Tag Archives: อานัส ฬาพานิช

แก่นกะลา

ดอกคูณ เด็กสาวก๋ากั่น ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมจิตใต้สำนึกของเธอถึงได้เรียกร้องอยากจะเป็นนักมวยนักหนา ด้วยสถานะภาพและฐานะทางสังคมของดอกคูณ ทำใหไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมีโอกาสพบรักกับ หมวดกล้า นายตำรวจปราบปรามยาเสพติดนอกเครื่องแบบฐานะดีได้
เรื่องของเรื่องมันเกิดขึ้นก็เพราะว่า กล้าไปตามจับนักค้ายาเสพติดรายหนึ่งที่สถานีรถไฟดงมะเฟือง จังหวัดราชบุรี สายรายงานว่าผู้ค้ารายนั้นอยู่ในคราบคนขายไข่ปิ้ง แต่เป็นเพราะสายคนนั้นเป็นคนจมูกบี้ จึงทำให้หมวดกล้าฟังเป็นคนขายไก่ปิ้ง ซึ่งก็คือดอกคูณนั่นเอง หมวดกล้าตามจับดอกคูณมาผิดตัว สร้างความไม่พอใจแรกพบต่อดอกคูณเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวเธอเองก็เป็นคนเกลียดยาเสพติดเข้ากระดูกดำเหมือนกัน

หมวดกล้าถูกใจในฐานะและทักษะทางเชิงมวยของดอกคูณ จึงติดต่อให้ดอกคูณเป็นสายสืบประจำหมู่บ้านดงมะเฟือง ด้วยการทาบทามของ จ่าจ้อย คนสนิทของหมวดกล้าเอง ดอกคูณก็ได้แกล้งหมวดกล้าจนพอใจแล้วเธอจึงยอมรับงานร่วมกันกับหมวดกล้า ทำให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

หมวดกล้ามีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ ศรัณายา ที่เป็นบุตรสาวของ นายไพฑูรย์ เศรษฐีเจ้าของค่ายมวย ที่ชอบทำการกุศลทอดผ้าป่า กฐินเป็นชีวิตจิตใจ แล้วพ่อลูกคู่นี้ก็ได้ชวน คุณนายปานวาด มารดาของหมวดกล้ามาทอดกฐินยังหมู่บ้านดงมะเฟืองด้วย ซึ่งดอกคูณเองก็ต้องขึ้นชกมวยงานวัดในคืนนั้นด้วยเช่นกัน

ดอกคูณขึ้นชกในฐานะลูกศิษย์ของ ครูเรือง เจ้าของค่ายมวยต่างจังหวัด ลีลาการชกมวยของดอกคูณเข้าตานายไพฑูรย์ จนถึงขนาดทาบทามครูเรือง ขอดอกคูณให้มาชกอยู่กับค่ายของตนที่กรุงเทพฯ แต่ครูเรืองได้ทีแบ่งรับแบ่งสู้ขอพูดคุยกับดอกคูณก่อน

ที่งานวัดคืนนั้นเอง หมวดกล้าก็ได้สืบรู้มาว่าจะมีการส่งมอบยาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าที่ไหน แต่ในที่สุดก็กลายเป็นว่ามีการส่งมอบยากันที่ข้างวัดนั่นเอง ผู้ค้ายาถูกวิสามัญฆาตกรรม จนทำให้หมวดกล้าไม่สามารถขยายผลสืบการจับกุมได้

อีกด้านหนึ่งของทางกรุงเทพฯ ดอกคูณไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่า ค่ายมวยของนายไพฑูรย์นั้น อยู่ภายใต้การดูแลของ นายตึ๋ง อดีตนักมวยชื่อดัง ซึ่งเป็นพ่อของเธอนั่นเอง นายตึ๋งได้แยกทางกับ นางเจียม แม่ของดอกคูณตั้งแต่ยังเล็กๆ แล้วได้พาเอา ดาวใจ น้องสาวแท้ๆ ของดอกคูณจากไปด้วย

การทำงานอย่างสนิทสนมใกล้ชิดกันของหมวดกล้ากับดอกคูณ ยังความไม่พอใจมาสู่ศรัณยา คู่หมั้นของหมวดกล้าเป็นอย่างมาก เธอจึงให้ตึ๋งพาคนมาดักทำร้ายดอกคูณข้ามจังหวัด โดยที่ตึ๋งไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะทำร้ายลูกสาวตัวเอง

แต่ด้วยการช่วยเหลือของ ตุ่นกับกล้วย จึงทำให้ดอกคูณรอดพ้นจากการถูกทำร้ายไปได้ พวกคนร้ายพ่ายกลับกรุงเทพฯ ไป ยังความชิงชังให้เกิดกับศรัณยามากขึ้นเรื่อยๆ

หมวดกล้ากับดอกคูณติดตามคนร้ายรายหนึ่งจากดงมะเฟือง ติดพันเข้ากรุงเทพฯ ด้วยกันมา ดอกคูณซึ่งเป็นคนแพ้เห็ดอย่างรุนแรง ได้เผลอไปกินเห็ดเข้าจนเมามาย แล้วเรื่องราวก็บานปลาย มีเรื่องราวกับคนร้ายจนไม่ได้กลับดงมะเฟือง แล้วก็ต้องค้างที่บ้านหมวดกล้า จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่รักนวลสงวนตัวของดอกคูณดัง กระหึ่มไปทั่วบ้านดงมะเฟือง สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับนางเจียมผู้เป็นแม่อย่างยิ่ง

หมวดกล้า รู้ถึงปัญหาที่ตนเป็นผู้ร่วมก่อขึ้น เขาตัดสินใจขอดอกคูณมาเลี้ยงที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะให้เรียนและเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงอย่างที่ดอกคูณใฝ่ฝัน นางเจียมเองและดอกคูณก็อยู่ในสภาวะเลยตามเลย จำใจยอมให้ดอกคูณมาอาศัยอยู่ที่บ้านหมวดกล้าที่กรุงเทพฯ อันนำมาซึ่งความไม่พอใจแก่ปานวาด ผู้เป็นแม่ของหมวดกล้าและศรัณยาผู้เป็นคู่หมั้นอย่างใหญ่หลวง

ศรัณยากับปานวาดร่วมมือกันหาทางกลั่นแกล้งดอกคูณอยู่เนืองๆ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อดอกคูณ ทั้งด้วยสถานการ์และความสามารถของดอกคูณอยู่ร่ำไป

ที่บ้านของปานวาด มีคนใช้ชื่อทิพย์อยู่คนหนึ่ง ซึ่งชอบพอเอ็นดูดอกคูณอยู่แล้ว เธอก็สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในทางความรู้สึกของทั้งหมวดกล้าและดอกคูณ ที่มีต่อกันอย่างลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นผู้ปกครองและเด็กในความดูแลของกัน และกัน มากขึ้นเรื่อยๆ

ทางด้านหมู่บ้านดงมะเฟือง ตุ่น กล้วยเองก็จับผลัดจับผลูติดสอยห้อยตามคนขับสามล้อ สายตำรวจจมูกบี้คนหนึ่งเข้ากรุงเทพฯ มา แล้วก็ไม่สามารถกลับไปยังหมู่บ้านดงมะเฟืองได้ เพราะว่าสามล้อไปแทงบอลแล้วไม่มีเงินจ่าย จึงถูกโต๊ะบอลตามล่าเอาชีวิต ทั้งตุ่นกล้วย และสามล้อ จึงมาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ โดยตุ่น กล้วย ยึดอาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ภายในซอยบ้านของหมวดกล้า ที่ดอกคูณอาศัยอยู่นั่นเอง ส่วนสามล้อ ก็รับจ้างเป็นกระเป๋ารถสองแถวอยู่ในซอยนั้นเช่นกัน

ดอกคูณมาอยู่ในค่ายมวยของนายไพฑูรย์ ภายใต้การดูแลของครูมวยที่ชื่อ ตึ๋ง ทั้งตึ๋งและดอกคูณนั้นยังไม่รู้ความจริงว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน ดาวใจเองก็มีอาการอิจฉาดอกคูณมากขึ้นเรื่อยๆ ความที่ดอกคูณชกมวยดี

วันดีคืนดีข้ามหน้าข้ามตามเธอ แล้วมิหนำซ้ำ ดูเหมือนดอกคูณกำลังกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเธอที่แอบหลงรักหมวดกล้าอยู่ เช่นกัน ศรัณยาส่งคนมาดักลอบยิงดอกคูณ แต่ตึ๋งเข้าไปขวางทางปืนรับบาดเจ็บเต็มๆ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ดอกคูณจะต้องขึ้นชกไฟท์สำคัญถ่ายทอดไปทั่วประเทศ อาการของตึ๋งหนักมาก ต้องการเลือดด่วน ซึ่งเลือดของตึ๋งเป็นเลือดที่หายากมาก นั่นคือกรุ๊ปโอเนกาทีฟ แม้แต่ดาวใจที่เป็นลูกเองก็ไม่สามารถมีเลือดกรุ๊ปนั้น แต่ดอกคูณมีเลือดกรุ๊ปโอเนกาทีฟเช่นกัน เธอจึงบริจาคเลือด เสร็จแล้วก็ขึ้นชกด้วยอาการอ่อนเพลีย แต่ด้วยความสามารถและคำสั่งสอนของตึ๋ง ทำให้ดอกคูณชนะมาได้อย่างฉิวเฉียด และชนะใจคนดูทั่วประเทศ

เหตุการณ์ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างดอกคูณกับตึ๋งแนบแน่นต่อกันมากยิ่ง ขึ้น ตึ๋งขอสัญญากับดอกคูณ ไม่ว่าดาวใจจะทำอะไรก็ขอให้เอ็นดู ปราณีดาวใจ ขอให้คิดกับดาวใจเหมือนเป็นน้อง ดอกคูณให้สัญญารับปาก หลังจากนั้นดาวใจก็เอาแกงราดหัวดอกคูณอย่างต้องการหาเรื่อง ดอกคูณได้แต่อดกลั้นเพราะให้สัญญากับตึ๋งเอาไว้แล้ว

หมวดกล้าเริ่มรู้สึกว่า ทุกที่ที่นายไพฑูรย์ไปเกี่ยวพันด้วยนั้น มักจะมีการส่งมอบยากันอยู่เนืองๆ เขาจึงเริ่มคิดว่าคนร้ายที่เขาต้องการตัวนั้น อันที่จริงอาจอยู่ใต้จมูกของเขานี่เอง

อนาคตชีวิตการเป็นนักมวยของดอกคูณเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ความดังของดอกคูณเริ่มระบาดไปจนถึงวงการแฟชั่น เธอได้ขึ้นปกหนังสือหลายฉบับ ยิ่งสร้างความกดดันและอิจฉาริษยาให้แก่ศรัณยามากขึ้นอย่างเท่าทวีคูณ

เจียมกับครูเรืองเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมเยียนดอกคูณ ณ บ้านของคุณนายปานวาด แต่เจียมเองก็ต้องคาดแคล้วไม่เจอกันกับดอกคูณ นางฉิวเฉียดกับตึ๋ง อดีตสามีแบบหวุดหวิดเกือบจะทำให้ความลับความหลัง ความสัมพันธ์ทั้งหลายถูกคลี่คลาย แต่ก็ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาซักที

ความสัมพันธ์ระหว่างดอกคูณกับหมวดกล้าเอง ก็ชักจะหองระแหงกันมากขึ้นเรื่อยๆ ความที่ดอกคูณเองก็ไม่มีเวลา และเขาเองก็ถูกใส่ร้ายยุยงจากปานวาดผู้เป็นแม่และศรัณยาผู้เป็นคู่หมั้น กล้าปลอมตัวเป็นจอห์น นโกรย้อนยุค เข้ามาทำธุรกิจมวยกับนายไพฑูรย์เพื่อต้องการให้นายไพฑูรย์ไว้ใจเขาในการที่ จะทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายไพฑูรย์

กล้าในคราบของนิโกร จอห์น แกล้งทำยาเสพติดเก็บอาไว้ในกระเป๋าจำนวนหนึ่ง แล้วปล่อยให้นายไพฑูรย์ไปเจอเอง จนนายไพฑูรย์เข้าใจว่าจอห์นเองก็ทำธุรกิจผิดกฏหมายเช่นเดียวกับเขา จนนายไพฑูรย์ยินยอมเปิดเผยกับจอห์นว่าเขาเองก็ค้ายาบ้าเหมือนกัน ทั้งคู่ตกลงส่งของยาบ้าล๊อตใหญ่ กล้าเองก็ได้แต่รอวันส่งมอบของ เพื่อที่จะได้มีของกลางจับนายไพฑูรย์ให้ดิ้นไม่หลุด

ส่วนทางด้านดาวใจเองก็ถูกยุยง จากการปลุกปั่นหัวของศรัณยา จนเธอยินยอมที่จะวางยาดอกคูณในการขึ้นชกกับนักมวยรายหนึ่ง ยังผลให้ดอกคูณถึงกับน๊อคกลางอากาศ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงสลบเหมือด อาการเข้าขั้นโคม่าไม่ได้สติอยู่เป็นเวลานาน

ดาวใจรู้สึกว้าวุ่นหัวใจกับสิ่งที่ตนเองทำ แล้วก็รู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาดอกคูณเองก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายอะไรเธอ เลย ดาวใจทำไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์โดยแท้ หมวดกล้าเองได้แต่นั่งภวานาให้ดอกคูณฟื้นขึ้นมา เขายอมรับกับตัวเองว่าเขากลัวที่จะเสียดอกคูณไปตลอดชีวิตเสียเหลือเกิน

ในที่สุด กล้าก็สามารถเอานายไพฑูรย์เข้าคุกได้สำเร็จ ดอกคูณฟื้นจากโคม่ามา กล้าตัดสินใจจะบอกรักกับดอกคูณ เขาไปซื้อดอกไม้หมายที่จะบอกรักกับดอกคูณ แต่ระหว่างทางที่เขาจะไปหาดอกคูณนั่นเอง เขาก็ถูกศรัณยา ขับรถชนด้วยความต้องการที่ว่า ถ้าเธอไม่ได้กล้า ดอกคูณก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน

ศรัณยาถูกจับเข้าคุกตามคนที่เป็นพ่ออีกคน ดอกคูณได้แต่เฝ้ารอ ภาวนาให้กล้าฟื้นขึ้นมาเช่นกัน เธอเองก็รออยู่ว่าจะสารภาพรักต่อเขาเช่นกัน

ดอกคูณตัดสินใจเปิดค่ายมวยดงมะเฟืองขึ้น เธอเองได้สังเกตว่าดาวใจยังคงมั่นรักต่อกล้า ดอกคูณตั้งใจว่าจะสละความสุขชั่วชีวิตให้น้องสาวคนเดียวของเธอ

กล้าฟื้นขึ้นมาพร้อมกับอาการพิการท่อนล่างไม่อาจเดินได้อีกตลอดชีวิต ตึ๋งต้องการทดสอบดาวใจว่าเธอทนได้หรือไม่ที่จต้องทนอยู่กับคนพิการตลอดชีวิต โดยให้ดาวในปรนนิบัติเขาในลักษณะที่ต้องดูแลคนพิการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ในที่สุดดาวใจก็รู้ว่า ความรักที่เธอมีต่อหมวดกล้านั้นเป็นเพียงแค่ความหลงเท่านั้นเอง เธอยังต้องการความสนุกในชีวิตวัยสาวอีก

ต่างจากดอกคูณ ที่เธอรักกล้าไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เมื่อดาวใจถอนตัวออกไป ดอกคูณจึงมาสารภาพกับหมวดกล้าว่าเธอรักเขาไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม

เหตุการณ์กลับกลายเป็นว่า กล้าไม่ได้พิการ ทุกอย่างเขาหลอกเธอ ดอกคูณน้อยใจรับไม่ได้ที่ถูกเขาหลอก แต่ในที่สุดเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไป

ดอกคูณขึ้นชกอีกครั้ง เธอเกือบจะแพ้อยู่แล้ว แต่ด้วยแรงใจและความรักของ กล้าที่มีต่อเธอทำให้เธอผ่านพ้นมันมาได้ ทั้งหมวดกล้าและดอกคูณเข้าใจกันและลงเอยในที่สุด

รายชื่อนักแสดงละคร แก่นกะลา

อานัส ฬาพานิช แสดงเป็น หมวดกล้า
สาวิกา ไชยเดช แสดงเป็น ดอกคูณ
ภัทรา ทิวนนท์ แสดงเป็น นางเจียม
ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์ แสดงเป็น ตึ๋ง ปังตอ
คริสตัล วิรุฬห์จรรยา แสดงเป็น ดาวใจ
เขาทราย แกแล็คซี่ แสดงเป็น จ่าจ้อย
บอล เชิญยิ้ม แสดงเป็น สามล้อ
แม๊กซ์ ชวนชื่น แสดงเป็น กล้วย
แจ็ส ชวนชื่น แสดงเป็น ตุ่น
กลศ อัทธเสรี แสดงเป็น ไพฑูรย์
ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น คุณนายปานวาด
รุ้งนภัฐ บริจินดากุล แสดงเป็น ศรัณยา
เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ แสดงเป็น ครูเรือง
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ แสดงเป็น เจ๊จิ๋ม

 

กำนันอี๊ด

กำนันอี๊ด (เอมี่ กลิ่นประทุม) เป็นกำนันหญิงแห่งตำบล หนองน้ำใส เธอได้เป็นกำนันเพราะมีพ่อเป็นกำนันมาก่อนคือ กำนันอ้อ ซึ่งกำนันอ้อจัดว่ามีฐานะ ทำสวนผลไม้ ทำไร่ ทำฟาร์ม ก็เพราะแม่อ้อยของกำนันอี๊ดมีฐานะ

เมื่อกำนันอ้อเสียชีวิตกระทันหัน กำนันอี๊ดซึ่งติดตามทำงานให้แก่ตำบลเคียงข้างมากับพ่อจึงได้รับความไว้วางใจ และได้แรงสนับสนุนรวมทั้งแรงขอร้องให้เธอขึ้นเป็นกำนันตำบลหนองน้ำใสตามพ่อ เธอ

กำนันอี๊ดขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งแต่อายุ 6 ขวบก็ไม่มีแม่แล้ว จึงต้องช่วยพ่อมากกว่าเดิม คือต้องทำงานบ้าน ต้องเลี้ยงน้องคนเดียว นั่นคือ น้องแอ้ม (อัมรินทร์ ธีราธนันพัฒน์)น้องสาว กำนันอี๊ดจึงรักน้องแอ้มมาก ความรักที่พี่มีต่อน้องได้รับการบวกความรักเสมือนเป็นแม่เข้าไปด้วย เพราะต้องดูแลน้องแทนแม่ที่จากไป น้องแอ้มจึงกลายเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของกำนันอี๊ด เรียกได้ว่า ใครมาทำอะไรน้องแอ้ม กำนันอี๊ดจะปี๊ดจนบางทีลืมคิดหน้าคิดหลัง เพราะกำนันอี๊ดให้สัญญากับแม่ไว้ ว่าจะรัก และดูแลน้องแอ้มให้เหมือนที่แม่รัก

ในวัยเด็ก กำนันอี๊ดเติบโตมาเหมือนเด็กในต่างจังหวัดที่พ่อแม่สอนให้เป็นคนดี มีศีลธรรมเป็นกุลสตรีแต่ความที่พ่อชอบพากำนันอี๊ดไปไหนต่อไหนด้วยเวลาออกไป ปฏิบัติหน้าที่กำนัน กำนันอี๊ดจึงติดความแข็งแกร่งจากพ่อมาด้วย ดังนั้นจึงมีนิสัยลึกๆ ของผู้ชายที่ไม่ชอบใช้อารมณ์จนเกินงาม และมีความคิด ตัดสินใจได้เด็ดขาด และรู้จักควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกของตนเองรวมทั้งรู้จักหน้าที่ และเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อส่วนรวม

ในวัยเด็ก กำนันอี๊ดก็เหมือนเด็กหญิงที่เรียบร้อยแฝงแววแก่น มีเพื่อนฝูงมากมาย ทั้งชายหญิง และมีเพื่อนหลายวัยเพราะไปไหนกับพ่อบ่อย ในหมู่เพื่อนของกำนันอี๊ด มีหนุ่มน้อยผู้หนึ่ง ชื่อ พิทักษ์ (อานัส ฬาพานิช) เขาแก่กว่าเธอ 7 ปี และออกจะเป็นเพื่อนที่พิเศษสำหรับเธอ เพราะพิทักษ์เปรียบเสมือนไอดอลของเด็กๆ ที่หนองน้ำใส

พิทักษ์เป็นลูกชาวนาจนๆ ที่สุดท้ายก็ต้องเสียที่นาของตนให้กับนายทุน แล้วจึงไปทำงานรับจ้างในไร่ ทำให้พิทักษ์ตั้งเจตนารมย์ไว้ว่า เขาต้องเรียนให้ดี เรียนให้สูง และหาทางมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนให้จงได้ โดยเฉพาะ พัฒนาคนให้รู้จักรู้เท่าทันคน

พิทักษ์จึงตั้งใจเรียน และเรียนเก่งจนได้ทุนมาโดยตลอด เป็นที่โจษขานในตำบล อำเภอ และจังหวัด เด็กๆ ที่ดีๆ หลายคน จึงมองพิทักษ์เป็นไอดอลของพวกเขา ในขณะที่เด็กไม่ดีก็จะอิจฉาริษยาเขาเป็นธรรมดา

พิทักษ์ และกำนันอี๊ดเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ความที่พิทักษ์เก่ง และดี จึงได้รับตำแหน่งหัวหน้าห้อง หัวหน้าชั้นเรียน หัวหน้านักเรียนมาโดยตลอด และเขาก็รัก และดูแลเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน และรุ่นน้องเป็นอย่างดี

กำนันอี๊ดเองก็ประทับใจเขามาตลอด ยามเย็นเขาเคยเดินมาส่งเธอที่บ้าน แม้ว่าบ้านเขาจะไกลไปอีกตำบล แต่วันนั้น กำนันอี๊ดเล่นซน ตกต้นไม้ขาแพลง พ่อมารับไม่ได้ พิทักษ์ก็มาส่งเธอ

ครั้งหนึ่งเคยลื่นตกน้ำตก พิทักษ์ก็เคยลงไปช่วย และที่โรงเรียนพิทักษ์ก็เคยก่อความดี ความประทับใจทิ้งไว้ให้เมื่อเกิดเรื่องหนึ่งขึ้น คือกำนันอี๊ด และเพื่อนๆ ไปเล่นเจาะห้องน้ำครู แต่ไม่ได้แอบดู กะเจาะเพราะครูไม่ดี ให้ครูมีคนมาแอบดู ครูรู้ จับพวกเธอได้ แต่พิทักษ์ก็ออกหน้ารับไว้ว่าเขาเป็นคนเจาะจนปีสุดท้าย เขาอดเป็นประธานนักเรียน อีกทั้งหลายเย็นที่พิทักษ์และเพื่อน เล่นกับน้องๆ อย่างกลุ่มเธอ เขาสอนเรื่องการพับกระดาษเป็นรูปต่างๆ จนพับเป็นกระดาษทายใจ พอเลิกเล่น ต่างก็เก็บกลับบ้านกันไป แต่กำนันอี๊ดไม่ชอบแย่งกับเพื่อนๆ และคนอื่น พิทักษ์เห็นแล้วก็เลยพับให้เธอต่างหาก 1 ชิ้น ซึ่งกำนันอี๊ดก็เก็บเอาไว้ และเก็บความประทับใจในวัยเด็กนี้ไว้จนแม้กระทั่ง พิทักษ์ได้ทุนไปเรียนที่กรุงเทพฯ ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ และเรียนรัฐศาสตร์ จนไปจบปริญญาโทที่เมืองนอก จนกระทั่งวันที่เธอได้เป็นกำนัน และเก็บไว้ทุกวันเสมอมา

เด็กหลายๆ คนเก็บพิทักษ์เป็นไอดอล แต่กำนันอี๊ด กลับหวั่นไหวเมื่อรู้ว่าพิทักษ์กำลังจะกลับมาเป็นปลัดอำเภอที่บ้านเกิด หลายคนไปรับพิทักษ์ กำนันอี๊ดก็แอบไปเฝ้ามอง แต่ไม่กล้าทักเพราะกลัวเขาจะจำไม่ได้ ซึ่งตอนนั้นกำนันเป็นผู้ใหญ่บ้าน

พอคืนเลี้ยงต้อนรับปลัดพิทักษ์ ทั้งสองก็ได้พบกัน และกำนันอี๊ดได้เห็นความเปลี่ยนไปของพิทักษ์ เขาเคร่งขรึมขึ้น และมีกรอบมากเหลือเกิน ดูไม่ร่าเริง อารมณ์ดี น่ารักเหมือนสมัยยังเด็ก แถมออกความเห็นให้เธอเลิกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ให้ใช้ชีวิตแบบผู้หญิงทั่วไปทำให้เธอค่อนข้างผิดหวัง

พอได้มาร่วมงานกันมากขึ้น ผู้ใหญ่อี๊ดก็ได้เห็นว่าปลัดพิทักษ์นั้น แม้จะมีความสมัยใหม่แบบตะวันตกแต่ก็ยังมีกรอบความเชื่อแบบตะวันออก ที่ว่า ผู้ชายเจ๋งสุด ผู้ชายเท่านั้น ที่จะเป็นช้างเท้าหน้า ซึ่งจริงๆ แล้ว สำหรับพิทักษ์ เขาฝังใจว่า ที่นาที่ครอบครัวของเขาสูญเสียไปเกิดจากแม่ที่ก้าวเข้ามา ทำหน้าที่ผู้นำครอบครัว และผู้หญิงอ่อนไหวเกินไปในการตัดสินใจ

ทั้งอี๊ด และพิทักษ์ร่วมงานกันมาก็ทำงานด้วยกันได้ แต่ละโปรเจคก็ต้องมีเรื่องให้บาดหมาง น้อยใจ คิดมาก เกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะกับใจของอี๊ด จนอี๊ดได้เป็นกำนัน และปลัดพิทักษ์ได้เป็นนายอำเภอพิทักษ์

กำนันอี๊ดได้รู้ตัวว่า ตนเองมีใจให้กับนายอำเภอพิทักษ์โดยไม่รู้ตัว อาจเกิดจากความฝันฝังใจในวัยเด็กซึ่งกำนันอี๊ดก็พยายามสลัดความรู้สึกนั้น ให้ออกไปให้ได้เพราะเห็นว่า มีบางอย่างของนายอำเภอพิทักษ์ที่เธอรับไม่ได้ โดยเฉพาะความเป็นคนติดกรอบ มีความเป็นผู้ชายเกินไป และหูเบาเป็นที่สุด

ส่วนนายอำเภอพิทักษ์ ครั้งเมื่อพบกำนันอี๊ดตอบโตแล้ว เขาเห็นว่าเธอสวยขึ้นมาก แต่ในส่วนลึก เขาเป็นคนทำอะไรมีแบบมีแผน และมุ่งมั่นทำงาน ทำให้เขาไม่รู้ตัวว่า จริงๆ แล้วเขาก็สนใจเธอ และแอบเผลอใจไปบ่อยๆ เพียงแต่ไม่แสดงออกในวิธีที่ถูกต้อง ชอบใช้ความเผด็จการของผู้ชายและผู้นำเข้าจัดการ ใช้คำพูดไม่เป็น ปฏิบัติตัวไม่เป็น ทั้งสองจึงดูจะยากที่จะลงเอยกันได้ในเรื่องของความรัก

แต่ที่ทั้งสองเหมือนกันก็คือ การทำเพื่อชุมชนทำเพื่อท้องถิ่นแผ่นดินบ้านเกิดของตน ดังนั้นปณิธานนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่เชื่อมคนทั้งสองไว้ ให้ได้พบกัน และพัฒนาความสัมพันธ์ต่อมา

เรื่องที่เริ่มทำความสัมพันธ์พัฒนาชัดเจนขึ้น เมื่ออำเภอหนองน้ำใสได้ต้อนรับปลัดใหม่อีกคนคือปลัดตริณ อัศดง (นวพล ภูวดล)ซึ่ง เป็นลูกชายนักการเมืองและคุณแม่ไฮโซ ที่ถูกเลี้ยงหล่อหลอมอบรมมาอย่างประเภทประคบประหงมมีแม่นมดูแล ซึ่งได้ถูกส่งมาประจำอยู่ที่ตำบลหนองน้ำใส

ปลัดตริณจัดเป็นคุณหนู ที่จะเป็นก็เฉพาะอยู่ต่อหน้าพ่อแม่ แต่พอพ้นจากบ้าน จากความเก็บกด ตริณจะปลดปล่อย ด้วยการแสดงทีท่าก้าวร้าว โผงผางบ้างเป็นบางขณะ ทั้งๆ ที่ลึกๆ เขาก็หลุดแอบนิ่มอยู่เสมอ

ปลัดตริณเมื่อมาถึงหนองน้ำใส ก็พบกำนันอี๊ด และประทับใจมาก จนแปรเปลี่ยนเป็นความสนใจ และชอบ จนรู้สึกอยากจะคบกำนันอี๊ดเป็นแฟน ในขณะที่เขา และน้องแอ้ม น้องสาวสุดที่รักของกำนันอี๊ด ก็พัฒนาความสัมพันธ์ควบคู่กันไป

การที่ปลัดตริณมาชอบกำนันอี๊ดก็ทำให้กำนันอี๊ดออกจะเสียศูนย์อยู่เหมือนกัน เพราะปลัดตริณก็หล่อมากไม่แพ้นายอำเภอ แต่อ่อนโยนกว่ามาก แต่กำนันอี๊ดก็พอจะรู้ว่า น้องแอ้มเองก็สนใจปลัดอยู่จากพัฒนาการของการรู้จักกันของทั้งสอง

ฝ่ายนายอำเภอพิทักษ์ เมื่อเห็นว่าปลัดตริณดูท่าจะสนใจกำนันอี๊ด ก็ทำให้เขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกของตนเองที่มีต่อกำนันอี๊ด แต่ความที่เป็นคนอยู่ในกรอบกฎที่ตนเองตั้งดักไว้ ก็ทำให้เขาต้องเป็นผู้ร้ายปากแข็ง รักนะแต่ไม่แสดงออก แสดงออกก็แปลกๆ น่ารักไปอีกแบบ

เรื่องราวของความรัก ได้ถูกพัฒนาไปพร้อมกับเรื่องราววุ่นๆ ของท้องถิ่นหนองน้ำใสในขณะที่กำนันอี๊ดต้องบริหารจัดการ ปราบอธรรมชุมชนเพื่อพิสูจน์ตนเองว่าเป็นผู้หญิงก็ทำได้ และสานต่อเจตนารมย์ของพ่อให้ลุล่วง

ท่ามกลางเหตุการณ์เหล่านั้น ได้มีศัตรูลับและศัตรูที่พร้อมจะเปิดเผยของกำนันอี๊ดซึ่งก็มีเฮียไล้ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) และ ลูกชาย เหล่านายทุน นักธุรกิจที่มองพื้นที่หนองน้ำใสตาเป็นมัน เพราะเป็นที่สวยน่าจะไปสร้างเม็ดเงินทางธุรกิจได้มาก แล้วยังมีกลุ่มเจ๊ฮง (อรุโณทัย จิตรีขันท์)จอมเม้าท์เพิ่มดีกรีของเรื่อง รวมไปถึงกลุ่มที่อยากขึ้นมาบริหารแทนกำนันอี๊ด คอยเป็นอุปสรรคในการทำงาน

อุปสรรคสำคัญอีกอย่าง ก็คืออุปสรรคทั้งเรื่องการงาน การรักษาบ้านเกิดอันเกิดจากกลุ่มนักธุรกิจชาวเมืองกรุงที่เฮียไล้ไปสมคบคิด เจ้าของบริษัทฯ ยักษ์ใหญ่มหาโปรเจค .. อย่างเจ้าสัวพูนศักดิ์ (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ที่มีลูกสาวสวยหยาดเยิ้มผู้ชื่อแพรเพชร (อัจฉรียา อินสว่าง)

ไพศาลเข้ามาเพื่อเพิ่มทุนหนุนเฮียไล้ ดูดี และชักใย ขณะลูกสาวแสนสวยก็ดูดี และทำให้นายอำเภอรวมทั้งปลัด ไขว้เขวได้ทุกที

ปลัดตริณเดินทางมาถึงหนองน้ำใส ในวันหนึ่ง ในช่วงนั้นเกิดคดีไก่หายขึ้น และกำนันอี๊ดก็สามารถหาตัวผู้ร้ายขโมยไก่ได้ด้วยความเสียสละของตนทั้งเงิน และเวลา รวมทั้งความร่วมมือของครูพักตร์ (จินตรา พูนลาภ) น้องแอ้ม และนายวาน (เอกชัย ศรีวิชัย) ปลัด ตริณได้เห็นความสามารถของกำนันอี๊ด ทั้งทางด้านการบริหาร และภูมิปัญญาชาวบ้าน เขาสนใจเธอในขณะที่นายอำเภอพิทักษ์เห็นเป็นธรรมดา แม้จะไม่ธรรมดาแต่ปิดใจยอมรับ

กำนันอี๊ดได้คิดโครงการไว้โครงการหนึ่ง นั่นก็คือโครงการฟื้นฟูวัฒนธรรม และของดีตำบลขึ้นมา เพราะเมื่อก่อน ตำบลหนองน้ำใส ขึ้นชื่อเรื่อง นาสามัคคี คือการทำนาโดยมีการร่วมมือร่วมใจกัน และมีเทศกาลเกี่ยวข้าวของตำบล เป็นบ่อเกิดของพ่อเพลงแม่เพลงมาแต่ครั้งก่อน ซึ่งในเทศกาลนี้ ได้บรรจุไว้ 7 วัน 7 คืน เมื่อชาวบ้านเกี่ยวข้าวร่วมกัน ร้องเพลงกัน ก็จะมีงานรื่นเริงที่วัดจากนั้น จะมีการละเล่นเริงน้ำตก และอื่น ๆ กำนันอี๊ดเห็นว่าหายไป ก็อยากนำกลับมาเพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของท้องถิ่นตน และนำไปสู่การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ด้วยการนำเสนอตัวตนของท้องถิ่น หรือตัวตนของตนเอง

โครงการนี้ แน่นอน ขัดใจเฮียไล้และนักธุรกิจ แต่ท่านผู้ว่าฯ กลับเห็นด้วย มอบหมายให้นายอำเภอพิทักษ์ไปช่วยจัดการดูแลกับกำนันอี๊ด ซึ่งนายอำเภอพิทักษ์เอง ก็ไม่เชื่อนักว่าจะประสบความสำเร็จ จึงทำไปตามหน้าที่

กำนันอี๊ดและเพื่อนๆ จึงมีอุปสรรคมากมายหลายเหตุการณ์ และจากหลายคนที่ทั้งรักทั้งแค้น .. เป็นอุปสรรคที่ท้าทายแนวความคิด และความฮาจากผู้ชม จากไก่หายไปจนถึงเรื่องของการรักบ้านเกิด และการอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบประเพณี และวัฒนธรรมรวมทั้งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน

ออกอากาศเมื่อ 27 มิถุนายน 2552-12 กันยายน 2552  ทุกวันเสาร์ เวลา 11.15 น.

กลลวงรัก

นพรุจ มีชีวิตครอบครัวอันอบอุ่น แม้ว่าพ่อของเขา นพนันท์ จะเป็นนักบริหารการเงินมือหนึ่งของประเทศ แต่นพนันท์กับ รุจิภา แม่ของเขาก็ทุ่มเทความรักความห่วงใยให้แก่เขาเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง วีรภัทร นักบริหารมือใหม่ไฟแรงก้าวเข้ามาในชีวิตครอบครัวของนพนันท์ ในฐานะมิตรที่รู้ใจทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ทำให้ทั้ง 2 ครอบครัวสนิทสนมกันมาก โดยที่ รัชนี ภรรยาของวีรภัทร พร้อมด้วยลูกสาว 2 คนคือ รสิตา เด็กสาวแสนแก่น ปราดเปรียว, รินรดา ผู้เรียบร้อย น่ารัก ไม่เคยล่วงรู้ความลับของวีรภัทรเลยว่า เหตุผลที่วีรภัทรทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ได้สนิทสนมกับนพนันท์นั้น เพื่อแก้แค้นที่นพนันท์เคยขับรถชนคนรักของวีรภัทรจนเสียชีวิตเมื่อสมัยวัย รุ่น วีรภัทรร่วมมือกับ จักริน เพื่อนร่วมธุรกิจคนใหม่ ใช่เล่ห์กลทำให้นพนันท์ล้มละลาย จนนพนันท์ต้องเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจกำเริบ รุจิภาจึงพานพรุจไปอยู่กับ เสาวรศ พี่สาวของนพนันท์ที่ต่างจังหวัด

และ ปล่อยข่าวว่านพรุจได้ลาไปจากโลกนี้แล้ว หลังจากนั้นไม่นานรัชนีก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง วีรภัทรจึงส่งรสิตาและรินลดาไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ทางฝ่ายรุจิภาเองก็ตรอมใจจนเสียชีวิต โดยหวังให้ความจริงตายไปกับตนด้วย แต่แล้วนพรุจก็ได้รู้ความจริงนั้นจนได้ จึงเปลี่ยนเป้าหมายในชีวิตทั้งหมด เพื่อปั้นตนเองให้เป็นนักบริหารมือหนึ่งเช่นเดียวกับพ่อ และกลับมาชำระหนี้แค้นกับวีรภัทร แม้ว่าในใจลึกๆ จะยังคงคิดถึงรินรดาอยู่เสมอ เมื่อนพรุจเรียนจบด้วยผลการเรียนอันยอดเยี่ยม เขาก็มุ่งเป้าหมายไปสมัครงานที่บริษัทของวีรภัทร โดยเปลี่ยนชื่อเป็น ณรงค์ วีรภัทรถูกชะตากับณรงค์เป็นอย่างมาก เขาแสดงฝีมือให้วีรภัทรเห็นจนได้รับความไว้วางใจ เลื่อนตำแหน่งให้เป็นมือขวาของวีรภัทร โดยที่วีรภัทรไม่เคยสงสัยความเป็นมาของเขาเลย และแล้ววันที่เขารอคอยก็มาถึง เมื่อวีรภัทรจัดงานเลี้ยงครบรอบวันคล้ายวันเกิด 60 ปี โดยวีรภัทรไว้ใจให้เขาไปรับรินรดาที่สนามบิน

เขา จึงเตรียมแผนการลักพาตัวรินรดาเพื่อแก้แค้น แต่แล้วแผนการทุกอย่างกลับคลาดเคลื่อน เมื่อคนที่กลับมากลายเป็นรสิตา สาวเปรี้ยว ทันสมัย จนนพรุจหมั่นไส้ตั้งแต่แรกเห็น สงครามคารมจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทั้งคู่พบกัน เช่นเดียวกับในวัยเด็กที่ทั้งคู่มักจะทะเลาะกันเสมอ แม้นพรุจจะรู้ดีว่าแผนการลักพาตัวครั้งนี้ไม่หมูอย่างที่คิด แต่เขาก็ไม่ล้มเลิกความพยายาม ขณะที่นพรุจขับรถพารสิตาไปบ้านที่ต่างจังหวัด ก็เกิดมีกลุ่มคนลึกลับตามมาลักพาตัวรสิตาด้วย รสิตาได้รู้เรื่องราวเลวร้ายของพ่อที่เคยหักหลังเพื่อนร่วมธุรกิจจากปาก จักริน ที่จับรสิตากับนพรุจมานี่เอง นพรุจต้องพารสิตาหนีเอาชีวิตรอด ทั้งคู่ผจญภัยร่วมกันหลายวันกว่าจะหนีมาได้ วีรภัทรตามช่วยรสิตาพร้อมกับ จารวี หญิงสาวผู้เพียงพร้อม ซึ่งวีรภัทรกำลังตกหลุมรักอยู่ ในนาทีวิกฤตที่จักรินกำลังจะยิงรสิตานั้น วีรภัทรกลับลั่นกระสุนใส่จักรินเสียชีวิตเสียก่อน เมื่อวีรภัทรพารสิตากลับมาที่บ้าน นพรุจก็ได้พบกับรินรดาและ จอนนี่ หนุ่มลูกครึ่ง เพื่อนในต่างประเทศที่คอยให้ความช่วยเหลือสองพี่น้องมาตลอด

จอน นี่หลงรักรสิตามานาน แต่หลายครั้งที่จอนนี่รู้สึกท้อกับความเย็นชาของเธอ รินรดารู้ว่าณรงค์คือพี่นพรุจของเธอ แต่เขากลับปฏิเสธ แม้ว่าใจจริงแล้วเขาเองก็ยังคิดถึงรินรดาอยู่เสมอ แต่อีกใจหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีรสิตาอยู่เช่นกัน ท่ามกลางคลื่นลมที่ยังคงสงบนิ่ง จารวีก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านวีรภัทรในฐานะภรรยา ด้วยการยอมรับจากทุกคน แต่ภายใต้ใบหน้าที่สวยงามกลับแฝงไปด้วยไฟแห่งความอาฆาตที่รอคอยวันสะสาง เพราะเธอคือลูกสาวของจักริน ที่หวังทำลายทุกคนที่ขวางทางเธอให้มอดไหม้ไปกับการแก้แค้น แม้กระทั่ง จิโรจน์ น้องชายจอมเจ้าชู้ แต่จิตใจบริสุทธิ์ เธอก็ยังใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าหา สุขุมาลย์ ลูกบุญธรรมของวีรภัทร โดยบอกความจริงที่วีรภัทรหักหลังพ่อของสุขุมาลย์ในอดีตมาโน้มน้าวให้สุ ขุมาลย์ร่วมมือด้วย สุขุมาลย์และจารวีค่อยๆ ป้อนยาพิษลงในอาหารให้วีรภัทรทุกๆ วันจนร่างกายของวีรภัทรอ่อนแอลง พร้อมกับความวุ่นวายที่ค่อยๆ ลุกลามขึ้นภายในบ้านหลังนี้

แต่ ท่ามกลางสงครามที่กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด ความรักของรสิตาและนพรุจกลับงอกงามขึ้นอย่างที่ทั้งคู่เองก็ไม่ทันรู้ตัว แม้ทั้งสองจะสร้างกำแพงขึ้นมากางกั้น แต่ต่างฝ่ายต่างก็หนีใจตัวเองไม่พ้น เมื่อรินรดาได้รู้ถึงความรู้สึกของคนทั้งสอง เธอจึงเสียใจมาก แต่ขณะเดียวกันความรู้สึกของเธอกับจอนนี่ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นความเข้าใจ ที่มากกว่าเพื่อน ความรักที่นพรุจมีต่อรสิตาทำให้เขาและสุขุมาลย์ตัดสินใจหักหลังจารวีมาช่วย เหลือวีรภัทร แต่ทุกอย่างสายเกินไป เมื่อวีรภัทรต้องกลายเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ พูดไม่ได้ ยังคงมีเพียงการรับรู้เท่านั้นที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดกับผลกรรมที่เคยก่อ และแล้วจอนนี่ก็กลายเป็นผู้เปิดเผยตัวตนของจารวีให้ทุกคนรู้ ขณะเดียวกันที่นพรุจลาออกจากบริษัทและกำลังจะกลับไปช่วยทำงานที่รีสอร์ทของ ป้าเสาวรศที่ต่างจังหวัด รสิตาจึงมาหานพรุจที่บ้าน ทั้งคู่โต้เถียงกันรุนแรงต่างสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง

นพรุจจึง หักห้ามใจตัวเองไม่ได้ คืนนั้นเขามีความสุขมากจนความแค้นในใจจางหายไปหมดสิ้น เธอเองก็เช่นเดียวกัน แต่ด้วยทิฐิที่มีเธอกลับบอกว่า สิ่งที่ทำเพียงเพื่อต้องการไถ่โทษให้พ่อ แม้นพรุจจะตกใจที่รสิตาล่วงรู้ความลับ แต่ความเสียใจมีมากกว่า เขาจึงตัดสินใจจากรสิตาไป ทุกชีวิตดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น ยกเว้นจารวีที่ยังคงติดอยู่ในบ่วงความแค้นเหมือนคนเสียสติ จนกระทั่งจิโรจน์ซึ่งพาสุขุมาลย์ไปให้ชีวิตเงียบสงบที่ต่างจังหวัด กลับมาหาหลังช่วยให้พี่สาวคิดได้ จารวีจึงใช้จิโรจน์เป็นเครื่องมือลักพาตัวรสิตา จิโรจน์จำต้องทำตามเพื่อคอยส่งข่าวให้รินรดาช่วยรสิตาได้ รินรดาติดสินใจโทรบอกนพรุจ พร้อมทั้งบอกสิ่งที่ทำให้นพรุจต้องกลับมาตามหาหัวใจที่เขาลืมทิ้งไว้ให้ได้ คือ รสิตากำลังตั้งท้องลูกของ เขาที่ก่อเกิดจากความรักอันบริสุทธิ์ที่ทั้งสองมีต่อกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมได้ในละครดราม่าสุดเข้มข้นเรื่อง “กลลวงรัก” ทางช่อง 7

รายชื่อนักแสดงละคร กลลวงรัก

อานัส ฬาพานิช รับบท นพรุจ
อารยา เอ.ฮาร์เก็ต รับบท รสิตา
พลอย จินดาโชติ รับบท รินรดา
ดนัย สมุทรโคจร รับบท จอนนี่
เมย์ เฟื่องอารมย์ รับบท จารวี
อภิชัย สาธร รับบท จิโรจน์
เสาวนีย์ พันธุ์ศิริ รับบท สุขุมาลย์
เกรียงไกร อุณหะนันทน์ รับบท วีรภัทร

ออกอากาศ พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.

กระต่ายหลงจันทร์

กระต่าย (พิมทอง) พยาบาลสาวเชย เฉิ่ม ซื่อ ซุ่มซ่าม เซอะเบ๊อะ สวมแว่นสายตาหนาเตอะ แต่งตัวไม่เป็น และขี้เหนียวสุด ๆ แต่ที่ซ่อนไว้ภายใต้แว่นหนาและความเซอะเบ๊อะคือ ความสวยและจิตใจที่ดีงาม เธอเป็นลูกกำพร้า เช่าคอนโดอยู่ร่วมกับ ศุภรา นางแบบชื่อดังระดับแถวหน้าที่มีงานเพียบ ต่างจากกระต่ายชนิดคนละขั้ว ชอบสังคมหรูหราฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินเก่ง ทั้งคู่รักกันมาก คำว่าเพื่อน มีความหมายสมบูรณ์และเต็มแน่นในใจของกระต่ายและศุภรา ชีวิตของกระต่ายเงียบเชียบไม่มีอะไรตื่นเต้น และซ้ำซากกันทุกวัน จนถึงวันหนึ่งที่ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลง

ศุภ ราบังคับให้กระต่ายไปงานแสดงแฟชั่นโชว์การกุศลที่ยิ่งใหญ่มากที่เธอเป็นนาง แบบเด่นประจำงาน ซึ่งพีรวัส หนุ่มหล่อเจ้าของบริษัทจัดหานางแบบอันดับหนึ่งของเมืองไทยเป็นผู้จัด และกร พี่ชายของพีรวัส เจ้าของบริษัทวินเนอร์ บริษัทโฆษณาชื่อดังเช่นกันเป็นสปอนเซอร์หลักของงาน ในงานมีการเลี้ยงอาหารแบบบุฟเฟต์ กระต่ายเพลิดเพลินกับอาหารชั้นดีมากมาย และเมื่อเธอตักเค้กช็อกโกแล็ตจะกลับไปทานที่โต๊ะ เพียงแค่หันเธอก็ชนกับร่างหนึ่งเข้าโครมเบ้อเร่อ ทำเค้กเลอะเสื้อเชิ้ตขาวเรียบกริบของเขา และยังทำหล่นใส่รองเท้าเงาวับอีกด้วย อารามตกใจกระต่ายรีบเช็ดเค้กที่เลอะเสื้อ แต่กลายเป็นยิ่งทำให้สีช็อกโกแล็ตละเลงเลอะเป็นพื้นที่กว้างเข้าไปอีก เสียงชายหนุ่มเข้มและสั้นห้วนสั่งเธอว่าไม่ต้อง กระต่ายขอโทษ เขาก็ยังพูดว่าไม่ต้อง ยิ่งทำให้กระต่ายรู้สึกผิดหนักหนา กระต่ายเงยมอง หน้าคมเข้มหล่อมากของเขาทำให้เธอรู้สึกประหม่าแปลก ๆ ทันที เธอไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย

จิ ดาภาริษยาศุภราเพราะศุภราดังมาก ศุภราเกลียดจิดาภาเพราะจิดาภาดูถูกคนจน เธอรวยมหาศาลและมาจากตระกูลเก่าแก่อันตอกย้ำปมด้อยของศุภรา โฆษกของงานให้กรเป็นผู้ประกาศหมายเลขผู้โชคดีเองเลย ปรากฎว่าหมายเลขนั้นคือหมายเลขของกระต่าย กระต่ายขึ้นเวทีไปรับรางวัล ความประหม่าผสมความซุ่มซ่ามทำให้สะดุดเกือบตกบันได กรแสดงอาการนิดหนึ่งว่าจำกระต่ายได้ โฆษกประกาศนอกบทให้กรกลัดเข็มกลัดให้กระต่าย กรกลัดให้ กระต่ายรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในความฝัน มองหน้าเขาที่ชิดใกล้ แอบสูดกลิ่นน้ำหอมของเขา เธอฝันเบลอไปตลอดทางที่นั่งรถกลับคอนโด

และ วันหนึ่งที่รำไพกำลังข้ามถนนเธอเกิดปวดศีรษะอย่างแรงจนหน้ามืดเป็นลมจนเกือบ โดนรถชน ผู้ที่ดึงเธอพ้นจากรถได้หวุดหวิดคือ กระต่าย รำไพจำกระต่ายได้ เธอรู้สึกเป็นหนีบุญคุณกระต่ายมาก สองคนคุยกันในร้านขนม กระต่ายเล่าเรื่องเพื่อนกำลังจะได้งานโฆษณาครีมทาตัว รำไพจึงรู้ว่ากระต่ายเป็นเพื่อนของศุภรา กระต่ายเชียร์ศุภรากับรำไพ ขอให้รำไพเลือกศุภรา กระต่ายเชียร์เพื่อนอย่างบริสุทธิ์ใจจริง ๆ อย่างรักและอยากให้เพื่อนได้งาน ไม่ใช่จะแลกกับการที่เธอช่วยรำไพ

ศุภ ราบอกกระต่ายอย่างตื่นเต้นว่าได้งานถ่ายโฆษณาครีมทาตัว กระต่ายดีใจสุด ๆ ศุภราบอกว่าเธอต้องไปเซ็นสัญญาที่บริษัทวินเนอร์ กระต่ายหูผึ่งทันที และวันที่นัดเซ็นสัญญาเป็นวันที่กระต่ายว่างพอดี เธอจึงขอตามศุภราไปด้วย ขอไปเห็นหน้ากรสักนิดก็ยังดี วันเซ็นสัญญากระต่ายเข้าไปนั่งในห้องด้วย แต่ก็เห็นว่ากรมองเธออย่างธรรมดามากไม่ได้สนใจเธอเป็นพิเศษเลย และกระต่ายทำให้รำไพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแรงอีกด้วยเพราะความซื่อของ เธอ กระต่ายขอบคุณรำไพที่ช่วยศุภรา ทุกคนในห้องเงียบกริบ

วัน แรกที่มาทำงานกระต่ายมาเช้ามาก เธอเจอกรซึ่งมาเช้ามากเหมือนกัน และได้ขึ้นลิฟต์ไปกับเขา กระต่ายจึงได้เห็นว่าตัวเองกระจอกแค่ไหนเมื่อยืนเคียงกับเขา กระต่ายเจอเกรซ เออีประจำบริษัทฯ ถูกสบประมาทและดูถูกในความเชยสารพัด เกรซประกาศกับเสาวลักษณ์ว่าทนไม่ได้ที่เห็นบริษัททันสมัยรับคนเชย ๆ แบบนี้เข้ามาทำงาน กระต่ายเริ่มฝึกงานที่แผนกของกรก่อน กรให้มยุรีเป็นคนสอนงาน งานวันแรกของกระต่ายคืออ่านแฟ้มเพื่อศึกษางาน ถ่ายเอกสาร และชงกาแฟ ศุภรารู้เข้าหัวเราะไม่หยุดเลย กระต่ายถูกสั่งให้วิจารณ์งานโฆษณา กระต่ายไม่เอาไหนเลย กรติงานของกระต่ายตรง ๆ กับรำไพว่าถ้าเป็นเขา จะให้กระต่ายสอบตก แต่รำไพบอกกับกระต่ายว่ากรชมงานของเธอ กระต่ายปลื้มซะไม่มี

วันรุ่ง ขึ้นศุภราลงมาชั้นล่าง จิดาภารอเล่นงานอยู่แล้ว เธอเหยียดเย้ยศุภราเรื่องความตกต่ำในอาชีพ ศุภราพูดใส่หน้าว่าเธอเลือกที่จะแต่งานกับพี จิดาภาหน้าหงายไป โฆษณานาฬิกาออกอากาศ กระต่ายดังเป็นพลุ เอกเทศและรำไพมาตามต่ายที่คลินิกให้ไปงานที่ลูกค้าเลี้ยงขอบคุณ คืนนั้นเป็นคืนเพ็ญเดือนสิบสอง วันลอยกระทง งานที่ลูกค้าจัดเลี้ยงเป็นงานใหญ่ ต่ายสวยเฉิดฉาย เธอกลัดเข็มกลัดเพชรกระต่ายหมายจันทร์ คิดว่าบางทีมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้แต่งตัวสวยเช่นนี้ และต่ายตื่นเต้นมากเมื่อเห็นศุภรามาร่วมงานด้วย เธอมากับพีรวัส สองสาวโผเข้ากอดกัน ต่ายดีใจที่ได้เพื่อนคืนมา ดีใจยิ่งกว่าประสบความสำเร็จในงานโฆษณาเสียอีก ต่ายขอให้ศุภรากลับไปอยู่กับเธอดังเดิม จิดาภามางานนี้ด้วย ยังตามราวีศุภรา บอกว่าจะแย่งพีรวัสจากศุภรา แต่โดนพีตอกหน้าหงายไป

พี อยากรู้ว่าต่ายรักใคร ศุภราว่าถึงเวลาแล้วที่พีและเธอจะช่วยต่ายบ้าง เธอบอกว่าคนที่ต่ายรักอยู่ใกล้แค่เอื้อม เธอบอกพีว่าต่ายรักเข็มกลัดเพชรกระต่ายหมายจันทร์ที่สุด พีนึกได้ทันทีว่าต่ายรักกร เอกเทศยังพยายามบอกรักต่าย แต่ต่ายปฏิเสธ และปฏิเสธที่จะถ่ายโฆษณาต่อไปด้วย เอกเทศบอกว่าเขารู้ว่าต่ายรักใคร ต่ายขอเขาอย่าพูด เอกเทศผละจากต่ายไปเจอกร เขาพูดแปลก เขาบอกฝากกรดูแลต่ายด้วย กรตามต่ายจนเจอ ถึงอย่างไรวันนี้ขอสารภาพรักกับเธอให้ได้ กรบอกรักต่าย ต่ายผิดหวังรุนแรง เธอนึกว่ากรเป็นแบบเดียวกับเอกเทศ รักเธอเพราะเธอเป็นนางแบบโด่งดัง ไม่ใช่รักเธอเพราะเธอเป็นเธอ เป็นกระต่ายแสนเชย กระต่ายวิ่งน้ำตากลบตาหนีกรไป

เธอไปเจอรำไพ รำไพคลี่คลายความหวาดระแวงของเธอ รำไพบอกว่ากรรักกระต่ายมาตั้งแต่ยังเป็นกระต่ายเด็กฝึกงานเชย ๆ แต่ต่ายเอาแต่ทำงาน และบอกว่ามีคนรักอยู่แล้วกรเลยไม่กล้าบอกรักเธอ กระต่ายดีใจ พีรวัสกับศุภราตามกรจนเจอ และบอกกรว่าไอ้โม่งที่ต่ายรักคือ กร และพากรไปดูหลักฐานภาพถ่ายที่ต่ายตัดเก็บไว้ กรดีใจมากเขาตามหากระต่ายจนเจอแถวบ้านหนูมาลี กรขอลอยกระทงอธิษฐานร่วมกับต่ายและโอบต่ายไปริมคลอง ต่ายใจเต้นตูมๆ กรอธิษฐานแล้วลอยกระทงคู่กับต่าย เขาบอกว่าเขาอธิษฐานขอให้สมหวังในรักกับผู้หญิงที่เขาแอบรักมานานแต่ไม่กล้า บอกจนเกือบเสียเธอไป กรบอกว่าเขามัวแต่อิจฉาไอ้โม่งคนนั้นแทบตาย ไม่รู้เลยว่าอิจฉาตัวเอง กระต่ายมีความสุขล้ำอบอุ่นเหลือเกิน กระต่ายหลังจันทร์ไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว

นักแสดงละครเรื่อง กระต่ายหลงจันทร์

1. อานัส ฬาพานิช รับบทแสดงเป็น กร
2. จีรนันท์ มะโนแจ่ม รับบทแสดงเป็น พิมทอง (กระต่าย)
3. รพีภัทร์ เอกพันธ์กุล รับบทแสดงเป็น พีรวัส
4. วรรณพร ฉิมบรรจง รับบทแสดงเป็น ศุภรา
5. นพพล พิทักษ์โล่พานิช รับบทแสดงเป็น เอกเทศ
6. วิภาวดี กาศสกุล รับบทแสดงเป็น จิดาภา
7. แวร์ โซว รับบทแสดงเป็น เกรซ
8. มณฑานี ตันติสุข รับบทแสดงเป็น รำไพ

ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.20 น.