Tag Archives: ดีด้า

บ้านร้อยดอกไม้

ปาฏลี ต้องบินกลับจากต่างประเทศก่อนกำหนด เพื่อมาร่วมงานศพของ กรองผกา พี่สะใภ้ที่รักและผูกพันกันมาก ในงานศพปาฏลีได้พบกับ กอบบุญ และธัญธร สายตาของกอบบุญที่มองเธอ ทำให้ปาฏลีรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว เกริก พ่อของกอบบุญต้องการบ้านร้อยดอกไม้ สมบัติที่ กูหมู่ แม่ของกรองผกาที่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตไปพร้อมกับ ปวิต พี่ชายของปาฏลี ยกให้ปาฏลี กอบบุญรู้ดีว่าปาฏลีผูกพันกับกูหมู่มาก เธอคงไม่ยอมขายบ้านร้อยดอกไม้ง่าย ๆ แต่เมื่อเป็นคำสั่งของเกริกก็ทำให้เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้

กอบบุญบอกกับ ปาฏลีว่าอยากได้บ้านร้อยดอกไม้ โดยยกเอาเรื่องเงินทุนของ บริษัทปวิตรา บริษัทเสื้อผ้าที่กรองผกากับปวิตร่วมกันสร้างขึ้นมาอ้าง ปาฏลีโกรธมาก พอปรกพ่อของเธอถูกลอบทำร้ายจนสลบในบ้าน ปาฏลีก็โทษว่าเป็นฝีมือของกอบบุญทันที กอบบุญเข้ามาช่วยจัดการนำปรกส่งโรงพยาบาล เขาคอยจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย และจัดเวรเข้าเยี่ยมปรกอย่างเข้มงวด ทำให้ปาฏลียิ่งไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ วิพุธ เพื่อนรุ่นน้องของปวิตที่ทำงานอยู่ที่ปวิตราก็พยายามยุยงให้ปาฏลีเกลียดชัง กอบบุญมากยิ่งขึ้น

ปวิ ตรามีปัญหาสินค้าค้างสต๊อก แถมยังถูกบีบจากห้างสรรพสินค้าของธัญธรให้ถอนตัวไปจากห้างอย่างไม่เป็นธรรม ปาฏลีได้รับคำแนะนำจาก ฟลอร่า ( Flora ) เจ้าของอีเมลปริศนาที่ส่งมาถึงเธอ ทำให้ปาฏลีสามารถแก้ไขปัญหาของปวิตราได้ ปาฏลี On line คุยกับฟลอร่าบ่อยขึ้น เพื่อพยายามค้นหาตัวจริงของฟลอร่า แต่ก็ไม่สำเร็จ ฟลอร่าเพียงอนุญาตให้ปาฏลีเรียกเขาว่า “เสียง” เท่านั้นกอบบุญจ้างสุชาดาพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลปรกอย่างใกล้ชิด

เมื่อ ปรกหายดีแล้วกอบบุญจึงคิดวางแผนจับผิดวิพุธโดยไม่ยอมบอกให้ปาฏลีรู้ ปล่อยให้ปาฏลีเข้าใจเขาผิดต่อไปเรื่อย ๆ โดยมี บุษกร ลูกสาวของป้าบัว แม่บ้านเก่าแก่ของกูหมู่ร่วมมือด้วย บุษกรแอบหลงรักวิพุธมานาน ก่อนที่วิพุธจะแต่งงานกับ ระเบียบ ซึ่งมีอายุแก่กว่า เมื่อโรงงานเม็ดพลาสติกของระเบียบเริ่มมีปัญหา ระเบียบจึงวางแผนให้วิพุธกลับมาตีสนิทกับบุษกร เพื่อหลอกใช้ให้บุษกรช่วยยักยอกเงินจากปวิตรา แต่พอรู้ว่าปรกจะให้กอบบุญเข้ามาช่วยดูแลกิจการของปวิตรา

วิพุธ จึงหาทางกำจัดปรก บุษกรเก็บกระดุมของวิพุธที่ตกอยู่ที่เกิดเหตุได้ จึงได้รู้ว่าวิพุธเป็นตัวการของเรื่องวุ่นวายทั้งหมด ระหว่างนั้นกอบบุญได้บอกกับปาฏลีว่าปรกได้นำบ้านร้อยดอกไม้ไปจำนองไว้เพื่อ นำเงินมาหมุนในปวิตรา และเขาได้ตามไปไถ่คืนมาแล้ว ปาฏลีขอไถ่คืนจากกอบบุญ กอบบุญให้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน ปาฏลีกลุ้มใจมากพยายามหาทางหาเงินมาไถ่บ้านร้อยดอกไม้คืน สุดท้ายก็ยอมนำฉากผ้าไหมศิลปะราคาแพงของกูหมู่ออกประมูล เสียงรู้เรื่องเข้าจึงได้ขอร่วมประมูลด้วย ปาฏลีตัดสินใจยกให้เสียง โดยนัดให้มารับของในวันปิดแกลลอรี่

ฐิติปรากฏตัวขึ้นในนามของเสียง เพื่อมารับของที่แกลลอรี่ ในวันเดียวกันนั้น กอบบุญได้วางแผนจับตัววิพุธเพื่อต่อรองกับระเบียบ ทั้งคู่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อชดใช้ให้กับปวิตรา ตามเงื่อนไขที่กอบบุญได้วางไว้ ปรกเล่าเรื่องทั้งหมดให้ปาฏลีฟัง ทำให้ปาฏลีมองกอบบุญในทางที่ดีขึ้น เกื้อคุณน้องชายของกอบบุญรู้ว่ากอบบุญบังคับให้ฐิติปลอมตัวเป็นเสียงไปหลอก ปาฏลีก็รู้สึกสงสารปาฏลีมาก เกื้อคุณนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับกมลาสน์ กมลาสน์จึงไปคุยกับเกริกเรื่องบ้านร้อยดอกไม้

กมลาสน์อธิบายเรื่อง ราวทั้งหมดให้เกริกฟัง จนเกริกไม่คิดอยากได้บ้านร้อยดอกไม้อีกกมลาสน์กับเกื้อคุณต้องการให้บทเรียน กับกอบบุญ ไม่ให้กอบบุญทำอะไรเอาแต่ใจอีก จึงได้วางแผนให้ฐิติไปตีสนิทกับปาฏลี และให้ธัญธรอ้างตัวว่าเป็นคู่หมั้นของกอบบุญ แต่สุดท้ายกอบบุญกับปาฏลีก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ เพราะกอบบุญยอมลดทิฐิเอ่ยปากบอกรักพร้อมทั้งขอโทษปาฏลี ทำให้เรื่องราวทั้งหมดลงเอยได้ด้วยดี

รายชื่อนักแสดงละคร บ้านร้อยดอกไม้

อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร แสดงเป็น กอบบุญ
วรนุช วงษ์สวรรค์ แสดงเป็น ปาฏลี
สุนทรี ใหม่ละออ แสดงเป็น ธัญธร
ชินมิษ บุนนาค แสดงเป็น วิพุธ
วิภาวดี กาศสกุล แสดงเป็น บุษกร
เกรียงไกร อุณหะนันทน์ แสดงเป็น เกริก
ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น กมลาสน์
วีระชัยศรีวณิก วรรณึกกุล แสดงเป็น เกื้อคุณ
วิชญะ จารุจินดา แสดงเป็น พีท
สรวงสุดา ศรีธัญรัตน์ แสดงเป็น อินทิรา

บัวแก้วจักรกรด

ณ เมืองสุรกานต์ “องค์ชายเพชรดารา” ในวัยเด็กได้ซุกซนนำลิงจ๋อไปเที่ยวเล่นในตลาด ลิงจ๋อเป็นของขวัญที่มาจากเมืองแขก เป็นลิงที่ซนมากจนทำให้ชาวบ้านตกใจตกน้ำตายไป พระราชาอนุวงศ์กริ้วลูกชายมากสั่งให้นำลิงจ๋อไปเผา เพชรดารารักของเล่นมาก จึงพาลิงจ๋อหนีไปกลับยานโพยม แล้วไปเจอกับ บัวแก้ว และทานตะวันที่หนีท่านตาฤาษีมาเที่ยวบนฟ้า และทั้งสองก็ได้เจอกับ ยักษ์เมฆภัติ ที่อยากได้ยานโพยมกับบัวแก้วจักรกรด จึงขว้างขวานวิเศษออกไป ขวานวิเศษได้ทำลายยานโพยมและบัวแก้วจักรกรดตกลงไป หลายปีผ่านมา เพชรดารา เติบโตขึ้นจึงเดินทางกลับบ้านเมืองระหว่างทางได้เจอกับ เมฆสิทธิ์ พญายักษ์แห่งนครกรุงกลางหาวที่กำลังจะไปเลือกคู่กับ องค์หญิงบัวแก้ว จึงเกิดการต่อสู้ แต่เมฆสิทธิ์เอาชนะเพชรดาราไม่ได้ แต่เพชรดาราก็สังหารเมฆสิทธิ์ไม่ได้เช่นกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามได้ในละครพื้นบ้านเรื่อง บัวแก้วจักรกรด

บันไดดอกรัก

กระเช้า สาวสวย แสนใส จิตใจดี ไม่มีพิษไม่มีภัย ขดสมองไม่ซับซ้อน คิดทุกอย่างชั้นเดียว กระเช้าถูก จวงจิต (นังจวง) แม่บังเกิดเกล้าทั้งกดดัน และกล่อมเกลาให้กระเช้ามีความฝันอันสูงสุด คือการแต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ เพื่อลดปมด้อยที่ถูก ชิดชัย (ไอ้ชิด) ผู้เป็นพ่อทิ้งไปหา เจ๊ปิ่นทอง (เจ๊ปิ่น) เศรษฐีนีประจำตลาดผลไม้ ชิดชัยทิ้งจวงจิตไปหาปิ่นทองเพราะรวย….ทำให้จวงจิตเจ็บแค้นแสนสาหัส หันไปกินเหล้าเมามาย และฝังหัวกระเช้าทุกเช้าค่ำให้เธอจับผู้ชายรวย ๆ ให้ได้สักคน เพื่อยกระดับครอบครัวให้สูงเทียมหน้าเทียมตาคนอื่น ยิ่งรวยกว่านังปิ่นทองได้ยิ่งดี กระเช้าสงสารแม่ที่วันๆเอาแต่เศร้าใจกับอดีต และหมั่นไส้เจ๊ปิ่นทองที่ชอบมาอวดรวยและควงพ่อมาเยาะเย้ยแม่ทุกครั้งที่มี โอกาส กระเช้าจึงตั้งประกาศก้องว่าต้องหาผู้ชายรวย ๆ มาเป็นสามีให้ได้ !!!! (เพราะถ้าจะรวยจากการทำมาหากินด้วยตัวเองชาตินี้คงไม่มีหวัง)

แผนปฎิบัติการตามความหวังอันสูงส่งของกระเช้า เริ่มต้นขึ้นเมื่อ หมี่กรอบ เพื่อนสาวสุดห้าวหาญมาชวนไปทำงานที่กรุงเทพฯ หมี่กรอบเป็นคนฉลาดและหัวดีเป็นเลิศ หมี่กรอบและกระเช้าเป็นเพื่อนซี้ที่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว แต่เป็นความต่างที่ลงตัว ทำให้ทั้งสองคนผูกพันกันราวกับพี่น้องคลานตามกันมา หมี่กรอบเรียนเก่ง ขยัน และสู้คน แต่ไม่ค่อยแต่งตัว ทำให้ความสวยคมถูกซ่อนไว้ภายใต้เสื้อผ้าหลวมโขลก ถึงแม้กระเช้าจะพยายามจับหมี่กรอบแต่งตัว แต่สุดท้ายก็กลับมามอมแมมเหมือนเดิม

หมี่กรอบทำงานเป็นหัวหน้าคนงานในฟาร์ม ราชินีกล้วยไม้ เป็นฟาร์มกล้วยไม้ส่งนอกของ ดร. ศีล ผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายพันธุ์กล้วยไม้ ศีลเป็นคนมีศีลธรรมสมชื่อ ดูแลคนงานในฟาร์มด้วยความเป็นกันเอง เหมือนคนในครอบครัว ศีลมีภรรยาชื่อ บุปผา ผู้คลั่งไคล้การทำบุญอย่างมาก ทอดผ้าป่า ทอดกฐินเป็นงานหลัก หมี่กรอบชวนกระเช้าเข้ามาทำงานในฟาร์มเพราะเห็นว่ากระเช้าอยู่บ้านเฉย ๆ นาน ๆ ทีถึงจะมีคนมาชวนไปประกวดเทพีตามงานต่าง ๆ ได้รางวัลบ้าง ไม่ได้รางวัลบ้าง กระเช้าเห็นว่าดีกว่าอยู่เฉย ๆ จึงตัดสินใจหอบเสื้อผ้าลาแม่มาทำงานในเมืองกรุง

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้กระเช้าตัดสินใจมาทำงานกับหมี่กรอบ เพราะรู้มาว่าเจ้าของฟาร์มมีลูกชายสุดหล่อที่สาว ๆ กำลังจ้องจับมากมาย กระเช้าจึงพุ่งมาในทันที หวังว่าความสวยที่มีจะสามารถมัดใจลูกชายเจ้าของฟาร์มได้สำเร็จ

และแล้ว….ความตั้งใจของกระเช้าก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อโชคชะตาพาให้เธอได้มาเจอ กับ เทียน หนุ่มเสเพล รักสนุก อารมณ์ดี เปลี่ยนสาวราวกับเปลี่ยนกางเกงชั้นใน รักง่ายหน่ายเร็ว เข้าทำนอง หล่อเลือกได้ เทียนและกระเช้าได้เจอกันโดยบังเอิญในวันแรกที่เธอเข้ามาทำงาน กระเช้าไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของที่ควบตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาหีบห่อ คิดว่าเป็นพนักงานธรรมด๊า….ธรรมดา ซึ่งไม่คู่ควรกับเธอ กระเช้าทำเป็นไม่สนใจ ถึงแม้เทียนจะพยายามเข้ามาทำความรู้จัก กระเช้าทำเริ่ด ๆ เชิด ๆ ใส่อย่างเหยียดหยัน กระเช้าตอกหน้าเทียนอย่างไม่ไยดี แถมยังด่ากลับไปอีกเป็นชุดก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีไป ทำให้เทียนสะดุดใจกับความเย่อหยิ่งของกระเช้าอย่างแรง

กระเช้าบ่นเรื่องเทียนให้หมี่กรอบฟัง หมี่กรอบชะงักและซักรายละเอียด จนรู้ว่าผู้ชายที่กระเช้ากำลังด่าคือคุณเทียน ลูกชายเจ้าของฟาร์ม กระเช้าถึงกับอึ้ง…เหวอ…คาดไม่ถึงว่าผู้ชายขี้หลี ไม่มีมารยาท จะเป็นชายในฝันที่เธอกำลังตั้งใจจับ โอ้วววว…คุณพระ…กระเช้าเศร้าใจอย่างแรง และสุดจะสับสนว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไปดี อาการสติแตกทำให้หมี่กรอบรู้ว่าเพื่อนรักกำลังคิดการณ์ใหญ่ และแสนจะอันตราย เพราะเทียนขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิง Fun แล้วทิ้ง มานักต่อนัก หมี่กรอบพยายามจะเตือนกระเช้าให้เลิกสนใจเทียน เพราะไม่ดีกับตัวเอง แต่กระเช้าไม่ยอมล้มเลิก โดยให้เหตุผลว่า…ต้องทำเพื่อแม่ !! หมี่กรอบเข้าใจแต่ก็หนักใจในคราวเดียวกัน

ทางด้านเทียน….เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองตกหลุมรักความเย่อหยิ่งของผู้หญิง ที่ชื่อกระเช้าเข้าอย่างจัง พยายามจะสืบที่มาที่ไป และคิดว่าจะต้องรวบหัวรวบหางหาทางเอาชนะเธอให้ได้ เทียนสืบจนรู้ว่ากระเช้าทำงานอยู่แผนกดูแลกล้วยไม้ มีเพื่อนสนิทชื่อหมี่กรอบ หัวหน้าคนงานที่อายุน้อยที่สุด เทียนแอบดูกระเช้าอยู่สักพักจนแน่ใจว่าสวยจริง หยิ่งจริง (เพราะเชิดใส่คนงานทั้งไร่ เนื่องจากจน) ยิ่งทำให้เทียนสนใจในตัวกระเช้ามากขึ้น

ส่วนกระเช้าหลังจากหน้าแหกยับเยินจากการเชิดใส่เทียน เธอจึงหาทางเข้าหาเขาโดยไม่ให้เสียฟอร์ม และโชคชะตาก็เข้าข้างเธอ เมื่อทางฟาร์มจัดการประกวด เทพีกล้วยไม้ (Miss Orchid) เพื่อคัดเลือกสาวงามเป็นตัวแทนในงาน Orchid Expo กระเช้าไม่ลังเลที่จะส่งตัวเองเข้าประกวด หวังใช้ตำแหน่งเป็นบันไดให้ตัวเองได้มีโอกาสใกล้ชิดเทียน ทั้งที่หมี่กรอบไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ก็ต้องคอยช่วยด้วยความรักและห่วงเพื่อน

ในการประกวดมิสออร์คิด กระเช้าสวยเด้งอย่างแรง จนหนุ่มๆในงานส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม ยกเว้นแต่ เทียน ที่นั่งนิ่งขรึมในฐานะกรรมการ เทียนในวันนี้ดูแตกต่างจากเทียนที่เธอเห็นในวันแรกมากมาย แววตาขรึม น่าเกรงขาม มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า กระเช้าคิดว่าเขาคงจะโกรธที่เธอเหวี่ยงใส่ไปเมื่อวันก่อน กระเช้าจึงพยายามโปรยเสน่ห์สารพัด จน (คนที่เธอคิดว่าเป็น) เทียนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาซะเลย

บันไดขั้นที่หนึ่งของกระเช้าก็เริ่มทอดตัว เมื่อมงกุฎมิสออร์คิดถูกสวมลงบนศรีษะของเธอโดย (คนที่เธอคิดว่าเป็น) เทียน กระเช้าใช้มารยาสาไถยทำเป็นดีใจจนเป็นลมอยู่ในอ้อมแขนของเทียน มีหลายคนจับภาพไว้ได้ แต่เทียนรู้ว่าเป็นมารยา หลังจากพาเธอมาหลังเวที เขาพยาบาลจนเธอมีสติ ในจังหวะที่อยู่กันสองต่อสอง กระเช้าพยายามจะหว่านเสน่ห์แบบถึงเนื้อถึงตัว (ถึงแม้จะเขิน ๆ แต่ก็ต้องยอมทำ)

ในระหว่างที่กระเช้ากำลังหว่านเสน่ห์กับ (คนที่เธอคิดว่าเป็น) เทียน…หมี่กรอบรออยู่ในงาน ทันใดนั้นเทียน (ตัวจริง) ก็ปรากฎตัวขึ้น…เทียนเดินมาหาหมี่กรอบและถามหากระเช้า หมี่กรอบงง ๆ เล็กน้อยเพราะกระเช้าหายไปกับเขา เทียนปฎิเสธเสียงแข็ง หมี่กรอบก็ยืนยันเสียงหนักแน่น ทั้งสองคนคุยกันไม่รู้เรื่องจนเกือบจะกลายเป็นทะเลาะกันอยู่สักพัก หมี่กรอบเริ่มเอะใจและฉุกคิดถึงความจริงอันแสนสำคัญยิ่งที่เธอลืมไปสนิทใจ นั่นคือ เทียนมีฝาแฝดที่หน้าเหมือนกันราวกับแกะ…และผู้ชายคนที่อยู่กับกระเช้า เพื่อนรักนั้นไม่ใช่เทียนแต่เป็น ธูป เจ้านายที่แสนเคร่งขรึม ถือตัว และดูถูกผู้หญิงที่วิ่งไล่จับผู้ชาย ซึ่งแตกต่างจากเทียนราวกับหน้ามือกับหลังมือ ทันทีที่หมี่กรอบคิดได้ เธอรีบชิ่งจากเทียน และตามหากระเช้าเพื่อบอกความจริง

แต่มันสายเกินไป….กระเช้างัดมารยาหญิงมากกว่าร้อยเล่มเกวียนมาใช้กับ ธูป เพราะคิดว่าเขาเป็นเทียน ยิ่งกระเช้าหว่านเสน่ห์งัดเล่ห์มารยาหญิงมาใช้มากเท่าไหร่ ธูปก็ยิ่งไม่ชอบขี้หน้าและคิดว่าเธอตั้งใจจะจับน้องชายฝาแฝดของเขามากเท่า นั้น ในขณะที่กระเช้ายิ่งหมั่นไส้และไม่เข้าใจว่าทำไมเทียนถึงดูมึนตึงและพูด จากวนประสาทเธอตลอดเวลา และแล้ว…ปริศนาทั้งหมดก็ถูกเปิดเผย เมื่อหมี่กรอบโผล่ถลาเข้ามาในห้องและแนะนำให้กระเช้ารู้จักกับธูป…พี่ชาย ฝาแฝดของเทียน กระเช้าถึงกับอึ้งเหวอ…ไปชั่วอึดใจ หมี่กรอบรีบลากตัวเพื่อนสาวออกมาก่อนที่ทุกอย่างจะยิ่งแย่ลงไป

การพบกันครั้งนี้ทำให้ธูปผูกใจคิดว่ากระเช้าเป็นผู้หญิงมักใหญ่ใฝ่สูง ใจง่าย และหากินกับการจับผู้ชายรวย ๆ ในขณะที่กระเช้าเองทั้งเสียใจและเสียหน้า จนแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย เพราะเผลอปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเร่อ ประกอบกับข้อมูลที่หมี่กรอบบอกเธอเกี่ยวกับนิสัยของธูปที่แสนจะตรงกันข้าม กับเทียน ยิ่งทำให้เธออยากกระโดดกัดคอเพื่อน โทษฐานไม่ยอมบอกข้อมูลนี้ตั้งแต่แรก ในขณะที่เทียนยังเข้าใจว่ากระเช้าเป็นผู้หญิงเชิดหยิ่ง จึงต้องทำการจีบอย่างแยบยล เทียนคิดไปคิดมา และเห็นว่าเข้าทางหมี่กรอบน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

เทียน เรียกหมี่กรอบมาล็อบบี้ เขายื่นข้อเสนอว่าถ้าช่วยจีบกระเช้าได้สำเร็จ เขาจะปูนบำเหน็จให้อย่างงาม เทียนยังบอกอีกว่าสิ่งที่ทำให้เขาสนใจกระเช้า คือความเย่อหยิ่ง หมี่กรอบถึงกับอึ้ง และก็ตอกเทียนกลับไปว่าเธอไม่มีวันจะขายเพื่อน หรือใช้เพื่อนเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ และถ้าหากเขาไม่พอใจเธอ และยังไล่เธอออก เธอจะไปฟ้องกระทรวงแรงงาน เทียนจำใจต้องยอม และเปลี่ยนจากบังคับมาเป็นขอความเห็นใจ เทียนออดอ้อนแต่หมี่กรอบยังใจแข็งไม่ช่วย แถมยังทิ้งท้ายว่า ถ้าแน่ใจว่ารักจริง ก็ต้องพยายามเอาเอง เทียนสุดเซ็งและแอบเขม่นหมี่กรอบอยู่ในใจ

หมี่กรอบรีบมาบอกกระเช้าว่าเทียนสนใจ เพราะคิดว่าเธอหยิ่ง กระเช้าก็มึนงง ๆ ไป หมี่กรอบเลยบอกว่าถ้าอยากได้เทียน ก็ต้องทำตัวหยิ่ง ๆ ไว้ อย่ายอมง่าย ๆ ไม่งั้นเขาจะเลิกสนใจทันที กระเช้านึกดีใจที่เทียนยังไม่เห็นอาการอ่อยเหยื่อของเธอ แต่ถ้าธูปบอกเทียน เขาอาจจะเปลี่ยนใจก็เป็นได้ หมี่กรอบบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะธูปกับเทียนไม่ค่อยถูกกัน เนื่องจากธูปคิดว่าเทียนเอาแต่รักสนุก และเจ้าชู้ไปวัน ๆ ส่วนเทียนก็หมั่นไส้ที่พ่อกับแม่ไว้วางใจธูปมากกว่าตัวเอง เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ยากถ้าเทียนจะเชื่อคำพูดของธูป แต่ถึงอย่างนั้นกระเช้าก็ยังรู้สึกไม่ดีที่เธอปล่อยไก่ใส่หน้าธูปไปตัวเบ้อ เร่อ

ด้วยความเก้อเขินครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้กระเช้าแอบถอดใจ อยากจะลาออก แต่ด้วยตำแหน่งมิสออร์ดิคที่ได้มา ทำให้เธอต้องทำงานร่วมกับธูป ในฐานะนางงามประชาสัมพันธ์ประจำฟาร์ม กระเช้าต้องเข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลกล้วยไม้ในฟาร์ม เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์ในวันงาน กระเช้าจำต้องกล้ำกลืนฝืนใจทำงานร่วมกับธูป

ความอลวน แสนอลหม่านเริ่มขมวดปมแน่นขึ้นเมื่อ…. กระเช้าต้องฝืนทำงานกับธูป เจ้านายจอมเฮี้ยบที่จ้องจับผิดเธอตลอดเวลา ในขณะเดียวกันยังต้องคอย ระวังหลัง เพราะ ทับทิม เลขาของธูปคอยกระแหนะกระแหน แอบแทงข้างหลังกระเช้าอยู่ตลอดเวลา ทับทิมเป็นคนสวย ฉลาด และร้ายลึก ทับทิมแอบชอบธูปและหวังสูงคิดว่าสักวันธูปจะหันมาสนใจ แต่เมื่อกระเช้าเข้ามาใกล้ชิดกับธูป ทำให้ทับทิมต้องคอยสะกัดดาวรุ่ง ไม่ยอมให้กระเช้าดูดีในสายตาธูปเป็นอันขาด แรงยุของทับทิมยิ่งทำให้ธูปเข้าใจผิด คิดว่ากระเช้าเป็นสาวมักใหญ่ใฝ่สูงหนักขึ้นไปอีก

ธูปใช้ความเฮี้ยบ เนี้ยบ บีบกระเช้าต่าง ๆ นานา พยายามให้เธอทำงานหนัก จำข้อมูลยาก ๆ หวังว่าเธอจะท้อและขอถอนตัว แต่ยิ่งธูปแกล้งเธอมากเท่าไหร่ กระเช้าก็ยิ่งสู้ตายมากเท่านั้น กระเช้าแสดงให้เขาเห็นว่า ถึงเธอจะสมองไม่ดี แต่มีความตั้งใจ และไม่เคยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ในขณะเดียวกันกระเช้ายังเป็นคนมีรสนิยมโดยธรรมชาติมีพรสวรรค์ในการแต่งตัว สามารถทำให้ตัวเอง และคนรอบข้างดูดีได้ในทุกสถานการณ์ กระเช้าใช้ความสามารถในการแต่งตัวทำให้ธูป บุปผา และศีล เห็นกระเช้าในเวลาที่ออกงานสังคมหลายครั้ง ทำให้บุปผาถูกอกถูกใจในความน่ารักของกระเช้า แต่ธูปก็ยังไม่ยอมรับเพราะอคติที่ฝังใจในครั้งแรกที่เจอกัน (ถึงแม้ลึก ๆ จะเริ่มประทับใจและเห็นความไม่ธรรมดาก็ตาม)

ส่วนเทียนไม่พอใจนักที่กระเช้าต้องใกล้ชิดกับธูป ถึงแม้จะเป็นเพราะงาน แต่เขาก็แอบระแวงพี่ชายตัวเองไม่ได้ ธูปย้ำว่าเขาไม่มีวันสนใจผู้หญิงแบบกระเช้า แต่เทียนก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี เทียนพยายามตามจีบกระเช้า ในขณะที่กระเช้าต้องทำเป็นเริ่ด ๆ เชิด ๆ ใส่ (ตามคำแนะนำของหมี่กรอบ) ยิ่งกระเช้าหยิ่งใส่มากเท่าไหร่ เทียนก็ยิ่งชอบเธอมากเท่านั้น แม้ธูปจะพยายามบอกว่ามันเป็นมารยาของกระเช้า แต่เขาก็ไม่เชื่อ ยังเพียรจีบกระเช้าหนักขึ้นเรื่อย ๆ  สาว ๆ หลายคนเริ่มเขม่นกระเช้า ทำให้หมี่กรอบต้องคอยช่วยปกป้องอยู่ตลอดเวลา

หมี่กรอบเองก็เริ่มเป็นห่วงเพื่อนรัก แต่ทุกอย่างมาไกลเกินกว่าที่เธอจะห้าม นอกจากคอยช่วยประคับประคองไม่ให้เพื่อนต้องเดือดร้อนมากไปกว่านี้ ขณะเดียวกันยังต้องคอยเป็นที่ปรึกษาของเทียนในการจีบกระเช้า ยิ่งเทียนปรึกษาหมี่กรอบมากเท่าไหร่ เธอยิ่งเห็นเสน่ห์ของเทียนมากเท่านั้น ความเป็นคนมีอารมณ์ขัน และเป็นกันเองของเขา ทำให้เธอแอบหวั่นไหวขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากต้องคอยเป็นที่ปรึกษาแล้วหมี่กรอบยังต้องคอยเป็นจราจรเฉพาะกิจ คอยสับรางสาว ๆ ให้เทียนโดยเฉพาะกลุ่มนางแบบอันประกอบไปด้วยเอแคลร์, ปาร์ตี้ และ แบมบี้ สามบอมบ์ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างความวุ่นวายในฟาร์มไม่เว้นแต่ละวัน หมี่กรอบต้องคอยกันไม่ให้สาว ๆ มาเจอกับกระเช้า ทำให้เทียนเริ่มเห็นความเฉลียวฉลาด และความเป็นคนมีไหวพริบเป็นเลิศของหมี่กรอบ แต่เขาก็ยังคิดกับเธอแค่เจ้านายกับลูกน้องอยู่ดี ถึงแม้บางมุมเขาจะแอบเห็นความสวยคม แต่ด้วยความมอมแมมก็ยากเกินกว่าที่เขาจะยอมรับได้

นอกจากความอลวนของธูป เทียน กระเช้า และหมี่กรอบแล้ว ธุรกิจกล้วยไม้ของครอบครัวแสวงบุญ ยังต้องต่อกรกับศัตรูคู่แข่งที่สำคัญ นั่นคือ ฟาร์มกล้วยไม้ดารา ของ ดารา รัศมีเรืองรอง หม้ายสาววัย ๕๐ นักธุรกิจผู้สนใจเม็ดเงินมากกว่าความสวยงามของกล้วยไม้…สมชัย สามีของเธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของศีล แต่ร่างกายอ่อนแอจึงเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังหนุ่ม หลังจากสิ้นบุญสามี ดาราเข้ามาคุมธุรกิจแทน เปลี่ยนชื่อจาก กล้วยไม้สมชัย เป็น กล้วยไม้ดารา และเปลี่ยนฐานะจากเดิมที่เคยเป็นพันธมิตรกับฟาร์ม ราชินีกล้วยไม้ ก็กลับกลายเป็นศัตรูคู่แข่งตัวฉกาจ

ดาราเป็นคนใจคอคับแคบ เห็นแก่ตัว และแพ้ไม่เป็น เธอมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวน คือ อิทธิเดช หนุ่มเจ้าสำอางที่โดนตามใจมาตั้งแต่เด็ก อิทธิเดชได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ ยกเว้น ความเป็นที่หนึ่งในการจัดอันดับทายาทฟาร์มกล้วยไม้ไทย เพราะทุกสำนักเซเลปต่างยกให้ธูปและเทียนมาเป็นที่หนึ่ง ทำให้อิทธิเดชอิจฉาและต้องการเอาชนะทั้งสองคนให้ได้

สองคนแม่ลูกทำสิ่งชั่ว ๆ มากมายเพื่อทำลายฟาร์มราชินีกล้วยไม้ โดยมี บัญชา หัวหน้าคนงาน ไม้เบื่อไม้เมาของหมี่กรอบ เป็นหนอนบ่อนไส้ คอยส่งข่าวและบ่อนทำลายฟาร์มด้วยวิธีต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นวางยา ปล่อยแมลง ปลุกปั่นพนักงาน ขโมยพันธุ์กล้วยไม้ ขายความลับทุกอย่างให้กับฟาร์มดารา เพื่อแลกกับเงิน

นอกจากบัญชาแล้วยังมีอีกหนึ่งหนอนที่หลายคนคาดไม่ถึง นั่นก็คือ ทับทิม เลขาของธูป กิ๊กเก่าของอิทธิเดชที่เปลี่ยนใจมากรี๊ดธูปแทน ทับทิมเป็นคนคอยส่งข่าวเชิงลึกให้อิทธิเดช แต่ในช่วงหลัง ๆ เมื่อความลุ่มหลงในตัวธูปมีเพิ่มมากขึ้น ทับทิมก็เริ่มกระด้างกระเดื่อง ทำให้ดาราไม่พอใจแต่ยังต้องเลี้ยงไว้ เพราะลงทุนไปมาก

ความวุ่นวายในฟาร์มไม่มีที่ท่าจะจบสิ้น…. ณ อีกมุมหนึ่งของประเทศไทย…จวงจิตกับเจ๊ปิ่นทอง ยังหาเรื่องตบตีกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้จวงจิตต้องหอบเสื้อผ้าและน้ำตามาหาลูกสาวสุดที่รัก การมาของจวงจิตทำให้กระเช้าต้องเดือดร้อนอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาการเมา หลุด รั่ว และไถเงินลูก แถมยังกดดันให้กระเช้ารีบรวบหัวรวบหางเทียน ทำให้กระเช้าอึดอัดใจเป็นอย่างมาก และเมื่อความความอดทนมาถึงขีดสุด กระเช้าถึงกับระเบิดความในใจออกมาทั้งน้ำตา เธอบอกเหตุผลที่พ่อทิ้งแม่ไม่ใช่เพราะความจน ความรวย แต่เพราะแม่เอาแต่กินเหล้า ไม่ดูแลตัวเอง ไม่ดูแลครอบครัว ชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่วทั้งตลาด ทำให้พ่อทนไม่ได้ ทิ้งไปหาคนอื่น และถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอก็จะทิ้งจวงจิตไปอีกคน

คำพูดของกระเช้ากระซวกใจจวงจิตอย่างแรง ทำเอาจวงจิตตบะแตก ประกาศตัดแม่ตัดลูกกันอย่างไม่เหลือเยื่อใย เสร็จแล้วก็หอบเสื้อผ้ากลับไปบ้านนอกด้วยความชอกช้ำใจ กระเช้าร้องไห้อย่างหนัก รู้สึกผิดที่หลุดปากต่อว่าบุพการี โดยหารู้ไม่ว่า ธูปแอบได้ยินทั้งหมด เขารู้สึกเข้าใจและเห็นใจกระเช้าขึ้นมาทันที หลังเหตุปะทะกันครั้งนี้ ทำให้ท่าทีของธูปเปลี่ยนไป เขาใจเย็น และใจดี แถมยังมีน้ำใจกับกระเช้ามากขึ้น จนกระเช้าเริ่มสับสน ความดีของธูปทำให้ทับทิมเริ่มไม่ไว้วางใจ กลัวว่าธูปจะมีใจให้กับกระเช้า

ทับทิมตัดสินใจหันไปยุเทียน บอกว่าธูปเริ่มมีใจให้กระเช้า ทำให้เทียนร้อนใจรีบมาปรึกษากับหมี่กรอบ ทั้งสองคนจับตาดูพฤติกรรมของกระเช้าและธูปอย่างใกล้ชิด จนทั้งสองคนเห็นชัดว่าธูปเริ่มมีใจให้กระเช้าอย่างเห็นได้ชัด หมี่กรอบเองก็เริ่มรู้สึกว่ากระเช้าแอบมีใจให้ธูปอยู่ไม่น้อย

นอกจากนี้อิทธิเดชยังคอยตามตื้อกระเช้า เพราะได้ข่าวจากทับทิมว่า ธูปและเทียนต่างหมายปองเธอ ทำให้อิทธิเดชสนใจตามจีบด้วยอีกหนึ่งคน เพราะถ้ากระเช้าเลือกเขา เท่ากับได้หักหน้าทั้งสองคน ทั้งอาการผิดปกติของธูป และอิทธิเดชยังมาตามตื้อกระเช้าอีก…ทำให้เทียนเริ่มหวั่นใจ เห็นท่าไม่ค่อยดี ประกอบกับไม่อยากเสียหน้าที่ต้องถูกธูปแย่งสาวไปต่อหน้าต่อตา เทียนจึงตัดสินใจขอหมั้นกับกระเช้าแบบสายฟ้าแลบ ด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง ทำให้กระเช้ารับปากหมั้นไปโดยลืมถามใจตัวเอง

ข่าวการหมั้นของกระเช้ากระจายออกไปอย่างรวดเร็ว… คนแรกที่รู้ข่าว คือธูป เขารู้สึกจุก อึ้ง ใจหายแปลก ๆ แอบเสียใจโดยไม่รู้ตัว ทับทิมได้ทีรีบยุธูปว่ากระเช้าเป็นคนวางแผนเองทั้งหมด ประกอบกับเทียนมาบอกว่ากระเช้าเป็นคนขอหมั้นเอง เพื่อต้องการเอาชนะพี่ชาย ทำให้ธูปยิ่งเข้าใจผิด คิดว่ากระเช้าคงจะทำตามที่แม่สอน และเธอคงไม่ได้เป็นคนดีที่น่าสงสารอย่างที่เขาเข้าใจ

ทางด้านหมี่กรอบ…เธอรู้สึกใจหายวาบ และน้ำตาตกใน ในทันทีที่รู้ข่าวการหมั้น ในวินาทีนั้นเธอตอบกับตัวเองได้ทันทีว่า เธอตกหลุมรักหนุ่มเสเพลอย่างเทียนเข้าแล้ว หมี่กรอบเริ่มเก็บตัวเงียบ พูดน้อยลง และอยู่ห่างจากกระเช้ากับเทียนมากขึ้น จนทั้งสองคนเริ่มรู้สึกได้

อิทธิเดชโดนดาราเร่งรัดให้จัดการทำลายฟาร์มราชินีกล้วยไม้สักที เพราะตอนนี้ในฟาร์มดาราเกิดโรคระบาด ทำให้กล้วยไม้เสียหายจำนวนมาก ดาราไม่อยากให้ฟาร์มของศีลได้รับผลประโยชน์จากความเสียหายของตัวเอง เข้าทำนอง ถ้าฉันไม่มีความสุข อย่าหวังว่าคนอื่นจะมีความสุข จึงมาเร่งรัดลูกชายให้คิดแผนชั่วด่วน อิทธิเดชรับคำสั่งและคิดวางแผนร้ายในทันที ในขณะที่ครอบครัวเรืองรองรัศมีคิดแผนทำลายธุรกิจกล้วยไม้ฝั่งตรงข้าม ครอบครัวแสวงบุญกำลังชุลมุนกับการจัดงานมงคล

เทียนพยายามจะให้หมี่กรอบช่วยเป็นแม่งานในการหมั้น แต่เธอปฎิเสธด้วยความเย็นชา สาว ๆ มาอาละวาดเทียน หมี่กรอบก็ไม่ช่วยเหมือนเดิม จนเขาเริ่มรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรบางอย่างไป กระเช้าเอง แทนที่จะดีใจกับความฝันที่ใกล้จะเป็นจริง แต่เธอกลับรู้สึกไม่ตื่นเต้น ไม่ดีใจ แถมยังเศร้า ๆ เซ็ง ๆ ทุกครั้งที่ต้องเตรียมงานหมั้น ทั้งที่ศีลและบุปผาต่างให้การต้อนรับเป็นอย่างดี มีเพียงแต่ธูปที่เย็นชาใส่เธอ กระเช้าพยายามจะถามหาความจริง แต่ธูปก็ปิดปากเงียบ ปั้นปึ่ง เป็นเจ้าชายหิมะใส่ และเธอยังโดนทับทิมกีดกันต่างๆนานา ไม่ยอมให้มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกัน แถมหมี่กรอบยังตีตัวออกห่างโดยไม่ทราบสาเหตุทำให้กระเช้าเศร้าหนัก แต่ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร

ทางด้านจวงจิตทันทีที่รู้ข่าวการหมั้น เธอรีบไปอวดเจ๊ปิ่นทองทันที ทำให้เกิดการตบตีครั้งมโหฬาร จนชิดชัยต้องเข้ามาเคลียร์ จวงจิตได้โอกาสถามถึงสาเหตุที่ทำให้ชิดชัยทิ้งไป ว่าเป็นจริงตามที่กระเช้าบอกหรือไม่ ชิดชัยโดนรุกหนักจนต้องตอบความจริง เขาสารภาพว่าทุกวันนี้ยังรักจวงจิตอยู่ แต่ความขี้เมา ไม่เอาไหนของเธอ ทำให้เขารับไม่ได้ และมาหาปิ่นทอง ทั้งที่ไม่ได้รัก ประกอบกับปิ่นทองยื่นข้อเสนอว่าถ้ายอมมาอยู่ด้วยจะไม่ยึดไร่ที่เป็นมรดกตก ทอด ชิดชัยจึงจำใจต้องมา จวงจิตถามว่า ถ้าเธอปรับปรุงตัว ชิดชัยจะยอมกลับมาหรือเปล่า ชิดชัยไม่ให้คำตอบ แต่บอกว่าถ้าปรับตัวได้จริง ๆ ค่อยมาว่ากัน

จวงจิตกลับมาคิดทบทวน และตัดสินใจเลิกเหล้าอย่างเด็ดขาด หันมาดูแลตัวเองตามที่กระเช้าเคยแนะนำไว้ เมื่อจวงจิตเริ่มเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น เธอเดินทางมาหากระเช้าอีกครั้ง เพื่อขอโทษ และให้กำลังใจลูกสาว และทันทีที่กระเช้าเห็นหน้าแม่ กระเช้าถึงกับร้องไห้และระบายความอึดอัดทั้งหมดออกมาอย่างหมดเปลือก

กระเช้าสารภาพกับแม่ว่า เธอสับสนและไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ดีใจที่ได้หมั้นกับเทียน และเธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เวลาที่อยู่กับเขา เธอรู้สึกว่าเขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ถึงแม้แผนการณ์จับครั้งนี้จะสำเร็จ แต่เธอไม่ดีใจเลย กระเช้าสารภาพอย่างหมดเปลือก โดยไม่รู้ว่า แบมบี้ สาวร้ายที่ตามจิกเทียนอยู่นั้นจะแอบฟังอยู่ และอัดเสียงเธอไว้ทั้งหมด

แบมบี้เอาคลิปเสียงไปให้เทียนฟัง แต่แทนที่เทียนจะแสดงอาการโกรธแค้น เขากลับทำทีเป็นไม่เชื่อ และไล่ให้แบมบี้กลับไป ทั้งที่ในใจจริง ๆ นั้นแสนจะเสียใจและสับสน เทียนต้องการรู้ว่าตัวตนจริง ๆ ของกระเช้าเป็นอย่างไรกันแน่

หลังจากที่แบมบี้อารมณ์เสียที่โดนเทียนตอกมาหน้าแตก เธอยังไม่หยุดที่จะทำลายกระเช้า แบมบี้นำคลิปเสียงไปฟ้องศีลและบุปผาโดยมีทับทิมเป็นคนประสานงาน ทั้งแบมบี้และทับทิมต่างเป่าหูทั้งสองคนจนเริ่มหวั่นไหว ศีลและบุปผาเรียกตัวธูปมาปรึกษา เพื่อสืบหาความจริง ธูปสารภาพว่ารู้ถึงที่มาที่ไปของกระเช้าเป็นอย่างดี บุปผาร้อนใจกลัวว่าเทียนจะถูกหลอก จึงขอร้องให้ธูปช่วยทำให้เทียนตาสว่างโดยด่วน

หมี่กรอบเอง เห็นความเปลี่ยนไปของกระเช้า ทั้งที่งานหมั้นใกล้เข้ามา แต่กระเช้ากลับไม่ดีใจแม้แต่น้อย หมี่กรอบเปิดอกพูดกับกระเช้าอย่างตรงไปตรงมา และบอกว่าให้ถามใจตัวเองให้ดีว่าต้องการหมั้นจริงหรือไม่ กระเช้าใช้เวลาทบทวนไม่นาน ก็ตอบตัวเองได้ว่า เธอไม่ได้รักเทียน แต่คนที่เธอรักจริง ๆ นั่นคือธูป ชายเฮี้ยบผู้เงียบขรึม ขณะที่กระเช้าเริ่มรู้ใจตัวเอง ธูปตัดสินใจมาคุยกับเทียนแบบเปิดอกเช่นกัน และแล้วเทียนก็สารภาพว่าเริ่มไม่แน่ใจกับตัวตนที่แท้จริงของกระเช้า และอยากรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่

ธูปเสนอแผนลองใจกระเช้าขึ้นมาอย่างแยบยล… ในคืนก่อนวันหมั้น ทางฟาร์มประกาศให้พนักงานหยุดงานครึ่งวันบ่าย เพื่อเป็นเสมือนของขวัญให้พนักงานได้พักผ่อน เย็นวันนั้น ธูปนัดให้กระเช้ามาเจอกันเป็นการส่วนตัวในฟาร์มกล้วยไม้ โดยบอกว่าเขาต้องการจะพูดเรื่องส่วนตัวกับเธอเป็นครั้งสุดท้าย กระเช้าตอบรับในทันที !

ทับทิมล่วงรู้ถึงการนัดหมายในครั้งนี้จึงมาบอกอิทธิเดช แผนร้ายที่เตรียมการณ์ไว้จึงเริ่มในทันที อิทธิเดชให้บัญชาโทร.หากระเช้าก่อนถึงเวลานัด และแกล้งทำเป็นว่าขอความช่วยเหลือให้ขนกล้วยไม้ชุดใหม่ที่เพิ่งสั่งมาเข้าไป ในโรงเพาะชำ เพราะพนักงานของเขาลางานกันหมด และเขาไม่สบาย อยู่โรงพยาบาล ด้วยความเห็นใจ กระเช้าจึงขนกล้วยไม้ชุดนั้นเข้าไปโรงเพาะโดยไม่รู้ว่ามันคือกล้วยไม้ติด เชื้อจากฟาร์มดารา ขณะที่ดาราและอิทธิเดชกำลังดีใจที่แผนร้ายเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม รออีกไม่นาน กล้วยไม้ของศัตรูก็จะต้องเจ็บป่วยล้มตายเช่นเดียวกัน

หมี่กรอบรู้สึกเห็นใจเทียนที่ต้องหมั้นกับกระเช้า ทั้งที่กระเช้าไม่ได้รัก เธอพยายามจะบอกแบบอ้อม ๆ แต่ยิ่งพูดยิ่งทำให้เทียนเข้าใจผิด จนเกิดเป็นปากเสียงกัน หมี่กรอบน้อยใจ ตัดสินใจไม่พูด และประกาศว่าจะไม่สนใจอีกเลย ทำให้เทียนจ๋อย ๆ ไปเล็กน้อย

คืนวันนัดมาถึง เทียนปลอมตัวเป็นธูปและไปตามนัด เทียนมาในมาดของความนิ่งขรึม และพูดกับกระเช้าแบบตรงไปตรงมา บอกว่าเขารู้ว่ากระเช้าต้องการจับเทียน และดีใจด้วยที่ทำได้สำเร็จ คำพูดถากถางกึ่งประชดทำให้กระเช้าเสียใจ และยอมรับออกมาตรง ๆ ว่าเธอต้องการจับเทียน และเธอก็ไม่ใช่คนเริ่ด เชิด หยิ่ง เธอทำเพราะรู้ว่าจะทำให้เทียนสนใจ เทียนถึงกับจุกอึ้ง…แต่สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งยิ่งกว่า…คือกระเช้าสารภาพ ว่าแท้จริงแล้ว เธอชอบธูป เธอรู้สึกสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง เวลาที่อยู่กับเขา สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจมาในคืนนี้เพราะต้องการบอกความจริงให้รู้ ก่อนที่เธอจะไปขอยกเลิกงานหมั้นกับเทียน คำสารภาพของกระเช้า ทำให้เทียนถึงกับจุก…และค่อย ๆ ตอบออกมาว่า แท้จริงแล้ว…เขาไม่ใช่ธูปแต่เป็นเทียน และเขายินดีจะยกเลิกงานหมั้นในวันพรุ่งนี้ พูดจบ เทียนก็เดินจากไปด้วยความผิดหวัง และเสียใจจนเกินกว่าจะอธิบาย

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดใส่กระเช้า หลังจากที่งานหมั้นล้มไม่เป็นท่า ฟาร์มกล้วยไม้ก็เกิดอาการติดเชื้อไวรัสครั้งมโหฬาร จากภาพวงจรปิด ชี้ชัดว่ากระเช้าเป็นคนเอากล้วยไม้ชุดติดเชื้อเข้าไปในโรงเพาะ และบัญชาก็รีบสร้างเรื่องว่าเป็นคนละชุดกับที่เขาสั่งให้นำเข้าไป และเขาก็ไม่รู้ว่าชุดที่ติดเชื้อมาได้ยังไง ทับทิมรีบสาระแนเป่าหูศีล บุปผา และธูป บอกว่าอาจจะเป็นไปได้ที่กระเช้าเป็นไส้ศึกที่ถูกส่งเข้ามา เพราะตั้งแต่มีกระเช้า เรื่องวุ่นวายก็เข้ามาสารพัด โชคดีที่เทียนไม่เชื่อ และเป็นคนเดียวที่ออกโรงปกป้องไม่ให้ไล่กระเช้าออก จนกว่าจะหาหลักฐานได้ว่ากระเช้าถูกจ้างวานมาจริง และบัญชาเองก็ต้องถูกคาดโทษเช่นเดียวกัน

กระเช้ารู้สึกเสียใจและอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระเช้าตัดสินใจคืนมงกุฎมิสออร์คิดให้กับบริษัท และเก็บเสื้อผ้าเตรียมกลับไปบ้านนอก ธูปพยายามซักไซ้ด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมเทียนยังปกป้องกระเช้า เทียนเองก็พูดไม่ออก บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่เขาก็มั่นใจว่ากระเช้าไม่มีทางเป็นหนอนบ่อนไส้เพราะเห็นแก่เงิน แต่สำหรับเรื่องส่วนตัว เขาและกระเช้าคงจะจบความสัมพันธ์กันเพียงเท่านี้…ทันทีที่ธูปได้ยิน เขารู้สึกดีใจลึก ๆ แต่ไม่แสดงออกมา

เทียนไปปรับทุกข์กับหมี่กรอบ พร้อมกับเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด หมี่กรอบยอมรับว่าเธอรู้เรื่องแล้ว และพยายามจะบอกเขา แต่เขาไม่รับฟัง เทียนยอมรับว่าเขามั่นใจในตัวเองมากเกินไป และบอกเรื่องยกเลิกงานหมั้น หมี่กรอบดีใจด้วย เพราะไม่อยากให้เขาต้องอยู่กับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก เทียนรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ และท้อแท้เล็ก ๆ บ่น ๆ ว่าแล้วเขาจะได้เจอคนที่รักเขาจริงหรือเปล่า หมี่กรอบอยากจะบอกความในใจ แต่ก็ไม่กล้า ได้แต่ปิดปากเงียบ ไม่พูดอะไร

เทียนมาส่งหมี่กรอบที่พัก กระเช้าแอบเห็นพอดี พอเทียนขับรถออกไป กระเช้าแอบเห็นรอยยิ้มมีความสุขของหมี่กรอบ กระเช้ารู้ทันทีว่าเพื่อนรักแอบชอบเทียนอยู่ กระเช้าซักไซ้จนหมี่กรอบต้องยอมรับจนได้ กระเช้ารู้สึกดีใจที่ตัวเองปฎิเสธงานหมั้น และรับปากว่าจะช่วยหมี่กรอบให้สมหวังในความรักของเพื่อน ก่อนที่เธอจะจากไป

หมี่กรอบเองก็รับปากว่าจะช่วยเคลียร์เรื่องหนอนบ่อนไส้ให้กระเช้า เธอจะต้องหาหลักฐานมายืนยันให้ได้ว่ากระเช้าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายฟาร์ม และไม่เคยถูกว่าจ้างใด ๆ ทั้งสิ้น หลังจากที่งานหมั้นถูกยกเลิก สาว ๆ ที่คอยรุมล้อมเทียนก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง !!

งแบมบี้ ปาร์ตี้ เอแคลร์ เทียวไปเทียวมาตามจิกเทียนทั้งวัน คราวนี้กระเช้าต้องเป็นคนคอยกันท่าสาว ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้หมี่กรอบ จนเกิดเป็นเรื่องราววุ่นวายไปทั้งฟาร์ม ทำให้ธูปเข้าใจผิดคิดว่ากระเช้าหวงก้าง จะกั๊กเทียนไว้ หวังว่าเขาจะกลับมา กระเช้าน้ำท่วมปาก บอกความจริงไม่ได้ จำใจต้องยอมทนฟังคำเสียดสีของธูปด้วยความเสียใจ ทำให้เทียนอึดอัดแทน

จากโรคร้ายกล้วยไม้นี้เอง ทำให้ฟาร์มกล้วยไม้สูญเสียมหาศาล กระเช้าเห็นแล้วก็เศร้าใจ อิทธิเดชได้ทีรีบเข้ามาเสียบ ทำทีเป็นเห็นใจกระเช้าและใส่ร้ายว่าคนในฟาร์มใจคอคับแคบ พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ลาออกมาทำงานด้วยกัน จนกระเช้าต้องตอกกลับไปแบบเจ็บ ๆ หลายต่อหลายครั้ง แต่อิทธิเดชหาได้หยุดไม่ และทุกครั้งที่อิทธิเดชมาตอแยกระเช้า สร้างความไม่พอใจให้ธูปเป็นอย่างมาก เกิดอาการหึงแบบไม่รู้ตัวหลายครั้ง

ในขณะที่ดาราสั่งให้บัญชาดำเนินแผนร้ายขั้นต่อไป นั่นคือ ขโมยพันธุ์กล้วยไม้ใหม่ ที่ดร. ศีลได้คิดค้นขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นพันธุ์ที่สวยงามและแข็งแรงมาก แต่ทุกอย่างยังเป็นความลับ ไม่มีใครล่วงรู้ ดร.ศีลเตรียมเปิดตัวในอีกไม่นาน ดาราเร่งให้บัญชาขโมยพันธุ์มาให้ได้ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พฤติกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ ของบัญชาทำให้หมี่กรอบยิ่งสงสัยในตัวเขาเพิ่มมากขึ้น

กระเช้า ยอมโดนทุกคนในฟาร์มถากถางด้วยสายตา ในฐานะนางงามตกยากและไส้ศึก และยังต้องกลับมาดูแลฟาร์มกล้วยไม้หลังจากโดนเขี่ยตกจากตำแหน่งนางงามและว่า ที่คู่หมั้นของเทียน แต่กระเช้าก็ต้องยอมเพราะอยากเห็นหมี่กรอบสมหวังในรัก ยิ่งกระเช้ายอม เทียนและหมี่กรอบก็ยิ่งสงสาร แม้แต่ธูปเองยังคอยวนเวียนมากลั่นแกล้งเธอเป็นระยะ ทำทีว่าทำไปเพื่อความสะใจ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วอยากอยู่ใกล้ชิดมากกว่า

เทียนเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของธูปที่ทำเป็นปากแข็งบอกว่าไม่สนใจ กระเช้า เทียนจึงไม่ยอมบอกความรู้สึกที่แท้จริงของกระเช้า เพราะต้องการจะแกล้งให้ธูปยอมรับความรู้สึกของตัวเองก่อน ยิ่งธูปแกล้งกระเช้ามากเท่าไหร่  เทียนก็ยิ่งแน่ใจว่าพี่ชายรักผู้หญิงคนนี้มากเท่านั้น โดยเฉพาะอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่ออิทธิเดชมาตามตื้อกระเช้า ถึงแม้จะอ้างว่าทั้งสองคนต้องวางแผนทำลายฟาร์ม แต่ลึก ๆ แล้วเทียนรู้ว่าธูปฉุนเฉียวเพราะความหึง

หมี่กรอบเองพยายามยุให้กระเช้าบอกความรู้สึกกับธูป แต่กระเช้าเห็นว่าไม่มีประโยชน์เพราะธูปไม่มีวันสนใจผู้หญิงอย่างเธอ ที่สำคัญ เธอต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ใช่คนผิดให้ได้ก่อน จึงจะคิดเรื่องอื่นต่อไป หมี่กรอบตั้งข้อสังเกตว่าบัญชามีพฤติกรรมที่น่าสงสัยหลายอย่าง ทั้งสองคนจึงเริ่มสะกดรอยตามจนพบว่าบัญชาแอบนัดพบกับดาราในวัดแห่งหนึ่ง โดยทำทีเป็นว่าไปทำบุญ หมี่กรอบจึงรีบไปบอกเทียน ทั้งสามคนจึงวางแผนให้กระเช้าพยายามตีสนิทอิทธิเดชเพื่อเอาความจริงมาให้ได้ แต่แผนนี้กลับทำให้ธูปไม่พอใจเพราะคิดว่ากระเช้าชอบอิทธิเดช

ส่วนกระเช้าเองก็หันมายุให้หมี่กรอบประกวดมิสออร์คิดครั้งใหม่ เพื่อหาตัวแทนมาแทนเธอ หมี่กรอบไม่ยอมประกวด หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอม กระเช้าจึงปลุกระดมเพื่อน ๆ ในฟาร์ม คนที่รักและชื่นชมการทำงานของหมี่กรอบรวมตัวกันและสนับสนุนให้หมี่กรอบ ประกวด ถ้าไม่ประกวด ทุกคนจะหยุดงานประท้วง การแสดงพลังครั้งนี้ทำให้เทียนเห็นว่าหมี่กรอบเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาว ๆ ในฟาร์มอย่างแท้จริง เขายิ่งชื่นชอบหมี่กรอบมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ด้วยเสียงเรียกร้องอันล้นหลามทำให้หมี่กรอบยอมใจอ่อนเข้าประกวดในที่สุด

และแล้วการประกวดก็มาถึง… ครั้งนี้…ทั้งทับทิม ปาร์ตี้ เอแคลร์ แบมบี้ ที่เคยดูถูกว่าเป็นการประกวดกะโหลกกะลาก็ลงประกวดด้วย เพราะหวังจะใช้ตำแหน่งเป็นบันไดสู่การจับธูปและเทียน ระหว่างที่มีการประกวดนั่นเอง ดาราสั่งให้บัญชาเข้าไปขโมยพันธุ์กล้วยไม้จากห้องทดลองของดร.ศีล บัญชาทำตามคำสั่งโดยไม่มีคนสงสัย

คู่แข่งทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ทำให้หมี่กรอบเริ่มหวั่นใจ แต่ด้วยฝีมือและพรสวรรค์ของกระเช้าทำให้หมี่กรอบกลายเป็นสาวสวยขึ้นมาใน บัดดล ทันทีที่หมี่กรอบปรากฎตัวขึ้นบนเวที คนที่อึ้งมากที่สุดคือเทียน เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงมอมแมมแสนห้าว จะกลายเป็นสาวสวยได้ถึงขนาดนี้ และด้วยความเฉลียวฉลาดรอบรู้เกี่ยวกับเรื่องกล้วยไม้เป็นอย่างดี ทำให้หมี่กรอบได้รับรางวัลนี้ไปท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ล้นหลาม สร้างความหมั่นไส้ให้กับสามบอมบ์อย่างแรง ปาร์ตี้ เอแคลร์ แบมบี้จึงรวมหัวกันกระชากมงกุฎจากศีรษะของหมี่กรอบมาอย่างไม่อาย และประกาศไม่ยอมรับการตัดสินของคณะกรรมการ ทำให้กระเช้าไม่พอใจ ขึ้นไปอาละวาดเพราะเจ็บแค้นแทนเพื่อน จนเกิดเป็นความโกลาหลอลหม่าน สุดท้ายเทียนต้องขึ้นไปบนเวที และประกาศย้ำว่า คนที่เหมาะสมจะเป็นมิสออร์คิด คือหมี่กรอบ นอกจากเทียนจะออกโรงปกป้องแล้ว เขายังสารภาพรักต่อหน้าทุกคนอีกด้วย ทำเอาสาว ๆ กรี๊ดสนั่น หมี่กรอบช๊อก กระเช้าปล่อยโฮออกมาด้วยความดีใจ ธูปเข้ามาเห็นเหตุการณ์ตอนกระเช้าร้องไห้พอดี๊…พอดี เหมือนผีผลัก ทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่ากระเช้าเสียใจที่เทียนเลือกหมี่กรอบ ธูปจึงเดินออกไปจากงานด้วยความเสียใจ

ด้วยความโชคดีของฟาร์มราชินีกล้วยไม้ ขณะที่ธูปออกมาจากงานประกวด เขาเห็นบัญชากำลังทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่บริเวณโรงเพาะพันธุ์ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม ธูปจึงเข้าไปถาม บัญชาตกใจจะหนี จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ในขณะที่ทั้งสองคนอยู่ในสภาวะห้าสิบห้าสิบ ยื้อแย่งอาวุธกันอยู่ ทับทิมตามมาเห็นพอดี ในสถานการณ์คับขัน ณ ขณะนั้น ทับทิมต้องตัดสินใจว่าจะช่วยใคร ระหว่างบัญชาที่เป็นไส้ศึกด้วยกัน และธูป…ผู้ชายที่เธอหมายปอง และแล้วทับทิมก็เลือกช่วยธูป ด้วยการฟาดหัวบัญชาอย่างแรงจนสลบไป ทับทิมรีบเข้ามาดูแลธูปและแจ้งข่าวกับทุกคน

ทับทิมกลายเป็นฮีโร่ขึ้นมาทันที ได้ความดีความชอบมากมาย บัญชาโดนจับดำเนินคดี และซัดทอดไปยังดาราและอิทธิเดช ทั้งสองคนจึงเปิดโปงเรื่องที่ทับทิมก็เป็นหนอนบ่อนไส้ รับท่อน้ำเลี้ยงของฟาร์มดาราเช่นกัน แต่ด้วยความสตอขั้นเทพ ทับทิมทำทีเป็นบีบน้ำตาขอความเห็นใจจากศีล บุปผา และธูป บอกว่าเธอโดนบังคับให้เป็นนกต่อ แต่ลึกๆเธอไม่อยากเป็น และพยายามช่วยฟาร์มของศีลโดยไม่ให้พวกนั้นเข้ามาทำร้ายฟาร์มมาแล้วหลายครั้ง ตอนนี้เธอสบายใจที่ไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป ด้วยความเป็นคนใจอ่อน ทั้งศีลและบุปผายอมยกโทษให้ ทับทิมแอบตีปีกพั่บ ๆ ด้วยความสะใจ

หลังจากเหตุวุ่นวายจบลง กระเช้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ผิด เทียนก็ขอให้พ่อแม่ไปเป็นเถ้าแก่ขอหมี่กรอบ ทั้งศีล และบุปผาดีใจ เพราะแอบชอบความเป็นคนขยันแข็งขัน ขยันทำงานมานานแล้ว และหมี่กรอบก็มีความรักในกล้วยไม้อย่างจริงจัง ดีกว่าสาว ๆ สมองกลวงที่เทียนควงอยู่ทุกวัน ทั้งสองคนจึงเร่งรัดให้จัดงานแต่งงานโดยเร็ว ไม่ต้องหมั้นแล้ว กลัววืดอีกเหมือนครั้งที่แล้ว

เทียนประกาศแต่งงานกับหมี่กรอบทันทีที่เธอตอบตกลง กระเช้าดีใจกับเพื่อนด้วยความจริงใจ และเตรียมตัวเก็บของกลับบ้านนอก เพราะเสร็จสิ้นภาระกิจแล้ว หมี่กรอบพยายามจะยื้อให้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาว แต่กระเช้าปฎิเสธ และแอบหนีกลับบ้านไปโดยไม่ได้ร่ำลา

ทางด้านธูป หลังจากที่เข้าใจผิดคิดว่ากระเช้ายังรักเทียนอยู่นั้น ก็เก็บตัวเงียบ ไม่พูดจา ถึงแม้ทับทิมจะพยายามสาระแนใส่ไฟหมี่กรอบต่า งๆ นานา โทษฐานเป็นเพื่อนกระเช้า คงจะคิดไม่ต่างกัน แต่ธูปก็ไม่สนใจ จนทับทิมเซ็ง หลุดปากบอกว่าถ้าหมี่กรอบโดนเทียนเฉดหัวเมื่อไหร่ คงจะต้องลาออกหนีไปเหมือนกับกระเช้า

ธูปถึงกับใจหาย และพยายามสืบจนรู้ว่ากระเช้าลาออกไปแล้วจริง ๆ ธูปเงียบขรึมหนักกว่าเดิม เอาแต่ทำงานจนพ่อแม่เป็นห่วง เทียนเองก็เริ่มเป็นห่วงธูปขึ้นมาเช่นกัน หลังจากที่ไม่เคยสนใจทั้งธูปและฟาร์มกล้วยไม้ หมี่กรอบและเทียนเริ่มปรึกษากันและเห็นตรงกันว่า กระเช้าและธูปมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน แต่ด้วยทิฐิทำให้ปั้นปึงต่อกัน ทั้งหมี่กรอบและเทียนจึงคิดหาวิธีที่จะให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกันให้ ได้

กระเช้ากลับมาอยู่บ้านนอก และพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน จวงจิตเลิกกินเหล้า เข้าสวน พลิกฟื้นผืนดินมรดกที่ชิดชัยเอาตัวเข้าแลกเพื่อไม่ให้ปิ่นทองยึด จวงจิตทำเกษตรแบบชีวภาพไม่ใช้สารเคมี และเน้นธรรมชาติ จนเริ่มมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำผลิตภัณฑ์ความงามตามธรรมชาติโดยนำมาใช้และทดลองกับตัวเองจนสวยเด้ง ผิดหูผิดตา ทำให้ชิดชัยแอบกลับมาหาทุกครั้งที่มีโอกาส กระเช้าเห็นความเปลี่ยนแปลงของแม่ก็ดีใจ และลงมือลงแรงช่วยแม่พัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามโดยมีตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์ ความสวยของกระเช้าทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จนสินค้าของจวงจิตขายดีติดอันดับจนเป็นสินค้าโอทอป

ฐานะของจวงจิตดีขึ้นจนมีเงินมาปลดหนี้ค่าจำนองที่จากปิ่นทองได้สำเร็จ ทำให้ชิดชัยประกาศตัวเป็นไท ไม่ยอมอยู่เป็นทาสปิ่นทองอีกต่อไป ชิดชัยกลับไปหาจวงจิต และยืนยันว่าไม่ได้กลับไปเพราะเงินทองที่มีเพิ่มมากขึ้น แต่เพราะความมุ่งมั่นและความรักจริงของเธอที่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อ สร้างครอบครัวใหม่ ถึงแม้จวงจิตจะไม่มีเงิน เขาก็ยินดีที่จะกลับไป คำตอบของพ่อทำให้กระเช้าได้คิด เธอค้นพบแล้วว่าความรักที่ยิ่งใหญ่มีคุณค่ามากกว่าเงินทอง และสุดท้ายสิ่งที่ทำให้ความรักอยู่ได้ คือความเข้าใจและการเห็นคุณค่าของกันและกัน

หลังจากที่เทียนประกาศแต่งงาน แบมบี้ ปาร์ตี้ เอแคลร์ ก็เบนเข็มมาที่ธูป สามสาวคอยตามจิกทุกวัน ทับทิมก็ต้องคอยกันท่า ด่าทอ กันทุกวัน จนธูปปวดเศียรเวียนเกล้า ออกปากไล่สามสาวไปอย่างไม่เหลือชิ้นดี ทั้งแบมบี้ ปาร์ตี้ เอแคลร์ พากันกรีดร้องและวิ่งหนีหายไปจากชีวิตเขาด้วยความทนไม่ได้ พฤติกรรมก๋ากั่นของสาว ๆ ทำให้ธูปคิดถึงกระเช้าขึ้นมาจับใจ

ใกล้ถึงวันแต่งงานของหมี่กรอบและเทียนเข้ามาทุกที แต่กระเช้ายังไม่ตอบรับว่าจะมาร่วมงานแต่งงาน ทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจมาชวนถึงที่บ้าน และลากธูปมาด้วยโดยไม่ได้บอกความจริง การเจอกันครั้งนี้ทั้งสองคนต่างเขิน แต่ก็มีฟอร์ม ทำเป็นไม่สนใจใส่กัน จนหมี่กรอบ และเทียนต้องหาสารพัดวิธีที่จะให้ธูปยอมเปิดปากบอกความรู้สึกที่แท้จริงออก มาให้ได้ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ธูปก็ยังปากแข็งอยู่ดี ถึงแม้จะมีหนุ่ม ๆ วนเวียนมาขายขนมจีบกระเช้าต่อหน้าต่อตาถึงที่สวน แต่ธูปก็ยังเฝ้ากระแหนะกระแหนคิดว่ากระเช้าเล่นตัวเพราะเลือกคนที่รวยที่สุด กระเช้าหมั่นไส้เลยตอกกลับไปว่าใช่ ยิ่งทำให้ธูปแค้นหนักขึ้น เทียนกับหมี่กรอบเห็นท่าจะไม่ดี เทียนจึงเรียกธูปมาด่า และสารภาพว่าเหตุผลที่ตนยกเลิกงานหมั้นเพราะกระเช้าสารภาพว่าไม่ได้รักตัว เอง แต่คนที่เธอรัก คือธูป…ธูปอึ้งไปเล็กน้อย แอบดีใจ แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อ

เรื่องที่ดูเหมือนจะไปได้ดี ก็ต้องอลวนอีกครั้งเมื่อทับทิมหอบเอางานมาหาธูป โดยอ้างว่ามีงานด่วน ต้องรีบเคลียร์ และขอพักอยู่ที่สวน ทุกคนรู้ว่าทับทิมโกหกพยายามจะไล่แต่ด้วยความหน้ามึนทับทิมก็อยู่เป็นก้าง ขวางคอให้มันสะใจเล่น ระหว่างนั้นเองทับทิมเริ่มเห็นท่าไม่ดีเพราะธูปดูเหมือนจะหึงกระเช้า อย่างออกนอกหน้า เธอจึงคิดว่าลูกไม้ขั้นเด็ดขาดจับธูปให้อยู่หมัด

แผนการณ์สุดตื้นเขินที่จำมาจากในละครของทับทิม คือแอบเอายานอนหลับให้ธูปกินและปลดผ้าทำเป็นว่าได้เสียกัน และให้ทุกคนมาเห็น แผนการณ์ดูเหมือนจะไปได้ดีแต่ฟ้าคงจะมีตา หมี่กรอบและเทียนล่วงรู้แผนของทับทิม ทั้งสองคนวางแผนซ้อนแผนอีกที ให้เทียนปลอมตัวเป็นธูป แล้วแกล้งดื่มเหล้าที่มียาสลบ แล้วทำเป็นสลบไป ในขณะที่กะเวลาให้หมี่กรอบเข้ามาเห็นและทำเป็นโวยวายเพราะคนที่นอนอยู่คือ เทียนไม่ใช่ธูป จากนั้นหมี่กรอบก็อาละวาดฟาดฝ่ามือใส่ทับทิมจนยับเยิน ทับทิมรู้สึกอับอายและเสียหน้าจนไม่กล้าอยู่สู้หน้าคนอื่น รีบหอบเสื้อผ้ากลับกรุงเทพฯ ไปด้วยอาการสะบักสะบอม

แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นจากสวน ทับทิมก็ต้องช๊อก เมื่ออิทธิเดช ดารา ศีล และบุปผายกขบวนกันมากระชากหน้ากาก อิทธิเดชมีหลักฐานการโอนเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงเข้าบัญชีทับทิม เพื่อแลกกับการขายข่าวมาเป็นเวลายาวนาน ที่ดารา อิทธิเดชไม่ยอมให้ปล่อยทับทิมลอยนวล เนื่องจากตอนนี้สองแม่ลูกได้มาทบทวนแล้วว่า การเป็นศัตรูกับฟาร์มราชินีกล้วยไม้ ไม่ส่งผลดีให้กับฟาร์มของตัวเอง จึงหันมาปรองดองกันเหมือนเดิม โดยขอให้ดร.ศีลเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำฟาร์ม คอยดูแลเรื่องโรคภัยและพัฒนาพันธุ์ไปด้วยกัน ซึ่งดร.ศีลก็ยินดีทำให้โดยไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมาเพราะเห็นว่าเป็นภรรยา เพื่อนรัก ปรองดองกันไว้ดีกว่าต้องมาเข่นฆ่ากันในทางธุรกิจ ผลก็คือทับทิมโดนไล่ออกทันที พร้อมทั้งติดป้ายประจานหน้าฟาร์ม และส่งจดหมายเวียนถึงเพื่อนร่วมธุรกิจคนอื่น ๆ เพื่อเป็นการเตือนภัย เป็นการลงโทษที่สาสมที่สุด !

ขณะที่หมี่กรอบและเทียนกำจัดศัตรูให้กระเช้าอยู่นั้น กระเช้าและธูปมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองเพราะจวงจิตกับชิดชัยมีความคิด ที่จะจัดงานแต่งงานขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่กลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ ทั้งสองคนจึงขอร้องให้กระเช้าและธูปมาเป็นเพื่อนเลือกของชำร่วย และถ่ายรูปเวดดิ้งที่กรุงเทพฯ ตามสมัยนิยม

ระหว่างที่จวงจิตและชิดชัยกำลังมีความสุขกับการเตรียมการ re-wedding กระเช้าและธูปก็ต้องทนอยู่ด้วยกันอย่างอึดอัด ท่ามกลางบรรยากาศแสนหวานของคู่รัก คู่แต่งงานรอบ ๆ ข้าง ทำให้กระเช้าอดคิดถึงตัวเองไม่ได้ ระหว่างนั่งอยู่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาทักทายหลายครั้ง เพราะคิดว่าเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่มารอถ่ายรูป ถามกี่ครั้ง ทั้งสองคนก็ต้องปฎิเสธจนกระเช้าชักจะรำคาญ เอาป้ายมาเขียนติดไว้ว่าไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน ธูปเห็นท่าทางปั้นปึ่งของกระเช้าก็ถามขึ้นว่าทำไมถึงต้องประกาศว่าไม่ได้ เป็นสามีภรรยากัน กระเช้าพยายามไม่ตอบเพราะไม่อยากทะเลาะ แต่ยิ่งเงียบธูปก็ยิ่งกวนประสาทมากขึ้น…มากขึ้น และมากขึ้น จนกระเช้าทนไม่ไหว ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างหมดเปลือก กระเช้าสารภาพว่าไม่เจียมตัว และผิดเองที่ไปชอบเขา เธอรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ และไม่อยากคิดฝันจนเกินตัว กระเช้าสารภาพทั้งน้ำตาและทิ้งท้ายขอร้องให้เขาอย่าถามอะไรอีก เธอพยายามตัดใจอยู่ หลังจากที่กระเช้าพลั่งพลูทุกอย่างออกมาจนหมด ธูปก็ยิ้มและบอกว่าสิ่งที่เขาได้ยินทั้งหมด คือสิ่งที่เขาคิดว่ามันจริงที่สุดเท่าที่เขารู้จักเธอมา และเขาก็ยอมรับในความจริงนั้น พูดจบธูปก็เข้ามากอดกระเช้าและสารภาพความจริงในใจที่ไม่เคยยอมรับมันมาก่อน จนกระทั่งไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ กระเช้าได้ยินถึงกับปล่อยโฮ และกอดธูปไว้แน่น สร้างความงุนงงให้กับคู่บ่าวสาวที่ยืนล้อมรอบอยู่…ไม่เว้นแม้แต่จวงจิตและ ชิดชัย

กระเช้าได้ค้นพบแล้วว่าการพูดความจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และความรักเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันเสมอ ธูปเองก็เรียนรู้ที่จะเปิดใจกว้าง และยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ทั้งสองคนสามารถทะลายกำแพงแห่งทิฐิออกมาได้สำเร็จโดยมีความรักที่สวยงามเป็น รางวัล

ข่าวกอดกัน กลางที่สาธารณะของกระเช้าและธูปกระฉ่อนมาถึงหูเทียนและหมี่กรอบที่กำลัง เตรียมเข้าประตูวิวาห์ ทั้งสองคนดีใจ รีบบอกพ่อแม่พร้อมกับอธิบายความจริงเกี่ยวกับกระเช้าให้ฟัง จนทั้งสองคนเข้าใจ ศีลและบุปผาปรึกษากันและตัดสินใจเลื่อนงานแต่งงานหมี่กรอบและเทียนออกไป เพื่อจัดพร้อมกับกระเช้าและธูป ตอนแรกเทียนไม่ยอม แต่หมี่กรอบขอร้อง จึงยอมในที่สุด

และแล้วงานแต่งงานของเทียนกับหมี่กรอบ และธูปกับกระเช้าก็มาถึง ทั้งสี่คนจัดงานแต่งเล็ก ๆ ขึ้นในฟาร์มกล้วยไม้ มีแขกไม่กี่คน เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น หอมหวนไปด้วยกลิ่นกล้วยไม้และดอกไม้นานาชนิด หมี่กรอบและกระเช้าอยู่ในชุดแต่งงานสวยเก๋ที่กระเช้าเป็นคนออกแบบเอง ธูปกับเทียนดูสง่าในชุดหรู ทั้งสองคู่เป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างมาก หลังจากที่ได้หกคะเมนตีลังกากันมานาน ทั้งเขาและเธอก็เจอคู่ที่เหมาะสมกับตัวเองสักที ความรักที่วุ่นวาย สุดท้ายก็ลงเอยไปได้…เอวัง ด้วยประการฉะนี้แล !! ติดตามชม ละคร บันไดดอกรัก

รายชื่อนักแสดงละคร บันไดดอกรัก
อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ แสดงเป็น (พี่)ธูป / (น้อง)เทียน
มิน พีชญา วัฒนามนตรี แสดงเป็น กระเช้า
แซมมี่ ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาว์เวลล์ แสดงเป็น หมี่กรอบ
พูลภัทร อัตถปัญญาพล แสดงเป็น อิทธิเดช
สุพรรษา เนื่องภิรมย์ แสดงเป็น ดารา
สุรางคณา สุนทรพนาเวศ แสดงเป็น จวงจิต
ชาติชาย งามสรรพ์ แสดงเป็น ชิดชัย
ดิลก ทองวัฒนา แสดงเป็น ดร.ศีล
อุทุมพร ศิลาพันธ์ แสดงเป็น บุปผา
วิภพ บางยี่ขัน แสดงเป็น บัญชา
พรรัมภา สุขได้พึ่ง แสดงเป็น ทับทิม
อธิชนัน ศรีเสวก แสดงเป็น แบมบี้
กัญญกร พินิจ แสดงเป็น เอแคลร์
นัทธินันท์ กุมชพร แสดงเป็น ปาร์ตี้
ฐรินดา กรรณสูต แสดงเป็น ปิ่นทอง

บ่วงหงส์ 2552

บ่วงหงส์ เป็นเรื่องราวของ พิมพ์ลภัส (แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเดียวของ ตรัย (ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี) นักธุรกิจที่ล้มละลายและฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำพร้าแม่ทำให้ถูกตามใจจนเหลิง ใช้ชีวิต อย่างหรูหราสุขสบายมาตลอด หนังสือก็เรียนไม่จบ เจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัว ความตายของพ่อทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากคนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดคือ มาธวี (น้ำฝน กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์) แม่เลี้ยงซึ่งแก่กว่าเพียงไม่กี่ปีของเธอ พิมพ์ลภัสต้องออกจากบ้านที่ถูกยึดมาเช่าคอนโดเล็ก ๆ อยู่ แถมยังถูก ยศพล (นัส อานัส ฬาพานิช) ผู้เป็นคู่หมั้นถอนหมั้น ตรงกันข้ามกับมาธวีซึ่งชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคมด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี ซ้ำยังเป็นนางแบบเสียเองอีก มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กระเทยปากร้ายชื่อ หนูดี (หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย

ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำ ลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดแก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำก็ห่างหายไป ไม่ค่อยมีใครอยากจ้างเพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญเมื่อพิมพ์ลภัสอายุ 15

เจ้าของ คอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) ทั้งกิตติชัยและ อรอุษา ผู้เป็นภรรยาต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ ทั้งสองเฝ้าสังเกตเธอตลอดมา จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอกจึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูงให้นั่นคือให้ไป ขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมายที่เกี่ยวกับอรอุษาจาก รเมศ (วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่าอรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์กับรเมศ รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไปไว้แบล็คเมล์ทั้งสองคน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนขอร้องให้เห็นหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเลอีก จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงราย จารวี เธอจึงตัดสินใจรับงานเพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่จึงคบกับมาธวี ได้

พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมโดยกิตติชัยรับรองความปลอดภัยหากรเม ศจับได้ อีกทั้งยังออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย ระหว่างที่อยู่ที่นั่นพิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศเข้ามาทำความรู้จักซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานเสริฟ

รเมศพาพิมพ์ ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปเที่ยว รเมศทุ่มเทใจให้เธอมากมายในขณะที่พิมพ์ลภัสก็จ้องแต่จะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะไม่คุ้นกับงานเช่นนี้จึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย รเมศภาวนาขออย่าให้ที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง

ในที่สุดรเมศก็จับได้ คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายในห้องทำงาน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้แบล็คเมล์ รเมศจึงเปิดเทปให้ฟัง และยังให้อ่านจดหมาย พิมพ์ลภัสรู้ความจริงรู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัสที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และอาหารในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอมโดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจ และตกใจมาก

สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวัง และเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักเธออย่างแท้จริง ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ฉะนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้โดยให้เป็นพนักงานเสริฟ ครั้งแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดรูปหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดายจึงตัดสินใจรับงาน

พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบ พนักงานเสริฟซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงานซึ่งต้องอยู่ร่วมกัน ห้องละสองคน ซึ่งห้องก็ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องก็คือพนักงานเสริฟที่เธอเคยวีนใส่

นับ จากนั้นพิมพ์ลภัสมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ ตลอดเวลาเหล่านี้รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจแต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งหัวหน้าผู้ดูแลรับผิดชอบ ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า

พิมพ์ลภัสไม่ใช่จะร้ายเสียทีเดียว ความดีในตัวเธอยังมีพอสมควร ซึ่งเธอก็ได้แสดงออกมาเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมงานจากลูกค้าบ้ากามทำให้ความ รู้สึกของเพื่อนร่วมงานดีขึ้น การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ทำให้เธอเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม

และแล้วมาธวีกับคณะ แฟชั่นโชว์ก็มาถึง ทั้งสองได้พบกัน มาธวีรู้สึกสะใจมากที่เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำละไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามจะจับรเมศให้ได้ ด้วยความช่างสังเกตมาธวีก็รู้ว่ารเมศนั้นรักพิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน

ในที่สุด มาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อให้ เสี่ยสมาน (พิพัฒน์พล โกมารทัต) ซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานานให้มาพักที่โรงแรม เสี่ยดีใจมากรีบมาหา และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่กลับถูกตอกหน้าอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยเริ่มท้อแต่มาธวีพยายามให้กำลังใจโดยบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสตก เป็นของเสี่ย ถึงแม้จะยังลังเลกลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการมีมากกว่า เสี่ยจึงยอมทำตามแผนโดยเข้าไปรอในห้องมาธวี

มา ธวีมาแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัสเพื่อเห็นแก่สาย สัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงเธอ แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้เขาบอกให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้องเพื่อจะได้ปรับความ เข้าใจกัน รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสให้ไปพบเขาที่ห้องมาธวี

พิมพ์ ลภัสทำท่าจะไม่ไปในตอนแรก เพราะรู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องมาธวี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจจะไปเผชิญหน้า และเมื่อเข้าไปทุกอย่างก็เข้าแผนการณ์ของมาธวี เสี่ยสมานพยายามปลุกปล้ำพิมพ์ลภัส แต่เธอก็เอาตัวรอดจนได้ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมากด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รเมศตกใจ และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกันก็ไปเอาเรื่องมาธวี

มา ธวีร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบจะเชื่อถ้าไม่พบหลักฐานบางอย่างในห้องนั้นที่มาธวี พยายามกลบเกลื่อน รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปได้คายพิษครั้งสุดท้ายโดยบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว ชื่อ นารา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสเสียใจมาก

ส่วนรเมศนั้นก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไปได้ เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันทีเพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และกลับกรุงเทพฯไป ด้วยเขายังหวังว่าจะทำความเข้าใจกับเธอได้เพราะหลังจากมีเรื่องเขาได้ขอโทษ เธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง ซ้ำยังให้มาธวีกราบขอโทษพิมพ์ลภัส และพิมพ์ลภัสได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยความสะใจ

วัน รุ่งขึ้น พิมพ์ลภัสตัดใจไปขายเข็มกลัดรูปหงส์ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสริฟ เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจของพวกเขาเหล่านั้นที่มีต่อเธอ

เมื่อ พิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศใจหายแต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมากเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ไม่ยอมให้เธอ เพราะจะแกล้งกักตัวไว้ทำงานต่อไป หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมาก และซึมลงไป

เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจึงไปเช่าคอนโดเล็กลง ขายข้าวของแบรนด์เนมเนื่องจากไม่มีความสำคัญในชีวิตอีกต่อไป หลังจากนั้นก็ออกหางานเดินแบบทำ แต่ทุกแห่งที่ไปจะปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาเอเจนซี่ให้ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสกลับคิดว่าเธอเองก็มีส่วนผิดด้วย เพราะยามรุ่งเรืองเธอเคยเบี้ยวงานบ้าง ไปช้าบ้างอยู่เป็นประจำ ในที่สุดเธอจึงตัดใจหางานอื่นทำแต่ก็ยากเต็มทีเพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบ หรือถ้าที่ไหนรับที่นั่นก็มักจะมีเจ้านายประเภทหัวงู ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนไม่ให้ท้อ

จนกระทั่งวันหนึ่ง พิมพ์ลภัสได้พบกับนาราโดยบังเอิญ นารามากับ สิหนาท (เอกรัตน์ สารสุข) ซึ่งเป็นคู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังเข้าใจผิดเหมือนเดิม นาราพยายามจะให้ความช่วยเหลือแต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ นาราจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ จึงตัดสินใจโทรไปหานารา นาราพาพิมพ์ลภัสไปบ้านของรจนา ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาวกับลูกชาย พิมพ์ลภัสซึ่งถึงแม้จะเรียนไม่จบแต่ด้านภาษาอังกฤษดีด้วยเพราะเป็นนักเรียน นอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสผิดปกติ

ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัส ก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาดูคุ้นๆ หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องอกหักของเธอให้รจนาฟัง รจนาซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของรเมศจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ จึงวางแผนนัดรเมศมาพบ พิมพ์ลภัสตกใจ รเมศจึงเล่าความจริงเรื่องของนารากับสีหนาทให้ฟัง ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด สำหรับมาธวีก็ถูกกรรมตามสนองเพราะรเมศรู้ว่ามาธวีกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่ เลิก จึงส่งทั้งรูป และคำขออภัยเมื่อครั้งถูกจับได้ว่าหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำเอาลง หนังสือพิมพ์ เมื่อความจริงเปิดเผยจึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมด้วย

บ่วงหงส์

นักแสดงละคร บ่วงหงส์

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น รเมศ
เขมนิจ จามิกรณ์ แสดงเป็น พิมพ์ลภัส
กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ แสดงเป็น มาธวี
อานัส ฬาพานิช แสดงเป็น ยศพล
เอกรัตน์ สารสุข แสดงเป็น สีหนาท

โนราห์

ทองเติม ( ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ ) มีอาชีพเป็น “โนราห์” อยู่ที่นครศรีธรรมราช มีภรรยาคือพิมพา ( รัชนีกร พันธ์มณี ) ทั้งคู่กำลังจะมีลูก แต่แล้วขุนอรรถกรคดีได้แอบชอบพิ มพาจึงได้วางแผนมอมยา จนได้พิมพาเป็นเมีย พิมพาคลอดลูกเป็นผู้หญิง ชื่อ โนราห์ ( วรนุช วงศ์สวรรค์ ) ซึ่งครรชิต ( เขตต์ ฐานทัพ ) แอบชอบอยู่ ต่อมาโนราห์ได้ทราบความจริงว่าทิวคือพ่อที่แท้จริง เมื่อทิวเสียชีวิตลง โนราห์ ได้ออกแสดงโนราห์แทน เพื่อเป็นการรักษาศิลปะการรำโนราห์ให้คงอยู่

นางสาวส้มหล่น

ลำดวนนำ ส้ม มาฝากให้หล้ากับจาดเลี้ยงไว้ตั้งแต่แบเบาะ หล้ากับจาดเลี้ยงส้มไว้อย่างไม่เต็มใจนัก เพราะทั้งคู่ก็มีลูก ๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอีกสามคนคือ โตมร, เตมีย์, ตรึงตรา ทั้งบ้านมีเพียงโตมรเท่านั้นที่ทำตัวเป็นเหมือนญาตินอกนั้นก็คอยหา เรื่องกลั่นแกล้งส้มมาโดยตลอด หลังจากส้มเรียนจบมัธยมต้น หล้ากับจาดก็ตัดสินใจจะยกส้มให้กับเสี่ยเฮงเพื่อใช้หนี้ที่กู้ยืมมา ส้มอยากเรียนต่อ ไม่อยากไปเป็นเมียน้อยเสี่ยเฮง จึงได้ไปปรึกษากับ ชลาลัย เจ้าของร้านเสริมสวยในตลาด

ชลาลัยตัดสินใจพาส้มหนีไปหา แจ๊สซี่ เจ้าของค่ายนางแบบคนดังที่กรุงเทพฯ แจ๊สซี่รับส้มกับชลาศัยมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดสุดหรู แจ๊สซี่จับส้มเข้าคอร์สนางแบบอย่างเข้มงวดนอกเหนือไปจากการเรียนตามปกติ เมื่อส้มโตเป็นสาวเต็มตัว แจ๊สซี่ก็ส่งส้มเข้าประกวดโดยใช้ชื่อ สราสินี และสราสินีก็ไม่เคยทำให้แจ๊สซี่กับชลาศัยต้องผิดหวัง เธอกวาดรางวัลใหญ่ทุกเวทีที่เข้าประกวด สราสินีทำให้ค่ายของแจ๊สซี่ดังมากในวงการประกวดนางแบบ นักธุรกิจหลายคนต่างแย่งกับเป็นสปอนเซอร์ให้กับนางแบบในค่ายนี้

หลัง จากส้มสะสมเงินรางวัลได้ก้อนหนึ่ง ส้มก็ได้ไปขออนุญาตแจ๊สซี่ว่าจะไม่เข้าประกวดอีกแล้ว เธอขอเรียนต่อ แจ๊สซี่ขอให้ส้มกลับไปคิดดูอีกครั้ง เพราะเธอต้องการจะส่งส้มเข้าประกวดไทยโมเดล แต่เมื่อส้มยืนยันจะเรียนต่อพร้อมกับขอช่วยงานอยู่เบื้องหลังกับแจ๊สซี่และ ชลาศัย แจ๊สซี่ก็จำต้องยอมตกลง ศักดา นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมรู้สึกสนใจในตัวส้ม หลังจากส้มเรียนจบศักดาก็รีบรับส้มเข้าทำงานในแผนกประชาสัมพันธ์ของโรงแรม เขาทันที

ศักดาพยายามหาโอกาสใกล้ชิดส้ม แต่ส้มก็พยายามหลีกเลี่ยงเพราะรู้ดีว่าศักดาเจ้าชู้มาก และคุณหญิงแพรวมาศผู้เป็นภรรยาก็ขี้หึงมากด้วย ส้มมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับ ศิลา ลูกชายของศักดา เพราะศิลาดูแลรับผิดชอบแผนกประชาสัมพันธ์ที่ส้มทำงานอยู่ ทั้งคู่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน แต่แล้วศิลาก็เกิดเข้าใจส้มผิดคิดว่าส้มมีอาชีพพิเศษ ศิลาออกอาการหึงหวงเมื่อรู้ว่า ทรงพรต เพื่อนสนิทเจ้าของรีสอร์ตที่กาญจนบุรีก็แอบชอบส้ม

นอกจากนี้ศิลายัง เข้าใจผิดคิดว่าส้มมีใจให้กับโตมร ที่มาเป็นวิทยากรให้กับทางโรงแรม โดยไม่รู้ว่าทั้งคู่เป็นญาติกัน ด้านส้มก็แอบน้อยใจเมื่อรู้ว่า จิ๊บ หรือจุไรลักษณ์ น้องสาวทรงพรตเป็นคู่หมั้นของศิลา แจ๊สซี่ป่วยหนักต้องการเงินจำนวนมากมารักษาตัว ส้มตัดสินใจลาออกจากโรงแรม เข้าประกวดไทยโมเดลเพื่อหาเงินมารักษาแจ๊สซี่ แจ๊สซี่ปลื้มมากกับการกระทำของส้ม เธอตัดสินใจติดต่อขอพบศักดา และบอกกับศักดาว่าเธอต้องการให้ศิลาแต่งงานกับส้ม

ศักดา ไม่กล้าปฏิเสธเพราะแจ๊สซี่เคยช่วยเหลือด้านการเงินของโรงแรมสมัยที่เกิดภาวะ ฟองสบู่ ศิลาตอบตกลงจะแต่งงานกับส้ม ศักดาเป็นห่วงเรื่องจิ๊บ แต่ศิลาบอกกับศักดาว่าจิ๊บแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว ส้มเองตกใจมากเมื่อรู้เรื่อง แต่ก็ยอมตอบตกลงเพราะแจ๊สซี่ไม่เคยขออะไรจากเธอมาก่อน นอกจากนี้ส้มเองก็รู้ตัวว่าเธอเองก็แอบรักศิลาอยู่ ตรึงตรายอมเป็นเมียน้อยของ ศิการ พี่ชายของศิลาจนถึงขั้นตั้งท้อง สุภัค เมียของศิการรู้เรื่องเข้าจึงยิงศิการจนบาดเจ็บสาหัส

รติรส เมียน้อยของศักดารู้เรื่องเข้าจึงพยายามหาทางเลิกกับศักดา เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับศิการ โดยมีส้มเป็นที่ปรึกษาและคอยให้กำลังใจรติรสมาโดยตลอด ศิลาคิดจะมาปรึกษาเรื่องส้มกับรติรส จึงได้รู้เรื่องของรติรสกับศักดา รติรสตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ศิลาฟัง ทำให้ศิลาเข้าใจในตัวส้มดียิ่งขึ้น ส้มประกวดชนะ ได้ตำแหน่งไทยโมเดลมาครอง แต่วันรุ่งขึ้นส้มก็ต้องเสียใจที่สุดเมื่อรู้ว่าแจ๊สซี่ตายแล้ว พราวมาศกลับมาจากต่างประเทศรู้เรื่องศิลากับส้มก็พยายามจะขัดขวาง แต่อรุณมาศได้ห้ามไว้

ส้มได้รับมรดกมากมายจากแจ๊สซี่ หล้ากับจาดตามมาขอส่วนแบ่ง ตรึงตราพยายามหาทางจับศิลา ขณะเดียวกับเสี่ยเฮงก็พยายามจะหาทางเอาตัวส้มกลับไป เสี่ยเฮงปล่อยข่าวใส่ร้ายส้มให้เสียหาย และยังจับตัวชลาศัยไปเป็นตัวประกัน อรุณมาศตัดสินใจบอกกับศิลาว่าเธอเป็นแม่ของส้ม ทั้งคู่ช่วยกันวางแผนช่วยเหลือชลาศัยกับส้ม ตรึงตราซึ่งถูกเสี่ยเฮงจับมาเร่ขายตัวได้ถูกยิงตาย ชลาศัยถูกช่วยเหลือออกมาได้ ส้มได้พบกับแม่ที่แท้จริง และได้แต่งงานกับศิลาคนที่เธอรัก ส่วนรติรสก็ตกลงแต่งงานกับทรงพรตอย่างมีความสุขเช่นกัน

รายชื่อนักแสดงละคร นางสาวส้มหล่น

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น ศิลา
ไปรยา สวนดอกไม้ แสดงเป็น ส้ม / สราสิณี
อาริษา วิลล์ แสดงเป็น รติรส
รติพงษ์ ภู่มาลี แสดงเป็น ทรงพรต
สุคนธวา เกิดนิมิตร แสดงเป็น ชลาลัย
ภัสสร บุณยเกียรติ แสดงเป็น แจ๊สซี่
สรวงสุดา ศรีธัญรัตน์ แสดงเป็น ตรึงตรา
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ แสดงเป็น ศักดา
วิชญ จารุจินดา แสดงเป็น โตมร
วรพรต ชะเอม แสดงเป็น ศิการ

เธอคือชีวิต

โตมร เป็นเด็กกำพร้า เป็นเด็กต่างจังหวัดที่มุมานะจนสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยของรัฐ เขาต้องเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพทั้งที่ไม่มีที่พัก แต่โตมรไม่รู้สึกเดือดร้อนนัก ในมหาวิทยาลัยเขามีพี่รหัสเป็นผู้หญิงชื่อ เอื้อเฟื้อ หรือพี่เอื้อ เอื้อเฟื้อเป็นคนดีและเอื้อเฟื้อสมชื่อ เธอดูแล “น้องรหัส” คนนี้อย่างจริงใจ ทั้งคู่สนิทกันมาก จนโตมรได้มีโอกาสรู้จักกับ ปกป้องพี่ชายของเอื้อเฟื้อซึ่งเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ต่างคณะ ทั้ง 3 คนมีนิสัยเหมือนกันคือรักสุนัขเหลือเกิน รู้จักกันได้ไม่นานกลายเป็นว่าปกป้องสนิทกับโตมรมากกว่า อาจเป็นเพราะเป็นผู้ชายด้วยกัน และชอบอะไรคล้าย ๆ กัน ถึงแม้สองพี่น้องจะรู้จักโตมรจนสนิทกันมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าน้องชายคนใหม่ไม่มีที่พัก จนกระทั่งวันหนึ่งปกป้อง และเอื้อเฟื้อเห็นโตมรนั่งเล่นอยู่กับลูกสุนัขที่หน้าคณะทั้งที่เย็นมากแล้ว ท่าทางของโตมรทำให้ทั้งคู่ต้องเดินเข้าไปหา คุยกันจนรู้ว่าโตมรไม่มีที่พัก เขาอาศัยนอนที่มหาวิทยาลัย หรือวัดแถว ๆ นั้นมาระยะหนึ่งแล้ว ปกป้องอดคิดไม่ได้ว่า โตมรเหมือนคนเร่ร่อนจรจัดเข้าไปทุกวัน ซึ่งเขาไม่อยากเห็นอย่างนั้น ปกป้องและเอื้อเฟื้อจึงพาโตมรมาที่บ้าน

ในเช้าวันหนึ่ง หมอจิรัสย์ หรือปู่ใหญ่ของเขาตั้งกองทุนขึ้นมาสำหรับนักศึกษาแพทย์ที่ขาดแคลน แม้ปู่ใหญ่จะตายไปหลายปีแล้ว คนที่ดูแลและมีอำนาจตัดสินใจเลือกนักศึกษาคือ ย่าแขไข หรือ ภรรยาม่ายของปู่ใหญ่ โตมรตาม 2 พี่น้องมาอย่างไม่แน่ใจนักว่าเขาจะผ่านการพิจารณาของแขไข ปกป้องบอกโตมรว่า แขไขเป็นพี่สาวของ พัดชา ซึ่งเป็นย่าแท้ ๆ ของเขา พ่อของเขาคือ จิรายุ เรียกแขไขว่าป้า บ้านสวยหลังนี้เป็นของปู่ใหญ่กับแขไข ทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกัน เมื่อ ปู่กวิน สามีของย่าพัดชาตาย ย่าพัดชาจึงพาจิรายุลูกชายมาอยู่กับพี่สาว จนเรียนจบแต่งงานแยกครอบครัวไปอยู่ลำพัง จนกระทั่งแม่ของปกป้องและเอื้อเฟื้อตาย จิรายุจึงพาลูกชายและลูกสาวมาอยู่กับย่า เพราะเขาต้องย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ จะว่าไปแล้วจิรายุไม่อยากให้ลูกอยู่กรุงเทพกับป้าแขไขและแม่พัดชา แต่ขัดใจพัดชาไม่ได้ อีกประการหนึ่งจิรายุเองก็ห่วงป้าแขไขผู้มีบุญคุณและพัดชาเหมือนกัน

ในบ้านสวยงามใหญ่โตนี้ มีเพียงผู้หญิงแก่ ๆ 2 คน กับบริวารเท่านั้น การที่ให้ปกป้องและเอื้อเฟื้ออยู่ด้วยก็จะดีเพราะจะได้ช่วยดูแลญาติผู้ใหญ่ ทั้งบ้านมีปกป้องเป็นผู้ชายอยู่คนเดียว และเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีสมชื่อ ทว่าในวันนี้ปกป้องพาโตมรมาเพื่อขออนุญาตย่าแขไขให้น้องรักต่างสายเลือดมา อยู่ด้วย เมื่อปกป้องแนะนำโตมรให้แขไข และพัดชารู้จัก ชายหนุ่มกราบอย่างเรียบร้อย เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าแขไขมองเขาอย่างพิจารณา นางเรียกให้เขาเข้าไปหาใกล้ ๆ โตมรเข้าไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าแขไขเหมือนต้องมนต์ เมื่อสบตากันโตมรคิดว่าเขาเห็นแววตาของหญิงชรามีประกายของความยินดีขึ้นมาวูบหนึ่ง สีหน้าของเธออ่อนโยนและแจ่มใสขึ้นทันที แขไขยื่นมือซ้ายให้โตมรและยิ้มให้ โตมรตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมเขาจึงรวบมือของนางไว้อย่างอ่อนโยน เขาสัมผัสมือของนางและลูบเบา ๆ ไปทีละนิ้วจนถึงนิ้วนาง นิ้วของเขาสัมผัสกับรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ที่นิ้วนั้น เมื่อเขามองอย่างพิจารณาจึงเห็นว่าแผลนั้นเป็นรอยแผลเป็นที่คาดอยู่โคนนิ้ว เหมือนแขไขสวมแหวนไว้ตลอดเวลา โตมรเงยหน้าสบตาแขไขอย่างแปลกใจ เขารู้ว่าเขาไม่มีสิทธิถาม ทว่าแขไขกลับทำให้ พัดชา ปกป้อง และเอื้อเฟื้อแปลกใจ เมื่อนางยิ้มให้โตมรอย่างแจ่มใส แววตาแจ่มจรัสเป็นประกายเหมือนสาว ๆ

แขไขอนุญาตให้โตมรอยู่ที่บ้านนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธออนุญาตให้เขาไปอยู่ที่ “กระท่อมเจ้าเงาะ” หรือเรือนเล็กในสวนซึ่งทุกคนในบ้านรู้ดีว่า แขไขรักและผูกพันกับที่นั่นมาก นางชอบไปวาดรูปที่นั่นเสมอ  ยิ่งไปกว่านั้นแขไขพูดกับโตมรเบา ๆ แต่ก็ดังพอที่ทุกคนจะได้ยินว่า “ดีใจที่กลับมา ต่อไปนี้โลกไม่มืดมนอีกแล้ว” ปกป้องและเอื้อเฟื้อมัวแต่ดีใจ จึงไม่ผิดสังเกตอะไรกับคำพูดของย่าแขไข มีแต่โตมรเท่านั้นที่แปลกใจกับคำพูดของย่าแขไข ยิ่งไปกว่านั้นเขาตอบไม่ได้ว่าทำไมเขาจึงรู้สึก “คุ้นเคย” และ “ผูกพัน” กับนางเหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน โตมรยกกระเป๋าเสื้อผ้าตามปกป้องไปที่กระท่อมเจ้าเงาะอย่างมีความสุข และเมื่อเห็นเรือนเล็กกะทัดรัดหรือกระท่อมตามที่แขไขเรียก เขารู้สึกว่ามันดีเกินกว่าจะเรียก “กระท่อม” โตมรจัดที่พักใหม่อย่างตื่นเต้น เขารู้สึกเหมือนกระท่อมนี้เป็นบ้านของตัวเองก็ไม่ปาน ยิ่งไปกว่านั้น ภาพวาดของแขไขที่ทิ้งเอาไว้นั้นสวยเหลือเกินบอกถึงฝีมือคนวาดได้อย่างดี แม้ปกป้องจะอนุญาตให้เขาเก็บลงกล่องได้ถ้ารู้สึกเกะกะ แต่โตมรตั้งใจว่าเขาจะค่อย ๆ เก็บเงินและทำกรอบแขวนตกแต่งไว้จะดีกว่า อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการเคารพเจ้าของสถานที่

วันรุ่งขึ้น กัญญา แม่บ้านมาตามเขาไปใส่บาตรกับผู้เฒ่าทั้ง 2 ปกป้องและเอื้อเฟื้อ โตมรรีบไปทันที ที่หน้าบ้านทุกอย่างพร้อมหมดแล้วรอเพียงพระภิกษุที่จะมารับบาตรเท่านั้น เมื่อปกป้องให้เขาช่วยแขไข ซึ่งนั่งบนเก้าอี้รถเข็นเพื่อใส่บาตร โตมรเข้าไปอยู่ข้าง ๆ นางอย่างไม่เคอะเขิน เขาใช้มือแตะประคองมือที่สั่นเทาของหญิงชราที่ถือทัพพีตักข้าวสวยร้อน ๆ หอมกรุ่นจากโถกระเบื้องใบโตใส่ลงในบาตรอย่างอ่อนโยน นุ่มนวล ส่วนปกป้อง เอื้อเฟื้อ และพัดชาช่วยหยิบกับข้าว ขนม ดอกไม้ใส่บาตร ขณะที่ใส่บาตรร่วมกัน โตมรรู้สึกอบอุ่นวาบลึกในใจอย่างบอกไม่ถูก แขไขเองก็มีสีหน้าแจ่มใส มีความสุขเช่นกัน เมื่อใส่บาตรเสร็จพระไปหมดแล้ว ก่อนจะเข็นเก้าอี้ของแขไขกลับเข้าบ้าน โตมรเห็นชายคนหนึ่งในชุดดำเดินจากไปอย่างโกรธแค้นจนชายเสื้อสะบัดอย่างแรง เขากระพริบตาอีกครั้งก็ไม่มีแล้ว โตมรคิดว่าเขาตาฝาด แต่แขไขกลับช่วยยืนยันความคิดของเขาว่าถูกต้องเมื่อนางมองไปทางหน้าประตู บ้านและพูดว่า นั่นใครใส่ชุดดำอยู่ตรงนั้น ปกป้อง เอื้อเฟื้อ และพัดชาหันไปตามสายตาของแขไขแต่ไม่พบใคร ทว่าแขไขยังคงมองอยู่ที่เดิมอย่างไม่มั่นใจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อไม่เห็นใคร จริง ๆ นางจึงยอมกลับขึ้นไปรับประทานอาหารเช้า โดยมี โตมรร่วมโต๊ะด้วยนอกจากหลาน ๆ ของนาง หลังอาหารเช้าวันนั้น วันที่โตมรรู้สึกอบอุ่นมีความสุขที่สุดในชีวิต แขไขก็หลับไป นางหลับไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยแม้จะยังมีลมหายใจก็ตาม

เวลาผ่านไป 2 ปี แขไขถูกส่งเข้าโรงพยาบาล นางเป็นเจ้าหญิงนิทราในห้อง ICU โตมรจะมาเยี่ยมเธอบ่อยครั้งจนคุ้นเคยกับพยาบาลที่วอร์ดเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวันพระเขาจะเตรียมของใส่บาตรมาให้แขไข ผู้หญิงที่มีพระคุณสำหรับเขา และเขาผูกพันมากที่สุดเพื่อให้เธอได้จบของก่อนที่เขาจะไปใส่บาตรแทนเธอ โตมรเรียนอยู่ปี 3 เอื้อเฟื้ออยู่ปี 4 ส่วนปกป้องเรียนจบแล้ว เขาเริ่มทำงาน ถ้าว่างจะไปต่างจังหวัดเสมอ มีเพียงโตมรที่รู้ว่าปกป้องไปบ้าน รวิชา แฟนสาว เอื้อเฟื้อเองก็มี ชีวา เพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นคนรู้ใจ จึงออกไปเที่ยวตามประสาคนรัก จิรายุนั้นแต่งงานใหม่กับ ปัณรสี และแทบจะย้ายไปอยู่เชียงใหม่เป็นการถาวรถึงกลับกรุงเทพก็จะพักอยู่คอนโด จิรายุไม่ค่อยกลับมาอยู่ที่บ้านนี้เท่าไหร่ ส่วนโตมรไม่ค่อยไปไหนนอกจากเยี่ยมแขไข แล้วเขาชอบเลี้ยงสุนัข และวาดรูปอยู่ที่บ้านพัก

เย็นวันหนึ่งโตมรได้รับโทรศัพท์จากเอื้อเฟื้อเป็นข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของเขาในรอบ 2 ปี เอื้อเฟื้อพูดพลางร้องไห้ว่าตำรวจโทรมาบอกเธอว่าปกป้องขับรถชนรถสิบล้อ อาการสาหัส เอื้อเฟื้อให้โตมรไปดูปกป้องที่โรงพยาบาลแทนเธอ โตมรรีบออกจากบ้านทันที เขารู้สึกเหมือนใจจะขาด สำหรับเขาแล้วปกป้องเป็นเหมือนพ่อ และพี่ชายของเขา และที่เขามีชีวิตที่ดีในวันนี้ได้ก็เพราะปกป้อง เมื่อถึงโรงพยาบาลโตมรรีบเดินเพื่อจะให้ทันลิฟต์ตัวหนึ่งที่กำลังจะขึ้น เขาเห็นชาย-หญิงคู่หนึ่งสวมชุดดำทั้งคู่กำลังอยู่ในลิฟต์และกำลังจะปิด โตมรเห็นเพียงว่าผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สง่า แต่ผู้หญิงสาวที่มายืนด้วยกันนั้นผิวผ่อง เธอดูตัวเล็กบอบบางหรือเกิน เมื่อยืนคู่กับชายคนนั้น อารามรีบร้อนโตมรสะดุดบันไดหกล้ม เข่ากระแทกพื้นอย่างแรงจนต้องทรุดตัวลงนั่ง เขามองประตูลิฟต์ที่เลื่อนปิดอย่างเจ็บใจ เขาเป็นห่วงปกป้องและไม่อยากเสียเวลาสักวินาทีที่จะไปหาพี่ชายที่เขารัก ส่วนชายหญิงคู่นั้นเตรียมตัวออกจากลิฟต์ เมื่อถึงชั้นที่ต้องการคือหอผู้ป่วยหนัก (ICU) ชายหนุ่มต้องออกแรงดึงตัวหญิงสาวหน้าตาน่ารักออกจากลิฟต์อย่างเอ็นดู

ชายหนุ่มผู้นั้นชื่อ แสง เรียกสาวน้อยที่มาด้วยอย่างทั้งรักและเอ็นดูว่า หนูเล็ก หรือ อรอินทุ์ ให้ตามเขามา เขาอดเอ็นดูไม่ได้ที่สาวน้อยชอบลิฟต์ เธอสนใจทุกอย่างอยากเรียนรู้ทุกเรื่อง แสงจูงมือเธอออกจากลิฟต์ เขาบอกเธอว่าเวลาน้อยเต็มทีแล้ว อรอินทุ์มองบรรยากาศรอบตัวอย่างสงสารและหดหู่ เธอทำใจไม่ได้สักทีกับงานที่ต้องรับผิดชอบ งานของ “ยมทูต” ทูตที่มารับดวงวิญญาณที่ถึงเวลากลับไปสู่ดินแดนแห่งความตาย อรอินทุ์ทำหน้าที่มา 2 ปีแล้วโดยมีแสงเป็นยมทูตพี่เลี้ยง อรอินทุ์อยากทำได้เหมือนแสงที่เข้มแข็งและเด็ดขาด เธอเดินตามแสงเข้าไปในห้องฉุกเฉินโดยไม่มีใครขัดขวาง เพราะไม่มีใครเห็น แสงพาไปที่เตียงของปกป้อง อรอินทุ์มองปกป้องอย่างสงสาร ร่างกายเขาดูบอบช้ำเต็มที ตามร่างกายเต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ แสงถามเธอว่า “เธอแน่ใจว่าทำได้ตามลำพัง” อรอินทุ์รับคำ แล้วจึงเดินไปห้อง ICU ฝั่งตรงข้าม อรอินทุ์ยืนอยู่ปลายเตียงของปกป้อง มองสัญญาณชีพของปกป้องซึ่งเหลือน้อยเต็มที อรอินทุ์ข่มใจเรียกปกป้องให้ไปกับเธอ ส่วนปกป้องผงกศีรษะขึ้นตามเสียงเรียก เขาเบิ่งตามองเธออย่างตกใจ ก่อนพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า “ย่าแข — รุจ” ไม่ทันที่อรอินทุ์จะตอบรับหรือปฏิเสธ เธองงและไม่รู้จะทำอย่างไรดี แสงก็กลับมาเขาเพ่งตาสบตาปกป้องและพูดเข้ม ๆ ว่า ให้ตามเขามาเวลาของเขาหมดแล้ว อรอินทุ์มองภาพ “วิญญาณ” ของปกป้องที่ลุกขึ้นเดินมาอยู่ตรงหน้าแสงอย่างสงสารพร้อม ๆ กับที่คลื่นหัวใจของปกป้องกลายเป็นเส้นยาว เสียงแหลมของอุปกรณ์ทำให้รู้ว่าปกป้องสิ้นชีวิตแล้ว อรอินทุ์มองหมอและพยาบาลซึ่งพยายามยื้อชีวิตปกป้องอย่างสุดความสามารถ ทุกคนชุลมุนวุ่นวายไปหมด เธออยากบอกพวกเขาว่าไม่มีประโยชน์ วิญญาณปกป้องอยู่ในมือคุณแสงแล้ว ทุกอย่างบนโลกนี้สำหรับปกป้องหมดแล้ว อะไรบางอย่างและคำพูดสุดท้ายของปกป้องทำให้อรอินทุ์ขอร้องแสงให้เวลาเขาได้ ลาญาติอีก 2 นาที แต่แสงไม่ยอม เขามองแววตาอ้อนวอนของสาวน้อยอย่างอึดอัดใจ ทำอย่างไรอรอินทุ์จึงจะยอมรับได้กับ “หน้าที่” ของเธอ หน้าที่ของยมทูตที่ไม่มีสิทธิ์ แตะต้องชีวิต ทำได้แค่รับวิญญาณเท่านั้น

แสงตัดสินใจพาอรอินทุ์ไปห้อง ICU ฝั่งตรงข้าม เขาพาเธอไปที่เตียงของแขไข เธอมองร่างหญิงชราที่นอนหลับไม่รับรู้อะไร พลังบางอย่างสัมผัสให้เธอเหลียวมองไปทางห้อง ICU เด็ก เธอเห็นด้วยอำนาจพิเศษของเธอว่า มีเด็กหญิงอายุราว 10 ขวบ ก็นอนหลับใหลไม่ได้สติเหมือนกับหญิงชราตรงหน้านี้ แสงเรียกอรอินทุ์เมื่อเห็นเธอเหม่อไปทางอื่น เธอหันกลับมาตามเสียงเรียก มองแสงที่จับมือของแขไขอย่างทะนุถนอม สายตาที่มองแขไขนั้นอ่อนโยน นุ่มนวล มีแววรักและหวานอย่างที่อรอินทุ์ไม่เคยเห็นแสงมองใครนอกจากเธอ แสงบอกอรอินทุ์ว่า มนุษย์ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่าง ถึงจะมี “ชีวิต” สมบูรณ์ได้ คือ ร่าง – ชีวิต และ วิญญาณ แต่ละคนมีเวลา มีชีวิตไม่เท่ากัน ไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อใดจะหมดเวลาของตัว แขไขเป็นตัวอย่างของร่างที่มีชีวิตคือยังหายใจอยู่ แต่หลับใหลไม่ได้สติ เพราะวิญญาณของเธอหายไป แต่เธอยังไม่ตาย แสงพูดกับแขไขเบา ๆ ว่า เขาขอเวลาที่เธอจะพร้อมไปกับเขาซึ่งก็คงไม่นาน แม้อรอินทุ์ไม่ได้ยินว่าแสงพูดอะไรกับแขไข แต่เธอก็มองออกว่าผู้หญิงคนนี้สำคัญกับแสงมาก

อรอินทุ์ตัดสินใจเอื้อมมือจับมืออีกข้างของแขไขบ้างโดยที่แสงไม่ได้มอง ทันทีที่เธอสัมผัสมือแขไข เธอรู้สึกเหมือนถูกกระแทกด้วยพลังบางอย่างที่รุนแรง ภาพต่าง ๆ มากมายไหลผ่านม่านตาเหมือนรถไฟวิ่งผ่าน เธอเห็น งานแต่งงาน น้ำตก ลูกหมา ภาพวาด และบ้านริมน้ำ อรอินทุ์ยืนสั่นเหมือนถูกไฟช๊อต เธอปวดหัวราวหัวจะแตก เธอพยายามเรียกแสงแต่ก็ยากเต็มที ขณะเดียวกันแสงก็ตกใจ เมื่อแขไขขยับมือและลืมตาขึ้น แสงหันมาหาอรอินทุ์ทันที สาวน้อยซูบซีดราวจะหมดพลัง เธอเรียกให้แสงช่วย ชายหนุ่มตกใจมาก เขารวบรวมพลังกระชากอรอินทุ์จากแขไข แสงบอกอรอินทุ์ว่าให้รีบไปรับปกป้อง เพราะหมดเวลาแล้ว เขาคว้ามือสาวน้อย แต่มือของแสงกลับผ่านทะลุมืออรอินทุ์ไปเหมือนเป็นอากาศธาตุ อรอินทุ์ตกใจเรียกแสงเสียงดัง ทำให้ วันเพ็ญ พยาบาลประจำวอร์ดที่ดูแลห้อง ICU หันมามอง เธอเดินมาที่เตียงแขไข และดุอรอินทุ์ว่า ทำไมเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมยังส่งเสียงรบกวนคนไข้อีก อรอินทุ์ตกใจที่วันเพ็ญเห็นเธอ ขณะเดียวกัน แขไขเอื้อมมือที่ยังมีพลังน้อยนักจับมือวันเพ็ญ เธอจึงมองหน้าแขไข และแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นแขไขลืมตา มือของแขไขจับมือวันเพ็ญ แม้จะเบาแสนเบา แต่ก็รู้สึกได้ แขไขกระพริบตา 2 -3 ครั้งก่อนจะหลับไป มือที่จับวันเพ็ญอ่อนแรงลง แขไขกลับไปเป็นเจ้าหญิงนิทราอีกครั้ง ส่วนอรอินทุ์รีบวิ่งไปหาแสงซึ่งเธอรู้อยู่ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม อรอินทุ์วิ่งชนประตูกระจกอย่างแรง เธอไม่สามารถผ่านออกไปได้อย่างง่ายดายเหมือนเคย อรอินทุ์ยืนงงอยู่หน้าประตูจนวันเพ็ญต้องเปิดประตูให้ พยาบาลสาวงงที่สาวน้อยหน้าตาดี ทำไมดูเอ๋อ ๆ ซุ่มซ่าม และเปิดประตูไม่เป็น อรอินทุ์เดินออกมาอยู่ห้องโถงกลางระหว่าง ICU กับฉุกเฉิน เธอเห็นแสงเดินนำปกป้องออกมา เขาพยายามพูดกับเธอ แต่อรอินทุ์ไม่รู้เรื่อง ซ้ำร้ายร่างของแสงกับปกป้องค่อย ๆ หายไปกับตา เธอรู้ว่าทั้งคู่ไปที่ดินแดนแห่งความตาย ดินแดนที่เธออยู่มา 2 ปี ไม่รู้ที่มาของตัวเอง รู้เพียงว่าเธอเป็นยมทูตฝึกหัด มีแสงเป็นพี่เลี้ยง และสักวันเขาและเธอจะข้ามทะเลสาบกว้างใหญ่ ก้าวข้ามไปสู่ดินแดนหลังความตายที่แท้จริง แต่ตอนนี้อรอินทุ์รู้สึกเหมือนเธอมีชีวิต

ขณะที่สับสนกับตัวเองเธอเห็นผู้คนรอบตัวมีแต่ความทุกข์กับการจากไปของคนที่รัก เธอเห็นชายหนุ่มผมยาวระต้นคอฟุบหน้าร้องไห้ อรอินทุ์สงสัยว่าเขาร้องไห้ทำไม เธอได้คำตอบเมื่อเอื้อเฟื้อวิ่งเข้ามาหาชายหนุ่มที่เธอเรียกว่าโต ชายหนุ่มลุกขึ้นและกอดเอื้อเฟื้อร้องไห้ โตมรร้องไห้เขาพูดแต่ว่าเขามาไม่ทันปกป้อง เท่านี้เอื้อเฟื้อก็รู้ว่าเธอเสียพี่ชายที่รักยิ่งไปแล้ว ทั้งคู่กอดกันร้องไห้ จนอรอินทุ์ต้องบอกว่าอย่าห่วงเขาเลยเขาไปสบายแล้ว เสียงใส ๆ ของเธอทำให้โตมรและเอื้อเฟื้อหันมามองอย่างแปลกใจ เธอบอกเอื้อเฟื้อว่าเธอมาทันปกป้องและได้ยินปกป้องพูดครั้งสุดท้ายว่า “ย่าแข —รุจ” เอื้อเฟื้อถามอรอินทุ์ว่าเธอเป็นใคร ขณะที่โตมรยืนงงอยู่ครู่หนึ่ง ชื่อของรุจคล้ายแสงวาบเข้ากลางใจ โตมรแทบช็อคเมื่อได้ยินเสียงอรอินทุ์บอกเอื้อเฟื้อว่าเธอเป็นแฟนของโตมร เวลานั้นไม่เปิดโอกาสให้โตมรปฏิเสธหรืออธิบายอะไรได้เพราะ ปัณรสี แม่เลี้ยงของปกป้องกับเอื้อเฟื้อมาพอดี เธอโศกเศร้าเสียใจอย่างออกนอกหน้า จนอรอินทุ์รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวและไม่จริงใจ จะอย่างไรก็ตามอรอินทุ์ก็ตามโตมรกลับบ้านจนได้ เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพัง เธอบอกโตมรว่าเธอเป็นยมทูตและขณะนี้เธอกลับดินแดนแห่งความตายไม่ได้ ติดต่อคุณแสงซึ่งเป็นยมทูตพี่เลี้ยงก็ไม่ได้ โตมรอยากจะบ้าเขาคิดว่าอรอินทุ์คือเด็กเอ๋อหรือสมองเสื่อม อรอินทุ์พูดเหมือนอ่านใจเขาออกว่าเขาคิดอะไร เธอยืนยันคำเดิมและขอร้องว่าอย่าเอาเธอไปทิ้งที่ไหน เธอไม่มีใครนอกจากเขา สถานการณ์บังคับให้โตมรต้องรับอรอินทุ์ไว้และตั้งใจว่าเสร็จงานศพปกป้อง เมื่อไหร่เขาจะพาเธอไปส่งโรงพยาบาล ในช่วงเวลาของงานศพ อรอินทุ์ช่วยงานแข็งขัน ขณะเดียวกันที่อยู่บ้านเธอมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างคุ้นตา เหมือนเคยอยู่มาก่อน เมื่อเธอบอกโตมรเขาก็ว่าเธอบ๊อง ทว่าดวงตาสวยใสซื่อนั้นบอกโตมรว่าอรอินทุ์พูดจริง ในงานศพปกป้องอรอินทุ์เห็นคุณแสงมองเธออย่างห่วงใย เขาพูดเบามากแต่เธอก็รู้ว่าเขาจะหาทางมารับเธอไปให้ได้

ในงานสวดศพคืนที่ 3 ย่าพัดชา เอื้อเฟื้อ จิรายุ และปัณรสีก็ได้รับรู้เรื่องชวนตกใจจาก รวี ซึ่งเป็นนายอำเภออยู่จังหวัดใกล้ ๆ เขาแนะนำตัวเองและบอกว่าในวันเกิดเหตุปกป้องไม่ได้ไปคนเดียวแต่มี รวิชา ลูกสาวของเขาไปด้วยซึ่งเธอบาดเจ็บสาหัส อะไรไม่ร้ายเท่าเรื่องที่ รวี บอกว่า รวิชากำลังท้อง ส่วนโตมรพยายามหาทางทิ้งอรอินทุ์ให้ได้ เขาไม่เชื่อเรื่องที่เธอเล่า จนอรอินทุ์ตัดสินใจพิสูจน์ให้โตมรดู เธอให้โตมรพาเธอไปหาแขไข ก่อนจะไปหาแขไขทั้งคู่แวะเยี่ยมรวิชาก่อน อรอินทุ์จับมือรวิชาแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอท้าให้โตมรพาเธอไปหาแขไข ทันทีที่เธอจับมือแขไข อรอินทุ์รู้สึกเหมือนสัมผัสพลังที่แรงกล้า เธอพยายามต้านทานพลังนั้น โตมรมองอรอินทุ์อย่างตกใจ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อแขไขลืมตามองเขา และขยับปากจะพูด โตมรก้มลงใกล้ ๆ หน้าแขไข และจับคำได้ว่าแขไขพูดว่า “รุจ” ส่วนอรอินทุ์ปวดร้าวไปทั้งตัวเหมือนจะระเบิด เธอรู้สึกว่าใกล้ความตายไปทุกที อรอินทุ์เรียกให้โตมรช่วยอย่างอ่อนแรง โตมรรีบปลดมือของอรอินทุ์ออก และต้องรีบรับร่างอ่อนแรงของอรอินทุ์ไว้แทบไม่ทัน นับจากวันนั้นเป็นต้นมาโตมรเริ่มยอมรับอรอินทุ์และเรื่องแปลก ๆ ของเธอ อรอินทุ์น่ารักสดใส มีชีวิตชีวา และติดโตมรเหลือเกิน แรก ๆ โตมรก็รำคาญ ทว่านานวันเข้าเขาก็รู้สึกมีความสุขกับสาวน้อยร่างเล็ก น่ารัก ที่ตามเขาไปทุกแห่ง เสียงใสถามโน่นถามนี่อย่างอยากรู้อยากเห็นไปทุกอย่าง เธอสนใจรูปที่แขไขวาดค้างไว้ รูปผู้ชายที่มีเพียงโครงหน้า แต่ไม่มีรายละเอียดและโตมรนำมาใส่กรอบ ติดผนังไว้

เย็นวันหนึ่ง พัดชาให้มาตามโตมรและบอกว่าวันเพ็ญแจ้งมาว่าแขไขมีอาการดีขึ้น ลืมตาและพูดได้ โตมรยอมรับว่าจริงและบอกว่าแขไขพูดถึง “รุจ” พัดชาตกใจจนเห็นได้ชัด ส่วนจิรายุและเอื้อเฟื้อให้โตมรไปตามหารุจซึ่งคาดว่าต้องเกี่ยวข้องกับรวิชา และปกป้อง โตมรไปอย่างเต็มใจโดยมีอรอินทุ์ไปด้วย แม้จะบอกตัวเองว่ารำคาญ แต่ถ้าอรอินทุ์งอนเขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องรีบง้อ และชอบฟังนักหนาเวลาเธอบอกว่ารักเขา โตมรไม่กล้าสบตาสวยใส ซื่อ และหวานที่มองเขาและพูดจริงใจว่าเธอรักเขามาก เธอรักทุกอย่างในโลกนี้ เธอรัก “ชีวิต” และอยากให้ทุกคนคิดเหมือนเธอ เวลาที่โตมรยั่วให้โกรธอรอินทุ์จะต่อว่าอย่างน้อยใจว่า ทำไมเขาไม่รักเธอบ้างสักนิด เวลาของเธอมีน้อยเหลือเกินสักวันถ้าเธอต้องไปเขาจะต้องเสียใจ โตมรได้แต่หัวเราะเยาะและปฏิเสธว่าไม่มีทาง อรอินทุ์จึงบอกจริงจังว่า คนเราเมื่อมีชีวิตอยู่ก็ควรทำดีต่อกัน รักกัน และควรบอกรักกันด้วย ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาบอกเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งจากไปแล้ว โตมรยังปากแข็ง หนุ่มสาวทั้งคู่ไปถึงบ้านรวี และพบ ย่าจา (รุจา) เมื่อถามหารุจ รุจาจึงบอกว่าเขาตายไป 50 ปีแล้ว

วันนั้นทั้งคู่กลับกรุงเทพไม่ได้เพราะรถเสีย เย็นนั้นเองโตมรก็ได้รู้หัวใจตัวเอง เมื่อเขาพายเรือให้อรอินทุ์นั่งและเรือล่มเมื่อกระแทกเข้ากับแพผักตบชวาขนาด ใหญ่ทั้งคู่จมหายไปในน้ำ เสียงเรียกของอรอินทุ์ทำให้โตมรพยายามมองหา แล้วเขาแทบไม่เชื่อตาเมื่อเห็นว่า ชายหนุ่มชุดดำหน้าตาคมสันเรียกอรอินทุ์ให้ไปกับเขา แต่อรอินทุ์ปฏิเสธเธอเรียกเขาว่าคุณแสง แสงพยายามกระชากอรอินทุ์ไปด้วย ทว่าโตมรไม่ยอมเขารวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายดึง อรอินทุ์มาจนได้ โตมรทะลึ่งพรวดขึ้นจากน้ำ เขาประคองเธอว่ายเข้าฝั่ง มีคนมาช่วยมากมาย ตัวโตมรเองก็เรียกอรอินทุ์ หรือ ตัวเล็กอย่างที่เขาชอบเรียกเธอ เขาทนไม่ได้ถ้าเธอจะจากไป กำนันทอง ให้โตมรอุ้มอรอินทุ์พาดบ่าและวิ่งจนเธอสำลักน้ำออกมา เมื่อฟื้นสาวน้อยก็กอดโตมรแน่นคร่ำครวญว่าอย่าให้ใครพรากเธอไปจากเขา นาทีนั้นโตมรจึงรู้ว่ามี “ตัวเล็ก” สาวน้อยจอมจุ้นวุ่นวายคนนี้เข้ามาอยู่แล้วเต็มหัวใจ

วันรุ่งขึ้น กำนันทองมาช่วยแก้รถให้โตมร แกบอกว่าแขไขมีบุญคุณกับแกที่รับ ลูกจันทน์ หรือ ตมิสา ลูกสาวแกไว้ให้รักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างดี ก็คือโรงพยาบาลเดียวกับที่ แขไขเป็นเจ้าหญิงนิทรานั่นเอง

เช้าวันรุ่งขึ้น รุจาให้หนุ่มสาวลงมาใส่บาตร เมื่อโตมรจับทัพพี อรอินทุ์ก็วางมือลงบนมือเขาและช่วยกันใส่บาตร โตมรอบอุ่นและมีความสุขที่สุดเมื่อใส่บาตรเสร็จอรอินทุ์จึงบอกว่าเธอเคยเห็น โตมรกับแขไขใส่บาตรด้วยกันมาก่อน ที่บ้านรุจาโตมรพบรูปวาดคล้าย ๆ กับของแขไขมากมาย วิวเดียวกันแต่ต่างมุม สำหรับนักเรียนศิลปะอย่างเขาแล้ว มองดูรู้ว่าผู้วาดมีฝีมือเพียงใด แม้โตมรจะเห็นภาพวาดฝีมือแขไขมากมายแต่ยังไม่มีสายตาละเอียดเหมือนอรอินทุ์ เธอบอกได้ทันทีว่าเคยเห็นรูปนี้ที่นี่อย่างไร ความตายของรุจกลายเป็นปริศนาที่จิรายุให้โตมรและอรอินทุ์ค้นหาความจริง ขณะที่อรอินทุ์เองก็ต้องต่อสู้กับแสงที่พยายามพรากเธอไปจากโตมร ทั้งคู่ไปคุยกับรุจาอีกครั้งจึงรู้ว่ารุจถูกฆ่าตาย เขาถูกมีดปักคาหลังก่อนฆาตรกรจะถีบลงน้ำ รุจลอยมาตายที่บันไดท่าน้ำที่บ้านโดยที่มือยังกำผ้าเช็ดหน้าไว้ด้วย โตมรแปลกใจที่เขามีอาการปวดหลังขึ้นมาทันทีที่รู้ว่ารุจถูกแทง อาการนี้เขาเป็น ๆ หาย ๆ มานานแล้ว อาการที่เหมือนมีอะไรปักคาอยู่บนหลังของเขา โตมร อรอินทุ์ จิรายุ และเอื้อเฟื้อพยายามปะติดปะต่อเรื่องจนรู้ว่า รุจกับแขไขรักกันมาก ทั้งคู่ชอบวาดรูปเหมือน ๆ กัน แต่แขไขต้องแต่งงานกับจิรัสย์ หรือปู่ใหญ่เพื่อทดแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตบิดาเธอ แม้ชีวิตหลังแต่งงานของแขไขจะมีความสุขจนใคร ๆ อิจฉา เวลาผ่านไปถึง 8 ปีกว่ารุจจะถูกฆ่าตายโดยจับใครไม่ได้ ข้อมูลเหล่านี้ทำให้พัดชาร้อนรุ่มราวอกจะระเบิด ถ้าใครเข้าไปในห้องของเธอจะเห็นรูป จิรัสย์เต็มไปหมด ขณะที่ในห้องแขไขไม่มีเลย แสงมาขู่อรอินทุ์มากขึ้น เขาบอกว่าเขาสร้างเธอได้เขาก็จะทำลายเธอได้เช่นกัน อรอินทุ์กลัวจับใจเธอจึงใช้เวลาที่เหลือกับโตมรให้มากที่สุด บอกเขาว่ารักทุกวัน อรอินทุ์ตัดสินใจเชื่อมต่อพลังกับแขไขอีกครั้ง คราวนี้อรอินทุ์ป่วยหนักกว่าทุกครั้ง แขไขดูดพลังชีวิตจากเธอไปจนเกือบหมด แขไขแข็งแรงจนกลับบ้านได้ หญิงสาวต่างวัยมองหน้ากันอย่างเข้าใจกันเป็นอย่างดี แขไขไปบ้านรุจาเพื่อทำบุญให้รุจ เธอต้องการรู้ว่ารุจตายอย่างไร หลักฐานที่รุจาส่งให้แขไขคือ ผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกปีบคู่ ซึ่งแขไขรู้ทันทีว่าใครคือฆาตรกร

ส่วนอรอินทุ์รู้ดีว่า “ชีวิต” และ “ร่าง” ของเธอจวนหมดเวลาแล้ว ความสุขของเธอคือการที่โตมรคอยดูแลเธอไม่ห่าง เขากอดเธอเพื่อถ่ายทอดพลังชีวิตให้แต่มันก็ไม่ใช่ วันหนึ่งอรอินทุ์เร่งให้โตมรไปหาแขไข เธอบอกว่าแขไขอยู่ในอันตราย โตมรอยู่หน้าห้องแขไขได้ยินพัดชาทะเลาะกับแขไข โตมรช็อคเมื่อความจริงก็คือ พัดชาหลงรักจิรัสย์มานาน เธอเสียใจที่จิรัสย์รักแขไข วันหนึ่งเมื่อจิรัสย์กับพัดชาเห็นรูปรุจที่แขไขวาดค้างไว้ จิรัสย์ก็หมดความอดทน พัดชาอาสาช่วยพี่เขยด้วยความรักอย่างสุดหัวใจ โดยไม่รู้ว่าจิรัสย์หลอกให้เธอไปฆ่ารุจโดยบอกว่าเขาจะรอเธอที่โรงแรม เมื่อพัดชากลั้นใจแทงมีดใส่หลังรุจและผลักตกน้ำไปแล้ว เธอกลับโรงแรมแม้จะแปลกใจที่ห้องพักมืดเหลือเกินแต่อ้อมกอดของชายคนหนึ่ง คนที่เธอเข้าใจว่าเป็นจิรัสย์ก็ทำให้เธอหวามไหว พัดชายอมตัวยอมใจเป็นของเขาด้วยความรักอย่างหมดหัวใจ จนเธอท้องจึงต้องแต่งงานกับกวินหมอรุ่นน้องจิรัสย์ พัดชาเข้าใจว่าลูกในท้องของเธอคือจิรายุคือลูกของจิรัสย์ ทว่าแขไขหยิบหลักฐานบางอย่างให้พัดชาดูและบอกว่าพัดชาถูกหลอก จิรัสย์อยู่กับเธอตลอดเวลา พัดชาเข้าใจทันทีว่าชายในคืนนั้นคือกวินนั่นเอง กวินที่แสนดีรักเธอมานานและรักจนตาย พัดชาเตลิดกลับห้องพักขณะที่แขไขออกมาพบโตมร เธอชวนโตมรไปหาอรอินทุ์เพื่อยุติเรื่องทุกอย่างเสียที

เมื่อ 2 สาวต่างวัยพบกัน แขไขและอรอินทุ์เชื่อมพลังเข้าหากัน นาทีนั้นคุณแสงก็ปรากฏ แสงคือ จิรัสย์นั่นเอง เขารักแขไขมากจนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง โตมรมองภาพตรงหน้าเหมือนฝันไป พายุรุนแรงอรอินทุ์กับแขไขจับมือกันแน่นโดยมีจิรัสย์หรือยมทูตแสงจ้องทำลาย อรอินทุ์ แสงบอกว่าอรอินทุ์คือร่างมายาที่เขาสร้างขึ้น และนำวิญญาณของแขไขกับลูกจันทน์มารวมไว้ในร่างอรอินทุ์เพื่อรอวันที่แขไขจะ หมดเวลาและไปอยู่กับเขาจริง ๆ ส่วนร่างของอรอินทุ์ และวิญญาณของลูกจันทน์จะถูกทำลาย แสงอาฆาตโตมรว่าถ้ารู้ว่าเป็นรุจคงฆ่าเสียแล้ว อรอินทุ์พูดกับโตมรเป็นครั้งสุดท้ายว่าเธอจะกลับมาหาเขาให้เขารออยู่ที่นี่ ท่ามกลางลมพายุรุนแรง แสง แขไข และอรอินทุ์สะบัดมือหลุดจากมือของแสง แล้วทุกอย่างก็สงบลง

โตมรรู้ความจริงว่าเขาคือรุจ และแขไขรู้ตั้งแต่วันแรกที่พบกัน ทว่าเวลานี้วันนั้นเขารักและต้องการอรอินทุ์ เมื่อใครถามหาตัวเล็กหรืออรอินทุ์เขาจะบอกว่าผู้ปกครองรับไปแล้ว แขไขนอนสิ้นใจบนเตียงที่อรอินทุ์นอนเป็นประจำ หลังจัดงานศพแขไข โตมรมุจนเรียนจบและไปเรียนต่อต่างประเทศ จากเดิมที่เขาชอบวาดภาพอาวุธ เขาก็หันมาวาดภาพดอกไม้ และร่วมกับโครงการอนุรักษ์พันธุ์พืช โตมรอยู่ต่างประเทศหรือไม่ก็เข้าป่าเพื่อวาดรูป ที่เขาเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมาวาดดอกไม้ก็เพราะอรอินทุ์รักดอกไม้นักหนานั่น เอง โตมรทำงานหนักจนเป็นจิตรกรที่มีผลงานระดับโลก แต่เขาไม่เคยกลับไปที่บ้านเลย คงได้รับแต่จดหมายจากเอื้อเฟื้อและชีวาเป็นระยะ ๆ รวิชาคลอดลูกเป็นหญิงชื่อ น้อยหน่อย และฝากเอื้อเฟื้อและชีวาเลี้ยงเพราะเธอต้องไปทำงานต่างประเทศ ไม่นานนักรวิชาก็แต่งงานใหม่ น้อยหน่อยจึงเป็นลูกเอื้อเฟื้อ และชีวาไปโดยปริยาย

เวลาผ่านไปสิบกว่าปี วันหนึ่งน้อยหน่อยเขียนจดหมายมาบอกว่าเอื้อเฟื้อถูกรถชนกำลังจะต้องเข้าห้อง ผ่าตัด โตมรใจหายรีบเก็บของออกจากป่ากลับกรุงเทพ เขากลัวประวัติศาตร์จะซ้ำรอยเหมือนปกป้อง เมื่อถึงโรงพยาบาลเหมือนเวลาหมุนกลับ โตมรสะดุดบันไดหกล้มที่เดิม ทว่าคราวนี้ลิฟต์เปิดออกสาวน้อยในเสื้อกาวน์รีบเข้ามาดูแลเขา เสียงใส ๆ ของเธอบอกว่าเธอชื่อ แสงตะวัน และเป็นหมอ เมื่อรู้ว่าโตมรมาเยี่ยมเอื้อเฟื้อ แสงตะวันยิ้มจนตาหยี และอาสาพาไปหาเอื้อเฟื้อ เอื้อเฟื้อดีใจที่โตมรกลับมา เธอบอกว่าแสงตะวันหรือเล็กคือ ตมิสา ลูกกำนันทองนั่นเอง โตมรสบตาแสงตะวันแล้ววูบในใจ เอื้อเฟื้อบอกว่าหลังจากฟื้นจากเจ้าหญิงนิทราสาวน้อยคนนี้ก็รีบเรียน ขยันจนจบเร็วกว่าอายุ เรียนแบบตายอดตายอยาก เมื่อกลับบ้านโตมรจึงรู้ว่า “กระท่อมเจ้าเงาะ” เป็น “กระท่อมรจนา” ไปแล้ว เพราะแสงตะวันพักที่นี่ เมื่อโตมรกลับมาเธอจึงไปพักบนตึกกับเอื้อเฟื้อ โตมรและแสงตะวันเหมือนรู้ใจกัน ชายหนุ่มไม่ค่อยกล้า เพราะไม่มั่นใจแต่เมื่อแสงตะวันบอกว่าเธอมีลูกสุนัขและเคยถูกกัดที่นิ้ว เธอให้เขาดูแผลที่นิ้วนางข้างซ้ายเขาก็มั่นใจทันที ยิ่งรู้ว่าหลังจากแสงตะวันฟื้นขึ้นมา เธอรู้แต่ว่าต้องรีบเรียน รีบโต เพื่อไปพบใครคนหนึ่งที่เธอสัญญาว่าจะกลับมาหาเขา คำพูดและกิริยาของแสงตะวันทำให้โตมรรู้ว่าวิญญาณในร่างคืออรอินทุ์ วันหนึ่งแสงตะวันบอกกับเขาว่าเธอหลงรักเขาทันทีที่เห็นภาพของเขา ภาพโตมรศิลปินที่วาดรูปดอกไม้สวย ๆ โตมรตั้งตัวไม่ทัน เมื่อสาวน้อยสบตาเขาเหมือนทวงสัญญา และถลันเข้ามากอดเขาไว้ เธอบอกว่า “เล็กรักโตมาก แล้วโตล่ะไม่รักเล็กบ้างหรือไง” โตมรไม่ตอบแต่กอดเธอไว้แนบอก เหมือนได้ของรักกลับคืน เขาจูบเธอเบา ๆ และบอกว่าเขารักเธอ รักมานานและรอเธออยู่นานมากกว่าจะถึงวันนี้ แสงตะวันจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มกับเขาอย่างอบอุ่น เธอกอดเขาแน่นและบอกว่าเมื่อเห็นโตมรจากในรูป เธอรู้ทันทีว่าโตมรนี่เองคือคนที่เธอต้องตามให้พบเพื่อรักและใช้ชีวิตกับเขาตลอดไป

ธิดาวานร ภาค 3

อิยะ วดี หนีมาอยู่กับแม่มานาตาลี ไม่ยอมกลับเข้าเมือง มิใยใครจะมาขอร้องอ้อนวอน อิยะวดีก็ไม่ยอมกลับไป แต่ก็มิได้เพิกเฉยต่อการดูแลสัตว์เจ็บป่วยป้องกันไม่ให้โดนทำร้าย ขับไล่พวกบุกรุก ต้นน้ำลำธารและป่า มี มะเมี๊ยะ มาร่วมขบวนการ อิยะวดีกับพวกแม่มาเดินทางในป่าด้วยการโหนเถาวัลย์ ส่วนมะเมี๊ยะเดินทางในป่า ด้วยการใช้เส้นผมตวัดเกาะเกี่ยวกิ่งไม้ไปกับอิยะวดี และยังใช้เส้นผมทำร้ายผู้บุกรุกได้ด้วยทั้งสองมีความสุขมาก พนา บุราณ มาแวะเวียนหาเป็นประจำ รวมทั้ง อรุณี ละเอ พินิจ ดำรง และ บัวบาน ทุกคนขอร้องอิยะวดีให้กลับเข้าเมือง มีเพียงละเอคนเดียวที่กลับไปเยี่ยมบ้านให้พ่อหมอทำนายดวงชะตาของอิยะวดี ที่มีแต่เรื่องราวร้ายๆ แปลกประหลาดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ทราบว่าอิยะวดียังไม่หมดกรรม จะต้องประสพเคราะห์กรรมใหญ่อีกครั้ง จากเงื้อมมือมนุษย์ด้วยกัน ละเอจึงเห็นด้วยที่อิยะวดีจะอยู่ในป่าไปสักพักจนกว่าจะหมดกรรม แต่ไม่มีใครเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นอยู่สองปีผ่านไป

ในที่สุดอิยวะดีก็หนีกรรมไม่พ้นบัวบานไม่สบายต้องผ่าตัดใหญ่ อิยะวดีจำใจกลับเพราะรักแม่ห่วงแม่ มะเมี๊ยะออกมาจากป่ามาพักอยู่กับอรุณี อรุณีรับมะเมี๊ยะเป็นลูกเช่นเดียวกับที่เคยรับอิยะวดี บุราณคอยดูแลมะเมี๊ยะ ครูหอมนวล กลายเป็นเลขาและคู่หูคู่ซี้ของอรุณีคอยอบรมบอกกล่าวเรื่อง สังคมคนเมืองให้มะเมี๊ยะรับรู้แบบที่มะเมี๊ยะไม่เต็มใจ

ส่วน พวก คำรณ  พวงมาลี(เอมฤดี) แสงแก้ว(นาถยา) พากันหลบหนีไปอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย หนีเข้า หนีออกไปมา อยู่พักหนึ่งอย่างลำบากยากแค้น ด้วยความที่ต้องพึ่งพาคำรณทำให้คำรณเริ่มมีอำนาจเหนือสองคนแม่ลูก แสงแก้วลุ้นให้พวงมาลีเป็นภรรยาของคำรณตามที่คำรณต้องการ หารู้ไม่ว่า คำรณแอบไปมีกิ๊ก เจ้าเล่ห์ชื่อ มายาวดี พวงมาลีตั้งท้องและคลอดลูกสาวชื่อ น้องไพร แต่คำรณยังคลางแคลงใจว่าอาจเป็นลูกติดท้องมากับแสนไท

มายาวดีพาคำรณไปพบกับ หม่องติ๊ด มาเฟียใหญ่แห่งสองชายแดน หม่องติ๊ดกำลังต้องการมือขวาชั้นดีแทนที่คนเก่าที่โดนยิงตายขณะต่อสู้กับ ตำรวจ คำรณ แสงแก้ว พวงมาลีและน้องไพร จึงมีชีวิตที่ดีขึ้นจากเงินบาป ทั้งสามสาบานว่าจะแก้แค้นพวกอิยะวดีและพนาให้ได้ คำรณเริ่มขยายเครือข่ายเข้ามาในเมือง เพื่อสืบเรื่องราวของพนาและอิยะวดี บางครั้งก็ย่ามใจลงทุนปลอมตัวมาเอง เช่นเดียวกันทางการก็ยังไม่เลิกตามหาตัวทั้งสามเอามาลงโทษตามกฎหมาย

วันที่ดำรงและบัวบานมารับอิยะวดีเข้าเมือง พนากับบุราณตั้งใจจะไปส่งอิยะวดีกับมะเมี๊ยะ แต่เกิดเหตุ มีคนมาตัดไม้ทำร้ายป่า เผาป่าฆ่าสัตว์ในป่า ทั้งหมดประกอบด้วยพรานเส็ง มะสังและลีกอ รีบไประงับเหตุด่วน อิยะวดีจึงกลับบ้านกับพ่อแม่ตามลำพัง ส่วนอรุณีกับหอมนวลมารับมะเมี๊ยะไปอยู่บ้านดอย ละเอ คัดค้านว่าอย่าเพิ่งไปรับอิยะวดี ไม่มีใครฟัง ละเอสุดทัดทานพยายามสวดมนต์ช่วยอิยะวดี ส่วนอิยะวดีนั่งรถมากับพ่อแม่กลับบ้าน แว่วได้ยินเสียงสวดมนต์ดังแว่วมาตลอดเวลา พึมพำสวดตามทั้งสามไม่รู้ตัวว่าสายของคำรณติดตาม กว่าจะรู้ตัวก็มาถึงจุดที่คำรณ พวงมาลี แสงแก้ว ดักรอทำร้าย

สาม คนโดนถล่มอย่างรุนแรงรถพลิกคว่ำระเบิด อิยะวดีกระเด็นออกมาจากรถทั้งที่ปากยังสวดมนต์ตามเสียงที่แว่วมา  ส่วนดำรงกับบัวบาน เสียชีวิตติดอยู่ในรถ

พนากับบุราณ ระงับเหตุเสร็จ รีบติดตามมาเพราะห่วงประกอบกับบุราณสังหรณ์ใจในคำทำนายของละเอ แต่ก็พลาดไปเส้นยาแดงผ่าแปด ทั้งหมดมาพบรถพลิกคว่ำระเบิด พยายามจะเข้าไปช่วยกลับโดนพวกคำรณยิงปะทะใส่ พนาเห็นอิยะวดี กำลังตะเกียกตะกาย บาดเจ็บ พยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปจะช่วย  แต่ไม่ทัน อิยะวดีโดนรุกไล่คลานหนีจนตกลงไปในหน้าผาน้ำตกสูงลิ่วต่อหน้าต่อตา พนาจะกระโดดตาม แต่อิยะวดีลอยละลิ่วลงไปเบื้องล่างก่อน

อิยะวดีตกลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกราก พัดไหลไปไกลพอสมควร ศีรษะกระแทกโขดหินสลบไป กำลังจะจมน้ำ จระเข้ของมะเมี๊ยะมาว่ายน้ำเล่นพบเข้าจึงเอาตัวดันอิยะวดีมาเกยไว้ริมฝั่ง ลำธารแห่งหนึ่ง อิยะวดีสลบไปเจ็ดวันเจ็ดคืน ระหว่างที่สลบอยู่อิยะวดี ได้รับการดูแลจากลิงแฝดแสนรู้สองตัวพี่น้อง

อิ ยะวดีฟื้นขึ้นมา ความจำเสื่อม ไขว้เขว อิยะวดีเข้าใจว่าลิงสองตัวคือลิงอุอุ๊กับลิงอิอิ๊ที่พบในสวนสัตว์สิงค์โปร์ อิยะวดีทำตัวเป็นลิงเหมือนตอนเด็ก ๆ ตะโกนเรียกหาแม่มาแม่มาตลอดเวลา รอนแรมไปในป่ากับอุอุ๊ อิอิ๊ ลืมทุกอย่างเบื้องหลังจนหมดสิ้น แต่ยังคงรักสัตว์และดูแลสัตว์ในป่าต่อไป

พนา อรุณี จัดการพิธีศพของบัวบานและดำรงเสร็จรีบออกตามหาอิยะวดี ทั้งพี่นก แม่มานาตาลี ช่วยกันตามหาตลอดเวลาแต่ไม่พบ เพราะอิยะวดีไปไกลมากคนละเขตแดนป่า พวกแม่มานาตาลีเข้าไปไม่ได้ พี่นกหาจนพบ ทักทายอิยะวดีแต่อิยะวดีจำไม่ได้ อุอุ๊ อิอิ๊ช่วยกันไล่ส่งพี่นกไป พี่นกเสียใจมาก มะเมี๊ยะไปหาจระเข้ รู้ข่าวจากจระเข้ว่าพาอิยะวดีไปส่งไว้ริมลำธารแห่งหนึ่ง มะเมี๊ยะ พนา บุราณ ทุกคนไปยังริมลำธารดังกล่าวไม่พบอีก พนาพยายามสลักรูปหัวใจให้อิยะวดีเห็น และแล้ว คืนวันหนึ่งพนาได้ยินเสียงอิยะวดีตะโกนเรียกหาแม่มาแว่ว ๆ มาแต่ไกล

พนา รีบร้อนออกไปตามเสียงโดยไม่บอกใคร พนาได้พบอิยะวดีผมยาวขึ้น กู่ร้องอยู่บนต้นไม้ พนาเรียกอิยะวดี อิยะวดีไม่รู้จักพนา แถมทำท่าขู่ใส่พนา มิใยพนาจะพยายามอย่างไรอิยะวดีก็โกรธเช่นเดิม สุดท้ายลิงแฝดสองตัวออกมาขับไล่พนา ด้วยการระดมปาด้วยสารพันสิ่ง ส่วนอิยะวดีหนีหายไป พนาเสียใจผิดหวังมาก พาพรรคพวกตามหาอิยะวดีต่อไป

พบเจอกันหลายครั้ง พนาและพวกจึงสันนิษฐานได้ว่า อิยะวดีความจำเสื่อม หรือไม่ก็แกล้งทำไม่รู้จัก เพราะไม่อยากออกจากป่า แต่พนาก็ตั้งใจว่าจะพยายามต่อไปไม่สิ้นสุด จนกระทั่งสองปีผ่านไป คำรณ พวงมาลี แสงแก้วโดนไล่ล่าจากทางการทั้งเรื่องผิดกฎหมาย และเรื่องฆาตกรรมบัวบานกับดำรง ต้องหนีข้ามแดนไปกลับโชคร้าย เจอกองกำลังไม่ทราบฝ่ายผลักดันไล่ล่าจำต้องหนีหัวซุกหัวซุน

คำรณวางแผนจะเอาน้องไพรไปเป็นเหยื่อล่อเพื่อเบนความสนใจ แสงแก้วกับพวงมาลีตกใจมากจึงลอบเอายานอนหลับใส่ให้น้องไพรกินจับตะกร้าลอย น้ำ อธิษฐานให้ปลอดภัย พบคนใจดีมีเมตตาดูแล คำรณ

รู้เรื่องเนื่องจากแอบได้ยินสองแม่ลูกบอกกันว่าน้องไพรคือลูกของคำรณต่างหาก ส่วนลูกของแสนไทนั้นแท้งไปแล้ว  คำรณยิ่งโกรธมากตบตีทำร้ายสองแม่ลูกอย่างรุนแรง แสงแก้วกับพวงมาลีนั่งกินน้ำตาแทนข้าวทุกวัน ตั้งใจว่าจะตามหาน้องไพรให้พบสักวัน คำรณก็เช่นกันเสียดายที่ทำให้น้องไพรต้องโดนลอยน้ำไปใจแทบขาด

น้องไพรลอยมาตามน้ำ อิยะวดีกำลังว่ายน้ำเล่นกับลิงอุอุ๊ อิอิ๊ พลางตะโกนเรียกหาแม่มา เจอรูปหัวใจที่ต้นไม้ที่ก้อนหิน ฉุกคิดหยุดมอง เหมือนจะจำได้ แต่ก็จำไม่ได้เพราะเลือนรางมาก การพูดจาก็กลับกลายเป็นพูดได้สั้นๆเป็นคำหรือสองสามคำ บางครั้งอิยะวดีก็เหม่อลอย ว้าเหว่ เหมือนคิดถึงอะไรบางอย่างได้แล้วก็เลือนหาย ขณะนั่งเหม่อลอยที่โขดหิน อุ๊อ๊อิอิ๊ ชี้ให้ดูตะกร้าลอยน้ำมา อิยะวดีกับสองลิง พากันไปเอามาเปิดดู เห็นเด็กน้อย วัยสี่ขวบหลับปุ๋ยอยู่ในตะกร้าผูกติดขอนไม้ท่อนใหญ่โดยรอบกันจมน้ำ อิยะวดีดีใจมากที่ได้พบมนุษย์ตัวเล็ก ๆ หลุดปากเรียกออกมาว่า ลูก ลูกมา อิยะวดีโอบกอดเห่กล่อมเป็นทำนองเพลง ฮัมไปมาไม่มีคำเนื้อร้อง  ลิงแฝดสองตัวมาด้อมมองสงสัย ตื่นเต้นไปด้วย อิยะวดีกล่อมเด็กจนตัวเองเอาเด็กหลับคาอ้อมอก พักหนึ่งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเด็กร้องไห้ น้องไพรตื่นขึ้นมาตกใจแปลกที่ แปลกคนอุ้มแถมมีลิงสองตัวมองอยู่  น้องไพรตะโกนหาแม่แม่แม่ ๆ ๆ สลับร้องไห้ อิยะวดีตั้งตัวเป็นแม่ของน้องไพร ชี้ตัวเองว่าแม่มา มีภาพในหัวบังเกิดขึ้น เป็นลิงแม่มาโอบกอดเด็กน้อยไว้บนตัก

เด็กน้อยเรียกหาแม่มา ๆ ๆ ๆ ลิงแฝดไปหากล้วยหาผลไม้มาให้น้องไพรกิน อิยะวดีรักน้องไพรยิ่งกว่าใด ๆ น้องไพรก็รักอิยะวดีติดแจ เรียกแม่มาทุกคำ อิยะวดีเรียกน้องไพรว่า ลูกมา สองคนสื่อสารกันง่าย ๆ สั้น ๆ ทั้งภาษาใบ้ สายตาความรู้สึก และคำพูดสั้นแต่ซาบซึ้ง ที่เริ่มนึกได้ทีละน้อย เช่นรักลูกมา รักแม่มา อิยะวดีชี้บอกว่าลูกมาชื่ออะอ๊ะ บางครั้งฝันเห็นพนา ที่ฝันบ่อยที่สุดคือภาพบัวบานกับดำรงติดในรถที่ระเบิดไฟครอกตาย ฝันทีไร อิยะวดีจะกรีดร้องคำว่า แม่มาพ่อมา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนหน้าพบน้องไพร ลิงแฝดปลอบโยน เช็ดน้ำตาให้กอดด้วย มาตอนนี้  มีน้องไพร เช็ดน้ำตากอดหอมแล้วร้องไห้ตาม ทำให้อิยะวดีหยุดร้องเพราะสงสารน้องไพร ที่น่าแปลกอีกอย่าง คือน้องไพรมีปานสีแดงรูปหัวใจคู่อยู่ที่แผ่นหลังถ้าใส่เสื้อผ้าจะไม่เห็น  อิยะวดีพยายามคิดว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เอามาเปรียบเทียบกับที่พนาเขียนไว้ในบางแห่ง อิยะวดีเริ่มขีดเขียนรูปหัวใจบ้าง ทำให้พนาได้พบร่องรอยของอิยะวดีเพิ่มขึ้น

บุราณยังคงขึ้นร่องเชียงใหม่กรุงเทพเป็นประจำ พามะเมี๊ยะไปด้วย มะเมี๊ยะตื่นเต้นตกใจ กลัวผู้คนแปลกหน้า แต่บุราณคอยปลอบโยน บุราณพามะเมี๊ยะไปพบเพื่อนฝูง บางคนหัวเราะเยาะมองความไร้เดียงสาของมะเมี๊ยะเป็นความเปิ่นความโง่เขลาตัว ตลก โดยเฉพาะ พิยะดา กับเพื่อนที่หมายปองบุราณ ชอบแอบกลั่นแกล้ง จนมะเมี๊ยะขวัญเสีย วิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง ตามหาตัวกันจ้าละหวั่น มะเมี๊ยะหนีด้วยการเอาเส้นผมตวัดตามที่สูง หนีลงไปบ่อจระเข้สร้างความแตกตื่นไปทั้งเมือง จระเข้ไม่กัดมะเมี๊ยะแถมทำท่าสยบ หนังสือพิมพ์ลงข่าว ทีวีมาถ่าย บุราณต้องขอร้องให้ยุติทั้งหมด ไปให้ห่างที่สุด  มะเมี๊ยะจึงยอมมาหาบุราณ บุราณพามะเมี๊ยะกลับมาเชียงใหม่ ครูหอมนวลกับอรุณีดูแล มีแอนโตนิโอเป็นเพื่อน ไปเยี่ยมจระเข้บ้าง แอนโตนิโอเกิดปัญหากับหอมนวล น้อยใจว่าอรุณีรักหอมนวลสนิทกับหอมนวลมากกว่าตัวเอง หนีออกจากบ้าน มะเมี๊ยะต้องออกติดตามไปรับกลับมา

การ ตามหาอิยะวดีของพวกพนา มะเมี๊ยะ บุราณ แม่มานาตาลีดำเนินต่อไป พนาทุกข์ใจกว่าใคร ๆ ละเอนั่งสมาธิมองหาและส่งเสียงเรียกอิยะวดี อิยวะดีได้ยินแต่จำไม่ได้ว่าตัวเองชื่ออิยะวดี  มะเมี๊ยะส่งจระเข้ออกตามหาเผื่อว่าอิยะวดีจะมาเล่นน้ำตามลำธาร ในที่สุดก็ได้ร่องรอยของอิยะวดีเพราะพ่อหมอข้ามฝากมาช่วยเพ่งมองหา ทุกคนจึงพากันติดตามหาอิยะวดีตามร่องรอยที่พ่อหมอบอกให้ คำรณข่มขู่คุกคามสองแม่ลูกจนหงอ ไม่กล้าหือสองคนเริ่มเสียใจในสิ่งที่ทำไปทีละน้อย อยากจะหนีจากคำรณเพื่อไปตามน้องไพร คำรณก็ไปลากตัวกลับมาทุกครั้ง คำรณเข้ากับมายาวดีกิ๊กใหม่ ได้ดีมาก

หม่องติ๊ด สร้างเมืองแม่ม้ายให้มายาวดีหลอก ฉุดคร่ากักขังหน่วงเหนี่ยวสาวสวยจำนวนมาไว้ให้อาณาจักรที่สร้างภาพว่าเป็น เมืองแม่ม้าย หรือเมืองคนอกหัก ไม่กินเนื้อสัตว์ รักษาศีล หลอกคนแก่เอาไว้เป็นคนรับใช้ มีพวกทอมเป็นบอร์ดี้การ์ด พวกสาวสวย มาแล้วมักหายไป มายาวดีบอกทุกคนคือพวกนั้นฟื้นฟูจิตใจดีแล้วจึงขอกลับบ้าน แต่ความจริงถูกส่งไปขาย มายาวดีมีลูกน้องฝาแฝดสวยงามแต่ชั่วร้ายสองคนชื่อ เมธาวดี และมาธาวดี คอยช่วยมายาวดีหลอกล่อหญิงสาวและหญิงแก่มากักขัง

มายาวดีอิจฉาพวงมาลีที่สาวสวยกว่า แม้ว่าคำรณจะดูมีความสุขกับมายาวดี แต่มายาวดีรู้ดีว่าคำรณรักพวงมาลีมากที่สุด จึงหาทางแกล้งจับตัวสองแม่ลูกไปไว้ในเมืองแม่ม้ายของตัวเอง ตั้งใจจะเอาพวงมาลีไปขายต่อ ส่วนแสงแก้วเอาไปรับใช้  ใช้วิธีตีสนิทแล้วหลอกสองคนว่าจะพาหนีให้พ้นจากคำรณ ที่แท้เอาไปกักขัง

เวลาผ่านไปอีกสองปีอิยะวดี เริ่มนึกภาพเก่า ๆ ได้มากขึ้น ได้ยินเสียงเรียกของละเอบ่อยเข้า อิยะวดีเริ่มอยากรู้ว่าใครคืออิยะวดี เสียงเรียกนั้นเริ่มดังใกล้มากขึ้น อิยะวดีขีดรูปปานหัวใจของลูกมาอะอ๊ะ ไว้ตามต้นไม้ ทำให้พนาเริ่มมีกำลังใจเพราะพบสัญลักษณ์ที่เคยมีต่อกันไว้

ลิงอุ๊อุ๊อิอิ๊ สอดรู้สอดเห็นกองคาราวานของพวกพนา ที่รอนแรมมาตามหาอิยะวดีเห็นอาหาร น่ากิน เสื้อผ้าของพวกพนา แอบหยิบฉวยขโมยมาให้อิยะวดีกับอะอ๊ะ อิยะวดีมองผ้ามองของที่ได้มา คุ้นเคยมาก จึงพยายามคิดว่าจะเอามาทำอย่างไร ในที่สุดจิตใต้สำนึกก็บอกให้อิยะวดีทำเสื้อผ้าจากที่ได้มาให้อะอ๊ะใส่ เอาอาหารกระป๋องมาเปิดกินพวกพนาแปลกใจมากเพราะของหายทุกวัน บางทีหายกลางวัน บางทีหายกลางคืน จึงวางแผนล่อจับขโมย พบว่าผู้ที่ขโมยคือลิงสองตัว จึงพากันสะกดรอยตามลิงทั้งสอง

มะเมี๊ยะเอาเส้นผมตวัดรัดลิงสองตัวไว้ได้ ลิงร้องโวยวาย อิยะวดีตกใจออกมาช่วยลิงทั้งสอง โดยมีอะอ๊ะติดหลังมาด้วย พนา บุราณ มะเมี๊ยะถึงแก่ตะลึง เพราะผู้ที่มาช่วยคืออิยะวดีนั่นเอง แต่อิยะวดีไม่ยอมรู้จักทุกคน พยายามจะเล่นงานทุกคนแบบเอาเป็นเอาตาย

น้อง ไพรเห็น พนา บุราณ ดีใจมากตะโกนเรียกพ่อพ่อมา อิยะวดี ขณะที่อิยะวดีและลิงจะเพลี่ยงพล้ำโดนพวกพนาจับได้ เกิดพายุใหญ่กระหน่ำพัดมา อิยะวดีน้องไพรลิงแฝดหนีไปอยู่บนต้นไม้ พายุถอนรากถอนโคนปลิวไปต่อหน้าต่อทุกคนที่พยายามจะเจรจากับอิยะวดี ทุกคนกับอิยะวดีจึงพลัดพรากจากกันอีกครั้ง

ต้นไม้ลอยตามแรงพายุไปตกใกล้เมืองแม่ม้ายของมายาวดี ทุกคนสลบทั้งลิงอิยะวดีน้องไพร พวกพนาก็บาดเจ็บเสบียงปลิวหายหมด ต้องกลับบ้านมือเปล่าอีกครั้ง พวกอิยะวดีฟื้นขึ้นมา พบว่าลอยมาไกลมาก หิวโหยและบาดเจ็บ ได้ยินเสียงเพลงแว่วมาจากไม่ใกล้ไม่ไกล อิยะวดีกระเตงลูกมา มีลิงแฝดลัดเลาะไปตามต้นไม้ตามเสียงเพลง มองเห็นอาณาบริเวณสวยสดงดงามมีลำธาร มีบ้านเล็กบ้านน้อย เต็มไปหมด อิยะวดีรู้ทันทีว่าที่นี่มีคนมีอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ประกอบกับเห็นหญิงสาวสวยแต่งกายแปลก ๆ ออกแนวโบราณกำลังร้องรำทำเพลง มีมายาวดี เมธาวดีประกอบซ้ายขวาเหมือนองครักษ์ กำลังชมการแสดงของพวกสาวสวย พวกคนแก่กำลังพัดวีให้ อิยะวดีและพวกดีใจตื่นตาตื่นใจมาก ที่สุดลิงแฝดลักลอบขโมยอาหารและเสื้อผ้าของพวกเมืองแม่ม้ายมาให้ลูกมากับอิ ยะวดีดัดแปลงใส่แทนตัวเก่าที่ฉีกขาด

อิยะวดีนึกได้จากส่วนลึกของจิตใจ ว่าควรมีเสื้อผ้าเปลี่ยนให้น้องไพร ควรทำผมสวย ๆ ให้น้องไพร อิยะวดีจึงคิดปักหลักใกล้เมืองแม่ม้ายเพราะอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ น้องไพรจะได้สบายขึ้น อิยะวดีทำซุ้มโพรงหรือเข้าไปอยู่ในถ้ำ ใกล้เมืองแม่ม้าย พวกในเมืองแม่ม้าย เริ่มแปลกใจทะเลาะตบตีกันเอง หาว่ามีการขโมยของเช่นเสื้อผ้าและอาหารของกันและกัน ความแตกตอนที่พวงมาลีกับแสงแก้วที่โดนจับมากำลังหลับสนิทเพราะอ่อนเพลีย โดนลิงแฝดมาขโมยอาหารและเสื้อผ้า ทำให้มายาวดีรู้ว่าที่แท้ไม่มีใครขะโมยกันเองแต่เป็นลิง คิดว่าเป็นลิงซุกซน จึงไม่สนใจให้ป้องกันของกันเอง

พวกพนาพักฟื้นเพียงไม่กี่วันก็ออกเดินทางต่อไปในทิศทางที่เห็นต้นไม้ลอยไป วันก่อน แต่ไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อน เนื่องจากไม่มีสัญลักษณ์หัวใจคู่ที่อิยะวดีเคยทำไว้พนาไปเจอเอาพวกของมาเฟีย หม่องติ๊ด นำโดยคำรณแต่ปิดหน้าพรางเอาไว้ พนาจึงไม่รู้ว่าคือคำรณที่ออกตามหา แสงแก้วและพวงมาลีเพราะคิดว่าหนีหายไปไม่รู้ว่าโดนมายาวดีหลอกไปขัง คำรณฉวยโอกาสเล่นงานพนากับพวก

บุราณ บาดเจ็บ มะเมี๊ยะพากระโดดน้ำดำหายลงไปในลำธาร พลางเอาผมสะบัดสู้ใส่พวกสมุน คำรณจึงรอดหนีไปได้ และพยายามจะช่วย พนาที่บาดเจ็บจนมุมกำลังจะโดนฆ่า อิยะวดีพาน้องไพรใส่หลังออกมาเล่นน้ำริมลำธาร  พนาเห็นอิยะวดีตะโกนบอก อิยะวดีช่วยพนาด้วย อิยะวดีได้ยินคำว่าพนา เหมือนได้ยินชื่อที่ติดในหัวใจ น้องไพรจำพนาได้เรียกพนาว่าพ่อมา มาพ่อมา ช่วยพ่อมา อิยะวดีตัดสินใจช่วยพนา คำรณเห็นอิยะวดีมาช่วยพนา มีเด็กมาด้วย เข้าใจว่าเป็นลูกของพนากับอิยะวดีไม่รู้ว่าที่แท้ลูกตัวเองเพราะจากกันหลาย ปีทำให้จำหน้าเด็กไม่ได้ (ตอนที่ใส่ตะกร้ามากับตอนนี้ให้คนละคนไม่อย่างนั้นจะหน้าหมือนกันหรือไม่ก็ ทำผมคนละแบบ )คำรณอิจฉาที่สองคนมีลูกจึงคิดฆ่าทั้งสามคน ปาด้วยระเบิด แต่ลิงแฝดรับระเบิดไว้ได้ ปากลับใส่พวกคำรณหนีกันกระเจิดกระเจิง

อิยะวดีพาพนามารักษาอยู่นานพอสมควร ลิงแฝดขโมยเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มอาหารและหายาสมุนไพรมารักษาพนาจนอาการดี เป็นลำดับ น้องไพรติดพนาหนึบเรียกพนาว่าพ่อมาเรียกตัวเองว่าลูกมาอะอ๊ะ ช่วงนี้พนามีความสุขมาก มีอิยะวดีดูแล แม้จะยังความจำเสื่อม แต่พนาได้โอกาสเจ็บไม่เลิกค่อย ๆ สะกิดความจำของอิยะวดีให้รื้อฟื้น อิยะวดีกับพนาเหมือนคนรักกันครั้งใหม่ ต่างพอใจกันและกัน แต่แล้วก็เกิดอุปสรรคอีกจนได้

คำรณบอกกับมายาวดีให้จับตัวอิยะวดีไปยกให้หม่องติ๊ด มายาวดีรู้ว่าอิยะวดีคือหัวหน้าลิงสองตัวที่มาขโมย จึงรับปากหาทางจับอิยะวดี ในที่สุดก็จับสำเร็จ พนาที่กำลังจะสัมฤทธิ์ผลเรื่องพาอิยะวดีและน้องไพรกลับบ้านคอยแล้วคอยอีก อิยะวดีไม่กลับมาพนาจำต้องอยู่ต่อไปเพื่อดูแลน้องไพรที่ร้องไห้ เรียกแม่มา ๆ ๆ ตลอดเวลา

อิยะวดีโดนจับไปขังรวมกับสองแม่ลูก แสงแก้ว พวงมาลี ครั้งแรกมายาวดีตั้งใจจะส่งพวงมาลีให้หม่องติ๊ด แต่มาพบอิยะวดีจึงตัดสินใจส่งให้ทั้งสองคน อิยะวดีต้องอยู่รวมกับพวงมาลีและแสงแก้ว ที่ยังคงเกลียดชังและจ้องเล่นงาน อิยะวดีจำสองคนไม่ได้ แต่สองคนจำอิยะวดีได้  ทั้งสามจึงมีปัญหาตลอดเวลา ทะเลาะตบตีกันจนป่วนไปหมด ถึงเวลาพาสองคนไปมอบตัวให้หม่องติ๊ดในตัวเมือง อิยะวดีคิดแผนหนีตลอดทาง พวงมาลีเอาแต่ร้องไห้ อิยะวดีจะหนีกลับไปหาพนากับอะอ๊ะ พวงมาลีรู้ดีว่าอิยะวดีเก่งต้องพาหนีได้จึงหลอกล่อให้พาหนี

อิยะวดีก็พาพวงมาลีหนีมาได้ พวงมาลีขอร้องให้อิยะวดีกลับไปช่วยแสงแก้ว อิยะวดีรับปาก แต่ขณะที่กำลังจะพาแสงแก้วออกมา อิยะวดีวางแผนจะพาทุกคนหนีเพราะรู้ว่า ทุกคนโดนหลอก ป่วนไปทั้งเมืองทุกคนหนีได้ปลอดภัย แต่คนที่โดนจับกลับเป็นอิยะวดี เพราะโดนสองแม่ลูกหักหลังตะโกนเรียกการ์ดมาจับ อิยะวดีโดนจับไปทรมาณอย่างทารุณ

พนา ตัดสินใจพาน้องไพรบุกไปที่เมืองแม่ม้าย เพราะพบสัญลักษณ์ที่อิยะวดีทิ้งไว้ ลิงแฝดขโมยยานอนหลับของมายาวดีมาแอบใส่ให้พวกการ์ดของมายาวดีกิน เข้าไปช่วยอิยะวดีออกมาได้ พนาอ้อนวอนให้อิยะวดีตามไปกับพนาเพื่อเห็นแก่น้องไพรสำเร็จ

แสงแก้ว พวงมาลีหนีออกมาได้ หันไปค้าของผิดกฎหมายเพื่อยังชีวิต เพื่อมีเงินตามหาน้องไพร ไม่ได้ย้อนกลับไปหาคำรณอีก คำรณยังคงตามหาน้องไพรกับพวงมาลี และเริ่มเบื่อหน่ายมีปัญหากับมายาวดี คำรณคิดตั้งตัวเป็นใหญ่หักหลังหม่องติ๊ด วางแผนการใหญ่หลอกใช้มายาวดี ในที่สุดมายาวดีกับหม่องติ๊ดก็ติดกับดัก คำรณแอบแจ้งทางการว่าเป็นผู้หวังดี ว่ามีการส่งมอบของผิดกฎหมาย คำรณแอบยักยอกของหม่องติ๊ดเกือบทั้งหมดใส่ในกล่องนมเด็ก เพื่อส่งมอบให้เอเยนต์รายใหญ่หน้าใหม่ ซึ่งที่แท้ก็คือพวงมาลีและแสงแก้วนั่นเอง ทั้งสามพบกันคืนดีกันอีกครั้ง

พนาพาอิยะวดี กับอะอ๊ะกลับเข้ามือง มีอุอุ๊ อิอิ๊มาส่งถึงชายเขตป่า มีแม่มานาตาลีมารับที่เขตแดนของตัวเอง อิยะวดีพยายามทำทุกอย่างเพื่อน้องไพร ด้วยความอดทน แม้ว่าจะอยากกลับเข้าไปในป่าก็ตาม มีบางครั้งอิยะวดีพาน้องไพรและมะเมี๊ยะไปดูแลสัตว์ในป่า ขอไปเยี่ยมลิงแฝดบ้าง พนารับปาก พี่นกสื่อข่าวนัดหมายให้ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ คำรณ พวงมาลี แสงแก้วส่งยาเสพย์ติด และออกตามหาน้องไพร ลิงแฝดสองตัวพบเห็นการขนยาของทั้งสามจึงบอกพี่นกให้รู้มาแจ้งกับอิยะวดี พนาแจ้งต่อกับเจ้าพนักงาน

พวกคำรณก็สืบทราบเช่นกันว่า พวกพนากำลังพากันมาในป่า จึงจัดการวางแผนสังหารหมู่พวกพนา ในที่สุดทั้งสองฝ่ายมาพบกันปะทะกัน ฝ่ายพนาอาวุธสู้ไม่ได้จึงเริ่มพ่ายแพ้น้องไพรตกใจวิ่งหนีออกไปกลางวงปะทะ พวกคำรณจับเด็กมาเป็นตัวประกันโดยไม่รู้ว่านั่นคือลูกหลานตัวเอง หลอกล่อให้พนากับอิยะวดีออกมาให้สังหารหมู่สามคนพ่อแม่ลูก อิยะวดีกับพนาถลันตามมาจะเอาน้องไพรคืน

น้อง ไพรสลัดมือจากพวงมาลีกัดแสงแก้ว เพื่อให้หลุดพ้นไปหาอิยะวดีกับนาตาลีโดยเร็วทำให้เสื้อด้านหลังขาด เห็นแผ่นหลัง ขณะที่คำรณขว้างระเบิดใส่สามคนที่กำลังกอดกัน พวงมาลีตกตะลึงเพราะมองเห็นปานแดงรูปหัวใจคู่ของน้องไพร เช่นเดียวกับแสงแก้วที่เห็นปานแดงนั้น สองคนตะโกนเรียกน้องไพร และห้ามคำรณไม่ให้ขว้างระเบิดใส่น้องไพรลูกตัวเอง ไม่ทันแล้ว คำรณขว้างมา พนารวบน้องไพรดึงอิยะวดีกระโดดหลบ มีมะเมี๊ยะตวัดเส้นผมปัดระเบิดกระเด็นไปโดนเอาแสงแก้วกับพวงมาลีที่วิ่งไปหา น้องไพรระเบิดโดนสองคนเข้าเต็ม ๆ

คำรณแทนที่จะช่วย สองคนกลับหนี โชคร้ายเจอเอาหม่องติ๊ดกับมายาวดีที่แหกคุกออกมายิงคำรณต้องหนีกลับมาที่แสง แก้วและพวงมาลี ตำรวจมาสมทบทันเวลาจับพวกหม่องติ๊ดได้ คำรณพวงมาลี แสงแก้ว มาสารภาพผิดกับอิยะวดี เด็กที่รับรู้แล้วว่าอะอ๊ะคือลูกสาวของพวงมาลีกับคำรณ พยายามขอกอดน้องไพรก่อนตาย แต่น้องไพรไม่ยอมเข้าไปหาทั้งที่อิยะวดีกับพนาขอร้องให้ไปหาสามคน มิหนำซ้ำยังบอกตะโกนว่าเกลียด ๆ ๆ ใส่สามคน สามคนเสียใจเจ็บช้ำรู้สึกถึงการสูญเสียที่เคยทำกับอิยะวดีแต่ก็สายเกินไป จึงขอฝากให้ดูแลน้องไพรด้วย พนากับอิยะวดีรับปาก

หลังจากเหตุการณ์ร้ายผ่านไป อิยะวดีกลับมาอยู่บ้านดูแลน้องไพรให้มีชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป อิยะวดีทำหน้าที่พิทักษ์ป่าร่วมกับพนา ร่วมกับบุราณและมะเมี๊ยะ พ่อหมอบอกว่าอิยะวดีหมดกรรมแล้ว ต่อไปนี้ชีวิตมีแต่ดีงามตลอดไป อิยะวดีตัดสินใจร่วมชีวิตกับพนามีลูกเป็นน้องไพร มะเมี๊ยะกับบุราณก็ตัดสินใจร่วมชีวิตกัน มีการฉลอง ท่ามกลางฝูงสัตว์ในป่า ไม่มีการเลี้ยงหรูหราไม่มีการแต่งตัวสวยงาม แต่ทุกคนก็ยินดีมีความสุขสนุขกันทั่วหน้า อย่าลืมติดตามชม ละครธิดาวานร 3 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.40 น. ทางช่อง 7 สี

รายชื่อนักแสดงใน ละคร ธิดาวานร 3

อาเมเรีย  จาคอป   แสดงเป็น   อิยะวดี
นัททิว   แสดงเป็น   เชิงดอย
วงศกร  ปรมัตถากร   แสดงเป็น   พนา
อัญรินทร์  ธีราธนันพัฒน์   แสดงเป็น   มะเมี๊ยะ
เขตต์  ฐานทัพ   แสดงเป็น   บุราณ
ดวงดาว  จารุจินดา   แสดงเป็น   อรุณี
ชมพูนุช  ปิยะธรรมชัย   แสดงเป็น   มายาวดี
อุษณีย์  วัฒฐานะ   แสดงเป็น   พวงมาลี/เอมฤดี
มัณฑนา  หิมะทองคำ   แสดงเป็น   แสงแก้ว/นาถยา
ฐรินดา  กรรณสูต   แสดงเป็น   บัวบาน
ทูน  หิรัญทรัพย์   แสดงเป็น   พินิจ
ปิยะ  วิมุกตายน   แสดงเป็น   คำรณ
ยุวดี  เรืองฉาย   แสดงเป็น   ละเอ
ณัฎฐา  ลอยด์   แสดงเป็น   ครูหอมนวล
เอกพัน  บรรลือฤทธิ์   แสดงเป็น   เสี่ยหม่องติ๊ด
ทนงศักดิ์  ศุภการ   แสดงเป็น   เชิงชาย
ประถมาภรณ์  รัตนภักดี   แสดงเป็น   เอื้องดอย
ศตวรรษ  ดุลยวิจิตร   แสดงเป็น   ดำรง   ในละคร ธิธิดาวานร 3
เกริก  ชิลเลอร์   แสดงเป็น   พรานเส็ง

ธิดาวานร

ธิดาวานร เป็นเรื่องราวของ เมงกาเลีย สาวน้อยชาวป่าที่ถูกรับเลี้ยงดูจากลิงอุรังอุตังแม่ลูกคู่หนึ่งจนคิดว่าเธอมีแม่เป็นลิง เมงกาเลียหรือที่ใครๆเรียกว่า อิยวดี (อิ-ยะ-วะ-ดี) ต้องดำเนินใช้ชีวิตแบบชาวป่าทำให้ชาวบ้านต่างเรียกขานเธอว่าเป็นคนป่า, ผีสาง, เสือสมิง หรือแม้แต่ ปีศาจ จนกระทั่ง พนา ชายหนุ่มผู้รักการผจญภัย ได้รู้จักและสอนการใช้ชีวิตในแบบมนุษย์ปุถุชนทั่วไป

อิยวดี และพนา ต้องเผชิญหน้ากับการตามล่าเพชรสีชมพูจากโจรร้ายทั้ง2กลุ่ม โดยต้องหนีจากพรานเส็งกับสุชาติ ผู้ที่คิดครอบครองเพชรสีชมพูมาเป็นของตนพร้อมทั้งจับอิยวดีไปเป็นสินค้าของแปลกในงานวัดต่างๆ และคำรณ ผู้หมายจะเอาชีวิตอิยวดีและคิดต้องการครอบครองเพชรสีชมพูเพียงคนเดียว ซึ่งแผนร้ายทั้งหมดเกิดจากความละโมบของนาตยาและเอมฤดี 2แม่ลูก(ในฐานภรรยาน้อย)ของดำรง ที่คิดจะเป็นภรรยาหลวงโดยการกำจัดศัตรูหัวใจด้วยการแอบตัดสายเบกรถยนต์ เมื่อ10ปีก่อนจนทำให้อิยวดีและบัวบาน(แม่ของเมงกาเลีย)ต้องประสบอุบัติเหตุ รถตกเหวและต้องการทรัพย์สมบัติของดำรงเสียเอง

การปกป้องเพชรสีชมพูอันล่ำค่าและการตามหาความจำที่หายไปของอิยวดีได้ เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับความรักที่มีต่อพนา ชายหนุ่มเพียงคนเดียวของเธอ

ตะวันยอแสง 2553

ตะวัน (เขมนิจ จามิกรณ์) อาศัยอยู่ในเรือกระชังกับ สาย (รชนีกร พันธุ์มณี) และ คร้าว (ทนงศักดิ์ ศุภการ) พ่อเลี้ยงขี้เมา ยังชีพด้วยการรับจ้างบรรทุกสินค้าล่องไปตามจังหวัดต่าง ๆ ตะวันมี เอี้ยง (ชวนภ โพธิประเสริฐ) ที่อาศัยอยู่ในเรือกระชังอีกลำกับแม่และพ่อเลี้ยงใจร้ายเหมือนตะวันเป็นสมุน คู่ใจ

เมื่อตะวันต้องบรรทุกรำไปส่งที่เรือแพคลองบางหลวง ทำให้สายกังวลใจมากจนตะวันผิดสังเกต แต่สายอ้างว่าไม่อยากให้ไปที่นั้นเพราะ อินตา (ทองขาว ภัทรโชคชัย) พ่อของตะวันเคยก่อเรื่องไว้ สายเสียใจที่คิดถึงเรื่องในอดีต ความจริงที่อินตาต้องติดคุก เพราะฆ่าคนตาย ทำให้สายตัดสินใจผิดมาอยู่กับคร้าว

เรือของตะวันกับเอี้ยงจอดรอส่งรำอยู่ตรงท่าน้ำใกล้กับเรือนแพและคฤหาสน์หลัง หนึ่ง ซึ่งเป็นที่ห้ามจอดเรือ ทำให้ตะวันมีเรื่องกับ นเรนทร์ (บวรพจน์ ใจกันทา) ลูกชายของ ท่านต้น (ดิลก ทองวัฒนา) เจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ พริ้มเพรา (อภิรดี ภวภูตานนท์) ป้าของนเรนทร์จะเอาเรื่องตะวัน แต่ ศักดิ์ระพี หรือ คุณเล็ก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เข้ามาห้ามเพราะรู้ว่านเรนทร์ทำร้ายตะวันก่อน

สายเข้ามาขอโทษคุณเล็กกับพริ้มเพราแล้วรีบพาตะวันกลับ พริ้มเพราเห็นสายถึงกับตกใจ กลัวความลับจะแตก เพราะเมื่อ 12 ปีก่อน พริ้มเพราอิจฉา ดวงพร (เขมนิจ จามิกรณ์) ที่ท่านต้นรับเป็นอนุภรรยาแทนที่จะเป็นตน เมื่อดวงพรคลอดลูกเป็นผู้หญิงแล้วเธอก็ตาย แต่ก่อนตายดวงพรบอกกับ คุณใหญ่ (กชกร นิมากรณ์) ภรรยาหลวงของท่านต้นว่า ลูกของเธอมีปานแดงรูปหัวใจที่เหนือหน้าอกด้านซ้าย

พริ้มเพราผิดหวังที่ไม่มีลูกชายไว้สืบสกุล จึงสลับตัวลูกสาวของดวงพรกับลูกชายของสายกับอินตา และให้ ช้อน (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) เอาเงินปิดปาก ละม่อม (ดารณีนุช โพธิปิติ) หมอตำแย ไม่ให้บอกใคร ทุกคนเข้าใจว่านเรนทร์คือทายาทของคฤหาสน์เดชาบดินทร์ คุณใหญ่จึงทำพินัยกรรมมอบสมบัติให้ลูกชายของดวงพร

ตะวัน กับเอี้ยงอยู่เฝ้าเรือรอสายที่ไปหาหมอ ท่านต้นขับเรือเล่นบริเวณนั้น นเรนทร์ประมาทจนเรือผลิกคว่ำทำให้ท่านต้นตกน้ำ ตะวันกับเอี้ยงช่วยท่านต้นขึ้นมาบนเรือ เมื่อมาถึงคฤหาสน์ ท่านต้นสั่งรื้อป้ายห้ามจอดเรือทั้งหมด เพราะซาบซึ้งในน้ำใจของตะวัน

คร้าวบังคับเอาเงินกับตะวัน สายเข้ามาช่วยจนแทงคร้าวตาย แล้วเอาจดหมายกับเงินให้ตะวันกับเอี้ยงไปหาพริ้มเพราที่เรือนแพในคลองบาง หลวง ส่วนสายมอบตัวกับตำรวจ

ช้อนบอกความจริงกับท่านต้นต่อหน้าคุณใหญ่และคุณเล็กว่า ตะวันคือลูกของดวงพร ท่านต้นตรอมใจที่ตามหาตะวันไม่เจอ ก่อนสิ้นลม จึงทำพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมา พร้อมบอกคุณใหญ่ให้พาตะวันกลับบ้านให้ได้ ตะวันเข้าไปเคารพศพท่านต้นที่วัดด้วยความหดหู่ ก่อนจะหนีคุณใหญ่ไปเพราะกลัวความผิดที่เคยทำร้ายนเรนทร์

ตะวันปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อไม่ให้ใครจำได้ ส่วนเอี้ยงก็เปลี่ยนชื่อเป็น นพดล และโกนหัวเพื่อปลอมตัวเช่นกัน ตะวันหลอกคุณเล็กว่าชื่อ ยอแสง เป็นพี่น้องกับนพดลหนีออกมาจากบ้านเพราะถูกพ่อเลี้ยงทารุณ คุณเล็กจึงรับอุปการะทั้งสองให้ได้เรียนหนังสือ และโกหก พร้อมมิตร (ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) ลูกอนุภรรยาของท่านต้นว่า ทั้งสองเป็นญาติมาจากต่างจังหวัด ยอแสงกับนพดลได้รู้จักกับ ธาดา (ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) นักเรียนรุ่นพี่ ธาดามักจะคอยช่วยเหลือทั้งสอง จนทั้งสองซาบซึ้งในน้ำใจ

คุณเล็กไปเรียนต่อเมืองนอกจึงฝากยอแสงและนพดลไว้กับคุณใหญ่ 6 ปีผ่านไป เด็กทุกคนในเรือนแพโตเป็นหนุ่มเป็นสาว พร้อมมิตรทำงานในบริษัทใหญ่โต จิตรใส (วรภร เลิศเกียรติไพบูลย์) น้องสาวของพร้อมมิตรและนเรนทร์ยังคงเรียนซ้ำชั้นมัธยม

นพดลสอบเข้านายร้อยตำรวจได้ ยอแสงเรียนอักษรศาสตร์หวังจบมาเป็นอาจารย์ ส่วนอินตาเองก็พ้นโทษ ยอแสงกับ ใจบุญ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ได้พบกับธาดาและนพดล นพดลแอบชอบใจบุญตั้งแต่แรกเห็น ธาดาเองก็สนใจยอแสงแต่ยอแสงไม่สนใจ

คุณเล็กเดินทางกลับจากต่างประเทศ เมื่อได้พบกับยอแสงก็ถึงกับตะลึงในความสวย แต่ก็ทำตัวเหินห่างจนยอแสงน้อยใจ นเรนทร์รู้ว่าคุณใหญ่จะยกสมบัติให้ยอแสงจึงคิดกำจัดแต่ไม่สำเร็จ คุณใหญ่ยอมพูดว่านเรนทร์ไม่ใช่ลูกท่านต้น นเรนทร์ถามความจริงจากพริ้มเพรา นเรนทร์กลัวความจริงจะเปิดเผยจริงฆ่าช้อนและละม่อม

คุณ ใหญ่ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมก่อนกำหนด อินตาปรากฎตัวขึ้นทุกอย่างถูกเปิดเผย ยอแสงหรือตะวันคือทายาทที่แท้จริงของท่านต้นและดวงพร นเรนทร์คลั่งมากคว้าปืนมายิงทุกคน คุณเล็กกับอินตาช่วยกันจับตัวนเรนทร์ส่งตำรวจ ยอแสงหรือตะวันได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ ที่แท้จริง คุณเล็กได้เปิดเผยความในใจกับตะวัน ความอบอุ่นจึงกลับคืนมาอีกครั้ง ติดตามชม ละคร ตะวันยอแสง