Category Archives: ละครปี 2555

หมูแดง 2555

ตระกูลของพิษณุ เป็นหนี้ตระกูลของภาคินัยอยู่ท้วมท้น แต่พิษณุก็มาด่วนเสียชีวิตไป ทิ้งภาระไว้ให้ลูกหลาน คนที่จะแก้สถานการณ์ให้คือ หมูแดง ลูกสาวคนรักเก่าของพิษณุ เด็กสาวผู้ถูกเกลียดชังจากคนทั้งสองตระกูล แต่ด้วยความฉลาด ทันคน อดทน และจริงใจ หมูแดง ก็ทำให้ตระกูลทั้งสองปรองดองกันได้สำเร็จ

การะเกด (สุธิดา เกตานนท์) รักอยู่กับ พิษณุ (ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง) ต่อมาพ่อแม่ของการะเกดจำเป็นต้องให้การะเกดแต่งงานกับเศรษฐีหนุ่มชาวจีนทั้งสองจึงต้องแยกจากกัน วันเวลาผ่านไปการะเกดมีลูกสาว คนหนึ่งชื่อ หมูแดง (รัชวิน วงศ์วิริยะ) เมื่อบิดาจากไป หมูแดง จึงติดตามการะเกดมาอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยให้น้าและคนงานเก่าแก่อยู่ดูแลไร่และโรงงานในต่างจังหวัด

ส่วนพิษณุนั้นได้แต่งงานกับ สตี (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) โดยมีข้อแม้ว่าพิษณุจะขอมีการะเกดอีกคน หากวันใดที่การะเกดกลับมา สตีมีลูกกับพิษณุ 3 คนคือ พิกุลแก้ว (เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์) เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ใกล้จะจบ จารึก (กาณณ์ กณิณ) ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับอบายมุขทั้งเหล้าและการพนัน โรจนา หรือ มด (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) กำลังเรียนอยู่มัธยมปลาย เมื่อการะเกดกับ หมูแดง เข้ามาอยู่ใน บ้านวัชราพันธุ์ แม้สตีจะไม่พอใจแต่ก็ไม่แสดงให้พิษณุเห็น มีพิกุลแก้วคนเดียวเท่านั้นที่เป็นมิตรกับการะเกดและ หมูแดง

จากความล้มเหลวทางการลงทุนทำให้พิษณุเป็นหนี้ ภาคินัย (พีท ทองเจือ) นายแพทย์ทหารบกยศพลตรีอย่างมากมาย จนถึงกับเอาบ้านวัชราพันธุ์ไปจำนองไว้โดยไม่รู้ว่าในอดีตตระกูล ของภาคินัยเคยถูกปู่ย่าตายายของเขาหักหลังมาก่อน ภาคินัยจึงมุ่งแก้แค้นตระกูลพิษณุให้สิ้นฐานะ ซึ่งเรื่องหนี้นี้คุณสตีและลูก ๆ ไม่รู้มาก่อน มีแต่การะเกดคนเดียวเท่านั้นที่รับรู้และหาทางช่วยเหลือพิษณุอยู่

หมูแดง ได้ไปเรียนโรงเรียนเดียวกับคุณมด โดยมีคุณสตีซึ่งไม่พอใจคอยหาเรื่องกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง การะเกดสงสารลูกได้แต่บอกให้อดทน หมูแดง จึงยอมทนทุกอย่าง เพราะเห็นแก่แม่ ภาคินัยส่ง โยธิน (โชคชัย บุญวรเมธี) หลานชายซึ่งเป็นเพื่อนกับจารึกมาเก็บดอกเบี้ยที่บ้าน วัชราพันธุ์เป็นประจำจนสนิทสนมกับพิกุลแก้ว ต่อมาภาคินัยได้เร่งรัดหนี้สินและขู่ว่าจะเปิดเผยเรื่องหนี้สินให้สตีและลูก ๆ รู้จะได้เลิกฟุ่มเฟือย ทำให้พิษณุเครียดจัดจนเสียชีวิตกะทันหัน

การะเกดได้แบกรับความทุกข์ของพิษณุไว้และพยายามช่วยกู้ฐานะของตระกูลตามที่พิษณุขอร้องก่อนตาย เมื่อ หมูแดง เรียนจบก็ได้กลับไปอยู่ที่ไร่ของพ่อและรู้ว่าตลอดเวลา ที่ผ่านมา แม่ได้ขายโรงงานและไร่บางส่วนไปเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายที่กรุงเทพฯ ในขณะที่สตี และลูก ๆ เข้าใจว่าการะเกดครอบครองมรดกของพิษณุแต่เพียงผู้เดียว จนกระทั่งการะเกด ล้มป่วยลง หมูแดง จึงเดินทางมาเยี่ยม

ระหว่างนั่งรถไฟได้พบกับภาคินัยโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เมื่อถึงกรุงเทพฯ หมูแดง ไปเยี่ยมการะเกดที่โรงพยาบาลและได้พบกับ พงษ์ (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) ทนายความประจำตระกูลจึงรู้ว่าเจ้าหนี้กำลังเร่งรัดหนี้สินทั้งหมด หมูแดง จึงให้ทนาย ไปขอเลื่อนไปอีก 3 เดือน เธอจะพยายามขายไร่และจะหางานทำเพื่อหาเงินมาให้

อาจารย์อานนท์ (การิณ ศุตายุส์) สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่พิกุลแก้วเรียนอยู่ ได้หลงรักพิกุลแก้วเงียบ ๆ แต่พิกุลแก้วกลับหมั้นกับร้อยโทโยธินหลานชายของภาคินัย อานนท์ได้รู้จักกับ หมูแดง และไม่ชอบที่คุณมดแสดงกริยาดูถูก หมูแดง จึงพยายามช่วยปกป้องอยู่เสมอ ทำให้คุณมดไม่พอใจที่อานนท์สนใจ หมูแดง จึงคบคิดกับจารึกหาทางทำลาย หมูแดง จนเมื่อการะเกดกลับมาก็ได้ช่วย หมูแดง ไว้จนตัวเองตกบันไดตาย

ในงานศพ หมูแดง ได้พบกับภาคินัยและรู้ว่าที่แท้คือเจ้าหนี้รายใหญ่ของแม่ จึงโกรธและบอกว่าจะหาเงินมาใช้ให้ภาคินัยอย่างเร็วที่สุด โดยเธอจะแต่งงานกับ เสี่ยเมธี (อ้วน มนตรี) แต่ภาคินัยไม่ยอมเพราะรู้ว่าเสี่ยเมธีเป็นเสือผู้หญิง จึงจ้าง หมูแดง ไปทำงานที่บ้านของเขามีหน้าที่ดูแล คุณพริม (ด.ญ. นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล) ลูกสาวจอมดื้อที่เกิดกับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วของเขา โดยสัญญาว่าถ้าทำงานครบ 3 เดือนจะยกดอกเบี้ยให้ทั้งหมด ถ้าครบ 6 เดือนจะยกโฉนดที่ดินบ้านวัชราพันธุ์คืนให้หมด เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครเคยทำงาน ได้เกิน 2 สัปดาห์ หมูแดง รู้สึกเหมือนถูกสบประมาทจึงตกลงรับทำงานที่บ้านภาคินัย

เมื่อหมูแดงก้าวเข้ามายังบ้านของภาคินัย ก็พบกับความไม่พอใจจาก คุณเทวี (พิจิตรา สิริเวชชะพันธ์) น้องสาวคนสวยของภรรยาที่เสียไปของคุณภาคินัยและ ละม่อม (สุดา ชื่นบาน) แม่บ้านผู้ภักดีของคุณเทวี แต่ก็ยังมี สายบัว (วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ) แม่บ้านอีกคนหนึ่ง ที่เห็นใจ หมูแดง และเล่าเรื่องเกี่ยวกับบ้านภาคินัยให้ฟังเสมอ

ในระยะแรก ๆ คุณพริมไม่ชอบ หมูแดง เพราะเทวียุยงว่า หมูแดง จะมาเป็นแม่เลี้ยงคนใหม่ แต่ต่อมาเด็กน้อยก็กลับรักและไว้ใจ หมูแดง ทำให้เทวีวางแผนกลั่นแกล้ง หมูแดง ต้องออกจากบ้านไป ภาคินัยและลูกสาวต่างอาลัยอาวรณ์ เมื่อบ้านไม่มี หมูแดง จึงออกตามหาแต่ไม่พบ

ในงานแต่งงานของโยธินกับพิกุลแก้ว ภาคินัยได้เปิดเผยให้คนทั้งสองตระกูล ได้รู้ความจริงว่า การะเกดแม่ของ หมูแดง คือผู้ที่รับกรรมแทนคนในบ้านวัชราพันธุ์ทุกคน จึงร่ำร้องให้ หมูแดง กลับมา ส่วน หมูแดง เมื่อออกจากบ้านภาคินัยไป ก็ประสบอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อภาคินัยรู้จึงไปรับ หมูแดง กลับมาและมอบโฉนดบ้านวัชราพันธุ์ให้ตามสัญญา หมูแดง ได้มอบบ้านวัชราพันธุ์ให้แก่พิกุลแก้วเป็นของขวัญวันแต่งงาน ทุกอย่างจึงจบลงด้วยดี เมื่อภาคินัยขอแต่งงาน เพื่อให้ หมูแดง เป็นแม่ของคุณพริมตลอดไป ติดตามชม ละครหมูแดง

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร หมูแดง

พีท  ทองเจือ   แสดงเป็น   ภาคินัย
รัชวิน  วงศ์วิริยะ   แสดงเป็น   มริสสา หรือ หมูแดง
พิจิตรา  สิริเวชชะพันธ์   แสดงเป็น   เทวี
โชคชัย  บุญวรเมธี  แสดงเป็น   โยธิน
เบญจวรรณ  อาร์ดเนอร์   แสดงเป็น   พิกุล
ทัช  ณ ตะกั่วทุ่ง   แสดงเป็น   พิษณุ
ปนัดดา  วงศ์ผู้ดี   แสดงเป็น   สตี
พิมพ์อักษิพร  วินโกมินทร์   แสดงเป็น   โรจนา หรือ มด
การิณ  ศตายุส์   แสดงเป็น   อานนท์
เนาวรัตน์  ยุกตะนันท์   แสดงเป็น   ราตรี
พิศมัย  วิไลศักดิ์   แสดงเป็น   อาม่า
สุธิตา  เกตานนท์   แสดงเป็น   การะเกด
กนกวรรณ   ด่านอุดม   แสดงเป็น   หม่อมระย้า
กาณณ์  กณิณ   แสดงเป็น   จารึก
ปิยะ  ตระกูลราษฎร์   แสดงเป็น   ทนายพงศ์
เอกชัย  เอื้อสังคมเศรษฐ์   แสดงเป็น   ฟาริค
นิธิ  ผลทวี   แสดงเป็น   ดาวุด
อ้วน  มนตรี   แสดงเป็น   เสี่ยเมธี
สุทธิคุณ  วันทานุ   แสดงเป็น   พรชัย
สุดา  ชื่นบาน   แสดงเป็น   ละม่อม
ด.ญ นันท์นภัส  เลิศนามเชิดสกุล   แสดงเป็น   คุณพริม
ด.ญ ชินารดี  อนุพงษ์ภิชาติ   แสดงเป็น  หมูแดง (เด็ก)
ด.ญ รวิสรา  บูรณะปฏิมากร   แสดงเป็น   โรจนา (เด็ก)
ด.ช ริชาร์ด  เกียนี่   แสดงเป็น   ฟาริค (เด็ก)
ด.ช ภัทรนันท์  ปาสาเขา   แสดงเป็น   ดาวุด (เด็ก)
วรวุฒิ  พงษ์ธีรพล   แสดงเป็น   มานพ
ชูษี  เชิญยิ้ม   แสดงเป็น   เฉื่อย
ปรเมศวร์  สิงห์โพธิ์   แสดงเป็น   มนัส
ปิยะมาศ  โมนยะกุล   แสดงเป็น   คุณหญิงพรทิพย์
ธนายงค์  ว่องตระกูล  แสดงเป็น   เจ๊มิ่งขวัญ
คมกฤช  ยุตติยงค์   แสดงเป็น   จ่าเสริม

คุณสามี(กำมะลอ)ที่รัก

บนดอยสวยม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ฤชวี(พัชฏะ นามปาน) หนุ่มนักเขียนนวนิยายระดับเบสท์เซลเลอร์กำลังเดินตามหาแรงบันดาลใจให้กับ นวนิยายรักเรื่องใหม่ และใบไม้ใบหนึ่งที่ผลัดใบร่วงหล่นลงมาก็พลิกชีวิตของฤชวีไปตลอดกาล เมื่อใบไม้ใบนั้นทำให้ฤชวีได้เจอกับผู้หญิงในฝันด้วยฉากที่สาวไทยคนสวยในชุด กิโมโนที่ไล่ตามจับคนร้ายด้วยลูกตบเกี๊ยะมหาประลัย แต่ฤชวีที่ขวางวิถีอยู่หลบไม่ทันต้องรับเกี๊ยะที่ลอยกระแทกเข้าหน้าฤชวี อย่างจัง และนั่นทำให้ฤชวีรู้จักคำว่า “ตกหลุมรัก” แต่เพราะความรักจู่โจมไม่ทันตั้งตัว ฤชวีจึงยังไม่ได้ตั้งสติ และปล่อยให้ผู้หญิงในฝันที่ผ่านเข้ามาต้องผ่านไปอย่างน่าเสียดายจำได้เพียง ชื่อ พิมภา(อารยา เอ ฮาร์เก็ต) เท่านั้น ฤชวีได้แต่หวังว่าสักวันจะได้มีโอกาสพบผู้หญิงในฝันอีกครั้ง
 
พิมภา เป็นสาวนักการตลาดมือขวากำลังสำคัญของบริษัท Naree ที่กำลังเตรียมเข้าสู่พิธีวิวาห์กับ เอกพล(อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) ที่ปรึกษาการตลาดสุดฮอทของเมืองไทยท่ามกลางสายตาอิจฉาของ ลัลนา(เมย์ เฟื่องอารมย์) สาวอกโต หน้าแบ๊ว แนวเกาหลีคู่แข่งคนสำคัญของพิมภาที่ถือตำแหน่งเป็นมือซ้ายคนสำคัญของบริษัท Naree เช่นกัน พิมภากับลัลนาขับเคี่ยวกันเอาชนะมาตลอดทั้งหน้าที่การงาน และการลงจากคาน งานแต่งครั้งนี้ทำให้พิมภาสะใจสุด ๆ ที่แซงลัลนาด้วยการหักคานของตัวเองลงมาได้สำเร็จแม้ว่าจะมีการคัดค้านจาก ครอบครัวของพิมภาเพราะไม่ไว้ใจเอกพล แต่พิมภาก็ดื้อจนเกิดงานแต่งขึ้นมาจนได้ เพราะเอกพลก็เก่ง หล่อ เริ่ด ควงแล้วเชิดไม่น้อยหน้าใคร พิมภาเย้ยหยามลัลนาอย่างเมามันส์ยิ่งทำให้ลัลนาประกาศว่าบริษัทNaree ที่จะเปิดสาขาที่ญี่ปุ่น คนที่ได้รับเลือกไปคุมต้องเป็นลัลนาคนเดียวเท่านั้น!
 
และแล้วงานแต่งงานก็มาถึง พิมภาบรรจงเซ็นลายเซ็นลงในทะเบียนสมรสท่ามกลางสายตาของแขกที่มาร่วมงาน พิมภาเลื่อนใบทะเบียนให้เอกพลลงลายเซ็นเพื่อความเป็นสามีภรรยาอย่างสมบูรณ์ ทุกอย่างกำลังจะเพอร์เฟ็คท์แต่งานกลับต้องล่มไม่เป็นท่าเพราะความเลวของเจ้า บ่าวที่ถูกแฉออกมากลางงานอย่างแสบไส้ เนื่องจากมีสาวอุ้มท้องโย้มาบุกทวงพ่อของลูก แต่นั่นยังไม่ทำให้พิมภาเจ็บเท่าที่เพิ่งตาสว่างเมื่อรู้ว่า ปราสินี(ภารดี อยู่ผาสุข) เพื่อนรักลายครามที่กอดคอกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยนั้นประกาศว่าใช้ ผู้ชายคนเดียวกันมานานแล้วเช่นกัน พิมภาเจ้าสาวคนสวยแสนมั่น อดีตมือตบแชมป์วอลเล่ย์บอลระดับมัธยมแห่งประเทศไทยสามปีซ้อน จึงตบแหลกจนเจ้าบ่าวกระดูกคอร้าว แถมท้ายด้วยการใช้รองเท้าเจ้าสาวส้นสูงปรี๊ดเหยียบกระทืบบนยอดอกก่อนจะเดิน สะบัดเชิดๆ เริดๆ ออกมาอย่างงดงาม ไม่แคร์ใครหน้าไหน ไม่มีน้ำตาให้เห็นสักหยดเดียว จน นันทิกานต์(อชิตะ วุฒินันท์สระสิทธิ์) คู่หูเพื่อนรักของพิมภาต้องรีบตามไปเก็บทะเบียนสมรสเอาไปให้พิมภาเพราะกลัว เอกพลจะเอาทะเบียนไปทำเรื่องเลวๆ ได้ พิมภาเก็บทะเบียนสมรสนั้นใส่กรอบไว้เตือนใจถึงความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต
 
เมื่อกลับมาทำงาน สาวเวิร์คกิ้งวูเม่นชั้นหนึ่งอย่างพิมภาต้องถูกลัลนาและเพื่อนในบริษัทของ ซูซี่(ดารณีนุช โพธิปิติ) เอา เรื่องงานแต่งมาเป็นหัวข้อนินทาไม่ซ้ำคอนเซ็ปในแต่ละวัน พิมภาต้องทนเชิดทั้งที่ในใจเจ็บปวดที่เสียรู้ผู้ชาย เสียหน้ากับคู่แข่ง และเสียใจที่เพื่อนรักหักหลัง
 
ด้วยความเก็บกด พิมภาตัดสินใจไปเที่ยวผับตามลำพังจนถูกเสือ สิงห์ กระทิง แรด หยอดยาในเครื่องดื่มทำให้พิมภาเบลอและไร้สติเพื่อจะตื่นในเช้าวันต่อมาแล้ว พบว่าเธอได้สามีมาหนึ่งคนเป็นของแถม พร้อมแนบมาด้วยใบทะเบียนสมรสที่มีลายเซ็นของทั้งคู่ประทับไว้อย่างสมบูรณ์ แถมสามีหมาด ๆ ยังนอนเปลือยอกยั่วน้ำลายอยู่บนเตียงเดียวกันแนะนำว่าตัวเองชื่อ ฤชวีอีกด้วย พิมภาจึงอาละวาดจนบ้านและหัวของฤชวีแทบแตกไปพร้อมๆ กัน
 
ฤชวี ชายหนุ่มคมเข้ม หน้าตาดี ไม่เจ้าชู้ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนันใด ๆ ชอบทำงานบ้าน รักงานครัว แสนดีไปซะทุกเรื่องและเด็ดสุดคือมีรอยยิ้มอบอุ่นพิฆาตใจสาวๆ หนุ่มแสนดีพันธุ์หายากที่สมควรต้องอนุรักษ์ไว้นี้พยายามจะอธิบายให้พิมภา เข้าใจว่าเขาช่วยพิมภาให้พ้นจากการถูกมอมยาและพาพิมภามาส่งที่นี่ แต่พิมภาไม่ยอมให้เขากลับและเล่าเรื่องงานแต่งงานแสนห่วยให้เขาฟัง พร้อมทั้งร่ำร้องว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรม ไม่มีผู้ชายดีๆ บนโลกนี้หรือไง เมื่อฤชวียืนยันว่าเขาคือผู้ชายดีๆ ที่เหลืออยู่ พิมภาก็บังคับ (ด้วยน้ำตาและน้ำเสียงที่น่าเอ็นดู)ให้เขาเซ็นชื่อในทะเบียนสมรส พิมภาช็อค เพราะรู้ว่าการไปที่อโคจรนั้นก่อเรื่องให้กับตนเองเข้าแล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรต่อ เสียงกริ่งก็ดังขึ้น พิมภาไปที่ประตูแล้วต้องช็อคซ้ำสองเมื่อ ภานุวัฒน์(สันติสุข พรหมศิริ) กับ พิมมาลา(สาวิตรี สามิภักดิ์) พ่อแม่ของพิมภารวมทั้ง ภัทรพล (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์) ผู้ เป็นพี่ชายก็บุกมาเยือนถึงที่ เพราะร้อนใจที่พิมภาโทรไปบอกว่าแต่งงานใหม่แล้ว ขณะที่กำลังเมายา พิมภาจะให้ฤชวีไปซ่อนแต่ไม่ทัน หนำซ้ำภาณุวัฒน์กับพิมมาลาก็เรียฤชวีว่าลูกเขยอย่างเต็มปากเต็มคำ ทำให้พิมภางงเป็นไก่ตาแตก ต้องยอมรับฤชวีเป็นสามีให้มาอยู่ร่วมห้อง โดยมีพ่อแม่ พี่ชายจับตามองอย่างไม่ห่าง แต่ที่สุดหลังจากสอบสวนนิสัย หน้าที่การงาน ชาติตระกูล พ่อแม่และพี่ชายของพิมภาก็เริ่มไว้ใจในตัวฤชวี มีแต่เพียงพิมภาที่ไม่รู้จักฤชวีแม้แต่น้อย
 
พิมภาจำใจต้องรับฤชวีมาอยู่ร่วมบ้าน เพราะดูท่าพ่อแม่จะถูกใจลูกเขยเหลือเกิน แม้จะมีหนุ่มหน้าเข้มหุ่นน่าหม่ำผูกผ้ากันเปื้อนยิ้มพิมพ์ใจทำอาหารและทำงาน บ้านให้ทุกอย่าง แต่พิมภาก็ใช่ว่าจะยอมรับในตัวฤชวีได้ง่าย ๆ ในเวลานั้น สารพัดปัญหาต่างๆ ก็พร้อมใจกันประดังเข้ามาเหมือนวัดใจทดสอบ ลัลนาก็ยังไม่เลิกราพร้อมจะแทงซึ่งๆ หน้า จิกกัดไม่หยุดหย่อน ส่วนบริษัทเครื่องสำอางค์ก็ถูกใส่ไฟทางอินเตอร์เน็ท ตัวการเนื่องมาจากเด็กสาวนักศึกษาที่เธอจับได้ว่าขโมยเครื่องสำอางค์ในร้าน ทำพิมภาแค้นเป็นที่สุด เพราะถูกผู้ใหญ่ตำหนิเต็มๆ หากฤชวีก็ทำให้เธอเห็นว่าท่ามกลางปัญหาวุ่นๆ ทั้งหลายนั้น เขายังคงคอยช่วยเหลือเธออยู่จนพิมภาแอบซึ้งใจ จนความสัมพันธ์ระหว่างพิมภากับฤชวีกลับงอกเงยและเบ่งบานในหัวใจของพิมภา อย่างไม่หยุดยั้ง ฤชวีช่วยสืบจนทำให้พิมภาได้รู้ว่าแท้จริงคนวางแผนเบื้องหลังทั้งหมดคือ ปราสินี อดีตเพื่อนรักที่แย่งเอกพลแฟนเก่าไปนั่นเอง เรื่องนี้ทำพิมภาปรี๊ดแตก แต่ที่ทำให้พิมภาประหลาดใจสุดๆ ก็คือลัลนายอมสงบศึกชั่วคราวเพื่อมาช่วยเล่นงานปราสินี ทำให้พิมภาได้เห็นลัลนาอีกมุมว่านอกจากนมโตคัพดี…ต่อมรักบริษัทของลัลนาก็ รักดีไม่แพ้นมเช่นกัน แต่เรื่องจะให้สงบศึกนั้นไม่มีทาง เพราะตำแหน่งที่จะไปคุมสาขาที่ญี่ปุ่นคือสุดยอดของความฝันในการทำงานของทั้งคู่
 
แต่เมื่อเล่นงานปราสินีจบลง พิมภากับลัลนาก็ต่อสู้แข่งขันกันต่อ คราวนี้เป้าหมายเป็นฤชวี เพราะลัลนาหลงรักความหล่อล่ำของฤชวี ทั้งยังสงสัยว่าฤชวีเป็นใคร เข้ามาสนิทสนมกับพิมภาได้อย่างไร
ลัลนาตามเจาะทะลวงฤชวี หวังจะล้วงมานั่งตำแหน่งสามีคู่ใจ พิมภาได้รู้รสชาติของความหึงตามฟาดฟันขับไล่ลัลนาแบบไม่ให้ฤชวีรู้ตัว (กลัวตัวเองเสียหน้า) จนเรื่องรู้ถึงครอบครัวของพิมภา ทำให้ภัทรพลนั่งไม่ติด เพราะคิดถึงนม..เอ๊ยคนน่าแบ๊วอย่างลัลนาตั้งแต่ได้เจอในงานแต่งของพิมภากับ เอกพล ทำให้ภัทรพลอาสามาเป็นกุนซือบีบ..เอ๊ย จีบลัลนามาเป็นแฟนให้ได้ พิมภาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางจึงยอมให้ภัทรพลช่วย ภัทรพลเดินหน้าจีบลัลนาด้วยกลยุทธ์ เสี่ยวเท่านั้นที่จะครองโลก งัดวลีน้ำเน่าแสนโดนเข้าชนลัลนาแบบน้ำซึมบ่อทรายแต่ทิ้งลายรักไว้ในใจลัลนา มากขึ้นทุกที
 
ด้านพิมภาก็ออกอาการหึงหวง แม้กระทั่งเมื่อฤชวีไปกินข้าวกับ กิ่งแก้ว(พิจิตรา สิริเวชชะพันธ์) บรรณาธิการหนังสือที่ฤชวีทำงานด้วย ทำให้นันทิกานต์ดูออกว่าพิมภารักฤชวีเข้าแล้ว เมื่อรู้ตัวว่ารักพิมภาก็พยายามจับสังเกตฤชวีว่ามีใจกับตัวเองหรือเปล่า แต่ฤชวีก็ไม่เคยรุกล้ำ แต๊ะอั๋งใด ๆ จนนันทิกานต์เริ่มวิเคราะห์ว่าฤชวีอาจจะรักไม้ป่าเดียวกัน พิมภายอมไม่ได้ถ้าผู้ชายที่เธอชอบจะเดินทางผิด นันทิกานต์จึงปั่นให้พิมภาเป็นคนดึงฤชวีกลับมาเป็นชายเต็มตัว ปฏิบัติการเกย์กลับใจจึงเกิดขึ้น แต่พิมภานั้นรักนวลสงวนตัวจึงขอให้ใช้แผนที่หญิงไทยจะไม่ดูเกินงาม แต่ฤชวีก็ดูไม่สะดุ้งสะเทือนจนพิมภาคิดว่าตนนั้นไม่มีเสน่ห์ จึงตัดสินใจจัดหนัก จัดแน่น จัดเต็มจนฤชวีร่ำ ๆ จะตบะแตกหลายครั้ง แต่เพราะความเป็นสุภาพบุรุษแสนดีทำให้ฤชวีหักห้ามใจได้ทุกครั้ง พิมภาทำทุกวิถีทางจนฤชวีต้องขอให้หยุด (เพราะน่ารักจนจะไม่ไหวแล้ว) พิมภาน้อยใจว่าทำให้ฤชวีเปลี่ยนใจไม่ได้ ฤชวีที่เก็บไว้ไม่ไหวแอบสารภาพเป็นนัย ๆ ว่ามีใจทำให้พิมภาดีใจ สถานภาพจึงเป็นที่รู้กันว่ารักนะ แต่ไม่แสดงออก
 
บริษัท Naree จัดงานพรีเซ็นต์สินค้าบริษัทครั้งใหญ่ พร้อมจัดงานแนะนำ ตรีวิญ(สมิทธิ ลิขิตมาศกุล) ในฐานะผู้จัดการฝ่ายการตลาดคนสำคัญของบริษัท พิมภาได้รับมอบหมายจากสุกัญญา (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล)ประธานบริษัท ว่าจะช่วยดูสถานที่ให้ แต่เพราะลัลนากลั่นแกล้งทำให้พิมภาไม่สามารถหาสถานที่สัมนาได้ในเวลากระชั้น ชิด พิมภาอยากกรี๊ดเพราะถ้าหาไม่ได้มันจะสะเทือนถึงความรับผิดชอบในงานของพิมภา ฤชวีกลายเป็นฮีโร่ขึ้นมาทันที เมื่อฤชวีให้พิมภาใช้รีสอร์ทของ คุณหญิงชุติภา(พิสมัย วิไลศักดิ์) คุณ ย่าของเขาที่เขาใหญ่เป็นสถานที่จัดงาน ทำให้พิมภาได้รู้ว่าฤชวีมีฐานะเข้าขั้นทายาทมหาเศรษฐี ฤชวีขออาสาตามไปดูแลงานนี้ด้วย พิมภาปลื้ม…ที่ฤชวีกำลังจะเข้าขั้นเป็นผู้ชายเพอร์เฟ็คท์สำหรับตัวเอง
 
แต่แล้วตรีวิญก็เดินทางไปรีสอร์ทก่อนวันงาน ทำให้ฤชวีได้รู้ความจริงว่างานนี้จัดขึ้นเพื่อตรีวิญ ซึ่งเป็นเหตุผลที่พิมภาทุ่มเทกับงานเต็มที่ ฤชวีโมโหหึง พาลโกรธพิมภา ทั้งคู่ทะเลาะกัน พิมภาพยายามตามง้องอน ทั้งคู่สงบศึกชั่วคราวเพื่อจัดงานของบริษัทต่อ ลัลนาเตรียมแผนถล่มพิมภาหลายอย่าง ทั้งเรื่องการแย่งเอาหน้าจากตรีวิญและสุกัญญา แต่พิมภาก็แก้ปัญหาไปได้ แต่ที่คาดไม่ถึงก้คือ ลัลนาได้ข้อมูลจากภัทรพล แฉกลางงานว่าพิมภาแต่งงานครั้งที่สองกับฤชวีผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้า ทำให้พิมภาตกใจมาก เพราะแค่ต้องการให้เป็นการแต่งงานหลอกๆ รู้กันภายในครอบครัวเท่านั้น แต่ตอนนี้ทุกคนในบริษัทรู้หมดแล้ว งานผ่านพ้นไปได้เพราะภัทรพลและฤชวีช่วยแก้สถานการณ์ทุกอย่าง
 
ฤชวีกับพิมภาค่อยๆ เริ่มใกล้ชิด และเรียนรู้ใจกันมากขึ้น แต่แล้วคุณย่าชุติภา ก็ให้ มินท์(วิรากานต์ เสณีตันติกุล) น้องสาวของฤชวี ติดต่อให้ฤชวีพาภรรยามาหา รวมทั้งครอบครัวด้วย ย่าชุติภาไม่พอใจเพราะตั้งใจจะจัดคู่ให้แต่งงานกับ การะเกด(เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์)ลูก สาวของเพื่อนนักธุรกิจ โดยเข้าใจว่าการะเกดเป็นกุลสตรีเรียบร้อย แต่ไม่รู้ว่าเบื้องหลังการะเกดเป็นผู้หญิงเปรี้ยว ยุ่งกับผู้ชายไม่เลือก เห็นฤชวีก็ถูกใจในความหล่อรวย พยายามจะแย่งชิงจากพิมภาให้ได้ โดยไม่สนว่าจะใช้วิธีไหน ร่วมมือวางแผนการร้ายกับเอกพล คู่ขาเก่าของเธอ เพื่อจัดการพิมภาด้วย แล้วยังได้ตรีวิญมาช่วยเสริมความเข้าใจผิดให้กับฤชวีและพิมภา แม้ต่างคนต่างจะยอมรับว่ารักกัน แต่ความหึงหวง ความทิฐิของทั้งฤชวีและพิมภา ก็ทำให้ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดใจให้กัน
 
เรื่องราวความรักของพิมภา กับคุณสามีกำมะลอของเธอ จะลงเอยอย่างไร คนเก่งอย่างพิมภาจะฝ่าฟันปัญหาได้สำเร็จด้วยวิธีไหน เพราะมีทั้งศึกนอก ศึกใน ยุ่งเหยิงไปโหม้ด โปรดติดตามชม จันทร์ อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 และ ละเอียดเต็มอิ่มทุกลมหายใจในละคร คุณสามี(กำมะลอ)ที่รัก

บ่วงรัก

ธานินทร์ เลิศชัยวัฒน์ (สันติสุข พรหมศิริ) จำเป็นต้องแต่งงานกับ อังคณา (สินจัย เปล่งพานิช) เพื่อกอบกู้ฐานะของครอบครัว จนมีลูกชายหญิงด้วยกันสองคนคือ ชนะศึก (ธนทัต ชัยอรรถ) และชนกนันท์ (รุจิภาส ก่อเกียรติ) แต่ธานินทรืไม่มีความสุขเลย เพราะอังคณามีอุปนิสัยและการใช้ชีวิตตรงกันข้ามกับธานินทร์ทุกอย่าง และตลอดเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ธานินทร์ยังคงฝังใจอยู่กับคนรักเก่าของเขา ที่ถูกพรากไปเพราะความแตกต่างทางชนชั้น
 
พรรณี(มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ มีลูกชายหญิง 2 คน คือ เพชรแท้(ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ท) และพิณทอง (เต็มฟ้า กฤษณายุธ) พ่อของเด็กทั้งสองเสียชีวิตไปนานแล้ว ทิ้งให้สามแม่ลูกต้องปากกัดตีนถีบเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง แต่ด้วยความรักที่ทั้งสามมีต่อกัน ทำให้ครอบครัวที่ยากจนของพรรณีมีแต่งความสุข โดยมี ป้าสำอางค์ (วิยะดา อุมารินทร์) และผึ้ง(พัสกร พลบูรณ์) เป็นเพื่อนบ้านที่คอยช่วยเหลือในยามที่มีปัญหา พิณทองได้เข้าไปทำงานที่บริษัทของธานินทร์ เธอทำงานผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ แต่กลับถูกชนะศึกไล่ออก แต่ธานินทร์ได้เห็นประวัติของพิณทองจึงรับเธอกลับเข้ามาทำงานใหม่ แถมยังเลื่อนตำแหน่งให้ ทำให้ชนะศึกไม่พอใจและทำให้ เรืองโรจน์(อาณัตพล ศิริชุมแสง) เลขาฯส่วนตัวของธานินทร์สงสัย
 
เรืองโรจน์รายงานเรื่องพิณทองให้อังคณารู้ อังคณาเข้าใจว่าธานินทร์มีความสัมพันธ์กับพิณทองฉันท์ชู้สาวจึงตามมารังควานถึงบ้าน ชนะศึกปกป้องพิณทองด้วยความสงสาร แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า ที่ธานินทร์แอบช่วยเหลือพิณทอง เพราะพรรณีแม่ของพิณทองเป็นคนรักเก่าที่ธานินทร์รักอย่างสุดหัวใจ ทำให้อังคณายิ่งแค้นใจมาก อังคณาตอบโต้พรรณีด้วยการใส่ความเพชรแท้ เพชรแท้ถูกตำรวจไล่ล่า ครอบครัวของพรรณีต้องหนีหัวซุกหัวซน พิณทองต้องพยายามตัดใจจากชนะศึก แม้ว่าจะรักเข้ามากเพียงใดก็ตาม ธานินท์รู้ว่าอังคณาเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง จึงโกรธถึงขั้นขอหย่า แต่อังคณาไม่ยอม ธานินทร์กลุ้มใจจนอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะสุดท้ายของเขากำเริบ ธานินทร์เจ็บปวดทรมานมาก แต่ไม่ยอมบอกใครว่าตนกำลังจะตาย พรรณีหมดหนทางที่จะช่วยเพชรแท้ จึงไปสารภาพความจริงกับธานินทร์ว่า เพชรเป็นลูกชายแท้ๆของเขา ธานินทร์ขอร้องให้ชนะศึกช่วยเพชรแท้จนพ้นคดี เพราะเพชรแท้คือลูกชายอีกคนของเขา ชนะศึกตกใจมากแต่ก็ต้องยินยอม
 
เพชรแท้พ้นโทษออกมา และได้รู้ความจริงทั้งหมด แต่ด้วยความโกรธ ทำให้เพชรแท้ไม่ยอมรับธานินทร์เป็นพ่อ ธานินทร์รู้ว่าตนเองมีเวลาเหลืออีกไม่นาน จึงคิดจะทำพินัยกรรมแบ่งสมบัติให้กับเพชรแท้ด้วย อังคณารู้เรื่องราวทั้งหมด ด้วยความแค้น เธอจึงร่วมมือกับเรืองโรจน์วางแผนฆ่าธานินทร์และป้ายความผิดให้กับเพชรแท้ ธานินทร์เสียชีวิตในกองไฟ ในขณะที่เพชรแท้โดนข้อหาพยายามฆ่าธานินทร์เพื่องชิงสมบัติ พรรณีและพิณทองจะหาทางช่วยเพชรแท้ได้หรือไม่ และชนะศึกจะรู้เบื้องหลังความเลวร้ายของอังคณาได้อย่างไร ติดตามได้ในละคร บ่วงรัก
 
รายชื่อนักแสดง บ่วงรัก :
 
สินใจ เปล่งพานิช รับบทเป็น อังคณา
สันติสุข พรหมศิริ รับบทเป็น ธานินทร์
ธนทัต ชัยอรรถ (แกงส้ม เดอะสตาร์) รับบทเป็น ชนะศึก
นิว ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ท รับบทเป็น เพชรแท้
เต็มฟ้า กฤษณายุธ รับบทเป็น พิณทอง
กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบทเป็น พรรณี
อาณัตพล ศิริชุมแสง รับบทเป็น เรืองโรจน์
เมย์ รุจิภาส ก่อเกียรติ รับบทเป็น นก
วิยะดา อุมารินทร์ รับบทเป็น ป้าสำอางค์
ตี๋ ดอกสะเดา รับบทเป็น ศักดา
เฟิร์น พัสกร พลบูรณ์ รับบทเป็น ผึ้ง

เริ่มต้น 30 ตุลาคมนี้ ละครบ่วงรัก

มารกามเทพ

รักที่ยาก..จะสมหวัง เมื่อความแค้นชิงชัง คือ…มารกามเทพ

น้ำหนึ่ง หรือ เพชรน้ำบุศย์(มนชนก แสงฉายเพียรเพ็ญ) ดีใจมากที่ได้เจอเพชร(ฌวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) วิศวกรหนุ่มหล่อรุ่นพี่ ที่น้ำหนึ่งแอบปลื้มตั้งแต่สมัยมัธยม แม่เพชรบอกรักและแสดงออกด้วยความจริงใจ น้ำหนึ่ง จึงรับรักเพชร เพชรดีใจมากขอน้ำหนึ่งแต่งงาน แต่รมต.เกรียงศักดิ์(สุรวุฑ ไหมกัน) และคุณหญิงดาราณี(กชกร นิมากรณ์) พ่อแม่ของน้ำหนึ่งไม่ยอมเพราะเห็นว่าสถานภาพทางสังคมของน้ำหนึ่งและเพชรแตกต่างกันเกินไป แต่เพชรก็บอกกับน้ำหนึ่งว่าเขาจะพิสูจน์ความรักจนกว่าพ่อแม่ของน้ำหนึ่งจะเห็นใจ น้ำหนึ่งดีใจมาก

แต่ภาคย์(เอเคอร์-ชมะนันทน์ อรรถจินดา) เพื่อนรุ่นพี่ของน้ำหนึ่ง ลูกชายของสมบัติ(สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) กับอารีย์(ภัสสร บุณยเกียรติ)เจ้าของร้านเพชร เสียใจมากเพราะภาคย์แอบหลงรักน้ำหนึ่งอยู่ แม้จะมีอลิส(แอริณ ยุกตะทัต) สาวไฮโซลูกสาวคนเดียวของคุณชายศิริศักดิ์ มาดามหัวใจ ภาคย์ก็ไม่สนใจ ทำให้อลิสโกรธมาก เพราะอลิสเป็นคู่แข่งของน้ำหนึ่งมาตั้งแต่ไหนๆ อลิสพยายามทำทุกอย่างให้น้ำหนึ่งไปจากชีวิตของเธอ

ที่สุดน้ำหนึ่งก็ได้แต่งงานกับเพชร ท่ามกลางความไม่เห็นชอบของรมต.ศิริศักดิ์และคุณหญิงดาราณีหลังแต่งงาน เพชรพาน้ำหนึ่งไปอยู่ที่บ้านเชิงเขา ที่นั่น น้ำหนึ่งได้พบกับทับทิม(อภิรดี ภวภูตานนท์) แม่ของเพชร และพลอย(นัท มีเรีย) พี่สาวขาพิการของเพชร สองคนมีทีท่ามึนตึงเฉยชากับน้ำหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะพลอยที่มีทีท่าว่าเกลียดชังน้ำหนึ่งตั้งแต่แรกเห็นน้ำหนึ่งไม่เข้าใจ แต่พยายามไม่สนใจ เพราะสงสารพลอยที่ขาพิการแต่แล้วน้ำหนึ่งต้องช็อกเมื่อพลอยพา รจนา(แคท-เปรมนลิน ธรรมเจริญ) เข้ามาในบ้าน พร้อมทั้งแนะนำว่ารจนาคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเพชร นั่นหมายถึง น้ำหนึ่งต้องตกอยู่ในฐานะ ภรรยาน้อย หรือภรรยาเก็บ เพราะน้ำหนึ่งไม่ได้จดทะเบียน น้ำหนึ่งเสียใจและตกใจมาก ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพชรจึงบอกในอดีตพ่อของน้ำหนึ่งได้ปลุกปล้ำขืนใจพลอย หนำซ้ำยังขับรถไล่ชนพลอยพิการ เพราะกลัวแม่ของน้ำหนึ่งรู้เรื่อง แต่เมื่อคุณหญิงดาราณีรู้เรื่อง ก็ยังส่งคนมาทำร้ายรังควานพลอยไม่สิ้นสุด ทำให้เพชรและครอบครัวโกรธแค้นมาก

เพชรบอกน้ำหนึ่งเขาไม่เคยรักเธอ ที่ทำทุกอย่างเพื่อให้น้ำหนึ่งตกหลุมรักเขาเท่านั้น น้ำหนึ่งจะต้องตกอยู่ในสภาพเมียเก็บ นางบำเรอของเขา เหมือนที่พลอยถูกพ่อของน้ำหนึ่งกระทำ น้ำหนึ่งทั้งตกใจและเสียใจมาก เมื่อรู้ว่าพ่อแม่ทำร้ายพลอย และเพชรไม่เคยรักเธอ ต้องการตัวเธอมาเพื่อแก้แค้นเท่านั้น ด้วยความรัก น้ำหนึ่งยอมก้มหน้าชดใช้ความผิดแทนที่พ่อแม่โดยไม่คิดหนีกลับกรุงเทพแต่อย่างใด

ที่บ้านเชิงเขา น้ำหนึ่งต้องถูกเพชร พลอย และทับทิม ตลอดจนรจนาทำร้ายกายและหัวใจโดยเฉพาะต้องทนอยู่กับคนที่เหมือนมีอาการประสาทตลอดเวลาอย่างพลอย ไม่มีใครเห็นใจน้ำหนึ่ง มีแต่คนสะใจยกเว้นพจนีย์(อินทิรา เกตุวรสุนทร) พี่สาวของรจนา เพราะพจนีย์รู้ดีว่าความจริงแล้วเพชรและรจนาไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พจนีย์บอกน้ำหนึ่งไม่ได้ เพราะพลอยมีบุยคุณกับเธอ

ตาหวาน(คิตตี้-กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ) ที่ติดตามมารับใช้ดูแลน้ำหนึ่ง ไปบอกกับนวล(สุปราณี เจริญผล) แม่บ้านเรื่องน้ำหนึ่งถูกเพชรทำร้ายร่างกายและหัวใจ นวลสงสารน้ำหนึ่งมาก ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังเพชร นวลหาโอกาสเข้าไปเยี่ยมน้ำหนึ่งที่บ้านเชิงเขา เมื่อไปถึงที่นั่น นวลตกใจมากที่ได้เจอกับทับทิม เพราะในอดีตนวลพลั้งมือฆ่าคนตายต้องหนีหัวซุกหัวซุน นวลทั้งดีใจ เสียใจ ตกใจที่ได้ที่ได้รู้ว่าเพชรคือลูกชายของเธอ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นวลตกใจมากที่ได้รู้ว่าเพชรคือลูกชายของเธอ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นวลตกใจมากที่ได้รู้ว่าพลอยคือลูกสาวของทับทิม เพราะความจริงแล้ว พลอยคือหน้าห้องของเกรียงศักดิ์ที่ต้องการเป็นอนุ แต่เกรียงศักดิ์เป็นคนรักครอบครัว ไม่ได้ต้องการพลอยแบบนั้น พลอยโกรธและเสียใจมากที่ถูกปฏิเสธ วิ่งให้รถชนตาย แต่หมอณัฐ(แอม ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน) ลูกพี่ลูกน้องของอลิสช่วยเอาไว้ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พลอยขาพิการ แต่พลอยสร้างเรื่องโบ้ยความผิดว่าเป็นฝีมือของเกรียงศักดิ์และดาราณีทำให้ เพชรกับทับทิมโกรธแค้นมาก ที่สุดความแค้นมาตกที่น้ำหนึ่ง อลิสตามมาแฉซ้ำเรื่องความเลวร้ายของพลอย เพราะอลิสรู้เรื่องทุกอย่างดี พลอยโกรธมาก ฆ่าอลิส และทุกคนที่ขวางทางเธอ เพชรเสียใจมากที่สำร้ายน้ำหนึ่ง คนที่รักเขาสุดหัวใจ และยิ่งตกใจหนักเมื่อเพชรรู้ว่าที่แท้จริงแล้วพลอยแอบหลงรักเขาอยู่

เพชรจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่า “พลอย” พี่สาวที่แสนรัก น่าสางสารของเขาแท้จริงแล้วคือ “มารกามเทพ” ระหว่างเขากับน้ำหนึ่ง และพลอยจะทำอย่างไรเมื่อความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย เธอไม่ใช่คนน่าสงสาร แต่เธอคือ “มาร” คือความเลวร้าย สำหรับทุกคน

ไฟมาร

กรรณนรี หรือกาว(ปริยฉัตร ลิ้มธรรมมหิศร) นักข่าวสาวสวยสุดห้าว ด้วยหน้าที่การงานทำให้เธอต้องแอ็คทีฟตลอดเวลา กรรณนรีชอบแต่งตัวทะมัดทะแมง ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงาน ไม่ชอบทำตัวอ่อนหวานแบบผู้หญิงทั่วไป ทั้งยังตรงไปตรงมา กล้าต่อสู้เพื่อความถูกต้อง แต่ในความเข้มแข็งทั้งหมดนั้น จิตใจของกรรณนรียังคงอ่อนแอและบอบช้ำจากการขาดแม่ ลึกๆ แล้วกรรณนรียังคงโหยหาความรักจากผู้เป็นแม่ ไม่ต่างจากพี่ชายคือกาวินทร์ หรือแก้ว ชายหนุ่มอ่อนโยน รักกรรณนรีและพ่อ แต่ปมปัญหาจากอดีตส่งให้กาวินทร์กลายเป็นคนไม่เชื่อในความรัก และคบผู้หญิงเรื่อยไปไม่จริงจังกับใคร

สองพี่น้องเหลือพ่ออยู่เพียงคนเดียว เกริก เคยเป็นพ่อและสามีที่ดี อ่อนโยน รักชีวิตสงบเรียบง่าย แต่เมื่อ ภาพิศ(นุสบา ปุณณกันต์) ทิ้งไป ชีวิตของเกริกก็เปลี่ยน หลังจากถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการจนต้องลาออก เกริกกลายเป็นคนติดเหล้าอย่างหนัก เศร้าซึม เจ็บป่วยทั้งกายและใจ แม้เวลาจะล่วงเลยเป็นสิบปีแล้ว แต่เกริกก็ยังคงคิดถึงแต่ภาพิศ กรรณนรีกับกาวินทร์ต้องคอยประคับประคองสภาพจิตดูแลด้วยสงสารและเห็นใจผู้เป็นพ่อ โดยมีเพื่อนที่แสนดีอย่างนายแพทย์บุญยิ่ง(วสุ แสงสิงแก้ว) นายแพทย์รุ่นใหญ่ผู้ใจดี สุขุม สนิทสนมกับครอบครัวของเกริกมาตั้งแต่นุดียังอยู่เป็นครอบครัว เป็นผู้คอยดูแลอาการทางร่างกายของเกริกจากการติดเหล้า และยังเปรียบเหมือนญาติสนิทที่คอยให้คำปรึกษาแก่กรรณนรีและกาวินทร์อยู่เสมอ

สำหรับกาวินทร์นั้น ความผิดหวังของเกริกราวกับตอกย้ำไม่ให้กาวินทร์ไว้ใจผู้หญิงคนไหนอีกต่อไป ถีงกระนั้น มาลินีหรือมด(ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) เป็นเพื่อนที่คบกับกาวินทร์มานาน นิสัยเรียบร้อย อยู่ตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้อง ฐานะไม่ร่ำรวย ขยันขันแข็งพยายามสร้างตัว ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน แม้กาวินทร์จะบอกเสมอว่า นี่เป็นเพียงความสัมพันธ์ชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น แต่มาลินีก็ยังหวังว่ากาวินทร์จะยอมรับ และแต่งงานกัน มาลินีเชื่อว่าความรักของตนจะเปลี่ยนความคิดความแค้นของกาวินทร์ได้สักวัน มาลินีจึงเก็บใจไว้รอกาวินทร์เพียงคนเดียว

กรรณนรีเคยได้ยินชื่อของมาลินีอยู่เหมือนกันและเห็นใจมาลินี เพราะพี่ชายยังฝังใจว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ไม่มีดี กรรณนรีแนะนำแกมต่อว่าพี่ชายเรื่องนี้ แต่กาวินทร์เพียงรับฟังไปอย่างนั้น ส่วนกรรณนรีแม้จะไม่หมดศรัทธาในความรัก แต่ก็ยังไม่เคยเปิดใจรักใคร มีเพียง ภรต(วีรดนย์ หวังเจริญพร) ผู้เดียวที่คอยวนเวียนตามจีบกรรณนรีมานาน แต่ไม่เคยกล้าบอกความในใจเสียที เขาเป็นวิศวกรหนุ่มหล่ออนาคตไกล มองโลกในแง่ดี สนุกสนาน จริงใจและเป็นห่วงกรรณนรีมาก ภรตใกล้ชิดและรู้เรื่องราวความหลังของครอบครัวนี้เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของนายแพทย์บุญยิ่งเพื่อนของเกริกนั่นเอง ภรตจึงเป็นเพื่อนรับฟังปัญหาที่ดีของกาวินทร์และกรรณนรีได้

หลังจาก นุดี ตัดสินใจหันหลังให้กับครอบครัวของเธอ เพื่อมาเป็นเมียเก็บของพลตรีอารักษ์ ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของประเทศ นุดีใช้เสน่ห์ความสวยความอ่อนหวาน แลกกับความสุขสบายที่ท่านพลตรีฯ มอบให้

แม้นุดี ซึ่งตอนนี้เธอคือ ภาพิศ อนุของท่านพลตรีฯ ที่มีชีวิตสุขสบายอยู่ในบ้านหลังใหญ่ แต่แท้จริงแล้วภาพิศยังรู้สึกผิดและคิดถึงลูกๆของตนอยู่เสมอ แต่ท่านพลตรีฯ สั่งเด็ดขาดไม่ให้ติดต่อกลับไปหาครอบครัวเก่าอีก ภาพิศอยากพบลูกที่สุด แต่ความห่างเหินก็ทำให้ภาพิศกลัวอยู่ไม่น้อย ว่าลูกจะโกรธและไม่ยอมรับตน ความโศกเศร้าเรื่องลูกนี้มีเพียง น้อย(รุจิเรข พักตระเกษตริน) คนรับใช้คนสนิทที่รับรู้ ซึ่งซื่อสัตย์และภักดีกับภาพิศเสมอมา และทุกครั้งที่ภาพิตกังวลว่าท่านพลตรีฯ จะไม่มาหา ผู้ที่ภาพิศมักจะปรับทุกข์ปรึกษาก็คือ แฉล้ม(แวร์ โซว์) ช่างเสริมสวยประจำตัวภาพิศ มีเบื้องหลังเป็นคนคอยจัดหาสาวสวยให้ผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นผู้แนะนำภาพิศให้กับท่านพลตรีฯ แฉล้มช่างพูดช่างจา แต่ไม่มีความจริงใจเท่าไรนัก แฉล้มแนะนำให้ภาพิศดูแลตัวเองให้สาวสวยอยู่เสมอ

ภาพิศได้ให้กำเนิดลูกสาวให้กับท่านพลตรีฯ ท่านพลตรีฯ ปลื้มมาก แต่นั่นไม่ได้ทำให้ท่านพลตรีฯ ผู้มากรักจะหยุดอยู่ที่ภาพิศได้ ภาพิศต้องคอยเอาใจท่านพลตรีฯ และยังต้องต่อสู้กันอย่างเงียบๆ กับ คุณหญิงสุดา ซึ่งเป็นภรรยาของท่านพลตรีฯ คุณหญิงสุดามียศศักดิ์และชื่อเสียงในวงสังคมชั้นสูง เก่งงานสังคมสงเคราะห์ แต่เอาใจสามีไม่เป็น ทำให้พาลทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ และยิ่งมีภาพิศเข้ามาสร้างความร้าวฉานให้กับครอบครัว ยิ่งทำให้คุณหญิงรังเกียจภาพิศยิ่งกว่าสิ่งใด แต่ภาพิศไม่กลัวคุณหญิงสุดา เกิดความรู้สึกอยากเอาชนะ พยายามดิ้นรนจะยกระดับฐานะตนเองซึ่งนั่นรวมถึงการพยายามทำความรู้จักและผูกสัมพันธ์กับสรวง ในฐานะที่มีน้องสาวคนเล็กให้สรวงด้วย

สรวงลูกชายคนเดียวของท่านพลตรีอารักษ์และคุณหญิงสุดาเพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศได้กลับมาถึงเมืองไทย คุณหญิงปลาบปลื้มและตื่นเต้นมากคอยเอาใจลูกชายใกล้ชิดทั้งวัน สรวงเองก็เข้าใจความเหงาของผู้เป็นแม่ จึงยอมอยู่เป็นเพื่อนรับฟังความทุกข์ แต่กับท่านพลตรีฯ นั้นได้เกิดสงครามเงียบขึ้นระหว่างพ่อลูก ความมึนตึงและถ้อยคำเสียดสีของสรวงทำให้ท่านพลตรีฯ ลำบากใจไม่น้อยที่ลูกชายคนเดียวที่ท่านรักและให้ความหวังโกรธตน ท่านอยากให้สรวงยอมรับภาพิศและน้องสาวต่างแม่ แต่นั่นไม่มีวัน เพราะสำหรับสรวงแล้วภาพิศเป็นผู้หญิงแพศยาและน่ารังเกียจที่สุด

สรวง(ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ชายหนุ่มหน้าตาดี มาดสุภาพบุรุษ เป็นที่หมายปองของผู้หญิงทั่วไป แต่คุณหญิงได้วางตัวสุขหฤทัยไว้แล้ว สุขหฤทัย(อรลีฬ์ โสตถิวันวงศ์)เป็นสาวไฮโซ สวย เปรี้ยว การศึกษาชาติตระกูลดี ที่คุณหญิงมองแล้วว่าเหมาะสมกับสรวงที่สุด สุขหฤทัยเองก็พอใจสรวงอยู่ไม่น้อยเช่นกัน สรวงจึงต้องยอมไปไหนมาไหนกับสุขหฤทัยตามใจผู้เป็นแม่ หลังจากสรวงกลับมาได้ไม่นาน ภาพิศโทรศัพท์มาหาสรวงเพื่อขอเลี้ยงต้อนรับสรวง แต่นั่นทำให้สรวงยิ่งรังเกียจภาพิศมากขึ้น และตอบกลับไปอย่างเจ็บแสบ เรื่องนี้ทำให้คุณหญิงสุดาถึงกับร้องไห้ให้สรวงเห็นเจ็บแค้นภาพิศที่กล้าท้าทายตนขนาดนี้ แต่สรวงกลับนึกสนุก คิดว่าเมื่อภาพิศเริ่มตอแยก่อน แทนที่จะหนี ตนน่าจะหาวิธีตอบรับกลับ เพื่อเป็นการแก้แค้นภาพิศ

งานเลี้ยงต้อนรับสรวงถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ท่ามกลางแขกเหรื่อและนักข่าวมากมาย สรวงกับสะดุดกับสายตาและท่าทางของนักข่าวสาวคนหนึ่งที่มองมาที่ตน ที่แท้ก็คือกรรณนรีนั่นเอง สรวงสนใจจึงเดินตามกรรณนรีไป จนบังเอิญชนกันที่หน้าห้องน้ำ เครื่องอัดเสียงในมือกรรณนรีหล่นแตกกระจาย สรวงจะชดใช้ค่าเสียหายให้ กรรณนรีรีบปฏิเสธ สรวงจึงทิ้งนามบัตรไว้ให้กรรณนรี ทั้งแววตาและลีลาของกรรณนรีกวนโมโหสรวงเป็นที่สุด ส่วนท่าทางยโสของสรวงก็ทำให้กรรณนรีหมั่นไส้สุดๆ กรรณนรีมาบ่นเรื่องสรวงกับภรตเช่นเคย ภรตรู้สึกไม่ไว้ใจผู้ชายชื่อสรวงเอาเสียเลย

กรรณนรีภาวนาว่าชีวิตนี้คงไม่ต้องพบเจอกับภาพิศอีก แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก กรรณนรีได้รับมอบหมายจากหัวหน้าให้ไปสัมภาษณ์ภาพิศที่ยอมเปิดบ้านให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เป็นครั้งแรกด้วยหวังให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในวงสังคมมากขึ้น กรรณนรีเป็นห่วงความรู้สึกของพ่อ จึงตกลงกับกาวินทร์ว่าจะไม่บอกให้เกริกรู้เรื่องนี้ เมื่อวันนัดสัมภาษณ์มาถึง แวบแรกที่ได้เห็นหน้ากรรณนรี ภาพิศชะงักไปทันที เพราะนักข่าวสาวตรงหน้าละม้ายลูกสาวของตนมาก ส่วนกรรณนรีต้องกลั้นน้ำตาไว้ขณะในใจเรียกร้องหาแม่ ผู้ซึ่งวันนี้งามสง่าเหลือเกิน ภาพที่ภาพิศกอดปลอบทารกหญิงทำให้ทั้งคู่ต่างต้องเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนน้ำตา กระทั่งการสัมภาษณ์เสร็จสิ้นลง เมื่อกรรณนรีลากลับไปแล้ว ภาพิศจึงร้องไห้โฮ สับสนว่านักข่าวคนนั้นใช่กรรณนรีหรือไม่ ด้านกรรณนรีเสียใจอย่างยิ่งที่แม่จำลูกแท้ๆ ของตนเองไม่ได้ กาวินทร์ได้แต่ปลอบน้องสาว

ในวันนั้นภาพิศโทรศัพท์กลับไปบ้านเก่า เบอร์โทรศัพท์ที่ภาพิศไม่เคยลืมเหมือนกับบันทึกอยู่ในความทรงจำของเธออยู่ไม่เปลี่ยนแปลง กาวินทร์รับสาย แต่ภาพิศรีบวางเสียก่อน ภาพิศจึงตัดสินใจลองขับรถผ่านบ้านเก่าหลังเดิม แต่ไม่ได้พบกรรณนรีหรือกาวินทร์อย่างที่หวัง ภาพิศบังเอิญพบสรวงกับสุขหฤทัยในร้านอาหาร จึงถือโอกาสไปแสดงตัวกับสรวงทันที และยังย้ำชัดว่า ตนนามสกุลอริยะวรรต เช่นเดียวกับสรวง สรวงรู้สึกเหมือนถูกฉีกหน้าและเพิ่งได้เห็นวันนี้นี่เองว่า ภาพิศอ่อนหวานและมารยาเก่งอย่างไรจึงได้มัดใจพ่อของตนไว้ได้ สุขหฤทัยไม่ชอบภาพิศเช่นกัน จึงเอาหนังสือเล่มที่ภาพิศให้สัมภาษณ์ให้สรวงดู สรวงอ่านจบพร้อมกับความโกรธ สรวงมาเอาเรื่องกับพลตรีอารักษ์ ซึ่งก็ตกใจเพราะเพิ่งเห็นหนังสือเช่นกัน แต่ยิ่งท่านพลตรีฯ ออกปากปกป้องภาพิศเท่าไหร่ สรวงยิ่งก้าวร้าวด่าว่าภาพิศรุนแรงขึ้นเท่านั้น ก่อนที่ท่านพลตรีฯ จะทนไม่ไหวและเผลอตบหน้าลูกชายอย่างลืมตัว

สรวงกับพบกรรณนรีกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ จึงเข้าไปถามเรื่องค่าเสียหายที่ตนทำเครื่องอัดเสียงของกรรณนรีพังหลายวันก่อน สรวงอดพูดจายียวนกรรณนรีไม่ได้ กรรณนรีบังเอิญทำกระเป๋าเอกสารใบเล็กหล่นโดยไม่รู้ตัว สรวงเก็บได้นำกลับมาเปิดดูและมาสะดุดกับรูปถ่ายของกรรณนรีในวัยเด็ก ที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้หญิงคนหนึ่ง สรวงรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้อย่างประหลาด พอดีกับกรรณนรีโทรมาขอกระเป๋าเอกสารคืน สรวงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น กรรณนรีคิดว่ากระเป๋าไม่ได้อยู่ที่สรวงจริงๆ จึงรีบวางสายไป สรวงทั้งขำทั้งหมั่นไส้ที่กรรณนรีชอบทำท่ายโส สรวงเริ่มสนใจในตัวกรรณนรี ทั้งยังเริ่มสงสัยเรื่องหญิงในรูปอาจจะเป็นภาพิศ ซึ่งนั่นก็แปลว่ากรรณนรีเป็นลูกสาวของภาพิศนั่นเอง

มาลินีบอกกาวินทร์ว่าตนกำลังท้อง กาวินทร์ช็อคไปชั่วครู่เท่านั้น แล้วก็บอกมาลินีอย่างง่ายดายว่าให้ไปเอาเด็กออก มาลินีผิดหวังมาก จึงขอความช่วยเหลือจากกรรณนรี กรรณนรีรับปากว่าจะช่วยพูดกับกาวินทร์ให้ และเย็นนั้นกรรณนรีก็เปิดฉากโต้เถียงครั้งใหญ่กับกาวินทร์ กรรณนรีขู่ว่าจะรับมาลินีเข้ามาอยู่ด้วยกันในบ้านจนไม่อาจทนเถียงกันต่อไปได้อีกต่อไป กรรณนรีเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้เกริกฟัง และยืนยันจะรับเลี้ยงหลานลูกของกาวินทร์ เกริกรู้นิสัยของลูกสาวดีว่าค้านไปก็ไม่มีประโยชน์ มาลินีซึ้งในน้ำใจของกรรณนรีมาก มาลินียังตั้งใจจะทำงานหาเงินช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน เกริกเองก็ต้อนรับมาลินีอย่างเมตตา และตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่จะได้เป็นปู่ บ้านที่เงียบเหงาดูมีชีวิตชีวาขึ้น กาวินทร์รู้เรื่องก็โมโหต่อว่ากรรณนรี แต่ก็ไม่สามารถห้ามน้องสาวได้

สรวงโทรนัดกรรณนรีให้มารับกระเป๋าคืน สรวงมองกรรณนรีอย่างดูถูก เพราะมั่นใจว่ากรรณนรีคือลูกของภาพิศ สรวงอยากจะแกล้ง จึงยื่นข้อเสนอให้กรรณนรีไปกินข้าวต่อด้วยฟังเพลงกับตนเพื่อแลกกระเป๋า กรรณนรีอยากได้กระเป๋าคืนเป็นที่สุดจึงตอบตกลง อาหารมื้อนั้นเต็มไปด้วยคำสนทนายียวนกวนอย่างเจ็บแสบ กรรณนรีไม่เข้าใจว่า สรวงลดตัวลงมากินข้าวกับตนเพื่ออะไร สรวงลากกรรณนรีขึ้นรถไปกับตน แล้วเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโรงแรมม่านรูด กรรณนรีตกใจเป็นอันมากสรวงนึกดูถูกในใจ ส่วนกรรณนรีเดินตามสรวงเข้าไปในห้องและมองสรวงด้วยสายตาเหยียดแคลน สรวงคืนกระเป๋าให้กรรณนรี คิดว่าที่แท้กรรณนรีก็ถนัดหากินทางลัดเหมือนภาพิศ แต่กรรณนรีกลับสาดเบียร์ใส่หน้าสรวงเป็นการสั่งสอน สรวงแค้นมากที่ถูกหยามอย่างนี้ สรวงคิดจะแก้เค้นกรรณนรี เพื่อที่ภาพิศจะได้รู้สึกเจ็บปวดเสียบ้าง ในฐานะที่มาวุ่นวายและทำลายครอบครัวตน คุณหญิงได้แต่เตือนสรวงให้ระวังหากจะเล่นกับไฟและต่อว่าสรวงทำเหมือนไม่สนใจสุขหฤทัย สรวงบอกปัดว่าขอเวลาศึกษากันไปก่อน

กาวินทร์วางท่าทางเย็นชาและทำเหมือนมาลินีเป็นคนอื่นในบ้าน มาลินียืนยันว่าต่อให้กาวินทร์ไล่ตนก็จะไม่ไปจากบ้านหลังนี้ กาวินทร์โกรธจนตบหน้ามาลินีฉาดใหญ่ ย้ำว่าตนไม่คิดเรื่องแต่งงาน และความคิดนี้ก็บอกมาลินีไปแต่แรกแล้ว มาลินีช็อคน้ำตาไหล รู้ซึ้งวันนี้เองว่ากาวินทร์ไม่มีหัวใจ รักใครไม่เป็น ซ้ำยังเก็บกดอีกด้วย แรงฮึดทำให้มาลินีท้ากาวินทร์กลับด้วยการย้ำว่าตนจะอยู่เป็นหนามตำใจของกาวินทร์เช่นนี้ กาวินทร์ทำอะไรไม่ได้พาลหาเรื่องกับกรรณนรี กรรณนรีมาบ่นกับเกริกที่ตนกับกาวินทร์กลายเป็นคู่กัดกันเสียแล้ว เกริกให้กำลังใจรู้ว่าลูกสาวตั้งใจทำในสิ่งที่ดี

สรวงโทรศัพท์มาประกาศศึกกับกรรณนรี กรรณนรีเริ่มเครียดกับการเตรียมรับมือกับสรวง กรรณนรีเริ่มเดาได้ว่าสรวงอาจรู้แล้วว่าตนเป็นลูกสาวภาพิศ ที่สุดสรวงก็บอกกรรณนรีว่าเขาสืบมาอย่างดีและรู้แน่แล้วว่ากรรณนรีเป็นลูกใคร กรรณนรีทนได้ยินคำว่าเมียน้อยจากปากสรวงไม่ได้จึงด่าว่าสรวงรุนแรงไปยกใหญ่ และไม่ยอมรับว่าภาพิศเป็นแม่ของตน สรวงวางหูไปในใจคิดหาทางแก้แค้นกรรณนรีให้ได้ คุณหญิงมองออกว่าลูกชายกำลังมีเรื่องกังวลใจและปิดบังตนอยู่

สรวงมาดักรอกรรณนรีและเอาชื่อภาพิศมาแกล้งยั่ว และยังเข้าใจว่ากรรณนรีกำลังวางแผนร่วมมือกับภาพิศสร้างความวุ่นวายให้ครอบครัวตน แถมยังพูดย้ำใส่ว่ากรรณนรีจะต้องหาทางรวยทางลัดด้วยการนอนกับผู้ชายเหมือนแม่ กรรณนรีเหวี่ยงมัดชกแต่สรวงหลบทัน ซ้ำยังหัวเราะเยาะใส่ กรรณนรีรู้สึกบีบคั้น ด้านสรวงรู้สึกสะใจที่ได้แก้แค้น และเป็นความบังเอิญที่สุขหฤทัยเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด สุขหฤทัยได้แต่เก็บความสงสัยเกี่ยวกับผู้หญิงอีกคนซึ่งก็คือกรรณนรีไว้ในใจ ขณะที่คุณหญิงพร่ำพรรณนาถึงคุณสมบัติของสุขหฤทัย สรวงกลับคิดถึงแต่ภาพปอนๆของกรรณนรี และสรวงจะให้คุณหญิงรู้เรื่องการแก้แค้นนี้ไม่ได้

ภาพิศโทรศัพท์มาหากรรณนรีนัดกรรณนรีพบเพื่อแสดงตัวเสียที ภาพิศยื่นกล่องของขวัญให้ แต่กรรณนรีรีบเดินหนีออกมาเสีย สรวงเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและแน่ใจว่าภาพิศกับกรรณนรีกำลังวางแผนกัน สรวงลากกรรณนรีขึ้นรถ ระหว่างที่รถติดไฟแดงนั้น สรวงก็หาเรื่องกรรณนรีตลอดทาง ทั้งคู่ต่อสู้กันในรถ และยังตามมาวิ่งไล่กันต่อริมถนน ที่สุดกรรณนรีทำแสบด้วยการร้องตะโกนว่าสรวงไล่ปล้ำตน สรวงหน้าซีดชะงักไปด้วยความอับอาย แต่เมื่อกลับถึงบ้าน สรวงกลับนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาด้วย ความรู้สึกขบขัน ท่านพลตรีฯ เรียกสรวงมาคุย เพราะรู้ข่าวว่าสรวงกำลังยุ่งกับกรรณนรีอยู่ สรวงตอบกลับอย่างสะใจว่านั่นเป็นเพราะตนอยากได้กรรณนรี ท่านพลตรีฯ สั่งห้ามไม่ให้ไปเกลือกกลั้วกับคนชั้นต่ำกว่า ความเฮี้ยวของกรรณนรีกำลังดึงดูดให้สรวงสนใจและอยากจะตามราวีกรรณนรีต่อไปเรื่อยๆ

พลตรีอารักษ์ติดต่อเรียกกรรณนรีไปพบ กรรณนรีตัดสินใจที่จะไปเพราะอยากยืนหยัดเปิดอกคุยกับผู้ชายคนนี้เสียที คนที่พรากแม่ไปและทำลายครอบครัวของกรรณนรีเสียย่อยยับ กาวินทร์ รีบมาปรึกษาขอความช่วยเหลือจากภรต กาวินทร์ไม่พอใจที่ภาพิศกลับเข้ามายุ่งจนนำพาความวุ่นวายมาสู่กรรณนรี ภรตรีบมาปรึกษาผู้เป็นพ่อ แต่นายแพทย์บุญยิ่ง กลับไม่เดือดร้อนใจที่กรรณนรี จะไปเผชิญหน้ากับ ท่านพลตรีฯ ทั้งยังแนะนำให้ลูกชายกล้าเผชิญหน้าบ้าง ด้วยการบอกความในใจและขอแต่งงานกรรณนรีเสียที

พลตรีอารักษ์กับกรรณนรีนั่งคุยกันที่ร้านอาหาร ท่านพลตรีฯ ออกตัวว่าตนไม่เคยบังคับให้ ภาพิศมาอยู่ด้วย ราวกับจะปัดความรับผิดชอบที่ทำให้ครอบครัวกรรณนรีต้องพังทลาย แต่ กรรณนรีโต้เถียงกลับ ว่า ท่านพลตรีฯ เป็นส่วนสำคัญของเรื่องนี้ ระบายความขมขื่นของครอบครัวตลอดสิบปีที่ผ่านมา แม้จะสะอึกกับคำพูดของกรรณนรี แต่สิ่งที่ท่านพลตรีฯ ต้องการคือ ให้กรรณนรีออกห่างจากสรวง เพราะไม่อยากให้ชีวิตสรวงตกต่ำ และที่สรวงมายุ่งกับกรรณนรี ก็เพื่อแก้แค้นเท่านั้น แต่กรรณนรีกลับเกิดความรู้สึกอยากเอาชนะขึ้นมาทันที จึงบอกท่านพลตรีฯ ออกไปว่าตนรักสรวงเสียแล้ว ท่านพลตรีฯ อึ้งไป กรรณนรี ยิ้มในใจแบบผู้ชนะ เพราะนี่คือหนทางที่ตนจะได้ใช้ สรวง เป็นเครื่องมือแก้แค้นท่านพลตรีฯ ผู้ชายที่กรรณนรีเกลียดที่สุด และกรรรณนีรู้สึกปวดร้าวกับความจริงที่ว่า สรวง ต้องการใช้ กรรณนรี เป็นเครื่องมือแก้แค้นภาพิศเท่านั้น กรรณนรี ไม่อาจปัดสรวงออกไปจากความคิดได้เลย มาลินีเห็นกรรณนรีดูกังวลก็ห่วงใย และให้กรรณนรีระบายกับตนได้เสมอ

สรวงหาเรื่องเจาะยางรถมอเตอรไซค์กรรณนรีเพื่อเธอจะได้ขึ้นรถเขา สรวงไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจึงได้คิดถึงและอยากเห็นหน้ากรรณนรีจนต้องตามมาดักรอเช่นนนี้ ด้านกรรณนรียิ้มเยาะในใจกับโอกาสที่จะทำให้สองพ่อลูกเจ็บปวดเสียบ้าง กรรณนรีบอกสรวงเรื่องที่ท่านพลตรีฯ จ้างกรรณนรีให้เลิกยุ่งกับสรวง สรวงตกใจแล้วก็ต้องงงอย่างที่สุดเมื่อกรรณนรียอมขึ้นรถสรวงอย่างว่าง่าย และถึงกับชวนสรวงเข้าโรงแรม กรรณนรีระเบิดอารมณ์ที่เก็บกดไว้และประชดแกมท้าทายด้วยการดื่มเหล้าอย่างหนัก ระบายออกมาจนหมดว่าตนเกลียดพ่อของสรวง ที่มาเป็นชู้กับแม่ของตนและทำลายครอบครัวเสียพังทลาย ความรู้สึกของสรวงที่มีต่อกรรณนรีตอนนี้มันอ่อนไหวอย่างประหลาด สรวงเชื่อแล้วว่ากรรณนรีไม่ได้ร่วมมือกับภาพิศอย่างที่ตนคิด สรวงพากรรณนรีมาที่บ้านพักส่วนตัวของเขา และคอยดูแลด้วยความห่วงใยตลอดทั้งคืน ขณะเดียวกันที่บ้านสรวง คุณหญิงสุดากำลังกระวนกระวายใจอย่างหนัก เพราะทราบเรื่องแล้วว่าสรวงไปติดพันอยู่กับลูกสาวของภาพิศ คืนนั้นสรวงยังหายหน้าไปไม่กลับบ้าน กรรณนรีรู้สึกตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น สรวงไปส่งกรรณนรีถึงบ้าน ซ้ำยังคอยโทรมาถามอาการกรรณนรีอย่างห่วงใย แต่ยังไม่ทิ้งมาดยียวนในคำพูด

ภาพิศอึดอัดกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนต้องระบายให้น้อยฟังถึงเรื่องที่กรรณนรี ตอนนี้สิ่งที่ภาพิศต้องการเพียงได้เห็นกรรณนรียอมรับตนเป็นแม่เท่านั้น ภาพิศตัดสินใจมาที่บ้านเก่าอีกครั้ง พบมาลินีที่เริ่มสวมชุดคลุมท้องแล้ว ภาพิศดีใจมากที่รู้ว่ากำลังจะมีหลานลูกของกาวินทร์ ภาพิศขอพบเกริก ต่างคนต่างนิ่งกันไปนาน ภาพิศ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดท่วมท้นในใจ เอ่ยขอโทษเกริก เกริกไม่เหลือความรู้สึกค้างคาอะไรกับภาพิศอีกแล้ว เกริกเล่าเรื่องกาวินทร์ที่เกลียดผู้หญิงเพราะภาพิศเป็นต้นเหตุ ขอให้ภาพิศหาวิธีช่วยเยียวยาจิตใจอันบอบช้ำของลูกทั้งสองคน ด้านกาวินทร์ยังยืนยันแข็งขันกับเกริกว่าจะไม่ยอมรับภาพิศ ด้านคุณหญิงสุดาขอร้องให้สรวงรีบหมั้นกับสุขหฤทัย สรวงปฏิเสธและตกใจที่รู้ว่าคุณหญิงทราบเรื่องของตนกับกรรณนรีแล้ว สรวงจึงรีบบอกผู้เป็นแม่ว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งในแผนการแก้แค้นของตน คุณหญิงยังอดกลัวไม่ได้ ว่ากรรณนรีจะจับสรวงไว้และสรวงจะดิ้นไม่หลุดเข้าสักวัน

กรรณนรีใจวูบเมื่อเห็นสรวงอยู่กับสุขหฤทัย สุขหฤทัยเดินหนีไปปล่อยให้คนทั้งคู่ไว้ ไม่ทันไรภาพิศกับท่านพลตรีฯ ก็ควงกันมาอีกคู่ ทำให้บรรยากาศนั้นน่าอึดอัดยิ่งขึ้นไปอีก สรวงแกล้งท่านพลตรีฯ ด้วยการเล่นบทจู๋จี๋โอบเอวกรรณนรีอย่างสนิทสนม ภาพิศเป็นห่วงกรรณนรีที่สุด ว่าสรวงจะไม่จริงใจกับกรรณนรี ภาพิศจึงมาเตือนกรรณนรี กรรณนรีแกล้งตอบไปว่าตนกับสรวงรักกันและจะคบกัน

กรรณนรีโมโหที่สรวงมาดักรออีกแล้ว สรวงพากรรณนรีมาที่คอนโดหรูของตน แกล้งยื่นข้อเสนอยกคอนโดนี้ให้แลกกับการเป็นเมียเก็บของตน กรรณนรีโกรธจัดตบหน้าสรวงเต็มแรง สรวงได้จังหวะก้มลงจูบอย่างรุนแรง กรรณนรีตกใจ รู้สึกโดนดูถูกเหยียดหยามจึงระบายความขมขื่นออกมาเสียสิ้น กรรณนรีล้มลงหมดสติ เมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็พบสรวงกุมมือตนอยู่ข้างๆ สรวงบอกว่าจะไม่มีใครทำร้ายกรรณนรีอีกแล้ว สรวงพากรรณนรีไปหาหมอและอุ้มกรรณนรีมาส่งถึงข้างในบ้าน เกริกตกใจและแปลกใจ กาวินทร์พรวดพราดเข้ามาชกสรวงจนล้มคว่ำกรรณนรีไล่สรวงกลับไป เกริกมองออกว่าสรวงดูมีความจริงใจกับกรรณนรี

สรวงขอแหวนของคุณหญิงมาสวมให้กรรณนรี รอยยิ้มของสรวงทำให้กรรณนรีกลัวใจตัวเอง กาวินทร์ว่าสรวงคงชอบกรรณนรีจริง ๆ และให้กรรณนรีระวังตัวจะหนีสรวงไม่พ้น สรวงเองก็ถูก ท่านพลตรีฯ ซักเรื่องสุขหฤทัย สรวงจึงได้โอกาสยืนกรานว่าตนไม่ได้รักสุขหฤทัย ท่านพลตรีฯ ขอให้คุณหญิงรวบรัดการแต่งงานเพราะกลัวกรรณนรีจะมาจับสรวง และยังเห็นว่าสุขหฤทัยควงฝรั่งสนิทสนมหน้าตาเฉย ท่านพลตรีฯ ยังไปย้ำกับภาพิศให้แยกกรรณนรีกับสรวงออกจากกันให้ได้ ภาพิศไม่พอใจที่ท่านพลตรีฯ ดูถูกกรรณนรีจึงได้เถียงกลับอย่างที่ภาพิศไม่เคยกล้ามาก่อน ท่านพลตรีฯ ตบหน้าภาพิศฉาดใหญ่ แต่ภาพิศต้องการเพียงอย่างเดียวคือปกป้องกรรณนรี ท่านพลตรีฯ ยังเห็นภาพิศและกรรณนรีเป็นชนชั้นต่ำกว่าพวกตน ภาพิศโกรธมากที่ท่านพลตรีฯ ตัดสินคนเอาง่ายๆ เช่นนี้ ท่านพลตรีฯ พลั้งปากไล่ภาพิศไป ภาพิศไม่คร่ำครวญร้องไห้แม้แต่น้อย ตอนนี้ภาพิศต้องการเป็นเพียงนุดี แม่ของกรรณนรีกับกาวินทร์แม่ที่พร้อมจะปกป้องลูกให้ถึงที่สุดเท่านั้น ภาพิศอยากพบกาวินทร์ เพราะรู้ว่าตนเป็นสาเหตุทำให้กาวินทร์เกลียดผู้หญิงไปหมดทั้งโลก ภาพิศมาช่วยดูแลมาลินี และเมื่อพบกับกาวินทร์ ภาพิศพยายามอ้อนวอนกาวินทร์พยายามขอโทษ กาวินทร์ยังใจแข็ง มาลินีเข้าช่วยพูดแต่กลับถูกผลักจนล้มลงไป กาวินทร์รู้สึกตัวรีบเข้าไปประคองมาลินี แต่เขาต้องตกใจแทบบ้าเมื่อเห็นเลือดไหลเป็นทางยาว วินาทีที่กาวินทร์เกือบสูญเสียลูกไปทำให้กาวินทร์ได้คิด กาวินทร์สำนึกและขอโทษที่ทำร้ายจิตใจมาลินี มาลินีอภัยให้กาวินทร์ ทั้งสองจึงได้เข้าใจกันและกัน ในที่สุดสรวงกับกรรณนรีมาถึงพอดี ภาพิศมีโอกาสได้ต่อว่าสรวงตามลำพัง สรวงตอกกลับว่าที่ตนทำก็เพราะแค้นภาพิศ ที่มาทำลายความสุขของครอบครัวและกรรณนรีก็คงไม่ต่างจากแม่ กรรณนรีได้บังเอิญได้ยินก็อึ้งแต่ก็เงียบไว้ กรรณนรีชวนสรวงให้ออกไปด้วยกัน โดยไม่ฟังเสียงห้ามของภาพิศ

ภาพิศนั่งรถกลับมากับเกริก เจ็บปวดที่ไม่มีลูกคนไหนยอมรับตนเป็นแม่ ซ้ำยังไม่รู้จะปกป้องกรรณนรีจากสรวงได้อย่างไร เกริกมองออกว่ากรรณนรีรักสรวง ภาพิศตกใจที่รู้เช่นนั้น ด้านสรวงเห็นว่ากรรณนรีซึม ๆ ไปจึงพากรรณนรีมาที่บ้านพักริมทะเลเพื่อคลายเครียด ทั้งสองต่างชัดเจนในความรู้สึกที่มีให้กันและกัน ด้วยบรรยากาศก็ทำให้ทั้งคู่เผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความปรารถนาลึก ๆ แต่สำหรับกรรณนรีนี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เพราะจากนี้กรรณนรีจะหนีไปให้ไกล ไม่กลับมาพบหน้าสรวงอีก สรวงตื่นมาไม่พบกรรณนนรี มีเพียงโน้ตบอกลา พร้อมกับแหวนที่สรวงเคยให้วางทิ้งไว้ สรวงถึงกับทรุดลงกับพื้น รู้ตัวแล้วว่ารักกรรณนรีเต็มหัวใจ

ภาพิศมากราบลาท่านพลตรีฯ เป็นครั้งสุดท้าย ฝากขอโทษคุณหญิงสุดา และฝากลูกสาวตัวน้อยให้ท่านพลตรีฯ ดูแล ท่านพลตรีฯ ยังอาลัยในตัวภาพิศแต่ก็ยินดีกับทางที่ภาพิศเลือก ภาพิศตัดสินใจบวชชี กาวินทร์รู้สึกผิดอย่างมากและเป็นครั้งแรกที่เอ่ยเรียกภาพิศว่า “แม่” ทำให้หัวใจของภาพิศเต็มตื้นที่สุด เธอต้องการเพียงเท่านี้จริง ๆ กรรณนรีมาหาภรตเพื่อบอกเรื่องที่ตนลาออกและจะไปอยู่เชียงใหม่กับเพื่อน ภรตขอกรรณนรีแต่งงาน แต่กรรณนรีรักภรตอย่างพี่ชายเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังดีใจที่ได้บอกความรู้สึกของตนเองให้กรรณนรีได้รู้ กรรณนรียังมีความรู้สึกดีๆ ให้ภรตเสมอ ถึงแม้จะไม่ใช่ในฐานะที่เขาหวังไว้ก็ตาม

ทุกคนในบ้านตกใจกับการไปของกรรณนรี ขณะเก็บข้าวของกรรณนรีสารภาพกับเกริกว่าตนรักสรวง และนั่นทำให้กรรณนรีต้องไปเสีย พอดีกับที่เพื่อนของเกริกจะขึ้นไปเชียงใหม่ เกริกจึงให้กรรณนรีติดรถไปด้วย กรรณนรีร้องไห้ขณะเกริกอวยพรลูกสาวให้โชคดี กาวินทร์กับมาลินีมาแปลกด้วยการอวยพรน้องสาวอย่างยิ้มๆ ในรถคันนั้นบนที่นั่งคนขับปรากฏเป็นชายสวมหมวกใบใหญ่และแว่นกันแดดปิดบังหน้า กรรณนรีก้าวขึ้นนั่งด้านหลังรถ ปล่อยตัวเองให้ร้องไห้สะอึกสะอื้น ชายผู้นั้นยื่นผ้าเช็ดหน้ามาจากด้านหน้าพร้อมกับเสียงที่คุ้นเคย กรรณนรีสะดุดกับเสียงนั้น เมื่อเงยหน้ามองก็พบว่าเป็นสรวงนั่นเอง สรวงจอดรถและดึงกรรณนรีมากอดเสียแน่น สรวงสัญญาต่อกรรณนรีว่าต่อไปนี้จะไม่มีไฟจากมารอีกแล้ว จะมีก็แต่เพียงไฟรักที่มันจะหล่อหลอมหัวใจของเขาและกรรณนรีเข้าด้วยกันเท่านั้น กรรณนรียิ้มทั้งน้ำตา

นักสู้มหากาฬ

นักสู้มหากาฬ เป็นเรื่องราวของ “ฤทธิ์ ราวี” นายทหารผู้ชำนาญการต่อสู้ทุกรูปแบบ ได้วางมือจากการเข่นฆ่า เพื่อมาใช้ชีวิตกับคนรักที่บ้านเกิดในชลบุรี เขาเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ขึ้นเพื่อการป้องกันตัว แต่เมื่อมีภารกิจลับ กับหน้าที่ของชายผู้ต้องการรับใช้ชาติ ฤทธิ์ ราวี จึงกลับไปรับหน้าที่ แต่เมื่อมีเงื่อนงำเบื้องหลังท่ทำให้ภารกิจครั้งนี้กลายเป็นภัยร้ายต่อปะเทศ ชาติ และคนที่เขารัก เขาจึงต้องหาวิธีป้องกัน “พยัคฆ์มหากาฬ” ถือกำเนิดขึ้น ด้วยความดี และความรัก คนๆหนึ่งจะสามารถผ่านอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ต้องติดตามใน นักสู้มหากาฬ
 
“ฤทธิ์ ราวี” นายทหารผู้ชำนาญการต่อสู้ทุกรูปแบบ ได้วางมือจากการเข่นฆ่า เพื่อมาใช้ชีวิตกับคนรักที่บ้านเกิดในชลบุรี เขาเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ขึ้น เพื่อปกป้องคนไทยจากการข่มเหงของพวกอันธพาลต่างชาติที่แผ่ขยายอำนาจเข้ามาใน พัทยา แม้ว่าจะต้องมีปัญหากับแก๊งค์มาเฟียต่างๆ แต่ด้วยฝีมือที่ฉกาจฉกรรจ์จึงทำให้ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้ ต่อมาฤทธิ์ก็ได้รับการติดต่อจาก “กรณ์” เพื่อนทหารเก่า ที่ต้องการให้เขาร่วมปฏิบัติภารกิจลับ ในการบุกทลายโรงงานของขบวนการค้ายาเสพย์ติด ที่ตั้งอยู่นอกเขตชายแดนไทย ฤทธิ์ยอมรับงานนี้เพราะอยากรับใช้ชาติ และคิดว่าจะนำเงินค่าจ้างมาพัฒนาสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าซึ่งใจทิพย์แฟนสาวของเขาดูแลอยู่
 
แต่ภารกิจลับของกรณ์กลับมีเงื่อนงำแอบแฝง เมื่อฤทธิ์พบว่าโรงงานที่เขากับพวกบุกจู่โจมนั้น แท้จริงกลับเป็นห้องทดลองที่ค้นคว้าเกี่ยวกับอาวุธชีวภาพ หนำซ้ำผู้ว่าจ้างของกรณ์ก็ไม่ได้เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทยอย่างที่อ้างไว้ หากแต่เป็นผู้องค์กรโฉดที่มีสมญาว่า“พรายพิฆาต”ซึ่งมีเป้าหมายจะปล้น“น้ำตา มัจจุราช”มหาอาวุธชีวภาพไปจากห้องทดลอง ฤทธิ์พยายามขัดขวางกรณ์กับพวกนักรบรับจ้างจนถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส และถูกกรณ์ใช้ดาบปลายปืนสองเล่มปักตรึงร่างไว้เพื่อให้ตายอย่างทรมาน แต่ขณะที่กรณ์มัวหลงลำพองว่าสามารถโค่นเพื่อนรักได้สำเร็จนั้น ฤทธิ์ที่อยู่ในสภาพปางตายก็ตัดสินใจกดสวิทซ์ระเบิดที่ซ่อนอยู่ เพื่อทำลายคลังเก็บสารเคมีทั้งหมดก่อนที่เขาจะสิ้นลม พวกของกรณ์จึงต้องหนีตายโดยมีเพียงสารตั้งต้นในการผลิต“น้ำตามัจจุราช”ติดมือไปเท่านั้น
 
ไม่มีใครคาดคิดว่าน้ำตามัจจุราชที่ระเหยจากคลัง จะซึมเข้าสู่ร่างกายของฤทธิ์ผ่านทางบาดแผล มันทำให้ฤทธิ์คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับพลังอำนาจในการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วรุนแรงยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไป ฤทธิ์รีบเดินทางกลับพัทยาด้วยความเป็นห่วงคนรัก แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป เมื่อกรณ์ได้จ้างพวกมาเฟียคู่ปรับเก่าของฤทธิ์ให้ปล้นฆ่า“ใจทิพย์”แฟนสาวของเขาเพื่ออำพรางคดีื ด้วยความแค้นฤทธิ์จึงตามไปฆ่าพวกมาเฟียถึงรัง ก่อนจะสืบพบความจริงว่ากรณ์และองค์กรพรายพิฆาต คือผู้อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ฤทธิ์จึงย้อนไปที่กรุงเทพฯอีกครั้งเพื่อล้างแค้น โดยแฝงตัวเข้าไปในสังเวียนนักสู้เถื่อน เพื่อหาตัวลูกทีมคนหนึ่งของกรณ์ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่ามีงานอดิเรกเป็นนักค้ากำปั้น ระหว่างนั้น“มาดามหลิว”มหาเศรษฐีนีพันล้านผู้ร่ำรวยจากการเป็นหุ้นส่วนใน บริษัทขุดเจาะน้ำมัน ก็ได้ส่งคนมาช่วยฤทธิ์เอาไว้ในยามคับขัน เนื่องจากเธอเองก็มีความแค้นต่อองค์กรพรายพิฆาต ที่ได้สังหารครอบครัวของเธอ และทำให้เธอกลายเป็นคนพิการต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต เพียงเพราะไม่ยอมร่วมมือกับพวกมัน
 
ที่ผ่านมามาดามหลิวได้ตระเตรียมแผนการณ์ที่จะล้างแค้นมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าฤทธิ์มีคุณสมบัติมากพอที่จะปฏิบัติภารกิจนี้ จึงมอบหมายให้“โซเฟีย” ผู้ช่วยสาวคนสนิทปลอมแปลงประวัติเขาเสียใหม่ ก่อนจะเปิดตัวในงานเลี้ยงว่าเขาคือ“มิสเตอร์โทมัส” หลานชายบุญธรรมของเธอ
ในตอนกลางวันฤทธิ์จะสวมบทหนุ่มเพลย์บอย เพื่อสืบหาข่าวขององค์กรพรายพิฆาต ซึ่งมีสมาชิกมากมายอยู่ในสังคมชั้นสูง แต่พอตกกลางคืนเขาก็สวมหน้ากากดำออกขัดขวางแผนการณ์ของพวกมันทุกรูปแบบ รวมถึงสังหารสมาชิกระดับแกนนำทุกคน โดยใช้สมญาในการปฏิบัติงานว่า“พยัคฆ์มหากาฬ”ตามชื่อหน่วยรบสมิงดำที่เขาเคย สังกัด และยังมีดาบปลายปืนสองเล่ม แบบเดียวกับที่กรณ์เคยทำร้ายเขาเป็นอาวุธคู่มืออีกด้วย
 
การมาของมิสเตอร์โทมัส กับการปรากฏตัวของพยัคฆ์มหากาฬถูกเผยแพร่เป็นข่าวหน้าหนึ่งไม่เว้นแต่ละวัน “ไอริณ” ดารานักบู๊ชื่อดังเป็นบุตรสาวของ “ท่านนำชัย” นักการเมืองใหญ่ รู้สึกสนใจในตัวฤทธิ์หรือมิสเตอร์โทมัสเป็นพิเศษ จนมีโอกาสได้เจอกันในงานเลี้ยงการกุศล แต่แล้ว“มาวิน” มาเฟียหนุ่มที่หลงไหลเธอก็ได้เข้ามาข่มขู่เพื่อให้เธอเซ็นต์สัญญากับบริษัท ผลิตภาพยนตร์ของมัน แต่ไอริณก็ปฏิเสธไปเพราะเธอสืบทราบว่าบริษัทของมาวิน แท้จริงมีไว้เพื่อฟอกเงินจากธุรกิจนอกกฎหมาย หลังเลิกงานมาวินได้ส่งลูกสมุนมาอุ้มตัวไอริณที่ลานจอดรถ แต่โชคดีที่ฤทธิ์ได้ปกป้องเธอเอาไว้ ทำให้เขากลายเป็นเพื่อนสนิทของไอริณและมีโอกาสเข้าถึงตัวท่านนำชัย บุคคลที่มาดามหลิวสงสัยว่าเป็นสมาชิกระดับแกนนำขององค์กรพรายพิฆาต ทว่ายังไม่ทันที่ฤทธิ์จะได้สืบความลับ เขาก็ถูก“ร้อยตำรวจเอกหญิงณัฐชา”มือปราบหญิงปืนดุ ซึ่งเป็นเพื่อนและครูสอนคิวบู๊ให้กับไอริณพบพิรุธเข้าเสียก่อน ณัฐชาสงสัยว่าการที่ฤทธิ์เข้ามาตีสนิทกับครอบครัวของไอริณจะมีเบื้องหลัง เธอจึงคอยขัดขวางไม่ให้ฤทธิ์กับไอริณได้ใกล้ชิดกัน จนฤทธิ์กับเธอต้องปะทะคารมกันหลายครั้ง
 
ณัฐชาตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการท้าแข่งกับฤทธิ์ ทั้งในด้านการต่อสู้ การขับรถ ไปจนถึงกีฬาต่างๆ ตามแต่ที่เธอถนัด โดยมีเงื่อนไขว่าผู้แพ้จะต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับไอริณ ซึ่งฤทธิ์ก็สามารถเอาชนะณัฐชาได้สำเร็จ หนำซ้ำยังช่วยชีวิตเธอจากอุบัติเหตุในการแข่งครั้งที่สามอีกด้วย แต่แทนที่ณัฐชาจะยอมรับความพ่ายแพ้ เธอกลับมอบหมายให้“จ่าไมตรี”กับ“หมู่ปรีดา”สองคนสนิทคอยตามสืบพฤติกรรมของ ฤทธิ์แทนเธอ แต่ทั้งคู่ก็ถูก“นายชาญ”คนขับรถหนุ่มมาดทะเล้นของฤทธิ์ หลอกล่อจนไม่สามารถตามติดได้เลยสักครั้ง ทั้งนี้เพราะนายชาญไม่ใช่คนขับรถธรรมดา แต่เขาเป็นมือปืนระดับพระกาฬที่มาดามหลิวจ้างมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของฤทธิ์นั่นเอง
 
ความห้าวหาญแกมดื้อรั้นของณัฐชาทำให้ฤทธิ์เริ่มรู้สึกสนใจ เขาสืบประวัติของเธอจนรู้ว่าในอดีตครอบครัวของเธอถูกฆ่าตาย ทำให้เธอมุ่งมั่นที่จะเป็นตำรวจเพื่อปราบปรามเหล่าร้าย เพราะความที่เติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้า และต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่เล็ก ณัฐชาจึงไม่มีเพื่อนมากนักนอกเสียจากไอริณที่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ด้วยความประทับใจนี้เองฤทธิ์จึงไม่เคยเล่นงานณัฐชาขั้นเด็ดขาด อีกทั้งยังมีความสุขเสียด้วยซ้ำที่เห็นเธอมาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆเขา เพราะเธอมีนิสัยบางอย่างคล้ายกับใจทิพย์คนรักของเขาที่จากไป แต่มาดามหลิวไม่อยากให้ณัฐชามาป่วนภารกิจของตน เธอจึงรายงานพฤติกรรมของณัฐชาให้ “สารวัตรราเมศ”นายตำรวจหนุ่มซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ สารวัตรราเมศจึงได้เข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น
 
ฤทธิ์รู้สึกเลื่อมใสในตัวสารวัตรราเมศ เพราะนอกจากจะเป็นตำรวจตงฉินแล้ว ก็ยังมีฝีไม้ลายมือทัดเทียมกับเขาอีกด้วย เช่นเดียวกับผู้กองณัฐชาที่หลังจากใกล้ชิดกับฤทธิ์มากขึ้น เธอก็พบว่าเขาไม่ได้เป็นเพลย์บอยอย่างที่เคยเข้าใจ หากแต่เป็นสุภาพบุรุษที่เชื่อมั่นในรักแท้เสมอมา ฤทธิ์กับผู้กองณัฐชาเริ่มมีใจให้กัน แต่ทั้งสองก็ไม่กล้าแสดงออกเพราะติดที่ไอริณชอบฤทธิ์และสารวัตรราเมศก็ตาม จีบณัฐชาอยู่ ไอริณชวนทั้งหมดไปเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศของตน เพื่อตอบแทนที่ทุกคนคอยดูแลความปลอดภัยให้เธอในระหว่างถ่ายหนัง แต่คาดไม่ถึงว่ามาวินที่ต้องการล้างแค้น จะโผล่มาเล่นงานไอริณจนเป็นเหตุให้ณัฐชาที่ปกป้องเธอได้รับบาดเจ็บ
 
ขณะที่ฤทธิ์ตั้งใจจะสวมบทพยัคฆ์มหากาฬเพื่อเล่นงานมาวินนั้นเอง องค์กรพรายพิฆาตก็ได้ส่งคนมาตัดหน้าเขาเสียก่อน มาวินถูกไล่ล่าจนถึงขั้นต้องยอมมอบตัวกับสารวัตรราเมศเพื่อหนีตาย แต่องค์กรพรายพิฆาตก็ยังส่งคนตามไปทำร้ายถึงในเซฟเฮ้าส์ ทำให้มาวินต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปตลอดชีวิต
 
เรื่องราวของมาวินทำให้มาดามหลิวยิ่งมั่นใจว่า ท่านนำชัยจะต้องเกี่ยวพันกับองค์กรพรายพิฆาต พวกมันถึงได้ออกโรงมาเล่นงานมาวิน จึงออกคำสั่งให้ฤทธิ์ในคราบพยัคฆ์มหากาฬไปสังหารท่านนำชัยถึงบ้าน แต่เพราะไอริณกับณัฐชาขัดขวางไว้ แผนการของฤทธิ์เลยต้องพลาดไป
เวลานั้นเองที่กรณ์ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในฐานะหัวหน้าองครักษ์คนใหม่ของท่านนำ ชัย ฤทธิ์แทบจะฆ่ามันทันทีที่เห็นหน้า แต่เพราะมาดามหลิวเตือนสติไว้ เขาจึงต้องแสร้งสวมบทเป็นนายโทมัสต่อไปเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายไหวตัว ส่วนกรณ์ก็แกล้งตีหน้าเซ่อทำเป็นไม่รู้จักฤทธิ์เช่นกัน เพราะมันมีภารกิจใหญ่ต้องรีบสะสาง เนื่องจากก่อนหน้านี้หัวหน้าสาขาของพรายพิฆาตในเมืองไทยได้แจ้งว่า สามารถสะกัด“น้ำตามัจจุราชเทียม”จากสารตั้งต้นที่กรณ์ขโมยมาได้สำเร็จ และมีอานุภาพเหมือนน้ำตามัจจุราชของแท้เกือบทุกประการ จุดด้อยก็คือคนที่ได้รับสารนี้เข้าไปจะมีอาการเสพย์ติดขั้นรุนแรง และจะตายทันทีหากขาดสารนี้เกิน 24 ช.ม.
 
ความจริงแล้วน้ำตามัจจุราชก็คือสารเคมีที่สกัดขึ้นจากยาเสพย์ติดบางชนิด มันมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเซลส์กับระบบประสาทอย่างรุนแรง คนที่ได้รับสารนี้เข้าไปไม่เพียงจะมีพลังเหนือมนุษย์ธรรมดา แต่ยังมีความสามารถในการสมานบาดแผลเร็วกว่าปกติหลายพันเท่า มันถูกค้นพบโดยหน่วยงานทหารต่างชาติหน่วยงานหนึ่ง และถูกพัฒนาเพื่อใช้สร้างกองทัพอมตะที่มีพลังเหนือมนุษย์ ก่อนจะถูกกรณ์และพวกพรายพิฆาตปล้นชิงไป
ต่อมากรณ์ได้นำน้ำตามัจจุราชเทียมไปทดลองใช้กับมาวินที่นอนเป็นอัมพาตอยู่ใน โรงพยาบาล ทำให้มาวินที่ฟื้นขึ้นมาต้องกลายเป็นทาสของมัน เนื่องจากเสพย์ติดน้ำตามัจจุราชอย่างรุนแรง กรณ์ส่งมาวินไปตามฆ่าผู้คนมากมายที่เป็นศัตรูกับองค์กรพรายพิฆาต รวมถึงเล่นงานฤทธิ์ที่มันเชื่อว่าคือพยัคฆ์มหากาฬอีกด้วย
 
งานนี้ฤทธิ์แทบจะเอาตัวไม่รอด เพราะคาดไม่ถึงว่ามาวินที่เคยเป็นอัมพาต จะลุกขึ้นมาอาละวาดด้วยเรี่ยวแรงปานช้างสารขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ชาญเข้าช่วยเอาไว้พยัคฆ์มหากาฬคงต้องปิดฉากในคืนนั้น ฝ่ายกรณ์ก็สะใจกับผลงานของมันได้ไม่นานนัก เพราะมันลืมไปว่าอดีตหัวหน้ามาเฟียอย่างมาวินไม่เคยยอมก้มหัวให้ใคร ไม่นานต่อมามาวินจึงได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ในห้องแล็ป แล้วปล้นน้ำตามัจจุราชในคลังเก็บไปจนหมดโดยไม่มีใครขัดขวางได้
 
พลังที่เหนือมนุษย์ของมาวินบวกกับฤทธิ์ยาทำให้มันคึกคะนองอย่างบ้าคลั่ง เที่ยวก่อเหตุปล้นฆ่าไม่เว้นวัน หนำซ้ำยังฉุดตัวไอริณที่มันลุ่มหลงไปกักขังอีกด้วย ร้อนถึงสารวัตรราเมศกับผู้กองณัฐชาที่ต้องตามล่ามันแทบพลิกแผ่นดิน ทางด้านฤทธิ์เองก็ร้อนใจมากด้วยความเป็นห่วงไอริณ แต่มาดามหลิวมั่นใจว่าหากท่านนำชัยเกี่ยวข้องกับองค์กรพรายพิฆาตแล้ว พวกมันจะต้องช่วยเหลือไอริณอีกแน่
 
ทุกอย่างเป็นไปตามคำพูดของมาดามหลิว เมื่อพรายพิฆาตได้ส่งคนมาช่วยไอริณที่ถูกกังขังอยู่ในรังของมาวิน แต่พวกมันก็ถูกมาวินที่มีพลังดุจอมนุษย์สังหารจนหมดเกลี้ยง ฤทธิ์ในคราบของพยัคฆ์มหากาฬที่สะกดรอยตามมา จึงได้ปรากฏตัวขึ้นต่อสู้กับมาวินอย่างดุเดือด โดยมีแผนจะล่อมันจากที่กบดาน เพื่อเปิดทางให้สารวัตรราเมศเข้าไปช่วยไอริณ
 
ทุกอย่างเป็นไปตามแผน…เมื่อฤทธิ์สามารถฆ่ามาวินได้สำเร็จ แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือสารวัตรราเมศจะสมคบกับกรณ์และพวกพรายพิฆาตจับ ตัวเขาเอาไว้ ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยว่าแท้จริงหัวหน้าสาขาขององค์กรพรายพิฆาตใน ประเทศไทยก็คือสารวัตรราเมศนั่นเอง ส่วนท่านนำชัยกลับเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกพวกมันบังคับให้ทำงานเท่านั้น
 
ฤทธิ์ถูกส่งตัวไปยังห้องทดลองของพรายพิฆาต เพื่อค้นคว้าวิธีผลิตน้ำตามัจจุราชของแท้ และอานุภาพในส่วนที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ทำให้ฤทธิ์ได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัส ไอริณต้องการช่วยฤทธิ์เธอจึงได้ทรยศพ่อด้วยการส่งข่าวให้มาดามหลิว มาดามหลิวจึงได้ส่งโซเฟียกับชาญไปช่วยฤทธิ์ออกมา แต่คาดไม่ถึงว่ากรณ์จะวางกับดักเอาไว้ทำให้มือปืนระดับพระกาฬอย่างชาญต้องจบ ชีวิตลง เพื่อเปิดทางให้โซเฟียพาฤทธิ์หลบหนีไป
ต่อมาผู้กองณัฐชาเริ่มระแคะระคายเรื่องที่เกิดขึ้นจากไอริณ จึงพยายามเข้ามาสืบแต่กรณ์ก็แกล้งฉีดยากล่อมประสาทให้ไอริณจนดูเหมือนคนเสีย สติ ก่อนจะโกหกกับผู้กองณัฐชาว่าไอริณติดยาจนเป็นบ้า โดยที่ท่านนำชัยก็ไม่กล้าขัดขวางเพราะถูกพวกพรายพิฆาตขู่เข็ญด้วยเรื่องการ คอรัปชั่นที่ท่านเคยหมกเม็ดเอาไว้สมัยเป็นรัฐบาล แต่สุดท้ายท่านนำชัยก็ทนสงสารลูกสาวไม่ได้ จึงแจ้งข่าวให้ผู้กองณัฐชามาช่วยพาไอริณไปกบดาน ส่วนตนก็พลีชีพหวังแลกตายกับราเมศและกรณ์ แต่ก็พลาดท่าถูกฆ่าตายเสียก่อน
 
ผู้กองณัฐชาพาไอริณไปที่กองปราบหวังจะแฉเบื้องหลังของราเมศ ซึ่งแท้จริงเป็นสมาชิกของพรายพิฆาตที่แฝงตัวมาเป็นตำรวจเมื่อหลายสิบปีก่อน ทว่าสารวัตรราเมศก็ใส่ร้ายว่าผู้กองณัฐชาเป็นคนลักพาตัวไอริณไปเพื่อเรียก ค่าไถ่ แต่เมื่อถูกจับได้ก็เลยฆ่าท่านนำชัยปิดปาก ทำให้ผู้กองณัฐชากับไอริณต้องถูกตำรวจตามล่าจนหัวซุกหัวซุน และต้องไปซ่อนตัวที่คฤหาสน์ของมาดามหลิว จนได้พบกับฤทธิ์ที่กบดานอยู่ที่นั่น
 
โชคร้ายที่กรณ์กับพวกเกิดพบเบาะแสเข้า มันจึงยกพลถล่มคฤหาสน์ของมาดามหลิวทันที แม้ว่าในตัวอาคารจะมีกลไกรักษาความปลอดภัยและมีเวรยามที่แน่นหนา ก็ไม่อาจต้านทานพวกของกรณ์ได้ เพราะสมุนของมันทุกคนล้วนเป็นอมตะด้วยพลังของน้ำตามัจจุราช มาดามหลิว โซเฟีย ณัฐชา และไอริณพยายามต่อสู้กับพวกของกรณ์ไว้อย่างสุดความสามารถ เพื่อปกป้องฤทธิ์ที่ยังอยู่ในอาการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานกำลังของอีกฝ่ายได้ มาดามหลิวจึงให้สามสาวพาฤทธิ์หนีไป ขณะที่ตัวเธอต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า
 
ณัฐชา ไอริณ และโซเฟียพาฤทธิ์ไปซ่อนตัวที่เกาะแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลผู้คน ไม่นานนักพลังของน้ำตามัจจุราชก็ช่วยให้ฤทธิ์หายเป็นปกติ ในช่วงนั้นเองก็มีข่าวว่ากรณ์ได้สร้างกองทัพขนาดย่อมของตนเองขึ้น โดยให้นักรบทุกคนเสพย์สารน้ำตามัจจุราชจนมีพลังเป็นอมตะ ก่อนจะทดลองขีดความสามารถด้วยการส่งนักรบเหล่านี้ ไปปฏิบัติการณ์ปล้นฆ่าตามสถานที่ต่างๆ โดยมีสารวัตรราเมศร่วมรู้เห็นอย่างลับๆ ทำให้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพวุ่นวาย
 
ฤทธิ์กับสามสาวจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯเพื่อหยุดยั้งกรณ์ และเปิดโปงเบื้องหลังของสารวัตรราเมศ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากจ่าไมตรีกับหมู่ปรีดา ฤทธิ์สามารถจับตัวสารวัตรราเมศและบังคับให้มันพาพวกเขาบุกเข้าไปในฐานทัพของ พวกพรายพิฆาต จนเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับกรณ์และลูกสมุน ระหว่างนั้นณัฐชา ไอริณ และโซเฟียก็ช่วยกันปิดทางเข้าออกและวางระเบิดคลังแสงของพวกมัน จนทำให้สารวัตรราเมศกับสมาชิกของพรายพิฆาตแทบทั้งหมดต้องจบชีวิตลงในกองเพลิง
 
ขณะที่ระเบิดลูกสุดท้ายจะทำงานนั้นเอง กรณ์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับฤทธิ์ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ในสภาพของอสูรกายที่เสพย์น้ำตามัจจุราชเข้าไปจนเกินพิกัด มันฆ่าโซเฟียทิ้งอย่างโหดเหี้ยม และพยายามจะฆ่าณัฐชากับไอริณเป็นรายต่อมา แต่ฤทธิ์ก็โผล่มาขัดขวางไว้เสียก่อน เขาให้สองสาวรีบหนีออกไป ก่อนจะกดชนวนระเบิดถล่มฐานทัพของพวกพรายพิฆาตจนสิ้นซาก
 
กรณ์จบชีวิตลงเพราะแรงระเบิด ในขณะที่ฤทธิ์สามารถรอดตายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ เขาเชื่อว่าคงเป็นเพราะผลกรรมดีที่ปกป้องเขาเอาไว้ นับจากนั้นก็ไม่มีใครได้ยินชื่อองค์กรพรายพิฆาตอีกเลย ส่วนพยัคฆ์มหากาฬก็หายสาบสูญไปเช่นกัน  แต่อีกไม่นาน…เมื่อใดที่ภัยร้ายเข้ารุกรานแผ่นดิน….ฤทธิ์ ราวีจะต้องกลับมาอีกครั้ง

 

รักคุณเท่าฟ้า

ทุกครั้งที่ทำการบิน กัปตันเครื่องบิน คือคนที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะต้องเป็นผู้นำพาชีวิตคนทั้งเครื่อง ให้ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย สาวๆ มากมายจึงใฝ่ฝันอยากมีแฟนเป็นนักบินกัปตันมาดเท่ห์โดยเฉพาะกัปตันธีระ(เคน ธีรเดช) ที่มีสาวๆหมายปองมากมาย แต่สาวๆก็ต้องผิดหวังเพราะ กัปตันธีระมีคนรักอยู่แล้วเธอคือ พิม(พลอย เฌอมาลย์)แอร์โฮสเตสสาวสุดสวย ทั้งสองรักกันมาสามปี และมีแผนจะแต่งงานกันอีกในสามเดือนข้างหน้า

พิมไปมาหาสู่กับธีระและครอบครัวจนสนิทสนมกับแม่จินดา(โฉมฉาย ฉัตรวิไล)ซึ่งเป็นแม่ของธีระรวมทั้งแดง(ชนกวนันท์ วัชรคุณ)กับ คุณกบ(กรุณพล เทียนสัวรรณ)พี่สาวและพี่เขยของธีระ พิมรู้ว่าธีระรักแม่มากและแม่ของธีระก็รักเธอมากเช่นกัน

ในช่วงที่ไม่มีตารางการบิน ธีระต้องมาหาแม่ทุกวันจนเป็นกิจวัตรประจำวัน ความรักระหว่างธีระและพิมดูเหมือนจะไม่มีอุปสรรคใดๆ แต่ยิ่งเข้าไกล้วันแต่งงานเข้ามาพิมก็เริ่มเห็นเค้ารางของปัญหาเมื่อจู่ๆแม่ของธีระก็บอกไม่อยากให้แต่งงานมีครอบครัว แต่ธีระยืนยันว่าแต่งงานเพราะทุกอย่างได้เตรียมการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่จินดาเริ่มกลัวว่าธีระจะรักเมียมากกว่าแม่ เธอจึงวางแผนทำลายงานแต่งงานของลูกชาย โดยแกล้งทำเป็นไม่สบายในวันแต่งงาน ทำให้ธีระต้องทิ้งเจ้าสาวเพื่อไปดูแลแม่ที่โรงพยาบาล พจ (สันติสุข พรหมศิริ) พ่อของพิม ไม่พอใจมาก บอกให้พิมเลิกกับธีระไป แต่สุนีย์(สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ)แม่ของพิมยังสนับสนุนอยู่ พิมไม่ยอมแพ้ และทำให้เห็นว่าที่ผ่านมาเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ และได้กำหนดวันแต่งขึ้นใหม่อีกครั้ง เมื่องานแต่งหนสองเริมขึ้น แม่จินดาก็แกล้งป่วยเข้าโรงบาลอีกครั้ง พิมเริ่มแน่ใจแล้วว่าแม่จินดาไม่ต้องการให้เธอแต่งงานกัน

พิมบอกกับธีระว่าแม่ของธีระแกล้งป่วย แต่ธีระไม่เชื่อคิดว่าเธอโกรธที่แม่มาป่วยในวันแต่ง พิมจึงบอกให้กำหนดวันแต่งขึ้นมาเป็นครั้งที่สาม และเมื่อถึงวันแต่งงานแม่จินดาก็ป่วยอีกตามที่คาดไว้ ธีระเริ่มเชื่อพิมว่าแม่แกล้งป่วยเพื่อขัดขวางงานแต่งงาน แต่แดงพี่สาวของธีระบอกว่าแม่ป่วยจริงและอยู่ในอาการโคม่า เขาจึงต้องทิ้งงานแต่งไปโรงบาล หมอบอกแม่จินดา ป่วยเป็นโรคเบาหวาน น้ำตาลขึ้นสูงมากจนช๊อคหมดสติ
ธีระบอกพิมว่าแม่ป่วยจริงๆ แต่พิมไม่เชื่อและมั่นใจว่าแม่จินดาหวงลูกชาย พิมจึงยื่นข้อเสนอให้ธีระเลือกระหว่างแม่และเธอ แต่ธีระบอกเค้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เขารักทั้งพิมและแม่เช่นกัน พิมจึงเป็นฝ่ายยุติทุกอย่างและเดินจากไป

ธีระอกหักอยู่พักใหญ่จนได้พบกับอุ้ม(เข็มอัปสร สิริสุขะ)แอร์โฮสเตสรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ธีระได้พบกับอุ้มระหว่างเที่ยวบินไปต่างประเทศ ความสดใสร่าเริงของอุ้มทำให้เธอลืมเรื่องความเสียใจของพิมไปได้ และเริ่มคบหาดูใจจนคิดว่าชอบเธอ และจะแต่งงานด้วย ธีระพาอุ้มไปหาแม่ โดยหวังว่าแม่จะชอบอุ้มเหมือนกับเขา แต่แม่ยืนยันว่าแม่ไม่ชอบอุ้ม แถมยังใช้คิตตี้(รินลณี ศรีเพ็ญ)แฟนเก่าของธีระเป็นเครื่องมือ พยายามบอกว่าเธอท้องกับธีระ อุ้มหลงเชื่อและบอกเลิกกับธีระ ทำให้ธีระสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายธีระรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของคิตตี้ ทั้งยังมาขู่ทำร้ายอุ้มอีก จึงให้ตำรวจจัดการ ความรักของอุ้มและธีระเริ่มดีขึ้น ธีระขออุ้มแต่งงานอีกครั้ง ทั้งพ่อ(ศานติ สันติเวชชกุล)และแม่อุ้ม(ปวีณา ชารีฟสกุล)ก็สนับสนุนเห็นดีด้วย แต่อุปสรรคกับเป็นแม่จินดา ที่ยืนยันเสียงแข็ง ไม่ยอมไปสู่ขอให้ แล้วพอพ่อแม่ของอุ้มมาก็พูดจาไม่ให้เกียรติ สุดท้ายอุ้มก็บอกเลิกธีระด้วยความร้าวรานใจ เพราะเห็นว่าถ้าเราใช้ชีวิตร่วมกันโดยแม่ไม่เห็นดีด้วย ชีวิตครอบครัวเราของหาความสุขไม่ได้ ทำให้ธีระต้องอกหักอีกครั้ง

ธีระเสียใจอยู่พักใหญ่จนมาเจอกับข้าวตู(อารยา เอ ฮาเก็ต) ข้าวตูเป็นแอร์ฯ รุ่นน้องของพิมเธอแอบหลงรักธีระตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้บินด้วยกัน แต่เธอต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าธีระรักอยู่กับพิม ทั้งสองไม่ได้เจอกันมาเกือบปี จนกระทั่งได้มาบินด้วยกันอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าธีระเป็นโสดจึงสานสัมพันธ์กับธีระใหม่

ข้าวตูเป็นคนช่างเอาอกเอาใจ เธอรู้ว่าธีระชอบหรือไม่ชอบอะไร ทำให้ธีระรักเธอได้ไม่อยาก แต่ความเอาอกเอาใจของข้าวตูทำให้แม่จินดาหมั่นใส้และไม่ชอบเธอมากกว่าสาวทุกคนของธีระ แต่ข้าวตูเป็นคนไม่ยอมใคร จึงโต้เถียงกับแม่จินดาอย่างถึงพริกถึงขิง ทีแรกธีระโกรธที่ข้าวตูไม่ยอมลงให้แม่ แต่ข้าวตูไม่สนแถมตำหนิแม่จินดาว่าไม่มีเหตุผลพร้อมกับจาระไนนิสัยของแม่จินดาอย่างตรงไปตรงมา จนธีระไม่อาจปฎิเสธได้และคล้อยตามเหตุผลของข้าวตูพร้อมกับไปบอกแม่เพื่อให้ปรับหาเข้าข้าวตู แม่จินดาโกรธมากเมื่อรู้ว่าลูกชายเห็นผู้หญิงอื่นดีกว่าแม่ จึงบอกให้ไปอยู่กับเธอโดยไม่ต้องมายุ่งกับแม่อีก

ธีระนำเรื่องทั้งหมดไปปรึกษากับเพื่อน เพื่อนต่างลงความเห็นว่าควรอยู่ห่างๆกับแม่บ้าง เพื่อให้แม่ได้ปรับตัวไม่ยึดติดในตัวเขา ธีระจึงไปหาแม่น้อยลงและอยู่กับข้าวตูมากขึ้น แต่แม่ให้สาวใช้โทรไปหลอกธีระว่าแม่ป่วย เมื่อธีระมา เขาพบว่าแม่ไม่เป็นอะไรเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ธีระเริ่มเหนื่อยใจกับแม่ขึ้นทุกทีและเมื่อสาวใช้โทรมาอีกธีระก็ไม่ไป ทำให้แม่เสียใจ

ในที่สุดแม่จินดาก็เสียชีวิตไป พิม อุ้ม ข้าวตู ได้ข่าวการจากไปของแม่จินดา ทั้งสามมาแสดงความเสียใจต่อการจากไปของแม่(แต่ในใจรู้สึกโล่ง) ทั้งสามต่างก็บอกกับธีระว่าพวกเธอทั้งสามยังรักและรอเขาอยู่เสมอ สุดท้ายธีระจะใช้ชีวิตอยู่กับใครกับผู้หญิงคนไหน ต้องติดตามชมได้ในละคร รักคุณเท่าฟ้า

มณีแดนสรวง

เมื่อเธอ…นางฟ้าแสนซนจากแดนสรวงถูกลงทัณฑ์ให้ต้องมาเป็นหญิงสาวธรรมด๊าธรรมดาในโลกมนุษย์ และเขา…นายตำรวจหนุ่มหล่อเจ้าจองตำแหน่งแมนออฟเดอะเยียร์ต้องมาพัวพันกับเธอ หญิงสาวผู้ไม่ปรากฏที่มาและที่ไป ความโกลาหลอลหม่านวุ่นวายชวนหัวจึงเกิดขึ้นโดยมิอาจห้ามได้ ร่วมการผจญภัยอันแสนมหัศจรรย์จากดาวดึงส์จนถึงพิภพอสูรและป่าหิมพานต์ ผ่านความรักอันสวยสดงดงามแนวโรแมนติกคอมเมดี้น่ารักๆ ของเขา “สการ” และเธอ “รัศมีชโลธร” ในละคร มณีแดนสรวง

 

รัศมิชโลธร หรือ ชิโล เป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เธอเป็นนางฟ้ารุ่นเด็กที่ยังต้องเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ในโลกมนุษย์และสวรรค์อีกมาก แม้จะเป็นธิดาหัวแก้วหัวแหวนของ เทพบิดา หนึ่งในสามสิบสองเทพผู้เป็นใหญ่แห่งดาวดึงส์ แต่รัศมิชโลธรก็ต้องไปเรียนหนังสือเหมือนกับเทพบุตรและเทพนารีองค์อื่นๆ เธอมีเพื่อนสนิทเป็นเทพบุตรหนุ่มรูปงามชื่อว่า อุ้มสม ทั้งคู่ชอบชวนกันเล่นสนุก แกล้งเทพนารี เทพบุตรองค์อื่นๆ อยู่เป็นอาจิณ จนพระอาจารย์ต่างพากันเบื่อหน่าย แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรรัศมิชโลธร เพราะพ่อของเธอเป็นเทพที่มีอำนาจสูง วันหนึ่งหลังจากเรียนวิชาพรหมลิขิตเสร็จเรียบร้อย รัศมิชโลธรนึกสนุก ชวนอุ้มสม-เทพบุตรผู้เป็นเพื่อนสนิท แอบเข้าไปในห้องของพระอาจารย์เพื่อดูสมุดพรหมลิขิต แอบดูเนื้อคู่ของพวกมนุษย์ด้วยความซุกซน

“อยากรู้นักว่าทำไมอาจารย์ถึงรู้ ว่าใครเป็นคู่กับใคร” รัศมิชโลธรบอกเพื่อน “ต้องมีบอกไว้ในสมุดปกหนังเล่มนั้นแน่ๆ” สมุดเล่มนั้นวางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง รัศมิชโลธรและอุ้มสมเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผู้ใดเห็น จากนั้นเทพทั้งสองก็ไปเปิดสมุดดูด้วยความตื่นเต้น ในสมุดเล่มนั้นจารึกชื่อผู้คนไว้มากมาย หลายๆ ชื่อมีเส้นใยบางๆ โยงเข้าหากัน นั่นคือสมุดที่บอกให้รู้ว่าใครเป็นคู่แท้กับใครนั่นเอง รัศมิชโลธรพบด้วยความบังเอิญว่า มีหญิงชายคู่หนึ่งกำลังจะแต่งงานกัน โดยที่จริงแล้วเขาทั้งสองไม่ใช่คู่แท้กัน นางฟ้าจอมซนเลยคิดว่าไม่ควรปล่อยให้คนทั้งสองได้แต่งงานกันไป เพราะอีกไม่นานก็จะต้องหย่ากันอยู่ดี ดังนั้นเธอเลยชวนอุ้มสมให้ลงไปล่มงานวิวาห์ของชายหญิงคู่นี้ด้วยกัน โดยรัศมิชโลธรจำแลงกายเป็นหญิงสาวสวย เข้าไปตะโกนในงานวิวาห์คัดค้านการแต่งงานระหว่างของ ร.ต.อ. ดรัณ และ สิริสุดา จนทำให้งานล่มไปในที่สุด
“แต่งไม่ได้ ฉันขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้” รัศมิชโลธรในร่างจำแลงตะโกนกลางโบสถ์ ท่ามกลางความตกตะลึงของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน “เพราะฉันกับเจ้าบ่าวเป็นกิ๊กกัน”

อันที่จริงดรัณและสิริสุดาไม่ควรจะได้แต่งงานกันแต่แรกแล้ว เพราะดรัณเป็นนายตำรวจแห่งกองปราบปรามคดีพิเศษ ส่วนสิริสุดานอกจากเป็นนางแบบชื่อดังแล้ว เธอยังเป็นลูกสาวของ เจ้าพ่อทองทิว อีกด้วย พ่อของสิริสุดาเป็นเศรษฐีใหญ่ มีธุรกิจบ้านจัดสรรบังหน้า แต่เบื้องหลังมีธุรกิจที่ผิดกฎหมายมากมาย การที่ดรัณและสิริสุดาได้มาพบกัน เป็นเพราะ ผู้การดำเกิง หัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษของกรมตำรวจ ต้องการล้วงความลับของนายทองทิว เพราะมีข่าวว่าเขากำลังจะส่งหญิงสาวจำนวนมากไปขายให้กับเศรษฐีทางตะวันออก กลาง ผู้การดำเกิงเลยส่งให้ชายหนุ่มมาตีสนิทกับสิริสุดา เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของเจ้าพ่อทองทิว สืบไปสืบมากลายเป็นว่าดรัณเกิดหลงรักสิริสุดาขึ้นมาจริงๆ ถึงขั้นขอแต่งงาน

หลังจากทดสอบดรัณอยู่นานจนแน่ใจแล้วว่า ดรัณไม่ได้เปลี่ยนใจไปเข้าข้างกับนายทองทิว ผู้การดำเกิงจึงอนุญาตให้เขาแต่งงานได้ เพราะมั่นใจว่าดรัณเป็นผู้ใหญ่พอที่จะแยกแยะงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน ได้ ส่วนเจ้าพ่อทองทิวอนุญาตให้สิริสุดาแต่งงานกับตำรวจ ทั้งๆ ที่ไม่ชอบเลยสักนิด เป็นเพราะเขาอยากให้ทุกอย่างดูแนบเนียน เขาคิดว่าถ้ามีลูกเขยเป็นตำรวจ เรื่องที่สังคมครหานินทาเรื่องผิดกฎหมายของเขาคงจะหมดไปเสียที เพราะถ้าเขาทำธุรกิจผิดกฎหมายจริงๆ ล่ะก็ คงไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวแต่งงานกับตำรวจแน่ๆ

เป็นอันว่างานวิวาห์ของดรัณและสิริสุดาก็ล่มไปตามแผนของรัศมิชโลธร ท่ามกลางความสงสัยของ ร.ต.อ. สการ หรือแซมมี่ เพื่อนสนิทของเจ้าบ่าว และ เอิงเอย เพื่อนเจ้าสาว ในวันงานหลังจากรัศมิชโลธรตะโกนคำว่า “แต่งไม่ได้” เสร็จ ก็วิ่งหนีออกจากโบสถ์ไป โดยมีสการวิ่งไล่ตามไปติดๆ แต่แล้วเธอก็กลับหายตัววับไปต่อหน้าต่อตาของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ไร้ร่องรอย สร้างความประหลาดใจให้กับสการยิ่งนัก

สการเป็นนายตำรวจหนุ่มหล่อ ปีที่ผ่านมาเขาเคยช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกพ่อเลี้ยงจับไปขาย ปกป้องจนหญิงสาวผู้นั้นปลอดภัย เขาจึงได้รับการโหวตจากสภาสตรีให้เป็นแมนออฟเดอะเยียร์ ตอกย้ำความฮ็อตของเขาให้มากขึ้นไปอีก สการมีแฟนเป็นนักข่าวสาวชื่อ มัดหมี่ มัดหมี่เป็นคนจุ้นจ้าน ขี้หึง ชอบเข้ามาวุ่นวายกับสการบ่อยๆ จนทำให้หลายครั้งสการเสียงานเพราะความวุ่นวายของมัดหมี่ เมื่อเกิดเหตุการณ์กิ๊กมาถล่มงานวิวาห์ของดรัณ สามสาวคือสิริสุดา เอิงเอย และมัดหมี่ จึงรวมตัวกันเพื่อสืบหาหญิงสาวลึกลับคนนั้นให้จงได้

สการกับดรัณเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน เขารู้ว่าก่อนมาคบกับสิริสุดา ดรัณเป็นหนุ่มหล่อจอมเจ้าชู้ มีกิ๊กเล็กกิ๊กน้อยมากมาย แต่สการไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน เลยสงสัยว่าเธอเป็นใครมาจากไหนกันแน่ เมื่อไปดูภาพในกล้องวงจรปิด ก็พบว่าภาพงานวิวาห์ปกติมาตลอดจนกระทั่งรัศมิชโลธรมาปรากฏตัว กล้องก็สว่างวาบจนจับภาพอะไรไม่ได้ ภาพที่บรรดาแขกเหรื่อถ่ายเอาไว้ก็ไม่มีใครจับภาพของรัศมิชโลธรได้สักคนเดียว
เจ้าพ่อทองทิวโกรธมากที่ลูกสาวถูกหักหน้า จึงใช้สมุนไปจับดรัณมาซ้อมอย่างเหี้ยมโหด สิริสุดาใจแข็งไม่ยอมไปเยี่ยม เพราะเธอยังไม่หายโกรธเขาที่ฉีกหน้าหล่อนกลางงานวิวาห์

รัศมิชโลธรและอุ้มสมกลับไปยังดาวดึงส์ด้วยความรื่นเริง เพราะทำสำเร็จตามแผนการ แต่สิ่งที่เธอทำลงไปนั้นผิดกฎสวรรค์อย่างร้ายแรง เทพบิดาโกรธมากที่ลูกสาวใช้อำนาจทิพย์ไปเปลี่ยนชะตากรรมของมนุษย์ รัศมิชโลธรจึงถูกเทพบิดาลงโทษด้วยการส่งตัวลงมาเป็นมนุษย์เดินดินที่ไม่มี อำนาจวิเศษใดๆ ส่วนอุ้มสมถูกสาปลงมาเป็นนกแก้วพูดได้ เทพบิดาจะคืนความเป็นทิพย์ให้รัศมิชโลธรและอุ้มสมก็ต่อเมื่อ เทพบุตรและเทพธิดาทั้งสองหาทางทำให้ดรัณและสิริสุดากลับมาแต่งงานกันได้ เหมือนเดิม จึงจะได้รับอภัยและสามารถกลับไปอยู่สวรรค์ได้อีกครั้งหนึ่ง

เทพมารดา และ รัศมิพรรณราย สงสารน้องสาวมาก จึงพยายามอ้อนวอนเทพบิดาให้ยกโทษให้รัศมิชโลธร แต่เทพบิดาไม่ตกลง เพราะสิ่งที่รัศมิชโลธรทำลงไปในครั้งนี้รุนแรงเกินกว่าจะให้อภัยได้ เธอต้องถูกลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างแก่เทพนารีและเทพบุตรองค์อื่นๆ แต่ด้วยความที่เป็นลูกรัก ไม่เคยถูกลงโทษสถานหนักเช่นนี้มาก่อน เทพบิดาเลยใจอ่อน ยอมมอบพรวิเศษสามประการให้รัศมิชโลธรสำหรับไว้ใช้ในยามคับขัน แต่มีข้อจำกัดว่าพรทั้งสามข้อ ห้ามใช้เพื่อทำให้ดรัณกลับมาคืนดีกับสิริสุดา ชายหญิงสองคนนั้นต้องกลับมาคืนดีกันด้วยความยินยอมพร้อมใจของตัวเองเท่านั้น รัศมิชโลธรและอุ้มสมถูกส่งมายังโลกมนุษย์พร้อมกับดาวหาง ทุกอย่างอยู่ในสายตาของ อสุเรศ อสูรร้าย พร้อมด้วย อัคราสูร และ จิตราสูร ผู้เป็นบริวาร

อสุเรศกับรัศมิชโลธรเคยเป็นคู่กรณีกันมาก่อน สมัยที่รัศมิชโลธรเป็นนางฟ้า เธอเคยแอบจำแลงกายเป็นมนุษย์ลงมาเที่ยวเล่นในโลก และถูกอสุเรศซึ่งแปลงกายเป็นมนุษย์ขึ้นมาเที่ยวเล่นบนโลกลวนลามเอา เธอโกรธอสูรร้ายมากที่ไม่เจียมตัว บังอาจมายุ่งวุ่นวายกับเทพนารีไฮโซอย่างเธอ ก็เลยสำแดงอิทธิฤทธิ์กล้อนผมอสุเรศเสียจนศีรษะล้าน เป็นที่อับอายแก่อสูรทั้งหลาย อสุเรศจึงผูกใจเจ็บตั้งแต่นั้นมา เขาตั้งใจว่าจะหาโอกาสแก้แค้นรัศมิชโลธรให้ได้ในวันหนึ่ง โอกาสนั้นมาถึงอสุเรศเร็วเกินคาด อสูรหนุ่มเห็นรัศมิชโลธรถูกสาปเป็นมนุษย์ หมดสิ้นสภาพความเป็นทิพย์ จึงวางแผนกับลูกสมุนจะจับตัวเธอไปเป็นเมียและกักขังไว้ที่พิภพอสูรให้จงได้ อสุเรศเป็นลูกชายของจอมอสูร มีนางอสูรสาวๆ เป็นเมียมากมายอยู่แล้ว เมียเอกของอสุเรศก็คือ นางราคะ นางโทสะ และ นางโมหะ สามพี่น้องผู้ร้ายกาจ

รัศมิชโลธรได้มาอยู่คอนโดหรูที่เทพบิดาเตรียมไว้ให้ เธอต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ ต้องทำกับข้าว ซักผ้า หุงหาอาหารด้วยตนเอง ไม่มีภาวะอิ่มทิพย์เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป อุ้มสมเองก็ต้องเรียนรู้การเป็นนกแก้วพูดได้ พร้อมกันนั้นทั้งสองก็ต้องช่วยกันหาวิธีการให้ดรัณและสิริสุดากลับมาคืนดี กันให้ได้ ช่างบังเอิญอย่างมากมาย ที่ห้องพักของรัศมิชโลธรอยู่ชั้นเดียวกับห้องพักของสการโดยที่ต่างฝ่ายต่าง ก็ไม่เคยรู้มาก่อน

ชโลธร หรือรัศมิชโลธร เริ่มสนิทกับ คุณนารี มารดาของสการ เพราะมีห้องอยู่ตรงข้ามกัน คุณนารีอยากมีลูกสาว พอเห็นรัศมิชโลธรก็ชอบใจ เพราะหน้าตาเหมือนกับ หนูสโรชา ลูกสาวคนแรกของเธอที่เสียขีวิตไปเพราะจมน้ำตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ

วันหนึ่งรัศมิชโลธรและคุณนารีไปเดินซื้อของด้วยกันที่ซูเปอร์มาเก็ตใกล้บ้าน จิตราสูรซึ่งเฝ้าแอบมองรัศมิชโลธรอยู่ตลอดเวลา สบโอกาสเหมาะจึงแปลงร่างเป็นคนมาฉุดตัวรัศมิชโลธร เพื่อพาเธอไปให้เจ้านาย แต่เรื่องราวกลับโกลาหลเพราะสิริสุดาและเอิงเอยบังเอิญผ่านมาพอดี เธอจำได้ว่ารัศมิชโลธรก็คือผู้หญิงที่บุกไปล่มงานวิวาห์ของเธอ สิริสุดาและเอิงเอยจึงพยายามจะเข้าไปพูดกับรัศมิชโลธรให้รู้เรื่องว่าเธอคือ ใคร เป็นกิ๊กกับดรัณตั้งแต่เมื่อไหร่ และมาล่มงานวิวาห์ของสิริสุดาทำไม จิตราสูรกำลังกระชากแขนรัศมิชโลธร พยายามจะพาตัวไปก็พอดีกับที่สิริสุดาและเอิงเอยวิ่งเข้ามาขัดจังหวะโดยไม่ ได้ตั้งใจ ทั้งหมดยืนยื้อยุดฉุดกระชากกันที่กลางถนนนั่นเอง คุณนารีเห็นเหตุการณ์ไม่เข้าที ก็พยายามจะเข้ามาช่วยรัศมิชโลธร คุณนารีถูกจิตราสูรผลักจนเสียหลักล้มลงไปบนถนนที่มีรถบรรทุกวิ่งมาด้วยความ เร็ว แต่แล้วก่อนที่รถบรรทุกจะวิ่งมาทับร่างของคุณนารีจนแหลกเหลวนั้น รัศมิชโลธรตัดสินใจใช้พรข้อแรกช่วยเหลือคุณนารีจนปลอดภัย

จิตราสูรบาดเจ็บกลับไปพิภพอสูร ทำให้อสุเรศแค้นรัศมิชโลธรกว่าเก่า เขาสั่งให้สมุนทุกคนลงมือด้วยความรอบคอบ เพราะรัศมิชโลธรยังมีของดีคุ้มครองกายอยู่ ส่วนสิริสุดาและเอิงเอยกลับไปด้วยความงงๆ เพราะอำนาจของเวทมนตร์ทำให้สองสาวลืมว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกเธอมายืนอยู่กลางถนนได้อย่างไร รัศมิพรรณรายรู้เรื่องที่อสูรร้ายจะมาจับตัวน้องสาวก็เลยร้อนใจ แอบเทพบิดาลงมาหาน้องที่คอนโด เธอนำสร้อยที่ทำมาจากแก้วสัตตพิธรัตนะจากดาวดึงส์ลงมาให้รัศมิชโลธรสวมติด กายเอาไว้ อำนาจของแก้วมณีจะทำให้อสูรร้ายไม่กล้าเข้าใกล้รัศมิชโลธร ก่อนจะกลับสวรรค์รัศมิพรรณรายยังขีดเส้นทิพย์ล้อมรอบห้องพักของน้องสาวเอา ไว้ เส้นทิพย์นี้มีอำนาจสูง อสูรร้ายไม่สามารถก้าวข้ามเข้ามาได้ ตราบใดที่รัศมิชโลธรอยู่ภายในห้อง อสูรร้ายจะไม่สามารถทำอันตรายเธอได้เลย

หลังจากคุณนารีบาดเจ็บ สการและดรัณจึงได้รู้ความจริงว่า เพื่อนบ้านคนสวย ใจดี แสนน่ารักที่คุณนารีพูดถึงบ่อยๆ ที่จริงแล้วก็คือสาวน้อยสิบแปดมงกุฎ คนเดียวกับที่ไปล่มงานวิวาห์ของ ดรัณนั่นเอง สการคิดว่าถ้าไม่ใช่พวกสิบแปดมงกุฎชอบหลอกเงินผู้ชาย รัศมิชโลธรก็อาจจะเป็นเพียงเด็กสาวใจแตก เป็นเมียน้อยเสี่ย ไม่อย่างงั้นเธอไม่น่ามีเงินซื้อคอนโดหรูหราอยู่ได้แน่ๆ เขาพยายามสอบถาม หากรัศมิชโลธรไม่รู้จะสารภาพว่าอย่างไร สการไปที่สำนักงานคอนโดก็พบว่าบัตรประชาชนของรัศมิชโลธรเป็นบัตรประชาชนปลอม ในบัตรประชาชนเธอใช้ชื่อว่า “น.ส. ชโลธร ณ แดนสรวง”

“ณ แดนสรวง” สการทำหน้าเหรอหรา เพราะไม่เคยได้ยินนามสกุลนี้มาก่อน เธอให้ ตรีชฎา เลขาร่างอ้วนลองค้นหาในฐานข้อมูลประชากรก็ไม่พบชื่อและนามสกุลนี้ “คนเถื่อนแน่ๆ” ตรีชฎาจีบปากจีบคอ
“อาจจะเป็นเจ้ามาจากทางเหนือ พวกเชียงตุง ไทใหญ่ หนีเข้าเมืองมาก็ได้นะ นามสกุลถึงไม่มีในระบบประชากรของบ้านเรา แถมฟังดูแปลกแบบนี้” สการว่า “เป็นไปได้ว่ะแซมมี่” ดรัณเห็นด้วยกับเพื่อน “มิน่าล่ะ ผิวของเธอถึงขาวผ่อง สวยยังกับทองทา”
สการพยายามคาดคั้นเอาความจริงกับรัศมิชโลธรว่าเธอคือใครกันแน่ รัศมิชโลธรจึงตัดสินใจสารภาพความจริงให้สการฟังว่า เธอไม่ใช่สิบแปดมงกุฎ ไม่ใช่เจ้าไทใหญ่หนีเข้าเมืองมา แต่เป็นนางฟ้ามาจากดาวดึงส์ต่างหาก และที่เธอลงมาล่มวิวาห์ของดรัณ เพราะเห็นจากสมุดเนื้อคู่ว่าเขากับสิริสุดาไม่ใช่เนื้อคู่กัน เธอหวังว่าสการจะยอมเชื่อแล้วยอมช่วยเธอ ทำให้ดรัณกับสิริสุดากลับมาคืนดีกัน เธอและอุ้มสมจะได้กลับสวรรค์เสียที แต่รัศมิชโลธรคิดผิด เพราะนอกจากสการไม่เชื่อแล้ว เขายังคิดว่าเธอเพี้ยนไปอีกต่างหาก ตั้งแต่นั้นมาสการและรัศมิชโลธรก็ทำตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอด

มีเพียงคุณนารีเท่านั้นที่เชื่อรัศมิชโลธร วันหนึ่งที่สการออกไปทำงาน เธอกับรัศมิชโลธรตัดสินใจไปหาสิริสุดา เพื่อพูดให้เธอผู้นั้นเข้าใจ รัศมิชโลธรเชื่อว่า หากสิริสุดาเข้าใจว่าเธอกับดรัณไม่มีอะไรกัน สิริสุดาก็จะยอมกลับไปแต่งงานกับดรัณ และเธอกับอุ้มสมก็จะได้กลับสวรรค์เสียที แต่แล้วเรื่องราวก็กลับยุ่งเหยิงเกินคาด เพราะอัคราสูรสมุนของอสุเรศเฝ้าสะกดรอยตามรัศมิชโลธรมาโดยตลอด มันปลอมตัวเป็นลุงคนขับแท็กซี่รับคุณนารี อุ้มสม และรัศมิชโลธรขึ้นรถไป แต่แทนที่จะขับตรงไปตามทางที่คุณนารีบอก มันกลับพุ่งพารัศมิชโลธรลงไปยังพิภพอสูรที่อยู่ต่ำจากโลกมนุษย์ลงไป รัศมิชโลธรเห็นผิดท่า จึงพยายามต่อสู้กับอัคราสูร อัคราสูรไม่สามารถแตะต้องตัวรัศมิชโลธรได้ เพราะเธอมีสร้อยสัตตพิธรัตนะคุ้มครองกายอยู่ มันจึงจับตัวอุ้มสมไปแทน อัคราสูรสั่งให้รัศมิชโลธรถอดสร้อย ไม่เช่นนั้นมันจะฆ่าอุ้มสมเสีย แต่อุ้มสมยอมตาย ไม่ยอมให้รัศมิชโลธรถอดสร้อย แล้วในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนั่นเอง รัศมิชโลธรก็ตัดสินใจใช้พรวิเศษข้อที่สองช่วยชีวิตของอุ้มสมเอาไว้ได้ อัคราสูรบาดเจ็บกลับไปยังพิภพอสูร ขณะที่คุณนารีได้เห็นกับตาว่ารัศมิชโลธรคือเทพนารีจริงๆ

สิริสุดากลุ้มใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะใจจริงแล้วเธอยังรักดรัณอยู่ เอิงเอยเห็นเพื่อนเป็นทุกข์ เลยพาเพื่อนไปหาเทพธิดาตาทิพย์เพื่อดูดวง
“แม่นมากนะยะหล่อน” เอิงเอยคอนเฟิร์ม “ยังกะตาเห็น ใครๆ เลยเรียกว่าเทพธิดาตาทิพย์ไง” ปกติแล้วสิริสุดาไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดู แต่ก็ยอมตามเอิงเอยไป เพราะดีกว่าอยู่เปล่าๆ เทพธิดาตาทิพย์เพ่งดูสิริสุดาแล้วถึงกับอึ้งกิมกี่ เธอเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในงานแต่งงานของสิริสุดา พยายามองก็เห็นรัศมิชโลธรแว๊บๆ แต่เมื่อพยายามเพ่งมองให้ละเอียดก็กลับไม่เห็นอะไร นอกจากรัศมีกระจ่างสว่างตา
“นังผู้หญิงคนนั้นต้องเล่นของแน่ๆ ชั้นถึงมองหน้ามันไม่เห็น หนอยแน่ะ” เทพธิดาตาทิพย์คิดว่ารัศมิชโลธรมีของดีคุ้มครอง ทำให้ตาทิพย์ของเธอมองอะไรไม่เห็น และของดีที่ว่านั่นก็คือสร้อยที่รัศมิชโลธรสวมอยู่นั่นเอง เทพธิดาจึงแนะนำให้สิริสุดาทำลายสร้อยของรัศมิชโลธรทิ้งไปเสียถ้าหากว่ามีโอกาส

“สร้อยนั่นมีเวทมนตร์ทำให้ผู้ชายลุ่มหลง จงหาโอกาสทำลายมันทิ้งไป แล้วผู้ชายของเธอก็จะกลับมาหา” ดรัณเริ่มสนใจว่ารัศมิชโลธรเป็นคนแปลก เขาพยายามแวะมาหาเธออีกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งสการจะคอยขัดขวางเสมอ จนมัดหมี่แฟนสาวเข้าใจผิด คิดว่าสการตกหลุมรักรัศมิชโลธร เธอไม่พอใจรัศมิชโลธรมาก พยายามหาทางกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง

ในวันลอยกระทง ผู้การดำเกิงรู้มาว่านายทองทิวกำลังจะขนย้ายผู้หญิงจำนวนมาก โดยเอาผู้หญิงขังในตู้คอนเทนเนอร์ แล้วเอาขึ้นเรือไป ผู้การต้องการส่งสายลับผู้หญิงเข้าไปเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงพวกนั้น แต่บังเอิญสายลับที่ทำงานให้กับหน่วยคดีพิเศษมานานถูกนายทองทิวจับได้และฆ่า ทิ้งไป ผู้การดำเกิงจำเป็นต้องหาผู้หญิงสักหนึ่งมาทำงานนี้แทน
“แต่เธอคนนั้นจะต้องเก่งพอจะหนีเอาตัวรอดได้” ผู้การบอกกับสการและดรัณ สการนึกถึงรัศมิชโลธรขึ้นมาทันที เพราะเธอคนนั้นเก่งฉกาจ สามารถหายตัวไปได้ต่อหน้าต่อตาของเขา เธอต้องเอาตัวรอดได้แน่ เขาจึงเสนอรัศมิชโลธร และผู้การดำเกิงก็ตกลงทันที สการกลับมาบอกรัศมิชโลธร อธิบายให้เธอฟังว่าเขาทำงานอะไรอยู่ เขามีข้อแลกเปลี่ยนว่า ถ้ารัศมิชโลธรทำงานสำเร็จ เขาจะทำบัตรประชาชนที่ถูกต้องให้กับเธอ ยอมเชื่อว่าเธอมาจากดาวดึงส์ และจะช่วยให้ดรัณและสิริสุดามาคืนดีกัน รัศมิชโลธรรู้สึกทึ่งในงานที่สการทำ เธอตัดสินใจจะช่วยเขา ไม่ใช่เพราะต้องการจะให้เขาเชื่อว่าเธอเป็นนางฟ้า แต่เป็นเพราะเธออยากช่วยชีวิตผู้หญิงมากมายที่ถูกหลอกไปขายต่างประเทศมากกว่า

ขณะที่ทางโลกกำลังเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ดอกแคฝอยในดินแดนอสูรก็เริ่มเบ่งบาน บอกให้รู้ว่าถึงวาระของเทวาสุรสงคราม ที่เทวดาและอสูรกำลังจะสู้รบกันอีกครั้ง อสุเรศเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะจับตัวรัศมิชโลธรในตอนนี้ เพราะเทพบิดาของเธอจะต้องไม่มีเวลามาช่วยได้แน่ๆ แต่ปัญหาใหญ่คือ สร้อยสัตตพิธรัตนะที่รัศมิชโลธรสวมอยู่ เมื่อเธอมีสร้อยนั้น อสุเรศและบรรดาอสูรจะไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย นางราคะ โทสะ และโมหะสามพี่น้องจึงอาสาช่วยอสุเรศ โดยการเข้าสิงมัดหมี่ สิริสุดา และเอิงเอย ใช้มนุษย์ทั้งสามต่อกรกับรัศมิชลธรแทนพวกตน

ถึงวันที่นายทองทิวส่งผู้หญิงไปขาย รัศมิชโลธรไปที่ท่าเรือตามแผนของสการและดรัณ สร้างความปั่นป่วนจนกระทั่งคนร้ายเกิดความสับสน ตำรวจที่ซ่อนตัวอยู่เปิดฉากยิงต่อสู้ ขณะเดียวกันสิริสุดา เอิงเอย และมัดหมี่ก็โผล่มาพอดี ทำให้เกิดผิดแผน เรื่องราววุ่นวายหนักกว่าเก่า สิริสุดาที่ถูกนางโทสะครอบงำ โกรธจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ตบตีกับรัศมิชโลธร กระชากสร้อยสัตตพิธรัตนะขาด และโยนทิ้งไปในทะเล
สมุนของเจ้าพ่อทองทิวต่อสู้จนแพ้สการและดรัณ พวกมันตัดสินใจจุดชนวนระเบิดเพื่อสังหารให้ทุกคนตายไปพร้อมๆ กัน เป็นจังหวะเดียวกับที่อสุเรศปรากฏตัวขึ้น และกำลังจะฉุดตัวรัศมิชโลธรไป รัศมิชโลธรเห็นสิริสุดา ดรัณ และสการตกอยู่ในอันตราย จึงตัดสินใจใช้พรวิเศษข้อสุดท้ายช่วยเหลือสการ ดรัณ และสิริสุดา แทนที่จะใช้ให้ตัวเองปลอดภัยจากอสุเรศ ผลก็คือ สการ สิริสุดา และดรัณปลอดภัย แต่รัศมิชโลธรถูกอสูรร้ายจับตัวไปในที่สุด คราวนี้ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายใดๆ อีกแล้ว เพราะทั้งสการ สิริสุดา และดรัณ ต่างเห็นอำนาจทิพย์ของรัศมิชโลธรกับตาของตนเอง พวกเขาเชื่อแล้วว่าเธอเป็นนางฟ้ามาจากแดนสรวงจริงๆ แต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว

เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เทวดากับอสูรกำลังจะรบกัน อสุเรศจึงไม่สามารถพารัศมิชโลธรกลับไปยังพิภพอสูรได้ เพราะจอมอสูรจะต้องโกรธมาก เพราะเขามีหน้าที่ต้องช่วยทัพอสูรรบกับเทวดา แต่กลับมามัวห่วงเรื่องผู้หญิง อสุเรศเลยตัดสินใจพารัศมิชโลธรไปซ่อนตัวอยู่ที่ป่าหิมพานต์ก่อน รอจนกว่าเทวาสุรสงครามจะสิ้นสุด จึงค่อยพารัศมิชโลธรกลับไปยังพิภพอสูรอีกครั้ง

ในที่สุดสการก็รู้ว่ารัศมิชโลธรเป็นนางฟ้าจริงๆ เขาเสียใจและกลุ้มใจมากไม่รู้ว่าเธอหายตัวไปไหน สการ ดรัณ เอิงเอย และสิริสุดา บากหน้ากลับไปหาเทพธิดาตาทิพย์ขอให้เธอช่วย เทพธิดาใช้พลังตาทิพย์เพ่งมองจนรู้ว่ารัศมิชโลธรอยู่ที่ป่าหิมพานต์ สการไม่รู่ว่ามนุษย์จะเดินทางไปหิมพานต์ได้อย่างไร รัศมิพรรณรายรู้ข่าวน้องสาวถูกอสุเรศจับตัวไปก็ร้อนใจลงมายังโลกมนุษย์ ช่วงเกิดสงครามระหว่างเทวดาและอสูร เทพทั้งหลายไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปไหนมาไหนได้โดยอิสระ รัศมิพรรณรายจึงไม่สามารถไปช่วยน้องได้ สการอาสาขอไปช่วยรัศมิชโลธรด้วยตัวเอง รัศมิพรรณรายตกลงใจส่งสการไปที่หิมพานต์ในที่สุด

หิมพานต์เป็นดินแดนกว้างใหญ่ สการไม่รู้เลยว่าจะตามหารัศมิชโลธรได้ที่ไหน เขาคิดว่าเขาจะใช้หัวใจรักของเขาตามหาเธอให้พบ โชคดีตอนที่สการมาถึงหิมพานต์ เขาช่วยลูกครุฑตนหนึ่งไว้โดยบังเอิญ ลูกครุฑชื่อ ตรัสวิน กำลังจะถูกนาคจับกิน เมื่อสการช่วยเหลือเอาไว้ ลูกครุฑเลยสัญญาว่าจะช่วยสการเป็นการตอบแทน เขาพาสการออกตามหารัศมิชโลธรไปยังดินแดนต่างๆ สการช่วยเหลือวิทยาธรตนหนึ่งเอาไว้โดยบังเอิญ วิทยาธรตนนั้นเลยให้อาวุธสการมาสำหรับต่อสู้ป้องกันตัว พร้อมกับบอกว่ามีแมงมุมประหลาดมาปรากฏกายอยู่ในดินแดนของพวกกินรี ขอให้สการไปช่วยหน่อย

ตอนแรกสการก็อิดออด เพราะเขาใจจดจ่อกับการช่วยเหลือรัศมิชโลธรเท่านั้น แต่ด้วยความที่ใจอ่อน เขาเลยตัดสินใจไปช่วยพวกกินรีจากแมงมุมปีศาจที่ชักใยอยู่หน้าถ้ำแห่งหนึ่ง สการต่อสู้กับแมงมุมร้ายโดยใช้พระขรรค์ที่ได้จากวิทยาธรจนเอาชนะแมงมุมร้าย ได้ในที่สุด ขณะจะเดินกลับออกไป สการได้ยินเหมือนเสียงของใครร้องไห้ดังมาจากถ้ำ เมื่อเข้าไปดูก็ไม่พบอะไรนอกจากลูกหว้าขนาดใหญ่บนต้น เขามั่นใจว่าเสียงคนร้องไห้ดังมาจากในนั้น จึงปีนขึ้นไปใช้พระขรรค์ตัดลูกหว้าตกลงมา เมื่อลูกหว้าแตกออก ก็ปรากฏว่ารัศมิชโลธรถูกจับขังอยู่ในนั้นนั่นเอง และแมงมุมร้ายที่ชักใยอยู่หน้าถ้ำก็คือสมุนอสูรของอสุเรศ

อสุเรศและบริวารอสูรถูกจอมอสูรกักบริเวณ เพราะเที่ยวไปก่อความเดือดร้อนจนเกือบจะเกิดเรื่องใหญ่ อสุเรศหมดโอกาสที่จะมารังควานรัศมิชโลธรอีกต่อไป และตรัสวินก็ช่วยให้รัศมิชโลธรและสการเดินทางกลับโลกมนุษย์ได้ในที่สุด ระหว่างเกิดเหตุร้ายกับเจ้าพ่อทองทิว สิริสุดาถึงกับช็อค ไม่คิดว่าเบื้องหลังของพ่อจะมีอาชีพค้ามนุษย์ เธอรู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นายทองทิวหนีออกนอกประเทศ ทิ้งให้สิริสุดาต้องตอบคำถามสื่อและหนังสือพิมพ์ สิริสุดาเฟดตัวหายไปจากวงสังคม บรรดาเพื่อนฝูงที่เคยคบหารวมทั้งมัดหมี่ต่างพากันตีตัวออกห่าง สิริสุดาได้เห็นธาตุแท้ของมนุษย์ ในขณะเดียวกันดรัณก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี จนทั้งสองเข้าใจกัน และกลับมาแต่งงานกันในที่สุด โดยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองคน ไม่มีใครบังคับ

เทพบิดาทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้เห็นจิตใจอันงดงามของรัศมิชโลธรที่ใช้พรวิเศษไปในการช่วยเหลือผู้อื่นทุก ครั้ง แทนที่จะเป็นตนเอง อีกทั้งดรัณและสิริสุดาได้กลับมาคืนดีกันเรียบร้อยแล้ว ท่านจึงถอนคำสาปให้กับรัศมิชโลธร และอนุญาตให้เธอและอุ้มสมกลับสวรรค์ได้ แต่มาถึงตอนนี้เธอกลับไม่อยากกลับสวรรค์เสียแล้ว รัศมิชโลธรเพิ่งรู้ตัวว่า ที่จริงแล้วเธอรักสการ และสการก็รักเธอมาก รัศมิชโลธรตัดสินใจไม่กลับดาวดึงส์ แต่ขออนุญาตเทพบิดาใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์อยู่กับสการ ดูแลกันและกัน ต่างชวนกันทำความดีและช่วยเหลือสังคมจนสุดความสามารถ
ตอนแรกเทพบิดาไม่เห็นด้วย หากรัศมิพรรณรายและเทพมารดาช่วยกันขอร้องจนเทพบิดาใจอ่อนและเห็นใจรัศมิชโล ธรในที่สุด อุ้มสมกลับไปที่ดาวดึงส์เพียงผู้เดียว เขามีโอกาสได้เห็นสมุดพรหมลิขิตแล้วก็ต้องประหลาดใจ ที่ได้เห็นว่าสการและรัศมิชโลธรเป็นคู่แท้กันมาหลายชาติภพแล้ว
เวลาในโลกมนุษย์ ๑๐๐ ปี เท่ากับเวลาสวรรค์ไม่กี่นาที รัศมิชโลธรหวังว่าเมื่อเธอและสการหมดอายุขัยในโลกมนุษย์แล้ว ทั้งสองก็จะได้กลับไปที่ดาวดึงส์ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง

ปัญญาชนก้นครัว

ปัญญาชนก้นครัว เป็นเรื่องราววุ่นวายของเอมิกา ลูกสาวคนสวยของท่านผู้ว่าฯ เป็นนักศึกษาปีสุดท้ายที่หวังจะสำเร็จการศึกษาด้วยการคว้าเกียรตินิยมมาครอง แต่กำแพงขั้นสุดท้ายของเธอคือการต้องคว้าเกรด a ในวิชาการละครของอ.เพี้ยนหรืออาจาร์ยเพียรทิพย์ให้ได้จากวิทยานิพนธ์ของเธอ ทำให้ต้องถกเถียงกับอาจาร์ยเพี้ยนเพราะชีวิตจริงของเอมิกาที่มีฐานะร่ำรวย นั้นไม่เคยสัมผัสกับชีวิตของคนในสังคมอีกระดับอย่างคนรับใช้ คนทำงานบ้านอย่างที่เธอนั้นอยากจะนำเสนอเลยเอมิกาตัดสินใจปลอมตัวเข้าไป สมัครเป็นคนรับใช้ท่ามกลางความช่วยเหลือของปองเทพและนงลักษณ์ โดยได้มีโอกาสเข้าไปทำงานและเก็บข้อมูลในครอบครัวใหญ่ที่มีถึงสามครอบครัวใน บริเวณเดียวกันท่ามกลางสายตาไม่ใว้ใจของปลัดวเรศหรือปลัดตั้ม ชายหนุ่มรูปหล่อที่สาวๆต่างให้ความสนใจจากความสนิทสนมกับครอบครัวของคุณชื่น ฤทัย ที่นึกสงสัยในบุคลิกและความรู้ต่างๆของเอมิกาที่ไม่น่าจะเป็นแค่สาวใช้ ธรรมดา

หงส์สะบัดลาย

เมื่อทางเดินของหัวใจหนึ่งดวง มีหัวใจอีกสองดวงรออยู่
ดวงหนึ่ง…เพียบพร้อมทุกอย่างที่ผู้ชายในโลกน้อยคนพึงมี รักและผูกพันมาเนิ่นนาน
ดวงหนึ่ง…ดีแสนดี มีรอยยิ้มและความอบอุ่นยามอยู่ใกล้ รักและพร้อมพลีชีวิตให้เธอได้ทุกวินาที
เธอจะเลือกหัวใจดวงไหน ให้เข้ามาสู่..หัวใจของเธอ
 
เนติมา อิสราวัชร กับ ศิวัช กิตติธร.. ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันที่ต่างประเทศ และทั้งคู่..รักกัน
เนติมาและศิวัช หวังว่าจะกลับมายังเมืองไทยทำงานเพื่อประเทศและแต่งงานกัน แต่ฝันของทั้งคู่ไม่อาจสำเร็จได้อย่างง่ายๆ เนติมา ดูภายนอกเหมือนคนที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่ภายในเต็มไปด้วยรอยแผลแห่งความเจ็บปวดเมื่อวัยเด็กเพราะภาพพ่อกับแม่ของตนถูกปลิดชีพลงต่อหน้าต่อตา !
 
พงษ์เลิศ ชัยธวัช มาเฟียระดับชาติที่ทำงานให้กับคนมีอำนาจในประเทศ ไม่พอใจที่วิเชียร อิสราวัชร นักธุรกิจใหญ่ถอนตัวจากการสนับสนุนงานของเขาเพราะวิเชียรได้สืบรู้มาว่า มีการคอรัปชั่นในการประมูล และการซื้ออาวุธเพื่อมาขายให้คนต่างชาติ พงษ์เลิศจึงสั่ง อิทธิหาญ ลูกชาย ไปสังหารครอบครัวของเขาทั้งหมด แต่วิเชียรไหวตัวทันด้วยความเป็นห่วงลูก เนติมา ลูกสาวคนโต และยศวีร์ ลูกชายคนเล็ก เขาจึงขอความช่วยเหลือจาก ธำรง กิตติธร นักธุรกิจเดินเรือ และคำเที่ยงอดีตคนขับรถของพงษ์เลิศ ให้ช่วยชีวิตเนติมาและยศวีร์ โดยวิเชียรและพรรณศรี ผู้เป็นภรรยายอมที่จะถ่วงเวลาอิทธิหาญไว้เพื่อให้ลูกๆได้หนี
 
คำเที่ยงมารับตัวยศวีร์ไปพร้อมกับเทปลับที่วิเชียรบันทึกไว้ถึงเบื้องหลังเบื้องลึกการตายของตนให้ยศวีร์เก็บไว้ และเนติมาต้องเห็นภาพที่บาดลึกเข้าไปในจิตใจ เมื่อเห็นพ่อกับแม่ถูกฆ่าตายตรงหน้า ธำรงพาเนติมาลี้ภัยมาอยู่ต่างประเทศ พร้อมกับลูกชายคนเดียว คือ ศิวัช กิตติธร ทั้งศิวัชกับเนติมา เติบโตที่ต่างประเทศมาด้วยกัน จนทั้งสองคนผูกพันกันจนเกิดเป็นความรัก ยศวีร์ ต้องไปซ่อนตัวจากการตามล่า อยู่ที่บ้านต่างจังหวัดของคำเที่ยง คำเที่ยงจึงให้ยศวีร์เปลี่ยนชื่อเป็น ดล สวมรอยลูกชายของตนที่เสียชีวิตไป โดยดลเติบโตมากับ อนงค์ ลูกสาวของคำเที่ยงที่เขารักเหมือนน้องสาวจริงๆความผูกพันนั้นจะงอกงามเป็นความรักในเวลาต่อมาอย่างไม่รู้ตัว ศิวัชกลับเมืองไทยและเข้าสู่แวดวงการเมืองศิวัชชนะการเลือกตั้งขึ้นเป็นผู้บริหารประเทศโดยการสนับสนุนของธำรง ผู้เป็นบิดา ระบิล อดีตตำรวจคอมมานโด ธำรงเห็นฝีมือจึงจ้างมาเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวของเนติมาเพราะกลัวโดนพวกของพงษ์เลิศและอิทธิหาญทำร้าย
 
ถ้ารู้ว่าเนติมาคือลูกสาวของวิเชียรที่รอดชีวิตกลับมา เนติมาตั้งใจไว้อย่างมุ่งมั่นกลับมาทวงความยุติธรรมคืนให้กับครอบครัว ก่อนจะเข้าสู่ประตูวิวาห์กับศิวัชคนรักของเธอระบิลเป็นคนร่าเริง เนติมาไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าระบิลจะเก่งจริงอย่างที่ธำรงบอกไว้รึเปล่าจนวันหนึ่งระบิลได้ช่วยชีวิตเนติมาไว้ได้ ชลกร สาวสวยที่ใช้ตัวเข้าแลกเพื่อจุดหมายแห่งความสำเร็จของเธอได้ตักตวงจากตำแหน่งทางการเมืองที่เธอดำรงอยู่ แต่ธำรงก็ฉลาดพอที่จะไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดของชลกร เพราะรู้ว่าชลกรทำงานให้กับพงษ์เลิศ แต่ความรักของศิวัชกับเนติมาชวนให้คนรอบข้างแอบอิจฉาเสมอ โดยเฉพาะระบิล เขาไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังถลำเข้าแทรกกลางระหว่างหัวใจสองดวงนั้นอย่างไม่รู้ตัว เนติมาและระบิลเข้าไปอยู่ในบ้านสงวนลักษณ์ของ กันต์ อดีตอัยการที่เป็นเพื่อนบ้านของเนติมา พงษ์เลิศรู้มาว่ากันต์กับวิเชียรพ่อของเนติมาเคยมีแผนจะใช้กฏหมายจัดการกับตน พงษ์เลิศกับอิทธิหาญส่งลูกน้องเข้ามาขู่พร้อมกับพยายามจะข่มขืน ขวัญชนก ลูกสาวของกันต์ แต่ เจือจันทร์ ขอร้องและต้องเสียสละ จึงถูกแก๊งค์ของทนงข่มขืน ! เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ขวัญชนกเสียสติไม่กล้าพบหน้าผู้คน เนติมาต้องการจะชดเชยทุกสิ่งที่ครอบครัวสงวนลักษณ์ได้รับ ทำให้ศิวัชเป็นห่วงเนติมาจนศิวัชไม่อาจฝืนใจได้ ศิวัชได้แต่ฝากฝังเนติมาให้ระบิลดูแลเป็นอย่างดีที่สุด
 
เช้าวันหนึ่งบ้านครอบครัวสงวนลักษณ์ดูสะอาดตาขึ้นเพราะระบิลกำลังตัดแต่งต้นไม้ ระบิลยิ้มให้กับทุกคนพร้อมบอกว่า สภาพบ้านที่เป็นอยู่มีส่วนทำให้คนหม่นหมอง เขาจะช่วยกลับทำให้บ้านนี้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ระบิลเข้าครัวทำอาหาร จนกระทั่งสมาชิกในครอบครัวของกันต์เริ่มค่อยๆผ่อนคลาย ขวัญชนก ที่ไม่เคยกล้าสู้หน้าผู้ชายคนไหนนอกจากพ่อของตัวเองเริ่มไว้ใจระบิลจนทุกคนในบ้านแทบไม่เชื่อสายตา ระบิลบอกว่าแค่คนรอบข้างมีรอยยิ้ม เขาก็มีความสุขแล้ว เนติมายังบอกอีกว่าเขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว ทำงานบ้านเหมือนระบิลเลย ระบิลยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนบอกเนติมาว่า “ผมว่าผู้ชายทุกคนน่าหัดไว้นะ อย่างน้อยก็ทำให้คนที่ตัวเองรักไงเจ้านาย” คำพูดของระบิลทำเอาเนติมาอึ้งเพราะศิวัชไม่เคยทำอะไรอย่างที่ระบิลว่าเป็นสักอย่างเดียว เนติมาได้ ผู้กำกับวิเชษฐ์ ตำรวจตงฉินที่มาร่วมทำงานผู้กำกับวิเชษฐ์เข้ามาช่วยดูแลป้องกันบ้านสงวนลักษณ์ไม่ให้ใครมารังแก ทำให้เนติมาทำงานนอกบ้านได้คล่องตัวขึ้นดลกับอนงค์เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ทั้งสองคนช่วยกันทำงานหารายได้พิเศษเป็นทุนการศึกษา ดลดูแลอนงค์เป็นอย่างดีและอนงค์ก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่มีดลอยู่ข้างกาย ดลทราบข่าวการกลับมาของเนติมาพี่สาวแท้ๆ เขาพยายามหลายครั้งที่จะเข้าพบเนติมาแต่มีเหตุให้ต้องพลาดไปทุกครั้ง เนติมากับศิวัชเหินห่างกันมากขึ้น เพราะ ปฏิพร หลานสาวของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ธำรงเคารพ ซึ่งธำรงแนะนำให้รู้จักกับศิวัชรวมถึงชักนำเข้ามาทำงานด้วย ปฏิพรนั้นแอบชอบศิวัชตั้งแต่แรกพบ โดยที่ศิวัชเองก็ขัดพ่อของตนไม่ได้ เนติมาเห็นศิวัชสนิทสนมกับปฏิพรมากขึ้น ก็อดรู้สึกน้อยใจขึ้นมาไม่ได้ แต่ความเศร้าของเนติมาก็ไม่สามารถซ่อนพ้นสายตาของระบิลได ระบิลทำทุกอย่างที่ทำให้เนติมาหายเศร้า แม้กระทั่งยอมเล่นตลกยิงมุขที่ดูเหมือนไร้สาระก็ตาม “เจ้านาย เจ็บกายผมช่วยได้ แต่เจ็บที่ใจ ตัวใครตัวมันนะเจ้านาย ฮ่าๆ”
 
จนเนติมาสงสัยว่าระบิลไม่มีความเศร้าในชีวิตเลยรึไง ศิวัชเองเห็นเนติมากับระบิลสนิทสนมกันมากขึ้นก็รู้สึกกังวลว่าระบิลจะมาแย่งคนที่เขารักไป ศิวัชทะเลาะกับเนติมาในเรื่องนี้จนระบิลต้องเดินเข้ามายืนยันอย่างลูกผู้ชาย ว่าตนจะไม่มีวันรักกับเจ้านายได้ เนติมาสังเกตว่าระบิลซึมลงไป เนติมาแอบย่องไปในห้องหนังสือที่ระบิลใช้เป็นที่หลับนอนและได้พบสมุดบันทึกของระบิล เนติมาเปิดอ่านจึงรู้ประวัติ อดีตรักของระบิลเป็นตำรวจหญิงทำงาน อดีตคนรักของระบิลยอมเป็นตัวประกันแทนเด็กน้อย ระบิลพยายามเข้าช่วยแต่เขาช่วยได้เพียงเด็กแต่คนรักของเขากลับถูกคนร้ายยิงตายต่อหน้าต่อตา ระบิลฝังใจว่าเป็นเพราะตน จึงทำให้คนรักต้องเสียชีวิต ระบิลรีบดึงเอาสมุดบันทึกของตนคืนมาทันที พลางแก้เก้อว่าเป็นนิยายเขียนเล่น ศิวัช เนติมา ธำรง ต้องการทำลายล้างแหล่งฟอกเงินใหญ่ของพงษ์เลิศและอิทธิหาญ เนติมากับระบิลสะกดรอยตาม ทั้งสองคนโดนไล่ล่าจนหลงเข้ามาในตลาดที่ดลทำงานอยู่ ดลช่วยพี่สาวให้รอดพ้นเงื้อมมือของพวกอิทธิหาญ เนติมากับยศวีร์หรือในวันนี้คือดล ระบิลออกความเห็นว่าในเวลานี้เนติมายังไม่ควรรับน้องชายไปอยู่ด้วยกันจะเป็นอันตรายต่อตัวดล ระบิลบาดเจ็บที่แผ่นหลัง เนติมาทำแผลให้ระบิลทำให้สองคนได้ใกล้ชิดกัน ในวันสอบวันสุดท้ายอนงค์กับเพื่อนๆออกไปทานข้าวฉลองกัน อิทธิหาญใส่ “ยาเสียสาว” ก่อนพาไปขืนใจและถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์ อนงค์พยายามตีตัวออกห่างดล ดลมาทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับอนงค์ยิ่งทำให้ดลโกรธมาก ดลตั้งสติได้กลับไปให้กำลังใจอนงค์ให้ลุกขึ้นมาสู้กับชีวิตอีกครั้ง โดยดลจะยืนเคียงข้างอนงค์ตลอดไป
 
เหตุการณ์ที่เกิดเริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน พวกของพงษ์เลิศและอิทธิหาญที่สูญเสียผลประโยชน์และกำลังจะถูกศิวัช รวมทั้งเนติมา ต้องมาจัดการกับเธอแน่ ระบิลจะฝึกอาวุธให้เนติมา ศิวัชเห็นระบิลสอนอาวุธให้ เนติมา ศิวัชยิ่งแน่ใจในสายตาและการสัมผัสกันอย่างถึงเนื้อต้องตัวระหว่างระบิลกับเนติมา มีมากเกินกว่าเจ้านายกับลูกน้องแน่ๆ ศิวัชทนตัดสินใจกลับไปเดทกับปฏิพร ตามคำสั่งของธำรงผู้เป็นพ่อ ศิวัชถือโอกาสถามเนติมาตรงๆ ถึงเรื่องความรู้สึกที่มีต่อระบิล เนติมาพูดปฏิเสธอย่างไม่เต็มปากนัก ทั้งสองคนเริ่มจะมีปากเสียงกันอีก เนติมาต่อว่าศิวัชที่เอาแต่ทำงานจนกระทั่งลืมว่า วันนี้เป็นวันเกิดของตน ระบิลถือเค้กวันเกิดออกมาเพื่อต้องการเซอร์ไพรส์เนติมา ศิวัชตัดสินใจขอเนติมาแต่งงานตรงนั้นเลย ทำให้ระบิลใจหายวาบ ก่อนจะฝืนใจยิ้มออกมาพร้อมอวยพรให้กับทั้งคู่มีความสุข ขวัญชนกเข้ามาถาม ระบิลได้แต่ยิ้มแล้วให้กำลังใจขวัญชนกให้เข้มแข็ง “โลกนี้ ไม่มีที่ว่างสำหรับคนอ่อนแอนะน้องสาว” สำหรับขวัญชนกนั้นความรู้สึกของระบิลมีให้ได้แค่น้องสาวเท่านั้น ขวัญชนกมีอยู่ ผู้กำกับวิเชษฐ์ก็เข้ามาดูแล ในหัวใจของเธออย่างช้าๆ ระบิลมาลาออกจากการเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเนติมา แต่เนติมามาพบสมุดบันทึกของระบิลที่ลืมไว้ในห้องหนังสือ แต่สิ่งที่ทำให้เนติมาตกใจคือข้อความที่ระบิลเผยความในใจว่า เขาได้ถลำล่วงเข้าไปในหัวใจของเนติมาด้วยความรักเสียแล้ว ถ้าเขายังอยู่ที่นี่ต่อไป เขาจะต้องกลายเป็นผู้ทรยศกับผู้มีพระคุณเสียเอง เนติมาพยายามออกตามหาระบิลร่วมกับดล แต่หายังไงก็ไม่พบ ศิวัชจัดการ์ดชุดใหม่มาดูแลความปลอดภัยให้เนติมา พร้อมถามเรื่องแต่งงานกับเนติมาอีกครั้งเนติมาพูดบ่ายเบี่ยง แต่ในหัวใจลึกๆแล้วตอนนี้ระบิลคือภาพที่ชัดเจนที่สุดพงษ์เลิศกับอิทธิหาญ ฉวยโอกาสที่ระบิลไม่ได้เป็นการ์ดให้กับเนติมาส่งลูกน้องออกไปเพื่อสังหารเนติมา
 
การ์ดชุดใหม่ของเนติมาถูกสังหารระบิลช่วยเนิตมาไว้ ระบิลพาเนติมามาซ่อนตัวอยู่ในบ้านสวนของระบิลที่เขาเกิดและโตมาที่บ้านสวนแห่งนี้ระบิลดูแลเนติมาที่ไม่สบายด้วยความรัก ถึงแม้ระบิลจะลาออกจากความเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอแล้ว แต่ระบิลยังคงตามดูแลเธออยู่ไม่ห่างเนติมาโผเข้ากอดระบิลแน่นด้วยความรักที่งอกงามออกมาจากหัวใจ ธำรงขอร้องให้ระบิลกลับไปเป็นการ์ดส่วนตัวของเนติมาเหมือนเดิม ธำรงรู้ถึงความรู้สึกที่เนติมากับระบิลมีใจให้กันธำรงต้องการให้ระบิลดึงเนติมาออกห่างจากตัวศิวัชลูกชายของตน เพราะธำรงมีแผนจะให้ศิวัชแต่งงานกับปฎิพร ศิวัช เนติมา รวบรวมหลักฐานทุกอย่างโดยมีดลเข้าไปช่วยพี่สาว อิทธิหาญจับตัวดลไว้เป็นตัวประกัน
 
ขณะที่เนติมาเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อจนสามารถพบตัวดล ระบิลเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกป้องเนติมาจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนเขาจะปลิดชีพอิทธิหาญลงได้ ขณะที่พงษ์เลิศและชลกรถูกจับ ดลได้กลับมาเป็นน้องชายของพี่สาวอย่างเนติมาสมกับที่รอคอยมานาน ครอบครัวสงวนลักษณ์ของขวัญชนกกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ธำรงให้ศิวัชแต่งงานกับปฏิพร ศิวัชไม่กล้าขัดคำสั่งพ่อยอมตกปากรับคำทั้งที่ไม่เต็มใจ ศิวัชไม่อาจฝืนความรู้สึกของตัวเองได้ เขายอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อที่จะทวงหัวใจของเนติมาคืนมา ศิวัชขอเนติมากับระบิลอย่างลูกผู้ชาย ระบิลยอมถอยออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้ศิวัช เขาพร้อมจะทิ้งทุกอย่างและเดินทางไปใช้ชีวิตคู่อย่างสงบยังต่างประเทศ แต่ศิวัชสังเกตแววตาของเนติมาที่ไม่เหมือนเดิมแล้วและบอกกับเธอว่า “พี่จะไม่บังคับหัวใจเนติ์ ทุกอย่างที่เนติ์ตัดสินใจ คือเข็มทิศที่จะชี้เส้นทางเดินของเราสองคน” เข็มทิศของหัวใจ ทำให้เนติมาตัดสินใจปล่อยตั๋วเดินทางลงไปกับสายน้ำ ศิวัชซึ่งรู้คำตอบด้วยหัวใจตัวเองตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องแล้วเดินทางไปใช้ชีวิตเงียบๆอยู่ต่างประเทศ ยอมรับถึงพลังรักของทั้งคู่เนติมาพยายามหาตัวระบิลในทุกหนทุกแห่งแต่ไม่พบ ทำให้เนติมารู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก เนติมาส่งดลหรือยศวีร์ และอนงค์ไปเรียนต่อต่างประเทศ เธอชื่นชมความรักบริสุทธิ์ใจ แต่หัวใจเนติมาเองกลับซ่อนความบอบช้ำ เพราะไม่เข้าใจว่าระบิลหนีหน้าเธอทำไม
 
ที่บ้านสวนของระบิล…ระบิลกลับมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เขาคืนชีพชีวิตบ้านสวนให้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ถึงแม้ในใจของเขายังเต็มไปด้วยความเศร้า เพราะคิดว่าเนติมาบินตามไปใช้ชีวิตร่วมกับศิวัชที่ต่างประเทศแล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะเช้าวันหนึ่งเขาสะดุ้งตื่นเพราะได้กลิ่นหอมของไข่เจียว ระบิลรีบลงมาจากบ้านต้องตะลึงกับภาพข้าวไข่เจียวที่วางรอไว้ และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นเนติมายืนยิ้มพร้อมสมุดบันทึกของระบิลถืออยู่ในมือ“ขอฉันดูแลนายบ้างได้มั๊ย” เนติมาพูดจากหัวใจ ก่อนยื่นสมุดบันทึกของระบิลให้ระบิลดู ระบิลค่อยๆเปิดดูบันทึกล่าสุดที่เขาเขียนระบายความในใจที่เขา“รัก”เนติมาไว้ แต่ท้ายของประโยคนั้น กลับมีข้อความที่เป็นลายมือของเนติมา เขียนเพิ่มมาว่า “ฉันก็รักนายนะระบิล” ไม่ต้องมีคำอธิบายอะไรมากกว่านี้ ระบิลกับเนติมาโผเข้ากอดกันด้วยความรัก กำแพงทุกอย่างพังทลายด้วยพลังรักของคนสองคนระบิลกับเนติมาแต่งงานกันอย่างเรียบง่าย ใช้ชีวิตในบ้านสวนของระบิลอย่างมีความสุข ทั้งสองคนเขียนข้อความในสมุดบันทึกถึงกันทุกวัน “ขอบคุณนะเจ้านาย ที่อนุญาตให้ผมปกป้องเจ้านายทั้งตัว..ทั้งหัวใจ”
 
รายชื่อนักแสดงละครเรื่อง ” หงส์สะบัดลาย
1 ณัฐวุฒิ สกิดใจ แสดงเป็น ระบิล
2 เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ แสดงเป็น เนติมา
3 พศุตม์ บานแย้ม แสดงเป็น ศิวัช
4 อเล็กซ์ เรนเดลล์ แสดงเป็น ยศวีร์
5 กฤติกา ซิงห์ แสดงเป็น อนงค์
6 มรกต หทัยวสีวงศ์ แสดงเป็น ขวัญชนก
7 อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล แสดงเป็น ผู้กำกับวิเชษฐ์
8 นิรุตติ์ ศิริจรรยา แสดงเป็น ธำรง
9 สันติสุข พรหมศิริ แสดงเป็น พงษ์เลิศ
10 วริษฐ์ ทิพโกมุท แสดงเป็น อิทธิหาญ
11 เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ แสดงเป็น ชลกร
12 ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี แสดงเป็น กันต์
13 สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ แสดงเป็น เจือจันทร์
14 ทนงศักดิ์ ศุภการ แสดงเป็น คำเที่ยง
15 อนุสรณ์ เดชะปัญญา แสดงเป็น นายพลทวี
16 กรกฏ ธนภัทร แสดงเป็น ปาน
17 เพชรดา เทียมเพ็ชร แสดงเป็น เอมมิกา
ในเรื่อง หงส์สะบัดลาย