Category Archives: ละครปี 2547

เก่งไม่เก่งไม่เกี่ยว

ในช่วงเปิดเทอมของทุกปี แป๋ง มีภารกิจต้องเข้าบ่อน ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ชอบเล่นการพนัน แต่ต้องการหาเงินมาช่วยเด็กด้อยโอกาส ในชุมชนที่อยู่ในความดูแลของครูสายใจผู้เป็นแม่ โดยทุกอย่างทำไปอย่างลับๆ ครูสายใจอยากได้ที่ทำโรงเรียนให้เด็กแต่ก็เป็นได้แค่ความหวังอันเลื่อนลอย ไม่เหมือนบ่อนที่มีอยู่มากมายทั้งเล็กทั้งใหญ่ ครูสายใจเกลียดบ่อน เกลียดการพนันทุกชนิด โดยเฉพาะ “บ่อนสี่มุมเมือง” เกลียดโดยที่ไม่สามารถอธิบายให้แป๋งเข้าใจได้ แต่วันหนึ่งก็มีเหตุจำเป็นให้แป๋งต้องเดินเข้าบ่อนแห่งนี้ด้วยเหตุผลเพื่อช่วยราชการและเรื่องราวความวุ่นวายก็เลยเกิดขึ้น

เดือนเมษายน ของทุกปี แป๋ง (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) กับหมูยอ (ลีโอ พุฒ) คู่หูวินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอยชุมชนน้ำใสใจดี มีภารกิจสำคัญคือเข้าบ่อน เพื่อใช้พรสวรรค์เรื่องโชคหาเงินจากบ่อน… สิ่งเหล่านี้แป๋งได้มาจากสายเลือดนักพนันผู้เป็นพ่อ “เซียนพนันพันมือ” (สันติสุข พรหมศิริ) และก็ได้ผลเสมอมาอย่างหาตัวจับได้ยาก เหตุผลที่แป๋งทำก็เพราะต้องการช่วยหาเงินค่าเทอมให้กับเด็กๆ ที่เรียนดีแต่ด้อยโอกาสในชุมชน ในความดูแลของครูสายใจ (ดวงใจ หทัยกาญจน์) แม่ของแป๋งและครูผู้ช่วยอย่าง แดงน้อย (พุ?ธชาด พงษ์สุชาติ) สิ่งที่แป๋งคิดอยู่ในหัวตลอดก็คือ “บ่อนในประเทศมีเยอะแยะมากมาย ถ้าเปลี่ยนบ่อนให้เป็นโรงเรียนได้ ประเทศชาติจะเจริญกว่านี้อีกเยอะ” แต่เมื่อโดนถามว่าจะไปไหน แป๋งจะตอบว่าไปบ่อน ไปฟอกเงินและในครั้งนี้ก็เหมือนกับทุกครั้ง แป๋งกับหมูยอก็เดินเข้าไปในบ่อน จังหวะที่แป๋งกับคู่หูหมูยอกำลังดวงขึ้นแป๋งก็ได้ยินเสียงคนคุม บ่อนคุยกันถึงเรื่องจะจัดการกับสายตำรวจคนนึงที่ปะปนเข้ามาทำทีเป็นขาพนัน เขารีบหาวิธีหนีเอาตัวรอด เป็นจังหวะที่แป๋งหลบหนีออกไปพร้อมกับตำรวจหนุ่มชื่อ แมน (ศินะ แพทย์รัตน์) โดนที่แป๋งไม่ลืมสั่งให้หมูยอโกยเงินมาให้หมด ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งของใจกลางกรุงเทพฯ

พิม หรือพิมพ์มาดา (รามาวดี สิริสุขะ) ทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง ไม่เหมือน พัช ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพ่อ พี่ชายคนเดียวของพิม เธอน้อยใจ สับสนกับความรู้สึกที่พ่อมีต่อเธอ ซึ่งไม่เหมือนตอนที่แม่ยังอยู่ เธอไม่เคยรู้สึกว่าขาดความรักเลย ด้วยเพราะพ่อซึ่งมีเชื่อแบบจีนแท้ๆ ที่ใส่ใจแต่พัชด้วยหวังจะให้สืบทอดกิจการ พิมขับรถออกมาอย่างไม่มีจุดหมายเพื่อหนีปัญหา ด้วยความใจลอย ทำให้เธอเกือบเฉี่ยวครูสายใจ และหักหลบลงคูน้ำข้างทาง รถจมอยู่ในน้ำครึ่งคัน ครูสายใจเห็นแล้วสงสารเลยพามาเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำแผลที่บ้าน พิมประทับใจและรู้สึกแปลกๆ ต่อครูสายใจ เพราะตั้งแต่แม่ตายจากไปความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับพิม ด้าน แป๋ง หมูยอ และหมวดแมนสังเกตเห็นความเฉลียวฉลาดและความเจ้าเล่ห์ในตัวแป๋ง ทุกอย่างน่าจะราบรื่นถ้าหมูยอไม่อวดฉลาดคว้าเอาชิบในบ่อนออกมาแทนที่จะเป็นเงิน แป๋งกุมขมับ..และคิดลงมือหา เงินใหม่ แป๋งกลับมาถึงบ้านและเจอพิมเข้า ตอนแรกนึกว่าเข้าบ้านผิดแต่ดูยังไงๆ ก็เป็นบ้านแป๋งอยู่ดี จะแปลกก็ตรงที่มีผู้หญิงมาอยู่ในห้องนี่แหละ หัวใจแป๋งก็เต้นไม่เป็นส่ำ เพราะความสวยของพิม แต่เขาก็ไม่กล้าพูดไม่รู้เพราะอะไร

ครูสายใจบ่นกับแป๋งว่าทำไมปีนี้มูลนิธิที่เคยช่วยยังไม่ส่งเงินค่าเทอมมาให้เด็กๆ อีก แป๋งอึกอักเพราะจริงๆ แล้วทุกอย่างแป๋งอยู่เบื้องหลังแป๋งปกปิดเรื่องเข้าบ่อนเพราะแม่ไม่ชอบ และแม่ก็บอกกับแป๋งเสมอๆ ว่า “บ่อนเป็นสิ่งไม่ดี และพ่อของแป๋งก็ตายในบ่อน” ในที่สุดแป๋งกับหมูยอก็ ตัดสินใจใช้วิธีเดิม คือบ่อน แต่แป๋งต้องเปลี่ยนไปยังบ่อนที่ใหญ่ขึ้น ความเสี่ยงสูงขึ้น ทำให้แป๋งกับหมูยอต้องวางแผนกันเป็นอย่างดีเพื่อความเนียน

ความประทับใจระหว่างพิมกับครูสายใจในเรื่องโรงเรียนสอนเด็กในชุมชน พิมเอาเรื่องท่เกิดขึ้นไปเล่าให้พ่อฟัง แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้ามพ่อมองว่าเหลวไหล ซึ่งก็เป็นแรงผลักดันให้พิมลุกขึ้นสู้ เพื่อที่จะแสดงให้พ่อเห็นว่าเธอทำได้ ในขณะที่พิมอยากจะออกงานสังคมที่เพียบพร้อมไปด้วยเงินทอง แต่ เมย์ (คทรีนา กลอส) นักศึกษาสาวลูกป้าส้มเจ้าของร้านขายข้าวแกง กลับอยากที่จะไปอยู่ในสังคมไฮโซเพราะความทะเยอทะยาน เมย์ฝันเพียงแค่อยากแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหรูๆ ใช้ของราคาแพง

เมย์ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอจน เธอรังเกียจสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเธอรวมทั้งแม่ด้วย นั่นทำให้เมย์ไม่เป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านโดยเฉพาะครูแดงน้อย ยกเว้นหมูยอที่หลงรักเมย์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แล้ววันหนึ่งเมย์ก็พลาดท่าขายตัวให้กับเสี่ยคนหนึ่ง เพียงแค่แลกกับของหรูหราราคาแพง เมย์ติดโรคและคนที่เข้ามาช่วยเหลือเมย์ก็คือแดงน้อย แดงน้อยสอนเมย์ให้รู้จักโลกอีกด้านหนึ่งซึ่งมีแต่สิ่งที่ดีงามกว่า ส่วนหมูยอ เมย์ก็ได้เห็นความจริงใจที่หมูยอมีให้ แต่เมย์ก็รับหมูยอได้แค่เพื่อนเท่านั้น

งานอดิเรกอย่างหนึ่งของแป๋งกับหมูยอ ก็คือการไปร่วมเล่นไพ่ตองกับคนแก่ในชุมชน ที่มีขาประจำอย่าง ป้าเอียด ป้าแต๊ว ลุงทอง เพื่อนซี้ต่างวัยของแป๋ง เขามักแกล้งเล่นแพ้เพื่อให้คนแก่เหล่านั้นได้เงิน และไม่ใช่แค่คนแก่เท่านั้นที่เรียกร้องให้แป๋งเล่นด้วย ยังมี เฮียหมง(ซูโม่ เป๊บซี่) นักเลง ประจำซอยที่ชอบรีดไถเงินจากชุมชน ทางด้านพิมก็อยากจะทำตัวให้มีประโยชน์กับชุมชน แดงน้อยเสนอให้พิมมาช่วยสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ แค่วันแรกของการเป็นครูฝึกสอน เด็กๆ ก็ติดกันเกรียว ชื่อเสียงของพิมเลื่องลือระบือไกลจนไปเข้าหูเฮียหมง ทันทีที่เฮียหมงเจอพิมก็ตกหลุมรักในทันที เฮียหมงพยายามทำตัวเป็นคนดีเพื่อพิม และเสนอหน้ามาขอนั่งเรียนด้วย

ด้านแป๋งยังคงไม่กล้าพูดกับพิมแต่แอบซ้อมทำเป็นทักทายหน้ากระจก จนกระทั่งวันหนึ่งแป๋งเห็นชายหนุ่ม หน้าตาดีมารับมาส่งพิม ด้วยแรงหึงทำให้แป๋งพลั้งปากกระแหนะกระแหนพิมออกไป ด้วยความหัวเสียบวกที่ไม่ได้พิมมาเป็ยเมียซะที ทำให้เฮียหมงวางแผนฉุดพิม แต่ แป๋ง หมูยอและชาวบ้านมาช่วยพิมได้ทันก่อนที่จะเสียตัว

เรื่องไม่ได้หมดแค่นั้น เมื่อครูสายใจถูกรถชนอาการสาหัส ตั้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก พิมเอาเงินค่ารักษาครูสายใจมาให้แป๋งในเบื้องต้น แต่ความซวยก็มาเยือนแป๋งกับหมูยอ เมื่อศัตรูจากบ่อนเก่าเจอและจำได้ว่าแป๋งคือคนที่ร่วมก่อปัญหาในบ่อน ทั้งคู่ตกในที่นั่งลำบากแต่ด้วยความฉลาดของแป๋ง แป๋งลากหมูยอเข้าโรงพักมอบตัวให้ตำรวจในข้อหาลักทรัพย์ (แจ้งความเท็จ) เพื่อหนีพวกมาเฟีย ขณะเดียวกันหมวดแมน….ก็กำลังจะถูกปลดเพราะผลงานไม่เข้าตา หมวดแมนออกมาเจอแป๋งกับหมูยอ เขารีบเข้าไปยื่นข้อเสนอการเป็นสายให้ตำรวจกับแป๋ง 2 คู่หูปฏิเสธทันทีเพราะไม่อยากยุ่งกับพวกสีกากี ไม่ว่าหมวดแมนจะพูดยังไงแป๋งก็ไม่ยอม ด้านครูสายใจอาการทรุดหนักต้องผ่าตัดอีก

แต่ครั้งนี้ต้องใช้เงินมากกว่าครั้งแรก แป๋งตัดสินใจเป็นสายให้หมวดแมน และแล้วภารกิจสายสืบก็เริ่มขึ้น โดยเริ่มเรื่องจากบ่อนสี่มุมเมือง บ่อนสี่แห่งของเจ้าพ่อกระจับทอง แป๋งไม่ได้ทำให้หมวดแมนผิดหวังเพราะข้อมูลที่เขาสืบมาได้ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น หมวดแมนคิดหนักถึงวิธีที่จะผ่านเข้าไปในบ่อนวิธีที่ดูจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ ปลอมตัวแป๋งและหมูยอเป็นนักธุรกิจ แป๋งขอร้องให้พิมช่วยปลอมตัวเป็นเลขาเพราะพิมพูดภาษาอังกฤษคล่อง ส่วนหมูยอเป็นบอดี้การ์ด แป๋งรายงานความคืบหน้า หมวดแมนวางกำลังตำรวจเข้าจับกุมบ่อนที่หนึ่ง แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะเจ้าพ่อกระจับทองไหวตัวทัน เมื่อครั้งนี้พลาด แต่ไม่ต้องห่วง เพราะแป๋งมีแผน “ในเมื่อกฏหมายทำอะไรมันไม่ได้ แต่ลูแป๋งคนนี้ทำได้”

แผนของแป๋งก็ คือการทำให้เจ้าพ่อกระจับทองหมดตัว และแผนนี้ลูแป๋งพลาดไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว การปฏิบัติภารกิจของแป๋งดำเนินมาจนถึงบ่อนสุดท้าย นั่นก็คือ “บ่อนกระจับทอง” บ่อนยักษ์ใหญ่ที่มีเงินทุนหนาที่สุด แป๋ง หมูยอ พิม เข้าไปในบ่อนพร้อมกับฝากคำท้าทายไปถึงเจ้าพ่อกระจับทอง ว่าถ้าไม่อยาก ให้บ่อนฉิบหายเป็นแห่งที่สี่ก็ให้ออกมา แต่ด้วยความเก๋าของเจ้าพ่อกระจับทอง จึงส่งตัวแทนออกมาดูฝีไม้ลายมือแป๋งถึงสองคน แต่ทั้งสองคนก็ต้องพ่ายแป๋งราบคาบ เจ้าพ่อกระจับทองตัวจริงจึงโผล่ออกมา แป๋งจะเล่นชนะเจ้าพ่อกระจับทองและทำในสิ่งที่เขาหวังมาทั้งชีวิตได้หรือไม่ แล้วชีวิตของแป๋งยิ่งเรื่องความรักของเขากับคุณพิม และชุมชนน้ำใสใจดีจะเป็นอย่างไรต่อไป ติตตามได้ใน “เก่งไม่เก่ง…ไม่เกี่ยว”

รายชื่อนักแสดง เก่งไม่เก่งไม่เกี่ยว

ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับบท แป๋ง

รามาวดี สิริสุขะ รับบท พิม

ลีโอ พุฒ รับบท หมูยอ

ศิระ แพทย์รัตน์ รับบท หมวดแมน

คัทรีนา กลอส รับบท เมย์

เขยมะริกัน

เขยมะริกัน เป็นเรื่องราวของ จอร์แดน หนุ่มนักการทูตชาวอเมริกันที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับ เบ็ตตี้ แต่จอร์แดนไม่ได้รักเบ็ตตี้เลย ทำให้เขาต้องหนีไปใช้ชีวิตที่เมืองไทย โดยมี เคน คนขับรถคู่ใจมาอยู่ด้วย จอร์แดนเปลี่ยนชื่อเป็น จอร์จ ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวอยู่แถวถนนข้าวสาร เขาโดนไกด์หลอกเอาเงินไปจนหมดตัว จอร์จได้เจอกับ สนอง คนขับรถ 3 ล้อซึ่งกำลังถูกเจ้าหนี้ทำร้ายจึงเข้าไปช่วย สนองตอบแทนความมีน้ำใจโดยให้จอร์จและเคนไปอยู่ด้วยกัน สมจิตร เมียของสนองหางานรับจ้างขับ 3 ล้อในตลาดให้ทั้งสองทำโดยมี รัมภา เป็นเจ้าของคิว เมื่อแรกเห็นรัมภาก็หลงรักจอร์จเข้าซะแล้ว

คุณนายเนื้อทอง เจ้าของตลาดมหารวย ที่จอร์จและเคนทำงานอยู่นั้นเป็นเจ้าของบ้านเช่าและปล่อยเงินกู้ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดกู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยสูง โดยมีลูกสาว 2 คน คือ กุศลิน หรือ เดือน และกวินทรา หรือ ดาว ลูกสาวทั้งสองคอยเก็บค่าดอกเบี้ย จอร์จและเคนเป็นคนมีน้ำใจและขยันขันแข็ง จนเป็นขวัญใจของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ทำให้เดือนและดาวอยากจะเห็นหน้าสองหนุ่มมะกัน พอดีกับ วิมล แม่ค้าในตลาดไม่มีเงินจ่ายค่าดอกเบี้ย เพราะเป็นช่วงที่โรงเรียนของลูกเพิ่งจะเปิดเทอม ทำให้เดือนไม่พอใจและไม่ยอมให้ผลัดผ่อน จอร์จและเคนมาเห็นเข้าจึงช่วยพูดให้วิมล แต่เดือนไม่ยอมจอร์จเลยต่อว่าเดือนเป็นคนสวยใจร้าย คนในตลาดพากันชอบใจที่จอร์จต่อว่าเดือน เดือนโกรธมากจึงตบหน้าจอร์จอย่างแรง และนับตั้งแต่นั้นมาทำให้เดือนไม่ชอบหน้าจอร์จ ต่างกับดาว

บริพัฒน์ ลูกชายคนเดียวของ คุณนายส้มจีบ เจ้าของตลาดเฮงเจริญ และเป็นคู่แข่งกับคุณนายเนื้อทองแห่งตลาดมหารวยมีใจให้กับเดือน ซึ่งเดือนก็มีใจให้บริพัฒน์อยู่เหมือนกันแต่คุณนายเนื้อทอง ไม่ชอบใจ เพราะเป็นลูกชายของคู่แข่งคนสำคัญ วิมลไม่มีเงินเหลือจ่ายดอกให้กับเดือนจึงตัดสินใจถอดแหวนซึ่งตั้งใจว่าจะเอาไปจำนำเพื่อนำมารักษา กบ ลูกสาวที่กำลังไม่สบาย จอร์จรู้เรื่องเข้าจึงต่อว่าเดือนเป็นคนไม่มีน้ำใจ เดือนตบหน้าจอร์จอย่างแรงอีกครั้ง เมื่อเธอได้คิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ เดือนจึงชวนดาวไปที่ห้องเช่าของวิมล ก็พบว่าจอร์จกำลังพากบลูกสาวของวิมลไปโรงพยาบาล เดือนรู้สึกผิดจึงคืนแหวนให้กับวิมล พร้อมกับขอเป็นเจ้าของไข้ จอร์จเองรู้สึกผิดที่เขามองเดือนในแง่ลบเกินไป

วิมลแอบไปขายของในตลาดเฮงเจริญ แต่ก็โดนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่อต้าน ทำให้ครอบครัวของคุณนายเนื้อทองและคุณนายส้มจีบต้องมาประจันหน้ากัน จอร์จพยายามทำให้ทั้งสองฝ่ายปรองดองกัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ คุณนายเนื้อทอง ไม่พอใจที่ดาว พยายามช่วยให้บริพัฒน์มาพบเดือน เดือนน้อยใจจึงออกไปเดินเล่นระบายอารมณ์ แต่เธอกลับถูกพวกมิจฉาชีพทำร้าย จอร์จมาเห็นเข้าพอดีจึงช่วยไว้ทัน เดือนเริ่มประทับใจจอร์จเงียบๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สองหนุ่มมะกันร่วมมือกันพัฒนาตลาดมหารวยจนมีรายได้เพิ่ม จึงทำให้จอร์จกับเคน เป็นที่รู้จักและรักใคร่ของคนในตลาด รวมไปถึงเจ๊รัมภาที่ชักชวนจอร์จไปทำงาน และมักจะพาจอร์จไปไหนมาไหนด้วยจนจอร์จรู้ความลับของเจ๊รัมภาเกี่ยวกับงานที่ผิดกฎหมายของเธอ จอร์จพยายามสะกดรอยตามและสืบเรื่องราวจนเจ๊รัมภารู้ตัวและเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแผนของคุณนายเนื้อทอง โดยเธอสั่งให้ลูกน้องจับเดือนกับดาวไปขังไว้ที่บ้านร้าง ตลอดเวลาที่อยู่กับเจ๊รัมภา จอร์จพยายามติดต่อกับตำรวจ จนเจ๊รัมภาจับได้ว่าเป็นแผนการของจอร์จจึงจับตัวขังด้วยอีกคน เคนและพ่อค้าแม่ค้าของทั้งสองตลาดจึงรวมตัวกันเพื่อช่วยจอร์จและสองพี่น้องจนกระทั่งทุกคนปลอดภัย เจ๊รัมภากับลูกน้องถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ส่วนคุณนายเนื้อทองก็สำนึกผิดกับเรื่องราวที่ผ่านมา คุณนายเนื้อทองจัดงานฉลองและมอบโล่รางวัลพัฒนาตลาดสดให้ได้มาตรฐานแก่จอร์จและเคน พอดีอาของจอร์จมาเห็นเข้าโดยบังเอิญ เขาก็เลยต้องหนีกันจ้าละหวั่น วันต่อมามีรูปจอร์จและเคนขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทำให้พ่อกับแม่ของจอร์จรู้ว่าลูกอยู่เมืองไทย จอร์จบอกพ่อและแม่ว่าเขาหลงรักผู้หญิงไทยและแม่ของเขาก็ยอมที่ได้ลูกสะใภ้เป็นคนไทย แต่คุณนายเนื้อทองแม่ของเดือนกลับตั้งเงื่อนไขว่าจอร์จ จะต้องทำยอดขายในตลาดให้เหนือกว่าตลาด เฮงเจริญภายใน 1 เดือน เธอจึงจะยอมรับเป็นลูกเขย จอร์จพิสูจน์ตัวเองและทำสำเร็จ สุดท้ายเดือนก็ได้แต่งงาน และติดตามจอร์จไปอยู่อเมริกาในฐานะภรรยาอุปทูต ส่วนดาวและบริพัฒน์ก็เริ่มศึกษาซึ่งกันและกันอย่างจริงจัง หลังจากที่ต่างคนต่างต้องผิดหวังในความรัก

 

รายชื่อนักแสดง เขยมะริกัน 

แอนดริว เกร็กสัน รับบท จอร์แดน / จอร์จ

พรชิตา ณ สงขลา รับบท กุศลิน / เดือน

ฐนิชา ดิษยบุตร รับบท กวินทรา / ดาว

พลวัฒน์ มนูประเสริฐ รับบท บริพัฒน์

ดวงตา ตุงคมณี รับบท คุณนายเนื้อทอง

ทาริกา ธิดาทิตย์ รับบท คุณนายส้มจีบ

เศรษฐา ศิระฉายา รับบท นายไวย์

อภิรดี ภวภูตานนท์ รับบท รัมภา

ยุทธการปราบเมียน้อย

ยุทธการปราบเมียน้อย เริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวของ บุษบา นักคอลัมนิสต์ชื่อดังประจำหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ก็เป็นอีกครอบครัวที่มีอันต้องถึงกาลวินาศ เมื่อบุษบารู้ว่าสุพล สามีสุดที่รักของบุษบา แอบลักลอบได้เสียกับ สุมาลี เลขาสาวสวยหน้าห้องของตนเองมานานหลายปีดีดัก แต่เมียหลวงยุคใหม่ไหวพริบดีอย่างบุษบานั้นไม่มีวันที่จะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้โดยง่าย เธอจึงใช้วาจาอันเฉียบคมตามแบบฉบับนักข่าวปั่นหัวให้สุมาลีเชื่อว่า เธอเป็นคนยุให้สุพลไปมีเมียน้อยเอง และวิธีนี้ก็ได้ผลตามคาด เพราะเล่นเอาสุมาลีช็อคแทบบ้าและอาละวาดใส่สุพลจนได้เรื่อง แต่ความจริงแล้วหัวอกของเมียหลวงอย่างบุษบานั้นแสนจะเจ็บช้ำ เธอจึงตัดสินใจที่จะหย่าขาดกับสุพล แต่สุพลไม่ยอมและสัญญาว่าจะเลิกกับสุมาลีอย่างเด็ดขาด แต่จนแล้วจนรอดก็ทำตามสัญญาไม่สำเร็จ เพราะเวลาที่สุพลโดนบุษบาทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่เอาใจใส่ตามหน้าที่ภรรยา สุพลก็ได้สุมาลีนี่แหละที่คอยปรนนิบัติพัดวี จนทำให้สุพลรู้สึกได้ถึงความเป็นผู้นำ แต่สุดท้ายบุษบาก็สืบรู้จาก นภา พี่สะใภ้ของสุมาลีว่าทั้งสองยังคบหากันอยู่ แถมสุพลยังแอบไปซื้อทาวน์เฮ้าส์ให้สุมาลีอีกด้วย บุษบาจึงคิดแผนการขึ้นมา โดยการบีบบังคับให้เจ้าของหมู่บ้านยินยอมให้เธอเป็นคนผ่อนดาวน์บ้านจนหมด และโอนกรรมสิทธิ์ให้เป็นชื่อของเธอ จนเจ้าของหมู่บ้านต้องรีบแจ้นไปบอกสุพล สุพลจึงจัดการหลอกล่อให้สุมาลีเห็นข้อเสียของบ้านเพื่อให้อยากย้ายออกไปเอง แต่สุมาลีก็ไม่ยอม แม้ว่า พงษ์ พี่ชายแท้ ๆ ของสุมาลีอาสาจะช่วยพูดให้สุมาลีย้ายกลับมาอยู่บ้านก็ตาม แต่สุมาลีก็ไม่ยอม โดยอ้างเหตุผลที่ว่าเธอไม่ถูกกับนภา พี่สะใภ้ ที่มักจะบำเพ็ญเพียรสมาธิจนเหมือนคนบ้าขึ้นทุกที และเมื่อความลับเรื่องบ้านแตกสุมาลีรู้เรื่องที่บุษบาผ่อนดาวน์ ยิ่งทำให้สุมาลีโกรธจนระงับสติไม่อยู่ เอาไม้ฟาดรถเก๋งคันงามของสุพลจนเพื่อนๆ ของสุพลต้องรีบเข้ามาห้าม แต่สุพลอาศัยความกะล่อนโกหกบุษบาว่ารถไปชนมา แต่สุดท้ายบุษบาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของสุมาลี แต่ไม่สามารถเอาผิดกับสุมาลีได้เพราะไม่มีพยาน บุษบาเลยใช้วิธีการโทรไปหลอกล่อให้บรรยายเหตุการณ์จนหมดเปลือก จนทำให้สุมาลีโดนตำรวจจับ ในงานแต่งงานของลูกน้องสุพล เพื่อน ๆ สุพลต่างพมียน้อยไปออกงานกันอย่างออกหน้าออกตา แต่งานนี้บุษบาตามไปคุมสุพล เลยทำให้ได้เจอกับ วรรณ เพื่อนสนิทของบุษบาที่มากับพงษ์ ในงานสุพลถูกเชิญให้ขึ้นไปกล่าวอวยพร แต่สุพลไม่ได้เตรียมตัวมาบุษบาเลยอาสาขึ้นไปเอง ซึ่งหลังจากที่อวยพรบ่าวสาวพอเป็นพิธี บุษบาก็ร่ายมหากาพย์ด่าบรรดาเมียน้อยทั้งหลายที่นั่งอยูในงานต่อ แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุษบา ด้วยเกรงว่าบารมีของคอลัมนิสต์ชื่อดังจะทำให้กลายเป็นข่าวใหญ่ แต่สุดท้ายก็มีมือดีโทรไปบอกหนังสือพิมพ์จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เมียหลวงหลายคนโทรมาให้กำลังใจบุษบา บ้างก็ส่งกระเช้าดอกไม้มาชื่นชม ทำให้บรรดาเพื่อน ๆ ของสุพลต่างพากันเกลียดบุษบาที่หาเรื่องเดือดร้อนให้กับตนไปด้วย ฝ่ายสุพลยังคงคิดค้นแผนการเพื่อหลอกบุษบาไปหาสุมาลี แต่คราวนี้ดันพลาดถูกจับได้ บุษบาหมดความอดทน และยื่นคำขาดให้สุมาลีย้ายออกจากบ้าน แต๋ว สาวแก่ข้างบ้านที่มีงานอดิเรกคือการสอดส่องเพื่อนบ้าน จึงเอาเรื่องของสุพลไปเมาท์กระจายทั่วหมู่บ้าน จนสุมาลีเกิดความอับอายต้องย้ายกลับไปอยู่กับพงษ์ในที่สุด แต่เรื่องก็ยังไม่จบลงแค่นั้น เมื่อบุษบาเข้าร้องเรียนหัวหน้าของสุพลเกี่ยวกับเรื่องที่สุมาลีแย่งสามีเธอ ทำให้สุมาลีถูกสั่งย้ายด่วนภายใน 24 ชม. ส่วนสุพลก็ต้องผิดหวังไปตามระเบียบ เพราะถูกผอ. สั่งเปลี่ยนตัวจากเลขาสาวสวยหน้าห้องมาเป็นเลขาหน้าเหี่ยวแทน แต่หลังจากถูกสั่งย้าย สุมาลีก็รีบรวบรวมไพร่พลอันได้แก่ เริง กะเทยเพื่อนซี้ และบรรดาเมียน้อยของเพื่อนๆ สุพล ทุกคนก็ลงมติเป็นเอกฉันท์ตรงกันว่าจะใช้แผนตั้งท้องเพื่อหลอกให้สุพลกลับมา ซึ่งเรื่องที่สุมาลีตั้งท้องได้กระจายไปทั่ว จนเข้าหูของหัวหน้า ทำให้สุมาลีถูกเรียกตัวเข้าพบและโดนทำทัณฑ์บนพร้อมกับตัดเงินเดือน ด้วยความโกรธแค้นที่แผนการผิดเป้าจนตัวเองซวย สุมาลีจึงเผลอด่าเริงและเปิดเผยเรื่องที่เริงเอางบหลวงไปเลี้ยงผู้ชาย จนเริงถูกลดตำแหน่ง และเพราะเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เริงแปรพรรคกลายเป็นพวกของบุษบา และคอยรายงานความเคลื่อนไหวของสุมาลีให้บุษบารู้ทุกฝีก้าว จนบุษบาสามารถจับสุพลกับสุมาลีได้คาหนังคาเขา บุษบาตรงเข้าด่าแหลกไม่ไว้หน้าใคร สุมาลีเลยสวนกลับด้วยหมัดเด็ดเปิดเผยว่าสุพลทำเธอท้อง แต่ก็ถูกบุษบาตอกกลับด้วยหมัดเด็ดไม่แพ้กันว่า สุพลนั้นทำหมันแล้ว งานนี้สุมาลีถึงกับหน้าหงายกลับแทบไม่ทัน นภาจึงได้ทีเยาะเย้ยสุมาลีที่คิดจะแย่งสามีชาวบ้านกรรมเลยตามสนอง ทำให้สุมาลีทนไม่ไหวเปิดเผยเรื่องพงษ์สามีสุดที่รักของนภาที่แอบซุกเมียน้อยไว้เหมือนกัน เล่นเอานภาที่เคยมั่นใจในความรักเดียวใจเดียวของสามีถึงกับช็อคเสียสติจนต้องเข้าโรงพยาบาลไปเลย จากนั้นสุมาลีก้ายออกจากบ้านพงษ์ไปอาศัยอยู่กับ ดาว กะเทยเจ้าของร้านเสริมสวย และ ต้อม สามีของดาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับสุมาลี ดาวมีความหลังฝังใจเกี่ยวกับเมียหลวงร้าย ๆ เลยทำให้ดาวเกลียดพวกบรรดาเมียหลวงจนเข้าไส้ และกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ดาวช่วยสุมาลีแย่งสุพลจากบุษบาในครั้งนี้ ดาวแปลงโฉมให้สุมาลีซะสวยเช้ง จนสุพลต้องตะเกียกตะกายกลับมาหาสุมาลีอีกครั้ง แต่สุมาลีนั้นได้วางแผนการหลอกสุพลว่าเธอมีแฟนใหม่แล้วชื่อต้อม แต่สุพลก็รู้ตัวดีว่าเขาไม่มีทางหย่ากับบุษบาได้ แม้จะเสียดายสุมาลีแทบตาย แต่เขาก็ยินดีที่จะได้เห็นสุมาลีแต่งงานกับผู้ชายดีๆ สักคน และเมื่อแผนการขั้นแรกไม่สำเร็จ ดาวจึงดำเนินแผนการที่สอง โดยหลอกสุพลว่าสุมาลีกำลังจะแต่งงาน แต่สุพลก็ยังคงเชื่อ และรับปากที่จะมาร่วมแสดงความยินดีอีก แผนการทั้งหมดจึงแตกเมื่อสุมาลีเกิดทนไม่ไหวที่เห็นสุพลไม่แสดงความหึงหวงเธอออกมาอย่างที่คาดไว้ ต้อมจึงยอมสารภาพกับสุพลไปว่า ทั้งหมดนั้นเป็นแผนการของดาวที่อยากให้สุพลกลับไปคืนดีกับสุมาลี สุดท้ายสุพลจึงได้กลับมาครองรักกับสุมาลีอย่างหวานชื่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หวานหนักยิ่งกว่าเก่า เริงสืบรู้ว่าสุพลมักจะไปหาสุมาลีที่ร้านเสริมสวยของดาวเป็นประจำจึงโทรไปฟ้องบุษบา บุษบาจึงตามไปอาละวาด และทะเลาะกับสุมาลีอย่างรุนแรง และทำให้เรื่องราวทั้งหมดบานปลายจนสุมาลีได้รู้ความจริงบางอย่าง ที่สุพลนั้นหลอกลวงเธอมาตลอดระยะเวลา 6 ปี สุมาลีเสียใจอย่างหนักจนถึงขั้นตัดปัญหาด้วยการคิดจะจบเรื่องราวทั้งหมดลง แต่ปัญหาระหว่างเมียน้อย กับเมียหลวงจะจบลงแบบไหน? บุษบาจะจัดการกับสุมาลีอย่างไร? และสุพลจะตัดใจจากสุมาลีได้จริงๆ หรือ?

นักแสดงละคร ยุทธการปราบเมียน้อย

ต้น จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์
ตุ๊ก จันจิรา จูแจ้ง
อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล
โอ๋ ภัคจีรา วรรณสุทธิ์
ปู ยุวดี เรืองฉาย
ปิงปอง สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ
ม้า อรนภา กฤษฎี
โอลิเวอร์ บีเวอร์

สมปองน้องสมชาย

ลินดาและพัณณิณ สองเพื่อนรักที่คบหากันมาตั้งแต่เด็ก ต้องมาอกหักและตกงานพร้อมกันในวันวาเลนไทน์ ทั้งคู่พากันดื่มฉลองจนเมามาย เผลอตัวเดินปล่อยอารมณ์ไปถึงแหล่งหากินของบรรดาโสเภณีจรจัด ทั้งคู่จึงถูกตำรวจจับกุมข้อหาค้าประเวณี และจะพ้นข้อหาได้ต่อเมื่อญาติมารับ แต่ทั้งสองไม่ต้องการให้คนในครอบครัวมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ สองสาวจึงถูกเสนอให้เป็นสายลับทำงานแลกกับอิสรภาพ

สารวัตรเชี่ยวชาญจับสองสาวแปลงกาย เป็นหนุ่มน้อย สมปองน้องสมชายเข้าไปสืบคดีการตายของมงกุฎ เพชรอุทัย นักร้องลูกทุ่งค่ายทูเอมิวสิกของเสี่ยอุทัย ลินดาต้องปลอมเป็นสมปอง และพัณณินปลอมเป็นสมชายเข้าไปสมัครเป็นหางเครื่องชายในค่ายทูเอมิวสิก
สมปองกับสมชายทำให้หางเครื่อง สาว ๆ ของนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างเทวา ราชเทวัญ แทบจะตบตีกันจนวงแตกเพราะหลง ใหลในความหล่อเหลา ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นที่เหม็นขี้หน้าของกันต์ธร นครพรหม นักร้องดาวเด่นของค่ายที่เคยติดอันดับรูปหล่อทรมานใจสาว ๆ มานาน

บูรณัสผู้กำกับมิวสิกวิดีโอ ไม่ค่อยชอบหน้าสมปองกับสมชายนัก พยายามหาทางกำจัดสองหนุ่มให้พ้นไปจากกองถ่ายแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะทุกคนพากันให้ความช่วยเหลือสองหนุ่ม โดยเฉพาะบริบูรณ์กับวรรณี พ่อแม่ของบูรณัสที่ดูท่าจะถูกชะตากับสองหนุ่มเป็นอย่างมาก ลินดากับพัณณิณแอบได้ยินกันต์ธรโทร ศัพท์คุยกับเสี่ยพิมานเรื่องที่กันต์ธรจะลาออกจากทูเอมิวสิกไปเป็นนักร้องให้กับค่ายเดอะฟิวเจอร์ จึงรีบแจ้งข่าวให้สารวัตรเชี่ยวชาญกับหมวดยุทธิยงรู้

มิวสิกวิดีโอของเทวาที่บูรณัสกำกับได้รับความนิยมจากแฟนเพลงเป็นอย่างมาก ลัทธิกับพัลลภน้องชายและคู่หมั้นของลินดาเห็นมิวสิกฯก็จำได้ จึงยกขบวนครอบครัวมาตามหาลินดาที่ค่ายทูเอมิวสิก ดีที่โรสิตาเข้ามาเบี่ยงเบนความสนใจไปได้ก่อน พัลลภตกตะลึงกับความสวยของโรสิตาเฝ้าพรํ่าเพ้อด้วยความ ชื่นชม จนโรสิตาหลงเคลิ้ม

กันต์ธรแอบเอายาบ้าไปใส่ไว้ในกระเป๋าสูทของเทวาแล้วโทรฯแจ้งให้ตำรวจมาจับกลางงานแถลงข่าวเปิดตัว เสี่ยอุทัยระงับงานเพลงของเทวาทันที ขณะเดียวกันพอลลีนลูกสาวเสี่ยพิมานเห็นมbวสิกฯของเทวาคิดอยากได้เทวามาเป็นคู่ครองและมาเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งของค่าย จึงได้ไปทาบทามเทวาให้มาเป็นนักร้องของค่าย

สารวัตรเชี่ยวชาญกับหมวดยุทธิยงเลยให้เทวากับสมชายลาออกจากทูเอมิวสิกไปอยู่เดอะฟิวเจอร์ ทั้งคู่ถูกรุมประณามว่าเนรคุณ คงมีเพียงแอนนี่เท่านั้นที่รู้ความจริงเกี่ยวกับแผนการนี้

พิสมรหางเครื่องในค่ายประกาศก้องว่าท้องกับสมปอง บูรณัสโกรธมาก เผลอตัวต่อว่าสมปองอย่างรุนแรง สมปองจึงตัดสินใจประกาศให้ทุกคนรู้เรื่องที่เธอคือลินดาและเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่เกิด บูรณัสดีใจที่สมปองเป็นผู้หญิง แต่ก็โกรธที่ถูกสมปองหลอกมาตั้งแต่ต้น จึงพยายามตัดใจและตัดความรู้สึกที่มีต่อสมปอง

กันต์ธรรีบขอลาออกจากค่ายทูเอมิวสิกเพื่อไปอยู่ที่เดอะฟิวเจอร์ ขณะที่เสี่ยพิมานตัดสินใจให้เทวาเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งของค่าย และเตรียมตัวเป็นว่าที่ลูกเขย ด้วยความแค้นกันต์ธรจับตัวพอลลีนไป เทวากับสมชายตามไปช่วยแต่ก็ถูกกันต์ธรจับตัวไว้ได้

เสี่ยพิมานตามไปช่วยลูกสาว กันต์ธรตัดสินใจยิงเสี่ยพิมานแต่พอลลีนเอาตัวเข้าไปบังกระสุนไว้ เสี่ยพิมานจึงให้ปืนยิงกราดใส่กันต์ธร อย่างบ้าคลั่ง กันต์ธรพยายามจะยิงปืนใส่เทวา แต่สมชายกระโดดเข้ารับกระสุนแทน ทำให้เทวา รู้ว่าสมปองเป็นผู้หญิง กันต์ธรสิ้นใจตายคาที่ ส่วนเสี่ยพิมานถึงกับเป็นบ้าต้องเข้ารับการบำบัดในสถานบำบัดผู้ป่วยโรคจิต

หลังเหตุร้ายผ่านไป ความสุขสดใสก็เข้ามาแทนที่ ทุกคนในค่ายทูเอมิวสิกเข้าใจในตัวลินดากับพัณณิณ แอนนี่ตกลงรับหมั้นหมวดยุทธิยง ขณะที่โรสิตาก็ตัดสินใจเป็นเถ้าแก่เนี้ยร้านขายทองของพัลลภ พัณณินตัดสินใจแต่งงานกับเทวา บูรณัสก็ตัดสินใจให้บริบูรณ์กับวรรณีไปสู่ขอลินดาให้

รายชื่อนักแสดงละคร สมปองน้องสมชาย

ภัทรพล ศิลปาจารย์ รับบท บูรณัส
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ รับบท สมปอง / พัณณิณ
เจมี่ บูเฮอร์ รับบท สมชาย
ศิระ แพทย์รัตน์ รับบท เทวา ราชเทวัญ
ชินสุเวท เจตย์จำรัส รับบท กันต์ธร นครพรหม

สะใภ้ซ่าส์แม่ย่าเฮี้ยน

สะใภ้ซ่าส์แม่ย่าเฮี้ยน เป็นเรื่องวุ่นๆ ของสาวสวยจอมซ่าส์ ที่ตกกระไดพลอยโจน ถูกจับแต่งงานกับชายหนุ่มที่พบหน้าเพียงไม่กี่ครั้ง เพราะเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน ทำให้เธอต้องกลายเป็นสะใภ้แบบบังเอิ๊ญบังเอิญ แล้วต้องมาอยู่ในบ้านสามี ร่วมกับแม่ย่าสุดเฮี้ยนที่เป็นหัวโจกคอยป่วนกวนใจไม่ให้สมรัก แถมมีแฟนเก่าเป็นก้างขวางศรีสะใภ้จะงัดวิชาอะไรมาสยบให้อยู่หมัด

นักแสดงละคร สะใภ้ซ่าส์แม่ย่าเฮี้ยน

ดนุพร ปุณณกันต์     แสดงเป็น ดลวีร์ ศิริรุ่งโรจน์/วีร์
ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น อรกมล ศิริรุ่งโรจน์/อร
ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น คุณนายพรทรัพย์ ศิริรุ่งโรจน์
ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี     แสดงเป็น พลอยแสง
โอลิเวอร์ บีเวอร์ แสดงเป็น ดร.นพวิทย์ (หมอผีไฮเทค)
สุนทรี ใหม่ละออ แสดงเป็น แองจี้
ชัชฎาภรณ์ ธนันทา     แสดงเป็นผีนางตานี
สีเทา เพ็ชรเจริญ แสดงเป็น    ลุงชัย(ศาลพระภูมิ)
ลิซ่า ไปรพิศ แสดงเป็น    ยวนตา
เขาทราย แกแล็คซี่     แสดงเป็นสมพร
สิริยา นฤนาท แสดงเป็น    ละม้าย
วีรประวัติ วงศ์พัวพันธ์ แสดงเป็น    กำนันบันลือ

จับสะใภ้ใส่สกุล

จับสะใภ้ใส่สกุล เป็นเรื่องราวของ ชนน์กมล หนุ่มนักเรียนนอกตระกูลไฮโซ ที่ร่ำรวยมหาศาลมีเชื้อสายของผู้ดีเก่า ทำให้เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทันทีที่เขากลับมาถึงเมืองไทย คุณหญิงจันทร์กระจ่างฟ้า แม่ของชนน์กมล กลับต้อนรับเขาด้วย การยัดเยียดคู่หมั้นคู่หมายให้กับเขา และสาวเจ้าผู้นั้นคือ อรอนางค์ (อร) นางเอกสาวชื่อดังแ แต่เบื้องหลังเธอคือนางเอกขาวีน เพื่อนๆ ในก๊วนของ ชนน์กมล เมื่อรู้ข่าวต่างเห็นด้วยและสนับสนุน ชนน์กมล เป็นการใหญ่เพราะดาราสาวอย่างอรเป็นนางเอกในฝัน แต่ ชนน์กมล กลับไม่คิดเช่นนั้น ปัญหาคือ เขาไม่ได้รักอรเลยแม้แต่นิด

ในขณะที่ ชนน์กมล กำลังขบคิดปัญหาอันหนักอก เพื่อน ๆ ของเขาแนะนำให้ไปผ่อนคลายความเครียดที่สปาแห่งหนึ่ง และที่นี่เองที่ชนน์กมล มีโอกาสได้พบกับหมอนวดสาวสวยคนหนึ่ง เธอคือ ฟ้าประทาน (ฟ้า) เธอเป็นหมอนวดฝีมือดีอันดับหนึ่งเกียรติบัตรของเธอการันตีมาจากวัดโพธิ์ที่เธอได้ร่ำเรียนมา แต่หนแรกที่เจอฟ้า เพื่อนทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าฟ้าเป็นหมอนวดแบบว่า…ขายอย่างอื่นด้วยนอกจากฝีมือ เขาจึงโดนฟ้าเกลียดขี้หน้าชก. แต่ด้วยเสน่ห์ในตัวผู้หญิงคนนี้กลับทำให้ชนน์กมล สนใจที่จะรู้จักเธอให้มากกว่านี้

ฟ้าเป็นคนพื้นเพมาจากจังหวัดสกลนคร สาย แม่ของเธอมีอาชีพรับจ้างทำนา ส่วนเดือนน้องสาวอายุ 17 ที่ชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งเป็นชีวิตจิตใจก็อยู่ในวัยแรกรุ่นช่วยดูแลแม่ แทนฟ้าที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ฟ้ามีความฝันว่า สักวันเธอจะเก็บเงินได้มากพอที่จะนำไปไถ่ที่นาของแม่ที่โดนยึดไป ในขณะที่ฟ้ามาทำงานในสปาแห่งนี้ฟ้าก็มี มนัส ลูกชายเศรษฐีมาเฝ้าตามจีบเธออยู่เหมือนกัน แต่สำหรับฟ้าแล้วเธอรับมนัสเป็นได้แค่เพื่อนชายที่ดีของเธอคนหนึ่งเท่านั้น เอง ฟ้ายังไม่ยอมเปิดใจรับใครให้เข้ามา เพราะเธอเองก็เชื่อใน
เรื่องรักแท้เช่นเดียวกัน
ชนน์กมล ถูกคุณหญิงแม่และอรรุกเร้าเรื่องการแต่งงานมากขึ้นทุกวัน จนในที่สุด ชนน์กมล ก็พลาดหลุดปากแก้ปัญหาไปว่าเขามีเมียอยู่แล้วคนหนึ่ง ระหว่างอยู่ที่อเมริกาและกำลังจะเดินทางกลับมาอยู่กับเขา คุณหญิงแม่แทบตกเก้าอี้ ที่ลูกชายมีเมียไม่ยอมบอก เขาจึงหันมาที่ฟ้า ครอบครัวของฟ้าจำเป็นต้องหาเงินก้อนหนึ่งเพื่อไปจ่ายดอกเบี้ย ฟ้าไม่มีเงินกลุ้มอกกลุ้มใจ เมื่อชนน์กมล เอาข้อเสนอของเขามาให้ฟ้าขบคิด ฟ้าคิดสะระตะดูแล้วมันก็แค่ละครตบตาฉากหนึ่งในระยะเวลาแค่หนึ่งปีที่จะยอมเป็นเมียนอกกฎหมายให้กับเขา ฟ้าจึงตอบตกลง ชนน์กมล จึงไม่รอช้าที่จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงหมอนวดมือทองจากแดนอีสานเป็นสาวนักเรียนนอกมีชาติตระกูลในเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อประตูคฤหาสน์พัฒนศิรวงศ์เปิดออก…พร้อมกับการต้อนรับของครอบครัวใหม่ ฟ้าหิ้วกระเป๋าเดินทางเข้าไปในบ้านพร้อมกับเดือนน้องสาวของเธอที่ต้องมาอุปโลกน์เป็น ไฮสคูลเกิร์ลคู่กับพี่สาว (เป็นข้อตกลงของเธอกับ ชนน์กมล ที่ต้องเอาน้องสาวมาอยู่ด้วย เพื่อกันเขาทำอะไร เธอ)..การเข้ามาของฟ้าดูเหมือนจะช่วยแก้ปัญหาให้ ชนน์กมล ได้… แต่มีหรือว่าแม่ผัวกับอรอนค์จะยอมรับลูกสะใภ้หน้าใหม่ได้ง่าย ๆ ชีวิตความเป็นอยู่ในคฤหาสน์ไม่มีทางสงบสุขแน่ ฟ้าต้องเจอกับการเกลียดชังจากทั้งคุณหญิงแม่ อรอนงค์ (ที่มักแวะเวียนเข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้กับเธอ) บรรดาคนใช้ที่เป็นพวกสู่รู้หัวเดียวกับนายที่พากันตั้งแง่กับฟ้านำขบวนโดย นังหวี คนใช้คู่บุญของคุณหญิงแม่ รวมไปถึง วี น้องชายจอมเฮี้ยวของ ชนน์กมล ถึงแม้ว่าทุกคนในคฤหาสน์พัฒนศิรวงศ์จะไม่ให้การต้อนรับฟ้า แต่ก็ยังดีที่ฟ้ายังมี เกรียงไกร พ่อของ ชนน์กมล ที่ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัวซ้ำยังมีปัญหาเรื่องการพูดให้ความเอ็นดูฟ้าเหมือนลูก แต่บทบาทของคุณเกรียงไกรในบ้านก็แทบจะช่วยอะไรฟ้าในคฤหาสน์นี้ไม่ได้มากนักเพราะ ท่านป่วยเป็นอัมพาตมานานจนคุณหญิงกุมอำนาจเบ็ดเสร็จภายในคฤหาสน์นี้ทั้งหมด

ในระหว่างที่ฟ้าต้องปกปิดฐานะที่แท้จริงของตัวเองและน้องไม่ให้ใครรู้ ฟ้าก็เริ่มได้ใกล้ชิดกับชนน์กมล จากครั้งแรกที่เธอเกลียดขี้หน้าหมอนี่ ความรักก็เริ่มก่อตัว ท่ามกลางทุกสายตาที่เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของเธอ… หลายครั้งที่ฟ้าเกือบจะพลาดท่าเสียทีความลับเกือบแตกว่าที่จริงเธอก็แค่หมอนวดเท่านั้น แต่เธอก็สามารถเอาตัวรอดมาได้ ในขณะที่มนัสก็ตามมาป้วนเปี้ยนตามตื้อรักจากฟ้าอยู่เสมอเป็นอุปสรรคให้ฟ้า ต้องปวดหัวรวมทั้งเป็นข้อกังหาให้ ชนน์กมล ออกอาการหึงหวงใส่ฟ้าอยู่เนือง ๆ และเพราะความเก่งกาจในฝีไม้ลายมือการนวดของฟ้าที่มักจะเข้าไปนวดให้กับพ่อของ ชนน์กมล อาการอัมพาตของเกรียงไกรจึงค่อย ๆ หายดีขึ้นเป็นลำดับ ในขณะที่ความแก่นเซี้ยวของเดือนก็เริ่มทำให้วีละลายพฤติกรรมกวน ๆ จากที่เคยตั้งแง่กับฟ้าก็เริ่มแปรพักต์มาเข้าข้างฟ้าอีกคน แต่แล้วเมื่อเกือบจะครบกำหนดสัญญาว่าจ้างระหว่างฟ้ากับ ชนน์กมล พร้อม ๆ กับที่หัวใจของคนทั้งเริ่มแบ่งบาน ฟ้าเกิดพลาดท่าถูกหญิงแม่และอรจับได้ว่าแท้ที่จริงแล้วฟ้าไม่ได้เป็นนัก เรียนนอก เป็นเพียงแค่หมอนวดในสปาที่ย้อมแมวหลอกทุกคนมาตลอด ชนน์กมล ถูกยื่นคำขาดให้แต่งงานกับอรอนงค์เท่านั้น… ส่วนฟ้าจำต้องเก็บกระเป๋าเดินทางกลับสู่สกลนครพร้อมเงินไปไถ่ถอนที่นาคืนให้แม่

ใกล้ถึงวันแต่งงานระหว่างอรกับ ชนน์กมล ข่าวถูกส่งออกไปทั่วประเทศเพราะเป็นการแต่งงานทอล์กออฟเดอะทาวน์ระหว่างไฮโซหนุ่มกับดาราดัง มันถึงเวลาแล้วที่ ชนน์กมล จะต้องตัดสินใจจริง ๆ ซะที เกี่ยวกับรักแท้ที่เขาต้องการท่ามกลางแรงเชียร์จากน้องชายและพ่อที่หายจาก อาการอัมพาต  จนลุกขึ้นมาปฏิวัติรัฐประหารกุมอำนาจเบ็ดเสร็จในบ้านคืนจากคุณหญิง…ไม่รอช้า ชนน์กมล รีบเดินทางไปตามหาฟ้า เพื่อขอเธอแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและกฎหัวใจ… สุดท้าย ชนน์กมล จะง้องอนให้ฟ้า แต่งงานกับเขาสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามชมในละคร “จับสะใภ้ใส่สกุล”

นักแสดงละคร จับสะใภ้ใส่สกุล

พล ตัณฑเสถียร แสดงเป็น ชนน์กมล
นิ้ง กุลสตรี ศิริพงศ์ปรีดา แสดงเป็น สีฟ้า,ฟ้าประทาน
จิ๋ม ปนัดดา โกมารฑัต แสดงเป็น คุณหญิงจันทร์กระจ่างฟ้า
โอ๋ ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ แสดงเป็น อรอนงค์
หม่อมอูม วิยะดา อุมารินทร์ แสดงเป็น คุณหญิงอาทิตยาจรัสแสง
พฤกษ์ พีระนันท์ แสดงเป็น ตะวัน
วิสรรค์ ฉัตรรังสีกุล แสดงเป็น เกรียงไกร

อย่าบังคับข้าให้ใหญ่

เหตุเพราะอุทกภัยและวาตภัยที่พัดกระหน่ำทำลายบ้านเรือนของชาวบ้านทางภาคอีสาน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่หาเช้า กินค่ำ รวมทั้งครอบครัวของบุญล้อมชายหนุ่มกำพร้าพ่อ-แม่ ซึ่งอาศัยอยู่กับนายแถนปั้นผู้เป็นลุง และ ฟ้างามลูกสาวของแกมานานหลายปี บุญล้อมยึดอาชีพเช่ารถสองแถวขับเข้า-ออกระหว่างหมู่บ้านกับตัวเมือง นายแถนปั้นมี อาชีพสานตะกร้าขาย และฟ้างามรับผักต่าง ๆ ขายในตลาด จนเกิดเหตุการณ์พายุน้ำท่วม ทำให้บ้านของทั้งสามได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับบ้านของเพื่อนบ้าน รายอื่น ๆ

ทั้งสามจึง ตัดสินใจเดินทางไปหาญาติซึ่งทำงานก่อสร้างทางรถไฟฟ้าที่กรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าญาติได้ลาออกจากงานโดยที่ทุกคนไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนกันเลย ทั้งสามปรึกษาว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร บุญล้อมก็ได้ความคิดว่าเขากับฟ้างามน่าจะช่วยกันทำกับข้าวขาย ซึ่งก็คืออาหารอีสานที่ตน ถนัดหลังจากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันตระเวนขายอาหารอีสาน ตามบ้านในซอกซอยทั้งหลาย

ทางครอบครัวของ เสี่ยอุเทน กับ คุณนายตวงพร เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง ยี่ห้อ “ฮีโร่ วัน” ได้จัดงานขอบคุณตัวแทนสินค้าทั่วประเทศ และสื่อมวลชน ก่อนที่จะยกตำแหน่งประธานบริษัทให้กับ แต้มขวัญ ลูกสาวคนเดียว ซึ่งเพิ่งเรียนจบ ปริญญาโทจากเมืองนอก ข่าวนี้สร้าง ความร้อนใจให้กับ เสี่ยเด่นศักดิ์ กับ คุณนายทองนภา เจ้าของเครื่อง ดื่มชูกำลัง ยี่ห้อ “สิงห์ทอง” ซึ่งเป็นคู่แข่งกันมาช้านาน เพราะลูกชายคนเดียวของเขากับคุณนายทองนภา ภรรยาหลวงซึ่งก็คือ วีฤทธิ์ ยังไม่กลับจากเมืองนอก ดารณี ภรรยาน้อยจึง พยายามสนับสนุนประพจน์ ซึ่งเป็นลูกชายที่ติดสามีเก่าให้รับตำแหน่งแทน แต่เสี่ยเด่นศักดิ์ไม่เห็นด้วยจึงทำให้ดารณีไม่พอใจสามีที่ ไม่เชื่อใจลูกชายตัวเอง เสี่ยเด่น ศักดิ์จึงให้ ชาญชัย สมุนมือขวาเดินทางไปดูวีฤทธิ์ ชาญชัยส่งข่าวกำหนดกลับของวีฤทธิ์ สองสามี ภรรยา รวมทั้งดารณีและลูกชายเดินทาง ไปรับวีฤทธิ์ ปรากฏว่าทุกคนต้องตกใจเพราะวีฤทธิ์กลายเป็นคนที่สติไม่สมบูรณ์ เพราะคร่ำเคร่งกับการเรียนมากเกินไป จนไม่ยอมรับรู้ความจริงใดๆ ไปชั่วคราว สร้างความกลุ้มใจให้กับเสี่ยเด่นศักดิ์มาก

วันหนึ่งแต้มขวัญขับรถเฉี่ยวรถเข็นของบุญล้อมกับฟ้างาม จนมีเรื่องบาดหมางกัน หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้บุญล้อมหยุดขายของชั่วคราวเพราะต้องซ่อมรถเข็น เขาจึงแวะไปเยี่ยมเพื่อนที่ตลาดบ่อยๆ จนวันหนึ่งชาญชัยได้คุมสินค้า เครื่องดื่มสิงห์ทอง มาเห็นบุญล้อม เข้า เขารู้สึกว่าบุญล้อมมีส่วนคล้ายคลึงกับวีฤทธิ์มาก เขาจึงเสนอเสี่ยเด่นศักดิ์ว่าน่าจะหาใครที่ มีหน้าตาคล้ายคลึงกับวีฤทธิ์มาแสดงตัว แทนเพื่อปิดบังเรื่องวีฤทธิ์ แล้วก็เล่าเรื่องที่เขาเจอบุญล้อมให้เสี่ยเด่นศักดิ์ฟัง เสี่ยเด่นศักดิ์กับภรรยา จึงให้ชาญชัยว่าจ้างบุญล้อม แต่ ่บุญล้อมปฏิเสธ

จนมีเหตุการณ์ทำให้บุญล้อมต้องตกเป็นผู้ต้องหาคดีวิ่งราวกระเป๋า ซึ่งหมวดไตร วิทย์ ได้เก็บบัตรประชาชนเขาไว้เป็นหลักฐาน ประกอบกับลุงปั้น เข้าโรงพยาบาลเขาไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา เขาจึงยอมทำงานให้กับเสี่ยเด่นศักดิ์ ชาญชัยจึงให้ครูลอร่าเป็น ผู้สอนภาษา และการวางตัวในสังคมแก่บุญล้อมจนกลายเป็น วีฤทธิ์ อย่างสมบูรณ์ แต่เขาจำ มาริสา เพื่อนหญิงที่สนิทสนมกับวีฤทธิ์ไม่ได้ ทำให้ดารณีสงสัย จึงให้ วสันต์ คอยสืบดูต่อไป

ครอบครัวเสี่ยอุเทน จัดงานแถลงข่าวการยกตำแหน่งให้กับลูกสาว โดยที่ไม่รู้ว่าเสี่ยเด่นศักดิ์ก็กำลังเตรียมเปิดตัวลูกชายเหมือนกันและในงานเปิดตัววีฤทธิ์นี่เอง ทำให้ แต้มขวัญ ได้พบกับบุญล้อม ในคราบของวีฤทธิ์ ทำให้แต้มขวัญรู้สึกคุ้นหน้าและไม่ชอบขี้หน้าของ วีฤทธิ์ขึ้นมาทันที หลังจากที่วีฤทธิ์เข้ามาบริหารงาน ทำให้เครื่องดื่มสิงห์ทอง มียอดขายพุ่งขึ้นล้ำหน้า เครื่องดื่มฮีโร่วันมาก จนเกิดเหตุการณ์ ก่อม็อบที่หน้าโรงงานของบริษัทฮีโร่วัน วีฤทธิ์ จึงขออาสาเจรจากับคนงานให้ จนคนงานยอมกลับไปทำงาน ทำให้แต้มขวัญรู้สึกดีกับ วีฤทธิ์บ้าง

วสันต์แอบรู้ความลับเรื่องวีฤทธิ์และเล่าให้ดารณีฟัง ดารณีจึงคิดวางแผนกำจัดวีฤทธิ์ โดยให้วสันต์ทำเครื่องจักรขัดข้องจึง ผลิตสินค้าไม่ทัน แต้มขวัญจึงยื่นมือเข้าช่วยเป็นการตอบแทน ที่วีฤทธิ์ก็เคยช่วยตัวเองมาแล้ว ทำให้ มาริสาไม่พอใจคอยหึงหวงวีฤทธิ์ และสร้างความวุ่นวายให้กับแต้มขวัญ และบังคับให้เขาหมั้นกับเธอ แล้วจะไม่วุ่นวายอีก วีฤทธิ์ต้องยอมทำตาม แต้มขวัญรู้ข่าวการหมั้น ของวีฤทธิ์ รู้สึกปวดใจนั่นทำให้เธอรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอมีใจให้กับวีฤทธิ์

ดารณีจึงร่วมมือกับเสี่ยอุเทน คิดวางแผนเปิดโปงเรื่องวีฤทธิ์ ในงานเซ็นสัญญาส่งสินค้าใน เครือสิงห์ทอง ที่บุญล้อมเป็นตัวแทน เซ็นแทนวีฤทธิ์ ดารณีบอกความจริงว่า เขาไม่ใช่วีฤทธิ์ตัวจริง หมวดไตรวิทย์ก็หลอกฟ้างามมาแสดง ตัวเป็นญาติของบุญล้อม ฟ้างาม เสียใจมากวิ่งออกจากงานไป ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ ชาญชัยจึงปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับวี ฤทธิ์ตัวจริง ทำให้ดารณีหน้าแตก จึงสั่งให้วสันต์จับตัววีฤทธิ์ไปขัง บุญล้อมและทุกคนจึงวางแผนช่วยวีฤทธิ์ จนสามารถจับกุมวสันต์กับดารณีพร้อมลูกชายไว้ได้

เสี่ยเด่น ศักดิ์ขอร้องให้บุญล้อมอยู่ช่วยวีฤทธิ์บริหารงานต่อไป แต่บุญล้อมปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าเขาไม่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ที่ผ่านมาทุกคนบังคับให้เขาต้องใหญ่ บัดนี้เขาขอกลับไปเป็นนายบุญล้อม หนุ่มลูกอีสานเหมือนเดิม หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ ครอบครัวของเสี่ยอุเทนรู้สึกผิด จึงร่วมมือกับบริษัทสิงห์ทองหาทุนเพื่อสร้างโรงเรียนให้กับเด็กในชนบท ก่อนจะวางมือ ปล่อยให้แต้มขวัญบริหารงานต่อไป ส่วนตัวเองและภรรยาขอเลือกที่จะไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด ทางด้านบุญล้อม เองก็ได้สมัคร สท.ที่บ้านเกิดและวัน เลือก ตั้งบุญล้อมก็ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ไตรวิทย์ย้ายมาประจำที่ท้องที่นี้เช่นกัน แต้ม ขวัญมาดูที่เพื่อที่จะเปิดสปารีสอร์ท และที่นี่เองทำให้เธอได้พบกับบุญล้อมอีกครั้ง ทั้งสองจึงปรับความเข้าใจกัน

นักแสดงละคร อย่าบังคับข้าให้ใหญ่

อัมรินทร์ นิติพน

พรชิตา ณ สงขลา แสดงเป็น แต้มขวัญ

วังน้ำวน-2547

อาโป ( อลิชา ไล่สัตรูไกล ), เพียงธาร ( ธัญญาเรศ รามณรงค์ ) และ ระริน ( ภัคพร ภูวะปัจฉิม ) เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยที่เรียนโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ทั้งสามทั้งมีความฝันเป็นของตัวเอง อาโปมีฐานะทางครอบครัวดีกว่าเพื่อน เธอฝันว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศหลังเรียนจบ ผิดกับเพียงธารที่มีฐานะยากจน เธอจึงรับหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัวทุกอย่าง ระรินมีความฝันไม่ต่างจากเพื่อนๆ เธอใฝ่ฝันว่าอยากเป็นนางเอกละคร แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเธอทั้งสามคิดเหมือนกัน ก็คือการแอบชอบ ต้นสาย ( ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง ) ครูฝึกสอนหนุ่มหน้าตาดีที่เข้ามาฝึกสอนอยู่ที่โรงเรียน

เพียงธารออกหางานพิเศษทำทุกอย่างเพื่อส่งเสียครอบครัว งานแรกคือการเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอางค์ ซึ่งทำให้เธอได้พบกับ ทัดดาว ( ศิรินุช เพ็ชรอุไร ) จึงถูกชักชวนไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อจะได้มีรายได้ดีกว่าเดิม และอาจจะมีโอกาสก้าวสู่การเป็นนางแบบได้ แต่เมื่อระรินรู้ จึงอยากรู้จักทัดดาวด้วย เพื่อหวังว่าตัวเองจะได้เป็นดาราอย่างที่ฝันไว้

วันหนึ่งทั้งสามสาวแอบโดดเรียนไปเล่นน้ำที่แม่น้ำ แต่อาโปว่ายน้ำไม่แข็งจึงถูกดูดลงไปในใต้น้ำซึ่งเป็นน้ำวน ต้นสายเห็นเข้าจึงกระโดดลงไปช่วยอาโปไว้ทัน ทำให้อาโปรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเขามาก ต้นสายมาลาอาโป เพื่อกลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ทั้งสองจึงเผยความรู้สึกในใจต่อกัน วัน หนึ่งขณะที่ต้นสายกำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางได้ช่วยระรินที่กำลังถูกพ่อเลี้ยงปลุกปล้ำ ระรินจึงขอเข้ากรุงเทพฯ กับต้นสาย เพื่อไปทำงานกับทัดดาว แต่พอถึงกรุงเทพฯ ระรินกลับติดต่อกับทัดดาวไม่ได้ ต้นสายจึงให้ระรินพักกับตนไปก่อน จนทำให้ทั้งคู่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน อาโปและเพียงธาร รู้สึกผิดหวังมากเพราะคิดว่าต้นสายเป็นคนพาระรินหนี

หลังสอบปลายภาค เพียงธารตัดสินใจมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสียครอบครัว อาโปจึงเสนอให้ไปอยู่บ้านป้าพร้อมกับตัวเอง อาโปไปสมัครเรียนภาษาเยอรมันเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อ เลยทำให้เธอได้พบกับ กลางชล ( รัฐศาสตร์ กรสูต ) ครูสอนภาษาเยอรมัน ส่วนเพียงธารได้ไปทำงานที่ร้านดอกไม้ คุณปอง ( ณหทัย พิจิตรา ) อดีตดาราที่เคยเดินทางผิด เธอจึงคอยตักเตือนเพียงธารอยู่เสมอๆ เพราะกลัวว่าเพียงธารจะมีชีวิตที่ซ้ำรอยแบบเธอ ยิ่งเมื่อได้รู้จักกับ สินธู (นพชัย มัททวีวงศ์ ) นักธุรกิจหนุ่มเพลย์บอย คุณปองก็ยิ่งเป็นห่วงเธอมากขึ้น

ระรินถูกสินธู ชักชวนให้เล่นหนังวีซีดี เพราะสนใจในตัวระริน โดยที่ระรินก็เล่นด้วย สินธูอาสาเลี้ยงดูระรินโดยซื้อบ้านให้อยู่ ระรินจึงหนีจากต้นสายมาอยู่กับสินธู ทางด้านเพียงธารเป็นหญิงสาวที่สินธูหวังครอบครองเป็นเจ้าของ แต่มีคุณปองคอยขัดขวาง กลางชลมีโอกาสได้ใกล้ชิดเพียงธารมากขึ้น เมื่อเพียงธารย้ายออกมาอยู่อพาร์ทเมนท์ตรงข้ามกับบ้านของเขา ทำให้กลางชลเริ่มหวั่นไหว จึงขอหมั้นกับอาโปแล้วชวนกันไปอยู่ที่เยอรมันด้วยกัน แต่อาโปปฏิเสธเพราะยังสนุกกับงานที่ทำอยู่ อาโปนำเงินทั้งหมดที่มีไปซื้อรถ เป็นจังหวะที่เพียงธารเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะหาเงินไปรักษาพ่อที่ป่วย จึงมาขอยืมอาโป แต่อาโปไม่มี เพียงธารหมดหนทางจึงตัดสินใจขอยืมสินธู สินธูจึงสั่งให้ลูกน้องนำเงินไปให้ทันที เพียงธารต้องการหาเงินให้ให้สินธูโดยเร็ว จึงทำงานเพิ่มมากขึ้น กลางชลแนะนำให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทของเพื่อน อาโปก็ไปสมัครงานนี้เช่นกัน แต่ปรากฏว่าเพียงธารถูกเลือกแทน เพียงธารนำเงินไปคืนสินธู แต่เขาไม่รับและขอแลกกับการคบกับเพียงธารแทน แต่เพียงธารยังไม่ยอมรับ

กลางชลใกล้ชิดกับเพียงธารมากขึ้น โหน่ง ( วสันต์ อุตตมะโยธิน ) พยายามเตือนอาโป แต่อาโปไม่เชื่อว่าเพื่อนจะทำร้ายเพื่อนได้ ระรินเริ่มออกอาการหึงหวงสินธูมากขึ้นจนเสียการเสียงงาน สินธูวางแผนเปิดกล้องภาพยนตร์ 3 เรื่องพร้อมกัน โดยมี เพียงธาร, อาโป, ระริน นำแสดงในแต่ละเรื่อง โดยวางกลางชลแสดงคู่กับอาโป ระรินติดต่ออาโปให้สินธู แต่หลอกว่ามีฉากวับๆ แวมๆ อาโปจึงปฏิเสธ แต่มารู้ทีหลังวาเป็นหนังชีวิตธรรมดาจึงตอบรับ พออาโปรู้ว่ากลางชลถอนตัวจึงผิดหวังในที่สุดจึงตัดสินใจไม่รับเล่น และก็ยังไม่อยากไปเรียนต่อ กลางชลจึงแนะนำให้อาโปไปเรียนการแสดง จนได้รู้จักกับ แจ็ค ผู้กำกับที่กำลังหานางเอกใหม่อยู่ อาโปได้เจอกับต้นสายอีกครั้ง อาโปจึงแนะนำให้ต้นสายไปเป็นแสตนด์อินในละครที่เธอเล่น อาโปประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงมากกว่าเพื่อนทั้งสอง

สินธูคิดจะสร้างหนังใหญ่ เรื่อง วังน้ำวน โดย พัฒน์ ผู้กำกับต้องการ อาโป มาเล่น เพราะอาโปกำลังได้รับความนิยม แต่สินธูต้องการเพียงธาร และ ระริน เล่นเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่เป็นนักแสดงในสังกัดของเขา พัฒน์เลือกอาโปกับระริน เพราะบทเหมาะกว่า เพียงธารไปหาคุณปอง แต่พบว่าคุณปองฆ่าตัวตาย เพราะเมียหลวงมาอาละวาดที่ร้าน เพียงธารเสียใจมาก รวมทั้งเห็นอาโปและกลางชลหวานชื่นกัน เพียงธารหมดหนทางจึงตัดสินใจไปหาสินธู และวันนั้นเธอก็ค้างที่คอนโดสินธูอย่างเต็มใจ จนเพียงธารรู้ว่าตัวเองไม่ได้เล่นหนัง วังน้ำวน จึงขอสินธูเปลี่ยนตัวให้เธอได้เล่นเรื่องนี้ เพื่อทำให้ความฝันของคุณปองให้เป็นจริง พัฒน์เลือก อาโป กับ เพียงธาร โดยตัดระรินออกจากหนังเรื่องนี้ ทำให้ระรินเสียใจมาก บังเอิญพระเอกของเรื่องนี้ถอนตัว สินธูจึงไปขอร้องให้กลางชลมาแสดงแทน กลางชลตอบตกลง เพราะจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเพียงธาร ทางด้านอาโปจึงเริ่มไม่ไว้ใจเพียงธารมากขึ้นและเริ่มหึงหวงกลางชล เมื่อเขาเริ่มเปลี่ยนไป ระรินมาอาละวาดกับเพียงธารที่กองถ่ายเรื่องของสินธู กลางชลออกหน้าปกป้องเพียงธาร

อาโปน้อยใจกลางชลที่เริ่มตีตัวออกห่าง แจ็ค มาขอให้อาโปกับเพียงธารไปเดินแบบงานแฟชั่นการกุศล ระรินจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองได้ไปเดินแฟชั่นงานนี้ด้วย ในงานแฟชั่น กลางชลตัดสินใจบอกเลิกกับอาโป เพียงธาร, อาโป, ระริน ต้องเผชิญหน้ากันในห้องแต่งตัว ทั้งสามทะเลาะกัน เมื่อออกมาหน้าเวทีจึงแกล้งเดินชน แล้วเหยียบเท้ากัน เลยเถิดไปถึงขั้นตบตีกันด้านหลังเวที สินธูกับกลางชลตามมาช่วย แต่ก็เกิดชกต่อยกันเองเพราะความหึงหวง สินธูดึงเพียงธารไปเคลียร์ปัญหาที่ค้างคากันอยู่ ส่วนระรินถึงกับขาดสติจนต้องเข้าโรงพยาบาล อาโปไม่สามารถเข้าฉากกับเพียงธารและกลางชล ได้อย่างสนิทใจอีกต่อไป

หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ความรักของเพื่อนทั้งสาม ขาดสะบั้นลง เมื่อความรักกลายเป็นวังวน ที่พัวพันรอบตัวพวกเธอ จนไม่สามารถสะบัดหลุดไปได้ จุดจบความรักของทั้งสามจะเป็นอย่างไร พวกเธอจะหาทางออกจาก วังน้ำวน แห่งนี้ได้หรือไม่ หรือยังคงหลงอยู่ในวังวนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

รายชื่อนักแสดง วังน้ำวัน

อลิชา ไล่สัตรูไกล รับบท อาโป
ธัญญาเรศ รามณรงค์ รับบท เพียงธาร
ภัคพร ภูวะปัจฉิม รับบท ระริน
รัฐศาสตร์ กรสูต รับบท กลางชล
ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง รับบท ต้นสาย
นพชัย มัททวีวงศ์ รับบท สินธู
ศิรินุช เพ็ชรอุไร รับบท ทัดดาว
วสันต์ อุตตมะโยธิน รับบท โหน่ง
นัฏฐา ลอยด์ รับบท โสภิต
ณหทัย พิจิตรา รับบท ปอง
วิทิต แลต รับบท แอ๊ดดี้

อุ่นไอรัก

อุ่นไอรัก

ความรัก ความอบอุ่นที่เติมเต็มโดยครอบครัวจะช่วยพยุงชีวิตให้สมบูรณ์ ต่อสู้กับอุปสรรคบนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข

เมยาวี เป็นลูกสาวคนเดียวของ เมศร์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจใหญ่กับ วิภาวี ผู้หญิงเก่งที่ร่วมบริหารธุรกิจเคียงบ่าเคียงไหล่กับสามีมาตลอดชีวิต ในวันเกิดครบ 17 ปีบริบูรณ์ของเมยาวี เธอได้รับของขวัญจากพ่อและแม่ที่ล้ำค่ามากกว่ารถยนต์ส่วนตัว หรือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด เพราะคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นคงไม่อาจเทียบได้กับสายสิญจน์ที่พ่อและแม่ช่วยกันผูกข้อมือให้เธอในตอนนี้ ด้ายแม้เก่าคร่ำคร่าด้วยผ่านเวลามาเท่าอายุของเธอ เพียงไม่กี่เส้นที่กระหวัดเกี่ยวพันกันนั้นล้วนถอดแบ่งมาจากด้ายมงคลจากพิธีสมรสของพ่อแม่ ความรักอย่างเปี่ยมล้นจากเมศร์และวิภาวี หล่อหลอมรวมในเมยาวีกลายเป็นเด็กสาวที่มีชีวิตสมบูรณ์พร้อมคนหนึ่ง เมยาวีเป็นดาวเด่นของโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่สุดในกรุงเทพฯ เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา รูปร่างหน้าตา ฐานะและชาติตระกูล ชีวิตคุณหนูยาวีไม่เคยพบกับคำว่าผิดหวัง ยกเว้นเรื่องการเรียนและกิจกรรมบางอย่างที่บางครั้งยาวีต้องหล่นลงมาเป็นอันดับสอง เพราะคู่แข่งคนสำคัญอย่าง…กานติมา

กานติมา หรือ กาเหว่า เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเมยาวีมาตลอด นับตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากัน กาเหว่าทำหน้าตายเข้ามานั่งโต๊ะที่เพื่อนสองคนของเมยาวี คือ แยม และเยลลี่ จองไว้ก่อนหน้า ด้วยความอารมณ์ร้อนของเยลลี่และอาการขี้เบ่งของแยมทำให้เกิดเรื่องถึงขั้นลงไม้ลงมือกับกาเหว่า เมยาวีไม่อยากมีเรื่อง แต่ต้องทำเพราะช่วยเพื่อน เธอเลยพลาดท่าเล็บยาวสวยหัก เสียงกรีดร้องเพราะความตกใจของเมยาวี ทำให้กาเหว่ามองเธอหัวจรดเท้า และรู้สึกเหม็นหน้ากันมาตั้งแต่นั้น เมยาวีและกาเหว่ามีอันต้องปะทะกันอยู่เนืองๆ เพราะทั้งคู่เรียนห้องเดียวกัน ผลการเรียนผลัดกันเป็นที่หนึ่งที่สองมาตลอด ในด้านกิจกรรม…คนหน้าตาดีอย่างเมยาวีมักจะได้เป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งอยู่เสมอ แต่กาเหว่าก็ไม่น้อยหน้า เมื่อไม่สู้เรื่องความสวย เธอก็ผลักดันให้ตัวเองได้เป็นประธานสี ได้ถือธงเดินคู่กับดรัมเมเยอร์ทุกครั้ง ความแตกต่างทางฐานะ หรือชาติตระกูลไม่ได้ทำให้กาเหว่ารู้สึกต่ำต้อยกว่าเมยาวีเลยแม้แต่น้อย หากเรื่องหนึ่งที่กาเหว่าแปลบใจ และอดเปรียบเทียบในใจไม่ได้ คือ ความรัก ความผูกพัน ในครอบครัวของเมยาวีที่ความอบุอุ่นอาบมาอุ่นถึงในหัวใจกาเหว่าเช่นกัน

เมศร์และวิภาวีมักจะมารับมาส่งลูกสาวคนเดียวอยู่เสมอ แม้ว่าจะมีกิจธุระมากมายเพียงใดก็ตาม รางวัลครอบครัวตัวอย่างของสังคมเป็นเครื่องรับประกันคุณภาพได้ระดับหนึ่ง ความน่ารักสดใส กิริยามารยาทสมบูรณ์แบบของเมยาวี คือสิ่งสะท้อนถึงการเอาใจใส่ของเมศร์และวิภาวีได้เป็นอย่างดี กาเหว่ามองภาพพ่อแม่ลูกพร้อมหน้านั้นอย่างสะท้อนใจ พรระวีไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเธอ แม่ผู้ให้กำเนิดกาเหว่าไม่ได้ตั้งใจจะตั้งท้องเธอสักนิด แต่พลาดท่า…อาชีพหมอนวดทำให้แม่เผอิญตั้งท้องกับลูกค้า โดยไม่รู้ว่าผู้ชายคนไหนที่กาเหว่าจะเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า…พ่อ หลังให้กำเนิดเธอไม่นาน แม่ของกาเหว่าติดโรคทางเพศสัมพันธ์เสียชีวิต พรระวีเพื่อนหมอนวดด้วยกันรับเลี้ยงกาเหว่ามาตั้งแต่นั้น พรระวีรักเอ็นดูกาเหว่าเท่าที่ชีวิตจะสามารถ เพราะพรระวีมักอ้างเสมอว่ายุ่งหนักหนากับธุรกิจร้านเสริมสวยและสถานเสริมความงามครบวงจร ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าคอนโดชื่อดังกลางกรุง ใช้เป็นกิจการบังหน้าที่พรระวีอาศัยเป็นฉากให้ธุรกิจหลัก จากที่เคยเป็นหมอนวดประจำอ่าง พรระวีผันตัวเองมาเป็นเอเย่นต์ส่งหญิงบำรุงบำเรอความสุขของผู้ชายผู้ไร้รักแท้และรักเทียมทั้งหลาย ว่างๆ พรระวีก็รับจ๊อบเป็นอาจารย์พิเศษติวหลักกามสูตรให้บรรดาหมอนวดมือใหม่ คนทั้งคอนโดพากันเมาท์อย่างสรรเสริญ ลูกศิษย์ของพรระวีกระจายกำลังเล่นน้ำอยู่ทั่วทุกอ่างในกรุงเทพฯ

ขณะที่เมยาวีมีบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์ สนามหญ้ากว้างขนาดต้องใช้รถกอล์ฟขับไปมาระหว่างตัวบ้าน สระน้ำ สวนสวย และบ้านของบรรดาน้องหมาน้อย กาเหว่ากลับมีบ้านเป็นห้องชั้นบนสุดของคอนโดที่สร้างเพื่อแบ่งให้เช่า แต่ด้วยอิทธิพลบางอย่างของพรระวีที่มีต่อเฮียเจ้าของอาคาร แกถึงกับยอมขายห้องให้พรระวีแทบจะยกฟลอร์ ส่วนที่เหลือก็ให้เช่ารายเดือน บรรดาเพื่อนร่วมอาคารของกาเหว่า ล้วนแล้วแต่ประกอบอาชีพสุจริตและทุจริตปะปนกันไป ตั้งแต่หมอนวดหุ่นอวบอั๋น หางเครื่องวงลูกทุ่งชื่อดังที่วันๆ เอาแต่เปิดเพลงฝรั่ง แต่ที่คุ้นเคยกับกาเหว่ามากที่สุดหนีไม่พ้นอาชีพอิสระอย่าง…เซลส์ โดยไม่ต้องรอให้ท่อง ก.กา หรือ เอ บี ซี ได้ กาเหว่าก็รู้แปลออกตั้งแต่สองขวบว่า เซลส์ในที่นี้หมายถึง ขายตัว

เจ๊อู๋ พี่สายหยุด และพี่กระจง สามเซลส์เนื้อสดรุ่นเก่าลายครามที่กาเหว่าคุ้นเคยและลับฝีปากกันประจำ เจ๊อู๋เป็นตัวตั้งตัวตี คอยโฆษณาอาชีพหากินบนเตียงหนานุ่มให้กาเหว่าฟังอยู่เสมอ หนำซ้ำพรระวีพลอยเห็นดีเห็นงามฝากฝังให้เจ๊อู๋ช่วยอบรมบ่มนิสัยให้กาเหว่าซึมซับสายเลือดแห่งการขายตัว ไม่วายที่กาเหว่าต้องคอยปรามและตักเตือน แต่เจ๊ทั้งสามก็ทำเป็นไขหู ซ้ำยังลอยหน้าลอยตายืนยันว่าพวกหล่อนคือเกิร์ลเฟรนด์ เพื่อนใจประจำคลับวัยใส กาเหว่าเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมและสังคมที่มีคุณภาพคนละขั้วกับเมยาวีอย่างสิ้นเชิง เปียโน บัลเล่ต์ รำไทย แจ๊สแดนซ์ ขี่ม้า จัดดอกไม้ ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมยามว่างที่เมยาวีถนัดและเชี่ยวชาญ ของเล่นที่เมยาวีกำลังเห่อที่สุดตอนนี้คือ ลูกสุนัขพันธุ์ชิทสุราคาแพง ที่เมศร์มอบให้เธอเป็นของขวัญเนื่องในวันที่พ่ออยากให้ เวลาว่างหลังเลิกเรียนเมยาวีจึงเป็นช่วงที่ทำงานหนักที่สุด นั่นคือ หวีขนและผูกโบว์ให้น้องหมาตัวน้อย รวมทั้งพาน้องหมานั่งรถกอล์ฟกินลมชมสวนรอบบ้าน

กาเหว่าก็มีงานอดิเรกหลักเลิกเรียนเช่นกัน แต่ต่างกับเมยาวีตรงที่กาเหว่าไม่ได้หวีขนหมา หากแต่หวีผมหมวย หรือบรรดาหญิงๆ อวบ ขาว สวย หมวย อึ๋ม สตรีอาชีพพิเศษในสังกัดของพรระวี เพื่อเตรียมตัวออกไปหาลูกค้า หน้าที่หลักของกาเหว่าคือรับโทรศัพท์ รายงานสรรคุณ ขายเนื้อสดวัยขบเผาะและขบไม่เผาะทั้งหลาย รวมทั้งเดลิเวอรี่ขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้าตามนัดหมาย ทำให้ถูกเข้าใจผิดอยู่เสมอว่ามีอาชีพพิเศษเหมือนสาวคนอื่นๆ กาเหว่าหัวเสียทุกครั้งที่ถูกทักว่าเป็นอย่างว่า ด้วง หนุ่มเพื่อนสนิทของกาเหว่าที่เป็นช่างซ่อมรถ เขาคอยปลอบและให้กำลังใจกาเหว่าเธอเสมอ ตรงกันข้ามกับพรระวี ยิ่งได้รู้ว่าเสี่ยๆ สนใจกาเหว่ามากแค่ไหน พรระวียิ่งกระดี๊กระด๊าด้วยความภูมิใจว่า กาเหว่านั้นคงเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นแน่นอน พรระวีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโตขึ้นกาเหว่าจะเป็นดาวประจำคลับ พยายามปลูกฝังความรักสวยรักงามให้กาเหว่า ด้วยคอร์สนวดหน้า ขัดผิว ประทินความงามทั้งหลาย แต่กาเหว่าไม่สน เพราะนิสัยออกจะแก่นเซี้ยว เปรี้ยวซ่าส์ กะล่อนเป็นทอมบอย ที่สำคัญ กาเหว่าเกลียดการมีอาชีพพิเศษขายนาผืนน้อยชนิดเข้าไส้ เพราะเห็นตัวอย่างความทุกข์ระทมที่ซ่อนอยู่ในแววตาของแววดาว พี่สาวนอกไส้ที่มีชาติกำเนิดเหมือนกัน

แววดาวกลายเป็นหญิงบริการเพราะความจำนนต่อชะตากรรมของชีวิต พรระวีเกลี้ยกล่อมแกมบังคับให้แววดาวขายตัวโดยอ้างว่าจะไม่ส่งเงินให้เรียนหนังสือ อยากเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องหาเงินเรียนเอง แววดาวจนแต้มและขาดความกล้าที่จะเผชิญกับการทะเลาะกับแม่ จึงต้องเริ่มอาชีพพิเศษตั้งแต่อายุสิบเจ็ด กาเหว่าเห็นความระทมทุกข์ในแววตาของพี่สาว จึงมุ่งมั่นว่าจะต้องเรียนหนังสือให้เก่ง จบออกมาจะได้มาช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบชะตากรรมอย่างแววดาว แต่ไม่วายโดนค่อนขอดจากแม่พรระวีและการกระแนะกระแหนจากบรรดาเจ๊ๆ สมาชิกสโมสรที่ต่างว่าอาชีพอย่างหล่อนสบายและสนุกที่สุดในโลกแม้ว่าสภาพแวดล้อมจะดูต่ำต้อยน่าอับอาย แต่กาเหว่ายังดำรงชีวิตเป็นปกติ ไปเรียนหนังสือด้วยเงินส่งเสียจากแววดาว เธอไม่อายเรื่องชาติกำเนิด ไม่เคยปกปิด และไม่แยแสกับสายตาเหยียดหยามน่าหมั่นไส้จากแยมและเยลลี่

เมยาวีพอจะรู้เรื่องทางบ้านของกาเหว่าจากการเม้าท์แบบใส่ไข่ของแยมและเยลลี่ ความเห็นใจเป็นความรู้สึกแรกที่เมยาวีรู้สึกกับกาเหว่า เมยาวีเคยแอบให้กาเหว่ายืมอุปกรณ์การเรียนสุดหรู เพราะเข้าใจว่ากาเหว่าคงจะมีเงินไม่พอซื้อมาใช้ แต่ด้วยสายตานิ่งขรึม ใบหน้านิ่ง เชิด ดูทระนงของเมยาวี ทำให้กาเหว่าแปรเจตนาเอื้อเฟื้อของเมยาวีว่าเป็นการดูถูกเธออย่างแรง ในปีการศึกษานั้น เมยาวียิ่งประหลาดใจแกมหมั่นไส้กาเหว่ามากขึ้นอีก เพราะกาเหว่าปฏิเสธการรับทุนการศึกษารางวัลเรียนดี เพราะปีนี้คนมอบรางวัลคือ เมศร์ พ่อของเมยาวีผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ เมยาวียิ่งภาคภูมิใจในตัวเอง เมื่อเห็นความเป็นไปของกาเหว่า เธอคิดเสมอว่าความรักของพ่อและแม่ที่มีต่อเธอ เป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด และความสุขที่ท่วมท้นตัวเธออยู่ในขณะนี้จะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนไปได้เด็ดขาด จนกระทั่งอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่มีใครคาดคิด!

อุบัติเหตุครั้งนั้นพรากชีวิตวิภาวีไปอย่างไม่มีวันกลับ เมยาวีเสียใจกับการจากไปของแม่ แต่ที่ทำให้เธอเสียใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เมศร์ พาอิงอรภรรยาใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน พร้อมกับองุ่น ลูกสาวตัวเล็กน่ารักน่าเอ็นดูวัยเจ็ดขวบ เมยาวีช็อกกับการกระทำของพ่อ โลกที่สวยงามของเธอแทบถล่มพังลงตรงหน้า ไม่คาดฝันว่าพ่อของเธอจะปกปิดเรื่องเมียน้อยไว้กว่าเจ็ดปี เธอเฝ้าคิดว่าที่ผ่านมาพ่อหลอกลวงเธอมาตลอด ความรักความอบอุ่นที่พ่อมีให้เป็นแค่ภาพลวงตา ขณะที่เมศร์และอิงอรพยายามทำความเข้าใจกับเมยาวี เธอกลับพยายามทำตัวออกห่างครอบครัว หลงเชื่อคำชักจูงของแยมและเยลลี่ที่คอยชักนำไปในทางเหลวไหล เมยาวีเริ่มหนีเที่ยวกลางคืน ท่ามกลางความเป็นห่วงของเมศร์และอิงอร เมศร์พยายามห้ามปรามแต่เมยาวีกลับย้อนเสมอว่า อยู่บ้านไม่มีความสุข เพราะบ้านที่เธอเคยอยู่มีคนแปลกหน้าเข้ามาเพ่นพ่าน เมยาวีน้อยใจพ่อที่ยกห้องนั่งเล่นสีชมพูส่วนตัวของเธอให้องุ่นลูกสาวคนใหม่ ยกเสื้อผ้าน่ารักในวัยเด็กของเธอให้กับองุ่น เมยาวีเริ่มรู้สึกลึกๆ ในใจว่า องุ่นกำลังจะเข้ามาแทนที่เธอ และอิงอรก็เข้ามาแทนที่วิภาวี

“พ่อกำลังจะลืมแม่…อีกหน่อยก็คงลืมว่าลูกชื่อ…เมยาวี” เมยาวีได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง เมยาวีเผอิญเห็นรูปถ่าย พ่อ แม่ ลูก ของเมศร์ อิงอร และองุ่น โดยไม่มีเธออยู่ในรูปถ่ายนั้น เมยาวีน้ำตาไหลพราก ความอดทนสิ้นสุด ใช่…เป็นเธอเองที่ปฏิเสธการถ่ายภาพครอบครัวในวันนั้น เพราะเมยาวีถือเสมอว่าอิงอรและองุ่นไม่ใช่ครอบครัวของเธอเมยาวีทะเลาะกับเมศร์อย่างรุนแรง สายสิญจน์ที่เมศร์กับวิภาวีเคยผูกข้อมือให้ ที่เธอใส่ติดข้อมือเสมอมาไม่เคยถอด เมยาวีตัดใจกระชากสายสิญจน์ขาดจากกันแล้วปาใส่หน้าพ่อ เมศร์ผิดหวังกับการกระทำของลูกสาว เผลอตบหน้าเมยาวีอย่างแรง เมยาวีเสียใจมากหนีออกจากบ้าน เมยาวีเตลิดออกมาพบกับด้วง เด็กหนุ่มฐานะยากจนที่เมยาวีเคยตกหลุมกลอุบาลหลอกเอาเงินจากข้าวตูน้องชายต่างแม่ของด้วง เมยาวีจำเหตุการณ์นั้นได้อย่างแม่ยำ

วันนั้น…ข้าวตูหลอกล่อทำให้เมยาวีเผลอล็อกรถโดยลืมกุญแจไว้ในรถ ข้าวตูทำเป็นติดต่อหาช่างมางัดรถให้ ซึ่งก็คือด้วงผู้เป็นพี่ชายนั่นเอง เมื่อจับได้ว่าข้าวตูสร้างแผน เมยาวีวิ่งไล่จับข้าวตูจนเท้าบวม เธอไปแจ้งตำรวจ แต่จ่าสุชาติไกล่เกลี่ยและบอกถึงนิสัยที่แท้จริงของด้วงให้เมยาวีฟัง เมยาวีถึงกับอึ้งเมื่อรู้ความจริงว่าข้าวตูสร้างแผนเหล่านี้เพื่อหาเงินช่วยด้วง เพราะชีวิตสองพี่น้องสุดจะลำเค็ญนัก ด้วงคืนเงินให้กับเมยาวี ช่วยหาน้ำแข็งมาประคบเท้าให้ ซ้ำยังบริจาครองเท้าแตะฟองน้ำให้กับเท้าที่บวม ส่วนตัวเองเดินเท้าเปล่ากลับบ้านกับข้าวตู  เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เมยาวีแอบชอบด้วงโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าด้วงจะได้แต่เงยหน้าขึ้นมองดอกฟ้าอย่างเมยาวี แต่ไม่กล้าคิดบังอาจจะเด็ดดอกฟ้าเลยสักครั้ง เมยาวีขอพักกับด้วงชั่วคราว แต่ด้วงปฏิเสธและไล่เมยาวีกลับอย่างไม่ใยดี แม้ว่าข้าวตูจะเออออยอมให้ก็ตาม ด้วงสอนเมยาวีถึงการใช้ชีวิตและการเป็นลูกที่ดี แต่เป็นการสอนแบบปากเสียและประชดประชันตามนิสัย เมยาวีฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่ก็ซึมซับความหวังดีของผู้ชายปอนๆ คนนี้ ด้วงไล่เมยาวีกลับบ้านได้โดยไม่ไปส่ง แต่จริงแล้ว ด้วงแอบขี่มอเตอร์ไซค์ตามดูเมยาวีอยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเมยาวีเข้าบ้านปลอดภัย ด้วงจึงวกรถกลับบ้านอย่างสบายใจโดยไม่รู้ว่าเมยาวีแอบมองอยู่

ด้วงตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างเขากับเมยาวี ที่แอบเป็นห่วงขนาดนี้ด้วงก็รู้สึกว่าอาจเอื้อมมากเกินไปแล้ว ด้วงได้วิชา งัดแงะ แกะทุกอย่ามาจากสถานกักกันเยาวชน ครั้งที่เข้าไปเยือนเพราะคดีลักซาลาเปาทิ้งแล้วจากห้างสรรพสินค้าที่ด้วงเคยเป็นพนักงานสมัยเป็นเด็กๆ วิชาชีพทางโจรไม่ได้ทำให้ด้วงหลงเป็นขโมย ตรงกันข้ามกลับทำให้เขาเลือกทำงานได้สารพัด เป็นมนุษย์สาวหลงประจำซอย แต่ด้วงไม่เคยมองใคร ไม่เคยสนใจใคร และด้วยความปากเสียทำให้กลายเป็นคู่ปรับและเพื่อนซี้ของกาเหว่าด้วงหางานทำเพื่อเลี้ยงข้าวตู น้องชายต่างมารดาที่พ่อไปไข่ทิ้งไว้แล้วเขาตามไปเก็บมาเลี้ยงด้วยความเวทนาปนหมั่นไส้ เพราะความแก่นซ่าของข้าวตูทำให้เด็กชายตัวน้อยตั้งแก๊งค์เป็นขาใหญ่ประจำชุมชน ไม่นานก็ได้รู้จักกับองุ่น คุณหนูบ้านหลังใหญ่ที่สุดของชุมชน เพราะข้าวตูแอบปีนรั้วบ้านองุ่นเข้าไปสอยมะม่วงเพื่อเอาไปแบ่งกับส้มซ่า ลูกสาวของเฮียโก้ เด็กตัวเล็กที่สุดของแก๊งค์ แม้จะต่างฐานะต่างชนชั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยความใสซื่อประสาเด็กที่ไม่มีจริตมารยา องุ่นกลายเป็นสมาชิกแก๊งค์ตัวเปี๊ยกของข้าวตูและส้มซ่า โดยการดูอยู่ห่างๆ ของอิงอร ที่เข้าใจเด็ก เอ็นดูข้าวตูและส้มซ่า โดยแบ่งขนมและอาหารให้เสมอ

แต่เพราะอคติ…เมยาวี จึงไม่เคยเห็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และน้ำใจของอิงอรเลย ทั้งหมดนี้ยิ่งสร้างความไม่เข้าใจระหว่างเธอกับเมศร์ผู้เป็นพ่อ นับวันช่องว่างระหว่างพ่อ ลูก ยิ่งห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ อิงอรเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของเมยาวีอย่างเป็นกังวลและห่วงใย กาเหว่าสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงของเมยาวี แม้ว่าจะไม่ถูกชะตากันขนาดไหน แต่ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง กาเหว่าอดเป็นห่วงเมยาวีไม่ได้ ผลการเรียนของ เมยาวีเริ่มตกต่ำลงทุกที คู่แข่งที่เคยแข่งกันมาตลอดอย่างกาเหว่าเริ่มวิตก กลัวว่าจะไม่มีคู่แข่ง กาเหว่าปลอบใครไม่ค่อยเป็น ได้แต่ฉะปะทะกันกับเมยาวีจนสังเกตได้ว่าเมยาวีกำลังขาดที่พึ่งทางใจอย่างที่สุด เมยาวีเริ่มใช้ชีวิตเสเพล เหลวแหลก ออกเที่ยวกับแยมและเยลลี่ แยมเป็นผู้หญิงประเภทเก็บสะสมแต้มจากการนอนกับผู้ชาย เมยาวีเองเกือบจะถลำตัวประพฤติแบบเดียวกับแยมแต่กาเหว่าเผอิญมาเจอและห้ามไว้ได้ทัน ในบางครั้งเยลลี่ก็พาเมยาวีไปร่วมก๊วนซ้อนท้ายแก๊งมอเตอร์ไซค์ซิ่ง ซึ่งมี แบงค์ คู่ขาของเยลลี่เป็นหัวหน้า แบงค์สนใจตัวเมยาวีมาก ถึงกับเสียเงินให้เยลลี่หลอกเมยาวีจนเมยาวีเกือบตกเป็นเดิมพันในการแข่งมอเตอร์ไซค์ โชคดีที่ด้วงซึ่งเป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ประจำแก๊งค์ แกล้งทำเป็นเผอิญผ่านมาเจอ ร่วมกับกาเหว่าและข้าวตูช่วยเมยาวีไว้ได้อย่างหวุดหวิด

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ดอกฟ้าอย่างเมยาวี ประทับใจเจ้าด้วงหมาวัดอีกครั้ง… เมยาวีมักไปหลับในห้องเรียนเพราะเที่ยวดึก กาเหว่าคอยเตือนเมยาวีเสมอ แต่เมยาวีไม่เคยเชื่อ ไม่เคยเห็นคุณค่าของกาเหว่าเพราะถือตัวว่ามีฐานะดีกว่า แต่กาเหว่าไม่ใส่ใจยังคงให้ความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าเมยาวีจะตกเข้าไปอยู่ในบ่วงกรรมเดียวกับแววดาว แววดาวพยายามทำตัวให้มีความสุข แต่ทุกครั้งหลังจากรับแขก เธอมักน้ำตาริน รังเกียจตัวเองต้องรีบเก็บกวาดเช็ดถูห้องเพื่อหวังจะลบร่องรอยคาวของชีวิต จ่าสุชาติ ตำรวจหนุ่มใหญ่ เป็นชายคนเดียวที่หลงรักแววดาว แต่ไม่เคยเที่ยวผู้หญิง จ่าสุชาติมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมแววดาวเสมอ จนตกเป็นขี้ปากการแซวของเจ๊อู่ สายหยุด และนางกระจง จ่าสุชาติมักอ้างเสมอว่า เขาไม่เคยดีพอสำหรับใคร ได้แต่ร้องเพลงลูกทุ่งกล่อมเววดาวให้หลับผ่านทางสายลมและแสงไฟนีออนที่ลอดเข้าหน้าต่างห้องแววดาว เช่นเดียวกับแววดาวที่คิดว่าเธอก็ไม่สะอาดพอสำหรับใคร กาเหว่า ที่เคยเชียร์แววดาวกับจ่าสุชาติให้ตกลงปลงใจกันซะทีก็ได้แต่ปลง เพราะทั้งคู่ต่างสร้างกำแพงกั้นความรู้สึกของตัวเองจนยากจะพังกำแพงเหล่านั้น

กาเหว่าไม่ค่อยเข้าใจความรัก ตลอดชีวิตรู้จักแต่ความใคร่จากโลกที่เธอเผชิญอยู่ จนกระทั่งได้พบกับคิมหันต์ ลูกชายของคมน์ ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรีกับคุณหญิงคนึงนิตย์ คิมหันต์เป็นหนุ่มเพลย์บอย มักจัดงานปาร์ตี้ที่ต้องพึ่งสาวจากคลับของพรระวีอยู่เสมอ วันหนึ่งกาเหว่าทำหน้าที่ขับรถคันโตไปส่งสาวๆ เหล่านั้น ทำให้คิมหันต์เข้าใจผิดว่ากาเหว่าคือหนึ่งในบรรดาหญิงสาวที่ทำอาชีพพิเศษคิมหันต์คิดจะใช้บริการความสุขจากกาเหว่า แต่ต้องหน้าแตกเพราะเจอบทเรียนสั่งสอนจากกาเหว่า จับเขาไปมัดมือมัดเท้าในโบสถ์ยามดึก บังคับให้ไหว้พระชำระจิตใจ แถมยังมัดให้นั่งสมาธิในป่าช้าถึงหนึ่งคืนเต็มๆ คิมหันต์รอดผีมาได้ด้วยความแค้น ปนความรู้สึกเอ็นดูกาเหว่าเป็นพิเศษ เขาเริ่มแวะเวียนเข้ามาใกล้ตัวกาเหว่าบ่อยขึ้น แต่กาเหว่ากลับเห็นว่าคิมหันต์เป็นหนุ่มเพลย์บอยที่เหมือนผู้ชายทั่วไปที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น กาเหว่ายิ่งหมั่นไส้คิมหันต์หาเรื่องแกล้งตลอดเวลา

แต่ยิ่งแกล้งมากเท่าไหร่ กาเหว่ายิ่งเห็นความเหงาเศร้าในตัวคิมหันต์มากขึ้นเรื่อยๆ คิมหันต์ไม่เคยปริปากบอกใครแม้แต่กาเหว่าเรื่องบ้าน เพราะคนทั่วไปมักมองว่าครอบครัวของเขานั้นเป็นครอบครัวตัวอย่าง ตัวเขาเองคงจะเป็นชายหนุ่มที่มีความอบอุ่นที่สุดในโลก ทั้งที่ความจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้น คมน์ผู้เป็นพ่อ มัวแต่สนใจกิจกรรมและกิจกามกับเด็กสาว ในขณะที่คุณหญิงคนึงนิตย์ก็มั่วแต่ออกงานสังคมและเข้าสถานเสริมความงามและโรงพยาบาลเพื่อชะลอความสาวและความสวยให้ไม่สร่างซาไปพร้อมกับวัยชราที่เข้ามาเยือน ตั้งแต่เด็กจนโต คิมหันต์ไม่เคยได้กินข้าวพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เขาชินชาที่จะต้องกินข้าวคนเดียว หนำซ้ำตอนเขาป่วยก็เป็นตัวเขาเองที่ขับรถพาตัวเองเข้าโรงพยาบาล แถมแอทมิทตัวเองเสร็จสรรพ พ่อแม่เพียงส่งดอกไม้ฝากเลขามาเยี่ยมเนื่องจากติดภารกิจ ที่รายล้อมรอบตัวคิมหันต์มีแต่ผู้หญิงที่พร้อมเสนอตัวให้ เมื่อรู้ถึงฐานะและเม็ดเงินในกระเป๋า คิมหันต์เคยเชื่ออย่างฝังหัวว่า ผู้หญิงดีๆ ไม่มีเหลืออยู่ในโลก จวบจนเขาได้มาคุย มากินข้าว มารู้จักกาเหว่า ความชุ่มชื่นจึงกลับมารดรินในใจคิมหันต์อีกครั้ง และความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงและความรักเริ่มเปลี่ยนไป

คิมหันต์เริ่มปรับตัวเองให้เลิกเที่ยว เริ่มเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหนุ่มมีสาระมากขึ้น ในขณะที่คมน์ผู้เป็นพ่อกลับยิ่งเพิ่มความชั่วให้กับตัวเองอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ผู้หญิงที่เขาหามาปรนเปรอความสุขอายุน้อยลงเรื่อยๆ มูลนิธิเพื่อเด็ก ที่นายคมน์เป็นประธานให้การช่วยเหลือเด็กในชุมชน คมน์มาแจกของเด็กๆ ด้วยตนเอง ทำให้ได้พบกับกาเหว่าและพรระวี คมน์จำได้ว่าพรระวีเคยทำงานอยู่ในสถานอาบอบนวด หนำซ้ำเขายังเป็นลูกค้าประจำ คมน์ในมาดนักบุญใจบาปพยายามติดต่อพรระวีเพราะสนใจกาเหว่า คุณหญิงคนึงนิตย์ เริ่มจับสังเกตได้ว่าคมน์เที่ยวผู้หญิง มีเมียน้อยไม่ต่ำกว่าเจ็ดบ้าน ทั้งสองจึงเริ่มมีปากเสียง คมน์ลงไม้ลงมือกับคุณหญิง จนวันหนึ่งคุณหญิงทนไม่ไดเขอฟ้องหย่า แต่คมน์ไม่ยอมด้วยกลัวชื่อเสียงที่สร้างสมมาชั่วชีวิต คุณหญิงงัดไม้ตาย…อ้างว่ามีโพยรายชื่อลูกค้าของเจ๊พรระวีที่คมน์ไปใช้บริการ รวมทั้งวิดีโอเทปลับเฉพาะที่พร้อมจะแฉทุกเมื่อ คมน์กลัวว่าหากเรื่องฉาวของเขาถูกคุณหญิงเผยออกไปสู่สังคม ชื่อเสียงที่เขาสะสมมาทั้งชีวิตต้องพังพินาศแน่นอน

คมน์ใช้วิสูตร ลูกน้องซึ่งเป็นผู้จัดการอาบอบนวดจัดการเก็บคุณหญิงคนึงนิตย์จนต้องประสบอุบัติเหตุตายอย่างทารุณ คิมหันต์เสียใจกับการตายของแม่อย่างที่สุดโดยไม่รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นายวิสูตรตามหาโพยรายชื่อจากพรระวี กาเหว่ารู้ว่าโพยดังกล่าวจะเป็นภัยสร้างอันตรายต่อแม่และแววดาว รวมทั้งเจ๊ๆ คลับวัยใสคนอื่นๆ เธอตัดสินใจเก็บโพยไว้กับตัวเองเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ในขณะเดียวกันเมยาวีเริ่มตกเข้าไปอยู่ในวงจรการค้ากามของวัยรุ่นและมาม่าซังวัยโจ๋ เยลลี่ที่เคยขายบริการให้คมน์อยู่บ่อยๆ เยลลี่เริ่มผันตัวเป็นแม่เล้าวัยเด็กติดต่อเพื่อนๆ ในสังกัดออกล่าเงินและล่าผู้ชายที่ตัวเองพึงใจ โดยมีโบนัสติดปลายนวมเล็กๆ น้อยๆ เมยาวีถูกยุยงให้ร่วมในวงจรนี้ด้วย หากแต่เธอยังตัดสินใจไม่ขาด กับการตัดสินใจกระโจนลงเหวนรก ด้วยความแค้นที่รู้ว่ากาเหว่ามีโพยอยู่ในมือ และคิดต่อรองเพื่อสวัสดิภาพของเธอ คมน์สั่งให้วิสูตรเล่นงานพวกบ้านพรระวี โดยหลอกล่อจะซื้อบริการคู่นอนเดลิเวอรี่จาก แววดาว และผู้หญิงคนอื่นๆ ในสังกัดพรระวี แต่จุดมุ่งหมายในการนี้ก็คือ ฆ่าทิ้ง

หนึ่งในหญิงสาวที่ถูกเพื่อนหลอกให้เข้ามาในกิจกาม ด้วยความหลงผิดคือเมยาวี เพราะเมยาวีต้องการประชดพ่อ ประชดชีวิต โชคดีที่กาเหว่า เห็น และตัดสินใจตามไปช่วย ท่ามกลางการต่อสู้ของแก๊งค์เปี๊ยกซ่าส์ ซึ่งนำโดยข้าวตู องุ่นและส้มซ่า โดยการช่วยเหลือของด้วงลูกพี่ใหญ่ ทำให้ทั้งหมดรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่โชคร้ายที่ระหว่างการต่อสู้กับพวกวิสูตร แววต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องกาเหว่าน้องสาวที่เธอรักที่สุดในชีวิต จ่าสุชาติตามมาทันได้เห็นลมหายใจสุดท้ายของแววดาว ซึ่งในที่สุด จ่าสุชาติก็กล้าสารภาพรักกับแววดาวแม้ว่าจะสายไปแล้วก็ตาม

เมศร์และอิงอรเป็นเบื้องหลังสำคัญของแก๊งค์เปี๊ยกซ่าที่ยกขบวนไปช่วยเมยาวีและกาเหว่าออกมาได้ อิงอรอธิบายถึงความรักของเมศร์ที่มีต่อยาวี รวมทั้งทำความเข้าใจในความรักบริสุทธิ์ที่เธอมีให้มายาวีตลอดมา สิ่งเดียวที่ทำให้ ความรักที่เธอมีให้มายาวี ต่างจากวิภาวีแม่แท้ๆ นั่นคือเธอไม่ได้ให้กำเนิดเมยาวีเท่านั้น ความรักที่เคยมีกำแพงกั้นระหว่างเมศร์ อิงอร และเมยาวีจึงหมดไป เมยาวียอมรับอิงอรและองุ่นเป็นครอบครัวเดียวกัน คิมหันต์ท้อแท้เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้ว พ่อของเขาคือคนบาปในคราบนักบุญ แต่ด้วยการให้กำลังใจของกาเหว่า คิมหันต์เลิกทำตัวเป็นเพลย์บอยและกลับใจมาทำงานเพื่อสังคมในฐานะนักสังคมสงเคราะห์ รณรงค์หาเงินช่วยเหลือหญิงถูกล่อลวงทางเพศ กาเหว่าให้ตั้งชื่อว่า “กองทุนแววดาวเพื่อผู้หญิงและเด็ก”

จากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ทำให้พรระวีเลิกเคี่ยวเข็ญให้กาเหว่าเป็นผู้หญิงพิเศษ และเลิกการเป็นเอเย่นต์ส่งเด็กอย่างเด็ดขาด เธอกลับมาขยายกิจการร้านเสริมสวยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยการช่วยเหลือของเจ๊อู๋ สายหยุดและนังกระจงที่ได้คิดเช่นกัน ด้วงได้ทุนเรียนต่อวิชาชีพช่างระดับสูง โดยการช่วยเหลือจากคิมหันต์และกาเหว่า ครอบครัวของเมยาวีเปิดโอกาส ให้การต้อนรับด้วงเป็นอย่างดี ด้วงได้สัมผัสความรักจากครอบครัวเมยาวี ทำให้รู้ว่าสิ่งที่เขาโหยหามาแสนนาน คือความรักความอบอุ่นที่เติมเต็มโดยครอบครัว

ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท: ช่างปั้นเรื่อง

นักแสดง อุ่นไอรัก
ตะวัน จารุจินดา
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์

แหวนทองเหลือง

แหวนทองเหลือง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นเปิดการโจมตีทั้งทางอากาศ ทางบก และทางเรือ ต่อประเทศกลุ่มที่เป็นพันธมิตรของอังกฤษ อเมริกา และเนเธอแลนด์ ส่วนหนึ่งของกองทัพญี่ปุ่น ได้บุกขึ้นประเทศไทยหลายจุด กองทัพไทยต้องยอมจำนน ต้องทำสัญญาเข้าร่วมรบกับฝ่ายอักษะ ประกอบด้วยญี่ปุ่น เยอรมัน และอิตาลี ทำให้ชาติไทยต้องตกอยู่ในภาวะสงครามตั้งแต่นั้นโดยที่ไม่มีใครต้องการ คนไทยกลุ่มหนึ่งทั้งในและนอกประเทศ ประกอบด้วยทั้งทหารและพลเรือน ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยขึ้นอย่างลับๆ เพื่อกู้ชาติและเพื่อศักดิ์ศรีของชาติ ในขั้นแรก ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายชนะ รุกไล่ฝ่ายสัมพันธมิตรจนฐานทัพเรือที่เพิร์ลฮาเบอร์ เกาะฮาวายของสหรัฐถูกถล่ม ยึดครองเกาะเล็กเกาะน้อยในมหาสมุทรแปซิฟิก ยึดครองฟิลิปปินส์มุ่งหน้าเข้าพม่า ขับไล่อังกฤษผู้ยึดครองพม่าออกไป และเริ่มลุกลามเข้าสู่อินเดีย แต่แล้วในที่สุดญี่ปุ่นผู้เริ่มรุกราน ก็ถูกตีถอยร่นมาจากทุกสมรภูมิ สัมพันธมิตรจึงส่งเครื่องบินเข้าโจมตีไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ทำให้ประชาชนเกิดการระส่ำระสายต้องอพยพหลบหนีกันอลหม่านทุกวัน จนกระทั่งญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม

 

จากนั้นทหารพันธมิตรก็เข้ามาเต็มเมือง ธุรกิจการค้าต่างเริ่มเฟื่องฟูรุ่งเรือง  คนไทยบางกลุ่มก็กลายเป็นเศรษฐีใหม่ ดวงใจ  หญิงสาวชาวบ้านผู้ต่ำต้อย ซึ่งหลงรักร้อยเอกกฤษฎา ลูกชายท่านเจ้าคุณเทศา ผู้เป็นนายของกำนันปานผู้บิดา ดวงใจหลงรักรูปของกฤษฎามาตั้งแต่แตกเนื้อสาว และแล้ววันหนึ่งโดยไม่คาดฝัน กฤษฎาก็พาตัวจริงมาให้ดวงใจพบเห็น ใช่แต่ดวงใจจะหลงรักกฤษฎาฝ่ายเดียว กฤษฎาเองก็หลงรักดวงใจไม่ต่างกัน ทั้งสองหลบหลีกผู้คนไปท่องเที่ยวหาความสุขด้วยกัน จนได้เสียกัน แต่แล้วด้วยความรักชาติซึ่งยิ่งใหญ่ที่สุด ทำให้กฤษฎาต้องจากดวงใจมาทั้งๆ ที่ไม่อยากจาก เพียงแต่หวังว่าเมื่อหน้าที่ของเสรีไทยซึ่งเป็นหน่วยกู้ชาติใต้ดิน และสงครามสิ้นสุดจะกลับมาหาดวงใจ ก่อนจากกันกฤษฎามอบสร้อยคอและล็อคเก็ตให้ดวงใจไว้ ส่วนดวงใจมอบแหวนทองเหลือไร้ค่าให้กฤษฎาไว้เช่นกัน กฤษฎาไม่เคยถอดแหวนวงนี้ออกจากมือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

ดวงใจเฝ้ารอการกลับมาของร้อยเอกกฤษฎาด้วยความหวัง แต่ดวงใจตั้งครรภ์ขึ้นมาจึงทำให้กันปานโกรธแค้นยิ่งนัก ยิ่งรู้ดวงใจท้องกับกฤษฎายิ่งเสียใจ และด้วยความจงรักภักดีต่อเจ้าคุณเทศา ผู้มีบุญคุณช่วยชุบชีวิตกำนันจากโจรให้มาเป็นพลเมืองดี ทำให้กำนันไม่ปริปากเอ่ยให้ผู้ใดรู้ว่าดวงใจท้องกับกฤษฎา และสั่งห้ามดวงใจเอ่ยชื่อกฤษฎาให้ได้ยินอีกเป็นอันขาด กำนันได้ใช้โซ่ตรวนกักขังดวงใจไว้ในบ้าน เนื่องจากดวงใจพยายามจะหนีไปตามหากฤษฎาให้ได้ ต่อมาได้มีลูกชายเศรษฐีผู้หนึ่ง ซึ่งหลงรักดวงใจตั้งแต่ก่อนบวช พอสึกออกมาแล้วจึงได้ส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอ และไม่รังเกียจแม้ว่าดวงใจจะท้องไม่มีพ่อก็ตามที แม้ไม่เต็มใจ แต่เพื่อรักษาหน้าของลูกสาว กำนันปานตัดสินใจรับการสู่ขอ มิใยที่ดวงใจจะทัดทาน มิใยจะต้องทุบตีลูกสาวที่รักเหมือนดวงใจของกำนันเอง กำนันก็ต้องยอม วันแต่งงาน ดวงใจถูกล่ามโซ่รออยู่ในห้อง ขบวนขันหมากแห่ใกล้เข้ามาทุกที ดวงใจพยายามสะเดาะโซ่มาหลายวันแล้ว แต่ไม่อาจทำสำเร็จได้ ผลที่สุดด้วยใจอันมุ่งมั่นแน่วแน่และด้วยความเข็มแข็งของดวงใจ ทำให้ดวงใจตัดสินใจเฉือนเนื้อตัวเองที่ส้นเท้าออกไป เพื่อให้เท้าลอดออกมาจากห่วงโซ่ได้ และเธอก็ทำสำเร็จ ดวงใจกระโดดหนีลงจากเรือนกระเซอะกระเซิงเข้าไปในป่า กำนันส่งคนติดตามไล่ล่าเต็มที่ ดวงใจได้รับความช่วยเหลือจากชาวป่าสองผัวเมีย เมียท้องพอๆ กับดวงใจ ดวงใจขอแลกเสื้อผ้ากับเมียชาวป่า และขายสร้อยคอเพื่อเอาเงินติดตัวเดินทาง แล้วอาศัยล่องแพมากับคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในเมือง

 

หลายวันต่อมา บรรดาคนติดตามดวงใจได้พบศพของผัวเมียคู่นั้นถูกเสือฆ่าตาย จึงพากันเข้าใจผิดว่าดวงใจตาย เพราะหญิงคนนั้นใส่ชุดของดวงใจและใส่สร้อยของดวงใจ กำนันเสียใจมาก นำศพของดวงใจมาฝังไว้หลังบ้าน และทำการปิดตายเรือนรับรองหลังใหญ่ของเจ้าคุณเทศาที่กฤษฎามาพัก ดวงใจมาที่สถานีรถไฟเพื่อขึ้นกรุงเทพตามหากฤษฎา แต่เงินที่มีอยู่ร่อยหรอลง ทำให้ไม่พอค่าโดยสาร ดวงใจตัดสินใจเดินตามทางรถไฟไปเรื่อยๆ ด้วยหวังว่าวันหนึ่งจะถึงกรุงเทพ เดินทางรอนแรมมาหลายวัน ดวงใจหมดแรงล้มลงอยู่บนทางรถไฟนั่นเอง ขณะนั้นนายสถานีกำลังโยกรถตรวจสภาพรางรถไฟมาพบเข้า คิดว่าดวงใจอยากฆ่าตัวตาย จึงช่วยพาดวงใจกลับมาส่งไว้ที่บ้านนายสถานีอนามัย เมื่อดวงใจรู้สึกตัว ก็เริ่มเจ็บท้องจะคลอดลูก พอดีในช่วงนั้นหมอเมตตามาจากกรุงเทพฯ เพื่อตรวจอนามัยจังหวัดที่นั่น หมอจึงทำคลอดให้ดวงใจ ได้ลูกเป็นหญิง หมอสอบถามดวงใจได้ความว่าดวงใจต้องการไปกรุงเทพฯเพื่อตามหาสามีชื่อร้อยเอก กฤษฎา บ้านอยู่ทุ่งมหาเมฆ มีต้นเฟื่องฟ้าสีแดงสดหน้าบ้านที่กรุงเทพฯให้ได้ หมอเกิดความเวทนาและเอ็นดูดวงใจ จึงให้ดวงใจติดตามเข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามหาสามี

 

ทางด้านร้อยเอกกฤษฎา ทำหน้าที่เสรีไทยด้วยความเข้มแข็ง และซื่อสัตย์ ไม่ยอมให้ผู้ใดรู้ที่อยู่ และรู้ว่ากำลังทำสิ่งใด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของขบวนการ ทั้งๆ ที่คิดถึงดวงใจและห่วงเจ้าคุณเทศาผู้บิดามาก กฤษฎาทนกล้ำกลืนความคิดถึงและความทุกข์โศกทั้งหมด แล้วตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีที่สุด จนได้รับความเชื่อถือยกย่องจากหัวหน้าหน่วย และเพื่อนร่วมงานทั่วไป ทางฝ่ายเจ้าคุณเทศา ตรอมใจที่ลูกชายคือกฤษฎาหายไปไม่มีวี่แวว ถึงกับล้มป่วยและได้ทำพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดให้การกุศล ส่วนบ้านที่อยู่ยกให้ภรรยาน้อย ภรรยาน้อยได้นำบ้านหลังนั้นไปขายให้กับนักธุรกิจ เปิดบ่อน เปิดคลับกลางคืนสำหรับนักท่องเที่ยว หมอเมตตาพาดวงใจมาถึงกรุงเทพฯ ให้ดวงใจอาศัยที่บ้าน แม่ของหมอเอ็นดูดวงใจโดยเฉพาะลูกสาวของดวงใจมาก ดวงใจนั้นขยันขันแข็งไม่ดูดาย ทำงานบ้านทุกอย่าง ตลอดจนช่วยหมอในเรื่องรักษาพยาบาลคนป่วย จนสามารถรู้จักชื่อยา และหยิบยาได้ถูกต้อง ถูกใจหมอและคุณแม่ของหมอมาก

 

ดวงใจใช้เวลาว่างตามหากฤษฎาเป็นปี ทั่วทุ่งมหาเมฆ หาบ้านที่มีดอกเฟื่องฟ้า ซึ่งมีเป็นจำนวนมากมาย ในที่สุดดวงใจก็พบบ้านของกฤษฎา โดยสอบถามจากคนเก่าแก่ในบ้าน ทราบว่ากฤษฎาหายสาบสูญและบ้านได้ถูกขายไปทำคลับและบ่อนแล้ว โดยภรรยาน้อยของเจ้าคุณพ่อของกฤษฎานั่นเอง คนใช้เก่าแก่ยังเล่าอีกว่า ได้ข่าวลือมาว่ากฤษฎาเสียชีวิตในสงครามไปแล้ว ดวงใจเศร้าเสียใจมาก ซมซานกลับ ปรับทุกข์กับหมอ หมอเห็นอกเห็นใจดวงใจ หมอแอบหลงรักดวงใจมานาน ยิ่งเมื่อทราบว่าสามีของดวงใจเสียชีวิต หมอจึงเกิดความหวัง ในที่สุดวันหนึ่งหมอจึงเสนอตัวขอแต่งงานกับดวงใจ ดวงใจตกใจมาก เพราะคิดไม่ถึง ดวงใจปฏิเสธหมอ โดยบอกว่าได้ให้คำมั่นสัญญากับสามี และตัวเองไว้ว่าจะไม่มีชายอื่นอีกแล้ว นอกจากกฤษฎา

 

ดวงใจเกิดความรู้สึกผิดและไม่สบายใจที่ทำให้ผู้มีพระคุณต้องผิดหวัง เมื่อไม่สามารถจะทดแทนพระคุณได้ ดวงใจจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านหมอ ในตอนเช้าตรู่วันหนึ่ง ดวงใจอุ้มลูกน้อยกระเซอะกระเซิงออกมา พร้อมด้วยเงินในกระเป๋าจำนวนหนึ่งที่เก็บสะสมไว้จากการที่หมอให้เป็นค่าตอบ แทนในการทำงานให้หมอ ขณะอุ้มลูกเดินมา เสียงหวอดังขึ้น ดวงใจพาลูกหาที่หลบระเบิด ปรากฏว่ามีคนร้ายถือโอกาสกระชากกระเป๋าดวงใจไป ทำให้ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่แดงเดียว จนกระทั่งพบแม่ค้าข้าวแกง หนูน้อยเกิดหิวร้องงอแงขอกินอาหาร ดวงใจตัดสินใจเรียกแม่ค้าหาบเร่ผู้นั้นหยุด แม่หนูทานจนอิ่ม แม่ค้าขอเก็บเงิน ดวงใจไม่มีให้ เกือบถูกแม่ค้าเล่นงาน หาว่าหลอกกินฟรี ในที่สุดแม่ค้าก็เข้าใจ และกลับสงสารดวงใจ จึงพาไปหายายประคองเจ้าของบ้านที่แม่ค้าอาศัยอยู่เช่นกัน ยายประคองผู้ปากร้ายแต่ใจดี ไม่พอใจในขั้นแรก แต่เมื่อเสาวรสซึ่งเป็นหญิงสาวพเนจรเหมือนกันและมาอาศัยอยู่กับยายประคอง รับรอง ยายประคองก็ใจอ่อนให้ดวงใจอาศัยอยู่ด้วย ดวงใจ เสาวรส จึงสนิทสนมกัน และสาบานเป็นพี่น้องกันตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

 

กิจการหาบเร่ของยายประคองรุ่งเรือง แบ่งออกเป็นสองสาย สายหนึ่งเสาวรส สายที่สองดวงใจ แยกย้ายกันไปขายตามที่ต่างๆ ของหมดทุกวัน วันหนึ่งดวงใจนำห่อหมกหาบไปขายที่ซ่องนางโลมของนางช้อย ปรากฏว่าขายดิบดีเป็นเทน้ำเทท่า บรรดาแมงดา และลูกเล้าทั้งหลายต่างชื่นชมในความสวยของดวงใจ และเล่าลือกันไปถึงนางช้อย นางช้อยรีบส่งคนมาติดต่อดวงใจให้ไปเป็นโสเภณีประจำซ่อง ดวงใจปฏิเสธทันที นางช้อยไม่ละความพยายามมาหาเองถึงบ้านยายประคอง ถูกด่าและถูกไล่ด้วยตะหลิวเปิดก้นออกจากบ้านแทบไม่ทัน เนื่องจากยายประคองนั้นรังเกียจพวงซ่องนางโลมมาก  พวกนางช้อยไม่ละความพยายาม พวกแมงดาตัวเอ้ของนางช้อยวางแผนฉุดคร่าดวงใจ และในที่สุดวันหนึ่งดวงใจกับเสาวรสก็โดนจับตัว เสาวรสต่อสู้หลุดออกมาได้ พวกแมงดาจึงข่มขืนดวงใจเพราะเชื่อว่านี่เป็นจุดที่จะทำให้ดวงใจยอมเป็น โสเภณี เสาวรสหนีกลับไปบอกยายประคองแต่ก็สายไปแล้ว

 

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ดวงใจเสียขวัญมาก เพราะไม่สามารถรักษาตัวไว้ได้ ตามที่สัญญาไว้กับตัวเองและกฤษฎา ดวงใจตัดสินใจหอบลูกน้อยไปไว้ที่หน้าบ้านของหมอเมตตา คุณแม่ของหมอเป็นผู้พบหนูน้อย ในย่ามของหนูน้อยพบจดหมายของดวงใจที่ยกลูกสาวให้หมอ พร้อมทั้งมอบล็อคเก็ตของกฤษฎาไว้ให้ลูกสาวด้วย ดวงใจแจ้งในจดหมายว่าเพื่ออนาคตที่ดีของหนูน้อย หมอรับเลี้ยงลูกสาวของดวงใจและได้ตั้งชื่อให้เด็กว่า นาตยา ดวงใจได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ย้อนกลับไปที่ซ่องของนางช้อย เพื่อไปสมัครเป็นโสเภณี ขณะนั้นระเบิดลงที่ย่านนั้น ทั้งซ่องและบ้านยายประคองถูกระเบิดลงเสียหายหนัก ตัวดวงใจเองได้รับความช่วยเหลือจากนายทหารญี่ปุ่นคนหนึ่งชื่อพันเอกโตชิโจ๊ะ โตชิโจ๊ะพาดวงใจมาที่บ้าน ให้ทำงานเป็นแม่บ้าน ไม่ยอมให้ทำงานที่ซ่อง โตชิโจ๊ะเกิดหลงรักดวงใจขึ้นมาอีกราย มิใยดวงใจจะเล่าว่าเคยมีสามีมาแล้ว และถูกแมงดาที่ซ่องนางช้อยข่มขืนมาแล้วก็ตาม โตชิโจ๊ะก็ไม่สนใจ ความดีของโตชิโจ๊ะและประกอบกับสูญเสียคำมั่นสัญญาของตัวเองไปกับการถูกข่มขืนครั้งนั้น ทำให้ดวงใจยอมเป็นภรรยาของโตชิโจ๊ะ เพื่อทดแทนบุญคุณ และเรียกโตชิโจ๊ะว่านายทุกคำ โตชิโจ๊ะเลี้ยงดูดวงใจอย่างดี ให้เงินทางใช้สอย ดวงใจมีความสุขขึ้น ถึงแม้ในส่วนลึกยังคงคิดถึงกฤษฎาอยู่เสมอ

 

วันหนึ่งโตชิโจ๊ะได้พาหญิงรุ่นพี่ซึ่งอายุมากกว่าดวงใจเล็กน้อยคนหนึ่งมาหา และบอกว่าให้มารับใช้ดวงใจ หญิงนั่นคือ เสาวรสนั่นเอง เสาวรสโทรมจนดวงใจจำไม่ได้ ซึ่งในที่สุดดวงใจก็จำเสาวรสได้ ดวงใจดีใจมาก ชีวิตของดวงใจมีความสุขมากขึ้นหลังจากที่เสาวรสมาอยู่ด้วย ต่อมาพักหลังนายเริ่มติดธุระมากขึ้นและเครียดจัด และในที่สุด ทุกคนก็ทราบว่าญี่ปุ่นทำท่าจะแพ้สงคราม โตชิโจ๊ะถูกเรียกตัวกลับญี่ปุ่น ก่อนไปมอบเงินจำนวนหนึ่งมากพอสมควรให้ดวงใจไว้ใช้ และสั่งไว้ว่าให้เช่าบ้านหลังนี้เอาไว้จนถึงที่สุด รอจนกว่าเขาจะกลับมา แต่ทั้งสองหารู้ไม่ว่าโตชิโจ๊ะจะไม่กลับมาแล้ว เนื่องจากเขาได้ตัดสินใจทำฮาราคีรีขณะนั่งเรือกลับญี่ปุ่น หลังจากได้รับทราบการประกาศยอมแพ้สงครามอย่างเป็นทางการ ทางฝ่ายดวงใจกับเสาวรสคอยนายจนจากเดือนเป็นปี เงินทองร่อยหรอ ไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน ถูกคุณนายเจ้าของบ้านเช่าทวงค่าเช่าเช้าเย็นและไล่ออกจากบ้าน ดวงใจยังคงยึดมั่นคำสั่งของนาย ตัดสินใจขายของใช้ดีๆ ในบ้านไปบ้าง ผลที่สุดแอบไปสมัครเป็นโสเภณี แต่ด้วยความอดอยากในระยะหลัง ทำให้ดวงใจดูรุดโทรม จึงถูกเย้ยหยันตะเพิดออกจากซ่องแทบไม่ทัน

 

ดวงใจกับเสาวรสหมดหนทางหาเงินมาใช้จ่าย ทั้งสองกลัดกลุ้มมาก ขณะนั้นดวงใจเดินสะดุดไม้ที่อยู่ใต้พรมซึ่งคุณนายเจ้าของบ้านเพิ่งมาริบไป ทำให้เห็นไม้เผยอขึ้นเห็นสิ่งหนึ่งเหลืองอร่ามตาอยู่ใต้ไม้นั้น ทั้งสองเกิดความสงสัยแงะออกมาดูแล้วตกตะลึงพรึงเพริด เพราะใต้พื้นไม้นั่นเต็มไปด้วยทองคำแท่งจำนวนมหาศาลของนายญี่ปุ่นซึ่งซ่อน เอาไว้ เสาวรสลองนำเอาทองแท่งไปขายหนึ่งแท่ง ได้เงินมามากพอสมควร ดังนั้นเมื่อคุณนายเจ้าของบ้านมาถึงพร้อมคนงานจะเตรียมมาบุกไล่ทั้งสอง จึงเจอทีเด็ดเอาเงินฟาดหัว และถีบก้นส่งขณะนับเงิน เงินกระจาย ทั้งสองตัดสินใจขายทองไปซื้อบ้านใหม่อยู่ เอาทองไปฝากธนาคาร แบ่งจำนวนหนึ่งขายมาเป็นเงินลงทุนทำธุรกิจซึ่งกำลังบูมในช่วงนั้น โดยมีเสาวรสเป็นหัวเรือใหญ่ในทางธุรกิจ เสาวรสดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัททุกแห่งของดวงใจซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานทุกบริษัทเช่นกัน พร้อมกันนั้นดวงใจได้เปลี่ยนชื่อเป็นหทัยทิพย์ นามสกุล ดวงใจ เพื่อกันคนจำได้ ทุกคนในวงสังคมรู้จักเสาวรส และหทัยทิพย์อย่างดีว่าร่ำรวยและสวยแถมยังใจบุญ ชอบบริจาคเงินเพื่อการกุศล

 

หลังสงคราม ร้อยเอกกฤษฎา กลับมาบ้าน พบว่าบ้านถูกขายไปแล้ว พ่อตาย ทรัพย์มรดกสูญหาย คงเหลือแต่บ้านเชียงใหม่หลังเดียว กฤษฎารีบกลับไปหาดวงใจที่เชียงใหม่พบแต่กำนันบ้าน ทราบว่าดวงใจตายและกำนันยังพาไปดูหลุมฝังศพของดวงใจอีก ทำให้กฤษฎาเสียใจยิ่งนัก และประกาศขายบ้านเชียงใหม่และกลับกรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ กฤษฎายากจนมาก ไม่มีสิทธิ์เลือกงาน และประกอบกับหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ทำให้กฤษฎาประชดชีวิตด้วยการไปสมัครเป็นยามที่บริษัทแห่งหนึ่ง ความมั่งมีร่ำรวยไม่ทำให้หทัยทิพย์มีความสุขเพราะยังจมอยู่กับอดีตและยังมี ความหวังว่าสักวันคงจะได้พบลูกและสามี เธอจึงใช้เหล้าย้อมใจสม่ำเสมอ โดยไม่ฟังคำทัดทานของเสาวรส หทัยทิพย์ได้ส่งคนไปสืบหายายประคอง ทราบว่าอยู่คลองเตย หทัยทิพย์ต้องการตอบแทนบุญคุณแก่ทุกคนที่มีพระคุณโดยไม่แสดงตัว ทั้งเสาวรสและหทัยทิพย์ทั้งสองจึงวางแผนช่วยยายประคองจนกลายเป็นเศรษฐีน้อยๆ โดยไม่รู้ว่ามีคนแอบช่วย เสาวรสเอาประกาศขายบ้านพักผ่อนเชียงใหม่มาให้หทัยทิพย์ดู หทัยทิพย์ถึงกับตกตะลึงเพราะนั่นคือบ้านของกฤษฎา ทำให้เกิดความหวังขึ้นมาบ้าง ว่ากฤษฎายังมีชีวิตอยู่ หทัยทิพย์มอบหมายให้เสาวรสไปจัดการซื้อบ้านหลังนั้นมา และปรับปรุงให้มีสภาพเหมือนเดิมและให้จ้างกำนันเฝ้าบ้านตามเดิมด้วยราคาอัน แพงลิบ โดยมีสายคำเพื่อนผู้พี่คนเดิมคอยดูแลกำนันอีกทีหนึ่ง กฤษฎาได้เงินจากการขายบ้าน จึงนำมาซื้อบ้านหลังกระทัดรัดอยู่หลังหนึ่ง และทำงานเป็นยามต่อไป ส่วนหทัยทิพย์เริ่มส่งคนไปสืบหากฤษฎา หมอเมตตาและลูกอย่างไม่หยุดยั้ง นาตยาลูกสาวของดวงใจเรียนจบแล้ว และเข้าใจว่าตัวเองคือลูกสาวจริงๆ ของนายแพทย์เมตตา หมอไม่ได้แต่งงาน ละโกหกนาตยาว่าแม่ของนาตยาเสียชีวิตตั้งแต่นาตยายังเล็กๆ อยู่ หมอได้ย้ายไปตั้งคลีนิคหมอเมตตาอยู่ที่กาญจนบุรี รักษาคนไข้ผู้ยากจนและก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือคนไข้ผู้ยากไร้ขึ้นมา และอนุญาตให้นาตยาไปหางานทำที่กรุงเทพฯ

 

ในที่สุดนาตยาก็ได้มาทำงานกับหทัยทิพย์ โดยได้รับการฝากฝังจากพิธี พนักงานชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง หทัยทิพย์รู้สึกสะกิดใจบางอย่างในตัวนาตยา รู้สึกเอ็นดูนาตยา แต่นาตยารู้สึกไม่ปลื้มหทัยทิพย์นัก เนื่องจากได้ยินคำเล่าลือว่าหทัยทิพย์เป็นผู้หญิงขายตัวมาก่อน นาตยาพักอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง และคบค้ากับหอมลูกชายเจ้าของหอ ลูกชายเสี่ยหยงเจ้าของธุรกิจที่ไม่ถูกเส้นกับบริษัทแห่งหนึ่งในเครือหทัยทิพย์ หอมชอบเล่นดนตรีและแนะนำให้นาตยารู้จักกับเพื่อนประเภทนักเที่ยวไม่เอาไหน อีกแก๊งหนึ่ง หอมออกจะชอบนาตยา แต่นาตยาค่อนข้างจะรักนวลสงวนตัว แม้จะชอบเที่ยวก็ตาม หมวดนิทัศน์ญาติห่างๆ ของหมอเมตตา ก็เป็นหนึ่งที่มาติดใจนาตยา และพยายามเตือนนาตยาให้ตีตัวออกห่างแก๊งของหอม แต่นาตยาไม่ฟัง และมีปากเสียงกันเสมอ หมอเองก็เขม่นนิทัศน์ที่มาติดพันนาตยา ในที่สุดนาตยาก็ถูกหอมหลอกล่อให้ติดยาเสพติดตั้งแต่กัญชาและอื่นๆ อีกไปจนเริ่มจะลองผงขาว สายสืบมาแจ้งแก่เสาวรสและหทัยทิพย์ว่าพบหมอเมตตาแล้ว และหมอกำลังต้องการเงินทุนจำนวนหนึ่งเพื่อไปใช้จ่ายสำหรับคนจนในมูลนิธิ มตตาของหมอ หทัยทิพย์รีบส่งผ่านเงินนี้ไปทางพิธีและเสาวรสทันทีจำนวนมากพอสมควร หมอเมตตาซาบซึ้งในความกรุณาครั้งนี้และขอเดินทางมาพบเพื่อแสดงความขอบคุณ ด้วยตัวเอง แต่ถูกปฏิเสธจากหทัยทิพย์

 

ต่อมาโชคชะตาก็บันดาลให้หทัยทิพย์ขับรถชนกฤษฎาทที่โรงงานซึ่งกฤษฎาเป็น ยามอยู่ที่นั่น นาตยาสามารถจำกฤษฎาได้ทันทีและยิ่งเห็นแหวนทองเหลืองที่นิ้วของกฤษฎา หทัยทิพย์ก็ยิ่งมั่นใจแน่นอน แต่กฤษฎาไม่สามารถจำหทัยทิพย์ได้ เพียงแต่รู้สึกว่าช่างคล้ายกับดวงใจมาก หทัยทิพย์พากฤษฎามารักษาตัวที่โรงพยาบาลประคบประหงมจนหายและให้เสาวรสชักชวน ให้กฤษฎา มาทำงานที่บริษัทด้วยกัน ตั้งให้เป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มิใยที่เสาวรสจะเคี่ยวเข็ญให้บอกความจริงกับกฤษฎา หทัยทิพย์ก็ไม่ยอมเพราะคิดว่ากฤษฎาต้องไม่ยอมรับอดีตที่ผ่านมาของเธอที่คน เล่าลือกัน สำหรับกฤษฎา ก็เท่ากับเป็นหัวหน้าโดยตรงของนาตยา กฤษฎาเอ็นดูนาตยาโดยไม่รู้สาเหตุ แต่นาตยาขั้นแรกรู้สึกรำคาญกฤษฎา เนื่องจากกฤษฎาช่างสังเกตและชอบตักเตือน เรื่องความประพฤติส่วนตัวของนาตยาเรื่องสูบยา แต่ในสายตาของหทัยทิพย์กลับมองเป็นว่ากฤษฎากำลังจีบนาตยา ทำให้หทัยทิพย์ดื่มเหล้ามากขึ้น

 

นาตยาเองก็เคยจับสังเกตเห็นความรู้สึกของหทัยทิพย์ว่าแอบชอบกฤษฎาแน่นอน และเคยบอกกฤษฎา แต่กฤษฎาบอกว่านาตยาเหลวไหล คนดีพร้อมอย่างหทัยทิพย์ไม่สนใจคนต่ำต้อยอย่างเขาแน่นอน ต่อมาผู้ใหญ่ปานเสียชีวิตลงและทำการเผาไปเรียบร้อยแล้ว สายคำจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาแจ้งข่าวกับเสาวรสทราบ สายคำจำหทัยทิพย์ไม่ได้เช่นกัน แต่กฤษฎาดีใจมากที่พบสายคำ และชักชวนให้สายคำไปพักอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านของเขา นาตยาติดยาหนักขึ้นทุกที กฤษฎาเริ่มห่วงมาก ซึ่งทำให้หทัยทิพย์ไม่เข้าใจผิดมากขึ้นทุกที และดื่มเหล้ามากขึ้น จนเสาวรสกลุ้มใจ กฤษฎาร่วมมือกับนิทัศน์ไปเกลี้ยกล่อมนาตยาโดยขู่ว่าจะไปบอกความจริงให้กับ หมอเมตตาทราบ นาตยาขอร้องไว้ และยอมรับปากรักษาตัว หลบพวกหอมไปรักษาอาการติดยาอยู่ที่บ้านของกฤษฎา มีสายคำคอยดูแล นาตยาหายอาการติดยาแล้ว และเกิดหลงรักกฤษฎาอย่างมากมาย ถึงกับปฏิเสธนิทัศน์ขณะ เดียวกันหทัยทิพย์ก็เกิดขัดแย้งกับเสี่ยหยงพ่อของหอมขั้นรุนแรง เสี่ยหยงวางแผนจับตัวหทัยทิพย์ แต่เพื่อให้ดูแนบเนียนจึงมีการเรียกค่าไถ่ด้วย เสาวรสนำเงินไปไถ่ตัวหทัยทิพย์ตามคำขู่ โดยมีนิทัศน์และตำรวจกลุ่มหนึ่งลอบติดตามไปด้วยขณะที่แกล้งแลกเงินเพื่อไถ่ ตัวหทัยทิพย์ และคิดจะตลบหลังจับทั้งเสาวรสและหทัยทิพย์ไปฆ่า นิทัศน์กำลังจะเข้าจู่โจม พวกคนร้ายรู้ตัวก่อน จึงยิงเสาวรสตาย นิทัศน์ช่วยหทัยทิพย์ออกมาได้ การตายของเสาวรสทำให้หทัยทิพย์จิตใจแย่ลง

 

กฤษฎาเข้าช่วยเหลือทำหน้าที่แทนเสาวรส ด้วยความเอ็นดูและห่วงใยนาตยาเหมือนลูกหลาน กฤษฎาขอโอนนาตยามาเป็นเลขาทำให้หทัยทิพย์ถึงกับพูดไม่ออก นาตยาแสดงความพอใจที่มีต่อกฤษฎาจนออกนอนหน้า เมื่อถูกหทัยทิพย์ซักถาม นาตยายอมรับอย่างหน้าชื่นว่าหลงรักกฤษฎา หวังจะให้กฤษฎาของแต่งงานด้วย ทำให้หทัยทิพย์ใจเสียยิ่งขึ้น นาตยานำข่าวการเลื่อนตำแหน่ง และขึ้นเงินเดือนไปอวดหมอเมตตาที่กาญจนบุรี หมอเมตตาเห็นว่านาตยาโตพอที่จะทราบความจริงได้แล้ว จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้นาตยารู้และมอบล็อคเก็ตให้นาตยาบอกว่านี่คือของที่ พ่อนาตยามอบให้ดวงใจ แม่ที่แท้จริงของนาตยา และดวงใจก็ได้มอบสิ่งนี้ไว้ให้กับหมอ เพื่อให้กับนาตยาอีกทีหนึ่ง นาตยามาทำงานแต่เช้า พบหทัยทิพย์คนแรก หทัยทิพย์แทบช็อคที่เห็นนาตยาใส่ล็อคเก็ตอันนี้ นาตยาบอกว่าคือของแม่แท้ๆ ของเธอ พ่อเลี้ยงของเธอชื่อ หมอเมตตา หทัยทิพย์กลัวว่ากฤษฎาจะเห็นล็อคเก็ตนี้จึงขอยืมนาตยาไว้ อ้างว่าชอบและจำไปทำเลียนแบบบ้าง หทัยทิพย์ตื่นเต้นเป็นที่สุดเพราะทั้งสามีและลูก ได้มารวมตัวทำงานอยู่ด้วยกันแล้วจึงคิดหาทางจะบอกความจริงให้ทุกคนทราบ

 

หทัยทิพย์เชิญกฤษฎาให้ไปงานวันเกิดของเธอ ในอีกเจ็ดวันข้างหน้า รวมทั้งนาตยาและหมอเมตตาพ่อของนาตยาและนิทัศน์ด้วย ถึงวันเกิดของหทัยทิพย์ หทัยทิพย์แต่งตัวในชุดสาวเหนือแบบเดียวกับที่ดวงใจเคยแต่ง กฤษฎามาถึงคนแรกตามเวลาหทัยทิพย์กำหนดไว้ก่อนคนอื่น กฤษฎาได้พบกับภาพที่ไม่นึกฝันเพราะนั่นราวกับภาพของดวงใจในอดีตมาปรากฎอยู่ ตรงหน้า ทำให้กฤษฎาถึงกับมั่นใจว่าหทัยทิพย์คือดวงใจ และดวงใจยังไม่ได้ตายไปตามความเข้าใจผิดของทุกคนแน่นอน หทัยทิพย์ไม่รับ ไม่ปฏิเสธ และส่งกล่องล็อคเก็ตให้กฤษฎา แล้วหลบหนีออกไปจากบ้านหลังนั้น ทิ้งท้ายไว้ให้เข้าใจว่าเธอจะกลับไปยังที่ที่เธอจากมา ขณะเดียวกันนั้น พวกนิทัศน์ หมอเมตตาและนาตยาเดินทางมาถึงตามเวลานัดเช่นกัน ทุกคนพบแต่กฤษฎาซึ่งนั่งซึมอยู่ กฤษฎาแกะกล่องออกมาพบล็อคเก็ต ที่ตนมอบให้กับดวงใจ นาตยาบอกว่านั่นคือ ของที่พ่อจริงของเธอได้มอบให้กับแม่ หมอรับรองอีกคนว่าเขาคือผู้รักษาล็อคเก็ตนี้ไว้ในฐานะพ่อเลี้ยงของนาตยา ทุกคนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด นิทัศน์ได้โอกาสแสดงความในใจต่อนาตยาอีกครั้ง กฤษฎามั่นใจว่าดวงใจต้องไปบ้านเชียงใหม่ เพราะนั่นคือที่ที่เธอจากมานั่นเอง กฤษฎาก็ได้พบดวงใจที่นั่นจริงๆ ทั้งสองต่างเล่าสู่เรื่องราวที่ผ่านมาของกันและกัน ทั้งสองได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันต่อไปอย่างมีความสุข

นักแสดงละคร แหวนทองเหลือง

1. พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงเป็น ร้อยเอกกฤษฎา

2. กมลชนก เขมะโยธิน แสดงเป็น ดวงใจ / หทัยทิพย์

3. เขตต์ ฐานทัพ แสดงเป็น ร้อยโทนิทัศน์

4. จีระนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น นาตยา

5. วรุฒ วรธรรม แสดงเป็น พันเอกโตชิโระ นาตาเบ

6. ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ แสดงเป็น หมอเมตตา

7. สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ แสดงเป็น กำนันปาน

8. สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ แสดงเป็น เสาวรส

9. กชกร นิมากร แสดงเป็น สายคำ

10. สรพงศ์ ชาตรี แสดงเป็น หัวหน้าหน่วยทริงโคมาลี

11. เอกพัน บรรลือฤทธิ์ แสดงเป็น หนานอุย

12. วีรประวัติ วงศ์พัวพันธ์ แสดงเป็น ทิดอาด

13. วิทิต แลด แสดงเป็น สุวัฒน์

14. ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี แสดงเป็น มัสยา