Tag Archives: เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มาลินี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ได้รับจดหมายของ “คุณยายวัน” (พิสมัย วิไลศักดิ์) ในขณะที่เธอได้อ่านจดหมาย คุณยายวันได้ตายไปแล้ว คุณยายเขียนจดหมายฝากกับผู้ใหญ่ลีให้ไปรับมรดกบ้านกับที่ ไร่นาหลายร้อยไร่ คุณยายของเธอมีความประสงค์ให้มาลินีไปทำไร่นาแทนท่าน และห้ามเด็ดขาดไม่ให้หลานให้คนอื่นเช่าทำ หรือถ้าคิดจะขายก็ให้ขายกับผู้ใหญ่ลีคนเดียวห้ามขายให้กับคนอื่น นำความแปลกใจให้กับมาลินียิ่งนักว่าผู้ใหญ่ลีคนนี้เป็นใคร ทำไมคุณยายจึงให้ความสำคัญกับเขามากนัก

มาลินีไม่สนิทกับคุณ ยายของเธอ แม่เธอเล่าให้ฟังเมื่อครั้งสาวๆ คุณยายอยู่ในรั้วในวังและใกล้เจ้านายชั้นสูง แต่ความรักได้หักอกคุณยายครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งถึงคุณตาของเธอก็เช่น เดียวกัน คุณยายทนความเจ้าชู้มากเมียไม่ได้ถึงหลบมาอยู่ท้องนาแห่งนี้ และคุณแม่ของเธอก็มาเติบ โตที่นั่น คุณยายได้สามีใหม่เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ซื่อสัตย์ขยันขันแข็งช่วยปกครองดูแลการงานจนกระทั่งตายจากไปโดยไม่มีลูก ด้วยกัน คุณยายก็เลยมีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของมาลินี คุณแม่ของมาลินีไม่ชอบชีวิตท้องนาจึงมักไปอยู่กับบิดาของท่านที่กรุงเทพฯ เสมอ จนกระทั่งพบคุณพ่อของเธอและเกิดขัดใจกับคุณยาย คุณแม่จึงเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ จนเธอเกิด นานๆ คุณแม่จึงจะไปเยี่ยมเยือนคุณยายสักครั้งหนึ่งทำให้มาลินีเหินห่างกับคุณยาย ราวกับไม่ใช่หลานของคุณยาย

จดหมายของคุณยายทำให้มาลินีครุ่นคิดอย่างหนัก ทำไมคุณยายจึงบังคับเธอไม่ให้เช่าที่นาแก่ใคร ถ้าเธอไม่ทำเองจะต้องขายให้ผู้ใหญ่ลีแต่ เพียงผู้เดียว มาลินีรู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำนาได้ เพราะเธอไม่เคยอยู่บ้านนอกไม่เคยทำนาเลย และที่สำคัญเธอยังรักอาชีพเดินแบบของเธอยังต้องการสวมเสื้อนำสมัย เดินกรุยกรายท้าทายสายตาผู้คนอยู่

ประดิษฐ์ (เกียรติกมล ล่าทา) เป็น แฟนของมาลินี ถึงเขาจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง มาลินีเห็นว่านั่นเป็นลักษณะของผู้นำและมาลินีก็ทำตัวเป็นผู้ตามตลอดเวลา และเธอก็จะงอนง้อเขาทุกครั้งที่ต้องทะเลาะกัน มาลินีคิดเอาเรื่องคุณยายไปปรึกษาประดิษฐ์แต่เขาไม่ยอมมาพบเธออ้างโน่นนี่ และในที่สุดมาก็รู้ว่าเขาไปมีหญิงคนใหม่ มาลินีเสียใจและมันก็ทำให้เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะไปอยู่บ้านคุณยายของ เธอ

ผู้ใหญ่ลี หรือ ลีนวัตร (ทฤษฎี สหวงษ์) เป็นผู้ที่คุณนายวันให้ความรักและความเอ็นดูเป็นอย่างมาก เมื่อเขายังเด็ก พ่อและแม่ของลีจะไม่ให้เขาเรียนต่อ เพราะเกรงว่าเมื่อได้เรียนมากๆ แล้วจะทิ้งไร่นาไม่ยอมกลับมาทำ แต่คุณนายวันเป็นคนที่มองการณ์ไกล ได้ขอร้องพ่อแม่ของผู้ใหญ่ให้เขาได้เรียนต่อ เพราะเขาเป็นเด็กที่เรียนดี ควรส่งให้เขาได้เรียนสูงๆ แล้วกลับมาพัฒนาท้องถิ่น ถ้าพ่อแม่ของเขาไม่ส่งเรียนคุณนายจะเป็นคนส่งเอง ด้วยแรงสนับสนุนของคุณนายวันคอยช่วยเหลือจุนเจือทุกอย่าง ทำให้ลีนวัตร หรือผู้ใหญ่ลีได้เรียนต่อจนสำเร็จปริญญาเกษตรศาสตรบัณฑิต และเป็นที่รักของชาวบ้าน ได้รับความไว้วางใจเลือกเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านต่อจากพ่อของเขาคือผู้ใหญ่ลอ ผู้ใหญ่ลีเอาความรู้จากวิชาการสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาไร่นาและชาวนา ให้ความรู้เกษตรแผนใหม่กับชาวบ้าน ใครตกทุกข์ได้ยากผลผลิตไม่ดีหรือภัยโรคพืชต่างๆ ผู้ใหญ่จะคอยช่วยเหลือ   ผู้ใหญ่ลีรักและนับถือคุณนายวันมาก คอยดูแลเอาใจใส่ช่วยงานคุณนายวันผู้มีพระคุณกับเขา ทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้คุณนายวันจึงรักและเอ็นดูให้ความไว้วางใจเขามาก สิ่งที่คุณนายวันได้วางแผนไว้ทั้งหมดก่อนตายคือการเขียนพินัยกรรมยก ทรัพย์สินบ้านไร่นาให้กับมาลินีหลานสาวคนเดียว เพราะต้องการให้มาลินีได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ลี และต้องการให้สมบัติตกอยู่กับคนที่ท่านรักทั้งสองคนคือผู้ใหญ่ลีกับมาลินี

มาลินีมาถึงบ้านคุณยาย ก็ทราบจากปี๊ดว่าตอนนี้ศพของคุณยายไปอยู่ที่วัด เพราะคุณยายตายมาได้สองอาทิตย์แล้ว ผู้ใหญ่ลีเป็นคนจัดการเรื่องสวดอภิธรรมและเป็นธุระให้ทุกอย่าง ปื๊ดบอกผู้ใหญ่ลีรอมาลินีมาเก็บศพคุณนายวันและกำหนดวันเผา มาลินีนึกโกรธผู้ใหญ่ลี คุณยายตายมาตั้ง สองอาทิตย์แล้ว ทำไมเธอจึงเพิ่งได้รับจดหมายของคุณยายเมื่อวานนี้เอง คิดว่าเขาคงทำเอาหน้าส่งจดหมายให้เธอล่าช้า ชาวบ้านจะได้ตำหนิเธอว่าเป็นหลานที่อกตัญญูไม่ยอมมาจัดการงานศพให้คุณยาย และดูคุณยายจะไว้เนื้อเชื่อใจผู้ใหญ่ลีคนนี้เสียเหลือเกิน…ปื๊ดพาคุณมาเดิน ชมทั่วบ้าน พาไปดูสัตว์เลี้ยงของคุณนายวัน พอสิ้นคุณนายลูกจ้างก็ลาออกกันหมดผู้ใหญ่ลีก็เป็นคนรับภาระดูแลให้ทุกอย่าง

ปี๊ด ได้รับมอบหมายจากพ่อผู้ใหญ่ให้คอยดูแลมาลินี ปื๊ดเป็นเด็กกำพร้าที่ผู้ใหญ่ลีเก็บมาเลี้ยงไว้ตอนที่เขาเรียนมหาลัย เป็นลูกแขกที่มาทิ้งไว้ ปื๊ดเรียกผู้ใหญ่ลีว่าพ่อ และเรียกป้าปุยแม่ของผู้ใหญ่ลีว่าแม่ เป็นคนทำให้มาลินีเข้าใจว่าผู้ใหญ่เป็นผัวของป้าปุยในตอนแรก และทำให้มาลินีเข้าใจผิด

คิดว่าผู้ใหญ่ลีนั้นคงหน้าตาเป็นแขกและแก่แล้วปื๊ดช่วยมาลินีได้มากคือ อยากรู้อะไรก็ถามจากปื๊ด    มาลินีหารู้ไม่ว่าปื๊ดเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่ลี  คอยเก็บข้อมูลในตัวคุณมา มาบอกผู้ใหญ่ทุกเรื่อง มาลินีเริ่มชอบบ้านทุ่งของคุณยายของเธอ เธอหลงใหลบรรยากาศในยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าเป็นอย่างมาก เธอได้พบผู้ใหญ่ลีกำลังขับรถไถนาอยู่ เธอเข้าไปทักทาย เพราะเข้าใจว่าผู้ใหญ่ลีคือนายเหว่า  เพราะได้รับการบอกเล่าจากปื๊ด ว่านายเหว่าเป็นคนขับรถไถนาให้ผู้ใหญ่ลี ผู้ใหญ่ลีนึกสนุกเลยปล่อยเลยตามเลยให้คุณมาเข้าใจว่าตนคือนายเหว่า พร้อมสาธิตการขับรถไถนาให้เธอดูอีกด้วย

…มาลินีประทับใจนายเหว่าที่รูปหล่อแถมยังเก่งมีความรู้เรื่องการทำนาอีก ด้วย มาลินีมาดูผู้ใหญ่ลีในคราบของนายเหว่าไถนาอีกแต่เธอก็ยังไม่ทราบว่าเขาคือ ผู้ใหญ่ลี… กระทั่งถึงวันที่ต้องบรรจุเก็บศพของคุณนายวันที่วัด  ความลับจึงเปิดเผยว่านายเหว่าที่เธอพบนั้นคือผู้ใหญ่ลี  มาลินีทั้งเจ็บใจทั้งอายที่ถูกหลอก

ป้าปุย แม่ของผู้ใหญ่ลี  รักลูกชายมาก และเมื่อเจอมาลินีก็หลงใหลรักใคร่ยิ่งนักอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้  สนับสนุนทำทุกอย่างที่จะให้ทั้งสองรักและได้ลงเอยกัน และยิ่งเป็นความประสงค์ของคุณนายวันผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของแกมาตลอดแก ยิ่งทำทุกวิถีทาง  ผู้ใหญ่ลีต้องมาคอยดูแลช่วยเหลือเรื่องการงานทุกอย่างของมาลินี..ทุกเย็น เขาจะมาดูพระอาทิตย์ตกกับคุณมา และต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนมาลินีก็สลัดคราบนางแบบของเธอมาเรียนรู้วิธีการทำนาอย่างตั้งอกตั้งใจ ในเมื่อเธอตัดสินใจจะอยู่ที่นี่เธอก็ต้องทำให้เป็นทุกอย่าง เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านที่เธอไม่เคยได้รู้มาก่อน ผู้ใหญ่ลีนั้นปลื้มและนิยมในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง

เฉลา น้องสาวของผู้ใหญ่ลีนั้นก็รักอยู่กับนายเหว่า ลูกน้องคนสนิทของผู้ใหญ่ลี แต่เฉลานั้นกำลังเรียนอยู่ ผู้ใหญ่ลีจึงพูดจาตักเตือนว่าให้เรียนจบเสียก่อนจึงค่อยริรักกับนายเหว่า แต่ด้วยความที่ทั้งคู่รักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีกีดกันความรักของคนทั้งสอง

เหว่ากับเฉลา จึงหนีหายออกไปจากบ้านด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ทั้งคู่หนีไปพักอยู่ที่บ้านของมาลินี มาลินีพยายามอธิบายให้ผู้ใหญ่ลีเข้าใจถึงความรักของหนุ่มสาวโดยให้นายเหว่า และเฉลากลับมากราบขอโทษผู้ใหญ่ลี ที่เข้าใจผิดและหนีหายไปด้วยกัน  เฉลาสัญญากับผู้ใหญ่ลีว่าจะเรียนให้จบก่อน แล้วค่อยแต่งงานกับเหว่าอีกที  ผู้ใหญ่ลีจึงให้อภัยน้องสาวกับนายเหว่า

ประดิษฐ์ซึ่งรู้ว่ามาลินีมาอยู่ที่นี่และ ได้มรดกของคุณยายมากมายได้ชวนวลัยและสมรเธอทั้งสองเป็นเพื่อนของมาลินี  มาหามาลินีหวังจะขอคืนดี ประดิษฐ์หวังจะได้ทรัพย์สมบัติในส่วนของมาลินีอีกด้วย แต่มาลินีเริ่มเห็นธาตุแท้ของประดิษฐ์ที่เห็นแก่เงิน ไม่ได้ขยันทำมาหากินและช่วยเหลือสังคมเหมือนกับผู้ใหญ่ลี  ทำให้มาลินีไม่ยอมคืนดีด้วย สร้างความแค้นใจให้ประดิษฐ์มากที่เสียเชิงให้กับหนุ่มบ้านนอกอย่างผู้ใหญ่ลี ปทุม ลูกสาวของผู้ใหญ่โหมด ก็มาติดพันชอบผู้ใหญ่ลีเข้าอย่างเต็มหัวใจ เธอเป็นสาวบ้านนอกที่ชอบทำตัวไฮโซแบบเฉิ่มสุดๆพยายามหาทางสวยเด่นแข่งกับ มาลินีสุดขั้ว แต่ยังไงซะผู้ใหญ่ลีก็ไม่เคยสนใจปทุม เพราะใจหัวใจมีแต่มาลินีคนเดียว ปทุมจึงร่วมมือกับประดิษฐ์ วางแผนแยกผู้ใหญ่ลีกับมาลินีให้ห่างออกจากกัน ประดิษฐ์หลอกให้มาลินีมาพบที่กระท่อมยามค่ำคืน พร้อม ๆ กับที่ปทุมเองก็แอบมาดักรอพบผู้ใหญ่ลีที่กองฟางเช่นเดียวกัน พอดีคืนนั้นฝนตกหนัก ไฟก็ดับ

ผู้ใหญ่ลีเดินมาพบมาลินีเสียก่อน จึงไปหลบฝนที่บ้านมาลินี พร้อมบอกความในใจกับมาลินี อีกทั้งยังหมั้นหมายมาลินีด้วยแหวนอีกหนึ่งวง  ผู้ใหญ่ลีสัญญาว่า หากบวชแล้วสึกออกมาเมื่อไหร่  จะแต่งงานกับมาลินีทันที

ทั้งประดิษฐ์และปทุมต่างรอมาลินีกับผู้ใหญ่ลี แต่ด้วยเหตุชุลมุนของฝนฟ้า ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าไปหลบฝนในกระท่อมอันมืดมิด ประดิษฐ์เข้าใจว่าปทุมเป็นมาลินีจึงปลุกปล้ำจนได้เป็นเจ้าของสมใจ

พอตื่นเช้ามาจึงได้รู้ว่าตนเข้าใจผิดแต่ก็ได้ปทุมเป็นเมียเสียแล้ว สุดท้ายผู้ใหญ่ลีก็เข้าพิธีอุปสมบทสร้างความปลื้มใจให้กับแม่ปุยเป็นอย่าง มาก ระหว่างที่บวชนั้น ประดิษฐ์แค้นใจจัดที่ต้องพลาดหวังจากมาลินี จึงแก้เผ็ดผู้ใหญ่ลีด้วยการพาฉลวย น้องสาวของผู้ใหญ่ลีอีกคน เข้ากรุงเทพฯ ไปถ่ายหนังเรทอาร์ พอดีมาลินีรู้ข่าวเสียก่อน จึงไปตามไปช่วยฉลวยได้ทัน  ผู้ใหญ่ลีเองก็มากับปื๊ด เพื่อมาช่วยฉลวยอีกแรงทั้งที่ยังห่มผ้าเหลืองอยู่ ครั้งนี้ผู้ใหญ่ลีซึ้งในน้ำใจของมาลินีมากขึ้นไปอีก พระผู้ใหญ่ลีให้ฉลวยกลับไปเรียนที่บ้านตัวเอง อย่ามาดิ้นรนเพื่อจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ จนเป็นเหยื่อให้คนชั่วอย่างประดิษฐ์หลอกอีก ฉลวยสำนึกผิด ยอมกลับบ้านแต่โดยดี

ปทุมมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก โหมดเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีเป็นพ่อของเด็กในท้อง จึงตั้งใจจะศึกพระให้ได้  แต่เมื่อความจริงเปิดเผยมาว่า ประดิษฐ์คือลูกเขยตัวจริงก็อับอายขายขี้หน้าหนัก เพราะรู้ดีว่าประดิษฐ์นั้นชั่วช้าขนาดไหน ประดิษฐ์กลายเป็นลูกเขยของผู้ใหญ่โหมดอย่างจำยอม ซ้ำยังถูกปทุมใช้เยี่ยงทาส แต่เขาก็ต้องจำยอมเพราะรู้ดีว่า หากไม่ยอมรับปทุมเป็นเมีย  ประดิษฐ์ต้องถูกโหมดเอาตายอย่างแน่นอน

ผู้ใหญ่ลีสึกออกมาในที่สุด เขาสบายใจมากที่เรื่องปทุม คลี่คลายไปด้วยดี ประดิษฐ์ก็รับกรรมที่ก่อไป ส่วนเฉลากับเหว่าก็ตั้งใจว่าเรียนจบเมื่อไหร่จะแต่งงานกันให้ได้ ส่วนฉลวยก็กลับมาเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัด ไม่ไปกรุงเทพฯอีกแล้ว ผู้ใหญ่ลีจึงขอมาลินีแต่งงานในที่สุด ความรักของทั้งสองกำลังเบิกบานในทุ่งนาของคุณนายวัน ที่มอบไว้เป็นสมบัติให้กับมาลินี  ผู้ใหญ่ลีกับนางมา จึงได้ครองคู่กันในที่สุด

รายชื่อนักแสดงละคร ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

1.ทฤษฎี สหวงษ์ – ผู้ใหญ่ลี (ลีนวัตร)
2.เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ – นางมา(มาลินี)
3.เกียรติกมล ล่าทา – ประดิษฐ์
4.วิรากานต์ เสณีตันติกุล – ปทุม
5.วรัญญา เจริญพรสิริสุข –  เฉลา
6.พิมพ์ชนก พลบูรณ์ – ฉลวย
7.สาวิตรี สามิภักดิ์ – ปุย
8.ศานติ สันติเวชกุล – ผู้ใหญ่โหมด
9.อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์ – วลัย
10.ดารณีนุช โพธิปิติ – พิน
11.บริบูรณ์ จันทร์เรือง – เหว่า
12.พิสมัย วิไลศักดิ์ – คุณนายวัน
13.ริชาร์ด เกียร์นี่ – ปื๊ด
14.ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์ – สมร

โบตั๋นกลีบสุดท้าย

โบตั๋นกลีบสุดท้าย ของ สำเภาทอง ได้รับรางวัลนวนิยายยอดเยี่ยมประจำปี ไม่มีใครรู้ว่าสำเภาทองเป็นใคร เพราะทุกครั้งเขาจะให้ ดนัย เด็กวัดที่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัว อาเชง เป็นคนนำต้นฉบับและรับเงินให้ทุกครั้ง สำเภาทองแท้จริงคือ ธีรเดช ( อาจู ) ลูกชายคนสุดท้ายของอาเชงกับ เหมยหลิง สองสามีภรรยาที่อพยพจากเมืองจีน มาขายข้าวมันไก่ในเมืองไทย จนส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนคือ ธีรชัย ( อาโจ ), ธีรชาติ ( อาจิว ) และธีรเดช ( อาจู ) จนจบปริญญา

อาเชงไม่ค่อยชอบอาจูมากนัก เพราะตอนเหมยหลิงท้องอาจู ครอบครัวเขาลำบากถึงกับอพยพหนีมาเมืองไทย อาจูจึงเป็นลูกชัง ขณะที่อาโจและอาจิวเป็นลูกรักที่ได้ทุกอย่างจากอาเชงตลอดเวลา และมักเรียกอาจูว่า ไอ้ตัวซวย ทำให้อาจูกดดันกับชีวิตเสมอมา อาโจเข้ามาทำงานที่บริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนอาจิวเข้าทำงานที่ธนาคาร โดยไม่บอกให้อาเชงรู้เพราะกลัวถูกแบ่งเงินเดือน อาจูระบายความในใจลงในบันทึกตามคำแนะนำของดนัย และให้อาจูเขียนเรื่องสั้นส่งนิตยสาร “ระเบียงสยาม”

งานเขียนของอา จูเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ เขาจึงกลายเป็นนักเขียนมืออาชีพในนามปากกา “สำเภาทอง” โดยปิดบังอาเชงและเหมยหลิงเอาไว้ อาโจแต่งงานกับ จรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ สร้างความช้ำใจให้อาเชงไม่น้อยแต่ไม่เคยบอกใคร อาจูรู้ว่าพ่อผิดหวังมากแต่ไม่สามารถปลอบใจได้ อาเชงมักใช้เวลาว่างอ่านนิตยสารระเบียงสยาม เพราะติดใจการเขียนนวนิยายของสำเภาทองมาก อาจูได้รับการทาบทามให้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับงิ้ว เขาไม่มีข้อมูลจึงไปสมัครที่คณะงิ้วฉางชิน

ที่เป็นแหล่งข้อมูลแต่ เกือบไม่ได้ทำงานในคณะเพราะ ตันหยง ลูกสาวคนเล็กของ อาฉาง และอาซิน ไม่เชื่อว่าอาจูด้อยการศึกษาและตกงาน อาจูเห็นว่าครอบครัวอาฉางมีแต่ลูกสาว แต่สามารถให้ความรักความอบอุ่นแกลูกๆ ได้ดี แตกต่างจากครอบครัวของเขาที่มีแต่ลูกชาย แต่กลับได้รับความรักไม่เท่ากัน อาจูจึงเอาเรื่องราวชีวิตของอาฉางและข้อมูลเกี่ยวกับงิ้วที่ได้จาก อาซุ่น คนสอนงิ้วของคณะเป็นผู้ให้ข้อมูล ดาหลา ลูกสาวคนโตของอาฉางแต่งงานกับ พงษ์เลิศทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง

ลูก ชายของ เจ้าสัวกำจร กับมาดามเหลียว จนมีลูก 2 คนคือ หยก กับหงส์ ปาหนัน ลูกสาวคนกลางเป็นนางเอกงิ้วที่ เสี่ยเดชา เจ้าของร้านทองจอมอันธพาล, อดิเทพ ผู้กำกับละครเวทีชื่อดัง และ แอนดี้ เพลย์บอยหนุ่มนักเรียนนอกรุมจีบ ตันหยงเป็นลูกสาวคนเล็กที่อยากเปิดอู่ซ่อมรถ มีนิสัยห้าว ชอบโต้เถียงกับอาฉางเป็นประจำ จนเธอคิดว่าพ่อไม่รักเหมือนลูกคนอื่น อาหลง เด็กกำพร้าที่อาฉางและอาซินเลี้ยงไว้เพราะอยากได้ลูกชาย เขาทำทุกอย่างในคณะที่เป็นการตอบแทนบุญคุณ

และแอบรักปาหนัน ข้อมูลทั้งหมดอาจูได้ฟังจากอาซุ่น จึงตั้งชื่อนวนิยายเรื่องใหม่ว่า “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” อาเชงทำงานหนักเพราะหวังเก็บเงินให้ลูกรักทั้ง 2 ได้สบาย จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคไต เขาไม่รู้เลยว่าเงินทุกบาทที่จ่ายไปนั้นเป็นเงินที่อาจูหามาจากงานเขียน หนังสือ อาเชงเชื่อว่าอาโจกับอาจิวต้องไปสอนพิเศษเพื่อหาเงินมารักษาตน อาจูกับเหมยหลิงปิดปากเงียบไม่ยอมบอกให้อาเชงรู้ เพราะกลัวว่าอาเชงจะไม่ยอมรักษาตัว ดนัยเห็นอาเชงอคติกับอาจูตลอดเวลา

จึง เอานิตยสารระเบียบสยามมาให้อ่าน อาเชงได้อ่านเรื่อง “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” เรื่องราวของครอบครัวจีนที่มีลูกๆ 3 คนมาอ่าน อาเชงอ่านแล้วอินไปกับเรื่องราว อาเชงรู้ว่าอาจูทำงานในสำนักพิมพ์นี้ จึงฝากอาจูไปชมสำเภาทอง อาจูตื้นตันใจมากที่พ่อกล่าวชมเขาเป็นครั้งแรก แม้พ่อจะไม่รู้ว่าเขาคือสำเภาทองก็ตามที งานแสดงงิ้วเริ่มซบเซา อาฉางไม่อยากให้ศิลปะงิ้วหายไป จึงปรับปรุงการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ โดยกู้เงินจากเสี่ยเดชามาใช้ เสี่ยเดชาเป็นคนเจ้าเล่ห์และชอบปาหนันอยู่

เขา จึงยื่นข้อเสนอว่าหากอาฉางหาเงินมาใช้หนี้ไม่ทันกำหนด จะต้องยกปาหนันให้ตนอาฉางยอมตกลง และพยายามทำให้การแสดงมีคนเข้าชมมากๆ เมื่อเสี่ยเดชาเห็นว่าอาฉางจะหาเงินมาใช้หนี้ตนได้ จึงส่งลูกน้องมากลั่นแกล้งจนทำให้โรงงิ้วไฟไหม้ การแสดงต้องยุติลง อาจูยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการให้ไปแสดงที่โรงหนัง และเขาเป็นคนช่วยเขียนบทการแสดง ทำให้ครอบครัวอาฉางพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ตันหยงทีแรกตั้งตนอคติกับอาจู คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง

เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลงและ คิดจะกระชากหน้ากากเขาตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นความดีของอาจูที่คอยช่วยเหลือครอบครัว ความรู้สึกเธอจึงเปลี่ยนไปและโอนเอนมาทางแอบชอบ ขณะที่ความรักของทั้งสองกำลังก่อตัวขึ้น ความลับที่อาจูปิดบังไว้มาตลอดก็ถูกเปิดโปงขึ้น เมื่อตันหยงจับได้ว่าอาจูเป็นนักเขียนนวนิยายในนามสำเภาทอง ทุกคนผิดหวังในตัวเขามากจึงไล่อาจูออกไปจากคณะ อาจูแอบไปดูคณะงิ้วซ้อมการแสดงที่โรงหนัง ช่วงนั้นคณะกำลังมีปัญหาเพราะตันหยงหายตัวไป

อาฉางก็ป่วยหนักจนเข้า โรงพยาบาล อาจูเห็นว่าพ่อลูกทะเลาะกันจึงหาเหตุให้ตันหยงไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล จนทำให้พ่อลูกสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ในวันเกิดอาหลงเขานัดปาหนันไปกินข้าว แต่ปาหนันผิดนัดปล่อยให้อาหลงนั่งอยู่ที่ร้านเพียงลำพัง จึงถูกเสี่ยเดชาและลูกน้องรุมทำร้ายจนขาหัก ไม่สามารถแสดงงิ้วได้อีก อาฉางจึงต้องตามตัวอาจูมาแสดงแทน ดาหลาจับได้ว่าพงษ์เลิศเป็นเกย์จึงขอหย่ากับเขา โดยนำลูกทั้งสองไปเลี้ยงเอง เจ้าสัวกำจรผิดหวังในตัวลูกชายมาก

จึงไล่ออกจากบ้าน พงษ์เลิศตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกากับคู่ขา อาเชงรู้ความจริงว่าอาจูซื้อบ้านสวนเอาไว้ แทนที่จะดีใจกลับโกรธจัดเพราะเข้าใจว่าลูกชายไปทำงานผิดกฎหมาย จนดนัยต้องโพล่งความจริงออกมาว่า อาจูใช้เงินจากงานเขียนนวนิยายซื้อบ้านหลังนั้นไว้ และเหมยหลิงยังบอกอีกว่าอาจูเป็นคนออกค่ารักษาตัวให้เขา ไม่ใช่อาจิวและอาโจอย่างที่อาเชงเข้าใจ อาเชงฟังแล้วสะท้อนใจอย่างแรง เมื่อรู้ว่าลูกชังไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย ผิดกับลูกรักทั้งสองที่ไม่เคยมาเหลียวแล

อาเชงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน แต่ก็แอบไปดูการแสดงงิ้วของอาจูที่โรงหนัง และในที่สุดอาจูกับอาเชงก็ได้ปรับความเข้าใจกัน ปาหนันรู้ว่าอาจูมีใจให้ตันหยง จึงร่วมมือกับอาหลงหาทางให้คนทั้งสองได้สารภาพรักกัน อาจูถือโอกาสบอกรักตันหยงขณะที่แสดงงิ้วบนเวที สร้างความหวั่นไหวให้เธอไม่น้อย อาจิวถูกจับได้ว่ายักยอกเงินธนาคารจึงถูกจับเข้าคุก ให้อาโจมาประกันตัวแต่อาโจปฏิเสธเพราะกลัวพาดพิงมาถึงตน อาจิวโกรธพี่ชายมากจึงเขียนจดหมายไปบอกจรัสศรีว่าอาโจมีเมียน้อย

จรัส ศรีพาลูกน้องไปยิงอาโจจนกลายเป็นอัมพาต อาเชงสงสารลูกชายจับใจจึงตัวมาดูแลที่บ้าน ตันหยงเรียนจบวิชาช่างมาแล้ว อาฉางจึงให้ทุนเปิดอู่ซ่อมรถตามความฝัน และให้ดูแลคิวการแสดงของคณะงิ้วฉางซิน ที่กำลังก้าวหน้าไปด้วยดี “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” ได้รับรางวัลงานเขียนนวนิยายดีเด่นประจำปี อาจูขึ้นไปรับรางวัลนี้ด้วยความภาคภูมิใจ ไม่นานนักเขาก็เริ่มงานเขียนชิ้นใหม่ในเรื่อง “คือวันที่ฉันรอ” โดยสำเภาทอง และมีตันหยงคอยให้กำลังใจอยู่ข้างกาย

รายชื่อนักแสดง โบตั๋นกลีบสุดท้าย

อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น ธีรเดช ( อาจู )
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง
เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลง
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ แสดงเป็น ปาหนัน
วริษฐ์ ทิพโกมุท แสดงเป็น พงษ์เลิศ
เพชรลดา เทียมเพชร แสดงเป็น ดาหลา
นิรุตติ์ ศิริจรรยา แสดงเป็น อาเชง
เศรษฐา ศิระฉายา แสดงเป็น อาฉาง
ทาริกา ธิดาทิพย์ แสดงเป็น อาซิน

ในฝัน

เจ้าชายพิรียพงศ์ รัชทายาทแห่งแคว้นพรหมมินทร์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาสำหรับกษัตริย์กับ เจ้าชายโอริสสาวัฒนา หรืออีกพระนามหนึ่งว่า เจ้าชายเสนาบดี ณ แคว้นกุสารัฐ ที่นั่นเจ้าชายพิรียพงศ์ทรงทราบว่า เจ้าหลวงกุสารัฐ ซึ่งทรงพระชราภาพ มีพระธิดาองค์เดียวซึ่งทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากคือ เจ้าหญิงรัชทายาท ผู้ซึ่งจะขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระราชบิดา เจ้าหญิงเป็นที่หมายปองของเจ้าชายที่เป็นพระญาติพระวงศ์ โดยเฉพาะ เจ้าชายชัยฉัตร ซึ่งจบการทหาร และเจ้าชายบุษกร ผู้ซึ่งศึกษา ณ ประเทศฝรั่งเศส แต่เจ้าหญิงรัชทายาทไม่เคยมีพระเนตรประทานใครอื่นเลย นอกจากเจ้าโอริสสาวัฒนาแต่พระองค์เดียว แม้กระนั้นเจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ไม่เคยแสดงความสนพระทัยในองค์เจ้าหญิง รัชทายาทแม้แต่น้อย

เพราะพระองค์สนพระทัยอยู่แต่ภาระและหน้าที่ใน ฐานะเสนาบดีแห่งสมาพันธรัฐ ผู้อยู่เบื้องหลังการปกครองแคว้นกุสารัฐ ซึ่งกำลังระส่ำระสายด้วยการแก่งแย่งอำนาจ โดยฝ่ายของเจ้าชายชัยฉัตรและเจ้าชายบุษกร รวมทั้งขุนนางผู้ใหญ่ที่คิดกบฏ รวมถึงเทวีศุลีพร ที่ราชสำนักกุสารัฐนี่เอง เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงเป็นทั้งลูกศิษย์และราชเลขานุการส่วนพระองค์ในเจ้าชายโอ ริสสาวัฒนา ทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงเรียนรู้ถึงพระปรีชาสามารถอันล้ำลึกในการปกครอง ทั้งทางด้านการเมือง การทหาร และการทูตในองค์เจ้าชายโอริสสาวัฒนา ทั้งยังทรงเห็นว่าทรงอุทิศพระวรกายและพระหฤทัยให้แก่หน้าที่เจ้าชายเสนาบดี อย่างเต็มพระกำลัง ทรงเปี่ยมได้ด้วยคุณธรรมและสถิตอยู่ในความยุติธรรม ทำให้ทรงเป็นที่รักและเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง ต่อทุกคนที่ประพฤติอยู่ในทำนองครองธรรม

และเป็นที่เกลียดชังแก่ทุกคนที่ไม่หวังดีต่อราชบัลลังก์ โดยเฉพาะเจ้าชายบุษกรผู้ทรงวางแผนล้มราชบัลลังก์ร่วมกับ นายพลตรีสุรีเทพ และเทวีศุลีพร สาวผู้มักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาต้องวางแผนรักษาราชบัลลังก์อย่างแยบยล ในช่วงเวลานี้นี่เองที่เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงทราบว่า เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงเป็นสหายวัยเยาว์กับ เจ้าหญิงพรรณพิ ลาศ พระพี่นางของพระองค์ ทั้งคู่ได้ทรงเขียนจดหมายโต้ตอบสื่อสารกันเป็นนิตย์ไม่ขาดระยะ และมักทรงปรึกษาหารือส่วนพระองค์และราชการอยู่เสมอ จนมิตรภาพระหว่างทั้งสองพระองค์กลายเป็นความรักซึ่งฝังรากลึกในพระราชหฤทัย ของสองพระองค์ เจ้าหญิงรัชทายาทก็ได้เสด็จมาปรึกษากับเจ้าชายพิรียพงศ์หลายครั้ง ในความที่ทรงน้อยพระทัยในเจ้าชายโอริสสาวัฒนา เลยทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงสงสารและเห็นพระทัยเจ้าหญิงรัชทายาท จนเกิดเป็นความรักโดยไม่รู้พระองค์ เมื่อมีการประชุมสภาเพื่อเลือกราชทูตไปทำสันถวไมตรีกับประเทศยุโรป

เจ้า ชายโอริสสาวัฒนาทรงแสดงท่าทีอย่างชัดเจนในการสนับสนุนเจ้าชายชัยฉัตร เพราะทรงมีคุณลักษณะเหมาะสมกว่าเจ้าชายองค์ใด จนในที่ประชุมเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ ทำให้เจ้าชายบุษกรผู้หวังในตำแหน่งนั้นไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเจ้าชายชัยฉัตรจึงหันมาสวามิภักดิ์ต่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาอย่างไม่แคลง พระทัยอีกต่อไป สร้างความแค้นใจต่อเจ้าชายบุษกรมากยิ่งขึ้น ในระหว่างนั้นเองที่แคว้นพรหมมินทร์ เจ้าชายโสภณา แห่งแคว้นสาละวัณได้เสด็จประพาสแคว้นพรหมมินทร์ เจ้าหญิงพรรณพิลาศได้ทรงอักษรมาถวายเจ้าชายโอริสสาวัฒนาว่า เจ้าชายโสภณาทรงเป็นเจ้าชายรูปงาม แถมยังโปรดปรานศิลปะเช่นเดียวกับเจ้าหญิง และเจ้าชายยังสนพระทัยเจ้าหญิงอย่างสังเกตได้ชัด เหตุการณ์นี้จึงทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงหนักพระทัย ด้วยเกรงว่าความรักจะหลุดลอย

ต่อมาเจ้าหลวงกุสารัฐก็ทรงประชวร มีรับสั่งให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงรัชทายาท แต่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงปฏิเสธและแสดงความเห็นว่า เจ้าชายพิรียพงศ์มีคุณสมบัตินานัปการคู่ควรกับเจ้าหญิงรัชทายาท ซึ่งเจ้าหลวงกุสารัฐก็ต้องยินยอมตามความประสงค์นั้น สร้างความเสียพระทัยต่อเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นอย่างยิ่ง เจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ทรงทูลลาเสด็จไปยังแคว้นพรหมมินทร์เป็นการด่วน เพื่อกีดกันเจ้าหญิงพรรณพิลาสกับเจ้าชายโสภณา เจ้าชายพิรียพงศ์จึงมีโอกาสใกล้ชิดเจ้าหญิงรัชทายาทและเริ่มรู้ใจกัน ที่แคว้นพรหมมินทร์ ท่ามกลางงานเลี้ยงอำลาเจ้าชายโสภณา ข้าหลวงมาทูลเจ้าหญิงพรรณพิลาศว่ามีผู้มาขอเฝ้า ในคืนนั้นเองพระสหายที่รักกันยิ่งก็ได้พบกัน หลังจากทรงจากกันมานานถึงสิบกว่าปี ทั้งสองพระองค์รำลึกถึงวันวานจนสัมพันธภาพลึกซึ้งและหวานชื่นเกินกว่าคำ บรรยาย

รุ่ง ขึ้นก่อนเจ้าชายโสภณาจะเสด็จกลับทรงขอเจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงเป็นราชินีแห่ง แคว้นสาละวัน แต่เจ้าหญิงทรงปฏิเสธได้อย่างชาญฉลาด เจ้าชายโสภณาเสด็จจากไปด้วยความเสียพระทัย ที่แคว้นพรหมมินทร์เจ้าชายโอริสสาวัฒนาได้เข้าเฝ้าเจ้าหลวงพรหมมินทร์ ทูลข่าวเรื่องงานวิวาห์ของเจ้าชายพิรียพงศ์ และทูลขออภิเษกกับเจ้าหญิงพรรณพิลาศ ซึ่งเจ้าหลวงทรงตอบรับด้วยดี เมื่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาเสด็จกลับกุสารัฐ มรุต ราชองครักษ์ก็ทูลว่ามีการก่อกบฏซ่องสุมกันอยู่ในชนบท เจ้าชายโอริสสาวัฒนาจึงขอเข้าเฝ้าเจ้าหลวงกุสารัฐขอพระราชทานอำนาจให้เจ้า หญิงรัชทายาททรงประกาศกฎอัยการศึกปราบปรามกบฏ ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าชายบุษกรและพรรคพวก แล้วเจ้าชายโอริสสาวัฒนา, เจ้าชายพิรียพงศ์ และมรุตก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านที่มีสายรายงานว่าเป็นแหล่งซ่องสุม

มี การต่อสู้เกิดขึ้นจนมรุตได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าชายบุษกรและพรรคพวกหนีไปได้ และตั้งพระทัยที่จะอาฆาตเจ้าชายโอริสสาวัฒนาถึงชีวิต เจ้าชายชัยฉัตรซึ่งเสด็จยุโรปทรงทราบเรื่องกบฏ ก็รีบกลับกุสารัฐและพร้อมที่จะเป็นกำลังปราบปรามกบฏในครั้งนี้ ในฐานะที่ทรงเป็นชายชาติทหาร แล้ววันอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ก็มาถึง เจ้าหลวงแห่งพรหมมินทร์และพระมเหสีเสด็จมาร่วมงาน เพื่อทรงปรึกษาเรื่องวันอภิเษกของเจ้าชายโอริสสาวัฒนาและเจ้าหญิงพรรณพิลา ศต่อสภาสมาพันธรัฐ ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นชอบให้จัดงานขึ้นต่อจากงานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทกับ เจ้าชายพิรียพงศ์ งานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ในครั้งนี้จัดให้มีการ เฉลิมฉลองอย่างมโหฬารรวมทั้งงานซ้อมรบ เจ้าหญิงรัชทายาททรงทำใจเรียนรู้ที่จะรักเจ้าชายพิรียพงศ์

และเจ้า ชายก็ทรงรักเจ้าหญิงแบบพระชายาแทนที่พระองค์จะทรงรักแบบพระสหายเช่นเดิม ในงานซ้อมรบที่จัดขึ้นในวันอภิเษกนั่นเองขณะที่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงม้าไป เก็บดอกหยาดฝน อันเป็นดอกไม้ประจำพระองค์เจ้าหญิงพรรณพิลาศ เจ้าชายบุษกรก็ใช้พระแสงปืนสังหารเจ้าชายโอริสสาวัฒนาสิ้นพระชนม์ลงต่อหน้า เจ้าชายพิรียพงศ์และมรุต เจ้าชายชัยฉัตรตามหาตัวคนร้ายอย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดก็สังหารเจ้าชายบุษกรอย่างเหี้ยมโหดสมกับบาปกรรมที่ทรงก่อไว้ เจ้าหลวง พรหมมินทร์เสด็จกลับแคว้นและนำข่าวร้ายมาบอกแก่พระธิดา เจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงโศกเศร้าอาดูรสุดจะพรรณนา แต่แล้วก็ทรงพบว่า “สิ่งต่างๆ ที่เราเห็นอยู่นั้นไม่คงทนแน่นอน สิ่งที่เราประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอลืมตาขึ้นก็หายไปหมด เหมือนเป็นในฝันนั่นเอง”

รายชื่อนักแสดงละคร ในฝัน

ธีรภัทร์ สัจจกุล แสดงเป็น เจ้าชายโอริสสาวัฒนา
ซาร่า มาลากุล เลน แสดงเป็น เจ้าหญิงพรรณพิลาศ
อนันดา เอเวอริ่งแฮม แสดงเป็น เจ้าชายพิรียพงศ์
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ แสดงเป็น เจ้าหญิงรัชทายาท
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล แสดงเป็น เจ้าชายโสภณา
โอลิเวอร์ พูพาร์ต แสดงเป็น เจ้าชายชัยฉัตร
อรรถชัย อนันตเมฆ แสดงเป็น เจ้าชายบุษกร
เบญจสิริ วัฒนา แสดงเป็น เทวีศุลีพร
ชลิต เฟื่องอารมณ์ แสดงเป็น เจ้าหลวงกุสารัฐ

นิมิตมาร

ภาขวัญ (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) หญิงสาวสวยเพิ่งเรียนจบและเข้ารับราชการในกระทรวงกลางใจเมือง ภาขวัญจึงต้องย้ายหอพักเข้ามาอยู่ในเมือง ภาขวัญชวน เต็มใจ (ธนิดา กาญจนวัฒน์) เพื่อนสนิทตระเวนหาหอพักจนมาสะดุดตากับ นทีคอร์ท อพาร์ทเม้นท์หรู ซึ่งมี นทีทอง (จารุณี สุขสวัสดิ์) สาวใหญ่เป็นเจ้าของ เต็มใจพยายามค้านเพราะอพาร์ทเม้นท์ดูเงียบเชียบแถมเจ้าของ ดูลึกลับ แต่ภาขวัญไม่ใส่ใจ ภาขวัญเคยมีแฟนไฮโซชื่อ คมกริช (แซม โชติบัณฑ์) แต่คมกริชหันไปคบกับ ลิสา คุณหนูไฮโซ ทำให้ ภาขวัญอกหัก หลังจากย้ายเข้ามาอยู่ที่นทีคอร์ท ภาขวัญเริ่มรู้สึกถึงความแปลกๆ ของสถานที่แห่งนี้ คนเช่าอพาร์ทเม้นท์มีเพียงสองคนคือ ภาขวัญและ ภณา (วิทยา วสุไกรไพศาล) เป็นตากล้องให้ทีมงานสารคดี ภณาเป็นชายหนุ่มที่มีสัมผัสที่หกและมักรับรู้ได้ถึงลางร้าย

ภณา กับเต็มใจเป็นคนอัธยาศัยดี ทำให้รู้เรื่องราวของครอบครัวนทีทองและบ้านโบราณจากชาวบ้านแถบนั้น คือ ตาภพ คุณป้าประจวบศรี น้องกุ๊กไก่ เมื่อร้อยกว่าปีก่อนมีพระยาเป็นเจ้าของเมื่อตายก็ถูกปล่อยร้าง ธำรง พ่อของนทีทองมาซื้อเอาไว้เมื่อสามสิบปีก่อน นารถฤดี (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) ซึ่งเป็นแม่ของนทีทองจู่ๆ ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ นทีทองเสียใจมากจนทำให้สติไม่ใคร่อยู่กับตัว และเมื่อธำรงตาย นทีทองก็สร้างหอพักสตรีบริเวณบ้านและมีการตายอย่างประหลาดเกิดขึ้นในจำนวน ผู้หญิงที่ตายมี เพลงพิณ กับ วันงาม รวมอยู่ด้วย เพลงพิณสนิทกับกุ๊กไก่มากและเขียนจดหมายเล่าว่าตนโดนวิญญาณร้ายจะเอาชีวิต ก่อนจะป่วยตาย ส่วนวันงามเล่าให้ภณาฟังว่าตนโดนวิญญาณร้ายรังควานคงหนีไม่รอดจึงตัดสินใจ กระโดดตึก ภณาจึงมาขอเช่าห้องพักที่นทีคอร์ทเพื่อสืบหาความจริงที่เกิดขึ้น

อยู่ที่นี่ไม่นานภาขวัญก็เริ่มเริ่มฝันแปลกๆ หล่อนพบกับ ทวารัศมิ์ (กฤษฎา พรเวโรจน์) ชายหนุ่มรูปงามราวท่านชายสมัยโบราณชักชวนเธอไปงานเลี้ยงที่คฤหาสน์ของเขา ด้านหลังนทีคอร์ทแห่งนี้ ทั้งที่ยามกลางวันนั้นมองเห็นเป็นแค่บ้านร้างอายุร้อยกว่าปีที่ทรุดโทรมเท่า นั้น และเริ่มฝันบ่อยขึ้นทวรารัศมิ์นั้นรูปงามอ่อนหวานโรแมนติก จนภาขวัญล่องลอยราวกับเป็นซินเดอเรลล่า ทวารัศมิ์ชักชวนให้ภาขวัญมาอยู่กับเขาในคฤหาสน์หลังนี้ ภาขวัญฝันอยู่บ่อยครั้งจนเริ่มแยกไม่ออกว่าเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน ภาขวัญพบว่าตัวเองเดินละเมอไปหลับอยู่หน้าบ้านนั้น ภาขวัญก็เริ่มวิตกกังวลขึ้นเรื่อยๆ

ทวารัศมิ์ขอภาขวัญแต่งงาน แต่ภาขวัญปฏิเสธเพราะเป็นห่วงพ่อกับแม่และ ภากร (ฐากูร การทิพย์) น้องชาย ด้านคมกริชบอกเลิกกับลิสาและกลับมาขอคืนดีกับภาขวัญ เพื่อเป็นการเอาคืนที่เคยทิ้งตนไป ภาขวัญเลยตั้งใจจะควงคมกริชให้คนรู้แล้วก็จะทิ้งคมกริชไปบ้าง ทำให้ทวารัศมิ์โกรธจึงเนรมิตตะขาบไปกัด ภาขวัญเริ่มรู้สึกว่าทวารัศมิ์ไม่ใช่คน จึงเล่าให้เต็มใจและภณาฟัง เต็มใจแนะนำให้ ภาขวัญย้ายออกจากนทีคอร์ท ภาขวัญทำตามคำแนะนำของเต็มใจ แต่ดูเหมือนจะช้าไปเสียแล้ว

อาถรรพณ์ ที่นทีคอร์ตเริ่มต้นขึ้นแล้ว เต็มใจซึ่งกลับมาเก็บเสื้อผ้าให้ภาขวัญกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ หลังเห็นภาขวัญเดินเข้าไปในบ้านโบราณ พอเต็มใจจึงเดินตามเข้าไปจึงถูกทวารัศมิ์ขังอยู่ห้องใต้หลังคา วิญญาณของทวารัศมิ์ก็เฝ้าติดตามภาขวัญไปทุกที่เพื่อดึงเธอกลับมาอยู่ร่วมกับ เขาให้จงได้ ภณาและภาขวัญเชื่อมั่นว่าเต็มใจถูกทวารัศมิ์ลักพาตัวไปจึงพากันค้นคฤหาสน์ ร้างแต่ก็หาเต็มใจไม่พบ

หลังจากนั้นไม่นาน ยายอวน (น้ำเงิน บุญหนัก) พี่เลี้ยงของนทีทองเสียชีวิต ภาขวัญคิดว่าวิญญาณของยายอวนคอยตามหลอกหลอน แต่ภณารู้ว่ายายอวนต้องการจะสื่อสารข้อความบางอย่างกับภาขวัญ จึงพยายามหาหนทางช่วยจนเมื่อค้นเจอสมุดบันทึกของนารถฤดี จึงพบที่มาของเรื่องราวแห่งความเร้นลับที่เคยเกิดขึ้นในอดีตว่า ทวารัศมิ์เป็นลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าคุณแต่เกิดมาพิการหน้าตาอัปลักษณ์ จึงทำให้ผู้หญิงทุกคนรังเกียจ ทวารัศมิ์เสียชีวิตไปแล้ว แต่วิญญาณยังคงอยู่จึงคิดแค้นหญิงสาวทุกคนที่รังเกียจหน้าตาของเขา จึงให้นทีทองหลอกหญิงสาวมาฆ่าและกักวิญญาณไว้ที่ห้องใต้หลังคาในบ้านโบราณ แห่งนี้ โดยบอกนทีทองว่าถ้าทำได้จะปลดปล่อยวิญญาณของนารถฤดี พอนทีทองทราบความจริงจึงเผาบ้านหลังนี้เพื่อแก้แค้นทวารัศมิ์ทันที ภณาและภาขวัญติดอยู่ข้างใน วิญญาณทวารัศมิ์แผลงฤทธิ์ทำให้ทุกคนไม่เห็นทางออก แต่วิญญาณของเต็มใจมาช่วยภาขวัญและภณาไว้และเสียชีวิตในบ้านหลังนี้ เพื่อช่วยชีวิตคนที่เธอรัก

ปมความลับในอดีต ทั้งความรัก ความฝัน และการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นที่นทีคอร์ตแห่งนี้ จะจบลงเช่นไร , ความรักของภณาและภาขวัญจะสมหวังหรือไม่, ใครจะเป็นผู้ยุติความแค้นของทวารัศมิ์ ติดตามชมบทสรุปของละครลึกลับ “นิมิตมาร

น้ำพุ

น้ำพุ เด็กที่เกิดในครอบครัวที่แตกแยก ทั้งพ่อและแม่ก็เป็น ศิลปินทั้งคู่ เมื่อน้ำพุโตขึ้นจึงเดินทางผิด คิดลอง สิ่งเสพติด ยิ่งเมื่อแม่มีสามีคนใหม่จึงเป็นตัวเร่งให้เขาเริ่มแปลกแยกจากครอบครัว บวกกับการที่เขาเลือกคบเพื่อนที่เสพย์ยา จนติดยาหนัก แก้วเพื่อนสนิทของน้ำพุทราบ ทำให้น้ำพุเสียใจมาก จึงตัดสินใจบอกแม่และครอบครัว เดินทางไปวัดถ้ำกระบอกกับเพื่อนเพื่อเลิกยา แต่เมื่อเขากลับมาบ้านอีกรั้ง เขากลับไม่ได้รับการต้อนรับอย่างดีเท่าที่เขาคาดหวัง จึงเกิดความรู้สึกน้อยใจตามประสาวัยรุ่น จึงฉีดเฮโรอีนเกินขนาดจึงถึงขั้นเสียชีวิต

น้ำตาลไหม้

“ปวัน” (อธิชาติ ชุมนานนท์) ได้รู้จักกับสาธร (มนตรี เจนอักษร) หนุ่มใหญ่ที่ดูจะเป็นคนกว้างขวางในสถานที่เที่ยวกลางคืน และสาธรก็ได้ช่วยปวันไว้จากการมีเรื่องกับฝรั่งที่เมาเหล้า ปวันรู้สึกถูกชะตาจึงชวนไปดื่มต่อ สาธรเมามาก ปวันจึงพาไปพักที่บ้านตัวเอง และพาไปส่งบ้านในตอนเช้าเขาจึงรู้ว่าสาธรเป็นข้าราชการที่มีตำแหน่งสูงและท่าทางภูมิฐานผิดจากที่เห็นเมื่อคืน
“พาณี” (ดวงใจ หทัยกาญจน์) เป็นน้องสาวของ “พิมลา” (อรสา พรหมประทาน) แม่ของปวัน ไม่ค่อยชอบใจสาธร พาณี เป็นคนเลี้ยงดูปวันมาตั้งแต่คลอดเพราะพิมลาร่างกายอ่อนแอ พาณีหลงรัก “พนานต์” (กษมา นิสสัยพันธุ์) และได้เสียกันโดยที่พิมลาก็รู้เรื่อง หลังจากที่พิมลาตายพาณีก็อยู่กับพนานต์ จนกระทั่งเขามีผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆและสามีของหญิงที่ไปติดพันยิงตาย ปวันถูกส่งไปเรียนเมืองนอกเมื่อกลับมาจึงสนิทกับพาณีมาก ปวันรู้สึกถูกใจ “ธุมา” (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) สาวสวยนักออกแบบของบริษัท เขาสนใจเธอในขณะที่เธอก็พอใจเขาเช่นกัน แต่ปวันกลับไปเช็คประวัติของธุมาจึงรู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว โดยที่สามีกำลังทำปริญญาเอกอยู่ที่อเมริกา ปวันตัดสินใจถอยออกห่างจากธุมา ส่วน “แจ้งหล้า” (พศิน เรืองวุฒิ) ทนายความเพื่อนของปวันที่ขับรถชนรถของธุมาก็ถูกใจเธอแต่เมื่อรู้ว่าเธอแต่งงานแล้วก็ตัดใจ

แต่แล้วปวันก็ตัดใจจากธุมาไม่ได้หลังจากที่เขา กลับมาจากฮ่องกง จึงไปหาธุมาที่บ้านสวนและได้รู้จักกับพ่อแม่ของธุมา เธอเป็นลูกสาวคนเดียวที่มีพี่ชายเป็นลูกติดพ่อ 3 คน คือ ตั้ว (ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) แต (นรินทร์ วุฒินันท์สันติกุล) และ ติก (กรุณพล เทียนสุวรรณ) แต่ทั้งหมดก็สนิทและรักใคร่กันมา จนสนิทกับเพื่อนๆของพี่ชายด้วย โดยเฉพาะ “ ตาว” (วริษฐ์ ทิพโกมุท) เพื่อนของแต ธุมาแต่งงานกับตาวเพื่อเอาเงินสินสอดไปเป็นค่าไถ่จำนองสวนตอนที่ตั้วขับรถชน รถรับส่งนักเรียน ซึ่งความจริงแล้วตาวเป็นเกย์และที่แต่งงานกับธุมาก็เพื่อจะกลับมาเป็นผู้ชายแต่ไม่สำเร็จ ธุมาและปวันไปดูงานที่ฮ่องกงและรู้ใจตัวเองว่ารักเธอและเธอก็รักเขาทั้งสองได้เสียกันโดย ที่ปวันเป็นผู้ชายคนแรกของธุมา เพราะตาวนั้นผูกพันกับเธอแค่ทางกฎหมาย เขาแสดงออกเป็นพี่ชายที่น่านับถือและไม่เคยแตะต้องตัวเธอ เมื่อปวันพูดเรื่องตาวและการใช้ชีวิตคู่ก็จะถูกธุมาตัดบท เธอเองเริ่มรู้สึกผูกพันกับปวันมาขึ้นทุกทีและต่างประทับใจซึ่งกันและกัน

ปวัน ไปเจอแจ้งหล้าได้รู้ว่า “คุณหญิงมาลา” (พิสมัย วิไลศักดิ์) มารดาของตาวร่ำรวยมาก ทำให้ทั้งคู่สงสัยในความรักที่ธุมามีต่อตะวัน ต่อมาปวันนัดพบกับสาธรเพื่อไปดื่มเหล้า สาธรได้พา “ฉัตราภรณ์” หรือ เนียน (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ลูกสาวคนสวยของตัวเองที่เพิ่งกลับจากสวิสเซอร์แลนด์มาด้วย ด้วยท่าทีเรียบร้อยและบริสุทธิ์อ่อนต่อโลกทำให้ปวันเอ็นดูไม่น้อยเมื่อสาธร ฝากฝังเนียนให้ลองฝึกงานที่บริษัทเขาจึงไม่ปฏิเสธ จริงๆแล้วเนียนไม่ใช่เด็กเรียบร้อยการไปอยู่ต่างประเทศก็ไม่ได้ไปเรียนแต่ติดเที่ยวเตร่ ซึ่งสาธรไม่เคยรู้เรื่องของลูกสาว เมื่อเธอเห็นธุมาและปวันรักกันมากจึงทนไม่ได้ และมุ่งมั่นที่จะแย่งปวันมา ครอบครอง ส่วนปวันรักธุมามากขึ้นจนอยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ธุมาขอเวลาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยที่เธอหวังว่าตาวจะหย่าให้โดยดี แต่เรื่องกลับยากกว่าที่คิดเพราะตาวกลับมาพร้อมกับ “แอ” (โชคชัย บุญวรเมธี) ชายคนรัก และต้องการให้ธุมามีลูกเพื่อหวังสมบัติของคุณหญิงมาลา

ด้าน เนียนก็ได้บริหารเสน่ห์กับแจ้งหล้าด้วย ธุมาอ่อนเพลียจึงไปหาหมอและพบว่าตัวเองท้อง ตาวและแอยังเสนอให้เธอมีลูกอยู่เสมอเพราะต้องการเอาสมบัติของแม่มาแบ่งไปลง ทุนทำธุรกิจโดยบอกว่าจะแบ่งให้ธุมาด้วย ตาวมาพบปวันเพื่อให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับธุมาเนียนฝึกงานในบริษัทของปวันโดยเปลี่ยนแผนกไปเรื่อยๆจึงไม่ต้องรับผิดชอบมาก จนมาถึงส่วนบริหารที่เธอมุ่งมั่นจะได้ใกล้ชิดกับปวัน และ “พร้อมทรัพย์” (ปัทมา ปานทอง) ซึ่งพอใจธุมาอยู่แต่เนียนก็วางแผนจนชนะใจได้ จากนั้นเนียนก็ยังวางแผนจนชนะใจพาณีอีกด้วย ปวันและธุมาเข้าใจผิดกันเธอตัดสินใจลาออกและเดินทางไปอยู่กับติกที่ฮาวาย ปวันเดินทางไปที่หาดใหญ่เพื่อเปิดสาขาของบริษัทเนียนรู้เข้าจึงตามไป ปวันเมาหลับไปแต่เนียนก็สร้างสถานการณ์ว่าเขาขืนใจเธอและต้องรับผิดชอบ สาธรไม่ยอมและบอกว่าเนียนท้องให้ปวันรับผิดชอบ ปวันจำต้องแต่งงานกับเนียน ส่วนธุมาเมื่ออยู่ที่ฮาวายก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ติกฟังและคิดจะทำแท้งแต่ เธอก็คิดได้และเก็บลูกในท้องไว้ ต่อมาทั้งคู่ได้เดินทางกลับเมืองไทย ติกนัดพบตาวเพื่อสะสางเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ตาวนึกถึงความหลังที่ลึกซึ้งต่อกัน และเกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างติกกับแอ

ตาวบอกติกว่าความสัมพันธ์ ระหว่างเขากับธุมาเป็นเพียงพี่ชายกับน้องสาว และตาวก็ดีใจที่ธุมาท้องเพื่อจะได้เงินจากแม่แต่เธอขอหย่าแทนโดยไม่ขอ ทรัพย์สินใดๆเลย ส่วนชีวิตคู่ของเนียนและปวันก้เป็นไปอย่างระหองระแหง เพราะเนียนทำตัวฟุ่มเฟือยและเอาเรื่องที่ตัวเองท้องเป็นข้ออ้างส่วนพาณีก็ ให้ท้ายร่ำไป แจ้งหล้าสงสัยพฤติกรรมของเนียนจึงแอบสืบอย่างเงียบๆ ปวันได้เจอกับ “วิมาดา” (ภารดี อยู่ผาสุข) ซึ่งมีนิสัยคล้ายธุมาทำให้เขากลับมีชีวิตชีวาขึ้น พาณีมาบอกปวันว่าเนียนจะฆ่าตัวตาย ปวันกลับมาง้อเนียน ส่วนธุมาก็มาเริ่มงานใหม่ที่บริษัทตกแต่งภายในของรุ่นพี่ และต่อมาเธอก็เจ็บท้องในขณะที่ทุกคนไม่อยู่บ้านจึงตัดสินใจให้โรงพยาบาลมา รับทำให้แจ้งหล้าได้พบเธอ ปวันขอหย่ากับเนียนแต่เธอมีเงื่อนไขเป็นทรัพย์สินมากมายรวมถึงสิทธิ์ในตัว ลูก แต่แล้วแจ้งหล้าก็สืบจนรู้ความจริง ตาวเริ่มเบื่อแอแต่แอขู่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ให้คุณหญิงมาลาฟัง ตาวจึงตัดสินใจเล่าเรื่องต่างๆให้แม่ฟัง แจ้งหล้าเปิดเผยเรื่องของเนียนให้พาณีฟังว่าสาธรมีปัญหาเรื่องการเงินเพราะ การพนัน ส่วนเนียนทำแท้งมาแล้ว 2 ครั้งและไม่สามารถมีลูกได้เพราะตัดมดลูกไปแล้ว แจ้งหล้าพาพาณีมาพบ “บุ้งกี๋” ลูกของธุมากับปวัน ส่วนวิมาดาตัดสินใจไปเรียนต่อ ตาวเดินทางกลับอเมริกาไปกับติก ปวันรู้ความจริงทั้งหมดจึงไปง้อขอคืนดีกับธุมาส่วนเธอจะยกโทษให้หรือไม่ต้อง ติดตามชม น้ำตาลไหม้

เงาราหู

นักแสดงละคร เงาราหู

พีท ทองเจือ (โทรทัศน์ทองคำ นักแสดงนำชาย พ.ศ. 2538)
สิรินทรา บุญยศักดิ์
อภิรดี ภวภูตานนท์
ไพโรจน์ สังวริบุตร
สรพงษ์ ชาตรี
ทรงงาม นามทอง
ปริญญ์ วิกรานต์
มานะ เนตรสาลี
สมยศ เปรมอนันต์
ดาวเรือง บูรณะพิมพ์
ลือศักดิ์ ปาลกะวงศ์
นภาพร หงสกุล
ผจญ ดวงขจร
ด.ญ. เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์