Tag Archives: วีรภาพ สุภาพไพบูลย์

แม่อายสะอื้น

แม่อายสะอื้น เป็นเรื่องราวของ ดาวนิล สาวสวยที่สุดของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอแม่อาย มีความสามารถด้านการฟ้อนดาบเพราะ คำปัน พ่อของดาวนิลเป็นพ่อครูด้านการแสดงศิลปะล้านนา ดาวนิลสามารถฟ้อนดาบได้เป็นที่ เลื่องลือ ในขณะที่ช่อเอื้อง น้องสาวตีกลองสะบัดชัยได้เก่งไม่แพ้ใคร แต่เพราะความเก่ง ทำให้คณะของคำปันมีปัญหากับหนานเมือง เพื่อนบ้านที่ต้องการแย่งงานแสดง ในขณะที่ รินคำ ลูกสาวหนานเมือง อิจฉาความสวยของดาวนิลที่ ทอน ลูกชายผู้ใหญ่มาหลงรัก รินคำพยายามหาทางกลั่นแกล้งแต่ดาวนิลก็ ปกป้องพ่อและน้องไว้ทุกครั้ง คืนหนึ่ง ดาวนิลได้ไปแสดงในงานเปิดรีสอร์ทใหญ่ และเจอกับ ทรงพล เจ้าของโรงแรม ที่ชื่นชมความเก่งของดาวนิล ดาวนิลหวั่นไหวกับรอยยิ้มของทรงพล แต่ทรงพลไม่ได้สนใจเพราะมีคนรักคือ จิดาภา อยู่แล้ว คำปัน เริ่มตาฟาง เมื่อดาวนิลพาไปตรวจ ก็รู้ว่าพ่อเป็นต้อหิน หมอบอกว่าต้องรีบรักษา ก่อนที่ตาจะตาบอดเฉียบพลัน ดาวนิลพยายามหางานเพิ่ม แต่ อ้ายศักดิ์ นายหน้าหางาน ก็ฉวยโอกาสจะปลุกปล้ำ ดาวนิลไม่ยอมและทำร้ายอ้ายศักดิ์เพื่อป้องกันตัว หนานเมืองจึงฉวยโอกาสรวมหัวกับอ้ายศักดิ์ จนคณะคำปันไม่มีงานแสดงอีก ดาวนิลไม่ยอมแพ้ ลงมาหางานในเมือง จึงได้เจอทรงพลที่มาติดต่อธุรกิจ แต่ดาวนิลก็อายความจนของตัวเอง ได้แต่มองทรงพลเดินจากไปอีกครั้ง วิไล ที่กลับมาเยี่ยม ป้าบัว ผู้เป็นแม่แม่ รู้เรื่องดาวนิลต้องการทำงาน ก็ชวนดาวนิลเข้ากรุงเทพ ดาวนิลยังลังเลเพราะกลัวไม่มีคนดูแลพ่อ แต่สุดท้ายก็ต้องลาพ่อทั้งน้ำตาเพราะไม่อาจทนดูดายให้พ่อตาบอดได้ ดาวนิลโดนเพื่อนรักอย่างวิไลหลอกมาขายตัวโดยวางยานอนหลับ ดาวนิลไม่อยากขายศักดิ์ศรีจึงคิดกลับบ้าน วิไลเกลี้ยกล่อมโดยอ้างให้เห็นแก่ดวงตาของพ่อ ดาวนิลจำใจทำงานต่อ ด้วยความตั้งใจว่าได้เงินครบเมื่อไหร่ จะกลับบ้านทันที ทรงพลอยากแต่งงานกับจิดาภา แต่ สาวน้อย แม่นมเก่าแก่ของตระกูลไม่พอใจที่ จิดาภา เย่อหยิ่ง หัวสูงเกินไป เทวัญ พี่ชายทรงพลกับ ทรงวุฒิ น้องชาย พยายามช่วย แต่ก็แพ้สาวน้อยที่ขัดขวางความรักของทรงพลทุกทาง จนในที่สุด จิดาภาก็ทิ้งทรงพลไป ทรงพลเสียใจมาก ทรงวุฒิ พาพี่ชายไปปลอบใจที่อาบอบนวด ดาวนิลได้เจอทรงพลอีกครั้ง แต่ในสภาพน่าอับอายกว่าเดิม ดาวนิลพยายามหนี แต่ทรงพลเมามาย จำดาวนิลไม่ได้ ดาวนิลยอมเป็นของทรงพลด้วยความเต็มใจ ดาวนิลที่รวบรวมเงินได้ครบ กำลังจะกลับบ้าน แต่เกิดแพ้ท้อง วิไลบังคับให้ดาวนิลไปทำแท้ง แต่ ตำรวจทลายคลีนิคเถื่อน ดาวนิลถูกพาส่งโรงพยาบาล หมอเทวัญช่วยชีวิตและเตือนสติดาวนิล ดาวนิลพรั่งพรูว่าไม่ต้องการทำลายชีวิตลูกที่เกิดจากความรัก เทวัญเห็นใจดาวนิล จึงพามาอาศัยอยู่กับ คุณนายติ๊ด เจ้าของร้านเสื้อ คุณนายติ๊ดคิดว่า ดาวนิลอาจจะเป็นเมียลับของเทวัญ จึงรับไว้ทำงาน หวังเอาหน้าแต่พอรู้ความจริงว่าดาวนิลเป็นแค่คนไข้ คุณนายติ๊ดกับ ผึ้ง ลูกน้องในร้านก็โขกสับใช้งานจนดาวนิลคลอดก่อนกำหนด ลูกออกมาขาพิการ คุณนายติ๊ดยื่นคำขาดให้ดาวนิลเอาลูกไปเลี้ยงที่อื่น ดาวนิลจะกลับบ้าน แต่คุณนายติ๊ดขู่จะทวงเงินค่าซ่อมแซมร้านที่เสียหายเพราะดาวนิลคลอดลูกจาก เทวัญ ดาวนิลกลัวเทวัญเดือดร้อนไปด้วย จึงคิดเอาลูกไปฝากที่แม่อาย และรับปากว่าจะมาทำงานใช้หนี้ให้ ดาวนิลกลับมาแม่อายท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน ที่มีเด็กมาด้วย ช่อเอื้องเถียงแทนทันทีว่าไม่ใช่ลูกดาวนิล ดาวนิลกดดันมากที่พ่อถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยาม จึงตัดสินใจโกหกทุกคนว่า เป็นลูกของเพื่อนที่ตายไป คำปันดีใจที่ลูกกลับบ้าน ช่อเอื้องไม่อยากให้พี่กลับไปกรุงเทพอีก ดาวนิลฝาก กลอง ลูกชายไว้ และสัญญาว่าทำงานใช้หนี้คุณนายติ๊ดครบเมื่อไหร่ จะรีบกลับมาแม่อาย ดาวนิลก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่ความสวยของดาวนิลสะดุดตา หลิวหลิว สไตลิสท์ จนชักนำไปถ่ายแบบและเล่นหนัง คุณนายติ๊ดเยาะเย้ยและด่าว่า จนดาวนิลออกมาจากร้านคุณนายติ๊ด ดาวนิล อดทนทำงานจนได้เล่นหนังวีซีดี และได้ถ่ายแบบสปาของโรงแรมทรงพลที่กระบี่ ดาวนิลดีใจที่ได้เจอทรงพลในฐานะใหม่ ทรงพลประทับใจความขยันและความอ่อนโยนของดาวนิล จนเกิดเป็นความรัก ดาวนิลกำลังจะได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่วันหนึ่งเมื่อคุณนายติ๊ดมาเจอดาวนิลในกองถ่าย ด้วยความแค้น คุณนายติ๊ดจึงแฉเรื่องที่ดาวนิลมีลูกมาก่อน หลิวหลิวไม่ยอมสนับสนุนดาวนิลต่อ ดาวนิลโดนดูถูก จนคิดดันตัวเองเพื่อลบล้างคำสบประมาทของทุกคน ดาวนิลได้เป็นนางเอกและหลงในความสุขสบาย และความรักที่มีกับทรงพล จนลืมอีกสามชีวิตที่แม่อาย คำปันเฝ้ารอคอยลูกด้วยความหวัง แต่สุดท้ายลูกสาวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ช่อเอื้องเสียใจที่ดาวนิลทิ้งพี่ทิ้งน้อง ตาของคำปันเริ่มมืดลง ช่อเอื้องดิ้นรนดูแลพ่อทุกทาง แต่ในที่สุดคำปันก็ตาบอดสนิท หลายปีผ่านไป ดาวนิลเป็นนางเอกดัง ทรงพลคิดเรื่องแต่งงานด้วยความมั่นใจในตัวดาวนิล จึงพาดาวนิลไปที่บ้านเพื่อรู้จักกับสาวน้อย แต่คนที่ดาวนิลเจอกลับเป็น เทวัญ เทวัญทำเป็นไม่รู้จักดาวนิล ทั้งที่เสียใจว่าผู้หญิงที่ตัวเองแอบรักกลายมาเป็นแฟนของน้องชาย ช่อเอื้องเห็นข่าวดาวนิลในทีวี ก็มาตามพี่ โดยอาศัยอยู่ที่ร้าน น้ามาลัย ญาติของ วรรณา เพื่อนสนิท ที่สถานีโทรทัศน์ ดาวนิลนัดเทวัญมาคุยเรื่องความลับ ช่อเอื้องมาดักรออยู่แล้ว แต่ดาวนิลไม่กล้า ยอมรับว่าช่อเอื้องเป็นน้อง เพราะมีนักข่าวอยู่ด้วย ช่อเอื้องผิดหวังมาก วิ่งหนีไม่ทันระวัง จึงชนเข้ากับรถของเทวัญ ที่โรงพยาบาลช่อเอื้องรู้ว่าดาวนิลเป็นคนรักของทรงพล น้องชายเทวัญ ช่อเอื้องโกรธที่ดาวนิลลืมความเป็นพี่เป็นน้อง จึงออกปากขออาศัยอยู่กับเทวัญ ดาวนิลพยายามห้าม แต่ช่อเอื้องบอกว่าเธอจะอยู่ จนกว่าดาวนิลจะยอมรับกับทุกคนว่า เธอคือน้องที่มาจากแม่อาย ดาวนิลกลืนไม่เข้า คายไม่ออกเมื่อสาวน้อยเอ็นดูช่อเอื้อง ที่เป็นเพียงคนงานในบ้าน สาวน้อยเห็นความผิดปกติของดาวนิลกับช่อเอื้อง แต่สองพี่น้องก็ไม่ยอมพูด เทวัญเตือนให้ดาวนิลบอกความจริง แต่ดาวนิลกลัวจะเสียทรงพลไป สาวน้อยจับผิดว่าดาวนิลกับเทวัญดูมีความสนิทสนมกัน จึงบอกกับทรงพล ทรงพลเริ่มระแวง ช่อเอื้องอยากกลับบ้าน สาวน้อยสงสาร จึงให้ไปรับพ่อกับหลานมาอยู่ด้วย ดาวนิลยิ่งเครียดหนักเมื่อ เจอพ่อที่ตาบอดและลูกชายที่ขาพิการพร้อมหน้า ดาวนิลทุกข์ทรมานกับความผิดที่ทิ้งพ่อกับลูกจนฆ่าตัวตาย แต่หลิวหลิวมาช่วยไว้ทัน ดาว นิลไม่ยอมบอกทรงพลว่าอยากตายเพราะเรื่องอะไร เทวัญโกรธที่ดาวนิลไม่ยอมรับความจริง ทรงพลมองความผิดปกติของพี่ชายกับคนรักด้วยความสงสัยมากขึ้นทุกที คำปันได้ยินทุกคนเรียกชื่อ ดาวนิล ก็ดีใจว่าอาจจะเป็นลูกสาวของตัว แต่ช่อเอื้องกลัวพ่อเสียใจ ก็จำต้องโกหกพ่อไปว่า ไม่ใช่พี่ดาวนิลของเรา ทรงวุฒิสนใจช่อเอื้อง แต่ช่อเอื้องไม่เล่นด้วย ทรงวุฒิจึงออกอุบายจะพาช่อเอื้องลงไปโรงแรมที่กระบี่ ทรงพลตามลงไปเรื่องงานและพาดาวนิลไปด้วย โดยไม่รู้ว่าเทวัญพักผ่อนอยู่ที่นั่นแล้ว ในงานเลี้ยงของโรงแรม ช่อเอื้องขึ้นตีกลองสะบัดชัยและร้องเพลงกระทบใจดาวนิล ดาวนิลกดดันอย่างหนัก วิ่งลงทะเลหวังให้จมน้ำตาย แต่เทวัญมาช่วยไว้ ทรงพลเข้าใจผิดจนเกิดการโต้เถียงและปลุกปล้ำดาวนิล รุ่งเช้าทรงพลรู้ว่าตัวเองผิดจึงขอหมั้น และวาดหวังเรื่องอนาคตไว้อย่างสวยงาม ดาวนิลที่กำลังจะพูดความจริงเรื่องพ่อ ก็ต้องเงียบไปอีก ทรงพลกลับมาบอกเรื่องหมั้น สาวน้อยไม่ยอมรับ หลิวหลิวเอาข่าวไปขยาย พอหนังสือพิมพ์ลง คุณนายติ๊ดริษยาดาวนิล จึงยุยงจิดาภาที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกว่า ทรงพลกำลังโดนดาวนิลหลอก คุณนายติ๊ดมาแฉความจริงเรื่องดาวนิลมีลูก โดยอ้างถึงเทวัญ เทวัญปฏิเสธเพื่อช่วยดาวนิล คุณนายติ๊ดกับจิดาภาต้องถอยกลับไปตั้งหลัก สาวน้อยพยายามเตือนให้ทรงพลฟังหูไว้หู แต่ทรงพลตัดปัญหาด้วยการประกาศจะแต่งงานกับดาวนิล ช่อเอื้องเสียใจมากที่ ดาวนิล ปิดบังความจริงเรื่องลูกอีกเรื่อง ดาวนิลอับจนหนทาง เมื่อเรื่องมัดตัวแน่นขึ้นและทางออกตีบตัน จึงทำได้แค่แอบมาหาพ่อบ่อย ๆ คำปันพูดคุย ปลอบโยนดาวนิล โดยไม่รู้เลยว่าเป็นลูกสาวที่ตัวเองเฝ้ารอคอย คุณนายติ๊ดหาหลักฐานมาแฉได้ว่าดาวนิลเป็นพี่น้องกับช่อเอื้อง ดาวนิลคิดว่าทุกอย่างคงจบสิ้น แต่ช่อเอื้องปฏิเสธต่อหน้าทุกคนว่าผู้หญิงสกปรกอย่างดาวนิลไม่ใช่พี่ดาวนิล ผู้งดงามของเธอ ดาวนิลปวดร้าวที่น้องไม่ยอมรับ ช่อเอื้องเจอวิไลก่อนจะกลับแม่อาย วิไลบอกความจริงเรื่องสุดท้ายว่าดาวนิลมีลูกจากการขายตัว ช่อเอื้องแทบล้ม ดาวนิลร้องไห้ ขอร้องน้องว่าอย่าบอกพ่อ เพราะกลัวพ่อเสียใจ วิไลถูกซื้อตัวจากคุณนายติ๊ดเพื่อแฉดาวนิล แต่วิไลกลับตัวในวินาทีสุดท้าย ดาวนิลจึงรอดพ้นจากการถูกประจานกลางกองถ่าย แต่ทรงพลที่ได้ยินวิไลคุยกับช่อเอื้องเรื่องลูก ก็เข้าใจว่าดาวนิลเคยท้องกับพี่ชายตัวเองมาก่อน ทรงพลมาคาดคั้นเอาความจริงเรื่องลูก ดาวนิลร้องไห้ บอกความจริงทั้งน้ำตาว่า กลองคือลูกของทรงพล ทุกคนตกตะลึง ทรงพลรับไม่ได้ หนีไปทันที สาวน้อยเป็นลม ช่อเอื้องทั้งสงสารทั้งเกลียดชังพี่ตัวเองที่ปิดบังทุกอย่าง ดาวนิลบอกว่าการเป็นแค่ดาวนิล ลูกพ่อครูคำปันในคณะรำไม่มีค่า มีความหมายสำหรับชีวิตที่นี่เพราะเธอโดนดูถูก โดนเหยียดหยามมาตลอด สองพี่น้องโต้เถียงกันโดยไม่รู้เลยว่า คำปันแอบได้ยินทุกคำพูดด้วยหัวใจที่แตกสลาย เมื่อรู้ว่าลูกสาวทั้งสองคนโกหกตนมาตลอดเวลา คำปันหนีออกไปกับกลองด้วยใจที่เจ็บช้ำ ดาวนิลช็อคนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล ช่อเอื้องกับทรงวุฒิพยายามตามหาคำปัน แต่ไม่พบ เทวัญมาเตือนสติทรงพลที่กระบี่ คำปันถูกพากลับมาแม่อายในสภาพจิตใจบอบช้ำ และเพ้อถึงดาวนิล จนตายในอ้อมกอดช่อเอื้อง ดาวนิลฟื้นขึ้นมาเจอทรงพล แต่ทรงพลทำใจให้อภัยกับความผิดของดาวนิลไม่ได้ ดาวนิลเสียใจมาก ที่อดทนมาทุกอย่าง แต่ทรงพลกลับไม่ยอมรับ ดาวนิลหมดสติไปอีกครั้ง และฟื้นมาในวันสวดศพพ่อวันสุดท้าย หลิวหลิวตัดสินใจบอกเรื่องคำปัน ดาวนิลไม่เชื่อว่าพ่อจะตาย แต่พอมาถึงแม่อาย ภาพโลงศพของพ่อทำให้ดาวนิลร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ดาวนิลแหวกฝูงชนเข้าไปรถขนศพ ทุกคนรังเกียจ พากันสาปแช่งขบวนแห่ศพเคลื่อนไปโดยไม่มีใครสนใจ ปล่อยให้ดาวนิลทรุดลงสะอื้นอยู่ตามลำพัง ที่หน้าเมรุ ช่อเอื้องตีกลองสะบัดชัยหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ดาวนิลเดินมาพร้อมดาบสิบสองเล่มในมือ ดาวนิลกราบหน้ารูปพ่อ ขอให้พ่ออภัย ก่อนจะฟ้อนดาบอย่างงดงามหาใครเหมือน ทรงพลมองดาวนิลแล้วหยิบแหวนหมั้นออกมามอง คิดให้อภัยและหวังจะสร้างครอบครัวกับดาวนิล ดาวนิลรำมาจนถึงท่าสีไคล ก่อนจะใช้ดาบปาดคอตัวเองตายลงต่อหน้ารูปพ่อ ทุกคนตกตะลึง ช่อเอื้องร้องไห้ กอดพี่ว่าอย่าทิ้งเธอไปอีก ดาวนิลสิ้นใจตายในอ้อมกอดของน้อง สามเณรกลองน้ำตาไหล บอกกับทรงพลว่า โยมพ่อช่วยปิดตาโยมแม่ด้วย

ละคร แม่อายสะอื้น นำแสดงโดย

1. วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบทเป็น ดาวนิล

2. วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทเป็น ทรงพล

3. สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา รับบทเป็น ช่อเอื้อง

4. พลวัฒน์ มนูประเสริฐ รับบทเป็น เทวัญ

5. สุประวัติ ปัทมสูต รับบทเป็น คำปัน

6. จุรี โอศิริ รับบทเป็น สาวน้อย

7. ถนอม นวลอนันต์ รับบทเป็น หนานเมือง

8. เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ รับบทเป็น ป้าบัว

ผักบุ้งกับกุ้งนาง

ผักบุ้ง สาวสวยเก่งและแก่น อาศัยอยู่กับยายและครอบครัวของน้าสาวในชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง นางนวล แม่ของผักบุ้งตายตั้งแต่ผักบุ้งยังเด็กอยู่ มีแต่ อรสา น้าสาวที่รักและเอ็นดูเธออย่างจริงใจ อรสารับภาระในการเลี้ยงดูเธอทุกอย่าง ทั้งที่อรสาเองก็มีลูกสาวเหมือนกันชื่อ มณี มณีนั้นอายุน้อยกว่าผักบุ้งเพียงไม่กี่เดือน ทั้งคู่โตมาด้วยกันแต่นิสัยต่างกันมาก ขณะที่ผักบุ้งขยัน เรียนเก่ง แต่มณีขี้เกียจ ดีแต่ฟุ้งเฟ้อ ยิ่งไปกว่านั้น นางพวง ผู้เป็นยายเองก็ลำเอียงรักมณีมากกว่าผักบุ้ง วันชัย น้าเขยก็เป็นกรรมกรมีเพียงค่าแรงรายวัน แต่ติดเหล้าเหมือนกันซ้ำร้ายยังชวนยายพวงกินเหล้าจนติดด้วยกันทั้งคู่

เมื่อ เรียนจบมัธยมปลายผักบุ้งไม่ต้องการทำตัวเป็นภาระให้กับน้าสาวอีก เธอจึงไม่ยอมเรียนต่อทั้งที่เรียนดี ผักบุ้งเริ่มทำงานหาเงินใช้เอง ตอนเช้าถึงเที่ยง เธอจะช่วยอรสาขายของ ฝีมือตำส้มตำของเธอมีลูกค้าติดกันมากมาย พอบ่ายจัดๆ เมื่อลูกค้าซาลง ผักบุ้งจะไปสำเพ็งหรือประตูน้ำเธอไปซื้อเครื่องประดับเก๋ๆ กับเสื้อผ้าสไตล์วัยรุ่นเพื่อเอามาขาย ผักบุ้งเองชอบค้าขายและเธอฝันอยากจะเป็นนักธุรกิจมีกิจการอะไรสักอย่างเป็น ของตัวเอง ผักบุ้งจึงขยันทำงานมากเธอเก็บออมกำไรจากการขายของเข้าธนาคารไว้ แต่ผักบุ้งต้องเก็บสมุดบัญชีซ่อนไว้จนมิดชิดและเรื่องเงินฝากนี้ผักบุ้งไม่ บอกใครเลย เพราะรู้ดีว่าทุกคนที่บ้านยกเว้นอรสาหิวเงินทั้งสิ้น

ผัก บุ้งจึงมุมานะทำงานมากขึ้น ช่วงไหนที่ไม่ได้ขายของเพราะฝนตกหรือไม่มีของดีๆ สวยๆ ผักบุ้งก็จะไปรับงานพิเศษเป็นพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มในห้องอาหารของโรงแรม หรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีงานเลี้ยงใหญ่ๆ มักจะมีพนักงานไม่พอเสมอ ผักบุ้งจึงได้ทำงานในแบบพาร์ตไทม์อยู่เรื่อย ยายพวงก็ทำให้ผักบุ้งหงุดหงิดจนได้ เมื่อใช้ให้เธอไปซื้อเหล้าแต่เช้า ขณะที่มณีเดินนวยนาดออกมาใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวตัวสั้น กางเกงเอวต่ำอวดผิวเนียนอย่างไม่อาย เมื่อผักบุ้งเตือนว่ามณีแต่งตัวโป๊เกินไป มณีหัวเราะเยาะว่าผักบุ้งอิจฉา ไม่มีปัญญาจะซื้อมาใส่ ยายพวงยังเข้าข้างมณีด่าผักบุ้งซ้ำอีก ผักบุ้งน้อยใจจึงผลุนผลันลงจากบ้าน เธอเดินไปหลังชุมชนบริเวณที่ติดกับวัด เธอไปบ้านของลุงสมานอดีตนักมวยทีมชาติ สมานเป็นครูสอนวิชาป้องกันตัวให้ผักบุ้ง ซึ่งผักบุ้งทำได้ดีเสียด้วย เธอปราบไอ้โตนักเลงใหญ่จนไม่กล้าหือ นอกจากปากเปราะ เจ๊าะแจ๊ะจีบเธอไปเรื่อย

สมานจะสอนให้เธออดทนและขยันทำมาหากิน ที่สำคัญผักบุ้งรู้ว่าสมานรักและเอ็นดูเธออย่างจริงใจ แต่วันนี้เธอเข้าเขตบ้านสมาน และเห็นว่าสมานอยู่กับ ร.ต.อ.เผด็จ ผักบุ้งก็หันหลังกลับทันที จนสมานต้องเรียกไว้ ผักบุ้งจึงยอมกลับมา ทั้งนี้เพราะเธอโกรธที่เผด็จห้ามไม่ให้เธอชกปากไอ้โตเมื่อวันก่อน ในฐานะที่มันปากเปราะแถมยังทำท่าจะลวนลามเธออีก ผักบุ้งไม่ยอมเข้าใจว่าเธอทำร้ายไอ้โตแล้วเธอน่ะแหละจะเป็นคนเดือดร้อน ถ้าไอ้โตแจ้งตำรวจจับเธอในข้อหาทำร้ายร่างกาย และเผด็จช่วยเธอต่างหาก เผด็จนั้นสนใจผักบุ้งเพราะความเฮี้ยบ และรู้มาว่าเป็นคนขยันนอกจากความสวย ยิ่งไปกว่านั้นเผด็จเองก็เป็นลูกศิษย์ของสมานเช่นกัน เผด็จเต็มใจที่จะดูแลผักบุ้งในฐานะน้องสาว และลูกศิษย์อาจารย์เดียวกันเสมอ อีกประการหนึ่งสมานเองก็ฝากให้เขาดูแลผักบุ้งด้วยเช่นกัน

คืนวันนั้น ผักบุ้งมีงานที่โรงแรมหรู เธอต้องไปเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานค็อกเทลเปิดตัวสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ระหว่างที่ทำงานผักบุ้งก็รู้สึกว่าเธอถูกชนจนเซไปปะทะหญิงสาวคนหนึ่ง แต่เมื่อผักบุ้งเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณี ผักบุ้งก็อึ้งพูดไม่ออกเมื่อพบว่าหญิงสาวผู้นั้นแต่งกายเรียบหรู สง่างาม ตัวของสาวไฮโซเองก็ตกใจที่พบกับคู่แฝดคนละฝาอย่างบังเอิญเช่นนี้ กุ้งนางหรือรัสมา เป็นทายาทคนเดียวของตระกูล “ดิเรกณรงค์” ซึ่งทำธุรกิจระหว่างประเทศมีสินทรัพย์เป็นพันล้านบาท กุ้งนางรู้แต่ว่าพ่อและแม่เธอประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะเดินทางไป ติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ ตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ ทองแข ผู้เป็นย่าเป็นผู้ที่ดูแลเธอมาจนโตเป็นสาว โดยมี ศิริพรรณ อาสะใภ้ช่วยดูแลอีกคน ส่วนธุรกิจต่างๆ สุธีผู้เป็นอาเป็นผู้ดูแล จนเจริญรุ่งเรืองและขณะนี้มี กร หลานชายของศิริพรรณมาช่วยทำงานอีกคนหนึ่ง

กุ้ง นางรักและนับถือกรเหมือนพี่ชาย เช่นเดียวกับกรที่เอ็นดูกุ้งนางเหมือนน้องสาว เขารู้สึกว่ากุ้งนางอ่อนแอ บอบบางเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ต้องมีคนดูแลตลอดเวลา สิ่งที่กุ้งนางเบื่อที่สุด คือ การที่ต้องถูกบังคับให้เรียนรู้การดำเนินธุรกิจอย่างคร่ำเคร่ง กุ้งนางถูกสุธีบังคับและเตรียมเธอให้พร้อมสำหรับดำเนินธุรกิจต่อจากเขามา ตั้งแต่เธอเริ่มเป็นสาว ไม่มีใครรู้ว่าสุธีทำลงไปก็เพื่อหวังบีบคั้นให้กุ้งนางเบื่อมากๆ ซึ่งขนาดขายบริษัทให้เขาได้ยิ่งดี หรือบ้าไปเลย สุธีก็จะยิ่งพอใจมาก เขาทำตัวเป็นญาติผู้ใหญ่ที่หวังดี แต่ความจริงแล้วสุธีโลภมาก เขาบริหารบริษัทมานานจนคิดว่าเป็นของตัวเอง และไม่ยอมที่จะให้เป็นของกุ้งนางอีกต่อไป ขณะที่เขาสอนงานกุ้งนางอย่างเคร่งครัด เขาก็แอบยักยอกรายได้ต่างๆ เข้ากระเป๋าตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

กุ้งนางคิดถึงผักบุ้งตลอดเวลา เธอเบื่อที่จะอยู่กับคนที่ไม่จริงใจ เธออยากเป็นอิสระบ้างถึงแม้ว่ากรจะเข้าใจและคอยช่วยเธอบ้างในเรื่องธุรกิจ แต่กุ้งนางก็อยากจะหนีไปไหนๆ ให้พ้นสักพัก ซึ่งเธอก็รู้ว่าคงรอดตาของกรหรือสุธีได้ยากเต็มที แต่แล้วกุ้งนางก็คิดออก เธอจะตามหาผักบุ้งและจะสลับตัวกันถึงแม้ชั่วคราวก็ยังดี ถึงแม้จะพบกันเพียงครั้งเดียว แต่กุ้งนางก็รู้สึกว่าผักบุ้งเป็นคนดี คืนวันต่อมากุ้งนางจะออกไปตามหาผักบุ้งที่โรงแรมนั้น กรมาพบเข้าพอดีจึงอาสาขับรถให้ เมื่อไปถึงที่โรงแรมกุ้งนางก็ผิดหวังเพราะผักบุ้งเป็นพนักงานชั่วคราว ตลอดเวลาที่เดินทางมากุ้งนางบอกกรเพียงว่าเธอจะมาหาเพื่อนชื่อผักบุ้งเท่า นั้น กุ้งนางให้กรพามาที่นี่อีกหลายครั้งแต่ก็ไม่พบ

วันหนึ่งกุ้ง นางทนไม่ไหวจึงหนีวิรัตน์ออกจากบ้านไป เธอขึ้นแท็กซี่ให้พาไปโรงแรมที่พบผักบุ้งอีก คราวนี้โชคดีเพราะผักบุ้งมาทำงานพิเศษและกำลังจะกลับบ้าน ทั้งคู่จึงพบกันหน้าโรงแรมที่นั่นเอง การหายไปของกุ้งนางทำให้กรเป็นห่วงมาก เขารีบขับรถออกมาตามหาเธอ ซึ่งเขาเดาว่ากุ้งนางต้องมาที่โรงแรมนี้ วันนี้กุ้งนางมีโอกาสคุยกับผักบุ้งเรื่องขอสลับตัวเพียงครู่เดียว เธอก็เห็นรถของกร กุ้งนางพยายามให้ผักบุ้งรับปาก แต่ผักบุ้งไม่ยอม เธอให้กุ้งนางกลับไปคิด 1 คืนแล้วค่อยมาพบกันอีกครั้งพรุ่งนี้ที่หน้าโบสถ์ในวัดใกล้ๆ นี้เอง ก่อนจะแยกจากกันไป เมื่อกรเดินมาหาจึงเห็นกุ้งนางยืนอยู่คนเดียวอย่างอารมณ์ดี

วันรุ่ง ขึ้นกุ้งนางไปตัดผมสั้นดูทะมัดทะแมง เธอตั้งใจตัดผมให้คล้ายผักบุ้งที่สุด คืนนั้นกรไปส่งกุ้งนางที่โรงแรมตามเคย กุ้งนางเดินไปที่จุดนับพบอย่างตื่นเต้น ระหว่างนั่งคอยผักบุ้ง เธอก็ต้องตกใจเมื่อเผด็จเดินเข้ามาทักว่าเป็นผักบุ้ง ใจหนึ่งเธอก็ดีใจที่ตบตาคนอื่นได้ กุ้งนางจึงรับสมอ้างเป็นผักบุ้งคุยกับเผด็จอย่างเรียบร้อย อ่อนหวานตามนิสัย จนเผด็จแปลกใจที่ผักบุ้งน่ารักผิดปกติ เธอแปลกใจที่ผักบุ้งไม่มาตามนัด คืนวันต่อมากุ้งนางก็มารออีกครั้งและพบเผด็จอีกจนได้ เผด็จไม่ยอมให้กุ้งนางหรือผักบุ้งในความเข้าใจของเขาต้องอยู่ตามลำพัง เพราะสาวสวยอย่างเธออยู่ที่เปลี่ยวดูไม่ปลอดภัย

ทว่าในที่สุดสองสาว คู่เหมือนก็พบกันจนได้ กุ้งนางขอร้องจนผักบุ้งยอม ทั้งคู่นัดพบกันอีกหลายครั้งเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของกันและกันอย่าง ละเอียดก่อนจะสลับตัวกัน ทั้งนี้ผักบุ้งย้ำกับกุ้งนางเสมอว่าถ้าจะกลีบมาสู่ชีวิตเดิมเมื่อไหร่ เธอก็พร้อมเสมอ วันนี้กุ้งนางบอกกรว่าเธออยากจะเป็นคนใหม่ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็อย่าโกรธเธอให้ปฏิบัติต่อเธอเหมือนน้องสาวเหมือนเดิม กรรับปากแม้จะแปลกใจอยู่บ้าง เช่นเดียวกับผักบุ้งเธอเป็นฝ่ายไปหาเผด็จแถมยังบอกว่าพักนี้ไอ้โตมากวนใจ บ่อยเหลือเกิน ถ้าไม่อยากให้เธอต้องทำร้ายมันให้หมั่นไปตระเวนแถวๆ ร้านส้มตำอรสาบ้าง ซึ่งเผด็จรับปากโดยดี คืนนั้นทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่ห้างสรรพสินค้าเล็กๆ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตใหม่อย่างที่ตกลงกัน ผักบุ้งขึ้นรถของกรอย่างระมัดระวังเธอพูดน้อยจนกรรู้สึก แถมเมื่อถึงบ้านยังป้ำๆ เป๋อๆ เดินผิดห้องอีกแต่ก็รอดตัวไปจนได้

ตรง ข้ามกับกุ้งนางซึ่งคืนแรกก็เจอดีเข้าแล้วเมื่อพบกับไอ้โตก่อนจะเข้าบ้าน ไอ้โตพูดจาแทะโลมก่อนตามนิสัย แต่เมื่อกุ้งนางตอบอย่างเงอะงะ แถมมีทีท่าหวาดกลัวมันก็เริ่มได้ใจ ไอ้โตเตรียมจะเข้ามาลวนลามเธอตามถนัด เผด็จก็ผ่านมาพอดี ไอ้โตเผ่นหนีอย่างไม่มีฟอร์ม ภาพของกุ้งนางที่อ่อนแอเป็นผู้ยิ้งผู้หญิง ทำให้เผด็จประหลาดใจว่าผักบุ้งสาวห้าวทำไมถึงดูบอบบางน่ารักนัก แถมเมื่อเขาบอกว่าจะเดินไปส่งที่บ้านเธอก็ยอมโดยดี ระหว่างเดินไปด้วยกัน ทางเดินที่แคบทำให้ต้องเดินใกล้ชิดกันมาก ด้วยความไม่ชินทางและความเขินอายทำให้กุ้งนางเดินสะดุดบ่อยๆ จนเผด็จต้องคอยจับแขนหรือประคองเธอไว้ตลอดทาง เธอไม่รู้ว่าเผด็จเองเริ่มประทับใจกับผักบุ้งคนนี้เข้าให้แล้ว

ผัก บุ้งกับกุ้งนางทำให้คนรอบข้างผิดสังเกตกันมากมาย สาวห้าวกลับเป็นสาวเรียบร้อยอ่อนไหว มีน้ำใจ ขณะที่สาวนุ่มนิ่มอ่อนหวานอย่างกุ้งนางกลับเฮี้ยวและห้าว แถมยังขยันทำงานอีกด้วย ที่สำคัญฉลาดเรียนรู้ธุรกิจได้เร็ว จนกรหลงเสน่ห์ความเก่งอย่างไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดของกรและกุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) ทำให้ดวงรัตน์หึงขนาดหนักถึงขนาดตามมาอาละวาดถึงบ้าน ผักบุ้งหรือจะยอมง่ายๆ ดวงรัตน์จึงถูกย้อนอย่างเจ็บปวดพอกัน เรื่องยุ่งมากขึ้นเมื่อดวงรัตน์ยุให้วิรัตน์ปล้ำกุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) เพื่อรวบรัด โดยแน่ใจว่าสาวติ๋มอย่างกุ้งนางต้องยอมตกกระไดพลอยโจนแต่งงานแก้หน้าแน่นอน แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด วิรัตน์จึงโดนกุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) ใช้วิชากดจนลงไปนอนกองกับพื้น กรกลับมาพอดีเขาโกรธมากและยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อรู้ว่าดวงรัตน์เป็นผู้สนับ สนุนพี่ชาย กรขอถอนหมั้นกับดวงรัตน์ทันที

ยิ่งเวลาผ่านไปกรก็ยิ่ง จับพิรุธได้ว่ากุ้งนางคนนี้ไม่ใช่กุ้งนางคนเก่า จะอย่างไรก็ตามกรยอมรับกับตัวเองว่าเขารักกุ้งนางคนนี้เข้าให้แล้ว ดวงรัตน์โวยวายว่ากุ้งนางแย่งกรไป กุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) สวมรอยทันที เธอหวานกับกรอย่างน่ารัก ผักบุ้งไม่รู้ตัวว่าทำลงไปเพราะใจเธอต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน ส่วนกรรับสมอ้างต่อทันทีเหมือนกัน ส่วนสุธีเริ่มหงุดหงิดเมื่อกุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) ไม่ยอมเซ็นอนุมัติโครงการต่างๆ ง่ายๆ เหมือนเดิม แถมยังมีการเอาบัญชีรายรับรายจ่ายเก่าๆ ของบริษัทมาดูเสียอีก สุธีไม่รู้ว่าผักบุ้งจับได้แล้วว่าเขาโกงบริษัท

ส่วนกุ้งนางต้อง เผชิญความวุ่นวายอย่างน่าสงสาร เทพบุตรในดวงใจคือ เผด็จก็โดนมณีมาทำท่าเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนเธอเสียใจ แต่เผด็จก็รีบมาบอกความจริงเสียก่อน กุ้งนางจึงมีกำลังใจอยู่ต่อไปได้ คนที่จับพิรุธได้ก่อนว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ใช่ผักบุ้งคืออรสา เธอพากุ้งนางไปที่โบสถ์ถามความจริงต่อหน้าประประธาน กุ้งนางจึงต้องสารภาพความจริง อรสานิ่งไปเมื่อรู้ว่าสาวน้อยคนนี้เป็นใคร และยิ่งประหลาดใจ เมื่อรู้ว่ากุ้งนางเกิดวันเดียวเดือนเดียวกับผักบุ้ง ความน่าจะเป็นที่ทั้งคู่เป็นคู่แฝดกันมีสูงมาก คนที่จะตอบได้คือ นวล ซึ่งตายไปแล้ว นับจากนั้นอรสาจะคอยปกป้องดูแลกุ้งนางมากขึ้น อีกคนที่จับพิรุธได้ก็คือลุงสมาน แกทำให้กุ้งนางต้องสารภาพความจริงอีกคน สมานดูออกว่าเผด็จรักผักบุ้ง ( กุ้งนาง ) คนนี้จึงบอกเป็นนัยๆ ว่าไม่ใช่ผักบุ้งคนเดิม

ส่วนกรเมื่อจับพิรุธผักบุ้งได้มากขึ้น เขาก็ขู่เธอให้บอกความจริง ผักบุ้งปากแข็งจนกรแกล้งขู่จะส่งตำรวจ ผักบุ้งจึงบอกความจริง กรทำเป็นไม่เชื่อแกล้งว่าผักบุ้งต่างๆ นานา ว่าหวังสมบัติของกุ้งนางจนผักบุ้งน้อยใจและเสียใจ เธอผิดหวังที่กรผู้ชายที่เธอรักไม่เข้าใจเธอเลย ผักบุ้งจึงต่อโทรศัพท์มือถือของกุ้งนางให้พูดกันเอง จนกรเข้าใจผักบุ้ง ( กุ้งนาง ) ตกลงจะกลับสู่ชีวิตเดิมของตัวเอง เพราะสงสารคนรอบข้าง เมื่อวางหูจากกุ้งนาง ผักบุ้งเสียใจที่กรใจร้ายกับเธอมาก จนไม่ยอมพูดด้วย ประชดกรด้วยฤทธิ์งอนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผักบุ้งไม่รู้ตัวว่ายามที่เธอมีกิริยาอย่างผู้หญิงนั้นน่ารักหนักหนา และกรอดใจไม่ได้ต้องสารภาพรักกับเธอ

ก่อนวันนัดที่จะสลับตัวกัน สุธีก็ทำเรื่องยุ่งเสียก่อน เมื่อความโลภเข้าครอบงำ เขาหลอกผักบุ้งไปขังไว้ในโกดังร้างกลางทุ่ง สุธีสร้างเรื่องแนบเนียนมากจนไม่มีใครเดาได้ กรทนไม่ไหวจึงติดต่อกุ้งนางกับเผด็จ ทั้งคู่จึงซ้อนแผนโดยให้กุ้งนางกลับไปหาสุธี แล้วต่อว่าว่าสุธีทำร้ายเธอ เมื่อพับกันสุธีตกใจเมื่อเข้าใจว่ากุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) รอดมาได้ เขาหลุดปากโวยวายออกมาเรื่องโกดังจนกรเดาได้ กรรีบไปช่วยผักบุ้งทันที่ เขาพบผักบุ้งอยู่ในสภาพที่หมดแรงเพราะขาดทั้งอาหารและน้ำ ผักบุ้งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตทันที สุธีจับ ส่วนผักบุ้งปลอดภัย

กุ้งนางเตรียมที่จะพาผักบุ้งมาอยู่ด้วย เธอตั้งใจจะไปขออนุญาตกับทองแข แต่แล้วทอแขกลับทำให้ทุกอย่างลงเอยอย่างง่ายดาย เมื่อเธอมาหาสาวน้อยทั้งคู่แล้วบอกว่าทั้งผักบุ้งและกุ้งนางต่างก็เป็นหลาน ของเธอทั้งคู่เป็นคู่แฝดกันแต่ผักบุ้งแฝดพี่นั้นถูกนวลผู้เป็นแม่อุ้มจากไป ตั้งแต่แบเบาะ เพราะปู่ของผักบุ้งและกุ้งนางไม่ยอมรับสะใภ้ เวลาผ่านไปจนวันหนึ่งปู่ของทั้งคู่เจ็บหนัก ก่อนตายจึงสั่งให้ทองแขตามหาสะใภ้และหลานซึ่งทองแขพยายามตามหานวลเพื่อจะรับ กลับมาทั้งนวลและผักบุ้ง แต่ก็ไม่พบเพราะว่านวลนั้นตายก่อนที่ปู่ของทั้งคู่จะตาย จนกระทั่งเวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี

รายชื่อนักแสดง ผักบุ้งกับกุ้งนาง

จีรนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น ผักบุ้ง / กุ้งนาง
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น ผู้กองเผด็จ
วัชรบูล ลี้สุวรรณ แสดงเป็น กร
สุคนธวา เกิดนิมิตร แสดงเป็น มณี
น้ำทิพย์ เสียมทอง แสดงเป็น ดวงรัตน์
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร แสดงเป็น สุธี
ปัทมา ปานทอง แสดงเป็น อรสา

บุษบาเร่รัก

บุษบา ครูสอนดนตรีสาวแสนสวย สอนเปียโนอยู่ที่โรงเรียนของ ธนาดล ซึ่งหลงรักเธอ แต่เธอก็ไม่อยมรับรักใคร บุษบาพักอยู่กับ ช่อทิพย์ เพื่อนรักที่ทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ บุษบาชอบนั่งดูทีวีเป็นประจำเพื่อดูข่าวของ รงรอง นางแบบชื่อดัง แต่ตอนกลางคืนบุษบาสาวหวานจะกลายเป็น มินตรา นักร้องคาเฟ่ที่จัดจ้านชอบหว่านเสน่ห์ให้กับผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี เสี่ยสุรินทร์ ที่มีภรรยาคือ ฉวีวรรณ

และมีลูก ด้วยกัน 2 คนคือ นันทพร และ ศิธา ที่เป็นพ่อม่ายมีลูกติดคือ กุลกานดา ศิธามีคนที่กำลังดูใจอยู่คือ อรอำไพ เธอมีพี่ชาย ยุทธดนัย วิศวกรช่างไฟ และเป็นเพื่อนกับศิธา เสี่ยสุรินทร์มีเมียเก็บคือรงรองนั่งเอง ยายเจียม ยายที่เลี้ยงดูบุษบามาตลอดป่วยเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล บุษบาต้องใช้เงินในการรักษายายเจียมเป็นจำนวนมาก จึงต้องหลอกเอาเงินจากบรรดาเสี่ยทั้งหลาย

เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคน บาปแต่จำเป็นต้องทำเพื่อยายเจียม และเพื่อแก้แค้นผู้ชายเจ้าชู้ ศิธามาเจอบุษบาเมื่อธนาดลเพื่อนเขาแนะนำให้กุลกานดามาเรียนเปียโนที่ โรงเรียน กุลกานดาชอบครูบุษบามากและตั้งใจเรียนเต็มที่ ถึงเวลากลางคืนมินตราก็ออกมาร้องเพลงเหมือนเคย แล้วคืนหนึ่งเธอก็เจอกับเสี่ยหื่นกามพาไปมอมยา แต่เธอรอดมาได้เพราะศิธามาช่วยเอาไว้ ช่อทิพย์ไปเดินซื้อของผ่านร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า

จำ ได้ว่าเป็นร้านของ วิทย์ พ่อของบุษบา เธอเห็นวิทย์คุยอยู่กับยุทธดนัย จากการสนทนาทำให้รู้ว่ายุทธดนัยเป็นเจ้าหนี้และวิทย์เป็นลูกหนี้ ศิธาพยายามพูดยุติความสัมพันธ์กับอรอำไพเพราะเขารู้ตัวแล้วว่าไม่ได้รักเธอ กับครูบุษบาเขาก็รักเหมือนน้องสาว แต่เขารักและสนใจในตัวบุษบามินตรา ซึ่งนักร้องสาวหว่านเสน่ห์ให้เพื่อหวังทำลายความสงบสุขในครอบครัว เมื่อรู้ว่าเขาเป็นลูกชายของเสี่ยสุรินทร์

ในเวลาเดียวกันเสี่ย สุรินทร์ก็มาติดพันมินตราถึงขนาดขอแต่งงานกับเธอ โดยจะยอมหย่ากับฉวีวรรณ มินตรายอมรับจะแต่งงานกับเสี่ยสุรินทร์เพื่อทำความเจ็บช้ำในรงรอง แต่แล้วปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้นเมื่อเธอเกิดรักศิธาขึ้นมาจริงๆ แล้วเสี่ยสุรินทร์ก็รู้ว่าตัวเขาเองรักผู้หญิงคนเดียวกับลูกชาย เสี่ยสุรินทร์ช็อคโรคหัวใจกำเริบต้องเข้าโรงพยาบาล และเป็นอัมพาตครึ่งท่อน ศิธาโกรธมินตรามากที่เป็นตัวการทำให้พ่อของเขาอยู่ในสภาพคนพิการ

มินตรา ยอมรับผิดลาออกจากนักร้องคาเฟ่มารับโทษด้วยการดูแลเสี่ยสุรินทร์ เธอตั้งใจดูแลเสี่ยสุรินทร์เป็นอย่างดี ช่วยทำกายภาพบำบัดให้จนอาการอัมพาตค่อยๆ หาย เสี่ยสุรินทร์เริ่มเดินได้โดยใช้ไม้เท้า เธอต้องตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเลือกแต่งงานกับใคร และเธอก็เลือกแต่งงานกับเสี่ยสุรินทร์ ทำให้นันทพรซึ่งปกติก็ต่อต้านมินตราอยู่แล้ว ยิ่งต่อต้านหนักขึ้นเพราะกลัวมินตราแย่งสมบัติ

ยุทธ ดนัย, ธนาดล และศิธาไปทานอาหารด้วยกัน ศิธาเลยเปิดใจคุยกับยุทธดนัยว่าหากเขาต้องเลิกกับอรอำไพยุทธดนัยจะโกรธเขา ไหม แต่ยุทธดนัยรู้จักน้องสาวตัวเองดีเลยบอกศิธาว่าไม่โกรธ อรอำไพพอรู้ว่าถูกศิธาบอกเลิก และศิธาจะแต่งงานกับบุษบามินตรา อรอำไพเสียใจอาละวาดจนเสียสติต้องไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช แต่เธอก็หนีออกจากโรงพยาบาลไปทำร้ายมินตรา แต่ศิธาเอาตัวเองบังรับคมมีดแทน

เสี่ย สุรินทร์เห็นความรักจริงใจที่ศิธามีต่อมินตรา ประกอบกับรงรองมาเปิดเผยความจริงว่า มินตราเป็นลูกสาวของเธอกับเสี่ยสุรินทร์ทำให้แต่งงานด้วยไม่ได้ เสี่ยสุรินทร์จึงยอมเสียสละให้ศิธาแต่งงานกับมินตรา แต่ศิธาก็จับได้อีกว่ามินตรากับครูบุษบาเป็นคนคนเดียวกัน เขาจึงทั้งรักทั้งแค้นเธอ วัหนึ่งเกิดเหตุร้ายรุนแรงขึ้น เมื่ออรอำไพตั้งใจจะขับรถชนมินตราให้ตาย แต่รงรองผลักมินตรากระเด็นไปทำให้เธอถูกรถชนตาย

ก่อนขาดใจเธอได้พูด ให้มินตรารับรู้ถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่แม่มีต่อลูก มินตรายอมรับรงรองเป็นแม่ก็ต่อเมื่อสายไปแล้ว เธอเสียใจมากจัดการฝากเงินให้ช่อทิพย์ช่วยดูแลยายเจียม แล้วเธอก็หนีหน้าไปจากกรุงเทพฯ เสี่ยสุรินทร์เรียกศิธามาพูดกันตามประสาพ่อลูกว่าเขาจะไม่แต่งงานกับมินตรา ถ้าศิธารักมินตราจริงก็ให้ตามหาเธอให้เจอ ศิธาจะไปตามหามินตราเจอที่ไหน และเขาจะเอาชนะใจเธอได้อย่างไร ติดตามชมได้ในละคร บุษบาเร่รัก

รายชื่อนักแสดงละคร บุษบาเร่รัก

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น ศิธา
สุวนันท์ คงยิ่ง แสดงเป็น บุษบา / มินตรา
ดนัย จิรา แสดงเป็น ยุทธดนัย
อาริษา วิลล์ แสดงเป็น อรอำไพ
เมทินี กิ่งโพยม แสดงเป็น รงรอง
ณัฏฐกันย์ ทยุตาจารุวิชญ์ แสดงเป็น ช่อทิพย์
พีระ เทศวิศาล แสดงเป็น ธนาดล
ตฤณ เศรษฐโชค แสดงเป็น เสี่ยสุรินทร์
ด.ญ.อภิภา เครื่องสาย แสดงเป็น กุลกานดา

บ่วงหงส์ 2552

บ่วงหงส์ เป็นเรื่องราวของ พิมพ์ลภัส (แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเดียวของ ตรัย (ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี) นักธุรกิจที่ล้มละลายและฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำพร้าแม่ทำให้ถูกตามใจจนเหลิง ใช้ชีวิต อย่างหรูหราสุขสบายมาตลอด หนังสือก็เรียนไม่จบ เจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัว ความตายของพ่อทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากคนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดคือ มาธวี (น้ำฝน กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์) แม่เลี้ยงซึ่งแก่กว่าเพียงไม่กี่ปีของเธอ พิมพ์ลภัสต้องออกจากบ้านที่ถูกยึดมาเช่าคอนโดเล็ก ๆ อยู่ แถมยังถูก ยศพล (นัส อานัส ฬาพานิช) ผู้เป็นคู่หมั้นถอนหมั้น ตรงกันข้ามกับมาธวีซึ่งชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคมด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี ซ้ำยังเป็นนางแบบเสียเองอีก มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กระเทยปากร้ายชื่อ หนูดี (หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย

ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำ ลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดแก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำก็ห่างหายไป ไม่ค่อยมีใครอยากจ้างเพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญเมื่อพิมพ์ลภัสอายุ 15

เจ้าของ คอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) ทั้งกิตติชัยและ อรอุษา ผู้เป็นภรรยาต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ ทั้งสองเฝ้าสังเกตเธอตลอดมา จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอกจึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูงให้นั่นคือให้ไป ขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมายที่เกี่ยวกับอรอุษาจาก รเมศ (วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่าอรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์กับรเมศ รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไปไว้แบล็คเมล์ทั้งสองคน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนขอร้องให้เห็นหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเลอีก จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงราย จารวี เธอจึงตัดสินใจรับงานเพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่จึงคบกับมาธวี ได้

พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมโดยกิตติชัยรับรองความปลอดภัยหากรเม ศจับได้ อีกทั้งยังออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย ระหว่างที่อยู่ที่นั่นพิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศเข้ามาทำความรู้จักซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานเสริฟ

รเมศพาพิมพ์ ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปเที่ยว รเมศทุ่มเทใจให้เธอมากมายในขณะที่พิมพ์ลภัสก็จ้องแต่จะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะไม่คุ้นกับงานเช่นนี้จึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย รเมศภาวนาขออย่าให้ที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง

ในที่สุดรเมศก็จับได้ คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายในห้องทำงาน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้แบล็คเมล์ รเมศจึงเปิดเทปให้ฟัง และยังให้อ่านจดหมาย พิมพ์ลภัสรู้ความจริงรู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัสที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และอาหารในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอมโดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจ และตกใจมาก

สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวัง และเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักเธออย่างแท้จริง ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ฉะนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้โดยให้เป็นพนักงานเสริฟ ครั้งแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดรูปหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดายจึงตัดสินใจรับงาน

พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบ พนักงานเสริฟซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงานซึ่งต้องอยู่ร่วมกัน ห้องละสองคน ซึ่งห้องก็ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องก็คือพนักงานเสริฟที่เธอเคยวีนใส่

นับ จากนั้นพิมพ์ลภัสมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ ตลอดเวลาเหล่านี้รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจแต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งหัวหน้าผู้ดูแลรับผิดชอบ ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า

พิมพ์ลภัสไม่ใช่จะร้ายเสียทีเดียว ความดีในตัวเธอยังมีพอสมควร ซึ่งเธอก็ได้แสดงออกมาเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมงานจากลูกค้าบ้ากามทำให้ความ รู้สึกของเพื่อนร่วมงานดีขึ้น การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ทำให้เธอเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม

และแล้วมาธวีกับคณะ แฟชั่นโชว์ก็มาถึง ทั้งสองได้พบกัน มาธวีรู้สึกสะใจมากที่เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำละไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามจะจับรเมศให้ได้ ด้วยความช่างสังเกตมาธวีก็รู้ว่ารเมศนั้นรักพิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน

ในที่สุด มาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อให้ เสี่ยสมาน (พิพัฒน์พล โกมารทัต) ซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานานให้มาพักที่โรงแรม เสี่ยดีใจมากรีบมาหา และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่กลับถูกตอกหน้าอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยเริ่มท้อแต่มาธวีพยายามให้กำลังใจโดยบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสตก เป็นของเสี่ย ถึงแม้จะยังลังเลกลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการมีมากกว่า เสี่ยจึงยอมทำตามแผนโดยเข้าไปรอในห้องมาธวี

มา ธวีมาแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัสเพื่อเห็นแก่สาย สัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงเธอ แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้เขาบอกให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้องเพื่อจะได้ปรับความ เข้าใจกัน รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสให้ไปพบเขาที่ห้องมาธวี

พิมพ์ ลภัสทำท่าจะไม่ไปในตอนแรก เพราะรู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องมาธวี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจจะไปเผชิญหน้า และเมื่อเข้าไปทุกอย่างก็เข้าแผนการณ์ของมาธวี เสี่ยสมานพยายามปลุกปล้ำพิมพ์ลภัส แต่เธอก็เอาตัวรอดจนได้ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมากด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รเมศตกใจ และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกันก็ไปเอาเรื่องมาธวี

มา ธวีร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบจะเชื่อถ้าไม่พบหลักฐานบางอย่างในห้องนั้นที่มาธวี พยายามกลบเกลื่อน รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปได้คายพิษครั้งสุดท้ายโดยบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว ชื่อ นารา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสเสียใจมาก

ส่วนรเมศนั้นก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไปได้ เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันทีเพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และกลับกรุงเทพฯไป ด้วยเขายังหวังว่าจะทำความเข้าใจกับเธอได้เพราะหลังจากมีเรื่องเขาได้ขอโทษ เธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง ซ้ำยังให้มาธวีกราบขอโทษพิมพ์ลภัส และพิมพ์ลภัสได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยความสะใจ

วัน รุ่งขึ้น พิมพ์ลภัสตัดใจไปขายเข็มกลัดรูปหงส์ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสริฟ เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจของพวกเขาเหล่านั้นที่มีต่อเธอ

เมื่อ พิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศใจหายแต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมากเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ไม่ยอมให้เธอ เพราะจะแกล้งกักตัวไว้ทำงานต่อไป หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมาก และซึมลงไป

เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจึงไปเช่าคอนโดเล็กลง ขายข้าวของแบรนด์เนมเนื่องจากไม่มีความสำคัญในชีวิตอีกต่อไป หลังจากนั้นก็ออกหางานเดินแบบทำ แต่ทุกแห่งที่ไปจะปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาเอเจนซี่ให้ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสกลับคิดว่าเธอเองก็มีส่วนผิดด้วย เพราะยามรุ่งเรืองเธอเคยเบี้ยวงานบ้าง ไปช้าบ้างอยู่เป็นประจำ ในที่สุดเธอจึงตัดใจหางานอื่นทำแต่ก็ยากเต็มทีเพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบ หรือถ้าที่ไหนรับที่นั่นก็มักจะมีเจ้านายประเภทหัวงู ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนไม่ให้ท้อ

จนกระทั่งวันหนึ่ง พิมพ์ลภัสได้พบกับนาราโดยบังเอิญ นารามากับ สิหนาท (เอกรัตน์ สารสุข) ซึ่งเป็นคู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังเข้าใจผิดเหมือนเดิม นาราพยายามจะให้ความช่วยเหลือแต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ นาราจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ จึงตัดสินใจโทรไปหานารา นาราพาพิมพ์ลภัสไปบ้านของรจนา ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาวกับลูกชาย พิมพ์ลภัสซึ่งถึงแม้จะเรียนไม่จบแต่ด้านภาษาอังกฤษดีด้วยเพราะเป็นนักเรียน นอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสผิดปกติ

ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัส ก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาดูคุ้นๆ หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องอกหักของเธอให้รจนาฟัง รจนาซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของรเมศจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ จึงวางแผนนัดรเมศมาพบ พิมพ์ลภัสตกใจ รเมศจึงเล่าความจริงเรื่องของนารากับสีหนาทให้ฟัง ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด สำหรับมาธวีก็ถูกกรรมตามสนองเพราะรเมศรู้ว่ามาธวีกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่ เลิก จึงส่งทั้งรูป และคำขออภัยเมื่อครั้งถูกจับได้ว่าหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำเอาลง หนังสือพิมพ์ เมื่อความจริงเปิดเผยจึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมด้วย

บ่วงหงส์

นักแสดงละคร บ่วงหงส์

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น รเมศ
เขมนิจ จามิกรณ์ แสดงเป็น พิมพ์ลภัส
กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ แสดงเป็น มาธวี
อานัส ฬาพานิช แสดงเป็น ยศพล
เอกรัตน์ สารสุข แสดงเป็น สีหนาท

นักฆ่าขนตางอน

แพร เพชร (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์) ต้องสูญเสียแพรพลอยน้องสาวและครอบครัวไปเพราะแก๊งค์ค้ายาบุกฆ่ายกครัว มีเพียงแพรเพชร เท่านั้นที่รอดมาได้ การต่อสู้ชองแพรเพชรสร้างความประทับใจให้กับโรเบิร์ต (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์)หัวหน้าองค์กร Sk7 องค์กรลับที่ต่อต้านการค้ายาเสพติด แพรเพชรถูกชักจูงให้เข้าร่วมทีมโดยมีอำพัน (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) นักฆ่าสาวคนสนิทของโรเบิร์ตสอนวิชาการต่อสู้ในทุกรูปแบบให้ จนแพรเพชร กลายเป็นนักฆ่าในสมญา นักฆ่าขนตางอน และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น แพ๊ต หรือ แพทริเซีย โดย แพ๊ตถูกส่งไปจัดการเหล่ามิจฉาชีพยังที่ต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายโค่นล้มแก๊งค์ค้ายาของมิสเตอร์เหว่ง (พงศนาถ วินศิริ) ผู้อยู่เบื้องหลังการทำลายล้างครอบครัวของเธอในอดีต

แพ๊ต ในคราบผู้จัดการประจำบาร์กุหลาบขาว ที่มีเจ้าเวียงวรรณ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ แต่แท้จริงเจ้าเวียงวรรณ ก็คือหัวหน้าของ Sk7 ภูมิภาคเอเชีย แพ๊ตมีโอกาสได้รู้จักผู้กองรณภพ (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) ทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว รณภพไม่รู้ว่าแพ๊ตคือนักฆ่าเช่นเดียวกับที่แพ๊ตก็ไม่รู้ว่ารณภพเป็นลูกชาย ของอดีตหัวหน้าแก๊งค์แมงป่องดำ ที่ถูกเหว่งสังหารเพื่อยึดอำนาจ แทนที่รณภพจะล้างแค้นด้วยการไล่ฆ่าพวกศัตรูเหมือนแพ๊ตแต่เขากลับเลือกจะเป็น ตำรวจเพื่อใช้กฏหมายและความยุติธรรมปราบปรามเหล่าร้าย

ชาลี (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) นักข่าวหนุ่มเพื่อนรักของรณภพเป็นลูกชายของ ธวัช (สมภพ เบญจาธิกุล) นักการเมืองชื่อดัง ทำตัวสำมะเลเทเมาหลังจากแพรพลอยคนรักตายจากไป ธวัชขอให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการแต่งงานกับ ดาหวัน (กวินตรา โพธิจักร) ลูกสาวของเจ้าเวียงวรรณแต่ชาลีก็ไม่สนใจ บังเอิญชาลีได้เจอกับ โนรี (สิริลภัส  กองตระการ) สาวบ้านนอกผู้มีใบหน้าคล้ายแพรพลอย ชาลีพยายามตามตื้อเพื่อทำความรู้จักเธอแต่โชคร้ายที่แพ๊ตได้มาสังหารเหยื่อ ในละแวกนั้นทำให้ชาลีถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ ส่วนแพ๊ตเข้าใจผิดคิดว่าโนรีเป็นแพรพลอยจึงพาหนีไปด้วย เมื่อแพ๊ตรู้ว่าโนรีไม่ใช่น้องสาวแต่ก็รู้สึกถูกชะตาจึงฝากให้โนรีทำงานเป็น นักร้องที่บาร์กุหลาบขาว เพราะความรักที่แพ๊ตมีให้อย่างจริงใจทำให้โนรีขอเข้าร่วมเป็นทีมนักฆ่ากับ แพ๊ตด้วย

แพ๊ตตามกวาดล้างเครือข่ายต่าง ๆ ของ เหว่งจึงเป็นเหตุให้ต้องเผชิญหน้ากับรณภพอย่างเลี่ยงไม่ได้ รณภพเริ่มสงสัยว่าแพ๊ตอาจจะเป็นนักฆ่าขนตางอนจึงพยายามสืบหาความจริงโดยมี หมวดโอม (กัญจน์ ภักดีวิจิตร) และจ่าฉิม (อาฉี เสียงหล่อ) เป็นผู้ช่วย สารวัตรโทนี่ (วิทิต แลด) และ หมวดรอน (แมทธิว ดีน ฉันทวานิช) ถูกส่งมารับผิดชอบคดีนักฆ่าขนตางอน เนื่องจากทางตำรวจสากลได้ติดตามคดีนี้มานาน แต่ด้วยระบบงานที่ซับซ้อนทำให้ทีมของรณภพกับสารวัตรโทนี่มักมีเรื่องเขม่น กันอยู่เสมอ จนสารวัตรชลิต (ตฤณ  เศรษฐโชค) ผู้บังคับบัญชาของรณภพต้องออกมาไกล่เกลี่ยเพื่อให้งานเดินหน้าต่อไป เสี่ยพิพัฒน์ (โกวิท วัฒนกุล) อดีตสมาชิกระดับหัวหน้าของแก๊งค์แมงป่องดำพ้นโทษออกจากคุกได้รู้ความจริงว่า รณภพเป็นลูกชายของอดีตหัวหน้าใหญ่จึงชักชวนรณภพร่วมก่อตั้งแก๊งค์แมงป่องดำ ขึ้นอีกครั้งแต่เขาปฏิเสธ

ด้านหมวดโอมก็ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับรณภพจึงระแวงสงสัย เพราะรณภพปล่อยให้นักฆ่าขนตางอนหลุดมือจากการที่แพ๊ตบุกเข้าไปช่วยเจ้าเวียง วรรณที่ถูกเหว่งและธวัชจับตัวมาเค้นหาความจริงเรื่ององค์กร sk7 เหตุการณ์ครั้งนี้รณภพรู้ความจริงว่าแพ๊ตเป็นนักฆ่าขนตางอนและพ่อของชาลีก็ ถูกฆ่าตาย ทำให้ชาลีเครียดแค้นนักฆ่าขนตางอน รณภพได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์และกลับมาร่วมมือกับโอมและชาลีในการสืบหาหลัก ฐานเรื่องเจ้าเวียงวรรณเกี่ยวข้องกับองค์กร sk7 ชาลี รณภพและโอมได้ไปยังเกาะส่วนตัวของเจ้าเวียงวรรณ และเจ้าเวียงวรรณสั่งให้แพ๊ตเก็บพวกรณภพแต่แพ๊ตไม่กล้าทำ เจ้าเวียงวรรณจึงสั่งให้ดาหวันลงมือแทน ส่วนอำพันหักหลังองค์กร sk7 เพราะอิจฉาที่แพ๊ตได้ตำแหน่งหัวหน้าแทนที่จะเป็นเธอ อำพันจึงหันไปร่วมมือกับเหว่งและพาพวกไปถล่มเกาะส่วนตัวเจ้าเวียงวรรณเพื่อ กำจัดองค์กร sk7 ให้สิ้นซาก จึงปะทะกับพวกแพ๊ตและรณภพอย่างเลี่ยงไม่ได้

เจ้าเวียงวรรณบังคับให้โรเบิร์ตฆ่าแพ๊ตที่หักหลังไปช่วยรณภพแต่โรเบิร์ตไม่ ยอม เจ้าเวียงวรรณจึงยิงโรเบิร์ตตายส่วนตัวเองก็ถูกแพ๊ตฆ่าตายทำให้ดาหวันแค้น แพ๊ตมาก พวกรณภพเกิดการปะทะกับเหว่งและอำพันบนเกาะจนแพ๊ตเสียท่าตกเหว ชาลีตัดสินใจพาทุกคนลงเรือหนีไปแต่ดาหวันแอบแก้เชือกที่มัดตัวเองออกได้และ ยิงเครื่องเรือระเบิดทำให้ทุกคนตกน้ำไปคนละทาง รณภพถูกน้ำซัดกลับมาที่เกาะและแอบได้ยินอำพันพูดเรื่องแพ๊ตยังมีชีวิต ส่วนโนรีรอดจากการถูกพวกประมงปล้ำเพราะชาลีกับโอมนำตำรวจน้ำมาช่วยทันเวลา ส่วนดาหวันกระโดดน้ำหนีไปได้สารวัตรโทนี่และรอนพร้อมกำลังตำรวจน้ำมาทลาย เกาะส่วนตัวเจ้าเวียงวรรณ จ่าฉิมเห็นรอนลบข้อมูลบางอย่างในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าเวียงวรรณด้วย ความสงสัยจึงบอกรณภพและโอมให้รู้เรื่อง เพราะแท้ที่จริงรอนคือนักฆ่าจากนอกประเทศที่ปลอมตัวมาเป็นตำรวจสากล การปะทะกันบนเกาะอำพันและเหว่งหนีรอดไปได้ จึงขอมาเป็นพวกกับพิพัฒน์โดยที่พิพัฒน์ไม่ฟังคำขัดค้านของพิชิต (ชาลี กรรณสูต) น้องชาย

แพ๊ตหนีไปใช้ชีวิตอย่างสงบที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งมีหลวงพ่อกรณ์ (กรุง ศรีวิไล) เป็นผู้ชี้ทางสว่างให้ รณภพสืบรู้ว่าแพ๊ตอยู่ที่วัดจึงไปหาโดยไม่ทันระวังว่าถูกลูกน้องเหว่งสะกด รอยตาม อำพันตามไปเก็บแพ๊ตโชคดีพิพัฒน์มาช่วยไว้เพราะแพ๊ตหน้าคล้ายภรรยาเก่าของ พิพัฒน์ที่เสียไป อำพันหลอกใช้พิชิตให้โค่นพิพัฒน์โดยโกหกว่าจะกำจัดเหว่ง พิชิตหลงเชื่อยอมร่วมมือกับอำพันปล้นสินค้าของพิพัฒน์ที่เหว่งเป็นคนคุมโดย เหว่งสั่งเทพ (ดำรงเดช เตกูรามี) อดีตลูกน้องธวัชที่พามาร่วมงานด้วยให้ยิงตัวเองเพื่อพิพัฒน์จะได้เชื่อว่า สินค้าถูกปล้นไปจริง ๆ ในขณะที่พิพัฒน์ แพ๊ตและนิโคลัส(ฌอน โจนส์) ลูกค้ายารายใหญ่ไปรออยู่ที่โกดังนัดหมาย รอนนำกำลังตำรวจบุกไปจับพิพัฒน์แต่กลายเป็นฉากที่นิโคลัสจัดขึ้นเพื่อ พิสูจน์ความจริงใจของแพ๊ต ซึ่งพิพัฒน์รู้ว่าแพ๊ตเป็นสายให้รณภพแต่ไม่ว่าอะไรเพราะพิพัฒน์ก็รู้ว่าใน แก๊งค์มีหนอนบ่อนไส้เช่นกัน

ทางตำรวจสากลเรียกตัวสารวัตรโทนี่กลับเพราะทำงานร่วมกับตำรวจไทยได้ไม่ตรง ตามเป้าหมาย จึงส่งสารวัตรไมเคิล (โอลิเวอร์ บีเวอร์) มาแทน และยังจับได้ว่ารอนไม่ใช่ตำรวจสากลตัวจริงเป็นนักฆ่าที่ปลอมตัวมา จึงถูกรอนลอบฆ่าโชคดีที่รณภพมาช่วยไว้ทันแต่รอนหนีรอดไปได้ พิพัฒน์วางแผนจับคนทรยศโดยโกหกว่าจับคนปล้นสินค้าได้ พิชิตไม่รู้ว่าเป็นการซ้อนแผนจึงถูกพิพัฒน์จับได้ พิชิตกลัวพิพัฒน์ลงโทษจึงพลั้งมือยิงพิพัฒน์และหนีไปแต่พิพัฒน์กลับไม่โกรธ เพราะรู้นิสัยน้องชายดีว่าต้องมีคนยุแหย่

แพ๊ตบอกพิพัฒน์ว่าไม่ไว้ใจเหว่งและอำพัน พิพัฒน์บอกเสร็จจากส่งสินค้าให้นิโคลัสจะเก็บเหว่งและอำพันแต่ทั้งคู่ไหวตัว ทันจึงหันไปร่วมมือกับนิโคลัส ชาลีถูกอำพันจับตัวได้และสะกดจิตให้กลายเป็นนักฆ่าบุกไปจัดการพิพัฒน์ถึง บ้าน พิชิตรู้ว่าถูกอำพันหลอกใช้จึงกลับมาช่วยพิพัฒน์ แต่พิชิตกับพิพัฒน์ก็ถูกนิโคลัสฆ่าตาย ส่วนนิโคลัสถูกรณภพจับตัวไว้ได้เหว่งปลอมเป็นทนายไปเยี่ยมและสั่งนิโคลัสไม่ ให้การใด ๆ กับตำรวจเพราะเหว่งวางแผนจะชิงตัวนิโคลัส แพ๊ตและดาหวันถูกรอนใช้ปลอกคอระเบิดบังคับให้ชิงตัวนิโคลัสมาเพื่อเรียกค่า ไถ่จากเหว่ง แต่แท้จริงเพื่อล่อเหว่งและอำพันมาฆ่าทิ้ง แพ๊ตใช้ไหวพริบขับรถเข้าไปในโกดังที่เต็มไปด้วยวัตถุไวไฟเพื่อให้รอนปลดปลอก คอระเบิด ดาหวันเริ่มเข้าใจทุกอย่างและรู้ว่าถูกรอนหลอกใช้มาตลอดจึงตัดสินใจกดรีโมท เพื่อให้ทุกอย่างจบสิ้นรอนชีวิตไปได้อย่างสาหัสสุดท้ายก็จบชีวิตเช่นกัน แพ๊ตหนีรอดมาได้ อำพันสั่งชาลีจัดการแพ๊ตโชคดีหลวงพ่อกรณ์ตัดสินใจลาสึกมาช่วยไว้พร้อมกับรณ ภพและโอม แพ๊ตต่อสู้กับชาลีพร้อมแก้การสะกดจิตไปด้วยโดยให้ชาลีพยายามคิดถึงคนที่ตัว เองรัก หลังจากหายเป็นปกติชาลีจึงกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับโนรีดัวยความรักและเข้าใจ อีกครั้ง

การตาย ของคนรอบข้างมีมากมายทำให้แพ๊ตเริ่มสำนึกได้ เธอตัดสินใจยุติความแค้นของตัวเองโดยเข้าไปช่วยทางการปฏิบัติภารกิจครั้ง สำคัญ นั่นคือกวาดล้างแก๊งค์ค้ายาเสพติดของเหว่งและอำพันให้สิ้นซาก สุดท้ายชีวิตของ นักฆ่าขนตางอน อย่างแพ๊ตจะจบลงอย่างไร ติดตามหาคำตอบกันได้ใน ละครนักฆ่าขนตางอน ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ละคร นักฆ่าขนตางอน เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2553

รายชื่อนักแสดงนำในละคร นักฆ่าขนตางอน

วีรภาพ  สุภาพไพบูลย์   แสดงเป็น   ผู้กองรณภพ
ธัญยกันต์  ธนกิตติ์ธนานนท์   แสดงเป็น   แพรเพชร / แพ๊ต
วัชรบูล  ลี้สุวรรณ   แสดงเป็น   ชาลี
สิริลภัส  กองตระการ   แสดงเป็น   แพรพลอย / โนรี
กวินตรา  โพธิจักร   แสดงเป็น   ดาหวัน
กัญจน์  ภักดีวิจิตร   แสดงเป็น   หมวดโอม
ชัชฎาภรณ์  ธนันทา   แสดงเป็น   อำพัน
แมทธิว  ดีน ฉันทวานิช   แสดงเป็น   หมวดรอน
ธีรพงศ์  เหลียวรักวงศ์   แสดงเป็น   โรเบิร์ต
กรุง  ศรีวิไล   แสดงเป็น   หลวงพ่อกรณ์
สุเชาว์  พงษ์วิไล   แสดงเป็น   เจ้าเวียงวรรณ
สมภพ  เบญจาธิกุล   แสดงเป็น   นายธวัช
โกวิท  วัฒนกุล   แสดงเป็น   เสี่ยพิพัฒน์
ตฤณ  เศรษฐโชค   แสดงเป็น   สารวัตรชลิต
วิทิต  แลค   แสดงเป็น   สารวัตรโทนี่ฃ
ชาลี  กรรณสูต   แสดงเป็น   พิชิต
พงศนาถ  วินศิริ   แสดงเป็น   เหว่ง
อะตอม  สัมพันธภาพ   แสดงเป็น   เกษม
อาฉี  เสียงหล่อ   แสดงเป็น   จ่าฉิม
ดำรงเดช  เตกูรามี   แสดงเป็น   เทพ
ฌอน  โจนส์   แสดงเป็น   นิโคลัส
โอลิเวอร์  บีเวอร์   แสดงเป็น   ไมเคิล

นักแสดงรับเชิญ

นาท  ภูวนัย   แสดงเป็น   สารวัตรเพิ่มพล (พ่อนางเอก)
ภัสสร  บุญเกียรติ   แสดงเป็น   ดาริน (แม่นางเอก)
วรพรต  ชะเอม   แสดงเป็น   ทหารรับจ้าง

นางสาวส้มหล่น

ลำดวนนำ ส้ม มาฝากให้หล้ากับจาดเลี้ยงไว้ตั้งแต่แบเบาะ หล้ากับจาดเลี้ยงส้มไว้อย่างไม่เต็มใจนัก เพราะทั้งคู่ก็มีลูก ๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอีกสามคนคือ โตมร, เตมีย์, ตรึงตรา ทั้งบ้านมีเพียงโตมรเท่านั้นที่ทำตัวเป็นเหมือนญาตินอกนั้นก็คอยหา เรื่องกลั่นแกล้งส้มมาโดยตลอด หลังจากส้มเรียนจบมัธยมต้น หล้ากับจาดก็ตัดสินใจจะยกส้มให้กับเสี่ยเฮงเพื่อใช้หนี้ที่กู้ยืมมา ส้มอยากเรียนต่อ ไม่อยากไปเป็นเมียน้อยเสี่ยเฮง จึงได้ไปปรึกษากับ ชลาลัย เจ้าของร้านเสริมสวยในตลาด

ชลาลัยตัดสินใจพาส้มหนีไปหา แจ๊สซี่ เจ้าของค่ายนางแบบคนดังที่กรุงเทพฯ แจ๊สซี่รับส้มกับชลาศัยมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดสุดหรู แจ๊สซี่จับส้มเข้าคอร์สนางแบบอย่างเข้มงวดนอกเหนือไปจากการเรียนตามปกติ เมื่อส้มโตเป็นสาวเต็มตัว แจ๊สซี่ก็ส่งส้มเข้าประกวดโดยใช้ชื่อ สราสินี และสราสินีก็ไม่เคยทำให้แจ๊สซี่กับชลาศัยต้องผิดหวัง เธอกวาดรางวัลใหญ่ทุกเวทีที่เข้าประกวด สราสินีทำให้ค่ายของแจ๊สซี่ดังมากในวงการประกวดนางแบบ นักธุรกิจหลายคนต่างแย่งกับเป็นสปอนเซอร์ให้กับนางแบบในค่ายนี้

หลัง จากส้มสะสมเงินรางวัลได้ก้อนหนึ่ง ส้มก็ได้ไปขออนุญาตแจ๊สซี่ว่าจะไม่เข้าประกวดอีกแล้ว เธอขอเรียนต่อ แจ๊สซี่ขอให้ส้มกลับไปคิดดูอีกครั้ง เพราะเธอต้องการจะส่งส้มเข้าประกวดไทยโมเดล แต่เมื่อส้มยืนยันจะเรียนต่อพร้อมกับขอช่วยงานอยู่เบื้องหลังกับแจ๊สซี่และ ชลาศัย แจ๊สซี่ก็จำต้องยอมตกลง ศักดา นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมรู้สึกสนใจในตัวส้ม หลังจากส้มเรียนจบศักดาก็รีบรับส้มเข้าทำงานในแผนกประชาสัมพันธ์ของโรงแรม เขาทันที

ศักดาพยายามหาโอกาสใกล้ชิดส้ม แต่ส้มก็พยายามหลีกเลี่ยงเพราะรู้ดีว่าศักดาเจ้าชู้มาก และคุณหญิงแพรวมาศผู้เป็นภรรยาก็ขี้หึงมากด้วย ส้มมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับ ศิลา ลูกชายของศักดา เพราะศิลาดูแลรับผิดชอบแผนกประชาสัมพันธ์ที่ส้มทำงานอยู่ ทั้งคู่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน แต่แล้วศิลาก็เกิดเข้าใจส้มผิดคิดว่าส้มมีอาชีพพิเศษ ศิลาออกอาการหึงหวงเมื่อรู้ว่า ทรงพรต เพื่อนสนิทเจ้าของรีสอร์ตที่กาญจนบุรีก็แอบชอบส้ม

นอกจากนี้ศิลายัง เข้าใจผิดคิดว่าส้มมีใจให้กับโตมร ที่มาเป็นวิทยากรให้กับทางโรงแรม โดยไม่รู้ว่าทั้งคู่เป็นญาติกัน ด้านส้มก็แอบน้อยใจเมื่อรู้ว่า จิ๊บ หรือจุไรลักษณ์ น้องสาวทรงพรตเป็นคู่หมั้นของศิลา แจ๊สซี่ป่วยหนักต้องการเงินจำนวนมากมารักษาตัว ส้มตัดสินใจลาออกจากโรงแรม เข้าประกวดไทยโมเดลเพื่อหาเงินมารักษาแจ๊สซี่ แจ๊สซี่ปลื้มมากกับการกระทำของส้ม เธอตัดสินใจติดต่อขอพบศักดา และบอกกับศักดาว่าเธอต้องการให้ศิลาแต่งงานกับส้ม

ศักดา ไม่กล้าปฏิเสธเพราะแจ๊สซี่เคยช่วยเหลือด้านการเงินของโรงแรมสมัยที่เกิดภาวะ ฟองสบู่ ศิลาตอบตกลงจะแต่งงานกับส้ม ศักดาเป็นห่วงเรื่องจิ๊บ แต่ศิลาบอกกับศักดาว่าจิ๊บแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว ส้มเองตกใจมากเมื่อรู้เรื่อง แต่ก็ยอมตอบตกลงเพราะแจ๊สซี่ไม่เคยขออะไรจากเธอมาก่อน นอกจากนี้ส้มเองก็รู้ตัวว่าเธอเองก็แอบรักศิลาอยู่ ตรึงตรายอมเป็นเมียน้อยของ ศิการ พี่ชายของศิลาจนถึงขั้นตั้งท้อง สุภัค เมียของศิการรู้เรื่องเข้าจึงยิงศิการจนบาดเจ็บสาหัส

รติรส เมียน้อยของศักดารู้เรื่องเข้าจึงพยายามหาทางเลิกกับศักดา เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับศิการ โดยมีส้มเป็นที่ปรึกษาและคอยให้กำลังใจรติรสมาโดยตลอด ศิลาคิดจะมาปรึกษาเรื่องส้มกับรติรส จึงได้รู้เรื่องของรติรสกับศักดา รติรสตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ศิลาฟัง ทำให้ศิลาเข้าใจในตัวส้มดียิ่งขึ้น ส้มประกวดชนะ ได้ตำแหน่งไทยโมเดลมาครอง แต่วันรุ่งขึ้นส้มก็ต้องเสียใจที่สุดเมื่อรู้ว่าแจ๊สซี่ตายแล้ว พราวมาศกลับมาจากต่างประเทศรู้เรื่องศิลากับส้มก็พยายามจะขัดขวาง แต่อรุณมาศได้ห้ามไว้

ส้มได้รับมรดกมากมายจากแจ๊สซี่ หล้ากับจาดตามมาขอส่วนแบ่ง ตรึงตราพยายามหาทางจับศิลา ขณะเดียวกับเสี่ยเฮงก็พยายามจะหาทางเอาตัวส้มกลับไป เสี่ยเฮงปล่อยข่าวใส่ร้ายส้มให้เสียหาย และยังจับตัวชลาศัยไปเป็นตัวประกัน อรุณมาศตัดสินใจบอกกับศิลาว่าเธอเป็นแม่ของส้ม ทั้งคู่ช่วยกันวางแผนช่วยเหลือชลาศัยกับส้ม ตรึงตราซึ่งถูกเสี่ยเฮงจับมาเร่ขายตัวได้ถูกยิงตาย ชลาศัยถูกช่วยเหลือออกมาได้ ส้มได้พบกับแม่ที่แท้จริง และได้แต่งงานกับศิลาคนที่เธอรัก ส่วนรติรสก็ตกลงแต่งงานกับทรงพรตอย่างมีความสุขเช่นกัน

รายชื่อนักแสดงละคร นางสาวส้มหล่น

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น ศิลา
ไปรยา สวนดอกไม้ แสดงเป็น ส้ม / สราสิณี
อาริษา วิลล์ แสดงเป็น รติรส
รติพงษ์ ภู่มาลี แสดงเป็น ทรงพรต
สุคนธวา เกิดนิมิตร แสดงเป็น ชลาลัย
ภัสสร บุณยเกียรติ แสดงเป็น แจ๊สซี่
สรวงสุดา ศรีธัญรัตน์ แสดงเป็น ตรึงตรา
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ แสดงเป็น ศักดา
วิชญ จารุจินดา แสดงเป็น โตมร
วรพรต ชะเอม แสดงเป็น ศิการ

นางทาส 2551

เย็น ถูกพ่อแม่นำมาขายให้กับ คุณหญิงแย้ม ตั้งแต่อายุ 15 ปี ตกอยู่ในความปกครองของทาสหญิงชราชื่อ นางฟัก ดูแลฝึกหัดให้สันทัดงานผู้ลากมากดี ภายหลังคุณหญิงก็เรียกให้ไปรับใช้บนเรือน เพราะเย็นผิวพรรณหมดจดหน้าตาสะสวย เมื่ออายุยี่สิบปีจึงได้ชื่อว่าเป็นอนุภรรยาคนหนึ่งของ พระยาสีหโยธิน เย็นไม่ลืมว่าตัวตกเป็นของบุรุษผู้มีอายุคราวบิดามารดา เพราะความกลัวเกรงบุญบารมีหาใช่เพราะสมัครรักใครไม่ กระนั้นเย็นก็ตั้งหน้าสามิภักดิ์โดยสุจริต เจ้าคุณเมตตาเป็นพิเศษ จึงก่อให้เกิดริษยาในหมู่เมียน้อยด้วยกัน

เย็นอายุน้อยกว่าเขาทั้ง นั้น ซ้ำมีชื่อว่าเป็นทาสมาแต่เดิมก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว คุณหญิงจึงเอ็นดูกว่าอนุภรรยาคนอื่นๆ แปลกแสนแปลกด้วยเมื่อปีหนึ่งล่วงไป คุณหญิงและเย็นก็มีครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าคุณตื่นเต้นดีใจเท่าไหร่ เย็นก็ถูกริษยาจากเพื่อนเมียน้อยเท่านั้น เย็นรู้ว่าถ้าเย็นเป็นมารดาลูกของเจ้าคุณ ก็อาจถูกใส่ความว่าประพฤติชั่วกับชายอื่น มันหมายถึงอันตรายยิ่งใหญ่ทีเดียว แต่โชคดีที่คุณหญิงตั้งครรภ์ด้วย หลังจากแต่งงานมานาน เมื่อเวลาใกล้กำหนดคลอด เจ้าคุณมีราชการต้องไปค้างอยู่ต่างจังหวัดมีกำหนดสามสิบวัน

และก่อน หน้าที่จะกลับสิบสองวัน คุณหญิงแย้มก็ได้คลอดลูกชายและเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น ซึ่งพร้อมกับเย็นให้กำเนิดเด็กหญิง โดยมิคาดฝัน นางฟักก็มาบอกว่า คุณหญิงขอเปลี่ยนเอาลูกของเย็นไปเป็นลูกของท่าน ให้เย็นรักษาเป็นความลับไว้ตลอดอายุ และให้รางวัลอย่างงาม เย็นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ใจหนึ่งนั้นหวงแหนเลือดในอก ปรารถนาจะได้โอบอุ้มเลี้ยงดูเองให้สมกับอุ้มท้องมาเกือบเต็มขวบปี แต่อีกใจหนึ่งนั้นหวั่นกลัวอำนาจอันยิ่งใหญ่ของภรรยาหลวง ไม่แน่ว่าการปฏิเสธจะเกิดผลร้ายแก่ตัวสักแค่ไหน

แต่นางฟักชักแม่น้ำ ทั้งห้าหว่านล้อม อ้างว่าเพื่ออนาคตอันสดใสของลูก เป็นลูกคุณหญิงต้องดีกว่าเป็นลูกของนางทาสแน่นอน แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเจ้าคุณก็ตาม เย็นจึงยอม ค่ำวันนั้นคนในบ้านก็รู้ทั่วกันว่าลูกของเย็นตาย ส่วนลูกของคุณหญิงรอดชีวิตเป็นผู้หญิง เจ้าคุณกลับมาบ้านตามกำหนด ครั้นทราบว่าลูกของเย็นเป็นชายแต่ตายเสียก็บ่นเสียดาย ส่วนคุณหญิงได้รับการเอาใจใส่อย่างดีเลิศ ทารกซึ่งได้ตำแหน่งธิดาคุณหญิงแย้มเติบโตรวดเร็ว ผิวพรรณผ่องใส เป็นที่รักของเจ้าคุณและคุณหญิงผู้ตั้งตนเป็นมารดาอย่างยิ่งกบ-สุวนันท์ คงยิ่ง

เย็น ได้ให้น้ำนมได้อุ้มชูเลี้ยงดูโดยคำสั่งของคุณหญิงเป็นบางครั้ง ซึ่งทำให้เย็นเก็บความชื่นชมเสน่หาบุตรสาวอยู่กลายเป็นของคนอื่นไว้คนเดียว ท่านเจ้าคุณยังคงรักและเมตตาเย็น พร้อมทั้งมีความหวังว่าเย็นอาจจะมีลูกให้ท่านอีก เพราะอนุภรรยาอื่นๆ ไม่ปรากฎว่าใครจะตั้งครรภ์เลย จนในวันหนึ่ง ทิดยืน พี่ชายของเย็นมาบอกว่าพ่อเจ็บ แม่ให้มาขอขึ้นค่าตัวเย็นไปรักษาพ่อ เย็นไม่กล้าให้พี่ชายเอ่ยปากกับท่านเจ้าคุณ จึงให้ตะกรุดทองซึ่งเจ้าคุณให้ผูกตอนตั้งท้องไปแทน แต่การณ์กลับเป็นผลร้ายแก่เย็น

ด้วย บุญมี อนุภรรยาของเจ้าคุณที่ริษยาเย็นอยู่ ได้กล่าวโทษฟ้องว่าเย็นคบผู้ชายถึงให้เป็นสิ่งของกัน เย็นจึงโดนหวายเฆี่ยนเจียนตาย และถูกถอดลงมาเป็นนางทาสตามเดิม เย็นต้องมาเป็นลูกมือนางในคนครัว ตำน้ำพริก ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว หุงข้าว ผ่าฟืน ล้างถ้วยชามรามไห แล้วแต่นางในจะใช้ เหนื่อยสายตัวแทบขาด ที่ร้ายที่สุดคือห่างเหินลูกรักชนิดสุดเอื้อม กระนั้นก็ตามเย็นก็คอยหาโอกาสแอบเข้าไปใกล้ชิด อุ่นเรือน ( คุณหนูแดง) อยู่เสมอจนวันหนึ่ง วันที่เย็นเข้าไปหา นางพุ่ม พี่เลี้ยงคุณแดง อุ้มคุณแดงเชยชม

ก็ปรากฏว่าสร้อยข้อเท้าคุณแดงหายไป นางพุ่มระบุว่าเย็นมาอุ้มคุณแดง เย็นจึงถูกเฆี่ยนเป็นครั้งที่สอง จนคุณหญิงสงสารหยิบสร้อยเส้นใหม่ออกมาและบอกว่าหาพบแล้ว เย็นจึงรอดพ้นจากอาญาไปได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าคุณก็สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เย็นเข้าใกล้อุ่นเรือน เวลาผ่านไปตามลำดับอุ่นเรือนโตเป็นสาวแรกรุ่นจำเริญตา ในขณะที่เย็นร่างกายเสื่อมโทรมไปเพราะงานหนัก ผิวพรรณด้านหลังงองุ้ม ผมหงอกเกือบทั่วศีรษะ วันหนึ่งขณะที่เย็นกำลังพักผ่อน หลังจากทำงานในครัวอย่างหนัก

ก็ได้ยินเสียง นางสาลี่ อนุภรรยารุ่นเก่าคนหนึ่งของเจ้าคุณ และอีทาสหน้าตาขี้ริ้วชื่อ แอบ นัดแนะกันจะล่ออุ่นเรือนมาให้ ทิดคล้อย ซึ่งอดีตเป็นพระนักเทศน์ตัวลือ เย็นตกใจแทบสิ้นชีวิต เฝ้าตรึกตรองหาทางป้องกันอุ่นเรือนจนกระทั่งถึงวันนัด เย็นไปดัก ณ ที่นัดพบเพื่อห้ามอุ่นเรือน อุ่นเรือนโกรธจัดถึงกับตบหน้าเย็น แต่เย็นไม่ฟังเสียงเฝ้าวิงวอนจนถึงกับต้องยื่นคำขาดว่า จะขัดขวางถึงตายก็ยอม เมื่อสาลี่มาถึงรู้ว่าความแตกแล้วก็กรีดร้องขึ้นเต็มเสียงว่า เย็นพยายามแย่งของจากอุ่นเรือน อีกครั้งหนึ่งที่นางทาสถูกโบยจนสลบคาหวาย

ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่มแต่ คำน้อยมิได้หลุดจากปากเพราะรู้ว่าคือโทษหนักต่อลูกรัก จนในที่สุดอุ่นเรือนทนไม่ได้ต้องสารภาพกับคุณหญิง เย็นจึงรอดพ้นจากหวายลงหลังซ้ำสอง สิ่งที่ได้ตอบแทนคือคุณหญิงพาอุ่นเรือนมาขอโทษเย็นถึงเรือนพัก อุ่นเรือนร้องไห้จนตัวโยน จับมือเหี่ยวแห้งมากำไว้ขณะที่กล่าวคำขอโทษ เย็นจูบปลายเท้าลูกน้ำตาไหลพรากเมื่อตอบว่า ถึงบ่าวจะตายเพราะช่วยคุณก็ไม่เสียดายชีวิต เพราะบ่าวรักคุณเหลือเกิน คุณหญิงบอกความจริงเจ้าคุณ และวันรุ่งขึ้นเมื่อใกล้พลบ ใต้ถุนหอนั่งก็มีการเฆี่ยนกันอีก ครั้งนี้คือสาลี่กับนางแอบ

หลังจาก นั้นสาลี่ก็ถูกถอดลงทำงานตักน้ำผ่าฟืนข้างล่าง หลังจากนั้นไม่นานด้วยเดชะพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ ซึ่งมีต่อพสกนิกรแห่งพระองค์ ได้ทรงออกพระราชบัญญัติประกาศให้เลิกทาสทั่วพระราชอาณาจักร ปวงประชาราฎร์ทั้งหลายต่างชื่นชมโสมนัส สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นล้นพ้น แซ่ซ้องสรรเสริญทั่วทุกหลังคาเรือน พระอารามทั่วไปเคาะระฆังแสดงความปลื้มปิติ และเป็นความหมายให้สำเนียงนี้อุโฆษขึ้นไปถึงเทพยดาเจ้าเบี้ยงบนฟากฟ้าโน่น

ตาม เคหะสถานท่านผู้มีทาสใช้สอย บางรายก็เสียดายอำนาจซึ่งหลุดลอยไป บางแห่งก็ยินดี โดยเฉพาะพระยาสีหโยธิน เจ้าคุณโสมนัสชื่นชมเป็นที่ยิ่ง ประกาศให้ทุกคนในบ้านมีการรื่นเริงได้เต็มที่ ปัจจุบันนางทาสเย็นไม่ต้องทำงานหนักตรากตรำแล้ว คุณหญิงให้นั่งดูแลหอนั่ง เย็นค่อยแจ่มใสอ้วนท้วนนุ่งห่มสะอาดนัยน์ตา มีโอกาสได้พบปะใกล้ชิดลูกโดยไม่มีใครรังเกียจ แม้ฝ่ายอุ่นเรือนเองจะไม่รู้จักว่าเป็นแม่ ตามวิสัยของมารดากับบุตร ย่อมมีสัมพันธ์ทางสายโลหิตใกล้ชิดอยู่เสมอ อุ่นเรือนจึงรักเย็นมาก

เจ้า คุณเคยปรารถกับตัวเองว่า เย็นเป็นคนดีพอใช้ เสียแต่ใจมันรักชั่วเห็นคนเลวดีกว่าพระยาอย่างเรา ไม่งั้นป่านนี้กินนอนกันสบาย และวันที่ความจริงปรากฏขึ้นก็มาถึง เมื่อทิดยืนพี่ชายมาหาเย็นพร้อมทั้งเงินค่าไถ่ ความจริงเปิดเผยว่าผู้ที่เจ้าคุณคิดว่าเป็นชู้ของเย็นเมื่อเกือบยี่สิบปี ก่อนนั้นคือ พี่ชาย เจ้าคุณอึ้งไปด้วยสำนึกในความผิด ทั้งเสียใจและเสียดายความหลังเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางใดจะแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ ได้แต่ขออโหสิต่อเย็นอยู่ในใจ เย็นมีชีวิตเป็นสุขขึ้นมาก ความดีทุกอย่างปรากฏขึ้นแล้ว แต่ความจริงที่อุ่นเรือนคือบุตรสาวที่แท้จริงของเย็น จะปรากฏหรือไม่ คอยติดตามชมกันต่อไปในละคร นางทาสป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก

รายชื่อนักแสดงละคร นางทาส

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น พระยาสีหโยธิน
สุวนันท์ คงยิ่ง แสดงเป็น เย็น
จีรนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น สาลี่
ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น คุณหญิงแย้ม
อรวรรณษา ฐานวิเศษ แสดงเป็น บุญมี
ธันย์ชนก ฤทธิ์นาคา แสดงเป็น อุ่นเรือน ( คุณหนูแดง )
ธัญสินี พรมสุทธิ์ แสดงเป็น ละออ
ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น ยายฟัก
สุรวุฑ ไหมกัน แสดงเป็น คล้อย

ตะวันยอแสง 2553

ตะวัน (เขมนิจ จามิกรณ์) อาศัยอยู่ในเรือกระชังกับ สาย (รชนีกร พันธุ์มณี) และ คร้าว (ทนงศักดิ์ ศุภการ) พ่อเลี้ยงขี้เมา ยังชีพด้วยการรับจ้างบรรทุกสินค้าล่องไปตามจังหวัดต่าง ๆ ตะวันมี เอี้ยง (ชวนภ โพธิประเสริฐ) ที่อาศัยอยู่ในเรือกระชังอีกลำกับแม่และพ่อเลี้ยงใจร้ายเหมือนตะวันเป็นสมุน คู่ใจ

เมื่อตะวันต้องบรรทุกรำไปส่งที่เรือแพคลองบางหลวง ทำให้สายกังวลใจมากจนตะวันผิดสังเกต แต่สายอ้างว่าไม่อยากให้ไปที่นั้นเพราะ อินตา (ทองขาว ภัทรโชคชัย) พ่อของตะวันเคยก่อเรื่องไว้ สายเสียใจที่คิดถึงเรื่องในอดีต ความจริงที่อินตาต้องติดคุก เพราะฆ่าคนตาย ทำให้สายตัดสินใจผิดมาอยู่กับคร้าว

เรือของตะวันกับเอี้ยงจอดรอส่งรำอยู่ตรงท่าน้ำใกล้กับเรือนแพและคฤหาสน์หลัง หนึ่ง ซึ่งเป็นที่ห้ามจอดเรือ ทำให้ตะวันมีเรื่องกับ นเรนทร์ (บวรพจน์ ใจกันทา) ลูกชายของ ท่านต้น (ดิลก ทองวัฒนา) เจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ พริ้มเพรา (อภิรดี ภวภูตานนท์) ป้าของนเรนทร์จะเอาเรื่องตะวัน แต่ ศักดิ์ระพี หรือ คุณเล็ก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เข้ามาห้ามเพราะรู้ว่านเรนทร์ทำร้ายตะวันก่อน

สายเข้ามาขอโทษคุณเล็กกับพริ้มเพราแล้วรีบพาตะวันกลับ พริ้มเพราเห็นสายถึงกับตกใจ กลัวความลับจะแตก เพราะเมื่อ 12 ปีก่อน พริ้มเพราอิจฉา ดวงพร (เขมนิจ จามิกรณ์) ที่ท่านต้นรับเป็นอนุภรรยาแทนที่จะเป็นตน เมื่อดวงพรคลอดลูกเป็นผู้หญิงแล้วเธอก็ตาย แต่ก่อนตายดวงพรบอกกับ คุณใหญ่ (กชกร นิมากรณ์) ภรรยาหลวงของท่านต้นว่า ลูกของเธอมีปานแดงรูปหัวใจที่เหนือหน้าอกด้านซ้าย

พริ้มเพราผิดหวังที่ไม่มีลูกชายไว้สืบสกุล จึงสลับตัวลูกสาวของดวงพรกับลูกชายของสายกับอินตา และให้ ช้อน (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) เอาเงินปิดปาก ละม่อม (ดารณีนุช โพธิปิติ) หมอตำแย ไม่ให้บอกใคร ทุกคนเข้าใจว่านเรนทร์คือทายาทของคฤหาสน์เดชาบดินทร์ คุณใหญ่จึงทำพินัยกรรมมอบสมบัติให้ลูกชายของดวงพร

ตะวัน กับเอี้ยงอยู่เฝ้าเรือรอสายที่ไปหาหมอ ท่านต้นขับเรือเล่นบริเวณนั้น นเรนทร์ประมาทจนเรือผลิกคว่ำทำให้ท่านต้นตกน้ำ ตะวันกับเอี้ยงช่วยท่านต้นขึ้นมาบนเรือ เมื่อมาถึงคฤหาสน์ ท่านต้นสั่งรื้อป้ายห้ามจอดเรือทั้งหมด เพราะซาบซึ้งในน้ำใจของตะวัน

คร้าวบังคับเอาเงินกับตะวัน สายเข้ามาช่วยจนแทงคร้าวตาย แล้วเอาจดหมายกับเงินให้ตะวันกับเอี้ยงไปหาพริ้มเพราที่เรือนแพในคลองบาง หลวง ส่วนสายมอบตัวกับตำรวจ

ช้อนบอกความจริงกับท่านต้นต่อหน้าคุณใหญ่และคุณเล็กว่า ตะวันคือลูกของดวงพร ท่านต้นตรอมใจที่ตามหาตะวันไม่เจอ ก่อนสิ้นลม จึงทำพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมา พร้อมบอกคุณใหญ่ให้พาตะวันกลับบ้านให้ได้ ตะวันเข้าไปเคารพศพท่านต้นที่วัดด้วยความหดหู่ ก่อนจะหนีคุณใหญ่ไปเพราะกลัวความผิดที่เคยทำร้ายนเรนทร์

ตะวันปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อไม่ให้ใครจำได้ ส่วนเอี้ยงก็เปลี่ยนชื่อเป็น นพดล และโกนหัวเพื่อปลอมตัวเช่นกัน ตะวันหลอกคุณเล็กว่าชื่อ ยอแสง เป็นพี่น้องกับนพดลหนีออกมาจากบ้านเพราะถูกพ่อเลี้ยงทารุณ คุณเล็กจึงรับอุปการะทั้งสองให้ได้เรียนหนังสือ และโกหก พร้อมมิตร (ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) ลูกอนุภรรยาของท่านต้นว่า ทั้งสองเป็นญาติมาจากต่างจังหวัด ยอแสงกับนพดลได้รู้จักกับ ธาดา (ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) นักเรียนรุ่นพี่ ธาดามักจะคอยช่วยเหลือทั้งสอง จนทั้งสองซาบซึ้งในน้ำใจ

คุณเล็กไปเรียนต่อเมืองนอกจึงฝากยอแสงและนพดลไว้กับคุณใหญ่ 6 ปีผ่านไป เด็กทุกคนในเรือนแพโตเป็นหนุ่มเป็นสาว พร้อมมิตรทำงานในบริษัทใหญ่โต จิตรใส (วรภร เลิศเกียรติไพบูลย์) น้องสาวของพร้อมมิตรและนเรนทร์ยังคงเรียนซ้ำชั้นมัธยม

นพดลสอบเข้านายร้อยตำรวจได้ ยอแสงเรียนอักษรศาสตร์หวังจบมาเป็นอาจารย์ ส่วนอินตาเองก็พ้นโทษ ยอแสงกับ ใจบุญ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ได้พบกับธาดาและนพดล นพดลแอบชอบใจบุญตั้งแต่แรกเห็น ธาดาเองก็สนใจยอแสงแต่ยอแสงไม่สนใจ

คุณเล็กเดินทางกลับจากต่างประเทศ เมื่อได้พบกับยอแสงก็ถึงกับตะลึงในความสวย แต่ก็ทำตัวเหินห่างจนยอแสงน้อยใจ นเรนทร์รู้ว่าคุณใหญ่จะยกสมบัติให้ยอแสงจึงคิดกำจัดแต่ไม่สำเร็จ คุณใหญ่ยอมพูดว่านเรนทร์ไม่ใช่ลูกท่านต้น นเรนทร์ถามความจริงจากพริ้มเพรา นเรนทร์กลัวความจริงจะเปิดเผยจริงฆ่าช้อนและละม่อม

คุณ ใหญ่ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมก่อนกำหนด อินตาปรากฎตัวขึ้นทุกอย่างถูกเปิดเผย ยอแสงหรือตะวันคือทายาทที่แท้จริงของท่านต้นและดวงพร นเรนทร์คลั่งมากคว้าปืนมายิงทุกคน คุณเล็กกับอินตาช่วยกันจับตัวนเรนทร์ส่งตำรวจ ยอแสงหรือตะวันได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ ที่แท้จริง คุณเล็กได้เปิดเผยความในใจกับตะวัน ความอบอุ่นจึงกลับคืนมาอีกครั้ง ติดตามชม ละคร ตะวันยอแสง

เดือนเดือด

พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ แก่นเพชร นายตำรวจมือปราบชื่อดังจากคดี ดร.ทัศน์ไท เมื่อหลายปีก่อน ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติภารกิจลับ นำหน่วยปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่เร็วบุกเข้าทลายโรงงานผลิตยาบ้าแห่งใหญ่ ที่สุดบริเวณแนวชายแนดไทย-เมียนม่า แต่นายตำรวจหนุ่มกลับถูกซ้อนแผนจากพ่อค้ายานรก ร่วมมือกับตำรวจชั่วรุมเล่นงานยิงกระหน่ำจนทีมตำรวจปราบปรามทั้งหมดตายเรียบ ส่วนเศรษฐพงศ์เองแทบจะเอาชีวิตไม่รอด

ที่โรงงานนรกนั้นเอง เศรษฐพงศ์รอดชีวิตได้ด้วยความช่วยเหลือจากสาวลึกลับคนหนึ่ง เธอสวมหน้ากากและชุดแนบเนื้อสีดำทั้งชุด เจ้าของฉายา ปกีรณัม ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คอยช่วยเหลือตำรวจปราบปรามยาเสพติดอยู่เสมอปกีรณัมวาดลวดลายสาวนักบู๊ เล่นงานวายร้ายที่รายรอบได้จนหมดสิ้น ยังความประหลาดใจให้กับนายตำรวจหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเธอจะมีชั้นเชิงการต่อสู้ที่แพรวพราวแล้ว ดูเหมือนวายร้ายทุกคนจะทำอันตรายเธอไม่ได้เลย กระสุนปืนทุกนัด รวมทั้งระเบิดทุกลูกของพวกมันด้าน ไม่ทำงานเสียเฉยๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปกีรณัม

หลังจากช่วยเหลือเศรษฐพงศ์ให้รอด ชีวิตแล้ว สาวหน้ากากดำได้ทิ้งหลักฐานสำคัญเพื่อให้เขาสามารถสืบจับนายตำรวจชั่วซึ่ง วางแผนทั้งหมด พร้อมทั้งประกาศจะช่วยเหลือผู้กำกับหนุ่มต่อไป เพื่อกวาดล้างยาเสพติด โดยไม่ยอมเปิดเผยตัวจริงว่าเป็นใคร และมีความเป็นมาอย่างไร เศรษฐพงศ์ได้แต่เก็บปมปริศนานี้ไว้ในใจ ตั้งใจจะสืบทราบให้จงได้ว่าสตรีหน้ากากดำลึกลับคนนี้เป็นใครกันแน่ และเธอมีเหตุผลอะไรที่ทำแบบนี้ ในเย็นวันเดียวกัน มนทกานติ โชติรัตน์ ดาราสาวยอดนิยมเกือบจะไปงานคอนเสิร์ตหารายได้ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านแสงอรุณ แทบไม่ทัน เธอต้องแก้ตัวกับ วดี ชัยอนันต์ หรือ แม่วดี ประธานชมรมแสงอรุณเป็นพัลวัน โดยอ้างว่าติดภารกิจต้องถ่ายทำละครหามรุ่งหามค่ำในต่างจังหวัด

ด้วย ท่าทางที่น่ารักของมนทกานติ ดาราสาวเจ้าของสารพัดฉายา ราชินีนักบู๊ ดาราเจ้าน้ำตา และ เจ้าแม่กุ๊กกิ๊ก การแสดงจึงผ่านพ้นไปได้ด้วยดีได้รับเงินบริจาคสมทบทุนชมรมไปหลายล้านบาท ในระหว่างที่มนทกานติกำลังแสดงอยู่นั้นเอง ช่างไฟคนงานอาละวาดคลั่งยาบ้าขึ้นมากะทันหัน ถือปืนวิ่งตรงเข้าจะทำร้ายผู้ร่วมงาน โชคดีที่มนทกานติวาดลวดลายราชินีนักบู๊ ช่วยเหลือทุกคนได้อย่างปลอดภัย โดยที่ทมนทกานติไม่ได้รับอันตรายจากกระสุนปืนของไอ้คลั่งแม้แต่นัดเดียว

มี เพียงวดีคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะเธอรู้ดีว่า มนทกานติ อดีตเด็กกำพร้าของชมรมแสงอรุณมักจะโชคดีเสมอในวันเดือนมืด แรม 15 ค่ำ มนทกานติ มีชีวิตที่น่าสงสาร ต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปในวันเกิด ซึ่งตรงกับคืนวันแรม 15 ค่ำพอดิบพอดี พ่อของมนทกานติเป็นนายตำรวจมือปราบหน่วยปราบปรามยาเสพติด สร้างผลงานยอดเยี่ยมจนถูกพ่อค้ายาเสพติดลงขันร่วมมือกันกำจัด ส่วนแม่ของเธอเสียชีวิตจากการเสียเลือดในวันคลอดนั้นเอง

มนทกานติ ได้รับการเลี้ยงดูจากวดี ประธานชมรมแสงอรุณ ภรรยาของดนัยนพ นักธุรกิจผู้ใจบุญ วดีตั้งชื่อเธอให้มีความหมายว่า “พระจันทร์” โดยหวังว่าจะเป็นศิริมงคลแก่เด็กหญิงคนนี้ ทั้งๆ ที่ต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก เมื่อเข้าสู่วัยสาว ชายหนุ่มที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของมนทกานติ คือ วีรชัช ศัจกร ผู้กำกับการแสดงหนุ่ม อดีตนักเรียนอังกฤษ เจ้าของรางวัลผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยมหลายปีซ้อน เขาเลือกมนทกานติเป็นนางเอกใหม่ นำแสดงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขากำกับ และแน่นอนเพียงเรื่องแรก มนทกานติก็ดังทะลุฟ้า รายได้ของภาพยนตร์ติดอันดับภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดของประเทศ

ตั้งแต่ นั้นเป็นต้นมา วีรชัชกับมนทกานติ เป็นผู้กำกับและดาราคู่ขวัญที่สนิทสนมแนบแน่นกันที่สุด ด้วยบุคลิกเข้าใจยากและแยกตัวเองออกจากสังคมของวีรชัช ดูเหมือนจะมีมนทกานติเท่านั้นที่รู้ใจ จนเป็นที่ร่ำลือกันทั่วทั้งวงการบันเทิงว่า เขาและเธอเป็นคู่รักที่น่าอิจฉา แม้วีรชัชจะเป็นชายคนเดียวที่มนทกานติใกล้ชิด แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจพฤติกรรมและความรู้สึกลึกๆ ในบางเรื่องของเธอได้ หลายครั้งเขารู้สึกเหมือนเป็นคนอื่น…ที่ไม่ใช่คนรัก ในวงการบันเทิงเต็มไปด้วยมายา หรูหรา ฟู่ฟ่า และจอมปลอม หลายคนถูกกระแสพัดพาให้ถลำลึกไปไกลเกินกว่าจะกลับตัว บางคนติดยา บางคนติดเอดส์ บางคนยอมขายตัวให้กับผู้มีอิทธิพล หลากชีวิตหลายรูปแบบที่มนทกานติกับวีรชัชต้องเผชิญ

ครั้ง หนึ่งวีรชัชเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถูกลอบทำร้ายจากดาราหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งเขาไล่ออกจากกองถ่ายเพราะเสพยาอีจน ติดงอมแงม วีรชัชถูกแทงอาการสาหัส ต้องเข้าโรงพยาบาลท่ามกลางความตกใจและเสียใจของมนทกานติ ด้วยความล่าช้าของหน่วยงานราชการ ทำให้พลาดการจับกุมผู้ค้ายาคนสำคัญไปได้ มนทกานติเริ่มตระหนักถึงปัญหายาอี คิดว่าจำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกวาดล้างยาอีในวงการ บันเทิง ในคราบของ “ปกีรณัม” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สิ่งหนึ่งที่คน ทั่วไปไม่รู้ นั่นคือ มนทกานติเป็นนักคอมพิวเตอร์ตัวยง เธอเชี่ยวชาญการใช้คอมพิวเตอร์ไม่ต่างจากมืออาชีพ จากการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต มนทกานติแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยโปรแกรมแชทกับบุรุษลึกลับที่ใช้นามแฝงว่า ฮีโร่ เธอไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร รู้เพียงว่าเป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่ง สามารถให้เบาะแสทำลายล้างขบวนการค้ายาเสพติดได้บ่อยครั้ง การปฏิบัติงานของปกีรณัมหลายครั้งได้ข้อมูลสำคัญมาจากฮีโร่ ทำให้สามารถรวบตัวการส่งให้ตำรวจลงโทษได้ โดยที่ทั้งฮีโร่และมนทกานติต่างไม่เคยเห็นหน้าตัวจริงซึ่งกันและกันเลย

ข่าว สำคัญล่าสุดที่ฮีโร่บอกมนทกานติคือ คนที่อยู่เบื้องหลังการค้ายาอีในวงการบันเทิง คือ นเรนทร อภิชัย พระเอกหนุ่มจอมกระชากเรตติ้งของวงการ เจ้าของฉายา คาสโนวายุคมิลเลนเนียม ลูกชายคนเดียวของ สนอง อภิชัย ส.ส.ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดทางการเมืองในขณะนี้ ภารกิจเล่นงานนเรนทรจึงเริ่มขึ้นที่งานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์แห่งปี มนทกานติใช้ความสวยและเสน่ห์ของตัวเองหลอกล่อให้นเรนทรมาติดกับ เขาหลงใหลในความงามของมนทกานติอย่างหัวปักหัวปำ คิดว่าดาราสาวเจ้าบทบาทกำลังหลงใหลในความหล่อเหลาของเขาด้วยเช่นกัน

ความ สนิทสนมระหว่างมนทกานติและนเรนทรอยู่ในสายตาของวีรชัชโดยตลอด แม้จะเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและน้อยใจในพฤติกรรมของเธอ แต่วีรชัชก็พยายามกล้ำกลืนฝืนทน คิดเพียงแต่ว่าดาราสาวคงมีเหตุผลพอที่กระทำตัวแบบนี้ ด้วยความสนิทสนมที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มนทกานติสามารถลอบข้าไปในเพนเฮ้าส์หรูส่วนตัวของนเรนทรได้สำเร็จ เธอแอบติดตั้งกล้องโทรทัศน์และอุปกรณ์สเปเชี่ยลเอฟเฟคไว้เต็มห้องพัก เฝ้ารอเวลาที่นเรนทรจะทำการจำหน่ายยาอีให้กับเอเย่นต์และดาราอื่นๆ เพื่อจะทำลายวงจรอุบาทว์ให้หมดสิ้นไป

แล้ววันนั้นก็มาถึง นเรนทรเชิญมนทกานติมาเป็นแขกพิเศษในปาร์ตี้ซื้อขายยาอีในเพนเฮ้าส์ส่วนตัว ของตัวเอง ด้วยความสามารถและอุปกรณ์สเปเชี่ยลเอฟเฟคที่มนทกานติแอบติดตั้งไว้ ทำให้ปาร์ตี้จำหน่ายยาอีของนเรนทรถูกทำลายลง ด้วยฝีมือของ “ปกีรณัม” พยัคฆ์สาวในชุดดำที่หลายคนกำลังกล่าวถึง นเรนทรกับพวกถูก พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ จับได้พร้อมยาอีที่เตรียมจำหน่าย ส่วนมนทกานติหายตัวไปพร้อมกับเงินสดของกลาง และการปรากฏตัวของปกีรณัม เหมือนเช่นทุกครั้งที่จบภารกิจกวาดล้างแก๊งค์ยาเสพติด มูลนิธิเด็กกำพร้าทั่วประเทศได้รับเงินบริจาค โอนเข้าบัญชีในจำนวนเท่ากับเงินสดของกลางที่หายไป โดยระบุชื่อผู้โอนในนาม ปกีรณัม

เศรษฐพงศ์พยายามสืบหาว่าปกีรณัมเป็นใคร เขารู้เพียงว่า ปกีรณัม แปลว่า จำหน่ายจ่ายแจก ซึ่งก็ตรงกับพฤติกรรมของพยัคฆ์สาวในชุดดำ นั่นคือเอาเงินเลวที่ยึดได้จากการค้ายาเสพติด มาบริจาคให้บรรดาเด็กกำพร้าอยู่เสมอ การถูกตำรวจจับและถูกทลายปาร์ตี้จำหน่ายยาอี สร้างรอยแค้นให้กับนเรนทรเป็นอย่างมาก เขาปักใจเชื่อว่ามนทกานติกับปกีรณัมต้องเป็นคนๆ เดียวกัน ตั้งใจจะต้องล้างแค้นเธออย่างสาสม ด้วยอำนาจเงินและอิทธิพลล้นฟ้าของสนองผู้เป็นพ่อ นเรนทรรอดจากคดีกลับมาลอยนวลอยู่ในสังคมได้อย่างสบายอีกครั้ง ส่วนผู้กำกับเศรษฐพงศ์ถูกตั้งกรรมการสอบสวนในข้อหากระทำเกินกว่าเหตุ เพราะของกลางยาอีที่ยึดได้ถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลปึกไปในเพียงชั่วข้ามคืน

นเรนทร ต้องการทำลายชื่อเสียงขอปกีรณัมที่สร้างไว้ โดยอาศัยผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาต้องการให้มนทกานติแสดงตัวตอบโต้กับเขา นเรนทรร่วมกับสนองจองล้างจองผลาญมนทกานติ เริ่มจากถล่มตำรวจและหน่วยงานราชการทั่วประเทศ ต่อด้วยปล้นเงินบริจาคจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าทั่วกรุงเทพฯ แบบเย้ยกฎหมาย โดยมีผู้หญิงผมยาวใส่หน้ากากชุดดำนำขบวนปล้นทุกครั้ง และระบุว่าตัวเองคือ ปกีรณัม วันหนึ่งนเรนทรบุกเข้ามากระหน่ำมนทกานติถึงในห้องพักที่คอนโด เคราะห์ดีที่มนทกานติสร้างห้องลับไว้ซ่อนตัวเป็นอย่างดี เธอจึงรอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระนั้น นเรนทรก็ยังประกาศจะจองล้างจองผลาญเธอให้ถึงที่สุด ถ้าทำกับเธอไม่ได้ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็จะเป็นเป้าหมายสำคัญของเขา

ในวันเด็กแห่ง ชาติ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั่วประเทศร่วมกับชมรมแสงอรุณจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อรวบ รวมรายได้สนับสนุนกิจการ โดยปีนี้มนทกานติเป็นแม่งานใหญ่ จัดการแสดงพิเศษที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ โดยหวังว่าจะได้รับเงินบริจาคหลายล้านบาท ที่งานแสดงนี้เองมนทกานติได้พบกับ กวง หัวหน้าช่างทำเอฟเฟคมือฉกาจของวงการบันเทิง กวงมากับ น้ำเย็น ลูกชายวัยเจ็ดขวบ ผู้ทะเล้นได้ที่และเคยสนิทสนมกับมนทกานติมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการบันเทิง การแสดงในงานวันเด็กดูเหมือนจะผ่านพ้นไปด้วยดี จนกระทั่งมาถึงช่วงมอบเงินบริจาคในห้องประชุม มนทกานติต้องพบกับสตรีลึกลับในชุดดำแนบเนื้อ พร้อมหน้ากากสีดำอย่างคาดไม่ถึง

ปกีรณัมตัวปลอมโรยตัวมาจากหลังคา ห้องประชุม ดึงเอาเงินบริจาคทั้งหมดออกจากมือมนทกานติ พร้อมๆ กับรัวปืนกระหน่ำยิงเข้าใส่ไม่นับ มนทกานติต้องหนีอย่างหัวซุกหัวซุนจนเกือบเอาตัวไม่รอด ดีที่ได้น้ำเย็นกับกวงเข้าช่วยไว้ได้ทัน แต่แม้กระนั้นมนทกานติยังถูกยิงจ่อๆ แบบเผาขนอีกถึงสองนัด มนทกานติถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด วีรชัชเฝ้าดูแลเธออยู่ไม่ห่างท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของเด็กชายน้ำเย็น ที่พร่ำพูดถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญอยู่ตลอดเวลา สินี

เป็นสาวนักฆ่า ที่นเรนทรจ้างมาสวมรอยเป็นปกีรณัม หลังจากปล้นเงินบริจาคเรียบร้อยแล้ว เธอก็ดำเนินแผนการโปรยนามบัตรปกีรณัมไว้จนทั่วบริเวณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจฯ บังคับให้เศรษฐพงศ์หาทางจับปกีรณัมมาลงโทษให้ได้ โดยตั้งรางวัลนำจับแพงลิบลิ่ว ชีวิตของสินีมีชะตากรรมไม่ต่างจากมนทกานติเลย ต่างเพียงว่ามนทกานติได้รับโอกาสที่ดีในชีวิตจากวดีและชมรมแสงอรุณ ในขณะที่สินีถูกตอกย้ำทำร้ายจากสังคมที่เลวทราม เธอจึงหันหลังให้กับความดี ดำรงตนเป็นนักฆ่าที่หาตัวจับยาก

นักฆ่าอย่างสินีไม่ยอมให้ตัวเองทำ งานพลาด เธอแค้นใจที่กวงกับน้ำเย็นเข้ามาขัดขวางทำให้เธอกำจัดมนทกานติไม่สำเร็จ สินีเข้าไปสังหารกวงตายคาที่ในบ้านพัก ต่อหน้าน้ำเย็นผู้เป็นลูก แต่ด้วยความชาญฉลาดของเด็กชายน้ำเย็นทำให้เขารอดพ้นเงื้อมือมัจจุราชมาได้ อย่างหวุดหวิด และหนีไปหาผู้กำกับเศรษฐพงศ์ได้ทันท่วงที แผนการต่อไปของสินีคือลอบเข้าไปสังหารมนทกานติถึงในโรงพยาบาลตำรวจ เธอแฝงกายเข้าไปเป็นนางพยาบาล ลักลอบฉีดยาพิษไซยาไนด์อย่างแรงเข้าในขวดน้ำเกลือของมนทกานติ แล้วหนีออกไปอย่างเย้ยตำรวจ

ทุกอย่างคงเสร็จสิ้น มนทกานติคงจบชีวิตลงไปแล้ว…
หากคืนวันที่สินีลงมือ ไม่ใช่วันแรม 15 ค่ำ
วันเดือนเดือด… อหังการ์แห่งพระจันทร์

หลัง จากมนทกานติรอดชีวิตมาได้ เธอกลับต้องเผชิญหน้ากับการสืบหาความจริงของเศรษฐพงศ์อีกครั้ง ผู้กำกับหนุ่มมั่นใจว่ามนทกานติเป็นคนๆ เดียวกับปกีรณัม มิฉะนั้นคงไม่ถูกตามจองล้างจองผลาญจากคู่อริอย่างนเรนทรกับสนองถึงเพียงนี้ เขาขอร้องให้มนทกานติวางมือจากภารกิจอันตรายนี้เสีย โดยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดความห่วงใยดาราสาวคนนี้มากกว่าคน อื่นๆ เศรษฐพงศ์ส่งคนติดตามความเคลื่อนไหวของนเรนทร เพราะได้ข่าวจากสายสืบว่านเรนทรกำลังสั่งเครื่องจักรผลิตยาอี มาผลิตขายอย่างเป็นล่ำเป็นสันในเมืองไทย แต่โชคร้ายที่สายสืบของเศรษฐพงศ์กลับทำงานพลาดเพราะเกลือเป็นหนอน ต้องถูกสินีฆ่าตายอย่างทารุณ

น้ำเย็นถูกเศรษฐพงศ์ส่งไปอยู่ในสถาน สงเคราะห์แห่งหนึ่ง ที่นั่นเองน้ำเย็นพบว่าเด็กๆ ในสถานสงเคราะห์ถูกบังคับจากเอเย่นต์ยาบ้าในแถบนั้น ให้ขายยาบ้าเป็นอาชีพเสริม รอดพ้นสายตาจากตำรวจ แม้จะเป็นเด็ก แต่น้ำเย็นยังวางแผนช่วยเพื่อนๆ ให้เลิกตกเป็นทาสของอันธพาล คืนวันหนึ่งเขาแอบตามเพื่อนๆ ออกไปพบกับเอเย่นต์ค้ายาบ้า พร้อมๆ กับเล่นงานเอเย่นต์ยาบ้าจนอยู่หมัด หมดสภาพสลบเหมือดในตึกร้างแห่งหนึ่ง ซ้ำยังไม่วายโทรบอกตำรวจให้มาจับ ประกาศตัวอย่างน่ารักตาประสาเด็กว่าเขาคือ…ผู้ช่วยปกีรณัม

เมื่อมน ทกานติหายเป็นปกติ เธอเข้าไปแสดงความจำนงขอย้ายตัวน้ำเย็นมาอยู่ที่ชมรมแสงอรุณ เพื่อให้เธอสามารถดูแลเขาแทนนายกวงที่เสียชีวิตไป น้ำเย็นยินดีเป็นอย่างมาก เขาแอบปลื้มในความสามารถของมนทกานติมานานแล้ว นเรนทรยังไม่วางมือจากการล่าสังหารมนทกานติง่ายๆ ในงานเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ที่เธอไปโชว์ตัว ถูกนเรนทรวางกำลังเอาไว้โดยรอบโดยมีสินีเป็นหัวหน้าในการกำจัดมนทกานติ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ซ้ำร้ายยังถูกมนทกานติเล่นงานจนแทบจะย่ำแย่ สินีถูกผู้กำกับเศรษฐพงศ์นำกำลังตำรวจรวบตัวจับกุมไปได้

คนชั่วย่อม เป็นคนชั่ววันยังค่ำ ทันทีที่สินีถูกตำรวจจับกุม นเรนทรไม่ลังเลที่จะคิดกำจัดเธอให้พ้นทาง เขาจ้างนักฆ่ามืออาชีพเข้าไปลอบสังหารสินีถึงในเรือนจำ แต่ด้วยความสามารถของสินี เธอจึงรอดชีวิตไปได้อย่างหวุดหวิด แม้กระนั้นสินียังต้องบาดเจ็บสาหัส อยู่ในสภาพเจ้าหญิงนิทราไม่อาจให้การกับตำรวจได้ ความสัมพันธ์ระหว่างมนทกานต์กับวีรชัชงอกงามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่รู้แก่ใจตัวเองว่ารักกันมากแค่ไหน มนทกานติตัดสินใจเลิกภารกิจปกีรณัม ปล่อยหน้าที่กำจัดนเรนทรกับสนองให้เป็นของเศรษฐพงศ์ เพราะอีกไม่นานเธอจะแต่งงานกับวีรชัชตามที่เขาต้องการ

ฮีโร่ ส่งข่าวการนำเข้าเครื่องจักรผลิตยาอีของนเรนทรกับสนองมาให้มนทกานติทราบอีก ครั้ง เธอส่งขอ้มูลสำคัญนี้ไปให้กับผู้กำกับเศรษฐพงศ์ เขาส่งนายตำรวจมือดีคอยติดตามหาทางเล่นงานนเรนทรกับพ่อ แต่กลับถูกย้อนรอยถูกยัดข้อหามียาอีอยู่ในครอบครอง ตำรวจสายของ ส.ส.สนองเข้าตรวจค้นที่พักของผู้กำกับเศรษฐพงศ์ พบยาอีซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนับหมื่นเม็ด พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ ถูกสั่งให้พักราชการและโดนจับกุมดำเนินคดีในทันที ในเรือนจำเขายังถูกคุกคามไม่สิ้นสุด เพียงแต่หาใครมีฝีมือเหนือเขาไม่ได้ นายตำรวจหนุ่มจึงยังมีชีวิตอยู่ในคุกได้อย่างสงบ เฝ้ารอเวลาที่จะพิสูจน์ตัวเอง

เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดคนดีในสังคม ขณะที่มนทกานติกำลังรับหมั้นจากวีรชัชและสัญญาว่าจะแต่งงานกัน บ้านสวนริมน้ำของวีรชัชกลับถูกถล่มจากทีมล่าสังหารของนเรนทร ทั้งสองพยายามต่อสู้อย่างดุเดือด อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของมนทกานติที่เชี่ยวชาญเรื่องโลดโผนสมฉายา ราชินีนักบู๊ เธอพาวีรชัชฝ่าวงล้อมออกมาได้ แม้กระนั้นวีรชัชยังต้องอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส มนทกานติสามารถพาวีรชัชเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่แพทย์ก็มิอาจหยุดความตายของผู้กำกับหนุ่มเอาไว้ได้ ยังความเศร้าโศกเสียใจให้กับเธอย่างแสนสาหัส จนยากจะทานทน

มนทกานติอาศัยชมแรงแสงอรุณเป็นที่พักจิตใจ ชีวิตของเธอขณะนี้ไม่เหลือใครอีกแล้ว ถึงเวลาที่เธอต้องต่อสู้กับความอยุติธรรมด้วยตัวเอง ถึงเวลาของ…ปกีรณัม มนทกานติในร่างของปกีรณัมบุกเข้าไปถึงบ้านของ ส.ส.สนองที่มีบอดี้การ์ดรายรอบนับสิบคน โดยอาศัยรถเทรลเลอร์ติดระเบิดที่บังคับด้วยรีโมทคอนโทรล ทำให้เธอสามารถกำจัดองครักษ์ชั่วของสนองไปได้ไม่ยาก เธอเข้าไปกระหน่ำเล่นงานสนองถึงในถ้ำด้วยตัวเธอเอง พยัคฆ์สาวบังคับให้สนองโอนเงินทางคอมพิวเตอร์เข้าเครือข่ายของบ้านเด็ก กำพร้าทั่วประเทศเป็นเงินถึง 100 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นไม่นานด้วยฤทธิ์ของเสือเฒ่า มนทกานติกลับเกือบเอาชีวิตไม่รอด ยังดีที่ผู้ช่วยวัยจิ๋ว น้ำเย็น แอบโผล่ออกมาจากท้ายรถ ช่วยเหลือเธอไว้ได้ทันทวงที

น้ำเย็นแอบเล่นอินเตอร์เน็ตโดยใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ของมนทกานติ ทำให้ฮีโร่สามารถติดต่อเธอได้อีกครั้ง ฮีโร่แนะนำให้มนทกานติเล่นงานสนอง โดยแฉเรื่องเรือสำราญของสนองที่เปิดเป็นบ่อนคาสิโนกลางอ่าวไทย อำนาจทางการเมืองของสนองกับนเรนทรก็จะหมดลงด้วยการทำงานของสื่อมวลชน มนทกานติเข้าไปเยี่ยมเศรษฐพงศ์ที่เรือนจำเพื่อขอความร่วมมือจากเขา โดยเสนอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ เศรษฐพงศ์แนะนำให้มนทกานติรู้จักกับ พ.ต.ท.ภูมิ บูรณศิลป์ อดีตคู่หูที่เพิ่งกลับมาจากศึกษาต่อที่อเมริกา และมูลนิธิไททัศน์ ของ ดร.ทัศน์ไท ขาดแต่ ดร.ทัศน์ไทยที่ติดภารกิจการทำงานที่ต่างประเทศเท่านั้น ทั้งหมดตกลงจะปฏิบัติการกวาดล้างอิทธิพลของสนองกับนเรนทรให้สิ้นซาก

มน ทกานติร่วมกับ สัก พิชิตผจง แฮกเกอร์มือหนึ่งของ ดร.ทัศน์ไท เจาะฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตำรวจฯ สืบทราบข้อมูลสำคัญที่ทำให้เศรษฐพงศ์รอดพ้นข้อกล่าวหายาอี กำลังจะถูกปล่อยตัวในไม่ช้า ติดอยู่ที่สนองยังทรงอิทธิพลอยู่เท่านั้น มนทกานติตัดสินใจเข้าไปแฉความเลวร้ายเรือสำราญของสนองและนเรนทรด้วยตัวเอง เธอจองที่พักบนเรือสำราญลำยักษ์ในนามของ นัทธมน โดยมีน้ำเย็นแอบติดตามมาด้วยอีกครั้ง ภายใต้การตกแต่งใบหน้าด้วยเทคนิคพิเศษ ดูเหมือนนเรนทรจะจำศัตรูตัวฉกาจอย่างมนทกานติไม่ได้ ซ้ำยังต้อนรับให้เธอเป็นแขกพิเศษบนเรือนด้วยลีลาคาสโนวายุคมิเลนเนียมอีก ด้วย

ทันทีที่เรือออกจากท่า มนทกานติสามารถผ่านเข้าส่วนที่เป็นบ่อนคาสิโนของเรือสำราญได้ด้วยกุญแจ สารพัดประโยชน์ของน้ำเย็น เธอกำลังจะหาทางบันทึกภาพแล้วหนีออกอย่างเร็วที่สุด แต่โชคร้ายที่นเรนทรปรากฏกายขึ้น พร้อมๆ กับประกาศว่าจำเธอได้มาตั้งแต่แรก เขาต้องการล่อให้เธอมาติดกับดักลอยน้ำ ไม่มีทางหนีเขาต่างหาก มนทกานติถูกจับกุมได้และถูกทำร้ายอย่างทรมาน น้ำเย็นคู่หูตัวจิ๋วของเธอจะหาทางช่วย แต่กองกำลังนเรนทรและสนองมีมากเกินกว่าเด็กตัวเล็กๆ จะทำอะไรได้ เขาได้แต่เฝ้ามองมนทกานติด้วยความสงสาร

เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด สินีในคราบของ ปกีรณัม ปรากฏตัวขึ้น เธอแค้นนเรนทรกับสนองที่ทรยศ คิดกำจัดเธอออกไปจากเส้นทาง ปราดเข้าเล่นงานลูกน้องนเรนทรกับสนองจนกระจัดกระจาย ช่วยมนทกานติให้ออกมาจากการจับกุมได้ ขณะที่สินีกลับตัวกลับใจเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียวกันกับมนทกานติแล้ว คืนวันนั้น เรือสำราญที่ออกแบบมาเพื่อเป็นบ่อนคาสิโน ต้องโกลาหลกับการบุกเข้าถล่มจากพยัคฆ์สาวปกีรณัมถึงสองคน มนทกานติได้ภาพหลักฐานคามชั่วของสนองกำลังบังคับให้เรือสำราญเข้าเทียบฝั่ง แต่นเรนทรกับสมุนเข้าขัดขวางเล่นงานจนเธอ สินี และน้ำเย็น ย่ำแย่ กำลังจะต้องตกเป็นเชลยอีกครั้ง

ในที่สุดสินีสละตัวเองกดระเบิดพลี ชีพทำลายเรือสำราญทั้งลำเพื่อให้มนทกานติกับน้ำเย็นหนีรอดออกมาได้ทางเรือใบ ขนาดเล็กแบบทาคามารัน ซึ่งสินีเทียบไว้กับเรือสำราญตอนลักลอบขึ้นไปบนเรือ ส.ส.สนองกับนเรนทรจบชีวิตลงท่ามกลางซากเรือสำราญของตัวเอง ดูเหมือนเรื่องราวทั้งหมดกำลังจะจบลงด้วยดี แต่ทันทีที่เรือใบเทียบท่า มนทกานติกลับโดนล้อมจับโดยกองกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหลักฐานระบุชัดเจนว่าเธอคือ ปกีรณัม โดยผู้ส่งหลักฐานให้ตำรวจคือ ฮีโร่ คนที่มนทกานติเชื่อใจมาโดยตลอด

เศรษฐ พงศ์รอดพ้นจากคดีที่ไม่ได้ก่อ แต่เขากับสารวัติภูมิจำต้องดำเนินคดีกับมนทกานติทั้งที่ไม่เต็มใจเลยแม้แต่ น้อย สักสืบค้นข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จนรู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วฮีโรก็คือ ดนัยนพ นักธุรกิจใหญ่ผู้ใจบุญ สามีของวดีนั่นเอง เขาเป็นเจ้าของเงินบริจาคสนับสนุนสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศปีละหลายล้านบาท เบื้องหน้าเป็นคนใจดีแต่มีเบื้องหลังเป็นเจ้าของกิจการค้ายาเสพติด สาเหตุที่เขาติดต่อให้ข้อมูลปกีรณัมกำจัดพ่อค้ายาเสพติดรายอื่นๆ ก็เพื่อกำจัดคู่แข่งของตัวเอง เมื่อสามารถโค่นตัวการใหญ่อย่างสนองกับนเรนทรได้แล้ว ดนัยนพจึงกำจัดมนทกานติให้พ้นเส้นทาง

ด้วยความร่วมมืออย่างลับๆ ของสัก และน้ำเย็น มนทกานติหนีออกมาจากคุกได้ เธอตั้งใจจะปฏิบัติการเป็นพยัคฆ์สาวปกีรณัมอีกครั้ง ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย กระชากหน้ากากคนชั่วให้สังคมได้รู้ ปกีรณัมประกาศกำหนดการกับสื่อมวลชนทุกแขนง ว่าจะเข้าปล้นธนาคารสยามของดนัยนพ เพื่อเอาเงินมาบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั่วประเทศ และจะเอาเงินไปบริจาคที่ชมรมแสงอรุณด้วยตัวเธอเอง เมื่อถึงกำหนดการ กองกำลังตำรวจปิดล้อมป้องกันธนาคารสยามไว้อย่างหนาแน่น แต่ในที่สุดด้วยความสามารถของมนทกานติ ปกีรณัมทำได้ตามที่กล่าวอ้าง และหนีไปได้อย่างลอยนวลอีกครั้ง

ในวันเดียวกัน ปกีรณัมเอาเงินไปบริจาคที่ชมรมแสงอรุณกับดนัยนพด้วยตัวเองตามที่กำหนด เธอสามารถแฉจนคนทั่วประเทศได้รับรู้ว่าดนัยนพใช้ห้องใต้ดินบริเวณสนามหญ้า ชมรมแสงอรุณ เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดทั้งยาอียาบ้า ดนัยนพจำต้องก้มหน้ารับกรรมที่ตัวเองก่อไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงเวลาที่มนทกานติในคราบของปกีรณัมจะต้องเผชิญหน้ากับเศรษฐพงศ์อย่างหลีก เลี่ยงไม่ได้ เขานำกองกำลังตำรวจมาล้อมรอบชมรมแสงอรุณ จำต้องจับกุมเธอตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดี ทั้งสองยิงต่อสู้กันอย่างตื่นเต้นเร้าใจ แม้จะขัดกับความรู้สึกของตัวเองก็ตาม

จากการต่อสู้นั้นเอง มนทกานติในคราบปกีรณัมถูกเศรษฐพงศ์ยิงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย ดูเหมือนกระสุนจะทะลุหัวใจ ร่างของมนทกานติล้มคว่ำ ลอยละลิ่วตกลงสู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาอันเชี่ยวกราก ฤาจะไม่มีปาฏิหาริย์แห่งคืนเดือนดับ เพราะวันนี้ไม่ใช่วันแรม 15 ค่ำ อหังการ์แห่งประจันทร์ พิธีศพมนทกานติทำอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความเสียใจของคนในวงการบันเทิงหลายคน น้ำเย็นร้องไห้จนแทบจะไม่มีน้ำตา คร่ำครวญคิดถึงแต่พี่สาวใจดี คนที่ให้ความเมตตาเขาอยู่เสมอ

คนๆ เดียวที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาคือ เศรษฐพงศ์ ผู้ที่ได้ชื่อว่ากำจัดปกีรณัมออกไปจากทำเนียบอาชญากร ในวันเผาศพปกีรณัมเขากลับยิ้มที่มุมปากพร้อมๆ กับกระซิบที่ข้างหูน้ำเย็นอย่างมีเลศนัย บอกว่าบางครั้งสิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ หลายเดือนต่อมาที่รีสอร์ทบนเกาะส่วนตัวของมูลนิธิไททัศน์ ปรากฏร่างสตรีใบหน้างดงามราวกับภาพวาดคนหนึ่ง เธอดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการของรีสอร์ท เคยได้รับการปฐมพยาบาลจากการถูกยิงที่หน้าอกข้างซ้าย ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นชีวิตคงจบสิ้นไปแล้ว

หากแต่ใครจะรู้ว่าเธอมีหัวใจ อยู่ข้างขวา และวันนั้นเป็นวันที่โชคดีอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด กระสุนปืนเพียงแทงทะลุเนื้อบริเวณหัวไหล่ซ้าย ไม่ทำอันตรายเธอจนถึงชีวิต แม้จะไม่ใช่วันแรม 15 ค่ำ วันเดือนเดือด แต่มันเป็นวันที่เกิดสุริยคราส ปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ อหังการ์พระจันทร์จึงบังเกิดขึ้นอีกครั้ง

รายชื่อนักแสดงละคร เดือนเดือด
1. วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทแสดงเป็น พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ แก่นเพชร
2. สุวนันท์ คงยิ่ง รับบทแสดงเป็น มนทกานติ / ปกีรณัม
3. ศิวัส นฤภัย รับบทแสดงเป็น นเรนทร อภิชัย
4. วรวุฒิ นิยมทรัพย์ รับบทแสดงเป็น วีรชัช ศัจกร
5. กรรชัย กำเนิดพลอย รับบทแสดงเป็น ร.ต.อ.ธันวาคม
6. อติมา ธนเสนีวัฒน์ รับบทแสดงเป็น สินี
7. ตฤน เศรษฐโชค รับบทแสดงเป็น สนอง
8. วันวิสา พลกนิช รับบทแสดงเป็น กะทิ
9. ด.ช.จิรายุ ละอองมณี รับบทแสดงเป็น น้ำเย็น
10. วัชรเกียรติ บุญภักดี รับบทแสดงเป็น กวง

ออกอากาศทุกวัน จันทร์ – อังคาร เวลา 20.20 น.