Category Archives: ละครปี 2537

แววมยุรา

แววมยุราแววมยุรา เรื่องราวของหญิงสาวที่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ทั้งที่เคยโดนข้อเสนอจากคนที่หวังในตัวของเธอต่างๆ นานา แต่เธอก็ไม่ยอมตกลงปลงใจ แม้ว่าฐานะทางบ้านจะไม่ค่อยดีนัก

จักร กังวาลไกล : ผมรักคุณ ผมทำทุกอย่างเพื่อจะได้หัวใจคุณ มีอะไรอีกหรือที่คุณต้องการ ผมรู้ความเป็นไปของคุณทุกอย่าง ผมจะไม่บังคับ ฝืนใจ และจะยอมรับในความผิดหวังนั้น หากคุณไม่เลือกผม คุณมีอะไรจะบอกผมมั๊ย ขอให้คุณรู้ว่า ไม่ว่าคุณจะเลือกใคร ผมก็จะรักและบูชาในน้ำใจคุณตลอดไป”

แวว มยุรา : “ดิฉันเลือก ‘ยาจก’คนหนึ่งมาเป็นเจ้าของความรักของดิฉัน แทนที่จะเลือก ‘ราชา’ผู้พรั่งพร้อมอย่างคุณ ฉันบูชาคุณ บูชาความดีของคุณ แต่ความรู้สึกเหล่านั้นไม่ใช่ความรัก ความรักที่แท้จริงสอนให้ดิฉันพึงพอใจและภาคภูมิใจในสิ่งที่ จักร กังวานไกล คนนั้นเป็น”

‘เงิน’อาจซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้ ยกเว้น ‘หัวใจ’ของผู้ที่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีแห่งตน!

ผู้กำกับ :
ผลิตโดย : อัครเศรณี โปรดักชั่น
เขียนบท : อานนท์ อภิพลภัทรา
บทประพันธ์ : พนมเทียน

นักแสดงละคร แววมยุรา

วรุฒ วรธรรม รับบทเป็น จักร กังวาลไกล/ สยุมภูว์ ทศพล
กมลชนก โกมลฐิติ รับบทเป็น แวว มยุรา
ตฤณ เศรษฐโชค
นิออน อิศรา
ศักราช ฤกษ์ธำรงค
มณีรัตน์ วงศ์จีระศักดิ์
เหมือนฝัน บัณฑิตสกุล
สุเทพ ประยูรพิทักษ์
ชลิต เฟื่องอารมย์
พิศมัย วิไลศักดิ์

ไม่มีสวรรค์สำหรับคุณ

ไม่มีสวรรค์สำหรับคุณ เป็นเรื่องราวของ กาย ที่ใช้ความเป็นหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ของตัวเอง ทำให้ผู้หญิงหลงรัก แต่เขาหวังในทรัพย์สินเงินทองเท่านั้น

กำกับรายการโทรทัศน์โดย พงศ์ศักดิ์ (ราเชน ) นาคพงศ์

นักแสดงละคร ไม่มีสวรรค์สำหรับคุณ

พีท ทองเจือ แสดงเป็น กาย
มยุรา ธนะบุตร แสดงเป็น เอื้อยทอง
สลักจิต ดลมินทร์ แสดงเป็น น้องหญิง
โกวิท วัฒนกุล
สรพงศ์ ชาตรี

 

เหมือนคนละฟากฟ้า

เหมือนคนละฟากฟ้า เรื่องราวของโยทกา และชิตณรงค์ ที่อยู่ใกล้กัน แต่เหมือนอยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน

โยทกา เป็นสาวนักเรียนนอก ที่มีปมเกี่ยวกับแม่ เพราะแม่ของเธอส่งเสียเธอเรียนเมืองนอกมาเป็นเวลาสิบปี แต่ไม่ได้มีเวลามาหา มาดูแล  เพราะแม่เปลี่ยนผู้ดูแลไปเรื่อยและไปหาเธอ เพื่อมาบอกข่าวว่า แม่จะแต่งานใหม่เท่านั้น

ชิดณรงค์ มีคนรักอยู่แล้ว คือ นงนิตย์ ทำงานเป็นนักร้อง และกำลังท้อง ชิดณรงค์นำข่าวไปบอกพ่อ แต่พ่อของเขาไม่เห็นด้วย ฝ่ายนงนิตย์กลับกลุ้มใจเพราะเธอคบผู้ชายซ้อนกันอยู่ จนต้องแก้ปัญหาด้วยการไปทำแท้ง ฝั่งพ่อของชิตณรงค์จ้างนักสืบให้ติดตามนงนิตย์ เพื่อให้ชิตณรงค์ได้รู้ความจริง

ต่อมาแม่ของโยทกามาแต่งงานกับพ่อของชิดณรงค์ ทำให้ชิดณรงค์ดูถูกทั้งแม่และลูก ว่าต้องการรวยทางลัด แต่สุดท้ายเขาก็หลงรักโยทกาโดยไม่รู้ตัว

นักแสดงละคร เหมือนคนล่ะฟากฟ้า

จินตหรา สุขพัฒน์ แสดงเป็น โยทกา อรุณชาติ (โย)
วิลลี่ แมคอินทอช แสดงเป็น ชิดณรงค์
ธิติมา สังขภิทักษ์ แสดงเป็น กรรณิการ์
พิศาล อัครเศรณี
รักษ์สุดา สินวัฒนา แสดงเป็น นงนิตย์
กรรชัย กำเนิดพลอย
พรนภา เทพทินกร
กันตา ดานาว แสดงเป็น เจน

โสมส่องแสง

โสมส่องแสง

ณ.เมือง “เวียงสรอง”เมืองที่เคยมีแต่ความสงบสุข แต่หลังจากเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้เปลี่ยนแปลงการปกครองไป ความสงบสุขที่เคยมีก็หายไป เมื่อคนใกล้ชิดของเจ้าหลวงได้ร่วมมือกับต่างชาติ เพื่อโค่นล้มระบบการปกครอง และยกตัวเองขึ่นเป็นใหญ่ ไฟสงครามได้ปะทุขึ่น(ไม่ดีเลยครับ) แล้วได้จับเจ้าหลวงไปกักขังใว้ในคุกมืด(จะโดนแบนไอพีใหมเนี๊ย) โดยมี “เจ้านางน้อย”พยายามจะพาพ่อหนีไปสมทบกับพี่ชาย(รอยอินทร์)ที่ชายแดน แต่พ่อของเธอไม่ยอมหนีโดยบอกว่า “ขัตติยะพระองค์ใดเคยหนีความตายได้บ้างและถ้าองค์เจ้าหลวงหนีไปแล้วประชาชนคนข้างหลังจะทำอย่างไรหรือ”(ตรงนี้เศร้ามากๆ)แล้วหลังจากนั้นเจ้าหลวงได้ฝากความไปถึงรอยอินทร์ “ฝากแผ่นดินนี้ด้วย” แล้วให้เจ้านางน้อยปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหนีไปสมทบกับรอยอินทร์ที่ชายแดน ต่อมาไม่นานเจ้านางน้อยได้รับข่าวว่าเจ้าหลวงสิ้นแล้ว เจ้านางน้อยได้รู้ข่าวเธอช๊อคเป็นลมแต่มีชาวบ้านมาช่วยใว้ หลังจากนั้นเจ้านางน้อยได้พบกับ “ภูริต” ที่หนีการตามล่าของฝ่ายตรงข้ามมาพบเธอเข้า เจ้านางน้อยได้ช่วยเหลือและเดินทางไปชายแดนด้วยกัน โดยเจ้านางน้อยเป็นคนนำทาง แต่ไปไม่ได้ไกลภูริตที่ได้รับบาดเจ็บได้ล้มป่วยลง(แผลอักเสบ) โดยมีเจ้านางน้อยเป็นคนดูแล จนกระทั้งเดินทางได้ ภูริตได้ถามเจ้านางน้อยว่าชื่ออะไร เธอบอกว่าชื่อ “เลอทรวง” ภูริตเลยคิดว่าเป็นผู้ชาย ภูริตเลยเรียกเจ้านางน้อยว่า “เจ้าจ้อย”นับแต่นั้นมาเจ้าจ้อย ภูริต และหมาอีกหนึ่งตัว(เก็บจากที่ผ่านกันมา)เดินทางไปชายแดนด้วยกัน(ช่วงนี้จะสนุกและมีตอนซึ้งๆน่ารักๆของทั้งคู่ครับ)จนมาถึงชายแดนที่รอยอินทร์อยู่ ภูริตได้ถูกแยกไปผ่าตัด ส่วนเจ้าจ้อยได้พบกับรอยอินทร์พี่ชายของเธอ ภูริตไม่ได้เจอหน้าเจ้าจ้อยอีกเลย จนกระทั้งภูริตได้รับคำสั้งให้ไปรายงานสถานการ์ที่ฝั่งไทย จนเช้าวันที่ไปรายงานตัวภูริตเจอกับเจ้าจ้อยไดยเจ้าจ้อยได้ขอให้ภูริตพาไปด้วย หลังจากนั้นภูริตได้พาเจ้าจ้อยมากรุงเทพเพื่อเยี่ยมแม่ของเขา จนวันที่สองเขาก็ได้รับรายงานว่า รอยอินทร์โดนฝ่ายตรงข้ามล้อม ภูริตและเจ้าจ้อยเลยต้องกลับไปช่วยรอยอินทร์กัน ภูริตได้ไปช่วยรอยอินทร์จนสำเร็จโดยเจ้าจ้อยได้แอบไปช่วยด้วย การไปช่วยรอยอินทร์ในครั้งนี้ได้ทำให้ภูริตได้รู้ว่าเขานั้นได้เป็นห่วงเจ้าจ้อยของเขามาก หลังจากเดินทางมาถึงที่พักแล้ว รอยอินทร์ได้แนะนำให้ภูริตได้รู้จักน้องสาวเขา เขาถึงรู้ว่าเจ้าจ้อยของเขาก็คือเจ้านางน้อยของเวียงสรองนั้นเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เมื่อภูริตได้รู้ว่าโดนหลอก เขาจะโกรธใหม แล้วอย่างนี้เขาจะทำอย่างไรต่อไป แล้วเรื่องราวของทั้งสองจะจบลงอย่างไรในเมื่อไฟสงความยังไม่มีทีถ้าว่าจะจบลง มาติดตามดูความหมายของคำว่า “เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน”กันได้ ใน “โสมส่องแสง

ผู้กำกับ :  นพพล โกมารชุน
ผลิตโดย : ยูม่า99
เขียนบท : เอื้องอรุณ สมิตสุวรรณ
บทประพันธ์ : โรสลาเลน

นักแสดงละคร โสมส่องแสง
ฉัตรชัย เปล่งพานิช, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, มาช่า วัฒนพานิช, ศิริลักษณ์ ผ่องโชค

สารวัตรใหญ่

สารวัตรใหญ่ เป็นเรื่องราวของ พ.ต.ต.ใหญ่ เวโรจน์ เป็นอดีตตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่สารวัตรใหญ่ ที่ สภอ.พระลาน จังหวัดพระกำแพง ในเริ่มแรก ใหญ่ไม่แน่ใจว่าตนจะปฏิบัติหน้าที่นี้ได้หรือไม่ เพราะเคยแต่ทำงานด้านปราบปรามผู้ก่อการร้ายมาตลอด ในวันแรกที่ย้ายไป เขาก็ได้พบกับการทำหน้าที่ของตำรวจที่นั่นแล้ว และพบว่ามันเป็นพื้นที่ ๆ สกปรก เต็มไปด้วยอาชญากรรม การคอรัปชั่น ตำรวจก็ไม่เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยมี ว่าที่ ร.ต.ต.พิทยาธร นายตำรวจหนุ่มจบใหม่เฝ้าดูอยู่และหวังให้ใหญ่เป็นแบบอย่าง จึงเป็นหน้าที่ของใหญ่ เวโรจน์ นายตำรวจน้ำดีที่มีอุดมคติ ผู้ที่จะมาทำหน้าที่สารวัตรใหญ่ที่นี่จะต้องเอาชนะและเปลี่ยนแปลงพื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่ที่ดีให้ได้

สะพานข้ามดาว

สะพานข้ามดาว พระเอกหวังแต่งงานกับนางเอกซึ่งเป็นลูกนักการเมือง เพื่อเป็นสะพานข้ามไปสู่ความมีหน้ามีตาในสังคมไฮโซ

ล่า

ล่า เป็นเรื่องราวของ มธุสรกับลูกสาวคนเดียวของเธอ มธุสรหย่ากับสามี โดยยกสมบัติทั้งหมดให้สามี แลกกับการได้ปกครองลูก แล้วออกมาจากบ้าน พาลูกไปเช่าสลัมอยู่ วันนึงเขาก็มีการจับพวกค้ายาเสพติด พวกนั้นโยนซองยาเสพติดมาให้ลูกสาวของมธุสร พอมธุสรรู้เข้าเลยเอาไปให้ตำรวจ พวกโจรนั่นแค้นจัด เลยแก้แค้นด้วยการ ดักข่มขืนสองแม่ลูก ทำให้ลูกสาวเป็นบ้า  คนเป็นแม่แค้นจัด เลยออกตามล่า ตามฆ่าทุกคนที่ทำให้ลูกสาวและตัวเองเป็นอย่างนี้..

ไม่สิ้นไร้ไฟสวาท

ชิดชบาสาวเปรี้ยวนักเรียนนอกลูกสาวของนักธุรกิจผู้ร่ำรวย ถูกเรียกตัวกลับมาเมืองไทยอย่างกระทันหัน เพราะพ่อเธอฆ่าตัวตายเนื่องจากเสียพนันอย่างหมดตัวให้กับปฐวีนักธุรกิจหนุ่ม โดยที่คฤหาสน์หลังงามสมบัติชิ้นสุดท้ายของตระกูลก็ตกเป็นของปฐวีด้วย
ปฐวียื่นข้อเสนอกับชิดชบาว่าจะคืนคฤหาสน์นั้นให้ ถ้าเธอตกลงยอมเป็นนางบำเรอของเขาเป็นเวลาสองปี ชิดชบาไม่เห็นทางเลือกอื่นใดจึงจำยอมรับข้อเสนอนั้น และเข้ามาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่เคยเป็นของตัวเองในฐานะนางบำเรอของปฐวี

โสมสุภางค์คู่หมั้นของปฐวี ซึ่งเป็นโรคหัวใจและเกิดอาการกำเริบขึ้น ทำให้ปฐวีตัดสินใจเข้าพิธีแต่งงานด้วย โดยที่เขายังคงเก็บชิดชบาไว้อยู่ในฐานะเดิม ท่ามกลางความหึงหวงไม่พอใจของโสมสุภางค์ วันหนึ่งโสมสุภางค์บังเอิญได้เห็นปฐวีและชิดชบาแสดงความรักกัน เธอจึงโมโหและเกิดอุบัติเหตุตกบันไดลงมาเสียชีวิต ปฐวีรู้สึกผิดและแค้นชิดชบาที่มีส่วนทำให้โสมสุภางค์ตาย ต่อมาชิดชบาพบว่าตัวเองตั้งท้อง จึงคิดที่จะแก้แค้นปฐวีด้วยการทำแท้งฆ่าลูกของเขา

เรื่องมาเปิดเผยว่า เมื่อย้อนอดีตกลับไป พ่อของชิดชบาเคยสร้างความแค้นและทำลายพ่อของปฐวีซึ่งเคยเป็นนักธุรกิจเจ้า ของโรงสี ทำให้ตระกูลของเขาสิ้นเนื้อประดาตัวและสร้างแค้นที่ต้องชำระไว้แก่ปฐวี เป็นเหตุให้ปฐวีต้องชำระแค้นกับชิดชบาและพ่อของเธอในตอนต้น
ในวันที่ชิดชบาตัดสินใจที่จะทำแท้ง ปฐวีเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน และได้สารภาพกับเธอว่าเขารักชิดชบาและลูกมาก และขอโอกาสที่จะเริ่มต้นสร้างครอบครัวใหม่อีกครั้งกับชิดชบา

แม่นาคพระโขนง

แม่นาคพระโขนง เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีตายทั้งกลมที่เป็นที่รู้จักกันดีเรื่องหนึ่งของไทย ผัวหนุ่มเมีย สาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่กินด้วยกันที่ย่านพระโขนง ฝ่ายสามีชื่อนายมาก ส่วนภรรยาชื่อนางนาค ทั้งสองอยู่กินกันจนนางนาคตั้งครรภ์อ่อน ๆ นายมากก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องไปเป็นทหารประจำการที่บางกอกตามหมายเรียก นางนาคจึงต้องอยู่เพียงคนเดียวตามลำพัง ยิ่งนานวัน ท้องของนางนาคก็ยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ จนครบกำหนดคลอด หมอตำแยก็มาทำคลอดให้ ทว่าลูกของนางนาคไม่ยอมกลับหัว และคลอดออกมาตามธรรมชาติ ยังผลให้นางนาคเจ็บปวดเป็นยิ่งนัก และในที่สุดนางนาคก็ทานความเจ็บปวดไว้ไม่ไหว สิ้นใจไปพร้อมกับลูกในท้อง กลายเป็นผีตายทั้งกลม หลังจากนั้น ศพของนางนาคได้ถูกนำไปฝังไว้ยังป่าช้าท้ายวัดมหาบุศย์ ส่วนนายมากเมื่อปลดประจำการก็กลับจากบางกอกมายังพระโขนงโดยที่ยังไม่ทราบ ความว่าเมียของตัวได้หาชีวิตไม่แล้ว

มะเมี๊ยะ

มะเมียะ เรื่องราวความรักที่ต่างเชื้อชาติ ระหว่างเจ้าน้อยศุขเกษมและมะเมียะ อันกลายมาเป็นตำนานรักที่จบลงอย่างโศกสลด และได้รับการกล่าวขานมาถึงปัจจุบัน เจ้าน้อย เป็นราชบุตรของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 9 ( เจ้าแก้วนวรัฐ ) และ แม่เจ้าจามเทวี ถูกส่งไปเรียนที่พม่า และพบรักกับ มะเมี๊ยะ แม่ค้าขายยามวนหรือบุหรี่ และได้เสียกันเป็นสามีภรรยา โดยที่พ่อแม่พี่น้องทางบ้านของ มะเมี๊ยะ รับรู้ เมื่อ เจ้าน้อย ต้องกลับเชียงใหม่ก็ให้ มะเมี๊ยะ มาด้วย โดยให้ปลอมเป็นชาย เจ้าน้อย รู้แก่ใจว่า มะเมี๊ยะ จะไมได้รับการยอมรับเป็นสะใภ้อย่างแน่นอน ตอนหลัง เจ้าน้อย ก็ต้องบอกความจริง ซึ่งตอนนั้น เจ้าน้อย มีคู่หมั้นอยู่แล้ว เจ้าพ่อและเจ้าแม่บอกถึงความจำเป็นต่างๆ นานาว่าจะรับ มะเมี๊ยะ อยู่ในสถานะนี้ไม่ได้ จึงบอกให้ มะเมี๊ยะ กลับไปบ้านเกิดก่อน เจ้าแก้วนวรัฐและแม่เจ้าจามเทวีก็มอบเงินจำนวนหนึ่งให้ มะเมี๊ยะ นำไปให้พ่อแม่ของเธอ มะเมี๊ยะ หัวใจแทบสลาย แต่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไรได้ รู้เหตุผลและสิ่งที่สำคัญเกรงว่า เจ้าน้อย จะเดือดร้อน เธอยินดีกลับมะละแหม่ง เจ้าน้อย ให้สัญญาว่าจะไปรับกลับเชียงใหม่ มะเมี๊ยะ สาวผู้อาภัพรัก แต่มีรักแท้ เฝ้ารอ แต่สามีอันเป็นที่รักก็ยังไม่มารับเธอตามสัญญา เธอบวชชี และเมื่อวันที่ทราบข่าวว่า เจ้าน้อย อภิเษกกับพระคู่หมั้นแล้ว เธอมาเชียงใหม่ขอเข้าพบเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อแสดงความยินดี และจะบอกว่า มะเมี๊ยะ จะบวชตลอดชีวิต เจ้าน้อย เองก็เสียใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า มะเมี๊ยะ เจ้าน้อย ไม่กล้ามาพบให้คนสนิทนำเงินมามอบแก่ มะเมี๊ยะ และแหวนทับทิม 1 วง มะเมี๊ยะ จากไป หลังจากนั้น เจ้าน้อย ก็ร่างกายทรุดโทรมจากการดื่มสุราเพราะความเสียใจ เสียชีวิตในวัยแค่ 33 ปี ส่วน มะเมี๊ยะ เสียชีวิตเมื่อตอนอายุ 75 ปี เพราะความชราในภาพของแม่ชีผู้ทรงศีล