Tag Archives: พิสมัย วิไลศักดิ์

พุทธานุภาพ

พระกริสนัย พระสงฆ์ผู้เคร่งครัดในหลักธรรมพุทธศาสนา ขออนุญาตพระอาจารย์โพออกธุดงค์เพื่อศึกษาพระธรรมให้ลึกซึ้ง ซึ่งในอดีตพระกริสนัยคือ กริสนัย เด็กหนุ่มเลือดร้อนและ วู่วาม มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักศึกษาต่างสถาบันจนต้องขึ้นโรงพักอยู่บ่อย ๆ จนทำให้ สุรีย์ ผู้เป็นแม่กลุ้มใจอยู่เสมอ ซึ่งครั้งหนึ่งทะเลาะวิวาทจนได้รับบาดเจ็บ และไปทำแผลที่โรงพยาบาลทำให้กริสนัยได้พบกับ “จินตนา” พยาบาลฝึกหัด กริสนัยรู้สึกชอบจินตนาตั้งแต่แรกเห็น

คืนหนึ่งคู่อริของกริสนัยมา ดักทำร้ายที่หน้าบ้าน สุรีย์เอาตัวเองเข้าบังและถูกมีดแทงแทน กริสนัยรีบพาสุรีย์ส่งโรงพยาบาลและเริ่มสำนึกได้ จึงคอยเอาใจใส่สุรีย์จนหายดี กริสนัยก็ตัดสินใจ บวช เพื่อทดแทนคุณมารดาส่วนจินตนาก็รู้สึกเป็นห่วงพระกริสนัยจึงขอสมัครเป็น พยาบาลอาสาในหน่วยแพทย์อาสาของโรงพยาบาล เพราะต้องการช่วยเหลือคนเจ็บตามชนบทและติดตามข่าวคราวของพระกริสนัย แล้วความหวังของจินตนาก็เป็นผล เธอได้พบกับพระกริสนัยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในชนบท แต่พระกริสนัยไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวทางโลก หมออนุชิตมีทีท่าชอบจินตนา แต่ก็คอยให้กำลังใจจินตนาให้ได้พบกับพระกริสนัย

พระกริสนัยเริ่มออก ธุดงค์ และ ได้พบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย เช่นกลุ่มโจรที่ปั๊มน้ำมันได้จับเด็กผู้หญิงเป็นตัวประกัน พระกริสนัยเสนอตัวเองให้เป็นตัวประกันแทนระหว่างนั้นพระกริสนัยได้ใช้หลัก ธรรมสั่งสอนให้กลับตัวกลับใจยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจ หลังจากนั้นพระกริสนัยก็ได้ออกเดินธุดงค์ต่อได้ไปปักกลดตามหมู่บ้านๆ และพระกริสนัยก็ได้ใช้หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาช่วยขัดเกลาจิตใจให้กับผู้คน ตามหมู่บ้านๆ พระกริสนัยปรึกษาเรื่องที่ฝันถึงดินแดนแห่งหนึ่งกับพระอาจารย์โพและพระ อาจารย์โพบอกกับพระกริสนัยว่าดินแดนแห่งนี้อาจจะเป็นที่ที่รอให้พระกริสนัย ไปให้ถึง และพระกริสนัยก็ได้ธุดงค์มาถึงป่าลึกและปักกลดในถ้ำแห่งหนึ่ง

ส่วน หมออนุชิตหลังจากเข้าไปช่วยทหาร หมออนุชิตก็กลับออกมาในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส จินตนาจึงต้องคอยดูแลจนกระทั่งอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ หมออนุชิตตัดสินใจขอจินตนาแต่งงาน แต่จินตนาไม่ให้คำตอบ จินตนากับสุรีย์ไปเยี่ยมอาจารย์โพเมื่อไปถึงก็พบว่าอาจารย์โพได้มรณภาพในท่า นั่งขัดสมาธิ ซึ่งระหว่างนั้นพระกริสนัยได้นั่งทำสมาธิอยู่เช่นกัน และพระอาจารย์โพก็ได้ปรากฎตัวพร้อมกับบอกว่าการเดินทางของพระอาจารย์สิ้นสุด ลงแล้ว ในขณะที่พระกริสนัยปักกลดอยู่ที่ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แห้งแล้ง และกันดาร และกำลังเผชิญกับปัญหาโรคระบาดพระกริสนัยได้พบกับ”นางมงคล” ที่จะเพิ่งสูญเสียลูกชายไป ด้วยความไม่มีเงินพระกริสนัยจึงเป็นธุระทำศพให้

นาง มงคลจึงถวายที่ดินของตนให้พระกริสนัย พระกริสนัยได้ติดต่อให้สุรีย์และจินตนามาหา เมื่อทั้งคู่มาพบก็ได้เห็นพระกริสนัยกับพวกชาวบ้านกำลังพลิกผืนดินที่แห้ง แล้งให้กลายเป็นวัดบนผืนดินที่นางมงคลถวายให้ พระกริสนัยได้ตั้งปณิธานว่าจะขอเป็นพระอยู่ที่วัดนี้ตลอดชีวิตและขอโทษ สุรีย์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของลูก และบอกให้จินตนาค้นหาความต้องการของตัวเองให้พบ จินตนาเก็บคำพูดของพระกริสนัยไปตรึกตรอง แล้วก็ได้รู้ว่าตนเองนั้นต้องการอะไร

ดินแดนแห่งความฝันของพระกริสนัยจะมีจริงหรือไม่ พระกริสนัยสามารถค้นพบได้อย่างไร คอยติดตามในละครเรื่อง พุทธานุภาพ

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

ผู้ใหญ่ลีกับนางมา เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มาลินี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ได้รับจดหมายของ “คุณยายวัน” (พิสมัย วิไลศักดิ์) ในขณะที่เธอได้อ่านจดหมาย คุณยายวันได้ตายไปแล้ว คุณยายเขียนจดหมายฝากกับผู้ใหญ่ลีให้ไปรับมรดกบ้านกับที่ ไร่นาหลายร้อยไร่ คุณยายของเธอมีความประสงค์ให้มาลินีไปทำไร่นาแทนท่าน และห้ามเด็ดขาดไม่ให้หลานให้คนอื่นเช่าทำ หรือถ้าคิดจะขายก็ให้ขายกับผู้ใหญ่ลีคนเดียวห้ามขายให้กับคนอื่น นำความแปลกใจให้กับมาลินียิ่งนักว่าผู้ใหญ่ลีคนนี้เป็นใคร ทำไมคุณยายจึงให้ความสำคัญกับเขามากนัก

มาลินีไม่สนิทกับคุณ ยายของเธอ แม่เธอเล่าให้ฟังเมื่อครั้งสาวๆ คุณยายอยู่ในรั้วในวังและใกล้เจ้านายชั้นสูง แต่ความรักได้หักอกคุณยายครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งถึงคุณตาของเธอก็เช่น เดียวกัน คุณยายทนความเจ้าชู้มากเมียไม่ได้ถึงหลบมาอยู่ท้องนาแห่งนี้ และคุณแม่ของเธอก็มาเติบ โตที่นั่น คุณยายได้สามีใหม่เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ซื่อสัตย์ขยันขันแข็งช่วยปกครองดูแลการงานจนกระทั่งตายจากไปโดยไม่มีลูก ด้วยกัน คุณยายก็เลยมีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของมาลินี คุณแม่ของมาลินีไม่ชอบชีวิตท้องนาจึงมักไปอยู่กับบิดาของท่านที่กรุงเทพฯ เสมอ จนกระทั่งพบคุณพ่อของเธอและเกิดขัดใจกับคุณยาย คุณแม่จึงเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ จนเธอเกิด นานๆ คุณแม่จึงจะไปเยี่ยมเยือนคุณยายสักครั้งหนึ่งทำให้มาลินีเหินห่างกับคุณยาย ราวกับไม่ใช่หลานของคุณยาย

จดหมายของคุณยายทำให้มาลินีครุ่นคิดอย่างหนัก ทำไมคุณยายจึงบังคับเธอไม่ให้เช่าที่นาแก่ใคร ถ้าเธอไม่ทำเองจะต้องขายให้ผู้ใหญ่ลีแต่ เพียงผู้เดียว มาลินีรู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำนาได้ เพราะเธอไม่เคยอยู่บ้านนอกไม่เคยทำนาเลย และที่สำคัญเธอยังรักอาชีพเดินแบบของเธอยังต้องการสวมเสื้อนำสมัย เดินกรุยกรายท้าทายสายตาผู้คนอยู่

ประดิษฐ์ (เกียรติกมล ล่าทา) เป็น แฟนของมาลินี ถึงเขาจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง มาลินีเห็นว่านั่นเป็นลักษณะของผู้นำและมาลินีก็ทำตัวเป็นผู้ตามตลอดเวลา และเธอก็จะงอนง้อเขาทุกครั้งที่ต้องทะเลาะกัน มาลินีคิดเอาเรื่องคุณยายไปปรึกษาประดิษฐ์แต่เขาไม่ยอมมาพบเธออ้างโน่นนี่ และในที่สุดมาก็รู้ว่าเขาไปมีหญิงคนใหม่ มาลินีเสียใจและมันก็ทำให้เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะไปอยู่บ้านคุณยายของ เธอ

ผู้ใหญ่ลี หรือ ลีนวัตร (ทฤษฎี สหวงษ์) เป็นผู้ที่คุณนายวันให้ความรักและความเอ็นดูเป็นอย่างมาก เมื่อเขายังเด็ก พ่อและแม่ของลีจะไม่ให้เขาเรียนต่อ เพราะเกรงว่าเมื่อได้เรียนมากๆ แล้วจะทิ้งไร่นาไม่ยอมกลับมาทำ แต่คุณนายวันเป็นคนที่มองการณ์ไกล ได้ขอร้องพ่อแม่ของผู้ใหญ่ให้เขาได้เรียนต่อ เพราะเขาเป็นเด็กที่เรียนดี ควรส่งให้เขาได้เรียนสูงๆ แล้วกลับมาพัฒนาท้องถิ่น ถ้าพ่อแม่ของเขาไม่ส่งเรียนคุณนายจะเป็นคนส่งเอง ด้วยแรงสนับสนุนของคุณนายวันคอยช่วยเหลือจุนเจือทุกอย่าง ทำให้ลีนวัตร หรือผู้ใหญ่ลีได้เรียนต่อจนสำเร็จปริญญาเกษตรศาสตรบัณฑิต และเป็นที่รักของชาวบ้าน ได้รับความไว้วางใจเลือกเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านต่อจากพ่อของเขาคือผู้ใหญ่ลอ ผู้ใหญ่ลีเอาความรู้จากวิชาการสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาไร่นาและชาวนา ให้ความรู้เกษตรแผนใหม่กับชาวบ้าน ใครตกทุกข์ได้ยากผลผลิตไม่ดีหรือภัยโรคพืชต่างๆ ผู้ใหญ่จะคอยช่วยเหลือ   ผู้ใหญ่ลีรักและนับถือคุณนายวันมาก คอยดูแลเอาใจใส่ช่วยงานคุณนายวันผู้มีพระคุณกับเขา ทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้คุณนายวันจึงรักและเอ็นดูให้ความไว้วางใจเขามาก สิ่งที่คุณนายวันได้วางแผนไว้ทั้งหมดก่อนตายคือการเขียนพินัยกรรมยก ทรัพย์สินบ้านไร่นาให้กับมาลินีหลานสาวคนเดียว เพราะต้องการให้มาลินีได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ลี และต้องการให้สมบัติตกอยู่กับคนที่ท่านรักทั้งสองคนคือผู้ใหญ่ลีกับมาลินี

มาลินีมาถึงบ้านคุณยาย ก็ทราบจากปี๊ดว่าตอนนี้ศพของคุณยายไปอยู่ที่วัด เพราะคุณยายตายมาได้สองอาทิตย์แล้ว ผู้ใหญ่ลีเป็นคนจัดการเรื่องสวดอภิธรรมและเป็นธุระให้ทุกอย่าง ปื๊ดบอกผู้ใหญ่ลีรอมาลินีมาเก็บศพคุณนายวันและกำหนดวันเผา มาลินีนึกโกรธผู้ใหญ่ลี คุณยายตายมาตั้ง สองอาทิตย์แล้ว ทำไมเธอจึงเพิ่งได้รับจดหมายของคุณยายเมื่อวานนี้เอง คิดว่าเขาคงทำเอาหน้าส่งจดหมายให้เธอล่าช้า ชาวบ้านจะได้ตำหนิเธอว่าเป็นหลานที่อกตัญญูไม่ยอมมาจัดการงานศพให้คุณยาย และดูคุณยายจะไว้เนื้อเชื่อใจผู้ใหญ่ลีคนนี้เสียเหลือเกิน…ปื๊ดพาคุณมาเดิน ชมทั่วบ้าน พาไปดูสัตว์เลี้ยงของคุณนายวัน พอสิ้นคุณนายลูกจ้างก็ลาออกกันหมดผู้ใหญ่ลีก็เป็นคนรับภาระดูแลให้ทุกอย่าง

ปี๊ด ได้รับมอบหมายจากพ่อผู้ใหญ่ให้คอยดูแลมาลินี ปื๊ดเป็นเด็กกำพร้าที่ผู้ใหญ่ลีเก็บมาเลี้ยงไว้ตอนที่เขาเรียนมหาลัย เป็นลูกแขกที่มาทิ้งไว้ ปื๊ดเรียกผู้ใหญ่ลีว่าพ่อ และเรียกป้าปุยแม่ของผู้ใหญ่ลีว่าแม่ เป็นคนทำให้มาลินีเข้าใจว่าผู้ใหญ่เป็นผัวของป้าปุยในตอนแรก และทำให้มาลินีเข้าใจผิด

คิดว่าผู้ใหญ่ลีนั้นคงหน้าตาเป็นแขกและแก่แล้วปื๊ดช่วยมาลินีได้มากคือ อยากรู้อะไรก็ถามจากปื๊ด    มาลินีหารู้ไม่ว่าปื๊ดเป็นเครื่องมือของผู้ใหญ่ลี  คอยเก็บข้อมูลในตัวคุณมา มาบอกผู้ใหญ่ทุกเรื่อง มาลินีเริ่มชอบบ้านทุ่งของคุณยายของเธอ เธอหลงใหลบรรยากาศในยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าเป็นอย่างมาก เธอได้พบผู้ใหญ่ลีกำลังขับรถไถนาอยู่ เธอเข้าไปทักทาย เพราะเข้าใจว่าผู้ใหญ่ลีคือนายเหว่า  เพราะได้รับการบอกเล่าจากปื๊ด ว่านายเหว่าเป็นคนขับรถไถนาให้ผู้ใหญ่ลี ผู้ใหญ่ลีนึกสนุกเลยปล่อยเลยตามเลยให้คุณมาเข้าใจว่าตนคือนายเหว่า พร้อมสาธิตการขับรถไถนาให้เธอดูอีกด้วย

…มาลินีประทับใจนายเหว่าที่รูปหล่อแถมยังเก่งมีความรู้เรื่องการทำนาอีก ด้วย มาลินีมาดูผู้ใหญ่ลีในคราบของนายเหว่าไถนาอีกแต่เธอก็ยังไม่ทราบว่าเขาคือ ผู้ใหญ่ลี… กระทั่งถึงวันที่ต้องบรรจุเก็บศพของคุณนายวันที่วัด  ความลับจึงเปิดเผยว่านายเหว่าที่เธอพบนั้นคือผู้ใหญ่ลี  มาลินีทั้งเจ็บใจทั้งอายที่ถูกหลอก

ป้าปุย แม่ของผู้ใหญ่ลี  รักลูกชายมาก และเมื่อเจอมาลินีก็หลงใหลรักใคร่ยิ่งนักอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้  สนับสนุนทำทุกอย่างที่จะให้ทั้งสองรักและได้ลงเอยกัน และยิ่งเป็นความประสงค์ของคุณนายวันผู้มีพระคุณต่อครอบครัวของแกมาตลอดแก ยิ่งทำทุกวิถีทาง  ผู้ใหญ่ลีต้องมาคอยดูแลช่วยเหลือเรื่องการงานทุกอย่างของมาลินี..ทุกเย็น เขาจะมาดูพระอาทิตย์ตกกับคุณมา และต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนมาลินีก็สลัดคราบนางแบบของเธอมาเรียนรู้วิธีการทำนาอย่างตั้งอกตั้งใจ ในเมื่อเธอตัดสินใจจะอยู่ที่นี่เธอก็ต้องทำให้เป็นทุกอย่าง เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านที่เธอไม่เคยได้รู้มาก่อน ผู้ใหญ่ลีนั้นปลื้มและนิยมในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง

เฉลา น้องสาวของผู้ใหญ่ลีนั้นก็รักอยู่กับนายเหว่า ลูกน้องคนสนิทของผู้ใหญ่ลี แต่เฉลานั้นกำลังเรียนอยู่ ผู้ใหญ่ลีจึงพูดจาตักเตือนว่าให้เรียนจบเสียก่อนจึงค่อยริรักกับนายเหว่า แต่ด้วยความที่ทั้งคู่รักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีกีดกันความรักของคนทั้งสอง

เหว่ากับเฉลา จึงหนีหายออกไปจากบ้านด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ทั้งคู่หนีไปพักอยู่ที่บ้านของมาลินี มาลินีพยายามอธิบายให้ผู้ใหญ่ลีเข้าใจถึงความรักของหนุ่มสาวโดยให้นายเหว่า และเฉลากลับมากราบขอโทษผู้ใหญ่ลี ที่เข้าใจผิดและหนีหายไปด้วยกัน  เฉลาสัญญากับผู้ใหญ่ลีว่าจะเรียนให้จบก่อน แล้วค่อยแต่งงานกับเหว่าอีกที  ผู้ใหญ่ลีจึงให้อภัยน้องสาวกับนายเหว่า

ประดิษฐ์ซึ่งรู้ว่ามาลินีมาอยู่ที่นี่และ ได้มรดกของคุณยายมากมายได้ชวนวลัยและสมรเธอทั้งสองเป็นเพื่อนของมาลินี  มาหามาลินีหวังจะขอคืนดี ประดิษฐ์หวังจะได้ทรัพย์สมบัติในส่วนของมาลินีอีกด้วย แต่มาลินีเริ่มเห็นธาตุแท้ของประดิษฐ์ที่เห็นแก่เงิน ไม่ได้ขยันทำมาหากินและช่วยเหลือสังคมเหมือนกับผู้ใหญ่ลี  ทำให้มาลินีไม่ยอมคืนดีด้วย สร้างความแค้นใจให้ประดิษฐ์มากที่เสียเชิงให้กับหนุ่มบ้านนอกอย่างผู้ใหญ่ลี ปทุม ลูกสาวของผู้ใหญ่โหมด ก็มาติดพันชอบผู้ใหญ่ลีเข้าอย่างเต็มหัวใจ เธอเป็นสาวบ้านนอกที่ชอบทำตัวไฮโซแบบเฉิ่มสุดๆพยายามหาทางสวยเด่นแข่งกับ มาลินีสุดขั้ว แต่ยังไงซะผู้ใหญ่ลีก็ไม่เคยสนใจปทุม เพราะใจหัวใจมีแต่มาลินีคนเดียว ปทุมจึงร่วมมือกับประดิษฐ์ วางแผนแยกผู้ใหญ่ลีกับมาลินีให้ห่างออกจากกัน ประดิษฐ์หลอกให้มาลินีมาพบที่กระท่อมยามค่ำคืน พร้อม ๆ กับที่ปทุมเองก็แอบมาดักรอพบผู้ใหญ่ลีที่กองฟางเช่นเดียวกัน พอดีคืนนั้นฝนตกหนัก ไฟก็ดับ

ผู้ใหญ่ลีเดินมาพบมาลินีเสียก่อน จึงไปหลบฝนที่บ้านมาลินี พร้อมบอกความในใจกับมาลินี อีกทั้งยังหมั้นหมายมาลินีด้วยแหวนอีกหนึ่งวง  ผู้ใหญ่ลีสัญญาว่า หากบวชแล้วสึกออกมาเมื่อไหร่  จะแต่งงานกับมาลินีทันที

ทั้งประดิษฐ์และปทุมต่างรอมาลินีกับผู้ใหญ่ลี แต่ด้วยเหตุชุลมุนของฝนฟ้า ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าไปหลบฝนในกระท่อมอันมืดมิด ประดิษฐ์เข้าใจว่าปทุมเป็นมาลินีจึงปลุกปล้ำจนได้เป็นเจ้าของสมใจ

พอตื่นเช้ามาจึงได้รู้ว่าตนเข้าใจผิดแต่ก็ได้ปทุมเป็นเมียเสียแล้ว สุดท้ายผู้ใหญ่ลีก็เข้าพิธีอุปสมบทสร้างความปลื้มใจให้กับแม่ปุยเป็นอย่าง มาก ระหว่างที่บวชนั้น ประดิษฐ์แค้นใจจัดที่ต้องพลาดหวังจากมาลินี จึงแก้เผ็ดผู้ใหญ่ลีด้วยการพาฉลวย น้องสาวของผู้ใหญ่ลีอีกคน เข้ากรุงเทพฯ ไปถ่ายหนังเรทอาร์ พอดีมาลินีรู้ข่าวเสียก่อน จึงไปตามไปช่วยฉลวยได้ทัน  ผู้ใหญ่ลีเองก็มากับปื๊ด เพื่อมาช่วยฉลวยอีกแรงทั้งที่ยังห่มผ้าเหลืองอยู่ ครั้งนี้ผู้ใหญ่ลีซึ้งในน้ำใจของมาลินีมากขึ้นไปอีก พระผู้ใหญ่ลีให้ฉลวยกลับไปเรียนที่บ้านตัวเอง อย่ามาดิ้นรนเพื่อจะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ จนเป็นเหยื่อให้คนชั่วอย่างประดิษฐ์หลอกอีก ฉลวยสำนึกผิด ยอมกลับบ้านแต่โดยดี

ปทุมมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก โหมดเข้าใจผิดคิดว่าผู้ใหญ่ลีเป็นพ่อของเด็กในท้อง จึงตั้งใจจะศึกพระให้ได้  แต่เมื่อความจริงเปิดเผยมาว่า ประดิษฐ์คือลูกเขยตัวจริงก็อับอายขายขี้หน้าหนัก เพราะรู้ดีว่าประดิษฐ์นั้นชั่วช้าขนาดไหน ประดิษฐ์กลายเป็นลูกเขยของผู้ใหญ่โหมดอย่างจำยอม ซ้ำยังถูกปทุมใช้เยี่ยงทาส แต่เขาก็ต้องจำยอมเพราะรู้ดีว่า หากไม่ยอมรับปทุมเป็นเมีย  ประดิษฐ์ต้องถูกโหมดเอาตายอย่างแน่นอน

ผู้ใหญ่ลีสึกออกมาในที่สุด เขาสบายใจมากที่เรื่องปทุม คลี่คลายไปด้วยดี ประดิษฐ์ก็รับกรรมที่ก่อไป ส่วนเฉลากับเหว่าก็ตั้งใจว่าเรียนจบเมื่อไหร่จะแต่งงานกันให้ได้ ส่วนฉลวยก็กลับมาเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัด ไม่ไปกรุงเทพฯอีกแล้ว ผู้ใหญ่ลีจึงขอมาลินีแต่งงานในที่สุด ความรักของทั้งสองกำลังเบิกบานในทุ่งนาของคุณนายวัน ที่มอบไว้เป็นสมบัติให้กับมาลินี  ผู้ใหญ่ลีกับนางมา จึงได้ครองคู่กันในที่สุด

รายชื่อนักแสดงละคร ผู้ใหญ่ลีกับนางมา

1.ทฤษฎี สหวงษ์ – ผู้ใหญ่ลี (ลีนวัตร)
2.เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ – นางมา(มาลินี)
3.เกียรติกมล ล่าทา – ประดิษฐ์
4.วิรากานต์ เสณีตันติกุล – ปทุม
5.วรัญญา เจริญพรสิริสุข –  เฉลา
6.พิมพ์ชนก พลบูรณ์ – ฉลวย
7.สาวิตรี สามิภักดิ์ – ปุย
8.ศานติ สันติเวชกุล – ผู้ใหญ่โหมด
9.อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์ – วลัย
10.ดารณีนุช โพธิปิติ – พิน
11.บริบูรณ์ จันทร์เรือง – เหว่า
12.พิสมัย วิไลศักดิ์ – คุณนายวัน
13.ริชาร์ด เกียร์นี่ – ปื๊ด
14.ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์ – สมร

บัวแล้งน้ำ 2533

บัวแล้งน้ำ เป็นเรื่องของผู้หญิง 5 คน ที่มีปมชีวิตแตกต่างกัน แต่ได้รับการอุปการะจาก”คุณท่าน”ให้เติบโต ปมชีวิตที่แตกต่างกันของแต่ละคนทำให้ทางเดินของชีวิตไม่เหมือนกัน บางคนดีขึ้น บางคนแย่ลง แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่า ยอมรับทางชีวิตของตัวเองได้แค่ไหน