Tag Archives: บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด

แฝดพี่ฝาดน้อง

เรื่องราวของฝาแฝด 3 รุ่น ที่มีชีวิตผิดแผกกันดุจโชคชะตาเล่นตลก ชีวิตจึงล้มเหลว และการกระทำของตนส่งผลกระทบมาถึงรุ่นลูกหลาน แต่ชีวิตทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ ถ้ามีมือที่เข้มแข็งมีเมตตาโอบอุ้มด้วยความรักอย่างแท้จริง

เสงี่ยมและสงัด สองสาวฝาแฝดที่เกิดมาหน้าตาสะสวยแต่ยากจน เป็นภรรยาลับๆของท่านนายพลอาทิตย์ด้วยกันทั้งคู่ ความมาแตกเอาเมื่อวันที่ท่านนายพลอาทิตย์จะเข้าพิธีแต่งงานกับคุณหญิง ปราศรัย ลูกสาวเศรษฐีและผู้ดีเก่า เพราะสงัดพาเสงี่ยมบุกเข้ามาอาละวาดกลางงาน สร้างความอับอายแก่คุณหญิงปราศรัยเป็นอย่างมากจนเกือบจะล้มพิธี แต่ป้าอ้วน คนสนิทของคุณหญิงปราศรัยห้ามเอาไว้ และแนะนำให้คุณหญิงปราศรัยยอมให้ท่านนายพลอาทิตย์พาเสงี่ยมและสงัดเข้ามา อยู่ร่วมชายคาบ้านด้วย เพราะดีกว่าปล่อยให้ท่านนายพลอาทิตย์ออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน คุณหญิงปราศรัยเลยให้เสงี่ยมและสงัดอยู่เรือนหลังเล็กในอาณาบริเวณบ้านประภาวิสิทธิ์ด้วยกัน

ต่อมาเสงี่ยมตั้งท้องเป็นคนแรก ท่านนายพลอาทิตย์ดีใจมาก เอาใจเสงี่ยมจนสงัดอิจฉา เลยหาทางกลั่นแกล้งทำให้เสงี่ยมตกบันไดหวังให้แท้ง แต่เสงี่ยมไม่แท้ง แต่คลอดลูกชายฝาแฝดก่อนกำหนด ท่านนายพลอาทิตย์ดีใจมาก ยกเครื่องเพชรให้เสงี่ยมเป็นรางวัลที่มีลูกชายให้ชุดหนึ่ง แต่สงัดก็แย่งเอาไป ท่านนายพลตั้งชื่อลูกชายฝาแฝดว่าปรัชญาและประวรรต

ต่อมาไม่นานคุณหญิงปราศรัยก็ท้องและคลอดลูกสาว ให้ชื่อว่าอาทิตยา ฝ่ายสงัดเมื่อไม่สามารถมีลูกสืบสกุลให้ท่านนายพลได้เหมือนอย่างเมียคนอื่นๆจึงตกกระป๋อง สงัดแค้นใจมาก เลยเสี้ยมสอนยุยงให้ปรัชญา ประวรรต และอาทิตยาตีกันบ่อยๆ แต่ปรัชญากับอาทิตยานั้นไม่ค่อยเชื่อคำเสี้ยมสอนของสงัด มีเพียงประวรรตเท่านั้นที่เชื่อฟังสงัด ซึ่งมักจะสอนอยู่เรื่อยๆว่า การเกิดมามีฝาแฝดนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายของชีวิต เพราะแทนที่จะได้รับความรักจากพ่อแม่ และคนรอบข้างอย่างเต็มที่ กลับต้องถูกแบ่งปันความรักออกไป ทำให้ประวรรตเริ่มเกลียดปรัชญา เหมือนอย่างที่สงัดเกลียดเสงี่ยม

วันหนึ่งสงัดคิดฆ่าอาทิตยาโดยการวางยาพิษใส่ในไอศครีมเพราะเชื่อว่าตั้งแต่อาทิตยาเกิดมา ทำให้ชีวิตสงัดตกอับยิ่งกว่าเดิม แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร สงัดกลับเป็นคนโดนยาพิษนั้นเสียเอง สงัดคิดว่าคนที่สลับถ้วยไอศครีมที่มียาพิษมาให้ตนกินคือประวรรต สงัดจึงจับประวรรตโยนตกระเบียงไปก่อนสิ้นใจตาย เสงี่ยมเห็นเหตุการณ์ตอนที่สงัดโยนประวรรตตกระเบียงไปก็คิดว่าลูกตายแน่ จึงช็อคหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เสงี่ยมก็กลายเป็นคนสติเลอะเลือน จึงไม่รู้ว่าประวรรตนั้นยังไม่ตาย

เมื่อประวรรตเริ่มโตขึ้น ความเกลียดชังที่มีต่อปรัชญาและอาทิตยาก็มากขึ้นด้วย เขามักจะทำความผิดแล้วโยนบาปให้ปรัชญาอยู่เสมอ ซึ่งปรัชญาก็มักจะยอมรับความผิดนั้นเป็นของตนแทนประวรรต ต่อมาประวรรตไปปล้ำเพื่อนสาวของอาทิตยาซึ่งเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลท่านหนึ่ง ทำให้คุณหญิงปราศรัยตัดสินใจส่งประวรรตไปเป็นทหารเพื่อให้เรื่องเงียบ ส่วนปรัชญานั้นเรียนจนจบปริญญาตรีในเมืองไทย คุณหญิงปราศรัยจึงส่งปรัชญาไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมกับอาทิตยา

เมื่อประวรรตไปเป็นทหาร ก็ยังคงสร้างปัญหาไม่หยุด เขาไปได้สาลี – สาวงามประจำจังหวัดเป็นภรรยาจนตั้งท้อง ประวรรตจำยอมจดทะเบียนสมรสกับสาลีแต่กลับใส่ชื่อปรัชญาเป็นเจ้าบ่าวโดยหลอก สาลีว่าเป็นชื่อเดิมก่อนมาเป็นทหาร ขณะเดียวกันประวรรตก็ลักลอบขายอาวุธเถื่อนและยาบ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน อภิพจน์ เพื่อนนายทหารรุ่นเดียวกัน ซึ่งหลงรักสาลีอยู่ก่อนจับได้ ประวรรตจึงหลอกอภิพจน์ให้ไปเหยียบกับระเบิด แต่อภิพจน์ยังไม่ถึงฆาต เพียงแค่ขาขาดแต่ไม่ตาย ส่วนประวรรตก็หลบหนีคดีเข้าไปอยู่ในป่ากับพวกกองกำลังค้ายาบ้าและอาวุธ

สาลีเมื่อรู้ความจริงว่าประวรรตเป็นคนอย่างไรก็ตรอมใจและสิ้นใจในวันที่ให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝดการะเกด และชมพู่ ทำให้สุรภี น้องสาวของสาลีต้องออกจากการเรียนกลางครันเพื่อมาเลี้ยงหลานสาวฝาแฝด โดยมีนรินทร์ เพื่อนชายคนสนิทคอยให้ความช่วยเหลือ ส่วนอภิพจน์เมื่อรู้ข่าวสาลีตายก็เสียใจมาก ตัดสินใจหันหน้าเข้าวัดเพื่อหาทางปลง

เวลาผ่านไป 7 ปี บ้านที่สุรภีอยู่กับหลานสาวสองคนเกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว นรินทร์จึงแนะนำให้สุรภีพาหลานเข้ากรุงเทพฯเพื่อตามหา “ปรัชญา” เพราะมีชื่อเขาเป็นพ่อเด็กแฝดในทะเบียนเกิด

ทันทีที่คุณหญิงปราศรัยเห็นหน้าหลานแฝดและทะเบียนสมรสของสาลีกับ “ปรัชญา” ก็เดาออกว่าประวรรตก่อเรื่องอีกแล้ว แต่ก็ยอมรับสุรภีและหลานสาวฝาแฝดทั้งสองให้เข้ามาอยู่ในบ้าน โดยสั่งห้ามทุกคนในบ้านพูดเรื่องประวรรตให้สุรภีได้ยินเป็นอันขาด เพื่อรอปรัชญาเรียนสำเร็จและกลับมาจากเมืองนอก และให้ปรัชญาตัดสินใจเอาเองว่าจะยอมรับเด็กแฝดเป็นลูกตามใบทะเบียนเกิดหรือ ไม่

เมื่อ ปรัชญาและอาทิตยากลับจากเมืองนอกและได้เจอกับเด็กแฝด ปรัชญาก็ยอมรับเป็นลูกของตนแต่โดยดี ฝาแฝดเองก็ติดคุณพ่อรูปหล่อใจดีแจ ส่วนสุรภีเมื่อพบปรัชญาครั้งแรกก็ต่อว่าเขามากมายด้วยวาจารุนแรง เพราะอคติที่เขาทำให้พี่สาวเธอต้องตายไปโดยไม่ได้ใส่ใจใยดี ปรัชญาไม่ได้อธิบายถึงความจริงเพราะเห็นแก่น้องชายที่ทุกคนเชื่อว่าตายไป แล้วในป่า และเรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ถึงจะพยายามอธิบายก็ไม่แน่นักว่าเธอจะเชื่อ แต่สุรภีก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ไม่เห็นท่าทีเจ้าชู้ของปรัชญา ดูเขาเป็นสุภาพบุรุษ ทำงานจริงจังและใส่ใจบุตรสาวฝาแฝดเยี่ยงพ่อที่ดีพึงกระทำ แต่ปรัชญาก็ถูกสุรภีพูดจากระทบกระเทียบอยู่เสมอ ปรัชญาไม่ถือสากลับมองเห็นว่าเธอน่ารักตรงไม่มีมารยาเปิดเผยจริงใจ ทั้งยังหวังว่าสักวัน…สุรภีจะมองเห็นตัวตนจริงๆของเขาและยอมรับเขาได้ในที่สุด

ฝ่าย ประวรรตเมื่อรู้ว่าปรัชญากับอาทิตยากลับมาจากเมืองนอก และยอมรับเด็กแฝดเป็นลูก ก็อิจฉาว่าปรัชญาจะได้เสวยสุขกับทรัพย์สมบัติของประภาวิสิทธิ์ในขณะที่เขา ยังรอนแรมอยู่กับกองโจรในป่า จึงตัดสินใจออกจากป่าเข้ากรุงเทพฯมาอาศัยอยู่กับสง่า น้าชาย

ส่วนนรินทร์นั้นเมื่อตามสุรภีเข้ามากรุงเทพฯด้วยและได้รู้จักกับอาทิตยา ก็เห็นว่าอาทิตยานั้นสวย มีความรู้ดี ชาติตระกูลดี และรวยกว่าสุรภี เขาจึงเปลี่ยนใจจากสุรภีหันไปหาอาทิตยาทันที เมื่อมิเชลแฟนของอาทิตยาตามมาหาอาทิตยาที่เมืองไทย นรินทร์ก็ขัดขวางทุกอย่างจนทะเลาะกับอาทิตยา

นรินทร์ผิดหวังและอารมณ์เสียมากจึงไปกินเหล้าที่ผับของสง่าจนได้เจอกับประวรรตเข้า ก็เข้าใจผิดคิดว่าประวรรตคือปรัชญา ประวรรตเห็นสบช่องทางทำลายอาทิตยาจึงยุให้นรินทร์ปล้ำอาทิตยา แต่ก็ผิดแผนเพราะอภิพจน์ตามไปช่วยไว้ได้ทัน ทำให้อาทิตยารู้ใจตัวเองดีขึ้นว่าเธอนั้นไม่ได้รักมิเชล แต่รักอภิพจน์ หากในขณะเดียวกันอภิพจน์ก็ไม่กล้าเอ่ยปากฝากรักอาทิตยาเพราะเจียมตัวว่าเป็นคนพิการขาขาด ซ้ำยังสำนึกผิดที่ไม่เคยช่วยสุรภีเลี้ยงชมพู่ การะเกด ลูกที่เกิดจากสาลี อดีตคนรัก อภิพจน์จึงพยายามจะแก้ตัวด้วยการช่วยเหลือสุรภีในทุกทาง ทำให้อาทิตยาเข้าใจผิดคิดว่าอภิพจน์ชอบสุรภี

ฝ่ายประวรรตเมื่อสบโอกาสก็จัดการลักพาตัวปรัชญามากักขังไว้ที่ผับสง่า แล้วปลอมตัวเป็นปรัชญากลับเข้าไปอยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์ เพื่อหาทางฆ่าคุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยา เพื่อที่สมบัติทั้งหมดจะได้ตกอยู่กับ “ปรัชญา”

ประวรรตแกล้งตัดสายเบรครถหวังให้คุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยาประสบอุบัติเหตุ แต่กลับพลิกล็อคเสงี่ยมที่สติไม่ดีวิ่งทะเร่อทะร่ามาขวางก่อนรถจะออกจากบ้าน ทำให้รถชนเสงี่ยมแล้วแฉลบไปชนรั้วบ้าน คุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่เสงี่ยมศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง ยังผลให้ความจำของเสงี่ยมเริ่มกลับคืนมาทีละเล็กทีละน้อย

ส่วนสุภีเองก็รู้สึกว่า “ปรัชญา” คนนี้ดูแปลกแตกต่างไปจากเดิม จึงเล่าเรื่องให้เตย เพื่อนสนิทที่เป็นนักข่าวสายอาชญากรรมฟัง เตยสืบจนรู้เรื่องว่าปรัชญานั้นมีฝาแฝดชื่อประวรรต และเชื่อว่าคนที่อยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์เวลานี้คือประวรรตที่ก่อคดีติดตัวมากมาย แต่ยังไม่ทันที่เตยจะเอาความจริงนี้ไปบอกกับสุรภี เธอก็ถูกประวรรตลากตัวไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งปิดปากเสียก่อน

แต่ในขณะเดียวกันคนรอบข้างก็เริ่มสงสัยในตัวปรัชญาปลอมนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะชมพู่ที่บอกสุรภีอยู่เรื่อยว่า “พ่อ” คนที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกนั้นมีแผลเป็นที่หัว (แผลเป็นที่เกิดจากปรัชญาเคยถูกประวรรตตีหัวแตกในตอนเด็ก) แต่ “พ่อ” คนปัจจุบันกลับมีแผลเป็นที่หลัง (แผลเป็นที่เกิดจากการที่ประวรรตถูกสงัดเหวี่ยงตกระเบียงในตอนเด็ก) ทำให้สุรภีพยายามจับพิรุธปรัชญาปลอมมากขึ้น

ฝ่ายอภิพจน์ก็เชื่อว่าคนที่อยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์เวลานี้คือประวรรตจึงตัดสินใจบอกกับอาทิตยา ทำให้อาทิตยาตกใจมาก ขณะเดียวกันคุณหญิงปราศรัยกับป้าอ้วนก็สงสัยในตัวปรัชญาปลอมไม่แพ้กัน จึงตัดสินใจเปลี่ยนพินัยกรรมยกสมบัติให้อาทิตยา กับชมพู่และการะเกดเท่านั้น ปรัชญาปลอมรู้เข้าจึงบังคับคุณหญิงปราศรัยให้เซ็นเปลี่ยนพินัยกรรมเสียใหม่โดยยกสมบัติทั้งหมดให้ “ปรัชญา” แต่เพียงผู้เดียว แล้วจัดการช็อตไฟฟ้าคุณหญิงปราศรัยหวังให้ตาย แต่ถูกสุรภีและป้าอ้วนจับได้เสียก่อน

ประวรรตเห็นว่าความจริงถูกเปิดโปง แถมอภิพจน์กับอาทิตยายังพากำลังตำรวจมาล้อมจับอีกด้วย ประวรรตแค้นใจมาก จึงยิงอาทิตยาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วจับสุรภีเป็นตัวประกันหนีไปชายแดน ผลจากการบาดเจ็บของอาทิตยาคราวนี้ทำให้อาทิตยาได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วอภิพจน์นั้นรักเธอ ไม่ได้รักสุรภีอย่างที่อาทิตยาเข้าใจผิดไป ทั้งคู่จึงปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

ประวรรตจับตัวสุรภีไปก็พาไปขายให้เสี่ยตง หวังจะเอาเงินแล้วหนีเข้าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ปรัชญา อภิพจน์ และเสงี่ยมซึ่งเวลานี้ความจำกลับคืนมาทั้งหมดแล้วตามมาทันก่อนที่ประวรรตจะ หนีออกไปได้ ปรัชญาและเสงี่ยมพยายามเกลี้ยกล่อมให้ประวรรตยอมมอบตัว แต่ประวรรตตัดสินใจหนีต่อเพราะรู้ดีว่าคดีร้ายแรงต่างๆที่ตนเองก่อขึ้นนั้น โดนโทษประหารอย่างแน่นอน

ประวรรตหนีไปจนถึงริมหน้าผา ปรัชญาตามไปทันพร้อมเสงี่ยมกับตำรวจ ประวรรตจึงจับปรัชญาเป็นตัวประกัน ทั้งคู่สู้กัน ประวรรตผลัดตกหน้าผาแต่ปรัชญาคว้ามือเอาไว้ได้ทัน แต่น้ำหนักตัวของประวรรตดึงให้ร่างปรัชญาเกือบจะตกไปด้วยกัน แต่ปรัชญาก็ไม่ยอมปล่อยมือประวรรต บอกว่าเกิดพร้อมกันก็จะยอมตายพร้อมกัน ทำให้ประวรรตสำนึกในความผิดบาปที่ตนได้ก่อและโยนความผิดนั้นให้ปรัชญาเรื่อยมา จึงตัดสินใจปล่อยมือปรัชญาเพื่อจะได้ตายเพียงคนเดียว

หลังการตายของประวรรต ปรัชญาตัดสินใจบวชหน้าไฟอุทิศส่วนกุศลให้กับฝาแฝดของเขา ส่วนสุรภีเมื่อรู้ความจริงก็อายมาก เพราะเคยต่อว่าปรัชญาอย่างรุนแรงมาโดยตลอดด้วยความเข้าใจผิด จึงพาลโกรธที่ปรัชญาไม่อธิบายความจริงให้เธอรู้ก่อนหน้านี้ ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงปากร้ายไร้เหตุผล ซ้ำยังเรียกร้องให้เขาขอโทษเธออีก

ปรัชญาเอาความมาปรึกษาอาทิตยา อาทิตยาเจ้ากี้เจ้าการให้ปรัชญาง้องอนและขอโทษสุรภีด้วยการพาสุรภีไปชมคอนเสิร์ต ทั้งคู่เกือบจะเข้าใจกันได้อยู่แล้ว แต่สุรภีกลับเข้าใจผิดคิดว่าปรัชญามีแฟนอยู่แล้วแต่ยังมาทำดีกับเธออีก สุรภีจึงตัดสินใจสอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอก ร้อนถึงอาทิตยา อภิพจน์ และหลานสาวฝาแฝด ชมพู่ การะเกด ที่อยากให้ปรัชญากับสุรภีได้ลงเอยกัน จึงออกอุบายทำทีเป็นว่าเด็กแฝดหนีออกจากบ้านเพราะเสียใจที่สุรภีจะไปเมืองนอก

สุรภีร้อนใจมากจึงชวนปรัชญาออกติดตามหาเด็กแฝด แต่พอรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนลวง สุรภีก็ยิ่งโกรธหนัก แต่ปรัชญาบอกว่าถ้าไม่ทำอย่างนี้สุรภีก็คงจะหนีเขาไปเมืองนอก และห่างเหินกันไป ซึ่งเขาคงทนไม่ได้เพราะรักเธอ แล้วปรัชญาก็ขอสุรภีแต่งงานท่ามกลางเสียงเชียร์ของทุกคน

ในที่สุดสุรภีก็ใจอ่อนยอมตกลงแต่งงานกับปรัชญาพร้อมกับคู่ของอาทิตยาและอภิพจน์ ทั้งสองตั้งใจจะเลี้ยงเด็กแฝดอย่างดี ไม่ให้เกิดกรณี “แฝดพี่ ฝาดน้อง” เช่นที่เคยเกิดขึ้นกับคู่ของปรัชญา-ประวรรต และเสงี่ยม-สงัดมาแล้ว

แผลเก่า 2545

ในปี พ.ศ. 2479 ณ ท้องทุ่งบางกะปิ ไอ้ขวัญลูกผู้ใหญ่เขียน หนุ่มเลือดนักเลงรูปงามมีเพื่อนสนิท คือ ไอ้เฉ่ง ไอ้เยื้อน ไอ้สมิง ไอ้เปีย ผู้ใหญ่เขียนรักไอ้ขวัญมากจึงไม่คิดที่จะมีเมืยใหม่ แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อ นายเรืองและไอ้เริญ รุกล้ำที่นาของผู้ใหญ่เขียนและเกิดเป็นคดีความขึ้น แต่นายเรืองแพ้จึงประกาศตัวเป็นศัตรูกับผู้ใหญ่เขียน แต่เหมือนเป็นกรรมเก่าที่ทำร่วมกันมา เพราะขวัญเกิดไปชอบพอกับเรียม ลูกสาวนายเรือง ซึ่งมีหนุ่มมารุมรักมากมาย รวมถึงไอ้จ้อยเศรษฐีมีเงิน

ขวัญกับเรียมแอบนัดพบกันเสมอ ความรักของทั้งสองยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นจนทั้งคู่แอบมีอะไรกัน ขวัญพร่ำบอกว่ารักเรียมเท่าชีวิต แต่เรียมนั้นไม่แน่ใจจึงพาขวัญไปสาบานต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทร ขวัญโกรธที่เรียมไม่เชื่อใจจึงเอามีดกรีดแขนตัวเอง เพื่อใช้เลือดเป็นเครื่องยืนยันความรัก ทั้งคู่สาบานรักกันต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทรว่าจะซื่อสัตย์ต่อกันตลอดไป จ้อยเห็นขวัญกับเรียมอยู่ด้วยกันจึงถึบหน้าขวัญอย่างจัง ไอ้เริญได้ใช้ดาบฟันที่กกหูขวัญเป็นแผล

ขวัญจะฆ่าจ้อยแต่เรียมขอเอาไว้ อีกอย่างนายเรืองอนุญาตให้ขวัญยกขันหมากมาสู่ขอเรืยม ซึ่งสร้างความหวังให้กับทั้งคู่เป็นอย่างมาก แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง เมื่อไอ้เริญและนางรวยเป่าหูนายเรืองให้กันขวัญออกจากเรียมแล้วยกให้ไอ้จ้อย เพื่อยกฐานะให้กับตนเอง เรียมถูกขายให้คุณนายทองคำที่บางกอก ขวัญจึงออกไปตามหาที่บางกอกแต่ไม่เจอ ไอ้ขวัญแทบคลั่ง ด้วยความเป็นห่วงลูกชาย ผู้ใหญ่เขียนแอบเก็บเงินเพื่อช่วยไถ่ตัวเรียมอีกแรง

ขวัญคลั่งหนักเมื่อรู้ข่าวว่าไอ้จ้อยจะไปไถ่ตัวเรียมเพื่อมาแต่งงาน ผู้ใหญ่เขึยนจึงไปกราบเท้านายเรืองให้ขวัญมีสิทธิ์ไถ่ถอนตัวเรียมมาแต่งงาน นายเรืองรับกราบ ขวัญเร่งทำงานหาเงินเพื่อไถ่ตัวเรียม เรียมอยู่ที่บางกอกในฐานะทาสรับใช้แต่คุณนายทองคำเอ็นดูเรียมเพราะหน้าคล้าย ลูกสาวที่ตายไป จึงรับเป็นลูกบุญธรรม โดยซื้อจากนายเรือง นายเรืองบอกให้ขวัญนำเงินไปไถ่ถอนเรียมเอง แต่แล้วขวัญก็ต้องคลั่งอีกครั้งเมื่อรู้ว่านายเรืองได้ขายเรียมให้กับคุณนาย ทองคำไปแล้ว แต่ขวัญยังเชื่อในคำสาบานว่าเรียมจะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันผู้ใหญ่เขียนเห็น ว่าน่าจะให้ขวัญบวชจะได้ทำให้ขวัญสงบลง

ฝ่ายเรียมเมื่อขยับขึ้นมาเป็นลูกบุญธรรม ชีวิตก็เปลี่ยนไป สมชายอดีตคู่หมั้นของลูกสาวคุณนายทองคำสนใจเรียมแล้วทั้งสองคนก็ใช้ความ ศิวิไลซ์ของบางกอกมัดใจเรียม เรียมพอใจกับความเป็นอยู่หรูหรา เริ่มมองว่าสมชายรักจริง และเริ่มมองขวัญเป็นเพียงพวกป่าเถื่อนด้อยพัฒนา ส่วนขวัญเฝ้าเวียนวนภาวนาต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทร ให้ดลใจให้เรียมนึกถึงคำสัญญา แล้วคำภาวนาก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อนางรวยป่วย เรียมต้องกลับมาเยี่ยม ขวัญดีใจรีบไปหาเรียม

แต่ต้องผิดหวังเมื่อเรียมดูสูงส่งไม่เหมือนเรียมคนเดิม และเรียมได้หนีขวัญกลับบางกอกทั้งที่สัญญาว่าจะมาพบในตอนกลางคืน ขวัญเสียใจมากจะฆ่าาตัวตายต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทร แต่ผู้ใหญ่เขียนมาขวางไว้ ผู้ใหญ่เขียนได้โอกาสตอนที่ขวัญกำลังซมซานจึงพูดเรื่องที่จะให้ขวัญบวช ขวัญก็เออออตามพ่อ เพราะกำลังสับสน เช่นเดียวกับเรียมที่ตอบตกลงแต่งงานกับสมชายเพราะกำลังสับสน จนนางรวยเจ็บหน้าอกอีกครั้ง ทำให้เรียมต้องกลับมาดูแลแม่ ช่วงเวลา 3 วันที่อยู่บางกะปิ เรียมตัดสินใจคืนดีกับขวัญ ทั้งคู่ร่าเริงเหมือนปลาได้น้ำ แต่เรียมไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้ นอกจากคุณนายทองคำคนเดียว

เวลาผ่านมาถึงวันที่ 4 นางรวยตาย หลังจากเสร็จงานศพ สมชายก็ตามเรียมกลับบางกอกเพราะคุณนายทองคำป่วย เรียมจำใจต้องกลับทั้งที่วันนี้เป็นวันบวชของขวัญ เรียมตั้งใจจะกลับไปบอกคุณนายทองคำว่าเป็นเมืยขวัญ และจะไม่แต่งงานกับสมชาย แต่เรียมไม่มีโอกาสที่จะไปบอกขวัญถึงการจากไปครั้งนี้

ที่บ้านผู้ใหญ่เขียนกำลังเตรียมงานบวชโดยที่ไม่รู้เลยว่างานบวชวันนี้จะ เป็นงานศพแทน ขวัญเมื่อรู้เรื่องว่าเรียมจะไปบางกอกถึงกับสติแตกคว้ามีดซุยคู่ใจโดดออกจาก เรีอน สมชายให้เรียมพาไปเที่ยวท้องนา เรียมตัดสินใจบอกว่าขวัญเป็นหนึ่งในดวงใจและจะไม่แต่งงานกับสมชาย แต่เขาไม่บังคับเพราะต้องการสมบัติของคุณนายทองคำอย่างเดียว ขวัญมาพบการพูดคุยกัน ทำให้ขวัญเข้าใจผิดคิดว่าเรียมจะหนีไอ้ขวัญไปชั่วชีวิต

ขวัญคลั่งทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้ารวมทั้งฆ่าไอ้เริญกับสมุนตาย เรียมไม่คิดว่าเรื่องดีจะกลายเป็นเรื่องเลวร้าย เพราะไอ้ขวัญยอดรักถูกสมชายยิงตายไปต่อหน้า ตายไปพร้อมกับความเข้าใจผิดคิดว่าเรียมนอกใจ ทางด้านผู้ใหญ่เขียนวิ่งถือผ้าไตรและเครื่องบวชตามไอ้ขวัญมา ในขณะที่กระสุนปืนพุ่งใส่ร่างของไอ้ขวัญ ผู้ใหญ่เขียนสะดุดรากไม้ล้มลงพร้อมผ้าไตรและเครื่องบวช ผู้ใหญ่รู้ทันทีว่าไอ้ขวัญไม่มีวันกลับมาเป็นลูกชายของเขาอีก ทำได้แต่ก้มหน้าลงร้องไห้จนสิ้นสติไป

เรียมตัดสินใจจะเป็นเมียไอ้ขวัญเพียงคนเดียวชั่วชีวิต จึงตัดสินใจใช้มึดแทงตัวตายตามไอ้ขวัญไป ณ ท้องน้ำอันเป็นที่เริงรักของทั้งคู่ ท้องน้ำที่ไหลสู่ศาลเจ้าพ่อไทร สถานที่ที่ทั้งคู่เคยร่วมสาบานรักกันตราบจนกว่าความตายจะมาพรากทั้งคู่จากกันไป

นักแสดงละคร แผลเก่า

เคน ธีระเดช วงศ์พัวพัน
เชอรี่ เข็มอักษร ศิริสุขขะ

แผ่นดินหัวใจ

โมฬี เป็นสาวชาวกรุงซึ่งเลือกที่มารับราชการที่อำเภอบางส้มเปรี้ยวในตำแหน่ง พัฒนากร ต่อมาเมื่อเธอได้สร้างความคุ้นเคยกับชาวบ้านมากขึ้น ก็รู้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ทางจังหวัดมักจะส่งปุ๋ยมาช้า ทำให้ต้องไปซื้อจากร้านเถ้าแก่ฮงในจังหวัดซึ่งมีอยู่ร้านเดียวและแพงมาก หลังจากนั้นโมฬีก็ร่วมงานกับ กำนันไก่โต้ง หรือ ศรา กำนันของอำเภอบางส้มเปรี้ยว โมฬีและศรามักจะมีปากเสียงกันอยู่เสมอๆ เพราะศราไม่แน่ใจในความสามารถของโมฬี

งานแรกที่ทั้งคู่ต้องทำร่วม กันคือเข้าไปเก็บข้อมูลจากแรงงานคืนถิ่น โมฬีให้คำแนะนำเรื่องการปลูกพืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นการเสริมรายได้อีกทาง หนึ่ง จากการปรึกษาเรื่องแรงงานคืนถิ่นทำให้ทั้งสองรู้ว่ามีทัศนคติในการดำเนินการ เรื่องนี้ โดยยึดหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียงของในหลวงเหมือนกัน ท่ามกลางความราบรื่นในเรื่องการปรึกษางาน ศราก็อดไม่ได้ที่จะยั่วเย้าให้เกิดการต่อปากต่อคำ และแล้วเมล็ดดอกรักที่เริ่มฝังตัวในหัวใจ รอวันผลิบานโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว

และเรื่องเร่งด่วนที่ทั้งสองคนจะ ต้องรีบทำก่อนคือเรื่องปุ๋ยที่ขาดแคลน ศราสงสัย กำนันเลิศฤทธิ์ ที่แนะนำชาวบ้านให้ซื้อปุ๋ยแพงจากร้านเถ้าแก่ฮงแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ โมฬีไปตามเรื่องปุ๋ยกับ สืบศักดิ์ เกษตรจังหวัดที่ถูกระบบอิทธิพลกลืนกิน แต่ด้วยความอ่อนหวานและนอบน้อมของโมฬีทำให้สืบศักดิ์รับปากว่าจะเร่งเรื่อง ปุ๋ยให้ ในที่สุดโมฬีก็สามารถทำให้บางส้มเปรี้ยวได้รับปุ๋ยมาใช้ เรื่องที่บางส้มเปรี้ยวได้ปุ๋ยไปใช้ทำให้ ส.ส.พล ผู้มีอิทธิพลใหญ่โกรธมาก เพราะที่ผ่านมาเขาใช้อิทธิพลหน่วงเหนี่ยวการสั่งจ่ายปุ๋ยให้ล่าช้า เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

ส.ส.พลเรียกกำนันเลิศฤทธิ์ลูกน้องคนสนิทมา สั่งการ หลังจากนั้นกำนันเลิศฤทธิ์ก็ไปข่มขู่สืบศักดิ์ไม่ให้ขัดขวางการทำงานของระบบ อิทธิพล และรายต่อไปที่เลิศฤทธิ์ต้องจัดการคือศราแต่คนที่รับเคราะห์แทนก็คือโมฬี แต่เธอไม่เป็นอะไรเพราะคนร้ายเพียงแค่ยิงขู่เท่านั้น เรื่องนี้โมฬีไม่กล้าบอกใคร เธอแน่ใจว่าคนที่คนร้ายต้องการขู่นั้นน่าจะเป็นศรามากกว่า เพราะเป็นเจ้าของรถที่เธอขับไป โมฬีสับสนและกลัวจึงกลับบ้านที่กรุงเทพ แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจกลับไปทำงานต่อที่บางส้มเปรี้ยว และเพื่อไปเตือนศราที่กำลังมีคนคิดปองร้าย

เมื่อศรารู้ความจริงจาก โมฬีก็ตกใจมาก เขาแสดงความรู้สึกของหัวใจอกมาเป็นคำพูดห่วงใย เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งโครงการต่างๆที่โมฬีร่วมคิดร่วมทำกับศราก็ สำเร็จเป็นรูปร่างขึ้นทำให้ชาวบ้านที่ตกงานมีรายได้พอเลี้ยงตัว พร้อมกับความสัมพันธ์ของโมฬีกับศราก็แนบแน่น ศรารู้ตัวว่ารักโมฬีแต่ไม่กล้าบอกเธอ ส่วนโมฬีเองก็มีความรู้สึกที่ดีตอบเช่นกัน และเมื่อโมฬีมีปัญหาเรื่องการหาตลาดสมุนไพรไม่ได้เพราะขาดประสบการณ์ ศราแสดงให้โมฬีรู้ว่าเธอจะไม่ต้องเดียวดายเพียงลำพัง เขาพร้อมที่จะโอบอุ้มและฝ่าฟันไปด้วยกันกับเธอ

โดยได้รับความช่วย เหลือจาก หลวงตาบูลย์ ผู้ที่ชาวบ้านให้ความนับถือ ทำให้ปัญหาทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดี ส.ส.พลวางแผนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความสำเร็จของโครงการปลูกพืชผักไว้ เสริมอาชีพของศราและโมฬี โดยแทรกอิทธิพลเข้ามาเพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับอย่างมหาศาล โดยจัดส่งเมล็ดพันธุ์ผักมาให้ทดลองปลูกฟรี แต่ส่งมาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นและราคาที่ระบุไว้ก็แพงมาก ศราและโมฬีตัดสินใจให้ลูกบ้านเข้าร้องเรียนรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรโดยผ่านทาง อินเตอร์เน็ต โมฬีกลับบ้านที่กรุงเทพ

และขอให้ วิริยา นักข่าวสาวเพื่อนสนิทให้ช่วยทำข่าวความไม่ชอบมาพากลของเมล็ดพันธุ์ผักและ ปุ๋ยราคาแพงที่แพร่ระบาดไปทั่วท้องถิ่น ดร.อนล ติดต่อกับศราว่าท่านรัฐมนตรีได้รับอีเมล์ของชาวบ้านแล้วและไฟเขียวให้ลุยสืบ ข้อเท็จจริงได้ แต่เป็นข่าวร้ายของส.ส.พล ดังนั้นเขาจึงสั่งกำนันเลิศฤทธิ์ให้ไปทำลายหลักฐานที่มีอยู่กับสืบศักดิ์ให้ หมดสิ้น โมฬีไปสืบหาหลักฐานจากสืบศักดิ์และได้พบเอกสารหลักฐานชิ้นหนึ่งโดยบังเอิญ แต่ไม่สามารถนำออกมาได้

ส.ส.พลและคณะมาเยี่ยมชมที่อำเภอบางส้ม เปรี้ยวมีนักข่าวติดตามมาทำข่าวเป็นกลุ่มใหญ่รวมทั้งวิริยาด้วย โมฬีบังเอิญได้ยินกำนันเลิศฤทธิ์ข่มขู่สืบศักดิ์เรื่องให้ทำลายหลักฐาน ทำให้โมฬีฉุกคิดถึงเอกสารที่เห็นในห้องทำงานของสืบศักดิ์ เธอตัดสินใจที่จะไปเอาเอกสารนี้มาให้ได้ เมื่อถึงห้องทำงานของสืบศักดิ์โมฬีก็ลงมือค้นจนเจอเอกสารแล้วรีบโทรหาวิริยา ซึ่งอยู่ที่งาน ขณะกำลังจะกลับโมฬีก็เจอสืบศักดิ์ยืนอยู่ที่หน้าประตู เขาขอร้องไม่ให้โมฬียุ่งกับเรื่องนี้พร้อมกับขอเอกสารคืน เมื่อโมฬีไม่ยอมจึงเกิดการยื้อแย่งขึ้น

โมฬีตีศีรษะชายหนุ่มด้วย เซรามิค เมื่อได้หลักฐานมาแล้ววิริยาก็ทำการออกอากาศสดเปิดโปงหลักฐานการฉ้อฉลของ ขบวนการนี้ทั้งหมด โมฬีหนีศรากลับกรุงเทพเพราะความเข้าใจผิด ศราวางแผนไปสู่ขอโมฬีถึงที่บ้านโดยไม่ให้รู้ตัว พร้อมกับโทรไปขอความร่วมมือจากพ่อ-แม่ของโมฬีด้วย วันงานมาถึงโมฬีแปลกใจที่เห็นชาวบ้านกลุ่มใหญ่และขบวนกลองยาวแห่ขันหมาก ศราปรับความเข้าใจกับโมฬีพร้อมทั้งสารภาพว่ารักเธอตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว

รายชื่อนักแสดงละคร แผ่นดินหัวใจ

ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับบท ศรา ภัยหลีก ( ไก่โต้ง )
ศิรพันธ์ วัฒนจินดา รับบท โมฬี
ศิระ แพทย์รัตน์ รับบท ชยา ภัยหลีก ( ไก่ต๊อก )
โชติรส แก้วพินิจ รับบท กมลมาศ
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบท ส.ส.พล
สุธีร์ เสียงหวาน รับบท กาย
รุษยา เกิดฉาย รับบท เม้า
เศรษฐา ศิระฉายา รับบท กำนันเดช
ด.ญ.ณัฐนิชา เชิดชูบุพการ รับบท มะปราง
ด.ญ.สุชาดา เชิดลีย์ รับบท ส้มโอ