Category Archives: ละครปี 2528

จุดหมายปลายทาง

จุดหมายปลายทาง

จุดหมายปลายทาง

นักแสดง

ทัศนีย์ สีดาสมุทร์
ศักดิ์สิทธิ์ ทวีกุล
นาท ภูวนัย
สุทธิจิตร วีระเดชกำแหง

ออกาอากาศทางช่อง 7
วันพุธ-พฤหัสบดี, 23 ตุลาคม 2528 – 20 กุมภาพันธ์ 2529

เบญจรงค์ห้าสี 2528

เบญจรงค์ห้าสี เป็นเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงห้าคน ห้าแบบที่แทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย…มีอยู่อย่างเดียวคือ ทั้งห้าคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน
 
เริ่มตั้งแต่มนสินี ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ภายนอกเธอดูเป็นผู้ใหญ่กว่าใครเพื่อน ฉลาด สุขุมและเยือกเย็น…มั่นคงทั้งฐานะ และอาชีพการงาน…แต่ใครเลยจะรู้ว่าภายใต้ท่าทีที่มั่นคงของเธอนั้น เธอซ่อนความอ่อนไหวเอาไว้อย่างเงียบงัน จนวันหนึ่งเมื่อมันแสดงตัวออกมา…นั่นก็เกือบจะทำให้เธอต้องตกลงไปในหุบเหวแห่งชีวิตอันเต็มไปด้วยขวากหนาม…
 
คนที่สอง…วาตี วาตีเป็นสาวเปรี้ยว มีนิสัยตรงไปตรงมาจนออกจะดูโผงผางในบางครั้ง ถ้าเป็นสมัยนี้ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสาวมั่น…แต่ลึก ๆ ในใจเธอ เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองช่างว่างเปล่า จนเธอต้องเพียรหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาเติมให้เต็มอยู่เสมอ…
 
คนที่สาม…ช้องนาง…หญิงสาวผู้มีชีวิตอยู่ในกฏระเบียบอันครัดเคร่ง…ด้วยความที่เธอต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่ยังเยาว์ และความภาคภูมิใจในอาชีพครูของเธอ…แต่เมื่อความรักเข้ามาเยือน เธอก็จำต้องย่อหย่อนผ่อนปรนความเคร่งครัดของกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ลงไปเพื่อประคับประคองความรักของเธอให้อยู่รอด…
 
คนที่สี่…พวงแสด…พวงแสดเป็นน้องสาวของช้องนาง แต่ทั้งคู่ไม่ได้เติบโตมาด้วยกันเพราะพ่อแม่ของเธอแยกทางกันตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ เธอมีบุคลิกและนิสัยใจคอที่แตกต่างกับช้องนางอย่างสิ้นเชิง…ด้วยเธอเป็นเด็กสาวที่ใส บริสุทธิ์และมองโลกในแง่ดี ถึงแม้เธอจะยังอ่อนเยาว์นัก แต่เธอก็มีความมั่นคงในอารมณ์พอที่จะเรียนรู้ว่า ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย
 
คนที่ห้า…สุดท้าย…ปาริมา เด็กสาวที่มาจากครอบครัวแร้นแค้น เธอต้องออกจากโรงเรียนกลางคันเพื่อมาทำงานหาเลี้ยงตัวเองและน้อง ๆ โชคดีที่เธอมีรูปโฉมเป็นใบเบิกทางให้เธอก้าวเข้าสู่แวดวงสังคมของคนอีกระดับหนึ่ง…แต่มันก็เกือบจะทำให้เธอก้าวถลำลงไปในวังวนมายาอันยากจะถอนตัวได้
 
นักแสดง เบญจรงค์ห้าสี พ.ศ. 2528
 
เดือนเต็ม สาลิตุล (มนสินี)
มยุรา ธนะบุตร (วาตี)
ดวงใจ หทัยกาญจน์ (ช้องนาง)
อุทุมพร ศิลาพันธ์ (ปาริมา)
อลิษา ขจรไชยกุล (พวงแสด)
นพพล โกมารชุน (ระพีพัฒน์)
ธงไชย แมคอินไตย์ (ชนายุ)
เป็นหนึ่ง ไชยชิต (ปัญจะ)
ชลิต เฟื่องอารมย์ (ณัฐการ)
อภิชาติ หาลำเจียก (ราวี)
จริยา สรณคม (เม้ย-เมธ์วดี)
วรายุฑ มิลินทจินดา (ไก่)
ด.ญ.ยศสินี ณ นคร (แป้งหอม)
และร่วมด้วย รัญญา ศิยานนท์

เพลงชีวิต

หฤทัย (ก้ามปู สุวรรณปัทม์) ลูกสาวของ นายพินิจ (ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง) นักดนตรีพิการ หฤทัยมีความใฝ่ฝันจะได้เป็นนักดนตรีมีชื่อเสียง เธอเติบโตมาท่ามกลางเสียงดนตรี โดยเฉพาะเปียโน ที่เธอประทับใจเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนจริงจังเพราะฐานะทางบ้านไม่อำนวย
 
ทุกวันหยุดจะมีนักดนตรีสมัครเล่นมาซ้อมดนตรีกันที่บ้าน โดยมีนายพินิจร่วมสีไวโอลินด้วย หฤทัยเองก็มักจะเข้าร่วมวงร้องเพลงให้ นายพินิจกับนางสาคร (มารศรี ณ บางช้าง) ยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งชื่อ ณัฐ (ธงไชย แมคอินไตย) ซึ่งเป็นนักดนตรีเหมือนกัน ณัฐจะช่วยหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการไปเล่นดนตรีที่ร้านอาหารเล็กๆ ในตอนกลางคืน หฤทัยเองก็กำลังจะเรียนจบชั้น ม.8 และคิดจะขอทุนเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
 
หฤทัยเป็นเด็กขยัน เธอมักจะไปที่บ้านของครูเพื่อติวพิเศษบ่อยๆ ครูนรี (สุกัญญา นาคสนธิ์) เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งรักและเอ็นดูหฤทัยมาก เธอสังเกตเห็นว่าหฤทัยชอบเล่นเปียโน จึงอนุญาตให้หฤทัยมาหัดเปียโนที่บ้านของเธอยามว่าง โดยช่วยแนะนำสั่งสอนขั้นพื้นฐานให้ และก็พบว่าหฤทัยเรียนได้เร็วมาก วันหนึ่งหฤทัยได้พบกับ คุณเอื้อ (บุศรา นฤมิตร) ซึ่งมาเยี่ยมเยือนครูนรีที่บ้าน คุณเอื้อรู้สึกถูกชะตากับหฤทัยและคุ้นหน้าอยู่มาก ครูนรีเล่าถึงเรื่องทางบ้านหฤทัยให้คุณเอื้อฟังจนเธอรู้สกสงสารและอยากจะอุปการะหฤทัย
 
ต่อมาหฤทัยได้ไปงานวันเกิดเพื่อน เธอได้รู้จักกับ คีตา (นพพล โกมารชุน) ลูกชายของพันโทหลวงนิติธรรม ซึ่งเพื่อนๆ เล่าให้หฤทัยฟังว่าตระกูลของคีตามีประวัติด่างพร้อย คนในตระกูลค่อนข้างเห็นแก่ตัว หฤทัยได้เล่นเปียโนอวยพรเพื่อน คีตาฟังแล้วเกิดความสนใจหฤทัยขึ้นมาทันที เมื่องานเลิก คีตาเก็บสร้อยคอของหฤทัยได้ก็แปลกใจมากเมื่อเห็นรูปลักษณะของสร้อย คีตาเก็บสร้อยไว้ หฤทัยกลุ้มใจมากเมื่อรู้ว่าสร้อยคอหายไปเพราะเป็นของติดตัวมาตั้งแต่เกิด ต่อมาเธอได้รู้จัก ภควี (ธำรงค์ เตชะวิจิตรสาร) โดยบังเอิญในร้านอาหาร ทั้งคู่ถูกชะตากันมาก เพราะมีนิสัยร่าเริงเหมือนกัน หฤทัยได้ปรับทุกข์เรื่องสร้อยคอให้ภควีฟัง และบอกว่าจะต้องไปหาคนที่ชื่อคีตา ภควีอาสาพาไปที่บ้านนิติธรรม ซึ่งหฤทัยได้รู้ความจริงว่าที่แท้ภควีก็เป็นหลานชายของหลวงนิติธรรมนั่นเอง เมื่อได้พบคีตา หฤทัยก็ต้องผิดหวัง เพราะคีตาไม่ยอมคืนสร้อยให้เธอ กลับบ่ายเบี่ยงท่านั้นท่านี้ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน หฤทัยกลับบ้านอย่างอารมณ์เสีย
 
ที่แท้คีตาสงสัยว่าหฤทัยจะเป็นทายาทของ รัฐมนตรีปกรณ์ (อำนวย ศิริจันทร์) กับพิมลา ที่หายสาปสูญไป 10 กว่าปีแล้ว กรณีนี้ำทำให้ตระกูลของคีตาต้องด่างพร้อย เนื่องจากหลวงนิติธรรมนั้นเป็นคนรักเก่าของพิมลา พิมลาหายสาปสูญไปพร้อมกับลูกสาววัย 3 ขวบ เหตุเกิดในงานเลี้ยงวันเกิดของหลวงนิติธรรม ท่านจึุงถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลักพาตัวพิมลาและลูกไป หลวงนิติธรรมต้องโทษอยู่ในเรือนจำหลายปี และเมื่อพ้นโทษออกมาไม่เท่าไรก็เสียชีวิต เมื่อคีตาเห็นสร้อยคอของหฤทัยซึ่งเป็นรูปหัวใจสลัำกคำว่า “พิม” คีตาจึงสงสัยมากเพราะตนเองมีรูปวาดของพิมลาซึ่งสวมสร้อยแบบเดียวกันนี้ คีตาตัดสินใจไปหาพ่อของหฤทัยและไถ่ถามความเป็นมาของเธอ แต่นายพินิจก็ไม่ให้ความร่วมมือ และยังแสดงพิรุธให้เห็น ทำให้คีตามั่นใจยิ่งขึ้น
 
ต่อมาครอบครัวของหฤทัยมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายที่อยู่ เนื่องจากมีการตัดถนนผ่าน นายพินิจจะย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด คุณเื้อื้อทราบเรื่องขึงถือโอกาสชวนหฤทัยไปอยู่ด้วย และสัญญาว่าจะสอนเปียโนให้ พร้อมทั้งจ้างครูมาสอนให้ที่บ้านด้วย หฤทัยเริ่มลังเล เธออยากเรียนเปียโนมากแต่ก็เป็นห่วงพ่อแม่มาก นายพินิจเองเริ่มตะหนักว่า อาจจะถึงเวลาแล้วที่หฤทัยจะได้รู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง จึงยอมให้ลูกสาวพักอาศัยอยู่กับคุณเือื้อ ส่วนรัฐเสียใจมากแต่ก็ต้องจากไปในที่สุด หฤทัยย้ายมาอยู่กับคุณเอื้อได้พบกับคีตาและภควีอีก คีตาเข้มงวดหฤทัยมาก เขาเริ่มอบรมมารยาทของผู้ดีแก่หฤทัย และบอกว่าจะพาเธอเข้าสังคม หฤทัยแปลกใจเป็นที่สุด เธอเริ่มอึดอัดใจมากที่ต้องถูกบังคับให้อยู่ในกรอบ ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของคีตา คือ นำหฤทัยไปคืนให้รัฐมนตรีปกรณ์ เพื่อล้างมลทินของตระกูลของตน
 
คีตามีความสัมพันธ์อยู่กับปรยา ลูกสาวของนายประดิษฐ์ (จีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) ซึ่งเป็นน้องชายของ คุณหญิงเนื้อทาง (เมตตา รุ่งรัตน์) ภรรยาของรัฐมนตรีปกรณ์ ปรียาหลงรักคีตาและมักจะมาเยี่ยมเยียนเขาบ่อยๆ เธอถึงหึงหวงหฤทัยมากจนคิดกลั่นแกล้งให้หฤทัยเสียหน้า โดยเชิญเธอไปในงานวันเกิดและให้เล่นเปียโนให้ผู้ร่วมงานฟัง คีตาให้กำลังใจหฤทัยเป็นอย่างดี หฤทัยเล่นเปียโนได้ดีมาก ทุกคนชื่นชมเธอโดยเฉพาะคุณหญิงลักษณาซึ่งบอกกับหฤทัยว่าเธอทำให้คุณหญิงรำลึกถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่ชื่อ พิมลา เป็นนักเปียโนที่มีชื่อเสียงมากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณหญิงลักษณา คุณเอื้อ และพิมลาเป็นเพื่อนสนิทกัน ทังสามมักจะแข่งขันกันในเรื่องดนตรีเสมอ คีตาเล่าให้คุณหญิงฟังถึงเรื่องสร้อยคอ ทำให้คุณหญิงสนใจมาก และค่อนข้างแน่ใจว่า หฤทัยคือลูกสาวของพิมลา ทั้งคุณหญิงลักษณาและคีตาจึงคิดพาหฤทัยไปหารัฐมนตรีปกรณ์ ข่าวเรื่องนี้แพร่ไปถึงหูนายประดิษฐ์ซึ่งเดือดร้อนมาก เพราะตนเองเป็นคนลักพาตัวพิมลาและลูก โดยร่วมมือกับนางเนื้อทอง เพื่อหวังสมบัติของรัฐมนตรีปกรณ์ นายประดิษฐ์เริ่มคิดหาทางกำจัดหฤทัย ขณะที่ความจริงทุกอย่างเริ่มกระจ่าง คีตาพาหฤทัยไปพบรัฐมนตรีปกรณ์ซึ่งป่วยหนัก ก่อนตายท่านสั่งเสียให้ดูแลหฤทัยให้ดี มล. เลอลักษณ์ตัดสินใจรับหฤทัยมาอยู่ที่คฤหาสน์ของรัฐมนตรีปกรณ์ คุณเนื้อทองคัดค้านเท่าไรก็ไม่เป็นผล ทางด้านนายประดิษฐ์ก็วางแผนจะกำจัดหฤทัยในวันเลี้ยงต้อนรับ ขณะเดียวกันรัฐมาตามหาหฤทัย แต่ก็ได้รับอุบัติเหตุโดยปรียาขับรถเฉี่ยวเข้า ปรียารีบพาณัฐไปพยาบาลที่บ้าน ณัฐเพ้อถึงหฤทัยตลอดเวลา นายประดิษฐ์จึงจับได้ว่าณัฐต้องรู้ัจักกับหฤทัย เขาจึงเก็บตัวณัฐไว้โดยหวังจะใช้ประโยชน์ วันหนึ่งณัฐแอบได้ยินแผนกำจัดหฤทัย นายประดิษฐ์จึงจับณัฐขังไว้ ที่งานนายประดิษฐ์ใช้แผนล่อลวงหฤทัยออกมาในที่เปลี่ยว แต่ณัฐออกมาขัดขวางได้ทันการณ์และถูกลูกหลงเสียชีวิต นายประดิษฐ์ถูกจับได้เพราะลูกน้องสารภาพหมด จากนั้นไม่นานคีตาก็ไปเียี่ยมนายประดิษฐ์ ซักถามกันจนได้รู้ความจริงว่า นายประดิษฐ์เป็นผู้ฆ่าพิมลา ซึ่งเท่ากับตระกูลของคีตาหมดมลทิน
 
ในวันชุมนุมนักดนตรี หฤทัยได้แสดงฝีมือเปียโนเต็มที่ ทุกคนปรบมือยกย่อง คีตาส่งดอกไม้ไปให้หฤทัย เธอรีบออกมาพบเขาทันที เรื่องจบลงอย่างมีความสุข

กตัญญูพิศวาส

กตัญญูพิศวาส เป็นเรื่องราวที่จำลองภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนจีนในกรุงเทพฯ  ย่านสลัม  ซึ่งพยายามรักษาระเบียบประเพณีขนบธรรมเนียมของชาวจีนไว้ “หมง”  (สมควร กระจ่างศาสตร์) เป็นพ่อค้าขายหมู  เขาเป็นคนรักครอบครัว  ขยันทำมาหากินมี  “เช็ง” (อุทุมพร ศิลาพันธ์)  เป็นภรรยา และมีลูกเล็กๆ หลายคน และกำลังตั้งท้องอยู่อีก เช็งนั้นทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดี คอยหุงหาอาหารให้ลูกๆ และหิ้วอาหารเช้าไปส่งให้หมงที่เขียงหมูในตลาด หล่อนไม่ได้รักหมง แต่มีความเคารพนับถือ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่มีบุญคุณที่หล่อนจะต้องกตัญญู เพราะหมงช่วยให้หล่อนพ้นความลำบาก โดยซื้อหล่อนมาจากการเป็นทาสในเรือนเบี้ยของคนร่ำรวยครอบครัวหนึ่ง ตั้งแต่หล่อนเป็นสาวรุ่นๆ และขณะนี้หมงก็มีอายุมากแล้ว มีโรคประจำตัวอยู่ด้วย  และมีเพื่อนบ้านที่ดีอย่าง “แป๊ะกิม” (ส. อาสนจินดา)  และ  “จิว” (นิรุตน์ ศิริจรรยา)  ซึ่งติดตาตรึงใจในความงามลึกซึ้ง และความขยันขันแข็งของหล่อน แต่ต้องเก็บงำความรู้สึกไว้ ต่อมาหมงถูกตำรวจจับและถูกเนรเทศกลับเมืองจีน  เช็งได้รับความช่วยเหลือจากแป๊ะกิมและจิว  รวมทั้งมาลี (วิยะดา อุมารินทร์) ซึ่งเป็นหญิงขายตัวแต่มีจิตใจดี ต่อมาบ้านย่านสลัมถูกเผาผลาญ  แป๊ะกิมถูกตำรวจจับและถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุ  จิวรับเช็งและครอบครัวไปอยู่ร่วมกัน

ทะเลเลือด

เกิดคดีฆาตกรรมปริศนาเศรษฐีนีกลางเรือสำราญ โดยโดนยิงเข้าที่ขมับบนที่นอน เป็นละครสืบสวนสอบสวน ที่ต้องเดาว่าใครคือฆาตกร โดยฟังจากปากคำของพยาน และฆาตกรมีแผนการ และแรงจูงใจในการกระทำอย่างไร ในเมื่อหลายคนบนเรือนี้ก็น่าสงสัยไปหมด ยังหาตัวฆาตรตัวจริงไม่ได้ ก็เกิดฆาตกรรมบนเรือซ้อนกันขึ้นมาอีกราย

นักแสดง ทะเลเลือด

ฉัตรชัย เปล่งพานิช
กาญจนา จินดาวัฒน์ — เจนจิรา
ดวงตา ตุงคมณี
พรพรรณ เกษมมัสสุ
กำธร สุวรรณปิยะศิริ

ทะเลเลือด เป็นละครเรื่องแรกที่ ไก่ วรายุฑ เป็นผู้จัด ถ่ายทำบนเรือซีทรานควีน
นำเค้าโครงเรื่องมาจากนิยายของอกาธา คริสตี้ เรื่อง แม่น้ำสีเลือด, ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์ (Death on the Nile)

หกพี่น้อง

หกพี่น้อง

ราม ราชพงษ์
จารุวรรณ ปัญโญภาส
ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
ลลิตา ปัญโญภาส
นัทธนุช วงศ์พัวพันธ์

ไร้เสน่หา

ความรักเป็นอารมณ์อันอ่อนหวานละมุนละไมนำความสุขสดชื่นมาให้แก่ ผู้ที่ได้รับเป็นเสมือนน้ำทิพย์ที่ชโลมใจให้เกิดความเบิกบานเป็นพลังให้ ต่อสู้อุปสรรคต่างๆให้ล่วงผ่านไปได้ผู้คนจึงแสวงหาและปรารถนาที่จะสมหวังใน รักกันทั้งสิ้น นงรามคือผู้หญิงคนหนึ่งที่ดิ้นรนไขว่คว้าหาความรักมาตลอดชีวิตเพราะฝังใจว่า พ่อแม่ญาติพี่น้องไม่มีใครรักเธอเลยความขาดแคลนในวัยเยาว์ผลักดันให้เธอ ต่อสู้ด้วยความมานะบากบั่นกระทั่งก้าวสู่ความสำเร็จในระดับที่เหนือกว่าผู้ คนที่อยู่รอบข้างแต่”เปลือกนอก”ที่ห่อหุ้มเธอไว้ไม่สามารถนำพาไปสู่จุดหมาย ได้เธอทุรนทุรายด้วยกองไฟแห่งความริษยาอาฆาตที่สุมอยู่ในใจจนกระทั่งในที่ สุดเพลิงร้ายนั้นก็เผาไหม้ตัวเธอเอง

รักในสายหมอก 2528

รักในสายหมอก เป็นเรื่องราวความรักของคนคู่หนึ่ง คือปฤณ เป็นหมอ กับนฎา ที่ยอมหมั้นหมายกับนักไวโอลินเพื่อตามใจคุณยาย เพราะเป็นหลานรัก แต่แล้วนฎาก็ตาบอดชั่วคราวจากอาการป่วยทางภาวะจิตใจ ปฤนจึงรักษาทางจิตเวชด้วยดนตรี

มัสยา

มัสยา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของลัักษณ์ และมัสยา ซึ่งตามศักดิ์แล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ลักษณ์ได้รับหน้าที่ให้ไปรับตัว มัสยา ในอดีตนั้นพ่อของมัสยาเป็นลูกชายคนเล็กของตระกูล ได้หนีไปแต่งงานกับธิดาของรายาผู้หนึ่งทางภาคใต้ ทำให้ทางญาติๆที่เมืองไทยโกรธมาก เพราะเห็นทางนั้นเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ถึงกับตัดขาดกัน จนกระทั่งพ่อมัสยาตาย คุณตาที่เป็นรายาก็นำมัสยามาเลี้ยงต่อ  เมื่อคุณย่าแท้ๆของมัสยาคลายอคติกับลูกชายคนเล็กได้ จึงให้ไปรับตัวมาอยู่ที่บ้านรัตนมหาศาล มัสยาถูกเลี้ยงดูอย่างดีก็จริง แต่บรรดาพี่ๆน้องๆก็ยังตั้งข้อรังเกียจเพราะเห็นว่าเป็นเด็กบ้านนอก ออกห้าวหาญ เล่นคะนองเหมือนผู้ชาย แต่ลักษณ์ก็หลงรัก เช่นเดียวกับมัสยาซึ่งไม่เคยมีพี่ชายมาก่อน   แต่พอย่าของเขาทราบเรื่องเข้าก็รับไม่ได้ที่พี่น้องกันจะมารักกัน

พลับพลึงสีชมพู

เธอจะเป็นใคร มาจากไหน แม้แต่ชื่อเสียงของเจ้าหล่อนเขาก็ไม่เคยสนใจไต่ถาม เจสรู้เพียงว่า เธอเป็นผู้หญิงมีเสน่ห์น่ารักนักเธอคือพลับพลึงผู้อ่อนหวาน แฝงด้วยความดื้อถือดีนิด ๆ แต่มีเหตุผล เธอทำให้เขา ‘วิศรุต มรุพงศ์’ ได้สัมผัสกับความอบอุ่นสดชื่นอีกครั้ง หัวใจของเราหลอมรวมเป็นดวงเดียวกัน และในวันนี้ พร้อมที่จะศิโรราบให้กับ “ความรัก”