Tag Archives: สวิช เพชรวิเศษสิริ

พลอยล้อมเพชร

ปานไพลิน ชนกานต์ หลานสาวคนสวยของสมาน ชนกานต์ เจ้าของบริษัทจิวเวลรี่ที่ใหญ่และหรูที่สุดของกรุงเทพฯ นั่งทำหน้าราวกับอยากตายอยู่หน้ากระจกในห้องส่วนตัว ปานไพลินเป็นลูกของน้องชายแท้ๆ ของสมาน พ่อของเธอเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทชนกานต์จิวเวลรี่ขึ้นมา โดยมีสมานมาขอร่วมทุนด้วย จึงมีหุ้นส่วนกันคนละครึ่ง ต่อมาพ่อ-แม่ปานไพลินเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ เมื่อเธออายุได้ไม่กี่ขวบ สมานจึงต้องบริหารบริษัทแต่เพียงผู้เดียว โดยดูแลในส่วนที่เป็นของปานไพลินด้วย สมาน-รำไพ ภรรยา เลี้ยงดูปานไพลินอย่างดี แต่ก็ยังน้อยกว่าที่ให้กับ จิรายุ-กมลนิตย์ ลูกชายและลูกสาว สมานนั้นไม่ค่อยรักปานไพลินนัก เขารักและตามใจลูกของตนมากกว่า ผิดกับรำไพซึ่งรักและเอ็นดูปานไพลินมากกว่าลูก เพราะความที่สมานตามใจลูกของตนมากกว่า จิรายุและกมลนิตย์จึงดื้อรั้นเอาแต่ใจ รำไพพูดอะไรก็ไม่เคยสนใจ ตรงกันข้ามกับปานไพลินซึ่งอ่อนหวาน น่ารัก ว่านอนสอนง่าย ดังนั้นในบ้านชนกานต์

ปาน ไพลินจึงมีเพียงป้ารำไพเท่านั้นที่รักและห่วงใยเธออย่างจริงใจ แต่รำไพก็ไม่สามารถช่วยเธอได้มากนัก เพราะรำไพเกรงกลัวสมาน ซึ่งเป็นสามี ด้วยความที่ปานไพลินดูเป็นคนหัวอ่อน สมานจึงบังคับแกมขอร้องให้ปานไพลินแต่งงานกับชนน ลูกชายของวีระ-ทิพา ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานเจียระไนพลอยที่ใหญ่ที่สุดเช่นกัน ชนนนั้นบอกว่ารักปานไพลินอย่างจริงใจ ส่วนสมานต้องการจะใช้หลานสาวเป็นตัวกระชับความสัมพันธ์ในทางธุรกิจ สมานเป็นนักธุรกิจที่คมและเค็มมาก เรื่องที่ทำให้ปานไพลินทุกข์ใจจนอยากตายก็คือเรื่องนี้เอง เธอไม่รักชนนเลย ซ้ำร้ายชนนเองมีชื่อเสียงระบือลือลั่นในเรื่องของการเป็นเพลย์บอยและความ เจ้าชู้ โดยเฉพาะความเจ้าชู้เป็นนิสัยที่เธอยอมรับไม่ได้ แล้ววันพรุ่งนี้ก็ถึงวันแต่งงานของเธอกับชนนแล้ว ปานไพลินยังคิดไม่ออกว่าเธอจะเอาตัวรอดได้อย่างไร เธอถึงอยากจะตายให้หมดเวรหมดกรรมไปเสียที

ในตอนเย็นเมื่อเธอลงไป ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเย็น หน้าตาของเธอจึงดูหมองไหม้นัก กมลนิตย์พี่สาวจึงค่อนและเสียดสีตามนิสัย ว่าน่าจะดีใจที่จะแต่งงานกับหนุ่มหล่อและรวยอย่างชนน กลับทำหน้าเบื่อโลก ปานไพลินซึ่งความอดทนเริ่มลดลงจึงตอบไปว่า ถ้าชนนดีจริง ทำไมกมลทิพย์จึงไม่แต่งงานกับเขาเสียเอง เท่านี้ก็เป็นเรื่อง กมลนิตย์โกรธฟ้องสมานทันที แถมยังบอกอีกว่าที่เธอไม่แต่งานกับชนนเพราะเธอไม่รักเขา เธอมีชายในดวงใจอยู่แล้ว เขาชื่อ กมุท นอกจากรวย หล่อแล้วยังเก่งอีกด้วย เขาสามารถสร้างฐานะจากไม่มีอะไรเลยจนสามารถเป็นเจ้าของบริษัทจำหน่ายรถยนต์ ราคาแพงขึ้นมาได้ แล้วธุรกิจของเขาก็กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วอีกด้วย กมลนิตย์พูดอย่างมั่นใจว่า กมุทนี่แหละคือชายที่เธอต้องการที่จะแต่งงานด้วย ปานไพลินได้แต่ฟังอย่างน้อยใจว่าสมานยอมให้ลูกเลือกชายคนรักได้เอง ส่วนเธอกลับต้องแต่งงานตามความเหมาะสม ที่ผู้ใหญ่จัดการให้ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากร้องไห้อย่างน่ารำคาญตนเอง

ปาน ไพลินอยากจะเป็นคนเข้มแข็งบ้างเหลือเกิน ส่วนกมุทคนที่ถูกกล่าวถึงก็กำลังรีบขับรถกลับบ้านอย่างเร็วที่สุดเพราะ ชุดา น้องสาวคนเดียวของเขาป่วยกะทันหัน พ่อ-แม่ของเขาตายหมดแล้ว แล้วชุดาก็ทำหน้าที่แทนแม่ของเขา ชุดาเป็นทุกอย่างในความรู้สึกของกมุท เป็นสิ่งสำคัญสิ่งเดียวในชีวิตของเขาที่เหลืออยู่ เมื่อถึงบ้านเขาพบว่าชุดานั่งช็อคอยู่บนโซฟา มีเด็กรับใช้ดูแลอยู่ข้างๆ กมุทรีบเข้าไปหาทันที เขาปลอบอยู่นานกว่าจะรู้ว่าชุดาช็อคกับข่าวการแต่งงานของชนนกับปานไพลิน กมุทเคยรู้ว่าชุดาติดต่อกับชนน แต่ก็ไม่รู้รายละเอียด กมุทค่อยๆ ถามอีกครั้ง ชุดาจึงบอกว่าเธอท้องกับชนน แล้วเขาก็หนีไปแต่งงานกับคนอื่น กมุทแค้นมาก เขาทนไม่ได้ที่ชนนทำเหมือนดูถูกและหยามเกียรติพี่สาวของเขา ที่สำคัญที่ชนนทำให้พี่สาวของเขาต้องเจ็บปวด กมุทหาทางแก้แค้นกับชนนอย่างสาสม

ในคืนวันแต่งงาน ขณะที่ชนนกับปานไพลินยืนรับแขกอยู่หน้างาน ปานไพลินแม้จะหน้าสงบนิ่ง แต่แววตาเศร้าจนน่าใจหาย ตรงข้ามกับชนนที่มีความสุขมาก เขามองปานไพลินด้วยสายตาหวานปานจะหยด ภาพของคู่บ่าวสาวทำร้ายความรู้สึกของก้องภพ น้องชายคนเดียวของชนนมาก ก้องภพเองก็รักปานไพลินมากเช่นกัน แต่เขาไม่คิดจะรวบรัดเธอเหมือนกับชนน เขาต้องการให้เธอค่อยๆ ยอมรับความรักของเขา และยอมรับตัวเขาอย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมือนกับหนุ่มสาวคู่อื่นๆ ก้องภพจึงต้องเสียเธอให้ชนน ซึ่งเธอไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ชนนรู้แต่ว่าเขาต้องการผู้หญิงคนไหนแล้วเขาต้องได้เท่านั้นเอง แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อกมุทเข้ามาในงานด้วย กมลนิตย์ซึ่งมองเห็นเขาก่อนดีใจจนออกนอกหน้า แต่ยังไม่ทันที่กมลนิตย์จะเดินไปถึงกมุท เขาก็เดินตรงรี่ไปถึงคู่บ่าวสาวเสียก่อนแล้ว ท่าทางของกมุทน่ากลัวมาก เขาชี้หน้าชนน พร้อมกับประกาศว่าชนนเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ ทำผู้หญิงท้องแล้วก็ไม่ยอมรับ ยังทิ้งเธอแล้วมาแต่งงานกับคนอื่น

กมุท มองปานไพลินอย่างเกลียดชัง แล้วตำหนิเธอว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอาย แย่งสามีคนอื่นและให้ระวังจะถูกชนนทิ้งสักวันหนึ่ง ปานไพลินทั้งอายและตกใจ ชนนก็ตกใจเช่นกัน เขาพยายามปฏิเสธแต่ดูท่าจะไม่มีใครเชื่อเขา กมุทกลับออกไปด้วยท่าทางที่ยังแค้นใจที่สุด รำไพรีบเข้ามาประคองปานไพลินไว้อย่างสงสารและเห็นใจ ขณะที่สมานพยายามแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า ทิพาซึ่งเป็นแม่ของชนนก็เช่นกัน แต่วีระผู้เป็นพ่อของชนนกลับนั่งเฉย ดูจะโกรธเสียด้วยซ้ำ วีระรู้ดีว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องจริง เพราะเขาต้องเสียเงินทำขวัญให้กับผู้หญิงสาว หลายรายที่ชนนไปก่อเรื่องไว้ก็ด้วยเรื่องเดียวกันนี่เอง ชนนเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มาก แล้วก็ไม่มีความรับผิดชอบด้วย เรื่องนี้ก้องภพเองก็รู้ดีเช่นกัน ขณะที่ชนนกำลังพยายามแก้หน้าอยู่ ปานไพลินก็ทนต่อไปไม่ไหว เธอขอร้องให้รำไพพาเธอกลับบ้านในทันที คืนนั้นปานไพลินทบทวนความรู้สึกของเธอที่มีต่อชนน เพื่อตัดสินใจอีกครั้ง เธอตกใจเมื่อรู้ชัดว่า นอกจากเธอจะไม่รักเขาแล้ว เธอยังขยะแขยงเขาทุกครั้งที่เข้ามาใกล้ๆ จับมือหรือพยายามจูบ เมื่อเธอเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทนใช้ชีวิตคู่อยู่กับเขา ปานไพลินตัดสินใจหนีไปฮ่องกงเพื่อหลบหน้าชนน

ที่ฮ่องกงสมานซื้อ อพาร์ทเม้นท์ไว้ 1 ชุด หรูหราและน่าอยู่มาก ปานไพลินจึงไม่เดือดร้อนเรื่องที่พัก และที่ฮ่องกงเธอก็มีเพื่อนสาวชื่อ หลิน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทอยู่ด้วย เธอจึงมั่นใจว่าจะอยู่ฮ่องกงได้ตามลำพังแน่นอน ปานไพลินเก็บเสื้อผ้าทันทีในคืนนั้น เช้าวันรุ่งขึ้น ปานไพลินรู้ดีว่าเธอต้องโดนสมานบังคับให้ไปเรือนหอแน่นอน เธอจึงรีบบอกสมานทันทีที่พบกันว่าเธอจะไปฮ่องกง เพื่อพักผ่อนและตัดสินใจระยะหนึ่ง เธอแปลกใจที่สมานยอมฟัง คนที่โวยวายคือ กมลนิตย์ ที่พยายามเสือกไสปานไพลินให้กับชนนอย่างเต็มที่ คำพูดดูถูกของกมนิตย์ทำให้ปานไพลินเกิดแรงฮึดขึ้นมา เธอค้านอย่างหัวชนฝาว่าเป็นตายอย่างไร เธอก็ไม่ยอมกลับไปอยู่กับชนน

ดัง นั้นเมื่อชนนมาเพื่อรับเธอกลับเรือนหอจึงถูกกมลนิตย์ฟ้องเรื่องปานไพลินเสีย ก่อน ชนนงงมากเพราะไม่คิดว่าสาวเรียบร้อยหัวอ่อนอย่างปานไพลินจะลุกขึ้นมาปฏิวัติ กลายเป็นสาวหัวดื้อขึ้นมาได้ ชนนพยายามใช้วิธีของชายเจ้าชู้เพื่อมัดใจปานไพลินทุกอย่าง โดยชนนทั้งอ้อนด้วยคำหวาน บอกรัก สัญญิงสัญญาร้อยแปดพันประการ แถมยังพยายามกอดและจูบเธออีกด้วย แต่ปานไพลินก็ไม่ยอมตามใจสักเรื่องเดียว ยิ่งเขาเข้าใกล้เธอและพยายามกอดจูบเธอ ปานไพลินก็ยิ่งต่อต้าน เธอสู้เขาอย่างยอมไม่ได้จริงๆ ท่าทางของปานไพลินทำให้ชนน้องยอมปล่อยให้เธอไปพักผ่อนที่ฮ่องกง เขาหวังว่าเมื่อเธอกลับมา ทุกอย่างคงจะดีขึ้น ก่อนไปสมานฝากแหวนพลอยล้อมเพชรน้ำงาม เจิดจรัสให้ปานไพลินนำไปให้กับเสี่ยทรงชัย หรือเสี่ยใช้ ที่ฮ่องกงด้วย สมานย้ำว่าให้เธอส่งมอบให้ทรงชัยทันทีที่ถึงฮ่องกง

ปาน ไพลินเก็บแหวนอย่างดี แหวนวงนี้สวยมาก ขนาดเธอเองก็อยู่ในธุรกิจเพชรพลอยมานาน ก็ยังไม่เคยเห็นเพชรและทับทิมเม็ดใดจะน้ำงามเหมือนแหวนวงนี้มาก่อน เธอตระหนักดีว่าราคาของมันคงแพงลิบทีเดียว แม้ปานไพลินจะรู้จักคุ้นเคยกับทรงชัย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของลุงสมาน แต่เธอก็ไม่เคยชอบเขานัก เธอรู้ว่าทรงชัยเป็นพวกมาเฟียที่มีอิทธิพลมากพอตัวในฮ่องกง ที่สนามบินในวันรุ่งขึ้น ชนนแอบมาส่งปานไพลิน โดยไม่บอกให้เธอรู้ตัว เมื่อพบกันชนนก็ใช้วิธีเดิมคือทำท่าสวีทกับเธอราวกับเธอเป็นภรรยาสุดที่รัก ทั้งที่ปานไพลินยังไม่ได้มีความสัมพันธ์เกินเลยถึงขนาดนั้น เธอเพียงแค่ร่วมพิธีแต่งงานและก็ไม่สมบูรณ์อีกด้วย

ดังนั้นความสวี ทของชนนจึงเป็นเรื่องน่ารำคาญและน่าเบื่อสำหรับปานไพลินมาก ขณะที่เธอพยายามหาทางเลี่ยงจากเขานั้น เธอไม่รู้ว่ากมุทยืนมองอยู่อย่างเกลียดชังและโกรธแค้น ยิ่งเห็นสามีภรรยาสวีทกันอย่างไม่สะทกสะท้านต่อสายตาชาวบ้านเขาก็ยิ่ง หมั่นไส้ กมุทยืนอยู่ห่างออกมามากจึงไม่เห็นว่าคนที่พยายามสวีทคือชนนฝ่ายเดียวเท่า นั้น ส่วนปานไพลินเมื่อรำคาญมากขึ้น เธอก็รีบเดินเข้าไปเช็คพาสปอร์ตเพื่อเตรียมเดินทางทันที เธอนั่งอ่านหนังสือฆ่าเวลาอย่างใจลอย จึงไม่รู้ว่ากมุทเดินตามนั่งอยู่ตรงกันข้ามและมองเธออย่างเกลียดชังตามเคย กมุทมองจนปานไพลินรู้สึกตัว เธอเงยหน้าขึ้นมา เมื่อพบกมุทเธอก็หวาดกลัวและกระสับกระส่ายขึ้นมาทันที

ปานไพลินทน นั่งได้สักครู่ก็ลุกขึ้น เธอหนีไปรอเพื่อขึ้นเครื่องในทันทีที่สายการบินพร้อม ปานไพลินเดินไปยังที่นั่งของเธอ พลางหลับตาอย่างอ่อนใจ เธอภาวนาว่าให้กมุทเดินทางไปที่อื่นหรือไฟลท์อื่น ขออย่าให้เขาตามเธอมาเลย สายตาที่กมุทมองเธอมันเหมือนเยาะเย้ยถากถางดูถูกตลอดเวลา แต่คำภาวนาของเธอไม่ได้ผล เมื่อเธอลืมตาขึ้นเพื่อจัดการรัดเข็มขัด เธอจึงต้องตกใจอีกครั้งที่พบว่ากมุทนั่งอยู่ข้างเธอนี่เอง เขายังคงใช้สงครามประสาทกับเธอตลอดการเดินทาง เขาไม่พูดหรือด่าว่าเธอแต่ใช้สายตาแทน ซึ่งสายตาของเขานี่แหละทำให้ปานไพลินเจ็บใจ เสียใจ มากกว่าอะไรทั้งหมด เธอทนนั่งหลับตาไปตลอดการเดินทาง เมื่อถึงฮ่องกงปานไพลินรีบเดินเพื่อให้หลุดพ้นจากการติดตามของกมุท แต่ราวกับเขาจะแกล้ง เขาเดินตามเธออย่างไม่ยอมให้คลาดสายตา แล้วโอกาสก็เป็นของปานไพลิน เมื่อเจมส์หรือพงศกรเพื่อสนิทของกมุทเดินเข้ามาหากมุท เจมส์ชวนกมุทคุยอย่างดีใจที่กมุทมาฮ่องกง กมุทมัวหันไปคุยกับเพื่อน ปานไพลินจึงหลบออกไปจากสนามบิน เธอขึ้นแท็กซี่ไปอพาร์ทเม้นท์ของสมาน ปานไพลินติดต่อกับทรงชัยเพื่อบอกว่าเธอมาแล้ว

ปาน ไพลินแปลกใจที่ทรงชัยเร่งให้เธอนำแหวนไปให้เขาอย่างเร็วที่สุด เสียงของทรงชัยเร่งร้อนมาก แต่ปานไพลินก็เหนื่อยเหลือเกิน เธอจึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะไปหาทรงชัย เมื่อปานไพลินเดินทางถึงบ้านของทรงชัย บริเวณบ้านเงียบราวกับไม่มีคนอยู่ เธอเดินต่อไปจนใกล้ตัวบ้านจึงได้ยินเสียงเหมือนมีการต่อสู้กันในบ้าน เธอค่อยๆ เดินไปแอบดูตรงหน้าต่างที่บังเอิญรูดม่านไว้ไม่สนิท ภาพที่เห็นทำให้ปานไพลินตกใจแทบช็อค ทรงชัยกำลังถูกนักเลง 2 คนรุมซ้อม แล้วคนหนึ่งก็ชักปืนขึ้นจ่อที่หน้าผากทรงชัย ท่าทางของทรงชัยทำให้ปานไพลินเดาได้ว่ากำลังร้องขอชีวิต แต่พวกมันไม่ยอม ภาพของทรงชัยที่ถูกจ่อยิงตายต่อหน้าต่อตาทำให้ปานไพลินตกใจจนตัวสั่น เธอชนกระถางต้นไม้ตกลงมาแตกทำให้ฆาตกรรู้ตัว

ปานไพลินรีบวิ่งหนีเอา ตัวรอดอย่างทุลักทุเล เธอวิ่งหายไปในป่าละเมาะข้างทาง เธอรู้ตัวว่าพวกมันก็ตามเธออย่างไม่ลดละเช่นกัน เธอวิ่งจนวิ่งไม่ไหวแล้วเหมือนโชคช่วยเธอ เธอวิ่งผลุบหลบหลังก้อนหินใหญ่ที่อยู่ในพุ่มไม้ทึบ เธอพ้นสายตาของพวกมันอย่างหวุดหวิด ปานไพลินแทบกลั้นหายใจเมื่อได้ยินเสียงพวกมันอยู่ใกล้เธอเหลือเกิน เธอหลบอยู่นานจนแน่ใจว่าพวกมันไปแล้ว จึงค่อยๆ ออกจากที่ซ่อน เธอเดินอย่างระมัดระวังลงจากเขาเพื่อเรียกแท็กซี่กลับอพาร์ทเม้นท์ เมื่อถึงอพาร์ทเม้นท์ เธอก็พบว่าทั้งห้องถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย แม่บ้านชาวจีนยืนตัวสั่นงันงกด้วยความกลัว นางบอกว่ามีนักเลงมาเฟียเข้ามาถามหาเธอและรื้อห้องจนกระจุย เมื่อไม่พบอะไรมันก็บอกว่าพวกมันจะกลับมาอีก ปานไพลินเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอีกครั้งเพื่อไปพักที่อื่น ปานไพลินเดินทางไปพักที่โรงแรมใหญ่กลางเมือง เธอเก็บตัวอยู่ในห้องจนเย็น และพยายามติดต่อกลับไปหาสมาน แต่สมานพาทุกคนในครอบครัวไปพักผ่อนต่างจังหวัดกันหมด เธอจึงติดต่อไม่ได้ จนค่ำปานไพลินจึงลงมาจากห้องเพื่อออกไปหาอาหารรับประทาน เธอเดินผ่านล็อบบี้ของโรงแรม โดยไม่เห็นว่ากมุทนั่งรอพบกับลูกค้าชาวฮ่องกงอยู่ เขามองเธออย่างหมั่นไส้ พร้อมกันนั้นกมุทเกิดอารมณ์อยากแกล้ง เธอขึ้นมา เขามองนาฬิกา เห็นว่ามีเวลาเหลือเฟือที่จะแก้แค้นผู้หญิงที่ทำให้ชุดาพี่สาวของเขาต้อง เสียใจ แล้วค่อยกลับมาคุยกับลูกค้าก็ทัน

กมุทเดินตามปานไพลินไป เรื่อยๆ เขาเริ่มผิดสังเกตที่เธอดูใจลอยเศร้าโศก จนไม่เหมือนกับผู้หญิงที่เพิ่งแต่งงานกับหนุ่มหล่อและรวยอย่างชนน เดินไปสักครู่กมุทก็เห็นว่ามีชายจีน 2 คนท่าทางน่ากลัว เดินตามปานไพลินเช่นกัน พวกมันเดินอยู่หน้าเขา กมุทจึงสังเกตเห็นได้แต่ปานไพลินไม่รู้ตัว เธอเดินต่อไปเรื่อยๆ จนเริ่มห่างจากย่านการค้าที่คึกคัก ชาย 2 คนนั้นก็เริ่มเดินเข้าใกล้เธอทุกที กมุทคิดว่ามันคงเป็นพวกนักจี้ปล้นที่ดักชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว กมุทอยากจะปล่อยให้ปานไพลินได้รับบทเรียนบ้าง แต่มนุษยธรรมของเขาไม่ยอม เขานึกสงสารที่เธอจะต้องพบกับเคราะห์กรรมทั้งที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองคน เดียว กมุทตัดสินใจช่วยเธอ เมื่อมีจังหวะหลบหนี กมุทเดินเร็วๆ แซงหน้าพวกโจรขึ้นไปจนทันปานไพลินที่หยุดดูของอยู่หน้าร้านแห่งหนึ่ง เขากระซิบข้างหูเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะจับมือเธอทั้งลากทั้งจูงวิ่งหนีไป

ปาน ไพลินแม้จะตกใจ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นกมุท กับสังเกตเห็นชายจีน 2 คนนั่นที่วิ่งตามเธอกับเขา ด้วยท่าทางน่ากลัว เธอก็วิ่งตามกมุทไปทันที กมุทกระชากตัวเธอหลบเข้าซอกตึกในย่านชุมชนแห่งหนึ่ง เขาผลักเธอให้ยืนชิดกำแพง แล้วใช้ตัวเองยืนเบียนและบังเธอไว้ เขาสบตาเธอแล้วทำสัญญาณไม่ให้พูด ซึ่งเธอก็เข้าใจ สีหน้าแววตาของปานไพลินที่ตื่นตระหนกเสียขวัญ ทำให้กมุทสงสารเธอมากขึ้น เขากดศีรษะเธอให้แนบกับไหล่เขาไว้แน่น จนได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน ปานไพลินรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมอกของเขา เสียงพูดล้งเล้งเอะอะของคนที่ตามเธอมาทำให้เธอกลัวมากขึ้นอีก ปานไพลินรู้สึกว่ากมุทเองก็เกร็งและเครียดมากเหมือนกัน เวลาเพียงไม่กี่นาทียาวนานเหลือเกินในความรู้สึกของคนทั้งคู่

รายชื่อนักแสดง พลอยล้อมเพชร

สวิช เพชรวิเศษสิริ แสดงเป็น กมุท
กุลณัฐ ปรียะวัฒน์ แสดงเป็น ปานไพลิน
อัมรินทร์ สิมะโรจน์ แสดงเป็น เจมส์
ไพโรจน์ สังวริบุตร แสดงเป็น สมาน
ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น รำไพ
ทูน หิรัญทรัพย์ แสดงเป็น ธีระ
สุพรรษา เนื่องภิรมย์ แสดงเป็น ทิพา
โอลิเวอร์ พูพาร์ต แสดงเป็น ชนน
พิพัฒน์พล โกมารทัต แสดงเป็น ฮั้ว
แอนนี่ ทรัพย์เสริมศรี แสดงเป็น อลิส

ดอกแก้ว 2539

เด็กสาวชาวป่า เดินทางเข้ากรุงเพื่อมาตามหาคนที่ฆ่าพ่อเธอ โชคชะตาพาให้มาพบกับเขาด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์และความรัก ทำให้ถลำตัวถลำใจไปกับเขา แต่เขากลับทำให้เธอเจ็บเจียนตายเจ้าพระยาวงษานุวัติ หรือ วงศ์ วงษา บุรุษหนุ่มใหญ่อายุประมาณ 40 ปี มีตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองพิจิตรเป็นพ่อม่ายเมียตาย เหลือลูกชายไว้ต่างหน้าคนหนึ่งคือ วันชัย ซึ่งถูกส่งเรียนเมืองนอกตั้งแต่เล็ก เจ้าคุณนั้นด้วยความเป็นม่ายตั้งแต่ยังหนุ่ม จึงได้แม่ช้อย เด็กรับใช้ในบ้านเป็นเมีย แต่ไม่ได้ยกย่องเสมอคุณหญิงภรรยาที่ตายไป แม่ช้อยนั้นยังอายุน้อย เจ้าชู้ จริตจะก้านแพรวพราวมีความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง จึงได้เป็นชู้กับ หลวงมนูกิจธรรม ทนายความหนุ่มเจ้าเล่ห์ของเจ้าคุณวงษานั่นเอง วันหนึ่งเจ้าคุณได้ไปพักร้อนที่บ้านดงเมือง เพชรบูรณ์ พร้อมกับช้อยและหลวงมนูฯ แต่ฝากคนทั้ง 2 ให้พักอยู่กับกำนันบ้านป่าแดง ส่วนตนเองไปตั้งเต็นท์อยู่ริมห้วย

ในอาณาเขตไร่บริเวณบ้านกำนันกับคน รับใช้ 1 คน และพรานหนุ่มชื่อ วาด ซึ่งเป็นผู้นำทางเที่ยว พรานวาดนั้นไปหลงรักกิ่ง สาวสวยบ้านป่าแดงลูกสาวยายคอนขี้โรค ซึ่งถูกชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นปอบวาดได้แต่เงื้อ ๆ ง่า ๆ แต่ไม่กล้าบอกรักกิ่งสักครั้ง เพียงแต่คอยให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะให้ได้และได้แต่หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่ากิ่งจะมีใจตอบตน วาดไม่รู้ระแคะระคายแม้แต่สักนิดว่ากิ่งนั้นได้ตกเป็นภรรยาของเจ้าวงษาเจ้า นายของตนเสียแล้วเจ้าคุณวงษาพบกับกิ่งโดยบังเอิญ และได้ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทองรักษาแม่ของกิ่งทั้ง 2ลอบพบปะได้เสียกันจนกระทั่งกิ่งตั้งท้องวาดนั้นหัวใจแทบสลายแต่ก็ต้องจำยอม รับชะตาของตนคอยดูแลให้ความช่วยเหลือกิ่งแทนเจ้าคุณวงษาซึ่งเกิดเป็นไข้ป่า ต้องถูกส่งตัวกลับไปรักษาด่วนที่บางกอก

กิ่งแม้จะเป็นทุกข์ห่วง สามี แต่ก็มีความหวังว่า วันหนึงจะได้พบกันโดยหารู้ไม่แม้แต่น้อยว่าช้อยและหลวงมนูฯ ชู้รัก ได้รู้เรื่องราวของกิ่งและเจ้าคุณหมดทุกอย่างแล้ว และได้วางแผนแยกคนทั้ง 2 ให้จากกันตลอดกาลเจ้าคุณและกิ่งพยายามส่งข่าวถึงกัน แต่ก็ถูกหลวงมนูฯ และช้อย จับได้ ทำลายจดหมายหมดทำให้ทั้ง 2 เข้าใจผิดกัน กิ่งท้องโตขึ้นทุกวัน มีเพียงวาดคอยให้ความช่วยเหลือช้อยเองก็ท้องกับหลวงมนูฯ หลวงมนูฯ คิดการชั่ววางแผนกับช้อยจะฆ่าเจ้าคุณ และกันไม่ให้กิ่งได้เข้ามามีส่วนในทรัพย์สมบัติ โดยจะยัดเยียดลูกของตนและช้อยให้เป็นทายาทแทนเจ้าคุณได้ยินเรื่องราวทั้งหมด จึงคิดป้องกันทรัพย์สมบัติให้ลูกโดยเขียนพินัยกรรมยกสมบัติครึ่งหนึ่งจากที่ ให้วันชัยให้กับทายาทผู้ที่ถือจดหมายลายเซ็นเจ้าคุณมาด้วย เจ้าคุณได้พับพินัยกรรมชิ้นเล็ก ๆ นี้ใส่ไว้ในปลอกกระสุนลูกสุดท้ายในปืนด้ามทองประจำตัว

ญาติกา

หลังจากขุนไกรตายลงแม่ดาวเรืองก็มาตั้งรกรากอยู่ในกรุงรัตนโกสินทร์ มีลูกหลานสืบมาจนมาถึงพ่อบวรหลานชายคนใหญ่ของตระกูลที่เหมือนจะเป็นพวกนัก เกรงหัวไม้ แต่แท้จริงแล้วชายหนุ่มเป็นคนตรงและรักความยุติธรรมมากกว่า พ่อบวรพบรักกับแม่นวลลูกสาวคนที่สองของคุณพระเพชรบุรีที่ติดตามมารดามาค้า ขายที่พระนคร แม่นวลเป็นคนนิ้มนวลสมชื่อ ตอนแรกหญิงสาวก็ดูจะไม่รักชายหนุ่มอย่างพ่อบวรเท่าไรนักเพราะได้ยิน กิติศักดิ์เรื่องความเป็นนักเกรงหัวไม้ แม่แนบมักจะไปจอดเรือที่ท่าน้ำของคุณหญิงจีบแม่ของพ่อบวรเสมอ จนทำให้ความรักของพ่อบวรกับแม่นวลแน้นแฟ้นยิ้งขึ้น พ่อของพ่อบวร จึงส่งคนไปสู่ขอแม่นวลจากคุณพระเพชรบุรี ท่านไม่ยอมยกให้ด้วยความหวงลูกสาวและไม่ชอบพ่อบวรเป็นทุนจึงเรียกทองหนัก เท่าตัวลูกสาว ท่านเจ้าคุณพ่อของพ่อบวรโกรธมากจึงยุให้ลูกชายพาหญิงสาวหนีโดยการรู้เห็น เป็นใจของแม่พ่อและแม่แนบแม่ของแม่นวล ทั้งคู่หนีไปท่านปักใต้พ่อบวรได้ไปรับราชการเป็นนายอำเภอยู่ที่นั้น แม่นวลหนีมาโดยไม่มีเงินทองติดตัวมาเลยเพราะอยากลบคำสบประมาทของพ่อ แม่นวลใช้ความสามารถในการทำขนมที่เรียนรู้มาจากแม่ทำขนมขาย ไม่ว่าใครจะทัดทานยังไงก็ไม่ยอมเพราะเป็นถึงเมียนายอำเภอต้องมาเป็นแม่ค้า เธอบอกทุกคนว่าขนาดแม่ของเธอเป็นคุณนายเจ้าเมืองยังเป็นแม่ค้าเลย แล้วก็สร้างฐานะที่มั้นคงร่วมกับพ่อของเธอเลี้ยงเธอมาอย่างสุขสบายตั้งแต่ เล็กจนโตซึ่งเธอก็อยากให้ลูกๆสบายอย่างที่เธอเคยได้รับด้วย แม่นวลมีลูกสาวสองคนคือแม่พวงแสด กับแม่สร้อยทองไม่นานแม่นวลก็เสียด้วยโรคฝี แม่นวลกับพ่อบวรสร้างฐานะที่มันคงจากการค้าขาย

แม่นวลเสียไปไม่นานพ่อบวรก็มีภรรยาใหม่ แม่สร้อย กับพวงแสด ถูกส่งตัวกลับไปอยู่กับปู่ย่า แม่สร้อยเรียนในโรงเรียนประจำเด็กหญิงมีความสนใจในดาบที่อยู่ในห้องพระของ คุณทวดของเธอมากจนหน้าแปลก ส่วนแม่พวงแสดถูกส่งไปเรียนการเรือนในวัง แล้ววันหนึ่งก็มีคนมาดูตัวแม่พวกแสดแต่ผิดตัวกลายเป็นแม่สร้อยแทน พ่อชวานลูกชายคุณหญิงแว่นเจ้าของโรงเรียนที่แม่สร้อยเรียนอยู่ หลงรักหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็นด้วยความซุกซนเหมือนผู้ชายของแม่สร้อยทำให้หญิง สาวไม่ได้สนใจชายหนุ่มเท่าไรนัก แต่ทั้งคู่ก็ต้องแต่งงานกันจนได้ทั้งที่แม่สร้อยไม่ได้รักพ่อชวานเลยทั้งคู่ ย้ายไปอยู่ที่ต่างจังหวัดด้วยกัน ไม่นานพ่อชวานก็เสีย แม่สร้อยเพิ่งรู้ตัวเองว่ารักชายหนุ่มมากแค่ไหน พร้อมๆกับเพิ่งรู้ว่าตนเองท้องเธอเสียใจมาก และตั้งใจที่จะเลี้ยงลูกชายที่เป็นเหมือนตัวแทนพ่อของเขาอย่างดี

ชวาลาเติบโตมาเป็นหนุ่มหล่อเหมือนพ่อเขาจบการศึกษาจากต่างประเทศ และคิดจะออกตามหาดาบคู่ที่แม่มีอยู่และเคยเล่าความเป็นมาให้ฟ้งเขาออกเดิน ท่างไปประเทศพม่าและที่นั้นเขาได้พบกับหญิงอันเป็นที่รักและดาบอีกเล่มที่ ตามหามานาน