Category Archives: ละครช่อง5

เจ้าแม่จำเป็น

ณ สำนักเจ้าแม่มหาลาภโพธิ์ทอง เป็นที่ตั้งของสำนักร่างทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากของชาวบ้าน ร่างทรงคือ กะละแม (ยิปซี คีรติ) เด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับ โต๊ด (เกรียงไกร อุณหนันท์ ) พ่อของ ติ่ง (ฟรอยด์ ณัฎฐพงศ์) และ ตุ้งแช่ (เฟม ชวิน ลิขิตเจริญพงษ์) แม้ว่าลึกๆ กะละแมจะไม่อยากทำอาชีพหลอกลวงชาวบ้าน แต่เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว ทำให้กะละแมต้องทำและไม่ได้เรียนต่อ บอกความจริงกับใครไม่ได้ แม้แต่ โทฟู่ (เกรซ เดอะสตาร์) นักเรียนแพทย์เพื่อนสนิท แต่เธอก็หวังลึกๆว่าถ้าโต๊ดมีเงินมากพอ เธอจะเลิกเข้าทรงใบ้หวย แล้วกลับไปเรียนต่อตามที่ฝันไว้

ชิณ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของที่ ต้องการที่จะเปลี่ยนชุมชนให้เป็นห้างสรรพสินค้า เพราะบริษัทคู่แข่งของจักกาย (แฟร์ กันต์ดนย์ อะคหชาน) เตรียมจะสร้างห้างเช่นกัน ชิณ จำเป็นต้องกำจัดกะละแมและสำนักทรงเจ้า เพราะคิดว่าเป็นพวกต้มตุ๋นชาวบ้าน และเป็นหัวโจกในการต่อต้านการไล่ที่ของเขา ด้าน ฉายตะวัน (มยุรา เศวตศิลา) ผู้เป็นแม่ของชิน กลัวว่าลูกชายจะทำงานจนไม่มีเวลาหาคู่ กิมเอ็ง (ญาณี จงวิสุทธิ์) เพื่อนสนิท ที่จ้องจะจับชิณคู่กับ มิ้ว (พิชญ์นาฎ สาขากร) ลูกสาวตัวเองเสมอ จึงพาฉายตะวันไปดูหมอที่สำนักทรงของกาละแม ฉายตะวันเลื่อมใสเจ้าแม่ในร่างทรงของกาละแมเป็นอย่างมาก

จักกายเริ่มสนใจความหยิ่งของกาละแม จึงตีสนิทกับโทฟู่ เพื่อตีซี้กาละแมและยุให้กาละแมทรงเจ้าต่อไป ชิณจะได้สร้างห้างไม่สำเร็จ แต่กาละแมไม่ยอมรับข้อเสนอของจักกาย วันหนึ่ง ชิณ ถูก ก๋อย (แจ๊ค เฉลิมพล) ลูกน้องของดวง (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) ซึ่งเป็นลูกชายของเสี่ยนุ้ย (เป็ด เชิญยิ้ม) เจ้ามือหวยรายใหญ่ประจำชุมชน ยกพวกรุมทำร้ายจนชิณบาดเจ็บ กาละแมพาชินส่งโรงพยาบาล แต่ชินเข้าใจผิด คิดว่ากาละแมเป็นคนพาพวกมาทำร้ายตน แต่ภาพวิดีโอวงจรปิดทำให้กาละแมพ้นข้อกล่าวหา ฉายตะวันจึงสั่งให้ชิณขอโทษกาละแม

ชิณยังเดินหน้าหาทางไล่ที่กาละแมกับคนในชุมชนต่อไป โดยงัดไม้ตายจ่ายเงินให้โต๊ดสามล้านบาท เพื่อให้โต๊ดและครอบครัวย้ายออกไป จักกายแอบมาหาโต๊ดและทุ่มเงินกลับถึงสี่ล้านบาท เพื่อให้ทุกคนกลับมาอยู่ในชุมชนอีกครั้ง กะละแมสงสัยและคาดคั้นโต๊ด จนรับสารภาพว่ารับเงินมาจาก ชิณ และจักกาย กะละแม จึงเอาเงินทั้งหมดไปคืน

ชาวบ้านถูกหวยกันอีกครั้ง จากการทรงเจ้าใบ้หวยของกะละแม เสี่ยนุ้ยแค้นใจมาก สั่งให้ลูกน้องไปพังบ้านกะละแม จักกายประกาศให้ความช่วยเหลือให้กะละแมและครอบครัวไปอาศัยอยู่ที่บ้าน พอฉายตะวันรู้เรื่อง ก็ไปหากะละแมถึงบ้านจักกาย พร้อมทั้งเสนอให้กะละแมและครอบครัวมาอยู่ที่บ้านตนและเปิดสำนักทรงในบ้านได้ โต๊ดดีใจรีบตกลง แต่มิ้วและกิมเอ็งปรี๊ดมาก ชิณและกะละแมได้มาอยู่ใกล้ชิดกัน ต่างก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่ลึกๆก็หวั่นไหวและมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน เสี่ยนุ้ยพยายามบังคับโต๊ดกลับมาเปิดสำนักร่างทรงและใบ้หวยหลอกให้ชาวบ้านโดนกิน แต่กะละแมไม่ยอมหลอกชาวบ้านอีกแล้ว ทำให้กะละแมกับโต๊ดตัดขาดกัน โต๊ดบังคับให้ตุ้งแช่เป็นร่างทรงแทน กะละแม โทฟู่ และชิณ ปลอมตัวไปดูด้วยความเป็นห่วง

ในที่สุดกะละแม โทฟู่ จักกาย และติ่ง ก็ร่วมมือวางแผนเปิดโปงทุกอย่าง จึงจัดตั้งพิธีทรงเจ้าครั้งใหญ่ที่สำนักทรงในบ้านเสี่ยนุ้ย โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาจับธุรกิจหวยเถื่อนของเสี่ยนุ้ย แต่กะละแมต้องแลกมาด้วยการประนามหยามเหยียดจากชาวบ้านว่าเป็น 18 มงกุฏ ในขณะที่ชิณยอมรับแล้วว่ารักกะละแม แต่ฉายตะวันรับไม่ได้ และไม่ให้อภัย ชิณต้องยอมออกจากบ้านตัวเปล่า เพื่อพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อผู้หญิงธรรมดาอย่างกะละแม เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ติดตามได้ในละคร เจ้าแม่จำเป็น

บ่วงวันวาร

สมัย ร.5 ฉัตร (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) และ ฉาย (อัครัฐ นิมิตชัย) 2 พี่น้อง สำเร็จการศึกษาจากรัสเซีย พระยาโกสินทร์ (สรพงษ์ ชาตรี) จึงคิดจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของบุตรชายทั้งสองอย่างเอิกเกริก แต่ฉายพาแอนนาเมียแหม่มกลับมาด้วย พระยาโกสินทร์จึงฝากความหวังเรื่องลูกสะใภ้สมหน้าสมตาไว้ที่ฉัตรคนเดียว

นายชด (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) เป็นหนี้พระยาสมาน (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) จึงเอาบัว (วรัทยา นิลคูหา) ลูกสาวคนเดียวมาเป็นทาสขัดดอก พระยาสมานคิดจะเอาบัวเป็นเมียคนล่าสุดให้ได้ จึงฝากให้อยู่ในความดูแลของน้อย (พิชญา เชาวลิต) ทาสในเรือนเบี้ย ทำให้ด้วง (เก็จมณี วรรธนะสิน) เมียทาสที่อยากขึ้นเป็นคุณหญิงคนใหม่ชังน้ำหน้าบัวขึ้นมาทันที จึงเอาเรื่องบัวไปเล่าให้พิศ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวคนเดียวของพระยาสมานฟัง แต่พิศกำลังวุ่นวายเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงฉัตรและฉาย จึงทำให้ยังไม่ได้เห็นหน้าบัว
ในงานเลี้ยง พระยาสมานแสร้งไม่สบายเพื่อขอลากลับก่อน พิศที่หลงรักฉัตรทันทีที่เห็นหน้าก็แสร้งทำเป็นไม่สบายอ้อนฉัตรเช่นกัน ในขณะที่พระยาสมานแอบกลับบ้านเพื่อจะไปเอาบัวเป็นเมียในคืนนี้ให้ได้ แต่ขณะที่พระยาสมานกำลังจะข่มเหงบัว ฉัตรก็เข้ามาช่วยบัวเอาไว้ได้ทัน เพราะฉัตรพาพิศที่แกล้งไม่สบายกลับมาส่งบ้าน ฉัตรเห็นหน้าบัวก็หลงรักทันที พิศจึงเกลียดบัวตั้งแต่นาทีนั้นจับใจและสั่งย้ายบัวจากเรือนทาสไปอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนและหาวิธีกลั่นแกล้งบัวต่างๆ นานา ถึงแม้ฉัตรจะรู้ว่าบัวเป็นเพียงทาสขัดดอกก็ไม่ได้รังเกียจ น้อยเป็นคนคอยส่งข่าวสารให้ระหว่างบัวกับฉัตร แต่น้อยก็ต้องระวังตัวแจเพราะกลัวจะถูกพิศลงโทษ

หลังจากวันนั้นพระยาสมานยังไม่กล้าทำอะไรบัวเพราะเกรงใจพิศ แต่สั่งเพียร (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ลูกทาสที่เกิดจากนางพุ่ม (ปวีณา ชารีฟสกุล) เมียทาสคนหนึ่งให้คอยจับตาไว้ เพียรอยากเอาใจพ่อด้วยหวังว่าจะได้ความเมตตาจากพระยาสมานให้กับตัวเขาและแม่มากกว่าที่เป็นอยู่ จึงเฝ้าดูและส่งข่าวบัวให้พระยาสมานเป็นระยะ เพียรเองก็แอบชอบน้อยมานานแล้ว แต่น้อยไม่เล่นด้วยเพราะรู้ว่าไม่ใช่คนดี

วันหนึ่งนายชดไปหาปลาแล้วเกิดงมเอา ตรวนทองคำ ขึ้นมาได้ จึงเอามาไถ่ตัวบัว พระยาสมานเห็นตรวนทองคำเป็นของแปลกมหัศจรรย์ก็อยากได้ จึงสั่งให้เพียรฆ่านายชดหมกป่าแล้วเอาตรวนทองคำมาให้ แต่เมื่อพิศมาเห็นเข้าก็ชอบจึงเอ่ยปากขอจากพ่อ พระยาสมานจึงต้องตามใจลูกสาว ยกตรวนทองคำให้แก่พิศไป นางด้วงโทษว่าพระยาสมานเปลี่ยนใจไปจากเธอเพราะบัว จึงคิดยืมมือพิศฆ่าบัวทิ้ง โดยเขียนจดหมายในชื่อบัว ลวงฉัตรให้มาที่กระท่อมท้ายสวน แล้วเขียนจดหมายอีกฉบับที่เหมือนกันแล้วเอาไปให้พิศ อ้างว่าได้มาขณะที่บัวฝากน้อยให้เอาไปส่งให้ฉัตร พิศอ่านจดหมายนั้นก็โกรธมาก พุ่งตรงไปที่กระท่อมท้ายสวนทันที

ฉัตรไปหาบัวที่กระท่อมท้ายสวนและรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็คิดจะพาบัวหนี แต่ไม่ทันพิศที่เข้ามาตบตีบัว ฉัตรจึงลากบัววิ่งหนี พิศวิ่งตามแต่สะดุดตะเกียงแล้วถูกไฟครอกจนเสียโฉม ฝ่ายฉัตรที่พาบัวหนีเกิดไปพบพวกพระยาสมานเข้าอีก จึงยื้อยุดฉุดกระชากกันจนพระยาสมานหกล้มทับหลาวแหลมจนเสียชีวิต พิศที่ตามมาตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าพ่อตาย จึงสั่งเพียรจับฉัตรและบัวล่ามด้วยตรวนทองคำแล้วพาขึ้นเรือไปกลางแม่น้ำ พิศที่เสียใจมากที่ทำดีกับฉัตรเท่าไหร่เขาก็ไม่เคยสนใจ ซ้ำทั้งฉัตรและบัวยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อเธอตายและทำให้เธอเสียโฉมด้วย เมื่อรักกันมากนักก็จงตายไปด้วยกันเสีย และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติก็จะขอจองล้างจองผลาญไม่ให้ฉัตรกับบัวสมหวังในรักได้เป็นอันขาด พูดจบพิศก็ถีบฉัตรและบัวตกน้ำไป

พ.ศ.2555 (ปัจจุบัน) ฉัตร, บัว, พิศ, พระยาสมาน, ไอ้เพียร และอีกหลากหลายชีวิตในอดีตชาติ ต่างพากันกลับมาเกิดร่วมกรรมกันอีกในชาตินี้ แต่มีเพียงคนๆเดียวเท่านั้นที่สามารถระลึกชาติได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นในชาติที่แล้ว และนั่นคือพิศ หนำซ้ำชาตินี้เธอยังได้ตรวนทองคำมาครอบครองอีกครั้งเสียด้วย พิศไม่ต้องการผิดหวังในรักซ้ำอีก เธอจึงเริ่มตามฆ่าบัวอีกครั้ง ความรักระหว่างบัวและฉัตรในชาตินี้จะถูกจองจำด้วยตรวนทองคำอีกหรือไม่ หาคำตอบได้ใน บ่วงวันวาร

นางสิงห์สะบัดช่อ

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้วที่อิทธิพลเถื่อนของ “กำนันศร” (สมเล็ก ศักดิกุล) ปกคลุมบ้านไม้งาม “ผู้ใหญ่ทอง” (สันติสุข พรหมศิริ) จึงคิดขัดขวาง เป็นเหตุให้ถูกสังหารหมู่ มีแค่บัว ลูกสาว และ “แก้ว” (แป้ง – อรจิรา แหลมวิไล) เด็กรับใช้หนีรอดมาได้ แก้วถูกกลุ่มโจรสามเศียร “เสือพราย” (มานพ อัศวเทพ), “เสือเทพ” (ดามพ์ ดัสกร) และ “เสือยักษ์” (ฤทธิ์ ลือชา) ช่วยฝึกฝนวิชาการต่อสู้และอาคมจนกล้าแกร่ง

เมื่อแก้วโตขึ้น เธอปลอมตัวเป็นผู้ชายชื่อ “เก่ง” กลับมาแก้แค้น พอตกกลางคืน เธอสวมหน้ากากเป็นนางสิงห์ชุดดำ ออกขวางแผนชั่วกำนันศร เดือดร้อนถึง “ผู้กองธัมโม” (มอส – ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) ที่กำนันศรกดดันให้จับตัวนางสิงห์ให้ได้ ฟาก “ย้ง” (โตโน่ – ภาคิน คำวิลัยศักดิ์) หนุ่มซื่อประจำหมู่บ้านรู้ความจริงว่านางสิงห์คือใคร แต่ยินดีเก็บเป็นความลับ เพราะแก้วหรือนางสิงห์เคยช่วยชีวิตเขาไว้

กำนันศรคิดจะให้ “วาสนา” (วิว – วรรณรท สนธิไชย) ลูกสาวแต่งงาน กับ “จำเริญ” (บอล – วิทวัส สิงห์ลำพอง) ลูกชายของเสี่ยเล้ง (ปู – อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) หุ้นส่วนค้าไม้เถื่อน แต่วาสนาก็ให้ย้งคอยเป็นไม้กันหมา ขณะเดียวกันเสี่ยเล้งก็ส่ง “เพลินตา” (ฝ้าย – อริญรดา ปิติมารัชต์) ลูกสาวไปอ่อยธัมโม แต่ธัมโมไม่สน แก้วจึงเริ่มเชื่อใจและยอมร่วมมือในคราบของนางสิงห์ กระทั่งธุรกิจค้าไม้เถื่อนเริ่มวิกฤติ กำนันศรกับเสี่ยเล้งก็แตกคอกัน กำนันศรพยายามลอบฆ่าธัมโมเพื่อจบปัญหา ขณะเดียวกัน ทางการได้ส่ง “สารวัตรดนัย” (แมน – ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) และ “หมวดเพ็ญพร” (เอ้ก บุษกร ตันตินภา) มาเสริมทัพ แก้วกับเพ็ญพรรู้สึกคุ้นเคยกันอย่างประหลาด เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านไม้งามเริ่มทวีความนองเลือดและดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ

โรงแรมผี

​โรง​แรมผี” ​เป็น​เรื่องราวของ​ความรัก​และ​ความ​แค้น… ​เมื่อ ปั้น (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) พาสารภี (น้ำชา ชีรณัฐ) ​เจ้าสาวของครู​เพชฌฆาต​เลื่องชื่อ​แห่งคุกหลวง หลวงนฤบาลบุรีรักษ์ (ชาคริต ​แย้มนาม) หนี ​เขา​ได้รับ​โทษอย่าง​แสนสาหัส ทว่าภายหลัง​ทั้งคู่​ได้รับมรดกบ้านบางละมุงที่มีวิญญาณอาฆาตของหลวงนฤบาล บุรีรักษ์รอ​แก้​แค้นอยู่ ​แต่วิญญาณ​ไม่สามารถ​ทำอะ​ไร​ได้ ​เนื่องจาก​ทั้งคู่มาพร้อมพระพุทธรูป​เชียง​แสน

วิญาณหลวงนฤบาลบุรีรักษ์ต้องถูกกักขังอยู่นาน​ถึง 25 ปี จนกระทั่ง ปริญญา (​เปป​เปอร์ รัฐศาสตร์) ทายาทของปั้นกับสารภี​ได้​เปลี่ยนบ้าน​ให้​เป็น​โรง​แรม ​ความวิบัติ​ก็​ได้มา​เยือนครอบครัวนี้ทีละคนๆ ​โดย​เฉพาะปัทมา (น้ำชา ชีรณัฐ) ลูกสาวคนสุดท้องที่หน้า​เหมือนสารภี​ผู้​เป็น​แม่ ปริญญาต้อง​ทำทุกวิถีทาง​เพื่อหยุดยั้งวิญญาณอาฆาต ​โดยร่วมมือกับวิสูตร (ต้น ​เดอะสตาร์) คนรักของปัทมา ตามล่า​โลงศพของหลวงนฤบาลบุรีรักษ์ ​ซึ่งต้องสัง​เวยชีวิตหมอผีคน​แล้วคน​เล่า!!

รายชื่อนักแสดงนำในละคร โรงแรมผี

ชาคริต แย้มนาม    รับบทเป็น     หลวงนฤบาลบุรีรักษ์
ชีรณัฐ ยูสานนท์    รับบทเป็น     สารภี / ปัทมา
ชยธร เศรษฐจินดา    รับบทเป็น     วิสูตร
รัฐศาสตร์ กรสูต    รับบทเป็น     ปริญญา
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์    รับบทเป็น     ปั้น
ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์    รับบทเป็น     เปลื้อง
อรรถพร ธีมากร    รับบทเป็น     ผู้กำกับชิงชัย
อภัสนันท์ วรภิรมย์รักษ์    รับบทเป็น     มยุรี
ทองขาว ภัทรโชคชัย     รับบทเป็น     ทนายเพิ่ม
ปานวาด เหมมณี    รับบทเป็น     เฉิดโฉม
นภัสศรณ์ มั่นวงษ์ศิริกุล     รับบทเป็น     มาริสา
บริบูรณ์ จันทร์เรือง     รับบทเป็น     เสี่ยเพ้ง
โอลิเวอร์ บีเวอร์     รับบทเป็น     ปราโมทย์
วินัย ไกรบุตร     รับบทเป็น     อาจารย์เติม
ปราบ ยุทธพิชัย     รับบทเป็น     เทียม
ภัสสร บุณยเกียรติ    รับบทเป็น     ป้าชื่น
ปนัดดา โกมารทัต     รับบทเป็น     ป้าเจิม
สมเจต พยัฆโส     รับบทเป็น     หมู่กรี
จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม     รับบทเป็น     น้อย

เรือนแพ

เพื่อนรักสามคน แก้ว (ภาคิน คำวิลัยศักดิ์), ริน (นภัทร อินทร์ใจเอื้อ), เจน (สน ส่งไพศาล) ได้ให้สัญญาต่อกันและกันว่าจะเป็นเพื่อนรักกันและดูแลกันตลอดไป จนเมื่อเจนซึ่งสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ต้องเข้ากรุงเทพฯ รินและแก้วจึงตามมาเพื่อดูแลเพื่อนและมาตามความฝัน แก้วอยากเป็นนักมวย ส่วนรินอยากเป็นนักร้อง ทั้งสามคนเดินเข้ากรุงเทพฯ ด้วยความมุ่งหวังจะสร้างอนาคตของตัวเอง

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกกับพวกเขา เมื่อทั้งสามได้เจอ เพ็ญ (บุษกร ตันติภนา) ลูกสาวของ เถ้าแก่ตง (ดิลก ทองวัฒนา) และนางพร (ภัสสร บุญเกียรติ) ผัวเมียเจ้าของเรือนแพที่ทั้งสามคนเช่าอยู่ ทั้งสามหลงรักเพ็ญในทันทีที่ได้พบ โดยที่ต่างคนต่างก็ไม่รู้ว่าเพื่อนทั้งสองของตัวเองก็เช่นกัน ส่วนเพ็ญนั้นแม้จะมีผู้ชายมาชอบถึงสามคน แต่ใจของเธอกลับมอบให้แก้วเพียงคนเดียว แต่ด้วยความที่แก้วนั้นไร้การศึกษา เป็นเพียงนักมวยที่ไร้อนาคตต่างกับเจน ทำให้เจนมีภาษีดีกว่าแก้วและริน เถ้าแก่ตงจึงอนุญาติให้เจนเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถไปมาหาสู่เพ็ญได้ แก้วกับรินจึงยอมหลีกทางให้เพื่อน

แก้ว กับรินจึงมุ่งตามหาความฝันของตัวเองเพื่อลืมความรักที่มีต่อเพ็ญให้ได้ แก้วไปสมัครค่ายมวย ทางด้านรินไปสมัครทำงานที่สถานีวิทยุ เผื่อว่าวันหนึ่งเสียงของเขาจะเข้าหูครูกิตติครูเพลงชื่อดังเข้าสักวัน เมื่อถึงเวลาที่เจนต้องเข้าเรียนประจำที่โรงเรียนนายร้อย เจนได้ฝากเพ็ญไว้ให้แก้วดูแล แต่ความรักที่เพ็ญและแก้วมีให้กันนั้น เหมือนยิ่งหนีก็ยิ่งใกล้ จนวันหนึ่งก็ถึงเวลาที่ฟ้าผ่าลงมากลางความสัมพันธ์ของคนทั้งสี่ เมื่อแก้วและเพ็ญยอมแพ้ต่อแรงปรารถนาของกันและกัน ทั้งสองเป็นของกันและกันในคืนหนึ่งที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ทั้งคู่จึงต้องปกปิดความสัมพันธ์นี้ไม่ให้เจนรู้ โดยแก้วตั้งใจว่าจะบอกเจนในวันหนึ่ง

แต่โอกาสนั้นก็หมดไป เมื่อเจนที่เรียนจบแล้วชื้อแหวนมาขอเพ็ญแต่งงาน และมาพบทั้งสองอยู่ด้วยกัน ทำให้เจนเสียใจอย่างสุดซึ้ง สุดท้ายมิตรภาพ ความรัก และความผูกพันของเพื่อนจะแตกหักลง เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวหรือไม่? ติดตามชมได้ใน ละครเรือนแพ

รักในรอยแค้น

บำรุง ธานินทร์นิมิตร ( พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ) และวัชระ นิเวศวัตร ( สันติสุข พรหมศิริ ) ต่างก็เคยเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเลงตอนหนุ่ม ๆ แต่เพราะความเข้าใจผิดจึงทำให้ทั้งสองกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ไม่มีวันจะ ยอมลงให้กันได้…

18 ปี ผ่านไปต่างฝ่ายต่างก็ดำเนินธุรกิจจนมีชื่อเสียงร่ำรวย ครอบครัวของบำรุงจัดว่าเป็นครอบครัวนักธุรกิจตัวอย่าง ด้วยความเป็นคนรักครอบครัวและความเป็นนักสังคมของ ฉัตรสุดา ( กาญจนา จินดาวัฒน์ ) ภรรยาของบำรุง ทำให้ครอบครัวธานินทร์นิมิตร เป็นที่รู้จักและมีความสุขมากครอบครัวหนึ่ง

โดย บำรุงมีอารักษ์ ( ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ ) ลูกชายคนโตที่หวังจะเจริญรอยตามอย่างพ่อ คอยช่วยเหลือบำรุงต่าง ๆ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์และนิสัยที่ชอบใช้ความรุนแรงเข้าแก้ปัญหาของ อารักษ์ จึงทำให้อารักษ์มักจะถูกบำรุงตำหนิติเตียนอยู่เสมอ บำรุงเองลึก ๆ ก็หวังว่าสักวันหนึ่งเขาอยากให้อารักษ์มาทำหน้าที่แทน ตนเองจึงค่อนข้าง งวดกับอารักษ์มาก

ผิดกับอิงอร ( แน้ท – เอวิตรา ศิระศาสตร์ ) ลูกสาวคนเล็กที่เพิ่งเรียนจบการศึกษาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และกลับมาร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขายของออกแบบตกแต่งบ้าน บำรุงไม่ต้องการให้องอรเข้ามาร่วมรับรู้ความเป็นไปในแวดวงธุรกิจที่ตนเองทำ อยู่ ซึ่งตรงกับความต้องการขององอร ผิดกันที่ว่าองอรก็ต้องการให้บำรุงวางมือและหันมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่น กัน

ทางด้านครอบครัววัชระ หลังจากเหตุการณ์รถคว่ำที่ทำให้เขาต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รักไป วัชระปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของบำรุงที่ต้องการแก้แค้นเขา วัชระเหลือเพียงพัดยศ ( ป้อง – ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ) ลูกชายคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฎิหารย์จากเหตุการณ์ดังกล่าว

พัด ยศมี กรุณา ( เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ) เลขานุการเก่าของบำรุงที่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอเองก็มีส่วนต้อง ร่วมรับผิดชอบ กรุณาจึงมาอยู่กับวัชระและเลี้ยงดูพัดยศ จนพัดยศจบการศึกษากลับมาจากอเมริกา แต่ด้วยความเป็นคนรักสงบ อ่อนโยน และรักศิลปะเหมือนแม่ซึ่งแตกต่างจากวัชระโดยสิ้นเชิง ทำให้ทั้งสองพ่อลูกมักจะมีเรื่องถกเถียงกันบ่อย ๆ

ท่าม กลางความพยายามที่จะประสานรอยร้าวของกรุณา และวังธวัช ( กริช หิรัญพฤกษ์ ) เด็กที่วัชระเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก เพราะต้องการให้เป็นทั้งเพื่อน พี่และบอดี้การ์ดของพัดยศ ทั้งสองรักและเข้าใจกันเหมือนพี่น้องที่เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน วังธวัชเองพยายามให้พัดยศเข้าใจวัชระ จนกระทั่งเกิดเหตุลอบยิงวัชระแต่พลาด ทำให้วัชระต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล พัดยศได้รู้จากวัชระในวันที่วัชระฟื้น ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่เขาไม่ยอมยกโทษให้บำรุง นอกจากความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจแล้ว ยังเป็นเพราะวัชระ เชื่อมาตลอดเวลาว่าบำรุงคือคนที่ฆ่าแม่ของพัดยศ

พัดยศตัดสินใจเข้า ช่วยงานของพ่อ ด้วยความเป็นคนอ่อนโยน จริงใจ และฉลาดของพัดยศทำให้ธุรกิจต่าง ๆ เหมือนจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น จนแม้กระทั่งบำรุงก็ต้องยอมรับความสามารถของพัดยศอยู่ลึก ๆ และยิ่งทำให้อารักษ์ยิ่งเกลียดพัดยศมากขึ้นไปอีก

และแล้วเหตุการณ์ ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เมื่อพัดยศและองอรได้พบและรักโดยต่างฝ่ายไม่รู้เลยว่าครอบครัวของทั้งสอง เป็นศัตรูกัน ในงานเลี้ยงคืนหนึ่ง บำรุงอนุญาตให้องอรพาเพื่อนสนิทที่องอรบอกว่าอยากแนะนำให้พ่อรู้จักมาพบ บำรุงเพิ่งรู้ว่าคนที่ลูกของตนหลงรักคือพัดยศ และด้วยความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจ ประกอบกับความเข้าใจผิดที่อารักษ์พยายามกรอกหูบำรุงว่าพัดยศเป็นคนไม่ดี เพราะอารักษ์อิจฉาพัดยศที่แม้แต่บำรุงพ่อของเขาก็ดูเหมือนจะชอบพัดยศอยู่ลึก ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกของศัตรู

ทั้งหมดนี้ทำให้บำรุงเข้าใจว่าพัดยศ จงใจมาหลอกองอรเพื่อหวังผลประโยชน์ในเรื่องธุรกิจ บำรุงสั่งห้ามองอรไม่ได้คบกับพัดยศอีกเด็ดขาด แต่เหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ ท่ามกลางความแค้นและความขัดแย้งของทั้งสองตระกูล ความรักของพัดยศองอรยิ่งกระชับแน่นมากขึ้น ๆ พัดยศกลับพยายามจะพิสูจน์ให้บำรุงและคนในครอบครัวขององอรเห็นถึงความตั้งใจ จริงของเขา และเห็นถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เขามีต่อองอร

เขาและ องอรหวังลึกๆว่าความรักของเขาจะสามารถทลายกำแพงความแค้นที่ทั้งสองตระกูลมี ต่อกันลงไปได้ แม้จะต้องทำให้เขามีปากเสียงกับวัชระพ่อของเขาก็ตาม ในที่สุดความพยายามของพัดยศก็เห็นผล เมื่อพัดยศสามารถเจรจากับเจ้าของที่ดินผืนสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายต่างพยายาม แย่งซื้อมาได้สำเร็จ ที่ดินผืนนี้หมายถึงศักดิ์ศรีที่ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมลงให้กัน เจ้าของยอมขายที่ดินนั้นให้พัดยศเพราะเห็นถึงความตั้งใจและความรักอันยิ่ง ใหญ่ที่เขามีต่อองอร

พัด ยศตั้งใจที่ใช้ที่ดินผืนนี้เป็นข้อยุติปัญหาทุกเรื่องโดยเขาตั้งใจจะมอบ ที่ดินผืนนี้ให้องอร เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของเขา วัชระพยายามคัดค้านทุกวิถีทางแต่พัดยศก็ไม่สนใจ การเจรจาระหว่างพัดยศและบำรุงน่าจะดำเนินการผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าไม่ถูกวัชระวางแผนซ้อนเสียก่อน วัชระวางแผนให้บำรุงเข้าใจพัดยศผิด ว่าสาเหตุแท้จริงที่พัดยศยอมมอบที่ดินให้องอรเพราะพัดยศมีความหวังว่า สักวันหนึ่งเมื่อเขาและองอรแต่งงานกัน ทุกอย่างก็ต้องกลับกลายมาเป็นของนิเวศวัตรอยู่ดี บำรุงโกรธมากที่ถูกเด็กรุ่นเล็กอย่างพัดยศหลอก จึงปฎิเสธไม่มีการเจรจาต่อรองใดใดทั้งสิ้น ไม่ว่าพัดยศจะพยายามอธิบายถึงเหตุผลที่แท้จริงของตนอย่างไร

จน กระทั่งวันหนึ่งระหว่างการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย พัดยศไว้ชีวิตอารักษ์และตนเองเป็นฝ่ายบาดเจ็บ ทำให้อารักษ์เริ่มมองพัดยศในมุมต่างจากที่เคยมอง อารักษ์เริ่มเห็นใจในความรักที่มั่นคงของทั้งคู่ ในที่สุดอารักษ์ตัดสินใจจะช่วยให้พัดยศและองอรได้สมหวัง โดยแลกเปลี่ยนกับที่ดินผืนสำคัญนั้นซึ่งพัดยศยินดีที่จะมอบให้องอรเพื่อแสดง ความบริสุทธิ์ใจของเขา

แต่แล้วแผนการณ์ทั้งหมดก็ล้มเหลวลงในวินาที สุดท้าย เพราะวรเชษฐ์ ( ว่าน – ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง ) ลูกชายนายทหารเพื่อนบำรุงที่มาติดพันองอรรู้ข่าวและเข้าไปห้ามทำให้เกิด เหตุการณ์ไม่คาดฝัน วังธวัชเข้ามาบังกระสุนที่วรเชษฐ์จงใจยิงใส่พัดยศ วังธวัชตาย พัดยศและวรเชษฐ์แย่งปืนกัน ทำให้ปืนลั่นถูกอารักษ์ตายในที่เกิดเหตุ พัดยศถูกวรเชษฐ์ใส่ความว่าเป็นฆาตรกรที่ฆ่าคนทั้งสอง เขากลายเป็นฆาตรกรคดีอุฉกรรจ์ที่ทั้งคนของฝ่ายบำรุงและตำรวจต้องการตัว

ด้วย ความสนใจและโกรธแค้น บำรุงเชื่อวรเชษฐ์และสั่งตามล่าตัวพัดยศให้ได้ พัดยศต้องหนีการตามล่าหัวซุกหัวซุนจนเกือบจะถูกจับได้หลายครั้ง แต่เพราะมีองอรและเมธาวี ( ศิรนุช โรจนเสถียร ) เพื่อนขององอรคอยแอบส่งข่าวช่วยพัดยศ จึงทำให้พัดยศรอดพ้นมาได้ จนกระทั่งองอรถูกบำรุงจับได้และกักบริเวณให้อยู่แต่ภายในห้อง ไม่ให้องอรติดต่อกับใครทั้งสิ้น

บำรุงทำทุกอย่างที่จะให้องอรเลิก รักพัดยศ เพราะคิดและเชื่อตลอดเวลาว่าพัดยศเป็นคนผิด บำรุงยอมรับหมั้นวรเชษฐ์ให้องอร เพราะหวังจะให้องอรตัดใจเลิกคิดหวังที่จะรักกับพัดยศ แต่กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้องอรหนีออกจากบ้านไปหาพัดยศที่หัวหิน ด้วยความคิดถึงและความรักที่มีต่อกัน พัดยศและองอรเป็นของกันและกัน

บำรุง ตามไปเอาตัวองอรกับมาได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น และจงใจทิ้งการ์ดงานแต่งงานขององอรและวรเชษฐ์ไว้ เพื่อให้พัดยศเดินเข้าไปให้ตนได้แก้แค้นอย่างสาสม พัดยศตัดสินใจไปหาบำรุงทั้ง ๆ ที่รู้ว่าบำรุงจงใจวางแผนล่อให้ตนเองเดินเข้าไป โดยไม่ฟังคำท้วงติงของกรุณาและวัชระ เขาเชื่อว่าความรักอันบริสุทธิ์และความจริงใจที่เขามีต่อองอรและคนในครอบ ครัวของเธอ จะช่วยทำให้เขาผ่านพ้นอุปสรรคและความโกรธแค้นต่าง ๆ ไปได้

แล้ว เมื่อวันนั้นมาถึง…พัดยศกับองอรจะใช้ความรักของเขาและเธอ เอาชนะความแค้นของทั้งสองตระกูลไปได้หรือไม่ พัดยศจะต้องตายด้วยกระสุนของบำรุงเหมือน “รักในรอยแค้น” เมื่อ 10 ปี ที่แล้ว หรือไม่ ติดตามชมละคร “รักในรอยแค้น

รักในรอยแค้น

รักในรอยแค้น เป็นเรื่องของความรักของ 2 หนุ่ม-สาวที่ไม่อาจเป็นไปได้เพราะมาอยู่ตรงกลางระหว่างความแค้นของ 2 ตระกูล

นักแสดงละคร รักในรอยแค้น

ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง
นุสบา วานิชอังกูร
รุจน์ รณภพ
มานพ อัศวเทพ

 

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย

เกษมราช เศรษฐีพันล้านเจ้าของธุรกิจเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็ก ชื่อดังหลายต่อหลายแห่ง เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ซึ่งเขาเองก็รู้ดีว่าจะมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน สิ่งสุดท้าย ที่เกษมราชต้องการทำ คือการตามหาครอบครัวที่เหลืออยู่ของจักรพจน์ เพื่อนสนิทที่เขาเคยหักหลัง แล้วฮุบกิจการที่สร้างร่วมกันมาที่ได้ตายจากไปด้วยความตรอมใจเกษมราชใช้เวลา ไม่นาน เขาก็ได้พบกับน้ำหนึ่ง ลูกสาวคนเดียวของเพื่อนรัก น้ำหนึ่งอาศัยอยู่กับแม่อนงค์  เปิดร้านทำผมเล็ก ๆ อยู่ในตลาดท่าน้ำนนท์ ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ถึงกับขัดสนแต่ไม่ก็เหลือพอให้ฟุ่มเฟือย เกษมราชพยายามขอโทษอนงค์ แต่สิ่งที่เธอต้องการสิ่งเดียวคือชีวิตของสามี ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ทำให้เกษมราชยิ่งรู้สึกผิดและต้องการแก้ตัวในวาระสุดท้ายของตน เขาตัดสินใจกลับมาเปลี่ยนพินัยกรรมแบ่งสมบัติครึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นการไถ่โทษก่อนจะเสียชีวิต วันที่พินัยกรรมถูกเปิด เหมือนกับสายฟ้าลงกลางกระหม่อมก้องภพ ลูกชายคนเดียว ของเกษมราช เขารับไม่ได้กับการที่ต้องยกสมบัติครึ่งหนึ่ง ให้กับผู้หญิงที่เขาไม่เคยรู้จักแม้แต่หัวนอนปลายเท้า ก้องภพบังคับให้เทียนชัย  ทนายคนสนิทของเกษมราชเก็บ เรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพื่อที่เขาจะพยายามหาทางกำจัดน้ำหนึ่งด้วยตัวเขาเองเมื่อเรื่องมรดกหารสอง ถูกปิดเป็นความลับ ก้องภพจึงกลายเป็นทายาทพันล้านที่เนื้อหอมที่สุดในวงการเศรษฐีใหม่ มีหญิงสาวมากมายเข้ามารุมล้อมและหวังจับ หญิงสาวที่เข้าประกวดมีรายนามดังนี้ “พรฟ้า” หรือ “ฟ้า” คุณหนูไฮโซผู้หยิ่งทระนง เธอเป็นคนชอบเหยียดหยามคนอื่นและชอบเอาชนะ ส่งเข้าประกวดโดย รัตนาน้าสะใภ้ของก้องภพที่งกสมบัติแทนหลาน และไม่ต้องการให้เงินแม้แต่บาทเดียวกระเด็นไปถึงมือคนอื่น สาวงามคนที่สอง มาด้วยลีลาและเสน่ห์ที่เย้ายวน เธอคือ “แพรวรุ่ง” ดาวอันดับหนึ่งใน The Harem Member Club ชื่อ เสียงของแพรวรุ่งเป็นที่โจทย์จันท์ในวงสังคมกลางคืนว่าเธอคือ สาวเสียงเสน่ห์ เป็นดาวที่ไม่มีวันดับ ของคลับที่ไม่มีวันตายแพรวรุ่งเลือกที่จะคบชาย เพราะเธออยู่ในจุดที่เลือกได้ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เธอเลือกที่ผลักดันตัวเองเข้าสู่อ้อมกอดและเตียงอันอบอุ่นของก้องภพด้วย เพราะเงินมรดกพันล้าน ติดตามต่อได้ใน ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย

 

นำแสดงโดย
เจษฎาภรณ์ ผลดี รับบทเป็น ก้องภพ
พิยดา อัครเศรณี รับบทเป็น น้ำหนึ่ง
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ รับบทเป็น พรฟ้า
สุวัจนี ไชยมุกสิก รับบทเป็น แพรวรุ่ง
ไอริณ ศรีแกล้ว รับบทเป็น เจนนี่
พีรชัย โปษยานนท์ รับบทเป็น ต่อ
กาญจนา จินดาวัฒน์ รับบทเป็น พิมพิศ
รัญญา ศิยานนท์ รับบทเป็น รัตนา
สะเกวัลย์ ยงใจยุทธ รับบทเป็น ยิ้ม
อ.เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์ รับบทเป็น เทียนชัย
ตรีพล พรมสุวรรณ รับบทเป็น ทิน

รอยอดีตแห่งรัก

รอยอดีตแห่งรัก

รอยอดีตแห่งรัก เป็นเรื่องราวของ ต้นน้ำ (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เจ้าของแม็กกาซีนชื่อดัง กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ นุสรา(ญดา โชติชูตระกูล) แฟนสาวไฮโซชื่อดัง ในอีก1อาทิตย์ข้างหน้า ในคืนที่ทั้งคู่ไปงานวันเกิดของต้นน้ำ ขากลับต้นน้ำเมามาก นุสรา จึงอาสาขับรถให้ แต่เธอไม่ทันระวังจึงขับรถชน มีน (พีรชยา พิณเมืองงาม) หญิงสาวที่อยู่ร้านขายอาหารตามสั่งใกล้ๆบริษัทของต้นน้ำ นุสราลงมาต่อว่ามีนที่บาดเจ็บ แต่ระหว่างนั้นอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น นุสราโดนรถที่วิ่งมาจากอีกด้านหนึ่งชนจนนุสราเสียชีวิต

ต้นน้ำเสียใจกับการจากไปของนุสรามาก จึงฝังใจเกลียด มีน มาตลอด แม้มีนจะพยายามขอโทษต้นน้ำด้วยวิธีการใด ต้นน้ำก็ไม่ยอมให้อภัยเธอ แถมยังต้องการให้คนที่ตายไปในคืนนั้นคือมีน พี่หวาน(อริศรา วงษ์ชาลี) กับ เม่น(อรรถพร ธีมากร) ญาติสนิทของมีนได้แต่เป็นห่วง เพราะมีนเสียใจ และ ผิดหวังที่ต้นน้ำ คนที่เธอแอบชื่นชมเป็นคนแบบนี้ มีนจึงหนีกลับไปอยู่กับแม่(ทัศวรรณ เสนีย์วงษ์) ที่หัวหิน

ต้นน้ำพยายามลืมความเศร้าด้วยการเที่ยวเตร่ โดยมี อัญชลี(ปานวาด เหมมณี) เลขาที่จ้องจะจับต้นน้ำคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หมอนเรศ(พนมกร ตังทัตสวัสดิ์) เพื่อนรุ่นพี่ของต้นน้ำ จึงเข้ามาช่วยดูแล ย่าใหญ่(พิสมัย วิไลศักดิ์) เลยแนะนำให้ต้นน้ำไปพักผ่อนพร้อมกับทีมงานที่จะไปถ่ายทำวีซีดีที่หัวหิน แต่การมาพักผ่อนของต้นน้ำครั้งนี้ ทำให้เขาได้พบกับมีนอีกครั้ง ต้นน้ำพยายามหาเรื่องมีน แต่หมอนเรศคอยช่วยเหลือมีน ทำให้ต้นน้ำแกล้งมีนได้ไม่เต็มที่

ระหว่างถ่ายแฟชั่น ต้นน้ำและมีนได้มีโอกาสใกล้ชิด และทำความรู้จักกันมากขึ้น ทำให้ต้นน้ำรู้ว่าแท้จริงแล้วมีนเป็นคนมีน้ำใจและเป็นนักสู้ หลายครั้งที่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในกองถ่าย และ อัญชลีก็พยายามเข้ามาช่วยเหลือมีน ทำให้มีนหลงชื่นชมอัญชลี โดยไม่ระแคะระคายในความร้ายกาจของเธอเลย

วันสุดท้ายของการถ่ายแบบ นางแบบคนหนึ่งมาไม่ทัน ทีมงานตัดสินใจจับมีนมาแต่งตัว ปรากฎว่ามีนสวยขึ้นทันตาเห็น ต้นน้ำเองก็แอบรู้สึกอยู่ลึกๆ แต่เขากลับแสดงอาการไม่พอใจมีน และยิ่งรู้สึกหมั่นไส้เมื่อรู้ว่า หมอนเรศแอบชอบมีน และชักชวนให้มีนที่เรียนจบผู้ช่วยพยาบาลมาช่วยดูแลย่าใหญ่ เมื่อมีนต้องเข้าไปอยู่ในบ้านต้นน้ำ ต่างฝ่ายต่างได้เรียนรู้นิสัยกันในด้านที่ไม่เคยเห็น แต่ในขณะเดียวกัน มีนก็ต้องปะทะกับ อัญชลี ที่พยายามทำให้ย่าใหญ่ และ ต้นน้ำเข้าใจผิดเธอมาตลอด

ย่าใหญ่ได้หลักฐานว่าอัญชลีโกงเงินบริษัทไป แต่อัญชลีก็จัดการย่าใหญ่จนหกล้มต้องเข้าโรงพยาบาล ต้นน้ำเครียดมาก อัญชลีได้ทีเลยใส่ไฟว่าตอนที่ย่าล้ม เห็นมีนคุยอยู่กับเม่น ไม่ยอมมาดูแลย่าใหญ่ ต้นน้ำโกรธมากด่าว่ามีนอย่างรุนแรง จนมีนทนไม่ได้ตัดสินใจขอลาออก ย่าใหญ่รู้เรื่องบอกให้ต้นน้ำไปตามมีนกลับมา แต่พอต้นน้ำไปถึง กลับถูกหวานและเม่นไล่กลับไป ต้นน้ำต้องขอร้องมีนให้เห็นแก่ย่าใหญ่ มีนจึงยอมทำตาม ระหว่างทางต้นน้ำได้ข่าวจากหมอนเรศว่าย่าตกบันไดเสียชีวิต ต้นน้ำถึงกับช็อค

หลังจากงานศพของย่า ต้นน้ำพบว่ามีนเก็บข้าวของกลับหัวหินไปแล้ว
เขาพยายามมาง้อมีน แต่มีนไม่สนใจ ทำให้ต้นน้ำโกรธเข้าไปลากมีนขึ้นรถเพื่อพากลับกรุงเทพ ทั้งคู่โต้เถียงกันขณะที่ต้นน้ำขับรถ แล้วอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ครั้งนี้จะซ้ำรอยเหมือนตอนที่เขาและเธอได้เจอกันครั้งแรกหรือ ไม่? ติดตามชมเรื่องราวความรักของเขาและเธอได้ในละคร รอยอดีตแห่งรัก

รายชื่อนักแสดง

สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว รับบท ต้นน้ำ
พีรชยา พิณเมืองงาม รับบท มีน
อรรถพร ธีมากร รับบท เม่น
อริศรา วงษ์ชาลี รับบท หวาน
ปานวาด เหมมณี รับบท อัญชลี
พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ รับบท หมอนเรศ
ญดา โชติชูตระกูล รับบท นุสรา
พิสมัย วิไลศักดิ์ รับบท ย่าใหญ่

ยุทธการเข้าบัว

นอกจากหน้าที่ของนักรบ ทหารยังมีงานแห่งมนุษยธรรมอีกมากมาย ภารกิจเล็กๆนี้ ได้สร้างความเต็มตื้นประทับลงในหัวใจ แม้ไม่มีการจารึกวีรกรรมเอาไว้ แต่ผู้เกี่ยวข้องก็ยังจดจำไมตรีของ คนต่างอุดมการณ์ได้แจ่มชัด รอยยิ้มเหล่านี้ไม่มีวันเลือนไปจากหัวใจ สายลมพัดพาหมู่เมฆทะมึนเคลื่อนผ่านดวงจันทร์ แม้ต่างความคิด หน้าที่ และฟากฟ้า แต่เราก็ยังเงยหน้ามองจันทร์ดวงเดียวกัน จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง ค่ำคืนนวลตา ประณต นอนอ่านหนังสือกลางแสงจันทร์ ประณีตถามลูกชายถึงผลสอบ ประณตมั่นใจว่า ต้องสอบได้ และจะฉีดยาให้แม่ไม่เจ็บเลย ประณีตสงสัยว่าถ้ามือลูกไม่ได้จับเข็ม ประณตยิ้มแจ่มใส ไม่อาจรู้เลยว่าข้างหน้า สองมือของเขากลับต้องจับปืน ร.อ.ทศทิศ นายทหารหนุ่มถูกเรียกตัวจากหน่วยรบเข้ามาช่วยในภารกิจสำคัญ คือล้อมปราบ ฐานที่มั่นใหญ่ตามแนวเทือกเขาของกองทัพปลดแอกประชาชนไทย ซึ่งมี สหายเทิด คุมกองกำลังทั้งหมด ในป่าลึกขณะหาข่าวในทางลับ ทศทิศถูกซุ่มยิง แต่ สิบโทสุริยะนันท์ ช่วยทศทิศรอดมาได้อย่างหวุดหวิด สหายจันทร์ หรือประณต อดีตนักศึกษาแพทย์กังวลถึงการลาดตระเวนของทหารที่ใกล้ฐาน เข้ามาทุกที แต่สหายเทิด ผู้นำฐาน และ สหายพันแสง เชื่อมั่นในพลังของชาวบ้านที่เป็นพวก จึงคิดว่ากองกำลังจะตอบโต้กลับไปได้เช่นทุกครั้ง ทศทิศกับสุริยะนันท์ที่ทำงานหนัก รวบรวมข่าวและดึงชาวบ้าน กลับถูกท้าทายหลายครั้ง จนสุริยะนันท์ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องช่วยเหลือชาวบ้านที่ปฏิเสธความหวังดี ทศทิศเตือนผู้ใต้บังคับบัญชาให้คิดถึงสันติสุขและสันติภาพที่ยั่งยืน ในความเหนื่อยยาก น้ำหล่อเลี้ยงกำลังใจของสุริยะนันท์คือ อัญชลี คู่หมั้นสาว เช่นเดียวกับ ในป่าลึก แม้ในห้วงเวลายากเข็ญแต่ความรักยังเบ่งบานได้ สหายจันทร์บอก สหายแก้ว เสมอว่ารอยยิ้มของเธออ่อนหวานเหมือนรอยยิ้มของแม่ที่เขาเคยนอนหนุนตักชมดวง จันทร์ สหายจันทร์ให้สัญญากับคนรักว่าจะกลับมาแต่งงานหลังจากสำเร็จการศึกษาที่ เวียดนาม สหายพันแสงนำกองกำลังคุ้มกันมาส่งสหายจันทร์ที่จะไปเรียนต่อ แต่ขณะข้ามเขา ก็เจอกองร้อยของทศทิศ สหายจันทร์ถูกสุริยะนันท์ยิง สหายพันแสงจึงยิงสุริยะนันท์ การปะทะรุนแรงจนต่างฝ่ายต่างล่าถอย ร่างไร้วิญญาณของสุริยะนันท์ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานถูกทิ้งไว้กลางป่า เช่นเดียวกับร่างของ สหายจันทร์ที่สหายพันแสงไม่อาจนำกลับมาเผาที่ฐานได้ ไม่เพียงหัวใจสองดวงของสหายแก้วและอัญชลีที่ต้องปวดร้าวกับการพลัดพราก แต่หัวใจของแม่อย่างประณีตที่เฝ้ารอลูกชายก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน ประณีตมองบัตรประจำตัวของสหายจันทร์หรือประณต ที่ทศทิศนำมาให้อย่างไม่เชื่อสายตา ประณีตไม่ยอมรับว่าลูกชายตายจากไปแล้ว จนกว่าจะได้เห็นกระดูกแม้เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของลูกเสียก่อน ทศทิศสะเทือนใจอย่างมาก จึงกลับมาด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำกระดูกของสหายจันทร์และ สุริยะนันท์ ออกมาจากป่าตามโครงการกระดูกเข้าบัวของกองทัพ ซึ่งหมายถึงการเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยงเพื่อนำกระดูกของผู้เสียชีวิตจากการ ต่อสู้ กลับมาทำพิธีทางศาสนา และบรรจุไว้ในบัวหรือโกฐอย่างถูกต้องตามประเพณี ทศทิศนำกำลังทหารได้แก่ จ่าขมิ้น จ่าสร และ จ่าปาน เข้าไปค้นหากระดูกในพื้นที่สีแดง และปะทะกับกองกำลังของสหายเทิด จ่าขมิ้นถูกยิงเสียชีวิตทันที ทศทิศถูกตำหนิจากหลายฝ่าย รวมทั้งชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการไปนำกระดูกออกมา แต่ทศทิศก็ไม่ลดละความมุ่งมั่นที่ดี สหายพันแสงปลอบโยนความเศร้าโศกของสหายแก้ว จนเกิดเป็นความรัก และแต่งงานกัน สหายแก้วคลอดลูกท่ามกลางการสู้รบ เมื่อการปะทะหนักหน่วงขึ้น สหายแก้วมองเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่ทยอยออกจากป่า แล้วยิ่งกังวลถึงชีวิตลูก สหายพันแสงเองก็ไม่มีคำตอบให้กับเมีย ว่าอนาคตอันเสมอภาคจะต้องใช้เวลาต่อสู้ไปอีกนานเท่าไหร่ ทศทิศไม่หยุดยั้งที่จะนำกำลังเข้าไปขุดหากระดูกของเพื่อนร่วมชาติ จนได้เผชิญหน้ากับ สหายพันแสงที่ลาดตระเวน ทศทิศไม่กลัวความตายจากปากกระบอกปืนของสหายพันแสง และยืนยันว่าเป็น การมาเพื่อนำกระดูกของลูกคนหนึ่งกลับคืนสู่อ้อมอกของแม่ผู้เฝ้ารอเท่านั้น สหายพันแสงเห็นความตั้งใจ แน่วแน่ของทศทิศ ก็ตัดสินใจปล่อยทศทิศกลับไป ทศทิศกลับมารายงานนาย และขอเข้าไปในพื้นที่อีก ในที่สุดสหายพันแสงก็ยอมรับความจริงใจของทศทิศ สหายพันแสงบอกกับสหายแก้วว่าจะไปขุดศพสหายจันทร์กับทศทิศ แล้วจะออกจากป่า กลับสู่เมืองเช่นคนอื่นๆ สหายแก้วดีใจที่ลูกน้อยจะได้เติบโตในที่ปลอดภัย ขณะที่ทศทิศและสหายพันแสงช่วยกันขุดหากระดูกสหายจันทร์ สหายเทิดนำกองกำลังมาซุ่มโจมตี การต่อสู้อย่างดุเดือดเริ่มขึ้น และจบลงที่สหายพันแสงบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวกลับฐาน สหายแก้วสิ้นใจเพราะใช้ร่างป้องกระสุนให้ลูก ทศทิศอุ้มทารกน้อยกลับมาทั้งน้ำตา สหายพันแสงขัดแย้งทางความคิดกับสหายเทิดอย่างหนัก เพราะอุดมการณ์และความจริงที่ต้องเผชิญหน้า จึงตัดสินใจหนีออกมามอบตัว ทศทิศรีบไปรอรับเพื่อน ในวันเดียวกับที่ฐานของกองทัพปลดแอกประชาชนไทยแตก ทศทิศกลับไปยังเนินเดินแห่งการต่อสู้อีกครั้ง เพื่อนำกระดูกของสหายจันทร์คืนสู่บ้าน แต่ครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิด เมื่อทศทิศเหยียบกับระเบิดที่ถูกฝังไว้ หัวใจของประณีตผู้หวังจะได้เห็นหน้าลูกชายกลับมาเหมือนผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย คนอื่นๆ ถึงกับแหลกสลายเมื่อทศทิศพาร่างที่บอบช้ำ นำกระดูกของสหายจันทร์กลับบ้าน ทศทิศมองเถ้ากระดูกของสุริยะนันท์กับสหายจันทร์ที่อยู่ในบัวด้วยความเคารพ และหวังว่ากระดูกของทั้งคู่จะเป็นเครื่องเตือนใจให้คนไทยทุกคนร่วมสร้าง สันติสุขบนผืนแผ่นดินนี้ จันทร์เจ้าขา ช่วยฉันสักที แก้วแหวนมณี ฉันไม่ต้องการ แก้วแหวนมณี ฉันไม่ต้องการ หากชัยชนะที่ต้องการคือ ประชาธิปไตย เป้าหมายปลายทางของสองฝ่ายไม่มีอันใดแตกต่างกัน ไฉนจึงต้องเรียกเขาว่า ศัตรู