ลับ ลวง หลอน เริ่มบวงสรวงเปิดกล้องละคร วันที่ 25 มิถุนายน 2555
เป็นละครเรื่องแรกที่คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ไปจัดที่ช่อง 3
Category Archives: ละครปี 2555
สาวน้อย
สาวน้อยเป็นเรื่องราวของ สรรค์ (สน ส่งไพศาล) บุตรชายคนเดียวของ พระชาญ ชลาศัย (เกรียงไกร อุณหะนันท์) เสนาบดีกระทรวงการคลัง สรรค์มีความสามารถในการวาดภาพสีน้ำมัน หลังจากเรียนจบจากฟิลิปปินส์ เขาเดินทางกลับเมืองไทยพร้อมกับได้หมั้นหมายกับ สุวลี (บุษกร ตันติภนา)
คืนวันหมั้นสรรค์ได้รู้ความจริงว่าพ่อมีภรรยาใหม่คือ มารศรี (บงกช คงมาลัย) นักร้องไนท์คลับ ซึ่งมารศรีได้กลายเป็นสาเหตุให้สรรค์ต้องมีกากเสียงอย่างรุนแรงกับพระชาญ ชลาศัย ด้วยความน้อยใจ สรรค์จึงหนีไปอยู่กับบุญมา (รัชชานนท์ สุขประกอบ) เพื่อนสนิท แต่ระหว่างทางสรรค์โดนดักทำร้ายจนทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ
เมื่อ สรรค์รู้สึกตัว ก็พบว่าตนเองอยู่ที่ท่าเรือข้ามฟากเกาะสีชัง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเถ้าแก่ย่านท่าเรือ และได้ตั้งชื่อใหม่ให้เขาว่าเสียม เสียมทำงานเป็นจับกังในเรือ วันหนึ่งเรือแล่นผ่านเกาะสีชังทันที ระหว่างที่เสียมกำลังว่ายน้ำเขาเกิดหมดแรงไปเสียก่อน แต่ก่อนที่เขาจะหหมดสติจมลงไปใต้ท้องทะเล นิด (วรรณรท สนธิไชย) หญิงสาวชาวเกาะมาพบเข้า และได้ให้ความช่วยเหลือจนปลอดภัย เสียมหลงรักนิดตั้งแต่แรกพบ จึงขอมาอยู่อาศัยด้วย แต่เขาเปรียบเหมือนคนพเนจร
จึงทำให้นิ่ม(ศันสนีย์ วัฒนานุกูล) แม่ของนิดและเนือง (พงศ์สิริ บรรลือวงศ์) พี่ชาย รวมถึงเชิด (อาณัติพล ศิริชุมแสง) ชายหนุ่มที่หลงรักนิดมานาน รู้สึกไม่พอใจที่เสียมมาอาศัยอยู่ด้วย พวกเค้าจึงคอยตั้งแง่กับเสียมตลอดเวลา แต่ด้วยความดีของเสียมจึงเอาชนะใจพวกเขาได้ สิ่งที่ทำให้เสียมประหลาดใจ คือการค้นพบว่าตนเอง มีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษ และสามารถวาดรูปได้อย่างงดงาม ด้วยเหตุนี้เสียมจึงตั้งใจวาดรูปนิดและตั้ง ชื่อรูปนี้ว่า สาวน้อย เขาได้มอบรูปนี้ให้กับเธอ
ในวันแต่งงาน ทั้งคู่ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขบนเกาะสีชัง แต่ด้วยเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อพระชาญชลาศัยรู้ว่าสรรค์ความจำเสือมและอาศัยอยู่ที่เกาะสีชัง จึงรีบตามมาพบสรรค์และพากลับไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ผลการรักษาทำให้ความทรงจำของสรรค์กลับมาคืนมา แต่โชคร้ายที่ความจำความทรงจำของสรรค์ตอนที่อยู่เกาะสีชังกลับหายไป แม้กระทั่งนิดหญิงสาวที่สรรค์รักสุดหัวใจเขาก็จำเธอไม่ได้ สุวลีกังวลว่า ความทรงจำของสรรค์จะจำนิดได้
หากทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน เธอจึงออกอุบายให้นิดไปทำงาน เป็นข้ารับใช้ของคุณหญิงมะลิ (วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง) ภรรยาของพระยาธรรมนูญ (เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์) ระหว่างที่นิดเป็นข้ารับใช้ เธอรู้ว่าคุณหญิงมะลิ แอบคบชู้กับหลวงจินดา (ปิยะ วิมุกตายน) เธอจึงคิดจำนำเรื่องนี้ไปบอกพระยาธรรมนูญ แต่ไม่ทันที่จะได้บอก นิดก็ถูกคุณหญิงมะลิจับได้ และหาเรื่องใส่ความจนเธอมีความผิดต้องติดคุก ทำให้นิดได้พบกับชด (อริศรา วงษ์ชาลี) นางละคร ซึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต ในคุกนี้เองนิดกับชดกลายเป็น เพื่อนที่รู้ใจ เพราะทั้งคู่รักในเสียงเพลงและการแสดงเหมือนกัน จากนั้น ไม่นานแก้ว (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) เพื่อนสนิทของนิด ที่พยายามหาทางช่วยนิดให้พ้นโทษ ได้นำความจริงที่คุณหญิงมะลิคบชู้ไปบอกกับพระยาธรรมนูญ
เมื่อพระยา ธรรมนูญรู้ความจริง จึงช่วยให้นิดและชดพ้นโทษออกมา พร้อมกับจัดตั้งคณะละครของชด ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง จากนั้นไม่นานนิดก็กลายเป็นนางเอกสาวพราวเสน่ห์ ผู้คนต่างชื่นชมและเรียกขานเธอว่า วนิดา เมื่อมีพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทอง เธอจึงกลับมาหาสรรค์อีกครั้ง เพื่อทวงชายอันเป็นที่รักคืนมาจากสุวลี
ในเมื่อสุวลีทั้งสวยและฉลาด เธอหรือจะยอมแพ้ เมื่อไม่มีใครยอมใคร บทสรุปของการต่อสู้ชิงชัยในความรัก ระหว่างหญิงสองคนจะลงเอยเช่นไร? ตามชมได้ในละคร สาวน้อย
ตะวันฉายในม่านเมฆ
เมื่อตะวันฉายเห็นว่าความรักไม่ใช่หาง่ายๆ เหมือนจ่ายตลาด และเธอก็ไม่สามารถใช้มนตร์วิเศษเรียกพระเอก เข้ามาในชีวิตเหมือนพระสังข์ร่ายมนตร์เรียกเนื้อเรียกปลา เธอจึงเริ่ม ครุ่นคิดถึงความหวานในรักครั้งเก่า…สมัยอยู่ชั้น ป.๒ พอมาถึงบ้านของ’พี่ธีร์’ อดีตชายที่เธอแอบรัก ตะวันแยกลับพบเพียง ‘นายเมฆ’ อดีตคู่อริ กับลูกชายผู้น่ารักของเขา แต่เพื่อจะเข้าไปสืบหารักแรก ตะวันฉายต้องลงทุนปลอมตัวเป็นผู้ชาย กลายเป็นนาน ‘นายซัน’พี่เลี้ยงเด็ก ทำไมต้องปลอมตัวน่ะเหรอ ก็อีตาคู่ริไม่รับพี่เลี้ยงที่เป็นผู้หญิง ไม่แน่ เขาอาจเป็นเกย์ก็ได้!!! นภทีป์ย่างสามขุมเข้าไปหาอย่างนึกสนุกที่จะได้แกล้งเจ้าหนุ่มน้อยหน้าใส อีกฝ่ายก็ล่าถอยไปจนมุมเอาชิดกำแพงใกล้ประตู ชายหนุ่มยึดไหล่บางไว้ และโน้มหน้าเข้าไปหา แต่ก็ต้องพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่ เจ้าหนุ่มน้อย คงคิดว่ากำลังจะถูกทำมชิดีมิร้ายละสิ ถึงได้หน้าซีดเนื้อตัวสั่นขนาดนี้ นภทีป์ก้มไปจนชิดข้างหูของอีกฝ่ายแล้วตะโกนดังๆ “ฉันไม่ใช่เกย์โว้ย! ไม่ต้องกลัวขนาดนี้ก็ได้” พูดจบเขาก็ปล่อยมือจากไหล่ที่จับอยู่และ หัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดี ตะวันฉายทิ้งฟองน้ำในมือและผลักร่างสูงที่ยืนขวางทางออกไปอย่างแรง ก่อนจะผลุนผลันออกจากห้องน้ำไปพร้อมกับใจที่เต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ แต่เธอก็ยังได้ยินเสียงคนในห้องน้ำผิวปากอย่างสบายอารมณ์แทรกมา กับเสียงซูซ่าจากฝักบัว…ฝากไว้ก่อนเถอะนายนภทีป์ ตะวันฉายเข่นเขี้ยวในใจ
บ่วงบาป
เรื่องย่อละคร บ่วงบาป
สุพรรณบุรี รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๖ หรือ ราวพุทธศักราช 2441 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระยาสุรเดชไมตรี(นาท ภูวนัย) ได้มอบศักดินาตลอดจนทรัพย์สินทุกอย่างรวมทั้งบริวารทาสให้ลูกชายคนเดียวคือ ขุนพิทักษ์ (ทฤษฏี สหวงษ์) พร้อมทั้งสั่งเสียว่าขุนพิทักษ์จะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้หลักธรรมอัน ดี ขุนพิทักษ์รับปากพร้อมทั้งตั้งสัตย์ปฏิญาณ ทันใดนั้นสายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงลงมาราวกับเป็นพยาน พระยาสุรเดชไมตรีเห็นดังนั้นก็วายชนม์อย่างสงบ แต่ คุณหญิงมณี(ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้เป็นภรรยากลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวัลเพราะรู้ดีว่าแท้จริงแล้วขุน พิทักษ์ลูกชายเป็นคนไม่เอาการเอางาน ใช้ชีวิตเสพสุขไปวันๆ แต่ที่ผ่านมาอยู่ในกรอบเพราะเกรงกลัวบารมีของบิดาและก็จริงดังที่คุณหญิงมณี กังวล หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพระยาสุรเดชไมตรีได้ไม่นาน ขุนพิทักษ์ก็ใช้ชีวิตสุขสำราญเต็มที่ ประพฤติตนผิดศีลห้าทุกอย่าง หนำซ้ำยังยักยอกทรัพย์ราชการโดยไม่ฟังคำเตือนของคุณหญิงมณี เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้สายตาของ หลวงตามั่น(ยอดชาย เมฆสุวรรณ) อดีตทาสในเรือนเบี้ยของพระยาสุรเดชไมตรีที่ไถ่ถอนตัวเองด้วยการบวช อาจารย์มั่นพยายามทำวิถีทางที่จะเตือนสติเพราะเห็นในนิมิตว่าขุนพิทักษ์จะ อยู่เสวยสุขได้ไม่นาน แต่ขุนพิทักษ์ก็ไม่ฟัง คุณหญิงมณีอยากให้บวช ขุนพิทักษ์ก็ไม่ยอมบวช ด้วยความที่เป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำให้ขุนพิทักษ์เป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายคน รวมทั้ง คุณรำพึง(เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) บุตรสาวของพระยาเทวราช(ศักราช ฤกษ์ธำรง) ที่หลงรักขุนพิทักษ์ตั้งแต่แรกเห็น ส่วนตัวขุนพิทักษ์เองก็หลงใหลในความสวยผุดผ่องของรำพึง ทำให้ขุนไว(กันต์ กันตถาวร)คู่แข่งคู่อาฆาตของขุนพิทักษ์ไม่พอใจ เพราะแอบชอบรำพึงเหมือนกัน แต่ขุนไวดูมีภาษีกว่าเพราะพระยาเทวราชชื่นชอบในความตั้งใจทำงาน ผิดกับขุนพิทักษ์ที่เอาแต่เที่ยวดื่มสุรา เล้าโลมสตรี แต่รำพึงกลับไม่สนใจขุนไวแม้แต่น้อย นายสม(ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) ทาสในเรือนของคุณหญิงมณี พาชุ่ม(หยาดทิพย์ ราชปาล)น้องสาว เข้ามาพึ่งใบบุญเป็นทาสรับใช้ในเรือน ชุ่มร้องไห้เศร้าเสียใจที่ต้องห่าง แม่เย็น(ปวีณา ชารีฟสกุล) แต่เย็นกลับบอกให้ลูกขยันขันแข็งทำงาน ขุนพิทักษ์ดื่มเหล้าเมา เดินเข้าเรือนทาสไปเมาล้มกอดชุ่มในเรือน แจ่ม(ยุวดี เรืองฉาย) ไปรายงานคุณหญิงมณี รำพึงอยู่บนเรือนพอดี ได้ยินแล้วไม่พอใจ พอมีโอกาสจึงจ้องเล่นงานชุ่มตลอดด้วยความหึงหวง เริ่มแรกขุนพิทักษ์ไม่ได้สนใจชุ่มเท่าไหร่ แต่นานวันเข้าความซื่อ ไร้เดียงสาของชุ่ม ทำให้ขุนพิทักษ์หลงรักอย่างไม่รู้ตัว ส่วนชุ่มเองก็แอบรักท่านขุนในความมีน้ำใจ และได้ช่วยชีวิตไว้หลายครั้ง ขุนไวตามติดรำพึงไม่ให้พบกับขุนพิทักษ์ แล้วยังได้แรงส่งจากพระยาเทวราช ทำให้รำพึงขัดใจยิ่งนัก พยายามกดดันให้ขุนพิทักษ์รีบมาสู่ขอ แต่ขุนพิทักษ์เห็นว่าพระยาเทวราชไม่ชอบหน้า จึงลังเลใจอยู่
ขุนพิทักษ์ได้แรงยุจากชุ่ม จึงยอมทำงานไปคัดเลือกเป็นผู้ช่วยเจ้ากรม โดยมีพระยาเทวราชรับผิดชอบงานอยู่ เจอกับขุนไวก็เกือบมีเรื่องกัน ขุนไวท้าให้ประลองการต่อสู้กัน ถ้าใครชนะจะได้เป็นผู้ช่วยเจ้ากรมคนใหม่ และยังได้รำพึงไปครองด้วย ส่วนใครแพ้จะต้องออกจากเมืองไปให้ไกล พระยาเทวราชเห็นดีด้วย นัดให้ประลองในงานเลี้ยงต้อนรับเจ้ากรมคนใหม่ รำพึงยังจ้องรังแกชุ่มตลอดเวลา โดยมีจวง(นฤมล สิทธิเม่ง)คนรับใช้คนสนิทคอยวางแผนด้วย ทั้งยังใส่ร้ายว่าชุ่มทำร้ายตัวเอง ทำให้ขุนพิทักษ์จำใจต้องเฆี่ยนตีชุ่ม เพราะรำพึงเป็นถึงลูกพระยา ยังไงก็มีศักดิ์ศรีกว่านางทาสในเรือน ชุ่มมองขุนพิทักษ์ที่เฆี่ยนตีด้วยความเจ็บช้ำใจ สมพากลับเรือนทาสด้วยความโมโหเช่นกัน เพราะเห็นว่าน้องสาวโดนรำพึงแอบเข้ามาตบตีถึงในเรือน แล้วยังใส่ร้ายจนโดนเฆี่ยนตีอีก ขุนพิทักษ์รู้สึกผิด จะไปขอโทษชุ่ม แต่ชุ่มไม่สนใจ ขุนพิทักษ์เสียใจ ไปดื่มเหล้า เล่นการพนันหามรุ่งหามค่ำ ไม่กลับบ้าน ทั้งไม่ใส่ใจฝึกการต่อสู้ ซึ่งใกล้จะต้องประลองฝีมือกับขุนไวในอีกไม่กี่วัน ชุ่มเห็นแล้วเป็นห่วง ก็เลยยอมพบหน้าขุนพิทักษ์ ขอร้องให้ขุนพิทักษ์ฝึกซ้อมการต่อสู้ ขุนพิทักษ์ยอมทำตามชุ่ม ทำให้คุณหญิงมณีสบายใจขึ้น แล้ววันประลองก็มาถึง ทุกคนตื่นเต้นกับการแข่งขัน รำพึงก็มาดูพร้อมกับพ่อและคุณหญิงมณี หลังการต่อสู้ที่ลุ้นกันอย่างยิ่ง ผลปรากฏว่าขุนพิทักษ์เป็นผู้ชนะ แต่ทั้งนี้ขุนพิทักษ์ใช้กลโกงเอาชนะขุนไว ท่านเจ้ากรม(สมภพ เบญจาธิกุล) ยกตำแหน่งผู้ช่วยให้ขุนพิทักษ์แต่ขุนไวไม่ยอม จะประท้วงว่าขุนพิทักษ์โกง พระยาเทวราชปรามให้ขุนไวยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะทุกคนไม่มีใครเห็นว่าขุนพิทักษ์โกง
ขุนพิทักษ์เจอชุ่ม เห็นชุ่มหมางเมิน ตามไปคุยที่เรืองทาส ชุ่มโพล่งว่าขุนพิทักษ์ ใช้กลโกงจนชนะขุนไว เพราะชุ่มเป็นห่วงขุนพิทักษ์ จึงได้ตามไปดูการประลอง ขณะที่ขุนไวไม่พอใจการประลองครั้งนี้ จึงท้าขุนพิทักษ์ให้มาประลองฝีมือกันใหม่ที่ชายป่า ขุนพิทักษ์ไม่ยอมให้ใครว่าเป็นคนขี้ขลาด ยอมรับการประลองใหม่ ชุ่มอยู่ในเหตุการณ์ด้วยพยายามห้ามขุนพิทักษ์ แต่ไม่ยอมฟัง ทั้งยังห้ามไม่ให้บอกคุณหญิงมณี ชุ่มเป็นห่วงขุนพิทักษ์มาก ในวันประลองรุ่งขึ้น จึงวิ่งไปบอกรำพึงที่บ้าน ขอร้องให้ไปห้ามการประลอง แต่รำพึงไม่สนใจ อยากให้สองหนุ่มแข่งขันประลองเพื่อแย่งเป็นเจ้าของเธอ
ขุนพิทักษ์ประลองดาบกับขุนไว ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ สุดท้ายขุนพิทักษ์เป็นฝ่ายชนะอย่างขาวสะอาด แต่คราวนี้ขุนไววางแผนฆ่าขุนพิทักษ์ จ้างโจรป่ามาลอบฆ่าระหว่างทางกลับบ้าน ขุนพิทักษ์โดนรุม สู้ไม่ไหว บาดเจ็บจนสิ้นสติ พวกโจรทิ้งให้นอนสลบอยู่กลางป่า ดีที่ชุ่มกับสมไปช่วย รีบแบกกลับเรือนทาส แล้วแจ้งคุณหญิงมณีให้ตามหมอมารักษา หมอไม่อยากให้ขุนพิทักษ์กระเทือนบาดแผล จึงให้รักษาตัวอยู่ที่เรือนทาส ชุ่มเฝ้าดูแลขุนพิทักษ์ที่ไข้ขึ้นเพราะพิษบาดแผลอยู่หลายวัน จนอาการทุเลา
ขุนไวไปทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรำพึง เพราะชนะขุนพิทักษ์ ทำให้รำพึงมาที่เรือนขุนพิทักษ์ รู้เรื่องที่โดนโจรป่าทำร้าย และมีชุ่มคอยปรนนิบัติดูแล ก็โมโหเพราะเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก้าวหน้าขึ้น ขุนพิทักษ์รู้แก่ใจว่ารักชุ่มมากกว่ารำพึง ที่สุดขุนพิทักษ์สารภาพรักชุ่ม และได้ชุ่มเป็นเมียในกระท่อนเรือนทาส ขณะที่รำพึงเองโดนขุนไวตามติดถึงเรือน เพื่อให้รีบจัดงานแต่งงาน รำพึงโมโหด่าว่าคุณไวว่าเป็นแค่เด็กวัด อย่าคิดใฝ่สูงถึงลูกพระยา ทำให้ขุนไวลุแก่โทสะ ปล้ำรำพึงเป็นภรรยา และรบเร้าที่จะบอกพระยาเทวราชเพื่อสู่ขอแต่งงาน รำพึงประวิงเวลา ขอให้ขุนไวปิดเรื่องความสัมพันธ์ไว้ก่อน ขุนไวยอมรับปาก
รำพึงกลัวว่าขุนพิทักษ์จะหลุดลอยไป จึงวางแผนกับจวง ให้ขุนพิทักษ์ไปหาที่เรือน บอกว่าไม่สบายมาก แล้วให้กินผงม้าเสพนางเพิ่มความกำหนัด ทำให้ขุนพิทักษ์ได้รำพึงเป็นภรรยา พระยาเทวราชกลับมาพอดี โมโหมาก ให้ขุนพิทักษ์รับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ ขุนพิทักษ์เสียใจที่หลงกลรำพึง เพราะใจขณะนี้รักแต่ชุ่มเพียงคนเดียว ขณะเดียวกันรำพึงก็พยายามเร่งเร้าจะให้จัดงานแต่งงานให้ได้
พระยาเทวราชมาที่เรือนคุณหญิงมณี จำใจเอ่ยปากเรื่องที่ขุนพิทักษ์ทำเรื่องไม่งามกับรำพึง บอกให้คุณหญิงเห็นแก่ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของทั้งสองฝ่าย จัดการให้ขุนพิทักษ์สู่ขอรำพึงให้เร็วที่สุด คุณหญิงมณีไปปรึกษาฤกษ์แต่งงานกับหลวงตามั่นด้วยความไม่สบายใจ หลวงตามั่นบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรม คุณหญิงมณีต่อว่าขุนพิทักษ์ที่ทำเรื่องไม่งาม ขุนพิทักษ์แก้ตัวว่าโดนรำพึงจัดฉาก และบอกคุณหญิงว่าตนได้ชุ่มเป็นเมียแล้ว คุณหญิงมณีอึ้งไป แต่ก็บอกให้ขุนพิทักษ์รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับรำพึง เพราะไม่อย่างนั้นพระยาเทวราชจะมาเอาความกับขุนพิทักษ์ได้
ขุนพิทักษ์มาหาชุ่มที่เรือนทาส ชุ่มเศร้าใจ ขุนพิทักษ์ยืนยันว่ารักชุ่มคนเดียว แต่ทุกอย่างเป็นแผนของรำพึง ที่สุดพิธีแต่งงานก็จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ รำพึงในชุดเจ้าสาวสวยสง่า กับ ขุนพิทักษ์ในชุดเจ้าบ่าว นั่งคู่กันบนแท่นรดน้ำสังข์ รำพึงมีความสุข ในขณะที่ชุ่มนั่งร้องไห้คนเดียวในเรือนทาส
ด้านขุนไวก็ยังไม่ยอมแพ้ จ้องจะก่อเรื่องในงานแต่ง ทำให้พระยาเทวราชสั่งให้ลูกน้องคอยจับตาดูขุนไว ทำให้ขุนไวทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ขุนพิทักษ์ไม่ได้รักรำพึง จึงไม่สนใจ คืนส่งตัวกลับไปหาชุ่มที่เรือนทาส รำพึงรู้เรื่องตามไปอาละวาดเอาตัวกลับมา ขุนพิทักษ์ยอมกลับมานอนด้วย แต่ก็นอนหันหลังให้ รำพึงพยายามเข้าไปหา ขุนพิทักษ์บอกว่าใจของตนมีเพียงชุ่มคนเดียวเท่านั้น รำพึงเสียใจและโกรธแค้นชุ่ม ตั้งใจจะคิดบัญชีในวันรุ่งขึ้น
พิษรักแรงหึง เพิ่งเริ่มต้นขึ้น บ่วงรัก บ่วงกรรม จนกลายเป็นบ่วงบาป จะดำเนินไปอย่างไร ติดตามชมเรื่องราวได้ใน “บ่วงบาป”
รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร บ่วงบาป
ทฤษฎี สหวงษ์ รับบท ขุนพิทักษ์
เณอมาลย์ บุญยศักดิ์ รับบท รำพึง
กันต์ กันตถาวร รับบท ขุนไว
หยาดทิพย์ ราชปาล รับบท ชุ่ม / นวล
ทองภูมิ ศิริพิพัฒน์ รับบท ขุนเกิด
นภัสสร ช่วยเกิด รับบท เกลียว
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท คุณหญิงมณี
นาท ภูวนัย รับบท พระยาสุรเดช
ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ รับบท พระยาเทวราช
วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ รับบท พระยาสุริน
สมภพ เบญจาธิกุล รับบท ท่านเจ้ากรม
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ รับบท หมอไสย
ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ รับบท นายสม
ปวีณา ซารีฟสกุล รับบท นางเย็น
เอก ธณากร รับบท นายอยู่
ยุวดี เรืองฉาย รับบท แจ่ม
นฤมล สิทธิเม่ง รับบท จวง
ยอดชาย เมฆสุวรรณ รับบท หลวงตามั่น
ปิ่นอนงค์
เพียงเพราะคำว่าบุญคุณ ทำให้เธอต้องยอมทำทุกอย่าง เพื่อตอบแทนผู้ชุบเลี้ยง ด้วยการยอมมอบกายและหัวใจ ให้กับชายแปลกหน้าที่ร้ายกว่าซาตาน
ภายใน “ไร่ไพศาล” หรือ “ไพศาลรีสอร์ต แอนด์ ฟาร์ม” อาณาจักรฟาร์มวัวนมอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยแห่งนี้ คือบ้านที่ให้กำเนิดทารกน้อยผู้มีชาติกำเนิดต้อยต่ำนามว่า “ปิ่นอนงค์” (พีชญา วัฒนามนตรี) ปิ่นอนงค์เป็นเพียงลูกสาวของ นางอุ่นเรือน (สินิทรา บุญยศักดิ์) แม่บ้านของ คุณนายครองสุข (อภิรดี ภวภูตานนท์) ผู้ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านละแวกนั้นว่าเป็นแม่มดร้ายแห่งไร่ไพศาล เพราะคุณนายมีนิสัยเอารัดเอาเปรียบเรื่องค่าแรง เห็นแก่ตัว และร้ายกาจกับคนงานลูกน้องในไร่ รวมไปถึงชอบจิกใช้ปิ่นอนงค์และอุ่นเรือนเหมือนทาสในเรือนเบี้ย ด้วยถือว่าพ่อของตัวเองชุบเลี้ยงนางอุ่นเรือนมาแต่เด็ก หนำซ้ำครองสุขก็ยังช่วยส่งเสียปิ่นอนงค์ให้เรียนจนจบปริญญาตรี จนกระทั่งครองสุขเข้ามาอยู่เป็นภรรยาใหม่ของคุณไพศาล ธำรงรัตน์ (สมภพ เบญจาธิกุล) เจ้าของไพศาลรีสอร์ตแอนด์ฟาร์ม ครองสุขก็ยังหนีบเอาอุ่นเรือนติดสอยห้อยตามมาอยู่ด้วยกัน
อุ่นเรือนจึงจงรักภักดีต่อคุณนายเป็นอย่างมาก และสั่งสอนให้ปิ่นอนงค์ ลูกสาวให้เชื่อฟังคุณนายทุกเรื่อง และคอยรับใช้ ทรรศนะ (ศุภกิจ บัวงาม) หลานชาย และ ทัศนีย์ (ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) หลานสาวของคุณนาย ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นลูกติดจาก นายผา (วิทิต แลต) สามีเก่าที่ติดคุกอยู่ ตั้งแต่เด็กทรรศนะเอ็นดูปิ่นอนงค์มาก คอยดูแลเอาใจใส่ปิ่นอนงค์ตั้งแต่เด็กจนโต และได้ให้คำสัญญาว่าจะแต่งงานกับปิ่นอนงค์เพียงคนเดียว เมื่อทรรศนะต้องจากไปเรียนต่อยังต่างประเทศ ปิ่นอนงค์จึงเฝ้านับวันรออย่างเหงาหงอย โดยมีจินตนา (อรัชมน รัตนวราหะ) เพื่อนสนิทสมัยเรียนวิทยาลัยเกษตรที่ทำงานเป็นปศุสัตว์อำเภอคอยปลอบใจ แต่แล้ววันหนึ่ง ชายแปลกหน้าก็ได้หลงเข้ามาในชีวิตหญิงสาว จนทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
ในคืนนั้นปิ่นอนงค์เฝ้าบ้านอยู่เพียงคนเดียว เพราะแม่ป่วยต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนคุณนายครองสุขก็เดินทางไปต่างจังหวัดกับเพื่อน จู่ๆ ก็มีผู้ชายรูปร่างล่ำสัน หน้าตาคมคายปีนเข้ามาในห้อง และบังคับข่มขู่ให้ปิ่นรักษาแผลถูกยิง ด้วยความเป็นคนเมตตาหญิงสาวจึงยินยอมปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แต่โดยดี ระหว่างนั้นคนสวนและตำรวจตามหาคนร้ายมาเคาะประตูเรียก ปิ่นอนงค์แม้จะรู้จากตำรวจว่ามีเหตุฆ่าชิงทรัพย์ในละแวกใกล้ฟาร์ม แต่หญิงสาวก็ตั้งใจช่วยปกปิดให้ชายแปลกหน้าหนีรอดการจับกุมของตำรวจไปได้ แต่ก่อนจากไปชายลึกลับผู้นั้นกลับฝากรอยจูบแรกไว้ให้กับปิ่นอนงค์เป็นการตอบแทน
วันรุ่งขึ้น เมื่อปิ่นอนงค์ขึ้นไปพบครองสุข ก็ถึงกับตกตะลึง เพราะชายแปลกหน้าที่เธอช่วยไว้คือ คุณชาลิต หรือใหญ่ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ทายาทคนเดียวของคุณไพศาล เจ้าของไร่ไพศาล ซึ่งหายสาบสูญไปนานนับสิบปี จนทำให้หลายคนเข้าใจว่าใหญ่ได้ตายไปจากโลกนี้แล้ว
การปรากฏตัวของใหญ่ทำให้คุณนายครองสุขแทบหัวใจวาย เพราะนั่นหมายถึงว่ามรดกทั้งหมดที่ตัวเองครอบครองอยู่ ต้องตกเป็นของทายาทตัวจริงทั้งหมดตามที่พินัยกรรมระบุไว้อย่างชัดเจนก่อนที่พ่อของใหญ่จะเสียชีวิต ซึ่งคุณนายและหลานชาย หลานสาว ซึ่งแท้จริงเป็นลูกชายและลูกสาวแต่คุณนายปกปิดความจริงไว้ จะกลายเป็นเพียงผู้อาศัยทันที ครองสุขจึงต้องหาช่องทางที่จะกำจัดใหญ่ให้หลุดจากกองมรดกให้ได้ คุณนายครองสุขจึงให้ธีระ (อรุชา โตสวัสดิ์) ผู้จัดการไร่ ชู้รักคนล่าสุดที่คุณนายไว้เนื้อเชื่อใจที่สุดไปแจ้งความจับใหญ่ในข้อหาฆ่าคนตาย
ย้อนกลับไปในอดีต ใหญ่ในวัย 16 ปี แอบเห็นครองสุขทะเลาะกับผา สามีเก่าซึ่งออกจากคุกมารีดไถเงินอยู่บ่อยๆ ใหญ่ไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร และไม่รู้ว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร ใหญ่เห็นผู้ชายคนนั้นเอามีดออกมาขู่คุณนาย ใหญ่จึงคิดเข้าไปช่วยเหลือ เกิดการยื้อแย่งมีดกัน จนมีดแทงท้องผู้ชายคนนั้นล้มลง ใหญ่ตกใจมาก คุณนายกลัวความแตกเลยบอกให้ใหญ่หนีไปให้ไกลๆ โดยอ้างว่าใหญ่ฆ่าคนตาย แล้วอย่ากลับมาอีกไม่อย่างนั้นติดคุกแน่ ใหญ่หลงเชื่อ จึงหลบหนีไป
ผาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และให้การว่าตัวเองมาสมัครเป็นคนงานกับคุณนาย แต่โดนใหญ่หาว่าเป็นโจรและทำร้ายผาจนบาดเจ็บ คุณนายกลัวว่าความลับเรื่องผาและตัวเองจะถูกเปิดเผย จึงล่อผาออกมาแล้วเอารถไล่ชนจนตาย ส่วนใหญ่ด้วยความเป็นเด็กคิดว่าผู้ชายคนนั้นตายแล้ว กลัวติดคุกไม่กล้ากลับบ้าน จึงหนีเตลิดไปซ่อนตัวอยู่กับปลอด (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ลูกน้องเก่าของไพศาลที่ไปเป็นนายเหมืองทางใต้ และเมื่อใหญ่โตเป็นหนุ่มจึงขอให้ปานเทพ (ภาณุ สุวรรโณ) หรือปั่น ลูกชายของปลอดซึ่งเรียนจบทนายความลงไปสืบเรื่องคดีเก่า จนได้ความจริงมาว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ตายเพราะโดนแทง แต่ตายจากการโดนรถชน ด้วยเหตุนี้ใหญ่จึงตัดสินใจกลับมาที่บ้านพ่ออีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อ
คุณนายครองสุขเองก็หวาดกลัวความจริงตรงนี้เช่นกัน เพราะตัวเองแอบใส่ยาให้สามีวันละนิด จนคุณไพศาลร่างกายอ่อนแอลงเรื่อยๆ หากใหญ่มาล่วงรู้เข้า คุณนายก็จะเดือดร้อน เหตุนี้คุณนายจึงแสร้งทำดีเอาใจใหญ่สารพัดด้วยการอาสาหาเมียให้ใหญ่ โดยออกอุบายให้ทัศนีย์หลานสาวหว่านเสน่ห์เพื่อแต่งงานกับใหญ่ ทุกคนจะได้อยู่กันอย่างสุขสบายเหมือนเดิม แต่ทัศนีย์เป็นผู้หญิงไม่มีสมอง ชอบผู้ชายหล่อและดูดีจึงรังเกียจที่ใหญ่หนวดเคราครึ้ม พูดจาดุดันเหมือนคนบ้านป่าเมืองเถื่อน เลยไม่ยอมทำตามที่คุณนายสั่ง
คุณนายเปลี่ยนเป้าหมายใหม่คิดยกปิ่นอนงค์ให้เป็นเมียใหญ่ เพราะเคยเห็นใหญ่เคยแอบมองปิ่นอนงค์ด้วยสายตาพึงพอใจ แรกทีเดียวปิ่นอนงค์ไม่ยินยอมเพราะยังเฝ้ารอการกลับมาของทรรศนะหลานชายคุณนาย แต่พอรู้ข่าวว่าทรรศนะกำลังจะกลับมาเมืองไทยพร้อมอรสอางค์ (อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์) คนรักใหม่ โดยมีแผนจะแต่งงานกันในทันทีที่ถึงเมืองไทย ก็ทำให้ปิ่นอนงค์หัวใจแหลกสลาย ประกอบกับแม่อุ่นเรือนขอร้องลูกสาวให้ทำตามคุณนายสั่งเพื่อตอบแทนบุญคุณของครอบครัวคุณนาย
ปิ่นอนงค์ไม่มีความหวังอะไรหลงเหลืออยู่เมื่อไม่มีทรรศนะ เธอจึงยอมตกลงแต่งงานกับใหญ่ แต่แอบเซ็นเงื่อนไขกับใหญ่ไว้ว่าตนเองจะยอมจดทะเบียนแค่ในนามและต้องหย่าให้ภายใน 3 เดือน หลังจากนั้นปิ่นอนงค์จะไปจากที่นี่เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ขอเป็นทาสคุณนายอีกต่อไป ใหญ่ซึ่งแอบมีใจกับปิ่นอนงค์ตั้งแต่แรกเห็นตอนแอบมางานศพพ่อ จึงยอมตกลงอย่างง่ายดาย แต่เป้าหมายสำคัญของเขาคือต้องการทวงคืนสมบัติของพ่อกลับคืนมา และถ้าเขาเป็นเจ้าของฟาร์มก็จะสามารถค้นหาหลักฐานต่างๆ ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น แต่ใหญ่ก็แอบผิดหวังในตัวปิ่นอนงค์ เพราะคิดว่าหญิงสาวเป็นพวกเดียวกับคุณนายครองสุข ก็คงหวังช่วยเหลือคุณนายและเห็นแก่เงินของเขา
จากความรู้สึกดีๆ ที่คิดว่าปิ่นอนงค์เป็นคนจิตใจดีงามกลายกลับเป็นความเกลียดชัง ไม่ไว้วางใจปิ่นอนงค์ ประกอบกับปิ่นอนงค์ให้ความสนิทสนมกับจอม (โดย เหมวรรษ นิตยารส) ลูกชายนายถวิล (ศักราช ฤกษ์ธํารงค์) หัวหน้าคนงานเป็นพิเศษ จอมเองซึ่งแอบรักปิ่นมาตลอดก็คอยมาดูแลปิ่น เพราะกลัวปิ่นจะถูกใหญ่รังแก ทำให้ใหญ่ยิ่งเข้าใจผิดว่าปิ่นชอบยั่วยวนผู้ชาย ทรรศนะพาแฟนใหม่กลับมาในวันแต่งงานของปิ่นอนงค์พอดิบพอดี ทรรศนะเกิดอาการเสียดายปิ่นอนงค์เพราะหญิงสาวอยู่ในชุดเจ้าสาวที่สวยงามที่สุด ส่วนทัศนีย์น้องสาวของทรรศนะก็แทบอยากวิ่งเข้าไปแย่งตัวใหญ่คืนมา เพราะใหญ่โกนหนวดเคราตัดผมจนหล่อเหลา เหมือนเป็นคนละคนกับใหญ่ในวันก่อน
คุณนายครองสุขสมน้ำหน้าหลานสาวที่ไม่ยอมเชื่อฟังแต่ต้น อรสอางค์เห็นทรรศนะจ้องมองเจ้าสาวตาไม่กะพริบ จึงเกิดความสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ อรสอางค์แอบถามทัศนีย์ ทัศนีย์เป็นคนปากพล่อยอยู่แล้วจึงบอกอรสอางค์ว่าสองคนเคยรักกัน และใส่สีตีไข่ให้อรสอางค์เห็นว่าปิ่นอนงค์เป็นผู้หญิงร้ายกาจและชอบยั่วยวนผู้ชาย ถึงจะแต่งงานแล้วก็ให้ระวังปิ่นอนงค์จะงาบทรรศนะไปอีกคน ทำให้อรสอางค์หึงหวงและมองปิ่นอนงค์เป็นศัตรูในทันที แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงฉลาดทันเกม อรสอางค์จึงแกล้งทำเป็นญาติดีกับปิ่นอนงค์ไปก่อน
ใหญ่เข้ามาดูแลกิจการไพศาลรีสอร์ตแอนด์ฟาร์มเต็มตัว โดยเอาปานเทพเข้ามาช่วย คุณนายครองสุขไม่พอใจที่ถูกลดทอนอำนาจลง โดยใหญ่โอนหน้าที่การดูแลบ้านและเด็กๆ บนเรือนใหญ่ให้ปิ่นอนงค์ดูแลในฐานะคุณผู้หญิงคนใหม่ของบ้าน แถมยังปลดธีระลงไปเป็นคนงานรีดนมวัวในข้อหายักยอกเงินบริษัท คุณนายครองสุขไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้างัดข้อกับใหญ่ จึงหันไปเล่นงานปิ่นอนงค์ด้วยการยึดเครื่องประดับซึ่งเป็นของหมั้นในงานแต่งไปจนหมด และยังบีบบังคับให้ปิ่นอนงค์คอยรายงานพฤติกรรมใหญ่ทุกฝีก้าว ปิ่นอนงค์ไม่อยากทำแต่ก็ต้องจำใจ เพราะคุณนายอ้างแต่เรื่องหนี้บุญคุณ ใหญ่รู้ว่าปิ่นอนงค์คอยจับตาเขาขณะที่เขาเข้าไปห้องนอนเก่าของพ่อ และคอยสะกดรอยตามเขาไปหลายแห่งของฟาร์ม ใหญ่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอสบโอกาสก็วางแผนล่อปิ่นอนงค์ให้ตามไปที่เรือนไม้สวยๆ ในฟาร์มแล้วแอบกอดจูบปิ่นอนงค์โดยหลอกว่าจะปล้ำปิ่นอนงค์เป็นเมีย ปิ่นอนงค์กลัวมากไม่กล้าที่จะสะกดรอยตามใหญ่อีก แต่คนที่ทำหน้าที่แทนคือจอม ที่ปักใจว่าใหญ่เป็นวายร้าย
ด้านทรรศนะจิตใจโลเลคิดแย่งปิ่นอนงค์คืนจากใหญ่ ทำให้เกิดทะเลาะกับอรสอางค์จนทรรศนะบอกขอเลิก อรสอางค์เจ็บใจมากประกาศไม่ยอมเลิกกับทรรศนะ ใหญ่เองก็เริ่มไม่พอใจที่ทรรศนะคอยวนเวียนวุ่นวายกับปิ่นอนงค์ไม่เลิกรา ส่วนทัศนีย์ก็อยากเป็นเมียน้อยใหญ่พยายามยั่วยวนทุกวิถีทางแต่ทำไม่เคยสำเร็จเพราะปานเทพคอยขัดขวางกวนประสาทอยู่ สุดท้ายทัศนีย์โดนใหญ่แกล้งทำเป็นจะจับรัดโซ่แล้วใช้เข็มขัดฟาด เล่นเอาทัศนีย์วิ่งหนีแทบไม่ทัน แต่ปิ่นอนงค์เห็นทัศนีย์ออกมาจากห้องใหญ่กลางดึกจึงเข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่มีอะไรกัน ปิ่นอนงค์รู้สึกหึงหวงโดยไม่รู้ตัวว่าเริ่มรักใหญ่เข้าให้แล้ว อรสอางค์ขอให้ใหญ่ควบคุมเมียตัวเองให้ดีอย่ามายุ่งเกี่ยวกับทรรศนะอีก ใหญ่สั่งห้ามปิ่นอนงค์ไม่ให้เข้าไปในฟาร์มเพราะกลัวจะไปเจอกับทรรศนะซึ่งทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดการท่องเที่ยว
ทรรศนะคิดรวบหัวรวบหางปิ่นอนงค์ เพราะรู้ว่าปิ่นอนงค์แต่งงานกับใหญ่ตามคำสั่งคุณนายครองสุข จึงแกล้งทำทีว่าได้รับบาดเจ็บโดนวัวชน แล้วให้ทัศนีย์มาตามปิ่นอนงค์ไปช่วยดู ปิ่นอนงค์หลงกลขึ้นไปหาทรรศนะที่บ้านพักของเขาในฟาร์ม ทรรศนะอ้อนวอนขอคืนดี จะแต่งงานกับปิ่นอนงค์ทันทีที่หญิงสาวยอมเลิกกับใหญ่ แต่ปิ่นอนงค์สารภาพว่าไม่ได้รักทรรศนะแล้วเธอมีใหญ่อยู่ในหัวใจเพียงคนเดียว
เมื่อถูกปฏิเสธทรรศนะผิดหวังอย่างรุนแรง จึงเข้าปลุกปล้ำปิ่นอนงค์แต่ใหญ่เข้ามาช่วยได้ทัน ใหญ่ชกหน้าทรรศนะ ประกาศห้ามข้องเกี่ยวกับปิ่นอนงค์อีก ส่วนทัศนีย์เมื่อทำตามแผนเสร็จพอจะเดินกลับเรือนใหญ่ก็ถูกธีระที่เมามายอยู่กับพวกคนงานฉุดไปข่มขืน ปานเทพเข้าช่วยไว้ได้ทัน ทำให้พวกธีระหนีกระเจิงไปจากไร่
คุณนายครองสุขเริ่มทนไม่ไหวที่ทรรศนะโดนรังแก แถมตัวเองก็ถูกตัดค่าใช้จ่ายโน่นนี่หลายอย่างเพราะใหญ่หาว่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
คุณนายคิดฆ่าใหญ่เหมือนที่เคยทำกับพ่อใหญ่โดยสั่งให้ปิ่นอนงค์ใส่ยาให้ใหญ่กินทุกวัน ปิ่นอนงค์ทำไม่ลง แต่หากจะปฏิเสธคุณนาย ด้วยนิสัยคุณนายต้องหาทางทำให้สำเร็จจนได้ ปิ่นอนงค์จึงเลือกที่จะช่วยคุ้มครองใหญ่ด้วยการแกล้งยอมทำตามคำสั่งคุณนาย แต่แทนที่จะใส่ยาพิษก็เปลี่ยนเป็นใส่ยาบำรุงให้แทน โชคช่วยปิ่นอนงค์เมื่อใหญ่ไปดูแลฟาร์มจนเปียกฝนทำให้เป็นไข้ล้มป่วย คุณนายคิดว่าเป็นผลจากยาพิษของตน จึงเชื่อใจปิ่นอนงค์ว่าทำตามคำสั่งจริง
ปิ่นอนงค์เฝ้าดูแลอาการป่วยใหญ่ ใหญ่อ้อนปิ่นอนงค์สารพัดจนปิ่นอนงค์ยอมให้ใหญ่นอนกอดทั้งคืนจนเผลอใจตกเป็นเมียใหญ่ด้วยความเต็มใจ ความรักของคนทั้งคู่เริ่มพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังปกปิดความรู้สึกไม่กล้าแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้ตรงๆ ด้านอรสอางค์ยังไม่ยอมแพ้ปิ่นอนงค์ง่ายๆ เมื่อรู้ว่าคุณนายครองสุขกำลังตกที่นั่งลำบาก พลาดพลั้งไปติดหนี้การพนันเป็นล้าน อรสอางค์จึงยื่นขอเสนอชดใช้หนี้ให้เพื่อแลกกับการได้แต่งงานกับทรรศนะ คุณนายตกลง ไปบังคับให้ทรรศนะยอมแต่งกับอรสอางค์จนสำเร็จ ทรรศนะต้องอยู่กับอรสอางค์อย่างฝืนความรู้สึกเพราะไม่อาจหักใจจากปิ่นอนงค์ได้ เขาจึงดื่มหนักทุกวันจนติดเหล้า ปิ่นอนงค์ทนเห็นคนที่เคยรักกลายเป็นคนหมดอนาคตไม่ได้ จึงเข้าไปช่วยดูแลทรรศะตอนเมามายหมดสติ แต่อรสอางค์และใหญ่มาเห็นเข้า เกิดความเข้าใจผิดว่าทั้งคู่ยังมีเยื่อใยต่อกัน ใหญ่ลากปิ่นอนงค์กลับห้องด้วยความโกรธ กล่าวหาว่าปิ่นอนงค์คิดมีชู้ ต่างคนต่างถือศักดิ์ศรีไม่ยอมพูดจากัน ความมึนตึงของปิ่นอนงค์ยิ่งทำให้ใหญ่ปักใจเชื่อว่าปิ่นอนงค์รักทรรศนะ ส่วนอรสอางค์ก็ทุกข์ระทมที่ไม่สามารถครอบครองหัวใจของทรรศนะได้ ยิ่งแค้นใจปิ่นอนงค์หนักขึ้นร่วมมือกับธีระที่วนเวียนเข้ามาขอเงินครองสุขจ้างคนมาฉุดปิ่นอนงค์ไปโยนหน้าผา แต่คนที่รับเคราะห์คืออุ่นเรือน ปิ่นอนงค์กับจอมตามหาอุ่นเรือนแต่ไม่พบจึงยังไม่รู้ว่าอุ่นเรือนตายแล้ว
คุณนายครองสุขเอาเรื่องนี้ที่อรสอางค์สั่งฆ่าปิ่นอนงค์ คอยบีบอรสอางค์เพื่อขอเงินไปเล่นการพนัน อรสอางค์เก็บความแค้นไว้เพื่อรอเอาคืนกับคุณนาย ขณะเดียวกันก็บังเอิญไปเห็นปิ่นอนงค์ใส่ยาบำรุงในกาแฟให้ใหญ่ จึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใหญ่ฟังกล่าวหาปิ่นอนงค์ว่าคิดฆ่าใหญ่เพื่อตัวเองจะได้สมหวังกับทรรศนะ เพื่อหวังให้ปิ่นอนงค์เข้าไปอยู่ในคุก ใหญ่ไม่เชื่อว่าปิ่นอนงค์จะร้ายกาจถึงขั้นฆ่าคน จึงแก้ตัวแทนภรรยา แต่อีกใจก็ยังคลางแคลงใจอยู่ จึงรอดักดู พบว่าปิ่นอนงค์ใส่ยาลงในกาแฟให้เขากินจริงๆ ใหญ่ผิดหวังอย่างรุนแรงเข้าไปแย่งยาจากมือปิ่นอนงค์ ปิ่นอนงค์พยายามจะอธิบายว่าไม่ใช่ยาพิษแต่ก็พูดไม่ออก ทัศนีย์สะใจเชียร์ให้ใหญ่แจ้งตำรวจจับปิ่นอนงค์ แต่ใหญ่ทำไม่ลง ได้แต่ตัดใจขอหย่ากับปิ่นอนงค์เพื่อปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ
หลังการหย่า ปิ่นอนงค์พาแม่ออกจากฟาร์มไพศาลไปเช่าบ้านเล็กๆ อยู่ด้วยกันโดยจอมเป็นคนพาไป หญิงสาวต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่ายาค่ารักษานางอุ่นเรือนที่ป่วยหนักขึ้น แม้จอมจะช่วยทำงานแต่รายได้ก็ไม่พอ จินตนาตามหาจนเจอจอมแต่จอมก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่กับปิ่น ในที่สุดปิ่นอนงค์ได้งานรับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหารชื่อดัง ทัศนีย์ควงใหญ่มากินข้าวพอดี ใหญ่ถึงกับอึ้งที่เห็นปิ่นอนงค์ในสภาพนี้ ส่วนทัศนีย์ก็เยาะเย้ยถากถางปิ่นอนงค์ให้ได้อายคนในร้านอาหาร ใหญ่สงสารปิ่นอนงค์จับใจแต่ก็ต้องวางท่าหยิ่งใส่อดีตภรรยา แต่พอลับหลังทุกคนใหญ่ก็อดห่วงใยปิ่นอนงค์ไม่ได้ จึงหาทางช่วยเหลือให้ปิ่นอนงค์ได้ไปทำงานในบริษัทเพื่อนของเขา และแอบจ่ายเงินค่ารักษาแม่ของปิ่นอนงค์โดยที่หญิงสาวไม่รู้ว่าใครคือผู้มีพระคุณที่แม่พูดถึง เพราะนางอุ่นเรือนรับปากใหญ่ให้ช่วยปิดเป็นความลับ
ปานเทพทนไม่ไหวที่ทัศนีย์คอยยุแยงใหญ่จึงปลอมตัวเป็นโจรฉุดทัศนีย์ไปไว้ที่เหมือง แล้วให้เพ็ญ (ปิยะดา เพ็ญจินดา) เมียใหม่ของปลอดผู้เป็นพ่อดัดนิสัยทัศนีย์ ระหว่างอยู่ที่เหมือง ความสัมพันธ์ระหว่างปานเทพกับทัศนีย์ก็ใกล้ชิดจนกลายเป็นความรัก ทัศนีย์เล่าถึงแผนต่างๆ ที่ร่วมกับครองสุขให้ปานเทพฟัง ปานเทพจึงรีบมาบอกใหญ่ ใหญ่จึงเอายาพิษที่แย่งไปจากมือปิ่นอนงค์ ฝากให้ปานเทพนำไปตรวจสอบ ผลปรากฏว่ามันคือยาบำรุง ใหญ่เสียใจที่เข้าใจปิ่นอนงค์ผิด และคิดแก้ตัวด้วยการหาหลักฐานเอาผิดคุณนาย จนกระทั่งไปพบความจริงว่าคุณนายใส่ยาพิษให้พ่อเขากินจนเสียชีวิต เหมือนที่ตั้งใจให้ปิ่นอนงค์ทำกับเขาอีกคน คุณนายกลัวโดนตำรวจจับจึงหนีไปจากฟาร์มแต่ระหว่างทางกลับถูกธีระดักฆ่าตาย ส่วนอรสอางค์ถูกตำรวจจับข้อหาจ้างวานฆ่าปิ่นอนงค์ ตามคำซัดทอดของธีระที่ตำรวจตามจับตัวมาได้ ทำให้ปิ่นอนงค์รู้ว่าอุ่นเรือนเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ทรรศนะติดเหล้าจนคลุ้มคลั่งจนต้องถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
ปิ่นอนงค์รู้ข่าวตามไปคอยดูแลทรรศนะจนอาการดีขึ้น เพราะทรรศนะเกิดกำลังใจและมีความหวังว่าจะได้กลับมาคืนดีกับปิ่นอนงค์อีกครั้ง ใหญ่ตามง้องอนปิ่นอนงค์แต่ไม่สำเร็จ ยิ่งเห็นปิ่นอนงค์ไปสนิทสนมกับทรรศนะ ใหญ่เกิดความน้อยใจจะทิ้งฟาร์มกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบทางภาคใต้ ระหว่างนั้นปิ่นอนงค์รู้ความจริงจากแม่ว่าคนที่คอยดูแลจ่ายค่ารักษาให้และช่วยเหลือปิ่นอนงค์ตลอดเวลาก็คือใหญ่นั่นเอง ปิ่นอนงค์รีบไปหาใหญ่ที่ฟาร์มเพื่อบอกหัวใจตนเองให้ใหญ่รับรู้ แต่ก็ไม่พบใหญ่เสียแล้ว แถมทนายความยังแจ้งให้หญิงสาวรับรู้ว่าใหญ่ได้ยกฟาร์มนี้ให้กับปิ่นอนงค์เพียงผู้เดียว ปิ่นอนงค์ช็อกและยอมดูแลฟาร์มเพื่อรอการกลับมาของใหญ่ มีจินตนาเข้ามาเป็นผู้ช่วยจนได้พบรักกับจอม ส่วนปานเทพก็ตกลงใจแต่งงานกับทัศนีย์ซึ่งกลับตัวเป็นแม่ศรีเรือน ด้วยฝีมือของเพ็ญ
เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน ในห้องนอนของปิ่นอนงค์ มีชายแปลกหน้าปีนหน้าต่างเข้ามาปลุกปล้ำปิ่นอนงค์ หญิงสาวตกใจต่อสู้สุดชีวิต พอกระชากผ้าปิดหน้าชายคนนั้นออก กลับกลายเป็นใหญ่ผู้ที่ปิ่นอนงค์เฝ้ารอคอย ปิ่นอนงค์กอดใหญ่ไว้แนบแน่นและจะไม่ยอมชายหนุ่มคนนี้ให้หลุดลอยไปจากชีวิตของเธออีกตลอดกาล
มารยาริษยา 2555
มารยาริษยา เป็นเรื่องราวการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด ทั้ืงเรื่องความรัก ธุรกิจ ของ 2 นางแบบ เพียงดาว ซูเปอร์โมเดลเจ้าอารมณ์ขาวีนจอมเหวี่ยง นางแบบเบอร์ 1 แห่งวงการที่กำลังถูกเขย่าบัลลังก์เพราะวัยที่มากขึ้น เพียงดาวเป็นนางแบบสาวรุ่นใหญ่เป็นคนปิดตัวเอง เพราะมีอดีตในชีวิต กับครอบครัวที่แตกแยก เป็นคนตรงๆ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
เพียงดาว แอบลักลอบอยู่กินไปช่างภาพหนุ่มโอม และมีเพื่อนสนิท 2 คน คือ แต้ว บก. นิตยสาร และ ป้าอู๋ เพื่อนสาวประเภทสองที่รู้ ด้วยหน้าที่การงานทำให้เธอไม่สามารถเปิดเผยความจริงได้ มีเพียงเพื่อนสนิท แต้วและป้าอู๋ ที่รู้
วันหนึ่งเพียงดาวมาเจอกับนางแบบรุ่นน้อง ดีนี่ เธอเข้ามาเป็นดาวดวงใหม่ของวงการนางแบบที่เปลือกนอกแสนบริสุทธิ์สดใส แต่ภายในเต็มไปด้วยไฟแห่งริษยาและทะเยอทะยาน ดีนี่ แอบชอบ โอม สามีของเพียงดาว และทำทุกอย่างเพื่อให้โอมหันมาสนใจ และโอมก็คือต้นเหตุที่ให้ เพียงดาว และ ดีนี่ มีปัญหากัน เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ห้ามพลาด มารยาริษยา
กี่เพ้า
รักแค้นแน่นฝังลึกลงผืนผ้า กี่เพ้า
แม้คืนวันเลยล่วง โบตั๋นกลีบบางนั้น
ยังคงรอวันหวนคืน
กี่เพ้าสีแดงเลือดนก ลายดอกโบตั๋นสีชมพู จุดเริ่มต้นของเรื่องราวการฆาตรกรรม ปริศนาอันน่าสะพรึงกลัว และความลับดำมืดที่ซ่อนอยู่
เพกา หรือ พิ้งค์ทำงานอยู่พิพิธภัณฑ์ที่อเมริกาโดยมี แฮร์โรว์เป็นเจ้านาย เพกาเผลอไปสวมชุดกี่เพ้าที่ใช้ทำการแสดงจะเห็นฆาตกรสวมกำไลหยกกำลังฆ่าหญิง สาวคนหนึ่งที่สวมกี่เพ้าชุดเดียวกันกับที่หล่อนใส่
เพกาทำผ้ากี่เพ้าของเจ้าหมิงเทียนขาดจึงจ้องเดินทางมาฮ่องกงเพื่อเย็บผ้า กี่เพ้าให้สำเร็จโดยต้องพบกับวิญญาณของสุคนธา คนรักเก่าของเจ้าหมิงเทียน และผู้คนอีกหลายคนทั้ง เจ้าเหวินเยื่ย พ่อของเจ้าหมิงเทียน คุณนายใหญ่หวังลี่ผิง แม่ของเจ้าหมิงเทียน หลินเหม่ยอิง แม่เลี้ยงของเจ้าหมิงเทียน เพ่ยเพ่ยลูกติดของหลินเหม่ยอิง รวมทั้งการตายของสุคนธา และ เจ้าหมิงซาน พี่ชายของเจ้าหมิงเทียนที่เป็นคู่เกย์กับเหลียงเหว่ยเหอ โดยทุกคนในบ้านสงสัยว่าเหลียงเหว่ยเหอเป็นคนฆ่าสุคนธา
นักแสดงละคร กี่เพ้า
กฤษฎา พรเวโรจน์ รับบทเป็น เจ้าหมิงเทียน
แอน ทองประสม รับบทเป็น เพกา/พิ้งค์ และ สุคนธา/เมย์ลี/เหม่ยลี่
นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับบทเป็น เจ้าเหวินเยี่ย
จินตหรา สุขพัฒน์ รับบทเป็น หวังลี่ผิง/คุณนายใหญ่
วรวุฒิ นิยมทรัพย์ รับบทเป็น เจ้าหมิงซาน
พิชญ์นาฏ สาขากร รับบทเป็น เจ้าหลินเพ่ย/เพ่ยเพ่ย
อนุชิต สพันธุ์พงษ์ รับบทเป็น เหลียงเหว่ยเหอ
อนุวัฒน์ นิวาดวงศ์ รับบทเป็น หวางจิ้นเจิน
พิจิตรา สิริเวชพันธ์ รับบทเป็น หวางอวี้เหลียน
ปนัดดา วงศ์ผู้ดี รับบทเป็น หลินเหม่ยอิง/คุณนายเล็ก
อนันต์ บุนนาค รับบทเป็น แฮรี่
ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์รับบทเป็น เดซี่
ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รับบทเป็น อาจือ
ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์ รับบทเป็น แทนไท
ปานเลขา ว่านม่วง รับบท คุณพร้อม
อรศรี บาเล็นเอก้า รับบทเป็น ภุมรี
สมภพ เบญจาธิกุล รับบทเป็น อาหัว
วิสรรค์ ฉัตรรังสิกุล รับบท หย่งชัน
ฐษชัย ชนะอรรถกาล รับบทเป็น อี่เหวิน
ดีใจ ดีดีดี รับบทเป็น ซิ่วหลาน
แม็ค ชวนชื่น รับบท เจิ้นหลุน
ภูผาแพรไหม
“ภูผา” ชายหนุ่มที่มีสาวงามล้อมรอบกายถึงสามคน “แพรไหม” “ปรางแก้ว” “เจ้าแสงมณี” หากเขามีหัวใจดวงเดียวมอบให้แพรไหม แต่เพราะความเข้าใจผิดว่าเธอคือคนที่ฆ่าพี่ชาย ทำให้ภูผาต้องห้ามความรู้สึกลึกซึ้งในใจ โดยใช้ความโกรธ เกลียด และความเย็นชา ปิดหัวใจตนเอง
“แพรไหม” ผู้ยึดมั่นในความกตัญญู จึงยอมหมั้นหมายกับเจ้าชายหนุ่ม “แสงฉาย” หากในหัวใจกลับผูกพันห่วงใย…”ภูผา” ทุกสิ่งที่เธอทำ เพียงเพื่อเขา เพราะคำว่า “รัก” เพียงคำเดียว
ทว่า…เมื่อแรงแค้นและความเข้าใจผิดยัง เกาะกุมใจอยู่ อีกหนึ่งก็ต้องกตัญญู ท้ายที่สุดใจทั้งสองดวงจะมีวันได้มาเกี่ยวพันกันหรือไม่? เอาใจช่วยพวกเขาพร้อมกันได้ ละครภูผาแพรไหม
นักแสดงละคร ภูผาแพรไหม
ภูผา – ทฤษฎี สหวงษ์
แพรไหม – ณฐพร เตมีรักษ์
เจ้าแสงฉาย – เป๊ก เปรมณัช (ดีเจ เป๊ก).
เจ้าแสงมณี – อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์
พันทิญา – พรชิตา ณ สงขลา
ปรางแก้ว – เธียยเกศ ไอสุรางฆ์
ทวีป – พิษณุ นิ่มสุวรรณ
พิพัฒน์ – เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล
พิพิธ – พิเชษฐไชย ผลดี
ชัย – สวิส เพชรวิเศษศิริ (รับเชิญ)
บุญศรี – อำภา ภูษิต
วนิดา – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์
ดวงใจ – นฤมล นิลวรรณ
ศุภลักษณ์ – เพ็ญพักตร์ ศิริกุล
เจ้าแม่จำเป็น
ณ สำนักเจ้าแม่มหาลาภโพธิ์ทอง เป็นที่ตั้งของสำนักร่างทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากของชาวบ้าน ร่างทรงคือ กะละแม (ยิปซี คีรติ) เด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับ โต๊ด (เกรียงไกร อุณหนันท์ ) พ่อของ ติ่ง (ฟรอยด์ ณัฎฐพงศ์) และ ตุ้งแช่ (เฟม ชวิน ลิขิตเจริญพงษ์) แม้ว่าลึกๆ กะละแมจะไม่อยากทำอาชีพหลอกลวงชาวบ้าน แต่เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว ทำให้กะละแมต้องทำและไม่ได้เรียนต่อ บอกความจริงกับใครไม่ได้ แม้แต่ โทฟู่ (เกรซ เดอะสตาร์) นักเรียนแพทย์เพื่อนสนิท แต่เธอก็หวังลึกๆว่าถ้าโต๊ดมีเงินมากพอ เธอจะเลิกเข้าทรงใบ้หวย แล้วกลับไปเรียนต่อตามที่ฝันไว้
ชิณ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของที่ ต้องการที่จะเปลี่ยนชุมชนให้เป็นห้างสรรพสินค้า เพราะบริษัทคู่แข่งของจักกาย (แฟร์ กันต์ดนย์ อะคหชาน) เตรียมจะสร้างห้างเช่นกัน ชิณ จำเป็นต้องกำจัดกะละแมและสำนักทรงเจ้า เพราะคิดว่าเป็นพวกต้มตุ๋นชาวบ้าน และเป็นหัวโจกในการต่อต้านการไล่ที่ของเขา ด้าน ฉายตะวัน (มยุรา เศวตศิลา) ผู้เป็นแม่ของชิน กลัวว่าลูกชายจะทำงานจนไม่มีเวลาหาคู่ กิมเอ็ง (ญาณี จงวิสุทธิ์) เพื่อนสนิท ที่จ้องจะจับชิณคู่กับ มิ้ว (พิชญ์นาฎ สาขากร) ลูกสาวตัวเองเสมอ จึงพาฉายตะวันไปดูหมอที่สำนักทรงของกาละแม ฉายตะวันเลื่อมใสเจ้าแม่ในร่างทรงของกาละแมเป็นอย่างมาก
จักกายเริ่มสนใจความหยิ่งของกาละแม จึงตีสนิทกับโทฟู่ เพื่อตีซี้กาละแมและยุให้กาละแมทรงเจ้าต่อไป ชิณจะได้สร้างห้างไม่สำเร็จ แต่กาละแมไม่ยอมรับข้อเสนอของจักกาย วันหนึ่ง ชิณ ถูก ก๋อย (แจ๊ค เฉลิมพล) ลูกน้องของดวง (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) ซึ่งเป็นลูกชายของเสี่ยนุ้ย (เป็ด เชิญยิ้ม) เจ้ามือหวยรายใหญ่ประจำชุมชน ยกพวกรุมทำร้ายจนชิณบาดเจ็บ กาละแมพาชินส่งโรงพยาบาล แต่ชินเข้าใจผิด คิดว่ากาละแมเป็นคนพาพวกมาทำร้ายตน แต่ภาพวิดีโอวงจรปิดทำให้กาละแมพ้นข้อกล่าวหา ฉายตะวันจึงสั่งให้ชิณขอโทษกาละแม
ชิณยังเดินหน้าหาทางไล่ที่กาละแมกับคนในชุมชนต่อไป โดยงัดไม้ตายจ่ายเงินให้โต๊ดสามล้านบาท เพื่อให้โต๊ดและครอบครัวย้ายออกไป จักกายแอบมาหาโต๊ดและทุ่มเงินกลับถึงสี่ล้านบาท เพื่อให้ทุกคนกลับมาอยู่ในชุมชนอีกครั้ง กะละแมสงสัยและคาดคั้นโต๊ด จนรับสารภาพว่ารับเงินมาจาก ชิณ และจักกาย กะละแม จึงเอาเงินทั้งหมดไปคืน
ชาวบ้านถูกหวยกันอีกครั้ง จากการทรงเจ้าใบ้หวยของกะละแม เสี่ยนุ้ยแค้นใจมาก สั่งให้ลูกน้องไปพังบ้านกะละแม จักกายประกาศให้ความช่วยเหลือให้กะละแมและครอบครัวไปอาศัยอยู่ที่บ้าน พอฉายตะวันรู้เรื่อง ก็ไปหากะละแมถึงบ้านจักกาย พร้อมทั้งเสนอให้กะละแมและครอบครัวมาอยู่ที่บ้านตนและเปิดสำนักทรงในบ้านได้ โต๊ดดีใจรีบตกลง แต่มิ้วและกิมเอ็งปรี๊ดมาก ชิณและกะละแมได้มาอยู่ใกล้ชิดกัน ต่างก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่ลึกๆก็หวั่นไหวและมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน เสี่ยนุ้ยพยายามบังคับโต๊ดกลับมาเปิดสำนักร่างทรงและใบ้หวยหลอกให้ชาวบ้านโดนกิน แต่กะละแมไม่ยอมหลอกชาวบ้านอีกแล้ว ทำให้กะละแมกับโต๊ดตัดขาดกัน โต๊ดบังคับให้ตุ้งแช่เป็นร่างทรงแทน กะละแม โทฟู่ และชิณ ปลอมตัวไปดูด้วยความเป็นห่วง
ในที่สุดกะละแม โทฟู่ จักกาย และติ่ง ก็ร่วมมือวางแผนเปิดโปงทุกอย่าง จึงจัดตั้งพิธีทรงเจ้าครั้งใหญ่ที่สำนักทรงในบ้านเสี่ยนุ้ย โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาจับธุรกิจหวยเถื่อนของเสี่ยนุ้ย แต่กะละแมต้องแลกมาด้วยการประนามหยามเหยียดจากชาวบ้านว่าเป็น 18 มงกุฏ ในขณะที่ชิณยอมรับแล้วว่ารักกะละแม แต่ฉายตะวันรับไม่ได้ และไม่ให้อภัย ชิณต้องยอมออกจากบ้านตัวเปล่า เพื่อพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อผู้หญิงธรรมดาอย่างกะละแม เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ติดตามได้ในละคร เจ้าแม่จำเป็น
บ่วงวันวาร
สมัย ร.5 ฉัตร (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) และ ฉาย (อัครัฐ นิมิตชัย) 2 พี่น้อง สำเร็จการศึกษาจากรัสเซีย พระยาโกสินทร์ (สรพงษ์ ชาตรี) จึงคิดจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของบุตรชายทั้งสองอย่างเอิกเกริก แต่ฉายพาแอนนาเมียแหม่มกลับมาด้วย พระยาโกสินทร์จึงฝากความหวังเรื่องลูกสะใภ้สมหน้าสมตาไว้ที่ฉัตรคนเดียว
นายชด (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) เป็นหนี้พระยาสมาน (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) จึงเอาบัว (วรัทยา นิลคูหา) ลูกสาวคนเดียวมาเป็นทาสขัดดอก พระยาสมานคิดจะเอาบัวเป็นเมียคนล่าสุดให้ได้ จึงฝากให้อยู่ในความดูแลของน้อย (พิชญา เชาวลิต) ทาสในเรือนเบี้ย ทำให้ด้วง (เก็จมณี วรรธนะสิน) เมียทาสที่อยากขึ้นเป็นคุณหญิงคนใหม่ชังน้ำหน้าบัวขึ้นมาทันที จึงเอาเรื่องบัวไปเล่าให้พิศ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวคนเดียวของพระยาสมานฟัง แต่พิศกำลังวุ่นวายเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงฉัตรและฉาย จึงทำให้ยังไม่ได้เห็นหน้าบัว
ในงานเลี้ยง พระยาสมานแสร้งไม่สบายเพื่อขอลากลับก่อน พิศที่หลงรักฉัตรทันทีที่เห็นหน้าก็แสร้งทำเป็นไม่สบายอ้อนฉัตรเช่นกัน ในขณะที่พระยาสมานแอบกลับบ้านเพื่อจะไปเอาบัวเป็นเมียในคืนนี้ให้ได้ แต่ขณะที่พระยาสมานกำลังจะข่มเหงบัว ฉัตรก็เข้ามาช่วยบัวเอาไว้ได้ทัน เพราะฉัตรพาพิศที่แกล้งไม่สบายกลับมาส่งบ้าน ฉัตรเห็นหน้าบัวก็หลงรักทันที พิศจึงเกลียดบัวตั้งแต่นาทีนั้นจับใจและสั่งย้ายบัวจากเรือนทาสไปอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนและหาวิธีกลั่นแกล้งบัวต่างๆ นานา ถึงแม้ฉัตรจะรู้ว่าบัวเป็นเพียงทาสขัดดอกก็ไม่ได้รังเกียจ น้อยเป็นคนคอยส่งข่าวสารให้ระหว่างบัวกับฉัตร แต่น้อยก็ต้องระวังตัวแจเพราะกลัวจะถูกพิศลงโทษ
หลังจากวันนั้นพระยาสมานยังไม่กล้าทำอะไรบัวเพราะเกรงใจพิศ แต่สั่งเพียร (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ลูกทาสที่เกิดจากนางพุ่ม (ปวีณา ชารีฟสกุล) เมียทาสคนหนึ่งให้คอยจับตาไว้ เพียรอยากเอาใจพ่อด้วยหวังว่าจะได้ความเมตตาจากพระยาสมานให้กับตัวเขาและแม่มากกว่าที่เป็นอยู่ จึงเฝ้าดูและส่งข่าวบัวให้พระยาสมานเป็นระยะ เพียรเองก็แอบชอบน้อยมานานแล้ว แต่น้อยไม่เล่นด้วยเพราะรู้ว่าไม่ใช่คนดี
วันหนึ่งนายชดไปหาปลาแล้วเกิดงมเอา ตรวนทองคำ ขึ้นมาได้ จึงเอามาไถ่ตัวบัว พระยาสมานเห็นตรวนทองคำเป็นของแปลกมหัศจรรย์ก็อยากได้ จึงสั่งให้เพียรฆ่านายชดหมกป่าแล้วเอาตรวนทองคำมาให้ แต่เมื่อพิศมาเห็นเข้าก็ชอบจึงเอ่ยปากขอจากพ่อ พระยาสมานจึงต้องตามใจลูกสาว ยกตรวนทองคำให้แก่พิศไป นางด้วงโทษว่าพระยาสมานเปลี่ยนใจไปจากเธอเพราะบัว จึงคิดยืมมือพิศฆ่าบัวทิ้ง โดยเขียนจดหมายในชื่อบัว ลวงฉัตรให้มาที่กระท่อมท้ายสวน แล้วเขียนจดหมายอีกฉบับที่เหมือนกันแล้วเอาไปให้พิศ อ้างว่าได้มาขณะที่บัวฝากน้อยให้เอาไปส่งให้ฉัตร พิศอ่านจดหมายนั้นก็โกรธมาก พุ่งตรงไปที่กระท่อมท้ายสวนทันที
ฉัตรไปหาบัวที่กระท่อมท้ายสวนและรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็คิดจะพาบัวหนี แต่ไม่ทันพิศที่เข้ามาตบตีบัว ฉัตรจึงลากบัววิ่งหนี พิศวิ่งตามแต่สะดุดตะเกียงแล้วถูกไฟครอกจนเสียโฉม ฝ่ายฉัตรที่พาบัวหนีเกิดไปพบพวกพระยาสมานเข้าอีก จึงยื้อยุดฉุดกระชากกันจนพระยาสมานหกล้มทับหลาวแหลมจนเสียชีวิต พิศที่ตามมาตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าพ่อตาย จึงสั่งเพียรจับฉัตรและบัวล่ามด้วยตรวนทองคำแล้วพาขึ้นเรือไปกลางแม่น้ำ พิศที่เสียใจมากที่ทำดีกับฉัตรเท่าไหร่เขาก็ไม่เคยสนใจ ซ้ำทั้งฉัตรและบัวยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อเธอตายและทำให้เธอเสียโฉมด้วย เมื่อรักกันมากนักก็จงตายไปด้วยกันเสีย และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติก็จะขอจองล้างจองผลาญไม่ให้ฉัตรกับบัวสมหวังในรักได้เป็นอันขาด พูดจบพิศก็ถีบฉัตรและบัวตกน้ำไป
พ.ศ.2555 (ปัจจุบัน) ฉัตร, บัว, พิศ, พระยาสมาน, ไอ้เพียร และอีกหลากหลายชีวิตในอดีตชาติ ต่างพากันกลับมาเกิดร่วมกรรมกันอีกในชาตินี้ แต่มีเพียงคนๆเดียวเท่านั้นที่สามารถระลึกชาติได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นในชาติที่แล้ว และนั่นคือพิศ หนำซ้ำชาตินี้เธอยังได้ตรวนทองคำมาครอบครองอีกครั้งเสียด้วย พิศไม่ต้องการผิดหวังในรักซ้ำอีก เธอจึงเริ่มตามฆ่าบัวอีกครั้ง ความรักระหว่างบัวและฉัตรในชาตินี้จะถูกจองจำด้วยตรวนทองคำอีกหรือไม่ หาคำตอบได้ใน บ่วงวันวาร