Category Archives: ละครปี 2541

กรงเกียรติยศ

กรงเกียรติยศ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ต้องอยู่ในกรอบของกรงเกียรติยศ แล้วใครจะมาช่วยเธอให้หลุดจากกรงนั้น? หรือเธอจะต้องอยู่ในกรงนั้นตลอดไปหาคำตอบได้ในละครเรื่องนี้ แล้วคุณจะพบกับความรักในอีกมุมมองหนึ่งเลยทีเดียว
สุดเขต เป็นชายหนุ่มที่ชอบท่องเที่ยว มีชีวิตที่เรียบง่าย  ส่วนมนุษยาเป็นลูกสาวที่พ่อแม่หวงมากเป็นไข่ในหิน  มนุษยาขึ้นรถผิดคัน ไปขึ้นรถของสุดเขต ซึ่งกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัดทำให้มนุษยาติดรถไปด้วย ทางบ้านตามหา และมีลูกคนใช้ในบ้านมนุษยาใส่ไฟว่ามนุษยาหนีตามผู้ชายไป เมื่อสุดเขตมาส่งก็รู้ว่ามนุษยาเป็นใคร และเริ่มชอบและตามจีบ พ่อแม่มนุษยาจับมนุษยาหมั้นกับลูกคนมีดงินอีกคนนึง สุดเขตไม่ยอมจึงพามนุษยา หนีไปอยู่ที่บ้านสุดเขตที่เมืองกาญจน์ ตัวร้ายใส่ไฟให้คนที่มนุษยาจะแต่งงานด้วย มนุษยาจึงโดนถอนหมั้น

นำแสดงโดย
แอนดริว เกร็กสัน แสดงเป็น สุดเขต
คลาวเดีย จักรพันธุ์ แสดงเป็น มนุษยา

อุบัติเหตุ

อุบัติเหตุ เป็นเรื่องราวความรักของวิศนีหญิงสาวที่เหมือนจะสมบูรณ์แบบทุกอย่างทางด้านฐานะและเงินทอง เพียงแต่ตลอดชีวิตของเธอไม่เคยได้รับความรักที่สมบูรณ์เพราะเติบโตมาจากครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน หนำซ้ำพ่อยังส่งเธอไปเรียนที่เมืองนอก จนเมื่อเธอเรียนไม่จบจึงถูกตามตัวกลับมาและได้พบกับอารุมชายผู้ที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเริ่มต้นจากศูนย์แต่ก็ยังไม่พอใจนนทลีย์ซึ่งเป็นคนรักของเขา เมื่อเริ่มทำงานด้วยกันวิศนีย์และอารุมก็ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และจากความผิดพลาดหลาย ๆ อย่างก็ได้นำพาทั้งคู่ให้พบกัน และเริ่มเข้าใจซึ่งกันและกัน การพบกันของคนบางครั้งก็เริ่มต้นจากอุบัติเหตุ

นักแสดงละคร อุบัติเหตุ พ.ศ. 2541

พีท ทองเจือ แสดงเป็น อารุม
คทรีน่า กลอส แสดงเป็น วิศนี
สุธิตา เกตานนท์ แสดงเป็น นนทลีย์

อีสา-รวีช่วงโชติ 2541

อีสา ชีวิตของเธอผ่านความชอกช้ำมามากมาย หวังเพียงสิ่งเดียว ได้พบหน้าลูกชายที่พลัดพรากตั้งแต่แรกลืมตาดูโลก

อีสา เป็นเรื่องราวของ สา หรืออุษาเป็นลูกทาสที่เกิดและโตในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงงระวี รวีวาร ที่แม้จะมีการเลิกทาสแล้วแต่บรรดาทาสหลายคนซึ่งไม่มีที่จะไปก็ยังสมัครใจอยู่ใต้บารมีท่านเป็นสิบ ๆ คน สาเกิดมาไม่มีพ่อ และแม่ก็ตายหลังสาเกิดเพียงสองวัน สาจึงเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของป้าเจิม อดีตทาสที่อาวุโสสูงสุดในวัง เมื่อสาอายุได้สิบสองปีป้าเจิมก็พาสาไปฝากตัวไว้กับหม่อมนิ่มหม่อมน้อย ให้ช่วยฝึกหัดขัดเกลา
จนสาเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นที่เรียนรู้เรื่องของการวางตัวอย่างผู้ดี และยังได้หัดรำละครอีกด้วย สาแอบชื่นชมบูชาท่านชายมาตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่นจนวันหนึ่ง เมื่อสาอายุได้สิบหกปี หม่อมทั้งสองก็”ถวายตัว” สาให้กับท่านชาย ธรรมชาติสอนให้สาเรียนรู้ที่จะมีจริตจก้านตามวัย ทำให้ท่านชายลุ่มหลงในตัวสามากกว่าหม่อมคนอื่น ๆ

แต่ถึงกระนั้นสาก็ยังไม่ได้รับการยกย่องให้เป็น “หม่อม” อย่างออกหน้าออกตา จนกระทั่งสาตั้งท้องและคลอดลูกชาย ซึ่งเป็นลูกชายคนแรกและคนเดียวของท่านชาย หม่อมพริ้มซึ่งเป็นหม่อมใหญ่ก็ได้โอบอุ้ม “คุณชาย” ไปเลี้ยงดูฟูมฟักเสมอลูกชายของตน ให้สาได้พบลูกบ้างเป็นครั้งคราวและเรียกลูกชายของตนเหมือนคนอื่น ๆ ว่า “คุณชาย”

หลังจากนั้นไม่นาน ท่านชายก็สิ้นพระชนม์ลง และจำเพาะต้องมาสิ้นลงในคืนที่สาเพิ่ง “ถวายงาน” เสร็จ ฐานะของสาที่ทำท่าว่าจะดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งหลังจากคลอดลูกชายก็ดูเหมือนจะตกต่ำลงไป ด้วยข้อหา “กาลกิณี หรือผู้หญิงกินผัว” ที่แม้สาเองก็ไม่รู้ความหมาย

หลังจากท่านชายสิ้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวัง ทั้งด้านผู้คนที่แยกย้ายกันออกไปเป็นบางส่วน ทั้งด้านสภาพบ้านเรือนที่รายรอบวัง
ในความเปลี่ยนแปลงนั้น สาก็ได้รู้จักกับสมศักดิ์ ชายหนุ่มรูปงามที่มีกิริยาท่าทีสุภาพอ่อนโยน สาหลงรักเขาโดยง่าย ด้วยวัยที่ยังเยาว์ และธรรมชาตในตัวอันลึกล้ำ แต่เป้าหมายของนายสมศักดิ์ไม่ได้อยู่ที่สา เขาเพียงอาศัยสาเพื่อเข้าถึงตัวคุณหญิงโสภาพรรณวดี ลูกสาววัยรุ่นของหม่อมพริ้มต่างหาก  สานั้นชื่นชมนายสมศักดิ์จนถึงขั้นยอมตัวเป็นสะพานสื่อรักให้ แม้จะรู้ว่าผิดแต่เธอก็ทนแรงอ้อนวอนของนายสมศักดิ์ไม่ไหว ในที่สุดถึงกับพาคุณหญิงหนีตามนายสมศักดิ์ออกจากวัง ทั้ง ๆ ที่สาเองก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สองของท่านชายอยู่ด้วย

สาคลอดลูกคนที่สองเป็นผู้หญิง จึงยกให้เป็นลูกของคุณหญิงโสภาฯ กับนายสมศักดิ์ซึ่งคุณหญิงก็รักหนูน้อยมากเช่นกัน ตั้งชื่อให้ว่าโสภิตพิไล
สานั้นลึก ๆ รู้สึกผิดต่อคุณหญิงที่พาเธอมาตกต่ำจึงเฝ้าดูแลไม่ให้คุณหญิงต้องลำบาก แรก ๆ ก็ดูเหมือนจะมีความสุขกันตามประสา แต่นานวันเข้า ทรัพย์สินที่คุณหญิงมีติดตัวมาเริ่มร่อยหรอ สาจึงออกหางานทำ และด้วยความที่เคยเป็นนางรำมาก่อน สาก็ได้งานแสดงละครเวทีกลายเป็นอุษาวดี – -นางละครผู้มีชื่อเสียงในเวลาไม่นาน

คุณหญิงโสภาฯ เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ และชืดชาในเรื่องบนเตียงจนนายสมศักดิ์เกิดความเบื่อหน่ายแม้จะยังรักคุณหญิงอยู่มาก แต่ความเห็นแก่ตัวมีมากกว่าวันหนึ่งนายสมศักดิ์ก็ย่องเข้าหาสาและได้เสียกัน สารู้สึกผิด แต่ด้วยแรงปรารถนาในใจก็ผลักดันให้สาดำดิ่งลงสู่ ห้วงแห่งดำกฤษณาอย่างยากที่จะถอนตัว จนวันหนึ่งคุณหญิงก็จับได้ และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันคุณหญิงก็หายตัวไปและเสียชีวิตด้วยการจมน้ำตายในเวลาต่อมา

หลังงานศพคุณหญิง สาตัดสินใจแต่งงานกับนายวิทย์ นักดนตรีหนุ่มที่มาติดพันเธออยู่ในช่วงนั้นเพื่อหนีบาปในใจที่ตามหลอกหลอน นายสมศักดิ์เสียใจมากจนกินเหล้าเมาและตกน้ำตายตามคุณหญิงไป  สาอยู่กินกับนายวิทย์อย่างไม่ราบรื่นนักเพราะนายวิทย์นั้นต้องอาศัยอยู่กับพี่สาว
ซึ่งไม่ยอมรับในตัวน้องสะใภ้อย่างสา ประกอบกับนายวิทย์เป็นนักดนตรีที่มีอารมณ์ศิลปินสูง ถึงเขาจะรักสามากแต่เขาก็ไม่เข้าใจในความต้องการของสาได้ดีเพียงพอ

ทำให้เมื่อวันหนึ่ง สาได้พบกับนายเซกิ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นและมีความสัมพันธ์กัน สาจึงตัดสินใจขอแยกทางกับนายวิทย์ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ญี่ปุ่นแพ้สงคราม นายเซกิต้องกลับไปญิ่ปุ่น ก็ได้มอบมรดกเป็นเงินจำนวนมากให้กับสา

เวลาผ่านไป…อุษาส่งโสภิตพิไลเข้าเรียนในโรงเรียนประจำที่ดีที่สุด ส่วนตัวเธอใช้เงินที่ได้มาจากนายเซกิเปิดธุรกิจสถานบันเทิงโดยมีประธาน
– -หนุ่มรุ่นน้องที่กลายเป็นสามีลับ ๆ ของเธอด้วยเป็นผู้ช่วย  อาชีพและชื่อเสียงของอุษามีผลกระทบต่อโสภิตไม่น้อย เมื่อโสภิตเรียนจบชั้นมัธยมปลายก็ออกจากโรงเรียนกลับมาอยู่ที่บ้าน เธอเรียกอุษาว่าป้า เพราะคิดว่าตัวเองเป็นลูกของคุณหญิงที่ตายจากไป และอุษาก็มีฐานะเป็นเพียงกึ่งญาติห่าง ๆ กึ่ง “ข้าเก่า”ของแม่เธอเท่านั้น

วันหนึ่งโชคชะตาบันดาลให้อุษาได้พบกับคุณชายรวีช่วงโชติ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้พิพากษาหนุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษามาจากเมืองนอก
อาจจะด้วยความผูกพันทางสายเลือดที่ทำให้หม่อมราชวงศ์หนุ่มรู้สึกดีกับอุษา ถึงแม้ใคร ๆ จะเล่าลือถึงอดีตและเบื้องหลังของสาวใหญ่ผู้นี้ในทางไม่ดีนักก็ตาม หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเขามีใจให้กับอุษาเสียแล้ว รวมทั้งโสภิตพิไล ซึ่งรู้สึกขัดใจขัดตาต่อผู้เป็นป้ามาแต่ต้น

โสภิตพิไลเกิดความรู้สึกอยากจะท้าทายผู้เป็นป้าจึงพาตัวเข้าไปพัวพันกับทั้งคุณชายรวีช่วงโชติและนายประธาน นั่นทำให้อุษายิ่งร้อนรนด้วยเกรงว่าโสภิตกับคุณชาย- -ลูกชาย-หญิงของเธอเอง จะชอบพอกันขึ้นมาจริง ๆ

วันหนึ่งก็เกิดเหตุ โสภิตพิไลถูกนายประธานปลุกปล้ำ อุษาเข้าขัดขวางและยิงนายประธานตาย อุษากลายเป็นผู้ต้องหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา เพราะเธอไม่ต้องการให้โสภิตต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่โสภิตทนเห็นอุษาต้องมารับโทษเพราะปกป้องเธอไม่ได้จึงมาเป็นพยานในศาล
และขอให้คุณชายรวีช่วงโชติช่วยในด้านกฏหมายด้วยอุษาจึงพ้นผิดจากคดี แต่อุษาไม่อาจเลี่ยงพ้นผลกรรมของตัวเอง เมื่อเสร็จสิ้นคดีหม่อมพริ้มก็ให้รับโสภิตพิไลซึ่งท่านเข้าใจว่าเป็นลูกสาวของคุณหญิงโสภาเข้าไปอยู่ในบ้าน

โสภิตเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่ออุษาเพราะคิดว่าอุษาปิดบังชาติกำเนิดของตน เธอคิดว่าการที่เธอเข้าไปเป็นพยานให้อุษาจนพ้นข้อกล่าวหานั้นเป็นการตอบแทนบุญคุณที่อุษาเลี้ยงดูเธอมาอย่างเพียงพอแล้ว นับแต่นี้เธอก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอุษาอีกต่อไป

อย่าลืมฉัน

อย่าลืมฉัน เป็นเรื่องราวของความรักของ เด็กหนุ่มและเด็กสาวในรั้วมหาลัย “ฟอร์เกตมีน้อท” ดอกไม้แห่งรักและคำมั่นสัญญา เธอว่าเธอจะไม่ลืมเขาเขาว่าเราจะไม่ลืมกัน เพราะรักและผูกพัน ก่อนอำลาด้วยอาลัย จึงฝากแหวนรูปดอกไม้ห้ากลีบสวมใส่ติดนิ้ว และ “อย่าลืมฉัน” กลีบบางใสไว้เพื่อย้ำรอยจารจำในหัวใจของสองเราว่า จะมีเพียงกันและกันนิรันดรอย่าลืมฉัน…แม้ รักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย เมื่อใดวายสวาทวอดจึงถอดเอย สุริยาวดี เจอปัญหาครอบครัว ทำให้ต้องออกจากการเรียนและไปจดทะเบียนแต่งงานกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง แต่ก็เป็นแต่เพียงในนาม เพราะผู้ใหญ่ท่านนี้จริง ๆ ต้องการให้สุริยาวดีแต่งงานกับลูกชายท่าน แต่ลูกชายปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่กลับเมืองไทยทำให้ท่านต้องจดทะเบียนกับสุริยา วดี และลูกชายก็ต้องเสียใจในอนาคตเมื่อคิดได้ว่าได้ทิ้งโอกาสอันสำคัญในชีวิต แล้ว และไม่สามารถจะหวนกลับได้

สุริยาวดี หายไปจากชีวิตเขมชาติ โดยไม่บอกกล่าว ทำให้เขมชาติเสียใจมากและกลายเป็นโกรธแค้น เมื่อทราบว่าหญิงสาวไปแต่งงานกับผู้ใหญที่ร่ำรวยเขมชาติ มุมานะ เรียนจนจบและทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำงานอย่าหนักจนสามารถก่อร้างสร้างตัวเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ร่ำรวย แต่ความหลังครั้งก่อนยังหลอนจิตใจอยู่ร่ำไป จนทำให้ไมสามารถที่จะรักใครได้อีก เขากลายเป็นคนอารมณ์ร้อน ปากจัด ค่อนว่า และโมโหโทโสได้ทุกเรื่อง  และเมื่อวันหนึ่ง นางสุริยง ได้เดินเข้ามาในชีวิตของเขมชาติอีกครั้งเพื่อหางานทำ เลี้ยงลูกชายสองคน ความรัก อาลัย โกรธแค้น และการเอาคืนจึงเริ่มขึ้น สุริยง กลับมาเพราะรัก เมื่อทำหน้าที่ของลูกที่ดีแล้ว ก็อยากจะตามหาหัวใจตัวเองแต่เพราะต้องการรู้ใจเขมชาติ อยากเรียนรู้ผู้ชายที่ตัวเองรัก จึงปิดบังเรื่องในอดีตไว้เขมชาติ ไม่อยากรักไม่อยากเห็นหน้า แต่ก็เพราะรอยอาลัย จึงคิดจะแก้แค้นเอาคืนเมื่อหัวใจที่ชอกช้ำอยู่แล้วทั้งสองดวง ถูกกระทำซ้ำเติมให้ชอกช้ำยิ่งกว่าเดิมเพราะหัวใจที่เจ็บยิ่งอยู่แล้ว ไม่เคยได้รับการเยียวยารักษา หรือแยแส บทเรียนแห่งหัวใจ มิใช่มีเพียงบทเดียว บททดสอบคราวนี้จะทำให้ความรักลงเอยอย่างไร เมื่อรักกันย่อมไม่อยากให้พราก ไม่อยากให้มีคนอื่น

สวรรค์เบี่ยง 2541

“ลีลา” กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นหนุ่ม ในอีกห้าวันข้างหน้า แต่โชคร้ายนัก เธอและเขาประสบอุบัติเหตุ คู่หมั้นของเธอเสียชีวิต ในขณะฝ่ายคู่กรณีก็สูญเสียภรรยาเช่นกัน

นั่นทำให้ชะตาชีวิตของลีลา พลิกผัน…เธอตอบตกลงแต่งงานกับคุณคิด วรวัตต์ พ่อม่ายสูงวัยผู้ขับรถคันที่ชนเข้ากับคู่หมั้นของเธอ ด้วยเหตุผลหลักที่ฝังลึกในใจเธอก็คือ…เขาเป็นบิดาของ “คาวี วรวัตต์ ” ชายหนุ่มที่เธอเคยหลงใหลได้ปลื้มในตอนที่ยังอยู่ในวัยรุ่น แล้วถูกเขาปฏิเสธด้วยการหยามเหยียด…

“คาวี” ลูกชายคนเดียวของคุณคิด เขาเป็นชายหนุ่มผู้เย่อหยิ่งยโส ถือตัวว่าเกิดมามีชาติตระกูล จึงทำให้มองผู้อื่นว่าต่ำกว่าตนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมารดาเสียชีวิตลง เขาไม่เคยทำใจให้ยอมรับผู้หญิงอื่นให้มาแทนที่มารดาได้เลย เขาคิดเสมอว่า…ผู้หญิงเหล่านั้นล้วนแต่เข้ามาในชีวิตของบิดาเขาเพียงหวัง หน้าตาและทรัพย์สินที่พ่อของเขามีมากมายเท่านั้น…
แต่ลึก ๆ แล้ว คาวีเป็นตัวละครที่มีปมซับซ้อน อ่อนไหวและเรียกร้อง…

“นา ริน”…(นางเอก) เป็นน้องสาวของลีลา เธอเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งและมีความมั่นคงในอารมณ์ จนหลายครั้งที่ผ่านมาเธอต้องเป็นคนที่คอยเหนี่ยวรั้งพี่สาวอยู่เสมอ ….

เมื่อแต่งงานกับคุณคิดแล้ว ลีลาก็พาครอบครัวของเธอย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกับคาวี…

นั่น ทำให้คาวีมีโอกาสได้เฝ้ามองนารินอย่างสนอกสนใจอยู่ลึก ๆ แม้ภายนอกจะแสดงอาการดูหมิ่นและหยามเหยียดอย่างเปิดเผย จนทั้งสองต้องประทะคารมกันอยู่เนือง ๆ …

เมื่อคุณคิดถึงแก่กรรมใน เวลาต่อมา ทั้งหมดก็ยังคงต้องอยู่บ้านเดียวกัน ด้วยพินัยกรรมใด้บังคับเอาไว้ นั่นเป็นเหตุให้คาวีเกิดอาการพาลรีพาลขวางไม่พอใจ…

ในที่สุด…วัน หนึ่ง…จะด้วยอารมณแค้นเคืองอย่างที่แสดงออก หรือจะเป็นความรู้สึกลึกซึ้งภายในที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ชัด คาวีก็ลุแก้อารมณ์ขืนใจนาริน…

นารินหาเหตุออกจากบ้านไปอยู่ตาม ลำพัง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของแม่และพี่สาว… ตลอดจนความรู้สึกผิดอยู่ลึก ๆ และเหมือนจะเป็นความคาดไม่ถึงของคาวี…เพราะเขาคิดว่านารินจะใช้โอกาสนี้ เรียกร้องสิ่งต่าง ๆ จากเขา

ผู้กำกับ : มานพ สัมมาบัติ
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท : หทัยดนุพร
บทประพันธ์ : กฤษณา อโศกสิน

นักแสดง
ดนุพร ปุณณกันต์
สุวนันท์ คงยิ่ง

เลื่อมสลับลาย

เลื่อมสลับลาย เป็นละครสะท้อนสังคม เรื่องราวของ พาไล และ ปิ่นปัก ผู้หญิงสองคนที่มีชีวิตประดุจลวดลายที่สลับขนานและขัดกันจนกลายเป็นผืนผ้าแห่งชีวิต

ปิ่นปัก ผู้หญิงที่เกิดในตระกูลดี และได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดูเหมือนจะดี แต่สักพักผู้ชายก็เริ่มออกลายเจ้าชู้ เมื่อไม่ประสบความสำเร็จใจชีวิตรัก ปิ่นปักจึงเปลี่ยนจากคนดีเรียบร้อยมาเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ ใช้ชีวิตเหลวแหลก

ส่วน พาไล หญิงสาวที่หนีออกจากบ้านมาต่อสู้กับโลกภายนอกตั้งแต่อายุได้ 16 ปี เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า อาชีพคือการไถเงินจากผู้ชายที่คบหา แต่สุดท้ายก็ได้รู้ซึ้งว่าเงินไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เมื่อได้พบกับผู้ชายที่ดีอย่าง นครินทร์ ที่คอยเป็นกำลังใจให้ พาไลจึงยิ่งมีกำลังใจในการเปลี่ยนชีวิตให้กลายเป็นคนดี

นักแสดงละคร เลื่อมสลับลาย

บุษกร พรวรรณะศิริเวช
จริยา สรณะคมณ์
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์
กรรชัย กำเนิดพลอย

ระย้า

ระย้า คือเด็กที่เกิดขึ้นมาในสมัยญี่ปุ่นบุกเข้าเมืองไทย ทำงานต่อต้านญี่ปุ่นอยู่ลับๆ โดยร่วมมือกับหมวดโรมรัน และกลุ่มเสรีไทยขัดขวางการทำงานของนายพลทามุระทุกวิถีทาง เลยถูกหมายหัวจากทหารญี่ปุ่น ระย้ายังมีความแค้นที่จะต้องชำระกับขุนรอน เจ้าพ่อที่เอาเปรียบชาวบ้านในแถบเขาทะโมน และยังฆ่าพ่อของระย้าอีกด้วย ขุนรอนใช้ทหารญี่ปุ่นในการกำจัดระย้า ระย้าและหมวดโรมรันถูกทหารญี่ปุ่นจับตัวไป และกำลังถูกนำไปลงโทษ มีทหารญี่ปุ่นมาส่งข่าวให้นายพลญี่ปุ่นรู้ว่าพวกตนแพ้สงครามแล้ว ระย้าไปจับตัวขุนรอนที่บ้าน และระย้าก็ฆ่าขุนรอนได้สำเร็จ

รายชื่อนักแสดงละคร ระย้า
พีท  ทองเจือ
กัญญารัตน์  จิรรัชกิจ
ฉัตรมงคล  บำเพ็ญ
สิรคุปต  เมทะนี
บุญฑริก  กัศนารมย์
สรพงศ์  ชาตรี
อรรถชัย  อนันทเมฆ
ทัตพงศ์  พงศ์ทัต
ยอดชาย  เมฆสุวรรณ
ชนประศัลภ์  จันทร์เรือง
สายัณห์  จันทรวิบูลย์
ฤทธิ์  ลือชา
ยุพ   ข่าน
กัญจน  ภักดีวิจิตร

ร่วมงานรัก

ไม่รู้เป็นโชคร้ายของใครกันแน่ ที่เรื่องทุจริตครั้งใหญ่ในองค์กร ชักนำผู้บริหารหนุ่มจอมเฮี้ยบมาพบกับเลขาฯ สาวจอมอู้

และ เมื่อฝ่ายหนึ่งหวัง “เชือดไก่ให้ลิงดู” ขณะที่อีกฝ่ายไม่ยอมอยู่นิ่งเป็น “เป้าสังหาร” เรื่องอลวนชนิดไล่กันไม่จนของเจ้านายหนุ่มกับเลขาฯ สาวจึงเกิดขึ้น

แม้ข้อบกพร่องจะเห็นอยู่เต็มสองตา แต่การ “โละ” เลขาฯ เจ้าปัญหากลับไม่ง่ายอย่างที่คิด

เมื่อเอ็มดีหนุ่มต้องเผชิญกับเครือข่าย “แชต” ของหญิงสาวที่สามารถแพร่ข่าวลือบ่อนทำลาย “เป้าหมาย” ได้ภายในเสี้ยววินาที

ที่ สำคัญ เขายังถูกลากเข้าไปพัวพันกับเธอด้วยข่าวลือชนิดติดเรตไม่เว้นแต่ละวัน ตามด้วยเหตุน้ำเน่าเหลือเชื่อที่ทำให้ต้องถลำลึกทั้งตัวทั้งใจโดยไม่ทันได้ ตั้งตัว

เรื่องวุ่น ๆ ของเลขาฯ สาวกับเจ้านายหนุ่มจะลงเอยแบบแฮปปี้เอนดิ้ง หรือต้องชิ่งไปคนละทาง …ลองตามมาลุ้นกัน !