ดอกอ้อสายขวัญ เป็นเรื่องราวของ คม หนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ต้องปลอมตัวเป็นคนใช้เข้าไปสืบความจริงในบ้านสัก โดยมีลูกสาวเศรษฐีใหญ่ คือ สายขวัญ ซึ่งหนีงานแต่งงาน มาเป็นตัวช่วยในฐานะแม่ครัวและภรรยาปลอม ๆ ของเขา จึงเกิดภารกิจสุดป่วน ทั้งสองคนจะต้องอำพรางตัวเองเพื่อสืบหาความลับที่บ้านสัก
Tag Archives: เกียรติกมล ล่าทา
ลูกสาวกำนัน
“กำนันดนัย” (วรุฒ วรธรรม) กำนันสุดหล่อแห่งทุ่งดินดำ มีลูกสาว สาวน้อยที่ทั้งสายทั้งแก่ง แก่น กล้า ซ่าไม่กลัวใคร ชื่อ “แตงโม” (พัชรินทร์ จัดกระบวนพล) แต่ละวันมีเรื่องกับพวกอันธพาลในหมู่บ้านไปทั่ว เพราะต้องผดุงซึ่งความถูกต้องรักความยุติธรรม แต่เพราะเสียแม่ตั้งแต่เด็กทำให้หวงพ่อมาก แต่กระนั้นเมื่อได้มารู้จักแม่ม่ายป้ายแดง “ยุพิน” (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) แตงโมก็เทใจให้เพราะเป็นคนดี ถึงขั้นหากลอุบาย ให้กำนันจีบยุพิน แต่หลายปีดีดักอยู่กว่าจะใจอ่อนยอมตกล่องปล่องชิ้นกับกำนันดนัย
และด้วยความที่กำนันเป็นคนเจ้าชู้ แตงโมกับยุพินก็แทคทีมกันมากกำจัดบรรดา กิ๊กๆ ของกำนัน และหนึ่งในนั้นก็มีสาว “หวานตา” (ปณิตา พัฒนาหิรัญ) เจ้าของร้านอาหารที่มีหนุ่มๆ มาแวะเวียนมาจีบเรื่อยๆ ด้วยความที่แตงโมสุดแสนจะแสบ กำนันดนัยได้แต่อธิษฐานขอให้ฟ้าส่งคนมาปราบพยศลูกสาวสักที
ไม่นานหนุ่มหล่อพ่อรวยจากรุงเทพฯ ลูกชาย “รัฐมนตรีสมศักดิ์” (สมมาตร ไพรหิรัญ) และ “คุณหญิงยุพาพักตร์” (ปาริฉัตร ไพรหิรัญ) “ปลัดไชยา” (เกียรติกมล ล่าทา) มาประจำการที่ทุ่งดินดำ ปลัดดีใจมาก เพราะต้องการชิ่งจาก “เทวี” (อัฐมา ชีวนิชพันธ์) อดีตแฟนสาวพอดีทันที่ได้เจอกันทั้งคู่ก็ทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะคิดว่าปลัดไชยา เป็นไอ้หื่นบ้ากามที่พึ่งออกจากคุก มาจึงถูกแตงโมต้อนรับทั้งศอกทั้งเข่า แต่แทนที่เขาจะโกรธกลับตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง
ปลัดไชยาจึงพยายามทำให้แตงโมเห็นว่าเขาเป็นคนเอาถ่านเหมือนกัน จนทำให้แตงโมเริ่มหลงรักปลัดไชยาแบบไม่รู้ตัว เมื่อปลัดไชยาขอแต่งงาน แตงโมตอบตกลง แต่พอข่าวเริ่มแพร่ออกไป ก็เกิดปัญหา ในขณะเดียวกับที่ “ดรรชนี” (อาภาพร นครสวรรค์) เจ้าของร้านเสริมสวยที่หลงรักปลัด ที่มาทำสงครามประสาทกับแตงโมเพราะความหึงหวง
แตงโมปรึกษา “ผักบุ้ง” (ธนิดา กาญจนวัฒน์) เพื่อนสนิทแต่เธอก็สุดปัญญา “ทองย้อย” (ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์) ลูกน้องของปลัดก็มาขายขนมจีบ แต่ผักบุ้งไม่ชอบทองย้อย แต่หลงรัก “อนันต์” (สุรินทร คารวุตม์) หนุ่มหล่อพ่อรวยเพื่อนสนิทของ “ปาน ผู้เท่ห์” (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) ที่หลงรักแตงโมเช่นกัน
แค่นั้นยังไม่พอ “นที” (ศิระ แพทย์รัตน์) ที่แอบหลงรักปลัดไชยาต้องแต่แรกเห็นไม่ยอม แต่แตงโมใช้ลีลาดีศอก ตอกเข่า บู๊ล้างผลาญ จนชะนีกับนทีกระเจิง ปลัดไชยาดีใจที่แตงโมเห็นคุณค่าในตัวเขา ในงานแต่งงานสุดแสนจะวุ่นวายจนจะกลายเป็นงานศพ เมื่อดรรชนี นที บุกงานแต่งฉุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่สุดท้ายก็ได้ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์อยู่ดี
กำนันดนัยสุดแสนจะแฮปปี้ที่มีลูกเขยเป็นคู่คิด สองหนุ่มต่างรุ่นแต่ใจตรงกันวาดลวดเจ้าชู้แอบซุกบรรดากิ๊ก จนแตงโมกับยุพินต้องออกปราบตามเคย แต่แล้วก็มีศึกใหญ่เมื่อเทวีอ้างว่าเป็นเมียปลัดไชยา คราวนี้แตงโมโกรธมาก เกิดปัญหาใหญ่มากจนทำให้สาวแตงโมขอหย่าจากไชยา แต่ไชยาไม่ยอมหย่า แต่แล้วทั้งคู่ก็คืนดีแล้วแตงโมก็ตั้งท้องทุกคนดีใจมาก จัดงานฉลองใหญ่โต ที่ลูกสาวได้มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์เสียที
ยี่สิบปีต่อมา ปลัดไชยาผันตัวเองมาเป็นกำนันไชยาต้องหันมาใส่หนวด ออกโรงปกป้อง “แตงหวาน” ผู้สร้างปรากฎการณ์เผ็ด สวยดุ สวยแก่น ซ่าตามแบบฉบับของแม่คือแตงโม สืบทอดเจตนารมย์ของคำว่าลูกสาวกำนันสืบไป
ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
ผู้ใหญ่ลีกับนางมา เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มาลินี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ได้รับจดหมายของ “คุณยายวัน” (พิสมัย วิไลศักดิ์) ในขณะที่เธอได้อ่านจดหมาย คุณยายวันได้ตายไปแล้ว คุณยายเขียนจดหมายฝากกับผู้ใหญ่ลีให้ไปรับมรดกบ้านกับที่ ไร่นาหลายร้อยไร่ คุณยายของเธอมีความประสงค์ให้มาลินีไปทำไร่นาแทนท่าน และห้ามเด็ดขาดไม่ให้หลานให้คนอื่นเช่าทำ หรือถ้าคิดจะขายก็ให้ขายกับผู้ใหญ่ลีคนเดียวห้ามขายให้กับคนอื่น นำความแปลกใจให้กับมาลินียิ่งนักว่าผู้ใหญ่ลีคนนี้เป็นใคร ทำไมคุณยายจึงให้ความสำคัญกับเขามากนัก
มาลินีไม่สนิทกับคุณ ยายของเธอ แม่เธอเล่าให้ฟังเมื่อครั้งสาวๆ คุณยายอยู่ในรั้วในวังและใกล้เจ้านายชั้นสูง แต่ความรักได้หักอกคุณยายครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งถึงคุณตาของเธอก็เช่น เดียวกัน คุณยายทนความเจ้าชู้มากเมียไม่ได้ถึงหลบมาอยู่ท้องนาแห่งนี้ และคุณแม่ของเธอก็มาเติบ โตที่นั่น คุณยายได้สามีใหม่เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ซื่อสัตย์ขยันขันแข็งช่วยปกครองดูแลการงานจนกระทั่งตายจากไปโดยไม่มีลูก ด้วยกัน คุณยายก็เลยมีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของมาลินี คุณแม่ของมาลินีไม่ชอบชีวิตท้องนาจึงมักไปอยู่กับบิดาของท่านที่กรุงเทพฯ เสมอ จนกระทั่งพบคุณพ่อของเธอและเกิดขัดใจกับคุณยาย คุณแม่จึงเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ จนเธอเกิด นานๆ คุณแม่จึงจะไปเยี่ยมเยือนคุณยายสักครั้งหนึ่งทำให้มาลินีเหินห่างกับคุณยาย ราวกับไม่ใช่หลานของคุณยาย
จดหมายของคุณยายทำให้มาลินีครุ่นคิดอย่างหนัก ทำไมคุณยายจึงบังคับเธอไม่ให้เช่าที่นาแก่ใคร ถ้าเธอไม่ทำเองจะต้องขายให้ผู้ใหญ่ลีแต่ เพียงผู้เดียว มาลินีรู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำนาได้ เพราะเธอไม่เคยอยู่บ้านนอกไม่เคยทำนาเลย และที่สำคัญเธอยังรักอาชีพเดินแบบของเธอยังต้องการสวมเสื้อนำสมัย เดินกรุยกรายท้าทายสายตาผู้คนอยู่
ประดิษฐ์ (เกียรติกมล ล่าทา) เป็น แฟนของมาลินี ถึงเขาจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง มาลินีเห็นว่านั่นเป็นลักษณะของผู้นำและมาลินีก็ทำตัวเป็นผู้ตามตลอดเวลา และเธอก็จะงอนง้อเขาทุกครั้งที่ต้องทะเลาะกัน มาลินีคิดเอาเรื่องคุณยายไปปรึกษาประดิษฐ์แต่เขาไม่ยอมมาพบเธออ้างโน่นนี่ และในที่สุดมาก็รู้ว่าเขาไปมีหญิงคนใหม่ มาลินีเสียใจและมันก็ทำให้เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะไปอยู่บ้านคุณยายของ เธอ
ผู้ใหญ่ลี หรือ ลีนวัตร (ทฤษฎี สหวงษ์) เป็นผู้ที่คุณนายวันให้ความรักและความเอ็นดูเป็นอย่างมาก เมื่อเขายังเด็ก พ่อและแม่ของลีจะไม่ให้เขาเรียนต่อ เพราะเกรงว่าเมื่อได้เรียนมากๆ แล้วจะทิ้งไร่นาไม่ยอมกลับมาทำ แต่คุณนายวันเป็นคนที่มองการณ์ไกล ได้ขอร้องพ่อแม่ของผู้ใหญ่ให้เขาได้เรียนต่อ เพราะเขาเป็นเด็กที่เรียนดี ควรส่งให้เขาได้เรียนสูงๆ แล้วกลับมาพัฒนาท้องถิ่น ถ้าพ่อแม่ของเขาไม่ส่งเรียนคุณนายจะเป็นคนส่งเอง ด้วยแรงสนับสนุนของคุณนายวันคอยช่วยเหลือจุนเจือทุกอย่าง ทำให้ลีนวัตร หรือผู้ใหญ่ลีได้เรียนต่อจนสำเร็จปริญญาเกษตรศาสตรบัณฑิต และเป็นที่รักของชาวบ้าน ได้รับความไว้วางใจเลือกเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านต่อจากพ่อของเขาคือผู้ใหญ่ลอ ผู้ใหญ่ลีเอาความรู้จากวิชาการสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาไร่นาและชาวนา ให้ความรู้เกษตรแผนใหม่กับชาวบ้าน ใครตกทุกข์ได้ยากผลผลิตไม่ดีหรือภัยโรคพืชต่างๆ ผู้ใหญ่จะคอยช่วยเหลือ ผู้ใหญ่ลีรักและนับถือคุณนายวันมาก คอยดูแลเอาใจใส่ช่วยงานคุณนายวันผู้มีพระคุณกับเขา ทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้คุณนายวันจึงรักและเอ็นดูให้ความไว้วางใจเขามาก สิ่งที่คุณนายวันได้วางแผนไว้ทั้งหมดก่อนตายคือการเขียนพินัยกรรมยก ทรัพย์สินบ้านไร่นาให้กับมาลินีหลานสาวคนเดียว เพราะต้องการให้มาลินีได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ลี และต้องการให้สมบัติตกอยู่กับคนที่ท่านรักทั้งสองคนคือผู้ใหญ่ลีกับมาลินี
มาลินีมาถึงบ้านคุณยาย ก็ทราบจากปี๊ดว่าตอนนี้ศพของคุณยายไปอยู่ที่วัด เพราะคุณยายตายมาได้สองอาทิตย์แล้ว ผู้ใหญ่ลีเป็นคนจัดการเรื่องสวดอภิธรรมและเป็นธุระให้ทุกอย่าง ปื๊ดบอกผู้ใหญ่ลีรอมาลินีมาเก็บศพคุณนายวันและกำหนดวันเผา มาลินีนึกโกรธผู้ใหญ่ลี คุณยายตายมาตั้ง สองอาทิตย์แล้ว ทำไมเธอจึงเพิ่งได้รับจดหมายของคุณยายเมื่อวานนี้เอง คิดว่าเขาคงทำเอาหน้าส่งจดหมายให้เธอล่าช้า ชาวบ้านจะได้ตำหนิเธอว่าเป็นหลานที่อกตัญญูไม่ยอมมาจัดการงานศพให้คุณยาย และดูคุณยายจะไว้เนื้อเชื่อใจผู้ใหญ่ลีคนนี้เสียเหลือเกิน…ปื๊ดพาคุณมาเดิน ชมทั่วบ้าน พาไปดูสัตว์เลี้ยงของคุณนายวัน พอสิ้นคุณนายลูกจ้างก็ลาออกกันหมดผู้ใหญ่ลีก็เป็นคนรับภาระดูแลให้ทุกอย่าง
ปี๊ด ได้รับมอบหมายจากพ่อผู้ใหญ่ให้คอยดูแลมาลินี ปื๊ดเป็นเด็กกำพร้าที่ผู้ใหญ่ลีเก็บมาเลี้ยงไว้ตอนที่เขาเรียนมหาลัย เป็นลูกแขกที่มาทิ้งไว้ ปื๊ดเรียกผู้ใหญ่ลีว่าพ่อ และเรียกป้าปุยแม่ของผู้ใหญ่ลีว่าแม่ เป็นคนทำให้มาลินีเข้าใจว่าผู้ใหญ่เป็นผัวของป้าปุยในตอนแรก และทำให้มาลินีเข้าใจผิด
คิดว่าผู้ใหญ่ลีนั้นคงหน้าตาเป็นแขกและแก่แล้วปื๊ดช่วยมาลินีได้มากคือ อยากรู้อะไรก็ถามจากปื๊ด มาลินีหารู้ไม่ว่าปื๊ดเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่ลี คอยเก็บข้อมูลในตัวคุณมา มาบอกผู้ใหญ่ทุกเรื่อง มาลินีเริ่มชอบบ้านทุ่งของคุณยายของเธอ เธอหลงใหลบรรยากาศในยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าเป็นอย่างมาก เธอได้พบผู้ใหญ่ลีกำลังขับรถไถนาอยู่ เธอเข้าไปทักทาย เพราะเข้าใจว่าผู้ใหญ่ลีคือนายเหว่า เพราะได้รับการบอกเล่าจากปื๊ด ว่านายเหว่าเป็นคนขับรถไถนาให้ผู้ใหญ่ลี ผู้ใหญ่ลีนึกสนุกเลยปล่อยเลยตามเลยให้คุณมาเข้าใจว่าตนคือนายเหว่า พร้อมสาธิตการขับรถไถนาให้เธอดูอีกด้วย
…มาลินีประทับใจนายเหว่าที่รูปหล่อแถมยังเก่งมีความรู้เรื่องการทำนาอีก ด้วย มาลินีมาดูผู้ใหญ่ลีในคราบของนายเหว่าไถนาอีกแต่เธอก็ยังไม่ทราบว่าเขาคือ ผู้ใหญ่ลี… กระทั่งถึงวันที่ต้องบรรจุเก็บศพของคุณนายวันที่วัด ความลับจึงเปิดเผยว่านายเหว่าที่เธอพบนั้นคือผู้ใหญ่ลี มาลินีทั้งเจ็บใจทั้งอายที่ถูกหลอก
ป้าปุย แม่ของผู้ใหญ่ลี รักลูกชายมาก และเมื่อเจอมาลินีก็หลงใหลรักใคร่ยิ่งนักอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ สนับสนุนทำทุกอย่างที่จะให้ทั้งสองรักและได้ลงเอยกัน และยิ่งเป็นความประสงค์ของคุณนายวันผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของแกมาตลอดแก ยิ่งทำทุกวิถีทาง ผู้ใหญ่ลีต้องมาคอยดูแลช่วยเหลือเรื่องการงานทุกอย่างของมาลินี..ทุกเย็น เขาจะมาดูพระอาทิตย์ตกกับคุณมา และต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนมาลินีก็สลัดคราบนางแบบของเธอมาเรียนรู้วิธีการทำนาอย่างตั้งอกตั้งใจ ในเมื่อเธอตัดสินใจจะอยู่ที่นี่เธอก็ต้องทำให้เป็นทุกอย่าง เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านที่เธอไม่เคยได้รู้มาก่อน ผู้ใหญ่ลีนั้นปลื้มและนิยมในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง
เฉลา น้องสาวของผู้ใหญ่ลีนั้นก็รักอยู่กับนายเหว่า ลูกน้องคนสนิทของผู้ใหญ่ลี แต่เฉลานั้นกำลังเรียนอยู่ ผู้ใหญ่ลีจึงพูดจาตักเตือนว่าให้เรียนจบเสียก่อนจึงค่อยริรักกับนายเหว่า แต่ด้วยความที่ทั้งคู่รักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีกีดกันความรักของคนทั้งสอง
เหว่ากับเฉลา จึงหนีหายออกไปจากบ้านด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ทั้งคู่หนีไปพักอยู่ที่บ้านของมาลินี มาลินีพยายามอธิบายให้ผู้ใหญ่ลีเข้าใจถึงความรักของหนุ่มสาวโดยให้นายเหว่า และเฉลากลับมากราบขอโทษผู้ใหญ่ลี ที่เข้าใจผิดและหนีหายไปด้วยกัน เฉลาสัญญากับผู้ใหญ่ลีว่าจะเรียนให้จบก่อน แล้วค่อยแต่งงานกับเหว่าอีกที ผู้ใหญ่ลีจึงให้อภัยน้องสาวกับนายเหว่า
ประดิษฐ์ซึ่งรู้ว่ามาลินีมาอยู่ที่นี่และ ได้มรดกของคุณยายมากมายได้ชวนวลัยและสมรเธอทั้งสองเป็นเพื่อนของมาลินี มาหามาลินีหวังจะขอคืนดี ประดิษฐ์หวังจะได้ทรัพย์สมบัติในส่วนของมาลินีอีกด้วย แต่มาลินีเริ่มเห็นธาตุแท้ของประดิษฐ์ที่เห็นแก่เงิน ไม่ได้ขยันทำมาหากินและช่วยเหลือสังคมเหมือนกับผู้ใหญ่ลี ทำให้มาลินีไม่ยอมคืนดีด้วย สร้างความแค้นใจให้ประดิษฐ์มากที่เสียเชิงให้กับหนุ่มบ้านนอกอย่างผู้ใหญ่ลี ปทุม ลูกสาวของผู้ใหญ่โหมด ก็มาติดพันชอบผู้ใหญ่ลีเข้าอย่างเต็มหัวใจ เธอเป็นสาวบ้านนอกที่ชอบทำตัวไฮโซแบบเฉิ่มสุดๆพยายามหาทางสวยเด่นแข่งกับ มาลินีสุดขั้ว แต่ยังไงซะผู้ใหญ่ลีก็ไม่เคยสนใจปทุม เพราะใจหัวใจมีแต่มาลินีคนเดียว ปทุมจึงร่วมมือกับประดิษฐ์ วางแผนแยกผู้ใหญ่ลีกับมาลินีให้ห่างออกจากกัน ประดิษฐ์หลอกให้มาลินีมาพบที่กระท่อมยามค่ำคืน พร้อม ๆ กับที่ปทุมเองก็แอบมาดักรอพบผู้ใหญ่ลีที่กองฟางเช่นเดียวกัน พอดีคืนนั้นฝนตกหนัก ไฟก็ดับ
ผู้ใหญ่ลีเดินมาพบมาลินีเสียก่อน จึงไปหลบฝนที่บ้านมาลินี พร้อมบอกความในใจกับมาลินี อีกทั้งยังหมั้นหมายมาลินีด้วยแหวนอีกหนึ่งวง ผู้ใหญ่ลีสัญญาว่า หากบวชแล้วสึกออกมาเมื่อไหร่ จะแต่งงานกับมาลินีทันที
ทั้งประดิษฐ์และปทุมต่างรอมาลินีกับผู้ใหญ่ลี แต่ด้วยเหตุชุลมุนของฝนฟ้า ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าไปหลบฝนในกระท่อมอันมืดมิด ประดิษฐ์เข้าใจว่าปทุมเป็นมาลินีจึงปลุกปล้ำจนได้เป็นเจ้าของสมใจ
พอตื่นเช้ามาจึงได้รู้ว่าตนเข้าใจผิดแต่ก็ได้ปทุมเป็นเมียเสียแล้ว สุดท้ายผู้ใหญ่ลีก็เข้าพิธีอุปสมบทสร้างความปลื้มใจให้กับแม่ปุยเป็นอย่าง มาก ระหว่างที่บวชนั้น ประดิษฐ์แค้นใจจัดที่ต้องพลาดหวังจากมาลินี จึงแก้เผ็ดผู้ใหญ่ลีด้วยการพาฉลวย น้องสาวของผู้ใหญ่ลีอีกคน เข้ากรุงเทพฯ ไปถ่ายหนังเรทอาร์ พอดีมาลินีรู้ข่าวเสียก่อน จึงไปตามไปช่วยฉลวยได้ทัน ผู้ใหญ่ลีเองก็มากับปื๊ด เพื่อมาช่วยฉลวยอีกแรงทั้งที่ยังห่มผ้าเหลืองอยู่ ครั้งนี้ผู้ใหญ่ลีซึ้งในน้ำใจของมาลินีมากขึ้นไปอีก พระผู้ใหญ่ลีให้ฉลวยกลับไปเรียนที่บ้านตัวเอง อย่ามาดิ้นรนเพื่อจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ จนเป็นเหยื่อให้คนชั่วอย่างประดิษฐ์หลอกอีก ฉลวยสำนึกผิด ยอมกลับบ้านแต่โดยดี
ปทุมมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก โหมดเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีเป็นพ่อของเด็กในท้อง จึงตั้งใจจะศึกพระให้ได้ แต่เมื่อความจริงเปิดเผยมาว่า ประดิษฐ์คือลูกเขยตัวจริงก็อับอายขายขี้หน้าหนัก เพราะรู้ดีว่าประดิษฐ์นั้นชั่วช้าขนาดไหน ประดิษฐ์กลายเป็นลูกเขยของผู้ใหญ่โหมดอย่างจำยอม ซ้ำยังถูกปทุมใช้เยี่ยงทาส แต่เขาก็ต้องจำยอมเพราะรู้ดีว่า หากไม่ยอมรับปทุมเป็นเมีย ประดิษฐ์ต้องถูกโหมดเอาตายอย่างแน่นอน
ผู้ใหญ่ลีสึกออกมาในที่สุด เขาสบายใจมากที่เรื่องปทุม คลี่คลายไปด้วยดี ประดิษฐ์ก็รับกรรมที่ก่อไป ส่วนเฉลากับเหว่าก็ตั้งใจว่าเรียนจบเมื่อไหร่จะแต่งงานกันให้ได้ ส่วนฉลวยก็กลับมาเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัด ไม่ไปกรุงเทพฯอีกแล้ว ผู้ใหญ่ลีจึงขอมาลินีแต่งงานในที่สุด ความรักของทั้งสองกำลังเบิกบานในทุ่งนาของคุณนายวัน ที่มอบไว้เป็นสมบัติให้กับมาลินี ผู้ใหญ่ลีกับนางมา จึงได้ครองคู่กันในที่สุด
รายชื่อนักแสดงละคร ผู้ใหญ่ลีกับนางมา
โบตั๋นกลีบสุดท้าย
โบตั๋นกลีบสุดท้าย ของ สำเภาทอง ได้รับรางวัลนวนิยายยอดเยี่ยมประจำปี ไม่มีใครรู้ว่าสำเภาทองเป็นใคร เพราะทุกครั้งเขาจะให้ ดนัย เด็กวัดที่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัว อาเชง เป็นคนนำต้นฉบับและรับเงินให้ทุกครั้ง สำเภาทองแท้จริงคือ ธีรเดช ( อาจู ) ลูกชายคนสุดท้ายของอาเชงกับ เหมยหลิง สองสามีภรรยาที่อพยพจากเมืองจีน มาขายข้าวมันไก่ในเมืองไทย จนส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนคือ ธีรชัย ( อาโจ ), ธีรชาติ ( อาจิว ) และธีรเดช ( อาจู ) จนจบปริญญา
อาเชงไม่ค่อยชอบอาจูมากนัก เพราะตอนเหมยหลิงท้องอาจู ครอบครัวเขาลำบากถึงกับอพยพหนีมาเมืองไทย อาจูจึงเป็นลูกชัง ขณะที่อาโจและอาจิวเป็นลูกรักที่ได้ทุกอย่างจากอาเชงตลอดเวลา และมักเรียกอาจูว่า ไอ้ตัวซวย ทำให้อาจูกดดันกับชีวิตเสมอมา อาโจเข้ามาทำงานที่บริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนอาจิวเข้าทำงานที่ธนาคาร โดยไม่บอกให้อาเชงรู้เพราะกลัวถูกแบ่งเงินเดือน อาจูระบายความในใจลงในบันทึกตามคำแนะนำของดนัย และให้อาจูเขียนเรื่องสั้นส่งนิตยสาร “ระเบียงสยาม”
งานเขียนของอา จูเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ เขาจึงกลายเป็นนักเขียนมืออาชีพในนามปากกา “สำเภาทอง” โดยปิดบังอาเชงและเหมยหลิงเอาไว้ อาโจแต่งงานกับ จรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ สร้างความช้ำใจให้อาเชงไม่น้อยแต่ไม่เคยบอกใคร อาจูรู้ว่าพ่อผิดหวังมากแต่ไม่สามารถปลอบใจได้ อาเชงมักใช้เวลาว่างอ่านนิตยสารระเบียงสยาม เพราะติดใจการเขียนนวนิยายของสำเภาทองมาก อาจูได้รับการทาบทามให้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับงิ้ว เขาไม่มีข้อมูลจึงไปสมัครที่คณะงิ้วฉางชิน
ที่เป็นแหล่งข้อมูลแต่ เกือบไม่ได้ทำงานในคณะเพราะ ตันหยง ลูกสาวคนเล็กของ อาฉาง และอาซิน ไม่เชื่อว่าอาจูด้อยการศึกษาและตกงาน อาจูเห็นว่าครอบครัวอาฉางมีแต่ลูกสาว แต่สามารถให้ความรักความอบอุ่นแกลูกๆ ได้ดี แตกต่างจากครอบครัวของเขาที่มีแต่ลูกชาย แต่กลับได้รับความรักไม่เท่ากัน อาจูจึงเอาเรื่องราวชีวิตของอาฉางและข้อมูลเกี่ยวกับงิ้วที่ได้จาก อาซุ่น คนสอนงิ้วของคณะเป็นผู้ให้ข้อมูล ดาหลา ลูกสาวคนโตของอาฉางแต่งงานกับ พงษ์เลิศทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง
ลูก ชายของ เจ้าสัวกำจร กับมาดามเหลียว จนมีลูก 2 คนคือ หยก กับหงส์ ปาหนัน ลูกสาวคนกลางเป็นนางเอกงิ้วที่ เสี่ยเดชา เจ้าของร้านทองจอมอันธพาล, อดิเทพ ผู้กำกับละครเวทีชื่อดัง และ แอนดี้ เพลย์บอยหนุ่มนักเรียนนอกรุมจีบ ตันหยงเป็นลูกสาวคนเล็กที่อยากเปิดอู่ซ่อมรถ มีนิสัยห้าว ชอบโต้เถียงกับอาฉางเป็นประจำ จนเธอคิดว่าพ่อไม่รักเหมือนลูกคนอื่น อาหลง เด็กกำพร้าที่อาฉางและอาซินเลี้ยงไว้เพราะอยากได้ลูกชาย เขาทำทุกอย่างในคณะที่เป็นการตอบแทนบุญคุณ
และแอบรักปาหนัน ข้อมูลทั้งหมดอาจูได้ฟังจากอาซุ่น จึงตั้งชื่อนวนิยายเรื่องใหม่ว่า “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” อาเชงทำงานหนักเพราะหวังเก็บเงินให้ลูกรักทั้ง 2 ได้สบาย จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคไต เขาไม่รู้เลยว่าเงินทุกบาทที่จ่ายไปนั้นเป็นเงินที่อาจูหามาจากงานเขียน หนังสือ อาเชงเชื่อว่าอาโจกับอาจิวต้องไปสอนพิเศษเพื่อหาเงินมารักษาตน อาจูกับเหมยหลิงปิดปากเงียบไม่ยอมบอกให้อาเชงรู้ เพราะกลัวว่าอาเชงจะไม่ยอมรักษาตัว ดนัยเห็นอาเชงอคติกับอาจูตลอดเวลา
จึง เอานิตยสารระเบียบสยามมาให้อ่าน อาเชงได้อ่านเรื่อง “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” เรื่องราวของครอบครัวจีนที่มีลูกๆ 3 คนมาอ่าน อาเชงอ่านแล้วอินไปกับเรื่องราว อาเชงรู้ว่าอาจูทำงานในสำนักพิมพ์นี้ จึงฝากอาจูไปชมสำเภาทอง อาจูตื้นตันใจมากที่พ่อกล่าวชมเขาเป็นครั้งแรก แม้พ่อจะไม่รู้ว่าเขาคือสำเภาทองก็ตามที งานแสดงงิ้วเริ่มซบเซา อาฉางไม่อยากให้ศิลปะงิ้วหายไป จึงปรับปรุงการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ โดยกู้เงินจากเสี่ยเดชามาใช้ เสี่ยเดชาเป็นคนเจ้าเล่ห์และชอบปาหนันอยู่
เขา จึงยื่นข้อเสนอว่าหากอาฉางหาเงินมาใช้หนี้ไม่ทันกำหนด จะต้องยกปาหนันให้ตนอาฉางยอมตกลง และพยายามทำให้การแสดงมีคนเข้าชมมากๆ เมื่อเสี่ยเดชาเห็นว่าอาฉางจะหาเงินมาใช้หนี้ตนได้ จึงส่งลูกน้องมากลั่นแกล้งจนทำให้โรงงิ้วไฟไหม้ การแสดงต้องยุติลง อาจูยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการให้ไปแสดงที่โรงหนัง และเขาเป็นคนช่วยเขียนบทการแสดง ทำให้ครอบครัวอาฉางพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ตันหยงทีแรกตั้งตนอคติกับอาจู คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง
เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลงและ คิดจะกระชากหน้ากากเขาตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นความดีของอาจูที่คอยช่วยเหลือครอบครัว ความรู้สึกเธอจึงเปลี่ยนไปและโอนเอนมาทางแอบชอบ ขณะที่ความรักของทั้งสองกำลังก่อตัวขึ้น ความลับที่อาจูปิดบังไว้มาตลอดก็ถูกเปิดโปงขึ้น เมื่อตันหยงจับได้ว่าอาจูเป็นนักเขียนนวนิยายในนามสำเภาทอง ทุกคนผิดหวังในตัวเขามากจึงไล่อาจูออกไปจากคณะ อาจูแอบไปดูคณะงิ้วซ้อมการแสดงที่โรงหนัง ช่วงนั้นคณะกำลังมีปัญหาเพราะตันหยงหายตัวไป
อาฉางก็ป่วยหนักจนเข้า โรงพยาบาล อาจูเห็นว่าพ่อลูกทะเลาะกันจึงหาเหตุให้ตันหยงไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล จนทำให้พ่อลูกสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ในวันเกิดอาหลงเขานัดปาหนันไปกินข้าว แต่ปาหนันผิดนัดปล่อยให้อาหลงนั่งอยู่ที่ร้านเพียงลำพัง จึงถูกเสี่ยเดชาและลูกน้องรุมทำร้ายจนขาหัก ไม่สามารถแสดงงิ้วได้อีก อาฉางจึงต้องตามตัวอาจูมาแสดงแทน ดาหลาจับได้ว่าพงษ์เลิศเป็นเกย์จึงขอหย่ากับเขา โดยนำลูกทั้งสองไปเลี้ยงเอง เจ้าสัวกำจรผิดหวังในตัวลูกชายมาก
จึงไล่ออกจากบ้าน พงษ์เลิศตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกากับคู่ขา อาเชงรู้ความจริงว่าอาจูซื้อบ้านสวนเอาไว้ แทนที่จะดีใจกลับโกรธจัดเพราะเข้าใจว่าลูกชายไปทำงานผิดกฎหมาย จนดนัยต้องโพล่งความจริงออกมาว่า อาจูใช้เงินจากงานเขียนนวนิยายซื้อบ้านหลังนั้นไว้ และเหมยหลิงยังบอกอีกว่าอาจูเป็นคนออกค่ารักษาตัวให้เขา ไม่ใช่อาจิวและอาโจอย่างที่อาเชงเข้าใจ อาเชงฟังแล้วสะท้อนใจอย่างแรง เมื่อรู้ว่าลูกชังไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย ผิดกับลูกรักทั้งสองที่ไม่เคยมาเหลียวแล
อาเชงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน แต่ก็แอบไปดูการแสดงงิ้วของอาจูที่โรงหนัง และในที่สุดอาจูกับอาเชงก็ได้ปรับความเข้าใจกัน ปาหนันรู้ว่าอาจูมีใจให้ตันหยง จึงร่วมมือกับอาหลงหาทางให้คนทั้งสองได้สารภาพรักกัน อาจูถือโอกาสบอกรักตันหยงขณะที่แสดงงิ้วบนเวที สร้างความหวั่นไหวให้เธอไม่น้อย อาจิวถูกจับได้ว่ายักยอกเงินธนาคารจึงถูกจับเข้าคุก ให้อาโจมาประกันตัวแต่อาโจปฏิเสธเพราะกลัวพาดพิงมาถึงตน อาจิวโกรธพี่ชายมากจึงเขียนจดหมายไปบอกจรัสศรีว่าอาโจมีเมียน้อย
จรัส ศรีพาลูกน้องไปยิงอาโจจนกลายเป็นอัมพาต อาเชงสงสารลูกชายจับใจจึงตัวมาดูแลที่บ้าน ตันหยงเรียนจบวิชาช่างมาแล้ว อาฉางจึงให้ทุนเปิดอู่ซ่อมรถตามความฝัน และให้ดูแลคิวการแสดงของคณะงิ้วฉางซิน ที่กำลังก้าวหน้าไปด้วยดี “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” ได้รับรางวัลงานเขียนนวนิยายดีเด่นประจำปี อาจูขึ้นไปรับรางวัลนี้ด้วยความภาคภูมิใจ ไม่นานนักเขาก็เริ่มงานเขียนชิ้นใหม่ในเรื่อง “คือวันที่ฉันรอ” โดยสำเภาทอง และมีตันหยงคอยให้กำลังใจอยู่ข้างกาย
รายชื่อนักแสดง โบตั๋นกลีบสุดท้าย
อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น ธีรเดช ( อาจู )
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง
เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลง
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ แสดงเป็น ปาหนัน
วริษฐ์ ทิพโกมุท แสดงเป็น พงษ์เลิศ
เพชรลดา เทียมเพชร แสดงเป็น ดาหลา
นิรุตติ์ ศิริจรรยา แสดงเป็น อาเชง
เศรษฐา ศิระฉายา แสดงเป็น อาฉาง
ทาริกา ธิดาทิพย์ แสดงเป็น อาซิน
ถึงร้ายก็รัก
ศวิน เพื่อนซี้ร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกับ ลลนา และกษมา พอเรียนจบศวิน สารภาพรักกับ ลลนา ทั้งคู่คบกันอย่างมีความสุข แต่กษมาไม่พอใจ เพราะแอบชอบ ลลนาเหมือนกัน วันหนึ่ง ลลนา พาศวินไปพบจันทนี ป้าที่เลี้ยงดูเธอกับ ลลนี พี่สาวตั้งแต่พ่อกับแม่เสียชีวิต ทันทีที่ลลนี เห็นศวินก็ชอบ ทันที ถึงกับเอ่ยขอแฟนจากน้องสาว แต่ลลนาไม่กล้าปฏิเสธพี่สาว เพราะลลนีเคยช่วยชีวิตให้เธอรอดพ้นจากการถูกข่มขืนจนตัวเองถุกข่มขืนแทนจนมีอาการทางจิต
แต่ความรักห้ามกันไม่ได้ แม้ลลนาจะบอกเลิกศวิน โดยให้เหตุผลว่าฐานะไม่คู่ควร แต่ศวินก็ยังคงรักลลนาต่อไป จนมัลลิกากับศินะแม่และ พ่อของศวิน ขอให้หมั้นกับ มนทิยา ลูกสาวของกุลยาเพื่อนรัก ทำให้ศวินห่างลลนา แต่ก็ยังไม่หมดรัก ลลนาจึงแกล้งสนิทสนมกับกษมา เพราะต้องการ ให้ศวินไปดูแลมนทิยา กษมากับลลนาตกลงใจคบหากัน แต่ศวินก็ยังไม่เลิกทำตัวสนิทกับลลนา จนทำให้กษมาโกรธหาเรื่องทะเลาะกับลลนาทุกครั้ง กษมาจึงแก้แค้นด้วยการไปสนิทกับมนทิยา เป่าหูให้มนทิยาเข้าใจผิดศวินกับลลนา มนทิยาหลงกลทำตามแผนร้ายของกษมา และโดนกษมาข่มขืน ถ่ายคลิปวิดีโอไว้แบ็คเมล์ มนทิยาตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล และพบว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ศวินจึงต้องมาดูแลอย่างใกล้ชิด และรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเธอ
แม้ว่าจะแต่งงานกับมนทิยาแล้ว แต่ศวินยังไม่เลิกตามลลนา กษมาจึงใช้มนทิยาเป็นเครื่องมือแก้แค้น มนทิยาจำใจต้องร่วมมือ ลลนีแอบ ได้ยินมนทิยาคุยโทรศัพท์ เธอจึงนัดศวินให้ตามมนทิยาไป ด้านลลนาเห็นพี่สาวลุกลี้ลุกลนเธอจึงติดรถไปด้วย ระหว่าทางฝนตกหนักรถของมนทิยาเสีย เธอจึงลงจากรถมาขอความช่วยเหลือ แต่รถของลลนีที่ขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนเธออย่างจัง ลลนารีบลงไปดูอาการมนทิยา แต่ลลนีหนีไป ศวินขับ รถมาเจอจึงเข้าใจผิดคิดว่าลลนา เป็นคนขับรถชนมนทิยาเสียชีวิต ศวินให้ทนายเอาผิดลลนา แต่กษมาจ้างทนายที่เก่งที่สุดช่วย ทำให้ ศวินไม่พอใจมาก ลักพาตัวลลนาไปอยู่ที่เกาะตะวันโดยแกล้งลลนาสารพัด เพื่อแก้แค้นให้มนทิยา ศวินแกล้งทำดีจนลลนาใจอ่อนจนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย แต่หลังจากนั้นก็ฉุนเฉียวใส่เหมือนเดิม
กษมาและลลนี สงสัยที่ติดต่อลลนาไม่ได้ พอรู้ว่าศวินหายตัวไปเช่นกัน ทั้งคู่จึงออกตามหาจนเจอ พอกลับถึงกรุงเทพฯ กษมาลาออกจากบริษัทของศวินทันที และไปอยู่บริษัทของจักรี ซึ่งเป็นคู่แข่ง ส่วนลลนาได้งานใหม่ที่บริษัทของเผด็จ ซึ่งโดนเทคโอเวอร์เป็นของศวินแล้ว พอศวินเปิดเผยตัวลลนาขอลาออก แต่ศวินไม่ยอมและประกาศจะแต่งงานกับลลนี หลังจากแต่งงานกับลลนี ศวินให้ลลนาและพวกเข้ามาอยู่ที่บ้านด้วย ด้านกษมาไม่พอใจที่ลลนาไปอยู่บ้านศวิน เขาจึงรวบรัดขอหมั้นลลนา ความรักของกษมาและลลนากำลังเริ่มต้นแต่ต้องจบลงเมื่อลลนีขอร้องให้ลลนา บอกศวิน จดทะเบียนกับเธอ โดยศวินมีเงื่อนไขให้ถอนหมั้นกับกษมา แล้วทำตามขอเสนอ ลลนาถอนหมั้นทันที แต่ศวินก็ยังไม่จดทะเบียน เป็นจังหวะที่ป้าจันทนีเสียชีวิต
ลลนีอาศัยเวลาที่ศวินพาไปเที่ยวทะเล ร่วมมือกับกษมาให้รวบหัวรวบหางลลนา แต่ศวินรู้แผนก่อนจึงไปช่วยได้ทัน ลลนีมีปากเสียงกับกษมา กษมาโกรธจึงข่มขืนและถ่ายคลิปไว้แบ็คเมล์แก้แค้น ลลนีเครียดจนเข้าโรงพยาบาล ส่วนลลนารู้ตัวว่าท้อง จึงหลบหน้าผู้คนจนลลนีสงสัยว่าน้องสาวท้องกับกษมา แต่กษมายืนยันว่าไม่เคยมีสัมพันธ์กับลลนา ทำให้ลลนีแน่ใจว่าศวินเป็นพ่อของลูกลลนา ลลนีจึงทำทุกทางให้ลลนาแท้งแต่ไม่สำเร็จ ลลนาหนีออกจากบ้านเมื่อศวินทราบเรื่องจึงออกตามหาเพื่อแสดงความรับผิดชอบแต่ ไม่พบลลนาหนีไปเช่าห้องอยู่กับกษมาอย่างเพื่อนโดยที่ไม่รู้ว่ากษมาแอบขายยา เสพติดอยู่ด้วย และพยายามหาทางทำให้ลลนาแท้งลูก เพราะเกลียดเด็กในท้อง
ด้านลลนีก็รู้ว่าตัวเองท้อง เธอมั่นใจว่าเป็นลูกของกษมา ลลนีจึงไปบอกกษมาแต่กษมาไม่ยอมรับและเกือบทำให้ไปลลนีแท้ง ดีที่ศวินเห็น และพาส่งโรงพยาบาลทัน ด้านลลนาไปพบกับคลิปวีดีโอแอบถ่ายเข้าเธอโกรธกษมามากจึงเอาคลิปฉาวไปให้ลลนี ที่โรงพยาบาลและหนีไปอยู่ที่ เชียงใหม่ ศวินรู้เรื่องทั้งหมดรวมทั้งต้นเหตุการตายของ มนทิยา เขาสำนึกผิดที่เข้าใจลลนาผิดมาตลอด บทสรุปของเขาและลลนาจะเป็นอย่างไร ติดตามชม “ถึงร้ายก็รัก”
จงกลกิ่งเทียน
เจ้าบัวเทียน หญิงชราวัย 85 ปี นั่งเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองให้ กอหญ้า หลานชายฟังถึงความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตน ชื่อเดิมของเธอคือ ?เทียนกันยา? พ.ศ.2495 หลังพ่อแม่เสียชีวิต เทียนกันยากับโกมุท หรือ ก้อง น้องชายได้ดูแลสมบัติของตน ทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านสุจัณยา ร่วมกับ ศล น้องชายบุญธรรมที่พ่อของเทียนกันยาอุปการะเลี้ยงดู ก้องไม่สบายตั้งแต่เด็ก เทียนกันยาเลยจ้าง เรือนใจ พยาบาลสาวมาดูแล จนกระทั่งก้องป่วยหนักเสียชีวิตลง เรือนใจบอก ละม่อม ละม่อมสะใจที่ยาลูกกลอนผสมสารหนูที่ฝากเรือนใจไปให้ก้องกินได้ผล เรือนใจตกใจมากที่รู้ว่าละม่อมใช้ตนเป็นเครื่องมือ ละม่อมขู่เอาผิดเรือนใจและจะเปิดเผยเรื่องเรือนใจไม่ได้จบพยาบาลมาจริงๆแต่ ปลอมเอกสาร เรือนใจกลัวเลยต้องเป็นพวกละม่อมต่อไป
เทียนกันยาเสียใจที่สูญเสียน้องชาย เรือนใจเข้ามาดูแลอย่างดี เทียนกันยาจึงให้เรือนใจเป็นพยาบาลประจำตัวเธอต่อ เพื่อนก้องมางานศพของก้องรวมทั้ง อัพภันดร์ บอกว่าตนเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของก้อง ทุกคนแปลกใจที่อัพภันดร์เข้ามาสนิทสนมกับเทียนกันยา เพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้จากก้องมาก่อนเลย ในงานศพก้องละม่อมเข้ามาทวงสมบัติของตนโดยอ้างสิทธิ์เมียอีกคนของพ่อเทียน กันยา ประทินทนายความของบ้านสุจัณยาว่าละม่อมหมดตัวเพราะผีพนัน ละม่อมโกรธจะเข้ามาทำร้ายเทียนกันยา อัพภันดร์เข้ามาขวาง ทำให้เทียนกันยาชื่นชมอัพภันดร์ การกระทำของอัพภันดร์สร้างความแคลงใจให้กับศล เพราะศลเป็นคนดูแลเอกสารของก้อง แต่ไม่เคยเห็นจดหมายของอัพภันดร์เลยซักฉบับ ศลเตือนเทียนกันยา เทียนกันยาไม่เชื่อและต่อว่าศล ศลจึงได้แต่เฝ้าดูพฤติกรรมของอัพภันดร์อยู่ห่างๆ
จรัส ป้าของเทียนกันยาพาชายหนุ่มมาให้เทียนกันยาดูตัวเพราะเป็นห่วงเรื่องคู่ครอง ของหลาน เทียนกันยาไม่สนใจเพราะแอบชอบอัพภันดร์อยู่แล้ว เมื่องานศพของก้องเรียบร้อยอัพภันดร์ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านสุจัณยา คอยดูแลเทียนกันยาจนกลายเป็นความรัก อัพภันดร์อ้างว่าสำนักงานทนายความที่เชียงใหม่ซึ่งตัวเองทำงานอยู่ปิดตัวลง ทำให้เขาต้องขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพ เทียนกันยาฝากงานให้ที่สำนักงานทนายความของประทิน และให้เข้ามาพักอยู่ในบ้านสุจัณยาแต่เป็นห้องพักที่เรือนเลี้ยงม้า ไม่ได้อยู่บนบ้านใหญ่ อัพภันดร์ไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จริงๆแล้วเขาไม่ได้จบทนายความอย่างที่บอกไว้ แต่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อหลอกฮุบสมบัติของเทียนกันยา โดยพยายามตีสนิทประทินทำดีตบตาจนเขาสามารถเข้ามาดูแลทรัพย์สมบัติของเทียน กันยาแทนประณต หลานชายของประทินได้สำเร็จ
ความเจ้าชู้ของอัพภันดร์ทำให้เขาได้เสียกับเรือนใจ และอารีเสมียนในสำนักงานของประทิน อัพภันดร์ให้อารีปลอมเอกสารยักยอกเงินของเทียนกันยา แต่ประทินจับได้ อัพภันดร์แก้ตัวโยนความผิดให้ประณต ทำให้ประณตต้องลาออกไปอยู่ชุมพร ภายหลังประทินรู้ความจริงว่าอัพภันดร์ปลอมเอกสารวุฒิการศึกษา และเขาเป็นหลานของละม่อม อัพภันดร์กลัวความลับแตกจึงกำจัดประทินเสียชีวิต
เด็กในบ้านเห็นว่าเรือนใจแอบไปเรือนเล็กของอัพภันดร์ จึงไปบอกศล ศลโกรธไปบอกเรื่องนี้กับเทียนกันยา แต่อัพภันดร์กับเรือนใจไม่ยอมรับ และเรียกคะแนนสงสารจากเทียนกันยา เทียนกันยาใจอ่อน สุดท้ายอัพภันดร์ขอเทียนกันยาแต่งงาน ก่อนวันงานอัพภันดร์ให้อารีปลอมจดหมายลายมือเทียนกันยา ส่งหาศลเพื่อไล่ศลออกจากบ้าน ศลเสียใจไม่กลับมาบ้านสุจัณยาอีกเลย อัพภันดร์ให้เรือนใจวางยาเทียนกันยาให้เจ็บอ็อดๆแอ็ดๆเหมือนก้อง ก่อนตายเทียนกันยารู้ความจริงว่าอัพภันดร์คือหลานของละม่อม จึงถูกอัพภันดร์ผลักตกบันได แต่แจ้งกับหมอว่าเทียนกันยาเป็นลมตกบันได
เทียนกันยาไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วิญญาณของเธอถูกดูดเข้าไปในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว เจ้าทางเหนือที่นิสัยเปรี้ยวจี๊ด ก็ประสบอุบัติเหตุหนักเข้ามารักษาพร้อมกัน เทียนกันยาฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความดีใจของเจ้าส่องเมือง ละปั๋น สาวใช้ เธอเองก็ตกใจเมื่อพบว่าวิญญาณของตนอยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว หมอสันนิษฐานว่าเธอความจำเสื่อมชั่วคราว เทียนกันยาจำเป็นต้องอยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้ว และเป็นเจ้าบัวคำแก้วตามที่ทุกคนบอก เมื่อออกจากโรงพยาบาลเธอพบว่าร่างของเธอถูกอัพภันดร์เผาไปเรียบร้อยแล้ว อัพภันดร์เห็นเจ้าบัวคำแก้วก็เกิดหลงรักทันที เทียนกันยาใช้ร่างของเจ้าบัวคำแก้วเพื่อสืบเรื่องของอัพภันดร์ต่อไป
เจ้าบัวละวง ย่าของเจ้าบัวคำแก้ว และผกาฟ้าพี่สาวต่างแม่ มาที่อยุธยาเพื่อดูอาการของบัวคำแก้ว เทียนกันยารู้จากเจ้าส่องเมืองว่าบัวคำแก้วไม่ค่อยถูกกับเจ้าย่า และไม่ชอบผกาฟ้า เทียนกันยาจึงเข้าไปไหว้ขอโทษเจ้าย่า ยิ่งใกล้ชิดเจ้าย่าก็ยิ่งมั่นใจว่าวิญญาณที่อยู่ในร่างไม่ใช่บัวคำแก้ว เทียนกันยาตัดสินใจเล่าความจริง เจ้าย่าตั้งชื่อใหม่ให้เทียนกันยาว่า บัวเทียน เจ้าบัวเทียนห่วงศลจึงขอให้เจ้าย่าช่วยอุปการะส่งเสียศลต่อ เจ้าย่าให้ส่องเมืองเป็นธุระติดต่อศลเพื่อขอส่งเสียเรียนจนจบแพทย์ และให้บัวเทียนเป็นตัวแทนเขียนจดหมายติดต่อกับศล
เจ้าบัวเทียนเข้ามาให้ห้องเก็บรูปและตกใจมากเมื่อพบว่าแท้จริงแล้วเจ้าย่า เป็นย่าทวดอายุเกือบร้อยปีแล้ว เจ้าบัวละวงรู้ว่าตนเองคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานจึงเลือกผู้สืบทอดตำรายา อายุวัฒนะให้เจ้าบัวเทียน
อัพภันดร์โมโหเรื่องเรือนริมสระน้ำที่ก้องเขียนยกให้ศลก่อนตาย จึงพาลใส่อารี อารีขอแยกทางกับอัพภันดร์และขอเงินก้อนใหญ่ อัพภันดร์ยอมให้เพื่อแลกกับความลับและขู่ไม่ยอมให้อารีมีความสุขตลอดชีวิต อารีกลัวจึงเล่าความจริงให้ศลฟัง อัพภันดร์จึงตามมาฆ่าปิดปากอารี
เมื่อเรียนจบศลขอไปเป็นแพทย์ประจำอนามัยจอมทอง เพื่อทดแทนบุญคุณเจ้าย่า หลังทุกอย่างเรียบร้อยเจ้าย่าก็สิ้นลม ศลปลอบใจบัวเทียน ส่องเมืองไม่พอใจที่ศลสนิทกับเจ้าบัวเทียน บัวเทียนบอกว่าเธอคิดกับส่องเมืองแค่พี่ชาย เจ้าส่องเมืองจึงเริ่มหันไปมองผกาฟ้า ที่ดีกับตนทุกอย่างและแอบรักตนอยู่ อัพภันดร์ลอบยิงศลเพราะโกรธที่ศลแย่งเจ้าบัวเทียนไป บัวเทียนทำทีมาเยี่ยมอัพภันดร์ที่กรุงเทพ เรือนใจกลัวว่าบัวเทียนจะมาแย่งอัพภันดร์ไปจึงจ้างยอดมาฆ่าบัวเทียนแต่ศลมา ช่วยไว้ทัน อัพภันดร์วางยาหวังจะข่มขืนบัวเทียน แต่วิญญาณของเจ้าบัวคำแก้วที่วนเวียนอยู่กับร่างของเธอได้เข้ามาช่วยไว้ เรือนใจขัดขวางไม่ให้แผนของอัพภันดร์สำเร็จ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง อัพภันดร์ยิงเรือนใจ ก่อนตายเรือนใจก็แทงอัพภันดร์อาการสาหัส อัพภันดร์เห็นบัวเทียนเป็นเทียนกันยาจึงพยายามยิงใส่ แต่เขากลับเห็นภาพหลอนวิญญาณของคนที่ตัวเองฆ่าทั้งหมดตามมาทวงชีวิต สุดท้ายอัพภันดร์ก็สิ้นใจตายตามเรือนใจไป
เจ้าบัวคำแก้วมาทวงร่างของเธอคืนจากเทียนกันยา แต่เจ้าบัวละวงไม่ยอมและส่งวิญญาณของบัวคำแก้วไปเกิดเป็นลูกสาวของบัวเทียน กับศลแทน ทั้งสองแต่งงานและมาอยู่ที่บ้านสุจัณยา และตั้งชื่อลูกสาวว่า ศรีกัญญา แต่ศรีกัญญาก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 20 ปี จากอุบัติเหตุรถชนเหมือนในชาติที่แล้วที่เธอต้องจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุรถ คว่ำ พ.ศ.2553 กอหญ้าฟังเรื่องราวตำนานของตระกูลตัวเองด้วยความตื้นตันใจ