Tag Archives: ลลิตา ปัญโญภาส

ต้นส้มแสนรัก

เรื่องย่อละคร ต้นส้มแสนรัก

แสน เป็นเด็กชายอายุ 6 ขวบ นิสัยซุกซน ช่างคิดฝัน ชอบเล่นและพูดคนเดียว แม้ว่าจะอายุเพียง 6 ขวบแต่ก็ฉลาดเกินอายุ บางครั้งพูดจาแก่เกินตัว และอ่านหนังสือออกหมดโดยที่ไม่มีใครสอน เขาจดจำตัวอักษร และสระจากพี่ๆ จนสามารถอ่านคำยากๆ ได้หลายคำ ทุกคนในบ้านพากันงง และคิดว่าแสนจะต้องแอบไปให้ใครสอนมา ยกเว้นลุงเอิบเพียงคนเดียวที่เชื่อเรื่องนี้ และรู้ว่าแสนเป็นเด็กฉลาดโตขึ้นจะไปได้ไกล

ชีวิตของแสนคับแค้นมาก เพราะพ่อตกงานมาเป็นเวลานาน พ่อหม่นหมองและออกหางานตั้งแต่เช้ายันเย็นแทบทุกวัน ในที่สุดแม่ก็ต้องออกไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน พี่สาวคนหนึ่งถูกส่งไปอยู่กับญาติฐานะดี เกด พี่สาวคนโตออกไปงานโรงงาน เหลือแต่แก้ว พี่สาวคนรองอยู่บ้านคอยดูแลน้อง และทำงานบ้านทุกอย่าง แสนรักแก้วมาก เพราะแก้วดีกับแสน และไม่เคยตีแรงๆ เวลาที่แสนทำผิด แสนมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งชื่อ ปื๊ด อายุเก้าขวบ เป็นเพื่อนเล่นของแสนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็มักเล่นเอาเปรียบเล็กๆน้อยๆ อยู่เสมอ แต่แสนก็ไม่ถือสา และคนที่แสนรักมากที่สุดคือ อ้น น้องชายคนเล็ก ซึ่งเป็นเด็กน่ารักไม่ดื้อไม่ซน แสนชอบพาอ้นไปเที่ยวรอบๆ บ้าน และสมมติว่าเป็นการเที่ยวเขาดิน

พ่อกับแม่ตัดสินใจออกจากบ้านเช่าหลังเก่า ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของย่าและลุง เพราะหลังใหญ่เกินกำลังเงินค่าเช่า ทั้งหมดได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าหลังเล็กราคาถูกกว่าเดิม หลังบ้านเป็นป่าละเมาะชายนา มีต้นไม้อยู่หลายต้น พวกเด็กๆ พากันจองต้นไม้คนล่ะต้น แก้วจองต้นมะม่วงเป็นคนแรก ปื๊ดรีบจองต้นมะขาม แสนไม่มีต้นไม้ดีๆ เป็นของตนจึงร้องไห้ แก้วสงสารจึงพาไปจองต้นส้มเล็กๆ ได้ต้นหนึ่ง ครั้งแรกแสนไม่ค่อยชอบต้นส้มนัก แต่ต่อมาแสนก็ยอมเป็นเจ้าของต้นส้ม แสนชอบการพูดคุยปรับทุกข์เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ต้นส้มฟัง แสนสนิทสนมและรักต้นส้มนี้มากที่สุด

ในวันหยุดเรียน แสนจะออกไปรับจ้างขัดรองเท้า วันหนึ่งแสนได้พบกับชายขายของเร่ ซึ่งจะมาขายของเฉพาะวันหยุดเท่านั้น แสนไปดูบ่อยๆ จนรู้จักกับลุงสมาน ลุงสมานจะร้องเพลงและขายของไปด้วย ในที่สุดทั้งสองได้กลายเป็นเพื่อนกัน แสนช่วยร้องเพลงขณะขายของ ทำให้มีคนมามุงกันแน่นเพื่อซื้อของ และบางคนก็ให้เงิน แสนได้ของติดมือมาทุกครั้งและเอาไปให้แก้ว

วันรุ่งขึ้น แสนป่วย ทุกคนในบ้านสงสารและเอาใจแสนเป็นพิเศษ ย่ากับลุงมาเยี่ยม ลุงมาเล่าเรื่องตลกให้แสนฟัง แต่แสนไม่ยอมหัวเราะ แสนเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน ซึมไป และไม่พูดไม่จา ไม่ว่าแก้วหรือปื๊ดจะมาชวนคุยเรื่องสนุกๆ ที่เขาเคยชอบก็ตาม แสนบอกกับทุกคนว่าคามฝันทั้งหมดได้จากเขาไปแล้ว ไม่มีใครรักเขาแม้กระทั่งพ่อ เขาอุตส่าห์เก็บสายนาฬิกาที่พอขายตัวเรือนไปหลังจากตกงานไว้กับตัวตลอดเวลา และเคยอวดลุงปุ๊ยอย่างภาคภูมิว่าพ่อให้เขา แสนคิดว่าตัวเองเป็นที่รังเกียจของทุกๆ คน แสนนั่งซึมอยู่กับต้นส้มเป็นวันๆ โดยไม่พูดจากับใคร

มีข่าวร้ายมาอีก ปื๊ดบอกว่าถนนสายใหม่จะตัดผ่านหลังบ้านบริเวณที่มีต้นส้ม ดังนั้นต้นไม้ทั้งหมดรวมทั้งต้นส้มจะต้องถูกโค่นหมด เพราะทางการจะปรับที่ไม่ช้านี้ เขาบอกปื๊ดว่ามันไม่เป็นความจริง เพราะเขาจะไม่ยอมให้ใครมาโค่นต้นส้มของเขาได้

เมื่อได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านได้แล้ว แสนก็รีบตรงไปหาลุงปุ๊ยที่ร้านอาโก ลุงปุ๊ยต่อว่าที่แสนหายไป แสนเจอหน้าลุงปุ๊ยก็ร้องไห้และขอให้ลุงปุ๊ยพาไปนั่งรถเล่น แสนระบายความทุกข์ของเขาให้ลุงปุ๊ยฟัง และขอให้ลุงปุ๊ยรับแสนเป็นลูก ลุงปุ๊ยบอกว่ารักแสนเหมือนลูก แต่ลุงก็รู้ดีว่าพ่อแม่ของแสนก็รักและห่วงแสนมากเช่นกัน มันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ลุงปุ๊ยจะรับแสนเป็นลูก หรือพรากแสนมาจากพ่อแม่ของตนได้ แต่ลุงปุ๊ยก็ตามใจแสนทุกอย่าง จะพาแสนไปนั่งรถเที่ยว ไปตกปลาในวันหยุด ซึ่งเป็นวันที่แสนมีความสุขที่สุด

ต่อมาอีกไม่นาน ขณะที่แสนกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียน มีคนมาบอกแสนว่า รถของลุงปุ๊ยถูกชนยับเยิน แสนกระโดดพรวดออกจากห้อง รีบวิ่งไปดูที่เกิดเหตุ แสนร้องไห้และพยายามวิ่งเข้าไปหาลุงปุ๊ย แต่ลุงสมานผ่านมาพอดีรีบดึงตัวแสนเอาไว้ ลุงปุ๊ญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แสนเดินโซซัดโซเซไปตามถนนและไปนั่งร้องไห้อยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ปื้ดเดินออกมาตามหา และพบแสนตัวร้อนจี๋จึงรีบพากลับบ้าน

แสนไม่สบายหนัก อาเจียน ไม่ยอมกินข้าวปลา หมอบอกว่าแสนได้รับความกระทบกระเทืิอนจิตใจอย่างแรง ทุกคนไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ของแสนกับลุงปุ๊ย จึงเข้าใจว่าเป็นเรื่องต้นส้มที่ถูกตัด ลุงสมานมาเยี่ยมแสน และบอกว่า แสนมีความสำคัญต่อแกอย่างมากในการขายของ อยากให้แสนหายเร็วๆ จะได้ไปช่วยกันขายของในวันหยุด แก้วได้เอาดอกส้มมาให้แสน และบอกว่าต้นส้มของแสน เป็นต้นส้มที่เจริญเติบโตพร้อมที่จะใ้ห้กำเนิดต้นส้มต้นใหม่ได้แล้ว แสนดีใจมาก เก็บดอกส้มนั้นไว้ อาการของแสนดีขึ้นเรื่อยๆ

ไม่นานต้นส้มก็ถูกโค่นลง ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่แสนก็ได้รับข่าวดีจากพ่อ พ่อได้งานเป็นหน้าคนงานในโรงงานทำรองเท้าแห่งหนึ่ง แต่โรงงานอยู่ต่างจังหวัด ทุกคนจึงต้องย้ายบ้านไปด้วย แสนไม่ค่อยตื่นเต้นกับข่าวนี้นัก จนกระทั่งคนหนึ่ง ต่อหน้าทุกคนในบ้าน พ่อได้อุ้มแสนขึ้นมาบนตักแล้วบอกว่าต่อไปนี้แสนจะได้รับของขวัญปีใหม่ทุกปี สายนาฬิกาที่พ่อรู้ว่าแสนเก็บไว้กับตัวตลอดเวลาก็จะมีนาฬิกาห้อยอยู่ พ่อบอกว่าจะพาแสนไปอยู่บ้านใหม่ ซึ่งมีทุกอย่างที่ต้องการ มีต้นไม้หลายต้น และ่พ่อจะให้แสนเลือกต้นไม้เป็นคนแรก และจะไม่ยอมให้ใครตัดต้นไม้ของแสนเป็นอันขาด แสนร้องไห้กอดพ่อทั้งน้ำตา ทุกคนในบ้านเริ่มมีความสุขและความเข้าใจกันเหมือนเดิม

นักแสดงละคร ต้นส้มแสนรัก

ธีระเดช วงศ์พัวพันธุ์ รับบทเป็น แสน
ลลิตา ปัญโญภาส
สุเชาว์ พงษ์วิไล
สุกัญญา นาคสนธิ
สมควร กระจ่างศาสตร์
ผจญ ดวงขจร

หกพี่น้อง

หกพี่น้อง

ราม ราชพงษ์
จารุวรรณ ปัญโญภาส
ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
ลลิตา ปัญโญภาส
นัทธนุช วงศ์พัวพันธ์

วนิดา

พันตรี ประจักษ์ มหศักดิ์ ถูกเชื้อเชิญจากเสด็จในวังให้ลงแข่งกีฬาขี้มาโปโล เพื่อให้ราชนิกูลชั้นสูง ได้มาลงแข่งขันเพื่อประลองกำลัง ฝีมือในการขี่ม้าโปโลของประจักษ์ เป็นที่โจษจั่นไปทั่วว่าเก่งกาจ เพราะเขาเป็นถึงหัวหน้าทหารม้ารักษาพระองค์ ซ้ำยังเป็นนักปราบม้าพยศตัวยงที่น่าจับตามอง   พิสมัย ว่าที่คู่หมั้นของประจักษ์และเป็นขุนข้าหลวงของสมเด็จ พิสมัยภูมิใจในตัวประจักษ์ยิ่งนัก ซ้ำยังชอบโอ้อวดว่าเธอกับประจักษ์ จะแต่งงานกันในเร็ววันนี้ อีกด้านหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนั้น วนิดา กำลัง หัดขับรถเป็นครั้งแรก เธอชวนเพื่อนซี้อย่าง สุมาลีและ กัลยา มานั่งรุเป็นเพื่อน ทั้งสิงสาวก็กลัวกันสุดขีดกรี๊ดกร๊าดไปตลอดทาง ทำ เอา วนิดาสะดุ้งเป็นระยะๆ พาจะเฉี่ยว ชน หลายรอบ ทันใดนั้นมีรถสวนออกมา วนิดาไม่เห็นเลยชนเข้าให้อย่างจัง และเจ้าของรถที่วนิดาก็คือ ประจักษ์ มหศักดิ์

วนิดา

นักแสดงละคร วนิดา

หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส
ตั้ว-ศรัณยู วงศ์กระจ่าง รับบทเป็น ประจักษ์ มหศักดิ์

 

วนาลี

พันตำรวจโท วิชาติ หรือพี่ใหญ่ ของ วิชชุดา หรือ วิช น้องสาวคนเล็ก หญิงสาวผู้แก่นแก้ว โลดโผน เก่งกาจทุกเรื่อง ทั้งยิงนกตกปลา วิชชุดา  เป็นที่หมายปองของ พ.ต.ต.โสรัตน์ ตำรวจหนุ่ม เพื่อนของพี่ชาย ซึ่งหลงรักจนหัวปักหัวปำ แต่กลับไม่กล้าสานสัมพันธ์ พี่ใหญ่ต้องการให้วิชแต่งงานกับ โสรัตน์ เพื่อนนายตำรวจ แต่วิชชุดาไม่ยอมรับในการตัดสินใจของพี่ใหญ่ จึงหลบไปพักกับพีกลาง พี่ใหญ่จึงวางแผนกับโสรัตน์ เพื่อทำให้น้องสาวใจอ่อนยอมแต่งงานกับโสรัตน์ โสรัตน์ได้ขอร้องแกมบังคับกับร้อยตำรวจเอกศยาม น้องชายของตน ให้ปลอมเป็นเสือมืดจับตัววิชไปกักขังไว้สักพัก แล้วตนเองกับพี่ใหญ่จะตามไปช่วยกลับมาเพื่อให้เป็นวีรบุรุษในใจของวิชชุดา

วันลงมือ ศยามได้ปลอมตัวเป็นเสือมืด ประกอบกับคืนนั้น บังเอิญมีโจรขี้นบ้านจริงๆ วิชชุดาจึงเข้าใจสนิทว่า ศยามเป็นเสือมืด เสือมืดพาวิชชุดาเข้าไปอยู่กระท่อมในป่าลึก และมีให้แม่นมคอยดูแลวิชชุดาโดยโกหกกับวิชชุดาว่า เป็นแม่ของเสือมืด วิชชุดาพยายามหาทางที่จะหนีอยู่ตลอดเวลา ศยามจึงต้องคอยระวังอย่างใกล้ชิด เพราะการเดินในป่าคนเดียวอันตรายอย่างยิ่ง

นานวัน วิชชุดา ก็ได้เห็นความเป็นสุภาพบุรุษในตัวของศยาม จึงเริ่มมีความไว้ใจ และเกิดความผูกพันกัน ความผูกพันที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงขับกล่อมของธรรมชาติและการประจักษ์แจ้งถึงความปรารถนาที่แท้จริง กลับทำให้เขาไม่อาจถอนตัวถอนใจจากเธอได้ ในขณะที่แผนการต่างๆ ดำเนินไปอย่างสวยงาม ศยามเอง ก็เห็นว่านานเกินไปแล้ว จึงติดต่อ โสรัตน์ วิชาติ ว่าให้หยุดการแสดงครั้งนี้เสียที เมือการแสดงต้องปิดฉากลง วิชชุดาจะยอมอภัยศยามหรือไม่ ติดตามชมใน วนาลี

รักเล่ห์เพทุบาย

ตราภูมิ กับเจนนิสา เป็น เพื่อนในชั้้นเรียนเดียวกัน สมัยเด็กๆ หลังจากนั้นได้แยกย้ายกัน มาเจอกัน อีกครั้งโดยบังเอิญ เมื่อ ทั้งสอง โตขึ้น เจนนิสา ได้ขอร้องให้ตราภูมิ แสดงเป็น คู่รักกำ มะลอ ของเธอ เพื่อหลบเลี่ยงการจับคู่จากแม่ เจนนิสาได้อาศัย ความช่วยเหลือและคำปรึกษาจากกองทัพ และเพื่อนๆของเธอ เพื่อสร้างหลักฐานและเรื่องราวความรักกำมะลอ ระหว่างเธอ และ ตราภูมิ เพื่อให้แม่เธอและครอบครัวเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ระหว่าง ที่ใช้เวลาร่วมกัน ทั้งสองกลับไมรับ่รู้ถึงความรู้สึกลึกๆในใจของตน ว่ากำลังแอบรักฝ่ายตรงข้ามอยู่

นักแสดงละคร รักเล่ห์เพทุบาย

ลลิตา ศศิประภา เป็น เจนนิสา
วิลลี่ แมคอินทอช เป็น ตราภูมิ
ดวงตา ตุงคะมณี เป็น แม่เจนนิสา
ชาย ชาตโยดม เป็น กองทัพ

ยามเมื่อลมพัดหวน

นางเอก (การบูร) เดินทางมาเที่ยวปารีสและลอนดอน ได้เจอกับพระเอก (ชง) ที่มารอรับแทนน้องชายนางเอก (พาที) ที่ประสบอุบัติเหตุ ความสัมพันธ์ของชงและการบูรเริ่มต้นด้วยความเข้าใจผิด เพราะนายพาทีตัวดีที่เป็นห่วงพี่สาวเกินเหตุ ทำให้ชงคิดว่าการบูรแต่งงานมีลูกแล้ว และการบูรคิดว่าชงเป็นเสือผู้หญิง แต่สองคนก็ค่อย ๆ ผูกพันด้วยความถูกตาต้องใจในกันและกัน โดยที่มีความเข้าใจผิดและความรู้สึกผิดติดอยู่ในใจของคนทั้งคู่ไปตลอดเรื่อง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปใน ยามเมื่อลมพัดหวน

ไฟต่างสี

ริสาอยู่ในตระกูลที่ร่ำรวย และมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี พ่อของเธอเป็นเอกอัคราชทูตประจำกรุงอัมเสตอร์ดัม ประเทศ ฮอลแลนด์ เธอและครอบครัวได้อาศัยอยู่ที่นั่น วันหนึ่งริสา และเพื่อนสาว เข้าภัตตาคารไทยร้านหนึ่ง ที่นั่นริสาได้พบกับไมค์เป็นครั้งแรก เพื่อนของริสาเข้าห้องน้ำและเห็นขวดน้ำหอมกับสบู่ที่น่ารักจึงคิดเอามาเก็บ ไว้เป็นที่ระลึก ไมค์สังเกตุเห็นความผิดปกติของห้องน้ำ ไมค์เดินมาตรงหน้าริสา เนื่องจากแมรี่ได้เดินออกไปนอกร้าน ไมค์บอกให้รับผิดชอบกับทรัพย์สินที่สูญหาย ริสายินยอมจ่ายด้วยความไม่เต็มใจ และทำให้การพบกันครั้งแรกของไมค์กับริสา ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ดีเลย

แมรี่ และ มืด เพื่อนสนิทของไมค์ มาเป็นเพื่อนกันหลังจาก มืดได้ช่วยแมรี่จากโจรขึ้นอพาร์ตเม้นของเธอ นั่นทำให้ริสาและไมค์มีโอกาศได้พบกันอีกครั้งและได้ปรับความเข้าใจกัน และคบกันเป็นเพื่อน ทำให้ริสาไมค์ชายหนุ่มที่อ่อนโยน และโรแมนติก คนหนี่ง ทำให้ริสาตกหลุมรักไมค์ ทั้งคู่ก็ต้องพบอุปสรรคของความรัก จากคุณย่าของริสา เธอเป็นคนคอยควบคุมและจัดระเบียบชีวิตของริสา เช่นเดียวกับที่เคยบงการชีวิตของลูกชาย

ไมค์เข้าไปขอเดทกับริสา โดยต้องผ่านการอนุญาตจากคุณย่า คุณย่ามองไมค์ว่าเป็นหนุ่มจนๆ และห้ามไม่ให้ริสาพบกับไมค์ต่อไป แต่ริสาและไมค์ก็ยังแอบพบกันเสมอๆ และโกหกคุณย่าว่าจะไปทริปส์กับมหาวิทยาลัย แต่แท้จริงไปกับ ไมค์ และมืด คุณย่าคาดหวังให้ริสาได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่มีฐานะชาติตระกูลดี วันหนึ่งคุณย่าไม่ได้ตามริสาไปงานปาร์ตี้ ที่นั่นว่าที่คู่หมั้นของริสาได้ดื่มจนขาดสติและคิดที่จะทำมิดีมิร้ายกับริ สา ยังดีว่าไมค์ได้ตามไปช่วยทัน และทั้งคู่หลบไปนอกเมืองด้วยกัน คุณย่าเมือ่ทราบเหรือก็โกรธเป็นอย่างมาก เธอไม่ต้องการให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เธอวางแผนให้ริสาแต่งงานกับชายหนุ่มที่เธอเป็นคนเลือกว่าเหมาะสมกับหลานสาว ของเธอ โดยเป็นไปตามขั้นตอนที่เธอต้องการ

คุณน้า ได้ให้ความช่วยเหลือ ริสา กับไมค์หลบไปอยู่นอกเมืองที่นั้นทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันด้วยความรัก และความเข้าใจ ภรรยาใหม่ของพ่อรักริสาเนื่องจากเป็นผู้เลี้ยงดูริสามาตั้งแต่เล็กๆ หลังจากการแต่งงานของเธอกับพ่อของริสา สามีของเธอไม่ได้มีความรักให้กับเธอเลย เธอจึงอยู่ด้วยความกดดันและเก็บกด ไม่มีความสุขในชีวิตสมรส จึงทำให้เธอเกลียดและเคียดแค้นสามีและแม่สามีเป็นอย่างมาก เธอจึงวางแผนเรียกให้แม่ของริสาเดินทางจากเมื่องไทยมาที่ฮอลแลนด์ และวางแผนลักพาตัวริสาไป เพื่อต้องการล้างแค้นกับคนในครอบครัวนี้

แต่โชคดี ที่ไมค์ไปช่วยริสาได้ทัน และทำให้น้าอร ที่ต้องการหลบหนีความผิดของตัวเองนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้ทำให้คุณย่าหันมามองเห็นความจริงของชีวิตมากขึ้น และยอมรับในความผิดของตัวเอง และหันมามองดูไมค์อย่างยอมรับมากขึ้น ไมค์ตัดสินใจให้แม่เดินทางมาสู่ขอริสากับคุณย่า จึงทราบว่าไมค์เป็นเด็กที่มีชาติตระกูลดี ที่ทำงานในภัตตาคารเพราะต้องการหาเงินเรียนด้วยตัวของตัวเองเท่านั้นไม่ต้อง การรับเงินของพ่อแม่ ทุกคนรู้สึกตกใจเมือทราบกับฐานะที่แท้จริงของไมค์ ริสาโกรธไมค์มากเมื่อทราบความจริงข้อนี้ แต่ความรักและความเข้าใจก็สามารถเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดได้ในที่สุด

พริกขี้หนูกับหมูแฮม

พิมพ์ ตัดสินใจมาเรียนต่อที่อเมริกา โดยกะว่าจะมาพักกับแฟน แต่โชคร้ายเมื่อมาถึงก็โดนล้วงกระเป๋า ซ้ำหนักแฟนตัวเองยังขายห้องพักใช้หนี้เสียอีก พิมพ์ไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องพักกับจอห์น เจ้าของห้องพักคนใหม่ ด้วยความสงสารจอห์นจึงหางานให้พิมพ์ทำระหว่างว่างจากเรียน แต่เรื่องที่พิมพ์พักอยู่กับผู้ชายเกิดไปเข้าหูพ่อและแม่ที่เมืองไทย พ่อและแม่พิมพ์จึงขอให้ป้าไปดูพฤติกรรมลูกสาว และก็เป็นไปตามที่ลือ ป้าจึงสั่งให้พิมพ์ย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ค พิมพ์และจอห์นเมื่อต้องจากกัน จึงได้รู้ถึงความรู้สึกของหัวใจตนเอง

ปริศนา

ปริศนาเป็นลูกของพระวินิจมนตรีกับคุณนายสมรแต่ทางญาติฝ่ายพ่อไม่ยอมรับ เพราะปริศนาเกิดหลังจากที่พระวินิจมนตรีเสียไปแล้วถึง ๖ เดือน พระวินิจมนตรีกับคุณนายสมรมีบุตรี 4 คนคนแรกชื่อ อุบล ซึ่งแต่งงานกับสมศักดิ์ข้าราชการ สิรี ช่างตัดเสื้อฝีมือดีแต่อาภัพรัก อนงค์ หญิงสาวอ่อนหวานเรียบร้อย และ ปริศนา
 
ปริศนาอยู่กับอาที่อเมริกาจนโตได้กลับมากรุงเทพ ได้เจอกับประวิชคนสนิทของท่านพจน์ที่เที่ยวขับรถตามหาอนงค์ หญิงสาวที่แอบชอบตอนเจอที่หัวหิน พอเจอกับปริศนาประวิชเลยหันเหไปทางปริศนาเพราะเธอสวยและเก่งกว่า ปริศนาทำงานเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนของหม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดี น้องสาวของ หม่อมเจ้าพจน์ปรีชา ท่านหญิงรัตน์และประวิชพูดถึงปริศนาบ่อยครั้งทำให้ท่านชายพจน์สนใจ และรู้จักกันในงานเต้นรำที่วังของท่านชายพจน์
 
เมื่อพบกัน ปริศนากับท่านชายพจน์แอบชอบกันลึกๆแต่ก็ไม่มีใครพูดออกไป จนประวิชขอให้ท่านชายพจน์ไปสู่ขอปริศนา ทำให้ปริศนาโกรธท่านชายพจน์มาก ประวิชมาขอให้อนงค์ช่วยเรื่องปริศนา ทำให้เขารู้ว่าอนงค์ชอบเขาอยู่ ความเห็นใจเกิดเป็นรัก ประวิชและอนงค์จึงเข้าใจกันและแต่งงานกัน อานนท์หนุ่มเจ้าสำราญกลับมาจากอเมริกา เกิดติดใจปริศนาเข้าอีกคนทำให้คนทั่วเมืองลือกันว่าทั้งสองจะแต่งงานกัน ส่วนท่านพจน์ก็ไปไหนมาไหนกับรตี ญาติผู้หญิง สาวที่ผู้ใหญ่หมายจะให้แต่งงานกัน ยิ่งทำให้ทั้งสองผิดใจกันมากขึ้น ท่านชายพจน์เสียใจมากเพราะเข้าใจว่าปริศนาไม่รักตนจึงล้มป่วยอาการหนักมาก และ อาจไม่รอด ปริศนาเสียใจและรู้ว่ารักท่านชายพจน์มาก หลังจากที่ท่านชายพจน์อาการดีขึ้นจึงมาเยี่ยมที่วังและปรับความเข้าใจกัน สุดท้ายทั้งสองก็แต่งงานกัน

ปราสาทมืด

ปราสาทมืด ซ่อนความลับเอาไว้ พร้อมกับผู้คนที่มีบุคลิกและพฤติกรรมอันแปลกประหลาด เต็มไปด้วยปริศนา เมื่อ ม.จ.อุมารังษี ย่างก้าวเข้ามา ความมืดดำก็คล้ายจางหายไปด้วยหัวใจอันอ่อนโยนของเธอ แต่ทว่าความรักท่างกลางแรงอาฆาตแค้นนั้น จะสว่างไสวได้ดังที่ปรารถนาหรือ ?
หม่อมเจ้าหญิงอุมารังษี ทะเลาะกับหม่อมอร ผู้เป็นมารดา เรื่องที่หม่อมอรจะลดตัวไปแต่งงานกับนายเม้ง คนไทยเชื้อสายจีน ท่านหญิงจึงเอาสร้อยเพชรที่เสด็จพ่อประทานให้ไปจำนำ เพื่อส่งเงินไปให้หม่อมเจ้าชายพงษ์อิศรา พี่ชายที่อังกฤษ และขอร้องไม่ให้พงษ์อิศรารับเงินจากหม่อมอร เพราะเป็นเงินของนายเม้ง พร้อมบอกข่าวที่เธอจะเดินทางไปเป็นครูที่ จ.เชียงใหม่