Category Archives: ละครปี 2547

หัวใจห่อใบตอง

หัวใจห่อใบตองหัวใจห่อใบตอง เป็นเรื่องราวของนิด นิด เป็นคนขยันและมีน้ำใจ นนท์ พ่อของ นิด มีครอบครัวใหม่ เงินที่เคยส่งให้ สุมน แม่ของ นิด ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดส่ง นิด ตัดสินใจไม่เรียนต่อเมื่อจบ ม.6 เพราะอยากให้ หนุ่ย น้องชาย ได้เรียนสูงๆ ส่วนเธอเลือกเรียน มสธ. แล้วช่วยแม่ทำขนมขาย

ธีรชาติ ทายาทคนเดียวของ ชาติ นักธุรกิจชื่อดัง เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทำให้มารดาทาบทาม กิ่งแก้ว ลูกสาวเพื่อนรักไว้ให้ แต่ ธีรชาติ คิดกับ กิ่งแก้ว เพียงแค่น้องสาว วันหนึ่ง ธีรชาติ นั่งรถผ่านร้านขนมของ นิด คนขับรถขอแวะซื้อขนม ธีรชาติ นั่งคอยนานจึงตัดสินใจลงไปตาม เมื่อเห็นหน้า นิด รู้สึกประทับใจในความสวยและความมีน้ำใจ เขาจึงแนะนำตัวกับ นิด ว่าชื่อ ขันหมาก เป็นคนขับรถให้กับเศรษฐี และคิดหาวิธีต่างๆเพื่อใกล้ชิดกับ นิด หลังจากนั้น ธีรชาติ กลายเป็นแขกประจำของครอบครัว นิด ซึ่งเธอก็ไม่รังเกียจที่จะคบหาฉันเพื่อน
จู่ๆร้านขนมของ สุมน โดนกลั่นแกล้ง ทำให้ยอดขายตก สภาพการเงินแย่ลง ต่อมา นิด ไปส่งขนมที่ร้านของ แพร นางแบบเก่าที่รู้จักมานาน ชักชวนให้เป็นนางแบบ นิด ตัดสินใจลองทำ ทางด้าน ธีรชาติ สืบจนรู้ว่าเป็นฝีมือของ ทิพย์ แม่ค้าขี้อิจฉา จึงช่วยเหลือจนร้าน สุมน กลับมาขายดีอีกครั้ง วันหนึ่ง นิด ไปหา นนท์ ที่ต่างจังหวัด ทำให้ นนท์ ดีใจที่ลูกมาหา ธีรชาติ ตามไปหา นิด และได้ทำความรู้จักกับ นนท์ ความสนิทระหว่างพ่อลูกทำให้ วลี ภรรยาใหม่ของ นนท์ ไม่พอใจจนถึงขั้นมีปากเสียงกัน

ชาติ ต้องรีบไปสนามบินเพื่อติดต่อธุรกิจ แต่รถของเขาติดหล่มท่ามกลางฝนตก โชคดี นิด และ หนุ่ย เข้ามาช่วยกันเข็นทำให้ ชาติ สามารถไปติดต่อธุรกิจได้ทัน ชาติ รู้สึกถูกชะตาและพอใจในความมีน้ำใจ จนกระทั่ง ชาติ เล่าให้ ธีรชาติ ว่าเธอผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากแนะนำให้รู้จัก แต่ ธีรชาติ ปฏิเสธ เพราะเขามีคนที่เขารักอยู่แล้ว

สุมน ทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน ระหว่างนั้น ชาติ ที่นำของมาให้เพื่อตอบแทนน้ำใจของ นิด มาพบว่า สุมน เป็นลมหมดสติไป ชาติ เป็นธุระพาส่ง รพ. นิด จะตามไปด้วย แต่ สุมน สั่งให้เธอเฝ้าบ้านแทน ธีรชาติ เข้ามาช่วยเหลือ นิด ทำขนม เพราะเห็นว่า สุมน ยังป่วยอยู่ เขาตัดสินใจสารภาพรักกับ นิด และเอ่ยปากขอแต่งงาน นิด ขอให้ ธีรชาติ ไปพูดกับ สุมน ก่อน

ต่อมา นนท์ หย่ากับ วลี เพราะมีชู้ นนท์ กับ สุมน มีโอกาสปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ประจวบกับที่ ชาติ มาเยี่ยม สุมน เอ่ยปากขอ นิด ให้ลูกชาย ขณะนั้นเอง ธีรชาติ มาเยี่ยม สุมน เช่นเคย พอเห็น ชาติ ก็ตกใจ ความลับเลยแตก นิด งอนที่ถูกหลอก ธีรชาติ เลยตามงอนง้อจนเข้าใจในที่สุด

ผลิตโดย : 559 ออนแอร์

นักแสดง
ณัฐวุฒิ สกิดใจ
โสภิตนภา ชุ่มภาณี

หวานใจไทยแลนด์

หวานใจไทยแลนด์ เป็นเรื่องราวของ หวานใจ หรือ หวาน ( คัทลียา แมคอินทอช ) สาวน้อยเจ้าของตำแหน่งนางงามบั้งไฟพญานาค เดินทางมาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ โดยอาศัยอยู่กับลูกเพื่อนบ้านคือ คิมหันต์ หรือ คิม ( ศรราม เทพพิทักษ์ ) เด็กบ้านนอกที่เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็ก ด้วยสังคมที่ต้องดิ้นรนทำให้เขาเป็นคนกะล่อน หลอกลวง หาเงินเลี้ยงชีพด้วยวิธีที่ไม่ค่อยจะสุจริตนัก ครั้งแรกที่หวานเจอคิมก็โดนคิมหลอกว่าตัวเองเป็นตำรวจสายลับ ซึ่งหวานหลงเชื่อและศรัทธาในตัวคิมมาก พยายามทำดี ดูแลปรนนิบัติคิมทุกอย่าง จนคิมกับ 2 คู่ซี้ ปาน ( ชัชชัย จำเนียนกุล ) และบี้ ( อรรถกร สุวรรณราช ) อยู่อย่างสบายประหนึ่งมีคนรับใช้ในบ้านเลยทีเดียว

 

อยู่ไปสักพักคิมพาหวานไปฝากให้ทำงานในโรงงานของคุณปรุง ( ปิยะ วิมุกตายน ) หนุ่มผู้กำกับหนังไทยสไตล์อาร์ต ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงเศวตาภรณ์ ( อาภาพร กรทิพย์ ) โดยมีเจ๊เล็ก ( จรรยา ธนาสว่างกุล ) หัวหน้าขึ้ประจบ ขี้อิจฉา คอยดูแลหวาน คิมมีโอกาสได้ไปกองถ่ายที่คุณปรุงทำงานอยู่ และได้เจอนางเอกภาพยนตร์ของคุณปรุงชื่อน้องวุ้น ( ชนกวนัน รักชีพ ) คิมโดนใจใจความสวย น่ารักของน้องวุ้นมาก และประจวบเหมาะว่าขณะนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่มีการประกวดนางนพมาศพอดี คิมเลยติดต่อและส่งน้องวุ้นเข้าประกวดโดยให้หวานเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด จนหวานเปรียบเสมือนคนรับใช้ของน้องวุ้นไปโดยปริยาย แต่โอกาสนี้ทำให้หวานได้ใกล้ชิดกับวงการนางงามมากขึ้น จนสนิทสนมเจ๊ได๋ ( อรนภา กฤษฎี ) กระเทยเมคอัพอาร์ตติสฝีมือเยี่ยมที่มารับหน้าที่เป็นครูฝึกนางงามให้ กับการประกวดครั้งนี้ เท่านั้นไม่พอหวานยังถูกเจ๊ได๋เรียกให้ไปเป็นตัวอย่างในการสอนบุคลิกภาพและ มารยาทในการเข้าสังคมกับนางงามอีก เลยทำให้หวานได้ปรับบุคลิกกิริยามารยาทของตัวเองกลายเป็นหญิงสาวที่มี บุคลิกภาพสง่างามอย่างบังเอิญ วันหนึ่งน้องวุ้นหลอกคิมไปที่บ้าน พยายามให้ท่าจนพ่อและแม่ของวุ้นเข้าใจผิดคิดว่าคิมทำมิดีมิร้ายน้องวุ้น ทางคิมกลัวโดนพ่อแม่น้องวุ้นเล่นงานจึงหาทางตีซี้กรรมการเพื่อล็อบบี้ ตำแหน่งชนะเลิศนางงามไว้ก่อน แต่ก่อนจะขึ้นเวทีน้องวุ้นถูกแซนดี้ ( เบญจวรรณ เทิดทูลกุล ) สาวเปรี้ยว ปากตลาดที่หลงรักคิมวางยาเลยไม่สามารถขึ้นเวทีประกวดได้ งานนี้หวานเลยตกกระไดพลอยโจรเป็นนางงามจำเป็นขึ้นเวทีประกวดแทน จนได้รับตำแหน่งนางนพมาศมาครอง แซนดี้รับไม่ได้ขึ้นไปตบหน้ากระชากมงกุฏหวานบนเวที แต่สุดท้ายหวานก็เป็นผู้ครอบครองรางวัลชนะเลิศและสวมมงกุฏอย่างสง่างาม

 

จากการประกวดทำให้หวานได้รู้จักทรายขาว ( พิมพรรณ ชลายนคุปต์ ) หนึ่งในเพื่อนนางงามที่ร่วมเข้าประกวด เด็กของอี๊เป้า ( อัญชลี ไชยศิริ ) ผู้คร่ำหวอดในวงการนางงามและมีเบื้องหลังค้าเนื้อสด ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 หลังจากการประกวดครั้งนี้ทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน นอกจากนั้นหวานยังเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของบรรดาเพื่อนๆ ที่โรงงาน รวมทั้งมีหนุ่มๆ เสี่ยๆ มาสนใจเพียบ ทำให้เจ๊เล็กหมั่นไส้หลอกทำลายหวาน โดยลวงไปให้ยามข่มขืน ดีที่คิมมาชนพาหวานหนีออกจากโรงงานอย่างทุลักทุเลจนตัวเองบาดเจ็บต้องเข้า โรงพยาบาล หวานต้องเอาขันเงินรางวัลเทพีบั้งไฟไปจำนำเอาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ คิม แล้วเอาเงินส่วนที่เหลือไปหุ้นกับเจ๊ได๋และทรายขาวทำข้าวปิ่นโตขายจนได้กำไร เอาเงินไปไถ่ขันคืน จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้หวานรู้สึกว่าคิมเป็นเหมือนวีรบุรุษของเธอ ต่อมาหวานมีโอกาสได้ไปเทสต์หน้ากล้องที่กองถ่ายของคุณปรุง ทำให้หวานรู้ความจริงว่าคิมไม่ได้เป็นตำรวจอย่างที่บอกไว้ หวานโกรธคิมแล้วแก้เผ็ดคืนโดยการให้คิมทำงานบ้านแทน พอคิมทำงานไถ่โทษจนหวานให้อภัยแล้วคิมก็หันมายึดตำแหน่งผู้จัดการนางงามส่ง หวานเข้าประกวดนางงามสงกรานต์ บรรยากาศเวทีประกวดครั้งนี้เครียดและกดดันกว่าทุกๆ เวทีที่ผ่านมา แต่ไม่หวานจะโดนแกล้งด้วยวิธีสกปรกแค่ไหน คิมก็ช่วยเหลือจนหวานได้ตำแหน่งมาครอง

 

จากการที่หวานได้ผ่านเวทีประกวดนางงามมาหลายเวที ได้ช่วยหล่อหลอมให้หวานเข้มแข็งมากขึ้น ทำให้หวานได้รู้จักกับคนหลากหลาย ที่สำคัญได้สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิตหวานเยอะ หวานมีชื่อเสียงเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาเสี่ยๆ รวมไปถึงคุณปรุงก็สนใจและตามจีบหวานเช่นกัน ติดต่อให้หวานไปถ่ายโฆษณา และผลงานที่ออกมาก็เป็นที่ฮือฮาพอสมควร ยิ่งคุณปรุงได้ร่วมงานใกล้ชิดกับหวานมากก็ยิ่งชอบ และหลงใหลในตัวหวานมากขึ้นถึงขั้นไปบอกคุณหญิงแม่ว่าเข้าตั้งใจจะปั้นหวาน ให้โด่งดังให้ได้ อีกทั้งยังขอร้องให้คุณหญิงแม่ช่วยอบรมกิริยามารยาทให้หวานอีกด้วย คุณหญิงช่วยคุณ ปรุงด้วยความยินดี ตั้งชื่อให้หวานใหม่ว่า มธุฤทัย และเทรนเธอตามที่คุณปรุงต้องการ คุณหญิงให้ความเมตตาแก่หวานมาก พาไปออกงานทำให้หวานได้รู้จักสังคมในระดับไฮโซมากขึ้น แต่พอคุณหญิงรู้ว่าคุณปรุงสนใจและหวังจะเลือกหวานมาเป็นภรรยา ประกอบกับโดนลูกยุเป่าหูจากคุณแป้ง ( สมาพร เขียวบวร ) ลูกสาวคนเดียวที่มีอคติกับหวาน ว่าหวานชอบให้ท่าคุณกลม ( กรกฏ ธนภัทร ) สามีคุณแป้งลูกสาวของเธอด้วย คุณหญิงก็เลยเปลี่ยนท่าทีจากหน้ามือเป็นหลังมือกลับกลายเป็นหมั่นไส้ เกลียดหวานแทน ยิ่งคุณปรุงแสดงออกว่าชอบหวานมาขึ้นเท่าไหร่ คุณหญิงก็ยิ่งแสดงอาการเย็นชากับหวานมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุผลที่เธอไม่ยอมให้ไพร่อย่างหวานมาร่วมครอบครัวกับเธอเด็ดขาด คิมทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวที่ดี คอยรับ-ส่งหวานจนใครๆ สงสัยว่าคิมกับหวานมีอะไรกันหรือเปล่า คิมไม่สบายใจกลัวว่าเรื่องนี้จะเป็นต้นเหตุทำลายอนาคตหวานเลยตัดสินใจให้ หวานไปอยู่คอนโด พอหวานแยกออกไปคิมก็รู้สึกเหงา ขณะที่หวานสนุกสนานกับเรื่องราวใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต คุณปรุงจีบหวานชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หวานกำลังสับสนอยู่ เพราะในใจหวานมีแต่ภาพคิมเท่านั้น เพียงแต่เธอไม่เคยบอกใครและคิดน้อยใจอยู่คนเดียวว่าคิมคงไม่สนใจสาวบ้าน นอกอย่างเธอ ผู้ชายทะเยอทะยานอย่างคิมน่าจะสนใจเรื่องเงินๆ ทองๆ และผู้หญิงประเภทสาวสวยไฮโซมากกว่า ด้านอี๊เป้าเห็นว่าหวานกำลังโด่งดังแถมยังมีอนาคตไกลก็สนใจและพยายามที่จะ ดึงตัวหวานมาเป็นนางงามในสังกัดเหมือนทรายขาว ด้วยความที่คิมอยากให้หวานมีอนาคตไกลเลยยอมให้หวานไปอยู่กับอี๊เป้า พออี๊เป้าได้หวานมาอยู่ในกำมือก็จัดการส่งหวานไปขายให้ป๋าโต ( สุเชาว์ พงษ์วิไล ) ขณะที่หวานกำลังจะถูกป๋าโตข่มขืน คิมเข้ามาขัดขวางช่วยได้และพาหวานหนีไปยังบ้านเกิด อ.หาดจ้อย จ.หนองคาย ลูกน้องป๋าโตไม่ลดละตามไปเล่นงานจนได้ คิมพาหวานลงเรือหนีหัว ซุกหัวซุน ป๋าโตลงเรือไล่ล่าตามยิงคิมบาดเจ็บไม่สามารถพายเรือหนีไปได้อีก ป๋าโตตามมาด้วยแรงแค้น แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็รอดตายด้วยปาฏิหาริย์บุญบั้งไฟ เพราะจู่ๆ ลูกไฟพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง ขอนไม้ท่อนใหญ่ฟาดเข้าที่เรือป๋าโตจนคว่ำ ป๋าโตจมน้ำตายในที่สุด หลังเหตุการณ์วุ่นวายผ่านไปหวานกับคิมกลับไปผจญชีวิตในกรุงเทพฯ อีกครั้งเพื่อประกวดนางสาวไทยแลนด์ยู่นิเวอร์ส เวทีประกวดที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ

 

การประกวดครั้งนี้หวานเจอทั้งเรื่องวุ่นวายใส่ร้ายป้ายสีสารพัดจนผิดใจกับ ทรายขาวชนิดที่มองหน้ากันแทบไม่ติด แถมยังโดนคุณหญิงเศวตาภรณ์ ซึ่งเป็นประธานในการประกวดกุเรื่องกล่าวหาว่าหวานติดสินบนกรรมการจนเกือบโดน ปลดออกจากการประกวดอีก แต่สุดท้ายหวานก็พิสูจน์ตัวเอง พิชิตใจกรรมการคว้าตำแหน่งชนะเลิศ และมงกุฏมาครอบครอง หลังจากวันนั้นชีวิตของหวานก็เปลี่ยนไป หวานต้องออกงานสังคมไฮโซอยู่บ่อยๆ โดยมีคิมคอยเทคแคร์ แต่มันเป็นโลกที่คิมไม่คุ้นเคย การเจอคนอีกระดับ ขนบธรรมเนียมอีกแบบทำให้เขาพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิมเลยตัดสินใจให้หวานก้าวไปอยู่ในความดูแลของคุณปรุง เมื่อหวานมาอยู่ในความดูแลของคุณปรุง คุณปรุงปั้นให้หวานเป็นนางเอกดาวรุ่งคนใหม่ พอภาพยนตร์ที่หวานเล่นออกฉายหวานกลายเป็นนางเอกดาวรุ่ง ขวัญใจคนใหม่ของคนทั้งประเทศ ชื่อเสียงเงินทองหลั่งไหลเข้มาหาจนหวานตั้งตัวไม่ทัน คิมเห็นคุณปรุงสนิทสนมกับหวานมากเลยเข้าใจผิดคิดว่าหวานรักคุณปรุง คิมจึงตัดสินใจถอนตัวออกห่างจากหวาน และเก็บหวานไว้เป็นเพียงความภูมิใจอย่างหนึ่งในชีวิตของเขาเท่านั้น ส่วนหวานก็เข้าใจผิดคิดว่าคิมไม่สนใจใยดี ไม่แคร์ตน คิดว่าคิมอยากได้เงินจากการที่โอนหวานไปอยู่ในความดูแลของคุณปรุงเท่านั้น ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ทางเดินชีวิตของทั้งคู่ก็ยิ่งแตกต่างกันมากขึ้น ต่างคนต่างเดินไปคนละทาง ทั้งคู่จะกลับมารักและเข้าใจกันเหมือนเดิมอีกหรือไม่ติดตามชมใน หวานใจไทยแลนด์ ทางช่อง 3

รายชื่อนักแสดง หวานใจไทยแลนด์


คัทลียา แมคอินทอช รับบท หวานใจ
ศรราม เทพพิทักษ์ รับบท คิมหันต์
พิมพรรณ ชลายนคุปต์ รับบท ทรายขาว
ปิยะ วิมุกตายน รับบท คุณปรุง
อรนภา กฤษฎี รับบท เจ๊ได๋
ชัชชัย จำเนียนกุล รับบท ปาน
อรรถกร สุวรรณราช รับบท บี้
สุเทพ ประยูณพิทักษ์ รับบท เฮียกุ่ย
อาภาพร กรทิพย์ รับบท คุณหญิงเศวตาภรณ์
ชนกวนัน รักชีพ รับบท น้องวุ้น
เบญจวรรณ เทิดทูลกุล รับบท แซนดี้
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท ป๋าโต

หลังคาแดง

หลังคาแดง เป็นเรื่องราวของ ทองดี ชายหนุ่มผู้ล้มเหลวทั้งชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงาน เขาทำงานในบริษัทใหญ่โตในหน้าที่พนักงานรักษาความปลอดภัยประจำทางเข้าออก ด้านหน้าของอาคาร แต่แล้วจู่ๆ โดยไม่คาดฝันทองดีก็ถูกไล่ออกจากงานเพราะบริษัทได้นำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามา ควบคุมอาคารตั้งแต่การเปิดปิดประตูโดยอัตโนมัติและกล้องวงจรปิด ทำให้บริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยในจำนวนมาก เท่าเดิม และทองดีก็กลายเป็นหนึ่งในจำนวนพนักงานที่บริษัทปลดออก ทองดีพยายามไปสมัครงานที่ใหม่ๆ แต่ก็ไม่เคยมีที่ไหนรับเขาเลย วันๆ เขาออกไปหางานแล้วก็กลับมาอยู่ห้องเช่าอย่างโดดเดี่ยว จะมีก็เพียงไอ้มะลิหมาจรจัดเท่านั้นที่เป็นเพื่อนพอพูดคุยระบายความในใจได้ ทุกวันทองดีจะนั่งคุยกับมะลิเล่าถึงความหลังของเขากับน้ำฝนอดีตแฟนสาวที่ ทิ้งเขาไป ทองดียังหวังว่าวันหนึ่งเขาจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวให้มั่นคงเพื่อให้น้ำ ฝนกลับมาหา ด้วยความหวังในชีวิตนี้เองที่ทำให้ทองดียังมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป โดยที่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนล้มเหลวอย่างที่คนอื่นๆ ในสังคมมองว่าเขาเป็น จนเมื่อยังหางานใหม่ไม่ได้ ประกอบกับถูกไล่ออกจากห้องเช่า เพราะค้างค่าเช่า ทองดีรู้สึกคับแค้นใจอยู่ไม่น้อยเขาคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตกต่ำเช่น นี้ก็เพราะการถูกไล่ออกจากงาน ทองดีรู้สึกอยู่เสมอว่าเขาเป็นพนักงานที่ยอดเยี่ยม เขามั่นใจว่าเขาเป็นคนที่ทุกคนในบริษัทตั้งแต่พนักงานทำความสะอาดไปจนถึง ประธานบริษัทต้องรู้จักเพราะทุกวันเขาจะเปิดประตูต้อนรับให้ทุกคนพร้อมด้วย รอยยิ้มและคำทักทาย เขาไม่เชื่อว่าคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่นี้ได้ดีไปกว่าเขา ในที่สุดทองดีก็ตัดสินใจกลับเข้ามาที่บริษัท พอมาถึงเขาก็ก้าวเข้าประตูที่เลื่อนเปิดปิดได้เองโดยอัตโนมัติพร้อมทั้งมี เสียงกล่าวต้อนรับเข้าสู่บริษัทพร้อมสรรพ ทองดีรู้สึกอึ้งกับความล้ำสมัยนี้แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังมั่นใจในประสิทธิภาพ การทำงานของตน เขาจึงตรงไปขอเข้าพบประธานบริษัทเพื่อจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเอง จากการกระทำอันอุกอาจนี้ทองดีก็ถูกจับส่งตำรวจ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง ทางด้านของโฉมศรี ภรรยามหาเศรษฐีชื่อดังซึ่งไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศได้ติดต่อมาแจ้งความ ให้ตำรวจไทยช่วยตามหาสามีที่หายไป โดยหลักฐานท้ายสุดที่พอจะมีเกี่ยวกับสามีก็คือ จดหมายหนึ่งฉบับพร้อมกับรูปถ่ายล่าสุด โฉมศรีซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ต่างประเทศได้ให้ข้อมูลว่าสามีหรือโกยทอง ได้เดินทางไปเที่ยวรอบโลกตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว โฉมศรีไม่ได้ข่าวใดของสามีอีกจนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โกยทองได้ติดต่อกลับมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ประเทศไทยและได้ทำศัลยกรรมใบหน้า ใหม่ และได้แนบรูปถ่ายมาให้ดูซึ่งในรูปถ่ายนั้นโกยทองมีใบหน้าเหมือนทองดีอย่าง กับคนๆ เดียวกัน ทองดีซึ่งกำลังถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโกยทอง ทองดีพยายามปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่โกยทอง แต่ก็ไม่มีใครฟัง เมื่อเห็นว่าทองดีไม่ยอมรับ ตำรวจก็คิดว่าบางทีอาจะเป็นเพราะโกยทองเสียสติไปแล้ว เพราะจากคำให้การของโฉมศรีได้ระบุว่า พักหลังๆ โกยทองได้เกิดอาการเครียดและระแวงว่าจะมีคนมาทำร้ายอยู่เสมอ จนในที่สุดก็ได้มีความคิดที่จะหนีไปที่ไหนสักพักเพื่อพรางตัว ตำรวจเชื่อว่าอาการเครียดที่ว่านี้อาจจะมีผลให้โกยทองเสียสติไปได้ ตำรวจจึงได้ส่งตัวทองดีไปอยู่โรงพยาบาลหลังคาแดงซึ่งเป็นสถานบำบัดและรักษา ผู้วิกลจริตที่โกยทองเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นเอง วันแรกที่ถูกส่งตัวไป ทองดีถูกจัดให้พักในบ้านพักของผู้ป่วยพิเศษเพื่อรอให้ ผ.อ.คนใหม่ของโรงพยาบาลมาถึง ทองดียังไม่รู้ว่าเขาถูกส่งตัวมาที่ใด ส่วนหนึ่งก็เพราะทุกคนคิดว่าเขาเป็นโกยทองผู้เป็นเจ้าของที่นี่ จึงได้ปฏิบัติกับเขาและให้การรับรองอย่างดีเสียจนทองดีไม่รู้ว่าตัวเองกำลัง อยู่ในโรงพยาบาลบ้า การมาของทองดีหรือโกยทองตามที่คนอื่นเข้าใจนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับเจ้า หน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาลมากเพราะตลอดมา โกยทองเป็นบุคคลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็นมาก่อน ที่โรงพยาบาล จิตแพทย์ประจำโดยการนำของ กุหลาบและสายใจ ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ ผ.อ.คนใหม่ โดยได้คัดเลือกคนไข้จำนวนหนึ่งจากฝ่ายคนไข้พิเศษมาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ แต่ ผ.อ.คนใหม่ก็มาช้าเพราะรถของโรงพยาบาลอื่นที่มาส่งเกิดหลงทาง ประกอบกับคนไข้รายใหม่ในท้ายรถอาละวาด ผ.อ.จึงต้องเสียเวลาไปกับการเข้าไปเกลี้ยกล่อมอยู่ท้ายรถ ทองดีซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนไข้พิเศษได้มาร่วมในงานเลี้ยงครั้งนี้ ด้วยคอนเซ็ปต์ของงานที่พยายามทำให้ ผ.อ.รู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีบรรยากาศของโรงพยาบาล ทำให้ทองดียังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติเท่าไรนัก เมื่อ ผ.อ.คนใหม่มาถึง ทุกคนก็ตื่นเต้นดีใจโดยเฉพาะกุหลาบซึ่งเป็นสาวโสดวัย 30 ซึ่งรู้สึกประทับใจในตัว ผ.อ.ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น กุหลาบได้แนะนำทองดีให้ ผ.อ. รู้จักในฐานะโกยทอง ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้ ขณะที่งานดำเนินไปอย่างเรียบร้อยจู่ๆ กลุ่มคนไข้อนาถาก็บุกเข้ามาร่วมในงานด้วยทำให้งานปั่นป่วนไปหมด และหนึ่งในคนไข้จำนวนนั้นก็มี อาลัย คนไข้สาวรวมอยู่ด้วย และตอนนี้เองทองดีแน่ใจในทันทีว่าเขาถูกจับมาอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ทองดีตกใจจนเป็นลมไป เช้าวันต่อมาทองดีฟื้นขึ้นมาในห้องพักส่วนตัวท่ามกลางความเป็นห่วงของกุหลาบ และสายใจ เมื่อทองดีฟื้นเขารีบปฏิเสธกับใครๆ ว่าเขาไม่ใช่โกยทอง การปฏิเสธเช่นนี้ยิ่งทำให้ทุกคนเข้าใจว่าโกยทองกำลังอยู่ในอาการหนัก การหมดสติไปของโกยทองกลายเป็นเรื่องใหญ่ในที่ประชุมของคณะกรรมการของโรง พยาบาลเนื่องจากเห็นว่าปัญหาทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากคนไข้อนาถา ผ.อ.ที่มาใหม่นี้ได้เล็งเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะมีความเหลื่อม ล้ำกันมากไประหว่างคนไข้อนาถากับคนไข้พิเศษ ทำให้คนไข้อนาถาลุกขึ้นมาเรียกร้อง ดังนั้นสิ่งแรกที่ ผ.อ. ต้องการเปลี่ยนแปลงในโรงพยาบาลแห่งนี้ก็คือทำให้คนไข้ทุกคนมีความเท่าเทียม กัน นโยบายใหม่ของ ผ.อ.นี้แม้จะไม่ค่อยเป็นที่พอใจแต่ก็ไม่มีใครสามารถขัดได้ นโยบายนี้จึงนำมาปฏิบัติโดยเริ่มจากการลดสิทธิพิเศษของคนไข้พิเศษลง แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับโกยทองหนึ่งคน เมื่อโฉมศรีได้รับการติดต่อว่าโกยทองได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่โรงพยาบาลหลังคา แดงแล้วเธอก็วางใจ แม้จะรู้สึกตกใจอยู่บ้างที่ตอนนี้สามีได้เสียสติไปแล้ว แต่เธอก็ได้ติดต่อมาที่โรงพยาบาลให้คอยดูแลโกยทองให้ดี อย่าให้หนีไปที่ไหนอีก ส่วนทองดีเมื่ออยู่ในโรงพยาบาลแม้จะได้รับการรับรองอย่างดีแต่เขาก็ไม่วาย รู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ๆ เขาสมควรอยู่ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะหาทางหลบหนีออกจากโรงพยาบาล ที่นั่นทองดีไม่เคยคุยกับใครรู้เรื่อง มีเพียงคนเดียวที่เขาพอจะสื่อสารได้รู้เรื่องที่สุด นั่นก็คือ อาลัย ทองดีแปลกใจที่อาลัยต้องมาอยู่โรงพยาบาลแห่งนี้ ทั้งๆ ที่เธอเองก็อยู่ในอาการที่ดี พอที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก ทองดีเพิ่งสังเกตเห็นว่าอาลัยมานั่งรอแม่กับน้องชายทุกวันพุธซึ่งเป็นวันที่ โรงพยาบาลเปิดให้ญาติมาเยี่ยม แต่จนแล้วจนรอดแม่ของเธอก็ไม่เคยมา ทองดีรู้สึกสงสารจึงสัญญากับอาลัยว่าถ้าเขาหาทางออกไปได้ เขาจะกลับมารับอาลัยออกไปในฐานะญาติของเธอ และจะพาอาลัยไปพบแม่และน้องชายเอง อาลัยดีใจมากจึงตกลงจะช่วยหาทางหนีให้ทองดี แรกๆ คนไข้อนาถาซึ่งเป็นคนไข้ส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลพากันเห่อทองดีเพราะคิดว่าเป็น โกยทอง พวกเขาจึงคอยแอบเฝ้าดูพฤติกรรมของทองดีและเลียนแบบตลอดเวลาทำให้ทองดีรู้สึก อึดอัดอย่างมาก การตกเป็นเป้าสายตาขนาดนี้ทำให้ความพยายามของทองดีที่จะหาทางหลบหนีออกจาก โรงพยาบาลเป็นไปได้ยากขึ้น การหลบหนีครั้งแรกๆ ของทองดีไม่ประสบความสำเร็จ ซ้ำร้ายเขายังได้เห็นตัวอย่างของคนไข้ที่พยายามหลบหนีแล้วถูกจับได้ว่าจะถูก นำไปขังไว้ในห้องขังพิเศษที่มีลักษณะคล้ายๆ กับคุกมืด ห้องขังพิเศษนี้มีไว้ให้สำหรับคนไข้ที่มีอาการรุนแรง มีแนวโน้มจะทำร้ายผู้อื่นและมีไว้สำหรับลงโทษคนไข้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฏของโรง พยาบาล ทองดีเห็นตัวอย่างแล้วก็คิดว่าแผนการหลบหนีของเขานั้นควรจะทำอย่างรัดกุม ยิ่งขึ้น ทองดีถือโอกาสหลอกใช้คนไข้คนอื่นๆ ที่กำลังชื่นชมเขาให้ช่วยเหลือพาเขาหลบหนี ทองดีวางแผนตีซี้กับคนไข้คนอื่นๆ โดยแรกๆ เขาใช้วิธีนำขนม บุหรี่ ข้าวของเครื่องใช้ที่เขาได้รับเป็นพิเศษจะได้รับมาแบ่งให้กับคนไข้อนาถา แล้วเขาก็เริ่มนัดแนะกับทุกคนในตอนกลางคืนให้มารวมตัวกันประชุมลับ ทองดีสอนให้คนไข้ไม่กินยานอนหลับ คนที่นำยานอนหลับมาให้ทองดีจะได้รางวัลตอบแทน และในเวลากลางคืนนี้เองที่ทองดีใช้ให้ทุกคนช่วยหาทางหลบหนีให้เขาโดยทองดี เรียกเกมนี้ว่า เกมฉกตัวจารชน ซึ่งทองดีสมมุติให้ทุกคนกำลังหาทางหลบหนีออกจากสถานกักกัน คนไข้ทุกคนก็สนุกไปกับเกมนี้เพราะนึกว่าเป็นเรื่องจริง มีเพียง ลุงหนับ คนไข้ผู้เป็นอดีตจ่าตำรวจคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เล่นด้วยกับแผนนี้และเขาก็ รู้ดีว่าทองดีกำลังหลอกใช้ให้คนอื่นๆ ทำเพื่อตัวเองอยู่ หลังจากวางแผนมานานหลายคืน ในที่สุดก็ถึงวันที่ทองดีจะหนีออกไปตามแผนด้วย แต่แล้วพอเอาเข้าจริงทองดีก็แอบหนีออกไปทางด้านหลังของโรงพยาบาลตามลำพัง คนไข้อื่นๆ พยายามจะตามไปด้วยแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจับตัวได้เสียก่อน การถูกจับได้ครั้งนี้ทำให้คนไข้ต้องได้รับการลงโทษ ตั้งแต่ถูกคุมตัว งดให้ญาติเยี่ยม ในขณะที่ทองดีสามารถเอาตัวรอดไปได้ คนไข้รู้สึกว่าทองดีหักหลัง มีเพียงอาลัยเท่านั้นที่คอยแก้ตัวให้ทองดีด้วยการบอกกับทุกคนว่าทองดีออกไป แล้วจะหาทางมาช่วยพวกเขาทีหลัง เมื่อพูดเช่นนี้แล้วคนไข้อื่นๆ จึงรู้สึกดีขึ้น และรอวันที่ทองดีจะกลับมาช่วยอย่างมีความหวัง ทองดีเมื่อหนีออกไปได้ก็ไม่มีทางไปเพราะห้องเช่าที่เขาอยู่ก็ไม่มีแล้ว ทางโฉมศรีเมื่อรู้ว่าโกยทองหลบหนีออกไปได้ก็โกรธมาก ให้ตำรวจช่วยหาทางจับกลับมาให้ได้โดยให้เหตุผลว่าเธอเป็นห่วงความปลอดภัยของ สามีมาก และตัวเธอเองก็ตัดสินใจจะเดินทางกลับมาที่เมืองไทยเพื่อมาพบสามีด้วยตนเอง ระหว่างที่ทองดีหลบออกมาข้างนอกเขาก็ไม่ต่างไปจากคนจรจัด ต้องอยู่เร่ร่อนไปเรื่อย แต่สิ่งหนึ่งที่ทองดีเริ่มสังเกตได้คือ เขากลับสื่อสารกับคนจรจัดหรือพวกคนบ้าข้างถนนได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเขาก็เพิ่งได้ตระหนักว่าเขามองว่าคนบ้าและคนข้างถนนพวกนี้น่าดูถูกอย่าง ไร คนในสังคมก็มองตัวเขาไม่แตกต่างไปจากนี้เลย หลบออกมาได้ไม่นานทองดีก็ถูกตำรวจจับกลับไปส่งที่โรงพยาบาลหลังคาแดงดังเดิม การที่ทองดีถูกจับกลับมานี้ทำให้คนไข้ทุกคนผิดหวังมาก เพราะนั่นหมายความว่าทองดีไปไหนไม่รอดและก็คงไม่มีทางที่จะพาพวกเขาออกไปได้ ด้วย ทองดีพอมารู้ว่าการหลบหนีออกไปของเขานั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับคนไข้ อื่นๆมากแค่ไหนก็รู้สึกผิด และครั้งนี้ทองดีก็ได้พบกับโฉมศรีเป็นครั้งแรก โฉมศรีนึกว่าทองดีเป็นโกยทองตัวจริง แต่ทองดีก็ยังคงปฏิเสธ ซึ่งการปฏิเสธนี้ทำให้โฉมศรีเป็นกังวลมากเพราะนั่นหมายความว่าโกยทองยังไม่ มีวี่แววว่าจะมีอาการดีขึ้นแต่อย่างใด โฉมศรีได้แต่ร้องไห้เสียใจไปกับชะตากรรมของสามีและได้อ้อนวอนให้ผ.อ.และ จิตแพทย์ช่วยกันรักษาอาการของสามีให้ดีขึ้น ผ.อ.เห็นโฉมศรีเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกเห็นใจและสัญญาว่าพร้อมจะช่วยเหลือเธอ อย่างเต็มที่ การมาของโฉมศรีครั้งนี้ เธอได้สั่งยกเลิกนโยบายที่จะสร้างความเท่าเทียมกันในโรงพยาบาลเพราะเห็นว่า นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไข้ก่อเหตุวุ่นวายดังกล่าว ในเมื่อโฉมศรีสั่งเช่นนั้นก็ไม่มีใครกล้าขัดได้อีก พวกคนไข้อนาถายิ่งมีความเป็นอยู่แย่กว่าเดิมมาก ทุกคนโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของทองดี ทองดีพยายามจะแก้ตัวกับทุกคนแต่ก็ไม่มีใครฟัง มีเพียงอาลัยเท่านั้นที่เข้าใจและคอยให้กำลังใจทองดี หลังจากถูกจับตัวกลับมาครั้งนี้ ทองดีก็เริ่มปลงกับการหลบหนีออกไปมากขึ้น เขาเริ่มยอมรับว่าบางทีเขาอาจจะเหมาะที่จะอยู่ในที่เช่นนี้ ทองดีเริ่มหันมามองผู้คนรอบตัวซึ่งก็รวมถึงอาลัยเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาใน ขณะนี้ ระหว่างการเข้ากลุ่มบำบัดทองดีจึงได้รู้ว่าอาลัยมีปมเรื่องความรัก ด้วยความสงสัยทองดีจึงแอบไปเปิดดูแฟ้มคนไข้ของอาลัยแล้วก็ได้รู้ว่าตอนเธอ อายุ 14 เธอเคยหนีตามผู้ชายออกมาจากบ้าน แต่แล้วเมื่อเธอไปรอชายคนรักตามนัดที่ว่าจะมารับเขาก็กลับไม่มา ความผิดหวังนี้มีผลต่อสภาพจิตใจของเธอ อาลัยกลัวความผิดหวังจึงพยายามสร้างโลกส่วนตัวที่สวยงามปกป้องเธอไว้จากโลก ความจริงอันโหดร้าย ทุกสิ่งที่เธอเห็นและแสดงออกจึงดูใสบริสุทธิ์เหมือนอย่างที่เธอเคยเป็นก่อน หน้าที่เธอจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายนั้น เมื่อตำรวจพาอาลัยกลับไปส่งบ้าน ด้วยความอับอายและเพื่อหนีคำครหาแม่และน้องชายก็กลับส่งอาลัยมาอยู่ที่โรง พยาบาลนี้ และไม่เคยมารับอีกเลย ทองดีรู้สึกเห็นใจอาลัยเป็นอย่างมากส่วนหนึ่งก็เพราะ เธอเห็นว่าเขาทั้งสองต่างก็เคยผิดหวังจากความรักมาเหมือนกัน ยิ่งมาเห็นอาลัยที่เศร้าใจหนัก เมื่อรู้ว่าตอนนี้กำลังถูกลงโทษจากโรงพยาบาลไม่ให้ญาติมาเยี่ยม แล้วอาลัยก็มั่นใจมากว่าแม่จะต้องมาหาเธออาทิตย์นี้แล้วก็ไม่ได้พบเธอ เมื่อรู้ว่าอาลัยคิดเช่นนี้ทองดียิ่งรู้สึกผิดหนักขึ้นว่าทั้งหมดนี่เป็น เพราะเขาคนเดียว ไม่เพียงแต่อาลัยเท่านั้น เล็ก เด็กหนุ่มซึ่งความจริงกำลังจะได้ออกไปจากโรงพยาบาล แต่เมื่อทางบ้านรู้ว่าเขาก่อเรื่องวุ่นวายครั้งนี้ ทางบ้านจึงไม่มั่นใจว่าเขาจะหายดี ก็เลยตัดสินใจไม่ยอมมารับ เล็กเสียใจมากที่ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ที่นี่ เล็กเกิดอาการหดหู่จนถึงขั้นทำร้ายตัวเอง เหตุการณ์ของเล็กทำให้คนไข้ในโรงพยาบาลคนอื่นๆ เกิดอาการหวาดกลัวและเศร้าซึม ทองดีพยายามสร้างบรรยากาศในโรงพยาบาลให้ดีดังเดิม แต่จนแล้วจนรอดเขาก็รู้ว่าไม่มีทางจะดีขึ้นได้ เพราะนอกจากเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว คนไข้ยังต้องได้รับความกดดันจากกฎระเบียบต่างๆ ที่โฉมศรีได้ตั้งขึ้น ในที่สุดเพื่อรับผิดชอบการกระทำของตัวเองและเพื่อแก้ไขสถานการณ์ในโรงพยาบาล ให้ดีขึ้น ทองดีจึงคิดว่าหากเขายอมรับว่าเขาเป็นโกยทองเสีย เขาก็คงจะยกเลิกกฎระเบียบต่างๆ ในโรงพยาบาลและช่วยปรับปรุงความเป็นอยู่ของคนไข้ในนี้ให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นทองดีจึงยอมรับว่าเขาเป็นโกยทอง เมื่อโฉมศรีรู้ว่าโกยทองมีสติกลับคืนมาแล้วก็ดีใจมากตรงมารับโกยทองกลับไป อยู่ที่บ้านทันที ทองดีต้องสวมรอยเป็นโกยทอง เขาเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์ของโกยทอง และก็ไม่ลืมที่จะทุ่มเงินบริจาคให้โรงพยาบาลและลงไปควบคุมงานบริหารของโรง พยาบาลด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นกิจการในโรงพยาบาลดีขึ้นมาก มีการแข่งขันกีฬาระหว่างโรงพยาบาลเอกชนที่อื่นๆ ที่เปิดรักษาผู้ป่วยวิกลจริตด้วยกันซึ่งทองดีก็ลงไปช่วยทำการแข่งขันร่วมกับ เพื่อนๆ คนไข้ด้วย ทองดีดีใจที่เห็นคนไข้เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเขาเองก็เพิ่งมารู้สึกว่าเขาผูกพันกับคนที่นี่มาก เขารู้สึกว่าทุกคนในโรงพยาบาลชื่นชมเขา ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้เขาไม่เคยได้จากสังคมภายนอก ทองดีนึกถึงสัญญาที่เขาเคยให้กับอาลัยไว้ว่าถ้าเขาออกมาได้ เขาจะไปรับเธอออกมาอยู่ข้างนอกด้วย ทองดีใช้ฐานะของโกยทองขอรับอาลัยมาพักอยู่ที่คฤหาสน์ ความสนิทสนมระหว่างทองดีกับอาลัยนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับโฉมศรี แต่โฉมศรีก็ไม่สามารถทำอาลัยได้เพราะเมื่อก่อนโกยทองก็เคยมีผู้หญิงอื่นอยู่ ตลอดเวลา แต่ก็ไม่เคยมีรายไหนเลยที่โกยทองจะถึงขนาดนำมาอยู่ร่วมบ้านด้วย โฉมศรีได้แต่นำความอึดอัดนี้ไประบายให้ ผ.อ.ฟังในฐานะที่เขาก็เป็นจิตแพทย์คนหนึ่ง และนี่เองก็ทำให้ ผ.อ. เกิดเห็นอกเห็นใจโฉมศรีมากขึ้นจนกระทั่งความสงสารที่ว่าเริ่มกลายมาเป็นความ รักโดยไม่รู้ตัว ทองดีพาอาลัยไปตามหาแม่ การออกมาพบความจริงว่าแม่และน้องชายไม่ได้ต้องการเธอ ทั้งคู่อยู่กันอย่างมีความสุขแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีอาลัยอยู่ในโลกก็ทำ ให้อาลัยรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทองดีรู้สึกสงสาร เขาพาอาลัยกลับบ้านและบอกกับอาลัยว่าถึงอย่างไรอาลัยก็จะยังมีเขาอยู่อีกคน ทองดีเริ่มสังเกตว่าความสัมพันธ์ระหว่างโกยทองและภรรยาคงจะไม่ได้รักกันมาก นัก ทองดีรู้สึกโฉมศรีมักจะพะวงถึงสมบัติของสามีมากกว่าตัวสามีเองเสียอีก โดยสังเกตได้จากเธอมักจะถามถึงของอยู่เสมอ แต่ทองดีก็ได้แต่งงานเพราะเขาไม่รู้ว่าของที่ว่านี้หมายถึงอาลัย ซึ่งแท้จริงแล้วแม้แต่ตัวโฉมศรีเองก็ไม่รู้ว่าของที่ว่านี้คืออาลัย เธอรู้แต่เพียงว่าที่สามีเธอมาเมืองไทยครั้งนี้ ได้โอนเงินและถอนออกมาหมด แต่โฉมศรีรู้ว่าสามีไม่ได้ซื้ออะไรจึงคิดว่าสมบัติของสามีจะต้องถูกเปลี่ยน ไปอยู่ในรูปของอะไรซักอย่าง ทองดีเองเพื่อเอาตัวรอดเขาก็ต้องทำอ้ำอึ้งและได้แต่ตอบเหมือนกันทุกครั้งว่า ตอนนี้ของได้อยู่ในที่ๆ ปลอดภัยแล้ว ในขณะเดียวกันโฉมศรีก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในตัวสามีหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะการที่สามีของเธอสามารถเข้ากับนำโชคสุนัขที่เธอเลี้ยงเหมือนลูกได้ เป็นอย่างดี จนพักหลังนี้นำโชคดูจะติดโกยทองมากกว่าเธอเสียอีก ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับโกยทอง เพราะโกยทองจะเป็นคนที่เกลียดสุนัขมาก และนำโชคเองก็จะกลัวโกยทองมากเช่นกัน ด้วยเหตุที่ต่างคนต่างเริ่มรู้ทันกันนี้เอง ทั้งคู่จึงได้เริ่มจับผิดกันและกันมากขึ้น โฉมศรีให้ลูกน้องไปตามสืบดูพฤติกรรมของสามี และพยายามล้วงความลับจากอาลัยเรื่อง ของ แต่อาลัยก็ไม่สามารถบอกได้ โฉมศรีจึงคิดจะใช้อาลัยให้ช่วยสืบให้เธอเพราะเห็นว่าโกยทองไว้ใจอาลัย มากกว่าใคร แต่ด้วยเพราะความซื่อไร้เดียงสาของอาลัย อาลัยก็ไม่สามารถทำตามที่โฉมศรีต้องการได้ ซ้ำยังทำให้โกยทองรู้ทันโฉมศรีขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง วันหนึ่งทองดีได้เจอกับน้ำฝน คนรักในอดีตของเขาอีกครั้ง น้ำฝนตกใจไม่น้อยที่เห็นทองดีมีฐานะดีขึ้นมาก ทองดีต้องช้ำใจเมื่อรู้ว่าตอนนี้น้ำฝนแต่งงานไปแล้ว การพบกันในครั้งนี้ไม่พ้นหูตาของลูกน้องโฉมศรี โฉมศรีสั่งให้ลูกน้องไปสืบประวัติของน้ำฝนทันที เมื่อสืบมาได้โฉมศรีก็ไปพบและถามจากน้ำฝนด้วยตัวเอง จึงได้รู้ว่า น้ำฝนรู้จักโกยทองในฐานะของนายทองดี ทนนาน แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว โฉมศรีซักถามจนมั่นใจว่าน้ำฝนไม่ได้โกหกแล้วก็ได้ให้เงินปิดปากน้ำฝนไว้ก้อน หนึ่ง แล้วโฉมศรีก็ได้สั่งให้ลูกน้องไปสืบประวัติและหาตัวของนายทองดี ทนนานตัวจริงมาให้ได้ เมื่ออยู่ที่คฤหาสน์นั้น อาลัยก็ได้พบความจริงว่าโฉมศรีนั้นมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับถมทอง น้องชายไม่แท้ของโกยทองซึ่งเป็นลูกบุญธรรมที่พ่อของโกยทองได้รับเลี้ยงไว้ อาลัยพลั้งปากบอกทองดีเรื่องนี้ทำให้โฉมศรีไม่พอใจคิดจะกำจัดอาลัย ทองดีรู้ทันจึงทำเป็นว่าจะฟ้องหย่าและเปิดโปงเรื่องของโฉมศรีและถมทอง และได้ให้อาลัยกลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง ทองดีบอกกับโฉมศรีว่าตราบใดที่อาลัยยังปลอดภัย เขาจะไม่เปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ของโฉมศรีกับถมทองโดยเด็ดขาด และวันหนึ่งนำโชคซึ่งตอนนี้ติดทองดีแจก็พาทองดีไปพบกับตู้เซฟของโกยทอง ตอนนี้ทองดีจึงเริ่มแน่ใจว่าของที่ว่านี้เกี่ยวพันกับตู้เซฟนี้แน่นอน ทองดีพยายามหาทางจะเปิดเซฟแต่ก็เปิดไม่ได้ เขาจึงคิดว่าบางที ของก็คงเป็นกุญแจสำหรับเปิดตู้เซฟนี้ ในขณะที่ทองดียังเป็นโกยทองอยู่นี้ วันหนึ่งโฉมศรีก็ได้รับจดหมายจากโกยทองอีกฉบับหนึ่ง ในฉบับนั้นได้ส่งรูปถ่ายล่าสุดจากโกยทองตัวจริงแนบมาด้วย ในจดหมายนั้นบอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่อินเดียและได้ทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าไป อีก จดหมายฉบับนี้ได้บอกมาด้วยว่าตอนนี้ของได้อยู่ไม่ไกลจากโฉมศรีแต่อย่างใด จากจดหมายประกอบกับข้อมูลที่ลูกน้องของเธอได้สืบมาว่านายทองดีตัวจริงนั้น ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ทำให้โฉมศรีแน่ใจว่าโกยทองคนที่เธออยู่ด้วยไม่ใช่ตัวจริงแน่นอน แต่เธอก็ยังเก็บความลับนี้ไว้อยู่กับตัวเพียงคนเดียว ทองดีเริ่มรู้สึกแล้วว่าชีวิตมหาเศรษฐีอย่างโกยทองช่างเป็นชีวิตที่ไม่มี ความสุขเอาเสียเลย เขาไม่สามารถไว้ใจคนรอบข้างได้สักคนโดยเฉพาะกับภรรยาอย่างโฉมศรี โฉมศรีตัดสินใจบอกความจริงกับทองดีว่าเธอรู้ความจริงหมดแล้วว่าทองดีเป็นโกย ทองตัวปลอม เธอขู่ให้เขาบอกความจริงมาให้หมดว่าเคยเจอกับโกยทองเมื่อไหร่ และโกยทองเอารูปถ่ายของเขามาได้อย่างไร ทองดีเห็นรูปถ่ายของเขาก็จำได้ทันทีว่ามันเป็นรูปของเขาที่หายไปเมื่อตอนถูก ไล่ออกจากห้องเช่า แต่เพื่อรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ ทองดีจึงโกหกไปว่าเขาเคยเจอกับโกยทองตัวจริงมาก่อน และโกยทองเป็นคนมาขอรูปนั้นไปจากเขาเอง และที่สำคัญเขาก็รู้ด้วยว่าของอยู่ที่ไหน แต่พอโฉมศรีถาม ทองดีก็ไม่ยอมบอก ทองดีคิดหาทางจะหนีออกไปจากปัญหายุ่งเหยิงนี้ทั้งหมด เขาตัดสินใจจะหลบไปใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายที่ต่างจังหวัด เขานำแผนนี้ไปบอกแก่อาลัยเพื่อชวนให้เธอหนีไปกับเขา การที่ทองดีมาชวนหนีครั้งนี้เท่ากับเป็นการมาสะกิดบาดแผลในใจของอาลัยในอดีต อาลัยกลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอย เธอจึงปฏิเสธไม่ยอมไปกับทองดี ทองดีพูดโน้มน้าวให้อาลัยเชื่อใจเขา เขารับรองว่าเขาจะไม่ทำให้อาลัยผิดหวังเหมือนคนรักคนก่อนของอาลัย และเขาเองก็เชื่อว่าหากเขาทำให้อาลัยยอมไปกับเขาได้ นี่อาจจะเป็นการทำให้อาลัยก้าวพ้นกลับมาสู้ความจริงได้อีกครั้งหนึ่ง ทองดีบอกกับอาลัยว่าเขาจะมารับเธอที่หลังโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ ข้อเสนอของทองดีทำให้อาลัยนำไปครุ่นคิดหนักทั้งคืน วันรุ่งขึ้นทองดีกำลังจะไปรับอาลัยตามที่นัดไว้ แต่ก็ถูกตำรวจดักไว้เสียก่อน โฉมศรีบอกให้ตำรวจช่วยจับตัวทองดีไว้ ทองดีบอกกับตำรวจว่าเขาไม่ใช่โกยทอง พอทองดีพูดเช่นนี้ ตำรวจก็คิดว่าโกยทองกลับมามีอาการป่วยอย่างเก่าอีกก็จึงนำตัวทองดีกลับไปที่ โรงพยาบาลหลังคาแดง ที่โรงพยาบาลทองดีถูกจับมาขังเดี่ยว เขาเป็นห่วงอาลัยอย่างมาก เพราะเขารู้ว่าอาลัยกำลังรอเขาอยู่ และถ้าเขาไม่ไปก็เท่ากับว่าเขาทรยศอาลัยและก็จะยิ่งทำให้บาดแผลในจิตใจของ อาลัยบอบช้ำมากขึ้นอีก แต่โฉมศรีก็ไม่ยอมปล่อย โฉมศรีบอกกับทองดีว่าถ้าหากเขายอมบอกมาว่าของอยู่ที่ไหน เธอจะยอมปล่อย ทองดีสารภาพเรื่องตู้เซฟและขอให้โฉมศรีปล่อยเขาไป แต่โฉมศรีก็ไม่ยอมปล่อย ทางด้านของอาลัย เธอก็ได้แต่นั่งรอทองดีต่อไปที่หลังโรงพยาบาลจนถึงดึก เจ้าหน้าที่พากันตามตัวกันให้วุ่น อาลัยผิดหวังอย่างมากที่ทองดีหลอกเธอ อาลัยได้แต่นั่งเศร้าซึม ไม่พูดไม่จา ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาลัย ทองดีพอรู้ว่าอาการของอาลัยทรุดหนักลงเรื่อยๆ ก็ทนไม่ไหว เมื่อโฉมศรีมาพบกับเขาอีกครั้ง พร้อมกับยื่นข้อเสนอว่าจะมอบส่วนแบ่ง 30% ของทรัพย์สมบัติทั้งหมดของโกยทองให้ถ้าทองดียอมบอกว่าที่ซ่อนของกุญแจเปิด เซฟ ทองดีบอกว่าเขาไม่รู้แต่โฉมศรีไม่เชื่อด้วยความคับแค้นใจ ทองดีก็ตรงเข้าไปบีบคอโฉมศรีให้หายแค้นกับที่เป็นเหตุทำให้อาลัยต้องทรุดลง ผ.อ.เข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดีก็จึงเข้าไปช่วยโฉมศรีออกมา และสั่งให้เจ้าหน้าที่นำตัวทองดีไปช็อตไฟฟ้าแม้สายใจจะพยายามคัดค้านแต่ก็ ไม่เป็นผล หลังจากการถูกลงโทษด้วยการช็อตไฟฟ้า ทองดีก็ถูกส่งกลับมาในสภาพของคนไร้ความรู้สึกและความทรงจำ เป็นเพียงแต่ร่างที่มีเพียงลมหายใจเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ พออาลัยได้พบกับทองดีในสภาพนี้เธอก็รู้ทันทีว่าทำไมทองดีมารับเธอตามนัดไม่ ได้ เมื่อรู้ว่าทองดีไม่มีเจตนาหลอกลวงเธอ อาลัยก็อาการดีขึ้น และการที่อาลัยกล้าตัดสินใจไปตามนัดกับทองดีนี้ก็เท่ากับว่าอาลัยกล้าเผชิญ กับความจริงมาขึ้น นั่นก็หมายความว่าอาการของเธอเริ่มดีขึ้นแล้ว ระหว่างนั้นลุงหนับมาเยี่ยมทองดี เขาพูดกับทองดีทั้งๆ ที่รู้ว่าทองดีคงจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด เขาบอกให้ทองดีพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ และบอกว่าการเป็นคนบ้าบางครั้งก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด คนบ้าเท่านั้นที่จะได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำได้โดยไม่มีใครถือสา แล้วเขาก็สารภาพกับทองดีว่าความจริงเขาเองก็ไม่ได้บ้าแต่ในเมื่อมาอยู่โรง พยาบาลแล้วสบายกว่าอยู่ข้างนอกเขาก็เลยแกล้งบ้าเพื่อจะได้อยู่ในนี้ต่อไป และนี่เป็นสาเหตุที่เขาไม่เคยเห็นด้วยกับการที่ทองดีพยายามจะหลบหนีออกไปจาก ที่นี่ หรือคอยปฏิเสธว่าตัวเองไมได้บ้า เขาเห็นว่าบางทีการยอมรับว่าบ้าเสียก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ลุงหนับไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขาจุดประกายให้ทองดีซึ่งมีสติได้ยินคำพูดของ ลุงทั้งหมดคิดจะแกล้งทำเป็นบ้าไปตามที่ลุงหนับทำ โฉมศรีคิดจะไปหลอกใช้ทองดีซึ่งตอนนี้วันๆ ได้แต่นั่งเหม่อ ไม่รู้สึกรู้สมอันใดมาเป็นเครื่องมือแทน โดยเธอคิดจะใช้โอกาสนี้ให้ทุกคนเห็นว่าโกยทองเป็นบุคคลวิกลจริต แล้วก็ทำเป็นเรื่องทางกฏหมายให้โกยทองกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถแล้วหลัง จากนั้นทรัพย์สมบัติและกิจการต่างๆ ของโกยทองก็จะกลายเป็นของโฉมศรี เพื่อให้ประสบผลสำเร็จ โฉมศรีซึ่งรู้ดีว่า ผ.อ. นั้นชื่นชอบเธออยู่ไม่น้อย เธอจึงแกล้งทำเป็นหลอกล่อให้ ผ.อ.ช่วยด้วยการสัญญาว่าจะแต่งงานด้วยทันทีที่ศาลสั่งให้โกยทองกลายเป็น บุคคลวิกลจริตไปแล้ว ผ.อ.ซึ่งหลงรักโฉมศรีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ย่อมอยากจะช่วยให้โฉมศรีพ้นจากผู้ชายที่ไม่เคยเห็นค่าของเธออย่างโกยทองมา ได้ เขาสัญญาว่าจะทำให้หมอคนอื่นๆ ลงความเห็นวินิจฉัยว่าโกยทองเป็นบุคคลวิกลจริตไปให้ได้ อาลัยเห็นอาการของทองดีไม่ดีขึ้น และรู้ว่าทองดีกำลังตกเป็นเหยื่อของโฉมศรีก็พยายามจะหาทางช่วยด้วยการแอบ เข้ามาหาทองดีและพยายามจะรื้อฟื้นความจำให้ทองดี ทองดีถือโอกาสนี้บอกความจริงแก่อาลัยว่าเขาไม่ได้บ้าหรือความจำเสื่อมไป อาลัยดีใจมากที่รู้ว่าทองดีปลอดภัยดี ทองดีบอกกับอาลัยว่าเขากำลังมีแผนจะหักหลังโฉมศรี ทองดีขอให้อาลัยช่วยเขาด้วยการทำอะไรบางอย่างให้ ผ.อ.มัวแต่หมกมุ่นเรื่องโกยทองเสียจนแทบจะไม่ใส่ใจงานวันครบรอบการก่อตั้ง โรงพยาบาลซึ่งจะต้องจัดขึ้นทุกปี ในการประชุมเพื่อจัดเตรียมงาน ผ.อ.ยกเรื่องอาการป่วยของโกยทองมาพูดในที่ประชุม และขอให้แพทย์และคณะกรรมการช่วยลงชื่อพิจารณาให้โกยทองเป็นบุคคลวิกลจริต กุหลาบซึ่งแอบชอบ ผ.อ.อยู่ตกลงใจร่วมลงชื่อด้วย แต่ถึงอย่างไรเสียงในที่ประชุมก็เข้าข้างฝ่าย ผ.อ.มากกว่า ทำให้สายใจรู้สึกไม่พอใจจึงตัดสินใจลาออกไป หลังจากลงชื่อไป ต่อมากุหลาบก็ได้มารู้ความจริงว่า ผ.อ.ทำไปเพื่อช่วยเหลือโฉมศรี กุหลาบรู้สึกน้อยใจมาก ส่วนสายใจก็เก็บของย้ายออกจากโรงพยาบาลไป เมื่อเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลมัวแต่ไปยุ่งเรื่องโกยทอง ก็มีเพียงแต่พวกคนไข้เท่านั้นที่ตื่นเต้นกับงานด้วยการพากันซ้อมการ แสดงอย่างจริงจังโดยการนำของอาลัย ผ.อ.นำใบรับรองไปให้โฉมศรีและทวงสัญญาเรื่องแต่งงาน โฉมศรีปฏิเสธและบอก ผ.อ.ว่าจริงๆ เธอหลอกใช้ ผ.อ.เป็นเครื่องมือเท่านั้น ผ.อ.ช้ำใจมากที่โฉมศรีไม่ได้รักตนตอบ หลังจากได้ใบรับรองจากแพทย์มาแล้ว โฉมศรีก็ส่งให้ทนายความดำเนินเรื่องตามกฎหมาย โฉมศรีมีแผนว่าจะเปิดเผยตัวจริงของโกยทองในวันงาน เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าโกยทองนั้นบ้าไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงตามตัวสื่อมวลชนและประชาสัมพันธ์งานก่อตั้งโรงพยาบาลอย่างยิ่ง ใหญ่ สื่อมวลชนต่างก็ตื่นเต้นกันมาเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มหาเศรษฐีโกยทองยอม เปิดเผยตัว

หลงทางรัก

หลงทางรัก เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ เลอลักษมี เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณสุรัสวดี ด้วยความที่เป็นที่รักของพ่อแม่และปู่ซึ่งเป็นมหาเศรษฐี ทำให้เธอเติบโตมาเป็นคนที่จู้จี้เจ้าระเบียบและเอาแต่ใจตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เลอลักษมีมีเลขาส่วนตัวชื่อ พิเภก ซึ่งเป็นผู้ชายที่กระตุ้งกระติ้ง และคนสนิทชื่อ อรอุมา ซึ่งเป็นคนสวยเรียบร้อยใจดี หลังจากที่คุณปู่เสียชีวิต ก็ได้เขียนพินัยกรรมพร้อมระบุว่ามรดก 800 ล้าน จะเป็นของเลอลักษมี และอมรเทพ ญาติผู้พี่ของเธอ เมื่อทั้งสองแต่งงานกันภายใน 1 ปี หลังจากเปิดพินัยกรรม แต่ถ้าทั้งสองไม่แต่งงานกัน เลอลักษมีจะได้สมบัติครึ่งหนึ่ง ส่วนอมรเทพจะไม่ได้อะไรเลย คุณอารมณ์ พ่อของอมรเทพไม่พอใจมาก เพราะรู้ว่าคุณสุรัสวดีและเลอลักษมีทั้งๆ ที่เขาและอรอุมาแอบชอบกันอยู่ วันหนึ่งเลอลักษมีอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดจึงชวนอมรเทพ อรอุมา พิเภก และบรรดาคนใช้ไปด้วย แม้ทุกคนจะเบื่อหน่ายในความเรื่องมากของเลอลักษมีแต่ก็ขัดไม่ได้ ทิว เป็นชายหนุ่มพ่อหม้ายลูกสาม และเป็นเจ้าของฟาร์มโคนมแห่งเดียวในจังหวัด เขามีเพื่อนสนิทคือ หมอวิเศษ สัตวแพทย์ประจำตำบล ซึ่งเป็นคนสนุกสนานร่าเริง โต้ง ตั้ว และต่าย ลูกทั้งสามของทิวจึงติดลุงหมอกันมาก เมื่อมาถึงต่างจังหวัด เลอลักษมีก็ได้ใช้เงินเพื่อเช่าบ้านในไร่แห่งหนึ่ง ด้วยความที่ไม่เคยอาบน้ำบาดาล ทำให้เธอคันตัวมาก พิเภกจึงอาสาที่จะไปหาน้ำนมมาให้อาบแทน เพราะรู้ว่าละแวกนี้มีฟาร์มโคนมอยู่แห่งหนึ่ง พิเภกพยายามจะใช้เงินซื้อนมจากฟาร์มของทิว แต่เขาไม่ยอม เพราะต้องส่งเจ้าประจำแถมไม่พอใจที่จะนำน้ำนมที่มีค่าไปใช้อาบ แต่พอดีหมอวิเศษมาบอกให้ขายเพราะโรงงานเจ้าประจำเครื่องผลิตนมเสีย ทิวจึงยอมขาย ขณะที่ไปส่งนม คนงานส่งนมขาดไปหนึ่งคน ทิวจึงยกไปส่งโดยที่ไม่รู้ว่าเลอลักษมีกำลังอาบน้ำอยู่ เลอลักษมีโกรธมาก ส่งให้คนซ้อมทิวจนสะบักสะบอม พิเภกเห็นจึงอธิบายว่าทิวคือเจ้าของฟาร์ม เลอลักษมีจึงขอโทษและจะใช้เงินค่ารักษาพยาบาล แต่ทิวโกรธมากและปฏิเสธไป แถมให้เงินเลอลักษมีอีก 5 บาทโดยบอกว่าให้เพราะได้ดูโชว์จ้ำบ๊ะฟรี เมื่อทิวกลับมาถึงบ้านในสภาพฟกช้ำดำเขียว บรรดา โต้ง ตั้วและต่าย โกรธมาก และคิดแก้แค้นเลอลักษมีแทนพ่อ วันต่อมาพิเภกมาขอซื้อนมอีก ทิวยอมขายเพราะลูกๆ อ้อนวอน ความจริงแล้วเด็กๆ แอบใส่หมามุ่ยลงไปในถังนม ทำให้เลอลักษมีคันไปทั้งตัว ด้วยความโกรธเธอจึงขับรถออกมาจากที่พักตามลำพัง โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากอมรเทพ รถยนต์ที่เลอลักษมีขับเกิดเบรกแตกทำให้รถตกเขา พวกอมรเทพรีบมาที่ฟาร์มของทิวเพราะคิดว่าเลอลักษมีมาที่นั่นแต่ก็ไม่พบอะไร ทิวเริ่มห่วงว่าเลอลักษมีจะประสบอันตราย โต้ง ตั้ว และต่ายต้องไปเรียนพิเศษกับครูพิมพา เป็นประจำ เด็กๆ ไม่ชอบครูพิมพาเพราะทั้งดุ เจ้าระเบียบและที่สำคัญเธอแอบชอบทิวอยู่ เวลาที่ทิวมารับเด็กๆ ก็จะพูดจาอ่อนหวาน และให้การบ้านเด็กๆ มากๆ เพื่อถ่วงเวลาให้ทิวอยู่คุยกับตนนานๆ หลังจากเรียนพิเศษเสร็จ เด็กๆ กลับบ้านได้เจอกับดาว ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่ด้วง นำปิ่นโตมาให้ทิว แถมทำตาหวานให้ทิวอีก เด็กๆ หมั่นไส้จึงแอบเจาะยางรถจักรยานของดาว หมอวิเศษซึ่งชอบดาวอยู่จึงอาสาไปส่งพร้อมช่วยปะยางให้ ผู้ใหญ่ดวงชอบในตัวหมอมาก แต่ดาวไม่สนใจหาว่าอยู่กับสัตว์จนขนเยอะเหมือนลิง คนงานในไร่ของทิวพบว่ามีซากรถตกเขาอยู่ ทิวจึงรีบโทรบอกอมรเทพให้มาดู แต่แล้วก็ต้องแปลกใจที่อมรเทพไม่ค่อยใส่ใจกับการหายตัวไปของเลอลักษมีนัก เมื่อคุณสุรัสวดีรู้ว่าลูกหายก็เป็นห่วงมาก รีบตามมาพร้อมคุณระเด่น ทนายความเพราะกลัวว่าอมรเทพจะฮุบสมบัติแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลอลักษมี สุรัสวดีจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ ฝ่ายเลอลักษมีหลงทางอยู่ในป่า จนมีคนไปพบและพาส่งอนามัยตำบลในสภาพของคนความจำเสื่อม ป้าหอมแม่บ้านของทิวได้ลากลับไปทำธุระที่บ้าน ทำให้เด็กๆ และทิวต้องทำงานบ้านกันเอง พอดีต่ายปวดท้องขึ้นมา ทิวจึงพาไปหาหมอที่อนามัย และได้เจอกับเลอลักษมีโดยบังเอิญ เขาแปลกใจมากที่เลอลักษมีดูสงบเสงี่ยมไม่โวยวายใส่เขาเหมือนเดิม จึงได้รู้ภายหลังว่าเธอความจำเสื่อม ทิวจึงคิดแก้เผ็ดโดยจะให้เธอมาอยู่บ้านเขาในตอนที่ป้าหอมไม่อยู่ โดยให้ทำงานบ้านเพื่อดัดนิสัยเย่อหยิ่ง ลูกๆ เห็นด้วยกับความคิดของทิว ทิวจึงไปที่อนามัยพร้อมบอกว่าเลอลักษมีเป็นภรรยาของเขาชื่อ เตือนใจ พร้อมนำรูปถ่ายและบอกตำหนิไฝในร่างกายของเธอได้หมด เพราะเคยเห็นตอนที่เธออาบน้ำ เลอลักษมีแปลกใจมาก เพราะเธอไม่คุ้นกับฟาร์มและเด็กๆ แต่เมื่อทิวและเด็กๆ ยืนยันว่าเธอเป็นเมียและแม่ เลอลักษมีจึงยอมรับสภาพแต่โดยดี ทิวและเด็กๆ เริ่มให้เลอลักษมีทำงานบ้านและอาหาร เธอรู้สึกเหนื่อยมากแต่เพื่อลูกๆ ที่น่ารักและสามี เธอจึงยอมหัดทำอาหาร ดาวแวะมาหาทิว และได้รู้ว่าเขามีเมียก็แปลกใจ แถมเด็กๆ จอมแสบก็ยอมรับในตัวเลอลักษมีอีกด้วย ดาวจึงเชื่ออย่างสนิทใจว่าเลอลักษมีคือเตือนใจเมียของทิว เธอเสียใจแต่ก็ได้หมอวิเศษคอยอยู่ปลอบใจ ฝ่ายครูพิมพาเห็นว่าเด็กๆ ขาดเรียนไปหลายวันจึงมาตามไปเรียนก็ได้พบเด็กๆ กำลังล้างรถกับเลอลักษมีอย่างสนุกสนาน เธอทำเป็นดุเด็กๆ ว่าสกปรก แต่เมื่อเลอลักษมีแสดงตัวว่าเป็นเมียของทิวและแม่ของเด็กๆ ก็ทำให้ครูพิมพาหน้าแตกกลับไป เด็กๆ เริ่มประทับใจในตัวเลอลักษมีที่ปกป้องพวกเขาได้ หลังที่เลอลักษมีทำงานติดต่อกันหลายวันก็ป่วย ทิวและเด็กๆ เริ่มสงสารจึงให้พักและช่วยกันทำงานบ้านเอง เลอลักษมีซึ้งใจมากที่ลูกๆ ห่วงใยเธอ เลอลักษมีได้ล้างรถให้ทิวก็ได้พบชุดชั้นในราคาแพง แต่เธอจำไม่ได้ว่าเป็นของเธอเอง จึงคาดคั้นกับทิวเพราะคิดว่าเขามีผู้หญิงซ่อนไว้ ทิวจึงโบ้ยว่าหมอวิเศษซื้อมาฝากดาวแต่ไม่กล้าให้ นั่นทำให้หมอวิเศษต้องตกบันไดพลอยโจน ต้องนำชุดชั้นในไปให้ดาว และเสี่ยงกับการโดนตบเพราะทะลึ่ง แต่เรื่องกลับตาลปัตร ดาวเริ่มชอบในตัวหมอวิเศษที่คุยสนุก และจริงใจกับเธอ ที่กรุงเทพฯ คุณสุรัสวดีให้จ้อยและศักดิ์ 2 คนคุ้มกันเลอลักษมีไปตามหาลูกสาวของเธอ โดยให้รางวัล 1 ล้านบาท พิเภกได้ยินพอดีจึงนำเรื่องนี้ไปบอกอมรเทพ เขาจึงถ่วงเวลา 2 สมุน โดยให้เหล้าไปเลี้ยงฉลอง ทั้งๆ ที่อมรเทพก็เป็นห่วงเลอลักษมี แต่ก็ขยาดความเอาแต่ใจของเธอ รวมทั้งไม่อยากแต่งงานด้วย ป้าหอมใกล้จะเดินทางกลับ ทิวจึงให้หมอวิเศษไปรับหน้าและอธิบายเรื่องเลอลักษมี ทิวไม่สบายใจบอกกับลูกๆ ว่าจะบอกความจริงกับเลอลักษมีและส่งเธอกลับบ้าน พวกเด็กๆ ไม่ยอม ทำให้เลอลักษมีสงสัยว่าลูกๆ มีแผนอะไร ขณะที่หมอวิเศษจอดรถคุยกับป้าหอมนั้น ผู้ใหญ่ดวงคิดว่าคุยกับผู้หญิงจึงไปบอกดาว เธองอนหมอวิเศษจึงให้ทิวช่วยไกล่เกลี่ยให้ ครอบ ครัวของทิวทำบุญครบรอบวันตายให้เตือนใจตัวจริง ซึ่งเป็นแม่ของเด็กๆ แต่บอกเลอลักษมีว่าทำบุญให้ยายของเด็กๆ ฝ่ายจ้อยและศักดิ์ก็ได้มาถึงตลาดในเมือง ก็ได้เห็นเลอลักษมีแว้บๆ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะเห็นกันคนละครั้ง แต่ก็ได้ไล่ตามไป เลอลักษมีตกใจวิ่งหนีเกือบถูกรถชน เธอสลบไป ทิวตกใจมากที่เลอลักษมีหายไปจึงไปตามหา พอดีหมอวิเศษกับดาวไปอนามัยจึงรับเลอลักษมีกลับมา ซึ่งจากความตกใจครั้งนี้ ทำให้ความจำของเลอลักษมีกลับมาบางส่วน หมอวิเศษจึงบอกให้ทิวรู้และเตือนเรื่องสมุนที่ตามตัวเลอลักษมี ทิวนำเรื่องนี้มาบอกเด็กๆ ทุกคนบอกจะเฝ้ายามและคอยดูแลปกป้องเลอลักษมีทำให้เลอลักษมีงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกๆ จ้อยและศักดิ์วนเวียนมาที่ฟาร์ม แต่ก็ถูกเด็กๆ ไล่กระเจิง ทิวตัดสินใจจะพาเลอลักษมี เด็กๆ รวมถึงหมอวิเศษและดาวไปพักผ่อนที่ชายทะเล เป็นการหลบหน้าพวกจ้อยและศักดิ์ แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก อมรเทพก็พาอรอุมาไปทะเลเช่นกัน ทั้งทิวและอมรเทพต่างเห็นกันและกัน แต่ไม่ทัก อมรเทพเห็นเลอลักษมี แต่แกล้งไม่เห็นและชวนอรอุมากลับกรุงเทพฯ เธองงๆ แต่ก็ไม่ขัดอมรเทพ เมื่อถึงกรุงเทพฯ อมรเทพให้พิเภกไปสืบหาเลอลักษมีแต่ไม่พบ คุณสุรัสวดีว่า อมรเทพ จ้อย และศักดิ์ ตามหาเลอลักษมีไม่เจอจึงคิดประกาศลงหนังสือพิมพ์ โดยให้รางวัล 10 ล้าน อมรเทพรู้เรื่องจึงรับอาสาจะจัดการให้แต่ที่จริงแล้วเขานำไปลงประกาศแค่ฉบับ เดียว การไปเที่ยวทะเลทำให้ทิวและเลอลักษมีเข้าใจกันมากขึ้น เลอลักษมีได้รู้ว่าทิวกำลังทำโครงการเสนอธนาคารเพื่อขอทุนขยายฟาร์มแต่ โครงการไม่ผ่าน เลอลักษมีจึงเข้ามาแก้ไขให้ทิวสบายใจที่มีคนช่วยแบ่งเบาภาระให้เขา ในที่สุดการเสนอโครงการกับธนาคารก็ได้รับการอนุมัติ ทุกคนดีใจมาก หมอวิเศษต้องแต่งงานกับดาว เพราะญาติๆ หาว่าพาไปค้างอ้างแรมมาเขาตื่นแต้นแต่ก็ดีใจ เลอลักษมีได้ไปดูแลฟาร์มพร้อมเด็กๆ ขากลับเธอขับรถขึ้นเขา และรู้สึกคุ้นเคยกับทาง และได้พบว่าซากรถตกเขาอยู่ เธอจำได้ขึ้นมาทันทีว่าเป็นของเธอ ขณะที่กำลังจะนึกออก เด็กๆ ก็พยายามทำเสียงโหวกเหวกให้เลอลักษมีไม่มีสมาธิ แล้วทิวก็ตามมาพากลับบ้านพอดี ทิวกลุ้มใจเพราะไม่รู้ว่าจะปกปิดความจริงได้อีกนานแค่ไหน และที่สำคัญเขาและลูกๆ ก็ผูกพันกับเลอลักษมีมาก หลังจากที่คุณสุรัสวดีคิดว่าอมรเทพลงข่าวของเลอลักษมีแล้ว ก็เอาแต่เฝ้ารอข่าวลูกจนอรอุมาสงสาร จึงไปคาดคั้นให้อมรเทพตามหาเลอลักษมีให้เจอ ด้วยความที่เขารักอรอุมามากจึงยอมบอกว่าเขาพบเลอลักษมีแล้ว และจะไปนำตัวกลับมาตามที่อรอุมาขอ แม้ว่าจะเสี่ยงกับฤทธิ์ของเลอลักษมี อรอุมาดีใจมากจึงไปบอกคุณสุรัสวดี เธอจึงจะไปตามลูกด้วย เพราะไม่ไว้ใจอมรเทพ เมื่อคุณสุรัสวดีไปถึงฟาร์มของทิว ก็ได้พบเลอลักษมี เธอดีใจและเข้าไปกอด เลอลักษมีเริ่มจำแม่และอมรเทพได้ จึงยอมกลับไปกรุงเทพฯ โดยที่ทิวก็ห้ามไม่ได้ เพราะเลอลักษมีโกรธที่เขาโกหกเธอตลอดเวลา ส่วนเด็ก โดยเฉพาะต่ายลูกสาวคนเล็กของทิว ซึ่งติดเลอลักษมีมากก็เอาแต่ร้องไห้ เลอลักษมีเองก็ใจอ่อนแต่คุณสุรัสวดีก็พยายามพาลูกกลับไป และจะทำให้แต่งงานกับอมรเทพ จะได้แบ่งสมบัติได้ บรรดาคนใช้ต่างตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของเลอลักษมีที่ใจดี ไม่ดุและถือตัวอย่างเมื่อก่อน เลอลักษมีเฝ้าแต่คิดถึงชีวิตที่มีความสุขที่ฟาร์ม ทิวเอาแต่เศร้า หมอวิเศษตามมาให้สติและนำที่อยู่ของเลอลักษมีที่อมรเทพให้กับผู้ใหญ่ด้วงไว้ ทิวดีใจมาก พาลูกๆ เข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เลอลักษมีจะเข้าโบสถ์แต่งงาน เธอดีใจมากที่เห็นทิวและลูกๆ ในที่สุดเลอลักษมีก็เลือกที่จะไปอยู่กับทิว และบอกว่าเธอเลือกชีวิตที่อบอุ่นมากกว่าเงินทอง อมรเทพดีใจมากและบาทหลวงดำเนินพิธีระหว่างเขาและอรอุมาต่อ ทิวและเลอลักษมีแสดงความยินดีกับพวกเขาด้วย

รายชื่อนักแสดง หลงทางรัก
ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบท ทิว
มรกต กิตติสาระ รับบท เลอลักษมี
อัมรินทร์ สิมะโรจน์ รับบท อมรเทพ
จันจิรา จันทร์โฉม รับบท ราชาวดี
ชาติชาย งามสรรพ์ รับบท หมอวิเศษ
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ รับบท พิมพร
พิชญา ศรีเทพย์ รับบท ดาว
ภัสสร บุญยเกียรติ รับบท สุรัสวดี

หยดน้ำในตะวัน

ปานตะวัน และเดือนแรม เป็นลูกสาวของเกริก กับจรัสศรี เกริกนั้นร่ำรวยมาตั้งแต่ต้นตระกูล และเมื่อได้รับมรดก เกริกก็สั่งขยายงานจนรวยมากขึ้นไปอีก ปานตะวันลูกสาวคนโตนั้นเป็นพยาบาลทำงานอยู่โรงพยาบาลบ้านหมี่ ส่วนเดือนแรมลูกสาวคนเล็กกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยปี 3 พี่น้องทั้งคู่ฟุ้งเฟ้อ ชอบใช้ของแบรนด์เนม เธอใช้ชีวิตอย่างลูกเศรษฐีจริงๆ และเกริกก็ไม่เคยห้ามปรามเมื่อเธอมาขอเงินเลยสักครั้ง คนที่มีความทุกข์ก็คือจรัสศรี เพราะป่วยเป็นโรคร้ายต้องถ่ายเลือดทุกเดือน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับเกริกที่จะดูแลภรรยาอันเป็นที่รักอย่างดีที่สุด เกริกและจรัสศรีรักกันมาก ส่วนปานตะวันก็มีคนรู้ใจแล้วเช่นกัน ชื่อ หมออโณทัย ซึ่งทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน ในเรื่องของการบริหารงานของบริษัทต่างๆ ของตระกูลนั้น เกริกจะดูแลคนเดียวทั้งหมด ลูกๆ ไม่เคยต้องมารับรู้หรือรับผิดชอบอะไรเลย ปานตะวันรู้แต่ว่าพ่อเป็นคนที่รักครอบครัวเป็นที่สุด และเธอก็รักและผูกพันธ์กับพ่อเช่นกัน แต่แล้ววันหนึ่งปานตะวันก็ต้องรีบกลับบ้านเมื่อจรัสศรีติดต่อไปว่าเกริกป่วย เมื่อปานตะวันมาถึงกลับได้รู้ความจริงที่โหดร้ายว่า พ่อของเธอยิงตัวตายเนื่องจากปัญหาหนี้สินที่ถึงขั้นล้มละลาย ก่อนตายเกริกเขียนจดหมายฝากจรัสศรีให้ตะวัน 1 ฉบับ แต่ปานตะวันยังไม่มีกำลังใจที่จะอ่าน ปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องจัดการมันมากมายเหลือเกิน ตั้งแต่งานศพของพ่อ สุขภาพของแม่ที่ทรุดหนัก ที่ร้ายที่สุด ทุกคนต้องอพยพจากบ้านบันดาลสินธ์ ซึ่งปานตะวันเองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะไปอยู่ที่ไหนดี ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เธอลืมเรื่องจดหมายของพ่อไปสนิท ในช่วงเวลาวันสับสนนี้ทำให้ปานตะวันเลิกกับหมออโณทัยไปโดยปริยาย คนที่คอยช่วยเหลือเธอกลับเป็นยุคลเดช ลูกชายของบรรพต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเกริก ครอบครัวของเกริกและบรรพตรู้จักคุ้นเคยกันมานาน บรรพตนั้นค่อนข้างยากจน แต่เกริกก็ไม่เคยรังเกียจที่จะคบหาเป็นเพื่อนสนิท และคอยช่วยเหลือตลอดเวลา ทำให้ยุคลเดชเองก็สนิทสนมคุ้นเคยกับปานตะวันและเดือนแรมเช่นกัน ยุคลเดชนั้นปลื้มและหลงใหลปานตะวันมานาน เขาประทับใจว่าปานตะวันสวยและดีราวกับเจ้าหญิง เด็กๆ มาห่างกันก็ตอนเรียนหนังสือ ประกอบกับบรรพตเองก็ย้ายบ้านไปอยู่ไกลอีกด้วย แต่เกริกและบรรพตก็ติดต่อกันเสมอ ยุคลเดชช่วยเหลือและช่วยแก้ไขปัญหาให้กับปานตะวันทุกอย่าง เขาเป็นธุระหาบ้านให้อยู่ใหม่ ซึ่งเดือนแรมไม่พอใจมาก เธอติว่าเล็กและไม่น่าอยู่เท่ากับบันดาลสินธ์ ปานตะวันได้แต่ปลอบน้อง เดือนแรมกลายเป็นคนที่มีปัญหามากที่สุด เธอไม่ยอมรับความจริงในชีวิตว่าเธอจะอยู่อย่างหรูหรา ฟุ้งเฟ้อเหมือนอย่างเมื่อก่อนไม่ได้ เดือนแรมอายที่จะขึ้นรถเมล์ไปมหาวิทยาลัย แม้ขึ้นแท็กซี่ก็ต้องลงก่อนถึงมหาวิทยาลัยแล้วเดินไป เธอพยายามรักษาหน้าตาและภาพพจน์ของเดือนแรมลูกสาวมหาเศรษฐีไว้อย่างดีที่สุด ในที่สุดเดือนแรมก็ทำได้ไม่นานเมื่อเงินเธอหมด เธอจึงปฏิเสธที่จะเรียนต่อ จรัสศรีกับปานตะวันพยายามขอร้องให้เรียนต่อเพราะเสียดาย แต่เดือนแรมก็ไม่ยอม จนกระทั่งปานตะวันให้สัญญาว่าเดือนแรมจะได้ทุกอย่างเหมือนเดิม ทั้งที่ปานตะวันเองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาเงินมาจากไหน วันหนึ่งยุคลเดชมาเยี่ยมปานตะวันตามปกติ ปานตะวันถามถึงบรรพตว่าทำไมไม่มาร่วมงานศพของพ่อเธอเลย ยุคลเดชจึงบอกไปว่าบรรพตไปต่างประเทศติดธุระสำคัญ แต่ก็สั่งให้เขามาช่วยดูแลแทน ก่อนกลับยุคลเดชมอบเงินไว้ให้ปานตะวันไว้ก้อนหนึ่งประมาณ 2 แสนบาท เขารู้ดีว่าปานตะวันต้องรับผิดชอบมากแค่ไหน ลำพังค่าถ่ายเลือดของจรัสศรีก็แย่แล้ว และยิ่งปานตะวันตัดสินใจลาออกจากงานเพราะต้องมาดูแลแม่ ปานตะวันจึงต้องลำบากมากขึ้น ปานตะวันไม่อยากรับเงินนี้ไว้ เธอไม่อยากกวนเขามากไปกว่านี้ แต่เดือนแรมกลับตะครุบไว้ทันที ปานตะวันพยายามพูดให้น้องคืนเงินยุคลเดช แต่เดือนแรมไม่ยอม เธอบอกว่าเคยได้ยินพ่อทะเลาะกับบรรพตเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะเอาเงินจำนวนนี้ไว้ เมื่อจรัสศรีรู้เรื่อง สุขภาพที่ไม่ดีอยู่แล้วก็ยิ่งทรุดลงไปอีก จิตใจก็ยิ่งแย่ จรัสศรีได้แต่เตือนปานตะวันว่าอย่าไปยุ่งกับ 2 คนพ่อลูกนี้โดยที่ไม่บอกเหตุผลว่าเพราะอะไร ที่ยุคลเดชทำทุกอย่างเพื่อช่วยเธอก็เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าการที่เกริกต้อง ยิงตัวตายหนีหนี้ สาเหตุมาจากบรรพตบิดาของเขาเอง ทั้งที่สนิทกันมาก เรื่องของเรื่องเกิดเพราะจรัสศรี ในสมัยหนุ่มๆ ทั้งเกริกกับบรรพตต่างก็รักจรัสศรี แต่จรัสศรีรักเกริก ทั้งคู่จึงแต่งงานกัน การตัดสินใจของจรัสศรีทำให้บรรพตทั้งเจ็บและแค้น เขาเข้าใจว่าจรัสศรีแต่งงานเพราะเห็นแก่เงิน เธออยากมีชีวิตอย่างคุณนายเศรษฐี มากกว่าคนที่กำลังสร้างตัวอย่างเขา บรรพตเริ่มวางแผนล้างแค้นอย่างเลือดเย็น เขาใจเย็นมากพอที่จะดำเนินการตามแผนได้ โดยที่เกริกไม่ระแวงแม้สักน้อย บรรพตขอความช่วยเหลือทางการเงินจากเกริกในการเริ่มลงทุนทำธุรกิจ ซึ่งเกริกก็ให้เพราะหวังดีและจริงใจกับบรรพตมาก เกริกช่วยเหลือเพื่อนทุกอย่าง จนบรรพตมีฐานะที่มั่นคงได้ จากนั้นบรรพตก็หลอกล่อให้เกริกเล่นการพนันทั้งที่เล่นไม่เป็น แต่บรรพตก็ใช้สารพัดวิธีล่อจนเกริกติดการพนันจนได้ เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจ บรรพตใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงจนเกริกหมดตัวเป็นหนี้สินมากมาย เกริกไม่รู้เลยว่าสมบัติของเขาทั้งหมดอยู่ในมือของบรรพตทั้งสิ้น รวมถึงบ้านบันดาลสินธ์ของเขาด้วย ซึ่งบรรพตชอบบ้านหลังนี้มาก กว่าเกริกจะรู้ตัวเขาก็หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อโดนบรรพตบีบมากๆ เกริกจึงยิงตัวตาย ด้วยเหตุนี้ยุคลเดชจึงทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือปานตะวัน ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการไถ่โทษแทนพ่อ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ยุคลเดชประทับใจและหลงรักปานตะวันมานานแล้ว เขาจึงทำทุกอย่างเพื่อเธอ ยุคลเดชหางานให้ปานตะวันทำในโรงพยาบาลเอกชนซึ่งเขาเป็นเจ้าของ และยังไปพูดกับบรรพตขอให้คืนทุกอย่างให้กับปานตะวันและครอบครัว แต่บรรพตกลับดุด่าเขามากมาย ซ้ำยังยื่นคำขาดให้เขาทำตามที่บรรพตต้องการ ยุคลเดชอึดอัดใจมาก แต่ก็ไม่มีทางเลือก เขาคิดว่าเขายอมทำตามคำสั่งพ่อดีกว่าที่จะให้บรรพตส่งไปให้คนอื่นทำซึ่งเขา อาจจะช่วยอะไรเธอไม่ได้ ปานตะวันไปทำงานวันแรกก็เจอดี เมื่อต้องดูแลคนไข้ ชื่อ อรชุมา หรืออ้อม อ้อมเป็นเมียน้อยของเสี่ยเริงรัญ และเธอเป็นคนไข้ประเภทเรื่องมากและเรียกร้อง เจ็บป่วยนิดหน่อยแค่เป็นหวัดก็ต้องเขาโรงพยาบาลแอดมิดอยู่ค้างคืน อ้อมเป็นคนที่สวยแต่เรื่องมาก ตัวของเริงรัญแต่งงานแล้วกับสาวเก่งชื่อยุภาวรรณ เธอเป็นสาวมั่นและเก่งทุกอย่าง ทั้งเรื่องงานและการวางตัวในสังคม ยุภาวรรณช่วยเหลืองานของเริงรัญได้มาก ก่อนจะมาแต่งงานกัน ยุภาวรรณเคยสนิทสนมกับยุคลเดชมาก่อน จนถึงเวลานี้ก็ยังคบกันฉันเพื่อนที่ดีต่อกัน ยุคลเดชนั้นไม่เคยคิดกับยุภาวรรณในเรื่องของชู้สาวเลย ตรงกันข้ามยุภาวรรณที่เริ่มรักและหลงยุคลเดชมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเธอรู้เรื่องและเริ่มเบื่อระอากับความเจ้าชู้ของเริงรัญเต็มที ยุภาวรรณจึงขอหย่าเพราะเธอมีที่หมายใหม่ก็คือยุคลเดชนั่นเอง ในที่สุดเริงรัญก็หย่ากับยุภาวรรณ ยุภาวรรณจึงเข้ามาใกล้ชิดกับยุคลเดชมากขึ้น เธอไม่พอใจเมื่อเห็นยุคลเดชดูแเอาใจใส่กับปานตะวันมาก เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ปานตะวันรู้ว่าเธอคือแฟนของยุคลเดช แต่ยุคลเดชเองก็คอยปรับความเข้าใจกับปานตะวันอยู่เสมอ ทั้งคู่เริ่มเข้าใจกันและไปกันด้วยดี ปานตะวันเองต้องใช้ความอดทนอย่างมากเหมือนกันในการผจญกับยุภาวรรณ ส่วนเดือนแรมยังคงใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ เที่ยวหนัก ไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งนั้นในเรื่องภาระต่างๆ ในบ้าน เดือนแรมมักจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกับกลุ่มของรัชนี รัชนีเป็นสาวใจแตก ใช้เงินเก่ง เธอหาสปอนเซอร์ด้วยการเป็นเมียน้อยเสี่ยคนหนึ่ง เมื่อรัชนีรู้เรื่องของเดือนแรม เธอจึงแนะนำให้เดือนแรมแก้ไขปัญหาเรื่องเงินโดยวิธีเดียวกัน แรกๆ เดือนแรมก็ไม่ยอม แต่เมื่อจมไม่ลงเดือนแรมซึ่งใช้เงินมากอยู่แล้วและรู้อยู่แก่ใจว่า ปานตะวันคงหาเงินมาให้เธอไม่ได้แน่ เดือนแรมจึงยอมให้รัชนีแนะนำเธอให้เสี่ยคนหนึ่ง วันหนึ่งยุคลเดชชวนปานตะวันไปพักผ่อนที่ระยอง ปานตะวันตอบตกลง เพราะเหนื่อยล้ามานาน ยุภาวรรณพยายามแทรกตัวเข้ามาเพื่อจะไปด้วย แต่คราวนี้ยุคลเดชไม่ยอม คำพูดและท่าทางของยุคเดชทำให้ยุภาวรรณเสียใจมาก เธอยิ่งช้ำใจเมื่อรู้ว่ายุคลเดชรักปานตะวันมาก ด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง ยุภาวรรณใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เพื่อประชดตัวเองจนป่วยหนัก เธอโชคดีที่รู้จักหมออโณทัย หมออโณทัยจึงช่วยรักษาเธอให้หายป่วยทั้งกายและใจจนลงเอยกันได้ในที่สุด ระหว่างที่ปานตะวันกับยุคลเดชเริ่มรู้ตัวว่ารักกัน บรรพตซึ่งสั่งซ่อมแซมและตกแต่งบันดาลสินธ์ใหม่ก็เข้ามาอยู่ที่นี่ แต่ก็ยังไม่หมดไฟแค้น แม้ยุคลเดชจะเพียรขอร้องให้พ่อคืนสมบัติให้กับปานตะวันเพียงใด บรรพตก็ไม่ยอม ยุคลเดชจึงรู้สึกว่าเขาเป็นหนี้เกียรติยศ กับครอบครัวของปานตะวัน และเขาก็จะดูแลครอบครัวนี้ต่อไปเพื่อเป็นการไถ่โทษนอกจากเรื่องของหัวใจที่ เขารักปานตะวัน แล้ววันหนึ่งบรรพตก็โดนกรรมสนองเมื่อเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อาการสาหัส จนต้องถูกตัดขาทั้ง 2 ข้าง ปานตะวันอาสามาช่วยดูแลพยาบาลบรรพต เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณของเขาและยุคลเดช และเธอสำนึกอยู่เสมอว่าบรรพตเป็นเพื่อนรักของพ่อก็เหมือนดูแลพ่อ ปานตะวันจึงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มใจแม้ว่าบางครั้งจะต้องรองรับอารมณ์ เกรี้ยวกราดของบรรพตอย่างรุนแรง แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมบรรพตจึงหวาดระแวงเธอนักเขาไม่ยอมกินยาที่เธอส่ง ให้ บรรพตจะโวยวายตลอดเวลาว่าเธอจะวางยาพิษเขา ปานตะวันเสียใจที่บรรพตหวาดระแวงเธอเหลือเกิน แต่เธอก็พยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ยุคลเดชซึ่งรักเธออยู่แล้วจึงรักมากขึ้นทุกวัน การที่ปานตะวันมาดูแลบรรพตที่บันดาลสินธ์ทำให้เดือนแรมได้โอกาสทำตามใจมาก ขึ้น เธอไปอยู่คอนโดกับ สปอนเซอร์ แต่เธอบอกทางบ้านว่าไปอยู่กับเพื่อนที่คอนโด เดือนแรมทำให้ปานตะวันเป็นห่วงมาก เธอเริ่มปรับทุกข์กับยุคลเดชจนเขารับปากว่าจะช่วยตามหาให้ ยุคลเดชตามเดือนแรมจนพบ เขาพาปานตะวันไปคุยกับน้องสาวเอง ปานตะวันเสียใจเมื่อรู้ความจริงจากเดือนแรม เธอขอร้องให้เดือนแรมเลิกทำแบบนี้และกลับไปเรียนหนังสือต่อ เดือนแรมซึ่งเห็นในความรักและความจริงใจของพี่สาวจึงยอมตกลง ปานตะวันรู้สึกซาบซึ้งและประทับใจในความดีของยุคลเดชมากขึ้น ดังนั้นเมื่อยุคลเดชขอแต่งงานกับเธอ ปานตะวันจึงตกลง ทั้งคู่จึงแต่งงานกันอย่างเงียบๆ วันหนึ่งขณะที่ปานตะวันจะนำยาไปให้บรรพตตามปกติ เธอได้ยินเสียงบรรพตทะเลาะกับยุคลเดช บรรพตด่าว่ายุคลเดชว่าเป็นลูกอกตัญญูที่เกิดจะคืนสมบัติให้กับปานตะวัน คำพูดที่ได้ยินทำให้ปานตะวันนึกถึงจดหมายของเกริกได้ เธอรีบไปค้นจดหมายออกมาอ่าน เกริกเขียนบอกความจริงทุกอย่างถึงความร้ายกาจของบรรพต และสาเหตุที่เขาต้องยิงตัวตาย ปานตะวันเสียใจและแค้นใจมาก เธอทนไม่ได้ที่จะอยู่ในฐานะของสะใภ้ของคนที่ฆ่าพ่อเธอ ปานตะวันคิดหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไป วันรุ่งขึ้น เธอเข้าไปดูแลบรรพตตามปกติ แต่บรรพตไม่ยอมรับยาจากเธอตามเคย แถมคราวนี้ยังไล่เธอออกจากบ้านอีกด้วย ปานตะวันทนไม่ไหวจึงบอกว่าเธอรู้เรื่องหมดแล้ว เธอไม่ยอมออกจากบ้านของเธอเด็ดขาด คำพูดของเธอทำให้บรรพตช็อคเข้าใจว่ายุคลเดชบอกความจริงกับปานตะวันและโอน บ้านให้เธอแล้ว บรรพตแน่นหน้าอกทันที เขาร้องขอยาโรคหัวใจจากปานตะวัน แต่ปานตะวันมองเฉย ความแค้นทำให้จิตใจเธอเหี้ยมเกรียมผิดปกติ เธอยืนมองบรรพตดิ้นทุรนทุรายอย่างสะใจก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นเงียบๆ บรรพตต้องดิ้นรนกดกริ่งเรียกคนในบ้านมาช่วย เขาจึงถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลทันที บรรพตอาการหนักมากต้องอยู่ในห้องไอซียูตลอดเวลา ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ยุคลเดชและปานตะวันหมางใจกัน เมื่อปานตะวันขอหย่า ยุคลเดชรู้ดีว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องชดใช้หนี้เกียรติยศ ยุคลเดชยอมตามใจเธอทุกอย่างแม้ว่าเขาจะรักเธอมาก เขาจะคืนทุกอย่างให้เธอและจะจากไปอยู่ตามลำพัง ปานตะวันตกลงด้วยความทิฐิ เธอคิดว่าเขาไม่ได้รักเธอ ยุคลเดชจึงจากไปด้วยความเจ็บช้ำ แต่เมื่ออยู่คนเดียวเธอก็คิดได้ว่าเรื่องทุกอย่างเกิดจากบรรพตคนเดียว โดยที่ยุคลเดชไม่เกี่ยวข้องเลย แต่เขากลับทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษแทนพ่อ ภาพความหลังเก่าๆ ที่ยุคลเดชดูแลปานตะวันอย่างดี และเอาใจใส่ด้วยความรัก ทำให้ปานตะวันลดทิฐิลง ปานตะวันเริ่มรู้ดีว่าหัวใจตัวเองต้องการอะไร จึงออกตามหายุคลเดช และให้อภัยเขาด้วยความรัก

รายชื่อนักแสดง หยดน้ำในตะวัน
อารยา เอ ฮาร์เก็ต รับบท ปานตะวัน
วัชรบูล ลี้สุวรรณ รับบท ยุคลเดช
อริษา วิลล์ รับบท เดือนแรม
เปียเชอร์ คริสเต็นเซ่น รับบท จรัสศรี
อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รับบท บรรพต
มาฬิศร์ เชยโสภณ รับบท อโณทัย

เสน่ห์จันทร์

ในงานฉลองพิธีหมั้นระหว่าง เสน่ห์จันทร์ (ตั๊ก บงกช คงมาลัย) เศรษฐีนีม่ายสาวสวยกับ ดามพ์ (สันติสุข พรหมศิริ) เพลย์บอยหนุ่มถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราที่คฤหาสน์นฤบดินทร์ อันเป็นมรดกตกทอดจากอดีตสามีผู้ล่วงลับของเสน่ห์จันทร์ โดยมีป้าสาย (จารุณี สุขสวัสดิ์) พี่เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์ของเสน่ห์จันทร์ คอยจัดการทุกอย่างให้นายหญิงของเธอ และ มานิตย์ (รอง เค้ามูลคดี) คนครัวที่ทำอาหารเก่งที่สุดเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหารการกินงานดำเนินไปอย่าง ราบรื่น จนกระทั่งมาถึงช่วงสำคัญของงาน เสน่ห์จันทร์กล่าวเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมดื่มแสดงความยินดีกับเธอ และดามพ์ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีดามพ์ก็เป็นลมล้มฟุบไป ท่ามกลางความตื่นเต้นตระหนกของทุกคน

ดามท์เสียชิวิตลงในเวลาต่อมา ตำรวจสรุปว่าดามพ์เสียชิวิต เพราะมียาพิษในแชมเปญ โรมรัน (กัปตัน ภูเนศ หงษ์มานพ) นายตำรวจหนุ่มฝีมือดีได้รับคำสั่งให้มาดูแลคดีนี้ โดยมี จ่าสมหมาย (ชูศรี เชิญยิ้ม) ตำรวจท้องที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ฆาตรกรรมครั้งนั้นและมิ้ม (ตวง ภัสสรี กังวานพงศ์) เด็กจบใหม่ฝึกงานที่เป็นทั้งคู่กัดและผู้ช่วยของโรมรัน ครั้งแรกที่โรมรันเขาได้พบกับเสน่ห์จันทร์ เขาประทับใจในความงามและความอ่อนหวานของเธอ โรมรันสอบปากคำเสน่ห์จันทร์และแขกผู้มีเกียรติในงานพบว่า คนที่น่าสงสัยที่สุดคือ นาน่า (หลิว มนัสวี กฤตานุกูลย์) นักร้องสาวแฟนเก่าของดามพ์ที่เข้ามาอาละวาดในงาน พร้อมกับขู่เอาชีวิตดามพ์ เพราะโกรธแค้นที่ถูกดามพ์สลัดรัก ทันทีที่นาน่าเห็นตำรวจเธอรีบหนีทันที และทิ้งหลอดยาที่น่าสงสัยลงในชักโครกแต่เธอหนีไม่พ้นและถูกรวบตัวในเวลาต่อ มา นาน่าให้การปฎิเสธว่าไม่ได้ฆ่าดามพ์ เพราะเธอรักเค้ามาก แต่คนที่เธอโกรธก็คือ เสน่ห์จันทร์ ที่เข้ามาแย้งคนรักไปจากเธอมากกว่า แต่พอตำรวจสอบถามว่าในเวลาที่เกิดเหตุเธออยู่ไหน นาน่าก็ให้การสับสน วกไปวนมาอย่างน่าสงสัย โรมรันจึงสั่งให้จ่าสมหมายคอยจับตาดูนาน่าไว้ ต่อมากองพิสูจน์หลักฐานแจ้งว่า ยาที่พบในห้องนาน่า เป็นยาเค ไม่ใช่ยาพิษ นาน่าจึงยอมรับสารภาพว่าเธอติดยา ช่วงที่เธอหายไป เธอแอบเข้าไปเสพยาในห้องน้ำ เธอจึงไม่กล้าสารภาพตั้งแต่ครั้งแรก

โรมรันเอาวีดีโอที่ถ่ายในงานมาตรวจสอบ พบว่านาน่าพูดความจริงเนื่องจากช่วงเวลาที่เธอหายไปไม่มากพอที่จะไปวางยาฆ่า ใคร นอกจากนั้นโรมรันยังพบเบาะแสสำคัญของคดีนี้ด้วย เพราะจากวีดีโอที่ถ่ายไว้ ทำให้โรมรันเห็นว่าในช่วงที่ทุกคนยกแก้วดื่มเพื่ออวยพรนั้น เสน่ห์จันทร์ กับดามพ์แลกแก้วแชมป์เปญกันดื่ม จึงรู้ได้ทันทีว่า เสน่ห์จันทร์ต่างหากที่เป็นเป้าหมายของการฆาตรกรรมครั้งนี้ ไม่ใช่ดามพ์…

โรมรันบอกเรื่องนี้ให้เสน่ห์จันทร์รู้ เธอตกใจเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนคิดฆ่าเธอ โรมรันจึงอธิบายว่าฆาตรกรใส่ยาพิษในแก้วแชมเปญของเธอโดยไม่รู้ว่าเธอจะแลก แก้วดื่มกับดามพ์ ดังนั้นดามพ์จึงเป็นเพียงผู้รับเคราะห์แทนเธอ ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง…

เสน่ห์จันทร์ตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้รู้ความจริง ณ วินาทีนี้เธอยังคิดไม่ตกว่าใครกันที่จะปองร้ายเธอถึงชีวิต เธอได้แต่ขอร้องโรมรัน ว่าให้ช่วยสืบหาคนนั้นให้ได้ในเร็ววัน นาน่าให้การกับโรมรันว่า ตอนที่เธอออกมาจากห้องน้ำมี เสี่ยบุญชู (ไพโรจน์ สังวริบุตร) เจ้าของกิจการก่อสร้างรายใหญ่เป็นพยาน เพราะตอนนั้นเสี่ยบุญชูเพิ่งทะเลาะกับเสน่ห์จันทร์เสร็จแล้วเดินสวนออกมา เกือบจะชนเธอ ประจวบเหมาะบริษัทรับเหมาก่อสร้างของเสน่จันทร์ถูกวางระเบิดอย่างไม่มี สาเหตุ โรมรันจึงเริ่มสงสัยเสี่ยบุญชู เขาถามถึงความขัดแย้งระหว่างเธอกับเสี่ยบุญชู (ตามที่นาน่าเล่าให้ฟัง) เสน่ห์จันทร์ยอมรับแล้วเล่าที้งหมดตามความจริงด้วยน้ำตา

วันเกิดเหตุ เสี่ยบุญชูมาข่มขู่เธอไม่ให้ยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างทางด่วนยกระดับแถบ ชายฝั่งทะเลตะวันออกมูลค่าเป็นพันล้านที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า แต่เธอปฎิเสธไม่ขอก้าวก่ายการทำงานของบริษัทฯ เสี่ยบุญชูโกรธมากประกาศจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอไปพ้นทาง ที่สำคัญก่อนจากไปเขาพยายามลวนลามเธอ
โรมรันบอกเสน่ห์จันทร์ว่าคนที่ปองร้ายไม่ยอมวางมือแน่ๆ เตือนให้เธอระวังตัว และให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวกับเธอหากเกิดเรื่องอะไรไม่ดีก็โทรหาเขาได้ทุก เมื่อ เสน่ห์จันทร์ซาบซึ้งใจ ป้าสายหัวหน้าแม่บ้านและมีศักดิ์เป็นแม่นมของเสน่ห์จันทร์ไม่ค่อยพอใจ หลังโรมรันกลับออกไป ป้าสายเตือนเสน่ห์จันทร์ว่าอย่าทำตัวสนิทสนมกับโรมรันมากนัก เขาอาจจะเป็นอันตรายกับเธอ เสน่ห์จันทร์บอกป้าสายว่า ไม่ต้องห่วง

ในเวลาต่อมาตำรวจจับมือวางระเบิดได้ ปรากฎว่า…ชื่อไอ้หาญเป็นคนของเสี่ยบุญชู พอดีกับที่มิ้มนำรายงานผลการชันสูตรศพดามพ์ พบว่าดามพ์เสียชิวิตเนื่องจากสารพิษที่ชื่อว่า แคนทาริดีน ออกฤทธิ์ในเชิงกระตุ้นอารมณ์ให้คึกคักแต่ถ้าใส่จำนวนมากทไให้หัวใจวายได้ ในตลาดมืดเรียกตัวนี้ว่า “แมลงวันสเปน”

โรมรันรีบนำหมายค้นไปค้นที่บ้านเสี่ยบุญชูทันที ขณะนั้นเสี่ยบุญชูกำลังมีความสุขกับสาวๆที่บ้าน โรมรันจึงพบไวอากร้า แมลงวันสเปน และยากระตุ้นอื่นๆมากมายตามที่สงสัย เสี่ยบุญชูบอกว่าเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะใช้ยากระตุ้นอารมณ์เพศ ตำรวจจับเชาเช้าคุกเพราะใช้แมลงวันสเปนไม่ได้ โรมรันบอกว่าไอ้หาญรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนวางระเบิดบริษัทของเสน่ห์จันทร์ พร้อมกับรุกไล่ถามเรื่องที่มีคนเห็นเขาทะเลาะกับเสน่ห์จันทร์ และลวนลามในวันงาน เสี่ยบุญชูโมโหจนควบคุมตัวเองไมิอยู่ จึงยอมรับว่าเขาทำจริง แต่คนอย่างเขาไม่เคยคิดจะวางยาพิษฆ่าใคร

โรมรันจึงทำได้แค่เพียงแจ้งข้อหาลอบวางระเบิดแก่เสี่ยบุญชู ซึ่งก็ประกันตัวออกไปได้ภายในวันนั้นด้วยเงินและอิทธิพลที่มีอยู่ สิ่งที่ทำให้เขาเชื่อว่าเสี่ยบุญชูไม่ได้เป็นคนลงมือก็คือ นิสัยของเสี่ยบุญชูไม่ใช่คนที่ฆ่าใครด้วยยาพิษ และวางยาพิษในแก้วแชมเปญ น่าจะทำในเวลาก่อนเกิดเหตุไม่นาน เพราะตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีช่วงเวลาอันสั้น ซึ่งคนที่ลงมือน่าจะเป็นคนที่ชำนาญในเรื่องการใช้ยานี้ ไม่ใช่นักเลงอย่างเสี่ยบุญชู แต่ใครล่ะจะเป็นผู้ชำนาญคนนั้น

โรมรันกลับมาได้รับข้อมูลใหม่จากมิ้มว่า หลังจากท่านนายพลสามีของเสน่ห์จันทร์ตายลง ได้ทำพินัยกรรม ยกสมบัติทั้งหมดให้เสน่ห์จันทร์เพียงคนเดียว อลิสา (วรรณษา ทองวิเศษ) น้องสาวโอลด์เมดของท่านนายพลยื่นฟ้องร้องแต่ศาลสั่งยกฟ้องให้อลิสาแพ้คดี ที่สำคัญเธออยู่ที่นั่นในวันเกิดเหตุด้วย ที่สำคัญเธอยังเคยเป็นผู้ช่วยเภสัชกรมาก่อนที่จะเป็นเจ้าของฟาร์มม้า

เสน่ห์จันทร์เล่าว่า ความจริงวันนั้นเธอจำได้ว่า เธอเดินผ่านห้องเก็บแชมเปญ และเธอเห็นใครคนหนึ่งมาด้อมๆมองๆ พอเห็นเธอกับป้าสาย คนๆนั้นก็รีบหลบออกไป อาจจะเป็น อลิสา เพราะเธอเท่านั้นที่เคยเข้าออกบ้านนี้ได้สะดวก โรมรันถามเรื่องคดีมรดกจากเสน่ห์จันทร์แต่เธอไม่ยอมพูดถึง ได้แต่ร้องไห้เมื่อเขาพูดถึงเรื่องมรดกนั้น เขาจึงหันไปสืบเรื่องนี้จากป้าสาย โดยอ้างถึงความปลอดภัยของเสน่ห์จันทร์ ป้าสายเล่าว่า อลิสารักและหวงพี่ชายมาก จึงโทษว่าเสน่ห์จันทร์มาแย่งทุกอย่างไป ทำให้เสน่ห์จันทร์พลอยรู้สึกผิดที่ได้สมบัติทั้งหมดของท่านนายพล ป้าสายเล่าว่าเสน่ห์จันทร์ยอมถึงขั้นยกคอกม้านฤบดินทร์ให้อลิสา แต่อลิสาก็ยังไม่หายโกรธ คอยแช่งให้เสน่ห์จันทร์มีอันเป็นไปอยู่เสมอ แม้กระทั่งวันงาน อลิสายังแต่งชุดดำมาเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าจะมีคนตาย ป้าสายยังเตือนโรมรันอีกว่าจะทำอะไรให้ระวังตัวด้วย

โรมรันไปหาอลิสาที่คอกนฤบดินทร์ อลิสากำลังขี่ม้าอย่างคล่องแคล่ว เธอสงสัยว่าโรมรันมาหาเธอเพราะอะไร แต่ในที่สุดอลิสาก็จับได้ว่าโรมรันเป็นตำรวจ จึงไล่ตะเพิดเขากลับไป อลิสาโกรธ หาว่าเสน่ห์จันทร์กล่าวหาเธอ โรมรันจึงได้รู้ว่าอลิสาเกลียดเสน่ห์จันทร์จริงๆ

วันต่อมาโรมรันได้รับโทรศัพท์จากเสน่ห์จันทร์ ว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนสะกดรอยตาม โรมรันรีบมาช่วย เมื่อเค้าไปถึงก็เห็นอลิสากำลังทำร้ายเสน่ห์จันทร์อยู่ เขาเข้าไปห้ามอลิสาและรวบตัวเอาไว้ได้ในเวลาต่อมา ระหว่างที่โดนจับ อลิสาตะโกนด่าอาฆาตมาดร้ายเสน่ห์จันทร์ราวกับคนเสียสติ เสน่ห์จันทร์กลัวจนตัวสั่น โรมรันจึงนำตัวอลิสาไปกักขังไว้ชั่วคราว อลิสาถูกสอบเครียด เธอยอมรับว่าเกลียดและอยากให้เสน่ห์จันทร์ตาย แต่เธอไม่ได้วางยาพิษ โรมรันยังไม่เชื่อ เพราะว่าสมหมายไปตรวจคอกนฤบดินทร์ พบแมลงวันสเปนที่นั่น

จ่าสมหมายและมิ้มช่วยกันรวบรวมหลักฐานให้โรมรันทำสำนวนคดีเตรียมฟ้องอลิสา ทำให้ได้รู้ว่าแรงจูงใจของเธอคือ ต้องรีบฆ่าเสน่ห์จันทร์ให้ได้ก่อนที่เธอจะแต่งงานใหม่ เพราะหากปล่อยให้เธอแต่งงานไป สมบัติทั้งหมดของนฤบดินทร์จะกลายเป็นสินสมรส โอกาสที่อลิสาจะเอาของของเธอกลับคืนมายิ่งมีน้อยลง อลิสาจึงแอบเข้าไปในห้องเก็บแชมเปญนั้น แล้วใช้เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีในการวางยาพิษ และแผนของเธอคงจะสำเร็จ ถ้าเสน่ห์จันทร์ไม่แลกแก้วดื่มกับดามพ์ ในช่วงมรณะนั้น

ข่าวจับอลิสาลงหนังสือพิมพ์ พร้อมรายละเอียดต่างๆ พ่อครัวมานิตย์อ่านแล้วพยายามปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมด เค้ารีบออกไปนอกบ้านด้วยอาการพิรุธ แล้วจู่ๆก็มีชายลึกลับโทรศัพท์เข้ามาขู่คนในคฤหาสน์นฤบดินทร์ ว่า “ฉันรู้นะว่าแกเป็นคนฆ่า” ก่อนมันจะแบล็คเมล์ข่มขู่เรียกเงิน โรมรันได้รับโทรศัพท์จากชายลึกลับเช่นกัน บอกว่า เขากำลังหลงทางจับคนผิด อลิสาไม่ได้ฆ่าใคร “ผมรู้ว่าใครเข้าไปในห้องแชมปญก่อนเกิดเหตุ” ถ้าอยากรู้เบาะแสว่าใครคือฆาตรากรตัวจริง

หลังจากวางหูจากชายลึกลับ โรมรันก็ขอให้ตำรวจหาที่มาของปลายสาย มานิตย์กลับมาทำงานปกติเหมือนไม่มีอะไร จนกระทั่งถึงวันนัดหมาย มานิตย์ซึ่งมีอาการเบาหวานขั้นรุนแรง ต้องฉีดอินซูลินก่อนออกจากบ้าน โรมรันมารอที่จุดนัดหมาย แต่คนที่นัดไว้ไม่มา จนจ่าสมหมายรายงานว่า โทรศัพท์ลึกลับที่โทรมาหาโรมรันนั้น มาจากบ้านเสน่ห์จันทร์นั่นเอง โรมรันนำตำรวจบุกไปที่บ้าน ไปจนถึงห้องพักของมานิตย์ที่คฤหาสน์นฤบดินทร์ เมื่อตำรวจบุกเข้าไปในห้องมานิตย์ปรากฎว่ามานิตย์ตายเสียแล้ว มีรอยเข็มและรอยไหม้ตามเส้นเลือดบริเวณหน้าท้องของเขา โรมรันตรวจสอบสภาพในห้องมานิตย์ พบข่าวตัดเกี่ยวกับคดีฆาตรกรรมดามพ์ และมีรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในห้องมากมาย โรมรันสั่งให้จ่าสมหมายเก็บไปตรวจสอบ โรมรันสอบถามเรื่องมานิตย์ ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเขามากนัก รู้แต่ว่ามานิตย์เคยมีครอบครัวแล้ว มีลูก แต่ถูกเมียที่หย่าขาดกีดกันไม่ให้พบลูกสาว ทำให้เขาเป็นคนเศร้าๆ และชอบเก็บตัว มิ้มสืบเพิ่มเติมอีกจนพบว่า เมียของมานิตย์ต้องการเงินก้อนหนึ่งไปตั้งตัว เพื่อแลกกับลูกสาว มานิตย์จึงต้องการใช้เงิน ประกอบกับความบังเอิญได้เห็นว่าในวันเกิดเหตุใครแอบลงไปในห้องเก็บแชมเปญ เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวที่สื่อมวลชนนำเสนอ มานิตย์จึงมั่นใจว่าใครคือ ฆาตรกร เขาจึงโทรไปแบล็คเมย์ ซึ่งคนฆ่ามานิตย์น่าจะเป็นฆาตรกรคนนั้น และแน่นอนว่า ไม่ใช่อลิสา น่าจะเป็นคนในบ้านของเสน่ห์จันทร์เอง

เมื่อโรมรันไปหาเสน่ห์จันทร์ เห็นเสน่ห์จันทร์นั่งร้องไห้อยู่ เธอขอให้เขาอยู่เป็นเพื่อน เพราะกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอ และแล้วคืนนั้นเธอกับเขาก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เสน่ห์จันทร์ปรับทุกข์กับโรมรันว่า ยิ่งเขาสาวเข้าใกล้ฆาตรกรมากเท่าไร ก็ยิ่งมีคนตายมากขึ้นเท่านั้น เธอไม่อาจทนเห็นใครตายอีกโดยเฉพาะเขา เธอขอให้เขาเลิกโรมรันปฎิเสธว่าเป็นหน้าที่ ขอให้เข้าใจจากหลักฐานล่าสุดที่ได้มา ทำให้โรมรันรู้ว่าอลิสาไม่ได้เป็นคนทำร้ายเสน่ห์จันทร์จริงๆ และสาเหตุที่อลิสาบุ่มบ่ามไปหาเสน่ห์จันทร์ในวันนั้นเพราะจะไปตกลงกับเสน่ห์ จันทร์เรื่องคอกม้าของเธอ แต่บังเอิญไปเจอเข้ากับป้าสายเข้าเสียก่อน อลิสาจึงคอบคุมสติอารมณ์ไม่ได้เมื่อเจอหน้าเสน่ห์จันทร์ในเวลาต่อมา

ป้าสาย คนรับใช้ผู้ภักดี เคยมีคดีกับอลิสามาก่อน และยิ่งเมื่อสืบทราบว่า ป้าสายจะเกลียดทุกคนที่ไม่เชื่อฟังเธอโดยเฉพาะดามพ์ ก็ยิ่งทำให้โรมรันเริ่มเข้าใกล้ตัวฆาตรกรมากขึ้นทุกที

โรมรันนำตัวป้าสายมาสอบปากคำอย่างหนัก ในที่สุด ป้าสายก็รับสารภาพว่าเป็นคนฆ่ามานิตย์ ที่รู้ว่าเธอเป็นคนวางยาพิษดามพ์ และคิดจะแบล็คเมล์เธอ เสน่ห์จันทร์ตกใจที่ป้าสายพูดออกมาเช่นนั้น เธอแทบไม่เชื่อหู แต่ป้าสายยืนยันกับโรมรันว่าไม่ได้คิดจะทำร้ายเสน่ห์จันทร์ แต่ต้องการกำจัดดามพ์ ตำรวจพบแมลงวันสเปนอยู่ในห้องป้าสาย ตำรวจนำป้าสายเข้าคุก อลิสาได้รับการปลดปล่อยตัวเป็นอิสระ เธอยังคงเครียดแค้นเสน่ห์จันทร์อยู่เหมือนเดิม

เช้าวันต่อมา จ่าสมหมายแจ้งให้โรมรันรู้ว่าป้าสายเสียชีวิตแล้วด้วยการดื่มยาพิษที่แอบ เข้ามา เสน่ห์จันทร์กอดศพป้าสายร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา โรมรันอยู่เคียงข้างเธอเพื่อปลอบโยน เขาได้รับความผูกพันระหว่างเธอและป้าสายมากขึ้น เมื่อเขาเป็นเพื่อนเธอนำกระดูกของป้าสายไปเก็บที่วัด ที่เดียวกับที่เก็บอัฐิน้องสาวของเสน่ห์จันทร์

คดีปิดลง ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่าย ยกเว้นโรมรัน เพราะสิ่งที่เขาคาใจก็คือ ทำไมฆาตรกรอย่างป้าสายที่จงรักภักดีต่อนายหญิงถึงได้ยอมเสี่ยงเอาชีวิตของ นายหญิงเป็นเดิมพัน ในการวางยาพิษครั้งนี้
เธอรู้ได้อย่างไรว่านายหญิงของเธอจะสลับแก้วดื่มกับว่าที่สามี ณ วินาทีมรณะนั้น เธอไปรู้เรื่องแมลวันสาปนั้นได้อย่างไร หรือเธอมีเหตุผลอื่นใดแอบแฝงหรือเธอรู้อะไร ที่ใครไม่เคยล่วงรู้…

รายชื่อนักแสดง เสน่ห์จันทร์
บงกช คงมาลัย รับบท เสน่ห์จันทร์
ภูธเนศ หงษ์มานพ รับบท รมรัน
จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบท ป้าสาย
สันติสุข พรหมศิริ รับบท ดามพ์
ไพโรจน์ สังวริบุตร รับบท เสี่ยบุญชู
ภัสสรี กังวานพงศ์ รับบท มิ้ม
มนัสวี กฤตนุกูลย์ รับบท นาน่า
วรรณษา ทองวิเศษ รับบท อลิสา
รอง เค้ามูลคดี รับบท มานิตย์
ชูศรี เชิญยิ้ม รับบท จ่าสมหมาย
ดารุณี กฤตบุญญาลัย รับบท สมสมัย
วราพรรณ หงุ่ยตระกูล รับบท เอกกะรัต ในละครเสน่ห์จันทร์

สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2

สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค2 ตอน แม่มดน้อยตัวป่วน
ฮันนี่ เป็นแม่มดน้อยที่มีเลือดมนุษย์ครึ่งหนึ่งกับเลือดแม่มดครึ่งหนึ่ง พื้นฐานเวทมนตร์คาถาจึงอ่อนมาก และมีอายุขัยเช่นเดียวกับมนุษย์ พ่อกับแม่ของฮันนี่ไปอยู่เมืองนอก ทวด ทาฮิร่า เป็นผู้เลี้ยงดูฮันนี่ที่คอนโดหรูหราแห่งหนึ่ง ตั้งแต่เด็กฮันนี้เป็นแม่มดตัวป่วนที่ชอบเล่นเวทย์มนต์ ทวดทาฮิร่าก็เป็นแม่มดขี้เล่น รักสนุก หลงๆ ลืมๆ สอนคาถาถูกๆ ผิดๆ บ้าง ทวดและเหลนรักกันมาก แต่ก็มีเรื่องขัดแย้งกันตลอด เพราะมีช่องว่างระหว่างวัยหลายพันปี จึงความเห็นไม่ตรงกัน ต่อปากต่อคำกัดกันตลอด ด้วยความรักกันตลอด ยิ่งมีเจ้าแมว ชิคเก้น มาร่วมเลี้ยงเหลนด้วยอีก เลยเป็นทะเลาะกันสามปากไปเลย ทวดกับคุณเหลนจึงมีชีวิตที่สนุกสนานเหลือเกิน อยู่ที่คอนโดก็ทำให้คนในคอนโดหรูแห่งนี้ปั่นป่วนน่าดู วันดีคืนดีคนในคอนโดจะเห็นแม่มดน้อยขี่ไม้กวาดผ่านหน้าต่างห้องไปเสียเฉยๆ และร่ำลือกันว่าไอ้ที่เห็นนั่นคืออะไร แต่ไม่มีใครให้คำตอบได้ ฮันนี่มีชีวิตสองด้าน ในสังคมมนุษย์เธอต้องไปโรงเรียนมหาวิทยาลัยศึกษาวิชาการ อีกด้านหนึ่งเรียนเวทมนต์กับคุณทวดทาฮิร่าในโลกของแม่มด ฮันนี่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และเป็นดาวเด่นในมหาวิทยาลัย ความที่เป็นแม่มดอ่านใจคนได้จึงรู้ว่าสาวๆ ในมหาวิทยาลัยล้วนอิจฉาเธอ จึงมีเพียงวีกิจคนเดียวที่ฮันนี่ยอมคบหาอย่างสนิทสนม เพราะวีกิจเป็นคนดี จริงใจ ร่าเริง แต่เขาเป็นคนจน เป็นเด็กวัดและเป็นลูกกำพร้า วีกิจหลงรักอรดา ลูกสาวคุณหญิงจรัสศรี อรดามีพี่ชายรูปหล่อที่หวงอรดามากชื่อ ชานนท์ อรดาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับวีกิจและฮันนี่ เธอเป็นสาวแก่นแก้ว ส่วนลึกอรดาก็ชอบวีกิจ แต่แสดงออกมาว่าไม่ชอบจึงมักเป็นคู่กัดกัน ฮันนี่ต้องช่วยวีกิจจีบอรดา ช่วยกันท่าหนุ่มๆ ที่มาจีบอรดา อรดาเรียนหนังสือระดับปานกลาง จึงค่อนข้างขวางๆ วีกิจ ซึ่งดูเซ่อๆ ซ่าๆ แต่กลับได้คะแนนดีกว่าจึงพยายามเอาชนะและกระแนะกระแแหนตลอดเวลา เพื่อจะหลอกตัวเองว่าไม่ได้ชอบศัตรู ซึ่งวีกิจก็ได้แต่น้อยเนื้อต่ำใจ แรกๆ อรดาสะใจมาก พอนานๆ เข้าจึงรู้สึกสงสาร ด้วยความที่มีทิฐิ อรดาพยายามเก็บกดความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อวีกิจไว้และแสดงออกตรงกันข้าม อีกทั้งซาเนียซึ่งจ้องจะทำลายทั้งฮันนี่และบรรดาเพื่อนๆ คอยยุยงส่งเสริมทำให้ทั้งสองคนเหมือนจะไกลกันมากขึ้น ในขณะเดียวกัน วีกิจอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ ที่อรดาดูจะให้ความเคารพนับถือหลวงลุงของตนมาก และหลวงลุงเองก็ให้ความเมตตาอรดา อีกทั้งมักจะเข้าข้างอรดาเสมอ ทำให้ทั้งสองเกิดปะทะคารมกันบ่อยๆ โดยวีกิจออกมาในรูปน้อยใจ ส่วนอรดาประชดประชันเหน็บแนม อรดาเป็นคนที่รู้ความลับเรื่องฮันนี่เป็นแม่มดทำให้ยิ่งเชียร์พี่ชายกับฮันนี่เต็มที่ ซึ่งในขณะเดียวกัน ฮันนี่ก็พยายามวางแผนให้อรดาจับคู่กับวีกิจเช่นเดียวกัน โดยอรดาไม่ทันรู้ตัว หนักเข้าฮันนี่ถึงกับแกล้งชอบกับวีกิจเพื่อให้อรดาหึงหวง และเปิดเผยความในใจออกมา ซึ่งกว่าจะสำเร็จก็ทำให้เพื่อนรักต้องผิดใจกันไปนาน เรื่องราววุ่นวายอลวนมากขึ้นในวันเกิดของอรดา วีกิจกับฮันนี่ได้รับเชิญให้ไปบ้านซึ่งจัดงานเลี้ยง ด้วยความซนของฮันนี่จึงเหาะขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ใหญ่เล่นกับชิคเก้น บังเอิญมีแมลงสาบตัวหนึ่งหล่นบนตัวฮันนี่ ฮันนี่ไม่เคยกลัวอะไรในโลกเลยนอกจากแมลงสาบ จึงทำให้เธอตกใจสุดขีดจนลืมคาถาทุกอย่าง ตกลงมาจากต้นไม้ ก่อนจะเจ็บตัวก็มีใครคนหนึ่งมารับตัวเธอไว้ทันเขาคือชานนท์ อ้อมแขนที่กอดเธอปกป้องอันตรายให้เธอ วินาทีที่สบตาชานนท์ ราวกับมีกระแสไฟผ่านร่างแม่มดน้อยฮันนี่ก็หลงรักชานนท์เสียแล้ว ส่วนชานนท์รู้สึกว่าฮันนี่เป็นผู้หญิงสวย แปลก มีเสน่ห์อย่างอธิบายไม่ถูก ชานนท์ มีแฟนที่คบหาดูใจกันอยู่คือ พรรณวดี ดาราสาวที่เล่นบทนางอิจฉาประจำจอแก้ว พรรณวดีอยู่กับพี่ชายชื่อ ทินกร ซึ่งทำธุรกิจก่อสร้างแต่ขาดทุน เป็นหนี้ธนาคารมหาศาล ทินกรจึงให้พรรณวดีจับชานนท์ให้อยู่หมัด เพราะชานนท์ร่ำรวยเป็นเจ้าของกิจการก่อสร้างที่ประสบความสำเร็จ และตัวทินกรเองก็ตามจีบอรดา หวังจะรวบทุกอย่างมาอยู่ในมือตน ฮันนี่ต้องวุ่นๆ กับความรักของตนที่มีต่อชานนท์ จนต้องปะทะกับพรรณวดี ทั้งยังต้องช่วยวีกิจจีบอรดา ช่วยกันท่าทินกรไม่ให้ใกล้ชิดอรดา เท่านั้นยังไม่พอ ฮันนี้ยังต้องวุ่นๆ กับบรรดาแม่มดด้วยกันอีก เพราะมีบรรดาแม่มดมาปั่นป่วน คือยายบาบาร่า กับหลานสาวซาเนีย เป็นแม่มดคู่ปรับของยายทาฮิร่า ยายบาบาร่าเป็นแม่มดจิตไม่ว่าง เป็นคู่ปรับและไม่ค่อยถูกกับยายทาฮิร่ามาแต่ไหนแต่ไร ส่วนซาเนียหลานสาวก็เป็นแม่มดขี้อิจฉาแอบมาสอดส่องชีวิตของฮันนี่ ยายบาบาร่ากับซาเนียสงสัยในตัวฮันนี่ซึ่งน่าจะเป็นมนุษย์ ไฉนจึงมีเวทมนต์ได้ จึงอยากจับฮันนี่มาพิสูจน์เลือดว่าเกิดผิดปกติอะไรขึ้น ด้วยเหตุนี้ยายบาบาร่าจึงปะทะกับยายทาฮิร่า ซาเนียก็ปะทะกับฮันนี่ เวทมนต์ฮันนี่อ่อนกว่าซาเนีย แต่ฮันนี้อาศัยความแก่นแก้วและโชคช่วยเอาตัวรอดได้เสมอ ไม่ถูกซาเนียจับไปพิสูจน์เลือด ทวดทาฮิร่าอยากให้เหลนฮันนี่มีเวทมนต์ทางลัดเพื่อให้เหนือกว่าซาเนีย ทาฮิร่าจึงต้องการไข่มุกเวทย์ มาให้ฮันนี่กิน ไขมุกเวทย์นี้ต้องปรุงด้วยพ่อมดหนุ่มชื่อ เวไลน์ ซึ่งเป็นพ่อมดแสนซื่อ ไข่มุกเวทย์เป็นสูตรลับของตระกูลพ่อแม่เวไลน์สืบทอดมาถึงรุ่นตน การปรุงไข่มุกเวทย์ต้องใช้เวลาเป็นพันปี ใครได้กินจะมีพลังอำนาจคาถาถึงร้อยเปอร์เซนต์ เวไลน์ปรุงไข่มุกเพื่อกินเองเสริมพลังคาถา ทวดทาฮิร่ามาขอแบ่งครึ่งเม็ดไปให้ฮันนี่ เวไลน์เป็นคนมีน้ำใจแบ่งปัน แต่ถูกซาเนียขัดขวาง ซาเนียรู้ว่าเวไลน์หลงรักตน จึงหลอกเอาไข่มุกเวทย์มาจากเวไลน์แล้วกินเสียเอง ทำให้ซาเนียกลายเป็นแม่มดที่มีพลังสูง มีพลังคาถามากกว่าทวดทาฮิร่ากับยายบาบาร่าเสียอีก ฮันนี่ตกอยู่ในฐานะลำบาก เพราะซาเนียเก่งขึ้น ฮันนี่ต้องใช้ความกะล่อนหลบหนีซาเนีย ส่วนอีกด้านความวุ่นวายในโลกมนุษย์นั้น ฮันนี่ช่วยวีกิจสุดฤทธิ์ เพราะทินกรตามจีบอรดา วีกิจเป็นแค่เด็กกำพร้า และเป็นเด็กวัด คุณหญิงจรัสศรีจึงชอบทินกรมากกว่า คุณหญิงจรัสศรีพูดเล่นกับวีกิจว่าถ้าสามารถทำให้ดอกไม้ในสวนบานได้ทุกดอกภายในคืนเดียว ตนจะยกอรดาให้ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องเลิกคบกับอรดา งานกล้วยๆ เช่นนี้ ฮันนี่ทำได้อยู่แล้ว วันรุ่งขึ้นดอกไม้ในสวนกว้างขวางของคุณหญิงบานสะพรั่งทุกดอกราวกับปาฏิหาริย์ คุณหญิงจรัสศรีกับชานนท์แปลกใจมาก และยอมให้วีกิจคบกับอรดา ส่วนชานนท์สนิทกับฮันนี่มากขึ้นและสงสัยในตัวฮันนี่ ซึ่งมีอะไรแปลกๆ มากมายเช่น ชานนท์เกือบถูกงูกัด ฮันนี่ร่ายเวทมนต์ช่วย รถจะชนชานนท์ ฮันนี่ใช้เวทมนต์หยุดทุกอย่างชั่วขณะ ราวกับถูกสาบเป็นหิน คนอยู่ในรถไหนก็หยุดนิ่งในท่านั้น ทำให้ชานนท์รู้ว่าฮันนี่มีพลังพิเศษ คุณหญิงจรัสศรีจะจัดงานการกุศลเพื่อหาทุนช่วยเด็กกำพร้า โดยมีวีกิจเป็นเรี่ยวแรงสำคัญเพราะเขาเป็นเด็กกำพร้า มีการแสดงละครบนเวทีเรื่องแม่มด คุณหญิงให้ฮันนี่ดูแลเรื่องการแสดง พรรณวดีน้อยใจ เพราะหล่อนเป็นนักแสดงมืออาชีพ คุณจรัสศรีแกล้งให้ฮันนี่ดูแล งานแสดงมาถึง พรรณวดีพยายามกลั่นแกล้งไม่ให้ฮันนี่ทำงานสำเร็จ ฮันนี่จัดการแสดงแม่มดได้ยอดเยี่ยมมาก เพราะทวดทาฮิร่ามาช่วยเกณฑ์แม่มดมาเล่นละครจริงๆ การแสดงจึงเหมือนจริงรวมทั้งเรื่องใช้ไม้เท้าเหาะ ซาเนียกับบาบาร่ามาป่วนในงาน แต่งานก็สามารถผ่านพ้นไปได้ คนที่ชมละครเรื่องนี้ต่างปรบมือสนั่น เพราะคิดว่าเป็นเทคนิคที่สมจริง ชานนท์คอยจับผิดฮันนี่จนกลายเป็นชานนท์เหินห่างกับพรรณวดี ทำให้พรรณวดีเสียใจมาปรับทุกข์กับทินกร สองพี่น้องเสียใจอกหักทั้งคู่ เพราะชานนท์ชอบฮันนี่ ส่วนอรดาก็รักกับวีกิจ จึงคิดหาทางแย่งคนที่ตัวรักมาเป็นของตัวเองให้ได้ ทินกรส่งสมุนไปจับฮันนี่ แต่ถูกฮันนี้กับทวดทาฮิร่าจัดการจนกระเจิง เจอผีบ้าน เจออะไรประหลาดๆ บ้าง ทินกรคิดว่าฮันนี่กับทาฮิร่าเป็นผี ส่งหมอผีมากำจัดก็กระเจิงจับไข้ไปตามๆ กัน คุณทวดทาฮิร่ารู้ว่าเหลนฮันนี่หลงรักชานนท์ แต่ยังติดขัดที่คุณหญิงจรัสศรีเป็นแม่ที่หวงลูกมาก จะหาลูกเขยหรือลูกสะใภ้ต้องกลั่นกรองหลายขั้นตอน ทวดทาฮิร่าจึงแกล้งคุณหญิงด้วยความหมั่นไส้ ซาเนียยังทำอะไรฮันนี่ไม่ได้ เพราะฮันนี่เจ้าเล่ห์แสนซนเอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง จึงหันมาจัดการกับชานนท์ เพราะรู้ว่าฮันนี่รักชานนท์ ซาเนียเป็นแม่มดขี้อิจฉา เห็นฮันนี่มีความสุขจึงคิดจะฆ่าชานนท์ เมื่อชานนท์ไปตรวจงานก่อสร้างคอนโด ซาเนียร่ายเวทมนต์ให้ตึกถล่มลงมาทับชานนท์ฮันนี่รีบมาช่วย เธอรักชานนท์มาก ฮันนี่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุ จึงคิดจะสละชีวิตช่วยชานนท์ไว้ แต่ชานนท์ยังไม่ถึงฆาต เหล็กและเศษหินที่ตกลงมามีโครงเสาช่วยกั้นไว้ ชานนท์ติดอยู่ระหว่างเสาสองต้น ซาเนียร่ายเวทมนต์ร้ายให้เหล็กขยับมาทับชานนท์หวังให้เขาตาย ยายบาบาร่าตกใจที่ซาเนียทำเกินไปแล้ว เกินอำนาจแม่มดจะทำได้ ที่ซาเนียทำไปเนื่องจากขาดสติและอิจฉา ลืมนึกถึงผลร้ายที่ตามมากับตัวเอง เวทมนต์จะต้องเสื่อมลง แสดงเจตนาฆ่าคน และร่างกายอาจแตกสลาย ยายบาบาร่าจิตไม่ว่างซี่งสำนึกว่าตนเองผิดที่ให้คาถาหลานสาว จนซาเนียทำผิดกฎแม่มดอย่างมหันต์ กับอารมณ์ริษยาจนไม่อาจแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ยายาบาบาร่าขอให้ทาฮิร่าช่วย ถึงเป็นคู่ปรับกันแต่ในสถานการณ์เป็นตาย ยายทาฮิร่ายอมร่วมมือกับยายาบาบาร่าใช้เวทมนต์ช่วยชานนท์สองยายแม่มดทุ่มพลังสุดชีวิต แก้ไขเวทมนต์ร้ายของซาเนีย โดยมีพ่อมดเวไลน์มาร่วมช่วยด้วยจนสำเร็จ ซาเนียได้รับกรรม เวทมนต์เสื่อม สำนึกในความผิด และซาบซึ้งที่สองยายแม่มดช่วยไม่ให้ร่างของตนต้องแตกสลาย ทาฮิร่าขอให้เหลนฮันนี่ยกโทษให้ซาเนีย ซาเนียตามยายบาบาร่ากลับดินแดนแม่มด เพื่อฟื้นฟูพลัง มีพ่อมดเวไลน์เป็นกำลังใจ ทินกรกับพรรณวดีอกหัก อรดาเป็นแฟนกับวีกิจ ฮันนี่ตกลงเป็นแฟนดูใจกับชานนท์ และสัญญาว่าจะแต่งงานกันเมื่อฮันนี่เรียนจบ
 
รายชื่อนักแสดง สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2
ตะวัน จารุจินดา รับบท ชานนท์
ไปรยา สวนดอกไม้ รับบท ฮันนี่
ดวงดาว จารุจินดา รับบท ทวดทาฮีร่า
สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ รับบท แม่มดบาบาร่า
อุษามณี ไวทยานนท์ รับบท ซาเนีย
วีระชัยศรีวณิก วรรณึกกุล รับบท แอลแมนโซ
ปฏิญญา วิโรจน์แสงประทีป รับบท วีกิจ
สุคนธวา เกิดนิมิตร รับบท พรรณวดี

เลิฟสตรอเบอร์รี่

เลิฟสตรอเบอร์รี่ เป็นเรื่องราวของสตรอเบอรี่ สาวน้อยวัยสดใส เธอเป็นนักเรียนมัธยมปลาย และเธอยังเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ และครู จึงไม่แปลกที่จะมีชายหนุ่มเข้ามาทักทายหัวใจ สุดยอด หนุ่มหล่อมาดเซอร์ ลูกชายคนเดียวของเศรษฐีโรงบ่มยาสูบ ที่แวะเข้ามาทักทายหัวใจของสตรอเบอรี่ มิตรภาพของทั้งคู่เริ่มต้นแบบไม่ค่อยดีนัก เมื่อสุดยอดโดนสามล้อมือดีลอกคราบและเอาไปทิ้งในถังขยะโรงเรียนสตรีที่สตรอ เบอรี่อยู่ สถานการณ์ก็พัดพาให้เขาเข้าไปยังห้องน้ำนักเรียนหญิง ซึ่งสาวๆ กำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอยู่ สุดยอดพยายามหาทางออกจากที่นั่น เขาจึงขโมยชุดนักเรียนมาใส่และปลอมตัวหนีออกไป แต่โชคร้ายที่เขาเจอกับสตรอเบอรี่ซะก่อน ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น สุดยอดจึงกลายเป็นไอ้โรคจิตในสายตาของสตรอเบอรี่ แต่สตรอเบอรี่กลับเข้าไปอยู่ในหัวใจของสุดยอดตั้งแต่นั้นมา สุดยอดคอยส่งดอกไม้ให้ทุกวัน ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ สตรอเบอรี่เข้าใจว่ามีหนุ่มนิรนามลึกลับมาแอบปิ๊ง เพราะเริ่มหวั่นไหวเปิดใจรับหนุ่มลึกลับคนนั้นเสียแล้ว จนกระทั่งใกล้ถึงวันปิดภาคเรียน สุดยอดตัดสินใจนัดเจอกับสตรอเบอรี่ แต่ก็ไม่สมหวังอย่างที่คิด เพราะสตรอเบอรี่ตกใจว่าสุดยอด คือหนุ่มโรคจิตคนนั้น แม้ว่าสุดยอดจะพยายามอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเท่าไหร่ สตรอเบอรี่ก็ไม่เชื่อและปิดใจตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เมื่อสตรอเบอรี่และเพื่อนๆ จบ ม.6 ต่างก็แยกย้ายไปตามฝันของแต่ละคน เพื่อนหลายคนตั้งใจจะไปเรียนต่อกรุงเทพฯ แต่สตรอเบอรี่ตั้งใจว่าจะกลับไปทำไร่ช่วยพ่อซึ่งเป็นหัวหน้าคนงาน เพราะไม่ต้องการรบกวนคุณนพดลเจ้าของไร่ที่ส่งเสียให้เรียนมาตั้งแต่เด็ก และสตรอเบอรี่ก็มีเป้าหมายที่จะพัฒนาเกษตรกรรมและแผ่นดินที่ตนเกิดมา คุณนพดลและพ่อเห็นความตั้งใจจริงของสตรอเบอรี่จึงไม่ห้าม วันเพ็ญแม่ของสุดยอดวางอนาคตให้ลูกชายสืบทอดกิจการของครอบครัว โดยให้สุทัดผู้จัดการหนุ่มวัยไล่เลี่ยกันคอยเป็นพี่เลี้ยงสอนงาน สุดยอดพยายามขอแม่ไปทำงานถ่ายหนังที่ตัวเองเรียนมา แต่แม่ไม่ยอมและกลับเตรียมการที่จะจับสุดยอดแต่งงานกับแป้งลูกสาวของเพื่อน นักธุรกิจด้วยกัน สตรอเบอรี่กับแป้งเป็นเพื่อนนักเรียนกลุ่มเดียวกัน แป้งเป็นเด็กหัวอ่อน ไม่ว่าแม่จะให้ทำอะไรแป้งไม่เคยขัดใจเมื่อ แม่บอกให้เตรียมตัวแต่งงาน แต่ถึงแม้แป้งจะอยากไปเรียนต่อเหมือนเพื่อนๆ แป้งก็ไม่กล้าขัดใจแม่ สตรอเบอรี่รู้เรื่องที่แป้งต้องแต่งงาน แต่ไม่เอะใจว่าจะเป็นสุดยอดหนุ่มโรคจิต สุดยอดหมดหนทางที่จะติดต่อกับสตรอเบอรี่ เมื่อเธอเรียนจบและกลับไปอยู่ที่ไร่ จนเมื่อถึงวันเกิดแป้ง สุดยอดกับสตรอเบอรี่จึงได้เจอกัน สตรอเบอรี่ถึงกับใจสั่นเพราะลึกๆ เธอยังคิดถึงสุดยอดอยู่ แต่เมื่อรู้ว่าสุดยอดคือคนที่แป้งจะแต่งงานด้วย จึงพยายามตีตัวออกห่าง ขณะที่สุดยอดพยามยามจะเข้ามาใกล้ชิด และออกอุบายตามมาจนรู้จักบ้าน แม่ของสุดยอดและแม่ของแป้งวางแผนให้ลูกทั้งสองใกล้ชิดกัน แต่สุดยอดซ้อนแผนโดยแนะนำให้แป้งและสุทัดรู้จักกัน จนแม่ของทั้งสองเข้าใจว่าสุดยอดและแป้งไปกันด้วยดี ส่วนด้านสุดยอดก็แวะเวียนไปหาสตรอเบอรี่ที่ไร่ตลอด โดยอ้างว่าจะมาทำสารคดีชีวิตชาวไร่ในภาคเหนือ วันเพ็ญไม่ยอมให้สุดยอดไป แต่คราวนี้สุดยอดก็ไม่ยอมเช่นกัน โดยเขายื่นคำขาดกับแม่ว่าถ้าไม่ให้เขาไปจะหนีกลับอังกฤษและจะไม่กลับมาอีก เลย วันเพ็ญจำใจยอมแต่มีข้อแม้ว่าเขาจะ ต้องติดต่อหาแป้งทุกวัน ระหว่างทำสารคดี สุดยอดใกล้ชิดกับสตรอเบอรี่แสดงออกถึงความจริงใจ สตรอเบอรี่เริ่มหวั่นไหวแต่กลัวผิดใจกับแป้งจึงพยายามตีตัวออกห่างแต่สุดยอด ก็ตื้อไม่เลิกรา ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างสุทัดกับแป้งก็รุดหน้า แต่ติดที่แป้งต้องแต่งงานกับสุดยอดทั้งสองจึงต้องตีตัวออกห่างแต่ยิ่งห่าง ยิ่งทนไม่ได้ ในที่สุดทั้งคู่ก็เปิดเผยความรู้สึกต่อกันและตัดสินใจที่จะไปคุยกับสุดยอด เมื่อสุดยอดรู้ก็ดีใจจนสุดตัวเนื่องจากเป็นอิสระแล้ว จึงบอกความจริงกับแป้งว่าเขาชอบอยู่กับสตรอเบอรี่และให้แป้งช่วยพูดกับสตรอ เบอรี่ว่าเขาและแป้งไม่ต้องแต่งงานกันแล้ว เพราะต่างก็ไม่ได้รักกัน เหมือนที่สุดยอดรักสตรอเบอรี่ เมื่อแป้งเคลียร์ทุกอย่างก็เข้าใจกัน ด้านแม่ทั้งสองเตรียมจัดงานหมั้น สุดยอดและแป้งเข้าไปคุยเพื่อบอกความจริงแต่แม่ของทั้งสองไม่ยอม สุดยอดจึงวางแผนให้ทัดพาแป้งหนีวันหมั้นทุกอย่างเป็นไปตามแผน แป้งทิ้งจดหมายและโกหกว่าได้เสียกับทัดแล้ว แม่แป้งเสียใจจนเป็นลม แม่สุดยอดทั้งโกรธทั้งอายจึงยกเลิกพิธีการทั้งหมด ทัดพาแป้งมาหลบที่ไร่ของสตรอเบอรี่ สุดยอดตามมาแล้วบอกว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ สุดยอดพาสตรอเบอรี่ไปพบแม่แต่แม่กลับไม่ยอมรับ สุดยอดยืนยันจะอยู่กับสตรอเบอรี่ แม่ต้องกลับไปพร้อมกับความเสียใจ สตรอเบอรี่เตือนสติสุดยอดให้กลับไปปรับความเข้าใจกัน เพราะทั้งชีวิตแม่มีสุดยอดคนเดียว วันเพ็ญกลับไปทบทบาท โดยมีอาเธอร์พี่เลี้ยงเก่าของสุดยอดเป็นผู้ให้สติ ในที่สุดแม่ก็กลับมาขอโทษ ทัดพาแป้งมาขอขมาแม่ แต่แม่อยู่ในสภาพจิตย่ำแย่ สาเหตุจากพ่อแป้งมีเมียน้อยและลูกสาวก็หายไป แม่ยอมรับความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะ แม่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของลูกเลย และสัญญาจะไม่บังคับใจใครอีกต่อไป แป้งบอกความจริงกับแม่ว่ายังไม่มีอะไรกับทัด ในวันนี้ทัดเป็นคนดีรักแป้งแต่ในอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ไม่รู้ว่าทัดและตนจะรักกันไปนานแค่ไหน เพราะยังเด็กชีวิตยังคงอีกยาวไกล ด้านสตรอเบอรี่คุยกับสุดยอดว่าถ้ารักกันจริงต้องรอจนเธออายุ 25 จึงจะยอมแต่งงานด้วย สุดยอดกลัวสตรอเบอรี่เปลี่ยนใจจึงขอหมั้นไว้ก่อน ความรักของทั้งคู่เดินหน้าต่อความชื่นมื่น และจบลงอย่างสวยงาม

รายชื่อนักแสดงละคร เลิฟสตรอเบอรี่
ณัฐพล ลียะวณิช รับบท สุดยอด
หยาดทิพย์ ราชปาล รับบท สตรอเบอรี่
บรรเจิด สันธนะพานิช รับบท ทัด
ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ รับบท แป้ง
ปวีณา ชารีฟสกุล
จิรศักดิ์ แสงโชติ
เผ่าทอง ทองเจือ

เล่ห์รตี

ชั่วชีวิตหนึ่งของลูกผู้หญิง ใฝ่ฝันที่จะได้เป็นเจ้าสาวในชุดกระโปรงฟูฟ่อง ยืนเคียงข้างผู้ชายที่เธอรักในงานแต่งงานหรูหรา พัทธรินทร์หรือเคท ก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้น แต่แล้วฝันของเธอก็พังทลาย ด้วยฝีมือของคนในครอบครัวที่เธอรัก แต่กระนั้น เธอก็ยังคงแน่วแน่ที่จะเสียสละความสุขเพื่อรักษาครอบครัวของเธอไว้ ความดีและบริสุทธ์ในจิตใจของเธอนี้เองทำให้เธอผ่านพ้นอุปสรรคจนพบรักแท้ และยังทำให้คนรอบข้างของเธอได้พบกับคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เรียกว่า ความรัก แม่ของเคท คือสาวอารมณ์แปรปรวนชื่อ นันทินี หล่อนแต่งงานกับฝรั่ง ตั้งแต่ยังเด็ก แล้วชีวิตคู่ก็ไปไม่รอด หล่อนกลายเป็นแม่ม่ายลูกติด เคทกลายเป็นลูกรักและลูกชังในเวลาเดียวกัน เพราะทุกครั้งที่มองหน้าเคทก็จะทำให้หล่อนนึกถึงความรักที่แสนเจ็บช้ำในอดีต นันทินีแต่งงานใหม่อีกครั้ง กับ พัทธพล ชายผู้ติดการพนันและอ่อนแอ พัทธพลรักเคทอย่างไม่ต้องสงสัย หลายครั้งเคทรู้สึกว่าการเข้าหาพ่อเลี้ยงยังง่ายกว่าการเข้าหาหญิงเจ้า อารมณ์อย่างนันทินี พัทธพลเชื่อว่าความงามของเคทเหมือนดอกไม้โชยกลิ่นหอม จะนำมาซึ่งข้าวของเงินทองให้แก่ครอบครัว จึงพาเคทไปตระเวนถ่ายแบบ ตั้งแต่ยังเรียนมัธยม แต่แม้กระนั้น การเงินของครอบครัวก็ยังมีปัญหา เพราะพัทธพลเล่นการพนันหนักมาก ในที่สุดก็โกงเงินของบริษัทสุทธกานต์ ที่มีหนุ่มนักธุรกิจผู้เคร่งขรึมแฝงความน่ากลัวอย่าง เสกข์ เป็นผู้จัดการ เมื่อพัทธพลหนีหนี้ เคทแและน้องวัยรุ่นทั้งสอง คือ พีรชาติ (พีท) และ ปาลิดา (แพท) ลูกที่เกิดจากพัทธพล ก็พลอยได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย เมื่อถูกกดดันจากเจ้าหนี้ ซึ่งมีนายพลหนุ่มนักการเมืองชื่อ อรรถ อยู่เบื้องหลัง พัทธพลจึงตัดสินใจนำเคทไปขัดดอกไว้กับเสกข์ เนื่องจาก คุณหญิงมาริสา แม่ของเสกข์กำลังมีปัญหาอย่างหนักกับ อิษยา ภรรยาของเสกข์ เพราะอิษยาเป็นคนงก พยายามหาประโยชน์จากตระกูลสุทธกานต์ทุกรูปแบบ และยังมีปัญหาร่างกายอ่อนแอไม่สามารถมีทายาทให้กับครอบครัวได้ พัทธพลตกลงกับมาริสาว่าตนจะพยายามหาเงินมาใช้คืนโดยเร็วที่สุด ถ้าระหว่างนี้หากเคทมีทายาทให้กับครอบครัวสุทธกานต์ได้หนี้สิน 52 ล้านเป็นอันหมดสิ้น เสกข์โมโหและเกลียดชังวิธีใช้หนี้ไร้มนุษยธรรมเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง แม้ภายนอกเขาจะดูเย็นชา ดุดันและห่างเหิน แต่ภายในของเสกข์เป็นคนอ่อนโยน เขาแสวงหาความรักแท้เหมือนคนอื่น แต่ฐานะระดับมหาเศรษฐีของเขามักจะดึงคนที่ไม่จริงใจเข้ามาเสมอ แม้แต่กับอิษยา ภรรยาคนเดียวรักแรกของเขาก็ยังกลายเป็นงูพิษ ความรักครั้งนี้ทำให้เขาไม่เชื่อใจใครอีก ชีวิตคู่ที่ผิดพลาดเพิ่มความเย็นชาให้กับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาริสาจัดการให้เคทมาเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของเสกข์และยังให้เคทไปอยู่บ้านเดียวกันกับเสกข์ เพื่อให้ทั้งสองได้ใกล้ชิดกันตลอดเวลา เสกข์เข้าใจไปว่าเคทเองก็ให้ความร่วมมือกับพัทธพลด้วย จึงพลอยรังเกียจและดูถูกเคท เคทได้รับความขมขื่นอย่างยิ่งยวดในการอยู่กับชายผู้ดุดัน เย็นชาและเกลียดเธอ แต่เธอก็อดทนด้วยความเชื่อว่าพัทธพลและนันทินีจะหาเงินมาไถ่คืนเธอได้ในเร็ว วัน เธอกัดฟันมีชีวิตอยู่เพื่อให้พีทน้องชาย ได้เรียนเภสัชจนจบ และให้แพท น้องสาวใจแตก ได้กลับมาอยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ความเจ็บปวดจากการใช้หนี้ด้วยวิธีพิสดารนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับครอบครัวของเคทเท่านั้น ศตายุ (ปุ๊) หนุ่มสถาปนิกใจร้อนคู่รักเดิมของเคทก็พลอยเจ็บปวดไปด้วย ศตายุอาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ ของเคท เขาสนิทสนมกับเคทตั้งแต่วัยเด็ก แม่ของเขา กรุณา ก็ช่วยดูแลครอบครัวเคทมาโดยตลอด ความรักความผูกพันทั้งปวงแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น ศตายุเข้าไปอาละวาดในคฤหาสถ์ สุทธกานต์ทันทีที่รู้ว่าเคทถูกขายขัดดอก มิใยที่เพื่อนร่วมงานทั้งหลายจะทักท้วง เนื่องจากคฤหาสถ์สุทธกานต์คือลูกค้าคนสำคัญของบริษัทและของศตายุมาก่อนหน้า นี้ ภาคินี สาวเปรี้ยวลูกบุญธรรมของมาริสาคือ คนที่ว่าจ้างศตายุเป็นสถาปนิกตกแต่งห้องเพิ่มเติม แต่ศตายุไม่แคร์ ถึงยังไงเขากับภาคินีก็ไม่ค่อยกินเส้นกันขนาดเคยขว้างแจกันใส่หน้ากันมาแล้ว แต่ศตายุชายหนุ่มตัวเล็กๆ หรือจะสู้กับเสกข์ และครอบครัวมหาเศรษฐีสุทธกานต์ได้ เขาจำต้องพ่ายแพ้ กลับไปป่วยเป็นโรคตรอมใจที่โรงพยาบาล เสกข์หมั่นไส้เคทมากขึ้นทุกที เขาสั่งให้เลิกคบกับศตายุโดยเด็ดขาด เคทจึงต้องขอร้องให้ภาคินี ที่บัดนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของเคทไปดูแลศตายุแทน จากคู่กัดที่ซัดกันอย่างถึงพริกถึงขิงจึงกลายเป็นเพื่อน ศตายุยอมรับภาคินีมากขึ้น แต่ภาคินี แอบรักศตายุอย่างถอนตัวไม่ขึ้นโดยไม่บอกใคร อิษยา เจ็บแค้นมาริสาและเสกข์เป็นอย่างยิ่ง เขาพาญาตินำโดยน้องชายวัยรุ่นอันธพาลชื่อเจี๊ยบไปตามรังควานเคทถึงบ้าน แม้เคทได้รับความช่วยเหลือจากภาคินีและเสกข์ แต่หล่อนก็ต้องเจ็บช้ำหนักยิ่งขึ้น เมื่ออิษยาหันมาใช้วิธีสงครามประสาทต่อกรกับเธอ ด้วยการแกล้งยอมรับว่าเธอเป็นเมียน้อย ป่าวประกาศทั้งน้ำตากับสื่อมวลชน จนเคทแทบจะอยู่ในสังคมไม่ได้ นันทินีและพัทธพลพยายาม หาเงินมาใช้หนี้ทุกทาง ในที่สุดพัทธพลก็หวนกลับไปเล่นการพนันที่บ่อนของอรรถอีกครั้ง อรรถจึงขอสิ่งแลกเปลี่ยนเป็นตัวแคท ลูกสาวคนสวยของพัทธพล อรรถยื่นขอเสนอจะเป็นผู้รับช่วงเคทมาจากสุทธกานต์ ถ้าไม่ได้ธุรกิจของสุทธกานต์จะต้องมีปัญหากับตนที่กำลังมีอิทธิพลอย่างสูงใน พรรคการเมือง เสกข์โมโหอย่างยิ่ง แต่เขาก็สู้ไม่ถอยแม้จะรู้ว่าอาจจะหมายถึงความมั่นคงของบริษัทก็ตาม เขาไม่รู้ตัวว่าความสนิทสนมที่ก่อตัวทีละน้อยในขณะที่อยู่กับเคท กำลังจะกลายเป็นความรัก… ความรักที่กำลังจะนำการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือมาสู้ชีวิตของเขา ! เมื่อเสกข์ไม่ยอมอรรถ นั่นหมายความว่าเขาต้องเข้าไปรับผิดชอบหนี้สินที่เพิ่มขึ้นให้กับพัทธพล แพทน้องสาวใจแตกเห็นช่องทางจึงเสนอตัวเข้ามาขัดดอกกับเสกข์อีกคน เพื่อหวังเงินทองและชีวิตที่สุขสบาย อิษยากระโจนเข้าหาแผนการนี้ทันที หล่อนจะใช้แพทผู้โง่เขลาเป็นเครื่องมือ เคทเจ็บปวดมาก และแอบมองเสกข์เงียบ ๆ ว่าเขาจะทำอย่างไร เสกข์หนีรอดจากแผนการจับทำสามีของแพทอย่างหวุดหวิด เขาจัดการให้แพทเข้าไปอยู่ในโรงเรียนประจำ ดัดนิสัยของแพท และเข้ามาจัดการให้พีทได้เรียนต่อ และยังจัดการปกป้อง เคทจากการทุบตีของนันทินี แม่ผู้เจ้าอารมณ์ของเคทอีกด้วย เคทจึงเริ่มประทับใจเสกข์มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ความสัมพันธ์ของเสกข์กับหล่อนจะเป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ก็ตามที อรรถเรืองอำนาจขึ้นในพรรคการเมือง เขาหันมาเล่นงานสุทธานต์อย่างจริงจัง หวังจะเอาชนะชายผู้เย่อหยิ่งอย่างเสกข์และเป็นเจ้าของตัวเคท อรรถให้คนขู่วางระเบิดห้างสุทธกานต์ แหล่งทำเงินสำคัญของครอบครัว หุ้นของสุทธกานต์ร่วงกราวรูด ธุรกิจในเครือเริ่มสั่นคลอนทันที เคทรู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่ง หล่อนให้พัทธพลพาไปหาอรรถ หวังจะเจรจายอมความ แต่เสกข์เข้าใจผิดคิดว่า เคทขายตัวเองให้กับอรรถ คืนนั้นเสกข์จึงเข้าหาเคทและขืนใจจนเคทตกเป็นของเขา! แล้วความประทับใจทั้งหมดก็พังทะลายลง หนุ่มสาวทั้งสองตั้งกำแพงแห่งความหวาดระแวงขึ้นใหม่อย่างแน่นหนา ศตายุรู้ว่าเคทถูกขืนใจ เขาหมดความอดทน ชวนเคทหนีออกมาอยู่ด้วยกัน ภาคินีเจ็บปวดมาก เพราะก่อนหน้านี้หล่อนนอนกับศตายุ ด้วยความเมาของศตายุ แต่ภาคินีก็เก็บความขมขื่นไว้ภายใต้มาดเปรี้ยวและกวนของหล่อน หล่อนยังคงช่วยเหลือศตายุและเคทต่อไป เสกข์ตกอยู่ในสภาพหมดสิ้นทุกอย่าง กิจการย่ำแย่ เคททิ้งไป เขากลายเป็นคนเครียดและเมาเหล้า เขาออกติดตามหาเคทแทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อหาเจอ เขากลับอาละวาด ทำลายข้าวของ และถากถางเคทจนเจ็บปวด นับวันเคทและเขาจะห่างไกลกันทุกที ระหว่างนั้นเคทก็พบความผิดปรกติในร่างกายของตนเอง หล่อนท้อง ท้องกับเสกข์ … เด็กคนนี้ คือคนที่จะมาไถ่ตัวเคทให้เป็นอิสระนั่นเอง นันทินีรับรู้เรื่องดังกล่าว ถึงเวลาที่หล่อนจะทำบางอย่างเพื่อลูกและครอบครัว หล่อนเฝ้าสังเกตเห็นว่าเสกข์รักเคทอย่างจริงใจ หล่อนจึงเข้าไปหาเสกข์ ช่วยให้เสกข์หยุดเหล้า หันกลับมาสู้กับอรรถใหม่ ด้วยวิธีเกลือจิ้มเกลือ ทั้งสองเริ่มแผนเลื่อยขาเก้าอี้อรรถอย่างลับ ๆ ก่อนที่จะดำเนินการ เสกข์ขอเวลาจัดการบางเรื่อง เขาปล่อยข่าวว่าตนเองกำลังจะล้มละลาย เพื่อดูใจอิษยา และเคท อิษยาตัดสินใจเซ็นใบหย่าให้เขาทันที แต่เคทยอมกลับมาปลอบใจเขาฉันท์เพื่อน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ปมในชีวิตของเขาหายไป เขารู้แล้วว่าใครกันแน่ ที่จริงใจกับเขาและครอบครัว เขารู้ตัวเองแล้วว่าเขารักเคท อย่างหมดหัวใจ … แต่เคทยังคงปิดกั้นตัวเองจากเขา เคทยังคอเฝ้ารอเวลาคลอดลูกเพื่อไปจากเขา กลับไปสร้างครอบครัวเดิมตามที่ฝัน เพราะเคทไม่แน่ใจในตัวเสกข์ ความเย็นชาล้ำลึกในตัวเสกข์ กอปรกับความเชื่อที่ว่า เสกข์และหล่อนไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก ทำให้เคทไม่ไว้ใจเสกข์ ในที่สุด เสกข์และนันทินีก็จัดการกับอรรถได้ นันทินีบังคับให้พัทธพลติดกล้องไว้ในคฤหาสถ์ของอรรถ เพื่อถ่ายทำภาพการซื้อบริการเด็กสาววัยต่ำกว่าสิบห้าปี และยังให้พัทธพลเป็นสายให้ตำรวจนำกำลังเข้าทลายบ่อนการพนันของอรรถด้วย ชื่อเสียงของอรรถถูกทำลาย ยับเยินทางหน้าหนังสือพิมพ์ กิจการสุทธกานต์ได้รับการกอบกู้ขึ้นมาใหม่ เมื่อเสกข์จัดการทุกอย่างเรียบร้อย เขาวางแผนที่จะบอกรักและรับตัวเคทกลับมา แต่ก่อนที่จะได้ทำเช่นนั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น… อรรถส่งมือปืนมาดักยิง เสกข์และนันทินีจนบาดเจ็บสาหัส ! ท่ามกลางการเฝ้ารอของและทุกคน นันทินีรอด แต่เสกกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เคทไม่มีวันได้รู้ใจที่แท้จริงของเสกข์ …เวลาผ่านไป หล่อนคลอดลูกออกมาเป็นเด็กชาย หน้าตาน่ารัก หล่อนจำต้องจากไป ทิ้งลูกให้มาริสาดูแลตามสัญญา เสกข์ตื่นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ทันทีที่ได้ยินเสียงลูกอ่อน เขาออกตามหาเคท ด้วยความช่วยเหลือของภาคินี เมื่อเขาพบหล่อน หล่อนยังคงปั้นปึ่งกับเขา เสกข์ครุ่นคิดหาวิธี มีบางอย่างตกหล่อนไปในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แล้วเสกข์ก็รู้ในที่สุด… วันหนึ่งพัทธพลขับรถคันงามติดช่อดอกไม้มารับเคทที่บ้าน เพื่อไปในสถานที่บางแห่ง เมื่อเคทไปถึง จึงพบคฤหาสน์ที่ตกแต่งไปด้วยดอกไม้ ทุกคนที่เธอรู้จักอยู่ที่นั่น รวมทั้งเขา…เสกข์อยู่ในชุดสูทสีเข้ม เขารอหล่อนมาเข้าพิธีเป็นเจ้าสาวของเขา นี่คืองานแต่งงานที่แอบจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ด้วยความร่วมมือของทุกคน เคทดีใจจนน้ำตาคลอ ในที่สุด เสกข์ก็รู้ว่าสิ่งที่เคทต้องการอะไร หล่อนต้องการเกียรติและศักดิ์ศรีที่ถูกทำลายลงไปคืนมา แล้วหล่อนก็เดินเข้าสู่อ้อมกอดของเขา …หล่อนยินดี แต่งงานกับเขา ด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ … ศตายุยอมรับในความพ่ายแพ้ เขารู้แล้วว่าคนที่จริงใจและมอบความรักโดยไม่มีเงื่อนไขให้กับเขา คือภาคินี … พีทเรียนจบเป็นเภสัชกร เขาเป็นร้านทำงานกับแพทที่เปลี่ยนเป็นคนละคน … พัทธพลเลิกการพนันเด็ดขาด เขากลายเป็นคนแก่ที่มีความสุขกับนันทินีและหลานตาตัวน้อย ทุกคนพร้อมใจกันตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่าเพชร เพื่อเป็นตัวแทนจิตใจอันแข็งแกร่งและบริสุทธ์ของผู้ให้กำเนิด คือเคทนั่นเอง

รายชื่อนักแสดง เล่ห์รตี
รัฐศาสตร์ กรสูต รับบทเป็น เสกข์
อลิชา ไล่สัตรูไกล รับบทเป็น พัทธรินทร์ / เคท
ณวัฒน์ กุลรัตน์รักษ์ รับบทเป็น ศตายุ / ปุ๊
กัลยา จิรชัยศักดิ์เดชา รับบทเป็น ภาคินี
ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ รับบทเป็น อิษยา
กาญจนา จินดาวัฒน์ รับบทเป็น นันทินี
สรพงษ์ ชาตรี รับบทเป็น พัทธพล
พิศมัย วิไลศักดิ์ รับบทเป็น มาริสา
ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ รับบทเป็น กรุณา
ตฤณ เศรษฐโชค รับบทเป็น อรรถ
สีดา พัวพิมล รับบทเป็น อาภรณ์
ธีรภัทร แก้วเกษ รับบทเป็น พีรชาติ / พีท
ชมพูนุช ปิยะภาณี รับบทเป็น ปาลิดา / แพท
จอย ชวนชื่น รับบทเป็น กุ๊ก
ศานตมล ปิ่นนัย รับบทเป็น กิ๊ก
อลงกรณ์ สิมะกำธรณ์ รับบทเป็น ชาติ

เล็กใหญ่ไม่เกี่ยวขอเอี่ยวด้วยคน

เล็กใหญ่ไม่เกี่ยวขอเอี่ยวด้วยคน เริ่มต้นขึ้นเมื่อ บันฑิต พ่อของ เล็กกับใหญ่ เป็นนักธุรกิจของเก่า และได้ศิลปะล้ำค่ามาชิ้นหนึ่ง แต่ถูกฮอค มาเฟียไทยเยอรมัน ซึ่งมีธุรกิจการค้าของเก่าทั่วโลกเช่นกัน ส่งสมุนมาบุกเข้าบ้านตอนดึก ซึ่งตอนนั้นใหญ่กับเล็กยังเด็กมาก คุณหญิงเพียงเพ็ญ ซึ่งเป็นแม่ของใหญ่และเล็ก ได้พยายามพาทั้งสองหนี แต่เหตุการณ์ชุลมุนเพียงเพ็ญจึงพาใหญ่หนีมาได้คนเดียว เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ใหญ่และเล็กพรากจากกันถึง 21 ปี สิ่งที่ใหญ่ฝังใจก็คือ คนสวมแหวนรูปนาซีไขว้กะโหลก ที่ฆ่าพ่อและน้องของตน ในที่สุดเพียงเพ็ญก็พาใหญ่กลับไปอยู่กับอดีตอธิบดีตำรวจ กัมปนาท ไพรีพ่าย ผู้เป็นพ่อ ปู่ของใหญ่กับเล็ก ผู้มีประวัติปราบอาชญากรมือสะอาดที่สุดของกรมตำรวจ ส่วนเล็กฮอคสั่งให้สมุนชื่อ สมภพ เอาเล็กไปฆ่าเสีย แต่สมภพใจอ่อนพาเล็กออกมาแล้วไปทิ้งไว้ในสลัมบ้านของสมุนเก่าแก่ของตนชื่อ เดชศักดิ์ กำชับให้ช่วยดูแลเลี้ยงดู

พอเล็กโตขึ้นสมภพพาไปฝึกงาน จนวันหนึ่งสมภพได้งานศิลปะเก่าแก่มาชิ้นหนึ่ง เป็นภาพวาดของปิคัสโซ่ที่ฮอคต้องการจึงส่งคนมาแย่งและฆ่าสมภพ เล็กซึ่งแอบอยู่เห็นว่าคนยิงสมภพใส่แหวนนาซีกะโหลกไขว้แต่ไม่เห็นหน้า จนพวกมันไปหมดแล้วจึงออกมาพบว่าสมภพยังไม่ตาย ซึ่งก่อนตายสมภพบอกว่าตนนำเล็ก มาจากพ่อแม่ที่แท้จริง แล้วมาให้เดชศักดิ์เลี้ยงดู เมื่อเล็กรู้ว่าเดชศักดิ์ไม่ใช่พ่อที่แท้จริงจึงค่อยๆ แยกตัวออกมากับ นิด ลูกสาวของเดชศักดิ์

เล็กใช้ความสามารถในงานศิลปะ บวกกับพรสวรรค์ในด้านการวางแผนขโมยกับอุดมการณ์ที่จะขโมยจากพวกคนโกงมาช่วย คนจน ทำให้ในกลุ่มพวกมิจฉาชีพเรียกเล็กว่า โมเสส..จอมโจรนักบุญ และมีธุรกิจบังหน้าทางด้านแกลแลรี่  แต่ไม่มีใครรู้เบื้องหลังของเล็ก งานแสดงศิลปะโบราณที่เก่าแก่ และมีค่าจากทั่วโลก จัดองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวและเปิดโอกาสให้มีการประมูลใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้รับมอบหมายให้มาดูแล ความปลอดภัยภายในงานนี้ คุณหญิงเพียงเพ็ญแม่ของใหญ่หนึ่งในคณะกรรมการร่วมนัดงานครั้งนี้ ได้มาดูแลความเรียบร้อยในด้านการต้อนรับแขกผู้ทรงเกียรติ ฮอคมาปล้นตามแผน เล็กก็มาเพื่อประมูลและฉกเครื่องประดับของผู้โกงกินที่มาในงานนี้ด้วย และแล้วเวลาที่ทุกคนรอบคอยก็มาถึงศิลปะอันล้ำค่าถูกเปิดตัวขึ้น จากนั้นแผนการปล้นก็เกิดขึ้นมีการต่อสู้กันอย่างชุลมุน ในช่วงนั้นเล็กได้เข้าช่วยเพียงเพ็ญทำให้ทั้งสองคนได้พบกันเป็นครั้งแรก ส่วนฮอคหนีไปได้

รุ่งขึ้นมีข่าวทำให้เล็กเสียชื่อ เล็กจึงติดต่อกับใหญ่บอกว่าจะช่วยสืบหาของที่ถูกขโมย แต่มีขอแลกเปลี่ยนให้เลิกยุ่งกับแก๊งค์ของตน ใหญ่ตกลงและได้พาเล็กเข้าร่วมทีม ซึ่งมีอดีตอธิบดีกัมปนาทและ นิสา เจ้าหน้าที่ตำรวจสากลที่มีความรู้ทางด้านศิลปะโบราณ ซึ่งทางการสหรัฐเลือกมาให้ร่วมงอีกคนหนึ่งก็คือ เสกสรร เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐมนตรีฝ่ายต่างประเทศที่ถูกส่งมาให้ทำรายงาน เกี่ยวกับคดีนี้ ทุกคนยอมรับข้อแลกเปลี่ยนของเล็กและให้เล็กร่วมทีม แต่เสกสรรรู้ว่าเล็กเป็นโจรพยายามคัดค้านแต่ไม่สำเร็จจึงไม่พอใจ เล็กพาใหญ่และนิสาไปในที่ต่างๆ ในที่สุดก็รู้ว่ารังของฮอคอยู่ที่ไหน เล็กใช้ความสามารถเข้าไปขโมยนาฬิกาพกมาได้โดยมีใหญ่คอยคุ้มกัน แต่เล็กถูกยิงที่ไหล่จึงหนีมาที่คลีนิคแห่งหนึ่ง ซึ่งได้พบ ลีน่า ลูกครึ่งไทยเยอรมันซึ่งเป็นหมอได้ช่วยเล็กไว้ เล็กพอใจลีน่า แต่แล้วพวกฮอคตามมาทัน และจับลีน่าไปเล็กตามไปช่วยลีน่า แต่ลีน่าถูกมือที่สามจับไปอีกคนคือ ลิขิต นักธุรกิจมีชื่อ มีกิจการโรงแรมและส่งออกบังหน้า ลิขิตนัดหมายฮอคเพื่อแลกเปลี่ยนนาฬิกาพกโบราณกับลีน่า แต่ฮอคก็ฉลาดนัดพวกรัสเซียให้เอาเงินมาซื้อนาฬิกาพกโบราณตามที่นัดไว้เพื่อ ให้ก๊วนรัสเซียมาปะทะกับก๊วนลิขิต ขณะที่ที่ปะทะกันเล็กโผล่มาขัดขวางและช่วยลีน่าไว้ได้ ต่อมาเล็กได้ไปมาหาสุ่กับลีน่าจนสนิทสนม เล็กไปงานการกุศลกับลีน่าก่อนกลับได้ไปเดินเล่นที่ทะเล ลีน่าถามเรื่องของเล็กและได้รู้ว่าที่ซ่อนของนาฬิกาพกที่ขโมยมาเก็บไว้ที่ ไหนจึงค้น แต่ไม่เจอ

วันหนึ่งในระหว่างปฏิบัติงานใหญ่พานิสาไปทานข้าวนิสาเตือนว่าใหญ่ไม่ควรไว้ ใจเล็กเพราะเล็กเป็นโจร ใหญ่จึงถามนิสาว่าเคยรู้ประวัติของเล็กหรือเปล่า นิสาบอกว่ารู้ถึงจะช่วยคนก็ตามแต่ยังไงก็เป็นโจร ใหญ่รู้สึกผิดหวังที่นิสาพูดอย่างนั้น ก่อนแยกกันนิสาบอกว่าตนไม่ได้มองใครในแง่ร้ายและหวังว่าจะได้พบกันอีกใหญ่ ยิ้มให้ เล็กโผล่มาขัดจังหวะ ทั้งสองชวนกันไปดื่มจึงได้เล่าเรื่องของกันและกันให้ฟัง แต่นิสาโทรมาขัดจังหวะและบอกว่าตอนนี้มีนักถอดชิ้นส่วนนาฬิกาเข้ามาในประเทศ ใหญ่และเล็กรวมทั้งนิสาไปดักรอพวกมันที่โรงแรมตามที่ได้รับรายงาน พวกรัสเซียก็ได้เบาะแสเช่นกัน จึงตามล่าฮอคเพราะแค้นที่โดนหลอก ทำให้ฮอคไหวตัวแต่ก็หนีไม่พ้นเงื้อมือเล็ก ในที่สุดเล็กได้นาฬิกาพกโบราณมาได้จากฮอคแต่ฮอคหนีไปได้ เล็กโทรมารายงานให้ใหญ่รู้ว่าได้นาฬิกาพกโบราณมาแล้ว และโทรบอกลีน่าว่าพรุ่งนี้จะไปฉลองกัน แต่ขากลับก็เจอพวกคนร้ายขวางจนเสียท่า เล็กถูกแย่งชิงนาฬิกาพกโบราณไปโดยผู้ร้ายรู้ที่ซ่อนและเอานาฬิกาจริงไป เล็ก ไปหาลีน่าเพื่อต้องการอธิบายเรื่องที่ตนเองไม่ไปตามสัญญา กลับเห็นลีน่านั่งรถออกไปโดยมีคนของฮอคประกบจึงตามไปช่วย และได้รู้ว่าลีน่าเป็นลูกของฮอคทำให้ไม่เข้าใจกัน เล็กได้ข่าวจากนิดว่าแดงถูกพวกลิขิตยิงบาดเจ็บเพราะเข้าไปสืบเรื่องราวให้ เล็กอาการหนักมากจึงโทรไปหาลีน่าขอให้ช่วย ส่วนฮอคได้ข่าวว่าลิขิตคือมือที่สามที่ชิงนาฬิกาไป และได้นัดพบกับช่างถอดนาฬิกาพกโบราณบนเรือในพัทยาจึงเตรียมตัวที่จะไปจัดการ กับลิขิต ขณะที่วางแผนกับอยู่ลีน่ามาหาฮอคพอดีจึงโทรบอกเล็ก เล็กรีบออกไปทันทีกัมปนาทบอกให้ใหญ่ตามเล็กไป เล็กตามฮอคไปจนถึงเรือของลิขิตได้มีการต่อสู้แย่งชิงกันอย่างดุเดือด ใหญ่และนิสาได้ติดตามเล็กมาและได้เข้าช่วยเหลือจนได้นาฬิกาพกโบราณกลับมา ในขณะที่ทั้งหมดกลับม่ศูนย์ก่อนที่จะลงรถโทรศัพท์ของใหญ่ก็ดังขึ้น ฮอคขอพูดกับเล็ก บอกว่าเดชศักดิ์พ่อเลี้ยงกับนิดถูกฮอคจับไว้ได้แล้ว ขณะนี้อยู่ที่คลีนิคให้เอาของมาแลกไม่งั้นจะฆ่าทั้งสองคน ใหญ่จึงให้นาฬิกาเล็กไปนิสาก็ยอม ใหญ่กับนิสาเข้ามาที่ศูนย์พบทุกคนบอกว่าไม่ได้นาฬิกามา ใหญ่สารภาพว่าให้นาฬิกาพกโบราณเล็กไปแลกกับชีวิตคน กัมปนาทบอกว่าทุกคนทำถูกต้องแล้ว เหลืออยุ่อย่างเดียวคือไปตามเอานาฬิกาพกโบราณกลับมาให้ได้ ณ จุดนี้ใหย่เข้าใจนิสาดีขึ้น เล็กมาพบฮอคตามที่นัดและพาไปที่โกดัง ให้สมุนคอยคุมแดงและลีน่าไว้ ใหญ่กับนิสาช่วยลีน่าและแดงไว้ได้แล้วจึงรีบตามเล็กไป ลีน่าขอไปด้วยเพื่อจะขัดขวางไม่ให้ฮอคฆ่าเล็ก ที่

ศูนย์ขณะที่ท่านกัมปนาทรับเรื่องจากใหญ่ เสกสรรเข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่สากลพอดี และบอกว่าตนจะคุมกำลังไปด้วยตนเอง เมื่อมาถึงโกดังเล้กได้นำนาฬิกาออกมาสั่งให้ปล่อยนิดกับเดชศักดิ์ ฮอครับถุงนาฬิกาพกโบราณแล้วเปิดดู ปรากฏว่าเป็นนาฬิกาพกโบราณปลอม จึงเกิดการต่อสู้กันนิดถูกยิงเสียชีวิตตามด้วยลิขิตที่ถูกเสกสรรยิง เล็กกับใหญ่ตามฮอคไปเพราะรู้ว่าคนที่ฆ่าพ่อคือฮอค และเกิดการต่อสู้กันใหญ่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เล็กจึงถามว่าทำเพื่ออะไร ในที่สุดก็รุ้ว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ฮอคแอบซุ่มอยุ่ได้ยินเล็กเดินมาจะยิง จึงต่อสู้กันอย่างอุตลุตในที่สุดเล็กชนะ ฮอครีบจับลีน่าบังตนเองไว้ เล็กถูกยิงที่หัวไหล่ ในขณะที่ฮอคจะยิงเล็กเสียงปืนก็ดังขึ้น เป็นใหญ่นั่นเองที่มาช่วยไว้ทัน แต่ตัวเองก็ทรุดลงไป เล็กรีบเข้ามาดูใหญ่ ลีน่าบอกเล็กว่าอาการใหญ่สาหัสมากรีบนำส่งโรงพยาบาล เล็กยังห้อยแขนที่ไหล่ซ้ายเดินมากับคุณหญิงเพียงเพ็ญอย่างสนิทสนม มีพยาบาลเข็นรถ คุณกัมปนาทอยู่ด้านหน้า ลีน่าเดินมาข้างๆ กำลังไปเยี่ยมใหญ่ พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นนิสายืนอยู่แล้ว ใหญ่ยังหลับสนิทอยู่ เล็กเข้าไปยืนดูใกล้ๆ แล้วพูดว่า ฉันหวังว่านายคงหายเร็วๆ คุณปู่บอกว่ามีคดีใหญ่ที่จะต้องจัดการอีกแล้ว คุณปู่จะให้ฉันช่วยนายด้วย เสียงใหญ่ดังขึ้น แกไม่ต้องยุ่งคดีฉัน ฉันจัดการได้ แต่เล็กไม่ยอมและบอกว่า เล็กใหญ่ไม่เกี่ยวขอเอี่ยวด้วยคน

รายชื่อนักแสดงละคร  เล็กใหญ่ไม่เกี่ยวขอเอี่ยวด้วยคน
จอนนี่ แอนโฟเน่ รับบท ใหญ่
จุลจักร จักรพงษ์ รับบท เล็ก
วรรัตน์ สุวรรณรัตน์ รับบท นิสา
เอมี่ กลิ่นประทุม รับบท ลีน่า
อรรถชัย อนันตเมฆ รับบท ฮอค
เกริก ชิลเล่อร์ รับบท ลิขิต
ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม รับบท เสกสรร
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท เดชศักดิ์
มานพ อัศวเทพ รับบท กัมปนาท
ภัสสร บุญยเกียรติ์ รับบท เพียงเพ็ญ