Category Archives: ละครปี 2543

โสนบานเช้า คัดเค้าบานเย็น

หญิงสาวสองคน ที่เติบโตภายในรั้วบ้านเดียวกัน แต่นิสัยต่างกันอย่างสุดขั้ว
คู่แค้นคู่อาฆาตที่ สุดท้ายโชคชะตาพัดพาให้ต้องหันมาเผชิญหน้ากันอย่างเลี่ยงไม่ได้

นักแสดงละคร โสนบานเช้า คัดเค้าบานเย็น

สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์
รชนีกร พันธุ์มณี
เอกรัตน์ สารสุข
ศุภวัตน์ อ่ำประสิทธิ์
เมทนี บุรณะศิริ
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ
ศุภวัฒน์  อำประเสริฐ
เมทนี  บุรณศิริ
ดนัย  จิรา
พิจิตตรา  สิริเวชชะพันธ์
เกริก  ชิลเลอร์
เนาวรัตน์  ยุกตะนันท์
ภัสสร  บุญยเกียรติ

มณีหยาดฟ้า

มณีหยาดฟ้ามณีหยาดฟ้า เริ่มเรื่องขึ้นบนเกาะร้างแห่งหนึ่ง นาวาโทชาญชล พิริยะผล นาวิกโยธินหนุ่ม ตั้งใจจะใช้เวลาพักผ่อนที่นี่แต่เขาต้องพบกับเหตุการณ์ระทึกใจ เมื่อพบหญิงสาวถูกไล่ยิง และกำลังหนีอย่างกระเสือกกระสน ชาญชลช่วยชีวิตเธอไว้และมารู้ทีหลังว่าผู้หญิงคนนี้คือเจ้าหญิงอรียา รัชทายาทแห่งเมืองบุระมณีฟ้า ซึ่งถูกลักพาตัวระหว่างเสด็จเยี่ยมฐานทัพเรือไทย แม้จะอยู่บนเกาะร้าง อรียายังคงความเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ จนทำให้ชาญชลกลายเป็นเสมือนมหาดเล็กคอยรับใช้องค์หญิง 3 วันผ่านไป ชาญชลเข้าพบพลเรือโทคึกฤทธิ์ ผู้บังคับบัญชา เพื่อรายงานเรื่องเจ้าหญิง พลเรือโทคึกฤทธิ์ไม่ต้องการส่งตัวองค์หญิงกลับทันที เพราะกลัวว่าฝ่ายกบฏจะลอบสังหารองค์หญิงอีกครั้ง หรือไม่ก็อาจเกิดเหตุร้ายขึ้นกับกษัตริย์แห่งบุระมณีฟ้า ซึ่งยังคงประชวนอยู่ ที่ประชุมลงความเห็นว่าให้องค์หญิงปลอมตัวเป็นหญิงสามัญชนชาวไทย โดยให้แต่งงานกับนายทหารเรือเพื่อสามารถนำตัวอรียาเข้าไปพำนักในฐานทัพเรือ ได้โดยปราศจากข้อสงสัย ชาญชลจึงตกกระไดพลอยโจนแต่งงานกับเจ้าหญิงอรียา อรียาเองก็ไม่กล้าปริปากบอกว่าตามกฎมณเฑียรบาลของบุระมณีฟ้านั้น เชื้อพระวงศ์จะอภิเษกสมรสได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต และจะหย่าร้างไม่ได้ตราบจนตายจากกันซึ่งแท้จริงอรียาก็แอบดีใจอยู่เงียบ ๆ ที่ได้แต่งงานกับชายที่พระองค์แอบรักและชื่นชม

หลังพิธีอภิเษก ชาญชลฝึกให้อรียาเป็นสามัญชน เธอกลายเป็นดาวเด่นในบรรดาแม่บ้านทหารเรือที่ทุกคนจะแวะเวียนมาสังสรรค์ด้วย แต่อรียาก็ยังหลุดความเป็นเจ้าหญิงออกไปให้เป็นที่สงสัยของเพื่อนฝูงอยู่ เสมอกำหนดกลับบุระมณีฟ้ามาถึง คึกฤทธิ์สั่งใช้ชาญชลพาอารียาบินกลับไปสู่บุระมณีฟ้า โดยวางแผนให้ทั้งสองทำเป็นทะเลาะกันในโรงแรมที่พัก เมื่อไปถึง บุระมณีฟ้า และให้อรียาวิ่งหนีออกมาเพื่อแสดงตนให้คนจากราชสำนักเห็น แผนการณ์บรรลุผล อรียากลับเป็นเจ้าหญิงอีกครั้ง ชาญชลกลับเมืองไทยอย่างเศร้าสร้อย แต่ระหว่างทางเขากลับถูกคนกลุ่มหนึ่งลักพาตัวไปปราสาทกลางป่า และพบกับกษัตริย์ของบุระมณีฟ้าซึ่งเป็นคนวางแผนทั้งหมด รวมทั้งการแต่งงานระหว่างชาญชลกับอรียา เพราะพระองค์ทรงทราบว่ากำลังมีผู้คิดก่อกบฎล้มราชบังลังก์ จึงทรงแสร้งทำเป็นประชวรเพื่อล่อให้คนร้ายออกมาปฏิบัติการและเชิญชาญชลกลับ ไปอารักขาเจ้าหญิง ชาญชลปฏิเสธแต่กษัตรย์แห่งบุระมณีฟ้าอ้าง คำสั่งของกองทัพเรือไทย ให้ชาญชลรับหน้าที่นี้ แต่ระหว่างทางเขากลับถูกคนกลุ่มหนึ่งลักพาตัวไปปราสาทกลางป่า และพบกับกษัตริย์ของบุระมณีฟ้าซึ่งเป็นคนวางแผนทั้งหมด รวมทั้งการแต่งงานระหว่างชาญชลกับอรียา เพราะพระองค์ทรงทราบว่ากำลังมีผู้คิดก่อกบฎล้มราชบังลังก์ จึงทรงแสร้งทำเป็นประชวรเพื่อล่อให้คนร้ายออกมาปฏิบัติการและเชิญชาญชลกลับ ไปอารักขาเจ้าหญิง ชาญชลปฏิเสธแต่กษัตริย์แห่งบุระมณีฟ้าอ้าง
คำสั่งของกองทัพเรือไทย ให้ชาญชลรับหน้าที่นี้

ผู้กำกับ : อดุลย์ บุญบุตร
ผลิตโดย : ค่ายโนพร็อบเบล็ม
เขียนบท : ละลิตา ฉันทศาสตร์โกศล
บทประพันธ์ : นิดา

นักแสดง

วิลลี่ แมคอินทอช
แอน ทองประสม

เจ้าสัวน้อย 2543

เจ้าสัวน้อย เป็นเรื่องราวของเด็กสาว คือ น้อย ที่ต้องทำตัวเป็นผู้ชาย เพราะเกิดมาในครอบครัวคนจีน ที่ปู่ต้องการ
กิมซัว และ เก้าเป็นเพื่อนรักกัน มาจากเมืองจีน มาทำหากินในประเทศไทย กิมซัวทำธุรกิจค้าไม้ ส่วนเก้าค้าเหล็กเส้น ทั้งคู่ร่ำรวยขึ้นมาพร้อมๆ กัน เก้ามีลูกชายชื่อจำลอง ส่วนกิมซัว มีลูกชายคนเดียวเช่นกันชื่อสนิท จำลอง แต่งงานกับสาวลูกคนจีนด้วยกัน มีลูก 2 คน คนโตเป็นชายชื่อเสรี คนเล็กเป็นหญิงชื่อ ชฎาทิพ กิมซัวหมายมั่นปั้นมือจะให้สนิท แต่งงานกับ "ลั้ง" หรือ เพลินจันทร์ ลูกสาวของเพื่อนชาวจีนในแวดวงธุรกิจ แต่แล้ววันหนึ่งสนิทก็พามรกต ภรรยาสาวชาวไทยแท้ๆ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ มาพบกับกิมซัวและบอกว่าเขาต้องแต่งงานกับเธอ กิมซัวผิดหวังมาก เพราะฝังใจกับธรรมเนียมจีนโบราณที่คนจีน ต้องแต่งงานกับคนจีนด้วยกัน และต้องมีลูกชายหรือหลานชาย เพื่อสืบสกุล สนิทอ้อนวอนจนกิมซัวยอมให้มรกตอยู่ที่บ้านได้ โดย มีเงื่อน ไขว่าถ้ามรกตคลอดลูกเป็นหญิง มรกตต้องออกจากบ้านทันที แล้วสนิทจะต้องแต่งงานกับเพลินจันทร์ด้วย สนิทยอมรับปาก อย่างจำยอม เขารักมรกตมาก ทั้งรักและสงสารจนไม่อาจจะทิ้งเธอไปได้ สนิทกับมรกตยอมให้เพศของลูกเป็นเครื่องกำหนด โชคชะตา ข่าวนี้รู้ไปถึงเก้า เพื่อนสนิทกิมซัว เก้าเป็นคนสมัยใหม่ปรับตัวและยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ดี เขาพยายามพูด เพื่อให้กิมซัว เปลี่ยนใจ ยอมรับมรกตเป็นสะใภ้โดยไม่มีข้อแม้ แต่กิมซัวไม่ยอม ยังคงยึดมั่นถือมั่นอยู่ในเรื่องต้องการหลานชายเพื่อสืบสกุล
 
จนคืนหนึ่งมรกตเจ็บท้อง สนิทพามรกตไปโรงพยาบาล โดยมีนมคิ้ม แม่นมซึ่งเคยเลี้ยงสนิทมาตั้งแต่เด็ก แต่วันนี้กิมซัวให้คิ้ม มีหน้าที่ดูแลมรกตกับลูกแทน ด้วยความสงบเสงี่ยมอ่อนหวาน น่ารักของมรกต ทำให้คิ้มรักมรกตไม่ต่างจากที่รัก เจ้าสัวสนิท ซึ่งเคย เลี้ยงมาราวกับลูก กิมซัวจะไปโรงพยาบาลด้วย แต่สนิทไม่ยอม แต่เมื่อกิมซัวโทรมาถามสนิท แล้วสนิทส่งโทรศัพท์ให้คิ้ม ตอบกิมซัว เอง คิ้มกลับไม่พูดความจริง ด้วยความรักและ สงสารที่มีต่อสนิทกับมรกต นางตอบกิมซัวสั้นๆ ว่า กิมซัวได้ "เจ้าสัวน้อย" ซึ่งโดย ทั่วไป "เจ้าสัว"จะเป็นคำเรียกสำหรับลูกชายเท่านั้น วันที่สนิทพาลูกกลับบ้าน เขาแต่งตัวให้เด็กน้อยด้วยเสื้อผ้าเด็กชาย ที่บ้านกิมซัว เห่อหลานขนาดหนัก อุ้มไม่ยอมวาง กิมซัวทำเอาทุกคนใจหายเมื่อขอดู "เจ้าหนูน้อย" เขาพยายามถอดผ้าอ้อมออก แต่เด็กก็ร้องขึ้นมา คิ้มได้โอกาสจึงรับมาอุ้มไว้เอง นับจากวันนี้ สนิท มรกต และนมคิ้มจะระวัง "เจ้าสัวน้อย" มาก เพื่อไม่ให้ความลับถูกเปิดเผย เมื่อน้อย หรือพิมพ์ชนกโตขึ้น เธอเรียนในโรงเรียนที่เมืองไทยไม่นาน ก่อนถูกส่งตัวไปเรียนต่อที่ฮ่องกง จากนั้นก็ถูกส่งไปเรียนต่อที่อังกฤษ น้อยจึงพูด-อ่าน-เขียน ได้ดีทั้ง ไทย-จีน-อังกฤษ มรกตบอกความจริงกับเธอเมื่อเธอรู้ความและพอเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้น เมื่อยู่ต่างประเทศน้อยจึงมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างหญิงสาวธรรมดาได้เต็มที่ แต่ทุกครั้งที่เธอกลับเมืองไทย
 
เธอจะต้องแต่งตัวและประพฤติ ตัวอย่างผู้ชายทุกครั้งเช่นกัน มรกตสงสารลูกมาก เธอกลัวว่าลูกสาวจะสับสนทางเพศ แต่น้อยก็ทำได้ดีทุกครั้ง เวลาผ่านไปจนน้อยอายุ 17 ปี ก๋งกิมซัวตัดสินใจเรียกตัวเธอกลับจากอังกฤษ แม้เธอจะเรียนไม่จบอะไรสักอย่าง แต่กิมซัวพอใจที่จะให้หลานชายสุดที่รักทายาทคนเดียวของตระกูลกลับมาบริหาร งาน มาฝึกมาหาประสบการณ์จากของจริงดีกว่า ที่สำคัญ กิมซัวรักน้อยมากจนไม่อยากให้ห่างไปไกลๆ อีก ในวันที่น้อยเดินทางถึงกรุงเทพฯ เธอแต่งตัวเป็นชาย ท่าทางและหน้าตาของเธอดู เป็นเด็กหนุ่มที่มีหน้าหวานและน่ารัก สาวๆ หลายคนเหลียวมองน้อยอย่างพอใจ ทำให้น้อยมีความมั่นใจมากขึ้น แต่แล้วขณะที่น้อยกำลังจะเข้าห้องน้ำ เธอลังเลเล็กน้อยระหว่างห้องน้ำหญิงกับชาย น้อยตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำผู้ชาย เธอไม่กล้าเสี่ยงหากมีใครในครอบครัวมาพบเธอเดินเข้าห้องน้ำหญิง ก่อนที่น้อยจะเข้าประตู ผู้ชายคนหนึ่ง หล่อ สมาร์ท เข้ม ก็บอกเธอยิ้มๆ ว่าห้องน้ำหญิงอยู่อีกฝั่งน้อยหมดความมั่นใจทันที แต่ก็ยังทำขึงขังว่าเธอเป็นชาย เขามองเธออย่างไม่แน่ใจก่อนจะยอมเปิดประตูแล้วให้เธอเข้าไป น้อยกลับไม่ยอมเข้าห้องน้ำเธอผละจากมาทันที อารมณ์รีบร้อนน้อยลื่นล้มลงกับพื้น เจ้ากรรม… ชายรูปหล่อ กลับมาช่วยฉุดเธอลุกขึ้น น้อยทั้งอาย ทั้งโกรธ รีบเดินจ้ำไปหาพ่อ-แม่ เมื่อถึงบ้านกิมซัวดีใจมาก สั่งให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ "เจ้าสัวน้อย" ซึ่งแน่นอนว่าคงมีครอบครัวของก๋งเก้าเพื่อนสนิท โดยมีเสี่ยจำลอง เสรี กับ ชฎาทิพย์ และอีกครอบครัวหนึ่งคือ เพลินจันทร์ ที่ผิดหวังจากสนิท เพลินจันทร์ตัดสินใจแต่งงานกับข้าราชการคนไทย การศึกษาดี จบปริญญาโท ด้วยอารมณ์ประชดสนิท เธอมีลูก 2 คน คนโตเป็นชายชื่อ วรชิต อายุ 16 ปี คนเล็กเป็นหญิงชื่อ มาลาตี อายุประมาณ 15 ปี ส่วนสามีของเธอกลับทำตัวเหลวไหล กินเหล้าและผลาญสมบัติ เพลินจันทร์จบเกือบหมดก่อนจะตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เพลินจันทร์รู้สึกแย่มาก ที่ตัดสินใจแต่งงานเพราะอารมณ์ ซ้ำลูกชายและลูกสาวนิสัยเหมือนพ่อทั้งคู่ เหลาะแหละ ไม่ชอบเรียนหนังสือ ชอบเที่ยว ฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินเกินตัว ยิ่งเพลินจันทร์เห็นครอบครัวของสนิทและมรกตอยู่กันอย่างมีความสุข รักใคร่กลมเกลียว แถมยังร่ำรวย เธอก็ยิ่งอิจฉาและหมั่นไส้เกลียดชังมรกตกับเจ้าสัวน้อยมากขึ้น เพลินจันทร์คิดแบบเข้าข้างตัวเองว่า ถ้าไม่มีมรกตเธอก็คงแต่งงานกับสนิท ชีวิตเธอคงไม่ลำบากอย่างนี้ ความคิดนี้ครอบงำไปถึงวรชิตและมาลาตีด้วย
 
วรชิต เกลียดและอิจฉาเจ้าสัวน้อยมาก ขณะที่มาลาตีเองกลับมุ่งจะจับชายหนุ่มรวยๆ เพื่อแต่งงานแล้วยกสภาพตัวเองให้ดีขึ้นกว่า ปัจจุบัน ในคืนวันจัดงานต้อนรับเจ้าสัวน้อย ชฎาทิพย์กับดิศนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อ ตระกูลดีไปด้วย ชฎาทิพย์บอกพ่อกับ แม่ว่าดิศเป็น แฟนเธอ เมื่อไปถึงงานที่บ้านกิมซัว เจ้าของบ้านรอต้อนรับอยู่แล้ว ทุกคนเมื่อชฎาทิพย์แนะนำดิศ เจ้าสัวน้อยแทบช็อค เมื่อพบว่าดิศ คือ ชายหนุ่มที่เธอพบที่สนามบินนั่นเองน้อยยิ่งเกร็งและระวังตัวมากขึ้น ซึ่งก็ทำ ให้ดิศผิดสังเกตมากขึ้นเช่นกัน ส่วนมาลาตีใน ตอนแรกมุ่งจะจับเจ้าสัวน้อย แต่เมื่อพบดิศ มาลาตีเปลี่ยนเป้าหมายทันที มาลาตีทำตัวสาวเกินวัย จริตจก้านแพรวพราย
 
ท่าทางของเธอบอกเจตนาชัด เจนดิศมองออกแต่ก็ทำเฉย มาลาตีไม่รู้สึกตัวยังคง "รุก" ต่อไป ถึงขั้นจะขอไปดูโครงการคอนโดมิเนียม หรูริมน้ำของเขา เธอคุยเรื่องว่าจะซื้อสักยูนิต ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าแพงแสนแพง และที่สำคัญคือครอบครัวเธอแทบจะ เหลือแต่เปลือก อยู่แล้ว แต่มาลาตีก็ต้องการเพียงโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับดิศเท่านั้น เธอมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองมาก โดยไม่ดูว่าตัวเองเป็นเพียงเด็กกะโปโลใน สายตาของดิศ เรื่องมายุ่งยากตรงที่ชฎาทิพย์หันมาเห็นมาลาตีกับ ดิศพอดี เธอรี่เข้ามาอย่างหวงแหนดิศ เมื่อเผชิญ หน้ากันแทนที่มาลาตีจะเกรงใจชฎาทิพย์ เธอกลับยั่วชฎาทิพย์ถึงขั้น ขอดิศจากชฎาทิพย์ ชฎาทิพย์เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว อดไม่ได้ ตบมาลาตีเต็มแรงมาลาตีกรี๊ดเรียกร้องความสนใจและความเห็นใจจากคนรอบข้าง ทันที แต่คนที่ไปถึงก่อนคือเจ้าสัวน้อย น้อยมอง ดิศอย่างตำหนิ และเมื่อเสรีแยกชฎาทิพย์ออกไป เพลินจันทร์ก็มาพามาลาตีกลับบ้าน โดยเพลินจันทร์ต้องยอมขอโทษ ชฎาทิพย์ แทนลูก
 
น้อยตำหนิดิศตรงๆ ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้หญิงทะเลาะกัน และดิศคือผู้ชายเจ้าชู้ ดิศงงที่ถูกต่อว่าโดยไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็ย้อนเจ้าสัวน้อยกลับไปเช่นกัน จนน้อยต้องอึ้งเพราะจนแต้ม น้อยเก็บความโกรธพร้อมทั้งอาฆาตดิศไว้ในใจ เมื่องานเลิกตกดึกน้อยแอบหลบออกจากบ้านไปเที่ยวคนเดียว ด้วยความอยากรู้อยากเห็นชีวิตกลางคืนของหนุ่ม-สาวกรุงเทพฯ ที่ผับแห่งหนึ่ง ขณะน้องนั่งดื่มคนเดียวในมาดของชายหนุ่ม ก็มี 3 สาววัยรุ่น 2 คนค่อนข้างเปรี้ยวและกล้าเกินตัว แก่นกล้าขนาดจีบน้อยก่อน ส่วนอีกคนหนึ่งดูเรียบร้อยและค่อนข้างขี้อาย เมื่อสองสาวเห็นท่าว่าน้อยไม่เล่นด้วย ก็เริ่มหาเหยื่อใหม่ พอดีมีอีก 3 หนุ่มเข้ามาในผับ ท่าทางของสองสาวนั้นคุ้นเคยกับหนุ่มผู้มาใหม่ดี มีแต่สาวอีกคนหนึ่งที่ดูเคอะเขินขี้อาย กับลำบากใจในอาการแทะโลมของหนุ่มๆ น้อยดูอย่างห่วงใย เมื่อกลุ่มหนุ่มสาวออกจากผับ น้อยตามออกมาห่างๆ จึงทันเห็นว่าสองสาวเปรี้ยวต่างแยกกันไปกับหนุ่มคนละคู่ส่วนสาวขี้อายคง ยื้อยุดกับหนุ่มอีกคน ท่าทางเธอไม่เต็มใจจะไปกับเขา น้อยจึงเข้าช่วย เกิดการต่อสู้กัน น้อยซึ่งเคยฝึกศิลปะการป้องกันตัว ทั้งมวย ยูโด คาราเต้มาแล้ว จึงจับชายคนนั้นบิดแขนแทบหัก ก่อนจะปล่อยตัวไปตามคำขอร้องอย่างเจ็บปวด
 
น้อยไปส่งเด็กสาวคนนั้น ที่บ้าน ระหว่างทางน้อยรู้ว่าเด็กสาวชื่อ ปนัดดา เธอหลบออกมาเที่ยวเพราะอยากเต้นรำฟังเพลงเท่านั้นไม่ ว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้กับเธอ น้อยอบรมไปมากมาย พอดีถึงบ้านปนัดดา จากลักษณะของบ้าน น้อยรู้ทันทีว่าปนัดดาต้องเป็นลูกเศรษฐีคนหนึ่ง ปนัดดาขอชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของน้อยไว้ เธอถือเศษกระดาษชิ้นเล็กอย่างหวงแหน เมื่อปนัดดาเข้าบ้านกพบมารดากับพี่ชายนั่งรออยู่ ปนัดดาเป็นลูกของคุณหญิงอมรา และเป็นน้องสาวคนเดียวของดิศ ปนัดดาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มารดาและพี่ชายฟังอย่างตื่นเต้น เธอพูดถึง พี่น้อย อย่างชื่นชมราวกับเทพบุตร ดิศเดาได้ทันทีว่าน้องสาวคงติดใจน้อยเข้าจริงๆ ส่วนน้อยเมื่อถึงบ้านก็แอบเข้าบ้านเช่นกัน แต่ทันทีที่เธอก้าวเข้าห้องรับแขก น้อยก็พบว่าทั้งกิมซัว สนิท มรกต และนมคิ้มต่างก็รอเธออยู่อย่างเป็นห่วง กิมซัวถึงขนาดบอกว่าจะตามเธอไปเที่ยวเธค เที่ยวผับด้วย น้อยตกใจมาก เธอหาวิธีพูดและแกล้งขู่ว่าจะกลับไปอังกฤษ จนกิมซัวให้ไปเที่ยวได้ตามลำพัง แต่ห้ามไปแท็กซี่อย่างคืนนี้อีก น้อยแอบดีใจที่จะได้ขับรถเอง
 
ส่วนปนัดดาเหงาและซึมทุกวัน เธอเฝ้าคิดถึงพี่น้อย วีรบุรุษในใจเธอตลอดเวลา คุณหญิงอมรากับดิศสงสาร ประกอบกับต้องการ เห็นหน้าหนุ่มคนนี้ ดิศจึงให้ปนัดดาโทรไปหาแล้วชวนมากินข้าวที่บ้าน โดยอ้างว่าเพื่อตอบแทนบุญคุณ เมื่อถึงวันนัด น้อยมาอย่าง ไม่ค่อยเต็มใจนัก ก๋งกิมซัวให้น้อยใช้รถคันหรูพร้อมคนขับมาส่งที่บ้านปนัดดา น้อยไม่รู้ตัวว่าเป็นที่สนใจของทุกคน เธอลงจาก รถอย่างมั่นใจมาดมั่น ในแบบของหนุ่มน้อยรูปงาม แต่เมื่อหันมา พบดิศที่มองอยู่ น้อยเกิดอาการประหม่าทันทีเธอตกใจที่รู้ว่าปนัดดาเป็นน้องสาวดิศ วันนั้นเหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี คุณหญิงอมราพอใจและยอมที่จะ ให้ปนัดดาคบหาน้อยต่อไป ส่วนน้อยตัด สินใจขอเริ่มงานทันที น้อยสนใจและทุ่มเทกับการทำงานมาก ขณะที่วรชิต และมาลาตี เหลวไหลไม่ยอมเรียนและไม่ยอมทำงาน
 
วันหนึ่งดิศกับครอบ ครัวของก๋งเก้ามาพบกิมซัว จังหวะพอดีที่เพลินจันทร์ก็มา เพลินจันทร์จึงขอร้องกิมซัวให้ช่วยฝากงานให้มาลาตี โดยขอทำงานกับดิศเท่านั้น กิมซัวก็ตามใจ ทำให้ดิศต้องยอมรับปากกิมซัวอย่างเกรงใจ ส่วนวรชิต กิมซัวให้ไปทำงานที่บริษัทของน้อย ดิศให้มาลาตีไปเป็นผู้ช่วยของวรรณ เลขาสาวที่ทำงานด้วยกันมานาน วรรณเป็นคนเก่งและคล่อง วรรณพยายามสอนงานมาลาตีตามคำสั่งของดิศ แต่มาลาตีไม่ค่อยยอมทำอะไร นอกจากผัดหน้าแป้งเติมปากแทบทุก 10 นาที และเข้าไปเสริฟกาแฟให้ดิศทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ ชฎาทิพย์รู้เรื่องนี้จนได้ เธอรีบมา หาดิศที่บริษัทและเข้าไป พบดิศขณะที่มาลาตีเสริฟกาแฟพลางออดอ้อน ชม้ายชายตาให้ดิศ ดิศแม้จะรำคาญมาลาตีแต่ก็ฝืนทน ทว่าเมื่อชฎาทิพย์เข้ามา เรื่องลุกลามใหญ่โตทั้งคู่ทะเลาะตบตีกันราวกับผู้หญิงชั้นต่ำ ดิศกับวรรณพยายามห้ามทั้งคู่ จึงไม่รู้ว่าน้อย มายืนดูอยู่นานแล้ว น้อยยิ่งตั้งข้อรังเกียจดิศมากยิ่งขึ้น ว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้ หว่านเสน่ห์และให้ความหวังกับผู้หญิงทั่วไป เมื่อชฎาทิพย์กับมาลาตีออกไปแล้ว น้อยก็เข้าพบดิศ พูดธุระเรื่องงาน สลับกับการพูดกึ่ง ตำหนิดิศเรื่องของชฎาทิพย์กับมาลาตี ดิศนึกโกรธเลยย้อนน้อยแรงๆ จนน้อยเองต้องหยุดพูด น้อยรู้ดี ว่าดิศคือลูกค้ารายแรกของตนจึงต้องพยายามระงับอารมณ์ และแยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน วันหนึ่งเสรีชวนน้อยกับดิศ ไปดื่มประสาชายหนุ่มน้อยไปอย่างจำใจ ปรากฎว่าน้อยไปถึงคลับคนแรก จึงเป็นเป้าให้สาวๆ ใจกล้าเข้ามาชวนคุย 3-4 คน น้อยพยายามเลี่ยงสุดความสามารถ แต่สาวกลุ่มนี้กลับนึกสนุกเข้าประชิด ตัวเจ๊าะแจ๊ะมากขึ้น น้อยตกใจแก้สถานการณ์ไม่ได้ จังหวะที่ดิศเข้ามาพอดีเขาดึงน้อยออกมาจากกลุ่มแล้วบอกว่าเสรีป่วยมาไม่ได้
 
ดิศจึงชวนน้อยไปดื่มที่ผับชั้นดีอีกแห่งหนึ่ง ด้วยความที่กลัวว่าดิศจะจับได้ว่าตนเป็นหญิง น้อยจึงสั่งเบียร์แทนน้ำอัดลม ทั้งที่เธอดื่มไม่ค่อยได้คอไม่แข็งเลย น้อยพยายามแอ๊คฝืนดื่มเบียร์จนเมาจริงๆ ดิศพยายามให้เธอดื่มน้ำเปล่า แต่น้อยไม่ยอมจึงปัดมือเขา น้ำจึงหกรดเสื้อเธอเปียก ดิศหาผ้ามาซับให้ จากการสัมผัสและรอยน้ำที่เปียกเสื้อจนเข้ารูป ดิศตกใจที่พบว่าน้อยเป็นผู้หญิง แถมน้อยเองก็มีปฏิกิริยาปกป้องอย่างผู้หญิงเช่นกัน ดิศทำเฉยน้อยทั้งเมาทั้งอายและง่วงจึงพร่ำพูดถึงเรื่อง ความสำคัญของเพศหญิง กับชายในสายตาคนจีนหัวโบราณอย่างกิมซัว แล้วพูดอะไรหลายอย่างจนดิศจับประเด็นได้ว่าน้อยต้องเป็นผู้หญิง
 
เขา พยายามบอกเสรี แต่เสรีไม่เชื่อ ส่วนปนัดดามาขอร้องให้ดิศช่วยซื้อสินค้าของน้อยด้วยความรู้สึกผูกพันส่วนตัว ของเธอ ดิศจึง เริ่มคิดมาก เขาไม่อยากให้ปนัดดาผิดหวัง ถ้ารู้ว่าน้อยเป็นหญิง ดิศพยายามหาทางพิสูจน์ให้ได้ ทางด้านวรชิตกร่าง ในบริษัทว่า เป็นหลานกิมซัว เป็นน้องของเจ้าสัวน้อย แถมยังคิดชั่วโดยการแอบรับเงินใต้โต๊ะจากบริษัทต่างๆ ที่มาค้าขายด้วย น้อยรับรู้เรื่อง อย่างกลุ้มใจ เธอให้วรชิตมาพบ วรชิตโวยวายไม่ยอมรับผิดน้อยจึงคาดโทษเอาไว้ ส่วนมาลาตีรุกดิศหนักขึ้น เธอไปถึงบ้านดิศไป พบอมรากับปนัดดา แนะนำตัวเองกึ่งเปิดตัวว่าเป็นแฟนดิศแล้วกลับไปก่อนที่ดิศจะกลับบ้าน
 
อมรา เล่าให้ดิศฟัง ดิศเริ่มเบื่อมาลาตีมากขึ้น เขาตั้งใจว่าเมื่อครบกำหนดลองงาน เขาจะบอกเธอว่าเธอไม่ผ่าน นั่นหมายถึงว่า มาลาตีต้อง ออกไป เสรีพยายามพูดกับน้อยเพื่อหาทางจับพิรุธว่าเธอเป็นหญิงหรือชาย แต่เสรีพูดตรงๆ เพราะถือว่าเป็นพี่และ สนิทสนมกันมานาน จากการสนทนาน้อยรู้ว่าดิศนั่นเองเป็นคนบอก เย็นนั้นน้อยจึงไปพบดิศที่บ้านเธอตั้งใจจะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง แต่เมื่อพบดิศเข้าจริงๆ ดิศกลับเป็นฝ่ายรุกและต้อนน้อยจนเกิดการท้าพิสูจน์เกิดขึ้น ยิ่งพูดน้อยก็ยิ่งโมโห หน้าตากิริยาของเธอ น่ารักมาก จนดิศคิดวิธีพิสูจน์ได้ ดิศกอดและจูบเธออย่างอ่อนหวาน น้อยตกใจและลืมตัวไปกับเขา ดิศจูบจนน้อยต้องยอม รับว่าเธอ เป็นผู้หญิง ก่อนจะผละหนีกลับบ้านอย่างอับอาย น้อยวิตกและซึมจนพ่อ-แม่เป็นห่วง ดิศเองนั้นเริ่มรู้ตัวว่าเขาสนใจ และรักน้อย เข้าแล้ว เขาจึงต้องเร่งหาทางให้น้อยยอมรับความจริงให้ได้ รวมไปถึงกิมซัวด้วย อีกทั้งต้องพูดกับปนัดดาเพื่อไม่ให้เธอผิดหวัง
 
ขณะที่ดิศคิดหน ทางออก มาลาตียิ่งรุกเร้าดิศมาก เกิดปะทะตบตีกับชฎาทิพย์บ่อยขึ้น จนดิศระอาใจ เขาใช้มาตรการเด็ดขาดกับมาลาตีมากขึ้น กับแสดงท่าทีชัดเจนว่ารำคาญ จนถึงขั้นบอกว่ามาลาตีไม่ผ่านการทดลองงาน มาลาตีโกรธกระบึงกระบอนลาออกไป มาลาตีบอกเพลินจันทร์ว่าเธอจะจับเจ้าสัวน้อย เพลินจันทร์พอใจมาก ทุกอย่างเข้าระบบเดิมอีก มาลาตีพะเน้าพะนอคลอเคลียน้อยจนรำคาญ เสรีเองก็พยายามหาทางช่วยน้อยแต่ไม่สำเร็จ น้อยยอมรับกับเสรีว่าเธอเป็นผู้หญิง ทำทุกอย่างก็เพื่อบิดาและมารดา ในเมื่อกิมซัว ไม่ยอมรับหลานผู้หญิง เธอก็ต้องเป็นชาย ดิศเองก็บอกปนัดดาเช่นกัน ปนัดดาเสียใจมาก ดิศขอร้องแกมขู่ให้น้อยมาเจรจากับปนัดดา น้อยยอมมาเธออธิบายจนปนัดดาเข้าใจและยอมรับ เสรีและดิศหาทางช่วยน้อยโดยบอกก๋งเก้าให้ช่วยพูดกับกิมซัว แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่น้อยนัดกินข้าวกลางวันกับปนัดดาก็พบเสรีกับมาลาตีโดย บังเอิญ มาลาตีเห็นปนัดดาเคลียคลอกับน้อยก็โมโห รีบไปทำท่ากีดกันและเป็นเจ้าเข้าเจ้าของน้อย เธอโวยวายให้น้อยไปส่งที่บ้าน น้อยจึงให้เสรีไปส่งปนัดดาที่บ้าน ซึ่งเสรีก็พอใจอยู่แล้ว เพราะเขาแอบรักปนัดดามานาน แต่ไม่กล้าบอกใคร แม้กับดิศซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ทว่าคราวนี้เสรีลองพูดอ้อมๆ บอกปนัดดา เธอไม่เชื่อเธอบอกว่าเสรีพูดเพราะสงสารเธอ เห็นเธอเหมือนน้องสาว จนถึงบ้านปนัดดา เสรีจึงพูดอย่างจริงจังว่าเขาชอบเธอจริงๆ ปนัดดาอายรีบลงจากรถ ดิศซึ่งลงมาพอดีพบเสรี ดิศงงแต่ก็พอใจที่เสรีรักปนัดดา เสรีเล่าให้ดิศฟังเรื่องที่พบกับมาลาตี ดิศร้อนใจรีบไปพบน้อย เพื่อให้หาทางบอกความจริงเสียก่อนที่เรื่องจะยุ่งมากกว่านี้ ด้วยความสวยน่ารักของน้อย ดิศอดใจใกล้ชิดกับเธอไม่ได้ เขาเข้าไปยืนแนบชิดและจับมือเธอไว้ กิมซัวยืนมองภาพของทั้งคู่อย่างตกใจ กิมซัวรับไม่ได้ถ้าหลานชายจะวิปริตรักกับผู้ชายด้วยกัน
 
กิมซัวรีบ เดินออกมากันท่าทันที แกไม่สนใจแม้ดิศจะพูดด้วย ปฏิเสธทุกอย่าง กับน้อยก๋งกิมซัวรีบบอกว่าจะให้แต่งงานกับใครก็ได้ แกจะหาให้เอง ถ้าไม่ได้จริงๆ กิมซัวจะให้น้อยแต่งงานกับมาลาตี ดิศกับน้อยยิ่งกลุ้มใจ สนิทกับมรกตก็เช่นกัน แต่ทุกคนรู้ดีว่าบอกความจริงไม่ได้เพราะกิมซัวเป็นโรคหัวใจ ทุกคนจึงไปปรึกษาก๋งเก้า ก๋งเก้าซึ่งทันสมัยรับฟังอย่างเข้าใจ แกจึงช่วยวางแผน โดยนัดกิมซัวมากินข้าว แล้วจะช่วยเกริ่นความจริงให้รู้ แต่ก่อนหน้าวันนัด วรชิตกลับก่อเรื่องจนน้อยทนไม่ได้เธอไล่วรชิต ออกจาก งาน วรชิตโกรธจัด เมื่อกลับบ้านก็โดนเพลินจันทร์ต่อว่าอีก วรชิตจึงหนีออกจากบ้านไปมั่วสุมเสพยากับเพื่อน เมื่อหมดเงิน วรชิต จึงคิดจับเจ้าสัวน้อยเรียกค่าไถ่ เขาวางแผนจับเจ้าสัวน้อยในวันที่นัดกับก๋งเก้าพอดี แต่เหตุการณ์กลับชุลมุน วรชิตกับพวกจึง ได้ตัวก๋งกิมซัวไปแทน วรชิตติดต่อให้น้อยเอาเงินมาให้ น้อยรีบไปด้วยความเป็นห่วงก๋งกิมซัวจนลืมระวังตัว ระหว่างทางรถของ น้อยสวนกับดิศ และเมื่อดิศพบเสรี เสรีให้ดิศรีบตามไปช่วยน้อย แล้วที่บ้านร้าง
 
น้อยต้องกลายเป็นเหยื่อของวรชิตกับพวก เมื่อกลุ่มวายร้ายโลภมากคิดจับน้อยเรียกค่าไถ่อีกต่อ กิมซัวพยายามเตือนน้อย จึงถูกทำร้าย น้อยตกใจมาก จะเข้าไปดูก๋ง จึงถูกจับกระชากตัวไว้ เจ้ากรรมเสื้อเธอขาดพวกวาย ร้ายเมื่อรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงจึงจะข่มขืนเธอ กิมซัวแทบหัวใจวายเมื่อเห็นอย่างนั้น น้อยเองก็ทนไม่ได้ที่เห็นพวกโจรซ้อมกิมซัว เธอตัดสินใจยอมพวกมันเพื่อช่วยชีวิตก๋ง ก่อนเหตุการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ดิศก็พาตำรวจมาช่วยไว้ทันเวลา กิมซัวต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อฟื้นขึ้นมากิมซัวกลับยอมรับความ จริงได้ดีขึ้น แกยอมรับว่าหญิงหรือชายก็ไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดีก็พอ กิมซัวเปรียบเทียบน้อยกับวรชิต แล้วก็ต้องยอมรับว่า น้อยแม้จะเป็นหญิง แต่ก็กล้าหาญและกตัญญูมาก ที่สำคัญกิมซัวแน่ใจว่ารักหลานคนนี้มากเหลือเกิน ดิศเองก็ได้รับการยอมรับ เช่นกัน ความรักของเขากับน้อยไม่มีปัญหาอีกต่อไป
 
นักแสดง เจ้าสัวน้อย
 
อินทิรา เจริญปุระ แสดงเป็น พิมพ์ชนก(น้อย)
 เอกรัตน์ สารสุข แสดงเป็น ดิศ
ปัญญา นิรันดร์กุล แสดงเป็น กิมซัว

กำแพงรัก 2543

แม่เลี้ยงเรียมใจ เป็นแม่ของทองดี มีเงินและบารมีมาก เพราะเป็นเมียเจ้าพ่อ มีเบื้องหลังค้าอาวุธเถื่อน เป็นคู่แค้นคู่อาฆาตกับกำนันขวัญจิต แม่เลี้ยงจะหาทางเอาชนะกำนันในทุก ๆ เรื่อง ซึ่งกำนันเองก็ไม่ยอมแพ้แม่เลี้ยงเหมือนกัน สาเหตุเพราะมาจากการผิดใจกันในอดีต

อาญารัก

ณ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่บ้านของขุนภักดีภูบาลอันใหญ่โต เป็นที่นับหน้าถือตา วันหนึ่ง น้อม ข้าเก่าท่านหมื่นผู้เป็นบิดาของขุนภักดีภูบาล ได้เข้ามาขอกู้เงินจากขุนภักดีฯ แต่ไม่พบตัวท่านขุน คุณเรียมภรรยาเอกท่านขุนจึงให้นายน้อยยืมเงิน 2 ชั่ง เพื่อไถ่ถอนที่นา และ รักษาตัวที่เรื้อรังมานาน น้อมซาบซึ้งในพระคุณ จึงยกเนียน ลูกสาวให้เป็นข้ารับใช้ของท่าน

เนียนเป็นเด็กสาวหน้าตาหมดจด มี กิริยาเรียบร้อย คุณเรียมจึงเอ็นดูเลี้ยงไว้ในฐานะน้องสาว อยู่ในเรือนเดียวกัน นอกจากคุณเรียมแล้ว ขุนภักดียังมีภรรยาอีกคนคือคุณสน ลูกสาวกำนันฐานะดี คุณสนเป็นคนโปรดของท่านขุน เมื่อเห็นท่านขุนมีท่าทีสนใจเนียน และช้อย สาวใช้ประจำตัวคอยยุยงคุณสนจึงหาทางทำลายเนียน เนียนถูกกลั่นแกล้งต่าง ๆ นา ๆ ท่านขุนก็เมตตาสงสาร และรักเนียนยิ่งขึ้น เนียนลำบากใจ เพราะเธอเคยมีครอบครัวแล้ว สามีตาย ส่วนลูกชายที่ยังเล็กก็ฝากให้ยายแพรเป็นคนเลี้ยงดู ต่อมา พ่อของเนียนเสียชีวิตท่านขุนจัดงานศพให้อย่างดี เนียนสำนึกในบุญคุณจึงยอมเป็นเมียท่านขุน โดยเก็บเรื่องลูกไว้เป็นความลับ

คุณสนจ้างเหิม ลูกน้องของพ่อกำนันให้ข่มขืนเนียน เหิมชวนหนักและโพล้งร่วมทำการโดยไม่รู้ว่า เสือหนักเป็นพี่ชายแท้ๆของเนียน จึงถูกซ้อนแผนคุณสนและช้อยจึงเป็นผู้รับเคราะห์แทน คุณสนและช้อยอาฆาตเนียนมากขึ้น สนตั้งท้องอันเกิดกับเสือหนัก แต่เธอโกหกท่านขุน ว่าเป็นลูกของเธอกับท่านขุน ขณะเดียวกัน คุณเรียมและเนียนก็ตั้งท้องเช่นกันเสือหนักลอบเข้ามาพบเนียน แจ้งข่าวเรื่องลูกที่กำลังป่วยหนัก ต้องการเงินรักษา คุณสนกับช้อยบังเอิญพบเข้าจึงนำความไปบอกท่านขุนว่าเนียนคบชู้ ท่านขุนโกรธจัด เฆี่ยนตีเนียนอย่างหนัก และไล่ให้ไปอยู่เรือนคนใช้ คุณสนคลอดบุตรเป็นชายได้ชื่อว่าเทิดศักดิ์ คุณเรียมนั้นเมื่อคลอดเด็กออกมาไม่นานทารกก็เสียชีวิต จึงให้เอกไปขอลูกของเนียน ซึ่งคลอดลูกสาวฝาแฝดในวันเดียวกันมาเป็นลูก โดยให้ยายอ่อนหมอตำแยปิดเป็นความลับทานตะวันหรือลูกของเนียนที่คุณเรียมนำไป เลี้ยง เมื่อเติบโตขึ้นในฐานะลูกสาวคนเดียวของขุนภักดี และอยู่ใกล้แม่เลี้ยงเช่นคุณสน ทำให้มีนิสัยผิดแผกจากเนื้อทอง ลูกของเนียนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกชู้

เนื้อทองเป็นคนเจียมตน ขยัน เรียบร้อยเช่นเดียวกับเนียน จึงได้รับ ความกรุณาจากคุณทองจันทร์ และคุณเรียมให้เรียนอย่างเต็มที่ แดงน้อย ลูกชายของเนียน ซึ่งเกิดจากสามีคนแรก เติบโตขึ้น มียายแพรและโพล้งเลี้ยงดู โดยมีเสือหนักผู้เป็นลุงคอยส่งเสียโดยไม่เคยพบกัน บังเอิญที่แดงน้อย กับเทิดศักดิ์เป็นเพื่อนสนิทกัน ทำให้เสือหนักได้พบกับลูกคือเทิดศักดิ์ และทำให้เนียนได้พบกับแดงน้อยทานตะวันนั้นชอบแดงน้อย เมื่อถูกคุณสนยุยงว่าจะถูกเนื้อทองแย่งไป ทานตะวันจึงออกอุบายกลั่นแกล้งเนื้อทอง จนถูกขุนภักดีเฆี่ยนตี แต่โชคดีที่เทิดศักดิ์ซึ่งแอบชอบพอเนื้อทองอยู่มาห้ามไว้ทัน ท่านขุนจึงยอมหยุดมือ หนุ่มสาวทั้ง 4 เรียนจบ เทิดศักดิ์เป็นนายร้อยตำรวจ

แดงน้อยเป็นนายอำเภอ ทานตะวันจบเสริมสวยจากฝรั่งเศส เปิดร้านอยู่ในตัวเมือง ส่วนเนื้อทองบรรจุเป็นครูประจำจังหวัด ต่อมาคุณเรียมและคุณทองจันทร์ออกทุนให้เนื้อทองเปิดโรงเรียน ยิ่งเป็นเหตุให้ทานตะวันชิงชังเนื้อทองมากขึ้น ช้อย มีลูกชายที่ต้องคดีอยู่ จึงขอให้คุณสนบอกเทิดศักดิ์ ให้ช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วยได้ ช้อยจึงขู่คุณสนว่าจะ เปิดเผยความจริง คุณสนจึงฆ่าช้อยทิ้งและป้ายความผิดให้เนียน โดยไม่รู้ว่าคุณทองจันทร์รู้เรื่องจากช้อยแล้ว ทางด้านแดงน้อยได้พบกับยายอ่อนหมอตำแยโดยบังเอิญจึงทราบเรื่อง และเข้าพบท่านขุนเพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เทิดศักดิ์จับคุมเนียนข้อหาฆาตกรรมช้อย คุณสนแอบได้ยินว่ายายอ่อนจะเปิดเผยความจริงเพื่อช่วยเนียน จึงฆ่ายายอ่อนเพื่อปิดปาก ท่านขุนมาประกันตัวเนียนและทราบความจริงเกี่ยวกับลูกๆของตนทั้งหมด เทิดศักดิ์ทราบความจริงว่าเขาเป็นพี่น้องกับทานตะวันเนื้อทอง และแดงน้อย และได้รู้ว่าตนเป็นลูกของเสือหนักคุณสนเข้าใจว่าขุนภักดียังไม่ทราบความจริง จึงฆ่า คุณทองจันทร์ปิดปากอีกคน เทิดศักดิ์จำใจต้องจับคุณสน คุณสนขู่ประจานตระกูลภักดีภูบาลให้เสียชื่อเสียง ขุนภักดีจึงต้องการให้คุณสนฆ่าตัวตาย และคุณสนปฏิเสธ เสือหนักออกมาฆ่าคุณสน แดงน้อยเห็นเหตุการณ์จึงยิงเสือหนักตายโดยไม่รู้ว่าคือลุงผู้ส่งเสียเลี้ยงดูเขามา โศกนาฏกรรมของครอบครัวภักดีภูบาล ปิดตัวลงท่ามกลางความช้ำใจของทุกคน

อังกอร์

นายทหารประจำฝ่ายป้องกันและปราบปรามของประเทศเขมรชอบล่าเสือเพราะมีความแค้นมาตั้งแต่เด็กเพราะเห็นพ่อถูกเสือฆ่าต่อหน้าต่อตา จนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอเสือขนาดใหญ่ ทุกครั้งที่ออกล่าเสือนางเสือตัวนี้ก็คอยตามล่านายพลเช่นเดียวกันเพราะนายพลได้ฆ่าคู่ของมันตาย

คุณหญิง ภรรยานายพลมิน หลังจากแต่งงานกันมานานแล้วไม่มีลูก จึงได้ไปบนที่วัดอังกอร์ ในที่สุดก็ตั้งท้อง ก่อนคุณหญิงคลอด นายพลมินได้ออกไปล่าเสือตัวดังกล่าวซึ่งมีพลังและวิญญาณที่กล้าแข็งมาก ในขณะที่ มันกระโจนเข้าหา นายพลมินยิงสวนถูกแสกหน้ามันอย่างจัง มันจ้องหน้านายพลอย่างอาฆาต จนสิ้นลมไป เสียงเด็กร้องไห้จ้า เมื่อนายแพทย์ประจำตระกูลส่งเด็กหญิงแรกเกิดให้ นรินทร์ตกใจเมื่อเห็นเงาสีเขียววาบขึ้นมาในแววตาของเด็กน้อย คุณหญิงคลอดก่อนกำหนดและเสียชีวิตทันทีที่คลอด

20 ปีผ่านไป อังกอร์ โตเป็นสาวท่ามกลางความรักของท่านนายพลมินและนรินทร์แม่นมของอังกอร์อังกอร์เติบโตมาพร้อมกับ คอยที ลูกชายคนเดียวของนรินทร์ นรินทร์คอยดูแลคุณหญิง ตั้งแต่สามีเธอตาย นายพลมินเลี้ยงเธอมาอย่างดี ฉะนั้นเธอจึงรักอังกอร์เหมือนลูกของเธอ จนคอยที ได้เป็นผู้กองในหน่วยจู่โจมพิเศษและเป็นนายทหารคนสนิทของนายพลมิน

อังกอร์เป็นหญิงสาวที่มีความสวยงามและมีความรู้ นายพลมินส่งเธอไปเรียนที่อังกฤษ เรียนวิชา แพทย์เป็นปีสุดท้าย และกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่องานครบรอบวันตายของแม่เธอและวันเกิดของเธอด้วย นายพลมินจัดงานวันเกิดให้อังกอร์ ความสวยของเธอเป็นที่เลื่องลือ มีนายทหารคนหนึ่งหมายปองที่จะครอบครองเธอให้ได้ ซึ่งก็คือ อ้ายคำปัน ลูกชายนายพลทหารฝ่ายการต่างประเทศ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พวกเขมรแดงปฏิวัติสำเร็จบุกเข้ายึดเมืองพนมเปญ

ผู้กองกาญจน์ กลับมาบ้านพักได้พบอังกอร์ในสภาพบอบช้ำ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลของค่ายและจุดนี้เองที่ผู้กองรู้ว่า หมวดฤทธิ์และพวกสังหารลูกน้องเขาและค้าอาวุธเถื่อนกับพวกโจร ผู้กองตัดสินใจพา อังกอร์หนีกลับเขมรก่อนแล้วค่อยหาหลักฐานมัดตัวหมวดฤทธิ์และคนอื่นๆ ต่อไปโดยมีหมวดชาติไปด้วยเนื่องจากผู้กองไม่ชำนาญทาง แต่หมู่เข้มก็ให้กิ่ง ลูกสาวของตนช่วยนำทางไปอีกคน โดยหมู่เข้มอยู่สังเกตการณ์และหาทางรายงานผู้บังคับบัญชา ณ กองสอบสวนกลางให้รับรู้ต่อไป

ผู้กำกับ : ฉลอง ภักดีวิจิตร
ผลิตโดย : บางกอก ออดิโอ วิชั่น
เขียนบท : นอร์แมน วีระธรรม

รายชื่อผู้แสดงละคร อังกอร์
1. พีท ทองเจือ – ผู้กองกาญจน์
2. วรรัตน์ สุวรรณรัตน์ – อังกอร์
3. คงกระพัน แสงสุริยะ – หมวดชาติ
4. จิตติมา สำเภาทอง – กิ่ง
5. ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ – คอยที
6. กัญจน์ ภักดีวิจิตร – ผา

หัวใจยังอยากมีรัก

หัวใจยังอยากมีรัก เป็นเรื่องราวของ พิงค์ สาวไทยวัย 30 ปี ผู้หลงไหลในอาชีพการเป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลศิลปินที่ต้องคอยแก้ปัญหาให้กับศิลปินทุกคน จนทำให้เธอไม่มีเวลามาแก้ปัญหาในชีวิตตัวเธอเอง การหย่าร้าง 2 ครั้งที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่การันตีได้ และเธอคงจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจนักกับชีวิตคู่หากเธอไม่ได้เกิดมาเป็นคนรักเด็กเป็นชีวิตจิตใจ และอยากมีลูกมากที่สุดในชีวิต แต่เมื่อหมอประจำตัวของเธอยื่นคำขาดว่า ถ้าอายุเกิน 30 ไปแล้วห้ามตั้งท้องเด็ดขาด เพราะมดลูกไม่ดีประกอบกับความเครียดมากเกินไปจะทำให้เด็กที่เกิดมาไม่สมประกอบ เธอจึงอยากแต่งงานอีกครั้งกับคนที่เธอพึงพอใจที่สุด

หงส์เหนือมังกร

หงส์เหนือมังกร เป็นเรื่องราวของ หลิว (มาช่า วัฒนพานิช) บุตรีของ ตี๋ซุ้ง (จรัล มโนเพ็ชร) เจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการนักเลงเมืองไทย การเติบโตขึ้นมาท่ามกลางเหล่ามิจฉาชีพ และด้วยการสั่งสอนอบรมของ ตี๋ซุ้ง และเต็งล้อ (นพพล โกมารชุน) ที่ปรึกษาเจ้าพ่อทำให้หลิว แปลกแยกและแตกต่างจากเด็กสาวคนอื่น ๆ ทั้งที่ภายในจิตใจที่เงียบเหงาของเธอนั้นก็ปรารถนาเพียงชีวิตที่เรียบง่าย เหมือนปุถุชนทั่วไป ดั่งหงส์ที่เฝ้าอิจฉาฝูงนกนอกกรงทอง

ในงานฉลองตรุษสารทงานหนึ่ง หลิว อ้อนวอนพ่อจนได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวได้ตามลำพัง ในงานนั้นเธอได้พบกับจางเหา (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) จีนฮ่อผู้มีอดีตอันขมขื่น ภรรยาของเขาถูกเหล่าอันธพาลฆ่าตาย ด้วยความเป็นคนยึดมั่นในเรื่องบุญคุณ ความแค้นทำให้ จางเหาบุกไปสังหารเหล่าอันธพาลตายหมดสิ้น ส่วนตัวเขาก็ลอบหนีเข้ากรุงเทพมาทำงานเป็นคนครัวให้กับเหลา ตี๋ซา (กำธร ทัพคัลไลย) มาเฟียผู้เป็นน้องร่วมสาบานของ ตี๋ซุ้ง จางเหา และ หลิว พูดคุยถูกชะตากันอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเอง เสียงปืนดังขึ้นชุดใหญ่ทำให้ฝูงชน ในงานเกิดความโกลาหลอลหม่าน แต่ก่อนที่กระสุนเหล่านั้นจะปลิดชีวิต หลิวที่ยืนตะลึงอยู่ จากเหา ก็ได้เสียงชีวิตเข้าช่วยเธอไว้เหตุการณ์นี้ทำให้ จางเหา ได้รู้ว่า หลิว เป็นลูกสาวเจ้าพ่อ ตี๋ซุ้ง ผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนหลิว ก็รู้สึกประทับใจในตัว จางเหา

ต่อมา ตี๋ซุ้ง สืบจนรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับ ลูกสาวตนนั้นเป็นประกาศศักดาของ ป๋าเสริฐ (กรุง ศรีวิไล) นักเลงใหญ่ ที่คิดจะทาบรัศมีเจ้าพ่อยังไม่อยากโต้ตอบ ทำให้เขาและ ตี๋ซา ต้องทะเลาะ กันอย่างรุนแรง เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกขึ้นในกุล่ม และส่งผลให้พี่น้องร่วม สาบานต้องแตกหัก ตี๋ซาต้องการกำจัดตี๋ซุ้ง แต่ก่อนที่จะลงมือสำเร็จ หลิวเข้ามาพบเหตุการณ์และเพื่อปกป้องชีวิตพ่อ หลิวจำเป็นต้องชิงสังหารตี๋ซาเสียก่อน การตายของผู้มีพระคุณสร้างความเคียดแค้นให้กับ จางเหาเป็นอันมา เขาสาบานจะต้องกำจัด ตี๋ซุ้ง เป็นการชำระแค้นให้ได้ และหลังจากรอคอย โอกาสมานานในที่สุดจางเหา ก็สามารถบุกเข้าถึงตัว ตี๋ซุ้ง และล้างแค้นได้สำเร็จ

จุดจบของเจ้าพ่อเมื่อหลวงสร้างความตื่นตะลึงไปทั่ววงการ งานศพถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีแขกในวงการนักเองมาร่วมงานมากมาย ทุกคนต่างวิพากษ์จารณ์ถึงอนาคตของแก็งค์ซึ่งขาดหัวหน้า รวมทั้งกังวลกับพฤติกรรมของป๋าเสริฐซึ่งเป็นแก็งค์คู่แข่ง หลังจากงานศพ เต็งล้อ ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมของ ตี๋ซุ้ง เพื่อหาหัวหน้าคนใหม่มาสะสางปัญหาทั้งหมด และแล้วสิ่งที่ไม่มีคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพินัยกรรมของ ตี๋ซุ้ง ระบุให้หลิวเป็นผู้รับช่วงอำนาจ ส่วนตี๊เล็ก (พนมกร ดังทัตสวัสดิ์) ลูกชายคนเดียวของตี๋ซุ้ง กลับไม่ได้อะไรเลย เต็งล้อ เฉลยความลับให้แก่ หลิว ว่าแท้จริงแล้วตี๋เล็ก เป็นลูกของคนร้ายที่บุกเข้ามาข่มขืนเหมย (เดือนเต็ม สาลิตุล) ภรรยาของ ตี๋ซุ้ง ในช่วงที่ตี๋ซุ้งติดคุกอยู่ อันเป็นเหตุให้ ตี๋ซุ้ง เย็นชาจน เหมย ต้องแยกตัวไปถือศีลกินเจอยู่คนเดียว และทำให้ตี๋เล็ก ไม่เคยได้รับความเอาใจใส่จาก ตี๋ซุ้ง แม้แต่น้อย ซึ่งทำให้ ตี๋เล็ก กลายเป็นคนมีปัญหาใจร้อน บ้าระห่ำไม่เคยเกรงกลัวใคร ทว่า เต็งล้อ ไม่ได้ปริปากเล่าเรื่องสำคัญก็คือ คนร้ายที่ว่านั้นก็คือเขานั้นเอง

การขึ้นรับตำแหน่งต่อจาก ตี๋ซุ้ง กะทันหัน สร้างความกังวลใจแก่หลิวเป็นอย่างมาก แต่ด้วยคำขอร้องแกมบังคับของเต็งล้อที่ยกเอาความกตัญญูมาเป็นข้ออ้าง ทำให้หลิวยอมรับ ในวันก่อนรับตำแหน่งนั้นเอง หลิวตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย และตัดหางเปียของตัวเองทิ้งไป ด้วยจิตใจแน่วแน่ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นหงส์เหนือมังกร ให้สมดังเจตนารมณ์ ตี๋ซุ้ง ผู้เป็นบิดา แต่หลิวไม่เชื่อว่าคนที่เธอแอบรักนี้จะเป็นคนฆ่าพ่อ รวมทั้งหลักฐานที่ชี้ชัดก็ไม่มีเธอจึงตัดนิ้วของเขาแทนเพื่อยุติปัญหา แต่นั่นกลับยิ่งทำให้เหล่าลูกน้องมองว่าเธอเป็นเพียงแค่เด็กหญิงใจอ่อนคน หนึ่งเท่านั้น แม้แต่ตี๋เล็กน้องชายก็ไม่พอใจพฤติกรรมของเธอ จนเกิดทะเลาะกันขึ้น และตี๋เล็ก พาพรรคพวกออกไปรุมซ้อมจากเหา จนเกือบตาย

นับตั้งแต่นั้น จางเหาที่ต้องเสียนิ้ว เสียทั้งศักดิ์ศรี และเกือบต้องเสียชีวิต ทำให้เขาผูกใจอาฆาตหลิว และหอบความแค้นเหล่านี้ไปหลบซ่อนตัวเพื่อรอวันล้างแค้น การที่หลิว ไว้ชีวิตจางเหา ทำให้คนในพรรคไม่ยำเกรงเธอการปกครองจึงระส่ำระส่าย ทำให้ป๋าเสริฐ ยิ่งเหิมเกริมแผ่ขยายอำนาจกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนตี๋เล็ก มีหน้าที่ดูแลบ่อนหมดความอดทน ลงมือสังหารลูกชายของ ป๋าเสริฐ จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ หลิวต้องขอความช่วยเหลือจาก เวคิน (มานพ อัศวเทพ) นักการเมื่อผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของป๋าเสริฐให้ช่วย เจรจายอมความ แต่เธอกลับต้องถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี เมื่อเวคิน ยื่นเงื่อนไขให้เธอพลีตัวแลกเปลี่ยน หลิวจำยอมรับปากเพื่อรักษาชีวิตน้องชาย หากแต่เธอก็ผูกใจเจ็บ เวคินมานับแต่วินาทีนั้น ซึ่งสร้างความอึกอัดให้แก่ เต็งล้อ เป็นอันมาก เพราะเต็งล้อกำลังวางแผนจะหักหลังหลิวและอาศัยเวคิน เป็นบันไดก้าวขึ้นเป็นใหญ่เสียเอง

ทางด้านจางเหา เมื่อเริ่มทุเลาจากอาการบาดเจ็บก็เริ่มหัดใช้ปืนมือซ้าย และส่งเก๊า ลูกน้องคนสนิทเขาไปเป็นสายสืบในบ้านของหลิว เพื่อเตรียมล้างแค้น แต่เก๊ากลับมารายงานว่า ที่หลิวต้องตัดนิ้วของจางเหา ก็เพื่อรักษาชีวิตของเขา ฝ่ายเวคิน หลังจากเจรจากับ ป๋าเสริฐ สำเร็จก็ทวงสัญญากับหลิว อย่างอุกอาจ ทำให้หลิวตัดสินใจสั่งให้เต็งล้อส่งคนไปสังหาร เวคินหลังจากใคร่ครวญแล้ว เต็งล้อเห็นว่าการมี หลิว เป็นหุ่นเชิดนั้นเป็นประโยชน์ ต่อตนมากกว่าเต็งล้อจึงจัดการสังหารเวคินเสีย

การสังหาร เวคินกลายเป็นบทเรียนแรกที่ทำให้หลิวได้รู้จักการใช้อำนาจของเธอ เพราะการตายของ เวคินทำให้คนในพรรคยอมศิโรราบต่อเธอมันกลายเป็นจุด ที่เปลี่ยนให้เธอมีความเชื่อมั่น กลายเป็นหงส์ที่ทะยานสูงไม่แพ้มังกรอย่างผู้เป็นพ่อ จนแม้แต่เต็งล้อก็คาดไม่ถึง หลิวแสดงอำนาจของเจ้าแม่อีกครั้งด้วยการสั่ง เก็บศัตรูอย่าง ป๋าเสริฐชื่อเสียงของเธอเริ่มโด่งดังในวงการเป็นเหตุให้จางเหา ต้องเร่งรัดแผนการณ์ล้างแค้นของตน เขาตัดสินใจจะปลิดชีวิตเธอด้วยมือของเขาเอง และในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง จางเหาก็ได้โอกาสที่จะลงมือ แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น กลับมีมือสังหารอีกผู้หนึ่งชิงลงมือก่อนหน้าเขา และสภาพของหลิว ที่ตื่นตระหนกท่ามกลางกระสุน หวนให้จางเหาระลึกถึงวันแรกที่เขาพบเธอ และช่วยชีวิตเธอ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นทำให้เขาลังเล และในที่สุด สมุนของหลิวก็ช่วยเธอ ออกไปได้สำเร็จ

ไม่นานต่อมา หลิวได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมกลุ่ม มังกร 14 เค ซึ่งเป็นองค์กร อาชญากรรมใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ซึ่งการได้รับเชิญนี้มีทางเป็นไปได้สองทางก็คือ องค์การต้องการรับเธอเข้าไปเสริมแทนเวคินที่ตายไปหรือองค์การต้องการกำจัด เธอ ในฐานะที่ฆ่าเวคิน เต็งล้อ แนะนำให้ หลิวไปฝาฝังตัวกับทาเคชิ วาตานาเบะ ยากูซ่าชาวญี่ปุ่นผู้เป็นสหายสนิทของ ตี๋ซุ้ง เพื่ออาศัยบารมีของเขาคุ้มครอง ทางด้าน จางเหา ก็หาโอกาสสังหาร หลิวได้อีกครั้ง แต่ด้วยความลังเลใจ ทำให้เขาถูกสมุนของ หลิวจับได้ แต่หลิวก็ละเว้นชีวิตเขาเป็นครั้งที่สองเป็นผลให้จางเหา แน่ใจในความรู้สึกของหลิวที่มีต่อตน

ความขัดแย้งระหว่างความแค้นกับความรักนี้ทำให้จางเหาตัดสินใจถอนตัว ออกจากวงการไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด ใกล้ถึงวันประชุมหลิวของเข้าพบทาเคชิตามลำพัง เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รู้ก็คือ ทาเคชิ เป็นผู้บงการกลุ่มมือปืนที่เข้ามาสังหาร เธอในงานเลี้ยงนั่นเอง แบะการนับพบในวันนี้ก็คือการล่อให้หลิวก้าวเข้าสู่กับดัก แม้ว่าจะอยู่วงล้อมของศัตรู แต่หลิวใช้ปฏิญาณไหวพริบยืดเวลาของชีวิตเธออกไป และเมื่อสบโอกาสเธอก็จัดการสังหารทาเคชิและหนีออกมาสำเร็จ

เมื่อถึงวันประชุมกลุ่มมังกร 14 เค หลิวได้รับรองจากองค์การให้เป็นสมาชิก ซึ่งเท่ากับว่าได้บรรลุสู่ความเป็นหงส์เหนือมังกรอย่างเต็มภาคภูมิแต่ช่วง เวลาแห่งความภูมิใจ จบสิ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อตี๋เล็กน้องชายถูกศัตรูเก่าสังหารจบชีวิต เป็นเหตุให้ เหมย ผู้เป็นแม่ล้มเจ็บหนัก ก่อนตาย เหมยสารภาพความจริงว่า เต็งล้อ คือพ่อของ ตี๋เล็ก และที่เต็งล้อ ปล่อยให้เธอขึ้นครองอำนาจก็เพื่อหลอกให้เป็นเชิดหาผลประโยชน์ใส่ตัว และขณะนี้ เต็งล้อก็เริ่มจะระแวงและหาทางกำจัดเธอแล้ว

ความจริงทั้งหมดทำให้ หลิวเจ็บปวดจนไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับวงการนี้ต่อไป เธอตัดสินใจหนีไปใช้ชีวิตอยู่จางเหา ที่ต่างจังหวัดด้วยความหวัง ที่จะมีชีวิตที่สงบสุขอย่างคนทั่วไป แต่สิ่งที่เธอรู้ในเวลาต่อมากลับสร้างความปวดร้าว ให้เธอมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเธอค้นพบว่า แท้จริงแล้ว จางเหา คือ ฆาตกรผู้เป็นคนฆ่าพ่อของเธอนั่นเอง และแล้วก็ถึงเวลาที่เธอจะตัดสินใจ ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ระหว่างความรักกับความแค้น เธอจะเลือกอะไร หงส์อย่างเธอจะยังสามารถยืนอยู่เหนือมังกรได้หรือไม่