Tag Archives: สุนิสา เจทท์

มุกเหลี่ยมเพชร

เพชร เจ้าของธุรกิจจิวเวอรี่อันดับหนึ่งต้องสูญอะดอเรลลา อัญมณีเก่าแก่จากราชวงศ์ดัง เป็นคดีอื้อฉาวเดือดร้อนนับตั้งแต่ พาที เจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัย ชนินทร ผู้จัดการบริษัท เจนจบ ฝ่ายการตลาด โดยเฉพาะ คมกฤช เจ้าของบริษัทที่ต้องจ่ายค่ารับประกันเพชร สารวัตร ธีรพัฒน์ ถูกส่งมาสืบสวนคดีใหญ่ ขณะที่การตามล่าแก๊งค์ปล้นเริ่มขึ้นเพชรถูกปกาศิตจากแม่ มรกต ให้แต่งงานกับลูกสาวของ ประไพ เพื่อนรัก ที่ชื่อ มุกดา หรือ หนูมุก เพชรต่อต้านหนูมุกจนกลายเป็นคู่ปะทะ ไม่มีใครรู้ว่าหนูมุก บ๊องแบ๊ว ที่จริงแล้วเป็นตำรวจสากล ที่ปลอมตัวมากระชากหน้ากากขบวนการฉกอะดอเรลลา

          การตามล่าแก๊งค์ปล้นเพชรเป็นไปอย่างเข้มข้น ท่ามกลางการติดตามจากนักข่าวสาวอย่าง รุจา คู่ปรับของคมกฤช มุกเจอหลักฐานหลายอย่างที่พุ่งเป้าไปยัง ชนินทร ที่ขายความลับให้บริษัทคู่แข่ง ที่มีสองพ่อลูกเจ้าเล่ห์ ศักดา และ สงคราม เป็นเจ้าของ ชนินทรยอมหักหลังเพื่อนเพื่อหาเงินมาให้ นิจนันท์ เมียจอมบงการ ยิ่งใกล้หลักฐานเอาผิด มุกต้องเผชิญกับภัยมืดที่ตามเอาชีวิตทั้งเธอและเพชร เจอรี่ เจ้านายมุกส่ง แอนดี้ คู่หูมาช่วย เพื่อเอาเพชรคืนจากกลุ่มโจรเหนือชั้นอย่าง ภูผา บลู แมงมุม ขุนพล
          เพชร กับมุกต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกัน จากความเกลียดกลายเป็นความใกล้ชิด ท่ามกลางความริษยาของ   สาลินี เลขาสาวที่หลงรักเพชร คมกฤชเองก็ต้องคอยปกป้องรุจาที่ต้องการพิสูจน์สายเลือดนักข่าว ตามติดคดีเสี่ยง แต่ความดื้อและอวดเก่งก็ทำให้คมกฤชกับรุจางัดกันทุกเรื่อง มุกกับเพชรรู้ว่าจะมีการซื้อขายอะดอเรลลากลางทะเล ก็รีบตามไป ทั้งคู่โดนแก๊งค์ภูผาถล่มจนอะดอเรลลาหลุดมือไปได้อีก
          ความใกล้ชิด ความผิดหวังทำให้คนสองคนที่เริ่มต้นจากความเกลียด เปิดเผยความรู้สึกและผูกพันต่อกัน เหตุการณ์ กลับพลิกผันเมื่อ อะดอเรลลาถูกส่งมาให้มุกในชื่อของธีรพัฒน์ มุกกับธีรพัฒน์ต้องหาหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ ขณะที่มรกตจะยกเลิกการหมั้น แต่เพชรกลับแสดงความเชื่อใจด้วยการประกาศแต่งงานกับมุกทันที
          ก่อนงานเลี้ยง มุกในชุดเจ้าสาวถูกลักพาตัวมาที่โกดังร้าง เพชร คมกฤช รุจาตามมาช่วย .. ที่นั่นทุกคนได้เห็นหน้าคนชั่ว .. ผู้บงการเรื่องราวทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น มุกจะรอดพ้นมาเป็นอาภรณ์ประดับชีวิตเพชรได้หรือไม่ ต้องรอติดตามชมใน ละครมุกเหลี่ยมเพชร

มือปราบพ่อลูกอ่อน

มือปราบพ่อลูกอ่อน เป็นเรื่องราวของ กริสน์ ตำรวจนอกเครื่องแบบทำงานเป็นสายลับให้หน่วยงานลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกส่งตัวไปให้เป็นบอร์ดี้การ์ดให้ อธิป มาเฟียใหญ่ ภัทรดนัย นายตำรวจที่เป็นสนิทของ กริสน์ ได้รายงานว่าจะมีการส่งสินค้าล็อตใหญ่ในวันเกิดโอปอ ลูกสาวคนเดียวของอธิป กริสน์ตามไปดูและบังเอิญได้เจอกับ พิมมาดา เจ้าของร้านดอกไม้ที่เข้ามาจัดดอกไม้ในงาน

ใน งาน อธิปเลยขอให้กสินน์ไปคุ้มกันความปลอดภัยให้ เพราะอธิปกำลังเจรจาธุรกิจกับ สุขสันต์ นักการเมืองผู้ที่เป็นชื่นชอบของคนทั้งประเทศ มาวิน นำกำลังบุกเข้าไปก่อนผิดแผนเลยทำให้การเจรจาระหว่างสุขสันต์ และอธิปต้องยุติลง สุขสันต์หายตัวไป สถานะที่แท้จริงของกริสน์ถูกเปิดเผย แถมยังมีความผิดถูกตั้งข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานอยู่ในระหว่างการจับกุม

กริสน์ปฏิวัติตัวเองใหม่และกลับไปเก็บหลักฐานที่บ้าน จีจ้า เด็กน้อยแอบตามกริสน์ไป แต่ดันมีคนมาแอบสุ่มอยู่ที่บ้านกริสน์ กริสน์จึงพาจีจ้าหนีไป ภัทรดนัยมาช่วยทั้งคู่ออกมาไปได้ และบอกกับกริสน์ว่าสุขสันต์มาติดพัน พิมมาดา และสุขสันต์ไม่ได้รักเด็กจึงคิดกำจัดเด็ก ๆ ด้วยการเป็นธุระส่งเด็ก ๆ ไปเรียนต่อเมืองนอก

เด็ก ๆ ต่อรองด้วยการทำตัวดีขึ้น แต่ว่าต้องให้กริสน์มาเป็นพี่เลี้ยงภายในหนึ่งเดือน หากพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็ให้ส่งไปต่างประเทศ พิมมาดารับข้อเสนอของเด็ก ๆ แต่ กริสน์ต้องเข้ามาทำงานในร้านดอกไม้ด้วย กริสน์รับปากเพราะเข้าแผนที่จะใช้พิมมาดาเป็นสะพานสืบเรื่องสุขสันต์

กริสน์สะกดรอยตามสุขสันต์ไปโยไม่รู้ว่ามีเด็กแอบตามไปด้วย กริสน์แอบถ่ายคลิปส่งมอบสินค้าของสุขสันต์ไว้ สมุนสุขสันต์เห็นเด็ก ๆ แต่กริสน์เข้าไปช่วยไว้และยอมสละมือถือที่มีคลิปวีดีโอเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ

สุข สันต์เชิญพิมมาดาไปทานอาหารกลางวันที่บ้านกริสน์และเด็ก ๆ ตามไปด้วย กริสน์แอบเข้าไปในห้องทำงานของสุขสันต์เพื่อจะเอาข้อมูลจากฮาร์ดดิสต์แต่ไม่ สำเร็จ กริสน์พยายามบอกว่าสุขสันต์เป็นคนไม่ดี แต่พิมมาดาไม่เชื่อ กริสน์ปวดใจเพราะเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักพิมมาดาเข้าแล้ว

สุขสันต์รู้ว่ากริสน์แอบเข้าไปขโมยข้อมูล จึงคิดจำกัดกริสน์ แต่จีจ้าตามไปด้วย สมุนสุขสันต์จับจีจ้า กริสน์ขอชีวิตจีจ้าแลกกับชีวิตตน แต่อธิปส่งคนมาช่วยทัน กริสน์ขอให้พิมมาดาเชื่อว่าสุขสันต์เป็นพ่อค้ายาแต่เธอไม่เชื่อ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามชมกันต่อได้ใน ละครมือปราบพ่อลูกอ่อน

ห้าคม

หลังจากปฏิบัติภารกิจชิงตัวประกันล้มเหลว หน่วยปฏิบัติการพิเศษ 5 คม ประกอบด้วย พ.ต.ต. ดรล์, ร.ต.อ.เด็ด, ร.ต.อ. เทิด, ร.ต.อ. เดี่ยว และ ร.ต.อ. เม่น ก็แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากราชการ แต่แล้วทั้ง 5 ก็ถูก พ.ต.ต.หญิง เก่ง กาญจนา นายตำรวจหญิงคนเดียวของกองปราบตามตัวกลับมาปฏิบัติการอีกครั้งมีเพียง แต่ ดรล์ ที่ยังปฏิเสธเพื่อน ๆ จึงใช้อุบายท้าพนันโดยการแข่งมอเตอร์ไซด์จนเอาชนะได้ ดรล์ จึงยอมกลับมาร่วมงานอีกครั้ง

ภารกิจในครั้งนี้ กลุ่ม 5 คมต้องต่อสู้ห้ำหั่นกับ อัลคอฟ มาเฟียข้ามชาติที่มาตั้งรกรากในประเทศไทยโดยใช้ ธุรกิจบังหน้าและมีแผนที่จะแบ่งแยกแผ่นดินไทย วันหนึ่ง เด็ด ได้มีโอกาสช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่งจากการ รังแกของแก๊งมอเตอร์ไซด์และมารู้ภายหลังว่าหญิงสาวคนนั้นคือ โซเฟีย ลูกสาวของ อัลคอฟ เด็ดจึงใช้ โซเฟีย เป็นสะพานในการเข้าไปสอดแนมในบ้านของ อัลคอฟ

แต่แล้วกลุ่ม 5 คมก็ต้องถูก อัลคอฟ ใส่ร้าย เมื่ออัลคอฟสั่งให้ พ.ต.ต. สืบวงศ์ นายตำรวจผู้อยู่ภายใต้อิทธิพลของ อัลคอฟ สร้างข่าวว่า 5 คมเป็นกลุ่มค้ายาเสพติด ทำให้ 5คม ต้องแยกย้ายกันเพราะถูกทางการตามล่า ดรล์ ตัดสินใจบุกเข้าไปในบ้านอัลคอฟเพื่อลอบฆ่า แต่กลับถูกอัลคอฟใช้อุบายว่าจ้างในราคา 5 ล้านบาท เพื่อตามล่าตัวเพื่อนของ ดรล์ อีก 4 คนที่อยู่ในระหว่างการหลบหนี

เขาตกหลุมพรางในอุบายของ อัลคอฟ จึงจัดการนัดหมายเพื่อนทั้งสี่มาให้อัลคอฟล้อมจับโชคดีที่ สายัณห์ มาช่วยไว้ทันโดยมีจดหมายเล็ก ๆ บอกให้ทุกคนตามไป ที่กลางทะเลเพื่อช่วยกันขัดขวางการส่งยาเสพติดมหาศาลโดยการนำของ ร.ท.หญิง น้ำผึ้งผู้หมวดสาวใจเด็ดแห่งกองทัพบกไทย และหน่วยจู่โจมพิเศษของตำรวจ การต่อสู้อย่างดุเดือดจึงเริ่มขึ้น

สืบลับรหัสรัก

เพราะการฆ่าตัวตายอย่างมีเงื่อนงำของ แป๋ว หลานสาวของรัฐมนตรีวิเศษ ผู้มีอิทธิพล ทำให้อนนต์ตำรวจลับถูกตามมาสืบคดีนี้อย่างเร่งด่วน โดยมีติณณภพชายหนุ่มผู้มีญาณวิเศษซึ่งทำงานช่วยราชการอย่างต่อเนื่องมาเป็น ที่ปรึกษาให้ อนนต์และติณณภพสงสัยว่า ลัทธิโซเลยลัทธิบูชาดวงอาทิตย์เป็นพระเจ้าน่าจะอยู่เบื้องหลังการตาย

ในขณะเดียวกัน หนึ่งฤทัย หรือ หนึ่ง สาวสวย เจ้าของกิจการเครื่องหอมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้ขอความช่วยเหลือให้ติดตามตัวน้องชาย ธาริต หรือ สอง ซึ่งหายตัวไปหลังจากเข้าร่วมเป็นสมาชิกลัทธิ วิเศษจึงส่งหนึ่งให้มาหาอนนต์เพื่อ ช่วยทำคดี อนนต์และหนึ่งจึงตัดสินใจจะปลอมตัวเป็นสามีภรรยาที่กำลังมีปัญหาเพื่อเข้าไป สืบเรื่องราวต่างๆในลัทธิโซเลย และตามหาตัวธาริต หนึ่งยอมไปอยู่ทาวน์เฮาส์เพื่อทดลองใช้ชีวิตร่วมกันกับอนนต์ หนึ่งได้บอกเรื่องนี้กับ ดวงภัทร มารดาว่าจะไปดูลาดเลาเพื่อช่วยน้องชาย ศรุต ลูกค้ารายใหญ่ซึ่งพยายามตามจีบหนึ่ง หนึ่งจึงบอกไปว่าไปทำธุระที่อังกฤษเพื่อไม่ให้ทุกคนสงสัย หลังจากที่หนึ่งกับอนนต์อยู่ร่วมกันได้ไม่นานก็มีข่าวว่าจะมีการชุมนุม สมาชิกของลัทธิโซเลยที่ศูนย์กรุงเทพ อนนต์และหนึ่งก็ไปร่วมกิจกรรมนี้ด้วยแต่ก่อนเข้าไปชุมนุมไม่นาน สายของอนนต์แจ้งว่าจะมีคนหน้ารูปร่าง คล้ายหนึ่งเข้าร่วมลัทธิด้วย หนึ่งจึงยอมตัดผมซอยสั้นแปลงโฉม จากการเข้าร่วมลัทธิในครั้งแรก หนึ่งก็เป็น ที่ถูกใจของนิโคลัส คุณพ่อชาวอเมริกันซึ่งใหญ่ที่สุดในลัทธิโซเลย นิโคลัสให้ถาวร และอรัญญา เกลี้ยกล่อมให้อนนต์และหนึ่งไปทำงานในศูนย์ของลัทธิที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่น้องชายของเธอถูกเก็บตัวอยู่ที่นั้น ทั้งอนนต์และหนึ่ง ถูกจับตามองอยู่ตลอด เพราะเกรงว่าทั้งคู่จะเป็นสายให้ตำรวจและเพราะ ความใกล้ชิดกันนี้เองทำให้ทั้งคู่เริ่มมีใจ ให้กันอย่างไม่รู้ตัว ในศูนย์ที่เชียงใหม่ทั้งคู่ได้พบกับ ไอรีน ลูกสาวของนิโคลัส อายุ 8 ขวบ และยังมี พรรณราย ทำหน้าที่แม่บ้านใหญ่และเป็นภรรยาลับๆ ของนิโคลัส ทั้งน้องไอรีนและพรรณรายต่างไม่ชอบหน้าหนึ่งเลย นิโคลัสได้มอบหมายให้อนนต์เป็นนายช่างคอยดูแลเครื่องจักรทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นผู้ช่วยธีระดูแลงานด้านเอกสาร จากนั้นไม่นานนิโคลัสได้วางยาหนึ่ง เพื่อหวังลวนลามแต่เธอรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ทำให้พรรณราย และ นิโคลัสทะเลาะกันอย่างรุนแรง หนึ่งแอบฟังและจับใจความได้ว่า นิโคลัสอาจมีส่วนทำให้สามีของพรรณรายเสียชีวิตหนึ่งนำไปเล่าให้อนนต์ฟัง อนนท์โกรธนิโคลัสมากและเกือบทำอะไรลงไปโดยไม่ยั้งคิดและเมื่อทั้งคู่ช่วยกัน สืบเรื่องราวได้มากขึ้น หนึ่ง อาสาไปทำงานในครัวและอนนต์ไปทำงานที่แปลงผัก ทั้งคู่พบว่าลัทธินี้มอมเมาสมาชิก ให้สละทรัพย์สมบัติจนหมดเนื้อหมดตัว คนไหนต่อต้านจะหายตัวอย่างลึกลับหรือเป็นข่าวหน้า 1ว่าฆ่าตัวตายคล้ายกรณีแป๋วมาก ทั้งคู่ตั้งใจที่จะทำลายลัทธินี้ให้สิ้น โดยธนนต์คอยติดตามบอกข่าวคราวกับติณณภพทางโทรศัพท์มือถือเป็นระยะๆ อนนต์ถูก ไอรีน ติดตามจนแทบจะทำอะไรไม่ได้ ไอริน มีกริยาก้าวร้าวใส่หนึ่งทำให้อนนต์โกรธมาก อนนต์จึงสั่งให้ไอรีนเป็นเด็กดี 1 อาทิตย์ ไอรีนจึงไม่ค่อยตามอนนต์ และเมื่อไม่มีไอรีนคอยติดตามอนนท์ก็สามารถทำงานสะดวกขึ้น ที่เรีอนพยาบาล อนนต์ได้พบกับ ยุวดี พยาบาลที่ทางศูนย์จ้างมาดูแล “คนไข้พิเศษ” อนนต์พบว่ายุวดีไม่เห็นด้วยกับ พรรณรายที่ให้รักษาคนไข้ด้วยยาแผนโบราณ เพราะยาที่พรรณรายให้ไว้นั้นเป็นสมุนไพรที่ทำให้มีอาการตาค้าง นอนไม่หลับ สองจึงเกิดอาการหลอนผวา บางครั้งก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งจนร่างกายผอมซีด หนึ่งดีใจมากที่อนนต์ได้เจอน้องชายแล้ว เธอจึงเร่งรัดให้อนนต์วางแผนพาน้องชายออกจากศูนย์ อนนต์เริ่มนัดแผนพาสอง กับยุวดีหนีแต่ต้องล้มเลิกเพราะ “ผู้ชายจากกรุงเทพ” มาเยี่ยมสอง หนึ่งสงสัยมากกว่าเป็นใคร อนนต์จึงต้องหาจังหวะในการนัดหมายใหม่ พอถึงวันนัดอีกครั้งอนนต์ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาด หนึ่งจึงจับเขามัดไว้กับเตียง อนนต์สงสัยว่า นิโคลัสใช้เครื่องหอมวางยาให้เขาเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เขาจึงต้องการพาทุกคนออกจากศูนย์โดยเร็ว อนนต์โทรบอกแผนกับติณณภพให้ยกกำลังตำรวจขึ้นมารอช่วย แต่หนึ่งกับอนนต์กลับถูกนิโคลัสจับได้จึงเกิดการต่อสู้กัน โชคดีที่ติณณภพนำกำลังตำรวจมาช่วยไว้ได้ทัน นิโคลัสกับพรรณรายถูกจับ และสารภาพว่าแผนทั้งหมดเกิดจากไอรีน ซึ่งจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้อายุ 8 ขวบ แต่เป็นหญิงสาวที่ต่อมใต้มอง ทำงานบกพร่องจึงดูเหมือนเด็ก ติณณภพรีบแจ้งให้วิเศษรู้เพราะเกรงว่าไอรีนจะย้อนกลับมาทำร้าย ดวงภัทรรู้สึกโล่งอกที่เห็นสองกลับมาอย่างปลอดภัย ศรุตพอได้ข่าวก็รีบมาหาหนึ่งทันที ทำให้อานนต์เกิดอาการหึงจึงหลบหน้า หนึ่งคิดว่าอนนต์ไม่รักเธอจึงยอมออกเดทกับศรุต หนึ่งไปหาศรุต ที่บ้านเพื่อปรึกษาเรื่องสอง เพราะหนึ่งสงสัยว่า “อา” คนใดคนหนึ่งของเธอชักจูงสองเข้าร่วมลัทธิ แต่หนึ่งกลับพบไอรีนที่บ้านศรุต ไอรีดักยิงหนึ่งทันที ศรุตเข้าขวางทางจึงถูกยิงแทน อนนต์ไปหาหนึ่งที่บ้านเพื่อปรับความเข้าใจ พบธงเอกกับธงชัย ที่เอาผลไม้มาเยี่ยม สอง ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่“ผู้ชายจากกรุงเทพฯ” นำมาเยี่ยมที่ลัทธิโซเลย อนนต์คาดคั้นว่าใครคือไอโม่ง แต่ธงชัยกลับปฏิเสธและบอกว่าศรุตต่างหากที่เป็นคนพาสองเข้าลัทธิธงชัยบอกว่า เขาให้นักสืบตามดูศรุตและรู้ว่าหนึ่งอยู่กับศรุตจึงรีบไปช่วย ไอรีนกำลังจะกำจัดหนึ่ง อนนต์ยกพวกมาช่วยหนึ่งได้ทัน ไอรีนหวังหนีออกนอกประเทศ แต่ถูกติณณภพกับวิเศษคอยดักอยู่แล้วจึงจับตัวไอรีนได้ในที่สุด ส่วนหนึ่งกับอนนต์ก็ได้ประสานความเข้าใจกัน ทั้งคู่จึงแต่งงานเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ

เลดี้บ้านนา

เรวดี หรือ ดีดี้ (สุนิสา เจทท์) สาวสวยไฮโซ ลูกสาวเศรษฐีที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ ในระหว่างที่เธอกำลังมีความสุขอย่างที่สุดหลังจากได้ฉีกหน้าเพื่อนสาวไฮโซกลางงานเดินแบบ ก็ได้ไปพบเห็นการฆาตกรรมเลขาของท่าน อำนาจ ผู้มีอิทธิพลชื่อดัง อำนาจจึงสั่งให้ยศ (วีระชัย หัตถ์โกวิท) มือปืนข้างกายออกตามไล่ล่า เรวดีที่หนีเอาชีวิตรอดได้รับความช่วยเหลือจาก จรัญ (ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์) ตำรวจหนุ่มผู้ทำคดีนี้ แต่ต่อมาไม่นานพวกของอำนาจที่ได้เห็นเรวดีผ่านสื่อต่างๆจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอคือคนที่เห็นเหตุการณ์ฆาตกรรม เรวดีตั้งใจจะไปแจ้งความแต่ถูกจรัญห้ามไว้และแนะนำให้หาหลักฐานให้แน่นหนาเสียก่อน และขอให้เธอหลบไปเก็บตัวเพื่อความปลอดภัย นั่นก็คือ หมู่บ้าน “บ้านดอน” ซึ่ง พายัพ (วิทยา วสุไกรไพศาล) เพื่อนของเขาอาศัยอยู่ เมื่อสาวไฮโซอย่างเรวดีต้องไปอาศัยอยู่ในต่างจังหวัด เธอจึงวาดฝันไว้ว่าจะได้ไปใช้ชีวิตอย่างสวยงามมีบ้านสไตล์ยุโรปบนเนินเขาเขียวขจี เธอจึงขนเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแบรนด์เนมไปหลายใบ เมื่อมาถึง จรัญพาเรวดีไปบ้านพายัพซึ่งเป็นแค่บ้านไม้สองชั้นสุดแสนธรรมดา และได้พบกับพยอม (ดวงตา ตุงคะมณี) แม่ของพายัพ และ พัดชา (ปจิตรา ภรณ์เจริญ) น้องสาวสุดห้าวของพายัพ ในครั้งแรกที่เจอพยอมกับเรวดีก็เขม่นใส่กันทันที จนพัดชาต้องพาเรวดีไปยังบ้านหลังเล็กท้ายนาก่อนจะเกิดเรื่อง ที่กระท่อมปลายนา เรวดีต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก ทำให้เธอนอนไม่หลับ แล้วจู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงจากด้านนอก เธอคว้าไม้ตีใส่แขกไม่ได้รับเชิญไม่ยั้ง พัดชากับจ้อน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกน้องของพายัพวิ่งมาดู เรวดีจึงได้รู้ว่าชายคนนั้นก็คือ พายัพนั่นเอง ทั้งคู่ต่างเถียงกันว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก ทั้งสองจึงไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เรวดีที่ไปเหมาซื้อเครื่องใช้มามากมายได้ตกเป็นเป้าสายตาของคนในหมู่บ้าน รวมทั้ง ธัชชัย (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) นายอำเภอหนุ่มที่ตกหลุมรักเรวดีตั้งแต่แรกเห็นและเป็นชายหนุ่มที่พัดชาแอบชอบมานาน ต่อมาเมื่อเงินเริ่มร่อยหลอลง เธอจึงได้นำของแบรนด์เนมออกขายในราคาถูกสุดๆ แต่ก็ไม่มีใครซื้อเลยสักคน เมื่อพายัพรู้จึงให้เงินพัดชาไปซื้อของของเรวดี ทำให้เรวดีเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้นและใช้เงินก้อนนี้อย่างประหยัดที่สุด วันหนึ่งพายัพพูดจายียวนจนเรวดีโกรธ เธอจึงเดินลุยคันนาไปต่อว่าเขา แต่เธอกลับลื่นล้มลุกขึ้นไม่ได้ พายัพจึงเข้ามาช่วยจับมือประคอง แล้วทันใดนั้น ใบบัว (เพชรลดา เทียมเพชร) ลูกสาวสุดเปรี้ยวของ เสี่ยบุญมี (เกริก ชิลเลอร์) พ่อค้าหน้าเลือดประจำหมู่บ้าน ที่หมายตาพายัพมานานมาเห็นเข้า พร้อมกับ ส้มจี๊ด (หมวย ชวนชื่น) ลูกน้องคู่ใจก็ตรงรี่เข้าไปหาเรื่องเรวดีทันที โดยมี ตุ่น (ธเนศ ภูผานี) ลูกน้องของเสี่ยเป็นคนช่วย เรวดีเองก็ไม่ยอมจึงตบตีกัน แต่เมื่อสู้เรวดีไม่ได้ ใบบัวเลยนำเรื่องไปฟ้องพยอมพร้อมใส่ร้ายเรวดีว่าให้ท่าพายัพ ทำให้พยอมไม่พอใจเรียกพายัพมาต่อว่าและสั่งห้ามไม่ให้คว้าผู้หญิงอย่างเรวดีมาทำเมีย

วันหนึ่งเมื่อเรวดีลื่นล้มขาแพลง พายัพเองก็เข้ามาช่วยดูแลโดยอ้างว่าทำไปเพื่อจรัญ แต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะใจของเขาเอง ส่วนจ้อนที่รู้ความรู้สึกของเจ้านายจึงพยายามช่วยอย่างเต็มที่ แต่กลายเป็นว่าทำให้เรวดีขาแพลงหนักจนไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ พายัพจึงชวนเรวดีทำกิจกรรมต่างๆแก้เบื่อ ความใกล้ชิดของทั้งคู่ทำให้พายัพสุขใจและเรวดีเองก็เริ่มหลงใหลที่นี่แล้ว ในช่วงที่รอข้าวโต ชาวบ้านได้เตรียมพากันไปเป็นคนใช้แรงงานในเมืองตามคำชวนของเสี่ยบุญมี พายัพที่ไม่อยากให้ชาวบ้านไปได้ไปปรึกษากับธัชชัย เรวดีได้ออกความเห็นว่าควรมีรายได้เสริมให้ชาวบ้าน โดยนำสินค้าที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลง เพื่อนต่างชาติของพายัพประทับใจและสั่งซื้อสินค้าไปขายในต่างประเทศ ทำให้ชาวบ้านดีใจเป็นอย่างมาก พยอมเริ่มเห็นความดีและความตั้งใจที่เรวดีทำเพื่อหมู่บ้าน แต่ด้วยทิฐิทำให้เธอยังคงไม่พอใจเรวดี ส่วนพัดชาก็บังเอิญเห็นเรวดีจับมือกับธัชชัยทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าถูกเรวดีหักหลัง หลังจากวันนั้นพัดชาก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องจนพายัพเป็นห่วงจึงคาดคั้นหาความจริง เมื่อรู้เรื่องก็ไปต่อว่าเรวดีที่หักหลังน้องสาวและยังทรยศจรัญอีก เรวดีปฏิเสธเพราะความจริงแล้วเธอแอบรักพายัพนั่นเอง ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง ด้วยความโกรธพายัพดึงเธอมาจูบ เรวดีเสียใจมากและตัดสินใจหนีกลับกรุงเทพฯ ต่อมาจรัญบอกพายัพให้รู้ถึงสาเหตุที่เรวดีมาอยู่ที่หมู่บ้าน เรวดีกลับมาที่คอนโดและถูกลอบยิงแต่โชคดีที่พายัพมาช่วยไว้ทัน พายัพที่เข้าใจเรื่องทั้งหมดขอโทษเธอ ทั้งสองเข้าใจกันแล้วพากันกลับมายังหมู่บ้าน คืนนั้นเรวดียังคงหวาดกลัวจากเหตุการณ์ถูกไล่ยิง พายัพจึงต้องนอนเป็นเพื่อนเธอที่บ้านทั้งคืน ทำให้ชาวบ้านต่างพูดกันว่าพายัพกับเรวดีได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้ว พายัพจึงตัดสินใจประกาศแต่งงานกับเรวดี ทั้งที่ยังไม่ได้บอกความในใจกับเรวดีเลย

คืนหนึ่งเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้โกดังเก็บสินค้าของหมู่บ้าน เรวดีจึงได้คิดแผนจับผู้ร้ายวางเพลิง ทำให้ได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของเสี่ยบุญมีและใบบัว ตอนแรกชาวบ้านจะให้ตำรวจจับสองพ่อลูก แต่เรวดีให้โอกาสโดยให้พวกของเสี่ยบุญมีนำสินค้าของหมู่บ้านไปขายให้ได้ในหนึ่งอาทิตย์ ในระหว่างที่เร่ขายของกันอยู่นั้นก็ไปพบกับลูกน้องของอำนาจ ทำให้อำนาจรู้ว่าเรวดีอยู่ที่ไหนและสั่งให้ลูกน้องไปฆ่าเรวดีทันที เรวดีจะสามารถรอดพ้นจากการตามล่าของอำนาจได้หรือไม่ แล้วความรักของ เธอ กับ พายัพจะจบลงอย่างไร ต้องติดตามชมละคร เลดี้บ้านนา

รายชื่อนักแสดงนำ เลดี้บ้านนา
วิทยา วสุไกรไพศาล รับบท พายัพ
สุนิสา เจทท์ รับบท เรวดี หรือ ดีดี้
ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับบท ธัชชัย
ปจิตรา ภรณ์เจริญ รับบท พัดชา
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท พยอม
กีรติ เทพธัญญ์ รับบท จ้อน
เพชรลดา เทียมเพชร รับบท ใบบัว
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ รับบท อำนาจ
เกริก ชิลเลอร์ รับบท เสื่อบุญมี
สกาวใจ พูลสวัสดิ์ รับบท แป๋วแหวว
หมวย ชวนชื่น รับบท ส้มจี๊ด
วีระชัย หัตถ์โกวิท รับบท ยศ

พริกไทยกับใบข้าว

กานติสา หรือ พริกไทย (ณัฐพร เตมีรักษ์) หลานสาวคนเดียวของ พลตรีสัณหเทพ คัมภีรยุทธ (มนตรี เจนอักษร) และ อาจารย์อุษา (ดวงตา ตุงคะมณี) เกิดมาพร้อมกับความอัปยศของตา ยาย และแม่ การิตา(สุนิสา เจทท์) เนื่องจากการิตาถูกข่มขืนจนท้อง ทำให้เธอกลายเป็นคนโรคจิต และผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พริกไทยได้รับการเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน โดยพลตรีสัณหเทพหวังที่จะครอบงำหัวใจพริกไทยไว้เพื่อปกป้องเธอมิให้ต้องพบ ความเลวร้ายเช่นเดียวกับแม่ของเธอ
 
วันหนึ่งเหตุการณ์ที่ท่านนายพลกลัวก็เกิดขึ้น ความผูกพันระหว่างพริกไทย กับ นักษัตร หรือ ใบข้าว (ณัฐรัฐ โมริส เลอ กรอง) ลูกชายคนเดียวของ พันตำรวจโทนรภัทร (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) และปณิตา (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) แม้ทั้งสองจะเทาะกันทุกครั้งที่เจอ แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกรักและผูกพันของคนทั้งสอง แม้พริกไทยจะสับสนกับความรู้สึกที่มีกับใบข้าว แต่ในใจลึกๆ แล้วพริกไทยก็รักใบข้าวเช่นกัน
 
ในบ้านของนรภัทร นากจากใบข้าว ยังมีสมาชิกในครอบครัวอีกคนคือ กรินทร์ (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ญาติผู้น้องของปณิตา ปลัดอำเภอหนุ่มลูกคนโปรดของ คุณบวร(ประกาศิต โบสุวรรณ) คหบดีเชื้อสายจีนและ กรพินทุ์ (นัฎฐา ลอยด์) ที่ย้ายจากต่างจังหวัดมารับราชการอยู่กรุงเทพฯ กรินทร์ ที่ใครๆ มองว่าสุภาพแสนดี แต่แท้จริงแล้ว กรินทร์ เป็นคนที่สร้างตราบาปให้กับการิตา จากตอนนั้นกรินทร์ก็เกลียดตัวเองที่ไม่กล้ารับความจริง จึงทำให้เขากลายเป็นโรคจิตอ่อนๆ ก่อนที่พริกไทยกับใบข้าวจะเข้าสู่วัยหนุ่มสาว มีเหตุการณ์รุนแรงกับครอบครัวคัมภีรยุทธอีกครั้ง เมื่อพลตรีสัณหเทพพาครอบครัวไปพักผ่อนที่ชายทะเลและได้พบกับครอบครัวของ ธำรง (เวนช์ ฟอลโคเนอร์) และ สิริรัตน์ (รุ้งทอง ร่วมทอง) ที่มีลูกชายหญิงคือ ธีรสิทธิ์ กับ ธีรนาถ(ชิดจันทร์ รุจิพรรณ) และครอบครัวของ ภาษิต(เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) พี่ชายของสิริรัตน์ กับ อินทิรา มีลูกชายหญิงเช่นกันคือ ภาพิต(วิรากานต์ เสณีตันติกุล) กับ อาสา
 
ภาพิต เด็กร้ายขี้อิจฉาทำร้ายพริกไทยให้การิตาเห็น ความที่เป็นโรคประสาทอยู่แล้วทำให้การิตาลงมือทำร้ายภาพิตกลับ เป็นเหตุให้อินทิราออกโรงรื้ออดีตของการิตาที่เคยถูกข่มขืนขึ้นมาประจาน การิตาที่รู้จุดของอินทิราว่าเป็นโรคหึงผัวเลยแกล้งยั่วว่าจะแย่งภาษิตมา เป็นของตัว อินทิราแค้นรีบพาครอบครัวกลับและโทรมาด่าการิตาด้วยเรื่องเดิม ผ่านไปเพียงวันเดียว อินทิราโทรมาตามภาษิตที่หายตัวไป การิตาเลยฉวยโอกาสยั่วไปว่าภาษิตอยู่กับตน อินทิราสติแตก พาลูกบึ่งรถมาเพื่อเล่นงานทั้งผัวและการิตา แต่โชคร้าย รถอินทิราพลิกคว่ำ อินทิรากับอาสาตายคาที่ มีเพียงภาพิตที่รอด ยังความบาดหมางมาให้ทั้งสองครอบครัว โดยเฉพาะภาพิตที่เจ็บจำฝังใจว่า แม่ของพริกไทย คือคนที่ฆ่าแม่และน้องของเธอ ทั้งคำประนามว่า ‘ฆ่าคนตาย’ และความรู้สึกผิดในจิตใต้สำนึกทำให้อาการคุ้มดีคุ้มร้ายของการิตารุนแรงขึ้น กรินทร์ยิ่งสงสารและรู้สึกว่าจะปล่อยการิตาให้แบกรับชะตากรรมเช่นนี้อีกไม่ ได้ จึงยอมเสี่ยงตายเข้าไปกราบเท้าขอขมาและยอมรับผิดต่อพลตรีสัณหเทพทุกอย่าง แล้วก็สมใจกรินทร์เพราะว่าที่พ่อตาซ้อมลูกเขยจนปางตายจริงๆ
 
เหตุการณ์เลวร้ายของครัวครัวคัมภีรยุทธก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งกับการิตา เมื่อการิตาพบเหตุการณ์รุนแรงที่ทำให้เธอเกือบถึงแก่ชีวิต กรินทร์เข้าช่วยยอมตายแทน โชคดีที่ทั้งคู่รอดมาได้ กรินทร์ที่เจ็บหนักยังอุตส่าห์ยื่นมือเข้าดูแลการิตาอย่างจริงจังและจริงใจ จนการิตาอาการดีขึ้น ทำให้พลตรีสัณหเทพใจอ่อน ทั้งสองแต่งงานกันและมีทายาทเพิ่มขึ้นอีกคน คือ เกลือป่น หรือ การิศ (อเล็กซ์ เรนเดลล์)
 
ฝ่ายภาพิต ความเสียใจที่แม่ตาย เหลือแต่พ่อก็เป็นที่พึ่งไม่ได้ เพราะเวลานั้นภาษิตเองก็ไปมั่วคั่วอยู่กับ ไดอานา(พรรณชนิดา ศรีสำราญ) นางแบบสาว ถัดจากไดอานา ภาษิตก็ยังมีเมียอีกคน ทำให้ภาพิตกลายเป็นเด็กมีปัญหาทางใจอย่างรุนแรง เพราะรู้สึกเหมือนขาดทั้งพ่อและแม่ แถมยังเป็นคู่แข่งที่แพ้เปรียบทั้งธีรนาถที่นับวันยิ่งเติบโตกลายเป็นสาว พราวเสน่ห์ ครอบครัวก็อบอุ่น และพริกไทยที่เป็นที่รักของทุกคน มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ให้ความสนใจมิได้ขาด ไม่เว้นแม้แต่ธีรสิทธิ์ ที่สำคัญคือใบข้าว…ผู้ชายที่ภาพิตหลงรักตั้งแต่แรกพบ ทำให้ภาพิตเริ่มปล่อยตัวมั่วเหล้ายา จากการถูกเลี้ยงดูมาโดย “ห้ามมีรัก” จึงทำให้พริกไทยทำทุกวิถีทางเพื่อปิดกั้นใบข้าว เป็นช่องให้ธีรนาถ ที่หลงไหลคลั่งไคล้ใบข้าวคอยตามติด และมั่วนิ่มว่าใบข้าวเป็นแฟนเธอ ไดอาน่าได้พบกับภาพิตในสภาพน่าสมเพชสุดๆ ไดอาน่ารีบตามสิริรัตน์มาช่วยภาพิตและรับอุปการะไว้ ทั้งพูดให้สติและให้โอกาสสารพัด ภาพิตคิดกลับตัวกลับใจตามคำสอน แต่ภาพิตที่คิดกลับใจ กลับถูกธีรนาถกลั่นแกล้งเล่นอย่างเห็นสนุก ภาพิตถูกเด็กเกเรอย่างธีรนาถกดดันจนตะกอนแห่งความโกรธแค้นเกลียดชังในใจภา พิตคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง…และครั้งนี้ ความแค้นและประสบการณ์ส่งผลรุนแรงต่อคนทุกผู้ที่อยู่ใกล้มากมายกว่าอดีตทบ เท่าทวีคูณ…
 
และเรื่องราวก็สับสนวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง เมื่อภาพิตได้วางแผนที่จะกำจัดทั้งพริกไทยและครอบครัว เพื่อแก้แค้นให้แม่และน้องชายของเธอ แต่ใบข้าวได้เข้ามาช่วยไว้ได้ ทำให้แผนของภาพิตถูกเปิดโปง และใบข้าวก็ได้วางแผนทำให้ภาพิตสำนึกผิด ภาพิตรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปและสำนึกได้แล้ว พริกไทยกับการิตาจึงอโหสิกรรมให้ ภาพิตที่มีสภาพเหมือนซากดอกไม้แห้งๆ ขอร้องไดอาน่าให้จัดงานแฟชั่นโชว์ให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย
 
และเธอยังกระซิบขอให้ไดอาน่าจัดคนคู่หนึ่งที่จะมาใส่ชุดบ่าวสาวเป็นฟินา เล่ในงานโชว์ของเธอ ไดอาน่ารับปาก พริกไทยยินดีเป็นนางแบบให้ห้องเสื้อภาพิตา แต่ปัญหาคือ เธอจะไปตามคนที่มาใส่ชุดเข้าบ่าวได้ที่ไหน ไดอาน่า จึงไปกราบกรานขอร้องพลตรีสัณหเทพ ในที่สุด พลตรีสัณหเทพก็ตัดสินใจออกตามหาใบข้าวด้วยตัวเอง ซึ่งในที่สุด ก็ได้พบใบข้าวที่บ้านตากอากาศที่ใบข้าวได้พบกับพริกไทยเป็นครั้งแรก
 
แล้ววันนั้นก็มาถึงวันงานแฟชั่นโชว์ ที่พริกไทยต้องเดินออกมาเป็นคนสุดท้าย แล้วจู่ๆ ก็มีนายร้อยตำรวจหนุ่มหน้าตาคมขำคุ้นเคย เดินถือช่อดอกไม้ออกมาในชุดเจ้าบ่าวสีขาวโก ตรงหน้าพริกไทยขณะนี้คือนายร้อยตำรวจตรีนักษัตร พลโทสัณหเทพโดดขึ้นเวทีไม่ทัน แล้วก็ประกาศก้องกลางงานว่า ณ บัดนี้ คือฤกษ์ดีที่จะประกาศหมั้นให้กับหลานทั้งสอง…คือพริกไทย และ ใบข้าว
 
ธีรนาถ มีหมอหนุ่มศักดินาคอยตามดูแล ดูเหมือนความสุขสมหวังจะแผ่กระจายไปทั่วทุกหัวใจ แต่คุณตาจอมหวงหลานก็ยังไม่ยอมให้ “ใบผ่าน” กับใบข้าวง่ายๆ ใบข้าวยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองมากมาย คุณตาแม้จะแพ้ใจว่าที่หลานเขย แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายเสียทีเดียว ยังขู่ฟอดว่าถ้าวันใดที่ใบข้าวทำให้พริกไทยต้องเสียใจ รับรองว่าคุณตาจะทำให้ใบข้าวจดจำคุณตาคนนี้ไปจนวันตาย ใบข้าวจูงมือพริกไทยไปกราบคุณตาพร้อมกล่าววาจาออกมาเป็นสัญญาว่า พริกไทย กับ ใบข้าว จะดูแลต้นรักดัวยปุ๋ยแห่งความดีงาม จะไม่ยอมให้ความเกลียดชังใดๆ มาทำให้ต้นรักต้องกลายพันธุ์ผิดเพี้ยนไปได้อีกเลย

ผมไม่อยากเป็นสายลับ

ทองเอก (ไชยา มิตรชัย) เป็นลูกชายคนสุดท้องของ นายบุญทอง (พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร) และ นางทองพลับ (ราตรี วิทวัส) ซึ่งเปิดกิจการร้านขายข้าวสาร ตระกูลข้าวทอง อยู่ในตลาด ทองเอกคลอดก่อนกำหนดจึงทำให้เขาเป็นคนตัวเล็ก พ่อแม่เลี้ยงอย่างประคบประหงมตั้งแต่เล็กจนโต เพราะคิดว่าการเป็นคนตัวเล็กจะต้องอ่อนแอกว่าคนอื่นแม้เขาจะคว้าปริญญาตรี นิติศาสตร์มาให้กับตระกูลแล้วก็ตาม แต่เขาก็ทำให้ทองพลับกินไม่ได้นอนไม่หลับเมื่อเขามุ่งมั่นไปสมัครสอบตำรวจ แต่ทองเอกก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะสอบข้อเขียนเพราะทั้งความสูงและรอบอกของเขา ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ทางการกำหนดไว้ แต่เขาก็หวังว่าอีกสองปีข้างหน้าเขาจะต้องสอบเป็นตำรวจให้ได้

หลังจากวันนั้นทองเอกไม่ทำอะไรเลยนอกจาก โด๊ปทั้งอาหารทั้งวิตามินและออกกำลังกายสองปีต่อมาเขาก็กลับไปสมัครอีกตาม เคย แต่คราวนี้กลับไม่เหมือนเดิม พล.ต.ท.สนับหรือผู้การหนับ (มนตรี เจนอักษร) เป็นประธานคณะกรรมการสอบคัดเลือก เห็นความมุ่งมั่นของทองเอกหุ่นไม่ให้แต่ใจรักได้ยื่นข้อเสนอให้ทองเอกรับงาน สายลับไปก่อน แต่ทองเอกปฏิเสธข้อเสนอของผู้การหนับเสียงแข็งว่า ผมไม่อยากเป็นสายลับ เขาเอากลับไปคิดเป็นการบ้าน แต่คนที่บ้านไม่มีใครเห็นด้วย จึงทำให้ทองเอกตัดสินใจรับข้อเสนอ

ร.ต.ท.หญิงฉัตรดาว (สุนิษา เจทท์) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้การหนับที่เดินตามรอยเท้าพ่อ แม้คุณนายบานชื่น (สาวิตรี สามิภักดิ์) ผู้เป็นแม่จะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่เพราะกลัวลูกสาวจะไร้คู่ แต่เมื่อลูกสาวไม่เปลี่ยนใจบานชื่นจึงทำตัวเป็นกองหนุนเพื่ออำนวยความสะดวก ให้ลูกสาว ฉัตรดาวยิ้มแก้มปริเมื่อบิดาจะส่งมือดีมาช่วย แต่เธอได้พบกับทองเอกก็ต้องผิดหวังเพราะเขาตัวเล็กแขนขาเล็กหน้าตายัง หวานกว่าพระเอกลิเก ฉัตรดาวดื้อหัวชนฝาที่จะไม่รับทองเอกแต่พอเธอได้อ่านข้อมูลการสมัครสอบเธอก็ เริ่มใจอ่อนแต่เธอมีข้อแม้ให้ทองเอกเข้าคอร์สฟิตร่างกายเรียนรู้พื้นฐานการ ต่อสู้เสียก่อนเธอ จึงจะยอมให้เริ่มงาน

ระหว่างการฝึกฉัตรดาวคอยแกล้งทองเอกจนทองเอกไม่สบายต้องนอนซมอยู่โรงพยาบาล เธอรู้สึกผิดมากที่แกล้งที่เขาหนักเกินไปและเธอยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นที่ได้ ยินเขาเพ้อและพูดแต่ประโยคที่ว่า ผมอยากเป็นตำรวจ ผมไม่อยากเป็นสายลับ ทำให้ฉัตรดาวนึกถึง ร.ต.อ.คมชาญ (จตุรวิทย์ คชน่วม) ทั้งแข็งแรงทั้งสูง คุณสมบัติทางกายพร้อม แต่ทางใจนั่นไม่ได้เรื่องเขามักใช้อำนาจในทางที่ผิด ชอบทำงานเอาหน้า แต่งานหนักงานเสี่ยงไม่ชอบทำ เมื่อทองเอกหายเป็นปกติเขาก็ได้ลงฝึกเป็นสายลับมือใหม่อย่างหนักหน่วงและ สนุกสนาน ฉัตรดาวแอบชื่นชมทองเอกอยู่ในใจ

ฉัตรดาวตัดสินใจมอบงานสายลับให้กับเขาอย่างเต็มใจ ฉัตรดาวไม่รู้ตัวเลยว่า หมวดพัดชา (เบญจศิริ วัฒนา) ลูกน้องของผู้กองคมชาญแอบสะกดรอยดูการฝึกของสายลับคนใหม่ คมชาญก็รีบเตรียมแผนขัดขวางการทำงานของทองเอกเผื่อหวังกีดกันทองเอกให้ไปจาก ชีวิตของฉัตรดาว ภารกิจแรกของการเป็นสายลับของทองเอกคือ ต้องปลอมตัวเป็นพนักงานซ่อมสัญญาณจานดาวเทียมเพื่อไปหาหลักฐานในคฤหาสน์ เนตรวิไล เจ้าแม่วงการเพชรพลอยเมืองไทย เบื้องหลังของเธอคือส่งเด็กสาวและหญิงไทยไปค้าประเวณีที่เมืองนอก แต่ถูกคมชาญซ้อนแผนจนล้มไม่เป็นท่า ฉัตรดาวถูกเจ้านายตำหนิอย่างรุ่นแรง แต่เธอเริ่มสงสัยว่าน่าจะมีคนรู้แผนการของเธอ

เมื่อ ภารกิจที่สองเข้ามา ทองเอกหนักใจอยู่ไม่น้อย เพราะเขาต้องสวมรอยเป็นหนุ่มต่างด้าว เข้าไปทำงานในโรงงานลูกชิ้นปลาของ เสี่ยชานนท์ เบื้องหลังของเสี่ยอานนท์แท้จริงแล้วเขาจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมาทำงาน เป็นจำนวนมาก ทองเอกต้องเข้าไปเก็บต้องเข้าไปเก็บหลักฐานมาให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้ดำเนิน คดีกับชานนท์ แต่ก็พลาดอีกตามเคย ครั้งนี้ฉัตรดาวถูกต่อว่าตามเคย ทองเอกขอโทษฉัตรดาวที่ประมาทเกินไป ฉัตรดาวเห็นว่าทองเอกเหนื่อยมาพอสมควรจึงอนุญาตให้เขากลับไปเยี่ยมครอบครัว ที่อยุธยาทองเอกจึงถือโอกาสชวนเธอไปเที่ยว ฉัตรดาวได้สัมผัสถึงความอบอุ่นที่ครอบครัวมีให้ทองเอก และเธอก็ได้บอกกับครอบครัวของทองเอกว่าเขามีคุณสมบัติพียงพอที่จะเป็นตำรวจ เผื่อให้พวกเขาคลายกังวล กลับมาถึงกรุงเทพฯ ฉัตรดาวและทองเอกก็ได้กลายมาเป็นคนรับใช้ของจ่ายอดกับจ่าแย้มถึง 7 วัน ทำให้ทั้งสองคนเริ่มเข้าใจและเรียนรู้จิตใจกันมากขึ้น

หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งลงเกือบทุกฉบับว่า โรม เอกรินทร์ (ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์) ถูกฆ่าตายอย่างอนาถในบ้านหรูกลางกรุง คดีของโรมเป็นคดีที่ใหญ่และเป็นคดีที่คนไทยทั้งประเทศสนใจ ทางการจึงมอบหมายให้ผู้กองหนับจับคนร้ายมาดำเนินคดีเขามั่นใจว่าจะปิดคดีได้ โดยเร็วเพราะ อัศวิน (โอลิเวอร์ บีเวอร์) เจ้าของวงดนตรีเป็นเพื่อนรักเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ คมชาญเมื่อเห็นว่าคดีของโรมเป็นคดีใหญ่ เขาจึงขอผู้การหนับทำด้วย แต่ผู้การหนับรู้จักนิสัยของคมชาญจึงปฏิเสธคำขอ คมชาญทั้งแค้นและน้อยใจผู้การหนับ จึงวางแผนที่จะเข้าไปแทรกแซงการทำงานของฉัตรดาว

ทองเอกกับฉัตรดาวปลอมตัวเข้าไปในวง โดยทองเอกกลายเป็นนายเอก พ่อครัวประจำวง และฉัตรดาวกลายเป็น ดาว หางเครื่องคนใหม่ประจำวง การสวมรอยเป็นพ่อครัววันแรกเป็นไปได้สวย เพราะฝีมือการทำอาหารของทองเอกสุดยอดใคร ๆ ก็เอ่ยปากชม โดยเฉพาะ กิ๊บซี่ (วสันต์ อุตตมะโยธิน) ส่วนฉัตรดาวสวมบทหางเครื่องเต้นจนแทบจับไข้ อัศวินตัดสินใจแสดงคอนเสิร์ตของ ธันวา (ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ) และ จอมใจ (พาเมล่า บาวเด้นท์) ในอีกสองเดือนข้างหน้า เมื่อธันวาเห็นฉัตรดาวก็ตกหลุมรักหางเครื่องคนใหม่ทันที เขาขยันมาซ้อมร้องเต้นทุกวันเพื่อสานความสัมพันธ์กับฉัตรดาว ฉัตรดาวยอมใกล้ชิดกับธันวาเพื่อหวังสืบคดีเรื่องการตายของโรม ด้านจอมใจก็ขออัศวินให้ อักษร แดนสรวง (ปิยะพงษ์ คำภากุล) มาแต่งเพลงให้เธอ แต่อัศวินบอกให้เธออดทนไม่งั้นจะไม่ได้อะไรเลย ทองเอกก็ตีซี้จอมใจหวังหาข้อมูลเช่นกัน ด้านคมชาญแอบตีซี้จอมใจหวังสืบหาข้อมูลเหมือนกัน

ทองเอกเห็นฉัตรดาวคุยกับธันวาอย่างสนิทสนมก็รู้สึกหมั่นใส โดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหงุดหงิด ด้านฉัตรดาวสืบจนรู้ความลับของธันวาเรื่องวันที่โรมตายธันวาได้ให้การกับ ตำรวจว่าเขาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนแต่แท้จริงแล้วเขากลับไปเยี่ยมครอบ ครัวของเขา ฉัตรดาวพอจะสรุปได้ว่าธันวามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของโรมน้อยมาก

งาน คอนเสิร์ต อัศวินโกรธมากที่จอมใจมาไม่ทันจึงให้ทองเอกขึ้นร้องเพลงคู่กับธันวาผู้ชม ถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก จอมใจมาถึงงานเขาถูกอัศวินต่อว่า และเธอก็ตัดสินใจว่าจะขึ้นเวทีเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะแต่งงานกับคมชาญ คมชาญร้อนใจเพราะไม่ได้คบจริงจังแค่ต้องการสืบคดีเท่านั้น คมชาญจึงหลอกให้จอมใจสารภาพผิดและเข้าจับกุม แต่ทองเอกไม่เชื่อว่าคนอย่างจอมใจจะฆ่าโรมได้จึงขอให้ฉัตรดาวเพื่อฟื้นคดี ใหม่แต่ผู้กองหนับคัดค้าน ฉัตรดาวได้รับข้อมูลจากทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าโรมเสียชีวิตเพราะถูกไฟฟ้าช็อต ไม่ได้เสียชีวิตเพราะกระสุนปืนเธอและทองเอกจึงเข้าไปในบ้านของโรมจึงพบว่ามี คนเพิ่มโวลต์ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรในเครื่องออกกำลังกายและพบลายนิ้วมือเพียง สองคนคือ อัศวินและโรม

ทองเอกสามารถปิดคดีได้อย่างสวยงาม และเขาได้เป็นร้อยตำรวจตรี ทองเอก ข้าวทอง ตามความฝัน ส่วนฉัตรดาวได้เลื่อนขั้นเป็นผู้กอง แม้ทองเอกจะได้เป็นตำรวจสมใจ แต่เรื่องความรักยังไม่เข้าเป้า ส่วนฉัตรดาวก็เฝ้าคิดถึงทองเอกเช่นกัน ความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไรติดตามได้ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครผมไม่อยากเป็นสายลับ เริ่มออกอากาศตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2553

รายชื่อนักแสดงละคร ผมไม่อยากเป็นสายลับ

ไชยยา  มิตรชัย   แสดงเป็น   ทอง
สุนิสา  เจทท์   แสดงเป็น   ฉัตรดาว
จตุรวิทย์  คชน่วม   แสดงเป็น   ผู้กองคมชาญ
เบญจศิริ  วัฒนา   แสดงเป็น   หมวดพัดชา
ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ   แสดงเป็น   ธันวา
พาเมล่า บาวเด้นท์   แสดงเป็น   จอมใจ
มนตรี  เจนอักษร   แสดงเป็น   ผู้การสนับ
สาวิตรี  สามิภักดิ์   แสดงเป็น   คุณนายบานชื่น
ราตรี  วิทวัส   แสดงเป็น   ทองพลับ
พุฒิพงศ์  พรหมสาขา ณ สกลนคร   แสดงเป็น   บุญทอง
โอลิเวอร์ บีเวอร์   แสดงเป็น   อัศวิน
วสันต์ อุตตมะโยธิน   แสดงเป็น   กิ๊บซี่
ปิยะพงษ์ คำภากุล   แสดงเป็น   อักษร
ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์   แสดงเป็น   โรม
ร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมาย

บอดี้การ์ดแดดเดียว

ธัญมัย ตำรวจหญิงคนใหม่ได้รับมอบหมายงานสำคัญจาก อัศวิน ผู้บังคับบัญชาให้ไปเป็นบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยแก่ เจ้าหญิงแห่งประเทศคีรีมาน เพราะตลอดเวลากว่า 20 ปี ทางประเทศคีรีมานก็วุ่นกับการตามหา อัสมาร์ องค์รัชทายาท ที่ยอมสละบัลลังก์เพื่อไปใช้ชีวิตคู่กับดวงแก้วหญิงไทย ทำให้โซฟีผู้เป็นพี่สาวต้องขึ้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทน กระทั่งวันหนึ่ง อาโป อดีตเลขาของพระมารดาได้ทราบเบาะแสของเจ้าหญิงซึ่งเกิดจากอัสมาร์ โซฟีหวั่นวิตกกลัวว่าจะสูญเสียบัลลังก์ไป แต่ก็แสร้งทำเป็นดีใจเมื่อทราบข่าวหลานสาวและรีบติดต่อประเทศไทยให้ส่งคนไป ดูแลเจ้าหญิง แต่ในทางลับเธอสั่งให้ ราชิต หลานชายรีบล่วงหน้าไปก่อน แล้วให้จับตัวเจ้าหญิงมาเพื่อต่อรองเรื่องราชบัลลังก์ อาโปไม่ไว้ใจกับทีท่ามีพิรุธของโซฟี ดังนั้นเขาจึงรีบติดต่อหา วันรบ เพื่อนสนิทเพื่อให้ช่วยส่งคนไปคุ้มกันเจ้าหญิงอีกแรง วันรบมอบงานนี้ให้ วันเผด็จ ลูกชายซึ่งเป็นตำรวจรับผิดชอบ

หลังจากที่อัสมาร์ได้ใช้ ชีวิตคู่กับดวงแก้วอย่างสงบสุขได้ไม่นานเขาก็เสียชีวิต ทิ้งให้ดวงแก้วต้องเลี้ยงดู สิริมา ลูกสาวเพียงลำพัง เมื่อสิริมาเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็มีความฝันอยากเป็นนักเขียน และเธอได้เขียนนิยายขึ้นมาเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว จากนั้นสิริมาก็นำนิยายที่เขียนไปเสนอนิตยสารเล่มหนึ่ง และบรรณาธิการของนิตยสารก็ตกลงจะพิมพ์เป็นตอนๆ ให้ทันที ธัญมัยถูกส่งตัวไปที่บ้านของดวงแก้วเพื่อดูแลความปลอดภัยแก่สิริมา หน้าที่บอดี้การ์ดของเธอเริ่มต้นขึ้นทันทีโดยเธอต้องคอยดูทุกคนที่เข้ามา ใกล้ชิด กับสองแม่ลูก และวันหนึ่งเธอก็เริ่มพบความผิดปกติ เมื่อลูกน้องของราชิต 2 คน และวันเผด็จ ที่คอยมาป้วนเปี้ยนและถามหาสิริมา ธัญมัยสวมรอยเป็นสิริมา พร้อมทั้งไล่บรรดาคนแปลกหน้าทั้งหมดไป

ใน คืนนั้นเองลูกน้องของราชิตทั้ง 2 คนก็บุกบ้านเพื่อจับตัวเจ้าหญิง ธัญมัยพาสองแม่ลูกหนีออกมาได้ โดยที่เธอไม่รู้ว่าสิริมาถูกยิงที่ไหล่ ธัญมัยให้สิริมาซ่อนตัวอยู่ท้ายรถกระบะที่จอดอยู่ข้างทาง ส่วนเธอก็พาดวงแก้วหนีไปอีกทางหนึ่งเพื่อหลอกให้คนร้ายตามและก็โชค ดีที่วันเผด็จตามมาช่วยได้ทัน วันเผด็จเข้าใจว่าธัญมัยคือเจ้าหญิงจริงๆ เขาดูแลเธอและดวงแก้วอย่างดี สิริมาเมื่อซ่อนตัวอยู่ท้ายรถเธอก็สลบไปเพราะเสียเลือดมาก และเจ้าของรถก็ขับรถไปโดยไม่รู้ว่ามีคนซ่อนอยู่ท้ายรถ สิริมารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อ ปรก หนุ่มชาวเล เจ้าของรถกำลังช่วยทำแผลให้และให้เธอพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านของเขา สิริมาบอกกับปรกว่าเธอเป็นนักเขียน

และระหว่างที่อยู่บ้านปรกสิริมา ก็เขียนต้นฉบับนิยายของเธอ แล้วฝากให้ปรกเอาไปส่งไปรษณีย์ในเมืองให้เสมอๆ ทำให้นิยายของสิริมามีลงในนิตยสารอย่างต่อเนื่อง เมื่อโซฟีและคณะเดินทางถึงประเทศไทย ก็รีบไปรับตัวธัญมัยไปอยู่ที่บ้านรับรอง โดยให้เหตุผลว่า ต้องฝึกมารยาทและการใช้ชีวิตแบบเจ้าหญิงอย่างถูกต้องก่อนที่จะเดินทางกลับ ประเทศคีรีมาน ธัญมัยให้วันเผด็จตามมาเป็นบอดี้การ์ดให้ด้วย ส่วนโซฟีก็แกล้งฝึกมารยาทแบบเจ้าหญิงแก่ธัญมัยอย่างหนัก โดยหวังว่าหญิงสาวจะทนไม่ได้และจะได้ปฏิเสธราชบัลลังก์ ดวงแก้วได้อ่านนิยายของสิริมาที่ลงในนิตยสารอย่างต่อเนื่อง และเรื่องราว ในเรื่องก็ดำเนินไปคล้ายกับชีวิตจริงของลูกสาว เธอรีบไปปรึกษากับธัญมัยเผื่อจะมีเบาะแสของสิริมา ธัญมัยไปเอาซองเอกสารที่สิริมาส่งต้นฉบับจากบรรณาธิการนิตยสารแล้วรีบส่งต่อ ให้อัศวินช่วยสืบหาต้นทางที่ส่งมา

จนได้รู้ว่าต้นทางที่ส่งมาคือ จังหวัดกระบี่ ธัญมัยวางแผนชวนคณะของโซฟีไปพักร้อนที่กระบี่ และเมื่อสบโอกาสเธอก็หลบออกจากคณะเพื่อติดตามหาสิริมา และเธอก็ได้พบกับสิริมาจริงๆ ธัญมัยเล่าเรื่องราวต่างๆ รวมถึงเรื่องที่เธอต้องปลอมตัวเป็นเจ้าหญิงแทนสิริมาด้วย ธัญมัยพาสิริมากลับกรุงเทพฯ ด้วยในฐานะคนติดตามของเจ้าหญิง เมื่อสิริมาได้มาพบกับดวงแก้วที่บ้านสวน วันเผด็จรู้สึกผิดปกติกับท่าทางที่ดวงแก้วแสดงความรักต่อสิริมา วันเผด็จเริ่มสืบหาความจริงจนได้รู้ว่าแท้จริงแล้วธัญมัยเป็นใคร เขาโกรธที่ถูกหลอกจึงไปต่อว่าธัญมัยอย่างรุนแรง พร้อมบอกเลิกการเป็นบอดี้การ์ดให้กับหญิงสาวด้วย เมื่อเหตุการณ์ร้ายๆ ผ่านพ้นไป สิริมาก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างสมเกียรติที่ประเทศคีรีมาน และเธอก็ยังคงเขียนนิยาย ส่งมาที่สำนักพิมพ์จนถึงตอนจบ

เธอเขียน ระบายความรู้สึกของเธอผ่านตัวหนังสือ หวังว่าปรกจะได้อ่าน ซึ่งก็เป็นจริงดังคาด ปรกเฝ้าติดตามอ่านนิยายของเธอจนจบ ทำให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวที่เขาหลงรักเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ เขาจึงพยายามตัดใจจากสิริมา เมื่องานที่ธัญมัยได้รับมอบ หมายเสร็จสิ้นลง เธอก็ได้รับการประดับยศ และได้รับงานชิ้นนี้ใหม่จากอัศวิน แต่เธอต้องขึ้นตรงกับสายบังคับบัญชาใหม่ และวันที่ธัญมัยไปรายงานตัว เธอก็ต้องแปลกใจเพราะวันเผด็จเป็นผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของเธอ เรื่องราวความรักของทั้งสองคู่จะลงเอยอย่างไรติดตามชมได้ใน “บอดี้การ์ดแดดเดียว”

รายชื่อนักแสดงละคร บอดี้การ์ดแดดเดียว

วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ แสดงเป็น วันเผด็จ
เข็มอัปสร สิริสุขะ แสดงเป็น ธัญมัย
รวิชญ์ เทิดวงศ์ แสดงเป็น ปรก
สุนิสา เจทท์ แสดงเป็น สิริมา
ดวงตา ตุงขมณ๊ แสดงเป็น โซฟี

ทางหลวงทางรัก

มาดีเด็กสาวแสนสวย วัย18ปีมีพี่น้องแปดคนคือ มาดี มาดา บุญมั่น บุญขวัญ มารศรี มาลารี แดงน้อย แดงนิด  อาศัยอยู่เมืองอีสานมีฐานะยากจน ยุ่นกับเงี้ยว พ่อแม่มาดีติดเหล้า ติดการพนันมาดีจึงต้องรับภาระของครอบครัวทั้งหมด วันหนึ่งมีการตัดถนนผ่านหน้าตลาด มาดีจึงไปสมัคร เป็นคนงานก่อสร้าง แทนพ่อและได้ พบกับอายุษหัวหน้างานก่อสร้างกรมทางหลวง อายุษมีอัธยาศัยดีจึงเป็นที่รักของทุกคน    ตั้งแต่มาดีเข้ามาทำงานก็ทำให้คนงานคึกครื้นเพราะความสดใสร่าเริงและ รักการร้องเพลง อายุษแอบมองอย่างชื่นชม

อายุษได้ช่วยชีวิตลอลักษณ์เมียของธีระเพื่อนสนิทจากการกินยาฆ่าตัว ตาย เพราะความเสียใจที่สูญเสียครอบครัว และคนรักไป จึงทำให้อายุษต้องรับผิดชอบเธอ ตั้งแต่นั้นมา ลอลักษณ์กลายเป็นโรคจิตคิดว่ามาดีจะแย่งอายุษไป มาดีถูก ผู้ใหญ่นิกรให้ขึ้นประกวดเทพีประจำตำบล ลอลักษณ์ทนเห็นคู่แข่งสวย กว่าไม่ได้จึงวางแผน กับพลพจน์ให้สนิท และแสงดักฉุดมาดี     โชคดีที่อายุษและจงเจตน์มาช่วยไว้ทัน แม้หัวหน้าครอบครัวจะไม่เอาถ่าน แต่มาดีก็อบรมสั่งสอนให้น้องช่วยกันทำมาหากิน โดยมีอายุษช่วยสนับสนุนและเป็นธุระพาเธอไปสอบในตัวจังหวัด จึงทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น… โดยที่ทั้งสองก็ไม่แน่ใจว่าได้รักกันเข้าแล้ว

หลังจากนั้นยุ่นได้แจ้งตำรวจจับอายุษในข้อหาลักพาตัวและกักขังลูกสาว โดยบังคับให้อายุษรับผิดชอบมาดีแต่มาดีเคารพอายุษมากไม่อยากให้เขารับผิดชอบ ใน สิ่งที่ไม่ได้ทำ จึงปฏิเสธและยอมถูกพ่อลงโทษเจียนตาย จนตัดสินใจหนีออกจากบ้านในวันนั้นเอง มาดีไปสมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก กับวิยะดานักร้องดัง นอกจากช่วย เลี้ยงลูกแล้วยังช่วยงานบ้านสารพัด มาดีได้ฟังเพลงที่วิยะดาซ้อมโชว์ในคลับ ด้วยพรสวรรค์ที่เธอมีจึงร้องเลียนเสียงตามได้ ทุกเพลง วันหนึ่งวิยะดา    เกิดป่วยจนร้อง เพลงไม่ได้จึง ให้มาดีร้องอยู่ในม่านและวิยะดาไปโชว์ตัว จากนั้นเธอจึงหันมาปั้นมาดีเป็นนักร้องเสียงแฝดในนาม “ มาลาดี ”   พอนานไปเธอเริ่มคุ้นกับชีวิตกลางคืน มากขึ้น

หลังจากที่เธอร้องเพลงและลงมาเอนเตอร์เทนแขกมาดีก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อได้ เห็นอายุษ แต่เขาไม่พอใจที่พบเห็นเธอในสภาพนี้จึงลุกออกไปทันทีอายุษสารภาพ กับจงเจตน์ว่ารักมาดีแต่ก็สายเกินไปมาดา และจงเจตน์หวังจะช่วยให้ความรักของอายุษสมหวังแต่ก็ต้องหยุดเพราะเขาต้องไป ประจำที่หน่วยงานอื่น    และเมื่อได้ร่วม งานกัน อีกครั้งกลับพบอายุษเปลี่ยนไป กลายเป็นคนขี้โมโหไม่สุงสิงกับใครเขาเสียใจคิดว่ามาดีเสียคนไปแล้ว อีกทั้งข่าวที่มาดีจะแต่งงานกับสนองด้วยความเต็มใจของ วิยะดา อายุษจึงตัดสินใจหมั้นกับวิภาวีลูกสาวกำนัน มาดีเสียใจมากสนองชวนเธอไปดื่มต่อจนไม่ได้สติและตื่นมาในอ้อมกอดของสงวน เธอตกใจแทบสิ้นสติ

หลังจากมาดีได้รับปริญญาจึงกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่บ้านเกิดและตั้งใจว่าจะ สอนหนังสือเด็กต่อไป มาดีไปสอนหนังสือที่ “ โรงเรียนเด็กดี ” มีครูอารักษ์เป็นทั้งครูใหญ่ และภารโรง วันหนึ่งเธอออกตามหาเด็กที่พ่อแม่ให้ไปช่วยทำงานจนกลายเป็นข่าวใหญ่โตทาง ช่อง3 อายุษและวิภาวีเห็นข่าว ก็สารภาพว่าต่างมีคนรัก อยู่แล้วและวิยะดามา หามาดีเพื่อบอกว่าคืนนั้นสนองไม่ได้ล่วงเกินมาดาและจงเจตน์วางแผนให้มาดีกับ อายุษได้แต่งงานกันแต่ทั้งคู่เกิดผิดใจจนมาดีหนีออกจากบ้าน อายุษออกตามหาเธอจน ถึงที่บ้าน อายุษจึงรีบเข้าไปหามาดีและสัญญาว่าจะอยู่สร้างทางรักนี้ให้เสร็จสิ้น…

นักแสดงละคร ทางหลวงทางรัก
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
สุนิสา เจทท์
วรรณษา ทองวิเศษ
ชลธิชา นวมสุคนธ์
บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ