Category Archives: ละครช่อง5

วิมานทราย

ภาณิน นิราภัย วิศวกรหนุ่ม ทายาทบริษัทเรียลเอสเตทชื่อดังไปตรวจงานที่จ.ระยอง และขณะเดินทางกลับ บังเอิญไปเจอขโมยสองคนกำลังทุบรถของเขาเพื่อขโมยของ ภาณินวิ่งไล่จับขโมยมาจนถึงชายหาด และเกิดการต่อสู้จนทำให้ไปโดนปราสาททรายที่ อลิศรา ชุณหกร จิตรกรสาวสวยที่สร้างไว้เป็นแบบพังลงมา อลิศราโวยวาย แต่ก็เข้าช่วยเหลือภาณินที่โดนรุมทำร้ายจนสลบไป เมื่อภาณินฟื้นและได้คุยกัน ทำให้อลิศราเข้าใจว่าเขาเป็นเพียงโฟร์แมนคุมงานก่อสร้างแถวนั้น ส่วนภาณินก็รู้สึกประทับใจในน้ำใจและความคิดที่แข็งแกร่งของอลิศรา เมื่อทั้งคู่กลับมากรุงเทพฯ ระหว่างที่อลิศรารอรถอยู่ที่ป้ายรถเมย์ มีจิ๊กโก๋เข้ามาลวนลาม แต่โชคดีที่ภาณินเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ภาณินอาสาไปส่งเธอที่บ้าน แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้อลิศราลืมโทรศัพท์มือถือไว้กับภาณิน ทั้งสองจึงได้นัดเจอกันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ภาณินดีใจมากที่จะได้เจอกับอลิศรา แต่เหมือนถูกโชคชะตากลั่นแกล้ง ภาณินได้รู้ความจริงในวันนั้นว่าอลิศราคือผู้หญิงที่ ภิญโญ นิราภัย น้องชายสุดที่รักของเขาหลงรัก ส่วนอลิศราก็โกรธจัดเพราะรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก เมื่อรู้ความจริงว่าภาณินไม่ใช่โฟร์แมน แต่กลับกลายเป็นลูกชายของ ภุชงค์ นิราภัย เจ้าพ่อธุรกิจเรียลเอสเตทที่มั่งคั่งที่สุด แถมเขายังเป็นพี่ชายแท้ๆ ของภิญโญ เพื่อนสนิทของเธออีกด้วย ภาณินเสียใจมากที่เรื่องราวกลับกลายเป็นแบบนี้ แต่ก็พยามตัดใจเพราะเห็นว่าความสุขของน้องนั้นสำคัญกว่า และเมื่อภิญโญตัดสินใจขออลิศราแต่งงาน แต่กลับถูกปฏิเสธเพราะอลิศราคิดกับภิญโญแค่เพื่อน ภิญโญเสียใจมาก โหมดื่มเหล้าจนไม่เป็นผู้เป็นคน ทำให้ภุชงค์ไม่พอใจและนึกเกลียดอลิศราขึ้นมา ส่วนภาณินก็รับอาสาภิญโญว่าจะไปคุยกับอลิศราให้ แต่เมื่อภาณินไปถึงกลับเห็นอลิศราอยู่กับ นนท์ ช่างภาพหนุ่มมาดเซอร์ที่เพิ่งอกหัก และได้อลิศราเป็นเพื่อนช่วยปลอบใจ นนท์มาหาอลิศราเพื่อบอกลาเรื่องจะไปเรียนต่อ ภาณินเกิดความหึงหวง และเข้าใจผิดคิดว่าที่อลิศราปฏิเสธภิญโญเพราะมีนนท์อยู่อีกคน ภาณินจึงเข้าไปต่อว่าอลิศราว่าเป็นผู้หญิงหลายใจ คบผู้ชายไม่เลือกหน้า ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงและเกิดได้เสียกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ภาณินรู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป จึงขอรับผิดชอบทุกอย่าง แต่อลิศรากลับปฏิเสธและไล่ภาณินออกไปจากชีวิต หลังจากเหตุการณ์นั้นอลิศราก็ตัดสินใจไปเป็นครูอยู่ที่สุพรรณกับ ลินจง เพื่อนสนิท แต่เมื่อผ่านไปสองเดือนอลิศราพบว่าได้ตั้งท้องลูกของภาณิน ส่วนลินจงที่คิดว่าภิญโญคือพ่อของเด็ก จึงไปต่อว่าและบอกให้มารับผิดชอบ ภิญโญบอกว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของตน แต่ก็พร้อมจะดูแลอลิศราและลูก และในวันนั้นภิญโญก็ตัดสินใจขออลิศราแต่งงาน อลิศราตอบตกลงโดยมีเงื่อนไขว่าเธอจะไม่เข้าไปอยู่ที่บ้านนิราภัยเด็ดขาด เมื่อภุชงค์ทราบเรื่องก็ไม่พอใจ และคัดค้านที่ภิญโญตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างอ ลิศรา ถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก และไล่ภิญโญออกจากบ้าน ส่วนภาณินก็เอาแต่ดื่มเหล้าเพื่อให้ลืมควาด จนได้เจอกับ สิริรัศมี สาวไฮโซที่เห็นผู้ชายเป็นแค่ของเล่น เธอเริ่มด้วยการหว่านเสน่ห์ให้ภาณินต่างๆ นาๆ แต่ภาณินไม่สนใจ ทำให้สิริรัศมีเสียหน้าและตั้งใจเอาชนะภาณินให้ได้ แล้วสิริรัศมีก็เริ่มแผนการพิชิตใจภาณินด้วยวิธีการต่างๆ โดยมีภุชงค์เป็นแนวร่วม เพราะเห็นว่าสิริรัศมีคือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นสะใภ้นิราภัย ภิญโญพาอลิศรามาอยู่ที่ชลบุรี และทำงานเป็นพนักงานบัญชีอย่างขยันขันแข็งเพื่อเลี้ยงดูอลิศราและลูก ช่วงใกล้คลอดลินจงมาอยู่เป็นเพื่อนอลิศรา ลินจงคาดคั้นจนอลิศราบอกความจริงว่าพ่อของเด็กคือภาณิน เป็นเวลาเดียวกับที่ภิญโญเข้ามาได้ยินพอดี จึงดื่มเหล้าจนเมา แล้วขับรถกลับกรุงเทพฯ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ภุชงค์เข้าใจว่าอลิศราคือสาเหตุที่ทำให้ภิญโญเสียชีวิต จึงยิ่งเกลียดชังอลิศรามากขึ้น ภาณินไปหาอลิศราและแจ้งข่าวการตายของภิญโญ อลิศราช็อคจนเป็นลม ภาณินรีบพาไปส่งโรงพยาบาล แล้วอลิศราก็คลอดลูกชายคือ น้องพีท หรือ ภิญเญศ ลูกของภาณินในคืนนั้น ภุชงค์รู้ข่าวว่าอริศราคลอดลูกก็คิดที่จะเอาหลานมาเลี้ยงและกำจัดอลิศราออก ไปจึงร่วมมือกับสิริรัศมี โดยภุชงค์เสนอเงินให้ 1 ล้านเพื่อแลกกับพีท แต่อลิศราปฏิเสธ ระหว่างนั้นหมอเข้ามาแจ้งว่าหัวใจของน้องพีทมีปัญหาต้องเข้ารับการผ่าตัดโดย ด่วน ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมาก ภุชงค์จึงได้โอกาสยื่นข้อเสนอว่าจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษา และจะเลี้ยงดูพีทเป็นอย่างดี แต่อลิศราต้องออกไปจากชีวิตของพีทอย่างเด็ดขาด อลิศราไม่มีทางเลือก จึงต้องยอมรับข้อเสนอของภุชงค์ พร้อมกับยอมทำสัญญายกพีทให้กับภุชงค์โดยไม่ยอมรับเงินแม้แต่บาทเดียว หลังจากอลิศราจากไป ภุชงค์เอาสัญญาที่ให้อลิศราเขียนมาให้ภาณินดูและใส่ร้ายอลิศราว่าหนีไปเพราะ ต้องการเงินเพื่อไปสร้างครอบครัวกับผู้ชายคนใหม่ ทำให้ภาณินโกรธแค้นอลิศรามาก หลังจากที่พีทผ่าตัดหัวใจเรียบร้อยแล้ว ภาณินพาพีทไปรักษาตัวต่อที่อเมริกา ขณะที่อลิศราก็เข้ามาสมัครงานเป็นครูโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯโดย หวังว่าสักวันอาจจะได้เจอหน้าลูกบ้าง… ห้า ปีผ่านไปขณะที่ภาณินพาพีทไปสมัครเรียน แล้วเกิดพลัดหลงกันจนพีทเกือบโดนรถชน แต่อลิศรามาช่วยพีทไว้ได้ทัน และทำให้รู้ว่าพีทคือลูกของเธอ จึงกอดพีทด้วยความโหยหา ขณะที่พีทก็รู้สึกอบอุ่น เพราะไม่เคยได้รับความรักจากแม่มาก่อน ภาณินมาเห็นเข้าก็ตกใจ รีบพาพีทกลับบ้าน อลิศราจึงได้แต่มองตามด้วยความอาลัย หลังจากวันนั้นอลิศราพยายามขอร้องภาณินเพื่อพบลูกบ้าง แต่ก็โดนปฏิเสธ ส่วนภาณินเมื่อได้เจออลิศราหลายๆ ครั้งจึงทำให้รู้ว่าในใจของเขาไม่เคยลืมเธอได้เลย ประกอบกับการที่พีทเรียนช้ากว่าเด็กปกติ ภาณินจึงต้องหาครูพิเศษมาสอน แต่ทุกคนก็ทนฤทธิ์เดชของพีทไม่ไหว ภาณินหนักใจมาก ในที่สุดจึงต้องไปจ้างอลิศราเพื่อมาสอนหนังสือให้พีท โดยมีข้อแม้ว่าอลิศราจะต้องเข้ามาอยู่ที่นิราภัยและห้ามบอกใครว่าเธอเป็นแม่ ของพีท อลิศราเข้ามาอยู่ที่นิราภัยในนามของครูพัชชา พีทมีความสุขมากขึ้นและเรียนดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนภาณินก็ได้ใกล้ชิดกับอลิศรามากขึ้นจนทำให้ความรู้สึกเก่าๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง ขณะเดียวกับที่ โภไคย ลูกชายของ ศรีนวล แม่บ้านที่เป็นเมียบ่าวของภุชงค์ ที่รู้สึกอิจฉาภาณินมาโดยตลอดก็อาศัยช่วงที่ภุชงค์ไม่อยู่โกงเงินบริษัท ด้านนนท์ทสนิทสนมกับลินจงมากขึ้นเรื่อยๆ จากคู่กัดก็กลายเป็นเพื่อนสนิท แต่วันหนึ่งขณะที่นนท์มาหาลินจงที่ห้อง เกิดได้ยินว่าอลิศราอยู่ที่นิราภัย นนท์โกรธลินจงมากที่โกหกเขามาตลอด จึงไปหาอลิศราที่นิราภัยจนมีเรื่องชกต่อยกับภาณิน จากเหตุการณ์นี้ทำให้โภไคยเริ่มสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของภาณินกับครูพัชชา ส่วนนนท์ก็เกิดไปมีเรื่องและไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหาย ลินจงจึงออกให้ก่อน และถือโอกาสเข้ามาควบคุมความประพฤติของนนท์ ทำให้นนท์และลินจงเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกันโดยที่ไม่รู้ตัว ฝ่ายลินจงที่รู้ความรู้สึกของตัวเองดี จึงได้แต่น้อยใจทุกครั้งที่นนท์พร่ำเพ้อถึงอลิศรา สิริรัศมีเริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เห็นภาณินใกล้ชิดกับครูพัชชา จึงจ้างโภไคยให้สืบประวัติครูพัชชา ประกอบกับที่โภไคยก็สงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่เป็นทุนเดิมจึงยอม ร่วมมือ และโภไคยก็สืบจนรู้ความจริงว่าพัชชาคือ อลิศรา ชุณหกร แม่ของพีท สิริรัศมีจึงรีบโทรบอกภุชงค์ ภุชงค์จึงรีบกลับมาจากต่างประเทศและไล่อลิศราออกจากนิราภัย ภาณินโกรธสิริรัศมีมากที่เข้ามาวุ่นวายเรื่องระหว่างตนและอลิศรา จึงต่อว่าสิริรัศมีอย่างรุนแรง ภาณินพาอลิศราไปอยู่ที่บ้านสวนด้วยกันอย่างมีความสุข สิริรัศมีที่ยังอยากจะเอาชนะภาณินให้ได้จึงร่วมมือกับโภไคยซื้อหุ้นจากผู้ ถือหุ้นนิราภัยจนได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ระหว่างที่ปฏิบัติการแผนนี้โภไคยได้รวบหัวรวบหางสิริรัศมีและถ่ายรูปเก็บไว้ ภาณินตั้งใจว่าจะให้อภัยอลิศราและขอเธอแต่งงาน ขณะที่อลิศราก็เตรียมจะบอกความจริงว่าพีทคือลูกของเขา แต่เมื่อภาณินกลับถึงบ้านกลับได้รับข่าวร้ายว่าสิริรัศมีซื้อหุ้นบริษัท เพื่อหวังจะหุบกิจการของนิราภัยหากภาณินไม่ยอมแต่งงานกับเธอ เมื่อได้ฟังข่าวนี้ภุชงค์ถึงกับเครียดจนเข้าโรงพยาบาล พร้อมกับขอร้องให้ภาณินยอมแต่งงานกับสิรรัศมีเพราะทนเห็นสิ่งที่สร้าง มาไปอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้ ภาณินจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อ วิมาน ที่เขาวาดไว้ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เขาจะยอมแต่งงานกับสิริรัศมีโดยทิ้งอลิศรา คนที่อยู่ส่วนลึกในจิตใจเขามาตลอดเพื่อพ่อบังเกิดเกล้าหรือไม่ ติดตามชมได้ในละครเรื่อง วิมานทราย คำตอบสุดท้ายแห่งรักแท้ คือ ให้อภัย ซึ่งเป็นกาวใจชิ้นพิเศษที่ต่อติดหัวใจอันแหลกสลายเหมือนเม็ดทรายที่ปลิว กระจาย ให้กลับมาเป็นวิมานแห่งรักแท้ชั่วนิจนิรันดร์

รายชื่อนักแสดงวิมานทราย
ชาคริต แย้มนาม รับบท ภาณิน
น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ รับบท อลิศรา
นิรุตต์ ศิริจรรยา รับบท ภุชงค์
นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบท โภไคย
พิชญ์นาฏ สาขากร รับบท สิริรัศมี
อชิตะ สิกขมานา รับบท ลินจง
พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ รับบท ภิญโญ
ชาญชัย วราวิทยา รับบท นนท์
ด.ช.ณชวนนท์ เหาตะวานิช รับบท ภิญเยศ

วังน้ำวน

อาโป  เพียงธาร และ ระริน  เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยที่เรียนโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ทั้งสามทั้งมีความฝันเป็นของตัวเอง อาโปมีฐานะทางครอบครัวดีกว่าเพื่อน เธอฝันว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศหลังเรียนจบ ผิดกับเพียงธารที่มีฐานะยากจน เธอจึงรับหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัวทุกอย่าง ระรินมีความฝันไม่ต่างจากเพื่อนๆ เธอใฝ่ฝันว่าอยากเป็นนางเอกละคร แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเธอทั้งสามคิดเหมือนกัน ก็คือการแอบชอบ ต้นสาย  ครูฝึกสอนหนุ่มหน้าตาดีที่เข้ามาฝึกสอนอยู่ที่โรงเรียน
 
เพียงธารออก หางานพิเศษทำทุกอย่างเพื่อส่งเสียครอบครัว งานแรกคือการเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอางค์ ซึ่งทำให้เธอได้พบกับ ทัดดาว จึงถูกชักชวนไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อจะได้มีรายได้ดีกว่าเดิม และอาจจะมีโอกาสก้าวสู่การเป็นนางแบบได้ แต่เมื่อระรินรู้ จึงอยากรู้จักทัดดาวด้วย เพื่อหวังว่าตัวเองจะได้เป็นดาราอย่างที่ฝันไว้ วันหนึ่งทั้งสามสาวแอบโดดเรียนไปเล่นน้ำที่แม่น้ำ แต่อาโปว่ายน้ำไม่แข็งจึงถูกดูดลงไปในใต้น้ำซึ่งเป็นน้ำวน ต้นสายเห็นเข้าจึงกระโดดลงไปช่วยอาโปไว้ทัน ทำให้อาโปรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเขามาก ต้นสายมาลาอาโป เพื่อกลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ทั้งสองจึงเผยความรู้สึกในใจต่อกัน
 
วันหนึ่งขณะที่ต้นสายกำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางได้ช่วยระรินที่กำลังถูกพ่อเลี้ยงปลุกปล้ำ ระรินจึงขอเข้ากรุงเทพฯ กับต้นสาย เพื่อไปทำงานกับทัดดาว แต่พอถึงกรุงเทพฯ ระรินกลับติดต่อกับทัดดาวไม่ได้ ต้นสายจึงให้ระรินพักกับตนไปก่อน จนทำให้ทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน อาโปและเพียงธาร รู้สึกผิดหวังมากเพาะคิดว่าต้นสายเป็นคนพาระรินหนี
 
หลังสอบปลายภาค เพียงธารตัดสินใจมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสียครอบครัว อาโปจึงเสนอให้ไปอยู่บ้านป้าพร้อมกับตัวเอง อาโปไปสมัครเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อ เลยทำให้เธอได้พบกับ กลางชล ครูสอนภาษาเยอรมัน ส่วนเพียงธารได้ไปทำงานที่ร้านดอกไม้ คุณปอง  อดีตดาราที่เคยเดินทางผิด เธอจึงคอยตักเตือนเพียงธารอยู่เสมอๆ เพราะกลัวว่าเพียงธารจะมีชีวิตที่ซ้ำรอยแบบเธอ ยิ่งเมื่อได้รู้จักกับ สินธู ( นพชัย มัททวีวงศ์ ) นักธุรกิจหนุ่มเพลย์บอย คุณปองก็ยิ่งเป็นห่วงเธอมากขึ้น ระรินถูกสินธู ชักชวนให้เล่นหนังวีซีดี เพราะสนใจในตัวระริน โดยที่ระรินก็เล่นด้วย สินธูอาสาเลี้ยงดูระรินโดยซื้อบ้านให้อยู่ ระรินจึงหนีจากต้นสายมาอยู่กับสินธู
 
ทางด้านเพียงธารเป็นหญิงสาวที่ สินธูหวังครอบครองเป็นเจ้าของ แต่มีคุณปองคอยขัดขวาง กลางชลมีโอกาสได้ใกล้ชิดเพียงธารมากขึ้น เมื่อเพียงธารย้ายออกมาอยู่อพาร์ทเมนท์ตรงข้ามกับบ้านของเขา ทำให้กลางชลเริ่มหวั่นไหว จึงขอหมั้นกับอาโปแล้วชวนกันไปอยู่ที่เยอรมันด้วยกัน แต่อาโปปฏิเสธเพราะยังสนุกกับงานที่ทำอยู่ อาโปนำเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อรถ เป็นจังหวะที่เพียงธารเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะหาเงินไปรักษาพ่อที่ป่วย จึงมาขอยืมอาโป แต่อาโปไม่มี เพียงธารหมดหนทางจึงตัดสินใจขอยืมสินธู สินธูจึงสั่งให้ลูกน้องนำเงินไปให้ทันที
 
เพียงธารต้องการหาเงินให้ ให้สินธูโดยเร็ว จึงทำงานเพิ่มมากขึ้น กลางชลแนะนำให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทของเพื่อน อาโปก็ไปสมัครงานนี้เช่นกัน แต่ปรากฏว่าเพียงธารถูกเลือกแทน เพียงธารนำเงินไปคืนสินธู แต่เขาไม่รับและขอแลกกับการคบกับเพียงธารแทน แต่เพียงธารยังไม่ยอมรับ กลางชลใกล้ชิดกับเพียงธารมากขึ้น โหน่ง  พยายามเตือนอาโป แต่อาโปไม่เชื่อว่าเพื่อนจะทำร้ายเพื่อนได้ ระรินเริ่มออกอาการหึงหวงสินธูมากขึ้นจนเสียการเสียงงาน สินธูวางแผนเปิดกล้องภาพยนตร์ 3 เรื่องพร้อมกัน โดยมี เพียงธาร, อาโป, ระริน นำแสดงในแต่ละเรื่อง โดยวางกลางชลแสดงคู่กับอาโป
 
ระรินติดต่ออาโปให้สินธู แต่หลอกว่ามีฉากวับๆ แวมๆ อาโปจึงปฏิเสธ แต่มารู้ทีหลังวาเป็นหนังชีวิตธรรมดาจึงตอบรับ พออาโปรู้ว่ากลางชลถอนตัวจึงผิดหวังในที่สุดจึงตัดสินใจไม่รับเล่น และก็ยังไม่อยากไปเรียนต่อ กลางชลจึงแนะนำให้อาโปไปเรียนการแสดง จนได้รู้จักกับ แจ็ค ผู้กำกับที่กำลังหานางเอกใหม่อยู่ อาโปได้เจอกับต้นสายอีกครั้ง อาโปจึงแนะนำให้ต้นสายไปเป็นแสตนด์อินในละครที่เธอเล่น อาโปประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงมากก่าเพื่อนทั้งสอง สินธูคิดจะสร้างหนังใหญ่เรื่อง “วังน้ำวน” โดย พัฒน์ ผู้กำกับต้องการ อาโป มาเล่น เพราะอาโปกำลังได้รับความนิยม แต่สินธูต้องการ เพียงธาร และ ระริน เล่นเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่เป็นนักแสดงในสังกัดของเขา พัฒน์เลือกอาโปกับระริน เพราะบทเหมาะกว่า เพียงธารไปหาคุณปอง แต่พบว่าคุณปองฆ่าตัวตาย เพราะเมียหลวงมาอาละวาดที่ร้าน เพียงธารเสียงใจมาก รวมทั้งเห็นอาโปและกลางชลหวานชื่นกัน เพียงธารหมดหนทางจึงตัดสินใจไปหาสินธู และวันนั้นเธอก็ค้างที่คอนโดสินธูอย่างเต็มใจ จนเพียงธารรู้ว่าตัวเองไม่ได้เล่นหนัง “วังน้ำวน” แล้ว จึงขอสินธูเปลี่ยนตัว ให้เธอได้เล่นเรื่องนี้ เพื่อทำให้ความฝันของคุณปองให้เป็นจริง
 
พัฒน์เลือก อาโป กับ เพียงธาร โดยตัดระรินออกจากหนังเรื่องนี้ ทำให้ระรินเสียใจมาก บังเอิญพระเอกของเรื่องนี้ถอนตัว สินธูจึงไปขอร้องให้กลางชลมาแสดงแทน กลางชลตอบตกลง เพราะจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเพียงธาร ทางด้านอาโปจึงเริ่มไม่ไว้ใจเพียงธารมากขึ้นและเริ่มหึงหวงกลางชล เมื่อเขาเริ่มเปลี่ยนไป ระรินมาอาละวาดกับเพียงธารที่กองถ่ายเรื่องของสินธู กลางชลออกหน้าปกป้องเพียงธาร อาโปน้อยใจกลางชลที่เริ่มตีตัวออกห่าง แจ็ค มาขอให้อาโปกับเพียงธารไปเดินแบบงานแฟชั่นการกุศล พอระรินจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองได้ไปเดินแฟชั่นงานนี้ด้วย
 
ใน งานแฟชั่น กลางชลตัดสินใจบอกเลิกกับอาโป เพียงธาร, อาโป, ระริน ต้องเผชิญหน้ากันในห้องแต่งตัว ทั้งสามทะเลาะกัน เมื่อออกมาหน้าเวทีจึงแกล้งเดินชน แล้วเหยียบเท้ากัน เลยเถิดไปถึงขั้นตบตีกันด้านหลัวเวที สินธูกับกลางชลตามมาช่วย แต่ก็เกิดชกต่อยกันเองเพราะความหึงหวง สินธูดึงเพียงธารไปเคลียร์ปัญหาที่ค้างคากันอยู่ ส่วนระรินถึงกับขาดสติจนต้องเข้าโรงพยาบาล อาโปไม่สามารถเข้าฉากกับเพียงธารและกลางชล ได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น
 
ความรักของเพื่อนทั้งสาม ขาดสะบั้นลง เมื่อความรักกลายเป็นวังวน ที่พัวพันรอบตัวพวกเธอ จนไม่สามารถสะบัดหลุดไปได้ จุดจบความรักของทั้งสามจะเป็นอย่างไร พวกเธอจะหาทางออกจาก “วังน้ำวน” แห่งนี้ได้หรือไม่ หรือยังคงหลงอยู่ในวังวนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

มารยาริษยา 2555

มารยาริษยา เป็นเรื่องราวการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด ทั้ืงเรื่องความรัก ธุรกิจ ของ 2 นางแบบ เพียงดาว ซูเปอร์โมเดลเจ้าอารมณ์ขาวีนจอมเหวี่ยง นางแบบเบอร์ 1 แห่งวงการที่กำลังถูกเขย่าบัลลังก์เพราะวัยที่มากขึ้น  เพียงดาวเป็นนางแบบสาวรุ่นใหญ่เป็นคนปิดตัวเอง เพราะมีอดีตในชีวิต กับครอบครัวที่แตกแยก เป็นคนตรงๆ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
เพียงดาว  แอบลักลอบอยู่กินไปช่างภาพหนุ่มโอม และมีเพื่อนสนิท 2 คน คือ แต้ว บก. นิตยสาร และ ป้าอู๋ เพื่อนสาวประเภทสองที่รู้ ด้วยหน้าที่การงานทำให้เธอไม่สามารถเปิดเผยความจริงได้ มีเพียงเพื่อนสนิท แต้วและป้าอู๋ ที่รู้
วันหนึ่งเพียงดาวมาเจอกับนางแบบรุ่นน้อง ดีนี่ เธอเข้ามาเป็นดาวดวงใหม่ของวงการนางแบบที่เปลือกนอกแสนบริสุทธิ์สดใส แต่ภายในเต็มไปด้วยไฟแห่งริษยาและทะเยอทะยาน ดีนี่ แอบชอบ โอม สามีของเพียงดาว และทำทุกอย่างเพื่อให้โอมหันมาสนใจ  และโอมก็คือต้นเหตุที่ให้ เพียงดาว และ ดีนี่ มีปัญหากัน เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ห้ามพลาด มารยาริษยา

เลือดหงส์

เลือดหงส์

เลือดหงส์

เรื่องราวของสาวสวยตระกูลผู้ดีที่วัยเด็กนั้น เธอถูกสลับสับเปลี่ยนให้ไปเป็นลูกของแม่ที่มีฐานะยากจน ในทางกลับกันหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ที่แม่ของเธอมุ่งมั่นให้ไปเติบโตในตระกูลผู้ดี ต่อมาวันเวลาก็พิสูจน์ให้เห็นว่า น้ำฝน แม้ว่าจะเจอกับสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ก็ไม่ลบกลืนสายเลือดแห่งความเป็นหงส์ของเธอได้ ผิดกับ อพัชชา ที่จิตใจเธอมีแต่ความอิจฉาริษยา แม้ว่าจะได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีเพีงไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนจิตใจเธอได้

บทโทรทัศน์ กษิตินทร์ แสงวงศ์ / ดวงทิพย์ ยุวชิต / เวฬุรีย์ เมธาวีวินิจ
กำกับการแสดง กิตติ บุญสกุลศักดิ์
อำนวยการผลิต ถกลเกียรติ วีรวรรณ
ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.20 น.
ออกอากาศ : ละครช่อง5, ละครปี 2544

 

นักแสดงนำ :
สันติภาพ สุวรรณพิมพ์, น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์, ราศี วัชราพลเมฆ, ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ 

ที่บ้านพักตากอากาศกาญจนบุรี นารี (อรัญญา นามวงศ์) สะใภ้หม้ายของตระกูล ไกรศุภวรรณ เจ้าของกิจการโรงแรมและรีสอร์ท ในอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย เกิดปวดท้องคลอดขึ้นมากะทันหัน หมอตำแยจากหมู่บ้านใกล้ ๆ มาทำคลอดให้ นารีคลอดลูกสาวแล้วหมดสติไป แก้ว (ณัฐินี สิทธิสมาน) สาวใช้ต้นห้องผูกขวัญเด็กด้วยสร้อยข้อเท้าที่ย่าอนงค์(วิไลวรรณ วัฒนพานิช) ย่าของเด็กฝากมาด้วย แต่เด็กก็ยังร้องให้ไม่หยุด

หมอตำแยเพิ่งทำคลอดหญิงสาวในหมู่บ้านเมื่อตอนกลางวัน จึงให้แก้วไปจ้างหญิงผู้นั้นมาให้นมเด็กชั่วคราว สาวชาวบ้านคนนั้นคือ สร้อย (จารุณี สุขสวัสดิ์)  เธอไม่รู้ว่าจะเลี้ยงลูกให้รอดชีวิตได้หรือไม่ แต่สร้อยก็ยอมไปช่วยนารีเพราะเห็นแก่เด็ก

ระหว่างที่สร้อยให้นมลูกสาวนารีเพียงลำพัง ความคิดหนึ่งก็ผ่านมาในหัวของสร้อย เธอตัดสินใจเปลี่ยนลูกของเธอกับลูกของนารี ยี่สิบสองปีผ่านไป ลูกสาวของสร้อยเติบโตขึ้นท่ามกลางความเพียบพร้อมในทุก ๆอย่าง นารีตั้งชื่อให้เธอว่า อพัชชา (ออแกน ราศี วัชราพลเมฆ) เพราะการเลี้ยงดูอย่างเต็มใจ ทำให้อพัชชาเป็นคนเอาแต่ใจตนเองใครขัดขืนใจไม่ได้ ซึ่งทั้งครอบครัวก็รู้นิสัยของเธอดี

ในครอบครัวของนารียังมี ย่าอนงค์ แม่สามีของนารี ที่แม้จะเกษียณตัวเองจากธุรกิจทั้งหลายแล้ว แต่ทุกคนก็ยังให้ความเคารพนับถืออยู่ ส่วนรสิน (ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) และบารมี (กอล์ฟ กริช หิรัญพฤกษ์) ลูกชายของนารี เมื่อโตขึ้นมาก็มีนิสัยต่างกันมาก บารมีคนน้องมีนิสัยขี้โอ่ เจ้าชู้ ชอบเล่นการพนัน ส่วนรสินคนโตนั้น เป็นคนสุภาพและอบอุ่น รสินชอบงานศิลปะมากกว่างานบริหารโรงแรม แต่ในฐานะกรรมการผู้จัดการโรงแรมของครอบครัว เขาก็ไม่เคยทำให้งานเสียหาย เพราะเขามีกฤติกานต์ (ติว สันติภาพ สุวรรณพิมพ์) ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงกาญจนา (ปิยะมาศ โมนยะกุล) ผู้มีชื่อเสียงในวงสังคมชั้นสูงเป็นเพื่อนสนิท

กฤติกานต์ทำหน้าที่ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม คอยดูแลทุกอย่างให้ และดูเหมือนจะได้เป็นเขยของตระกูลไกรศุภวรรณ ถ้ากฤติกานต์ยอมรับนิสัยเสียๆ ของอพัชชาได้ ส่วนอพัชชานั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบกฤติกานต์ ทางด้านน้ำฝน (บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) ลูกสาวที่แท้จริงของนารีที่สร้อยนำไปเลี้ยงนั้นกลับมีชีวิตที่ยากลำบาก แม้เธอจะเรียนจบปริญญาตรีการโรงแรมจากวิทยาลัยในจังหวัด แต่ระหว่างรองานเธอก็ช่วยสร้อยขายข้าวแกงอยู่ในตลาด

วันหนึ่งแก้วซึ่งบัดนี้ทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัวของนารี เดินทางมาที่กาญจนบุรี เพื่อดูแลเรื่องการขายบ้านพักตากอากาศ แก้วได้พบกับสร้อย ทั้งสองดีใจมาก โดยเฉพาะสร้อยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้พบลูก ในขณะนั้นเองเกิดไฟไหม้ในละแวกที่พักของสร้อย เพลิงได้เผาพลาญทุกอย่างจนหมดสิ้น ทั้งสร้อยและน้ำฝนไม่มีที่จะไป แก้วสงสารสร้อยมาก เธอให้สร้อยพาลูกสาวไปอยู่กับนารี สร้อยลังเล แต่เมื่อได้ยินแก้วพูดว่า อพัชชาจะแต่งงานและออกเรือนไปเร็ว ๆ นี้

สร้อยตัดสินใจตามแก้วไป เพราะหวังจะได้เห็นคู่ชีวิตของอพัชชาลูกสาวแท้ ๆ ของตน แก้วพาสร้อยและน้ำฝนมาที่บ้านของนารี และขอให้นารีจ้างสร้อยแทนแม่ครัวคนเก่าที่ทนฤทธิ์อพัชชาไม่ไหว ทันที่ที่นารีได้เห็นหน้าน้ำฝนเธอก็รู้สึกประทับใจอย่างประหลาด เธอยินดีรับน้ำฝนไว้และสร้อยกับน้ำฝนไปอยู่ที่เรือนคนใช้ การมาถึงของสร้อยและน้ำฝนสร้างความรู้สึกต่างกันไป สำหรับสมาชิกในครอบครัวของนารี

อพัชชาไม่ชอบน้ำฝน เธอมองว่าฝนชอบประจบแม่เธอมากเกินไป และอพัชชายังรำคาญสร้อยที่ชอบมาคุยกับเธอและ แอบมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ ฝ่ายลูกชายทั้งสองของนารี ต่างก็มีความรู้สึกของน้ำฝนแตกต่างกัน รสินถูกชะตาน้ำฝนมาก เขารู้สึกว่าน้ำฝนจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีของเขาได้ แต่บารมีกลับพึงใจในตัวน้ำฝนถึงขนาดต้องการให้น้ำฝนมาเป็นของเขา

ส่วนน้ำฝนเองก็ประทับใจในความสุภาพและอบอุ่นของรสิน แต่ตลอดเวลาเธอก็จะถูกสร้อยห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายในครอบครัวนี้ น้ำฝนเข้าใจว่าสร้อยคิดถึงความแตกต่างกันในฐานะตนกับคนในตระกูลใหญ่แต่สร้อยรู้ดีว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร ด้วยความเป็นคนที่มีจิตใจงาม จึงทำให้ทุกคนจะพึงใจในตัวน้ำฝนมากขึ้นจนอพัชชาเก็บความอิจฉาริษยาไว้ไม่ได้

เธอเริ่มหาวิธีกลั่นแกล้งน้ำฝน จนถึงขนาดแกล้งผลักตกน้ำ เคราะห์ดีที่กฤติกานต์เข้ามาช่วยไว้ทัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ สร้อยเข้าข้างอพัชชาลูกสาวแท้ๆ ของเธอ ดุด่าน้ำฝน ส่วนนารียุติปัญหานี้ ด้วยการให้น้ำฝนไปทำงานที่โรงแรม ไม่ต้องอยู่ที่บ้าน แต่นั่นกลับทำให้กฤติกานต์เห็นความดีในตัวน้ำฝนที่รักแม่มาก และไม่ยอมตอบโต้อพัชชาเพราะเห็นแก่แม่

กฤติกานต์เริ่มรู้สึกดีๆกับน้ำฝน ด้านน้ำฝนเอง เมื่อได้ใกล้ชิดกฤติกานต์มากขึ้น เธอก็เริ่มหวั่นไหวในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา แต่เพราะไม่ต้องการมีปัญหากับอพัชชา เธอจึงได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้ข้างใน ด้านบารมีหลังจากเพียรจีบน้ำฝนอยู่นาน แต่น้ำฝนไม่ยอมเล่นด้วย บารมีตัดสินใจแอบใส่ยานอนหลับให้น้ำฝนกิน และตั้งใจพาไปข่มขืนที่โรงแรม แต่รสินก็เข้ามาช่วยน้ำฝนไว้ทันพี่น้องต่อสู้กัน บารมีชกรสินล้มลงและหมดสติไป ทั้งบ้านตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

รสินถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่า รสินมีเนื้องอกในสมองที่ร้ายแรง กฤติกานต์ขอร้องหมอไม่ให้บอกใคร แม้แต่ตัวรสินเองส่วนตัวเขาตัดสินใจว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนของเขามีความสุข ก่อนจะถึงวาระสุดท้าย ส่วนบารมีหลังจากเกิดเรื่อง เขาก็ไม่สามารถเข้าหน้าน้ำฝนได้อีก เขาหันมาเที่ยวเตร่และติดการพนันอย่างหนัก กฤติกานต์พยายามผลักดันให้น้ำฝนรับหน้าที่ดูแลรสิน แม้ว่าน้ำฝนยินดีทำอยู่แล้ว แต่ความเจ้ากี้เจ้าการของกฤติกานต์ก็ทำให้น้ำฝนคิดไปว่า กฤติกานต์ไม่ได้คิดอะไรกับเธอ

อย่างไรก็ตาม การที่ทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกันช่วยดูแลรสิน ทำให้อพัชชาไม่พอใจ และคิดไปว่าน้ำฝนพยายามแย่งกฤติกานต์ของเธอ อพัชชาจึงคิดหาทางกลั่นแกล้งน้ำฝนอีก วันหนึ่งเมื่อเธอเห็นน้ำฝนเอาเครื่องเพชรของคุณย่างอนงค์มาทำความสะอาด อพัชชาขโมยเครื่องเพชรนั้นออกมาและให้บารมีเอาไปขายใช้หนี้ส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือเอาไปซ่อนในห้องน้ำฝน

เมื่อย่าอนงค์พบว่าเครื่องเพชรหายจึงแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่พบเครื่องเพชรส่วนหนึ่งอยู่ที่น้ำฝนน้ำฝนจึงถูกตำรวจจับ สร้อยรู้ดีว่าเป็นฝีมือของอพัชชาจึงไปขอร้องให้ช่วย แต่อพัชชากลับให้สร้อยปรักปรำน้ำฝนเพื่อพิสูจน์ความรักที่มีต่อเธอ สร้อยจึงทำเป็นดุด่าว่าน้ำฝน แต่สุดท้ายรสินก็ยื่นมือเข้ามาช่วยประกันตัวน้ำฝนออกมาจนได้ ทำให้สร้อยรู้สึกโล่งใจที่เธอไม่ทำร้ายน้ำฝนมากไปกว่านี้

ทางด้านอพัชชาพอรู้ว่าน้ำฝนหลุดคดีมาได้ ก็โกรธมาก เธอด่าว่าสร้อยอย่างรุนแรงพร้อมกับถีบสร้อยจนหกล้ม สร้อยเพิ่งแน่ใจเดี๋ยวนี้เองว่าลูกสาวแท้ ๆ ของเธอเป็นคนอย่างไร อพัชชาขู่สร้อยไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่เธอไม่รู้ว่า แก้วแอบได้ยินเรื่องทั้งหมด แก้วตั้งใจจะมาถามน้ำฝนเรื่องสร้อยที่ตั้งใจเข้าข้างอพัชชา ทำร้ายลูกตัวเองแต่น้ำฝนไม่อยู่ที่ห้อง ด้วยความบังเอิญ แก้วเห็นห่อสร้อยข้อเท้าเด็กตกอยู่ จึงเปิดออกดู แล้วแก้วก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นสร้อยข้อเท้าที่เธอเป็นคนใส่ให้ลูกสาวของนารีเมื่อยี่สิบสองปีก่อน แก้วพอจะสรุปอะไรได้บ้างแล้ว

ในงานดนตรีการกุศล ขณะที่อพัชชากำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยการประกาศหมั้นของเธอและกฤติกานต์จากคุณหญิงกาญจนา แก้วก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับสร้อย แก้วเอาสร้อยข้อเท้าออกมา แล้วถามความจริงต่อหน้าอพัชชา สร้อยสารภาพว่าอพัชชาเป็นลูกแท้ ๆ ของเธอ อพัชชาไม่ยอมเชื่อและไม่พอใจมาก

ขณะที่แก้วคิดจะนำเรื่องนี้ไปบอกนารีและคุณหญิงกาญจนาให้รู้เรื่อง อพัชชายอมไม่ได้ที่จะถูกยกเลิกงานหมั้น เธอจึงกำจัดแก้วไปให้พ้นทาง โดยออกอุบายว่ามีคนร้ายเข้ามาในห้องและบุกเข้ามาขโมยของในงานแล้วฆ่าแก้วปิดปาก ทั้งงานเกิดโกลาหล ในที่สุดคุณหญิงก็ไม่ได้ประกาศงานหมั้นของกฤติกานต์กับอพัชชา ตำรวจสับสนไม่รู้ว่าใครเป็นฆาตกร พบแต่หลักฐานสร้อยข้อเท้าเด็ก ซึ่งมีเพียงย่าอนงค์คนเดียวเท่านั้นที่จำได้

รุ่งขึ้นย่าอนงค์พยายามซักไซ้อพัชชา จน อพัชชาพลั้งมือผลักย่าตกบันได ย่าอนงค์ได้รับความกระทบกระเทือนที่สมองจนถึงขั้นพิการ และไม่สามารถพูดได้ ส่วนอพัชชาก็เริ่มผิดปกติมากขึ้น เธอเกิดอาการหวาดระแวงทุก ๆ คน อพัชชาระแวงย่าและสร้อยที่กุมความลับทั้งหมดไว้ แต่ก็ยังคิดหาทางกำจัดไม่ได้ เธอจึงแกล้งทำดีกับทุกคนโดยเฉพาะสร้อย

นารีพยายามยุติปัญหาในบ้านด้วยการให้รสินแต่งงานกับน้ำฝน ก่อนที่รสินจะให้คำตอบใด ๆ อาการป่วยของเขาก็กำเริบขึ้นมา ในที่สุดทุกคนก็รู้ความจริงว่ารสินป่วยเป็นโรคอะไร และมีเวลาเหลืออีกเท่าไหร่ ดังนั้นการแต่งงานของเขากับน้ำฝนจึงจำเป็นต้องยกเลิกไป แต่อพัชชาไม่ยอมยกเลิกแค่นั้น เธอยุให้นารีจับน้ำฝนแต่งงานกับบารมีแทน เพื่อให้บารมีกลับใจเป็นคนดี โดยขอร้องกฤติกานต์ให้เป็นคนเกลี่ยกล่อมน้ำฝน

น้ำฝนโกรธมากที่ทุกคนเห็นเธอที่เป็นสิ่งของ เธอจึงตัดสินใจหนีไปอยู่ต่างจังหวัด แต่กฤติกานต์ก็ตามเธอพบจนได้ กฤติกานต์พยายามเกลี้ยกล่อมน้ำฝนอีกครั้ง จนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ในที่สุดกฤติกานต์ก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหว เขาเข้าปลุกปล้ำน้ำฝน รุ่งขึ้นกฤติกานต์พาน้ำฝนกลับมาถึงบ้าน น้ำฝนประชดกฤติกานต์ด้วยการยอมแต่งงานกับบารมี

สร้อยไม่รู้จะทำอย่างไร จึงแอบไประบายเรื่องของน้ำฝนและอพัชชาให้ย่าอนงค์ฟัง จนต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าย่าอนงค์สามารถพูดได้บ้าง อพัชชารู้ข่าวก็ตกใจ เธอแอบออกจากบ้านเพื่อจะไปจัดการกับย่าอนงค์ สร้อยเองเมื่อรู้เรื่องก็กลัวความลับของตัวและลูกจะเปิดเผย สร้อยจึงไปโรงพยาบาลเหมือนกัน

รายชื่อนักแสดง เลือดหงส์
1. สันติภาพ สุวรรณพิมพ์ รับบท กฤติกานต์
2. น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ รับบท น้ำฝน
3. ราศี วัชราพลเมฆ รับบท อพัชชา
4. ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท รสิน
5. กริช หิรัญพฤกษ์ รับบท บารมี
6. จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบท สร้อย
7. อรัญญา นามวงศ์ รับบท นารี
8. วิไลวรรณ วัฒนพานิช รับบท ย่าอนงค์
9. ปิยะมาศ โมนยะกุล รับบท กาญจนา
10. ฉันทนา กิตติยพันธ์ รับบท สวาท
11. ณัฐิณี สิทธิสมาน รับบท แก้ว
12. สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ รับบท มิ้นท์
13. ไอริน ศรีแกล้ว รับบท จอย
14. ยอดชัย ภัยขยาด รับบท โจ
15. ไกลลาศ เกรียงไกร รับบท เขียว

เลือดขัตติยา

เลือดขัตติยายโสธร ประเทศเล็ก ๆ ในหุบเขาแถบเอเชียกลาง ประชาชนอยู่อย่างสงบสุขภายใต้การปกครองของเจ้าหลวงและองค์ราชินี โดยมีมกุฎราชกุมารที่อ่อนโยนอย่าง สิทธิประวัติ เจ้าหญิงรัชทายาทอันดับสองอย่างแขไขจรัส และเจ้าหญิงองค์น้อยสุด ทิพยรัตน์ดารากุมารี ธิดาของเจ้าหลวงองค์ก่อน หากแต่เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ และพระเจ้าอาขึ้นครองบัลลังก์แทน ดารากุมารีต้องย้ายจากวังหลวงมาพำนักที่ตำหนักหลังเล็กกับพระมารดา พระองค์หญิงภาณุประภัส ผู้ซึ่งพยายามเคี่ยวเข็ญอบรมพระธิดาอย่างที่สุด โดยแอบหวังว่าสักวันดารากุมารีจะได้ครองมงกุฎราชินีแห่งยโสธร

แต่ความหวังของภาณุประภัสต้องพบอุปสรรค เพราะแขไขจรัสก็หวังตำแหน่งนี้เช่นกัน นันทวดี ก็ส่งเสริมลูกสาวเต็มที่ หากแต่สิทธิประวัติกลับเบื่อนิสัยเรื่องมากจุกจิกของเธอ และกลับมาชื่นชมความเฉลียวฉลาดเข้มแข็งเกินเด็กของดารากุมารีแทน และตัวสิทธิประวัติก็ต้องพึ่งพาเจ้าหญิงองค์น้อยอยู่เสมอในเรื่องของการเรียน ดารากุมารีจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของสิทธิประวัติ โดยที่มกุฎราชกุมารหนุ่มไม่รู้สึกตัว ดารากุมารีเบื่อหน่ายชีวิตในวัง จึงแอบหนีไปเที่ยวที่เกาะกลางทะเลสาบตามลำพัง และที่นี่เองทำให้ได้พบกับอโณทัย เด็กหนุ่มผู้เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวทั้งคู่ถูกชะตา และกลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันอย่างรวดเร็ว โดยอโณทัยรู้แต่ว่าเธอชื่อ ดารา

เพื่อหวังให้ลูกชนะแขไขจรัส ภาณุประภัสขอให้อินทร นักวิชาการผู้รอบรู้มาเป็นพระครูสอนการปกครองให้ดารากุมารี แต่เธอทำฤทธิ์เดชเพราะไม่ต้องการเรียนวิชานี้ แต่อินทรใช้ความใจเย็น จนเจ้าหญิงยอมเป็นลูกศิษย์ที่ดี และรับการถ่ายทอดวิชาจากเขาไปได้เต็มที่ โดยไม่รู้สึกพระองค์เลย ทางนันทวดีก็ไม่น้อยหน้าขอให้ วิกรม มาช่วยสอนแขไขจรัส วิกรมอยากเอาชนะอินทรมานาน จึงยอมรับสอน และกลายเป็นที่ปรึกษาของนันทวดี

อโณทัยได้เรียนทหารอย่างที่ตั้งใจไว้ ดารากุมารีดีใจมากที่เพื่อนรักได้เป็นทหาร อโณทัยแต่งตั้งเธอให้เป็นพลทหารลูกน้องเขา แต่ดาราบอกว่าเธอจะเป็นราชินีปกครองทหารต่างหาก อโณทัยจึงสัญญาตามประสาเด็กหนุ่มว่าวันใดที่เธอได้เป็นราชินี เขาจะเป็นผู้คุ้มครองราชบัลลังก์ให้

ในวันที่อายุครบยี่สิบ ดารากุมารีได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทอันดับสาม อโณทัยมาร่วมงานด้วยในฐานะทหารรักษาพระองค์จึงได้รู้ว่าความจริง สาวน้อยดาราที่เขาหลงรักนั้นแท้จริงเป็นเจ้าหญิงน้อยแห่งยโสธร ชายหนุ่มจึงทำตัวเหินห่าง ดารากุมารีพยายามง้อต่าง ๆ นา ๆ จนทำให้อโณทัยรู้ว่เธอเป็นแค่ดาราของเขาเสมอ อโณทัยจึงมุ่งมั่นที่จะเอาดี และก้าวหน้าในการงานให้ได้ เพื่อหวังจะได้มียศศักดิ์คู่ควรกับเจ้าฟ้าหญิงทิพยรัตน์ดารากุมารี

สิทธิประวัติเมื่อได้เห็นดารากุมารีในชุดเต็มยศก็ตกตะลึง และพึ่งรู้องค์ว่าที่แท้แอบหลงรักญาติผู้น้องมาตลอด และรู้องค์เองว่าไม่อาจแต่งงานกับผู้หญิงอย่างแขไขจรัสได้ ด้วยความอ่อนแอของสิทธิประวัติ เมื่อได้พบอโณทัย มกุฎราชกุมารจึงชื่นชมในความเข้มแข็งของเขา ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนรัก อโณทัยได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว จนได้เป็นผู้บัญชาการทหารมหาดเล็ก และเป็นที่ปรึกษาของสิทธิประวัติ ดารากุมารีดีใจในความก้าวหน้าของชายที่รักมาก ส่วนตัวเธอก็พยายามที่จะดำรงตัวเป็นแค่เจ้าหญิงน้อย เพื่อหวังว่าจะให้อโณทัยจะได้เอื้อมถึง

ในหมู่ประเทศใกล้เคียงกับ ยโสธรคิดรวมตัวเป็นสมาพันธรัฐ เขมรัฐคิดเป็นผู้นำสมาพันธ์ แต่ติดที่ยโสธรซึ่งเป็นประเทศที่ทุกฝ่ายเกรงใจ ไชยันต์ เจ้าชายแห่งเขมรัฐหวังจะครอบงำยโสธรด้วยการแต่งงานกับเจ้าหญิงรัชทายาท ไชยันต์จึงเดินทางมายโสธร เมื่อได้พบดารากุมารี ไชยันต์หลงรักในความงามและความฉลาดของเธอทันที แขไขจรัสเองสนใจในมงกุฎราชกุมารแห่งเขมรัฐ พยายามจะโชว์ตัวเองทุกรูปแบบ แต่ไช่ยันต์กลับเบื่อหน่ายแทนที่จะชื่นชม และทุกคนที่ยโสธรรู้ว่าการมาของไชยันต์ครั้งนี้เพื่อจะเลือกเจ้าสาวระหว่าง แขไขจรัสกับดารากุมารี

อโณทัยต้องยอมรับความจริงว่าเขาไม่มีวัน เอื้อมถึงดาวที่รักได้แล้ว เพราะดารากุมารีมีแค่สองทางเลือก คือจะแต่งงานกับไชยันต์หรือสิทธิประวัติ แต่ไม่ใช่กับอโณทัย แม้ดารากุมารียืนยันว่าเธอจะไม่แต่งงาน แต่อโณทัยรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เขาต่างหากที่ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้หญิงที่รัก และคนที่เขาจะวางใจมอบเธอให้ได้คือ สิทธิประวัติ ไม่ใช่ไชยันต์ที่ใช้สมองมากกว่าหัวใจ

ที่ประชุมของเขมรัฐมีมติให้ไช ยันต์แต่งงานกับแขไขจรัส เนื่องจากเธอมีสิทธิ์ในบัลลังก์ของยโสธรมากว่าดารากุมารี แม้จะรักดารากุมารี แต่ไชยันต์ก็ต้องทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เขมรัฐจึงส่งคณะทูตมายโสธรเพื่อสู่ขอแขไขจรัส แต่หลังจากการแต่งงานแขไขจรัสจึงได้รู้ว่าเธอเป็นแค่หุ่นเชิดตัวหนึ่งเท่า นั้น ไชยันต์ไม่ได้รักเธอเลยหากใจเขาได้มอบให้ดารากุมารีแล้ว ด้วยความผิดหวังทำให้แขไขจรัสหันมาพาลโกรธ และอาฆาตดารากุมารีที่ทำให้เธอต้องตกนรกทั้งเป็น

สิทธิประวัติไม่ กล้าจีบดารากุมารีเพราะความอาย จึงขอให้อโณทัยช่วย อโณทัยต้องจำใจทำอย่างขมขื่น ดารากุมารีทั้งน้อยใจและโกรธอโณทัยที่พยายามยัดเยียดเธอให้คนอื่น อโณทัยบอกว่าเขาพยายามจะวางเธอไว้ในที่ที่ดีที่สุดต่างหาก ทั้งคู่ต้องทำเหินห่างกัน ทั้งที่ในใจยังรักกัน

ภาณุประภัสดีใจที่ เจ้าหลวงทาบทามดารากุมารีให้สิทธิประวัติ แต่เจ้าหญิงองค์น้อยกลับไม่สนใจ อินทรกับพระนมต้องเกลี้ยกล่อมให้เธอยอมรับความจริง ทางราชสำนักก็ออกหมายกำหนดการอภิเษกระหว่างสิทธิประวัติกับดารากุมารี อโณทัยขอให้ดารากุมารีเลิกติดต่อและลืมเขา แต่เจ้าหญิงองค์น้อยกลับบอกว่าทำไม่ได้ เพราะเขาจะอยู่ในใจเธอตลอดไป อโณทัยได้แต่ขมขื่น

ก่อนจะถึงพิธีอภิเษก สิทธิประวัติเริ่มล้มป่วย ดารากุมารีต้องมาดูแลพระคู่หมั้น ยิ่งได้เห็นอโณทัยก็ยิ่งรู้องค์ว่าไม่มีวันแต่งงานกับชายคนอื่นได้ ดารากุมารีแอบดักพบอโณทัย และบอกให้เขาได้รู้ความจริงข้อนี้ สิทธิประวัติแอบเห็นทั้งสอง จึงได้รู้ว่าหญิงที่อโณทัยเคยบอกว่ารักจนหมดหัวใจก็คือ ดารากุมารีนั่นเอง

สิทธิประวัติล้มป่วยอาการหนักลง ก่อนจะตายสิทธิประวัติบอกอโณทัยว่าเขารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว และขอให้อโณทัยช่วยดูแลดารากุมารีด้วย หลังการตายของสิทธิประวัติ เขมรัฐจึงคิดส่งแขไขจรัสมาทวงบัลลังก์ แต่ทางยโสธรรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนั้นเท่ากับเขมรัฐได้ครอบครองยโสธร อโณทัยเสนอให้ยกดารากุมารีขึ้นเป็นมกุฎราชกุมารี องค์เจ้าหลวงเห็นด้วยจึงมีการแต่งตั้งเจ้าหญิงองค์น้อยอย่างเร่งด่วน ดารากุมารีบอกอโณทัยว่าไม่อยากรับตำแหน่งนี้ เพราะทำให้เธอกับเขายิ่งห่างไกลกันมากขึ้น

ไชยันต์กับแขไขจรัสผิดหวังมากเมื่อดารากุมารีได้เป็นรัชทายาท แขไขจรัสบอกแม่ว่าเธอต้องได้บัลลังก์ของยโสธรกลับมา เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะทำให้ไชยันต์หันมารักเธอได้ นันทวดีร่วมมือกับวิกรมวางแผนทำลายดารากุมารี โดยคนแรกที่จะต้องถูกกำจัดคือ อโณทัย เพราะเขามีทั้งอำนาจทางการทหารและการเมือง ทั้งยังเป็นคนที่หนุนหลังดารากุมารีอยู่

วิกรมปล่อยข่าวว่าอโณทัยกับ ดารากุมารีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เพื่อหวังบ่อนทำลาย ไม่ให้ยโสธรได้เป็นผู้นำสมาพันธ์ด้วยพร้อมส่งสีหศักดิ์ มาจับดารากุมารีไปได้ อโณทัยตามไปช่วยและต่อสู้กับสีหศักดิ์อย่างดุเดือด สีหศักดิ์ตายในการต่อสู้และอโณทัยพาดารากุมารีกลับมาได้อย่างปลอดภัย

อโณทัย ส่งคนไปคุมตัวนันทวดี วิกรม และเสนาบดีการคลัง แขไขจรัสขอให้สอบสวนเรื่องความสัมพันธ์ของดารากุมารีกับอโณทัย อโณทัยรู้ดีว่าเขมรัฐคิดใช้เรื่องนี้ทำลายความน่าเชื่อถือของดารากุมารี เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของหญิงที่รัก อโณทัยจึงยอมรับว่าแอบหลงรักดารากุมารี โดยที่เจ้าหญิงน้อยไม่ได้รักตอบเลย และโทษของเขาก็คือการถูกประหาร อโณทัยบอกดารากุมารีว่าดีใจที่หัวของเขาจะช่วยค้ำบัลลังก์ของเธอให้มั่นคงขึ้น และการตายของเขาต้องไม่สูญเปล่า

อินทรขอให้ดารากุมารียอมรับการ ตัดสินใจของอโณทัย เจ้าหญิงน้อยรู้ดีว่าเธอต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเองและเพื่ออโณทัย และชายหนู่มจะต้องไม่ตายคนเดียว ดารากุมารีตัดสินให้ประหารชีวิตเสนาบดีการคลังและวิกรม ส่วนนันทวดีเพื่อเห็นแก่การที่เป็นราชวงศ์จึงลดโทษตายให้ แต่ต้องถูกเนรเทศออกจากยโสธร อโณทัยดีใจที่ดาราของเขาเข้มแข็ง เจ้าหลวงสละราชสมบัติเพื่อรักษาพระสุขภาพ โดยให้ดารากุมารีได้ขึ้นเป็นราชินี อโณทัยขอให้ประหารเขาในวันที่ทำพิธีขึ้นครองราชย์ของเธอ

ในวันประกอบพิธีขึ้นครองราชย์ ทุกคนต้องแปลกใจที่ว่าที่ราชินีองค์ใหม่มาทำพิธีในชุดสีดำ และขณะที่หัตถ์ขาวเอื้อมไปรับมงกุฎราชินีมาสวมให้องค์เองนั้น ก็ได้มีพิธีประหารนักโทษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ราชินีองค์ใหม่สวมมงกุฎทั้งน้ำตา มงกุฎและบัลลังก์ที่แลกมาด้วยหัวของชายที่รัก และพระราชินีทิพยรัตน์ดารากุมารีก็รู้องค์เองว่า นับแต่นี้หัวใจของพระองค์ได้ตายตามอโณทัยไปแล้ว

ผู้กำกับ :  สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์
เขียนบท : วรรณา แต่งพสุเลิศ
บทประพันธ์ : ลักษณวดี

นักแสดงละคร เลือดขัตติยา
เจษฎาภรณ์ ผลดี, พิยดา อัครเศรณี

เลือดเข้าตา

ลือดเข้าตา เป็นเรื่องราวของ ร.ต.ต.พันแสง อัศวโกวิทวัฒน์ นายตำรวจหนุ่มผู้เพิ่งการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง พันแสงเป็นนายตำรวจที่มีอุดมการณ์ แม้พ่อจะไม่เห็นด้วยกับการเป็นตำรวจเนื่องจากทางบ้านมีฐานะ พันแสงเป็นตำรวจที่มีอัธยาศัยดีเป็นกันเองกับนายตำรวจชั้นประทวน จึงไม่เป็นที่ชอบใจของนายตำรวจสัญญาบัตรด้วยกัน อีกทั้งพันแสงยังกล้ากระทำสิ่งที่ถูกต้องในสิ่งที่ตำรวจอื่นไม่ทำ จึงถูกสั่งให้ย้ายจากนครบาลไปประจำสถานีตำรวจดอนสัก ซึ่งเป็นอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งติดกับชายแดนพม่า เมื่อมาถึงพันแสงได้ช่วยชีวิตสารวัตรก้อนเส้าไว้ได้จากการถูกลอบยิง พันแสงคิดว่าสารวัตรก้อนเส้า ผู้เป็นสารวัตรใหญ่ประจำอำเภอ เป็นนายตำรวจและผู้บังคับบัญชาที่ดี แต่แท้ที่จริงแล้ว สารวัตรก้อนเส้าเป็นนายตำรวจที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งอำนาจและลาภยศเงินทอง ซึ่งขัดต่ออุดมการณ์ของพันแสง พันแสงพยายามขัดขวาง ในที่สุด เมื่อ “เลือดเข้าตา” พันแสงจึงต้องลุกขึ้นมาจับปืนสู้กับสารวัตรก้อนเส้า ถึงแม้จะเป็นนายตำรวจยศต่ำกว่าและเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาก็ตาม

เลือกแล้วคือเธอ

นักแสดงละคร เลือกแล้วคือเธอ

มณฑล จิรา
ญดา โชติชูตระกูล
อานัส ฬาพานิช
เอมี่ กลิ่่นประทุม
เจมี่ บูเฮอร์
สุปราณี เจริญผล
นพชัย ชัยนาม, จุรี โอศิริ
อรนภา กฤษฏี
ชนานา นุตาคม
นวลปรางค์ ตรีชิต
พนิดดา นิลรัตน์ฯ

เล่ห์รตี

ชั่วชีวิตหนึ่งของลูกผู้หญิง ใฝ่ฝันที่จะได้เป็นเจ้าสาวในชุดกระโปรงฟูฟ่อง ยืนเคียงข้างผู้ชายที่เธอรักในงานแต่งงานหรูหรา พัทธรินทร์หรือเคท ก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้น แต่แล้วฝันของเธอก็พังทลาย ด้วยฝีมือของคนในครอบครัวที่เธอรัก แต่กระนั้น เธอก็ยังคงแน่วแน่ที่จะเสียสละความสุขเพื่อรักษาครอบครัวของเธอไว้ ความดีและบริสุทธ์ในจิตใจของเธอนี้เองทำให้เธอผ่านพ้นอุปสรรคจนพบรักแท้ และยังทำให้คนรอบข้างของเธอได้พบกับคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เรียกว่า ความรัก แม่ของเคท คือสาวอารมณ์แปรปรวนชื่อ นันทินี หล่อนแต่งงานกับฝรั่ง ตั้งแต่ยังเด็ก แล้วชีวิตคู่ก็ไปไม่รอด หล่อนกลายเป็นแม่ม่ายลูกติด เคทกลายเป็นลูกรักและลูกชังในเวลาเดียวกัน เพราะทุกครั้งที่มองหน้าเคทก็จะทำให้หล่อนนึกถึงความรักที่แสนเจ็บช้ำในอดีต นันทินีแต่งงานใหม่อีกครั้ง กับ พัทธพล ชายผู้ติดการพนันและอ่อนแอ พัทธพลรักเคทอย่างไม่ต้องสงสัย หลายครั้งเคทรู้สึกว่าการเข้าหาพ่อเลี้ยงยังง่ายกว่าการเข้าหาหญิงเจ้า อารมณ์อย่างนันทินี พัทธพลเชื่อว่าความงามของเคทเหมือนดอกไม้โชยกลิ่นหอม จะนำมาซึ่งข้าวของเงินทองให้แก่ครอบครัว จึงพาเคทไปตระเวนถ่ายแบบ ตั้งแต่ยังเรียนมัธยม แต่แม้กระนั้น การเงินของครอบครัวก็ยังมีปัญหา เพราะพัทธพลเล่นการพนันหนักมาก ในที่สุดก็โกงเงินของบริษัทสุทธกานต์ ที่มีหนุ่มนักธุรกิจผู้เคร่งขรึมแฝงความน่ากลัวอย่าง เสกข์ เป็นผู้จัดการ เมื่อพัทธพลหนีหนี้ เคทแและน้องวัยรุ่นทั้งสอง คือ พีรชาติ (พีท) และ ปาลิดา (แพท) ลูกที่เกิดจากพัทธพล ก็พลอยได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย เมื่อถูกกดดันจากเจ้าหนี้ ซึ่งมีนายพลหนุ่มนักการเมืองชื่อ อรรถ อยู่เบื้องหลัง พัทธพลจึงตัดสินใจนำเคทไปขัดดอกไว้กับเสกข์ เนื่องจาก คุณหญิงมาริสา แม่ของเสกข์กำลังมีปัญหาอย่างหนักกับ อิษยา ภรรยาของเสกข์ เพราะอิษยาเป็นคนงก พยายามหาประโยชน์จากตระกูลสุทธกานต์ทุกรูปแบบ และยังมีปัญหาร่างกายอ่อนแอไม่สามารถมีทายาทให้กับครอบครัวได้ พัทธพลตกลงกับมาริสาว่าตนจะพยายามหาเงินมาใช้คืนโดยเร็วที่สุด ถ้าระหว่างนี้หากเคทมีทายาทให้กับครอบครัวสุทธกานต์ได้หนี้สิน 52 ล้านเป็นอันหมดสิ้น เสกข์โมโหและเกลียดชังวิธีใช้หนี้ไร้มนุษยธรรมเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง แม้ภายนอกเขาจะดูเย็นชา ดุดันและห่างเหิน แต่ภายในของเสกข์เป็นคนอ่อนโยน เขาแสวงหาความรักแท้เหมือนคนอื่น แต่ฐานะระดับมหาเศรษฐีของเขามักจะดึงคนที่ไม่จริงใจเข้ามาเสมอ แม้แต่กับอิษยา ภรรยาคนเดียวรักแรกของเขาก็ยังกลายเป็นงูพิษ ความรักครั้งนี้ทำให้เขาไม่เชื่อใจใครอีก ชีวิตคู่ที่ผิดพลาดเพิ่มความเย็นชาให้กับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาริสาจัดการให้เคทมาเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของเสกข์และยังให้เคทไปอยู่บ้านเดียวกันกับเสกข์ เพื่อให้ทั้งสองได้ใกล้ชิดกันตลอดเวลา เสกข์เข้าใจไปว่าเคทเองก็ให้ความร่วมมือกับพัทธพลด้วย จึงพลอยรังเกียจและดูถูกเคท เคทได้รับความขมขื่นอย่างยิ่งยวดในการอยู่กับชายผู้ดุดัน เย็นชาและเกลียดเธอ แต่เธอก็อดทนด้วยความเชื่อว่าพัทธพลและนันทินีจะหาเงินมาไถ่คืนเธอได้ในเร็ว วัน เธอกัดฟันมีชีวิตอยู่เพื่อให้พีทน้องชาย ได้เรียนเภสัชจนจบ และให้แพท น้องสาวใจแตก ได้กลับมาอยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ความเจ็บปวดจากการใช้หนี้ด้วยวิธีพิสดารนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับครอบครัวของเคทเท่านั้น ศตายุ (ปุ๊) หนุ่มสถาปนิกใจร้อนคู่รักเดิมของเคทก็พลอยเจ็บปวดไปด้วย ศตายุอาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ ของเคท เขาสนิทสนมกับเคทตั้งแต่วัยเด็ก แม่ของเขา กรุณา ก็ช่วยดูแลครอบครัวเคทมาโดยตลอด ความรักความผูกพันทั้งปวงแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น ศตายุเข้าไปอาละวาดในคฤหาสถ์ สุทธกานต์ทันทีที่รู้ว่าเคทถูกขายขัดดอก มิใยที่เพื่อนร่วมงานทั้งหลายจะทักท้วง เนื่องจากคฤหาสถ์สุทธกานต์คือลูกค้าคนสำคัญของบริษัทและของศตายุมาก่อนหน้า นี้ ภาคินี สาวเปรี้ยวลูกบุญธรรมของมาริสาคือ คนที่ว่าจ้างศตายุเป็นสถาปนิกตกแต่งห้องเพิ่มเติม แต่ศตายุไม่แคร์ ถึงยังไงเขากับภาคินีก็ไม่ค่อยกินเส้นกันขนาดเคยขว้างแจกันใส่หน้ากันมาแล้ว แต่ศตายุชายหนุ่มตัวเล็กๆ หรือจะสู้กับเสกข์ และครอบครัวมหาเศรษฐีสุทธกานต์ได้ เขาจำต้องพ่ายแพ้ กลับไปป่วยเป็นโรคตรอมใจที่โรงพยาบาล เสกข์หมั่นไส้เคทมากขึ้นทุกที เขาสั่งให้เลิกคบกับศตายุโดยเด็ดขาด เคทจึงต้องขอร้องให้ภาคินี ที่บัดนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของเคทไปดูแลศตายุแทน จากคู่กัดที่ซัดกันอย่างถึงพริกถึงขิงจึงกลายเป็นเพื่อน ศตายุยอมรับภาคินีมากขึ้น แต่ภาคินี แอบรักศตายุอย่างถอนตัวไม่ขึ้นโดยไม่บอกใคร อิษยา เจ็บแค้นมาริสาและเสกข์เป็นอย่างยิ่ง เขาพาญาตินำโดยน้องชายวัยรุ่นอันธพาลชื่อเจี๊ยบไปตามรังควานเคทถึงบ้าน แม้เคทได้รับความช่วยเหลือจากภาคินีและเสกข์ แต่หล่อนก็ต้องเจ็บช้ำหนักยิ่งขึ้น เมื่ออิษยาหันมาใช้วิธีสงครามประสาทต่อกรกับเธอ ด้วยการแกล้งยอมรับว่าเธอเป็นเมียน้อย ป่าวประกาศทั้งน้ำตากับสื่อมวลชน จนเคทแทบจะอยู่ในสังคมไม่ได้ นันทินีและพัทธพลพยายาม หาเงินมาใช้หนี้ทุกทาง ในที่สุดพัทธพลก็หวนกลับไปเล่นการพนันที่บ่อนของอรรถอีกครั้ง อรรถจึงขอสิ่งแลกเปลี่ยนเป็นตัวแคท ลูกสาวคนสวยของพัทธพล อรรถยื่นขอเสนอจะเป็นผู้รับช่วงเคทมาจากสุทธกานต์ ถ้าไม่ได้ธุรกิจของสุทธกานต์จะต้องมีปัญหากับตนที่กำลังมีอิทธิพลอย่างสูงใน พรรคการเมือง เสกข์โมโหอย่างยิ่ง แต่เขาก็สู้ไม่ถอยแม้จะรู้ว่าอาจจะหมายถึงความมั่นคงของบริษัทก็ตาม เขาไม่รู้ตัวว่าความสนิทสนมที่ก่อตัวทีละน้อยในขณะที่อยู่กับเคท กำลังจะกลายเป็นความรัก… ความรักที่กำลังจะนำการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือมาสู้ชีวิตของเขา ! เมื่อเสกข์ไม่ยอมอรรถ นั่นหมายความว่าเขาต้องเข้าไปรับผิดชอบหนี้สินที่เพิ่มขึ้นให้กับพัทธพล แพทน้องสาวใจแตกเห็นช่องทางจึงเสนอตัวเข้ามาขัดดอกกับเสกข์อีกคน เพื่อหวังเงินทองและชีวิตที่สุขสบาย อิษยากระโจนเข้าหาแผนการนี้ทันที หล่อนจะใช้แพทผู้โง่เขลาเป็นเครื่องมือ เคทเจ็บปวดมาก และแอบมองเสกข์เงียบ ๆ ว่าเขาจะทำอย่างไร เสกข์หนีรอดจากแผนการจับทำสามีของแพทอย่างหวุดหวิด เขาจัดการให้แพทเข้าไปอยู่ในโรงเรียนประจำ ดัดนิสัยของแพท และเข้ามาจัดการให้พีทได้เรียนต่อ และยังจัดการปกป้อง เคทจากการทุบตีของนันทินี แม่ผู้เจ้าอารมณ์ของเคทอีกด้วย เคทจึงเริ่มประทับใจเสกข์มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ความสัมพันธ์ของเสกข์กับหล่อนจะเป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ก็ตามที อรรถเรืองอำนาจขึ้นในพรรคการเมือง เขาหันมาเล่นงานสุทธานต์อย่างจริงจัง หวังจะเอาชนะชายผู้เย่อหยิ่งอย่างเสกข์และเป็นเจ้าของตัวเคท อรรถให้คนขู่วางระเบิดห้างสุทธกานต์ แหล่งทำเงินสำคัญของครอบครัว หุ้นของสุทธกานต์ร่วงกราวรูด ธุรกิจในเครือเริ่มสั่นคลอนทันที เคทรู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่ง หล่อนให้พัทธพลพาไปหาอรรถ หวังจะเจรจายอมความ แต่เสกข์เข้าใจผิดคิดว่า เคทขายตัวเองให้กับอรรถ คืนนั้นเสกข์จึงเข้าหาเคทและขืนใจจนเคทตกเป็นของเขา! แล้วความประทับใจทั้งหมดก็พังทะลายลง หนุ่มสาวทั้งสองตั้งกำแพงแห่งความหวาดระแวงขึ้นใหม่อย่างแน่นหนา ศตายุรู้ว่าเคทถูกขืนใจ เขาหมดความอดทน ชวนเคทหนีออกมาอยู่ด้วยกัน ภาคินีเจ็บปวดมาก เพราะก่อนหน้านี้หล่อนนอนกับศตายุ ด้วยความเมาของศตายุ แต่ภาคินีก็เก็บความขมขื่นไว้ภายใต้มาดเปรี้ยวและกวนของหล่อน หล่อนยังคงช่วยเหลือศตายุและเคทต่อไป เสกข์ตกอยู่ในสภาพหมดสิ้นทุกอย่าง กิจการย่ำแย่ เคททิ้งไป เขากลายเป็นคนเครียดและเมาเหล้า เขาออกติดตามหาเคทแทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อหาเจอ เขากลับอาละวาด ทำลายข้าวของ และถากถางเคทจนเจ็บปวด นับวันเคทและเขาจะห่างไกลกันทุกที ระหว่างนั้นเคทก็พบความผิดปรกติในร่างกายของตนเอง หล่อนท้อง ท้องกับเสกข์ … เด็กคนนี้ คือคนที่จะมาไถ่ตัวเคทให้เป็นอิสระนั่นเอง นันทินีรับรู้เรื่องดังกล่าว ถึงเวลาที่หล่อนจะทำบางอย่างเพื่อลูกและครอบครัว หล่อนเฝ้าสังเกตเห็นว่าเสกข์รักเคทอย่างจริงใจ หล่อนจึงเข้าไปหาเสกข์ ช่วยให้เสกข์หยุดเหล้า หันกลับมาสู้กับอรรถใหม่ ด้วยวิธีเกลือจิ้มเกลือ ทั้งสองเริ่มแผนเลื่อยขาเก้าอี้อรรถอย่างลับ ๆ ก่อนที่จะดำเนินการ เสกข์ขอเวลาจัดการบางเรื่อง เขาปล่อยข่าวว่าตนเองกำลังจะล้มละลาย เพื่อดูใจอิษยา และเคท อิษยาตัดสินใจเซ็นใบหย่าให้เขาทันที แต่เคทยอมกลับมาปลอบใจเขาฉันท์เพื่อน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ปมในชีวิตของเขาหายไป เขารู้แล้วว่าใครกันแน่ ที่จริงใจกับเขาและครอบครัว เขารู้ตัวเองแล้วว่าเขารักเคท อย่างหมดหัวใจ … แต่เคทยังคงปิดกั้นตัวเองจากเขา เคทยังคอเฝ้ารอเวลาคลอดลูกเพื่อไปจากเขา กลับไปสร้างครอบครัวเดิมตามที่ฝัน เพราะเคทไม่แน่ใจในตัวเสกข์ ความเย็นชาล้ำลึกในตัวเสกข์ กอปรกับความเชื่อที่ว่า เสกข์และหล่อนไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก ทำให้เคทไม่ไว้ใจเสกข์ ในที่สุด เสกข์และนันทินีก็จัดการกับอรรถได้ นันทินีบังคับให้พัทธพลติดกล้องไว้ในคฤหาสถ์ของอรรถ เพื่อถ่ายทำภาพการซื้อบริการเด็กสาววัยต่ำกว่าสิบห้าปี และยังให้พัทธพลเป็นสายให้ตำรวจนำกำลังเข้าทลายบ่อนการพนันของอรรถด้วย ชื่อเสียงของอรรถถูกทำลาย ยับเยินทางหน้าหนังสือพิมพ์ กิจการสุทธกานต์ได้รับการกอบกู้ขึ้นมาใหม่ เมื่อเสกข์จัดการทุกอย่างเรียบร้อย เขาวางแผนที่จะบอกรักและรับตัวเคทกลับมา แต่ก่อนที่จะได้ทำเช่นนั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น… อรรถส่งมือปืนมาดักยิง เสกข์และนันทินีจนบาดเจ็บสาหัส ! ท่ามกลางการเฝ้ารอของและทุกคน นันทินีรอด แต่เสกกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เคทไม่มีวันได้รู้ใจที่แท้จริงของเสกข์ …เวลาผ่านไป หล่อนคลอดลูกออกมาเป็นเด็กชาย หน้าตาน่ารัก หล่อนจำต้องจากไป ทิ้งลูกให้มาริสาดูแลตามสัญญา เสกข์ตื่นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ทันทีที่ได้ยินเสียงลูกอ่อน เขาออกตามหาเคท ด้วยความช่วยเหลือของภาคินี เมื่อเขาพบหล่อน หล่อนยังคงปั้นปึ่งกับเขา เสกข์ครุ่นคิดหาวิธี มีบางอย่างตกหล่อนไปในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แล้วเสกข์ก็รู้ในที่สุด… วันหนึ่งพัทธพลขับรถคันงามติดช่อดอกไม้มารับเคทที่บ้าน เพื่อไปในสถานที่บางแห่ง เมื่อเคทไปถึง จึงพบคฤหาสน์ที่ตกแต่งไปด้วยดอกไม้ ทุกคนที่เธอรู้จักอยู่ที่นั่น รวมทั้งเขา…เสกข์อยู่ในชุดสูทสีเข้ม เขารอหล่อนมาเข้าพิธีเป็นเจ้าสาวของเขา นี่คืองานแต่งงานที่แอบจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ด้วยความร่วมมือของทุกคน เคทดีใจจนน้ำตาคลอ ในที่สุด เสกข์ก็รู้ว่าสิ่งที่เคทต้องการอะไร หล่อนต้องการเกียรติและศักดิ์ศรีที่ถูกทำลายลงไปคืนมา แล้วหล่อนก็เดินเข้าสู่อ้อมกอดของเขา …หล่อนยินดี แต่งงานกับเขา ด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ … ศตายุยอมรับในความพ่ายแพ้ เขารู้แล้วว่าคนที่จริงใจและมอบความรักโดยไม่มีเงื่อนไขให้กับเขา คือภาคินี … พีทเรียนจบเป็นเภสัชกร เขาเป็นร้านทำงานกับแพทที่เปลี่ยนเป็นคนละคน … พัทธพลเลิกการพนันเด็ดขาด เขากลายเป็นคนแก่ที่มีความสุขกับนันทินีและหลานตาตัวน้อย ทุกคนพร้อมใจกันตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่าเพชร เพื่อเป็นตัวแทนจิตใจอันแข็งแกร่งและบริสุทธ์ของผู้ให้กำเนิด คือเคทนั่นเอง

รายชื่อนักแสดง เล่ห์รตี
รัฐศาสตร์ กรสูต รับบทเป็น เสกข์
อลิชา ไล่สัตรูไกล รับบทเป็น พัทธรินทร์ / เคท
ณวัฒน์ กุลรัตน์รักษ์ รับบทเป็น ศตายุ / ปุ๊
กัลยา จิรชัยศักดิ์เดชา รับบทเป็น ภาคินี
ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ รับบทเป็น อิษยา
กาญจนา จินดาวัฒน์ รับบทเป็น นันทินี
สรพงษ์ ชาตรี รับบทเป็น พัทธพล
พิศมัย วิไลศักดิ์ รับบทเป็น มาริสา
ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ รับบทเป็น กรุณา
ตฤณ เศรษฐโชค รับบทเป็น อรรถ
สีดา พัวพิมล รับบทเป็น อาภรณ์
ธีรภัทร แก้วเกษ รับบทเป็น พีรชาติ / พีท
ชมพูนุช ปิยะภาณี รับบทเป็น ปาลิดา / แพท
จอย ชวนชื่น รับบทเป็น กุ๊ก
ศานตมล ปิ่นนัย รับบทเป็น กิ๊ก
อลงกรณ์ สิมะกำธรณ์ รับบทเป็น ชาติ

เล่ห์ภุมเรศ

วรรณจักรกรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ได้เปลี่ยนมือผู้บริหารหลังจากการเสียชีวิต ของประธานบริหาร สุวรรณ วรทิพย์ (ดิลก ทองวัฒนา) มาเป็น ทาทอง หรือ นิด (นุสบา ปุณณกันต์) พี่สาวคนโตที่มีนิสัยจริงจัง เอาการเอางานและเด็ดขาดเหมือนพ่อ โดยมี โรยทอง หรือ น้อย (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) บุตรสาวคนรอง เป็นมือขวาในการบริหาร ทั้งสองคนมีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่ รินทอง หรือ หน่อย (อรจิรา แหลมวิไล) น้องสาวคนเล็กที่เรียบร้อย อ่อนไหวและเป็นแม่บ้านแม่เรือน ความปรองดองของสามพี่น้องเป็นที่ชื่นชมและรับรู้กันดีในวงสังคม ตราบจนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้ชายซึ่งเป็นเสมือนอสรพิษร้ายได้ก้าวเข้ามา…

ภุมเรศ ภมรชัย (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ชายหนุ่มหน้าตาดี มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ทายาทของนายพงศ์ ภมรชัย (มนตรี เจนอักษร) ศัตรูเก่าทางธุรกิจของนายสุวรรณ ผู้เคยพ่ายแพ้ในการฟ้องร้องคดีจนทำให้ครอบครัวภมรชัยต้องล้มละลาย ถึงแม้เหตุการณ์นั้นนายพงศ์จะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ไม่สำนึกกลับเสี้ยมสอนลูกชายให้ผูกพยาบาทตระกูลวรวิทย์ และเมื่อข่าวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนายสุวรรณแพร่สะพัด นายพงศ์จึงสั่งภุมเรศให้ทำหน้าที่ลูกกตัญญู เป้าหมายคือเพื่อทำลายตระกูลวรวิทย์ และทวงความมั่งคั่งกลับคืนมา

ภุมเรศผู้ที่ได้รับการปลูกฝังอย่างผิดๆ มาตลอดชีวิต ได้เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อล้างแค้นในงานบุญ 100 วันของนายสุวรรณ ภุมเรศปรากฏตัวในฐานะลูกชายของเพื่อนเก่าพ่อ ที่มาเคารพศพเพื่อขออโหสิกรรม เขาได้พบกับสามสาวพี่น้อง ด้วยเสน่ห์อันเหนือชั้น เขาได้สร้างความประทับใจแก่ทาทอง หญิงสาวที่แม้จะเจนจัดในเชิงธุรกิจ แต่ก็อ่อนหัดในเรื่องผู้ชาย ทำให้เธอเห็นใจและรับเขาเข้ามาทำงานในวรรณจักร โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของนายชม (สมภพ เบญจาธิกุล) ทนายความเก่าแก่ที่รู้จักตระกูลภมรชัยดี

ในบรรดาสามสาวพี่น้อง โรยทองเป็นคนที่เฉลียวใจในสิ่งที่นายชมพูดมากที่สุด จากการที่เธอพบปะผู้คนมามากมาย ทำให้เธอนึกระแวงถึงเหตุผลในการมาของภุมเรศ และด้วยความสงสัยนี้ โรยทองจึงร่วมมือกับนายชม เพื่อหยั่งเชิงภุมเรศ เริ่มด้วยการยับยั้งความต้องการของพี่สาวที่จะยกตำแหน่งสำคัญในบริษัทให้ โดยโรยทองเสนอให้ภุมเรศลองฝึกงานกับเธอก่อน ซึ่งภุมเรศก็ยอมรับข้อเสนอของเธอแต่โดยดี เพราะถือเป็นโอกาสที่จะได้จัดการกับโรยทองไปในตัวด้วย แต่ด้วยความที่ต้องทำงานใกล้ชิดกันทำให้ภุมเรศรู้ว่าโรยทองนั้นไม่ “ง่าย” อย่างที่คิด ภายใต้รอยยิ้มของเธอคือความรู้เท่ากันในทุกๆ คำพูดของภุมเรศ โรยทองจึงกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ภุมเรศรู้สึกทึ่ง ภุมเรศจึงเป็นฝ่ายที่เกิดติดใจโรยทองโดยไม่รู้ตัว เขานึกอยากเอาชนะเธอเกินเลยไปกว่าหน้าที่ที่จะต้องแก้แค้น เขาจึงงัดลูกไม้สารพัดชนิดมาใช้เพื่อจะเอาชนะใจเธอ และในระหว่างนี้เองที่ทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกที่พิเศษต่อกัน จนเกือบจะทำโรยทองมั่นใจว่าภุมเรศหวังดีต่อวรรณจักรจริง และคิดว่าเขาคือผู้ชายที่เธอจะเชื่อใจได้ แต่แล้วสิ่งที่ภุมเรศไม่ได้คิดและเตรียมใจรับมาก่อนก็เกิดขึ้น

นายพงศ์ พ่อของภุมเรศเกิดล้มป่วยหนักอย่างกระทันหัน จึงเร่งให้เขารีบทำหน้าที่ให้สำเร็จก่อนที่เขาจะตายไป ภุมเรศที่เริ่มหลงใหลไปกับความรักจึงได้สติ สำนึกได้ว่าเขากำลังลืมการแก้แค้น เขาจึงหันไปสนใจทาทอง ผู้กุมอำนาจของวรรณจักรแทน พร้อมกับปฏิเสธกับทาทองว่าเขาไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับโรยทองแม้แต่นิดเดียว และเมื่อเขาสามารถมัดใจทาทองได้แล้วจึงคิดที่จะไปสานต่อความสัมพันธ์กับโรย ทอง แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดังหวัง เพราะทาทองสมนาคุณความรักหลอกๆ ของเขาอย่างเอิกเกริก ทั้งตำแหน่งที่ใหญ่โตและรถราคาแพง ทำให้ภุมเรศหมดหนทางแก้ตัวกับโรยทอง

ด้านโรยทองที่เห็นภุมเรศเกาะชายกระโปรงพี่สาวของเธออย่างไร้ศักดิ์ศรี จึงหมดความเชื่อถือ แม้ลึกลงไปแล้วจะยังมีเยื่อใยหลงเหลืออยู่ก็ตาม โรยทองเริ่มทำตัวห่างเหินพร้อมกับคอยจับตาดูการกระทำของเขาอย่างใกล้ชิด ทั้งยังให้ลุงชมตามสืบประวัติเขาอย่างละเอียดเพื่อหาว่าเขาต้องการอะไรจาก วรรณจักร

ส่วนภุมเรศนั้นที่ยังหวังจะได้ใกล้ชิดกับโรยทอง จึงหลอกล่อให้ทาทองชวนเขาเข้าไปอยู่ที่บ้านวรวิทย์ เมื่อภุมเรศได้เข้าไปอยู่ในวรทิพย์แล้ว ลับหลังทาทองเขาก็พยายามหาโอกาสปรับความเข้าใจกับโรยทอง แต่โรยทองกลับหลบหน้า และเมื่อเขาพยายามมากขึ้น โรยทองก็แก้ปัญหาด้วยการควบ สนิท ลูกค้าของบริษัทมาเป็นเกราะป้องกันใจของตัวเอง แต่ภุมเรศไม่อาจทนต่อแรงหึงภายในใจได้ จึงเกิดมีปากเสียงกับเธออยู่บ่อยๆ

ด้วยความแค้นที่ไม่สามารถควบคุมโรยทองได้อย่างที่คิด ภุมเรศจึงหันกลับไปสู่การแก้แค้นอย่างจริงจังอีกครั้ง เขาเริ่มผูกมิตรกับ ชีวีวัฒน์ (ศราวุธ นวแสงอรุณ) ลูกชายจอมเสเพลของนาชมที่ทำกงานที่วรรณจักรได้ก็เพราะทาทองเมตตา ภุมเรศจึงซื้อเขาด้วยเงิน เพื่อที่จะนำไปสู่การโกงบริษัท

ขณะที่ภุมเรศคบกับทาทองอยู่นั้น ก็แอบมาสร้างความสัมพันธ์กับ รินทอง น้องสาวคนเล็กที่บ้าน แม้รินทองจะรู้ว่าเขาเป็นแฟนพี่สาว แต่ด้วยความอ่อนต่อโลกก็ทำให้เธออดหวั่นไหวไม่ได้ โดยภุมเรศหลอกว่าเขาจะต้องคบกับทาทองเพราะสำนึกบุญคุณเท่านั้น แต่คนที่เขารักจริงๆ คือเธอต่างหาก และด้วยความเจนจัดของภุมเรศ ไม่ช้ารินทองก็ยอมลักลอบคนหากับเขาในที่สุด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ก็ไม่รอดสายตาของ นฤชา (รุ่งเรือง อนันตยะ) ชายหนุ่มที่ดีทั้งหน้าตาและฐานะ เพื่อนบ้านของครอบครัววรทิพย์ ผู้ที่สนิทสนมกับสามสาวพี่น้อง และมีใจรักใคร่ผูกพันอยู่กับรินทองเป็นที่สุด แต่ว่ารินทองไม่เคยมองเขาเกินกว่าคำว่าเพื่อน และเมื่อรินทองมีภุมเรศ เธอจึงยิ่งสลัดรักเขาอย่างไม่ใยดี จนทำให้นฤชาสงสัยในความเปลี่ยนแปลงของรินทอง จึงคอยตามดูและพบว่าทั้งคู่มีอะไรพิเศษที่มากกว่าพี่เขยและน้องเมียอย่างแน่ นอน

นฤชาจึงปรึกษาเรื่องนี้กับโรยทอง เธอจึงไล่เบี้ยกับภุมเรศ แต่เขาไม่ยอมรับทั้งยังหาว่าเธอหึงแทนน้อง ทำให้โรยทองโกรธมากถึงกับลั่นวาจาว่าเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้น้องต้อง เสียคนเพราะเขา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทาทองต้องการจะแต่งงานอยู่กินกับภุมเรศอย่างเปิดเผย เพื่อลบคำติฉินนินทาของคนในบริษัทว่าเธออุปการะผู้ชายไว้ในบ้าน โรยทองจึงถือโอกาสที่รินทองกำลังผิดหวังจากการประกาศแต่งงานของทาทองกับ ภุมเรศนี้ ชวนรินทองย้ายออกไปจากบ้านวรทิพย์กับเธอ

ภุรเรศนึกไม่ถึงว่าโรยทองจะมาไม้นี้และรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่เธอจะหนี ไปจากเขาและยังจะเอาชนะเขาด้วยการพารินทองออกไปอีกคน ขณะที่รินทองยังอ่อนไหวเพราะยังตัดใจไม่ได้นั้น ภุมเรศได้รวบรัดให้รินทองตกเป็นของเขาก่อนวันงานแต่งงานของเขากับทาทองเพียง ไม่กี่วัน ซึ่งภุมเรศนั้นวางแผนอย่างแนบเนียนให้รินทองเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยแอบไปจดทะเบียนกันก่อน แล้วจึงไปแต่งงานอย่างเอิกเกริกกับทาทองโดยการจดทะเบียนสมรสซ้อน เท่านี้ก็เท่ากับเขาจะได้ผู้หญิงถึงสองคนไว้ในกำมือ และถ้าวันใดที่ความจริงปรากฏว่าพี่น้องมีสามีคนเดียวกัน…วันนั้นวรทิพย์จะ ต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แน่นอน

หลังจากที่รินทองตกเป็นของภุมเรศแล้วจึงไม่คิดจะย้ายออกจากบ้านวรทิพย์ อีก โรยทองจึงย้ายออกไปคนเดียว ในวันที่โรยทองย้ายของ สนิทอาสามาช่วย ทำให้ภุมเรศยิ่งหึงจนทนไม่ไหวใช้กำลังบังคับขืนใจเธอ แต่สุดท้ายเมื่อเห็นน้ำตาของโรยทองก็ทำไม่ลง ภุมเรศจึงต้องยอมปล่อยโรยทองให้จากไปอย่างสิ้นหวัง…

เมื่อโรยทองย้ายออกไปแล้ว เธอจับได้ว่ารินทองแอบมีความสัมพันธ์กับภุมเรศ รินทองจึงขู่ว่าห้ามยุ่งเรื่องของเธอ ทำให้โรยทองรู้สึกเสียใจมากที่ต้องเสียน้องสาวให้กับผู้ชายเลวๆ ไปอีกคน

หลังจากแต่งงาน ทาทองคุมภุมเรศแจจนภุมเรศไม่มีเวลาให้กับรินทองอย่างที่เคยรับปากเธอไว้ รินทองจึงประชดภุมเรศด้วยการไปคบหากับ สมาน พี่ชายของสนิทที่มาติดพันเธอ แต่ก็นับว่าได้ผลเพราะภุมเรศหันกลับมาสนใจเธออีกครั้ง โดยไม่กลัวว่าทาทองจะจับได้ โดยที่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วภุมเรศเตรียมแผนการแก้แค้นไว้พร้อมแล้ว ทั้งส่วนแบ่งหุ้นของวรรณจักรที่เขาให้ชีวีวัฒน์กวาดซื้อมาเป็นจำนวนมากใน ชื่อของหลายๆ คน จนทำให้เขาเปลี่ยนจากที่ปรึกษามาเป็นหนึ่งในผู้กุมอำนาจบริหารเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะแยกตระกูลวรรณจักรออกเป็นเสี่ยงๆ

ขณะเดียวกันโรยทองก็เริ่มเอะใจถึงสถานการณ์แปลกๆ ในบริษัท เธอจึงพยายามสืบหาความจริง แต่แล้วก็ต้องพบกับความจริงที่น่าตกใจ โรยทองจะทำอย่างไร เธอจะสามารถแก้ไขทุกอย่างได้ทันเวลาหรือไม่ ติดตามชมความเข้มข้นของละครแนวดราม่า เล่ห์ภุมเรศ

รายชื่อนักแสดง “เล่ห์ภุมเรศ
ณวัฒน์           กุลรัตนรักษ์           รับบทเป็น           ภุมเรศ
นุสบา           ปุณณกันต์             รับบทเป็น           ทาทอง
พิมพ์มาดา       บริรักษ์ศุภกร         รับบทเป็น           โรยทอง
อรจิรา         แหลมวิไล           รับบทเป็น           รินทอง
มนตรี           เจนอักษร           รับบทเป็น           พงศ์
ดิลก           ทองวัฒนา           รับบทเป็น           สุวรรณ
ศราวุธ         นวแสงอรุณ           รับบทเป็น           ชีวีวัฒน์
รุ่งเรือง         อนันตยะ             รับบทเป็น           นฤชา
สมภพ           เบญจาธิกุล           รับบทเป็น           ชม
เมตตา         รุ่งรัตน์             รับบทเป็น           แหวน
สมชาติ         ทรงกลด             รับบทเป็น           ปวิศร์
สุรางคณา       สุนทรพนาเวส         รับบทเป็น           สุวิมล
จอย           ชวนชื่น             รับบทเป็น           พร

ลูกทาส

ลูกทาส เป็นเรื่องราวของ แก้ว ทาสในเรือนของพระยาไชยากร เขาพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อจะพ้นสภาพการเป็นทาส ในยุคแห่งกระบวนการเลิกทาสในสมัยของพระปิยะมหาราช (รัชกาลที่ 5) ในราชวงศ์จักรีที่เริ่มมีการประกาศเลิกทาสและเกษียณอายุลุกทาสในแต่ละช่วงอายุ หากแต่นายเงินของแก้วนั้นไม่ยอมให้ความเป็นไทแก่บรรดาเหล่าทาสในครอบครอง แก้วจึงดิ้นรนและไข่วคว้าอิสรภาพที่เขาสมควรได้ ขณะเดียวกันก็ใฝ่หาความรู้ เพื่อการทำงานหลังจากเป็นไท เพื่อยกฐานะของตนเอง ขณะเดียวกันเขาก็หลงรักคุณน้ำทิพย์ หญิงสาวสูงศักดิ์ที่เป็นแรงใจให้เขามาตลอด และถึงจะเป็นทาสแต่ แก้ว ก็มีความมานะพยายามจนสุดท้ายหลังการประกาศเลิกทาสเขาก็ได้รับตำแหน่งเป็นถึง พระยา