Tag Archives: ศุกลวัฒน์ คณารศ

ขุนเดช

นายเดื่อง หัวหน้าคนงานขุดแต่งโบราณสถาน รับปาก อาจารย์ประทีป หัวหน้า คณะศึกษาโบราณคดีของกรมศิลป์ว่าจะปักหลักเฝ้าพระศิลา พระพุทธรูปที่ถูกค้นพบ ในถ้ำศิลาบนเขาหลวง สุโขทัย ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกโจรใจบาปที่จ้องจะมา ลักตัดเศียรพระศิลา โดยเฉพาะกับ กำนันบุญ สุโขทัย ซึ่งมีนิสัยขี้โกงชอบสะสมและ ลักลอบซื้อขายวัตถุโบราณ เมื่อกำนันบุญรู้เรื่องพระศิลาที่ถูกค้นพบ เลยอยากมาได้ไว้ ในครอบครองจึงเดินทางจากสุโขทัย มาศรีสัชนาลัยบ้านของนายเดื่อง เพื่อขอให้ นายเดื่องเปิดทางให้เข้าไปลักตัดเศียรพระ แต่กำนันบุญ ถูกนายเดื่องปฏิเสธและไล่ ตะเพิดอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพล นายเดื่องเป็นห่วงพระศิลาเลย จำเป็นต้องฝาก ขุนเดช ลูกชายวัย 10 ขวบไว้กับ คำปัน หญิงสาวที่แอบชอบพ่อของ ขุนเดช และคอยช่วยเลี้ยงดู ขุนเดช เหมือนลูกแท้ ๆ แต่ความอยากรู้อยากเห็นของ ขุนเดช ที่มีใจรักและ สนใจในศิลปะ โบราณซึ่งถูกถ่ายทอดมาจากพ่อ ทำให้ ขุนเดช แอบขึ้นรถของอาจารย์ประทีปตาม ไปหา พ่อที่ถ้ำศิลา อาจารย์ประทีปกลัวภัยจะเกิดกับนายเดื่องจึงให้ปืนไว้เพื่อป้องกันตัว แต่นาย เดื่องปฏิเสธยืนยันว่าจะใช้แค่ ดาบนิล อาวุธคู่กายสมบัติเก่าแก่ที่นายเดื่องได้รับตกทอดจากบรรพบุรุษ ดาบนิลเป็นดาบเหล็กเนื้อดีที่มีสีดำปลอดตั้งแต่ด้ามและตัวปลอก ซึ่งทำจากเขาควายตายฟ้าผ่า ส่วนเนื้อเหล็กนั้นเป็นเหล็กกล้าชั้นดี ผ่านการตีจากช่างยอดฝีมือ ในศรีสัชนาลัย ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถตีดาบให้ออกมาเป็นสีดำถึงเนื้อในเหล็กได้ ดาบนิลจึงมีความคม กริบและเป็นสมบัติหายาก นายเดื่องรักษาไว้อย่างดีเพราะคำสั่งเสีย ของบรรพบุรุษที่สั่งไว้สืบต่อกันมา ว่าต้องใช้ดาบนิลเพื่อปกป้องแผ่นดินเท่านั้น ฟากกำนันบุญที่โกรธแค้นนายเดื่องมากจึงสั่ง ให้ เสือแชน กับ เสือชิด ลูกน้องคนสนิทพา พวกบุกไปที่ถ้ำ ศิลาเพื่อจัดการกับนายเดื่องและเอาเศียรพระศิลามาให้ได้

ขุนเดช ที่แอบตามอาจารย์ประทีปมาหาพ่อที่เขาหลวงแต่เกิดพลัดหลงอยู่ในป่า หาทาง ไปหาพ่อที่ถ้ำศิลาไม่ได้ โชคดีที่เจอ หลวงพ่อสุข พระธุดงค์ที่มาปักกลดอยู่ในบริเวณเขาหลวง หลวงพ่อสุขเคยเจอกับนายเดื่องที่บริเวณถ้ำศิลาจึงพา ขุนเดช ไปหาพ่อ นายเดื่องโกรธลูกชาย มากที่แอบหนีมาจะลงมือตี แต่หลวงพ่อสุขห้ามไว้บอกพรุ่งนี้เช้า จะเป็นคนพา ขุนเดช กลับไปที่ ศรีสัชฯ เอง คืนนั้นนายเดื่องจึงจำเป็นต้องให้ ขุนเดช นอนค้างอยู่ในถ้ำ ขุนเดช นอนฟังพ่อเล่าเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเขาหลวงให้ฟังว่า เขาหลวง แห่งนี้ก็คือ พระขพุง ผีเทวดาที่สถิตย์อยู่ที่นี่ยิ่ง ใหญ่กว่าเทวดาในเมืองสุโขทัย หากผู้ครองเมืองสุโขทัยจะเป็นผู้ใดก็ตาม รู้จักนบไหว้และทำพิธีเซ่นสรวงถูกต้องแล้ว เมืองสุโขทัยย่อมตั้งมั่นถาวรยั่งยืน แต่หากไม่รู้จักนบไหว้ ไม่มีการพลีบูชาตามแบบแผนแล้ว ผีในเขาหลวงจะไม่คุ้มไม่เกรง เมืองสุโขทัยก็จะล่มจม เพราะเหตุนี้นายเดื่อง จึงต้องมาเฝ้าพระศิลาเอาไว้จากพวกคนใจบาป ขุนเดช เองก็รับปากพ่อว่าเมื่อโตขึ้นจะใช้ ดาบนิลทำหน้าที่รักษาสมบัติของชาติแบบพ่อ แต่ระหว่างนั้นพวกเสือแชน เสือชิดก็บุก เข้ามา นายเดื่องเป็นห่วงลูกชายจึงสั่งให้ ขุนเดช ไปหลบซ่อนตัว แล้วใช้ดาบนิลเข้าต่อสู้ กับพวกเสือแชน เสือชิด แต่สุดท้ายนายเดื่องก็สู้พวกมันไม่ได้ เพราะในระหว่างการต่อสู้ ดาบนิลเกิดหักเพราะความเก่าแก่ของดาบนิลที่ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน นายเดื่อง ถูกพวกมันฆ่าตายอย่าง เหี้ยมโหดทารุณต่อหน้าต่อตาขุนเดชแล้วตัดเอาเศียรพระศิลาไป เสือชิดได้ยินเสียงของ ขุนเดช ที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ จึงคิดจะจัดการลูกชายนายเดื่องด้วย อีกคนแต่ขุนเดชก็คว้าเอาดาบนิลที่บัดนี้ เป็นเพียงแค่ดาบหักมาเป็นอาวุธป้องกันตัวและ หนีพวก มันเข้าหายไปในป่าเขาหลวง

กลางดึกคืนนั้นขณะที่หลวงพ่อสุขกำลังนั่งเจริญสมาธิอยู่ในกลด หลวงพ่อสุขได้ เห็นนิมิตรบางอย่างที่น่าตกใจ ในนิมิตรนั้นหลวงพ่อเห็นความเสื่อมทรามของผู้คนที่ไม่ เคารพต่อ พระพุทธศาสนา ศิลปะโบราณวัตถุถูกย่ำยีกลายเป็นเครื่องประดับข้างฝาบ้าน พระพุทธรูปต้องอยู่หลังกรงขังกั้นไม่ให้ผู้มีจิตศรัทธากราบไหว้ บางองค์ก็ถูกรุมขัดถู เพื่อขอหวยมัวเมาในกิเลศ พระพุทธรูปที่งดงามตามโบราณสถานก็ถูกตัดเศียรเรียงราย จนน่าเวทนา หลวงพ่อสุขสะดุ้งตื่น จากนิมิตรพร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือจาก ขุนเดช ที่กำลังถูกพวกเสือแชน เสือชิดไล่ตามล่า และคิดว่าขุนเดชตกหน้าผาตายไปแล้ว จึงพากันกลับไป แต่ที่จริงแล้ว ขุนเดช หลบซ่อน ตัวอยู่ในซอกหินด้วยความตื่นกลัวและ ตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก ภาพของพ่อที่ถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดต่อหน้าต่อตา ภาพของพระศิลาที่ถูกตัดเศียรทำให้ ขุนเดช กลัวจนช็อคหมดสติ

หลวงพ่อสุขไปพบนายเดื่องถูกฆ่าตายที่ถ้ำศิลา จึงออกตามหา ขุนเดช ด้วยความเป็นห่วงและได้พบ ขุนเดช สลบอยู่ที่ซอกหินจึงปลุก ขุนเดช ให้ตื่น แต่ ขุนเดช กลับลุกขึ้น มาแสดงอาการเกรี้ยวกราด ดุดัน ใช้ดาลนิลหักที่กำไว้แน่นไล่ทำร้ายหลวงพ่อเหมือนกับ สัตว์ร้ายตัวหนึ่ง หลวงพ่อรู้ว่าที่ ขุนเดช เป็นอย่างนี้เพราะอาการช็อคตกใจกลัวจนเสียสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ หลวงพ่อนั่งนิ่งและแผ่เมตตาให้ ขุนเดช ใจสงบ ซึ่งก็ได้ผล ขุนเดช สงบนิ่งไปและเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายน่าเวทนา หลวงพ่อสุขจำเป็นต้องเป่ากะหม่อม ขุนเดช ให้หลับอย่างสงบ

ข่าวการตายของนายเดื่องและการหายตัวไปของ ขุนเดช ลูกชายนายเดื่อง เป็นที่โจษจันไปทั่วสุโขทัยว่าเป็นฝีมือของพวกโจรใจบาป จ่าแท่น ซึ่งรักและเคารพนายเดื่องเหมือนพี่ชาย คิดว่า ขุนเดช น่าจะยังมีชีวิตอยู่ จึงชวนคำปันซึ่งเป็นน้องสาวออกตามหา ขุนเดช แต่ทั้งคู่ก็ไม่พบร่องรอยของ ขุนเดช คำปันร้องไห้เสียใจทำใจไม่ได้ว่า ขุนเดช จะตาย ชาวบ้านที่เชื่อเรื่องผี ๆ สาง ๆ พากันพูดกันปากต่อปากว่า พระขผุงคงเอาตัว ขุนเดช ไปอยู่ด้วยที่เขาหลวง

10  ปีต่อมา หลวงพ่อสุขซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้เลี้ยงดู ขุนเดช จนเติบโตเป็นหนุ่มหน้าตาดี มีความฉลาดเฉลียว โดยสามารถสอบเข้าเรียนเป็น นักศึกษาในคณะโบราณคดีด้วยคะแนนสูงสุด แต่ ขุนเดช จำเรื่องราวเมื่อ 10 ปีก่อนไม่ได้ เพราะผลจากการตกใจ กลัวจนช็อค ส่วนดาบนิลหักของนายเดื่องที่ติดตัว ขุนเดช มา หลวงพ่อสุขก็เก็บรักษาเอาไว้ในกุฎิ ไม่เคยนำมาให้ ขุนเดช เห็นเพราะเกรงว่า ถ้า ขุนเดช จับดาบนิลนี้อีกครั้ง ความโกรธแค้นเกรี้ยว กราดราวกับสัตว์ร้ายที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของ ขุนเดช อย่างที่หลวงพ่อเจอในอดีตจะกลับมาสิงสู่ใน ร่างของ ขุนเดช อีกครั้ง แต่หลวงพ่อ ก็ไม่เคยรู้ว่าหลายต่อหลายคืน ขุนเดช มักจะฝันร้ายเห็นภาพเศียรพระศิลาถูกตัด ซึ่ง ขุนเดช ก็ไม่กล้าเล่าให้ หลวงพ่อฟังเพราะกลัวว่าจะทำให้อาการอาพาธของหลวงพ่อที่ไม่ค่อยดีอยู่จะทรุดหนักขึ้น

ใกล้ ๆ วัดที่ ขุนเดช อาศัยอยู่เป็นโรงหล่อพระของ ลุงเถิน ที่เอ็นดูขุนเดชเพราะเป็น เด็กหนุ่มเอาการเอางานมักมาช่วยงานลุงเถินเสมอ ๆ แถม ขุนเดช ยังช่วยติวหนังสือให้ ดารา ลูกสาวคนสวยของลุงเถิน ที่อยากจะสอบเข้าเรียนในคณะโบราณคดีเหมือนอย่าง ขุนเดช ดารา มักจะค่อนขอดและงอนพ่อบ่อย ๆ หาว่าพ่อรัก ขุนเดช เหมือนลูกชาย ที่เป็น อย่างนั้นเพราะลุงเถินมักจะชวน ขุนเดช ให้อยู่คุยเรื่องในอดีต เมื่อครั้งที่ลุงเถินเคยเป็น นักเลงเพลงดาบ โดยได้ฝีมือตี เหล็กตีดาบมาจากปู่ที่เป็นคนสุโขทัย ลุงเถินให้ ขุนเดช ดู ดาบที่ลุงเถินกับพ่อช่วยกันตีตอนเป็นหนุ่ม มันคือดาบสีดำปลอดที่ด้ามและตัวปลอกทำ จากเขาควายตายฟ้าผ่าซึ่งเรียกว่า ดาบนิล ที่ตอนนี้หาช่างตีอีกไม่ได้แล้ว เมื่อตอนลุงเถิน เป็นหนุ่ม ๆ เคยใช้ดาบนิลออกไปมีเรื่องมีราวตามประสาวัยรุ่นเลือดร้อน ทั้ง ๆ ที่บรรพบุรุษเคยสั่งไว้ว่าดาบนิลตีขึ้นเพื่อปกป้องแผ่นดินเท่านั้น ผลก็เลยทำให้ลุงเถินชีวิตไม่ เจริญก้าวหน้าจนเกือบตายหลายครั้ง ลุงเถินจึงเลิกเป็นนักเลงดาบ หันมาใช้วิชาความรู้ มาหล่อพระแทนเพราะไม่อยากทำบาปอีก ส่วนดาบนิลก็เก็บรักษาไว้ อย่างดี ลุงเถินกลัว ว่าถ้าตัวเองตายไปจะถ่ายทอดวิชาพวกนี้ให้ลูกสาวไม่ได้ จึงสอนให้ ขุนเดช ทั้งวิชาเชิง ดาบ เชิงมวยคาดเชือกและการตีดาบไว้เป็นความรู้ติดตัว เพราะเชื่อในความเป็นคนดีของ ขุนเดช ว่าจะไม่ใช่ในทางที่ผิด

เวลาที่ ขุนเดช ไปไหนมาไหนกับดารา ใคร ๆ มักจะคิดว่าสองคนเป็นคนรักกัน แม้แต่ ย้ง หรือ ยงยุทธ เพื่อนสนิทของ ขุนเดช ที่กำลังสอบเข้าเรียนตำรวจก็คิดอย่างนั้น ขุนเดช อ่านใจ ของเพื่อนได้ว่า ย้งเองก็แอบชอบดาราแต่ไม่กล้าแสดงออก เลยคิดจะช่วยให้ย้งได้มีโอกาสตามลำพังกับดารา ขุนเดช ชักชวนไปเที่ยวอยุธยากัน เพื่อชมโบราณ สถาน แต่ดารารู้ตัวว่า ขุนเดช ทำเพื่อย้ง ดาราเลยน้อยใจเพราะตัวเองก็แอบชอบ ขุนเดช อยู่ ดาราจะนั่งรถบัสกลับกรุงเทพฯ เองคนเดียว แต่ระหว่างทางไปเจอกับ ประดับ ลูกชาย นายทหารนิสัยเกกมะเหรกเกเรเพราะมี พ่อเป็นนายทหารยศใหญ่โต จึงกร่างไม่กลัวใคร ประดับกับเพื่อนฝูงพยายามที่จะชวนดาราให้ขึ้นรถไปด้วยกัน ขุนเดช กับย้งตามมาเจอ เข้าเลยมีเรื่องกับประดับและเข้าตาจนถูกพวกประดับล้อมกรอบ โชคดีที่อาจารย์ประทีป และคณะศึกษาโบราณคดีขับรถผ่านมาพบเข้า พวกประดับจึงต้องล่าถอยไป แต่ก็เก็บ สมุดจดบันทึกของดาราได้ ทำให้ประดับรู้ว่าดาราเป็นใครและเรียนอยู่ที่ไหน อาจารย์ ประทีปอาสาพาพวกขุนเดชไปส่งที่กรุงเทพฯ เพราะกำลังไปที่นั่นเหมือนกัน และ อาจารย์ประทีปก็สะดุดชื่อของ ขุนเดช เป็นอย่างมาก ยิ่งได้รู้ว่า ขุนเดช เป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่ในวัดและเป็นนักศึกษาโบราณคดี ที่มีความรู้เกี่ยวกับสุโขทัยจนหาตัวจับได้ยากก็ยิ่งสนใจ

ขุนเดช กลับมาที่วัดก็ทราบข่าวร้ายว่าหลวงพ่อสุขอาพาธหนักแต่ไม่ยอมไป โรงพยาบาลเพราะคิดว่าเมื่อถึงเวลาต้องละสังขารก็ขอให้เป็นไปตามกรรม ส่วนอาจารย์ ประทีปด้วยความสงสัยว่าทำไมหลวงพ่อสุขถึงตั้งชื่อเด็กที่เอามาเลี้ยงว่า ขุนเดช จึงขอเข้า ไปมนัสการกราบหลวงพ่อ และก็จำได้ว่าหลวงพ่อสุขคือพระธุดงค์องค์เดียวกันกับที่เคย เจอที่เขาหลวงเมื่อ 10 ปีก่อน เลยยิ่งมั่นใจว่าต้องเกี่ยวข้องกับ ขุนเดช ลูกชายนายเดื่องที่หา ศพไม่พบจนทุกวันนี้ หลวงพ่อเลย เล่าให้อาจารย์ประทีปฟังถึงสาเหตุที่ต้องพา ขุนเดช มาอยู่ที่วัดและเลี้ยงดู ขุนเดช เพราะ ขุนเดช เห็นภาพพ่อตัวเองถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา จึงช็อคและจำความไม่ได้ หลวงพ่อกลัวว่าถ้าโจร พวกนั้นรู้ว่า ขุนเดช ยังมีชีวิตอยู่จะเป็น อันตราย จึงพา ขุนเดช มาที่กรุงเทพฯ แต่ ขุนเดช ก็ยังคงมีจิตวิญญาณของคนศรีสัชนาลัย เพียงแค่ภาพโบราณสถานของสุโขทัยจากในหนังสือ ขุนเดช ก็สามารถจดจำรายละเอียดที่มาได้หมด หลวงพ่อสุขเอาดาบนิลหักของนายเดื่องออกมาให้ อาจารย์ประทีปดูเพื่อ ยืนยันว่าเป็น ขุนเดช ลูกชายนายเดื่องจริง ๆ หลวงพ่ออยากให้อาจารย์ประทีปรับปากว่าจะ คืนดาบนิลอันนี้ให้ ขุนเดช ก็ต่อเมื่อจิตใจของ ขุนเดช นิ่งสงบพอและรู้จักคำว่า อโหสิ เพราะถ้า ขุนเดช ยังมีจิตที่ไม่นิ่ง แม้ดาบนิลนี้จะเป็นเพียงแค่ดาบหักและมีแต่รอยบิ่น แต่ความกราดเกรี้ยวของขุนเดชจะทำให้ดาบหักกลับมามีความคมยิ่งกว่าเก่าไม่ต่างอะไร กับคมดาบในมือของทหารพระร่วง

ประดับตามมาหาดาราถึงที่โรงหล่อพระแต่ถูกลุงเถินกับ ขุนเดช ไล่ตะเพิดเพราะ ดันมาลองดีกับเถินนักเลงเก่า ประดับเจ็บแค้นที่ถูกด่าสาดเสียเทเสีย จึงใช้อิทธิพลของ พ่อพาทหารบุกไปโรงหล่อพระแจ้งข้อหาเท็จกับนายเถินว่าซ่องสุมอาวุธสงคราม เพื่อเป็นประโยชน์ให้พวกกบฏ เถินปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม และไม่สนใจการเมือง ประดับจึงสั่งให้พรรคพวกบุกทุบทำลายพระพุทรูปที่หล่อเสร็จ แล้วต่อหน้าต่อตาดาราและนายเถินที่แทบหัวใจ สลายที่เห็นพระพุทธรูปถูกทำลาย ประดับเอาปืนที่นำมายัดไว้ในองค์พระเพื่อเป็นหลักฐาน เล่นงานนายเถินให้ถูกจับกุม

ขุนเดช ต้องพาดาราให้ไปพักอยู่กับย้งที่บ้านเพื่อความปลอดภัย ไม่ให้ถูกประดับ ตามมารังควาญอีก ย้งกับดารารู้สึกกลัวแววตาของ ขุนเดช ที่บอกว่าจะจัดการทุกอย่างให้ เมื่อย้งถามว่า ขุนเดช คิดจะทำอะไร ขุนเดช ก็ไม่ปริปากพูดสักคำ ขุนเดช ไปที่โรงหล่อ พระที่เหลือแต่เศษซาก ของพระพุทธรูปที่ถูกทำลาย เศียรพระที่ถูกทุบทำลายจนหลุด จากบ่าทำให้ภาพอดีตในวัยเด็ก ของ ขุนเดช ผุดเข้ามาสร้างความเจ็บปวดให้ ขุนเดช อีก แต่ ขุนเดช ก็ยังไม่รู้ว่าภาพเหล่านั้นคืออะไรและเกี่ยวข้องกับตัวเองยังไง ขุนเดช รู้ว่า ดาบนิลของลุงเถินที่เคยใช้เมื่อวัยหนุ่มเก็บซ่อนไว้ที่ไหน ขุนเดช นำมันออกมาแล้ว มุ่งหน้าไปหาประดับที่กำลังดื่มกินอยู่ในบาร์

คืนนั้นเองที่อาการอาพาธของหลวงพ่อสุขกำเริบหนัก หลวงพ่อสุขถามหา ขุนเดช แต่ไม่มีใครรู้ว่า ขุนเดช อยู่ที่ไหน ดาบนิลหักตกลงมาจากชั้นวาง นิมิตรที่หลวงพ่อเคยเห็นเมื่อ 10 ปี ก่อนกลับมาอีกครั้ง เศษซากปรักหักพังของโบราณสถานถูกทำลาย เศียรพระเป็นเพียงเครื่อง ประดับข้างฝาบ้าน ภาพพระพุทธองค์กลายเป็นภาพประดับ ข้างฝาห้องน้ำของฝรั่งต่างชาติ หลวงพ่อสุขหายใจรวยรินพูดเป็นคำสุดท้ายก่อน มรณภาพว่า “จากนี้ไปไม่มีใครหยุด ขุนเดช ได้อีกแล้ว”

ขุนเดช ควงดาบนิลของลุงเถินบุกเข้าไปเล่นงานพวกประดับจนเกิดการต่อสู้โรมรันพันตู แต่ด้วยดาบเพียงเล่มเดียว ขุนเดช เลยพลาดท่าถูกพวกประดับจับตัวได้ พวกมันซ้อม ขุนเดช ทั้งเตะทั้งอัดจนสบักสะบอม ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่โดนทำร้ายกระตุ้น ให้ภาพในอดีตของ ขุนเดช กลับคืนมาอีกครั้ง คราวนี้ ขุนเดช เริ่มประติประต่อเรื่องราว เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ขุนเดช จำได้ว่าเขาคือลูกชายนายเดื่อง ผู้ที่สาบานว่าจะถวายชีวิตปกป้องสมบัติของพระร่วงไม่ให้ใครย่ำยี ขุนเดช เองก็สาบาน กับพ่อว่าจะถวายชีวิตเป็นทหารของพระร่วง แห่งศรีสัชนาลัย พวกประดับเห็น ขุนเดช นิ่ง ไปก็นึกว่าหมดสภาพแล้ว แต่ ขุนเดช กลับลุกขึ้นมา ด้วยแววตากราดเกรี้ยวน่ากลัวราวกับ ว่ามีสัตว์ร้ายเข้ามาสิงสู่ ขุนเดช คว้าดาบนิลได้และเกือบจะ สังหารประดับด้วยการบั่นคอ แต่ ขุนเดช ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีกลุ่มทหารเข้ามายุติการก่อเหตุวิวาท ประดับนึกว่าคนของพ่อมาช่วยแต่ประดับคิดผิด เพราะทหารที่บุกเข้ามายุติเหตุการณ์เป็นทหารฝ่ายปฏิวัติ เพราะเวลานี้รัฐบาลทหาร (จอมพล ป.) ถูกคณะปฏิวัติ (จอมพลสฤษดิ์) เข้ายึดอำนาจหลัง เกิดการเลือกตั้งสกปรก และรัฐบาลได้รับการคัดค้านจากประชาชนอย่างหนัก

ประดับและครอบครัวต้องหลบหนีภัยการเมืองออกนอกประเทศ ลุงเถินถูกปล่อยตัวออกจากคุกให้เป็นอิสระ ส่วน ขุนเดช กลับมาไม่ทันได้กราบหลวงพ่อสุขที่มรณภาพไปในคืนนั้น ในงานศพของหลวงพ่อสุข ขุนเดช บอกอาจารย์ประทีปว่าตนเอง จำความได้แล้วว่าเป็นลูกชายนายเดื่องที่หลวงพ่อช่วยชีวิตเอาไว้ เวลานี้เมื่อสิ้นบุญหลวง พ่อแล้วก็ถึงเวลาที่เขาควรจะกลับไป ยังบ้านเกิดที่ศรีสัชนาลัย แต่อาจารย์ประทีปทักท้วง อยากให้ ขุนเดช ได้เรียนโบราณคดีต่อให้จบ จะได้บรรจุเข้ารับราชการ ขุนเดช ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่าอยากจะสานต่องานที่พ่อทำ เพราะรับปากพ่อไว้ก่อนตาย อาจารย์ประทีป ไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของ ขุนเดช จึงรับปากว่าจะช่วยให้ ขุนเดช ทำงานขุดแต่งโบราณสถานที่ศรีสัชนาลัยซึ่งกำลังขาดคนอยู่ ขุนเดช กราบขอบคุณอาจารย์ประทีป และพร้อมจะเดินทางกลับบ้านเกิดทันที อาจารย์ประทีปตามไปที่กุฏิหลวงพ่อสุข ถามหาดาบนิลที่หลวงพ่อเก็บเอาไว้ แต่ลูกศิษย์วัดบอกว่า ขุนเดช ได้มาเอาดาบนิลนั้น ไปแล้ว อาจารย์ประทีปรู้สึกใจคอไม่ดี เมื่อนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อสุขที่กำชับไว้ว่า “อย่าคืนดาบนิลหักนี้ให้ ขุนเดช จนกว่า จิตใจของ ขุนเดช จะนิ่งสงบพอและรู้จักคำว่า อโหสิ เพราะถ้า ขุนเดช ยังมีจิตที่ไม่นิ่ง แม้ดาบนิลนี้จะเป็นเพียงแค่ดาบหักและมีแต่ รอยบิ่น แต่ความกราดเกรี้ยวของ ขุนเดช จะทำให้ดาบหักกลับมามีความคมยิ่งกว่าเก่า ไม่ต่างอะไรกับ คมดาบในมือของทหาร พระร่วง”

ขุนเดช จากไปอย่างเงียบ ๆ แม้แต่ย้งกับดาราก็ไม่รู้ว่า ขุนเดช หายไปไหน เพราะ ขุนเดช ไม่ยอมบอกใครถึงอดีตของตัวเอง คงมีแต่ลุงเถินคนเดียวที่ได้พบ ขุนเดช เป็นคนสุดท้าย ขุนเดช เอาดาบนิลของลุงเถินมาคืนและให้ลุงเถินดูดาบนิลหักของพ่อ รวมถึงได้เล่าเรื่องราวในอดีตของตัวเองให้ฟัง ลุงเถินดีใจและคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ชีวิต ขุนเดช จะกลับมาวนเวียนกับดาบนิล อีกครั้ง เพราะเพราะ ขุนเดช คือลูกหลานสุโขทัย สืบเชื้อสายจากทหารของพระร่วงที่มีดาบนิลเป็นอาวุธ ลุงเถินจึงไม่รับดาบนิลของตัวเองคืน และมอบให้กับ ขุนเดช เก็บเอาไว้เพื่อเตือนสติตัวเองว่า “ถึงดาบจะเป็นอาวุธที่อันตราย แต่สิ่งที่อันตรายกว่าคมดาบก็คือใจ ขอให้ขุนเดชใช้ดาบนิลเพื่อปกป้อง แผ่นดิน”

10 ปีผ่านไป….ศรีสัชนาลัยงดงามและมีมนต์ขลังด้วยศิลปะโบราณวัตถุอันทรง คุณค่า ขุนเดช ทำงานเป็นหัวหน้าคนงานขุดแต่งโบราณสถานให้กับอาจารย์ประทีป และตั้งหน้าตั้งตาทำนุบำรุงโบราณสถานที่ตัวเองรักยิ่งชีวิต หลังจากที่ ขุนเดช ทำงานเสร็จ จึงมาเดินเที่ยวชมวัด และได้เข้าไปไหว้พระอจนะที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีชุม ในขณะที่กำลังไหว้พระอยู่ก็ได้ยิน เสียงเสี่ยงเซียมซี จึงหันไปตามเสียงที่ได้ยินและได้พบกับ บัวทอง เด็กสาวสวยวัยเพิ่งจะ 19 กำลังเขย่ากระบอกเซียมซีเสียงดัง และอธิษฐานขอพรขมุบขมิบตามประสาเด็กสาววัยรุ่น ขุนเดช รู้สึกขำท่าทีของเด็กสาว จึงแกล้งพูดแหย่เล่นด้วยความเอ็นดู บัวทองไม่พอใจจึงลุกเดินหนีไป ขุนเดช เดินตาม บัวทองจึงรีบวิ่งไปหาแม่ ขุนเดช เห็นแม่ของบัวทองจึงจำได้ว่าเป็น น้าคำปัน ที่เคยเลี้ยงดู ขุนเดช ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ขุนเดช ดีใจที่ได้เจอน้าคำปันที่นี่อีกครั้ง เพราะไม่ได้เจอกันตั้งแต่คราวที่พ่อถูกฆ่าตาย เมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ได้กลับมาที่ศรีสัชนาลัยก็ได้ ข่าวว่าน้าคำปันกับจ่าแท่นพากันย้ายจากศรีสัชฯ ไปตั้งรกรากที่อื่น น้าคำปันกอด ขุนเดช ด้วย น้ำตาว่าเพิ่งจะรู้เรื่อง ขุนเดช เมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง เพราะตอนที่ย้ายจากศรีสัชฯไปเป็นการย้าย เพราะกลัวพวกโจรที่ฆ่าพ่อ ขุนเดช จะย้อนมาทำร้าย ส่วนจ่าแท่นก็โดนย้ายตามเจ้านาย แต่ตอนนี้สามีของน้าคำปันเพิ่งเสียและจ่าแท่นก็เพิ่งจะได้ย้ายกลับมาที่ศรีสัชฯแล้ว น้าคำปันแนะนำให้ ขุนเดช รู้จักกับบัวทองลูกสาวของน้าคำปัน ขุนเดช ยิ้มให้บัวทองอย่างเอ็นดูและชมว่าสวย เหมือนน้าสมัยสาว ๆ แต่บัวทองกลับแลบลิ้นใส่ขุนเดชเพราะรู้สึกหมั่นไส้ ที่ทำเป็นอวดเก่ง อวดภูมิความรู้เรื่องโบราณสถาน และทำมาเป็นสั่งสอน คำปันต้องปรามลูกสาวที่แก่นแก้วเป็น ม้าดีดกะโหลก ขุนเดช ไม่ติดใจอะไร บอกเด็กก็คงเป็นเด็ก บัวทองสวน ขุนเดช กลับทันทีว่าปีนี้ อายุ 19 ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว น้าคำปันอ่อนอกอ่อนใจฝากขุนเดชช่วยดูแลน้องด้วย ขุนเดช รับปาก อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ

ที่วัดพระพายหลวง สุโขทัย ขณะที่ ขุนเดช กำลังยืนแจกชะแลงและเครื่องมือให้กับคนงานอยู่ แต่มีคนงานคนหนึ่งซึ่งมีท่าทีแปลก ๆ มันชื่อ ไอ้เถร พ่อแม่ของมันพามาฝากให้ทำงาน กับ ขุนเดช เพราะฐานะทางบ้านยากจน ขุนเดช จึงรับไว้ให้มาทำงานเป็นคนงานขุดแต่งโบราณสถาน ไอ้เถรมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อยและชอบขโมยพระในกรุ ขุนเดช สงสัยในท่าทางมีพิรุธ แต่ไม่ได้ติดใจอะไรปล่อยในทำงานปกติ พอตกกลางคืนเถรแอบใช้ชะแลงที่ ขุนเดช แจกให้ทำงาน เข้าไปขุดกรุขโมยพระเพื่อไปขายให้กับกำนันบุญ พอรุ่งเช้า ขุนเดช มาเจอร่อยรอยการขโมยพระ และเห็นรอยชะแลงที่หน้าดินซึ่งชะแลงแต่ละอันขุนเดชจะทำรอยตำหนิเอาไว้ ทำให้ ขุนเดช รู้ว่าใครเป็นคนขุด ตกดึก ขุนเดช จึงไปลากตัวเถรและเอาชะแลงของเถรมาที่กรุพระ แล้วให้เถรนำ ชะแลงไปเทียบกับรอยดินว่าเป็นชะแลงอันเดียวกันรึป่าว แต่เถรขัดขืนจึงต่อสู้กัน จนเถรยอมเอาชะแลงไปเทียบกับรอยดิน พบว่าเป็นรอยเดียวกัน เถรรีบปฏิเสธ แล้วบอกว่าอาจจะมีคนขโมยชะแลงของตนเองไปทำความผิดก็ได้ ขุนเดช จึงให้เถรสาบานโดย การเอามือล้วงเข้าไปในข้องปลา พร้อมทั้งสาบานว่าหากเอามือล้วงไปแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นแสดงว่าไม่ได้ทำความผิด ซึ่งในข้องนั้น ขุนเดช ได้แอบเอางูเห่าใส่ไว้อยู่ พอเถรล้วงลงไปจึงโดนงูกัด แต่เถรแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขุนเดช จึงปล่อยตัวเถรไป ระหว่างทางพิษของงูออกฤทธิ์ เถรจึงหมดลมเสียชีวิตเพราะพิษงู รุ่งเช้าที่ร้านของคู่ผัวเมีย นายฮวด กับ สาลี่ ร้านกาแฟ ประจำหมู่บ้าน พวกชาว บ้านต่างพากันโจษจันพูดคุยกันถึงเรื่องการตายของไอ้เถร นายฮวด ถามจ่าแท่นที่เป็นลูกค้าประจำของที่ร้าน เพราะชอบมาฟังพวกชาวบ้านคุยกัน ว่าคิดยังไงกับการตายของไอ้เถร ซึ่ง ขุนเดช ก็นั่งฟังอยู่ จ่าแท่นบอกเพียงแต่ว่าเถรถูกงูเห่ากัดตาย ขุนเดชบอกสมควรแล้วที่เป็นแบบนั้น ขุนเดช จ่ายเงินค่ากาแฟแล้วจะไปทำงานต่อ แต่จ่าแท่นรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ เจ้านายคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาประจำที่โรงพักของศรีสัชฯ จ่าแท่นแนะนำ ร.ต.ท.ยงยุทธ หรือ หมวดยงยุทธที่เพิ่งย้ายมาประจำอยู่ที่ศรีสัชฯให้ทุกคนได้รู้จัก ขุนเดช กับหมวดยงยุทธพบหน้า กันก็จำได้ดีว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันนั่นเอง

วันคืนเก่า ๆ ของหมวดยงยุทธกับ ขุนเดช กลายมาเป็นเรื่องคุยกันที่บ้านพักของหมวด ยงยุทธ ขุนเดช ถามหมวดถึงดาราเพราะไม่ได้ข่าวเลยตั้งแต่ ขุนเดช ย้ายมาอยู่ที่ศรีสัชฯ ผู้หมวด อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ หนักใจที่จะพูดถึงดารา บอก ขุนเดช เพียงแต่ว่าดาราเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะโบราณคดี อย่างที่ฝันไว้ และตัวเองก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วเพราะต้องย้ายไปทำงานหลายจังหวัด ยงยุทธ ชวน ขุนเดช วกกลับมาคุยเรื่องการตายของไอ้เถร เพราะเกิดความสงสัยว่าไม่น่าจะเกิดจากงูกัด จนเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว เนื่องจากตอนไปชัณสูตรศพเห็นร่อยรอยการถูกตีด้วยของแข็งตามร่างกาย แต่ไม่รู้ว่าของแข็งนั้นคืออะไร จ่าแทนสงสัยถามย้อนว่าหมวดคิดว่านี่เป็นคดีฆาตกรรม หมวดยงยุทธตอบว่าค่อนข้างแน่ใจ แต่จ่าแท่นไม่คล้อยตามข้อสันนิษฐานของหมวดคิดว่าในศรีสัช ฯไม่มีฆาตกร เพราะชื่อศรีสัชนาลัยหมายความว่าเป็นเมืองของคนดี ขุนเดช ได้แต่ฟัง เงียบ ๆ ในขณะที่หมวด ยงยุทธสนใจดาบที่ ขุนเดช พกอยู่ ขุนเดช บอกเพียงแต่ว่าเป็นดาบของพ่อที่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย หมวดยงยุทธอยากจะขอดู ขุนเดช ว่ามันเป็นเพียงแค่ดาบหักที่มีแต่สนิมใช้ขุดหญ้าดายหญ้ายังไม่ได้เลย

ต่อมาไม่นานได้มีคณะอาจารย์และนิสิตนักศึกษาจากกรุงเทพฯ มาเรียนรู้และดูงาน เกี่ยวกับเรื่องโบราณสถาน อาจารย์ประทีปแนะนำให้ขุนเดชรู้จักกับอาจารย์ดารา เมื่อทั้งคู่ได้พบกัน ขุนเดช จึงนึกได้ว่าท่าทีอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของหมวดยงยุทธ มีความหมายซ่อนเร้น แท้จริงก็คือทุกวันนี้หมวดยงยุทธก็ยังพยายามตามจีบดาราอยู่ เพราะเป็นผู้ชายตรง ๆ จีบผู้หญิงไม่เป็น ทำให้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมายังไม่สามารถเอาชนะใจดาราได้ เมื่อสบโอกาสรู้ว่าอาจารย์ดาราจะ มาปักหลักทำงานที่ศรีสัชฯ จึงทำเรื่องขอย้ายตามมา เพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง ขุนเดช ถามอาจารย์ดาราถึงลุงเถิน ดาราบอกพ่อเสียไปเมื่อ 3 ปีก่อน ขุนเดช รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไปเคารพศพ ดาราชวนจึงชวน ขุนเดช ไปทำบุญทำสังฆทานให้พ่อด้วยกัน แต่ระหว่างที่ทำบุญด้วยกันที่วัด อาจารย์ดาราได้เจอบัวทอง ดาราสังเกตเห็นท่าทีของบัวทองที่สนิทสนมกับ ขุนเดช ก็พอจะเดาออกว่า ขุนเดช กับบัวทองน่าจะมีใจให้กัน และทำใจยอมรับว่า ขุนเดช ไม่เคยมองเธอในฐานะคนรักเลยสักครั้ง อาจารย์ดาราจึงยับยั่งชั่งใจและเริ่มเปิดใจให้กับหมวดยงยุทธ

ระหว่างนั้นกำนันบุญและลูกชายชื่อ สัมฤทธิ์ ซึ่งมีนิสัยไม่ต่างจากพ่อทั้งขี้โกง เจ้าชู้ และชอบเก็บสะสมวัตถุโบราณโดยเฉพาะพระเครื่อง พระผงที่อยู่ในกรุเจดีย์ สองพ่อลูกคิดแผนชั่วจะขโมยวัตถุโบราณและตัดเศียรพระ แต่หาคนฝีมือดีไม่ได้เพราะลูกน้องที่ใช้ให้ไปทำก็ถูกขุนเดชจัดการจนเกือบหมด จึงนึกถึงนายเปรื่อง อยุธยา หรือฉายา เปรื่อง เสียงแปล่ง โจรมืออาชีพลักลอบขุดเจาะขโมยพระ ทำมาทั่วทุกสารทิศ เปรื่องเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับพระองค์ ใหญ่ที่ร้านกาแฟนายฮวด ขุนเดช รู้สึกสงสัยในตัวเปรื่อง จึงแอบตามไปพบเปรื่องกำลังขโมยตัด เศียรพระองค์ใหญ่ ขุนเดช จึงเข้าไปจัดการเปรื่อง ทั้งคู่ต่อสู้กัน เปรื่องล้มไปใส่องค์พระ เศียรพระที่เปรื่องเจาะไว้จึงตกลงมาทับร่างเปรื่องเสียชีวิต

แต่กระนั้นโจรชั่วหนักแผ่นดินก็ยังไม่หมดไป ยังมีสองพ่อลูก ผู้ใหญ่น่วม กับลูกชายชื่อ น้ำ ที่มีนิสัยนักเลงอันธพาล คบโจร โกงการพนัน ฉุดผู้หญิง ชอบขโมยขุดพระขุดเจดีย์ รู้มาว่าเจดีย์บนเขามีสมบัติและกรุพระเก่าอยู่ จึงขึ้นเขาไประเบิดเจดีย์เพื่อขโมยพระในกรุ แต่ก็ถูก ขุนเดช ตามฆ่า โดยใช้ดาบนิลของลุงเถินที่เหมือนกับดาบนิลของพ่อซึ่งใช้การไม่ได้ มาเป็นอาวุธ ต่อสู้กับพวกคนเลวทั้งสองคน ขุนเดช ใช้เชือกรัดคอน้ำโหนกับต้นไม้ตายแล้วนำศพมาประจาน

เหตุการณ์ของโจรขโมยพระที่ถูกฆ่าตายหลายคน ทำให้หมวดยงยุทธสงสัยและเริ่มตามสืบหาฝีมือของฆาตกรรายนี้ แต่หมวดยงยุทธก็จนปัญญาจนเมื่อผลการพิสูจน์หลักฐานแน่ชัดว่าของแข็งที่ใช้ทำร้ายพวกคนร้าย มีลักษณะตรงกับปลอกดาบที่ ขุนเดช พกติดตัวทุกประการ หมวดยงยุทธจึงมั่นใจว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช ซึ่งตั้งศาลเตี้ยลงทัณฑ์พวกโจรใจบาปโดยไม่สนใจกฎหมาย ทำให้หมวดยงยุทธไม่พอใจ ขุนเดช และคอยจับผิด ว่า ขุนเดช จะต้องมีดาบเล่มอื่นอีกที่ไม่ใช่แค่ดาบนิลหักของพ่อ ซึ่งพกไว้ตบตาคนอื่น หมวดยงยุทธพยายามพูดกับจ่าแท่น ให้เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช และกล่าวว่า ขุนเดช เป็นวีรบุรุษบาป ให้จ่าแท่นช่วยกันหาหลักฐานมามัดตัวขุนเดชให้ได้ แม้ว่า ขุนเดช จะเป็นเพื่อนเก่า แต่กฏหมายก็ต้องศักดิ์สิทธิ์เมื่ออยู่ในมือผู้พิทักสันติราษฎร์

หลังจากที่กำนันบุญทำงานไม่สำเร็จ ไม่มีสมบัติโบราณส่งไปให้ตามใบสั่งจากกรุงเทพฯ เพราะถูกขัดขวางจาก ขุนเดช ตลอด ทำให้ ท่านรัฐมนตรีปราชญ์ ผู้ชื่นชอบในวัตถุโบราณ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังใบสั่งที่ส่งไปให้กำนันบุญจัดหามาให้เริ่มแสดงอาการไม่พอใจ แต่ด้วยความที่เป็นถึงรัฐมนตรีจึงไม่สามารถออกหน้าได้ รัฐมนตรีปราชญ์จึงเรียกประดับทนายความและเลขาประจำตัวมาจัดการทุกอย่างให้ได้ตามประสงค์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่ประดับหนีภัยการเมืองไปอยู่เมืองนอก ประดับเรียนจบทางด้านกฏหมายและเดินทางกลับมาทำงานเป็นทนาย และเลขาส่วนตัวให้กับท่านรัฐมนตรี เพราะมีจุดประสงค์ที่อยากจะก้าวขึ้นสู่อำนาจอีกครั้งหลังจากที่พ่อต้องตายอยู่ที่เมืองนอก ประดับจึงจำยอมให้ท่านรัฐมนตรีโขกสับต่าง ๆ นา ๆ โดยในระหว่างนั้นก็วางแผนตีสนิทกับ ปารมี ลูกสาวคนสวยวัยเพียง 16 ของท่าน รัฐมนตรีเพื่อใช้เป็นสะพานให้ตัวเองยกฐานะเป็นลูกเขยท่าน ซึ่งแผนการของประดับก็ดูจะสดใสเพราะปารมี เป็นเด็กสาวแก่แดด ชอบช้อบปิ้ง และชอบหนุ่มหล่อ ๆ  ซึ่งประดับก็เรียกความสนใจได้ไม่น้อยทีเดียว แต่ประดับต้องทำอย่างลับ ๆ ไม่ให้ท่านรัฐมนตรีรู้แผนการและไม่ให้ปารมีรู้ด้วยว่าประดับ มีคู่ขาเป็น คำผกา นักร้องในบาร์ที่นอกจากจะขายเสียงแล้วยังขายร่างกายเพื่อแลกกับเงิน และยอมทำตามทุกอย่างที่ประดับเรียกใช้ เพราะหวังว่าเมื่อวันที่ประดับขึ้นมามีอำนาจยิ่งใหญ่ เธอก็จะได้อานิสสงค์จากประดับ

ท่านรัฐมนตรีมีใบสั่งที่ให้ประดับไปจัดการหามาให้ได้ ประดับรู้จักกับ แจ็ค ฝรั่งพูดไทย คล่อง เป็นพ่อค้าวัตถุโบราณที่กรุงเทพฯ เดินทางมาขโมยวัตถุโบราณด้วยตนเอง โดยให้กำนันบุญคอยช่วยเหลือ แจ๊คระเบิดเจดีย์ แล้วใช้รถพังวัตถุโบราณต่าง ๆ พังเป็นหน้ากอง โดยไม่เกรงกลัวความผิด เพราะถือว่ามีเส้นสายใหญ่เป็นถึงรัฐมนตรี ขุนเดช รู้เรื่องจึงไปจัดการฆ่าโดยการแขวนคอแจ๊คหน้าเจดีย์ การตายของแจ็คทำให้ประดับต้องโดนท่านรัฐมนตรีเรียกไปด่า ประดับ จึงต้องอาศัยอำนาจของท่านรัฐมนตรีมากดดันตำรวจในพื้นที่ให้เร่งมือจัดการตามล่าตัวฆาตรที่กำลังลอยนวลอยู่นั่นเองที่ทำให้ประดับได้เจอกับหมวดยงยุทธ ดาราและ ขุนเดช ประดับแสดงท่าทางเจ้าชู้กับดาราเหมือนเมื่อก่อน แต่คราวนี้ประดับโดนหมวดยงยุทธขู่จะเล่นงาน ถ้ามายุ่งกับดาราอีก ประดับเลยขู่หมวดยงยุทธว่าจะอยู่ในหน้าที่ตำรวจได้อีกไม่นาน เมื่อไหร่ที่เขามีอำนาจทั้งสามคนต้องโดนแก้แค้นชนิดหาแผ่นดินยืนไม่มี แต่ประดับก็อยู่ในสุโขทัยได้ไม่นานต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เพราะท่านรัฐมนตรีเรียกตัวให้กลับด่วน แต่ประดับต้องการรู้ความเคลื่อน ไหวของพวก ขุนเดช อริเก่า และประดับก็ไม่ค่อยไว้ใจพวกกำนันบุญอยู่เป็นทุนเดิม จึงสั่งให้คำผกาย้ายเข้ามาอยู่ที่ศรีสัชฯ เพื่อเป็นหูเป็นตาให้ คอยส่งข่าวคราวให้ประดับรู้ตลอดเวลา แต่คำผกามาอยู่ที่ศรีสัชฯ ได้วันแรกก็มีเรื่องมีราวกับบัวทอง เพราะไปดูถูกบัวทองกับคำปันจนมีเรื่องมีราวทำให้คำผกากับบัวทองเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน

ส่วนเรื่องด่วนนั่นก็คือท่านรัฐมนตรี จับได้ว่าประดับกับปารมีแอบลักลอบมีความสัมพันธ์ กันจนปารมีตั้งท้อง ประดับโดนท่านรัฐมนตรีเรียกคนมาซ้อมเพราะไม่พอใจ แต่ท่านรัฐมนตรีก็ไม่กล้าเอาเรื่องประดับถึงโรงพักฐานพรากผู้เยาว์ เพราะกลัวจะเป็นข่าวฉาวโฉ่ ปารมีก็มาอ้อนวอนพ่อ ขอร้องให้ไว้ชีวิตประดับเพราะรักกันจริง ๆ และให้เห็นแก่ลูกในท้อง ท่านรัฐมนตรีทำอะไรไม่ได้ จำเป็นต้องเลื่อนฐานะประดับให้ขึ้นมาเป็นลูกเขย ซึ่งก็สมใจประดับทันที

กำนันบุญเริ่มหงุดหงิดหัวเสียไม่รู้จะไปพึ่งใครให้ทำงานให้ ทำให้รู้สึกขวางหูขวางตาลงไม้ลงมือกับทุกคนไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ รำพัน เมียใหม่ของกำนันและเป็นแม่เลี้ยงของ สัมฤทธิ์ ก็โดนกำนันตบตีระบายอารมณ์ เพียงเพราะรำพันปล่อยให้ ทิพย์ ลูกสาววัย 12 ที่เกิดกับกำนันบุญซึ่งเป็นปัญญาอ่อนชอบฟ้อนรำรบกวนอารมณ์กำนัน จนกำนันคิดจะส่งทิพย์ให้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้า แต่รำพันก็อ้อนวอนขอเลี้ยงไว้เพราะยังไงก็ลูก กำนันบุญเริ่มเบื่อเมียอย่างรำพันจึงหันไปสนใจคำผกา พยายามให้แก้วแหวนเงินทองปรนเปรอคำผกาทุกอย่าง ซึ่งคำผกาก็ชอบอกชอบใจเพราะเป็นคนเห็นแก่เงิน จึงใช้มารยายั่วให้กำนันหลงหัวปักหัวปำหลอกเอาทรัพย์สินเงินทอง แต่เมื่อวันที่คำผการู้ว่าประดับจะต้องแต่งงานกับปารมี และเห็นเค้าลางว่าตัวเองอาจจะถูกประดับเฉดหัวส่ง คำผกาจึงยอมตกเป็นของกำนันบุญ ใช้ความเป็นหญิงสองผัวหลอกเอาสมบัติจากกำนันอย่างไม่อายฟ้าอายดิน

กำนันบุญนึกถึงเสือแชน ลูกน้องเก่าซึ่งเมื่อ 20 ปีที่แล้วเป็นผู้ลงมือฆ่าพ่อของ ขุนเดช ให้กลับมาช่วยงานขโมยพระ เสือแชนไม่ชอบสะสมวัตถุโบราณ แต่จะชอบสะสมอาวุธโบราณ เช่น มีด หอก ดาบ เมื่อตำรวจสืบทราบจึงส่งสายตำรวจชื่อนายเหลือง เข้าไปตีสนิทโดยเอาดาบโบราณไปให้เสือแชนเพื่อสร้างความไว้วางใจ เหลืองบอกเสือแชนว่าถ้าอยากได้อีกก็ยังมีอีกเยอะ เพราะรู้แหล่งที่ฝังสมบัติอยู่ในถ้ำบนเขา เสือแชนหลงกลเชื่อจึงตามเหลืองขึ้นไปในถ้ำ เมื่อสบโอกาสเหลืองผลักเสือแชนตกลงไปก้นถ้ำ แล้วออกมาตามหมวดยงยุทธกับจ่าแท่นซึ่งรออยู่ด้านนอกเพื่อรอจับ แต่ระหว่างนั้น ขุนเดช ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในถ้ำก็ได้โอกาสล้างแค้นให้พ่อ โดยปล่อยงูจงอาจให้กัดเสือแชน แล้วใช้ดาบนิลฟันคอเสือแชนจนหลุดจากบ่า พอตำรวจเข้ามาก็เจอแต่สภาพศพของเสือแชนที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณ ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับหมวดยงยุทธว่าต้องเป็นฝีมือของ ขุนเดช แน่ ๆ

การตายของเสือแชนทำให้กำนันบุญแค้นใจมาก จึงสั่งคนไปลอบยิง ขุนเดช ขณะที่กำลังตกแต่งเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์ ขุนเดช ร่วงลงมาจากยอดเจดีย์แต่รอดตายเพราะตกลงมาในดงต้นพุทธรักษา ในขณะที่ ขุนเดช ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหมวดยงยุทธกับ จ่าแท่นก็มาตรวจที่เกิดเหตุ จ่าแท่นเจอดาบนิลของ ขุนเดช ที่ตกอยู่จึงหยิบขึ้นมาดู แต่พอชักดาบออกมาพบว่าข้างใน ไม่ใช่ดาบหักอย่างที่ ขุนเดช เอาให้ดูมาตลอด แต่มันเป็นดาบนิลที่คมกริบ จ่าแท่นตกใจมาก หรือว่าที่หมวดยงยุทธสงสัยจะเป็นเรื่องจริง แต่พอหมวดยงยุทธเดินมา จ่าแท่นรีบเก็บดาบเข้าฝักแล้วทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น จ่าแท่นรีบตามไปที่ โรงพยาบาลแล้วฝากดาบนิลให้บัวทอง เอาไปคืนขุนเดชโดยที่ยังเก็บเอาความสงสัยไว้กับตัว

ด้านกำนันบุญพอรู้ว่า ขุนเดช ยังไม่ตาย จึงได้ปรึกษาหารือกับ วงศ์ เจ้าของบ่อนพนัน ที่คอยสนับสนุนและทำงานให้กำนันบุญมาโดยตลอด ว่าจะจัดการ ขุนเดช กับพวกคนอื่น ๆ ที่ คอยขัดขวางอย่างไรดี จึงสั่งให้วงศ์รวบรวมลูกน้องไปก่อกวนสถานที่ต่าง ๆ จนสร้างความโกลาหล โดยเฉพาะกับกลุ่มนักศึกษาชายและหญิงของอาจารย์ดาราที่โดนพวกนักเลงบ่อนของวงศ์คุกคามความปลอดภัย บุกเข้าไปทำอนาจารนักศึกษาสาว ๆ เมื่ออาจารย์ดาราจะเอาเรื่อง วงศ์ก็หัวหมอใช้อิทธิพลของกำนันบุญเอาตัวรอดจากคุกจากตะรางออกมาได้ ทำให้อาจารย์ดาราไม่พอใจหมวดยงยุทธที่ปล่อยให้พวกนอกกฏหมายทำอะไรได้ตามอำเภอใจ หมวดยงยุทธเองซึ่งถูกผู้ใหญ่กดดันมาเรื่องฆาตกรฆ่าโจรก็หลุดปากสวนกลับเพราะไม่พอใจที่ถูกอาจารย์ดาราต่อว่า และคิดว่าอาจารย์ดาราเห็นด้วยกับการกระทำของวีรบุรุษบาปที่พวกชาวบ้านกำลังยกย่องเชิดชู แต่สิ่งที่มันทำก็ไม่ต่างจากอาชญากรคนหนึ่ง !!

วงศ์ย่ามใจทำเรื่องผิดกฎหมายได้โดยไม่เกรงกลัวเพราะถือว่ามีกำนันบุญและรัฐมนตรี ที่คอยหนุนหลังกำนันบุญช่วยอยู่ และเมื่อรู้เรื่องว่ามีสมบัติอยู่บนเขาจึงได้ชักชวน นางหวาด ซึ่งเป็นเมียขึ้นไปขุดสมบัติด้วยกัน เมื่อวงศ์ขุดเจอดาบทองคำส่วนหวาดเจอกำไลทองจึงดีใจพากันกลับบ้าน พอรุ่งเช้าวงศ์ถูกผีเข้าสิงเอาดาบทองคำไล่ฟันเมีย หวาดจึงต่อสู้แล้วใช้มีดฟันวงศ์จนตาย ส่วนตนเองพอฆ่าผัวตายจึงเป็นบ้าเอาดาบและกำไลทองคำหนีเข้าป่าหายสาบสูบไป

สำหรับนายสัมฤทธิ์ลูกชายของกำนันบุญ ซึ่งเคยเจอบัวทองในงานวัดจึงรู้สึกถูกตาต้องใจในความสวยของบัวทอง สัมฤทธิ์พยายามตามจีบและเอาของมีค่ามาให้บัวทองเพื่อหวังจะชนะใจ แต่บัวทองไม่เล่นด้วยแถมยังเกลียดเข้าไส้ คำผกาเองก็เกลียดบัวทองอยู่แล้วจึงเป่าหูให้สัมฤทธิ์วางแผนฉุดบัวทองมาทำเมีย สัมฤทธิ์เห็นด้วยจึงวางแผนให้ลูกน้องและ จำเริญ คนงานเก่าของขุนเดชมาช่วยฉุดบัวทองไปไว้ที่กระท่อมร้าง บัวทองเกือบจะตกเป็นของสัมฤทธิ์ โชคดีที่นางหวาดโผล่มาอาละวาดเอาดาบไล่ฟันสัมฤทธิ์ บัวทองจึงหนีหลุดไปได้ สัมฤทธิ์โกรธมากจึงยิงนางหวาดตายและเอากำไลทองมาจากนางหวาด พอตำรวจรู้เรื่องจาก หมอน้อย หมอประจำหมู่บ้านที่เป็นที่เคารพของทุกคน ซึ่งเห็นเหตุการณ์บัวทองถูกฉุดและมาแจ้งความให้ตำรวจไปช่วยบัวทอง จ่าแท่นจึงนำกำลังมาช่วยหลาน จำเริญซึ่งคอยดูต้นทางอยู่ได้ยินพวกลูกน้องของสัมฤทธิ์คุยกันว่า บัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช จึงตกใจมาก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าบัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช ซึ่งเป็นหัวหน้าเก่า สาเหตุที่จำเริญยอมทำชั่วช่วยสัมฤทธิ์ฉุดบัวทอง ทำไปเพราะอยากได้เงินไปให้แม่ที่กำลังป่วยและจะบวชทดแทนบุญคุณให้แม่ แต่พอรู้ว่าบัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช จำเริญเริ่มกลัวจึงรีบหนีไป ส่วนสัมฤทธิ์ก็เกือบโดนตำรวจจับได้ แต่ได้มา เจอ เสือเพิก เพื่อนเก่าของกำนันบุญมาช่วยไว้ แล้วพาไปอยู่ที่ซุ้มโจรด้วยกันช่วยกันออกปล้น ฆ่าชาวบ้าน แต่สัมฤทธิ์คิดชั่วอยากได้ลูกน้องของเสือเพิกมาเป็นของตัวเอง จึงหักหลังฆ่าเสือเพิกแล้วตั้งตัวเป็นหัวหน้าโจรซะเอง

หลังจากที่จำเริญกับพวกคนอื่นๆหนีตำรวจมาได้ก็มาถูก ขุนเดช ไล่ล่าฆ่าตายที่ละคน เหลือแต่จำเริญที่หนีมาบวชเพื่อทดแทนคุณแม่จนได้ เพราะกลับตัวกลับใจสำนึกผิดหวังว่าการบวชครั้งนี้นอกจากทดแทนบุญคุญแม่แล้วยังจะช่วยลบล้างความผิดที่ทำมา ขุนเดช ตามมางานบวชของจำเริญ โดยมีหมวดยงยุทธกับจ่าแท่นแอบตามมาดู ขุนเดช ว่าจะฆ่าจำเริญหรือไม่  แต่เมื่อ ขุนเดช มาเจอจำเริญที่อยู่ในผ้าเหลืองแล้วจึงอโหสิกรรมทุกอย่างให้กับจำเริญ จ่าแท่นจึงรู้สึกโล่งใจที่ขุนเดชไม่ทำอะไรวู่ว่ามลงไป

คำว่าอโหสิกรรมที่ ขุนเดช กล่าวต่อหน้าพระจำเริญทำให้ ขุนเดช เริ่มคิดได้ และการดูแลเอาใจใส่ของบัวทองในระหว่างที่ ขุนเดช พักรักษาตัวตอนที่ถูกยิง ก็ทำให้หัวใจของ ขุนเดช ที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่มีความรักให้ใครก็เริ่มอ่อนผ่อนลง เมื่อรู้ข่าวเรื่องโจรขโมยพระ ขุนเดชก็พยายามถอยและไม่ลงมือเอง แต่ส่งเบาะแสให้กับตำรวจให้เป็นฝ่ายจัดการ  จนกระทั่งมีชายเชื้อสายจีนไว้ผมเปียยาว ขายของเด็กเล่น อาศัยอยู่บนเรือ ชาวบ้านเรียกเค้าว่า จีนเปีย เข้ามาในศรีสัชฯ  ขุนเดชรู้สึกสงสัยในท่าทีมีพิรุธจึงพยายามสืบจนรู้ว่าเป็นพวกขโมยพระแล้วนำพระมาซ่อนไว้บนเรือ ขุนเดช จึงให้เบาะแสกับตำรวจจนตำรวจสามารถจับจีนเปียไว้ได้

จีนเปียถูกขังอยู่ในตะรางแต่ได้วางแผนจะแหกคุกออกไปจึงโกหกว่าหิวน้ำ ให้ตำรวจเอาน้ำมาให้ พอตำรวจเผลอจึงเอามีดเล็กที่ซ่อนอยู่ที่ผมเปียออกมาปาดคอตำรวจตายแล้วหลบหนีออกไป ตำรวจพยายามไล่ล่าจีนเปีย แต่จีนเปียก็สามารถหนีไปได้ ขุนเดช จึงต้องออกโรงด้วยตนเอง จัดการฆ่าจีนเปียแล้วนำศพมาส่งให้ที่สถานีตำรวจ

หลังจากที่สัมฤทธิ์เป็นหัวหน้าโจรปล้นฆ่าชาวบ้าน จนถูกทางการกดดันตามล่าตัว สัมฤทธิ์จึงหนีกลับมากบดานที่บ้านกำนันบุญที่ใช้อิทธิพลของตัวเองซ่อนลูกชายเอาไว้ไม่ให้ใครกล้าเข้ามายุ่ง ทางฟากรัฐมนตรีปราชญ์ที่พยายามปกปิดเรื่องลูกสาวท้องโตในวัยเรียนมาตลอด แต่เรื่องอื้อฉาวก็ไม่สามารถปกปิดได้ สาเหตุเพราะประดับทะเลาะกับปารมี เนื่องจากไปจับได้ว่าประดับไปมีอะไรกับคำผกาโสเภณีร่านราคาถูก และรู้ความจริงว่าประดับไม่เคยรักเธอเลย คิดแต่จะใช้เป็นเครื่องมือเพื่อได้เข้ามาเป็นลูกเขยรัฐมนตรี ปารมีน้อยใจประดับขับรถออกจากบ้านแล้วไปชนแม่ค้าข้างถนนตาย กลายเป็นข่าวครึกโครม ลูกสาวรัฐมนตรีท้องโตขับรถชนคนตาย ชื่อเสียงของรัฐมนตรี ปราชญเสียหายหนัก จนมีข่าวแว่วมาว่ามีสิทธิ์จะถูกถอดถอน ประดับกลัวว่าตัวเองจะเสียโอกาสถ้าไม่มีพ่อตาเป็นรัฐมนตรี จึงอาสาว่าจะทำทุกอย่างไม่ให้ท่านรัฐมนตรีหลุดจากเก้าอี้ รัฐมนตรีปราชญ์รู้มาว่าถ้าสามารถหาเครื่องชามสังคโลกโบราณที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาเป็นสินบนให้กับผู้ใหญ่ในพรรคได้ เก้าอี้ของตัวเองก็จะไม่หลุด เพราะเครื่องชามสังคโลกที่ยังสมบูรณ์และงดงามไร้ที่ติ ไม่ได้ใช่ของหากันง่าย ๆ เท่าที่มีอยู่ก็มีแต่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเท่านั้น ประดับอาสาว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เองเพราะก่อนหน้านี้ได้ข่าวจาก ทางกำนันบุญว่ามีการค้นพบเครื่องชามสังคโลกในสภาพสมบูรณ์ที่ศรีสัชฯ

ประดับเดินทางมาหากำนันบุญ ซึ่งได้ยืนยันเรื่องเครื่องชามสังคโลกว่ามีการค้นพบแล้วจริง ๆ โดยรู้มาจากลูกน้องที่เคยแอบเข้าไปลักขุดขโมยของโบราณในที่ดินของหมอน้อย และรู้ว่าหมอน้อยมีเครื่องชามสังคโลกโบราณอยู่ กำนันบุญจึงไปทาบทามขอซื้อแต่ถูกหมอน้อยปฏิเสธ หมอน้อยบอกกำนันบุญว่าได้บริจาคที่ดินรวมถึงเครื่องชามสังคโลกให้กับทางการหมดแล้วเพื่อเป็นประโยชน์แก่แผ่นดิน กำนันบุญโกรธมากจึงให้สัมฤทธิ์พาลูกน้องไปปล้นที่บ้านหมอน้อย สัมฤทธิ์ฆ่าหมอน้อย เมียและลูก รวมถึงนายชื่นคนงานเฝ้าไร่ตายทั้งบ้าน แต่โชคดีที่นายชื่นแค่บาดเจ็บ จึงมาบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพวกสัมฤทธิ์เป็นคนลงมือฆ่าหมอน้อยและครอบครัว หมวดยงยุทธบุกไปตามจับสัมฤทธิ์ที่บ้านกำนันบุญ แต่กำนันบุญรู้ตัวว่าตำรวจจะมาเพราะจับลูกชายเพราะรำพันแอบส่งข่าวให้ตำรวจรู้ว่าสัมฤทธิ์กบดานอยู่ที่บ้าน สัมฤทธิ์รอดไปได้โดยส่งให้ไปกบดานอยู่กับ นายซ้อน ลูกน้องเก่าที่ทำไร่อยู่ที่เขาพนมเพลิง ส่วนรำพันถูกกำนันบุญตบตีทำร้ายจะเอาถึงตาย ทิพย์ร้องไห้กระจองอแงเข้าไปกอดไม่ให้พ่อทำร้ายแม่ กำนันโกรธลูกสาวปัญญาอ่อนและทนรำคาญไม่ไหว คำผกายุส่งให้กำนันบุญจับลากตัวไปส่งโรงพยาบาลบ้า เพราะทนรำคาญทิพย์ที่ชอบมาทำให้เธอหงุดหงิดอารมณ์เสียอยู่บ่อย ๆ

แต่ระหว่างฉุดกระชากลากถูทิพย์สะบัดตัวหนี กำนันบุญกับคำผกาที่ช่วยกันจับตัวทิพย์อยู่เกิดพลาดท่าตกบันไดลงมาหมดสติทั้งคู่ ซึ่งในระหว่างที่หมดสติไปนั่นเอง กำนันบุญได้ฝันเห็นภาพในอดีตของตัวเองที่เคยไปลักตัดเศียรพระ และได้เจองูเห่านับเป็นสิบ ๆ ตัวเลื้อยปกป้ององค์พระ พวกลูกน้องพากันกลัวว่าเป็นงูเจ้าไม่ควรไปยุ่งหรือไปทำร้ายไม่อย่างนั้นบาปจะติดตัว แต่กำนันบุญไม่เกรงกลัวบาปกลัวกรรมเอาถังน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาฆ่างูเจ้าจนตายเกลี้ยง หลังจากนั้นไม่นานรำพันก็คลอดลูกออกมาเป็นทิพย์ ที่ตอนเกิดมีเกล็ดตามตัวเหมือนเกล็ดงู และเมื่อโตขึ้นทิพย์ก็มีอาการปัญญาอ่อนไม่สมประกอบ ส่วนคำผกาก็ฝันเห็นภาพตัวเองตอนเป็นเด็กยากจนไม่มีข้าวกิน จนต้องไปลักขโมยข้าวแม่ค้าคนหนึ่งเป็นประจำ จนวันนึงเขาจับได้และสั่งไม่ให้ขโมยอีกถ้าอยากกินก็ให้มาขอ แต่เพราะสันดานชอบลักเล็กขโมยน้อยที่ติดเป็นนิสัย เมื่อเห็นแม่ค้ามีสร้อยทองใส่ก็อยากได้จึงแอบขโมยมาเก็บไว้ เมื่อแม่ค้าจับได้คำผกาก็ผลักแม่ค้าล้มลงไปที่ถนนจนถูกรถชนตาย

เมื่อกำนันบุญกับคำผกาฟื้นขึ้นมาก็พบว่ารำพันได้พาทิพย์หนีไปแล้ว ส่วนกำนันบุญเมื่อพยายามจะลุกขึ้นก็ทำไม่ได้อย่างเหมือนก่อน เพราะแข้งขาไม่มีเรี่ยวมีแรงจะขยับไปไหนก็ต้องใช้วิธีเลื้อยเอาคล้ายกับงูที่ต้องเลื้อยไปมา หมอบอกว่าที่กำนันบุญเป็นอย่างนี้สาเหตุมาจากการตกบันไดทำให้เส้นประสาทที่ขาเสียหาย คำผกาเห็นเข้าก็รู้สึกทุเรศลูกตาไม่สนใจใยดีกำนันบุญอีก และแอบขโมยกุญแจห้องเก็บสมบัติของกำนันเพื่อเข้าไปลักเอาแก้วแหวนเงินทองของกำนัน โดยเฉพาะกับกำไลทองที่สัมฤทธิ์เอามาจากศพนางหวาด แต่เมื่อคำผกาเอากำลังมาสวม คำผกาก็มีอาการไม่ต่างจากนางหวาดที่คลุ้มคลั่ง ควงดาบออกไล่ฟันลูกน้องกำนันบุญ และหนีมาเจอประดับ คำผกาก็พยายามทำร้ายประดับ ในที่สุดก็ถูกประดับยิงตายและเก็บเอากำไลทองจากคำผกามาไว้กับตัวเอง

กำนันบุญเริ่มกังวลและคิดถึงบาปกรรมที่เคยทำไว้กับงูเจ้าในอดีต ประดับมาหากำนันบุญเพื่อขอเอาชามสังคโลกที่ได้มาจากหมอน้อย กำนันบุญยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมนอกจากเรื่องเงินแล้ว อยากจะขอให้ท่านรัฐมนตรีช่วยเหลือลูกชายให้พ้นคดี และช่วยหาหมอเก่ง ๆ มารักษาให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง เพราะเกรงกลัวว่าถ้าไอ้ ขุนเดช มันรู้ตัวเองกลายเป็นแค่ไอ้พิการ มันต้องตามมาจัดการฆ่าแก้แค้นที่เคยไปฆ่าพ่อมันแน่ ๆ ประดับเลยได้รู้ว่า ขุนเดช ศัตรูในอดีตที่เคยฝากความแค้นกันไว้นั้นตอนนี้มันก็ยังตามรังควาญเขาไม่หยุด ประดับคิดแผนการบางอย่างที่จะจัดการกับ ขุนเดช เพื่อสางความแค้น เลยทำเป็นรับปากกับกำนันบุญว่าจะจัดการตามที่ต้องการทุกอย่าง แต่พอลงจากเรือนของกำนันบุญได้ไม่เท่าไหร่ ประดับก็สั่งลูกน้องให้จัดการเผาบ้านกำนันบุญ ทรัพย์สมบัติของกำนันบุญก็สั่งให้คนขนออกมาจนเกลี้ยง ลูกน้องคนไหนที่ไม่ยอมแปรพักต์ก็จัดการฆ่าตายให้หมด แล้วใช้เลือดเขียนบนผนังเรือนว่านี่คือการ แก้แค้นของ ขุนเดช

การตายของหมอน้อยพร้อมกับครอบครัว สร้างความเสียใจให้กับทุกคนในศรีสัชฯที่ ต้องสิ้นคนดี ขุนเดช รักและเคารพหมอน้อยเหมือนญาติผู้ใหญ่จึงโกรธแค้นเป็นอย่างมากและ คิดแก้แค้นให้หมอน้อย นายซ้อนซึ่งให้ที่พักกับสัมฤทธิ์แอบมาพบกับ ขุนเดช เพื่อส่งข่าวเรื่องของสัมฤทธิ์ให้รู้ ถึงนายซ้อนจะเคยเป็นลูกน้องของกำนันบุญ แต่ตอนนี้ก็กลับตัวกลับใจแล้ว จึงขอให้ ขุนเดช ไปจัดการกับนายสัมฤทธิ์ที่เขาพนมเพลิง ขุนเดช จึงตามไปฆ่าโดยขุดหลุมพราง ให้สัมฤทธิ์ตกไปในหลุมแล้วใช้น้ำมันราดเผาสัมฤทธิ์ทั้งเป็น และยืนดูมันตายอย่างทรมาณให้สาสมกับความผิดที่เคยทำ หมวดยงยุทธตามมาพบ ขุนเดช ฆ่านายสัมฤทธิ์ซึ่งเป็นหลักฐานคาตา ยงยุทธขอให้ ขุนเดช มอบตัว เพราะตอนนี้ ขุนเดช กลายเป็นอาชญากรที่ตำรวจต้องการ หลังจากที่ไปปล้นเผาบ้านของกำนันบุญ ขุนเดช ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนไปปล้นบ้านกำนันบุญ หมวดยงยุทธและจ่าแท่นเชื่อว่า ขุนเดช ไม่ได้ทำและโดนใส่ร้าย จึงต้องขอร้องให้ ขุนเดช มอบตัวเพื่อไปพิสูจน์ความจริงกับศาล แต่ ขุนเดช ไม่ยอมมอบตัวสู้และเข้าต่อสู้กับหมวดยงยุทธจนเอาตัวรอดหนีไปได้

ที่จริงแล้วกำนันบุญยังไม่ตาย แต่ถูกประดับจับตัวเอาไว้เพื่อเรียกให้ ขุนเดช มาจัดการ โดยประดับเตรียมซ้อนแผนให้ตำรวจมาพบตอนที่ ขุนเดช ฆ่ากำนันบุญ ประดับส่งข่าวเรื่อง กำนันบุญให้ ขุนเดช รู้ผ่านทางอาจารย์ดาราว่ากำนันบุญอยู่ที่ถ้ำ พระศิลาบนเขาหลวง ที่ ๆ พ่อของ ขุนเดช ถูกฆ่าตาย อาจารย์ดาราเตือน ขุนเดช ไม่ให้ไป ตกหลุมพรางของประดับ และอาจารย์ประทีปก็เอาคำพูดของหลวงพ่อสุข ที่เคยเตือน เอาไว้พูดให้ ขุนเดช รู้ แต่ ขุนเดช ยืนยันว่าชีวิตเขาเกิดมาเพื่อปกป้องสมบัติของชาติ เขาคือทหารของพระร่วง ขุนเดช เดินทางไปที่ถ้ำศิลาและได้ พบกำนันบุญในสภาพนั่ง รถเข็นน่าเวทนา กำนันบุญขอร้อง ขุนเดช ให้ไว้ชีวิต อ้างว่าตอนนี้ตัวเองก็ไม่เหลืออะไร อีกแล้วได้รับกรรมที่เคยทำไว้แล้วอยากให้ ขุนเดช อโหสิให้ ขุนเดช ลังเลใจนึกถึงคำพูด ของหลวงพ่อสุขที่อาจารย์ประทีปบอกไว้และคำสัญญากับบัวทองว่าจะใช้ชีวิตด้วยกัน อย่างสงบ ขุนเดช คิดจะอโหสิให้กำนันบุญ แต่กลับถูกกำนันยิงเข้ากลางอกด้วยปืน ที่ซุกเอาไว้ในรถเข็น ขุนเดช ทรุดฮวบหายใจรวยรินเจ็บใจที่โดนกำนันบุญหลอก ประดับโผล่เข้ามาหัวเราะสะใจที่ ขุนเดช โดนเล่นงาน กำนันบุญอ้างว่าประดับสั่งให้ทำ ประดับเข้ามาจิกหัว ขุนเดช สมเพชเวทนาอยากเห็น ขุนเดช ตายต่อหน้าต่อตา เพราะถ้าขืนปล่อยให้ตำรวจได้ตัวไป วันนึง ขุนเดช ก็ต้องพ้นโทษออกมาอีก ประดับทิ้ง ขุนเดช ไว้ ในถ้ำกับกำนันบุญ ขุนเดช เกือบจะตายอยู่แล้วแต่ด้วยคำพูดของพ่อที่พูดถึง พระขพุงผี ผีเทวดาที่ยิ่งใหญ่กว่าเทวดาใด ๆ บนเขาหลวง ขุนเดช ก็ฮึดลุกขึ้นมา กำนันบุญจะยิง ขุนเดช ซ้ำแต่ ขุนเดช ก็ฟันฉับเข้าที่คอด้วยดาบนิล กำนันบุญคอขาดกระเด็นสาสมกับกรรมที่ทำไว้

หมวดยงยุทธกับจ่าแท่นและกำลังตำรวจตามมาที่เขาหลวงเพื่อต้องการระงับเหตุและจับตัว ขุนเดช บัวทองกับอาจารย์ดาราตามจ่าแท่นมาด้วยเพราะเป็นห่วง ขุนเดช แต่หมวดยงยุทธสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นไปที่เขาหลวง อาจารย์ดาราขอร้องหมวดยงยุทธให้ ปล่อย ขุนเดช ไป แต่หมวดยงยุทธยืนยันว่าเขาต้องทำทุกอย่างตามความถูกต้อง เพราะถ้าเขาทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องชาตินี้เขาก็คงทนมองหน้าใครไม่ได้อีก และอาจารย์ดาราก็คงจะภูมิใจในตัวเขาไม่ได้ อาจารย์ดาราน้ำตารื้นยอมเข้าใจว่าหมวดยงยุทธมีความจำเป็น จึงยอมอยู่กับบัวทองที่ตีนเขาหลวง

ขุนเดช ในสภาพที่บาดเจ็บหนักไล่ล่าตามหาตัวประดับในป่าบนเขาหลวง ประดับคิดว่าตัวเองน่าจะหาทางออกได้แต่ก็เกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ เมื่อทางออกที่เคยเดิน กลับไม่เหมือนเดิม ประดับเริ่มเดินวนเวียนอยู่ในป่าจนหลวงทาง และได้ยินเสียงหวีด ร้องน่ากลัวไปทั่วป่า ประดับยิงปืนไปทั่วเพราะคิดว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช แต่ภาพที่ประดับเห็นกลับเป็นภาพของนักรบโบราณเดินไปเดินมาอยู่รอบตัว และหนึ่งในกลุ่มนักรบโบราณก็คือ ขุนเดช ที่ยืนจังก้า ในมือถือดาบนิลที่ชักออกมาเป็นดาบคมกริบ ขุนเดช ตวัดดาบเข้าสู้กับประดับและใช้มันเสียบทะลุหัวใจของประดับจนตายคาที่ จ่าแท่นกับหมวดยงยุทธตามมาพบ ขุนเดช ในสภาพหายใจรวยริน ขุนเดช บอกหมวดยงยุทธว่าเสียใจที่ให้หมวดจับเข้าคุกไม่ได้ เพราะคงสิ้นลมหายใจอยู่ที่เขาหลวงแห่งนี้ ขุนเดช ขอร้องหมวดยงยุทธว่าปล่อยให้เขาตายอยู่ที่นี่ จะได้เป็นผีเฝ้าสมบัติของบรรพบุรุษจากพวกใจบาป ขุนเดช แน่นิ่งไปต่อหน้าต่อตาหมวดยงยุทธ

รัฐมนตรีปราชญ์มาที่สุโขทัยเพื่อรับถ้วยชามสังคโลกที่ประดับเก็บไว้ให้ เมื่อนักข่าวถามถึงเรื่องของประดับที่ไปเกี่ยวข้องกับพวกค้าวัตถุโบราณ ท่านรัฐมนตรีด่าประดับว่าเป็นพวกสารเลวและเพิ่งรู้เห็นความเลวของมันเหมือนกันสาสมที่มันตายซะได้แถมยังรับปากกับประชาชนว่าจะกวาดล้างพวกขายสมบัติชาติให้สิ้นซาก แต่ครั้นเมื่อท่านรัฐมนตรีกลับมาถึงบ้านก็พบว่าประดับได้ส่งของขวัญมาให้ปารมี โดยสั่งให้ลูกน้องเอามาให้ก่อนที่ประดับจะตาย ปารมีเปิดกล่องของขวัญออกมาพบว่าเป็นกำไลทอง ปารมีเห็นว่าสวยดีจึงสวมกำไลทอง เข้าไปแล้วก็เกิดอาการคุ้มคลั่ง ลุกขึ้นมาไล่ทำร้ายรัฐมนตรีปราชญ์จนตกบันไดคอหักตายคาที่ ส่วนปารมีก็กลายเป็นบ้าเดินเพ้อละเมอว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงหายออกจากบ้านไป

หมวดยงยุทธกับจ่าแท่นและชาวบ้านทุกคนร่วมกันจัดงานเผาศพให้ ขุนเดช ทุกคนมาร่วมงานศพ บัวทองยืนร้องไห้เสียใจ แค้นที่คนดี ๆ อย่าง ขุนเดช ต้องมาตายเพราะฝีมือคนชั่ว บัวทองเสียใจมากจึงได้เดินหลบออกไป จ่าแท่นเดินตามมาแล้วเล่าความจริงให้บัวทองฟังว่า ขุนเดช ยังไม่ตาย ตอนนี้หลบพักรักษาตัวอยู่ และเป็นความตั้งใจของหมวดยงยุทธที่จะให้ทุกคนเข้าใจว่าวีรบุรุษบาปอย่าง ขุนเดช ได้ตายจากไปแล้ว บัวทองดีใจเมื่อรู้ดังนั้น จึงพาแม่ไปอาศัยอยู่กับ ขุนเดช ไปปลูกไร่ ไถ่นาอยู่กันตามประสาอย่างมีความสุข โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ว่า ขุนเดช ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนหมวดยงยุทธได้เลื่อนยศขึ้นเป็น ผู้การที่จังหวัดสุโขทัยและได้แต่งงานกับอาจารย์ดารา ทุก ๆ วันหมวดยงยุทธมักจะยืนมองโบราณสถานที่ยังทรงคุณค่า และนึกขอบใจ ขุนเดช ที่เสีย สละตัวเองเพื่อปกป้องสมบัติและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ให้อยู่สืบไป….. ติดตามชม ละครขุนเดช

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ขุนเดช

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์   รับบท   ขุนเดช
ศุกลวัฒน์ คณารศ   รับบท   ร.ต.ท.ยงยุทธ
อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล   รับบท   บัวทอง
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข   รับบท   อาจารย์ดารา
สุรวุฑ ไหมกัน   รับบท   กำนันบุญ สุโขทัย
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์   รับบท   ประดับ (ลูกเขยปราชญ์)
อุษณีย์ วัฒฐานะ   รับบท   คำผกา
ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์   รับบท   ปารมี (ลูกรมต.)
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์   รับบท   สัมฤทธิ์ (ลูกบุญ)
เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์   รับบท   รัฐมนตรีปราชญ์
ภารดี อยู่ผาสุข   รับบท   คุณหญิง
วันชัย เผ่าวิบูลย์   รับบท   อาจารย์ประทีป
วินัย ไกรบุตร   รับบท   เดื่อง (พ่อขุนเดช)
รชยา รักษ์กสิกรณ์   รับบท   คำปัน (แม่บัวทอง)
วีระชัย หัตถโกวิท   รับบท   จ่าแท่น (ลุงบัวทอง)
ธนา สินประสาธน์   รับบท   เถิน (พ่อดารา)
ตฤณ เศรษฐโชค   รับบท   หมอน้อย
น้ำทิพย์ เสียมทอง   รับบท   มะลิ
ประถมาภรณ์ รัตนภักดี   รับบท   สาลี่
ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง   รับบท   หลวงพ่อสุข
ยอดชาย เมฆสุวรรณ   รับบท   หลวงลุง
ฆนัท นาคถนอมทรัพย์   รับบท   อาจารย์ดำรง
พิพัฒน์พล โกมารทัต   รับบท   ฮวด
ปริษา ทนาวิวัฒน์   รับบท   รำพัน (เมียใหม่บุญ)
ณปภัช วรพฤทธานนท์   รับบท   ทิพย์ (ลูกรำพันบุญ)
พชร กระต่ายทอง   รับบท   เปี๊ยะ (น.ศ.)
ชญานี ธิติ   รับบท   กบ (น.ศ.)
ธัชพร วาจา   รับบท   หยิน (น.ศ.)

รายชื่อนักแสดงรับเชิญ

สุรพันธุ์ ศรีวิลัย   รับบท   เสือเพิก (เพื่อนเก่า)
ณรงค์ เจนครองธรรม   รับบท   เสือชิด (ลูกน้อง)
ยุพข่าน ดัสกร   รับบท   เสือแชน (ลูกน้อง)
ณรัฐ พัฒนาพงศ์ชัย   รับบท   ลูกน้องประดับ
เนรัญ ศรีสันต์   รับบท   ลูกน้องกำนันบุญ
ชมวิชัย เมฆสุวรรณ   รับบท   ลูกน้องสัมฤทธิ์
จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ   รับบท   เถร
เวนซ์ ฟอลโคเนอร์   รับบท   เปรื่อง อยุธยา
พงศนารถ วินศิริ   รับบท   ผู้ใหญ่น่วม
รอน สมูเรนเบิร์ก   รับบท   แจ๊ค
โอลิเวอร์ บีเวอร์   รับบท   วงศ์
ณรงค์ฤทธิ์ ป้อมภู่   รับบท   จำเริญ
นิมิตร ทยานุวัฒน์   รับบท   จีนเปีย
ธนัช ศรีบรรจง   รับบท   ตากล้ำ (พ่อเถร)
พจนี ใยละออ   รับบท   ยายแช่ม (แม่เถร)
จิณณะ จอมขันเงิน   รับบท   น้ำ (ลูกน่วม)
ปวารา อภิพูนลาภ   รับบท   หวาด (เมียวงศ์)
โชคดี พักภู่   รับบท   ชื่น (คนงานหมอน้อย)
อิทธิกร สาธุกรรม   รับบท   ซ้อน เขาพนมเพลิง

อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง

พ่อขุนรามคำแหง ปกครองบ้านเมืองดุจพ่อปกครองลูก วัน หนึ่งพระองค์ได้พบชายแปลกหน้ามาที่โบสถ์ ประธานด้วยท่าทางน่าสงสัย เหมือนว่าจะกลัวถูกจับ พระองค์จึงมั่นใจว่ามิใช่ราษฏรของพระองค์แน่นอน จึงแอบซ่อนตัวอยู่เพื่ออยากรู้ว่าชายคนนี้มาที่นี่เพื่ออะไร

ชาย คนนี้มีชื่อว่า สามศร บุตรของขุนสามชน เจ้าเมืองฉอดที่ถูกพ่อขุนรามคำแหงตีทัพพ่ายไป และจากการทำยุทธหัตถีครั้งนั้นทำให้ขุนสามชนเสียชีวิตกลางป่า เหลือแต่ภรรยาและลูกชายที่มีอายุเพียง 9 ปี โดยหนีไปอาศัยอยู่กับ ครูดาบ ที่เมืองเมาะลำเลิง (เมืองมอญ) นาน 12 ปี ด้วยความแค้นของสามศรจึงเริ่มฝึกฝนฟันดาบจนเก่งกาจ เพื่อตั้งใจจะมาปลงพระชนม์พ่อขุนรามคำแหง

เรื่องราวของสามศรได้ถูกเปิดเผยจากปากของเขาเอง เมื่อถูกทหารจับตัวไว้ได้ขณะจะเข้าทำร้ายพ่อขุนรามคำแหง แม้ว่าสามศรจะถูกจับได้ แต่ก็ไม่ร้องขอชีวิตสักนิด พ่อขุนรามคำแหงเห็นว่า สามศรนั้นเก็บความลับได้ดี แถมยังเป็นคนกตัญญูรู้คุณคน น่าจะเป็นกำลังของพระองค์ได้ จึง ทรงไว้ชีวิตและจะเลี้ยงดู การคิดเช่นนี้พ่อขุนรามคำแหงถูกเหล่าทหารทัดทานมาโดยตลอด แต่พระองค์กลับไม่สนใจในคำทัดทานนี้เลย เวลาผ่านไป สามศรกลายเป็นคนโปรดของพ่อขุนรามคำแหง

 

อยู่มาวันหนึ่งพระองค์ทรงทราบว่า พระธิดากาบแก้ว ได้ทรงหนีตาม มะกะโท ไปในระหว่างที่พระองค์กำลังไปทำศึกสงคราม มะ กะโทเคยเป็นเด็กเลี้ยงช้าง พ่อแม่ตายหมด พ่อขุนรามคำแหง จึงนำมาชุบเลี้ยงไว้จนเป็นที่โปรดปราน แต่แล้วมะกะโทก็ทำร้ายพระองค์อย่างแสนสาหัส ทั้งคู่ถูกจับ ได้ต่างยอมรับผิดทุกประการและพระธิดาก็ทรงขอพระราชทานอภัยโทษเพื่อให้ พระองค์เห็นแก่ความรักของลูกทั้งสอง ในที่สุดพ่อขุนรามคำแหงทรงพระราชทานอภัยโทษให้ด้วยทรงเห็นว่าทุกคนคือลูก พ่อต้องให้อภัยลูกได้เสมอ แม้ลูกจะทำความผิดก็ตาม

อย่าง ไรก็ตามพ่อขุนรามคำแหงก็ยังถูกคัดค้านจากเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามศรที่เห็นว่ามะกะโททำทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ของตนเองมากกว่า ด้วยความคิดนี้ทำให้สามศรถูกเหล่าขุนนางเข้าใจผิดคิดว่าสามศรน้อยใจที่ พระองค์ไม่ได้แต่งตั้งให้มีฐานันดรเทียบเท่ามะกะโท เหล่าขุนนางจึงกราบทูลให้สามศรไปเป็นพ่อเมืองที่ห่างไกลยังถิ่นทุรกันดารและ ที่สำคัญกลัวสามศรจะกระทำเยี่ยงมะกะโท คือพาเจ้าหญิงเบญจมาศ หนีตามกันไป เพราะรู้ว่าทั้งสองรักใคร่กัน พระองค์จึงคิดหาวิธีป้องกันไว้ก่อน โดยพระราชทานเจ้าหญิงเบญจมาศแก่สามศร แต่สามศรกลับปฏิเสธ เพราะคิดว่าพ่อขุนรามคำแหงคิดจะกำจัดเขาให้สิ้นซึ่งเป็นการเข้าใจผิด อีกทั้งความรักของสามศรที่มีต่อเจ้าหญิงก็เป็นความรักบริสุทธิ์ที่ไม่ได้ ต้องการสิ่งตอบแทน ซึ่งความรักหนุ่มสาวของสามศรยังน้อยกว่าความรักประเทศชาติเสียอีก พ่อขุนรามคำแหงทรงเริ่มเข้าใจในความรักของสามศร และก็ยังให้สามศรอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเบญจมาศอยู่ดี

 

ในคืนวันแต่งงานสามศรก็ตั้งใจว่าจะยังไม่ร่วมหอลงโลงกับเจ้าหญิง ถ้ายังไม่สามารถทำภารกิจเพื่อประเทศชาติได้สำเร็จ นั่น ก็คือการไปตีแคว้นศรี วิชัยและแคว้นนครศรีธรรมราช ให้มารวมเป็นปึกแผ่นกับประเทศไทย เพราะรู้ว่าพ่อขุนรามคำแหงต้องการสองแคว้นนี้ สามศรจึงอยากทำให้สำเร็จจะได้นำมาเป็นบรรณาการแด่พ่อขุนรามคำแหง เมื่อเจ้าหญิงทรงทราบก็รู้สึกเสียพระทัย ทรงคิดว่าสามศรไม่รักพระองค์ แต่เมื่อฟังเหตุผลทั้งหมดจึงทรงยินยอมให้สามศรทำตามแผนการที่ตั้งไว้ แต่เจ้าหญิงทรงขอติดตามไปช่วยรบเพื่อบ้านเมืองของตนด้วย และเจ้าหญิงทรงทิ้งจดหมาย(เขียนจดหมาย) ให้พ่อขุนรามคำแหงได้ทรงทราบเรื่องราวทั้งหมด

เมื่อ เวลาผ่านไปชาวเมืองนครศรีธรรมราชที่อยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นศรี วิชัย เริ่มเห็นความผิดปกติของบ้านเมือง ทหารศรีวิชัยถูกลอบฆ่าเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เริ่มแข้งข้อไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติของเจ้าเมืองศรีวิชัยอีกต่อไป เจ้าเมืองศรีวิชัยโกรธมากจึงสั่งข้าหลวงจับกุมตัวเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชมา กักขังไว้ แล้วเจ้าเมืองศรีวิชัยได้แต่งตั้งข้าหลวงศรีวิชัยขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทน
พ่อ ขุนรามคำแหงทรงเดินทางมาประทับที่เมืองเพชรบุรี เพื่อรอฟังข่าวการศึกของสามศร โดยเจ้าหญิงเบญจมาศได้ทรงเดินทางมาทูลเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พระองค์ทรง ทราบว่า ขณะนี้สามศรได้ยึดเมืองนครศรีธรรมราชได้สำเร็จแล้ว และรอให้พ่อขุนรามคำแหงมาเป็นทัพใหญ่ในการรบกับแคว้นศรีวิชัยด้วยพระองค์เอง ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงก็ทรงตั้งพระทัยเช่นนั้น แต่ก่อนที่จะเสด็จออกรบ เจ้า เมืองเพชรบุรีได้กราบทูลว่าทางเกาะลังกามีพระพุทธสิหิงค์รูปงามน่าเคารพบูชา โดยใคร่อยากให้พ่อขุนรามคำแหงส่งพระราชสาส์นเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้า กรุงลังกา  พ่อขุนรามคำแหงทรงเห็นชอบเลยมีรับสั่ง ให้เจ้าเมืองเพชรบุรีดำเนินการด่วน และในที่สุดประเทศไทยก็ได้ขยายปึกแผ่นตามความปรารถนาของพ่อขุนรามคำแหง ส่วนสามศรก็สามารถทำการณ์ที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ

ชาว เกาะลังกาก็ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาถวายพ่อขุนรามคำแหง และพระองค์ก็ได้ประดิษฐานไว้บนแท่นหน้าเมืองกรุงสุโขทัย เพื่อให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินได้เคารพบูชากันทุกคน ดังจารึกที่ว่า “ในน้ำมีปลา นามีข้าว แผ่นดินของเรา นี่แสนอุดมสมบูรณ์ บ้านเมืองราบคาบ ด้วยอานุภาพพ่อขุนรามคำแหงค้ำจุนให้ชาติไทยไพศาล”

รายชื่อนักแสดง อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง

ณัฐวุฒิ  สกิดใจ   แสดงเป็น พ่อขุนรามคำแหง
ศุกลวัฒน์  คณารศ  แสดงเป็น สามศร
วรัทยา  นิลคูหา  แสดงเป็น เจ้าหญิงเบญจมาศ
ชนะพล  สัตยา   แสดงเป็น มะกะโท
อุษามณี  ไวทยานนท์  แสดงเป็น พระธิดากาบแก้ว
เคลลี่  ธนะพัฒน์  แสดงเป็น ขุนสามชน
จีรนันท์  มะโนแจ่ม  แสดงเป็น มเหสี
ภานุ  สุวรรณโณ  แสดงเป็น เสนาบดีศรีวิชัย
รังสิโรจน์  พันธุ์เพ็ง  แสดงเป็น พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
อานัส  ฬาพานิช  แสดงเป็น ฝ่ายเจ้ากรุงลังกา
วัชรบูลย์  ลี้สุวรรณ  แสดงเป็น ฝ่ายเจ้ากรุงลังกา
ฉลอง  ภักดีวิจิตร  แสดงเป็น พระเจ้ากรุงลังกา ในละคร อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง

สายน้ำสามชีวิต

สุกรม พลทหารเรือที่ใฝ่ฝันอยากเป็นฝีพายเรือราชพิธี มีเพื่อนรักคือ อาเต็ง พ่อค้าขายไอติม อาเต็งต้องสูญเสียพ่อจากการปิดตลาดปล้น สุกรมจึงพาอาเต็งเข้ากรุงเทพฯ มาพายเรือขายโอเลี้ยง จนสุกรมได้เจอกับ แก้วประยงค์ ลูกสาวคหบดีที่เป็นดั่งน้ำทิพย์กลางดวงใจ แต่พ่อและแม่จับแก้วประยงค์คลุมถุงชน สุกรมมีโอกาสช่วยแก้วประยงค์หนีเพราะแก้วประยงค์เข้าใจผิดว่าสุกรมคืออาเต็ง ที่นัดให้พายเรือมารับ ทั้งหมดหนีไปบ้าน แต้ว แฟนอาเต็งแม่ค้าขายปลาช่อน ที่นั่นแก้วประยงค์ได้มีโอกาสซึมซับความงดงามของชีวิตท้องทุ่งก่อนจะกลับมา ถูกกักขังอีกครั้ง สุกรมถูกพ่อของแก้วประยงค์สั่งให้คนมาทำร้ายจนแขนหักไม่สามารถลงเรือเป็น ฝีพายได้ ไม่เพียงสุกรมที่สูญเสียความฝันแต่พ่อของเขาก็ผิดหวังจนตรอมใจตาย สุกรมทิ้งความหลังและมุมานะทำงานจนร่ำรวยไปขอแต่งงานกับแก้วประยงค์ได้ แต่อาเต็งกลับไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำธุรกิจของเพื่อน สุกรมกับอาเต็งผิดใจกันอย่างหนัก อาเต็งและแต้วขอแยกตัวไปขายข้าวที่ริมน้ำโขง สุกรมคลุ้มคลั่งที่เพื่อนรักไม่เข้าใจจึงเผาเรือ แก้วประยงค์ฝ่ากองไฟเข้าไปหยิบพายจนเกือบแท้งลูก สุกรมหันหลังให้สายน้ำแห่งอดีตและเริ่มต้นใหม่ในฐานะพ่อค้าที่ร่ำรวย
 
เวลาผ่านไป 20 ปีเส้นทางของแม่น้ำสามสายก็มาบรรจบกันเมื่อ เจ้าพระยา ลูกชายของสุกรมและ โขงเข้ม ลูกชายของอาเต็ง เป็นนักศึกษร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน และเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับ สาละวิน ชายหนุ่มทั้ง 3 มีแม่น้ำสายเล็กๆ คือ น้ำอิง ที่เป็นศูนย์กลางจิตใจของกลุ่มเพื่อน โขงเข้มไม่ถูกชะตากับเจ้าพระยาเพราะต่างคนต่างมีความเก่งในตัวเอง โขงเข้มเป็นคนใจเร็วต่างจากเจ้าพระยาที่สุขุม ส่วนสาละวินเป็นคนร่าเริง เจ้าพระยาห่วงใยน้ำอิงแต่น้ำอิงกลับหลงเชื่อความเป็นสุภาพบุรุษของ วิสันธร จนถูกหลอกมอมยาถ่ายภาพเปลือย สาละวินและเจ้าพระยาไปช่วยไว้ทันและสัญญาว่าจะปิดเป็นความลับชั่วชีวิต เพราะเห็นแก่จิตใจที่บอบบางของน้ำอิง เจ้าพระยาชอบไปหาอาเต็งพ่อของโขงเขคุยกันถูกคอเรื่องข้าวและเรือ ในขณะที่โขงเข้มไม่เคยสนใจและมุ่งแต่ทำธุรกิจ จนอาเต็งรู้ว่าเจ้าพระยาคือลูกของสุกรม เจ้าพระยาถามถึงประวัติของพ่อที่ถูกปิดตาย แต่อาเต็งไม่ยอมเล่าและให้ที่อยู่ของ นิมิต คนสนิทของสุกรม เจ้าพระยาจึงได้รู้ที่มาของพ่อว่าร่ำรวยจากการโกง สองพ่อลูกทะเลาะกันเพราะสุกรมไม่สนใจเรื่องเรือหรือสายน้ำที่ลูกชายรัก สุกรมจะเผาเรือที่เจ้าพระยาต่อทิ้ง แต่ไม่ที่ค้ำเรือหักทับลงกลางตัวสุกรม สุกรมเป็นอัมพาตครึ่งล่าง เมื่อนึกถึงอดีตสุกรมก็ขอพายจากแก้วประยงค์มาพายท่านกบินและเห่เรือบทชมไม้ ซึ่งหมายถึงแก้วประยงค์จนสิ้นลมต่อหน้าเมียและลูก เจ้าพระยาสะเทือนใจมากและรู้ว่าความฝังใจของพ่อคือเรื่องเรือและสายน้ำ
 
พอเรียนจบโขงเข้มขอแต่งงานกับน้ำอิง เจ้าพระยาได้แต่ยินดีกับความรักของทั้งคู่และมุ่งมั่นไปทำข้าวปลอดสารพิษ พลิกฟื้นแผ่นดินและสายน้ำด้วยเกษตรอินทรีย์ แต่โชคร้ายที่สาละวินเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวต้องการเงินจำนวนมากในการรักษา ตัว น้ำอิงหาทางช่วยแต่สาละวินสละโควต้าการได้ยารักษาฟรีให้กับเด็ก สาละวินนั่งสมาธิจนกาอาการทุเลาจึงตัดสินใจออกบวชเป็นพระนักพัฒนา และจำวัดอาศัยอยู่ใกล้กับเจ้าพระยา เจ้าพระยาฟื้นฟูการพึ่งพาตนเองในชุมชนแต่ก็ถูกต่อต้านจากชาวบ้าน มีเพียง เบนซิน และเบญทราย นักวิชาการเกษตรสองพี่น้องที่คอยช่วยเหลือ เจ้าพระยาจัดตั้ง กลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างจิตสำนึกสาธารณะ และตั้งคำถามกับทุกคนว่า ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ เราใช้หมดแล้ว มนุษย์ฉกฉวยความอุดมสมบูรณ์ไปจากดิน ตอนนี้ต้องซื้อความสมบูรณ์ใส่ลงไปในดินในน้ำเท่าไหร่จึงจะพอ เจ้าพระยาไปหาอาเต็งบ่อยๆ เพื่อขอคำแนะนำเรื่องข้าว ตรงข้ามกับเส้น ทาง ชีวิตของโขงเข้มที่โลดแล่นในฐานนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง จนไม่มีเวลาให้น้ำอิงเจ้าพระยาจึงได้แต่คอยปลอบใจน้ำอิงโขงเข้มมีคู่ค้าคือ สริน ภรรยาเก่าของวิสันธร สรินหลงรักโขงเข้มและได้เห็นรูปเปลือยของน้ำอิงในห้องวิสันธรก็รีบเอามาให้ โขงเข้มดู โขงเข้มโกรธมากและรื้อฟื้นเรื่องเก่ามาถามน้ำอิงอับอายมาก เจ้าพระยาขอให้โขงเข้มหยุดพูดยิ่งทำให้เพื่อนสองคนผิดใจกัน โขงเข้มเครียดมากจนป่วยทำให้ธุรกิจทรุด น้ำอิงคอยเป็นกำลังใจให้ เจ้าพระยแต่มองภาพความรักความผูกพันของโขงเข้มกับน้ำอิงอย่างเจ็บปวด โขงเข้มลงทุนกับนักธุรกิจหลายประเทศเพื่อซื้อที่ดินรอบๆ หมู่บ้านที่เจ้าพระยาทำเกษตรอินทรีย์ สาละวินขอบิณฑบาตที่ดินแต่ก็ไม่เป็นผล ความบาดหมางของเพื่อนรุนแรงขึ้นเมื่อโขงเข้มขอให้น้ำอิงมีลูก น้ำอิงจึงเอ่ยปากขอแลกลูกกับที่ดิน 97 ไร่ของเจ้าพระยา แต่เจ้าพระยาบอกว่าจะมีประโยชน์อะไรเมื่อที่ดินล้อมรอบพันกว่าไร่ที่ อุตส่าห์พลิกฟื้นมาหลายปีถูกขายไปหมดแล้ว โขงเข้มเข้าประชุมเรื่องเศรษฐกิจ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง และเพิ่งมองเห็นหายนะที่มากับความเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ เจ้าพระยาขอคุยกับโขงเข้มเรื่องอนาคตข้าวหอมมะลิไทยที่กำลังจะถูกจีนตีตลาด ด้วยข้าว เชาไทหมี่ ที่แปลว่า เหนือพันธุ์ข้าวไทย ในขณะที่กำลังสับสนโขงเข้มเจอข่าวร้ายว่า แต้ว แม่ชาวนาของตัวเองกำลังจะตาย แต้วเสียดายที่ไม่ได้อยู่เห็นหน้าหลานจึงปลดสร้อยข้อมือรูปเม็ดข้าวให้กับ โขงเข้ม โขงเข้มร้องไห้และขอโทษที่ไม่เคยยอมรับว่าแม่เป็นชาวนา โขงเข้มรีบไปหาเจ้าพระยาเพราะตัดสินใจแล้ว แต่ไม่ทันที่คนร้ายลอบยิงเจ้าพระยา โขงเข้มเอาตัวขวางกระสุนแทน โขงเข้มกำรวงข้าวและวางมือน้ำอิงไว้บนอุ้งมือของเจ้าพระยา พระสาละวินสลดใจกับชะตากรรมของเพื่อน จุดจบของแม่น้ำสามสายจะบรรจบกันอีกครั้งเช่นไร ติดตามได้ในละคร สายน้ำสามชีวิต
 
รายชื่อนักแสดง สายน้ำสามชีวิต
 
ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบท เจ้าพระยา
วรัทยา นิลคูหา รับบท น้ำอิง
ธนา สุทธิกมล รับบท โขงเข้ม
วงศกร ปรมัตถากร รับบท สาละวิน
ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท สุกรม
ธาวิน เยาวพลกุล รับบท อาเต็ง
เขมนิจ จามิกรณ์ รับบท แก้วประยงค์
ไปรยา สวนดอกไม้ รับบท แต้ว
นพพล พิทักษ์โล่พานิช รับบท วิสันธร

ปิ่นอนงค์

เพียงเพราะคำว่าบุญคุณ ทำให้เธอต้องยอมทำทุกอย่าง เพื่อตอบแทนผู้ชุบเลี้ยง ด้วยการยอมมอบกายและหัวใจ ให้กับชายแปลกหน้าที่ร้ายกว่าซาตาน
 
ภายใน “ไร่ไพศาล” หรือ “ไพศาลรีสอร์ต แอนด์ ฟาร์ม” อาณาจักรฟาร์มวัวนมอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยแห่งนี้ คือบ้านที่ให้กำเนิดทารกน้อยผู้มีชาติกำเนิดต้อยต่ำนามว่า “ปิ่นอนงค์” (พีชญา วัฒนามนตรี) ปิ่นอนงค์เป็นเพียงลูกสาวของ นางอุ่นเรือน (สินิทรา บุญยศักดิ์) แม่บ้านของ คุณนายครองสุข (อภิรดี ภวภูตานนท์) ผู้ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านละแวกนั้นว่าเป็นแม่มดร้ายแห่งไร่ไพศาล เพราะคุณนายมีนิสัยเอารัดเอาเปรียบเรื่องค่าแรง เห็นแก่ตัว และร้ายกาจกับคนงานลูกน้องในไร่ รวมไปถึงชอบจิกใช้ปิ่นอนงค์และอุ่นเรือนเหมือนทาสในเรือนเบี้ย ด้วยถือว่าพ่อของตัวเองชุบเลี้ยงนางอุ่นเรือนมาแต่เด็ก หนำซ้ำครองสุขก็ยังช่วยส่งเสียปิ่นอนงค์ให้เรียนจนจบปริญญาตรี จนกระทั่งครองสุขเข้ามาอยู่เป็นภรรยาใหม่ของคุณไพศาล ธำรงรัตน์ (สมภพ เบญจาธิกุล) เจ้าของไพศาลรีสอร์ตแอนด์ฟาร์ม ครองสุขก็ยังหนีบเอาอุ่นเรือนติดสอยห้อยตามมาอยู่ด้วยกัน
 
อุ่นเรือนจึงจงรักภักดีต่อคุณนายเป็นอย่างมาก และสั่งสอนให้ปิ่นอนงค์ ลูกสาวให้เชื่อฟังคุณนายทุกเรื่อง และคอยรับใช้ ทรรศนะ (ศุภกิจ บัวงาม) หลานชาย และ ทัศนีย์ (ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) หลานสาวของคุณนาย ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นลูกติดจาก นายผา (วิทิต แลต) สามีเก่าที่ติดคุกอยู่ ตั้งแต่เด็กทรรศนะเอ็นดูปิ่นอนงค์มาก คอยดูแลเอาใจใส่ปิ่นอนงค์ตั้งแต่เด็กจนโต และได้ให้คำสัญญาว่าจะแต่งงานกับปิ่นอนงค์เพียงคนเดียว เมื่อทรรศนะต้องจากไปเรียนต่อยังต่างประเทศ ปิ่นอนงค์จึงเฝ้านับวันรออย่างเหงาหงอย โดยมีจินตนา (อรัชมน รัตนวราหะ) เพื่อนสนิทสมัยเรียนวิทยาลัยเกษตรที่ทำงานเป็นปศุสัตว์อำเภอคอยปลอบใจ แต่แล้ววันหนึ่ง ชายแปลกหน้าก็ได้หลงเข้ามาในชีวิตหญิงสาว จนทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
 
ในคืนนั้นปิ่นอนงค์เฝ้าบ้านอยู่เพียงคนเดียว เพราะแม่ป่วยต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนคุณนายครองสุขก็เดินทางไปต่างจังหวัดกับเพื่อน จู่ๆ ก็มีผู้ชายรูปร่างล่ำสัน หน้าตาคมคายปีนเข้ามาในห้อง และบังคับข่มขู่ให้ปิ่นรักษาแผลถูกยิง ด้วยความเป็นคนเมตตาหญิงสาวจึงยินยอมปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แต่โดยดี ระหว่างนั้นคนสวนและตำรวจตามหาคนร้ายมาเคาะประตูเรียก ปิ่นอนงค์แม้จะรู้จากตำรวจว่ามีเหตุฆ่าชิงทรัพย์ในละแวกใกล้ฟาร์ม แต่หญิงสาวก็ตั้งใจช่วยปกปิดให้ชายแปลกหน้าหนีรอดการจับกุมของตำรวจไปได้ แต่ก่อนจากไปชายลึกลับผู้นั้นกลับฝากรอยจูบแรกไว้ให้กับปิ่นอนงค์เป็นการตอบแทน
 
วันรุ่งขึ้น เมื่อปิ่นอนงค์ขึ้นไปพบครองสุข ก็ถึงกับตกตะลึง เพราะชายแปลกหน้าที่เธอช่วยไว้คือ คุณชาลิต หรือใหญ่ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ทายาทคนเดียวของคุณไพศาล เจ้าของไร่ไพศาล ซึ่งหายสาบสูญไปนานนับสิบปี จนทำให้หลายคนเข้าใจว่าใหญ่ได้ตายไปจากโลกนี้แล้ว
การปรากฏตัวของใหญ่ทำให้คุณนายครองสุขแทบหัวใจวาย เพราะนั่นหมายถึงว่ามรดกทั้งหมดที่ตัวเองครอบครองอยู่ ต้องตกเป็นของทายาทตัวจริงทั้งหมดตามที่พินัยกรรมระบุไว้อย่างชัดเจนก่อนที่พ่อของใหญ่จะเสียชีวิต ซึ่งคุณนายและหลานชาย หลานสาว ซึ่งแท้จริงเป็นลูกชายและลูกสาวแต่คุณนายปกปิดความจริงไว้ จะกลายเป็นเพียงผู้อาศัยทันที ครองสุขจึงต้องหาช่องทางที่จะกำจัดใหญ่ให้หลุดจากกองมรดกให้ได้ คุณนายครองสุขจึงให้ธีระ (อรุชา โตสวัสดิ์) ผู้จัดการไร่ ชู้รักคนล่าสุดที่คุณนายไว้เนื้อเชื่อใจที่สุดไปแจ้งความจับใหญ่ในข้อหาฆ่าคนตาย
 
ย้อนกลับไปในอดีต ใหญ่ในวัย 16 ปี แอบเห็นครองสุขทะเลาะกับผา สามีเก่าซึ่งออกจากคุกมารีดไถเงินอยู่บ่อยๆ ใหญ่ไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร และไม่รู้ว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร ใหญ่เห็นผู้ชายคนนั้นเอามีดออกมาขู่คุณนาย ใหญ่จึงคิดเข้าไปช่วยเหลือ เกิดการยื้อแย่งมีดกัน จนมีดแทงท้องผู้ชายคนนั้นล้มลง ใหญ่ตกใจมาก คุณนายกลัวความแตกเลยบอกให้ใหญ่หนีไปให้ไกลๆ โดยอ้างว่าใหญ่ฆ่าคนตาย แล้วอย่ากลับมาอีกไม่อย่างนั้นติดคุกแน่ ใหญ่หลงเชื่อ จึงหลบหนีไป
 
ผาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และให้การว่าตัวเองมาสมัครเป็นคนงานกับคุณนาย แต่โดนใหญ่หาว่าเป็นโจรและทำร้ายผาจนบาดเจ็บ คุณนายกลัวว่าความลับเรื่องผาและตัวเองจะถูกเปิดเผย จึงล่อผาออกมาแล้วเอารถไล่ชนจนตาย ส่วนใหญ่ด้วยความเป็นเด็กคิดว่าผู้ชายคนนั้นตายแล้ว กลัวติดคุกไม่กล้ากลับบ้าน จึงหนีเตลิดไปซ่อนตัวอยู่กับปลอด (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ลูกน้องเก่าของไพศาลที่ไปเป็นนายเหมืองทางใต้ และเมื่อใหญ่โตเป็นหนุ่มจึงขอให้ปานเทพ (ภาณุ สุวรรโณ) หรือปั่น ลูกชายของปลอดซึ่งเรียนจบทนายความลงไปสืบเรื่องคดีเก่า จนได้ความจริงมาว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ตายเพราะโดนแทง แต่ตายจากการโดนรถชน ด้วยเหตุนี้ใหญ่จึงตัดสินใจกลับมาที่บ้านพ่ออีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อ
คุณนายครองสุขเองก็หวาดกลัวความจริงตรงนี้เช่นกัน เพราะตัวเองแอบใส่ยาให้สามีวันละนิด จนคุณไพศาลร่างกายอ่อนแอลงเรื่อยๆ หากใหญ่มาล่วงรู้เข้า คุณนายก็จะเดือดร้อน เหตุนี้คุณนายจึงแสร้งทำดีเอาใจใหญ่สารพัดด้วยการอาสาหาเมียให้ใหญ่ โดยออกอุบายให้ทัศนีย์หลานสาวหว่านเสน่ห์เพื่อแต่งงานกับใหญ่ ทุกคนจะได้อยู่กันอย่างสุขสบายเหมือนเดิม แต่ทัศนีย์เป็นผู้หญิงไม่มีสมอง ชอบผู้ชายหล่อและดูดีจึงรังเกียจที่ใหญ่หนวดเคราครึ้ม พูดจาดุดันเหมือนคนบ้านป่าเมืองเถื่อน เลยไม่ยอมทำตามที่คุณนายสั่ง
 
คุณนายเปลี่ยนเป้าหมายใหม่คิดยกปิ่นอนงค์ให้เป็นเมียใหญ่ เพราะเคยเห็นใหญ่เคยแอบมองปิ่นอนงค์ด้วยสายตาพึงพอใจ แรกทีเดียวปิ่นอนงค์ไม่ยินยอมเพราะยังเฝ้ารอการกลับมาของทรรศนะหลานชายคุณนาย แต่พอรู้ข่าวว่าทรรศนะกำลังจะกลับมาเมืองไทยพร้อมอรสอางค์ (อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์) คนรักใหม่ โดยมีแผนจะแต่งงานกันในทันทีที่ถึงเมืองไทย ก็ทำให้ปิ่นอนงค์หัวใจแหลกสลาย ประกอบกับแม่อุ่นเรือนขอร้องลูกสาวให้ทำตามคุณนายสั่งเพื่อตอบแทนบุญคุณของครอบครัวคุณนาย
 
ปิ่นอนงค์ไม่มีความหวังอะไรหลงเหลืออยู่เมื่อไม่มีทรรศนะ เธอจึงยอมตกลงแต่งงานกับใหญ่ แต่แอบเซ็นเงื่อนไขกับใหญ่ไว้ว่าตนเองจะยอมจดทะเบียนแค่ในนามและต้องหย่าให้ภายใน 3 เดือน หลังจากนั้นปิ่นอนงค์จะไปจากที่นี่เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ขอเป็นทาสคุณนายอีกต่อไป ใหญ่ซึ่งแอบมีใจกับปิ่นอนงค์ตั้งแต่แรกเห็นตอนแอบมางานศพพ่อ จึงยอมตกลงอย่างง่ายดาย แต่เป้าหมายสำคัญของเขาคือต้องการทวงคืนสมบัติของพ่อกลับคืนมา และถ้าเขาเป็นเจ้าของฟาร์มก็จะสามารถค้นหาหลักฐานต่างๆ ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น แต่ใหญ่ก็แอบผิดหวังในตัวปิ่นอนงค์ เพราะคิดว่าหญิงสาวเป็นพวกเดียวกับคุณนายครองสุข ก็คงหวังช่วยเหลือคุณนายและเห็นแก่เงินของเขา
 
จากความรู้สึกดีๆ ที่คิดว่าปิ่นอนงค์เป็นคนจิตใจดีงามกลายกลับเป็นความเกลียดชัง ไม่ไว้วางใจปิ่นอนงค์ ประกอบกับปิ่นอนงค์ให้ความสนิทสนมกับจอม (โดย เหมวรรษ นิตยารส) ลูกชายนายถวิล (ศักราช ฤกษ์ธํารงค์) หัวหน้าคนงานเป็นพิเศษ จอมเองซึ่งแอบรักปิ่นมาตลอดก็คอยมาดูแลปิ่น เพราะกลัวปิ่นจะถูกใหญ่รังแก ทำให้ใหญ่ยิ่งเข้าใจผิดว่าปิ่นชอบยั่วยวนผู้ชาย ทรรศนะพาแฟนใหม่กลับมาในวันแต่งงานของปิ่นอนงค์พอดิบพอดี ทรรศนะเกิดอาการเสียดายปิ่นอนงค์เพราะหญิงสาวอยู่ในชุดเจ้าสาวที่สวยงามที่สุด ส่วนทัศนีย์น้องสาวของทรรศนะก็แทบอยากวิ่งเข้าไปแย่งตัวใหญ่คืนมา เพราะใหญ่โกนหนวดเคราตัดผมจนหล่อเหลา เหมือนเป็นคนละคนกับใหญ่ในวันก่อน
 
คุณนายครองสุขสมน้ำหน้าหลานสาวที่ไม่ยอมเชื่อฟังแต่ต้น อรสอางค์เห็นทรรศนะจ้องมองเจ้าสาวตาไม่กะพริบ จึงเกิดความสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ อรสอางค์แอบถามทัศนีย์ ทัศนีย์เป็นคนปากพล่อยอยู่แล้วจึงบอกอรสอางค์ว่าสองคนเคยรักกัน และใส่สีตีไข่ให้อรสอางค์เห็นว่าปิ่นอนงค์เป็นผู้หญิงร้ายกาจและชอบยั่วยวนผู้ชาย ถึงจะแต่งงานแล้วก็ให้ระวังปิ่นอนงค์จะงาบทรรศนะไปอีกคน ทำให้อรสอางค์หึงหวงและมองปิ่นอนงค์เป็นศัตรูในทันที แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงฉลาดทันเกม อรสอางค์จึงแกล้งทำเป็นญาติดีกับปิ่นอนงค์ไปก่อน
 
ใหญ่เข้ามาดูแลกิจการไพศาลรีสอร์ตแอนด์ฟาร์มเต็มตัว โดยเอาปานเทพเข้ามาช่วย คุณนายครองสุขไม่พอใจที่ถูกลดทอนอำนาจลง โดยใหญ่โอนหน้าที่การดูแลบ้านและเด็กๆ บนเรือนใหญ่ให้ปิ่นอนงค์ดูแลในฐานะคุณผู้หญิงคนใหม่ของบ้าน แถมยังปลดธีระลงไปเป็นคนงานรีดนมวัวในข้อหายักยอกเงินบริษัท คุณนายครองสุขไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้างัดข้อกับใหญ่ จึงหันไปเล่นงานปิ่นอนงค์ด้วยการยึดเครื่องประดับซึ่งเป็นของหมั้นในงานแต่งไปจนหมด และยังบีบบังคับให้ปิ่นอนงค์คอยรายงานพฤติกรรมใหญ่ทุกฝีก้าว ปิ่นอนงค์ไม่อยากทำแต่ก็ต้องจำใจ เพราะคุณนายอ้างแต่เรื่องหนี้บุญคุณ ใหญ่รู้ว่าปิ่นอนงค์คอยจับตาเขาขณะที่เขาเข้าไปห้องนอนเก่าของพ่อ และคอยสะกดรอยตามเขาไปหลายแห่งของฟาร์ม ใหญ่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอสบโอกาสก็วางแผนล่อปิ่นอนงค์ให้ตามไปที่เรือนไม้สวยๆ ในฟาร์มแล้วแอบกอดจูบปิ่นอนงค์โดยหลอกว่าจะปล้ำปิ่นอนงค์เป็นเมีย ปิ่นอนงค์กลัวมากไม่กล้าที่จะสะกดรอยตามใหญ่อีก แต่คนที่ทำหน้าที่แทนคือจอม ที่ปักใจว่าใหญ่เป็นวายร้าย
 
ด้านทรรศนะจิตใจโลเลคิดแย่งปิ่นอนงค์คืนจากใหญ่ ทำให้เกิดทะเลาะกับอรสอางค์จนทรรศนะบอกขอเลิก อรสอางค์เจ็บใจมากประกาศไม่ยอมเลิกกับทรรศนะ ใหญ่เองก็เริ่มไม่พอใจที่ทรรศนะคอยวนเวียนวุ่นวายกับปิ่นอนงค์ไม่เลิกรา ส่วนทัศนีย์ก็อยากเป็นเมียน้อยใหญ่พยายามยั่วยวนทุกวิถีทางแต่ทำไม่เคยสำเร็จเพราะปานเทพคอยขัดขวางกวนประสาทอยู่ สุดท้ายทัศนีย์โดนใหญ่แกล้งทำเป็นจะจับรัดโซ่แล้วใช้เข็มขัดฟาด เล่นเอาทัศนีย์วิ่งหนีแทบไม่ทัน แต่ปิ่นอนงค์เห็นทัศนีย์ออกมาจากห้องใหญ่กลางดึกจึงเข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่มีอะไรกัน ปิ่นอนงค์รู้สึกหึงหวงโดยไม่รู้ตัวว่าเริ่มรักใหญ่เข้าให้แล้ว อรสอางค์ขอให้ใหญ่ควบคุมเมียตัวเองให้ดีอย่ามายุ่งเกี่ยวกับทรรศนะอีก ใหญ่สั่งห้ามปิ่นอนงค์ไม่ให้เข้าไปในฟาร์มเพราะกลัวจะไปเจอกับทรรศนะซึ่งทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดการท่องเที่ยว
 
ทรรศนะคิดรวบหัวรวบหางปิ่นอนงค์ เพราะรู้ว่าปิ่นอนงค์แต่งงานกับใหญ่ตามคำสั่งคุณนายครองสุข จึงแกล้งทำทีว่าได้รับบาดเจ็บโดนวัวชน แล้วให้ทัศนีย์มาตามปิ่นอนงค์ไปช่วยดู ปิ่นอนงค์หลงกลขึ้นไปหาทรรศนะที่บ้านพักของเขาในฟาร์ม ทรรศนะอ้อนวอนขอคืนดี จะแต่งงานกับปิ่นอนงค์ทันทีที่หญิงสาวยอมเลิกกับใหญ่ แต่ปิ่นอนงค์สารภาพว่าไม่ได้รักทรรศนะแล้วเธอมีใหญ่อยู่ในหัวใจเพียงคนเดียว
เมื่อถูกปฏิเสธทรรศนะผิดหวังอย่างรุนแรง จึงเข้าปลุกปล้ำปิ่นอนงค์แต่ใหญ่เข้ามาช่วยได้ทัน ใหญ่ชกหน้าทรรศนะ ประกาศห้ามข้องเกี่ยวกับปิ่นอนงค์อีก ส่วนทัศนีย์เมื่อทำตามแผนเสร็จพอจะเดินกลับเรือนใหญ่ก็ถูกธีระที่เมามายอยู่กับพวกคนงานฉุดไปข่มขืน ปานเทพเข้าช่วยไว้ได้ทัน ทำให้พวกธีระหนีกระเจิงไปจากไร่
 
คุณนายครองสุขเริ่มทนไม่ไหวที่ทรรศนะโดนรังแก แถมตัวเองก็ถูกตัดค่าใช้จ่ายโน่นนี่หลายอย่างเพราะใหญ่หาว่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
คุณนายคิดฆ่าใหญ่เหมือนที่เคยทำกับพ่อใหญ่โดยสั่งให้ปิ่นอนงค์ใส่ยาให้ใหญ่กินทุกวัน ปิ่นอนงค์ทำไม่ลง แต่หากจะปฏิเสธคุณนาย ด้วยนิสัยคุณนายต้องหาทางทำให้สำเร็จจนได้ ปิ่นอนงค์จึงเลือกที่จะช่วยคุ้มครองใหญ่ด้วยการแกล้งยอมทำตามคำสั่งคุณนาย แต่แทนที่จะใส่ยาพิษก็เปลี่ยนเป็นใส่ยาบำรุงให้แทน โชคช่วยปิ่นอนงค์เมื่อใหญ่ไปดูแลฟาร์มจนเปียกฝนทำให้เป็นไข้ล้มป่วย คุณนายคิดว่าเป็นผลจากยาพิษของตน จึงเชื่อใจปิ่นอนงค์ว่าทำตามคำสั่งจริง
 
ปิ่นอนงค์เฝ้าดูแลอาการป่วยใหญ่ ใหญ่อ้อนปิ่นอนงค์สารพัดจนปิ่นอนงค์ยอมให้ใหญ่นอนกอดทั้งคืนจนเผลอใจตกเป็นเมียใหญ่ด้วยความเต็มใจ ความรักของคนทั้งคู่เริ่มพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังปกปิดความรู้สึกไม่กล้าแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้ตรงๆ ด้านอรสอางค์ยังไม่ยอมแพ้ปิ่นอนงค์ง่ายๆ เมื่อรู้ว่าคุณนายครองสุขกำลังตกที่นั่งลำบาก พลาดพลั้งไปติดหนี้การพนันเป็นล้าน อรสอางค์จึงยื่นขอเสนอชดใช้หนี้ให้เพื่อแลกกับการได้แต่งงานกับทรรศนะ คุณนายตกลง ไปบังคับให้ทรรศนะยอมแต่งกับอรสอางค์จนสำเร็จ ทรรศนะต้องอยู่กับอรสอางค์อย่างฝืนความรู้สึกเพราะไม่อาจหักใจจากปิ่นอนงค์ได้ เขาจึงดื่มหนักทุกวันจนติดเหล้า ปิ่นอนงค์ทนเห็นคนที่เคยรักกลายเป็นคนหมดอนาคตไม่ได้ จึงเข้าไปช่วยดูแลทรรศะตอนเมามายหมดสติ แต่อรสอางค์และใหญ่มาเห็นเข้า เกิดความเข้าใจผิดว่าทั้งคู่ยังมีเยื่อใยต่อกัน ใหญ่ลากปิ่นอนงค์กลับห้องด้วยความโกรธ กล่าวหาว่าปิ่นอนงค์คิดมีชู้ ต่างคนต่างถือศักดิ์ศรีไม่ยอมพูดจากัน ความมึนตึงของปิ่นอนงค์ยิ่งทำให้ใหญ่ปักใจเชื่อว่าปิ่นอนงค์รักทรรศนะ ส่วนอรสอางค์ก็ทุกข์ระทมที่ไม่สามารถครอบครองหัวใจของทรรศนะได้ ยิ่งแค้นใจปิ่นอนงค์หนักขึ้นร่วมมือกับธีระที่วนเวียนเข้ามาขอเงินครองสุขจ้างคนมาฉุดปิ่นอนงค์ไปโยนหน้าผา แต่คนที่รับเคราะห์คืออุ่นเรือน ปิ่นอนงค์กับจอมตามหาอุ่นเรือนแต่ไม่พบจึงยังไม่รู้ว่าอุ่นเรือนตายแล้ว
 
คุณนายครองสุขเอาเรื่องนี้ที่อรสอางค์สั่งฆ่าปิ่นอนงค์ คอยบีบอรสอางค์เพื่อขอเงินไปเล่นการพนัน อรสอางค์เก็บความแค้นไว้เพื่อรอเอาคืนกับคุณนาย ขณะเดียวกันก็บังเอิญไปเห็นปิ่นอนงค์ใส่ยาบำรุงในกาแฟให้ใหญ่ จึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใหญ่ฟังกล่าวหาปิ่นอนงค์ว่าคิดฆ่าใหญ่เพื่อตัวเองจะได้สมหวังกับทรรศนะ เพื่อหวังให้ปิ่นอนงค์เข้าไปอยู่ในคุก ใหญ่ไม่เชื่อว่าปิ่นอนงค์จะร้ายกาจถึงขั้นฆ่าคน จึงแก้ตัวแทนภรรยา แต่อีกใจก็ยังคลางแคลงใจอยู่ จึงรอดักดู พบว่าปิ่นอนงค์ใส่ยาลงในกาแฟให้เขากินจริงๆ ใหญ่ผิดหวังอย่างรุนแรงเข้าไปแย่งยาจากมือปิ่นอนงค์ ปิ่นอนงค์พยายามจะอธิบายว่าไม่ใช่ยาพิษแต่ก็พูดไม่ออก ทัศนีย์สะใจเชียร์ให้ใหญ่แจ้งตำรวจจับปิ่นอนงค์ แต่ใหญ่ทำไม่ลง ได้แต่ตัดใจขอหย่ากับปิ่นอนงค์เพื่อปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ
 
หลังการหย่า ปิ่นอนงค์พาแม่ออกจากฟาร์มไพศาลไปเช่าบ้านเล็กๆ อยู่ด้วยกันโดยจอมเป็นคนพาไป หญิงสาวต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่ายาค่ารักษานางอุ่นเรือนที่ป่วยหนักขึ้น แม้จอมจะช่วยทำงานแต่รายได้ก็ไม่พอ จินตนาตามหาจนเจอจอมแต่จอมก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่กับปิ่น ในที่สุดปิ่นอนงค์ได้งานรับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหารชื่อดัง ทัศนีย์ควงใหญ่มากินข้าวพอดี ใหญ่ถึงกับอึ้งที่เห็นปิ่นอนงค์ในสภาพนี้ ส่วนทัศนีย์ก็เยาะเย้ยถากถางปิ่นอนงค์ให้ได้อายคนในร้านอาหาร ใหญ่สงสารปิ่นอนงค์จับใจแต่ก็ต้องวางท่าหยิ่งใส่อดีตภรรยา แต่พอลับหลังทุกคนใหญ่ก็อดห่วงใยปิ่นอนงค์ไม่ได้ จึงหาทางช่วยเหลือให้ปิ่นอนงค์ได้ไปทำงานในบริษัทเพื่อนของเขา และแอบจ่ายเงินค่ารักษาแม่ของปิ่นอนงค์โดยที่หญิงสาวไม่รู้ว่าใครคือผู้มีพระคุณที่แม่พูดถึง เพราะนางอุ่นเรือนรับปากใหญ่ให้ช่วยปิดเป็นความลับ
 
ปานเทพทนไม่ไหวที่ทัศนีย์คอยยุแยงใหญ่จึงปลอมตัวเป็นโจรฉุดทัศนีย์ไปไว้ที่เหมือง แล้วให้เพ็ญ (ปิยะดา เพ็ญจินดา) เมียใหม่ของปลอดผู้เป็นพ่อดัดนิสัยทัศนีย์ ระหว่างอยู่ที่เหมือง ความสัมพันธ์ระหว่างปานเทพกับทัศนีย์ก็ใกล้ชิดจนกลายเป็นความรัก ทัศนีย์เล่าถึงแผนต่างๆ ที่ร่วมกับครองสุขให้ปานเทพฟัง ปานเทพจึงรีบมาบอกใหญ่ ใหญ่จึงเอายาพิษที่แย่งไปจากมือปิ่นอนงค์ ฝากให้ปานเทพนำไปตรวจสอบ ผลปรากฏว่ามันคือยาบำรุง ใหญ่เสียใจที่เข้าใจปิ่นอนงค์ผิด และคิดแก้ตัวด้วยการหาหลักฐานเอาผิดคุณนาย จนกระทั่งไปพบความจริงว่าคุณนายใส่ยาพิษให้พ่อเขากินจนเสียชีวิต เหมือนที่ตั้งใจให้ปิ่นอนงค์ทำกับเขาอีกคน คุณนายกลัวโดนตำรวจจับจึงหนีไปจากฟาร์มแต่ระหว่างทางกลับถูกธีระดักฆ่าตาย ส่วนอรสอางค์ถูกตำรวจจับข้อหาจ้างวานฆ่าปิ่นอนงค์ ตามคำซัดทอดของธีระที่ตำรวจตามจับตัวมาได้ ทำให้ปิ่นอนงค์รู้ว่าอุ่นเรือนเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ทรรศนะติดเหล้าจนคลุ้มคลั่งจนต้องถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
 
ปิ่นอนงค์รู้ข่าวตามไปคอยดูแลทรรศนะจนอาการดีขึ้น เพราะทรรศนะเกิดกำลังใจและมีความหวังว่าจะได้กลับมาคืนดีกับปิ่นอนงค์อีกครั้ง ใหญ่ตามง้องอนปิ่นอนงค์แต่ไม่สำเร็จ ยิ่งเห็นปิ่นอนงค์ไปสนิทสนมกับทรรศนะ ใหญ่เกิดความน้อยใจจะทิ้งฟาร์มกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบทางภาคใต้ ระหว่างนั้นปิ่นอนงค์รู้ความจริงจากแม่ว่าคนที่คอยดูแลจ่ายค่ารักษาให้และช่วยเหลือปิ่นอนงค์ตลอดเวลาก็คือใหญ่นั่นเอง ปิ่นอนงค์รีบไปหาใหญ่ที่ฟาร์มเพื่อบอกหัวใจตนเองให้ใหญ่รับรู้ แต่ก็ไม่พบใหญ่เสียแล้ว แถมทนายความยังแจ้งให้หญิงสาวรับรู้ว่าใหญ่ได้ยกฟาร์มนี้ให้กับปิ่นอนงค์เพียงผู้เดียว ปิ่นอนงค์ช็อกและยอมดูแลฟาร์มเพื่อรอการกลับมาของใหญ่ มีจินตนาเข้ามาเป็นผู้ช่วยจนได้พบรักกับจอม ส่วนปานเทพก็ตกลงใจแต่งงานกับทัศนีย์ซึ่งกลับตัวเป็นแม่ศรีเรือน ด้วยฝีมือของเพ็ญ
 
เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน ในห้องนอนของปิ่นอนงค์ มีชายแปลกหน้าปีนหน้าต่างเข้ามาปลุกปล้ำปิ่นอนงค์ หญิงสาวตกใจต่อสู้สุดชีวิต พอกระชากผ้าปิดหน้าชายคนนั้นออก กลับกลายเป็นใหญ่ผู้ที่ปิ่นอนงค์เฝ้ารอคอย ปิ่นอนงค์กอดใหญ่ไว้แนบแน่นและจะไม่ยอมชายหนุ่มคนนี้ให้หลุดลอยไปจากชีวิตของเธออีกตลอดกาล

วงเวียนหัวใจ

ทันทีที่บุปผชาติ (สาวิกา ไชยเดช) สาวสวยนักเรียนนอก เดินทางเหยียบแผ่นดินไทย เธอก็ได้รับข่าวร้ายว่า วราพงษ์ (พูลภัทธ อัตถปัญญาพล) แฟนหนุ่มที่รักกันมายาวนาน ตัดสินใจแต่งงานกับวิธนี (กัญญา รัตนเพชร) น้องสาวของทศ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) มหาเศรษฐีเจ้าของไร่องุ่นไปเสียแล้ว บุปผชาติพกพาหัวใจที่บอบช้ำไปนั่งปล่อยอารมณ์คนเดียวในผับแห่งหนึ่ง และถูกมิจฉาชีพในคราบหนุ่มนักธุรกิจแอบใส่ยาในเครื่องดื่ม เพื่อล่อลวงเธอไปถ่ายคลิปเพื่อแบคเมล์

ระหว่างที่บุปผชาติครองสติไม่อยู่ เจียนถูกพาออกไปจากผับ ทศ พี่ชายของวิธนี เข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลา แต่บุปผชาติเมายาจนพูดจาไม่รู้เรื่อง ทำให้ทศต้องเปิดห้องพักในโรงแรมให้หญิงสาวนอนพักชั่วคราว

ฤทธิ์ยาทำให้บุปผชาติ ร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญถึงคนรักที่ทอดทิ้งไป แถมยังอาละวาดใส่ทศสารพัด จนชายหนุ่มปั่นป่วนต้องคอยจัดการให้หญิงสาวหมดฤทธิ์นอนหลับไปได้ในที่สุด ท่ามกลางค่ำคืนอันแสนสั้น ความรักถูกจุดขึ้นในหัวใจของทศอย่างรวดเร็ว เขารู้ตัวว่าได้ตกหลุมรักผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้เสียแล้ว

บุปผชาติ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ เสื้อเชิ้ตของทศที่สวมอยู่บนเรือนร่างของเธอ ทำให้บุปผชาติหลงเข้าใจผิดว่าได้เสียตัวให้กับทศเสียแล้ว ยังไม่ทันที่ทศจะได้อธิบายอะไร บุปผชาติก็รีบวิ่งหนีออกจากโรงแรมด้วยความอับอาย ไม่กล้าแม้แต่จะเล่าเรื่องนี้ให้กับบุศยาภรณ์ พี่สาวที่เธอไว้วางใจ

หญิงสาวได้แต่เก็บความระทมทุกข์นี้ไว้เพียงผู้เดียว และอยากให้ผู้ชายคนนี้ตายไปจากโลก

วราพงษ์ เป็นผู้ชายอ่อนแอ และโลเลไม่แน่นอน เมื่อรู้ข่าวว่าบุปผชาติกลับมาเมืองไทย จึงพยายามนัดเจอ ทันทีที่ได้พบกันบุปผชาติขอเลิกกับวราพงษ์ แต่ความรักที่ยาวนานทำให้เธอหวั่นไหวไปกับคำแก้ตัวของคนรัก เขายืนยันว่ายังรักเธอไม่เสื่อมคลาย แต่เพราะ บุปผชาติไปเรียนต่อต่างประเทศความห่างไกลทำให้เขาเผลอไผลมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับวิธนี จนตั้งครรภ์ เขาจำเป็นต้องแต่งงานกับวิธนีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และวิงวอนอย่างน่าสงสารให้บุปผชาติรอเขา

ในวินาทีที่บุปผชาติแข็งใจจะบอกเลิกให้เด็ดขาด วิธนีสะกดรอยตามมาเจอและด่าทอ ตบหน้าบุปผชาติ พูดจาเสียดแทงใจว่าบุปผชาติเป็นได้แค่เมียน้อย แย่งสามีชาวบ้านอย่างไม่มียางอาย อารมณ์โกรธทำให้บุปผชาติอยากเอาชนะ จึงสวนกลับว่าวิธนีต่างหากคือเมียน้อยตัวจริง เพราะมายื้อแย่งวราพงษ์ไป วิธนีโรคหัวใจกำเริบจนวราพงษ์ และบุปผชาติต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล

ทศ รีบตามมาดูน้องสาว และได้เห็นภาพวราพงษ์น้องเขย จับมือบุปผชาติอย่างสนิทสนม ความผิดหวังแล่นจู่โจมหัวใจของทศ ผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่เขาเฝ้าคิดถึง คือ บุปผชาติ ผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาทำลายครอบครัวของน้องสาวคนเดียวที่เขารักมากที่สุดในชีวิต คำบอกเล่าของวิธนีหลังออกจากโรงพยาบาล ยิ่งยืนยันแน่ชัดว่า บุปผชาติคิดจะแย่งวราพงษ์คืนไป

วิธนีโทรศัพท์มาหาบุปผชาติ แต่คุณหญิงบุษบา (ดวงดาว จารุจินดา) มารดาของบุปผชาติ เป็นคนรับสาย วิธนีด่าคุณหญิงให้อบรมสั่งสอนลูกอย่าให้มาแย่งสามีชาวบ้าน จนคุณหญิงตกใจเป็นลม นายพลเริงศักดิ์ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) บิดาของบุปผชาติโกรธมาก คิดว่าลูกสาวจะไปแย่งสามีคนอื่นจริง จึงต่อว่าบุปผชาติด้วยถ้อยคำรุนแรง บุปผชาติน้อยใจพ่อ ความเป็นคนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจจึงประชดประชันว่าตนเองรักวราพงษ์ และจะไม่เลิกกับเขาเด็ดขาด (พูดด้วยอารมณ์แต่ไม่ได้ทำจริง) ความอดทนของนายพลขาดผึงจึงหลุดปากตัดขาดกับบุปผชาติ หญิงสาวหอบเสื้อผ้าออกจากบ้าน โดยไม่ฟังคำทัดทานเตือนสติของบุศยาภรณ์ผู้เป็นพี่สาวที่ไม่อยากให้น้องสาวทำผิดศีลธรรม ทำลายครอบครัวคนอื่น

คอนโดหรูหราใจกลางเมือง กลายเป็นที่หลบซ่อนตัวของบุปผชาติ เธอตั้งใจจะหลบหน้าวราพงษ์แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น วราพงษ์บุกไปหาบุปผชาติถึงห้องพัก ร้องไห้เสียใจที่ไม่สามารถพรากจากบุปผชาติไปได้ ความผูกพันที่เคยมีต่อกันทำให้หญิงสาวใจอ่อนตัดใจจากวราพงษ์ไม่ขาด

ทศสืบหาตัวบุปผชาติจนตามมาเจอที่คอนโดแห่งนี้ เขาเห็นเธอเดินลงมาส่งวราพงษ์ เข้าใจผิดว่าสองคนมาเช่าห้องอยู่ด้วยกันแล้ว

ทศคิดได้ว่าเขาควรทำอะไรสักอย่างเพื่อแยกบุปผชาติ และวราพงษ์ออกจากกันให้ได้ เพื่อช่วยน้องสาว และหลานที่กำลังจะเกิดขึ้นมาให้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุดเขาไม่อาจปฏิเสธหัวใจตัวเองได้เลยว่า เขาหวงแหนบุปผชาติ และไม่อาจทนเห็นผู้หญิงคนนี้ตกเป็นเมียน้อยของน้องเขยตัวเอง

แต่บุปผชาติเป็นคนดื้อรั้น และเอาแต่ใจ เขาจะเปลี่ยนหัวใจเธอได้อย่างไร ??

ชัย (วิชญ จารุจินดา) เพื่อนสนิทของทศ คุ้นเคยกับครอบครัวของบุปผชาติเป็นอย่างดีเป็นผู้ที่ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวของบุปผชาติแก่ทศ ทศจึงตัดสินใจบุกไปพบนายพลเริงศักดิ์บิดาของบุปผชาติในทันที พร้อมรับสารภาพอย่างลูกผู้ชายว่า ตนเองได้รู้จักกับบุปผชาติโดยบังเอิญ ความมึนเมาด้วยกันทั้งคู่ทำให้เกิดได้เสียกันในคืนนั้น เขาจึงมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอแต่งงานกับลูกสาวคนเล็กของนายพลฯ อย่างลูกผู้ชาย นายพลเริงศักดิ์ชกหน้าทศด้วยความแค้นเคือง และจะแจ้งความดำเนินคดีกับทศให้ถึงที่สุด แต่บุศยาภรณ์ลูกสาวคนโต รีบห้ามปรามไว้เพราะเกรงว่าน้องสาวจะเสียชื่อเสียง นายพลจึงตวาดไล่ทศออกจากบ้านไป

ทศไม่ลดละความพยายาม ไปขอร้องให้คุณเรือง (อนุสรณ์ เดชะปัญญา) พ่อของชัยซึ่งรู้จักกันดีกับนายพลฯ ไปทำหน้าที่สู่ขอบุปผชาติ

ท่านนายพล และคุณหญิงฯ กำลังร้อนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุปผชาติกับวราพงษ์ เพราะรู้จากลูกสาวคนโตว่า บุปผชาติไปเช่าคอนโดอยู่เพียงลำพัง นายพลฯ กลัวว่าลูกสาวจะแอบอยู่กินกับวราพงษ์ในฐานะภรรยาน้อย ขณะกำลังกังวล และหมดหนทางอยู่นั้น คุณเรืองก็มาสู่ขอบุปผชาติให้ทศและหว่านล้อมให้นายพลฯ คิดได้ว่า ไหนๆ ข้าวสารก็กลายเป็นข้าวสุกแล้ว การให้บุปผชาติแต่งงานกับทศ ย่อมดีกว่าปล่อยลูกสาวไปเป็นเมียน้อยชาวบ้าน ต้องระทมทุกข์ชั่วชีวิต

(อีกทั้งนายพลรู้จากคุณเรืองว่า ทศเป็นลูกชายคนเดียวของเพื่อนเก่าแก่ที่เคยสนิทกันมากของนายพลฯคือ คุณสุทน และดาราศรี เจ้าของธุรกิจพันล้าน ทั้งเหมืองแร่ทางใต้ และไร่องุ่นใหญ่โต แต่พ่อแม่ของทศเสียตั้งแต่ทศยังเด็ก ในด้านฐานะของทศก็เพียบพร้อม ที่สำคัญที่สุดคือยังไม่มีพันธะ ทศย่อมมีคุณสมบัติเหนือกว่านายวราพงษ์ )

แต่ปัญหาก็คือ บุปผชาติ ไม่ยอมรับว่าได้มีสัมพันธ์กับทศ และจะไม่ยอมแต่งงานกับทศเด็ดขาด !

เพราะความรักที่มีต่อลูก นายพลจึงตัดสินใจเลือกทางที่จะให้บุปผชาติไปอยู่กับทศที่ไร่องุ่น ส่วนคุณหญิงต้องทำใจแข็งเพื่ออนาคตของลูก

บุศยาภรณ์ทำตามแผนของบิดา ด้วยการชวนบุปผชาติไปดูที่ดินในต่างจังหวัด โดยอ้างว่ามารดาอยากซื้อที่ตรงนี้ไว้เพราะเป็นแปลงที่สวยมาก บุปผชาติยินยอมไปเป็นเพื่อน แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับกลายเป็นไร่องุ่นของทศ บุศยาภรณ์ตัดใจทิ้งน้องไว้ที่นี่ ก่อนหนีกลับกรุงเทพฯ ด้วยน้ำตา

บุปผชาติโกรธมาก และเสียใจเมื่อรู้ว่าพ่อแม่ และพี่สาวรู้เห็นกับทศ จึงแผลงฤทธิ์ด้วยการอาละวาดขว้างปาข้าวของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอ จนเกลื่อนไปทั่วห้อง แต่ทศไม่ว่าอะไร กลับช่วยจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้อย่างดีจนบุปผชาติแปลกใจ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ทศง่ายๆ

ระหว่างอยู่ที่ไร่องุ่น ทศต้องอดทนกับความเอาแต่ใจ และหยิ่งผยองของบุปผชาติ ที่คอยแกล้งให้เขาหัวปั่นอยู่ตลอดเวลา แถมยังต้องคอยระวังไม่ให้เธอหลบหนีออกจากไร่ไปได้ และยื่นคำขู่ว่าถ้าเธอคิดหลบหนี หรือพูดเรื่องเขาฉุดเธอกับคนอื่นๆ เขาจะนำเรื่องที่เธอเมามายจนเสียตัวให้เขา ประจานไปให้ทั่ว

แม้บุปผชาติจะแสดงท่าทีเกลียดชังเขาหนักข้อขึ้นทุกที แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งรักเธอมากขึ้น และคอยหึงหวงเมื่อคิดว่าบุบผชาติแอบคิดถึงวราพงษ์คนรักเก่า

ระหว่างนี้ นายพลเริงศักดิ์ ได้รู้ความจริงว่า ภรรยาของวราพงษ์ก็คือน้องสาวของทศ นายพลโกรธจัดที่โดนทศปกปิดความจริง จึงเรียกตัวทศมาพบถึงกรุงเทพฯ ทศยอมรับผิดโดยให้เหตุผลว่าถ้าทุกคนรู้ว่าวิธนีคือน้องสาวเขา นายพลคงไม่ยอมยกบุปผชาติให้อย่างแน่นอน แต่เขายืนยันหนักแน่นว่ารักบุปผชาติจริง นายพลจึงยกโทษให้เพราะเชื่อสายตาตัวเองว่าทศคือลูกผู้ชายตัวจริงคนหนึ่ง

การปรากฏตัวของใบตอง (คีตภัทร อันติมานนท์) ลูกสาวของประสิทธิ์ (ตฤณ เศรษฐโชติ) นักธุรกิจค้าไวน์ในท้องถิ่น ทำให้บุปผชาติเกิดความคิดที่จะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ใบตองกับทศ เพราะเธอสังเกตเห็นว่าใบตองชื่นชอบทศ และแวะมาเยี่ยมเยือนทศอยู่เสมอ ใบตองแอบเกลียดชังบุปผชาติเมื่อรู้จากปากทศว่า บุปผชาติเป็นคนที่ทศจะแต่งงานในอีกไม่ช้า บุปผชาติเองก็หลงไว้ใจใบตอง จนบางครั้งเผลอระบายความในใจเรื่องคนรักเก่า และสารภาพว่าเธอไม่ได้รักทศเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่กล้าเล่าว่าโดนทศฉุดมา

ความเป็นหญิงที่สุภาพเรียบร้อย พูดน้อย และจิตใจดี ทำให้บุปผชาติ และทศดูไม่ออกเลยว่า ใบตองซุกซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใน เธอวางแผนกลั่นแกล้งบุปผชาติหลายอย่างเพื่อให้ทศเข้าใจบุปผชาติผิด จนเกิดความระหองระแหง ปั้นปึ่งใส่กันหลายครั้ง แต่ด้วยความรักที่ทศมีต่อบุปผชาติ เขาก็ต้องเป็นฝ่ายงอนง้อเธอทุกคราวไป ความดีของทศทำให้บุปผชาติเริ่มหวั่นไหว และรู้สึกหัวใจแปลบๆ เวลาที่เห็นทศแสดงความสนิทสนมกับใบตองเพื่อประชดประชันที่เธอพยายามผลักไสเขาให้คนอื่น

ส่วนทศเอง ก็ไม่อาจเสแสร้งฝืนใจรักใบตองได้ จึงปฏิเสธใบตองอย่างละมุนละหม่อมว่าเขารักใบตองแบบน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น ใบตองเสียใจอย่างรุนแรง ด้วยความรักที่มีต่อทศ เธอจึงตัดสินใจจ้างไอ้เม่น (ธรรมลักษณ์ ตระกูลโชคดี) คนงานในไร่ ฉุดบุปผชาติไปข่มขืน แต่ทศตามมาช่วยได้ทันเวลา ส่วนไอ้เม่นหลบหนีไปได้

ทศเฝ้าดูแลบุปผชาติซึ่งล้มป่วยเพราะพิษไข้ ความห่วงใยของทศทลายกำแพงแห่งความเกลียดชังของหญิงสาวจนพังทลาย บุปผชาติเริ่มรู้ตัวว่า เธอลืมวราพงษ์จนสิ้นเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับทศ

บัดนี้….บุปผชาติมั่นใจแล้วว่า เธอรักผู้ชายคนนี้

ในวันที่บุปผชาติ ตัดสินใจจะตอบตกลงแต่งงานกับทศ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ใบตองสืบรู้ว่าคนรักเก่าของบุปผชาติก็คือ สามีของน้องสาวทศ จึงส่งข่าวให้น้องสาวทศรู้ ว่าทศพาผู้หญิงแปลกหน้ามาซุกซ่อนไว้ที่ไร่ ถึงขนาดจะแต่งงานด้วยกัน วิธนีซึ่งหวงแหนพี่ชายอยู่แล้ว รีบสั่งให้วราพงษ์พาเธอเดินทางมาที่ไร่ในทันที

การปรากฏตัวของวิธนี และวราพงษ์ เหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจบุปผชาติ เธอได้ยินการทะเลาะกันระหว่างวิธนีกับทศ วิธนีต่อว่าพี่ชายที่มาวุ่นวายกับคนที่เธอเกลียด แต่ทศกลัวน้องสาวโรคหัวใจกำเริบจึงพยายามอธิบายให้น้องสบายใจว่าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับบุปผชาติ เพราะต้องการกีดกันผู้หญิงคนนี้ออกจากวราพงษ์ บุปผชาติเสียใจหนักวิ่งร้องไห้หนีออกจากไร่ วราพงษ์ตามไปทันรีบอาสาพาบุปผชาติกลับกรุงเทพฯ วิธนีแทบคลุ้มคลั่งที่รู้ว่าสามีไปกับบุปผชาติ

ความยุ่งยาก รอทศอยู่เบื้องหน้า ผู้หญิงใจแข็งอย่างบุปผชาติจะยอมให้อภัยเขาหรือไม่

ที่กรุงเทพฯ บุปผชาติขอให้วราพงษ์เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธอ และกลับไปหาครอบครัว โดยไม่กล้าบอกว่าเธอรักทศแต่วราพงษ์ก็ยังคงเห็นแก่ตัว ไม่ยอมเลิกกับบุปผชาติ ใช้ลูกตื้อว่าถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็ขอได้พบได้คุยกันบ้าง บุปผชาติใจอ่อนสงสาร ยินดีจะคบกันแค่เพื่อน

บุศยาภรณ์ รู้ข่าวว่าน้องสาวหนีกลับมากรุงเทพแล้ว รีบพาแม่ไปหา ความสงสารแม่ทำให้หญิงสาวโกรธแม่ไม่ลงเรื่องทศ แต่ก็ไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่พอใจที่พ่อร่วมมือกับทศ และมองความรักความปรารถนาดีของพ่อเป็นเรื่องของการห่วงชื่อเสียงของตนเอง

นายพลรู้ข่าวว่าแผนล้มเหลว จึงยื่นคำขาดให้ทศต้องหาทางแต่งงานกับบุปผชาติให้เร็วที่สุด

ทศ ตามงอนง้อบุปผชาติ แต่ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันวราพงษ์เกิดรู้ความจริงว่า วิธนีไม่ได้ตั้งท้องจริง ที่ผ่านมาเป็นแค่คำหลอกลวงเพื่อหาทางผูกมัดเขาเท่านั้น วราพงษ์โกรธมากประกาศขอเลิกกับวิธนีและคิดกลับไปขอคืนดีกับบุปผชาติ วิธนีหัวใจวายถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล

วราพงษ์ รีบมาแจ้งข่าวดีกับบุปผชาติ ว่าเขาตัดสินใจจะหย่าขาดกับวิธนีแน่นอนแล้ว ขอคำมั่นจากบุปผชาติให้ตกลงแต่งงานกับเขา บุปผชาติเกิดความสับสนขอเวลาคิดดูก่อน เธอตัดสินใจแอบไปดูอาการป่วยของวิธนี แต่ความจริงแล้วอยากเห็นหน้าทศมากที่สุด วิธนีพอเห็นหน้าบุปผชาติ รีบร้องห่มร้องไห้น่าสงสาร อ้อนวอนขอวราพงษ์คืน ถึงกับจะคุกเข่าขอร้องบุปผชาติ จนต้องถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง

ทศ คิดว่าบุปผชาติมาหาเรื่องวิธนี เขาด่าทอเธออย่างเจ็บแสบ และกล่าวหาว่าเธอเป็นคนทำให้ครอบครัวของน้องสาวเขาแตกแยก

แต่แล้วคำตอบของบุปผชาติทำให้ทศถึงกับหัวใจหยุดเต้น !!

บุปผชาติประกาศตกลงแต่งงานกับทศ เธอปรารถนาให้วราพงษ์ตัดใจจากเธอ และกลับไปทำหน้าที่ดูแลภรรยาที่กำลังเจ็บหนัก บุปผชาติรู้สึกสุขใจเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้จักคำว่าเสียสละทำเพื่อคนอื่น เธอกลับบ้านไปกราบขอโทษพ่อ ความสงบสุขกลับคืนสู่ครอบครัวของบุปผชาติอีกครั้ง ส่วนวราพงษ์เสียใจอย่างหนักเมื่อรู้ว่าบุปผชาติจะแต่งงานกับทศ แต่ข่าวการป่วยหนักของภรรยาก็ทำให้เขาไม่อาจทอดทิ้งไปอย่างคนแล้งน้ำใจได้

หลังการแต่งงาน ทศ และบุปผชาติ พาวิธนีมาพักรักษาตัวฟื้นฟูสุขภาพที่ไร่องุ่น วราพงษ์ต้องรับผิดชอบดูแลงานของทศทางกรุงเทพฯ แต่ก็ยังหมั่นเดินทางไปคอยดูแลภรรยาบ่อยครั้ง ความโลเลของวราพงษ์ทำให้เขาอดใจไม่ไหวพยายามเข้าไปพัวพันกับบุปผชาติ จนทำให้ทศเกิดอาการหึงหวงบุปผชาติ เพราะบุปผชาติแม้จะยอมแต่งงานด้วย แต่ไม่ยอมนอนเตียงเดียวกับทศ เพราะยังคาใจคิดว่าทศแต่งงาน เพราะช่วยน้องสาว ส่วนทศก็น้อยใจที่บุปผชาติยืนยันตลอดเวลาว่าแต่งงานกับเขาเพราะไม่อยากถูกคนประณามว่าเป็นฆาตกรทำให้วิธนีหัวใจวายตาย

ชีวิตคู่ของคนทั้งสองเกิดรอยร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใบตองก้าวเข้ามาเป็นตัวยุแยง

บุปผชาติ พยายามเอาใจใส่วิธนีด้วยความห่วงใยเหมือนอยากจะชดเชยความผิดที่เคยทำร้ายหัวใจวิธนีโดยไม่ตั้งใจ แรกทีเดียววิธนีเริ่มใจอ่อนเพราะเริ่มสังเกตเห็นความรักที่พี่ชายมีต่อบุปผชาติ แต่เมื่อโดนใบตองยุแหย่ใส่ร้ายบุปผชาติว่าพยายามยั่วยวนวราพงษ์ วิธนีหลงเชื่อจึงแกล้งสำออยให้พี่ชายเห็นว่าพี่สะใภ้เกลียดชังตน และคอยกลั่นแกล้งตนตลอดเวลา อีกทั้งคอยเป่าหูทศว่าบุปผชาติยังรักวราพงษ์อยู่ อ้อนวอนให้พี่ชายหย่ากับบุปผชาติ เพราะเธออยากให้ใบตองมาเป็นพี่สะใภ้มากกว่า

วราพงษ์เบื่อหน่ายวิธนีที่อารมณ์ฉุนเฉียว และหาเรื่องหึงหวงตลอดเวลา จึงระเบิดอารมณ์ทะเลาะกับวิธนีรุนแรง สุดท้ายวิธนีโกรธจัดจนเป็นลมต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกคนได้รับข่าวดีว่าวิธนีตั้งครรภ์ ทศจึงขอร้องให้วราพงษ์อดทนเพื่อลูกที่กำลังจะเกิดมา และที่สำคัญที่สุดบุปผชาติยอมเปิดใจ สารภาพกับวราพงษ์ว่าเธอมั่นใจแล้วว่ารักทศ และไม่คิดรักใครได้อีก ขอร้องให้วราพงษ์เริ่มต้นชีวิตใหม่สร้างครอบครัวที่มีความสุข เหมือนอย่างที่เธอตั้งใจเช่นกัน วิธนีแอบได้ยินโดยบังเอิญจึงเลิกคิดแค้นต่อบุปผชาติ และนำไปสู่การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว

ความรักที่มีต่อลูกเปลี่ยนหัวใจที่รุ่มร้อนของวิธนีให้เกิดสติ วิธนีขอหย่ากับวราพงษ์ด้วยเหตุผลว่าเธอไม่อยากให้ลูกเกิดมาเห็นพ่อแม่ไม่รักกัน วราพงษ์ไม่ได้รักเธอ อยู่ร่วมกันต่อไปจะส่งผลเสียต่อลูกในอนาคต ทศ และบุปผชาติพยายามทัดทานแต่ไม่เป็นผล ทศจึงขอให้แยกกันอยู่สักระยะ ถ้าวิธนีสามารถอยู่ได้ จึงค่อยหย่าขาดจากกัน แรกทีเดียววราพงษ์เต็มใจแยกทาง แต่หลังจากเขาไม่เจอหน้าวิธนี และเป็นห่วงลูก ทำให้รู้สึกขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป สุดท้ายวรพงษ์ก็ได้คำตอบให้ตัวเองว่า วิธนีคือความผูกพันที่เขาไม่อาจตัดขาดจากชีวิตได้ เขาจึงกลับไปงอนง้อวิธนี แต่คราวนี้วิธนีกลับใจแข็งไม่ยอมคืนดีง่ายๆ เพราะคิดว่าวราพงษ์คิดคืนดีเพราะลูกเท่านั้น ทำให้บุปผชาติต้องคอยเป็นกองกำลังสนับสนุนช่วยเหลือวราพงษ์หาทางให้วิธนีใจอ่อน มีการแอบปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน ให้ทศแอบเห็นหลายครั้ง

จุดนี้เอง… ใบตองเอามายุแหย่ให้ทศเข้าใจผิดว่าบุปผชาติกับวราพงษ์จะหวนมาคบกัน

ความพยายามของวราพงษ์เป็นผลสำเร็จ เขาสารภาพรักวิธนีในวันที่เธอคลอดลูก เธอจึงยอมให้อภัย ใบตองเห็นเหตุการณ์นี้ ยิ่งหวาดกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียทศไปในไม่ช้า

ใบตองจำเป็นต้องจัดการบุปผชาติขั้นเด็ดขาด!!ด้วยการฆ่าวิธนี

ใบตอบเชื่อว่า…ถ้าไม่มีวิธนี วราพงษ์จะต้องกลับไปหาบุปผชาติอย่างแน่นอน

แผนร้ายเกิดขึ้นในวันที่ทศกับวราพงษ์ต้องเข้าเมืองไปคุยธุรกิจไวน์กับพ่อของใบตอง ใบตองปรากฏตัวในห้องวิธนี แกล้งทำทีจะบีบคอเด็กให้ตาย วิธนีเข้าไปยื้อแย่งจนหัวใจวายเสียชีวิต แล้วใส่ร้ายป้ายสีว่าตนเองเข้ามาเห็นวิธนีกับบุปผชาติทะเลาะกันเรื่องวราพงษ์ จนเห็นวิธนีล้มฟุบลง

การตายของวิธนี สร้างความสะเทือนใจให้ทศอย่างรุนแรง เขาไม่เชื่อว่าผู้หญิงจิตใจดีงามอย่างใบตองที่รู้จักมายาวนานจะสร้างเรื่องโกหกดังที่บุปผชาติยืนยัน ความสับสนดังกล่าวทำให้ทศเก็บตัว และหมางเมินกับบุปผชาติ ความหยิ่งทะนงทำให้บุปผชาติขอหย่า แต่ทศไม่ยินยอม อ้างว่าจะไม่ยอมให้บุปผชาติสมหวังกับวราพงษ์ให้เป็นขี้ปากชาวบ้านเด็ดขาด หากแท้ที่จริงแล้ว…ทศไม่อาจทนสูญเสียบุปผชาติได้

วราพงษ์ขออนุญาตทศพาลูกไปอยู่เมืองนอก แถมยังแอบได้ยินบุปผชาติปรับทุกข์กับพี่สาวที่แวะมาเยี่ยมเยือนว่าอยากไปเรียนต่อ ทำให้ทศคิดไปเองว่าวราพงษ์กับบุปผชาติจะไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน ทศพยายามตัดใจจากอดีตภรรยา ยอมตกลงหย่าให้บุปผชาติเพื่อให้คนรักได้สมหวัง แม้ตัวเองจะต้องเจ็บปวดมากเท่าใดก็ตาม เขาก็รู้ว่าการตายของน้องสาวคงไม่สามารถทำให้รอยร้าวในหัวใจของเขากลับมาเหมือนเดิมได้อีก

ในวันที่บุปผชาติเดินทางออกจากไร่เพียงลำพัง ทศหมกตัวอยู่ในไร่ เขาเจอกับไอ้เม่นอดีตคนงานที่เคยฉุดบุปผชาติไปข่มขืน มันย้อนกลับมาตัดองุ่นในไร่ และถูกคนงานจับตัวได้

ทำให้ทศรู้ว่าตัวบงการที่จ้างคนงานมาทำร้ายบุปผชาติ และฆ่าน้องเขา ก็คือ ใบตองนั่นเอง

ทศ แจ้งความจับใบตอง แต่ใบตองไหวตัวทันหลบหนีไปเจอกับบุปผชาติในระหว่างเส้นทางเข้าเมือง ใบตองไม่มีอะไรจะสูญเสียอีกแล้วเธอชักปืนที่ขโมยมาจากบิดาจะยิงบุปผชาติ ทศ และศุภชัยพ่อของใบตองตามมาช่วยได้ทันเวลา ใบตองยอมมอบตัวกับตำรวจเพราะน้ำตาของพ่อที่อ้อนวอนลูกด้วยความรัก และโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองคนเดียวที่คอยบังคับใบตองในทุกเรื่อง (ศุภชัยชอบดูถูกลูกตัวเองว่าโง่ และไม่เอาไหนโดยเฉพาะเรื่องทศ)

หลังมรสุมร้ายผ่านไป ทศพาบุปผชาติมาอยู่ที่ไร่องุ่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้บุปผชาติมั่นใจว่า…วงเวียนหัวใจที่แสนสับสนของเธอ จะมีเขาเป็นจุดศูนย์กลางที่ทำให้ชีวิตรักเปี่ยมด้วยความสุขที่แท้จริง

เย้ยฟ้าท้าดิน

“เมื่อมนุษย์คนหนึ่งร้องขอชีวิตอันเป็นนิรันดร์จากมัจจุราช และได้พรนั้นสมใจ เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาจะต้องตอบแทนนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบากเพียงใด  เหลือเพียงความดีที่เขายึดมั่นเท่านั้นที่เขาจะยอมสูญเสียมันไปไม่ได้ แต่เขาจะรักษามันได้ตลอดรอดฝั่งเหมือนชีวิตที่เป็นอมตะของเขาได้หรือไม่ ในขณะที่ฝ่ายอธรรมเติบโตแข็งแรงขึ้นตลอดเวลา”

ภวินทร์นายตำรวจหนุ่มไฟแรงแห่งกองปราบไล่ล่าคนร้ายจากแก๊งอินทรี แก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ  จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็สามารถสังหารสมาชิกคนสำคัญของแก๊งได้ ทำให้กลายเป็นที่หมายหัว แต่ภวินทร์ก็ไม่หวั่น เพราะเขามีความมุ่งมั่นที่จะกำจัดแก๊งอินทรีให้สิ้นซาก เพื่อล้างแค้นแทนพ่อ แม่ที่ถูกแก๊งอินทรีฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดตั้งแต่เขายังเป็นวัยรุ่น  เนื่องจากพ่อของเขาเป็นนายตำรวจปราบปรามยาเสพติดฝีมือฉกาจ  เหตุการณ์ครั้งนั้น ภวินทร์รอดตายมาได้อย่างปาฎิหารย์ พร้อมความลับที่เขาเก็บงำเอาไว้ไม่ยอมเปิดเผยให้ใครฟัง นั่นคือเขาเห็นเงาดำมาดึงวิญญาณพ่อของเขาออกไป  และจากนั้นเป็นต้นมาหากเจอะกับคนตายที่ไหน ภวินทร์ก็จะเห็นเงาดำที่นั่น ซึ่งเขาพยายามบอกตัวเองตลอดมาว่าเขาตาฝาด

ทิชา สาวกำพร้าในความอุปการะของป้าเนียม เจ้าของร้านอาหารข้างกองปราบมีน้องชายขี้โรคชื่อนที  นทีใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ และยึดถือภวินทร์เป็นฮีโร ขณะที่ทิชาก็แอบรักภวินทร์อยู่แต่ไม่แสดงออก เพราะรู้ดีว่าภวินทร์มีแฟนอยู่แล้ว เป็นครูสอนบัลเล่ห์ชื่อดวงใจ ภวินทร์เองก็เห็นทิชาเป็นเหมือนน้องชายด้วยลักษณะห้าวๆลุยๆ ค่อนข้างเปิดเผย

ขณะที่ภวินทร์ฟื้นจากอาการบาดเจ็บและเริ่มต้นสืบหาหัวหน้าแก๊งอินทรี เขาก็ถูกลอบสังหารอย่างอุกอาจอีกครั้ง คราวนี้ เป็นการลอบวางระเบิดไว้ที่รถยนต์ของเขา  ภวินทร์เอะใจเพราะเห็นเงาดำป้วนเปี้ยนอยู่บริวณรถ  แต่นทีเกิดเข้าไปแอบอยู่ในรถเพื่อจะเล่นซ่อนหากับภวินทร์ทำให้ภวินทร์ต้อง เข้าไปจับนทีโยนออกมา เขาจึงถูกแรงอัดระเบิดเข้าอย่างจัง   ก่อนสติดับวูบ ภวินทร์เห็นเงาดำโฉบมาหา  และดึงวิญญาณออกจากร่าง เงาดำพาวิญญาณของภวินทร์ไปที่เขตแดนแห่งความตาย

ภวินทร์เพิ่งตระหนักว่าที่แท้เงาดำนั้นคือยมฑูตและอายุขัยของเขาได้หมดลง แต่ภวินทร์ไม่ยอมข้ามเขตแดนแห่งความตาย     แม้ยมฑูตก็ไม่สามารถขัดขวางพลังจิตที่เข้มแข็งของภวินทร์ได้  วิญาณภวินทร์จึงได้กลับมาเข้าร่างเดิม

ส่วนนทีถูกทิชานำส่งโรงพยาบาลเพราะเกิดหายใจไม่ออก หมดสติไป   หมอวิเคราะห์ว่านทีมีความผิดปกติในเม็ดเลือดและมีสิทธิ์จะเป็น ลูคิเมีย ทิชาแทบล้มทั้งยืน เพราะเธอเพิ่งสูญเสียภวินทร์ชายที่เธอรักไป แต่ขณะที่ทิชากำลังสิ้นหวัง ภวินทร์ก็ฟื้นขึ้นบนเตียงในห้องผ่าพิสูจน์ศพ ท่ามกลางความตกตะลึงของคนในโรงพยาบาล ภวินทร์ขอให้หมอช่วยเย็บแต่งแผลให้และแวะเยี่ยมนที  ทิชาถึงกับดีใจจนพูดไม่ออกที่ภวินทร์ยังไม่ตาย  ส่วนนทีอาการดีขึ้นทันทีที่เห็นหน้าภวินทร์   ภวินทร์เดินทางไปรายงานตัวที่กรมตำรวจ สร้างความแปลกใจให้กับดำรงผู้บังคับบัญชาและเพื่อนตำรวจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ ผู้การวัลลภ ตำรวจกังฉินที่เป็นสายให้แก๊งค้ายา    ผู้การวัลลภมีสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่กับพิมพาตำรวจหญิงมือขวาภวินทร์   พิมพาเริ่มสงสัยพฤติกรรมวัลลภ จึงพยายามตามสืบแล้วก็พบว่าวัลลภติดต่อกับแก๊งอินทรี พิมพาตัดสินใจบอกภวินทร์ๆจึงสะกดรอยตามวัลลภหวังว่าจะไปถึงรังแก๊งอินทรี แต่การกลับกลายเป็นว่า ภวินทร์หลงกลวัลลภ  ภวินทร์ถูกทอมลูกน้องตัวกลั่นของแก๊งอินทรีจับมัดเอาไปถ่วงแม่น้ำ วิญญาณภวินทร์ออกจากร่างอีกครั้ง  แต่ภวินทร์ก็ดึงดันไม่ยอมข้ามเขตแดนแห่งความตายอีก  พลังจิตของภวินทร์ชนะยมฑูต วิญญาณภวินทร์กลับเข้าร่างอีกครั้ง  เขาแก้มัดตัวเองทะลึ่งขึ้นพื้นน้ำและอาศัยเรือหางยาวที่ผ่านมา ไล่ล่าจนเข้าตะลุมบอนกับคนร้ายได้ เมื่อกำลังตำรวจมาสมทบภวินทร์ก็ปราบคนร้ายทุกคนได้ราบคาบ จนถูกยกย่องให้เป็นฮีโร่คนใหม่ของกรมตำรวจ

ภวินทร์ได้รับมอบหมายให้ทำคดีใหญ่ๆและเสี่ยงตายอีกหลายคดี โดยมีพิมพา และศักดานายตำรวจรุ่นน้องอีกคนคอยช่วยเหลือ ภวินทร์เริ่มมั่นใจในพลังจิตอันแรงกล้าที่ท้าทายความตายได้ แต่ดวงใจแฟนสาวของเขากลับตกอยู่ในความหวาดระแวงกลัวภวินทร์จะเป็นอันตราย ดวงใจขอให้ภวินทร์เลิกอาชีพตำรวจ แต่ภวินทร์ไม่ยอม เขาสัญญากับดวงใจว่าเขาจะไม่ยอมตายเป็นอันขาด  เพื่อให้ดวงใจสบายใจ ภวินทร์จึงขอหมั้นดวงใจเอาไว้ก่อน ทั้งยังพยายามพาดวงใจไปไหนมาไหนด้วย โดยเฉพาะมาเยี่ยมนที ซึ่งทำให้ทิชาแอบเจ็บปวดใจอยู่คนเดียว

ในการเข้าขัดขวางการส่งมอบยาเสพติดล็อตใหญ่ ภวินทร์ถูกแก๊งอินทรี จับฝังทั้ง เป็นเมื่อวิญญาณเขาหลุดจากร่างอีกครั้ง  เขาก็ต่อรองขอความเป็นอมตะจากยมฑูตเพื่อขจัดคนชั่วให้สิ้นซาก มิใยที่ยมฑูตจะทัดทาน ว่าความชั่วไม่มีทางหมดไปจากโลกตราบใดที่ยังมีมนุษย์ ภวินทร์ก็ไม่เชื่อ ยมฑูตจึงยอมให้ภวินทร์กลับเข้าร่างพร้อมชีวิตที่เป็นอมตะโดยเตือนว่า ต่อไปแม้อยากตาย ภวินทร์ก็จะไม่สามารถตายได้อีก

กิตติศัพท์การตายแล้วฟื้นของภวินทร์แพร่สะพัดออกไป คนมากมาย มาติดต่อของพบตัว ส่วนมากจะขอดูของขลังที่ภวินทร์พกเอาไว้  ในจำนวนผู้คนที่มาขอดูตัว มีอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ศึกษาเรื่องพลังจิตและโลกหลังความตาย พยายามจะเอาตัวภวินทร์ไปเป็นกรณีศึกษาแต่ภวินทร์ปฎิเสธ

ขณะที่เขากำลังภูมิใจกับชัยชนะเหนือมัจจุราชอยู่นั้น  ดวงใจแฟนสาวของเขาก็ต้องจบ ชีวิตลงเพราะถูกคนร้ายลอบวางระเบิดในสตูดิโอ  จากนั้น คนรอบข้างภวินทร์ก็เริ่มเดือดร้อนจากการถูกข่มขู่ทำร้าย  จนภวินทร์ต้องกลายเป็นคนโดดเดี่ยวเพราะไม่อยากให้คนร้ายใช้ใครมาต่อรองกับ เขาอีก รวมทั้งทิชาและนที   ความเย็นชาของภวินทร์ทำให้ทิชาเข้าใจว่าเขายังเสียใจไม่หายจากการจากไป ของดวงใจ  ทิชาจึงพยายามตามเอาใจภวินทร์จนเกือบถูกลูกหลงของคนร้าย  ทิชาถูกภวินทร์ไล่ตะเพิด  อาการของนทีทรุดลงอีก และต้องการเงินมารักษาเป็นจำนวนมาก  ทิชาจึงตัดสินไปสมัครเป็นหญิงบริการในคลับแห่งหนึ่งซึ่งเผอิญ เป็นแหล่งค้าผู้หญิงรายใหญ่ที่ภวินทร์ต้องเข้าไปทลาย ภวินทร์ได้พบ ทิชาอีกครั้งและต่อว่าทิชาที่ยอมขายศักดิ์ศรีแลกเงิน ทิชาบอกว่าเธอสามารถ ขายชีวิตก็ได้ ถ้าจะแลกกับชีวิตน้องชาย คืนนั้นภวินทร์ยอมไปพบนที  ทำให้นทีอาการดีขึ้น  ภวินทร์จำต้องสัญญาว่าจะมาเยี่ยมนทีบ่อยๆ ทำให้นทีมีความสุขมาก

แต่แล้วภวินทร์ก็จำต้องผิดสัญญาเพราะคนร้ายเริ่มสะกดรอยและลอบทำร้ายเขา ทำให้ทิชาโกรธมากที่ภวินทร์ไม่ไปหานทีอีก  ความที่ต้องหาเงินมาซื้อยาให้นที ทำให้ทิชาถูกล่อลวงให้เป็นตัวกลางในการส่งยาเสพติคของแก๊งอินทรี ซึ่งเป็นแก๊งค้ายาข้ามชาติ   ทิชาได้พบกับภวินทร์อีกครั้ง เขาขอให้ทิชาเป็นสายให้ โดยจะมีค่าจ้างอย่างงาม  ทิชาบอกว่าเธอตั้งใจจะถอนตัวอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับแก๊งค้ายา

ทิชาตกลงเป็นนกต่อให้ภวินทร์  แต่ถูก เมฆา หัวหน้าแก๊งจับได้ซะก่อน เมฆายื่น ข้อเสนอให้ ภวินทร์ไปเอาซีดีบัญชีดำรายชื่อของนักค้ายาจากกรมตำรวจมาแลกกับทิชา ภวินทร์จำยอมเพราะหลงรักทิชาเข้าแล้ว  แต่เมื่อภวินทร์เอาซีดีมาได้ ทิชากลับโดดลงแม่น้ำเพื่อจบชีวิตตัวเองเพราะไม่ต้องการเป็นสาเหตุให้ภวินทร์ ต้องขายชาติ โดยฝากให้ภวินทร์ดูแลนทีด้วย ภวินทร์บุกเข้าตะลุยกับสมุนเมฆาอย่างดุเดือด  แต่เมื่อเขายิงเมฆากลับพบว่ากระสุนไม่ระคายผิวเมฆาแม้แต่น้อย และแล้วภวินทร์ก็ได้รู้ความจริงว่าที่แท้เมฆาก็ได้พรจากยมฑูตเช่นเดียวกับ เขา  ร้อยปีก่อน เมฆานั้นเคยเป็นตำรวจและถูกลอบสังหารเช่นเดียวกับภวินทร์ เมฆาขอชีวิตเป็นอมตะและยมฑูตก็ยินยอม ตั้งแต่นั้น เมฆาก็ต้องประสบแต่ความสูญเสีย ต้องทนเห็นคนรักตายไปต่อหน้า โดนคนทรยศหักหลัง และถูกบีบบังคับจนต้องกลายมาเป็นฝ่ายอธรรม เมื่อเมฆาได้ข่าวภวินทร์จึงแน่ใจว่าภวินทร์คือคนประเภทเดียวกับเขา เขาต้องการให้   ภวินทร์ติดต่อยมฑูตให้ได้ เพื่อเขาจะขอจบชีวิตตัวเอง มิเช่นนั้นภวินทร์จะต้องสูญเสียคนที่รักคนสุดท้ายในชีวิตไป  ภวินทร์รีบไปที่โรงพยาบาลก็พบว่านทีหายไปแล้ว

ภวินทร์พยายามตามหายมฑูตด้วยการไปทุกที่ที่เกิดมีคนตายแต่ก็ไม่พบ จนในที่สุดต้องขอให้อาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ หาวิธีให้ อาจารย์แนะนำให้ภวินทร์ใช้วิธีถอดจิตไปรอยมฑูตที่เขตแดนแห่งความตาย  ยมฑูตปรากฎตัวขึ้นและเตือนว่าหากภวินทร์ไม่ไปเข้าร่างของภวินทร์จะถูกทำลาย และจิตของภวินทร์จะต้องล่องลอยพเนจรตลอดไป แต่ภวินทร์ก็ยืนกรานขอให้ยมฑูตบอกวิธีจบชีวิตเขากับ เมฆาเพื่อรักษาความดีของโลกไว้ ในที่สุดยมฑูตยอมแพ้ จิตภวินทร์ได้กลับเข้าร่างได้ทันก่อนที่จะถูกคนร้ายบุกมาทำร้าย

ภวินทร์ไปพบเมฆา เขาบอกว่ารู้ความลับของการจบชีวิตที่เป็นอมตะมาแล้ว แต่เขากับเมฆาคนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่ทำได้ การตัดสินก็คือทั้งคู่ต้องประลองกันด้วยพลังแห่งจิต คนที่พ่ายแพ้คือคนที่ต้องมีชีวิตอมตะตลอดกาล

ภวินทร์หรือเมฆาที่จะได้จบชีวิตอมตะสมใจ   คนที่ต้องอยู่  จะอยู่อย่างเย้ยฟ้าท้าดินได้ต่อไปอย่างไร

ภูตแม่น้ำโขง

บัวผัน ชวน ทองมี เพื่อนรักกินข้าวกับไข่ประหลาดที่ได้มาจากริมแม่น้ำโขง แต่ทองมีปฏิเสธ บัวผันกินไข่แล้วเกิดกระหายน้ำอย่างแรง ต้องกระโดดลงเรือไปดื่มต่อกลางลำน้ำโขง ทองมีส่งเสียงให้คนช่วยจับบัวผัน ทิดเคน กระชากตัวบัวผันขึ้นจากน้ำ เธอตวาดเกรี้ยวกราดว่าเธอไม่ใช่บัวผัน และจมลงไปอยู่ใต้น้ำด้วยกัน

เฒ่าเชียงหล้า และชาวบ้านได้แต่ภาวนาขอให้พระพุทธรูปพระเจ้าองค์คำคุ้มครองให้ทั้งสอง ปลอดภัย ทิดเคนรอดมาได้จึงบอกชาวบ้านว่าบัวผันถูกจองจำอยู่ที่เมืองใต้น้ำ นายแพทย์อัคนี ได้เดินทางเข้ามาทำวิจัยเรื่อง จิตเวชชุมชน และเข้าร่วมในพิธีเข้าทรงของ นางเทียม ชื่อ คำแพง ผู้ที่จะบอกข่าวบัวผัน พร้อมกับ สมัย และชาวบ้านเพื่อบันทึกวิดีโอ

หมออุ่นเงิน ที่แต่งงานกับ เจ้านางโคมคำ อดีตคนรักของหมออัคนี และ เจ้าวรวงศ์ น้องชายของเจ้านาง ได้มาขอพบอัคนีเพื่อชวนไปดูพระธาตุประจำตระกูลที่พังลงมา เจ้าวรวงศ์คิดจะฆ่าอัคนีที่สลัดรักพี่สาว แต่แท้จริงแล้วอัคนีคิดกับเจ้านางโคมคำแค่น้องสาว เจ้าวรวงศ์กับหมออุ่นเงินวางยาพิษอัคนีแล้วทิ้งลงในแม่น้ำโขง

ทำ ให้อัคนีได้พบกับ พญาจันหัวจระเข้ และ เจ้าแม่ทอหูก ภูตแห่งแม่น้ำโขง ที่จับตัวบัวผันไป เพราะต้องการแก้แค้นที่ชาติก่อนบัวผันกับหมออัคนีแอบรักกัน ทั้งที่หมออัคนีเป็นคู่สยุมพรของตน เจ้าแม่ทอหูกพยายามจะขังอัคนีไว้อีกคน แต่อัคนีจำเรื่องราวในอดีตไมได้จึงหนีรอดกลับมา บุญเรือน โศกเศร้ามากที่บัวผันลูกสาวหายไป

และ หลวงพ่อจูม สามีก็บวชไม่สึก ไม่นานบัวผันก็กลับมาในสภาพที่ถูกเจ้าแม่ทอหูกสะกดจิต เจ้าแม่ทอหูกต้องการให้ทุกคนรวมทั้งหมออัคนีเข้าใจว่าบัวผันเป็นผี เพื่อจะได้เลิกรักบัวผันเสีย แต่หมออัคนีไม่ยอมเชื่อ และพยายามหาทางพิสูจน์ เจ้าแม่ทอหูกยิ่งเหิมเกริมหนัก พาบริวารออกไปอาละวาดฆ่าคน และจับหญิงสาวบริสุทธิ์ลงไปสังเวย

พร้อมกับป้ายความผิดให้กับบัวผัน จนชาวบ้านพยายามจะจับบัวผันเผาทั้งเป็น แต่หมออัคนีไปช่วยห้ามปรามไว้ เจ้าแม่ทอหูกจึงจับบัวผันลงไปใต้บาดาลอีกครั้ง และบังคับให้บัวผันดื่มเลือดของนาง จนบัวผันเริ่มมีสภาพครึ่งคนครึ่งภูต และดุร้ายขึ้นกว่าเดิม บัวผันกลายเป็นภูตกลับมาฆ่าคนเพิ่มขึ้น รวมถึงเจ้าวรวงศ์ที่พยายามจะเข้าไปขโมยสมบัติในพระธาตุอีกด้วย

เจ้า แม่ทอหูกสั่งให้บัวผันจับตัว จำปา หญิงสาวคนสุดท้ายไปสังเวยเพื่อตนจะได้เป็นอมตะ แต่หมออัคนีเข้าคล้องสร้อยที่คอของบัวผันไว้ จนกระทั่งบัวผันหมดฤทธิ์ ส่วนตัวเองก็ตามลงไปช่วยจำปาที่ใต้บาดาล และพบความจริงว่าที่แท้แล้ว เจ้าแม่ทอหูกเองต่างหากที่เป็นภูตแม่น้ำโขง หมออัคนีรีบกลับขึ้นมารวมกับหลวงพ่อจูม

และชาวบ้านสวดอธิษฐานจนวัน เพ็ญเดือนสิบ ที่ประตูสามภพเปิดออก เจ้าแม่ทอหูกพยายามตั้งพิธีบูชายัญจำปาเข้าสู้ แต่วิญญาณของคนที่เจ้าแม่ทอหูกฆ่าตายถูกพระยายมปลดปล่อยออกมา เข้ามาช่วยมนุษย์จัดการกับเจ้าแม่ทอหูก จนในที่สุดเจ้าแม่ทอหูกก็อ่อนแรงและหมดฤทธิ์ลง พร้อมๆ กับเมืองบาดาลที่ถูกทำลายลงไปด้วย

20 ปีผ่านไป หมออัคนีกับบัวผันแต่งงานกัน และให้กำเนิดลูกสาวชื่อ ใบบัว ซึ่งหน้าตาเหมือนบัวผันไม่ผิดเพี้ยน ใบบัวเดินทางมายังนครพนมเพื่อเยี่ยมเยียนบุญเรือน และเผลอออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำ จนพบไข่ขนาดใหญ่วางอยู่ โดยไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวทุกอย่าง อยู่ในสายตาอำมหิตของเจ้าแม่ทอหูก ภูตแม่น้ำโขงที่ไม่มีวันถูกกำจัดไปง่ายๆ

รายชื่อนักแสดง ภูตแม่น้ำโขง

ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท อัคนี
วรัทยา นิลคูหา รับบท บัวผัน
มรกต กิตติสาระ  รับบท เจ้าแม่ทอหูก
อุษณีย์ วัฒฐานะ รับบท เจ้านางโคมคำ
ภูชิสสะ ธนพัฒน์ รับบท เจ้าวรวงศ์
กฤษฎี พวงประยงค์ รับบท ทิดเคน
ประถมาภรณ์ รัตนภักดี รับบท ทองมี
ขวัญฤดี กลมกล่อม รับบท บุญเรือน

ภารกิจพิชิตดอกฟ้า

เสียงประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดล่าสุดดังไปทั้งหมู่บ้าน สมาชิกทุกคนพร้อมใจกันทิ้งภารกิจประจำวันเพื่อหยุดฟังหวย แม้กระทั่งชื่อหมู่บ้าน “ห้วยใหญ่” ก็ถูกทองปิดจนไม้โทหายกลายเป็นหมู่บ้าน “หวยใหญ่” เพราะความบ้าหวยแท้ๆ แต่ยกเว้น สมสนุก ที่ไม่สนใจหวยหรือการพนันใดๆ ทั้งสิ้น สมสนุกอยากเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ โดยมีความตั้งใจที่จะนำความรู้มาพัฒนาหมู่บ้าน สร้างอาชีพให้คนในหมู่บ้านเลิกความงมงายเสียที

ด้วยหวังว่าความเป็น แชมป์มวยของเขาจะพาเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยในฝันได้ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ สมสนุกได้มาพักอยู่กับ หลวงตาบูลย์ อีกมุมหนึ่งของเมือง น้องแก้ม ลูกสาวคนเดียวของ พล.ต.ต.จิรายุส ตำรวจมือปราบกับ คุณสินีนาฏ นักธุรกิจสาวใหญ่ กำลังจะไปมหาวิทยาลัยเป็นวันแรก และขอพ่อขากับแม่ขาไปมหาวิทยาลัยเองโดยมีรถของที่บ้านมาส่ง พอลงจากรถเธอหันไปเจอรถขายข้าวเหนียวหมูปิ้งที่อยากกินจนเกือบโดนรถเฉี่ยว

แต่ สมสนุกมาช่วยไว้ทันสบตาแรกที่ทั้งคู่เจอกัน สมสนุกก็ถูกใจน้องแก้มขึ้นมาทันทีความรู้สึกของหมามองเครื่องบินแวบขึ้นมา ทันที สมสนุกมาถึงมหาวิทยาลัยอย่างทุลักทุเล แล้วต้องพบความผิดหวังเมื่อทางมหาวิทยาลัยไม่รับเขาเข้าเรียน เพราะไม่รู้ว่าแชมป์มวยไทยงานวัดจะสร้างชื่อให้สถาบันตรงไหน แต่สถานการณ์มักสร้างวีรบุรุษเมื่อโจรจับอธิการบดีเป็นตัวประกัน สมสนุกช่วยอธิการบดีไว้ อธิการบดียินดีรับสมสนุกเข้าเรียนเป็นกรณีพิเศษ

ใน มหาวิทยาลัยสมสนุกได้พบเพื่อนร่วมก๊วน วอก หนุ่มหน้ามน สมเสร็จ ที่ชอบลืมตัวหยิบของชาวบ้านมาขายต่อ ฉวน ที่กวนประสาทได้อย่างถึงกึ๋น พี่ประโยชน์ ในมหาวิทยาลัยสาวเพียบและหนึ่งในหญิงที่แอบชื่นชอบวีรกรรมของสมสนุกก็คือ น้ำหวาน สาวหน้าหวานแต่นิสัยสุดห้าว ซึ่ง สิบทิศ ช้อปเปอร์หนุ่มมาดเท่ชอบน้ำหวานอยู่ ที่มหาวิทยาลัยยังมีน้องแก้มและ อนาวิน สาวๆ หลายคนอาจจะชื่นชมอนาวินแต่ไม่ใช่น้ำหวานแน่

น้ำ หวานไม่เข้าใจว่าผู้อะไรจะหน่อมแน้มได้ขนาดนั้น แต่อนาวินกลับชอบที่น้ำหวานเข้มแข็ง วันหนึ่งอนาวินและเพื่อนๆ หนีเที่ยวกันเหมือนเด็กๆ จนเรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทั้งหมดถูกผู้ร้ายไล่ล่าจนเกือบจะเอาตัวไม่รอด ดีที่แก๊งค์ช้อปเปอร์ของสิบทิศผ่านมาพอดีเลยช่วยมาได้ทัน สมสนุก, น้ำหวาน กับเพื่อนๆ ไม่เข้าใจว่าผู้ร้ายต้องการอะไร เพราะพวกเขาก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวเลยสักนิดเดียว มีเพียงอนาวินกับน้องแก้มเท่านั้นที่รู้ความจริง

ผู้ร้ายกลุ่มนี้คือ ผู้ไม่หวังดีที่ต้องการเก็บเจ้าชายอนาวินนั่นเอง สมสนุกไม่ละความพยายามที่จะเลิกชอบน้องแก้ม แถมยังหวังจะพิชิตใจพ่อขาแม่ขาของน้องแก้มใหได้ จนเกิดเรื่องราวหลายอย่างชุลมุนวุ่นวายทุกครั้งคะแนนที่น่าจะทำเพิ่มกลับ ยิ่งลดลงจนต่ำกว่าศูนย์ แต่สิ่งที่ทำให้สมสนุกยังมีกำลังใจก็คือน้องแก้มที่เริ่มเห็นใจดอกฟ้าเริ่ม โน้มตัวลงมา วิกฤติเกิดกับอนาวินอีกครั้งเมื่อทีมไล่ล่าตามมาเจอที่พำนักของเจ้าชาย

อนาวิน ได้รับการช่วยเหลือโดยบังเอิญจากน้ำหวาน น้ำหวานเอาอนาวินมาซ่อนในห้องนอนของตัวเอง ทั้งสองคนได้อยู่ใกล้ชิดกันจนขนลุกโดยไม่ไม่รู้ตัว เรื่องนี้สิบทิศถึงกับประกาศสงครามกับอนาวิน แต่ด้วยความดีของอนาวินกลับทำให้สิบทิศกลายเป็นหนึ่งในแก๊งค์ของอนาวินและสม สนุกไปแล้ว แล้วความจริงทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยว่าอนาวินเป็นเจ้าชายของประเทศพนาพิสุทธิ์ ทั้งหมดสัญญากันไว้ว่าจะรักษาความลับให้แก่กัน

ความรักของสมสนุกกับ น้องแก้มดูท่าจะราบรื่น เพราะน้องแก้มกับอนาวินเองก็รู้ใจตัวเองว่ามีความรู้สึกกันเพียงแค่พี่น้อง แต่อุปสรรคชิ้นโตคงหนีไม่พ้นพ่อขาแม่ขาของน้องแก้ม สมสมัย แม่ของสมสนุกไม่สบายหนักจนสมสนุกต้องกลับบ้านไปดูแล ทำให้ทั้งสมสนุกกับน้องแก้มห่างกัน น้องแก้มขอให้เพื่อนพาไปเยี่ยมสมสมัย จิรายุสกับสินีนาฏตามมาทันที เมื่อเห็นสภาพแวดล้องชนบทก็รับไม่ได้ จิรายุสลั่นวาจาทันที

ถ้า สมสนุกทำน้ำในคลองให้สะอาดและขจัดความบ้าหวยได้ภายในหนึ่งเดือนจะยอมเปิดทาง ให้ทั้งคู่คบหากัน เรื่องบำบัดน้ำเป็นหน้าที่ของอนาวินที่สั่งลูกน้องมาทำความสะอาดได้ในพริบตา ส่วนเรื่องหวยสมสนุกและเพื่อนๆ ช่วยกันอบรม สร้างงานและสร้างความคิดที่ถูกต้องให้ชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จนักเพราะมี รูด้า เจ้ามือหวยและเจ้าของบ่อนทรงอิทธิพล แถมยังเป็นนักการเมืองทรงอิทธิพลของประเทศพนาพิสุทธิ์

ที่หอบเงินมา ฟอกเงินในเมืองไทยเพื่อที่จะกลับไปโค่นอำนาจของเจ้าชายอนาวินอีกด้วย ทั้งหมดตั้งใจจะถอนรากถอนโคนให้ได้ เพื่อความรักของสมสนุกและแผ่นดินเกิดของอนาวินการผจญภัยเพื่อหัวใจจึงเกิด ขึ้น จิรายุสนำกำลังตามมาช่วยแต่เสียท่าถูกรูด้าจับตัวไป สมสนุกสวมหัวใจสิงห์พาเพื่อนๆ ไปช่วยเอาตัวกลับมาได้พร้อมจัดการกับรูด้าได้สำเร็จ จิรายุสแพ้ใจและความดีที่สมสนุกมีให้ต่อน้องแก้มยอมให้ทั้งสองคนคบกันได้

ทั้ง หมดกลับไปตั้งใจเรียนเพื่อทำความฝันของตนให้เป็นจริง สิบทิศยอมละทิ้งความเป็นหัวหน้าแก๊งค์ช้อปเปอร์กวนเมือง พี่ประโยชน์เรียนจบในวัยสามสิบกว่า และทำงานเป็นเรื่องเป็นราว ฉวนนำวิชาความรู้มาใช้ทำให้เขามีอาชีพทำมาหากินอย่างภาคภูมิ สมเสร็จหายมือไวสอบเป็นตำรวจ วอกเรียนเก่งจนจะไปต่อดอกเตอร์ อนาวินคบกับน้ำหวานด้วยความรักทั้งสองคนตั้งใจเรียน ก่อนจะวางแผนไปใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบในประเทศเล็กๆ ของอนาวิน

ส่วน หมาวัดอย่างสมสนุกเอาความรู้ไปทำให้ชาวห้วยใหญ่เลิกงมงายเรื่องหวยจนสำเร็จ และเผยแพร่ไปสู่หมู่บ้านที่รายรอบ ที่เด็ดกว่านั้นหมาวัดอย่างสมสนุกที่วันๆ ได้แต่ชะเง้อมองเครื่องบินลำสวยอย่างน้องแก้ม วันนี้เครื่องบินลำสวยถูกยิงตกลงมาให้เชยชมแล้ว ด้วยกระสุนความดีที่สมสนุกพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น คนดี…ซึ่งยังมีอีกมากมายในซอกหลืบนับร้อยมุมของสังคมไทย

รายชื่อนักแสดง ภารกิจพิชิตดอกฟ้า

ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท สมสนุก
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ รับบท น้องแก้ม
ธาวิน เยาวพลกุล รับบท อนาวิน
กชกร ศุภการกิจกุล รับบท น้ำหวาน
กฤษฎี พวงประยงค์ รับบท วอก
สลิล สุภาพงศ์ รับบท สมเสร็จ
ยังเติร์ก กัลป์ รับบท สิบทิศ
คุณาวุฒิ เหลืองเสรี รับบท ฉวน
ก้าว บางกรวย รับบท พี่ประโยชน์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

แดน เทพ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ซูเปอร์สตาร์วัยสามสิบเป็นทั้งนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงและร้ำรวยถึง ขีดสุด มีแฟนเป็นซูเปอร์โมเดลชื่อปรายฟ้า (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) ทั้งคู่จะหมั้นกันในหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่ก็เกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้นซะก่อน แดนเทพได้รับอีเมล์ปริศนาจากเด็กสาวชื่อไอด้า (พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์) ที่อ้างว่าเป็นลูกสาวของแดนเทพกับเคท (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ไอด้าตามสืบเรื่องพ่อและหนีมาเมืองไทยโดยมีโอ๋ (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เพื่อนสนิทของแม่ให้ความช่วยเหลือ แดนเทพกังกลเรื่องที่ไอด้าจะมาเมืองไทยจนทำงานไม่ได้ จึงเล่าเรื่องไอด้าให้ปั๋ง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ผู้จัดการส่วนตัวฟัง เรื่องที่เคยทำเคทสาวไทยท้องเมื่อ 15 ปีก่อนตอนซัมเมอร์ที่ฮอลแลนด์ แต่แม่ของฝ่ายหญิงกีดกันไม่ให้เจอกันอีก แดนเทพไม่เชื่อเรื่องที่ไอด้าเป็นลูกสาวของตน ปั๋งบอกให้แดนเทพปิดเรื่องนี้ไว้เพราะกลัวจะกระทบกับเรื่องงานและเรื่องปราย ฟ้า ปั๋งอาสาจัดการทุกอย่างให้และจัดแจงไปรับไอด้าที่สนามบิน ปั๋งพาไอด้าไปพักที่เพนท์เฮาส์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของแดนเทพ

เมื่อแดนเทพและไอด้าเจอกันปั๋งยื่นข้อเสนอแลกหลักฐานด้วยเงินก้อนโตแต่ไอด้า ไม่รับ ไอด้ายื่นข้อเสนอให้แดนเทพเป็นพ่อตนเองหนึ่งอาทิตย์ แดนเทพให้ไอด้ามาอยู่ที่บ้านของคุณยุทธ (วันชัย เผ่าวิบูล) คุณเอื้อ (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) และผู้พันดนัย (สุรวุฒิ ไหมกัน) พ่อ แม่และพี่ชายของแดนเทพ เป็นเหตุให้แดนเทพนั่งเป็นจำเลยให้พ่อแม่และพี่ชายสอบสวนแดนเทพจึงขอความ ร่วมมือจากพ่อ แม่และพี่ชาย และบอกว่าแค่ได้หลักฐานจากไอด้าทุกอย่างก็จะจบ

ไอด้าใช้เวลาอยู่กับแดนเทพและครอบครัวอย่างสนุกสนาน แดนเทพทำอาหารให้ไอด้าทาน นั่งดูรายการโปรดเป็นเพื่อนไอด้าและทุกเย็นก็รีบกลับมาทานข้าวด้วยและในขณะ เดียวกันก็จ้องจะแฮ็คหลักฐานจากไอด้าแต่ถูกไอด้าจับได้ตลอด คุณเอื้อ คุณยุทธและผู้พันดนัยก็เอ็นดูไอด้าเพราะความน่ารัก ถึงวันเฉลยหลักฐานของไอด้า หลักฐานก็หายไปด้วยฝีมือของเคท เคทกับไอด้าทะเลาะกันยกใหญ่ โอ๋ซ้อนแผนแย่งหลักฐานจากเคทมาได้ และเอาไปให้พ่อแม่ พี่ชายของแดนเทพและแดนเทพดู และบอกว่าตอนนี้เคทแม่ของไอด้าตามมาเอาตัวไอด้ากลับไปแล้ว

เคทพาไอด้าออกจากบ้านแดนเทพ แต่ลืมของไว้ที่บ้านแดนเทพ จึงกลับไปเอาของและเจอแดนเทพเข้าอย่างจัง แดนเทพโวยวายเรื่องที่เคทไม่บอกว่าเธอท้องเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เคทไม่รู้เรื่องที่แม่ของเธอกีดกันแดนเทพกับเธอ เธอจึงไม่เถียงด้วยเพราะคิดว่าแดนเทพเป็นคนไม่รับผิดชอบและทิ้งเธอไปก่อน ไม่ทันที่แดนเทพกับเคทจะเถียงกัน โอ๋โทรมาบอกว่าอยู่โรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคเครียด ต้องได้รับการรักษาด้วยความอบอุ่นและทางจิตใจ คุณเอื้อขอให้เคทและไอด้าอยู่เมืองไทยต่อจนอาการไอด้าดีขึ้น เคททนอยู่บ้านแดนเทพทั้งที่เกลียดขี้หน้า

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ปรายฟ้าอยาก รู้เรื่องของแดนเทพจึงส่งเอื้อมดาว (อธิชนัน ศรีเสวก) ศิลปินในค่ายที่แอบชอบแดนเทพตามแดนเทพแทนตน แลกกับการขึ้นแท่นนางเอกใหม่ เอื้อมดาวตกลงทันที ส่วนทางด้าน ปาปารัสซี่หนุ่มชื่อโม่ง (วิชญ จารุจินดา) ตามถ่ายภาพแดนเทพและไอด้าจนมีข่าวว่าแดนเทพมีกิ๊กเด็ก ปั๋งก็ออกมายอมรับตามนั้นเพราะกลัวว่าจะกระทบกับงาน เคทกับแดนเทพอยู่ร่วมกันในบ้านทั้ง 2 คนได้กลับมาเรียนรู้ซึ่งกันและกับใหม่อีกครั้ง แดนเทพทำตัวน่ารักขึ้น ในวันหนึ่งขณะที่ เคท แดนเทพและไอด้าช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว ปรายฟ้าแอบปีนรั้วเข้ามาเห็นเข้า แดนเทพบอกความจริงทั้งหมดกับปรายฟ้า ปรายฟ้าเสียใจวิ่งสติแตกออกไป ปั๋งหาทางตั้งรับเพราะคิดว่าปรายฟ้าต้องเอาคืนแน่ ๆ แต่ปลายฟ้าวางฟอร์มทำเฉยแล้วกลับช่วยส่งข่าวและให้แดนเทพทำกิจกรรมสาธารณ กุศลสร้างชื่อเสียงให้แดนเทพดังขึ้นไปอีก ปั๋งเอ่ยปากชมเปราะถึงความมีน้ำใจของปรายฟ้าที่ไม่แก้แค้นแดนเทพ ปรายฟ้าขอให้แดนเทพรับปากว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะต้องไม่มีการเลื่อนวัน หมั้น

โม่งยังไม่วางมือจากครอบครัวแดนเทพเพราะถูกจ้างพิเศษจาก คีตะ (กฤษณกัณฑ์ มณีผกาพันธ์) ศิลปินจอมอิจฉาร่วมค่ายเดียวกัน ทนไม่ได้ที่แดนเทพมีงานล้นมือ คีตะตั้งรางวัลให้กับโม่งอย่างงามหากโม่งเปิดโปงเรื่องของแดนเทพได้ ในช่วงนั้นไอด้าและเคทต้องทำทุกทางเพื่อเลี่ยงนักข่าว จนเคททนไม่ไหวพาไอด้าย้ายไปอยู่คอนโด ครอบครัวแดนเทพรู้เข้าก็พยายามทำทุกวิธีให้ทั้งสองคนกลับมาใกล้ชิดกันอีก ครั้ง โดยเฉพาะผู้พันดนัยวางแผนกับผู้พันต้อม (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เพื่อนรักนายทหารให้ช่วยจีบเคทเพื่อเร่งปฏิกิริยาแความหึงหวงของแดนเทพ ผู้พันต้อมตกหลุมรักเคทเรื่องเลยอิรุงตุงนังเข้าไปอีก

ด้านโม่งลงทุนย้ายไปอยู่คอนโดที่เดียวกับไอด้าและตีสนิทกับไอด้าเพื่อจะคุ้ย ข่าวเรื่องแดนเทพ รุ่นพี่ของโม่งที่เป็นโมเดลลิ่งเห็นไอด้าจึงชวนไปถ่ายโฆษณา ไอด้ามีงานหลายชิ้น แต่ชิ้นที่ไอด้าเห็นจะดี๊ด๊าที่สุดก็คือโฆษณาที่แดนเทพเล่นเป็นพระเอก โม่งจับตาดูจนแน่ใจว่าไอด้ากับเคทเป็นลูกเมียของแดนเทพ คีตะได้ภาพแอบถ่ายของแดนเทพ เคทและไอด้าจากโม่ง แล้วส่งให้เอเจนซี่สินค้าหนุ่มโสด แดนเทพถูกถอดและคีตะได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์แทน แดนเทพกลายเป็นคนเงียบขรึม ส่วนโม่งได้ค่าจ้างเป็นเงินก้อนโตจากคีตะ ก็เอามาเลี้ยงข้าวและซื้อของให้ไอด้า ไอด้าสงสัยว่าโม่งเอาเงินมาจากไหน โม่งเริ่มสึกผิด เคทเค้นโม่งจนรู้เบื้องหลังารเป็นพรีเซนเตอร์ของคีตะ เคทดุ่ยไปเอาเรื่องกับคีตะ คีตะถึงกับอึ้งที่เจอผู้หญิงเอาจริงอย่างเคท แอบประทับใจเคทอยู่เงียบ ๆ

คีตะจับสังเกตได้ว่าเคทกับแดนเทพรักกันจึงคิดแย่งเคทมาจากแดนเทพ แดนเทพเห็นเคท อยู่กับคีตะโดยบังเอิญในวันที่เคทไปส่งไอด้าที่บ้านแดนเทพ ทั้งสองคนมีปากเสียงกัน เคทเก็บกดจึงกับความดื้อและเลี้ยงยากของไอด้า แดนเทพรู้สึกผิดจึงกอดเคท ปรายฟ้าเข้ามาเห็นวิ่งร้องไห้ออกไปเกือบถูกรถชนแดนเทพช่วยไว้ทัน ปรายฟ้าอยู่ในอ้อมกอดแดนเทพ เคทมองด้วยความเจ็บปวดก่อนออกรถไป ปรายฟ้า ไม่ไว้ใจความสัมพันธ์แดนเทพกับเคท ปรายฟ้าจึงวางแผนให้ไอด้าเข้าใจผิดเคท ไอด้าหนีไปเที่ยวกับเอื้อมดาวและหนุ่มไฮโซแต่เห็นท่าไม่ดีจึงขอตัวกลับและ เปิดประตูขณะรถวิ่งอยู่ ปรายฟ้าที่ขับตามหลังมาปาดหน้ารถแล้วพาไอด้ากลับบ้านแล้วให้สัญญาณหนุ่มไฮโซ ให้พาเอื้อมดาวไปแทน แดนเทพอึดอัดในความดีของปรายฟ้าที่ผุกมัดตัวเขามากขึ้นทุกวัน

แดน เทพรู้ใจตัวเองว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักคือเคทแต่ยิ่งเข้าใกล้เคทเท่าไหร่เคท ยิ่งทำตัวออกห่างด้วยการไปเดทกับคุณต้อมและคีตะ โอ๋พยายามช่วยแดนเทพตามจีบเคทแต่ถูกปั๋งขัดขวางอยู่ตลอด เคทพยายามให้คีตะวางมือจากแดนเทพแต่ไม่สำเร็จ ทางเดียวที่จะช่วยแดนเทพได้คือพาไอด้าไปจากเมืองไทย แดนเทพไม่ยอม เคทอ้างว่าคบกับคุณต้อมและจะพาไปให้แม่ดุตัว แดนเทพจึงยอมให้กลับฮอลแลนด์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ไอด้ามีงานร่วมกับแดนเทพและคีตะ มีนักข่าวมาทำข่าว คีตะพยายามเปิดโปงความสัมพันธ์ของสองคนพ่อลูกจนน่ารำคาญ คีตะจึงใช้แผนสกปรกโดยการลวนลามไอด้า แดนเทพทนไม่ไหวเข้าไปชกกับคีตะ และประกาสว่าไอด้าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเอง และให้ปั๋งจัดแถลงข่าวเรื่องเคทกับไอด้า นักข่าวตามล่าตัวเคทกับไอด้า คุณเอื้อรับไอด้าไปเก็บตัวเงียบ ส่วนแดนเทพกับเคทไปซ่อนตัวเงีบย ๆ กันอยู่ที่ต่างจังหวะ ทั้งสองคนมีเวลาปรับความเข้าใจกัน แดนเทพสั่งดอกไม้เพื่อจะขอเคทแต่งงานระหว่างที่ไปรับดอกไม้ก้ปล่อยให้เคทอ ยู่คนเดียว ปรายฟ้าโผล่มาหาเคทพูดว่าทุกอย่างที่แดนเทพทำก็เพื่อลูกเท่านั้นทำให้เคท น้อยใจหนีกลับกรุงเทพฯ มาก่อน แดนเทพกลับมาเจอแต่ปรายฟ้า เธออ้างว่าเคทด่าว่าเธอแล้วก็เดินออกไป ปรายฟ้าให้ข่าวกับนักข่าวว่าเธอกับแดนเทพยังดีกันอยู่และเธอก็สนิทกับไอด้า ลูกติดของแดนเทพด้วย และวางแผนให้นักข่าวมาถ่ายรูปตอนที่เธออยู่กับแดนเทพว่าเป็นการซ้อมฮันนีมูน อีกด้วย ข่าวที่ออกมาจึงว่าแดนเทพกับปราบฟ้ามีข่าวดีแน่นอนส่วนเคทเป็นแค่เมียเก่า เท่านั้น

เคทเห็นข่าวหมดความอดทนจึงพาไอด้ากลับฮอลแลนด์ ไอด้าโกรธเคทหนีออกจากเครื่องบินทำให้เคทตามลงมา ตามหาทั้งที่ไม่รู้จักทางในกรุงเทพฯเลย ปรายฟ้าโทรบอกเคทว่าไอด้าอยู่ที่บ้านแดนเทพแล้ว เคทกลับไปแต่เห็นภาพที่แดนเทพ ไอด้า และปรายฟ้าอยู่ด้วยกันเข้าจึงเสียใจและร้องไห้ออกไป ไอด้าเห็นเคทเข้าวิ่งไปหาแม่อย่างรู้สึกผิด แดนเทพต่อว่าเคท เคทไม่สนใจฟังแดนเทพ ถามความสมัครใจว่าไอด้าจะอยู่ที่ไหน ปรายฟ้าช่วยพูดให้ไอด้าเห็นใจแม่ ไอด้าฝืนความรู้สึกบอกว่าจะกลับฮอลแลนด์กับแม่ แดนเทพจะตัดสินใจอย่างไร จะเลือกหมั้นกับปรายฟ้า หรือ ตามหาหัวใจของตัวเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตาในละคร พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

รายชื่อนักแสดงนำในละคร พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ศุกลวัฒน์  คณารศ     แสดงเป็น     แดนเทพ
อคัมย์สิริ  สุวรรณศุข     แสดงเป็น     เคท
พลอยปภัส      ธนันต์ชัยกานต์     แสดงเป็น     ไอด้า/ไอยดา
กาญจน์เกล้า  ด้วยเศียรเกล้า     แสดงเป็น     ปรายฟ้า
กฤษณกัณฑ์  มณีผกาพันธ์     แสดงเป็น     คีตะ
พรรัมภา  สุขได้พึ่ง     แสดงเป็น     โอ๋
อธิชนัน  ศรีเสวก     แสดงเป็น     เอื้อมดาว
สุรวุฒิ  ไหมกัน     แสดงเป็น     ผู้พันดนัย
นพพล  พิทักษ์โล่พานิช     แสดงเป็น     ท่านชายต้อม
โอลิเวอร์  บีเวอร์     แสดงเป็น     ปั๋ง
วันชัย  เผ่าวิบูล     แสดงเป็น     คุณยุทธ
ปภัสรา  เตชะไพบูลย์     แสดงเป็น     คุณเอื้อ
วิชญ  จารุจินดา     แสดงเป็น     โม่ง
ภัทรี  ชนะศักดิ์     แสดงเป็น     แอน
พรรณี  โต๊ะนายี     แสดงเป็น     แม่บ้านแดนเทพ
สมชาย  ลีลารักษ์สกุล     แสดงเป็น     อั๋น

พระจันทร์ลายพยัคฆ์

พระจันทร์ลายพยัคฆ์ เรื่องราวระหว่าง สองสาวพี่น้องต่างสกุล แต่เพราะมาประสบเรื่องราวคล้าย ๆ กันเมื่อพ่อซึ่งเป็นตำรวจถูกขบวนการค้ายาเสพติดฆ่าตาย และเมื่อทั้งคู่ได้มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน และรักใคร่กลมเกลียวเหมือนเป็นพี่น้องสายโลหิตแท้ ๆ แต่ด้วยเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว ที่ทำให้ทั้งคู่ ต้องมาห้ำหั่นกันเอง ทำให้เกิดเป็นปมเรื่องราวความขัดแย้งขึ้น  จึงเป็นที่มาของละคร พระจันทร์ลายพยัคฆ์

จันทร์ ฉาย (อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ) ลูกสาวตำรวจที่เก็บความแค้นตั้งแต่เด็ก เช่น เดียวกับ ปานเดือน (ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม) และ ทิวา (ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว) ที่โตมาในครอบครัวตำรวจ จันทร์ฉายเห็นพ่อตัวเองกับพ่อของปานเดือนถูกพวกค้ายาเสพติดยิงตายต่อหน้าต่อตา นวล (ตุ้ม-รสริน จันทรา) แม่ของปานเดือน-ทิวา จึงรับอุปการะจันทร์ฉายเป็นลูกบุญธรรม ทั้ง 3 คน รักกันเหมือนพี่-น้องแท้ๆ แถมยกให้จันทร์ฉายเป็นพี่สาวคนโตคอยปกป้องน้องๆ

หลังเรียนจบปานเดือน กับจันทร์ฉายสอบเข้าเป็นนายร้อยตำรวจหญิงรุ่นเดียวกัน ทั้งคู่ถูกส่งไปฝึกกับ ผู้กองอานนท์ (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณาเรศ) นายตำรวจรูปหล่อแห่งกองปราบฯ ปานเดือนหลงรักอานนท์ตั้งแต่แรกพบ ผิดกับจันทร์ฉายที่ไม่ถูกชะตากับอานนท์เอาซะเลย ระหว่างฝึกภาคปฏิบัติจันทร์ฉายแสดงฝีมือ และคอยช่วยเหลือคนอื่น จนเพื่อนๆ รัก และยอมรับเธอมากกว่าปานเดือน น้องสาวที่ยึดติดกับกฎเกณฑ์จนไม่สนใจมิตรภาพของเพื่อน อานนท์จึงเลือกจันทร์ฉายเป็นผู้ช่วยคนใหม่แทน ไพลิน (เอมี่-เอมิกา บูเฮอร์) สายตำรวจที่ถูกพวกค้ายาฯ ฆ่าตาย เหตุนี้ทำให้ปานเดือนเข้าใจว่าพี่สาวจะแย่งอานนท์ เธอร่วมมือกับ ผู้กองชัชวาล (กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์) มือปราบคู่ปรับอานนท์ คอยตัดหน้าการจับกุมทีมของจันทร์ฉายทุกครั้ง

ต่อมาทีมอานนท์ได้รับ มอบหมายให้จับกุม ภูผา (เก่ง-ชาติชาย งามสรรพ์) หัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ แต่ก็ถูกชัชวาลกับปานเดือนจับกุมตัดหน้าจนเสียแผน แถมเธอยังเกือบถูกภูผาฆ่า โชคดีที่จันทร์ฉายไปช่วยทัน แต่จันทร์ฉายบันดาลโทสะยิงภูผาตาย!! ชำระแค้นที่มันเคยฆ่าพ่อของเธอ กับปานเดือนตาย การกระทำเกินกว่าเหตุทำให้จันทร์ฉายถูกลงโทษ อานนท์ขอร้องปานเดือนช่วยให้ปากคำเข้าข้างจันทร์ฉาย เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอพ้นผิด แต่ด้วยความอิจฉาที่เห็นอานนท์ห่วงใยพี่สาวปานเดือนเลยปรักปรำจันทร์ฉายจน ต้องติดคุก
แม้ภูผาจะถูกฆ่าแต่สมุนมันยังตามแก้แค้นปานเดือน -จันทร์ฉายไม่เลิก จนแม่ของพวกเธอต้องรับเคราะห์ถูกทำร้ายสาหัส แค้นครั้งนี้ทำให้ปานเดือนเกลียดจันทร์ฉายเพิ่มทวีคูณ เพราะคิดว่าพี่สาวเป็นต้นเหตุของเรื่องร้ายๆ หลังพ้นโทษจันทร์ฉายตามแก้แค้นคนทำร้ายแม่บุญธรรมอย่างเลือดเย็น ความผิดซ้ำๆ ทำให้เธอถูกไล่ออกจากราชการ แถมปานเดือนยังประกาศตัดพี่ตัดน้องกับจันทร์ฉาย ทิวาสงสารจันทร์ฉายแต่ไม่กล้าขัดปานเดือน จันทร์ฉายหมดหนทางเลยไปอยู่กับ สมชาย (บอล เชิญยิ้ม) อดีตพนักงานในผับภูผา ทั้งคู่สนิทกันตอนที่เธอปลอมเป็นนักร้องไปสืบคดีให้กองปราบ จันทร์ฉายกับสมชายหุ้นกันขายของจนกลายเป็นเพื่อนซี้

ไม่นาน วายุ (อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์) น้องชายต่างแม่ของภูผา มารับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งแทน ด้วยความที่ภูผาเคยดูถูกแม่วายุไว้มาก ทำให้เขาอยากล้างแค้นพี่ชายมากกว่าจะกำจัดศัตรู จึงแค่ให้ เมธี (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) มือขวาเก่าภูผาไปก่อกวนจันทร์ฉายจนทำมาหากินไม่ได้ อานนท์พยายามช่วยเหลือจันทร์ฉายทุกอย่างแต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง เพราะเธออยากให้อานนท์รักปานเดือน ส่วนเธอจนตรอกจนต้องบุกไปชำระแค้นกับวายุ จันทร์ฉายโชว์ฝีมือจัดการสมุนเมธีจนวายุทึ่ง! อยากได้เธอมาร่วมงาน แต่จันทร์ฉายไม่คิดทำงานผิดกฎหมาย จนวายุถูกศัตรูลอบทำร้าย และเธออยู่ในเหตุการณ์พอดีจึงปกป้องเขาจนปลอดภัย วายุขอให้จันทร์ฉายมาเป็นบอดี้การ์ด โดยสัญญาจะไม่ให้เธอยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด แถมยื่นเงื่อนไขเป็นเงินก้อนโตให้เธอไปรักษาแม่บุญธรรม จันทร์ฉายจึงยอมตกลง แต่การร่วมแก๊งของเธอทำให้ จอมขวัญ (ปอย-ปวีณา ตันฑ์ศรีสุโรจน์) ภรรยาภูผากับเมธีที่เป็นชู้รักกันไม่พอใจ เพราะพวกมันกำลังจะกำจัดวายุ และยึดอำนาจทั้งหมด ด้วยสัญชาตญาณตำรวจจันทร์ฉายอ่านเกมชั่วของชู้รักคู่นี้ออก จึงขัดขวางแผนร้ายของทั้งคู่ได้ทุกครั้ง

หลังปานเดือนกำจัดจันทร์ ฉายพ้นทาง เธอทำทุกทางให้ได้ใจอานนท์แต่ไม่เป็นผล แถมยังเจอศัตรูหัวใจคนใหม่อย่าง ดุจดาว (แก้มบุ๋ม-พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) ลูกสาว ท่านวิชาญ (เจี๊ยบ-ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) นักการเมืองใหญ่ ดุจดาวหลงเสน่ห์อานนท์จึงให้เขามาเป็นบอดี้การ์ด อานนท์กับปานเดือนเลยได้เข้านอกออกในบ้านวิชาญบ่อยๆ เลยรู้ว่าจันทร์ฉายไปทำงานให้วายุ วิชาญเดาปมแค้นของปานเดือนที่มีกับพี่สาวออก เลยหว่านล้อมให้เธอร่วมมือกำจัดพวกวายุได้ไม่ยาก ปานเดือนประกาศลากคอจันทร์ฉายเข้าตารางให้ได้ ที่สำคัญเกมนี้วิชาญยังมีเมธีกับจอมขวัญเป็นหนอนบ่อนไส้คอยล้วงความลับ และใส่ร้ายจันทร์ฉายให้วายุฟังบ่อยๆ แต่เขาไม่สนเพราะจันทร์ฉายเป็นคนดี วิชาญให้ ต้าเหว่ย (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) หัวหน้าขบวนการค้ายานรกชนกลุ่มน้อยหลอกซื้อยาจากวายุ พอวันส่งของต้าเหว่ยทำร้ายจนวายุตาบอดแล้วจับเป็นตัวประกัน วายุหว่านล้อมทุกวันจนต้าเหว่ยยอมช่วยเขา แต่หุ้นส่วนต้าเหว่ยไม่เอาด้วย พอถึงวันไถ่ตัวจันทร์ฉายอาสาถือเงินมาเอง ขณะแลกตัวประกันต้าเหว่ยส่งซิกให้จันทร์ฉายคุ้มกันให้วายุ ส่วนตัวเองยิงสกัดหุ้นส่วนเก่าตายคาที่ ช่วยวายุ-จันทร์ฉายรอดมาได้ ทำให้วายุกับต้าเหว่ยกลายเป็นหุ้นส่วนกันทันที

ตลอดเวลาที่วายุตา มองไม่เห็นจันทร์ฉายกับสมชายดูแลเขาอย่างดี ความดีของเธอทำให้วายุหลงรักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานตาของวายุก็มองเห็นปกติ แต่เขาทำเป็นตาบอดเหมือนเดิม เพราะอยากรู้ว่าใครคิดร้ายกับตัวเองบ้าง ถึงรู้ว่าเมธีกับจอมขวัญเป็นพวกวิชาญไปแล้ว แต่วายุไม่โวยวายตามเกมทั้งคู่ต่อ เขาเลยรู้ว่าปานเดือนก็ร่วมมือกับวิชาญ คอยบอกความเคลื่อนไหวของตำรวจให้ขบวนการค้ายาฯ ของวิชาญรู้ จนพวกมันหนีการจับกุมได้ทุกครั้ง เพื่อแลกกับตำแหน่งในราชการ และจะยืมมือวิชาญฆ่าจันทร์ฉาย ปานเดือนถลำลึกหลงผิดจนถอนตัวไม่ขึ้น

ไม่ นานเมธีก็หลอกวายุ-จันทร์ฉาย-สมชายไปให้ปานเดือนจับ งานนี้มีอานนท์กับ จ่าพงศ์ (ค่อม ชวนชื่น) ร่วมทีมด้วย จันทร์ฉายประจันหน้ากับอานนท์ เธอตัดสินใจปกป้องวายุจนอานนท์ต้องโต้กลับ วายุกลัวจันทร์ฉายถูกจับเลยเข้าชาร์จช่วยเธอ ทุกคนตะลึง! ที่ตาวายุมองเห็น เขาอาศัยทีเผลอรัวยิงตำรวจตายเป็นเบือ อานนท์แค้นแทบคลั่งที่สูญเสียเพื่อนๆ เขากระหน่ำยิงใส่รถวายุจนแล่นลับตาไป เมื่อถึงที่พักจันทร์ฉายอาละวาดวายุอย่างหนัก เพราะโกรธที่วายุปิดบังเรื่องการมองเห็น วายุรู้สึกผิดต่อเธอมากเขาขอโทษ และสัญญาจะวางมือจากธุรกิจผิดกฎหมายทุกอย่าง หากจันทร์ฉายยอมใช้ชีวิตด้วย แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธไร้เยื่อใย ก่อนเดินจากวายุไปทันที

ส่วนอานนท์ก็ ถูกผู้ใหญ่เร่งให้ปิดคดีวายุ เป็นจังหวะเดียวกับที่วายุมาตามหาจันทร์ฉายที่แฟลตอานนท์ 2 หนุ่ม แทบจะฆ่ากันให้ตาย โดยไม่รู้ว่าจันทร์ฉายกำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะเธอตัดสินใจไปกราบลา แม่นวล ที่บ้านเก่า ขณะที่แม่ลูกกอดลากันร้องไห้ ปานเดือนก็โผล่มาจ่อปืนใส่จันทร์ฉายต่อหน้าแม่ ทุกคนตกใจมากบอกให้จันทร์ฉายหนีไป แต่เธอไม่หนีแถมยอมมอบตัวให้ปานเดือนจับโดยดี ท่าทางปานเดือนเหมือนคนเสียสติ ทิวาชาร์จปานเดือนเพื่อให้จันทร์ฉายหนี แต่ปานเดือนตามไม่เลิก โชคดีที่วายุตามมาทันเขาพาจันทร์ฉายหนีตายไปกบดานบ้านเก่าบนเกาะส่วนตัว

ขณะ ที่วายุ-จันทร์ฉาย-สมชายไปถึงท่าเรือ อานนท์-จ่าพงศ์ก็เข้าสกัดจับ แต่ไม่ทันเจรจาจู่ๆ วิชาญก็ส่งสมุนมากำจัดวายุกับพวก งานนี้อานนท์กับจ่าพงศ์เลยต้องช่วยพวกวายุก่อน ระหว่างที่ต่างคนต่างหนีวิถีกระสุน สมุนวิชาญก็ยิงถังน้ำมันตรงที่จันทร์ฉายหลบอยู่ระเบิด!! ร่างของเธอหายไปในพริบตา ทำเอาอานนท์กับวายุช็อก! จนถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บทั้งคู่ จ่าพงศ์กับสมชายต่างก็ช่วยหัวหน้าตัวเองอย่างทุลักทุเล แต่ปานเดือนไม่เชื่อว่าจันทร์ฉายจะตายง่ายๆ เธอยังตามล่าล้างแค้นจันทร์ฉายแทบพลิกแผ่นดิน เรื่องราวการล้างแค้นของ 2 พยัคฆ์สาว ปานเดือน กับ จันทร์ฉาย จะจบลงยังไง? และอานนท์ จะหาทางออกให้หัวใจตัวเองได้หรือไม่?

รายชื่อนักแสดงนำในละคร พระจันทร์ลายพยัคฆ์

ศุกลวัฒน์ คณารศ     แสดงเป็น     อานนท์
พัชราภา ไชยเชื้อ     แสดงเป็น     จันทร์ฉาย
จีรนันท์ มะโนแจ่ม     แสดงเป็น     ปานเดือน
อรรคพันธ์ นะมาตร์     แสดงเป็น     วายุ
ชาติชาย งามสรรพ์     แสดงเป็น     ภูผา
ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์     แสดงเป็น     เมธี
ปวีณา ตันฑ์ศรีสุโรจน์     แสดงเป็น     จอมขวัญ
พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์     แสดงเป็น     ดุจดาว
เอมิกา บูเฮอร์     แสดงเป็น     ไพลิน
ศักราช ฤกษ์ธำรง     แสดงเป็น     ท่านวิชาญ
บอล เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     สมชาย
ค่อม ชวนชื่น     แสดงเป็น     จ่าพงศ์
กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์     แสดงเป็น     ผู้กองชัชวาล
จักรกฤษณ์ กนกพจนานนท์     แสดงเป็น     ชัย
ประชากร ปิยะสกุลแก้ว     แสดงเป็น     ทิวา
ไกรลาศ เกรียงไกร     แสดงเป็น     สารวัตรขจร
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์     แสดงเป็น     ต้าเหว่ย
ชูษี เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     ปกรณ์
ตูมตาม เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     คำรณ
รสริน จันทรา     แสดงเป็น     นวล