Category Archives: ละครช่อง5

หงส์เหนือมังกร

หงส์เหนือมังกร เป็นเรื่องราวของ หลิว (มาช่า วัฒนพานิช) บุตรีของ ตี๋ซุ้ง (จรัล มโนเพ็ชร) เจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการนักเลงเมืองไทย การเติบโตขึ้นมาท่ามกลางเหล่ามิจฉาชีพ และด้วยการสั่งสอนอบรมของ ตี๋ซุ้ง และเต็งล้อ (นพพล โกมารชุน) ที่ปรึกษาเจ้าพ่อทำให้หลิว แปลกแยกและแตกต่างจากเด็กสาวคนอื่น ๆ ทั้งที่ภายในจิตใจที่เงียบเหงาของเธอนั้นก็ปรารถนาเพียงชีวิตที่เรียบง่าย เหมือนปุถุชนทั่วไป ดั่งหงส์ที่เฝ้าอิจฉาฝูงนกนอกกรงทอง

ในงานฉลองตรุษสารทงานหนึ่ง หลิว อ้อนวอนพ่อจนได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวได้ตามลำพัง ในงานนั้นเธอได้พบกับจางเหา (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) จีนฮ่อผู้มีอดีตอันขมขื่น ภรรยาของเขาถูกเหล่าอันธพาลฆ่าตาย ด้วยความเป็นคนยึดมั่นในเรื่องบุญคุณ ความแค้นทำให้ จางเหาบุกไปสังหารเหล่าอันธพาลตายหมดสิ้น ส่วนตัวเขาก็ลอบหนีเข้ากรุงเทพมาทำงานเป็นคนครัวให้กับเหลา ตี๋ซา (กำธร ทัพคัลไลย) มาเฟียผู้เป็นน้องร่วมสาบานของ ตี๋ซุ้ง จางเหา และ หลิว พูดคุยถูกชะตากันอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเอง เสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่ทำให้ฝูงชน ในงานเกิดความโกลาหลอลหม่าน แต่ก่อนที่กระสุนเหล่านั้นจะปลิดชีวิต หลิวที่ยืนตะลึงอยู่ จากเหา ก็ได้เสียงชีวิตเข้าช่วยเธอไว้เหตุการณ์นี้ทำให้ จางเหา ได้รู้ว่า หลิว เป็นลูกสาวเจ้าพ่อ ตี๋ซุ้ง ผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนหลิว ก็รู้สึกประทับใจในตัว จางเหา

ต่อมา ตี๋ซุ้ง สืบจนรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับ ลูกสาวตนนั้นเป็นประกาศศักดาของ ป๋าเสริฐ (กรุง ศรีวิไล) นักเลงใหญ่ ที่คิดจะทาบรัศมีเจ้าพ่อยังไม่อยากโต้ตอบ ทำให้เขาและ ตี๋ซา ต้องทะเลาะ กันอย่างรุนแรง เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกขึ้นในกุล่ม และส่งผลให้พี่น้องร่วม สาบานต้องแตกหัก ตี๋ซาต้องการกำจัดตี๋ซุ้ง แต่ก่อนที่จะลงมือสำเร็จ หลิวเข้ามาพบเหตุการณ์และเพื่อปกป้องชีวิตพ่อ หลิวจำเป็นต้องชิงสังหารตี๋ซาเสียก่อน การตายของผู้มีพระคุณสร้างความเคียดแค้นให้กับ จางเหาเป็นอันมา เขาสาบานจะต้องกำจัด ตี๋ซุ้ง เป็นการชำระแค้นให้ได้ และหลังจากรอคอย โอกาสมานานในที่สุดจางเหา ก็สามารถบุกเข้าถึงตัว ตี๋ซุ้ง และล้างแค้นได้สำเร็จ

จุดจบของเจ้าพ่อเมื่อหลวงสร้างความตื่นตะลึงไปทั่ววงการ งานศพถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีแขกในวงการนักเองมาร่วมงานมากมาย ทุกคนต่างวิพากษ์จารณ์ถึงอนาคตของแก็งค์ซึ่งขาดหัวหน้า รวมทั้งกังวลกับพฤติกรรมของป๋าเสริฐซึ่งเป็นแก็งค์คู่แข่ง หลังจากงานศพ เต็งล้อ ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมของ ตี๋ซุ้ง เพื่อหาหัวหน้าคนใหม่มาสะสางปัญหาทั้งหมด และแล้วสิ่งที่ไม่มีคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพินัยกรรมของ ตี๋ซุ้ง ระบุให้หลิวเป็นผู้รับช่วงอำนาจ ส่วนตี๊เล็ก (พนมกร ดังทัตสวัสดิ์) ลูกชายคนเดียวของตี๋ซุ้ง กลับไม่ได้อะไรเลย เต็งล้อ เฉลยความลับให้แก่ หลิว ว่าแท้จริงแล้วตี๋เล็ก เป็นลูกของคนร้ายที่บุกเข้ามาข่มขืนเหมย (เดือนเต็ม สาลิตุล) ภรรยาของ ตี๋ซุ้ง ในช่วงที่ตี๋ซุ้งติดคุกอยู่ อันเป็นเหตุให้ ตี๋ซุ้ง เย็นชาจน เหมย ต้องแยกตัวไปถือศีลกินเจอยู่คนเดียว และทำให้ตี๋เล็ก ไม่เคยได้รับความเอาใจใส่จาก ตี๋ซุ้ง แม้แต่น้อย ซึ่งทำให้ ตี๋เล็ก กลายเป็นคนมีปัญหาใจร้อน บ้าระห่ำไม่เคยเกรงกลัวใคร ทว่า เต็งล้อ ไม่ได้ปริปากเล่าเรื่องสำคัญก็คือ คนร้ายที่ว่านั้นก็คือเขานั้นเอง

การขึ้นรับตำแหน่งต่อจาก ตี๋ซุ้ง กะทันหัน สร้างความกังวลใจแก่หลิวเป็นอย่างมาก แต่ด้วยคำขอร้องแกมบังคับของเต็งล้อที่ยกเอาความกตัญญูมาเป็นข้ออ้าง ทำให้หลิวยอมรับ ในวันก่อนรับตำแหน่งนั้นเอง หลิวตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย และตัดหางเปียของตัวเองทิ้งไป ด้วยจิตใจแน่วแน่ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นหงส์เหนือมังกร ให้สมดังเจตนารมณ์ ตี๋ซุ้ง ผู้เป็นบิดา แต่หลิวไม่เชื่อว่าคนที่เธอแอบรักนี้จะเป็นคนฆ่าพ่อ รวมทั้งหลักฐานที่ชี้ชัดก็ไม่มีเธอจึงตัดนิ้วของเขาแทนเพื่อยุติปัญหา แต่นั่นกลับยิ่งทำให้เหล่าลูกน้องมองว่าเธอเป็นเพียงแค่เด็กหญิงใจอ่อนคน หนึ่งเท่านั้น แม้แต่ตี๋เล็กน้องชายก็ไม่พอใจพฤติกรรมของเธอ จนเกิดทะเลาะกันขึ้น และตี๋เล็ก พาพรรคพวกออกไปรุมซ้อมจากเหา จนเกือบตาย

นับตั้งแต่นั้น จางเหาที่ต้องเสียนิ้ว เสียทั้งศักดิ์ศรี และเกือบต้องเสียชีวิต ทำให้เขาผูกใจอาฆาตหลิว และหอบความแค้นเหล่านี้ไปหลบซ่อนตัวเพื่อรอวันล้างแค้น การที่หลิว ไว้ชีวิตจางเหา ทำให้คนในพรรคไม่ยำเกรงเธอการปกครองจึงระส่ำระส่าย ทำให้ป๋าเสริฐ ยิ่งเหิมเกริมแผ่ขยายอำนาจกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนตี๋เล็ก มีหน้าที่ดูแลบ่อนหมดความอดทน ลงมือสังหารลูกชายของ ป๋าเสริฐ จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ หลิวต้องขอความช่วยเหลือจาก เวคิน (มานพ อัศวเทพ) นักการเมื่อผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของป๋าเสริฐให้ช่วย เจรจายอมความ แต่เธอกลับต้องถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี เมื่อเวคิน ยื่นเงื่อนไขให้เธอพลีตัวแลกเปลี่ยน หลิวจำยอมรับปากเพื่อรักษาชีวิตน้องชาย หากแต่เธอก็ผูกใจเจ็บ เวคินมานับแต่วินาทีนั้น ซึ่งสร้างความอึกอัดให้แก่ เต็งล้อ เป็นอันมาก เพราะเต็งล้อกำลังวางแผนจะหักหลังหลิวและอาศัยเวคิน เป็นบันไดก้าวขึ้นเป็นใหญ่เสียเอง

ทางด้านจางเหา เมื่อเริ่มทุเลาจากอาการบาดเจ็บก็เริ่มหัดใช้ปืนมือซ้าย และส่งเก๊า ลูกน้องคนสนิทเขาไปเป็นสายสืบในบ้านของหลิว เพื่อเตรียมล้างแค้น แต่เก๊ากลับมารายงานว่า ที่หลิวต้องตัดนิ้วของจางเหา ก็เพื่อรักษาชีวิตของเขา ฝ่ายเวคิน หลังจากเจรจากับ ป๋าเสริฐ สำเร็จก็ทวงสัญญากับหลิว อย่างอุกอาจ ทำให้หลิวตัดสินใจสั่งให้เต็งล้อส่งคนไปสังหาร เวคินหลังจากใคร่ครวญแล้ว เต็งล้อเห็นว่าการมี หลิว เป็นหุ่นเชิดนั้นเป็นประโยชน์ ต่อตนมากกว่าเต็งล้อจึงจัดการสังหารเวคินเสีย

การสังหาร เวคินกลายเป็นบทเรียนแรกที่ทำให้หลิวได้รู้จักการใช้อำนาจของเธอ เพราะการตายของ เวคินทำให้คนในพรรคยอมศิโรราบต่อเธอมันกลายเป็นจุด ที่เปลี่ยนให้เธอมีความเชื่อมั่น กลายเป็นหงส์ที่ทะยานสูงไม่แพ้มังกรอย่างผู้เป็นพ่อ จนแม้แต่เต็งล้อก็คาดไม่ถึง หลิวแสดงอำนาจของเจ้าแม่อีกครั้งด้วยการสั่ง เก็บศัตรูอย่าง ป๋าเสริฐชื่อเสียงของเธอเริ่มโด่งดังในวงการเป็นเหตุให้จางเหา ต้องเร่งรัดแผนการณ์ล้างแค้นของตน เขาตัดสินใจจะปลิดชีวิตเธอด้วยมือของเขาเอง และในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง จางเหาก็ได้โอกาสที่จะลงมือ แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น กลับมีมือสังหารอีกผู้หนึ่งชิงลงมือก่อนหน้าเขา และสภาพของหลิว ที่ตื่นตระหนกท่ามกลางกระสุน หวนให้จางเหาระลึกถึงวันแรกที่เขาพบเธอ และช่วยชีวิตเธอ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นทำให้เขาลังเล และในที่สุด สมุนของหลิวก็ช่วยเธอ ออกไปได้สำเร็จ

ไม่นานต่อมา หลิวได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมกลุ่ม มังกร 14 เค ซึ่งเป็นองค์กร อาชญากรรมใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ซึ่งการได้รับเชิญนี้มีทางเป็นไปได้สองทางก็คือ องค์การต้องการรับเธอเข้าไปเสริมแทนเวคินที่ตายไปหรือองค์การต้องการกำจัด เธอ ในฐานะที่ฆ่าเวคิน เต็งล้อ แนะนำให้ หลิวไปฝาฝังตัวกับทาเคชิ วาตานาเบะ ยากูซ่าชาวญี่ปุ่นผู้เป็นสหายสนิทของ ตี๋ซุ้ง เพื่ออาศัยบารมีของเขาคุ้มครอง ทางด้าน จางเหา ก็หาโอกาสสังหาร หลิวได้อีกครั้ง แต่ด้วยความลังเลใจ ทำให้เขาถูกสมุนของ หลิวจับได้ แต่หลิวก็ละเว้นชีวิตเขาเป็นครั้งที่สองเป็นผลให้จางเหา แน่ใจในความรู้สึกของหลิวที่มีต่อตน

ความขัดแย้งระหว่างความแค้นกับความรักนี้ทำให้จางเหาตัดสินใจถอนตัว ออกจากวงการไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด ใกล้ถึงวันประชุมหลิวของเข้าพบทาเคชิตามลำพัง เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รู้ก็คือ ทาเคชิ เป็นผู้บงการกลุ่มมือปืนที่เข้ามาสังหาร เธอในงานเลี้ยงนั่นเอง แบะการนับพบในวันนี้ก็คือการล่อให้หลิวก้าวเข้าสู่กับดัก แม้ว่าจะอยู่วงล้อมของศัตรู แต่หลิวใช้ปฏิญาณไหวพริบยืดเวลาของชีวิตเธออกไป และเมื่อสบโอกาสเธอก็จัดการสังหารทาเคชิและหนีออกมาสำเร็จ

เมื่อถึงวันประชุมกลุ่มมังกร 14 เค หลิวได้รับรองจากองค์การให้เป็นสมาชิก ซึ่งเท่ากับว่าได้บรรลุสู่ความเป็นหงส์เหนือมังกรอย่างเต็มภาคภูมิแต่ช่วง เวลาแห่งความภูมิใจ จบสิ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อตี๋เล็กน้องชายถูกศัตรูเก่าสังหารจบชีวิต เป็นเหตุให้ เหมย ผู้เป็นแม่ล้มเจ็บหนัก ก่อนตาย เหมยสารภาพความจริงว่า เต็งล้อ คือพ่อของ ตี๋เล็ก และที่เต็งล้อ ปล่อยให้เธอขึ้นครองอำนาจก็เพื่อหลอกให้เป็นเชิดหาผลประโยชน์ใส่ตัว และขณะนี้ เต็งล้อก็เริ่มจะระแวงและหาทางกำจัดเธอแล้ว

ความจริงทั้งหมดทำให้ หลิวเจ็บปวดจนไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับวงการนี้ต่อไป เธอตัดสินใจหนีไปใช้ชีวิตอยู่จางเหา ที่ต่างจังหวัดด้วยความหวัง ที่จะมีชีวิตที่สงบสุขอย่างคนทั่วไป แต่สิ่งที่เธอรู้ในเวลาต่อมากลับสร้างความปวดร้าว ให้เธอมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเธอค้นพบว่า แท้จริงแล้ว จางเหา คือ ฆาตกรผู้เป็นคนฆ่าพ่อของเธอนั่นเอง และแล้วก็ถึงเวลาที่เธอจะตัดสินใจ ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ระหว่างความรักกับความแค้น เธอจะเลือกอะไร หงส์อย่างเธอจะยังสามารถยืนอยู่เหนือมังกรได้หรือไม่

แสงสูรย์

ติรกา ดาวเด่นแห่งวงสังคมชั้นสูงประกาศหมั้นกับ ม.ร.ว.ไอศูรย์ สุริยฉัตร ( คุณต้อง ) ชายผู้งดงามเป็นทายาทสืบทอดวังแสงสูรย์แห่งตระกูลสุริยฉัตร ทำให้ตำแหน่งคุณหญิงผู้ครอบครองวังแสงสูรย์ตกมาอยู่ในมือของเธอ ในงานหมั้น ม.ร.ว.ภาสวร สุริยฉัตร ( คุณต้อย ) น้องชายฝาแฝดของไอศูรย์ ซึ่งโกรธและอิจฉาที่ไอศูรย์แย่งติรกาไปมาร่วมงานพร้อมกับ รัตนานงเยาว์ หญิงสาวเฝ้าหลงรักไอศูรย์ งานหมั้นผ่านไปด้วยดีติรกาจึงมั่นใจว่าตำแหน่งท่านหญิงจะต้องเป็นของเธอ แต่ทันใดนั้นก็มีทหารนำหมายเรียกตัวไอศูรย์ไปเป็นทหารอาสา หลังจากที่ไอศูรย์ไปรบติรกาก็คอยติดตามข่าวสารตลอด ระหว่างนั้นภาสวรก็เข้ามาเกี้ยวพาราสีแต่ติรกาไม่สนใจ จนกระทั่งเธอได้ข่าวว่าไอศูรย์เสียชีวิต

ภาสวรจึงใช้โอกาสที่ตนเป็นทายาทมีสิทธิ์ครอบครองแสงสูรย์เอาชนะใจติรกา โดยพาไปเที่ยวตากอากาศที่หัวหิน ที่นั่นภาสวรจึงได้พบกับ โชติรส และอ้างว่าตนเองคือไอศูรย์ ทางด้าน หม่อมศุภางค์ ย่าของไอศูรย์และภาสวร รังเกียจติรกาเพราะรู้ว่าจะเข้ามาครอบครองวังแสงสูรย์ ฝ่ายติรกาเมื่อถูกหม่อมศุภางค์ดูถูกก็ยิ่งทำให้เธออยากจะเป็นเจ้าของแสง สูรย์มากขึ้น เมื่อภาสวรเอ่ยปากขอหมั้นติรกาจึงตอบตกลงทันที ขณะที่ภาสวรกำลังสวมแหวนหมั้นก็มีข่าวด่วนว่าไอศูรย์ยังมีชีวิตอยู่ ติรกาช็อคมากเพราะเวลานี้เธอเป็นคู่หมั้นของภาสวรไปแล้ว ติรกาจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปตั้งหลักที่บ้านของมารดาที่นครสวรรค์ ทำให้ภาสวรคลุ้มคลั่งมาก สองอาทิตย์ต่อมาไอศูรย์เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยรถไฟ

ระหว่างทางเค้าได้พบกับโชติรสเด็กสาวที่ภาสวรเคยจีบ เธอโวยวายเรื่องที่ไอศูรย์จีบเธอที่หัวหินทั้งๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือติรกา ตอนแรกไอศูรย์คิดว่าโชติรสจำคนผิด แต่สุดท้ายไอศูรย์ก็นึกถึงภาสวรขึ้นมาได้และสารภาพว่าตนเองมีคู่แฝด ทำให้โชติรสเข้าใจอะไรมากขึ้น เมื่อไอศูรย์กลับไปถึงแสงสูรย์ หม่อมศุภางค์ได้ขอให้ไอศูรย์เสียสละยกติรกาให้กับภาสวร และสั่งให้ไอศูรย์ไปตามติรกากลับมา วันต่อมาไอศูรย์นั่งรถไฟไปยังนครสวรรค์เพื่อไปรับติรกา เค้าได้พบโชติรสอีกครั้ง เมื่อโชติรสรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็เห็นใจและสงสารไอศูรย์มาก จึงอาสาช่วยเหลือโดยปลอมตัวเป็นคู่หมั้นคนใหม่ของไอศูรย์ เพื่อให้ติรกาตัดใจและยอมกลับไปหาภาสวร เมื่อไอศูรย์มาถึงก็แนะนำว่าโชติรสคือคู่หมั้นคนใหม่

ติรกากลัวว่าแสงสูรย์จะหลุดมือไปเธอจึงตัดสินใจกลับ แสงสูรย์แต่โดยดี เมื่อทั้งหมดกลับมาถึงแสงสูรย์ติรกาก็วางแผนกลั่นแกล้งโชติรสจนทำให้หม่อม ศุภางค์โกรธไล่โชติรสออกไปจากวัง หลังจากโชติรสลากลับบ้านที่สุโขทัย ติรกาก็พยายามเข้าหาไอศูรย์และประวิงเวลาการแต่งงานกับภาสวรออกไป ทำให้ภาสวรโทษไอศูรย์ หม่อมศุภางค์จึงตัดสินใจตามโชติรสกลับมายังวังแสงสูรย์และให้แต่งงานกับ ไอศูรย์โดยเร็ว แต่โชติรสอ้างว่ายังไม่พร้อม ขณะเดียวกันติรกาก็หาวิธีกำจัดโชติรสโดยยืมมือรัตนานงเยาว์ ซึ่งในขณะนั้นเธอกำลังคบหาอยู่กับ ยศไกร นายตำรวจหนุ่มซึ่งเคยคบหากับโชติรสมาก่อน เมื่อติรกาเชิญรัตนานงเยาว์มาสังสรรค์ที่วังรัตนานงเยาว์พายศไกรมาด้วย

โชติรสจึงได้พบกับยศไกรยศไกรรู้สึกเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าโชติรสตกลงใจหมั้นกับ ไอศูรย์ ไอศูรย์รู้ว่าโชติรสจะกลับบ้านจึงรีบเปิดเผยโครงการก่อตั้งมูลนิธิเลี้ยง เด็กกำพร้า โดยขอให้โชติรสเป็นครูดูแลเด็กๆ เมื่อติรการู้เข้าจึงรีบไปฟ้องภาสวรเพื่อให้คัดค้าน ทำให้ไอศูรย์และภาสวรทะเลาะกัน ขณะเดียวกันภาสวรเห็นติรกาเข้าไปยุ่งกับไอศูรย์จนไม่เหลือเยื่อใยให้ตน ก็เครียดจัดเลยออกไปเที่ยวเสเพลนอกบ้านจนไปได้เสียกับ กานดา นักร้องในผับแห่งหนึ่ง แถมยังแอบอ้างว่าตนคือไอศูรย์อีกด้วย เมื่อหม่อมศุภางค์เห็นภาสวรทำตัวสำมะเลเทเมาก็เป็นห่วงจึงสั่งให้ไอศูรย์รีบ แต่งงานกับโชติรสด่วน ไอศูรย์อ้างว่าตนยังไม่พร้อมแล้วไปขอร้องให้ติรกาแต่งงานกับภาสวรแทน แต่ติรกาไม่ยอม

ขณะนั้นกานดาซึ่งตั้งครรภ์กับภาสวรได้ให้กำเนิดทารกขึ้นมา โดยเข้าใจว่าไอศูรย์คือพ่อของเด็กจึงเข้ามาขอค่าเลี้ยงดูที่แสงสูรย์ ไอศูรย์และโชติรสจึงปรึกษากันและตัดสินใจรับลูกของกานดามาเลี้ยง โดยไอศูรย์จะรับเป็นพ่อของเด็ก ไอศูรย์เข้าไปต่อว่าภาสวรติรกามาแอบได้ยินจึงเอาเรื่องนี้ไปเป็นข้ออ้างใน การถอนหมั้น ทำให้ภาสวรโกรธแค้นมากเพราะเข้าใจว่าไอศูรย์กลั่นแกล้งตนเพื่อแย่งติรกาไป ภาสวรเลยวางแผนแกล้งหนีออกจากแสงสูรย์ เมื่อหม่อมศุภางค์รู้เข้าก็โกรธและเสียใจจนล้มป่วย และโทษว่าไอศูรย์เป็นผู้ที่ทำให้ภาสวรหนีไป จึงสั่งให้ไอศูรย์ออกตามหาภาสวร ต่อมามีโทรเลขส่งมาจากปักษ์ใต้แจ้งว่าภาสวรตายแล้ว ไอศูรย์เดินทางไปรับศพน้องชายที่ปักษ์ใต้

ระหว่างทางได้พบกับ เชิดศักดิ์ ผู้ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของภาสวร เชิดศักดิ์วางยาสลบไอศูรย์แล้วเอาร่างของไอศูรย์ใส่เรือทิ้งไว้กลางทะเล แล้วจมเรือเพื่อให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ ส่วนภาสวรไม่ได้ตายจริงๆ ก็สวมรอยเป็นไอศูรย์แล้วเดินทางกลับ ระหว่างที่ไอศูรย์ตัวปลอมกำลังเดินทางกลับ ติรกาก็แกล้งโชติรสโดยหลอกเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลงไปเล่นในเรือจนทำให้ เด็กๆ เกือบจมน้ำตาย โชติรสเสียใจมากจึงตัดสินใจกลับบ้านที่สุโขทัย ไอศูรย์ตัวปลอมรู้เข้าก็หาทางเกลี้ยกล่อมให้โชติรสอยู่ต่อ โชติรสตกลงเพราะคิดว่าไอศูรย์เริ่มมีใจให้กับเธอ ฝ่ายติรกากับไอศูรย์ตัวปลอมก็ทวีความใกล้ชิดกันอย่างออกนอกหน้าจนผู้คนซุบ ซิบว่าทั้งคู่จะแต่งงานกัน ข่าวนี้ได้แพร่ไปถึงยศไกรและนำมาเล่าให้โชติรสฟัง

โชติรสจึงต้องเล่าเรื่องคู่หมั้นปลอมให้ยศไกรฟัง ยศไกรดีใจมากและสารภาพรักกับโชติรส ส่วนติรกาก็พยายามหาทางกำจัดโชติรสให้ออกไปจากวังให้ได้ เธอยุไอศูรย์เลิกสถานเลี้ยงเด็ก เมื่อไอศูรย์ตัวปลอมยอมทำตามจึงเกิดทะเลาะกับโชติรสอย่างแรง พอดีกับที่เชิดศักดิ์เข้ามาหาภาสวรติรกาเห็นพิรุธของไอศูรย์ตัวปลอมที่มีต่อ เชิดศักดิ์ จึงแอบฟังและใช้ความลับที่รู้มานี้เป็นข้อต่อรองกับภาสวร เพื่อที่จะได้ครอบครองวังแสงสูรย์ติรกาเริ่มแผนร้าย ด้วยการยุให้ภาสวรกำจัดเชิดศักดิ์ด้วยการวางยาพิษในอาหาร แต่เชิดศักดิ์ไม่ได้กิน ติรกาจึงเปลี่ยนแผนให้ภาสวรไปยิงเชิดศักดิ์แทน เมื่อเชิดศักดิ์รู้ว่ามีคนปองร้ายจึงพยายามหนี แต่ก็ไม่รอดถูกภาสวรยิงจนบาดเจ็บ เชิดศักดิ์หนีไปขอความช่วยเหลือจากโชติรสและเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง

ชติรสตกใจมากจึงรีบไปปรึกษายศไกร ส่วนติรการู้ว่าเชิดศักดิ์หนีไปได้จึงจ้างวานต่อพงษ์น้องชายตนที่เป็นมือปืน ให้ฆ่าปิดปาก หม่อมศุภางค์เห็นความใกล้ชิดระหว่างติรกาและไอศูรย์ปลอมก็เกิดความไม่พอใจ จึงยื่นคำขาดให้ไอศูรย์ปลอมรีบแต่งงานกับโชติรส โดยขู่ว่าถ้าไอศูรย์ไม่ยอมแต่งจะไม่ยอมยกสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่งของวังแสงสูรย์ ให้ คำสั่งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับติรกาอย่างมากเธอจึงตัดสินใจกำจัดหม่อมย่า อีกคน โดยสั่งให้ภาสวรวางยาพิษหม่อมศุภางค์ แต่ภาสวรไม่กล้าลงมือเพราะยังมีความรักต่อหม่อมย่าอยู่ ติรกาจึงยอมได้เสียกับภาสวรและเกลี้ยกล่อมจนภาสวรยอมทำตาม ส่วนโชติรสเห็นว่าหม่อมศุภางค์มีอาการซึมเศร้าก็เอะใจเลยเก็บยาส่งไปให้หมอ ตรวจจึงรู้ว่าเป็นยาพิษ

ทางด้านไอศูรย์ปลอมหรือภาสวรเครียดจัดเลยออกไปเที่ยวกินเหล้าจนเมามายทำให้ ขับรถคว่ำ รัตนานงเยาว์ขับรถตามมาพอดีเลยเข้าไปช่วย และพาภาสวรไปรักษาตัวที่บ้านเพราะคิดจะเป็นไอศูรย์ตัวจริง เผื่อในอนาคตเธอจะได้เป็นท่านผู้หญิงเสียเอง แต่ในระหว่างที่ภาสวรอยู่ที่บ้านรัตนานงเยาว์ เขาก็ฝันร้ายเห็นผีหม่อมศุภางค์มาหลอก ทำให้ภาสวรร้องโวยวายจนตกเตียงกระดูกสันหลังหักกลายเป็นอัมพาต หลังจากที่ไอศูรย์ปลอมหายไปติรกาก็ตั้งท้องได้เดือนกว่า ในขณะที่หม่อมศุภางค์ก็แข็งแรงขึ้นและคิดว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเป็นเพราะ ติรกา จึงได้ออกปากไล่ติรกาออกจากวัง ติรกาจึงบอกเรื่องที่เธอกำลังจะมีทายาทให้กับสุริยฉัตร หม่อมศุภางค์โกรธมากและบอกจะรับเลี้ยงดูเฉพาะทายาทเท่านั้น

ส่วนติรกาต้องไปอยู่ที่อื่นเพราะว่าตนกำลังจะเดินทางไปสู่ขอโชติรสให้กับ ไอศูรย์ หม่อมศุภางค์ยังพยายามทำดีกับโชติรส โดยการพาชมห้องสีน้ำเงินและพูดถึงการแต่งงานเพื่อแทงใจดำติรกา โชติรสทราบข่าวจากยศไกรว่าพบไอศูรย์ตัวจริงที่ภาคใต้และกำลังจะพากลับมา โดยขอร้องให้โชติรสเก็บเป็นความลับส่วนติรกาพอรู้ว่า ต่อพงษ์ ได้สารภาพความจริงกับตำรวจไปแล้วว่า ได้รับการจ้างวานจากตนให้ฆ่าเชิดศักดิ์ ติรกาเลยสารภาพความจริงต่อทุกคนและตัดสินใจที่จะจบชีวิตของตัวเองไปพร้อมๆ กับวังแสงสูรย์ ไอศูรย์ตัวจริงเดินทางกลับมาถึงพร้อมยศไกร และพบว่าแสงสูรย์จมอยู่ในกองเพลิงเนื่องจากติรกาได้ตัดสินใจเผาแสงสูรย์ให้ มอดไหม้ไปพร้อมกับตัวเธอและโชติรส ไอศูรย์รีบเข้าไปช่วยทั้งคู่ โศกนาฏกรรมครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมได้ใน ละคร “แสงสูรย์

เสน่ห์จันทร์

ในงานฉลองพิธีหมั้นระหว่าง เสน่ห์จันทร์ (ตั๊ก บงกช คงมาลัย) เศรษฐีนีม่ายสาวสวยกับ ดามพ์ (สันติสุข พรหมศิริ) เพลย์บอยหนุ่มถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราที่คฤหาสน์นฤบดินทร์ อันเป็นมรดกตกทอดจากอดีตสามีผู้ล่วงลับของเสน่ห์จันทร์ โดยมีป้าสาย (จารุณี สุขสวัสดิ์) พี่เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์ของเสน่ห์จันทร์ คอยจัดการทุกอย่างให้นายหญิงของเธอ และ มานิตย์ (รอง เค้ามูลคดี) คนครัวที่ทำอาหารเก่งที่สุดเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหารการกินงานดำเนินไปอย่าง ราบรื่น จนกระทั่งมาถึงช่วงสำคัญของงาน เสน่ห์จันทร์กล่าวเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมดื่มแสดงความยินดีกับเธอ และดามพ์ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีดามพ์ก็เป็นลมล้มฟุบไป ท่ามกลางความตื่นเต้นตระหนกของทุกคน

ดามท์เสียชิวิตลงในเวลาต่อมา ตำรวจสรุปว่าดามพ์เสียชิวิต เพราะมียาพิษในแชมเปญ โรมรัน (กัปตัน ภูเนศ หงษ์มานพ) นายตำรวจหนุ่มฝีมือดีได้รับคำสั่งให้มาดูแลคดีนี้ โดยมี จ่าสมหมาย (ชูศรี เชิญยิ้ม) ตำรวจท้องที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ฆาตรกรรมครั้งนั้นและมิ้ม (ตวง ภัสสรี กังวานพงศ์) เด็กจบใหม่ฝึกงานที่เป็นทั้งคู่กัดและผู้ช่วยของโรมรัน ครั้งแรกที่โรมรันเขาได้พบกับเสน่ห์จันทร์ เขาประทับใจในความงามและความอ่อนหวานของเธอ โรมรันสอบปากคำเสน่ห์จันทร์และแขกผู้มีเกียรติในงานพบว่า คนที่น่าสงสัยที่สุดคือ นาน่า (หลิว มนัสวี กฤตานุกูลย์) นักร้องสาวแฟนเก่าของดามพ์ที่เข้ามาอาละวาดในงาน พร้อมกับขู่เอาชีวิตดามพ์ เพราะโกรธแค้นที่ถูกดามพ์สลัดรัก ทันทีที่นาน่าเห็นตำรวจเธอรีบหนีทันที และทิ้งหลอดยาที่น่าสงสัยลงในชักโครกแต่เธอหนีไม่พ้นและถูกรวบตัวในเวลาต่อ มา นาน่าให้การปฎิเสธว่าไม่ได้ฆ่าดามพ์ เพราะเธอรักเค้ามาก แต่คนที่เธอโกรธก็คือ เสน่ห์จันทร์ ที่เข้ามาแย้งคนรักไปจากเธอมากกว่า แต่พอตำรวจสอบถามว่าในเวลาที่เกิดเหตุเธออยู่ไหน นาน่าก็ให้การสับสน วกไปวนมาอย่างน่าสงสัย โรมรันจึงสั่งให้จ่าสมหมายคอยจับตาดูนาน่าไว้ ต่อมากองพิสูจน์หลักฐานแจ้งว่า ยาที่พบในห้องนาน่า เป็นยาเค ไม่ใช่ยาพิษ นาน่าจึงยอมรับสารภาพว่าเธอติดยา ช่วงที่เธอหายไป เธอแอบเข้าไปเสพยาในห้องน้ำ เธอจึงไม่กล้าสารภาพตั้งแต่ครั้งแรก

โรมรันเอาวีดีโอที่ถ่ายในงานมาตรวจสอบ พบว่านาน่าพูดความจริงเนื่องจากช่วงเวลาที่เธอหายไปไม่มากพอที่จะไปวางยาฆ่า ใคร นอกจากนั้นโรมรันยังพบเบาะแสสำคัญของคดีนี้ด้วย เพราะจากวีดีโอที่ถ่ายไว้ ทำให้โรมรันเห็นว่าในช่วงที่ทุกคนยกแก้วดื่มเพื่ออวยพรนั้น เสน่ห์จันทร์ กับดามพ์แลกแก้วแชมป์เปญกันดื่ม จึงรู้ได้ทันทีว่า เสน่ห์จันทร์ต่างหากที่เป็นเป้าหมายของการฆาตรกรรมครั้งนี้ ไม่ใช่ดามพ์…

โรมรันบอกเรื่องนี้ให้เสน่ห์จันทร์รู้ เธอตกใจเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนคิดฆ่าเธอ โรมรันจึงอธิบายว่าฆาตรกรใส่ยาพิษในแก้วแชมเปญของเธอโดยไม่รู้ว่าเธอจะแลก แก้วดื่มกับดามพ์ ดังนั้นดามพ์จึงเป็นเพียงผู้รับเคราะห์แทนเธอ ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง…

เสน่ห์จันทร์ตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้รู้ความจริง ณ วินาทีนี้เธอยังคิดไม่ตกว่าใครกันที่จะปองร้ายเธอถึงชีวิต เธอได้แต่ขอร้องโรมรัน ว่าให้ช่วยสืบหาคนนั้นให้ได้ในเร็ววัน นาน่าให้การกับโรมรันว่า ตอนที่เธอออกมาจากห้องน้ำมี เสี่ยบุญชู (ไพโรจน์ สังวริบุตร) เจ้าของกิจการก่อสร้างรายใหญ่เป็นพยาน เพราะตอนนั้นเสี่ยบุญชูเพิ่งทะเลาะกับเสน่ห์จันทร์เสร็จแล้วเดินสวนออกมา เกือบจะชนเธอ ประจวบเหมาะบริษัทรับเหมาก่อสร้างของเสน่จันทร์ถูกวางระเบิดอย่างไม่มี สาเหตุ โรมรันจึงเริ่มสงสัยเสี่ยบุญชู เขาถามถึงความขัดแย้งระหว่างเธอกับเสี่ยบุญชู (ตามที่นาน่าเล่าให้ฟัง) เสน่ห์จันทร์ยอมรับแล้วเล่าที้งหมดตามความจริงด้วยน้ำตา

วันเกิดเหตุ เสี่ยบุญชูมาข่มขู่เธอไม่ให้ยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างทางด่วนยกระดับแถบ ชายฝั่งทะเลตะวันออกมูลค่าเป็นพันล้านที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า แต่เธอปฎิเสธไม่ขอก้าวก่ายการทำงานของบริษัทฯ เสี่ยบุญชูโกรธมากประกาศจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอไปพ้นทาง ที่สำคัญก่อนจากไปเขาพยายามลวนลามเธอ
โรมรันบอกเสน่ห์จันทร์ว่าคนที่ปองร้ายไม่ยอมวางมือแน่ๆ เตือนให้เธอระวังตัว และให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวกับเธอหากเกิดเรื่องอะไรไม่ดีก็โทรหาเขาได้ทุก เมื่อ เสน่ห์จันทร์ซาบซึ้งใจ ป้าสายหัวหน้าแม่บ้านและมีศักดิ์เป็นแม่นมของเสน่ห์จันทร์ไม่ค่อยพอใจ หลังโรมรันกลับออกไป ป้าสายเตือนเสน่ห์จันทร์ว่าอย่าทำตัวสนิทสนมกับโรมรันมากนัก เขาอาจจะเป็นอันตรายกับเธอ เสน่ห์จันทร์บอกป้าสายว่า ไม่ต้องห่วง

ในเวลาต่อมาตำรวจจับมือวางระเบิดได้ ปรากฎว่า…ชื่อไอ้หาญเป็นคนของเสี่ยบุญชู พอดีกับที่มิ้มนำรายงานผลการชันสูตรศพดามพ์ พบว่าดามพ์เสียชิวิตเนื่องจากสารพิษที่ชื่อว่า แคนทาริดีน ออกฤทธิ์ในเชิงกระตุ้นอารมณ์ให้คึกคักแต่ถ้าใส่จำนวนมากทไให้หัวใจวายได้ ในตลาดมืดเรียกตัวนี้ว่า “แมลงวันสเปน”

โรมรันรีบนำหมายค้นไปค้นที่บ้านเสี่ยบุญชูทันที ขณะนั้นเสี่ยบุญชูกำลังมีความสุขกับสาวๆที่บ้าน โรมรันจึงพบไวอากร้า แมลงวันสเปน และยากระตุ้นอื่นๆมากมายตามที่สงสัย เสี่ยบุญชูบอกว่าเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะใช้ยากระตุ้นอารมณ์เพศ ตำรวจจับเชาเช้าคุกเพราะใช้แมลงวันสเปนไม่ได้ โรมรันบอกว่าไอ้หาญรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนวางระเบิดบริษัทของเสน่ห์จันทร์ พร้อมกับรุกไล่ถามเรื่องที่มีคนเห็นเขาทะเลาะกับเสน่ห์จันทร์ และลวนลามในวันงาน เสี่ยบุญชูโมโหจนควบคุมตัวเองไมิอยู่ จึงยอมรับว่าเขาทำจริง แต่คนอย่างเขาไม่เคยคิดจะวางยาพิษฆ่าใคร

โรมรันจึงทำได้แค่เพียงแจ้งข้อหาลอบวางระเบิดแก่เสี่ยบุญชู ซึ่งก็ประกันตัวออกไปได้ภายในวันนั้นด้วยเงินและอิทธิพลที่มีอยู่ สิ่งที่ทำให้เขาเชื่อว่าเสี่ยบุญชูไม่ได้เป็นคนลงมือก็คือ นิสัยของเสี่ยบุญชูไม่ใช่คนที่ฆ่าใครด้วยยาพิษ และวางยาพิษในแก้วแชมเปญ น่าจะทำในเวลาก่อนเกิดเหตุไม่นาน เพราะตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีช่วงเวลาอันสั้น ซึ่งคนที่ลงมือน่าจะเป็นคนที่ชำนาญในเรื่องการใช้ยานี้ ไม่ใช่นักเลงอย่างเสี่ยบุญชู แต่ใครล่ะจะเป็นผู้ชำนาญคนนั้น

โรมรันกลับมาได้รับข้อมูลใหม่จากมิ้มว่า หลังจากท่านนายพลสามีของเสน่ห์จันทร์ตายลง ได้ทำพินัยกรรม ยกสมบัติทั้งหมดให้เสน่ห์จันทร์เพียงคนเดียว อลิสา (วรรณษา ทองวิเศษ) น้องสาวโอลด์เมดของท่านนายพลยื่นฟ้องร้องแต่ศาลสั่งยกฟ้องให้อลิสาแพ้คดี ที่สำคัญเธออยู่ที่นั่นในวันเกิดเหตุด้วย ที่สำคัญเธอยังเคยเป็นผู้ช่วยเภสัชกรมาก่อนที่จะเป็นเจ้าของฟาร์มม้า

เสน่ห์จันทร์เล่าว่า ความจริงวันนั้นเธอจำได้ว่า เธอเดินผ่านห้องเก็บแชมเปญ และเธอเห็นใครคนหนึ่งมาด้อมๆมองๆ พอเห็นเธอกับป้าสาย คนๆนั้นก็รีบหลบออกไป อาจจะเป็น อลิสา เพราะเธอเท่านั้นที่เคยเข้าออกบ้านนี้ได้สะดวก โรมรันถามเรื่องคดีมรดกจากเสน่ห์จันทร์แต่เธอไม่ยอมพูดถึง ได้แต่ร้องไห้เมื่อเขาพูดถึงเรื่องมรดกนั้น เขาจึงหันไปสืบเรื่องนี้จากป้าสาย โดยอ้างถึงความปลอดภัยของเสน่ห์จันทร์ ป้าสายเล่าว่า อลิสารักและหวงพี่ชายมาก จึงโทษว่าเสน่ห์จันทร์มาแย่งทุกอย่างไป ทำให้เสน่ห์จันทร์พลอยรู้สึกผิดที่ได้สมบัติทั้งหมดของท่านนายพล ป้าสายเล่าว่าเสน่ห์จันทร์ยอมถึงขั้นยกคอกม้านฤบดินทร์ให้อลิสา แต่อลิสาก็ยังไม่หายโกรธ คอยแช่งให้เสน่ห์จันทร์มีอันเป็นไปอยู่เสมอ แม้กระทั่งวันงาน อลิสายังแต่งชุดดำมาเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าจะมีคนตาย ป้าสายยังเตือนโรมรันอีกว่าจะทำอะไรให้ระวังตัวด้วย

โรมรันไปหาอลิสาที่คอกนฤบดินทร์ อลิสากำลังขี่ม้าอย่างคล่องแคล่ว เธอสงสัยว่าโรมรันมาหาเธอเพราะอะไร แต่ในที่สุดอลิสาก็จับได้ว่าโรมรันเป็นตำรวจ จึงไล่ตะเพิดเขากลับไป อลิสาโกรธ หาว่าเสน่ห์จันทร์กล่าวหาเธอ โรมรันจึงได้รู้ว่าอลิสาเกลียดเสน่ห์จันทร์จริงๆ

วันต่อมาโรมรันได้รับโทรศัพท์จากเสน่ห์จันทร์ ว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนสะกดรอยตาม โรมรันรีบมาช่วย เมื่อเค้าไปถึงก็เห็นอลิสากำลังทำร้ายเสน่ห์จันทร์อยู่ เขาเข้าไปห้ามอลิสาและรวบตัวเอาไว้ได้ในเวลาต่อมา ระหว่างที่โดนจับ อลิสาตะโกนด่าอาฆาตมาดร้ายเสน่ห์จันทร์ราวกับคนเสียสติ เสน่ห์จันทร์กลัวจนตัวสั่น โรมรันจึงนำตัวอลิสาไปกักขังไว้ชั่วคราว อลิสาถูกสอบเครียด เธอยอมรับว่าเกลียดและอยากให้เสน่ห์จันทร์ตาย แต่เธอไม่ได้วางยาพิษ โรมรันยังไม่เชื่อ เพราะว่าสมหมายไปตรวจคอกนฤบดินทร์ พบแมลงวันสเปนที่นั่น

จ่าสมหมายและมิ้มช่วยกันรวบรวมหลักฐานให้โรมรันทำสำนวนคดีเตรียมฟ้องอลิสา ทำให้ได้รู้ว่าแรงจูงใจของเธอคือ ต้องรีบฆ่าเสน่ห์จันทร์ให้ได้ก่อนที่เธอจะแต่งงานใหม่ เพราะหากปล่อยให้เธอแต่งงานไป สมบัติทั้งหมดของนฤบดินทร์จะกลายเป็นสินสมรส โอกาสที่อลิสาจะเอาของของเธอกลับคืนมายิ่งมีน้อยลง อลิสาจึงแอบเข้าไปในห้องเก็บแชมเปญนั้น แล้วใช้เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีในการวางยาพิษ และแผนของเธอคงจะสำเร็จ ถ้าเสน่ห์จันทร์ไม่แลกแก้วดื่มกับดามพ์ ในช่วงมรณะนั้น

ข่าวจับอลิสาลงหนังสือพิมพ์ พร้อมรายละเอียดต่างๆ พ่อครัวมานิตย์อ่านแล้วพยายามปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมด เค้ารีบออกไปนอกบ้านด้วยอาการพิรุธ แล้วจู่ๆก็มีชายลึกลับโทรศัพท์เข้ามาขู่คนในคฤหาสน์นฤบดินทร์ ว่า “ฉันรู้นะว่าแกเป็นคนฆ่า” ก่อนมันจะแบล็คเมล์ข่มขู่เรียกเงิน โรมรันได้รับโทรศัพท์จากชายลึกลับเช่นกัน บอกว่า เขากำลังหลงทางจับคนผิด อลิสาไม่ได้ฆ่าใคร “ผมรู้ว่าใครเข้าไปในห้องแชมปญก่อนเกิดเหตุ” ถ้าอยากรู้เบาะแสว่าใครคือฆาตรากรตัวจริง

หลังจากวางหูจากชายลึกลับ โรมรันก็ขอให้ตำรวจหาที่มาของปลายสาย มานิตย์กลับมาทำงานปกติเหมือนไม่มีอะไร จนกระทั่งถึงวันนัดหมาย มานิตย์ซึ่งมีอาการเบาหวานขั้นรุนแรง ต้องฉีดอินซูลินก่อนออกจากบ้าน โรมรันมารอที่จุดนัดหมาย แต่คนที่นัดไว้ไม่มา จนจ่าสมหมายรายงานว่า โทรศัพท์ลึกลับที่โทรมาหาโรมรันนั้น มาจากบ้านเสน่ห์จันทร์นั่นเอง โรมรันนำตำรวจบุกไปที่บ้าน ไปจนถึงห้องพักของมานิตย์ที่คฤหาสน์นฤบดินทร์ เมื่อตำรวจบุกเข้าไปในห้องมานิตย์ปรากฎว่ามานิตย์ตายเสียแล้ว มีรอยเข็มและรอยไหม้ตามเส้นเลือดบริเวณหน้าท้องของเขา โรมรันตรวจสอบสภาพในห้องมานิตย์ พบข่าวตัดเกี่ยวกับคดีฆาตรกรรมดามพ์ และมีรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในห้องมากมาย โรมรันสั่งให้จ่าสมหมายเก็บไปตรวจสอบ โรมรันสอบถามเรื่องมานิตย์ ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเขามากนัก รู้แต่ว่ามานิตย์เคยมีครอบครัวแล้ว มีลูก แต่ถูกเมียที่หย่าขาดกีดกันไม่ให้พบลูกสาว ทำให้เขาเป็นคนเศร้าๆ และชอบเก็บตัว มิ้มสืบเพิ่มเติมอีกจนพบว่า เมียของมานิตย์ต้องการเงินก้อนหนึ่งไปตั้งตัว เพื่อแลกกับลูกสาว มานิตย์จึงต้องการใช้เงิน ประกอบกับความบังเอิญได้เห็นว่าในวันเกิดเหตุใครแอบลงไปในห้องเก็บแชมเปญ เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวที่สื่อมวลชนนำเสนอ มานิตย์จึงมั่นใจว่าใครคือ ฆาตรกร เขาจึงโทรไปแบล็คเมย์ ซึ่งคนฆ่ามานิตย์น่าจะเป็นฆาตรกรคนนั้น และแน่นอนว่า ไม่ใช่อลิสา น่าจะเป็นคนในบ้านของเสน่ห์จันทร์เอง

เมื่อโรมรันไปหาเสน่ห์จันทร์ เห็นเสน่ห์จันทร์นั่งร้องไห้อยู่ เธอขอให้เขาอยู่เป็นเพื่อน เพราะกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอ และแล้วคืนนั้นเธอกับเขาก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เสน่ห์จันทร์ปรับทุกข์กับโรมรันว่า ยิ่งเขาสาวเข้าใกล้ฆาตรกรมากเท่าไร ก็ยิ่งมีคนตายมากขึ้นเท่านั้น เธอไม่อาจทนเห็นใครตายอีกโดยเฉพาะเขา เธอขอให้เขาเลิกโรมรันปฎิเสธว่าเป็นหน้าที่ ขอให้เข้าใจจากหลักฐานล่าสุดที่ได้มา ทำให้โรมรันรู้ว่าอลิสาไม่ได้เป็นคนทำร้ายเสน่ห์จันทร์จริงๆ และสาเหตุที่อลิสาบุ่มบ่ามไปหาเสน่ห์จันทร์ในวันนั้นเพราะจะไปตกลงกับเสน่ห์ จันทร์เรื่องคอกม้าของเธอ แต่บังเอิญไปเจอเข้ากับป้าสายเข้าเสียก่อน อลิสาจึงคอบคุมสติอารมณ์ไม่ได้เมื่อเจอหน้าเสน่ห์จันทร์ในเวลาต่อมา

ป้าสาย คนรับใช้ผู้ภักดี เคยมีคดีกับอลิสามาก่อน และยิ่งเมื่อสืบทราบว่า ป้าสายจะเกลียดทุกคนที่ไม่เชื่อฟังเธอโดยเฉพาะดามพ์ ก็ยิ่งทำให้โรมรันเริ่มเข้าใกล้ตัวฆาตรกรมากขึ้นทุกที

โรมรันนำตัวป้าสายมาสอบปากคำอย่างหนัก ในที่สุด ป้าสายก็รับสารภาพว่าเป็นคนฆ่ามานิตย์ ที่รู้ว่าเธอเป็นคนวางยาพิษดามพ์ และคิดจะแบล็คเมล์เธอ เสน่ห์จันทร์ตกใจที่ป้าสายพูดออกมาเช่นนั้น เธอแทบไม่เชื่อหู แต่ป้าสายยืนยันกับโรมรันว่าไม่ได้คิดจะทำร้ายเสน่ห์จันทร์ แต่ต้องการกำจัดดามพ์ ตำรวจพบแมลงวันสเปนอยู่ในห้องป้าสาย ตำรวจนำป้าสายเข้าคุก อลิสาได้รับการปลดปล่อยตัวเป็นอิสระ เธอยังคงเครียดแค้นเสน่ห์จันทร์อยู่เหมือนเดิม

เช้าวันต่อมา จ่าสมหมายแจ้งให้โรมรันรู้ว่าป้าสายเสียชีวิตแล้วด้วยการดื่มยาพิษที่แอบ เข้ามา เสน่ห์จันทร์กอดศพป้าสายร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา โรมรันอยู่เคียงข้างเธอเพื่อปลอบโยน เขาได้รับความผูกพันระหว่างเธอและป้าสายมากขึ้น เมื่อเขาเป็นเพื่อนเธอนำกระดูกของป้าสายไปเก็บที่วัด ที่เดียวกับที่เก็บอัฐิน้องสาวของเสน่ห์จันทร์

คดีปิดลง ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่าย ยกเว้นโรมรัน เพราะสิ่งที่เขาคาใจก็คือ ทำไมฆาตรกรอย่างป้าสายที่จงรักภักดีต่อนายหญิงถึงได้ยอมเสี่ยงเอาชีวิตของ นายหญิงเป็นเดิมพัน ในการวางยาพิษครั้งนี้
เธอรู้ได้อย่างไรว่านายหญิงของเธอจะสลับแก้วดื่มกับว่าที่สามี ณ วินาทีมรณะนั้น เธอไปรู้เรื่องแมลวันสาปนั้นได้อย่างไร หรือเธอมีเหตุผลอื่นใดแอบแฝงหรือเธอรู้อะไร ที่ใครไม่เคยล่วงรู้…

รายชื่อนักแสดง เสน่ห์จันทร์
บงกช คงมาลัย รับบท เสน่ห์จันทร์
ภูธเนศ หงษ์มานพ รับบท รมรัน
จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบท ป้าสาย
สันติสุข พรหมศิริ รับบท ดามพ์
ไพโรจน์ สังวริบุตร รับบท เสี่ยบุญชู
ภัสสรี กังวานพงศ์ รับบท มิ้ม
มนัสวี กฤตนุกูลย์ รับบท นาน่า
วรรณษา ทองวิเศษ รับบท อลิสา
รอง เค้ามูลคดี รับบท มานิตย์
ชูศรี เชิญยิ้ม รับบท จ่าสมหมาย
ดารุณี กฤตบุญญาลัย รับบท สมสมัย
วราพรรณ หงุ่ยตระกูล รับบท เอกกะรัต ในละครเสน่ห์จันทร์

สาวใช้หัวใจชิคาโก้

สาวใช้หัวใจชิคาโก้

เรื่องราวการฟันฝ่าอุปสรรค และการพิสูจน์ความรักระหว่าง หนุ่มบ้านนอก โยธิน (สหรัถ สังคมปรีชา) หนุ่มนักเรียนนอก ที่เดินทางไป ศึกษาต่อปริญญาโทด้านโฆษณาที่ชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา และจีจี้ (เมทินี กิ่งโพยม) สาวไทยที่เติบโตและศึกษาด้านการออกแบบเสื้อผ้า ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตคู่ อยู่กันก่อนการแต่งงานมาตั้งแต่สมัยที่โยธินไปศึกษาต่อที่นั้น โดยที่จีจี้หารู้ไม่ว่า กำนันเสือ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) แห่งลำทะเมนชัย อำเภอหนองบัวลำใย จังหวัดนครราชสีมา พ่อของโยธินนั้นเป็นหัวโบราณสุด ๆ และยังต่อต้านการใช้ชีวิตคู่ ก่อนการแต่งงาน ของหนุ่มสาวอย่างสุดตัว เพราะคิดว่าเป็นการทำลาย ระบบครอบครัว และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวนั้น ไม่มีความรักนวลสงวนตัวเอาเสียเลย อีกทั้งยังเหมารวมไปว่า เป็นหญิงใจง่าย และกำนันเสือก็ประกาศออกไปแล้วว่าลูกสะใภ้ของกำนันเสือ จะต้องเป็นหญิง ที่เป็นกุลสตรี และไม่มีรอยมลทินใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อจีจี้และโยธินเดินทางกลับมาเมืองไทย ได้มาอาศัยบ้านเช้าที่ โด่ง (นพพร กำธรเจริญ) เพื่อนสนิทของโยธิน ตั้งแต่อยู่บ้านนอกด้วยกันหาให้ โดยโยธินบอกให้โด่งเก็บเรื่องการกลับมาเมืองไทย ของตนเป็นความลับ แต่แล้วโด่งก็เผลอบอกกำนันเสือ จนได้ทำให้ครอบครัวของกำนันเสือ อันประกอบไปด้วย แม่หยก (ปิยะมาศ โมณยะกุล) แม่ของโยธิน อดีตสาวงามประจำตำบล ที่มีความสามารถ ในการทำอาหารเป็นเลิศ ยอดชาย (ตะวัน จารุจินดา) น้องชายคนเดียวของโยธิน ผู้ที่มีความรัก ในความเป็นไทยอย่างแรงกล้า ถืออคติ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ” และ ไอ้ทอง (วิชัย จงประสิทธิ์พร) คนขับรถ ผู้ซื่อสัตย์ของกำนันเสือ ทั้งหมดพากัน เดินทาง เข้ากรุงเทพฯ เพื่อจะทำ เซอร์ไพรส์โยธิน

แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่อพวกกำนันมาถึงและโยธินได้ออกไปธุระเรื่องงาน จีจี้ซึ่งได้รับคำเตือนจาก มิเชล (ฟร้อน มอนท์โกเมอรี่) เพื่อนสาวที่เคยใช้ชีวิตด้วยกันที่ชิคาโก้ ให้ระวัง ผู้ร้ายในเมืองไทยให้ดี ทำให้จีจี้เข้าใจผิดว่าพวกกำนันเสือ คือโจร จีจี้ได้ใช้ไม้เบสบอล กระหน่ำตีกำนันเสือจนน่วม และจากเหตุการณ์ที่เกิดนี้เองทำให้โยธินต้องโกหกครอบครัวไปว่าจีจี้คือ สาวใช้ที่โด่งหามาให้ชื่อ “ลิ้นจี่” จีจี้ตกอยู่ในฐานะลำบากสุดฤทธิ์ ที่ต้องเป็นคนใช้ ที่เมื่อก่อนก็ทำอะไร ไม่ค่อยจะเป็น ด้านไอ้ทองก็หวังที่จะเคลมจีจี้ ส่วนแม่หยกก็คอยแต่จะให้จีจี้เข้าครัว เป็นลูกมือทำอาหาร ทั้งที่เธอ ทำอาหารไทยไม่เป็น

ทางด้านยอดชายดู เหมือนจะมีปัญหากับจีจี้น้อยที่สุด แต่เขากลับมีปัญหา ส่วนตัว ที่ยากจะแก้ไข เพราะยอดชายเกิดตกหลุมรักและแอบตามจีบ หมูหยอง (กรรณิการ์ ซาย วนะเกียรติกุล) เด็กสาวข้างบ้าน ที่มีความประหลาดอยู่ในตัว คืออยู่บ้านจะเรียบร้อยเล่นดนตรีไทย แต่พอออกนอกบ้าน จะแต่งตัวเปรี้ยว แก่นและซ่าส์ ทำให้ยอดชาย ตกใจมากที่สาวเรียบร้อยในฝันของเขา กลายเป็นเด็กสายเดี่ยว เขาพยายามดึงเธอกลับมาเหมือนเดิม แต่มันยิ่งทำให้หมู่หยอง เบื่อและเซ็งหน้าเขาไปอีก หมูหยองเป็นลูกของ กอบ (วิสรรค์ ฉัตรรังสิกุล) ข้าราชการการรถไฟ เพื่อนบ้านของโยธินที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน และ คุณครูระเบียบ (ดารณีนุช โพธิปิติ) คุณครูฝ่ายปกครองของโรงเรียนเอกชน ที่ชอบจัดระเบียบเข้มงวดเกินเหตุให้กับครอบครัวของตัวเอง ทำให้หมู่หยองต้อง แอบไปมีอิสระนอกบ้าน ในขณะเดียวกัน จีจี้เริ่มรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ในสภาพคนใช้ เลยคิดแผนกับโยธินให้ลิ้นจี่ลาออกจากการเป็นคนใช้

แต่เหตุการณ์ก็ไม่เป็นใจอีกครั้ง เมื่อจีจี้ไปซื้อส้มตำร้านที่ตำได้อร่อยมาก มาให้แม่หยกกินจนติดใจ และคิดว่าลิ้นจี่ทำเอง เลยบังคับให้ลิ้นจี่เป็นตัวแทนตำบล เพื่อเข้าแข่งขันตำส้มตำประจำปี ของจังหวัด ที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โต จีจี้และโยธินไม่อาจจะปฏิเสธได้ เพราะกำนันเสือได้ออกปากว่า ถ้าลิ้นจี่ตำส้มตำชนะ จะยกโทษให้ในเรื่องที่จีจี้ทำร้ายกำนันเสือ จีจี้เลยตกลงรับปากที่จะเป็นตัวแทนตำบลแข่งตำส้มตำให้ ด้วยความหวังที่ว่าถ้าฟลุคชนะ กำนันเสือจะยกโทษให้ และเธออาจจะได้บอกฐานะที่แท้จริงของเธอ ให้ทุกคนได้รู้ ทั้งหมดยกขบวนกลับลำทะเมนชัย โดยมีจีจี้เป็นความหวังในการแข่งขันตำส้มตำ แต่เธอหารู้ไม่ว่า สิ่งที่เธอจะไปเจอในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ใช่ครกกับสากเท่านั้น เธอต้องมาสู้รบกับ นิดา (สุวัจนี ไชยมุสิก) สาวสวยประจำอำเภอ ผู้ประกวดรางวัลต่างๆ มาแล้วทั่งภูมิภาค นิดาเป็น ลูกสาวของ กำนันหนวด (กรุง ศรีวิไล) เพื่อนซี้ของกำนันเสือ ที่หมายมั่นปั้นมือให้นิดาได้ แต่งงานกับผู้ชายรวยๆ เพื่อจะได้สบายกันทั้งชาติโดยเหยื่อรายแรกเป็นเสี่ยยันม่าร์ชื่อ แหว่ง (ธงชัย ประสงค์สันติ) พ่อบุญทุ่มผู้หลงรักนิดาสุดหัวใจ

หลังจากที่ ครอบครัวของกำนันเสือ ได้เดินทางมาถึงลำทะเมนชัย นิดาได้เปลี่ยนจุดมุ่งหมายจาก แหว่งเสี่ยยันม่าร์ หน้าตาด้อยพัฒนา เป็นโยธินหนุ่มนักเรียนนอกหล่อล่ำและร่ำรวย ศึกวันตำส้มตำ เริ่มอุบัติขึ้นพร้อมกับการประกาศตัวของนิดาว่าจะเป็นแชมป์ให้ได้ ความอลหม่านชุลมุนวุ่นวาย ของนิดากับลิ้นจี่เริ่มต้นขึ้น นิดาวาดลวดลายอันอ่อนช้อยและนุ่มนวลเฉพาะตัว ให้กรรมการเคลิบเคลิ้ม ในลีลาการตำส่วนจีจี้ก็ไม่ยอมแพ้ เธอเน้นการโชว์ที่หรูเริ่ดอลังการเป็นหลัก สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับคณะกรรมการยิ่งนักเมื่อการแข่งขันสิ้นสุด ผลปรากฏว่า นิดาได้รางวัลตำอย่างมีคุณค่า และรางวัลพิเศษ โชว์เริ่ดนั้นตกเป็นของจีจี้และชาวคณะแม่หยก ทำให้แม่หยกรู้สึกถูกใจจีจี้มาก

โยธินและจีจี้กระโดดกอดกัน ด้วยความดีใจต่อหน้าต่อตากำนันเสือ ทำให้กำนันเสือเสียหน้ามาก ที่ลูกชายกำลังกอดกับคนใช้ เลยสั่งประกาศหมั้นโยธินกับ นิดา ต่อหน้าต่อตาคนในหมู่บ้าน เมื่อจีจี้ได้ยินเช่นในก็เสียใจและน้อยใจ ที่กำนันเสือไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับเธอ จีจี้เลยหนีกลับ กทม. โดยไม่บอกโยธิน โยธินออกตามหาจีจี้ที่กรุงเทพฯ เพื่อจะบอกกับจีจี้ว่าเขาตัดสินใจ ที่จะเล่าความจริง ให้กับกำนันเสือและครอบครัวรู้เรื่องจีจี้ซะที แต่ในขณะนั้นเองกำนันเสือเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้ต้อง เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โยธินจึงขอร้องจีจี้ว่าให้รักษาความลับเรื่องจีจี้เป็นคนใช้ไปอีกระยะ จนกว่ากำนันเสือจะหายดี และยังขอร้องให้จีจี้ช่วยดูแลกำนันเสือด้วย จีจี้จำใจรับปากโยธิน แม้ต้องเผชิญหน้า กับฤทธิ์เดชของกำนันเสืออีกหลายครั้งก็ตาม และด้วยความดีของจีจี้ ทำให้กำนันเสือ เริ่มยอมรับในตัวสาวใช้จำเป็น

ระหว่างนั้นนิดาได้ หลอกให้แหว่งพามากรุงเทพฯเพื่อหาความจริงเรื่องจีจี้ และมาตื้อเอาอกเอาใจ โยธินไปในตัว และแล้วในวันที่โยธินและจีจี้ได้ตัดสินใจ ที่จะบอกความจริง ให้กำนันเสือและแม่หยกรู้นั้น ความลับได้แตกซะก่อนโดยแหว่งและนิดา ทำให้กำนันเสือ โกรธโยธิน และจีจี้มาก จีจี้ไม่ต้องการ ให้ตัวเองมาเป็นต้นเหตุของความบาดหมางและแตกแยกในครอบครัว เธอเลยหนีออกจากบ้าน และ วางแผน ที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาเพียงลำพังคนเดียว โยธินได้ออกตามหาจีจี้ จนเกือบพลิกแผ่นดิน และในที่สุดก็ได้เจอจีจี้ โยธินกับจีจี้ตกลงกันว่าจะหนีความวุ่นวายทั้งหลาย โดยการกลับไปใช้ชีวิต ร่วมกันที่อเมริกา

นักแสดง  สาวใช้หัวใจชิคาโก้

สหรัถ สังคปรีชา
เมทินี กิ่งโพยม
สุวัจนี ไชยมุสิก
กรุง ศรีวืไล
ไพโรจน์ ใจสิงห์
นพพร กำธรเจริญ
ปิยะมาศ โมณยะกุล
ตะวัน จารุจินดา
วิชัย จงประสิทธิ์พร
ดารณีนุช โพธิปิติ
วิสรรค์ ฉัตรรังสิกุล

 

สายลมกับแสงดาว

สายลมกับแสงดาว เป็นเรื่องราวของ พิม ภรากร นักร้องนักแสดงซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย กำลังถ่ายทำละครเรื่องสายลับพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นละครบู๊ พิมได้รับบาดเจ็บจากเอฟเฟ็กต์ ที่แขน ฉ่อย ผู้จัดการส่วนตัวของพิมไม่พอใจทีมงานมาก ที่ทำให้พิมได้รับบาดเจ็บ ในเรื่องยังต้องมีการเดินทางไปถ่ายทำในนิวซีแลนด์ เมื่อถึงวันเดินทาง ทีมงานกลับจองตั๋วไม่ได้ ทำให้พิมต้องเดินทางไปนิวซีแลนด์ เพื่อฝึกซ้อมพายเรือก่อนเพียงคนเดียว ตามกำหนดการเมื่อพิมเดินทางถึงนิวซีแลนด์ ริชาร์ด ครูฝึกสอนพายเรือจะต้องมารับที่สนามบิน แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ริชาร์ดเกิดตกบันไดขาหักมารับพิมไม่ได้ แบรนดอน เจ้าของบริษัทจึงส่ง เซน ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-นิวซีแลนด์ครูฝึกอีกคนมารับแทน แต่แบรนดอนติดต่อกับเซนผิดพลาด ทำให้เซนไปรับพิมที่สนามบินไม่ทัน พิมโกรธมากที่ต้องนั่งรอเป็นชั่วโมง แต่ไม่มีคนมารับ จึงโทรศัพท์ติดต่อไปหาแบรนดอน จึงได้รู้ว่า เซนจะเป็นคนมารับ ขณะกำลังโทรศัพท์อยู่นั้น คณะทัวร์ได้มาหยิบกระเป๋าเดินทางของพิมขึ้นรถไป พิมตกใจมาก และโทษว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเซน เซนพาพิมไปส่งที่โรงแรม แต่พิมไม่มีบัตรเครดิต หรือเงินสด ทางโรงแรมจึงไม่ยอมให้เข้าพัก เซนจึงพาพิมไปพักที่บ้านน้าเมี่ยง น้าสาวของเขาที่เปิดร้านขายของที่ระลึกอยู่ที่แอร์โรทาวน์ พิมโทรฯ ติดต่อฉ่อยที่กรุงเทพฯ เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ฉ่อยจึงโทรฯ ไปบอกพอล หรือภิรมย์ อิสระภักดี นักธุรกิจหนุ่มแฟนของพิมให้จัดการเรื่องโรงแรมให้ พิมจึงให้เซนพาไปส่งยังโรงแรมที่พอลติดต่อไว้ให้ พิมไปพบกับแบรนดอนเพื่อยืนยันว่า เธอไม่ต้องการให้เซนเป็นครูสอนพายเรือ แต่เมื่อเห็นสภาพริชาร์ดที่ยังเข้าเฝือกขาอยู่ ก็จำเป็นต้องให้เซนมาเป็นครูฝึกพายเรือให้เธอ ทางทีมงานและฉ่อย ได้ตั๋วเดินทางไปนิวซีแลนด์ แต่ต้องไปยังมืองไครส์เชิร์ช ไม่ใข่ควีนส์ทาวน์ที่พิมอยู่ เมื่อพิมรู้ว่าทีมงานกำลังจะมาถึงจึงได้ตัดสินใจไปเอาเรือออกมาหัดพาย ตอนกลางคืนคนเดียว เซนรู้ก็รีบมาหาพิมที่ทะเลสาบซึ่งขณะนั้นเรือที่พิมพายเกิดคว่ำพอดี เซนจึงช่วยพิมไว้ได้ทัน พิมได้รับการติดต่อจากบริษัททัวร์ ที่เอากระเป๋าไปว่า ตอนนี้กระเป๋าของเธออยู่ที่เมืองไคร์ช เชิร์ช พิมจึงตัดสินใจจะเดินทางไปรับกระเป๋าด้วยตัวเอง พิมบอกเรื่องนี้กับเซน เซนจึงอาสาขับรถพาไป ระหว่างทางทั้งคู่ได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกัน เซนพาพิมไปเที่ยวที่ทะเลสาบเทคาโป ความงามของทะเลสาบทำให้พิมรู้สึกผ่อนคลายความเคร่ง เครียดลงมาก เมื่อไปถึงเมืองควีนส์ทาวน์พิมยังรับกระเป๋าไม่ได้เพราะเป็นวันหยุดของ บริษัททัวร์ ระหว่างรอเซนได้พาพิมไปเที่ยว เซนกับพิมยังได้อยู่ร่วมสนุกกับเพื่อนชาวเมารีจนดึก พิมดูสนุกสนานและสนิทสนมกับเซนมากขึ้น ฉ่อยกับทีมงานได้เดินทางมาถึงควีนส์ทาวน์ และได้ไปถามหาพิมกับแบรนดอน เมื่อฉ่อยรู้ว่าพิมเดินทางไปกับเซนก็รู้สึกไม่พอใจ เมื่อพิมกลับมาก็คาดคั้นเรื่องของเซนและกำชับให้พิมเลิกติดต่อกับเซน พอลได้เดินทางมาหาพิมที่นิวซีแลนด์ และได้ตามมาที่กองถ่ายด้วย พอลประกาศตัวเป็นแฟนกับพิม ทำให้เซนเศร้าใจมาก ในการถ่ายทำมีฉากที่เซนต้องเป็นคนขับเรือให้กับพิม แต่เกิดผิดพลาดทำให้พิมพลัดตกน้ำ เซนกับพอลรีบกระโดดลงไปช่วย แต่พอลถึงตัวพิมก่อน เซนจึงต้องเป็นฝ่ายถอยห่างไป พอลกับฉ่อยโทษว่าเป็นความผิดของเซน เซนจึงขอถอนตัวจากการเป็นคนดูแลพิม พิมรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดจะมาปรับความเข้าใจกับเซน พิม นัดเจอเซนตอนสองทุ่ม แต่พอลแอบได้ยินจึงแกล้งนัดพิมทานข้าวตอนสองทุ่มทำให้พิมไปไม่ทันนัดกับเซน พิมโทรฯ มาหาเซนที่บ้านแต่คิตเป็นคนรับ พิมฝากบอกเซนว่า จะไปรอที่หน้าบริษัทของเซนตอนสองทุ่ม คิตซึ่งแอบชอบเซนอยู่ไม่พอใจที่พิมโทรฯ มาหาเซนจึงไม่ยอมบอกเซน พิมไปรอเซนตามนัด ส่วนเซนซึ่งไม่รู้ว่าพิมโทรฯ มาขอพบได้ขับรถไปพักยังทะเลสาบเทคาโป พอลกับฉ่อยตามหาพิมไม่เจอจึงได้มาตามหาที่บ้านน้าเมี่ยง คิตรู้สึกผิดมากจึงบอกว่าพิมไปรอเซนที่บริษัท พอลกับฉ่อยตามไปพบพิมนังหลับอยู่ริมทะเลสาบไม่สบายตัวร้อนจัด พอลกับฉ่อยจึงรีบพาพิมกลับไปที่พัก น้าเมี่ยง คิต และล็อตโต้ ตามมาพบพิมที่โรงแรม แต่ถูกฉ่อยกีดกันไม่ยอมให้พบ ล็อตโต้จึงรีบขับรถไปตามหาเซนที่เทคาโปและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เซนรีบตามมาพบพิมที่สนามบิน แต่ก็ไม่ทันพอลกับฉ่อยได้พาพิมกลับกรุงเทพฯ ไปก่อน เซนตัดสินใจตามมาพบพิมที่กรุงเทพฯ โดยมี น้าเมี่ยง คิต และ ล็อตโต้ตามมาด้วย เมื่อมาถึงเมืองไทย เซนพยายามหาทางติดต่อกับพิม แต่ก็ถูกฉ่อยกีดกันสุดฤทธิ์ แต่เซนก็ไม่ยอมแพ้หาทางพบกับพิมจนได้ เซนตัดสินใจบอกรักพิม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่พิมเตรียมแถลงข่าวเรื่องงานแต่งงานกับพอล พิมตัดสินใจพูดกับพอลตรง ๆ ว่าเธอรักเซน แม้พอลจะเจ็บปวดที่ต้องอกหักจากพิมแต่พอลก็ทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ เรื่องราวของพิมกับเซนจึงจบลงด้วยความสุขเมื่อรักของทั้งคู่พบกับความสุขสมหวัง

นักแสดงละคร สายลมกับแสงดาว
1. มาช่า วัฒนพานิช แสดงเป็น พิม
2. ปีเตอร์ คอร์ปไดเรลดัล แสดงเป็น เซน
3. ผอูน จันทรศิริ แสดงเป็น น้าเมี่ยง
4. ปวันรัตน์ นาคสุริยะ แสดงเป็น ฉ่อย
5. ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี แสดงเป็น พอล
6. ศิริศักดิ์ นันทเสน แสดงเป็น แซม
7. อรรถพร ธีมากร แสดงเป็น ล๊อตโต้
8. สุวิภา ตาปนานนท์ แสดงเป็น คิต

สันติบาล

สันติบาล ตีแผ่ภาพเบื้องหลังการปราบปรามอาชญากรรมของกรมตำรวจ

สองปรารถนา

สองปรารถนา เป็นเรื่องราวของ ปรารถนา ธาราทอง หรือ หนึ่ง (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) แต่งงานกับ ธียศ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ตามคำสั่งเสียก่อนตายของ ปองพล (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) พ่อของหนึ่งและเจ้าของรีสอร์ทบ้านหาดธารา ปองพลมีบุญคุณต่อธียศ ธียศจึงยอมแต่งงานกับหนึ่งแม้จะไม่ได้รัก แต่ในวันแต่งงาน นิชดา (รุจิรา ช่วยเกื้อ) คนรักเก่าของธียศกลับปรากฎตัวขึ้นมาของานทำ เพราะสามีของเธอเสียชีวิตจึงไม่มีใครให้พึ่งพา ด้วยความเห็นใจธียศจึงยอมให้นิชดาอาศัยที่รีสอร์ทโดยให้เป็นผู้ช่วยของตน

ราตรีคนสนิทของหนึ่งไม่ไว้ใจนิชดาเพราะเคยเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของเธอ จึงขอร้องให้หนึ่งไปสืบ แล้วหนึ่งก็พบเงินอยู่เต็มกระเป๋าเดินทางของนิชดา พอไปลองค้นประวัตินิชดาจึงพบว่าเธอคือภรรยาของ เพฑูรย์ (ปราบ ยุทธพิชัย) เลขานักการเมือง ที่เพิ่งรถคว่ำเสียชีวิตไปพร้อมกับเงิน 50 ล้าน

หนึ่งตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับธียศ นิชดารู้ทันเลยวางแผนฆ่าปิดปากหนึ่งแต่ไม่สำเร็จเพราะ เฟื่อง (รัญญา ศิยานนท์) คนเก่าแก่ของรีสอร์ทมาเจอจึงช่วยไว้ หนึ่งเอาแต่เพ้อเพราะหวาดกลัวจนเฟื่องเข้าใจผิดว่าธียศเป็นคนวางแผนฆ่าหนึ่ง เฟื่องจึงเอาเสื้อผ้าของหนึ่งไปใส่ให้ราตรี สาวใช้ที่ออกเรือตามหาหนึ่งจนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เพื่อให้ทุกคนรวมทั้งธียศเข้าใจว่าหนึ่งตายไปแล้ว

ท่ามกลางความวุ่นวายหนึ่งกลับหนีเตลิดหายไป จนไปเจอกับ สาริศ (รัชชานนท์ สุขประกอบ) นายตำรวจหนุ่ม สาริศเห็นหนึ่งมีอาการทางจิตเลยให้ หมอสุรเชษฐ์ (พนมกร ตังทัติสวัสดิ์) เพื่อนสนิท และวรรณวลี (แอริน ยุกตะทัต) น้องสาวที่ทำงานอยู่สถานบำบัดจิตเวชช่วยรักษา

แม้ธียศจะสงสัยเรื่องการตายของหนึ่ง แต่เพราะรีสอร์ทบ้านหาดธาราโดนพายุซัดหนักจนเสียหาย ธียศจึงต้องระดมเงินมาซ่อมแซม รวมทั้งปิดบัญชีธนาคารในชื่อ ปรารถนา ธาราทอง ของ ปลา (พอลล่า เทเลอร์) หญิงสาวที่มีชื่อและนามสกุลเหมือนหนึ่ง เมื่อปลารู้ว่าบัญชีถูกปิดจึงชวนวรรณวลีเพื่อนสนิทตามไปทวงหนี้ธียศถึง รีสอร์ท ทำให้รู้เรื่องการตายที่น่าสงสัยของหนึ่ง

ปลา เริ่มสืบหาความจริงและได้ใกล้ชิดกับธียศ ทั้งคู่จึงเกิดความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ด้วยความระแวงและหึงหวงนิชดาจึงสร้างเรื่องข่มขู่ปลาต่าง ๆ นานา โดยให้เข้าใจว่าเป็นฝีมือของธียศ วรรณวลีจึงขอร้องให้ปลากลับกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัย

ด้านสาริศที่รู้ตัวว่าหลงรักหนึ่งก็พยายามสืบประวัติพร้อมกับช่วยรักษาอาการ กลัวทะเลของเธอไปด้วย ระหว่างที่ปลาไปหาวรรณวลีที่สถานบำบัด ปลาเกิดทำรูปธียศตกจนหนึ่งไปเห็นเข้าเลยอาละวาดหนัก ทำให้ปลาสงสัยว่าหนึ่งอาจรู้จักกับธียศ เธอจึงตามสืบจาก ภูมิ (ภูริ หิรัญพฤษ์) คนสนิทของธียศ จนรู้ว่าที่แท้หนึ่งคือภรรยาของธียศ ปลาจึงมั่นใจว่าธียศต้องเป็นฆาตกรที่วางแผนฆ่าเมียตัวเอง เธอจึงกลับไปที่รีสอร์ทเพื่อหาหลักฐานเอาผิดธียศ ส่วนหนึ่งที่อาการดีขึ้นมากก็ตัดสินใจกลับมาที่รีสอร์ทอีกครั้ง เพื่อเปิดโปงโฉมหน้าฆาตกรตัวจริง! แต่นั่นจะกลับกลายเป็นโอกาสให้นิชดาปิดบัญชีฆ่าทั้ง สองปรารถนา หรือไม่? ติดตามชม ละครสองปรารถนา

สนสะท้าน

พ่อมีลูกสาวคนแรก ชื่อ สนธิยา ที่คลอดออกมามีหาง และทำให้แม่ตาย ย่าจึงคิดว่าเป็นตัวกาลกิณี จึงไม่ยอมให้เลี้ยงลูกสาว แต่ด้วยความรักความสงสารเด็ก พ่อของชุษณะซึ่งเป็นหมอประจำตระกูล จึงนำสนธิยาไปเลี้ยงและมีสุนัขเป็นเพื่อนเล่นอาศัยอยุ๋ในกระท่อมหลังป่าสนโดยไม่มีใครทราบความจริงที่เกิดขึ้น และพ่อของสนธิยามีลูกสาวอีกคนหนึ่งชื่อ เพริศฤดี วันหนึ่งเธอไม่สบาย จึงไปตามหมอประจำตระกูล หมอเลยส่งลูกชาย คือ คุณหมอชุษณะ ที่เป็นหมอเช่นกันไปรักษาให้แทน ทั้งสองเกิดชอบพอกัน โดยมีสนธิยาแอบคอยดูตลอดเวลา และแอบหลงรักหมอชุษณะ จนวันหนึ่งหมอชุษณะได้รู้จักกับสนธิยาและอาสาผ่าตัดหางให้ และพ่อของเธอพาเธอกลับบ้านทุกอย่างจึงถูกเปิดเผย เพริศฤดี จึงรู้ว่าเธอเป็นพี่สาวที่ชอบพอกับหมอชุษณธ ด้วยความเห็นใจเธอจึงหลีกทางให้พี่สาวได้สมหวัง

สงครามนางฟ้า

มณีริน (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) สาวสวยที่มาฝึกอบรมสำหรับการเป็นพนักงานต้อนรับของสายการบินเมขลาแอร์ ทำให้เธอรู้จักกับ หนุ่ย (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) และ กิ๊บ (ภัทรา มั่นพิริยะกุล) เพราะความสวยของรินทำให้เธอได้รับคัดเลือกให้ทำกิจกรรม ทำให้เพื่อนบางคนหมั่นไส้ โดยเฉพาะ หน่อย (อภิษฎา เครือคงคา) ที่อิจฉาความสวยของรินทำให้เธอก้าวหน้าเร็วกว่าเพื่อน

วันหนึ่งรินก็ได้พบกับ อิน (สหรัถ สังขปรีชา) กัปตันเครื่องบิน อินหลงรักรินตั้งแต่แรกเห็น ทั้ง ๆ ที่มีภรรยาอยู่แล้วชื่อ จิ๋ม (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) รินมักได้รับของขวัญจากใครบางคน จนวันหนึ่งรินบินไปสิงคโปร์และเจออิน ทำให้เธอรู้ว่าอินเป็นคนส่งของมาให้ อินพารินไปเที่ยวที่ต่างๆ ทำให้รินหลงรักอิน แต่พอกลับมารินก็ต้องเจอ จิ๋ม ภรรยาขี้หึงของอิน ตามมาอาละวาดที่สนามบิน ทำให้รินอับอาย และ หนิง (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) กัปตันอีกคนที่เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มากและเป็นเสือผู้หญิง ก็ได้โอกาสเข้ามาปลอบใจริน แต่อินก็หาโอกาสที่จะบอกรักริน และบอกว่าจะหย่ากับจิ๋ม

หนิงแสร้งว่าจะช่วยอิน อินฝากจดหมายไปให้รินแต่หนิงไม่เคยเอาให้เธอ

รินคิดว่าอินตัดขาดความสัมพันธ์ และหนิงก็ใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดริน พออินรู้ว่าหนิงจีบรินก็ไม่พอใจและพยายามจะบอกรินว่าหนิงเป็นคนเจ้าชู้ ซึ่งรินก็บอกว่าอินต่างหากที่เป็นคนตัดความสัมพันธ์กับเธอ ทำให้ทั้งคู่รู้ว่าหนิงเก็บจดหมายไว้ รินจึงโทรศัพท์ไปต่อว่าหนิง หนิงรู้ว่าอินอยู่กับริน จึงโทรศัพท์ไปบอกจิ๋มว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ทำให้เธอไปอาละวาด รินจึงออกไปกับหนิง และในที่สุดรินก็ตกเป็นของหนิง

รินจำเป็นต้องแต่งงานกับหนิงเพราะเธอท้อง

และเธอก็ได้รู้ว่าหนิงเคยมีลูกมาแล้ว 1 คน กับกิ๊บนั่นเอง ชื่อ หนอน น้องสาวของหนิงก็คือหน่อย เป็นศัตรูของเธออีกต่างหาก รินเจอกับเหตุการณ์ที่เลวร้าย ไหนจะโดนแม่สามี (ภัสสร บุญยเกียรติ) หน่อย และหนอนที่คอยแกล้งเธอ แต่เธอก็อดทนเรื่อยมา หนิงคงยังเจ้าชู้ไม่เลิกจนได้พบกับ เชอรี่ (ปานวาด เหมมณี) แอร์โฮสเตสน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามา หนิงตามจีบเชอรี่และเชอรี่ก็ให้ท่าแก่หนิงจนได้เสียกัน เชอรี่ก็ตามรังควาญริน ในขณะที่ทางหนุ่ยเป็นเกย์แต่ไม่กล้าเปิดเผยให้พ่อ (อภิชาติ หาลำเจียก) ที่เป็นโรคหัวใจได้รับรู้ เพราะพ่อไม่อาจรับได้

รินยังคงต้องผจญกับชีวิต จนทนไม่ไหวเธอพยายามแยกบ้านอยู่ต่างหากกับหนิงและครอบครัว และพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวกับหนิง แต่หนิงก็ยังตามง้อเธออยู่เรื่อย ๆ และเธอก็ต้องใจอ่อนทุกที ส่วนจิ๋มภรรยาขี้หึงของอินก็เสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง อินดูแลจิ๋มจนวันสุดท้ายของชีวิต

ในที่สุด เชอรี่ก็ท้องกับหนิงและตามมาถึงที่บ้านและมาอาศัยอยู่ด้วยในฐานะภรรยาคนหนึ่งของหนิง รินทนความเจ้าชู้ของหนิงไม่ไหว ยื่นฟ้องต่อศาลขอหย่ากับหนิง และเมื่อเธอไปที่สิงคโปร์อีกครั้งท่ามกลางความสับสนในใจ เธอได้พบกับอิน ซึ่งเป็นผู้ชายที่จริงใจกับเธอมาโดยตลอด และในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน