Category Archives: ละครช่อง5

เรือนเสน่หา

พุทธศักราช 2448 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกเลิกการมีทาสไปแล้ว ผู้ชายโดยเฉพาะเจ้าขุนมูลนายนิยมมีภรรยาหลายคน ขณะที่ฝ่ายชายต่อสู้และแย่งชิงตำแหน่งและหน้าที่ทางสังคม ฝ่ายหญิงก็ต่อสู้เพื่ออำนาจในเรือน ครอบครัวของ คุณหลวงปราบ ธำรงค์นครา (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) เองก็เช่นกัน คุณหลวงมีภรรยาเอกคือ ชมนาด (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) หญิงสาวจากตระกูลสูง และ เอื้องคำ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวพ่อค้าจากเชียงใหม่
 
ทั้งสองคนต่างต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อให้เป็นคนโปรดของคุณหลวง ชมนาด นั้นมี อีอี่ (รัญญา ศิยานนท์) เป็นบ่าวคนสนิทคอยรับใช้เป็นหูเป็นตาให้ ส่วน เอื้องคำ มี อีมุ่ย (ณหทัย พิจิตรา) บ่าวที่ติดตามมาจากเชียงใหม่เป็นบ่าวคนสนิท และคอยเป็นหูเป็นตาเช่นกัน ทั้งชมนาดและเอื้องคำมักมีเรื่องกันบ่อยครั้ง เพราะเอื้องคำนั้นมีนิสัยเอาแต่ใจ เจ้าคิดเจ้าแค้น จึงไม่ยอมลงให้กับชมนาดเมียเอก ส่วนชมนาดนั้น ภายนอกดูเป็นคนจิตใจดี มีเมตตากรุณา แต่ซ่อนความเลือดเย็นเอาไว้ แต่เอื้องคำและอีมุ่ยมองทะลุเข้าไปถึงใต้ท่าทีเหล่านั้น จึงไม่วางใจในตัวชมนาด
 
เมื่อเมียบ่าวที่ชื่อ สร้อย (อุทัยศรี ศรีณรงค์) เกิดตั้งท้องขึ้นมา ชมนาดก็แอบจัดการฆ่าไปเสียโดยใช้บึ้งชะงัก แล้วแอบใส่ความโยนความผิดให้เอื้องคำ ระหว่างนั้นเอื้องคำเกิดตั้งท้อง คุณหลวงจึงให้รอคลอดลูกให้เรียบร้อย แล้วไสหัวเอื้องคำและอีมุ่ยออกไป เอื้องคำแค้นใจมากที่ไม่มีใครเชื่อตน ด้วยความแค้นเอื้องคำจึงแอบไปบนเรือนชมนาดจะฆ่า แต่ก็พลาดต้องตกบันไดลงมาแท้งลูก ทำให้เอื้องคำไม่เหลืออะไรอีกแล้ว รอเพียงวันที่จะออกไปจากเรือนเท่านั้น
 
ปราฏว่าในวันที่ต้องออกไปจากเรือน เอื้องคำเกิดเสียสติร้องหาลูก ทำให้คุณหลวงสงสารเลี้ยงดูให้อยู่ในเรือนต่อไป แม้เอื้องคำจะตกต่ำลงไปแล้ว ชมนาดก็ยังนอนใจไม่ได้ เพราะยังเหลือ มะลิ (โสภิตนภา ชุมภาณี) เมียบ่าวแสนซื่อของคุณหลวงอีกคนที่เป็นหนามยอกอก ยิ่งไปกว่านั้น มะลิ และ ไอ้มิ่ง (อาณัตพล ศิริชุมแสง) บ่าวชายเกิดไปรู้เห็นเรื่องบึ้งชะงักเข้า ยิ่งทำให้ชมนาดต้องกำจัดมะลิกับไอ้มิ่ง ด้วยการใส่ความว่าทั้งสองคนเป็นชู้กัน เมื่อคุณหลวงมาเห็นก็โมโหมาก สั่งลงโทษและไล่ออกจากเรือนไป
 
มะลิ ไอ้มิ่งและ ป้าพิศ (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) ป้าของไอ้มิ่งหนีไปตั้งหลักที่วัด ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านคุณหลวงมากนัก หลวงตาน้อย (สรพงศ์ ชาตรี) พระที่ให้ความช่วยเหลือ ให้ทั้งหมดอยู่ที่กระท่อมท้ายวัด ปรากฏว่า มะลิมีลูกคุณหลวงติดท้องมาด้วย ทำให้ทุกคนยังออกเดินทางไปตั้งรกรากที่อื่นไม่ได้ ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน ส่วนชมนาดเองก็เกิดตั้งท้องขึ้นมาเช่นกัน
 
วันหนึ่ง อีอี่ไปที่วัดก็แอบเห็นไอ้มิ่งแล้วตามไป จึงได้รู้ว่ามะลิตั้งท้องลูกของคุณหลวงเช่นกัน ชมนาดสั่งอีอี่ให้จัดการพวกของมะลิ เย็นวันนั้นมะลิคลอดลูกแฝดชายออกมา พอตกดึกอีอี่แอบตามมาเผาบ้านหวังให้ทุกคนตายคากองเพลิง มะลิคว้าลูกมาได้เพียงคนเดียว ส่วนลูกอีกคนที่หน้าอกโดนพระที่หลวงตาน้อยให้มาร่วงใส่อกจนเป็นรอยแผลเป็นนั้นคาอยู่ในกองไฟกับป้าพิศ มะลิและไอ้มิ่งหนีออกมาได้ก็สลบอยู่ที่ข้างบ้าน หารู้ไม่ว่าป้าพิศโยนเด็กอีกคนออกมาได้ เด็กไปคาอยู่บนกอผักบุ้ง
 
ทางฝั่งชมนาดที่รออีอี่กลับมารายงานนั้น ก็เกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกเช่นกัน แต่ร้องหาบ่าวไพร่ไม่ได้สักคนเพราะบ่าวไพร่มัวแต่ไปช่วยกันดับไฟที่เรือนบ่าว คนที่ขึ้นมาดูชมนาดก็คือเอื้องคำ เมื่อชมนาดคลอดลูกสาว เอื้องคำก็แย่งเอาลูกไป ทำให้ชมนาดรู้ทันทีว่าเอื้องคำแกล้งบ้า เอื้องคำสะใจ อุ้มลูกสาวชมนาดหนีออกไปกับอีมุ่ยในคืนนั้นเอง เมื่ออีอี่กลับมาพบจึงรีบออกไปตามหาเอื้องคำเพื่อเอาลูกชมนาดกลับมา แต่เด็กที่อีอี่ได้กลับมานั้น คือลูกชายของมะลิ ที่หลวงตาน้อยเป็นคนไปพบบนกอบัว ชมนาดจึงตกกระไดพลอยโจนเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงแทนลูกตนเอง
 
อีอี่นั้นแม้จะรู้จากหลวงตาน้อยว่าเป็นลูกของมะลิ แต่ก็มิได้บอกชมนาด ฝั่งมะลินั้นเมื่อเข้าใจว่าลูกอีกคนตายไปในกองเพลิงกับป้าพิศแล้วก็เศร้าโศกเสียใจ พากันย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่อยุธยา ระหว่างทางได้เจอกันหญิงท้องแก่คนหนึ่ง ซึ่งเกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกกะทันหัน หญิงคนนั้นรู้ว่าตนจะไม่รอด จึงฝากลูกสาวที่เพิ่งคลอดให้มะลิช่วยดูแลแทนตน ก่อนจะขาดใจตายไป มะลิตั้งชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า สายหยุดและตั้งชื่อลูกชายของตนว่า เมือง
 
ส่วนเอื้องคำและอีมุ่ยที่ขโมยลูกชมนาดไป จับพลัดจับผลูได้ไปเป็นเมียของเถ้าแก่ซ้ง (ประกาศิต โบสุวรรณ) เจ้าของโรงฝิ่น เอื้องคำตั้งชื่อให้ลูกสาวชมนาดว่า ชวนชม และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เหม่ยฟาง ส่วนอีมุ่ยก็เปลี่ยนเป็นชื่อเง็ก เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมเป็นอย่างดี ให้ฝึกหัดทุกอย่างตามแบบฉบับของสาวชาววัง ท่ามกลางความแปลกใจของอีมุ่ยว่าเหตุใดต้องทำเช่นนั้น
 
คุณหลวงรักและหลงลูกชายคนแรกมาก ตั้งชื่อให้ว่า สุข เพราะเชื่อว่าลูกจะนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้าน จากนั้นไม่นาน ชมนาดตั้งท้องอีกครั้ง คราวนี้ชมนาดได้ลูกชาย และให้ชื่อว่า เทพ ชมนาดเลี้ยงดูลูกอย่างลำเอียง ทำให้มีปากเสียงกับคุณหลวงบ่อยครั้ง อีอี่นั้นเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูสุขด้วยความสงสาร ฝั่งมะลิและไอ้มิ่งก็เลี้ยงดู เมือง และ สายหยุดมาเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งสองเข้าใจว่ามะลิและไอ้มิ่งคือพ่อแม่ที่แท้จริงของตน ทั้งที่ความจริงแล้วมะลิและไอ้มิ่งอยู่กันแบบพี่น้องเรื่อยมา
 
18 ปีผ่านไป รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คุณหลวงได้เลื่อนขั้นเป็นคุณพระธำรงค์นครา สุขนั้นเติบใหญ่มาท่ามกลางความเกลียดชังของชมนาด เพราะคุณพระรักและหลงในตัวสุขมาก ยิ่งสุขเรียนเก่งและดีเท่าไร ก็ยิ่งเป็นข้อเปรียบเทียบกับเทพ ลูกแท้ ๆ ของชมนาด เทพไม่สนใจการเรียน เอาแต่หาเรื่องเที่ยวเตร่ สนุกสนานไปวัน ๆ ไม่ได้อย่างใจคุณหลวง แม้สุขจะรู้สึกอยู่เสมอว่าแม่ไม่รักตน ก็ยังเฝ้ากตัญญูพยายามทำให้แม่รักตน และไม่เคยอิจฉาริษยาน้องเลย คุณพระนั้นหวังให้เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับ เดือน ลูกสาวของ คุณหลวงไว (ศรุต วิจิตรานนท์) เพื่อนของตนเอง ส่วนมะลิและไอ้มิ่งนั้น เลี้ยงเมืองและสายหยุดมาจนเติบโต เมืองไปมีเรื่องกับนักเลงที่จะมาฉุดสายหยุด จนพวกนักเลงตามไล่ฆ่า ทำให้ทั้งครอบครัวนั้นหนีลงเรือ จับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ที่พระนครอีกครั้ง
 
วันหนึ่ง เถ้าแก่ซ้งเกิดรู้ว่าที่แท้ชวนชมเป็นลูกสาวของชมนาดกับคุณพระ ก็ตั้งใจจะไปบอกความจริงกับคุณพระ เอื้องคำเลยใช้แก่นรัญจวนแก่นไม้ที่เพิ่มกำหนัด ซึ่งเอื้องคำเคยใช้ได้ผลมาหลายครั้งทั้งตอนที่ยั่วยวนคุณหลวง และเถ้าแก่ซ้งมาแล้ว แต่คราวนี้ออกฤทธิ์หนักจนทำให้เถ้าแก่ซ้งตายคาอกเอื้องคำ ทำให้เอื้องคำได้ขึ้นเป็นใหญ่ทันที เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมอย่างดี ชวนชมทำตามคำสั่งเอื้องคำทุกอย่าง และเฝ้ารอเพียงวันที่เอื้องคำจะบอกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเป็นใคร อีมุ่ยเพิ่งจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ทุกอย่างที่เอื้องคำทำมาทั้งหมด ก็เพียงเพื่อจะรอวันแก้แค้นชมนาด ให้ชมนาดเจ็บปวดอย่างสาสม! โศกนาฏกรรมความเสน่หาอาฆาตบทนี้ จะลงเอยเช่นไร? ติดตามกันต่อได้ใน ละครเรือนเสน่หา

ตาเบบูญ่า

ใต้ต้น ตาเบบูญ่า ที่นี่คือที่เริ่มต้นตำนานของสามสาวที่ผูกสมัครรักใคร่เป็นเพื่อนกันในรั้วมหาลัย แต่สายสัมพันธ์ยืนยาวจนเป็นเพื่อนทุกข์ในอนาคต เรื่องราวของเธอเกิดขึ้นเพราะผู้ชายเลวๆ หนึ่งคน ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเธอเปลี่ยนไป

ในงานเลี้ยงคืนสู่เหย้า สามสาวตาเบบูญ่าได้มาเจอกันอีกครั้ง ทั้งสามอยากจะลืมทุกสิ่งที่ไม่ดีต่อกัน ใต้ต้นตาเบบูญ่าต้นเดิม..มิตรภาพของพวกเธอเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ต่างคนต่างรับรู้ความเป็นไปของกันและกัน

แต่เรื่องราวไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เมื่อ เอกฤทธิ์ ผู้ชายที่ทำให้มิตรภาพของสามสาวตาเบบูญ่า สั่นคลอน ได้กลับมาป้วนเปี้ยนในชีวิตของพวกเธอ ไม่เพียงแต่เท่านั้น เขาได้เข้าไปพัวพันกับลูกๆ ของเธอทั้งสาม ทำให้เรื่องราวที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เขาทำลายอนาคตของพวกเธออย่างยับเยิน แล้วสามสาวตาเบบูญ่า จะทำอย่างไร นี่คือปัญหา และคำถามว่า ทำไม ทำไมปัญหาเหล่านั้นจึงเกิดขึ้นกับลูกผู้หญิงอย่างไม่จบสิ้น

คู่กรรม 2556

อังศุมาลิน ชลาสินธุ์ (หนึ่งธิดา โสภณ) เติบโตมาท่ามกลางความรักของ แม่อร (ปวีณา ชารีฟสกุล) กับ ยาย (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ที่บ้านริมคลองบางกอกน้อย โดยปราศจากความใยดีของพ่อที่เป็นนายทหารระดับสูงแห่งกองราชนาวีไทย ชื่อ หลวงชลาสินธุราช (จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี) ที่ไปมีครอบครัวใหม่เพื่อความก้าวหน้าทางการงาน อังศุมาลินมีเพื่อนชายที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก คือ วนัส (นภัทร อินใจเอื้อ) ก่อนเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ วนัสได้ขอความรักจากอังศุมาลิน แต่เธอขอให้คำตอบในวันที่เขาเรียนจบกลับมาเสียก่อน โดยทั้งคู่สัญญาว่าจะรอกัน

อังศุมาลินเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นกับ หมอโยชิ (อุดมพร คชหิรัญ) ทันตแพทย์ชาวญี่ปุ่นแถวตลาด ใกล้บ้าน แต่พอเกิดสงครามเขากลับแต่งเครื่องแบบทหารและประกาศตัวว่าเป็นคนของกองทัพญี่ปุ่นผู้รุกราน ทำให้อังศุมาลินผิดหวังและโกรธแค้น วันหนึ่งอังศุมาลินก็ได้พบกับ โกโบริ (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เรือเอกหนุ่มประจำกองทัพเรือญี่ปุ่น ที่มาประจำอยู่ที่อู่ต่อเรือใกล้บ้าน อังศุมาลินประกาศตนเป็นศัตรูกับกองทัพญี่ปุ่น เมื่อโกโบริสั่งลงโทษกรอกน้ำมัน ตาบัว (เกรียงไกร อุณหนันท์) กับ ตาผล (กลศ อัทธเสรี) คนในชุมชนชาวสวนที่อังศุมาลินรู้จัก ซึ่งไปรับจ้างทำงาน แต่กลับช่วยกันขโมยน้ำมันของกองทัพญี่ปุ่น โกโบริรู้สึกรักอังศุมาลินตั้งแต่แรกพบ เค้าพยายามแสดงไมตรีจิตกับครอบครัวของอังศุมาลินมาตลอด เช่น เมื่อยายของเธอป่วยเป็นไข้มาลาเรีย เขาก็พา หมอทาเคดะ (ภูริ หิรัญพฤกษ์) มารักษา ด้วยเหตุนี้แม่กับยายเอ็นดูมองเห็นถึงน้ำใจไมตรีและเรียกขานว่า พ่อดอกมะลิ

บ่ายวันหนึ่งขณะที่อังศุมาลินอยู่บ้านคนเดียวก็มีสัญญาณระเบิดดังขึ้น โกโบริมาหาเธอที่บ้านพอดี จึงพาเธอไปหลบภัยที่ท้องร่องในสวน พอดีระเบิดลงใกล้บริเวณนั้นโกโบริเอาตัวกำบังอังศุมาลินไว้ และเอ่ยปากบอกรักอังศุมาลินก่อนที่เขาและเธอจะหมดสติพร้อมกัน หลังเหตุการณ์สงบ แม่กับยายกลับมาจากทำบุญที่วัด พร้อมด้วย ยายเมี้ยน (อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ) และชาวบ้าน พวกเขามาพบโกโบรินอนทับอังศุมาลินอยู่ในท้องร่อง ยายเมี้ยนนำเรื่องนี้ไปโพนทะนาจนข่าวแพร่กระจายไปในทางเสื่อมเสียอย่างมาก พอดีหลวงชลาสินธุราชพ่อของ อังศุมาลินกำลังมีปัญหาทางการเมือง เพราะถูกสงสัยว่าเป็นขบวนการเสรีไทย และสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างไทยกับญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงกระทบกระทั่งกันเองพอดี อีกทั้งโกโบริเป็นตัวอย่างของนายทหารญี่ปุ่นที่มีความสัมพันธ์อันดีกับคนไทย ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองหนุ่มสาวจึงถูกดึงให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขบรรยากาศความขัดแย้ง หลวงชลาสินธุราชจึงมาเจรจาขอให้อังศุมาลินยอมแต่งงานกับโกโบริด้วยตนเอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวทั้งหมด เมื่อทุกอย่างบีบคั้นอังศุมาลินจึงยอมตกลงปลงใจแต่งงานกับโกโบริ แต่ในวันหมั้นโกโบริจับได้ว่าอังสุมาลินและพวกพ้องถือโอกาสพา ร้อยโทไมเคิล วอร์เด็น (โอลิเวอร์ พูลพาร์ท) เชลยชาวอเมริกันหนีกองทัพญี่ปุ่นไปพบพวกขบวนการเสรีไทยได้สำเร็จ จึงทำให้เขารู้สึกเสียใจกับการกระทำครั้งนี้ของอังศุมาลินเป็น อย่างมาก แต่เพราะความรักที่มีต่ออังศุมาลิน โกโบริจึงยอมเก็บเรื่องทุกอย่างไว้เป็นความลับ ทั้งๆ ที่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นภัยร้ายแรงกับกองทัพญี่ปุ่น

โกโบริรู้ดีว่าอังศุมาลินมีวนัสอยู่แล้ว เขาตัดสินใจไปหารือกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่เพื่อจะขอยกเลิกการแต่งงานแต่ก็ไม่เป็นผล การแต่งงานของโกโบริกับอังศุมาลินจึงเป็นไปตามกำหนดการเดิม และในคืนส่งตัวโกโบริก็ปฏิบัติตนเป็นสุภาพบุรุษ ไม่คิดที่จะล่วงเกินอังศุมาลินเลยแม้แต่น้อย

ตาบัวกับตาผลยังหาความเดือดร้อนมาใส่ตัวอีกจนได้ ด้วยการไปพาฝรั่งเยอรมันมาที่กระท่อมในสวน เพราะนึกว่าฝรั่งทุกคนคือศัตรูญี่ปุ่นไปหมด แต่เยอรมันคนนั้นไปแจ้งตำรวจและกองทัพญี่ปุ่น ว่าในสวนนี้มีกระท่อมที่ให้ที่พักกับฝรั่งชาติพันธมิตร จนพวก กำนัน (สรพงศ์ ชาตรี) ซึ่งเป็นพ่อของวนัสกับชาวบ้านต้องช่วยกันรื้อกระท่อมนั้น และจัดงานรำวงขึ้นเพื่อบังหน้า โกโบริเองก็พลอยร่วมมือไปกับเขาด้วยทั้งๆ ที่รู้สึกเจ็บปวดในใจ เขาจึงดื่มเหล้าอย่างหนักและร่วมรำวงอย่างสนุกสนานจนขาดสติ ในคืนนั้นเองโกโบริก็ปลุกปล้ำขืนใจอังศุมาลิน ทั้งเพราะความเมาความรักและความน้อยใจ ทำให้อังศุมาลินยิ่งแสดงความเย็นชาเกลียดชังเขามากขึ้น โกโบริรู้สึกผิดที่ล่วงเกินอังศุมาลิน เค้าจึงมุทำงานอย่างหนักไม่กลับมาค้างที่บ้าน พร้อมกับทำเรื่องขอย้ายไปประจำการที่พม่าเพราะสถานการณ์ที่นั่นกำลังตึงเครียด จากนั้นไม่นานอังศุมาลินก็รู้ตัวว่าตนได้ตั้งท้องลูกของโกโบริ หมอทาเคดะตรวจพบอาการและบอกข่าวดีทุกคนโกโบริดีใจมาก แต่แล้วก็มีข่าวว่าวนัสเป็นหนึ่งในขบวนการเสรีไทยจากอังกฤษที่กระโดดร่มเข้ามาในประเทศไทย และโดนญี่ปุ่นจับได้

อังศุมาลินรู้ว่าโกโบริจะได้เป็นหนึ่งในคณะทหารญี่ปุ่นที่จะทำหน้าที่สอบสวนวนัส เธอจึงเอาลูกมาขู่ว่าหากวนัสมีอันตรายอะไร โกโบริจะต้องตอบแทนอย่างสาสม ก่อนทิ้งตัวให้ตกบันไดที่สูงชันลงมา โชคดีที่เธอและลูกปลอดภัย แต่โกโบริเสียใจมากเขาพยายามเร่งให้ตัวเองได้ย้ายไปพม่าเร็วขึ้น และพูดว่าหากอังศุมาลินไม่ต้อง การเด็ก ก็ให้ส่งไปให้พ่อแม่เขาที่ญี่ปุ่นเลี้ยงก็ได้ ส่วนตัวเธอเขาจะปล่อยให้เป็นอิสระได้กลับไปรักกับวนัสตามเดิม อังศุมาลินเริ่มได้คิดและรู้ใจตนว่าที่แท้แล้ว คนที่มีความหมายที่สุดสำหรับเธอก็คือโกโบริและลูกในท้องต่างหาก เธออยากบอกให้เขารู้ว่าเธอรักเขาที่สุด และขอให้เขาเลิกล้มความคิดที่จะย้ายไปจากเมืองไทยเสีย แต่ก็มีอันต้องคลาดกันตลอด เพราะโกโบริเอาแต่หักโหมทำงานเพื่อลืมความทุกข์ในใจ ทั้งสองจึงไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน

ในที่สุดวนัสก็พ้นจากการจองจำเพราะความช่วยเหลือของโกโบริ วนัสรีบมาพบอังศุมาลิน เธอดีใจมาก เพราะเธอจะได้ให้คำตอบแก่วนัสตามสัญญาเสียทีว่าเธอรักโกโบริคนเดียวและขอคืนอิสระจากวนัส วนัสบอก ว่าโกโบริเป็นคนดี และอวยพรในความรักของเธอกับโกโบริ พร้อมกำชับให้อังศุมาลินบอกโกโบริว่าอย่าไปสถานีรถไฟบางกอกน้อย เพราะพันธมิตรมีแผนจะทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ที่นั่น ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่าการลักลอบพบกันครั้งนี้อยู่ในสายตาของโกโบริ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองบอกต่อกัน ภาพที่เห็นจึงทำให้โกโบริเข้าใจผิด จากนั้นอังศุมาลินก็รีบจะไปบอกข่าวดีกับโกโบริว่าเธอเป็นอิสระจากวนัสแล้ว และจะขอเป็นภรรยาที่ดีของเขาคนเดียว แต่ไม่ทันการเพราะ โกโบริได้ออกเรือตรงไปที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย พอดีอังศุมาลินรีบตามไปที่สถานีรถไฟบางกอก เมื่อเธอไปถึงปรากฏว่าสถานีรถไฟบางกอกน้อยโดนระเบิดถล่มเสียหายยับเยิน มีทหารบาดเจ็บล้มตายมากมาย อังศุมาลินขอพรลูกในท้องให้ช่วยคุ้มครองพ่อ และตามหาโกโบริอย่างร้อนใจ จนในที่สุดก็พบเขาบาดเจ็บสาหัสนอนจมซากปรักหักพังอยู่ เธอพยายามทำทุกวิธีอย่างสุดกำลังที่จะช่วยให้เขามีชีวิตรอด บทสรุปของโศกนาฏกรรมความรักที่มาพร้อมสงครามครั้งนี้จะลงเอยเช่นไร ตามชมได้ใน ละคร คู่กรรม

นักแสดงละคร คู่กรรม พ.ศ. 2556

สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว
หนึ่งธิดา โสภณ
นภัทร อินทรใจเอื้อ

บ่วงรัก

ธานินทร์ เลิศชัยวัฒน์ (สันติสุข พรหมศิริ) จำเป็นต้องแต่งงานกับ อังคณา (สินจัย เปล่งพานิช) เพื่อกอบกู้ฐานะของครอบครัว จนมีลูกชายหญิงด้วยกันสองคนคือ ชนะศึก (ธนทัต ชัยอรรถ) และชนกนันท์ (รุจิภาส ก่อเกียรติ) แต่ธานินทรืไม่มีความสุขเลย เพราะอังคณามีอุปนิสัยและการใช้ชีวิตตรงกันข้ามกับธานินทร์ทุกอย่าง และตลอดเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ธานินทร์ยังคงฝังใจอยู่กับคนรักเก่าของเขา ที่ถูกพรากไปเพราะความแตกต่างทางชนชั้น
 
พรรณี(มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ มีลูกชายหญิง 2 คน คือ เพชรแท้(ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ท) และพิณทอง (เต็มฟ้า กฤษณายุธ) พ่อของเด็กทั้งสองเสียชีวิตไปนานแล้ว ทิ้งให้สามแม่ลูกต้องปากกัดตีนถีบเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง แต่ด้วยความรักที่ทั้งสามมีต่อกัน ทำให้ครอบครัวที่ยากจนของพรรณีมีแต่งความสุข โดยมี ป้าสำอางค์ (วิยะดา อุมารินทร์) และผึ้ง(พัสกร พลบูรณ์) เป็นเพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือในยามที่มีปัญหา พิณทองได้เข้าไปทำงานที่บริษัทของธานินทร์ เธอทำงานผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ แต่กลับถูกชนะศึกไล่ออก แต่ธานินทร์ได้เห็นประวัติของพิณทองจึงรับเธอกลับเข้ามาทำงานใหม่ แถมยังเลื่อนตำแหน่งให้ ทำให้ชนะศึกไม่พอใจและทำให้ เรืองโรจน์(อาณัตพล ศิริชุมแสง) เลขาฯส่วนตัวของธานินทร์สงสัย
 
เรืองโรจน์รายงานเรื่องพิณทองให้อังคณารู้ อังคณาเข้าใจว่าธานินทร์มีความสัมพันธ์กับพิณทองฉันท์ชู้สาวจึงตามมารังควานถึงบ้าน ชนะศึกปกป้องพิณทองด้วยความสงสาร แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า ที่ธานินทร์แอบช่วยเหลือพิณทอง เพราะพรรณีแม่ของพิณทองเป็นคนรักเก่าที่ธานินทร์รักอย่างสุดหัวใจ ทำให้อังคณายิ่งแค้นใจมาก อังคณาตอบโต้พรรณีด้วยการใส่ความเพชรแท้ เพชรแท้ถูกตำรวจไล่ล่า ครอบครัวของพรรณีต้องหนีหัวซุกหัวซน พิณทองต้องพยายามตัดใจจากชนะศึก แม้ว่าจะรักเข้ามากเพียงใดก็ตาม ธานินท์รู้ว่าอังคณาเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง จึงโกรธถึงขั้นขอหย่า แต่อังคณาไม่ยอม ธานินทร์กลุ้มใจจนอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะสุดท้ายของเขากำเริบ ธานินทร์เจ็บปวดทรมานมาก แต่ไม่ยอมบอกใครว่าตนกำลังจะตาย พรรณีหมดหนทางที่จะช่วยเพชรแท้ จึงไปสารภาพความจริงกับธานินทร์ว่า เพชรเป็นลูกชายแท้ๆของเขา ธานินทร์ขอร้องให้ชนะศึกช่วยเพชรแท้จนพ้นคดี เพราะเพชรแท้คือลูกชายอีกคนของเขา ชนะศึกตกใจมากแต่ก็ต้องยินยอม
 
เพชรแท้พ้นโทษออกมา และได้รู้ความจริงทั้งหมด แต่ด้วยความโกรธ ทำให้เพชรแท้ไม่ยอมรับธานินทร์เป็นพ่อ ธานินทร์รู้ว่าตนเองมีเวลาเหลืออีกไม่นาน จึงคิดจะทำพินัยกรรมแบ่งสมบัติให้กับเพชรแท้ด้วย อังคณารู้เรื่องราวทั้งหมด ด้วยความแค้น เธอจึงร่วมมือกับเรืองโรจน์วางแผนฆ่าธานินทร์และป้ายความผิดให้กับเพชรแท้ ธานินทร์เสียชีวิตในกองไฟ ในขณะที่เพชรแท้โดนข้อหาพยายามฆ่าธานินทร์เพื่องชิงสมบัติ พรรณีและพิณทองจะหาทางช่วยเพชรแท้ได้หรือไม่ และชนะศึกจะรู้เบื้องหลังความเลวร้ายของอังคณาได้อย่างไร ติดตามได้ในละคร บ่วงรัก
 
รายชื่อนักแสดง บ่วงรัก :
 
สินใจ เปล่งพานิช รับบทเป็น อังคณา
สันติสุข พรหมศิริ รับบทเป็น ธานินทร์
ธนทัต ชัยอรรถ (แกงส้ม เดอะสตาร์) รับบทเป็น ชนะศึก
นิว ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ท รับบทเป็น เพชรแท้
เต็มฟ้า กฤษณายุธ รับบทเป็น พิณทอง
กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบทเป็น พรรณี
อาณัตพล ศิริชุมแสง รับบทเป็น เรืองโรจน์
เมย์ รุจิภาส ก่อเกียรติ รับบทเป็น นก
วิยะดา อุมารินทร์ รับบทเป็น ป้าสำอางค์
ตี๋ ดอกสะเดา รับบทเป็น ศักดา
เฟิร์น พัสกร พลบูรณ์ รับบทเป็น ผึ้ง

เริ่มต้น 30 ตุลาคมนี้ ละครบ่วงรัก

มารกามเทพ

รักที่ยาก..จะสมหวัง เมื่อความแค้นชิงชัง คือ…มารกามเทพ

น้ำหนึ่ง หรือ เพชรน้ำบุศย์(มนชนก แสงฉายเพียรเพ็ญ) ดีใจมากที่ได้เจอเพชร(ฌวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) วิศวกรหนุ่มหล่อรุ่นพี่ ที่น้ำหนึ่งแอบปลื้มตั้งแต่สมัยมัธยม แม่เพชรบอกรักและแสดงออกด้วยความจริงใจ น้ำหนึ่ง จึงรับรักเพชร เพชรดีใจมากขอน้ำหนึ่งแต่งงาน แต่รมต.เกรียงศักดิ์(สุรวุฑ ไหมกัน) และคุณหญิงดาราณี(กชกร นิมากรณ์) พ่อแม่ของน้ำหนึ่งไม่ยอมเพราะเห็นว่าสถานภาพทางสังคมของน้ำหนึ่งและเพชรแตกต่างกันเกินไป แต่เพชรก็บอกกับน้ำหนึ่งว่าเขาจะพิสูจน์ความรักจนกว่าพ่อแม่ของน้ำหนึ่งจะเห็นใจ น้ำหนึ่งดีใจมาก

แต่ภาคย์(เอเคอร์-ชมะนันทน์ อรรถจินดา) เพื่อนรุ่นพี่ของน้ำหนึ่ง ลูกชายของสมบัติ(สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) กับอารีย์(ภัสสร บุณยเกียรติ)เจ้าของร้านเพชร เสียใจมากเพราะภาคย์แอบหลงรักน้ำหนึ่งอยู่ แม้จะมีอลิส(แอริณ ยุกตะทัต) สาวไฮโซลูกสาวคนเดียวของคุณชายศิริศักดิ์ มาดามหัวใจ ภาคย์ก็ไม่สนใจ ทำให้อลิสโกรธมาก เพราะอลิสเป็นคู่แข่งของน้ำหนึ่งมาตั้งแต่ไหนๆ อลิสพยายามทำทุกอย่างให้น้ำหนึ่งไปจากชีวิตของเธอ

ที่สุดน้ำหนึ่งก็ได้แต่งงานกับเพชร ท่ามกลางความไม่เห็นชอบของรมต.ศิริศักดิ์และคุณหญิงดาราณีหลังแต่งงาน เพชรพาน้ำหนึ่งไปอยู่ที่บ้านเชิงเขา ที่นั่น น้ำหนึ่งได้พบกับทับทิม(อภิรดี ภวภูตานนท์) แม่ของเพชร และพลอย(นัท มีเรีย) พี่สาวขาพิการของเพชร สองคนมีทีท่ามึนตึงเฉยชากับน้ำหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะพลอยที่มีทีท่าว่าเกลียดชังน้ำหนึ่งตั้งแต่แรกเห็นน้ำหนึ่งไม่เข้าใจ แต่พยายามไม่สนใจ เพราะสงสารพลอยที่ขาพิการแต่แล้วน้ำหนึ่งต้องช็อกเมื่อพลอยพา รจนา(แคท-เปรมนลิน ธรรมเจริญ) เข้ามาในบ้าน พร้อมทั้งแนะนำว่ารจนาคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเพชร นั่นหมายถึง น้ำหนึ่งต้องตกอยู่ในฐานะ ภรรยาน้อย หรือภรรยาเก็บ เพราะน้ำหนึ่งไม่ได้จดทะเบียน น้ำหนึ่งเสียใจและตกใจมาก ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพชรจึงบอกในอดีตพ่อของน้ำหนึ่งได้ปลุกปล้ำขืนใจพลอย หนำซ้ำยังขับรถไล่ชนพลอยพิการ เพราะกลัวแม่ของน้ำหนึ่งรู้เรื่อง แต่เมื่อคุณหญิงดาราณีรู้เรื่อง ก็ยังส่งคนมาทำร้ายรังควานพลอยไม่สิ้นสุด ทำให้เพชรและครอบครัวโกรธแค้นมาก

เพชรบอกน้ำหนึ่งเขาไม่เคยรักเธอ ที่ทำทุกอย่างเพื่อให้น้ำหนึ่งตกหลุมรักเขาเท่านั้น น้ำหนึ่งจะต้องตกอยู่ในสภาพเมียเก็บ นางบำเรอของเขา เหมือนที่พลอยถูกพ่อของน้ำหนึ่งกระทำ น้ำหนึ่งทั้งตกใจและเสียใจมาก เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ทำร้ายพลอย และเพชรไม่เคยรักเธอ ต้องการตัวเธอมาเพื่อแก้แค้นเท่านั้น ด้วยความรัก น้ำหนึ่งยอมก้มหน้าชดใช้ความผิดแทนที่พ่อแม่โดยไม่คิดหนีกลับกรุงเทพแต่อย่างใด

ที่บ้านเชิงเขา น้ำหนึ่งต้องถูกเพชร พลอย และทับทิม ตลอดจนรจนาทำร้ายกายและหัวใจโดยเฉพาะต้องทนอยู่กับคนที่เหมือนมีอาการประสาทตลอดเวลาอย่างพลอย ไม่มีใครเห็นใจน้ำหนึ่ง มีแต่คนสะใจยกเว้นพจนีย์(อินทิรา เกตุวรสุนทร) พี่สาวของรจนา เพราะพจนีย์รู้ดีว่าความจริงแล้วเพชรและรจนาไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พจนีย์บอกน้ำหนึ่งไม่ได้ เพราะพลอยมีบุยคุณกับเธอ

ตาหวาน(คิตตี้-กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ) ที่ติดตามมารับใช้ดูแลน้ำหนึ่ง ไปบอกกับนวล(สุปราณี เจริญผล) แม่บ้านเรื่องน้ำหนึ่งถูกเพชรทำร้ายร่างกายและหัวใจ นวลสงสารน้ำหนึ่งมาก ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังเพชร นวลหาโอกาสเข้าไปเยี่ยมน้ำหนึ่งที่บ้านเชิงเขา เมื่อไปถึงที่นั่น นวลตกใจมากที่ได้เจอกับทับทิม เพราะในอดีตนวลพลั้งมือฆ่าคนตายต้องหนีหัวซุกหัวซุน นวลทั้งดีใจ เสียใจ ตกใจที่ได้ที่ได้รู้ว่าเพชรคือลูกชายของเธอ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นวลตกใจมากที่ได้รู้ว่าเพชรคือลูกชายของเธอ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นวลตกใจมากที่ได้รู้ว่าพลอยคือลูกสาวของทับทิม เพราะความจริงแล้ว พลอยคือหน้าห้องของเกรียงศักดิ์ที่ต้องการเป็นอนุ แต่เกรียงศักดิ์เป็นคนรักครอบครัว ไม่ได้ต้องการพลอยแบบนั้น พลอยโกรธและเสียใจมากที่ถูกปฏิเสธ วิ่งให้รถชนตาย แต่หมอณัฐ(แอม ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน) ลูกพี่ลูกน้องของอลิสช่วยเอาไว้ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พลอยขาพิการ แต่พลอยสร้างเรื่องโบ้ยความผิดว่าเป็นฝีมือของเกรียงศักดิ์และดาราณีทำให้ เพชรกับทับทิมโกรธแค้นมาก ที่สุดความแค้นมาตกที่น้ำหนึ่ง อลิสตามมาแฉซ้ำเรื่องความเลวร้ายของพลอย เพราะอลิสรู้เรื่องทุกอย่างดี พลอยโกรธมาก ฆ่าอลิส และทุกคนที่ขวางทางเธอ เพชรเสียใจมากที่สำร้ายน้ำหนึ่ง คนที่รักเขาสุดหัวใจ และยิ่งตกใจหนักเมื่อเพชรรู้ว่าที่แท้จริงแล้วพลอยแอบหลงรักเขาอยู่

เพชรจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่า “พลอย” พี่สาวที่แสนรัก น่าสางสารของเขาแท้จริงแล้วคือ “มารกามเทพ” ระหว่างเขากับน้ำหนึ่ง และพลอยจะทำอย่างไรเมื่อความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย เธอไม่ใช่คนน่าสงสาร แต่เธอคือ “มาร” คือความเลวร้าย สำหรับทุกคน

เพลงชีวิต

หฤทัย (ก้ามปู สุวรรณปัทม์) ลูกสาวของ นายพินิจ (ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง) นักดนตรีพิการ หฤทัยมีความใฝ่ฝันจะได้เป็นนักดนตรีมีชื่อเสียง เธอเติบโตมาท่ามกลางเสียงดนตรี โดยเฉพาะเปียโน ที่เธอประทับใจเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนจริงจังเพราะฐานะทางบ้านไม่อำนวย
 
ทุกวันหยุดจะมีนักดนตรีสมัครเล่นมาซ้อมดนตรีกันที่บ้าน โดยมีนายพินิจร่วมสีไวโอลินด้วย หฤทัยเองก็มักจะเข้าร่วมวงร้องเพลงให้ นายพินิจกับนางสาคร (มารศรี ณ บางช้าง) ยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งชื่อ ณัฐ (ธงไชย แมคอินไตย) ซึ่งเป็นนักดนตรีเหมือนกัน ณัฐจะช่วยหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการไปเล่นดนตรีที่ร้านอาหารเล็กๆ ในตอนกลางคืน หฤทัยเองก็กำลังจะเรียนจบชั้น ม.8 และคิดจะขอทุนเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
 
หฤทัยเป็นเด็กขยัน เธอมักจะไปที่บ้านของครูเพื่อติวพิเศษบ่อยๆ ครูนรี (สุกัญญา นาคสนธิ์) เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งรักและเอ็นดูหฤทัยมาก เธอสังเกตเห็นว่าหฤทัยชอบเล่นเปียโน จึงอนุญาตให้หฤทัยมาหัดเปียโนที่บ้านของเธอยามว่าง โดยช่วยแนะนำสั่งสอนขั้นพื้นฐานให้ และก็พบว่าหฤทัยเรียนได้เร็วมาก วันหนึ่งหฤทัยได้พบกับ คุณเอื้อ (บุศรา นฤมิตร) ซึ่งมาเยี่ยมเยือนครูนรีที่บ้าน คุณเอื้อรู้สึกถูกชะตากับหฤทัยและคุ้นหน้าอยู่มาก ครูนรีเล่าถึงเรื่องทางบ้านหฤทัยให้คุณเอื้อฟังจนเธอรู้สกสงสารและอยากจะอุปการะหฤทัย
 
ต่อมาหฤทัยได้ไปงานวันเกิดเพื่อน เธอได้รู้จักกับ คีตา (นพพล โกมารชุน) ลูกชายของพันโทหลวงนิติธรรม ซึ่งเพื่อนๆ เล่าให้หฤทัยฟังว่าตระกูลของคีตามีประวัติด่างพร้อย คนในตระกูลค่อนข้างเห็นแก่ตัว หฤทัยได้เล่นเปียโนอวยพรเพื่อน คีตาฟังแล้วเกิดความสนใจหฤทัยขึ้นมาทันที เมื่องานเลิก คีตาเก็บสร้อยคอของหฤทัยได้ก็แปลกใจมากเมื่อเห็นรูปลักษณะของสร้อย คีตาเก็บสร้อยไว้ หฤทัยกลุ้มใจมากเมื่อรู้ว่าสร้อยคอหายไปเพราะเป็นของติดตัวมาตั้งแต่เกิด ต่อมาเธอได้รู้จัก ภควี (ธำรงค์ เตชะวิจิตรสาร) โดยบังเอิญในร้านอาหาร ทั้งคู่ถูกชะตากันมาก เพราะมีนิสัยร่าเริงเหมือนกัน หฤทัยได้ปรับทุกข์เรื่องสร้อยคอให้ภควีฟัง และบอกว่าจะต้องไปหาคนที่ชื่อคีตา ภควีอาสาพาไปที่บ้านนิติธรรม ซึ่งหฤทัยได้รู้ความจริงว่าที่แท้ภควีก็เป็นหลานชายของหลวงนิติธรรมนั่นเอง เมื่อได้พบคีตา หฤทัยก็ต้องผิดหวัง เพราะคีตาไม่ยอมคืนสร้อยให้เธอ กลับบ่ายเบี่ยงท่านั้นท่านี้ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน หฤทัยกลับบ้านอย่างอารมณ์เสีย
 
ที่แท้คีตาสงสัยว่าหฤทัยจะเป็นทายาทของ รัฐมนตรีปกรณ์ (อำนวย ศิริจันทร์) กับพิมลา ที่หายสาปสูญไป 10 กว่าปีแล้ว กรณีนี้ำทำให้ตระกูลของคีตาต้องด่างพร้อย เนื่องจากหลวงนิติธรรมนั้นเป็นคนรักเก่าของพิมลา พิมลาหายสาปสูญไปพร้อมกับลูกสาววัย 3 ขวบ เหตุเกิดในงานเลี้ยงวันเกิดของหลวงนิติธรรม ท่านจึุงถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลักพาตัวพิมลาและลูกไป หลวงนิติธรรมต้องโทษอยู่ในเรือนจำหลายปี และเมื่อพ้นโทษออกมาไม่เท่าไรก็เสียชีวิต เมื่อคีตาเห็นสร้อยคอของหฤทัยซึ่งเป็นรูปหัวใจสลัำกคำว่า “พิม” คีตาจึงสงสัยมากเพราะตนเองมีรูปวาดของพิมลาซึ่งสวมสร้อยแบบเดียวกันนี้ คีตาตัดสินใจไปหาพ่อของหฤทัยและไถ่ถามความเป็นมาของเธอ แต่นายพินิจก็ไม่ให้ความร่วมมือ และยังแสดงพิรุธให้เห็น ทำให้คีตามั่นใจยิ่งขึ้น
 
ต่อมาครอบครัวของหฤทัยมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายที่อยู่ เนื่องจากมีการตัดถนนผ่าน นายพินิจจะย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด คุณเื้อื้อทราบเรื่องขึงถือโอกาสชวนหฤทัยไปอยู่ด้วย และสัญญาว่าจะสอนเปียโนให้ พร้อมทั้งจ้างครูมาสอนให้ที่บ้านด้วย หฤทัยเริ่มลังเล เธออยากเรียนเปียโนมากแต่ก็เป็นห่วงพ่อแม่มาก นายพินิจเองเริ่มตะหนักว่า อาจจะถึงเวลาแล้วที่หฤทัยจะได้รู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง จึงยอมให้ลูกสาวพักอาศัยอยู่กับคุณเือื้อ ส่วนรัฐเสียใจมากแต่ก็ต้องจากไปในที่สุด หฤทัยย้ายมาอยู่กับคุณเอื้อได้พบกับคีตาและภควีอีก คีตาเข้มงวดหฤทัยมาก เขาเริ่มอบรมมารยาทของผู้ดีแก่หฤทัย และบอกว่าจะพาเธอเข้าสังคม หฤทัยแปลกใจเป็นที่สุด เธอเริ่มอึดอัดใจมากที่ต้องถูกบังคับให้อยู่ในกรอบ ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของคีตา คือ นำหฤทัยไปคืนให้รัฐมนตรีปกรณ์ เพื่อล้างมลทินของตระกูลของตน
 
คีตามีความสัมพันธ์อยู่กับปรยา ลูกสาวของนายประดิษฐ์ (จีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ) ซึ่งเป็นน้องชายของ คุณหญิงเนื้อทาง (เมตตา รุ่งรัตน์) ภรรยาของรัฐมนตรีปกรณ์ ปรียาหลงรักคีตาและมักจะมาเยี่ยมเยียนเขาบ่อยๆ เธอถึงหึงหวงหฤทัยมากจนคิดกลั่นแกล้งให้หฤทัยเสียหน้า โดยเชิญเธอไปในงานวันเกิดและให้เล่นเปียโนให้ผู้ร่วมงานฟัง คีตาให้กำลังใจหฤทัยเป็นอย่างดี หฤทัยเล่นเปียโนได้ดีมาก ทุกคนชื่นชมเธอโดยเฉพาะคุณหญิงลักษณาซึ่งบอกกับหฤทัยว่าเธอทำให้คุณหญิงรำลึกถึงเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่ชื่อ พิมลา เป็นนักเปียโนที่มีชื่อเสียงมากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณหญิงลักษณา คุณเอื้อ และพิมลาเป็นเพื่อนสนิทกัน ทังสามมักจะแข่งขันกันในเรื่องดนตรีเสมอ คีตาเล่าให้คุณหญิงฟังถึงเรื่องสร้อยคอ ทำให้คุณหญิงสนใจมาก และค่อนข้างแน่ใจว่า หฤทัยคือลูกสาวของพิมลา ทั้งคุณหญิงลักษณาและคีตาจึงคิดพาหฤทัยไปหารัฐมนตรีปกรณ์ ข่าวเรื่องนี้แพร่ไปถึงหูนายประดิษฐ์ซึ่งเดือดร้อนมาก เพราะตนเองเป็นคนลักพาตัวพิมลาและลูก โดยร่วมมือกับนางเนื้อทอง เพื่อหวังสมบัติของรัฐมนตรีปกรณ์ นายประดิษฐ์เริ่มคิดหาทางกำจัดหฤทัย ขณะที่ความจริงทุกอย่างเริ่มกระจ่าง คีตาพาหฤทัยไปพบรัฐมนตรีปกรณ์ซึ่งป่วยหนัก ก่อนตายท่านสั่งเสียให้ดูแลหฤทัยให้ดี มล. เลอลักษณ์ตัดสินใจรับหฤทัยมาอยู่ที่คฤหาสน์ของรัฐมนตรีปกรณ์ คุณเนื้อทองคัดค้านเท่าไรก็ไม่เป็นผล ทางด้านนายประดิษฐ์ก็วางแผนจะกำจัดหฤทัยในวันเลี้ยงต้อนรับ ขณะเดียวกันรัฐมาตามหาหฤทัย แต่ก็ได้รับอุบัติเหตุโดยปรียาขับรถเฉี่ยวเข้า ปรียารีบพาณัฐไปพยาบาลที่บ้าน ณัฐเพ้อถึงหฤทัยตลอดเวลา นายประดิษฐ์จึงจับได้ว่าณัฐต้องรู้ัจักกับหฤทัย เขาจึงเก็บตัวณัฐไว้โดยหวังจะใช้ประโยชน์ วันหนึ่งณัฐแอบได้ยินแผนกำจัดหฤทัย นายประดิษฐ์จึงจับณัฐขังไว้ ที่งานนายประดิษฐ์ใช้แผนล่อลวงหฤทัยออกมาในที่เปลี่ยว แต่ณัฐออกมาขัดขวางได้ทันการณ์และถูกลูกหลงเสียชีวิต นายประดิษฐ์ถูกจับได้เพราะลูกน้องสารภาพหมด จากนั้นไม่นานคีตาก็ไปเียี่ยมนายประดิษฐ์ ซักถามกันจนได้รู้ความจริงว่า นายประดิษฐ์เป็นผู้ฆ่าพิมลา ซึ่งเท่ากับตระกูลของคีตาหมดมลทิน
 
ในวันชุมนุมนักดนตรี หฤทัยได้แสดงฝีมือเปียโนเต็มที่ ทุกคนปรบมือยกย่อง คีตาส่งดอกไม้ไปให้หฤทัย เธอรีบออกมาพบเขาทันที เรื่องจบลงอย่างมีความสุข

ความรักสีดำ

ความรักสีดำมายาวี หญิงสาวที่สามีเกิดสูญหายไปทำงานที่ตะวันออกกลาง เมื่อสามีหายสาบสูญไป เธอจึงต้องหางานทำเพื่อเลี้ยงปากท้องของตัวเองและลูก พอดีเธออ่านหนังสือพิมพ์เจอว่ามีบริษัทหนึ่งกำลังรับสมัครพนักงานผู้หญิง เธอจึงเดินทางไปที่นั่นและได้เจอกับ ลุฟธ์ ยุรนันท์ ภมรมนตรี เจ้าของบริษัทซึ่งเปิดดำเนินงานทางด้านจัดหานางแบบเปลือย และนางทางโทรศัพท์ ลุพธ์ ได้ให้มายาวี สมัครเป็นนางทางโทรศัพท์ มายาวีโกรธมาก รีบวิ่งออกมา

เธอติดต่อขอความช่วยเหลือจาก”อาอิศร์” ชายวัยกลางคนผู้เป็นเพื่อนสนิทกับบิดาของเธอ ซึ่งเขาก็รับเธอเข้าทำงานในบริษัทของตัวเองในทันใด…
อิศร์เป็นหนุ่มใหญ่ที่มีภรรยาที่แสนดีอย่างคุณพัตร…ซึ่งมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ

เมื่อลุพธ์เห็นมายาวีเข้าไปพึ่งพาอิศร์เขาก็ตามตอแยเธอ โดยให้คุณพัตรฝากเขาเข้าทำงานที่เดียวกัน

วันหนึ่งมายาวีก็แอบเห็น”คุณพัตร” ไปพบกับลุพธ์ที่ห้องพัก ทำให้เธอเข้าใจว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลับ ๆ ต่อกัน เมื่อเธอต่อว่าเขาเรื่องนี้ลุพธ์ก็บันดาลโทสะ และข่มเหงเธอ

มายาวีจึงตัดสินใจยอมรับสภาพเมียน้อยของ “อาอิศร์” ด้วยคาดหวังว่าเขาจะช่วยลบรอยแผลที่บาดลึกในใจเธอ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอาอิศร์กลายเป็นชนวนที่ทำให้คุณพัตรล้มป่วยลง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา…
การเสียชีวิตของคุณพัตรทำให้เธอรู้ความจริงสองประการ นั่นคือ…แท้จริงแล้ว ลุพธ์เป็นลูกชายคนโตของคุณพัตรที่เกิดกับสามีคนแรกชาวฮ่องกง…
และลุพธ์ไม่ได้เป็นนายหน้าค้าผู้หญิงอย่างที่เธอเข้าใจ

เธอรู้สึกผิด จึงตัดสินใจที่จะพาลูกหนีไปจากทุก ๆ คน แต่…เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นกับตาโอ ลูกชายตัวน้อยของเธอเสียก่อน
ลุพธ์ขับรถชนตาโอจนขาหักทั้งสองข้าง… ในขณะที่ลุพธ์ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ และเขาพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง มายาวีกลับเข้าใจว่าเขาต้องการแก้แค้นเธอและปฏิเสธความรับผิดชอบของเขา…ลุพธ์จะทำอย่างไรให้มายาวียอมรับและเข้าใจว่าแท้จริงแล้วเขารักเธอมาก จนไม่อาจทำร้ายเธอได้แม้เพียงน้อย

ผู้กำกับ :
ผลิตโดย : อัครมีเดีย
เขียนบท :
บทประพันธ์ : เพชรน้ำค้าง

นักแสดง
ยุรนันท์ ภมรมนตรี
จินตหรา สุขพัฒน์

ฮีโร่ 1000 รัก

เมื่อโครงการสร้างมนุษย์ฮีโร่ สายพันธุ์ครึ่งมนุษย์ครึ่งหุ่นยนต์เพื่อใช้ในการกู้วินาศภัยถูกคณะกรรมการ แห่งชาติระงับไว้เพราะขัดต่อหลักมนุษยธรรม คงเดช หนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ ไม่ยอมแพ้และแย่งชิงเทคโนโลยีออกไป ระหว่างการแย่งชิงนั้น ลูกชายสองคนของคงเดชเข้ามาเกี่ยวข้องจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เด็กชายทั้งสองถูกแพทย์หญิงเพวา(นุสบา ปุณณกันต์) ช่วยชีวิตไว้โดยการเปลี่ยนให้เป็นฮีโร่ ผู้มีพลังทุกด้านเหนือมนุษย์

แทน(ดิว-อลงกรณ์ ต้นหนองดู่) และไท(ต้น-ชยธร เศรษฐจินดา) ถูกเลี้ยงดูมาโดยเพวา ความลับเรื่องการกลายพันธุ์ของทั้งคู่ถูกเก็บซ่อนไว้ จนกระทั่งถึงวันที่พี่น้องต้องแตกคอเพราะรักผู้หญิงคนเดียวกัน ไทหันไปเข้าร่วมกับฟาโรห์(อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) ผู้นำแห่งอาณาจักรใต้ดินผู้ต้องการยึดครองสาธารณรัฐนิวเอเชียและมีแผนจะ เปลี่ยนทุกคนให้เป็นกองทัพหุ่นยนต์ เขาร่วมกับทีมหุ่นสังหารออกปฏิบัติภารกิจชั่วเพื่อฟาโรห์ โดยมีพี่ชายของตัวเองเป็นฝ่ายศัตรู

สงครามเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อแทนต้องร่วมมือกับกองกำลังรักษาความมั่นคง แห่งชาติเพื่อหยุดยั้งน้องชายตัวเอง ศึกสายเลือดดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางความแค้น อำนาจ ความรัก และความตายของเพวา ผู้เป็นแม่ที่ต้องการหยุดลูกชายทั้งสอง ความตายของเพวานำไปสู่การไขปริศนาในตัวฟาโรห์ เมื่อไทรู้ว่า ฟาโรห์คือคงเดช พ่อที่แท้จริง ไทตัดสินใจออกจากอาณาจักรฟาโรห์เพื่อร่วมมือกับแทนหยุดยั้งสงครามระหว่าง มนุษย์กับหุ่นยนต์ สุดท้ายแทนกับไทจะร่วมมือกันหยุดยั้งสงครามระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ได้หรือ ไม่?

นักแสดงละคร ฮีโร่ 1000 รัก

อลงกรณ์ ต้นหนองดู่ เป็น แทน
ชยธร เศรษฐจินดา เป็น ไท
พิชญา เชาวลิต เป็น รุ้ง
เมย์ เฟื่องอารมย์ เป็น เลดี้
แอริณ ยุกตะทัต เป็น แคท
พีรวัชร์ เหราบัตย์ เป็น แมมมอธ
ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์/ฟรอยด์ เป็น ดราก้อน
พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร/หลุยส์ เป็น ลีโอ
ภัทรา อธิราษฎร์กุล เป็น ฟินิกซ์
นุสบา ปุณณกันต์ เป็น พญ.เพวา
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ เป็น ฟาโรห์ / คงเดช
สถาพร นาควิไล เป็น ผอ.อาทิตย์
สุเชาว์ พงษ์วิไล เป็น ศจ.วิทย์
ดิลก ทองวัฒนา เป็น ปธน.ไพศาล
อุ่นเรือน ราโชติ เป็น ปุ๊

อุบัติเหตุหัวใจ

เสี่ยใหญ่ เจ้าของ “อัครา คาเฟ่” กำลังขับรถกลับบ้าน โดยมี ชัยวัฒน์ ที่เป็นเพื่อนและผู้จัดการคาเฟ่ขอติดรถไปด้วย ระหว่างทางชัยวัฒน์ถือโอกาสคุยเรื่องที่เขาต้องการถือหุ้นอัคราคาเฟ่เพิ่ม แต่เสี่ยใหญ่ลงไปบนถนนจนโดนรถแท็กซี่ของ พิภพ ชนเอา โดยมี น้ารงค์ หัวหน้าคณะตลกที่คาเฟ่ขับรถตามาพอดีและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง พิภพถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพร้อมเสี่ยใหญ่อาการสาหัสทั้งคู่ ภาคภูมิ ลูกชายคนโตของพิภพรู้เรื่องก็รีบมาที่โรงพยาบาล

ระหว่างที่นั่งรอที่หน้าห้องผ่าตัดได้เจอกับ อรชุมา ลูกสาวของเสี่ยใหญ่นั่งร้องไห้อยู่ เขาปลอบเธอในฐานะหัวอกเดียวกันสองคนแอบประทับใจกัน ต่อมาเสี่ยใหญ่เสียชีวิตแต่พิภพพ้นขีดอันตราย เมื่ออรชุมารู้ว่าคนที่ชนพ่อเธอตายคือพ่อของชายที่ปลอบใจเธอ อรชุมาก็ประกาศจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พิพัฒน์ ลูกชายคนเล็กของพิภพต้องการหาเงินรักษาพ่อ เลยขอ เอกชัย เจ้าของคอกม้าคัดตัวเป็นจ๊อกกี้ โดยมี ขิง ลูกสาวของเอกชัยที่ปลื้มเขามากคอยสนับสนุน

พิพัฒน์โชว์ลีลาขี่ม้าเก่งจนเข้าตาชัยวัฒน์ ที่แวะมาหาเอกชัยเลยช่วยเชียร์อีกแรง พิพัฒน์ได้เป็นจ๊อกกี้สมใจชัยวัฒน์หวังทำเงินจากการแทงม้าของพิพัฒน์ ทำเป็นเห็นใจเรื่องพ่อบอกให้ตั้งใจฝึกซ้อมให้ดี ถ้าขี่ม้าชนะจะทำเงินมหาศาล พิพัฒน์รู้สึกดีที่ชัยวัฒน์สนับสนุน ภาคภูมิไปที่อัคราคาเฟ่เพื่อเริ่มงานวันแรกที่เขาได้เป็นกัปตัน โดยไม่รู้ว่าอัคราคาเฟ่เป็นของเสี่ยใหญ่ที่พ่อเขาเพิ่งขับรถชนตาย และคนที่มาบริหารแทนคืออรชุมาลูกสาวของเสี่ยใหญ่

เมื่อสองคนเจอกันอรชุมายอมให้ภาคภูมิทำงานที่นี่เพื่อจะได้มีเงินไปรักษาพ่อ เธอหวังว่าพิภพจะฟื้นขึ้นมาใช้กรรมในคุก ภาคภูมิดูแลความเรียบร้อยและแก้ปัญหาในคาเฟ่ได้อย่างดี จนกลายเป็นที่รักของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักร้องคาเฟ่ จันทร์เพ็ย และ เอมี่ ที่ตบตีกันเพื่อแย่งชิงภาคภูมิ รวมทั้ง ดาวรุ่ง ที่รักอยู่กับ วีระชัย ลูกชายของชัยวัฒน์ที่แอบเลี้ยงดูเธออยู่ลับๆ ก็หันมาร่วมแย่งภาคภูมิด้วยอีกคน

ภาคภูมิเริ่มสงสัยว่าเรื่องยุ่งๆ ที่เกิดขึ้นในคาเฟ่เป็นฝีมือของชัยวัฒน์จึงเตือนอรชุมา แต่อรชุมาไว้ใจชัยวัฒน์มาก ภาคภูมิเลยถูกชัยวัฒน์ส่งคนมาทำร้ายบาดเจ็บชงเหล้าไม่ได้ ภาคภูมิเลยสอนอรชุมาชงเหล้าเผื่อเขาไม่สบายทำงานไม่ได้ คืนนั้นทั้งคู่เริ่มเมาและพูดความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจ อรชุมาขอบคุณภาคภูมิแล้วหลับไป ภาคภูมิอุ้มอรชุมาไปที่ห้องพักสำรองแล้วมานั่งเฝ้าที่โซฟาจนหลับไป เช้าวันรุ่งขึ้นพนักงานต่างซุบซิบนินทาว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันทั้งคืน

อรชุมาถูกชัยวัฒน์และวีระชัยลากไปเตือนว่าอาจเป็นแผนของภาคภูมิ ที่ทำให้อรชุมาใจอ่อนไม่ฟ้องศาล อรชุมาเข้าไปต่อว่าภาคภูมิอย่าหวังว่าเรื่องเมื่อคืนจะทำให้ใจ่อน วีระชัยดูออกว่าทั้งคู่มีใจให้กัน เลยสั่งให้ดาวรุ่งไปเกาะแกะกับภาคภูมิเพื่อแยกทั้งคู่ให้ห่างกัน เมื่อดาวรุ่งท้องวีระชัยก็ใส่ร้ายภาคภูมิว่าเป็นพ่อของเด็กในท้อง แล้วจับดาวรุ่งไปทำแท้ง ดาวรุ่งเสียใจมากที่เสียลูกไปจึงตามไปจะฆ่าวีระชัย แต่แอบรู้ความลับของวีระชัญเสียก่อนจึงหลบหนีออกมาบอกอรชุมา

แต่วีระชัยและชัยวัฒน์รู้ตัวจึงตามมาจับ แล้วขับรถชนจนดาวรุ่งเสียชีวิต ทางด้านอรชุมาก็เริ่มระแวงความซื่อสัตย์ของชัยวัฒน์ เมื่อเจอหลักฐานเกี่ยวกับการโอนหุ้นคาเฟ่จึงสืบหาต่อ จนรู้ว่าชัยวัฒน์เป็นคนทำให้พ่อของเธอต้องตาย อรชุมาพยายามจะเข้ามายกเลิกการพิจารณาคดีเพราะต้องการถอนฟ้อง แต่ถูกชัยวัฒน์ส่งคนไปจับตัวไว้แล้วบังคับให้เซ็นยกทุกอย่างให้เขา เมื่อภาคภูมิรู้เข้าก็รีบตามไปช่วยจนถูกยิงปางตาย

อรชุมาเสียใจมากจึงเรียกตำรวจไปจับชัยวัฒน์ถึงบ้านพร้อมหลักฐานต่างๆ ชัยวัฒน์พยายามดิ้นเฮือกสุดท้ายด้วยการยิงสู้กับตำรวจจนตายคาที่ ทิ้งให้วีระชัยกลายเป็นผู้รับกรรมทั้งหมด ภาคภูมิสลบไปหลายวันก่อนจะฟื้นขึ้นมาพร้อมกับที่พิภพถูกปล่อยตัวออกมาเป็นอิสระ เมื่อศาลพิสูจน์แล้วว่าชัยวัฒน์เป็นคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ครอบครัวของภาคภูมิจึงกลับมามีความสุขอีกครั้ง โดยคราวนี้เขามีอรชุมาอยู่เคียงข้างด้วยตลอดไป