Tag Archives: วีรภาพ สุภาพไพบูลย์

โดมทอง

คุณมณฑา หญิงสาวงามสง่าแห่งตระกูลผู้ดี ได้สมรสกับเจ้าพระยาสรรักษ์ไกรณรงค์ เจ้าของคฤหาสน์ที่สวยงามราวกับความฝันชื่อ โดมทอง ซึ่งด้านหน้าติดภูเขา ด้านหลังติดทะเล โดยหลังแต่งงาน คุณมณฑาได้พาน้องสาวที่เกิดจากภรรยาคนสุดท้ายของบิดามาด้วย คุณพลับพลึง หรือ คุณน้อย จึงมีอายุห่างจากคุณมณฑาค่อนข้างมาก ในขณะที่คุณมณฑาเป็นคนรักแรงเกลียดแรง แฝงด้วยความอำมหิตอย่างคาดไม่ถึง เข้มงวด และเจ้าอารมณ์ สร้างความตึงเครียด อึดอัดใจให้กับผู้ที่อยู่ใกล้เสมอ แต่คุณพลับพลึงและเสียงเพลงลาวครวญจากจะเข้ของเธอ กลับนำความสดใส มีชีวิตชีวามาสู่ โดมทอง และ ท่านเจ้าคุณสรรักษ์ฯ
 
คุณมณฑาเริ่มเอะใจเมื่อท่านเจ้าคุณสั่งให้ปลูกทุ่งดอกพลับพลึง แต่ท่านเจ้าคุณก็แก้โดยปลูกต้นมณฑาไว้ในสวน นางพิศ บ่าวคนสนิท คอยยุยงว่าทำไมถึงปลูกพลับพลึงมากมายเป็นทุ่ง แต่ปลูกมณฑาไม่กี่ต้น ท่านเจ้าคุณก็แก้ได้อีกว่า ต้นมณฑาไม่เหมาะกับปลูกเป็นทุ่งเหมือนต้นพลับพลึง ถึงแม้คุณมณฑาจะไม่พอใจแค่ไหน ก็ไม่กล้าแสดงออกมากนักด้วยเกรงใจสามี โดยมาไล่เบี้ยเอากับน้องสาวแทน
 
ถึงแม้จะเกรงกลัวพี่สาวขนาดไหน คุณพลับพลึงผู้อ่อนไหวและเยาว์วัยก็ไม่อาจต่อต้านความรัก ความปรารถนาของท่านเจ้าคุณได้ ทั้งสองลักลอบมีความสัมพันธ์กัน ขณะที่คุณมณฑาตั้งครรภ์ นางพิศเป็นคนจับได้ แล้วนำมาฟ้องนาย คุณมณฑาเคียดแค้นจนแทบกระอักเป็นเลือด
 
ระหว่างที่ท่านเจ้าคุณไปทำงาน คุณมณฑาสั่งให้นางพิศโบยคุณพลับพลึงจนสลบ พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้เรื่องนี้ถึงท่านเจ้าคุณเด็ดขาด ขณะเดียวกันคุณหญิงก็มารยาแพ้ท้องมากมายจนท่านเจ้าคุณไม่อาจปลีกตัวมาพบคุณพลับพลึงได้ และถึงแม้จะพบโดยบังเอิญคุณพลับพลึงก็จะพยายามหลบหน้าหลบตา หรือไม่คุณมณฑากับนางพิศก็จะเข้ามาในบริเวณนั้น
 
จนกระทั้งวันหนึ่ง ท่านเจ้าคุณต้องไปราชการต่างจังหวัด ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงคุณพลับพลึง ท่านเจ้าคุณจึงหาโอกาสมาล่ำลา ซึ่งก็ไม่ได้พ้นสายตาของนางพิศ ที่ได้รับคำสั่งให้คอยสอดส่องเป็นหูเป็นตาแทนเจ้านาย คุณมณฑาแค้นแสนแค้น แต่พยายามเก็บอารมณ์ไว้ ยิ่งได้สังเกตเห็นแววตาท่านเจ้าคุณที่ลอบมองน้องสาวอย่างเป็นห่วงและอาลัย อาวรณ์ ท่านผู้หญิงแค้นแสนแค้น หากพยายามเก็บอารมณ์ไว้
 
เมื่อท่านเจ้าคุณไปแล้ว คุณมณฑาไม่รอช้า สั่งให้นางพิศไปพาพี่ชายมา แล้วสั่งให้ทั้งสองจับคุณพลับพลึงไปล่ามโซ่ขังในห้องบนยอดโดมทอง คุณพลับพลึงพยายามขอร้องให้ฆ่าเธอให้ตายเสียดีกว่า จะขังทรมานกันแบบนี้ แต่คุณมณฑากลับหัวเราะเยาะ บอกว่าการฆ่ามันไม่สาแก่ใจเท่ากับการที่ต้องทนทุกข์ทรมาน คุณพลับพลึงร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่นั่นกลับทำให้คุณมณฑาสะใจ
 
คุณพลับพลึงถูกขังอยู่ในห้องบนยอดโดมทองนั้น โดยไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ทั้งยังไม่ได้กินข้าวกินน้ำ นายพัน ซึ่งรู้สึกผิดได้แอบเอาข้าวเอาน้ำมาให้ เมื่อคุณมณฑาจับได้จึงไล่นายพันออกไป ไม่ให้มาเหยียบโดมทองอีก และได้สั่งนางพิศให้ตอกตะปูปิดตายห้องนั้นเสีย เสียงคุณพลับพลึงตะโกนออกมา "คุณพี่ใจร้ายเหลือเกิน อิฉันจะไม่ไปไหนจะอยู่รอดูวันสุดท้ายของคุณพี่"
 
เมื่อท่านเจ้าคุณกลับมาไม่เห็นคุณพลับพลึงก็แปลกใจ คุณมณฑารายงานว่าน้องสาวหนีออกไปเพราะสำนึกผิดที่แย่งสามีพี่สาว ท่านเจ้าคุณตกใจที่ภรรยารู้ความจริง ท่านผู้หญิงมารยาน้ำตาไหลซึมเศร้าทำให้ท่านเจ้าคุณไม่กล้าต่อความยาวสาวความยืด อีกทั้งเห็นภรรยากำลังท้องกำลังไส้
 
คุณมณฑาทำเป็นส่งคนออกตามหาน้องสาวแต่ก็ไม่พบ ท่านเจ้าคุณนั้นคิดมากจนตรอมใจล้มเจ็บ ก่อนสิ้นใจท่านเจ้าคุณได้ตั้งจิตอธิฐานว่าจะไม่ยอมไปผุดไปเกิด จนกว่าจะตามหาคุณพลับพลึงพบ หลังจากนั้นคุณมณฑาได้สั่งให้เก็บรูปท่านเจ้าคุณ และรูปเขียนของคุณพลับพลึงไว้ในห้องเก็บของและปิดตายตั้งแต่นั่น
 
โดมทอง ในปี 2500 ยังคงความสง่างามและดูจะขลังยิ่งกว่าเดิม ภายในบ้าน อดิศวร์ วโรดม หลานชายคนเดียวของ คุณมณฑา หรือ ท่านผู้หญิงสรรักษ์ฯ ซึ่งบัดนี้แก่ชราลงไปตามกาลเวลา ได้เข้ามาลาท่านเพื่อลงไปกรุงเทพฯ
 
อดิศวร์นั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนท่านเจ้าคุณราวกับพิมพ์เดียวกัน เหมือนเสียจนกระทั่งบางครั้งเมื่อท่านผู้หญิงกำลังเหม่อลอยและเขาเข้ามาหา ท่านจะพลั้งปากเรียกผิด ท่านผู้หญิงไม่อยากให้อดิศวร์ไปเพราะวันนั้นเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นวันที่ทรมานที่สุดของท่าน เพราะดวงวิญญาณคุณพลับพลึงจะทรงพลังมาก ด้วยวันนี้เป็นวันตาย และเป็นวันที่คุณพลับพลึงอธิษฐานไว้จะปรากฏให้เห็น พร้อมกับเพลงลาวครวญอันวังเวงเยือกเย็นชวนขนลุก อดิศวร์ซึ่งไม่เชื่อพยายามปลอบโยนและสั่งให้ 2 สาว อุษา กับ แสงแข ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ คอยดูแลท่านผู้หญิงให้ดีด้วย เขาจำเป็นต้องไปร่วมแสดงความยินดีกับ พิณทอง ผู้มีศักดิ์เป็นหลานสาวซึ่งจะเข้าพิธีหมั้นกับ พิชญ์ ชายหนุ่มชาติตระกูลดี
 
ในวันที่เดินทางมากรุงเทพฯ อดิศวร์และเพื่อน ๆ ซึ่งนาน ๆ จะพบกันทีได้ชวนกันไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง และได้พบกับ วิรงรอง เป็นครั้งแรก อดิศวร์รู้สึกสะดุดตาเป็นอย่างมากด้วยความสวยน่ารักสดใสและมีชีวิตชีวาของ เธอ วิรงรองมากับ อนิรุทธ์ เพื่อนสนิท ความสวยสะดุดตาของหญิงสาว กลับกลายเป็นความดูถูกทันทีที่อดิศวร์เห็น ชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาในร้าน เขามาต่อว่าวิรงรองด้วยความหึงหวงจนเกือบชกต่อยกัน วิรงรองดูไร้ค่าทันทีในสายตาของผู้ชายค่อนข้างเข้มงวดอย่างอดิศวร์
 
วิรงรอง กลับมาถึงบ้านด้วยความโกรธและอับอายโดยมีอนิรุทธ์มาส่ง พิชญ์ตามมาขอโทษและปรับความเข้าใจพร้อมกับเอาแหวนออกมายืนยันว่าเขาจะแต่ง งานกับเธอแน่นอน วิรงรองจึงย้อนถามว่าแล้วคู่หมั้นของเขาล่ะ พิชญ์ขอเวลาจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อยและยืนยันว่าเขารักเธอคนเดียว ในขณะที่วิรงรองใจอ่อนจะยอมให้พิชญ์สวมแหวน คุณปราง มารดาวิรงรองกลับบ้านพอดี ความเยือกเย็นของคุณปรางทำให้พิชญ์กลับไปไม่กล้าโต้แย้ง
 
ในงานหมั้นของพิชญ์และพิณทอง อดิศวร์ได้พบกับพิชญ์เป็นครั้งแรกทำให้เขาห่วงหลานสาวทันที เพราะดูท่าทางแล้วพิณทองผู้อ่อนโยนอาจจะต้องเสียใจเพราะผู้หญิงที่อดิศวร์ คิดว่ามารยาคนนั้น และเขาไม่รีรอเลยที่จะพูดเป็นเชิงรู้ทันเมื่ออยู่ตามลำพังกับพิชญ์ว่า พิณทองเป็นคนดีมากหวังว่าพิชญ์คงจะไม่ทำให้เธอเสียใจ ทำให้พิชญ์หวาดระแวงอดิศวร์ว่าจะรู้เรื่องเขากับวิรงรอง
 
ทางด้านคุณปรางเห็นวิรงรองลูกสาวซึมไป จึงปรึกษากับ คุณสุรภี คุณสุรภีนึกได้ว่าญาติผู้ใหญ่ของท่านที่โดมทองกำลังต้องการพยาบาลคนใหม่ เพราะคนเก่าลาออกไป เพราะทนความเจ้าอารมณ์ของท่านผู้หญิงไม่ไหว คุณปรางเห็นเป็นโอกาสดีที่จะแยกวิรงรองให้ไกลจากพิชญ์ อีกทั้งบรรยากาศใหม่ ๆ อาจจะทำให้วิรงรองดีขึ้นจากอาการซึมเศร้าได้ ซึ่งวิรงรองก็ตอบรับในทันที
 
เมื่อเดินทางไปถึงโดมทอง วิรงรองพบว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ตรงกับความฝันและความหวังของเธอ นั้นคือความสวยงามของโดมทอง แต่กระนั้นก็ยังสัมผัสได้กับความลึกลับ ความน่ากลัว และความโศกเศร้าที่ดูเหมือนจะแทรกอยู่ในทุกอณูของบ้าน
 
นอกจากนั้นวิรงรองยังได้ยินเสียงเพลงลาวครวญอันโหยหวนดังมาจากยอดโดมทอง ยิ่งได้พบกับอดิศวร์เธอยิ่งแปลกใจกับความเย็นชาระคนกับความไม่พอใจของอดิศวร์ที่มีต่อเธอ และเมื่อเขาพาเธอไปแนะนำตัวกับท่านผู้หญิง ทุกคนในที่นั้นแม้กระทั้งอดิศวร์เองก็ยังอดประหลาดใจและตกใจไม่ได้ เมื่อท่านผู้หญิงได้แสดงความหวาดกลัว และเกลียดชังวิรงรองอย่างสุดชีวิต และเรียกเธอว่านังพลับพลึง จนอดิศวร์ต้องให้อุษาพาเธอออกไปก่อน ท่านผู้หญิงสั่งให้อดิศวร์ไล่อีนังพลับพลึงออกไป ซึ่งทำให้แสงแขแอบดีใจเพราะความสวยสดใสของวิรงรองทำให้เธอหวาดระแวงว่าอดิศวร์จะพอใจวิรงรอง
 
เมื่ออดิศวร์ออกมา วิรงรองขอกลับกรุงเทพฯ แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขาปฏิเสธโดยไม่บอกเหตุผล ซึ่งแม้แต่อุษากับแสงแขก็แปลกใจเช่นกัน อุษานั้นแปลกใจแกมยินดีด้วยรู้สึกถูกชะตากับวิรงรอง ส่วนแสงแขยิ่งเพิ่มความริษยาและเกลียดชังวิรงรองมากขึ้น
 
ถึงแม้อดิศวร์จะห้ามไม่ให้ทุกคนเอ่ยถึงวิรงรองกับท่านผู้หญิงสรรักษ์ แสงแขก็ทำเป็นเผลอไผลทำให้ท่านผู้หญิงรู้ อดิศวร์ยืนยันกับท่านว่าเขามีเหตุผลที่ต้องให้วิรงรองอยู่ที่โดมทองต่อไป ซึ่งเหตุผลกระจ่างขึ้นในทันทีที่พิชญ์กับพิณทองมาฮันนีมูนที่โดมทอง ยิ่งอยู่โดมทองนานวันเข้า วิรงรองยิ่งพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ลึกลับเรียกร้องให้เธอค้นหา เสียงกรีดร้องของท่านผู้หญิงด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีดในยามดึก โดยเฉพาะคืนจันทร์เพ็ญ
 
ผู้ชายในเครื่องแต่งกายโบราณนั่งรถม้ามาหยุดหน้าโดมทอง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเหมือนจะรอใครสักคน เสียงโซ่ที่เหมือนถูกลากตามพื้น เงาลึกลับของผู้ชายที่แต่งตัวเหมือนบ่าวสมัยโบราณที่คอยวนเวียนอยู่ภายนอก บ้าน ทำให้วิรงรองข่มความหวาดกลัวและพยายามสืบหาความจริง
 
นับตั้งแต่เข้าไปในห้องเก็บของที่ปิดตายจนพบรูปวาดของคุณพลับพลึงที่เหมือน เธอราวกับแกะ รูปของท่านเจ้าคุณสรรักษ์ไกรณรงค์ที่เหมือนกับอดิศวร์ราวกับพิมพ์เดียว และวิญญาณนางพิศซึ่งวิรงรองเข้าใจว่าเป็นแม่บ้านของท่านผู้หญิง จะมาปรากฏตัวคอยขัดขวางด้วยใบหน้าเย็นชาไร้ชีวิตจิตใจทุกครั้งที่วิรงรอง กำลังจะค้นพบความจริงบางอย่าง ความริษยาถึงขั้นปองร้ายถึงชีวิตของแสงแข ความเป็นมาของ พันธุ์สูรย์ ชายหนุ่มคนรักผู้ลึกลับของอุษา และที่ร้ายที่สุดคืออดิศวร์ ซึ่งวิรงรองไม่เข้าใจว่าเกลียดชังเธอเรื่องอะไร
 
ระหว่างนี้ ภูไท เจ้าของปางไม้ภูไทและน้องสาวชื่อ ลานนา มาเยี่ยมท่านผู้หญิงและอดิศวร์ที่โดมทอง ที่จริงแล้วทั้งสองพี่น้องเป็น เพื่อนเล่นกับอดิศวร์ อุษา แสงแข รวมทั้งพันธุ์สูรย์ด้วยมาตั้งแต่เด็ก เมื่ออดิศวร์ไล่พันธุ์สูรย์ออกจากบ้านเพราะจับได้ว่าเขารักกับอุษา พันธุ์สูรย์ก็หลบไปทำงานกับภูไทที่ปางไม้ เรื่องความรักของเขากับอุษาภูไทกับลานนาก็รู้ดี
 
การมาวันนี้เป็นการกลับมาพบกันของเพื่อนเก่าจริง ๆ เมื่อลานนาทักวิรงรองอย่างตื่นเต้น สองสาวสนิทกันมากตั้งแต่เรียนอยู่ต่างประเทศ ลานนาเองรู้จักพิชญ์ด้วยเช่นกัน แล้วก็ถึงวันที่พิณทองกับพิชญ์มาถึงโดมทอง พิชญ์ตกใจที่พบวิรงรองที่นี่โดยที่อดิศวร์แนะนำว่าเธอเป็นญาติเขา วิรงรองไม่มีท่าทางผิดปกติเธอทำราวกับพบพิชญ์เป็นครั้งแรก ตรงข้ามกับพิชญ์ที่มีพิรุธจนเห็นได้ชัด ไม่ใช่เพียงอดิศวร์ที่แปลกใจกับอาการสงบนิ่งของวิรงรอง ตัวเธอเองก็แปลกใจที่สามารถเผชิญหน้ากับพิชญ์ได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย เวลานี้เธอยอมรับเขาได้ในฐานะเพื่อนเท่านั้น หลังอาหารค่ำวิรงรองหลบไปเดินเล่นที่ชายหาดคนเดียว กว่าจะรู้ว่าพิชญ์แอบตามมาด้วยเขาก็มาถึงตัวเธอแล้ว
 
พิชญ์พยายามขอคืนดีกับวิรงรอง แต่เธอไม่ยอม เขาหาว่าเธอรักกับอดิศวร์จึงฉวยโอกาสไล่ให้เขาแต่งงานกับพิณทอง วิรงรองไม่ยอมพูดเรื่องนี้ เธอพยายามไล่ให้พิชญ์กลับไปหาพิณทอง แต่กลับทำให้เขาโกรธ พิชญ์ฉวยโอกาสดึงตัวเธอมากอด แต่เธอกลับตบหน้าเขาอย่างแรงและไล่ให้เขากลับไปหาพิณทองที่กำลังเดินตามมา วิรงรองย้ำกับพิชญ์เสียงเข้มว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขาจบไปแล้ว และไม่มีทางที่เธอจะกลับไปหาเขาอีก เมื่อพิชญ์ไปแล้ววิรงรองฟุบตัวร้องไห้อย่างเสียขวัญ เธอเจ็บใจที่พิชญ์หมิ่นน้ำใจและดูถูกเธอเหลือเกิน
 
เสียงของอดิศวร์ที่พูดถึงรอยฝ่ามือเธอบนหน้าพิชญ์ ทำให้วิรงรองตกใจมาก เธอรีบเช็ดน้ำตาทันที ขณะที่เขาพูดต่อเรื่อย ๆ ว่าเขานั่งเล่นตรงนี้นานแล้วและได้ยินทุกอย่าง วิรงรองเงียบกริบเมื่อจู่ ๆ อดิศวร์บอกให้เธอแต่งงานกับเขาและอยู่ที่โดมทองต่อไป
 
วิรงรองเข้าใจว่าเขาต้องการแต่งงานกับเธอเพื่อรั้งตัวไว้ไม่ให้กลับไปยุ่ง เกี่ยวกับพิชญ์อีก วิรงรองอิจฉาพิณทองที่มีอดิศวร์คอยช่วย และทำทุกอย่างเพื่อให้หลานสาวมีความสุขช่างตรงข้ามกับเธอที่ไม่มีใครเข้าใจ สักคน วิรงรองเถียงอดิศวร์อย่างลืมตัวชายหนุ่มดึงเธอมากอดและจูบคน พูดอย่างอ่อนโยนอบอุ่น วิรงรองรู้สึกราวกับโลกหยุดหมุน อ้อมกอดของอดิศวร์อบอุ่นและคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เธอผละจากเขาทันทีที่รู้สึกตัวแต่เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ทำร้ายเขาเหมือน พิชญ์ อดิศวร์หัวเราะพูดอย่างรู้ทันพลางรวบมือเธอไว้แล้วรีบจูงเดินย้อนกลับไปรวม กับคนอื่น ๆ พิณทองล้อทั้งคู่จนวิรงรองอายหน้าแดง นั่นทำให้แสงแขเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังเธอมากขึ้นไปอีก
 
คืนนั้นดึกมากแล้วเมื่อแสงแขมาเคาะประตูห้องเรียกเธอออกไปคุยที่ระเบียงและ ขู่ไม่ให้เธอยุ่ง กับอดิศวร์ วิรงรองเห็นใจแสงแขจึงแกล้งหลอกว่าเธอมีคนรักแล้วเขาอยู่กรุงเทพฯ อีกไม่นานเธอจะกลับ ไปหาเขาเธอไม่สนใจอดิศวร์เลยสักนิด แสงแขไม่ค่อยเชื่อนักย้ำแล้วย้ำอีกจนวิรงรองอ่อนใจ เมื่อแสงแขยอมเชื่อและแยกไปนอนแล้ว วิรงรองกลับยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียงนั้นจนดึก เธอเหนื่อยใจกับคนที่นี่เหลือเกิน ไม่มีใครยอมฟังและเชื่อในสิ่งที่เธอบอกเลยนอกจากอุษา
 
ฝนเริ่มตกและตกหนักขึ้นทุกทีแต่หญิงสาวคง ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เสียงเพลงหวานเศร้าแว่วมาอีกแล้วพร้อมเสียงรถม้า คราวนี้วิรงรองตั้งใจจะดูให้เห็นกับตาว่าใครขับรถม้า เมื่อเสียงรถม้าหยุดใต้ระเบียงหญิงสาวจึงชะโงกตัวลงไปดูจนเกือบพลัดตก ระเบียง ดีว่าอดิศวร์เข้ามารวบตัวอุ้มไว้ทัน เขาพูดไม่ออกเมื่อเห็นวิรงรอง เธอเปียกโชกทั้งตัว หน้าซีด ตัวรุมร้อนเหมือนจะมีไข้ อดิศวร์รีบอุ้มเธอไปหาอุษาให้ช่วยดูแล อุษาเองก็ตกใจมากและแปลกใจ ที่อดิศวร์กุลีกุจอช่วยเธอปฐมพยาบาลวิรงรองจนดึกกว่าจะยอมไปนอน ราตรีนั้นวิรงรองจึงต้องนอนกับอุษา เธอไข้สูงจนไม่มีใครกล้าปล่อยให้เธอกลับไปนอนที่ห้องตามลำพัง
 
วันรุ่งขึ้นอดิศวร์คอยช่วยอุษาสลับไปดูแลท่านผู้หญิง เขาอยู่กับท่านครั้งละนาน ๆ เพื่อให้อุษาได้ดูแลวิรงรองเต็มที่ อดิศวร์อ่อนโยนกับวิรงรองอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน หญิงสาวหายป่วยทันงานเลี้ยงส่งพิชญ์กับพิณทอง พันธุ์สูรย์ฉวยโอกาสหลบมาพบอุษาโดยมี ภูไท ลานนา และวิรงรองคอยช่วย แต่อดิศวร์ก็รู้จนได้ เขารีบตามออกไปที่สวน วิรงรองกับภูไทรีบตามไปติด ๆ อดิศวร์ต่อว่าพันธุ์สูรย์แรง ๆ หลายคำและพยายามปลอบอุษาให้กลับมาหาเขา พันธุ์สูรย์แค้นใจจึงบอก อดิศวร์ว่าการหายตัวไปของคุณย่าน้อยบางทีท่านผู้หญิงจะรู้ดีที่สุด และเป็นไปได้ที่คุณย่าน้อยจะไม่ได้ออกไปไหนเธออาจอยู่ที่ไหนสักแห่งในโดมทอง นี้ คำพูดของเขาทำให้ทุกคนอึ้งไปหมด
 
เมื่ออดิศวร์ได้สติเขาต่อยพันธุ์สูรย์แล้วพาอุษากลับเข้าบ้านทิ้งทุกคนไว้ ที่นั่น วิรงรองน้อยใจเขาจนบอกไม่ถูก ภูไทไล่พันธุ์สูรย์กลับไปและอยู่เป็นเพื่อนวิรงรอง ผ่านไปครู่เดียวลานนาก็ลงมาหาต่อว่าเพื่อนสาวที่ไม่ยอมบอกเรื่องความ สัมพันธ์ระหว่างเธอกับอดิศวร์ ลานนาไม่ปล่อยให้วิรงรองงงนาน เธอบอกว่าอดิศวร์เพิ่งประกาศในงานว่าเขากำลังจะแต่งงานกับวิรงรอง หญิงสาวพูดไม่ออกข่มความน้อยใจ อดิศวร์ทำอะไรตามใจตัวเองและบังคับจิตใจเธอเหลือเกิน แต่หญิงสาวก็สวมบทบาทว่าที่เจ้าสาวอย่างน่ารัก งานเลี้ยงเลิกทุกคนกลับไปหมดโดมทองเงียบสนิท วิรงรองตัดสินใจจะหนีไปหาลานนา เธอทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่ไม่ทันที่เธอจะออกไป อดิศวร์เข้ามาเห็นพอดีเขารับอาสาจะไปส่งเธอที่บ้านภูไทให้ วิรงรองเดินไปขึ้นรถอย่างตะบึงตะบอน
 
บรรยากาศ ในรถเงียบกริบจนกระทั่งหญิงสาวทนไม่ไหว เธอเอะใจว่าจะถูกหลอก บ้านภูไทอยู่ไกลเกินไปไม่เหมือนที่ลานนาบอกเธอเลย เมื่อเธอประท้วงเขา อดิศวร์กลับรับว่าเขาไม่คิดจะพาเธอไปบ้านนั้นเลยและไม่มีทางเป็นไปได้ เขาไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่นอน วิรงรองโกรธจนพูดไม่ออก อดิศวร์จึงค่อย ๆ ปรับความเข้าใจกับเธอ แต่กว่าวิรงรองจะได้ยินคำว่ารักก็ยากเต็มที น่าแปลกที่เธอเชื่อเขาและเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าเธอรักเขาเช่นกัน วิรงรองยอมกลับไปโดมทองอย่างเต็มใจ เมื่อพิชญ์กับพิณทองกลับไปแล้ว วิรงรองเริ่มสบายใจขึ้นบ้าง
 
คืนหนึ่งอดิศวร์พาเธอไปงานเลี้ยงที่จวนผู้ว่ากว่าจะกลับดึกมาก คืนนั้นเป็นคืนวันเพ็ญวิรงรองจึงชวนให้เขารอดูรถม้าลึกลับด้วยกัน อดิศวร์ตื่นเต้นที่เห็นว่ารถม้ามีจริงๆ เขาบอกเธอว่าชายคนที่ขับรถม้าไม่ได้มองห้องนอนวิรงรอง สายตาเขามองเลยขึ้นไปที่โดมทองต่างหาก
 
เช้าวันต่อมาอดิศวร์กับตาแสงคนขับรถ ขึ้นไปรื้อประตูและขึ้นไปที่โดมทอง วิรงรองกับอุษาตามไปด้วย บนนั้นมีประตูปิดตายอีกหนึ่งบาน อดิศวร์สั่งรื้อทันที เมื่อประตูเปิดทุกคนจึงเห็นว่ามีห้องอยู่อีกห้องหนึ่งทั้งที่ไม่น่าจะมี ทั้งหมดค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้อง ที่มุมห้องมีร่างทีเหลือเพียงโครงกระดูก และมีโซ่ตรวนเส้นโตถูกล่ามไว้ที่ข้อเท้าอย่างน่าสงสาร สร้อยคอทองคำห้อยล็อกเก็ตรูปเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์ที่ตกอยู่ใกล้ ๆ ทำให้รู้ได้ไม่ยากว่าเธอคือคุณพลับพลึงนั่นเอง
 
อดิศวร์คิดถึงเรื่องที่พันธุ์สูรย์บอกว่า ที่จริงแล้วเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์รักกับคุณพลับพลึง การแต่งงานครั้งนั้นผิดฝาผิดตัว ท่านจำต้องแต่งงานกับคุณมณฑาซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อภรรยาพาคุณพลับพลึงน้องสาวมาอยู่ด้วยทั้งคู่จึงหักใจไม่ได้ จนกระทั่งคุณมณฑาท้องจึงรู้ว่าสามีและน้องสาวมีความสัมพันธ์กัน หลังเธอคลอดลูกซึ่งก็คือพ่อของอดิศวร์ ไม่นานเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์ต้องไปราชการหัวเมืองหลายวันและคุณพลับพลึง ก็หายไปจากโดมทองตอนนั้นเอง
 
เสียงของวิรงรองที่บอกเขาให้ไขกุญแจโซ่ที่ล่ามข้อเท้าเธอทำให้อดิศวร์ได้สติ เขาผลุนผลันออกไปจากห้องโดยมีวิรงรองวิ่งตามไปที่ห้องท่านผู้หญิง เธอเข้าไปห้ามอดิศวร์ที่กำลังต่อว่าท่านผู้หญิงอย่างรุนแรง ท่านผู้หญิงปฏิเสธทุกอย่าง เสียงของวิรงรองทำให้ทั้งคู่หันมาหาเธอ ท่านผู้หญิงหน้าซีดเผือดตกใจ ท่านเรียกชื่อพลับพลึงไล่เธอออกไปก่อนจะเป็นลมและสิ้นใจทันที
 
ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด อดิศวร์ค้นกำปั่นข้างตัวท่านผู้หญิงซึ่งท่านหวงนักหนาจึงพบกุญแจ เขารีบไปไขโซ่ที่ล่ามข้อเท้าคุณพลับพลึง กุญแจพวงนั้นยืนยันได้ว่าท่านผู้หญิงอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด อดิศวร์ต้องจัดงานศพถึงสองงานพร้อมกัน เพียงแต่ร่างของคุณพลับพลึงต้องไปบำเพ็ญกุศลที่วัดใกล้ ๆ เพื่อไม่ให้อื้อฉาวขณะที่ท่านผู้หญิงจัดที่บ้าน
 
หลังจากท่านผู้หญิงสิ้นอดิศวร์กับวิรงรองใกล้ชิดกันมากขึ้น ยืนยันความสัมพันธ์ที่มีต่อกันจนแสงแขแค้นใจแทบคลั่ง เธอรู้ดีว่าอดิศวร์ต้องแต่งงานกับวิรงรองแน่นอน ไม่มีใครขัดขวางเขาได้แน่ วันหนึ่งในระหว่างงานศพขณะที่วิรงรองคุยกับภูไทและลานนา พันธุ์สูรย์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาบอกให้พาวิรงรองกลับไปข้างในบ้าน เขาพูดไม่ทันขาดคำเสียงปืนดังขึ้น ร่างวิรงรองทรุดฮวบลงทันที ภูไทรีบช้อนตัวเธอไว้จึงรู้ว่าเธอถูกยิง
 
อดิศวร์ทั้งโกรธและแค้นที่สุดขณะที่หมอกำลังผ่าตัดกระสุนออกให้วิรงรอง อดิศวร์คุยกับพันธุ์สูรย์อย่างเคร่งเครียด และยิ่งโกรธเมื่อรู้ว่าแสงแขอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เขาให้พันธุ์สูรย์ประสานกับตำรวจตามล่ามือปืนให้ได้ หมอช่วยชีวิตวิรงรองไว้ได้ อดิศวร์ดีใจมากเขาดูแลเธออย่างใกล้ชิดมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน มือปืนถูกจับตัวได้ไม่กี่วันต่อมา และให้การซัดทอดแสงแขว่าเป็นผู้จ้างวาน แต่แสงแขชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน
 
เมื่อเรื่องร้าย ๆ ผ่านไป ได้มีการเตรียมงานมงคลสองงาน หนึ่งคืองานแต่งงานของอุษากับพันธุ์สูรย์ และอีกงาน เป็นงานแต่งของอดิศวร์กับวิรงรอง ที่จะครองรักครองสุขกันที่โดมทองแห่งนี้ไปนานเท่านาน

 

รายชื่อนักแสดงนำ ในละคร โดมทอง

 

วีรภาพ  สุภาพไพบูลย์   รับบท   เจ้าพระยาสรรักษ์ไกรณรงค์ / อดิศวร์ ศิโรดม
ทัศนียา  การสมนุช   รับบท   คุณพลับพลึง และวิรงรอง
จีรนันท์  มะโนแจ่ม   รับบท   ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไกรณรงค์ (คุณมณฑาตอนสาว)
ดวงดาว  จารุจินดา   รับบท   ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไกรณรงค์ (คุณมณฑา)
พิชยดนย์  พึ่งพันธ์   รับบท   พิชญ์
กาญจน์เกล้า  ด้วยเศียรเกล้า   รับบท   พิณทอง
ภูมิภาฑิต  นิตยารส   รับบท   พันธุ์สูรย์
กวินตา  โพธิจักร   รับบท   อุษา
ชวัลกร  วรรธนพิสิฐกุล   รับบท   แสงแข
วีรคณิศร์  กานต์วัฒนกุล   รับบท   ภูไท
กวิตา  รอดเกิด   รับบท   ลานนา
นนทพันธ์  ใจกันทา   รับบท   อนิรุทธิ์
กาญจนา  จินดาวัฒน์   รับบท   คุณปราง
พิราวรรณ  ณ นคร   รับบท   คุณหญิงวัชรวิชิต
ภัสสร  บุณยเกียรติ   รับบท   คุณหญิงแก้ว
กาญจนาพร  ปลอดภัย   รับบท   สุรภี
น้อย  โพธิ์งาม   รับบท   อุไร
วชิรา  เพิ่มสุริยา   รับบท   โอบอ้อม
ไกรลาศ  เกรียงไกร   รับบท   นายสม
รุ้งลาวัลย์  โทนะหงษา   รับบท   บัวคำ
อำภา  ภูษิต   รับบท   นางพิศ
ตฤณ  เศรษฐโชค   รับบท   รมต.พจน์
ปราบ  ยุทธพิชัย   รับบท   นายพรหม
พอเจตน์  แก่นเพ็ชร์   รับบท   นายพัน

ขุนเดช

นายเดื่อง หัวหน้าคนงานขุดแต่งโบราณสถาน รับปาก อาจารย์ประทีป หัวหน้า คณะศึกษาโบราณคดีของกรมศิลป์ว่าจะปักหลักเฝ้าพระศิลา พระพุทธรูปที่ถูกค้นพบ ในถ้ำศิลาบนเขาหลวง สุโขทัย ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกโจรใจบาปที่จ้องจะมา ลักตัดเศียรพระศิลา โดยเฉพาะกับ กำนันบุญ สุโขทัย ซึ่งมีนิสัยขี้โกงชอบสะสมและ ลักลอบซื้อขายวัตถุโบราณ เมื่อกำนันบุญรู้เรื่องพระศิลาที่ถูกค้นพบ เลยอยากมาได้ไว้ ในครอบครองจึงเดินทางจากสุโขทัย มาศรีสัชนาลัยบ้านของนายเดื่อง เพื่อขอให้ นายเดื่องเปิดทางให้เข้าไปลักตัดเศียรพระ แต่กำนันบุญ ถูกนายเดื่องปฏิเสธและไล่ ตะเพิดอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพล นายเดื่องเป็นห่วงพระศิลาเลย จำเป็นต้องฝาก ขุนเดช ลูกชายวัย 10 ขวบไว้กับ คำปัน หญิงสาวที่แอบชอบพ่อของ ขุนเดช และคอยช่วยเลี้ยงดู ขุนเดช เหมือนลูกแท้ ๆ แต่ความอยากรู้อยากเห็นของ ขุนเดช ที่มีใจรักและ สนใจในศิลปะ โบราณซึ่งถูกถ่ายทอดมาจากพ่อ ทำให้ ขุนเดช แอบขึ้นรถของอาจารย์ประทีปตาม ไปหา พ่อที่ถ้ำศิลา อาจารย์ประทีปกลัวภัยจะเกิดกับนายเดื่องจึงให้ปืนไว้เพื่อป้องกันตัว แต่นาย เดื่องปฏิเสธยืนยันว่าจะใช้แค่ ดาบนิล อาวุธคู่กายสมบัติเก่าแก่ที่นายเดื่องได้รับตกทอดจากบรรพบุรุษ ดาบนิลเป็นดาบเหล็กเนื้อดีที่มีสีดำปลอดตั้งแต่ด้ามและตัวปลอก ซึ่งทำจากเขาควายตายฟ้าผ่า ส่วนเนื้อเหล็กนั้นเป็นเหล็กกล้าชั้นดี ผ่านการตีจากช่างยอดฝีมือ ในศรีสัชนาลัย ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถตีดาบให้ออกมาเป็นสีดำถึงเนื้อในเหล็กได้ ดาบนิลจึงมีความคม กริบและเป็นสมบัติหายาก นายเดื่องรักษาไว้อย่างดีเพราะคำสั่งเสีย ของบรรพบุรุษที่สั่งไว้สืบต่อกันมา ว่าต้องใช้ดาบนิลเพื่อปกป้องแผ่นดินเท่านั้น ฟากกำนันบุญที่โกรธแค้นนายเดื่องมากจึงสั่ง ให้ เสือแชน กับ เสือชิด ลูกน้องคนสนิทพา พวกบุกไปที่ถ้ำ ศิลาเพื่อจัดการกับนายเดื่องและเอาเศียรพระศิลามาให้ได้

ขุนเดช ที่แอบตามอาจารย์ประทีปมาหาพ่อที่เขาหลวงแต่เกิดพลัดหลงอยู่ในป่า หาทาง ไปหาพ่อที่ถ้ำศิลาไม่ได้ โชคดีที่เจอ หลวงพ่อสุข พระธุดงค์ที่มาปักกลดอยู่ในบริเวณเขาหลวง หลวงพ่อสุขเคยเจอกับนายเดื่องที่บริเวณถ้ำศิลาจึงพา ขุนเดช ไปหาพ่อ นายเดื่องโกรธลูกชาย มากที่แอบหนีมาจะลงมือตี แต่หลวงพ่อสุขห้ามไว้บอกพรุ่งนี้เช้า จะเป็นคนพา ขุนเดช กลับไปที่ ศรีสัชฯ เอง คืนนั้นนายเดื่องจึงจำเป็นต้องให้ ขุนเดช นอนค้างอยู่ในถ้ำ ขุนเดช นอนฟังพ่อเล่าเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเขาหลวงให้ฟังว่า เขาหลวง แห่งนี้ก็คือ พระขพุง ผีเทวดาที่สถิตย์อยู่ที่นี่ยิ่ง ใหญ่กว่าเทวดาในเมืองสุโขทัย หากผู้ครองเมืองสุโขทัยจะเป็นผู้ใดก็ตาม รู้จักนบไหว้และทำพิธีเซ่นสรวงถูกต้องแล้ว เมืองสุโขทัยย่อมตั้งมั่นถาวรยั่งยืน แต่หากไม่รู้จักนบไหว้ ไม่มีการพลีบูชาตามแบบแผนแล้ว ผีในเขาหลวงจะไม่คุ้มไม่เกรง เมืองสุโขทัยก็จะล่มจม เพราะเหตุนี้นายเดื่อง จึงต้องมาเฝ้าพระศิลาเอาไว้จากพวกคนใจบาป ขุนเดช เองก็รับปากพ่อว่าเมื่อโตขึ้นจะใช้ ดาบนิลทำหน้าที่รักษาสมบัติของชาติแบบพ่อ แต่ระหว่างนั้นพวกเสือแชน เสือชิดก็บุก เข้ามา นายเดื่องเป็นห่วงลูกชายจึงสั่งให้ ขุนเดช ไปหลบซ่อนตัว แล้วใช้ดาบนิลเข้าต่อสู้ กับพวกเสือแชน เสือชิด แต่สุดท้ายนายเดื่องก็สู้พวกมันไม่ได้ เพราะในระหว่างการต่อสู้ ดาบนิลเกิดหักเพราะความเก่าแก่ของดาบนิลที่ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน นายเดื่อง ถูกพวกมันฆ่าตายอย่าง เหี้ยมโหดทารุณต่อหน้าต่อตาขุนเดชแล้วตัดเอาเศียรพระศิลาไป เสือชิดได้ยินเสียงของ ขุนเดช ที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ จึงคิดจะจัดการลูกชายนายเดื่องด้วย อีกคนแต่ขุนเดชก็คว้าเอาดาบนิลที่บัดนี้ เป็นเพียงแค่ดาบหักมาเป็นอาวุธป้องกันตัวและ หนีพวก มันเข้าหายไปในป่าเขาหลวง

กลางดึกคืนนั้นขณะที่หลวงพ่อสุขกำลังนั่งเจริญสมาธิอยู่ในกลด หลวงพ่อสุขได้ เห็นนิมิตรบางอย่างที่น่าตกใจ ในนิมิตรนั้นหลวงพ่อเห็นความเสื่อมทรามของผู้คนที่ไม่ เคารพต่อ พระพุทธศาสนา ศิลปะโบราณวัตถุถูกย่ำยีกลายเป็นเครื่องประดับข้างฝาบ้าน พระพุทธรูปต้องอยู่หลังกรงขังกั้นไม่ให้ผู้มีจิตศรัทธากราบไหว้ บางองค์ก็ถูกรุมขัดถู เพื่อขอหวยมัวเมาในกิเลศ พระพุทธรูปที่งดงามตามโบราณสถานก็ถูกตัดเศียรเรียงราย จนน่าเวทนา หลวงพ่อสุขสะดุ้งตื่น จากนิมิตรพร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือจาก ขุนเดช ที่กำลังถูกพวกเสือแชน เสือชิดไล่ตามล่า และคิดว่าขุนเดชตกหน้าผาตายไปแล้ว จึงพากันกลับไป แต่ที่จริงแล้ว ขุนเดช หลบซ่อน ตัวอยู่ในซอกหินด้วยความตื่นกลัวและ ตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก ภาพของพ่อที่ถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดต่อหน้าต่อตา ภาพของพระศิลาที่ถูกตัดเศียรทำให้ ขุนเดช กลัวจนช็อคหมดสติ

หลวงพ่อสุขไปพบนายเดื่องถูกฆ่าตายที่ถ้ำศิลา จึงออกตามหา ขุนเดช ด้วยความเป็นห่วงและได้พบ ขุนเดช สลบอยู่ที่ซอกหินจึงปลุก ขุนเดช ให้ตื่น แต่ ขุนเดช กลับลุกขึ้น มาแสดงอาการเกรี้ยวกราด ดุดัน ใช้ดาลนิลหักที่กำไว้แน่นไล่ทำร้ายหลวงพ่อเหมือนกับ สัตว์ร้ายตัวหนึ่ง หลวงพ่อรู้ว่าที่ ขุนเดช เป็นอย่างนี้เพราะอาการช็อคตกใจกลัวจนเสียสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ หลวงพ่อนั่งนิ่งและแผ่เมตตาให้ ขุนเดช ใจสงบ ซึ่งก็ได้ผล ขุนเดช สงบนิ่งไปและเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายน่าเวทนา หลวงพ่อสุขจำเป็นต้องเป่ากะหม่อม ขุนเดช ให้หลับอย่างสงบ

ข่าวการตายของนายเดื่องและการหายตัวไปของ ขุนเดช ลูกชายนายเดื่อง เป็นที่โจษจันไปทั่วสุโขทัยว่าเป็นฝีมือของพวกโจรใจบาป จ่าแท่น ซึ่งรักและเคารพนายเดื่องเหมือนพี่ชาย คิดว่า ขุนเดช น่าจะยังมีชีวิตอยู่ จึงชวนคำปันซึ่งเป็นน้องสาวออกตามหา ขุนเดช แต่ทั้งคู่ก็ไม่พบร่องรอยของ ขุนเดช คำปันร้องไห้เสียใจทำใจไม่ได้ว่า ขุนเดช จะตาย ชาวบ้านที่เชื่อเรื่องผี ๆ สาง ๆ พากันพูดกันปากต่อปากว่า พระขผุงคงเอาตัว ขุนเดช ไปอยู่ด้วยที่เขาหลวง

10  ปีต่อมา หลวงพ่อสุขซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้เลี้ยงดู ขุนเดช จนเติบโตเป็นหนุ่มหน้าตาดี มีความฉลาดเฉลียว โดยสามารถสอบเข้าเรียนเป็น นักศึกษาในคณะโบราณคดีด้วยคะแนนสูงสุด แต่ ขุนเดช จำเรื่องราวเมื่อ 10 ปีก่อนไม่ได้ เพราะผลจากการตกใจ กลัวจนช็อค ส่วนดาบนิลหักของนายเดื่องที่ติดตัว ขุนเดช มา หลวงพ่อสุขก็เก็บรักษาเอาไว้ในกุฎิ ไม่เคยนำมาให้ ขุนเดช เห็นเพราะเกรงว่า ถ้า ขุนเดช จับดาบนิลนี้อีกครั้ง ความโกรธแค้นเกรี้ยว กราดราวกับสัตว์ร้ายที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของ ขุนเดช อย่างที่หลวงพ่อเจอในอดีตจะกลับมาสิงสู่ใน ร่างของ ขุนเดช อีกครั้ง แต่หลวงพ่อ ก็ไม่เคยรู้ว่าหลายต่อหลายคืน ขุนเดช มักจะฝันร้ายเห็นภาพเศียรพระศิลาถูกตัด ซึ่ง ขุนเดช ก็ไม่กล้าเล่าให้ หลวงพ่อฟังเพราะกลัวว่าจะทำให้อาการอาพาธของหลวงพ่อที่ไม่ค่อยดีอยู่จะทรุดหนักขึ้น

ใกล้ ๆ วัดที่ ขุนเดช อาศัยอยู่เป็นโรงหล่อพระของ ลุงเถิน ที่เอ็นดูขุนเดชเพราะเป็น เด็กหนุ่มเอาการเอางานมักมาช่วยงานลุงเถินเสมอ ๆ แถม ขุนเดช ยังช่วยติวหนังสือให้ ดารา ลูกสาวคนสวยของลุงเถิน ที่อยากจะสอบเข้าเรียนในคณะโบราณคดีเหมือนอย่าง ขุนเดช ดารา มักจะค่อนขอดและงอนพ่อบ่อย ๆ หาว่าพ่อรัก ขุนเดช เหมือนลูกชาย ที่เป็น อย่างนั้นเพราะลุงเถินมักจะชวน ขุนเดช ให้อยู่คุยเรื่องในอดีต เมื่อครั้งที่ลุงเถินเคยเป็น นักเลงเพลงดาบ โดยได้ฝีมือตี เหล็กตีดาบมาจากปู่ที่เป็นคนสุโขทัย ลุงเถินให้ ขุนเดช ดู ดาบที่ลุงเถินกับพ่อช่วยกันตีตอนเป็นหนุ่ม มันคือดาบสีดำปลอดที่ด้ามและตัวปลอกทำ จากเขาควายตายฟ้าผ่าซึ่งเรียกว่า ดาบนิล ที่ตอนนี้หาช่างตีอีกไม่ได้แล้ว เมื่อตอนลุงเถิน เป็นหนุ่ม ๆ เคยใช้ดาบนิลออกไปมีเรื่องมีราวตามประสาวัยรุ่นเลือดร้อน ทั้ง ๆ ที่บรรพบุรุษเคยสั่งไว้ว่าดาบนิลตีขึ้นเพื่อปกป้องแผ่นดินเท่านั้น ผลก็เลยทำให้ลุงเถินชีวิตไม่ เจริญก้าวหน้าจนเกือบตายหลายครั้ง ลุงเถินจึงเลิกเป็นนักเลงดาบ หันมาใช้วิชาความรู้ มาหล่อพระแทนเพราะไม่อยากทำบาปอีก ส่วนดาบนิลก็เก็บรักษาไว้ อย่างดี ลุงเถินกลัว ว่าถ้าตัวเองตายไปจะถ่ายทอดวิชาพวกนี้ให้ลูกสาวไม่ได้ จึงสอนให้ ขุนเดช ทั้งวิชาเชิง ดาบ เชิงมวยคาดเชือกและการตีดาบไว้เป็นความรู้ติดตัว เพราะเชื่อในความเป็นคนดีของ ขุนเดช ว่าจะไม่ใช่ในทางที่ผิด

เวลาที่ ขุนเดช ไปไหนมาไหนกับดารา ใคร ๆ มักจะคิดว่าสองคนเป็นคนรักกัน แม้แต่ ย้ง หรือ ยงยุทธ เพื่อนสนิทของ ขุนเดช ที่กำลังสอบเข้าเรียนตำรวจก็คิดอย่างนั้น ขุนเดช อ่านใจ ของเพื่อนได้ว่า ย้งเองก็แอบชอบดาราแต่ไม่กล้าแสดงออก เลยคิดจะช่วยให้ย้งได้มีโอกาสตามลำพังกับดารา ขุนเดช ชักชวนไปเที่ยวอยุธยากัน เพื่อชมโบราณ สถาน แต่ดารารู้ตัวว่า ขุนเดช ทำเพื่อย้ง ดาราเลยน้อยใจเพราะตัวเองก็แอบชอบ ขุนเดช อยู่ ดาราจะนั่งรถบัสกลับกรุงเทพฯ เองคนเดียว แต่ระหว่างทางไปเจอกับ ประดับ ลูกชาย นายทหารนิสัยเกกมะเหรกเกเรเพราะมี พ่อเป็นนายทหารยศใหญ่โต จึงกร่างไม่กลัวใคร ประดับกับเพื่อนฝูงพยายามที่จะชวนดาราให้ขึ้นรถไปด้วยกัน ขุนเดช กับย้งตามมาเจอ เข้าเลยมีเรื่องกับประดับและเข้าตาจนถูกพวกประดับล้อมกรอบ โชคดีที่อาจารย์ประทีป และคณะศึกษาโบราณคดีขับรถผ่านมาพบเข้า พวกประดับจึงต้องล่าถอยไป แต่ก็เก็บ สมุดจดบันทึกของดาราได้ ทำให้ประดับรู้ว่าดาราเป็นใครและเรียนอยู่ที่ไหน อาจารย์ ประทีปอาสาพาพวกขุนเดชไปส่งที่กรุงเทพฯ เพราะกำลังไปที่นั่นเหมือนกัน และ อาจารย์ประทีปก็สะดุดชื่อของ ขุนเดช เป็นอย่างมาก ยิ่งได้รู้ว่า ขุนเดช เป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่ในวัดและเป็นนักศึกษาโบราณคดี ที่มีความรู้เกี่ยวกับสุโขทัยจนหาตัวจับได้ยากก็ยิ่งสนใจ

ขุนเดช กลับมาที่วัดก็ทราบข่าวร้ายว่าหลวงพ่อสุขอาพาธหนักแต่ไม่ยอมไป โรงพยาบาลเพราะคิดว่าเมื่อถึงเวลาต้องละสังขารก็ขอให้เป็นไปตามกรรม ส่วนอาจารย์ ประทีปด้วยความสงสัยว่าทำไมหลวงพ่อสุขถึงตั้งชื่อเด็กที่เอามาเลี้ยงว่า ขุนเดช จึงขอเข้า ไปมนัสการกราบหลวงพ่อ และก็จำได้ว่าหลวงพ่อสุขคือพระธุดงค์องค์เดียวกันกับที่เคย เจอที่เขาหลวงเมื่อ 10 ปีก่อน เลยยิ่งมั่นใจว่าต้องเกี่ยวข้องกับ ขุนเดช ลูกชายนายเดื่องที่หา ศพไม่พบจนทุกวันนี้ หลวงพ่อเลย เล่าให้อาจารย์ประทีปฟังถึงสาเหตุที่ต้องพา ขุนเดช มาอยู่ที่วัดและเลี้ยงดู ขุนเดช เพราะ ขุนเดช เห็นภาพพ่อตัวเองถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา จึงช็อคและจำความไม่ได้ หลวงพ่อกลัวว่าถ้าโจร พวกนั้นรู้ว่า ขุนเดช ยังมีชีวิตอยู่จะเป็น อันตราย จึงพา ขุนเดช มาที่กรุงเทพฯ แต่ ขุนเดช ก็ยังคงมีจิตวิญญาณของคนศรีสัชนาลัย เพียงแค่ภาพโบราณสถานของสุโขทัยจากในหนังสือ ขุนเดช ก็สามารถจดจำรายละเอียดที่มาได้หมด หลวงพ่อสุขเอาดาบนิลหักของนายเดื่องออกมาให้ อาจารย์ประทีปดูเพื่อ ยืนยันว่าเป็น ขุนเดช ลูกชายนายเดื่องจริง ๆ หลวงพ่ออยากให้อาจารย์ประทีปรับปากว่าจะ คืนดาบนิลอันนี้ให้ ขุนเดช ก็ต่อเมื่อจิตใจของ ขุนเดช นิ่งสงบพอและรู้จักคำว่า อโหสิ เพราะถ้า ขุนเดช ยังมีจิตที่ไม่นิ่ง แม้ดาบนิลนี้จะเป็นเพียงแค่ดาบหักและมีแต่รอยบิ่น แต่ความกราดเกรี้ยวของขุนเดชจะทำให้ดาบหักกลับมามีความคมยิ่งกว่าเก่าไม่ต่างอะไร กับคมดาบในมือของทหารพระร่วง

ประดับตามมาหาดาราถึงที่โรงหล่อพระแต่ถูกลุงเถินกับ ขุนเดช ไล่ตะเพิดเพราะ ดันมาลองดีกับเถินนักเลงเก่า ประดับเจ็บแค้นที่ถูกด่าสาดเสียเทเสีย จึงใช้อิทธิพลของ พ่อพาทหารบุกไปโรงหล่อพระแจ้งข้อหาเท็จกับนายเถินว่าซ่องสุมอาวุธสงคราม เพื่อเป็นประโยชน์ให้พวกกบฏ เถินปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม และไม่สนใจการเมือง ประดับจึงสั่งให้พรรคพวกบุกทุบทำลายพระพุทรูปที่หล่อเสร็จ แล้วต่อหน้าต่อตาดาราและนายเถินที่แทบหัวใจ สลายที่เห็นพระพุทธรูปถูกทำลาย ประดับเอาปืนที่นำมายัดไว้ในองค์พระเพื่อเป็นหลักฐาน เล่นงานนายเถินให้ถูกจับกุม

ขุนเดช ต้องพาดาราให้ไปพักอยู่กับย้งที่บ้านเพื่อความปลอดภัย ไม่ให้ถูกประดับ ตามมารังควาญอีก ย้งกับดารารู้สึกกลัวแววตาของ ขุนเดช ที่บอกว่าจะจัดการทุกอย่างให้ เมื่อย้งถามว่า ขุนเดช คิดจะทำอะไร ขุนเดช ก็ไม่ปริปากพูดสักคำ ขุนเดช ไปที่โรงหล่อ พระที่เหลือแต่เศษซาก ของพระพุทธรูปที่ถูกทำลาย เศียรพระที่ถูกทุบทำลายจนหลุด จากบ่าทำให้ภาพอดีตในวัยเด็ก ของ ขุนเดช ผุดเข้ามาสร้างความเจ็บปวดให้ ขุนเดช อีก แต่ ขุนเดช ก็ยังไม่รู้ว่าภาพเหล่านั้นคืออะไรและเกี่ยวข้องกับตัวเองยังไง ขุนเดช รู้ว่า ดาบนิลของลุงเถินที่เคยใช้เมื่อวัยหนุ่มเก็บซ่อนไว้ที่ไหน ขุนเดช นำมันออกมาแล้ว มุ่งหน้าไปหาประดับที่กำลังดื่มกินอยู่ในบาร์

คืนนั้นเองที่อาการอาพาธของหลวงพ่อสุขกำเริบหนัก หลวงพ่อสุขถามหา ขุนเดช แต่ไม่มีใครรู้ว่า ขุนเดช อยู่ที่ไหน ดาบนิลหักตกลงมาจากชั้นวาง นิมิตรที่หลวงพ่อเคยเห็นเมื่อ 10 ปี ก่อนกลับมาอีกครั้ง เศษซากปรักหักพังของโบราณสถานถูกทำลาย เศียรพระเป็นเพียงเครื่อง ประดับข้างฝาบ้าน ภาพพระพุทธองค์กลายเป็นภาพประดับ ข้างฝาห้องน้ำของฝรั่งต่างชาติ หลวงพ่อสุขหายใจรวยรินพูดเป็นคำสุดท้ายก่อน มรณภาพว่า “จากนี้ไปไม่มีใครหยุด ขุนเดช ได้อีกแล้ว”

ขุนเดช ควงดาบนิลของลุงเถินบุกเข้าไปเล่นงานพวกประดับจนเกิดการต่อสู้โรมรันพันตู แต่ด้วยดาบเพียงเล่มเดียว ขุนเดช เลยพลาดท่าถูกพวกประดับจับตัวได้ พวกมันซ้อม ขุนเดช ทั้งเตะทั้งอัดจนสบักสะบอม ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่โดนทำร้ายกระตุ้น ให้ภาพในอดีตของ ขุนเดช กลับคืนมาอีกครั้ง คราวนี้ ขุนเดช เริ่มประติประต่อเรื่องราว เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ขุนเดช จำได้ว่าเขาคือลูกชายนายเดื่อง ผู้ที่สาบานว่าจะถวายชีวิตปกป้องสมบัติของพระร่วงไม่ให้ใครย่ำยี ขุนเดช เองก็สาบาน กับพ่อว่าจะถวายชีวิตเป็นทหารของพระร่วง แห่งศรีสัชนาลัย พวกประดับเห็น ขุนเดช นิ่ง ไปก็นึกว่าหมดสภาพแล้ว แต่ ขุนเดช กลับลุกขึ้นมา ด้วยแววตากราดเกรี้ยวน่ากลัวราวกับ ว่ามีสัตว์ร้ายเข้ามาสิงสู่ ขุนเดช คว้าดาบนิลได้และเกือบจะ สังหารประดับด้วยการบั่นคอ แต่ ขุนเดช ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีกลุ่มทหารเข้ามายุติการก่อเหตุวิวาท ประดับนึกว่าคนของพ่อมาช่วยแต่ประดับคิดผิด เพราะทหารที่บุกเข้ามายุติเหตุการณ์เป็นทหารฝ่ายปฏิวัติ เพราะเวลานี้รัฐบาลทหาร (จอมพล ป.) ถูกคณะปฏิวัติ (จอมพลสฤษดิ์) เข้ายึดอำนาจหลัง เกิดการเลือกตั้งสกปรก และรัฐบาลได้รับการคัดค้านจากประชาชนอย่างหนัก

ประดับและครอบครัวต้องหลบหนีภัยการเมืองออกนอกประเทศ ลุงเถินถูกปล่อยตัวออกจากคุกให้เป็นอิสระ ส่วน ขุนเดช กลับมาไม่ทันได้กราบหลวงพ่อสุขที่มรณภาพไปในคืนนั้น ในงานศพของหลวงพ่อสุข ขุนเดช บอกอาจารย์ประทีปว่าตนเอง จำความได้แล้วว่าเป็นลูกชายนายเดื่องที่หลวงพ่อช่วยชีวิตเอาไว้ เวลานี้เมื่อสิ้นบุญหลวง พ่อแล้วก็ถึงเวลาที่เขาควรจะกลับไป ยังบ้านเกิดที่ศรีสัชนาลัย แต่อาจารย์ประทีปทักท้วง อยากให้ ขุนเดช ได้เรียนโบราณคดีต่อให้จบ จะได้บรรจุเข้ารับราชการ ขุนเดช ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่าอยากจะสานต่องานที่พ่อทำ เพราะรับปากพ่อไว้ก่อนตาย อาจารย์ประทีป ไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของ ขุนเดช จึงรับปากว่าจะช่วยให้ ขุนเดช ทำงานขุดแต่งโบราณสถานที่ศรีสัชนาลัยซึ่งกำลังขาดคนอยู่ ขุนเดช กราบขอบคุณอาจารย์ประทีป และพร้อมจะเดินทางกลับบ้านเกิดทันที อาจารย์ประทีปตามไปที่กุฏิหลวงพ่อสุข ถามหาดาบนิลที่หลวงพ่อเก็บเอาไว้ แต่ลูกศิษย์วัดบอกว่า ขุนเดช ได้มาเอาดาบนิลนั้น ไปแล้ว อาจารย์ประทีปรู้สึกใจคอไม่ดี เมื่อนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อสุขที่กำชับไว้ว่า “อย่าคืนดาบนิลหักนี้ให้ ขุนเดช จนกว่า จิตใจของ ขุนเดช จะนิ่งสงบพอและรู้จักคำว่า อโหสิ เพราะถ้า ขุนเดช ยังมีจิตที่ไม่นิ่ง แม้ดาบนิลนี้จะเป็นเพียงแค่ดาบหักและมีแต่ รอยบิ่น แต่ความกราดเกรี้ยวของ ขุนเดช จะทำให้ดาบหักกลับมามีความคมยิ่งกว่าเก่า ไม่ต่างอะไรกับ คมดาบในมือของทหาร พระร่วง”

ขุนเดช จากไปอย่างเงียบ ๆ แม้แต่ย้งกับดาราก็ไม่รู้ว่า ขุนเดช หายไปไหน เพราะ ขุนเดช ไม่ยอมบอกใครถึงอดีตของตัวเอง คงมีแต่ลุงเถินคนเดียวที่ได้พบ ขุนเดช เป็นคนสุดท้าย ขุนเดช เอาดาบนิลของลุงเถินมาคืนและให้ลุงเถินดูดาบนิลหักของพ่อ รวมถึงได้เล่าเรื่องราวในอดีตของตัวเองให้ฟัง ลุงเถินดีใจและคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ชีวิต ขุนเดช จะกลับมาวนเวียนกับดาบนิล อีกครั้ง เพราะเพราะ ขุนเดช คือลูกหลานสุโขทัย สืบเชื้อสายจากทหารของพระร่วงที่มีดาบนิลเป็นอาวุธ ลุงเถินจึงไม่รับดาบนิลของตัวเองคืน และมอบให้กับ ขุนเดช เก็บเอาไว้เพื่อเตือนสติตัวเองว่า “ถึงดาบจะเป็นอาวุธที่อันตราย แต่สิ่งที่อันตรายกว่าคมดาบก็คือใจ ขอให้ขุนเดชใช้ดาบนิลเพื่อปกป้อง แผ่นดิน”

10 ปีผ่านไป….ศรีสัชนาลัยงดงามและมีมนต์ขลังด้วยศิลปะโบราณวัตถุอันทรง คุณค่า ขุนเดช ทำงานเป็นหัวหน้าคนงานขุดแต่งโบราณสถานให้กับอาจารย์ประทีป และตั้งหน้าตั้งตาทำนุบำรุงโบราณสถานที่ตัวเองรักยิ่งชีวิต หลังจากที่ ขุนเดช ทำงานเสร็จ จึงมาเดินเที่ยวชมวัด และได้เข้าไปไหว้พระอจนะที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีชุม ในขณะที่กำลังไหว้พระอยู่ก็ได้ยิน เสียงเสี่ยงเซียมซี จึงหันไปตามเสียงที่ได้ยินและได้พบกับ บัวทอง เด็กสาวสวยวัยเพิ่งจะ 19 กำลังเขย่ากระบอกเซียมซีเสียงดัง และอธิษฐานขอพรขมุบขมิบตามประสาเด็กสาววัยรุ่น ขุนเดช รู้สึกขำท่าทีของเด็กสาว จึงแกล้งพูดแหย่เล่นด้วยความเอ็นดู บัวทองไม่พอใจจึงลุกเดินหนีไป ขุนเดช เดินตาม บัวทองจึงรีบวิ่งไปหาแม่ ขุนเดช เห็นแม่ของบัวทองจึงจำได้ว่าเป็น น้าคำปัน ที่เคยเลี้ยงดู ขุนเดช ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ขุนเดช ดีใจที่ได้เจอน้าคำปันที่นี่อีกครั้ง เพราะไม่ได้เจอกันตั้งแต่คราวที่พ่อถูกฆ่าตาย เมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ได้กลับมาที่ศรีสัชนาลัยก็ได้ ข่าวว่าน้าคำปันกับจ่าแท่นพากันย้ายจากศรีสัชฯ ไปตั้งรกรากที่อื่น น้าคำปันกอด ขุนเดช ด้วย น้ำตาว่าเพิ่งจะรู้เรื่อง ขุนเดช เมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง เพราะตอนที่ย้ายจากศรีสัชฯไปเป็นการย้าย เพราะกลัวพวกโจรที่ฆ่าพ่อ ขุนเดช จะย้อนมาทำร้าย ส่วนจ่าแท่นก็โดนย้ายตามเจ้านาย แต่ตอนนี้สามีของน้าคำปันเพิ่งเสียและจ่าแท่นก็เพิ่งจะได้ย้ายกลับมาที่ศรีสัชฯแล้ว น้าคำปันแนะนำให้ ขุนเดช รู้จักกับบัวทองลูกสาวของน้าคำปัน ขุนเดช ยิ้มให้บัวทองอย่างเอ็นดูและชมว่าสวย เหมือนน้าสมัยสาว ๆ แต่บัวทองกลับแลบลิ้นใส่ขุนเดชเพราะรู้สึกหมั่นไส้ ที่ทำเป็นอวดเก่ง อวดภูมิความรู้เรื่องโบราณสถาน และทำมาเป็นสั่งสอน คำปันต้องปรามลูกสาวที่แก่นแก้วเป็น ม้าดีดกะโหลก ขุนเดช ไม่ติดใจอะไร บอกเด็กก็คงเป็นเด็ก บัวทองสวน ขุนเดช กลับทันทีว่าปีนี้ อายุ 19 ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว น้าคำปันอ่อนอกอ่อนใจฝากขุนเดชช่วยดูแลน้องด้วย ขุนเดช รับปาก อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ

ที่วัดพระพายหลวง สุโขทัย ขณะที่ ขุนเดช กำลังยืนแจกชะแลงและเครื่องมือให้กับคนงานอยู่ แต่มีคนงานคนหนึ่งซึ่งมีท่าทีแปลก ๆ มันชื่อ ไอ้เถร พ่อแม่ของมันพามาฝากให้ทำงาน กับ ขุนเดช เพราะฐานะทางบ้านยากจน ขุนเดช จึงรับไว้ให้มาทำงานเป็นคนงานขุดแต่งโบราณสถาน ไอ้เถรมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อยและชอบขโมยพระในกรุ ขุนเดช สงสัยในท่าทางมีพิรุธ แต่ไม่ได้ติดใจอะไรปล่อยในทำงานปกติ พอตกกลางคืนเถรแอบใช้ชะแลงที่ ขุนเดช แจกให้ทำงาน เข้าไปขุดกรุขโมยพระเพื่อไปขายให้กับกำนันบุญ พอรุ่งเช้า ขุนเดช มาเจอร่อยรอยการขโมยพระ และเห็นรอยชะแลงที่หน้าดินซึ่งชะแลงแต่ละอันขุนเดชจะทำรอยตำหนิเอาไว้ ทำให้ ขุนเดช รู้ว่าใครเป็นคนขุด ตกดึก ขุนเดช จึงไปลากตัวเถรและเอาชะแลงของเถรมาที่กรุพระ แล้วให้เถรนำ ชะแลงไปเทียบกับรอยดินว่าเป็นชะแลงอันเดียวกันรึป่าว แต่เถรขัดขืนจึงต่อสู้กัน จนเถรยอมเอาชะแลงไปเทียบกับรอยดิน พบว่าเป็นรอยเดียวกัน เถรรีบปฏิเสธ แล้วบอกว่าอาจจะมีคนขโมยชะแลงของตนเองไปทำความผิดก็ได้ ขุนเดช จึงให้เถรสาบานโดย การเอามือล้วงเข้าไปในข้องปลา พร้อมทั้งสาบานว่าหากเอามือล้วงไปแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นแสดงว่าไม่ได้ทำความผิด ซึ่งในข้องนั้น ขุนเดช ได้แอบเอางูเห่าใส่ไว้อยู่ พอเถรล้วงลงไปจึงโดนงูกัด แต่เถรแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขุนเดช จึงปล่อยตัวเถรไป ระหว่างทางพิษของงูออกฤทธิ์ เถรจึงหมดลมเสียชีวิตเพราะพิษงู รุ่งเช้าที่ร้านของคู่ผัวเมีย นายฮวด กับ สาลี่ ร้านกาแฟ ประจำหมู่บ้าน พวกชาว บ้านต่างพากันโจษจันพูดคุยกันถึงเรื่องการตายของไอ้เถร นายฮวด ถามจ่าแท่นที่เป็นลูกค้าประจำของที่ร้าน เพราะชอบมาฟังพวกชาวบ้านคุยกัน ว่าคิดยังไงกับการตายของไอ้เถร ซึ่ง ขุนเดช ก็นั่งฟังอยู่ จ่าแท่นบอกเพียงแต่ว่าเถรถูกงูเห่ากัดตาย ขุนเดชบอกสมควรแล้วที่เป็นแบบนั้น ขุนเดช จ่ายเงินค่ากาแฟแล้วจะไปทำงานต่อ แต่จ่าแท่นรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ เจ้านายคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาประจำที่โรงพักของศรีสัชฯ จ่าแท่นแนะนำ ร.ต.ท.ยงยุทธ หรือ หมวดยงยุทธที่เพิ่งย้ายมาประจำอยู่ที่ศรีสัชฯให้ทุกคนได้รู้จัก ขุนเดช กับหมวดยงยุทธพบหน้า กันก็จำได้ดีว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันนั่นเอง

วันคืนเก่า ๆ ของหมวดยงยุทธกับ ขุนเดช กลายมาเป็นเรื่องคุยกันที่บ้านพักของหมวด ยงยุทธ ขุนเดช ถามหมวดถึงดาราเพราะไม่ได้ข่าวเลยตั้งแต่ ขุนเดช ย้ายมาอยู่ที่ศรีสัชฯ ผู้หมวด อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ หนักใจที่จะพูดถึงดารา บอก ขุนเดช เพียงแต่ว่าดาราเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะโบราณคดี อย่างที่ฝันไว้ และตัวเองก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วเพราะต้องย้ายไปทำงานหลายจังหวัด ยงยุทธ ชวน ขุนเดช วกกลับมาคุยเรื่องการตายของไอ้เถร เพราะเกิดความสงสัยว่าไม่น่าจะเกิดจากงูกัด จนเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว เนื่องจากตอนไปชัณสูตรศพเห็นร่อยรอยการถูกตีด้วยของแข็งตามร่างกาย แต่ไม่รู้ว่าของแข็งนั้นคืออะไร จ่าแทนสงสัยถามย้อนว่าหมวดคิดว่านี่เป็นคดีฆาตกรรม หมวดยงยุทธตอบว่าค่อนข้างแน่ใจ แต่จ่าแท่นไม่คล้อยตามข้อสันนิษฐานของหมวดคิดว่าในศรีสัช ฯไม่มีฆาตกร เพราะชื่อศรีสัชนาลัยหมายความว่าเป็นเมืองของคนดี ขุนเดช ได้แต่ฟัง เงียบ ๆ ในขณะที่หมวด ยงยุทธสนใจดาบที่ ขุนเดช พกอยู่ ขุนเดช บอกเพียงแต่ว่าเป็นดาบของพ่อที่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย หมวดยงยุทธอยากจะขอดู ขุนเดช ว่ามันเป็นเพียงแค่ดาบหักที่มีแต่สนิมใช้ขุดหญ้าดายหญ้ายังไม่ได้เลย

ต่อมาไม่นานได้มีคณะอาจารย์และนิสิตนักศึกษาจากกรุงเทพฯ มาเรียนรู้และดูงาน เกี่ยวกับเรื่องโบราณสถาน อาจารย์ประทีปแนะนำให้ขุนเดชรู้จักกับอาจารย์ดารา เมื่อทั้งคู่ได้พบกัน ขุนเดช จึงนึกได้ว่าท่าทีอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของหมวดยงยุทธ มีความหมายซ่อนเร้น แท้จริงก็คือทุกวันนี้หมวดยงยุทธก็ยังพยายามตามจีบดาราอยู่ เพราะเป็นผู้ชายตรง ๆ จีบผู้หญิงไม่เป็น ทำให้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมายังไม่สามารถเอาชนะใจดาราได้ เมื่อสบโอกาสรู้ว่าอาจารย์ดาราจะ มาปักหลักทำงานที่ศรีสัชฯ จึงทำเรื่องขอย้ายตามมา เพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง ขุนเดช ถามอาจารย์ดาราถึงลุงเถิน ดาราบอกพ่อเสียไปเมื่อ 3 ปีก่อน ขุนเดช รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไปเคารพศพ ดาราชวนจึงชวน ขุนเดช ไปทำบุญทำสังฆทานให้พ่อด้วยกัน แต่ระหว่างที่ทำบุญด้วยกันที่วัด อาจารย์ดาราได้เจอบัวทอง ดาราสังเกตเห็นท่าทีของบัวทองที่สนิทสนมกับ ขุนเดช ก็พอจะเดาออกว่า ขุนเดช กับบัวทองน่าจะมีใจให้กัน และทำใจยอมรับว่า ขุนเดช ไม่เคยมองเธอในฐานะคนรักเลยสักครั้ง อาจารย์ดาราจึงยับยั่งชั่งใจและเริ่มเปิดใจให้กับหมวดยงยุทธ

ระหว่างนั้นกำนันบุญและลูกชายชื่อ สัมฤทธิ์ ซึ่งมีนิสัยไม่ต่างจากพ่อทั้งขี้โกง เจ้าชู้ และชอบเก็บสะสมวัตถุโบราณโดยเฉพาะพระเครื่อง พระผงที่อยู่ในกรุเจดีย์ สองพ่อลูกคิดแผนชั่วจะขโมยวัตถุโบราณและตัดเศียรพระ แต่หาคนฝีมือดีไม่ได้เพราะลูกน้องที่ใช้ให้ไปทำก็ถูกขุนเดชจัดการจนเกือบหมด จึงนึกถึงนายเปรื่อง อยุธยา หรือฉายา เปรื่อง เสียงแปล่ง โจรมืออาชีพลักลอบขุดเจาะขโมยพระ ทำมาทั่วทุกสารทิศ เปรื่องเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับพระองค์ ใหญ่ที่ร้านกาแฟนายฮวด ขุนเดช รู้สึกสงสัยในตัวเปรื่อง จึงแอบตามไปพบเปรื่องกำลังขโมยตัด เศียรพระองค์ใหญ่ ขุนเดช จึงเข้าไปจัดการเปรื่อง ทั้งคู่ต่อสู้กัน เปรื่องล้มไปใส่องค์พระ เศียรพระที่เปรื่องเจาะไว้จึงตกลงมาทับร่างเปรื่องเสียชีวิต

แต่กระนั้นโจรชั่วหนักแผ่นดินก็ยังไม่หมดไป ยังมีสองพ่อลูก ผู้ใหญ่น่วม กับลูกชายชื่อ น้ำ ที่มีนิสัยนักเลงอันธพาล คบโจร โกงการพนัน ฉุดผู้หญิง ชอบขโมยขุดพระขุดเจดีย์ รู้มาว่าเจดีย์บนเขามีสมบัติและกรุพระเก่าอยู่ จึงขึ้นเขาไประเบิดเจดีย์เพื่อขโมยพระในกรุ แต่ก็ถูก ขุนเดช ตามฆ่า โดยใช้ดาบนิลของลุงเถินที่เหมือนกับดาบนิลของพ่อซึ่งใช้การไม่ได้ มาเป็นอาวุธ ต่อสู้กับพวกคนเลวทั้งสองคน ขุนเดช ใช้เชือกรัดคอน้ำโหนกับต้นไม้ตายแล้วนำศพมาประจาน

เหตุการณ์ของโจรขโมยพระที่ถูกฆ่าตายหลายคน ทำให้หมวดยงยุทธสงสัยและเริ่มตามสืบหาฝีมือของฆาตกรรายนี้ แต่หมวดยงยุทธก็จนปัญญาจนเมื่อผลการพิสูจน์หลักฐานแน่ชัดว่าของแข็งที่ใช้ทำร้ายพวกคนร้าย มีลักษณะตรงกับปลอกดาบที่ ขุนเดช พกติดตัวทุกประการ หมวดยงยุทธจึงมั่นใจว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช ซึ่งตั้งศาลเตี้ยลงทัณฑ์พวกโจรใจบาปโดยไม่สนใจกฎหมาย ทำให้หมวดยงยุทธไม่พอใจ ขุนเดช และคอยจับผิด ว่า ขุนเดช จะต้องมีดาบเล่มอื่นอีกที่ไม่ใช่แค่ดาบนิลหักของพ่อ ซึ่งพกไว้ตบตาคนอื่น หมวดยงยุทธพยายามพูดกับจ่าแท่น ให้เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช และกล่าวว่า ขุนเดช เป็นวีรบุรุษบาป ให้จ่าแท่นช่วยกันหาหลักฐานมามัดตัวขุนเดชให้ได้ แม้ว่า ขุนเดช จะเป็นเพื่อนเก่า แต่กฏหมายก็ต้องศักดิ์สิทธิ์เมื่ออยู่ในมือผู้พิทักสันติราษฎร์

หลังจากที่กำนันบุญทำงานไม่สำเร็จ ไม่มีสมบัติโบราณส่งไปให้ตามใบสั่งจากกรุงเทพฯ เพราะถูกขัดขวางจาก ขุนเดช ตลอด ทำให้ ท่านรัฐมนตรีปราชญ์ ผู้ชื่นชอบในวัตถุโบราณ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังใบสั่งที่ส่งไปให้กำนันบุญจัดหามาให้เริ่มแสดงอาการไม่พอใจ แต่ด้วยความที่เป็นถึงรัฐมนตรีจึงไม่สามารถออกหน้าได้ รัฐมนตรีปราชญ์จึงเรียกประดับทนายความและเลขาประจำตัวมาจัดการทุกอย่างให้ได้ตามประสงค์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่ประดับหนีภัยการเมืองไปอยู่เมืองนอก ประดับเรียนจบทางด้านกฏหมายและเดินทางกลับมาทำงานเป็นทนาย และเลขาส่วนตัวให้กับท่านรัฐมนตรี เพราะมีจุดประสงค์ที่อยากจะก้าวขึ้นสู่อำนาจอีกครั้งหลังจากที่พ่อต้องตายอยู่ที่เมืองนอก ประดับจึงจำยอมให้ท่านรัฐมนตรีโขกสับต่าง ๆ นา ๆ โดยในระหว่างนั้นก็วางแผนตีสนิทกับ ปารมี ลูกสาวคนสวยวัยเพียง 16 ของท่าน รัฐมนตรีเพื่อใช้เป็นสะพานให้ตัวเองยกฐานะเป็นลูกเขยท่าน ซึ่งแผนการของประดับก็ดูจะสดใสเพราะปารมี เป็นเด็กสาวแก่แดด ชอบช้อบปิ้ง และชอบหนุ่มหล่อ ๆ  ซึ่งประดับก็เรียกความสนใจได้ไม่น้อยทีเดียว แต่ประดับต้องทำอย่างลับ ๆ ไม่ให้ท่านรัฐมนตรีรู้แผนการและไม่ให้ปารมีรู้ด้วยว่าประดับ มีคู่ขาเป็น คำผกา นักร้องในบาร์ที่นอกจากจะขายเสียงแล้วยังขายร่างกายเพื่อแลกกับเงิน และยอมทำตามทุกอย่างที่ประดับเรียกใช้ เพราะหวังว่าเมื่อวันที่ประดับขึ้นมามีอำนาจยิ่งใหญ่ เธอก็จะได้อานิสสงค์จากประดับ

ท่านรัฐมนตรีมีใบสั่งที่ให้ประดับไปจัดการหามาให้ได้ ประดับรู้จักกับ แจ็ค ฝรั่งพูดไทย คล่อง เป็นพ่อค้าวัตถุโบราณที่กรุงเทพฯ เดินทางมาขโมยวัตถุโบราณด้วยตนเอง โดยให้กำนันบุญคอยช่วยเหลือ แจ๊คระเบิดเจดีย์ แล้วใช้รถพังวัตถุโบราณต่าง ๆ พังเป็นหน้ากอง โดยไม่เกรงกลัวความผิด เพราะถือว่ามีเส้นสายใหญ่เป็นถึงรัฐมนตรี ขุนเดช รู้เรื่องจึงไปจัดการฆ่าโดยการแขวนคอแจ๊คหน้าเจดีย์ การตายของแจ็คทำให้ประดับต้องโดนท่านรัฐมนตรีเรียกไปด่า ประดับ จึงต้องอาศัยอำนาจของท่านรัฐมนตรีมากดดันตำรวจในพื้นที่ให้เร่งมือจัดการตามล่าตัวฆาตรที่กำลังลอยนวลอยู่นั่นเองที่ทำให้ประดับได้เจอกับหมวดยงยุทธ ดาราและ ขุนเดช ประดับแสดงท่าทางเจ้าชู้กับดาราเหมือนเมื่อก่อน แต่คราวนี้ประดับโดนหมวดยงยุทธขู่จะเล่นงาน ถ้ามายุ่งกับดาราอีก ประดับเลยขู่หมวดยงยุทธว่าจะอยู่ในหน้าที่ตำรวจได้อีกไม่นาน เมื่อไหร่ที่เขามีอำนาจทั้งสามคนต้องโดนแก้แค้นชนิดหาแผ่นดินยืนไม่มี แต่ประดับก็อยู่ในสุโขทัยได้ไม่นานต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เพราะท่านรัฐมนตรีเรียกตัวให้กลับด่วน แต่ประดับต้องการรู้ความเคลื่อน ไหวของพวก ขุนเดช อริเก่า และประดับก็ไม่ค่อยไว้ใจพวกกำนันบุญอยู่เป็นทุนเดิม จึงสั่งให้คำผกาย้ายเข้ามาอยู่ที่ศรีสัชฯ เพื่อเป็นหูเป็นตาให้ คอยส่งข่าวคราวให้ประดับรู้ตลอดเวลา แต่คำผกามาอยู่ที่ศรีสัชฯ ได้วันแรกก็มีเรื่องมีราวกับบัวทอง เพราะไปดูถูกบัวทองกับคำปันจนมีเรื่องมีราวทำให้คำผกากับบัวทองเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน

ส่วนเรื่องด่วนนั่นก็คือท่านรัฐมนตรี จับได้ว่าประดับกับปารมีแอบลักลอบมีความสัมพันธ์ กันจนปารมีตั้งท้อง ประดับโดนท่านรัฐมนตรีเรียกคนมาซ้อมเพราะไม่พอใจ แต่ท่านรัฐมนตรีก็ไม่กล้าเอาเรื่องประดับถึงโรงพักฐานพรากผู้เยาว์ เพราะกลัวจะเป็นข่าวฉาวโฉ่ ปารมีก็มาอ้อนวอนพ่อ ขอร้องให้ไว้ชีวิตประดับเพราะรักกันจริง ๆ และให้เห็นแก่ลูกในท้อง ท่านรัฐมนตรีทำอะไรไม่ได้ จำเป็นต้องเลื่อนฐานะประดับให้ขึ้นมาเป็นลูกเขย ซึ่งก็สมใจประดับทันที

กำนันบุญเริ่มหงุดหงิดหัวเสียไม่รู้จะไปพึ่งใครให้ทำงานให้ ทำให้รู้สึกขวางหูขวางตาลงไม้ลงมือกับทุกคนไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ รำพัน เมียใหม่ของกำนันและเป็นแม่เลี้ยงของ สัมฤทธิ์ ก็โดนกำนันตบตีระบายอารมณ์ เพียงเพราะรำพันปล่อยให้ ทิพย์ ลูกสาววัย 12 ที่เกิดกับกำนันบุญซึ่งเป็นปัญญาอ่อนชอบฟ้อนรำรบกวนอารมณ์กำนัน จนกำนันคิดจะส่งทิพย์ให้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้า แต่รำพันก็อ้อนวอนขอเลี้ยงไว้เพราะยังไงก็ลูก กำนันบุญเริ่มเบื่อเมียอย่างรำพันจึงหันไปสนใจคำผกา พยายามให้แก้วแหวนเงินทองปรนเปรอคำผกาทุกอย่าง ซึ่งคำผกาก็ชอบอกชอบใจเพราะเป็นคนเห็นแก่เงิน จึงใช้มารยายั่วให้กำนันหลงหัวปักหัวปำหลอกเอาทรัพย์สินเงินทอง แต่เมื่อวันที่คำผการู้ว่าประดับจะต้องแต่งงานกับปารมี และเห็นเค้าลางว่าตัวเองอาจจะถูกประดับเฉดหัวส่ง คำผกาจึงยอมตกเป็นของกำนันบุญ ใช้ความเป็นหญิงสองผัวหลอกเอาสมบัติจากกำนันอย่างไม่อายฟ้าอายดิน

กำนันบุญนึกถึงเสือแชน ลูกน้องเก่าซึ่งเมื่อ 20 ปีที่แล้วเป็นผู้ลงมือฆ่าพ่อของ ขุนเดช ให้กลับมาช่วยงานขโมยพระ เสือแชนไม่ชอบสะสมวัตถุโบราณ แต่จะชอบสะสมอาวุธโบราณ เช่น มีด หอก ดาบ เมื่อตำรวจสืบทราบจึงส่งสายตำรวจชื่อนายเหลือง เข้าไปตีสนิทโดยเอาดาบโบราณไปให้เสือแชนเพื่อสร้างความไว้วางใจ เหลืองบอกเสือแชนว่าถ้าอยากได้อีกก็ยังมีอีกเยอะ เพราะรู้แหล่งที่ฝังสมบัติอยู่ในถ้ำบนเขา เสือแชนหลงกลเชื่อจึงตามเหลืองขึ้นไปในถ้ำ เมื่อสบโอกาสเหลืองผลักเสือแชนตกลงไปก้นถ้ำ แล้วออกมาตามหมวดยงยุทธกับจ่าแท่นซึ่งรออยู่ด้านนอกเพื่อรอจับ แต่ระหว่างนั้น ขุนเดช ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในถ้ำก็ได้โอกาสล้างแค้นให้พ่อ โดยปล่อยงูจงอาจให้กัดเสือแชน แล้วใช้ดาบนิลฟันคอเสือแชนจนหลุดจากบ่า พอตำรวจเข้ามาก็เจอแต่สภาพศพของเสือแชนที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณ ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับหมวดยงยุทธว่าต้องเป็นฝีมือของ ขุนเดช แน่ ๆ

การตายของเสือแชนทำให้กำนันบุญแค้นใจมาก จึงสั่งคนไปลอบยิง ขุนเดช ขณะที่กำลังตกแต่งเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์ ขุนเดช ร่วงลงมาจากยอดเจดีย์แต่รอดตายเพราะตกลงมาในดงต้นพุทธรักษา ในขณะที่ ขุนเดช ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหมวดยงยุทธกับ จ่าแท่นก็มาตรวจที่เกิดเหตุ จ่าแท่นเจอดาบนิลของ ขุนเดช ที่ตกอยู่จึงหยิบขึ้นมาดู แต่พอชักดาบออกมาพบว่าข้างใน ไม่ใช่ดาบหักอย่างที่ ขุนเดช เอาให้ดูมาตลอด แต่มันเป็นดาบนิลที่คมกริบ จ่าแท่นตกใจมาก หรือว่าที่หมวดยงยุทธสงสัยจะเป็นเรื่องจริง แต่พอหมวดยงยุทธเดินมา จ่าแท่นรีบเก็บดาบเข้าฝักแล้วทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น จ่าแท่นรีบตามไปที่ โรงพยาบาลแล้วฝากดาบนิลให้บัวทอง เอาไปคืนขุนเดชโดยที่ยังเก็บเอาความสงสัยไว้กับตัว

ด้านกำนันบุญพอรู้ว่า ขุนเดช ยังไม่ตาย จึงได้ปรึกษาหารือกับ วงศ์ เจ้าของบ่อนพนัน ที่คอยสนับสนุนและทำงานให้กำนันบุญมาโดยตลอด ว่าจะจัดการ ขุนเดช กับพวกคนอื่น ๆ ที่ คอยขัดขวางอย่างไรดี จึงสั่งให้วงศ์รวบรวมลูกน้องไปก่อกวนสถานที่ต่าง ๆ จนสร้างความโกลาหล โดยเฉพาะกับกลุ่มนักศึกษาชายและหญิงของอาจารย์ดาราที่โดนพวกนักเลงบ่อนของวงศ์คุกคามความปลอดภัย บุกเข้าไปทำอนาจารนักศึกษาสาว ๆ เมื่ออาจารย์ดาราจะเอาเรื่อง วงศ์ก็หัวหมอใช้อิทธิพลของกำนันบุญเอาตัวรอดจากคุกจากตะรางออกมาได้ ทำให้อาจารย์ดาราไม่พอใจหมวดยงยุทธที่ปล่อยให้พวกนอกกฏหมายทำอะไรได้ตามอำเภอใจ หมวดยงยุทธเองซึ่งถูกผู้ใหญ่กดดันมาเรื่องฆาตกรฆ่าโจรก็หลุดปากสวนกลับเพราะไม่พอใจที่ถูกอาจารย์ดาราต่อว่า และคิดว่าอาจารย์ดาราเห็นด้วยกับการกระทำของวีรบุรุษบาปที่พวกชาวบ้านกำลังยกย่องเชิดชู แต่สิ่งที่มันทำก็ไม่ต่างจากอาชญากรคนหนึ่ง !!

วงศ์ย่ามใจทำเรื่องผิดกฎหมายได้โดยไม่เกรงกลัวเพราะถือว่ามีกำนันบุญและรัฐมนตรี ที่คอยหนุนหลังกำนันบุญช่วยอยู่ และเมื่อรู้เรื่องว่ามีสมบัติอยู่บนเขาจึงได้ชักชวน นางหวาด ซึ่งเป็นเมียขึ้นไปขุดสมบัติด้วยกัน เมื่อวงศ์ขุดเจอดาบทองคำส่วนหวาดเจอกำไลทองจึงดีใจพากันกลับบ้าน พอรุ่งเช้าวงศ์ถูกผีเข้าสิงเอาดาบทองคำไล่ฟันเมีย หวาดจึงต่อสู้แล้วใช้มีดฟันวงศ์จนตาย ส่วนตนเองพอฆ่าผัวตายจึงเป็นบ้าเอาดาบและกำไลทองคำหนีเข้าป่าหายสาบสูบไป

สำหรับนายสัมฤทธิ์ลูกชายของกำนันบุญ ซึ่งเคยเจอบัวทองในงานวัดจึงรู้สึกถูกตาต้องใจในความสวยของบัวทอง สัมฤทธิ์พยายามตามจีบและเอาของมีค่ามาให้บัวทองเพื่อหวังจะชนะใจ แต่บัวทองไม่เล่นด้วยแถมยังเกลียดเข้าไส้ คำผกาเองก็เกลียดบัวทองอยู่แล้วจึงเป่าหูให้สัมฤทธิ์วางแผนฉุดบัวทองมาทำเมีย สัมฤทธิ์เห็นด้วยจึงวางแผนให้ลูกน้องและ จำเริญ คนงานเก่าของขุนเดชมาช่วยฉุดบัวทองไปไว้ที่กระท่อมร้าง บัวทองเกือบจะตกเป็นของสัมฤทธิ์ โชคดีที่นางหวาดโผล่มาอาละวาดเอาดาบไล่ฟันสัมฤทธิ์ บัวทองจึงหนีหลุดไปได้ สัมฤทธิ์โกรธมากจึงยิงนางหวาดตายและเอากำไลทองมาจากนางหวาด พอตำรวจรู้เรื่องจาก หมอน้อย หมอประจำหมู่บ้านที่เป็นที่เคารพของทุกคน ซึ่งเห็นเหตุการณ์บัวทองถูกฉุดและมาแจ้งความให้ตำรวจไปช่วยบัวทอง จ่าแท่นจึงนำกำลังมาช่วยหลาน จำเริญซึ่งคอยดูต้นทางอยู่ได้ยินพวกลูกน้องของสัมฤทธิ์คุยกันว่า บัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช จึงตกใจมาก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าบัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช ซึ่งเป็นหัวหน้าเก่า สาเหตุที่จำเริญยอมทำชั่วช่วยสัมฤทธิ์ฉุดบัวทอง ทำไปเพราะอยากได้เงินไปให้แม่ที่กำลังป่วยและจะบวชทดแทนบุญคุณให้แม่ แต่พอรู้ว่าบัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช จำเริญเริ่มกลัวจึงรีบหนีไป ส่วนสัมฤทธิ์ก็เกือบโดนตำรวจจับได้ แต่ได้มา เจอ เสือเพิก เพื่อนเก่าของกำนันบุญมาช่วยไว้ แล้วพาไปอยู่ที่ซุ้มโจรด้วยกันช่วยกันออกปล้น ฆ่าชาวบ้าน แต่สัมฤทธิ์คิดชั่วอยากได้ลูกน้องของเสือเพิกมาเป็นของตัวเอง จึงหักหลังฆ่าเสือเพิกแล้วตั้งตัวเป็นหัวหน้าโจรซะเอง

หลังจากที่จำเริญกับพวกคนอื่นๆหนีตำรวจมาได้ก็มาถูก ขุนเดช ไล่ล่าฆ่าตายที่ละคน เหลือแต่จำเริญที่หนีมาบวชเพื่อทดแทนคุณแม่จนได้ เพราะกลับตัวกลับใจสำนึกผิดหวังว่าการบวชครั้งนี้นอกจากทดแทนบุญคุญแม่แล้วยังจะช่วยลบล้างความผิดที่ทำมา ขุนเดช ตามมางานบวชของจำเริญ โดยมีหมวดยงยุทธกับจ่าแท่นแอบตามมาดู ขุนเดช ว่าจะฆ่าจำเริญหรือไม่  แต่เมื่อ ขุนเดช มาเจอจำเริญที่อยู่ในผ้าเหลืองแล้วจึงอโหสิกรรมทุกอย่างให้กับจำเริญ จ่าแท่นจึงรู้สึกโล่งใจที่ขุนเดชไม่ทำอะไรวู่ว่ามลงไป

คำว่าอโหสิกรรมที่ ขุนเดช กล่าวต่อหน้าพระจำเริญทำให้ ขุนเดช เริ่มคิดได้ และการดูแลเอาใจใส่ของบัวทองในระหว่างที่ ขุนเดช พักรักษาตัวตอนที่ถูกยิง ก็ทำให้หัวใจของ ขุนเดช ที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่มีความรักให้ใครก็เริ่มอ่อนผ่อนลง เมื่อรู้ข่าวเรื่องโจรขโมยพระ ขุนเดชก็พยายามถอยและไม่ลงมือเอง แต่ส่งเบาะแสให้กับตำรวจให้เป็นฝ่ายจัดการ  จนกระทั่งมีชายเชื้อสายจีนไว้ผมเปียยาว ขายของเด็กเล่น อาศัยอยู่บนเรือ ชาวบ้านเรียกเค้าว่า จีนเปีย เข้ามาในศรีสัชฯ  ขุนเดชรู้สึกสงสัยในท่าทีมีพิรุธจึงพยายามสืบจนรู้ว่าเป็นพวกขโมยพระแล้วนำพระมาซ่อนไว้บนเรือ ขุนเดช จึงให้เบาะแสกับตำรวจจนตำรวจสามารถจับจีนเปียไว้ได้

จีนเปียถูกขังอยู่ในตะรางแต่ได้วางแผนจะแหกคุกออกไปจึงโกหกว่าหิวน้ำ ให้ตำรวจเอาน้ำมาให้ พอตำรวจเผลอจึงเอามีดเล็กที่ซ่อนอยู่ที่ผมเปียออกมาปาดคอตำรวจตายแล้วหลบหนีออกไป ตำรวจพยายามไล่ล่าจีนเปีย แต่จีนเปียก็สามารถหนีไปได้ ขุนเดช จึงต้องออกโรงด้วยตนเอง จัดการฆ่าจีนเปียแล้วนำศพมาส่งให้ที่สถานีตำรวจ

หลังจากที่สัมฤทธิ์เป็นหัวหน้าโจรปล้นฆ่าชาวบ้าน จนถูกทางการกดดันตามล่าตัว สัมฤทธิ์จึงหนีกลับมากบดานที่บ้านกำนันบุญที่ใช้อิทธิพลของตัวเองซ่อนลูกชายเอาไว้ไม่ให้ใครกล้าเข้ามายุ่ง ทางฟากรัฐมนตรีปราชญ์ที่พยายามปกปิดเรื่องลูกสาวท้องโตในวัยเรียนมาตลอด แต่เรื่องอื้อฉาวก็ไม่สามารถปกปิดได้ สาเหตุเพราะประดับทะเลาะกับปารมี เนื่องจากไปจับได้ว่าประดับไปมีอะไรกับคำผกาโสเภณีร่านราคาถูก และรู้ความจริงว่าประดับไม่เคยรักเธอเลย คิดแต่จะใช้เป็นเครื่องมือเพื่อได้เข้ามาเป็นลูกเขยรัฐมนตรี ปารมีน้อยใจประดับขับรถออกจากบ้านแล้วไปชนแม่ค้าข้างถนนตาย กลายเป็นข่าวครึกโครม ลูกสาวรัฐมนตรีท้องโตขับรถชนคนตาย ชื่อเสียงของรัฐมนตรี ปราชญเสียหายหนัก จนมีข่าวแว่วมาว่ามีสิทธิ์จะถูกถอดถอน ประดับกลัวว่าตัวเองจะเสียโอกาสถ้าไม่มีพ่อตาเป็นรัฐมนตรี จึงอาสาว่าจะทำทุกอย่างไม่ให้ท่านรัฐมนตรีหลุดจากเก้าอี้ รัฐมนตรีปราชญ์รู้มาว่าถ้าสามารถหาเครื่องชามสังคโลกโบราณที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาเป็นสินบนให้กับผู้ใหญ่ในพรรคได้ เก้าอี้ของตัวเองก็จะไม่หลุด เพราะเครื่องชามสังคโลกที่ยังสมบูรณ์และงดงามไร้ที่ติ ไม่ได้ใช่ของหากันง่าย ๆ เท่าที่มีอยู่ก็มีแต่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเท่านั้น ประดับอาสาว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เองเพราะก่อนหน้านี้ได้ข่าวจาก ทางกำนันบุญว่ามีการค้นพบเครื่องชามสังคโลกในสภาพสมบูรณ์ที่ศรีสัชฯ

ประดับเดินทางมาหากำนันบุญ ซึ่งได้ยืนยันเรื่องเครื่องชามสังคโลกว่ามีการค้นพบแล้วจริง ๆ โดยรู้มาจากลูกน้องที่เคยแอบเข้าไปลักขุดขโมยของโบราณในที่ดินของหมอน้อย และรู้ว่าหมอน้อยมีเครื่องชามสังคโลกโบราณอยู่ กำนันบุญจึงไปทาบทามขอซื้อแต่ถูกหมอน้อยปฏิเสธ หมอน้อยบอกกำนันบุญว่าได้บริจาคที่ดินรวมถึงเครื่องชามสังคโลกให้กับทางการหมดแล้วเพื่อเป็นประโยชน์แก่แผ่นดิน กำนันบุญโกรธมากจึงให้สัมฤทธิ์พาลูกน้องไปปล้นที่บ้านหมอน้อย สัมฤทธิ์ฆ่าหมอน้อย เมียและลูก รวมถึงนายชื่นคนงานเฝ้าไร่ตายทั้งบ้าน แต่โชคดีที่นายชื่นแค่บาดเจ็บ จึงมาบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพวกสัมฤทธิ์เป็นคนลงมือฆ่าหมอน้อยและครอบครัว หมวดยงยุทธบุกไปตามจับสัมฤทธิ์ที่บ้านกำนันบุญ แต่กำนันบุญรู้ตัวว่าตำรวจจะมาเพราะจับลูกชายเพราะรำพันแอบส่งข่าวให้ตำรวจรู้ว่าสัมฤทธิ์กบดานอยู่ที่บ้าน สัมฤทธิ์รอดไปได้โดยส่งให้ไปกบดานอยู่กับ นายซ้อน ลูกน้องเก่าที่ทำไร่อยู่ที่เขาพนมเพลิง ส่วนรำพันถูกกำนันบุญตบตีทำร้ายจะเอาถึงตาย ทิพย์ร้องไห้กระจองอแงเข้าไปกอดไม่ให้พ่อทำร้ายแม่ กำนันโกรธลูกสาวปัญญาอ่อนและทนรำคาญไม่ไหว คำผกายุส่งให้กำนันบุญจับลากตัวไปส่งโรงพยาบาลบ้า เพราะทนรำคาญทิพย์ที่ชอบมาทำให้เธอหงุดหงิดอารมณ์เสียอยู่บ่อย ๆ

แต่ระหว่างฉุดกระชากลากถูทิพย์สะบัดตัวหนี กำนันบุญกับคำผกาที่ช่วยกันจับตัวทิพย์อยู่เกิดพลาดท่าตกบันไดลงมาหมดสติทั้งคู่ ซึ่งในระหว่างที่หมดสติไปนั่นเอง กำนันบุญได้ฝันเห็นภาพในอดีตของตัวเองที่เคยไปลักตัดเศียรพระ และได้เจองูเห่านับเป็นสิบ ๆ ตัวเลื้อยปกป้ององค์พระ พวกลูกน้องพากันกลัวว่าเป็นงูเจ้าไม่ควรไปยุ่งหรือไปทำร้ายไม่อย่างนั้นบาปจะติดตัว แต่กำนันบุญไม่เกรงกลัวบาปกลัวกรรมเอาถังน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาฆ่างูเจ้าจนตายเกลี้ยง หลังจากนั้นไม่นานรำพันก็คลอดลูกออกมาเป็นทิพย์ ที่ตอนเกิดมีเกล็ดตามตัวเหมือนเกล็ดงู และเมื่อโตขึ้นทิพย์ก็มีอาการปัญญาอ่อนไม่สมประกอบ ส่วนคำผกาก็ฝันเห็นภาพตัวเองตอนเป็นเด็กยากจนไม่มีข้าวกิน จนต้องไปลักขโมยข้าวแม่ค้าคนหนึ่งเป็นประจำ จนวันนึงเขาจับได้และสั่งไม่ให้ขโมยอีกถ้าอยากกินก็ให้มาขอ แต่เพราะสันดานชอบลักเล็กขโมยน้อยที่ติดเป็นนิสัย เมื่อเห็นแม่ค้ามีสร้อยทองใส่ก็อยากได้จึงแอบขโมยมาเก็บไว้ เมื่อแม่ค้าจับได้คำผกาก็ผลักแม่ค้าล้มลงไปที่ถนนจนถูกรถชนตาย

เมื่อกำนันบุญกับคำผกาฟื้นขึ้นมาก็พบว่ารำพันได้พาทิพย์หนีไปแล้ว ส่วนกำนันบุญเมื่อพยายามจะลุกขึ้นก็ทำไม่ได้อย่างเหมือนก่อน เพราะแข้งขาไม่มีเรี่ยวมีแรงจะขยับไปไหนก็ต้องใช้วิธีเลื้อยเอาคล้ายกับงูที่ต้องเลื้อยไปมา หมอบอกว่าที่กำนันบุญเป็นอย่างนี้สาเหตุมาจากการตกบันไดทำให้เส้นประสาทที่ขาเสียหาย คำผกาเห็นเข้าก็รู้สึกทุเรศลูกตาไม่สนใจใยดีกำนันบุญอีก และแอบขโมยกุญแจห้องเก็บสมบัติของกำนันเพื่อเข้าไปลักเอาแก้วแหวนเงินทองของกำนัน โดยเฉพาะกับกำไลทองที่สัมฤทธิ์เอามาจากศพนางหวาด แต่เมื่อคำผกาเอากำลังมาสวม คำผกาก็มีอาการไม่ต่างจากนางหวาดที่คลุ้มคลั่ง ควงดาบออกไล่ฟันลูกน้องกำนันบุญ และหนีมาเจอประดับ คำผกาก็พยายามทำร้ายประดับ ในที่สุดก็ถูกประดับยิงตายและเก็บเอากำไลทองจากคำผกามาไว้กับตัวเอง

กำนันบุญเริ่มกังวลและคิดถึงบาปกรรมที่เคยทำไว้กับงูเจ้าในอดีต ประดับมาหากำนันบุญเพื่อขอเอาชามสังคโลกที่ได้มาจากหมอน้อย กำนันบุญยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมนอกจากเรื่องเงินแล้ว อยากจะขอให้ท่านรัฐมนตรีช่วยเหลือลูกชายให้พ้นคดี และช่วยหาหมอเก่ง ๆ มารักษาให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง เพราะเกรงกลัวว่าถ้าไอ้ ขุนเดช มันรู้ตัวเองกลายเป็นแค่ไอ้พิการ มันต้องตามมาจัดการฆ่าแก้แค้นที่เคยไปฆ่าพ่อมันแน่ ๆ ประดับเลยได้รู้ว่า ขุนเดช ศัตรูในอดีตที่เคยฝากความแค้นกันไว้นั้นตอนนี้มันก็ยังตามรังควาญเขาไม่หยุด ประดับคิดแผนการบางอย่างที่จะจัดการกับ ขุนเดช เพื่อสางความแค้น เลยทำเป็นรับปากกับกำนันบุญว่าจะจัดการตามที่ต้องการทุกอย่าง แต่พอลงจากเรือนของกำนันบุญได้ไม่เท่าไหร่ ประดับก็สั่งลูกน้องให้จัดการเผาบ้านกำนันบุญ ทรัพย์สมบัติของกำนันบุญก็สั่งให้คนขนออกมาจนเกลี้ยง ลูกน้องคนไหนที่ไม่ยอมแปรพักต์ก็จัดการฆ่าตายให้หมด แล้วใช้เลือดเขียนบนผนังเรือนว่านี่คือการ แก้แค้นของ ขุนเดช

การตายของหมอน้อยพร้อมกับครอบครัว สร้างความเสียใจให้กับทุกคนในศรีสัชฯที่ ต้องสิ้นคนดี ขุนเดช รักและเคารพหมอน้อยเหมือนญาติผู้ใหญ่จึงโกรธแค้นเป็นอย่างมากและ คิดแก้แค้นให้หมอน้อย นายซ้อนซึ่งให้ที่พักกับสัมฤทธิ์แอบมาพบกับ ขุนเดช เพื่อส่งข่าวเรื่องของสัมฤทธิ์ให้รู้ ถึงนายซ้อนจะเคยเป็นลูกน้องของกำนันบุญ แต่ตอนนี้ก็กลับตัวกลับใจแล้ว จึงขอให้ ขุนเดช ไปจัดการกับนายสัมฤทธิ์ที่เขาพนมเพลิง ขุนเดช จึงตามไปฆ่าโดยขุดหลุมพราง ให้สัมฤทธิ์ตกไปในหลุมแล้วใช้น้ำมันราดเผาสัมฤทธิ์ทั้งเป็น และยืนดูมันตายอย่างทรมาณให้สาสมกับความผิดที่เคยทำ หมวดยงยุทธตามมาพบ ขุนเดช ฆ่านายสัมฤทธิ์ซึ่งเป็นหลักฐานคาตา ยงยุทธขอให้ ขุนเดช มอบตัว เพราะตอนนี้ ขุนเดช กลายเป็นอาชญากรที่ตำรวจต้องการ หลังจากที่ไปปล้นเผาบ้านของกำนันบุญ ขุนเดช ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนไปปล้นบ้านกำนันบุญ หมวดยงยุทธและจ่าแท่นเชื่อว่า ขุนเดช ไม่ได้ทำและโดนใส่ร้าย จึงต้องขอร้องให้ ขุนเดช มอบตัวเพื่อไปพิสูจน์ความจริงกับศาล แต่ ขุนเดช ไม่ยอมมอบตัวสู้และเข้าต่อสู้กับหมวดยงยุทธจนเอาตัวรอดหนีไปได้

ที่จริงแล้วกำนันบุญยังไม่ตาย แต่ถูกประดับจับตัวเอาไว้เพื่อเรียกให้ ขุนเดช มาจัดการ โดยประดับเตรียมซ้อนแผนให้ตำรวจมาพบตอนที่ ขุนเดช ฆ่ากำนันบุญ ประดับส่งข่าวเรื่อง กำนันบุญให้ ขุนเดช รู้ผ่านทางอาจารย์ดาราว่ากำนันบุญอยู่ที่ถ้ำ พระศิลาบนเขาหลวง ที่ ๆ พ่อของ ขุนเดช ถูกฆ่าตาย อาจารย์ดาราเตือน ขุนเดช ไม่ให้ไป ตกหลุมพรางของประดับ และอาจารย์ประทีปก็เอาคำพูดของหลวงพ่อสุข ที่เคยเตือน เอาไว้พูดให้ ขุนเดช รู้ แต่ ขุนเดช ยืนยันว่าชีวิตเขาเกิดมาเพื่อปกป้องสมบัติของชาติ เขาคือทหารของพระร่วง ขุนเดช เดินทางไปที่ถ้ำศิลาและได้ พบกำนันบุญในสภาพนั่ง รถเข็นน่าเวทนา กำนันบุญขอร้อง ขุนเดช ให้ไว้ชีวิต อ้างว่าตอนนี้ตัวเองก็ไม่เหลืออะไร อีกแล้วได้รับกรรมที่เคยทำไว้แล้วอยากให้ ขุนเดช อโหสิให้ ขุนเดช ลังเลใจนึกถึงคำพูด ของหลวงพ่อสุขที่อาจารย์ประทีปบอกไว้และคำสัญญากับบัวทองว่าจะใช้ชีวิตด้วยกัน อย่างสงบ ขุนเดช คิดจะอโหสิให้กำนันบุญ แต่กลับถูกกำนันยิงเข้ากลางอกด้วยปืน ที่ซุกเอาไว้ในรถเข็น ขุนเดช ทรุดฮวบหายใจรวยรินเจ็บใจที่โดนกำนันบุญหลอก ประดับโผล่เข้ามาหัวเราะสะใจที่ ขุนเดช โดนเล่นงาน กำนันบุญอ้างว่าประดับสั่งให้ทำ ประดับเข้ามาจิกหัว ขุนเดช สมเพชเวทนาอยากเห็น ขุนเดช ตายต่อหน้าต่อตา เพราะถ้าขืนปล่อยให้ตำรวจได้ตัวไป วันนึง ขุนเดช ก็ต้องพ้นโทษออกมาอีก ประดับทิ้ง ขุนเดช ไว้ ในถ้ำกับกำนันบุญ ขุนเดช เกือบจะตายอยู่แล้วแต่ด้วยคำพูดของพ่อที่พูดถึง พระขพุงผี ผีเทวดาที่ยิ่งใหญ่กว่าเทวดาใด ๆ บนเขาหลวง ขุนเดช ก็ฮึดลุกขึ้นมา กำนันบุญจะยิง ขุนเดช ซ้ำแต่ ขุนเดช ก็ฟันฉับเข้าที่คอด้วยดาบนิล กำนันบุญคอขาดกระเด็นสาสมกับกรรมที่ทำไว้

หมวดยงยุทธกับจ่าแท่นและกำลังตำรวจตามมาที่เขาหลวงเพื่อต้องการระงับเหตุและจับตัว ขุนเดช บัวทองกับอาจารย์ดาราตามจ่าแท่นมาด้วยเพราะเป็นห่วง ขุนเดช แต่หมวดยงยุทธสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นไปที่เขาหลวง อาจารย์ดาราขอร้องหมวดยงยุทธให้ ปล่อย ขุนเดช ไป แต่หมวดยงยุทธยืนยันว่าเขาต้องทำทุกอย่างตามความถูกต้อง เพราะถ้าเขาทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องชาตินี้เขาก็คงทนมองหน้าใครไม่ได้อีก และอาจารย์ดาราก็คงจะภูมิใจในตัวเขาไม่ได้ อาจารย์ดาราน้ำตารื้นยอมเข้าใจว่าหมวดยงยุทธมีความจำเป็น จึงยอมอยู่กับบัวทองที่ตีนเขาหลวง

ขุนเดช ในสภาพที่บาดเจ็บหนักไล่ล่าตามหาตัวประดับในป่าบนเขาหลวง ประดับคิดว่าตัวเองน่าจะหาทางออกได้แต่ก็เกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ เมื่อทางออกที่เคยเดิน กลับไม่เหมือนเดิม ประดับเริ่มเดินวนเวียนอยู่ในป่าจนหลวงทาง และได้ยินเสียงหวีด ร้องน่ากลัวไปทั่วป่า ประดับยิงปืนไปทั่วเพราะคิดว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช แต่ภาพที่ประดับเห็นกลับเป็นภาพของนักรบโบราณเดินไปเดินมาอยู่รอบตัว และหนึ่งในกลุ่มนักรบโบราณก็คือ ขุนเดช ที่ยืนจังก้า ในมือถือดาบนิลที่ชักออกมาเป็นดาบคมกริบ ขุนเดช ตวัดดาบเข้าสู้กับประดับและใช้มันเสียบทะลุหัวใจของประดับจนตายคาที่ จ่าแท่นกับหมวดยงยุทธตามมาพบ ขุนเดช ในสภาพหายใจรวยริน ขุนเดช บอกหมวดยงยุทธว่าเสียใจที่ให้หมวดจับเข้าคุกไม่ได้ เพราะคงสิ้นลมหายใจอยู่ที่เขาหลวงแห่งนี้ ขุนเดช ขอร้องหมวดยงยุทธว่าปล่อยให้เขาตายอยู่ที่นี่ จะได้เป็นผีเฝ้าสมบัติของบรรพบุรุษจากพวกใจบาป ขุนเดช แน่นิ่งไปต่อหน้าต่อตาหมวดยงยุทธ

รัฐมนตรีปราชญ์มาที่สุโขทัยเพื่อรับถ้วยชามสังคโลกที่ประดับเก็บไว้ให้ เมื่อนักข่าวถามถึงเรื่องของประดับที่ไปเกี่ยวข้องกับพวกค้าวัตถุโบราณ ท่านรัฐมนตรีด่าประดับว่าเป็นพวกสารเลวและเพิ่งรู้เห็นความเลวของมันเหมือนกันสาสมที่มันตายซะได้แถมยังรับปากกับประชาชนว่าจะกวาดล้างพวกขายสมบัติชาติให้สิ้นซาก แต่ครั้นเมื่อท่านรัฐมนตรีกลับมาถึงบ้านก็พบว่าประดับได้ส่งของขวัญมาให้ปารมี โดยสั่งให้ลูกน้องเอามาให้ก่อนที่ประดับจะตาย ปารมีเปิดกล่องของขวัญออกมาพบว่าเป็นกำไลทอง ปารมีเห็นว่าสวยดีจึงสวมกำไลทอง เข้าไปแล้วก็เกิดอาการคุ้มคลั่ง ลุกขึ้นมาไล่ทำร้ายรัฐมนตรีปราชญ์จนตกบันไดคอหักตายคาที่ ส่วนปารมีก็กลายเป็นบ้าเดินเพ้อละเมอว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงหายออกจากบ้านไป

หมวดยงยุทธกับจ่าแท่นและชาวบ้านทุกคนร่วมกันจัดงานเผาศพให้ ขุนเดช ทุกคนมาร่วมงานศพ บัวทองยืนร้องไห้เสียใจ แค้นที่คนดี ๆ อย่าง ขุนเดช ต้องมาตายเพราะฝีมือคนชั่ว บัวทองเสียใจมากจึงได้เดินหลบออกไป จ่าแท่นเดินตามมาแล้วเล่าความจริงให้บัวทองฟังว่า ขุนเดช ยังไม่ตาย ตอนนี้หลบพักรักษาตัวอยู่ และเป็นความตั้งใจของหมวดยงยุทธที่จะให้ทุกคนเข้าใจว่าวีรบุรุษบาปอย่าง ขุนเดช ได้ตายจากไปแล้ว บัวทองดีใจเมื่อรู้ดังนั้น จึงพาแม่ไปอาศัยอยู่กับ ขุนเดช ไปปลูกไร่ ไถ่นาอยู่กันตามประสาอย่างมีความสุข โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ว่า ขุนเดช ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนหมวดยงยุทธได้เลื่อนยศขึ้นเป็น ผู้การที่จังหวัดสุโขทัยและได้แต่งงานกับอาจารย์ดารา ทุก ๆ วันหมวดยงยุทธมักจะยืนมองโบราณสถานที่ยังทรงคุณค่า และนึกขอบใจ ขุนเดช ที่เสีย สละตัวเองเพื่อปกป้องสมบัติและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ให้อยู่สืบไป….. ติดตามชม ละครขุนเดช

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ขุนเดช

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์   รับบท   ขุนเดช
ศุกลวัฒน์ คณารศ   รับบท   ร.ต.ท.ยงยุทธ
อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล   รับบท   บัวทอง
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข   รับบท   อาจารย์ดารา
สุรวุฑ ไหมกัน   รับบท   กำนันบุญ สุโขทัย
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์   รับบท   ประดับ (ลูกเขยปราชญ์)
อุษณีย์ วัฒฐานะ   รับบท   คำผกา
ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์   รับบท   ปารมี (ลูกรมต.)
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์   รับบท   สัมฤทธิ์ (ลูกบุญ)
เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์   รับบท   รัฐมนตรีปราชญ์
ภารดี อยู่ผาสุข   รับบท   คุณหญิง
วันชัย เผ่าวิบูลย์   รับบท   อาจารย์ประทีป
วินัย ไกรบุตร   รับบท   เดื่อง (พ่อขุนเดช)
รชยา รักษ์กสิกรณ์   รับบท   คำปัน (แม่บัวทอง)
วีระชัย หัตถโกวิท   รับบท   จ่าแท่น (ลุงบัวทอง)
ธนา สินประสาธน์   รับบท   เถิน (พ่อดารา)
ตฤณ เศรษฐโชค   รับบท   หมอน้อย
น้ำทิพย์ เสียมทอง   รับบท   มะลิ
ประถมาภรณ์ รัตนภักดี   รับบท   สาลี่
ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง   รับบท   หลวงพ่อสุข
ยอดชาย เมฆสุวรรณ   รับบท   หลวงลุง
ฆนัท นาคถนอมทรัพย์   รับบท   อาจารย์ดำรง
พิพัฒน์พล โกมารทัต   รับบท   ฮวด
ปริษา ทนาวิวัฒน์   รับบท   รำพัน (เมียใหม่บุญ)
ณปภัช วรพฤทธานนท์   รับบท   ทิพย์ (ลูกรำพันบุญ)
พชร กระต่ายทอง   รับบท   เปี๊ยะ (น.ศ.)
ชญานี ธิติ   รับบท   กบ (น.ศ.)
ธัชพร วาจา   รับบท   หยิน (น.ศ.)

รายชื่อนักแสดงรับเชิญ

สุรพันธุ์ ศรีวิลัย   รับบท   เสือเพิก (เพื่อนเก่า)
ณรงค์ เจนครองธรรม   รับบท   เสือชิด (ลูกน้อง)
ยุพข่าน ดัสกร   รับบท   เสือแชน (ลูกน้อง)
ณรัฐ พัฒนาพงศ์ชัย   รับบท   ลูกน้องประดับ
เนรัญ ศรีสันต์   รับบท   ลูกน้องกำนันบุญ
ชมวิชัย เมฆสุวรรณ   รับบท   ลูกน้องสัมฤทธิ์
จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ   รับบท   เถร
เวนซ์ ฟอลโคเนอร์   รับบท   เปรื่อง อยุธยา
พงศนารถ วินศิริ   รับบท   ผู้ใหญ่น่วม
รอน สมูเรนเบิร์ก   รับบท   แจ๊ค
โอลิเวอร์ บีเวอร์   รับบท   วงศ์
ณรงค์ฤทธิ์ ป้อมภู่   รับบท   จำเริญ
นิมิตร ทยานุวัฒน์   รับบท   จีนเปีย
ธนัช ศรีบรรจง   รับบท   ตากล้ำ (พ่อเถร)
พจนี ใยละออ   รับบท   ยายแช่ม (แม่เถร)
จิณณะ จอมขันเงิน   รับบท   น้ำ (ลูกน่วม)
ปวารา อภิพูนลาภ   รับบท   หวาด (เมียวงศ์)
โชคดี พักภู่   รับบท   ชื่น (คนงานหมอน้อย)
อิทธิกร สาธุกรรม   รับบท   ซ้อน เขาพนมเพลิง

อังกอร์ 2

ณ เมืองเวียงข่าน อันเป็นดินแดนที่อยู่อีกมิติหนึ่ง ตรงกันข้ามโลกมนุษย์ คล้ายเมืองลับแลที่ไม่มีมนุษย์คนใดจะล่วงผ่านเข้าไปได้ ขณะเดียวกันคนจากเมืองเวียงข่านก็ไม่อาจจะมาโลกมนุษย์ได้ เพราะหากก้าวข้ามมิติมาจะไม่สามารถกลับไปสู่เมืองเวียงข่านได้อีก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถไปกลับโลกมนุษย์และเวียงข่านได้ หนึ่งในนั้นคือ คะยะแม หมอผี แห่งพยัคฆามิน หรือลัทธิเสือร้าย ลูกศิษย์ของ แม่มดสาววันนา ในอดีตแม่มดสาววันนาได้ต่อสู้กับ ท้าวแสนชัย แต่นางแม่มดสู้ไม่ไหว จึงถอดวิญญาณหนีข้ามแดนออกมายังโลกมนุษย์ ภายหลังท้าวแสนชัยและ นางปทุมเทวี ถูกลูกศิษย์ของแม่มดสาวันนาไล่ล่าจนหนีออกมาถึงถ้ำที่น้ำตก ลูกน้องแม่มดสาววันนาจับนางปทุมเทวีเป็นตัวประกัน นางปทุมเทวีจึงเอากริชเงินของท้าวแสนชัยฆ่าตัวตาย ท้าวแสนชัยโกรธจึงฆ่าลูกน้องของแม่มดพร้อมฝังร่างปทุมเทวีไว้ในกำแพงแก้ว พร้อมกริชเงิน คนจึงเชื่อว่ากริชเงินสามารถทำลายวิญญาณเสือร้ายได้ ต่อมาวิญญาณของแม่มดสาววันนาออกอาละวาด เข้าสิงหญิงสาวที่ชื่อ อังกอร์ จนกลายเป็นเสือร้ายฆ่าคน แต่สุดท้ายวิญญาณของแม่มดสาววันนาก็ถูกกริชเงินทำลาย และฝังอยู่ในกำแพงแก้วพร้อมกริชเงิน คนจึงเชื่อว่ากริชเงินสามารถทำลายวิญญาณเสือร้ายได้

เหลี่ยมรัก

วิภู (ดิลก ทองวัฒนา) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ คุณหญิงวิไลเลขา (ภรไดย สุวรรณรัฐ) กำลังวิตกกังวลอย่างหนัก เพราะถูกผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงานกับ ภัทรวดี (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) แต่วิภูไม่ได้รักเธอ เขาจึงขอต่อรองกับแม่ด้วยการหมั้นกับภัทรวดีไว้ ก่อนไปปฏิบัติหน้าที่ตำรวจที่ปัตตานี และที่นั่นเองที่ทำให้วิภูได้พบกับ แขไข (ดารัณ ฐิตะกวิน) หญิงสาวบ้านนอก ที่จิตใจดี และ ช่วยดูแลวิภู เมื่อครั้งที่วิภูถูกนักเลงในหมู่บ้านรุมทำร้าย ความใกล้ชิดกันของทั้งคู่ ก่อตัวเป็นความรัก วิภูตัดสินใจพาแขไขมากรุงเทพ เพื่อเข้ามาอยู่ที่บ้านในฐานะภรรยา คุณหญิงวิไลเลขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ขัดขวางลูกชายไม่ได้ จึงสั่งห้ามไม่ให้วิภูยกแขไขเป็นเมียออกหน้าออกตา และสัญญากับภัทรวดี ว่าจะหาทางกำจัดแขไขให้พ้นจากบ้านไปเร็วที่สุด จนเมื่อเวลาผ่านไป แขไขคลอดลูกเป็นฝาแฝดลูกสาวคนโตชื่อ ปาณิศา หรือ ตะวัน (อุษามณี ไวทยานนท์) ส่วนแฝดผู้น้องชื่อ ปาลิตา หรือ ฟ้า (อุษามณี ไวทยานนท์) แม้เด็กทั้งสองคนจะเป็นหลานแท้ๆ แต่คุณหญิงวิไลเลขา ก็ไม่เคยแสดงความรักต่อหนูน้อยทั้งสองเลยสักนิด พร้อมวางแผนให้วิภูเข้าใจผิด ว่าแขไขแอบคบชู้กับ โอภาส (นึกคิด บุญทอง) ญาติสนิทของเธอ ที่มักจะคอยมาช่วยเหลือแขไข ทุกครั้งที่ถูกภัทรวดี และ คุณวิไลเลขารวมหัวกันกลั่นแกล้งเธอ วิภูหลงเชื่อออกปากไล่แขไขออกจากบ้าน แต่แขไขไม่ยอมทิ้งลูกทั้งสองไว้ เธอกับโอภาสจึงแอบพาตะวัน และ ฟ้า หนีออกมาจากบ้านหวังจะหลบไปพักอยู่ที่บ้านญาติใน จ.เชียงใหม่ แต่วิภูมาพบจึงออกตามล่า และไล่ยิงโอภาสจนได้รับบาดเจ็บ แขไขรีบพาโอภาส และ ตะวันหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ทิ้งไว้เพียงน้องฟ้าที่อยู่กับวิภู

วันเวลาผ่านไป 20 ปี บัดนี้ ตะวัน หรือ ปาณิศา และ ฟ้า หรือ ปาลิตา ต่างเติบโตเป็นสาวแรกรุ่น ที่มีชีวิตต่างกันอย่างลิบลับ ตะวัน เติบโตด้วยความรักจากแม่แขไข และ พ่อโอภาส แม้ว่าจะต้องดิ้นรนทำงานหนัก แต่ตะวันก็มีความสุข เธอเติบโตมาพร้อมกับ ดนัย (ตะวัน จารุจินดา) เพื่อนเล่นข้างบ้านที่คอยช่วยเหลือ และเป็นกำลังใจ แต่ลึกๆ แล้วดนัย กลับรักตะวันมากกว่าเพื่อน ส่วน ปาลิตา หรือ ฟ้า กลับสุขสบายดั่งนกน้อยในกรงทอง ตั้งแต่ที่วิภูยอมแต่งงานกับภัทรวดี เพื่อแลกกับการให้คุณหญิงวิไลเลขายอมรับว่าปาลิตาเป็นหลานในไส้ ฟ้าจึงมีชีวิตที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แต่เธอกลับซ่อนความอึดอัดใจที่ไม่สามารถเป็นตัวเองได้ แถมยังถูก ภัทรมน (อลิษา วิลล์) หลานสาวนิสัยเสียของภัทรวดีกลั่นแกล้งอยู่เสมอ

ที่เชียงใหม่ในคืนวันลอยกระทง ตะวัน ไปประกวดนางนพมาศเพื่อล่าเงินรางวัล ทำให้เธอมีโอกาสได้พบกับ ภากร (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) พร้อมแฟนสาว พิมพ์นภัส (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) แต่การพบกันครั้งนี้ กลับทำให้ทั้งคู่ต้องทะเลาะ และ กลายเป็นคู่กัดกันตั้งแต่นั้นมา ส่วนฟ้าถูกคุณหญิงวิไลเลขา ผลักดันให้ไปพบกับ ภาคิน (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ลูกชายของคุณภัสสร (นวลปรางค์ ตรีชิต) แต่เพราะพฤติกรรมเจ้าชู้ เสเพลของภาคิน ก็ยิ่งทำให้คุณภัสสร เร่งเร้าอยากให้เขาแต่งงานกับฟ้าโดยเร็ว แม้ว่าภาคินจะไม่พอใจ แต่เขากลัวถูกตัดออกจากกองมรดก ภาคินจึงต้องยอมหมั้นกับฟ้าไว้ก่อน แม้ความจริงชายหนุ่ม จะกำลังหลงใหลสาวร้อนแรงอย่าง ภัทรมน พร้อมๆ กับมีผู้หญิงที่เขาแอบเลี้ยงดูไว้อีกคนคือ ปริณดา (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา)

หลังจากเรียนจบ ตะวัน ตัดสินใจเข้ากรุงเทพเพื่อหางานทำ และเธอก็ได้พบกับ ภากรอีกครั้ง พิมพ์นภัสเริ่มรู้สึกว่าภากรมีท่าทีเปลี่ยนไปต่อตะวัน ทำให้เธอยิ่งจงเกลียดจงชังตะวันมากขึ้นเรื่อยๆ และ วันหนึ่งโชคชะตาก็ทำให้พี่น้องฝาแฝดที่จากกันมา 20 ปี ได้กลับมาเจอกันโดยบังเอิญ ทั้งตะวัน และ ฟ้า ต่างตกใจที่ได้พบหญิงสาวหน้าตาเหมือนตนเอง ทั้งคู่ไม่มีโอกาสพูดคุยกัน แต่ทั้งสอง ไม่ยอมปล่อยให้ความสงสัยถูกเก็บงำอีกต่อไป ฟ้านำเรื่องนี้ไปถามวิภู วิภูดีใจที่รู้ว่าลูกสาวของเขาอีกคนยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับถูกวิไลเลขาขัดขวางไว้ ในขณะที่ โอภาส และ แขไข บอกความจริงทุกอย่างให้ตะวันได้ฟัง รวมทั้งความจริงที่ว่า โอภาสนั้นไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเธอ ด้วยความโกรธแค้นวิภู กับ คุณวิไลเลขา ตะวันจึงตัดสินใจชวน ดนัย ไปที่บ้านวิภู เพราะอยากเห็นหน้าคนที่ทำร้ายแม่ของเธอ ในวันงานหมั้นของฟ้ากับภาคิน แต่แล้วงานหมั้นกลับต้องถูกยกเลิก เพราะภาคินหายตัวไปอย่างลึกลับ ในขณะที่ความบังเอิญทำให้ตะวัน มีโอกาสได้ช่วยเหลือ ภากร ออกมาจากโรงแรมม่านรูด ที่เบื้องหลังมีพิมพ์นภัสวางแผนรวบรัดให้ภากรแต่งงานกับเธอ ภากรโกรธที่พิมพ์นภัสกล้าทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ตัดสินใจบอกเลิกกับพิมพ์นภัสอย่างไร้เยื่อใย และทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกประทับใจในตัวตะวันมากขึ้น

ในค่ำคืนที่วุ่นวายนั้น ความจริงก็ถูกเปิดเผยว่า ตะวัน กับ ฟ้า เป็นพี่น้องกัน วิภูดีใจ และต้องการไถ่บาปที่เคยทำร้ายแขไข เขาจึงขอร้องให้ตะวันมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน วิไลเลขา และ ภัทรวดี รีบออกตัวขัดขวางสุดชีวิต ตะวันนึกถึงความเจ็บปวดที่แม่เคยเจอมาในอดีต เธอต้องการแก้แค้น และทวงความยุติธรรม จึงตอบตกลงย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับดนัย การแก้แค้นของตะวันจึงเริ่มต้นขึ้น แต่ปลายทางของเรื่องนี้ จะจบลงอย่างไร? เมื่อการแก้แค้นครั้งนี้ มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง

การสลับตัวกันของพี่น้องฝาแฝดในคืนวันแต่งงาน จะทำให้เรื่องราวความรักของ “ตะวัน และ ฟ้า” จบลงอย่างไร? ตามชมได้ในละครแนวดราม่าเรื่อง “เหลี่ยมรัก

เหมือนเราจะรักกันไม่ได้

ศาสตรา สหพาณิชยการ หนุ่มนักธุรกิจนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ผู้มากความสามารถ ศาสตรากำลังจะได้รับรางวัลนักธุรกิจหนุ่มแห่งปี ด้วยการสร้างผลงานให้แก่ บริษัท สหยนต์ จำกัด ( มหาชน ) ธุรกิจหลักของตระกูล แม้เขาจะถูกยกย่องให้เป็นชายผู้เพียบพร้อมอีกทั้งยังมีชีวิตคู่ที่น่าอิจฉา แต่สำหรับเขา กลับเหมือนมีสิ่งหนึ่งขาดหายไปเสมอ ราชาวดี หญิงสาวผู้มาจากตระกูลสูงศักดิ์ เพียบพร้อมด้วยกิริยาวาจา แม้จะเหลือเพียงนามสกุลไม่มีทรัพย์ แต่เธอก็กลายเป็นผู้หญิงที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น เพราะเธอคือคนที่ยืนอยู่เคียงข้างศาสตราในฐานะภรรยา แม้ว่าศาสตราจะไม่เคยรู้ว่าแท้จริงแล้วเขารักราชาวดีหรือไม่ แต่เมื่อการแต่งงานเป็นความเห็นชอบของผู้ใหญ่ เขาจึงไม่เคยคิดจะขัดแย้ง แต่แล้วราชาวดีกลับมีทายาทสืบสกุลให้แก่ เจ้าสัวแสง ผู้เป็นพ่อของศาสตราไม่ได้ เพราะเป็นโรคหัวใจมาแต่กำเนิด ไม่สามารถมีบุตรได้เธอจึงน้อยเนื้อต่ำใจยิ่งนัก ราชาวดีเก็บความคับแค้นใจไปปรึกษา จาด แม่นมเก่าแก่ ซึ่งถูก คุณหญิงรมณียา ไล่ออกจากคฤหาสน์ในข้อหามีสัมพันธ์ลับกับ ท่านชลัมพุ์ จาดจึงออกอุบายให้ราชาวดีหาคนมาท้องแทน เธอจึงคิดจะเลือกคนในบริษัทเพื่อจะได้ควบคุมง่าย ผู้ที่เธอหมายตาไว้คือ ลดา พนักงานประชาสัมพันธ์ซึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก เธอจึงให้ลดาขึ้นมาทำหน้าที่แทนเลขาฯ ของศาสตราและพยายามขอร้องแกมบังคับให้ศาสตราเทียวรับเทียวส่งลดาบ่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่าคนที่ศาสตราแอบเฝ้ามองมาตลอดคือ เพียงออ หญิงสาวไร้เดียงสา เรียบง่าย และจริงใจ เพียงออเป็นเพื่อนร่วมห้องของลดา และเป็นเพื่อนสนิทของ ไกรวิทย์ ที่ทำงานอยู่ในบริษัทนี้ด้วย ศาสตราได้พบกับเพียงออหลายครั้งก่อนที่เธอจะเข้ามาทำงานด้วย จนกระทั่งได้มีโอกาสรู้จักกัน แต่เมื่อเพียงออได้รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังจะต้องตกเป็นเมียน้อยของศาสตร เธอก็เกลียดเขาเข้าไส้ ทั้งคู่จึงเหมนไม่ถูกคอกันนักเวลาพบกัน แต่ศาสตรากับเพียงออก็ได้มีโอกาสเห็นความดีของกันและกันมากขึ้นทุกๆ วัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่ราชาวดีรู้จึงให้คนสืบจนรู้ว่าเพียงออไม่ใช่เพียงหญิง ชาวบ้าน แต่กลับมาจากตระกูลที่สูงศักดิ์เทียบเท่ากับตน ราชาวดีจึงให้ไกรวิทย์บีบให้เพียงออออกจากงาน โดยแลกกับที่ไกรวิทย์จะไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ่อโกงเงินบริษัทไปเล่นการ พนัน ขณะเดียวกับที่จาดส่ง นิล แฟนหนุ่มไปจัดการวางแผนให้ศาสตรากับลดาอยู่ด้วยกันโดยวางยาสลบ แต่แผนผิดพลาดกลับกลายเป็นเพียงออที่ต้องตกเป็นของศาสตราแทน ลดาตัดขาดความเป็นเพื่อนกับเพียงออ ไกรวิทย์ที่รู้ว่าเพียงออไม่ใช่คนอย่างที่ลดากล่าวหาจึงช่วยพาเพียงออไปหา ที่อยู่ใหม่ เพียงออรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องแต่ก็ไม่คิดใจอ่อนขอความช่วยเหลือจากศาสตรา เลยฝ่ายไกรวิทย์ที่รู้ว่าศาสตราและเพียงออรู้สึกลึกซึ้งกันแค่ไหนก็หาทางทำ ให้ศาสตราเข้าใจผิด แต่สิ่งที่ไกรวิทย์ทำกลับทำให้ศาสตราและเพียงออเข้าใจกันมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเพียงออก็ยังไม่ยอมรับศาสตรา ศาสตราคอยตามดูแลเพียงออตลอดจนราชาวดีรู้ ด้วยความกลัวว่าศาสตราจะทอดทิ้งไป ราชาวดีจึงตามไปราวีเพียงออถึงที่ทำงานใหม่ แต่กลับรู้สึกว่าทำเกินกว่าเหตุจึงไปปรึกษาจาดจาดกลัวว่าราชาวดีจะถูกศาสตรา ทิ้งจริงๆ และไม่มีเงินมาให้จาดอีกจึงวางแผนฆ่าเพียงออ โดยให้มือปืนไปดักยิงแต่ศาสตรามาช่วยจนถูกยิงแทน ศาสตราคิดว่าเป็นฝีมือของราชาวดีจึงคิดจะหย่าขาดให้หมดเรื่องแต่ราชาวดียอม ตั้งท้องเพื่อมีลูกให้ศาสตราสมหวัง ศาสตราจึงไม่อาจทำร้ายราชาวดีได้ และเพียงออเองก็พูดให้ศาสตรารู้ว่าแท้จริงแล้วเธอก็รักเขา แต่ด้วยคำว่าศักดิ์ศรีและคุณธรรม เธอจึงไม่ยอมให้เขาทำเรื่องผิดต่อผู้หญิงอีกคนหนึ่งเด็ดขาด ศาสตราเข้าใจและกลับไปอยู่กับราชาวดีอย่างเดิม แต่เขากลับรู้สึกว่าชีวิตขาดสิ่งหนึ่งไปมากกว่าเดิม และเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสียด้วยซ้ำ ไกรวิทย์เสียใจที่ถูกเพียงออปฏิเสธจึงคิดแก้แค้นกับราชาวดี โดยหลอกให้ราชาวดีมาหาและถ่ายรูปไว้ ศาสตราหลงเชื่อว่าราชาวดีมีอะไรกับไกรวิทย์จริงจึงขอหย่ากับราชาวดี โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแลอกจากบ้านมาขออาศัยอยู่กับเพียงออ เพียงออพยายามพูดให้เขาเข้าใจราชาวดีและกลับไปรักเธอเหมือนเดิม ราชาวดีได้ยินคำพูดของเพียงออจึงรู้สึกผิดที่ทำเรื่องไม่ดีไว้มาก ในที่สุดศาสตราก็ยอมยึดความถูกต้องกลับไปอยู่กับราชวดีเช่นเดิม แต่ก็ยังคงคอยตามเฝ้าดูแลเพียงออห่างๆ เหมือนเดิม เรื่องราวทุกอย่างกำลังจะเดินไปตามครรลอง แต่แล้วราชาวดีก็ได้รู้ความจริงว่าที่แท้จาดคือต้นเหตุของเรื่องๆร้ายๆ ทั้งหมด จาดทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นครอบครัวของราชาวดี ที่ทำให้ตนต้องเสียโฉมจากการลงไปช่วยราชาวดีที่จมน้ำเมื่อสมัยเด็ก และคิดว่าราชาวดีเป็นคนไปบอกคุณหญิงรมณียาเรื่องที่ตนเป็นชู้กับท่านชลัมพุ์ ด้วยราชาวดีจึงได้รู้แผนชั่วของจาดอีกอย่างหนึ่งว่า จาดกำลังคิดกำจัดเพียงออแบบถอนรากถอนโคน จึงรีบบอกให้ศาสตราไปช่วยแต่เมื่อศาสตราไปถึงกลับสายเกินไป เขาต้องเสียผู้หญิงคนสำคัญในชีวิตเขาคนหนึ่งไปเสียแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เพียงออกลับเป็นราชาวดีที่ตามมาช่วยเพียงออไว้แทน เรื่องราวความรักของเขาและเธอจะลงเอยอย่างไร เมื่อบัดนี้ไม่มีกำแพงสูงใหญ่กางกั้น ระหว่างเขาและเธออีกแล้ว แต่เธอจะยอมทลายกำแพงศักดิ์ศรีในใจของเธอเองได้หรือไม่ ติดตามชมได้ใน เหมือนเราจะรักกันไม่ได้

รายชื่อนักแสดงเหมือนเราจะรักกันไม่ได้
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบท ศาสตรา
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบท เพียงออ
สิริพรรณ หลิมวิจิตร รับบท ราชาวดี
ภารดี อยู่ผาสุข รับบท ลดา
ปัญญาพล เดชสงค์ รับบท ไกรวิทย์
วิภาวี เจริญปุระ รับบท จาด
สินชัย หอมหวน รับบท นิล
พนารัตน์ บุนนาค รับบท คุณหญิงรมณียา
ทูน หิรัญทรัพย์ รับบท เจ้าสัวแสง
ปิยะวรรณ จิตนาธรรม รับบท จลกลณี

หัวใจในสูญญากาศ

อุบัติเหตุทำให้ญาณัชสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป เมื่อลืมตาขึ้นมาในโรงพยาบาลคนแรกที่เธอได้พบก็คือ พริมาคนรักของเธอ

ในความทรงจำที่ยังคงสับสนเลือนลาง การปรากฏตัวของจิลลาภัทร พี่สาวต่างสายเลือด ก็ยิ่งสร้างความหวาดหวั่นขึ้นในหัวใจ เมื่อสิ่งเดียวที่ฝังใจญาณัชก็คือความร้ายกาจของหล่อน

ญาณัชรู้สึกราวกับกำลังมองดูจิ๊กซอว์ที่ชิ้นส่วนขาดหาย ยิ่งค้นพบควงามจริงมากเท่าไหร่ หัวใจของเธอก็ยิ่งเต็มไปด้วยความหวั่นไหว เมื่อในที่สุดเธอก็ค้นพบว่าผู้หญิงที่เธอเคยหวาดกลัวมาตลอด ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนที่เธอรักสุดหัวใจ

รักได้อย่างไร? นั่นคือคำถาม แล้วเธอเคยเลิกรักจิลลาภัทรได้หรือไม่?

สิ่งนั้นก็ยังคงค้างคาใจ แล้วระหว่างพริมาและจิลลาภัทร ใครกันแน่คือเจ้าของหัวใจที่แท้จริง
รักสามเส้าที่เธอกลัวเกินกว่าจะหาคำตอบว่าควรจะเลือกสิ่งไหนเหตุผล………… หรือหัวใจ

เส้นตายสลายโสด

เส้นตายสลายโสด เป็นเรื่องราวของสาวโสดสาวมั่นอย่าง ฟ้า หัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัทอีเว้นท์ออกาไนเซอร์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย กลับไปพบกับครอบครัว เพราะเป็นวันเกิดของ คุณสดใส แม่จอมจู้จี้ ที่ยุ่งกับชีวิตของลูก ๆ ทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมจนถึงการใช้ชีวิต และที่สำคัญแม่ชอบเปรียบเทียบฟ้ากับ น้ำฝน สาวหวาน น้องสาวแสนเพอร์เฟ็ค ที่ไม่ว่าน้ำฝนทำอะไรก็ดีไปหมด

น้ำฝนควง จอร์น หนุ่มล่ำ ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ มาประกาศว่าจะแต่งงานกัน แต่คุณสดใสไม่อนุมัติ เพราะขัดต่อเจตนารมณ์ของ พ่อบุญ ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งต้องการให้พี่สาวแต่งงานออกเรือนก่อนน้องสาว ถ้าพี่สาวไม่แต่ง น้องสาวก็ไม่มีสิทธิ์

ฟ้าไม่แคร์คำขอร้อง อ้อนวอนใด ๆ ของน้ำฝนกับจอร์น ประกาศลั่นว่ากำลังสนุกกับงาน ไม่สนใจใคร และไม่ต้องการใครมาสน คุณสดใสอยากให้ลูกรักอย่างน้ำฝนได้แต่งงาน แต่ก็ไม่อยากขัดเจตนารมณ์ของสามีสุดที่รัก คุณสดใสจึงออกอุบายเพื่อเร่งปฏิกิริยาให้ฟ้ายอมแต่งงาน ด้วยการแกล้งล้มป่วย เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เหลือเวลาอยู่ได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น “ได้โปรดแต่งงานเพื่อแม่ แม่จะได้นอนตายตาหลับ” ฟ้าตกหลุมพรางที่แม่ขุดเอาไว้ ยอมตกปากรับคำ “จะหาผู้ชายดี ๆ มาแต่งงานให้ได้ ภายใน 60 วัน”

ฟ้านั่งกุมขมับตกที่นั่งลำบาก เพราะเรื่องโรแมนติกกุ๊กกิ๊กผู้ชาย เป็นเรื่องที่ไม่เคยเฉียดใกล้ในความคิดของฟ้าเลย แต่แล้ว แสงแฟล็ชจากกล้องถ่ายภาพ ทำให้ฟ้าตื่นจากภวังค์ สาวผู้รักโลกส่วนตัวอย่างเธอไม่ยอมให้ใครมาล่วงละเมิดสิทธิ ฟ้าออกวิ่งไล่จับ จะทำลายฟิล์มภาพแต่กล้องราคาหลักแสนพัง! ดิน หนุ่มเซอร์ ช่างภาพมืออาชีพ ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้าน เรียกร้องค่าเสียหาย ฟ้ารู้ดีว่าเธอทำเกินกว่าเหตุ แต่คนอย่างเธอไม่เคยขอโทษใครและเธอต้องไม่ผิด ฟ้าจึงอ้างเหตุผลว่าเธอถูกแอบถ่าย เธอถูกล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ถือว่าเจ๊ากันไม่เอาความ พร้อมกับเดินจากไปไม่ใยดี ดินยืนอึ้ง เขาไม่ได้โกรธฟ้าเลย แต่กลับรู้สึกรักหรือนี่จะเรียกว่ารักแรกพบ ความไม่ธรรมดาของฟ้าเรียกได้ว่าใช่เลย! ท้าทายน่าค้นหา ปฎิบัติการหาสามีของฟ้าเริ่มต้นขึ้น

บีบี เพื่อนซี้ โปรดิวเซอร์สาวเปรี้ยว ก๋ากั๋น แรงสุดขอบของบริษัทอีเว้นท์ออการ์ไนเซอร์เดียวกับฟ้า อาสาเป็นแม่สื่อมือโปร ติดแปะประกาศ “ฟ้าอยากมีผัว ใครอยากแต่งงานกับฟ้าบ้าง?” ได้ผลเกิดคาด บรรดาผู้ชายในบริษัทต่างยกมือ ขอสมัครเป็นสามีฟ้า เพราะหลงรักผู้หญิงเก่งคนนี้มานานแล้ว ต้น กราฟฟิคดีไซเนอร์หนุ่มหัวใจโจ๋ ถือโอกาสเข้ามาหยอดมุขหวานเลี่ยนจีบฟ้าอย่างเปิดเผย แต่ก็ต้องถอยฉากกลับ เพราะเจอ บอส เจ้านายหนุ่มใหญ่เข้ามาเบรก ไม่อยากให้พนักงานวุ่นเรื่องรักจนเสียงาน

เมื่อ มีตัวเลือกเข้ามามากฟ้าประกาศให้ทุกคนทราบว่าผู้ชายที่เธอจะเลือกมาเป็นเจ้า บ่าว จะต้องมีคุณสมบัติคือ ไม่ดูด(บุหรี่) ไม่ดื่ม ไม่แด๊นซ์ ไม่ดื้อ ไม่เจ้าชู้ ไม่บ้างาน ไม่สกปรก ไม่ ๆ ๆ บีบีตอบฟ้าคำเดียวสั้น ๆ ว่า “ไม่มี” บีบีบอกฟ้าว่าอย่าทำตัวเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝน เปิดใจกว้าง ๆ แล้วจะพบหนทางสู่สวรรค์

บีบีปรับกลยุทธิ์ใหม่ พาฟ้าไปเหล่ผู้ชายดี ๆ ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่นไนท์คลับโรงแรมหรู ก็เจอแต่ป๋าแก่ ๆ ไปผับย่านทองหล่อ ก็เจอแต่วัยรุ่นยกมือไหว้เรียกป้า ฟ้าจึงคิดกลับไปพิจารณาแฟนเก่าที่ตัวเองเคยคบ แต่ปรากฏว่า บางคนหัวล้านพุงพลุ้ย / บางคนแก่กู่ไม่กลับ / บางคนมีลูก 2 เมีย 3 / บางคนมีสามีหล่อล่ำซะงั้น / บางคนก็เหลือแต่เถ้ากระดูก ฟ้าหมดหวัง บีบียังคงให้กำลังใจ สู้เว้ย

บีบีเอานามบัตรและรูปถ่ายของเซเลบบริตี้ทั้งหลายที่เคยร่วมงานด้วยตามงาน เปิดตัวสินค้าต่าง ๆ มาให้ฟ้าเลือก ฟ้าสนใจกัปตันวินัย กัปตันวินัย กัปตันสายการบิน ที่มีภาพลักษณ์อบอุ่น แฟมิลี่แมน บีบีจึงเสนอให้บอสเลือกกัปตันวินัยมาเป็นแขกรับเชิญคุยบนเวทีในงานเปิดตัว สินค้าชิ้นหนึ่งซึ่งกำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ฟ้ามีโอกาสไปตีสนิทกับกัปตันวินัยด้วยการอ้างขอสัมภาษณ์ข้อมูลเพื่อมา ทำเป็นสคริปท์คุยบนเวที กัปตันวินัยตอบตกลงเพราะมีใจให้สาวเก่งอย่างฟ้า

ฟ้าโวยวายลั่นเมื่อรู้ว่าดินเป็นช่างภาพที่ต้องไปเก็บภาพกัปตันวินัยมาทำ กราฟฟิคเพื่อตกแต่งในงานเปิดตัวสินค้าตามคอนเซ็ปท์ “แกลลอรี่ออฟเซเลบบริตี้” สั่งให้บอสเปลี่ยนตัวช่างภาพ แต่บอสไม่อนุมัติ เพราะบอสเชื่อมั่นในฝีมือของดิน และที่สำคัญดินอาสาทำให้ฟรี ฟ้าจำยอมทำงานร่วมกับดิน ดินดีใจที่จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมฟ้า โดยที่ฟ้าไม่สนใจดินเลย เพราะเป้าหมายของเธอคือชายในฝันอย่างกัปตันวินัย

ฮันนี่ หัวหน้าฝ่ายประสานงานลูกค้า คู่ปรับของฟ้า ต้องการขัดขวางเส้นทางรักของฟ้ากับกัปตันวินัย เพราะไม่อยากให้ฟ้าได้แต่งงานก่อนเธอ มิ้นท์ ผู้ช่วยบ่างช่างยุของฮันนี่ จึงเสนอแผนร้ายให้ฮันนี่ทำลายการนัดเดท  ด้วยการไปให้ข้อมูลผิด ๆ กับกัปตันวินัยว่าฟ้าเป็นผู้หญิงไวไฟ ชอบผู้ชายปากว่ามือถึง ถ้ากัปตันหวังพิชิตใจฟ้าต้องรอบรัดตัดตอน กัปตันวินัยหลงเชื่อฮันนี่แสดงตัวเป็นผู้ชายมือไวใจกล้าชวนฟ้าเล่นเกมปูไต่ แล้วอุ้มฟ้าเข้าโรงแรม ฟ้าตกใจไม่คิดว่าสุภาพบุรุษในฝันจะเปลี่ยนเป็นชายหื่นกามในชั่วข้ามคืน ก่อนที่ฟ้าจะเสียที ดินเข้ามาช่วยฟ้าไว้ได้ เหตุการณ์นี้ทำให้ฟ้ารู้สึกขอบคุณและเป็นมิตรกับดินมากขึ้น แต่ดินยังคงรักษาท่าที ปกปิดไม่ให้ฟ้ารู้ว่า ดินแอบรักฟ้า

ฟ้าวางแผนภารกิจแต่งงานใน 60 วันใหม่ โดยให้บีบีเป็นแผนกจัดสรรผู้ชาย และให้ดินเป็นแผนกคัดกรอง เพราะผีเห็นผีฉันใด ผู้ชายย่อมต้องมองผู้ชายด้วยกันออกฉันนั้น ฟ้าใช้หน้าที่หัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์คัดเลือกเซเลบบริตี้มาในงานอีเว้นท์ ทำให้ได้เจอผู้คนชั้นนำที่มีชื่อเสียงในวงสังคมจากแวดวงต่าง ๆ ไม่ว่าจะไฮโซ นักการเมือง นักกีฬา ดารา นักร้อง นักดนตรี วิศวกร ทนายความ เจ้าของฟาร์มปศุศัตว์ ฯลฯ ชายหนุ่มแต่ละคนล้วนเป็นระดับท๊อป แต่ก็ไม่มีใครเข้าตาฟ้าสักคน เพราะทุกครั้งที่ฟ้านัดออกเดทก็มองหาแต่ข้อด้อย ข้อบกพร่องของคน ๆ นั้น แล้วตำหนิติเตียนซะจนไม่มีดี ก่อนจะจบที่ชูป้ายกากบาท ไม่ผ่าน

บีบีเสนอให้ฟ้าใช้บริการบริษัทจัดหาคู่ ฟ้าปฎิเสธเสียงแข็ง คนอย่างเธอไม่ยอมก้มหน้าให้ใครเลือกคู่ให้เด็ดขาด แต่ลับหลังฟ้าแอบพรางตัวเข้าไปสมัคร แล้วพบว่าดินมาสมัครหาคู่เช่นกัน โดยที่ฟ้าไม่รู้ว่าดินเข้ามาเพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกของฟ้า

บรรยากาศการพบปะคู่รัก เต็มไปด้วยความรักและโรแมนติก ฟ้าเริ่มสนใจชายหลายคนที่เข้าร่วมหาคู่ แต่ดินกลับทำตัวเป็นมารผจญ คอยป่วนขัดขวาง ขัดคอ ขัดขา ไม่ยอมให้ฟ้าปลื้มชายคนไหน เพราะดินไม่อยากให้ฟ้าตกเป็นของใคร ปฎิบัติการป่วนของดินทำให้แผนพบคู่รักวุ่นวายอลหม่าน แต่งานนี้ทำให้ ธีรเทพ เจ้าของบริษัทจัดหาคู่ เพื่อนสนิทของดิน แอบหลงรักฟ้า สั่งให้ดินเป็นพ่อสื่อ สืบข้อมูลว่าฟ้าชอบผู้ชายแบบไหน แล้วธีรเทพก็แปลงโฉมตัวเองเพื่อทำคะแนนเอาใจฟ้า บีบีรู้ไต๋ หมั่นไส้ คอยขัดขวางธีรเทพ ทำให้บีบีกับธีรเทพกลายเป็นคู่กัดตลอดเวลา

เวลางวดเข้ามา ฟ้ายังไม่มีวี่แววจะหาเจ้าบ่าวได้ คุณยลดา คู่ปรับเก่าคุณสดใส และเป็นแม่ของฮันนี่ คอยเย้ยหยันดูถูกคุณสดใส ทำให้คุณสดใสนิ่งนอนใจไม่ได้อีกต่อไป แกล้งล้มป่วยอาการทรุดหนักลง กดดันให้ฟ้าเร่งรัดหาสามีให้เร็วขึ้น และใช้แผนเด็ดเซ็ทผู้ชายมาเสิร์ฟ คือ ทศพร สัตวแพทย์หนุ่มนักเรียนนอก หล่อเนี๊ยบ ฝั่งน้ำฝนก็ไม่ยอมแพ้ แนะนำ เสี่ยตั๊ก พี่ชายเพื่อน ตลก มีอารมณ์ขัน เจ้าของธุรกิจต่อเรือยอร์ช ส่วนจอร์นก็ส่ง ไมเคิล นายแบบหนุ่มตี๋ หล่อเท่ บ้าพลัง เข้าประกวด

3 หนุ่ม 3 สไตล์ เข้ารุมจีบฟ้า งัดกลยุทธิ์ทำคะแนนเอาใจฟ้า รวมทั้งใช้วิชามารสกัดทัพคู่แข่ง ถึงขั้นอาละวาดจนบริษัทแทบแตก ทำให้ชีวิตฟ้าปั่นป่วน เสียการเสียงาน ถูกบอสตำหนิฟ้าอย่างหนัก ฮันนี่ยิ้มร่าเพราะทำให้โอกาสช่วงชิงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตคนใหม่มี มากกว่าฟ้า

ฟ้ากลุ้มใจเรื่องงานและเครียดเรื่องหาคู่ ดินพูดปลอบใจและให้กำลังใจฟ้า พร้อมเสนอทางออกเล่น ๆ ว่าให้เลือกเขาเป็นแฟน ฟ้าเกิดไอเดียปิ๊ง ฟ้าจะเลิกการนัดบอดหาคู่แล้วแต่งงานกับดินหลอก ๆ เพื่อให้แม่สบายใจ เรื่องจะได้จบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่คุณสดใสไม่ปลื้มว่าที่ลูกเขยอย่างดินเท่าใดนัก ต่อรองให้ทั้งสองคบหากันก่อนหนึ่งเดือนแล้วค่อยแต่ง หลังจากนั้นคุณสดใสก็ไปปลุกระดม 3 หนุ่ม 3 สไตล์ ให้ปฎิบัติการขอความรักฟ้าให้สำเร็จ บรรดาหนุ่ม ๆ จึงออกปฎิบัติการก้างขวางคอและหาทางกลั่นแกล้งดิน แต่ดินก็รอดพ้นมาได้ เพราะมีกองหนุนแสนดีอย่าง แม่สายหยุด แม่ที่เป็นกำลังใจให้ลูกทุกวินาที และ กอหญ้า น้องสาวแสนซน ที่เป็นกองเชียร์ให้ดินสมหวังกับฟ้า

ดินควงแขนเป็นแฟนกับฟ้าอย่างเปิดเผย ถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นแฟนหลอก ๆ แต่ดินกลับแสดงความรักความห่วงใยจากใจจริง เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เขามีความสุขมาก ซึ่งไม่ต่างจากฟ้า ที่พบว่าตัวเองสามารถนั่งยิ้มละไมได้คนเดียว อารมณ์ที่พลุ่งพล่านกลับอ่อนโยนไม่ทราบสาเหตุ ฟ้าเริ่มแปลกใจตัวเอง แล้วค้นพบความรู้สึกบางอย่าง หรือว่า ดินจะเป็นคนที่ใช่ แต่ไม่ได้ เพราะดินไม่ใช่ชายเพอร์เฟค ไม่ใช่ชายในฝันที่เธออยากใช้ชีวิตด้วย ฟ้าสลัดความจริงออกจากใจ คบหาดินแบบแฟนกำมะลอต่อไป

ฮันนี่กลัวฟ้าจะได้แต่งงานก่อนเธอ เท่ากับว่าเธอพ่ายแพ้ฟ้า ฮันนี่ตามขัดขวางความรักและค้นพบความจริงว่าทั้งสองใช้แผนรักหลอก ๆ ฮันนี่นำความลับไปเปิดเผย คุณสดใสโกรธจัด ประกาศยกเลิกการแต่งงานของดินกับฟ้า และไม่ให้ดินใกล้ชิดกับฟ้าอีก

บอสเลือก น้องเฟซ นางแบบดาวรุ่ง หัวนอก เป็นเซเลบบริตี้รับเชิญคนใหม่ น้องเฟซเลือกโลเคชั่นการถ่ายรูปเป็นเกาะสวรรค์ทะเลใต้ บอสจึงสั่งให้ฟ้ากับดินไปทำงานและสัมภาษณ์เก็บข้อมูลด้วยกัน ฮันนี่และมิ้นท์ที่ต้องไปรับหน้าลูกค้าดีใจที่จะได้มีโอกาสป่วนให้งานฟ้าล้ม เหลว เธอจะได้เป็นผู้จัดการคนใหม่โดยไร้คู่แข่ง

ดินตั้งใจทำงานเพราะรู้ดีว่างานชิ้นนี้ความสำคัญต่อหน้าที่การงานของฟ้า ทำให้ฟ้ารับรู้ความตั้งใจและความจริงใจของดิน แต่เธอพยายามปลอบใจว่าดินคงทำตามหน้าที่ เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชายเซอร์ มีโลกส่วนตัวสูงอย่างดินจะมารักคนจู้จี้จุกจิกอย่างเธอ เธอพยายามสลัดความคิดเรื่องของดิน แต่เมื่อฟ้าเห็นดินใกล้ชิดสนิทสนมกับน้องเฟซ ฟ้ากลับออกอาการเหวี่ยง บีบีฟันธงปฏิกิริยาของฟ้าเรียกว่าหึงและหวงก้าง แต่ฟ้าไม่ยอมรับ ฟ้าเดินแยกออกมาสงบสติอารมณ์ลำพังคนเดียวบนสะพานปลา แต่อยู่ ๆ ก็มีสุนัขชิวาว่าโผล่มาเห่าฟ้าตกใจกระโดดหนีลงน้ำทั้ง ๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่แล้วมีชายหนุ่มกระโจนลงไปช่วยฟ้าเอาไว้ได้ทัน

ฟ้า ได้สติอีกครั้งก็พบว่าอยู่ในห้องพักสุดหรูของ คุณวี หนุ่มใหญ่ อบอุ่น เจ้าของรีสอร์ทริมทะเล คุณวีขอโทษที่สุนัขของเขาทำให้ฟ้าเจ็บตัว และคอยดูแลฟ้าอย่างดี ความเป็นสุภาพบุรุษของคุณวีทำให้ฟ้าเห็นโอกาสเหมาะที่จะเปิดทางสวรรค์อีก ครั้ง ฟ้าหมายมั่นที่จะพิชิตใจคุณวีมาให้ได้ แต่หนทางไม่ราบรื่นเพราะฮันนี่คิดแย่งคุณวีมาเป็นเจ้าบ่าวของตัวเอง

เมื่อมีคนสมหวังก็ย่อมมีคนผิดหวัง ดินมองความสัมพันธ์ของฟ้าและคุณวีเดินหน้า ด้วยความรู้สึกร้าวรานใจ ดินหน้าชื่นอกตรม เพราะต้องทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหัวใจให้ฟ้า ช่วยสกรีนและสแกนคุณวี ยิ่งดินพยายามมองหาข้อบกพร่องของคุณวีเท่าไหร่ กลับพบว่าคุณวียิ่งเพอร์เฟ็คมากขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญคุณวีรักและจริงใจกับฟ้า ดินหมดหวังที่จะพิชิตใจฟ้า ตัดสินใจยกธงขาว โดยมีน้องเฟซเข้ามารักษาแผลใจ เพราะหลงใหลในความเป็นหนุ่มเซอร์เท่ห์และอารมณ์ดีของดิน จนกระทั่งฟ้าแน่ใจว่าคุณวีคือคนที่ใช่ คุณสดใสอนุมัติทันที เพราะว่าที่ลูกเขยคนนี้เหมาะสมกับฟ้าทุกอย่างมากกว่าดิน ฟ้าจึงประกาศจะแต่งงานกับคุณวี

พวก 3 หนุ่ม 3 สไตล์ และ ธีรเทพร้องไห้โฮ บีบีอาสาดามอกให้ชายทุกคน แต่ทุกคนไม่ยอมแพ้ ฮึดสู้แย่งชิงฟ้าให้ได้ ส่วนต้นก็ไม่ละความพยายามาโอกาสเปิดใจบอกรักฟ้า แต่กอหญ้าขัดขวางเพราะอยากให้ฟ้ารักดิน และที่สำคัญ กอหญ้าก็อยากเป็นเจ้าของหัวใจเด็กแนวอย่างต้น

ฟ้าขอบใจดินที่ยอมเป็นแฟนกำมะลอให้ตน แต่ดินกลับเผยความในใจ ว่ารักฟ้ามานานแล้ว และเขาไม่เคยคิดว่าเป็นการคบกันหลอก ๆ ฟ้าอึ้ง กลบเกลื่อนความรู้สึกไปว่า ดินกับน้องเฟซก็ดูเหมาะสมกันมาก ดินเสียใจที่ฟ้าไม่ได้รักเขา

แม่สายหยุดและกอหญ้าคอยปลอบใจให้ดินสู้ อย่าปล่อยให้รักแท้ลอยนวล ดินเห็นแต่ทางแพ้ ตัดสินใจยกธงขาว คิดจะไปคบกับน้องเฟซแทนเพื่อรักษาหัวใจตัวเอง ขณะที่ฟ้ากำลังเตรียมตัวเรื่องงานแต่งงานกับคุณวีด้วยหัวใจพองโต แต่แล้วฮันนี่ก็พา เคท ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณวี มาแสดงตัวเป็นเจ้าของคุณวี เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของฟ้า ไม่ระแคะระคายมาก่อนว่าคุณวีมีภรรยาแล้ว ฟ้าอกหัก บอกเลิกกับคุณวีทันที

ฟ้ากลับมาตั้งสติที่บ้าน บอกไม่ถูกว่านี่คืออาการอกหักหรือโล่งใจ น้ำฝนกับจอร์นฝันสลายที่งานแต่งเป็นหมัน พยายามโน้มน้าวให้ฟ้ากลับไปคืนดีกับคุณวี คุณสดใสถึงขั้นแกล้งสวมหมวกไหมพรม ทำทีว่าอาการทรุดหนัก ผมร่วงหมดหัว แต่ฟ้ายืนยันว่าไม่กลับไปหาคุณวี แต่จะหาแฟนใหม่อีกครั้ง ฟ้าพยายามบอกตัวเองว่าต้องอยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่หัวใจคิดถึงดินมากที่สุด ฟ้ารีบไปหาดินตามเสียงหัวใจเรียกร้อง แต่ฟ้าเจอดินอยู่กับน้องเฟซ ท่าทางมีความสุข ฟ้าจึงได้แต่กล้ำกลืนความรู้สึก ไม่อยากขัดขวาง ไม่อยากดึงดินมาวุ่นวายอีก ฟ้าเดินจากไปเงียบ ๆ คนเดียว

คุณวีขอร้องให้ดินช่วยไปพูดกับฟ้า ว่าเขากับเคทกำลังจะจดทะเบียนหย่า ขอให้ฟ้ารู้ว่าเขารักฟ้ามาก ดินจำต้องรับปากสัญญากับคุณวี แม้ต้องฝืนใจทำแค่ไหนก็ตาม ดินแบกหัวใจที่บอบช้ำไปบอกฟ้าให้เข้าใจคุณวี ฟ้าได้แต่น้อยใจดินลึก ๆ แต่ไม่กล้าแสดงออก เพราะรู้ว่าดินกำลังมีความสุขกับน้องเฟซ ฟ้าบอกว่าเธอเชื่อดินทุกอย่าง ขอให้ดินยืนยันว่าคุณวีดีที่สุดแล้วสำหรับเธอจริง ๆ ดินสบตาฟ้า แล้วยืนยันว่าคุณวีดีที่สุด

การเตรียมงานแต่งระหว่างฟ้ากับคุณวีดำเนินต่อไป แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ ฟ้าไม่ได้มีความสุขเหมือนครั้งแรก ทั้ง ๆ ที่ตัวอยู่กับคุณวี แต่หัวใจลอยไปหาดิน ก่อนเวลาลั่นระฆังวิวาห์ ฟ้าเกิดความสงสัยในอาการป่วยของแม่  ที่ดูร่าเริงไม่เหมือนคนเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย คุณสดใสหาทางแก้ตัวไปได้ แต่ฮันนี่และคุณยลดารู้ความลับ นำหลักฐานทางการแพทย์มาเปิดโปงว่าคุณสดใสไม่ได้เป็นมะเร็ง ฟ้ารู้ความจริงว่าคุณสดใสสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อบังคับให้เธอต้องแต่งงาน เท่านั้น ฟ้าประกาศยกเลิกงานแต่งงานทันที

คุณวีหาว่าฟ้าไม่อยากแต่งงานกับตน แต่เอาเรื่องอื่นมาอ้างเพื่อล้มเลิกงานแต่ง จริง ๆ แล้วฟ้ารักดิน ทุกคนอึ้ง รอฟังคำตอบจากฟ้าและดิน ฟ้ากำลังจะยอมรับ แต่ดินกลับตัดบท พูดสนับสนุนให้ฟ้าแต่งงานกับคุณวีต่อไป เพราะฟ้าได้เจอคนที่ใช่ ที่ดีพร้อม ฟ้าไม่ควรทิ้งโอกาสดี ๆ อันนี้

ฟ้า น้อยใจที่ดินผลักไสเธอ ทั้ง ๆ ที่เธอยอมเผยความรู้สึกแล้ว ฟ้าบอกว่าดินคงจะไม่แคร์ว่าฟ้าจะลงเอยกับใครยังไง เพราะดินกำลังมีความสุขกับน้องเฟซ ฟ้าตัดสินใจประชดดิน “ชั้นจะแต่งงานกับใครก็ตามที่ยืนอยู่ข้างชั้นในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้”

เมื่อคำประกาศของฟ้าเผยแพร่ออกไป บรรดาชายหนุ่มจากทั่วสารทิศที่แอบรักฟ้าจึงผุดขึ้นมายิ่งกว่าดอกเห็ด รวมทั้งยังมีบรรดาชายหนุ่มที่ตกสำรวจ มาจองสิทธิ์ขอลุ้นในโอกาสนี้ คุณสดใสกลัวจะได้ลูกเขยไม่มีหัวนอนปลายเท้า จึงผลักดันให้หมอทศพร ไมเคิล เสี่ยตั๊กสู้สุดใจ ส่วนธีรเทพรู้ดีว่าสู้ไปก็ไร้ผล ร้องไห้โฮ บีบีจึงเข้ามาปลอบใจอาสาจะรักษาแผลให้ธีรเทพ

เช้าวันงานแต่งงานดินเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอน คุณสายหยุดกับกอหญ้าพยายามผลักดันยังไง ดินก็ไม่กระตือรือร้น คุณวีพาน้องเฟซมาหาดิน พร้อมสารภาพว่าขอยอมแพ้ เพราะรู้ดีว่าฟ้ารักดินและดินก็รักฟ้า ขอให้ดินทำตามหัวใจตัวเอง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

คุณยลดาฮันนี่และมิ้นท์มาดักรอที่หน้าโบสถ์ จะสกัดผู้ชายทุกคนที่จะเข้าไปเสนอตัวเป็นเจ้าบ่าวของฟ้า แต่คุณสดใสรู้ทันแผนการร้าย เข้าไปจับสองแม่ลูกกับเลขาตัวแสบผูกติดไว้กับต้นไม้หน้าโบสถ์ ฟ้าต้องเผชิญกับฝูงว่าที่เจ้าบ่าวที่ตะเกียกตะกายแย่งกันเข้าพิธีแต่งงานกับ ฟ้าให้ได้

งานแต่งกำลังจะเริ่ม ดินโผล่มาในชุดนอน ตะโกนขอฟ้าแต่งงานในวินาทีสุดท้าย ฟ้าดีใจน้ำตาไหล แต่ฝูงเจ้าบ่าวกลับลุกฮือ ไม่ยอมให้ฟ้าหลุดมือ จะแต่งงานกับฟ้าให้ได้ ดินจึงรีบอุ้มฟ้าในชุดเจ้าสาว วิ่งหนีฝูงเจ้าบ่าวด้วยความรักและความสุขที่เต็มเปี่ยม ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครเส้นตายสลายโสด

สองเสน่หา

เดือนหยาด นางเอกสาวสวยที่กำลังมาแรงในบทใสสื่ออ่อนไหว แต่นอกจอเธอเป็นสาวมั่นมีจริตแพรวพราวเอาแต่ใจ ชอบเบี้ยวคิวถ่ายละครไปอยู่กับ เป้-ปรมินทร์ ร็อคเกอร์หนุ่มเจ้าอารมณ์ จนมีข่าวฉาวให้ แว้ว-วิไลวรรณ ผู้จัดการส่วนตัวของเดือนหยาดต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ ผิดกับ พิลาสลักษณ์ น้องสาวฝาแฝดที่อยู่กับพ่อ ป้าจันทร์ และหรั่ง ที่บ้านสวน พิเป็นรักธรรมชาติ และยอมสละได้ทุกอย่างเพื่อพี่สาว พิหนักใจกับข่าวการคบหาระหว่างเดือนกับเป้มาตลอดแต่พูดไม่ได้ จนเดือนพลาดท่าตั้งท้องแล้วแอบไปทำแท้งจนตกเลือด ต้องหลบหน้านักข่าวไปพักรักษาตัวที่บ้านส่วน แต่กลับโกหกพิว่าที่ทำไปเพราะเป้สั่ง ทำให้พิโกรธมากถึงกับขอร้องให้เดือนเลิกคบกับเป้ แต่เดือนไม่ยอมเลยไปอ้อนวอน ปี-ปิยะบุตร ลูกพี่ลูกน้องของเป้ให้มาไกล่เกลี่ยนแทนแต่ก็ไม่สำเร็จ รุ่งขึ้นขณะที่พิเอาต้นไม้มาส่งที่บ้าน ทรงชัย เจ้าของสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ เธอได้เจอกับ วาริธ หลานชายทรงชัยที่เพิ่งตกพุ่มม่าย เพราะถูก แอนน์ ภรรยาเก่าทิ้งไปมีชู้ ตั้งแต่นั้นวาริธก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีก จนมาสะดุดตากับท่าทางกระฉับกระเฉงของพิ แต่พิไม่สนใจเพราะคิดว่าวาริธชอบที่เธอหน้าเหมือนเดือน หลังส่งต้นไม้เสร็จพิรีบกลับบ้านไปหาเดือน เธอโมโหมากที่เห็นเป้จู๋จี๋อยู่กับเดือน พิไล่ตีเป้จนกระโจนหนีตกหน้าต่างบาดเจ็บ ส่วนพิเองก็โดนเศษแก้วบาดเจ็บเดือนรีบกุลีกุจอพาพิไปโรงพยาบาลเดียวกับเป้ ขณะเดียวกับที่วาริธก็มารักษาตัวที่โรงพยาบาลเดียวกัน เค้าถึงรู้ว่าพิเป็นแฝดกับเดือน ทรงชัยมาเยี่ยมวาริธที่โรงพยาบาลทำให้ได้เจอกับเดือน ทรงชัยประทับใจจนอยากได้เดือนมาครอบครอง พิผิดสังเกตที่เดือนหายไปนานพอตามหาถึงรู้ว่าเดือนแอบมาพลอดรักกับเป้ที่ ห้องคนไข้ใกล้ๆ พิตามไปเอาเรื่องเถียงกับเป้ใหญ่โต จนเป้เผลอพูดเรื่องเดือนท้องเสียงดังให้นักข่าวได้ยิน เดือนเข้าตาจนจึงโกหกนักข่าวว่าคนที่ท้องแล้วไปทำแท้งคือ พิน้องสาวฝาแฝดของเธอ พิถึงกับอึ้งเพราะไม่คิดว่าเดือนจะเล่นไม้นี้ แต่สุดท้ายเดือนก็ออดอ้อนจนพิยอมรับแทน ช่วงที่อยู่บ้านสวนเดือนได้ยินข่าว บุษบา ลูกสาวนักเลงใหญ่คั่วอยู่กับเป้ ความหึงของเดือนพุ่งปรี๊ดตามมาอาละวาดตบตีบุษบาถึงผับจน เชื้อชาติ พ่อของบุษบาขู่เอาชีวิต เดือนกับเป้เลยต้องหนีตายไปต่างจังหวัด ปล่อยให้ลูกน้องเชื้อชาติเข้าใจผิดไล่ล่าพิแทน ยังดีที่วาริธมาเห็นเข้าเลยช่วยไว้ทัน ทำให้พิกับวาริธเริ่มสนิทกัน ไม่นานพอเดือนกับเป้ถูกจับได้เชื้อชาติให้เป้ไปอยู่กับบุษบา ส่วนเดือนทรงชัยขอไม่ให้เชื้อชาติทำร้าย เดือนจึงยอมเป็นเมียเก็บทรงชัยแล้วทิ้งงานละครค้างไว้ไม่ยอมถ่ายต่อ จนแว้วต้องขอร้องให้พิมาแสดงแทนเดือน ขณะที่พิถ่ายละครวาริธมาทำสกู๊ปที่กองละครนี้พอดี เค้ารู้ทันทีว่านางเอกที่แสดงเป็นพิไม่ใช่เดือน เพราะตั้งแต่เดือนย้ายไปอยู่ที่บ้านทรงชัยอาของวาริธ เธอได้แต่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยไม่ยอมทำงาน ผิดกับพิที่มา แสดงแทนเดือนจนดังขึ้นเรื่อยๆ วาริธจึงขอสัมภาษณ์พิลงนิตยสารที่เขาทำอยู่ เดือนไม่พอใจเลยอัดข้อความใส่ร้ายตัวเองเพื่อให้พิเสียภาพพจน์ ทำให้พิเข้าใจผิดคิดว่าวาริธเป็นนักข่าวที่ขาดจรรยาบรรณ วาริธสงสัยเดือนเลยหลอกว่าติดกล้องวงจรปิดไว้จนเดือนยอมรับสารภาพ เดือนแก้ตัวด้วยการวางแผนให้พิคืนดีกับวาริธ โดยชวนทรงชัยกับวาริธไปเที่ยวหัวหินแล้วให้แว้วพาพิมาเจอกัน แต่ยังไม่ทันที่วาริธจะพบกับพิเดือนก็เห็นภาพบาดตาระหว่างเป้กับบุษบาที่ กำลังถ่ายมิวสิควิดีโอซะก่อน ความหึงพุ่งกระฉูดเดือนปรี่ไปอาละวาดตบตีบุษบา พิผ่านมารีบเข้าไปห้าม ขณะที่พิกำลังจะเสียทีเป้วาริธเห็นเข้าเลยช่วยพิไว้ทัน ทำให้พิกับวาริธได้ปรับความเข้าใจกัน วาริธสวมแหวนหยดน้ำที่นิ้วก้อยพิเป็นที่ระลึกที่คืนดีกัน เดือนอิจฉาเลยผสมยาปลุกเซ็กส์ให้พิดื่ม แล้วพาไปนอนห้องทรงชัยหวังให้พิตกเป็นของทรงชัยวาริธจะได้เลิกสนใจ ส่วนตัวเองสวมรอยไปนอนห้องวาริธแทนพิ แต่วาริธจับได้เพราะไม่เห็นแหวนที่สวมให้พิเค้ารีบไปช่วยพิ รุ่งเช้าวาริธบอกเรื่องพิโดนวางยาแต่ไม่บอกว่าเดือนทำเพราะไม่อยากให้พิ เสียใจ พิประทับใจวาริธที่ไม่ฉวยโอกาสตอนเธอไม่รู้สติ ส่วนทรงชัยพอรู้เรื่องพิถูกมอมยาเค้าสงสัยว่าต้องเป็นแผนของเดือน พอถึงกรุงเทพฯ เดือนรู้ว่าทรงชัยมีโครงการใหญ่จะโปรโมทยาสระผมลงนิตยสารชื่อดัง และโฆษณาทางโทรทัศน์ด้วย เดือนจึงเสนอตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์โดยมี อิทธิ ลูกน้องคนสนิทของทรงชัยคอยสนับสนุน แต่วาริธกลับเสนองานให้พิเพราะประชาชนชื่นชอบมากกว่า เดือนอ้อนวอนไม่ให้พิรับงานนี้และขอให้วาริธสนับสนุนเดือนแทน แต่ทรงชัยไม่เห็นด้วยเค้าเปิดคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์เพื่อเป็นการประชา สัมพันธ์นำร่อง เดือนไม่พอใจแต่ก็ลงสมัครด้วย แค่รอบแรกเดือนก็ปะทะคารมกับแอนน์เมียเก่าของวาริธที่เป็นนางแบบมาจากเมือง นอก หลังแคสติ้งรอบแรกทรงชัยเกิดสนใจแอนน์ พอรู้ว่าเป็นเมียเก่าหลานเลยได้ทีชวนมาพักที่บ้าน ที่นี่แอนน์พยายามขอคืนดีกับวาริธแต่ไม่ได้ผล แอนน์จึงหันไปสานสัมพันธ์กับทรงชัยที่นับวันจะเบื่อเดือน ความฉลาด และอินเตอร์ ทำให้แอนน์ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ เดือนอิจฉาสุดๆ พอเห็นแอนน์จะว่ายน้ำเลยแกล้งเอาน้ำมันงาไปเทที่สปริงบอร์ดจนแอนน์ล้มบาด เจ็บ วาริธเห็นเข้าเลยพาแอนน์ไปหาหมอ เดือนรีบโทรนัดพิให้มาหาที่บ้านเป็นจังหวะเดียวกับที่วาริธพาแอนน์กลับมาจาก หาหมอ เดือนชิงแนะนำว่าแอนน์เป็นเมียเก่าวาริธ พิโกรธมากเพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เดือนทำเป็นดีตามมาปลอบใจพิถึงกองถ่าย และฉวยโอกาสแอบลบข้อความที่วาริธส่งมานัดพิไปปรับความเข้าใจ เดือนวางแผนชวนพิกับปีไปกินข้าวร้านที่วาริธนัดพิแล้วตัวเองปลีกตัวกลับก่อน ทำให้วาริธเห็นพิอยู่กับปีแค่สองคน แล้วก็ถึงคราวเคราะห์ของพิ เมื่อเป้หนีลูกน้องเชื้อชาติไปแอบที่ม่านรูดแล้วโทรให้ปีรับไปช่วย ทำให้พิที่มาทานข้าวกับปีต้องติดรถไปม่านรูดด้วย โดย ไม่รู้ว่าวาริธตามไปจนเห็นทั้งคู่เข้าม่านรูดด้วยกันวาริธเสียใจจนคิดตัดใจ จากพิ ส่วนบุษบาหลังจากเป้หายไปเธอก็ไปขอร้องให้ปีบอกที่ซ่อนเป้ พิอยู่ในเหตุการณ์จึงบอกที่อยู่เป้เพราะสงสารบุษบาที่ท้อง ทำให้เชื้อชาติตามเป้มาแต่งงานกับบุษบาได้ เดือนรู้ข่าวงานแต่งงานของเป้จึงตามไปก่อเรื่องในงาน ทรงชัยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโกรธมากไล่เดือนออกจากงาน เดือนเก็บความแค้นไประบายในวันโฆษณายาสระผม เธอแอบโรยตะปูไว้ในอ่างน้ำสปาที่แอนน์ต้องลงไปอาบ ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าพิเป็นคนทำวาริธก็เชื่อไปด้วย พิโกรธมากคืนแหวนหยดน้ำแล้วบอกเลิกกับวาริธ ด้านเดือนอาละวาดไล่แอนน์ออกจากบ้านทุกวันแต่ทรงชัยไม่ยอม แอนน์จึงกดดันเดือนด้วยการทำตัวเป็นคุณผู้หญิงคนใหม่ของทรงชัย เดือนว้าเหว่เลยหนีไปเที่ยวผับจนได้เจอกับเป้ที่กำลังกลุ้มใจที่บุษบาแพ้ ท้องแล้วเกลียดขี้หน้าเค้า คืนนั้นเป้กับเดือนเลยไปรื้อฟื้นความหลัวกันที่ม่านรูด โดยไม่รู้ว่ามีคนของบุษบาตามอยู่ พอบุษบารู้เรื่องก็ทรงชัยมาเจอทั้งคู่ ทรงชัยทั้งโกรธทั้งอายจึงไล่เดือนออกจากบ้าน แล้วให้ ยี่สุ่น แม่บ้านคนสนิทของทรงชัยเก็บของให้เดือน ยี่สุ่นเจอตะปูที่เดือนลืมไว้ วาริธถึงรู้ว่าเดือนเป็นคนวางตะปูในอ่างน้ำแอนน์ วาริธเสียใจที่เข้าใจพิผิดมาตลอด ส่วนเดือนหลังจากออกจากบ้านทรงชัยเธอก็ตัดสินใจไปอยู่กับปี เพราะรู้ว่าปีแอบชอบเธออยู่ ปีมีความสุขมากที่ได้ดูแลเดือน เค้าทุ่มให้เดือนจนหมดตัวแต่เธอก็ยังไม่พอ เดือนบากหน้าไปขอเงินทรงชัยแล้วแยกตัวจากปีมาอยู่ลำพัง ด้านเป้พอถูกเชื้อชาติจับได้ก็ถูกขังไว้ในห้องบุษบาทนเห็นเป้ทรมานไม่ได้จึง แอบปล่อยเป้ไป โดยที่เป้ไม่รู้ว่าใครเป็นให้อิสรภาพ เค้าหนีไปหาปีถึงรู้ว่าเดือนเลิกกับทรงชัยแล้ว เป้จึงตามไปอยู่กับเดือน เค้าทำตัวเสเพล ติดยา ไถเงิน และซ้อมเดือน จนเธอหมดความอดทนจึงแจ้งตำรวจจับเป้ติดคุก ด้านอิทธิพอรู้ว่าเดือนลำบากจึงยื่นมือช่วยเหลือ หวังจะใช้เดือนเป็นเครื่องมือทำลายนิตยสารของทรงชัย เพราะแค้นที่ทรงชัยไม่สนับสนุนตามสัญญา อิทธิจึงเป็นหนอนบ่อนไส้บอกความเคลื่อนไหวในบริษัทให้คู่แข่งรู้ วาริธสงสัยเลยซ้อนแผนให้ข้อมูลหนังสือผิดๆ กับอิทธิ พอเดือนรู้ความขัดแย้งในบริษัทวาริธ เธอรีบเอาหลักฐานที่อิทธิทำผิดมาให้วาริธเล่นงาน เมื่อทรงชัยรู้เลยไล่อิทธิออกโดยไม่เอาเรื่อง อิทธิแค้นมากที่เดือนหักหลังเลยตามล่าเดือนแทบพลิกแผ่นดิน เดือนไหวตัวทันขอมาอยู่กับวาริธเพื่อให้วาริธปกป้องเธอ ที่นี่เดือนพยายามทำให้วาริธแตกคอกับพิแต่ไม่สำเร็จ เดือนคิดเข้าวงการเพื่อทวงตำแหน่งนางเอกอีกครั้ง แต่เดือนยังเอาแต่ใจจนทีมงานไม่ให้เธอแสดงต่อ เมื่อไม่มีงานก็ไม่มีเงินเดือนกลุ้มหนักหันไปกินเหล้าเมายาเกือบถูกตำรวจจับ หลายครั้ง แต่ปีก็ช่วยไว้ได้ตลอด พออิทธิรู้ข่าวจึงตามมาแก้แค้นขับรถชนเดือนแต่ปีรับเคราะห์แทน หลังจากอิทธิถูกจับเค้าแฉเดือนหมดเปลือกจนทุกคนรุมประณามเธอ แล้วหันมายกย่องพิทำให้เดือนคิดกำจัดพิทิ้ง ในงานแต่งงานของพิกับวาริธเดือนจ้างมือปืนไปลักพาตัวพิจากงานแต่งงานเพื่อ ฆ่าทิ้ง แล้วสวมรอยเป็นเจ้าสาวซะเอง พิรู้แผนทั้งหมดของเดือนโดยบังเอิญ เธอเสียใจมากแต่ก็ยอมให้มือปืนจับตัวไป ก่อนมือปืนลงมือพิฝากจดหมายฉบับหนึ่งให้วาริธ แต่เดือนเปิดอ่านก่อนถึงรู้ว่าพิรู้แผนทั้งหมดแต่ยังยอมให้จับไปฆ่า ส่วนเป้พอออกจากคุกก็มุ่งหน้ามากำจัดเดือนในงานแต่งพิ เป็นจังหวะเดียวกับที่วาริธออกมาตามพิเลยเห็นเป้กำลังจะยิงเธอ เพราะสับสนคิดว่าพิเป็นเพื่อน วินาทีนั้นเดือนรู้สึกสำนึกผิดเอาตัวบังกระสุนให้พิ ก่อนตายภาพความทรงจำดีๆ ในวัยเด็กของเดือนกับพิผุดขึ้นมาให้เธอมีความสุขเป็นครั้งสุดท้าย เดือนสิ้นลมท่ามกลางความโศกเศร้าของพิกับวาริธ หลังเรื่องวุ่นๆ พิตัดสินใจออกจากวงการบันเทิงมาทำหนังสือกับวาริธเต็มตัว และก่อตั้งมูลนิธิเดือนหยาดเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสและระลึกถึงเดือน

รายชื่อนักแสดง สองเสน่หา
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบท วาริธ
พัชราภา ไชยเชื้อ รับบท เดือนหยาด / พิลาสลักษณ์
ดนัย ตันธนะศิริวงศ์ รับบท เป้-ปรมินทร์
ธีรวีร์ อัศวศิริชัยกุล รับบท ปี-ปิยะบุตร
โสภิตสุดา อิทธิเมธินทร์ รับบท บุษบา
ตฤณ เศรษฐโชค รับบท ทรงชัย
อรหทัย ซื่อศรีสวัสดิ์ รับบท แอนน์
สมบัติ ขจรไชยกุล รับบท เชื้อชาติ

ลุย

ลุย หล่มสัก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เป็นเด็กกำพร้าเติบโตที่หล่มสักโดยมีพระอาจารย์รูปหนึ่งเลี้ยงดู ชีวิตเด็กวัดของลุยผกผันเมื่อผู้มีอิทธิพลในทางนักเลงถูกชะตาจึงขอไปเลี้ยง พระอาจารย์กำชับกับผู้มีอิทธิพลท่านนั้นว่า…ดวงลุยความตายขึ้นอยู่ในมือ เต็มพรืดไปหมด อบรมให้ดีก็จะดี แต่ถ้าร้ายจะร้ายยิ่งกว่ามหาโจร แต่ดูเหมือนว่าการจะอยู่ในเส้นทางชีวิตคนดีของลุยนั้นยากยิ่ง เพราะพ่อบุญธรรมของเขาทำงานให้กับองค์การลับซึ่งทำงานผิดกฏหมาย ลุยเติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมของอาชญากร…

หลายปีผ่านไป ลุยกลายเป็นหนุ่มรูปร่างบึกบึนแข็งแรงสมชายชาตรี เมื่ออายุ 21 ปีแข่งขันชกมวยชิงรางวัล แรงพลังของเขาทำให้คู่ชกบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนในแถบนั้นต่างพากันโจษจันชื่อ ลุย หล่มสัก

ลุย มีคนรักชื่อ ไทรงาม (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เป็นลูกสาวร้านขายอาหารในตลาด แต่เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงเลื่อย ลุยบุกเข้าไปฉุดเจ้าสาวหนีในวันแต่งไปใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ความรักของลุยที่มีให้ไทรงามไม่เคยจืดจาง มีเพียงเรื่องงานเท่านั้นที่เขาขอร้องไม่ให้หญิงสาวก้าวก่าย ไทรงามไม่เคยรู้ว่าลุยทำงานอะไร รู้แต่เพียงว่าลุยทำงานให้กับพ่อผู้มีพระคุณ และการทำงานแต่ละครั้ง ลุยได้เงินกลับมาทีคราวละมากๆ

วันหนึ่งเกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อพ่อของ ลุยถูกหักหลังถูกกลุ่มโจรฆ่าตาย ความแค้นทำให้ลุยเกรี้ยวกราด ลุยบุกเผาทำลายล้างพวกกลุ่มโจรที่ฆ่าพ่อจนราบคาบ แล้วพาไทรงามอพยพไปอยู่กับ กริช ลมกรด (อนุสรณ์ เตชะปัญญา) นายใหญ่ของพ่อ

กริช ลมกรด เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งองค์การที่พ่อเขาเคยทำงานให้ ทำเรื่องผิดกฏหมายทั้งค้าอาวุธเถื่อน สินค้าเถื่อนทุกชนิด รวมถึงของหนีภาษี ยาเสพติด ที่สำคัญ องค์การนี้รับจ้างฆ่าคน !

กริชชอบใจในฝีมือยิงปืนของลุยที่แม่นราวจับวาง ตำแหน่งของลุยเมื่อมาอยู่กับกริชจึงเป็น “มือปกาสิต” ซึ่งก็คือ “มือปืนอาชีพ” นั่นเอง

องค์การ ยังมีผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า (ทองขาว ภัทรโชคชัย) , เทียว สิบทิศ (เบคิม ฤทธิ์), ศักดา ปาฏิหาริย์ (ประกาศิต โบสุวรรณ) , และ ปกาศิต จอมพลัง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) จอมบงการหัวหน้าใหญ่

ลุยทำงานให้ กับองค์การอย่างดีเสมอมา ที่องค์การลุยมีโอกาสพบกับ สร้อยคีรี (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) อดีต คนรักเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นถึงกลุ่มผู้นำหญิงคนหนึ่ง ความรักในอดีตไม่สมหวังเพราะลุยรู้สึกตัวด้อยค่าจึงปล่อยให้สร้อยคีรีชอบพอ กับเพื่อนรักอีกคนหนึ่งของเขา ทันทีที่พบหน้ากันลุยกับสร้อยคีรีตระหนักว่ายังคงมีความรักและผูกพันระหว่าง กันเพียงใด สร้อยคีรีแอบช่วยเหลือลุยในหลายเรื่อง ไทรงามเองก็สังเกตเห็นและนึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เพราะเคยรู้ว่าสองคนนี้รักกันมากเพียงใด หากแต่ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ลุยกับสร้อยคีรีจึงตกลงจะเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

ผลงานและ ความจงรักภักดีของลุยต่อองค์การนับว่าน่าพอใจ แต่เมื่อลุยได้รู้ว่าไทรงามตั้งท้อง เขาเริ่มคิดอยากกลับตัวเป็นคนดีอยากถอนตัว ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้า ทอม (ด.ช.เขมะ วิถี) ลูกชายสุดที่รัก ลุยก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องการวางมือจากอาชีพนี้โดยเร็ว แต่เขาก็ถูกนายทั้งหลายต่อรองเรื่อยมา พร้อมๆ กับสร้อยคีรีเองก็เฝ้าเตือนเขาไม่ให้แสดงตัวว่าจะทำตัวออกห่างองค์การนัก เพราะเธอรู้ว่าลุยจะต้องได้รับอันตรายแน่นอน

จนทอมอายุได้ 5 ขวบ ลุยมีโอกาสช่วยเหลือ แวววัลย์ (แพร เอมเมอรี่) เด็กสาววัยรุ่นกำพร้าใจแตกจากเงื้อมือของอันธพาล แวววัลย์มีอดีตที่ไม่น่าจดจำ พ่อแม่ของเธอแยกทางกัน แม่หนีไปกับชู้หนุ่มคนใหม่ ส่วนพ่อถูกฆ่าตายจากการเข้าสู่วงการเมืองได้ไม่นาน แวววัลย์หลงรักลุยและชื่นชมมากเข้ามาเป็นเพื่อนเล่นกับ ทอม อยู่บ่อยๆ

ตอน แรกลุยไม่สบายใจที่แวววัลย์เข้ามาสนิทสนมเพราะกลัวไทรงามไม่สบายใจ แต่เมื่อทราบถึงอดีตของแวววัลย์ ลุยถึงกับต้องผงะ เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วแวววัลย์เป็นบุตรสาวของเหยื่อกระสุนของเขาในอดีตใน ยุคแรกๆ ที่เริ่มทำงานให้กับองค์กร ทำให้ลุยรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นเมตตาแวววัลย์เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งแวววัลย์เข้าใจดีและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ เธอเข้ามาอยู่เป็นเหมือนคนในครอบครัวของลุย เป็นพี่สาวของทอม

ลุยไม่ อยากขัดแย้งกับนายใหญ่ขององค์การ เขาจำต้องยอมรับงานฆ่านักการเมืองทุจริตคนหนึ่งจากองค์การ แต่งานนี้เองที่ลุยต้องเสียใจมากที่สุด เพราะเขาพลั้งมือลั่นกระสุนใส่เด็กสาวคนหนึ่งที่นักการเมืองคนนี้แอบล่อลวง มาจากผับ และทันทีที่พลิกร่างเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา กลับกลายเป็น แวววัลย์ ที่เผลอเข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุโดยไม่รู้ตัว !

ลุยแทบคลั่งด้วยความ เสียใจ…เขาไม่ตั้งใจจะดับชีวิตเด็กสาวคนที่ตัวเองฆ่า พ่อเธอเลย ลุยรู้สึกผิดในใจอย่างมาก เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะวางมือโดยเด็ดขาด เขาทำจดหมายแจ้งองค์การว่าต้องการลาออกและสัญญาว่าจะเก็บรักษาความลับ ทุกอย่างขององค์การไว้ แต่กริชไม่สนับสนุนการตัดสินใจของลุยเพราะรู้ดีว่าองค์การไม่เคยปล่อยให้ใคร เลิกอาชีพนี้ การออกจากองค์การทำได้เพียงสถานเดียวคือ..จบชีวิต !

กริช กับ เดือน แรมกล้า (ดนัย สมุทรโคจร) เพื่อนรักของลุยและ สร้อยคีรี พยายามคัดค้าน แต่ลุยตัดสินใจแน่วแน่ เขาพาเมียและลูกหนีไปประจวบเพื่อสร้างชีวิตใหม่ด้วยกัน โดยความช่วยเหลือของ สร้อยคีรี ที่หลอกล่อจนเหล่าเจ้านายขององค์การตายใจ ปล่อยให้ลุยหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

เมื่อลุยหนีไป ปกาศิต จอมพลัง สั่งให้ลูกน้องในองค์การออกล่าตัวพร้อมๆ กับจับตัวเดือนเพื่อนรักของลุยมาเพราะเชื่อว่าเดือนรู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ ไหน เดือนถูกซ้อมอาการสาหัสแต่เพราะความรักเพื่อนทำให้เดือนยอมทนเจ็บปิดปาก เงียบ ปกาศิตโกรธมากจะเล่นงานเดือนถึงตาย แต่ลูกน้องคนหนึ่งของปกาศิตบังเอิญคุยกับบอย (ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ — ตอนเด็ก / พลูภัทร อัตถปัญญาพล – ตอนโต) แล้วได้ข้อมูลว่า คนที่มารับทอมลูกของลุยคือ ไทรงาม และ ย้อย ศรีไทย เดือนจึงถูกปล่อยตัว และเป้าหมายของปกาศิตเปลี่ยนเป็นย้อยทันที

ย้อยเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ ลุยไว้ใจ เขากับเดือนเป็นเพียง 2 คนที่รู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ไหน เงินจากองค์การไม่สามารถทำให้ย้อยพูดถึงลุยได้ การใช้กำลังก็ไม่ได้ผล แต่การขู่ฆ่าเมียรักทำให้ย้อยจำต้องสารภาพหมดเปลือก !

แคล้ว ถูกส่งไปเก็บลุยที่ประจวบฯ แต่ด้วยฝีมือของลุยที่เหนือชั้นกว่าทำให้เขารอดและแคล้วกลายเป็นศพเสียเอง ก่อนตายลุยเค้นความจริงจากแคล้วแล้วก็ต้องแค้นใจอย่างมากเมื่อแคล้วกลับ สารภาพว่าคนที่บอกที่อยู่ของลุยคือ เดือน แรมกล้า เพื่อนรักของเขา !

ความ จริงผิดๆ ที่แคล้วพูดส่งเดชทำให้ลุยคิดว่าเดือนเป็นเพื่อนทรยศ ลุยรีบพาลูกเมียหนีไปชุมพร และวันรุ่งขึ้นก็ขึ้นเหนือเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยเพื่อให้องค์การไขว้เขว ชีวิตสงบสุขอย่างที่ลุยต้องการดูจะไกลห่างเสียแล้ว

ปกาศิตหงุดหงิดใจ อย่างมากที่ลุยรอดไปได้ เขาสั่งให้กริชไปจัดการลุยด้วยตัวเอง แต่กริชไม่ทำตาม ปกาศิตโกรธมาก ถ้าไม่ติดเรื่องผลประโยชน์ที่ต้องพึ่งพากันปกาศิตคงฆ่ากริชไปแล้ว

แต่เมื่อทำไม่ได้ ปกาศิตจึงเปลี่ยนเป็นเนรเทศกริชไปประจำการสาขาองค์การที่ฮ่องกงแทน

ก่อน ไปต่างประเทศกริชชวนเดือนไปตามหาลุยเพื่อจะเตือนเขา บอยคิดถึงทอมจึงขอตามพ่อไปด้วย กลุ่มของกริชคลาดกับลุยไปนิดเดียว คนที่ตามลุยเจอกลับเป็นคนของ เทียว สิบทิศ !

เทียวให้คนตามกริชมา ตั้งแต่กรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่ากริชต้องรู้ที่ซ่อนของลุย แม้กลุ่มของกริชจะคลาดกับลุย แต่ลูกน้องของเทียวปะทะกับลุยแบบเต็มๆ อดีตมือสังหารอย่างลุยเป็นฝ่ายชนะ ลุยตัดสินใจว่าเมื่อภาคใต้ไม่ปลอดภัย เขาจะย้ายไปทางเหนือแทน…

ลุยพาครอบครัวมาลงหลักปักฐานที่จอมบึง ราชบุรี โดยความช่วยเหลือจาก บุปผา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) กำนันหญิงกร้าว…เพื่อนเรียนของไทรงาม บุปผาช่วยเหลือทั้งเรื่องที่อยู่และที่ทางทำมาหากินให้กับทั้งคู่ หลายเดือนแล้วที่ไม่มีคนขององค์การมาตามล่า พวกเขาอยู่กันอย่างสุขใจ ลุยทำไร่ทำสวน เลี้ยงม้า ทำตัวเป็นชาวไร่เพื่อไม่ให้ชีวิตว่างโดยเปล่าประโยชน์

แต่เมื่อ อันตรายจากองค์การทุเลาเบาบางไป ชีวิตลุยกลับหนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิงเข้ามาผูกพัน ด้วยความแข็งแกร่งเกินหญิงของกำนันบุปผา ทำให้เธอเริ่มระหองระแหงกับ อัสนี (ภาณุ สุวรรณโณ) หนุ่มชาวบ้านที่ชอบพอกันมานานแล้ว อัสนีเป็นเหมือนหนุ่มที่ชีวิตพบแต่ความล้มเหลว ซึ่งต่างจากแฟนสาวโดยสิ้นเชิง ลุยเห็นปัญหานี้จึงพยายามช่วยเหลือให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน แต่กาลกลับทำให้อัสนีเข้าใจผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับลุยอย่างเปิดเผย…แม้บุปผาจะอธิบายยังไงอัสนีก็ไม่ฟัง

ครอบ ครัวลุยมีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 คนคือ ประดู่ (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) เด็กสาวกำพร้าที่มาอ้อนวอนขออยู่ด้วย ประดู่พูดได้แต่ไม่มีเสียงฟังทุกอย่างเข้าใจ เด็กสาวขยันช่วยเหลืองานบ้านงานเรือนทุกอย่าง และเป็นเพื่อนเล่นกับทอมได้เป็นอย่างดี

ลุยบริจาคเงินจำนวนหนึ่ง สร้างวัด โรงเรียน โรงพักตำรวจฯ และบริจาคให้การกุศลมากมาย ไทรงามรู้ดีว่าลุยต้องการสร้างกุศลเพื่อทดแทนความเลวร้ายที่เคยทำมา สร้างความประทับใจให้กับกำนันบุปผาเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันก็สร้างความไม่พอใจให้กับอัสนีด้วยเช่นกัน

ความใจบุญ ทำให้ลุยเป็นที่รักของทุกคนละแวกนั้น เขาได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อจอมบึง นักบุญปืนไว” เพราะครั้งหนึ่งลุยไปช่วยกำนันบุปผาและตำรวจปราบโจรกระเหรี่ยง ที่บุกเข้ายึดโรงพัก แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ชีวิตของลุยพลิกผันเพราะอัสนีแอบถ่ายภาพไปลงข่าว หนังสือพิมพ์ ! เพราะเริ่มสงสัยว่าลุยกำลังปิดปังสถานะที่แท้จริงกับใครบางคนอยู่ !

เช้า วันหนึ่งไทรงามจะไปส่งทอมที่โรงเรียนเพราะลุยป่วยเป็นไข้ แต่เมื่อไทรงามสตาร์ทรถเกิดเสียงระเบิดบึ้ม ! ไฟลุกท่วมรถ ! ลุยสะท้านไปทั้งร่างเมื่อเห็นบุคคลที่รักตายไปต่อหน้าต่อตา ลุยไม่โวยวาย เสียงเขาแหบหายมีเพียงน้ำตาเท่านั้นหลั่งออกมา

ประดู่เข้าใจความ รู้สึกของลุยดี ครั้งหนึ่งเธอเคยเสียใจอย่างเขามาแล้ว…ประดู่เป็นกำพร้าบ้านถูกโจรปล้น พ่อของเธอถูกยิง แม่และพี่ถูกเรียงคิวข่มขืนก่อนจะถูกไฟครอกตาย เพราะความสูญเสียครั้งนั้นทำให้ประดู่ร้องไห้สุดเสียง…ร้องจนเสียงหมดจน ถึงปัจจุบัน

ลุยหนีออกมาจากราชบุรีโดยไม่ร่ำลาบุปผาเลย…

ลุย เลือกแก้แค้นจองล้างจองผลาญ คนแรกที่ลุยบุกเข้าไปจัดการคือ เดือน เพื่อนรักของเขาซึ่งเชี่ยวชาญการใช้ระเบิด ลุยฆ่าเดือนโดยไม่ฟังคำอธิบายและรับบอยไปเลี้ยงเป็นลูก บอยรับรู้เพียงว่าพ่อเดือนตายด้วยน้ำมือของคนที่ฆ่าป้าไทรงามกับทอม

เมื่อหายโศกเศร้าเสียใจแล้ว บอยเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ลุยแทบล้มทั้งยืน…

เด็ก ชายเล่าว่า เทียว สิบทิศ มาหาเดือนเพื่อบังคับให้ไปจัดการลุย โดยให้ เด็ด (จักรกฤษณ์ คชรัตน์) ลูกน้องคนสนิทซ้อมพ่อทรมานสารพัด แต่เดือนไม่ยอมทรยศลุยเพื่อนรัก ขรรชัย อินทรีย์ (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ลูกน้องเทียวจึงอาสาทำงานแทน โดยรื้ออุปกรณ์จุดระเบิดไปจากโต๊ะเดือน

สิ่ง ที่บอยเล่าทำให้หัวใจลุยแทบหยุดเต้น เดือนไม่ได้เป็นเพื่อนเลว…แต่เขาต่างหากที่เลว ! เขาฆ่าเพื่อนรักได้ลงคอ… ลุยแค้นใจสาบานกับตัวเองว่าจะจองล้างจองผลาญคนทั้งสาม รวมทั้งผู้ยิ่งใหญ่ในองค์การทั้งหมดเพื่อเป็นการชดเชยให้ ไทรงาม ทอม และเดือน

ปฏิบัติการจองเวรของลุยเริ่มต้นขึ้น เด็ดถูกลุยส่งวิญญาณไปนรกคนแรก ตามด้วยขรรชัย ลุยเผาทั้งคู่เหมือนกับที่พวกมันทำกับไทรงามและทอม…ส่วน เทียว สิบทิศ ลุยได้ สร้อยคีรี อดีตคนรักเก่าให้ความช่วยเหลือ จึงจัดการกับเทียวได้อย่างง่ายดาย

เหลือคนที่ลุยต้องจัดการอีก 3 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า, ศักดา ปาฏิหาริย์ และปกาศิต จอมพลัง…

วัน หนึ่งลุยบังเอิญเจอกับ ปกาศิต จอมพลัง ที่ห้างสรรพสินค้าขณะพาลูกสาวไปซื้อของเล่น เขามีโอกาสฆ่าปกาศิตแต่ลุยทำไม่ลง เพราะปกาศิตกอดลูกสาวแน่น หนำซ้ำเด็กหญิงยังส่งยิ้มแสนบริสุทธิ์ให้อีกด้วย ลุยจึงปล่อยปกาศิตและไปเริ่มชีวิตใหม่ที่เกาะริมฝั่งภาคตะวันออกตามคำชวนของ สร้อยคีรี ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเหมือนคู่ชีวิตคนใหม่ของเขาไปแล้ว

อดีต สามีที่เสียชีวิตไปแล้วของสร้อยคีรีเป็นเพื่อนรักกับลุย สร้อยคีรีเป็นที่ปรึกษาพิเศษขององค์การ มีความสามารถในใช้เสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงทำงานหลายอย่างจนสัมฤทธิ์ผล สร้อยคีรีชวนลุยไปเป็นหุ้นส่วนโรงแรมบนเกาะแห่งนั้น

ลุยไปพบ ฟางแก้ว (มรกต กิตติสาระ) เจ้าแม่ผู้อิทธิพลแถบ ตะวันออกเพื่อขอพึ่งบารมี ทันทีที่เห็นหน้าลุย ฟางแก้วถึงกับพึงพอใจในความเป็นนักเลงกล้าหาญ แต่ลุยไม่มีจิตใจคิดถึงความรัก ความเศร้าภายในจิตใจยังคงตอกย้ำทำให้เขาตกอยู่ในห้วงของความเศร้าอยู่ไม่ คลาย

ฟางแก้วแสร้งทำเป็นไม่ไว้ใจลุย ยื่นข้อเสนอให้เขายอมมาเป็นมือขวาของเธอเพื่อสร้างอิทธิพลและเป็นศัตรูกับ องค์การอย่างถาวร ซึ่งความจริงแล้วเธอต้องการสนิทสนมกับลุยให้มากขึ้นกว่านี้ ซึ่งกลายเป็นประเด็นความโกลาหลในความรักระหว่าง ฟางแก้ว ลุย และ สร้อยคีรี ท่ามกลางอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้จากองค์การฯ

หลังจากประลองความ เป็นหญิงไปได้พักใหญ่ ระหว่างฟางแก้วกับสร้อยคีรีจึงยอมยุติศึกชิงนายชั่วคราว เมื่อตระหนักว่าทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกันคือองค์การ ทั้งสามคนร่วมมือกันเก็บ ศักดา ปาฏิหาริย์ ขณะมาเที่ยวที่เกาะ เพื่อให้ชีวิตสงบสุขของลุยสามารถดำเนินอยู่ได้ต่อไป !

หลังจากนั้น เป็นต้นมา…ฟางแก้วยอมหลีกทางสร้อยคีรี ลุยกับสร้อยคีรีจึงสามารถดำเนินกิจการโรงแรมได้ราบรื่น โดยมีฟางแก้วเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง แต่ยังไม่วายก่อสงครามกุหลาบแย่งชิงลุยมาเป็นคนรักระหว่างกันอยู่เนืองๆ แต่ไม่รุนแรง

สิบปีผ่านไป…เกาะแห่งนั้นเจริญมากขึ้น บ้านพักริมทะเลถูกดัดแปลงเป็นที่พักตากอากาศโก้หรู โรงแรมขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และแน่นอนว่ารีสอร์ทหรูหราที่สุดในย่านนั้น “ไข่มุกตะวันออก” เป็นของลุยและสร้อยคีรี นั่นเอง

ขณะนี้ลุยทำธุรกิจโรงแรมอย่างเต็ม ตัว ออกเดินทางรอบโลกไปกับกริชอยู่บ่อยๆ โดยยังระวังตัวจากองค์การเพราะไม่อยากมีเรื่องและเบื่อหน่ายการตามล่าชีวิต ระหว่างกันเต็มทนแล้ว

ลุยสนับสนุนบอยให้เรียนต่อการโรงแรม ปัจจุบันบอยดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่ไข่มุกรีสอร์ท รับผิดชอบบริหารรีสอร์ทแทนลุยได้อย่างเต็มตัว โดยมีผู้ช่วยสาวแสนสวยคือ ประดู่ เพื่อนสาวที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย โดยบอยไม่รู้เลยว่าด้วยความผูกพันทำให้ประดู่หลงรักบอย อย่างเต็มหัวใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้บอยมีความสุขได้

นอกจากบอยจะไม่รู้ว่าประดู่หลง รักแล้ว ยังทำเหมือนเธอเป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าน้องสาวทักทายและใกล้ชิดแบบถึงเนื้อ ถึงตัวอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้ประดู่ขัดใจมากที่สุด เห็นจะเป็นกรณีที่บอยพยายามจะยัดเยียดเธอให้เป็นแฟนกับ องศา (เขตต์ ฐานทัพ) เพื่อนนายแพทย์หนุ่มอายุเท่ากัน บุคคลิกคร่ำเคร่งเต็มไปด้วยความเชย หากแต่จิตใจเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี

ทั้งสามคนออกเที่ยวด้วยกัน บ่อยครั้ง บอยพยายามสร้างเรื่องจะทำให้ประดู่ชอบองศาให้ได้ แต่เหตุการณ์ทุกครั้งกลับทำให้บอยกับประดู่ต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนจึงดูอลเวงอยู่ไม่น้อย

เมื่อลุยออกเดินทาง ไปโปรโมทโรงแรมรอบโลก เขาสั่งเสียบอยว่าอย่าเพิ่งมีครอบครัว…ถ้าศัตรูอีก 2 คนยังไม่เลิกตามราวี เพราะลุยไม่อยากให้บอยมีชีวิตครอบครัวที่เศร้าเหมือนตัวเอง

แต่ดู เหมือนบอยจะทำในสิ่งที่ลุยเตือนไม่ได้ เขารู้สึกถูกชะตา น็อท (แซมมี่ เคาว์เวล) ลูกค้าสาวสวยของไข่มุกรีสอร์ทที่เดินทางมาพักพร้อมกับ เมธา (พีรวิชญ บุนนาค) คู่หมั้น ในตอนแรกห้องพักของรีสอร์ทเต็มหมด แต่พอบอยได้เจอน็อท เขายินดีให้เธอกับเมธาไปพักที่ห้องชุดส่วนตัว แถมลดราคาให้เป็นพิเศษ ตัวน็อทเองรู้สึกดีกับบอยตั้งแต่แรกเห็น ความสุภาพของบอยยิ่งทำให้หญิงสาวสบายใจที่จะพูดคุยด้วย

วันนั้น…บอยจึงรู้ว่าน็อทถูกพ่อบังคับให้มาเที่ยวกับคู่หมั้น คนที่เธอไม่ได้รักเลยสักนิด !

เมธา เป็นลูกชายของ ศักดา ปาฏิหาริย์ หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ขององค์การที่ตายไปแล้ว ความเป็นลูกเจ้าพ่อทำให้เมธาเป็นนักเลงชอบวางอำนาจ น็อทเบื่อเต็มทนกับการอยู่กับผู้ชายอย่างเมธา เธอยังไม่ได้มีอะไรกับเขาจึงเกลียดมากเวลาที่เขาแสดงความเป็นเจ้าของเธอออก นอกหน้า

น็อทอยากหนีไปให้ไกลๆ จึงหลอกให้เมธากลับไปกรุงเทพฯ เพื่อไปเอาของให้เธอ ส่วนเธอเองถือโอกาสนี้ไปล่องเรือเล่นกับบอย…

บอย ยินดีและเต็มใจอย่างมากที่จะพาน็อทไปเที่ยว เขาพาหญิงสาวไปยังหาดทรายแก้วเกาะส่วนตัวของลุยที่ไม่มีใครรู้จัก มนต์เสน่ห์ของทะเลสวยงามสะกดให้ทั้งคู่รักกัน ทั้งสองกลับไปที่ รีสอร์ทด้วยความสดชื่น แต่ก็ยังแฝงความกังวลใจ…บอยรู้สึกผิดที่ไปแย่งคู่หมั้นเมธา แต่เมื่อหัวใจเรียกร้อง เขาก็ยากจะต้านทาน

เมธาหัวเสียอย่างมากเมื่อ กลับมาถึงโรงแรมแล้วไม่เจอคู่หมั้น เขาหึงหวงบอยแทบบ้าแต่เก็บอาการไว้ เมธาสังเกตแววตาของน็อทและบอยที่มองกันบ่อยครั้ง มั่นใจว่าหัวใจของน็อทตอนนี้เป็นของบอยไปแล้ว

เมธาโกรธมากประกาศกลาง งานเลี้ยงว่าบอยเป็นคนเลวแย่งคู่หมั้นเขาไปอย่างหน้า ไม่อาย เมธาท้าให้บอยสู้กับตนอย่างลูกผู้ชาย บอยจำต้องรับคำท้าเพื่อไม่ให้ใครมองว่าเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ อ่อนแอ…วันรุ่งขึ้นบอยใช้ศิลปมวยไทยต่อสู้กับเมธาอย่างดุเดือด แน่นอนว่าพลังแห่งความรักมีอานุภาพมากกว่าพลังแค้น เขาชนะเมธาขาดลอย

เมธา ได้รับบาดเจ็บ น็อทจำต้องพาตัวเขากลับกรุงเทพฯ พร้อม ทองเพชร เหล็กกล้า แขกผู้ไม่ได้รับเชิญของโรงแรม ตอนนี้ทองเพชรมีกิจการทัวร์ใหญ่โต เขาสืบจนรู้ว่าสร้อยคีรีคือหุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ทไข่มุกตะวันออก ทองเพชรแปลกใจมากเมื่อได้เห็นบอย เพราะเขาจำได้ดีว่าบอยคือลูกของเดือนที่ลุยเก็บไปเลี้ยง

ทองเพชรเอา เรื่องไปเล่าให้ปกาศิตฟัง ทั้งสองเชื่อมั่นว่าสร้อยคีรีหักหลังองค์การและเป็นพวกเดียวกับลุย เขาต้องหาทางทำให้ลุยโผล่ออกมาให้ได้ สำหรับเรื่องของน็อท ปกาศิตจัดการให้น็อทเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของเมธา งานแต่งจะจัดขึ้นในปลายเดือน หญิงสาวตกใจอย่างมาก แม้จะทัดทาน อย่างไรก็ไม่ได้ผล

น็อทเสียใจมากหนีกลับไปหาบอยที่เกาะ สร้อยคีรีรู้ว่าน็อทเป็นลูกสาวปกาศิตศัตรูเก่าของลุยจึงเตือนบอย แต่ความเกลียดชังของคนในรุ่นพ่อไม่ได้ทำให้สองหนุ่มสาวหวั่นไหว ความรักทำให้ทั้งคู่เปิดเผยกายและใจกันอย่างลึกซึ้ง โดยประดู่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดทุกอย่าง แต่เธอจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพื่อ บอย คนที่เธอรัก

ปกาศิตโกรธ มากเมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนรักกับลูกของศัตรู เขากับทองเพชรส่งคนไปเก็บเจ้าแม่ฟางแก้วและสร้อยคีรีก่อนที่ลุยจะกลับมา ความแค้นของลุยกลับมาคุกรุ่นอีกครั้งเมื่อพบว่าสร้อยคีรีและฟางแก้วถูกฆ่า ตายอย่างทารุณ หลักฐานมีดที่ทิ้งไว้ทำให้เขารู้ทันทีว่าคนที่ลงมือคือใคร

ลุย นำมันกลับไปคืนให้ ทองเพชร เหล็กกล้า ด้วยตัวของเอง ลุยปลิดชีวิตของทองเพชรโดยไม่ยาก เขาโทรศัพท์ไปหาปกาศิต…ประกาศว่าเขากลับมาแล้ว และกำลังจะทวงหนี้ชีวิตด้วยชีวิต

ปกาศิตเริ่มหวาดวิตก…เพราะเหลือ เพียงตัวคนเดียว ตัวการใหญ่ขององค์การเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังรอดชีวิต ปกาศิตวางแผนร้ายขอร้องให้น็อทพาบอยมาพบ โดยอ้างว่าเขากับลุยมีเรื่องเข้าใจผิดกันหลายอย่าง บอยเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้ลุยกับเขาเข้าใจกันได้

ลุยวางแผนจัดการ ทุกอย่างในชีวิต แบ่งมรดกให้บอยและประดู่ กริช ลมกรดรับรู้เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจึงกลับมาจากฮ่องกงเพื่อช่วยจัดการ ปัญหาทุกอย่าง แต่แล้วขณะที่ลุยสารภาพกับกริชว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเดือนตายด้วยความเข้าใจผิด บอยบังเอิญมาได้ยินเข้า !

บอยเสียใจและแค้นใจมากเมื่อทราบว่าคนที่ตนเองเคารพรักกลายเป็นคนที่ฆ่าพ่อ จิตใจของบอยยามนี้มีทั้งความรักและความแค้น…

บอย ตัดสินใจเด็ดขาดจะฆ่าลุยเพื่อแก้แค้นแทนพ่อ เขาบุกเข้าไปหาลุยด่าว่าสารพัด กริชเข้ามาห้ามและชี้แจงให้ฟังว่าลุยฆ่าเดือนเพราะความเข้าใจผิด แต่บอยก็ไม่ฟังเสียง เขาเล็งปืนไปยังลุยที่นั่งสงบนิ่ง ยินดีให้บอยยิงเขาให้ตาย

บอยตัดสินใจลั่นไกปืน ! แชะ !! ปืน นั้นไม่มีกระสุน บอยคลานเข้าไปก้มลงกราบแทบเท้าลุย…บอกว่าคนที่เขาเหนี่ยวไกปืนยิงไปเมื่อ ครู่นี้คือคนที่ฆ่าพ่อ เขาได้ล้างแค้นให้พ่อแล้ว ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขณะนี้คือคนที่มีพระคุณยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

รุ่ง เช้า…เมื่อ ลุย บอย กริช เดินออกมาจากบ้านกลับถูกพวกของ ปกาศิต จอมพลัง และกลุ่มสมุนซึ่งมาซุ่มอยู่ระดมยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บอยรับอาสาฝ่ากระสุนปืนออกจากพวกเหล่าร้ายเพื่อไปเพื่อแจ้งตำรวจ แต่ก็ไปไม่รอด…บอยถูกเมธาซัดด้วยปืนสลบเหมือด

ลุยถูกยิงอย่างไม่มี ทางสู้ จึงใช้อุบายล่อให้พวกเหล่าร้ายบุกเข้ามาในบ้าน รอบบ้านของลุยเต็มไปด้วยระเบิดชนิดร้ายแรงสามารถถล่มพวกเหล่าร้ายทั้งหมดภาย ในพริบตาเดียว

ลุยกับกริชกระโดดหลบลงมาจากบ้าน แต่กริชโชคร้ายถูกกระสุนของปกาศิตคว่ำไป ลุยบ้าเลือดปักหลักยิงโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง… แต่ลุยพลาดถูกปกาศิตและเหล่าร้ายรุมยิงพรุนไปทั้งตัว ร่างของลุยลอยหมุนคว้างลงไปฟุบใกล้ๆ กับบอยซึ่งนอนสลบอยู่ ปกาศิต จอมพลัง กับสมุนโจรนับร้อยต่างโห่ร้องด้วยความยินดีที่พิชิตลุยลงได้

ด้วยลม หายใจเฮือกสุดท้าย…ลุยตะกายร่างคว้าปืนที่ตกอยู่ข้างๆ บอย เล็งยิงไปที่สวิชต์ลับซึ่งเป็นที่รวมของชนวนระเบิดที่ตนเองฝังไว้…

ด้วยวิญญาณของนักสู้ก่อนจะสิ้นลม…ลุยยิงเข้าไปที่กลางสวิชต์ระเบิด บ้านระเบิดแหลกลาญไปพร้อมกับชีวิตชั่วร้ายของ ปกาศิต จอมพลัง

การจบชีวิตลงของลุยและปกาศิตทำให้องค์การลับต้องล่มสลายลงไป

บอยกับน็อทหลังจากคลายจากความเศร้าโศกเสียใจแล้วจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน

ประดู่กับหมอองศาพบรักและยอมรับหัวใจซึ่งกันและกัน หลังจากผ่านเหตุการณ์อันตรายและความเศร้าโศกมาด้วยกัน

พวกเขาทั้งสี่คนตั้งใจจะใช้อดีตอันเลวร้ายของผู้มีพระคุณ เป็นเรื่องสอนใจให้กับตัวเองในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป

ความเลวร้ายและเวรกรรมมีอยู่จริงบนโลก…ไม่ช้าก็เร็วมันจะตามมาสนองตอบต่อผู้กระทำ ความดีงามต่างหาก…ที่จะยืนยงคงอยู่ตลอดไป

รายชื่อนักแสดงละึคร ลุย
วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทเป็น ลุย หล่มสัก
แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบทเป็น สร้อยคีรี
ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม รับบทเป็น ไทรงาม
พล พูลภัทร อรรถปัญญาพล รับบทเป็น บอย
แซมมี่ ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ รับบทเป็น น็อท
เขตต์ ฐานทัพ รับบทเป็น หมอองศา
ธันย์ชนก ฤทธินาคา รับบทเป็น ประดู่
แพร เอมเมอรี่ (แพร) รับบทเป็น แวววัลย์
อคัมย์ศิริ สุวรรณสุข รับบทเป็น กำนันบุปผา
ภาณุ สุวรรณโณ รับบทเป็น อัสนี
มรกต กิตติสาระ รับบทเป็น ฟางแก้ว
พีรวิชญ์ บุนนาค รับบทเป็น เมธา
ดนัย สมุทรโคจร รับบทเป็น เดือน แรมกล้า
อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบทเป็น กริช ลมกรด
โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบทเป็น ปกาศิต จอมพลัง
ทองขาว ภัทรโชคชัย รับบทเป็น ทองเพชร เหล็กกล้า
เบคิม ฤทธิ์ รับบทเป็น เทียว สิบทิศ
ประกาศิต โบสุวรรณ รับบทเป็น ศักดา ปาฎิหาริย์
ภูธฤทธิ์ พรหมบรรดาล รับบทเป็น ขรรชัย อินทรีย์
จักรกฤษณ์ คชรัตน์ รับบทเป็น เด็ด
ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ รับบทเป็น บอย (ตอนเด็ก)
ด.ช.เขมะ วิถึ รับบทเป็น ทอม
เลิศพร อารยะโกศล รับบทเป็น สถิตย์
เวนย์ ฟอลโคเนอร์ รับบทเป็น สิงห์

รุ่งทิพย์

มณเฑียร ภูมินทร์ กลับมาจากต่างประเทศก็ไปพักผ่อนที่เกาะด้วยความนิสัยเจ้าชู้จึงไปมีเรื่อง กับโต บ้านบึง นักเลงเจ้าถิ่น ถูกแทงเกือบตาย แต่ได้แก่นแก้วเด็กขายปลาหมึกตามชายหาดช่วยไว้ แล้วพาไปให้ยายพลายรักษา ทำให้มณเฑียรไปรับรู้เรื่องของแก่นแก้วว่าเป็นเด็กกำพร้าถูกแม่ทอดทิ้งไป ก่อนยายพลายตายมณเฑียรรับปากว่าจะดูแลแก่นแก้วให้อย่างดี และจะช่วยตามหาแม่ให้ด้วยถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานแค่แหวนและล็อกเก็ตที่ยายพลาย ให้ไว้ก่อนตาย มณเฑียรกรีดแขนสัญญาว่าจะกลับมาสร้างรีสอร์ทที่นี่เพื่อมารอแม่แก่นแก้วด้วย กัน จึงพาแก่นแก้วกลับกรุงเทพฯเพื่อไปขอเงินอดิศรมาสร้างรีสอร์ทที่เกาะ แต่ถูกอดิศรด่ากลับไปเรื่องเรียนไม่จบ และไม่เอาถ่านของเขา จึงน้อยใจออกจากบ้านกลับไปต่างประเทศทิ้งแก่นแก้วไว้ที่บ้านภูมินทร์ ด้วยความน่ารักและซื่อของแก่นแก้วทำให้อดิศรเอ็นดูให้พะเยาว์คอยสอนมารยาท และส่งเรียนหนังสือ สร้างความไม่พอใจให้กับนงนารถเมียของสิทธิชัยอย่างมาก เพราะยังหึงมณเฑียรอยู่นงนารถเคยเป็นแฟนกับมณเฑียรมาก่อน

แก่นแก้วมักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนของผู้หญิงบ่อยๆ ด้วยความสงสัยจึงลงไปดูและได้พบกับภัคคินีพี่สาวของมณเฑียรที่ป่วยสติไม่ ค่อยดี ภัคคินีเห็นหน้าแก่นแก้วก็เรียกว่ารุ่ง ตั้งแต่นั้นภัคคินีก็เป็นมิตรกับแก่นแก้วมากขึ้น แก่นแก้วจึงเล่าเรื่องแม่ให้ภัคคนีฟัง มณเฑียรหายไปจากบ้าน 3 ปี ไม่ติดต่อกับใครเลยนอกจากแก่นแก้วที่มณเฑียรส่งโปสการ์ดมาให้ทุกอาทิตย์ใกล้ วันงานแซยิดของอดิศรพะเยาว์จึงเตรียมเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้แก่นแก้ว แก่นแก้วจึงเอาแหวนกับล็อกเก็ตมาให้พะเยาว์กับอดิศรดู อดิศรเห็นก็บอกว่าเป็นของตระกูลเทพเทวา ก็ให้พะเยาว์เชิญ ม.ร.ว.ทิพย์มณี เทพเทวา มาร่วมงานแซยิดของอดิศรเห็นแก่นแก้วก็ถูกชะตาชอบมากคอยหาโอกาสมาพบแก่นแก้ว บ่อยๆ หลังงานแซยิด แก่นแก้วถูกลอบทำร้ายบ่อยๆ คนในบ้านก็ถูกข่มขู่ไม่ให้อุปการะแก่นแก้ว มณเฑียรกลับมาจากเมืองนอกเห็นแก่นแก้วเป็นสาวเต็มตัวก็ตะลึงและแสดงให้แก่น แก้วเห็นว่าตลอด3 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้ เพราะเขาซื้อที่ดินที่เกาะยายพลาย เริ่มสร้างรีสอร์ทเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติแล้วพาแก่นแก้วไปดู แก่นแก้วดีใจมากที่มณเฑียรไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้แต่พอกลับกรุงเทพฯเจอยุพาแฟน ของมณเฑียรตอนอยู่เมืองนอกมาหาก็รู้สึกเสียใจ ขณะที่มณเฑียรก็รู้สึกอึดอัดโดยไม่รู้ตัวเองว่าเพราะอะไร แก่นแก้วกลับไปเกาะเจอโต บ้านบึงศัตรูเก่ารุมทำร้าย บุญเห็นเหตุการณ์ก็เข้ามาช่วย กลับถูกรุมอีกคน แก่นแก้วกับมณเฑียรจึงพาไปรักษาตัวที่รีสอร์ท บุญถามหายายพลายพอรู้ว่าแก่นแก้วเป็นหลานก็เล่าเรื่องแม่ของแก่นแก้วให้ฟัง บุญอยู่ที่รีสอร์ทได้ไม่กี่วันก็ถูกพวกโรจน์จับตัวไปถามถึงแม่ของแก่นแก้ว บุญไม่รู้จึงถูกโรจน์ยิงตาย ทิพย์มณีเข้ามาตีสนิทกับนงนารถเพื่อหลอกถามความเคลื่อนไหวของพวกแก่นแก้ว

มณเฑียรเห็นทิพย์มณีมาส่งนงนารถก็สงสัย จึงปรึกษาเรื่องจะสืบเรื่องพ่อแม่ของแก้วจากตระกูลเทพเทวา สิทธิชัยจึงพาเทียนกับแก่นแก้วไปพบอาจารย์ธรรมกิจอดีตทนายประจำตระกูลเทพเท วา แต่ยังไม่ได้เรื่องอะไรมาก ธรรมกิจก็ถูกรถชนตายเสียก่อน มณเฑียรกับแก่นแก้วไปร่วมงานศพก็ได้รับซองเอกสารจากลูกชายของธรรมกิจบอกว่า พ่อฝากไว้ให้แก่นแก้ว เอกสารที่แก่นแก้วได้รับคือม้วนวิดีโอที่ธรรมกิจบันทึกบอกให้แก่นแก้วเก็บ แหวนและล็อกเก็ตไว้ให้ดี และให้ระวังว่าทิพย์มณีที่เห็นอาจเป็นตัวปลอม สิทธิชัยจึงนึกได้ว่ารุ่งคือเด็กที่วังเทพเทวาเพื่อนคอนแวนต์เดียวกับภัคคิ นี แก่นแก้วก็น่าจะเป็นลูกของรุ่งกับ ม.ร.ว.ทิพย์มณีตามที่ธรรมกิจบอกนงนารถใช้มารยาหลอกล่อจนรู้เรื่องธรรมกิจจาก สิทธิชัยแล้วก็หวังจะไปแบ็คเมล์ทิพย์มณี แต่ถูกทิพย์มณีทำร้ายและคอยสืบเรื่องแก่นแก้วมาให้ พรตเชิญแก่นแก้วไปร่วมงานปาร์ตี้ที่บ้าน มณเฑียรพยายามกีดกันอยู่แล้วจึงตามไปด้วย พรตแนะนำทุกคนให้รู้จักกับราศรีแม่เลี้ยงของเขา มณเฑียรเห็นสิทธิชัยก็มีท่าทีสนใจราศรีก็พอใจเพราะอยากให้สิทธิชัยเลิกกับนง นารถ ที่งานปาร์ตี้บ้านพรต แก่นแก้วได้รับเค้กลึกลับส่งมาให้บอกว่าเป็นเค้กครบรอบวันเกิด ม.ล.รุ่งทิพย์ แก่นแก้วมีความสุขมาก มณเฑียรไม่พอใจแก่นแก้วเรื่องพรตจนลืมตัวจะจูบแก่นแก้ว แต่พะเยาว์มาขัดจังหวะเสียก่อน มณเฑียรจึงให้สัญญากับพะเยาว์ว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกจนกว่าจะเคลียร์ตัวเอง ได้

มณเฑียรแน่ใจแล้วว่าโตบ้านบึงทำงานให้กับทิพย์มณี จึงจ้างชาติกับปลิวมาคุ้มกันแก่นแก้วและสอนศิลปะป้องกันตัวให้กับทุกคนใน รีสอร์ท ทิพย์มณีเห็นมณเฑียรคอยช่วยเหลือแก่นแก้วตลอดจึงไปหายุพาให้มาร่วมมือกัน กำจัดแก่นแก้ว ล่อให้แก่นแก้วไปหาที่วังแล้วให้โรจน์กับพวกดักยิงแก่นแก้ว แต่มณเฑียรตามมาช่วยไว้ได้ ยุพาพาพ่อมาพูดกับมณเฑียรเรื่องการแต่งงานแต่อดิศรรู้ว่ามณเฑียรรักแก่นแก้ว แต่ยังไม่รู้ตัวเองจึงช่วยมณเฑียรเลื่อนการแต่งงานออกไปได้ พรตพาราศรีไปที่รีสอร์ทแล้วขอแก่นแก้วกับมณเฑียร แก่นแก้วได้ยินก็เสียใจจึงตอบรับรักพรตเพราะต้องการประชดมณเฑียร แก่นแก้วได้รับจดหมายจากคนที่บอกว่าเป็นแม่อีก มณเฑียรจึงวางแผนจะล่อรุ่งให้ออกมาจึงให้อิศรนัดพบทิพย์มณีแล้วบอกว่าแหวน กับล็อกเก็ตของแก่นแก้วเป็นของจริง ทิพย์มณีจึงยอมรับแก่นแก้วเป็นลูกแล้วจะพากลับไปอยู่วัง แต่แก่นแก้วขออยู่เคลียร์งานรีสอร์ทอก่อน ทิพย์มณีกับโรจน์งงกับการกระทำของแก่นแก้ว แต่ก็มารู้ความจริงจากนงนารถว่าเป็นแผนล่อรุ่งออกมาจึงส่งเสริมศรีปลอมเป็น รุ่งไปหาแก่นแก้ว จนแก่นแก้วเชื่อแอบหนีไปอยู่ด้วย จึงติดกับดักทิพย์มณีและโรจน์ แต่มณเฑียรก็ตามไปช่วยไว้ได้

ยุพาเริ่มรุกเรื่องการแต่งงานกับมณเฑียรมากขึ้นและรู้ว่ามณเฑียรพยายามบ่าย เบี่ยง จึงไปต่อว่ากับแก่นแก้ว พอราศรีกับพรตมาขอแต่งงานแก่นแก้วจึงตอบตกลง ภัคคินีเห็นหน้าราศรีก็ช็อคถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลและถามถึงราศรีตลอด มณเฑียรโกรธจะกลับไปรีสอร์ทแก่นแก้วจึงบอกที่เธอรับปากแต่งงานกับพรต เพราะยุพามาต่อว่าเธอเป็นตัวถ่วงของมณเฑียร มณเฑียรจึงประกาศต่อหน้าบอกรักแก่นแก้วทุกคนในบ้านและไปบอกเลิกยุพา ยุพาโกรธมากจึงร่วมมือกับทิพย์มณีโยนข้อหาฆ่าเสริมศรีตายให้แก่นแก้ว แก่นแก้วถูกจับมณเฑียรรู้ว่าเป็นฝีมือของยุพาจึงยอมตกลงแต่งงานกับยุพา เพื่อช่วยแก่นแก้วแต่ยุพากับทิพย์มณีเล่นไม่ซื่อจะฆ่าแก่นแก้ว แต่ราศรีส่งยูซุฟมาช่วยแก่นแก้วไว้ และช่วยให้หลุดจากคดีฆ่าเสริมศรีด้วย ราศรีกับพรตมาคุยเรื่องแต่งงานแต่แก่นแก้วขอเรียนให้จบก่อน กำลังจะกลับ ภัคคินีเห็นราศรีจึงวิ่งตัดไปดักหน้ารถพรตเบรคไม่ทันชนภัคคินีสลบ ภัคคินีฟื้นมาพร้อมกับความทรงจำจึงบอกกับทุกคนว่า ราศรีคือรุ่งแม่ของแก่นแก้ว แล้วเล่าให้ทุกคนฟังว่าทิพย์มณีที่เห็นคือ ชัยมงคลแฝดน้องของทิพย์มณี ชัยมงคลฆ่าพ่อและพี่ชายตัวเองและพยายามฆ่ารุ่งและลูกในท้องด้วยเพราะต้อง การสมบัติ เธอเป็นคนช่วยรุ่งให้หนีไปอยู่ฮ่องกงจนได้พบกับภาคย์พ่อของพรต ส่วนอาการป่วยของเธอก็ไม่ได้เป็นเพราะอุบัติเหตุตกหน้าผาตามที่ชัยมงคลบอก แต่ถูกชัยมงคลไล่ยิงจนตกหน้าผาเพราะจับได้ว่าที่เธอยอมเป็นคู่หมั้นเพราะ ต้องการสืบเรื่องทิพย์มณีให้รุ่ง

แก่นแก้วอยากรู้ความจริงจากปากราศรี จึงไปหาที่บ้าน แต่ราศรีไม่ยอมรับว่าแก่นแก้วเป็นลูก แก่นแก้วเสียใจมาก ราศรีวางแผนกับยูซุฟแยกโรจน์และโตออกจากทิพย์มณี จึงส่งหลักฐานการตายของบุญและธรรมกิจให้ตำรวจ โตถูกจับข้อหาฆ่าบุญตายและโรจน์ถูกจับข้อหาร่วมกันฆ่าธรรมกิจ แล้วจ้างคนในคุกใหก่อกวนโรจน์แล้วบอกว่าคนที่วังเทพเทวาจ้างมาโรจน์คิดว่า ทิพย์มณีจะสั่งเก็บตัวเองจึงกลับคำสารภาพยอมรับข้อหาและซัดทอดทิพย์มณีเป็น ผู้จ้างวาน ทิพย์มณีหนีไปกบดานที่บ้านพักชายทะเลของท่านรัฐมนตรีพ่อของยุพา แล้วให้นงนารถล่อแก่นแก้วออกมาจากบ้าน นงนารถจึงแกล้งโทรมาหาแก่นแก้วแล้วบอกจะฆ่าตัวตาย แก่นแก้วเชื่อก็ออกไปช่วยจึงถูกทิพย์มณีจับไป ราศรีตามมาช่วยแก่นแก้วแต่เสียท่าถูกทิพย์มณีจับอีกคน ทิพย์มณีกับยุพากำลังช่วยกันฝังแก่นแก้วและราศรีทั้งเป็นสิทธิชัย มณเฑียรและตำรวจมาช่วยไว้ได้ ยุพาถูกตำรวจจับ ทิพย์มณีถูกยิงตาย พรตไปอยู่เมืองนอก ราศรีมาอยู่ที่รีสอร์ทกับมณเฑียรและแก่นแก้วอย่างมีความสุข

รายชื่อนักแสดงละคร รุ่งทิพย์

1. วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น มณเฑียร
2. จีรนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น รุ่งทิพย์ / แก่นแก้ว
3. เสกสรร ชัยเจริญ แสดงเป็น สิทธิชัย
4. สุวัจนี ชัยมุสิก แสดงเป็น นงนารถ
5. กรรชัย กำเนิดพลอย แสดงเป็น ทิพย์มณี / ชัยมงคล
6. อภิรดี ภวภูตานนท์ แสดงเป็น ราศี / รุ่ง
7. ณหทัย พิจิตรา แสดงเป็น ภัคคินี
8. พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ แสดงเป็น ยุพา
9. ชลิต เฟื่องอารมย์ แสดงเป็น อดิศร
10. ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น พะเยาว์
11. วุฒินันท์ ไหมกัน แสดงเป็น พรต
12. เลิศพร อารยะโกศล แสดงเป็น โรจน์