Category Archives: ละครปี 2552

พระจันทร์สีรุ้ง

พระจันทร์สีรุ้ง เป็นชีวิตนางโชว์ของอารักษ์ (อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ที่ต้องจบลงด้วยวัยเพียง 35 เพราะคลื่นลูกหลัง ที่มาแรงกว่า ทำให้เขารับไม่ได้ที่ จะต้องกลายไปเป็นแค่ตัวตลกคั่นรายการ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ… เขากำลังมีลูกชาย

ตะวัน (บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เป็นลูกของ อรดี (แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์) หมอนวดซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกับอารักษ์ หล่อนตั้งใจจะคลอดลูก แล้วทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อตามผัวใหม่ ชาวเยอรมันไปต่างประเทศ ด้วยความที่อารักษ์รัก และสงสารเด็กน้อย ที่ไม่มีใครต้องการ เหมือนชีวิตของตน ที่เคยระเห็จออกจากบ้าน เพราะพ่อซึ่งไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น จนประกาศตัดญาติขาดมิตร อารักษ์เลยได้มาใช้ชีวิต เป็นนางโชว์กับ ป้อ (ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา) เพื่อนสนิทถึงพัทยา อารักษ์ได้ตัดสินใจที่จะขอตะวันมาเลี้ยงเป็นลูก ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ของบรรดาเพื่อนชาวสีม่วงด้วยกัน โดยเฉพาะกับชัชชัย (ปัญญาพล เดชสงค์) แฟนหนุ่มที่กำลังคิดตีจาก ได้โอกาส เอาเรื่องเด็กน้อย มาอ้างเพื่อแยกทางกับ อารักษ์ ทำให้เขาเสียใจมาก ถึงกับคิดฆ่าตัวตาย แต่เพราะเสียงร้องของตะวัน ทำให้เขาได้ฉุกคิดว่าตนยังมีภาระ ที่สำคัญภาระยิ่งใหญ่ของคำว่า…พ่อ

อารักษ์ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเอง ทิ้งความเป็นเพศที่สาม แล้วย้ายตัวเองไปอยู่เชียงใหม่ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่ เซ้งตึกแถวที่หน้าตลาดสดย่านชานเมือง เปิดเป็นร้านทำผมชื่อว่า “ตะวันซาลอน” มีบรรดาแม่ค้าแม่ขาย และชาวบ้านในละแวกนั้น แห่กันมาใช้บริการแทบทุกวัน เพราะความที่เจ้าของร้านเป็นคนอัธยาศัยดี แล้ววันหนึ่งอารักษ์ก็ได้ช่วยชีวิตแก้วตา (เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์) จากการตามล่าของพวกค้าผู้หญิง ที่หลอกซื้อหญิงสาวจากพ่อแม่จะพาไปทำงานที่มาเลย์ หล่อนหลบหนี แล้วระหกระเหินมาจนถึงหน้าร้าน ด้วยความสงสารในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาจึงให้ที่ซ่อน แล้วแจ้งตำรวจให้สกัดจับพวกค้าผู้หญิง จนสามารถช่วยชีวิตหญิงสาวได้อีกหลายคน แก้วตาระลึกในบุญคุณของอารักษ์ จึงขออยู่ช่วยงานที่ร้าน และอาสาที่จะช่วยดูแลตะวันอีกแรง

ถึงแม้ว่าอารักษ์จะพยายามบอกและแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะกับตะวัน แต่กิริยาที่สุภาพ นิ่มนวล ก็ทำให้ทุกคนดูออกว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ ทำให้อารักษ์ไม่สบายใจ เกรงว่าลูกชายจะมีปมด้อย จนเมื่อตะวันโตถึงวัยเข้าเรียน เขาเป็นเด็กฉลาด และหน้าตาดี จึงมีแต่คนรักใคร่ บรรดาลูกค้าที่มาทำผมก็มักจะหยอกเอิน ให้ช่วยหยิบจับ ทำนั่นทำนี่ให้ จนอารักษ์ต้องคอยสั่งห้าม สร้างความสงสัยให้กับเด็กน้อย จนต้องแอบมาบ่นให้แก้วตาฟัง หญิงสาวซึ่งใช้ชีวิตร่วมกับสองพ่อลูกมานาน รู้ดีว่าอารักษ์คิดอะไร หล่อนซึ่งแรกๆ ก็เคยแอบชอบชายหนุ่ม แต่พอรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย ก็ได้แต่ทำใจยอมรับ และช่วยเขาปิดบังความจริงกับเด็กน้อย

วิถีชีวิตของตะวันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเข้าโรงเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆ ล้อเรื่องพ่อเป็นกะเทยจนมีเรื่องชกต่อยกันเป็นประจำ เด็กน้อยซึ่งถูกพ่อสอนให้เป็นคนรักสันติ มักจะมาบ่นให้ผู้เป็นพ่อฟังอยู่เสมอทุกครั้งที่มีปัญหา เขาชอบนอนหนุนตัก ให้พ่อเล่านิทานให้ฟังใต้แสงจันทร์

แต่แล้วเมื่อตะวันอายุสิบขวบ ได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้น จนพอจะรับรู้เห็นความผิดปกติของอารักษ์ที่ไม่เหมือนพ่อของเพื่อนๆ ถึงแม้อารักษ์จะพยายามปิดบังอย่างไร แต่ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เมื่อป้อนำบรรดาเพื่อนเก่าร่วมคณะนางโชว์มาเยี่ยมเยือน ภาพพ่อที่ทำตัวกรี๊ดกร๊าดสนิทสนมกับแขกแปลกหน้ากลุ่มใหญ่ ทำให้ตะวันแน่ใจในสิ่งที่เขากลัว ความจริงที่เด็กน้อยพยายามหลอกตัวเองเรื่องพ่อนั้นเป็นเรื่องจริง

ตะวันเสียใจจนถึงขั้นหนีออกจากบ้านไปขอพักกับครูชนะ (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) ครูพละที่สนิทที่สุด ขณะนั้นอารักษ์และบรรดาเพื่อนๆ พยายามตามหาด้วยความเป็นห่วงถึงกับไปแจ้งความ ระหว่างที่ตะวันอยู่กับชนะนั้น ครูหนุ่มก็พยายามกล่อมจนเด็กน้อยเริ่มอ่อนลง และเข้าใจโลกมากขึ้น ยิ่งเห็นใครต่อใครวิ่งวุ่นตามหาตน โดยเฉพาะพ่อที่ถึงกับถูกรถชนก็ทำให้เด็กน้อยได้คิด และยอมที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง อารักษ์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตะวันฟังโดยไม่ปิดบัง เว้นแต่เรื่องอาชีพของแม่เด็กน้อย เพื่อให้ตะวันยังมีภาพแม่ที่แสนดีไว้ในใจ

ถึงแม้ความจริงจะเปิดเผย แต่อารักษ์ก็ยังคงทำตัวปกติ เพื่อรักษาหน้าลูกชาย เขาจัดการย้ายโรงเรียน และให้แก้วตาออกหน้า เป็นผู้ปกครองแทนตน เพื่อไม่ให้ตะวันต้องเป็นขี้ปากของใคร จนเมื่อเวลาผ่านไป ตะวันโตขึ้น และสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพได้ ชายหนุ่มต้องแยกจากครอบครัวอันเป็นที่รักมาเช่าอยู่หอพักตามลำพัง โดยที่ทั้งสองพ่อลูก ก็ยังคงติดต่อถามไถ่กันทางโทรศัพท์แทบทุกวัน

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ตะวันได้รู้จักกับ ปลายฟ้า (แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) นักศึกษาต่างคณะ ลูกสาวคนสวยของสถาพร (ถา-สถาพร นาควิลัย) นายตำรวจใหญ่ หญิงสาวเป็นดาวของมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับตะวัน ที่ถูกเลือกให้เป็นเดือน ในงานกีฬาประเพณีของสถาบัน ทำให้ทั้งสองต้องทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่งทำให้ตะวันรู้สึกชื่นชม ในความน่ารัก และพยายามจะผูกมิตร ด้วยแต่ปลายฟ้ากลับไม่สน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ตะวันตกหลุมรักเธอมากขึ้นไปอีก โดยมองข้ามเกยูร (ปีใหม่-สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัตน์) เพื่อนสาวที่แอบชอบตนอยู่

ตลอดเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ตะวันได้เพียรเฝ้าติดตามความเป็นไปของปลายฟ้าด้วยความรัก จนรู้ว่าเธอชอบทำอะไรที่ไหน รวมทั้งรู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์และคำแนะนำของผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาตลอด เวลา ตะวันจึงแอบส่งดอกไม้และข้อความซึ้งๆ ให้เธอที่คณะทุกวัน จนหญิงสาวรู้สึกแปลกใจพยายามจะหาตัวเจ้าของดอกไม้ให้ได้ แต่ก็มีเหตุให้ต้องคลาดกันเสมอ

แล้วในที่สุดตะวันก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับปลายฟ้ายิ่งขึ้น เมื่อเขาตัดสินใจไปคัดเลือกตัวแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัย และผ่านการทดสอบได้รับบทนำคู่กับหญิงสาว ตลอดการซ้อมตะวันพยายามเอาใจปลายฟ้าจนเธอรู้สึกอึดอัด หญิงสาวพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่บ้านรวมทั้งตะวัน ทำให้ชายหนุ่มพบว่าช่องว่างระหว่างเขากับเธอนั้นมีมากกว่าที่คิด เมื่อหญิงสาวมีฐานะต่างกับเขามาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขายอมแพ้ ตะวันตัดสินใจที่จะไปทำงานเป็นเด็กรับรถให้ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เพียงเพื่อจะหาเงินพาหญิงสาวไปทานอาหารหรูๆสักมื้อหนึ่งพร้อมกับบอกความในใจ ที่เก็บไว้ตลอดสี่ปี และที่นั่นทำให้เขาได้ช่วย ภัครินทร์ (นุ่น-สินิทรา บุญยศักดิ์) ฝ่ายดูแลศิลปินของ “เลิฟลี่ เรคคอร์ด” จากโจรวิ่งราว ภัครินทร์เห็นหน่วยก้านของตะวัน จึงชวนไปลองเทสต์เสียงดู แต่ชายหนุ่มปฏิเสธ

ตะวันมีโอกาสได้พบกับครอบครัวของปลายฟ้าในวันแสดงละครเวที ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมในบุคลิกของสถาพร และดารณี (ไก่-สุปราณี เจริญผล) พ่อแม่ของหญิงสาว และในระหว่างการแสดงตะวันก็เผลอใจไปจูบปลายฟ้านอกบท สร้างความขัดเคืองให้หญิงสาว จนไม่ยอมพบหน้าด้วย ตะวันกลุ้มใจจึงได้แต่โทรไปปรับทุกข์กับผู้เป็นพ่อ อารักษ์จึงแนะนำให้ลูกชายไปขอโทษหญิงสาว

ใน งานวันเกิดของปลายฟ้าที่ถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาว ตะวันอาศัยเกยูรให้พาเข้างาน เขาให้ของขวัญ และออกไปร้องเพลงขอโทษตามที่อารักษ์สอนไว้จนปลายฟ้าเริ่มจะอ่อนลง ยอมรับคำขอโทษจากชายหนุ่ม พร้อมทั้งแนะนำศศิน (เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย) ชายคนรักที่เป็นลูกชายของศักดา (อาเชาว์-สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักการเมืองใหญ่ให้ตะวันได้รู้จัก ทำให้ชายหนุ่มเสียใจ และเลี่ยงออกไปจากงาน ภัครินทร์ที่มาร่วมงานเพราะเป็นญาติผู้พี่กับปลายฟ้า นำวีดีโอภาพและเสียงของตะวันมาให้พบโชค (ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์) เจ้าของค่ายเพลงดังฟัง ตะวันจึงถูกเรียกให้เข้าไปพบ และกล่อมให้เป็นศิลปินเบอร์ใหม่ของเลิฟลี่เรคคอร์ด

ตะวันดีใจโทรไปแจ้งข่าวดีกับพ่อ แต่อารักษ์กลับเป็นห่วง กลัวว่าเมื่อตะวันดังแล้วจะลืมพ่อกะเทยคนนี้ แต่ชายหนุ่มรับปากว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้น เขาตั้งใจจะหาเงินมากๆ เพื่อเก็บไว้ซื้อบ้านอิงดอยให้พ่ออยู่กับเขาตอนแก่ อารักษ์ได้แต่ย้ำลูกชายให้ปิดเรื่องของตนเอาไว้ เพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

ตะวันตัดสินใจดร็อปการเรียนเอาไว้ชั่วคราว ในเทอมสุดท้าย ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น รวมทั้งปลายฟ้านั้นจบการศึกษากันในหมด ชายหนุ่มถูกจับเปลี่ยนลุคใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และเปิดตัวด้วยการถ่ายแบบ เพื่อสร้างความนิยม ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักร้อง

ตะวันเริ่มกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีสาวๆ มาให้ความสนใจ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงไม่สามารถเข้าใกล้ปลายฟ้าได้มากกว่าความเป็นเพื่อน จนเมื่อเขาได้พบศศินควงสิริกานดา (มิ้ม-อัมราภัสร์ จุลกะเศียน) ดาราน้องใหม่ไปร่วมงานวันเกิดของนิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่ง จึงพยายามที่จะหาทางเตือนปลายฟ้า แต่หญิงสาวกลับไม่เชื่อ เธอถึงขั้นไปสอบถามความจริงจากชายคนรัก แต่กลับพบว่าศศินกำลังอยู่กับสิริกานดาจริง ปลายฟ้าจึงประกาศตัดความสัมพันธ์กับศศิน ช่วงนี้เองที่ตะวันได้มีโอกาสเข้ามาแสดงความจริงใจที่มีต่อปลายฟ้า เขาเฝ้าปลอบ และเล่านิทานพระจันทร์ที่พ่อเคยเล่าให้เธอฟัง จนปลายฟ้ารู้สึกเข้มแข็ง และเปิดใจยอมรับชายหนุ่มมากขึ้น จนถึงขั้นเป็นความรักเมื่อชายหนุ่มสารภาพว่า เขาเป็นเจ้าของดอกไม้ที่ส่งให้ตลอดเวลาสี่ปี

ในที่สุดผลงานชิ้นแรกของการเป็นศิลปินของตะวันก็ออกสู่สาธารณชน เขากลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง ในขณะที่งานเพลงกำลังไปด้วยดี ความสัมพันธ์ของเขากับปลายฟ้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คบหาเพียงไม่นาน แต่ทั้งสองก็ผูกพันและเข้าใจในกันและกันมาก แต่ก็ต้องพยายามปิดบัง คอยหลบนักข่าวตามคำแนะนำและขอร้องของภัครินทร์

แต่แล้วช่วงเวลาที่สวยงามของตะวันก็สะดุดลง เมื่อชายหนุ่มได้พบกับอรดี แม่ซึ่งทิ้งเขาไป หลังจากที่ตามสามีใหม่ไปใช้ชีวิตในเยอรมันได้ยี่สิบปี พอสามีตายอรดีก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่ จึงบินกลับมาเมืองไทย ตั้งใจลงทุนทำธุรกิจเอาเงินไปลงหุ้นกับวิมล (ดี้-ชนานา นุตาคม) เพื่อนเก่าร่วมอาชีพเปิดบริษัทผลิตเครื่องสำอาง แต่เกิดไปสะดุดใจกับชื่อและนามสกุลของนักร้องหน้าใหม่ที่ชื่อตะวัน จึงสืบจนรู้ว่าเป็นลูกชายตนที่ยกให้อารักษ์ไป เธอจึงมาแสดงตัวให้ตะวันได้รู้จัก เพื่อหวังว่าความดังของลูกชายจะช่วยทำให้ธุรกิจของเธอก้าวหน้า แต่ตะวันกลับปฏิเสธที่จะยอมรับ เมื่อแม่ที่ตนวาดฝันไว้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อรดีทั้งปากร้าย แต่งตัวจัดจ้าน ไม่ใช่นางฟ้าอย่างที่พ่อเคยบอก อีกทั้งความรักที่เขามีต่อปลายฟ้าก็เริ่มมีปัญหา เมื่อศศินย้อนกลับมาขอคืนดีกับหญิงสาวอีกครั้ง

ศศินรู้ว่าปลายฟ้ามีใจให้กับตะวัน เขาจึงแสร้งทำดี ใช้ความเป็นสุภาพบุรุษทำให้ปลายฟ้าตายใจ ในการยอมรับเขาเป็นเพื่อน แต่ชายหนุ่มกลับสร้างสถานการณ์โดยหลอกใช้เกยูร หาโอกาสให้หล่อนได้ใกล้ชิดกับนักร้องหนุ่ม และเป่าหูจนปลายฟ้ารู้สึกแคลงใจ ขณะเดียวกันศศินก็พยายามทำดีกับปลายฟ้าเพื่อให้ตะวันได้เห็น จนนักร้องหนุ่มซึ่งกำลังว้าวุ่น ขาดความยับยั้งชั่งใจต่อว่าปลายฟ้าว่ากำลังจะหวนกลับไปคบหาศศิน ทำให้หญิงสาวเสียใจ และต่อว่าชายหนุ่มไปอย่างแรง ก่อนจะหลบหน้าผู้คน หนีปัญหาไปพักผ่อนที่ภูเก็ต โดยตัดขาดการสื่อสารทุกชนิด

ตะวัน เสียใจเรื่องปลายฟ้า และสับสนเรื่องอรดี จึงคิดหนีปัญหาวุ่นวายกลับไปหาพ่อ แต่ระหว่างทางเกิดประสบอุบัติเหตุรถตกเขา นักร้องหนุ่มถูกส่งมารักษาตัวที่กรุงเทพ แพทย์สามารถช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ แต่เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือน เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของอรดีที่อ้างหลักฐานจากทางโรงพยาบาลที่ทำคลอด และพยานบุคคลยืนยันกับหนังสือพิมพ์ จนตะวันต้องยอมรับอรดีเป็นแม่ โดยที่จิตใต้สำนึกลึกๆ ของเขากลับไม่มั่นใจ

ข่าวร้ายของตะวันทำให้อารักษ์รีบลงมาดูอาการลูกชาย พร้อมกับแก้วตาและครูชนะซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นคู่รักกัน แต่เขากลับพบอรดี และถูกกีดกันไม่ให้เห็นหน้าตะวัน โดยขู่ว่าความเป็นเพศที่สามของอารักษ์จะทำให้ลูกเสียชื่อเสียง อารักษ์ต้องคิดหนัก แอบเข้าไปพบลูกชาย แล้วก็พบว่าตะวันจำเขาไม่ได้ และยังแสดงท่าทางรังเกียจเมื่อเห็นหน้าเขา โดยไม่รู้เลยว่าลูกชายได้ถูกผู้เป็นแม่เป่าหูว่า อารักษ์เป็นพวกโรคจิตที่คลั่งศิลปินหนุ่มๆ หนุ่มใหญ่รู้สึกเจ็บปวด และยอมหลีกทางให้อรดีดูแลตะวัน เขาเลือกเป็นความทรงจำที่หายไป เพื่อให้ลูกชายได้มีอนาคตที่สดใส อารักษ์จึงพาแก้วตากับครูชนะกลับเชียงใหม่โดยไม่ยอมบอกความจริงให้ทั้งสอง เข้าใจ

ตลอดเวลาที่ตะวันอยู่โรงพยาบาล เกยูรมาคอยดูแลชายหนุ่มด้วยความรัก หญิงสาวจึงรู้เห็นสิ่งที่อรดีพยายามจะปิดบังตะวันเรื่องอารักษ์เข้าโดย บังเอิญ อรดีกลัวว่าหญิงสาวจะเปิดเผยความจริง จึงยื่นข้อเสนอให้เธอเก็บความลับนี้ไว้ แลกกับการสนับสนุนให้เธอได้รักกับตะวัน และจัดการทำลายข้าวของที่เกี่ยวกับปลายฟ้าของตะวันจนหมดสิ้น เพื่อให้เกยูรวางใจจนยอมรับปาก

ปลายฟ้าได้รู้ข่าวของตะวัน เธอก็รีบรุดขึ้นมาเยี่ยมชายคนรัก แต่กลับพบว่าตะวันคนใหม่นี้ ไม่เหมือนคนเดิมที่รู้จัก เมื่อชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนสุภาพ ก็กลายเป็นคนก้าวร้าว เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจ นอกจากนั้นยังพบเกยูรแสดงตัวว่าเป็นคนรักของชายหนุ่มอีก ก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้าเสียใจ ช่วงเวลานี้ศศินก็แทรกเข้ามาทำตัวเป็นที่ปรึกษาให้หญิงสาวในฐานะพี่ชายที่ แสนดี

ด้วยความกลัวว่าปลายฟ้าจะหวนกลับไปหาตะวันอีก ศศินจึงคิดขัดขวางคนทั้งสอง ชายหนุ่มซึ่งกว้างขวางด้วยบารมีของผู้เป็นพ่อ รู้ว่าธุรกิจของอรดีที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนกำลังมีปัญหา เมื่อวิมลเชิดเงินหนีไป และทิ้งหนี้สินไว้ให้อรดีรับผิดชอบ ศศินจึงทำเป็นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนทำธุรกิจด้วย โดยมีข้อเสนอให้สาวใหญ่ช่วยขัดขวางไม่ให้ตะวันได้หวนกลับมาคบหากับปลายฟ้า

ตะวันเริ่มสับสน และรู้สึกขัดตากับสิ่งรอบตัวไปหมด เขาไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่อรดีพยายามจะยัดเยียดใส่หัวเขาเกี่ยวกับเรื่องใน อดีต แต่ชายหนุ่มกลับไม่พบหลักฐานใดๆ ในบ้าน ที่ยืนยันว่าเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอรดีเลยสักชิ้น อรดีพยายามสร้างภาพแม่ลูกที่รักกันให้ใครๆ ได้เห็น ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และส่งผลให้กิจการเครื่องสำอางกระเตื้องขึ้น โดยความช่วยเหลือของศศินที่เข้าไปดูแลด้านการตลาดให้อีกแรง

ปลาย ฟ้าซึ่งยังรักตะวัน ตั้งใจจะทำให้เขาฟื้นคืนความทรงจำได้อีกครั้ง แต่อรดีกลับปฏิเสธความหวังดี หญิงสาวจึงได้แต่ไปปรับทุกข์กับศศิน เพราะคิดว่าชายหนุ่มเข้าใจ ศศินจึงถือโอกาสขอคืนดีอีกครั้ง แต่ปลายฟ้าปฏิเสธเพราะหัวใจของเธอมอบให้ตะวันไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มจึงแสร้งยอมรับความจริง และเปิดทางให้หญิงสาวได้ช่วยเหลือตะวันเต็มที่ สร้างความรู้สึกที่ดีให้ปลายฟ้า แต่เขากลับไปกำชับให้อรดีทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ปลายฟ้าได้มีโอกาสพบกับตะวันตามลำพัง

ปลายฟ้าตั้งใจจะเอารูปถ่ายของเขาและเธอมาพิสูจน์ความจริงกับตะวัน แต่กลับถูกเกยูรซึ่งอรดีให้มาช่วยดูแลตะวันขัดขวาง ชายหนุ่มเริ่มสะกิดใจนึกสงสัยในท่าทีของปลายฟ้า อรดีจึงตัดสินใจเปิดตัวเกยูรกับสื่อต่างๆ ว่าเป็นคู่รักของตะวัน เพื่อให้ปลายฟ้าตัดใจ ซึ่งก็ได้ผล หญิงสาวเสียใจจนคิดว่าหมดหวัง จึงได้แต่ขอร้องศศินให้ช่วย ศศินจึงจำเป็นต้องให้อรดีนัดตะวันออกมาให้ปลายฟ้า ในขณะที่เขากลับเรียกนักข่าวให้มา ทำให้นักร้องหนุ่มซึ่งกลัวเป็นข่าว เข้าใจว่าปลายฟ้าคิดจะใช้สื่อเพื่อจะจับเขา จึงพาลโกรธไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆ จากปลายฟ้า

หลังจากกลับมาเชียงใหม่ อารักษ์ก็ยังคงติดตามข่าวคราวของตะวันโดยตลอด แก้วตาตัดสินใจแต่งงานกับครูชนะ ทั้งสองส่งการ์ดเชิญให้ตะวันมาร่วมงาน แต่กลับถูกอรดีเก็บไว้ ทำให้บรรดาคนรู้จักที่เชียงใหม่เข้าใจว่าชายหนุ่มลืมตัว อารักษ์ต้องช่วยแก้ต่าง ทั้งที่ใจก็หวังจะได้พบหน้าลูกชายอีกสักครั้ง กิจการตะวันซาลอนเริ่มมีปัญหา เมื่อมีร้านเสริมสวยที่ใหญ่กว่าและทันสมัยกว่าเข้ามาในตลาด สุขภาพที่เริ่มจะทรุดโทรม ความเคร่งเครียด และความเป็นห่วงลูกชาย ทำให้อารักษ์หน้ามืดบ่อยขึ้น เมื่อไปตรวจก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์จึงเลือกที่จะปิดทุกคนเพื่อความสบายใจ นอกจากปรีดาเพื่อนสนิท และประกาศขายร้าน เพื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพ จะได้ดูความเป็นไปของลูกชาย โดยหลอกทุกคนว่าจะไปอยู่กับตะวัน

ปรีดาซึ่งกลายเป็นเจ้าของบาร์เบียร์ที่พัทยาเป็นห่วงเพื่อน จึงทิ้งงานขึ้นมาเยี่ยมอารักษ์ที่กรุงเทพพร้อมกับเจสัน ฝรั่งซึ่งทั้งสองเคยช่วยชีวิตจากโจร ตอนมาทำธุรกิจที่พัทยาใหม่ๆ เจสันกำลังจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด เขามอบเงินให้อารักษ์ไว้ก้อนหนึ่ง เพื่อใช้รักษาตัว แต่อารักษ์เลือกที่จะนำเงินก้อนนั้นเก็บไว้ไปซื้อบ้านอิงดอย บ้านในฝันของสองพ่อลูก โดยให้แก้วตาช่วยดูแล และโกหกทุกคนว่าเป็นเงินที่ตะวันฝากมา

อารักษ์ ไปสมัครเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายดูแลเสื้อผ้าให้ศิลปินที่บริษัทเลิฟลี่เรค คอร์ด โดยอาศัยเพื่อนเก่าๆที่เคยเป็นนางโชว์ด้วยกันมาก่อนแนะนำ ทำให้เขามีโอกาสได้พบกับลูกชายอีกครั้ง แต่ตะวันก็จำหน้าเขาได้ว่าเคยพบที่โรงพยาบาล จึงไม่ค่อยถูกชะตา เพราะคิดว่าอารักษ์เป็นกะเทยที่แอบปลื้มตนตามที่แม่เคยย้ำไว้ สร้างความน้อยใจให้กับอารักษ์เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องอดทน เพียงเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดลูกชาย

อรดีต้องการให้ตะวันถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายของบริษัทตน ศศินเห็นโอกาสที่จะทำให้ปลายฟ้าตัดใจจากตะวันได้เด็ดขาด จึงสนับสนุนให้ตะวันเลือกปลายฟ้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ร่วม สร้างความไม่พอใจให้สิริกานดาที่ถูกคาดหมายว่าจะได้งานนี้ การถ่ายทำไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เมื่อปลายฟ้ารู้สึกว่าตะวันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน เขาทั้งหยิ่ง และเรื่องมากจนเธอเสียความรู้สึก จึงพยายามเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขา แต่กลับยิ่งเป็นการท้าทายตะวัน เขาเอ่ยชวนเธอไปเที่ยวทำราวกับปลายฟ้าใจง่าย เธอจึงปฏิเสธทั้งพูดจาดูถูก จนชายหนุ่มนึกโกรธต้องการเอาชนะ อารักษ์ซึ่งต้องมาช่วยดูแลเสื้อผ้าให้อยู่ในเหตุการณ์เห็นความบาดหมางของ ทั้งสอง ก็ได้แต่เตือนสติลูกชาย แต่ตะวันไม่ยอมฟัง และพาลต่อว่าจนอารักษ์ต้องเลี่ยงหลบไปร้องไห้ สร้างความสงสัยให้กับปลายฟ้าในท่าทีที่เขามีต่อตะวัน

ศศินพยายามจะให้ปลายฟ้าเห็นข้อเสียของตะวันยิ่งขึ้นจะได้ตัดใจเสียที เขากล่อมจนสิริกานดายอมร่วมมือยั่วยวนตะวันจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เพื่อให้ปลายฟ้าเข้าใจผิดตะวันมากขึ้น และก็ได้ผลเมื่อหญิงสาวซึ่งกำลังมีปัญหาครอบครัว เมื่อผู้เป็นพ่อพัวพันกับคดีทุจริตในราชการเสียใจ และยอมเปิดใจที่จะให้ศศินพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

ข่าวเสียหายของตะวันมีมากขึ้น จนถูกพบโชค คาดโทษจะฉีกสัญญา ทำให้ตะวันยิ่งเครียดหนัก อีกทั้งปัญหาหนี้พนันก้อนใหญ่ของอรดี ที่เกิดจากการถูกศศินหลอกให้ไปเที่ยวที่บ่อนแห่งหนึ่ง ทำให้ตะวันต้องหาเงินก้อนใหญ่เพื่อมาช่วยเหลือกิจการ ศศินจึงอาศัยโอกาสนี้ยื่นมือเข้าซื้อหุ้นของอรดีทั้งหมด และครอบครองธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว โดยยังแสร้งทำเป็นดียินยอมให้อรดีดูแลกิจการตามปกติ

ทั้งข่าวสิริกานดา และหนี้พนันของอรดี ทำให้ชื่อเสียงของตะวันเริ่มมีปัญหามากขึ้น ตะวันต้องสร้างภาพทำตัวเป็นคนใหม่ ด้วยการใกล้ชิดเกยูรให้มากขึ้น เพื่อกลบข่าวฉาวกับสิริกานดา นั่นจึงทำให้ปลายฟ้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะล้มเลิกความตั้งใจช่วยชายหนุ่มให้ คืนความทรงจำ เธอส่งดอกไม้ที่เขาเคยให้มาตลอดสี่ปีคืน จนชายหนุ่มรู้สึกสะกิดใจ เขาเริ่มที่จะจำอะไรได้บ้างลางๆ แวะไปที่ร้านอาหารซึ่งเคยมากับปลายฟ้าเป็นประจำ ฟังเพลงที่หญิงสาวชอบ แต่ก็มักจะถูกเกยูรและอรดีขัดขวาง ดึงให้เขาเลิกคิดที่จะสนใจเรื่องในอดีตอีก ช่วงเวลานั้นเองปลายฟ้าก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับศศิน เพื่อให้พ่อของเขาช่วยเหลือพ่อของตนให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาพัวพันเรื่องทุจริต ทำให้เธอค่อยๆ หายไปจากชีวิตของตะวัน

อารักษ์ซึ่งทำงานฝ่ายเสื้อผ้าก็ได้รับรู้เรื่องราวของลูกชายมาตลอดทั้งจาก เพื่อนร่วมงาน และข่าวต่างๆ เขายังคงพยายามที่จะหาโอกาสคอยเตือนตะวัน เกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วยความเป็นห่วง จนชายหนุ่มไม่พอใจ ก็มักจะพาลระเบิดอารมณ์ใส่ แต่อารักษ์ก็ยังทนนิ่ง และพยายามอดกลั้นความน้อยใจ อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกชายได้มีเขาเป็นที่ระบายความอึดอัดในใจ ตะวันเองนั้นก็เริ่มรู้สึกคุ้นกับสิ่งที่อารักษ์พยายามสั่งสอน แต่ก็ยังคงคิดระแวงในความหวังดีของอารักษ์

อาการ ป่วยของอารักษ์เริ่มหนักขึ้นจนถึงกับเป็นลมในที่ทำงาน หมอที่ตรวจอาการอยากให้เขารีบผ่าตัด แต่อารักษ์กลับประวิงเวลาไว้ด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกชายอีก แต่อาการที่กำเริบมากจนเขารู้สึกท้อแท้ อารักษ์รู้ดีว่าปลายฟ้าคือผู้หญิงที่ตะวันรัก จึงไปขอร้องให้หญิงสาวช่วยปลอบใจตะวัน จนปลายฟ้าซึ่งยังตัดใจจากชายหนุ่มไม่ขาดยินยอมที่จะไปพบตะวันอีกครั้ง ชายหนุ่มคิดพิสูจน์ว่าเธอเป็นคนรักของเขาจริงหรือไม่ เขาขอให้เธอพาไปทุกๆ ที่ ซึ่งเธอและเขาเคยไปด้วยกัน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นและพอที่จะจำอะไรได้บ้าง แต่สุดท้ายเขากลับเลี้ยวรถพาเธอเข้าโรงแรม ปลายฟ้าผิดหวังในการกระทำของตะวัน ต่อว่าและตบหน้าเขาอย่างแรงก่อนจะหนีออกไปพบกับอารักษ์ซึ่งคอยตามติดลูกชาย ทุกฝีก้าวช่วยพาเธอหลบไปได้

ปลายฟ้าสอบถามความจริงว่าอารักษ์เป็นใคร แต่เขากลับบ่ายเบี่ยง จนปลายฟ้ายิ่งสงสัย แต่ก็แน่ใจว่าอารักษ์เป็นคนดี จึงไว้วางใจที่จะเล่าเรื่องราวที่บ้านให้หนุ่มใหญ่ฟังเพื่อเป็นการระบายความ อัดอั้น อารักษ์จึงแนะนำ และเล่านิทานปลอบใจจนหญิงสาวรู้สึกสบายใจขึ้น นั่นก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าอารักษ์ต้องมีความเกี่ยวข้องกับตะวันอย่างแน่ นอน

ศศินไม่พอใจเมื่อรู้ว่าตะวันพยายามจะติดต่อกับปลายฟ้า เขาบังคับให้อรดีจัดการ สาวใหญ่จึงคิดจะให้ลูกชายหมั้นหมายกับเกยูร แต่ตะวันไม่ยอมเพราะชายหนุ่มเริ่มรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักเกยูร จึงนัดหญิงสาวออกมาเพื่อบอกความจริง เกยูรรู้สึกอับอายและเสียใจจนถึงขั้นกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทันเวลา แต่ข่าวของเธอทำให้ชื่อเสียงความเป็นนักร้องของตะวันต้องมัวหมองอีกครั้ง

ตะวันกลุ้มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์สามเส้าระหว่างเขา เกยูร และปลายฟ้า อารักษ์ก็หาโอกาสให้คำแนะนำชายหนุ่มให้ทำตามหัวใจของตัวเอง ตะวันเริ่มมองอารักษ์ในมุมที่ดีขึ้น และยิ่งคุ้นกับคำสอน ท่าทางของอารักษ์ เหมือนว่าความทรงจำจะกลับคืนมา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากไปกว่าเรื่องราวความรักในตอนนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะบอกรักปลายฟ้า ทั้งที่รู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับศศิน ทำให้ปลายฟ้าสับสนระหว่างหัวใจกับความถูกต้อง

อรดีกลุ้มใจที่กล่อมลูกชายไม่สำเร็จ ศศินขู่จะขายกิจการทิ้ง ทำให้อรดียิ่งเครียดหนัก ตามติดลูกชาย จนพบว่าอารักษ์นั้นอยู่ใกล้ชิดตะวันตลอดเวลา และคอยส่งเสริมให้ตะวันกลับไปรักปลายฟ้า เธอจึงกลัวว่าทุกอย่างจะเปิดเผย จึงขู่อารักษ์และคิดให้เงินปิดปาก แต่อารักษ์ไม่ยอมรับ เพราะรู้ตัวว่าตนคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อรดีจึงเล่าความจริงให้ศศินฟัง และจ้างนักเลงไปเล่นงานจนอารักษ์ต้องเข้าโรงพยาบาล

ปลายฟ้าไปเยี่ยมอารักษ์ที่โรงพยาบาล และพบว่าเขาเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์ขอร้องให้ปลายฟ้าช่วยทำให้ตะวันกลับเป็นคนอ่อนโยนเหมือนเดิม และยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้หญิงสาวฟัง แต่เขากลับขอร้องให้เธอเก็บความลับเรื่องเขาเป็นพ่อไว้ เพื่ออนาคตของลูกชาย ปลายฟ้าตรงไปหาตะวัน และขอร้องให้ตะวันไปเยี่ยมอารักษ์บ้าง ตะวันพยายามจะขอความรักจากปลายฟ้า แต่เธอปฏิเสธเพราะไม่อยากทำให้ศศินเสียใจ ตะวันจึงได้ตำหนิตัวเอง อารักษ์จึงพยายามจะหาทางปลอบ แต่ชายหนุ่มกลับพาลว่าเป็นความผิดของอารักษ์ และให้ภัครินทร์ไล่อารักษ์ออกจากงานโดยไม่ยอมฟังคำอ้อนวอนร้องขอของอารักษ์ หนุ่มใหญ่จึงต้องเก็บเสื้อผ้ากลับเชียงใหม่ด้วยความเสียใจ แต่อาการของโรคกำเริบขึ้นระหว่างเดินทางเสียก่อน

ศศินคิดหาวิธีกำจัดตะวันออกจากชีวิตปลายฟ้าได้เด็ดขาด เขาปล่อยข่าวเรื่องอารักษ์เป็นพ่อของตะวันให้หนังสือพิมพ์รู้ จนตะวันสับสนเมื่อเขากลายเป็นคนเนรคุณพ่อซึ่งเขาจำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มยิ่งเครียดจัดเมื่อแวะไปดูอาการอารักษ์ที่โรงพยาบาล แล้วพบกับแก้วตากับครูชนะที่รีบลงมาจากเชียงใหม่หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมด จากปลายฟ้าที่ติดต่อไปเพื่อหวังให้อารักษ์ได้มีญาติมาดูแล แก้วตาตรงเข้าไปตบหน้าตะวันและด่าว่าจนชายหนุ่มรู้สึกสับสนไปหมด

เกยูร เริ่มทำใจได้กับความรักจึงตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก เธอมาบอกลาตะวัน แล้วเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟังว่าเธอไม่ใช่คนรักของเขา ตะวันเครียดหนักและสับสน เขารู้ดีว่ามีปลายฟ้าคนเดียวที่จะเป็นคนที่ให้ความจริงกับเขาได้ ตะวันบุกไปที่งานแต่งงานของศศินกับปลายฟ้าเพื่อไปชิงตัวเจ้าสาวในงานแต่งงาน ศศินโกรธจัดคิดจะตามเล่นงานตะวัน แต่กลับถูกสิริกานดาซึ่งเข้ามาในงานด้วยความโกรธแค้นที่ชายหนุ่มคิดจะเขี่ย เธอทิ้ง เธอเปิดเผยสิ่งที่ศศินทำทั้งหมดให้ทุกคนได้รู้ และยิงชายหนุ่มจนบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ก่อนที่เธอจะยอมมอบตัว

ตะวันได้รู้ความจริงจากปลายฟ้าเรื่องที่อารักษ์เป็นพ่อของตน หญิงสาวพาชายหนุ่มไปพัทยาเพื่อสอบถามจากบรรดาเพื่อนเก่าๆ ของอารักษ์ จนชายหนุ่มยอมเชื่อว่าอารักษ์เป็นพ่อที่เลี้ยงดูตนมา ภาพความทรงจำเก่าๆที่หายไปเริ่มชัดเจนอีกครั้ง ตะวันรีบเดินทางกลับกรุงเทพเพื่อไปเยี่ยมอารักษ์ แต่ระหว่างทางด้วยความประมาทรถที่ขับก็เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ

อารักษ์รู้ข่าวลูกชายบาดเจ็บ ก็หนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปดูอาการลูกชาย จนรู้ว่าตะวันปลอดภัย เขาจึงคิดหนีทุกคนกลับเชียงใหม่ ตะวันรู้สึกตัว คนแรกที่เขาถามถึงนั้นก็คืออารักษ์ อรดีรู้สึกสำนึกผิดที่ตกเป็นเครื่องมือของความโลภและเห็นแก่ตัว และถูกศศินหลอกใช้ จึงสารภาพทุกอย่างให้ลูกชายฟังตามจริง ตะวันขอร้องให้ทุกคนช่วยกันตามหาพ่อของเขา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอารักษ์ไปไหน มีเพียงตะวันที่จำสัญญาของตนกับพ่อได้ ว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอิงดอยด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปที่บ้านอิงดอยที่พ่อซื้อไว้ตามคำบอกเล่าของแก้วตา และพบอารักษ์กำลังนอนป่วยหนักอยู่ที่นั่น

ตะวันพาอารักษ์ไปส่งโรงพยาบาล อาการของเขาเข้าขั้นวิกฤติจนต้องผ่าตัดด่วน โอกาสรอดชีวิตมีเพียงห้าสิบเปอร์เซนต์ ตะวันได้แต่สวดมนต์ขอให้พ่อของตนหายดี แล้วในที่สุดการผ่าตัดก็เสร็จสิ้น เพียงแต่รอให้อารักษ์ฟื้นขึ้น หรือจะหลับชั่วนิรันดร์

ระหว่างนั้นชายหนุ่มต้องปลีกตัวเพื่อไปขึ้นคอนเสิร์ตสำคัญที่เตรียมการไว้ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้สารภาพความจริงทุกอย่างกับแฟนเพลงด้วยน้ำตา และประกาศก้องว่าเขาภูมิใจที่ได้เกิดมามีพ่อกะเทยอย่างอารักษ์ บทเพลงพระจันทร์สีรุ้งที่เขาแต่งให้ผู้เป็นพ่อระหว่างที่เดินทาง ถูกขับขานขึ้นสดๆ ท่ามกลางกำลังใจของทุกคนในที่นั้นที่ส่งไปช่วยอารักษ์ให้ได้ฟื้นคืนกลับมา อีกครั้ง

แล้วก็ เหมือนมีปาฏิหาริย์ อารักษ์ซึ่งหมอลงความเห็นว่าหมดหวังนั้น กลับเริ่มมีอาการตอบสนอง และลืมตาขึ้น เมื่อลูกชายสุดที่รักเดินทางกลับมาหา แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถจะจำเรื่องราวต่างๆ ได้อีกเลย แต่ถึงแม้ว่าอารักษ์จะเป็นอย่างไร วินาทีนี้ตะวันก็ไม่ยอมที่จะทิ้งพ่อไปอีก เขาเฝ้าคอยดูแล และอยู่กับพ่อที่บ้านอิงดอยแห่งนั้น โดยมีปลายฟ้าซึ่งได้หมั้นหมายกันไว้ แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและช่วยดูแลอารักษ์อย่างมีความสุข

พรุ่งนี้ก็รักเธอ

ปรมินทร์ กับแก้วกัญญา รักกันมานาน และกำลังจะแต่งงานกัน แต่เมื่อปัทมาศ พี่สาวของปรมินทร์ฆ่ากิ่งกาญจน์พี่สาวของแก้วกัญญา ซึ่งทำงานเป็นพี่เลี้ยงหนูนิ่ม ลูกสาวของเธอ เพราะเข้าใจผิดว่ากิ่งกาญจน์เป็นชู้กับพิพัฒน์สามีของตน ปัทมาศเลยต้องติดคุก ส่วนแก้วกัญญาก็ต้องเลิกรากับปรมินทร์ แล้วพาฟองจันทร์ กับก้องบดินทร์ แม่และน้องหนีไป ปรมินทร์เสียใจมากแต่ก็จำต้องตัดใจเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีแก้วกัญญา

5 ปีผ่านไป แก้วกัญญาเข้าทำงานที่เดียวกับผึ้งเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นที่ทำงานเดียวกับปรมินทร์ เมื่อปรมินทร์รู้เลยดึงแก้วกัญญามาเป็นเลขา เพื่อกลั่นแกล้งให้สมกับที่เธอเคยทิ้งเขาไป และเมื่อวรรณอร แฟนใหม่ของปรมินทร์เห็นแก้วกัญญาเข้าก็รู้สึกไม่ถูกชะตา เลยคอยหาเรื่องอยู่ตลอด ส่วนปรมินทร์เองก็หึงนุติ พนักงานอีกคนที่คอยตามจีบแก้วกัญญาไม่ห่าง

ฝ่ายก้องบดินทร์ที่ปิดบังความเป็นเกย์ของตัวเองมาตลอด ก็ได้พบกับพีรวิชญ์ น้องชายของพิพัฒน์ ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกัน ก้องบดินทร์พยายามปฎิเสธ แต่ในที่สุดพีรวิชญ์ก็ตามตื้อ จนก้องบดินทร์ใจอ่อนยอมแอบคบหาด้วย

ปรมินทร์บังคับให้แก้วกัญญาช่วยเลี้ยงหนูนิ่ม จนต่อมาหนูนิ่มกลายเป็นกาวประสานที่เกือบจะทำให้ปรมินทร์และแก้วกัญญากลับมา รู้สึกดีต่อกันอีกครั้ง แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายลง เมื่อปัทมาศออกจากคุก วรรณอรจึงได้รู้ความจริงว่าแก้วกัญญาเคยเป็นแฟนกับปรมินทร์ วรรณอรไม่พอใจมากเลยยืมมือปัทมาศกลั่นแกล้งแก้วกัญญาต่างๆ นานา ถึงขั้นวางแผนให้พิพัฒน์ปลุกปล้ำแก้วกัญญา โชคดีที่ปรมินทร์มาช่วยทัน และไม่นานแก้วกัญญาก็รู้เรื่องที่ก้องบดินทร์คบหากับพีรวิชญ์ เธอขอให้ทั้งคู่เลิกกัน จนเหตุการณ์บานปลาย ทำให้ปรมินทร์เข้าใจผิดคิดว่าแก้วกัญญารักพิพัฒน์ ปรมินทร์เลยหึงจนขาดสติบุกเข้าไปปลุกปล้ำแก้วกัญญา

ด้านพีรวิชญ์กับก้องบดินทร์ก็ถูกพิพัฒน์จับได้ พิพัฒน์โกรธจัดจะขับรถชนทั้งคู่ แต่ก้องบดินทร์ผลักพีรวิชญ์ออก ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บต้องพิการตลอดชีวิต ก้องบดินทร์ตัดสินใจบอกเลิกพีรวิชญ์ เพราะไม่อยากให้เขาต้องเป็นทุกข์

ด้านปรมินทร์ก็พยายามตามง้อ จนแก้วกัญญาเริ่มใจอ่อน แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อวรรณอรบอกว่าตั้งท้องกับปรมินทร์ แก้วกัญญาเสียใจมาก และตัดสินใจหนีออกไปจากชีวิตของปรมินทร์อีกครั้ง แต่จู่ๆ แก้วกัญญาก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมหนูนิ่ม โดยในวันแต่งงานของปรมินทร์กับวรรณอร ปัทมาศวางแผนนัดแก้วกัญญามาพบเพื่อจะล้าางแค้นให้หนูนิ่ม ปัทมาศจะจัดการแก้วกัญญาอย่างไร? และปรมินทร์จะช่วยชีวิตแก้วกัญญาได้ทันเวลาหรือไม่?

รายชื่อนักแสดง พรุ่งนี้ก็รักเธอ
พิยดา อัครเศรณี รับบท แก้วกัญญา
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท ปรมินทร์
เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ รับบท พิพัฒน์
เก็จมณี วรรธนะสิน รับบท ปัทมาศ

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มาลินี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ได้รับจดหมายของ “คุณยายวัน” (พิสมัย วิไลศักดิ์) ในขณะที่เธอได้อ่านจดหมาย คุณยายวันได้ตายไปแล้ว คุณยายเขียนจดหมายฝากกับผู้ใหญ่ลีให้ไปรับมรดกบ้านกับที่ ไร่นาหลายร้อยไร่ คุณยายของเธอมีความประสงค์ให้มาลินีไปทำไร่นาแทนท่าน และห้ามเด็ดขาดไม่ให้หลานให้คนอื่นเช่าทำ หรือถ้าคิดจะขายก็ให้ขายกับผู้ใหญ่ลีคนเดียวห้ามขายให้กับคนอื่น นำความแปลกใจให้กับมาลินียิ่งนักว่าผู้ใหญ่ลีคนนี้เป็นใคร ทำไมคุณยายจึงให้ความสำคัญกับเขามากนัก

มาลินีไม่สนิทกับคุณ ยายของเธอ แม่เธอเล่าให้ฟังเมื่อครั้งสาวๆ คุณยายอยู่ในรั้วในวังและใกล้เจ้านายชั้นสูง แต่ความรักได้หักอกคุณยายครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งถึงคุณตาของเธอก็เช่น เดียวกัน คุณยายทนความเจ้าชู้มากเมียไม่ได้ถึงหลบมาอยู่ท้องนาแห่งนี้ และคุณแม่ของเธอก็มาเติบ โตที่นั่น คุณยายได้สามีใหม่เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ซื่อสัตย์ขยันขันแข็งช่วยปกครองดูแลการงานจนกระทั่งตายจากไปโดยไม่มีลูก ด้วยกัน คุณยายก็เลยมีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของมาลินี คุณแม่ของมาลินีไม่ชอบชีวิตท้องนาจึงมักไปอยู่กับบิดาของท่านที่กรุงเทพฯ เสมอ จนกระทั่งพบคุณพ่อของเธอและเกิดขัดใจกับคุณยาย คุณแม่จึงเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ จนเธอเกิด นานๆ คุณแม่จึงจะไปเยี่ยมเยือนคุณยายสักครั้งหนึ่งทำให้มาลินีเหินห่างกับคุณยาย ราวกับไม่ใช่หลานของคุณยาย

จดหมายของคุณยายทำให้มาลินีครุ่นคิดอย่างหนัก ทำไมคุณยายจึงบังคับเธอไม่ให้เช่าที่นาแก่ใคร ถ้าเธอไม่ทำเองจะต้องขายให้ผู้ใหญ่ลีแต่ เพียงผู้เดียว มาลินีรู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำนาได้ เพราะเธอไม่เคยอยู่บ้านนอกไม่เคยทำนาเลย และที่สำคัญเธอยังรักอาชีพเดินแบบของเธอยังต้องการสวมเสื้อนำสมัย เดินกรุยกรายท้าทายสายตาผู้คนอยู่

ประดิษฐ์ (เกียรติกมล ล่าทา) เป็น แฟนของมาลินี ถึงเขาจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง มาลินีเห็นว่านั่นเป็นลักษณะของผู้นำและมาลินีก็ทำตัวเป็นผู้ตามตลอดเวลา และเธอก็จะงอนง้อเขาทุกครั้งที่ต้องทะเลาะกัน มาลินีคิดเอาเรื่องคุณยายไปปรึกษาประดิษฐ์แต่เขาไม่ยอมมาพบเธออ้างโน่นนี่ และในที่สุดมาก็รู้ว่าเขาไปมีหญิงคนใหม่ มาลินีเสียใจและมันก็ทำให้เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะไปอยู่บ้านคุณยายของ เธอ

ผู้ใหญ่ลี หรือ ลีนวัตร (ทฤษฎี สหวงษ์) เป็นผู้ที่คุณนายวันให้ความรักและความเอ็นดูเป็นอย่างมาก เมื่อเขายังเด็ก พ่อและแม่ของลีจะไม่ให้เขาเรียนต่อ เพราะเกรงว่าเมื่อได้เรียนมากๆ แล้วจะทิ้งไร่นาไม่ยอมกลับมาทำ แต่คุณนายวันเป็นคนที่มองการณ์ไกล ได้ขอร้องพ่อแม่ของผู้ใหญ่ให้เขาได้เรียนต่อ เพราะเขาเป็นเด็กที่เรียนดี ควรส่งให้เขาได้เรียนสูงๆ แล้วกลับมาพัฒนาท้องถิ่น ถ้าพ่อแม่ของเขาไม่ส่งเรียนคุณนายจะเป็นคนส่งเอง ด้วยแรงสนับสนุนของคุณนายวันคอยช่วยเหลือจุนเจือทุกอย่าง ทำให้ลีนวัตร หรือผู้ใหญ่ลีได้เรียนต่อจนสำเร็จปริญญาเกษตรศาสตรบัณฑิต และเป็นที่รักของชาวบ้าน ได้รับความไว้วางใจเลือกเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านต่อจากพ่อของเขาคือผู้ใหญ่ลอ ผู้ใหญ่ลีเอาความรู้จากวิชาการสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาไร่นาและชาวนา ให้ความรู้เกษตรแผนใหม่กับชาวบ้าน ใครตกทุกข์ได้ยากผลผลิตไม่ดีหรือภัยโรคพืชต่างๆ ผู้ใหญ่จะคอยช่วยเหลือ   ผู้ใหญ่ลีรักและนับถือคุณนายวันมาก คอยดูแลเอาใจใส่ช่วยงานคุณนายวันผู้มีพระคุณกับเขา ทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้คุณนายวันจึงรักและเอ็นดูให้ความไว้วางใจเขามาก สิ่งที่คุณนายวันได้วางแผนไว้ทั้งหมดก่อนตายคือการเขียนพินัยกรรมยก ทรัพย์สินบ้านไร่นาให้กับมาลินีหลานสาวคนเดียว เพราะต้องการให้มาลินีได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ลี และต้องการให้สมบัติตกอยู่กับคนที่ท่านรักทั้งสองคนคือผู้ใหญ่ลีกับมาลินี

มาลินีมาถึงบ้านคุณยาย ก็ทราบจากปี๊ดว่าตอนนี้ศพของคุณยายไปอยู่ที่วัด เพราะคุณยายตายมาได้สองอาทิตย์แล้ว ผู้ใหญ่ลีเป็นคนจัดการเรื่องสวดอภิธรรมและเป็นธุระให้ทุกอย่าง ปื๊ดบอกผู้ใหญ่ลีรอมาลินีมาเก็บศพคุณนายวันและกำหนดวันเผา มาลินีนึกโกรธผู้ใหญ่ลี คุณยายตายมาตั้ง สองอาทิตย์แล้ว ทำไมเธอจึงเพิ่งได้รับจดหมายของคุณยายเมื่อวานนี้เอง คิดว่าเขาคงทำเอาหน้าส่งจดหมายให้เธอล่าช้า ชาวบ้านจะได้ตำหนิเธอว่าเป็นหลานที่อกตัญญูไม่ยอมมาจัดการงานศพให้คุณยาย และดูคุณยายจะไว้เนื้อเชื่อใจผู้ใหญ่ลีคนนี้เสียเหลือเกิน…ปื๊ดพาคุณมาเดิน ชมทั่วบ้าน พาไปดูสัตว์เลี้ยงของคุณนายวัน พอสิ้นคุณนายลูกจ้างก็ลาออกกันหมดผู้ใหญ่ลีก็เป็นคนรับภาระดูแลให้ทุกอย่าง

ปี๊ด ได้รับมอบหมายจากพ่อผู้ใหญ่ให้คอยดูแลมาลินี ปื๊ดเป็นเด็กกำพร้าที่ผู้ใหญ่ลีเก็บมาเลี้ยงไว้ตอนที่เขาเรียนมหาลัย เป็นลูกแขกที่มาทิ้งไว้ ปื๊ดเรียกผู้ใหญ่ลีว่าพ่อ และเรียกป้าปุยแม่ของผู้ใหญ่ลีว่าแม่ เป็นคนทำให้มาลินีเข้าใจว่าผู้ใหญ่เป็นผัวของป้าปุยในตอนแรก และทำให้มาลินีเข้าใจผิด

คิดว่าผู้ใหญ่ลีนั้นคงหน้าตาเป็นแขกและแก่แล้วปื๊ดช่วยมาลินีได้มากคือ อยากรู้อะไรก็ถามจากปื๊ด    มาลินีหารู้ไม่ว่าปื๊ดเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่ลี  คอยเก็บข้อมูลในตัวคุณมา มาบอกผู้ใหญ่ทุกเรื่อง มาลินีเริ่มชอบบ้านทุ่งของคุณยายของเธอ เธอหลงใหลบรรยากาศในยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าเป็นอย่างมาก เธอได้พบผู้ใหญ่ลีกำลังขับรถไถนาอยู่ เธอเข้าไปทักทาย เพราะเข้าใจว่าผู้ใหญ่ลีคือนายเหว่า  เพราะได้รับการบอกเล่าจากปื๊ด ว่านายเหว่าเป็นคนขับรถไถนาให้ผู้ใหญ่ลี ผู้ใหญ่ลีนึกสนุกเลยปล่อยเลยตามเลยให้คุณมาเข้าใจว่าตนคือนายเหว่า พร้อมสาธิตการขับรถไถนาให้เธอดูอีกด้วย

…มาลินีประทับใจนายเหว่าที่รูปหล่อแถมยังเก่งมีความรู้เรื่องการทำนาอีก ด้วย มาลินีมาดูผู้ใหญ่ลีในคราบของนายเหว่าไถนาอีกแต่เธอก็ยังไม่ทราบว่าเขาคือ ผู้ใหญ่ลี… กระทั่งถึงวันที่ต้องบรรจุเก็บศพของคุณนายวันที่วัด  ความลับจึงเปิดเผยว่านายเหว่าที่เธอพบนั้นคือผู้ใหญ่ลี  มาลินีทั้งเจ็บใจทั้งอายที่ถูกหลอก

ป้าปุย แม่ของผู้ใหญ่ลี  รักลูกชายมาก และเมื่อเจอมาลินีก็หลงใหลรักใคร่ยิ่งนักอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้  สนับสนุนทำทุกอย่างที่จะให้ทั้งสองรักและได้ลงเอยกัน และยิ่งเป็นความประสงค์ของคุณนายวันผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของแกมาตลอดแก ยิ่งทำทุกวิถีทาง  ผู้ใหญ่ลีต้องมาคอยดูแลช่วยเหลือเรื่องการงานทุกอย่างของมาลินี..ทุกเย็น เขาจะมาดูพระอาทิตย์ตกกับคุณมา และต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนมาลินีก็สลัดคราบนางแบบของเธอมาเรียนรู้วิธีการทำนาอย่างตั้งอกตั้งใจ ในเมื่อเธอตัดสินใจจะอยู่ที่นี่เธอก็ต้องทำให้เป็นทุกอย่าง เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านที่เธอไม่เคยได้รู้มาก่อน ผู้ใหญ่ลีนั้นปลื้มและนิยมในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง

เฉลา น้องสาวของผู้ใหญ่ลีนั้นก็รักอยู่กับนายเหว่า ลูกน้องคนสนิทของผู้ใหญ่ลี แต่เฉลานั้นกำลังเรียนอยู่ ผู้ใหญ่ลีจึงพูดจาตักเตือนว่าให้เรียนจบเสียก่อนจึงค่อยริรักกับนายเหว่า แต่ด้วยความที่ทั้งคู่รักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีกีดกันความรักของคนทั้งสอง

เหว่ากับเฉลา จึงหนีหายออกไปจากบ้านด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ทั้งคู่หนีไปพักอยู่ที่บ้านของมาลินี มาลินีพยายามอธิบายให้ผู้ใหญ่ลีเข้าใจถึงความรักของหนุ่มสาวโดยให้นายเหว่า และเฉลากลับมากราบขอโทษผู้ใหญ่ลี ที่เข้าใจผิดและหนีหายไปด้วยกัน  เฉลาสัญญากับผู้ใหญ่ลีว่าจะเรียนให้จบก่อน แล้วค่อยแต่งงานกับเหว่าอีกที  ผู้ใหญ่ลีจึงให้อภัยน้องสาวกับนายเหว่า

ประดิษฐ์ซึ่งรู้ว่ามาลินีมาอยู่ที่นี่และ ได้มรดกของคุณยายมากมายได้ชวนวลัยและสมรเธอทั้งสองเป็นเพื่อนของมาลินี  มาหามาลินีหวังจะขอคืนดี ประดิษฐ์หวังจะได้ทรัพย์สมบัติในส่วนของมาลินีอีกด้วย แต่มาลินีเริ่มเห็นธาตุแท้ของประดิษฐ์ที่เห็นแก่เงิน ไม่ได้ขยันทำมาหากินและช่วยเหลือสังคมเหมือนกับผู้ใหญ่ลี  ทำให้มาลินีไม่ยอมคืนดีด้วย สร้างความแค้นใจให้ประดิษฐ์มากที่เสียเชิงให้กับหนุ่มบ้านนอกอย่างผู้ใหญ่ลี ปทุม ลูกสาวของผู้ใหญ่โหมด ก็มาติดพันชอบผู้ใหญ่ลีเข้าอย่างเต็มหัวใจ เธอเป็นสาวบ้านนอกที่ชอบทำตัวไฮโซแบบเฉิ่มสุดๆพยายามหาทางสวยเด่นแข่งกับ มาลินีสุดขั้ว แต่ยังไงซะผู้ใหญ่ลีก็ไม่เคยสนใจปทุม เพราะใจหัวใจมีแต่มาลินีคนเดียว ปทุมจึงร่วมมือกับประดิษฐ์ วางแผนแยกผู้ใหญ่ลีกับมาลินีให้ห่างออกจากกัน ประดิษฐ์หลอกให้มาลินีมาพบที่กระท่อมยามค่ำคืน พร้อม ๆ กับที่ปทุมเองก็แอบมาดักรอพบผู้ใหญ่ลีที่กองฟางเช่นเดียวกัน พอดีคืนนั้นฝนตกหนัก ไฟก็ดับ

ผู้ใหญ่ลีเดินมาพบมาลินีเสียก่อน จึงไปหลบฝนที่บ้านมาลินี พร้อมบอกความในใจกับมาลินี อีกทั้งยังหมั้นหมายมาลินีด้วยแหวนอีกหนึ่งวง  ผู้ใหญ่ลีสัญญาว่า หากบวชแล้วสึกออกมาเมื่อไหร่  จะแต่งงานกับมาลินีทันที

ทั้งประดิษฐ์และปทุมต่างรอมาลินีกับผู้ใหญ่ลี แต่ด้วยเหตุชุลมุนของฝนฟ้า ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าไปหลบฝนในกระท่อมอันมืดมิด ประดิษฐ์เข้าใจว่าปทุมเป็นมาลินีจึงปลุกปล้ำจนได้เป็นเจ้าของสมใจ

พอตื่นเช้ามาจึงได้รู้ว่าตนเข้าใจผิดแต่ก็ได้ปทุมเป็นเมียเสียแล้ว สุดท้ายผู้ใหญ่ลีก็เข้าพิธีอุปสมบทสร้างความปลื้มใจให้กับแม่ปุยเป็นอย่าง มาก ระหว่างที่บวชนั้น ประดิษฐ์แค้นใจจัดที่ต้องพลาดหวังจากมาลินี จึงแก้เผ็ดผู้ใหญ่ลีด้วยการพาฉลวย น้องสาวของผู้ใหญ่ลีอีกคน เข้ากรุงเทพฯ ไปถ่ายหนังเรทอาร์ พอดีมาลินีรู้ข่าวเสียก่อน จึงไปตามไปช่วยฉลวยได้ทัน  ผู้ใหญ่ลีเองก็มากับปื๊ด เพื่อมาช่วยฉลวยอีกแรงทั้งที่ยังห่มผ้าเหลืองอยู่ ครั้งนี้ผู้ใหญ่ลีซึ้งในน้ำใจของมาลินีมากขึ้นไปอีก พระผู้ใหญ่ลีให้ฉลวยกลับไปเรียนที่บ้านตัวเอง อย่ามาดิ้นรนเพื่อจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ จนเป็นเหยื่อให้คนชั่วอย่างประดิษฐ์หลอกอีก ฉลวยสำนึกผิด ยอมกลับบ้านแต่โดยดี

ปทุมมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก โหมดเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีเป็นพ่อของเด็กในท้อง จึงตั้งใจจะศึกพระให้ได้  แต่เมื่อความจริงเปิดเผยมาว่า ประดิษฐ์คือลูกเขยตัวจริงก็อับอายขายขี้หน้าหนัก เพราะรู้ดีว่าประดิษฐ์นั้นชั่วช้าขนาดไหน ประดิษฐ์กลายเป็นลูกเขยของผู้ใหญ่โหมดอย่างจำยอม ซ้ำยังถูกปทุมใช้เยี่ยงทาส แต่เขาก็ต้องจำยอมเพราะรู้ดีว่า หากไม่ยอมรับปทุมเป็นเมีย  ประดิษฐ์ต้องถูกโหมดเอาตายอย่างแน่นอน

ผู้ใหญ่ลีสึกออกมาในที่สุด เขาสบายใจมากที่เรื่องปทุม คลี่คลายไปด้วยดี ประดิษฐ์ก็รับกรรมที่ก่อไป ส่วนเฉลากับเหว่าก็ตั้งใจว่าเรียนจบเมื่อไหร่จะแต่งงานกันให้ได้ ส่วนฉลวยก็กลับมาเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัด ไม่ไปกรุงเทพฯอีกแล้ว ผู้ใหญ่ลีจึงขอมาลินีแต่งงานในที่สุด ความรักของทั้งสองกำลังเบิกบานในทุ่งนาของคุณนายวัน ที่มอบไว้เป็นสมบัติให้กับมาลินี  ผู้ใหญ่ลีกับนางมา จึงได้ครองคู่กันในที่สุด

รายชื่อนักแสดงละคร ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

1.ทฤษฎี สหวงษ์ – ผู้ใหญ่ลี (ลีนวัตร)
2.เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ – นางมา(มาลินี)
3.เกียรติกมล ล่าทา – ประดิษฐ์
4.วิรากานต์ เสณีตันติกุล – ปทุม
5.วรัญญา เจริญพรสิริสุข –  เฉลา
6.พิมพ์ชนก พลบูรณ์ – ฉลวย
7.สาวิตรี สามิภักดิ์ – ปุย
8.ศานติ สันติเวชกุล – ผู้ใหญ่โหมด
9.อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์ – วลัย
10.ดารณีนุช โพธิปิติ – พิน
11.บริบูรณ์ จันทร์เรือง – เหว่า
12.พิสมัย วิไลศักดิ์ – คุณนายวัน
13.ริชาร์ด เกียร์นี่ – ปื๊ด
14.ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์ – สมร

เป็นต่อ

เป็นต่อ เป็นละครแนวซิทคอม ในมุมมองของคนโสดรุ่นใหม่ที่กำลังแสวงหาคู่ และเส้นทางการเดินทางของชีวิต เรื่องราววุ่นๆ ของนายเป็นต่อ ( ชาคริต แย้มนาม ) พนักงานฝ่ายขายของนิตยสารรายเดือน สำหรับคนเมืองหลวง เป็นต่อไม่ใช่ศิลปินสติเฟื่อง และไม่ต้องการโดดเด่นเป็นดารา เขาต้องการแค่มีชีวิตที่เรียบง่ายและมั่นคง เขาต้องการแค่เป็นพนักงานฝายขาย เหมือนพนักงานอีกหลายหมื่นแสนคนในกรุงเทพฯ แต่ความต้องการอันสมถะเรียบง่ายของเขานั้น กลับไม่เคยเป็นอย่างที่เขาต้องการ

นักแสดงละคร เป็นต่อ

ชาคริต แย้มนาม แสดงเป็น  เป็นต่อ เหรียญทอง
พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร แสดงเป็น  พอใจ เหรียญทอง
วิชุดา พินดั้ม แสดงเป็น  มิ้นท์,บังอร มีแต้ม
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ แสดงเป็น  ทิพย์,ทิพย์วรรณ วงศ์ศร
ธงธง มกจ๊ก แสดงเป็น  กอล์ฟ,บุญกอบ ช้างพลาย
เจี๊ยบ เชิญยิ้ม แสดงเป็น  ยม,วิเศษนิยม กอบกู้
แอ๊ด มกจ๊ก (ธีรชาติ ธีระวิทยากุล แสดงเป็น  อู๊ด,อู๊ด บุตรโคตร
กิตติ เชี่ยววงศ์กุล แสดงเป็น  วอก,จเร เชี่ยววงศ์กุล
ผอูน จันทรศิริ แสดงเป็น  หมอน,สมร เก่งงาน
สร้อย สารคาม แสดงเป็น  จวบ,ประจวบ ดีเลิศ
คำไหล เมืองอุบล (โรบิ้น แสดงเป็น  ไหล

ปอบผีฟ้า 2552

เจ้าหลวงภูคำมีเจ้านางสององค์คือ แสงหล้ากับละอองทอง ภูคำรักแสงหล้ามากกว่า ละอองทองใช้ผีที่ตนแอบเลี้ยงทำร้ายแสงหล้าจนตาย ก่อนตายแสงหล้าสาปแช่งให้ละอองทองไม่มีความสุข ละอองทองจึงอาฆาตว่าจะตามจองเวรจองกรรมแสงหล้าทุกภพทุกชาติ ภูคำเสียใจที่แสงหล้าตาย สั่งประหารชีวิตละอองทอง แต่ผีของละอองทองทำร้ายภูคำจนตายก่อน ละอองทองเก็บศพของภูคำไว้ในโลงศพซ่อนไว้ในห้องหนึ่งเพื่อใช้ทำพิธีให้ตนมี อำนาจ และเป็นอมตะ เจ้าอุปราชหอหน้ากลับจากทำศึกสงคราม ละอองทองให้เจ้าอุปราชเป็นเจ้าหลวง แต่เจ้าอุปราชสั่งฆ่าละอองทอง ผีของละอองทองฆ่าเจ้าอุปราชตาย ละอองทองจึงขึ้นครองภูคำเป็นเจ้าหลวง สั่งให้ทุกคนเรียกตนว่าเจ้าหลวง ต่อมาหลังจากเป็นเจ้าหลวง ละอองทองละเลยการเลี้ยงดูผี แม้ว่าโสภี บ่าวคนสนิทจะเตือนแล้วก็ตาม ในที่สุดผีที่ตนเลี้ยงก็เข้าสิงละอองทอง  และทำให้นางกลายเป็นปอบไปในที่สุด โดยมีโสภี บ่าวผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งมีสภาพกึ่งผีกึ่งคนคอยรับใช้ต่อมาอีกหลายร้อยปี

ผ่านไปหลายศตวรรษอาณาจักรภูคำล่มสลาย อุปราชหอหน้ามาเกิดเป็นภูวนัย นักโบราณคดีหนุ่มหล่อ เขาหมกมุ่นอยู่กับการสืบค้นเรื่องราวของอาณาจักรภูคำ ปาลิน คนรักของภูวนัยได้รับเลือกแสดงภาพยนตร์เรื่องดังตัดหน้าอรดี นางเอกละครโทรทัศน์ชื่อดังซึ่งเป็นตัวเก็ง ทำให้อรดีหาเรื่องปาลินจนเป็นข่าวใหญ่โต การที่อรดีไม่ได้งานแสดงภาพยนตร์ ทำให้ธนัญชัย คู่ขาของเธอไม่มีเงินใช้หนี้พนันบอล ธนัญชัยโกรธมาก ส่วนภูวนัยฝันถึงอาณาจักรภูคำ เขาจึงชวนชัยยะเพื่อนรักขับรถไปสำรวจหาอาณาจักรโบราณในตำนาน

แสงหล้ามาเกิดเป็นลิ้นฟ้าทำหน้าที่เป็นผีฟ้ารักษาคนเจ็บป่วยที่หมู่บ้าน ชายแดนไทยกัมพูชา ลิ้นฟ้ามีลูกสาวสองคนคือนวลกับมณี ส่วนสามีเสียชีวิตไปนานแล้ว ลิ้นฟ้าใช้การร่ายรำอัญเชิญผีฟ้าให้ช่วยรักษาคนป่วย ซึ่งก็มักถูกปอบของละอองทองเข้าสิง ปอบพ่ายแพ้กลับไปฟ้องละอองทอง ทำให้ละอองทองโกรธมาก ยิ่งจำได้ว่าลิ้นฟ้าคือแสงหล้า ศัตรูของตนในอดีตชาติจึงใช้ปอบเข้าสิงลิ้นฟ้า ขณะรักษาคนป่วย ละอองทองจะบันดาลให้คนป่วยเห็นหญิงชราหน้าตาน่ากลัวจนขาดใจตาย ในที่สุดข่าวก็แพร่ไปว่าลิ้นฟ้ากลายเป็นปอบผีฟ้า ตกกลางคืนลิ้นฟ้าจะถูกละอองทองเข้าสิงออกจับไก่ และของสดๆ คาวๆ ในหมู่บ้านกิน นวลกับมณีขอให้ลิ้นฟ้าเลิกการเป็นผีฟ้า และย้ายไปอยู่หมู่บ้านอื่น แต่ลิ้นฟ้าไม่ยอม

คมเพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพฯ กลับมาที่หมู่บ้าน เขาหลงรักมณีจึงหาทางช่วยเหลือครอบครัวของมณี แสงจันทร์ลูกสาวของกำนันสิงห์แอบรักคมอยู่จึงยุยงให้พ่อขับไล่ครอบครัวลิ้น ฟ้าออกไปจากหมู่บ้าน ภูวนัยกับชัยยะขับรถผ่านมาพอดีจึงเข้าช่วยเหลือ แสงจันทร์เห็นภูวนัยที่หล่อ และรวยกว่าก็หันไปสนใจภูวนัยแทน เมื่อกำนันสิงห์รู้ว่าทั้งสองจะไปคุ้มภูคำจึงขอตามไปด้วย เพราะตนเคยได้ยินคำเล่าลือเรื่องสมบัติมีค่าที่นั่น แสงจันทร์ขอตามพ่อไป โดยมียอด ลูกน้องคนสนิทของกำนันสิงห์ไปคอยรับใช้

เจ้าหลวงละอองทองเสนอให้นวลไปเป็นทายาทของตนที่คุ้ม นวลยินดีไปเพื่อให้แม่พ้นจากการถูกรังควานจากละอองทอง แม้ใครจะทัดทานแต่นวลก็ไม่ยอม คมกับมณีรับปากจะดูแลลิ้นฟ้าให้ดีที่สุด เมื่อไปถึงทางเข้าคุ้มภูคำ โสภีก็มารอรับทุกคนอยู่ที่ปากทาง นวลได้พบกับกลุ่มของภูวนัยที่ล่วงหน้าไปก่อนหน้านั้นแล้ว

ละอองทองใช้ปอบออกไปตามค้นหาทายาทของตนตามที่ต่างๆ เพื่อลวงให้มาที่คุ้ม หวังจะใช้คนโลภเป็นบริวารเซ่นไหว้ตน พิธีกรรมของละอองทองทำให้เกิดอาเพศ สุริยุปราคาเกิดขึ้น ในความมืดขณะที่เกิดสุริยุปราคานั้นเอง ดาวหางก็ปรากฏขึ้น ผู้ที่มีกรรมเกาะเกี่ยวกับละอองทองจะเกิดนิมิตให้ต้องมาที่คุ้มละอองทอง ในจำนวนนี้มีอรดีกับธนัญชัย ซึ่งหนีอันธพาลตามล่าหนี้พนันบอลจนคิดจะฆ่าตัวตาย และยังมีครอบครัวของปาลิน อันได้แก่ ประเดิม พ่อของเธอ วรรณา ผู้เป็นแม่ และโฉม อดีตนางเอกลิเก เมียใหม่ของพ่อรวมอยู่ด้วย

ที่คุ้มภูคำ เจ้าหลวงละอองทองจำภูวนัยได้ว่าเขาคืออุปราชหอหน้า แต่ภูวนัยไม่มีความทรงจำในอดีตชาติหลงเหลืออยู่ เรื่องวุ่นๆ ภายในคุ้มภูคำเกิดขึ้นทุกวัน อรดีไม่พอใจที่ได้พบปาลินที่นี่ และเธอก็ยังตามหึงหวงธนัญชัยที่หาทางล่วงเกินปาลิน นวล และแสงจันทร์ ส่วนนวลก็เสียใจที่รู้ว่าปาลินเป็นคนรักของภูวนัย ผู้ชายที่แสนดี ซึ่งเธอแอบรักเขาตั้งแต่แรกเห็น

คมกับมณีได้พบพระธุดงค์ ท่านแนะนำให้ทั้งสองปฏิบัติธรรมเพื่อหาทางช่วยเหลือทุกคนที่คุ้มภูคำ พระธุดงค์บอกความลับแก่ทั้งสองว่าต้องใช้ตะกรุดทองคำตอกลงไปที่หน้าผากศพของ เจ้าหลวงภูคำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะคืนสู่ความสงบสุข ท่านได้มอบตะกรุดทองคำแก่คม เพื่อหาทางนำไปให้ภูวนัยที่คุ้มให้ได้

โสภีให้ยอดเข้าไปพบเจ้าหลวงละอองทองเป็นคนแรก เขากลับออกมาพร้อมกับสมบัติหนึ่งกำปั่น โสภีบอกว่ายอดไม่ใช่ทายาทของเจ้าหลวง ยอดกลับมาที่หมู่บ้าน และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับละอองทองคือเซ่นไหว้ละอองทองด้วยของสดของคาวทุก คืนวันเพ็ญ ทำให้ในหมู่บ้านยังมีสัตว์ และทารกตายอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านเพ่งเล็งไปที่ลิ้นฟ้าเช่นเคย แต่คมกับมณีปกป้องลิ้นฟ้าไว้ได้ทุกครั้ง

ธนัญชัยเข้าพบละอองทองเป็นคนต่อมา เขาได้สมบัติหนึ่งกำปั่น และไม่ยอมบอกใครว่าพิธีพิสูจน์ทายาททำอย่างไร อรดีให้ธนัญชัยรอตัวเองก่อน แต่โสภีไม่ยอม ธนัญชัยจึงต้องกลับไปก่อน คืนต่อมาอรดีได้เข้าพบละอองทอง และได้สมบัติกลับมากรุงเทพฯ เธอทะเลาะกับธนัญชัย เพราะธนัญชัยไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าหลวง อรดีหวั่นใจว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเธอ และธนัญชัย

คนที่เข้าพบละอองทองเป็นคนต่อมาคือโฉม แต่โฉมตกใจพิธีกรรมน่ากลัวจึงเป็นบ้าวิ่งหนีกระเซอะกระเซิงออกไปจากคุ้ม ท่ามกลางความตกใจของทุกคน โฉมเป็นบ้าร้องลิเกไปตลอดทาง จนถึงหมู่บ้านของลิ้นฟ้า คมและมณีช่วยเหลือโฉมไว้ ลิ้นฟ้าพยายามถามเรื่องราวที่คุ้มภูคำ โฉมเล่าตามที่ตนจำได้ ยอดไม่พอใจ และหาทางทำร้ายโฉม ร้อนถึงคมกับมณีต้องหาทางช่วยเหลือ คมบอกกับมณีว่าจะไปที่คุ้มภูคำเพื่อมอบตะกรุดให้แก่ภูวนัยให้ได้ มณีไม่ยอมแต่ก็ห้ามคมไม่ได้

นวลรอคอยที่จะได้พบละอองทอง แต่โสภีไม่ให้พบ นวลเล่าให้ภูวนัยฟังเรื่องละอองทองนัดให้ตนมาเป็นทายาท แสงจันทร์เห็นนวลคุยกับภูวนัยก็หึง และอาละวาดจนละอองทองต้องปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน นวลทวงสัญญา และพร้อมทุกอย่างที่จะเป็นทายาท ขออย่างเดียวว่าละอองทองจะต้องไม่รังควานแม่ของเธอ ละอองทองโกรธสั่งโสภีจับนวลขัง ภูวนัยกับชัยยะออกตามหานวลเพื่อช่วยเหลือ ทั้งสองออกไปนอกคุ้มในเวลากลางคืน และได้พบกับคมโดยบังเอิญ คมให้ตะกรุดแก่ภูวนัย สั่งว่าให้ตอกตะกรุดที่หน้าผากศพเจ้าหลวงภูคำในคืนวันเพ็ญเท่านั้น โสภีมาพบเข้าเรียกปอบมาทำร้ายคม แต่คมก็รอดพ้นมาได้ เมื่อคมกลับมาถึงหมู่บ้าน จึงร่วมมือกับมณีเร่งทำบุญเพื่อส่งบารมีมาช่วยทุกคนที่คุ้มภูคำ

แต่แล้วละอองทองก็ปล่อยนวลออกมา แต่นวลต้องรับปากว่าจะไม่ทรยศต่อละอองทอง เพื่อจะได้เป็นทายาทเมื่อถึงเวลาอันควร และแม่กับน้องของเธอก็จะปลอดภัย นวลเชื่อฟังละอองทองทุกอย่างเพราะต้องการให้แม่พ้นจากการถูกรังควานจากละออง ทอง

ภูวนัยกับชัยยะออกค้นหาห้องเก็บศพจนพบ วิญญาณของเจ้าหลวงภูคำดีใจมาก แต่ก็ปรากฏตัวให้ทั้งสองเห็นไม่ได้ โสภีมาพบเข้าจึงไปฟ้องละอองทอง ละอองทองโกรธมากฆ่าชัยยะตาย การหายตัวไปของชัยยะทำให้ภูวนัยเป็นกังวล ภูวนัยกับปาลินออกตามหาชัยยะไปทั่วบริเวณคุ้ม ถูกผีของละอองทองทำร้าย แต่อำนาจของตะกรุดช่วยทั้งสองไว้ได้ ภูวนัยกับปาลินหลงอยู่ในป่าด้วยกัน ช่วยเหลือกัน ทำให้ทั้งสองคนยิ่งรักกันมากขึ้น

ที่คุ้มภูคำ วรรณาเป็นห่วงปาลินที่หายตัวไป จึงอ้อนวอนขอให้ประเดิมออกค้นหา หากไม่พบก็ให้พาตนกลับไปบ้าน ประเดิมไม่ยอม เมื่อปาลินกับภูวนัยกลับมาถึงคุ้มภูคำ โสภีก็สั่งให้วรรณากับประเดิมเข้าพบละอองทองพร้อมกัน ทั้งสองได้สมบัติมาคนละหนึ่งกำปั่น วรรณาชวนปาลินกลับบ้านด้วยกัน แต่โสภีไม่ยอม ไล่ประเดิมกับวรรณาให้รีบกลับไป มิเช่นนั้นปาลินจะต้องตาย

นวล ซึ่งหลงรักภูวนัยเห็นปาลินกับภูวนัยหายไปด้วยกัน ก็เกิดความหึงหวง น้อยใจ แต่ก็ได้คิดว่าตนมาที่นี่เพื่อแม่ มิใช่เพื่อความรัก จึงขอให้โสภีนำตนเข้าพบละอองทองเพื่อตนจะได้เป็นทายาทตามที่ตกลงกันไว้เสีย ที แต่ละอองทองยังไม่ยอมให้เข้าพบ เพราะรู้ข่าวจากปอบของตนว่ายอดถูกคมกับมณี และพวกชาวบ้านจับได้ว่าเป็นตัวการทำให้สัตว์ และทารกในหมู่บ้านตาย ชาวบ้านช่วยกันจับยอดขังไว้ในยุ้งข้าว แล้วใช้สายสิญจน์ล้อมไว้ ยอดซึ่งมีสภาพกึ่งผีกึ่งคนจึงออกมาไม่ได้ ระหว่างนี้เองที่ลิ้นฟ้าร่ายรำอัญเชิญผีฟ้าให้มาช่วยทำให้หมู่บ้านสงบสุข เสียที ละอองทองจึงปรากฏตัวให้ลิ้นฟ้าเห็น และขู่ว่าจะฆ่านวล หากลิ้นฟ้ายังใช้อำนาจของผีฟ้าผีแถนมาต่อสู้กับตน ลิ้นฟ้าเป็นห่วงลูกจึงรับปาก ว่าจะไม่อัญเชิญผีฟ้าผีแถนอีกต่อไป แม้ว่าคมกับมณีจะขอร้องอย่างไรก็ตาม

ละอองทองเรียกนวลเข้าพบ ขู่ว่าจะฆ่าลิ้นฟ้า ฆ่ามณี และฆ่าทุกคนที่นวลรัก เว้นแต่ว่านวลจะนำตะกรุดทองคำมาจากภูวนัยมาได้ นวลรับปาก ทั้งที่ไม่อยากทำ แต่เมื่อเห็นว่าภูวนัยมิได้มีเยื่อใยกับตนอย่างที่ตนมีให้เขา นวลจึงทำทุกวิถีทางที่จะนำตะกรุดมาให้ได้เพื่อแลกกับชีวิตของแม่ และเป็นการแก้แค้นที่
ภูวนัยไม่รักตนเหมือนกับที่ตนทุ่มเทหัวใจให้แก่เขา

กำนันสิงห์กับแสงจันทร์เบื่อหน่ายการรอคอยจึงชวนกันค้นหาสมบัติ สิงห์ถูกละอองทองฆ่าตายอย่างทารุณ แสงจันทร์กลัวตายจึงอ้อนวอนขอชีวิต และรับปากว่าจะยอมเป็นทาสเหมือนโสภีไปตลอด ละอองทองทำให้แสงจันทร์มีสภาพกึ่งผีกึ่งคนไม่ต่างจากโสภีเท่าใดนัก มีมนตราบางบทที่ละอองทองมอบให้เพื่อไว้ป้องกันตัว แต่ความทรงจำขณะเป็นคนยังไม่หมดไป แสงจันทร์จึงยังเฝ้าลุ่มหลงภูวนัยอยู่ และตามหึงหวงปาลิน หาทางทำร้ายปาลินด้วยมนตรา ภูวนัยมอบตะกรุดทองคำไว้ให้ปาลินป้องกันตัว แสงจันทร์จึงทำร้ายปาลินไม่ได้

ที่กรุงเทพฯ ธนัญชัยนำสมบัติไปขายให้แก่นักค้าของเก่า สมบัติเก่าแก่ทำให้นักค้าของเก่าอยากได้ จึงขอให้ธนัญชัยพาพวกตนมาที่คุ้มของละอองทอง อรดีเตือนธนัญชัยเรื่องที่ไม่ยอมเซ่นไหว้ละอองทอง แต่ธนัญชัยไม่เชื่อ คืนต่อมาธนัญชัยก็ถูกฆ่าตายอย่างปริศนา อรดีเล่าเรื่องนี้ให้นักข่าวฟัง ทำให้เกิดเป็นข่าวแพร่ไปทั่ว มีคนอยากจะมาที่คุ้มภูคำกันมากมาย อรดีคิดว่าเป็นโอกาสที่จะได้แก้แค้นให้ธนัญชัย จึงรับปากว่าจะนำคนดีมีวิชาจำนวนมากมุ่งหน้ามาที่คุ้มภูคำ

ในคืนที่ปาลินได้เข้าพบละอองทอง เป็นคืนเดือนเพ็ญ ปาลินหาทางถ่วงเวลาเพื่อให้ภูวนัยค้นหาศพของเจ้าหลวงภูคำให้พบ โดยลืมไปว่าตะกรุดทองคำยังอยู่ที่ตน ผีที่เฝ้าโลงศพเจ้าหลวงภูคำมาบอกให้ละอองทองทราบว่าภูวนัยบุกรุกเข้าไปใน ห้องเก็บศพ ละอองทองสั่งล่ามปาลินไว้ สั่งให้นวลตามเข้าไปกับภูวนัย เพื่อหาทางเอาตะกรุดมาจากภูวนัยให้ได้ ระหว่างนั้นปาลินสวดมนต์เพื่อขอให้บารมีช่วยภูวนัย และช่วยตนให้ปลอดภัย เป็นจังหวะเดียวกับที่ทางหมู่บ้าน ลิ้นฟ้า มณี และคม ช่วยกันทำพิธีอ้อนวอนผีฟ้าผีแถนให้มีอำนาจคุ้มครองทุกคน

ละอองทองกับโสภีมาขัดขวางภูวนัยแล้วใช้มนตราทำให้ภูวนัยย้อนคืนสู่ภพ แห่งอดีต เพื่อให้เขาหลงใหลในตำแหน่งเจ้าหลวงแห่งนครภูคำ และจะได้ครองรักกับนางในภพแห่งนิมิตชั่วนิรันดร์ นวลค้นหาตะกรุดในตัวของภูวนัยแต่ไม่พบ การสวดมนต์ของปาลินทำให้ตะกรุดมีพลังจนแสงจันทร์ทนอยู่ไม่ได้ ต้องไปผุดไปเกิด ปาลินจึงรีบมาช่วยภูวนัย ระหว่างทางปาลินถูกขัดขวางจากโสภี แต่ตะกรุดก็สามารถเอาชนะโสภีได้ นวลตกใจที่เห็นปาลินรอดมาได้ และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่าตะกรุดทองคำอยู่ที่ปาลิน นวลเข้าแย่ง แต่ปาลินไม่ยอม โสภี ในสภาพใกล้หมดพลังรีบไปบอกละอองทอง ซึ่งกำลังต่อสู้กับลิ้นฟ้าที่มาถึงหน้าคุ้มพอดี โสภีเข้าช่วยละอองทอง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้จนสิ้นฤทธิ์ไป คมกับมณีเข้าไปในคุ้ม และไปถึงห้องเก็บโลงศพของเจ้าหลวงได้สำเร็จ นวลเมื่อได้เห็นน้องสาวก็ได้สติ จึงหันกลับมาร่วมมือกับทุกคนทำพิธีตอกตะกรุดลงที่หน้าผากศพของเจ้าหลวง ทำให้ละอองทองกลายเป็นวิญญาณหายไปในทันที

กลุ่มของอรดีซึ่งนำคนมาจากกรุงเทพฯ มาถึงที่หน้าคุ้มพอดี แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าบริเวณที่เคยเป็นคุ้มนั้น กลายเป็นป่าหญ้าโล่งๆ กว้างใหญ่ เหมือนไม่เคยมีสิ่งก่อสร้างใดๆ อยู่เลย อรดีถูกพวกนักข่าวด่าว่าเป็นดาราที่ชอบพูดจาโกหกไม่เลิก

ภูวนัยแต่งงานกับปาลิน เช่นเดียวกับคมและมณี นวลทำพิธีรับเป็นร่างทรงผีฟ้าผีแถนแทนแม่ เธอร่ายรำผีฟ้าได้อ่อนช้อยและงดงามไม่ต่างจากลิ้นฟ้า ส่วนลิ้นฟ้าเลือกเส้นทางไปบวชชีปฏิบัติธรรมเพื่ออุทิศบารมีให้แก่ละอองทอง

นักแสดงละคร ปอบผีฟ้า

ธนา สุทธิกมล เป็น เจ้าอุปราชหอหน้า/ภูวนัย
ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ เป็น เจ้านางม่านแก้ว/ปาลิน
จีรนันท์ มะโนแจ่ม เป็น เจ้าหลวงละอองทอง
ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล เป็น นวล
ปรียานุช อาสนจินดา เป็น มณี
ธันญ์ ธนากร เป็น คม
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ เป็น เจ้านางแสงหล้า/ลิ้นฟ้า
ดวงดาว จารุจินดา เป็น โสภี
ชาติชาย งามสรรพ์ เป็น เจ้าหลวงภูคำ
ภัสสร บุญยเกียรติ เป็น ปอบผีเจ้า

ปราสาทมืด 2552

หม่อมเจ้าหญิง “อุมารังษี” ทะเลาะกับ “หม่อมอร” ผู้เป็นมารดา เรื่องที่หม่อมอรจะลดตัวลงไปแต่งงานกับนายเม้ง คนไทยเชื้อสายจีน เธอจึงหนีออกจากบ้าน โดยโดยสารรถไฟ ทำให้เธอได้พบกับ “ภะรต” หมอหนุ่มวัยกลางคน ที่เงียบขรึบ และทำท่าทางไม่สนใจเธอ แต่กลับชวนเธอทานข้าวที่ห้องอาหารรถไฟ ระหว่างสนทนาภะรตรู้ว่าอุมารังษีจะไปเป็นครูที่ จ.เชียงใหม่ แต่ยังไม่มีจุดหมายแน่นอน จึงเอ่ยชวนไปทำงานเป็นครูพี่เลี้ยงให้ “คุณแจ๋ว” น้องสาวพิการและเป็นใบ้ของเขา อุมารังษีที่ใช้เพียงชื่อ “อุมา” ตอบตกลง

เมื่อถึงปราสาทกลางป่าลึก อุมารังษี ต้องปะทะคารมกับ “ป้าแช่ม” แม่บ้านของปราสาท และ “กัญญา” ที่ทำตัวเป็นเจ้าของภะรตตลอดเวลา ตกกลางคืนอุมารังษีได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง จึงตัดสินใจออกไปดู แต่กลับเจอภะรต ชายหนุ่มบอกหญิงสาวไม่ให้พะวงกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับตัวเธอ ทำให้อุมารังษีสงสัยมากยิ่งขึ้นไปอีก วันต่อมา อุมารังษีขี่ม้าไปจนถึง “ไร่สองพี่น้อง” ทำให้ได้พบกับ “ศุลีมาศ” และ “วิษณุ” เจ้าของไร่ ทั้ง 3 คุยกันอย่างถูกคอ จึงไปมาหาสู่กันเรื่อยมา จนวันหนึ่งพระองค์เจ้า “รวิศักดิ์” และนมนุ่ม มาพักที่ไร่สองพี่น้อง และได้พบกับอุมารังษี พระองค์เจ้ารวิศักดิ์ ตกหลุมรักทันที แต่ก็แอบสงสัยว่าอุมาจะเป็นคนเดียวกับท่านหญิงอุมารังษี เพราะก่อนหน้านั้น รวิศักดิ์นำจดหมายจากประเทศอังกฤษ ของ “พงศ์อิสรา” พี่ชายอุมารังษีไปให้หม่อมอร ทำให้เห็นรูปอุมารังษี และหม่อมอรก็เล่าว่าลูกสาวหนีออกจากบ้าน

อุมารังษีดูแลพร้อมสอนหนังสือ คุณแจ๋วอย่างดี จึงเกิดความสนิทสนมกัน ภะรตก็เริ่มหลงรักอุมารังษีขึ้นทุกวันหากไม่แสดงออก แต่ป้าแช่มและกัญญาก็คอยกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายอุมารังสีสารพัด กลางดึกคืนหนึ่งอุมารังษีพบซากแมวเลือดอาด แขวนอยู่ที่หน้าต่างห้องนอน เธอกรีดร้อง และมั่นใจว่าปราสาทแห่งนี้ต้องมีความลึกลับซ่อนอยู่

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามรับชม “ปราสาทมืด” ละครพีเรียดแนวพิศวาส-ฆาตกรรม เรื่องราวความลึกลับของคฤหาสถ์ ผู้คนที่มีบุคลิก และพฤติกรรมอันแปลกประหลาด เต็มไปด้วยปริศนา

รายชื่อนักแสดงละคร ปราสาทมืด

ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น   แสดงเป็น   หม่อมเจ้าหญิงอุมารังษี อิศรา
ณัฐ-ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง   แสดงเป็น   ภะรต ภารตรักษ์
บอย-พิษณุ นิ่มสกุล   แสดงเป็น   พระองค์เจ้ารวิศักดิ์ เทวัญ
มะปราง-วิรากานต์ เสณีตันติกุล   แสดงเป็น   ศุลีมาศ
หมิง-ชาลิสา บุญครองทรัพย   แสดงเป็น   กัญญา
โก-โกสินทร์ ราชกรม   แสดงเป็น   วิษณุ
แมน-การิน ศตาย   แสดงเป็น   หม่อมเจ้าพงศ์อิศรา อิศรา
ส้ม-เมารี เออเจนี เลอเลย   แสดงเป็น   พิมพ์ทิพ
เอมี่-สุพัณณิตา ก่อเกษมวงศ   แสดงเป็น   คุณแจ๋ว
น้ำฝน-สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ   แสดงเป็น   หม่อมอร
หมู-พรผกาเสียงสมบูรณ์   แสดงเป็น   ป้าแช่ม

บ้านนี้มีรัก

บ้านนี้มีรัก เป็นละครโทรทัศน์ แนวซิทคอม ออกอากาศทางช่อง 9 ทุกวันอาทิตย์เวลา 18.00 – 19.00 น. ออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

ครอบครัวครื้นเครง ชุลมุน อลเวง ครบรส ความสนุก

เรื่องย่อ

รัก ลูกชายคนกลาง และก็เป็นเหมือนตัวกลางของบ้านที่แสนจะอบอุ่น และด้วยความที่เป็นลูกคนกลางนี่แหละ ที่ทำให้รักต้องรับกรรมทุกสถานการณ์ เพราะไม่ว่าคนในบ้านจะมีปัญหาอะไร ทุกคนต่างพุ่งมาปรึกษา และให้รักแก้ปัญหาเป็นคนแรกเสมอ และตัวสร้างปัญหาประจำบ้านคือ น้องชายวัยคะนอง ลิงค์ หนุ่มมหาวิทยาลัยปี 1 ที่กวนบาทาทุกสถานการณ์ ปากเสีย ขี้โม้ ไม่มีกาลเทศะ ผู้ที่พร้อมจะพาปัญหาเข้ามาในบ้านตลอดเวลา

นอกจากรักจะต้องรับศึกคือ ลิงค์น้องชายตัวแสบแล้ว รักยังต้องเจอกับ ริน พี่สาวจอมโวยวายปากร้าย ที่มีสามีไม่เอาไหน และไม่ได้เรื่องอย่าง แฮงค์ กับ มิค หลานชายขี้สงสัย ที่ไม่เชื่อใจใครนอกจากรัก แต่ก็มักจะโดนสอนอะไรผิดๆ จากลิงค์เสมอๆ แต่รักเองก็ยังมี แม่ คนแก่ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดไปเองว่ายังสวยไม่สร่าง ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน เป็นที่พึ่งในยามที่ท้อแท้

สกล คนสวนจอมซุ่มซ่าม เฟอะฟะเป็นที่สุด เพ็ญ สาวใช้ช่างสอดรู้สอดเห็น ผู้ที่เห็นเรื่องของคนอื่นเป็นเหมือนเรื่องของตัวเอง และยังมีผู้มาแวะเวียนสร้างสีสันให้กับครอบครัวนี้ เบญ แฟนของรัก สาวน้อยจอมจับผิดคิดมาก แต่ปากหวาน เป็นแฟนกับรักตั้งแต่มัธยม เจี๊ยบ เพื่อนร่วมงานของรัก ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายในบ้าน เพราะคิดว่าบ้านเพื่อนก็เหมือนบ้านตัวเอง

รายชื่อนักแสดง บ้านนี้มีรัก

ภูธเนศ หงส์มานพ รับบท รัก

ณัฎฐพงษ์ ชาติพงษ์ รับบท ลิงค์

ชุติมา นัยนา รับบท ริน

โจโจ้ ไมอ๊อกซี่ รับบท แฮงค์

นภัสกร บุษราคัมวดี รับบท มิค

โฉมฉาย ฉัตรวิไล รับบท แม่

รัชวิน วงศ์วิริยะ รับบท เบญ

แม็คก้า ชวนชื่น รับบท เจี๊ยบ

บางรักซอย 9

บางรักซอย 9 คือ ละคร ซิทคอม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ชัดเจน สถาปนิกหนุ่มเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ และได้เช่าบ้านของแป้ง เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในบ้าน และความสัมพันธ์ของชัดเจนกับแป้งที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

บ่วงหงส์ 2552

บ่วงหงส์ เป็นเรื่องราวของ พิมพ์ลภัส (แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเดียวของ ตรัย (ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี) นักธุรกิจที่ล้มละลายและฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำพร้าแม่ทำให้ถูกตามใจจนเหลิง ใช้ชีวิต อย่างหรูหราสุขสบายมาตลอด หนังสือก็เรียนไม่จบ เจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัว ความตายของพ่อทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากคนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดคือ มาธวี (น้ำฝน กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์) แม่เลี้ยงซึ่งแก่กว่าเพียงไม่กี่ปีของเธอ พิมพ์ลภัสต้องออกจากบ้านที่ถูกยึดมาเช่าคอนโดเล็ก ๆ อยู่ แถมยังถูก ยศพล (นัส อานัส ฬาพานิช) ผู้เป็นคู่หมั้นถอนหมั้น ตรงกันข้ามกับมาธวีซึ่งชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคมด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี ซ้ำยังเป็นนางแบบเสียเองอีก มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กระเทยปากร้ายชื่อ หนูดี (หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย

ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำ ลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดแก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำก็ห่างหายไป ไม่ค่อยมีใครอยากจ้างเพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญเมื่อพิมพ์ลภัสอายุ 15

เจ้าของ คอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) ทั้งกิตติชัยและ อรอุษา ผู้เป็นภรรยาต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ ทั้งสองเฝ้าสังเกตเธอตลอดมา จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอกจึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูงให้นั่นคือให้ไป ขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมายที่เกี่ยวกับอรอุษาจาก รเมศ (วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่าอรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์กับรเมศ รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไปไว้แบล็คเมล์ทั้งสองคน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนขอร้องให้เห็นหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเลอีก จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงราย จารวี เธอจึงตัดสินใจรับงานเพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่จึงคบกับมาธวี ได้

พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมโดยกิตติชัยรับรองความปลอดภัยหากรเม ศจับได้ อีกทั้งยังออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย ระหว่างที่อยู่ที่นั่นพิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศเข้ามาทำความรู้จักซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานเสริฟ

รเมศพาพิมพ์ ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปเที่ยว รเมศทุ่มเทใจให้เธอมากมายในขณะที่พิมพ์ลภัสก็จ้องแต่จะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะไม่คุ้นกับงานเช่นนี้จึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย รเมศภาวนาขออย่าให้ที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง

ในที่สุดรเมศก็จับได้ คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายในห้องทำงาน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้แบล็คเมล์ รเมศจึงเปิดเทปให้ฟัง และยังให้อ่านจดหมาย พิมพ์ลภัสรู้ความจริงรู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัสที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และอาหารในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอมโดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจ และตกใจมาก

สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวัง และเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักเธออย่างแท้จริง ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ฉะนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้โดยให้เป็นพนักงานเสริฟ ครั้งแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดรูปหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดายจึงตัดสินใจรับงาน

พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบ พนักงานเสริฟซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงานซึ่งต้องอยู่ร่วมกัน ห้องละสองคน ซึ่งห้องก็ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องก็คือพนักงานเสริฟที่เธอเคยวีนใส่

นับ จากนั้นพิมพ์ลภัสมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ ตลอดเวลาเหล่านี้รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจแต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งหัวหน้าผู้ดูแลรับผิดชอบ ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า

พิมพ์ลภัสไม่ใช่จะร้ายเสียทีเดียว ความดีในตัวเธอยังมีพอสมควร ซึ่งเธอก็ได้แสดงออกมาเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมงานจากลูกค้าบ้ากามทำให้ความ รู้สึกของเพื่อนร่วมงานดีขึ้น การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ทำให้เธอเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม

และแล้วมาธวีกับคณะ แฟชั่นโชว์ก็มาถึง ทั้งสองได้พบกัน มาธวีรู้สึกสะใจมากที่เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำละไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามจะจับรเมศให้ได้ ด้วยความช่างสังเกตมาธวีก็รู้ว่ารเมศนั้นรักพิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน

ในที่สุด มาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อให้ เสี่ยสมาน (พิพัฒน์พล โกมารทัต) ซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานานให้มาพักที่โรงแรม เสี่ยดีใจมากรีบมาหา และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่กลับถูกตอกหน้าอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยเริ่มท้อแต่มาธวีพยายามให้กำลังใจโดยบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสตก เป็นของเสี่ย ถึงแม้จะยังลังเลกลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการมีมากกว่า เสี่ยจึงยอมทำตามแผนโดยเข้าไปรอในห้องมาธวี

มา ธวีมาแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัสเพื่อเห็นแก่สาย สัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงเธอ แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้เขาบอกให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้องเพื่อจะได้ปรับความ เข้าใจกัน รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสให้ไปพบเขาที่ห้องมาธวี

พิมพ์ ลภัสทำท่าจะไม่ไปในตอนแรก เพราะรู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องมาธวี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจจะไปเผชิญหน้า และเมื่อเข้าไปทุกอย่างก็เข้าแผนการณ์ของมาธวี เสี่ยสมานพยายามปลุกปล้ำพิมพ์ลภัส แต่เธอก็เอาตัวรอดจนได้ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมากด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รเมศตกใจ และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกันก็ไปเอาเรื่องมาธวี

มา ธวีร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบจะเชื่อถ้าไม่พบหลักฐานบางอย่างในห้องนั้นที่มาธวี พยายามกลบเกลื่อน รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปได้คายพิษครั้งสุดท้ายโดยบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว ชื่อ นารา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสเสียใจมาก

ส่วนรเมศนั้นก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไปได้ เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันทีเพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และกลับกรุงเทพฯไป ด้วยเขายังหวังว่าจะทำความเข้าใจกับเธอได้เพราะหลังจากมีเรื่องเขาได้ขอโทษ เธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง ซ้ำยังให้มาธวีกราบขอโทษพิมพ์ลภัส และพิมพ์ลภัสได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยความสะใจ

วัน รุ่งขึ้น พิมพ์ลภัสตัดใจไปขายเข็มกลัดรูปหงส์ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสริฟ เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจของพวกเขาเหล่านั้นที่มีต่อเธอ

เมื่อ พิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศใจหายแต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมากเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ไม่ยอมให้เธอ เพราะจะแกล้งกักตัวไว้ทำงานต่อไป หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมาก และซึมลงไป

เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจึงไปเช่าคอนโดเล็กลง ขายข้าวของแบรนด์เนมเนื่องจากไม่มีความสำคัญในชีวิตอีกต่อไป หลังจากนั้นก็ออกหางานเดินแบบทำ แต่ทุกแห่งที่ไปจะปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาเอเจนซี่ให้ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสกลับคิดว่าเธอเองก็มีส่วนผิดด้วย เพราะยามรุ่งเรืองเธอเคยเบี้ยวงานบ้าง ไปช้าบ้างอยู่เป็นประจำ ในที่สุดเธอจึงตัดใจหางานอื่นทำแต่ก็ยากเต็มทีเพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบ หรือถ้าที่ไหนรับที่นั่นก็มักจะมีเจ้านายประเภทหัวงู ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนไม่ให้ท้อ

จนกระทั่งวันหนึ่ง พิมพ์ลภัสได้พบกับนาราโดยบังเอิญ นารามากับ สิหนาท (เอกรัตน์ สารสุข) ซึ่งเป็นคู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังเข้าใจผิดเหมือนเดิม นาราพยายามจะให้ความช่วยเหลือแต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ นาราจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ จึงตัดสินใจโทรไปหานารา นาราพาพิมพ์ลภัสไปบ้านของรจนา ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาวกับลูกชาย พิมพ์ลภัสซึ่งถึงแม้จะเรียนไม่จบแต่ด้านภาษาอังกฤษดีด้วยเพราะเป็นนักเรียน นอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสผิดปกติ

ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัส ก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาดูคุ้นๆ หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องอกหักของเธอให้รจนาฟัง รจนาซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของรเมศจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ จึงวางแผนนัดรเมศมาพบ พิมพ์ลภัสตกใจ รเมศจึงเล่าความจริงเรื่องของนารากับสีหนาทให้ฟัง ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด สำหรับมาธวีก็ถูกกรรมตามสนองเพราะรเมศรู้ว่ามาธวีกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่ เลิก จึงส่งทั้งรูป และคำขออภัยเมื่อครั้งถูกจับได้ว่าหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำเอาลง หนังสือพิมพ์ เมื่อความจริงเปิดเผยจึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมด้วย

บ่วงหงส์

นักแสดงละคร บ่วงหงส์

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น รเมศ
เขมนิจ จามิกรณ์ แสดงเป็น พิมพ์ลภัส
กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ แสดงเป็น มาธวี
อานัส ฬาพานิช แสดงเป็น ยศพล
เอกรัตน์ สารสุข แสดงเป็น สีหนาท

บ่วงรักกามเทพ

สุมน(ดวงตา ตุงคะมณี)เรียกตัวภูบดี(ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์)กลับจากอเมริกาด่วน  เพื่อมาจัดการปัญหาใหญ่ของครอบครัว เพราะภาวัต(ชยธร เศรษฐจินดา)น้องชายคนเดียวดันไปติดพันอรณี(สิ นิทธา บุญยศักดิ์) แม่หม้ายอายุแก่กว่าถึง 5 ปี ภูบดีทนไม่ได้ที่เห็นมารดาไม่สบายใจจึงเข้ามาสะสางปัญหา แต่ภาวัตก็ยืนกรานกับภูบดีว่ารักอรณีอย่างจริงใจถึงแม้เธอจะเคยมีสามีมาแล้ว และเป็นเพียงช่างเย็บผ้าจนๆ ภาวัตยอมทุกอย่างแม้ถูกตัดออกจากกองมรดก ทำให้ภูบดีเปลี่ยนแผนแอบไปเจรจากับอรณีแทน ภูบดีมั่นใจว่าเขาจะสามารถสะสางปัญหานี้ได้ด้วยเงิน

แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อคนที่มาเจรจาไม่ใช่อรณีแต่เป็นอรณิชา(น้ำ ทิพย์ จงรัชตวิบูลย์)น้องสาวปากกล้าไม่กลัวใคร ภูบดีเปิดฉากต่อว่าและดูถูกอรณิชาเพราะคิดว่าเป็นอรณี จนอรณิชาทนไม่ได้ตอบโต้กลับอย่างแรง ทำให้การเจรจาครั้งแรกไร้ผลเพราะอรณิชายืนยันไม่รับเงิน

จากเหตุการณ์นี้ทำให้อรณิชาเกลียดท่าทางหยิ่งยะโสและดูถูกคนของภูบดีเข้าไส้ เธอจึงบอกภาวัตว่าพี่ชายแอบมายัดเงินจ้างให้เลิก ทำให้ภาวัตไม่พอใจกลับไปต่อว่าภูบดี ทั้งสองคนทะเลาะกันรุนแรงจนสุมนต้องเร่งรัดให้ภูบดีจัดการเรื่องนี้ให้เรียบ ร้อยก่อนจะบานปลายมากไปกว่านี้ ภูบดีเลยยื่นข้อเสนอว่าถ้าอรณีรักภาวัตด้วยใจจริงต้องยอมให้ภาวัตไปดู งานบริษัทเปิดใหม่ที่อเมริกาเป็นเวลา 1 ปี ถ้าภาวัตจัดการงานสำเร็จและอรณียังรอได้โดยไม่มีคนอื่นจะยอมให้ทั้งคู่แต่ง งานกัน ทั้งภาวัตและอรณีต่างยอมรับข้อเสนอ มีเพียงอรณิชาที่ไม่วางใจ ก่อนเดินทางภาวัตแอบพาอรณีไปจดทะเบียนสมรสโดยมีทวี(ปกรณ์ มะโน)เพื่อนทนายคนสนิทมาเป็นพยาน ภาวัตให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหาอรณีเมื่อครบ 1 ปี โดยไม่เอะใจเลยว่าทุกอย่างเป็นเพียงกลลวงของ ภูบดี

ทันทีที่ภาวัตไปต่างประเทศ ภูบดีก็เริ่มแผนการบ่อนทำลายต่างๆ ให้สองคนติดต่อกันไม่ได้ แถมยังส่งนีน่า(พิชญ์นาฏ สาขากร)ลูกสาวคุณนายเนื้อนวล(รัญ ญา ศิยานนท์)เพื่อนสนิทสุมนไปประกบเพื่อสร้างกระแสข่าวในวงสังคมว่าทั้งคู่ กำลังคบหาดูใจกัน ทำให้อรณีเริ่มหวั่นไหวและเหตุการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่ออุทัย(สันติ สุข พรหมศิริ)พ่อของอรณีล้มป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตกต้องเข้ารับการผ่าตัด ด่วน ภูบดีรู้ข่าวรีบฉวยโอกาสยื่นเงินช่วยเหลือเพื่อแลกกับการเลิกกับภาวัต อรณีเก็บข้อเสนอของภูบดีมาคิดหนัก เพราะอาการของพ่อทรุดลงอย่างรวดเร็วอรณีจึงตัดสินใจรับข้อเสนอของภูบดี ซึ่งกว่าอรณิชาจะรู้เรื่องอรณีก็ทำสัญญาเลิกกับภาวัตไปเรียบร้อยแล้ว ภูบดีแกล้งซ่อนกล้องแอบถ่ายอรณีตอนมาขอเงินเพื่อเลิกกับภาวัต แล้วนำไปให้ภาวัตดูเพื่อยืนยันความเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินของอรณี แต่ภาวัตไม่เชื่อรีบกลับประเทศไทยทันทีเพื่อถามความจริงกับอรณีด้วยตัวเอง แล้วในที่สุดภาวัตก็ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต

เมื่ออรณีรู้ข่าวก็ร้องไห้แทบขาดใจ ที่งานศพภาวัตอรณิชาพาอรณีไปร่วมงาน สุมนด่าทออรณีกลางงานโทษฐานที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกชายตาย แต่อรณิชาด่ากลับว่าภูบดีและสุมนต่างหากคือต้นเหตุที่แท้จริง ภูบดีไล่ตะเพิดทั้งสองคนออกจากงานศพและประกาศก้องไม่ให้สองพี่น้องมาให้เห็น หน้าอีก อรณิชาพาอรณีออกจากงานไปพร้อมจิตใจที่บอบช้ำ อรณีหมดหวังในชีวิตจึงคิดสั้นฆ่าตัวตายตามภาวัต แต่อรณิชามาเห็นจึงรีบพาส่งโรงพยาบาล หมอช่วยชีวิตไว้ทันและบอกว่าเธอตั้งท้องได้ 2เดือน อรณีขอโทษทุกคนและตั้งใจว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูก ด้านภูบดีก็ได้รู้จากทวีว่าภาวัตจดทะเบียนสมรสกับอรณีแล้ว เธอจึงมีสิทธิ์ในสมบัติของครอบครัว ภูบดีจำใจต้องตามหาอรณีแต่กลับพบว่า

ครอบครัวของอรณีย้ายบ้านหนีไปแล้ว ภูบดีไปโรงพยาบาลที่อรณิชาทำงาน ก็ได้รู้ว่าเธอเพิ่งลาออกไป กิฟท์เก๋(อรจิรา แหลมวิไล)พยาบาลเพื่อนซี้ของอรณิชาบอกว่าเธอย้ายไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่ต่าง จังหวัด เพราะไม่อยากยุ่งกับครอบครัว ภูบดีอีก

อรณิชาพาอรณีกลับไปอยู่บ้านเก่าของพ่อที่แม่ฮ่องสอน อุทัยกลับไปทำไร่ อรณิชาไปเป็นพยาบาลในอนามัยเล็กๆ ส่วนอรณีทำหน้าที่เป็นแม่บ้านดูแลลูกในท้อง จนถึงวันคลอดเด็กปลอดภัยแต่อรณีเสียเลือดมากจนทนความเจ็บปวดไม่ไหวเสียชีวิต อรณิชาจึงต้องรับหน้าที่ดูแลต้นกล้า(เพลงไทย นิยมไทย)หลานชายในฐานะ”แม่นิ” นับจากนั้นเป็นต้นมา ส่วนภูบดีก็ต้องกลายมาเป็นเสาหลักในบ้าน เพราะพิภพ(นิ รุตติ์ ศิริจรรยา)เกษียณตัวเองจาตำแหน่งประธานบริษัทแล้วหันหน้าเข้าวัดเพราะรู้สึก ผิดที่ไปเจ้ากี้เจ้าการกับภาวัต ส่วนสุมนก็หม่นหมองซึมเศร้า ในขณะที่คุณนายเนื้อนวลและนีน่าเปลี่ยนเป้าหมายมาจับภูบดีแทน

ภูบดียังคงตามหาอรณีต่อไปจนกระทั่ง 5 ปีผ่านไป นักสืบนำข้อมูลการเสียชีวิตของอรณีมาบอกและแจ้งว่าเธอได้ให้กำเนิดบุตรชาย ไว้ 1 คน ภูบดีรู้ทันทีว่าเด็กคนนี้ต้องเป็นลูกของภาวัต ภูบดีนำความไปบอกสุมนเธอเลยขอร้องให้ภูบดีออกตามหาลูกของอรณีให้เจอ เพราะเธอคิดว่าการได้เลี้ยงลูกของภาวัตจะทำให้ความรู้สึกผิดในใจหมดสิ้นไป ภูบดีจึงต้องออกตามหาลูกของอรณีอย่างหนัก และแล้วการรอคอยที่เหนื่อยล้าก็จบสิ้น หลังจากอุทัยเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ กิฟท์เก๋ขึ้นมาร่วมงานศพและชวนอรณิชาไปทำงานที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ กิฟท์เก๋หว่านล้อมและเสนอเงินเดือนให้อรณิชาอย่างงามจนเธอสนใจ เพราะต้องการเงินสำหรับเลี้ยงดูต้นกล้าที่เริ่มโตขึ้น อรณิชาตัดสินใจกลับเข้ามาทำงานที่กรุงเทพอีกครั้ง และการกลับมาครั้งนี้ก็ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงตลอดไป

ในขณะที่ความหวังของภูบดีริบหรี่เต็มทนจนเขาเริ่มถอดใจ แต่เมื่อภูบดีต้องพาสุมนมาหาหมอประจำตัวที่โรงพยาบาลเดียวกับที่อรณิชาเข้า มาทำงาน เมื่อทั้งคู่ได้เจอกันภูบดีจำอรณิชาไม่ได้เพราะเธอดูสวย และเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจนผิดตา แต่สำหรับอรณิชาเธอจำเขาได้ขึ้นใจ ความโกรธแค้นในอดีตถูกปลุกขึ้นมาอีก อรณิชาแกล้งภูบดีให้ต้องอับอายหลายครั้ง ภูบดีสืบจนรู้ว่าเธอคนนั้นคืออรณิชาหญิงสาวที่เขาตามหามาตลอด 5 ปี ความหวังที่ดับวูบจึงเปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง

ภูบดีแอบสะกดรอยตามอรณิชาไปถึงบ้านจนได้เห็นต้นกล้า เขาถึงกับตะลึงเพราะต้นกล้าหน้าเหมือนภาวัตราวกับคนเดียวกัน แต่อรณิชายืนยันว่าต้นกล้าเป็นลูกของเธอ ภูบดีไม่เชื่อท้าให้ตรวจดีเอ็นเอจนอรณิชาต้องยอมรับว่าเป็นลูกของอรณีกับภา วัต แต่ยังไงภูบดีก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวต้นกล้าเพราะเธอมีจดหมายที่อรณีมอบสิทธิ์ ให้เธอเป็นผู้ดูแลต้นกล้าแต่เพียงผู้เดียว ทวีจึงถูกเรียกตัวมาเป็นที่ปรึกษาในการต่อสู้แย่งตัวต้นกล้า โดยทวียืนยันว่าหลักฐานที่อรณิชามีรัดกุมมาก ภูบดีไม่สามารถเอากฎหมายมาเล่นงานอรณิชาได้ เพราะฉะนั้นทางเดียวที่เขาจะได้ตัวหลานชายมาดูแลคือต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกล โกง

งานนี้ ภูบดีจะใช้แผนอะไรเพื่อให้ได้ตัวต้นกล้ามาดูแลและอรณิชาจะยอมหรือไม่ ? ศึกครั้งนี้ของภูบดีกับอรณิชาจะลงเอยอย่างไร ? ติดตามค้นหาคำตอบได้ในละคร บ่วงรักกามเทพ

 

รายชื่อนักแสดงละคร บ่วงรักกามเทพ

ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ แสดงเป็น ภูบดี
น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ แสดงเป็น อรณิชา
อรจิรา แหลมวิไล แสดงเป็น กิฟท์เก๋
พิชญ์นาฏ สาขากร แสดงเป็น นีน่า
ปกรณ์ มะโน แสดงเป็น ทวี
นิรุตติ์ ศิริจรรยา แสดงเป็น พิภพ
ดวงตา ตุงคะมณี แสดงเป็น สุมน
สันติสุข พรหมศิริ แสดงเป็น อุทัย
รัญญา ศิยานนท์ แสดงเป็น เนื้อนวล
สินิทธา บุญยศักดิ์ รับเชิญในบท อรณี
ชยธร เศรษฐจินดา รับเชิญในบท ภาวัต
ด.ช. เพลงไทย นิยมไทย แสดงเป็น ต้นกล้า