Category Archives: ละครปี 2535

ภูตแม่น้ำโขง

ความเชื่อถือศรัทธาของคนสองฝั่งลุ่มแม่น้ำโขง อันสืบเนื่องมาจากร่องรอยของนิทานพื้นบ้านและวรรณคดีโบราณ สมบูรณ์ด้วยความงามของธรรมชาติ ภูมิศาสตร์ อารยธรรม และสรรพวิทยาที่ขรึม ขลัง ศักดิ์สิทธิ์ สอดแทรกด้วยหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ผสมกลมกลืนกับชีวิตความเป็นอยู่ ความรู้สึกนึกคิด ตลอดจนปรัชญาของผู้คนทั้งสองฝั่งโขง

ภาพอาถรรพ์

เชษฐา เกรียงไกรฤทธิ์ (ลิขิต เอกมงคล) ซื้อคฤหาสน์เก่าแก่มาจากคุณปิ่นสุดา (วจี อรรถไกวัลวที) แม่ของอนงค์วดี (ชฎาพร รัตนกร) ทีแรกเชษฐา จะรื้อตึกเก่าทิ้งแล้วสร้างใหม่ แต่ความที่อนงค์วดี ซึ่งเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลสิงหมนตรี เป็นคนรักษาสมบัติเก่าแก่ของบรรพบุรุษ ไม่อยากให้รื้อทิ้ง จึงหาทางเปลี่ยนใจเชษฐา โดยท้าให้เชษฐาลองค้างที่บ้านนี้ 1 คืน เพราะรู้ว่าบรรพบุรุษของตัวรักบ้านนี้มากเช่นกัน และเป็นทีรู้กันในหลุ่มญาติๆว่า ใครก็ ตามที่มาอยู่ที่นี่คืนแรกจะต้องได้รับการล้อหลอกจากบรรพบุรุษท่านใดท่านหนึ่งเสมอ เชษฐา รับคำท้า นอนค้าง 1 คืน พร้อมมนัส (อนุชา อึ้งวัฒนา) ทนายความของเชษฐา และอนงค์วดี

คืนนั้นมนัสโดนล่อหลอกโดย คุณย่าน้อย (บุษกร พรวรรณศิริเวช) ซึ่งเป็นแฟนของมนัสในชาติที่แล้ว ก็ฝังใจจำความงาม ความน่ารักอยู่ตลอดมา ส่วนอนงค์และเชษฐาฝันตรงกันถึงเรื่องในอดีตที่ชาติก่อนเชษฐาเป็นเจ้าคุณ แล้วมามีความสัมพันธ์กับ คุณประยงค์ (มนฤดี ยมาภัย) ทั้งๆ ที่แต่งงานกับอร (อนงค์วดีในชาติก่อนนั่นเอง) พอเช้าเชษฐาก็เปลี่ยนใจไม่รื้อตึกเก่าจริงๆ อนงค์และปิ่นสุดาพอใจมาก เชษฐาตกลงปรับปรุงบ้านเพื่อเป็นสโมสรส่วนตัวรับเฉพาะสมาชิก และแขกของสมาชิกเท่านั้น มีห้องออกกำลังกาย อบไอน้ำ ห้องประชุมเล็ก ห้องจัดงานเลี้ยง ห้องพักผ่อน ครบถ้วนสำหรับบริการสมาชิก หลังจากคืนนั้นเชษฐาก็ติดอกติดใจคิดถึงแต่คุณประยงค์ (ซึ่งเป็นทวดของอนงค์วดี) ในฝันตลอดมาจนลืมสนใจสลวยเกษ (วชิรา เพิ่มสุริยา)เพื่อนหญิงคนเก่าไปเลย สลวยเกษพยายามทุกวิถีืทางให้เชษฐาขายบ้านต่อ หรือรื้อทิ้งเพราะรู้มาจากวิชัย (วีรยุทธ รสโอชา) ญาติของอนงค์วดี ซึ่งเคยมาจีบสลวยเกษ ว่าในบ้านนี้มีภาพอาถรรพ์ ซึ่งเป็นภาพของบรรพบุรุษของตระกูลอยู่ แต่เชษฐาก็ไม่สนใจ ไม่ยอมขายไม่ยอมทำลาย แม้แต่ภาพที่บอกว่ามีอาถรรพ์ โดยเฉพาะภาพคุณทวดประยงค์เป็นภาพที่ติดใจเชษฐามาก เพราะคุณประยงค์ในภาพเป็นคนสวยดุ มีเสน่ห์มาก

50 ปีที่แล้วมีเหตุการณ์หนึ่งซึ่งรุนแรงที่สุดเท่าที่วิญญาณของคุณประยงค์เคยทำมาก็ คือ เมื่อครั้ง คุณหญิงธรรมวรานุรักษ์ (วิไลลักษณ์ วัยงาม) ย่าของวิชับ ยังสาวแต่งงานมีลูกสาว 1 คนน่ารักมาก เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในบ้าน คุณหญิงตั้งชื่อว่าลูกสวาสดิ์ (ด.ญ.หยาดทิพย์ ราชปรางค์) พอลูกสวาสดิ์อายุได้ 5 ขวบ วันหนึ่งคุณหญิงเห็นวิญญาณคุณประยงค์มาบอกว่า ” อีกเดือนนึงเด็กคนนี้จะต้องไปอยู่กับฉัน” คุณหญิงตกใจมาก ร้องไห้คร่ำครวญพร้อมทั้งกราบไหว้บูชา ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเพื่อขอให้คุ้มครองลูกสวาสดิ์ แต่เนื่องจากหมดอายุของลูกสวาสจริงๆ วันหนึ่งลูกสวาสดิ์มาเล่าว่า คุณประยงค์มาพาไปเล่นน้ำฝนสนุกมาก แล้วหลังจากนั้น 3 วันลูกสวาสดิ์ก็ ตายด้วยโรคปอดบวม ซึ่งเป็นวันที่ครบ 1 เดือนพอดีตามที่คุณประยงค์มาบอกไว้ ใครๆ เลยกลัววิญญาณ คุณประยงค์อย่างฝังอกฝังใจมาตั้งแต่นั้น คนในตระกูล ก็รู้เรื่องนี้กันทุกคน

ใกล้ถึงวันเปิดสโมสร เชษฐาเริ่มติดใจอนงค์วดี เลยหาทางให้ได้พบกัน บ่อยๆ จึงไปบอกคุณปิ่นสุดา ว่าอยากให้อนงค์วดีเป็นประชาสัมพันธ์ให้เพราะอนงค์วดีรักบ้านเก่าอยู่แล้ว จะได้มาอยู่ในที่ที่รัก และจะได้แนะนำสมาชิกชมสถานที่ได้อย่างถูกต้อง คุณปิ่นสุดาถูกใจมาก เพราะแอบหวังอยู่ในใจอยากให้อนงค์วดีแต่งงานกับเชษฐา จึงไปขอร้องแกมบังคับอนงค์วดีให้มาทำงานอนงค์วดีไม่อยากมาแต่ขัดแม่ไม่ได้ จึงต้องมาทำงานที่บ้านทีมีภาพอาถรรพ์ โดยเชษฐาจัดห้องให้พักอยู่เลย คืนวันเปิดสโมสรมีแขกมามากมาย ลูกสวาสดิ์ซึ่งเป็นวิญญาณวนเวียนอยู่ในบ้าน สนุกมากกับการที่เห็นคนมาเยอะแยะ ก็ออกมาร่วมสนุกด้วย ใครๆก็ ติดใจในความน่ารักของเด็กผมจุกคนนี้กันหมด แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นผี สลวยเกษก็มาในงานด้วย มาวางท่าเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเชษฐา และพูดข่มอนงค์วดีตลอดเวลา เชษฐาก็แก้แทนให้ทุกครั้ง

คืนนั้นขณะที่เชษฐากำลังจะขึ้นไปนอน ก็ถูกอำนาจของคุณประยงค์บังคับไว้ ทำให้เชษฐารู้สึกตัวเป็นเจ้าคุณ… เจ้าคุณอุ้มคุณประยงค์ ไปที่ห้องนอนของคุณประยงค์และอยู่ด้วยกันทั้งคืน จนเช้าเชษฐารู้สึกตัว ระหว่างที่กำลังสับสนว่าจริงหรือฝันกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็นึกกลัวว่าคงถูกผีหลอก ผลุนผลันออกจากห้องมาชนกับอนงค์วดีอย่างจัง อนงค์วดี ตกใจถามว่า ทำไมเชษฐามานอนอยู่ีที่ห้องคุณทวดประยงค์ หลังจากวันนั้น อนงค์วดีเป็นห่วงเชษฐามากขึ้น เพราะเขาว่านิยายพิศวาสระหว่างมนุษย์กับปีศาจ นั้นมักจะลงเอยด้วยชีวิตมนุษย์ อนงค์วดี จึงตั้งใจที่จะคอยดูแลและปกป้องเชษฐามากขึ้น เพราะเริ่มจะชอบเชษฐาเช่นกัน ขณะเดียวกัน ทุกคนก็สังเกตว่าเชษฐาดูป้ำๆ เป๋อๆ เหมือนสติเลื่อนลอย อยู่บ่อยๆ ชาวบ้านบอกว่าเหมือนคนถูกผีดูดเลือด แต่ตัวเชษฐาเองไม่รู้สึกอะไร รู้แต่ว่าชักจะชินกับการเห็นคุณประยงค์บ่อยๆ และอยู่ด้วยกันแทบทุกคืนเหมือนคุณประยงค์เป็นภรรยาในฝัน

คุณประยงค์ทำให้เชษฐาและอนงค์วดีรำลึกถึงอดีตบ่อยๆ ว่าชาติที่แล้ว เชษฐาคือเจ้าคุณ ซึ่งแต่เดิมมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านนี้ จนกระทั่งเรียนจบ มีใจรักกับคุณประยงค์ลูกสาวเจ้าของบ้าน แต่เนื่องจากธิดาผู้สูงศักดิ์จะลดตัวลงมาแต่งงานกับคนอาศัยไม่ได้ จนกระทั้งเจ้าคุณได้รับราชการแล้วกลับไปภูมิลำเนาเดิมได้แต่งงานกับอร ( อนงค์วดี ) และมาเป็นเจ้าคุณ จึงพอเทียบกับคุณประยงค์ได้ พอมาราชการที่กรุงเทพฯ ก็มาพักที่บ้านนี้อีกครั้ง คุณประยงค์กลับมายึดเอาเจ้าคุณไว้ตลอดเวลาจนอรเสียใจ น้อยใจ ขอกลับบ้านเจ้าคุณก็ไม่ยอมกลับ ขณะนั้นอรมีเพียงคุณน้อย (คุณย่าน้อย) เท่านั้นเป็นเพื่อน (คุณน้อยเป็นหลานคุณประยงค์) คอยปลอบโยนให้กำลังใจ โดยที่คุณน้อย มีคนรักคือ หลวงขจร (มนัส) จะต้องไปแต่งงานกับ ผู้หญิงที่ผู้ใหญ่หาให้ คุณน้อยก็ปักใจแน่วแน่แต่เพียงหลวงขจรคนเดียวเท่านั้น ถึงกับกระโดดน้ำตายในเวลาต่อมา เมื่อรักไม่สมหวัง อรมีญาติคนหนึ่งติดตามจากต่างจังหวัดด้วยชื่อ เกด (สลวยเกษ) เป็นกึ่งญาติกึ่งบ่าว และเป็นภรรยาน้อยด้วยเกดเป็นคนปากกล้าไม่ยอมใคร ชอบตีเสมอนายในบางครั้ง

ในที่สุดเจ้าคุณก็มาสารภาพกับอรว่าได้คุณประยงค์เป็นเมียตั้งแต่ตอนอยู่ที่นั่น แต่ไม่ยอมยกให้ใครเป็นเมียหลวงจนกว่าใครจะมีลูกให้ก่อน แล้วอรก็ท้องก่อนจริงๆ คุณประยงค์โกรธมาก และบ่าวที่จงรักภักดีของคุณประยงค์ คือ อีทิ้ง ก็ผลักอรตกบันใดจนตาย เมื่อท้องแก่ใกล้คลอด อีทิ้งเป็นเมียของนายกลับ ซึ่งเป็นคนเดียวที่มีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันอายุร้อยกว่าปี หลังจากที่อรตาย เจ้าคุณไม่สนใจคุณประยงค์อีกเลย และบอกว่าจะกลับบ้าน คุณประยงค์พยายามทุกวีถีทางเพื่อให้เจ้าคุณกลับมารักแต่ไม่สำเร็จ

พอมาถึงสมัยปัจจุบัน คุณประยงค์ก็พยายามช่วงชิงเอาเจ้าคุณ (เชษฐา) กลับมาอีกครั้ง พยายามทุกวีถีทางที่จะกำจัดอนงค์วดีอีก แต่เชษฐาในชาตินี้เข้มแข็ง กว่าเจ้าคุณในชาติที่แล้วมาก คุณประยงค์จึงผิดหวังอีกครั้ง ส่วนวิญญาณ คุณย่าน้อยก็เฝ้ารอคอยแต่หลวงขจร จนกระทั่งหมดอายุของมนัสเองพอดี มนัสตกน้ำตายเช่นกัน เชษฐาสั่งปิดสโมสรชั่วคราว ระหว่างทำศพมนัสวันหนึ่ง เชษฐา ก็ขอแต่งงานกับ อนงค์วดี เชษฐา เตือนสติ อนงค์วดี ตลอดเวลาว่าให้มีสติอย่าหลับเพราะพอรู้สึกง่วงงุนจะต้องตกอยู่ใต้อำนาจคุณ ประยงค์อีก เหมือนทุกครั้ง แล้วจู่ๆวันหนึ่งเชษฐาก็หายไป หาเท่าไรก็หาไม่พบ จนกระทั่ง 3 วันผ่านไป อนงค์วดี หมดหนทางก็มาวิงวอนหน้าภาพกับต้นตระกูลขอให้ท่านช่วยทันใดนั้น ภาพของท่านก็หล่นลงมา ปู่กลับเข้ามาพอดี เดินเข้าไปผนังหาปุ่มประตููกล ผนังตรงนั้นก็เลื่อนออกมา เชษฐา อยู่ข้างในกับกองกระดูกอีก 2 กอง ความลับทั้งหมดเลยเปิดเผยว่า ในอดีตคุณประยงค์จับเจ้าคุณมาขังไว้จนตาย แล้วครั้งนี้พอเห็นว่าไม่สมหวัง วิญญาณคุณประยงค์ ก็เลยพาเชษฐา มากักขังไว้อีกเช่นกัน ปู่กลับเป็นคนเอากระดูกเมียมาเผาพร้อมรูปของคุณทวดประยงค์นั่นเอง

ไฟโชนแสง

วันทกานต์ สาว สวยปราดเปรียวนายหน้ามืออาชีพเจ้าของฉายาแม่เล้าระดับชาติ เข้ามาในกระทรวงเพื่อขอพบท่านอธิบดี ที่นี่เองวันทกานต์ได้เจอ  ลูกชายเจ้าของบริษัท ชาติคอนสตรัคชั่น บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ และด้วยแววตาดุร้ายทำให้ ชาติชายเกิดสนใจในตัวผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา ผิดกับ ณัฐพร แฟนสาวของเขา แสดงทีท่ารังเกียจวันทกานต์อย่างออกนอกหน้า เพราะวันทกานต์ คือต้นเหตุที่ทำให้ นายณัฐ พ่อของเธอ อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องออกจากงานในข้อหาพัวพันกับคดีทุจริต

ใน อดีตพ่อของวันทกานต์ กับ นายณัฐ และผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก เคยร่วมกันทำธุรกิจด้วยกัน ความที่ครอบครัว สนิทสนมกันทำให้  พี่สาวฝาแฝดของวันทกานต์รักใคร่ชอบพอกับ ลูกชายของนายณัฐ พี่ชายของณัฐพรไปโดยปริยาย ต่อมาเกิดความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจ พ่อของวันทกานต์ถูกลอบยิงจึงทำให้ เทียนวรรณ กับ ณฐิน ต้องเลิกรากันไป ส่วนวันทกานต์พยายามตามสืบความจริงจนรู้ว่าผู้มีอิทธิพลลึกลับคือ  แห่งบริษัทอนันตกิจ นั้นเอง

ทนายแฟนหนุ่มของวันทกานต์กังวลใจอยู่ ลึกๆ เขาไม่ชอบให้วันทกานต์ทำอาชีพนี้ วันทกานต์ได้รับการติดต่อจากนายอนันต์ให้มาช่วยงานที่บริษัทอนันตกิจ ที่นั่นวันทกานต์ได้เจอกับณฐิน อดีตคนรักเก่าของเทียนวรรณที่แต่งงานกับ  ลูกสาวนายอนันต์ เพราะต้องกอบกู้ฐานะของครอบครัว ขณะเดียวกันบริษัทชาติคอนสตรัคชั่นก็ทาบทามติดต่อมาเหมือนกัน วันหนึ่งวันทกานต์มาที่บริษัทของชาติชาย ทันทีที่วันทกานต์เจอชาติชายก็มีอันต้องทะเลาะกันเนื่องจากก่อนหน้า ทั้ง 2 คนขับรถชน แต่เมื่อชาติชายเห็น คุณวดีลดา แม่ของเขา และ ศิริวดี พี่สาว ก็รีบเผ่นออกไป เพราะชาติชายหลอกวันทกานต์ว่าเป็นเพียงเซลล์แมนกระจอกๆ

ด้าน วันทกานต์ ยังไม่ตกลงใจที่ทำกับบริษัทไหนเธอบอกเพียง แต่รอเวลาและข้อเสนอที่ดีกว่า ชาติชาย ตัดสินใจที่จะกล่อมให้วันทกานต์ยอมมาทำงานที่บริษัทชาติคอนสตรัคชั่นให้ได้

หมอปฐพี(อภิวัฒน์ บุณยสุขเมธี) โทรหา เทียนวรรณ บอกว่า “ก้อย” เด็กที่เทียนวรรณอุปการะอยู่ป่วย วันทกานต์สงสัยว่า ก้อย คงเป็นมากกว่าเด็กในอุปการะแน่ๆ ด้าน ณฐิน สงสัยว่า ก้อยจะเป็นลูกของตน จึงพยายามแค้นความจริงสุดท้าย เทียนวรรณจำใจต้องบอกความจริงว่าก้อยคือลูกของเขา และกำลังป่วยเป็นโรคทารัวซีเมีย ทำให้ณฐินรู้สึกผิดกับเทียนวรรณ และอยากรับผิดชอบ ตรีประดับให้นักสืบ สืบจนรู้ว่าณฐินมาหาเทียนวรรณที่บ้าน จึงบุกมาที่บ้านและระรานเทียนวรรณ จนเทียนวรรณล้มแน่นิ่ง และแล้ววันทกานต์ก็รู้ความจริงว่าเทียนวรรณเป็นโรคหัวใจและ ก้อยคือหลานในไส้แท้ๆของเธอ วันทกานต์จึงฝากฝังเทียนวรรณกับหมอปฐพีแต่เขาอ้ำอึ้ง แม้ว่าเขาจะรักเทียนวรรณ แต่เขาก็รู้ว่าลึกๆแล้วเทียนวรรณยังรักณฐินไม่มีเปลี่ยน

วันหนึ่งวันทกานต์มาเจรจางานกับ นายพลสรวุฒิ  หลังการเจรจาวันทกานต์เห็นท่าไม่ค่อยดีจึงหนีเอาตัวรอด โชคดีที่ชาติชายมาเจอเข้าพอดีเลยช่วยไว้ทัน วันทกานต์คลับคล้ายคลับคลาว่าชาติชายคือหลานชายของ อาม่า หญิง ชราเพื่อนบ้านแต่ชาติชายปฎิเสธ หลังออกมาจากบ้านวันทกานต์ ชาติชายรีบแว่บเข้าไปหาอาม่าที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็ก ชาติชายเล่าให้อาม่าฟังว่าวันทกานต์จำเขาไม่ได้เพราะวันทกานต์ย้ายไปอยู่ เมืองนอกตั้งแต่ยังเล็ก ตั้งแต่นั้นชาติชายก็กลายเป็นแขกประจำของบ้านวันทกานต์ไปโดยปริยายจน เขมรัฐ อดหึงไม่ได้

วันหนึ่งขณะที่ชาติชายกำลังคุยกับอาม่า เทียนวรรณเข้ามาขอพบอาม่าและขอกู้เงินโดยเอาบ้านจำนอง เทียนวรรณขอให้ชาติชายปิดเป็นความลับ ทนายวิสุทธิ์ ทนายประจำบริษัทชาติคอนสตรัคชั่นเกษียณอายุเลยแนะนำทนายมือดีอย่างเขมรัฐให้ มาทำงานแทนเขา คุณวดีลดาพอใจเขมรัฐ ส่วนศิริวดีไม่พอใจเพราะเคยเป็นแฟนเก่าของเธอ

ศิริวดีหาทางกลั่นแกล้งเขมรัฐอยู่เป็นประจำ จน กระทั่งวันหนึ่งทั้งคู่มีปากเสียงกันทำให้เขมรัฐอดใจไม่ไหวปล้ำ ศิริวดี ส่วน ณฐิน ตัดสินใจขอหย่ากับ ตรีประดับ แต่เธอไม่ยอม ส่วน ณฐิน ยอมทิ้งทุกอย่างแล้วพาเทียนวรรณ กับ ลูกก้อย ไปรักษาตัวที่อเมริกา ทันใดนั้น ตรีประดับที่เมาคลุ้มคลั่งเข้ามาทำร้ายด่าทอณฐินและเทียนวรรณ

ศิริวดี รู้ตัวว่าท้อง จึงแอบหนีไปทำแท้งจนตกเลือดอย่างหนักแต่โชคดีที่หมอช่วยไว้ได้ทัน เขมรัฐมาหาศิริวดีที่รพ.ทำให้รู้ความจริง เขารู้สึกผิดกับศิริวดีมาก ด้านชาติชายสงสารพี่สาวจึงรับปากจะช่วยแยก เขมรัฐกับวันทกานต์ ด้าน เขมรัฐ มาสารภาพว่าเขาทำศิริวดีท้องต้องรับผิดชอบ วันทกานต์เสียใจกินเหล้าเมาจนเกิดอุบัติเหตุ ดีว่าชาติชายมาช่วยไว้ทันและพาไปที่บ้านเล็กริมทะเล ที่บ้านพักชายทะเลสองคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น ชาติชายดูแลเธออย่างดีจนวันทกานต์อดซาบซึ้งใจไม่ได้ ก่อนกลับกรุงเทพชาติชายขอวันทกานต์แต่งงาน วันทกานต์ตกลงเพราะเธอค้นพบแล้วว่าชาติชายคือคนที่รักและห่วงเธอเสมอมา วันทกานต์และชาติชายจดทะเบียนกันที่ต่างจังหวัด ทันทีที่ณัฐพรรู้เธอโกธรแค้นวันทกานต์มาก

จงกล แม่ของณัฐพร ทนไม่ได้จึงโทรหาวันทกานต์ บอกเรื่องชาติชายรับปากศิริวดีให้ช่วยแยกเธอออกจากเขมรัฐ วันทกานต์เสียใจมากโรคปวดหัวของเธอกำเริบ เธอมาหาหมอปฐพีผลการตรวจเธอเป็นเนื้องอกในสมอง เธอรู้ว่าเวลาของเธอเหลือน้อยเต็มที เธอจึงตัดสินใจร่วมงานกับนายอนันต์

วัน ทกานต์มาหาตรีประดับเพื่อขอให้เซนต์ใบหย่าให้กับณฐิน ตรีประดับตกลงแต่วันทกานต์จะต้องเซนต์ใบหย่ากับชาติชาย เมื่อกลับมาบ้านวันทกานต์ขอหย่ากับชาติชาย เธออ้างว่ารู้ความจริงหมดแล้วที่ชาติชายยอมแต่งงานกับเธอเพราะ ศิริวดีขอให้แยกเขมรัฐ ออกจาก วันทกานต์

วันทกานต์ไปหานายพลสรวุฒิ เพื่อให้นายพลช่วยเหลือเซ็นต์ใบผ่านทางการลักลอบขนไม้ เมื่อได้แล้วเธอนำไปให้นายอนันต์ ขณะเดียวกันเธอก็โทรแจ้งตำรวจ หนังสือพิมพ์ลงข่าวใหญ่ว่าวันทกานต์ร่วมมือกับนักธุรกิจใหญ่นายอนันต์ลอบขน ไม้เถื่อน ชาติชายวิ่งเต้นจนวันทกานต์ได้รับการประกันตัวออกมา วันทกานต์ล้มป่วย เธอรู้ดีว่าเวลาของเธอเหลือน้อยเต็มทน

ชาติ ชายพาวันทกานต์ใช่ช่วงเวลาสุดท้ายด้วยดันที่บ้านริมทะเล บนหาดที่สงบเงียบ…ไฟในหัวใจของวันกานต์ได้มอดลงแล้ว เหลือเพียงร่างที่บอบช้ำ ชาติชายร้องไห้ออกมาขณะที่ลมหายใจสุดท้ายของวันทกานต์ค่อยๆรวยรินและหยุด นิ่งไป

ไฟรักอสูร

แก้วชาวประมงหนุ่มแสนดีมีเมียปากร้ายใจแคบชื่อหวาน แก้วรักครอบครัวเล็กๆ อันประกอบด้วยเมียร้ายและลูกสาวที่น่ารักของเขามาก แต่แล้วครอบครัวแสนสุขก็พังทลาย เมื่อหวานนอกใจคบชู้ทิ้งแก้วเข้า กรุงเทพฯแก้วจมอยู่กับเหล้า กลายเป็นขี้เมา อารมณ์ร้าย เขามาตามหาหวานแต่หลงเข้าไปในงานแต่งงานของตวงพร ฝาแฝดหวาน จึงจับตวงพรมาทรมานเพื่อให้สาสมกับความเจ็บปวดที่เขาได้รับ

แก้วพาหวาน ไปกรุงเทพฯ ขณะที่รถจอดพัก หวานตระเวนซื้อข้าวของเครื่องประดับ จนเดินพลัดหลงกับแก้ว แก้วเดินตามหาหวานอย่างเป็นห่วง จนไม่ทันระวังถูกรถยนต์ชนทำให้บาดเจ็บ เจ้าของรถเป็นหนุ่มหล่อท่าทางร่ำรวยชื่อ วิฑูรย์  พาสองผัวเมียไปพักรักษาตัวที่บ้านในกรุงเทพฯ วิฑูรย์พอใจในความสวยของหวานจึงพาหวานออกเที่ยวชมแสงสีของกรุงเทพ  คืนหนึ่ง แก้วเจอหวานนอนอยู่กับวิฑูรย์ จากนั้นแก้วก็เปลี่ยนเป็นคนละคน กินเหล้าเมาไม่สนใจกุ้งนาง วันหนึ่งแก้วเจอหวานกำลังเข้าพิธีแต่งงาน แก้วจึงไปชิงตัวเจ้าสาวกลับมายังเกาะปั้นดาว ส่วนเจ้าสาวแม้จะบอกว่าชื่อ ตวงพร พร้อมกับปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่หวาน และไม่เคยรู้จักแก้วมาก่อน แต่แก้วก็ไม่ฟังเอาแต่ตบตีและล่ามโซ่เธอไว้ในบ้านอย่างน่าเวทนา ตวงพรจำยอมให้แก้วทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะจะหนีไปกี่ครั้ง ก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านเลย     วัฒนา คู่รักของตวงพร จ้างตำรวจมือดี สารวัตรพงษ์เทพ สืบเรื่องนี้ ส่วนตวงพร สิ้นหวังที่จะหนี จึงหันมาทำดีกับแก้วเพื่อให้แก้วเห็นใจ แก้วปล่อยเธอเป็นอิสระ แก้วกลับมาเป็นไอแก้วคนเดิม    แต่ฝันร้ายของแก้วมาถึงเร็วเกิดคาด เมื่อสารวัตร์พงษ์เทพ ซึ่งทำงานให้วิฑูรย์สืบรู้ว่า ตวงพรเป็นฝาแฝดกับหวาน เขาจึงคิดจะนำตัวตวงพรมาขายให้กับนายวิฑูรย์ เป็นโสเภณีชั้นสูงเหมือนกับหวาน แต่โชคดีที่แก้วมาช่วยไว้ได้ทัน และได้พบความจริงว่า ตวงพรเป็นน้องฝาแฝดของหวาน แก้วจึงกลับมาอยู่กับความทุกข์อีกครั้ง ส่วนตวงพรได้กลับบ้านแต่ก็ซึมเศร้า และไม่ยอมย้ายไปอยู่กับวัฒนา    สารวัตรพงษ์ แค้นนายวิฑูรย์ จึงวางแผนดักทำร้าย หวานเห็น สารวัตรพงษ์ ยิง นายวิฑูรย์ ต่อหน้าทำให้ตกใจวิ่งหนีข้ามถนนจึงถูกรถชน ตวงพรมีโอกาสได้พบหน้าพี่สาวในนาทีสุดท้าย หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายผ่านไป วัฒนาบีบบังคับให้ตวงพรไปพักผ่อนต่างประเทศ รอจนกว่าข่าวลือต่างๆ จะซาลง……….ความรักของแก้วและตวงพร จะลงเอยเช่นไร อย่าลืมติดตาม…. ไฟรักอสูร

พรพรหมอลเวง

พรพรหมอลเวง เป็นเรื่องราวของ ตันหยง ที่โชคชะตาลิขิตให้ต้องมาอยู่ในร่างของเด็กผู้หญิงที่ชื่อ น้องเมย์ และได้รู้จักกับ ปฐวี ซึ่งเป็นน้าของน้องเมย์

บ่วง

บ่วงกรรมที่รึงรัดมนุษย์ทุกผู้ทุกนามด้วยความอาฆาตและความใคร่  แรงอาฆาต แรงแค้น แรงริษยา หรือแรงรัก…ถึงร่างกายจะสลายไป มันก็ยังเป็นพลังอยู่เป็นบ่วงคล้องไว้”…ความรัก…ที่มัวเมาอยู่ในกาม กิเลสตัณหา เป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นมาทุกยุคสมัย ความรักในกามกิเลสเป็นความรักที่หอมหวานและเชื้อเชิญให้ชายหญิงผู้ยังเวียน ว่ายอยู่ในวังวนของตัณหาได้เข้ามาลิ้มลอง ครอบครัวของ “ศามน” และ “รัมภา” ครอบครัวที่อบอุ่น พวกเขามีลูกแฝดตัวน้อยๆ ที่น่ารัก “รัตตี้” และ “ไลล่า” ชีวิตครอบครัวของพวกเขากำลังไปได้ดี แต่ทันทีที่ศามนและครอบครัวต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านคุณทวดซึ่งเป็นมรดกชิ้น สุดท้ายที่คุณทวดทิ้งไว้ให้เขา

เรื่องราวต่างๆ จึงเริ่มขึ้น “แพง” วิญญาณที่ยังไม่ไปผุดไปเกิดเพราะยังติดอยู่กับ “บ่วง” ของกิเลสตัณหาอันมิสามารถสลัดทิ้งไปได้ เธอยังคงเฝ้าคอย “คุณพระศังกรประกาศ” คนที่เธอรักด้วยความใคร่ และ “คุณชื่นกลิ่น” ภรรยาของคุณพระฯ ด้วยความอาฆาต เมื่อคุณพระฯ และคุณชื่นกลิ่นกลับชาติมาเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน แต่ใครเล่าจะเป็นผู้หลุดออกจากบ่วงนี้ บ่วงที่รัดรึงพวกเขาไว้ด้วยความสิเนหาและความอาฆาตแค้น…

นอกจากได้รับความเพลิดเพลินแล้ว ยังได้แฝงไปด้วยเรื่องราวของความละอาย เรื่องการฝักใฝ่ในกามราคะโดยเฉพาะการผิดศีล กาเมสุมิฉาฯ และเรื่องของ “กรรม” ที่หากผู้ใดหลงอยู่ในกรรมชั่วก็จะมีบ่วงคล้องรัดรึงชีวิตของผู้นั้นอยู่ตลอด เวลา ดุจดังล้อที่หมุนไปตามเกวียน

ในฝัน

เจ้าชายพิรียพงษ์ จากแคว้นพรหมมินทร เดินทางมาเรียนวิชาสำหรับกษัตริย์ที่แคว้นกุสารัฐ เจ้าชายพิรียพงษ์โชคดีที่ได้เล่าเรียนกับเจ้าชายโอริสสา เจ้าชายเสนาบดีจากแคว้นอมริตสาที่กุมอำนาจมากมายในกุสารัฐ

เจ้าชายพิรียพงษ์เขียนจดหมายติดต่อกับพี่สาว เจ้าหญิงพรรณพิลาศ เล่าเรื่องทุกข์สุขต่างๆให้ฟัง จนใกล้ถึงวันเกิดของเจ้าหญิงพรรณพิลาศ เจ้าชายพิรียพงษ์พยายามหาของขวัญให้พี่สาว เจ้าชายเกิดถูกใจสร้อยไข่มุกสีกุหลาบของเจ้าชายโอริสสาเข้า เจ้าชายพิรียพงษ์จึงพยายามเสาะหาเสียแทบทั่วเมือง แต่สุดท้ายกลับได้สร้อยไข่มุกของเจ้าชายโอริสสามามอบให้พี่สาวแทน

เจ้าชายโอริสสากับเจ้าหญิงพรรณพิลาศจึงมีโอกาสได้ติดต่อกันอีกครั้ง หลังจากเคยเป็นเพื่อนเล่นกันเมื่อสมัยวัยเยาว์มาก่อน  เพื่อนสมัยเด็กที่เคยสัญญาว่าจะกลับมาเจอกันอีก แต่หน้าที่การงานทำให้ไม่มีโอกาสได้พบกันอีกเลย…

นางทิพย์

ปริตตา เป็นหลานสาวของคุณผกาภรรยาหลวงไพรัชพากษ์พิจารณ์ รวิปรียาในภาคของนางทิพย์ยังคงมาเยี่ยมเยียนปริตตาอยู่เสมอ โดยมีคุณหลวงผู้ซึ่งมีฌานแก่กล้าเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่เห็นตรีรังสีของรวิ ปรียาปรากฎอยู่ในร่างของปริตตา นอกจากนี้คุณหลวงยังเคยสนทนาด้วยจนรู้ถึงที่มาของนางทิพย์องค์นี้ ท่านจึงได้จดบันทึกเรื่องราวเหล่านี้ไว้เพื่อมิให้ความลับตายไปกับตัว ส่วนเพื่อนเทพบุตรที่ลงมาเกิดเป็นเพื่อนบ้าน ก็เป็นหนุ่มน้อยธรรมดาเช่นกัน ชื่อ ทินเทพ แต่ที่ไม่ธรรมดาคืออาของทินเทพ

ดร.ภาธร สีหมนตรี อาของทินเทพ เป็นลูกชายคนเล็กของคุณหลวง ทำงานอยู่องค์การ NASA ได้กลับมาเมืองไทยหลังจากได้ทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกานานหลายปี ภาธรทำงานค้นคว้าวิจัยด้านการนำปรจิตวิทยามาประยุกต์ใช้ในโครงการอวกาศของนา ซา เขากลับมาครั้งนี้เพื่อทำการทดลองบางอย่างซึ่งภาธรไม่ได้บอกให้ใครรู้แม้แต่ บิดาตัวเอง นอกจากโครงการทดลองนั้นแล้ว ภาธรยังได้เข้าสอนวิชาปรัชญาในคณะที่ปริตตาเรียนอยู่ และทำให้เขาพบว่าหลานสาวคนนี้ของเขามีความรู้และอธิบายเรื่องกำเนิดจักรวาล ได้อย่างแจ่มชัดจนไม่น่าเชื่อว่าเธอยังเป็นเพียงนิสิตปี 1 ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตว่าปริตตาจะมีอีกบุคลิกหนึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าญาติ ผู้ใหญ่เช่นคุณยายผกาของเธอ เธอจะดูเหมือนเป็นเด็กผู้หญิงเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้นแตกต่างจากปริตตาที่เขาเคยพบตามลำพังอย่างสิ้นเชิง

 

งานของภาธรทำให้เขาต้องไปทำการทดลองถ่ายภาพแบบเกอร์ เลียน ที่ตำบลหนองพราย ใกล้ ๆ กับบางปะอิน ซึ่งภาพเกอร์เลียนนี้จะแสดงให้เห็นว่าวัตถุที่มีชีวิตนั้นจะมีพลังแสงแห่ง ชีวิตวูบวาบขึ้นมาในขณะทำการทดลองถ่ายภาพ แต่ถ้าเป็นวัตถุไม่มีชีวิตจะไม่มีแสงหรือมีเพียงแสงนิ่ง ๆ เท่านั้น ดังนั้นการทดลองประเภทนี้จึงต้องไปทำในแหล่งที่ได้ชื่อว่าบ้านผีสิง

ภาธรเดินทางมาที่หนองพรายพร้อมกับทินเทพหลานชายและปริตตา ที่นั่นเขาได้พบเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดรวมทั้งพบดวงวิญญาณของหญิงสาวที่ ร้องไห้คร่ำครวญหาคนที่เธอเรียกว่า “ออกญา” ซึ่งวิญญาณดวงนั้นยังบอกกับภาธรด้วยว่า ปริตตาไม่ใช่คนธรรมดา หากเป็นนางทิพย์ และก่อนที่จะหายตัวไปเธอได้ทิ้งแหวนทองคำรูปพญานาคไว้ให้ ภาธรจึงต้องการที่จะนำแหวนนั้นกลับมาศึกษา โดยไม่ยอมเชื่อฟังรวิปรียาในร่างของปริตตาที่คัดค้านว่าเขากำลังจะนำความ ยุ่งยากติดตัวมาด้วยพร้อมกับแหวนวงนั้น

เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ รวีปรียาจึงได้มาพบกับคุณหลวงเพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง พร้อมทั้งบอกว่าจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปให้ภาธรที่บ้านเพื่อป้องกันตัว สิ่งนั้นคือดอกปาริชาติ ดอกไม้สวรรค์ที่ผู้ใดได้สูดกลิ่นหอมแล้วจะสามารถระลึกชาติได้ เมื่อได้ดอกปาริชาติจากรวิปรียา ภาธรจึงได้พบว่า ในชาติที่แล้วเขาคือออกญาพิชิตแสนพล นายทหารกล้าแห่งกรุงศรีอยุธยาตอนปลายที่รอดชีวิตมาได้จากทหารพม่ามาได้ เพราะเจ้าหญิงทิพฉายพระธิดาของพระเจ้าแผ่นดินทรงสละพระชนม์ชีพป้องกันเอาไว้ ทำให้ออกญาพิชิตแสนพลสัญญาว่าเขาจะขอให้ได้พบกับเจ้าหญิงอีกในชาติหน้า เพื่อที่จะได้มีโอกาสถวายความจงรักภักดีให้กับเธออย่างที่เขาไม่อาจทำได้ใน ชาตินี้ นอกจากได้รับรู้เรื่องราวในอดีตชาติแล้ว ภาธรยังคิดว่าเขาได้ไปเยือนดินแดนอันเป็นที่อยู่ของทิพยนารีผู้งดงามองค์ หนึ่ง แต่ก่อนที่ภาธรจะทำความเข้าใจกับทุกสิ่งทกอย่างที่เขาพบเห็นได้ เรื่องราวทั้งหมดก็เลือนไปเหมือนความฝัน

ทายาทอสูร

คุณยายวรนาฏ สตรีผู้สวยสง่าราวท่านหญิง คงความสวยไว้เหมือนสาว 40 ทั้งๆ ที่อายุ 80 กว่าปี คุณยายวรนาฏเตรียมพิธีสืบทอดทายาทอสูรให้กับหลานสาว วรินทร์ คือหนึ่งในหลาน สาวสวยของอสูรร้ายต้องการร่างเพื่อสืบทอดความเป็นอสูร วรินทร์ลูกสาวคนที่สามคนสุดท้อง ของ โอฬารและสุดาดวง พร้อมพี่ชายคนโตอีกสองคนคือ รัชโรจน์ , รังสรรค์

วันหนึ่ง วรินทร์ ไปทัศนศึกษาที่สุโขทัย พบตุ๊กตาสังคโลกลายตะขาบ เมื่อวรินทร์กลับมา ถึงบ้านมักจะฝันผวา และพบภาพหลอนแปลก ๆ บ่อยครั้งขึ้น ในขณะเดียวกัน คุณยายวรนาฏได้เดิน ทางจากต่างจังหวัด มาพักที่บ้านวรินทร์ ในช่วงเวลาที่คุณยายฯ มากับเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ แปลก ๆ เช่น ซินแสมังกรตายอย่างไร้สาเหตุ เพียงเพราะเข้ามาเตือน โอฬาร พ่อของวรินทร์ถึงภัยร้ายจาก อสูร

เมื่อคุณยายวรนาฏมาพักที่บ้าน คุณยายฯ พยายามใกล้ชิดกับ วรินทร์มากที่สุด แต่ไม่ สามารถเข้าใกล้วรินทร์ได้ เพราะเธอมักจะสวมพระขรรค์เงินไว้เสมอ แม้ว่าคุณยายฯ จะใช้พลัง ต่าง ๆ เพื่อให้วรินทร์ถอดสร้อยพระออกก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใน บ้าน เริ่มเป็นที่สงสัย

โอฬารพร้อมรัชโรจน์ ลูกชายคนโตเดินทางไปตามหา มหาจรวย และแม่ชีแสงบุญ เพื่อ ต้องการวิธีกำจัดอสูรร้าย ซึ่งได้รับคำชี้แนะว่า ต้องใช้พระขรรค์เงินต้นแบบ มาทำลายอสูร และ คนที่ทำลายอสูรได้ คือ สนทรรศน์ เพื่อนชายของวรินทร์นั่นเอง ยิ่งใกล้วันทำพิธีเข้ามาทุกขณะ คุณยายฯ เปลี่ยนใจให้ นัยน์เนตร หลานสาวอีกคนสืบทายาทแทน แต่ขณะพิธีกรรมใกล้สำเร็จ แม่ชีแสงบุญทำพิธีสกัดกั้น ให้พิธีกรรมสืบทอดไม่สำเร็จ

พร้อมทั้ง เปิดเผยว่า แท้ที่จริงอสูรร้ายคือ คุณยายวรนาฏตามที่ทุกคนสงสัย คุณยายวรนาฏ หนีออกจากบ้าน พร้อมสะกดจิต สุดาดวงแม่ของ วรินทร์ พร้อมสะกดนัยเนตร และวรินทร์ ไปยังโรงแรมร้างแห่งหนึ่ง โอฬารรู้ว่าสุดาดวงถูกสะกด จึงตามไปช่วยพร้อมมหาจรวย แต่ที่สุดทั้งสองก็ พ่ายภัยของอสูรร้าย รังสรรค์ ลูกชายคนรองของโอฬารกับวรินทร์ตามไป

โดนมนต์ของอสูรร้ายทำให้แยกกัน ไปคนละทาง เมื่อทั้งคู่แยกไปคนละทางสำเร็จ วรินทร์ หลงกลอสูรร้าย โดนบีบบังคับให้โยนสร้อย พระขรรค์เงินทิ้ง ไม่อย่างงั้นอสูรร้ายจะฆ่าสุดาดวง วรินทร์จึงยอม เพราะต้องการช่วยชีวิตแม่ของตนเอง อสูรร้ายได้โอกาส รีบทำพิธีกรรมสะตวงสืบ ทอดทายาททันที แต่ยังไม่สำเร็จ

รัชโรจน์กับสนทรรศน์ เข้ามาช่วยไว้ก่อน โดย รัชโรจน์ใช้วิธีลดพลังสร้างความเจ็บปวดให้แก่อสูรร้ายตามที่แม่ชีแสงบุญแนะ นำมา ส่วน สนทรรศน์ เตรียมเอาพระขรรค์เงินเทวดาต้นแบบ แทงไปที่ร่างอสูรร้าย อาถรรพ์ตะขาบจะหมดฤทธิ์ หมายถึงจุดจบของเจ้าอสูรร้าย แต่…มหิทธานุภาพ ของ จอมอสูรร้ายสะสมพลังมานานกว่าเจ็ดศตวรรษ จะสิ้นฤทธิ์พ่ายแก่พระขรรค์เงินเทวดาต้นแบบแค่นั้นจริงหรือ ?

เคหาสน์ดาว

เคหาสน์ดาว เป็นเรื่องราวของ “คุณเขียว” หนุ่มสถาปนิกที่มีบุคลิกซื่อๆ มองโลกในแง่ดี และไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร กับ “คุณจ๋อม” อาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะสร้างบ้านของตนเองเพื่อแม่ และน้องสาว จากความฝันของคุณจ๋อม ทำให้ได้มารู้จักกับ คุณเขียว และความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ได้ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความรัก

นักแสดงละคร เคหาสน์ดาว
ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง แสดงเป็น คุณเขียว (สงคราม สัมพันธ์พงษ์)
นุสบา วานิชอังกูร แสดงเป็น จ๋อม (ดาวส่อง)