Category Archives: ละครปี 2537

ปลาบู่ทอง 2537

ปลาบู่ทอง เป็นนิทานพื้นบ้านของไทย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสาวชาวบ้านผู้มีใจเมตตาที่ในตอนท้ายได้แต่งงานกับกษัตริย์

ปลายฝนต้นหนาว

ครอบครัวหนึ่งมีลูกอยู่ 5 คน แม่รักลูกชายมากที่สุด แต่สร้างปัญหาให้มากที่สุด ลูกสาวคนโตเรียนน้อยเพราะฐานะค่อนข้างยากจน ออกมาเย็บเสื้อ ลูกชายเป็นทหารชั้นผู้น้อย (มีลูกสองหรือสามคนนี่แหละ) ลูกสาวคนที่สองทำงานเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอาง เลี้ยงน้องที่เหลือสองคน ลูกสาวคนที่สี่เป็นนักคอมพิวเตอร์ คนสุดท้องเป็นเลขาผู้บริหาร

อีกครอบครัวมีลูกสองคนอายุไม่น้อยแล้วคือ ลายครามกับเรืองนาม ลายครามเป็นสถาปนิก ส่วนเรืองนามเป็นผู้จัดการแบงค์ เรืองนามเคยแต่งงาน แต่ภรรยาเสียชีวิต มีลูกติดสองคน ลูกคนสาวคนโตมีปัญหา เพราะแม่ตาย แม่ของเรืองนามอยากให้เขาแต่งงานใหม่จะได้มีคนดูแลหลาน จึงมองว่าเลขาของตัวเอง พิมพ์ทองเป็นคนเรียบร้อยน่ารักน่าจะเข้ากับเด็กได้ก็พยายามจะจับคู่ แต่ผิดฝาผิดตัว เรืองนามไม่สนใจพิมพ์ทองเพราะเหมือนกับเมียคนแรกมากเกินไป พิมพ์ทองไปเจอกับลายครามก็รักกัน ส่วนไหมทองมาสนิทกับเรืองนามเพราะแก้วทองถูกเมียยิงตาย ไหมทองต้องเอาหลานมาดูแล แล้วหลานๆ ก็เข้ากันได้กับลูกของเรืองนาม ไหมทองเป็นคนห้าว ไม่เรียบร้อย โดนพี่สาวคนโตแย่งแฟนไปกำลังอกหักพอดี บ้านที่อยู่ก็เกิดปัญหาเพราะไปจำนองไว้แล้วกำลังจะหลุด ลายครามเลยซื้อไว้โดยไม่ให้รู้ แต่ให้อาศัยอยู่จนกว่าจะตั้งตัวติด

ส่วนแพรทองก็เป็นเมียน้อยเสี่ยเจ้าของเครื่องสำอาง หลังๆ อายุมากกำลังจะโดนเสี่ยทิ้ง ทั้งๆ ที่ท้อง เธอไม่อยากให้เขารู้ว่ามีลูก พยายามจะให้พิมพ์ทอง+ลายครามซึ่งกำลังจะแต่งงานกันรับลูกเธอเป็นลูกบุญธรรม แต่ทั้งสองไม่รับ ตอนหลังใช้อุบายจนได้เงินจากเสี่ยมาเปิดร้านขายเครื่องสำอางเป็นของตัวเอง ตอนหลังความแตกเพราะเสี่ยมาเจอเธอกับลูกสาว ลูกสาวของเธอหน้าเหมือนลูกสาวคนโตของเสี่ยมาก จึงรู้ว่าจริงๆ แล้วเขามีลูกกับเธอ แพรทองกลัวว่าเขาจะเอาลูกไป

กรองทองหลังจากโดนแฟนของไหมทองปอกลอกก็หมดตัว มาเย็บผ้าอยู่กับบ้านเงียบๆ พิมพ์ทอง แต่งงานกับลายครามจนมีลูก เรืองนามถึงได้คิดว่าเขากับไหมทองควรจะคบกันแบบไหนต่อไป ก็เลยลองใจดูว่า สาวห้าวๆ จะดูแลเขาได้หรือเปล่า

นักแสดง ปลายฝนต้นหนาว

ลายคราม – ศรัณญู วงษ์กระจ่าง
เรืองนาม – พิทยา ณ ระนอง
กรองทอง – ทัดทรวง มณีจันทร์
แพรทอง – ชไมพร จตุรภุช
ไหมทอง – กมลชนก โกมลฐิติ
พิมพ์ทอง – รชนีกร พันธ์มณี

ปราสาทมืด

ปราสาทมืด ซ่อนความลับเอาไว้ พร้อมกับผู้คนที่มีบุคลิกและพฤติกรรมอันแปลกประหลาด เต็มไปด้วยปริศนา เมื่อ ม.จ.อุมารังษี ย่างก้าวเข้ามา ความมืดดำก็คล้ายจางหายไปด้วยหัวใจอันอ่อนโยนของเธอ แต่ทว่าความรักท่างกลางแรงอาฆาตแค้นนั้น จะสว่างไสวได้ดังที่ปรารถนาหรือ ?
หม่อมเจ้าหญิงอุมารังษี ทะเลาะกับหม่อมอร ผู้เป็นมารดา เรื่องที่หม่อมอรจะลดตัวไปแต่งงานกับนายเม้ง คนไทยเชื้อสายจีน ท่านหญิงจึงเอาสร้อยเพชรที่เสด็จพ่อประทานให้ไปจำนำ เพื่อส่งเงินไปให้หม่อมเจ้าชายพงษ์อิศรา พี่ชายที่อังกฤษ และขอร้องไม่ให้พงษ์อิศรารับเงินจากหม่อมอร เพราะเป็นเงินของนายเม้ง พร้อมบอกข่าวที่เธอจะเดินทางไปเป็นครูที่ จ.เชียงใหม่

น้ำใสใจจริง 2537

น้ำใสใจจริง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความผูกพันของนักเรียน นักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเปิดใหม่ นอกกรุงเทพมหานคร แต่ละคนมาจากคนละที่ ต่างถิ่น ต่างความคิด และต่างนิสัย แต่ไม่มีวันทอดทิ้งกัน แม้ในยามเกิดปัญหา ความเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากก็คอยให้กำลังใจกัน ร่วมสุขร่วมทุกกัน มีความจริงใจมอบให้แก่กัน ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคหรือปัญหามาด้วยกันได้

นักแสดง น้ำใสใจจริง 2537

ศรราม เทพพิทักษ์
แคทลียา อิงลิช

ทวิภพ 2537

“ทวิภพพันผูกใจ เชื่อมรักเราไว้นิจนิรันดร” มณีจันทร์ หรือ เมณี่ นางเอกของเรื่องเป็นบุตรีของ เอกอัครราชทูตไทย ที่บิดา มารดาต้องไปอยู่ต่างบ้าน ต่างเมือง ตัว “เมณี่” เองได้ซื้อกระจกบานหนึ่งมา และต่อมาได้พบว่า กระจกบานนั้น สามารถพาเธอย้อนกลับอดีตไปในยุคของ รัชกาลที่ 5 ได้ และได้โผล่ไปที่เรือนของ ” คุณหลวง อัครเทพวรากร” ข้าหลวงประจำกรมเจ้าท่า ทำให้บ่อยครั้งที่ตัว “เมณี่” หายไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย เป็นเหตุให้เพื่อนสนิท อันมี กุลวรางค์ , ไรซ์ (ตรอง) , ไรวัติ (หนุ่มที่มาติดพัน) ต้องเดือดร้อนตามหาตัวกัน
 
การปรากฏตัวของมณีจันทร์ สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในบ้านคุณหลวงเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความฉลาดของมณีจันทร์ ทำให้คนที่ได้พบเห็นอดที่จะรักเธอไม่ได้ ยิ่งมณีจันทร์เดินทางข้ามภพบ่อยครั้งขึ้น ในขณะเดียวกัน เมื่อ “เมณี่” หรือ มณีจันทร์ ได้ทำความคุ้นเคยกับ คุณหลวงอัครเทพวรากร และ คุณหญิงแสร์ มารดาของคุณหลวงแล้ว จึงได้รู้ว่าที่กระจกนำตนกลับมาในอดีตนั้น เธอก็ยิ่งรู้สึกรักและผูกพันกับคุณหลวงและคนที่บ้านคุณหลวงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทุกคนรวมทั้งมณีจันทร์ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า ทำไมเธอจึงเดินทางข้ามกาลเวลามาที่นี่ นอกเหนือจากที่จะมาพบกับเนื้อคู่ ที่แท้จริงในอดีตแล้ว ยังต้องมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ของประเทศสยาม ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงคับขัน ที่ทางประเทศ “ฝรั่งเศส” กับ ประเทศ “อังกฤษ” ที่อยู่ในยุคล่าเมืองขึ้น กำลังจะเอาประเทศสยามเป็นแดนกันชน และลงท้ายจะแบ่งแยกประเทศออกโดยเอาแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแดนปักปันเขต
 
มณีจันทร์ หรือ เมณี่ จึงต้องใช้ภูมิความรู้ทางด้านภาษา ช่วย “คุณหลวงอัครเทพวรากร” และ “เจ้าคุณวิศาลคดี” แก้เกมของประเทศนักล่าเมืองขึ้นทั้งสอง ในขณะเดียวกันเธอ ก็เริ่มผูกพัน กับอดีตภพ และความรักที่มีต่อคุณหลวง อัครเทพวรากร มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองจะต้องเร่งแก้ไข มณีจันทร์เองก็มีอีกปัญหาหนึ่งที่รอคอยให้เธอตัดสินใจเช่นกัน กระจกซึ่งเป็นประตูเชื่อมกลางเวลาจะมีรอยร้าวเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เธอผ่าน เข้าออก มันจะต้องแตกลงในวันหนึ่ง นั่นหมายถึงว่าเธอจะไม่สามารถเดินทางข้ามผ่านเวลาได้อีกต่อไป และเมื่อวันนั้นมาถึง มณีจันทร์จะตัดสินใจเช่นไร ระหว่างการอยู่ในภพอดีตกับคุณหลวง ผู้ที่รักเธอสุดหัวใจ หรือการกลับไปยังภาพที่เธอจากมา กลับไปเป็น “เมนี่” สาวทันสมัยแห่งโลกปัจจุบัน ที่มีแม่ผู้เป็นที่รักรอคอยอยู่

ตุ๊กตาเริงระบำ

ตุ๊กตาเริงระบำ เป็นเรื่องราวของ อินทุอร  เธอเป็นสาวสวยนักเรียนนอก นั่งกอดตุ๊กตากระเบื้องเนื้อดีสวมชุดบัลเล่ต์สีขาวไว้แนบอก เธอร้องไห้เพราะพ่อมาเสียชีวิตอย่างกระทันหัน โดยทราบข่าวจากจดหมายของ ศจี แม่เลี้ยง เธอมาเรียนที่อังกฤษประมาณ 5 ปีแล้ว อีกปีเดียวก็จะเรียนจบปริญญาตรี   เธอไม่เชื่อว่าพ่อของเธอจะฆ่าตัวตาย อนันต์ เป็นนักธุรกิจชื่อดัง ร่ำรวยมหาศาล ประสบความสำเร็จในอาชีพ พ่อสั่งสอนเธอมาตลอดว่า คนฆ่าตัวตายคือคนโง่ อินทุอรนั่งมองตุ๊กตา ที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว ท่านบอกว่าตุ๊กตาสวยน่ารักเหมือนอินทุอร ตอนนั้นพ่อกอดเธอไว้แน่น สั่งนักสั่งหนาว่าให้เก็บตุ๊กตาตัวนี้ไว้ให้ดี ตุ๊กตาตัวนี้จะเ ป็นตัวแทนของท่าน เมื่อเธอคิดถึงก็ให้กอดตุ๊กตาแล้วก็เหมือนกับกอดท่าน อินทุอรแปลกใจกับคำพูดแปลก ๆ แต่ ณ วันนี้เธอไม่มีใครแล้วนอกจาก “ตุ๊กตาเริงระบำ” ตัวนี้ตัวเดียวที่เป็นตัวแทนของพ่อ

อินทุอรขอบิดาเรียนที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 13 ปี หลังจากที่ จันทรา มารดาของเธอตรอมใจตาย อินทุอรจึงเกลียดศจีแม่เลี้ยงและ สลีวัลย์ ลูกสาวของศจีที่เกิดจากสามีเก่ามาก ศจีกับลูกสาวเข้ามาอยู่ที่บ้านของเธอได้ก็เพราะความใจดีของจันทราเอง เพราะสงสารที่สามีของศจีตายกะทันหัน เธอจึงรับศจีและสลีวัลย์มาอยู่ด้วย โดยให้ทำหน้าที่ “แม่บ้าน” ดูแลความเรียบร้อยทั่วไป โดยไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเพื่อนรักจะทำร้ายเธอได้ลง ศจีหว่านเสน่ห์และยั่วยวนจนอนันต์พลาดมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ อนันต์สงสารจันทราขอร้องศจีว่าอย่าบอกภรรยา ศจีรับปากพูดอย่างเจียมตัวว่าเธอมาอยู่ที่นี่มีความสุขก็เพราะจันทราเพื่อนรักเธอไม่ทำร้ายจันทราแน่นอน ทว่าตรงกันข้ามเธอกลับเป็นฝ่ายบอกจันทราเองอย่างจงใจ ศจีทำทีไปสารภาพผิดกับจันทราเธอรู้ดีว่าจันทรา รับไม่ได้แน่ ๆ กับเรื่องนี้ จันทราเป็นคนดีมีเมตตา มีศีลธรรมและอ่อนแอเกินไป ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของศจี จันทราช็อกเมื่อรู้เรื่องจากปากเพื่อนรัก ศจีเล่นละครร้องไห้สำนึกผิดทั้งที่สะใจที่เห็นเพื่อนเจ็บปวด จันทราข่มใจถามอนันต์อีกครั้งเพื่อความมั่นใจต่อหน้าศจี อนันต์จำต้องยอมสารภาพ อินทุอรจำได้ว่ามารดาร้องไห้จนหมดสติไป จันทราอยู่โรงพยาบาลหลายวัน เมื่อออกจากโรงพยาบาลเธอก็เปลี่ยนไปมาก จากผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน หน้าตาสดใสมีความสุข จันทรากับเก็บตัวเงียบแต่ในห้อง เธอมีอาการของโรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง ยิ่งเห็นศจีเอาใจอนันต์ จันทราก็แทบอยากตาย เธอไม่กินไม่นอน ผ่ายผอมผิดตา แล้ววันหนึ่งจันทราก็เสียชีวิต อินทุอรเสียใจมาก เธอโกรธและเกลียดศจีแต่ไม่โกรธบิดา เพราะรู้ว่าอนันต์รักจันทรามาก การจากไปของจันทราทำให้อนันต์ทุกข์ใจมากเช่นกัน หลังงานศพจันทราไม่นานศจีก็ประกาศตัวเป็นภรรยาของอนันต์ทันที นางกับลูกสาวทำร้ายจิตใจอินทุอรทุกวัน จนเธอทนไม่ไหวต้องขออนุญาตบิดามาเรียนต่อที่อังกฤษ อนันต์รู้ดีว่าทำร้ายจิตใจลูกสาวเพียงใด เขาจึงยอมตามใจเธอ โดยเขาจะบินมาเยี่ยมเธอทุกปีโดยเฉพาะในวันเกิด อนันต์จะหาของขวัญเป็นเครื่องเพชรน้ำงามเก๋ ๆ เหมาะกับเด็กสาวมาฝาก หรือเป็นของใช้ที่ลูกสาวพอใจ มีปีที่แล้วที่เขาซื้อ “ตุ๊กตาเริงระบำ” ตัวนี้ให้อินทุอร วันรุ่งขึ้นเธอตัดสินใจเก็บของกลับกรุงเทพทันที เธอไม่เชื่อว่าบิดาของเธอจะฆ่าตัวตาย

บนเครื่องบินเที่ยวบินอังกฤษ – กรุงเทพ ทยา หนุ่มหล่อนักธุรกิจไฟแรงนั่งมองสาวสวยที่นั่งติดกันอย่างสงสัย เธอนั่งกอดตุ๊กตากระเบื้องในชุดบัลเล่ต์ไว้แน่น สีหน้าเศร้าหมอง แต่ถึงจะเศร้าเธอก็สวยจับตาจับใจเหลือเกิน ทยาพยายามคุยด้วยเมื่อรู้ว่าเธอเป็นคนไทย แต่เธอไม่สนใจเขาเลย จนทยาเข้าใจว่าเธอหยิ่ง ระหว่างบินจู่ ๆ เครื่องบินก็สั่นสะเทือนรุนแรงผิดปกติ กัปตันบอกผู้โดยสารว่าเครื่องยนต์ขัดข้อง เขาขอให้ผู้โดยสารอยู่ในความสงบ ทยามองไปรอบตัวอย่างนึกขำ ทุกคนก้มหน้าสวดมนต์ตามศาสนาของตน ด้วยท่าทางตระหนกสุดชีวิต ทยาหันมาดูสาวสวยข้างตัว เขาก็พบว่าเธอหน้าซีดตกใจอย่างน่าสงสาร แต่ไม่วายกอดตุ๊กตาไว้แน่น ทยาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจ เขาบอกเธอว่าอย่ากลัวทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ทยาชวนอินทุอรดูคนรอบตัว เขาชวนเธอคุยอย่างมีสติและอารมณ์ขันจนอินทุอรค่อยคลายตกใจ ทยาพูดอย่างมั่นใจว่า เขาและเธอจะต้องถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัยแน่นอน อินทุอรไม่แน่ใจนักแต่ก็ราวปาฏิหารย์ที่กัปตันสามารถแก้ไขสถานะการณ์จนกลับ เป็นปกติได้ในเวลาต่อมา เมื่อเหตุการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ อินทุอรก็กลับไปนั่งเหม่อกอดตุ๊กตาเหมือนเดิม เธอยอมพูดกับเขาอีก 2-3 คำเท่านั้น ทยารู้เพียงว่าเธอชื่ออินทุอร

เมื่อถึงกรุงเทพ ทยาช่วยดูแลเธอจนออกมาถึงนอกสนามบิน เมื่อเขารู้ว่าเธอไม่มีใครมารับ ทยาก็อาสาจะไปส่ง อินทุอรลังเล แต่เมื่อเขาบอกเธอว่า เขาและเธอต่างก็ผ่านวิกฤตความเป็นความตายมาด้วยกันก็อย่ากลัวเขาเลย อินทุอรจึงตกลง ระหว่างเดินมาที่รถทยา สาวสวยแต่งตัวเปรี้ยวอีกคนหนึ่งก็วิ่งถลามากอดเขาอย่างรักและคิดถึงเต็มที่ อาการของเจ้าหล่อนใครมองก็รู้ว่าเป็นแฟนกัน ทยาตกใจแต่อินทุอรตกใจกว่า เธอจำได้ว่าสาวเปรี้ยวคนนี้คือ สลีวัลย์ ลูกสาวศจีนั่นเอง อินทุอรรีบลากกระเป๋าหนีมาขึ้น TAXI ทันที โดยไม่สนใจเสียงเรียกของทยา อินทุอรมาที่สำนักงานทนายความของ ประชา ทนายประจำตระกูล ประชาและ ประพล ลูกชายตกใจที่อินทุอรมาอย่างกะทันหัน อินทุอรซักถามถึงการตายของบิดาอย่างละเอียดเพราะไม่เชื่อ แต่ประชาก็ยืนยันว่า อนันต์ฆ่าตัวตายจริงๆ ที่สำคัญคือยังหาพินัยกรรมไม่พบ อนันต์เขียนพินัยกรรมต่อหน้าประชา แต่บอกว่าจะเก็บไว้เอง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเก็บไว้ที่ไหน ประชารู้เพียงว่าจะเปิดพินัยกรรมได้ก็เมื่ออินทุอรอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์พอดี อินทุอรและประชากลุ้มใจเพราะมีเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้นในการหาพินัยกรรม วันนั้นประพลรีบอาสาไปส่งอินทุอรที่บ้าน ศจีและสลีวัลย์ตกใจที่เห็นอินทุอรมาแบบกะทันหัน รวมถึงทยาซึ่งสลีวัลย์ชวนมาที่บ้านด้วย ส่วนอินทุอรมองศจีที่วางมาดเป็นเจ้าของบ้านอย่างปวดร้าว ใบหน้าเรียบเฉย ตาดุ มองศจีอย่างโกรธแค้น ชิงชัง ศจีข่มใจวางมาดผู้ใหญ่ใจดี ปลอบอินทุอรเรื่องบิดา และพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอกลับไปเรียนต่อ แต่อินทุอรกลับตอบโต้อย่างรุนแรง ทั้งศจี อินทุอร สลีวัลย์ และประพล เถียงกันจนลืมไปว่า ทยาซึ่งเป็นบุคคลภายนอกนั่งอยู่ด้วย กว่าอินทุอรจะรู้สึกตัวก็พูดอะไรไปมากพอที่ทยาจะจับความได้ เมื่อเธอเห็นทยาเธอมองเขาอย่างเกลียดชัง ก่อนจะขอตัวไปพักผ่อน เมื่ออินทุอรไปแล้ว ทยาก็ขอตัวกลับบ้าง เขาเข้าใจว่าทุกคนที่นี่วุ่นวายเรื่องสมบัติอย่างน่าเวียนหัวจริงๆ

เช้าวันต่อมา อินทุอรต้องโกรธศจีจนแทบบ้าเมื่อรู้ว่า นมอ่อน แม่นมของบิดาและ กิ่งแก้วพี่เลี้ยงของเธอต้องไปอยู่เรือนคนใช้ ทั้งที่เคยมีห้องพักบนตึกใหญ่ เมื่ออินทุอรลงไปหาทั้งคู่ เธอยิ่งเสียใจเมื่อเห็นว่านมอ่อนป่วยมาก กิ่งแก้วกอดอินทุอรอย่างรักและคิดถึง และบอกว่านมอ่อนป่วยมานานแล้ว แต่ศจีไม่ยอมให้พาไปโรงพยาบาล อินทุอรโกรธจัด อินทุอรกลับขึ้นตึกและต้องทะเลาะกับศจีอีกรอบ กว่าจะขับรถพานมอ่อนไปโรงพยาบาลได้ เธอดีใจที่หมอบอกว่านมอ่อนไม่เป็นอะไรมาก แต่ต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวันหน่อย เพราะแกอายุมากและร่างกายอ่อนแอ อินทุอรให้กิ่งแก้วอยู่กับนมอ่อน เธอกลับไปหาทนายประชาอีกครั้ง คราวนี้เธอขอแฟ้มคดีของบิดามาด้วย เธอต้องการรู้ข้อมูลอย่างละเอียด อินทุอรไปเยี่ยมนมอ่อนทุกวัน เธอเริ่มอ่านรายละเอียดคดีของบิดาบ้างแล้ว แต่ยังไม่จบ วันหนึ่งอินทุอรขับรถเพื่อไปเยี่ยมนมอ่อน แต่รถเสียกลางทาง ขณะที่เธองงและทำอะไรไม่ถูก ทยาบังเอิญขับรถผ่านมาพอดี เขาดีใจที่พบอินทุอรอีกครั้ง ทยาลงไปช่วยหญิงสาวอย่างเต็มใจ แม้อินทุอรจะไม่เต็มใจก็ตาม ในที่สุดเธอต้องยอมให้ทยาเรียกช่างจากอู่ที่เขารู้จักมารับรถเธอไปซ่อม และยอมให้ทยาตามไปเยี่ยมนมอ่อนด้วย ที่โรงพยาบาลทยาแปลกใจที่เห็นอินทุอร ผู้หญิงกระด้าง เย็นชา กลับมีท่าทางอ่อนโยน น่ารักกับนมอ่อน เขาชอบมองเธอยิ้ม เมื่อยิ้มเธอจะมีเสน่ห์น่ารักมากขึ้น ทยาไม่เข้าใจว่าเหตุใดอินทุอรจึงเครียดนัก เมื่ออยู่ต่อหน้าศจี สลีวัลย์ ส่วนอินทุอรเริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้ทยา แต่เธอตัดใจเมื่อเข้าใจว่าทยาคือคู่รักของสลีวัลย์ อินทุอรจึงนับทยาเป็นศัตรูของเธอด้วย เวลาผ่านไปเหตุการณ์ในบ้านทำให้อินทุอรเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเธอไปบริษัท ข้อมูลหลายอย่างทำให้อินทุอรสงสัยศจีและ สมบูรณ์ น้าชายแท้ๆ ของเธอ สมบูรณ์ดูแลเรื่องการเงินแต่ก็เหมือนอยู่ใต้อำนาจของศจี จนอินทุอรแค้นใจมากขึ้น

คืนวันหนึ่ง อินทุอรนั่งอ่านรายละเอียดการตายของบิดาจนหมด เธอเชื่อว่าบิดาถูกฆาตกรรมแน่นอน เพราะบิดาเป็นคนถนัดขวาก็จริง แต่เมื่อยิงปืนแล้ว ท่านจะถนัดใช้มือซ้ายมากกว่า ทว่าในรายงานกลับลงว่าบิดาใช้มือขวาจับปืนจ่อยิงที่ขมับขวาตัวเอง อินทุอรเจ็บแค้นอย่างบอกไม่ถูก เธอค่อยๆ สืบจากคนในบ้านจนรู้ว่า ศจีคือคนที่พบศพบิดาเธอเป็นคนแรก อินทุอรมั่นใจว่า ศจีนี่เองคือตัวการ อินทุอรพบทยาอีกบ่อยครั้ง เพราะเขามักมาหาสลีวัลย์ ทยาไม่คิดอะไรกับสลีวัลย์มากไปกว่าเพื่อนคนหนึ่ง ตอนนี้เขาสนใจอินทุอรมากกว่า  เมื่อนมอ่อนหายป่วยกลับมาบ้าน นางหยิบสมุดบันทึกส่วนตัวของจันทราให้อินทุอร คืนนั้นเธออ่านจนหมดเล่ม ยิ่งอ่านก็ยิ่งแค้น อินทุอรหาทางแก้แค้นศจี จนวันหนึ่งเธอเห็นทยามากับสลีวัลย์ อินทุอรคิดออกทันที เธอจะแย่งทยาจากสลีวัลย์ อินทุอรเข้ามาทักทายทยาอย่างสนิทสนมและยิ่งสะใจเมื่อเห็นสลีวัลย์หึง

วันหนึ่งทยาเสนอให้อินทุอรไปพักผ่อนบ้าง เพราะเธอเครียดมากเหลือเกิน เขากลัวเธอจะป่วยเสียก่อน ทยาเสนอให้เธอไปพักที่บ้านพักริมทะเลของเขา อินทุอรรับปากทันที เธอดีใจที่ทยามาหาเธอที่บริษัทและนำกุญแจมาให้เธอเอง อินทุอรแกล้งชวนทยาไปกินข้าว เพราะรู้ว่า สุมาวดี เลขาของสมบูรณ์และเป็นคนของศจีต้องบอกสลีวัลย์แน่ เมื่อทยาและอินทุอรกลับมาบริษัทก็พบสลีวัลย์มารออยู่แล้วอย่างกระวนกระวาย อินทุอรแกล้งยั่วจนสลีวัลย์แทบบ้า แสดงอาการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของทยาอย่างนอกหน้า จนทยาไม่พอใจ ยิ่งคบกันนานวัน ทยาก็รู้ตัวว่าเขาชอบอินทุอรมากกว่าสลีวัลย์

วันหนึ่ง อินทุอรเก็บของไปพักผ่อนที่บ้านทยาจริงๆ เธอชอบบรรยากาศที่นั่นมาก อินทุอรเล่นน้ำจนเหนื่อย กลับมาทำอาหารเย็นกินเองตามลำพัง ระหว่างทำกับข้าว เธอได้ยินเสียงรถและมีคนไขกุญแจบ้านกึกกัก อินทุอรนึกแปลกใจว่าเป็นใคร เมื่อเธอออกมาจากบ้านก็พบทยา อินทุอรแปลกใจมากที่เขาตามเธอมา ทยาบอกง่ายๆ ว่าเขาก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน เย็นนั้นทยาเป็นลูกมือทำกับข้าวให้อินทุอร ทั้งคู่รับประทานอาหารอย่างมีความสุข อินทุอรดูผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองจนทยารู้สึกว่าจริงๆ แล้วอินทุอรเป็นคนน่ารัก แต่ปัญหาที่เธอมีและข้อขัดแย้งกับศจีนั้นเป็นเรื่องที่เธอไม่ยอมพูด คืนนั้นทยาชวนอินทุอรลงว่ายน้ำกลางดึก ทั้งคู่ว่ายน้ำเก่งทั้งคู่ อินทุอรสวยน่ารักเป็นธรรมชาติจนทยาอดใจไม่ไหว เขาค่อยๆ ดึงเธอมากอดท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก อินทุอรเองก็ดูจะเผลอตัวยอมให้เขากอด เขาสบตาคู่สวยของเธออย่างหลงใหล ทยาจะก้มลงจูบเธอ อินทุอรก็รู้สึกตัว เธอผลักเขาออกและวิ่งหนีกลับบ้านพักทันที ทยาได้แต่เสียใจที่ทำให้เธอหวาดระแวง ทว่าเขากลับหลงรักอินทุอรจริงๆ วันรุ่งขึ้นทยาตามมา ขอโทษอินทุอร แม้หญิงสาวจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อาการตื่นเต้นจนแก้มแดงของเธอก็ทำให้ทยารู้ว่าอินทุอรเองก็หวั่นไหวเช่นกัน ทั้งคู่กลับกรุงเทพโดยขับรถกันคนละคัน เมื่อถึงกรุงเทพ ทยาก็ร้อนใจทันทีที่สลีวัลย์มาตามหึงเขาและเมื่อรู้ว่าเขาไปพบอินทุอร สลีวัลย์ก็ยิ่งคลั่งจนศจีต้องหาทางกำจัดอินทุอร

คืนวันหนึ่งอินทุอรบังเอิญเห็นสมบูรณ์น้าชายเดินออกมาจากห้องนอนของศจี ท่าทางอาลัยอาวรณ์ของสมบูรณ์ทำให้อินทุอรเจ็บใจที่น้าชายหลงเสน่ห์ศจีเข้าอีกคน เธอจึงยิ่งแกล้งหวานกับทยาเพื่อยั่วสลีวัลย์ จนทยาขอเธอแต่งงานจริงๆ อินทุอรสับสนจนไม่รู้ว่าเธอนั้นรักทยาเช่นกัน ศจีและ สลีวัลย์โกรธมากที่รู้ข่าวของทั้งคู่ ทว่าเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ศจีต่อว่าอินทุอรเรื่องทยา อินทุอรแกล้งบอกศจีว่าเธอแต่งงานกับทยาก็เพื่อแก้แค้นที่ศจีทำร้ายจิตใจ มารดาเธอเท่านั้น เธอต้องการให้สลีวัลย์เจ็บใจ เสียใจ ทั้งที่เธอไม่เคยรักทยาเลย อินทุอรไม่รู้ว่าทยาซึ่งตั้งใจมารับเธอไปลองชุดแต่งงานได้ยินพอดี เขาเสียใจมาก ผลุนผลันกลับไปจึงไม่รู้ว่าศจีกับอินทุอรทะเลาะกันรุนแรง อินทุอรบอกว่าเธอรู้ว่าศจีฆ่าบิดา เพราะบิดาถนัดยิงปืนด้วยมือซ้าย และเธอจะแจ้งตำรวจ ศจีจึงย้อนกลับไปว่าถ้าอินทุอรต้องการให้ครอบครัวฉาวโฉ่ก็ได้ เพราะจริงๆ แล้วจันทราเสียชีวิตเพราะว่านางค่อยๆ วางยาพิษให้จันทราโดยมีอนันต์ร่วมมือด้วย ส่วนอนันต์ตายก็เพราะไม่ยอมทำพินัยกรรมยกสมบัติให้เธอ อนันต์ตายเพราะปืนลั่น

อินทุอรช็อกเมื่อรู้เรื่องบิดา เธอตัดสินใจไม่ถูก ส่วนทยาห่างเหินกับเธอจนน่าแปลกใจ จะอย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็แต่งงานกัน ในงานแต่งงาน ทยาทำร้ายจิตใจอินทุอร เมื่อเขายอมให้สลีวัลย์ใกล้ชิด คลอเคลีย เหมือนเป็นคนรัก โดยไม่ไยดีอินทุอรซึ่งเป็นเจ้าสาว เมื่อส่งตัวคู่บ่าวสาว ทยาหอบเสื้อผ้าไปนอนที่อื่นโดยที่อินทุอรไม่เข้าใจ ยิ่งนานวันทยาก็ยิ่งห่างเหินอินทุอร แต่กลับไปใกล้ชิดสลีวัลย์ เพื่อประชดเธอ จนอินทุอรทั้งเสียใจและทรมาน เธอเพิ่งรู้ว่าเธอรักเขาเหลือเกิน ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยขึ้น สลีวัลย์ยั่วทยาให้หึงประพลว่ารักอินทุอร เพื่อยุให้ทั้งคู่หย่ากันโดยเร็ว ส่วนอินทุอรเครียดมากไหนจะเรื่องพินัยกรรมที่ยังหาไม่เจอและเรื่องของทยา เธอกลับไปบ้านเพื่อหาพินัยกรรมบ่อยครั้ง จึงไม่รู้ว่าศจีเริ่มวางยาเธออีกคน อินทุอรผอมซูบซีดจนผิดตา ทยาเป็นห่วงมาก แต่ด้วยทิฐิและหึงหวงทั้งคู่จึงปรับความเข้าใจกันไม่ได้ จนกระทั่งถึงวันเปิดพินัยกรรม อินทุอรเก็บของใส่กระเป๋าอย่างหมดอาลัย ส่วนทยากำลังหึง ประพลที่สุด เขารักอินทุอรมาก และยอมไม่ได้ถ้าเธอต้องแต่งงานกับคนอื่น ทยาเข้าไปหาเรื่องทะเลาะกับอินทุอรจนทำให้ “ตุ๊กตาเริงระบำ” ตกแตก อินทุอรเสียใจมาก จนไม่สังเกตว่าในตัวตุ๊กตามีกระดาษพับซ่อนอยู่ ทยาหายเมารีบหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านจึงรู้ว่าอนันต์ซ่อนพินัยกรรมไว้ในตัวตุ๊กตานั่นเอง

ทยารีบพาอินทุอรไปพบประชาก่อนจะไปบ้านอนันต์พิศาล ที่บ้านศจีและสลีวัลย์กำลังดีใจและเตรียมตัวแบ่งสมบัติมหาศาลของอนันต์ แต่เมื่อประชาอ่านพินัยกรรมจบ ศจีและสลีวัลย์ตกใจที่ทุกอย่างเป็นของอินทุอรคนเดียว อินทุอรไล่ศจีและสลีวัลย์ทันที ทยาพยายามขอร้องอินทุอรเพื่อเห็นแก่อนันต์ เพราะศจีมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของเธอด้วย คำขอร้องของทยาทำให้อินทุอรปวดใจที่สุด เธอเข้าใจว่าทยารักสลีวัลย์ ส่วนทยาเข้าใจว่าอินทุอรใจร้ายใจดำเกินไป ศจียอมลดทิฐิขอร้องอินทุอรอยู่ด้วยระหว่างหาบ้านใหม่ อินทุอรยอมโดยไม่รู้ว่าศจีเริ่มวางยาเธอแรงขึ้นเรื่อยๆ อาการซูบซีดของอินทุอร ทำให้สมบูรณ์ทนไม่ไหว เขาไปบอกความจริงกับทยาว่าศจีวางยาฆ่าอนันต์ จันทรา ขณะนี้อินทุอรกำลังอยู่ในอันตราย ทยาแปลกใจที่ทำไมสมบูรณ์ไม่ช่วยหลานสาวเสียเอง สมบูรณ์จึงต้องบอกอย่างหมดอายว่าเขาคือสามีลับๆ ของศจีอีกคน ทยาห่วงอินทุอรมากรีบเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับเธอ เขาไม่ยอมไปไหนแม้อินทุอรจะไล่ เมื่อ สลีวัลย์เรียกร้องเขาก็บอกกับเธอตรงๆ ว่าเขารักอินทุอร ทยาวางแผนจับศจีโดยร่วมมือกับกิ่งแก้ว แล้วศจีก็พลาดจนได้ ทยาจับได้คาหนังคาเขาว่าศจีกำลังใส่ยาลงในแก้วยาของอินทุอร ศจีถูกจับ สลีวัลย์เสียใจจนเตลิด ส่วนทยายังน้อยใจและเข้าใจอินทุอรผิดว่าเธอรักประพล เมื่อศจีถูกจับไปแล้ว ทยาเข้าไปเก็บของเพื่อกลับบ้าน อินทุอรตามเข้ามาอย่างซาบซึ้งที่เขาช่วยชีวิตเธอ แต่ทยากับจะทิ้งเธอไป เมื่อรู้ว่าเขาเข้าใจเธอผิด อินทุอรจึงง้อทยาอย่างอ่อนหวาน น่ารัก และบอกว่าเธอรักเขามากและไม่ยอมให้เขาไปจากเธอเด็ดขาด ทยากอดอินทุอรแน่นอย่างมีความสุข เขาสัญญาว่าเขาจะดูแลและปกป้องเธอไปจนตลอดชีวิต

ตุ๊กตาเริงระบำ

นักแสดงละคร เรื่อง ตุ๊กตาเริงระบำ
ลลิตา ปัญโญภาส แสดงเป็น อินทุอร อนันต์ไพศาล (อิน)
จิรายุส วรรธนะสิน แสดงเป็น ทยา
วัลวิภา โยคะกุล
รัชชนก พูนผลิน
เกรียงไกร อุณหะนันท์ เป็น อนันต์
พิราวรรณ ประสพศาสตร์
กษมา นิสัยพันธุ์
นุติ เขมะโยธิน
น้ำเงิน บุญหนัก แสดงเป็น นมอ่อน

 

ตุ๊กตามนุษย์

ตุ๊กตามนุษย์”  ละครสะท้อนปัญหาอีกแง่มุมของสังคม ความแตกต่างของเด็กสติปัญญาดีที่ถูกเขี้ยวเข็ญกดดัน กับเด็กปัญญาอ่อน ที่ชีวิตเหมือนเป็นสิ่งของเป็นตุ๊กตาไร้ชีวิตจิตใจ ถูกฉกฉวยและเอาเปรียบจากคนรอบข้างที่สติปัญญาดี

นักแสดงละคร ตุ๊กตามนุษย์

จักรกฤษณ์ อำมรัตน์
ภาณุเดช วัฒนสุชาติ
กรรชัย กำเนิดพลอย
บุญพิทักษ์ จิตต์กระจ่าง
อังคณา ทิมดี

 

 

ดาวพระศุกร์

ดาวพระศุกร์เป็นเด็กที่นางวิภา วงศ์สะอาด มาคลอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทางโรงพยาบาลเลี้ยงดูดาวพระศุกร์จนอายุได้ 9 เดือน ก็มีคนมาขอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ชีวิตในบ้านพ่อเลี้ยงที่เกรงใจภรรยาและแม่เลี้ยงใจร้าย ในตอนแรกจนกระทั่ง 4 ขวบกว่า ดาวพระศุกร์มีพิกุลเป็นพี่เลี้ยงคอยปกป้อง ช่วยเหลือ ให้รอดจากคุณนายมารศรี แม่เลี้ยงตีบ่อย ๆ จนวันหนึ่งคุณนายไล่พิกุลออก ดาวพระศุกร์จึงต้องทนเลี้ยงน้องที่เกิดมาคล้ายเป็นลูกอิจฉาของคุณนายถึง 4 คน ซึ่งคุณนายรักดั่งแก้วตาตลอดเวลา ดาวพระศุกร์มีหน้าที่ทำงานบ้าน ทำกับข้าวดูแลทุกคนในบ้านอย่างดี ถ้าทำผิดแม้เพียงนิดเดียวก็จะถูกคุณนายทุบตีอย่างทารุณ คุณนายดุด่าและบอกความจริงว่า คุณนายและท่านนายพันไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง และบอกว่าแม่จริงชื่อ วิภา วงศ์สะอาด ดาวเสียใจมาก พ่อเลี้ยงปลอบว่าวันหนึ่งแม่จริงของดาวก็จะมารับดาวจึงทนรอคอยความหวัง

วัน หนึ่งดาวไปตลาด พบเด็กชายขอทานซึ่งแกอดข้าวมา 2 วันจนแทบเป็นลม ดาวนึกสงสารจึงให้มาที่บ้าน หาข้าวให้กินด้วยใจบริสุทธิ์ และเล่าให้ฟังว่าชีวิตตัวเองเป็นอย่างไร แก่รับฟังด้วยความสงสารและเห็นใจ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ คนข้างบ้านคนหนึ่งเห็นดาวคุยกับแก่ ก็ไปฟ้องคุณนายว่าดาวริอ่านคบผู้ชาย คุณนายโกรธมาก ตบตีดาวอย่างหนักที่สุด หาว่าคบผู้ชาย เผลอหลุดปากบอกความจริงเรื่องแม่ของดาวทิ้งดาวไว้ที่โรงพยาบาลและไม่มีวัน ที่จะมารับกลับ ดาวจึงหมดความอดทนและสิ้นหวังในการรอคอย ดาวตัดสินใจหนีออกจากบ้านตั้งแต่วันนั้น ( อายุ 11 ขวบ )

ขณะ ที่ศศิประภา แม่ที่จริงของดาวพระศุกร์ ซึ่งต่อมาแต่งงานใหม่กับพลตรีพีรยุทธ มีลูกชายใหม่ 1 คน ชื่อแดง ตลอดเวลาไม่มีใครรู้ความลับของศศิประภานอกจากนมแม้นคนเดียว ศศิประภาไม่เคยลืมลูกสาวที่ตัวเองตั้งชื่อให้ว่าดาวพระศุกร์ ไม่เคยลืมแววตาของลูก และปานแดงรูปหัวใจเหนืออกซ้ายของดาว ศศิประภาทุกข์ทรมานใจทุกครั้งที่คิดถึงลูกคนแรก

ขณะ ที่แก่เดินขอทานอยู่นั้น บังเอิญได้พบกับภาคย์ ภาคย์สงสารให้เงินถึง 2 ครั้ง แต่ด้วยความซื่อแก่เผลอเล่าเรื่องของดาวพระศุกร์ให้ศศิประภาฟัง ศศิประภารู้ทันทีว่าดาวคือลูกศศิประภาตามไปหาดาวที่บ้านคุณนายมารศรี จึงรู้ว่าดาวหนีออกจากบ้านไปแล้ว

ดาวเร่ร่อนขอทานอยู่กับเกรียงและ อู๊ด เด็กขอทานข้างถนนอยู่ 2 – 3 ปี หลังจากขอทานดาวก็ริอ่านเป็นขโมยโดยมีนายชุมเด็กวัยรุ่นเป็นหัวหน้า ชีวิตของดาวต้องต่อสู้ดิ้นรนไปจนกระทั่งพบกิ่งแก้วโสเภณีชั้นสูงคนหนึ่ง บอกว่าดาวหน้าตาดี จึงชวนไปอยู่ด้วยกันที่บ้านซึ่งเป็นของฉวีแม่เล้าของตัวเอง บ้านของฉวีเป็นบ้านชั้นดี รับเฉพาะแขกที่มีสตางค์เท่านั้น

ขณะนั้น ดาวอายุได้ประมาณ 14 ปี ต้องเติบโตในบ้านนั้น พบเห็นเรื่องราวของชีวิตผู้หญิงเหล่านั้นจนชิน กิ่งแก้วพยายามสอนหนังสือให้ดาว จนดาวมีความรู้เทียบได้เท่ากับมัธยม 6 สมัยนั้น พอดาวโตขึ้นอายุได้ 16 – 18 ปี ฉวีก็เริ่มให้ดาวออกทำงาน ดาวเคยรู้รสชาติของความจนความลำบากมาก่อนจึงไม่กล้าขัดขืน แต่กลับหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการมอมเหล้าแขกบ้าง หาคนมาแทนบ้าง เมื่อดับไฟแล้วบ้าง สารพัด เพื่อรักษาพรหมจารีย์ไว้อย่างเหนียวแน่น ดาวใช้วิธีเหล่านี้เอาตัวรอดได้ตลอดมาจนได้ฉายาว่า แม่ดาวจอมกะล่อน

และ เพราะวิธีสับตัวเองเอาคนอื่นมาแทนนี่เอง แขกคนหนึ่งเกิดติดโรคจึงเข้าใจว่าติดมาจากดาว เจ้าสำนักจึงให้พยาบาลมาตรวจโรค ดาว บังเอิญพยาบาลคนนั้นคือ อรทัย พยาบาลที่เป็นคนทำคลอดดาว จำดาวได้เพราะปานแดงรูปหัวใจ และชื่อดาว ดาวถามอรทัยจนใจอ่อนยอมเล่าเรื่องของดาวให้รับรู้จนหมด เพื่อน ๆ ของภาคย์ 2-3 คน เคยโดนลูกไม้ของดาวมาแล้วก็ไปเล่าให้ภาคย์ฟัง ภาคย์สนใจจึงมาทดลองบ้าง ภาคย์หลบเลี่ยงลูกไม้ของดาวทุกชนิด เช่น ไม่ดื่ม ไม่ดับไฟ ไม่อมทอฟฟี่ แต่ดาวก็เล่นไม้ตายโดยใช้ยาสลบ จนกระทั่งภาคย์หมดสติทั้งคืนจนเช้า

พอ ภาคย์รู้สึกตัว แทนที่จะโกรธ ภาคย์เกิดสนใจดาวและขอซื้อจากเจ้าสำนักในราคา 1 แสนบาททันที แล้วรับตัวดาวไปอยู่ที่บ้าน ดาวจำต้องไปเพราะถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าต้องอยู่บ้านนี้ตลอดไป ดาวตั้งใจว่าจะหาทางหาเงินมาใช้กับภาคย์เพื่อแลกกับอิสระภาพให้จนได้ ภาคย์พาดาวไปอยู่บ้านเลี้ยงดูอย่างดีในฐานะกึ่งน้องกึ่งญาติ ภาคย์ให้ดาวเรียนการบ้านการเรือนกับนมเชื่อม และเรียนคณิตศาสตร์กับตัวเองให้ศศิประภาญาติของภาคซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ขอดาวมาสอนภาษาอังกฤษ และมาหยารัศมี สาวสังคมที่มาติดภาคย์ช่วยสอนดนตรีให้ด้วย

ดาวต้องอดทนเรียนทั้ง ๆ ที่ใจไม่ชอบสักอย่างดาวเริ่มหลงรักภาคย์ ขณะเดียวกันก็นึกรู้ว่าศศิประภาคือแม่ที่แท้จริงของตัวเอง ด้วยแรงน้อยใจที่แม่ไม่ยอมรับเป็นลูกดาวทำฤทธิ์กับศศิประภาทุกอย่าง ศศิประภาก็ได้แต่เสียใจอยู่คนเดียวบอกใครไม่ได้ เมื่อใดที่ศศิประภาเผลอแสดงความรัก ความห่วงใย ดาวจะย้อนกลับอย่างเจ็บแสบเสมอ ทำให้ศศิประภายิ่งช้ำใจหนักขึ้น นอกจากดาวจะน้อยใจ ในตัวแม่บังเกิดเกล้าแล้วยังต้องต่อสู้กับมาหยารัศมีทุกรูปแบบเพราะมาหยา รัศมีกลัวว่าดาวจะมาแย่งภาคย์ไปจากตน จึงหาทางกลั่นแกล้งใส่ความดาวตลอดเวลา ซึ่งภาคย์เองก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่ก็ทำให้ดาวต้องเสียใจทุกครั้ง เหตุการณ์ผ่านไปภาคย์เริ่มรักดาวและดาวเองก็รักภาคย์มากเช่นกัน แต่ต่างคนก็สงวนท่าที

วัน หนึ่งในงานราตรีสโมสร ดาวจงใจแต่งตัวค่อนข้างโป๊เพื่อประชดภาคย์ ทำให้มีหนุ่ม ๆ 2 คนมาตามติดดาว คนหนึ่งคือ เศกสรรค์ เพื่อนของภาคย์ และอีกคนหนึ่งคือผู้พิพากษา อรรถ ซึ่งติดใจดาวมากจนศศิประภาผู้กำความลับอย่างแน่นอยู่ตกใจแทบเป็นลม มาหยารัศมีขัดขวางอรรถกับดาวจนเกิดเรื่อง ภาคย์ต้องลากตัวดาวกลับทันทีขณะที่ขับรถกลับบ้านอย่างหัวเสีย ภาคย์แกล้งขับเร็ว ๆ ไปทางอื่นอยู่นานกว่าภาคย์จะพาดาวกลับบ้าน ดาวก็เริ่มจับไข้แต่ไม่ยอมบอก รุ่งขึ้นดาวก็เป็นไข้ตัวร้อนไม่ได้สติเพ้อร้องหาแม่อย่างน่าสงสาร

ภาคย์ เฝ้าดูแลดาวทุกอย่างจนเด็กรับใช้ในบ้านเริ่มซุบซิบว่าภาคย์รักดาว ระหว่างที่ดาวป่วยท่านผู้พิพากษาอรรถส่งดอกไม้มาเยี่ยมดาวทุกวัน ภาคย์หึงแต่ไม่ยอมรับ ได้แต่หาเรื่องทะเลาะกับดาวไม่เว้นแต่ละวัน ท่านผู้พิพากษาสงสารดาวมาก ถึงกับให้เงินดาว 1 แสนบาทเป็นค่าไถ่ตัว และจะรับไปอยู่ด้วยกัน แต่พอดาวเอาเงินให้ภาคย์ ภาคย์โกรธมากประกอบกับเมาจึงลืมตัว เข้าปล้ำดาวจนดาวต้องตกเป็นของภาคย์ รุ่งเช้าภาคย์เสียใจในการกระทำของตัวเองมาก

แต่ก็คิดไม่ตกว่าจะทำ อย่างไรดี เพราะถ้าแต่งงานกับดาว ก็เป็นปัญหาหลายอย่าง หนึ่งดาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ คุณนายมารศรีซึ่งเป็นแม่ตามกฎหมายคงไม่ยอม สองภาคย์เองก็ไม่แน่ใจว่า ดาวจะปรับตัวเป็นภรรยาได้สมกับฐานะหรือยัง และสามมาหยารัศมีก็คอยหาเรื่องวุ่น ๆ จนได้ ระหว่างที่ภาคย์ลังเลจะทำอย่างไรดี

ดาวซึ่งสูญสิ้นทุกอย่างในชีวิต ผิดหวังทั้งแม่ตัวเอง แม่เลี้ยง แล้วยังคนรักซึ่งยังคงคบหามาหยารัศมีอยู่ ดาวท้อแท้มาก มีแต่ผู้พิพากษาอรรถเท่านั้นที่คอยช่วยเหลือให้กำลังใจดาวจนดาวใจอ่อนยอม ตกลงจะแต่งงานกับอรรถ ศศิประภาหมดความอดทนจึงต้องยอมบอกความจริงว่า ที่แท้อรรถคือพ่อแท้ ๆ ของดาวนั่นเอง ท้ายที่สุดดาวคิดสรุปเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดของตนเอง เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีตนซักคน มาหยารัศมีก็คงได้แต่งงานกับภาคย์ ศศิประภาก็จะได้คืนดีกับท่านนายพลฯเพราะตอนที่นายพลฯ พีรยุทธ สามีของศศิประภารู้ว่าศศิประภา มีลูกมาก่อนก็โกรธถึงกับขอแยกทาง ดาวจึงตัดสินใจหนีทุก ๆ คนไป

ภาคย์ขับรถตามดาวจนประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่เป็นอะไรมากนักต้องพักรักษาตัวระยะหนึ่ง ดาวหนีมาอยู่ที่ราชบุรีซึ่งดาวแอบซื้อที่ดินเอาไว้ไม่บอกใครแต่เพราะที่ดิน ข้าง ๆ กับของดาวเป็นของพิกุลพี่เลี้ยงคนแรกของดาว พิกุลจึงเป็นคนนำข่าวไปบอกกับทุก ๆ คน ภาคย์รีบตามมาหาดาวทันที ทิ้งให้มาหยารัศมีกับอรรถทำความรู้จักให้ดีขึ้น เพราะทั้งสองมีท่าทางพอใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ภาคย์ตามมาพบดาว งอนง้อขอคืนดี จนดาวใจอ่อน เรื่องราวทั้งหลายจึงจบลงด้วยความสุข

ผู้กำกับ : สยาม สังวริบุตร
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท : ภาวิต-ลุลินารถ
บทประพันธ์ : อักษราพันธ์

นักแสดง
ศรราม เทพพิทักษ์
สุวนันท์ คงยิ่ง
ปรียานุช ปานประดับ,

ดร.ครก

จากชีวิตบางส่วนของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ เพื่อให้ได้เรียนหนังสือ เดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ หาเงินเรียนและยืนด้วยลำแข้งของตนเองจนสามารถเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ จนได้เป็นดอกเตอร์ที่ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อแค่ให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ได้ แต่สู้ให้ได้มาที่ตัวเองต้องการ เป็นเรื่องจริงที่น่าประทับใจ น่าจดจำเป็นตัวอย่าง รวมทั้งเป็นกำลังใจให้กับหลายๆ คนในสังคมนี้ที่ท้อแท้กับการเป็นคนดีและการทำความดี โดยเฉพาะกับวัยรุ่นที่เพิ่งพานพบกับอุปสรรค หรือบางคนที่ขาดการชี้นำแนวทาง

“ลำบากแหละดี เพื่อต่อไปจะได้ไม่ลำบาก”

นักแสดงละคร ดร. ครก

สุพจน์ ตันเจริญ

ธัญญาเรศ รามณรงค์