Tag Archives: สราวุฒิ มาตรทอง

วุ่นวายสบายดี

วุ่นวายสบายดี เป็นเรื่องรวาวของนายสัตวแพทย์หนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งดูเป็นคนที่เข้มแข็ง แข็งแรง แต่ก็หนีจากเรื่องวุ่นวายทั้งภายนอกและภายในไม่พ้น โดยบรรดาสัตว์น้องใหญ่ได้เป้นตัวกระตุ้นให้เกิดความวุ่นวาย และทำให้ความวุ่นวายเหล่านั้นขยายวงกว้างออกไป และก็เป็นบรรดาพวกสัตว์อีกเช่นกันที่ทำให้เรื่องต่างๆ คลี่คลายลงไป

นักแสดงละคร วุ่นวายสบายดี

อ้น-สราวุฒิ มาตรทอง รับบท หมอกลางหาว,
ศรีริต้า เจนเซ่น รับบท น้ำทอง,
อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์,
เวฟ-สาริน บางยี่ขัน,
เมย์-กุณฑีรา สัตตบงกช,
กุ้ง-รวิช ไรวินท์,
ฝ้าย-อิสรีย์ สงฆ์เจริญ

สะใภ้จ้าว

สะใภ้จ้าว เป็นเรื่องราวของสองสาวพี่น้องตระกูล “บ้านราชดำริ” ที่นิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนโตคือ “ศรีจิตรา” ( อินทิรา แดงจำรูญ ) ที่เรียบร้อยเหมือนมารดา แต่ “สาลิน” ( สุนิสา เจทส์ ) คนน้องนิสัยดื้อดึงเหมือนกับบิดา เมื่อบิดาเสียชีวิตพี่น้อง ทั้งสองต้องแยกทางกัน ศรีจิตราผู้พี่ต้องอยู่ที่บ้านราชดำริและอยู่ในโอวาทของป้าทุกอริยาบท แต่สาลิน ต้องไปอยู่กับตา ยายที่บ้านสวน มีอิสระในการดำเนินชีวิตเป็นของตัวเอง สาลินทำงานเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุด วันหนี่งเธอจึงพบกับ “พล” ( สราวุฒิ มาตรทอง ) ทำงานอยู่ที่บริษัทน้ำมัน ต้องมาตรวจตลาดจากปั๊มแถวนี้ และมาเดินเล่นในสวนโดยพลการ ทั้งสองคุยกันถูกปาก สาลินจึงพามารู้จักกับตาและยาย ตาชอบพลแต่ยายแสดงออกทันทีว่าหวงหลานสาว

สาลินไปเยี่ยมแม่และพี่ที่บ้านราชดำริจึงรู้ว่าพี่สาวของตนถูกคลุมถุงชนให้เป็นสะใภ้จ้าว และโดนส่งตัวไปอบรมมารยาทที่วังวุฒิเวศน์ของ”มรว.กิตติราชนรินทร์” หรือ “ชายรอง” ( สหรัถ สังคปรีชา ) ศรีจิตราต้องก้มหน้ารับชะตากรรมโดยไม่มีปากเสียง สาลินคิดว่าพี่สาวพอ ใจ กับงานแต่งงานครั้งนี้เพราะว่าศรีจิตราไม่แสดงท่าทีใด ๆ ด้านชายรองก็ไม่ยินดีกับการ แต่ง งานครั้งนี้เพราะมีคนรักอยู่แล้วคือหญิงก้อย แต่ชายรองปฏิเสธไม่ได้เป็นพระประสงค์ ของ เสด็จฯ เพราะว่า “มรว.ดิเรกราชวิทย์” หรือ “ชายโต” ก็ไปคว้าคนใช้ “จรวย” มาเป็น เมีย ส่วน “มรว.บดินทรราชทรงพล” หรือ “ชายเล็ก” ( สราวุฒิ มาตรทอง ) ใช้ชีวิตอิสระไม่อยู่ ใน โอวาทของใคร

แต่เหตุผลสำคัญของการแต่งงานของชายรอง และศรีจิตราเป็นเพราะเสด็จไม่พอ พระทัยคนรักของชายรองคือ “มรว.หญิงเทวีแสงเพ็ญ” หรือ “หญิงก้อย” ที่เคยผ่านการ สมรสมาแล้ว แต่หญิงก้อยคือคนรักคนแรกของชายรองเมื่อชายรองและศรีจิตราต้อง เผชิญ หน้า กันความเย็นชาก็เกิดขึ้น สร้างความปวดร้าวแก่ศรีจิตรายิ่งนัก เพราะชาย รองไม่ แม้แต่จะ เอ่ยทักศรีจิตราสักคำ แต่ชายเล็กทำให้ศรีจิตราไม่เงียบเหงา เพราะ เขาเป็น คนร่าเริง ไม่ นานนักศรีจิตราก็ต้องทุกข์ใจ เมื่อจรวยบอกว่าชายรองมีคนรัก แล้ว ต่อมา สาลินนำผลไม้ ไปให้พี่สาวที่บ้านชายรอง ก็พบชายหญิงกำลังพรอดรักกันอยู่ และโดนดู ถูกว่าเป็นบ้านนอก จึงบอกไปว่าเป็นน้องของเจ้าสาวชายรอง เธอจึงรู้ทันทีว่า เขาทั้งสอง เป็นใคร เพราะผู้หญิงผู้นั้นกรี๊ดออกมา นั่นคือ ว่าที่เจ้าบ่าวของพี่สาวกับ คนรักเก่า

สาลินเห็นใจพี่สาวจึงคิดหาแผนการที่จะล่มวิวาห์ครั้งนี้เธอจึงปรึกษาพล ได้คำแนะนำ ว่าควรหาวิธีให้ชายรองเล็กรักคนรักเก่า แต่สาลินหารู้ไม่ว่าพลนั้นแท้จริงเขาคือชายเล็ก นายชายของว่าที่เจ้าบ่าวของพี่สาวตนนั่นเองหญิงก้อยโกธรที่ชายรองปิดบังเรื่องแต่งงาน ชายรองตามไปง้อถึงบ้านแต่ไม่ยอมลงมา พบหญิงก้อยอยากจะเอาชนะจึงทำเป็นควง อัศนีย์อดีตสามี เพื่อประชดชายรอง แต่ชายรอง ถือทิฐิตอบไม่คิดจะง้ออีก ชายรองไปหา สาลินเพื่อบอกว่าจะแต่งงานกับศรีจิตราและเลิกกับ หญิงก้อยแล้ว สาลินกลับเห็นใจชาย รองรับปากจะช่วยเรื่องหญิงก้อย ด้านหญิงก้อยทราบเรื่อง จากอัศนีย์ว่าชายรองไปหา สาลินบ่อย ๆ จึงไปต่อว่าสาลินถึงที่ทำงาน ชายรองทราบ เรื่องที่ หญิงก้อยระแวงตนจึงคิด จะแกล้งทำดังที่หญิงก้อยระแวงเพื่อแก้แค้นบ้าง

อัศนีย์ตามจีบสาลิน ชวนสาลินไปทำงานที่ไนท์คลับเปิดใหม่ของเขา แต่สาลินยื่นข้อเสนอว่าให้ชายรองและ หญิงก้อย คืนดีกันเสียก่อน หญิงก้อยแค้นสาลินที่เป็นหญิงสาวธรรมดาแต่ใครต่อใครก็อยากจะเข้าใกล้จึงให้ข่าว กับหนังสือพิมพ์ เรื่องอัศนีย์และสลิน ทำให้ชายรองไม่พอใจ แสดงท่าทีหึงหวงขึ้นมา สร้างความแปลกใจแก่สาลิน มาก อัศนีย์คิดหาแผนการ เพื่อให้ชายรองไปจากชีวิตสาลินโดยส่งช่อกล้วยไม้ช้างเผือกผูกช่อด้วย สายสร้อย ประดับมุกไปหญิงก้อยในนาม ของ ชายรองแล้วนัดทานข้าว

ภายหลังความแตกจึงรู้ว่าชายรองไม่ได้เป็นคนส่งให้ หญิงก้อยกระชากสร้อยขว้างใส่ชายรอง ทำให้เห็นความเอาแต่ใจจนเกินหญิง สัมพันธ์ทางใจจึงสลายลงอย่าง สิ้นเชิง ชายรองพกความไม่สบายใจไปหาสาลิน จึงรู้ตัวว่าตนเองหึง และเผลอจูบสาลินก่อนที่เธอจะจากไป สาลิน สบสนมากว่าเธอมีใจให้ชายรอง ด้านชายรองก็ไปปฏิเสธ การแต่งงานกับเสด็จฯ เพราะว่าตนนั้นมีใจกับสาลิน เสด็จไม่พอพระทัย และเหตุการณ์นี้สร้างความอับอายให้ศรีจิตรา มากเธอจึงหนีออกจากบ้านเกือบถูกรถชนแต่ ชายเล็กช่วยไว้ทัน

สาลินลางานเพื่อหนีชายรอง เพราะชายรองคือว่าว่าที่คู่หมั้นพี่สาวของตนเธอไม่อยากให้พี่สาวต้องเสียใจ แต่ ปัญหาก็จบ ลงด้วยว่า ชายเล็กนั่นรู้ว่าใจของตนต้องการศรีจิตรา และศรีจิตรานั้นก็มีใจให้ชายเล็กเช่นกัน ทำให้ ชายเล็กไปบอก เสด็จฯ ว่าตนรักศรีจิตราต้องการจะแต่งงานด้วย เรื่องวุ่น ๆ จึงคลี่คลายลง ชายรองนั่นขอให้เสด็จ จัดงานแต่งของตนอย่าง รวดเร็วเพราะกลัวว่าสาลินจะเปลี่ยนใจ และชายเล็กกับศรีจิตราจะแต่งกันในไม่ช้านี้

น้ำใสใจจริง

น้ำใสใจจริง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความผูกพันของนักเรียน นักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเปิดใหม่ นอกกรุงเทพมหานคร แต่ละคนมาจากคนละที่ ต่างถิ่น ต่างความคิด และต่างนิสัย แต่ไม่มีวันทอดทิ้งกัน แม้ในยามเกิดปัญหา ความเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากก็คอยให้กำลังใจกัน ร่วมสุขร่วมทุกกัน มีความจริงใจมอบให้แก่กัน ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคหรือปัญหามาด้วยกันได้

ตม

คุณใหญ่เป็นหญิงวัย 61 ปี มีลูกสามคนคือ พิจิกษ์ ( ป้อม ) อายุ 35 ปี พิพัฒน์ ( บี๋ ) อายุ 32 ปี และ อภิสิทธิ ( เบิ้ม ) อายุ 25 ปี คุณใหญ่มาจากครอบครัวฐานะปานกลางต่อสู้มากับสามีเพื่อทำธุรกิจ แต่สามีนอกใจไปมีผู้หญิงอื่น จึงแยกทางกัน คุณใหญ่หอบลูกคนเล็กไปอยู่บ้านเดิม ( ราชบุรี ) ค้าขายผลิตภัณฑ์จากพืชผักผลไม้ และทำสวนอาหาร หาเงินมาเลี้ยงลูกด้วยความขยันขันแข็ง จนไม่มีเวลาดูแลลูกด้วยตัวเอง เธอมอบหมายให้ยายม้อย ชาวบ้านข้างเคียงซึ่งชอบกินเหล้า ดูแลลูกชาย

แต่ การที่เด็กอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ขาดความรับผิดชอบ กินเหล้าเมายา มีผลทำให้เขาเห็นสิ่งมันเมาเหล่านั้นเป็นเรื่องธรรมดา และติดนิสัยเหล่านี้เข้ามาโดยไม่รู้ตัว ประกอบกับที่แม่ไม่มีเวลาเอาใจใส่สั่งสอน เบิ้มจึงเป็นคนก้าวร้าว และเอาแต่ใจตนเอง ชอบการเอาชนะเพื่อสร้างเกราะคุ้มกันให้ตนเอง พิจักษ์ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก ส่วนพิพัฒน์ อยู่กับพ่อ ซึ่งจ้างพี่เลี้ยงราคาแพงดูแลจนกลายเป็นคุณหนู เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เมื่อสามีตาย พิจักษ์ได้รับมอบหมายให้ดูแลมรดกร่วมกับพิพัฒน์ ส่วนเบิ้มติดยาสร้างปัญหาให้กับตนเองและแม่เป็นอย่างมาก พิจักษ์เติบโตกับพ่อแม่ในช่วยที่ยังไม่มีเงินทองมากมายนัก จึงยังติดดินและรู้จักรับผิดชอบ

การที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ต่าง ประเทศ จึงได้เรียนรู้การช่วยตนเอง เขาไปรับจ้างล้างจาน เสิร์ฟอาหารในยามว่างที่เมืองนอก ปัจจุบันพิจักษ์ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในคอนโด เขาดูแลธุรกิจของพ่อ จนประสบความสำเร็จ พิจักษ์มีความห่วงใยให้กับผู้อื่นสูงและขยันทำงานมากเกินไป จนล้มป่วยเพราะลืมที่จะดูแลตัวเอง พิจักษ์พอใจในตัวอภิญญา เลขาคนใหม่ของเขาเป็นอย่างมาก เพราะเธอมีความฉลาด เข้มแข็งมีจิตใจที่ถูกกล่อมเกลาแล้ว จึงคิดดี คิดเป็น ทำให้เขาเกิดศรัทธา แต่เมื่อพบว่าตนเองเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารจึง พยายามตีจากเพราะเกรงว่าจะเป็นภาระแก่คนอื่น และไม่ยอมบอกใครแม้แต่แม่ของตน เกรงว่าจะทำให้ทุกคนเสียใจ

พิจักษ์ส่งอภิญญาไปช่วยงานพิพัฒน์โดย ไม่เห็นแก่ความสบายของตน ทำให้เขาต้องทำงานหนักมากขึ้น สุดท้ายพิจักษ์จึงบอกแม่ถึงเรื่องอาการป่วย แม่กลับไม่ให้เขาเป็นทุกข์กับความตายแต่ให้ใช้ทุกลมหายใจให้เป็นประโยชน์ ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสที่จะได้สร้างความสุข ให้แก่ตนเองและผู้อื่น ซึ่งป้อมก็ทำเช่นนั้นจนสิ้นชีวิต โดยมีอภิญญาดูแล ปฏิบัติเขาจนวันสุดท้าย พิพัฒน์เกิดมาในช่วงที่พ่อแม่มี เงินแล้ว และกำลังไม่ลงรอยกัน ความทุกข์ของพ่อแม่ที่ขัดแยังกัน ทำให้พิพัฒน์ ซึมซับแรงกระแทกที่พ่อแม่มีต่อกันเขาถูกเลี้ยงด้วยพี่เลี้ยงราคาแพง ที่ปรณนิบัติเขาอย่างเอาอกเอาใจตามหน้าที่ของพี่เลี้ยง พิพัฒน์จึงหยิบโหย่ง ทำอะไรไม่เป็น วัตถุราคาแพงทำให้เขามีความมั่นใจเพราะถูกพ่อเลี้ยงมาด้วยวัตถุ ขาดการพัฒนาทางจิตใจจึงหลงคนง่าย การหลงไหลในวัตถุ มองเห็นคนแต่เปลือกนอก จึงถูกคนเหล่านั้นหลอกใช้ ล้มเหลวในธุรกิจล้มเหลวในชีวิตครอบครัว เพราะความไมีรู้จักเลือก

พิพัฒน์ มีภรรยาชื่อเจนนี่ และมีลูกชายอายุ 5 ขวบ ชื่อมิ๊ก ซึ่งถูกทิ้งให้อยู่กับพี่เลี้ยงเพราะพ่อแม่จมอยู่กับปัญหาของตนจนลืมลูก มิ๊กเริ่มมีนิสัยก้าวร้าว และเอา แต่ ใจตนเอง คุณใหญ่มองเห็นประวัติศาสตร์ ที่กำลังจะซ้ำรอยจากประสบการณ์ของตนเอง เธอจึงเข้าไปช่วยพยุงครอบครัวนี้ไว้ ให้เจนนี่รู้จักหน้าที่ของความเป็นแม่ เป็นภรรยาที่ดี โดยการพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น คิดดี คิดเป็น เพื่อจูงใจสามีที่ดื้อดึง และโอหังให้กลับมามีศรัทธาต่อเธอ

คุณใหญ่จำนองบ้านเพื่อช่วยพิพัฒน์ พิสูจน์ความสามารถของตนเองในเชิงธุรกิจ ถึงแม้ใครๆ จะไม่ศรัทธาในตัวเขาแต่เธอก็ยืนยันที่จะเป็นฟูกรองรับความล้มเหลวของลูก ตามหน้าที่ของแม่ เธอช่วยพัฒนาจิตใจของเจนนี่ให้คิดเป็น ก่อนที่จะสายเกินไปในที่สุดพิพัฒน์ก็ละอายต่อความเห็นแก่ตัวของตนเอง และเริ่มฟังความคิดเห็นของผู้อื่น จนประสบความสำเร็จด้วยความช่วยเหลือของอภิญญา ซึ่งป้อมส่งเข้ามาช่วยงาน ความฉลาดของอภิญญาทำให้ พิพัฒน์ขายสินค้าฟุ่มเฟือยที่เขาสั่งมามากมายจนหมด สามารถคืนเงินให้กับคุณใหญ่ และดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ความที่เบิ้ม ใช้ชีวิตอยู่กับแม่และยายม้อย เขาจึงรู้สึกต่ำต้อยที่ไม่เท่าเทียมพี่ ๆ ไม่เห็นคุณค่าของตนเอง เขาประชดชีวิตด้วยการเสพยา เพื่อเรียกร้องความไม่อิ่มในอารมณ์ กว่าเบิ้มจะหลุดพ้นจากากรเป็นทาสของยาเสพติด ก็เหนื่อยยากไปทั้งครอบครัว แม่เสียเงินทองที่เก็บหอมรอมริบตลอดชีวิตไปเป็นจำนวนมาก เบิ้มพยายามพิสูจน์ตัวเอง และเลิกยาเสพติดได้ในสถานบำบัด การสอนให้คิดและรับผิดชอบ ทำให้เขามุ่งมี่นที่จะทำงานแทนพี่ชาย ที่เสียชีวิต แต่กว่าเบิ้มจะสร้างศรัทธาให้กลับคืนมาได้เขาต้องอดทนต่อการดูถูก และคำนินทร เป็นกรรมที่ต้องชดใช้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอาฆาต เขากลับไปเสพยาอีกครั้งเพราะใจอ่อน แต่ก็สามารถหลุดพ้นออกมาได้ในที่สุด เมื่อเห็นเพื่อน ๆ ที่อยากกลับตัวกลับใจ สมองเสื่อมจนหมดหนทางที่จะแก้ไข

เมื่อทุกคนกลับมาในสภาพปกติ คุณใหญ่ก็กลับมาอยู่ราชบุรี อย่างสมถะ และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เธอได้ทำหน้าที่ของแม่ที่ เธอควรทำตั้งแต่ลูกยังเล็ก แต่เนื่องจากความรู้เธอจึงเห็นว่าไม่สำคัญจนต้องเหนื่อยกับชีวิตในตอนแก่ก็ ยังดีที่เธอได้เรียนรู้จากประสบการณ์และคิดได้ก่อนที่อีกหลายๆ ชีวิตที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องล่มสลายเพราะความไม่รู้ของเธอเอง

รายชื่อนักแสดงละคร ตม

ภัทราวดี มีชูธน แสดงเป็น คุณใหญ่
ธนากร โปษยานนท์ แสดงเป็น พิพัฒน์
นภัสกร มิตรเอม แสดงเป็น พิจักษ์
สราวุฒิ มาตรทอง แสดงเป็น เบิ้ม
รินลณี ศรีเพ็ญ แสดงเป็น เจนนี่
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ แสดงเป็น อภิญญา
ด.ช.ณชวนนท์ เหาตะวานิช แสดงเป็น มิก

คุณยายสายเดี่ยว

คุณยายสายเดี่ยว เป็นเรื่องราวของ คุณยายกับหลานที่บังเอิญต้องมาสลับร่างกัน ทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตของคนที่ต่างวัยกันอย่างที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน

แม้นวาด มีสามีคือนายโชคชัยมีอาชีพรับราชการและเสียชีวิตไปหลายปีแล้วมีลูกสองคนคือ มณีรัตน์และเมทินี มณีรัตน์แต่งงานกับเอกชัยที่รับราชการกระทรวงมหาดไทย ทิ้งลูกชายไว้ที่บ้านที่กรุงเทพฯ คือ รดิฐ และจุฑา ส่วนเมทินีแต่งานกับภุชงค์ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทาง
เกษตร มีลูกสาวคนเดียวคือ กษมา รดิฐ เป็นพี่ชายคนโต ส่วนจุฑาและกษมาเป็นทั้งเพื่อนและญาติกัน แม้นวาดเป็นคนที่ถูกสอนมาอย่างหญิงยุคเก่าเธอจึงวิตกกับการเปลี่ยนแปลงรอบ ๆ ตัว เธอชอบจับตามองทุกคนในครอบครัว ส่วนเมทินีมักจะเกิดปัญหากับสามีอยู่บ้างเพราะภุชงค์มองว่าแม่ยายมีมุมมอง ไม่เหมือนคนรุ่นใหม่ แต่ภุชงค์เลี้ยงลูกเหมือนเป็นเพื่อน แม้นวาดจึงไม่เคยเข้าใจว่าทำไมกษมากับภุชงค์ตีเสมอกัน แม้นวาดพยายามจะให้เมทินี ไปเตือนภุชงค์ ทำให้ภุชงค์โกรธแม้นวาดว่าคิดแบบไร้เหตุผล

เมื่อหลาน ๆ โตขึ้น แม้นวาดกังวลในตัวของกษมามากกว่าคนอื่น เพราะกษมาค่อนข้างรั้นและเฮี้ยวเปรี้ยวจนเข็ดฟันและมองโลกอย่างวัยรุ่นกษมา กลับมาจากการเป็นนักศึกษาทุนที่ต่างประเทศ โดยนั่งเครื่องมาลำเดียวกับดุสิตและภาวิต แต่ไม่ได้คุยกัน ภาพของกษมาโดนจับตามองจากทุกคนบนเครื่อง เพราะหล่อนทำเหมือนมองไม่เห็นสายตาใคร ทำให้ภาวิตนึกขำหล่อนแต่ไม่ได้ใส่ใจ พอถึงสนามบิน มีสาวสวยมารับภาวิต ชื่อพนิดา ซึ่งเป็นลูกสาวของนาย อดิเรก นักการเมืองอาชีพและคุณบังอรศรีเพื่อนร่วมรุ่นของแม้นวาด กษมาพยายามจะขอไปอยู่หอพักเพราะกลัวว่าจะต้องอยู่กับคุณยายภุชงค์กับเมทินี หว่านล้อมอย่างไรก็ไม่สำเร็จ แต่หล่อนต้องจำใจอยู่กับแม้นวาดจนได้ แม้นวาดมีโลกอีกมุมหนึ่ง จนกลายเป็นปัญหาไปหมดสำหรับกษมาครั้งแรกที่พบกันแม้นวาดแทบหัวใจวายตาย เมื่อกษมาจัดการแปลงโฉมตัวเองไปในสภาพที่แม้นวาดรับไม่ได้ แม้นวาดจึงโทรไปหาทิพย์สมรเพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านทำผมเพื่อที่จะให้มาแปลง โฉมกษมาให้เป็นเหมือนเดิม กษมาทั้งโกรธและขำ ที่หล่อนถูกทำเหมือนเด็กเล็ก กษมาแอบไปสมัครเป็นพริ้ตตี้ในระหว่างปิดเรียน โดยไม่บอกใคร นอกจากเพื่อนสนิทอย่างนิลุบล เมื่อหล่อนรู้ว่าคุณยายจะจัดงานเลี้ยงรับเธอในงานวันเกิดของคุณยาย เธอจึงไปหาซื้อของขวัญมาให้และยังนัดดนัยเพื่อนหนุ่มให้มาแสดงตัวเป็นแฟนของหล่อนด้วย

ดุสิตอาของภาวิตทำงานอยู่ในบริษัทดนตรีในตำแหน่งประชาสัมพันธ์อาวุโส และได้ชื่อเลื่องลือเรื่องความเจ้าชู้เป็นสุดยอด ตามประวัตินั้นเคยจีบคุณแม้นวาดแต่ไม่สำเร็จ เลยไม่ยอมแต่งงาน ส่วนภาวิตถูกพนิดาตามติดแจ แต่ภาวิตก็ไม่คล้อยตามหล่อนอีกและภาวิตบอกพนิดาว่าถ้าอยากแต่งงานกับเขาก็ ต้องมาอยู่กับเขาที่ร้านขายของเก่า พนิดาคิดมากและไม่กล้าตัดสินใจ บังอรศรีแม่ของพนิดาพยายามแนะนำคุณก้อนทองให้กับพนิดา แต่พนิดากลับเมินเฉย วันหนึ่ง ที่ร้านของภาวิต มีชายแก่คนหนึ่งก้าวมาพร้อมกับย่ามเก่า ๆ เอาหีบไม้คู่หนึ่งมาให้ลวดลายบนหีบไม้นั้นสวยมาก จนภาวิตยอมรับเอาไว้ แม้กลัวว่าเป็นของโจร เมื่อภาวิตรับของแล้วผู้ชายคนนี้ก็หายไป ภาวิตเปิดกล่องดูไม่พบอะไรนอกจากกระดาษเขียนข้อความเอาไว้เป็นคำกลอนแต่ภาวิ ตไม่ได้ใส่ใจ สมพงษ์คนงานในร้านไม่ทราบนำหีบไม้ไปวางโชว์ตอนที่ภาวิตไม่อยู่ เหตุประหลาดเกิดขึ้นกับหีบไม้คู่นั้นเมื่อมีป้ายราคามาปรากฎที่หีบไม้ในวัน ที่กษมามาดูของที่ร้านพอดี มารตีหลานสาวของภาวิตที่มาช่วยสมพงษ์ไม่ทราบเลยบอกขายให้กับกษมา กษมาคิดจะมอบหีบไม้นี้ให้กับแม้นวาดในวันเกิด แต่มีเหตุให้กษมาและแม้นวาดไม่เข้าใจกัน แม้นวาดและกษมาจึงหงุดหงิด กษมานึกในใจอยากให้แม้นวาดเข้าใจตัวเองและแม้นวาดก็อยากให้กษมาเข้าใจตนเอง เหมือนกัน ขณะที่กษมามอบหีบไม้ที่ซื้อมาให้แม้นวาดก็มีอุบัติเหตุตอนเปิดหีบไม้ ทำให้หีบไม้ร่วงหลุดมือไป ทำให้ทั้งคู่หมดสติไปทั้งคืน

เช้าวันต่อมากษมาเอ่ยปากอยากดื่มไวน์ ทำให้คนรับใช้ประหลาดใจ พอกษมาเข้าห้องน้ำเธอก็ตกใจเพราะเงาในกระจกกกลับกลายเป็นร่างของ แม้นวาด กษมาในร่างแม้นวาดเอะอะโวยวาย แต่ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่กษมาในร่างแม้นวาดบอก ทุกคนมองเหมือนเป็นเรื่องตลก กษมาในร่างแม้นวาด ถามหาตัว กษมา จึงทราบว่าอยู่ที่โรงพยาบาล กษมาตัวจริงพยายามหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ จึงนึกถึงหีบไม้ที่ทำตกไว้ แต่พอไปหากลับไม่พบ เธอจึงขอเบอร์ ภาวิต จากมารตีเพื่อเรียกภาวิตมาพบ ทำให้ภาวิตรู้ว่ากษมาและแม้นวาดสลับร่างกัน กษมาที่อยู่ในร่างของแม้นวาด ทำให้ลืมตัวทำเรื่องที่ไม่ควรทำหลาย อย่าง กษมาในร่างแม้นวาดมาหาแม้นวาดในร่างกษมาที่โรงพยาบาล ทั้งสองพยายามจะสลับตัวกันแต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทั้งสองจำต้องสลับร่างกันอยู่ เวลาต่อ มา กษมา ย้ายมาอยู่บ้านของแม้นวาด ทำให้ภุชงค์เชื่อว่าแม้นวาดทำร้ายกษมา และไม่สบายใจเพราะกษมาเปลี่ยนไป เวลาที่ภุชงค์จะกอดกษมา ก็โดนแม้นวาดในร่าง กษมาทำร้าย ส่วนแม้นวาดที่เขาไม่ชอบหน้าก็พยายามมาเคล้าเคลียกับเขา

สองยายหลานสงบศึกและเริ่มเปิดใจให้กันกัน โดยแม้นวาดไปเรียนหนังสือ กษมาไปงานสังสรรค์เพื่อนเก่าและเป็นนายกสมาคมเพื่อนรุ่นเก่ากษมาใน ร่างของแม้นวาดก็สนิทสนมกับภาวิตจนพนิดาหึง และแม้นวาดในร่างของกษมาก็สนิทสนมกับดุสิตมากขึ้น ยิ่งทำให้เกิดเรื่องยุ่งวุ่นวายมากขึ้นจนเวลาผ่าน ไป ภาวิตพยายามหาวิธีที่จะให้กษมาและแม้นวาดกลับคืนร่างเดิม ภาวิตนึกถึงหีบไม้ใบอีกใบพร้อมกับคำกลอนปริศนาในกล่องไม้ จึงบอกให้กษมาและ แม้นวาดตั้งจิตให้มั่นแล้วลองกลับหีบไม้อีกครั้ง ในที่สุดทั้งสองก็ได้กลับสู่สภาพเดิม แม้นวาดและกษมาได้เห็นตัวตน ของกันและกันมากยิ่งขึ้นและเปิดใจ เข้าหากันจนเป็นยายหลานที่รักกันมาก กษมามีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและไม่ทำตัวเหลวไหล ส่วนแม้นวาดย้อนกลับมามอง การใช้ชีวิตของหนุ่มสาว รุ่นใหม่ด้วยใจเป็นกลาง รวมถึงความรักของดุสิตที่มีให้ด้วย จึงรับรักคำขอแต่งงานของดุสิต สำหรับภาวิตและกษมาก็เข้าใจกัน และมีความรักต่อกัน คำกล่าวเรียกแม้นวาดเป็นคุณยายสายเดี่ยว ยังเป็นคำพูดที่ทุกคนประทับใจและอดขำไม่ได้ ถึงแม้ว่าสุดท้ายแม้นวาดจะประกาศในงานสมาคมนักเรียนเก่า ว่าเธอแขวนสายเดี่ยวแล้วก็ตาม

นักแสดงละคร คุณยายสายเดี่ยว

สินจัย เปล่งพานิช  แสดงเป็น  แม้นวาด
สราวุฒิ มาตรทอง  แสดงเป็น  ภาวิต
ราศรี บาเลนซิเอก้า  แสดงเป็น  กษมา
สุรินทร คารวุตม์  แสดงเป็น  ดนัย
บุศรินทร์ มโหทาน  แสดงเป็น  มารตี
พรรณชนิดา ศรีสำราญ  แสดงเป็น  พนิดา
พิมลวรรณ ศุภยางค์  แสดงเป็น  เมทินี
สันติสุข พรหมสิริ  แสดงเป็น  ดุสิต