Category Archives: ละครปี 2554

มนต์รักแม่น้ำมูล 2554

ในช่วงเดือน ๔ ของทุกปี ชาวบ้านในชุมนุมเล็กๆ ริมฝั่งแม่มูล จะจัดงานบุญครั้งยิ่งใหญ่ เรียกว่า “บุญมหาชาติ” ทุกคนจะพากันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม และพกพาใบหน้าที่เปี่ยมสุขมาร่วมงานกันอย่างครื้นเครงสนุกสนาน หนึ่งในนั้นก็คือ พิณ(ศุกลวัฒน์ คณารศ ) ครูช่วยสอน และ เดือน(วรัทยา นิลคูหา) หญิงคนรัก ทั้งสองรักกันมากแต่จำต้องพรากจากกัน เพราะลุง แสวง(ตฤณ เศรษฐโชค) กับป้าอัญชลี (กชกร นิมากรณ์)มา ขอเดือนเป็นลูกบุญธรรม และตั้งใจจะส่งเสียให้เธอเรียนสูงๆ ตอนแรกเดือนไม่อยากไป แต่เธอก็ไม่สามารถขัดคำแม่ได้ จึงจำใจจากลาพิณด้วยความอาลัย พิณสัญญาว่าจะนับวันเวลารอเดือนอยู่ที่ริมแม่มูลสายนี้

เพียงใจที่ผูกพัน

มุก พิศุทธ์ (น้องมุก) ที่จากเมืองไทยไปอยู่กับพ่อที่เป็นนักดนตรีที่อังกฤษถึง 10 ปี ได้เดินทางกลับมางานศพของแม่เธอ โดยมีพี่ชายพี่สาวต่างพ่อไปรับที่สนามบิน และในการกลับมาครั้งนี้ พยัคฆ์ (พี่เสือ) ก็ได้เดินทางไปรับเธอด้วย สำหรับน้องมุกนั้นเธอเป็นลูกของตระกูลเก่าแก่ของจังหวัดที่มีธุรกิจมากมาย แม่ของเธอเป็นสส.ที่ได้รับการเลือกตั้งตลอดมา ส่วนพี่เสือเป็นลูกของแม่ที่ใจแตก มีลูกตั้งแต่อายุ 14 ปี กับฝรั่งที่มาสอนหนังสือและมาเที่ยวที่เมืองไทย ที่นำความอับอายมาสู่พ่อแม่ของเธอ จนพ่อตรอมใจกินแต่เหล้า จนเสียชีวิตไปในที่สุด

หลังจากที่แม่ของเสือได้คลอดลูกออกมา เธอก็ไม่เคยดูแลเสือเลย เธอได้ยกเสือให้กับน้องชายที่ขาพิการ และก็ให้น้ากับยายของเสือเลี้ยง โดยตัวเธอเอาแต่เที่ยวเตร่คบผู้ชายไม่เลือกหน้า ไม่มีเงินก็มาไถแม่และน้องของเธอ

จนกระทั้งเสืออายุได้ 9 ขวบ เขาก็ลงทุนเลี้ยงปลาหางนกยูงแล้วเอาไปขายตามตลาดนัดกับน้าชาย จนกระทั้งวันหนึ่งมีการแข่งขันวาดภาพประกวดประจำจังหวัดโดยเสือเคยได้รางวัล นี้มาตลอด แต่ปีนี้เขากลับได้ที่ 2 เขาแพ้ให้กลับน้องมุกที่เขาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ทำให้เขาโกรธน้องมุกมากเพราะที่เขาแพ้ไม่ได้แพ้ที่ฝีมือแต่แพ้เพราะเส้นสาย แม่ของน้องมุกเป็นสส.ที่ทางคนจัดเขาเกรงใจ และในการแข่นขันในครั้งนี้ คนที่ได้ที่ 1 และที่ 2 ต้องเข้าค่ายศิลปะ 2 วัน

เมื่อเสือรู้เสือจึงไม่ยอม แต่ครูที่เขานับถือได้มาขอร้องไว้ และในการเข้าค่ายครั้งนี้ เสือได้ว่าประชดประชันน้องมุกตลอด จนตอนเช้าของวันสุดท้ายทางค่ายได้พาคณะของค่ายศิลปะไปดูการทำหอยมุก และในตอนกลับทางฟาร์มหอยมุกได้ให้นักเรียนเลือกหอยมุกซีกมาคนละตัว น้องมุกและเสือก็ได้กลับมาด้วยโดยเสือได้มุกสีชมพูมา น้องมุกเห็นอยากได้แต่ไม่กล้าขอกับเสือ จนกลับมาที่ค่ายหลังพักกลางวันเสือก็ได้เห็นพี่เลี้ยงของน้องมุกกำลังแย่ง หอยมุกกับน้องมุกอยู่ เสือเลยเข้าช่วยและพาน้องมุกไปวาดรูปด้วยกัน และที่นี่เองเสือก็ได้รู้ว่า น้องมุกนั้นโดนรังแกตลอด ไม่ว่าจะเป็นจากพี่เลี้ยงจากพี่สาวต่างพ่อ หรือกับแม่ของเธอเอง จึ่งทำให้เสือสงสารน้องมุกขึ้นมา

ในการวาดรูปด้วยกันนี้ เสือได้ให้รูปของเขากับน้องมุก แล้วน้องมุกก็ได้ให้หอยมุกกับเสือไป ในการนี้เสือได้ให้สัญญากับน้องมุกว่า พอโตเขาจะคืนหอยมุกให้กับน้องมุกโดยจะให้ตัวสีชมพูอีกด้วย หลังจากนั้นก็ได้แยกกัน

ทุกอาทิตย์เสือและน้าต้องไปขายปลาตามตลาดนัด แต่อาทิตย์นี้เสือได้พบกับลูกค้าคนพิเศษที่ชื่อน้องมุก น้องมุกมาหาเสือที่ขายปลาและได้ช่วยเขาขายจนกระทั้งเลิก และในครั้งนี้น้องมุกได้ซื้อปลาบอลลูนไปอีกด้วยโดยตั้งชื่อว่ารถถัง เป็นอย่างนี้ทุกอาทิตย์จนโรงเรียนเปิดเทอม และก่อนจะแยกจากกันเสือได้บอกให้น้องมุกหาแนวทางการเล่นดนตรีเพื่อที่เวลามี ใครว่าจะได้ไม่ต้องสนใจในสิ่งที่ได้ยินอีกด้วย

หลังปิดเทอมอีกครั้ง น้องมุกได้มาหาพี่เสือของเธอที่ตลาดนัด และได้มาบอกเขาเกี่ยวกับการเล่นไวโอลิน และยังมาเล่นให้เขาฟังอีกด้วย น้องมุกมาหาพี่เสือของเธอทุกอาทิตย์ จนกระทั่งวันหนึ่งน้องมุกได้มาชวนพี่เสือของเธอไปงานวันเกิด พลอยพิศุทธ์ พี่สาวของเธอ และในงานนี้เองพลอยพิศุทธ์และเพื่อน ๆ ของเธอได้แกล้งเสือ จนน้องมุกมาเห็นเข้าจึงโกรธพี่สาวของเธอมากที่แกล้งพี่เสือของเธอ

และในวันรุ่งขึ่นนั้นเองน้องมุกได้มาหาพี่เสือที่บ้าน เพื่อมาขอโทษเขา น้องมุกมาพร้อมกับตุ๊กตาที่เสือให้เป็นของขวัญกับพลอยพิศุทธ์ แต่พลอยพิศุทธ์ไม่เอา พอเสือรู้เข้าเขาก็บอกให้น้องมุกทิ้งไป แต่น้องมุกขอไว้เองเสือเลยตกลงให้ไป

น้องมุกมาอยู่เล่นที่บ้านพี่เสือจนบ่ายถึงกลับไป และในวันอาทิตย์นั้นเอง เพชรพิศุทธ์ พี่ชายใหญ่ของบ้านเป็นคนพาน้องมุกมาหาเสือที่ตลาดนัด และในครั้งนี้น้องมุกได้สัญญาว่าจะมาช่วยพี่เสือของเธอขายของทุกอาทิตย์ตลอด ไป

แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอนในอาทิตย์สุดท้ายก่อนเปิดเทอมน้องมุกได้มาลาพี่เสือของเธอ เมื่อพ่อและแม่ของเธอได้หย่าขาดจากกันโดยให้น้องมุกอยู่กับพ่อ เธอถึงต้องเดินทางไปอยู่ที่ฮ่องกง และในการมาลาในครั้งนี้น้องมุกขอให้พี่เสืออย่าลืมเธอ

การ จากลาของทั้งคู่ ทั้งน้ำตานี้ที่เป็นเวลาถึง 10 ปีจะเป็นอย่างไรต่อไป พี่เสือจะลืมน้องมุกหรือไม่ แล้วในระยะเวลา 10 ปีนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงของคนทั้งคู่หรือไม่ แล้วเด็กเลี้ยงปลาขายอย่างเสือจะต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อจะเป็นเสี่ยพยัคฆ์ ที่มีธุรกิจมากมายในตอนนี้ มาติดตามชีวิตของ พี่เสือและน้องมุก ได้ใน ละครเพียงใจที่ผูกพัน

เพลิงพรหม

เมื่อ 25 ปีก่อน อินตรา (เบนซ์-ปุณยาพร) ถูกทอดทิ้งจากมารดาผู้เป็นสาวใช้ในบ้านของ ไกรสร (มนตรี เจนอักษร) นักธุรกิจส่งออกระดับประเทศ ด้วยความสงสารไกรสร จึงรับอุปการะเด็กน้อยเอาไว้ในฐานะลูกสาวอีกคน หลังจากที่เขาเพิ่งจะสูญเสียภรรยาในขณะที่เธอคลอด มนชญา (ขวัญ อุษามณี) ลูกสาวที่เกิดวันเดียวกับ อินตรา

เพื่อหวังให้ อินตรา เป็นเพื่อนเล่นกับลูกสาวของตนไกรสรเลี้ยงดูมนชญา กับ อินตรา อย่างดีเช่นกัน มนชญานั้นเป็นคนดี และมีจิตใจอ่อนโยน แต่ อินตรานั้นกลับมีนิสัยเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง แถมยังคอยสร้างปัญหาให้กับ ไกรสร ต้องอับอายเสียงชื่อเสียงอยู่บ่อย ๆ ทำให้ กัลยาณี (ธนาภรณ์ รัตนเสน) น้องสาวของไกรสร จงเกลียดจงชัง อินตราอย่างเข้าไส้

มนชญา ทำดีกับ อินตรา เสมอด้วยความจริงใจ แต่อินตรากลับคิดว่ามนชญานั้นเสแสร้งเป็นคนดีเพื่อให้ทุกคนรัก ความอิจฉาที่อินตรามีต่อมนชญา ทำให้เธอพยายามจะแย่งชิงเอา ภูมินทร์ (เติ้ล ธนพล) คู่รักของมนชญา มาเป็นของเธอให้ได้ วันหนึ่งเธอจึงตัดสินใจวางแผนเข้าหาภูมินทร์ แต่กลับถูกชายหนุ่มปฏิเสธ ทำให้อินตราเสียหน้ามากที่ยั่วยวนให้ภูมินทร์ไม่สำเร็จ หนำซ้ำไกรสรยังยกตำแหน่งผู้บริหารให้มนชญา ทำให้อินตราเข้าใจผิดคิดว่าไกรสรลำเอียง ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง แล้วอินตราก็ผลักไกรสรตกบันได จนกลายเป็นอัมพาตครึ่งตัว กัลยาณี ไล่อินตราออกจากบ้าน โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของมนชญา ยิ่งทำให้อินตราโกรธแค้นใจมนชญามาก

และการหายตัวไปของอินตรา ก็ทำให้ มนชญา เป็นห่วงพี่สาวของเธอมาก แต่ก็ยังได้ นพดล (เต็งหนึ่ง กฤษณกันท์) เลขาของไกรสรที่แอบหลงรัก อินตราอยู่ มาคอยช่วยสืบหาตัวอินตราให้อีกแรง ภูมินทร์ สงสารมนชญา จึงพาเธอไปทำบุญเพื่อความสบายใจ และที่นั่นก็ทำให้เขาและเธอ ได้พบกับ แม่ชีจัน (ธัญญรัตน์ โลหะนันท์) ที่เดินเข้ามาบอกกับมนชญาอย่างปริศนาว่าเธอกำลังพบกับหายนะบางอย่าง และยังสอนว่า “ความดีและจิตใจที่งดงาม เป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยคุ้มครองภัยอันตรายใด ๆ” แต่หญิงสาวไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก เพราะเธอกำลังเป็นทุกข์เรื่องไกรสร และ อินตรา อยู่ ด้าน อินตรา ก็กำลังคิดทำลายมนชญา เพื่อแก้แค้น เธอจึงวานแผนด้วยการโทรบอกให้หลงเชื่อ จึงรีบออกไปหาอินตราทันที ซึ่งระหว่างนั้น นพดล ติดประชุมด่วน เขาจึงโทรบอกให้ภูมินทร์ตาม มนชญา ไป

มนชญา มาถึงที่นัดหมายที่บริเวณสะพานแห่งหนึ่ง แล้วทันใดนั้นรถของอินตราก็ขับมาด้วยความเร็วสูง พุ่งเข้าชนร่างของมนชญาอย่างจัง จนร่างของเธอกระเด็นตกน้ำไป ส่วนรถของอินตรานั้นเกิดเบรคแตกขึ้นมากะทันหัน ทำให้รถของเธอพุ่งลงน้ำจมหายไปเหมือนกัน ภูมินทร์ ตามมาเห็นเหตุการณ์ที่อินตราขับรถชน มนชญา พอดี เขารีบกระโดดลงน้ำไปช่วยพาร่างที่หายใจรวยรินของ มนชญา ไปส่งโรงพยาบาลทันที

เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตายนั้น วิญญาณของ มนชญา ก็ไปปรากฎขึ้นต่อหน้า แม่ชีจัน มนชญา ร้องไห้เสียใจที่ตัวเองตายแล้ว แต่ แม่ชีจัน บอกว่ายังไม่ถึงเวลาตายหากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันเป็นเพียงพรหมลิขิต และโชคชะตาที่ มนชญา กับ อินตรา ต้องเผชิญ ขณะเดียวกันที่อินตรา ฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล เธอก็ต้องรู้สึกแปลกใจที่เห็นภูมินทร์เฝ้าข้างเตียงของเธออยู่ไม่ห่าง และ หญิงสาวก็ต้องตกใจที่พบว่าตัวเองอยู่ในร่างของ มนชญา ! อินตรา งง มากว่าเกิดอะไรขึ้น?

แต่เมื่อเธอเห็นท่าทีเป็นห่วงเป็นใยของภูมินทร์ ที่มีให้เธอ และ รู้ว่า อินตรา น่าจะเสียชีวิตแล้ว เพราะร่างของอินตรานั้นจมน้ำหายไป พบเพียงซากรถเท่านั้น อินตราจึงยินดีที่จะอยู่ในร่างของมนชญาต่อไป และตอนนี้เธอก็พร้อมแล้ว ที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นมนชญา เพื่อที่เธอจะได้ครอบครองทุกอย่างที่เป็นของมนชญา ในขณะที่อินตรา ใช้ชีวิตในร่างมนชญา ได้อย่างมีความสุข แล้ววันหนึ่งสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

เมื่อ มนชญา นั้นฟื้นขึ้นมาในโรงพยายาลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง หลังจากที่ชาวบ้านไปพบร่างของเธอลอยมาติดที่ท่าน้ำ มนชญาตกใจสุดขีด! เมื่อพบว่าเธอกับอินตรานั้นสลับร่างกัน หญิงสาวพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ทุกคนรู้ความจริงว่าเธอนั้นเป็นใคร แต่ไม่มีใครเชื่อ ซ้ำยังไม่ยอมให้เธอกลับไปที่บ้าน เพราะกลัวว่าจะทำร้ายร่างของ มนชญา อีกร่างของ อินตรา จึงต้องระเห็ดออกมาหาบ้านเช่าเล็ก ๆ อยู่ ด้วยการช่วยเหลืออย่างเต็มใจจาก นพดล

ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น จนนพดลเองก็เริ่มสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของอินตรา จากที่เคยพูดจาดูถูกถากถางตน ก็กลับมามีท่าทีอ่อนหวาน จริงใจ จนชายหนุ่มเชื่อ และได้รู้ความลับว่า มนชญา อยู่ในร่างของอินตรา แต่ มนชญา ก็ขอร้องให้นพดลเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และขอให้เขาช่วยพา ยุวดี (ฝ้าย ณิชานันท์) น้องสาวของภูมินทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ให้มาพบกับเธอ แต่ มนชญา ต้องใช้เวลาอยู่นาน กว่าที่จะทำให้ ยุวดี เชื่อเรื่องเธอสลับร่างกับอินตรา

ด้านอินตรา ที่เสวยสุขอยู่ในร่างของมนชญา ก็เริ่มเผยธาตุแท้แสดงพฤติกรรมไม่ดีออกมา จนทำให้ภูมินทร์ ปวดหัวอยู่บ่อย ๆ จนตอนนี้ชายหนุ่มกลับเริ่มรู้สกึไม่แน่ใจแล้วว่า เขายังรัก มนชญา อยู่หรือไม่! ส่วน ยุวดี กับ นพดล พยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ มนชญา กลับคืนร่างเดิมให้ได้ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนที่จะทำสำเร็จ มนชญา จึงนึกถึงคำพูดที่แม่ชีจันเคยเตือนตนไว้ เธอจึงพายุวดี กับนพดล ไปพบกับแม่ชีจัน เพื่อหาทางแก้ไข แต่แม่ชีจัน บอกว่าไม่มีสิ่งใดแก้ไขได้ ทั้งสองจะยังต้องอยู่ในร่างนี้ตลอดไป จนกว่าาา จะถึงวันที่ มนชญา และ อินตรา อายุครบ 25 ปี

แต่สุดท้ายเรื่องราวปริศนาในการสลับร่างของเธอ ทั้งคู่ จะจบลงอย่างไร? และ ภูมินทร์ จะตามหาหัวใจของหญิงสาวที่เค้ารักเจอเหรือไม่? ตามลุ้นได้ใน “เพลิงพรหม

รายชื่อนักแสดงละคร เพลิงพรหม
เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข
ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์
เต็งหนึ่ง กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์
เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์
ฝ้าย ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว
โม อามีนา
หมอก ทศพร รถกิจ

พิมมาลา

“รู้จักให้…ในสิ่งที่คนอื่นอยากได้ ” คือคำขวัญประจำใจของ เพรียว (อธิชาติ ชุมนานนท์) ชายหนุ่มเชื้อสายจีน ลูกชาย เถ้าแก่ชั้น (เหมียว แมคอินทอช) และ ยามถม (ศิรินุช เพ็ชรอุไร) เพรียวเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี เชื่อมั่นในตัวเองและทำงานเก่ง เขามีความสามารถเรื่องการดูจิตใจของคนอื่น รู้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการและเมื่อเขาให้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการเขาก็จะได้ รับในสิ่งที่เขาอยากได้กลับคืนมาเสมอ พ่อของเขาเปิดกิจการผ้าทอ โดยมีพี่สาวสองคนคือ สายพร (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) กับ ยุพิน (สโรชา วาทิตตพันธ์) ซึ่งเป็นคนดูแลกิจการทอผ้าของครอบครัวเป็นหลักแต่พ่อแม่ไม่เคยเห็นความสำคัญ

เพรียวเรียนเก่งแต่ไม่ได้เก่งแบบอัจฉริยะ เป็นเพราะเขารู้ในนิสัยของอาจารย์แต่ละคนว่าชอบอะไรแล้วทำในสิ่งที่อาจารย์ ชอบ ผลก็คือผลการเรียนที่ได้รับมากกว่าคนอื่น เมื่อเรียนจบเขาได้ทำงานที่ ห้างเซนซูยา เพราะรู้จักับ ทศกร (นพชัย มัททวีวงศ์) ญาติห่าง ๆ ของ ศรสิทธิ์ (ดิลก ทองวัฒนา) และ ฟ้างาม (จินตหรา สุขพัฒน์) น้องสาวของศรสิทธิ์ เจ้าของห้างเซนซูยา โดยมี ดล (สุรินทร คารวุตม์) และ นาง (คลาวเดีย จักรพันธุ์) เป็นเพื่อนร่วมงาน ซึ่งนางนั้นเกลียดผู้หญิงสวยและแกล้งผู้หญิงสวยทุกคนที่มาทำงานด้วย สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพรียว คบ ข่ายแก้ว (มรกต หทัยสีวงศ์) เป็นแฟนเพราะช่วยเรื่องการเรียนแต่พอเรียนจบก็ห่างกันไปเพราะเธอไปเรียนต่อ ต่างประเทศ

ในเรื่องความรัก เพรียว มักคบผู้หญิงคราวละ 2 คน เรียกว่าคอยสับหลีก ฟ้างามพาลูกสาวคือ น้ำนวล (ชีรณัฐ ยูสานนท์) มาฝึกงานและให้เพรียวดูแล น้ำนวลมักจะฝันถึง สาวสวยแสนงามคนหนึ่ง ในฝันน้ำนวลรู้สึกคุ้นเคยกับหญิงสาวคนนี้เป็นอย่างดี เธอถามผู้หญิงคนนั้นว่าชื่ออะไรหญิงสาวตอบว่าชื่อ รัมภา น้ำนวลจำภาพรัมภาได้ชัดเจนและคิดว่ารัมภาเป็นนางฟ้า

เมลานี (วรันลักษณ์ ศิระมะณีวัฒนา) ลูกสาวของ ศรศิลป์ และ มานิดา (ชนานา นุตาคม) มาฝึกงานที่แผนดประชาสัมพันธ์ เธออาละวาดจน เต็มตา (พรรษชล สุปรีย์) แฟนของเพรียวต้องกระเด็นออกไป น้ำนวลเริ่มมีใจกับเพรียว แต่เพรียวก็ได้มาพบกับ อินทุพร (วิรากรานต์ เสณีตันติกุล) สาวนักเรียนนอกจึงเริ่มสานสัมพันธ์ แถมเซนซูยามีพนักงงานใหม่คือ ดารณี (มิรา โกมลวณิช) เข้ามาเพรียวก็ผิดคำพูดตัวเอง เขาคบทั้ง เต็มตา ดารณี อินทุพร แต่แล้วเขาก้ได้เจอสาวงามคนหนึ่งเธอชื่อว่า รัมภา (ศรีริต้า เจนเซ่น)

ก่อนน้ำนวลจะเรียนจบ เพรียวไปดูนิทรรศการงานวิทยานิพนธ์ของน้ำนวล ทันทีที่เพรียวเห็นภาพเขียนของน้ำนวลที่ชื่อ Angelica ความทรงจำของนางฟ้า ซึ่งน้ำนวลเขียนถึงผู้หญิงในความทรงจำ และจู่ ๆ รัมภาสาวงามก็มาปรากฏตัว เธอบอกว่าเธอชอบงานของน้ำนวล ในงานเดียวกันเพรียวได้พบกับข่ายแก้วโดยบังเอิญ ข่ายแก้วยังคงบอกว่ารักเพรียวเหมือนเดิม ในงานเลี้ยงฉลองเรียนจบของน้ำนวล เพรียวได้พบกับ เมลานี เธอดึงเขามากอดจูบกันอย่างไม่อายใคร น้ำนวลผิดหวังและเสียใจ และไปเรียนต่อต่างประเทศ และกลับมาเมืองไทยพร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยพร้อมคู่หมั้นหนุ่ม แวน จิตติวัฒน์ สักกะบุตร (รณเดช วงศ์สาโรจน์) หนุ่มหล่อไฮโซลูกชาย คนเดียวของนักการเมืองชื่อดัง

ดารณีจับได้ว่าเพรียวคบอินทุพร จึงคิดจะกระโดดตึกเพรียวต้องกล่อมจนเธอใจอ่อน เพรียวถูกฟ้างามเรียกเข้าไปตักเตือน เขาจึงตัดสินใจลาออกจากเซนซูยา เพรียวได้พบกับรัมภาอีกครั้งและเธอก็ชื่อสาปเขากลายเป็นหญิงในชื่อ พิมมาลา เพื่อให้เขาได้รู้ถึงความรู้สึกของผู้หญิง และต้องทำภารกิจตามที่นางฟ้ารำภาให้ ตั้งแต่ทำให้ดารณีตาสว่างเรื่องความรัก ต่อมาคือให้ข่ายแก้วตัดอกตัดใจจากเพรียว และต้องให้อินทุพรยกโทษให้เขาให้ได้

พิมมาลาถูกชายฉกรรจ์ฉุดลากขึ้นรถตู้ไป พิมมาลารู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของนันท์ที่ต้องการให้ชายฉกรรจ์ข่มขืนแล้วนันท์ จะคลิปไว้แบล็คเมล์ แต่เธอรอดมาได้แถมยังมีหลักฐานมัดตัวนันท์อีกด้วย นอกจากนี้พิมมาลายังช่วยฟ้างามให้เลิกงมงายกับการหาประโยชน์ของ ทวิชา (ประกาศิต โบสุวรรณ) ที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมหลอกลวงคนอีกด้วย จากนั้นเซนซูยาได้ต้อนรับพนักงานใหม่คือ อนุศร (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) ทายาทของเซนซูยาเขาหลงรักพิมาลาทันที

พิมมาลาได้กลับมาเป็นเพรียวและบอกรักน้ำนวลแต่เธอไม่สามารถยกเลิกการแต่งงาน กับแวนได้ เพราะแวนรักน้ำนวลมากทำให้เพรียวปวดร้าว ต่อมาน้ำนวลตั้งท้องและคลอดลูกเป็นหญิงชื่อว่า พิมมาลา ต่อมาพ่อของเขาเสียชีวิตลงและได้แบ่งสมบัติให้เพรียวมากที่สุดแต่เขาขอให้ แบ่งสามคนเท่ากัน หลังจากนั้นอีกห้าปีชีวิตของทุกคนได้ดำเนินไป เพรียวได้สร้างที่พักของคนติดเชื้อ HIV ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเต็มตาด้วย เพรียวได้รับตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการส่วนทศกรเป็นอนุศร และเหตุการณ์ร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อรถของอนุศรประสบอุบัติเหตุและแวนก็ได้รับ บาดเจ็บด้วย แวนรู้ว่าเพรียวคิดอย่างไรกับน้ำนวล เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ความรักของเขากับน้ำนวลจะจบลงเช่นไร ติดตามได้ใน ละคร พิมมาลา

รายชื่อนักแสดงนำใน ละครพิมมาลา

อธิชาติ  ชุมนานนท์   แสดงเป็น   เพรียว
เฌอมาลย์     บุญยศักดิ์   แสดงเป็น   พิมมาลา
ศรีริต้า  เจนเซ่น   แสดงเป็น   รัมภา
ชีรณัฐ  ยูสานนท์   แสดงเป็น   น้ำนวล
รณเดช  วงศาโรจน์   แสดงเป็น   แวน
จิรายุ  ตันตระกูล   แสดงเป็น   นันท์
เอกพงศ์  จงเกษกรณ์   แสดงเป็น   อนุศร
วรันลักษณ์     ศิริมะณีวัฒนา   แสดงเป็น   เมลานี
จินตรา  สุขพัฒน์   แสดงเป็น   ฟ้างาม
ดิลก  ทองวัฒนา   แสดงเป็น   ศรสิทธิ์
วิรากานต์  เสณีตันติกุล   แสดงเป็น   อินทุพร
พรรษชล  สุปรีย์   แสดงเป็น   เต็มตา
มรกต  หทัยสีวงศ์   แสดงเป็น   ข่ายแก้ว
มิรา  โกมลวณิช   แสดงเป็น   ดารณี
สุรินทร  คารวุตม์   แสดงเป็น   ดล
คลาวเดีย  จักรพันธุ์   แสดงเป็น   นาง
นพชัย  มัททวีวงศ์   แสดงเป็น   ทศกร
สโรชา  วาทิตตพันธ์   แสดงเป็น   ยุพิน
อัญชิสา  เลี่ยวไพโรจน์   แสดงเป็น   สายพร
เหมียว  แมคอินทอช   แสดงเป็น   ชั้น
ศิรินุช  เพ็ชรอุไร   แสดงเป็น   ถม
ชนานา  นุตาคม   แสดงเป็น   มานิดา
ประกาศิต  โบสุวรรณ   แสดงเป็น   ทวิชา
สุเชาว์  พงษ์วิไล   แสดงเป็น   หลวงลุง
อัฐพล  ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา   แสดงเป็น   ตายิ้ม

พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือในสมัยพระเจ้าเสือ หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พ.ศ. 2246 – 2251) วันหนึ่งพระเจ้าเสือได้เสด็จประพาสต้นด้วยเรือพระที่นั่งเอกชัย มาตามคลองโคกขาม โดยมีพันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือ คลองนี้คดเคี้ยวและน้ำเชี่ยวมากไม่สามารถบังคับทิศทางเรือได้ ทำให้หัวเรือชนเข้ากับต้นไม้จนหัวเรือหัก พันท้ายนรสิงห์จึงขอให้พระเจ้าเสือประหารตน

พระเจ้าเสือจึงให้ประหารตัดศีรษะพันท้ายนรสิงห์ แล้วจัดทำศาลขึ้นพลีกรรมพร้อมทั้งหัวเรือ ซึ่งเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล แต่ตามเกร็ดเล่าว่า พันท้ายนรสิงห์ทราบว่าจะมีพวกกบฏมาดักทำร้ายพระเจ้าเสือ เลยจำเป็นต้องทำให้หัวเรือหักเพื่อมิให้ไปถึงจุดที่กบฏวางแผนเอาไว้ โดยยอมให้ตนเองถูกประหารเพราะเป็นกฎมณเฑียรบาลที่ทำหัวเรือพระที่นั่งหักจะ ต้องถูกประหาร เมื่อพระเจ้าเสือทรงทราบจึงได้ให้บันทึกไว้ในพงศาวดาร และให้ตั้งศาลขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ถ้าเรื่องตามละครพระเจ้าเสือไม่ยอมประหารแต่ให้ปั้นรูปปั้นแล้วทำการตัดหัว รูปปั้นแทน แต่พันท้ายนรสิงห์ไม่ยอมเพราะจะเป็นการขัดมณเฑียรบาลจึงขอให้ประหาร มิให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ก่อนที่จะประหารพันท้ายนรสิงห์ซึ่งบ้านน่าจะอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นได้กลับบ้านไปล่ำลาภรรยา และพันท้ายนรสิงห์จึงถูกประหารในวันเดียวกัน

ภายหลังพระเจ้าเสือได้ทรงให้พระยาราชสงคราม คุมไพร่พลจำนวน 3000 คน ทำการขุดคลองลัดคลองโคกขามที่คดเคี้ยว ไปออกที่บริเวณแม่น้ำท่าจีน กว้าง 5 วา ลึก 6 ศอก สร้างเสร็จในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ พ.ศ. 2252 ได้พระราชทานนามคลองนี้ว่าคลองสนามไชย ต่อมาเรียกเป็นคลองมหาชัย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองมหาชัย แต่ชาวบ้านเรียกว่าคลองถ่าน

เป็นต่อ

เป็นต่อ เป็นละครแนวซิทคอม ในมุมมองของคนโสดรุ่นใหม่ที่กำลังแสวงหาคู่ และเส้นทางการเดินทางของชีวิต เรื่องราววุ่นๆ ของนายเป็นต่อ ( ชาคริต แย้มนาม ) พนักงานฝ่ายขายของนิตยสารรายเดือน สำหรับคนเมืองหลวง เป็นต่อไม่ใช่ศิลปินสติเฟื่อง และไม่ต้องการโดดเด่นเป็นดารา เขาต้องการแค่มีชีวิตที่เรียบง่ายและมั่นคง เขาต้องการแค่เป็นพนักงานฝายขาย เหมือนพนักงานอีกหลายหมื่นแสนคนในกรุงเทพฯ แต่ความต้องการอันสมถะเรียบง่ายของเขานั้น กลับไม่เคยเป็นอย่างที่เขาต้องการ

นักแสดงละคร เป็นต่อ

ชาคริต แย้มนาม แสดงเป็น  เป็นต่อ เหรียญทอง
พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร แสดงเป็น  พอใจ เหรียญทอง
วิชุดา พินดั้ม แสดงเป็น  มิ้นท์,บังอร มีแต้ม
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ แสดงเป็น  ทิพย์,ทิพย์วรรณ วงศ์ศร
ธงธง มกจ๊ก แสดงเป็น  กอล์ฟ,บุญกอบ ช้างพลาย
เจี๊ยบ เชิญยิ้ม แสดงเป็น  ยม,วิเศษนิยม กอบกู้
แอ๊ด มกจ๊ก (ธีรชาติ ธีระวิทยากุล แสดงเป็น  อู๊ด,อู๊ด บุตรโคตร
กิตติ เชี่ยววงศ์กุล แสดงเป็น  วอก,จเร เชี่ยววงศ์กุล
ผอูน จันทรศิริ แสดงเป็น  หมอน,สมร เก่งงาน
สร้อย สารคาม แสดงเป็น  จวบ,ประจวบ ดีเลิศ
คำไหล เมืองอุบล (โรบิ้น แสดงเป็น  ไหล

ป่านางเสือ

ท่าน อิทธิ (ทนงศักดิ์  ศุภการ) หัวหน้าหน่วยปราบปรามพวกลักลอบตัดไม้ทำลายป่า มาเป็นประธานมอบเหรียญให้อาสาชาวบ้านที่ช่วยกันปกป้องรักษาป่าในพื้นที่ และนำลูกสาวคนเดียวชื่อ พฤกษา (ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม) อายุ 4 ขวบมาด้วย การมอบรางวัลเป็นไปด้วยดีรางวัลเกียรติยศให้แก่ ลุงเดช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) ผู้เป็นหัวหน้าอาสาชาวบ้าน อดีตทหารผ่านศึกรบมาแล้วโชกโชน

งานจบลงด้วยดี ท่านอิทธิ เดินทางกลับมีลุงเดชและอาสาชาวบ้าน 2-3 คนมาส่ง แต่ในระหว่างทางถูกคนร้ายโจมตีทุกคนตายหมด แต่ลุงเดชพาเด็กหญิงพฤกษาหนีรอดไปได้ และพาไปหลบในป่าลึกกับพวกกลุ่มอาสาที่รอดตายไปพบกับพวกหมู่บ้านโจรที่หลบ เจ้าหน้าที่มาอาศัยเป็นชุมชนเล็กบังเอิญหัวหน้าโจรชื่อ แสง (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล ) เคยเป็นทหารลูกน้องเก่าของลุงเดชจึงให้ความช่วยเหลือต้อนรับ

ความจริงแล้วพวกชุมโจรคือพวกชาวบ้านที่ถูกพวกมีอิทธิพลรังแกยึดที่ทำกินจน ทนไม่ไหวลุกขึ้นต่อต้านแต่ถูกอำนาจมืดพลิกดีเป็นชั่วจึงต้องหนีเข้าป่า แสงมีลูกชาย อายุมากกว่าพฤกษา ชื่อ ไผ่ (ธันญ์ ธนากร) และลูกสาวอีกคนหนึ่งคนอายุน้อยกว่าพฤกษาสองปีชื่อ จักจั่น (เอี๊ยม วรรษพร วัฒนากุล) และหลานชาย ลุงเดชเล่าเรื่องพฤกษาให้แสงฟังและตัดสินใจเปลี่ยนชื่อให้เป็น ดาว (ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม) และอาศัยอยู่กับแสงตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ทั้ง ดาว ไผ่ และจักจั่น จึงถูกเลี้ยง และโตมาประหนึ่งพี่น้องคลานตามกันมา

เวลาผ่านไปดาวเติบโตท่ามกลางความรักของทุกคน ดาวสนิทกับ ไผ่ และจักจั่นมากทั้งสามรักกันมาก ลุงเดชและทุกคนต่างสอนวิชาการต่อสู้ แกะรอย ล่าสัตว์ สารพัดจนทั้งสามคนเก่งกาจไม่กลัวใคร ในขณะเดียวกันลุงเดชก็กล่อมให้แสงกับพวกเลิกเป็นโจรหรือถ้าจะปล้นก็ปล้นแต่ พวกที่โกงกินมีอิทธิพล และขณะเดียวกันก็ช่วยกันปกป้องป่า แสงและพวกต่างยินดีพร้อมกลับใจ

วันหนึ่งดาว ไผ่ และ จักจั่น ออกล่าสัตว์เจอแม่เสือถูกพวกนักล่ายิงตายเหลือลูกเสือทิ้งไว้ ทั้งคู่จึงเอามาเลี้ยงและตั้งชื่อว่า สายฟ้า วันหนึ่งดาวกับสายฟ้า กำลังฝึกฝนเล่นอยู่ในป่าก็พบกับ พระธุดงค์ (ยอดชาย เมฆสุวรรณ) องค์หนึ่ง..ดาวคาดไม่ถึงว่าจะมีพระเข้ามาในป่าลึกขนาดนี้ แต่ก็เข้าไปนมัสการเอาผลไม้ที่หาได้มาให้พระธุดงค์ได้ตักเตือนว่าการทำลาย ชีวิตคนนั้นถือว่ายังบาปของให้ดาวมีความเมตตา

ดาวอ้างว่าทำเพื่อป้องกันตัวและช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้นไม่ต้องการจะทำร้าย ใครนอกป้องกัน ชีวิตของผู้บริสุทธิ์และตนเองพระธุดงค์ จึงให้ดาวรับศีลและสวดมนตร์พร้อมให้พร ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ดาวก้มลงกราบ พอเงยหน้าก็ถึงกับแปลกใจเพราะพระองค์นั้นได้หายไปแล้วดาวจึงรีบกลับบ้านคิดว่าจะนำเหตุการณ์นี้ไปปรึกษาลุงเดช  ระหว่างที่ดาวกับสายฟ้าเดินทางกลับที่พัก

ดาวรู้สึกว่าได้สัมผัสกับสรรพสิ่งที่อยู่ในป่าอย่างลึกซึ้ง ได้ยินเสียงของต้นไม้เหมือนกับเทพารักษ์และสรรพสิ่งชีวิตที่สถิตย์อยู่ในป่า กำลังพูดกับตน..และ คอยคุ้มครองตน…ดาวนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ลุงเดชฟัง..ลุงเดชมั่นใจว่าเจ้าป่า เจ้าแสดงอภินิหารเพื่อให้พลังพิเศษและมาคุ้มครองดาวนั่นเองไผ่ จักจั่นและทุกคนต่างตื่นเต้นดีใจ

15 ปีผ่านไป

ผู้มีอิทธิพลพวกลอบตัดไม้ทำลายป่าสองสามกลุ่ม ได้แก่กลุ่ม เสี่ยเหลิม (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) กลุ่มนายสินชัย (บี๋ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์)  ต่างหึกเหิมส่งคนเข้าตัดไม้ ไม่กลัวกฏหมาย แต่แล้วพวกมันก็ถูกเงาลึกลับเข้าล่าหนีตายรอดกลับไปได้ แต่ พอพวกมันกลับไปจะเอาไม้ที่ลอบตัดทิ้งไว้ตามที่เคยทำ ไม้ที่ลอบตัดทิ้งไว้ก็หายไปแล้ว…พวกมันไม่เข็ดลาบส่งคนเข้าไปอีก แต่ก็ถูกเงาลึกลับโจมตีอีกทุกครั้ง

พวกมันประชุมกันอย่างเคร่งเครียดเพื่อหาตัวการแต่ก็ไม่คืบหน้า พวกมันรู้แต่ว่า ทุกครั้งที่ถูกจู่โจมพวกมันจะเห็นเสือปรากฏตัว  หลังจากนั้นก็มีเงาดำของหญิงสาวปรากฏขึ้นกับพวก หญิงสาวแต่งชุดดำใส่หน้ากากเสือ มีฝีมือน่ากลัวเคลื่อนไหวเร็วเหมือนเสือร้าย..กระสุนปืนไม่อาจจะระคายเคือง ที่แท้เงาลึกลับนั้นก็คือ ดาว จักจั่น และไผ่นั่นเอง ต่างแต่งตัวพรางตัวแต่งชุดดำแยกกันปรากฏตัวด้านโน้นทีด้านนี้ที..ผสมผสานกับ เสียงคำรามของสายฟ้ารวมทั้งเสียงสั่นไหวของใบไม้ทั้งป่าเหมือนเสียงร้อง โหยหวน ทำให้พวกมันตกใจนึกว่าคนเป็นเสือ

เสือเป็นคน ร่ำลือไปทั่วว่าป่ามีอาถรรพ์มีนางเสือคอยปกป้องป่า  แต่พวกมีอิทธิพลไม่ยอมแพ้ พวกมันต่างรวมตัวกัน วางแผนที่จะบุกตัดไม้อีกพวกมันถึงกับจ้างอาจารย์หมอมีชื่อทางไสยศาตร์มานำ การบุกเพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจให้กับพวกมือปืนของพวกมัน  แต่ ทั้งอาจารย์และพวกมันก็ถูกนางเสือเล่นงานจนยับเยินอีกเช่นเคย ในยามปรกติดาวนอกจากคอยระวังรักษาป่า ยังลอบเข้ามาปะปนกับชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้แนวป่าที่นับวันก็มีพวกผิดกฎหมาย ลูกน้องของผู้มีอิทธิพลทั้งหลายที่เข้ามาแผ่อำนาจสร้างอิทธิพล ค้าขายอย่างเอาเปรียบ ทั้งเปิดบ่อนเปิดที่เริงรมย์ สารพัดเนื่องด้วยอยู่ไกลมือกฎหมายชาวบ้านไม่สามารถต่อกรกับพวกมันได้

ดาว จักจั่น ไผ่ กับลุงเดชในคราบของลุงกับหลานทั้งสามคน ต่างคอยช่วยเหลือพวกชาวบ้านด้วยอีกด้านหนึ่ง…ถ้าพวกมันใช้วิธีรุนแรงเมื่อ ไหร่ นางเสือก็จะปรากฏตัวไล่ล่าสั่งสอนกำจัดพวกมันออกไป

พวกมีอิทธิพล ได้วางแผนใหม่สั่งมือปืนบุกสังหารเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในขณะที่ตรวจสภาพป่า และสร้างข่าวใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือของโจรกลุ่มหนึ่งมีหัวหน้าเป็นผู้หญิงฉายา ว่า นางเสือ มีการประชุมด่วนของทางการ…ท่านรองก้องเกียรติ (เจี๊ยบ ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ ท่านอิทธิ มอบหมายให้ ผู้กองฤทธิชัย (เติ้ล ธนพล นิมทัยสุข) เป็นผู้ดำเนินการเข้ามาสืบสวนหาความจริงและตามล่า นางเสือ

ผู้กองฤทธิชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้..ได้ถูกสั่งให้ติดตามหาตัวนางเสือ ที่อาละวาดฆ่าคนอยู่เพราะถึงการกระทำของนางเสือเป็นการขจัดคนชั่ว แต่ก็ถือว่าเป็นคนนอกกฎหมาย แม้ว่าผู้กองฤทธิชัยจะนิยมชมชอบ และ สะใจ ที่นางเสือปราบพวกชั่ว แต่หน้าที่จับคนร้ายก็คือหน้าที่ ในขณะที่ผู้กองฤทธิชัย..ปลอมตัวเข้าไปปะปนกะพวกคนร้าย แต่เสียทีถูกจับได้เสียก่อน ผู้กองถูกวางยาไม่รู้ตัว และเสียทีเกือบถูกพวกผู้ร้ายยิงทิ้งกลางป่า  ดาวที่ อยู่อีกฝั่งของป่า ได้ยินเสียงปืน ก็มาเจอผู้กองกำลังจะถูกฆ่า ดาวได้ยินพวกคนร้ายบอกว่า เป็นตำรวจ จึงเข้าช่วยผู้กองฤทธิชัย ดาวจัดการพวกผู้ร้ายจนหมอบ ซึ่งหันมาผู้กองก็หมอบไปพร้อมกับฤทธิ์ยาที่ถูกพวกคนร้ายวางยาสลบเช่นกัน ทำให้ผู้กองได้เห็นนางเสือแค่ลางๆ สักพัก อภิชาติ (เขตต์ ฐานทัพ) เพื่อนรัก ทนายความหนุ่ม คู่หูของผู้กอง

ฤทธิชัย ที่ชอบออกตามล่าคนร้ายภาคสนามด้วยกันบ่อยๆ ก็ตามมาช่วย ดาวรีบหลบไปเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ

ฤทธิชัยได้ข่าวเรื่องนายสินชัยจึงไปที่บ้านดอนเสือพร้อมกับอภิชาติ ระหว่างนั้นลุงเดชก็พาดาว ไผ่ และจักจั่นมาสำรวจพื้นที่ป่าดอนเสือด้วย ดาวเห็นพวกนักเลงรังแกชาวบ้าน ดาว ไผ่ และจักจั่นเข้าช่วยต่อสู้กับพวกนักเลง ผู้กองฤทธิชัยโดดเข้าร่วมด้วยจนพวกนักเลงหนีไป ทั้งหมดทำความรู้จักกันโดยที่ดาวไม่ได้เปิดเผยตัวจริงว่าเป็นนางเสือ แต่ผู้กองฤทธิชัยแอบสังเกตเห็น ดาว ไผ่ และจักจั่น มีความคล่องแคล่วในการต่อสู้เป็นอย่างยิ่ง แต่ก็เก็บความสงสัยไว้ในใจ

ลุงเดช พาทั้งสามคนมาอยู่ที่บ้านดอนเสือ และพักอยู่กับ ป้าเนียน (เจี๊ยบ กาญจนาพร ปลอดภัย) ซึ่งเป็นสถานีอนามัย เพื่อต้องการให้เรียนรู้วิถีคนเมือง แต่ลุงเดชยังคงเก็บงำเรื่องราว และตัวตนของดาวไว้เพื่อความปลอดภัยของดาวเอง  ลุงเดชสั่งป้าเนียนห้ามพูดเรื่องท่านอิทธิ และศูนย์อาสาในอดีตให้เด็กๆฟังโดยเด็ดขาด

ชาวบ้านดอนเสือ จัดการทำบุญครบรอบ 15 ปี การเสียชีวิตของท่านอิทธิ คุณหญิงรัตนา (สุพรรณษา เนื่องภิรมณ์) ภริยาของท่านอิทธิมาร่วมงานด้วย ผู้กองฤทธิชัย กับอภิชาติก็ตามมาดูแลคุณหญิง ดาวได้พบกับคุณหญิงรัตนา คุณหญิงรู้สึกถูกชะตาดาวมาก ลุงเดชเห็นทั้งคู่จึงไม่ค่อยสบายใจ ในงานดาวยังได้พบกับผู้กองฤทธิชัยอีกครั้ง ผู้กองเองก็รู้สึกถูกชะตากับดาวมาก ทั้งคู่คุยกันถูกคอ จนผู้กองออกปากชวนดาวไปเที่ยวในเมืองบ้าง ความสัมพันธ์ของผู้กองฤทธิ์  กับพฤกษาขยายตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ทั้งสองเริ่มสนิทกันมากขึ้น

ฤทธิชัยโดนพักงานเพราะแผนของสินชัยเพื่อให้ทำงานง่ายขึ้น แต่ฤทธิชัยก็ได้โอกาสไปบ้านดอนเสือเพื่อจัดการอย่างเต็มที่ ฤทธิชัยมาถึงบ้านดอนเสือก็ช่วยดาวกับจักจั่นปราบพวกค้าผู้หญิง และนายสินชัยก็อยู่เบื้อหลังการค้าผู้หญิงด้วย ฤทธิชัย ดาว จักจั่น ตามพวกมันไปจนถึงค่ายที่กักขังค้าผู้หญิงและช่วยพวกผู้หญิงออกมา โดยดาวและจักจั่นไม่กล้าแสดงตัวมากนัก ทั้งหมดเกือบพลาดท่า ลุงเดชที่เป็นห่วงดาวออกตามหามาพบเข้าจึงช่วยไว้ได้ ทั้งหมดเข้าบุกทลายค่าย ไผ่และสมาชิกโจรเข้ามาสบทบ และนางเสือ ก็ออกมาช่วยอีกแรง ฤทธิชัยเริ่มสงสัยในตัวดาว

อภิชาติสืบรู้มาว่า ไอ้ไชย (สโนวี่ สุทธิพร เมธา) คือมือขวาของนายสินชัย และพวกสินชัยเตรียมกำลังเพื่อขนเพชรเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และจะมีงานประมูลเพชรบังหน้า อภิชาติมาบอกฤทธิชัยถึงบ้านดอนเสือ และนางเสือก็รู้ข่าวคิดวางแผนปล้นเพชรของ นายสินชัยที่กรุงเทพ

คุณหญิงรัตนาเชิญดาวและจักจั่นมาทานข้าวที่บ้านดอนเสือ ดาวได้พบกับคุณหญิงพรพรรณ รวมทั้งฤทธิชัยและอภิชาติก็มาด้วย นายสินชัยเชิญคุณหญิงรัตนาไปงานประมูลเพชร รัตนาจึงชวนดาวกับจักจั่นไปด้วย ฤทธิชัยโดนเรียกกลับไปเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยงานประมูลเพชร และเขาคิดว่าคงต้องเผชิญหน้ากับนางเสือที่กรุงเทพแน่นอน

รูปของพฤกษาที่อภิชาติเอาไปวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์ออกมาหน้าเหมือนกับดาว มาก จนฤทธิชัยกับอภิชาติถึงกับตะลึง ทั้งคู่คิดว่ายังไม่อยากให้คุณหญิงรัตนาเห็นรูปในตอนนี้เพราะฤทธิชัยยังไม่ แน่ใจว่าดาวคือนางเสือหรือเปล่า จึงทำรูปขึ้นมาใหม่ไม่ให้เหมือนดาว คุณรัตนาหวังว่าดาวจะเป็นลูกของตน แต่เมื่อได้เห็นรูปว่าไม่ใช่ดาวก็เสียดายแต่ก็ยังเอ็นดูดาวกับจักจั่นเหมือน เดิม  ดาวกับจักจั่นมาถึงกรุงเทพตามคำเชิญของคุณหญิงรัตนา เพื่อมางานประมูลเพชรของนายสินชัย

ลุงเดชกับไผ่ปลอมเป็นนางเสือเพื่อหลอกให้พวกนายสินชัยคิดว่านางเสือยังอยู่ ที่ บ้านดอนเสือ จันจิรา (เตย อรัชมน รัตนวราหะ) หลานของป้าเนียนมาจากกรุงเทพ เจอพวกนักเลงทำร้าย ไผ่มาเห็นเข้าช่วยจันจิราไว้ ไผ่เริ่มสนใจจันจิรา

ดาว กับ จักจั่น ขอให้คุณหญิงรัตนาพาไปที่โรงแรมที่จัดงานประมูลเพชรเพื่อหวังดู ทางหนีทีไล่ และได้พบกับฤทธิชัย ฤทธิชัยเริ่มสงสัยดาวแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้  เมื่อถึงวันงานประมูลเพชร ดาวกับจันจั่นไปงานกับคุณหญิงรัตนาเพื่อจะปล้นเพชร นางเสือปล้นเพชรได้สำเร็จ โดยขโมยเพชรมาไว้ที่นายสินชัยกับลูกน้อง จึงไม่มีใครค้นเจอเพชร และนางเสือก็ย้อนกลับมาเอาเพชรจากนายสินชัยตอนที่ทุกคนกลับไปหมดแล้ว

สินชัยแค้นมากที่โดนนางเสือหลอกเอาเพชรไปง่าย ๆ  ทอมดักตามฆ่าฤทธิชัย สินชัยให้ทอมวางมือ เพราะสินชัยมีแผนให้ ลินจง (ติ๊ก ลลิสา สนธิรอด) ลูกน้องสาวสวยที่มีความสามารถด้านการต่อสู้ไม่แพ้ผู้ชาย ปลอมเป็นางเสือเพื่อหลอกทุกคนว่านางเสือไม่ใช่โจรปล้นคนไม่ดีมาให้คนจนอย่าง ที่ทุกคนคิด ฤทธิชัยคิดว่านายสินชัยต้องมีคนใหญ่คนโตคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังแน่ๆ

นางเสือตัวปลอมออกอาละวาดฆ่าตำรวจ และจักจั่นก็โดนระเบิดจากพวกนางเสือปลอม จักจั่นได้พรจากพระธุดงค์พร้อมๆ กับดาวและไผ่ อาวุธจึงไม่ระคายผิว แต่แรงระเบิดมากจนร่างกายภายในบอบช้ำหยุดทำงาน ดาวตั้งสมาธิ ให้จักจั่นอาศัยร่างตัวเองตามที่พระธุดงค์แนะนำ แล้วเอาร่างจักจั่นไปเก็บไว้ในถ้ำ ดาวพาฤทธิชัยกับอภิชาติมาพบร่างไร้วิญญาณของจักจั่นที่นอนอยู่ และทั้งคู่ก็ต้องตกใจเมื่อจักจั่นมาอาศัยร่างดาวอยู่ เพื่อรอร่างใหม่

ฤทธิชัยเห็นดาวร่วมมือกับตนจัดการกับนางเสือ คิดว่านางเสือที่ปะทะกันต้องเป็นนางเสือปลอมแน่ และดาวต้องเป็นนางเสือตัวจริงจึงมาช่วยพวกตน ดาวในร่างนางเสือจัดการกับนางเสือปลอมที่สินชัยส่งมาเพื่อล้างแค้นให้ จักจั่น ดาวมาพบคุณหญิงรัตนา คุณหญิง จึงได้รู้ว่าจักจั่นอยู่ในร่างดาว  ที่ชายหาด ดาวกับฤทธิชัยเจอคนบ้ากำลังจมน้ำจึงเข้าไปช่วยแต่ช่วยไม่ทันคนบ้าจมน้ำตาย จักจั่นจึงเข้าร่างคนบ้า ทุกคนดีใจที่จักจั่นได้ร่างใหม่ชั่วคราว อภิชาติเลยชอบแซว จักจั่นในร่างใหม่ว่า ยายบ๊อง (ปานวรินทร์  ปามี-โย)

ฤทธิชัยได้รับรายงานจากก้องเกียรติเรื่องสถานที่ส่งของของนายสินชัย ทั้ง 4 จึงลงมือสืบอีกครั้ง ฤทธิชัย ดาว อภิชาติ จักจั่นไปสืบเรื่องนายสินชัย และได้พบว่าพวกสินชัยกำลังจะผลิตแบงก์ปลอม ทั้งหมดไปดักจับพวกของทอมที่กำลังจะขนแม่พิมพ์มา แต่พวกฤทธิชัยกลับถูกพวกทอมและนายสินชัยหลอก จับตัวผิดคนไป

ที่บ้านดอนเสือ พวกไอ้ไชยล่อให้ไผ่หลงกลออกมาจากบ้านป้าเนียน และจับตัวจันจิรากับป้าเนียนไป เพราะป้าเนียนคิดจะตั้งค่ายอาสา ดาวกับจันจั่นร่างใหม่กลับมาพอดี จึงช่วยไว้ได้ทัน ดาวฟังเรื่องค่ายอาสาของท่านอิทธิพลจากป้าเนียน และจะตั้งค่ายอาสาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จักจั่นในร่างนางเสือจับนางเสือปลอมได้ กำลังจะคาดคั้นถึงผู้บงการ แต่ลินจงก็มาจัดการเก็บนางเสือปลอมไปเสียก่อน

คุณหญิงรัตนา มาเปิดค่ายอาสาที่บ้านดอนเสือ โดนพวกคนร้ายรอบยิงได้รับบาดเจ็บ ดาวตามไปฆ่าพวกมันด้วยความแค้นที่ทำร้ายคุณหญิงจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ ฤทธิชัยตามมาช่วยดาวไว้ ฤทธิชัยพยายามพาดาวออกจากป่า สายลมส่งกระแสจิตให้ไผ่กับลุง

เดชมาช่วย นายสินชัยโกรธมากที่จัดการกับพวกคุณหญิงไม่สำเร็จ  เงินในบัญชีของสินชัยหายไปเพราะฤทธิชัยแอบโอนไปให้มูลนิธิต่างๆ ทอมรายงานนายใหญ่เรื่องสินชัยทำงานผิดพลาด นายใหญ่สั่งให้สินชัยรีบเก็บนางเสือและฤทธิชัยโดยเร็ว สินชัยให้ลินจงก่อกวนค่ายอาสา และรอบทำร้ายเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด แต่พวกดาวก็จับตัวนางเสือปลอมไม่ได้สักที และยังต้องสืบเรื่องแบงก์ปลอมของนายสินชัยไปด้วย

ในป่า สายของดาวมารายงานว่ามีพวกคนร้ายลักลอบเข้ามาตัดไม้ นางเสือ จึงพากำลังบุกไล่..คนร้ายไปอย่างง่ายดายโดยมี กำจร (เต้ นันทศัย  พิศัลยบุตร) บันทึกภาพไว้ทั้งหมด แต่ในขณะที่จะย้ายไม้ไปซ่อนนั้น เจ้าหน้าที่ของทางการก็ปรากฏตัวล้อมทุกคนไว้..นางเสือหรือดาวโกรธและเข้าใจ ว่า ผู้กองฤทธิชัยทรยศต่อตน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนางเสือไว้ได้นางเสือถูกเปิดเผยโฉมหน้า และถูกนำตัวเข้ากรุงเทพฯทันที

ผู้กองฤทธิชัยจึงพากำจรติดตามมาด้วย เพื่อให้เป็นพยาน เจ้าหน้าที่ไม่ขัดข้อง แต่แล้วในขณะเดินทาง ก็มีคนร้ายกลุ่มหนึ่งบุกเข้าโจมตี..เจ้าหน้าที่ตายหมด..ดาว ผู้กองฤทธิชัย และ กำจร..ถูกพวกมันคุมตัวไว้ โฉมหน้าของนักธุรกิจจอมชั่วร้ายปรากฏตัวขึ้น และสั่งให้ฆ่าทุกคน ในภาวะคับขัน ลุงเดชกับพวกก็ตามมาช่วยดาวจากกลุ่มคนร้ายไว้ได้  แต่ความรัก  ความเชื่อใจ และความแค้น ระหว่างผู้กองฤทธิชัย กับดาว รวมถึงต้นกำเนิด และตัวคนที่ทำให้พ่อของดาวต้องตาย ทั้งหมดนี้ดาว หรือนางเสือ จะจัดการอย่างไรต่อไป ต้องติดตามใน ละครเรื่อง ป่านางเสือ

ปลาไหลป้ายแดง

กล่าวถึงความรักระหว่าง พริษฐ์ (กฤษฎา พรวิโรจน์) ด็อกเตอร์หนุ่มแสนเชย ที่บวชเรียนและฝักใฝ่ในทางธรรม แต่เมื่อบิดาของเขาได้ประสบอุบัติเหตุจนต้องทำให้เขาสึกออกมาเพื่อดูแลบิดา และมารดา (ณัฐฐา ลอยด์) เขาทำงานหาเงินพร้อมกับตั้งใจเรียนเพื่อจะให้ได้ทุนเรียน และตลอดเวลาที่เขาเรียนเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยลดภาระของมารดา จนกระทั่งเรียนจบปริญญาโท เขาได้ทำงานเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาองค์กรและเรียนต่อจนจบปริญญาเอก พริษฐ์ไม่เคยรู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู้หญิงเลย เขาไม่มีเพื่อนเพราะคนรอบข้างมองว่าเขาเป็นคนน่าเบื่อ จนพริษฐ์ได้มาพบกับ ปัณฑารีย์ (เข็มอัปสร สิริสุขะ) หลานสาวคนเดียวของเจ้าของบริษัทชุดชั้นในระดับประเทศ และเขาก็เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทของเธอด้วย

ทั้งสองเริ่มคบหากันโดยไม่ทราบเลยว่าสมาชิกฝ่ายชายของตระกูลเธอมีนิสัยเจ้า ชู้มหาวายร้ายมาก จนกระทั่งทั้งสองได้แต่งงานกัน ชีวิตแต่งงานของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับปัญหาที่มาจากบรรดาสมาชิกฝ่าย ชาย เมื่อบรรดาภรรยาของฝ่ายชายของตระกูลนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับพริษฐ์ พวกเขาไม่ยอมน้อยหน้าจึงวางแผนชักชวน พริษฐ์ให้มาเป็นพวกโดยให้ ปุริม (ธนกฤต พานิชวิทย์) และ ปัญจพล (สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล) มาตีสนิทโดยชักชวนให้พริษฐ์ไปตีกอล์ฟด้วยกัน และให้ กุสุมา (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) นางแบบชุดชั้นในที่สวยและเซ็กซี่มาเป็นครูสอนตีกอล์ฟให้เขา เพื่อให้เขาตบะแตกและยอมเข้าร่วมก๊วนกับพวกปลาไหล กุสุมาก็ไม่ทำให้พวกปลาไหลผิดหวัง

ด้วยความใกล้ชิดกุสุมาก็เริ่มหลงรักพริษฐ์และต้องการให้พริษฐ์ดูแลเธอเป็น บ้านเล็ก พริษฐ์เริ่มลังเลใจและทำให้เขาเกิดความเห็นแก่ตัวเริ่มเฉไฉออกนอกเส้นทาง เมื่อปัณฑารีย์จับได้พริษฐ์ก็ยอมรับผิดและสัญญาว่าจะไม่วุ่นวายกับกุสุมาอีก ทำให้กุสุมาไม่พอใจที่พริษฐ์กลัวเมียและยังถูกกิ๊กเก่าไล่ออกจากที่พักทำให้ กุสุมาฉวยโอกาสนี้อ้อน พริษฐ์ให้ดูแลเธอ แต่พริษฐ์แค่ยอมให้เธอเข้าพักที่คอนโดฯ ของเขาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น

กุสุมาไม่พอใจอย่างมากจึงพยายามวางแผนเพื่อให้พริษฐ์เข้าใจผิดกับภรรยาด้วย การใส่ร้ายว่าปัณฑารีย์ข่มขู่เธอ แต่ปัณฑารีย์รู้ทันจึงส่งนักสืบคอยตามกุสุมาตลอดเวลาและหาทางแฉพฤติกรรมของ กุสุมา พริษฐ์รู้ความจริงจึงไล่กุสุมาออกจากห้องและรับปากกับภรรยาอีกครั้งว่าจะไม่ ทำเช่นนี้อีก

เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มปลาไหลวางแผนหนีเที่ยวอีกแต่ถูกพริษฐ์ปฏิเสธเด็ดขาด แต่พริษฐ์ก็พลาดท่าหลงกลร่วมงานไปกับพวกปลาไหลอีกเช่นเคย ในคืนนั้นกุสุมารู้ว่ากลุ่มปลาไหลจะมาด้วย เธอจึงวางแผนแอบเอายานอนหลับใส่ในเหล้าให้พริษฐ์ดื่มและถ่ายรูปให้ดูเหมือน ว่าเขากำลังร่วมรักกับเธออยู่และส่งไปให้ปัณฑารีย์ ทำให้ปัณฑารีย์โกรธและขอหย่ากับพริษฐ์ทั้งที่เธอเพิ่งทราบว่าเธอกำลังตั้ง ครรภ์

คืนนั้น เจ้าสัวปิติ (เศรษฐา ศิระฉายา) อากงของของเธอหัวใจวายด้วยความตื่นเต้น เหล่าปลาไหลจึงต้องรีบพาเจ้าสัวไปโรงพยาบาล ทำให้ปัณฑารีย์โกรธบิดาและพี่ชายของเธอมากที่ทำลายครอบครัว เธอจึงต่อว่าและหนีออกจากบ้านไป พริษฐ์ตามหาภรรยาแต่ก็เจอเพียงแค่ใบหย่าที่เธอฝากไว้กับทนายความเพื่อรอให้ เขาลงนาม

จากนั้น 3 เดือนพริษฐ์เดินทางไปพบพระชรา พระรูปนั้นพูดเตือนสติเขาทำให้เขาคิดได้ เขาและกลุ่มปลาไหลก็ระดมสมองเพื่อตามหาภรรยาจนพบ แต่เขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นเมื่อภรรยาตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน เขาเสียใจมากที่ไม่มีโอกาสได้ดูแลเธอ จึงวางแผนเพื่อง้อขอคืนดีและนำหลักฐานทั้งหมดที่มีมาให้ปัณฑารีย์ดู กลุ่มปลาไหลก็รู้สึกผิดต่อครอบครัวของปัณฑารีย์จึงขอร้องให้เธออภัยให้สามี จนเธอใจอ่อนกลับมาคืนดีกันในที่สุด  ในละครปลาไหลป้ายแดง

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ปลาไหลป้ายแดง

กฤษฎา  พรวิโรจน์   แสดงเป็น   พริษฐ์
เข็มอัปสร  สิริสุขะ   แสดงเป็น   ปัณฑารีย์
ธนกฤต  พานิชวิทย์   แสดงเป็น   ปุริม
พริมรตา  เดชอุดม   แสดงเป็น   บุษกร
สุริยนต์  อรุณวัฒนกูล   แสดงเป็น   ปัญจพล
วิรากานต์  เสณีตันติกุล   แสดงเป็น   พิสินี
วรุฒ  วรธรรม   แสดงเป็น   ปิยะวัฒน์
ดนัย  ตันธนะศิริวงศ์   แสดงเป็น   ศุภสิน
อณูวรรณ  ปรีญานนท์   แสดงเป็น   เจ๊โมจิ
นครินทร์  คัลฮูน   แสดงเป็น   จ๊อด
ดารณีนุช  โพธิปิติ   แสดงเป็น   รุ่งนภา
ฝันดี  จรรยาธนากร   แสดงเป็น   เด๋อ
ณัฐฐา  ลอยด์   แสดงเป็น   แม่แก้ว
โชติกา  วงศ์วิลาศ   แสดงเป็น   จิรนุช
ณัฏฐพัชร  วิพัธครตระกูล   แสดงเป็น   ภัคพร
พีระพันธ์  อารียะพันธ์   แสดงเป็น   รัฐ
เกริก  ชิลเลอร์   แสดงเป็น   ปิยะพงษ์
พิมลวรรณ    หุ่นทองคำ   แสดงเป็น   อรวรรณ
พิมพ์อักษิพร  วินโกมินทร์   แสดงเป็น   กุสุมา
พิมพ์ผกา  เสียงสมบุญ   แสดงเป็น   รานี
เศรษฐา  ศิระฉายา   แสดงเป็น   ปิติ
ปิยะมาศ  โมนยะกุล   แสดงเป็น   โสภา

โบ๊เบ๊

วิน หรือ เปี๊ยก (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) พา ภศน (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) ลูกชายคนเดียวมาเมืองไทย และนัด เฮง (โพลาร์ อิศวร์) กับ หน่อน (อรรถชาติ ศรีภักดี) เพื่อนรักจะพาลูกไปรู้จัก เหตุผลหนึ่งที่ ภศนกลับเมืองไทย คือ อยากเจอข้าวปั้น (พีชญา วัฒนามนตรี) หญิงที่เขาชอบ เธอกลับมาไทยเพราะพ่อเสียชีวิตกะทันหัน ทั้งคู่พบกันที่สถานกงสุลในงานหาเงินช่วยอุทกภัยในเมืองไทย จากนั้นก็ติดต่อกันเรื่อยมา ภศนชอบข้าวปั้นที่น่ารักและเป็นผู้หญิงเก่ง ข้าวปั้นกับแม่กำลังยุ่งเรื่องทรัพย์สินของพ่อที่มีหุ้นกับญาติ ภศนชวนข้าวปั้นกับแม่มาทานข้าวด้วย แล้วบอกว่าเฮงเป็นทนายอาจช่วยได้ เปี๊ยกพาภศนไปโบ๊เบ๊ ถิ่นเกิดของเปี๊ยก เพื่อให้ภศนรู้ว่าตอนเด็กเปี๊ยกยากจนมาก ต่างจากปัจจุบันที่ร่ำรวยด้วยธุรกิจและประกอบอะไหล่รถยนต์ที่อเมริกา เปี๊ยกเป็นลูกชายของพ่อยูรกับ แม่เสียง (วาสิษฐี ศรีโลฟุ้ง) ทั้งสองมีลูกหกคน สมบูรณ์ ลูกสาวคนโตแต่งงานแล้ว สมศรี (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) ลูกสาวคนรองเรียนอยู่ธรรมศาสตร์ เปี๊ยกเป็นลูกคนที่สามต้องทำงานหาเงินพิเศษเพื่อเรียนหนังสือ ไพรัชน้องชายเปี๊ยกไปบวชแล้วไม่สึก จิ๊บกับปุ๊ น้องสาวของเปี๊ยกยังอายุหกขวบและห้าขวบ

เปี๊ยกมีเพื่อนสนิท คือ วิสิทธิ์หรือเฮง ศักดิ์ชัย หรือ โอ่ง (รวิช ไรวินท์) ซึ่งบ้านขายหมูสะเต๊ะ และสงวนหรือหน่อน ที่บ้านขายผ้า ทั้งสี่ชอบนัดไปเล่นกัน และโอ่งจะแอบขโมยหมูสะเต๊ะมาให้เพื่อนกินอยู่เสมอ แม่เสียงสั่งไม่ให้เปี๊ยกมีเรื่องกับใครเพราะรู้ว่าลูกไม่ใช่เด็กเกเรแต่รัก พวกพ้องมาก พอโรงเรียนเลิก เปี๊ยกจะไปหาพวกโอ่ง แต่ถูกพวกเกรียงศักดิ์ (อิทธิกร สาธุธรรม) นักเลงประจำห้องดักไว้ เกรียงศักดิ์ว่าเปี๊ยกหน้าตัวเมีย เปี๊ยกโกรธมาก ชกจนเกรียงเลือดกำดาวไหล เม้งกับตี๋ไม่ยอมให้เปี๊ยกออกจากห้อง หากเปี๊ยกจะออกต้องให้เกรียงชกคืนสามที เปี๊ยกยอม เปี๊ยกไปหาเพื่อนตามนัดและเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง โอ่งจะไปกระทืบเกรียง เฮงกับหน่อนห้ามไว้ ระหว่างนั้นมีเสียงเด็กอ่อนร้องไห้ เปี๊ยกชวนเพื่อนไปดู ที่ซุ้มต้นแก้ว เปี๊ยกและเพื่อนพบเด็กหญิงทารกคนหนึ่ง ทุกคนนั่งรอแม่ของเด็ก แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครมา เปี๊ยกสงสารเด็กจึงวางแผนเอาเด็กไปวางไว้หน้าบ้านเถ้าแก่ฮิ้ม (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) นายง้วน (สมศักดิ์ รัตนกุล) คนขับรถเถ้าแก่ฮิ้มเห็นเด็กอ่อน เรียกเถ้าแก่ออกมาดู เถ้าแก่ฮิ้มเห็นเด็กแล้วคิดถึงลูกสาวที่เสียชีวิตไปแล้วที่เกิดกับชบา (อุษณีย์ วัฒฐานะ) ภรรยาน้อย เขาจึงเอาเด็กไปให้ชบาเลี้ยงแทนลูกสาว

นางเตียมเกียง (ณหทัย พิจิตตรา) ภรรยาหลวงของเถ้าแก่ฮิ้มไม่พอใจที่เถ้าแก่ฮิ้มพาเด็กผู้หญิงมาให้ชบาเลี้ยง ปกติเตียมเกียงจะตามราวีเมียน้อยทุกคนของเถ้าแก่ฮิ้ม แต่ชบาเป็นครูสอนลูกชายสองคนของเตียมเกียงกับเถ้าแก่ฮิ้ม ชื่อ โกวิท หรือ ตี๋ใหญ่ (ธีร์ วณิชนันทธาดา) กับ อุดม หรือ ตี๋เล็ก (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ชบาเรียกเปี๊ยกไปดูลูกสาว เปี๊ยกตั้งชื่อให้ทารกว่า ดอกแก้ว (อุษามณี ไวทยานนท์) เตียมเกียงเป่าหูตี๋เล็กว่าดอกแก้วเป็นเด็กเก็บตกข้างถนนที่เถ้าแก่ฮิ้มรัก มาก ต่อไปนี้ตี๋เล็กจะเป็นหมาหัวเน่า เมื่อตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กไปไหว้ชบาที่บ้าน ตี๋เล็กพูดว่าดอกแก้วเป็นเด็กเก็บตกและอาจเป็นลูกชู้ ชบาโกรธมาก เปี๊ยกได้ยินเตียมเกียงกับตี๋เล็กคุยกัน ตี๋เล็กคิดจะฆ่าดอกแก้ว เปี๊ยกขัดขวางอุ้มดอกแก้วไว้ เถ้าแก่ฮิ้ม ชบา เรียม (พิมพ์ศิริ คชหิรัญ) เข้ามา ตี๋เล็กใส่ความว่าเปี๊ยกจะฆ่าดอกแก้ว เถ้าแก่ฮิ้มโกรธมาก เตะเปี๊ยก ชบาขอโทษปี๊ยกแทนเถ้าแก่

พ.ศ.2520 เปี๊ยกโตเป็นหนุ่มเต็มตัว และเปลี่ยนชื่อเป็น วิน ทำงานเปียลำใย เขาหล่อ ฉลาด ว่องไว เปี๊ยกทำงานกับเถ้าแก่คุง เปี๊ยกมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวในการเปียลำไย เขามีลูกน้องคู่หู คือ หนาน คู่แข่งคือ กวง ดอกแก้วโตเป็นสาวสวย เถ้าแก่รักและหวงมาก เปี๊ยกเจอคู่อริมาดักต่อย เปี๊ยกป้องกันตัวจนพลาดใช้มีดแทงกวง เมื่อตี๋เล็กกับมาบ้านเขาเจอดอกแก้วครั้งแรกก็เจ้าชู้ใส่ทันที พอดีกับที่อุดมมาบอกเรื่องเปี๊ยกไปแทงกวงบาดเจ็บ ตี๋เล็กดักรอลวนลามดอกแก้ว ดอกแก้วใช้วิธีป้องกันตัวที่เปี๊ยกสอนจัดการจนตี๋เล็กล่าถอย ดอกแก้วไปงานแต่งของโอ่งพบ คุณนายสาลี่ (วิไลลักษณ์ ไวงาน) ภรรยาสารวัตรอัมพร (เจษฎา ฉิมพลี) ดอกแก้วได้รู้จักกับแทนไท หรือ ต้น (อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) ลูกของสาลี่และอัมพร แทนไทท่าทางนุ่มนิ่ม เรียบร้อยคล้ายผู้หญิง แทนไทกับพ่อแม่มาคุยเรื่องคดีของเปี๊ยก แทนไทบอกว่ากวงยอมความแล้วกำลังตกลงค่าเสียหาย ดอกแก้วดีใจมาก เถ้าแก่ฮิ้ม ดอกแก้ว ชบา ไปส่งข่าวไว้ที่ป้าสมศรี พี่สาวของเปี๊ยก แล้วเถ้าแก่ฮิ้มพาชบาและดอกแก้วไปทานอาหาร ระหว่างจะกลับมีคนบุกยิงเถ้าแก่ฮิ้มหน้าร้าน เปี๊ยกได้ไปบวชเป็นพระแล้วสึกออกมา สมศรีเลยตัดสินใจบอกเปี๊ยกเรื่องที่เถ้าแก่ฮิ้มถูกยิง เปี๊ยกรีบไปเยี่ยมทันที เปี๊ยกนึกถึงคนร้ายจนไปจบที่เพ้ง (เกริกพันธ์ งามจิตสุขศรี) ที่เคยโกงเถ้าแก่ฮิ้ม เปี๊ยกรู้จากชบาว่าดอกแก้วอ่านหนังสือสอบอยู่ที่บ้านคนเดียว เลยไม่ไว้ใจตี๋เล็ก พอเปี๊ยกเจอแทนไทเริ่มรู้สึกแปลกๆ ว่าแทนไทเหมือนกระเทย ชบาบอกว่าแทนไทเป็นลูกของคุณอัมพร เปี๊ยกจึงทักทายดีและบอกว่าจะไปขอบคุณคุณอัมพร แทนไทบอกกับเปี๊ยกว่าดอกแก้วคิดถึงเปี๊ยกมาก แทนไทเลยพาเปี๊ยกไปเจอ ดอกแก้วดีใจมาก ตี๋เล็กเดินมาเห็นเลยพูดจาถากถางดอกแก้ว เปี๊ยกออกรับแทนและต่อว่าตี๋เล็กที่จะลวนลามดอกแก้วจนตี๋เล็กล่าถอย แทนไทชอบความกล้าของเปี๊ยก หลังจากนั้นเปี๊ยกตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อจะไปเรียนต่อเมืองนอก กละกลับมาขอดอกแก้วแต่งงาน เพราะจะได้ดูดีมีราศี

เปี๊ยกแวะไปหาเฮงถึงรู้ว่าต้อย (นันทศัย พิศลยบุตร) ไปทำงานกับเสี่ยจั๊ว (พัศพงศ์ จิตตธีรโรจน์) เจ้าของโรงบิลเลียด ต้อยขอให้เปี๊ยกมาแข่งบิลเลียดกับสำเริง เพราะมีเปี๊ยกคนเดียวที่ปราบสำเริงได้ แต่เปี๊ยกขอคิดดูก่อน แต่เปี๊ยกก็ขอให้ต้อยเลิกกับหมวยเล็ก (ธราภา กงทอง) แต่ต้อยยืนยันว่ารักหมวยเล็กจริงๆ จึงอยากได้เงินจากเสี่ยจั๊วพาหมวยเล็กหนี เปี๊ยกไปหาต้อยแต่เจออำภาศรี (วิมลรัตน์ บาลี) ผู้หญิงของเสี่ยจั๊ว เธอจึงชวนเปี๊ยกไปบาร์ที่ตัวเองร้องเพลงอยู่ เธอพยายามใกล้ชิดเปี๊ยก จนเปี๊ยกพลาดท่ามีอะไรกับเธอ เปี๊ยกรู้สึกผิดและไม่คิดจะยุ่งกับอำภาศรีอีก เปี๊ยกออกมาเจอเสี่ยจั๊วพอดี เสี่ยจึงเรียกมาคุย พูดทำนองว่ารู้ตัวมือปืนที่ยิงเถ้าแก่ฮิ้มแล้ว เปี๊ยกอยากรู้มาก ต้อยยื่นข้อเสนอให้เปี๊ยกแข่งบิลเลียดให้แล้วจะบอกกระแสคนร้าย เปี๊ยกรับปาก ดอกแก้วมางานทำบุญบ้านของคุณนายประภาแต่ดอกแก้วไม่สนุกเพราะเปี๊ยกไม่มา เธอขอให้แทนไทช่วยพากลับบ้าน เมื่อดอกแก้วกลับถึงบ้าน เผยมาบอกว่าเตียมเกียงไม่สบายรอดอกแก้วอยู่ ดอกแก้วรีบขึ้นไปหา แต่กลับเจอตี๋เล็กดักรอ ตี๋เล็กจะข่มขืนดอกแก้ว ดอกแก้วพยายามหนีจนตกบันได ชบาตกใจมากที่ลูกตกบันได แล้วไปอาละวาดเผยและเตียมเกียง เตียมเกียงทำเป็นพูดดี และขอขมาไม่ให้จับตี๋เล็กเข้าคุก โดยเอาความลับของดอกแก้วมาต่อลอง แทนไทเล่าเรื่องตี๋เล็กทำร้ายดอกแก้วให้เปี๊ยกฟังแล้วขอให้เปี๊ยกไปเยี่ยม ดอกแก้ว แต่เปี๊ยกบอกว่ายังไม่ถึงเวลา ตี๋เล็กไปกินข้าวที่บาร์และอยากร้องเพลง แต่เปี๊ยกซึ่งร้องอยู่ไม่วางไมค์ ตี๋เล็กเข้าไปต่อยเปี๊ยก เปี๊ยกไม่ต่อสู้ จนจ่าคนหนึ่งที่แทนไทพามาด้วยเข้ามาห้ามปรามแล้วจับตี๋เล็กไปขังที่สถานี วันแข่งบิลเลียด เปี๊ยกเล่นชนะทั้งสามเซ็ท แทนไทบอกว่ามารับเปี๊ยกไปเยี่ยมดอกแก้วที่บ้าน เปี๊ยกไม่ยอมไป เขาต้องการหาตัวคนร้ายที่ยิงเถ้าแก่ฮิ้มก่อน ต้อยบอกเปี๊ยกว่าเจอที่พักของเพ้งแล้ว เขาพาไปที่ห้องแถวโสเภณี เพ้งนอนป่วยอยู่แต่ไม่ยอมรับผิด หลานชายเพ้งที่เคยติดคุกและเป็นมือปืนยิงเถ้าแก่ฮิ้มมาหาเพ้ง และรีบหนี เปี๊ยกไล่ตาม เปี๊ยกสู้กันแล้วเสียท่า เปี๊ยกถูกกระทืบ แต่ตำรวจก็จับคนร้ายได้ เถ้าแก่ฮิ้มออกจากโรงพยาบาล เตียมเกียงใส่ไฟกับเถ้าแก่ฮิ้มว่าเปี๊ยกทำให้ตี๋เล็กติดคุก ตี๋เล็กอายจนต้องไปฮ่องกง เถ้าแก่ฮิ้มเรียกเปี๊ยกมาถามเรื่องทำให้ตี๋เล็กเข้าคุก เปี๊ยกรับจึงโดนเถ้าแก่ฮิ้มตีแสกหน้าแล้วไล่ออกจากบ้าน ชบารีบโทรบอกแทนไท แทนไทไปหาเปี๊ยกที่บ้าน แทนไทอ้างชื่อดอกแก้วจนเปี๊ยกยอมไปหาหมอ ดอกแก้วบังคับให้ง้วนพาไปเยี่ยมเปี๊ยก เปี๊ยกดีใจที่ดอกแก้วมาหา ดอกแก้วกอดเปี๊ยกและบอกว่าจะไม่ยอมให้เปี๊ยกตาย เปี๊ยกดีใจมาก แทนไทส่งข่าวเถ้าแก่ฮิ้มเรื่องจับเพ้งกับญาติที่ยิงเถ้าแก่ฮิ้มได้ และเปี๊ยกเป็นคนช่วยจับคนร้าย

เถ้า แก่ฮิ้มเรียกทนายประสงค์มาทำพินัยกรรม เถ้าแก่ฮิ้มอนุญาตให้ดอกแก้วไปเรียนต่อที่ปีนัง เถ้าแก่ฮิ้มให้แทนไทช่วยหาที่เรียนที่ปีนังให้ดอกแก้วและที่อเมริกาให้ เปี๊ยก เขาต้องการตอบแทนเปี๊ยก เปี๊ยกไปอเมริกากับหน่อนและเฮง เปี๊ยกรู้เรื่องที่เมืองไทยเพราะแทนไทเขียนจดหมายไปหาเสมอ แต่เขาไม่เคยได้จดหมายจากดอกแก้วเลย เปี๊ยกอยู่อเมริกาอีกสองปี แม่เสียงก็ส่งข่าวมาบอกว่าดอกแก้วแต่งงานแล้ว เปี๊ยกเสียใจเรื่องดอกแก้วมาก ดื่มเหล้าเมาจนนุช (ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) ช่วยพาไปส่งให้หน่อนกับเฮง จากนั้นเปี๊ยกกับนุชรู้จักกันมากขึ้น เปี๊ยกขอนุชแต่งงาน นุชตกลงแม้จะรู้ว่าเปี๊ยกยังรักดอกแก้ว เมื่อใกล้คลอดภศน เปี๊ยกพานุชมาคลอดที่เมืองไทย เปี๊ยกสร้างฐานะจนร่ำรวยและพาน้องๆ ไปอยู่ที่อเมริกา เปี๊ยกขอข้าวปั้นให้ภศน ดอกแก้วพาเปี๊ยกไปเยี่ยมชบาซึ่งยังอยู่กับเรียม ชบาร้องให้ขอโทษเปี๊ยก พร้อมหยิบกล่องจดหมายที่ดอกแก้วเขียนถึงเปี๊ยก แต่ชบาไม่ยอมส่งให้ ดอกแก้วกับเปี๊ยกจึงเข้าใจทุกอย่าง เปี๊ยกกับดอกแก้วเศร้า แต่ทั้งคู่ก็ดีใจที่ลูกรักกัน ดอกแก้วฝากเปี๊ยกดูแลข้าวปั้น เปี๊ยกสัญญาว่าจะรักข้าวปั้นเหมือนที่รักดอกแก้ว ดอกแก้วขอบคุณ และเรียก พี่เปี๊ยก เหมือนกับวันเก่าๆ เปี๊ยกยิ้มทั้งตาและหัวใจกับคำพูดนั้น

รายชื่อนักแสดงละคร โบ๊เบ๊
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ แสดงเป็น เปี๊ยก / วิน
อุษามณี ไวทยานนท์ แสดงเป็น ดอกแก้ว
ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา แสดงเป็น ตี๋เล็ก / อุดม
อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา แสดงเป็น ต้น / แทนไท
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ แสดงเป็น เถ้าแก่ฮิ้ม
อุษณีย์ วัฒฐานะ แสดงเป็น ชบา
ณหทัย พิจิตรา แสดงเป็น เตียมเกียง
ธีร์ วณิชนันทธาดา แสดงเป็น ตี๋ใหญ่ / โกวิท
นันทศัย พิศลยบุตร แสดงเป็น ต้อย
พรรัมภา สุขได้พึ่ง แสดงเป็น สมศรี
ธราภา กงทอง แสดงเป็น หมวยเล็ก
อิทธิกร สาธุธรรม แสดงเป็น เกรียง
อรรถชาติ ศรีภักดี แสดงเป็น หน่อน
โพลาร์ อิศวร์  รับบทเป็น  เฮง
รวิช ไรวินท์  รับบทเป็น  โอ่ง
จักรกฤษณ์ คชรัตน์  รับบทเป็น  เส็ง
วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง  รับบทเป็น  แม่เสียง
วิไลลักษณ์ ไวงาน  รับบทเป็น  คุณนายสาลี่
สิริยา นฤนาท  รับบทเป็น  อาหงวน
พิมพ์ศิริ คชหิรัญ  รับบทเป็น  เรียม
ประภารัตน์ รัตนธาดา  รับบทเป็น  เผย
วิมลรัตน์ บาลี  รับบทเป็น  อำภาศรี
ปวารา อภิพูนลาภ  รับบทเป็น  เหมยฟ้า
เจษฎา ฉิมพลี  รับบทเป็น  สารวัตรอัมพร
สมศักดิ์ รัตนกุล  รับบทเป็น  ง้วน
เกริกพันธ์ งามจิตสุขศรี  รับบทเป็น  เพ้ง
พัศพงศ์ จิตตธีรโรจน์  รับบทเป็น  เสี่ยจั๊ว

บุหงาหน้าฝน

เรื่องราวความโรแมนติกระหว่างชายหนุ่มพเนจรกับสาวบ้านไร่ ที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้จากการถูกลอบทำร้าย ความรักเกิดขึ้น ณ จุดนั้น ประดุจดั่งรักแรกพบ

ปาหนัน (เอม-ศิริพิชยา) แอบหนี ยายเจ่ง(เดือนเต็ม สาลิตุล) หญิงรับใช้เก่าแก่ ที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กหลังแม่ปาหนันตาย ออกไปเก็บดอกบุหงาหลังสวนมะพร้าว จู่ ๆ เธอก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มนอนสลบ เนื้อตัวถลอกเต็มไปด้วยเลือด ปาหนันเห็นหนุ่มนิรนามอาการปางตาย จึงรีบให้คนงานแบกร่างกลับมารักษาตัวที่บ้าน แต่พอ นายเคี่ยม (สันติสุข พรหมศิริ) พ่อของเธอ และ สหัส(ภูริ หิรัญพฤกษ์) ลูกน้อง เห็นหน้าชายหนุ่ม ทั้งคู่ก็แทบช็อค  นายเคี่ยมยื่นคำขาดไล่ให้หนุ่มนิรนามออกไปจากบ้าน แต่ปาหนันไม่ยอม

ระหว่างนั้น นาวิศ (โตโน่-ภาคิน) ก็ฟื้นขึ้นมาได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน นาวิศจำเสียงนั้นได้แม่นยำ เพราะชายฉกรรจ์เจ้าของเสียงนั้นก็คือสหัส คนที่หลอกพาเค้ามาฆ่าเมื่อคืน นาวิศรู้ว่าทางรอดเดียวคือต้องแกล้งความจำเสื่อม เมื่อนายเคี่ยมเห็นว่านาวิศความจำเสื่อมก็สงสาร ยิ่งปาหนันอ้อนวอนให้ไว้ชีวิต นายเคี่ยมก็ใจอ่อนยอมให้ปาหนันพาชายหนุ่มไปอยู่บ้านเล็กกลางสวนมะพร้าว แล้วให้ เดื่อ(อู๊ด เป็นต่อ) คนงานสวนมะพร้าวคอยดูแล โดยปาหนันตั้งชื่อใหม่ให้นาวิศว่านายพร้าว

ระหว่างรักษาตัวนาวิศพยายามสืบหาสาเหตุที่ถูกหลอกมาฆ่า ด้วยการแอบถามปาหนันถึงนายเคี่ยมบ่อย ๆ แต่ปาหนันก็เอาแต่พูดถึงความดีของพ่อ จนนาวิศมั่นใจว่าไม่มีใครรู้ถึงความโหดเหี้ยมของนายเคี่ยม นาวิศจึงตั้งใจจะกระชากหน้ากากนายเคี่ยมให้ได้

ซึ่ง ความจริงแล้วนายเคี่ยมได้รับคำสั่งจาก ธานี (กัปตัน-ภูธเนศ) อาแท้ ๆ ของนาวิศ ให้วางแผนหลอกนาวิศไประนองเพื่อฆ่าปิดปาก เพราะธานีหวังจะฮุบมรดกทุกอย่างของนาวิศ แต่พอเรื่องราวกลับตาลปัตร นายเคี่ยมจึงต้องปกปิดธานีเรื่องที่นาวิศยังไม่ตาย แต่ ระริน (นิโคล เทริโอ) ภรรยาของธานี กลับสงสัยเรื่องการหายตัวไปของนาวิศ จึงให้ รสา (ฟาง-พิชญา) น้องสาวไปตามหานาวิศที่ระนอง ธานีรู้เข้าเลยสั่งให้ลูกน้องสะกดรอยตามรสาอีกที จนได้รู้ความจริงว่านาวิศยังไม่ตาย ธานีโกรธมากที่นายเคี่ยมขัดคำสั่ง เลยขู่จะเอาชีวิตปาหนันลูกสาวสุดที่รักถ้าไม่จัดการฆ่านาวิศเสีย

นายเคี่ยมเครียดมากแต่เพราะไม่อยากส่งนาวิศไปตาย จึงวางแผนสลับตัวนาวิศกับศพชายนิรนาม แล้วหลอกธานีว่าเป็นศพนาวิศ ธานีดีใจมากเพราะในที่สุดทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็จะตกเป็นของเค้า แต่แล้วความลับเรื่องนาวิศยังไม่ตายก็แตก ธานีโกรธสุดขีดที่ถูกนายเคี่ยมหลอกซ้ำ จึงบุกไปฆ่าทันที แต่นายเคี่ยมกลับพาปาหนันและครอบครัวหนีไปซะแล้ว

ปาหนันหมดอาลัยเมื่อต้องจากกับนาวิศ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งคู่ต่างก็ผูกพันรักใคร่กันอย่างลึกซึ้ง และเมื่อนาวิศรู้ความจริงทั้งหมดว่า คนที่ต้องการเอาชีวิตเค้าคือธานี นาวิศจึงให้คำมั่นกับปาหนันว่าหลังจัดการกับธานีเรียบร้อย เค้าจะกลับมาหาปาหนัน และเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

แต่ ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะจู่ ๆ นาวิศก็ประสบอุบัติเหตุความจำเสื่อม ทำให้ความทรงจำระหว่างเค้าและปาหนันหายไป ธานีจึงได้โอกาสป้อนข้อมูลใหม่ใส่หัวนาวิศ ว่านายเคี่ยมคือคนที่ต้องการฆ่านาวิศ เพราะนาวิศดันไปรู้เห็นเรื่องที่นายเคี่ยมโกงเงินบริษัท

ส่วนปาหนันที่นับวันรอการกลับมาของนาวิศ แต่พอได้เจอกัน นาวิศกลับจำเธอไม่ได้ ทำให้ปาหนันเศร้าเสียใจอย่างหนัก ถึงขั้นตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่กับสหัส คนที่รักและหวังดีกับเธอมาตลอด…สุดท้ายความทรงจำของนาวิศจะกลับคืนมาหรือ ไม่? ความรักระหว่างนาวิศและปาหนันจะลงเอยเช่นไร? ติดตามชมได้ใน ละครบุหงาหน้าฝน ทุกคืนวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ช่อง 5 ละคร บุหงาหน้าฝน เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 21 กันยายน 2554

รายชื่อนักแสดงนำในละคร บุหงาหน้าฝน

ภาคิน  คำวิลัยศักดิ์   แสดงเป็น   นาวิศ
ศิริพิชยา  วิสิฐไวทยากุล   แสดงเป็น   ปาหนัน
ภูธเนศ  หงษ์มานพ   แสดงเป็น   ธานี
นิโคล  เทริโอ   แสดงเป็น   ระริน
ภูริ  หิรัญพฤกษ์   แสดงเป็น   สหัส
พิชญา  เชาวลิต   แสดงเป็น   รสา
สันติสุข  พรหมศิริ   แสดงเป็น   นายเคี่ยม
เดือนเต็ม  สาลิตุล   แสดงเป็น   ยายเจ่ง
ยุทธนา  กานิล   แสดงเป็น   แท่น
อู๊ด  เป็นต่อ   แสดงเป็น   เดื่อ
อรรถพร  สุวรรณ   แสดงเป็น   ชาติ
ณัฐญา  หวังวงศ์สกุล   แสดงเป็น   ทับทิม