Category Archives: ละครปี 2547

ยอดรักร้อยล้าน

แดหวา สาวสวยอาชีพเซลล์ขายรถ ที่ใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะมีชายในฝันมาพาเธอออกไปจากชีวิตที่ยากจนนี้เสียที และวันหนึ่งม่านมายาสาวสวยข้างห้องแดหวา ก็ย้ายเข้ามาพร้อมกับลูกน้อยวัยขวบเดียวของเธอ ม่านมายายังเลี้ยงลูกไม่เป็นจนร้องลั่นไปทั้งคอนโด แดหวาทนรำคาญไม่ได้จึงเข้าช่วยเหลือ ม่านมายารับไมตรีนั้นพร้อมกับเล่าทั้งน้ำตาว่าเธอหนีจากสามีที่ชอบทุบตีเธอ และชอบทำร้ายลูก แดหวาได้ฟังก็เลยเกลียดชังสามีของม่านมายามาก ผู้ชายที่ม่านมายาพูดถึงก็คือ ตราสิน เศรษฐีหนุ่มเจ้าของคอกม้าขนาดใหญ่ที่เพิ่งถูกคนงานบ้าคลั่งลอบยิงจนอาการสาหัส บดีผู้เป็นหมอและเพื่อนรักของตราสิน ได้บอกตราสินว่ายังมีกระสุนค้างอยู่หนึ่งนัดแพทย์ยังไม่อยากแตะต้อง เพราะการผ่าตัดบริเวณนั้นเสี่ยงต่อชีวิตมาก ถ้าไม่รู้สึกเจ็บปวดก็สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้ และทันทีที่ออกจากโรงพยาบาลตราสินก็รีบไปที่สำนักงานนักสืบมโนรมย์ แต่ก็ยังไม่มีข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับตรีเพชร กับ พลอยชมพู เมียและลูกของเขาเลย แดหวารับเลี้ยงลูกของม่านมายา เพราะเธออ้างว่าจะออกไปหางาน
 

เวลาผ่านไปแต่ม่านมายาไม่กลับมา แดหวาจึงจำใจต้องหอบเด็กไปทำงานด้วย จนสร้างความวุ่นวายไปทั้งโชว์รูม เธอโกรธม่านมายามากแดหวาไปแจ้งความตำรวจก็ไม่รับแจ้ง กลับให้เธอเลี้ยงเด็กไว้จนกว่าแม่จะกลับมา เวลาผ่านไปหลายเดือนเซลล์สาว ไม่สามารถขายรถได้แม้แต่คันเดียว จนถูกยื่นใบคำเตือนว่าให้เลือกระหว่างเด็กกับงาน แดหวาตั้งชื่อเด็กว่า ตาหวาน และคิดจะนำไปให้สถานสงเคราะห์ แต่สภาพน่าเวทนาจนแดหวาทิ้งตาหวนไว้ที่นั่นไม่ลง แดหวาท้าทายโชคชะตาเข้าไปเจรจากับผู้จัดการขอลดเงินเดือนลงครึ่งนึงเพื่อไม่ให้ต้องตกงาน และตกลงกับตาหวานว่าต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่และต้องรับผิดชอบ มิฉะนั้นจะถูกทิ้งไว้ข้างถนน
 

สี่ปีผ่านไป แดหวาหาลำไพ่พิเศษด้วยการขับรถแท็กซี่ ยอมแต่งตัวเก่า ๆ และกินอยู่อย่างประหยัดจากที่เคยฟุ้งเฟ้อ แดหวาถูกย้ายไปอยู่แผนกรับรถพร้อมกับตาหวานที่เติบโตขึ้นและรับรู้ว่าแดหวาคือแม่และทั้งคู่ก็สามารถรับรู้ความรักที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กันได้โดยไม่ต้องพูด ส่วนตราสินก็ตรากตรำทำงานจนทรัพย์สินเพิ่มขึ้นนับร้อยล้าน เพื่อให้ลืมความเสียใจที่เสียลูกไป แต่กระสุนที่ฝังอยู่ในตัวเขากลับเคลื่อนที่ไปทับเส้นประสาท ทำให้ตราสินเจ็บปวดมาก บดีสั่งให้ตราสินเข้ารับการผ่าตัดที่กรุงเทพฯ ตราสินขอผ่อนผันเพื่อตามหาลูก บดีจึงให้เวลาผลัดผ่อนไม่เกินสามเดือน
 

ต่อมาหนังสือพิมพ์ลงข่าวการเสียชีวิตของตรีเพชรกับชู้รักคนใหม่ แม้จะเปลี่ยนชื่อเป็นม่านมายาแต่นักสืบมโนรมย์ก็จำหน้าเธอได้ และเขาตามสืบกลับไปทุกที่ที่ตรีเพชรเคยอาศัยอยู่ จนมาพบคอนโดของแดหวา ตราสินทราบข่าวจึงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทันที และแล้วแดหวาก็ได้พบกับตราสินที่โชว์รูมรถยนต์ เธอใจเต้นระทึกเมื่อตราสินให้แดหวานั่งลองรถไปกับเขา และยิ่งคิดเข้าข้างตัวเองหนักว่าตราสินชอบเธอ เมื่อตราสินนัดเธอทานข้าวเย็นในวันรุ่งขึ้น
 

เมื่อตราสินมารับเธอ แดหวาพยายามซ่อนตาหวาน เพราะกลัวตราสินจะรังเกียจ แต่เมื่อตราสินเห็นตาหวานก็จำได้ และให้ชวนตาหวานไปด้วย
ทั้งสองสนุกกับชีวิตฟุ้งเฟ้อที่ตราสินมอบให้และยิ่งทำให้แดหวาคิดว่า ตราสินทุ่มสุดตัวเพื่อเธอ แต่แล้วตราสินก็บอกความจริงกับแดหวาว่าตาหวานคือ ด.ญ.พลอยชมพู ทายาทมรดกร้อยล้านของเขา และเขาจะมารับเธอกลับ ไปอยู่ที่ไร่พลอยชมพูในวันพรุ่งนี้ แดหวาพยายามปกป้องตาหวานสุดตัว และตาหวานเองก็จำพ่อไม่ได้ ตราสินจึงเสนอเงินก้อนโตเพื่อแลกกับตาหวาน แต่แดหวาปฏิเสธ ทำให้ตราสินคิดว่าแดหวาต้องการที่จะแบล็คเมล์เขา ทำให้ตราสินตัดสินใจเสนอทั้งบ้าน รถยนต์ และเงินเลี้ยงดูตลอดชีวิตเป็นข้อแลกเปลี่ยน จนทำให้แดหวายินยอมที่จะเปิดอกคุยกับตาหวานให้กลับไปอยู่กับพ่อ ตาหวานเสียใจมาก แต่ก็ต้องยอมไปเซ็นสัญญาขาดจากกัน
 

วันรุ่งขึ้นที่สำนักงานทนายความ แดหวาเปลี่ยนใจและพาตาหวานหนีไป เพราะเธอไม่อาจรับความรู้สึกผิดนี้ได้ ตราสินยื่นข้อเสนอให้แดหวา ถ้าภายใน ๒ เดือนเขาพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นพ่อของตาหวาน เขาจะไม่มาตอแยอีก หรือไม่ก็จะใช้วิธีทางศาล ซึ่งแดหวาไม่มีทางสู้เขาได้แดหวาจึงจำเป็นต้องตกลง แต่เมื่อทั้งคู่ได้เห็นไร่พลอยชมพูของตราสินที่สะดวกสบาย และถูกเอาอกเอาใจทุกอย่างจากหนิง และบิลลี่ เด็กคุมม้า ทั้งคู่มีความสุขมากจนเหมือนอยู่ในโลกความฝัน ตราสินให้ทุกอย่างที่ลูกสาวอยากได้ จนตาหวานยังอดที่จะคล้อยตามไม่ได้ แต่แดหวากลับคิดว่าตราสินกำลังใช้วัตถุแย่งตาหวานไปทั้งคู่จึงมักมีความคิดที่สวนทางกันตลอด ต่อมาแดหวาได้รู้เรื่องราวของตราสิน และตรีเพชร เมื่อ ๕ ปีก่อนจากป้าเม้าท์ ว่า ตรีเพชรเป็นผู้หญิงที่หลงตัวเองมาก เธอหึงหวงผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามา ไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวของตัวเองเธออิจฉาลูก เมื่อไม่ได้ดังใจก็ทำร้ายลูก ตราสินทนไม่ไหวจึงฟ้องหย่า ตรีเพชรแค้นมากและหอบลูกหนีหายไป
 

หลังจากนั้นแดหวาเริ่มสังเกตเห็น ความรักที่บริสุทธิ์ที่ตราสินให้กับตาหวาน ตราสินเองก็อดทึ่งแดหวาไม่ได้ที่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว แต่ก็สามารถเลี้ยงลูกเขาให้โตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีนิสัยดี ติดดินและอ่อนโยน ตรีทิพย์ แม่ของตรีเพชร และตรีประดับ น้องสาวฝาแฝดของตรีเพชร รู้ข่าวการตายของตรีเพชร ก็บินด่วนกลับมาจากแอลเอ ตรีทิพย์พยายามเข้ามาวุ่นวายกับตาหวานในฐานะยาย และพยายามยัดเยียด ตรีประดับให้ตราสิน
แดหวาเข้ามาปกป้องตาหวานจนกลายเป็นพวกเดียวกับตราสินไป ตราสินกับตาหวานเริ่มผูกพันกัน ไม่ใช่ที่ความสุขสบาย แต่เป็นที่สายเลือด
แต่ตาหวานก็ไม่กล้าเรียกตราสินว่าพ่อเพราะกลัวเสียแดหวาไป บดียื่นคำขาดให้ตราสินต้องผ่าตัดภายในอาทิตย์หน้า ตราสินคิดหนัก เพราะโอกาสรอดมีน้อยถ้าเขาตาย ตรีทิพต้องเข้ามาครอบครองทุกอย่าง ตราสินกลับเชื่อใจผู้หญิงอย่างแดหวามากกว่าญาติตัวเองเขาจึงยื่นข้อเสนอให้แดหวาแต่งงานกับเขาก่อน โดยเสนอว่าถ้าเขาตายให้แดหวาเป็นผู้ดูแลมรดกแทนตาหวาน แต่ถ้าเขารอด แดหวาก็จะเป็นอิสระพร้อมเงินก้อนโต แดหวาตอบตกลง ตราสินจึงจัดงานแต่งงานขึ้นในวันรุ่งขึ้น
 

ตรีทิพย์โกรธตราสินมากหลังแต่งงานทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันลำพังในโรงแรม แต่อาการตราสินกำเริบต้องนำเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดด่วนแต่หลังจากผ่าตัด
ตราสินไม่ยอมฟื้น บดีขอร้องให้แดหวาไปปลุกตราสินให้ฟื้น ท่ามกลางสติเลือนลางเขาได้ยินเธอพร่ำบอกว่า เธอรักเขาคนเดียว จนทำให้การผ่าตัดสำเร็จ แดหวาได้อิสรภาพและเงินก้อนโต เธอพาตราสินกลับไร่พลอยชมพู และเก็บของเตรียมกลับบ้าน ตาหวานไม่ยอมให้ไปแดหวาฝืนใจพูดให้ตาหวานอยู่ที่นี่กับพ่อ เพราะเป็นที่ ๆ ดีที่สุดสำหรับตาหวานแล้ว แดหวากลับมาที่คอนโดพร้อมเงินก้อนโต แต่เธอไม่มีความสุขเลย ส่วนตราสินก็จัดงานต้อนรับการกลับมาให้กับพลอยชมพูทายาทร้อยล้าน แต่ตาหวานหนีออกจากบ้านไปเพื่อกลับมาหาแดหวา แต่เธอหลงทาง ตราสินมาตามหาตาหวานที่คอนโดของแดหวา แดหวาตกใจที่รู้ว่าตาหวานหายไป จึงช่วยกันตามหาจนเจอที่ท่ารถทัวร์ คืนนั้นตราสินต้องนอนค้างที่คอนโดของแดหวา ทั้งคู่ไม่มีใครยอมเอ่ยปาก ตาหวานจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการให้เรื่องทุกอย่างลงเอยลง และเธอก็ทำสำเร็จ รุ่งเช้าทั้งสามมุ่งหน้าสู่ไร่พลอยชมพูด้วยใบหน้าสดชื่น และไม่หวนกลับมาที่คอนโดนี้อีกเลย.

แม่อายสะอื้น

แม่อายสะอื้น เป็นเรื่องราวของ ดาวนิล สาวสวยที่สุดของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอแม่อาย มีความสามารถด้านการฟ้อนดาบเพราะ คำปัน พ่อของดาวนิลเป็นพ่อครูด้านการแสดงศิลปะล้านนา ดาวนิลสามารถฟ้อนดาบได้เป็นที่ เลื่องลือ ในขณะที่ช่อเอื้อง น้องสาวตีกลองสะบัดชัยได้เก่งไม่แพ้ใคร แต่เพราะความเก่ง ทำให้คณะของคำปันมีปัญหากับหนานเมือง เพื่อนบ้านที่ต้องการแย่งงานแสดง ในขณะที่ รินคำ ลูกสาวหนานเมือง อิจฉาความสวยของดาวนิลที่ ทอน ลูกชายผู้ใหญ่มาหลงรัก รินคำพยายามหาทางกลั่นแกล้งแต่ดาวนิลก็ ปกป้องพ่อและน้องไว้ทุกครั้ง คืนหนึ่ง ดาวนิลได้ไปแสดงในงานเปิดรีสอร์ทใหญ่ และเจอกับ ทรงพล เจ้าของโรงแรม ที่ชื่นชมความเก่งของดาวนิล ดาวนิลหวั่นไหวกับรอยยิ้มของทรงพล แต่ทรงพลไม่ได้สนใจเพราะมีคนรักคือ จิดาภา อยู่แล้ว คำปัน เริ่มตาฟาง เมื่อดาวนิลพาไปตรวจ ก็รู้ว่าพ่อเป็นต้อหิน หมอบอกว่าต้องรีบรักษา ก่อนที่ตาจะตาบอดเฉียบพลัน ดาวนิลพยายามหางานเพิ่ม แต่ อ้ายศักดิ์ นายหน้าหางาน ก็ฉวยโอกาสจะปลุกปล้ำ ดาวนิลไม่ยอมและทำร้ายอ้ายศักดิ์เพื่อป้องกันตัว หนานเมืองจึงฉวยโอกาสรวมหัวกับอ้ายศักดิ์ จนคณะคำปันไม่มีงานแสดงอีก ดาวนิลไม่ยอมแพ้ ลงมาหางานในเมือง จึงได้เจอทรงพลที่มาติดต่อธุรกิจ แต่ดาวนิลก็อายความจนของตัวเอง ได้แต่มองทรงพลเดินจากไปอีกครั้ง วิไล ที่กลับมาเยี่ยม ป้าบัว ผู้เป็นแม่แม่ รู้เรื่องดาวนิลต้องการทำงาน ก็ชวนดาวนิลเข้ากรุงเทพ ดาวนิลยังลังเลเพราะกลัวไม่มีคนดูแลพ่อ แต่สุดท้ายก็ต้องลาพ่อทั้งน้ำตาเพราะไม่อาจทนดูดายให้พ่อตาบอดได้ ดาวนิลโดนเพื่อนรักอย่างวิไลหลอกมาขายตัวโดยวางยานอนหลับ ดาวนิลไม่อยากขายศักดิ์ศรีจึงคิดกลับบ้าน วิไลเกลี้ยกล่อมโดยอ้างให้เห็นแก่ดวงตาของพ่อ ดาวนิลจำใจทำงานต่อ ด้วยความตั้งใจว่าได้เงินครบเมื่อไหร่ จะกลับบ้านทันที ทรงพลอยากแต่งงานกับจิดาภา แต่ สาวน้อย แม่นมเก่าแก่ของตระกูลไม่พอใจที่ จิดาภา เย่อหยิ่ง หัวสูงเกินไป เทวัญ พี่ชายทรงพลกับ ทรงวุฒิ น้องชาย พยายามช่วย แต่ก็แพ้สาวน้อยที่ขัดขวางความรักของทรงพลทุกทาง จนในที่สุด จิดาภาก็ทิ้งทรงพลไป ทรงพลเสียใจมาก ทรงวุฒิ พาพี่ชายไปปลอบใจที่อาบอบนวด ดาวนิลได้เจอทรงพลอีกครั้ง แต่ในสภาพน่าอับอายกว่าเดิม ดาวนิลพยายามหนี แต่ทรงพลเมามาย จำดาวนิลไม่ได้ ดาวนิลยอมเป็นของทรงพลด้วยความเต็มใจ ดาวนิลที่รวบรวมเงินได้ครบ กำลังจะกลับบ้าน แต่เกิดแพ้ท้อง วิไลบังคับให้ดาวนิลไปทำแท้ง แต่ ตำรวจทลายคลีนิคเถื่อน ดาวนิลถูกพาส่งโรงพยาบาล หมอเทวัญช่วยชีวิตและเตือนสติดาวนิล ดาวนิลพรั่งพรูว่าไม่ต้องการทำลายชีวิตลูกที่เกิดจากความรัก เทวัญเห็นใจดาวนิล จึงพามาอาศัยอยู่กับ คุณนายติ๊ด เจ้าของร้านเสื้อ คุณนายติ๊ดคิดว่า ดาวนิลอาจจะเป็นเมียลับของเทวัญ จึงรับไว้ทำงาน หวังเอาหน้าแต่พอรู้ความจริงว่าดาวนิลเป็นแค่คนไข้ คุณนายติ๊ดกับ ผึ้ง ลูกน้องในร้านก็โขกสับใช้งานจนดาวนิลคลอดก่อนกำหนด ลูกออกมาขาพิการ คุณนายติ๊ดยื่นคำขาดให้ดาวนิลเอาลูกไปเลี้ยงที่อื่น ดาวนิลจะกลับบ้าน แต่คุณนายติ๊ดขู่จะทวงเงินค่าซ่อมแซมร้านที่เสียหายเพราะดาวนิลคลอดลูกจาก เทวัญ ดาวนิลกลัวเทวัญเดือดร้อนไปด้วย จึงคิดเอาลูกไปฝากที่แม่อาย และรับปากว่าจะมาทำงานใช้หนี้ให้ ดาวนิลกลับมาแม่อายท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน ที่มีเด็กมาด้วย ช่อเอื้องเถียงแทนทันทีว่าไม่ใช่ลูกดาวนิล ดาวนิลกดดันมากที่พ่อถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยาม จึงตัดสินใจโกหกทุกคนว่า เป็นลูกของเพื่อนที่ตายไป คำปันดีใจที่ลูกกลับบ้าน ช่อเอื้องไม่อยากให้พี่กลับไปกรุงเทพอีก ดาวนิลฝาก กลอง ลูกชายไว้ และสัญญาว่าทำงานใช้หนี้คุณนายติ๊ดครบเมื่อไหร่ จะรีบกลับมาแม่อาย ดาวนิลก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่ความสวยของดาวนิลสะดุดตา หลิวหลิว สไตลิสท์ จนชักนำไปถ่ายแบบและเล่นหนัง คุณนายติ๊ดเยาะเย้ยและด่าว่า จนดาวนิลออกมาจากร้านคุณนายติ๊ด ดาวนิล อดทนทำงานจนได้เล่นหนังวีซีดี และได้ถ่ายแบบสปาของโรงแรมทรงพลที่กระบี่ ดาวนิลดีใจที่ได้เจอทรงพลในฐานะใหม่ ทรงพลประทับใจความขยันและความอ่อนโยนของดาวนิล จนเกิดเป็นความรัก ดาวนิลกำลังจะได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่วันหนึ่งเมื่อคุณนายติ๊ดมาเจอดาวนิลในกองถ่าย ด้วยความแค้น คุณนายติ๊ดจึงแฉเรื่องที่ดาวนิลมีลูกมาก่อน หลิวหลิวไม่ยอมสนับสนุนดาวนิลต่อ ดาวนิลโดนดูถูก จนคิดดันตัวเองเพื่อลบล้างคำสบประมาทของทุกคน ดาวนิลได้เป็นนางเอกและหลงในความสุขสบาย และความรักที่มีกับทรงพล จนลืมอีกสามชีวิตที่แม่อาย คำปันเฝ้ารอคอยลูกด้วยความหวัง แต่สุดท้ายลูกสาวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ช่อเอื้องเสียใจที่ดาวนิลทิ้งพี่ทิ้งน้อง ตาของคำปันเริ่มมืดลง ช่อเอื้องดิ้นรนดูแลพ่อทุกทาง แต่ในที่สุดคำปันก็ตาบอดสนิท หลายปีผ่านไป ดาวนิลเป็นนางเอกดัง ทรงพลคิดเรื่องแต่งงานด้วยความมั่นใจในตัวดาวนิล จึงพาดาวนิลไปที่บ้านเพื่อรู้จักกับสาวน้อย แต่คนที่ดาวนิลเจอกลับเป็น เทวัญ เทวัญทำเป็นไม่รู้จักดาวนิล ทั้งที่เสียใจว่าผู้หญิงที่ตัวเองแอบรักกลายมาเป็นแฟนของน้องชาย ช่อเอื้องเห็นข่าวดาวนิลในทีวี ก็มาตามพี่ โดยอาศัยอยู่ที่ร้าน น้ามาลัย ญาติของ วรรณา เพื่อนสนิท ที่สถานีโทรทัศน์ ดาวนิลนัดเทวัญมาคุยเรื่องความลับ ช่อเอื้องมาดักรออยู่แล้ว แต่ดาวนิลไม่กล้า ยอมรับว่าช่อเอื้องเป็นน้อง เพราะมีนักข่าวอยู่ด้วย ช่อเอื้องผิดหวังมาก วิ่งหนีไม่ทันระวัง จึงชนเข้ากับรถของเทวัญ ที่โรงพยาบาลช่อเอื้องรู้ว่าดาวนิลเป็นคนรักของทรงพล น้องชายเทวัญ ช่อเอื้องโกรธที่ดาวนิลลืมความเป็นพี่เป็นน้อง จึงออกปากขออาศัยอยู่กับเทวัญ ดาวนิลพยายามห้าม แต่ช่อเอื้องบอกว่าเธอจะอยู่ จนกว่าดาวนิลจะยอมรับกับทุกคนว่า เธอคือน้องที่มาจากแม่อาย ดาวนิลกลืนไม่เข้า คายไม่ออกเมื่อสาวน้อยเอ็นดูช่อเอื้อง ที่เป็นเพียงคนงานในบ้าน สาวน้อยเห็นความผิดปกติของดาวนิลกับช่อเอื้อง แต่สองพี่น้องก็ไม่ยอมพูด เทวัญเตือนให้ดาวนิลบอกความจริง แต่ดาวนิลกลัวจะเสียทรงพลไป สาวน้อยจับผิดว่าดาวนิลกับเทวัญดูมีความสนิทสนมกัน จึงบอกกับทรงพล ทรงพลเริ่มระแวง ช่อเอื้องอยากกลับบ้าน สาวน้อยสงสาร จึงให้ไปรับพ่อกับหลานมาอยู่ด้วย ดาวนิลยิ่งเครียดหนักเมื่อ เจอพ่อที่ตาบอดและลูกชายที่ขาพิการพร้อมหน้า ดาวนิลทุกข์ทรมานกับความผิดที่ทิ้งพ่อกับลูกจนฆ่าตัวตาย แต่หลิวหลิวมาช่วยไว้ทัน ดาว นิลไม่ยอมบอกทรงพลว่าอยากตายเพราะเรื่องอะไร เทวัญโกรธที่ดาวนิลไม่ยอมรับความจริง ทรงพลมองความผิดปกติของพี่ชายกับคนรักด้วยความสงสัยมากขึ้นทุกที คำปันได้ยินทุกคนเรียกชื่อ ดาวนิล ก็ดีใจว่าอาจจะเป็นลูกสาวของตัว แต่ช่อเอื้องกลัวพ่อเสียใจ ก็จำต้องโกหกพ่อไปว่า ไม่ใช่พี่ดาวนิลของเรา ทรงวุฒิสนใจช่อเอื้อง แต่ช่อเอื้องไม่เล่นด้วย ทรงวุฒิจึงออกอุบายจะพาช่อเอื้องลงไปโรงแรมที่กระบี่ ทรงพลตามลงไปเรื่องงานและพาดาวนิลไปด้วย โดยไม่รู้ว่าเทวัญพักผ่อนอยู่ที่นั่นแล้ว ในงานเลี้ยงของโรงแรม ช่อเอื้องขึ้นตีกลองสะบัดชัยและร้องเพลงกระทบใจดาวนิล ดาวนิลกดดันอย่างหนัก วิ่งลงทะเลหวังให้จมน้ำตาย แต่เทวัญมาช่วยไว้ ทรงพลเข้าใจผิดจนเกิดการโต้เถียงและปลุกปล้ำดาวนิล รุ่งเช้าทรงพลรู้ว่าตัวเองผิดจึงขอหมั้น และวาดหวังเรื่องอนาคตไว้อย่างสวยงาม ดาวนิลที่กำลังจะพูดความจริงเรื่องพ่อ ก็ต้องเงียบไปอีก ทรงพลกลับมาบอกเรื่องหมั้น สาวน้อยไม่ยอมรับ หลิวหลิวเอาข่าวไปขยาย พอหนังสือพิมพ์ลง คุณนายติ๊ดริษยาดาวนิล จึงยุยงจิดาภาที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกว่า ทรงพลกำลังโดนดาวนิลหลอก คุณนายติ๊ดมาแฉความจริงเรื่องดาวนิลมีลูก โดยอ้างถึงเทวัญ เทวัญปฏิเสธเพื่อช่วยดาวนิล คุณนายติ๊ดกับจิดาภาต้องถอยกลับไปตั้งหลัก สาวน้อยพยายามเตือนให้ทรงพลฟังหูไว้หู แต่ทรงพลตัดปัญหาด้วยการประกาศจะแต่งงานกับดาวนิล ช่อเอื้องเสียใจมากที่ ดาวนิล ปิดบังความจริงเรื่องลูกอีกเรื่อง ดาวนิลอับจนหนทาง เมื่อเรื่องมัดตัวแน่นขึ้นและทางออกตีบตัน จึงทำได้แค่แอบมาหาพ่อบ่อย ๆ คำปันพูดคุย ปลอบโยนดาวนิล โดยไม่รู้เลยว่าเป็นลูกสาวที่ตัวเองเฝ้ารอคอย คุณนายติ๊ดหาหลักฐานมาแฉได้ว่าดาวนิลเป็นพี่น้องกับช่อเอื้อง ดาวนิลคิดว่าทุกอย่างคงจบสิ้น แต่ช่อเอื้องปฏิเสธต่อหน้าทุกคนว่าผู้หญิงสกปรกอย่างดาวนิลไม่ใช่พี่ดาวนิล ผู้งดงามของเธอ ดาวนิลปวดร้าวที่น้องไม่ยอมรับ ช่อเอื้องเจอวิไลก่อนจะกลับแม่อาย วิไลบอกความจริงเรื่องสุดท้ายว่าดาวนิลมีลูกจากการขายตัว ช่อเอื้องแทบล้ม ดาวนิลร้องไห้ ขอร้องน้องว่าอย่าบอกพ่อ เพราะกลัวพ่อเสียใจ วิไลถูกซื้อตัวจากคุณนายติ๊ดเพื่อแฉดาวนิล แต่วิไลกลับตัวในวินาทีสุดท้าย ดาวนิลจึงรอดพ้นจากการถูกประจานกลางกองถ่าย แต่ทรงพลที่ได้ยินวิไลคุยกับช่อเอื้องเรื่องลูก ก็เข้าใจว่าดาวนิลเคยท้องกับพี่ชายตัวเองมาก่อน ทรงพลมาคาดคั้นเอาความจริงเรื่องลูก ดาวนิลร้องไห้ บอกความจริงทั้งน้ำตาว่า กลองคือลูกของทรงพล ทุกคนตกตะลึง ทรงพลรับไม่ได้ หนีไปทันที สาวน้อยเป็นลม ช่อเอื้องทั้งสงสารทั้งเกลียดชังพี่ตัวเองที่ปิดบังทุกอย่าง ดาวนิลบอกว่าการเป็นแค่ดาวนิล ลูกพ่อครูคำปันในคณะรำไม่มีค่า มีความหมายสำหรับชีวิตที่นี่เพราะเธอโดนดูถูก โดนเหยียดหยามมาตลอด สองพี่น้องโต้เถียงกันโดยไม่รู้เลยว่า คำปันแอบได้ยินทุกคำพูดด้วยหัวใจที่แตกสลาย เมื่อรู้ว่าลูกสาวทั้งสองคนโกหกตนมาตลอดเวลา คำปันหนีออกไปกับกลองด้วยใจที่เจ็บช้ำ ดาวนิลช็อคนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล ช่อเอื้องกับทรงวุฒิพยายามตามหาคำปัน แต่ไม่พบ เทวัญมาเตือนสติทรงพลที่กระบี่ คำปันถูกพากลับมาแม่อายในสภาพจิตใจบอบช้ำ และเพ้อถึงดาวนิล จนตายในอ้อมกอดช่อเอื้อง ดาวนิลฟื้นขึ้นมาเจอทรงพล แต่ทรงพลทำใจให้อภัยกับความผิดของดาวนิลไม่ได้ ดาวนิลเสียใจมาก ที่อดทนมาทุกอย่าง แต่ทรงพลกลับไม่ยอมรับ ดาวนิลหมดสติไปอีกครั้ง และฟื้นมาในวันสวดศพพ่อวันสุดท้าย หลิวหลิวตัดสินใจบอกเรื่องคำปัน ดาวนิลไม่เชื่อว่าพ่อจะตาย แต่พอมาถึงแม่อาย ภาพโลงศพของพ่อทำให้ดาวนิลร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ดาวนิลแหวกฝูงชนเข้าไปรถขนศพ ทุกคนรังเกียจ พากันสาปแช่งขบวนแห่ศพเคลื่อนไปโดยไม่มีใครสนใจ ปล่อยให้ดาวนิลทรุดลงสะอื้นอยู่ตามลำพัง ที่หน้าเมรุ ช่อเอื้องตีกลองสะบัดชัยหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ดาวนิลเดินมาพร้อมดาบสิบสองเล่มในมือ ดาวนิลกราบหน้ารูปพ่อ ขอให้พ่ออภัย ก่อนจะฟ้อนดาบอย่างงดงามหาใครเหมือน ทรงพลมองดาวนิลแล้วหยิบแหวนหมั้นออกมามอง คิดให้อภัยและหวังจะสร้างครอบครัวกับดาวนิล ดาวนิลรำมาจนถึงท่าสีไคล ก่อนจะใช้ดาบปาดคอตัวเองตายลงต่อหน้ารูปพ่อ ทุกคนตกตะลึง ช่อเอื้องร้องไห้ กอดพี่ว่าอย่าทิ้งเธอไปอีก ดาวนิลสิ้นใจตายในอ้อมกอดของน้อง สามเณรกลองน้ำตาไหล บอกกับทรงพลว่า โยมพ่อช่วยปิดตาโยมแม่ด้วย

ละคร แม่อายสะอื้น นำแสดงโดย

1. วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบทเป็น ดาวนิล

2. วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทเป็น ทรงพล

3. สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา รับบทเป็น ช่อเอื้อง

4. พลวัฒน์ มนูประเสริฐ รับบทเป็น เทวัญ

5. สุประวัติ ปัทมสูต รับบทเป็น คำปัน

6. จุรี โอศิริ รับบทเป็น สาวน้อย

7. ถนอม นวลอนันต์ รับบทเป็น หนานเมือง

8. เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ รับบทเป็น ป้าบัว

แม่ครัวหัวเห็ด

ดาว หรือ ลูกหมี (อติมา ธนเสนีวัฒน์ ) เป็นนักข่าวสาวมาดเท่ห์ เธอตัดผมสั้น ทำงานเก่ง คล่อง แคล่ว ปราดเปรียว ทั้งแก่นและเฮี้ยวจนขึ้นชื่อไปทั้งโรงเรียน บุคลิกของเธอคล้ายผู้ชายจนใครเข้าใจว่าเป็นทอม ซึ่งเธอไม่แคร์กลับนึกสนุกเสียด้วยซ้ำ ลูกหมีเป็นเด็กกำพร้า บิดา-มารดาของเธอเสียชีวิต จากอุบัติเหตุเครื่องบินตั้งแต่เธอยังเล็ก เธอเติบโตมาด้วยการดูแลของคุณปู่คุณย่าซึ่งรักเธอมาก คุณย่าเจือจันทร์ ( สินีนาฎ โพธิเวส ) ของลูกหมีเป็นอดีตสาวชาววัง ที่มีฝีมือในเรื่องการปรุงอาหารทั้งหวานและคาวจนลือชื่อไปทั้งคลองรังสิต แต่ลูกหมีกลับไม่มีฝีมือทางนี้เลย เธอสนุกกับอาชีพนักข่าวของเธอมาก ขณะที่คุณย่าเจือจันทร์ก็ขวางหูขวางตากับพฤติกรรมแปลก ๆ ของหลานสาวคนเดียวมากขึ้นทุกที ตั้งแต่การเลือกใช้มอเตอร์ไซค์ชอปเปอร์คันโตแทนรถยนต์ ซึ่งนางพร้อมจะซื้อให้ ที่ร้ายที่สุดในความรู้สึกของเจือจันทร์ คือ ลูกหมีแยกไปอยู่คอนโดกับเพื่อนสาว เพราะขณะที่ลูกหมีห้าวเหมือนแมน ยุวันดารา หรือ หยุย ( ศิริวัฒนา เบญจมาธิกุล ) เพื่อนร่วมห้องกลับสวยหวาน ผู้ยิ้งผู้หญิง สมกับอาชีพประชาสัมพันธ์ สาวสวยของโรงแรมระดับ 5 ดาว แถมยังชอบเรียกลูกหมีว่าผัวขาเสียอีก ยิ่งมีคนมองและสงสัยว่าคู่นี้จะเป็นทอมและดี้ก็ดูราวทั้งคู่จะไม่แคร์ สวีทและหวานกันราวกับคู่รักจริงๆ แม้ลูกหมีกับหยุยจะคอยระวังเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณย่า แต่ก็ยังมีเผลอหลุดๆ ออกมาให้คุณย่าตาเขียวบ่อยครั้ง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วลูกหมีไม่ได้เป็นทอมเลย ขณะที่หยุยก็ไม่ใช่ดี้ เพียงแต่ทั้งคู่สนิทกันมากมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ด้วยบุคลิกที่แก่นและซนเหมือนเด็กผู้ชายของลูกหมีทำให้เธอนึกสนุกที่จะเล่น บททอม และหยุยเองก็นึกสนุกจะเล่นเป็นดี้ต่อหน้าเพื่อนๆ จนกลายเป็นบุคลิกติดตัวอย่างไม่ตั้งใจ และทั้งคู่ก็ไม่เดือดร้อนอะไรเพราะต่างก็ยังไม่มีแฟน แถมยังดีที่ข้อดีตรงที่ลูกหมีช่วยกัน บรรดาเฒ่าหัวงูที่มาจีบหยุยได้อีกด้วย

กับหยุยอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจอย่างเพื่อน แต่ท่ามกลางความไม่เข้าใจของใครอีกหลายคน ลูกหมีมักจะหาเวลาว่างกลับมาเยี่ยมคุณย่าของเธอเสมอ ซึ่งทุกครั้งคุณย่าและคุณป้าพัดจีบคนสนิทจะดีใจมากและจะช่วยกันทำของโปรดให้ เธอกินอย่างมีความสุข และลูกหมีก็ไม่เคยทำให้ทั้งคู่ผิดหวัง เธอจะรับประทานอาหารเต็มที่จนน่าจะจุกตาย ที่ร้ายก็คือเธอสนุกที่จะได้ยั่วคุณย่า ด้วยการทำท่าห่ามๆ ห้าวๆ เหมือนผู้ชายมากกว่าที่จะเรียบร้อยกะล่อยกะหลิบเหมือนหญิงสาวชาววังอย่างที่ คุณย่าต้องการ

วันนี้ก็เช่นกันลูกหมีลงนอนเหยียดยาวหลังจากกินขนมจีนน้ำยาไปหลายชาม เธอปฏิเสธที่จะตามคุณย่าไปช่วยงานทำบุญที่วัดเหมือนเคย แต่อาสาจะอยู่เฝ้าบ้านให้และรับปากจะอยู่รอจนกว่าคุณย่าจะกลับ แต่เจือจันทร์ไม่ค่อยไว้ใจจึงต้องให้พัดจีบอยู่เฝ้าอีก 1 คน แถมด้วยการแอบหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของหลานสาวติดตัวไปด้วย งานบุญวันนั้นเป็นงานใหญ่ที่มีคนมาร่วมงานกันมาก มีทั้งคณะข้าราชการ คุณหญิงและคุณนายหลายคณะ รวมถึง คุณหญิงทองนพคุณ ซึ่งพา ทองเบิ้ม (สวิช เพชรวิเศษศิริ )ลูกชายคนเดียวมาด้วย สามีของคุณหญิงเคยเป็นนายอำเภอที่นี่เมื่อหลายปีก่อน แต่ก็นานมากพอที่จะทำให้คุณหญิงรู้สึกผูกพันกับคนแถวนี้มาก รวมทั้งทองเบิ้มด้วย เขาเคยวิ่งเล่นตามสวนต่าง ๆ ในคลองรังสิตอย่างคุ้นเคย แต่สวนที่ไปบ่อยมากก็คือ สวนของเจือจันทร์นั่นเอง เมื่อคุณหญิงได้พบกับเจือจันทร์อีกครั้งจึงดีใจมาก เธอพาทองเบิ้มมากราบอย่างปลื้มใจ เจือจันทร์จำทองเบิ้มไม่ได้ในครั้งแรกเพราะเขาจากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เสียหลายปี ทองเบิ้มเปลี่ยนไปมากจากจากเด็กชายสูงเก้งก้างเป็นหนุ่มหล่อมาดเข้ม และก็จำคุณย่าเจือจันทร์ได้ดี เขาถามถึงลูกหมีเพื่อนเล่นจอมแก่นและแสนซนของเขาอย่างคิดถึง เขาอยากรู้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน ลูกหมีเด็กกว่าเขาหลายปี แต่เธอก็แก่นและซนอย่างเซียน เธอพาเขาลัดเลาะมุดท้องร่องปีนต้นไม้เก็บผลไม้ราวกับเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ทีเดียว จะว่าไปแล้วลูกหมีซนกว่าเขาเสียอีก ทองเบิ้มนึกอยากพบลูกหมีขึ้นมาทันที ส่วนคุณย่าเจือจันทร์มองทองเบิ้ม อย่างปลื้ม ยิ่งเมื่อรู้ว่าเขาโสดและตั้งใจจะแต่งงานเสียทีกับผู้หญิงที่เป็นกุลสตรี เจือจันทร์วางแผนจับเขากับลูกหมีทันที นางหวังจะเปลี่ยนหลานสาวจอมแก่นให้เป็นสุภาพสตรีให้ได้ นางอยากเห็นลูกหมีได้แต่งงานกับคนดีๆ ซึ่งนางมั่นใจว่าทองเบิ้มคือชายที่มีคุณสมบัติเหมาะกับหลานสาวของนางที่สุด ดังนั้นก่อนจะแยกย้ายกันกลับ เจือจันทร์จึงเอ่ยปากชวนทองเบิ้มให้ไปเยี่ยมที่บ้านบ้าง ซึ่งทองเบิ้มเองก็รับปากอย่างเต็มใจ เขาเองก็อยากพบลูกหมีเช่นกัน แต่คงไม่ใช่วันนี้

เจือจันทร์กลับบ้านด้วยความปลื้ม ขณะที่ลูกหมีนั่งคอยคุณย่าอย่างหงุดหงิด เธอมีงานด่วนที่จะต้องรีบไปต่างจังหวัด แต่ก็ไปไม่ได้เพราะโดนยึดกุญแจ ดังนั้นทันทีที่เห็นคุณย่ากลับ ลูกหมีจึงกุลีกุจอมารับและช่วยถือกระเป๋า เจือจันทร์มัวปลื้มและอารมณ์ดีจึงไม่ทันระวัง ลูกหมีฉวยกุญแจรถไปจากกระเป๋าและรีบขับรถออกไปก่อนที่นางจะเล่าเรื่องทอง เบิ้มด้วยซ้ำ ลูกหมีทำให้นางยิ่งหมายมั่นปั้นมือจะเปลี่ยนแปลงเธอ จากหญิงห้าวเป็นสาวหวานให้ได้

ส่วนลูกหมีรีบเดินทางไปทำข่าวเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลทางใต้ ขากลับรถที่เธอโดยสารไปถูกลอบยิง ลูกหมีได้รับบาดเจ็บแต่ด้วยวิญญาณนักข่าว เธอแอบถ่ายรูปของมือปืนได้ ก่อนจะหมดสติไป ลูกหมีถูกส่งตัวมารักษาที่กรุงเทพฯโดยด่วน ผลงานของเธอทำให้ชื่อของรัศมีดาว นักข่าวสาวคนเก่งเป็นข่าวดังอยู่หลายวัน ขณะที่เจ้าของผลงานยังนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาล คนที่เดือดร้อนที่สุด คือ คุณย่าเจือจันทร์

ยอมให้หลานสาวคนเดียวต้องทำงานเสี่ยงๆ อีกต่อไป คุณย่าเจือจันทร์ไปลาลูกหมีออกจากโรงพิมพ์ด้วยตัวเอง และด้วยวิธีการของนางเอง นางควงไม้เท้าเคาะหัวเพื่อนๆ ของลูกหมีที่เอ่ยปากคัดค้านจนหัวโนไปตามๆ กัน ในที่สุดลูกหมีก็พ้นจากสภาพของนักข่าว ก็เพราะฝีมือของคุณย่านี่เอง ระหว่างที่ลูกหมีป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล หยุยคอยมาเฝ้าด้วยความเป็นห่วงเพื่อนรัก ส่วนคุณหญิงทองนพคุณก็ชวนทองเบิ้มมาเยี่ยมลูกหมีเช่นกัน คุณหญิงนั้นรักและเอ็นดูลูกหมีมาตั้งแต่เล็กๆ เมื่อถึงเวลานี้คุณหญิงต้องการให้ทองเบิ้มแต่งงานกับลูกหมีด้วยเห็นว่าเหมาะ สมด้วยประการทั้งปวง เธอเริ่มหว่านล้อมทองเบิ้มให้เห็นความน่ารักและความเก่งของลูกหมี ส่วนทองเบิ้มนึกขำมากกว่าที่มารดาคิดจะคลุมถุงชนให้เขา แต่ทองเบิ้มก็ไม่ขัดใจ เมื่อคุณหญิงชวนเขาไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่โรงพยาบาล หยุยอยู่เฝ้าไข้ลูกหมีพอดี เมื่อคุณหญิงและทองเบิ้มมาถึงหยุยประหม่าอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อสบตาทองเบิ้ม เธอตกใจและหลงเสน่ห์ของเขาทันที ส่วนทองเบิ้มได้แต่ยืนมองเพื่อนเก่าอย่างสงสารจับใจ ลูกหมีจอมแก่นและแสนซนของเขายังคงนอนหลับหมดฤทธิ์เพราะยาและดูท่าว่าจะยัง ไม่ตื่นง่ายๆ คุณหญิงอยากจะชวนให้ทองเบิ้มอยู่รอจนกว่าลูกหมีจะตื่น แต่เธอก็ขวางอาการชม้อยชม้ายชายตา ตกประหม่าเขินงายของหยุยเต็มทนจึงชวนทองเบิ้มกลับ โดยฝากดอกไม้สวยช่อโตและของเยี่ยมอีกตะกร้าใหญ่ไว้แทน ทองเบิ้มเสียดายที่ลูกหมีหลับ เขาอยากจะรู้ว่าเธอจะแก่นและเฮี้ยวเหมือนเดิมหรือไม่

ส่วนลูกหมีเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าหยุยส่งสายตาลอยเพ้อถึงทองเบิ้มเหมือนโดน เสน่ห์ เธอเริ่มปวดหัวเมื่อหยุยพูดไม่รู้เรื่อง ก่อนที่หยุยจะอาการหนักไปกว่านี้ คุณย่าเจือจันทร์และพัดจีบก็เข้ามา หยุยจึงรีบลากลับไปทำงานด้วยรู้ดีว่าคุณย่าไม่ชอบหน้าเธอเท่าไหร่ หยุยกลับไปแล้วลูกหมีก็ปวดหัวหนักขึ้นเมื่อคุณย่าบอกว่า นางไปลาเธอออกจากการเป็นนักข่าวแล้ว และต่อไปนี้นางจะไม่ยอมตามใจลูกหมีอีกต่อไป ที่ร้ายที่สุดในความรู้สึกของเธอก็คือเจือจันทร์บอกว่าจะให้เธอแต่งงานกับ ทองเบิ้ม ลูกหมีวางแผนหนีทันที เธอไม่ยอมแต่งงานกับทองเบิ้มเด็ดขาด เมื่อเจือจันทร์กลับไปแล้วลูกหมีจึงโทรศัพท์ตามหยุยให้มารับกลับคอนโด เธอขู่ว่าถ้าหยุยไม่มาเธอจะหนีไปเอง หยุยต้องรีบมาเพราะรู้ดีว่าลูกหมีพูดจริง เมื่อถึงโรงพยาบาลหยุยพยายามห้ามไม่ให้ลูกหมีออกจากโรงพยาบาลทั้งๆที่ยังไม่ หายดีอย่างนี้ แต่ลูกหมีไม่ยอม ในที่สุดหยุยต้องยอมพาเพื่อนหนีออกจากโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเล แทบจะทันทีที่ทั้งคู่พ้นเขตโรงพยาบาล นางพยาบาลก็เข้ามาพบว่าลูกหมีหายตัวไป ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งไปที่เจือจันทร์ ซึ่งเจือจันทร์ต้องโทรให้ทองเบิ้มไปจัดการอีกต่อหนึ่ง ซึ่งทองเบิ้มเต็มใจทำอย่างยิ่ง เขาตามไปที่คอนโดของสองสาว ขณะที่หยุยอยากจะเปิดประตูห้องรับทองเบิ้ม เพราะอยากพบเขาแล้ว เธอยังอยากให้เขาพาลูกหมีส่งโรงพยาบาล เพราะแผลถูกยิงของลูกหมีอักเสบมีเลือดซึมออกมาอย่างน่าตกใจ แต่ลูกหมีไม่ยอม การอาละวาดของเธอกลับทำให้แผลฉีกมากขึ้น หยุยตัดสินใจไปเปิดประตูให้ทองเบิ้ม ซึ่งลูกหมีก็ตัดสินใจออกจากห้องโดยลงบันไดหนีไฟเช่นกัน เธอกัดฟันไต่ลงบันไดมาอย่างเจ็บปวด แม้จะรู้สึกอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดมาก เธอก็ไม่ยอมหยุด ลูกหมีไม่รู้ว่าทองเบิ้มรู้ทันเธอ เขาลงมารออยู่ที่พื้นที่หน้าบันไดหนีไฟอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อลูกหมีไต่ลงมาถึงพื้นเธอก็หมดสติในอ้อมแขนของทองเบิ้มพอดี ทองเบิ้มรีบพาลูกหมีไปส่งที่บ้านคุณย่าเจือจันทร์ เขารู้ดีว่าคุณย่าเท่านั้นที่จะปราบเธอได้ ถ้าส่งโรงพยาบาลลูกหมีก็จะหนีอีก และเขาไม่แน่ใจว่าจะตามตัวเธอได้ง่ายๆเหมือนคราวนี้

บ้านคุณย่า ทองเบิ้มอุ้มลูกหมีไปที่ห้องนอนก่อนจะเป็นธุระกุลีกุจอตามหมอมาทำแผลและดู อาการเธอถึงบ้านอย่างเรียบร้อย การกระทำของทองเบิ้มอยู่ในสายตาของเจือจันทร์ตลอดเวลา นางมั่นใจว่ามองไม่ผิด ทองเบิ้มชอบลูกหมีอาจเป็นเพราะความรู้สึกดีๆที่มีให้กันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรเจือจันทร์ก็พอใจ นางมั่นใจว่าทองเบิ้มจะดูแลคุ้มครองลูกหมีได้อย่างแน่นอน

วันรุ่งขึ้นลูกหมีตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ เธอจำได้ว่ากลับไปคอนโดกับหยุย แต่ทำไมถึงกลายเป็นมานอนอยู่ในห้องตัวเองที่บ้านรังสิต เธอขยับตัวจะลุกขึ้นก็หงุดหงิด เมื่อพบว่าข้อเท้าเธอถูก โซ่เส้นไม่เล็กล่ามติดอยู่กับเตียง ลูกหมีอาละวาดอย่างโกรธจัด เสียงเอะอะทำให้เจือจันทร์และพัดจีบรีบเข้ามาทันที สีหน้าเครียดขรึมเอาจริงของเจือจันทร์ทำให้ลูกหมีหยุดอาละวาดลงได้ ถึงลูกหมีจะได้ชื่อว่าฤทธิ์มาก แต่เมื่อใดที่เจือจันทร์เอาจริง ลูกหมีก็ต้องยอมแพ้ ด้วยเธอรู้ดีว่าทุกอย่างที่เจือจันทร์ทำลงไปเพราะรักเธอนั่นเอง วันนั้นทั้งวันเจือจันทร์ต้องทั้งปลอบและทั้งขู่ ทั้งอ้อนวอน ขอร้อง จนถึงขั้นบังคับ เหนื่อยกันทั้งย่าทั้งหลาน กว่าลูกหมีจะยอมไปเรียนทำอาหารที่สถาบันสอนศิลปการทำอาหารของ อาจารย์ยิ่งยศ หรือ อาจารย์ยี้ส์ ลูกศิษย์ก้นครัวของเจือจันทร์ นางบอกยี้ส์ว่าเขาจะต้องช่วยฝึกสอนให้ลูกหมีเป็น “แม่ครัวหัวเห็ด” ให้ได้โดยนางจะช่วยอยู่เบื้องหลัง ยี้ส์กลับไปสถาบันฯอย่างหนักใจ เพราะรู้ฤทธิ์ลูกหมีดีว่าถ้าไม่พอใจ ถึงขั้นอาละวาดแล้วละก้อ สถาบันฯของเขาต้องเละแน่ๆ

ระหว่างที่ลูกหมีรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทองเบิ้มยังคงมาเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ แต่ลูกหมีก็เกเรไม่ยอมพบหน้าเลยสักครั้ง แกล้งหลับบ้าง หนีเข้าสวนไปบ้าง ยิ่งเธอหนีเขา ทองเบิ้มก็ยิ่งขำและทำให้เขานึกอยากเอาชนะเธอขึ้นมาบ้าง ส่วนหยุยยังไม่เลิกคลั่งทองเบิ้ม เมื่อรู้ว่าเขาไปเป็นอาจารย์สอนการทำอาหารไทยที่สถาบันฯอาจารย์ยิ่งยศ หยุยก็ตามไปสมัครบ้าง โดยไม่รู้ว่าลูกหมีได้มาสมัครเรียนตามคำขอร้องและขู่เข็ญของเจือจันทร์ เหมือนกัน ด้วยเหตุผลเพราะทองเบิ้มต้องไปเรียนต่างประเทศเสียนาน เขาต้องทำอาหารเอง จึงทำให้ต้องศึกษาและพัฒนาฝีมือจนถึงขั้นรู้จริงและทำได้ดีมาก วันหนึ่ง พริ้มเพริด และชอบชม 2 สาววัยรุ่น วัยซ่าแห่งชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง ผ่านมาที่สถาบันฯโดยบังเอิญ ทั้งคู่เห็นทองเบิ้มลงมาจากรถส่วนตัวคันหรู และเข้าไปในสถาบันฯ 2 สาวเกิดอาการปิ๊งทันที เพราะเขาคือผู้ชายในฝันของเธอแท้ๆ ทั้งหล่อ ที่สำคัญคือรวย 2 สาวจอมซ่าจึงรวบรวมเงินไปสมัครเรียนทำอาหารด้วย โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงคือจับอาจารย์ทองเบิ้ม

วันแรกที่ทองเบิ้มเริ่มสอน ในชั้นเรียนก็ป่วนไปหมด เพราะหยุยหมั่นไส้พริ้มเพริดและชอบชมที่แสดงอาการปลื้มทองเบิ้มจนออกนอกหน้า อีกทั้งการแต่งตัวของทั้งคู่ก็เซ็กซี่เกินไปกว่าจะมาหัดทำกับข้าว จากการเริ่มปะทะคารมกันก็ถึงขั้นการใช้กำลังเปิดศึกชิงนายกันวุ่นวาย ลูกหมีพยายามแยกหยุยออกมาจากคู่กรณี เธออายมากที่เพื่อนรักเกิดอาการบ้าอย่างไร้สาระอย่างนี้ เธอพยายามเตือนสติหยุย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอกำลังหึงหวงแทน เธอพยายามอธิบายแต่ก็ยิ่งพัวพันมัดตัวเอง ลูกหมีพูดไม่ออกเมื่อหยุยขอร้องให้เธอกลับมาอยู่กับคุณย่า โดยบอกว่าไม่ต้องการให้ทองเบิ้มเข้าใจผิดว่าเป็นดี้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นหยุยขอให้ลูกหมีเป็นแม่สื่อให้เธอกับทองเบิ้มได้แต่งงาน กัน ยุวันดารา พริ้มเพริด และชอบชมต่างก็บริหารเสน่ห์ในแบบของตัว และทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทองเบิ้มสนใจพวกเธอ แต่ทองเบิ้มไม่สนใจใครเลย เขาตั้งสติสอนศิลปการทำอาหารอย่างจริงจัง นักเรียนที่ทองเบิ้มสังเกตและตั้งใจสอนเป็นพิเศษกว่าคนอื่นคือลูกหมี แม้ว่าเธอจะพยายามเบี้ยวและเกเร แต่ทองเบิ้มก็ไม่เคยปล่อยให้เธอทำได้ง่ายๆเขามีวิธีที่จะจัดการเธอได้ทุก ครั้ง จนลูกหมีต้องยอมเรียน และเมื่อเรียนๆไปเธอก็เริ่มสนุกกับวิชาการทำอาหารขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

วันหนึ่งขณะที่ลูกหมีขี่รถจะมาเรียนตามปกติ รถเธอเสียอยู่ระหว่างทาง ลูกหมีเริ่มหงุดหงิด เพราะเธอซ่อมรถไม่เป็น ลูกหมีละล้าละลังว่าจะไปเรียนอย่างไร ทองเบิ้มก็ขับรถผ่านมาพอดี เขาเป็นธุระเรียกช่างมารับรถเธอไปซ่อม และรับเธอไปสถาบันฯด้วยกันอย่างเต็มใจ แต่ลูกหมีกลับหงุดหงิด เพราะเดาได้ว่าเมื่อหยุย พริ้มเพริด และชอบชมเห็นเข้าเรื่องจะยุ่งสักแค่ไหน ทุกอย่างเป็นไปตามที่ลูกหมีคิด เริ่มจากหยุยกระบึงกระบอนต่อว่าเธอ พริ้มเพริด และชอบชมกระแนะกระแหน จนลูกหมีเซ็ง ดังนั้นเมื่อชั้นเรียนเลิก เธอพยายามหนีกลับก่อน แต่ทองเบิ้มก็มาดักไว้ เขาบอกว่าเขาจะพาเธอไปอู่รถที่นำรถเธอไปซ่อม ลูกหมีจึงยอมขึ้นรถทองเบิ้ม โดยมีสายตาอิจฉาแทบลุกเป็นไฟของกลุ่มสาวๆมองตามอย่างน่ากลัว เมื่อถึงอู่ซ่อมรถลูกหมีโกรธมากเมื่อเห็นว่ารถชอปเปอร์คันเก่งของเธอถูกถอด ออกเป็นชิ้นๆ ซึ่งช่างบอกว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะซ่อมเสร็จ ลูกหมีมองทองเบิ้มอย่างแค้นใจ เธอนึกออกทันทีว่าโดนเขาแก้แค้นให้แล้ว เพราะเมื่อสมัยเด็ก เธอเคยถอดรถจักรยานใหม่เอี่ยมของเขาเป็นชิ้นๆเพื่อแกล้งเขาเช่นกัน แต่ที่ลูกหมีไม่รู้คือทองเบิ้มทำลงไปเพื่อที่จะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดเธอ บ้าง เรื่องแก้แค้นนั่นเป็นผลทางอ้อมเท่านั้นเอง วันนั้นลูกหมีต้องยอมให้ทองเบิ้มไปส่งที่บ้านอย่างไม่เต็มใจ แต่ทองเบิ้มกลับพอใจที่สุด

รุ่งขึ้นทองเบิ้มมารับลูกหมีไปสถาบันฯตั้งแต่เช้า เขามารอเธอก่อนที่เธอจะตื่นเสียอีก ลูกหมีหมดทางปฏิเสธ เพราะทั้งเจือจันทร์และพุดจีบรู้เห็นเป็นใจกับทองเบิ้มอย่างเต็มที่ ในวันนั้นเกิดเรื่องยุ่งที่สถาบันฯอีกจนได้ เมื่อหยุย พริ้มเพริด และชอบชมเขม่นกันเอง และเลยเถิดถึงขั้นตีกันวุ่นวาย โดยใช้ข้าวของในครัวเป็นอาวุธ กว่าจะสงบศึกลงได้ทุกคนก็เลอะเทอะไปด้วยเครื่องปรุงรสสารพัด ทั้งซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ซอสปรุงรส และน้ำปลา ทั้งนักเรียนและครู กลิ่นอบอวลเหมือนกันหมด รวมทั้งอาจารย์ยี้ส์กับนายบ๊วย คนสนิท เมื่อเหตุการณ์ค่อยสงบลงลูกหมีรีบพาหยุยกลับคอนโด แต่หยุยไม่ยอมให้เธอขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบนห้อง เธอบอกว่าไม่อยากให้ทองเบิ้มเข้าใจผิดว่าเธอกับลูกหมีเป็นคู่รักกันอีกต่อไป ลูกหมีทั้งโกรธและน้อยใจที่หยุยเห็นแก่ตัวได้มากขนาดนี้ เธอเดินไปขึ้นรถเมล์อย่างเซ็งๆและยิ่งเซ็งหนักขึ้นเมื่อใครต่อใครก็ต่างมอง เธอ แถมยังทำท่ารังเกียจเพราะกลิ่นต่างๆอีกด้วย ลูกหมีรออยู่นานกว่าจะได้ขึ้นรถ พอขึ้นรถได้สักพัก เธอก็ถูกกลุ่มนักเลงวัยรุ่นที่มี ก่อเขต ลูกชาย ก่อเกียรติ เจ้าของโรงงานปลากระป๋องเป็นหัวหน้า ก่อเขตยียวนหาเรื่องลูกหมีเพราะเข้าใจว่าเธอเป็นผู้ชาย ลูกหมีซึ่งปกติก็ใจร้อนอยู่แล้ว เมื่อกำลังอารมณ์เสียอีกด้วย ก่อเขตจึงถูกชกลงไปนอนสลบอยู่บนพื้นรถเมล์นั่นเอง เรื่องระหว่างก่อเขตและลูกหมีกลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อก่อเขตไม่ยอมเลิกราวี เพื่อแก้แค้นลูกหมีซึ่งทองเบิ้มก็ตามมาช่วยลูกหมีได้ทุกครั้ง ลูกหมีไม่ต้องการให้ก่อเขตทำตัวเป็นขยะสังคมอีกต่อไป เธอจึงไปขู่ก่อเกียรติว่าให้ส่งให้ก่อเขตไปเรียนวิชาการทำอาหารที่สถาบันฯ ของอาจารย์ยี้ส์ มิฉะนั้นเธอจะไปบอก ซ้อใหญ่ เมียหลวงของ ก่อเกียรติว่าเขามีเมียน้อยอยู่ที่ไหนบ้าง คำขู่ของลูกหมีได้ผล ก่อเกียรติบังคับก่อเขตไปเรียนจนได้ โดยยอมให้ลูกสมุนของก่อเขตไปเรียนด้วย ความหวังดีของลูกหมีกลายเป็นความวุ่นวายอย่างน่าเวียนหัว เมื่อกลุ่มของก่อเขตตั้งตัวเป็นศัตรูกับกลุ่มของลูกหมี หยุย พริ้มเพริดและชอบชม ก่อเขตตามราวีลูกหมีไม่เลิกแม้จะโดนซัดกลับมาหนักๆทุกครั้ง เพราะยิ่งเจ็บก็ยิ่งแค้น จนวันหนึ่งทองเบิ้มต้องเข้ามาดึงก่อเขตออกไปอบรมว่าไม่ควรเอาเรื่องกับ ผู้หญิง ก่อเขตช็อกเมื่อรู้ว่าลูกหมีเป็นผู้หญิง และนับจากจากวันนั้นก่อเขตก็เปลี่ยนไป เขาชอบลูกหมีมากจนถึงขั้นหลงรัก เขาขอให้ทองเบิ้มเป็นพ่อสื่อให้เขากับลูกหมี ก่อเขตลงทุนขอร้องออดอ้อนจนนายบ๊วยซึ่งบังเอิญผ่านมาได้ยินเข้า แต่ฟังไม่ถนัด บ๊วยกลับเข้าใจว่าทองเบิ้มและก่อเขตรักกันเป็นคู่เกย์ บ๊วยไปบอกอาจารย์ยี้ส์ ซึ่งปลื้มและรักทองเบิ้มอยู่แล้ว เรื่องจึงยุ่งไปกันใหญ่ เมื่อยี้ส์หาทางกีดกันทองเบิ้มจากก่อเขต หยุย พริ้มเพริด และชอบชม ทองเบิ้มก็ปวดหัวเพราะก่อเขตมาขอร้องในเรื่องความรักระหว่างเขากับลูกหมี ทั้งที่ทองเบิ้มเองก็ยังรักลูกหมีมากเช่นกัน ตัวลูกหมีเองก็ปวดหัว ปวดใจไม่ใช่น้อยเมื่อหยุยมารบเร้าให้ช่วยให้เธอสมหวังกับทองเบิ้ม ซ้ำร้ายบ๊วยยังมาบอกเธออีกว่าทองเบิ้มและก่อเขตเป็นคู่รักกันอีก เหตุการณ์ชุลมุนเข้าใจผิดระหว่างกันวุ่นวายไปหมด ลูกหมีพยายามพิสูจน์ให้ได้ว่าทองเบิ้มเป็นเกย์หรือไม่ เธอบอกตัวเองว่า เธอทำเพื่อหยุย แต่เมื่อเวลาผ่านไปลูกหมีจึงรู้ใจตัวเองว่าเธอรักทองเบิ้ม และไม่อยากเสียเขาไปให้ใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นก่อเขตหรือหยุย แต่เธอก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี

วันหนึ่งก่อเขตขาดเรียนโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน ทองเบิ้มเป็นห่วงลูกศิษย์ ขณะเดียวกันที่ลูกหมีก็ห่วงเพื่อน ทองเบิ้มจึงชวนลูกหมีไปตามก่อเขตที่บ้าน ทั้งคู่จึงรู้ว่าก่อเขตต้องอยู่ดูแลแม่ซึ่งป่วยเป็นไข้และอยู่บ้านคนเดียว ทองเบิ้มและลูกหมีเป็นธุระพาแม่ของก่อเขตไปส่งโรงพยาบาล ก่อเขตตกใจเมื่อรู้ว่าแม่ป่วยเป็นไข้เลือดออก ซึ่งถ้าพามาหาหมอช้าอีกเพียงวันเดียวอาการของนางก็จะหนักมากขึ้นจนยากที่จะ รักษา ก่อเขตซึ้งน้ำใจของทองเบิ้มและลูกหมีมาก ระหว่างที่ทั้งคู่วุ่นวายกับการติดต่อโรงพยาบาลและหมอ ก่อเขตสังเกตเห็นความสนิทสนมและความเอื้ออาทรห่วงใยกันและกันของทองเบิ้มและ ลูกหมี ทำให้ก่อเขตรู้ว่าทั้งคู่ต่างก็รักกัน ก่อเขตแปลกใจที่ตัวเองรู้สึกดีใจมากกว่าจะเสียใจที่ทองเบิ้มรักลูกหมี เขาตัดสินใจจะช่วยให้ทองเบิ้มได้สมปรารถนา แม้จะยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม ส่วนหยุยเมื่อใช้สารพัดวิธี SEXY เพื่อจับทองเบิ้มไม่ได้ผลเธอก็เปลี่ยนแผนใหม่ปรับตัวใหม่กลายเป็นผู้หญิง เรียบร้อยและเป็นนักเรียนที่ดี ตั้งใจเรียนทำอาหารอย่างจริงจัง เพื่อหวังเรียกความสนใจจากทองเบิ้ม พฤติการณ์ของหยุยทำให้พริ้มเพริดและชอบชมปรับแผนตามไปด้วย ทุกคนเลยสนุกกับการแข่งขันทำอาหารให้ดีและเป็นนักเรียนชั้นยอด ทำให้ทุกคนได้ความรู้ความสามารถทำอาหารได้อร่อยอย่างคนมีฝีมือจริงๆ ความเปลี่ยนแปลงของนักเรียนแทนที่ยี้ส์จะดีใจ เขากลับหมั่นไส้และโกรธที่ ทองเบิ้มสามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้อย่างเรียบร้อย จนทำให้ยี้ส์หมดความสำคัญ ยี้ส์ตัดสินใจกำจัดทองเบิ้มด้วยการบอกว่าจะมีการสอบทำอาหาร โดยเมนูของเขาเองและการตัดสินใจของยี้ส์เองด้วย ยี้ส์ตั้งใจจะให้นักเรียนสอบตกทั้งหมด เพื่ออ้างเป็นเหตุผลที่จะไล่ทองเบิ้มออก โดยไม่ต้องเสียเงินเดือนล่วงหน้าตามกฎหมาย แต่เรื่องนี้ก็รู้ถึงลูกหมีจนได้ เธอเรียกประชุมนักเรียนทุกคนเพื่อหาทางช่วยทองเบิ้มจากการถูกกลั่นแกล้งของ ยี้ส์ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี อย่างไม่น่าเชื่อที่ดียิ่งกว่านั้น ก็คือหยุยมองออกว่าลูกหมีทำลงไปเพราะรักทองเบิ้ม หยุยและลูกหมีสนิทกันมากจนรู้นิสัยกันดี หยุยยอมตัดใจจากทองเบิ้มเพื่อให้ลูกหมีได้สมปรารถนา เมื่อถึงวันสอบลูกหมีวางแผนดัดหลังอาจารย์ยี้ส์ด้วยการไปบอกให้เจือจันทร์มา เป็นกรรมการชี้ขาดแทนยี้ส์ ดังนั้นเมื่อยี้ส์ชิมอาหารของนักเรียนแล้ว แม้จะอร่อยถูกใจทั้งหมด เขาก็จะแกล้งบอกว่าไม่เอาไหน แต่ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อเจือจันทร์มาถึง ยี้ส์ต้องยอมคุณย่าเจือจันทร์ เพราะเป็นผู้ที่สั่งสอนเขามาทุกอย่าง และเจือจันทร์เท่านั้นที่จะรู้ทัน และปราบยี้ส์ได้อย่างอยู่หมัด ผลการสอบก็คือเจือจันทร์ชิมอาหารทุกจานและชมว่าอร่อยและดีทั้งรสชาติและการ จัด นักเรียนทุกคนสอบผ่าน ยี้ส์โกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เรื่องชุลมุนไม่จบเมื่อบ๊วยแอบชวนประชาสัมพันธ์ ติ๋งติ๋ง ไปพักผ่อนที่คอนโดหรูริมทะเลของอาจารย์ยี้ส์ โดยบ๊วยรู้ว่ายี้ส์เก็บกุญแจไว้ที่ไหน แต่บ๊วยก็คือบ๊วยซึ่งไม่เคยเก็บความลับอะไรได้ข่าวจึงรู้ถึงลูกหมี ทองเบิ้ม หยุย พริ้มเพริด ชอบชม รวมถึงก่อเขตและลูกสมุนด้วย ทุกคนจึงพร้อมใจกันไปเที่ยวเพื่อฉลองความสำเร็จ

เมื่อถึงชะอำทั้งหมดจึงรู้ว่ามีการแข่งขันการทำอาหารที่นี่ นักเรียนทุกคนอยากลงแข่งมากซึ่งทองเบิ้มก็เห็นด้วยและช่วยวางแผนจัดหาวัตถุ ดิบอย่างดี การเข้าแข่งขันของกลุ่มนักเรียนจากสถาบันฯอาจารย์ยี้ส์ทำให้ ตี๋กลาง ทายาทเศรษฐีที่หวังจะเปิดภัตตาคารอาหารทะเลนึกกลัว เพราะเขาหวังจะได้ชัยชนะ เพื่อทำธุรกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้ หลังจากที่ทำธุรกิจอื่นมาแล้วแต่ล้มเหลวทั้งหมด ตี๋กลางและพวกกลั่นแกล้งขโมยอาหารทะเลสดๆ ที่กลุ่มของทองเบิ้มลงทุนออกเรือไปกับชาวประมง และจับมาเองไปหมด แต่ก่อเขตและลูกน้องไปตามมาจนได้ เมื่อทุกคนรู้ความจริงจากตี๋กลาง ความสามัคคีก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลุ่มของทองเบิ้มพร้อมใจกันใส่เกลือลงอาหารจานเด็ดโดยที่ไม่ได้นัดหมาย กันมาก่อน ทำให้ตี๋กลางชนะได้รางวัลไปครอง แต่อาจารย์ยี้ส์ซึ่งมาร่วมสังเกตการณ์ด้วยไม่พอใจและประท้วงกรรมการ เพราะเขามั่นใจว่านักเรียนของสถาบันฯเป็นพ่อครัวและแม่ครัวชั้นยอดทุกคน ยี้ส์ชิมอาหารเองแล้วก็ต้องคายแทบไม่ทันเพราะเค็มจนทะเลน่าจะเรียกพี่ ยี้ส์คาดคั้นกับนักเรียนของเขาและทุกคนก็สารภาพว่าทำลงไปเพราะสงสารตี๋กลาง การกระทำของพ่อครัวและแม่ครัวลูกศิษย์ทำให้ยี้ส์ปลื้มมาก เขาพอใจที่ลูกศิษย์ของเขารู้จักความเมตตาและการเสียสละ และรู้จักการให้และการทำอาหารด้วยใจรักจริงๆ ซึ่งการกระทำของทองเบิ้มและนักเรียนชนะใจกรรมการทุกคน รวมถึงตี๋กลางด้วย ตี๋กลางเปิดร้านเลี้ยงฉลองความสำเร็จโดยมีเจือจันทร์กับพัดจีบซิ่งชอปเปอร์ ของลูกหมีมาร่วมงานด้วย เมื่อความวุ่นวายต่างๆจบลง ทองเบิ้มหาโอกาสปรับความเข้าใจกับลูกหมี และขอเธอแต่งงาน ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกริมทะเล โดยมีเจือจันทร์ พัดจีบ ยี้ส์ และนักเรียนจากสถาบันฯทำอาหารคอยลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ และทุกคนก็ได้เฮกันลั่นเมื่อเห็นว่าลูกหมียอมซบอยู่ในอ้อมแขนของทองเบิ้ม อย่างเต็มใจ

มัจจุรีพักร้อน

มัจจุรีเป็นลูกสาวคนเดียวของท้าวมัจจุราช เจ้าแห่งนรกภูมิ มีนิสัยดื้อรั้น และชอบสร้างความปั่นป่วนให้กับเหล่าบริวาร และวิญญาณที่ตกนรกทั้งหลาย ด้วยความที่ต้องเจอแต่มนุษย์ที่ก่อกรรมทำเลว ทำให้มัจจุรีเกิดความเบื่อหน่าย และอยากขึ้นไปบนโลกมนุษย์ เพื่อที่จะเจอคนดีๆ บ้าง จึงขออนุญาต ท้าวมัจจุราชผู้เป็นพ่อ ท้าวมัจจุราชไม่กล้าขัดใจ เพราะเห็นแก่ท้าวมัจจุเรศผู้เป็นเมีย จึงจำใจอนุญาตให้ไปพร้อมทั้งให้บริวารทั้ง 4 ติดตามไปด้วยนั้นก็คือ สันทนา วอนนภา เรณู ปาริชาติ แต่มีกฏ ข้อบังคับว่า ห้ามทุกคนใช้เวทมนต์กลั่นแกล้งทำร้ายมนุษย์ นอกจากถึงเวลาคับขัน หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้น หากใครคนใดคนหนึ่งฝ่าฝืน พวกเธอจะถูกส่งกลับนรกภูมิทันที โดยไม่มีข้อแม้

มัจจุรีโพล่ขึ้นมา ในงานวันเกิดของ นำฤทธิ์ ครูหนุ่มรูปหล่อ ซึ่งเป็นที่รักของชาวบ้าน มัจจุรีพบกับนำฤทธิ์เป็น ครั้งแรกทั้งคู่ก็เกิดความประทับใจกันและกัน แต่เพราะลำใยออกมาหึงหวงนำฤทธิ์ จนเป็นเหตุให้เกิดความโกลาหล ปั่นป่วนกันทั้งงาน มัจจุรีจึงเผลอใช้เวชมนต์ออกไปพวกเธอจึงถูกส่งตัวกลับนรกภูมิทันทีตามข้อ ตกลง มัจจุรพยายามอ้อนขอกลับขึ้นไปบนโลกมนุษย์อีก แต่ไม่สำเร็จ มัจจุรีเบื่อและเซ็ง จึงเดินเล่นและบังเอิญ ผ่านห้องตัดสินขณะนั้นไม่มีใครอยู่ มีแต่ลูกโลกที่มัจจุราชใช้ส่งเธอไปยังโลกมนุษย์ เธอจึงแอบจิ้มลูกโลกเพื่อหนีขึ้นไปโลกมนุษย์อีกครั้ง

เมื่อมัจจุรี มาถึงบ้านฟ้าครามก็ตามหานำฤทธ์ แต่ชาวบ้านกลับบอกว่า นำฤทธิ์ผิดคำสัญญากับพวกเด็ก ๆ ทิ้งหมู่บ้านฟ้าคราม ไปหาความสุขสบาย ที่กรุงเทพแล้ว มัจจุรีผิดหวังในตัวนำฤทธิ์มาก และสัญญากับชาวบ้านว่าจะนำตัวนำฤทธิ์กลับมาให้ได้ มัจจุรีเดินทางตามหานำฤทธิ์เพียงผู้เดียวเกิด อันตรายจนเกือบพลาดท่าเสียทีคนร้าย โชคดีที่บริวารทั้ง 4 มาช่วยไว้ทันเวลา และได้ออกตามหานำฤทธิ์ไปด้วยกัน

พวกเธอมาจนถึงบ้านของนำฤทธิ์โดยมา ตามที่อยู่ในนิตยสาร เมื่อพบนำฤทธิ์ทุกคนพากันต่อว่า นวลจันทร์แม่ของนำฤทธิ์เข้ามาขวาง และเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง ว่าธุรกิจสวนสนุกของครอบครัวกำลังประสบปัญหา จึงเป็นเหตุให้นำฤทธิ์ผิดคำสัญญาต่อเด็ก ๆ และชาวฟ้าคราม มัจจุรีเห็นใจ ต้องการจะอยู่เพื่อช่วยกอบกู้สวนสนุกและ สถานการณ์ของนำฤทธิ์ จึงโกหกว่าเป็นชาวฟ้าคราม จะกลับบ้านไปไม่ได้ หากไม่ไห้พาตัวครูนำฤทธิ์กลับไป ด้วยนวลจันทร์จึงให้มัจจุรีอยู่ที่บ้านตนด้วย ส่วนบริวารทั้ง 4 ก็ถูกส่งไปทำงานกับเพื่อนบ้าน การที่มัจจุรีมา อยู่ในบ้านนำฤทธิ์ทำให้มัจจุรีได้รู้จักนิสัยใจ คอของมนุษย์แต่ละคนมากขึ้น อีกทั้งได้รับบทเรียนต่างๆ ของการอยู่บนโลกมนุษย์ซึ่งเธอก็ผ่านมันมาได้ มัจจุรีและพวกช่วยกิจการ สวนสนุกให้ดีขึ้น โดยจัดงานฉลองสวนสนุกอย่างเอิกเกริก 5 สาวออกแสดงโชว์ที่แปลกตา ทำให้ผู้ที่ มาเที่ยวชื่นชอบจนกิจการสวนสนุก ของนำฤทธิ์กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง

แต่ แล้วเหตุการณ์กลับโกลาหลขึ้นอีกครั้ง เมื่อซีอิ้วทายาทของซีอุยที่ชดใช้กรรมอยู่ในนรกภูมินั้น ได้ขโมยหัวไม้เท้าของท้าวมัจจุราช แล้วหนีขึ้นมา ก่อ ความวุ่นวายบนโลกมนุษย์ เพราะแค้นที่ตนต้องตกนรกเพราะพวกเด็กๆ จึงสิงร่างคนเพื่อหลอกลักพาตัวเด็กๆ มาขังรวมกันไว้ โดยรอเวลา ถ้าหาก ครบ 66 คนเมื่อใดก็จะฆ่าพร้อมๆกันซีอิ้วเข้าสิงร่างสายฟ้า แล้วเข้าไปหลอกลักพาตัวเด็กๆ ที่มาเที่ยวสวนสนุกของนำฤทธิ์ จนกลายเป็นข่าวใหญ่โตเรื่อง ฆาตกรสวนสนุก” เมื่อข่าวแพร่สะพัด จึงทำให้สวนสนุกของนำฤทธิ์เสียชื่อและตกต่ำอีกครั้ง มัจจุรีกับบริวารจึงร่วมมือกันช่วยตำรวจ จนจับฆาตกรได้ แต่ซีอิ้วในร่างสายฟ้าใช้พลังจากหัวไม้เท้าเล่นงานมัจจุรีและบริวารจนเจ็บ หนักและหนีไปได้ ซีอิ้วไนร่างสายฟ้า ตระเวณหลอกล่อเด็กๆ จนใกล้ครบ 66 คน เมื่อมัจจุรีและบริวารหายดี จึงร่วมมือกันวางแผนปลอมตัวเพื่อล่อซีอิ้ว ทั้งคู่ใช้อิทธิฤทธิ์ต่อสู้กัน

ในที่สุดซีอิ้วก็พลาดท่าหลงอุบายของ สันทนาจึงทำให้มัจจุรีได้หัวไม้เท้าของมัจจุราชคืน และแล้วเวลาของมัจจุรีก็หมดลง เธอจึงถูกมา รับตัวกลับนรก ภูมิทันที

มหาราชกู้แผ่นดิน

เมื่อพระองค์ดำหรือพระนเรศวรได้เสด็จหนีจากหงสาวดีมา สู่กรุงศรีอยุธยาได้นำชาวไทใหญ่ จำนวนหนึ่งมาด้วย นั่นคือ เจ้านางมณีจันทร์และเจ้านางมณีอิน ตลอดจนขุนแสนกล้า นักรบของเจ้าไทใหญ่ อีกทั้งยังมีเจ้านายของกรุงศรีอยุธยาร่วมมาในขบวนครั้งนั้นด้วยคือ พระองค์หญิงพิจิตรจินดา กับเดือน ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงและเป็นสนมของพระราเมศวร การกลับมาของพระองค์ดำ ทำให้พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมหาธรรมราชาและพระเอกาทศรถหรือพระองค์ขาว ดีพระทัยเป็นอย่างยิ่ง

พระองค์ดำครองรักกับเจ้านางมณีจันทร์ แล้วเสด็จขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลก พระองค์ดำทรงคิดอยู่ตลอดเวลาเรื่องที่ กรุงศรีอยุธยาตกเป็นประเทศราชของหงสาวดี จึงได้จัดหาทหารฝีมือดีมาร่วมทัพ แล้วทรงเปลี่ยนกลศึกจากการยกพลจำนวนมหาศาลเข้าปะทะข้าศึก ก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้การรบเยี่ยงกองโจร ทหารฝีมือดีนั้น ต่อมาได้ร่ำเรียนพิไชยสงครามกับขุนเมืองผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ดำ มีจำนวน 6 คน คือ มิ่ง เที่ยง บุญ เพิ่ม ขวัญ ขาม และมีขุนแสนกล้าอีกผู้หนึ่ง รวมเป็นทหารเอกคู่พระทัย 7 คน

ส่วนทางหงสาวดี ก็ไม่ไว้ใจกรุงศรีอยุธยา เพราะรู้กิตติศัพท์ของพระนเรศวรเป็นอย่างดีว่ามีความกล้าหาญเพียงใด จึงหาทางทำศึกกับกรุงศรีอยุธยา แต่เมื่อยกกองทัพมาก็พ่ายกรุงศรีอยุธยา ทุกครั้ง ทำให้เมืองต่าง ๆ ที่เป็นเมืองประเทศราช ต่างคิดแข็งเมืองกัน

มังกะยอชะวาทุบตีตองชเว ผู้เป็นมเหสี ทำให้พระเจ้าอังวะ พระราชบิดาของตองชเวไม่พอใจ แข็งเมืองเป็นขบถ จันทรากับสุวรรณฉัตรสายเครือของอังวะจึงถูกเนรเทศออกไปจากหงสาวดี เมื่อทั้งสองกลับมายังอังวะ พร้อมกับนินตยาวดีมเหสีของสุวรรณฉัตรด้วย นันทบุเรงก็ใช้ให้เมืองประเทศราชทั้งหลายยกทัพไปตีอังวะ พระนเรศวรแกล้งเดินทัพช้าๆ เพื่อรอให้พระเจ้านันทบุเรงทำศึกกับพระเจ้าอังวะถึงแพ้ชนะก่อน มังกะยอชะวารักษาเมืองอยู่ ออกอุบายให้พระยาเกียรติกับพระยาราม ขุนนางมอญมาคอยรับ พระนเรศวรที่เมืองแครงพร้อมทั้งไพล่พล และมีกลศึกว่าทั้งสองคน ลวงพระนเรศวรไปฆ่าให้จงได้ ทั้งสองเคยสนิทกับพระนเรศวรมาก่อน จึงนำความไปเล่าให้พระมหาเถรคันฉ่องฟัง พระมหาเถรคันฉ่องมาเฝ้าพระนเรศวรแล้วทูลให้ทรงทราบ พระนเรศวรโกรธและประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ไม่ยอมขึ้นต่อหงสาวดีอีกต่อไป

พระเจ้านันทบุเรง ส่งกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอยู่หลายครั้ง แต่ก็พ่ายกลับไปทุกครั้ง การพ่ายแพ้ของหงสาวดี ทำให้เมืองประเทศราชทั้งหลายต่างแข็งเมืองขึ้น ภายในเมืองหงสาวดีก็เกิดความวุ่นวาย เนื่องด้วยเจ้ายะไข่ได้ส่งธิดามาถวายพระเจ้านันทบุเรง ทำให้ศุภยา พระอัครมเหสีไม่พอใจมาก รวมถึงเจ้านางสุวนันทาด้วย ยะไข่ได้ใช้ธิดาของตนเป็นสื่อดึงฟิลิป เดอบริโต พ่อค้าชาวโปรตุเกสเข้ามาค้าขายในเมืองหงสาวดี และมีอิทธิพลทางการเมืองต่อหงสาวดีเป็นอย่างมาก ขณะที่พระนเรศวรได้รู้จักกับเซปาสเตียน ฝรั่งชาวสเปน ที่เข้ามาสอนการใช้ปืนไฟให้พระนเรศวร

พระมหาธรรมราชาสวรรคต พระนเรศวรขึ้นครองราชย์ แล้วทรงแต่งตั้งพระเอกาทศรถเป็นพระอุปราช มุขมนตรีและเจ้านายชั้นสูงในสมัยพระมหาธรรมราชาได้ถวายหญิงงามเชื้อสาย ราชวงศ์สุพรรณภูมิพระองค์หนึ่ง เป็นพระชายานามว่า “มณีรัตนา” เจ้านางมณีจันทร์น้อยพระทัย แต่ไม่แสดงออก ส่วนราชวงศ์สุโขทัย โดยท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ได้ถวายนางที่มีเชื้อสายราชวงศ์สุโขทัยเป็นพระสนมเอก นามว่า “เจ้าแก้วปทุม” ทั้งนี้ท้าวศรีจุฬาลักษณ์คิดแค้นที่มิได้รับความรักจากพระมหาธรรมราชา จึงส่งหลานสาวมาแก้แค้นแทนตนทำให้กรุงศรีอยุธยาวุ่นวาย ส่วนขุนเมือง ได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าพระยาสุรสีห์” ครองเมืองพิษณุโลกแทนพระนเรศวร

นักแสดง มหาราชกู้แผ่นดิน
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ
อานัส ฬาพานิช
กันตะ กัลย์จาฤก
สาริน บางยี่ขัน
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์

มนต์รักอสูร

น้ำผึ้งครูสาวของโรงเรียนประจำตำบลกำลังพบกับปัญหาหนักเพราะผู้มีอิทธิพลตาม ทวงเงินที่พ่อและแม่นำที่ดินไปจำนองไว้ ถ้าหากไม่สามารถหาเงินมาคืนก็จะยึดที่ดิน แต่ถ้าน้ำผึ้งยอมเป็นเมียน้อย ก็จะยกหนี้สินทั้งหมดให้ ขณะเดียวกันทั้งพ่อและแม่ของเธอก็กำลังเจ็บป่วยอย่างหนักผัน จึงพาน้ำผึ้งไปพบเทอดให้ช่วยเหลือ แต่เมื่อเจอกันครั้งแรก น้ำผึ้งก็พบกับความก้าวร้าวของนันท์ลูกชายของเทอดและการดูหมิ่นเหยียดหยาม จากเทอด เทอดให้ความช่วยเหลือน้ำผึ้ง แต่มีข้อแม้ว่าน้ำผึ้งต้องเป็นครูสอนหนังสือให้นันท์ ปรนนิบัติรับใช้เทอด น้ำผึ้งยอมตกลง น้ำผึ้งมาพบเสี่ยทรงยศเพื่อไถ่ถอนที่ดินคืน ทำให้เสี่ยทรงยศไม่พอใจ แต่ต้องยอมคืนโฉนดที่ดินให้

น้ำผึ้งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเทอด ด้วยความขยันทำงาน ทำให้เทอดมองเห็นความดีของน้ำผึ้ง แต่นันท์ก็ขัดขวางทุกครั้ง เสี่ยทรงยศส่งสมุนมาก่อกวนรังควานบางครั้งถึงกับฉุดน้ำผึ้งในบ้าน แต่เทอดกับพวกก็มาช่วยได้ทัน เทอดเป็นห่วงน้ำผึ้ง จึงสอนให้น้ำผึ้งยิงปืนและให้ปืนไว้ป้องกันตัว ความดีของน้ำผึ้งทำให้ความก้าวร้าวของนันท์เริ่มอ่อนลงและยอมไปเรียนหนังสือ ในตัวจังหวัด ทำให้เทอดดีใจอย่างมาก แต่นันท์ก็ไม่พอใจที่พ่อสนิทกับน้ำผึ้งจึงโทรไปฟ้องเตือนใจผู้เป็นป้า เตือนใจจึงเดินทางมาที่ไร่ ทำตัวเป็นเจ้าของเทอดอย่างเปิดเผย ในขณะเดียวกัน เตือนใจก็ใส่ร้ายหาว่าน้ำผึ้งกอดจูบกับประเทืองที่มาหาน้ำผึ้งบ่อย ๆ ทำให้เทอดเข้าผิด เย็นวันหนึ่งขณะเตือนใจขับรถไปรับนันท์ในตัวเมือง เทอดเมากลับมาพบน้ำผึ้งคุยอยู่กับประเทือง ทำให้เทอดเกิดความหึงหวง และไล่ประเทืองออกจากบ้านและปลุกปล้ำเธอ จึงทำให้ทั้งสองได้เป็นของกันและกัน เทอดไปรับพ่อและแม่ของน้ำผึ้งจากโรงพยาบาลหลังจากหายดีแล้ว น้ำผึ้งดีใจมากที่ได้พบพ่อกับแม่

และวันที่น้ำผึ้งเป็นอิสระก็มาถึง พ่อกับแม่น้ำผึ้งนำเงินมาไถ่ตัวจากเทอดทำให้ทุกในบ้านอาลัยหาน้ำผึ้ง แต่คนที่ดีใจที่สุด ๆ คือเตือนใจที่หมดเสี้ยนหนาม ชัชชัยหุ้นส่วนโรงไม้ของเสี่ยทรงยศคุยกันเรื่องไม้เถื่อนที่ขนย้ายมาจากชาย แดน และมียาบ้าซุกซ่อนมาด้วย ทำให้ชัชชัยมาเยี่ยมเทอดเพื่อเจรจาให้เทอดเปิดทางด้านภูเขาให้รถขนไม้แต่เท อดไม่ยอม ชัชชัยจับน้ำผึ้งและนันท์ไปเป็นตัวประกันถ้าเทอดยอมเปิดทางก็จะปล่อยตัว ทันที เทอดบอกให้ผันและพ่อของน้ำผึ้งให้ไปแจ้งตำรวจ และตกกลางคืนเทอดก็แอบเข้าไปในโรงเลื่อยไม้แล้วฆ่าสมุนของชัชชัยตาย ชัชชัยต่อโทรศัพท์ให้เทอดสั่งคนงานในไร่ไปเปิดทางให้รถ แต่เทอดสั่งคนงานให้ตอบโต้ห้ามใครล่วงล้ำเขตไร่ ทำให้ชัชชัยโกรธมากสั่งให้สมุนมัดนันท์แล้วดึงห้อยโตงเตงและค่อย ๆ หย่อนลงด้านล่างซึ่งเป็นในเลื่อยขนาดใหญ่ ขณะ ที่ร่างกำลังจะถึงใบเลื่อย เตือนใจก็ดึงปืนออกมาจี้ชัชชัยพร้อมกับสั่งให้เทอดไปช่วยลูกและน้ำผึ้ง ขณะนั้นผันนำตำรวจบุกเข้ามา สมุนของชัชชัยและทรงยศเกิดการแตกกระเจิง ชัชชัยต่อสู้กับเทอด พลาดท่าถูกเทอดเหวี่ยวไปถูกใบจักรร่างของชัชชัยขาดสองท่อนตายสยอง เมื่อเรื่องร้ายผ่านไปเทอดก็ขอร้องให้น้ำผึ้งอยู่กับเขา และนันท์ตะโกนเรียกน้ำผึ้งว่า แม่ ทำให้น้ำผึ้งกอดนันท์ด้วยความรักและทั้งสามก็กอดกันด้วยความรักท่ามกลางความ ดีใจของคนในไร่

นำแสดงโดย

1. จอนนี่ แอนโฟแน่ รับบท เทอด
2. นพวรรณ ศรีนิกร รับบท น้ำผึ้ง
3. สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ รับบท เตือนใจ
4. สถาพร นาควิลัย รับบท ทรงยศ
5. วฤนดา สมศิริ รับบท กานดา
6. โอลิเวอร์ พูพาร์ท รับบท ปราโมทย์
7. พิศาล อัครเศรณี รับบท วัน
8. ปวีณา ชารีฟสกุล รับบท ลำยง

ภูแสนดาว

ทันมาย เป็นอาจารย์หนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-เวียดนาม เขาเกลียดสงคราม เพราะสงครามทำให้เขาเป็นเด็กกำพร้า และไม่ชัดเจนว่าตัวเอง “เป็นใคร” บนโลกใบนี้ อเมริกันหรือเวียดนาม แต่สิ่งนี้ก็ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด ทันมายเดินทางเข้าไปยังเมืองเมือน ในฐานะผู้ประสานงานให้แก่ คณะนักวิจัยจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีดอกเตอร์ลิลิตร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะนักวิชาการจากประเทศในเอเชียที่ ร่วมงานวิจัยชิ้นนี้ ไม่มีใครในทีมวิจัยล่วงรู้ว่าดอกเตอร์ลิลิตเป็นตัวแทนของ “ช้างเผือก” ที่เดินทางมาเพื่อเจรจาเรื่องความช่วยเหลือในการปลดแอกเมืองเมือนและแม้ซอง ลีล่ายและฮองตันเองก็ไม่รู้ว่าดอกเตอร์ลิลิตมีจุดประสงค์อื่นร่วมกับเหงียน ตันสุย นั่นคือการค้นหาความลับเกี่ยวกับภูแสนดาว

ระหว่างการทำวิจัย ที่ทันมายเริ่มรู้สึกถูกชะตากับซองลีลิว ลูกสาวของผู้ท้าวแห่งเมืองเมือน ความลับเรื่องการปลดแอกตัวเองของเมืองเมือนก็รั่วไหลไปถึงหูของเหงียนตันสุ ยและนายจนได้ และเมืองเมือนก็ถูกเชือดให้ชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆ ดูทันที โดยการที่ฮานอยส่ง กองกำลังพิเศษบุกโจมตีปราบปรามกบฏเมืองเมือน การสู้รบเมืองเมือนทำให้ทันมายและซองลีลิวต้องหลบหนีออกจากเมืองเมือนด้วย กันเพียงลำพัง โดยฮองตันซึ่งหลงรักลีลิวอยู่นั้นเข้าใจว่า ทันมายพาตัวลีลิวออกมามอบให้แก่เหงียนตันสุยใช้เป็นตัวประกัน ขณะที่เหงียนตันสุยเองก็ต้องการจับตัวลีลิวให้ได้เพราะเข้าใจว่าความลับของ ภูแสนดาวที่รับรู้กันในนามหมายตราแห่งแสงตะวันนั้นจะต้องอยู่ที่ซองลีลิวลูก สาวผู้ท้าวแห่งเมืองเมือนอย่างแน่นอน

การหลบหนีและการไล่ล่าดำเนินมา ตลอดตั้งแต่ดินแดนตอนเหนือของเวียดนาม ไล่เรื่อยลงมาถึงตอนกลางและตอนใต้ ภายใต้ความพยายามของทันมายที่จะขอความช่วยเหลือจากองค์กรต่างประเทศให้เข้า มาสงบศึก ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมืองเมือนให้ได้ เพราะตัวเขาเองนั้น ก็มีปมอยู่ในใจเรื่องสงครามมาตลอดชีวิต จนไม่สามารถ “เป็นใครที่แน่ชัดได้” ในขณะที่ซองลีลิวนั้นก็ขัดแย้งกับทันมายมาโดยตลอด เพราะหล่อนเชื่อว่าความสงบสุข สันติภาพ และเอกราชของเมืองเมือนนั้นจะได้มาก็ด้วยการสู้รบ และสงคราม และความคิดนั้นก็มาจากการ ที่หล่อนเป็นลูกสาวของผู้ท้าวเมืองเมือนนั่นเอง

แต่ แล้วสิ่งที่ได้พบเจอระหว่างการเดินทางหลบหนีลงมาบนแผ่นดินเวียดนามที่เคยลุก ร้อนด้วยไฟสงครามก็ทำให้ความคิดของซองลีลิวเปลี่ยนไปหล่อนเห็น และรับรู้แล้วว่าสงครามไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลย คนเวียดนามมากมายที่หล่อนพบเจอระหว่างการหลบหนีไล่ล่าคือ ผลพวงของสงครามเวียดนามอันโหดร้าย รุนแรง แม้มันจะผ่านพ้นมาแล้วแต่พวกเขายังมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานทั้งทางกายและ ใจ ทั้งทหารผ่านศึกทุพพลภาพ คนพิการ แม่ม่ายสงคราม เด็กกำพร้า เด็กลูกครึ่ง ฯลฯ และสุดท้ายก็คือ ลีลิวมองเห็นและรับรู้อย่างเต็มหัวใจในสิ่งที่ทันมายเป็นและต้องแบกรับมา ตลอด ชีวิตของเขานั่นเอง ซองลีลิวตัดสินใจร่วมมือกับทันมาย พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีการเจรจาสันติภาพให้ได้

ระหว่าง นั้นเองความลับของตราแห่งแสงตะวันก็เปิดเผย ซองลีล่ายผู้ท้าวแห่งเมืองเมือนมิได้เป็นผู้ถือหมายตราฯ เอาไว้ตามที่เขาบอกทุกคนในเมืองเมือน รวมทั้งพวกข่อยที่ทำงานที่ภูแสนดาว ด้วยความเชื่อมาตลอดว่า “ผู้ใดครอบครองหมายแห่งแสงตะวัน ผู้นั้นครอบครองภูแสนดาว” ที่แท้ซองลีล่ายเป็นผู้ฆ่าพ่อแม่ของฮองตัน เพื่อแย่งชิงหมายตราฯ มาเป็นของตัว แต่สุดท้ายเขากลับหามันไม่พบ และเลือกที่จะโกหกทุกคนมาตลอดว่าเขาเป็นผู้ถือหมายตราฯ นั้นไว้ ในความเป็นจริงหมายตราแห่งแสงตะวันก็อยู่กับตัวของฮองตัน หลานชายที่เขารับเลี้ยงดูแต่เล็กแต่น้อย โดยปิดบังความจริงเรื่องความตายของพ่อแม่นั่นเอง ติดตามเรื่องราวของสงครามที่นำมาซึ่งความเดือดร้อน และหัวใจรักของคนทั้งสอง ว่าจะสามารถดับไฟสงครามให้ มอดลงได้หรือไม่ใน “ภูแสนดาว”

รายชื่อนักแสดง

ชาคริต แย้มนาม รับบท ทันมาย
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ รับบท ซองลิลิว
มนตรี เจนอักษร รับบท ซองลีล่าย
วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ รับบท ฮองตัน
ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ รับบท เลอติน
พิสมัย วิไลศักดิ์ รับบท ยายเฒ่าเหมี่ยน
สะอาด เปี่ยมพงษ์ศานต์ รับบท ลุงเถียน
ทัศน์วรรณ เสนียย์วงศ์ ณ อยุธยารับบท ป้าเหม่ย
วัชรเกียรติ บุญภักดี รับบท ตวนธาน

ภูตพิศวาส

มารุต กสิกรรม ชายหนุ่มนักศึกษากฏหมายวัย 21 ปี เป็นคนขยันหมั่นเพียร ใฝ่หาความรู้ เรียนหนังสือด้วยตนเองทางไปรษณีย์ช่วงใกล้สอบจะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อลงทะเบียนสอบ จึงได้รู้จักกับเพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันชื่อ มนัส และ ประพาส เพื่อนใหม่ทั้ง 2 คน ได้ชวนมารุตมาพักอาศัยที่วัดแสงใต้ตั้งอยู่แถวฝั่งธน เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว พระเทพ ได้ให้ที่พักแก่ประพาสและมนัสครั้งยังเรียนระดับมัธยม ปัจจุบันพระเทพได้ตายเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยเป็นวัณโรค แต่สาเหตุการตายที่แท้จริงเป็นเรื่องลึกลับ ยกเว้น ลุงอินเพียงผู้เดียว ที่กุฏิของพระเทพได้กลายเป็นที่พักของลุงอินสัปเหร่อ วัดแสงใต้ผู้ให้ที่พักแก่ 3 หนุ่มได้แก่ มารุต ประพาส และมนัส ลุงอินมีคำเตือน 3 ข้อที่ให้ 3หนุ่ม ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดคือ ต้องเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคง, ห้ามเปิดประตูหน้าต่างยามวิกาล, เมื่อได้ยินเสียงใครมาเรียก ห้ามตอบ ถ้าเห็นว่าไม่ชอบมาพากล ให้ร้องเรียกลุงอิน

การตายได้คืบคลานเข้ามาหาประพาสเป็นคนแรก ตามด้วยมนัส ไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง ที่น่าสังเกตคือใต้แขนพับใกล้เส้นเลือดใหญ่ มีรอยเจาะเลือด 2 รูของคนตายทุกคน คืนหนึ่งผี ดาว สาวสวยได้มีโอกาสเข้ามาคุยในห้องของมารุต โดยมีมารุตทนฟังคำออดอ้อนวิงวอนเจ้าคารมของดาวไม่ได้ จึงใจอ่อนยอมเปิดประตูรับตอนสองยาม ดาวพยายามพูดทุกวิถีทางเพื่อให้มารุตใจอ่อนยอมนอนกับตน แต่ด้วยความเป็นคนมีจิตใจมั่นคง มีเหตุผล มารุตสามารถเอาตัวรอดได้โดยการไล่ดาวออกจากห้องของตน และไม่ยอมตกเป็นทาสกามารมณ์ต่อคำพูดและท่าทางยั่วยวนชวนนอนของดาว ตอนรุ่งเช้าลุงอินมาเคาะประตูถามถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ก็พึงพอใจที่มารุตไม่หลงกลของผีสาวเจ้าเสน่ห์ ลุงอินเชื่อแน่ว่า

เมื่อ มารุตสอบเสร็จ ต้องขอนอนที่กุฏิตามเดิม มารุตไปสอบด้วยความมั่นใจ แต่ไม่วายอดคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน และคาดว่าคืนนี้จะต้องคุยกับดาวเช่นเดิม ตกกลางคืนดาวมาหามารุตเช่นเคย นำเครื่องเพชรและทองคำมากมายมาให้แล้วอ้างว่าปวดหัว ร้องไห้โอดครวญสารพัด พยายามทำทุกทางเพื่อให้มารุตเปิดประตูให้ ด้วยความเป็นคนขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จึงยอมเปิดประตูนำยาแก้ปวดหัวไปให้ ดาวเข้ามาหามารุตพร้อมเล่าเรื่องราวการตายของเพื่อนทั้ง 2 คนว่าเป็นฝีมือของดาวเอง และเล่าว่าเหตุที่ดาวจากเป็นทาสรับใช้จอมปีศาจเพื่อแลกกับวิญญาณพ่อแม่ให้ ได้ไปผุดไปเกิด โดยดาวยอมตกเป็นบริวารคอยดูดเลือดเพื่อนำเป็นเครื่องสังเวยจอมปีศาจ ดาวเผยว่าตนทนทุกข์ทรมานมากไม่อยากทำกรรมอุบาทว์อีกต่อไป วอนให้มารุตช่วยโดยการนำศพของดาวออกจากป่าช้าวัดแสงใต้ไปอยู่บ้านนอกกับ มารุต พร้อมตั้งศาลเพียงตา เพื่อป้องกันอำนาจชั่วร้ายของจอมปีศาจนายใหญ่ เมื่อลุงอินรู้เรื่องราวทั้งหมด จึงรับปากจะช่วยเหลือเต็มที่

ที่ บ้านนอก ดาวขอเข้าไปปรนนิบัติรับใช้มารุตตอนกลางคืน และขอร้องให้มารุตเล่าเรื่องดาวว่าเป็นใคร มาจากไหนให้แม่มณีรับรู้ และบอกว่าแม่มณีเตรียมหาสะใภ้ให้มารุตแล้ว รุ่งขึ้นแม่มณีเรียกมารุตไปคุยเรื่องหมั้น เง็กลั้ง หรือ บุหงา ให้แล้ว สร้างความขุ่นข้องหมองใจแก่มารุตยิ่งนัก เพราะเขาไม่ชอบการคลุมถุงชน และไม่เคยเห็นหน้าบุหงาด้วยช้ำ นับวันบุหงาเริ่มสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับมารุตยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแผนของแม่มณี เพราะกลัวว่าลูกชายจะไปหลงรักดาวผีดิบ มารุตทนบุหงาให้ท่าทอดกายให้เขาชมไม่ได้ จึงปล่อยใจเผลอไผลไปกับรูปร่างเร่าร้อน ยั่วยวน อวบอิ่มของบุหงา ขณะเดียวกับมารุตเริ่มรักและสงสารเห็นใจดาวมากขึ้นที่ถูกมารดากลั่นแกล้ง จึงหาทางทำพิธีชุบชีวิตดาวให้กลายเป็นคนโดยมีข้อควรปฏิบัติ 3 ข้อคือ ทั้งคู่ต้องร่วมกันสวดมนต์ทุกคืน ๆ ละครึ่งชั่วโมง, ทั้ง 2 ต้องประพฤติพรหมจรรย์, ทุกเช้าอาหารที่นำไปให้ดาวทุกถ้วยๆ ต้องหยดเลือด 1 หยด เพราะนั่นคือชีวิตใหม่ของดาว

ทั้งมารุตและดาวร่วมฟันฝ่าอุปสรรค มาด้วยกันจนดาวได้เป็นคน กลับทำให้มารุตสุขภาพย่ำแย่เพราะเสียเลือดไปมาก แม่มณีไม่ยอมรับดาวให้เข้ามาอยู่ในบ้าน ส่วนดาวก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจแม่มณี โดยการทำหน้าที่เป็นแม่บ้านมิให้ขาดตกบกพร่อง มีชายหนุ่มมาชอบดาวชื่อ วัยวุฒิ เป็นลูกชายนายอำเภอ เรียนจบกฏหมาย หน้าตาหล่อเหลา สุภาพเรียบร้อย พูดจาจริงจัง ไม่เจ้าชู้ มารุตเริ่มหึงดาว จนเกิดการทะเลาะมีปากเสียงกัน แม่บอกดาวเรื่องงานแต่งระหว่างมารุตและบุหงา เมื่อแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านนี้ ดาวเสียใจมากไม่ยอมจากมารุตไปไหน จึงเข้าห้องทำลายความสวยเพื่อจะได้อยู่บ้านนี่ โดยการกร้อนผม โกนคิ้ว ตัดขนตา ทั้งแม่และมารุตตกใจมากจึงยอมให้ดาวอยู่รับใช้ต่อไป

มารุต สงสารและรักดาวมากขึ้น จึงลอบได้เสียเป็นผัวเมียกับดาว ก่อนแต่งงานกับบุหงา เพราะมารุตเป็นคนมั่นคงในความรักที่มีต่อดาวคนเดียว วันรุ่งขึ้นมารุตแต่งงานกับบุหงา แล้วไปอยู่บ้านบุหงาเป็นเดือนๆ ไม่ยอมกลับมาหาดาว ลุงอินเห็นผิดสังเกตุเลยทำอุบายบอกให้แม่มณีจดหมายให้มารุตมาหาที่บ้าน บุหงากับดาวเกิดมีปากเสียงกันบุหงาจึงรู้ว่าดาวเป็นเมียคนแรกของมารุตถึงกับ เป็นลมล้มไป มารุตโกรธมาก ถึงขนาดตบตีดาวจนเลือดตกยางออก ลุงอินเชื่อว่าที่มารุตทำกับดาวได้ถึงเพียงนี้ เพราะเขาถูกเสน่ห์ยาแฝด

ทั้ง ลุงอินและแม่มณีทำทุกวิถีทางที่จะทำให้มารุตกลับสู่สภาพเดิม ขณะเดียวกับดาวเกิดตั้งท้อง 2 เดือน ภายหลังรู้ว่าวัยวุฒิกับดาวเป็นญาติกัน เพราะนามสกุลเดียวกัน ลุงอินหาทางแก้เสน่ห์ยาแฝดของบุหงาที่ทำต่อมารุต โดยการแอบปีนเข้าทางหน้าต่าง แล้วสวมแหวนนพเก้าที่นิ้วกลางของมารุต มารุตเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาปวดหัวหนัก จึงค้นใต้หมอน พบว่ามีกางเกงในเปื้อนประจำเดือนของบุหงา 2 ตัว ยัดนุ่นในหมอนนอนหนุนทุกคืน จึงเข้าใจเรื่องทั้งหมด รีบแจ้นกลับบ้าน เพราะคิดถึงแม่และดาวเมียรัก

บุหงา โกรธมากสั่งคนลอบวางเพลิงที่เรือนหอหลังใหม่ใกล้โรงสี ตำรวจจับได้ความว่า นางตาบคนครัวเป็นไส้ศึกให้บุหงา เพราะได้รับอามิสสินจ้าง คนร้ายสารภาพว่าบุหงาเป็นผู้บงการเรื่องทั้งหมด บุหงาถูกจับเข้าคุก และถูกบังคับให้เซ็นใบหย่าให้มารุต ในที่สุดเวรกรรมตามทัน บุหงากลายเป็นฮิสทีเรีย เสียตัวกับหมอทำเสน่ห์ เมื่อลูกสาวของดาวและมารุตมีอายุครบ 1 ขวบ ดาวโดนยมบาลเรียกไปชดใช้กรรมเมื่อครั้งยังเป็นผีดิบดูดเลือด ลุงอินตามไปช่วยเจรจาขอผ่อนผันไปอีก 5 ปี ถึงจะสิ้นอายุขัยของดาว ท่านยมบาลยอมจำนนปล่อยดาวไป ปัจจุบันมารุต ดาว และ ลูกแก้ว เป็นครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุขมาก ส่วนอีก 5 ปี ข้างหน้าเป็นอย่างไรไม่มีใครล่วงรู้…

รายชื่อนักแสดง ภูตพิศวาส

เขตต์ ฐานทัพ รับบท มารุต
วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบท ดาว
น้ำทิพย์ เสียมทอง รับบท บุหงา
ดวงดาว จารุจินดา รับบท มณี
ภัสสร มามีเกตุ รับบท พิณ
วุฒิชัย ไหมกัน รับบท วัยวุฒิ
รวิช ไรวินท์ รับบท แผ้ว
ชุมพร เทพพิทักษ์ รับบท ลุงอิน

ภพเสน่หา

“ ตะวัน” หนุ่มจิตรกรฝีมือดีเรียนจบด้านจิตรกรรมมาหมาดๆ ต้องการมีธุรกิจของตัวเองร่วมกับ “ศิลา” เพื่อนสนิทโดยทั้งสองคิดจะหาซื้อบ้านเก่าเพื่อดัดแปลงเป็นแกลลอรี่ภาพเขียน ในที่สุดตะวันกับศิลาก็พบกับบ้านเก่าในฝันที่ลงตัวที่สุด ที่สามารถดัดแปลงเป็นแกลลอรี่ขายภาพเขียนและที่พักในขณะเดียวกัน ตะวันรู้สึกชอบและถูกใจบ้านหลังนี้มาก ครั้งแรกที่ก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน เขาเริ่มจะได้กลิ่นไม้หอมแป้งร่ำแบบโบราณหอมชื่นใจทำให้เขาต้องมาพาศิลามาดูด้วยตา และก็น่าแปลกใจที่ศิลาเองก็รู้สึกอย่างเดียวกับตะวัน ทั้งสองจึงตกลงซื้อบ้านทันที โดยไม่ลังเล แต่ทั้งสองก็รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นจนกระทั่งศิลาทนไม่ได้ ต้องสอบถามจากเพื่อนบ้าน จึงรู้ว่าเจ้าของบ้านพยายามขายบ้านให้กับหลาย คนแล้ว แต่ใครๆ ก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ ชาวบ้านต่างร่ำลือว่าเป็นบ้านผีสิง ศิลานำความไปบอกกับตะวัน แต่ตะวันเห็นเป็นเรื่องเหลวไหล

เรื่องเหลวไหลของตะวัน เริ่มปรากฏตัวให้เห็นเป็นระยะๆ “เอื้อง” วิญญาณสาวสิงอยู่ในบ้านไทยโบราณ เธอกำลังรอคอยเนื้อคู่ที่จะกลับมาหาเพื่อปลดปล่อยมนต์อธิษฐาน คืนหนึ่งที่ตะวันหลับ เขาฝันเห็นผู้หญิงสาวสวยผมยาวมีดอกไม้ประดับผม นุ่งผ้าแบบสาวเหนือโบราณ เขาตกใจตื่น แล้วรีบวาดรูปผู้หญิงคนนั้นทันที แต่ได้แค่ภาพร่างคร่าวๆ ของเธอเท่านั้น เอื้องที่สังเกตการณ์อยู่รู้สึก สังหรณ์ใจว่า ตะวันกำลังวาดรูปใคร ขณะเดียวกัน วิญญาณของเอื้องก็เริ่มปรากฎร่างได้มากขึ้นทีละนิด เอื้องจึงสังหรณ์ใจตะวันจะคือคนที่เธอรอคอย ตะวันพยายามที่จะวาดภาพหญิงสาวในฝันต่อ แต่ก็เลือนลางเต็มที เขาพยายามที่จะหลับพร้อมกับความตั้งใจที่จะให้ฝันถึงเธออีกทุกค่ำคืน จนกระทั่งเขาฝันเห็นเธออีกครั้ง ตะวันตื่นขึ้นมา รีบวาดภาพนั้นอย่างมีสติ เอื้องเห็นภาพตัวเองที่ตะวันวาดก็โกรธมาก และแปลกใจที่เขาเห็นเธอได้อย่างไร และร่างของเอื้องเองก็สามารถปรากฏตัวให้ตะวันเห็นทันทีที่ภาพวาดเสร็จ

ตะวันตกใจมากแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง บัดนี้เขารู้แน่ชัดแล้วว่าบ้านหลังนี้มีผีสิงอยู่จริง ทางด้านแม่ของตะวัน พาบัวคู่หมั้นของเขามาหาถึงแกลลอรี่ แม่ของเขาและบัวเจ้ากี้เจ้าการจัดเปลี่ยนแปลงตบแต่งแกลอรี่ใหม่ ตะวันโกรธมาก แต่เพราะเกรงใจแม่ และ ถนอมน้ำใจบัว จึงไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนเอื้องก็เริ่มรู้สึกอึดอัดเพราะบัวทำตัวดูจะใกล้ชิดสนิทสนมกับตะวันมาก จนเกินไป ตะวันเองก็รู้สึกว่าการมีเอื้องอยู่ด้วย เขามักจะรู้สึกแปลกๆ ที่มนุษย์กับวิญญาณจะสื่อสารและพูดคุยกันได้และอยากค้นหาความจริงเพื่อช่วยเอื้องมากขึ้น ด้วยความน่ารักแสนงอนที่เอื้องแสดงต่อตะวัน ทำให้เกิดความผูกพันทางใจขึ้นเรื่อยๆ แต่เอื้องกับตะวันก็จะมีเรื่องโกรธกันอยู่บ่อยๆ

เอื้องจะหลบไม่ออกมาพบตะวัน แต่เธอก็ใจอ่อน และเพื่อให้ตะวันรู้จักกับตัวตนของเธอมากขึ้น เธอจึงสร้างมโนภาพให้ตะวัน หลุดไปอยู่ในภพอดีตของเธอ จึงทำให้ตะวันเข้าใจและชื่นชอบตัวตนของเอื้องมากขึ้น ตะวันสอนให้เอื้องได้รับรู้โลกภายนอกในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ศิลากับบัวเริ่มสนิทกันมากขึ้น และศิลาต้องการครอบครองบ้านและแกลลอรี่เป็นของตัวเองคนเดียว พร้อมกับแต่งงานกับบัว ทั้งคู่วางแผนที่จะทำให้แกลลอรี่มีปัญหาในการดำเนินธุรกิจเพื่อจะได้เป็นเจ้าของคนเดียว

ด้วยความรักที่มีต่อตะวัน เมื่อเห็นว่าตะวันมีปัญหาเรื่องแกลลอรี่ เอื้องพยายามหาทางช่วยตะวันอย่างเต็มที่ โดยบอกที่เก็บสมบัติให้ตะวันรู้เพราะคิดว่าตะวันจะใช้กู้สถานการณ์ได้ ศิลารู้เรื่องโดยบังเอิญ จึงวางแผนซ้อนแผนคิดจะฮุบสมบัติทั้งหมด และให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็น ฝีมือของตะวัน ไม่มีใครรู้ความจริงนอกจากเอื้อง เธอจึงต้องใช้เพียรบารมีที่สะสมมาช่วยให้แกลลอรี่อยู่ได้เพื่อตะวัน ทำให้หนทางที่เธอจะได้เป็นมนุษย์น้อยลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด ตะวันพบว่า น้องสาวของบีเพื่อนร่วมรุ่นอีกคน ที่เป็นเจ้าหญิงนิทรามาหลายปี จึงหาทางให้เอื้องได้พบกับร่างที่เอื้องจะกลับเป็นมนุษย์ได้โดยใช้ร่างน้องสาวของบี และเอื้องจะหมดความทรงจำในอดีตเป็นเอื้องคนใหม่ แต่ความรักความผูกพันจากหลายพบ ทั้งคู่ก็จดจำกันได้ในที่สุด และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

ไฟในวายุ

ธรา สลัดรัก หมอภูผา มาแต่งงานกับ ชาตรี ธนากูล ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าชาตรีมี ดวงดาวเป็นภรรยา และ วายุ ลูกชายอยู่แล้ว หลังจาก ธรา ให้กำเนิด ไกรกูณฐ์ ได้ไม่นาน ดวงดาวก็เสียชีวิต วายุจึงอยู่ในความดูแลของ ธรา แม้จะได้รับความรักและเอาใจใส่อย่างดี แต่ วายุ ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองได้รับความรักน้อยกว่า ไกรกูณฐ์ น้องชายผู้อ่อนแอ และขี้โรคเสมอ วายุ เข้ามาบริหารงานของบริษัทในเครือ ธนากูล จนเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ ในขณะที่ ไกรกูณฐ์ ลอยชายไร้สาระไปวัน ๆ ไกรกูณฐ์จ้าง ละเวง มาเล่นละครตบตาวายุว่าเป็นแฟน เพื่อวางแผนกำจัดวายุ

ใน งานวันเกิดของ ธรา วายุทะเลาะกับ ไกรกูณฐ์ ต่อหน้าแขกในงาน วายุ กลับขึ้นไปนอนบนห้อง ตื่นขึ้นมาเห็น ไกรกูณฐ์แกล้งนอนตายในห้อง ละเวง เข้ามาเห็น จึงทำตามแผนที่วางไว้กล่าวโทษวายุเป็นฆาตกร และแนะให้หนีไปหลบที่ไร่วายุกูล เพื่อหวังให้ อุศเรน น้องชายตามไปฆ่า แต่คืนนั้นมีพายุ ทำให้วายุ ต้องพักที่ไร่สายน้ำรีสอร์ทของหมอภูผา ลุงของสลิล หรือ ลูกหว้า ซึ่งกำลังอกหักอยู่ วายุอยู่ในอาการโทษตัวเอง และ คลุ้มคลั่ง ลูกหว้าพยายามช่วย แต่วายุ ก็ยังปิดกั้นตัวเอง

ไกร กูณฐ์ ปรากฎตัวที่ไร่ขวัญแก้วของ นวลขวัญ และ ทแกล้ว น้องชาย โดยอ้างเป็น วายุ ธนากูล หลอกให้นวลขวัญขายไร่ขวัญแก้ว ให้กษิต นักพนักตัวแสบ และเพราะความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวของ นวลขวัญ ทำให้ ไกรกูณฐ์ รู้สึกชอบ และในขณะเดียวกัน วายุ ก็เริ่มเปิดใจรับความรู้สึกดี ๆ ของลูกหว้า

ใน งานปาร์ตี้วันเสาร์ ไกรกูณฐ์ มาร่วมงานที่รีสอร์ทบ้านไร่สายน้ำได้เจอกับวายุ แต่ วายุ คิดว่า ไกรกูณฐ์ เป็นวิญญาณตามหลอกหลอน แต่แล้วที่ไร่ขวัญแก้ว วายุ ก็ได้เจอกับ ไกรกูณฐ์ ความจริงก็เริ่มเปิดเผย ขวัญแก้วเสียใจที่ ไกรกูณฐ์ หลอกลวงเธอ ไกรกูณฐ์ โยนความผิดทั้งหมดให้ ละเวง กับ อุศเรน ละเวงเสียใจที่ ไกรกูณฐ์ ไม่รัก จึงเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้วายุฟัง ธรา ผู้อยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมด ยิง ละเวง และ อุศเรนที่ทรยศตน และกล่าวโทษ ไกรกูณฐ์ที่ไม่เอาไหนทำเสียแผน ทำให้ ไกรกูณฐ์ เสียใจมาก เมื่อทุกอย่างเปิดเผย ธรา และ ไกรกูณฐ์ จะมีชะตากรรมอย่างไร

นักแสดงละคร ไฟในวายุ

1. ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบทแสดงเป็น วายุ
2. ภาณุ สุวรรณโณ รับบทแสดงเป็น ไกรกูณฐ์
3. อารยา เอฮาร์เก็ต รับบทแสดงเป็น สลิล
4. เกวลิน คอตแลนด์ รับบทแสดงเป็น นวลขวัญ
5. อภิชาต วงศ์กาวี รับบทแสดงเป็น ทแกล้ว
6. จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบทแสดงเป็น ธรา
7. ตฤณ เศรษฐโชค รับบทแสดงเป็น หมอภูผา
8. ชาลี กรรณสูต รับบทแสดงเป็น กษิต
9. สุรัตนา ข้องตระกูล รับบทแสดงเป็น ดวงดาว
10. สุภัสสร มามีเกตุ รับบทแสดงเป็น ละเวง
11. วรัญญา กิจวัฒนะ รับบทแสดงเป็น เรืองตะวัน
12. กรวินธ์ ภู่ภักดี รับบทแสดงเป็น วิธู
13. ปฏิญญา วิโรจน์แสงประทีป รับบทแสดงเป็น อุศเรน