บ้านกลิ่นแก้ว คือบ้านสีขาวริมทะเลหลังหนึ่ง ที่ตั้งอย่างโดดเดี่ยวบนเกาะ มีแต่ป่าและหมู่บ้านชาวประมง ห่างไกลผู้คน บ้านสวยงามที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียด แต่ไม่มีใครเคยเข้าไปอยู่ สร้างความฉงนฉงายให้คนแถวนั้นเป็นอย่างยิ่ง ที่หน้าบ้านหลังนี้มีป้ายเล็กๆ ติดอยู่
ความรักเปลี่ยนแปลงโลก ความเกลียดทำลายแม้ตัวเอง…
เมษา หญิงผู้จองหอง เย็นชา แต่งงานกับ อรชุน ด้วยความรักเต็มหัวใจเมษาและอรชุนพยายามอย่างยิ่งที่จะมีลูกด้วยกันแต่ไม่ สำเร็จ วันหนึ่งเมษาพบว่าสามีของหล่อน อรชุนลักลอบเป็นชู้กับแฟนเก่าสูงศักดิ์ชื่อ ม.ร.ว.หญิงจิตตา จนคุณหญิงจิตตาตั้งท้อง เมษาพกเอาความแค้นไว้ในใจและตั้งใจจะแก้แค้นอย่างสาสม
เมษาอดทนจนวันที่คุณหญิงจิตตาคลอดลูก เมษาแอบเข้าไปสับเปลี่ยนป้ายชื่อของลูกสาวของม.ร.วหญิงจิตตา กับลูกสาวของโสเภณีคนหนึ่งที่บังเอิญมาคลอดลูกในโรงพยาบาลเดียวกันแล้วทิ้งไป ไม่มีใครสงสัยในความผิดครั้งนี้ เด็กสาวทารกที่ควรจะมีชาติตระกูลสูงส่ง ถูกส่งไปอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า เมษาติดตามดูเด็กคนนั้นอย่างสะใจ พยาบาลตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า พระพาย ลูกสาวของม.ร.ว.หญิงผู้สูงศักดิ์ กำลังเติบโตและตกระกำลำบากอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าโดยไม่มีใครสนใจดูแล
ในขณะเดียวกัน จิตตารู้สึกผิดต่อการกระทำของตน จึงบอกเลิกกับอรชุนด้วยความอาลัย จิตตาตัดสินใจหอบลูกน้อยที่หลงคิดว่าเป็นลูกแท้ๆ พาไปอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ แต่ความแค้นของเมษายังไม่จบ เมษาวางยาพิษให้อรชุนทีละน้อย จนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ วันที่อรชุนตาย เมษาเอาภาพถ่ายของเด็กกำพร้า พระพายที่กำลังถูกเพื่อนกลั่นแกล้งมาให้อรชุนดู หล่อนสะใจที่อรชุนได้รู้ว่าลูกแท้ๆ ของอรชุนและจิตตานั้นกำลังยากลำบากเพียงใด
เมื่อจิตตารู้ว่าอรชุนตายลง หล่อนพาลูกสาวอายุแปดขวบกลับมาเมืองไทยทันที จิตตาเสียใจเป็นอย่างยิ่ง แม้ความรักของตนกับอรชุนจะเป็นความรักที่ผิดศีลธรรมแต่ทั้งสองตระหนักดีว่า…สิ่งที่เกิดขึ้นคือรักแท้ จิตตาส่งคนไปแอบสับเปลี่ยนโถอัฐิของอรชุนในวันเผาศพของอรชุน แล้วนำอัฐิทั้งหมดไปโปรยไว้ใต้ซุ้มดอกแก้วที่บ้านสีขาวกลางเกาะ…บ้านกลิ่นแก้ว
บ้านกลิ่นแก้วแห่งนี้เป็นเสมือนตำนานรักของอรชุนและจิตตา ย้อนกลับไปเมื่อแปดปีก่อนหลังจิตตาคลอดลูกและตัดสินใจตัดขาดจากอรชุน ทั้งสองคนตัดสินใจสร้างบ้านขึ้นหลังหนึ่ง ตั้งชื่อว่าบ้านกลิ่นแก้ว ที่หลังบ้าน ทั้งสองปลูกต้นแก้วไว้เป็นซุ้มเคียงคู่กันสองซุ้ม ทั้งคู่มีสัญญาใจต่อกัน ถ้าใครคนหนึ่งตายไป จะให้คนเอาเถ้ากระดูกมาฝังไว้ที่ใต้ต้นแก้ว แม้ไม่อยู่ด้วยกันในชาตินี้ คนทั้งสองก็จะไม่แยกจากกันในชาติอื่นๆ
บ้านกลิ่นแก้วถูกสร้างขึ้นอย่างเงียบๆ กลางเกาะที่ห่างไกลความเจริญและห่างไกลผู้คน มีแต่เพียงคนใช้ชายหญิงชื่อ ถวิล กับ แต้ม เป็นคนดูแล เมื่ออรชุนยังมีชีวิตอยู่ เขาออกแบบและมาคุมการก่อสร้างด้วยตนเอง เขาบรรจงตกแต่งทุกรายละเอียดให้จิตตาและลูกด้วยความรัก บ้านที่เขาสร้างจะเป็นตัวแทนความรักของเขา แม้ไม่มีโอกาสที่จะมี”บ้าน”ที่อยู่ร่วมกันได้อีกในชาตินี้
จิตตารู้ความจริงในข้อนี้ดี ทุกอณูในบ้านหลังนั้นคือความรักที่อรชุนมีเพื่อมอบให้ตนและลูก แต่อรชุนตายไปแล้ว ตนและลูกมีหน้าที่เดินหน้าต่อไป
ในขณะที่จิตตาเก็บความทรงจำที่เต็มไปด้วยความรักของอรชุนเอาไว้ เมษากลับเลือกที่จะเก็บความแค้นและความชิงชังในตัวอรชุนและจิตตา หล่อนสานต่อการแก้แค้นอย่างเยือกเย็น ….
เมษาเริ่มต้นสานสัมพันธ์จนกลายเป็นเพื่อนสนิทของคุณหญิงจิตตา จิตตาไว้วางใจเมษาเล่าทุกๆ เรื่องให้เมษาฟัง เมษามีความสุขเหลือเกินกับการเฝ้ามองจิตตาประคบประหงมลูกโสเภณีข้างถนนไว้ เป็นลูกของตน ที่สำคัญ เด็กหญิงอาโป ยังมีนิสัยเย่อหยิ่ง เอาแต่ใจตนเอง และร้ายกาจเหมือนสายเลือดต่ำทรามที่ซ่อนอยู่ลึกๆ อาโปไม่ได้ผิดที่สายเลือดเพียงอย่างเดียว อาโปถูกประคบประหงมโดย นมแสง แม่นมที่ดูแลอาโป ด้วยความรักที่มากเกินไป คอยตามใจและทำให้อาโปเสียคน อาโปหยิ่งทะนงที่ตนมีนามสกุลสูงส่งและเป็นทายาทมรดกจำนวนมาก จนกลายเป็นคนเอาแต่ใจตนเอง ไม่รู้จักการให้และการเสียสละใดๆ
ในขณะเดียวกันนั้น เมษาก็ทำเรื่องขอตัวเด็กหญิงพระพายมาเป็นลูก เด็กน้อยพระพายมีความสุข หนูกำลังจะมีแม่เหมือนคนอื่น แต่ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เมษาก็ใช้พระพายราวกับคนรับใช้ บางครั้งก็เฆี่ยนตี และดุด่า แต่ไม่ว่าจะถูกลงโทษแค่ไหน หนูน้อยพระพายก็ยังคงรักและศรัทธาในตัวเมษาไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เพราะสำหรับเด็กน้อยแล้ว การที่มีใครสักคนพาตนออกมาจากบ้านเด็กกำพร้า และอนุญาตให้ตนเรียกว่าแม่นั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมด
จนเวลาผ่านไป เมื่อเด็กสาวทั้งสองเติบโตเป็นสาว เมษาก็วางแผนให้อาโปและพระพายได้กลับมาพบกัน อาโปได้รับการดูแลอย่างดี เจ้าหล่อนถูกส่งไปเรียนต่อในต่างประเทศ แต่กลับมาโดยไม่มีปริญญาติดตัว จิตตาและเมษาไปรับอาโปด้วยกันที่สนามบิน ป้าเมษาคนโปรดของอาโปให้รางวัลอาโปด้วยการมอบคนใช้ประจำตัวชื่อพระพายให้อาโป
พระพายย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของจิตตา จิตตามีความรักและเมตตาให้เด็กคนใช้ชื่อพระพายเป็นพิเศษ โดยไม่เข้าใจตนเองว่าเป็นเพราะอะไร เมษาเฝ้ามองทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม พระพายถูกจิกใช้ให้เป็นคนใช้ในบ้านของแม่แท้ๆ บนกองเงินกองทองที่ควรจะเป็นของตนเอง
คุณหญิงจิตตามีธุรกิจใหญ่โตด้านการส่งออกผ้าไหมไทยกับคหบดีตระกูล “ธีรนัย” ทั้งสองตระกูลมีข้อตกลงอันแปลกประหลาดอยู่ข้อหนึ่งนั่นคือ พวกเขาต้องการให้ทายาทของทั้งสองตระกูล แต่งงานกันเพื่อรักษาสมบัติของตระกูลคือกิจการผ้าไหมไทย และทายาทที่ต้องแต่งงานกัน นั่นก็คือ ลูกสาวของจิตตาที่ชื่ออาโป และลูกชายของตระกูลธีรนัยชื่อ อัสนี
อัสนีเป็นหนุ่มเพลย์บอยไม่ทำงานทำการ วันๆ เอาแต่ใช้ชีวิตไร้สาระอยู่กับเงินและผู้หญิง แต่ไม่มีใครเข้าใจว่าอัสนีไม่ได้เลวร้าย เขาแค่รวยมาตั้งแต่เกิดจนกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ที่สำคัญลึกๆ อัสนีเป็นคนจิตใจดีและขี้เหงาเพราะพ่อแม่ของเขาเสียไปตั้งแต่เล็กๆ
อัสนีปฏิเสธการแต่งงานกับอาโปตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า เพราะไม่อยากแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก เช่นเดียวกับอาโป หล่อนพยายามหนีการแต่งงานครั้งนี้ โดยไม่ยอมเจอหน้าอัสนีเช่นกัน เจ้าหล่อนมีแฟนอยู่แล้วชื่อ จอนนี่ แต่ทั้งคู่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแต่งงานครั้งนี้ได้ เพราะถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปฏิเสธก็จะถูกขับออกจากกองมรดกและตำแหน่งบริหารทุกอย่างในกิจการไหมไทย ทั้งคู่ยังไม่รู้จักหน้าค่าตากันเลย ทั้งที่ต้องเข้าพิธีแต่งงานกันในวันพรุ่งนี้ และในคืนนั้นเองก็เกิดเรื่องเลวร้ายกับอัสนี อัสนีรถคว่ำกลายเป็นคนพิการตาบอด ไม่เพียงแต่พิธีแต่งงานจะเริ่มต้นไม่ได้เท่านั้น…ทายาทคนเดียว ผู้บริหารคนใหม่ของกิจการไหมไทยกำลังจะกลายเป็นคนพิการ
เรื่องนี้ส่งผลถึงธุรกิจพันล้านแน่นอน ภานุ อาแท้ๆ ของอัสนีที่แอบหวังฮุบกิจการของอัสนีอยู่ลึกๆ จึงเข้ามาจัดการให้ข่าวต่อผู้บริหารทุกคนว่า อัสนีและอาโปจะแต่งงานกันอย่างเงียบๆ และจะย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านกลิ่นแก้วโดยไม่ต้องการให้ใครรบกวน
อาโปกรี๊ดทันทีที่ได้รับข่าว นอกจากไม่ได้ทำงานบริหารสวยเก๋ในเมืองใหญ่แล้วเจ้าหล่อนยังจะถูกส่งไปเป็นชาวเกาะ คอยดูแลสามีตาบอดในบ้านบนเกาะห่างไกลสังคมอีกด้วย และแล้วเจ้าหล่อนก็เกิดไอเดีย อาโปบังคับให้พระพายปลอมตัวเป็นตนแล้วไปอาศัยอยู่กับอัสนีแทน ในขณะที่ตนเองก็จะหนีหายไปเที่ยวต่างประเทศกับจอนนี่
เรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่มีใครรู้แม้แต่อัสนี ไหนๆ บ้านกลางเกาะนั่นก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว ใครจะไปรู้ว่าคนที่มาอยู่กับอัสนีเป็นอาโปตัวจริงหรือตัวปลอม อัสนีและพระพายจำต้องอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยาในบ้านกลางเกาะที่ตัดขาดจากโลกภายนอก
อัสนีเย่อหยิ่ง ปากร้าย ดุดัน และเกิดมาเพื่อเป็นคุณชายผู้จองหองเอาแต่ใจตนเอง ยิ่งในเวลานี้ที่กลายเป็นคนตาบอด เขายิ่งเหมือนเจ้าชายสายฟ้าที่พร้อมจะฟาดฟันลงมาที่คนรอบข้างตลอดเวลา ในขณะที่พระพายอ่อนโยนจิตใจดี เจ้าหล่อนเหมือนสาวน้อยแห่งสายลม ที่พร้อมจะเยียวยาทุกๆ คนให้มีความสุขกายสบายใจ แต่พระพายเป็นแค่เด็กน้อยกำพร้าที่มีประวัติลึกลับ หล่อนไม่ใช่คนมั่นใจในตนเอง แถมยังซุ่มซ่ามเซ่อซ่า หล่อนต้องกลายเป็นเนื้ออันโอชะที่ถูกอัสนีจอมโหดขย้ำตายคามือแน่นอน เผลอๆ พระพายอาจกลายเป็นบ้าไปเพราะหน้าที่ดูแลอัสนีก็เป็นได้
อัสนีผู้ป่วยตาบอด แถมยังป่วยที่จิตใจ ถูกพามาบ้านกลิ่นแก้วที่แสนเงียบสงบ แถมยังอบอวลไปด้วยกลิ่นดอกแก้ว บรรยากาศที่นี่ทำให้เขาแทบเป็นบ้า ไม่เพียงเท่านั้นเขายังต้องอยู่กับผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักชื่ออาโป ผู้หญิงที่ทำให้เขาพิการ อัสนีเกลียดอาโป เพราะคิดพาลเอาเองว่าอาโปคู่หมั้นทางการเมืองของเขาคนนี้ เป็นสาเหตุของความโมโหในคืนที่เขาขับรถจนได้รับอุบัติเหตุ ถ้าเขาไม่โมโหเรื่องต้องแต่งงานกับอาโป เขาก็คงไม่ขับรถประมาทแบบนั้น… วันนี้อาโปจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาของเขา เขาจะทำให้ยายนี่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงออกไปจากเกาะภายในสามวัน
อาโป เดินทางมาถึงที่เกาะจริงๆ แต่เจ้าหล่อนคือพระพายปลอมตัวมา ผู้ดูแลบ้านคือ แต้มผู้สามีกับถวิลผู้ภรรยา รวมทั้งอัสนีก็ไม่รู้ ทุกคนพากันเข้าใจไปว่านี่คืออาโป อัสนีที่เป็นผู้ป่วยบนรถเข็นจัดการตัดไฟทั้งบ้านกลิ่นแก้วทันทีเพื่อต้อนรับ ภรรยากำมะลอ อัสนีอ้างว่าในเมื่อตนต้องอยู่ในความมืด คนอื่นก็ต้องอยู่ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น เขายังหลอกพระพายในนามของอาโปให้ไปติดอยู่ในห้องเก็บของ
พระพายต้องทนทุกข์ทรมานร้องไห้อยู่ในห้องมืดๆ ทั้งคืน กว่าถวิลจะช่วยออกไปได้ พระพายออกไปจัดการกับอัสนีทันที หล่อนแกล้งเอาปลิงทะเล เมนูอาหารของถวิลไปใส่ในเสื้อของอัสนี แล้วบอกว่ามันคือหนูที่จับได้จากห้องเก็บของ อัสนีตกใจมากลุกขึ้นจากรถเข็นแล้ววิ่งสะบัดไปมา พระพายงงงวยเป็นอย่างยิ่งที่อัสนีเดินได้แต่ไม่ยอมเดิน อัสนีโมโหมากตะโกนด่าเอาไม้ไล่ตีพระพายจนล้มไม่เป็นท่า วันต่อมาอัสนีคิดแผนใหม่ แกล้งมาทำดี แล้วเล่าเรื่องผีที่รอคอยคนรักในบ้านกลิ่นแก้วให้พระพายฟัง พอตกดึกเขาก็จัดการจ้างเด็กชาวประมงนำโดย เด็กชายอารี ที่อยู่แถวนั้นมาหลอกผี พระพายกลัวผีจนจับไข้หัวโกร๋นไปสามวัน จนถวิลต้องมาดูแล
ในที่สุดพระพายก็รู้ความจริง เพราะความไร้เดียงสาของเด็กชายอารีและเพื่อนๆ พระพายไม่รอช้าจัดการดัดหลังกลับ หล่อนไปเอาม้วนภาพยนตร์เก่าๆ ที่เจอในห้องเก็บของมาฉายต่อออกลำโพงให้ดังทั่วหาด คราวนี้ชายพิการทิ้งรถเข็นวิ่งหนีอ้าวเพราะนึกว่าผีเจ้าที่ๆ ว่านั้นมีตัวตนจริงๆ จากนั้นพระพายจัดการให้แก๊งค์เด็กชาวประมงเอารถเข็นไปทิ้งที่หน้าผาหลังเกาะ หล่อนบอกอัสนีว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาจะยอมรับความจริงและมีชีวิตอยู่ให้ได้ อัสนีต้องเดินด้วยตัวเองไม่ใช่ด้วยรถเข็น ถึงแม้จะเป็นวิธีเดินแบบคนตาบอดก็ตาม
แน่นอน…อัสนีอาละวาดด่าอาโปที่ตัวจริงคือพระพายไม่มีชิ้นดี ไม่ว่าจะแสดงฤทธิ์เดชอย่างไรพระพายก็ไม่ยอมท้อถอย หล่อนรับมือกับคุณแม่เมษาที่แสนเจ้าอารมณ์มาได้ตลอดชีวิต นับประสาอะไรกับชายพิการคนเดียว ที่สำคัญ…หล่อนเป็นพยาบาล ความเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจของอัสนีเป็นหน้าที่ๆ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงอยู่แล้ว
อัสนี ประหลาดใจมาก แม้เขาจะกลั่นแกล้งพระพายเท่าไหร่ พระพายก็ไม่มีท่าทางจะทิ้งเขาไป ถึงแม้หล่อนจะเหมือนคู่กัดของเขาตลอดเวลา แต่ผู้หญิงคนนี้อบอุ่นอ่อนโยนไม่เหมือนผู้หญิงเย่อหยิ่ง อาโปตัวจริงที่เขาได้ข่าวมาแม้แต่น้อย พระพายจัดการสอนให้อัสนีใช้ไม้เท้า ดูแลสุขภาพร่างกายจนแข็งแรงขึ้น หล่อนพาอัสนีไปเดินเล่นริมทะเล ปรับปรุงบ้านกลิ่นแก้วที่อยู่ในความมืดให้สว่างไสว เด็กกำพร้าสองคนเริ่มทดแทนกันและกัน พระพายสอนอัสนีให้รู้ถึงคุณค่าชีวิต และอัสนีก็สอนให้พระพายลบปมด้อยของตนให้เข้มแข็งและเชื่อมั่นในตนเองมากกว่านี้
อัสนี โดยเฉพาะพระพายชอบไปนั่งเล่นที่ซุ้มดอกแก้ว หล่อนจะรู้สึกสุขใจอย่างประหลาด พระพายไม่เคยรู้ถึงสาเหตุที่แท้ของความผูกพัน เพราะบ้านหลังนี้คือบ้านที่พ่อและแม่ที่แท้จริงของตนเป็นผู้สร้างมา และที่ใต้ต้นแก้วนั้นก็มีเถ้ากระดูกของอรชุนผู้เป็นพ่อแท้ๆ โปรยปรายอยู่
อัสนีจิตใจดีขึ้น พระพายให้กำลังใจเขาเพื่อให้ผ่าตัดเปลี่ยนดวงตา และด้วยความช่วยเหลือของพยาบาลเก่าอย่างพระพาย อัสนีได้พบแพทย์เฉพาะทาง เขาตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดทันที ด้วยสาเหตุลึกๆ เขาอยากเห็นหน้าภรรยาที่ดีกับเขาตลอดมา และอยากใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาจริงๆ กับอาโปซึ่งก็คือพระพายนั่นเอง
การผ่าตัดเป็นไปอย่างเรียบร้อย ถึงแม้อัสนีจะยังเปิดผ้าพันแผลที่ตาไม่ได้ แต่หมอยืนยันว่าโอกาสที่อัสนีจะมองเห็นมีมากกว่าแปดสิบเปอร์เซนต์ ข่าวการหายตัวไปของอัสนีสั่นสะเทือนผู้คนมากมาย ถ้าอัสนีกลับมาบริหารกิจการไหมไทย นั่นคือการกลับเข้าสู่สังคม อาโปตัวจริงจำต้องกลับมาทำหน้าที่ภรรยา จะให้พระพายสวมรอยต่อไปไม่ได้
อาโป ตัวจริงเดินทางมาที่บ้านกลิ่นแก้วทันที ด้วยการจัดการของเมษาที่ไม่อยากให้พระพายได้ดี ให้บังเอิญเหลือเกินที่อาโปกำลังทะเลาะกับจอนนี่ อาโปผู้มีจิตใจโลเล แถมถูกยุยงจากป้าเมษา จึงเปลี่ยนใจกลับมาชอบอัสนีทันทีที่รู้ข่าวว่าเขากำลังจะกลับเป็นคนปรกติ
พระพายหัวใจสลาย อาโปกำลังทวงตำแหน่งภรรยาของหล่อนคืน หล่อนไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้อัสนีอีกแล้ว โลกแห่งความเป็นจริงเปิดออก หล่อนมีค่าแค่เพียงแค่คนใช้ของอาโปเท่านั้น
ในวันที่เปิดผ้าพันแผล เมื่อดวงตาของอัสนีเปิดขึ้น ผู้หญิงที่เขาพบคืออาโปที่ฉกฉวยเอาความดีความงามไปทั้งหมด ในขณะที่หน้าห้องคือพระพายผู้น่าสงสาร ในห้วงเวลานี้เอง โดม เพื่อนรักของพระพายที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น ก็สารภาพรักกับพระพาย แต่โดมก็ไม่สามารถทำให้พระพายลืมอัสนีได้
เมษาจัดการบังคับพระพายไม่ให้ปรากฏตัวให้อัสนีเห็น แค่ทุกวันนี้อัสนีก็สับสนพออยู่แล้ว เหตุใดอาโปที่เขาพบในวันนี้กับอาโปที่อยู่ที่บ้านกลิ่นแก้วนั่น จึงเสียงไม่เหมือนกัน แต่ในเมื่อทุกคนแม้แต่หลักฐานทางกฎหมายก็ยืนยันว่านี่คืออาโปตัวจริง เขาก็พูดอะไรไม่ออก
อัสนีเคียงข้างด้วยอาโปกลับเข้าบริษัทอย่างมีเกียรติ อัสนีเวลานี้เหมือนเป็นคนละคน เขาจัดการปรับปรุงตัวเองใหม่เพื่อเป็นคนที่ดีและสามีที่ดี แต่เขากลับรู้สึกแปลกแยกกับอาโปคนใหม่มากขึ้นทุกที และในขณะเดียวกัน รอบๆ ตัวของเขาก็เหมือนมีเงาของใครคนหนึ่งติดตามช่วยเหลือเขาในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อยู่เสมอ พระพายนั่นเอง หล่อนแอบเข้ามาจัดการเรื่องของอาหาร ยา หรือแม้แต่ช่วยงานเอกสาร ทุกอย่างโดยไม่เคยโผล่มาให้อัสนีเห็นตัวหรือได้ยินเสียงเลย
บัดนี้พระพายได้กลายเป็นลมอบอุ่นที่ไร้ตัวตน แต่อัสนีก็สัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยของลมที่อบอุ่นได้ตลอดเวลา ในใจของอัสนีรู้แต่ว่า ตนจะต้องสืบสวนทุกอย่างที่น่าสงสัยรอบตัว อัสนีแกล้งวางแผนขับรถแข่งให้รถคว่ำแล้วกลับไปเป็นคนตาบอดอีกครั้ง
เรื่องราวเหมือนวนกลับมาที่เดิม อัสนีสูญเสียตำแหน่งทางธุรกิจไป อาโปเริ่มกลายเป็นบ้าที่ต้องอยู่กับสามีตาบอดไร้อำนาจ หล่อนแอบติดต่อกับจอนนี่ให้มาพบบ่อยๆ อัสนีชายตาบอดถูกทอดทิ้งไว้ในบ้าน เขาหวังใจลึกๆ ลมอุ่นๆ ที่เคยแอบช่วยเหลือเขาจะปรากฏตัว แต่แล้วก่อนที่พระพายจะถูกจับได้ เมษาก็รู้แผนการของอัสนีเสียก่อน ถ้าอัสนีรู้ว่าพระพายมีตัวตนจริง เขาจะแต่งงานกับพระพายแล้วพาพระพายกลับเข้าบริษัท เข้ารับตำแหน่งทุกอย่าง
เมษาออกขัดขวางอัสนีได้สำเร็จ แผนของอัสนีไม่เป็นผล พระพายไม่ได้ปรากฏตัวที่บ้านกลิ่นแก้ว มีแต่เพียงอาโปคนเดิม อัสนีหมดหวัง แผนการเป็นคนตาบอดของเขาล้มเหลว เขากลับมาเป็นคนตาดีอีกครั้ง และตัดใจเชื่อว่า คนที่แอบดูแลเขานั้นเป็นเรื่องคิดไปเอง อาโปมีเพียงคนเดียว และไม่มีการแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น
แต่แล้วอาโปก็ก่อเรื่องอีก อาโปทะเลาะกับจอนนี่ จอนนี่เข้ามาอาละวาดในบ้านด้วยอารมณ์หึงหวง เขาเอาปืนเข้ามาจะยิงให้อัสนีตาย แต่คนที่เข้ามารับกระสุนปืนคือพระพาย ผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นหน้า แต่แอบติดตามเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จู่ๆ ก็เข้ามารับกระสุนปืนแทนเขา พระพายถูกยิงสลบไปอยู่ในอ้อมกอดของอัสนี อาโปร้องกรี๊ดทำอะไรไม่ถูก จอนนี่จึงพาตัวอาโปขึ้นรถหนีไป และวางแผนสวมรอยเพื่อเรียกค่าไถ่ตัวอาโป จิตตาและเมษาเดือดร้อนออกติดตาม
ระหว่างการติดตาม อาโปทะเลาะกับจอนนี่อย่างหนัก จอนนี่เสียใจที่อาโปไม่เข้าใจ ด้วยความเครียดจอนนี่ยิงอาโปและตั้งใจจะยิงตัวเองตายตามประชดรัก จอนนี่ตายแต่อาโปบาดเจ็บสาหัสถูกพาเข้าห้องผ่าตัดเคียงคู่กับพระพาย ทั้งคู่ขาดเลือดต้องเปิดรับบริจาค และแล้วจิตตาก็ค้นพบความจริง เลือดของอาโปไม่ตรงกับหมู่เลือดของตน แต่ของพระพายกลับตรงกัน
จิตตาที่แอบสงสัยที่มาของพระพายมานานแล้ว เริ่มออกสืบความจริง จิตตาตัดสินใจพาเมษาไปที่บ้านกลิ่นแก้ว และเล่าเรื่องการกำเนิดของบ้านกลิ่นแก้วให้ฟัง เมษาที่ป่วยเป็นโรคหัวใจเพราะความแค้นและความเครียดมานานเกือบ 20 ปี ช็อคทันทีที่รู้ว่า อรชุนอดีตสามีและจิตตามีความรักต่อกันมากมายขนาดไหน แม้ร่างของอรชุนจะตายไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาเหลือไว้คือความรักที่มีต่อจิตตาและลูก ผลการตรวจดีเอ็นเอมาถึงมือของจิตตาแทบจะในทันที จิตตารู้ความจริง ลูกของเธอคือพระพายไม่ใช่อาโป
จิต ตายิ้มแย้มมีความสุขต่อหน้าเมษา หล่อนไม่เสียใจสักนิด พระพายเติบโตขึ้นมาอย่างน่ารักและงดงาม ชีวิตที่บ้านเด็กกำพร้าและการกดขี่ของเมษาไม่สามารถทำลายความดีในสายเลือด ของพระพายได้พระพายเข้าพิธีแต่งงานกับอัสนี ได้ใช้ชีวิตแม่ลูกกับจิตตา
อาโปตกใจช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น สายเลือดสูงส่งและเงินทองที่หล่อนเคยยึดไว้ตลอดชีวิตสูญสลายไป หล่อนต้องเข้าบำบัดรักษาในโรงพยาบาลโรคจิต โดยมีนมแสงคอยดูแลอยู่ด้วยความเสียใจที่มีส่วนทำให้อาโปเป็นเช่นนี้ ทั้งพระพายและจิตตารับอาโปเข้ามาดูแลเหมือนเดิม จนอาการของอาโปค่อยๆ ดีขึ้น
เมษาเข้าโรงพยาบาล อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ เวลาเพียงสามเดือน หล่อนผมขาวโพลนทั้งหัว กลายเป็นคนแก่ที่เต็มไปด้วยโรคต่างๆ จะอยู่ก็อยู่อย่างคนครึ่งคนจะตายก็ตายไม่ได้ ความแค้นตลอดชีวิตกัดกินหล่อน และยังกัดกินหล่อนต่อไป
เมษายืนมองบ้านกลิ่นแก้ว เอามือจับที่ป้ายไม้เก่าๆ ฝีมือของอรชุน
ความรักเปลี่ยนแปลงโลกทั้งโลก…ความเกลียดทำลายแม้ตัวเอง…
ออกอากาศ 19 มิถุนายน 2550 – 8 สิงหาคม 2550