Category Archives: ละครปี 2556

มณีสวาท

มณีสวาทเรื่องย่อละคร มณีสวาท

ม.ร.ว.ภุชคินทร์ นาเคนทร์ ทายาทแห่งวังนาเคนทร์ ถูกเรียกตัวกลับจากต่างประเทศ เพื่อรับหน้าที่เป็นเลขานุการให้กับ ภิงคาร รมช.ต่างประเทศผู้เป็นน้าชาย ด้วยรูปลักษณ์ที่เลิศล้ำ ร่ำรวยทรัพย์สมบัติทั้งชาติกำเนิดอันสูงส่ง ทำให้คุณชายภุชคินทร์กลายเป็นชายที่สาวไฮโซทั้งสังคมให้ความสนใจมากที่สุด รวมไปถึงไฮโซสาวสังคมหน้าใหม่อย่าง เจ้าอุรคา ณ เชียงตุง

ในงานเลี้ยงรับรองระดับชาติซึ่งแขกคนสำคัญระดับนักการเมือง ทูตานุทูต และชาวสังคมชั้นสูงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งนั้น ภุชคินทร์ได้พบกับเจ้าหญิงสูงศักดิ์เลอโฉมนามเจ้าอุรคา ที่มาปรากฏตัวพร้อมกับเครื่องแต่งกายสีเขียวโดดเด่นเป็นสง่ากับดวงหน้างดงามประดับรอยยิ้มลึกลับและอัญมณีรูปหยดน้ำสีเขียวเข้มแปลกตาที่เรียกว่า มณีนาคสวาท

เจ้าอุรคาก้าวเข้ามาเป็นดาวดวงใหม่ของสังคมไฮโซอย่างลึกลับไม่มีใครรู้เบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้จริงของเจ้าหญิงคนนี้ รู้กันแต่เพียงว่านอกจากความงามเจิดจรัสและฐานะอันร่ำรวย เธอยังมีความสามารถในการพยากรณ์แม่นระดับหาตัวจับยาก

คุณชายภุชคินทร์รู้สึกสะดุดตาสะดุดใจในบุคลิกงามสง่าท่าทีอันเปี่ยมไปด้วยปริศนาและคำพูดคำจาที่ลึกลับกำกวมของเจ้าอุรคา ในขณะเดียวกันที่ความงามของเจ้าอุรคาไปโดนใจรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุคเข้าอย่างจัง สุบรรณ ครุฑไพทูรย์ หรือที่นักข่าวเรียกกันว่า “รัฐมนตรีที่ถูกปองร้ายมากที่สุด” เขาก้าวขึ้นมาจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งงานถูกและผิดกฎหมาย ทำให้มีศัตรูมากมายถึงกับมีการโดนลอบปองร้ายอยู่หลายครั้งหลายครา และทุกครั้งเขาก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ จนได้สมญานามจากบรรดานักข่าวว่า “แมวเก้าชีวิต” เพราะถูกปองร้ายอยู่บ่อย ๆ สุบรรณจึงต้องมีนายตำรวจและมือปืนมือดีติดตามตลอดเวลา

สุบรรณพยายามหาทางเข้าไปตีสนิทกับเจ้าอุรคาทุกวิถีทางตามงานสังคม และด้วยความดูไม่น่าไว้วางใจของเจ้าอุรคา ทำให้คนใกล้ชิดของสุบรรณอย่าง ร.ต.อ.ไพศิษฐ์ ซึ่งเป็นตำรวจติดตาม เพื่อนรักของภุชคินทร์ และ อำนาจ สมุนมือขวาที่ดูแลธุรกิจด้านมืดให้รมต.สุบรรณนั้น ต่างเกิดความหวาดระแวงและจับตามองเจ้าอุรคาอยู่เงียบ ๆ

ในคืนงานเลี้ยงงานหนึ่ง ตำรวจจับกุมตัวชายคนขับรถของเจ้าอุรคาพร้อมอุปกรณ์วางระเบิดได้ที่ใกล้กับรถของรมต.สุบรรณ แต่เจ้าอุรคากลับให้การปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับชายชาวต่างด้าวผู้นั้น บอกแต่เพียงว่าชายคนนั้นเป็นญาติห่าง ๆ ของแม่บ้านและเธอไหว้วานให้ช่วยขับรถมางานเลี้ยงเท่านั้น ที่น่าประหลาดใจที่สุด คือในทันทีที่ตำรวจนำตัวชายมือระเบิดเข้าห้องขัง ชายต่างด้าวคนนั้นกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เล่นเอาตำรวจทั้งโรงพักงงเป็นไก่ตาแตก ร.ต.อ.ไพศิษฐ์สงสัยว่า เจ้าอุรคาและพรรคพวกน่าจะอยู่ในขบวนการอะไรสักอย่าง

ผู้กองไพศิษฐ์หอบเอาความขุ่นข้องใจไปขอให้คุณชายภุชคินทร์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยหาข่าวเกี่ยวกับเจ้าหญิงผู้ลึกลับคนนี้ เนื่องจากลำพังตัวเขาเองนั้นไม่สามารถเข้าถึงตัวเจ้าอุรคาได้เพราะเจ้าอุรคาประกาศอย่างชัดเจนว่าเธอไม่สนใจเรื่องการเมืองและยังแสดงท่าทีไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจในทุกกรณี

แต่ภุชคินทร์กลับมิต้องใช้ความพยายามในการเข้าใกล้เจ้าอุรคาเท่าใดนัก เพราะเธอได้พาตัวเข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตของเขา ด้วยการเข้ามาทำงานการกุศลร่วมกับหม่อมภาณี มารดาของภุชคินทร์ ประกอบกับเจ้าอุรคาเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร้านเพชรพลอยของเจ้าประกายคำ ซึ่งเป็นร้านเพชรประจำของหม่อมภาณี ภุชคินทร์จึงมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับเจ้าอุรคาบ่อยครั้ง

วันหนึ่ง หม่อมภาณีได้สร้อยพร้อมจี้พลอยล้อมเพชรเก่าแก่มาจากร้านของเจ้าอุรคาในราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ พอภุชคินทร์เห็นก็สะดุดตาทันที เพราะจำได้ว่าเหมือนสร้อยที่เจ้าอุรคาห้อยติดตัวเป็นประจำ หม่อมภาณีบอกว่าพลอยสีเขียวเข้มจัดนั้นคือ พลอยนาคสวาท พลอยในตำนานเก่าแก่ ตำนานเล่าถึงพญานาคกับพญาครุฑ สองเผ่าพันธุ์กึ่งเทพกึ่งอมนุษย์อันเป็นอริศัตรูกันมาแต่โบราณ พญานาคมีที่อยู่ในนครใต้บาดาลที่เรียกว่า โภควดี ส่วนพญาครุฑนั้นอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์

ครั้งหนึ่งพญานาคกับพญาครุฑเกิดการต่อสู้กันและพญานาคเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ขณะที่ใกล้จะตาย พญานาคกระอักเลือดออกมา 3 ครั้ง เลือดที่ออกมาครั้งแรกกลายเป็นพลอยสีเขียวเข้มจัด นั่นคือ นาคสวาท ส่วนเลือดที่กระอักออกมาครั้งที่ 2 นั้นได้กลายเป็น มรกต ส่วนครั้งสุดท้ายที่เลือดใกล้หมดปนกับน้ำลายจึงกลายเป็นพลอยสีเขียวอ่อนจางมีเส้นสีแดงเจืออยู่ เรียกว่า ครุฑธิการ

ทั้งที่ไม่เคยสนใจเรื่องเพชรพลอยมาก่อน แต่คุณชายภุชคินทร์รู้สึกสนใจพลอยและตำนานพญาครุฑและนาคเป็นอันมาก และเมื่อเขาสัมผัสกับพลอยนาคสวาท เขาถึงกับหน้ามืดซวนเซเกือบจะล้มลง ความรู้สึกเจ็บปวดแปลบเกิดขึ้นทั่วร่างกาย ภาพแปลกประหลาดแวบเข้ามาในหัวสมองอย่างรวดเร็ว ไม่ปะติดปะต่อ จับใจความไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นคนสมัยใหม่ ภุชคินทร์เชื่อว่าคงเกิดจากการแพ้สารบางอย่างในพลอยมากกว่าจะเป็นเรื่องลึกลับที่หาคำตอบไม่ได้

ขณะเดียวกัน รมต.สุบรรณซึ่งเป็นม่ายมานานกว่า 3 ปี แม้ว่าเขาจะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่เขาไม่เคยยกย่องใครขึ้นมาแทนที่คุณหญิงนันทกาคุณหญิงคนเดิมที่เสียชีวิตไป แต่เมื่อได้รู้จักกับเจ้าอุรคาทำให้ความรู้สึกของสุบรรณเปลี่ยนไป เจ้าหญิงสูงศักดิ์คนนี้แหละที่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ของเขาอย่างแท้จริง! นั่นเป็นแค่ความรู้สึกของสุบรรณ หากแต่คนอื่นเมื่อมองผ่านความงามของเจ้าอุรคาเข้าไป สิ่งที่สัมผัสได้นั้นคือความลึกลับและน่าสะพรึงกลัวที่มีกลิ่นอายแห่งความตายปะปน มีคนเห็นเธอและเพื่อนชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตางดงามราวรูปสลักในชุดดำชื่อ ยมนา ซึ่งบังเอิญเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมอยู่เป็นประจำ

วันหนึ่งภุชคินทร์พา ฟีบี้ หรือ เฟื่องวลี หลานภริยาของรมต.ภิงคารไปทานอาหารที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งและได้เจอเจ้าอุรคาที่นั่น เจ้าอุรคาแนะนำให้ภุชคินทร์รู้จักกับเพื่อนชายที่มาด้วยกันที่ชื่อ ยมนา ซึ่งภุชคินทร์รู้สึกว่าชายเงียบขรึมคนนี้มีลักษณะบางอย่างที่ชวนให้นึกถึงความตาย

ฟีบี้ซึ่งเรียนและเติบโตที่เมืองนอกจนมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เธออาศัยความเป็นญาติห่าง ๆ ยึดเอาภุชคินทร์เป็นคู่ควง ฟีบี้หลงไปว่าความอ่อนโยนของภุชคินทร์ที่มีให้กับเธอคือความรัก เธอมั่นใจสุด ๆ ว่าตำแหน่งคุณผู้หญิงของวังนาเคนทร์จะตกเป็นของเธออย่างแน่นอน แต่พอได้เจอกับเจ้าอุรคา ความมั่นใจของฟีบี้เริ่มสั่นคลอนทันที เพราะเธอสังเกตว่าภุชคินทร์ให้ความสนใจกับเจ้าอุรคามากกว่าหญิงสาวทั่วไป ฟีบี้จึงแสดงอาการไม่ชอบเจ้าอุรคาออกหน้าออกตา

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ภุชคินทร์และฟีบี้เดินออกจากร้านอาหารไปยังไม่ทันถึงรถ ก็มีคนบ้าถืออาวุธสงครามเข้าไปบุกยิง เสี่ยปิง และสมุนตายคาที่ เมื่อได้ยินเสียงปืนภุชคินทร์รู้สึกเป็นห่วงเจ้าอุรคาจึงย้อนกลับเข้าไปดู แต่กลับพบว่าเจ้าอุรคาออกมาจากภัตตาคาร ไม่มีความหวาดกลัวหรือตกใจใด ๆ ส่วนยมนาเพื่อนของเจ้าอุรคาหายตัวไปเสียแล้ว

วันรุ่งขึ้นข่าวเสี่ยปิงเจ้าของร้านอาหารหรูที่รู้กันว่าประกอบอาชีพไม่สุจริตและสมุนโดนยิงถล่มตายคาที่ดังไปทั่ว ตำรวจสรุปว่าเป็นการฆ่าเนื่องจากการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่สำคัญเสี่ยปิงที่ตายนั้นมีความเกี่ยวพันโยงใยกับรมต.สุบรรณ เพราะเสี่ยปิงเป็นหนึ่งในลูกน้องคนสำคัญของนายอำนาจซึ่งดูแลธุรกิจทั้งถูกและผิดกฎหมายของรมต.สุบรรณ สงสัยว่าการฆาตกรรมครั้งนี้เป็นฝีมือของเสี่ยทรงยศ ซึ่งเป็นอดีตคู่แข่งทางการค้าคนสำคัญของรมต.สุบรรณ ที่ถูกกลั่นแกล้งจนธุรกิจล้มละลาย ในขณะที่ร.ต.อ.ไพศิษฐ์ตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าอุรคาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเสี่ยปิง เพราะเจ้าอุรคาและเพื่อนชายนั่งติดกับโต๊ะที่เกิดเหตุ แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ อีกทั้งยมนาเพื่อนชายที่ไปด้วยกันก็หายไปจากที่เกิดเหตุอย่างไร้ร่องรอย

วันหนึ่งผู้กองไพศิษฐ์ไปหาเจ้าอุรคาที่บ้าน เพื่อซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์วันเกิดเหตุ แต่เจ้าอุรคาปฏิเสธบอกว่าเธอไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ขณะที่ผู้กองไพศิษฐ์ขับรถกลับจากบ้านของเจ้าอุรคาถึงสี่แยกเขาพบว่ามีอุบัติเหตุ สัญชาตญาณของตำรวจ ผู้กองไพศิษฐ์รีบจอดรถและตรงเข้าไปช่วยเหลือ ข้าง ๆ ที่เกิดเหตุนั้นไพศิษฐ์พบเจ้าอุรคากับยมนายืนดูอยู่ เจ้าอุรคาบอกไพศิษฐ์ว่าชายผู้ตายเป็นนายแพทย์ใหญ่ที่มีฉากหน้าเป็นคนใจบุญชอบบริจาคเงินหลายล้านเข้าการกุศล แต่เบื้องหลังนั้นเป็นใจบาปหยาบช้าค้าแม้กระทั่งอวัยวะมนุษย์ ไพศิษฐ์งุนงงว่าเจ้าอุรคารู้ได้อย่างไรว่าผู้ตายเป็นคนอย่างนั้น ก่อนจะซักถามเจ้าอุรคาและยมนาก็หายไปเสียแล้ว

หลังจากคืนนั้นผู้กองไพศิษฐ์เก็บเอาข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับเจ้าอุรคาและยมนามาขบคิด เขาไม่สามารถนำเรื่องที่พบเจอไปเล่าให้ใครฟังได้เลยนอกจากภุชคินทร์ เพราะข้อสงสัยของเขายืนยันไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ แต่เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ว่า ที่ไหนมีคนตายจะต้องเจอยมนาที่นั่นทุกครั้งไป!

เจ้าอุรคาเคยพูดล้อเล่นบอกภุชคินทร์และผู้กองไพศิษฐ์ว่า เธอสามารถเป็นได้หลายอย่างทั้งหมอดู ทั้งนักเล่นกล ทั้งนักสะกดจิต แต่ความลับของเจ้าอุรคาที่ไม่มีใครรู้เลยนั่นคือร่างเนรมิตของ อุรคาเทวี นางพญานาคีผู้เป็นธิดาครองโภควดีนครใต้บาดาล เธอจึงมีอิทธิฤทธิ์เหนือมนุษย์ทั่วไป ส่วนยมนาที่เจ้าอุรคาบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทของเธอนั้น คือ ยมทูตหรือทูตแห่งความตายมารอรับวิญญาณเพื่อนำไปยังปรโลกเพื่อฟังคำพิพากษาว่าประกอบกรรมดีกรรมชั่วอะไรบ้าง ยามมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์! เจ้าอุรคาเองก็ขึ้นมาเยือนโลกมนุษย์เพราะมีภารกิจความรัก ความแค้นในอดีตฝังลึกอยู่ในหัวใจที่รอคอยการสะสาง

เมื่อครั้งหนึ่งที่พญาครุฑที่ชื่อพญาสุบรรณ บุกเข้ามาถึงเมืองโภควดีซึ่งเป็นนครใต้บาดาลและได้จับตัว ภุชเคนทร์ เจ้าชายพญานาคที่เป็นที่สนิทเสน่หากับอุรคาเทวีไปเป็นอาหารต่อหน้าต่อตา เธอตามไปช่วยภุชเคนทร์และเกิดการต่อสู้กับพญาสุบรรณจนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและกระอักเลือดออกมาเป็นมณีนาคสวาท ส่วนภุชเคนทร์ถึงแก่ความตายอย่างทรมาน ก่อนตายได้สัจจะอธิษฐานไว้ว่าเกิดชาติหน้าชาติใดจะไม่ขอกลับมาเกิดเป็นพญานาคอีก เจ้าอุรคาโกรธแค้นพญาสุบรรณมากจนปฏิญาณกับตนเองว่าจะตามจองเวรพญาสุบรรณ เจ้าอุรคาเฝ้ารอคอยจนพญาครุฑเวียนว่ายตายเกิดวัฎสงสาร จนภพนี้มาเกิดบนโลกมนุษย์เป็นบุรุษผู้มีบุญวาสนามีอำนาจใหญ่โตด้วยบุญบารมีจากชาติในอดีตซึ่งก็คือรมต.สุบรรณ!

ด้วยความที่เป็นกัลยาณมิตร ยมนารู้ว่าเจ้าอุรคาเต็มไปด้วยความแค้นต้องการจองเวรรมต.สุบรรณ ยมนาจึงคอยขัดขวางไม่ให้เจ้าอุรคาทำการสิ่งใดที่ขัดต่อกฎแห่งกรรม เพราะเวลาของรมต.สุบรรณบนโลกมนุษย์ยังไม่หมด บุญเก่าที่สั่งสมมาแต่ชาติปางก่อนทำให้เจ้าอุรคาไม่สามารถทำอันตรายต่อสุบรรณได้เลย ส่วนพญานาคภุชเคนทร์ที่ถูกพญาสุบรรณทำร้ายจนตาย ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ที่มีชาติกำเนิดสูงส่งก็คือ ม.ร.ว.ภุชคินทร์ นาเคนทร์ นั่นเอง!

เจ้าอุรคาบอกกับยมนาว่า เธอยังคงมีความรักมั่นคงให้กับภุชคินทร์ไม่เสื่อมคลาย หากแต่ว่าชาติภพนี้เป็นอุปสรรคความรักของเธอกับภุชคินทร์ การมาเยือนโลกมนุษย์ของเธอจึงเพียงต้องการให้ภุชคินทร์รำลึกได้ว่าภพหนึ่งเขาเคยเป็นพญานาคภุชเคนทร์ที่ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานที่จะไม่ขอเกิดเป็นพญานาคอีก เจ้าอุรคาต้องการเพียงให้ภุชคินทร์ถอนคำสัตย์นั้นเพื่อว่าสักวันหนึ่งทั้งสองจะได้ครองคู่กันในภพภูมิเดียวกันอีกครั้ง

เจ้าอุรคาคอยเป็นห่วงเป็นใยในทุกเรื่องของคุณชายภุชคินทร์ มีคนเห็นร่องรอยของพญานาคแถวกำแพงรั้ววังนาเคนทร์จนกลายเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ใหญ่โต หรือมีคนเห็นงูใหญ่ว่ายอยู่ในคลองใกล้วัดแถววังนาเคนทร์ หญิงสาวคนใดที่เข้ามาในชีวิตของภุชคินทร์ไม่ว่าจะเป็น ฟีบี้ หรือ พนอฤดี เพื่อนรุ่นพี่ของ นารีวรรณ ซึ่งเป็นน้องสาวบุญธรรมของภุชคินทร์ ต่างก็โดนเจ้าอุรคากลั่นแกล้งให้เห็นภาพหลอนจนแทบเสียสติไปทุกคน ครั้งหนึ่งเจ้าอุรคามอบแหวนที่มีหัวเป็นพลอยครุฑธิการให้กับภุชคินทร์ใส่ติดตัว ทันทีที่ฟีบี้เห็นแหวนพลอยครุฑธิการ เธออ้อนวอนขอจนภุชคินทร์ยอมใจอ่อนยกให้ ฟีบี้ดีใจมาก รีบนำกลับไปอวดเฟื่องฟ้า ผู้เป็นมารดา สองแม่ลูกดีอกดีใจนึกว่าเป็นแหวนหมั้นหมายจากคุณชายภุชคินทร์ ต่างฝันเฟื่องถึงงานวิวาห์ใหญ่โตแห่งปี หารู้ไม่ว่าความน่าสะพรึงกลัวได้มารออยู่ตรงหน้า

ในคืนนั้น ฟีบี้เข้านอนไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความหวังบนใบหน้า เธอฝันว่าตัวเองไปอยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า จู่ ๆ ก็มีร่างพญานาคใหญ่โตน่าหวาดกลัวเลื้อยไล่เธอพร้อมแยกเขี้ยวยาวเตรียมทำร้าย ฟีบี้วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานไปจนในที่สุดพญานาคก็ตามทัน พญานาคก้มลงมาจนใกล้ใบหน้าฟีบี้ น้ำลายของพญานาคหยดออกมาจากเขี้ยวยาวและกลายเป็นพลอยใสสีเขียวอ่อนเหมือนแหวนพลอยที่เธอเพิ่งได้จากภุชคินทร์ไม่มีผิด เมื่อฟีบี้ตื่นจากความฝันอันสยดสยอง เธอกรีดร้องโวยวายอาละวาดราวกับเสียสติ เฟื่องฟ้าซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้การนรินทร์ บิดาของนาถสุดา แฟนสาวของผู้กองไพศิษฐ์ซึ่งเป็นผู้สนใจธรรมะและปฏิบัติธรรมจนมีญาณระดับหนึ่ง ได้นั่งสมาธิและรู้ว่าแหวนนั้นมีอาถรรพ์ติดมาจึงรีบให้เฟื่องฟ้านำแหวนไปคืนให้กับภุชคินทร์ทันที หลังจากวันนั้นฟีบี้แทบจะกลายเป็นคนเสียสติ เห็นภาพหลอนคนศีรษะเป็นงูอยู่เรื่อยจนเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอยู่นานนับเดือน ยิ่งวันไหนที่ภุชคินทร์เดินทางไปเยี่ยม ฟีบี้ที่อาการดีขึ้นแล้วจะเกิดเห็นภาพหลอนขึ้นมาอีกครั้งจนอาการกลับแย่ลงไปอีก

ในงานราตรีเมตตามหากุศล ซึ่งมีหม่อมภาณีเป็นโต้โผใหญ่ เจ้าอุรคารับอาสาจัดการแสดงโชว์บนเวทีทั้งหมด ทุกคนในงานต่างตะลึงงันกับการแสดงโชว์หุ่นพญานาคที่เคลื่อนไหวได้ราวกับของจริง พร้อมกับการเต้นที่อ่อนพลิ้วราวกับงูจริงของนักแสดงที่ไม่มีใครเห็นว่าเข้ามาในงานตอนไหนและเมื่อแสดงเสร็จก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จากนั้นเจ้าอุรคาได้ขึ้นไปแสดงมายากลบนเวทีโดยเชิญภุชคินทร์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยโดยมีภาพมัลติวิชชั่นสวยงามบรรยายให้เห็นถึงเมือง ๆ หนึ่งชื่อ โภควดี จากนั้นก็เห็นงูใหญ่ (พญานาค) ตัวหนึ่งกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนานก่อนโดนนกยักษ์ (พญาครุฑ) ตรงเข้าทำร้าย ถึงฉากนั้นภุชคินทร์เกิดความรู้สึกประหลาดคือเจ็บปวดแปลบไปทั้งตัวจนแทบจะทนไม่ได้ ในที่สุดภาพมัลติวิชชั่นก็จบลงท่ามกลางความตะลึงพรึงเพริศของทุกคนว่ามันเหมือนจริงมากเสียจนเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง คนดูปรบมือสนั่นหวั่นไหว ยังไม่ทันสิ้นเสียงปรบมือ….เจ้าอุรคาก็ยิงธนูใส่ ชรายุ สาวใช้คนสนิทและลูกธนูได้กลายเป็นงูยักษ์มีชีวิตพุ่งเข้ารัดร่างของชรายุจนนอนแน่นิ่งไป แต่เมื่อเจ้าอุรคาใช้พัดขนนกโบกเบาๆ งูยักษ์ก็หายวับไปกับตา ชรายุก็ลุกขึ้นมาได้ดังเดิม เรียกเสียงปรบมือกึกก้องจากแขกทุกคนในงาน

ขณะที่ยืนดูการแสดงอย่างใกล้ชิดในฐานะผู้ช่วยนักมายากลของเจ้าอุรคา ภุชคินทร์รู้สึกทึ่งมาก เพราะมายากลของเจ้าอุรคานั้นแนบเนียนมากจนจับผิดอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะโชว์ชุดสุดท้ายที่เจ้าอุรคาเล่นนอกบทด้วยการเสกเชือกให้กลายเป็นงูแล้วขว้างลงไปที่รมต.สุบรรณที่นั่งอยู่ด้านล่างทันที! ทุกคนในงานหวีดร้องด้วยความตกใจ แต่รมต.สุบรรณเป็นคนเดียวที่นิ่งเยือกเย็นไม่มีอาการสะทกสะท้าน เขาคว้าหมับเข้าที่กลางตัวงูเมื่อพลิกมาดูก็พบว่าเป็นงูยาง ไม่ใช่งูมีชีวิตอย่างที่เห็นบนเวที บรรดาลิ่วล้อต่างโกรธที่เจ้าอุรคาเล่นแรง แต่ตรงกันข้ามสุบรรณกลับรู้สึกสนุกสนานไปกับการแสดงของเจ้าอุรคาเป็นอย่างมาก

ในคืนนั้น รมต.สุบรรณชวนเจ้าอุรคาไปที่บ้าน อ้างว่ามีเครื่องเพชรเก่าแก่จะขายให้เจ้าอุรคา ขณะที่เดินออกจากงานเลี้ยง มีชายลึกลับบุกเข้ามายิงรมต.สุบรรณอย่างอุกอาจ โชคดีที่ อากร มือปืนคุ้มกันรีบพาตัวเองเข้ามาบังเจ้านายไว้ได้ทัน นายสุบรรณจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่อากรได้รับบาดเจ็บหนัก เจ้าอุรคาขัดอกขัดใจมากที่ทำร้ายนายสุบรรณไม่สำเร็จ ยมนาปรากฏตัวขึ้นมาต่อว่าเจ้าอุรคาที่กระทำการรุนแรงฝ่าฝืนกฎแห่งกรรม เจ้าอุรคาจึงรู้ว่าที่สุบรรณไม่เป็นอะไรก็เพราะยมนาขัดขวางไว้นั่นเอง ขณะที่เจ้าอุรคากับยมนายืนถกเถียงกัน คนอื่น ๆ ไม่มีใครเห็นยมนา แต่อากรซึ่งกำลังบาดเจ็บสาหัสจนใกล้ตายกลับมองเห็นยมนาจึงร้องขอชีวิตด้วยความกลัว ซึ่งหลังจากนายอากรรอดชีวิตออกจากโรงพยาบาล เขากลับใจละทิ้งอาชีพมือปืนแล้วตัดสินใจบวชตลอดชีวิตเพื่อไถ่บาปกรรมที่ก่อมาตลอดชีวิต เจ้าอุรคามีศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก ดั่งเช่นพญานาคพระญาติในสมัยพุทธกาลที่เคยขอบวชกับพระพุทธเจ้าซึ่งแม้ไม่ได้รับอนุญาตแต่ก็มีจิตศรัทธาคอยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเรื่อยมา เมื่ออากรมือปืนของนายอำนาจมาบวชที่วัดใกล้บ้าน เจ้าอุรคาจึงถือโอกาสตามไปทำบุญกับพระอากรที่วัดเป็นประจำ จึงมีโอกาสได้พบกับผู้การนรินทร์และเฟื่องฟ้าซึ่งมาทำบุญสะเดาะเคราะห์ให้ฟีบี้ที่ยังป่วยอยู่ในโรงพยาบาล

เจ้าอุรคาบอกเฟื่องฟ้าให้เลิกหวังในสิ่งสูงค่าเกินเอื้อมแล้วฟีบี้จะหายจากอาการป่วยและได้พบกับเนื้อคู่แท้ครองรักมีความสุขตลอดชีวิต ผู้การนรินทร์ซึ่งมีความสามารถพิเศษมองเห็นร่างจริงของเจ้าอุรคา รีบแสดงความเคารพสูงสุด เจ้าอุรคากำชับผู้การว่าอย่าได้บอกความลับนั้นกับใครเด็ดขาด พอ.นรินทร์เป็นทหารเกษียณราชการที่ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ปฏิบัติธรรม นั่งวิปัสนากรรมฐานจนสามารถนั่งทางในเห็นอะไรที่คนทั่วไปมองไม่เห็น เขาเป็นพี่ชายของคุณหญิงนันทกาภริยาของรมต.สุบรรณ ซึ่งรมต.สุบรรณพยายามเชื้อเชิญผู้การมาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวหลายครั้ง แต่ได้รับคำปฏิเสธจากผู้การทุกครั้งไป ยิ่งหลังจากคุณหญิงของรมต.สุบรรณเสียชีวิต ผู้การนรินทร์ซึ่งมีนิสัยรักสันโดษและสมถะก็ยิ่งเหินห่างจากน้องเขย แต่รมต.สุบรรณยังคงตามตื้อผู้การผ่านทางนาถสุดาเสมอ

วันหนึ่งผู้การนรินทร์นั่งทางในและเห็นลางบอกเหตุภิบัติภัยร้ายที่จะมาถึงตัวรมต.สุบรรณ ผู้การจึงรีบมาเตือนให้อดีตน้องเขยระวังตัวและหมั่นทำบุญสร้างกุศลเพื่อให้กรรมหนักผ่อนเป็นเบา แต่รมต.สุบรรณไม่สนใจ ยังคงก่อกรรมขยายอำนาจของตัวและกอบโกยทรัพย์สมบัติด้วยความโลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นายอำนาจเชื่อว่าเหตุการณ์ร้าย ๆ รวมกับที่อากรสมุนมือขวาคนสำคัญของเขาหนีไปบวชนั้นเป็นฝีมือของเจ้าอุรคา นายอำนาจส่งลูกสมุน ปัญญา และสมศักดิ์ ไปทำร้ายเจ้าอุรคาถึงบ้าน

ปัญญาใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมาจากทางเหนือเข้าต่อกรกับเจ้าอุรคา แต่คนธรรมดาฤาจะสู้พญานาคีอันมีฤทธิ์แก่กล้าได้ ปัญญาสิ้นชีวิตภายใต้คมเขี้ยวพญานาคของชรายุ ส่วนสมศักดิ์นั้นเจ้าอุรคาส่งกลับไปเตือนนายอำนาจว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร??? สมศักดิ์ในสภาพไร้สติเหนี่ยวไกปืนใส่นายอำนาจก่อนจะปลิดชีพตัวเอง โชคยังดีที่นายอำนาจยังไม่ถึงที่ตาย เขาจึงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้นต่อเจ้าอุรคา พร้อมทั้งประกาศว่าจะต้องเอาชีวิตสตรีผู้นี้ให้จงได้ นายอำนาจสบโอกาสเหมาะเมื่อเจ้าอุรคาเชิญรมต.สุบรรณไปรับประทานอาหารที่บ้าน เขาวางแผนร้ายจะลอบวางระเบิดบ้านของเจ้าอุรคา ระเบิดจะทำงานทันทีที่รมต.สุบรรณและนายอำนาจพ้นไปจากบ้านเจ้าอุรคา แต่เขากลับไม่รู้ว่าวันนั้นคือวันสุดท้ายที่เขาจะมีโอกาสทำชั่วต่อไปบนโลก!!

เจ้าอุรคาต้อนรับรมต.สุบรรณด้วยอาหารเลิศรสตกแต่งอย่างสวยสดงดงาม จนรมต.สุบรรณลิ้มลองแล้วต้องชมไม่ขาดปาก โดยเฉพาะเมนูพิเศษอย่างงูเห่าผัดเผ็ดนั้น รมต.สุบรรณกินอย่างเอร็ดอร่อยในขณะที่นายอำนาจกลับเห็นเป็นภาพงูเห่ามีชีวิตเลื้อยอยู่บนจาน นายอำนาจร้องตกใจและรีบขอตัวออกไปข้างนอกเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่สายตาของเขากลับยิ่งพบภาพน่ากลัวมากขึ้น นายอำนาจเห็นภาพอสุรกายร่างกายอัปลักษณ์มีศีรษะเป็นงูเข้ามารุมทำร้ายจนนายอำนาจหัวใจวายตายในสวนของบ้านเจ้าอุรคานั่นเอง

เจ้าอุรคาฉายสไลด์ชุดพิเศษที่รมต.สุบรรณชมแล้วเกิดอาการเคลิ้มกึ่งฝันเห็นดินแดนโภควดีและในขณะที่เจ้าอุรคากำลังจะย้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์นองเลือดในอดีต ยมนาซึ่งมารับวิญญาณของนายอำนาจได้เข้ามาขัดจังหวะขัดขวางการกระทำของเจ้าอุรคาไว้ได้ทันพอดี ทำให้เจ้าอุรคาโกรธยมนาเป็นอันมาก แต่ยมนาได้ตักเตือนด้วยสุรเสียงเกรี้ยวกราดของอำนาจแห่งยมทูต สั่งมิให้เจ้าอุรคาทำร้ายรมต.สุบรรณอีกต่อไปมิฉะนั้นเขาจะลงโทษเจ้าอุรคา เจ้าอุรคาหวาดกลัวจึงรับปากว่าจะไม่ทำอันตรายต่อชีวิตนายสุบรรณอีก แต่จะขอรอเวลาให้ได้ชมความย่อยยับของนายสุบรรณแล้วจะยอมกลับนครใต้บาดาลแต่โดยดี

เจ้าอุรคาพยายามรื้อฟื้นความทรงจำของภุชคินทร์ด้วยหลายวิธีการ แต่ภุชคินทร์ได้ลืมชาติในอดีตไปจนหมดสิ้นจนเจ้าอุรคาทดท้อใจ ภุชคินทร์รู้สึกว่าเจ้าอุรคามักจะพูดจาแปลก ๆ และกำกวม มีหลายครั้งที่เธอพยายามพูดถึงอดีตที่เขาไม่เข้าใจและจำไม่ได้ ต่อเมื่อเขาได้เจอกับ ดร.วิชัยสิงห์ นักเทววิทยาชาวอินเดียแห่งมหาวิทยาลัยพาราณสี ที่เดินทางมาเพราะได้ข่าวว่ามีคนเห็นพลอยนาคสวาทที่เมืองไทย ดร.วิชัยสิงห์ตามหาพลอยนาคสวาทเพราะเชื่อเรื่องตำนานของพญานาคและเขากำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่

วันหนึ่งดร.วิชัยสิงห์ได้มีโอกาสรู้จักกับเจ้าอุรคา เจ้าอุรคารับรู้การมาของดร.วิชัยสิงห์จึงเตือนให้ดร.วิชัยสิงห์ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเขียนเรื่องราวของตำนานพญานาคและพลอยนาคสวาทเสีย ดร.วิชัยสิงห์สัญญากับเจ้าอุรคาว่าจะไม่นำไปเรื่องราวไปเขียน ถ้าเขาผิดคำสัญญาขอให้เขาตายอย่างทุกข์ทรมาน ดร.วิชัยสิงห์ก็แค่รับปากส่ง ๆ ไปอย่างงั้นเองเพราะเห็นว่าเจ้าอุรคาดูเอาจริงเอาจัง เขาหวังว่าเมื่อตำราที่เขาค้นคว้าได้ตีพิมพ์มันจะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ

ดร.วิชัยสิงห์ได้สะกดจิตช่วยให้ภุชคินทร์รื้อฟื้นความทรงจำในชาติภพที่เป็นภุชเคนท์เป็นพญานาคได้ นั่นทำให้ดร.วิชัยสิงห์ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ความเชื่อเรื่องพญานาคของเขามีจริง เพราะความละโมบโลภมาก ดร.วิชัยสิงห์หมายมั่นว่าจะเอาเทปที่บันทึกการสะกดจิตและเรื่องการระลึกชาติของภุชคินทร์ไปหาผลประโยชน์โดยลืมคำสัญญาที่ให้กับเจ้าอุรคาไว้เสียสิ้น เจ้าอุรคาแค้นดร.วิชัยสิงห์ที่จะเอาเรื่องของภุชคินทร์ไปเขียนหนังสือจึงส่ง อหิเหร รูปสลักงูบนแผ่นศิลาให้ดร.วิชัยสิงห์ คืนวันนั้นดร.วิชัยสิงห์ถูกฆาตกรรมอย่างลึกลับ

เมื่อภุชคินทร์รู้ว่าตัวเองเป็นพญานาคภุชเคนทร์ คนรักเก่าของเจ้าอุรคาในภพภูมิเดิมและก็ได้รู้อีกว่าแม้กาลเวลาจะผ่านมากี่ภพกี่ชาติความรักที่เจ้าอุรคามีต่อเขามิได้ลดน้อยลงเลย อีกทั้งยังเข้าใจสาเหตุของการตามล้างแค้นของเจ้าอุรคา เขาจึงรีบไปหาเจ้าอุรคาเพื่อบอกว่าเขาขอโทษที่ก่อนหน้าลืมเรื่องราวต่าง ๆ จนหมดสิ้น เขาขอให้เจ้าอุรคาอโหสิกรรมให้รมต.สุบรรณและกลับไปยังนครใต้บาดาล เพราะเขาไม่ต้องการเห็นคนที่เขารักต้องก่อกรรมทำเข็ญให้หนี้กรรมติดตามไปอีกกี่ชาติกี่ภพ!

รมต.สุบรรณเห็นว่าเจ้าอุรคาสนิทสนมใกล้ชิดกับคุณชายภุชคินทร์มาก จนเกิดเป็น ความหึงหวง เขาสั่งให้ สุรินทร์ ซึ่งเป็นมือปืนคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ไปจัดการกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจของเขาเสีย สุรินทร์จับตัวภุชคินทร์ไปขังไว้เตรียมสังหาร แต่เจ้าอุรคาซึ่งรับรู้ได้เธอจึงบอกให้ไพศิษฐ์ตามไปช่วยภุชคินทร์ไว้ได้ทันเวลา สุรินทร์ซึ่งหนีรอดกลับมารายงานความล้มเหลวต่อรมต.สุบรรณ รมต.สุบรรณปลิดชีวิตสุรินทร์อย่างเลือดเย็น ภุชคินทร์และไพศิษฐ์ติดตามสุรินทร์มาถึงบ้านรมต.สุบรรณ เขาประหลาดใจมากที่ผู้คนหายไปจากบ้านรมต.สุบรรณจนหมดสิ้น ทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านที่เคยมีการอารักขาสูงสุดได้อย่างง่ายดาย เมื่อเข้าไปถึงในบ้าน เขาทั้งสองพบกับหมอกควันสีเขียวลอยละล่องทั่วไปหมดจนแทบมองไม่เห็นทาง ภุชคินทร์ได้ยินเสียงกราดเกรี้ยวของเจ้าอุรคาจึงเดินตามเสียงไปจนถึงห้องหนึ่งที่มีประตูเปิดออกไปเป็นสถานที่ ๆ ทั้งเขาและไพศิษฐ์ไม่คาดคิดว่าจะมาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ เพราะเมื่อเปิดประตูออกไป…เขาพบว่ากำลังยืนอยู่ในถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม แสงภายในถ้ำมืดสลัวมีเพียงแสงสว่างอยู่ตรงกลางถ้ำ และตรงกลางนั้น รมต.สุบรรณถูกพันธนาการตัวไว้อย่างแน่นหนา ไพศิษฐ์แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเห็นว่าเจ้าอุรคานั้นได้กลับไปอยู่ในร่างของอุรคาเทวี พญานาคีผู้มีร่างท่อนบนเป็นมนุษย์และท่อนล่างเป็นหางพญานาคขดเป็นบัลลังก์สูง กำลังโกธรเกรี้ยวที่รมต.สุบรรณลงมือทำร้ายชายอันเป็นที่รักของเธอเป็นครั้งที่สอง

เจ้าอุรคาย้อนภาพให้ทั้งภุชคินทร์ รมต.สุบรรณและไพศิษฐ์ได้เห็นเรื่องราวในอดีตชาติที่พญาสุบรรณทำร้ายเจ้าชายภุชเคนทร์จนเสียชีวิตและทำร้ายเจ้าอุรคาบาดเจ็บสาหัสจนถึงกับกระอักเลือดออกมาเป็น มณีนาคสวาท เมื่อรมต.สุบรรณเห็นอดีตชาติของตัวเองก็ไม่ได้แสดงอาการหวาดหวั่นต่อวิบากกรรมที่กำลังจะได้รับ เขารู้สึกผิดที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญกับภุชเคนทร์และอุรคา โดยขอขมาและขออโหสิกรรมต่อภุชคินทร์และเจ้าอุรคาเพื่อให้ความแค้นจบลงที่ชาตินี้ ทีแรกเจ้าอุรคาไม่ยอมแต่ยมนาปรากฎตัว เตือนสติเจ้าอุรคาให้หยุดวงล้อของกรรมเสีย จนเจ้าอุรคายอมให้อภัยและอโหสิกรรมให้กับรมต.สุบรรณในที่สุด รวมทั้งภุชคินทร์ด้วยเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

ขณะเดียวกันบุญเก่าที่สะสมมาของรมต.สุบรรณก็หมดลง กงกรรมที่รมต.สุบรรณได้ทำไว้ได้ย้อนกลับมาหาเขาเหมือนรอยเกวียน เสี่ยทรงยศที่ขณะนี้ไม่ต่างกับหมาจนตรอกได้บุกเข้ามาในบ้านแล้วเอาปืนกระหน่ำยิงรมต.สุบรรณจนบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาล หมอได้ทำการช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแต่ในที่สุดก็ไม่อาจหยุดยื้อชีวิตของรมต.สุบรรณไว้ได้ ก่อนตายวิญญาณละจากร่างรมต.สุบรรณเห็นยมนามายืนรอรับเขาอยู่ หลังจากรมต.สุบรรณได้ตายลง ก็ไม่มีใครได้พบเห็นเจ้าอุรคาอีกเลย

ภุชคินทร์อยู่ในอาการเศร้าซึมเมื่อต้องจากพรากหญิงอันเป็นที่รักไปตลอดกาล เหลือเพียงมณีนาคสวาทที่เป็นตัวแทนแห่งความรักระหว่างเขากับเจ้าอุรคา จนวันหนึ่งเจ้าอุรคาที่ยังคอยติดตามความเป็นอยู่ของภุชคินทร์ด้วยความเป็นห่วงตัดสินใจหนีขึ้นมาบนโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อพบภุชคินทร์เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อบอกให้เขาหมั่นทำบุญสร้างกุศล ตั้งจิตอธิษฐานให้ได้กลับไปเกิดในชาติภพภูมิเดิมอีกครั้ง และเมื่อนั้น เธอและเขาก็จะได้พบและรักกันอีก

ละคร มณีสวาท ออกาอากาศใน วันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครมณีสวาท เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2556 – วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556
ละคร มณีสวาท ออกอากาศ (รีรันทางช่อง 3 เอสดี 28) : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 น.  วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2559 – วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2560

มณีสวาท

ผู้กำกับ :
ผลิตโดย : บริษัท กู๊ดฟีลลิ่ง จำกัด
เขียนบท :
บทประพันธ์ : จินตวีร์ วิวัธน์

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร มณีสวาท

วิทยา วสุไกรไพศาล รับบท ม.ร.ว.ภุชคินทร์
ศรีริต้า เจนเซ่น รับบท เจ้าอุรคา
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท รมต.สุบรรณ
โทนี่ รากแก่น รับบท ร.ต.อ.ไพศิษฐ์
เจสสิกา ภาสะพันธุ์ รับบท นาถสุดา
ชล วจนานนท์ รับบท เฟื่องวลี
ปัญญาพล เดชสงค์ รับบท ยมนา
สุปราณี เจริญผล รับบท เฟื่องฟ้า
กมล ศิริธรานนท์ รับบท ภิงคาร
สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบท หม่อมภาณี
อารดา อารยวุฒิ รับบท นารีวรรณ
ปิยะ วิมุกตายน รับบท อำนาจ
ศานติ สันติเวชกุล รับบท พอ.นรินทร์
อริญรดา ปิติมารัชต์ รับบท พะนอฤดี
อุษณีย์ พึ่งป่า รับบท ชรายุ
กลศ อัทธเสรี รับบท ทรงยศ
น้ำเงิน บุญหนัก รับบท อติศรี
กมล ทองพลับ รับบท ดร.วิชัยสิงห์
ฐิติอานันท์ พัทธไพสิฐ รับบท สุรินทร์

 

สามี 2556

ม.ร.ว.รสิกา หรือ อ้าย (รณิดา เตชสิทธิ์) กำลังเผชิญกับมรสุมชีวิตครั้งสำคัญนับจาก มจ.ชัยประกาศ (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ) ท่านพ่อของเธอเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน เขาทิ้งหนี้สินอันเกิดจากการทำธุรกิจไว้เป็นภาระมากมายจนทำให้ หม่อมรัตนาวลี (จริยา แอนโฟเน่) แม่ของรสิกาต้องหาทางดิ้นรนเพื่อชดใช้หนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วังประกาศเกียรติ ที่เป็นบ้านที่รสิกาเติบโตมา รัตนาวลีตัดสินใจแต่งงานกับเจ้าสัวเรียว ลิ้มวัฒนาถาวรกุล (ดิลก ทองวัฒนา) มหาเศรษฐีที่มุ่งหมายหวังจะกอบกู้ฐานะเพื่อหาทางรักษาวังประกาศเกียรติไว้ให้ได้ รสิการับไม่ได้ที่แม่ยอมขายศักดิ์ศรีไปแต่งงานใหม่ จนถึงขนาดยอมลดตัวไปแต่งงานกับพวกที่วางท่าเป็นเศรษฐีใหม่ รสิกาพูดจาดูถูกหมิ่นน้ำใจทั้งรัตนาวลีและเจ้าสัวเรียวอย่างไม่ไว้หน้า เจ้าสัวเรียวเสียหน้าที่ถูกรสิกาถอนหงอก แต่ก็ชอบใจในความหยิ่งทะนง และไม่สนใจเงินของเจ้าสัว ผิดกับผู้หญิงส่วนใหญ่ เขาจึงนึกอยากได้รสิกามาเป็นสะใภ้
 
ราพณ์ (วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูกชายคนโตของเจ้าสัว เป็นคนสุภาพและเฉลียวฉลาด เป็นผู้ที่เจ้าสัวไว้ใจที่สุด ราพณ์มีพี่น้องหลายคนอยู่ในบ้าน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง รุ้งราย (ณัฐวรา วงศ์วาสนา) เป็นน้องสาวที่เชื่อฟังและรักราพณ์มาก รังรอง (พิจิตรา สิริเวชพันธ์) เป็นคนหัวอ่อน เชื่อฟังสามีชาญชัย (อดิศร อรรถกฤษณ์) ทุกอย่าง แล้วก็ระริน (พัทธ์ธีรา ศรุตพงศ์โภคิน) เป็นน้องคนเล็กที่รักพี่น้อง และมีน้องชายต่างมารดา คือ ราม (อเล็กช์ เรนเดล) ซึ่งไม่ชอบหน้าราพณ์พี่ชายนัก เจ้าสัวเรียวระบายเรื่องรสิกาให้ราพณ์ ลูกชายคนโตที่เขาไว้ใจฟังอยู่เสมอ เจ้าสัวต้องการให้ราพณ์หาทางบีบรสิกาให้จนมุมด้วยการไปครอบครองวังประกาศเกียรติมา แล้วตั้งเงื่อนไขให้รสิกาต้องแต่งงานกับราม ลูกชายคนเล็กที่อยู่เมืองนอกเพื่อแลกกับกรรมสิทธิ์ในวัง
 
ราพณ์เห็นฤทธิ์เดชของรสิกา เขาจึงได้เข้าไปจัดการทุกอย่างแทนเพื่อไม่ให้พ่อมีปัญหากับรัตนาวลี รสิกาโกรธที่ราพณ์เข้ามาใช้อำนาจในวังประกาศเกียรติ เธอจึงคิดจะตัดขาดจากแม่ แล้วแต่งงานกับ วศิน (โชกุน สันธนะพานิช) คนรักที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนเพื่อหนีปัญหาทั้งหมด
 
รสิกาทำงานเป็นมัณฑนากรเพื่อเก็บเงินหาเลี้ยงตัวเองและเป็นที่พึ่งให้กับแม่นมและบริวารที่บ้านโดยไม่พึ่งแม่ รุ้งรายน้องสาวของราพณ์จ้างรสิกาไปออกแบบบ้านให้ รุ้งรายสนิทกับราพณ์จึงได้ยินเรื่องราวของรสิกามา เธอจึงได้หาทางกลั่นแกล้งให้รสิกาต้องมาคอยรับใช้ รุ้งรายจู้จี้จนรสิกาอึดอัดใจและคับแค้นใจที่ถูกครอบครัวของราพณ์คอยเหยียบย่ำศักดิ์ศรีให้จมดิน รุ้งรายมองออกว่าวศินเป็นผู้ชายใจโลเล เธออยากจะแก้เผ็ดรสิกาจึงแอบให้ท่าจนทำให้วศินมาติดกับเสน่ห์สาวร้อนแรงอย่างเธอ
 
รสิกาโหมทำงานหนักจนทำให้อ่อนเพลีย เธอเผลอขับรถชน สิริโสภา (พริมรตา เดชอุดม) ที่กำลังข้ามถนนจนแท้ง รสิกาช็อกทำอะไรไม่ถูก โชคดีที่ได้ สกรรจ์ (วรากร ศวัสกร) นายทหารเรือที่อยู่แถวนั้นมาคอยช่วยเหลือ รสิกาเครียดจัดเมื่อรู้ว่าทำให้ลูกของสิริโสภาต้องตาย รัตนาวลีขอให้เจ้าสัวช่วยเหลือเรื่องคดี เจ้าสัวสั่งให้ราพณ์มาเคลียร์โดยที่ไม่รู้ว่าที่จริงนั้นสิริโสภาคือหญิงที่ราพณ์มีความสัมพันธ์ด้วยอย่างเงียบ ๆ พอราพณ์รู้ว่าสิริโสภาปล่อยตัวให้ท้องก็ไม่พอใจเพราะเขารู้ว่าสิริโสภาพยายามจะใช้เด็กมาผูกมัดเขาไว้ ราพณ์ไม่ต้องการที่จะมีทายาทอีกเพราะเขามี พระลพ (ด.ช.อันดา อินทฤทธิ์) ซึ่งเป็นลูกชายนอกสมรสที่เกิดกับแหม่มสมัยที่เรียนเมืองนอกอยู่แล้ว โดยที่ราพณ์ไม่แน่ใจว่าพระลพคือลูกของตนหรือไม่ แต่ก็เพื่อมนุษยธรรม ราพณ์จึงรับเป็นลูกและเขาไม่ต้องการที่จะมีภรรยาใหม่เพราะสงสารพระลพ ราพณ์สั่งให้สิริโสภายุติคดีความไป สิริโสภายอมราพณ์ทุกอย่างเพราะเธอต้องการเอาใจราพณ์เพื่อหวังให้ราพณ์ใจอ่อนกับเธอ
 
ระหว่างที่รสิกากำลังเครียดเรื่องคดีเธอก็จับได้ว่าวศินนอกใจไปหารุ้งราย รสิกาผิดหวังอย่างหนัก ราพณ์ถือโอกาสเอาข้ออ้างเรื่องคดีมาข่มขู่เพื่อให้รสิกาชดใช้ทั้งค่าบ้านและค่าทำขวัญสิริโสภาที่เขาจ่ายไป ราพณ์บีบให้รสิกายอมแต่งงานกับรามเพื่อชดใช้ รสิกาไม่มีทางเลือกเพราะเธอไม่อยากถูกดำเนินคดีและไม่อยากสูญเสียวังประกาศเกียรติไป รวมถึงญาติทางฝั่งพ่อก็บีบคั้นว่า เธอต้องรักษาวังประกาศเกียรติไว้ให้ได้ รามไม่พอใจไม่อยากโดนบังคับจึงบ่ายเบี่ยงไม่ยอมกลับเข้าบ้านเพื่อหนีการแต่งงาน เจ้าสัวเรียวกลัวรสิกาจะหลุดมือจึงได้ขอให้ราพณ์ซึ่งเป็นคู่ปรับที่ถึงพริกถึงขิงของรสิกายอมแต่งงานแทน ราพณ์นั้นหลงรักรสิกาอยู่แล้ว จึงเต็มใจอย่างยิ่ง
 
รสิกาจำใจมาเป็นว่าที่สะใภ้ของตระกูลลิ้มวัฒนาถาวรกุล ท่ามกลางความหลากหลายอารมณ์ของคนในตระกูลใหญ่ วศินเริ่มรองรับอารมณ์ของรุ้งรายไม่ไหวเพราะรุ้งรายนั้นเอาแต่ใจและชอบทำร้ายจิตใจเขา วศินนึกถึงรสิกาที่รักและยกย่องเขาอย่างดีเขาจึงกลับมาตอแยรสิกาทำให้รุ้งรายไม่พอใจ รุ้งรายมีปมเรื่องที่มักถูกผู้ชายทรยศจึงทำให้เธอรับไม่ได้ที่จะถูกวศินแว้งกัด รุ้งรายไปเอาเรื่องรสิกาแต่ราพณ์ออกตัวปกป้องรสิกาไว้เพราะรู้ดีว่าวศินไม่ได้จริงใจกับรุ้งราย
 
สุรีย์ส่อง (อภิษฎา เครือคงคา) ลูกพี่ลูกน้องของรสิกาถูกใจราพณ์มานานแต่เพราะครอบครัวของเธอทำธุรกิจเป็นคู่แข่งกับราพณ์จึงทำให้ราพณ์ไม่สนใจเธอ สุรีย์ส่องเจ็บใจที่รสิกาซึ่งมีแต่ตัวกลับเป็นฝ่ายคว้าราพณ์ไป สุรีย์ส่องจึงพยายามหาทางขวางไม่ให้รสิกาได้แต่งงานกับราพณ์
 
รามกลับมาจากเมืองนอกแต่ก็ยังทำตัวเสเพล รามอิจฉาราพณ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากพ่อมากกว่าใคร ๆ ยิ่งพอได้เห็นรสิกา เขาก็เริ่มอยากจะแย่งรสิกาคืนมา แต่ราพณ์ออกอาการหวงก้าง และรีบรวบจัดงานแต่งงานโดยที่รสิกาปฏิเสธไม่ได้ พร้อมทำข่าวเรื่องจดทะเบียนออกไป เพื่อต้องการให้ ประสิทธิ์ (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) พ่อของสุรีย์ส่องที่อยากจะยึดวัง และให้คนมาลอบทำร้ายรสิการู้ จะได้ไม่กล้ามายุ่งเกี่ยวกับรสิกาอีก แต่ประสิทธิ์ผูกใจเจ็บเลยให้คนมาลอบทำร้ายทั้งราพณ์และรสิกา แต่โชคดีที่ ปฐวี (ธนกฤต พานิชวิทย์) และรุ้งรายมาช่วยเอาไว้ได้ทัน
 
ความสัมพันธ์ของปฐวีและรุ้งราย เหมือนจะเข้าใจกัน แต่ด้วยความทิฐิ ขี้งอน ของทั้งคู่ ก็ทำให้ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน ขณะที่วศินก็ไปมีสัมพันธ์กับสุรีย์ส่องและถูกสุรีย์ส่องใช้เป็นเครื่องมือเพื่อมาทำลายชีวิตคู่ของราพณ์และรสิกา
 
ราพณ์พารสิกากับพระลพไปพักผ่อนที่บ้านพักริมทะเล พร้อมกับ อาม่า (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ทำให้รสิกาเริ่มผูกพันกับครอบครัวและใจอ่อนกับราพณ์ และจากการที่ราพณ์ช่วยชีวิตเธอหลายครั้ง ความจริงใจที่มีให้ ทำให้รสิกาเริ่มใจอ่อนและยอมเป็นภรรยาของราพณ์ด้วยความเต็มใจ
 
ครอบครัวดูเหมือนจะมีความสุข แต่ก็มีปัญหาที่สิริโสภาไม่ยอมจบความแค้นเลยไปมีสัมพันธ์กับราม และยึดรามเป็นหลัก หวังจะเข้ามาก่อความวุ่นวายในบ้าน สร้างความหนักใจให้ราพณ์อย่างยิ่ง โดยที่สิริโสภามี โบตั๋น (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) แม่ของรามเป็นคู่หูวางแผนการร้ายต่าง ๆ นานา ยิ่งทำให้ภายในบ้านปั่นป่วนยิ่งขึ้นขณะที่เจ้าสัวเรียวเอง ก็โดนชาญชัยลูกเขยสามีของรังรอง น้องสาวอีกคนของราพณ์ ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส เพราะไปรู้ว่าชาญชัยยักยอกเงิน เจ้าสัวป่วยเป็นอัมพาต ขณะที่อาการดีขึ้น ชาญชัยก็วางแผนกับประสิทธิ์และโบตั๋นวางยาพิษอีกโดยป้ายความผิดให้รสิกา ราพณ์เชื่อมั่นว่ารสิกาบริสุทธิ์ จึงหาหลักฐานมายืนยันจนรสิกาพ้นผิด
 
หลังการตายของเจ้าสัวเรียว ราพณ์กับรสิกามีความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น แต่สิริโสภาไม่ยอมเลิกรา คอยกดดัน ข่มขู่ ทำให้รสิการู้ไปในที่สุดว่าสิริโสภากับราพณ์เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน ราพณ์ละอายใจมาก ความสัมพันธ์ของเขากับรสิกาไม่ค่อยดีนัก ขณะเดียวกันรามป่วยเป็นโรคเอดส์ ทุกคนในบ้านเห็นใจรามมาก มีเพียงสิริโสภาคนเดียวที่ไม่รู้อาการป่วยของราม
 
รสิการู้ว่าตัวเองตั้งท้อง ขณะที่สิริโสภาเป็นภัยเงียบที่คอยคุกคาม รสิกาเป็นห่วงลูกในท้อง จึงตัดสินใจไปจากราพณ์ หนีไปอยู่บ้านพักต่างจังหวัดของสกรรจ์อย่างเงียบ ๆ โดยบอกให้แม่รัตนาวลีรับรู้ ราพณ์ตามหารสิกา สิริโสภารู้ความจริงเรื่องราม และรู้ว่าตัวเองอาจจะติดเอดส์ด้วย ก็โมโหและแค้นมาก เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครสามี
 
รายชื่อนักแสดงนำ ใน ละคร สามี
 
วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบท ราพณ์ ใน ละคร สามี
รณิดา เตชสิทธิ์ รับบท รสิกา ใน ละคร สามี
ณัฐวรา วงศ์วาสนา รับบท รุ้งราย ใน ละคร สามี
อเล็กช์ เรนเดล รับบท ราม ใน ละคร สามี
ธนกฤต พานิชวิทย์ รับบท ปฐวี ใน ละคร สามี
พิจิตรา สิริเวชพันธ์ รับบท รังรอง ใน ละคร สามี
พัทธ์ธีรา ศรุตพงศ์โภคิน รับบท ระริน ใน ละคร สามี
อภิษฎา เครือคงคา รับบท สุรีย์ส่อง ใน ละคร สามี
ดิลก ทองวัฒนา รับบท เจ้าสัวเรียว ใน ละคร สามี
จริยา แอนโฟเน่ รับบท รัตนาวลี ใน ละคร สามี
ภาณุเดช วัฒนสุชาติ รับบท ชัยประกาศ ใน ละคร สามี
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ รับบท โบตั๋น ใน ละคร สามี
โฉมฉาย ฉัตรวิไล รับบท อาม่า ใน ละคร สามี
พิสมัย วิไลศักดิ์ รับบท แม่นม ใน ละคร สามี
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ รับบท ประสิทธิ์ ใน ละคร สามี
พริมรตา เดชอุดม รับบท สิริโสภา ใน ละคร สามี
โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว รับบท มานพ ใน ละคร สามี
โชกุน สันธนะพานิช รับบท วศิน ใน ละคร สามี
วรากร ศวัสกร รับบท สกรรจ์ ใน ละคร สามี
ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม รับบท กอบกู้ ใน ละคร สามี
อดิศร อรรถกฤษณ์ รับบท ชาญชัย ใน ละคร สามี
อ.วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ รับบท กู๋พงษ์ ใน ละคร สามี
พรรษกร เศรษฐภักดี รับบท หมวย ใน ละคร สามี
ปิยะมาศ วัยวัฒน์ รับบท แหวว ใน ละคร สามี
การิน ศตายุ รับบท ธีรพัฒน์ ใน ละคร สามี
นึกคิด บุญทอง รับบท ชนพ ใน ละคร สามี
อำภา ภูษิต รับบท ฤดี ใน ละคร สามี
ด.ช. อันดา อินทฤทธิ์ รับบท พระลพ ใน ละคร สามี

ผู้ชนะสิบทิศ

ละครผู้ชนะสิบทิศ ออกอากาศทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 08.00 น. / 11.30 น. / 20.00 น. ทางช่อง 8 ทุกจานรับสัญญาณดาวเทียม และทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 65 (กล่องธรรมดา) และช่อง 88 (กล่อง HD) เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2556

ณ เวิ้งแม่น้ำอิระวดี ดินแดนพุกามประเทศ เมื่อพุทธศักราช ๒๐๗๓ เมงกะยินโยได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามพระเจ้ามหาสิริชัยะสุระ ยกเศวตรฉัตรขึ้น ณ เมืองตองอู ทรงได้พระราชธิดาและพระราชบุตรพระนามว่า จันทรา และ มังตรา โดยมีนางเลาชีเป็นพระนม และนางเองก็มีบุตรชายชื่อว่า จะเด็ด เด็กทั้งสามจึงดื่มนมร่วมอกเดียวกัน

ครั้นเมื่อเจริญวัยจะเด็ดได้เกิดความรักขึ้นกับตะละแม่จันทรา ทั้งสองจึงถูกพรากให้จากกัน จะเด็ดได้ไปเป็นพนักงานให้กับขุนวังทะกยอดิน ซึ่งมีบุตรสาวชื่อนันทวดี แต่ต่อมาได้เกิดเรื่องกับอุปราชสอพินยาแห่งหงสาวดีจนถึงขั้นอุกฤษ มหาเถรกุโสดอจึงขอพระราชทานอภัยโทษโดยให้จะเด็ดไปสืบราชการลับที่เมืองแปร โดยใช้ชื่อ มังฉงาย และเมื่อพระเจ้ามหาสิริชัยะสุระสิ้นพระชนม์ มังตราราชบุตรก็ขึ้นครองบัลลังก์แทน ทรงพระนามว่า พระเจ้าตะเบงชเวตี้ และได้อภิเษกกับนันทวดี

พระเจ้านรบดีแห่งแปรนั้นโปรดปราณจะเด็ดมากโดยมิได้ระแวงว่าเป็นไส้ศึก จึงให้เข้ามารับราชการอยู่ในวังโดยให้เป็นมโหรีหลวงสอน ตะละแม่กุสุมา ราชธิดาเล่นพิณ 13 สาย รานองเห็นจะเด็ดก็จำได้จึงวางแผนให้พระเจ้านรบดีบังคับจะเด็ดแต่งงานกับตะละแม่กุสุมา เพื่อผูกมัดตองอูไม่ให้เกิดศึกกับแปร มังตรารู้ข่าวเข้าใจว่าจะเด็ดทรยศจึงยกทัพมาตีแปรแต่ถูกพระเจ้านรบดีซ้อนกลจุดไฟเผาค่ายพ่ายแพ้กลับไป

กองทัพโมนยินของพระเจ้าโสหันพวารู้ว่าแปรกำลังอ่อนแอ จึงยกทัพมาตีกระหนาบซ้ำ สอพินยาพระคู่หมั้น อเทตยา หลานหลวง ซึ่งมีความริษยาจะเด็ดเพราะหลงรักกุสุมาอยู่เช่นกัน จึงวางแผนให้พวกโมนยินบุกเข้าเผาทำลายเมือง แล้วพากุสุมาหนีไปหงสาวดี กุสุมาเสียรู้ได้ตกเป็นมเหสีสอพินยา ส่วนจะเด็ดได้รับการช่วยเหลือจากกันทิมาลูกสาวตะคะญีครูดาบตีฝ่าวงล้อมกองทัพโมนยินกลับไปตองอู

มังตรานั้นยังโกรธแค้นจะเด็ดอยู่ถึงกับคิดจะประหาร แต่มหาเถรกุโสดอได้มาห้ามไว้ จะเด็ดขอแก้ตัวโดยนำกองทัพตองอูบุกไปตีแปรเป็นการล้างแค้น ศึกครั้งนี้จะเด็ดปราบได้ทั้งพวกโมนยินและแปร แต่พอรู้ว่าตะละแม่กุสุมาได้หนีไปหงสาวดีกับสอพินยา จะเด็ดก็แค้นหนักชวนจาเลงกะโบเพื่อนร่วมสาบานตามไปหงสาวดี ระหว่างนั้นสอพินยาไปราชการเมืองเมาะตะมะ จะเด็ดจึงใช้ให้ ปอละเตียง กับ เชงสอบู สองพี่น้องนางข้าหลวงกุสุมาช่วยพาลอบเข้าไปหากุสุมาเพื่อนำกุสุมากลับตองอู แต่กุสุมากลับหนีไปหาสอพินยาที่เมาะตะมะเพราะถือว่าได้เป็นเมียผัวกันแล้ว จะเด็ดยิ่งแค้นใจตามไปบุกชิงตัวกุสุมาคืน พร้อมกับเผากองเรือของสอพินยาเป็นการล้างแค้น หงสาวดีกับแปรจึงยกทัพมาตีกระหนาบ แต่จาเลงกะโบส่งข่าวไปให้ตะคะญียกทัพลงมาช่วยได้ทัน หงสาวดีกับแปรจึงถอยกลับเมืองไป

จะเด็ดยึดเมาะตะมะและแปร แล้วส่งตะคะญีมายั่วปะขันหวุ่นญีแม่ทัพแปรให้เกิดความแค้นใจถึงกับฆ่าตัวตาย ทำให้ โชอั้ว บุตรสาวฝังความแค้นในตัวจะเด็ดวางแผนให้จะเด็ดกับกุสุมาทะเลาะกัน จะเด็ดหลงกลเกิดความน้อยใจกุสุมาจึงชวนจาเลงกะโบกลับตองอู เมื่อถึงตองอูจะเด็ดกับมังตราเกิดทะเลาะกัน เพราะมังตราคิดว่าที่เกิดศึกเมาะตะมะนั้นเพราะจะเด็ดหลงผู้หญิงเพียงคนเดียว ด้วยความเมาจะเด็ดได้สังหารทหารองครักษ์มังตราเสียชีวิต จันทรากับเลาชีต้องมาขอพระราชทานชีวิตให้จะเด็ด และขอให้จะเด็ดบวชอยู่กับพระมหาเถรที่วัดกุโสดอ

สอพินยาได้ร่วมกับทัพโมนยินที่ตอนนี้ตีได้เมืองอังวะแล้ว ยกมาตีตองอูกับแปร มังตราต้องทำสงครามเพียงลำพังทำให้เกือบจะเสียเมือง จะเด็ดทนดูไม่ได้จึงขอร้องให้ตะละแม่จันทราช่วยจัดการสึกจากพระมาช่วยมังตราป้องกันเมืองจนพวกอังวะถอยไป ทำให้มังตราหายโกรธจะเด็ด

ส่วนศึกที่แปรนั้น ไขลูกับโชอั้วได้ร่วมกันหลอกจีสะเบงลูกแม่ทัพตองหวุ่นญีให้เปิดประตูเมือง แต่จาเลงกะโบไหวตัวทันป้องกันเมืองแปรไว้ได้ จีสะเบงจึงถูกพ่อฆ่าตายและไขลูถูกจับเป็นเชลย ส่วนโชอั้วนั้นจะเด็ดได้นำไปถวายเป็นพระสนมเอกมังตรา และจะเด็ดได้พูดจาหว่านล้อมให้จันทรายอมอภิเษกกับตนพร้อมกุสุมา ด้วยความรักและเห็นใจจะเด็ดจันทราจึงยอมทำตาม แต่เลาชีคัดค้านหากจะเด็ดฝืนจะขอยอมตาย จะเด็ดเห็นแก่แม่จึงยอมส่งกุสุมากลับแปร และนิมนต์พระมหาเถรตามไปงานอภิเษกตนกับกุสุมาที่แปร และจะเด็ดได้เป็นแม่ทัพแปรแทนปะขันหวุ่นญี สอพินยารู้เรื่องจึงลอบวางแผนไปช่วยไขลูออกมาจากตองอู และได้ลอบฆ่าพระมหาเถรตาย

จะเด็ดแค้นใจรีบจัดทัพลงไปตีหงสาวดี พระเจ้าสการะวุตพีกับสอพินยาสู้ไม่ได้จึงทิ้งเมืองพากันหนีไปเมาะตะมะ จะเด็ดยึดเมืองหงสาวดีได้ก็ยกทัพตามไปจับพระเจ้าสการะวุตพีสำเร็จโทษ สอพินยาสำนึกผิดที่ก่อเรื่องขึ้นมาทั้งหมดจึงปลงพระชนม์ชีพตนเอง แล้วจะเด็ดจึงจัดพิธีพระราชทานเพลิงพระศพพระมหาเถร โดยจับไขลูมาแล่เนื้อเผาประชุมเพลิงไปด้วยเพื่อให้หายแค้น

จากนั้นจึงประกอบพิธีพระบรมราชาภิเษกพระเจ้าตะเบงชเวตี้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ์ แห่งพุกาม ประทับอยู่ ณ กรุงหงสาวดี ส่วนจะเด็ดได้พากุสุมา, มินบู, อเทตยา, ตองสา และเชงสอบู กลับไปอยู่กับจันทราที่ตองอู เนงบากลับไปยังหมู่บ้านกระเหรี่ยงเพื่อสู่ขอกันทิมา แต่พอรู้ว่ากันทิมารักอยู่กับจะเด็ดก็น้อยใจ ประกาศตัดเป็นตัดตายกับจะเด็ดหนีไปอังวะ จะเด็ดรู้ข่าวรีบออกติดตามก็ไม่พบ

ปลายปีนั้น สันเทโว เจ้าเมืองทรางทวย พระอนุชาพระเจ้าเมงบา เจ้าเมืองยะข่าย ระแวงพระเจ้าตะเบงชเวตี้จะมาย่ำยี จึงรีบเข้ามาสวามิภักดิ์แจ้งให้ไปตียะข่ายแทน พระเจ้าตะเบงชเวตี้กำลังโปรดอาวุธปืนไฟของพวกโปรตุเกสและอยากล้างอายที่ทำศึกแพ้จะเด็ดมาถึงสองหน จึงให้จัดทัพไปเอาเมืองยะข่าย พระเจ้าเมงบาเห็นทางสู้ไม่ได้จึงเปิดเมืองรับตะเบงชเวตี้ พร้อมกับถวาย ตะละแม่มุขอาย พระธิดาเชื้อสายมองโกลเป็นมเหสี มังตราโปรดมุขอายมากจึงไม่ยอมกลับหงสาวดี

สมิงสอตุด ขุนวังเชื้อสายเก่าสการะวุตพีผู้มีความแค้นในตัวจะเด็ด รู้ข่าวว่าทางโยเดียกำลังผลัดแผ่นดิน จึงกราบทูลยุยงให้ตะเบงชเวตี้ยกไปตี จะเด็ดทัดทานไม่ได้จึงอาสาเป็นทัพหน้าไปเตรียมเสบียงให้ จนกระทั่งพระมหากษัตริย์โยเดียแต่งทูตมาขอสงบศึก จะเด็ดเห็นว่าการยอมเจรจากับโยเดียครั้งนี้จะสร้างพระเมตตาคุณอันยิ่งใหญ่ให้เลื่องลือ จึงกราบทูลให้ตะเบงชเวตี้เจริญพระราชไมตรีกับกรุงโยเดีย แม่ทัพนายกองทุกคนก็เห็นด้วย ทำให้ตะเบงชเวตี้น้อยพระทัยที่ไม่ได้ยาตราทัพเข้ากรุงโยเดียแม้แต่ก้าวเดียว

เมื่อเดินทางกลับมาถึงเมาะตะมะก็เกิดข่าวลือว่าทัพตะเบงชเวตี้มิได้มีชัยแก่กรุงโยเดีย และที่รอดมาได้ก็เพราะสติปัญญาของจะเด็ดก็ทรงกริ้วจับคนพูดมาประหารเอาศพโยนทิ้งน้ำ สร้างความเจ็บแค้นให้กับชาวมอญเป็นอย่างมาก จะเด็ดต้องปลอบโยนจนสงบแล้วจัดขบวนทัพแห่เข้าหงสาวดีอย่างยิ่งใหญ่ แต่เกิดอาเพศอสุนีบาตตกต้องช้างพระที่นั่งจนพระองค์ได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้าพิธีสะเดาะเคราะห์กระทำเป็นสู่สวรรคต ๗ ราตรี จะเด็ดจึงต้องอยู่เป็นเพื่อน โดยให้สมิงสอตุดเป็นผู้สำเร็จราชการกรุงหงสาวดีแทน สมิงสอตุดจึงใช้โอกาสนี้ยุแยงให้พระเจ้าเมงบาผิดใจกับจะเด็ดยกทัพมาบุกตองอู นันทวดีกับกันทิมาและข้าราชบริพารช่วยกันต่อสู้รักษากรุงหงสาวดีไว้ได้ แล้วรีบส่งกันทิมากับทหารขึ้นไปช่วยจันทราและพระโอรส ขณะเดียวกันมังตราได้ถูก พยัตตบะ ปรุงน้ำจัณฑ์ใส่ยาพิษถวายจนพระอาการทรุดหนัก จะเด็ดจึงไม่กล้าทิ้งมังตราขึ้นไปช่วยตองอู

พระเจ้าเมงบาได้ตั้งทัพคอยสกัดขบวนกันทิมาที่พาจันทราและพระโอรสหลบหนีมาตามช่องเขา ทำให้กันทิมาไม่อาจสู้กับกองทัพพระเจ้าเมงบาได้ แต่เนงบารู้ข่าวการยกทัพของพระเจ้าเมงบาจึงพากำลังจากซุ้มโจรของตนมาช่วย แต่ด้วยกำลังน้อยกว่าจึงสู้ไม่ได้ ทั้งเนงบากับกันทิมาจึงเสียชีวิตในสนามรบ

มังตรารู้ตัวว่าคงไม่มีพระชนม์ชีพอีกต่อไปจึงขอให้จะเด็ดไปปราบพระเจ้าเมงบา เพื่อรักษาแผ่นดินพุกามทั้งหมดเอาไว้ให้สมพระนาม “ผู้ชนะสิบทิศ” ตามที่พระองค์เคยฝันไว้ แล้วสิ้นพระชนม์ จะเด็ดจึงได้ยกทัพไปช่วยจันทราและลูกได้ทัน พระเจ้าเมงบาถูกสำเร็จโทษในสนามรบ

เสร็จศึกแล้วก็เป็นอันสิ้นเสี้ยนหนาม จะเด็ดหรือบุเรงนองจึงราชาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ เฉลิมพระนามว่า พระเจ้าสิริสุธรรมราชา ครองกรุงหงสาวดีเป็นผู้ชนะสิบทิศ ตะละแม่นันทวดีนั้น เมื่อถวายพระมหามงกุฎแด่พระเจ้าอยู่หัวสิบทิศแล้ว ก็กราบทูลลาออกบวชแสวงหาความสงบสุขตราบชั่วอายุขัย ติดตามชม ละครผู้ชนะสิบทิศ

รายชื่อนักแสดงนำละคร ผู้ชนะสิบทิศ

รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รับบท จะเด็ด/มังฉงาย/บุเรงนองกะยอดินนรธา/ปะหยิ่นหน่าว ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
วัลเณซ่า เมืองโคตร รับบท ตะละแม่กุสุมา ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
ปริศนา กัมพูสิริ รับบท ตะละแม่จันทรา ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
จิระ ด่านบวรเกียรติ รับบท มังตรา/ตะเบงชเวตี้/ตะปิ่นชเวตี ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
ปรมะ อิ่มอโนทัย รับบท สอพินยา ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ รับบท กันทิมา/นาคะตะเชโบ ชาวทรางทวย ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์ รับบท อเทตยา ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
รอน บรรจงสร้าง รับบท เมงกะยินโย ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
รุ้งทอง ร่วมทอง รับบท พระราชเทวี ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
นฤมล พงษ์สุภาพ รับบท แม่เลาชี ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
กีรติ เทพธัญญ์ รับบท สีอ่อง ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
เขมชาติ โรจนะหัสดิน รับบท ขุนเมืองราย ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
กลศ อัทธเสรี รับบท พระเจ้านระบดี ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ รับบท พระอัครมเหสี ใน ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
สรพงษ์ ชาตรี รับบท ไขลู ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท รานอง ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
เอกพัน บรรลือฤทธิ์ รับบท ตะคะญี ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ
ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง รับบท ปะขันหวุ่นญี ใน ละคร ผู้ชนะสิบทิศ

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 เป็นเรื่องราวของผู้ที่มีสัมผัสพิเศษที่แต่ล่ะคนมีแตกต่างกัน

ญาณสื่อรัก
 
ญาณิน ผู้มีญาณวิเศษสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ขณะอยู่ในสมาธิ จำต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือติณห์ หนุ่มหัวนอกที่ไม่เชื่อเรื่องผีเลยสักนิด เพราะเห็นวิญญาณผีตายโหงมากมายอยู่ในที่ดินที่เขาจะสร้างรีสอร์ตริมแม่น้ำ ที่สำคัญ วิญญาณคุณหลวงพิชัยภักดีตาของชายหนุ่มปรากฏกายให้เธอเห็นและจ้างเธอด้วยทองคำจำนวนสิบแท่งเพื่ออยู่ช่วยหลานชายสร้าง รีสอร์ตจนแล้วเสร็จ ทว่าที่ดินผืนงามนี้ไม่เข้าใครออกใคร มีคนวางแผนชั่วเพื่อฮุบที่ดินชายหนุ่ม งานนี้เขาและเธอจึงต้องฝ่าด่านสารพัดทั้งผีและคนเลว
 
กับดักรักลวง
 
เล่ห์บ่วงมนตรา
 
สุคนธรส ผู้สามารถได้กลิ่นวิญญาณและสืบทอดวิชาไสยขาวมาจากหลวงปู่ของเธอ ตัดสินใจที่จะช่วยเสี่ยใหญ่เจ้าของตลาดสดหญิง-จำเริญ ที่กำลังถูกวิญญาณมุ่งร้าย ทว่ากลับเจอปัญหาเข้าเสียเองเมื่อคุณหญิงจะจับเธอแต่งงานกับบุตรชายเพราะเข้าใจผิดคิดว่าไตรรัตน์ทำมิดีมิร้ายจนเธอพลาดท่าเสียที หญิงสาวจะทำอย่างไรเมื่อต้องงัดวิชาคุณไสยที่เล่าเรียนออกมาใช้เพื่อช่วยเหลือชายหนุ่มที่มองว่าเธอมีพฤติกรรมไม่ต่างจากพวกสิบแปดมงกุฎ
 
มายาร้อยใจ
 
กรรัมภา ผู้สามารถใช้มือสัมผัสเพื่ออ่านความทรงจำจากวัตถุ ได้รับหน้าที่ช่วยเหลือปาร์คจุนจี ดาราลูกครึ่งไทย-เกาหลีที่เธอคลั่งไคล้ เขาถูกวิญญาณรังควานหลังจากพิมพ์พิลาศผู้เป็นย่าเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ จากความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาแต่เกิด ทำให้หญิงสาวสืบจนเข้าใกล้ความจริงและพบว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ในสายตาของปาร์คจุนจี กรรัมภาเป็นแค่แฟนคลับโรคจิตและคุณหนูแบรนด์เนมแต่งตัวเว่อร์ แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกัน เจ้าชายแห่งโลกมายากลับมองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
 
เปลวไฟในสายลม
 
เนตรสิตางศุ์ ชอบทำอาหารมาก จึงคิดเมนูแปลกๆมา ผู้สามารถมองเห็นวิญญาณ ต้องรับหน้าที่ดูแลเคสใบหม่อน นางเอกละครเวทีที่ถูกฆาตกรรม ที่น่าหนักใจยิ่งกว่าคือ คำขอร้องของวิญญาณที่ต้องการหาตัวฆาตกรมาลงโทษ ยายน้องหนูผู้นุ่มนิ่มที่สุดในกลุ่มจึงต้องข้องเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แถมยังไม่ทราบว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่บังเอิญมีวรวรรธน์ คุณหมอนิติเวชหัวใจร็อกผู้มีวิญญาณตามเป็นพรวนมาคอยป้วนเปี้ยนให้หัวใจกระตุก สงสัยเคสนี้จะบานปลายเสียแล้ว เพราะจำนวนผู้เข้าข่ายต้องสงสัยเพิ่มขึ้นทุกที ชอบหมอวรรธ
 
นักแสดง The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2
 
หลุยส์ สก๊อต รับบท ติณห์
วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบท ไตรรัตน์
รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รับบท ปาร์คจุนจี/จุนจี
จรณ โสรัตน์ รับบท พงอินทร์
ฐกฤต ตวันพงค์ รับบท หมอวรวรรธ/หมอตาหนู
จิตตาภา แจ่มปฐม รับบท ญาณิน
กมลเนตร เรืองศรี รับบท สุคนธรส
ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด รับบท กรรณา
ตฤณญา มอร์สัน รับบท กรรัมภา
กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์ รับบท เนตรสิตางคุ์
สราวุธ มาตรทอง รับบท ร.ต.อ.ณัฐเดช/ผู้กองณัฐ
ธรรศภาคย์ ซี รับบท คิมซองซู
พริมรตา เดชอุดม รับบท เป้ย
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบท อรวรรณ/ป้าออ
อนันต์ บุนนาค รับบท คุณหลวงพิชัยภักดี
ธนากร โปษยานนท์ รับบท หมอสมคิด
รัชพล แย้มแสง รับบท ก๊อง
จริยา แอนโฟเน่ รับบท มิรันตรี
สุปราณี เจริญผล รับบท แม่ทิพย์
ทาริกา ธิดาทิตย์ รับบท พิมพิลาศ
อนุวัตน์ นิวาตวงศ์ รับบท ดร.แผนยุทธ
ศิรินทร์ ปรีดียานน์ รับบท เบญจา
นิโคล เทริโอ รับบท พิมอร
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท เจ๊หญิง
อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบท เสี่ยจำเริญ
นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบท ลีจองกุ๊ก
พรรษชล สุปรีย์ รับบท น้ำหนึ่ง
อัมราภัสร์ จุลกะเศียน รับบท สุพิชชา/พีช
ศานติ สันติเวชกุล รับบท กำนันพงษ์
นาตาลี เดวิส รับบท เคธี่
อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล รับบท อติเทพ
ณิชชาพันณ์ ชุนหะวงศ์วสุ รับบท อรวี
ประกาศิต โบสุวรรณ รับบท ทนายสมชาติ
สมมาตร ไพรหิรัญ รับบท ทนายสมชาย
วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบท ช่อเพชร
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท จารุณี
ดารัณ ฐิตะกวิน รับบท อาอี๊
สินีนาฏ โพธิเวช รับบท อาม่า
ด.ญ.วาศิตา แฮเมเนา รับบท โกเด้นเบบี้
ด.ญ.ชินารดี อนุพงษ์พิชาติ รับบท โบตั๋น

คือหัตถาครองพิภพ 2556

ศรี (ปิยธิดา วรมุสิก) ลูกสาวคนโตวัยขึ้นคานของท่านเจ้าสัว (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) พ่อค้าใหญ่ร่ำรวยมีชื่อเสียง ที่เกิดกับแม่น้อย (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ภรรยาคนที่สอง ศรีครองตัวเป็นโสด ไม่สนใจเรื่องการมีครอบครัว

ก่อนหน้านั้นมีคนมาสู่ขอ แต่ศรีก็ไม่สนใจ ท่านเจ้าสัวทั้งโกรธทั้งกลุ้มใจ ถึงขั้นต้องบังคับจับคลุมถุงชน แต่ศรีก็สร้างเรื่องให้วุ่นวายโดยร่วมมือกับอีเมี้ยน (อริสรา วงษ์ชาลี) พี่เลี้ยงสาวทึนทึก ห้าวๆ คล้ายผู้ชาย เมี้ยนปลอมตัวเป็นเจ้าสาวแทนศรี เพราะเจ้าสาวคลุมหน้าเข้าห้องหอไปเปิดหน้ามาเจ้าบ่าวถึงกับลมใส่ ส่วนศรีมี ศุกล (ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์) น้องชายลูกแม่ใหญ่ (นวลนง จามิกรณ์) ทั้งสองคน แม้จะเป็นลูกต่างแม่แต่รักใคร่และสนิทกันมาก ศุกลที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก รีบช่วยเหลือพาศรีไปแอบที่เรือนแพของแม่พริ้ง (ปัทมา ปานทอง) ซึ่งอาศัยที่ริมน้ำท่านเจ้าสัวขายเครื่องปั้นดินเผา

เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนท่านเจ้าสัวโกรธมากกล่าวหาว่า เจ้าสัวเอาคนรับใช้มายกให้เป็นสะใภ้ถือเป็นการดูถูกครอบครัว และตัดความเป็นเพื่อนกับท่านเจ้าสัว ที่แพศุกลได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี สะบันงา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ลูกสาวของพริ้ง เวลานั้นสะบันงากำลังจะลงว่ายน้ำเล่น ศุกลกับศรีขับเรือเครื่องมาอย่างเร่งรีบ ไปชนเอากระดานไม้ที่สะบันงายืนเก้งก้างอยู่จนตกลงไปในน้ำ สะบันงาตกใจร้องหวีดจนผ้าถุงหลุด ไม่กล้าขึ้นมาจากน้ำ ศรีต้องรีบไล่ศุกลให้ไป แล้วเอาผ้าถุงจากแพมาให้สะบันงาใส่ ศุกลหลงรักสะบันงาทันที และเป็นรักแรกพบของทั้งสองคน

พระยาสมิติภูมิ (เดวิด อัศวนนท์) ชาวฝรั่งสัญชาติอังกฤษ คอยเสาะหาผู้หญิงมีฐานะและมีความรู้คู่ควรมาเป็นภรรยา โดยไม่ได้เน้นความรัก พระยาเกษม (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เพื่อนรักเป็นผู้แนะนำศรีให้ เนื่องเพราะศรีเป็นสาวหัวทันสมัย เขียนอ่านภาษาได้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส นอกจากนี้ศรียังเป็นเพื่อนสนิทของ คุณหญิงลออศรี (กชกรณ์ นิมากรณ์) ภรรยาพระยาเกษมอีกด้วย ท่านเจ้าสัวดีใจมาก เพราะศรีลูกสาวมีวัยถึง 28 ปี เหตุเพราะศรีบ่ายเบี่ยงการแต่งงานหลายครั้ง

เวลาต่อมาพระยาสมิติภูมิมาสู่ขอศรี คุณหญิงลออศรีช่วยอ้อนวอน ศรีลังเลในเบื้องแรก เจ้าสัวกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จึงกักตัวศรีไว้ในห้องก่อนแต่งงาน 7 วัน ส่วนอีเมี้ยนนั้นท่านเจ้าสัวแสร้งส่งไปทำธุระต่างจังหวัด ศรีจำต้องแต่งงานกับพระยาสมิติภูมิ กลายเป็น คุณหญิงศรี และมีอำนาจเต็มในคฤหาสน์หลังใหญ่

ค่ำคืนแรกที่ตกเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์ของพระยาสมิติภูมิ ศรีกรีดร้องดังโหยหวนจนท่านพระยาทั้งตกใจ และประหลาดใจ แต่ก็ภูมิใจที่ศรีอุตส่าห์ครองตัวมานาน แต่ยอมแต่งงานกับตน คุณหญิงศรี พาอีเมี้ยนมาเป็นต้นห้อง และหลีกเลี่ยงการหลับนอนกับพระยาสมิติภูมิสม่ำเสมอ โดยคอยจัดหาบ่าวสาวๆ ในบ้าน ไปปรนนิบัติพระยาสมิติภูมิแทน ไม่เว้นแม้แต่อีเมี้ยนก็ต้องยอมไปแก้ขัดให้

หลังจากศรีแต่งงานออกเรือนไปแล้ว เจ้าสัวส่งศุกลไปเรียนเมืองนอกด้านคอมเมิร์ชเพิ่มเติม เพื่อติดต่อค้าขายธุรกิจให้ใหญ่โตมากขึ้น ตลอดเวลาศุกลไม่เคยลืมสะบันงาสาวน้อยตกน้ำคนนั้น เขาตั้งใจเรียนจนจบและเดินทางกลับจากต่างประเทศเร็วกว่ากำหนด ท่านเจ้าสัวผิดหวัง ศุกลไม่ได้เรียนการบริหารธุรกิจกลับไปเรียนด้านวรรณคดีและอักษรศาสตร์

ศุกลกับคุณหญิงศรีเป็นพี่น้องที่รักกันมาก จนถึงขั้นกล้าขอให้คุณหญิงมาบอกท่านเจ้าสัวไปสู่ขอสะบันงา ท่านเจ้าสัวโมโหมากสั่งให้ศุกลเลิกติดต่อกับสะบันงา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ศุกลลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวจะไปมีเมียเป็นลูกแม่ ค้าเรือนแพยากจน ไม่มีสกุลรุนชาติ นอกจากนี้ท่านเจ้าสัวแอบไล่แม่พริ้งและสะบันงาให้ไปจากที่ดินของตน ห้ามกลับมาอีก ศุกลเศร้าหมองไม่รู้สาเหตุการหายไปของสองแม่ลูก

สะบันงาในวัยเพียง 14 ปี กับแม่พริ้งและพ่อ การค้าขาดทุน เรือนแพโดนยึดเพราะติดจำนองเอาเงินไปรักษาแม่พริ้ง วันหนึ่งแม่พริ้งได้พบกับ แกละ (ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) โดยบังเอิญ จนได้รู้ว่าแกละเป็นบ่าวในบ้านพระยาสมิติภูมิ แกละแนะนำให้แม่พริ้งพาสะบันงาไปขายฝากตัวขัดดอกเพื่อเอาเงินไปรักษาตัว แม่พริ้งพาสะบันงามาบ้านพระยาสมิติภูมิ คุณหญิงศรีจำสะบันงาได้และดีใจแทนศุกลจึงรีบรับซื้อสะบันงาเอาไว้รับใช้ หวังให้ศุกลมารับไปเป็นภรรยาสักวัน ความที่สะบันงาอายุน้อยมากไร้เดียงสา จึงรอดพ้นสายตาประกอบกับคุณหญิงพยายามเอาสะบันงาหลบจากพระยาสมิติภูมิเสมอ สะบันงาจึงรอดหูรอดตามาตลอด

แต่แล้ววันหนึ่งสะบันงาก็ได้พบกับเจ้าพระยาสมิติภูมิโดยบังเอิญอย่าง จังๆ ท่านกลับไมได้คิดในแง่ชู้สาวเพราะมองว่าเด็กมาก ได้แต่ติดใจว่าสวยมากแต่ยังเด็ก แต่ท่านพระยาก็ไม่ได้ละเลยสะบันงา

คุณหญิงศรีปกครองคนในบ้านโดยมีอีเมี้ยนเป็นตัวแทน คอยสอดส่องดูแลความเป็นไปในบ้านและหาบ่าวสาวไปปรนนิบัติ รวมทั้งสองพี่น้อง สังเวียน (ธัญสินี พรมสุทธิ์) กับ สังวร (ภารดี อยู่ผาสุก) ที่ต่างเป็นคนขี้อิจฉาและมักใหญ่ใฝ่สูง อีเมี้ยนมักมีปัญหากับบ่าวไพร่ในบ้านเป็นประจำ แต่ไม่มีใครกล้าหือ บ่าวในครัวนินทาเมี้ยนกับคุณหญิงศรีว่าเล่นเพื่อนกัน คุณหญิงศรีโกรธขู่จะเอาโทษกับทุกคนที่พูดเรื่องนี้ จนทำให้เรื่องสงบลง

วันหนึ่งคุณหญิงศรีชวนศุกลมาหาที่บ้าน ศุกลมาพบสะบันงาถึงกับตะลึงงันมองด้วยความดีใจและหลงใหล จากนั้นศุกลจึงแวะเวียนมาเยี่ยมคุณหญิงศรี เพื่อได้พบหน้าสะบันงาบ่อยมากจนดูผิดสังเกตของพวกบ่าวไพร่ โดยเฉพาะน้อย (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) บ่าวปากมากจอมส่อเสียด 1 ในบ่าวที่คอยไปบำเรอความสุขให้ท่านพระยา น้อยจับตาความสัมพันธ์ของสองคนตลอด แม้ไม่ค่อยได้พูดจากัน แต่สะบันงาก็มีใจรักตอบศุกล ไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นภรรยาของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิในวันหนึ่ง

ที่นั่นนางเล็กๆ ทั้งหลาย สังเวียน สังวร และน้อย พยายามชิงดีชิงเด่นเพื่อให้เจ้าพระยาสมิติภูมิหลงใหล และแย่งตำแหน่งคุณหญิงศรี ตบตีกันเองก็เคยทำ โดยหารู้ไม่ว่าท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิจะเชิดชูเพียงคุณหญิงเท่านั้น เพราะเหมาะสมคู่ควร บรรดาเมียเล็กเมียน้อยเกลียดคุณหญิงศรีและเมี้ยนมาก ถึงกับทำพิธีสาปแช่งให้คุณหญิงมีอันเป็นไปสารพัด แต่ไม่รอดสายตาเมี้ยน คุณหญิงศรีแสร้งทำเฉยแต่เก็บงำข้อมูลไว้ชำระแค้น

ด้วยความเอ็นดูรักใคร่เป็นพิเศษคุณหญิงศรีสอนวิชาสารพัดทั้งไทย อังกฤษให้สะบันงา ทำให้สะบันงามีความรู้มากมาย เพราะคุณหญิงต้องการให้สะบันงาเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่คู่ควรของศุกลผู้เป็น น้องชาย แต่พวกนางเล็กๆ กลับคิดไปว่าคุณหญิงจะเอาสะบันงามาเป็นตัวตายตัวแทนในวันข้างหน้า จึงพากันเกลียดและอิจฉาสะบันงาไปด้วย สะบันงาเป็นเด็กจิตใจดี ใจเย็น อดทน ไม่มองใครในแง่ร้าย ยิ่งทำให้คุณหญิงศรีรักสะบันงามากในฐานะน้องสะใภ้ในอนาคต คุณหญิงศรีบอกสะบันงาเรื่องศุกลรักและจะแต่งงาน สะบันงาเต็มใจรักตอบศุกล ซึ่งทั้งศุกลกับสะบันงาได้พูดจาตกลงกันเรื่องแต่งงานไว้แล้ว เพียงรอเวลาให้สะบันงาโตอีกสักนิด

สังวรออดอ้อนขอร้องพระยาสมิติภูมิอย่าทิ้งขว้าง พระยาสมิติภูมิรับคำทำให้สังวรไม่เกรงกลัวคุณหญิงศรี โดยเฉพาะกับเมี้ยนมักเป็นคู่ปรับกันเป็นประจำ คุณหญิงศรีแม้จะไม่ชอบสังวรแต่ก็ทำให้เธอพ้นหน้าที่ต้องกลับนอนกับพระยา สมิติภูมิ คุณหญิงศรีฉลาดไม่ลดตัวไปทะเลาะกับสังวรให้เป็นหน้าที่ของเมี้ยน สังวรท้องสมใจอยากกะได้ลูกชายมาสืบทอดตระกูลเขี่ยคุณหญิงศรีให้กระเด็น คุณหญิงศรีรับรู้แผนการของสังวร โดยมีเมี้ยนคอยจับตาดู คุณหญิงศรีไม่มีวันยอมให้พระยาสมิติภูมิมีลูกกับบ่าวไพร่ขี้อิจฉาคนใดโดย เด็ดขาด

สังวรยังไม่ทันบอกให้ใครเรื่องตั้งท้องรู้นอกจากสังเวียนน้องสาว น้อยเมียบ่าวผู้ทะเยอทะยานแอบฟังสองพี่น้องคุยกันจึงรีบไปบอกเมี้ยน เมี้ยนไปบอกคุณหญิงหญิงศรี แต่คุณหญิงศรียินดีกับสังวรยกใหญ่เมี้ยนถึงกับแปลกใจ สังวรผยองยกใหญ่วางก้ามตีเสมอเผลอเบ่งทับคุณหญิงศรี

เมี้ยนโมโหและโกรธจัด วางแผนเฉดหัวสังวรออกจากบ้านเนียนๆ ให้คุณหญิงศรี โดยแสร้งชวนสังวรมาคุยในห้องคุณหญิงศรี แล้วทิ้งไว้คนเดียว เมี้ยนจัดแจงนำเอาเครื่องเพชรของคุณหญิงศรีไปซ่อนไว้ในห้องของสังวร พร้อมกับร้องโวยวายว่าสังวรขโมยเครื่องเพชรไป คุณหญิงศรีให้ทางเลือกสองทาง ส่งตำรวจหรือต้องไปจากบ้าน สังวรจำนนต่อหลักฐาน พวกบ่าวไพร่คนในบ้านเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มีแต่สังเวียนเท่านั้นที่ไม่เชื่อเต็มที่ว่าสังวรจะขโมย สังวรต้องออกจากบ้านไปโดยมีลูกติดท้องไปด้วย ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิไม่รู้ว่าสังวรท้องรู้แต่ว่าขโมยของคุณหญิงแล้วหนีไป เพราะกลัวความผิด

สังวรกลับไปคลอดลูกชายตั้งชื่อว่า ทอง (โตขึ้นเป็น ศรุต สุวรรณภักดี) พร้อมกับเลี้ยงดูและเสี้ยมสอนให้ทองกลับมาแก้แค้นคุณหญิงศรีแทนตน

หลังจากเห็นพี่สาวถูกใส่ร้าย สังเวียนเจ็บแค้นคุณหญิงศรีที่กลั่นแกล้งสังวร จึงพยายามท้องกับเจ้าพระยาสมิติภูมิให้ได้ สังเวียนสนิทกับแกละที่ยังแคล้วคลาดไม่ได้เป็นภรรยาของท่านสมิติภูมิสักที สังเวียนพยายามไปปรนนิบัติเจ้าพระยาสมิติภูมิแทนคิวของแกละ และคอยเสี้ยมแกละให้ลาออกไปกับ ซ้ง (พศิน ศรีธรรม) กุ๊กจีนที่รักใคร่ชอบพอกันอยู่ ในที่สุดทั้งสองลาออกไปเปิดร้านอาหารจีนภายหลังกิจการเจริญรุ่งเรืองใหญ่โต และมีชื่อเสียงมากในเวลาต่อมา แกละเปลี่ยนชื่อเป็นลออศรีวดี ตามชื่อของคุณหญิงลออศรี ต่อมาเติมวดีข้าไปอีก แกละจึงมีชื่อยาวมากว่า คุณหญิงลออศรีวดี ส่วนซ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็นคุณทรงวาด

น้อยเมียบ่าวอีกคนดีใจที่สังวรถูกกำจัดออกไป และหวังมีลูกกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเช่นกัน น้อยอิจฉาสังเวียนที่กลายเป็นคนโปรด คอยติดตามข่าวสังเวียนไปบอกเมี้ยนหวังรางวัล หารู้ไม่ว่าเมี้ยนไม่ไว้ใจน้อยเช่นกัน

ในที่สุดสังเวียนท้องกับพระยาสมิติภูมิ แต่ขอร้องไม่ให้บอกใคร เจ้าพระยาสมิติภูมิรับปาก และทำให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสังเวียนอีก เมี้ยนจับสังเกตอยู่ด้วยความแปลกใจ น้อยมาส่งข่าวว่าสังเวียนน่าจะท้อง คุณหญิงศรีสงบนิ่งด้วยยังไม่แน่ใจ เพราะกำลังวางแผนแต่งงานให้ศุกลกับสะบันงา เมื่อหมดคนที่จะส่งไปให้ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิ อีกทั้งท่านเจ้าพระยาไม่ต้องการน้อยเพราะปากมาก เมี้ยนก็มีรอบเดือน คุณหญิงศรีรักน้องชายมากและหวงสะบันงาไว้ให้น้องชาย จึงยอมไปนอนกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเสียเอง พร้อมกับเตือนสะบันงาให้ระวังตัว

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฏว่าคุณหญิงศรีท้องมีอาการแพ้และป่วยจนนอนอยู่แต่ในห้อง ไม่สามารถปกป้องสะบันงาให้น้องชายได้อีก แม้สะบันงาจะเฝ้าดูแลคุณหญิงศรีตลอดเวลา แต่ก็ต้องโดนเรียกไปพบท่านเจ้าพระยาในที่สุด

โชคยังดีที่เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสะบันงาทันที เพราะจะถนอมเอาไว้ให้สะบันงาเต็มใจรับรักท่าน ท่านหลงรักสะบันงายิ่งกว่าหญิงใดๆ แม้แต่คุณหญิง ยิ่งพบว่าสะบันงาเก่งกาจเพราะเรียนรู้จากคุณหญิง ท่านยิ่งหลงใหล จ้างครูมาสอนสารพัดวิชาให้สะบันงา

ศุกลมาเยี่ยมคุณหญิงศรีและรู้ว่าสะบันงาเข้าไปดูแลปรนนิบัติพระยา สมิติภูมิก็เสียใจมาก คุณหญิงศรีบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รอเวลาไม่ได้แล้ว บอกให้ทั้งสองคนหนีไปด้วยกัน น้อยมาแอบฟังจึงรีบไปฟ้องสังเวียน และสังเวียนไปฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิต่อ สังเวียนกร่างใหญ่โตเบ่งมากมีปากเสียงกับเมี้ยนไม่เกรงกลัวใคร เพราะเจ้าพระยาสมิติภูมิคอยให้ท้าย สังเวียนแอบส่งจดหมายถึงสังวรแจ้งข่าวท้องฝาก นายยอด (กษาปณ์ จำปาดิบ) คนรถไปส่ง ด้านนายยอดไม่ชอบหน้าสองพี่น้องจึงแอบเปิดอ่านและเอาจดหมายไปให้เมี้ยนเพราะ หวังรางวัล คุณหญิงศรีอ่านจดหมายจึงรู้ว่าสังเวียนท้องจริง และยังรู้ด้วยว่าสังเวียนเอาสมุนไพรทำให้แท้งลูกใส่ในยาหม้อบำรุงครรภ์ของ คุณหญิงศรี เหตุนี้คุณหญิงศรีจึงป่วยกระเสาะกระแสะ

คุณหญิงศรีแค้นมากแต่อีเมี้ยนแค้นกว่า จึงอาสาจัดการให้ โดยจ้างยอดให้เข้าหาสังเวียน สังเวียนต่อสู้แทงยอดด้วยมีด เมี้ยนเข้าไปเจอสังเวียนอยู่กับยอด จึงต่อว่าเสียงดังและเอาจดหมายที่สังเวียนคิดร้ายกับคุณหญิงโชว์ให้ดู สังเวียนตกใจกลัวมากจนด้วยหลักฐาน เมี้ยนขู่จะบอกท่านเจ้าพระยา สังเวียนจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้อง ส่วนยอดเมี้ยนปิดปากด้วยการลอบวางยาพิษ เจ้าพระยาสมิติภูมิอดสงสัยไม่ได้ แต่คุณหญิงเอาจดหมายที่สังเวียนเขียนถึงพี่สาวให้ท่านเจ้าพระยาอ่าน ท่านพูดไม่ออกเพราะสังเวียนปองร้ายคุณหญิงศรีจึงและคิดร้ายถึงขึ้นจะฆ่าลูก ในในท้องให้แท้ง จึงเงียบและไม่ต้องการให้เรื่องอื้อฉาว

เวลาต่อมาคุณหญิงศรีคลอดลูกสาวชื่อ พริสซิลลา หน้าตางดงามแต่ไม่แข็งแรงนัก คุณหญิงศรีไม่มีน้ำนม เมี้ยนต้องไปเอาบ่าวชื่อ ดา (มนตระกานต์ ทองขาว) พี่สาวของเดือน (อุษณีย์ วัฒฐานะ) มาเป็นแม่นม

น้อยมาบอกให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไปดูศุกลกับสะบันงาคุยกันอย่างสนิท สนมใต้ต้นพิกุล ท่านตัดสินใจเลิกทะนุถนอมสะบันงาเอาไว้ต่อไป เจ้าพระยาสมิติภูมิกักสะบันงา ไม่ยอมส่งสะบันงากลับไปดูแลคุณหญิง และให้คุณหมออดุล หมอประจำบ้านมาดูแลพร้อมด้วยพยาบาลและเมี้ยน สะบันงาตกเป็นภรรยาของเจ้าพระยาสมิติภูมิจึงปฏิเสธแต่งงานกับศุกลเพราะมี มลทิน แต่ศุกลกลับไม่ถือสา เขารักสะบันงายิ่งกว่าสิ่งใดในโลก และให้ตัดสินใจหนีไปกับเขา ศุกลจะส่งรถมารับ นัดหมายให้ออกไปตอนเที่ยงคืนแรมสิบห้าค่ำที่จะมาถึง ถ้าไม่ออกมาเขาจะรอจนกว่าจะตาย สะบันงาสองจิตสองใจ น้อยแอบฟังที่ศุกลบอก แต่บิดเบือนเมื่อมารายงานท่านเจ้าพระยาว่าสะบันงานัดศุกลให้มารับเพื่อจะหนี ไปด้วยกัน ท่านแค้นมาก สั่งน้อยหานักเลงมาให้สองคน โดยท่านเจ้าพระยาสั่งให้เอาศุกลไปทำร้ายสั่งสอนให้เข็ดหลาบเท่านั้น

เมื่อถึงวันนัด สะบันงาไม่ยอมลงไป เพราะไม่ต้องการทรยศต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ศุกลมารอรับสะบันงาตามที่นัดหมายไว้ ขณะเดินไปรอที่ต้นพิกุลใหญ่ เขาโดนสองคนทำร้ายทุบตีและอุ้มหายไป ขณะเดียวกันนั้น คุณหญิงศรีซึ่งอยู่ในห้องกับพริสซิลลาที่ยังแบเบาะมองทางหน้าต่าง เห็นสองคนกำลังอุ้มและทุบตีใครคนหนึ่งไป เอะใจว่าเป็นศุกลจึงลอบลงเรือนตามไปดู ทิ้งให้พริสซิลลาหลับอยู่ตามลำพัง เมี้ยนได้ยินเสียงพริสซิลลาร้องไห้วิ่งมาดู ไม่พบคุณหญิงศรีก็ตกใจมาก จึงมาเรียกน้อยไปตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลา น้อยฉวยโอกาสมากระซิบสะบันงา

เมื่อรู้ว่าพริสซิลลาไม่มีใครดูแลเพราะเมี้ยนจะออกไปตามหาคุณหญิงศรี สะบันงาจึงขอไปดูแลพริสซิลลา ระหว่างทางน้อยกลับชวนไปแวะที่ต้นพิกุลใหญ่ บอกว่ามีคนรอพบถ้าไม่ไปพบเขาจะขึ้นไปหาเจ้าพระยาสมิติภูมิ สะบันงายอมไปแต่ไม่พบใคร น้อยย้อนกลับมาฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิว่าสะบันงาไปรอพบศุกล สะบันงาเจอเมี้ยนระหว่างทางจึงรู้ว่าโดนน้อยหลอก เมี้ยนตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลาแทนแล้ว เมี้ยนโกรธน้อยมากรู้ว่าน้อยหักหลัง แต่ต้องรีบไปตามหาคุณหญิง

ท่านเจ้าพระยาตามลงมาหาสะบันงาชวนกลับเรือนไปโดยไม่บอกว่ารู้เรื่อง ใดๆ สั่งให้สะบันงาอยู่แต่ในห้องอย่าไปไหน ส่วนตนเองออกไปดูผลงาน น้อยแอบวางเพลิงเรือนคุณหญิงศรีหวังให้พริสซิลลาตาย จากนั้นแอบไปดูผลงานที่สองโจรทำร้ายศุกลเพื่อรอรับส่วนแบ่งรางวัลตามที่ตกลง กันไว้ โจรสองคนเกิดโลภทำร้ายศุกลเมื่อเห็นว่ามีทองหยองเงินทองติดตัวมากมาย จึงริบมาหมดกลายเป็นฆ่าชิงทรัพย์ ขณะรูดแหวนติดนิ้วที่มีอักษรไขว้ ศก. คุณหญิงตามมาเจอโจรสองคน กระโจนเข้าไปหาน้องชายด่าว่าโจรเป็นการใหญ่ โจรชั่วสองคนที่กำลังขุดหลุมรอฝังศุกลโมโหใช้จอบฟันเข้าที่หน้าคุณหญิงศรีจน หน้าเละไปข้างหนึ่ง คุณหญิงไม่สิ้นฤทธิ์ พยายามคลานไปขัดขวางจึงโดนจอบฟันขาเดี้ยงไปข้างหนึ่ง เมื่อจะฟันมือปรากฏว่าคุณหญิงศรีหลบทันก่อนจะแกล้งนอนสลบ

น้อยพรวดออกมาแสดงความยินดีกับสองโจรเพื่อตั้งใจมาขอส่วนแบ่ง โจรสองคนจึงฟันน้อยตายไปด้วย เมื่อฝังศุกลและน้อยเสร็จ สองโจรคิดว่าคุณหญิงศรีตายแล้ว กำลังจะฝัง แต่ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาพบโจรสองคนตามนัดหมายเพื่อให้ค่าจ้างเสียก่อน และรู้ว่าโจรสองคนฆ่าศุกลแถมคุณหญิงศรีนอนตายอีกคน จึงโกรธมากด่าว่าโจรสองคน ทั้งสองคนบอกว่าคุณหญิงศรีมาขัดขวางจึงตัดสินใจฆ่า

ท่านเจ้าพระยาเสียใจมาก และจะยิงโจรทั้งสองคนทิ้งแต่เห็นไฟลุกท่วมบ้านที่คุณหญิงพัก ก็ตกใจกลัวพริสซิลลาโดนไฟครอกจึงรีบหันกลับบ้านเพื่อไปดูลูก โจรสองคนฉวยโอกาสหนีไปพร้อมค่าจ้าง

พอทุกคนคล้อยตัวไป เมี้ยนตามมา และพบสภาพคุณหญิงศรีก็หัวใจสลาย สงสารคุณหญิงจับใจ เมื่อเห็นว่าคุณหญิงยังไม่ตายจึงรีบอุ้มไปหลบที่รถของศุกลที่จอดแอบรออยู่ โดยให้คนรถขับพาไปที่บ้านของตนเองที่ปทุมธานี

ด้านสะบันงารีบออกจากตึกของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาช่วยพริสซิลลา กับเดือนและดา เจ้าพระยามาถึงบ้านไฟมอดไหม้มจนเป็นจุณ พริสซิลลาปลอดภัยเพราะทั้งสามคนช่วยไว้ ท่านซาบซึ้งในน้ำใจของทั้งสาม จากนั้นจึงย้อนกลับมาดูร่างคุณหญิงศรี แต่ร่างคุณหญิงหายไปไร้ร่องรอย จึงเข้าใจว่าพวกโจรพวกนั้นเอาศพไปด้วย ท่านเจ้าพระยาไม่สบายใจมากเรื่องคุณหญิงศรี และกลายเป็นหนามทิ่มแทงให้เจ็บปวดหัวใจจนกลายเป็นโรคหัวใจในเวลาต่อมา

ท่านเจ้าพระยาประกาศว่าคุณหญิงศรีเสียชีวิตในกองเพลิง และจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ ส่วนสะบันงาได้รับการยกย่องเป็นภรรยาเอกเลื่อนฐานะเป็นคุณหญิง เธอดูแลพริสซิลลาอย่างดีรักเหมือนลูก พริสซิลลาโตขึ้นปรากฏว่าเป็นออทิสติก แต่คนในสมัยนั้นคิดว่าเด็กปัญญาอ่อน เธอเป็นเด็กสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตา พระยาสมิติภูมิรักลูกสาวคนนี้มาก สะบันงาก็รักใคร่เอ็นดูเช่นกัน สะบันงาไม่เชื่อว่าพริสซิลลาปัญญาอ่อนพยายามดูแลอย่างดี พริสซิลลามีความจำดีอย่างมหัศจรรย์มักรู้อะไรที่ใครนึกไม่ถึง คิดเลขได้เร็ว

สะบันงายังรักศุกลแม้จะไม่ได้คิดหนีตามไป แต่เข้าใจผิดคิดว่าศุกลหลอกว่าจะมาพบแต่ไม่กลับมาเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีคนเอาไปนินทาว่าเป็นฝีมือของสะบันงา ซึ่งวางแผนกำจัดคุณหญิงศรี ฆ่าตายหมกไว้ที่ไหนสักแห่ง บ้างว่าคุณหญิงศรีหนีตามน้องชายคนละแม่ สะบันงาเสียใจแต่นิ่งเฉยเสีย ท่านเจ้าพระยาคอยปลอบใจและรักสะบันงามากขึ้นทุกวัน และเล่นงานทุกคนที่พูดเรื่องนี้จนพากันเงียบปากไป โดยเฉพาะคุณหญิงลออศรี หรือ แกละนั่นเองคือตัวกระจายข่าวในวงชั้นสูง ภายหลังพระยาเกษมได้มาพบปะสะบันงาจึงรู้สึกดีขึ้น

เวลาผ่านไปสะบันงามีลูกสาวคนแรกกับเจ่าพระยาสมิติภูมิ ชื่อ พริ้มเพรา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เมี้ยนกลับมาหาสะบันงาบอกว่าขอพาพี่สาวทีพิการมาขอ อาศัยอยู่บ้านท้ายสวน โดยไม่ยอมบอกว่าที่แท้เป็นคุณหญิงศรีนั่นเอง สะบันงาอนุญาตด้วยความเต็มใจ และถามไถ่ถึงคุณหญิงศรี สะบันงาร้องไห้เสียใจที่คุณหญิงศรีหายไป เธอยังเคารพเทิดทูนและรู้ซึ่งในพระคุณคุณหญิงศรีเสมอ เมี้ยนฟังแล้วถึงกับร้องไห้โฮนำความมาบอกคุณหญิงศรี

คุณหญิงได้ทราบว่าสะบันงาปฏิเสธไม่ให้ทุกคนเรียกว่า คุณหญิง เพราะเธอมั่นใจว่าคุณหญิงศรียังมีชีวิตอยู่ คุณหญิงศรีถึงกับตื้นตันน้ำตาคลอขนาดไม่รู้ว่าเป็นคุณหญิงมาอาศัยอยู่ สะบันงายังใส่ใจส่งอาหารขนมนมเนยของใช้ทุกอย่างมาให้กินให้ใช้ แม้ว่าจะแปลกใจไม่น้อยที่รู้ว่าพี่สาวเมี้ยนคนนี้ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และทานอาหารด้วยมีดและส้อม

สะบันงาพยายามขอไปเยี่ยมพี่สาว แต่เมื่อเมี้ยนไปรายงาน ถูกคุณหญิงศรีปฏิเสธ บ่าวไพร่หลายคนไปเดินเล่นแถวนั้นพบหญิงสูงวัยพิการหน้าคล้ายผี ต่างตกใจวิ่งหนีกันทุกคน ภายหลังเมี้ยนไปหาหน้ากากมาให้ใส่บังใบหน้าแทน

คุณหญิงศรีมักแอบไปนั่งที่หลุมฝังศพศุกล นำดอกไม้ไปวางไว้ พูดกับหลุมศพน้องเสมอ เจ้าพระยาสมิติภูมิก็เช่นกันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงมักวนเวียนไปขอโทษ ศุกลที่นั่น จนอยู่มาวันหนึ่งพบดอกไม้วางอยู่เช่นเคย ผู้วางยังไม่ทันออกไปพ้น เจ้าพระยาสมิติภูมิตามไปกระชากไหล่ให้หันกลับมา หญิงคนนั้นใส่หน้ากากเห็นแค่ดวงตาข้างที่ไม่บอด ท่านจำได้ทันทีว่าคือดวงตาของคุณหญิง อุทานเรียกชื่อออกไปคุณหญิงผลักท่านเจ้าพระยาล้มลงแล้วกระเซอะกระเซิงหนีไป เจ้าพระยาสมิติภูมิยิ่งเสียใจมาก สงสารคุณหญิงศรีจับใจ ส่งคนไปสร้างบ้านหลังเล็กๆ น่าอยู่ มีทุกอย่างครบครันแทนกระท่อมผุพัง

สะบันงาเลี้ยงดูพริสซิลลาอย่างดี จนต่อมา สะบันงามีลูกสาวคนที่สองชื่อ แพรวพรรณราย และลูกสาวคนที่สามชื่อ พราวพิลาส แต่ละครล้วนงดงามน่ารัก แถมยังมีลูกชายคนสุดท้องชื่อพฤกษ์ สมหวังดังปรารถนาของท่านเจ้าพระยาที่จะมีลูกไว้สิบสกุล เดือนผู้แสนดีได้รับการสนับสนุนจากสะบันงา ให้มาเป็นภรรยาคนที่สองของเจ้าพระยาต่อจากเธอ และมีลูกชายกับท่านเจ้าพระยาอายุแก่กว่าพฤกษ์สามวัน ชื่อ พจน์ และได้เกิดเรื่องราวกับพฤกษ์ดังได้กล่าวไปแล้ว พจน์จึงกลายเป็นผู้สืบสกุลแทน

ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิอุปการะเด็กชายคนหนึ่งชื่อ ศีล (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) เนื่องจากพ่อแม่ตาย จากการไปช่วยงานกฐินของท่าน ศีลเป็นเด็กดีกตัญญูรู้คุณได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก และกลับมาทำงานเป็นผู้จัดการห้างของตระกูลสมิติภูมิ เป็นที่ไว้วางใจของทุกคนในบ้าน

สะบันงามีเพื่อนสนิทชื่อ ปานวาด (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เป็นลูกสาวของคุณหญิงลออศรี ปานวาดถูกส่งไปเรียนฝรั่งเศส มีสามีเป็นนักดนตรี ชื่อ ปีแอร์ และมีลูกชายด้วยกันชื่อ ธรรม์ (ชินวุฒ อินทรคูสิน) ปีแอร์โดนรถชนจนพิการ ปานวาดเลิกเรียนเอาเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้รักษาตัวสามี ปีแอร์ทนดูสภาพปานวดลำบากไม่ได้จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ปานวาดตัดสินใจพาลูกชายกลับบ้าน คุณหญิงไม่พอใจมาก แต่พระยาเกษมกลับนิ่งเฉย พาปานวาดมาพบกับสะบันงา สะบันงาให้กำลังใจปานวาด

ธรรม์กลายเป็นเพื่อนสนิทกับพริ้มเพรา แพรวพรรณราย โดยเฉพาะพิมพิลาส เนื่องจากชอบดนตรีเหมือนกัน พริ้มเพราสงบเสงี่ยมสุขมรอบคอบ ชอบไปหลังบ้านพบคุณป้าพิการ เธอไม่ตกใจกลัวเช่นคนอื่นพูดด้วยอย่างดี ศรีสอนภาษาให้พริ้มเพราและรักเหมือนลูกสาวอีกคน ศรีส่งข่าวให้ครอบครัวทราบว่ายังไม่ตายแต่ไม่พร้อมจะไปพบ ไม่ต้องการให้พ่อแม่เห็นหน้าผีของตนส่วนศุกลนั้นตายแล้ว ต่อมาภายหลังสิ้นเจ้าสัว ศรีได้รับมรดกทั้งหมดจึงยกต่อให้พริ้มเพรา

ส่วนพริสซิลลามักจะไปเดินเล่นในสวน จนพบศรีกลับจำได้ว่าเป็นแม่ และเรียกเธอว่าแม่ ศรีเสียใจมากแต่ไม่อาจยอมรับว่าเป็นแม่ให้เมี้ยนพากลับไปหาสะบันงา กำชับว่าห้ามบอกพริสซิลลามาเล่นแถวนั้นอีก แต่พริสซิลลาก็แอบมาจนได้

ฟากสองโจรชั่วใช้เงินหมดแล้วย้อนกลับมาจะไถเงินท่านเจ้าพระยาสมิติ ภูมิ พบกับพริสซิลลาสวยงามน่ารักมาด้อมมองเรียกหาแม่จึงฉุดคร่าจะข่มขืน ศรีมาพบใช้จอบฟาดสองคนซมซานหนีไปตายอย่างน่าอนาถ เมี้ยนพาพริสซิลลากลับไปหาสะบันงาอีก สะบันงาตัดสินใจปรึกษาเจ้าพระยาสมิติภูมิเรื่องส่งตัวพริสซิลลาไปรักษาโดยมี หมออดุลคอยดูแล ส่วนอุดร ลูกชายหมอรู้จักคุ้นเคยกับลูกๆ ของสะบันงาและสนิทเป็นคู่ๆ

อุดรสนิทและรักกับพริ้มเพราแต่ไม่สมหวัง เพราะพริ้มเพรารักธรรม์มากกว่า ส่วนธรรม์สนิทสนมกับพราวพิลาสเพราะรักดนตรีเหมือนกัน แพรวพรรณรายคอยตามกลั่นแกล้งทุกคนเพราะไม่มีใครจับคู่ด้วย พฤกษ์สนิทกับพจน์ไปไหนมีพจน์ตามไปด้วยดั่งเงา

ทุกคนดีกับพจน์ยกเว้นแพรวที่ชอบด่าว่าเป็นลูกบ่าว พริ้มเพรามีเพื่อนสนิทชื่อเมขลา เด็กยากไร้มาขอรับใช้ มาร์แมร์ เพื่อแลกกับการได้เรียนโรงเรียนไฮโซ โดยอาสาว่าจะกลับมาสอนหนังสือตอบแทนเมื่อเรียนจบ ไม่มีใครคบกับเมขลาเลย เพราะนิสัยไม่ดียกเว้นพริ้มเพรา เมขลามักหยิบเอาข้าวเอาของและแอบอ้างชื่อพริ้มเพราไปเบ่งใส่ใครต่อใคร

วันหนึ่งพฤกษ์กับพจน์พากันไปขุดไส้เดือนตกปลา กลับไปขุดพบกระดูกคนจึงร้องโวยวายขึ้นมา แพรวตามไปแกล้งพจน์พบแหวนที่โครงกระดูกรีบเอามาบอกสะบันงา สะบันงาเห็นแหวนสลัก ศก. ถึงกับลมจับ และรู้ความจริงว่าศุกลมารอรับเธอจริงๆ แต่โดนฆ่าตาย มั่นใจว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศุกล จึงไปโวยวายต่อว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศรีด้วย ท่านเจ้าพระยาหัวใจวายกะทันหัน ก่อนสิ้นลมยังทันได้บอกว่าคุณหญิงยังไม่ตายอยู่ท้ายบ้านสวน สะบันงารีบไปเชิญคุณหญิงศรีกลับมาเอาบ้าน เอาตำแหน่งคืนให้ คุณหญิงศรีไม่ยอมรับ และบอกว่าเธอคือคนสาบสูญขออาศัยอยู่แต่บนเรือนเท่านั้น

สองคนรักใคร่ปรองดองกันดังเดิม สะบันงายอมรับให้ทุกคนเรียกว่าคุณหญิงเนื่องจากคุณหญิงศรีอนุญาตแล้ว เคารพเรียกศรีว่าคุณพี่ เมี้ยนปรึกษาดูแลทุกอย่างในบ้านเช่นเดิม สะบันงามีความสุขมากจนถึงวันที่พฤกษ์ตายสะบันงาใจสลาย ผมที่เคยดกดำเปลี่ยนเป็นสีขาวชั่วข้ามคืน ด้านพริ้มเพรา ถูกส่งให้ส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ยังเริ่มวัยรุ่น สะบันงาตัดสินใจส่งพจน์ไปแทนพฤกษ์ ส่วนเมขลาอยากไปนอกอย่างพริ้มเพราะบ้าง ตั้งใจเรียนเต็มที่ได้ทุนไปนอกจนได้ ก่อนไปได้ทำทีพบกับศีลที่เคยพบที่บ้านพริ้มเพรา อ้างว่าเป็นเพื่อนพริ้มเพราให้มาหาศีลดูข้าวของเครื่องใช้ไปนอก ศีลใจดีให้เสื้อผ้าไปใส่เมืองนอกมากมายทำให้เมขลาอยากได้ศีลเป็นสามี แต่ศีลนิ่งเฉยมากเมขลาจึงอดใจไว้ก่อน

ศีลกลับเอ็นดูหลงใหลสาวน้อยวัยรุ่นพราวพิลาส ชอบฟังเสียงเธอเล่นเปียโน เขาหาเปียโนมาให้เล่น หาครูมาสอน พราวพิลาสนับถือศีลเป็นญาติผู้ใหญ่ แต่กลับพึงพอใจธรรม์ที่คอยตามติดเล่นดนตรีด้วยกัน โชคร้ายธรรม์ได้เวลาไปเรียนต่อ อาคม สามีใหม่ของปานวาดแนะนำให้ไปเรียนกฎหมาย ธรรม์เคยสัญญากับพราวพิลาสว่าจะไม่ไปไหน เขาจำต้องไปและบอกว่าจะกลับมาเมื่อเรียนจบ แต่พอเรียนจบจริง ธรรม์กลับมาเรียนดนตรีต่อและไปรับพ่อของลูกเพื่อนสนิทชื่อ ชองปอล ข่าวนี้ทำให้พราวพิลาสเสียใจมาก เธอเศร้าซึมและแต่งเพลงหลายเพลงล้วนเศร้าสะเทือนใจ ศีลพยายามปลอบโยนชวนไปร้องเพลงที่ห้องอาหารในโรงแรมใหญ่ ศรีขอร้องให้สะบันงาอนุญาตเพื่อรักษาแผลใจ พราวพิลาสรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อศีลคอยดูแลทำให้อุ่นใจ

ต่อมาศีลไปดูงานเมืองนอกพบเมขลาอยู่ที่เมืองนั้นพอดี เมขลาทำที่ว่าโดนคนร้ายปล้นหมดตัวมาขออาศัยศีลอยู่ และมอมเหล้าจนได้เสียกันกับศีล ศีลไม่สบายใจมากแต่จำต้องแต่งงานเพราะเมขลาท้องส่วนเมขลาคลอดลูกปุ๊บก็สอบ ชิงทุนไปเรียนต่ออีก ทิ้งลูกไว้กับศีลแบบไม่ไยดี ศีลผิดหวังโกรธตัวเองเพราะต้องการขอพราวพิลาสแต่งงาน ศีลอกหัก แต่พยายามประคองตัวเลี้ยงดูลูกสาวอย่างดี พราวพิลาสเอ็นดูหนูน้อยมาก

พริ้มเพรากลับมาเมืองไทยท่ามกลางความยินดีของทุกคน อุดรกลายเป็นหมอหวังจะแต่งงานกับพริ้มเพราตามที่สะบันงาและศรีคอยสนับสนุน หวังให้พริ้มเพราดูแลกิจการของตนเอง แต่พริ้มเพรากลับหันไปเข้าวัดและจำศีลไม่กลับบ้าน ต่อมาสุดท้ายกลายเป็นบวชชี อุดรผิดวังแต่ก็สนับสนุนช่วยทำหนังสือธรรมะ พริ้มเพรากลับบ้านเมื่อมีเหตุสำคัญเพื่อมาปลอบใจให้คำแนะนำทำให้ทุกคนสงบใจ ได้

ส่วนแพรวพรรณรายร้ายกาจมาก ถึงขั้นแอบไปขึ้นเรือที่พจน์ไปนอก แพรวพรรณรายอยากไปมาก แต่โดนจับได้ก่อน โดนส่งตัวกลับมาบ้าน แต่มาสมหวังเมื่อ เลดี้แลนดอล น้องสาวของพระยาสมิติภูมิตายลง จึงได้มอบมรดกเป็นไร่ชาที่ดาจิริ่งให้พระยาสมิติภูมิ แพรวพรรณรายอาสาไปดูแลไร่ชา สะบันงาค้านแต่ศรีสนับสนุน แพรวพรรณรายหารู้ไม่ว่า พอล (มิกค์ ทองระย้า) หลานชายแท้ๆ ของลอร์ดแลนดอล สามีเลดี้วางแผนฆ่าเจ้าพระยาสมิติภูมิเอาไว้

พอพบหน้ากัน พอลถึงกับตะลึง เพราะไม่ใช่ชายแก่ที่ต้องการฆ่า แต่กลับเป็นสาวน้อยสวยงาม เช่นเดียวกับแพรวพรรณรายพบชายหนุ่มหล่อเหลาผู้น่าหลงใหล มีสาวน้อยข้างไร่ซึ่งรักพอล พยายามมากระแนะกระแหนดูถูกแพรวพรรณรายแต่เจอตอกกลับ พอลเข้าข้างแพรวพรรณรายและบอกสาวน้อยคนนั้นตามตรงว่าเขาไม่ได้รักเธอ พอลช่วยดูแลไร่ชา คอยแนะนำให้แพรวพรรณรายเข้าใจเป็นอย่างดี แล้วบอกลากลับอังกฤษ แพรวพรรณรายเสียใจมากไม่ยอมให้ไป พอลยืนยันจะไปเพราะไม่ต้องการเกาะเธอกิน แพรวพรรณรายขี่ม้าแบล็กการ์ดตัวโปรดของพอลตกเหว ม้าตายแต่แพรวพรรณรายกระโดดเกาะโขดหินไว้ได้บาดเจ็บสาหัส พอลเสียใจมากสารภาพว่ารักแพรวพรรณรายและจะไม่ทิ้งแพรวพรรณรายไปไหน ทั้งคู่ช่วยกันสร้างไร่ชา สร้างโรงแรมกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังไปทั่ว แพรวพรรณรายมีลูกกับพอลสามคน ทุกคนกลับมาคลอดที่เมืองไทย

ทางด้านพราวพิลาสตกหลุมรักศีล และตกเป็นของศีล ศีลสัญญาว่าเมขลากลับมาจะขอหย่าเพื่อมาแต่งงานกับพราวพิลาสทันที พราวพิลาสมีความหวังอีกครั้ง ธรรม์กลับมาเมืองไทยเนื่องจากสามีของชองปอลสำนึกผิดและขอคืนดีโดยที่ชองปอ ลเต็มใจ ธรรม์พยายามงอนง้อพราวพิลาส ทุกคนลุ้นให้พราวพิลาสแต่งงานกับธรรม์ แต่พราวพิลาสเป็นของศีลแล้วธรรม์เสียใจผิดหวังได้แต่โทษตัวเองที่ทิ้งพราว พิลาสไป เมขลากลับมาศีลขอหย่าทันทีเมขลาวางแผนร้ายใหม่ ทำทีตกลงแล้วขอฉลองการจากลาฉวยโอกาสนอนกับศีลจากนั้นโกหกว่าท้อง หลอกมาได้ปีกว่าศีลจับได้จึงขอหย่า เมขลายอมหย่าแต่กลับวางแผนร้ายกับ จิรศักดิ์ เศรษฐีใหม่ให้หลอกปล้ำพราวพิลาสแต่ไม่สำเร็จ ตนเองกลับโดนหลอกเป็นเมียเก็บโดนซ้อม พราวพิลาสได้แต่งงานกับศีลมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกหนูของเมขลา เมขลาสอนให้ลูกเกลียดพราวพิลาสแต่เด็กไม่ยอมเกลียด พอพราวพิลาสมีลูกกับศีล เมขลาจึงหันมาสอนให้ลูกหนูอิจฉาน้องแทน

วันคืนโหดร้ายมาถึง ขณะพราวพิลาสเดินไปชงนม หนูน้อยนั่งมองน้องตัวน้อยในรถเข็นตรงระเบียงเข็นน้องไปติดขอบระเบียง น้องหนูตามไปจะช่วยน้องทำให้ทั้งคู่พลัดตกจากระเบียงพร้อมกัน พราวพิลาสถือขวดนมเดินกลับมาตกตะลึงกระโจนไปที่เด็กทั้งสองกอดประคองไว้พลัด ตกลงมาจากระเบียงพร้อมกันต่อหน้าต่อตาศีลที่กลับมาจากทำงาน เด็กทั้งสองทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนพราวพิลาสขยับตัวเดินไม่ได้ เมขลาเสียใจที่ลูกตนเองตายแต่พราวพิลาสกลับไม่ตาย เมขลาอาละวาดที่โรงพยาบาล เธอเดินหลงไปที่ห้องเก็บศพไม่มีใครเห็นจึงโดนล็อกห้องติดอยู่ในนั้น จนกลายเป็นบ้าในที่สุด

และต่อมาภายหลังทองลูกชายของสังวรได้กลับมาแก้แค้นตอนโตแล้ว แต่เข้าใจผิด จึงไปแก้แค้นคุณหญิงสะบันงาเพราะคิดว่าเป็นคุณหญิงศรี โดยทองปลอมตัวมาทำงานในบ้านหลอก พฤกษ์ จับตัวไปหมายจะฆ่าให้ตาย แต่ความที่พฤกษ์เป็นคนดี ไม่เคยดุด่าว่าร้ายตอบทอง อีกทั้งทองสำนึกว่าพฤกษ์คือน้องจึงฆ่าไม่ลง และเปลี่ยนใจโดยไม่บอกพฤกษ์ให้รู้ว่าจะปล่อย ผูกพฤกษ์ไว้กับพงอ้อกันหนี แต่เป็นเพราะพฤกษ์ตากฝนอดข้าวรอทองกลับมา แม้ที่สุดจะพยายามช่วยตัวเองหนี แต่ไม่สำเร็จ ร่างกายอ่อนแรงอดข้าวตายก่อนที่ทองจะบอกคุณหญิงสะบันงาให้รู้ความจริง

ส่วนทองเมื่อไปถึง ก็โดนตำรวจที่กำลังระดมตามหาพฤกษ์ไล่จับตัว ทองยิงสู้จึงโดนยิงทิ้งตาย กว่าจะเจอศพพฤกษ์ก็อีกหลายวัน สะบันงาหัวใจสลาย ต่อมา พจน์คู่หูและเป็นพี่ชายแก่กว่าสามวันลูกชายของ เดือน เคยเป็นแม่นมของพริสซิลลา ได้เลื่อนฐานะมาเป็นผู้สืบสกุลแทนพฤกษ์ ด้วยความเต็มใจจากสะบันงา

เวลาต่อมา พจน์กลับมาจากทำงานรับราชการ แต่ต้องแบ่งเวลามาบริหารบ้านและกิจการส่วนตัว พจน์ทำได้ดีโดยมีทุกคนให้กำลังใจ พจน์มีคนรักชื่อ กินรี น้องสาวเพื่อนที่ทำงาน กินรีเป็นครูชอบเขียนนิยาย

ในงานเปิดโรงแรมบนเขาของพอลกับแพรวพรรณราย ทุกคนไปกันหมดไม่เว้นแม้แต่พราวพิลาส ที่นั่นพวกเขาพบหมอเก่งมาก อาสารักษาพราวพิลาสให้หายขาด แต่ต้องใช้เวลานาน และต้องไปรักษาตัวที่เมืองนอก ศีลตัดสินใจพาพราวพิลาสไปรักษา และไปอยู่ให้กำลังใจดูแลกันไป ในที่สุดพราวพิลาสก็เดินได้กลับเมืองไทยและมีลูกกับศีลเป็นชายหนึ่งคน ทั้งสองคนตั้งใจจะมีลูกสามสี่คน

พริสซิลลาได้รับการวินิจฉัยว่าไม่ได้ปัญญาอ่อนเป็นแค่ออทิสติก และยังเป็นเด็กอัจฉริยะอีกด้วย ศรีมีความสุขที่พริสซิลลาอาการดีขึ้นมาก คอยอยู่เคียงข้าง ความรักความสุขกลับมาสู่คฤหาสน์หลังนี้มากมายกว่าเดิม เพราะความรักความเสียสละของแม่ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก เหมือนดังคำสองคำ “สองมือแม่นี้ที่สร้างโลก”

รายชื่อนักแสดง

1. ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น ศรี / คุณหญิงศรี
2. อคัมย์สิริ สุวรรณศุข แสดงเป็น สะบันงา
3. เดวิด อัศวนนท์ แสดงเป็น เจ้าพระยาสมิติภูมิ
4. อริสรา วงษ์ชาลี แสดงเป็น เมี้ยน
5. โตนนท์ วงศ์บุญ แสดงเป็น พจน์
6. มิกค์ ทองระย้า แสดงเป็น พอล
7. พรพรรณ สิทธินววิธ แสดงเป็น กินรี
8. อัปสรสิริ อินทรคูสิน แสดงเป็น แพรวพรรณราย
9. ชินวุฒ อินทรคูสิน แสดงเป็น ธรรม์
10. พิชยดนย์ พึ่งพันธ์ แสดงเป็น ศีล
11. เชฟฟานี่ อาวะนิค แสดงเป็น พริ้มเพราะ
12. ซอนญ่า สิงหะ แสดงเป็น พราวพิลาส
13. ปรัชญ์ ปรมิณ แสดงเป็น พฤกษ์
14. ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์ แสดงเป็น ศุกล
15. อุษณีย์ วัฒฐานะ แสดงเป็น เดือน
16. ธัญสินี พรมสุทธิ์ แสดงเป็น สังเวียน
17. ภารดี อยู่ผาสุก แสดงเป็น สังวร
18. พรรัมภา สุขได้พึ่ง แสดงเป็น ปานวาด
19. ชมพูนุช ปิยธรรมชัย แสดงเป็น น้อย
20. อนิสา กร้านท์ แสดงเป็น พริสซิลลา (ตอนเด็ก)
21. นวินดา เบอร์ต๊อดตี้ แสดงเป็น พริสซิลลา (ตอนโต)
22. ศรุต สุวรรณภักดี แสดงเป็น ทอง
23. กชกร ส่งแสงเติม แสดงเป็น เมขลา
24. ประถมาภรณ์ รัตนภักดี แสดงเป็น แกละ
25. พศิน ศรีธรรม แสดงเป็น อาซ้ง
26. ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล แสดงเป็น พระยาเกษม
27. กชกร นิมากรณ์ แสดงเป็น คุณหญิงลออศรี
28. วรพรต ชะเอม แสดงเป็น อาคม
29. รัฐธรรมนูญ ศรีฤกษ์ แสดงเป็น คุณพระประสาน
30. สิทธิพันธ์ กลมเกลี้ยง แสดงเป็น สุกิจ
31. กฤษฏิ์ โมกขะสมิต แสดงเป็น ดำรง
32. ธนศักดิ์ อุ่นอ่อน แสดงเป็น หมออดุลย์
33. เจษฎา รุ่งสาคร แสดงเป็น จีรศักดิ์
34. กษาปณ์ จำปาดิบ แสดงเป็น ยอด
35. เคน สตรุทเกอร์ แสดงเป็น คุณหมอมาร์ติน
36. วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ แสดงเป็น เจ้าสัว
37. นวลนง จามิกรณ์ แสดงเป็น แม่ใหญ่
38. ปิยะดา เพ็ญจินดา แสดงเป็น แม่น้อย
39. ปัทมา ปานทอง แสดงเป็น พริ้ง
40. มนตระกานต์ ทองขาว แสดงเป็น ดา
41. ปวีณ ชิณวงษ์ แสดงเป็น ดิเรก
42. จารุศิริ ภูวนัย แสดงเป็น ทองหยอด
43. อมต อินทนนท์ แสดงเป็น ไอ้เหมาะ

ออกอากาศวันที่ 6 ธันวาคม

ชมภาพวันบวงสรวง และฟิตติ้งละคร

 

ภาพอาถรรพ์ 2556

ภาพอาถรรพ์ เป็นละครลึกลับสยองขวัญที่เกี่ยวกับวิญญาณ ความแค้นจากอดีตชาติในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เกิดจากความรักไม่ลงตัวของตัวละครสำคัญ 3 ตัวละครคือ เชษฐา ประยงค์ และ อนงค์วดี จึงทำให้วิญญาณที่เฮี้ยนของคุณประยงค์ สิงสถิตย์อยู่ในรูปถ่ายของบ้านหลังหนึ่งซึ่งในอดีตเคยเป็นของท่านพระยา ซึ่งภาพถ่ายที่ติดอยู่ในบ้านมีทั้งสิ้น 3 ภาพด้วยกันคือ ภาพของท่านพระยาผู้เป็นเจ้าของบ้าน ภาพของคุณประยงค์ และภาพของคุณน้อย

อนงค์วดี สิงหมนตรี (ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) ทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลสิงหมนตรี จำใจต้องขายคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลให้กับ เชษฐา เกรียงไกรฤทธิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) เนื่องจาก ปิ่นสุดา (สิรินยา บิชอพ) แม่ของเธอติดการพนันอย่างหนักจนมีหนี้สินหลายล้าน
ในวันที่เชษฐาและ มนัสวีร์ (รัชชานนท์ สุประกอบ) ทนายความส่วนตัว เดินทางไปที่คฤหาสน์เพื่อทำสัญญาซื้อขายกับอนงค์วดี เชษฐาได้เดินสำรวจภายในคฤหาสน์ เค้าไปสะดุดกับภาพเขียนของ คุณประยงค์ (พิยดา จุฑารัตนกุล) คุณชวดของอนงค์วดี เป็นภาพของหญิงสาวสวยท่าทางสง่า ดวงตาคมกริบ แต่สิ่งที่ทำให้เชษฐารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นคุณประยงค์ที่อยู่ในภาพส่งยิ้มกลับมาให้เขา ส่วนมนัสวีร์ก็สะดุดตากับภาพของสาวสวยคนหนึ่ง อนงค์วดีบอกว่านั่นคือรูปของคุณย่าน้อยของเธอ ชื่อว่า คุณอ่อน (พิชญา เชาวลิต) เป็นน้องสาวคนสุดท้องของ เจ้าพระยาสีหศักดิ์ฤทธิรงค์ (นิรุตนิ์ ศิริจรรยา) ผู้เป็นเจ้าคุณปู่ทวดของเธอ ภาพนี้วาดเอาไว้ก่อนที่คุณอ่อนจะจมน้ำตายไปเพราะเรือล่ม มนัสวีร์รู้สึกสายตาผู้หญิงในภาพมองมาที่เขาอย่างตัดพ้อและเศร้าสร้อยอย่างประหลาด

ระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินดูภาพบรรพบุรุษอยู่นั้น จู่ ๆ ก็เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักจน ปู่กลับ (อรรถพร ธีมากร) ผู้ดูแลคฤหาสน์บอกให้ทุกคนนอนค้างที่นี้ และในคืนนั้นเองมนัสวีร์ฝันเห็นคุณอ่อนเดินออกมาจากภาพ เธอเรียกเขาว่า “คุณหลวง” แล้วตัดพ้อเขาว่าเขาเป็นสาเหตุทำให้เธอต้องตาย มนัสวีร์ตกใจตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
ส่วนเชษฐาฝันว่าตนเดินลงมาที่ห้องโถง สภาพตึกเก่าร้างกลับกลายมีชีวิตชีวา สว่างไสวด้วยแสงเทียน ผู้คนแต่งตัวสวยงามในภาพเขียนพากันเดินออกมาจากรูปภาพ เพื่อไปรวมตัวกันต่อหน้าเจ้าพระยาสีหศักดิ์ฤทธิรงค์ และคุณประยงค์ก็เรียกเขาอย่างอ่อนหวานว่า “เจ้าคุณ” เธอเรียกเขาให้ไปที่ห้องโถง ที่นั่นเขาได้เห็นเจ้าคุณปู่ทวด คุณอ่อน และหญิงสาวคนหนึ่งนุ่งห่มสไบ ไว้ผมทัด หน้าตาเหมือนอนงค์วดีราวกับพิมพ์เดียวกัน ทุกคนเรียกเธอว่า “แม่อร”

อนงค์วดีเองก็รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเช่นกัน เธอเห็นเชษฐาอยู่ในชุดไทยโบราณ และในความฝันนั้น เธอรู้สึกว่าคุณประยงค์จงเกลียดจงชังเธออย่างเห็นได้ชัด พอรุ่งเช้าเชษฐารู้สึกสงสัยในความฝันกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณประยงค์และแม่อร เค้าจึงบอกอนงค์วดีว่าเค้าตัดสินใจจะไม่รื้อตึกทิ้ง แต่จะปรับปรุงตกแต่งตึกขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ทำเป็นคลับหรู แต่มีเงื่อนไขว่าเธอจะต้องอยู่ค้างที่นี่เพื่อช่วยเหลือแนะนำเกี่ยวกับการตกแต่งสถานที่จนกว่าจะแล้วเสร็จ แต่ เกษลดา (รฐา โพธิ์งาม) กลับไม่เห็นด้วยที่เชษฐาเปลี่ยนใจไม่ยอมรื้อคฤหาสน์โบราณทิ้ง และยิ่งรู้ว่าเชษฐาคิดจะไปนอนค้างอ้างแรมที่นั่น ยิ่งสงสัยว่าเขาอาจจะมีอะไรปิดบังเธออยู่

ในระหว่างซ้อมแซมคฤหาสน์ เมื่อทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน ยิ่งทำให้เชษฐาและอนงค์วดีสนิทสนมกันมากขึ้น และยิ่งสนิทสนมกันมากเท่าไหร่ ก็เหมือนจะมีภัยอันตรายเกิดขึ้นกับอนงค์วดีมากเท่านั้น ในตอนกลางคืนทั้งคู่ต่างฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตอีกหลายครั้ง จนปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าชายที่หน้าตาคล้ายเชษฐาที่ใคร ๆ เรียกว่า “เจ้าคุณ” นั้น ในอดีตเคยเป็นเด็กในบ้านที่ลอบรักกับคุณประยงค์ ธิดาสาว ของท่านเจ้าพระยาฯ ต่อเมื่อได้ดีจึงไปรับราชการที่หัวเมืองแล้วมีภรรยาเป็นสาวชาวบ้านชื่อ “อร” ซึ่งมีใบหน้าเหมือนกับอนงค์วดีในชาตินี้ อนงค์วดีเข้าใจว่าวิญญาณคุณชวดคงเข้าใจผิดว่าเธอคือแม่อร

ซึ่งในความฝันอนงค์วดีได้รู้ว่าคุณอ่อนลักลอบรักกับชายที่มีศักดินาต่ำกว่าชื่อ “หลวงขจร” ซึ่งมีใบหน้าเหมือนมนัสวีร์ ซึ่งหลวงขจรนั้นมีคู่หมั้นหมายแล้ว และเมื่อหลวงขจรถูกบังคับให้แต่งงาน คุณอ่อนเสียใจมาก จึงพายเรือฝ่าพายุฝนข้ามแม่น้ำไปหาทั้ง ๆ ที่ตนว่ายน้ำ ไม่แข็ง จนกระทั่งเรือล่มคุณอ่อนจึงจมน้ำตายและก็ไม่มีใครหาศพเจอ และทุกครั้งที่มนัสวีร์ต้องไปที่คฤหาสน์เก่าหลังนั้น เขาจะถูกดึงดูดให้ไปที่ริมแม่น้ำอย่างไม่รู้ตัวอยู่บ่อย ๆ จนเกือบจะจมน้ำตาย โชคดีที่ปู่กลับมักจะช่วยมนัสวีร์เอาไว้ทัน

ในที่สุดการซ่อมแซมตกแต่งคฤหาสน์ก็เสร็จลง เกษลดาเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการจัดงานเลี้ยงเปิดคลับของเชษฐาอย่างหรูหรา เชษฐาเสนอให้อนงค์วดีทำงานที่คลับของเขาในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอาหาร เนื่องจากงานคลับเป็นงานกลางคืน เชษฐาจึงให้เธอพักอยู่ที่นี่ ทั้งหมดนี้สร้างความไม่พอใจให้เกษลดามาก เธอจึงมักแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเชษฐาอยู่บ่อย ๆ และย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้ด้วยอีกคน

เพียงคืนแรกเกษลดาก็เจอฤทธิ์คุณประยงค์ที่หวงแหนเชษฐา คุณประยงค์ชี้หน้าด่าและเรียกเธอว่า “อีเกด” จนเกษลดารู้สึกหวาดกลัวมาก เธอนำเรื่องนี้ไปเล่าให้เชษฐาฟัง แต่เชษฐากลับไม่สนใจพร้อมไล่ให้เธอกลับบ้าน แต่ด้วยความหึงหวงเกษลดาจึงแข็งใจอยู่ที่นี่เพื่อคอยกันท่าอนงค์วดี

นานวันเข้าอนงค์วดีมักฝันเห็นเรื่องราวในอดีตมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอฝันว่าในอดีตเธอมีบ่าวชื่อเกด ติดตามมาอยู่ด้วย บ่าวคนนั้นหน้าตาเหมือนเกษลดา ซึ่งในอดีตชาติเกดยังเป็นเมียบ่าวของเจ้าคุณอีกด้วย และในความฝันบอกชัดว่าเจ้าคุณรักกับคุณประยงค์มาก่อน ยิ่งความจำเป็นทางด้านการเลื่อนขั้นในหน้าที่การงาน ทำให้เจ้าคุณต้องกลับมาพึ่งใบบุญท่านเจ้าพระยาฯ แม่อรผู้เป็นเมียหลวงจึงตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากนังเกดเมียบ่าว

ต่อมาแม่อรได้ตั้งท้องลูกคนแรก เจ้าคุณดีใจมากและคิดจะยกย่องเธอเป็นเมียเอก ทำเอาคุณประยงค์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าคุณประยงค์จะอ้อนวอนเจ้าคุณอย่างไร ท่านก็ยืนยันว่าแม่ของลูกจะต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น ดังนั้นคุณประยงค์จึงวางแผนทำร้ายแม่อรจนตกบันไดตายทั้งกลม

จากนั้นไม่นานพอคลับของเชษฐาเริ่มมีชื่อเสียง ผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามาหาความสำราญมากขึ้น จากคฤหาสน์เก่าร้างก็กลับมามีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟและเสียงเพลง จนสร้างความ ไม่พอใจให้กับคุณประยงค์เป็นอย่างยิ่ง เธอจึงเริ่มออกมาจากภาพมาเล่นงานทุกคน แต่คนที่โดนหลอกหลอนหนักที่สุดคือเกษลดา เพราะเธอพยายามออดอ้อนเชษฐาอยู่ตลอด ส่วนตัวเชษฐาเองก็โดนคุณประยงค์สะกดจิตให้หลงติดอยู่ในความฝันบ่อยขึ้น จนตัวเองเริ่มแยกแยะอดีตกับปัจจุบันไม่ออก

อนงค์วดีเริ่มไม่สบายใจ เพราะเป็นห่วงกลัวเชษฐาจะได้รับอันตราย เธอตัดสินใจทำพิธีเชิญภาพเขียนคุณประยงค์ลงจากผนังพร้อมกับเอาสายสิญจน์พันไว้ แล้วเอาภาพไปเก็บไว้ที่เรือนเก็บของ ทำให้คุณประยงค์โกรธจัด จึงพยายามสะกดจิตเชษฐาให้มาช่วยตัดสายสิญจน์ออกจากภาพของเธอ แม้อนงค์วดีพยายามจะห้ามแต่ก็ไม่สำเร็จ จากนั้นวิญญาณคุณประยงค์ก็ออกอาละวาดอย่างหนัก และทำร้ายอนงค์วดีจนล้มหมดสติไป เมื่อเชษฐารู้ข่าว ด้วยความรักและเป็นห่วงอนงค์วดี เค้าจึงฮึดสู้กับคุณประยงค์ที่พยายามจะเข้ามาครอบงำชีวิตของเขา เพราะเชษฐาระลึกได้แล้วว่าชาติที่แล้วเขายอมให้คุณประยงค์ครอบงำและทำร้ายแม่อรมามาก ในชาตินี้เขาจะไม่ยอมให้คุณประยงค์มาบงการเขาให้ทำร้ายอนงค์วดีอีก

เชษฐาจึงตัดสินใจทำลายภาพของคุณประยงค์ แต่แผนการทำลายภาพไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะแรงรักแรงอาฆาตที่คุณประยงค์มีต่อเชษฐาส่งผลทำให้คุณประยงค์มีพลังอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายเชษฐาจะสามารถทำลายภาพอาถรรพ์ของคุณประยงค์ได้หรือไม่ บทสรุปของโศกนาฏกรรมความรักที่มาพร้อมแรงอาฆาตแค้นพยาบาทครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมได้ใน ละครภาพอาถรรพณ์ ที่ออกอากาศทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.10 – 21.40 น. ทางช่อง 5 ละครภาพอาถรรพณ์ เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2556

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร ภาพอาถรรพณ์

พิยดา จุฑารัตนกุล รับบท คุณประยงค์
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท เชษฐา/เจ้าคุณ
ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ รับบท อนงค์วดี/แม่อร
รฐา โพธิ์งาม รับบท เกษลดา/อีเกด
รัชชานนท์ สุประกอบ รับบท มนัสวีร์/หลวงขจร
พิชญา เชาวลิต รับบท ย่าน้อย ใน ละคร ภาพอาถรรพณ์
นิรุตนิ์ ศิริจรรยา รับบท เจ้าพระยาสีหศักดิ์ฤทธิรงค์
สิรินยา บิชอพ รับบท ปิ่นสุดา
อริศรา วงษ์ชาลี รับบท อีทิ้ง
อรรถพร ธีมากร รับบท ปู่กลับ
บรรเจิดศรี ยมาภัย รับบท คุณหญิงธรรมวรานุรักษ์

คุ้มนางครวญ

คุ้มเวียงแก้วอายุราว  200 ปี มีเจ้าเก็จถวา(พิสมัย วิไลศักดิ์)วัย 70 ปีเป็นเจ้าของคุ้มเวียงแก้วเป็นคุ้มมหึมางดงาม แต่ไม่มีใครรู้ว่า ห่างออกไปราว 2กิโลเมตร มีคุ้มร้างริมปิงผุผังอยู่หลังหนึ่ง   ที่คุ้มร้างนั้นมีข่าวว่าเป็นคุ้มผีสิงเคยมีวัยรุ่นมาลองของและเจอผีจนต้อง หนีจับไข้หัวโกร๋น แต่ความจริงแล้วที่นี่มีแก็งค์ค้ายาเสพติดมาลักลอบใช้เป็นที่กบดานและเรื่อง ผีก็เป็นเรื่องที่พวกนี้สร้างขึ้น   เพื่อกันไม่ให้มีใครมายุ่งกับคุ้มร้าง นี้
ฐาปกรณ์ (โอลิเวอร์ บีเบอร์)ผู้กำกับและมาดามสุ(ศิขรินธาร พลายพฤติ)ภรรยาสาวสวยที่เป็นผู้จัด ได้รับคำสั่งจากช่องให้ทำละครพีเรียด โดยวางตัว ตรีภพ(ยุทธนา เปื้องกลาง)เป็นพระเอก ตรีภพมีเพื่อนสนิทคือแก้ว(อนุชิต สพันธุ์พงษ์)นักเขียนหนุ่มถังแตก ตรีภพเสนอให้แก้วเป็นคนทำพล็อตละครเรื่องนี้

คืนหนึ่งเกิดพายุใหญ่  ฟ้าผ่าลงมาที่ยอดคุ้มพวกแกงค์ค้ายาเจอห้องใต้ดินมีหลุมศพซ่อนอยู่ และในคืนนั้นเอง พวกมันก็เกิดการทะเลาะวิวาทจนฆ่ากันเองเลือดซึมลงในหลุมศพ ปลุกให้วิญญานเจ้านางยอดหล้า(สาวิกาไชยเดช) พร้อมบริวารคือ นางผัน(สิตางค์ ปุณภพ) นางเผื่อน(ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ตื่นจากการถูกกักขังซึ่งวิญญาณยอดหล้าได้เฝ้ารอการกลับมาของตรีภพคนรักของ เธอมานานแสนนาน

พิมพ์ดาว(มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ)นางร้ายนิสัยดี อยู่กับแม่จันทรา(พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์)ที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและเป็นนักปฏิบัติธรรมกับน้องสาวชื่อ พิมพ์เดือน(ธนิดา ธนวัฒน์)นักศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ปีสุดท้าย พิมพ์ดาวไปงานอีเวนท์และได้พบกับตรีภพทั้งสองมีเรื่องเข้าใจผิดจนเกิดเขม่น กันขึ้น  ส่วนฟากมาลาริน(พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า)นางเอกสาวสวยใสแต่ตัวจริงแรดร้าย ก็แอบปลื้มตรีภพ เลยขอให้บีบี(มอริส เค)ผู้จัดการนักปั้นมือทองของเธอใช้เส้นสายจนช่องให้เป็นนางเอกคู่ตรีภพ

แก้วส่งเรื่องย่อ “คุ้มนางครวญ” เป็นมินิซี่รีย์รัก 3เส้าระหว่างสองเจ้านางกับหนุ่มเมืองใต้(พระนคร) ช่องอนุมัติ และให้เปิดกล้องทันที ในตอนแรกฐาปกรณ์กลัวความไม่มีวินัยของแก้ว แต่จู่ๆ  เพียงแค่ 3 วัน บททั้งเรื่องก็ถูกส่งมา  ทีมงานทุกคนพอใจในบทและมีการวางตัวเพิ่ม ตรีภพเสนอฐาปกรณ์ให้เลือกพิมพ์ดาวมารับบทนางร้ายเพราะอยากตอแยกับเธอต่อ

ฐาปกรณ์เตรียมงานไปดูโลเคชั่นที่ อ.เวียงแก้ว พ่อเลี้ยงธาดา(ศตวรรษ ดุลยวิจิตร)มาต้อนรับทีมงาน ส่วนแก้วเชิญให้ทุกคนพักที่คุ้มเวียงแก้ว ฐาปกรณ์เลือกคุ้มหลวงเป็นฉากหลักแก้วเสนอห้องพักมากมายให้นักแสดง แถมยังมีเรือนรับรองกว้างอีก 2หลัง แม้ว่าจะมีคนเมาท์ว่าที่นี่มีผี แต่มาดามสุก็ไม่สนเพราะจะได้ลดค่าใช้จ่ายและคิดถึงกำไรที่จะเพิ่มขึ้น

ฐาปกรณ์วางแผนจะถ่ายละครทั้งเรื่องที่เวียงแก้ว ไม่ว่าจะเป็นฉากป่า  บ่อน้ำพุร้อน  ฉากคุ้มหลวงที่คุ้มเวียงแก้วรวมทั้งการเซทฉากเพิ่มเติมอื่นๆ  โดยจะมีคิวถ่ายให้เสร็จในเดือนเดียว  บีบีโวยวายที่จะต้องไปต่างจังหวัดนานๆ  แต่มาลารินหวังใกล้ชิดตรีภพจึงยอมเทคิวให้
พิมพ์ดาวเตรียมตัวเดินทางไปเวียงแก้ว จันทรานั่งสมาธิเห็นนิมิตยอดหล้าและฝูงอีกา  เธอจึงมอบเขี้ยวเสือไฟให้พิมพ์ดาวพกติดตัวไว้กองละครเดินทางไปเวียงแก้ว  ตรีภพและพิมพ์ดาวรู้สึกแปลกๆ กับคุ้มแห่งนี้ แม้จะมีข่าวผีเฮี้ยนเล็ดรอดออกมาจากทีมงาน แต่ฐาปกรณ์ก็สั่งให้ทุกคนหุบปาก   ส่วนราเชนทร์(อิสริยะ ภัทรมานพ)ดาราไฮโซติดยาและเป็นหนึ่งในแกงค์พ่อเลี้ยงธาดาที่อยากได้งาน เลยไปใช้เสน่ห์ออดอ้อนมาดามสุให้ได้เล่นละครด้วย  ราเชนทร์เกิดชอบพิมพ์ดาว และเธอเองก็ทำดีกับราเชนทร์ ทำให้ตรีภพเริ่มไม่พอใจเพราะความหึงพิมพ์ดาว
ในวันบวงสรวง  ฐาปกรณ์กับมาดามสุจะจัดไหว้เจ้าที่เล็กๆพอเป็นพิธี แต่บีบีกลับไปพาพิธีกรรายการล่าท้าผี ทั้งชายหญิงมาเป็นเจ้าพิธี 2 พิธีกรยกเมฆด้นสดพูดถึงความดีงาม ศิริมงคล ทันใดนั้นก็มีศพตกจากยอดคุ้มลงกลางโต๊ะเครื่องเซ่น สองพิธีกรกรี๊ดแตกหนีกลับกรุงเทพ  มาลารินเลยฉวยโอกาสแสร้งทำเป็นกลัวเพื่อให้ตรีภพคอยดูแล

ระหว่างการถ่ายทำ   อำนาจเขี้ยวเสือไฟบังตาทำให้ยอดหล้ามองไม่เห็นพิมพ์ดาว  ยอดหล้าจึงพุ่งความโกรธแค้นหึงหวงไปที่มาลาริน  มาลารินเจออุบัติเหตุต่างๆ ระหว่างถ่ายทำ ในตอนแรกบีบีเข้าใจผิดว่าเป็นฝีมือของพิมพ์ดาว แต่ต่อมา ทุกคนในกองถ่ายเริ่มรู้สึกว่ามีอันตรายที่มองไม่เห็นอยู่รายรอบตัว

คืนนั้นยอดหล้าสะกดตรีภพและส่งรถม้าปีศาจไปรับ  แต่มาลารินดันย่องเข้าไปหาตรีภพและหลงตามไป  มาลารินเห็นรถม้าแล่นสู่กำแพงต้นไม้ที่แหวกเป็นช่องจนถึงคุ้มร้างริมปิง ยอดหล้าสะกดตรีภพให้เห็นคุ้มร้างเป็นคุ้มสวยงาม   ยอดหล้าเอาใจตรีภพด้วยการเล่นซึงเพลงรักที่ในอดีตชาติเคยแต่งให้เธอ ตรีภพเคลิบเคลิ้ม แต่มาลารินเข้าไปเห็นยอดหล้าในสภาพโปร่งแสงก็กรี๊ดแตก  ยอดหล้าทำร้ายมาลาริน  ตรีภพตื่นจากสะกดและยอดหล้าหายตัวไป  ตรีภพจึงพามาลารินที่สลบกลับคุ้มเอาเกือบเช้า  พิมพ์ดาวเห็นเข้าจึงเข้าใจผิดว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันแต่มาลารินกลัวผี จนเพ้อและต้องเข้าโรงพยาบาล พิมพ์ดาวเห็นอาการมาลารินแล้วสงสาร จึงให้เขี้ยวเสือไฟกับมาลาริน ทำให้มาลารินอาการดีขึ้นทันที

เมื่อปราศจากเขี้ยวเสือไฟ ยอดหล้าจึงเห็นพิมพ์ดาวและรู้ทันทีว่านี่คือดารารายที่เคยแย่งคนรักของเธอใน อดีตยอดหล้าคลั่งแค้นสุดๆ จึงมาปรากฏกายให้พิมพ์ดาวเห็นในความฝันและสะกดจิตให้เธอจำอดีตชาติได้  พิมพ์ดาวสะดุ้งตื่นจากฝันจึงรู้ว่าตนคือดารารายที่ในอดีตเนิ่นนานเธอเคยแย่ง ตรีภพไปจากยอดหล้าแถมยังฆ่ายอดหล้าตาย และบัดนี้เธอกำลังโดนยอดหล้าตามมาอาฆาตและทวงทุกอย่างคืน

สุดท้ายพิมพ์ดาวจะชดใช้ผลกรรมที่ตนเคยก่อไว้ในอดีตกับยอดหล้าอย่าง ไร?และความรักระหว่างตรีภพและพิมพ์ดาวจะได้สมหวังในชาตินี้หรือไม่?  ตามหาคำตอบได้ใน “คุ้มนางครวญ”
นักแสดงละคร คุ้มนางครวญ
สาวิกา  ไชยเดช    รับบทเป็น  เจ้ายอดหล้า/แสงหล้า
ยุทธนา  เปื้องกลาง   รับบทเป็น  ตรีภพ/หลวงเทพภักดี
มนชนก  แสงฉายเพียงเพ็ญ  รับบทเป็น  พิมพ์ดาว/ดาราราย
พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า  รับบทเป็น  มาลาริน
อนุชิต สพันธุ์พงษ์    รับบทเป็น  แก้ว
อิสริยะ ภัทรมานพ   รับบทเป็น  ราเชนทร์
ธนิดา ธนวัฒน์    รับบทเป็น  พิมพ์เดือน/คุณเพ็ง
โอลิเวอร์ บีเบอร์    รับบทเป็น  ฐาปกรณ์
ศิขรินธาร พลายพฤติ   รับบทเป็น  มาดามสุชาดา
พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์   รับบทเป็น  จันทรา/คุณหญิงอำภา
มอริสเค     รับบทเป็น  บีบี
ศรุต วิจิตรานนท์    รับบทเป็น  มหาจรวย/ครูบาสรี
ศุภกรณ์  กิจสุวรรณ   รับบทเป็น  เถรกระอ่ำ
สิตางค์ ปุณภพ    รับบทเป็น  ผัน
ลักขณา วัธนวงส์ศิริ   รับบทเป็น  เผื่อน
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร   รับบทเป็น  พ่อเลี้ยงธาดา
จักรกฤษณ์ อำมรัตน์    รับบทเป็น  เจ้าแสนอินทร
กชกร  นิมากรณ์    รับบทเป็น  เจ้าหอมุก
สุธิตา  เกตานนท์    รับบทเป็น  เจ้าสร้อยคำ
สันติสุข  พรหมศิริ    รับบทเป็น  เจ้าพระยาพิชิตชัย
พิสมัย  วิไลศักดิ์    รับบทเป็น  เจ้าเก็จถวา
จุ๊บจิ๊บ  เชิญยิ้ม    รับบทเป็น  รัก

 

กุหลาบไฟ

เมื่อมนุษย์ยินยอมให้ความชั่ว มีอำนาจเหนือจิตใจ จนทรยศได้แม้แผ่นดิน ฟ้าจึงส่งหนึ่งนารี..มาพิฆาต เหล่าทรชน ให้หมดสิ้นไป
 
นับตั้งแต่พ่อตายในสนามรบ และแม่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ ชีวิตของไศลา (ซาร่า เล็กซ์) ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไศลาต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อทำงานส่งเสียน้องทั้งสามคือ อรชร (มิ้นท์ นวินดา), สุทธิพงษ์ (กฤชพล จารุศักดิ์) และ ดารณี (แคทเธอรีน จีน่า มี๊ดส์) อย่างลำบาก ไศลาไม่เคยล่วงรู้เลยว่าสุทธิพงษ์ น้องชายคนเดียว ที่ค่อนข้างหัวอ่อนเริ่มติดยา ส่วนอรชรซึ่งมีนิสัยฟุ้งเฟ้อทะเยอทะยานก็แอบมีสัมพันธ์ลับ ๆ กับชูชิต (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์) คนรักของตน และรับรู้เรื่องการค้ายาของชูชิตมาโดยตลอด
 
ธีรธร (พศุตย์ บานแย้ม) รู้สึกผิดหวังอย่างมากที่ไศลา หญิงสาวที่เขารู้สึกประทับใจแต่แรกเห็น กลับกลายเป็นคนร้ายที่เขาต้องตามล่า และแล้วเหมือนพรหมลิขิต เมื่อไศลาตัดสินใจแอบเข้าไปถ่ายรูปยาเสพติดที่ซ่อนไว้ เพื่อเป็นหลักฐานส่งให้ธีรธร เมื่อธีรธรได้เห็นภาพเหล่านั้น เขาจึงเห็นถึงความมุ่งมั่น ที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องของไศลา
 
ธีรธรจึงพาไศลามาฝากไว้ที่บ้านคุณนายวงทอง (นัฐฐา ลอยด์) ผู้เป็นแม่ โดยบอกวงทอง และนิ่มนวล (เพชรลดา เทียมเพชร) ผู้เป็นน้องเลี้ยง และทำงานเป็นพยาบาลว่า ไศลาเป็นหญิงที่ถูกหลอกมาขายบริการ ทำให้นิ่มนวลไม่ค่อยพอใจนัก เพราะตนเองแอบชอบธีรธรอยู่ แถมยังรู้สึกดูแคลนไศลาด้วยซ้ำ
 
ชูชิตและอรชรรู้ว่าไศลาเป็นคนบอกตำรวจว่าตนค้ายาเสพติด จึงพาลูกน้องตามมาจับตัวไศลาที่บ้าน แต่ทั้งคู่กลับพบเพียงดารณีน้องสาวคนสุดท้อง อรชรคิดว่าดารณีไม่ยอมบอกที่ซ่อนของไศลา จึงถกเกียงกับดารณี จนเผลอหลุดปากบอกดารณี เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับชูชิตและเรื่องการค้ายา ดารณีโกรธมากจึงต่อว่าอรชรอย่างรุนแรง ชูชิตกับลูกน้องกลัวว่าดารณีจะไปบอกตำรวจ จึงเข้าไปห้ามและพลั้งมือฆ่าดารณีตาย
 
การตายของดารณีทำให้ไศลาแค้นใจมาก ฉวยจังหวะที่ธีรธรไม่อยู่ แอบหนีออกจากบ้าน บุกเดี่ยวลุยเข้าไปที่รังของชูชิตทันที โดยไม่กลัวตาย และในที่สุดไศลาก็ไม่สามารถสู้พวกลูกน้องของชูชิตได้ ไศลาจึงถูกจับไปโยนทิ้งที่หน้าผา ทำให้ทุกคนคิดว่าไศลาตายแล้ว
 
เมื่อไศลาฟื้นขึ้นมา จึงรู้ว่าชายผู้ที่ช่วยตนไว้ คือนักพรตเมฆขาว (เล็ก ไอศูรย์) นั้นเอง นักพรตรักษาไศลาจนแข็งแรง พร้อมกับฝึกให้ไศลามีพลังจิตที่กล้าแข็ง เพื่อรับมอบวิชา เนตรอัคคี ไศลาคือคนที่นักพรตรอคอย และเป็นผู้ที่ถูกเลือกแล้ว เพื่อทำหน้าที่ปกป้องความดี ทำให้คนชั่วรู้จักบาปบุญคุณโทษ ไศลารับปากทันที เพราะนั่นคืออุดมการณ์ที่พ่อปลูกฝัง และต้องการแก้แค้นคนที่ฆ่าน้องและตน แต่นักพรตขาวกลับขอให้ไศลาให้สัจจะแก่ตนสองข้อ คือ ห้ามประพฤติผิดในกาม และห้ามฆ่าคนเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นวิชาและพลังจิตที่ได้รับจะสูญสลายไป ไศลารู้สึกผิดหวังมาก เหมือนนักพรตเมฆขาวจะรู้ใจของไศลา นักพรตเมฆขาวจึงได้ไขปัญหาให้ไศลาได้เข้าใจว่า การฆ่าไม่ใช่การแก้ปัญหา หากต้องการทำให้โลกสงบสุข ต้องทำให้คนชั่วสำนึกถึงความผิดชอบชั่วดี และนี่ก็คือ ภารกิจที่ไศลาต้องกระทำ ติดตามชม ละครกุหลาบไฟ
 
รายชื่อนักแสดงนำ กุหลาบไฟ
 
พศุตย์  บานแย้ม   รับบท   ธีรธร
ซาร่า  เล็กซ์   รับบท   ไศลา
วรฤทธิ์  เฟื่องอารมย์   รับบท   ชูชิต
ลภัสสรดา  ช่วยเกื้อ   รับบท   นาถสุดา
เพชรลดา  เทียมเพชร   รับบท   นิ่มนวล
สโรชา  วาทิตตพันธ์   รับบท   กมลา
นวินดา  เบอร์ต๊อตตี้   รับบท   อรชร
กรุณพล  เทียนสุวรรณ   รับบท   พันธ์พงษ์
พัฒนะ  พันธุ์เทวะ   รับบท   จ่านิด
กิตติธัช  ประดับ   รับบท   เทพ
นัฐฐา  ลอยด์   รับบท   วงทอง
จักรกฤษณ์  อำมะรัตน์   รับบท   ดุลยศักดิ์
ทนงศักดิ์  ศุภการ   รับบท   เสริมพงษ์
สัจจากาจ  จิตรพึ่งธรรม   รับบท   หมอนพรัตน์
เล็ก  ไอศูรย์   รับบท   นักพรตเมฆขาว
เวนส์  ฟอลโคเนอร์   รับบท   นักพรตเมฆดำ
กฤชพล  จารุศักดิ์   รับบท   สุทธิพงษ์
ข้าวขวัญ  กฤษณโสภา   รับบท   ธิดารัตน์
แคทเธอรีน  จีน่า  มี๊ดส์   รับบท   ดารณี

ดาวเคียงเดือน

เมื่อดาริกาหลานสาวสัปเหร่อตบะกล้า ผู้ยึดมั่นในคานและมองเห็นเงินเป็นสรณะ กลับต้องมา สะดุดหัวใจตัวเองจนหัวทิ่มหัวตำเมื่อได้พบกับพระจันทร์ผู้เลิศเลอ ปรากฏการณ์ดาวเกี้ยวเดือนจึงกลับมา ย้อนรอยอีกครั้งหนึ่ง
 
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ดาริกา หลานสาวสัปเหร่อวัย 23 ถูกไหว้วานจาก พุดตาน เพื่อนสนิทที่จะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศให้เฝ้าคอนโด ดาริกาตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เพราะนี่จะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่เธอจะได้อยู่ห้องราคาหลายล้านบาท แทนห้องเช่ารายเดือนราคาหลักพันอันเป็นที่พักอาศัยของเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วยิ่งคอนโดแห่งนี้อยู่ใกล้บริษัทออร์แกไนซ์ที่ทำงานของเธอ ดาริกาก็จะสามารถประหยัดงบการเดินทางไปได้อีกมาก งานนี้มีแต่สบายตัวสบายเงินในกระเป๋า…สบายใจโดยไม่ต้องพึ่งผู้ชาย
 
สาเหตุที่ดาริกาไม่เคยสนใจผู้ชาย เพราะเธอกลัวการชีวิตคู่ อันเป็นผลมาจากเรื่องราวความรักของ กุสุมา แม่ของดาริกาที่ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเมื่อเกือบสามสิบปีก่อน กุสุมาลูกสาวของ ทศ สัปเหร่อและ มรรคทายกประจำวัด พบรักกับนายตำรวจชั้นประทวนจึงหนีตามกันไป ทิ้งความอับอายไว้ให้ผู้เป็นบิดา แต่แล้วความเจ้าชู้ของสามีก็ทำให้กุสุมาทนไม่ได้ ขอหย่ากับเขาแล้วอุ้มลูกน้อยในท้องกลับมาอยู่กับบิดาเหมือนเดิม เด็กหญิงดาริกาเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน บ้านของเธอทำจากฝาโลงศพ ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมาเล่นด้วยเท่าไหร่เพราะกลัวผี แต่เด็กหญิงกลับภาคภูมิใจว่าบ้านของเธอเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร และฐานะที่อัตคัดทำให้ดาริการู้จักคุณค่าของเงินมาตั้งแต่เล็กจนโต ดาริกาอาศัยอยู่ในคอนโดหรูอย่างสุขใจได้ไม่กี่วัน เธอกับ วรางค์ เจ้านายสาววัยสามลิบแปดต้อง หัวหมุนกับการจัดงานครบรอบ 50 ปีของห้างสรรพสินค้าแกรนด์ เนื่องจากถูกคำสั่งฟ้าผ่าจาก หม่อม หลวงจันทรกานต์ ทัศนัย ชายหนุ่มผู้เพอร์เฟคท์ทั้งหน้าตาและฐานะ จบปริญญาโทจากฮาร์วาร์ดด้วย วัยเพียง 26 ปี และเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ คุณดาราราย สาวสังคมผู้โด่งดังในความแลบซ่าส์กับ ม.ร.ว. จันทร ทัศนัย หนุ่มนักธุรกิจเจ้าเสน่ห์คนดัง
 
จันทรกานต์เป็นหนุ่มระเบียบจัด บ้าความสมบูรณ์พร้อมตั้งแต่เสื้อผ้าที่ต้องเรียงเฉดสีไปจนถึงแก้วน้ำที่ต้องมีจานรองทุกใบ คุณชายจันทร์ผู้พ่อได้ให้เวลาศึกษางานกับคุณจันทร์ผู้ลูก 2 ปี หลังจากนั้นคุณจันทร์ต้องขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างแกรนด์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเครือแกรนด์กรุ๊ป เนื่องจากคุณชายจันทร์และดารารายกำลังบุกเบิกห้างสรรพสินค้าในอาเซียน จึงต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เสมอ จันทรกานต์ผู้เงียบขรึม อ่อนโยน ไม่เคยปฏิเสธใคร ได้รับความกดดันอยู่เงียบ ๆ เขารู้ดีว่าผู้จัดการทั่วไปคนปัจจุบัน เพชร หนุ่มวัยกลางคน เจ้าระเบียบและเข้มงวด กำลังเพ่งเล็งเขาอยู่ อีกทั้งเพชรยังสอนพนักงานผู้จัดการฝ่ายบุคคลสาวโอลด์เมดชื่อ ยุพา ให้ดูถูกต่อต้านจันทรกานต์ ชายหนุ่มที่จะมาเป็นเจ้านายคนใหม่ว่าใช้เส้นบ้าง กระดูกอ่อนบ้าง พ่อแม่เข้าข้างลูกรักลูกเกินไปบ้าง จันทรกานต์ต้องพิสูจน์ตัวเองให้พนักงานนับพันในห้างแห่งนี้เคารพเขาให้ได้ภายใน 2 ปี ความตึงเครียดที่ซ่อนอยู่ภายในทำให้จันทรกานต์เป็นโรคกระเพาะ ปวดท้อง และทำให้เขาเครียดกว่าปกติ งานเลี้ยงนี้เป็นงานแรกที่จันทรกานต์ต้องแสดงฝีมือจัดขึ้น ความเจ้าระเบียบทำให้พนักงานของบริษัทออแกไนซ์หัวปั่น ดาริกาต้องวิ่งวุ่นเปลี่ยนของทุกอย่างในงานให้เนี้ยบหรูตามพระบัญชาของพ่อเจ้าประคุณที่ดาริกาก็ไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน
 
จันทรกานต์เบื่อหน่ายกับอาการคลั่งลูกชายของผู้เป็นแม่ เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่คอนโดห้องข้าง ๆ ดาริกา ด้วยเหตุบังเอิญดาริกาเกิดเข้าใจผิดว่าจันทรกานต์กับ วิวิทธ์ หนุ่มมาดเซอร์ เลขาส่วนตัวเป็นคู่รักชายรักชาย ดาริกาชื่นชมชายหนุ่มทั่งสอง แถมยังช่วยประกาศให้โลกรู้ว่าเขารักกัน ! และแล้วก็เกิดเรื่องโกลาหลขึ้น เมื่อพระเอกคนดังจอมเจ้าชู้ แมกซ์ ที่ถูกวางให้แสดงเป็นเจ้าชายสายฟ้าอัฐเชิญกุญแจ เกิดไม่พอใจที่ดาริกาไม่ยอมไปนอนด้วย ถอนตัวกะทันหัน วรางค์โวยวายร้องไห้ ดราม่าตัวแม่เหมือนเคย จน อาร์ตี้ หนุ่มครีเอทีฟ ประจำบริษัทต้องเข้าปลอบโยน และตามระเบียบดาริกาผู้มีสติกว่าใครเพื่อนก็เข้าแก้ปัญหา ด้วยการดึงหนุ่มหล่อที่ยืนขรึมสังเกตการณ์เข้ามาแสดงแทน จันทรกานต์นั่นเอง
 
ในเมื่อมั่นใจว่าเขาเป็นเกย์ แต่ไม่ได้สนใจว่าเขาเป็นใคร ด้วยความรีบที่ขาดสติ ดาริกาประเมินว่าหนุ่มควีนคนนี้คงเป็นพนักงานบริษัททั่วไป ดาริกาจัดการลากจันทรกานต์เข้าห้องปิดประดูถอดเสื้อ ปากก็ด่าว่าหม่อมหลวงเจ้าของห้างคนดังจอมเรื่องมากว่าต้องเอาตายแน่หากงานไม่เรียบร้อย แล้วชโลมครีมกากเพชรจนทั่วแผงอกเปลี่ยนเสื้อให้ ระหว่างนั้นก็พร่ำพูดเรื่องความหล่อของชายหนุ่มพร้อมกับปลงอสุภะกัมมัฏฐาน นึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารอย่างที่ตาเธอเคยสอนมา ชายหนุ่มนึกขำกับอาการพูดปากจัดของดาริกา ที่มองเขาเป็นแค่เด็กหนุ่มหน้าหล่อตำแหน่งต๊อกต๋อย จันทรกานต์เองก็มองความน่ารักยามใกล้ชิดของดาริกาเพลินไป จนต้องสะบัดหัวแรง ๆ เหมือนกัน ดาริกาให้กำลังใจในการขึ้นสลิงเสร็จสรรพ โดยจันทรกานต์พยายามตอบโต้ แต่ดาริกาไม่ยอมฟัง ใช้เท้าถีบเขาร่อนลงมาเพื่อให้เขาแสดงจนสมบทบาท ! และแล้วดารารายก็เป็นลมเมื่อเห็นลูกชายสุดที่รักโหนสลิงลงมา ดารารายรบถามหาใครนะที่ทำให้ จันทรกานต์ทำอะไรบ้า ๆ แบบนี้ได้ ดาริการบมุดใต้โต๊ะ เขาคือจันทรกานต์ว่าที่เอ็มดีจอมเฮี้ยบหรอนี่ แต่สำหรับจันทรกานต์ ในเมื่องานเสร็จเขาก็ได้ทีเปิดปากที่ปิดไว้มานาน เช็คบิลสาวปากมากอย่างดาริกาทันทีเรื่องด่าเขาลับหลัง จันทรกานต์จัดการกรดคำคม ๆ ด่าดาริกาอย่างเจ็บแลบแบบผู้ดีแท้ ๆ จนดาริกาจ๋อยสนิท
 
หลังจากเสร็จงานจนดึกดื่น ดาริกาก็พุ่งตรงกลับคอนโดหรูทันทีด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่แล้วเธอก็เจอเรื่องไม่คาดฝันเข้า เมื่อพบจันทรกานต์ยืนโอนเอนคล้ายคนเมาอยู่หน้าห้องมองเธอด้วยสีหน้าสะลึมสะลือ แล้วบอกกับเธอว่าช่วยด้วย ก่อนร่างหนาจะสลบเหมือดคาแทบเท้าของดาริกา ดาริกาจึงช่วยพาจันทรกานต์เข้ามาหลบซ่อนในห้องของเธอ จันทรกานต์ถูกมอมยา ! โดย พิชญา หรือ ชาย่า สาวสวยหุ่นสะบึม ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ของจันทรกานต์ พิชญาติดตามมาหึงหวงหลังจากรู้ว่าจันทรกานต์นอนอยู่ในห้องของดาริกาซึ่งอยู่ติดกับห้องของจันทรกานต์ตลอดทั้งคืน พิชญาพูดจาไม่ดีกับดาริกา เลยถูกหลานสาวสัปเหร่อตอกกลับอย่างเจ็บแสบ เพราะคนอย่างดาริกาไม่เคยยอมใคร โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ยุติธรรม เธอจะพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาเสียจนคนฟังอย่างพิชญาต้องหงายเงิบ พิชญาหมายปองจันทรกานต์มานานหลายปี ตั้งแต่ชายหนุ่มเรียนอยู่ที่อเมริกา เธอคอยตามให้ท่าเขาแต่ไม่เคยสำเร็จสักที ไม่เหมือนกับ หม่อมหลวงจักรพัฒน์ ทัศนัย ลูกพี่ลูกน้องของจันทรกานต์ผู้มีนิสัยอ่อนโยน สุภาพ แต่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง
 
พิชญาเบื่อหน่ายที่จะต้องวิ่งตามจันทรกานต์ เธอจึงตัดสินใจเบนหัวรถมาทางจักรพัฒน์ที่หลงรักเธออย่างหัวปักหัวปำแทน เพราะไหน ๆ เขาก็เป็น ทัศนัย เหมือนกัน แต่พอแต่งงานกันไปแล้ว พิชญาถึงรู้ว่าครอบครัวของจักรพัฒน์ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเลย จักรพัฒน์เป็นผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศของบริษัทแกรนด์กรุ๊ป ก็เปรียบเสมือนพนักงานคนหนึ่งของบริษัทเท่านั้น หนำซ้ำเขาก็ยังจืดชืด น่าเบื่อ พิชญาก็เลยกลับมาหมายปองจันทรกานต์และหมายมั่นปั่นมือว่าจะครอบครองเขาให้ได้ และแผนใส่ยานอนหลับลงในเครื่องดื่มของจันทรกานต์เมื่อคืนก็เป็นหนึ่งในแผนลับเขา เธอตั้งใจจะรวบหัวรวบหางเขาให้สำเร็จ แต่จันทรกานต์รู้ตัวเสียก่อนก็เลยหนีหายไปจากงาน เขาไม่ยอมปล่อยให้ฤทธิ์ยาครอบงำสติ พิชญาขับรถตามเขามาที่คอนโดก็ไม่เห็นเขาแล้ว พิชญาจึงได้แต่เสียดายแต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ รูปภาพเจ้าชายสายฟ้าติดปีกขาวลอยลงมาท่ามกลางหมู่ดาว ถูกกระจายทั่วแผงแมกกาซีน สาว ๆ สังคมหลงใหลจันทรกานต์ชั่วข้ามคืน ดารารายประกาศออกไป ภายในสองปี จันทรกานต์ต้องพิสูจน์ตัวเองเรื่องงาน ต้องเป็นเอ็มดีของห้างแกรนด์ที่ประสบความสำเร็จและต้องหาคู่เป็นสาวสมบูรณ์แบบให้สำเร็จภายใน 2 ปีเช่นกัน
 
ระหว่างนั้น อิงฟ้า ลูกสาว ม.ร.ว.อรชร สาวสวยอาร์ติสท์มากฝีมือ เกิดทะเลาะกับแม่เจ้ายศเจ้าอย่างที่ชอบบงการชีวิตหนีเข้ามาในห้าง วิวิทธิ์เข้าไปช่วยเหลือดาราราย คุณชายจันทร และจันทรกานต์ จึงได้รู้จักกับอิงฟ้าในฐานะประธานชมรมหาทุนเพื่อเด็กเร่ร่อน ดารารายรู้สึกชอบที่อิงฟ้าเป็นคนจิตใจดีและน่าจะสนิทสนมกับจันทรกานต์โดยง่าย จึงพยายามจับคู่ทั้งสอง โดยเสนอตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายศิลป์ในห้างแกรนด์ให้แก่อิงฟ้า และอิงฟ้าก็ตอบตกลงแท้จริงแล้วอิงฟ้ามีใจให้วิวิทธิ์ เพราะประทับใจที่วิวิทธิ์ให้ความช่วยเหลือเธอและเด็กเร่ร่อนทั่งสามคน ได้แก่ ข้าวตอก (เด็กนักล้วงกระเป๋า), ดอกไม้ (เด็กนักโกหกขอเงิน) และ ทุย (เด็กนักสะเดาะกลอน) โดยไม่รังเกียจ ไม่มีใครรู้ว่าความสัมพันธ์ของอิงฟ้าและวิวิทธิ์แอบพัฒนาไปอย่างเงียบ ๆ วิวิทธิ์นั้นเมื่อแรกเขาเจียมตัวว่าต้อยต่ำ พยายามเอาตัวออกห่างจากอิงฟ้าเสมอ ๆ แต่เขาก็ใจอ่อน เพราะอิงฟ้านอกจากสวยเปรี้ยวเกินห้ามใจแล้ว ยังหาเรื่องทำชมรมทั้งที่ไม่มีความสามารถ เรียกได้ว่ามีใจ แต่ไม่มีความรู้ อิงฟ้ามักจะตามวิวิทธิ์ไปหาที่บ้านเพื่อจัดการเรื่องเงินทุนชมรมอยู่เนือง ๆ และถ้าวิวิทธิ์ไม่มา อิงฟ้าก็จะให้ทุยงัดบ้านมาหาอยู่ดี จนวิวิทธิ์ไม่สามารถปฏิเสธสาวนักตื๊ออย่างหล่อนได้
 
วันหนึ่งดารารายประกาศจัดงานเต้นรำที่วังทัศนัยเพื่อหาคู่ให้กับจันทรกานต์ คุณชายจันทรพยายามท้วงติง ดารารายก็งอนจนพ่อลูกอ่อนใจ ดารารายเริ่มคัดเลือกหาสาวงามที่ควรคู่กับลูกชาย เหมือนที่เธอทำกับตัวเองไม่มีผิด เธอได้รายชื่อสาวไฮโซ ฐานะและตำแหน่งคู่ควรเพิ่มมาอีกสองคนจากกูเกิล
 
1.ไฮโซฮอตที่สุด : เหมาะเป็นหน้าตาให้แก่ธุรกิจ ไฮโซยุคนี้ต้องได้กับดารา ดารารายได้ชื่อของดาราสาวสวย ไฮโซ ซุป’ตาร์สุดฮอตแห่งยุค ตรีชฎา หรือ แพตตี้
 
2.ไฮโซเรียบร้อย นิสัยดี : เหมาะเป็นแม่บ้านแม่เรือน เป็นศรีสง่าแก่วงศ์ตระกูล จันท์หอม หรือ ลูกจัน จากตระกูลเก่าแก่ เหมือนกับทัศนัย และแน่นอน อิงฟ้ายังคงติดโผเป็นสาวสวยคนที่สามที่ดารารายหมายปอง
 
จันทรกานต์เห็นกระบวนการเหล่านี้ของแม่แล้วรู้สึกอาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อนขึ้นมาอีก ก่อนที่งานเลี้ยงเต้นรำ เจ้าชายของซินเดอเรลล่าจะถูกจัดขึ้น จันทรกานต์ต้องทำอะไรสักอย่าง จันทร์กานต์เคาะประตูห้องข้าง ๆ ขอให้ดาริกามาเป็นเลขาฯ ให้ตน เพื่อจัดการเรื่องผู้หญิงต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ตนจะได้มีสมาธิทำงาน จันทรกานต์ยื่นข้อเสนอให้ดาริกาด้วยการให้เงินเดือนมากกว่าที่ทำงานเก่าสามเท่า ดาริกาปฏิเสธเพราะสงสารและผูกพันกับวรางค์ จันทรกานต์มึนงง เขาเข้าใจว่าดาริกาเป็นคนงกมาก ควรจะจัดการได้ง่าย ๆ แต่ทำไมไม่เป็นเช่นนั้น ดาริกาบอกว่า สำหรับหล่อนมิตรภาพก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน จันทรกานต์คาใจมาก เขาไม่อยากยอมแพ้ เขาเริ่มเคาะห้องดาริกาบ่อย ๆ เพื่อสร้างมิตรภาพในฐานะเพื่อนบ้าน แต่ยิ่งสร้างดาริกากับจันทรกานต์ก็ยิ่งทะเลาะกัน เพราะจันทรกานต์กับดาริกามีความแตกต่างกันเรื่องไลฟ์สไตล์ในทุกมิติ ดาริกามักหงุดหงิดที่จันทรกานต์นิ่งเฉย เนี้ยบ เหมือนหุ่นยนต์ หงุดหงิดที่จันทรกานต์ใช้น้ำ ใช้น้ำมัน ใช้ข้าวของเสียแล้วทิ้งโดยไม่ส่งซ่อม จันทรกานต์กินอยู่ทิ้งขว้าง ยิ่งหล่อนด่าหล่อนก็ยิ่งเหมือนคนแก่ขี้บ่น
 
แต่สำหรับจันทรกานต์เขารู้สึกตรงข้าม หมู่นี้เขาต้องพบปะเพื่อนฝูงไปงานปาร์ตี้ตามคำสั่งของแม่ต้องออกสังคมเพื่อเชื่อมธุรกิจ เขาพบเพื่อนเก่าของเขาในสังคมเดียวกันที่ตรงข้ามกับดาริกา กลายเป็นเขาเริ่มรู้สึกว่าวิถีชีวิตที่เห็นคุณค่าที่แท้จริงของดาริกา คำด่าคำเยาะเย้ยถากถางที่เป็นนิสัยของดาริกาเริ่มวนเวียนในหัว และทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ยิ่งวันที่พ่อแม่เขาเริ่มเดินทางไปเมืองนอก เขาเกิดความรู้สึกเหงา เขาเลือกไปหาดาริกาที่ห้องเพื่อกินบะหมี่สำเร็จรูป ดูละครไทยกับดาริกาที่ห้องเป็นครั้งแรก แม้คืนนั้นเขาจะนั่งด่าละครไทย จนดาริกาไล่ออกจากห้อง แต่ความผูกพันของทั้งสองเพิ่มมากขึ้น ดาริการู้สึกเห็นใจที่เขาต้องการทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ดาริกาจึงตอบตกลงไปเป็นเลขาฯ ของจันทรกานต์
 
วรางค์ดราม่าร้องไห้ที่ดาริกาลาออก ดาริกาปลอบโยนวรางค์ วรางค์ปลอบใจตัวเองว่าก็ดีเหมือนกัน ไปหาดาริกาที่ทำงานจะได้เจอวิวิทธิ์ เจอคุณจันทรกานต์ อาการบ้าผู้ชายของวรางค์มักทำให้อาร์ตี้หงุดหงิด เพราะอาร์ตี้แอบชอบสาวสะพรั่งใกล้หลักสี่อย่างวรางค์มานานแล้ว แต่วรางค์แกล้งทำไม่รู้ เพราะอายที่จะกินเด็กในที่ทำงานตัวเอง โชคดีของดาริกายังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะจันทรกานต์ยังมีน้ำใจให้เธอนั่งรถไปทำงานและกลับพร้อมเขาด้วย การได้นั่งเคียงข้างหนุ่มหล่อในรถหรูทำให้ใจสาวหวั่นไหว แต่ท่าทีนิ่งเฉยเย็นชาของจันทรกานต์และปริบทความร่ำรวยที่รายล้อม ก็มักเบรกอารมณ์ให้ดาริกานิ่งลงอยู่บ่อย ๆ ด้วยนิลัยที่แตกต่างกัน ทั้งสองมักมีความขัดแย้งกันเนือง ๆ และด้วยความขัดแย้งนี่เอง ทำให้ดาริกายิ่งมั่นใจว่าตนเป็นได้แค่ลูกน้อง แต่จันทรกานต์กลับยิ่งผูกพันกับดาริกา จันทรกานต์สั่งให้วิวิทธิ์จัดโต๊ะทำงานของดาริกาเอาไว้ในห้องทำงานเดียวกับเขาไปเลย และให้วิวิทธิ์ช่วยสอนงานให้ดาริกาด้วย แล้วความน่ารักสดใสเป็นกันเองของดาริกาก็ทำวิวิทธิ์กับดาริกาสนิทกันได้ไม่ยาก วิวิทธิ์จับลังเกตได้ว่าดาริกาเค็ม เพราะหญิงสาวแนะนำให้วิวิทธิ์ประหยัดของทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ และนั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของดาริกาที่ไม่เหมือนใคร
 
งานเลี้ยงจับคู่ที่วังทัศนัยเกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ สาวฮอตทั่วพระนครมารวมตัวกัน เพื่อให้จันทรกานต์ได้ยลโฉม ได้พบปะพูดคุย ดารารายมีเวลาแค่สองชั่วโมงในการถ่ายรูปสีหน้าของลูกชายกับสาวต่าง ๆ ก่อนบินกลับไปทำงานที่บรูไน ดารารายดีใจที่สามสาวของเธอ แพตตี้ ลูกจัน และอิงฟ้าเข้าวิน เป็นสามคนที่นาฬิกาจับเวลาของดารารายบ่งชี้ว่า จันทรกานต์คุยด้วยนานที่สุด ดารารายจึงไม่รู้เลยว่า จากนั้นเพียงแค่ 30 นาที สาว ๆ ที่เชิญมาก็เขม่นกันเอง เกิดการตบตีแย่งตัวจันทรกานต์ จนดาริกาต้องออกโรงปกป้อง โชว์ลีลาพาจันทรกานต์หนีไปช่อนในตู้เสื้อผ้าลองต่อสอง จนกระทั่งผลอยหลับกันไปทิ้งจันทรกานต์และดาริกาไว้ ดารารายรับรู้เรื่องราวในคืนนั้นและชื่นชมดาริกามาก ดาริกาเองก็ชื่นชมความน่ารักของดารารายสองสาวนิสัยเหมือนกันถูกคอกันรวดเร็ว และแล้วดารารายก็ฝากฝังสาวทั่งสี่ไว้กับดาริกา ดาริการู้สึกอึดอัด แต่เนื่องจากดารารายมีบุญคุณกับตน ดารารายช่วยจัดการปัญหาเรื่องที่ดินในบ้านที่อาศัยวัดอยู่ให้ ทำให้ดาริกาไม่สามารถปฏิเสธดารารายได้ ดาริกาตกปากรับคำไปว่าจะช่วยให้คุณจันทร์พบรักแท้กับผู้หญิง 1 ในสามคนนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุดทั่งที่ใจของเธอเจ็บปวด
 
ในเวลาเดียวกันนั้น อิงฟ้าที่กลายเป็นพนักงานในห้างและเริ่มสนิทสนมกับดาริกา ก็พัฒนาความสัมพันธ์กับวิวิทธิ์ไปอย่างต่อเนื่อง เขาทั้งคู่กลายเป็นพ่อแม่ของเด็กทั้งสามโดยปริยาย เมื่ออิงฟ้ามาทำงานโดยฝากเด็กไว้กับพี่เลี้ยง เด็กทั้งสามก็เกิดความน้อยใจหนีหายไปจากบ้าน เดือดร้อนให้วิวิทธิ์และอิงฟ้าออกตามหา ช่วงเวลานี้เองทำให้วิวิทธิ์และอิงฟ้าเข้าใจกัน ตกลงที่จะคบกันเป็นแฟนอย่างลับ ๆ ดาริกาอำนวยความสะดวกให้แพตตี้ ซุป’ตาร์สาวสุดฮอตได้เดทกับคุณจันทร์ของหล่อน จันทรกานต์พบว่า แพตตี้เป็นสาวกแบรนด์เนม คลั่งเทรนด์ บ้าโซเชียล มีชีวิตอิงกับผู้อื่น ตั้งแต่เลดี้กาก้าใส่ชุดชั้นในสีอะไร เราต้องใส่ตามทันที ทุกเหตุเป็นเรื่องดราม่าในชีวิตแพตตี้ จนจันทรกานต์หาความสงบไม่ได้ ตรงข้ามกับแพตตี้ที่ชื่นชอบความสงบเย็นของจันทรกานต์ ความเป็นสุภาพบุรุษเชื้อสายชาววังเก่าของจันทรกานต์ถึงขั้นหลงใหล แพตตี้ติดจันทรกานต์ขนาดต้องโทรหาทุกสิบห้านาที จันทร์กานต์ตอบปฏิเสธคนไม่เป็นจึงหนีมาหาดาริกาที่บ้าน
 
จันทรกานต์พบว่าบ้านของดาริกาเป็นบ้านน่ารัก ฝังตัวอยู่ในสุสาน ตัวบ้านทำจากโลง แต่มีความสุขเย็นที่ได้รับจากทศและกุสุมา จันทรกานต์แอบเทียบดาริกากับแพตตี้ในใจ ดาริกาไม่เคยแคร์คำพูดคำล้อของใคร หล่อนมีรสนิยมดีในเรื่องข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ โดยไม่สนใจที่แบรนด์เนม จันทรกานต์พบว่าคนที่ช่วยสนับสนุนกิจการห้างสรรพสินค้าของเขาได้ไม่ใช่แพตตี้ แต่เป็นดาริกาจอมงกคนนี้ จันทรกานต์ให้ดาริกาพาสำรวจห้างแกรนด์ที่ตนจะต้องเป็นผู้บริหารในอีกไม่นานนี้ ดาริกาแนะนำให้จันทรกานต์ปลอมตัวเพื่อจะได้เช็กการทำงานของพนักงานด้วย เพราะถ้าลองว่าที่ประธานบริษัทเดิน สำรวจห้าง พนักงานก็จะต้องทำงานกันอย่างเต็มใจเพื่อสร้างภาพอยู่แล้ว จันทรกานต์เห็นด้วยจึงยอมให้ดาริกาจับเขาติดหนวด ใส่วิก ทาผิวสีคล้ำ โดยไม่รู้ว่าระหว่างที่ดาริกาทาผิวอันขาวผ่อง มือสัมผัสกับมัดกล้ามของเขาอยู่นั้น หัวใจของเธอแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า ศพเน่าเละทุกรูปแบบที่เธอพยายามจินตนาการอยู่ในหัวก็ไม่อาจต้านทานกระแสความตื่นเต้นได้เลย หากดันเห็นภาพวัวแก่เคียวหญ้าอ่อนอันแสนอร่อยแทน
 
การปลอมตัวสำรวจห้างทำให้จันทรกานต์สนุกได้อย่างประหลาด และเขายังทึ่งอีกด้วยเมื่อรู้ว่าดาริการู้ทุกทางเข้าออกของห้าง รู้หมดว่าประตูไหนคนเดินเข้าเยอะ เพราะเธอกับพุดตานมักจะมารับสินค้าแจกฟรีเป็นประจำ แล้วความสนุกสนานก็ต้องหยุดลงเมื่อทั้งสองพบกับพิชญากับจักรพัฒน์ เวลาพิชญาอยู่ต่อหน้าจักรพัฒน์สามีผู้ทำหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศของบริษัท พิชญาจะทำตัวน่ารัก เอาอกเอาใจจักรพัฒน์ต่าง ๆ นานา จนจักรพัฒน์ไม่รู้เลยว่าภรรยาของเขากำลังคิดไม่ซื่ออยู่ และขณะนั้นพิชญาที่เห็นจันทรกานต์ทำเรื่องไร้สาระตามคำแนะนำของดาริกา ก็ชักจะแน่ใจแล้วว่าดาริกากำลังจะมาเป็นศัตรูหัวใจของเธอ ข้างฝ่ายแพตตี้ก็ตามติดจันทรกานต์ไม่ลดละ จันทรกานต์จู่ ๆ ก็เลยหนีแพตตี้มาที่บ้านฝาโลงหลอกให้แพตตี้วิ่งหนีผีอยู่ในสุสาน จนซุปตาร์จับไข้หัวโกร๋น ดาริกา วิวิทธิ์ และคนรอบข้างจึงได้รู้ว่าจันทรกานต์ไม่มีวันชอบแพตตี้แน่ ๆ ดาริาจับเข่าคุยกับจันทรกานต์สอนให้รู้วิธีปฏิเสธ การเป็นหนุ่มหน้ามน พูดน้อย สุภาพเสมอ ทำให้หญิงสาวเข้าใจผิดได้ จันทรกานต์ก็เลยทำตาม แพตตี้เสียใจมาก แตกยอมรับปากจะไม่โทรหาตามหาจันทรกานต์อีก แต่กลับมาติดดาริกาแทน เพราะแพตตี้เพิ่งค้นพบว่า ดาริกาต่างหากคือสาวมั่นไอดอลคนใหม่ที่น่าสนใจที่สุดสำหรับเธอ แพตตี้กลายมาเป็นเพื่อนดาริกาที่ดาริกาไม่ได้ดีใจเลยแม้แต่น้อย
 
พิชญาสั่งให้คนไปสืบประวัติของดาริกาจนรู้ว่าเธอเป็นแค่หลานสาวสัปเหร่อ คอนโดห้องนั้นก็เป็นของเพื่อนสนิทไม่ใช่ของดาริกา พิชญาคิดว่าดาริกาเป็นพวกผู้หญิงแอ๊บไฮโซ จึงนำเรื่องนี้ไปบอกจันทรกานต์ แต่ผลออกมากลับตรงกันข้าม เพราะดาริกาไม่เคยอายหรือปิดบังกำพืดของตัวเองมาตังแต่แรก ซ้ำยังภาคภูมิใจอีกด้วย ไม่เหมือนพิชญาที่ไม่กล้าบอกใครว่าตัวเองเป็นแค่ลูกเจ๊กขายข้าวสาร แต่หวังอัพเกรดตัวเองเป็นไฮโซด้วยการจับผู้ชายมีชาติตระกูล ถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ดาริกาจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกดีเลยที่ต้องเอากำพืดของคนอื่นมาพูดต่อหน้าคนอื่น ดาริกาซึมเศร้าอยู่ในคอนโดตามลำพัง แล้วจันทรกานต์ก็ไปพบเข้าก็เลยรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ และนั้นก็ทำให้จันทรกานต์ยิ่งรู้สึกดีกับดาริกา ดาริกาทำให้เขารู้ว่าคนเราจะดีหรือเลวไม่ได้วัดกันที่ชาติตระกูล แต่วัดกันที่จิตใจต่างหาก และแล้วจันทรกานต์ก็หลงรักดาริกาเข้าอย่างไม่รู้ตัว ความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อย ๆ ดีขึ้น ดาริกาเห็นสายตาของจันทรกานต์ยามมองเธอนั้นมันมีความหมายมากกว่าการเป็นเจ้านายลูกน้อง แต่เธอก็ไม่กล้าคิดไปไกล เพราะเขาอยู่สูงเกินไปสำหรับเธอ ท่าทางปิดกั้นตัวเองของดาริกา แต่ให้ความสนิทสนมกับวิวิทธิ์ ทำให้จันทรกานต์คิดไปว่าดาริกามีใจให้วิวิทธิ์ เขาจึงต้องเก็บความรู้สึกตัวเองไว้เงียบ ๆ คนเดียวเรื่อยมา
 
ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของวิวิทธิ์กับองฟ้าก็กำลังไปด้วยดี วิวิทธิ์และอิงฟ้ามักขอร้องให้ดาริกามาช่วยปกปิดความสัมพันธ์ของทั้งคู่บ่อย ๆ จันทรกานต์จึงเข้าใจผิดว่าดาริกาและวิวิทธิ์มีใจให้กัน จันทรกานต์เฝ้าแต่เจ็บปวดที่เห็นดาริกาแอบจองโต๊ะในร้านอาหารแล้วไปกับวิวิทธิ์ แอบซื้อของขวัญ แอบวุ่นวายเรื่องครอบครัววิวิทธิ์ ซึ่งแท้จริงแล้วดาริกาทำให้วิวิทธิ์แทนอิงฟ้า หรือไม่ก็ทำให้อิงฟ้าแทนวิวิทธิ์ทั้งสิ้น ดาริการายงานความล้มเหลวเรื่องแพตตี้ต่อดาราราย และรีเริ่มนัดเดทให้จันทรกานต์กับลูกจัน สาวอ่อนหวาน เรียบร้อย อ่อนโยน เมื่อทั้งคู่มาเจอกันก็เหมือนกับเทวดามาเจอนางฟ้า ดาริกาปิดเกาะทะเลใต้ให้ทั้งคู่สนิทสนมกันในรีสอร์ทหรู แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของจันทรกานต์ที่ไม่แตะต้องลูกจันเลย ทำให้ลูกจันไม่พอใจ เพราะแท้จริงแล้วเธอแค่สาวล่าแต้มผู้ชายที่ชอบแอ๊บแบ๊วทำเวอร์จิ้นเท่านั้นเอง ลูกจันหลอกจันทรกานต์ พยายามสร้างสถานการณ์ล่อหลอกบิวด์อารมณ์จันทรกานต์พาเข้าห้องหลายทีท่า แต่ไม่ได้ผลสักลีลาเดียว สร้างได้แต่ความอึดอัดให้จันทรกานต์ จันทรกานต์ทำอะไรไม่ได้ก็หนีมาแอบอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงกับดาริกาอีก ลูกจันตามมาถึงก็มาเจอหนุ่มตังเกผู้ใหญ่บ้านสุดหล่อชื่อ พี่ไข่แดง ที่ให้ดาริกาเช่าบ้าน สองหนุ่มสาวไฮโซปล่อยให้รีสอร์ทหรูเหนือเกาะไร้แขกอาศัย แต่มานอนเล่นที่บ้านพักชาวประมงแทน
 
คืนนั้นหลังจากไปเที่ยวกันแค่สองชั่วโมง ลูกจันก็หายเหงาไปกับพี่ไข่แดง ผู้ใหญ่บ้านหุ่นงาม ทิ้งให้ดาริกาต้องค้างอ้างแรมกับคุณจันทร์ของหล่อนในรีสอร์ทหรูแทน รุ่งเช้าเมื่อลูกจันมาปรึกษาเรื่องความจืดชืดของจันทรกานต์ไห้ดาริกาฟัง ดาริกาก็เลยได้โอกาสเปิดอกกับลูกจันเรื่องพฤติกรรมฟรีเซ็กส์ของหมู่ไฮโซ ดาริกาเปิดฉากอบรมคุณค่าการรักตัวเอง การบูชาความรักความผูกพันกับใครคนหนึ่งตามวิถีที่มนุษย์ควรจะทำ การถกเถียงนี้ทำให้ลูกจันได้คิด และได้เข้าใจตัวเองว่าตัวเองใช้ชีวิตผิดพลาดประการใด บทสนทนานี้อยู่ในสายตาของจันทรกานต์ จันทรกานต์ดีใจที่ดาริกาเป็นมนุษย์หัวเก่าในเรื่องนี้เหมือนตน เพราะจันทรกานต์ก็ได้เปิดอกคุยเรื่องนี้กับพี่ไข่แดงถึงหน้าที่ของความเป็นสุภาพบุรุษเหมือนกัน ดาริกาจำต้องกลับมารายงานดารารายให้รับรู้ว่า ลูกจันจอมแอ๊บนั้นขี้เหงาเกินไป คุณจันทรกานต์และหนูลูกจันยินดีเซย์กู๊ดบายต่อกันอย่างสันติแล้ว
 
ช่วงที่อยู่ที่รีสอร์ท ดาริกาและจันทรกานต์ช่วยกันคิดแคมเปญลดราคาให้ห้างแกรนด์ แผนการขายนี้ถูกเพชรถากถางว่าไม่ได้เรื่อง แต่จันทรกานต์ไม่ยอมแพ้ จันทรกานต์หลุดปากบอกเพชรว่า ถ้ายอดขายไม่เพิ่มขึ้น เขายินดีสละตำแหน่งเอ็มดีให้เพชรแล้วกลับไปเรียนต่อ จันทรกานต์จึงกลับมาเคร่งเครียดกับการทำงานหนัก ปวดท้องโรคกระเพาะ ต้องมีสาวข้างบ้านอย่างดาริกาคอยมาดูแลอยู่ทุกคืน ครั้งหนึ่งในงานวันเกิดของคุณชายจันทร อิงฟ้าจับดาริกาแต่งตัวสวยเสียจนแขกทั้งงานตกตะลึงรวมทั้งจันทรกานต์ด้วย เขาแทบมิอาจจะละสายตาจากดาริกาได้เลย แต่เขาก็ยังคงหึงดาริกาเวลาที่วิวิทธิ์มาคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง จันทรกานต์ไม่อาจทนมองภาพนั้นได้ เขาก็เลยคว้าแก้วไวน์เลี่ยงออกมาดื่มตามลำพัง โดยไม่รู้ว่าไวน์แก้วนั้น พิชญาแอบใส่ยานอนหลับลงไปเรียบร้อยแล้ว
 
เมื่อจันทรกานต์สลบเหมือดอยู่ตามลำพัง พิชญาก็จัดการลากเขาขึ้นไปบนห้องนอน หวังจะสร้างสถานการณ์ฉาว ๆ ระหว่างเขากับเธอ เพราะแน่ใจว่าคนอย่างจันทรกานต์ต้องรับผิดชอบเธอแน่นอน แต่โชคดีที่ดาริกาที่ไม่เห็นจันทรกานต์อยู่ในงานจึงออกมาตามหาก็พบเข้าพอดี ดาริกาโกรธปรี๊ดที่พิชญามาแตะต้องพ่อยอดขมองอิ่มของเธออีกแล้ว แต่ดาริกาก็ตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปห้ามในทันที เพราะอยากรู้ว่าพิชญาจะทำอะไรจึงสะกดรอยตามไป จนเห็นว่าพิชญาพาจันทรกานต์เข้าไปในห้องนอนและกำลังจะลวนลามเขา ซึ่งจักรพัฒน์ก็มาเห็นช็อตเด็ดนั้นเข้าด้วยเหมือนกัน แต่จักรพัฒน์เลือกที่จะวิ่งออกไปจากตรงนั้นเพราะทนมองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ส่วนดาริกาเข้าไปห้ามพิชญาหยุดทำเรื่องอุบาว์ทได้สำเร็จ วิวิทธิ์กับอิงฟ้าวิ่งมาดูก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พิชญาทนอับอายไม่ไหวจึงรีบหนีกลับบ้านไป พร้อม ๆ กับได้รับโทรศัพท์จากที่บ้านว่าจักรพัฒน์มีอาการหัวใจกำเริบ ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุของอาการหัวใจกำเริบของจักรพัฒน์ มีเพียงดาริกาเท่านั้นที่รู้ และเธอก็ไม่เคยคิดจะปริปากบอกใครเพราะมันไม่ใช่เรื่องของเธอ หากพอจักรพัฒน์ฟื้นขึ้นมาอาการดีขึ้น เขาก็ตัดสินใจขอหย่ากับพิชญาทันที เพราะแน่ใจแล้วว่าพิชญาไม่เคยรักเขาเลย ซึ่งพิชญาก็ยอมตกลงแต่โดยดีเพราะอยากเป็นอิสระเต็มทนแล้ว
 
จักรพัฒน์รู้ว่าดาริกาไม่เคยพูดเรื่องน่าอับอายของอดีตภรรยาให้ใครฟัง ทำให้ดาริการู้ว่าจักรพัฒน์ นั้นรักพิชญามากเหลือเกิน จะมีก็แต่พิชญาที่ไม่เคยเห็นคุณค่าความรักที่จักรพัฒน์มอบให้เลย ดาริกาปลอบใจจักรพัฒน์และคอยเป็นเพื่อนปรับทุกข์ จักรพัฒน์รู้สึกดีกับดาริกาอย่างปริสุทธิ์ใจ จนเริ่มสงสัยตัวเองว่าตนคงจะชอบดาริกา จักรพัฒน์เริ่มเดินหน้าจีบดาริกา โดยอาศัยเรื่องดาริกาสงสารตนอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เมื่อรู้ว่าพิชญาหย่าแล้ว ดารารายก็ยิ่งร้อนใจกลัวว่าจะได้พิชญามาเป็นลูกสะใภ้ ก็เลยเร่งรัด ม.ร.ว.อรชรเรื่องหมั้นกับอิงฟ้า ทำให้อิงฟ้ากับวิวิทธิ์นั่งไม่ติด ทั้งสองจึงต้องเร่งทำแผนให้ดาริกากับจันทรกานต์รู้ใจตัวเองอย่างเร่งด่วน ดังนั้นเมื่อจันทรกานต์บอกว่าอยากจะสร้างโรงแรมในต่างจังหวัด วิวิทธิ์ก็รีบเสนอไอเดียให้เจ้านายหนุ่มไปดูทำเลที่ต่างจังหวัดทันที
 
คืนนั้นดาริกากับจันทรกานต์จึงต้องนอนอยู่ในห้องเดียวกันตามลำพัง และแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนของวิวิทธิ์และอิงฟ้า บรรยากาศอันโรแมนติกกับความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจของจันทรกานต์ และดาริกา ทำให้จันทรกานต์อดไม่ได้ที่ก้มลงจะจูบดาริกา แต่จักรพัฒน์ดันโทรเข้ามาขัดจังหวะ จันทรกานต์ไม่อยากให้ดาริการับสาย แต่เธอก็ยังรับเพราะกลัวว่าจักรพัฒน์หัวใจกำเริบ ความน้อยใจของจันทรกานต์ถึงขีดสุด เมื่อพิชญาตามมาถึง พิชญาโกรธที่เห็นว่าดาริกากับจันทรกานต์อยู่ในห้องกันตามลำพัง จึงจะเข้าไปตบตีดาริกา ดาริกาก็สู้กลับอย่างไม่ลดละ ซึ่งตอนนั้นจันทรกานต์กำลังโกรธเรื่องดาริกากับจักรพัฒน์อยู่ จึงห้ามทั้งสองและประกาศว่าเขาไม่ได้รักใครทั้งนั้น และไม่มีวันจะรักด้วย ! คำพูดนั้นทำเอาหัวใจของดาริกาแทบสลาย เข้าใจแล้วว่าจูบนั้นของเขาเป็นแค่เรื่องของอารมณ์หาได้มาจากความรู้สึกจากหัวใจ เธอตัดสินใจลาออกจากงานเพราะไม่สามารถทนความอับอายได้อีก ซึ่งจันทรกานต์ก็ยอมให้ดาริกาลาออกแต่โดยดี เพราะเขาก็ทนไม่ไหวเหมือนกันที่ต้องเห็นดาริกาไปกับจักร พัฒน์บ้าง วิวิทธิ์บ้าง ประกอบกับพุดตานกลับมาจากเมืองนอกพอดี ดาริกาก็เลยย้ายออกจากคอนโดกลับไปอยู่หอพักเหมือนเดิม ทำให้จันทรกานต์ยิ่งเหงาทุกครั้งที่กลับคอนโด และมองเห็นประตูห้องที่เขาเคยเข้าไปหาดาริกาอยู่บ่อย ๆ
 
ส่วนพิชญาเธอโกรธมากที่ถูกจันทรกานต์เอาจริงว่าถ้าเธอยังมายุ่งกับเขา เขาจะไม่ไว้หน้าเธออีกต่อไป พิชญาแน่ใจแล้วว่าไม่มีหวังในตัวจันทรกานต์เพราะเห็นแววตาของจันทรกานต์ที่มองดาริกาก็แน่ใจว่าเขารักดาริกา แล้ววันหนึ่งเวรกรรมก็ตามสนองเธอ เมื่อเจ้าหนี้ของบิดาตามมาทวงหนี้ถึงบ้าน บิดาและตัวเธอถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก จักรพัฒน์ที่ถูกมองว่าอ่อนแอออกต่อสู้ปกป้องเธอและครอบครัวพิชญาเพิ่งจะซึ้งใจในความรักของจักรพัฒน์ จักรพัฒน์เองก็เพิ่งรู้ว่า กับดาริกาคือความหลงชั่วครู่ แต่กับพิชญาคือความรัก ในที่สุดจันทรกานต์รู้ว่าแท้จริงแล้ววิวิทธิ์กำลังคบกับอิงฟ้าอยู่ และคบกันมานานแล้วด้วย จันทรกานต์เพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขาเข้าใจดาริกาผิด จันทรกานต์รู้ว่าวิวิทธิ์กับอิงฟ้าไม่สามารถเปิดเผยความสัมพันธ์กันได้เพราะเขา ดังนั้นจันทรกานต์จึงเป็นฝ่ายไปบอกดารารายด้วยตัวเองอย่างเด็ดขาดว่า เขาจะไม่มีวันแต่งงานกับอิงฟ้าเพราะเขาไม่ได้รักเธอ ดารารายตกใจมากเมื่อรู้ว่าคนที่จันทรกานต์ผูกพันด้วยคือ เลขาที่เธอมองข้าม ดาริกานั้นเอง
 
การจัดแคมเปญในห้างแกรนด์ประสบความสำเร็จงดงาม จันทรกานต์พิสูจน์ตัวเองสำเร็จ เขายิ่งคิดถึงดาริกา จันทรกานต์ตามไปง้อดาริกาถึงที่และยังสารภาพว่ารักเธออีกด้วย ถึงดาริกาจะดีใจมาก แต่เธอเกรงใจดาราราย ดาริกาไม่กล้าทรยศต่อดารารายคนที่รัก และมีบุญคุณกับเธอมาตลอด เธอรู้ดีสำหรับดารารายแล้ว สะใภ้คนเดียวของดารารายต้องสมบูรณ์แบบกว่านี้ คุณชายจันทร์เข้ามาเยียวยาความช็อกนิ่งของดาราราย ชี้ให้เห็นความสมบูรณ์แบบของดาริกา ซึ่งความสมบูรณ์แบบในที่นี้คือ จันทรกานต์รักดาริกา ดาริการักจันทรกานต์ ดารารายจึงได้เรียนรู้ว่าตนเองเจ้ากี้เจ้าการชีวิตของลูกชายมากเกินไป ดารารายวางแผนใหม่ วางยานอนหลับลูกชายตัวเอง พาขึ้นขบวนขันหมากไปหาดาริกาถึงบ้านโลงศพ ดาริกาอึ้งที่พบว่าตนกลายเป็นเจ้าสาวจำเป็น ดาราราย หม่อมราชวงศ์จันทร วิวิทธิ์ อิงฟ้า จักรพัฒน์ และพิชญาที่ง้อจักรพัฒน์จนสำเร็จมาร่วมงานกันพร้อมหน้า ดารารายจอมวุ่นวายแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองหาคู่ให้ลูกชายสมดังมุ่งหมาย ในที่สุดตำนานดาวเกี้ยวเดือนครั้งนี้ ก็จบลงด้วยความรักเหมือนเมื่อครั้งก่อน ติดตามชม ละครดาวเคียงเดือน
 
รายชื่อนักแสดงนำ ละคร ดาวเคียงเดือน
 
ภูภูมิ พงศ์ภาณุ รับบท ม.ล.จันทรกานต์
พิจักขณา วงศารัตน์ศิลป์ รับบท ดาริกา
ฐกฤต ตวันพงค์ รับบท วิวิทธิ์
จอห์นนี่ แอนโฟเน่ รับบท ม.ร.ว. จันทร
ศุภักษร ไชยมงคล รับบท พิชญา
ดนัย จารุจินดา รับบท ม.ล. จักรพัฒน์
ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล รับบท วรางค์
กนกฉัตร มรรยาทอ่อน รับบท อาร์ตี้
มิณฑิตา วัฒนกุล รับบท ตรีชฎา
สาวิตรี สุทธิชานนท์ รับบท จันท์หอม
วิศิษฐ์ ยุตติยงค์ รับบท ทศ
พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ รับบท กุสุมา
ฐษชัย ชนะอรรถกาล รับบท เพชร
จรรยา ธนาสว่างกุล รับบท ยุพา

ดาวเรือง

จินตวัฒน์ หรือ จิ๋น (ทฤษฎี สหวงษ์) ปลัดหนุ่มไฟแรง ลูกของ จันทรา (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) และพี่ชายของ จุลมณี หรือ โจ๋ง (ณัชรัชร์ พิพัฒน์ไชยศิริ) ถูกส่งตัวไปเป็นปลัดที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่เรียนจบใหม่จึงไฟแรง บอกกับจันทราว่าหมายมั่นปั้นมือจะไปพัฒนาหมู่บ้าน ด้วยกำลังและวิชาที่ได้ร่ำเรียนมา โดยหารู้ไม่ว่าส่งที่จะเจอภายหน้านั้น ไม่ว่าจะพลกตำราจากสถาบันไหน ก็หาได้แก้ไขเรื่องราวอันวุ่นวายของหมู่บ้านนี้ได้
 
นายกำจร (วิชัย จงประสิทธิพร) เป็นคนขับรถอาสาพาปลัดหนุ่มหน้าละอ่อน ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านจนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านกำนัน (ไกรลาศ เกรียงไกร) หรือบ้านผู้ใหญ่ผัน (สันติสุข พรหมศิริ) ที่วัน ๆ นอกจากจะตีไก่แล้ว ยังต้องดูแลเมีย ณ ตอนนี้ ที่มีอยู่ถึงเก้าคน เป็นอันว่าทุกข์ร้อนของชาวบ้านไม่ต้องสนใจ แค่เรื่องในมุ้งก็ยุ่งพอทน ผู้ใหญ่มีลูกชายอยู่หนึ่งคนชื่อว่า นายสุวรรณมาลี หรือ วรรณ (สรวิชญ์ สุบุญ) ออกจากกองปราบ (ศัตรูพืช) มาเป็นนายร้อย (กองควาย) รับจ้างตามหาควายหายหรือไม่ก็ขโมยควายเสียเอง เรื่องราวแปลก ๆ ของหมู่บ้านนี้ยังไม่มีเท่านั้น นายกำจรยังบอกอีกว่า หากจินตวัฒน์ต้องการจะพัฒนาหมู่บ้านนี้ ทางที่ดีต้องพัฒนาบ้านไอ้เรืองก่อน
 
ดาวเรือง หรือ ไอ้เรือง (อุรัสยา เสปอร์บันด์) หากินสารพัดเพื่อเลี้ยงดู บานชื่น (จินตรา สุขพัฒน์) ผู้เป็นแม่ และส่งเสียพี่ชายคนเดียว พฤกษ์ (สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล) ที่ร่ำเรียนจนใกล้จบผู้พิพากษาในเร็ววันนี้ เมื่อนายกำจรพาจินตวัฒน์มาร้านกาแฟและได้พบหน้าตาของไอ้เรืองก็ถึงกับงง กิตติศัพท์ที่ว่ามันชอบต้มเหล้าเถื่อน จนถูก จ่าแม่น เก่งหมุด (จาตุรงค์ มกจ๊ก) ไล่ตามจับเสียหลายครั้ง จนไอ้เรืองเรียกว่าจ่าแม่น เก่งมุด ซึ่งมันก็หนีรอดไปได้ทุกที ไหนจะเรื่องการพนัน ทั้งไพ่ ไฮโล ถั่งโป สารพัด รวมอยู่ในตัวของเด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนนี้น่ะหรือ จินตวัฒน์ระวังท่าทีอยู่เสมอในการพบกันครั้งแรกกับไอ้เรือง เพราะไม่แน่ใจในคำโพนทะนาของนายกำจร ว่าจริงเท็จแค่ไหน จนทำให้ไอ้เรืองนึกขันในใจว่าผู้ชายคนนี้น่ะหรือที่จะมาเป็นปลัดคนใหม่ ไอ้เรืองเลยตกลงปลงใจเรียกปลัดหน้าใหม่จอมแหยคนนี้ว่า ปลัดหน้าขี้ไก่
 
อิทธิพลของไอ้เรืองแผ่ไปทั่วหมู่บ้าน เพราะนอกจากมันจะเก่งกล้า ฉลาด มีไหวพริบสารพัด ที่สำคัญมันยังเป็นขวัญใจของไอ้วรรณ ลูกผู้ใหญ่ผัน ถึงขนาดไอ้วรรณประกาศห้ามใครแตะต้องไอ้เรืองเด็ดขาด เพราะมันหลงรักไอ้เรืองตั้งแต่เรียนประถม แต่จนบัดนี้ขาอ่อนไอ้เรืองสักนิด ไอ้วรรณก็ไม่เคยได้เห็น ซ้ำร้ายไอ้เรืองกับไอ้วรรณ ยังเป็นคู่แข่งเรื่องขายเหล้าเถื่อนกันอีกต่างหาก จินตวัฒน์หาทางจับไอ้เรืองต้มเหล้าเถื่อนให้ได้ แต่สุดท้าย นอกจากจินตวัฒน์จะถูกไอ้เรืองตีหัวจนแตกแล้ว ไอ้เรืองยังแบกไหเหล้าหนีหายไปกับไอ้เพี้ยน (ด.ช.ยูโร ก้องภพฐิตารีย์) สมุนมือหนึ่งของไอ้เรือง ต่อหน้าจินตวัฒน์อีกด้วย
 
จินตวัฒน์ เริ่มกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้านด้วยการจัดงานวัด โดยให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างสะพาน และขนดินเข้ามาสร้างถนนเข้าวัด ซึ่งการละเล่นต่าง ๆ ภายในงานก็ยังหนีไม่พ้นการพนันขันต่อเหมือนเดิม ไอ้เรืองกับไอ้วรรณพนันกันเรื่องแข่งขี่ม้า หากไอ้เรืองชนะ นอกจากได้เงินหนึ่งพันบาทแล้ว ไอ้วรรณยังต้องให้ไอ้เรืองขี่คอแห่ทั่วหมู่บ้านอีกต่างหาก หากไอ้เรืองแพ้ต้องให้ไอ้วรรณหอมหนึ่งที การแข่งขันขี่ม้าของไอ้วรรณกับไอ้เรือง มีชาวบ้านแห่มาดูกันแน่นวัด โดยมีแม่บานชื่นตั้งตัวเป็นเจ้ามือคอยรับแทงพนันกันอย่างเปิดเผย ผลสุดท้ายไอ้เรืองเป็นผู้กรำชัย ไอ้วรรณทั้งเสียใจ เสียเงินและเสียหน้า แต่พอนึกได้ว่าจะมีโอกาสใกล้ชิดโดยให้ไอ้เรืองขี่คอรอบหมู่บ้านมันก็ถึงกับหายเศร้า เพราะงานนี้แหละมันจะได้เห็นขาอ่อนไอ้เรืองสักที จินตวัฒน์ไม่ชอบใจนักที่ไอ้เรืองเสียเปรียบไอ้วรรณในข้อนี้ สุดท้ายไอ้เรืองจึงให้แม่บานชื่นขี่คอไอ้วรรณแทน สร้างความผิดหวังให้กับไอ้วรรณเป็นอย่างมาก
 
ไอ้วรรณคิดแก้แค้นไอ้เรือง ด้วยการไปหาฤกษ์ฉุดไอ้เรืองกับอดีต หลวงตาคง (อนันต์ บุญนาค) พี่ชายแท้ ๆ ของผู้ใหญ่ผันที่สึกออกมาจากผ้าเหลืองแล้วตั้งตนเป็นพ่อหมอประจำหมู่บ้าน เรื่องจึงถึงหูไอ้เรืองจนได้ สุดท้ายคนที่ไอ้วรรณจับใส่กระสอบ หวังจะได้เข้าห้องหอด้วย ก็เลยเป็น แม่ไหว หมอตำแยประจำหมู่บ้านที่อายุรุ่นราวคราวแม่ไอ้วรรณนั่นเองตามแผนของไอ้เรือง ไอ้วรรณคิดไม่ตกเรื่องแม่ไหว สุดท้ายจึงหลอกผู้ใหญ่ผันมาเข้าห้องหอแทน เป็นอันว่าสมญานามผู้ใหญ่ผันเมียสิบ ก็มาได้ด้วยเหตุอันนี้เอง
 
ไอ้เรืองยังหาทางแก้แค้นไอ้วรรณไม่เลิก เรื่องที่วางแผนจะฉุดตน จึงชวนจินตวัฒน์ไปเผาไร่กัญชาของไอ้วรรณ ขากลับนอกจากต้องวิ่งหนีลูกปืนของลูกน้องไอ้วรรณแล้ว ไอ้เรืองยังแหย่เอารูงูจงอางเข้าจนไอ้เรืองกับจินตวัฒน์ต้องโกยกันแทบไม่ทัน จินตวัฒน์รู้สึกสนุกไม่น้อยที่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้าน รวมทั้งแง่คิดของไอ้เรืองมากขึ้น เขาเริ่มเอ็นดูไอ้เรืองทีละนิด ทั้งยังอดคิดไม่ได้ว่า หากน้องสาวของเขาได้มาพบกับไอ้เรือง ต้องมาสมัครเป็นลูกน้องต้มเหล้าเถื่อนขายด้วยกันแน่แท้
 
กำนันเทิ้มถูกงูกัดตายอย่างกะทันหัน เหตุนี้เองจึงต้องมีการเลือกตั้งกำนันขึ้นมาใหม่ ไอ้วรรณเดินเครื่องสนับสนุนผู้เป็นพ่ออย่างเต็มที่ เพื่อที่จะได้เป็นกำนัน ส่วนไอ้เรืองก็ถือหางอดีตหลวงตาคง พี่ชายร่วมสายเลือดเดียวกับผู้ใหญ่ ขึ้นเป็นคู่แข่งในการเลือกตั้ง ไอ้วรรณต้องใช้เงินจำนวนมากในการจัดงานทั้งฉายหนัง มีดนตรี เพื่อหาเสียงให้พ่อ ส่วนไอ้เรืองก็ใช้กลยุทธ์การเป็นนักเทศน์เก่าของหลวงตาคง หาเสียงแบบเงียบ ๆ เรียกคะแนนสงสารได้ไม่น้อย ไอ้เรืองดูผลกับจินตวัฒน์ในการส่งหลวงตาคงเป็นคู่แข่ง ว่าถึงแม้จะแพ้คะแนนผู้ใหญ่ผัน แต่ก็อยากให้มีคนมาทัดทานอำนาจของผู้ใหญ่ผันเอาไว้บ้าง เพราะหากผู้ใหญ่ผันได้เป็นกำนันแล้วเอื้อประโยชน์ให้กับบรรดาญาติ ๆ ของเมียทั้งสิบคน มีหรือความสุขสบายจะตกถึงมือลูกบ้าน ไอ้เรืองจึงออกอุบายเรื่องทรงเจ้าเข้าผีให้ผู้ใหญ่ผันสาบานว่า หากได้เป็นกำนันจะไม่โกงกิน มิเช่นนั้นจะต้องมีอันเป็นไป ในสามวันเจ็ดวัน จินตวัฒน์ทึ่งไม่น้อยในความคิดความอ่านของไอ้เรือง ว่าความเฉลียวฉลาดนั้นไม่มีใครเกิน ซึ่งสุดท้ายผู้ใหญ่ผันก็ได้เลื่อนขั้นเป็นกำนันผัน ดังความฝันของไอ้วรรณ ลูกกำนันผันเมียสิบ
 
ไอ้เรืองเริ่มแวะเวียนมาหาปลัดบ่อยขึ้น ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน เสมือนปลัดเป็นเพื่อนเล่นคนหนึ่ง ถึงแม้ไอ้เรืองจะเริ่มจับสังเกตได้ว่าแววตาที่จินตวัฒน์มองมานั้น มีความนัยอะไรอยู่ลึก ๆ แต่ไอ้เรืองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซ้ำยังกระซิบบอกปลัดอีกว่า พวกตัดไม้ทำลายป่า กำลังเลื่อยไม้อยู่ในป่าทั้งวันทั้งคืน แต่ตนไม่สามารถเป็นกำลังให้ปลัดได้ในงานนี้ เหตุเพราะว่าไอ้เรืองรู้จักดีอยู่กับพวกคนขับรถลากซุง จึงแนะให้ปลัดไปขอความช่วยเหลือจากไอ้วรรณ เพราะมันมีลูกน้องเยอะและชำนาญทางในป่าเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เองอีกไม่กี่วันต่อมา จินตวัฒน์ ไอ้วรรณพร้อมด้วยลูกสมุน จ่าแม่น นายอำเภอ ผู้กำกับ พร้อมด้วยตำรวจอีกมาก จึงเดินทางเข้าป่าตามคำแนะนำของไอ้เรือง เพื่อไปจับพวกค้าไม้ ไอ้เรืองนั่งแทบไม่ติด เพราะงานนี้ตัวเองไม่ได้เป็นแกนนำเหมือนดั่งเคย แม่บานชื่นไม่เข้าใจว่าที่ไอ้เรืองกระวนกระวายนั้น ห่วงไอ้วรรณจะพลาดพลั้งถูกยิง เพราะตัวนั้นแนะนำให้ไอ้วรรณนำทีมทุกคนไป หรือว่าห่วงปลัดหน้าขี้ไก่ของไอ้เรืองกันแน่
 
ผลสุดท้ายก็คือมีการปะทะกันในป่าอย่างดุเดือด จนข่าวหนังสือพิมพ์ลงกันให้ครึกโครม พวกคนร้ายถูกตำรวจจับได้ในที่สุด จินตวัฒน์ถูกยิงแค่เฉียดไป แต่กระนั้น ไอ้เรืองก็รู้สึกผิดไม่น้อย เพราะครั้งที่แล้วก็ตีหัวจินตวัฒน์แตก มาครั้งนี้ยังส่งตัวปลัดไปเสี่ยงอีก ส่วนไอ้วรรณก็เช่นกัน ต้องไปหยอดน้ำข้าวต้มเสียที่โรงพยาบาลหลายวัน แต่พอไอ้เรืองลงทุนไปเยี่ยมไอ้วรรณที่โรงพยาบาลเท่านั้น ก็ทำเอาไอ้วรรณปลื้มจนลืมตาย คุยฟุ้งทั้งโรงพยาบาลว่าไอ้เรืองเป็นแฟนมาเยี่ยม
 
พฤกษ์ เรียนจบกลับมาบ้าน บานชื่นกับไอ้เรืองดีใจไม่น้อย แต่พฤกษ์เองกลับเสียใจที่ปล่อยให้ไอ้เรืองต้องกลายเป็นนักเลงหัวไม้ ทำเรื่องผิดกฎหมายอยู่หลายประเภท เพื่อหาเงินส่งเสียเขาจนเรียนจบ พฤกษ์จึงขอร้องให้ไอ้เรืองเลิกทำตัวแบบนี้แล้วไปเรียนต่อสักที แถมพฤกษ์นั้นก็รู้จักกับจินตวัฒน์ เหตุที่พฤกษ์เป็นนักเรียนรุ่นน้องของจินตวัฒน์นั่นเอง
 
พวกคนงานในป่าที่หลุดรอดไปด้อม ๆ มอง ๆ ที่บ้านปลัดอยู่หลายวัน จนไอ้เรืองเริ่มสังเกตได้ว่าจินตวัฒน์จะมีภัย จึงไปเตือนจินตวัฒน์ที่บ้านพัก พร้อมทั้งชวนไอ้วรรณหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อคุ้มกันปลัด แล้วคืนนั้นคนร้ายก็ลงมือจริง ๆ ไอ้เรืองกับไอ้วรรณช่วยจินตวัฒน์ยิงคนร้าย แถมยังซัดทอดไปถึงหัวหน้าแก๊งรวบจับได้ทั้งทีม โดยความดีความชอบครั้งนี้ไอ้เรืองยกให้ไอ้วรรณรับไปเต็ม ๆ เพราะตนเองนั้นไม่อยากเปิดเผยตัว สุดท้ายนายอำเภอกับผู้กำกับบอกความลับให้จินตวัฒน์ได้รู้ว่า ดาวเรืองนั้นเป็นสายของตำรวจ เหตุที่จ่าแม่น เก่งมุด แกล้งทำเป็นจับไอ้เรืองขึ้นโรงพักนั้น ก็เพื่อต้องการนำตัวไอ้เรืองมาที่โรงพัก แล้วคุยเรื่องงานสายลับต่างหาก จินตวัฒน์รู้สึกว่าตัวเองนั้นรู้ไม่เท่าทันดาวเรืองสักที งานนี้ก็เช่นกันไอ้เรืองหวังจะให้จินตวัฒน์เข้าไปจับผู้ร้ายในป่าเพื่อให้เขาได้ความดีความชอบในการทำงานนั่นเอง
 
จินตวัฒน์ตามไปถามความจริงทุกอย่างด้วยตนเองกับไอ้เรือง ซ้ำยังบอกอีกว่าจะให้ตนเองบวชหรือแต่งงานก่อน เป็นคำถามหยั่งเชิงกับไอ้เรือง ซึ่งไอ้เรืองก็ทำเป็นไม่รับรู้ในสิ่งที่ได้ยิน เรื่องหัวใจของไอ้เรืองกับจินตวัฒน์ยังคาราคาซัง ไอ้วรรณก็ขอร้องให้ปลัดตอบแทนคุณงามความดีเรื่องที่ช่วยชีวิตพร้อมทั้งพาไปจับผู้ร้าย ด้วยการให้ปลัดเป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอไอ้เรือง นอกจากจินตวัฒน์จะอึ้งกิมกี่ไป ไอ้เรืองก็ผิดหวังเช่นกัน ด้วยความโกรธ ไอ้เรืองจึงบอกว่าหากพานายกฯ มาขอได้ ก็จะยอมแต่งให้ชาติหน้า ไอ้วรรณเสียอกเสียใจเพราะยังไงก็ไม่สามารถหานายกฯ มาสู่ขอไอ้เรืองได้แน่นอน สุดท้ายจึงยอมทำใจบอกกับไอ้เรืองว่าจะขออยู่เป็นโสดไปจนตายพร้อมกับไอ้เรืองนั่นเอง
 
เหนือฟ้ายังมีฟ้า หลายเพลาผ่านไปจินตวัฒน์ก็พานายกสมาคมศพไม่มีญาติพร้อมผู้กำกับ นายอำเภอ หลวงตาคง มาสู่ขอไอ้เรือง ไอ้เรืองหมดท่าเพราะตอนที่ลั่นวาจาไปนั้นไม่ได้บอกว่าเป็นนายกอะไร แถมหลวงตาคงยังบอกอีกว่า คำว่าชาติหน้านั้น คำพระถือว่า นอนหลับแล้วตื่นขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นอีกชาติหนึ่งแล้ว สุดท้ายไอ้เรืองจึงยอมจำนนปลัดหน้าขี้ไก่ด้วยประการฉะนี้
 
จันทรากับโจ๋ง เตรียมตัวแทบไม่ทัน หลังจากได้รับจดหมายจากจินตวัฒน์เรื่องที่จะให้แม่ไปดูหน้าลูกสะใภ้ที่ชื่อดาวเรือง ชาวบ้านลือกันไปหลายคุ้งน้ำว่า ปลัดจินตวัฒน์ ควงสาวสวยมาโชว์ทั้งตลาด ซ้ำไอ้วรรณก็ยังยืนยันหนักแน่นว่าเห็นมากับตา ลมเพชรหึงขึ้นหน้าไอ้เรือง ถึงขนาดร่อนไปที่บ้านปลัดพร้อมไอ้วรรณแทบไม่ทัน ครั้นรู้ว่าสาวสวยคนนั้นคือ โจ๋ง น้องสาวของปลัดจินตวัฒน์ ก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ จันทราเกลี้ยกล่อมดาวเรืองไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน หากจินตวัฒน์ต้องย้ายไปประจำยังจังหวัดต่าง ๆ โดยมีอุบายขอดาวเรืองไปเป็นลูก ดาวเรืองได้ทีคิดว่าครั้งนี้รอดน้ำมือจินตวัฒน์เป็นแน่แท้จึงตกลงรับคำ เพราะคนเป็นพี่น้องจะแต่งงานกันมิได้ แต่สุดท้ายจันทราก็บอกกับบานชื่นว่า จะขอไปเป็นลูกสะใภ้ นั่นแหละเป็นอันว่าไอ้เรืองเสียรู้แม่ของปลัดหน้าขี้ไก่แล้วนั่นเอง
 
ในวันแต่งงานของดาวเรือง แม่ไหวเมียสิบของกำนันผันก็อาสามาเป็นเพื่อนเจ้าสาวโดยไม่ต้องเชิญ เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ไอ้เรืองทำให้ตนนั้นได้เป็นเมียกำนันผัน ส่วนไอ้วรรณ แขกคนสำคัญก็มาทั้งน้ำตา พร้อมทั้งแจ้งตำรวจให้จับไอ้เรืองที่ใช้เหล้าเถื่อนเลี้ยงแขกในงาน หวังจะให้เวลาส่งตัวเข้าหอระหว่างไอ้เรืองกับปลัดจินตวัฒน์ยืดออกไปอีก แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม วันเวลาผ่านไป ไอ้เรืองก็หาทางแก้ลำปลัดหน้าขี้ไก่เรื่อยไป ถึงขนาดมีข่าวลือว่าปลัดที่นี่ชื่อดาวเรือง ส่วนเมียปลัดชื่อจินตวัฒน์ ที่สำคัญเด็กสาวตาแป๋วที่ชื่อรุ่ง ทายาทของไอ้เรือง มีแววว่าจะเป็นผู้นำหมู่บ้านสืบสายเลือดผู้เป็นแม่อย่างแน่นอน ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครดาวเรือง ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครดาวเรือง
 
รายชื่อนักแสดงนำใน ละครดาวเรือง
 
ทฤษฎี สหวงษ์ รับบท ปลัดจินตวัฒน์
อุรัสยา เสปอร์บันต์ รับบท ดาวเรือง ใน ละคร ดาวเรือง
สรวิชญ์ สุบุญ รับบท สุวรรณ ใน ละคร ดาวเรือง
มณีรัตน์ คำอ้วน รับบท เสมอใจ ใน ละคร ดาวเรือง
พิตต้า ณ พัทลุง รับบท สุดาวดี ใน ละคร ดาวเรือง
สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล รับบท พฤกษ์ ใน ละคร ดาวเรือง
จินตหรา สุขพัฒน์ รับบท บานชื่น ใน ละคร ดาวเรือง
สันติสุข พรหมศิริ รับบท ผู้ใหญ่ผัน ใน ละคร ดาวเรือง
ผอูน จัทรศิริ รับบท เวียง ใน ละคร ดาวเรือง
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ รับบท เสี่ยกำพล ใน ละคร ดาวเรือง
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท จันทรา ใน ละคร ดาวเรือง
อนันต์ บุญนาค รับบท หลวงตาคง ใน ละคร ดาวเรือง
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท ไสว ใน ละคร ดาวเรือง
จาตุรงค์ มกจ๊ก รับบท จ่าแม่น ใน ละคร ดาวเรือง
จอย ชวนชื่น รับบท บุญปลีก ใน ละคร ดาวเรือง
ปาจรีย์ ณ ระนอง รับบท บุญปลอด ใน ละคร ดาวเรือง
ณัชภัชร์ พิพัฒน์ไชยศิริ รับบท จุลมณี ใน ละคร ดาวเรือง
ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ รับบท น้ำหวาน ใน ละคร ดาวเรือง
วิวัฒน์ ประสมทรัพย์ รับบท นายอำเภอไพศาล ใน ละคร ดาวเรือง
อุทุมพร ศิลาพันธ์ รับบท คุณนายฤดี ใน ละคร ดาวเรือง
ศานติ สันติเวชกุล รับบท ผู้กำกับสันติสุข ใน ละคร ดาวเรือง
กล้วย เชิญยิ้ม รับบท พระครูจ้อย ใน ละคร ดาวเรือง
วิชัย จงประสิทธิพร รับบท กำจร ใน ละคร ดาวเรือง
ไกรลาศ เกรียงไกร รับบท กำนันทิ้ม ใน ละคร ดาวเรือง
แจ็ค แฟนฉัน รับบท แหลม ใน ละคร ดาวเรือง
ปราโมทช์ เทียนชัยเกิดศิลป์ รับบท กรอด ใน ละคร ดาวเรือง
ด.ช.ยูโร ก้องภพฐิตารีย์ รับบท เพี้ยน ใน ละคร ดาวเรือง