Tag Archives: ปุณยาพร พูลพิพัฒน์

อุบัติเหตุ

วิศนี (อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ) ลูกสาวคนเดียวของอำนวย (ถา-สถาพร นาควิลัย) เจ้าของบริษัทรถยนต์     ยักษ์ใหญ่ กลับจากเมืองนอก มาร่วมงานแต่งระหว่างพ่อกับกรแก้ว (นุ่น-ดารัณ บุญยศักดิ์) แต่วิศนีหักหน้าทั้งคู่โดยจ้างทีมแดนเซอร์มาเต้นวาบหวิวในงานทำให้กรแก้วขาย หน้า อำนวยโกรธมากเรียกวิศนีมาต่อว่า วิศนีประกาศจะไม่กลับไปเรียนต่อแต่จะมาอยู่ที่บ้าน กรแก้วคิดจะทำหน้าที่แม่เลี้ยงให้ดีที่สุด แต่ด้วยความเป็นผู้ดีเก่า ถือตัว ความวุ่นวายจึงตามมา

วิศนีเอารถของกรแก้วไปเยี่ยมแวว (ต้อม-รัชนีกร พันธุ์มณี) ผู้เป็นแม่แท้ๆ ระหว่างทางรถเกิดไปชนท้ายรถของอารุม (อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์ )และเดชชาติ (เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) ที่กำลังจะไปร่วมงานรับปริญญาของนีรนุช (ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) น้องสาวของนนทลี (เอมมี่-มรกต กิตติสาระ) คนรักของอารุม วิศนีกับอารุมไม่ถูกกันตั้งแต่แรกพบ ดีที่เดชชาติช่วยไกล่เกลี่ย เมื่อวิศนีไปถึงบ้านแววก็เกือบถูกชีพ (จุ๊บ-อิทธิกร สาธุธรรม) สามีใหม่ของแววปล้ำ วิศนีผิดหวังที่รู้ว่าแม่มีครอบครัวใหม่ พอกลับบ้านก็ถูกพ่อต่อว่าที่นำรถกรแก้วไปใช้ อำนวยตัดปัญหาด้วยการพาวิศนีไปเลือกรถที่บริษัท และให้ฝึกงานเป็นเลขาของอารุม วิศนีหมั่นไส้ที่อารุมเอาแต่เคร่งเครียด จึงแกล้งไม่ใส่ใจงาน ทำให้อารุมเหนื่อยใจ  นนทลีพยายามแสดงความเป็นเจ้าของอารุม ตามแรงยุของ กุสุมา (เบ็นซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) เพื่อนสนิทโดยไม่รู้ว่าความจริงแล้วกุสุมาทำเพราะแอบหลงรักอารุมและหวังจะ ได้แต่งงานกับเขา แต่วิศนีไม่ใส่ใจ และยังทำยียวนใส่อารุมเสมอ

โยธิน (แอนดรูว์-กรเศก โคร์นิน) ลูกชายคุณนายอวลอบ เพื่อนไฮโซของกรแก้วสนใจวิศนี จึงคิดจีบด้วยหวังจะใช้เงินของวิศนีมาพยุงฐานะของครอบครัว แต่วิศนีดูออกว่าโยธินเป็นคนเจ้าชู้จึงไม่สนใจ เธอให้ความสนิทสนมกับเดชชาติเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ดี ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของวิศนีกับอารุมก็ดีขึ้น เมื่อต่างรู้ปัญหาของกันและกัน อารุมเข้าใจปัญหาเรื่องครอบครัวของวิศนี ในขณะที่วิศนีได้รับรู้เรื่องส่วนตัว รวมถึงอนาคตที่อารุมจะสร้างครอบครัวกับนนทลี แต่นนทลีกลับมองว่าอารุมยังไม่พร้อมด้านการเงิน

อำนวยอยากให้ลูกสาวคบกับคนระดับเดียวกันเลยบังคับให้วิศนีเล่นละครเวทีการ กุศลคู่กับโยธิน ตามคำแนะนำของกรแก้ว ส่วนแววรู้ว่าอำนวยหาคู่ให้ลูก เธอจึงหาผู้ชายมาให้วิศนีเลือกบ้าง แถมยังพาไปก่อกวนในงานการกุศล ที่วิศนีเล่นละคร จนวิศนีเสียใจที่พ่อแม่เห็นเธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่ง อารุมสงสารจึงพาวิศนีไปสงบสติอารมณ์ แต่กลับทำให้นนทลีหึงหวงมากขึ้น กุสุมายุให้นนทลีไปมีชายอื่นเพื่อยั่วอารุม โดยเฉพาะโยธินที่มาตามจีบ นนทลีไม่รู้ว่าโยธินจีบเธอเพื่อแก้แค้นอารุมที่มายุ่งกับวิศนี แต่นนทลียังละอายไม่กล้ายุ่งกับโยธิน จนวันหนึ่ง นนทลีทะเลาะกับอารุมอย่างหนักเลยไปดื่มเหล้าแก้เครียดและเจอกับโยธินจนพลาด ท่าได้เสียกับเขา อารุมกับทุกคนเป็นห่วงนนทลีมาก เมื่อนนทลีกลับมา อารุมตัดสินใจแก้ปัญหาทั้งหมด และตัดความรู้สึกที่เขาเริ่มมีให้วิศนีด้วยการขอนนทลีแต่งงานต่อหน้าทุกคน รวมถึงวิศนี นนทลีตกลงทันที แม้ในใจจะยังระแวงกลัวอารุมรู้เรื่องเธอกับโยธิน วิศนีแอบเศร้าลึกๆ เดชชาติเห็นใจเพราะมองออกว่า อารุมกับวิศนีมีใจให้กัน จึงคอยปลอบใจเธอ แม้ตัวเองจะเศร้าไม่แพ้กันก็ตาม

 

วิศนีตัดสินใจจะกลับไปเรียนต่อฝรั่งเศส ขณะที่ กุสุมาแอบรู้ความลับเรื่องนนทลีกับโยธินเลยถ่ายคลิปไว้แฉให้อารุมรู้ วิศนีมาเก็บของและกล่าวลาอารุม ทั้งคู่ต่างหวั่นไหว วิศนีเผลอปัดกล่องแหวนที่อารุมซื้อให้นนทลีตกจึงเก็บให้ แต่ยังไม่ทันยื่นคืน นนทลีก็เข้ามาเห็นและเข้าใจผิดว่าวิศนีคิดแย่งอารุม วิศนีตามไปแก้ตัว แต่นนทลีไม่ฟัง ทำให้วิศนีโมโหหลุดปากถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างนนทลีกับโยธิน นนทลีระแวงจึงนัดพบโยธินเพื่อกำชับเรื่องความลับนี้ อำนวยเรียกวิศนีไปต่อว่าเรื่องชู้สาวต่อหน้าพนักงาน ทำให้วิศนีน้อยใจผลุนผลันขับรถออกไปอย่างเร็วโดยไม่เห็นนนทลีที่รีบร้อนจะไป หาโยธิน วิศนีพยายามเหยียบเบรกแต่รถก็ยังพุ่งเข้าใส่นนทลีอย่างแรงต่อหน้าเดชชาติ อารุมเข้ามาประคองร่างนนทลีที่จมกองเลือดร้องไห้ไม่อายใคร วิศนีตกใจจนเป็นลมเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นฆาตกร

ระหว่างที่วิศนีอยู่โรงพยาบาล กรแก้ววิ่งเต้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อครอบครัวนนทลี แต่อารุมและนีรนุชไม่ยอม อารุมจึงยื่นใบลาออกและตั้งทนายฟ้องวิศนีข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา ส่วนกุสุมาพยายามจะแทนที่นนทลี แต่อารุมไม่สนใจ หลังเกิดอุบัติเหตุ วิศนีกลายเป็นคนซึมเศร้า มีเพียงเดชชาติที่เข้าใจเธอ วิศนีขอร้องให้เดชชาติพาไปเคารพศพนนทลีแต่ก็ถูกไล่ออกมา โยธินถือโอกาสเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยหาทนายมือดีมาสู้คดี จนเป็นคนโปรดของอำนวย วิศนีไม่ดีใจที่ชนะคดี เพราะอารุมยังไม่ให้อภัยเธอ อำนวยบังคับให้วิศนีหมั้นกับโยธิน อารุมเศร้าเมื่อรู้ข่าว แววพยายามจะทำลายงานหมั้นแต่ไม่สำเร็จ โยธินยังหึงหวงเมื่อรู้ว่าวิศนีไม่ลืมอารุม จึงคิดจะปล้ำ วิศนีหมดความอดทนปาแหวนหมั้นทิ้งและกลับบ้านทันที แต่พอถึงบ้าน วิศนีก็พบว่าตัวเองตกเป็นขี้ปากพวกเพื่อนคุณหญิงคุณนายของกรแก้ว วิศนีหมดความอดทนด่าประจานจนแตกกระเจิงและพาลไปถึงอำนวยด้วย อำนวยตบหน้าวิศนีอย่างแรง วิศนีน้อยใจพ่อจึงย้ายไปอยู่กับแวว แต่กลับถูกแววไล่และด่าที่ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอกรแก้ว วิศนีเพิ่งรู้ว่า ตัวเองมีค่าแค่เครื่องมือแก้เผ็ดกรแก้วของแวว วิศนีบากหน้าไปขอโทษอารุม แต่เขาไม่ยินดียินร้าย ด้วยตัวเขาคิดจะไปเริ่มต้นใหม่ที่ต่างจังหวัดเพื่อลืมอดีต วิศนีขอไปด้วย อารุมปฏิเสธในตอนแรก แต่เมื่อเห็นวิศนีไม่มีที่ไป เขาจึงยอมให้เธอไปด้วย ขณะที่เดชชาติตามง้อและอธิบายกับนีรนุชที่เขาช่วยเป็นพยานให้วิศนี จนนีรนุชใจอ่อนยอมดีกับเดชชาติ ทั้งคู่กลับมาเป็นพี่น้องกันอีกครั้ง โยธินเห็นว่าบริษัทของตัวเองถูกยึด จึงมาพูดหลอกล่ออำนวยจนได้ย้ายเข้ามาทำงานในบริษัทของอำนวย โยธินหลอกใช้นักบัญชีสาวในบริษัทให้ช่วยยักยอกเงิน โดยหลอกว่าจะแต่งงานด้วย

อารุมไปอยู่บ้านที่ชายหาดของวิโรจน์ (แอม-ปริญญา วิโรจน์แสงประทีป) โดยมีฉาย คนเฝ้าบ้านของวิโรจน์ดูแลต้อนรับอย่างดี  อารุมปฏิบัติต่อวิศนีอย่างไม่มีเยื่อใย เพราะยังเจ็บแค้นเรื่องการตายของนนทลี แต่วิศนีก็      ก้มหน้ายอมรับการโขกสับอย่างอดทน  อารุมเริ่มต้นชีวิตใหม่เป็นชาวประมงโดยไม่สนใจความเป็นอยู่ของวิศนี แถมยังแกล้งให้เธออยู่บ้านคนเดียว แต่วิศนีไม่ย่อท้อหางานทำและพยายามตามง้อขอโทษอารุม จนวันหนึ่ง อารุมได้รับอุบัติเหตุตกเรือหมดสติ วิศนีคอยดูแลเฝ้าไข้ทั้งคืนและทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมารักษาอารุมจนตัว เองล้มป่วย เมื่ออารุมหายดีก็ปฏิบัติต่อวิศนีดีขึ้นและเปิดใจให้อภัย เดชชาติรู้เรื่องวิศนีจึงมาเยี่ยม นีรนุชตามมาด้วย เธอผิดหวังมากที่เจอวิศนีและคิดว่าอารุมทรยศนนทลี กุสุมาสืบรู้ที่อยู่ของอารุมจากวิโรจน์ จึงมาตามและพูดให้อารุมนึกถึงนนทลี จนอารุมสับสน ขณะที่ นีรนุชเข้าไปทำงานในบริษัทของอำนวย เพื่อสืบหาความจริงเรื่องพี่สาว และเรื่องที่เธอถูกลอบทำร้ายช่วงที่มีคดีความกับวิศนี เดชชาติพยายามพูดจนนีรนุชเริ่มลดความแค้นลง กุสุมาไปบอกโยธินว่าวิศนีอยู่กับอารุม ขณะที่อารุมฝันเห็นนนทลีมาตัดพ้อก็รู้สึกผิดจึงดื่มเหล้าเมาและปล้ำวิศนี วิศนียอมเป็นของอารุมด้วยความรักที่มีให้เขาและหวังจะชดใช้ความผิด

วิศนีหนีกลับกรุงเทพฯไปพักกับเดชชาติ กุสุมาไปบอกโยธินและอำนวย ทั้งคู่จึงพาตำรวจไปจับเดชชาติข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว วิศนีจำต้องกลับบ้านกับพ่อเพื่อไม่ให้เดชชาติเดือดร้อน อำนวยกับกรแก้วคิดจะให้วิศนีแต่งงานกับโยธินโดยเร็ว อารุมรู้ข่าวเลยกลับกรุงเทพฯทันที และบอกกับทุกคนว่าวิศนีเป็นภรรยา แต่เธอกลับไม่มีเยื่อใย

แต่แล้ว อำนวยก็จับได้ว่าโยธินโกงบริษัทจึงยกเลิกงานแต่งและไล่เขาออก โยธินแค้นจึงให้คนไปฆ่าอำนวยปิดปาก โดยทำเหมือนเป็นอุบัติเหตุ ดีที่มีพลเมืองดีมาช่วยได้ทัน แต่อำนวยยังไม่รู้สึกตัว วิศนีเป็นห่วงมาก กรแก้วขอให้โยธินช่วยดูแลบริษัท ทำให้โยธินได้ใจยักยอกเงินหนักขึ้น ส่วนแววย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านอำนวย เพราะกลัวกรแก้วจะยึดสมบัติ ทำให้วิศนีเหนื่อยใจหนีไปเฝ้าอำนวย อารุมตามมาง้อ แต่วิศนีไม่ยอมคืนดีด้วย เขาจึงไปปรับทุกข์กับเดชชาติและสารภาพว่ารักวิศนี นีรนุชบังเอิญผ่านมาได้ยินก็เสียใจมากเพราะแท้จริงนีรนุชแอบหลงรักอารุมมา โดยตลอด

กุสุมาตามตื๊ออารุม แต่เขาไม่เล่นด้วย เธอจึงหันไปร่วมมือกับโยธินเพื่อแยกอารุมกับวิศนีออกจากกัน กุสุมาขอมาอยู่กับอารุมชั่วคราว แต่ไปบอกวิศนีว่ามีอะไรกับอารุม วิศนีตัดสินใจแต่งงานกับโยธิน และกลับไปทำงานที่บริษัท วิศนีเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติระหว่างโยธินกับนักบัญชีสาว ด้านคนที่แววส่งมาตามจีบวิศนี ถูกวิศนีปฏิเสธจริงจังก็ผิดหวัง จึงหันไปจีบนีรนุชแทน แต่นีรนุชไม่เล่นด้วยและขอให้เดชชาติช่วยมาเป็นแฟนกำมะลอ ความใกล้ชิด ทำให้เดชชาติกับนีรนุชเริ่มหวั่นไหว  กุสุมาพยายามทอดสะพานให้อารุม แต่ไม่เป็นผล กุสุมาหมดความอดทนต่อว่าอารุมและหลุดพูดเรื่องนนทลีกับโยธิน อารุมกับนีรนุชจึงตาสว่าง อารุมไปถามโยธินและเอาคลิปจากกุสุมาเปิดให้ฟัง โยธินไม่ยอมรับและส่งคนไปทำลายคลิป แต่ไม่สำเร็จ วันแต่งงานของวิศนีกับโยธิน อารุมเอาคลิปมาเปิด และชิงตัววิศนีไป โดยมีเดชชาติกับนีรนุชช่วยเหลือ วิศนีขัดขืนและหนีลงจากรถระหว่างทางจนหัวฟาดพื้นสลบ โยธินพาวิศนีไปส่งโรงพยาบาล และให้ตำรวจจับอารุม กรแก้วเครียดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่พี่สาวช่วยพูดเตือนสติจนเธอกลับไปดูแลอำนวยและวิศนี พร้อมทั้งอดทนทำดีกับแววมากขึ้น เดชชาติกับนีรนุชช่วยหาเงินมาประกันตัวอารุม
เมื่ออารุมออกมาก็พยายามเข้าหาวิศนี แต่ถูกกรแก้วกับแววกีดกัน จนเขามีโอกาสช่วยอำนวยซึ่งอาการดีขึ้นให้พ้นจากการถูกลูกน้องโยธินฆ่าปิดปาก กรแก้วจึงยอมให้อารุมมาดูแลวิศนี เมื่อวิศนีฟื้น ก็แกล้งความจำเสื่อมเพื่อให้อารุมตัดใจและตกลงแต่งงานกับโยธินอีกครั้ง เพราะคิดว่ามันจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

แผนชั่วของโยธินจะถูกเปิดโปงหรือไม่ กุสุมาจะทำอย่างไรเมื่อไม่สมหวังในรัก บทสรุปของครอบครัววิศนี รวมถึงความรักระหว่างเธอกับอารุมจะลงเอยเช่นไร ร่วมเป็นกำลังใจให้ทุกชีวิตได้..

เหนือทรายใต้ฟ้า

คงชนะ และ คงคิด สองพี่น้องทายาทไร่ชาที่เกิดมาแตกต่างกัน คงชนะร่างกายแข็งแรง เป็นโค้ชวอลเลย์บอลชายหาด ในขณะที่คงคิดเป็นหอบ สู้แดดไม่ไหว ปู่กันทร ต้องการยกตำแหน่งประมุขไร่ชาให้คงชนะ แต่คงชนะปฏิเสธเพราะยืนยันในความฝันที่จะสร้างนักกีฬาให้เป็นแชมป์วอลเลย์บอลชายหาดระดับนานาชาติให้ได้ ลุงอาคม เสนอตัวเป็นประมุขแทน แต่กันทรกลัวอนาคตไร่ชาต้องล่มสลาย เพราะอาคมคิดการพนัน จึงบังคับให้คงชนะเลิกเป็นโค้ชทันที ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นจนในที่สุดก็เกิดโศกนาฏกรรมสังหารหมู่ขึ้นที่ไร่ชา คงชนะกลับมาสนามแข่งในสภาพบอบช้ำทางจิตใจที่เป็นต้นเหตุให้ปู่ตาย แล้วยังเจอสภาพความพ่ายแพ้ของนักกีฬาในทีมคือ ชานุ และ กังวาน ที่เล่นอย่างไร้วินสัย โยสิยา โค้ชทีมหญิงตำหนิคงชนะ ทุกคนมองว่าคงชนะละทิ้งหน้าที่ พ่อของชานุ ชานนท์ ที่กรรมการสมาคมวอลเลย์บอลชายหาดเอกชน บีชฟอร์ฟัน ขู่จะไล่คงชนะออก แต่ทุกคนก็รู้ความจริงภายหลังว่าคงชนะกดดันกับการเป็นโค้ช ที่ต้องแลกกับชีวิตของคนในครอบครัวเพียงใด คงชนะพานักกีฬามาเก็บตัวซ้อมที่ริมทะเล ชานุเก่งแต่เข้ากับคนอื่นไม่ได้มีปัญหาเรื่องผู้หญิงตลอด ทั้งๆ ที่มี น้ำริน นักกีฬาในทีมของโยสิยาเป็นแฟนอยู่แล้ว คงชนะงัดข้อกับชานุหลายครั้ง สายลม เด็กยกน้ำที่คงชนะเอามาฝึกคอยช่วยเหลือปกปิดความผิดให้ชานุ ต่างจากกังวานที่ถึงจะเป็นทีมเดียวกัน แต่ก็หาทางจะแทนที่ชานุทุกครั้งที่มีโอกาส โยสิยามีปัญหากับน้ำรินและ สีส้ม น้ำรินเห็นว่าโยสิยาคือโค้ชตกอับ แต่โยสิยาก็ให้บทเรียนกับเด็กสาวสองคนว่า ความเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เป็นทีม ชานุหักห้ามใจให้อยู่ในระเบียบไม่ได้ แอบหนีไปจีบ ลูกโป่ง น้องสาวของ ตะปู เด็กเก็บมะพร้าวในสวน ลูกโป่งหลงรักชานุด้วยความเท่ห์จนเกิดเรื่องหึงหวงกับน้ำริน ลูกโป่งลอบทำร้ายน้ำรินด้วยความคิดแบบเด็กๆ แต่กลายเป็นว่าคนรับเคราะห์แทนคือชานุ ทั้งทีมถูกเรียกสอบสวน เพราะชานุบาดเจ็บที่ขา ชานนท์ต้องการให้คงชนะเป็นแพะรับบาปความผิดที่ลูกชายก่อ คงชนะหมดใจกับชานุที่ไม่มีน้ำใจนักกีฬา ยอมโดนไล่ออกท่ามกลางเสียงทัดทานของทุกคน โดยเฉพาะโยสิยาที่รู้ว่าคงชนะทุ่มเทให้เด็กมากแค่ไหน คงชนะกลับมาตั้งหลักจะทำไร่ชากับพี่ชาย คงคิดเห็นน้องไม่สบายใจในสิ่งที่เลือก แต่คงชนะยืนยันว่าจะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับวอลเลย์บอลชายหาดอีก โยสิยาได้คุมทีมชายและหญิงแทนคงชนะ จึงคิดพยายามเอาชนะเด็กๆ ที่ไม่นับถือในฝีมือจนเกิดเรื่อง เมื่อน้ำรินกับชานุแหกคอกไม่ยอมไปแข่งเอาเงินมาช่วยแม่โยสิยาที่ป่วยหนัก โยสิยาเสยแม่ไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กๆ คงชนะรู้ว่าบาดแผลในใจโยสิยาลึกเกินกว่าที่เด็กๆ จะเอ่ยเพียงคำขอโทษ คงชนะและคงคิดลงไปปลอบโยนโยสิยา คงคิดห่วงใยโยสิยามากเกินคนรู้จัก แต่โยยาก็รักษาระยะห่างไว้เพราะเธอมีคงชนะเข้ามาอยู่ในใจเงียบๆ เนิ่นนานแล้ว ที่สวนยางของโยสิยา คงชนะได้ช่วย น้าโอเล่ ชายเพี้ยนแต่จิตใจดี และรับมาอยู่ด้วย คงชนะลงไปหาลูกโป่งด้วยความเป็นห่วง ตะปูที่เอาแต่เข้มงวดกับน้ำหมดวิธีที่จะทำให้ลูกโป่งเลิกเพ้อหาชานุ คงชนะใช้วอลเลย์บอลชายหาดสอนสองพี่น้องวัยรุ่นให้รู้จักเสียเหงื่อเพื่อเล่นกีฬา ดีกว่าเสียน้ำตาให้ความรัก ตะปูศรัทธาคงชนะและขอฝึกวอลเลย์บอลชายหาด เพราะความหวังว่าเมื่อได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ อาจจะมีโอกาสขออภัยโทษให้แม่ที่กำลังติดคุก ชานุกับน้ำรินหยิ่งทะนงในความเก่งของตัวเอง จนเล่นร่วมทีมกับสีส้มและกังวานไม่ได้ ความบาดหมางร้าวลึกกินใจจนทีมระส่ำระส่าย จุดแตกหักมาถึงเมื่อชานุตามมาอาละวาดที่คงชนะยอมเป็นโค้ชให้ทีมเด็กเก็บมะพร้าวอย่าง ตะปู, ลูกโป่ง, ธูป, พะยูน เพราะชานุรู้อยู่แก่ใจว่าคงชนะเป็นโค้ชที่เก่ง และสามารถหล่อหลอมนักกีฬาคนหนึ่งจากศูนย์ไปสู่แชมป์ได้ ชานุฟาดหัสฟาดหางจนต้องหยุดซ้อม เมื่อกลับมาที่สมาคมทุกคนก็ต้องช็อคกับข่าวร้ายว่าทั้งทีมถูกถอดหมด ตั้งแต่ผู้จัดการทีม โค้ช ลงมาถึงนักกีฬา เนื่องจากทำให้สมาคมเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังการสับเปลี่ยนขั้วอำนาจครั้งนี้มาจากฝีมือ มุนินทร์ เศรษฐีที่ต้องการแปรรูปกีฬาไปสู่การพนัน โดยมี สันติราษฎร์ นักกีฬาอดีตคนรักเก่าของโยสิยาเป็นหุ่นเชิดชักใยเบื้องหน้าในสมาคม สันติราษฎร์สร้างทีมใหม่ที่มี พิมล, ฝนทิพย์, ปวีณ์ แทนที่นักกีฬาเก่า ทุกคนเคว้งคว้างแตกกระสานซ่านเซ็น ชานุถลำลึกไปสู่ยาเสพติด ในขณะที่น้ำรินถูกกลุ่มวัยรุ่นลวนลามและขับรถหนีจนเกิดอุบัติเหตุแขนหักและหน้าเละ น้ำรินกับชานุต่างโทษกันและจบความสัมพันธ์ด้วยความไม่เข้าใจ น้ำรินอับอายไม่สามารถทนอยู่กับอุปสรรคบนเส้นทางนักกีฬาได้ จึงทิ้งความฝันไปเรียนต่อ คงชนะกับโยสิยาช่วยกับประคับประคองจิตใจเด็กทุกคนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ชานุเป็นคนเดียวที่กล่าวโทษทุกคนและตัดขาดจากกีฬา มุนินทร์เห็นช่องทางจึงโอบอุ้มชานุเข้าทีม เพื่อเป็นตัวหลักสำคัญในการสร้างนักกีฬาวอลเลย์บอลชายหาดเพื่อการพนันระดับชาติ สายลมไปอยู่กับตะปูและลูกโป่ง เด็กทั้งสามมุ่งมั่นที่จะซ้อม คงชนะได้ข่าวเรื่องมุนินทร์หลอกใช้ชานุก็หาหนทางดึงชานุออกมา มุนินทร์ส่งสันติราษฎร์ไปทำร้ายคงชนะเพื่อตัดตอนปัญหาทุกอย่าง แต่แผนผิดพลาดคงชนะหนีรอดด้วยความช่วยเหลือของหญิงชาวบ้านอย่าง น้าบุหงา แต่อดีตโค้ชวอลเลย์บอลชายหาดกลับกลายเป็นเพียงคนกรีดยางที่สติเลอะเลือน โยสิยาตามหาคงชนะจนล้มป่วยและมีคงคิดคอยดูแลอยู่ด้วยความรัก เด็กๆ ทุกคนทิ้งความเกลียดชังที่เคยมีต่อกันไปหมดและร่วมออกตามหา เพื่อพาโค้ชที่สร้างพวกเขาขึ้นมากลับสู่สนามวอลเลย์บอลชายหาดอีกครั้ง คงคิดเครียดกับความเป็นความตายของน้องชายจนเกิดเรื่องผิดใจกับเด็กๆ โดยมีมุนินทร์และสันติราษฎร์สร้างสถานการณ์อยู่เบื้องหลัง แต่เสียงเพลงแห่งสายสัมพันธ์ที่เชื่อมใจของทุกคนไว้ก็นำพาคงชนะกลับมาสู่สนาีทราย ความหวังของทุกคนจึงถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้ง คงชนะต้องการล้มขบวนการมุนินทร์ สายลมอาสาเข้าไปเป็นคนสืบความลับจนแผนของมุนินทร์กับสันติราษฎร์ถูกทำลาย สันติราษฎร์ไหวตัวทันตีสองหน้ากลับมาช่วยคงชนะ แต่แรงแค้นของมุนินทร์ไม่ได้จางหายไป เช้าหนึ่งก่อนการแข่งขันสายลมที่กำลังซ้อมวิ่งถูกยิงล้มลงบนหาดทราย หัวใจของทุกคนรับรู้ความเจ็บปวดของคนดีอย่างสายลมที่สูญเสียขา สายลมหมดหวังกับอนาคตที่เพิ่งเริ่ม ชานุที่เคยเห็นสายลมเป็นลูกไล่ในทีมกลับเป็นคนดึงสายลมขึ้นมาจากความท้อแท้ ตะปู, ลูกโป่ง, สีส้ม หนุนหลังให้สายลมออกวิ่ง คงชนะถามสายลมว่าเล่นกีฬาเพื่ออะไร เมื่อสายลมตอบตัวเองได้ขาเทียมที่ต้องใส่ก็ไม่ใช่อุปสรรค ชานุซ้อมวิ่งกับสายลมที่ปั่นวีลแชร์ ต่างคนต่างวิ่งด้วยขาคนละแบบ แต่ต่างหวังจะไปให้ถึงเส้นชัยของการแข่งขันพร้อมๆ กัน ในขณะที่สันติราษฎร์ยังคงทำลายทีมนักกีฬาด้วยการพนันอย่างลับๆ กิจการไร่ชาเสียหายคงชนะต้องกลับมาช่วยคงคิดฟื้นฟูไร่ ท่ามกลางความรักที่มีให้ผู้หญิงคนๆ เดียวคือโยสิยา คงคิดรู้ว่าคงชนะห่วงเด็กๆ แต่คงชนะบอกกับพี่ชายว่า เด็กก็คือยอดอ่อนของชา เขาเป็นเพียงคนปลูกที่ต้องเฝ้ารอฤดูกาลอันเหมาะสมในการเก็บชาแต่ละต้นซึ่งกำลังเติบโต การแข่งเพื่อคัดตัวแทนนักกีฬาวอลเลย์บอลชายหาดแห่งประเทศไทยใกล้เข้ามา ชานุกับตะปูที่เล่นคู่กับหวังเพียงตำแหน่งตัวแทนประเทศไทย ลูกโป่งกับสีส้มอดทนซ้อมที่จะเล่นให้เข้ากัน กังวานที่ถูกสันติราษฎร์สร้างขึ้นมาเพื่อทำลายก็พร้อมสำหรับการโกงในเกมส์ทุกรูปแบบ คงชนะวางแผนการซ้อมอย่างหนักสำหรับเด็กทุกคน ก่อนเสียงนกหวีดเริ่มการแข่งขันจะดังขึ้น เด็กๆ ทุกคนตั้งตารอโค้ชที่พวกเขารัก แต่คงชนะไปไม่ถึงสนามเพราะการกลับมาของมุนินทร์ มีเม็ดทรายอีกนับร้อยนับพัน ที่ไม่ต้องการเป็นทรายไร้ค่า รอเวลาคลื่นซัดตกสู่ก้นบึ้งท้องทะเล เม็ดทรายเหล่านั้นกำลังสะท้อนแสงแวววาวกระทบแดด ส่องประกายรอผู้หยิบขึ้นมาเจียระไหน ให้เจิดจรัสบนสนามสีทราย ติดตามความสนุกเหล่านี้ได้ในละคร เหนือทรายใต้ฟ้า

รายชื่อนักแสดง เหนือทรายใต้ฟ้า
อานัส ฬาพานิช รับบท คงชนะ
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ รับบท โยสิยา
หลุยส์ สก๊อต รับบท ชานุ
วนิดา เติมธนาภรณ์ รับบท น้ำริน
อภิชาต พัวพิมล รับบท คงคิด
กฤษฎี พวงประยงค์ รับบท สายลม
นันท์นภัส นภัสธนาเกียรติ รับบท สีส้ม
เดชา สุวรรณสุโข รับบท ตะปู
สุนันทา ยูรนิยม รับบท ลูกโป่ง

หมอชิตสะกิดรัก

หมอชิต..ท่ารถขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย..ที่ซึ่งพบ กัน และ ลาจาก..ที่ซึ่งคนแปลกหน้าจากทุกภาคมาเจอกัน..และที่สำคัญมันคือสถานที่รวบ รวมหลายร้อยพันเรื่องราว รวมถึงเรื่องรักของอัศจรรย์..หนุ่มมาดกวน กับ ปันดา..สาวน้อยปากร้ายที่จะมาทำให้คุณแช่มชื่นหัวใจ

อัศจรรย์ หรือ อัศ ชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่าๆ รักอิสระ แต่ไม่เข้าขั้นเสเพล ฟอร์มจัด มาดเยอะ ปากตรงกับใจจนทำให้ดูเป็นผู้ชายปากเสีย แต่อัศก็เป็นคนดี และที่สำคัญหน้าตาหล่อจนทำให้สาวๆติดกันตรึม อัศเป็นลูกชายคนเดียวของ..เจ๊จู เจ้าของกิจการรถทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย แต่อัศไม่เคยนึกชื่นชอบในอาชีพของแม่เลย เพราะเขาฝันอยากเป็นสจ๊วต.. ไม่ใช่มานั่งดูแลกิจการรถทัวร์ตามที่แม่เขาอยากให้ทำ แต่ในที่สุดเขาก็หนีไม่พ้น แม่บังคับให้อัศเข้ามาดูแลกิจการรถทัวร์ที่หมอชิต ถ้าอัศไม่ทำตามใจแม่ในครั้งนี้ อัศก็ต้องระเห็จออกไปจากบ้านตัวเปล่า อัศแทบช็อคที่แม่มาไม้แข็ง ทำให้เขาต้องยอมตามใจแม่

 

อัศต้องเดินทางออกจากเชียงใหม่อย่างเร่งด่วนด้วยรถทัวร์ มาถึงหมอชิตแต่เช้าตรู่ ทันทีที่ถึงหมอชิตความซวยก็เข้ามาทักทายทันที อัศทำมือถือหล่นไปอยู่ใกล้ๆกับเท้าของ ปันดา..สาวน้อยวัยยี่สิบต้นๆ ที่แก่นเซี๊ยวเปรี้ยวกะโหลก..ไม่กลัวใคร ปันดาเข้าใจว่าอัศเป็นไอ้พวกโรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรงผู้หญิง ปันดาหันไปตะโกนขอความช่วยเหลือ หนูนายามสาวร่างใหญ่ชาวเหนือวิ่งมาช่วยปันดา และยังมีภารโรงหนุ่มอีสานอย่าง..เจือที่แอบตกหลุมรักหนูนา แต่หนูนาไม่เคยแลก็ถือไม้ม๊อบเข้ามาช่วยกันรุมอัศไม่หยั้ง ทำให้กระเป๋าสะพายของอัศหล่น อัศไม่มีโอกาสจะอธิบายต้องรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดไปด้วยความแค้น

แล้วอัศก็แทบช็อคอีกหนเมื่อรู้ว่าแม่ไม่ได้ให้เขามานั่ง เป็นผู้จัดการที่นี่ แต่ให้เขามาขายตั๋วรถทัวร์ เพราะต้องการดัดนิสัยลูกชาย อัศโกรธแม่แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ และที่นี่อัศก็ได้เจอกับ..ต๋อง คนขับรถทัวร์..ลูกชายคนขับรถทัวร์เก่าแก่ของแม่ อัศดีใจมากที่ได้เจอกับคนรู้จักที่นี่ แล้วเขาก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อเจอปันดาสาวสุดแสบ เป็นคนขายตั๋วอยู่บริษัททัวร์คู่แข่งที่ตั้งอยู่ข้างๆกับบริษัทเขา ปันดาเองก็แปลกใจที่เจออัศ อัศรีบห้ามไม่ให้บอก

อีกด้านหนูนากับเจือเก็บกระเป๋าของอัศได้ ทั้งคู่เอาไปให้ ป้าดาราฉาย..เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อาวุโส เจ้าระเบียบ เฮี๊ยบ และครองความเป็นโสดมาสี่สิบปี โดยที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้แต่งงานกับใคร เพราะเธอแอบหลงรัก ลุงโทนี่..เจ้าของร้านโทนี่ มินามาร์ทประจำหมอชิตผู้ซึ่งยังมีหัวใจวัยรุ่นไม่ไปตามอายุ

ด้วยความที่อัศไม่เคยทำงานมาก่อน ทำให้เขาต้องพบกับอุปสรรคมากมาย แต่ก็ได้ต๋องคอยช่วยเสมอๆ และความมีน้ำใจของอัศเริ่มทำให้ทุกคนรู้สึกดีกับเขามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเจือ หนูนา ป้าดาราฉาย และลุงโทนี่ โดยเฉพาะหนูนาที่เห็นอัศเป็นเสมือนเจ้าชายในฝัน เธอมักจะหยอดคำหวานกับอัศทุกครั้งที่มีโอกาส แต่อัศก็มักจะสร้างโอกาสงามๆให้กับเจือได้เข้าใกล้หนูนาอยู่เสมอๆ อัศกลายเป็นที่รักของทุกคนทำให้ปันดาโกรธ เธอยังคงเกลียดในความปากเสียของเขา และทุกครั้งที่มีเรื่องกัน ปันดาก็มักเป็นฝ่ายเอาชนะได้ทุกที

สิ่งนี้สร้างความคับแค้นใจให้กับอัศเป็นอย่างมาก เขาตั้งปณิธานเอาไว้แน่วแน่ว่าต้องเอาชนะปันดาให้ได้ แล้วแผนการชั่วๆก็ผุดขึ้นในหัวสมองของอัศ อัศแกล้งทำเป็นจีบปันดา เพราะเขารู้ดีว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อยแพ้ความเป็นสุภาพบุรุษทั้งนั้น แต่กับปันดาอาจจะยากหน่อย เพราะเธอเป็นผู้หญิงใจแข็ง ระหว่างที่อัศกำลังจะเริ่มแผนการ แม่ของเขาก็มา แล้วความก็เกือบแตกว่าเขาเป็นลูกชายของเจ๊จู อัศขอร้องไม่ให้แม่บอกใคร แล้วก็อ้างคำของแม่ที่ว่าอยากให้เขาเริ่มจากศูนย์ เพราะฉะนั้นเขาควรจะเป็นแค่นายอัศจรรย์คนขายตั๋ว ไม่ใช่นายอัศจรรย์ลูกชายเจ้าของกิจการรถทัวร์ นี่เป็นครั้งแรกที่แม่เห็นด้วยกับความคิดของอัศ เจ๊จูคิดว่าอัศเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงมันเป็นเพราะความอยากเอาชนะปันดาต่างหาก

ทันทีที่เจือรู้ว่าอัศจีบปันดา เขาก็ช่วยจนออกนอกหน้า หนูนารู้สึกเฮิร์ท เจือจึงอาศัยช่วงเวลานี้ดูแลใจหนูนา จนทำให้หนูนาเริ่มรู้สึกดีกับเจือที่อดทนเพื่อเธอได้ทุกอย่าง อัศพยายามใช้ทุกวิถีทางในการจีบปันดา แต่ปันดาก็ยังคงใจแข็ง..และไม่ไว้ใจอัศ ลุงโทนี่ที่รู้ดีว่าปันดาแอบหวั่นไหวก็มักจะมาเตือนสติปันดาเสมอๆ ความที่ลุงโทนี่สนิทกับปันดามาก ด้านอัศเองจากเกมรักหลอกๆที่เขาต้องการแกล้งปันดา ก็เริ่มทำให้ตัวเองหวั่นไหวในหัวใจ เพราะรู้สึกว่าจะเอ็นดูสาวน้อยคนนี้เข้าให้จริงๆซะแล้ว จากความใกล้ชิด..สนิทสนม การช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในหมอชิตทำให้อัศกับปันดารู้สึกดีๆกันมากขึ้น แล้วอัศก็แน่ใจในหัวใจของตัวเองเช่นเดียวกับปันดา ดูเหมือนเรื่องรักของอัศจรรย์จะจบลงอย่างสวยงาม

แต่ทว่าเจ๊จูกลับพา..เพริศพริ้ง หรือ พิ้งค์ลูกสาวไฮโซ..คนที่เจ๊จูเลือกแล้วเลือกอีกว่าเหมาะสมทั้งฐานะและหน้าตา ที่จะทำให้เจ๊จูอัพสถานะจากเจ้าของกิจการไปเป็นไฮโซได้..ก็มาถึง ทันทีที่พิ้งค์เห็นอัศเธอก็ตกหลุมรักเขาโดยทันที เจ๊จูบอกลูกชายว่านี่คือว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่ ทำเอาอัศคิดหนัก.. เมื่อพิ้งค์รู้มาว่าปันดาคือใคร และอัศกับปันดาเป็นอะไรกัน พิ้งค์จึงร่วมมือกับเจ๊จูที่เกลียดปันดาเข้าไส้อยู่แล้ว เพราะว่าปันดาอยู่บริษัทคู่แข่ง และเป็นคนเก่งที่ทำให้ยอดขายของบริษัทคู่แข่งพุ่งเอาพุ่งเอา พิ้งค์กับเจ๊จูวางแผนทำให้ปันดารู้ว่าแท้ที่จริงแล้วอัศ คือ อัศจรรย์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ๊จู และที่เขาจีบปันดามันก็เป็นแค่เกมส์เท่านั้น ปันดาโกรธอัศมาก เธอขอตัดขาดจากเขา โดยที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายใดใดจากอัศ อัศพยายามง้อปันดาแต่เธอก็ไม่ฟัง ทุกคนในหมอชิตยกเว้นต๋องก็โกรธอัศไปด้วย เจ๊จูให้อัศเข้ามาบริหารในตำแหน่งผู้จัดการอย่างเต็มตัว ทำให้ทุกคนเริ่มห่างเหินจากอัศ แม้กระทั่งตัว ต๋องเอง อัศทำงานไปอย่างไม่มีความสุข เขาพยายามจะเข้าหาปันดาหลายครั้ง แต่ก็โดนพิ้งค์ใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนเข้าขัดขวางเสมอๆ

แล้ววันที่ปันดารอคอยก็มาถึงเมื่อปันดาเรียนจบปริญญาตรี และสอบชิงทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอกได้สำเร็จ ต๋องรีบมาบอกเรื่องนี้กับอัศ เพราะรู้ว่าอัศยังรักปันดาอยู่ อัศแทบช็อคเมื่อคิดว่าจะไม่ได้เจอปันดาอีก ปันดากับทุกคนมาถึงสนามบิน..ขณะที่ปันดากำลังจะไปแต่เธอก็ยังอดคิดถึงอัศไม่ ได้ แล้วก็เหมือนสวรรค์จะเห็นใจ..อัศโผล่เข้ามาในชุดสจว๊ต ปันดาและทุกคนแทบช็อค อัศบอกว่าเป็นเพราะปันดาทำให้เขาฮึดทำตามความฝันอีกครั้ง เขาพยายามเรียนภาษาอังกฤษภาษาที่เขาเกลียด เปลี่ยนความเศร้าให้เป็นความหวัง มันทำให้เขามีแรงสู้ขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนเรื่องระหว่างเขากับพิ้งค์..มันไม่เคยเกิดขึ้น และจะไม่มีวันเกิดขึ้น ส่วนแม่ก็คิดได้ว่าคงบังคับลูกชายอย่างเขาไม่ได้อีกต่อไปจึงล้มเลิกความ ตั้งใจที่จะทำให้เขาเลิกรักปันดา อัศขอโทษปันดากับทุกเรื่องที่ผ่านมา ตอนนี้เขารู้แล้วเขาต้องการอะไร เขารักปันดา..และปันดาก็จะเป็นรักเดียวของเขา

อัศกลับมาดูแลกิจการบริษัททัวร์ของแม่ โดยมีปันดาคอยช่วยอยู่ด้วย เจ๊จูเริ่มรักว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ เพราะความเก่งกาจของเธอที่ทำให้ยอดขายทะลุเป้า

ความรักของอัศจรรย์และปันดาจึงจบลงด้วยความสวยงามท่าม กลางกลิ่นควันรถ ไอร้อน และเสียงเครื่องยนต์ในสถานีขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย…หมอชิต ที่ที่จะทำให้ทุกคนมีรัก และ ถูกรัก

 

ลูกระนาด

ลูกระนาด เป็นเรื่องราวชีวิตของ ชาติ อดีตพระเอกลิเกยอดนิยมที่ถึงคราวตกอับ เมียนางเอกลิเกที่เล่นอยู่ด้วยกันหนีไปกับชู้ ทิ้งลูกชายไว้ ๒ คน คือ ตะโพนและ ระนาด ชาติประชดชีวิตด้วยการลาออกจากคณะลิเกชัยพรศรศิลป์ ซ้ำออกคำสั่งห้ามลูกทั้งสองไปยุ่งเกี่ยวกับลิเกเด็ดขาด ชาติหันไปเลี้ยงชีพด้วยการถีบสามล้อ และดื่มสุราอย่างหนัก ด้วยค่าตอบแทนเพียงน้อยนิดจากการถีบสามล้อจึงไม่พอที่จะส่งตะโพนลูกชายที่ เป็นความหวังทั้งหมดของชาติให้ได้เรียนสูงๆ ชาติจึงนำไปฝากเลี้ยงไว้กับ หลวงลุง ส่วนระนาดลูกคนเล็กใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับพวก ลิเกคณะชัยพร มีเพื่อนสนิทคือ ทับทิม ลูกสาวของชัยพร รวมทั้งการได้เห็นพ่อและแม่เล่นลิเกมาตั้งแต่ยังเด็ก ลิเกจึงค่อยๆ ฝังรากอยู่ในตัวของระนาดโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว

เมื่อ ทั้งสองเติบโตขึ้น ตะโพนได้เรียนที่วิทยาลัยตามที่ชาติตั้งความหวังไว้ ส่วนระนาดนั้นใจฝักใฝ่อยู่แต่กับลิเก ด้วยความรักอยากเป็นลิเกเหมือนที่พ่อเคยเป็นเขาจึงฝืนคำสั่งพ่อแอบครูพักลัก จำจากคณะชัยพร ซุ่มซ้อมลิเกอยู่คนเดียว อยู่มาวันหนึ่งด้วยเหตุสุดวิสัยทำให้ระนาดต้องรำแก้บนแทน โชค ลูกเลี้ยงของชัยพร และนับตั้งแต่นั้นเพชรเม็ดงามแห่งวงการลิเกก็ค่อยๆ จรัสแสงขึ้นมา บรรดาแม่ยกต่างกล่าวขานถึงลิเกหน้าใหม่ที่รำอ่อนช้อยสวยงาม รวมทั้งเสียงร้องก็ไพเราะจับใจมาก

ศรทอง พระเอกลิเกคณะชัยพรดังแล้วลืมตัว ติดแม่ยกไม่ยอมมาเล่นลิเกทำให้ชัยพรตัดสินใจส่งระนาดลงเล่นแทน และ ระนาดก็ไม่ได้ทำให้บรรดาแม่ยกต้องผิดหวังเลย เมื่อชาติได้รู้ความจริงเรื่องระนาดที่ฝ่าฝืนคำสั่ง เขาจึงประกาศตัดพ่อตัดลูกกับระนาด แต่กับตะโพนชาติไม่ได้รับรู้เลยว่าลูกหัวแก้วหัวแหวนที่เขาฝากความหวังทั้ง หมดไว้ ตอนนี้เดินทางผิด คบเพื่อนชั่ว ติดผู้หญิง ผลการเรียนตกต่ำ จนท้ายสุดต้องโดนออกจากวิทยาลัย

ด้วยความมุมานะ บวกกำลังใจจากผู้คนรอบข้างโดยเฉพาะทับทิม ทำให้ระนาดฝึกฝนลิเกจนเจนจัด และจากความตั้งใจอันแรงกล้าของระนาดนี่เองทำให้ชาติเริ่มหันมาเข้าใจในตัว ระนาดมากขึ้น และยอมฝึกฝนลิเกให้ระนาดจนชนะการประกวด ได้เป็นลิเกหน้าใหม่ขวัญใจมวลชน โดยมีทับทิมเป็นนางเอกคู่ขวัญ

แต่ความดังไม่จีรังคณะลิเกชัยพรศรศิลป์ชื่นชมกับความสำเร็จอยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกคณะลิเกอิเล็กโทน ลิเกแนวใหม่ซึ่งตั้งโดยศรทองกับนภดล อดีตสมาชิกคณะชัยพรฯ ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งแย่งคนดูไปเกือบหมด คณะชัยพรศรศิลป์ที่เคยเฟื่อฟูต้องอับเฉาลงจนต้องปิดคณะไป แต่ระนาดยังไม่ยอมแพ้เพื่อสืบต่อมรดกที่พ่อได้ถ่ายทอดให้กับเขาไว้ เขาได้ก่อตั้งคณะลิเก ระนาดเสียงทองขึ้นมาใหม่

ชาติ ติดสุราเรื้อรังและเริ่มมีอาการหนักมากถึงขนาดตามองไม่เห็น ระนาดจำเป็นต้องใช้เงินก้อนหนึ่งเพื่อไปรักษาพ่อ และด้วยความเต็มใจแม่ยกวันเพ็ญได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือระนาด ทำให้ทับทิมเข้าใจผิดในความสัมพันธ์ระหว่างระนาดและแม่ยกวันเพ็ญ ท้ายที่สุดทับทิมก็ได้รู้ความจริง ทั้งสองกลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง

เพราะความคดโกงของศรทอง ทำให้คณะลิเกอิเล็กโทนไปไม่รอด ศรทองกับนพดลทะเลาะกันถึงขั้นศรทองโดนทำร้ายจนเสียโฉม ทำให้คณะระนาดเสียงทองกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง และระนาดก็ตั้งใจว่าจะนำคณะลิเกของตนเข้าประกวดเพื่อเล่นถวายในหลวงในวันพ่อ ห้าธันวามหาราช

ตะโพน สำนึกผิดกลับมาหาพ่อชาติ และระนาด ความหวัง และความฝันของพ่อชาติเริ่มเป็นรูปเป็นร่างอีกครั้ง แต่แล้วก็เกิดเหตุขึ้นอีกจนได้ ทนงเพื่อนเก่าตะโพนกลับมาแก้แค้นเป็นเหตุให้โชคโดนแทงตาย ด้วยความโกรธแค้นทนงจึงตามไปฆ่าทนง และหนีตำรวจเตลิดหายไป

วันพ่อ  ๕ ธันวามหาราชมาถึง ระนาดนำคณะระนาดเสียงทองขึ้นเล่นประกวดถวายในหลวงท่ามกลางผู้ชมเนืองแน่น ระนาดร้องลิเกเทิดพระเกียรติ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวของตัวเองว่าเป็นกำพร้าแม่ มีเพียงพ่อ แต่ตอนนี้พ่อก็ป่วยไม่สามารถมาชื่นชมในความสำเร็จของตนได้  อยาก ให้พ่อยกแม่ยกช่วยเมตตาตนเองด้วย ในฝูงชนเห็นสมศักดิ์ ภักดี พาพ่อชาติมาดูระนาดด้วย สมศักดิ์บอกให้ระนาดร้องเล่นให้เต็มที่ให้สมกับที่พ่อชาติได้มอบมรดกลิเกไว้ ให้ ตะโพนที่มาแอบดูน้องชายเล่นลิเกตัดสินใจขึ้นไปตีตะโพนให้ระนาดได้ร้องรำ ตะโพนพูดกับพ่อว่าวันนี้เป็นวันพ่อ ขอให้ตนได้ทำอะไรสักอย่างเพื่อพ่อบ้างแม้ว่าลูกคนนี้จะเคยทำให้พ่อผิดหวัง ตะโพนลงนั่งตีตะโพน ระนาดเดินเข้ามาหาตะโพนบอกร้องเลยไม่ต้องห่วงวันนี้พี่ขอทำเพื่อพ่อสักวัน  ระนาด ร้องกลอนวันพ่อได้ซาบซึ้ง น้ำตาของความสำนึกผิดของตะโพนค่อยๆ ไหลลงอาบแก้ม ภาพเรื่องราวทั้งหมดอยู่ในสายตาของผู้เป็นพ่อ ผู้ชมมองดูด้วยความซาบซึ้งใจ ชาติตั้งปณิธานกับตนเองอย่างเด็ดเดี่ยว เพื่อเป็นการทำความดีถวายในหลวง และเพื่อลูก จึงตั้งใจที่จะเลิกสุราอย่างจริงจัง เมื่อการแสดงจบลง แม่ยกคนดูตบมือดังเกรียวกราว แล้วตำรวจก็ตามมาจับตัวตะโพนบนเวที และก่อนที่เขาจะโดนจับตัวไปตะโพนได้ขอตำรวจ ก้มลงกราบพ่อเพื่อขอขมาในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดมาทั้งชีวิต ที่หลังวิกลิเกเห็นศรทองเป็นบ้าแต่งตัวลิเก ร้อง รำอยู่เป็นที่ขบขันกับคนที่มาเที่ยวชมงาน

นักแสดงละคร ลูกระนาด
สุทธิราช วงศ์เทวัญ
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์
นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ แสดงเป็น ชบา

ล่องเรือหารัก

เกียรติ หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายมหาเศรษฐี ถูก พักตร์พริ้ง ผู้เป็นแม่บังคับให้แต่งงานกับ นงค์นาฏ ผู้หญิงที่เลือกให้ ขณะที่ บันลือ ผู้เป็นพ่อไม่เห็นด้วยนักกับความจุ้นจ้านของภรรยา เกียรติบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ที่สุดก็ทนการรบเร้าไม่ไหว จำใจต้องยอมแต่งงาน แต่แล้วในวันแต่งจู่ ๆเจ้าสาวก็โดนแฉว่าท้องแล้ว พร้อมกับสามีของเจ้าสาวพาพรรคพวกมาขอเมียคืน พิธีจึงต้องยุติลงพร้อมความเสียใจ และการเสียหน้าของบรรดาญาติทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะเกียรตินั้นอับอายขายหน้าแขกเป็นอันมาก ขณะที่พักตร์พริ้งนึกโกรธแค้น ประกาศในงาน ว่าจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูกชายมาแต่งงานใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ความอลหม่านวุ่นวายในงาน แม้จะทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกแย่ แต่สำหรับ อรวี เพื่อนสาวของเกียรติ และจรุงจิตสาวใหญ่รุ่นพี่ เรื่องนี้กลับจุดประกายความหวังในใจ ทั้งคู่ต่างหมายมั่นว่าตนเองจะต้องเป็นเจ้าสาวตัวจริงของเกียรติให้จงได้

เกียรติหนีออกจากงานหลบมาเดินเล่นทอดอารมณ์ที่สะพานใกล้ๆ โดยมีคนสวนชื่อบุญธรรม เดิมตามมาห่างๆ ทั้งคู่ได้พูดคุยกันถึงชีวิตในอดีตของบุญธรรม ที่แม้จะยากจนแต่ก็มีความสุข บุญธรรมเล่าว่า แกมีบ้านอยู่ปากน้ำโพ หาเช้ากินค่ำ พออายุใกล้สามสิบเพื่อนบ้านให้เรือมาลำหนึ่ง ก็หาเงินซื้อของใส่เรือ แล้วล่องไปขาย ชีวิตอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ค่ำไหนนอนนั่น ขายของหมดที่ไหนก็หาตลาดใกล้ ๆ ซื้อของเร่ขายต่อ ก็สนุกและเป็นอิสระ ได้พบปะผู้คนมากมาย ที่ไม่เคยพบสาว ก็ได้เจอสาวสวยแตกต่างกันไป บุญธรรมเองก็ได้เมียเพราะล่องเรือขายของ แต่เมียของเขามาเสียชีวิตไปก่อน บุญธรรมก็เลยยุติชีวิตล่องเรือแล้วมาเป็นคนสวน คืนนั้นเกียรติปรึกษาพ่อ ขอไปใช้ชีวิตเป็นตัวของตัวเองสักพัก บันลือเห็นใจลูกจึงอนุญาต แต่ก็ไม่วายห่วง จนเกียรติบอกว่าการไปครั้งนี้จะเอาบุญธรรมไปด้วย บันลือจึงคลายวิตกลง

เกียรติล่องเรือลำใหญ่ทาสีฉูดฉาดไปตามลำคลอง ข้างเรือมีป้ายเขียนว่า“มินิมาร์ทลอยน้ำ” ในเรือประกอบด้วยสินค้าแทบทุกชนิด ห้อย วาง แขวน อย่างมีระเบียบ บุญธรรมเป็นคนบังคับเรือ เกียรติพูดออกเครื่องขยายเสียงโฆษณาชวนเชื่อ ตลอดที่เรือผ่าน พอมีลูกค้าริมคลองเรียก ก็แวะขายของเป็นรายทางไป บุญธรรมอารมณ์ดีขายไปร้องเพลงไป เกียรติชอบใจบอกให้บุญธรรมสอนเพลงลูกทุ่งให้บ้าง บุญธรรมจึงแนะให้หาเครื่องเสียงมาหัดร้องกันในเรือว่างเมื่อไหร่ก็ร้องไปสนุกๆ เดี๋ยวก็ชำนาญ ด้วยอารมณ์สนุกเรือผ่านบ้านไหนบุญธรรมก็ยุให้ร้องเพลงจีบสาว จนสาวสองฝั่งน้ำหลงรักเกียรติมากมาย บางครั้งจีบผิดไปจีบเอาคนมีสามีแล้วก็ต้องหักหัวเรือหนีแทบไม่ทัน มันเป็นความสนุกแปลกใหม่จนทำให้เกียรติถึงกับลืมบ้าน หลงใหลอยู่กับเรือและธรรมชาติชนบทริมน้ำ โดยเขาเปลี่ยนชื่อใหม่ในฐานะพ่อค้าว่า “รักเร่”

วันหนึ่ง รักเร่อยากหัดบังคับเรือ แต่พลาดไปทำเรือข้าวแกงเร่ของ พิมพ์จิต และหอมจันทร์ ลูกสาวล่มหม้อข้าวหม้อแกงจมหายต้องดำผลุดดำว่ายหากันจ้าระหวั่น 2หนุ่มช่วยพา2สาวขึ้นจากน้ำ และชดใช้ค่าเสียหายให้ ทั้งคู่จอดเรือใกล้ ๆ บ้านหอมจันทร์เพื่อช่วยซ่อมเรือ อีกทั้งเป็นโอกาสที่รักเร่จะได้ใกล้ชิดหอมจันทร์ เพราะทั้งคู่สะดุดใจกันตั้งแต่แรกเห็น พิมพ์จิตและลูกเป็นคนจน มีความเป็นอยู่ง่าย ๆ แต่มีน้ำใจ เมื่อทั้งคู่ช่วยซ่อมเรือ 2 แม่ลูกก็จุนเจืออาหารการกินให้

เพราะความไม่ชำนาญงานช่าง รักเร่พลาดถูกเลื่อยบาด บุญธรรมจึงพาไปคลินิกใกล้ๆจนได้รู้จักกับ กันยา พยาบาลสาวพราวเสน่ห์ประจำคลินิก กันยาหลงรักรักเร่ตั้งแต่แรกพบ จึงพยายามตามติดประชิดถึงตัว คอยเอาอกเอาใจ จนหอมจันทร์เข้าใจผิดบ่อยๆ กันยาไม่ถูกชะตากับหอมจันทร์ เพราะรู้ว่ารักเร่ชอบหอมจันทร์จึงทำทุกทางเพื่อให้เข้าใจผิดกัน เพราะหมายมั่นจะแย่งมาให้ได้ คนอย่างกันยาไม่ธรรมดา ชอบใคร หลงใคร ก็จะใช้จริตมารยาเข้าใกล้ แต่ถ้าดูใจไปแล้วไม่ปลื้มก็จะตีห่าง ก่อนหน้านี้เธอเคยคบหาหนุ่มมาหลายราย บางคนมีครอบครัวไปแล้วก็จบกัน บางคนยังแค้นกันยาอยู่ก็มี เช่นขวดนักร้องลูกทุ่งไส้แห้ง ที่หลงผิดคิดว่าเธอจริงใจด้วย เพราะกันยาเข้ามาหาเขาก่อน แต่เมื่ออยู่กันไปแล้วไม่เห็นอนาคตเธอก็ตีจากเขาเอาดื้อ ๆเช่นกัน

พักตร์พริ้งต่อว่าบันลือที่ปล่อยลูกชายไป แต่บันลือกลับไม่สน มีแต่ตัวเธอที่ร้อนใจ เพราะได้ไปตกลงกับเพื่อน ขอลูกสาวเอาไว้ให้แต่งกับลูกชายอีกแล้ว แต่เมื่อฝ่ายชายไม่อยู่จึงต้องเลิกล้ม เรื่องการหายตัวไปจากสังคมของเกียรตินั้น คนที่ดูจะร้อนรนพอๆกับผู้เป็นแม่ก็เห็นจะเป็นสองสาวต่างวัย อรวี และ จรุงจิต อรวีเป็นเพื่อนสาวไฮโซรุ่นราวคราวเดียวกับเกียรติ จึงเข้าไปตีสนิท เข้านอกออกในที่บ้านพักตร์พริ้งได้ในฐานะเพื่อนของลูกชาย ส่วนจรุงจิตนั้นเป็นสาวไฮโซรุ่นใหญ่กว่ากันนิด จึงได้แต่พบปะสนิทสนมกันเฉพาะในงานสังคม เมื่อทั้งคู่แอบพอใจเกียรติและหมายมั่นจะเป็นสะใภ้ของพักตร์พริ้ง จึงคอยเงี้ยหูฟังข่าวคราวของเขาเสมอ

สายใจ ลูกสาวเศรษฐีสน เศรษฐีที่นา เธอเป็นลูกค้าเรือรักเร่ วันนี้เรือมาจอดที่ท่าบ้านสายใจ เธอจึงลงไปซื้อของ พอเศรษฐีสนเห็นเข้า ด้วยความหวงลูกสาวจึงตะโกนไล่ให้รักเร่ไปจอดที่อื่น ยิ่งเห็นสายใจลงไปในเรือก็ยิ่งโกรธมาก รักเร่อ้อนวอนยังไงเศรษฐีสนก็ไม่ยอม บุญธรรมจึงออกอุบายเชิญเศรษฐีสนลงไปดูสินค้าในเรือ แล้วเอาเหล้าที่มีขายออกมาให้ดู เท่านั้นเองคอสุราอย่างเศรษฐีสนก็ตาลุกเชิญทั้งสองไปกินเหล้ากันบนบ้าน ยิ่งดึกยิ่งเมาเขาก็ยิ่งใจดี เชื้อเชิญให้ทั้งคู่ค้างที่บ้านได้ แต่พอเช้าสร่างเมาก็ลืมหมด แถมโกรธคว้าปืนมาไล่ยิงจนทั้งคู่หนีลงเรือกันแทบไม่ทัน

ชะเอม เจ้าของร้านค้าของชำในตลาด แม่หม้ายเรือพ่วง 2 ลำคือ เจ้าชะโอด และเจ้าชะอม กำลังต่อว่า ชะโอด ลูกคนโต ที่ไปหลงรัก น้ำตาล ลูกสาวใหญ่ เจ้าของโรงสีที่ไม่ถูกกัน เพราะขัดผลประโยชน์ทางการค้า แต่ชะโอดรักน้ำตาลจึงไม่ยอมฟัง ยิ่งทำให้ชะเอมโมโหหนัก คาดโทษต่างๆ นานา พาลด่าไปถึงใหญ่และลูกสาว

รักเร่ล่องเรือมาจนถึงท่าหน้าโรงสีของใหญ่ เลยได้รู้จักกับน้ำตาล ใหญ่ปล่อยให้รักเร่คุยกับน้ำตาลเพราะหวังจะให้มาซื้อของใส่เรือไปขาย ชะโอดมาเห็นเข้าก็หึงหวงเพราะเข้าใจผิด จนรักเร่ต้องเล่าเรื่องหอมจันทร์ให้ฟังและรับปากจะช่วยชะโอดให้สมหวังกับน้ำตาล ทำให้ชะโอดดีใจ เผยเรื่องของแม่ตนกับพ่อน้ำตาลที่ไม่ค่อยลงรอยกันให้ฟัง รักเร่รู้สึกเห็นใจชะโอดมากขึ้น

ระหว่างที่เรือยังซ่อมไม่เสร็จ พิมพ์จิตและหอมจันทร์ต้องขาดรายได้ไป รักเร่จึงแบ่งที่ทางในเรือ ให้ 2 แม่ลูก ล่องเรือค้าขายไปด้วยกัน จนเรือซ่อมเรียบร้อยดี รักเร่จึงได้ความคิด เสนอให้นำเรือข้าวแกง มาพ่วงกับเรือของเขา พิมพ์จิตแม้จะเกรงใจ แต่ก็จนด้วยเหตุผลที่รักเร่เสนอมา จนต้องยอมตามใจในที่สุด มินิมาร์ทลอยน้ำ พ่วงเรือข้าวแกงรสเด็ด ค้าขายดีวันดีคืนทั้ง2 ฝ่าย ใครมาซื้อของใช้ก็แวะซื้อข้าวแกง ส่วนใครมากินข้าวแกงก็ยังแวะลงเรือซื้อโน่นนี่ติดมือกลับบ้าน

ขณะที่ความสัมพันธ์ของรักเร่และหอมจันทร์ดูจะแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ แต่อุปสรรคก็มีมาให้รำคาญใจกันเป็นระยะๆ ทั้ง กันยา ที่หาทางมาใกล้ชิดสนิทสนม เธอทำทีมาขอใช้เรือออกแจกจ่ายยาชาวบ้าน หรือแม้แต่ สองสาวชาวกรุงที่สืบรู้ที่อยู่ ยังแอบตามมาเกาะแกะถึงที่ จนเกิดการขัดแข้งขัดขากันเองในหมู่นางร้าย อรวีอาศัยความสนิทสนมมาขอนั่งเรือล่องท่องเที่ยวบ้าง ขอค้างในเรือบ้าง บุญธรรมก็ช่วยพูดช่วยสกัดเต็มกำลัง ส่วนจรุงจิตนั้นร้ายลึก เพราะแอบสืบหาข้อมูลมาอย่างดีว่ารักเร่รู้จักสนิทสนมกับใครบ้าง เธอทำทีมาเยี่ยมเยือนเขา และตั้งใจจะมาบ่อย ๆ โดยเสนอเป็นค่าปิดปากจนรักเร่ต้องยอมตามใจ แต่ขณะเดียวกัน

แฝงตัวมาเป็นลูกค้าข้าวแกงแล้วแอบแกล้งหอมจันทร์ด้วย กว่าจะรู้ตัวหอมจันทร์ก็โดนแกล้งไปแล้วหลายครั้งหลายหน รักเร่รำคาญจะไล่กันยาไปพ้นๆแต่เธอก็มาฟอร์มดีจนออกปากไล่ไม่ออก จะไล่สองสาวก็กลัวจะแฉความจริงเรื่องตัวเอง จึงจำยอมตามใจพวกเธอ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หอมจันทร์เข้าใจผิดหลายครั้ง รักเร่ต้องตามง้อเธอโดยได้รับความช่วยเหลือจากน้ำตาล ชะโอด และบุญธรรม แต่อรวีและจรุงจิตก็มักมาขวางอยู่เรื่อย บุญธรรมจึงต้องออกอุบายหลอกพาพวกเธอไปผจญภัยอยู่กลางแม่น้ำนานเป็นวัน ๆ พอกลับขึ้นฝั่งได้ อรวีก็ถึงกับลมจับ ดีที่ขวดรับได้ทันแล้วช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล การที่อรวีแวะเวียนไปหารักเร่บ่อย ๆ ทำให้ได้รู้จักขวด อรวีช่วยให้ขวดได้เป็นนักร้องด้วยการพาเขาไปฝากกับพ่อเธอที่เป็นเจ้าของค่ายเพลง ขณะที่ขวดแอบหลงรักอรวีอยู่ ทั้งคู่ได้รู้จักกันและเกิดความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ชะโอดแอบมาพบน้ำตาลแต่ถูกใหญ่จับได้ แล้วกล่าวโทษ แถมด่าฝากไปถึงแม่ เมื่อชะเอมรู้เรื่องเข้า ก็กลายเป็นศึกสองครอบครัวที่ยุติลงไม่ได้ง่าย ๆ ชะเอมแก้เผ็ดใหญ่โดยลดราคาสินค้าทุกชนิดตัดหน้าใหญ่จนลูกค้ามารุมซื้อของชะเอม ทำให้ใหญ่เดือดดาลวางแผนบีบชะเอมโดยยื่นคำขาดกับชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ห้ามไปซื้อของที่ชะเอมขาย ถ้าใครซื้อโดนทวงหนี้แน่และหากไม่มีให้ก็จะยึดบ้านยึดนาให้เดือดร้อน เมื่อรักเร่รู้เรื่องจึงหาทางช่วย โดยไปเชิญเศรษฐีสนมาช่วยขอร้องให้ใหญ่และชะเอมเลิกทะเลาะกัน แต่ไม่ได้ผลเพราะทั้งคู่ไม่เล่นด้วย ความเครียดหลาย ๆ ประการทำให้แม่ชะเอมล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล เศรษฐีสนซึ่งหลงรักแม่ชะเอมมานาน หอบกุหลาบที่ชะเอมชอบไปเยี่ยมหลายครั้ง ชะเอมที่มีใจรักเศรษฐีสนอยู่เช่นกันออกอาการปลื้มสุดๆ ขณะที่ใหญ่อยากไปเยี่ยมแต่ก็ยังมีทิฐิ ได้แต่แอบมอง และหมั่นไส้ทั้งคู่อยู่ลึก ๆ

ภัสดา หลานชายเศรษฐีสน กับลูกน้องชื่อ มาร์ค มาเที่ยวและพักที่บ้านเศรษฐีสน ภัสดาเป็นลูกคนมีฐานะดีที่กรุงเทพ ทำให้ทำอะไรตามใจ จีบสาวไม่เลือกหน้า กระทั่งเกิดเรื่องกับน้ำตาล จนมีเรื่องถึงลงไม้ลงมือกัน ชะโอดก็เข้าไปเกี่ยวด้วย เดือดร้อนถึงเศรษฐีสนต้องมาปรับความเข้าใจกับใหญ่และชะเอมอีกครั้ง ภัสดามาพบหอมจันทร์เกิดหลงรัก ทำทุกทางที่จะพบและอยู่ใกล้ แต่พิมพ์จิต น้ำตาล และสายใจ คอยกีดกันไว้ รักเร่กับชะโอดจับมือกันต่อต้านภัสดา จนเกือบมีเรื่องอยู่หลายครั้ง น้ำตาลกับสายใจ เมื่อรู้ว่ารักเร่รักหอมจันทร์ ทั้งคู่ก็ให้ความร่วมมือช่วยเหลือเป็นอย่างดี

ชะอมและสายใจซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เห็นน้ำตาลกับชะโอดแอบนับพบกันหลายครั้ง แต่เก็บความลับนี้ไว้ ไม่บอกแม่เพราะกลัวชะเอมจะตามไปราวีพี่ชาย ทั้งคู่จับมือกันคิดแผนการสร้างความสมานฉันท์ให้กับ 2 ตระกูล เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างชะเอมและเศรษฐีสนที่ชะอมแอบสังเกตเห็นอยู่ จึงปรึกษากับสายใจ ร่วมมือกันช่วยให้ความรักของแม่ชะเอมและพ่อสนได้สมหวังเสียที เพราะดูว่าทั้งคู่ แม้ดูใจกันมานานก็ยังไม่ยอมเปิดตัวสักที ทั้งนี้เพราะแม่ชะเอมรู้สึกอายชาวบ้าน ที่ตนเองอายุมากแล้ว ยังมีความรักเหมือนเด็กๆ แผนการทุกอย่างไปได้สวย แต่ก็มาสะดุดเมื่อมารู้ภายหลังว่า ความจริงแล้ว พ่อใหญ่นั้นมีใจแอบรักแม่ชะเอมอยู่เหมือนกัน เรื่องนี้สร้างความร้าวฉานให้กับน้ำตาลและชะโอด เมื่อน้ำตาลโกรธที่ชะโอดไม่ช่วยพ่อใหญ่ ส่วนชะโอดไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าแม่มีใจให้เศรษฐีสนแล้ว

กันยาที่พยายามตามติดรักเร่มานาน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่ารักเร่จะสนใจเธอ พอได้เจอคนหน้าตาดีแถมร่ำรวยอย่างภัสดา ก็อดไม่ได้ที่จะหว่านเสน่ห์ใส่ ภัสดาเองก็เจ้าชู้ เขามองกันยาอย่างถูกตาต้องใจอยู่เช่นกัน

จรุงจิตคิดแผนร้าย ส่งคนมาขโมยของที่บ้านหอมจันทร์ ก่อนจะทำทีมาเสนองานให้ 2 แม่ลูก ไปขายข้าวแกงที่ร้านของเธอในกรุงเทพ โดยงานนี้เสนอค่าแรงก้อนโต พิมพ์จิตดีใจ ตกลงทันที ขณะที่หอมจันทร์ยังระแวงสงสัย แต่จำใจต้องตามใจแม่ เมื่อรักเร่รู้เรื่องเข้า ก็พยายามขอร้องให้ทั้งคู่คิดใหม่ แต่หอมจันทร์ไม่ฟังเพราะกำลังโกรธรักเร่เรื่องที่เขามีสาว ๆ มาพัวพันหลายคน จรุงจิตขับรถมารับ 2 แม่ลูกไปที่ร้าน แกล้งทำดีด้วยสารพัด ก่อนจะใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้พิมพ์จิตเซ็นต์สัญญาเงินกู้ พอมารู้ภายหลังทั้งคู่ก็แทบเป็นลม แต่เมื่อแก้ไขไม่ได้ จึงต้องจำยอมทำงานใช้หนี้ไป

ภัสดาไปหาหอมจันทร์ที่บ้านแต่ไม่พบ จึงตามมาเอาเรื่องรักเร่ เพราะคิดว่ารักเร่รู้ที่อยู่ใหม่ของหอมจันทร์ แต่ไม่ยอมบอก จนเกิดมีเรื่องลงไม้ลงมือกัน ก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้แล้วกลับบ้านไปด้วยความแค้นเคือง

รักเร่ตามสืบจนรู้ที่อยู่หอมจันทร์ จึงไปหา แต่หอมจันทร์ไม่พูดด้วย เธอโกรธเพราะเข้าใจว่ารักเร่ร่วมมือกับจรุงจิต มาหลอกลวงเธอและแม่ รักเร่แก้ตัวอย่างไรก็ไม่ฟัง เขาจึงหันไปอธิบายให้พิมพ์จิตฟังแทน โดยตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้พิมพ์จิตฟัง และขอร้องว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องที่เขาปลอมตัวมา ให้หอมจันทร์รู้ โดยรับปากจะช่วยพาทั้งคู่มาจากจรุงจิตให้ได้ พิมพ์จิตแอบดีใจแทนลูกสาว เมื่อรู้ฐานะที่แท้ของรักเร่

รักเร่ไปต่อว่าจรุงจิต เรื่องที่เธอทำกับ 2 แม่ลูก จรุงจิตได้ที ยื่นข้อเสนอ ให้รักเร่กลับมาใช้ชีวิตเป็นเกียรติ และคบเธอเป็นคนรัก ขณะเดียวกันก็ห้ามไม่ให้พบหอมจันทร์อีก หากทำตามก็จะยอมปล่อย 2 แม่ลูกไป รักเร่ใช้ความเจ้าเล่ห์ ออกอุบาย จนสามารถช่วยหอมจันทร์และแม่กลับมาได้ หอมจันทร์ได้ปรับความเข้าใจกับรักเร่ ขณะที่จรุงจิตซึ่งรู้ตัวว่าเสียรู้เข้าแล้ว จำใจต้องยอมวางมือจากเกมรักครั้งนี้ไป แต่ด้วยผลกรรมที่ทำไว้ต่าง ๆ นานา กับ2แม่ลูกทำให้เธอต้องจำนน มีสามีเป็นโจรรับจ้าง ที่เธอจ้างไปทำร้ายเค้า..เธอโดนขู่ โดนจ่ายค่าเลี้ยงดู แถมยังต้องพาสามีออกงานที่เชิดหน้าชูตา จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปโฉม ฐานะ ของผู้ชายคนนี้ขึ้นมาเป็นคนใหม่ที่ยืนข้างๆ เธอได้

น้ำตาลไม่ยอมพูดกับชะโอดอยู่นาน แต่สุดท้ายก็เริ่มคิดได้ ว่าไม่สามารถกะเกณฑ์ให้ใครรักกับใครได้ตามที่ใจต้องการ ส่วนพ่อใหญ่ เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นสาเหตุให้ลูกสาวเป็นทุกข์ ก็เริ่มได้คิด พยายามใช้สติไตร่ตรองสิ่งที่ผ่านมา ก่อนจะทำใจได้ และกลับไปใช้ชีวิตเป็นปกติ น้ำตาลดีใจที่พ่อกลับมาเป็นพ่อคนเดิมอีกครั้ง

ภัสดายังคงดันทุรัง ดื้อดึง เอาแต่ใจ จะเอาชนะ รักกับหอมจันทร์ให้ได้ ยิ่งรู้ว่ารักเร่มีปมเรื่องเป็นเพื่อนจรุงจิตอยู่ด้วย จึงใช้วิธีสร้างเรื่องให้ไปกันใหญ่ระหว่างรักเร่ หอมจันทร์ จรุงจิต ..รักเร่บอก ลูกผู้ชายควรสู้อย่างลูกผู้ชาย ภัสดาก็เลยท้าแข่งทุกประเภท ให้บอกกฏ กติกา มาเลย ชาวบ้านและเพื่อน ๆ ช่วยกันคิดเกมการแข่งขันมาให้ต่าง ๆ นานา และ 2 คนก็ต้องใช้ทั้งเทคนิคและปัญญา แค่เรื่องตื้น ๆ รักเร่ได้เปรียบที่คุ้นเคยธรรมชาติ และมองธรรมชาติได้ชัดเจนกว่าภัสดา จึงสามารถเอาชนะ ทำให้ภัสดากลายเป็นขี้แพ้ชวนตี หัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเจ้ามาร์ค เศรษฐีสนเห็นแล้วกลุ้มจนต้องออกแรงออกฤทธิ์ สอนเด็กทั้ง 2 ให้รู้จักใช้ชีวิตให้เป็น ไม่ควรอยู่แบบรก ๆ คิดให้เป็น ทำให้เป็น อย่าทำตัวกลายเป็นขยะรกประเทศชาติ ภัสดา เด็กที่เอาแต่ใจ ไม่มีใครปรามมาตลอด เจอทีเด็ดเศรษฐีสนเข้า ถึงกับคุกเข่าขอโอกาสที่จะแก้ตัว..ก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่จะต้องให้ และคอยตามผล ว่าหลานของตัวเองจะมีพฤติกรรมต่อไปอย่างไร และควรจะให้กำลังใจกันอย่างไร

บรรดาคู่รักต่าง ๆ นานามาพบปะสังสรรค์กันก็ในงานแข่งขันของ 2 หนุ่มนี้ ทำให้มิตรภาพ ความผูกพันและการใช้ชีวิตที่ดำเนินไปด้วยการช่วยเหลือ แบ่งปัน และปลูกฝังความเข้าใจให้เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ควรเร่งมือกันทำให้เห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พวกเค้าฉลองความรักความสามัคคีครั้งนี้ด้วยเสียงเพลงที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิตเรียบๆง่ายๆ และเรื่องราวที่ผ่านมา..พร้อมกับปล่อยเรือมินิมาร์ท ลอยน้ำ ที่เป็นเรือทำมาหากิน เป็นเรือนหอของการมีชีวิตคู่ในรูปแบบที่ รักเร่กับหอมจันทร์เลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็น

รุกฆาต

3 ปีผ่านไป…นับตั้งแต่การสลายลงของอาณาจักรราชสีห์ แผ่นดินเมืองพลแห่งอีสานสงบสุขอีกครั้งกัลป์ (ณัฐวุฒิ สะกิดใจ) กับ อัญชัญ (วรนุช วงษ์สวรรค์) เตรียมจัดพิธีแต่งงานที่เรียบง่ายแต่สมฐานะและความรักที่ทั้งสองมีให้กัน เพลิง (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) กับ ตะเภา (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ต่างดื่มด่ำไปกับความรักและความเข้าใจ ขณะที่ องอาจ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) และ กระรอก (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) พร้อมจะสร้างครอบครัวอันอบอุ่นและจริงใจ หากแต่เมฆหมอกแห่งความเลวร้ายกำลังก่อตัวขึ้นใหม่…โดยไม่มีใครรู้ตัว

ภูตรักนะโม

ปาณะ ครีเอทีฟหนุ่มที่กำลังประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง ทั้งเรื่องงานและความรัก แต่เขาต้องมาเสียชีวิตกระทันหันจากอุบัติเหตุ แต่ด้วยความเป็นห่วงบวกกับเคลียร์เรื่องเข้าใจของตนเอง และ พัดชา แฟนสาวไม่ได้ ทำให้วิญญาณของปาณะยังคงวนเวียนไม่สามารถไปเกิดได้ แต่กลับไม่มีใครเห็นวิญญาณของเขาเลย นอกจาก ยามนิยม ยมทูตในร่างของ รปภ.ประจำคอนโดที่เขาเคยอาศัยอยู่ที่มีหน้าที่จับวิญญาณที่หมดอายุขัยส่งให้ ยมโลก และอีกคนคือ โมทนา หนุ่มอับโชคที่กำลังประสบปัญหาชีวิตอย่างหนัก จนต้องจำใจรับจ๊อบพิเศษกับ มาร์ค เพื่อนสนิทขายของเก่า โดยไม่รู้ว่าถูกมาร์คหลอกมาเป็นนักต้มตุ๋น แต่แล้วก็เกิดพลาดพลั้งถูก สุข พ่อของพัดชาจับได้

โมทนา ต้องซมซานกลับคอนโด แต่ก็ถูก ซ้อเจ็ด เจ้าของคอนโดจอมงก ยึดห้องพักแต่โชคยังดีที่ พอดี ลูกสาวเจ้าของร้านอาหารในคอนโดที่แอบชอบโมทนาอยู่ ใช้ความฉลาดแกมโกงเจรจาให้ซ้อเจ็ดให้โมทนาไปอยู่ชั้น 9 ซึ่งเป็นห้องของ ปาณะ ที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน โดยแกล้งทำเป็นว่าห้องนี้มีผีเฮี้ยน ทำให้คนไม่กล้าเข้าพัก แต่ถ้าให้โมทนาอยู่โดยไม่มีปัญหาจะทำให้ภาพพจน์ของคอนโดดีขึ้น ซึ่งซ้อเจ็ดต้องจำยอม และโมทนาก็ได้พบและพูดคุยกับปาณะ ทำให้ปาณะแปลกใจที่โมทนาเห็นตนเองและสามารถสื่อสารกันได้ จึงถาม ยามนิยม จนรู้ว่า ปาณะ และ โมทนา เป็นคู่แฝดทางวิญญาณกันที่เกิด วัน เดือน ปี เดียวกัน แถมตกฟากพร้อมกัน ทั้งคู่จึงมีสายใยเชื่อมโยงกันอยู่ ปาณะจึงทำทุกวิถีทางที่จะให้โมทนาช่วยเป็นสื่อกลางติดต่อกับพัดชา แต่โมทนาไม่ยอม ปาณะจึงยื่นข้อเสนอจะช่วยเรื่องงานและเรื่องเงินให้โมทนาที่กำลังเดือดร้อน จึงยอมตกลง และปาณะ ก็พาโมทนาไปหาพัดชา ทันทีที่โมทนาเจอพัดชาเขาก็ตกหลุมรักทันที ปาณะบังคับให้โมทนาเล่าเรื่องของเขาให้พัดชาฟัง แต่พัดชาก็ไม่รับรู้ เพราะเธอความจำเสื่อมในเรื่องที่เกี่ยวกับปาณะ เนื่องจากช็อคเมื่อรู้ว่าปาณะตาย

ปาณะจึงคิดแผนให้โมทนาเรียกความทรงจำของพัดชากลับคืนมา ปาณะ แปลงโฉม โมทนา ใหม่ จากหนุ่มมาดเซอร์เป็นหนุ่มสังคมสุดเท่ห์ และเปลี่ยนชื่อจาก โมทนา เป็น นะโม ให้คล้องกับชื่อของ ปาณะ เพื่อไม่ให้ สุข พ่อของพัดชา จับได้ และให้โมทนามาสมัครงานบริษัทที่ปาณะเคยทำงานอยู่ รินนา หญิงสาวที่รักสันโดษเป็นอีกคนที่สามารถเห็นและสื่อสารกับ ปาณะได้ รินนา นั้นแอบหลงรักปาณะตั้งแต่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่ปาณะไม่เคยสนใจ พอปาณะตายทั้งสองจึงมีโอกาสได้พูดคุยกัน ปาณะแปลกใจที่รินนามองเห็นวิญญาณของเขาได้ โดยรินนาให้เหตุผลว่า เธอมีสัมผัสพิเศษที่มองเห็นวิญญาณทุกดวงได้ ปาณะ ยังคงคาดคั้นให้โมทนาฟื้นความทรงจำของพัดชากลับมาเร็วๆ ก่อนที่ตนเองจะหมดเวลาจากโลกนี้ไป แต่โมทนาก็พยายามเลี่ยงโดยอ้างว่ากลัวพัดชาจะเครียดจนช็อคเหมือนเคย แต่แท้จริงแล้วโมทนาหลงรักพัดชาเข้าซะเอง ด้านพัดชาเองก็ไม่ต่างจากโมทนา เพราะหลังจากได้มาเจอกับโมทนาก็ดูมีความสุขและร่าเริงขึ้น แถม สุข พ่อของพัดชาก็ถูกชะตากับโมทนาเช่นกัน ทำให้ สายลม ที่แอบหวังในตัวพัดชาอิจฉาจึงหาทางกีดกันไม่ให้โมทนาใกล้ชิดกับพัดชา มาร์ค และ พอดี สงสัยว่าโมทนาเป็นแฟนกับลูกสาวเศรษฐี ทำให้ พอดี เกิดความหึงหวงจึงร่วมมือกับ มาร์ค จับผิดโมทนา โดยบุกเข้าไปในงานเปิดตัวสินค้าที่โมทนาได้มีโอกาสอวดฝีมือเป็นครั้งแรก เป็นสาเหตุทำให้ สุข ได้เจอกับ มาร์ค โจทย์เก่า ทำให้ความลับเรื่องการปลอมตัวเป็น นะโม ถูกจับได้ สุข โกรธมากจึงไล่โมทนาออกจากงาน ทำให้ชีวิตของโมทนาต้องกลับไปตกต่ำอีกครั้ง

สายลม ฉวยโอกาสนี้เร่งทำคะแนนกับพัดชาทันที ปาณะ โมโหที่โมทนาไม่ยอมช่วยเหลือตน จึงขอร้องให้รินนาให้ช่วยทำหน้าที่แทนโมทนา แต่รินนาปฏิเสธ เพราะน้อยใจที่ปาณะหลอกใช้ ปาณะช่วยตัวเองด้วยการเข้าสิงร่างศพที่เพิ่งตายใหม่ๆ ไปฟื้นความจำพัดชา ในขณะที่ปาณะกำลังคาดคั้นพัดชาอยู่ โมทนามาเห็นเหตุการณ์พอดีจึงห้ามกันชุลมุน ทำให้พัดชาเกือบประสบอุบัติเหตุ แต่สายลมเข้ามาช่วยไว้ทัน พัดชารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณสายลมมาก โมทนา ที่กำลังเสียใจกับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็บังเอิญเห็นสุขกำลังประสบอุบัติเหตุจึงรีบเข้าไปช่วย จนตัวเองบาดเจ็บ และเหตุการณ์ครั้งนี้เองทำให้สุขและโมทนาได้พูดคุยกันแบบเปิดอก จน สุข รู้สึกเชื่อใจในตัวโมทนาและเรียกเขากลับมาทำงานที่บริษัทอีกครั้ง การกลับมาของโมทนาทำให้สายลมระแวงกลัวว่าโมทนาและพัดชาจะกลับมาชอบกันอีก ครั้ง เลยใช้เสน่ห์ยาแฝดมามัดใจพัดชาและหาทางรวบหัวรวบหางให้เร็วที่สุด

พยัคฆ์ยี่เก

พยัคฆ์ยี่เก

พยัคฆ์ยี่เก เป็นเรื่องราวของศิลปินกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งยึดการแสดง…ลิเก เป็นอาชีพ แม้ความนิยมของคนดูจะลดน้อยถอยลง แต่พวกเขายังคงต่อสู้ ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด

บุญเอก อมรินทร์ พระเอกลิเกหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าคณะ ได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเพลงลูกทุ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม เข้ามาผสมผสานในการแสดงบนเวที เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้คนดู บางครั้ง บางเรื่อง…เทวดาเหาะลงมาจากฟากฟ้าท่ามกลางหมอกควัน บางครั้ง บางเรื่อง…พระฤษีขี่ช็อปเปอร์ใส่หมวกกันน็อกขึ้นบนเวทีโดยมี อินทิรา น้องสาวของตนเป็นนางเอก เด็ดดวง เป็นตัวโกงประจำคณะและมี น้ำหวาน เป็นดาวยั่วหรือตัวร้าย บุญโอบ ผู้เป็นอาของ บุญเอก คือ ครูฝึกสอน และ ที่ปรึกษานง ภรรยาของ บุญโอบ เป็นผู้ดูแลความเป็นอยู่ของทุกคนในคณะ

ลิเกไฮเทคของ บุญเอก อมรินทร์ ไปแสดงที่ไหน บรรดา แม่ยก ก็จะแห่ตามมาดูขวัญใจของตน โดยเฉพาะ นวล ภรรยาของกำนันเทิด ผู้มีอิทธิพล แม้ไม่พอใจ กำนันเทิด ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงใจเมีย กำนันเทิด ได้ส่ง ทำนุ ลูกชายวัยรุ่นที่กำลังสร้างอิทธิพลแข่งกับพ่อตามไปก่อกวน ทำนุ กลับมาถูกใจ อินทิรา จนไม่กล้าป่วน แถม ทับทิม น้องสาวคนสวยของ ทำนุ ซึ่งกล้าแก่นไม่กลัวคนที่ตามมาด้วย กลับไปหลงใหล บุญเอก แข่งกับแม่ กำนันเทิด จึงต้องชอกช้ำทวีคุณ

บุญเอก ยังมีลิเกคู่แข่งอีกคณะหนึ่งคือ อนุชิต ศิษย์สำราญ โดยมีน้ำอ้อย ซึ่งสวยไม่น้อยหน้าใครเป็นนางเอก ทั้งสองคณะนี้ไม่มีใครยอมใคร ไปตั้งเวทีประชันกันที่ไหน เป็นต้องงัดไม้ตายออกมาสู้กัน แม้บางครั้งคณะ อนุชิต ศิษย์สำราญ จะมีแผนการร้ายๆ แต่ทำอะไรลิเกไฮเทคของ บุญเอกที่ร้องเพราะ รำสวย ไม่ได้ เป็นธรรมชาติ คนแพ้ต่อย ย่อมชวนตี ลิเกสองคณะจึงยกพวกเข้าห้ำหั่นกันบ่อยครั้ง

กำนันเทิด ว่าจ้างลิเกทั้งสองคณะไปเล่นประชันกัน เพื่อฉลองงานวันเกิดให้ นวล ลิเกคณะอนุชิต เดินทางไปก่อน แล้ววางแผนแกล้งลิเกคณะ บุญเอก โดยโรยตะปูเรือใบไว้เต็มถนน รถของบุญเอก คันที่นำหน้ายางแตกทั้งสองเส้น จนต้องใช้รถคันหลังช่วยขนถ่ายอุปกรณ์ฉาก ทางด้าน คน ก็พากันเดินไปเรื่อย ๆ ต้องถือเป็นโชคร้ายที่ฝนลงมาอย่างไม่มีเค้า ทุกคนต้องวิ่งเข้าไปหลบในถ้ำ บุญโอบ ไปพบเป้บรรจุเพชรซุกซ่อนอยู่ จึงเอามาใส่ให้ อินทิราออกแสดงจนวูบวาบไปทั้งเวที ลิเกคณะ บุญเอก จึงชนะ คณะ อนุชิต รับเงินเดิมพันมาทั้งหมด บุญโอบ เองก็ไม่รู้ว่า…เพชร ในเป้ลูกนั้นมาจากไหน

ต้นทางของเพชรในเป้นั้นคือ ประเทศไทย ได้จัดให้มีการแสดงเพชรระดับโลกขึ้นที่กรุงเทพ ฯ หลายประเทศได้ส่งเพชรชั้นสุดยอดเข้ามาร่วมงานด้วย เดวิด นักธุรกิจจากต่างชาติผู้จัดแสดง ได้วางแผนโจรกรรมเพชรที่ตัวเองจัดแสดงอย่างแยบยล ทว่า

เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกว่าแผนการปล้น ยังมีการปล้นซ้อนปล้น

เชิด เป็นตัวการปล้นซ้อนแผนของ เดวิด โดยมีผู้วางแผนให้ แต่เมื่อปล้นได้ เชิดกลับเปลี่ยนใจไม่ยอมนำเพชรไปให้ผู้ว่าจ้าง เพราะราคาจ้างกับราคาเพชรผิดกันมาก เชิด เอาเพชรไปซุกซ่อนไว้ในถ้ำแล้วฆ่าผู้ร่วมงานทุกคน เชิด จึงเป็นคนเดียวที่รู้ว่า เพชร อยู่ที่ไหน เชิด ติดต่อจะขายเพชรให้กับ เสี่ยอ่าง เจ้าพ่อแห่งวงการเพชรเมืองไทย เมื่อตกลงกันได้ เชิด ก็ย้อนกลับมาเอาเพชรในถ้ำ ปรากฏว่า เพชร ทั้งหมดหายไป

เดวิด ส่งการ์ดสาวสามคน สืบหาจนรู้ว่าเพชรตกไปอยู่กับคณะลิเก…เสี่ยอ่าง ก็ส่ง เหว่ย เซียะ และ กัง สามมือพิฆาตของตน ออกติดตามเส้นทางของเพชรเช่นกัน ที่เหนือกว่านั้น…สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสองนายตำรวจมือปราบแห่งยุค ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เดวิด เสี่ยอ่าง และ เชิด ต่างก็รู้ว่าเพชรไปตกอยู่กับคณะลิเก แต่ยังไม่แน่ใจว่า เป็นลิเกคณะไหน

สามการ์ดสาว ของเดวิด ก็บุกเข้าค้นบ้านของลิเกคณะ อนุชิต ศิษย์สำราญ เพื่อจะหาเพชร เหว่ย และ เซียะ บุกเข้าจับคนในคณะลิเกของ บุญเอก เพื่อจะเอาตัวไปซักถาม แต่..ต้องหน้าหงายกลับไป เพราะทุกคนในคณะร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้ ที่รุนแรงยิ่งไปกว่านั้น…เชิด นำลูกน้องเข้าปล้นบ้านของ บุญเอก อมรินทร์ เพราะต้องการเอาเพชรคืน ทุกฝ่ายทำไม่สำเร็จเนื่องจาก สองตำรวจมือปราบคือ ร.ต.อ. เดชา และ ร.ต.ท. หญิงบังอร ได้วางแผนป้องกันอย่างรัดกุม

ร.ต.อ. เดชา ปลอมตัวไปขอหัดลิเกอยู่กับคณะของ บุญเอก แม้ไม่เต็มใจต้อนรับแต่บุญเอก ไม่อยากขัดใจ อินทิรา น้องสาวผู้มีใจให้ เดชา สำหรับ บุญเอก กับ บังอร ต้องถือเป็นคู่อริตลอดกาลแม้จะมีจิตใจให้กัน แต่ทั้งคู่ต่างก็ซุกซ่อนไม่ยอมเปิดให้อีกฝ่ายรู้เห็น

กลุ่มเหล่าร้ายเปลี่ยนแผนการใหม่ โดยหันมาร่วมมือร่วมใจกัน เสี่ยอ่าง ทุ่มเงินจ้างลิเกทั้งสองคณะมาเล่นประชัน..ล้มเงินรางวัลกัน แถมมีเงินรางวัลล่อใจ สำหรับลิเกคณะที่มีเครื่องประดับสวยงาม เพราะคาดหวังว่า..ลิเกคณะใดที่ครอบครองเครื่องเพชรอยู่ จะนำออกมาแต่งโชว์ และก็เป็นไปตามคาดหมาย เมื่อถึงวันงาน บุญโอบ งัดเครื่องเพชรออกมาให้ อินทิรา สวมใส่อีกครั้ง

เสี่ยอ่าง…วางแผนให้ เหว่ย และ เซียะ ลักพาตัว อินทิรา พร้อมเครื่องเพชรทันที
เดวิด…สั่งสามการ์ดสาวตามประกบไม่ยอมให้คลาดสายตา
เชิด…และลูกน้องเตรียมพร้อมที่จะปล้นซ้อนแผนอีกครั้ง
ผู้กอง เดชา และ หมู่ชื่น ตาม อินทิรา ชนิดก้าวต่อก้าว
บังอร…และ ตำรวจสายสืบ ประกบรอบนอกไว้อีกชั้นหนึ่ง
ทว่า…เหตุร้ายก็เกิดขึ้นจนได้

หมอลำซิ่ง ซึ่ง เดวิด จัดมาให้ความครึกครื้นในงานเล่นเสียงดังเกินเหตุ จนลิเกทั้งสองคณะเล่นกันไม่รู้เรื่อง ตุ๊ ตัวโกง ของคณะ อนุชิต จึงร้องกลอนถาม เด็ดดวง ตัวโกงของคณะ บุญเอก ว่าจะเอายังไงดี เด็ดดวง ก็ร้องกลอนตอบเป็นทำนองว่า รวมตีนซะเลย หมอลำซิ่ง กลับถามมาว่า..เก่งแต่ปากหรือเปล่า ลิเกทั้งสองคณะจึงยกพวกเข้าตะลุมบอนกับหมอลำซิ่ง ที่พร้อมจะมีเรื่องอยู่แล้ว เดชา จำต้องโดดเข้าช่วยพวกลิเก เหว่ย และ เซียะ ได้โอกาสก็ตรงฉุด อินทิรา จากหน้าเวที หมู่ชื่น ปราดเข้าขวางก็ถูกยิงทรุด บุญโอบ เข้าช่วยจึงโดนยิงอีกคน เหว่ย และ เซียะ เอาตัว อินทิรา ที่แต่งเครื่องเพชรหนีไปได้

ทว่า เหว่ย และ เซียะ ไปได้แค่ครึ่งทาง ทำนุ ผู้ซึ่งหลงใหล อินทิรา และ ชำนาญเส้นทางกว่าก็มาดักหน้าแย่งชิงตัว อินทิรา ไปได้ แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำนุ กลับนำตัว อินทิรา ไปส่งมอบให้กับ เดวิด รางวัลที่ ทำนุ ได้รับคือ ถูกการ์ดสาว ยิงจนทรุด เดวิด พา อินทิรา มาได้อีกครึ่งทางก็พบกับด่านสำคัญ นั่นคือหมอมนตรี และ สว.ป. มงคล

หมอมนตรี ที่คนทั้งตำบลรู้จักคือ..หมอใจบุญที่รับรักษาให้ทุกคน ทุกโรค จะได้เงินหรือไม่ได้เงินไม่เคยสนใจ แต่เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้คือ เขาเป็นผู้วางแผนการปล้นเพชรให้กับ เดวิด เป็นตัวการใหญ่ผู้ค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ เป็นผู้วางแผน ยัดยาเสพติดใส่กล่องสินค้าของโอทอป เมื่อเรื่องทำท่าจะเปิดเผยก็หลอก ใหญ่ มาเป็นแพะ เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด บุคคลที่คอยช่วยสานงานของ หมอมนตรี ให้ลุล่วงตามเป้าหมายคือ สว.ป. มงคล

พ.ต.ต. มงคล เป็นสารวัตรปราบปรามที่ย้ายไปประจำอำเภอชายแดน จ.สระแก้วเพื่อร่วมมือกับ มนตรี อย่างใกล้ชิด มงคล กล้าได้กล้าเสีย กล้าทำในสั่งที่คนอื่นคาดไม่ถึงอยู่เสมอ

มงคล และ มนตรี รู้ดีว่า ทุกคนมาชุมนุมกันที่วัดหลังถ้ำเพราะ เครื่องเพชร มงคลและ มนตรี จึงไปดักรอในจุดที่ทุกคนต้องผ่านคือปากทางถนนเข้าวัด เมื่อ เดวิด นำตัว อินทิรา ขึ้นรถหนีเขาก็ไปติดอยู่ที่ปากทางนี้เอง มนตรี ได้สอนวิธีปล้นซ้อนให้ เดวิด รู้จักโดยการฉกตัว อินทิรา ที่ยังใส่ชุดเครื่องเพชรไปอย่างง่ายดาย

มงคล และ มนตรี นำตัว อินทิรา มาขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ ซึ่งสถานีปลายทางจัดส่งตู้สินค้า และ ตู้โดยสารที่หมดสภาพเข้าโรงงานซ่อม มงคล จึงใช้รถขบวนนี้ขนยาเสพติด และ อาวุธสงครามในคราวเดียวกัน..เมื่อขบวนรถเคลื่อนออกจากสถานี มงคล และ มนตรี ช่วยกันปลดเครื่องเพชรจาก อินทิรา จนไม่รู้ว่า..บุญเอก และ เดชา ขึ้นมาบนขบวนรถ รวมทั้ง เชิด และ ดารา ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน เชิด คว้ากระเป๋าเครื่องเพชรจะโดดลงจากรถไฟ ดารา ก็เข้าขวางไว้ จึงเป็นที่เปิดเผยว่า…ดารา คือคนที่วางแผนให้ เชิด ปล้นซ้อนปล้นบังอร บินพารามอเตอร์ลงบนตู้รถไฟเพื่อบังคับให้ขบวนรถหยุด

ทว่า มงคล และ มนตรี วางแผนไว้หลายชั้น ลูกน้อง ที่ขึ้นมาบนขบวนรถตามรายทางระหว่างรถวิ่ง เป็นตัวช่วยที่คอยยิงสกัดกั้นเปิดทางให้ มงคล มนตรี นำ อินทิรา และ เครื่องเพชรทั้งหมดหนีรอดไปอย่างไร้ร่องรอยรวมทั้ง ดารา และ เชิด

บังอร บุญเอก เดชา รวมทั้งตำรวจที่ติดตามขบวนรถมา ต่างพากันมึนตึบ ไม่รู้จะไปตามกลุ่มวายร้ายได้ที่ไหน จ่าแม้น บอกมีคนเดียวที่น่าจะรู้คือ กำนันเทิด

กำนันเทิด โกรธแค้นเพราะ ทำนุ ถูกยิง รับอาสาพาลุยทันทีเพราะรู้ดีว่า หมอมนตรีมีโรงโม่หินทิ้งร้างอยู่ ทว่า..ก่อนที่ กำนันเทิด จะนำทุกคนไปถึงเชิด ได้นำหน้าพาลูกน้องลุยไปก่อนแล้ว

เชิด และ ลูกน้อง อีกหลายคนตายในการต่อสู้ แต่..มงคล และ มนตรี ก็ใช่ว่าจะหนีรอดไปได้ บุญเอก และ เดชา ถล่มอย่างไม่ยั้งมือ จะมีที่โชคร้ายก็คือ อินทิรา ถูกลูกหลงเข้าที่ท้องฟุบจมกองเลือด และเมื่อเคลียร์พื้นที่แล้วจึงรู้ว่า ดารา และ กระเป๋าใส่เพชรหายไปพารามอเตอร์ถูกส่งขึ้นบินทั่วพื้นที่ อ. ชายแดน

พอได้รับแจ้งทางวิทยุ บังอร ก็โดดขึ้นรถขับอย่างลืมถอนคันเร่ง เพียงไม่นานนักก็ แซงรถของ ดารา ที่กำลังจะถึงด่านชายแดน..และแล้ว ดารา ก็ได้รับชะตากรรมเช่นเดียวกับ บัลลังก์ อินทิรา หายป่วย เธอประกาศเลิกเล่นลิเกเพื่อแต่งงานกับ ผู้กองเดชา บุญเอก ต้องเสาะหานางเอกคนใหม่ บุญเอกจะได้ ใครเป็นนางเอกลิเก?

ผู้กำกับ : ทองก้อน ศรีทับทิม
ผลิตโดย : โคลีเซี่ยมฟิล์ม
เขียนบท :  อารีย์ ทองน้อย, มัสยา บัวแย้ม, ปองพล ทองอ่อน
บทประพันธ์ : คมน์ อรรฆเดช, ศิวาวุธ ไพรีพินาศ

รายชื่อนักแสดง พยัคฆ์ยี่เก

อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร           …           บุญเอก อมรินทร์
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์           …           อินทิรา อมรินทร์
สุธิราช วงศ์เทวัญ           …           ร.ต.อ.เดชา ชาญณรงค์
จิลล์ โรเจอร์           …           ร.ต.ท.บังอร รุจิเรข
ชูศรี เชิญยิ้ม           …           หมู่ชื่น
โอลิเวอร์ บีเวอร์           …           เดวิด
นาตยา จันทร์รุ่ง           …           นวล
ชุมพร เทพพิทักษ์           …           หมอมนตรี

ธิดาซาตาน

ณ ป่าดงดิบแถบชายแดน นายพรานรามราช กับนายพรายภูไพร เพื่อนร่วมสาบานที่เกิดเวลาเที่ยงคืนของคืนวันจันทรคราส วันเดียวปีเดียวกันตรงตามความเชื่อถือที่สืบต่อกันมาว่า หากใครเกิดวันดังกล่าวผู้นั้นคือทายาทอสูรที่สามารถฝึกฝนมนต์ดำจนบรรลุไสย เวทย์ขั้นสูงได้ ทั้งสองจึงร่วมกันติดตามค้นหาตำราอสูรมานานนับหลายปี แล้วในที่สุดความปรารถนาก็เป็นจริง แต่ด้วยความโลภในใจทำให้รามราชลืมความเป็นเพื่อน อยากจะครอบครองตำราอสูรไว้เพียงผู้เดียว ทั้งคู่หันมาห้ำหั่นแย่งชิงกันเอง รามราชถูกภูไพรเอาไฟจี้จนบาดเจ็บ ฉับพลันเกิดอาเพศถ้ำถล่มรามราชหนีไปได้ ทิ้งภูไพรกับตำราอสูรฝังในถ้ำนั้น

17 ปี ผ่านไป ธารใส, เพลิงพิศ, วายุตา, เอื้องทราย เด็กสาว 4 คนเติบโตขึ้นมาต่างทิศทางที่ต่างนิสัยใจคอและต่างสายเลือด แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือทั้ง 4 คนเกิดในวันที่พรานทั้งสองมอบตัวเป็นทายาทอสูร เพียงแตกต่างกันทำให้แต่ละคนมีธาตุที่ต่างกัน ซึ่งตามตำรามนต์ดำหากธาตุทั้งสี่ได้รวมตัวกันก็จะบังเกิดพลังร้ายแห่งอสูร ที่ไม่มีใครสามารถต้านทานได้ ธารใส เด็กสาวอายุ 16 เป็นลูกกำพร้าได้ แย้ม กับย้อย เก็บมาเลี้ยงดูเป็นลูก แย้มกับย้อยมีอาชีพเป็นพวกต้มตุ๋นหลอกชาวบ้าน และพยายามฝึกฝนให้ธารใสขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้วยความที่เป็นคนขลาดกลัวธารใสทำพลาดเกือบทุกครั้ง และล่าสุดก็โดนรปภ.ไล่ตามจับธารใสหนีรอดได้ทัน

แต่กลับไปวิ่งชนเข้า กับ เชนทร์ ลูกชายเจ้าของโรงเรียนมารตีคอมเมิร์ส เชนทร์เข้าใจว่าธารใสเป็นพวกหัวขโมย เพลิงพิศ เด็กสาวผู้แสนอาภัพต้องสูญเสียพ่อที่แสนดีไปตั้งแต่ยังเล็ก ทิ้งให้เธออยู่กับแม่ คุณหญิงแม่แม่เลี้ยงใจร้ายที่ฮุบมรดกของเธอไปจนหมด เพลิงพิศถูกเลี้ยงดูไม่ต่างกับสาวใช้ภายในบ้าน แถมยังโดน ชนก กลั่นแกล้งทารุณทุบตีทำร้ายจากแม่เลี้ยงและ หญิงนิล น้องสาวต่างมารดาอยู่เป็นประจำ ในขณะเดียวกัน วายุตา ลูกสาวมหาเศรษฐีที่โหยหาความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวมาโดยตลอดก็มี ดวงเดช พ่อที่ลุ่มหลงอยู่แต่เรื่องกามารมณ์กับเด็กสาวเอ๊าะๆ วัยเดียวกับตน และ นงนุช แม่ที่ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการช่วยเหลือเด็กกำพร้า

แต่ กลับหลงลืมที่จะกลับมาดูแลเอาใจใส่ลูกสาวคนเดียวของตนเอง จึงทำให้วายุตาไม่ต่างอะไรกับเด็กกำพร้าทางใจ วายุตาแอบหนีไปเทียวเจอกับกลุ่มเพื่อนชายที่พยายามจะลากวายุตาไปข่มขืน แต่วายุตากลับรอดมาได้อย่างหวุดหวิด และคนสุดท้าย เอื้องทราย สาวน้อยชาวเหนือแสนซื่อที่ถูกแม่เล้าหลอกซื้อตัวมาจะเอาเป็นลูกบุญธรรม แต่จริงๆ แล้วกลับบังคับให้มาขายตัว เอื้องทรายตัดสินใจหนีไปตายเอาดาบหน้า แต่ถูกกลุ่มลูกสมุนของแม่เล้าตามล่าเอาชีวิต เอื้องทรายหลบเข้าไปในรถของ มารตี รถพาเอื้องทรายมาถึงบ้านของมารตี และกลายมาเป็นสาวใช้ติดตามเชนทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมารตีในเวลาต่อมา การพบกันครั้งแรกของสี่สาวทายาทอสูรเกิดขึ้นในวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียน มารตีคอมเมิร์ส

ธารใสสอบชิงทุนการศึกษาเข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ของ โรงเรียน ส่วนวายุตาทนอยู่โรงเรียนเก่าต่อไปไม่ได้จึงลาออกแล้วมาเรียนต่อที่นี่ มารตีเจ้าของโรงเรียนให้เอื้องทรายมาเรียนที่โรงเรียนด้วย เพื่อคอยรับใช้เชนทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ ธารใส, วายุตา, เอื้องทราย ได้พบกับเพลิงพิศที่เป็นนักเรียนเก่าของที่นี่ แต่แทนที่จะเป็นการพบกันในฐานะเพื่อนใหม่ ธารใสกับเพลิงพิศกลับเป็นได้แค่ศัตรูแปลกหน้าเท่านั้น เพราะธารใสเป็นต้นเหตุให้เพลิงพิศ, วายุตา และเอื้องทราย โดนมารตีทำโทษให้อับอายเพื่อนนักเรียยนในวันแรกของการเรียน ความโชคร้ายของธารใสยังไม่จบลงเท่านั้น เชนทร์พบกับธารใสโดยบังเอิญและจำได้ว่าธารใสเป็นขโมยที่ถูกรปภ.ไล่ตามในห้าง

เชนทร์ ลากตัวธารใสไปหามารตีและบอกให้แม่ไล่ธารใสออก มารตีเชื่อเชนทร์แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อแย้มกับย้อยโผล่มาในคราบของ เศรษฐีน้ำมันชาวตะวันออกกลาง ซึ่งแย้มกับย้อยตั้งใจปลอมมาเป็นคนรวยเพราะอยากให้ธารใสมีฐานะทัดเทียม เพื่อนๆ มารตีไม่กล้าไล่ธารใสออก แต่จำเป็นต้องคัดชื่อออกจากนักเรียนทุน การมาเยือนของแย้มย้อยแทนที่จะช่วยธารใสกลับทำให้ชีวิตธารใสลำบากมากขึ้น เพราะธารใสต้องไปหางานพิเศษทำอย่างหนักเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเทอม ธารใสไปขอทำงานเพื่อหารายได้พิเศษในชมรมเชียร์ของโรงเรียน และได้พบกับเพลิงพิศที่มาทำงานพิเศษในชมรมนี้เช่นกัน เพลิงพิศไม่สนใจธารใสแม้ธารใสพยายามหาทางพูดคุยด้วย

ธารใสเห็นการฝึก ซ้อมของทีมเชียร์แล้วรู้สึกทึ่งและสนใจอยากเข้าร่วมบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเชนทร์ในฐานะประธานเชียร์และหญิงนิลหัวหน้าทีมเชียร์ ต่างพากันกีดกันธารใส ธารใสเห็นเพลิงพิศเต้นเชียร์ได้อย่างคล่องแคล่วเลยขอให้เพลิงพิศช่วยสอนให้ แต่เพลิงพิศปฏิเสธและยังไม่หายโกรธธารใส ด้านเพลิงพิศก็พยายามให้หญิงนิลรับเธอเข้าทีมเชียร์อีกครั้ง หญิงนิลเห็นธารใสและเกิดหมั่นไส้เลยสั่งให้ทั้งคู่ไปตั้งทีมเชียร์มาเต้น โชว์ให้ดู ถ้าทำได้ดีถูกใจเธอก็จะรับทั้งคู่เข้าทีมเชียร์ เพลิงพิศไม่อยากร่วมทีมกับธารใส แต่ด้วยความที่อยากเต้นมากเลยจำใจรับปากหญิงนิล เพลิงพิศกับธารใสเลยไปชวนวายุตากับเอื้องทรายมาร่วมทีมเชียร์ด้วย

ทั้ง 4 คน ฝึกซ้อมโดยมีเพลิงพิศเป็นคนสอนท่าเต้น เพลิงพิศแทบบ้าเพราะธารใสไม่มีพื้นฐานการเต้นเลย แถมยังฟังจังหวะดนตรีไม่เป็น เพลิงพิศจึงตกลงใจให้ธารใสเป็นตัวขึ้นไปยืนต่อตัวในช่วงท้ายของการเต้นเท่า นั้นพอ ผลปรากฎว่าเมื่อวันทดสอบมาถึงธารใสกลับเป็นตัวทำให้ความฝันของทีมพังทลาย เพราะเมื่อถึงช่วงต่อตัวธารใสกลับกลัวจนขาสั่น ตกลงมาทับ 3 สาวที่ยืนเป็นฐาน ทำให้ถูกเชนทร์กับหญิงนิลหัวเราะเยาะเย้ย ทำให้เพลิงพิศยิ่งเพิ่มความเกลียดชังธารใสมากขึ้น ชีวิตในโรงเรียนของธารใสกับเพลิงพิศไม่ต่างอะไรกันนัก ในขณะที่ธารใสโดนเพื่อนชายในห้องแกล้งอยู่เสมอๆ เพราะความเป็นคนขี้กลัวและอ่อนแอ ธารใสจึงเหมือนตัวตลกของห้องท่ามกลางความสะใจของเชนทร์และกลุ่มเพื่อนๆ

ส่วน เพลิงพิศก็โดนหญิงนิลคอยข่มเหงรังแก และใช้ความรุนแรงตบตีเพลิงพิศต่อหน้าเพื่อนๆ ให้อาย ความที่เพลิงพิศเป็นผู้หญิงแข็งกร้าว พูดจาดุดัน ผู้ชายต่างพากันไม่กล้าเข้าใกล้ เตอร์ เพื่อนสนิทที่คอยเอาแต่สนันสนุนเป็นลูกคู่ แต่จริงๆ แล้วแอบอิจฉาเชนทร์ ท้าให้เชนทร์นัดเดทกับเพลิงพิศ เชนทร์รับคำท้าทั้งๆ ที่ น็อต เพื่อนสนิทอีกคนที่คอยแอบเป็นกำลังใจให้พวกสี่สาวและเป็นเพื่อนที่จริงใจของ เชนทร์ ไม่เห็นด้วยที่เชนทร์จะคอยแกล้งพวกสี่สาว เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยปฏิเสธเขาเลย และในที่สุดเชนทร์ก็จีบเพลิงพิศสำเร็จ ข่าวนี้รู้ไปถึงหญิงนิลหญิงนิลแทบคลั่งที่เพลิงพิศตัดหน้าแย่งเชนทร์ไป ทั้งๆ ที่ใครๆ ก็รู้ว่าเชนทร์ควงอยู่กับหญิงนิล

หญิงนิลพาเพื่อนไป รุมทำร้ายเพลิงพิศจะกรีดหน้าให้เสียโฉม แต่ธารใสมาเจอและเอาชีวิตเข้าเสี่ยงช่วยเพลิงพิศจนตัวเองบาดเจ็บ วายุตากับเอื้องทรายเข้ามาช่วยเพลิงพิศกับธารใสไว้ได้ทัน ทำให้เพลิงพิศซึ้งในน้ำใจของธารใส มิตรภาพของคนทั้ง 4 จึงเริ่มนับจากนั้น หลังจากจีบเพลิงพิศสำเร็จเชนทร์ก็เลิกสนใจเพลิงพิศทำให้เพลิงพิศไม่เข้าใจ เตอร์เพื่อนสนิสของเชนทร์เลยได้ทีพูดจาเยาะเย้ยเพลิงพิศว่ามันเป็นแค่เกม เท่านั้น ทำให้ธารใสลืมตัวตบหน้าเชนทร์ เชนทร์โกรธมากประกาศตัวเป็นศัตรูกับพวก 4 สาวทันที สี่สาวถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ ภายในโรงเรียน มีวิธีเดียวที่จะสามารถอยู่รอดในโรงเรียนนี้ได้คือการรวมกลุ่มกันสู้เท่า นั้น 4 สาวจึงจับมือสาบานเป็นเพื่อนตายกันและตั้งชื่อแก็งค์ว่า กุหลาบไฟ

หลัง จากเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นในการเดินทางไปทัศนศึกษาในป่าทึบเขตชายแดน ชีวิตของสี่สาวก็เปลี่ยนไปเพราะธารใสได้พบกับตำราอสูรที่ซ่อนอยู่ในถ้ำด้วย ความบังเอิญ แต่สี่สาวไม่รู้ว่าตอนอยู่ในถ้ำมีเงาดำที่ตามติดสี่สาวออกมาด้วย เงาดำนั้นคือรามราชพรานหนุ่มเมื่อ 16 ปีก่อน ที่บัดนี้กลายเป็นชายแก่หน้าตาอัปลักษณ์ รามราชเฝ้าค้นหาตำราอสูรมา 16 ปีแต่กลับไม่พบ แล้วก็แปลกใจมากที่สี่สาวเจอตำราได้ง่ายดาย รามราชติดตามสี่สาวเข้ากรุงเทพแล้วสมัครเป็นภารโรงในโรงเรียนมารตีคอมเมิร์ส มารตีรับไว้เพราะรามราชไม่ต้องการเงินเดือนแค่อยากได้ที่พักและข้าวกิน 3 มื้อ แต่มีข้อแม้ว่าให้อออกมาทำงานตอนกลางคืนเพราะกลัวเด็กๆ จะตกใจกลัว แต่ก็มีเด็กๆ เห็นจนได้และตั้งฉายาว่าลุงหน้าผี

ธารใสทำผิด กฏของเชนทร์เชนทร์เลยสั่งลงโทษให้ธารใสไปล้างห้องน้ำชาย หลังเลิกเรียนธารใสเห็นลุงหน้าผีออกมาจากห้องน้ำ ธารใสตกใจหวีดร้องจนเป็นลมสลบไป ส่วนเชนทร์ก็รู้สึกว่าตัวเองแกล้งรุนแรงไปจึงแอบมาดูธารใส แต่เห็นธารใสเป็นลมสลบอยู่จึงอุ้มธารใสออกจากห้องน้ำ หญิงนิลมาเห็นเข้าคิดว่าเชนทร์กับธารใสมีอะไรกัน ข่าวนี้กระจายไปทั่วโรงเรียน และเป็นจุดขัดแย้งที่เริ่มประทุในใจของเพลิงพิศ ธารใสเล่าเรื่องชายที่เห็นในห้องน้ำให้เพื่อนๆ ในแก็งค์ฟัง เพลิงพิศคิดว่าน่าจะเป็นลุงเจ้าหน้าที่ภารโรงคนใหม่ของโรงเรียน ธารใสรู้สึกสงสารลุงหน้าผีเลยแอบเอาขนมไปวางไว้หน้าห้องพัก หลังจากเหตุการณ์ที่เชนทร์ช่วยธารใส เชนทร์ก็ดูมีพฤติกรรมแปลกๆ กับธารใสหลายอย่าง

ทั้งยังยกเลิกข้อห้ามต่างๆ ยิ่งทำให้หญิงนิลเกลียดพวกสี่สาวมากขึ้น มีการจัดแข่งขันเต้นเชียร์ประจำโรงเรียนทีมผู้ชนะจะได้เป็นดาวเชียร์ประจำ โรงเรียน แก็งค์กุหลาบไฟไม่กล้าแข่งขันแต่เผลอไปรับคำท้าของหญิงนิลเอาไว้ ทำให้สี่สาวกลุ้มใจหนักเพราะรู้ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางแข่งชนะพวกหญิงนิลได้ ในขณะนั้นเองธารใสพบว่าย้อยสามารถอ่านตำราที่พวกตนได้มาจากป่าได้จึงให้ย้อย แปลให้ฟังได้ความว่า ตำรานี้เป็นตำราอสูรเป็นวิชาไสยเวทย์โบราณ ผู้ฝึกฝนสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ดังใจปรารถนา แต่ต้องเป็นผู้เกิดในคืนจันทรคราสหรือคืนกำเนิดทายาทอสูร ทั้งหมดช่วยกันหามนต์ดำที่จะช่วยให้ชนะการแข่งขัน การแข่งขันเริ่มต้นระหว่างเต้นทีมกุหลาบไฟเต้นสู้แบบยิบตา

และแอบ ท่องมนต์ดำอสูรให้ตัวลอยกลางอากาศได้ ขณะเดียวกันก็เสกให้ทีมคู่แข่งขันเห็นงูพันคอเพื่อนในทีมจนล้มระเนระนาดไม่ เป็นท่า กุหลาบไฟชนะได้เป็นดาวเชียร์ของโรงเรียน และได้เข้าไปเดินยืดในชมรมเชียร์สมใจ แต่ก็โดนพวกหญิงนิลแกล้งให้เป็นได้แค่ตัวสำรองคอยซักเสื้อผ้าให้ทีมเชียร์ ลุงหน้าผีแอบดูเหตุการณ์ทั้งหมดและวางแผนแย่งตำราอสูรมาครองครอง ด้วยการพยายามหลอกเข้าไปตีสนิทกับสี่สาวและคอยช่วยเหลือสี่สาว จนกลายเป็นคนที่สี่สาวให้ความเคารพเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตำราอสูรให้ลุงหน้า ผีฟัง สี่สาวสามารถท่องมนต์เสกเบื้องต้นได้ เช่น เสกภาพผีในหนังสือให้ออกมาเป็นผีจริงหลอกคนได้ เสกภาพลวงตา ฯลฯ ภารกิจแรกที่แก็งค์กุหลาบไฟจัดการคือ การแก้แค้นบรรดาคนที่เคยข่มเหงรังแกตน

และ มนต์ดำอสูรก็ช่วยให้สี่สาวเต้นเชียร์ได้เก่งขึ้นจนไม่มีทีมไหนสามารเทียบติด ได้ และสามารถคว้าแชมป์มาให้โรงเรียนจนกลายเป็นคนดังประจำโรงเรียน ทำให้พวกหญิงนิลอิจฉามากขึ้นและหาทางกลั่นแกล้งพวกกุหลาบไฟ เพลิงพิศเริ่มหลงระเริงกับชื่อเสียงที่ตนมี และอิจฉาธารใสเรื่องเชนทร์ และความโดดเด่นของธารใสในการเต้นเชียร์ ลุงหน้าผีได้โอกาสยุแหย่ให้สี่สาวแตกกัน และยุให้เพลิงพิศขโมยเอาตำราอสูรมาฝึกฝนคนเดียว และโยนความผิดให้ธารใสว่าเป็นคนขโมย ไป ทำให้ทีมเต้นพ่ายแพ้ทีมของหญิงนิล ธารใสโดนไล่ออกจากแก็งค์กุหลาบไฟ ทุกๆ คนที่ชื่นชอบแก็งค์กุหลาบไฟพากันรังเกียจธารใส ยกเว้นเชนทร์ที่เห็นใจธารใสและคอยดูแลธารใสในตอนที่ไม่มีใครต้องการเธอ

ความ รักของทั้งคู่จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ด้านเพลิงพิศเมื่อได้ตำรามาก็แอบฝึกฝนตำราขั้นสูงร้ายกาจและอำมหิตมากขึ้น ทุกที ถึงขนาดต้องใช้เลือดสดๆ มาประกอบพิธีปลุกเสก จนทำให้บรรดาสัตว์เลี้ยงในโรงเรียนตายเกลื่อน ธารใสเห็นความผิดปรกติพยายามสืบหาความจริง การฝึกมนต์ดำปลุกเสกของเพลิงพิศพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพลิงพิศสั่งให้วายุตาไปเอาเส้นผมของทีมเชียร์ทุกคนมาปลุกเสก เพื่อมัดวิญญานของทุกคนให้เป็นทายาทอสูร ทำให้ทีมเชียร์เต้นกันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแข็งแรงเกินมนุษย์ ด้วยท่าเต้นและลีลาที่น่ากลัว เพลิงพิศร้ายกาจมากขึ้นด้วยการจับหญิงแม่และหญิงนิลมาเป็นหนูทดลอง เพลิงพิศเกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะฝึกมนต์ดำจากตำราสลับหน้าผิด เพลิงพิศกลายเป็นอสูรร้ายฆ่าแม่เลี้ยงตายและทำให้หญิงนิลเป็นบ้า

เพื่อนๆ ของหญิงนิลไม่มีหญิงนิลเป็นหัวหน้าทีมแล้ว จึงไปขอร้องให้ธารใสมาเป็นหัวหน้าทีมเพื่อเข้าแข่งขันสู้กับทีมของเพลิงพิศ ธารใสตอบตกลงโดยมีเอื้องทรายหนีจากทีมของเพลิงพิศมาอยู่กับธารใส เพื่อนรักกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ฟาดฟันกันด้วยมนต์ดำอสูร โดยใช้วิธีการแข่งขันเต้นเชียร์เป็นสนามประลองพลังของความดีและความชั่วร้าย ธารใสสู้เพลิงพิศไม่ได้เพลิงพิศได้ใจออกฆ่าคนเพื่อนำเลือดมาฝึกมนต์ดำ ธารใสกับเอื้องทรายพยายามเข้าขัดขวางแต่สู้มนต์ดำปลุกเสกไม่ได้ เชนทร์พิสูจน์รักแท้ที่มีต่อธารใสด้วยการเอาตัวเข้าช่วยธารใส และให้เอื้องทรายพาธารใสที่บาดเจ็บหลบหนีไป ทำให้เชนทร์ถูกเพลิงพิศจับตัวไว้เพื่อล่อให้ธารใสออกมา เพลิงพิศไม่สามารถฝึกมนต์ดำจนจบได้เพราะหน้าสุดท้ายหายไป

เลยปลุกเสก ตัวเองให้เข้าไปอยู่ในร่างกายของลุงหน้าผีทำให้เห็นภาพอดีตทั้งหมด ธารใสกับเอื้องทรายช่วยกันหาวิธีทำลายอำนาจอสูรของเพลิงพิศ และรู้ความจริงจากแย้มและย้อยว่าพ่อของเธอเป็นพรานป่า แอบเข้ามาเป็นแรงงานผิดกฎหมาย มาทิ้งธารใสไว้หน้าบ้านพร้องห่อผ้าเก่าๆ แล้วก็หายสาปสูญไป ธารใสค้นหาห่อผ้าจนเจอมีรูปของ ภูไพร ถ่ายคู่กับลุงหน้าผี และธารใสก็พบสิ่งสำคัญที่ทำให้ธารใสเอาชนะอำนาจอสูรร้ายของเพลิงพิศได้ นั่นก็คือตำราอสูรหน้าสุดท้าย ในคืนวันพระจันทร์ทรงกลดธารใสกับพวกเข้าไปช่วยเชนทร์ และต่อสู้กับเพลิงพิศสามารถเอาชนะเพลิงพิศได้ เพลิงพิศกลายเป็นคนบ้าหน้าตาอัปลักษณ์เพราะตำราอสูรย้อนเข้าตัว ธารใสจึงตัดสินใจทำลายตำราทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นพิษภัยกับคนอื่นต่อไป

รายชื่อนักแสดง ธิดาซาตาน

รพีภัทร เอกพันธุ์กุล รับบท เชนทร์
สาวิกา ไชยเดช รับบท ธารใส
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ รับบท เอื้องทราย
กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า รับบท เพลิงพิศ
ชมพูนุช ปิยธรรมชัย รับบท วาตุยา
ดนัย สมุทรโคจร รับบท น็อต
บินฑ์ บันลือฤทธิ์ รับบท รามราช
เวนส์ โฟลคอนเนอร์ รับบท ภูไพร
ดีแลนด์ รับบท เตอร์
ณัชชา วิทยากาศ รับบท หญิงนิล

เกรดบี พี่กับน้อง

นาย ภูมิดี นักศึกษาปริญญาโท ฐานะขั้นมหาเศรษฐี เรียนดีระดับ B+ เพราะมีตุ๊กตาเป็นเพื่อน ต้องการทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเรื่อง “ทำไม?? เด็กๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ถึงชอบตุ๊กตาสารพัดแบบ” และจะเหมือนประสบการณ์ของเขากับตุ๊กตาเพื่อนรักของเขาหรือไม่ จึงคิดที่จะหาคำตอบด้วยวิธีต่างๆ นานา จนได้นักวิชาการ, พ่อ-แม่, ผู้ปกครองถึงกับสนับสนุน ยกบ้านและที่ดินให้เป็นสถานที่ในการค้นหาคำตอบนี้!!!
    เรื่องราวจึงเกิดขึ้นจากความคิด “ทฤษฎีบ้านเกรดบี” ให้เด็กๆ อยู่กับเด็กด้วยกัน ดูแลกันและกัน ระบบ “พี่กับน้อง” ในช่วงปิดเทอมใหญ่โดยมีกำหนดการเข้าบ้าน 10 วัน 20 วัน 30 วัน หรือจะเบรกกลับบ้าน แล้วกลับเข้ามาใหม่ก็ได้ แต่ต้องให้ครบกำหนดซะก่อน โดยเปิดรับสมัคร รับรุ่นพี่มัธยมกลุ่มหนึ่งจำนวนจำกัด เชิญชวนเด็กนักกิจกรรมในสาขาต่างๆ ยิ่งถ้ามีใบประกาศผ่านการอบรมเข้าค่ายมานำเสนอก็ยิ่งจะมีภาษีดีกว่าใครๆ
    กลุ่ม นี้ก็จะเป็นรุ่นพี่ โดยมีกลุ่ม “ใจแจ๋ว” บางคนก็มาลงอาสาเข้าค่ายกับเค้าด้วยวิธีการที่เป็นกรณีพิเศษเฉพาะ คือ เด็กทุกคนต้องมี “ตุ๊กตาตัวโปรด” และถ้าใครมีเรื่องเล่าเด็ดๆ เคล็ดลับของการอยู่กับตุ๊กตา เปอร์เซนต์การเข้าค่ายก็จะเหนือกว่าใครๆ สาเหตุเพราะจากการหาข้อมูลกับเด็กในหลายๆ กลุ่มอายุของนายภูมิดี
    “ตุ๊กตา” มีอิทธิพลต่อเด็กๆ หลายๆ ด้าน รวมทั้งตัวเขาด้วย
    “ตุ๊กตา” เป็นเพื่อนคุย เพื่อนระบายอารมณ์ เป็นพี่ เป็นน้อง และเป็นจินตนาการได้หลายแบบ
    “ตุ๊กตา” จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คิดฝันไปได้ว่า เด็กๆ สามารถอยู่กับตุ๊กตาได้ เพราะดูเหมือนตุ๊กตาจะเข้าใจเด็กไปซะทั้งหมด หรือตุ๊กตาก็คือพลังจิตของคนทุกรุ่น ทุกวัยที่สืบทอดกันมา พวกเราได้ใส่พลังจิตส่วนที่ดีลงไปมากเข้า มากเข้า จนพอที่จะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความเชื่อได้ว่า “ตุ๊กตามีพลังนำพาให้พวกเรามีจินตนาการไปในแง่มุมต่างๆ ได้หลายรูปแบบ” หรือ “จิตของพวกเราเองนั่นแหละที่สั่งการตัวเรา แต่เอาตุ๊กตาเป็นสื่อนำ”
    กลุ่ม นี้จะเป็นเด็กโตระดับมัธยมต้นๆ ประมาณ 7-10 คน ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรให้เข้าบ้านเกรดบีนี้โดยไม่มีข้อแม้ เด็กๆ สามารถถอนตัวออกจากโครงการได้ทุกเมื่อ (ถ้ารู้สึกอึดอัด คิดถึงบ้าน คิดถึงผู้ปกครอง) แต่ในขณะที่เข้าค่ายจะต้องตัดขาดจากการติดต่อสื่อสารกับทางบ้าน นอกจากได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ซึ่งคอยดูแลอยู่ห่างๆ คอยอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือในทุกกรณี และเพื่อความสบายใจ “บ้านเกรดบี” มีองค์กรเด็ก เช่น มูลนิธิคุ้มครองสิทธิเด็ก ส่งเจ้าหน้าที่มาอยู่ด้วยตลอดเวลา, รถพยาบาลพร้อมพยาบาล, แม่ครัวครบครัน

ออกอากาศเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2551 – 15 เมษายน 2551 จันทร์-ศุกร์ 18.15 น.