทำอะไร จึงเข้ามาคุยด้วย และพากลับไปส่งบ้าน การที่กอบกุลได้พบกับพิริยะ ทำให้หล่อนตัดสินใจได้ว่าจะไม่ไปเป็นเมียเก็บเศรษฐี ซึ่งเมื่อมุกมณีรู้เรื่องก็ดีใจมากที่น้องสาวจะไม่เดินทางผิดต่อไป

มุกมณีมีภาระต้องรับผิดชอบมากมาย ต้องดูแลไร่ดอกไม้ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เพราะพ่อไม่สนใจไร่ดอกไม้
และ เริ่มติดการพนันตามแม่เลี้ยง จนวันหนึ่งถึงกับเอาไร่ไปจำนองในบ่อน และเมื่อถึงกำหนดใช้หนี้ก็ไม่มีเงินให้ทำให้เจ้าหนี้ส่งคนมาทำร้าย มุกมณีทุกข์ใจมาก เพราะไม่อยากเสียไร่ดอกไม้ไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินเป็นจำนวนมากได้จากที่ไหน มุกมณีตัดสินใจไปที่บ่อนเพื่อพบกับเจ้าหนี้ตามลำพัง พวกคนคุมบ่อนเห็นมุกมณีก็คิดจะลวนลาม แต่ สินธุ เจ้าของบ่อนมาพบเสียก่อน เขาถูกใจในตัวมุกมณีมาก จึงเสนอให้ มุกมณียอมแต่งกับเขา และจะยกหนี้สินทั้งหมดให้

เมื่อนาย วีรู้เรื่อง เขาก็กลุ้มใจมาก ไม่รู้จะช่วยมุกมณีอย่างไร เขารู้สึกว่าเงิน 2 ล้านบาทมันน้อยนิดมากสำหรับเขา มุกมณีตัดสินใจที่จะยอมเสียไร่ดอกไม้ไปดีกว่าที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ตนไม่ ได้รัก จึงยิ่งทำให้สุนธุพอใจในตัวมุกมณีมากขึ้น และต้องการให้มุกมณีมาเป็นของคนให้ได้ เขาสงสัยว่า ทำไมมุกมณีจึงไม่ยอมตกลงกับเขา จึงจ้างคนไปสืบว่ามุกมณีมีคนรักหรือยัง ทำให้ได้รู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกับมุกมณีมาก อยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ชายคนนี้ความจำเสื่อม และเมื่อสินธุได้ดูรูปถ่ายที่นักสืบถ่ายมาให้ดูก็ต้องตกใจ เพราะชายคนนั้นคือ วิชช์ เพื่อนของเขา ซึ่งเขาเป็นคนสั่งฆ่าเอง เมื่อเขารู้ว่า วิชชความจำเสื่อม เขาจึงส่งคนกลับไปจัดการกับวิชช์อีกครั้งหนึ่ง

วิชช์ถูก ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส มุกมณีจึงตัดสินใจตามหาญาติพี่น้องของวิชช์ โดยมีไฟแช็กเพียงอันเดียวที่เป็นเบาะแส มุกมณีไปที่โรงแรมวีวิช จึงได้พบกับนุวัตร น้องชายของวิชช์ ทำให้มุกมณีได้รู้ว่า นายวีก็คือวิชช์ มหาเศรษฐี เจ้าของโรงแรมวีวิชและธุรกิจอีกมากมาย มุกมณีได้พบกับคนที่เกี่ยวข้องกับวิชช์มากมาย ทั้ง นุวัตร และพิมพา น้องของวิชช์ อวยชัย น้าชายของวิชช์ ธิดา ลูก สาวของนายอวยชัย และเป็นคู่หมั้นของวิชช์ ราตรี เมียในบ้านของวิชช์ มุกมณีสับสนมาก กลัวว่าถ้าวิชช์ฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาจะลืมหล่อนและลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านไร่ แต่เมื่อวิชช์ฟื้นขึ้นมา เขาก็จำใครไม่ได้นอกจากมุกมณี วิชช์ไม่ยอมกลับบ้านถ้าไม่มีมุกมณีไปด้วย นุวัตรและพิมพา จึงขอร้องให้มุกมณีไปอยู่ที่บ้านของวิชช์

จนกว่าวิชช์จะหายดีและฟื้ความทรงจำได้ สินธุ ทำเป็นมาเยี่ยมวิชช์ที่บ้านเพื่อดูท่าทีของวิชช์ ทำให้รู้ว่ามุกมณีมาอยู่ที่บ้านของวิชช์ เขายังต้องการให้มุกมณีแต่งงานด้วย แต่มุกมณีก็ปฏิเสธ วิชช์ประกาศจะเป็นคนใช้หนี้ทั้งหมดให้ และจะแต่งงานกับมุกมณี สินธุโกรธแค้นมาก เพราะยอกจากวิชช์จะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของเขาแล้ว ก็ยังเป็นคู่แข่งเรื่องความรักของเขาอีกด้วย เขาจึงคิดจะกำจัดวิชช์ให้ได้ธิดา ไม่พอใจมากที่วิชช์ประกาศว่ารักและจะแต่งงานกับมุกมณี จึงขอร้องให้อวยชัยผู้เป็นพ่อช่วยพูดกับวิชช์ให้ ธิดาเชื่อว่าถ้าความทรงจำวิชช์กลับคืนมา วิชช์จะต้องแต่งงานกันตนแน่นอน แต่อวยชัยกลับกลัวว่า ถ้าวิชช์ฟื้นความทรงจำขึ้นมา เขาต้องแย่แน่ เพราะเขาสมรู้ร่วมคิดกับสินธุ และยังโกงเงินบริษัทมาตั้งมากมายในช่วงที่วิชช์หายตัวไป วิชช์จัดการเคลียร์ตัวเอง

โดยให้เงินแก่ราตรีและแม่ของราตรีจำนวนหนึ่ง และให้ทั้งสองออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ราตรีไม่ยอมออกจากบ้าน เพราะเชื่อว่าถ้าวิชช์จำทุกอย่าง จะต้องไม่ให้เธอออกจากบ้านแน่นอน แต่วิชช์กลับบอกว่า เขาแน่ใจที่จะทำอย่างนี้ เพราะเขาจำทุกอย่างได้ได้ตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นขึ้นมา มุกมณีบังเอิญมาได้ยินพอดี จึงเสียใจมากที่ถูกหลอก แต่วิชช์ก็อธิบายว่า ที่เขาต้องทำเช่นนี้ เพราะต้องการกระชากหน้ากากคนทรยศให้ได้ เขาตั้งใจจะจัดการกับอวยชัยให้สาสม แต่มุกมณีขอร้องเอาไว้ว่าอย่าทำอะไรรุนแรง วิชช์จึงไล่อวยชัยและธิดาออกจากบ้านไป

สินธุ ตัดสินใจจะจัดการกับวิชช์ด้วยตัวเอง จึงมาดักยิงวิชช์ แต่มุกมณีก็เข้ามาขัดขวางไว้ และก่อนที่จะหมดสติไป มุกมณีก็บอกสินธุว่า ต่อให้วิชช์ตายไป หล่อนก็ไม่มีวันที่จะรักสินธุได้ และขอร้องสินธุว่าอย่าทำร้ายวิชช์อีกเลย สินธุตัดสินใจทำตามคำขอร้องของมุกมณีไม่มาเกี่ยวข้องกับวิชช์อีก ส่วนวิชช์เองก็ให้อภัยกับสินธุในทุกๆเรื่องที่ผ่านมา

วิชช์ ตัดสินใจปิดบ่อนที่ทำอยู่ และเลิกธุรกิจที่ผิดกฎหมายทุกอย่าง และโอนธุรกิจที่เหลือทั้งหมดให้กับนุวัตรและพิมพา เป็นผู้ดูแล ส่วนตัวเองก็ไปซื้อที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ติดกับไร่ดอกไม้ของมุกมณี แล้วขยายไร่ดอกไม้ออกไป และใช้ชีวิตเป็นชาวไร่ร่วมกับมุกมณีอย่างมีความสุข

รายชื่อนักแสดง ไฟสีเงิน
ชาคริต แย้มนาม แสดงเป็น วิชช์-วี
บุษกร พรวรรณะศิริเวช แสดงเป็น มุกมณี
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ แสดงเป็น สินธุ
รัฏฐริณีย์ กรรณสูต แสดงเป็น กอบกุล
อดิศร อรรถกฤษณ์ แสดงเป็น พิริยะ
สิริพรรณ หลิมวิจิตร แสดงเป็น พิมพา
เสาวนีย์ พันธุ์ศิริ แสดงเป็น ราตรี
ปณิตา พัฒนาหิรัญ แสดงเป็น ธิดา
วิภาวี เจริญปุระ แสดงเป็น บุหงา
พิศมัย วิไลศักดิ์ แสดงเป็น นงนุช
ปกาศิต โบสุวรรณ แสดงเป็น อวยชัย
อาชัญ ชัยสุวรรณ แสดงเป็น นุวัตร
ชรัส เฟื่องอารมย์ แสดงเป็น อุทัย
นวนันท์ อโณมา แสดงเป็น อัญชลี
ปฏิพล ไพศาล แสดงเป็น ธนา
สีเทา เพ็ชรเจริญ แสดงเป็น ตาสา
นวรัตน์ กิติยากร ณ อยุธยา แสดงเป็น สุภาณี
การุณ สุขสองห้อง แสดงเป็น บุญถึง

เพลงผีบอก

เพลงผีบอก เป็นเรื่องราวของแทน นักดนตรีหนุ่มที่ใฝ่ฝันอยากทำงานที่เขารักให้เป็นจริง เขาพยายามอดทนและไขว่คว้า แต่โอกาสก็มาไม่ถึงและชีวิตเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาทำสัญญาแลกวิญญาณช่วยผีให้กลับคืนมามีอำนาจ เขาจึงสมหวังทั้งหน้าที่การงานและความรัก แต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกผีร้ายเล่นงานจนแทบเอาตัวไม่รอด ภัสสร หญิงสาวสดใสไร้เดียงสาฐานะเพียบพร้อม เห็นคุณค่าความรักเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ใจคอเด็ดเดี่ยว มั่นคง แต่แล้วชีวิตก็ต้องมาปรับเปลี่ยนไปเมื่อเธอเลือกที่จะคบกับแทน นักแต่งเพลงจนตรอก อันเป็นเหตุให้เธอต้องมาเกี่ยวข้องกับวิญญาณปีศาจร้าย

เรื่องราวเริ่มที่กลางดึกคืนฝนตกหนัก เริงฤทธิ์ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง)นักแต่งเพลงผู้มากด้วยความสามารถและมีอนาคตไกล ต้องจบชีวิตลงด้วยฝีมือของ ดนัย (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) มนัส(ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) และรณ (บดินทร์ ดุ๊ก)เพื่อนกลุ่มนักดนตรีที่ปลิดชีวิตเขาเพราะปัญหาการขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ พวกเขานำร่างของเริงฤทธิ์ฝ่าสายฝนไปขุดหลุมฝังไว้ที่หน้าศาลพระภูมิใต้ต้นไทรใหญ่ ทั้งสามปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ โดยเฉพาะกับ นาตยา (ธัญญา โสภณ) คนรักของเริงฤทธิ์ซึ่งดนัยแอบหลงรักเธออยู่ ดนัยพยายามเข้ามาแทนที่เริงฤทธิ์ด้วยการปลอบใจและอยู่เคียงข้างให้กำลังใจนาตยตลอด จนในที่สุดเธอก็ใจอ่อนยอมร่วมชีวิตกับเขา ด้วยความอาฆาตพยาบาทและความห่วงใยในตัวนาตยา ถึงแม้ว่าจะตายไปแล้ว แต่วิญญาณเริงฤทธิ์ก็ยังคงวนเวียนสิงสู่อยู่ ณ บ้านของเขา รอวันที่จะมีใครสักคนมาปลดปล่อยวิญญาณเพื่อกลับมาแก้แค้นอีกครั้ง

12 ปีผ่านไป บ้านของเริงฤทธิ์ให้รกร้างพร้อมๆกับข่าวลือถึงความน่าสะพรึงกลัวของวิญญาณที่สิงอยู่ในบ้านจนไม่มีใครกล้าแม้แต่เข้าใกล้บ้านหลังนี้ แต่แล้ววันหนึ่งวิญญาณของเริงฤทธิ์ก็ได้ต้อนรับผู้ที่เขารอคอยมานานแสนนาน เมื่อ แทนหรือ ธนาธร(ชาคริต แย้มนาม)หนุ่มตกงานผู้มีความมุ่งมั่น ใฝ่ฝันว่าจะเป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียง ถูกซ้อมปางตายเหตุเพราะเขาพา ภัสสร (ชลิตา เฟื่องอารมย์)คนรักของเขาหนีพิธีหมั้นที่ ทยุต (วิศิษฐ์ ยุตติยงค์)พ่อของภัสสรบังคับให้หมั้นกับ เจตต์ (ธิตินันท์ ชุ่มภาณี) ลูกชายมหาเศรษฐี แทนพาร่างอันบอบช้ำมาสลบหมดสติที่หน้าบ้านของเริงฤทธิ์ และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเลือดของแทนค่อยๆไหลหยดลงบนพื้นดิน ซึ่งเป็นที่ฝังศพของเริงฤทธิ์ ทำให้วิญญาณของเริงฤทธิ์ได้รับการปลดปล่อย เริงฤทธิ์ต้องการให้แทนช่วยชุบชีวิตของเขาขึ้นมา โดยใช้เลือดของแทนหยดลงบนโครงกระดูกของตน โดยแลกเปลี่ยนกับความมีชื่อเสียงเงินทองและความรุ่งโรจน์ในชีวิต เพื่อโอกาสที่จะได้แต่งงานกับคนรัก แทนจึงตกลงรับปากช่วยเหลือเริงฤทธิ์ แทนขุดหาโครงกระดูกของเริงฤทธิ์ แล้วนำเลือดล้างบนกระดูกของเริงฤทธิ์ทำให้วิญญาณของเริงฤทธิ์กลับไปชำระความแค้นขอตัวเอง เริงฤทธิ์ตอบแทนให้แทนด้วยการแต่งเพลงให้เพลงผีบอกเพลงนี้ทำให้แทนมีโอกาสเข้ามาทำงานเป็นนักแต่งเพลงในบริษัทของดนัย ซึ่งรณพยายามคัดค้านไม่ให้ดนัยรับแทน ปีศาจเริงฤทธิ์จึงจัดการกำจัดรณทิ้งดนัยให้แทนทำหน้าที่แต่งเพลงให้กับ ปรัตถ์ (รัฐพลจุลเปมะ) หลานชายดนัย ซึ่งกำลังจะถูกปั้นเป็นนักร้อง เมื่อปรัตถ์เจอกับภัสสร ด้วยนิสัยจอมเจ้าชู้ ปรัตถ์ทำทุกอย่างเพื่อให้ภัสสรสนใจ แต่ที่สุดปรัตถ์ก็ต้องเจอกับอาถรรพ์ของเริงฤทธิ์ ปรัตถ์ตายขณะกำลังอัดเสียงฝ่ายแทนเริ่มมีชื่อเสียง สังคมยอมรับเขา และในที่สุดเขาก็ได้แต่งงานกับภัสสรตามที่หวังไว้ ข้างฝ่ายดนัยเมื่อเห็นคนรอบข้างต้องจบชีวิตลง เขาเริ่มกลัวและเริ่มรู้ว่าปีศาจเริงฤทธิ์เป็นต้นเหตุของการตายเหล่านี้ ในขณะเดียวกันด้วยเลือดของแทนทำให้เริงฤทธิ์มีอำนาจขึ้นเรื่อยๆ เขาออกตามล่าผู้ที่ทรยศและขัดขวางเขาเป็นรายๆไป แต่ละคนที่ตายล้วนแต่ต้องพบกับชะตากรรมที่น่ากลัว รวมทั้งมนัสด้วย ดนัยจ้างหมอผีกำจัดวิญญาณเริงฤทธิ์ แต่หมอผีทำอะไรปีศาจเริงฤทธิ์ไม่ได้ ทั้งหมอผีและดนัยจบชีวิตลง วิญญาณของเริงฤทธิ์ปรากฏตัวให้นาตยาเห็นและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เริงฤทธิ์ต้องการกลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้งเพื่อให้ได้อยู่ร่วมกันกับนาตยา ในขณะเดียวกันภัสสรกำลังจะมีลูกน่ารักให้แทน หนทางที่จะทำให้เริงฤทธิ์ฟื้นขึ้นมาได้ก็คือต้องการตัวแทนของมนุษย์ที่เพิ่งเกิดใหม่ ซึ่งผู้ที่เหมาะสมที่สุดก็คือลูกชายของแทนนั่นเอง แทนกับภัสสรจะทำยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจะรอดพ้นวิญญาณที่ฝังลึกด้วยความแค้นของเริงฤทธิ์ได้หรือไม่