Tag Archives: วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์

หอ หึ หึ

หอ…หึ หึ เป็นเรื่องราวชีวิตวุ่น ๆ ของนายน้ำมนต์ (ณัฐรัฐ) เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่ชอบเรื่องผี ๆ แต่กลัวผีจนขี้ขึ้นสมอง และสนใจทางไสยศาสตร์ เขาสอบเอ็นทรานซ์ไม่ติดจึงเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนในต่างจังหวัด พร้อมกับกลุ่มเพื่อนใหม่ ชีวิตของทุกคนได้เริ่มต้นผูกพันกันมากขึ้นเมื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นน้องใหม่ ของรั้วมหาวิทยาลัย และต้องใช้ชีวิตเป็นเด็กหอ โดยไม่รู้ว่าเรื่องราวชวนสยองขวัญจนขนหัวลุกกำลังจะเกิดขึ้นใน หอ หึหึ

วันแรกของการเริ่มต้นชีวิตในมหาลัยฯ น้ำมนต์ ได้เจอกับ สาวิตรี (จอมขวัญ) เด็กสาวหน้าตาน่ารัก และจิตใจดีที่กลายมาเป็นคู่กัดกันตั้งแต่งานต้อนรับน้องใหม่ ที่ต่างคนก็ไม่ยอมลงให้กัน แต่ใจจริงแล้วน้ำมนต์แอบชอบสาวิตรีตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็น จึงแสดงออกตรงกันข้าม ด้วยการพูดจาเหน็บแนมเป็นคู่กัดกันตลอด ทุกคนได้มาอยู่หอพักเดียวกันในมหาลัยฯ และได้มาเจอกับ ชายธง (วรฤทธิ์) รุ่นพี่ปี 7 ที่เรียนไม่จบเสียทีจนเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่าง ลัดดา (อิศริยา) (หญิงสาวที่ชอบใส่แว่นกรอบหนา แต่งตัวเชยเฉิ่ม ที่สำคัญเป็นคนซุ่มซ่ามไร้ที่ติ) ที่หลงรักชายธงมาตั้งแต่ปี 1 และกลับมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย เพื่อได้มาใกล้ชิดกับชายธง

น้ำมนต์ต้องพักอยู่ห้องเดียวกับ คำพูน (สุรินทร) เด็กบ้านนอกยากจน ซึ่งกลัวผีเป็นชีวิตจิตใจแต่มีญาณพิเศษสัมผัสที่หกมองเห็นผีได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน ส่วนสาวิตรีก็มีเพื่อนคู่หูอีกสองคนคือ แอนกับจอย ที่ได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ส่วน บริบูรณ์ (เฉลิมพล) ลูกคนรวยเอาแต่ใจชอบดูถูก และรังแกคนอื่นเสมอต้องอยู่ห้องเดียวกับ ยินดี (จักรพันธ์) ที่จะคอยดูแลบริบูรณ์ทุกอย่าง เนื่องจากพ่อของบริบูรณ์เป็นคนออกค่าเล่าเรียนพร้อมค่าจ้างให้มา ดูแลบริบูรณ์ ยินดีจึงจำเป็นต้องเป็นลูกไล่ให้บริบูรณ์เสมอ

เรื่องราวกุ๊กกิ๊กน่ารักกำลังจะไปด้วยดี ถ้าไม่มี นายประสม (สมชาย) ชายวัยกลางคนที่มารับหน้าที่เป็นภารโรงประจำมหาลัยฯ ดูภายนอกแล้วนายประสมเป็นคนมีบุคลิกดี  สุภาพ ขยันขันแข็งน่าไว้วางใจ แต่พิลึกที่ชอบแอบกินหมากจนปากแดง ครั้นพอตกดึกกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน แอบปิดห้องทำพิธีเรียกผีออกมาและมีคาถาอาคมบังคับเหล่าผีร้าย เพื่อให้ยอมรับใช้ตามคำสั่ง จำนวนผีที่ออกมามากมายหลายสิบตน มีทั้ง ผีนางรำ ผีพยาบาล ผีทหาร ผีป๋องซ่าส์ ผีแม่ม่าย ผีปอบ ผีพรายน้ำ ผีเกย์ ผีประเภทสอง ผีเจ้าคุณปู่ ผีเด็ก ผีรุ่นพี่ ผีนางไม้ ผีขนุน ผีน่ารัก ผีดูดเลือด ผีกระสือ ผีกระหัง ผีหัวขาด ผีตายโหง ผีตาโบ๋ ผีทะเล ผีคุณหมอ ผีผู้ป่วย ซึ่งมีมากที่สุด ฯลฯ สร้างความพอใจให้กับประสมอย่างมากเพราะความหลากหลายของผีคงทำให้งานสำเร็จ ด้วยดี เพราะมันมีจุดประสงค์ที่ต้องการให้เหล่าผีนี้ป่วนนักศึกษาและอาจารย์ให้ทุก คนอยู่ไม่ได้ และต้องออกจากมหาวิทยาลัยกันไปในที่สุด ภารกิจนี้นายประสมได้รับว่าจ้างจากนายทุนคนหนึ่งที่ต้องการให้มหา วิทยาลัยขายที่เพื่อมาทำศูนย์การค้า

ตั้งแต่ นั้นเหล่าผีก็ออกทำงาน อาละวาดตามคำสั่งของประสม โดยมีผีโหงพรายที่ประสมเสกขึ้นเพื่อคอยควบคุมผีทุกตัวให้ทำไม่ดี และถ้าผีตนไหนไม่ทำตามคำสั่งของมัน มันจะสะกดวิญญาณไม่ให้ไปผุดไปเกิด แต่ถ้างานสำเร็จแล้วจะทำพิธีส่งไปเกิดเป็นรางวัล ซึ่งก็มีผีที่รู้ดีรู้ชั่วอยู่สี่ตน คือ ผีนางรำ ผีพยาบาล ผีทหารอากาศขาดรัก และผีป๋องซ่าส์ ที่ไม่อยากทำตามคำสั่งของนายประสมเพราะมันเป็นเรื่องที่ผิด และจะเป็นกรรมให้ผุดเกิดในภพที่ไม่ดี แต่ก็ขัดขืนไม่ได้เพราะด้วยอำนาจมหามนต์ที่เหนือกว่าสะกดจนอยู่หมัด

เมื่อเรื่องราวไปถึงท่านอธิการบดีกับ อาจารย์ถมยา (ซึ่งเป็นอาจารย์หญิงวัยใกล้เกษียณเป็นคนที่มีศีลธรรมแต่ ขี้บ่น รักษาแบบแผนแนวปฏิบัติ เวลาเจอผีก็มักจะต้องสั่งสอนผีกันก่อน ทำให้ลูกศิษย์เป็นห่วงว่าผีจะหักคอเสียก่อนจึงต้องเตือนสติพาหนีประจำ) รวมทั้งอาจารย์โซฟี อาจารย์สอนภาษาไทยที่พูดไทยไม่ชัดเอาซะเลย ต่างก็พากันให้ช่วยแก้ไขสถานการณ์ จนกระทั่งอาจารย์ลัดดาที่เกิดจำขึ้นมาได้ว่าเคยเห็นประสมปีนขึ้นไปเหมือนจะ เอาผ้ายันต์สะกดวิญญาณออกจากบานประตู แต่คำพูนบอกว่าเป็นของปลอมเพราะคำพูนมีสัมผัสที่หกเห็นผีเดินผ่านเข้า ผ่านออกสบายใจ อธิการบดีจึงเรียกให้ประสมเข้าพบที่ห้องเพื่อต่อว่าทำไมต้องเอาผ้ายันต์ออก ไป ประสมไม่ตอบแต่กลับพ่นน้ำหมากเข้าใส่หน้าอธิการเพื่อสะกดให้อยู่ใต้อำนาจ  ตั้งแต่นาทีนั้นอธิการก็กลายเป็นสมุนของประสมทันที

น้ำมนต์เริ่มสงสัยประสมและคอยแอบดูพฤติกรรม จนกระทั่งวันหยุดทุกคนกลับบ้านแต่น้ำมนต์กับเพื่อนย้อนกลับมาแอบดูประสม และเป็นจริงอย่างที่น้ำมนต์คิดคือประสมกำลังสะกดคำสั่งให้อธิการไล่นักศึกษา ออกให้หมด แต่อธิการไม่ยอม ประสมจึงเรียกผีทหารให้มาหลอกเพราะอธิการจะกลัวผีในเครื่องแบบมาก อาจารย์และนักศึกษาที่ทนความกลัวไม่ไหวต่างขอลาพักชั่วคราว ต่างเก็บข้าวของหิ้วกระเป๋าจากไป อาจารย์หลายคนก็ถอดใจไม่อยากสอน นักศึกษาบางคนไม่อยากเรียนและลาออกจากมหาวิทยาลัย

เป็นครั้งแรกที่ทุกคนสามัคคีและพร้อมใจกันคิดหาทางออก แต่ชายธงกับลัดดากลับถูกลูกน้องของเสน่ห์จับถ่วงน้ำจนเกือบตาย แต่ในขณะเดียวกันกายทิพย์ของชายธงและลัดดาก็หลุดออกจากร่างและคิดว่าตนเอง ตายแล้วทั้งคู่ ทั้งสองระเหเร่ร่อนจนไปเจอน้ำมนต์กับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่กำลังทำพิธีเรียก ผีนางรำ ผีพยาบาล ผีทหารอากาศ ผีรุ่นพี่ป๋องซ๋าส์ พยายามช่วยกันเพื่อให้กายทิพย์ของชายธงกับลัดดากลับเข้าร่างก่อนที่จะเอา เครื่องช่วยหายใจออกก็จะตายทันที

แต่แล้วทุกคนก็เกือบช็อคเมื่อทั้งคู่ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์แต่ต่างก็ ตกใจเพราะคิดว่าเห็นผีวิ่งหนีกันใหญ่ จนทั้งลัดดาและชายธงพิสูจน์ให้เห็นว่ายังมีชีวิตอยู่ทุกคนจึงดีใจยกใหญ่ ประสมหลังจากถูกเปิดเผยตนเองแล้วก็หนีหลบไปอยู่ห้องลับที่เคยเป็นบังเกอร์ หลบระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการฝึกฌานและอาคมให้เก่งกล้ายิ่งขึ้น

ระหว่างนั้นน้ำมนต์ได้ไปหาสัปเหร่อคงขี้เมาที่จริง ๆ แกเป็นหมอผีมือ ฉมั่งแต่แอบซุกตัวอยู่ที่วัดมาหลายปี โดยสัปเหร่อคงแนะนำให้เอาความดีชนะความชั่ว ให้น้ำมนต์รักษาศีลแปดอย่างเคร่งครัดครบสามอาทิตย์และแผ่ส่วนกุศลให้กับ เหล่าผีทั้งหลายด้วยใจบริสุทธิ์ทุกวัน ๆ เพื่อช่วยเหลือเหล่าผีให้มีกำลังบุญต่อต้านความชั่วร้ายของประสม น้ำมนต์จึงกลับมาทำตามที่ท่านแนะนำด้วยการนุ่งขาวห่มขาวและพยายามรักษาศีล อย่างเคร่งครัด

จน กระทั่งน้ำมนต์ได้หาวิธีคลายมนต์สะกดให้ผีดิบหยุดนิ่งด้วยคาถาของพระอาจารย์ องค์เดิม และเขาก็ทำได้สำเร็จ และแล้วความสงบสุขของมหาวิทยาลัยก็กลับคืนมาอีกครั้ง นักศึกษาต่างกลับมาเรียนตามปกติ รวมทั้งน้ำมนต์กับกลุ่มเพื่อนด้วยที่กลับมารักและสามัคคีแน่นแฟ้นจนเป็น กลุ่มเพื่อนที่สนิทมากกลุ่มหนึ่ง และทำให้บริบูรณ์ยอมรับในตัวของยินดีเป็นเพื่อนเสมอกันไม่ได้ให้เป็นลูกไล่ อีก ส่วนน้ำมนต์กับสาวิตรีก็เริ่มปลูกต้นรักกันใหม่  รวมทั้งชายธงกับ ลัดดาที่ผูกพันกันมากยิ่งขึ้น

ท่านอธิการบดีได้จัดเลี้ยงใหญ่เพื่อขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันปราบผีและกำจัดคน ชั่วได้สำเร็จ ซึ่งคืนนั้นคำพูนทิ้งท้ายบอกเพื่อน ๆ ว่า เขาเห็นเพื่อนผี ๆ มาร่วมแสดงความยินดีกับทุกคนด้วยเพื่ออำลาไปผุดไปเกิดกันเสียที  แต่ทุกคนก็ขนหัวลุกฮือฮาวงแตกกันอีกครั้ง ต่างบอกว่าไปที่ชอบ ๆ เถิดไม่ต้องมาลาก็ได้จ๊ะพี่ผี …หึ… หึ ติดตามชม ละครหอหึหึ

ปลายเทียน

วงศ์เมือง นักเขียนใหญ่ได้สมุดข่อยฉบับเชลยศักดิ์เล่มหนึ่ง…ที่มีวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” มาโดยบังเอิญ โดยไม่รู้ว่าสมุดข่อยเล่มนั้นเป็นประตูผ่านไปสู่อีกมิติหนึ่งได้วงศ์เมือง พลัดหลงเข้าไปอยู่ในสมุดข่อยเล่มนั้น และได้ พบกับเจ้าสร้อยสุมาลี น้องสาวเจ้าสร้อยฟ้า ธิดาแห่งเมืองเชียงใหม่ ซึ่งกำลังถูกส่งไปถวายตัวแก่พระพันวษาที่อยุธยา พร้อมด้วย แสนตรีเพชรกล้า นายทหารบุตรชายแม่ทัพใหญ่แห่งเมืองเชียงใหม่ ซึ่งทำหน้าที่อารักขาเจ้าสร้อยสุมาลี พร้อมด้วยนางหล้า นางลูน พี่เลี้ยง กำลังหอบหนีจากขบวนที่จะไปอยุธยา

วงศ์เมือง จึงชักชวนคนทั้งสี่ให้หนีออกจากสมุดข่อยมาพักที่บ้านของตนซึ่งอยู่ห่างไกล ผู้คน วงศ์เมืองได้เล่าเรื่องดัง กล่าวให้วัจน์ น้องชายนักธุรกิจของเขาฟัง แต่วัจน์ไม่เชื่อ คิดว่าพี่ชายของตนเก็บตัวเขียนหนังสืออยู่คนเดียวในบ้าน ป่าจนเพี้ยนไปแล้ว จึงวางแผนกับคณา เลขาฯ คนสนิทของเขาหลอกพาวงศ์เมืองเข้ามารักษาตัวโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ เรวิทย์ลูกชายคนเดียวของวัจน์ที่เกิดกับรุจิยา ซึ่งได้หย่าขาดกันนานแล้ว ไปเยี่ยมวงศ์เมืองที่โรงพยาบาลและ ได้รับฟังเรื่องราวของเจ้าสร้อยสุมาลีและพวกจากลุงของเขา แต่เรวิทย์ไม่เชื่อ

เกาลัด เพื่อนสาวคนสนิทของเรวิทย์กับคณา ได้กลับไปที่บ้านไร่ของวงศ์เมือง เก็บของใช้ส่วนตัวมาให้ทั้งสองจึงได้ พบว่าเรื่องที่วงศ์เมืองเล่านั้นเป็นความจริงทุก อย่าง แต่เกาลัดถูกเพชรกล้าจับตัวขังเอาไว้ในบ้าน ในขณะที่คณาหนีออก มาได้เพียง คนเดียว คณารีบแจ้งเรื่องทั้งหมดให้เรวิทย์ฟัง เรวิทย์จึงรีบไปที่บ้านไร่และช่วย เหลือเกาลัดออกมาได้

แต่ขณะเดียว กันเรวิทย์ก็ตกหลุมรักเจ้าสร้อยสุมาลีในทันทีที่ เห็น เรวิทย์และเกาลัดขอให้เจ้าสร้อยไปปรากฎตัวที่ โรงพยาบาล เพื่อช่วยยืนยันว่า วงศ์เมืองไม่ได้บ้า เจ้าสร้อยก็ตกลง โดยมีเพชรกล้าตามเข้ากรุงเทพฯ มาด้วยก่อน ถึงโรงพยาบาล คณะของเรวิทย์ก็ได้พบกับแม็คเพื่อนเรียนจอมอันธพาลเข้า แม็คสะ ดุดตาในความสวยของเจ้าสร้อยมาก จึงพยา ยามติดตามเจ้าสร้อยตลอดเวลา ไม่ยอม เลิก แม้จะถูกเพชรกล้าสั่งสอนไปบ้างก็ไม่เข็ดหลาบ

ที่โรงพยาบาล หมอไม่ยอมเชื่อว่าเจ้าสร้อยและพวกเป็นคนจากในวรรณคดี เมื่อทำอะไรไม่ได้ เรวิทย์จึงต้องพา เจ้าสร้อยและพวกไปพักที่บ้านรุจิยาแม่ของตน ที่บ้านเรวิทย์ได้ไกลชิดเจ้าสร้อยมากขึ้น ในขณะเดียวกันเกาลัดกับ เพชรกล้าก็เป็นปากเสียงกันมากขึ้นเช่นกันวัจน์ตามมาด่าเรวิทย์และเกาลัดถึง ที่บ้านรุจิยา หาว่าเอาเพื่อนที่แต่งชุด ละครไปหลอกหมอ แต่วัจน์ก็ถูกรุจิยาไล่ออกจากบ้านไป

เมื่อไม่มีใครเชื่อว่าเรื่อง ทั้งหมดเป็นความจริง และ วงศ์เมืองไม่ได้เป็นบ้า เรวิทย์กับเกาลัดช่วยกันวางแผนพาวงศ์เมืองหนีออกจากโรงพยาบาล แม้จะพบอุปสรรคจากนาย แม็คบ้างแต่ในที่สุดวงศ์เมืองก็หนีออกมาจากโรงพยาบาลได้สำเร็จเรวิทย์พาทุก คน ( เกาลัด วงศ์เมือง คณา เจ้าสร้อย สุมาลี เพชรกล้า นางหล้า นางลูน ) ไปหลบอยู่ที่บ้านเช่าหัวหิน และระหว่างที่อยู่หัวหินนี้เอง เพชรกล้ากับเกาลัดก็มีปาก เสียงกันมากขึ้น แต่แท้จริงเพชรกล้าก็เริ่มมีใจชอบเกาลัดขึ้นมาบ้างแล้ว จึงหาเรื่องถูกเนื้อต้องตัวแต่เกาลัดก็โวยวาย ว่าถูกเพชรกล้าลวนลาม จนเพชรกล้าถูกเจ้าสร้อยสุมาลีตำหนิอย่างรุนแรง

เกาลัดพาเจ้าสร้อย สุมาลีลงเล่นน้ำทะเล แล้วถูกโหงพรายฉุดตัวลงไปในน้ำเรวิทย์และเพชรกล้าเข้าช่วยไว้ ได้ทัน แต่โหงพรายก็หนีรอดไปได้ ต่อมาโหงพรายปลอมตัวเป็นเรวิทย์มาหลอกเกาลัดให้เดินลงจากเรือนไปหาเพื่อจับ แรก กับเจ้าสร้อย แต่โชคดีที่เพชรกล้าเข้ามาช่วยไว้ได้อีกครั้ง แต่ทุกคนก็วิตกอย่างใหญ่หลวง เพราะ การปรากฎตัวของ โหงพรายนั้นย่อมแสดงว่าขุนแผนก็สามารถตามหาเจ้าสร้อยสุมาลี เพื่อนำตัวกลับไปส่งให้ถึงมือพระพันวษาให้จงได้

และขุนแผนก็สามารถ ตามรอยคนทั้งหมดพบแล้ว สร้อยสุมาลีจึงขอให้เพชรกล้าไปตามตัวเถรขวาด ซึ่งเป็นอาจารย์ ของเพชรกล้ามาช่วยเหลืออีกแรงระหว่างที่เพชรกล้าได้ตามตัวเถรขวาด วงศ์เมืองได้พบกับขุนแผนเข้า และรู้ว่าขุน แผนไม่สามารถทำอันตรายคนในภาพปกติได้ จะทำได้ก็เฉพาะคนที่อยู่ในวรรณคดีเดียวกันเท่านั้น

เกาลัดจึงเสนอ ให้พาเจ้าสร้อยและพี่เลี้ยงไปซ่อนไว้ที่อื่น แล้วปล่อยให้เพชรกล้ากับเถรขวาดรับมือขุนแผนที่บ้านเช่านี้ตามลำพังทุก คนเห็นดีด้วย เกาลัดพาเจ้าสร้อยสุมาลี นางหล้า นางลูน ไปเปิดห้องที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งพัก แต่ถูกนายแม็คตามมา รังควานและจับตัวเอาไว้ อีกทั้งยังส่งข่าวบอกวัจน์เสียด้วยว่าเกาลัดและพวกแอบมาที่โรงแรมนี้ วัจน์รีบตามมาที่โรง แรม เกาลัดโทรบอกข่าวเรวิทย์

เรวิทย์ เพชรกล้า และเถรขวาด ซึ่งตามมาช่วยเกาลัด เจ้าสร้อยสุมาลี นางหล้า นางลูน ที่โรงแรม แล้วเถรขวาดก็ สาปให้วัจน์กับลูกน้องมีอาการเหมือนหมาต้องกิน แต่น้ำข้าวไป 3 วัน เรวิทย์จึงรีบพารุจิยาไปช่วยดูแลพยาบาลวัจน์ที่ บ้านของวัจน์ และให้วงศ์เมืองตาม ไปอยู่ที่บ้านวัจน์ด้วยอีกคนเพื่อคอยดูลาดเลา ส่วนเกาลัดพาเจ้า สร้อยสุมาลีและนาง พี่ เลี้ยงทั้งสองกลับไปพักที่บ้านของเธอ ซึ่งไม่มีใครอยู่แล้ว เพราะ อพยพไปอยู่ที่อื่นกันหมด เนื่องจากบ้านกำลังจะถูก ธนาคารยึดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นี้แล้ว

ส่วนเถรขวาดกับเพชรกล้า กลับไปที่บ้านไร่ของวงศ์เมือง เพื่อเตรียมรับมือกับ ขุน แผน แต่เถรขวาดก็เสกน้ำเสี่ยงทาย แล้วรู้ว่าศึกกับขุนแผนครั้งนี้ เพชรกล้าจะ ต้องตาย เถรขวาดจึงคิดให้เพชรกล้าได้สมรักกับเกาลัด จึงเสกหุ่นรูปชายหญิงคู่แล้วให้เพชรกล้า เอาไปไว้ใต้หมอนเกาลัด เมื่อเกาลัดนอนบนหมอนก็จะเกิดอารมณ์รัก กับเพชรกล้า และ จะยอมโอนอ่อนต่อเพชรกล้าโดยดี เผอิญเกาลัดเปลี่ยนใจยกห้อง นอนของตนให้เจ้า สร้อยสุมาลีและนางพี่เลี้ยงทั้งสองอยู่ แทน คืนนั้นเมื่อเพชรกล้าปีน ห้องหวังเข้าหาเกาลัด จึงกลับไปได้เสียกับเจ้าสร้อยสุมาลีแทนที่บ้านวัจน์

วงศ์เมืองพยายามไม่ให้หลับเพราะเกรงว่าขุนแผนจะใช้ช่องทางความฝันของเขาออกมาสู่ โลกภายนอกได้แต่เพราะ ความอ่อนหล้ามาหลายวันวงศ์เมืองจึงเผลอหลับไปซึ่งทำให้ขุนแผนปรากฎตัวขึ้นมา ได้อีกครั้ง ขุนแผนช่วยถอนคำสาป ของเถรขวาดทำให้วัจน์กลับคืนสู่อาการปกติ และได้ต่อรองกับวัจน์ว่า ถ้าวัจน์ช่วยเหลือเขาให้ได้ตัวเจ้าสร้อยกับไปขุน แผนก็จะไม่ทำอันตรายใคร วัจน์ตกลงเมื่อเจ้าสร้อยรู้ตัวว่าเสียท่าให้กับเพชรกล้า ก็คิดจะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อไม่ทำได้

ในที่สุดเจ้าสร้อยสุมาลีก็สารภาพกับเรวิทย์ว่าตน ไม่ใช่หญิงพรหมจรรย์อีกต่อไปแล้ว แต่เรวิทย์กลับบอกว่าไม่เป็น ปัญหา สำหรับเขาที่จะรักเจ้าสร้อย ให้เจ้าสร้อยซาบซึ้งมาก เรวิทย์พาเจ้าสร้อยและ พี่เลี้ยงทั้งสอง กลับไปอยู่บ้านรุจิยา โดยเถรขวาดร่ายมนต์ทำให้ไม่มีใครเห็นคนทั้งสามเพื่อเป็นการป้องกันอันตราย จากขุนแผน ฝ่ายรุจิยา เห็นวัจน์ อาการดีขึ้นจึงกลับบ้านตัวเอง พบว่าในบ้านมีสิ่งผิดปกติหลายอย่างเกิดขึ้น รวมทั้งคนในบ้านเริ่มพูดว่า…มีผีในบ้าน แต่รุจิยาไม่เชื่อ

เรวิทย์ กลับไปที่บ้านวัจน์ รู้ว่าวัจน์วางแผนบางอย่างกับขุนแผนเตรียมจะโวยวาย ขุน แผนจึงจับเรวิทย์ขังคุกเวทย์ มนต์มืดมองอะไรไม่เห็น วัจน์ตกใจมาก รีบไปตามวงศ์ เมืองมาช่วย วงศ์เมืองบอกเถรขวาดและเพชรกล้า เพชรกล้า ตามมาช่วยเรวิทย์ออกจาก คุกมืดได้ แต่ได้ต่อสู้กับขุนแผนจนตัวตายในที่สด ส่วนเถรขวาดหนีกลับเข้าสมุดข่อยหาย ไป เจ้าสร้อยสุมาลีรู้ว่าเพชรกล้าถูกขุนแผนฆ่าตาย ก็เสียใจมาก บอกกับทุกคนว่าเรื่องทั้ง หมดเกิดขึ้นเพราะเธอเพียง คนเดียว เพราะฉะนั้นเธอขอเป็นคนแก้ไขทุกคนพาเจ้า สร้อยและพี่เลี้ยงทั้งสองกลับไปที่บ้านไร่ของวงศ์เมือง เจ้าสร้อยได้บอกว่าถ้ากลับไปกับขุน แผนคงไม่แคล้วถูกพระพันวษาวงทัณฑ์สั่งประหารอย่างแน่นอน สู้ตายด้วยน้ำมือตัวเองดี กว่า และโดยไม่ทันได้มีใครคาดคิด

เจ้า สร้อยก็ได้เอาไฟจากปลายเทียนจ่อเข้ากับสมุดข่อยฉบับเชลยศักดิ์เล่มนั้น ทำให้เจ้าสร้อย เพชรกล้า นางหล้า นางลูน เลือนหายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน โดยเฉพาะเรวิทย์ถึงกับตะลึง เมื่อคนจากในวรรณคดีทั้งสี่ได้จากไปแล้ว ทุก อย่างก็เริ่มกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติแต่เรวิทย์และเกาลัดก็ยังอดคิดถึงคนทั้ง สี่ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมผจญภัยกันมา ในช่วงเวลาหนึ่งเสียมิได้ ทำให้ทั้งสองหันหน้าเข้าคุยกันอยู่บ่อย ๆ ทำให้เกาลัดและเรวิทย์เริ่มรู้ใจตัวเองว่าแท้จริงแล้ว ทั้งคู่ต่างก็มีใจให้กันมานานแต่ไม่รู้ตัว จึงคิดจะเริ่มต้นความสัมพันธ์กันใหม่ในฐานะคนรู้ใจกันโดยที่ทั้งสองไม่รู้ เลย

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง วงศ์เมือง ก็กำลังจะได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ของเขาเช่นกัน หลังจากที่ไปได้สมุด ไทยโบราณเรื่องนิราศอยุธยา ของสุนทรภู่มาโดยบังเอิญอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งยังไม่เคยมีใครได้อ่านมาก่อนเลย และวงศ์ เมือง รู้ว่าสมุดไทยโบราณเล่มนี้ก็เป็นประตูผ่านมิติเวลาไปสู่ ความมหัศจรรย์ได้เหมือนอย่างสมุดข่อยเล่มที่เจ้าสร้อย สุมาลีได้เผาไปแล้วนั่นเอง…

นักแสดงละคร ปลายเืทียน
1. อมิตา ทาทา ยัง
2. พิมลรัตน์ พิศลยบุตร
3. พุฒิชัย อมาตยกุล
4. วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์

นางโชว์

นางโชว์ เป็นเรื่องราวของศรีทอง เป็นนางโชว์ที่มีฝีมือ เพราะลีลาของเธอนั้นสุดแสนจะเร้าใจ แต่โชคชะตากลับไม่เข้าข้างเธอเลย เพราะเธอมักจะถูกลูกค้าหนุ่ม ๆ ลวนลามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เกริกพล นักการเมืองหนุ่ม หรือ พิธาน เจ้าของนิตยสาร “แมนแมกกาซีน” แต่ศรีทองยังโชคดีที่มี มาลิน ซึ่งเป็นนางโชว์รุ่นพี่คอยปกป้อง แต่ต่อมาทั้งคู่ก็ต้องหางานใหม่ เพราะ เกรซ ซึ่งเป็นคู่ขาของพิธานตามอาละวาดราวีอยู่เสมอ ส่วน เจ๊เม้าท์ ดาวเด่นคาบาเร่ต์โชว์ ก็กำลังเจอปัญหาเพราะว่าถูกถอดจากการเป็นนักแสดงนำ ไปเป็นนักแสดงประกอบ หลังจากนั้นเจ๊เม้าท์ก็มุ่งหน้าสู่กรุงเทพเพื่อหางานใหม่

ศรีทองและ มาลินไปสมัครประกวดลิปซิ้งค์แข่งกับสาวประเภทสองจนได้รางวัลชนะเลิศ และในงานเดียวกันนี้เองทั้งคู่ก็ได้รู้จักกับเจ๊เม้าท์ จิต อดีตนางโชว์รุ่นเก่า และ พริ้ม นักร้องคาเฟ่ที่พักหลังไม่ค่อยได้รับพวงมาลัยจากลูกค้า ทั้งหมดมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน และที่บ้านเช่านี้เองมาลินได้พบกับ ทวน ที่มาอาศัยอยู่กับ จิระ ซึ่งเป็นเจ้านายเก่า เจ๊เม้าท์ถ่ายทอดเทคนิคต่าง ๆ เกี่ยวกับคาบาเร่ต์ให้ศรีทองอย่างหมดเปลือก โดยมีมาลินเป็นคู่คิด และในที่สุดมาลินก็หางานให้กับทุกคนได้ที่คลับ 69 ของ เฮียซ้ง คณะโชว์ของศรีทองได้รับความนิยมและต้อนรับอย่างดีจากลูกค้า ทำให้คณะแดนซ์เซอร์สาวประจำคลับ ซึ่งมี กิ๊บ ทอมรุ่นใหญ่ ลดา แฟนสาวของกิ๊บ แอน และ ซินดี้ ไม่พอใจ

พิธาน มีโอกาสพบศรีทองอีกครั้งที่คลับแห่งนี้ เขาหมายมั่นจะเอาตัวศรีทองมาเป็นของตัวเอง โดยไม่ยอมรับฟังคำทัดทานของเพื่อนรักอย่าง สหรัฐ ลดาและเพื่อน ๆ แดนซ์เซอร์กลั่นแกล้งให้จิตแตกคอกับพริ้ม ในที่สุดแล้วพริ้มก็ออกจากคณะและไปอาศัยอยู่กับสหรัฐ แต่แม่ของสหรัฐมีท่าทีรังเกียจพริ้ม เธอจึงตัดสินใจจากสหรัฐไปโดยไม่ได้ร่ำลา และกลับไปอยู่กับเจ๊เม้าท์เหมือนเดิม ส่วนจิตก็แอบมีสัมพันธ์ลับ ๆ กับจิระ จนกระทั่งภรรยาของจิระตามอาละวาด โดยที่จิระไม่ได้ปกป้องเธอเลย สุดท้ายเธอก็ต้องเลิกกับจิระ และแต่งงานกับ ส่ง

ที่คลับ 69 สหรัฐพบกับพริ้ม และปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ส่วนพิธานก็ยังแวะเวียนมาหาศรีทองเสมอพิธานให้ศรีทองถ่ายปกหนังสือให้ ศรีทองตกลงเพราะเธอต้องการเงินไปจ่ายค่ารักษาแม่ที่ป่วยหนัก ศรีทองเริ่มสนิทกับพิธานมากขึ้น สร้างความไม่พอใจแก่บรรดาหญิงสาวทั้งหลายที่พิธานคบอยู่ หญิงสาวทั้งหมดร่วมกันวางแผนจับตัวศรีทองไปกักขังไว้ที่บ้านของเกริกพล เธอไปเจอม้วนวิดิโอของเกริกพลที่บังคับขืนใจเด็กสาว ศรีทองเก็บมันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และก่อนที่เธอจะโดนคร่าความสาวไปนั้น มาลิน ทวน พิธาน ตามมาช่วยไว้ทัน

หลังจากที่แอนตัดสินใจมาบอกความ จริงกับมาลิน พิธานพาศรีทองหนีการไล่ล่ามาที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง และที่นี่เองศรีทองก็ยอมเป็นของพิธาน ศรีทองกลับมาทำงานที่คลับอีกครั้ง ท่ามกลางความตกใจของ ลดา กิ๊บ ซินดี้ เมื่อเฮียซ้งรู้ความจริงจากศรีทอง ทีมแดนเซอร์สาวก็ถูกไล่ออกจากตลับ 69 ทันที ความโด่งดังจากการขึ้นปกหนังสือด้วยการถ่ายภาพหวิวของศรีทอง ทำให้แม่ของเธอโกรธมาก เธอเสียใจที่แม่ไม่เข้าใจเหตุผลของเธอ และก็ต้องเสียใจอีกครั้งเมื่อพบว่าเธอตั้งครรภ์ แต่พิธานไม่ยอมรับและเขาก็แต่งงานไปกับหญิงอื่น