ถ้าวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า มี ‘ใคร’ หรือ ‘อะไร’ อย่างหนึ่ง พูดจาทักทาย สื่อสารกับเราได้อย่างชัดเจนทั้งภาพและเสียง มิหนำซ้ำ ใคร หรือ อะไรนั้นไม่ใช่คนเช่นเราเสียด้วย! คุณจะรู้สึกอย่างไร? ตกใจ…กลัว…กล้า…?? จุลลา สาวน้อยมหัศจรรย์ของเราก็เช่นกัน วินาทีที่รับรู้ว่า ใคร หรืออะไร นั้นคือ เจ้าสัว เจ้าของผู้บุกเบิกโรงงาน ‘วิมานมะพร้าว’ จนเจริญก้าวหน้ามาจนถึงรุ่นหลาน คือสืบสาย เจ้านายของเธอ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเจ้าสัว หรืออาก๋งในฮวงซุ้ยกับเจ้านายในโลกปกติเกิดเอ็นดูและวางใจเธอในฐานะผู้ร่วมงานที่เก่งกล้าสามารถ และเธอเองก็สนุกกับงานที่แสนรักไปแล้ว เรื่องของเรื่องก็เลยต้องลงเรือลำเดียวกันทั้งผีใจดี และคนจอมกวน จนกระทั่งลงเอยกันด้วยดี
Tag Archives: ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์
ปางเสน่หา
ร.ต.อ.เตชิต (เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข) นายตำรวจหนุ่มหล่อ ฝีมือดี ขับรถเร็วอย่างน่ากลัวตามแรงอารมณ์ ซึ่งกำลังโกรธและแค้นใจที่สุด เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นายเจียง (อู่-นวพล ภูวดล) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่จึงถูกปล่อยตัว ของกลางที่ได้มากลับหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ คดีนี้เตชิตตั้งใจและทุ่มเททำงานอย่างหนักมานานกว่าสองปี วางแผนล่อซื้อจนจับกุมตัววายร้ายได้แล้ว ทว่าทุกอย่างกลับล้มเหลวเพียงข้ามคืน ที่ร้ายกว่านั้นคือ ผู้กำกับเสนา (สุรวุฑ ไหมกัน) ผู้ บังคับบัญชาของเขาสั่งให้เขาถอนตัวจากคดีนี้โดยเด็ดขาด และให้หลบไปซ่อนตัวสักระยะหนึ่ง ทั้งผู้กำกับเสนาและเตชิตรู้ดีว่า การที่เจียงถูกปล่อยตัว พวกมันต้องตามล่าเขาแน่ ชายหนุ่มอยากจะอยู่ลุยกับพวกมันตามประสาคนเลือดร้อน แต่ผู้กำกับเตือนสติให้เขาใจเย็นๆ รอโอกาสในวันข้างหน้าจะดีกว่า เตชิตจึงต้องเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าขับรถเร็วราวกับจะบินได้ไปหาที่ซ่อนตัว ตามคำสั่งอย่างไม่เต็มใจ
บ่ายมากแล้วเมื่อเขามาถึงไร่สุขศรีตรัง รีสอร์ตเล็กๆ ของเพื่อนสาว เตชิตกับ ศรีตรัง (เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) เจ้าของไร่และรีสอร์ตคนสวยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสองคนฝันอยากเป็นตำรวจเหมือนกัน เมื่อเตชิตสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ ศรีตรังมุ่งมั่นเรียนกฎหมายจนจบปริญญาตรี เธอสอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจจนได้ ทว่าทำงานที่รักได้ไม่นานเธอก็ต้องลาออกเมื่อบิดาและมารดาเสียชีวิตเพราะ อุบัติเหตุพร้อมกัน ทิ้งไร่ข้าวโพดหลายสิบไร่และรีสอร์ตสวยให้เธอดูแลต่อไป ศรีตรังจึงต้องเปลี่ยนจากการไล่จับผู้ร้ายมาเป็นเจ้าของไร่และรีสอร์ตแทน โดยที่ยังมีสัญชาติญาณของการเป็นตำรวจเต็มตัว หญิงสาวต้อนรับเตชิตอย่างเต็มใจ
ศรีตรังสบตาเพื่อนนิดเดียวก็รู้ว่าเขากำลังมีปัญหา แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเพื่อนต้องช่วยเพื่อนเสมอ เธอให้เขาพักอยู่ที่บ้านหลังสุดท้ายเหมือนทุกครั้ง ศรีตรังให้ ป้าจุรี (ดารณีนุช โพธิปิติ) แม่บ้านของรีสอร์ตนำกุญแจไปเปิดบ้านให้ เตชิตจึงเดินไปพร้อมกับนาง บ้านหลังนี้ปลูกอยู่บนเนินจึงเห็นวิวสวยได้ไกลสุดสายตา เขาชอบที่นี่มาก มันสวยและสงบเหมาะกับการพักผ่อนและการหลบซ่อนที่สุด ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านอย่างคุ้นเคย ส่วนจุรีรีบขอตัวกลับทันที ท่าทางนางหวาดกลัวอะไรสักอย่างแต่เขาไม่สนใจมากนัก เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เตชิตต้องชะงักนิดหนึ่งเขารู้สึกแปลกๆ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว สัญชาติญาณตำรวจทำให้เขาเดินตรวจดูรอบบ้านอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ยิ่งสถานการณ์ที่ทำให้เขาต้องมาซ่อนตัวอย่างนี้ทำให้เขาต้องระวังตัวมากขึ้น ไปอีก
ชายหนุ่มถอนใจยาวเมื่อไม่พบใครหรืออะไรที่ผิดสังเกต เตชิตเปิดกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงหวานใสเรียก “คุณ” เขาเดินออกมาดูหน้าบ้านแต่ก็ไม่พบใคร เตชิตขำตัวเองที่ระวังระแวงจนหูแว่ว เขาหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ขึ้นมาผลัดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ ขณะที่เขากำลังถอดเสื้อผ้า เสียงใสๆ ร้อง “ว้าย” ขึ้นมาทันที คราวนี้ชัดเจนจนเตชิตมั่นใจว่าเขาหูไม่ฝาดแน่นอน เขาวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้านพักตั้งใจจะจับ “สาวถ้ำมอง”ให้ได้ เธอท้าทายตำรวจอย่างเขามากเกินไปแล้ว เตชิตลืมตัววิ่งออกมาทั้งที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เดินดูรอบบ้านไม่พบใครย้อนกลับมาอีกครั้งจึงพบ ลุงสม (นึกคิด บุญทอง) คนสวนของรีสอร์ตที่คุ้นเคยกันดี แกมองเขาแปลกๆ เตชิตจึงเล่าให้แกฟังขำๆ ว่ามีผู้หญิงมาแอบดูเขา และต้องการจับตัวเธอให้ได้ ชายหนุ่มถามลุงสมว่าเห็นใครวิ่งหนีออกไปจากแถวนี้หรือเปล่า แต่ลุงสมยืนยันว่าไม่เห็นใคร เตชิตจึงย้อนกลับเข้าบ้านอย่างหงุดหงิด ผู้หญิงคนนี้น่าสงสัยมาก หนีได้รวดเร็วราวกับหายตัวได้
เกือบค่ำแล้วเมื่อเตชิตเดินไปที่อาคารรับรองอีกครั้ง เนื่องจากว่าในรีสอร์ตนี้มีร้านอาหารอยู่ร้านเดียวที่อาคารรับรอง แขกทุกคนจึงต้องมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารนี้ ศรีตรังจัดโต๊ะไว้แล้วในส่วนที่ห่างจากคนอื่น ด้วยรู้ดีว่าทั้งเธอและเตชิตมีเรื่องต้องคุยกันจนดึก ดื่มกันจนใครสักคนไม่ไหวจึงจะได้กลับไปนอน นั่งดื่มกันไม่นานศรีตรังล้อเขาเรื่องวิ่งทะเล่อทะล่าออกมาตามหาสาว เธอขู่เพื่อนว่าที่นี่ไม่มีหรอกจะมีก็แต่ผีแม่ม่ายให้เตชิตระวังตัวให้ดี ชายหนุ่มหัวเราะลั่นเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ ผีสางใดๆ ทั้งสิ้น โดยอาชีพแล้วเป็นตำรวจด้วยจะกลัวอะไรง่ายๆ ไม่ได้อยู่แล้ว เตชิตจึงพูดขำๆ ว่ามาจริงก็ดีเขาจะได้มีเพื่อนนอนคุยแก้เหงา
เวลาผ่านไปจนค่อนคืน ศรีตรังเดินเซขึ้นห้องพักไปนานแล้ว ชายหนุ่มดื่มต่ออีกพักใหญ่จึงลุกขึ้นเดินโซเซถีบจักรยานกลับที่พัก ลุงสมมองตามอย่างเป็นห่วง กลัวว่าชายหนุ่มจะมึนจนตกข้างทางเสียก่อนถึงบ้านพัก เตชิตถีบรถถึงบ้านจนได้ เขายังประคองสติไปได้จนถึงเตียงนอนก่อนจะล้มตัวลงและหลับไปในทันที เขารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงหวานใสเรียก”คุณ” เป็นความรู้สึกเคลิ้มๆ กึ่งฝัน เตชิตปรือตามองตามเสียงเรียก แล้วยิ้มเมื่อเห็นสาวน้อย หน้าใส ตาแป๋ว นั่งอยู่ข้างๆ เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงคำพูดของเพื่อนสาวที่บอกให้ระวังผีแม่ม่าย ชายหนุ่มคว้าแขนนุ่มนิ่มแล้วรั้งตัวเธอมากอดไว้แน่นแต่คว้าได้แต่ลม พลางพึมพำว่าผีแม่ม่ายก่อนหลับไปอีกครั้งอย่างมีความสุข
วันรุ่งขึ้นกว่าเตชิตจะตื่นก็สายมากแล้ว เขาพบป้าจุรีซึ่งมาตามพอดีนางบอกว่าศรีตรังรออยู่แล้วรีบกลับไป ชายหนุ่มจึงรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เขาออกจากห้องน้ำมาพบว่าใครคนหนึ่งกำลังวุ่นวายอยู่ที่กระเป๋าเสื้อผ้าของ เขา เตชิตตวาดเสียงดัง สาวน้อยหน้าใส ตากลมโต หันมาตามเสียงเรียก ท่าทางเธอดีใจมาก เสียงหวานๆ ถามว่าเขาเห็นเธอด้วยหรือ ชายหนุ่มทำหน้าดุถามว่าเธอมาขโมยอะไรในกระเป๋าเขา เตชิตนึกเสียดายที่เด็กสาวหน้าตาดีคนนี้ริเป็นโจร เธอปฏิเสธเสียงดังว่าไม่ได้ขโมย เธอแค่อยากรู้ว่าเขาเป็นใครเท่านั้น เตชิตจึงถามย้ำอีกครั้งว่าเธอเป็นใคร คำตอบของเธอทำให้เขาโกรธเพราะมีแต่คำว่า ไม่ทราบ ไม่รู้และจำไม่ได้ ท่าทางใส ซื่อของเธอทำให้เขายอมเชื่อว่าเธอพูดจริง
เตชิตตัดสินใจว่าต้องพาไปพบศรีตรัง เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง เขาเรียกให้เธอตามเขามาแต่สาวน้อยทำท่าลังเล ชายหนุ่มจึงเอื้อมมือจะคว้ามือเธอ เตชิตอึ้งเมื่อเห็นว่ามือของเขาผ่านทะลุมือเธอไปเฉยๆ ชายหนุ่มยื่นมืออีกครั้งไปจับที่ไหล่ เขาพูดไม่ออกเมื่อเห็นมือตัวเองผ่านทะลุตัวเธอราวกับเป็นอากาศธาตุ เตชิตร้องลั่นว่า ผี เขาวิ่งหนีเธอไปอยู่ที่มุมห้อง ทำอะไรไม่ถูกเกิดมาไม่เคยเห็นผี และไม่เชื่อด้วย แต่เธอคนนี้ไม่มีตัวตน ไม่ใช่คน เขาสรุปว่าเป็นผี ขาดคำของเตชิต เธอก็วิ่งตามมาอยู่ใกล้ๆ เขา พลางร้องลั่นว่าเธอกลัวผี ชายหนุ่มวิ่งวนหนีไปรอบห้อง สาวลึกลับก็วิ่งตามเขาแจ เธอพยายามเข้ามาแอบอยู่ข้างหลังเขา เสียงใสร้องกรี๊ดๆ ว่าเธอกลัวผี วิ่งวนอยู่พักใหญ่จนเตชิตเหนื่อย อยากจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก ผีอะไรกลัวผีตัวเอง เขาต้องทำอะไรสักอย่าง จะมาคอยวิ่งหนีกันทั้งวันคงไม่ได้ ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อเห็นว่าข้าวของเกลื่อนกระจายรอบห้องไปหมด เตชิตสั่งให้ผีสาวหน้าใสรอเขาที่บ้านก่อนจะรีบไปพบ ศรีตรัง ระหว่างทางที่ขี่จักรยานไปอาคารรับรองชายหนุ่มคิดสงสัยว่า เธอเป็นใคร และมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ตายเอง หรือถูกฆาตกรรม แล้วถ้าถูกฆาตกรรมเขาจะทำคดีนี้อย่างไร
เตชิตรอจนศรีตรังว่าง จึงค่อยๆ ถามข้อมูลของสาวลึกลับจากเธอ โดยไม่บอกว่าเขาพบอะไรมา แต่อดีตตำรวจสาวคนเก่งอย่างศรีตรังก็สงสัยจนได้ว่าเรื่องนี้มีพิรุธ เธอโวยวายไม่เชื่อเมื่อเตชิตบอกว่าเขาพบผี ท่าทางเขาจริงจังจนศรีตรังต้องยอมทำใจเชื่อ เธอก็ไม่ชอบเรื่องผีๆ นี่เช่นกัน หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงบอกเตชิตว่าบางที ป้าจุรีจะรู้เรื่องนี้บ้าง เวลาผ่านไปจนเกือบค่ำกว่าทั้งสองคนจะได้คุยกับจุรี ทั้งเตชิตและศรีตรังคิดเหมือนกันว่า เรื่องผีจะทำให้แขกที่มาพักตกใจกลัวรวมทั้งคนงานในไร่และรีสอร์ตนี้ด้วย ป้าจุรีอึกอักก่อนจะยอมรับว่านางเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่มาทำงานที่นี่เมื่อสองปีก่อน แรกๆก็กลัวแต่เมื่อเวลาผ่านไป นางไม่เห็นว่าเธอจะทำร้ายใคร ความกลัวก็ลดน้อยลงแต่ก็ยังมีหวาดๆอยู่บ้าง จุรีบอกว่าผู้หญิงคนนี้จะอยู่แต่ที่บ้านบนเนินไม่ไปไหน ชอบยืนอยู่ที่หน้าต่างหน้าบ้านเหมือนรอใครสักคน นางผ่านบ้านนั้นเมื่อไหร่ก็จะเห็นว่าเธออยู่อย่างนั้นทุกวัน จุรีบอกว่านางได้แต่แอบมองเพราะกลัว ระหว่างที่คุยกันนั้น อ้อยใจ (การ์ตูน-อินทิรา เกตุวรสุนทร) ลูกสาวบุญธรรมของจุรีมาแอบฟังอย่างสนใจเป็นพิเศษ
จุรีรับอ้อยใจมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก รักและเลี้ยงอย่างดีราวกับเป็นลูกสาวตัวเอง อ้อยใจเป็นสาวเร็วกว่าอายุ มีแฟนตั้งแต่ปีแรกที่เป็นนางสาว มาทำงานที่ไร่นี้ก็ควงหนุ่มในไร่ไม่ซ้ำหน้า จุรีอ่อนใจกับความประพฤติของลูกสาวเต็มทีแต่ก็ห้ามไม่ได้ มีเพียงไม่กี่เดือนนี้ที่อ้อยใจคบกับ ศักดิ์สิทธิ์ (ไม่้-นนทพันธ์ ใจกันทา) ลูกชายของ พงษ์เทพ (สมชาย ศักดิ์กุล) ผู้จัดการไร่โดยที่ยังไม่เปลี่ยนใจ คืนนั้นอ้อยใจถามจุรีเรื่องผีสาวจนรู้เรื่องจนได้ เธอรีบบอกแฟนหนุ่มทันทีที่พบกัน ศักดิ์สิทธิ์สั่งห้ามเธอทำเรื่องยุ่งเด็ดขาด แต่อ้อยใจไม่เชื่อเขา เธอจะไปหาเตชิต เพื่อนของศรีตรังเพื่อถามเรื่องนี้ให้ได้ เธอจะไม่ปล่อยให้ผีสาวตนนี้ตามหลอกหลอน รังควานเธอได้แน่นอน
คืนนั้นหลังจากที่รู้เรื่องจากจุรี เตชิตตัดสินใจนอนค้างที่อาคารรับรอง เขาบอกศรีตรังว่าไม่กลัวผีสักหน่อย แค่ขอเวลาคิดสักคืนเท่านั้น วันรุ่งขึ้น ศรีตรังขับรถพาเตชิตและจุรี ไปกราบหลวงพ่อเปี่ยม พระภิกษุที่วัดซึ่งไม่ห่างจากรีสอร์ตนัก ทั้งสามเข้าไปกราบท่านที่โบสถ์ ท่านทักราวกับรออยู่ก่อนแล้ว เตชิต จึงเรียนให้ท่านทราบอย่างสะดวกใจ หลวงพ่อบอกว่าเขาและเธอจะต้องช่วยเหลือกัน แล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมผู้หญิงคนนี้ก็จะไปเอง ถ้ามีอะไรสงสัยก็ให้ถามกันเอง สายตาของหลวงพ่อที่มองไปที่ประตูโบสถ์ทำให้เตชิตมองตาม เขาขนลุกเกรียวเมื่อเห็นสาวน้อยหน้าใสตัวปัญหา ยืนอยู่หน้าประตูโบสถ์ เตชิตตกใจมากเมื่อเห็นเธอก้าวช้าๆ เข้าโบสถ์มา ย่อตัวลงคลานอย่างเรียบร้อยเข้ามาหมอบกราบหลวงพ่ออยู่ข้างๆ เขานั่นเอง ใครว่าผีกลัวพระไม่กล้าเข้าวัดแล้วทำไม ผีสาวตนนี้จึงกล้าถึงขนาดเข้ามากราบพระถึงในโบสถ์ กลางวันแสกๆ อีกต่างหาก หรือว่าเธอจะเฮี้ยนมาก เตชิตตกใจถามเสียงใสเบาๆ ว่ามาได้ยังไงก็เป็นผีๆ เข้าวัดไม่ได้ พอได้ยินคำว่าผีเสียงใสรีบขยับตัวเข้าหาเตชิตทันที เตชิตเหลียวมองหาเพื่อน ปรากฏว่า สองสาวต่างวัยแต่ใจตรงกันหนีออกไปยืนตัวสั่นกอดกันอยู่ที่หน้าประตูโบสถ์ เสียแล้ว ไม่ใช่เพราะเห็นเสียงใสแต่ไม่รู้เตชิตคุยกับใคร
ระหว่างทางที่ขับรถกลับรีสอร์ต เตชิตคิดถึงเรื่องผีสาวหน้าใสตลอดทาง เขาตัดสินใจว่าจะต้องกลับไปที่บ้านพักและคุยกับเธอให้รู้เรื่องให้ได้ เขาอยากช่วยเธอซึ่งจะเป็นการช่วยให้ศรีตรังได้ทำรีสอร์ตต่อไปได้ด้วย เตชิตหาข้อมูลจากลุงสม พร้อมธูปกำใหญ่เพื่อเชิญวิญญาณของผีตนนี้ ทว่าเพียงเขาก้าวเข้าบ้านพักก็พบว่าเธอยืนรออยู่แล้ว แสงสีเรื่อเรืองรอบตัวเธอดูหม่นเศร้า เตชิตฉุกใจคิดได้ว่า ตั้งแต่ได้พบเธอ ผู้หญิงคนนี้จะมีแสงสีแปลกๆ รอบตัวเธอ บางครั้งเหลืองสดใส ส้มสว่างน่ามอง หรือหม่นเศร้าอย่างนี้ เขาเข้าใจทันทีว่านี่คงเป็นการแสดงอารมณ์ ความรู้สึกของเธอนั่นเอง
เขาถามเธอเรื่องข้อมูลส่วนตัวแต่ก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมสักนิด แถมไม่ยอมเชื่อว่าเธอตายแล้วเสียอีกแต่ก็ตอบไม่ได้ว่าตัวเองเป็นอะไร และขอร้องให้เขาช่วยพาเธอกลับบ้านอย่างน่าสงสาร เตชิตยอมรับปากทั้งที่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร เขาตั้งชื่อให้เธอว่าเสียงใส (มีน พีชญา วัฒนามนตรี) เพราะเสียงของเธอที่เขาได้ยินนั้นหวานใสฟังเพลินจริงๆ
ศรีตรังหวาดกลัวเสียงใสแต่ก็ยอมช่วยเตชิตสืบหาความเป็นมาของตัวเธอ โดยไม่รู้ว่า สาวเสียงใสตามเตชิตไปด้วยทุกแห่ง เจ้าตัวเองก็แปลกใจเพราะก่อนหน้านี้เธอไม่สามารถออกไปไหนได้ ติดอยู่ที่บ้านนั้นราวกับถูกพันธนาการไว้ แต่เมื่อพบเตชิต นอกจากการที่เขาเป็นคนพิเศษที่สามารถมองเห็นเธอ พูดคุยกันได้แล้ว เพียงคิดว่าจะไปกับเขา เธอก็สามารถออกจากบ้านนั้นและตามเขาไปได้ทุกแห่ง เสียงใสดีใจที่เธอไม่ต้องเหงาอีกต่อไป ศรีตรังกับเตชิตไปที่สถานีตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่นั้น ดูแฟ้มคดีคนหายในห้วงเวลาสองปี ที่มีบุคลิกลักษณะใกล้เคียงกับเสียงใส คนที่น่าสนใจคือ เกษรา (ส้ม-ธัญสินี พรหมสุทธิ์) หลานสาวคนสวยของ ยายภา คนงานในไร่ ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ชาวบ้านนินทาว่าเธอคงจะหนีตามผู้ชายไป แต่ยายภาไม่เชื่อ นางรู้จักหลานสาวของเธอดี ว่าเป็นคนเรียบร้อย ไม่ใช่สาวประเภท”ไวไฟ” เหมือนวัยรุ่นทั่วไป
ศรีตรังรู้จักเกษรา เธอเล่าให้เตชิตฟังว่า เกษรา เป็นแฟนกับ ตรีทศ (นันทศัย พิศลยบุตร) ผู้จัดการโรงงานแปรรูปข้าวโพด ทั้งสองคนรักกันมาก เมื่อเกษราหายไป ตรีทศเองก็เสียใจ ที่ร้ายกว่านั้นคือเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป ของเธอ ตำรวจสอบปากคำเขาหลายครั้งกว่าจะเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์ ศรีตรังพาเตชิตไปคุยกับตรีทศ เสียงใสที่ตามไปด้วยมองตรีทศเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน ศรีตรังกับเตชิตกลับไปแล้ว ตรีทศยังยืนคิดถึงเกษราอย่างเศร้ารันทดอีกนาน
ข่าวการตามหาตัวเกษราของเตชิตทำให้อ้อยใจร้อนใจจนทนไม่ไหว เธอกับศักดิ์สิทธิ์รู้ดีว่าเกษราอยู่ที่ไหน แต่มันต้องเป็นความลับตลอดไป เมื่อศักดิ์สิทธิ์ใจเย็น อ้อยใจตัดสินใจจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เธอมาแอบดูอยู่หน้าบ้านตรีทศเมื่อเห็นว่า ศรีตรังกับเตชิตกลับไปแล้ว อ้อยใจรอจนค่ำจึงเข้าไปพบตรีทศ เธอทำหน้าเศร้า ร้องไห้แล้วบอกเขาว่า เธอฝันถึงเกษราว่ามาขอร้องให้ช่วย ในฝันนั้นเกษราน่าสงสารมาก หญิงสาวบอกว่าถูกทำร้ายแล้วโดนฝังอยู่ท้ายไร่ ตรีทศใจหาย ความรักความผูกพันที่มีต่อกันทำให้เขาสั่งอ้อยใจให้พาเขาไปที่นั่นพร้อมกับ นำพลั่วไปด้วย ถึงไม่ค่อยเชื่ออ้อยใจนักแต่การไปพิสูจน์ดูก็ไม่เสียหายแล้วอาจจะทำให้เขา ช่วยเกษราด้วย
ในช่วงเวลาเดียวกันที่บ้านพักบนเนิน จู่ๆ เสียงใสก็ขอร้องให้เตชิตไปที่ท้ายไร่กับเธอ ชายหนุ่มยอมทำตาม เมื่อเดินไปได้สักระยะหนึ่งเตชิตสังเกตเห็นอ้อยใจกับตรีทศกำลังมุ่งหน้าไป ทางเดียวกัน พลั่วในมือเขาทำให้เตชิตสงสัยมาก เขาปล่อยให้ทั้งสองคนผ่านไปก่อน จึงตามไปดู อ้อยใจแกล้งชี้ให้ตรีทศขุดตรงนั้นตรงนี้ ก่อนจะชี้ให้เขาขุดอีกครั้งที่ข้างโรงบำบัดน้ำเสีย เตชิตโทรศัพท์บอกศรีตรังให้ตามมาและพาคนงานมาด้วย ตรีทศขุดไปสักพักก็หยุด เขาทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า โครงกระดูกมนุษย์ขาวโพลนอยู่ก้นหลุม ศรีตรังมาทันเวลา เธอกับเตชิตจึงช่วยกันคุมตัว ตรีทศกับอ้อยใจส่งตำรวจ เสียงใสตามดูอย่างสนใจ
ถ้าเตชิตคิดถูกว่าเธอคือเกษราแล้วทำไมเธอจึงจำใครไม่ได้สักคน เวลาผ่านไปโครงกระดูกนั้นถูกขุดขึ้นมาตรวจพิสูจน์ว่าผู้ตายคือ เกษราจริงๆ อ้อยใจถูกสอบเค้นจนยอมสารภาพว่าเธอกับศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจที่ตรีทศรักกับเก ษรา ทั้งที่จริงแล้วเกษราเคยคบกับศักดิ์สิทธิ์มาก่อน ส่วนอ้อยใจก็เคยคบอยู่กับตรีทศ แล้วต่างก็เลิกรากันไป ตรีทศมีโอกาสได้พูดคุยกับเกษราบ่อยครั้ง จนในที่สุดก็รักกัน ขณะที่อ้อยใจเองก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับศักดิ์สิทธิ์ ตรีทศกับเกษราเป็นคู่รักที่น่ารักเหมาะสมกันมากจนศักดิ์สิทธิ์และอ้อยใจ หมั่นไส้ เกลียดชัง ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันแล้ว ทั้งสองคนวางแผนหลอกจับตัวเกษราไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ศักดิ์สิทธิ์จะข่มขืนเธอแล้วอ้อยใจจะถ่ายคลิปส่งไปเยาะเย้ยตรีทศ ว่าผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวอย่างเกษรา ก็เป็น”เมีย”ของศักดิ์สิทธิ์มาก่อน
ทว่าเกษราไม่ยอมง่ายๆ เธอสู้เพื่อป้องกันตัวจนสุดกำลัง จนทำให้ศักดิ์สิทธิ์กับอ้อยใจเจ็บตัวทั้งคู่ ศักดิ์สิทธิ์โกรธจนลืมตัวเขาทำร้ายเกษราแล้วบีบคอตายคามือ กลางดึกคืนนั้นทั้งสองคนจึงช่วยกันนำร่างของเกษราไปฝังไว้ข้างๆ โรงบำบัดน้ำเสียของโรงงานแปรรูปข้าวโพด กลิ่นเหม็นบริเวณโรงบำบัดกลบกลิ่นเน่าของศพจนไม่มีใครสงสัย เมื่อตำรวจตามไปจับตัวศักดิ์สิทธิ์มา ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง ทว่าแหวนทองคำวงเล็กที่พบอยู่ก้นหลุมกลับเป็นหลักฐานมัดตัวเขา เมื่อพงษ์เทพพ่อของศักดิ์สิทธิ์เห็นแหวนก็บอกตำรวจว่าแหวนวงนั้นเป็นของ ภรรยาเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่จริงแหวนนั้นมีเป็นคู่เพราะเป็นแหวนแต่งงานอีกวงหนึ่งสวมติดนิ้วเขาอยู่ ส่วนของภรรยาเมื่อเธอเสียชีวิตแล้ว ลูกชายมาขอไปสวมเป็นแหวนก้อย แล้ววันหนึ่งก็มาบอกว่าหาย ศักดิ์สิทธิ์คอตกพูดไม่ออก เขาไม่คิดว่าแหวนวงนั้นจะหลุดตกลงไปในหลุมศพเกษราจนกลายมาเป็นหลักฐานมัดตัว เขาได้
ยายภานำโครงกระดูกเกษราไปบำเพ็ญกุศล ก่อนจะเผาตามประเพณี ในวันที่เผาศพเกษรานั้น เตชิตไม่ไปร่วมงานเขาอยากจะรอ”ส่ง”เสียงใส ให้เรียบร้อย เมื่อร่างถูกเผาวิญญาณก็ควรจะ”ไป” เช่นกัน บรรยากาศน่าจะดีเมื่อเรื่องเข้าที่เข้าทาง แต่เตชิตกับเสียงใสกลับไม่มีความสุข เขาและเธอคุ้นชินที่จะมีกันและกันเสียแล้ว งานศพเสร็จไปหลายวันแล้วแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามที่เตชิตคิด
ผีสาวเสียงใสยังคงอยู่กับเขาเหมือนเดิม ชายหนุ่มไปพบยายภาที่บ้านเขาอยากรู้ว่ามันติดขัดตรงไหน เสียงใสตามไปด้วย เมื่อเตชิตเห็นรูปเกษราเขาก็ได้คำตอบ เพราะไม่เหมือนกันเลยสักนิด เสียงใสไม่ใช่เกษรา ชายหนุ่มปรายตามองเสียงใสดุๆ เมื่อเธอพูดอย่างดีใจว่า เธอจำได้แล้ว ในวันที่เกิดเรื่อง เกษรานี่เองที่มาบอกให้เธอพาเตชิตไปที่ท้ายไร่ ออกจากบ้านยายภาแล้วชายหนุ่มจึงมีโอกาสถามเสียงใสว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่วัน นั้นว่ามีคนมาตามให้ไปที่นั่น เสียงใสตอบเสียงเบาว่าเธอไม่รู้ว่าเกษราตายแล้ว เข้าใจว่าเป็นสาวคนงาน ถ้ารู้ว่าเป็นผีเธอไม่ยอมพูดด้วยแน่นอน เพราะเธอกลัวผีมาก เตชิตอดหัวเราะไม่ได้ ผีกลัวผีก็มีด้วย
เวลาผ่านไป เตชิตต้องคิดหาทางช่วยเสียงใสต่อไปเขาปล่อยให้ศรีตรังเข้าใจว่า เสียงใสไปแล้วเมื่อจบเรื่องเกษรา ทั้งที่ผีสาวเสียงใสก็ยังอยู่ใกล้ๆ เขานั่นเอง วันหนึ่งหนังสือพิมพ์ลงข่าวของนักแสดงสาวสวยชื่อเจนจิราถูกตำรวจจับเพราะขับ รถเร็ว เสียงใสชะโงกหน้ามาดูรูปจากหนังสือพิมพ์ในมือเตชิต แล้วพูดอย่างดีใจว่ารู้จักผู้หญิงคนนี้เพราะเป็นเพื่อนเธอ แต่ชื่อชลธิดาไม่ใช่เจนจิรา ชายหนุ่มดีใจที่มีช่องทางให้สืบหาตัวตนของเสียงใสอีกครั้ง เขาตัดสินใจกลับกรุงเทพทันที ขับรถออกจากรีสอร์ตได้ไม่ไกลนัก เสียงใสก็บอกให้เขาจอดรถ เธอลงจากรถเดินเร็วๆ ลงไปข้างทางซึ่งเป็นที่ดินกว้างค่อนข้างรก เมื่อเตชิตตามลงไปเธอก็บอกให้เขาช่วย
เธอหาของสำคัญชิ้นหนึ่งที่เป็นของเธอ ช่วยกันหาอยู่นานกว่าเสียงใสจะชี้ให้เขาขุดพื้นดินตรงหน้า ชายหนุ่มใจหายเมื่อคิดว่าอาจจะเป็นเหมือนกับเกษรา ที่ตามคนมาขุดกระดูกของตัวเอง ขุดลงไปไม่ลึกนักก็พบพระพุทธรูปองค์เล็กๆ อัดกรอบพลาสติกสำหรับร้อยสร้อยห้อยคอองค์หนึ่ง เสียงใสดีใจมากบอกว่าพระองค์นั้นเป็นของเธอ และจำได้ว่าเธอเคยสวมสร้อยพร้อมพระองค์นี้ติดตัวเสมอ เตชิตนิ่งฟังอย่างสนใจว่าเธอจะจำอะไรได้อีกบ้างทว่า ไม่มีอะไรเพิ่มเติมนอกจากนี้
ค่ำแล้วเมื่อเตชิตกลับถึงบ้าน เสียงใสรู้สึกเขินอายที่จะต้องมาอยู่บ้านเดียวกับเขา ชายหนุ่มมองแสงสีชมพูอ่อนที่ฟุ้งรอบตัวเธอ เดาได้ว่าเธอคงอายจึงแกล้งถามว่าเธออายอะไร เสียงใสปฏิเสธแต่แสงสีชมพูนั้นกลับมีสีเข้มมากขึ้นจนเตชิตอดหัวเราะไม่ได้ เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเห็นแสงสีพวกนั้นและรู้ด้วยว่ามันหมายถึง อะไร เตชิตให้เสียงใสรอข้างล่างขณะที่เขาขอตัวไปอาบน้ำข้างบน หญิงสาวเดินวนดูรอบห้องก่อนจะกลับมานั่งที่เก้าอี้ เด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณ ๑๐ ขวบ เดินลงมาจากข้างบน เดินเข้ามาหาและลงนั่งคุยด้วย เสียงใสแปลกใจที่แกมองเห็นเธอด้วย แกบอกว่าพ่อแกชื่อเตชิต ส่วนแม่นั้นตายไปนานแล้ว เด็กชายพูดต่ออย่างน่าสงสารว่าพ่อเตชิตมักจะลืมแกทิ้งไว้บ้านเสมอ แกบอกเสียงใสว่าแกอยากมีแม่ คุยกันอีกสองสามคำเด็กน้อยเดินกลับไป
ข้างบนบ้าน ไม่นานนักเตชิตก็กลับลงมา เสียงใสถามถึงเด็กชายว่าทำไมไม่ลงมาด้วยกัน ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงใคร ในเมื่อทั้งบ้านนี้มีเขาอยู่คนเดียว เสียงใสจึงบอกว่าเธอพบกับลูกชายของเขาแล้ว แกเพิ่งกลับไปข้างบนเมื่อครู่นี้เอง เตชิตเอนตัวพิงเบาะเก้าอี้อย่างหมดแรง สีหน้าเครียดเข้มอย่างน่ากลัว เสียงใสใจไม่ดีเธอไม่เคยเห็นเขาเป็นอย่างนี้มาก่อน ชายหนุ่มนิ่งอย่างนั้น
ครู่ใหญ่ก่อนจะเล่าว่า เขาแต่งงานมีครอบครัวตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ภรรยาของเขาชื่อ พิมพ์ลดา และเป็นเพื่อนกับศรีตรัง แต่งงานกันได้ไม่กี่ปี เธอก็ถูกคนร้ายเมายาบ้าฆ่าตายพร้อมลูกในท้อง โดยที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าแกเลยด้วยซ้ำ เสียงใสสงสารและเห็นใจเขามาก เธอพยายามปลอบเขาทั้งที่ตัวเองกำลังร้องไห้อย่างน่าขำ
วันรุ่งขึ้นเตชิตถูกตามตัวให้เข้าที่ทำงาน ชายหนุ่มหงุดหงิดเมื่อผู้กำกับเสนาสั่งให้เขาวางมือจากคดีเสี่ยสงครามและให้ ส่งมอบข้อมูลให้ ร.ต.อ.พอล (กันต์ กันตถาวร) ซึ่งจะมาทำงานแทนเขา เตชิตรู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยรู้จักมาก่อน แต่สายตาของตำรวจหนุ่มหล่อมาดเข้มชื่อ พอล ที่มองเขามันเหมือนเป็นคู่อริกันมากกว่าจะเคยเป็นเพื่อนกัน เตชิตไปพบนายตำรวจรุ่นพี่อีกคนเพื่อให้ช่วยเสก็ตช์ภาพของเสียงใส โดยที่เขาเป็นคนอธิบายลักษณะหน้าตาของนางแบบจำเป็นที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ไม่นานนักก็ได้ภาพของเธอ
คืนนี้เขาจะไปพบเจนจิราที่ผับแห่งหนึ่งตามที่ได้ข้อมูลจาก ธนากรณ์ (กลม-นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง ซึ่งเตือนเขาว่าให้ระวังตัวให้มาก เพราะมีข่าวว่าเจนจิราเป็น”ผู้หญิง” คนใหม่ของเสี่ยสงคราม
เสี่ยสงคราม หรือ เดนิส หยาง (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) พ่อค้ายาเสพติด ชาวจีนรายใหญ่ที่มีอิทธิพลมาก เขาเข้ามาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยเพื่อหาทางฟอกเงินที่ได้จากการ ค้ายา เดนิส หยางต้องการได้สัญชาติไทยจึงจ้าง ปรกเดือน (เบนซ์-ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) พนักงานสาวสวยในบริษัทให้แต่งงานกับเขา ปรกเดือนยอมตกลง เงินค่าจ้างนั้นมากพอที่จะส่งให้ ปรายดาว (มีน-พีชญา วัฒนามนตรี) น้องสาวคนเดียวไปเรียนต่อต่างประเทศได้อย่างที่ต้องการ พ่อแม่ของทั้งคู่เพิ่งตายไป ปรกเดือนจึงต้องดูแลน้องสาวแทน ซึ่งเธอก็เต็มใจ พี่น้องสองคนนี้รักกันมาก เหตุผลสำคัญอีกอย่างที่ทำให้เธอแต่งงานกับเดนิส คือ เธอรักเขา ปรกเดือนรักเดนิสตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเขา ทั้งที่ในตอนนั้นเดนิสจะยังไม่รู้จักเธอเสียด้วยซ้ำ เมื่อเดนิสต้องการแต่งงานกับผู้หญิงไทย
เขาเลือกคนที่เหมาะสมอยู่นานจนกระทั่งพบปรกเดือน เขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับเธอ ปรกเดือนสวยและแสนดีจนทำให้เดนิสรักเธอได้ไม่ยากนัก แม้เขาจะมีผู้หญิงหลายคนแต่ก็รู้กันว่าปรกเดือนคือคนที่เดนิสรักที่สุด เวลาผ่านไปเมื่อปรายดาวเรียนจบเธอเดินทางกลับประเทศไทย เธอสวยน่ารักจนไปสะดุดตาหุ้นส่วนคนหนึ่งของเดนิส เขามาเจรจาขอ”ซื้อ” ปรายดาวกับเดนิส เมื่อเดนิสบอกปรกเดือนให้ไปคุยกับน้องสาว เธอโกรธมากและพยายามหาทางช่วยปรายดาวให้หนีไป แล้ววันนั้นปรายดาวก็ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุรุนแรงจนทำให้เธอไม่รู้สึกตัวอีก เลย หลับเป็นเจ้าหญิงนิทรา ปรกเดือนเสียใจมากโทษว่าเป็นความผิดของ เดนิส เธอหมางเมินเขาและหันไปทุ่มเทดูแลน้องสาวคนเดียวอย่างดีที่สุด สองปีผ่านไป ปรกเดือนไม่เหนื่อยหรือท้อใจ เธอมั่นใจว่าวันหนึ่งปรายดาวจะตื่นขึ้นมาและหายเป็นปกติ
การสืบหาตัวตนของเสียงใสทำให้เตชิตต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีเสี่ยสงคราม อีกจนได้ เมื่อเขาตามเจนจิราไปที่ผับ หาโอกาสตีสนิท จนเธอยอมให้เขาไปส่งเธอที่อพาร์ตเมนท์ ก่อนที่เธอจะลงจากรถ เตชิตหยิบภาพเสก็ตช์ของเสียงใสมาขอลายเซ็นจาก เจนจิรา (ฝ้าย-ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว) โดยบอกว่าเป็นดาราคนโปรด เจนจิราตกใจมากเมื่อเห็นรูป ราวกับกลัวอะไรสักอย่าง เธอรีบเซ็นต์ให้อย่างขอไปที ลงจากรถได้ก็แทบจะวิ่งเข้าไปในอพาร์ตเมนท์ หญิงสาวรีบโทรศัพท์บอกเดนิส ว่ามีผู้ชายนำรูปปรายดาวมาถามกับเธอ
วันต่อมาเตชิตหงุดหงิดเมื่อสังเกตได้ว่า มีชายฉกรรจ์ สามสี่คนกำลังสะกดรอยเขา เขาคิดว่าคงเป็นผลจากการที่เขาไปพบเจนจิรา ชายหนุ่มจึงขับรถไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่หน้าอพาร์ตเมนท์ที่เธอพัก พวกนั้นตามมาจริงๆ เตชิตจึงให้เสียงใสไปแอบฟังว่าพวกมันจะทำอะไร เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อคิดถึงเสียงใส สายลับล่องหนของเขา ทว่าครู่เดียวเตชิตก็ต้องอารมณ์เสียเมื่อเห็น พอล กำลังเดินมาที่รถ เขาก้มตัวลงพูดกับเตชิตเสียงเข้มดุให้รีบไปจากที่นี่ และเลิกยุ่งกับเรื่องนี้ได้แล้ว ก่อนที่เขาจะรายงานให้ผู้กำกับเสนารู้ พอลก้าวยาวๆ กลับไปแล้ว
เตชิตสตาร์ทรถแล้วขับออกมาทันทีด้วยอาการกระแทกกระทั้น เขากำลังโมโหมาก นึกอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าพอลเป็นใคร ทำไมจึงตามวุ่นวายกับเขานัก เตชิตโกรธจนลืมเสียงใส จนกระทั่งได้ยินเธอถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ตอบแต่กลับให้เธอเล่าว่ารู้อะไรมาบ้าง คำตอบคือไม่รู้ว่าพวกนั้นคุยอะไรกันและหมายถึงอะไร จู่ๆ รถของเขาก็ถูกชน คู่กรณีเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่พูดจายั่วโมโหท้าทายเตชิตจนเขาทนไม่ไหว ชกต่อยกับพวกมันจนได้ เสียงใสโกรธที่ช่วยเขาไม่ได้ มือเธอที่พยายามจับตัวพวกนั้นทะลุผ่านตัวมันไปหมด เธอหยิบจับสัมผัสอะไรไม่ได้เลย ชกต่อยชุลมุนครู่ใหญ่ พวกมันเริ่มล่าถอยแต่แล้วจู่ๆ เตชิตก็ถูกใครคนหนึ่งใช้ไม้ฟาดที่ศีรษะอย่างแรงจนสลบ เขาถูกกลุ่มคนร้ายลากตัวขึ้นรถออกไปจากที่นั่นทันที เสียงใสแทรกตัวเข้าไปกอดประคองเตชิตพยายามเช็ดเลือดให้เขาแต่มันไม่มี ประโยชน์อะไรเลย
เตชิตถูกนำตัวไปที่โรงสีร้างแห่งหนึ่ง มีคนร้ายอีกกลุ่มรออยู่แล้ว เตชิตถูกลากตัวไปมัดไว้แน่น พวกมันรอเวลาที่เขาฟื้นเพื่อจะได้รุมทำร้ายให้สนุกมือ เสียงใสคิดหาทางช่วยเตชิต เธอจะปล่อยให้เขาตายไม่ได้ หญิงสาวหลับตาคิดถึง ศรีตรัง ลืมตาอีกครั้งเธอมาอยู่ที่ห้องอาหารในอาคารรับรองของไร่สุขศรีตรัง เสียงร้องอย่างตกใจของจุรีทำให้เสียงใสรู้ว่านางมองเห็นเธอ เสียงใส ดีใจที่ศรีตรังกับตรีทศอยู่ที่นั่นด้วย เธอทั้งปลอบทั้งขู่จุรีอยู่นานกว่านางจะยอมเป็น “ล่าม” พูดตามเธอบอกให้ศรีตรังรู้ว่าเตชิตกำลังอยู่ในอันตราย หญิงสาวไม่ลังเลที่จะรีบไปช่วยเพื่อนสักนิดเดียว ศรีตรังคว้าปืนคู่ใจ แล้วจึงหยิบอีกกระบอกส่งให้ตรีทศ เธอสั่งให้จุรีไปด้วยเพราะต้องคอยเป็นล่ามพูดแทนเสียงใส เพื่อบอกทางนั่นเองและด้วยความช่วยเหลือของธนากรณ์ ศรีตรังจึงหาโรงสีร้างนั่นพบ ส่วนเตชิตถูกพวกมันใช้น้ำสาดหน้าจนต้องฟื้น คนแรกที่เขาเห็นหน้าคือนายเจียง พ่อค้ายาตัวร้ายคู่อริของเขานั่นเอง
เตชิตเจ็บระบมไปทั้งตัวแต่น้อยกว่าเจ็บใจที่พลาดท่าถูกศัตรูจับมาได้ เจียงสั่งให้ลูกน้องซ้อมเขาอย่างสะใจ แผนล่อซื้อยาของเตชิตทำให้เจียงเสียเครดิต เสียชื่อในวงการค้ายา ทันทีที่ถูกปล่อยตัวเขาก็วางแผนล้างแค้นทันที จนกระทั่งได้ตัวเตชิตมาในวันนี้
ศรีตรัง กับ ตรีทศ ลอบเข้าไปในโรงสี ภาพที่เพื่อนโดนรุมซ้อมทำให้ศรีตรังทนไม่ไหว เธอกับตรีทศบุกลุยเข้าไปช่วยเตชิตโดยไม่รอธนากรณ์ที่กำลังตามมาพร้อมตำรวจ อีกหลายนาย ศรีตรัง ตรีทศ เตชิต โชคดีที่ตำรวจมาทันเวลา พวกนายเจียงเผ่นหนีไปคนละทิศละทาง เตชิตถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ในช่วงเวลาวิกฤตและวุ่นวายนั้น ปรายดาวที่หลับนิ่งไม่รู้ตัวมานาน เกิดอาการชักเกร็งเป็นระยะๆ และรุนแรงขึ้นอย่างน่ากลัว จนปรกเดือนต้องรีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล
ธนากรณ์ มองตามปรกเดือนที่เดินเกือบเป็นวิ่งตามเตียงผู้ป่วยไปที่ลิฟต์ เขาจำได้ว่าผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงคือผู้หญิงในภาพเสก็ตช์ที่เตชิตเคยนำมา ให้ดู เขาหาทางหาข้อมูลเพิ่มเติมทันที ในช่วงเวลาเดียวกัน เสียงใสที่อยู่เฝ้าเตชิตในห้องพิเศษรู้สึกแปลกๆ เหมือนเมื่อครั้งที่เธอพบพระพุทธรูปองค์นั้น เธอเดินออกไปจากห้อง และเห็นปรกเดือนเดินเข้าประตูห้องที่ไม่ห่างจากห้องนี้นัก
เสียงใสจำได้ว่าเป็นพี่สาวของเธอนั่นเอง จึงเดินไปที่ห้องนั้น ชื่อ ปรายดาวที่ติดไว้หน้าห้องทำให้เสียงใสรู้สึกคุ้นเคย เธอเดินผ่านประตูเข้าไปยืนข้างเตียงคนไข้แล้วนิ่งไป ปรายดาวเหมือนกับเธอเหลือเกิน
วันรุ่งขึ้นพอลมาพบเตชิตเพื่อสอบปากคำ เขาต้องรับผิดชอบคดีนี้ด้วย พอลหนักใจเมื่อเตชิตไม่ยอมให้ความร่วมมือ นอกจากไม่ให้รายละเอียดแล้วยังกวนประสาทอีกต่างหาก พอลกำลังจะกลับเมื่อศรีตรังเข้ามาในห้อง ทั้งคู่ชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นหน้าและสบตากันชัดๆ ชายหนุ่มเป็นฝ่ายได้สติก่อนพอลจึงรีบออกจากห้อง ขณะที่ศรีตรังผลุนผลันตามเขาออกมาเช่นกัน เธอวิ่งมาขวางหน้าเขา ท่าทางเธอดีใจมากที่พบเขา ศรีตรังเรียกเขาอย่างมั่นใจว่า “พี่เพชร” แต่พอลปฏิเสธอย่างสุภาพ ห่างเหิน ก่อนจะรีบเดินจากไป เธอมองตามเขาจนลับตาก่อนจะกลับเข้าไปที่ห้องเตชิต เขาถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ศรีตรังตอบเพียงว่า พี่เพชร เตชิต จำได้ทันทีว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นหน้าพอลนัก
ศรีตรังหลบออกมานั่งคิดคนเดียว ถึงจะผ่านไปนานเป็นสิบปี เธอก็จำพี่เพชรได้ เขาเป็นรักครั้งแรกของเธอ พบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเขาเป็นรุ่นพี่ที่ น่ารัก ใจดีกับน้องๆไม่โหดเหมือนคนอื่นๆ มาดนิ่งๆ พูดน้อยค่อนข้างขรึมกลับทำให้น้องๆ เกรงใจ ศรีตรังอมยิ้มเมื่อคิดถึงวันแรกที่เพชรกล้าเข้ามาพูดคุยด้วยหลังจากที่แอบ มองมาหลายวัน เพชรพยายามเป็นพี่ที่ดีแม้ว่าบ่อยครั้งที่เขาแสดงออกชัดเจนว่าเป็นห่วงหรือ หวง “น้องศรีตรัง”มากไปหน่อย เพชรกับเตชิตไม่ถูกกันเลย เขาไม่ชอบที่เธอสนิทสนมกับเตชิตมากจนเหมือนจะรู้จักรู้ใจกันไปทุกเรื่อง ส่วนเตชิตไม่พอใจที่เพชรเข้ามาวุ่นวายกับเพื่อนสาวเกินกว่าการเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้องคนอื่นๆ
ความสนิทสนมระหว่างเตชิตกับศรีตรังทำให้เพชรระแวง วันหนึ่งเขา จึงสารภาพกับ “น้องศรีตรัง”ว่าเขารู้สึกกับเธอมากกว่าการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ศรีตรังเองก็เต็มใจที่จะเป็นมากกว่า”รุ่นน้อง”สำหรับเขาเช่นกัน เพชรกับเธอคุยกันรู้เรื่องเข้าใจกันทุกอย่างยกเว้นเรื่องเดียวคือ เตชิต เขาไม่ยอมรับว่า เตชิตเป็น”เพื่อนตาย”ของเธอ เมื่อเพชรเรียนจบ พ่อกับแม่ให้เขาไปเรียนต่อต่างประเทศ ก่อนเดินทางเพชรพาศรีตรังไปเที่ยวด้วยกันจนค่ำ เตชิตไม่ไว้ใจเพชรอยู่แล้วจึงแอบตามดูไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นเพชรเดินประคองศรีตรังที่เดินเซเหมือนคนเมาออกมาจากผับแห่งหนึ่ง เตชิตหมดความอดทนเขาเข้าใจว่าเพชรมอมเหล้าเพื่อนสาวเพื่อหวังรวบรัดเธอให้ เป็นของเขาก่อนที่จะไปเมืองนอก เตชิตดึงศรีตรังออกจากอ้อมกอดเพชรแล้วจึงชกต่อยเขาแรงจนแทบสลบโดยไม่ฟัง เสียงห้ามของ
ศรีตรังเลย เรื่องวันนั้นเป็นการเข้าใจผิดแท้ๆ เพชรบอบช้ำจนต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อศรีตรังไปเยี่ยมเขายื่นคำขาดให้เธอเลือกระหว่างเขากับเตชิต เธอปฏิเสธแล้วรีบกลับ และจากวันนั้นศรีตรังไม่มีโอกาสได้พบเพชรอีกเลย เขาไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วหายเงียบไป ศรีตรังข่มใจใช้ชีวิตตามปกติ มุมานะทำงานเพื่อให้ลืมเขา ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าเธอทำไม่ได้ เธอยังรักเพชรและรอเขากลับมาเสมอ เมื่อพบพอล เธอมั่นใจว่าเขาคือพี่เพชร แต่เขากลับปฏิเสธ ศรีตรังได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวอยู่เฝ้าเตชิตมีความหวังลึกๆ ว่าอาจจะมีโอกาสได้พบพอลอีกแต่เขาก็ไม่กลับมาอีกเลย
ตลอดเวลาที่นอนป่วยอยู่หลายวันเตชิตแปลกใจว่าเสียงใสหายไปไหน เขาอยากขอบใจเธอที่อุตส่าห์ไปตามศรีตรังมาช่วยเขาจนได้ ชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้เมื่อคิดถึงคำพูดเพื่อนสาวที่เล่าวีรกรรมของเสียงใส อย่างตื่นเต้น เตชิตอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ เสียงใสก็ปรากฏตัวขึ้นมา ท่าทางเธอหม่นเศร้า เสียงใสขอให้เขาเก็บพระในกรอบพลาสติกของเธอไว้เป็นที่ระลึกเพราะเธอไม่รู้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอต่อไป เสียงใสพาเขาไปที่ห้องปรายดาว เตชิตเข้าใจทันทีเมื่อเห็นเธอ เสียงใสบอกว่าเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะกลับเข้าร่างแต่ไม่สำเร็จ เสียงใสเดินไปล้มตัวลงนอนทาบกับร่างปรายดาว เห็นเป็นภาพเหลื่อมซ้อนกันอยู่อย่างน่าแปลกใจ
เสียงใสพูดเศร้าๆ ว่าเธอคงล่องลอยอยู่อย่างนี้ตลอดไป เตชิตคิดถึงสิ่งที่จะเชื่อมวิญญาณกับร่างกายเข้าด้วยกัน ชายหนุ่มถอดสร้อยที่คล้องพระของเสียงใสออกแล้วสวมให้กับปรายดาวทันที เขาแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อภาพเสียงใสที่ซ้อนอยู่กับปรายดาวหายไป เตชิตจับมือเธอมากุมไว้ พลางมองหน้าเธอแทบไม่กระพริบตา เขาอยากเห็นเวลาเธอลืมตาตื่นขึ้นมาและอยากให้เธอเห็นเขาเป็นคนแรก ทว่ารออยู่นานก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหญิงนิทราไม่ตื่นเสียที เตชิตโน้มตัวลงจูบเธอหวังให้รู้สึกตัว เขาถอนใจเมื่อปรายดาวยังคงไม่รู้สึกตัว ชายหนุ่มตัดสินใจกลับไปที่ห้องก่อนที่จะมีใครมาพบเขาที่นี่
เตชิตบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจที่ไม่พบเสียงใสอีกเลยจนกระทั่งเขาออกจาก โรงพยาบาล ศรีตรังพยายามติดต่อขอพบกับพอล เพื่อจัดการปัญหาที่ค้างคาใจแต่กลับกลายเป็นว่าต้องผิดใจกันมากขึ้น ธนากรณ์และจ่าธงลูกน้องคนสนิท หาข้อมูลประวัติของ ปรายดาว ตามที่เตชิตต้องการ ข้อมูลที่ได้มาเกี่ยวพันถึงพอล ปรกเดือน และเดนิส อย่างไม่น่าเป็นไปได้ เมื่อเตชิตได้ข่าวว่าเดนิสกำลังจะส่งมอบยาเสพติดจำนวนมากให้กับลูกค้าที่สวน ผลไม้แห่งหนึ่ง เขากับธนากรณ์และจ่าธงจึงตามไปซุ่มดู เตชิตดีใจมากที่เห็นพอลอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ธนากรณ์ถ่ายภาพไว้ได้ชัดเจน ไม่นานนักเดนิสก็มาถึง การซื้อขายเริ่มต้นขึ้น แต่ยังไม่เรียบร้อยพวกนั้นก็ต้องหนีกันวุ่นวาย เมื่อตำรวจหลายสิบนายเข้ามาล้อมจับ เตชิตรีบตามเดนิสที่หิ้วกระเป๋าเงินหนีไปทันที เดนิสรีบเดินเพื่อหนีออกทางประตูหลังสวน แต่ปรกเดือนเข้ามาขวางไว้ เธอขอร้องให้เขาหนีไปกับเธอและลูก ปรกเดือนเพิ่งจะบอกกับเขาก่อนเดินทางมาที่นี่ว่าเธอท้อง เดนิสจำได้ว่าสั่งให้เธอเอาเด็กออก เขาไม่คิดว่าเธอจะดื้อรั้นอย่างนี้ สถานการณ์คับขันจน
เดนิสไม่มีเวลาทะเลาะด้วย เขาคว้าแขนเธอให้หนีไปด้วยกัน แต่ปรกเดือนขืนตัวไว้ เดนิสชะงักเมื่อหันมาเห็นปืนในมือเธอ ปรกเดือนพูดเสียงเย็นว่าเขาต้องตายพร้อมเธอกับลูก เพื่อจะได้หนีไปมีชีวิตใหม่ด้วยกัน เธอยิงเดนิสทันที เตชิตกับศรีตรังรีบเข้ามาแย่งปืนก่อนที่ปรกเดือนจะฆ่าตัวตาย เดนิสบาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตระหว่างส่งโรงพยาบาล ศรีตรังเสียใจมากเมื่อเห็นว่าพอลถูกตำรวจจับ เวลาสิบปีเปลี่ยนให้พี่เพชรคนดีของเธอเป็นคนเลวไปแล้ว
เตชิตถูกผู้กำกับเสนา เรียกพบด่วน เขาโดนท่านตำหนิที่ไม่ยอมวางมือจากคดีเสี่ยสงคราม แต่เขาก็มีส่วนช่วยให้คดีนี้จบลง เตชิตแปลกใจจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นพอลเดินเข้ามาในห้องนั้นด้วย พอลควรจะอยู่ในห้องขังไม่ใช่ที่นี่ ผู้กำกับเสนาจึงอธิบายยิ้มๆ ว่า พอลทำงานให้ตำรวจสากล เขาแฝงตัวอยู่กับกลุ่มของเดนิสมาหลายปี และที่ต้องปลอมเป็นตำรวจไทยก็เพื่อให้เดนิสไว้ใจนั่นเอง
เรื่องชุลมุนวุ่นวายเมื่อเตชิตมาเยี่ยมปรายดาว หญิงสาวยังหลับตาพริ้มบนเตียงแต่สีหน้าสดใสขึ้น ชายหนุ่มโน้มตัวลงกำลังจะขโมยจูบแก้มเจ้าหญิงนิทรา เขาผงะออกเมื่อปรายดาวลืมตาขึ้น เตชิตดีใจมากแต่เธอกลับร้องให้คนช่วย เขาพยายามเรียกเธอว่าเสียงใสเพื่อเตือนความจำ ปรายดาวมองเขาอย่างหวาดกลัว เตชิตอยากจะบ้าเมื่อจู่ๆ พอลก็เปิดประตูเข้ามา เขาตรงเข้าไปกอดปรายดาว อย่างปลอบใจ เธอกอดเขาแน่นอย่างกลัวจริงๆ เตชิตจึงเดินออกจากห้องอย่างโกรธๆ เสียงใส ฟื้นขึ้นมาในร่างปรายดาวแต่จำเขาไม่ได้ ที่ร้ายกว่านั้นพอลเข้ามายุ่งเรื่องนี้อีกจนได้ ชายหนุ่มแค้นใจพูดไม่ออกเมื่อพอลตามมาบอกว่าปรายดาวเป็นคู่รักของเขา พอลขอให้เขาเลิกวุ่นวายกับเธอได้แล้ว
เตชิตขับรถออกจากโรงพยาบาลอย่างโกรธจัด แต่แล้วก็ต้องถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลอีกจนได้เมื่อรถของเขาโดนรถบรรทุกขนาด ใหญ่ชนอย่างแรง ศรีตรังตามมาเยี่ยมเพื่อนเธอบ่นพึมเรื่องที่เขาโชคร้าย เจ็บตัวบ่อยเหลือเกิน แต่เมื่อเตชิตเล่าเรื่องพอลและการทำงานของเขาให้ฟัง ศรีตรังดีใจที่พี่เพชรเป็นคนดี ความดีใจหายไปทันทีเมื่อเตชิตพูดต่อว่า พอลเป็นคู่รักของปรายดาว ชายหนุ่มสรุปให้เพื่อนสาวฟังสั้นๆ ว่า เสียงใสก็คือวิญญาณของปรายดาว เขารักเสียงใสหรือปรายดาวคนนี้ พอลหรือพี่เพชรไม่ควรจะมายุ่ง เพราะฉะนั้นศรีตรังต้องช่วยเขาวางแผน”ฟื้นความจำ”คนคู่นี้ให้ได้ พี่เพชรจะได้กลับมาหาน้องศรีตรังและ ปรายดาวก็ควรจะอยู่กับเตชิต
ปรายดาวต้องทำกายภาพบำบัดอยู่หลายเดือนกว่าจะเดินได้เป็นปกติ เธอเสียใจเมื่อรู้เรื่องปรกเดือน ปรายดาวไปเยี่ยมพี่สาวบ่อยๆ เพื่อให้กำลังใจ ปรกเดือนใกล้คลอดเต็มทีแต่เธอก็มีความสุขที่จะมีลูก ซึ่งจะเป็นตัวแทนของ เดนิส ปรายดาวชวนพอลไปเที่ยวที่ไร่สุขศรีตรัง ชายหนุ่มเข้าใจว่าเธอจำทุกอย่างได้แล้ว แต่ไม่ใช่ ปรายดาวได้แผ่นพับประชาสัมพันธ์ของไร่นี้ส่งมาที่บ้านจนอยากจะไปเที่ยว ส่วนพอลแม้จะปฏิเสธกับศรีตรังว่าเขาไม่ใช่พี่เพชร แต่เขาก็หลอกตัวเองไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร การเดินทางไปไร่สุข
ศรีตรังครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบ”น้องศรีตรัง”ก็ได้ เมื่อทั้งสองคนเดินทางมาถึงไร่ แผนการ”ฟื้นความจำ”ของเตชิตและศรีตรังก็เริ่มขึ้น ศรีตรังต้อนรับพอลเหมือนลูกค้าคนอื่นๆ เธอทำเหมือนเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกค่อนข้างไว้ตัวและหมางเมินจนพอลหงุดหงิด ใจ ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน ศรีตรังทำให้พอลยอมรับว่าเขาคือพี่เพชรและกลับมาหาเธอจนได้ สิบปีไม่ทำให้เขาลืม”น้องศรีตรัง”คนนี้เลยเขายังรักเธอ ส่วนเตชิตก็ทำให้ปรายดาวจำเสียงใสและเรื่องราวระหว่างเขากับเธอได้เช่นกัน แผนการของเตชิตและศรีตรังเพื่อนสนิทคู่นี้สำเร็จลงด้วยดี
รายชื่อนักแสดง ปางเสน่หา
เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข รับบท ร.ต.อ.เตชิต
มีน พีชญา วัฒนามนตรี รับบท เสียงใส หรือ ปลายดาว
กันต์ กันตถาวร รับบท พอล หรือ เพรช
เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ รับบท ศรีตรัง
อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร รับบท เดนิส หยาง
เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ รับบท ปรกเดือน
น้ำหวาน กรรณาภรณ์ พวงทอง รับบท ลดา
กลม นพพล พิทักษ์โล่พานิช รับบท ธนากรณ์
ท็อป ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท ป้าจุรี
นึกคิด บุญทอง รับบท ลุงสม
สุรวุฑ ไหมกัน รับบท ผู้กำกับเสนา
อู๋ นวพล ภูวดล รับบท เจียง
การ์ตูน อินทิรา เกตุวรสุนทร รับบท อ้อยใจ
ไม้ นนทพันธ์ ใจกันทา รับบท ศักดิ์สิทธิ์
ฝ้าย ณิชานันท์ ฝั่นแก้ว รับบท เจนจิรา
ส้ม ธัญสินี พรหมสุทธิ์ รับบท เกษรา
วิภพ บางยี่ขัน รับบท จ่าธง
พงษ์ประยูร ราชอาภัย รับบท พงษ์เทพ
สงชาย ศักดิ์กุล รับบท อำนาจ
ด.ญ.ไลล่า ปรมกระสินธุิ์ รับบท วิญญาณลูกสาว
แสบสลับขั้ว
เมื่อโชคชะตาเล่นตลกจับ “ตัวแสบขาแวนซ์ระดับเทพ” สลับร่างกับ “คุณชายจอมเนี้ยบตัวพ่อ” ความสุดขั้วของ 2 ตัวแสบ ทำให้เกิดเรื่องโกลาหลอลหม่านทั้งเรื่องการงานและความรัก
ณ ชุมชนพัฒนาสู่สุขาวดี ชุมชนเล็กๆที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นที่สิงสถิตย์ของ เซียน (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ชายไทยวัยเกือบ ๓๐ แต่มีพฤติกรรมราวกับทีนเอจเจอร์ (Teenager) หรือเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ผู้ใหญ่ไม่รู้จักโต”
วันๆ เซียนเอาแต่แต่งรถมอเตอร์ไซค์ ค่ำๆ ก็ออกแวนซ์กับเด็กแถวบ้าน ถึงแม้อายุจะต่างกันเกือบเท่าตัว แต่เซียนก็ไม่หวั่น ตะบี้ตะบันไร้สาระไปวันๆ เป็นที่หนักใจของ ป้าสายไหม (ราตรี วิทวัส) พี่สาวพ่อผู้รับหน้าที่อุปการะเซียน หลังจากกำพร้าพ่อแม่จากอุบัติเหตุทางเรือตั้งแต่เด็ก สายไหมต้องปากเปียกปากแฉะกับการพร่ำบ่นเซียนตลอดเวลา ตอนเป็นนักเรียนก็เรียนไม่เอาไหน โตขึ้นก็ไม่หางานทำเป็นเรื่องเป็นราว เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น จนสุดท้ายมาลงเอยอยู่ที่วินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยเป็นงานอดิเรก สายไหมเหนื่อยใจกับความไม่รับผิดชอบของหลานชายคนเดียวอย่างสุดระอา อยากจะไล่ออกจากบ้านหลายครั้ง แต่หลานชายตัวดีใช้คารม บวกอารมณ์ขัน ทำให้สายไหมใจอ่อน ต้องยอมเลี้ยงดู (มัน) ต่อไป
นอกจากสายไหมที่หลงคารมเซียนแล้ว สายพิณ หรือ พิณ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) เด็กสาวรุ่นน้องข้างบ้านที่โตตามกันมายังเป็นอีกหนึ่งคนที่แอบปลื้มกับอารมณ์ขันของเซียน สายพิณเป็นหญิงสาววัยใส แสนดี อ่อนหวาน ตัวเล็กๆ น่ารัก เป็นเหมือนดอกไม้แสนสวยที่แอบซ่อนอยู่ในชุมชนแออัด สายพิณเป็นเด็กกำพร้าเหมือนเซียน อาศัยอยู่กับ ยายปิ่น คู่หูคู่ฮาของป้าสายไหม สายพิณอยู่บ้านติดกับเซียน ด้วยความใกล้ชิดทำให้สายพิณคิดกับเซียนเกินพี่ชาย แต่เซียนกลับไม่เคยเห็นเธอเป็นอื่น นอกจากน้องสาวแสนน่ารัก น่าทะนุถนอม สายพิณจำต้องเก็บความรักไว้ในใจไม่เคยบอกใคร ด้วยความไม่เจียมกะลาหัว เซียนดั๊นไปแอบชอบ น้ำเพชร (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ลูกสาว เติมศักดิ์ หรือ เฮียเติม (พิพัฒน์พล โกมารทัต) และ เจ๊กิมฮวย (ณหทัย พิจิตรา) ผู้ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น สมรศรีมณีฉาย ในภายหลัง
น้ำเพชรเป็นลูกสาวร้านทองหน้าชุมชนหมอเล้ง จบการบริหารมาจากออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นเลขานุการให้กับ ปลาใหญ่ หรือ คุณใหญ่ (ธันวา สุริยจักร) นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง (มั่กๆ) อายุยังไม่ทันก้าวข้ามมาเลข ๒ จำต้องมารับช่วงกิจการของตระกูลมหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจ น้ำเพชรเป็นเลขาหน้าใหม่ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน น้ำเพชรแอบชอบปลาใหญ่เจ้านายหน้าใส แต่ด้วยวัยที่ต่างกัน ประกอบกับความเคร่งขรึม จริงจัง เฮี้ยบ เนี้ยบ กริบ ทำให้น้ำเพชรไม่กล้าแสดงออก ได้แต่เก็บอาการแอบชอบอยู่ในใจลึ๊ก…ลึก !!
ถ้าเทียบระหว่างเซียนและปลาใหญ่ มันช่างแตกต่างและห่างไกลราวกับสรวงสวรรค์และแกนโลก ไม่ว่าเซียนจะพยายามตามจีบน้ำเพชรสักแค่ไหน แม้แต่ปลายหางตาเธอยังไม่เคยจะแลมาสักครั้งเดียว ปลาใหญ่เป็นลูกชายคนเดียวของ เกรียงไกร มหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจ (วันชัย เผ่าวิบูลย์) เจ้าของโรงงานทอผ้าไหมรายใหญ่ของประเทศไทย เกรียงไกรเสียภรรยาตั้งแต่ปลาใหญ่มีอายุได้เพียง ๓ ขวบ เขาส่งลูกชายคนเดียวไปอยู่โรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษ และกำลังจะเข้าศึกษาปริญญาตรี ปลาใหญ่ถูกเรียกตัวกลับมาประเทศไทยอย่างกะทันหัน เพราะเกรียงไกรเส้นโลหิตในสมองแตกจากความเครียด เขาเสียชีวิตหลังจากที่เห็นหน้าลูกชายเพียงไม่กี่นาที การจากไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของปลาใหญ่พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
ปลาใหญ่ต้องรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทมหาทรัพย์รุ่งเรืองกิจกรุ๊ป ในขณะเพียง ๑๙ ปี ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักใครสักคน คนที่เขาพอจะไว้ใจได้คือ พ่อบ้านครรชิต (เกริก ชิลเล่อร์) คนเก่าแก่ผู้ซื่อสัตย์ที่คอยดูแลปลาใหญ่และพ่อ ครรชิตเป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่อยู่เคียงข้างปลาใหญ่ในขณะขึ้นชกในสังเวียนธุรกิจที่แสนจะโหดร้าย โดยเฉพาะต้องคอยรับมือกับการสกัดดาวรุ่งของ เกริกก้อง (อัมรินทร์ สิมะโรจน์) น้องชายพ่อ ที่ต้องการฮุบกิจการเป็นของตัวเอง เกริกก้องไม่พอใจที่พี่ชายแต่งตั้งหลานชายปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาดูแลธุรกิจที่ก่อร่างสร้างกันมา เขาพยายามกลั่นแกล้ง และบีบบังคับให้ปลาใหญ่ขายหุ้นให้เขา แต่ไม่สำเร็จ ปลาใหญ่ยืนยันที่จะดูแลธุรกิจของพ่อด้วยตัวเอง เกริกก้องยิ่งไม่พอใจ หาทางดัน รัญญา หรือ รัน (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ลูกสาวคนเดียวขึ้นมาเทียบชั้นกับปลาใหญ่
รัญญาเป็นสาวเก๋ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง จบการศึกษาด้วยคะแนนดีเยี่ยม เรียนรู้งานมาตั้งแต่เด็ก รัญญาได้เปรียบปลาใหญ่ในทุกๆ ด้าน นอกจากปลาใหญ่ต้องเจอกับการเปรียบเทียบกับรัญญาแล้วยังต้องปวดหัวกับ จันทร์ทิพย์ ภรรยาของเกริกก้องที่คอยสร้างความปั่นป่วนภายในบ้านไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งจ้างคนใช้สืบข้อมูลส่วนตัวของปลาใหญ่ และคอยสาระแนตีสองหน้าทำเป็นหวังดี แต่จริงๆ ร้ายสุดขั้ว ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวได้เป็นใหญ่
ปลาใหญ่ต้องต่อสู้กับตัวเอง และต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ทำให้เขาเป็นเจ้านายที่สุดแสนเคร่งขรึม และอารมณ์ร้ายได้อย่างง่ายดาย ต่อมเหวี่ยงทำงานดีเป็นพิเศษ จนได้รับฉายา “คุณหนูอารมณ์เหวี่ยง” เลขากี่คนๆก็ไม่เคยรอด ภายในเวลาแค่ ๓ เดือน เปลี่ยนเลขามา ๑๒ คน และน้ำเพชรเป็นคนที่ ๑๓ หมายเลขสุดอาถรรพ์ แต่ด้วยความประทับใจส่วนตัวที่มีต่อเจ้านายสุดหล่อหน้าใส ทำให้น้ำเพชรกัดฟันทนทุกสิ่งอย่าง เข้าทำนองถึงร้ายก็รัก เซียนมีโอกาสได้เจอกับปลาใหญ่โดยบังเอิญ เพราะน้ำเพชรลืมเอกสารสำคัญไว้ที่บ้าน กิมฮวย เลยต้องจ้างเซียนให้เอาเอกสารไปให้ แวบแรกที่เจอกัน เซียนสุดหมั่นไส้ (แกมอิจฉา) เพราะปลาใหญ่ทั้งหล่อ ใส รวย และยังได้ทำงานใกล้ชิดน้ำเพชรอีกต่างหาก
เซียนแอบหึงทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นแฟน ปลาใหญ่เห็นว่าเซียนมีท่าทีสนิทสนมกับน้ำเพชร จึงเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ปลาใหญ่เตือนให้น้ำเพชรอบรมสั่งสอนแฟน เพราะเซียนแสดงความรุ่มร่ามแอบทรามเล็กน้อยออกมาโดยไม่รู้ว่าปลาใหญ่เป็นเจ้านาย น้ำเพชรแทบกรี๊ดและพยายามจะอธิบายความจริง แต่ปลาใหญ่ไม่สนใจฟัง ทำให้น้ำเพชรยิ่งเกลียดเซียนเข้าไส้สั่งให้เขาอยู่ห่างจากเธอมากที่สุด เซียนถึงกับน้ำตาตกในและหมั่นไส้ (ไอ้) เจ้านายขี้เก๊กมากเป็นทวีคูณ เซียนกลับมาระบายกับสหายเลิฟที่วินมอเตอร์ไซค์ด้วยความแค้นใจ สหายของเซียนประกอบไปด้วย ป๋อง (ชูษี เชิญยิ้ม) ชายไทยวัยเกือบ ๒๐ ร่างใหญ่ มีน้ำใจ กลัวผี มีฝีมือด้านทำอาหารเป็นเลิศ มอมแมม (วิชญ จารุจินดา) ชายไทยร่างเล็ก ขี้ท้า…ท้าไปทั่ว แต่จริงๆเป็นคนขี้กลัวที่สุด ชายสี่ (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เป็นคนที่ดูดี มีหลักการ แต่จริงๆแล้วมั่ว ทั้งสามคนเป็นน้องรักของเซียน ขอให้เป็นเรื่องไร้สาระเข้าไว้…ถึงไหนถึงกัน!
หลังจากระบายความเคียดแค้นจนสาแก่ใจ เซียนประกาศอย่างกึกก้องว่าชาตินี้จะไม่ขอไปเหยียบที่ทำงานปลาใหญ่อีก และถ้ารวยกว่าเมื่อไหร่จะซื้อกิจการของปลาใหญ่ให้หมด !! ป๋อง มอมแมม และชายสี่ หรือแม้แต่ตัวเซียน รู้ว่ามันเป็นคำท้าทายที่สุดแสนจะห่างไกลความเป็นไปได้ ต่อให้เซียนเกิดใหม่อีกร้อยกว่าชาติก็ไม่มีทางจะรวยกว่าปลาใหญ่เด็ดขาดแต่แล้ว..เหตุการณ์สุดพิลึกพิลั่นก็พลันเกิดขึ้น…
เมื่อปลาใหญ่มีเหตุต้องรีบขับรถออกจากบ้านเพื่อไปงานสำคัญ ในขณะที่เซียนต้องมาส่งเอกสารให้กับลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงกัน เซียนบิดมาอย่างเร็ว ทันใดนั้นเอง มีเด็กขี่รถจักรยานพรวดออกมานอกถนน และล้มลงตรงหน้าเซียนในระยะกระชั้นชิด เซียนตัดสินใจหักรถหลบออกโดยไม่ระวัง รถที่ตามหลังมาชนเข้าอย่างจัง ร่างเซียนลอยละลิวปลิวมาตกลงข้างถนน สลบเมือดไปทันที !! ในเวลาเดียวกัน ปลาใหญ่ขับรถอยู่อีกถนนด้วยความเร็วสูง ทันใดนั้นก็มีรถออกปาดหน้าเข้ามาอย่างเร็ว ทำให้ปลาใหญ่ต้องรีบหักหลบกะทันหัน รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ทั้งปลาใหญ่และเซียนอยู่ในอาการโคม่า และถูกพาส่งโรงพยาบาลเดียวกัน !! ในวินาทีแห่งชีวิตที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นกับความตาย ทั้งสองคนถูกเครื่องกระตุ้นหัวใจกระชากจิตและวิญญาณเข้าสู่ร่าง…ฟึ่บบบบบ !!
เซียนและปลาใหญ่รู้สึกตัวขึ้นในเวลาเดียวกันอย่างปาฏิหาริย์ แต่สิ่งที่มหัศจรรย์พันลึกยิ่งกว่านั้น คือ ทั้งสองคนค้นพบว่าร่างที่ตัวเองกำลังดำรงอยู่นั้น…มันไม่ใช่ร่างของตัวเอง วิญญาณของปลาใหญ่ดั๊นอุตริเข้าไปอยู่ในร่างของเซียน และวิญญาณของเซียนทะลึ่งเข้าไปอยู่ในร่างของปลาใหญ่
ทันทีที่ทั้งสองคนรู้สึกตัวและค้นพบความจริงอันแสนพิสดาร ทั้งเซียน (ที่อยู่ในร่างของปลาใหญ่) และปลาใหญ่ (ที่อยู่ในร่างของเซียน) สุดแสนจะช้อค !! (โอ้ว..แม่เจ้าเป็นไปได้อย่างไร???)
ปลาใหญ่รีบบุกมาหาเซียนทันที ในขณะที่เซียนยังมึนๆ อยู่ ปลาใหญ่พยายามจะเขย่าให้วิญญาณของเซียนออกจากร่างตัวเอง ทันใดนั้น น้ำเพชรเข้ามาเห็นพอดี๊…พอดี รีบเข้ามากระชากปลาใหญ่ออกจากเซียน พร้อมกับด่ากระจายไล่ให้ปลาใหญ่ออกไปไกลๆ จากเซียน (เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองคนสลับร่างกันอยู่) ปลาใหญ่พยายามจะอธิบาย แต่ยิ่งพูด น้ำเพชรยิ่งคิดว่าเขาบ้า เซียนได้ทีรีบสวมรอยเป็นปลาใหญ่ทันที และไล่ปลาใหญ่ออกไป ทำให้ปลาใหญ่แค้นสุดๆ เขาจะต้องหาทางกลับคืนสู่ร่างเดิมให้ได้
หลังจากการสลับร่างที่สุดแสนพิลึกกึกกือเริ่มต้นขึ้น ชีวิตของเซียน (ในร่างปลาใหญ่) และชีวิตของปลาใหญ่ (ในร่างเซียน) ก็ต้องพบกับความโกลาหลอลหม่านมากมาย เรียงหน้ากระดานเข้ามาจนรับแทบไม่ไหว เซียนตื่นเต้นกับความรวยได้ไม่นาน เขาก็ค้นพบว่าชีวิตมหาเศรษฐีหมื่นล้านสุดแสนจะน่าเบื่อ งานก็หนัก ต้องมีประชุมมากมาย ประชุมแต่ละทีก็มีแต่เรื่องเครียด คิดหัวแตกก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง เอกสารที่ต้องเซ็นก็มีนับไม่ถ้วน และไม่ว่าเขาจะเซ็นสักกี่ครั้ง ก็เซ็นไม่เหมือน เช็คไม่ผ่าน ทั้งบริษัทวุ่นวายไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น…ทั้ง เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) และ รัญญา ยังหาเรื่องเขาไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งเรื่องทำให้เสียหน้า ทำให้เสียชื่อเสียง เสียความน่าเชื่อถือ จนเซียนแทบจะอยากออกจากร่างเศรษฐีหมื่นล้าน แล้วกลับไปเป็นไอ้เซียนคนเดิม
สิ่งเดียวที่ทำให้เซียนมีความสุข คือการได้อยู่ใกล้น้ำเพชร ราวกับความฝันที่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง เซียนใช้ความเป็นปลาใหญ่หาโอกาสอยู่กับน้ำเพชรสองต่อสอง ใช้หน้าที่การงานไปหาเธอที่บ้าน อ้างว่ามีงานด่วน แล้วไปโชว์รวยต่อหน้าเติมศักดิ์และกิมฮวยด้วยความสะใจ แรกๆน้ำเพชรก็ตื่นเต้นที่เจ้านายสุดที่รักดูเหมือนจะมีใจให้อย่างคาดไม่ถึง แต่หลังๆ เธอเริ่มรู้สึกว่ามันมากจนผิดสังเกต ประกอบกับบุคลิกภาพก็แตกต่างราวกับคนละคน ยังไง๊…ยังไง มันก็ไม่ใช่คุณปลาใหญ่ที่เธอเคยรู้จัก แต่มันช่างคลับคล้ายคลับคลากับ (ไอ้)เซียนเสียเหลือเกิ๊น…(ยังไงกันเนี่ย?) แต่ในความต่างมันกลับทำให้เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ทั้งอารมณ์ขันและคารมที่สุดแสนจะลื่นไหล ทำให้เธออารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ทางด้านปลาใหญ่ (ตัวจริง) พยายามจะหาทางบอกความจริงกับทุกคนที่อยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นป้าสายไหม ยายปิ่น สายพิณ มอมแมม ชายสี่ ป๋อง ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า “เซียนสมองเสื่อม” หลงว่าตัวเองเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของโรงงานผ้าไหมอันโด่งดัง ยิ่งปลาใหญ่อธิบาย ทุกคนก็ยิ่งคิดว่าสมองเขาผิดปกติ เขาจึงเลือกที่จะหยุดและหาทางพิสูจน์ด้วยวิธีอื่น ปลาใหญ่พยายามติดต่อน้ำเพชรที่บ้าน และขอให้เธอช่วย แต่น้ำเพชรกลับไล่ตะเพิดราวกับเขาเป็นไอ้โรคจิต ทำให้เขารู้ว่าน้ำเพชรไม่ได้เป็นแฟนกับเซียนแต่เธอแอบชอบเขา และปลาใหญ่ก็ต้องช็อกหนักเมื่อรู้ว่าเซียนแอบชอบน้ำเพชร และใช้ร่างของเขาตามจีบน้ำเพชร ปลาใหญ่อาละวาดใส่เซียน พยายามจะให้เซียนยอมรับว่าเกิดการสลับร่าง แต่เซียนทำเนียนไม่ยอมรับ แถมยังด่าว่าปลาใหญ่เพี้ยน น้ำเพชรยิ่งไม่พอใจและไล่ปลาใหญ่กลับไป พร้อมทั้งให้ตำรวจมาเฝ้าหน้าบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้เธอ
ปลาใหญ่เปลี่ยนเป้าไปที่ครรชิต เขาพยายามขอพบครรชิตเพื่อบอกความจริง แต่โดนเซียนกลั่นแกล้งสารพัด ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้เจอกัน เซียนติดรูปตัวเองไว้หน้าโรงงาน และหน้าบ้าน ห้ามไม่ให้เข้ามาใกล้ทุกคนที่อยู่แวดล้อมและครรชิตอย่างเด็ดขาด ความแสบของเซียนทำให้ปลาใหญ่สุดเครียด โดยเฉพาะเวลาเห็นข่าวความเสียหายของบริษัทที่ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน ปลาใหญ่รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของเกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่คนเดียว เว้นแต่…สายพิณ
เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่รู้ว่าเซียนเปลี๊ยนไป ดูเงียบ ขรึม จริงจัง และไม่ออกไปไร้สาระกับสามสหาย ที่สำคัญ ยังมีความรู้และมีรสนิยมดีอย่างแปลกประหลาด ปลาใหญ่สุดดีใจ ถึงแม้สายพิณพูดได้ไม่เต็มปากว่าเธอเชื่อเรื่องการสลับร่าง แต่เธอยินดีจะช่วยเขาค้นหาความจริง และกลับคืนสู่ร่างเดิม ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกัน และความอ่อนหวานบวกกับน้ำใจอันดีของสายพิณ ทำให้ปลาใหญ่รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ และทุกครั้งที่เขามีเรื่องกลุ้มใจ คนแรกที่เขาคิดถึง คือเธอ ผู้หญิงแสนธรรมดา ฐานะค่อนข้างยากจน คนที่เขาคงไม่มีโอกาสได้พบ ถ้ายังคงเป็น “คุณปลาใหญ่” ไฮโซฯ หมื่นล้าน แต่ปลาใหญ่ต้องแอบจ๋อยๆ …เมื่อรู้ว่าสายพิณแอบชอบพี่เซียน และที่เธอช่วยเขาเพราะต้องการได้พี่ชายสุดเลิฟคนเดิมกลับคืนมา
ทางด้านเซียน เริ่มเครียดหนักพอกัน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในร่างปลาใหญ่ เขาไม่สามารถทำงานที่ปลาใหญ่เคยทำได้ ประกอบกับน้ำเพชร ครรชิต เกริกก้อง รัญญา และจันทร์ทิพย์ เริ่มระแคะระคายว่าเขาเปลี๊ยนไป ในขณะที่เซียนกำลังเครียด เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าสายพิณเข้ามาทำงานเป็นพนักงานของโรงงานผ้าไหม เซียนลืมตัว แสดงความดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สายพิณยิ่งปักใจ แต่เมื่อเธอซักไซ้ เซียนกลับไม่ยอมรับและเอาตัวรอดไปอย่างกะล่อน สายพิณยอมเข้าไปทำงานในโรงงานเพื่อหาช่องทางช่วยปลาใหญ่ และเธอยังพยายามอธิบายให้สามสหาย ป๋อง มอมแมม และชายสี่ รวมทั้งสายไหมและปิ่น เห็นใจปลาใหญ่ จนทุกคนเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง เพราะความเฮฮาไร้สาระไม่เคยปรากฏหลังจากเซียนประสบอุบัติเหตุ แถมยังพูดจาดูดีมีการศึกษาหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะตอนบอกทางฝรั่งด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ทุกคนปักใจทันทีว่า…คนที่ยืนอยู่ข้างหน้า ไม่ใช่เซียนแน่นอน !!
ปลาใหญ่เปิดใจเล่าทุกเรื่องให้ทุกคนฟัง โดยเฉพาะเรื่องอันตรายที่เซียนอาจจะได้รับจากเกริกก้องและรัญญา เพราะทั้งสองคนร้ายกาจมากพอที่จะคิดกำจัดเขาเพื่อหวังฮุบโรงงาน ทั้ง ๕ คนจึงตัดสินใจช่วยปลาใหญ่ลากตัวเซียนมายอมรับความจริงและหาทางสลับร่างคืนดั่งเดิม ด้วยความร่วมมือของสายพิณ มอมแมม ป๋อง และชายสี่ ทำให้พวกเขาได้ตัวเซียนมา และเค้นจนเซียนต้องยอมรับอย่างหมดสภาพ พร้อมกับขอร้องให้ปลาใหญ่ช่วยเทรนด์ให้ตัวเองเป็น “คุณปลาใหญ่” ให้ได้ แต่ปลาใหญ่ไม่ยอม เขาต้องการกลับคืนร่างดังเดิมเท่านั้น เซียนจำใจต้องยอมเพราะไม่มีทางออกอื่น
ปิ่น (ปนัดดา โกมารทัต) และสายไหมเป็นเจ้าภาพฝ่ายพิธีการ ทั้ง ๒ คน พยายามหาวิธีเพื่อเรียกวิญญาณกลับคืนร่าง ทำหมดทุกวิธี ทั้งไสยศาสตร์ พุทธศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ชาวบ้าน) แต่ไม่สัมฤทธิ์ ไม่ว่าจะใช้ศาสตร์ทางด้านไหน ทั้งสองคนก็ไม่ยอมกลับคืนร่างตัวเอง จนยายปิ่นสรุปปิดท้ายว่า “มันคงเป็นเวรกรรมที่ทำให้เป็นแบบนี้ ไม่มีวิธีอื่น เมื่อหมดกรรมแล้ว ก็คงจะได้กลับคืนร่างเดิม” บทสรุปยายปิ่น ทำให้ปลาใหญ่ถึงกับอึ้ง มึน และหมดหวัง ต่างกับเซียนที่ใช้ความกะล่อนหว่านล้อมให้ปลาใหญ่ยอมรับสภาพ แล้วช่วยเขาสวมบทบาทคุณหนูหมื่นล้านให้แนบเนียนที่สุด เพื่อดำเนินธุรกิจที่สุดป่วนอยู่ในตอนนี้ พร้อมทั้งหาทางกำจัดครอบครัวเกริกก้องที่จ้องจะฮุบสมบัติอยู่ทุกลมหายใจ
ปลาใหญ่จำใจต้องยอมรับข้อเสนอ โดยเข้าไปทำงานเป็นที่ปรึกษาเซียนอย่างใกล้ชิด สร้างความงุนงงให้กับทุกคน โดยเฉพาะน้ำเพชร…เธอสงสัยอย่างแรง ที่จู่ๆ ไอ้บ้าเซียนก็เข้ามาทำงานเป็นที่ปรึกษานายใหญ่ ข้ามหัวใครต่อใครอีกมากมาย เซียนพยายามให้เหตุผลชื่นชมเซียนต่างๆนานา เพราะหวังว่าถ้าได้กลับร่าง น้ำเพชรจะชอบตัวเองขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ว่าจะชื่นชมแค่ไหน น้ำเพชรก็ไม่มีทางเชื่อว่าเซียนจะทำงานได้จริง
น้ำเพชรพยายามจับผิดปลาใหญ่ในขณะที่ทำงานให้เซียน แต่ยิ่งเธอจับผิดมากเท่าไหร่ เธอยิ่งแปลกใจมากเท่านั้น เพราะเซียนทำงานได้อย่างดี ไม่มีที่ติ และบางครั้งมันทำให้เธอคิดถึง “คุณปลาใหญ่” เจ้านายหน้าใสที่เธอเคยทำให้ใครกลัวจนตัวสั่น ขณะที่ปลาใหญ่ช่วยงานเซียน เขาต้องเทรนด์เซียนในทุกๆเรื่อง ทั้งบุคลิกภาพ การออกงานสังคม การวางตัว การพูดจา และจ้างครูมาสอนภาษาแบบตัวต่อตัว แต่อย่างเดียวที่เขาไม่ยอมสอน คือปลอมลายเซ็น เพราะฉะนั้น เอกสารทุกฉบับ ปลาใหญ่เป็นคนเซ็นเองทั้งหมด และต้องแอบเซ็นแบบลับๆ เซียนต้องคอยกันไม่ให้น้ำเพชรและครรชิตรู้ แต่แล้วครรชิตก็ล่วงรู้จนได้ เพียงเวลาไม่นานที่ปลาใหญ่เข้ามาช่วยงานเซียน ครรชิตก็รู้ทันทีว่า คุณหนูตัวจริงของเขากลับมาแล้ว!!
เกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญาไม่พอใจที่จู่ๆก็มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้ศัตรู จันทร์ทิพย์ยุให้ใช้ไม้แข็งเพื่อกำจัดปลาใหญ่ (ที่อยู่ในร่างเซียน) เกริกก้องอนุมัติ แต่ย้ำว่าอย่าให้เรื่องบานปลาย ปลาใหญ่ถูกทำร้ายอาการสาหัส เซียนเห็นสภาพปลาใหญ่แล้วก็เป็นห่วงร่างกายตัวเอง เขาตัดสินใจจ้างมอมแมม ป๋อง และชายสี่มาเป็นบอดี้การ์ดให้กับเซียนและตัวเอง วันแรกที่ชายสี่มาทำหน้าที่บอดี้การ์ดให้เซียน เขาได้เจอกับรัญญา และตกหลุมรักในทันที ในขณะที่รัญญาทั้งรังเกียจและดูถูกอย่างเห็นได้ชัด แต่ชายสี่ก็ยังหลงละเมอเพ้อพกอย่างไม่เจียมตัว
ในระหว่างที่ปลาใหญ่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เซียนกลับไปแก้แค้นเกริกก้อง จันทร์ทิพย์ และรัญญาด้วยวิธีที่สุดแสนกะล่อน โทษฐานที่ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาต้องมีอันต้องบวมช้ำ เซียนฉีกหน้าทั้ง ๓ คน กลางงานสังคมหรู ทำให้ทุกคนรู้ว่าเกริกก้องอิจฉาหลานชายตัวเองและต้องการจะฮุบสมบัติ กลายเป็นข่าวดังกระฉ่อนไปทั้งวงการ สร้างความสะใจให้กับปลาใหญ่อย่างแรง ปลาใหญ่ขอบใจเซียนที่ตอบโต้คนพวกนั้น ในขณะที่เซียนก็ขอโทษปลาใหญ่ที่เขาเคยไม่ชอบขี้หน้า อีกทั้งยังฉวยโอกาสจากร่างของเขา ปลาใหญ่ให้อภัยแต่ห้ามไม่ให้ทำอีก โดยเฉพาะการใช้ความเป็นเขาตามจีบน้ำเพชร ข้อห้ามที่แสนยาก เซียนอึกอัก ไม่รับปาก และขอร้องให้ปลาใหญ่ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เขาไม่อยากให้เธอรู้ว่า จริงๆแล้วเขาไม่ใช่ปลาใหญ่ เซียนรู้ว่าเมื่อความจริงปรากฏ น้ำเพชรคงจะกลับไปเกลียดเขาเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะคืนสู่ความจริง เขาขอฝันหวานแบบนี้ไปอีกสักพัก ปลาใหญ่รับปากด้วยความเข้าใจ เพราะเขาเองก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน ถ้าเขากลับสู่ร่างเดิม สายพิณก็คงจะไม่สนใจเขาเช่นกัน ท่ามกลางม่านหมอกของความรักที่ไม่ลงตัว พายุแห่งความคลั่งแค้นก็เริ่มก่อตัวขึ้น… หลังจากการโดนฉีกหน้ากลางสาธารณะชน เกริกก้องแค้นสุดแค้น เขาสั่งให้จันทร์ทิพย์กำจัดไอ้หลานชายจอมวายร้ายให้สิ้นซาก!!
ในขณะที่เกริกก้องกำลังหน้าดำคร่ำเครียดกับการแก้แค้นเซียน รัญญาเริ่มเอะใจกับการเปลี่ยนไปของปลาใหญ่ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยเห็นเขาตอบโต้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะโดนรังแกแค่ไหน เขาจะเอาแต่เก็บกด และกดดันตัวเอง แต่จะไม่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้เด็ดขาด ประกอบกับบุคลิกที่ดูหลุกหลิก คำพูดคำจาที่ดูไม่ค่อยมีการศึกษา และเฮฮาผิดปกติ ทำให้เธอเริ่มสงสัย รัญญาอาศัยชายสี่เป็นเครื่องมือ เธอทำทีเป็นสนใจชายสี่ หาโอกาสอยู่กันสองต่อสอง และแอบล้วงความลับทุกครั้งที่มีโอกาส ชายสี่หลุดจะบอกหลายครั้ง แต่ก็ยั้งปากไว้ได้ทุกที น้ำเพชรเองก็เริ่มสงสัยมากขึ้น เธอรู้สึกว่าเซียน ปลาใหญ่ ครรชิต มอมแมม ป๋อง และชายสี่ รวมหัวกันทำอะไรบางอย่างลับหลังเธอ อีกทั้งจู่ๆก็มีสายพิณโผล่มาดูแลเซียน (ที่จริงๆแล้วเป็นปลาใหญ่) อย่างใกล้ชิด และเซียนก็ดูจะไม่สนใจเธอเหมือนเมื่อก่อน ด้วยความสงสัยทำให้น้ำเพชรแอบตามสืบว่า จริงๆแล้ว อะไรคือต้นเหตุของการเปลี๊ยนไป…ทำให้ปลาใหญ่และเซียนต้องระวังตัวเองอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็ต้องแก้ไขปัญหาภายในโรงงานที่เกริกก้องพยายามสร้างขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน และจันทร์ทิพย์ยังส่งนักเลงคอยสะกดรอยตาม หวังกำจัดเซียนตามคำสั่งของสามี
รอบตัวเซียนและปลาใหญ่มีความวุ่นวายและอันตรายรายล้อมอยู่ เท่านั้นยังไม่พอ เรื่องของหัวใจยังสร้างความปวดสมองไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อสายพิณได้ล่วงรู้ว่าเซียนชอบน้ำเพชร และพยายามจะใช้ความเป็นปลาใหญ่เพื่อเอาชนะใจเธอ สายพิณไม่พอใจอย่างแรง เพราะผิดศีลธรรม และแอบหึงเล็กๆ สายพิณพยายามจะเปิดโปงความจริงให้น้ำเพชรรู้ แต่เซียนอาศัยความกะล่อนเอาตัวรอดหลบเลี่ยงไปได้อย่างหวุดหวิด ในขณะเดียวกัน ทุกครั้งที่น้ำเพชรพยายามเข้าใกล้ปลาใหญ่เพื่อสืบความจริง เซียนก็ต้องคอยกีดกัน เพราะกลัวว่าน้ำเพชรจะรู้ความจริง และกลับไปชอบปลาใหญ่เหมือนเดิม
ยิ่งเซียนแสดงอาการหวงน้ำเพชรมากเท่าไหร่ สายพิณก็ยิ่งเสียใจมากเท่านั้น และยิ่งสายพิณเสียใจมากเท่าไหร่ ปลาใหญ่ก็ยิ่งจ๋อยมากเท่านั้น…เป็นวงเวียนของรักสี่เส้าที่แสนเศร้าและน่าเห็นใจ ป้าสายไหมและยายปิ่นอาศัยความเป็นผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเกิดอะไรขึ้น ยายปิ่นพยายามให้กำลังใจปลาใหญ่ และสารภาพว่าเธอยินดีจะมีเขาเป็นหลานเขยมากกว่าไอ้เซียน ถึงแม้เขาจะยังเด็ก แต่เป็นคนจริงจังและจริงใจ ในขณะเดียว กันก็พยายามจะให้หลานสาวได้รู้ตัวสักทีว่า จริงๆแล้ว เธอไม่ได้ชอบเซียน แต่มันเป็นเพียงความผูกพันและฝังใจ แต่ปลาใหญ่ก็ยังไม่กล้าพอจะสารภาพรัก ในขณะที่สายพิณก็ยังไม่รู้ใจตัวเองดีพอ ยายปิ่นก็ได้แต่ท้อใจ…พูดยังไงก็ไร้ประโยชน์ (เฮอ!) ป้าสายไหมเองก็พยายามจะให้เซียนยอมรับความจริงว่าน้ำเพชรไม่ได้ชอบเขาที่ตัวตนของเขาอย่างแท้จริง การปิดบังต่อไปก็เท่ากับหลอกตัวเองไปวันๆ แต่เซียนเองก็ยังไม่กล้าพอที่จะสารภาพความจริงกับเธอและแล้ว…การปิดบังก็เดินทางมาถึงสุดทาง
เมื่อน้ำเพชรจับได้ว่า…แท้จริงแล้ว เซียนและปลาใหญ่สลับร่างกันตามที่เธอสงสัย และทุกคนรู้ความจริงหมดแล้ว ยกเว้นเธอ น้ำเพชรอาละวาดใส่เซียน (ที่อยู่ในร่างปลาใหญ่) อย่างแรง ทั้งด่า ทั้งตบตี ด้วยความโกรธ และอายสุดจะบรรยาย น้ำเพชรเสียฟอร์มอย่างหนักที่ตัวเองสารภาพว่าชอบปลาใหญ่ ในขณะที่เขาอยู่ร่างของเซียน แล้วยังแสดงกริยาดูถูกเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเซียน น้ำเพชรตัดสินใจลาออกทันที และเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน ถึงแม้เซียนจะตามง้อ ตามขอโทษ แต่น้ำเพชรก็ไม่ยอมพูดด้วย แถมยังไล่ตะเพิดจนเปิดเปิง ปลาใหญ่ลงทุนมาขอโทษแทนเซียน น้ำเพชรก็ยังไม่ยกโทษให้ แถมด่ากลับ และประกาศว่าเธอเลิกชอบเขาแล้ว เพราะตอนนี้เธอรู้ตัวแล้วว่าไม่ชอบเด็ก !! และจะไม่มีวันกลับไปทำงานอีกเด็ดขาด เซียนสุดแสนเสียใจ ได้แต่เก็บตัวเงียบ สายพิณถึงได้รู้ว่าเซียนรักน้ำเพชรมาก และไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเขาได้ สายพิณตัดใจจากเซียน และคืนสภาพกลายมาเป็นน้องสาวดังเดิม
รัญญาแอบมอมเหล้าชายสี่ พร้อมกับใช้เสน่ห์หญิงเย้ายวนจนเขาเคลิ้มและบอกเรื่องสลับร่างอย่างหมดเปลือกโดยไม่รู้ตัว รัญญารีบนำความจริงมาบอกเกริกก้องและจันทร์ทิพย์ทันที พร้อมกับถีบหัวชายสี่ทิ้งอย่างไม่ไยดี ทั้งสองคนแทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นจริง แต่จากการทดสอบ และนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากอุบัติเหตุ ทั้งสองคนเริ่มเชื่อว่ามันมีความเป็นไปได้สูง เกริกก้องจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากการกำจัดเซียน (ในร่างปลาใหญ่) มาเป็นกำจัดปลาใหญ่ (ในร่างเซียน) ทันที เพราะถ้ากำจัดวิญญาณเซียนที่อยู่ในร่างปลาใหญ่ แต่วิญญาณปลาใหญ่ที่อยู่ในร่างเซียนก็ยังอยู่ และเขาอาจจะกลับมาแก้แค้นได้ แต่ถ้ากำจัดวิญญาณของปลาใหญ่ในร่างเซียนได้ เขาจะใช้เงินซื้อเซียนและสั่งให้ใช้ความเป็นปลาใหญ่ทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการได้ไม่ยาก
ทั้ง ๓ คน วางแผนชั่วร้ายอย่างเลือดเย็น โดยไม่ได้รู้ว่าเลยว่าน้ำเพชรแอบมาได้ยินโดยบังเอิญ ขณะที่เธอเข้ามาเก็บของในที่ทำงานตอนกลางคืน น้ำเพชรรีบหนีกลับบ้านด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว แผนการสั่งเก็บปลาใหญ่ดังกึกก้องในสมอง น้ำเพชรลังเลว่าจะยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ดี หรือจะวางเฉยแล้วปล่อยให้มันเป็นไป เพื่อเป็นการแก้แค้นที่โดนหลอกมาตลอด แต่แล้วความดีงามก็ชนะ น้ำเพชรมาหาปลาใหญ่และบอกสิ่งที่รับรู้มา ปลาใหญ่ขอบใจและดีใจที่น้ำเพชรเห็นใจและให้ความร่วมมือ ในแวบนั้นเอง…น้ำเพชรเริ่มรู้ว่า จริงๆแล้ว คนที่เธอเป็นห่วงไม่ใช่แค่ปลาใหญ่แต่เป็นเซียน ผู้ชายที่เธอไม่เคยสนใจแม้แต่นิดเดียว น้ำเพชรเริ่มค้นเข้าไปในใจของตัวเอง จนพบว่าเธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่อยู่กับเซียน เขาคือผู้ชายคนเดียวที่ทำให้เธอหัวเราะได้อย่างสุดเสียง คนที่เธอชอบ คือผู้ชายที่สุดแสนจะเฮฮา…ไม่ใช่ปลาใหญ่ เด็กน้อย หน้าใสผู้เคร่งขรึม น้ำเพชรรู้ใจตัวเอง แต่มันสายเกินไป เพราะเซียนแวะมาหาป้าสายไหมที่บ้าน และเห็นตอนน้ำเพชรคุยกับปลาใหญ่พอดี ด้วยความสนิทสนมของทั้ง ๒ คน ขณะกำลังคุยกัน ทำให้เซียนเข้าใจผิดคิดว่าน้ำเพชรยังคงชอบปลาใหญ่อยู่เหมือนเดิม เซียนถึงกับจ๋อย และยอมทำตามที่ป้าสอน คือรับสภาพความจริง เลิกตอแยน้ำเพชร พยายามจะตัดใจจากเธอ ถึงแม้จะเศร้าแต่เขาก็ต้องทำให้ได้
หลังจากที่ปลาใหญ่ล่วงรู้แผนการของสามคนพ่อแม่ลูก และชายสี่มาสารภาพเรื่องที่โดนมอมเหล้าล้วงความจริง ชายสี่ทั้งรู้สึกผิดและเสียใจที่โดนหลอกใช้ เขาน่าจะเชื่อมอมแมมและป๋องที่พยายามเตือนว่ารัญญาไม่จริงใจกับเขา จากความรักกลายเป็นความแค้น ชายสี่ประกาศว่าจะต้องหาโอกาสสั่งสอนรัญญาให้ได้ !! ปลาใหญ่เรียกทุกคนมาประชุมระดมหัวสมอง ทั้งครรชิต เซียน สายพิณ มอมแมม ป๋อง และชายสี่ โดยมีน้ำเพชรเป็นสมาชิกใหม่เข้าร่วมก๊วน เซียนดีใจที่น้ำเพชรมา แต่ดีใจได้ไม่นานก็กลับมาเศร้าเหมือนเดิม เพราะคิดว่าน้ำเพชรมาเพราะต้องการช่วยปลาใหญ่ ในขณะที่น้ำเพชรเองก็แปลกใจที่เซียนดูเงียบๆ ผิดปกติ
ในการสุมหัวเพื่อเตรียมรับมือกับแผนการร้ายครั้งนี้ เซียนอาศัยความเจ้าเล่ห์และแสนกล คิดแผนที่คนอื่นคิดไม่ได้ ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง ไม่เว้นแม้แต่น้ำเพชรยังต้องยอมรับในความฉลาดของเซียน เซียนวางแผนให้น้ำเพชรเป็นนกต่อ ขอเข้าพบสามคนพ่อแม่ลูก โดยทำทีเป็นร้องห่มร้องไห้ พร้อมทั้งเล่าความจริงเกี่ยวกับการสลับร่างให้พวกนั้นฟัง และบอกว่าแค้นใจที่โดนเซียนหลอก จึงขอมาอยู่ด้วยเพราะต้องการแก้แค้นทั้งเซียนและปลาใหญ่ รัญญาเป็นคนแรกที่เชื่อเพราะจำได้ว่าตอนเมา ชายสี่เผลอพูดเรื่องที่น้ำเพชรโกรธออกมา เกริกก้องและจันทร์ทิพย์เลยเชื่อตามไปด้วย
น้ำเพชรยังบอกอีกว่าเซียนขอร้องให้เธอกลับมาทำงาน และเธอตัดสินใจกลับมาเพราะจะทำให้การแก้แค้นง่ายขึ้น น้ำเพชรเล่นละครได้อย่างแนบเนียนจนทุกคนยอมรับ เกริกก้องมอบหมายให้น้ำเพชรเป็นคนขับรถพาเซียนและปลาใหญ่ขึ้นเขาไปทางเชียงราย โดยให้อ้างว่าจะพาไปดูแหล่งผลิตไหมที่ใหม่ เพื่อนำมาใช้ในโรงงาน น้ำเพชรยอมทำแต่โดยดีเธอขับรถพาเซียนและปลาใหญ่ไปตามคำสั่ง และจอดรถไว้ในจุดที่เกริกก้องบอกไว้ หลังจากจอดรถแล้ว น้ำเพชรเดินลงจากรถโดยปล่อยให้ปลาใหญ่และเซียนนั่งอยู่บนรถเหมือนเดิม และไม่กี่นาทีต่อมาก็มีรถบรรทุกคันโตขับพุ่งพรวดมาอย่างเร็ว ตรงเข้ามาที่รถของน้ำเพชร พร้อมทั้งชนเข้าอย่างจัง ลากยาวต่อไปจนรถตกเขา น้ำเพชรได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้นเอง คนขับรถบรรทุกก็วิ่งลงจากรถและหนีไปอย่างรวดเร็ว
ที่กรุงเทพฯ…เกริกก้องและจันทร์ทิพย์รับโทรศัพท์รายงานจากคนขับรถด้วยความสะใจ ที่รู้ว่าแผนการสำเร็จ ทั้งเซียนและปลาใหญ่ตกเหวลงไปพร้อมกัน รับประกันว่าตายชัวร์ รัญญารู้ข่าวก็ดีใจ เตรียมชุดดำสำหรับไปงานศพทันที แต่ทั้งสามคนก็ดีใจได้ไม่นาน…เมื่อเซียนและปลาใหญ่ปรากฏตัวขึ้น พร้อมทั้งเปิดโปงว่ารู้แผนการทั้งหมด พร้อมทั้งมีเทปบันทึกเสียงตอนเกริกก้องสั่งให้น้ำเพชรขับรถไปจอดไว้ในจุดที่เกิดเหตุ และยังบอกอีกว่าตอนนี้คนขับรถถูกจับแล้ว เพราะป๋อม มอมแมม และชายสี่ดักรออยู่ที่เชียงใหม่ เซียนบอกว่าจะส่งหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจ โทษฐานจ้างวานฆ่า !! เกริกก้องโกรธจัด รับไม่ได้ที่โดนเด็กเมื่อวานซืน และน้ำเพชรรวมหัวกันมาหลอก เกริกก้องคว้าปืนในลิ้นชักโต๊ะทำงานและพุ่งเข้ารวบตัวปลาใหญ่ (ที่อยู่ในร่างเซียน) พร้อมกับประกาศว่าจะไม่มีวันยอมแพ้เป็นอันขาด ถ้าเขาจะต้องติดคุก ปลาใหญ่ก็จะต้องตาย !!
เซียนตกใจอย่างแรง พยายามหว่านล้อมสารพัด แต่เกริกก้องไม่ยอม ลากตัวปลาใหญ่ออกไปที่ดาดฟ้าของตึก เซียนรีบตามไป จันทร์ทิพย์และรัญญาตกใจ ทำอะไรไม่ถูก รัญญามีสติก่อน รีบวิ่งตามไปบนดาดฟ้า เกริกก้องบังคับให้ปลาใหญ่กระโดดลงไป หวังจะให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ปลาใหญ่ไม่ยอม เกริกก้องกำลังจะเหนี่ยวไก ในขณะที่เซียนกำลังจะพุ่งตัวเข้าไปแย่งปืน รัญญาวิ่งพรวดออกมา และตะโกนเรียกเกริกก้องเพื่อให้ระวังตัว ทำให้เกริกก้องชะงักหันมาทางเซียน ปลาใหญ่ได้จังหวะเบี่ยงตัวหลบวืด เกริกก้องตกใจ หันกลับมาทางปลาใหญ่ และในวินาทีนั้นเอง เขาเหนี่ยวไกปืนอย่างรวดเร็ว ลูกกระสุนพุ่งตรงเข้าที่หน้าอกของปลาใหญ่…เปรี้ยงงงงง !! แรงกระสุนดันให้เกริกก้องเสียหลักเซมาที่ริมขอบตึก และหล่นวูบลงไปทันที…ตุ๊บ!! เกริกก้องเสียชีวิตทันที ในขณะที่ปลาใหญ่ล้มลง…ฟึ่บ ! เซียนตกใจ กำลังจะวิ่งออกไปช่วย ทันใดนั้น เสียงปืนนัดที่สองก็ดังขึ้น… เปรี้ยงงงงง !! รัญญาร้องกรี๊ด เซียนหันไปเห็นจันทร์ทิพย์ยืนถือปืนอยู่ แววตาเลื่อนลอย น้ำตาไหลพราก ร่างของเซียนค่อยล้มลง…ฟึ่บ ! จันทร์ทิพย์หันปืนมาที่รัญญา…ครวญคร่ำออกมา
“ไหนๆ พ่อก็ตายแล้ว เราสองคนแม่ลูกก็ไปตามพ่อเถอะนะลูก”
รัญญาตกใจ ร้องไห้อย่างไร้สติ จันทร์ทิพย์กำลังจะเหนี่ยวไก ทันใดนั้นเอง ชายสี่ก็พุ่งพรวดเข้ามาและเอาตัวเองรับกระสุนปืนไว้อย่างเฉียดฉิว…เปรี้ยงงง!! รัญญาร้องกรี๊ด !! สิ้นเสียงรัญญา ตำรวจและครรชิตก็วิ่งพรวดเข้ามา ตำรวจล๊อกตัวจันทร์ทิพย์ไว้ ในขณะที่ครรชิตรีบเข้าไปดูปลาใหญ่และเซียนที่นอนเลือดอาบอยู่บนพื้น จันทร์ทิพย์ถูกตำรวจจับดำเนินคดี ในสภาพเพ้อคลั่งอย่างเสียสติ รัญญารีบเข้าไปดูชายสี่ ถึงแม้จะโดนยิงในตำแหน่งที่ไม่สำคัญ แต่เธอยอมรับว่าเขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้ รัญญาขอบคุณชายสี่ และขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับเขา ชายสี่ดีใจก่อนจะสลบไป รัญญาถูกตำรวจพาตัวไปสอบปากคำ เซียนและปลาใหญ่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในอาการโคม่าพร้อมกัน สายพิณ ยายปิ่น ป้าสายไหม ครรชิต มอมแมม ป๋อง น้ำเพชร และชายสี่ (หลังจากที่ได้สติและทำแผลเรียบร้อยแล้ว) ทุกคนยืนรอฟังผลอยู่หน้าห้องผ่าตัดด้วยความระทึกใจ
ในขณะที่หมอกำลังกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าอยู่นั้น จิตและวิญญาณถูกกระชากเข้าสู่ร่างอีกครั้ง สวรรค์ยังใจดี ทำให้ทั้งสองคนกลับมามีสติอีกครั้ง เซียนและปลาใหญ่ถูกนำตัวไปพักฟื้นในห้องคนป่วย ทันทีที่รู้สึกตัว…ทั้งสองคนได้ค้นพบว่าการสลับร่างได้จบสิ้นลงแล้ว…ปลาใหญ่และเซียนต่างกลับมาสู่ร่างของตัวเอง ทั้งสองคนต่างดีอกดีใจที่เรื่องวุ่นวายจบลงได้สักที แต่หลังจากดีใจได้ไม่นาน ทั้งสองคนก็ต้องกลุ้มใจ ถึงแม้จะเคลียร์ปัญหาเรื่องเกริกก้องได้แล้ว แต่เรื่องหัวใจยังไม่ได้เคลียร์ ปลาใหญ่สารภาพเรื่องสายพิณ และยอมรับว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยจีบผู้หญิงหรือสารภาพรักกับหญิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว เซียนเสนอว่าจะช่วย แต่ปลาใหญ่จะต้องมีของแลกเปลี่ยน เซียนเรียกสายพิณมาคุย และโกหกว่าตัวเองยังเป็นปลาใหญ่อยู่ เซียนทำเป็นขรึมและสารภาพรักกับสายพิณ ตามที่ปลาใหญ่สารภาพให้เซียนฟัง สายพิณฟังแล้วก็ดีใจ ร้องไห้ และสารภาพว่าตัวเองก็ชอบปลาใหญ่ และไม่ว่าเขาจะอยู่ในร่างไหนก็ตาม สายพิณพูดจบ กำลังจะโผกอดเซียน ปลาใหญ่ก็ตะโกนห้ามขึ้น และรีบเข้ามาสารภาพความจริงว่า ทั้งสองคนกลับคืนร่างเดิมแล้ว สายพิณดีใจและโผเข้ากอดปลาใหญ่ตัวจริง เซียนเห็นน้องสาวมีความสุขก็ยิ้มอย่างมีความสุขตามไปด้วย
เรื่องของสายพิณลงเอยได้ด้วยดี ปลาใหญ่ก็ต้องทำตามสัญญา เขาเปิดร้านคาร์แคร์ครบวงจรให้เซียน และสอนเขาทำธุรกิจ โดยให้ครรชิตเป็นพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด เซียนพยายามปรับปรุงตัวเอง และทำงานอย่างตั้งใจจนกิจการเริ่มมั่นคง ในคาร์แคร์มีส่วนของร้านอาหารโดยให้มอมแมมดูแล มีร้านอินเตอร์เนตให้ชายสี่ดูแล ส่วนป๋องทำหน้าที่เจ๊าะแจ๊ะรับลูกค้า เซียนเปลี่ยนไปจนป้าสายไหมชื่นใจ
ทางด้านรัญญา หลังจากหลุดรอด ไม่ถูกดำเนินคดี เพราะจันทร์ทิพย์ยอมรับผิดทุกอย่าง เธอรับไม่ได้กับการสูญเสีย รีบเก็บของและหนีออกนอกประเทศไปทันที ก่อนไปรัญญาแวะไปล่ำลาชายสี่ ทั้งสองคนปรับความเข้าใจกัน ชายสี่ขอให้อยู่ต่อ เขาจะลองพูดกับปลาใหญ่เพื่อให้เธอกลับมาทำงานเหมือนเดิม แต่รัญญาไม่อยากอยู่ อยากไปเริ่มต้นใหม่ที่ต่างประเทศ รัญญาขอบคุณที่ชายสี่มีน้ำใจและไม่รังเกียจเธอ ชายสี่บอกว่าจะเก็บเงินแล้วไปหาเธอ รัญญาไม่ตอบ บอกแค่ว่า “จะรอดูว่าจะทำได้หรือเปล่า” ทั้งสองแยกจากกันโดยไม่มีข้อสรุปใดๆ นอกจากความเข้าใจอันดี
สำหรับน้ำเพชร…ในระหว่างที่เซียนไปก่อร่างสร้างตัว หายไปจากชีวิต เธอรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง อยากจะถามจากปลาใหญ่แต่ก็ไม่กล้า ในวันที่เซียนพร้อมเจอน้ำเพชร ปลาใหญ่ทำทีเป็นสั่งให้เธอนำรถไปส่งเช็คที่คาร์แคร์ของเซียน ในขณะที่นั่งรออยู่นั้น เซียนก็ปรากฏตัวขึ้น น้ำเพชรแปลกใจ และเอ่ยปากต่อว่าด้วยความไม่พอใจที่อยู่ๆ เซียนหายไป เซียนต้องอธิบายให้เข้าใจว่า ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง และมีค่าคู่ควรกับเธอ ตอนนี้เขาพร้อมที่จะดูแลคนที่รัก น้ำเพชรถึงกับน้ำตาซึมด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าเซียนจะยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ เซียนสารภาพความรู้สึกจนหมดเปลือก พร้อมทั้งบอกว่า เธอคือคนที่ทำให้เขาอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น น้ำเพชรโผเข้ากอดเซียน และร้องไห้ด้วยความดีใจ เซียนทั้งดีใจและโล่งใจที่น้ำเพชรยอมรับเขาที่เป็นตัวเขาอย่างแท้จริง !!
และแล้ว…ความโกลาหลอลหม่านที่ผสานทั้งรอยยิ้ม น้ำตา และอันตรายรอบด้านก็ลงเอยอย่างดี ด้วยประการฉะนี้
อุ่นไอรัก
ความรัก ความอบอุ่นที่เติมเต็มโดยครอบครัวจะช่วยพยุงชีวิตให้สมบูรณ์ ต่อสู้กับอุปสรรคบนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข
เมยาวี เป็นลูกสาวคนเดียวของ เมศร์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจใหญ่กับ วิภาวี ผู้หญิงเก่งที่ร่วมบริหารธุรกิจเคียงบ่าเคียงไหล่กับสามีมาตลอดชีวิต ในวันเกิดครบ 17 ปีบริบูรณ์ของเมยาวี เธอได้รับของขวัญจากพ่อและแม่ที่ล้ำค่ามากกว่ารถยนต์ส่วนตัว หรือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด เพราะคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นคงไม่อาจเทียบได้กับสายสิญจน์ที่พ่อและแม่ช่วยกันผูกข้อมือให้เธอในตอนนี้ ด้ายแม้เก่าคร่ำคร่าด้วยผ่านเวลามาเท่าอายุของเธอ เพียงไม่กี่เส้นที่กระหวัดเกี่ยวพันกันนั้นล้วนถอดแบ่งมาจากด้ายมงคลจากพิธีสมรสของพ่อแม่ ความรักอย่างเปี่ยมล้นจากเมศร์และวิภาวี หล่อหลอมรวมในเมยาวีกลายเป็นเด็กสาวที่มีชีวิตสมบูรณ์พร้อมคนหนึ่ง เมยาวีเป็นดาวเด่นของโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่สุดในกรุงเทพฯ เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา รูปร่างหน้าตา ฐานะและชาติตระกูล ชีวิตคุณหนูยาวีไม่เคยพบกับคำว่าผิดหวัง ยกเว้นเรื่องการเรียนและกิจกรรมบางอย่างที่บางครั้งยาวีต้องหล่นลงมาเป็นอันดับสอง เพราะคู่แข่งคนสำคัญอย่าง…กานติมา
กานติมา หรือ กาเหว่า เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเมยาวีมาตลอด นับตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากัน กาเหว่าทำหน้าตายเข้ามานั่งโต๊ะที่เพื่อนสองคนของเมยาวี คือ แยม และเยลลี่ จองไว้ก่อนหน้า ด้วยความอารมณ์ร้อนของเยลลี่และอาการขี้เบ่งของแยมทำให้เกิดเรื่องถึงขั้นลงไม้ลงมือกับกาเหว่า เมยาวีไม่อยากมีเรื่อง แต่ต้องทำเพราะช่วยเพื่อน เธอเลยพลาดท่าเล็บยาวสวยหัก เสียงกรีดร้องเพราะความตกใจของเมยาวี ทำให้กาเหว่ามองเธอหัวจรดเท้า และรู้สึกเหม็นหน้ากันมาตั้งแต่นั้น เมยาวีและกาเหว่ามีอันต้องปะทะกันอยู่เนืองๆ เพราะทั้งคู่เรียนห้องเดียวกัน ผลการเรียนผลัดกันเป็นที่หนึ่งที่สองมาตลอด ในด้านกิจกรรม…คนหน้าตาดีอย่างเมยาวีมักจะได้เป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งอยู่เสมอ แต่กาเหว่าก็ไม่น้อยหน้า เมื่อไม่สู้เรื่องความสวย เธอก็ผลักดันให้ตัวเองได้เป็นประธานสี ได้ถือธงเดินคู่กับดรัมเมเยอร์ทุกครั้ง ความแตกต่างทางฐานะ หรือชาติตระกูลไม่ได้ทำให้กาเหว่ารู้สึกต่ำต้อยกว่าเมยาวีเลยแม้แต่น้อย หากเรื่องหนึ่งที่กาเหว่าแปลบใจ และอดเปรียบเทียบในใจไม่ได้ คือ ความรัก ความผูกพัน ในครอบครัวของเมยาวีที่ความอบุอุ่นอาบมาอุ่นถึงในหัวใจกาเหว่าเช่นกัน
เมศร์และวิภาวีมักจะมารับมาส่งลูกสาวคนเดียวอยู่เสมอ แม้ว่าจะมีกิจธุระมากมายเพียงใดก็ตาม รางวัลครอบครัวตัวอย่างของสังคมเป็นเครื่องรับประกันคุณภาพได้ระดับหนึ่ง ความน่ารักสดใส กิริยามารยาทสมบูรณ์แบบของเมยาวี คือสิ่งสะท้อนถึงการเอาใจใส่ของเมศร์และวิภาวีได้เป็นอย่างดี กาเหว่ามองภาพพ่อแม่ลูกพร้อมหน้านั้นอย่างสะท้อนใจ พรระวีไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเธอ แม่ผู้ให้กำเนิดกาเหว่าไม่ได้ตั้งใจจะตั้งท้องเธอสักนิด แต่พลาดท่า…อาชีพหมอนวดทำให้แม่เผอิญตั้งท้องกับลูกค้า โดยไม่รู้ว่าผู้ชายคนไหนที่กาเหว่าจะเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า…พ่อ หลังให้กำเนิดเธอไม่นาน แม่ของกาเหว่าติดโรคทางเพศสัมพันธ์เสียชีวิต พรระวีเพื่อนหมอนวดด้วยกันรับเลี้ยงกาเหว่ามาตั้งแต่นั้น พรระวีรักเอ็นดูกาเหว่าเท่าที่ชีวิตจะสามารถ เพราะพรระวีมักอ้างเสมอว่ายุ่งหนักหนากับธุรกิจร้านเสริมสวยและสถานเสริมความงามครบวงจร ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าคอนโดชื่อดังกลางกรุง ใช้เป็นกิจการบังหน้าที่พรระวีอาศัยเป็นฉากให้ธุรกิจหลัก จากที่เคยเป็นหมอนวดประจำอ่าง พรระวีผันตัวเองมาเป็นเอเย่นต์ส่งหญิงบำรุงบำเรอความสุขของผู้ชายผู้ไร้รักแท้และรักเทียมทั้งหลาย ว่างๆ พรระวีก็รับจ๊อบเป็นอาจารย์พิเศษติวหลักกามสูตรให้บรรดาหมอนวดมือใหม่ คนทั้งคอนโดพากันเมาท์อย่างสรรเสริญ ลูกศิษย์ของพรระวีกระจายกำลังเล่นน้ำอยู่ทั่วทุกอ่างในกรุงเทพฯ
ขณะที่เมยาวีมีบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์ สนามหญ้ากว้างขนาดต้องใช้รถกอล์ฟขับไปมาระหว่างตัวบ้าน สระน้ำ สวนสวย และบ้านของบรรดาน้องหมาน้อย กาเหว่ากลับมีบ้านเป็นห้องชั้นบนสุดของคอนโดที่สร้างเพื่อแบ่งให้เช่า แต่ด้วยอิทธิพลบางอย่างของพรระวีที่มีต่อเฮียเจ้าของอาคาร แกถึงกับยอมขายห้องให้พรระวีแทบจะยกฟลอร์ ส่วนที่เหลือก็ให้เช่ารายเดือน บรรดาเพื่อนร่วมอาคารของกาเหว่า ล้วนแล้วแต่ประกอบอาชีพสุจริตและทุจริตปะปนกันไป ตั้งแต่หมอนวดหุ่นอวบอั๋น หางเครื่องวงลูกทุ่งชื่อดังที่วันๆ เอาแต่เปิดเพลงฝรั่ง แต่ที่คุ้นเคยกับกาเหว่ามากที่สุดหนีไม่พ้นอาชีพอิสระอย่าง…เซลส์ โดยไม่ต้องรอให้ท่อง ก.กา หรือ เอ บี ซี ได้ กาเหว่าก็รู้แปลออกตั้งแต่สองขวบว่า เซลส์ในที่นี้หมายถึง ขายตัว
เจ๊อู๋ พี่สายหยุด และพี่กระจง สามเซลส์เนื้อสดรุ่นเก่าลายครามที่กาเหว่าคุ้นเคยและลับฝีปากกันประจำ เจ๊อู๋เป็นตัวตั้งตัวตี คอยโฆษณาอาชีพหากินบนเตียงหนานุ่มให้กาเหว่าฟังอยู่เสมอ หนำซ้ำพรระวีพลอยเห็นดีเห็นงามฝากฝังให้เจ๊อู๋ช่วยอบรมบ่มนิสัยให้กาเหว่าซึมซับสายเลือดแห่งการขายตัว ไม่วายที่กาเหว่าต้องคอยปรามและตักเตือน แต่เจ๊ทั้งสามก็ทำเป็นไขหู ซ้ำยังลอยหน้าลอยตายืนยันว่าพวกหล่อนคือเกิร์ลเฟรนด์ เพื่อนใจประจำคลับวัยใส กาเหว่าเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมและสังคมที่มีคุณภาพคนละขั้วกับเมยาวีอย่างสิ้นเชิง เปียโน บัลเล่ต์ รำไทย แจ๊สแดนซ์ ขี่ม้า จัดดอกไม้ ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมยามว่างที่เมยาวีถนัดและเชี่ยวชาญ ของเล่นที่เมยาวีกำลังเห่อที่สุดตอนนี้คือ ลูกสุนัขพันธุ์ชิทสุราคาแพง ที่เมศร์มอบให้เธอเป็นของขวัญเนื่องในวันที่พ่ออยากให้ เวลาว่างหลังเลิกเรียนเมยาวีจึงเป็นช่วงที่ทำงานหนักที่สุด นั่นคือ หวีขนและผูกโบว์ให้น้องหมาตัวน้อย รวมทั้งพาน้องหมานั่งรถกอล์ฟกินลมชมสวนรอบบ้าน
กาเหว่าก็มีงานอดิเรกหลักเลิกเรียนเช่นกัน แต่ต่างกับเมยาวีตรงที่กาเหว่าไม่ได้หวีขนหมา หากแต่หวีผมหมวย หรือบรรดาหญิงๆ อวบ ขาว สวย หมวย อึ๋ม สตรีอาชีพพิเศษในสังกัดของพรระวี เพื่อเตรียมตัวออกไปหาลูกค้า หน้าที่หลักของกาเหว่าคือรับโทรศัพท์ รายงานสรรคุณ ขายเนื้อสดวัยขบเผาะและขบไม่เผาะทั้งหลาย รวมทั้งเดลิเวอรี่ขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้าตามนัดหมาย ทำให้ถูกเข้าใจผิดอยู่เสมอว่ามีอาชีพพิเศษเหมือนสาวคนอื่นๆ กาเหว่าหัวเสียทุกครั้งที่ถูกทักว่าเป็นอย่างว่า ด้วง หนุ่มเพื่อนสนิทของกาเหว่าที่เป็นช่างซ่อมรถ เขาคอยปลอบและให้กำลังใจกาเหว่าเธอเสมอ ตรงกันข้ามกับพรระวี ยิ่งได้รู้ว่าเสี่ยๆ สนใจกาเหว่ามากแค่ไหน พรระวียิ่งกระดี๊กระด๊าด้วยความภูมิใจว่า กาเหว่านั้นคงเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นแน่นอน พรระวีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโตขึ้นกาเหว่าจะเป็นดาวประจำคลับ พยายามปลูกฝังความรักสวยรักงามให้กาเหว่า ด้วยคอร์สนวดหน้า ขัดผิว ประทินความงามทั้งหลาย แต่กาเหว่าไม่สน เพราะนิสัยออกจะแก่นเซี้ยว เปรี้ยวซ่าส์ กะล่อนเป็นทอมบอย ที่สำคัญ กาเหว่าเกลียดการมีอาชีพพิเศษขายนาผืนน้อยชนิดเข้าไส้ เพราะเห็นตัวอย่างความทุกข์ระทมที่ซ่อนอยู่ในแววตาของแววดาว พี่สาวนอกไส้ที่มีชาติกำเนิดเหมือนกัน
แววดาวกลายเป็นหญิงบริการเพราะความจำนนต่อชะตากรรมของชีวิต พรระวีเกลี้ยกล่อมแกมบังคับให้แววดาวขายตัวโดยอ้างว่าจะไม่ส่งเงินให้เรียนหนังสือ อยากเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องหาเงินเรียนเอง แววดาวจนแต้มและขาดความกล้าที่จะเผชิญกับการทะเลาะกับแม่ จึงต้องเริ่มอาชีพพิเศษตั้งแต่อายุสิบเจ็ด กาเหว่าเห็นความระทมทุกข์ในแววตาของพี่สาว จึงมุ่งมั่นว่าจะต้องเรียนหนังสือให้เก่ง จบออกมาจะได้มาช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบชะตากรรมอย่างแววดาว แต่ไม่วายโดนค่อนขอดจากแม่พรระวีและการกระแนะกระแหนจากบรรดาเจ๊ๆ สมาชิกสโมสรที่ต่างว่าอาชีพอย่างหล่อนสบายและสนุกที่สุดในโลกแม้ว่าสภาพแวดล้อมจะดูต่ำต้อยน่าอับอาย แต่กาเหว่ายังดำรงชีวิตเป็นปกติ ไปเรียนหนังสือด้วยเงินส่งเสียจากแววดาว เธอไม่อายเรื่องชาติกำเนิด ไม่เคยปกปิด และไม่แยแสกับสายตาเหยียดหยามน่าหมั่นไส้จากแยมและเยลลี่
เมยาวีพอจะรู้เรื่องทางบ้านของกาเหว่าจากการเม้าท์แบบใส่ไข่ของแยมและเยลลี่ ความเห็นใจเป็นความรู้สึกแรกที่เมยาวีรู้สึกกับกาเหว่า เมยาวีเคยแอบให้กาเหว่ายืมอุปกรณ์การเรียนสุดหรู เพราะเข้าใจว่ากาเหว่าคงจะมีเงินไม่พอซื้อมาใช้ แต่ด้วยสายตานิ่งขรึม ใบหน้านิ่ง เชิด ดูทระนงของเมยาวี ทำให้กาเหว่าแปรเจตนาเอื้อเฟื้อของเมยาวีว่าเป็นการดูถูกเธออย่างแรง ในปีการศึกษานั้น เมยาวียิ่งประหลาดใจแกมหมั่นไส้กาเหว่ามากขึ้นอีก เพราะกาเหว่าปฏิเสธการรับทุนการศึกษารางวัลเรียนดี เพราะปีนี้คนมอบรางวัลคือ เมศร์ พ่อของเมยาวีผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ เมยาวียิ่งภาคภูมิใจในตัวเอง เมื่อเห็นความเป็นไปของกาเหว่า เธอคิดเสมอว่าความรักของพ่อและแม่ที่มีต่อเธอ เป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด และความสุขที่ท่วมท้นตัวเธออยู่ในขณะนี้จะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนไปได้เด็ดขาด จนกระทั่งอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่มีใครคาดคิด!
อุบัติเหตุครั้งนั้นพรากชีวิตวิภาวีไปอย่างไม่มีวันกลับ เมยาวีเสียใจกับการจากไปของแม่ แต่ที่ทำให้เธอเสียใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เมศร์ พาอิงอรภรรยาใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน พร้อมกับองุ่น ลูกสาวตัวเล็กน่ารักน่าเอ็นดูวัยเจ็ดขวบ เมยาวีช็อกกับการกระทำของพ่อ โลกที่สวยงามของเธอแทบถล่มพังลงตรงหน้า ไม่คาดฝันว่าพ่อของเธอจะปกปิดเรื่องเมียน้อยไว้กว่าเจ็ดปี เธอเฝ้าคิดว่าที่ผ่านมาพ่อหลอกลวงเธอมาตลอด ความรักความอบอุ่นที่พ่อมีให้เป็นแค่ภาพลวงตา ขณะที่เมศร์และอิงอรพยายามทำความเข้าใจกับเมยาวี เธอกลับพยายามทำตัวออกห่างครอบครัว หลงเชื่อคำชักจูงของแยมและเยลลี่ที่คอยชักนำไปในทางเหลวไหล เมยาวีเริ่มหนีเที่ยวกลางคืน ท่ามกลางความเป็นห่วงของเมศร์และอิงอร เมศร์พยายามห้ามปรามแต่เมยาวีกลับย้อนเสมอว่า อยู่บ้านไม่มีความสุข เพราะบ้านที่เธอเคยอยู่มีคนแปลกหน้าเข้ามาเพ่นพ่าน เมยาวีน้อยใจพ่อที่ยกห้องนั่งเล่นสีชมพูส่วนตัวของเธอให้องุ่นลูกสาวคนใหม่ ยกเสื้อผ้าน่ารักในวัยเด็กของเธอให้กับองุ่น เมยาวีเริ่มรู้สึกลึกๆ ในใจว่า องุ่นกำลังจะเข้ามาแทนที่เธอ และอิงอรก็เข้ามาแทนที่วิภาวี
“พ่อกำลังจะลืมแม่…อีกหน่อยก็คงลืมว่าลูกชื่อ…เมยาวี” เมยาวีได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง เมยาวีเผอิญเห็นรูปถ่าย พ่อ แม่ ลูก ของเมศร์ อิงอร และองุ่น โดยไม่มีเธออยู่ในรูปถ่ายนั้น เมยาวีน้ำตาไหลพราก ความอดทนสิ้นสุด ใช่…เป็นเธอเองที่ปฏิเสธการถ่ายภาพครอบครัวในวันนั้น เพราะเมยาวีถือเสมอว่าอิงอรและองุ่นไม่ใช่ครอบครัวของเธอเมยาวีทะเลาะกับเมศร์อย่างรุนแรง สายสิญจน์ที่เมศร์กับวิภาวีเคยผูกข้อมือให้ ที่เธอใส่ติดข้อมือเสมอมาไม่เคยถอด เมยาวีตัดใจกระชากสายสิญจน์ขาดจากกันแล้วปาใส่หน้าพ่อ เมศร์ผิดหวังกับการกระทำของลูกสาว เผลอตบหน้าเมยาวีอย่างแรง เมยาวีเสียใจมากหนีออกจากบ้าน เมยาวีเตลิดออกมาพบกับด้วง เด็กหนุ่มฐานะยากจนที่เมยาวีเคยตกหลุมกลอุบาลหลอกเอาเงินจากข้าวตูน้องชายต่างแม่ของด้วง เมยาวีจำเหตุการณ์นั้นได้อย่างแม่ยำ
วันนั้น…ข้าวตูหลอกล่อทำให้เมยาวีเผลอล็อกรถโดยลืมกุญแจไว้ในรถ ข้าวตูทำเป็นติดต่อหาช่างมางัดรถให้ ซึ่งก็คือด้วงผู้เป็นพี่ชายนั่นเอง เมื่อจับได้ว่าข้าวตูสร้างแผน เมยาวีวิ่งไล่จับข้าวตูจนเท้าบวม เธอไปแจ้งตำรวจ แต่จ่าสุชาติไกล่เกลี่ยและบอกถึงนิสัยที่แท้จริงของด้วงให้เมยาวีฟัง เมยาวีถึงกับอึ้งเมื่อรู้ความจริงว่าข้าวตูสร้างแผนเหล่านี้เพื่อหาเงินช่วยด้วง เพราะชีวิตสองพี่น้องสุดจะลำเค็ญนัก ด้วงคืนเงินให้กับเมยาวี ช่วยหาน้ำแข็งมาประคบเท้าให้ ซ้ำยังบริจาครองเท้าแตะฟองน้ำให้กับเท้าที่บวม ส่วนตัวเองเดินเท้าเปล่ากลับบ้านกับข้าวตู เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เมยาวีแอบชอบด้วงโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าด้วงจะได้แต่เงยหน้าขึ้นมองดอกฟ้าอย่างเมยาวี แต่ไม่กล้าคิดบังอาจจะเด็ดดอกฟ้าเลยสักครั้ง เมยาวีขอพักกับด้วงชั่วคราว แต่ด้วงปฏิเสธและไล่เมยาวีกลับอย่างไม่ใยดี แม้ว่าข้าวตูจะเออออยอมให้ก็ตาม ด้วงสอนเมยาวีถึงการใช้ชีวิตและการเป็นลูกที่ดี แต่เป็นการสอนแบบปากเสียและประชดประชันตามนิสัย เมยาวีฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่ก็ซึมซับความหวังดีของผู้ชายปอนๆ คนนี้ ด้วงไล่เมยาวีกลับบ้านได้โดยไม่ไปส่ง แต่จริงแล้ว ด้วงแอบขี่มอเตอร์ไซค์ตามดูเมยาวีอยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเมยาวีเข้าบ้านปลอดภัย ด้วงจึงวกรถกลับบ้านอย่างสบายใจโดยไม่รู้ว่าเมยาวีแอบมองอยู่
ด้วงตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างเขากับเมยาวี ที่แอบเป็นห่วงขนาดนี้ด้วงก็รู้สึกว่าอาจเอื้อมมากเกินไปแล้ว ด้วงได้วิชา งัดแงะ แกะทุกอย่ามาจากสถานกักกันเยาวชน ครั้งที่เข้าไปเยือนเพราะคดีลักซาลาเปาทิ้งแล้วจากห้างสรรพสินค้าที่ด้วงเคยเป็นพนักงานสมัยเป็นเด็กๆ วิชาชีพทางโจรไม่ได้ทำให้ด้วงหลงเป็นขโมย ตรงกันข้ามกลับทำให้เขาเลือกทำงานได้สารพัด เป็นมนุษย์สาวหลงประจำซอย แต่ด้วงไม่เคยมองใคร ไม่เคยสนใจใคร และด้วยความปากเสียทำให้กลายเป็นคู่ปรับและเพื่อนซี้ของกาเหว่าด้วงหางานทำเพื่อเลี้ยงข้าวตู น้องชายต่างมารดาที่พ่อไปไข่ทิ้งไว้แล้วเขาตามไปเก็บมาเลี้ยงด้วยความเวทนาปนหมั่นไส้ เพราะความแก่นซ่าของข้าวตูทำให้เด็กชายตัวน้อยตั้งแก๊งค์เป็นขาใหญ่ประจำชุมชน ไม่นานก็ได้รู้จักกับองุ่น คุณหนูบ้านหลังใหญ่ที่สุดของชุมชน เพราะข้าวตูแอบปีนรั้วบ้านองุ่นเข้าไปสอยมะม่วงเพื่อเอาไปแบ่งกับส้มซ่า ลูกสาวของเฮียโก้ เด็กตัวเล็กที่สุดของแก๊งค์ แม้จะต่างฐานะต่างชนชั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยความใสซื่อประสาเด็กที่ไม่มีจริตมารยา องุ่นกลายเป็นสมาชิกแก๊งค์ตัวเปี๊ยกของข้าวตูและส้มซ่า โดยการดูอยู่ห่างๆ ของอิงอร ที่เข้าใจเด็ก เอ็นดูข้าวตูและส้มซ่า โดยแบ่งขนมและอาหารให้เสมอ
แต่เพราะอคติ…เมยาวี จึงไม่เคยเห็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และน้ำใจของอิงอรเลย ทั้งหมดนี้ยิ่งสร้างความไม่เข้าใจระหว่างเธอกับเมศร์ผู้เป็นพ่อ นับวันช่องว่างระหว่างพ่อ ลูก ยิ่งห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ อิงอรเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของเมยาวีอย่างเป็นกังวลและห่วงใย กาเหว่าสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงของเมยาวี แม้ว่าจะไม่ถูกชะตากันขนาดไหน แต่ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง กาเหว่าอดเป็นห่วงเมยาวีไม่ได้ ผลการเรียนของ เมยาวีเริ่มตกต่ำลงทุกที คู่แข่งที่เคยแข่งกันมาตลอดอย่างกาเหว่าเริ่มวิตก กลัวว่าจะไม่มีคู่แข่ง กาเหว่าปลอบใครไม่ค่อยเป็น ได้แต่ฉะปะทะกันกับเมยาวีจนสังเกตได้ว่าเมยาวีกำลังขาดที่พึ่งทางใจอย่างที่สุด เมยาวีเริ่มใช้ชีวิตเสเพล เหลวแหลก ออกเที่ยวกับแยมและเยลลี่ แยมเป็นผู้หญิงประเภทเก็บสะสมแต้มจากการนอนกับผู้ชาย เมยาวีเองเกือบจะถลำตัวประพฤติแบบเดียวกับแยมแต่กาเหว่าเผอิญมาเจอและห้ามไว้ได้ทัน ในบางครั้งเยลลี่ก็พาเมยาวีไปร่วมก๊วนซ้อนท้ายแก๊งมอเตอร์ไซค์ซิ่ง ซึ่งมี แบงค์ คู่ขาของเยลลี่เป็นหัวหน้า แบงค์สนใจตัวเมยาวีมาก ถึงกับเสียเงินให้เยลลี่หลอกเมยาวีจนเมยาวีเกือบตกเป็นเดิมพันในการแข่งมอเตอร์ไซค์ โชคดีที่ด้วงซึ่งเป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ประจำแก๊งค์ แกล้งทำเป็นเผอิญผ่านมาเจอ ร่วมกับกาเหว่าและข้าวตูช่วยเมยาวีไว้ได้อย่างหวุดหวิด
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ดอกฟ้าอย่างเมยาวี ประทับใจเจ้าด้วงหมาวัดอีกครั้ง… เมยาวีมักไปหลับในห้องเรียนเพราะเที่ยวดึก กาเหว่าคอยเตือนเมยาวีเสมอ แต่เมยาวีไม่เคยเชื่อ ไม่เคยเห็นคุณค่าของกาเหว่าเพราะถือตัวว่ามีฐานะดีกว่า แต่กาเหว่าไม่ใส่ใจยังคงให้ความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าเมยาวีจะตกเข้าไปอยู่ในบ่วงกรรมเดียวกับแววดาว แววดาวพยายามทำตัวให้มีความสุข แต่ทุกครั้งหลังจากรับแขก เธอมักน้ำตาริน รังเกียจตัวเองต้องรีบเก็บกวาดเช็ดถูห้องเพื่อหวังจะลบร่องรอยคาวของชีวิต จ่าสุชาติ ตำรวจหนุ่มใหญ่ เป็นชายคนเดียวที่หลงรักแววดาว แต่ไม่เคยเที่ยวผู้หญิง จ่าสุชาติมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมแววดาวเสมอ จนตกเป็นขี้ปากการแซวของเจ๊อู่ สายหยุด และนางกระจง จ่าสุชาติมักอ้างเสมอว่า เขาไม่เคยดีพอสำหรับใคร ได้แต่ร้องเพลงลูกทุ่งกล่อมเววดาวให้หลับผ่านทางสายลมและแสงไฟนีออนที่ลอดเข้าหน้าต่างห้องแววดาว เช่นเดียวกับแววดาวที่คิดว่าเธอก็ไม่สะอาดพอสำหรับใคร กาเหว่า ที่เคยเชียร์แววดาวกับจ่าสุชาติให้ตกลงปลงใจกันซะทีก็ได้แต่ปลง เพราะทั้งคู่ต่างสร้างกำแพงกั้นความรู้สึกของตัวเองจนยากจะพังกำแพงเหล่านั้น
กาเหว่าไม่ค่อยเข้าใจความรัก ตลอดชีวิตรู้จักแต่ความใคร่จากโลกที่เธอเผชิญอยู่ จนกระทั่งได้พบกับคิมหันต์ ลูกชายของคมน์ ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรีกับคุณหญิงคนึงนิตย์ คิมหันต์เป็นหนุ่มเพลย์บอย มักจัดงานปาร์ตี้ที่ต้องพึ่งสาวจากคลับของพรระวีอยู่เสมอ วันหนึ่งกาเหว่าทำหน้าที่ขับรถคันโตไปส่งสาวๆ เหล่านั้น ทำให้คิมหันต์เข้าใจผิดว่ากาเหว่าคือหนึ่งในบรรดาหญิงสาวที่ทำอาชีพพิเศษคิมหันต์คิดจะใช้บริการความสุขจากกาเหว่า แต่ต้องหน้าแตกเพราะเจอบทเรียนสั่งสอนจากกาเหว่า จับเขาไปมัดมือมัดเท้าในโบสถ์ยามดึก บังคับให้ไหว้พระชำระจิตใจ แถมยังมัดให้นั่งสมาธิในป่าช้าถึงหนึ่งคืนเต็มๆ คิมหันต์รอดผีมาได้ด้วยความแค้น ปนความรู้สึกเอ็นดูกาเหว่าเป็นพิเศษ เขาเริ่มแวะเวียนเข้ามาใกล้ตัวกาเหว่าบ่อยขึ้น แต่กาเหว่ากลับเห็นว่าคิมหันต์เป็นหนุ่มเพลย์บอยที่เหมือนผู้ชายทั่วไปที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น กาเหว่ายิ่งหมั่นไส้คิมหันต์หาเรื่องแกล้งตลอดเวลา
แต่ยิ่งแกล้งมากเท่าไหร่ กาเหว่ายิ่งเห็นความเหงาเศร้าในตัวคิมหันต์มากขึ้นเรื่อยๆ คิมหันต์ไม่เคยปริปากบอกใครแม้แต่กาเหว่าเรื่องบ้าน เพราะคนทั่วไปมักมองว่าครอบครัวของเขานั้นเป็นครอบครัวตัวอย่าง ตัวเขาเองคงจะเป็นชายหนุ่มที่มีความอบอุ่นที่สุดในโลก ทั้งที่ความจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้น คมน์ผู้เป็นพ่อ มัวแต่สนใจกิจกรรมและกิจกามกับเด็กสาว ในขณะที่คุณหญิงคนึงนิตย์ก็มั่วแต่ออกงานสังคมและเข้าสถานเสริมความงามและโรงพยาบาลเพื่อชะลอความสาวและความสวยให้ไม่สร่างซาไปพร้อมกับวัยชราที่เข้ามาเยือน ตั้งแต่เด็กจนโต คิมหันต์ไม่เคยได้กินข้าวพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เขาชินชาที่จะต้องกินข้าวคนเดียว หนำซ้ำตอนเขาป่วยก็เป็นตัวเขาเองที่ขับรถพาตัวเองเข้าโรงพยาบาล แถมแอทมิทตัวเองเสร็จสรรพ พ่อแม่เพียงส่งดอกไม้ฝากเลขามาเยี่ยมเนื่องจากติดภารกิจ ที่รายล้อมรอบตัวคิมหันต์มีแต่ผู้หญิงที่พร้อมเสนอตัวให้ เมื่อรู้ถึงฐานะและเม็ดเงินในกระเป๋า คิมหันต์เคยเชื่ออย่างฝังหัวว่า ผู้หญิงดีๆ ไม่มีเหลืออยู่ในโลก จวบจนเขาได้มาคุย มากินข้าว มารู้จักกาเหว่า ความชุ่มชื่นจึงกลับมารดรินในใจคิมหันต์อีกครั้ง และความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงและความรักเริ่มเปลี่ยนไป
คิมหันต์เริ่มปรับตัวเองให้เลิกเที่ยว เริ่มเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหนุ่มมีสาระมากขึ้น ในขณะที่คมน์ผู้เป็นพ่อกลับยิ่งเพิ่มความชั่วให้กับตัวเองอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ผู้หญิงที่เขาหามาปรนเปรอความสุขอายุน้อยลงเรื่อยๆ มูลนิธิเพื่อเด็ก ที่นายคมน์เป็นประธานให้การช่วยเหลือเด็กในชุมชน คมน์มาแจกของเด็กๆ ด้วยตนเอง ทำให้ได้พบกับกาเหว่าและพรระวี คมน์จำได้ว่าพรระวีเคยทำงานอยู่ในสถานอาบอบนวด หนำซ้ำเขายังเป็นลูกค้าประจำ คมน์ในมาดนักบุญใจบาปพยายามติดต่อพรระวีเพราะสนใจกาเหว่า คุณหญิงคนึงนิตย์ เริ่มจับสังเกตได้ว่าคมน์เที่ยวผู้หญิง มีเมียน้อยไม่ต่ำกว่าเจ็ดบ้าน ทั้งสองจึงเริ่มมีปากเสียง คมน์ลงไม้ลงมือกับคุณหญิง จนวันหนึ่งคุณหญิงทนไม่ไดเขอฟ้องหย่า แต่คมน์ไม่ยอมด้วยกลัวชื่อเสียงที่สร้างสมมาชั่วชีวิต คุณหญิงงัดไม้ตาย…อ้างว่ามีโพยรายชื่อลูกค้าของเจ๊พรระวีที่คมน์ไปใช้บริการ รวมทั้งวิดีโอเทปลับเฉพาะที่พร้อมจะแฉทุกเมื่อ คมน์กลัวว่าหากเรื่องฉาวของเขาถูกคุณหญิงเผยออกไปสู่สังคม ชื่อเสียงที่เขาสะสมมาทั้งชีวิตต้องพังพินาศแน่นอน
คมน์ใช้วิสูตร ลูกน้องซึ่งเป็นผู้จัดการอาบอบนวดจัดการเก็บคุณหญิงคนึงนิตย์จนต้องประสบอุบัติเหตุตายอย่างทารุณ คิมหันต์เสียใจกับการตายของแม่อย่างที่สุดโดยไม่รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นายวิสูตรตามหาโพยรายชื่อจากพรระวี กาเหว่ารู้ว่าโพยดังกล่าวจะเป็นภัยสร้างอันตรายต่อแม่และแววดาว รวมทั้งเจ๊ๆ คลับวัยใสคนอื่นๆ เธอตัดสินใจเก็บโพยไว้กับตัวเองเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ในขณะเดียวกันเมยาวีเริ่มตกเข้าไปอยู่ในวงจรการค้ากามของวัยรุ่นและมาม่าซังวัยโจ๋ เยลลี่ที่เคยขายบริการให้คมน์อยู่บ่อยๆ เยลลี่เริ่มผันตัวเป็นแม่เล้าวัยเด็กติดต่อเพื่อนๆ ในสังกัดออกล่าเงินและล่าผู้ชายที่ตัวเองพึงใจ โดยมีโบนัสติดปลายนวมเล็กๆ น้อยๆ เมยาวีถูกยุยงให้ร่วมในวงจรนี้ด้วย หากแต่เธอยังตัดสินใจไม่ขาด กับการตัดสินใจกระโจนลงเหวนรก ด้วยความแค้นที่รู้ว่ากาเหว่ามีโพยอยู่ในมือ และคิดต่อรองเพื่อสวัสดิภาพของเธอ คมน์สั่งให้วิสูตรเล่นงานพวกบ้านพรระวี โดยหลอกล่อจะซื้อบริการคู่นอนเดลิเวอรี่จาก แววดาว และผู้หญิงคนอื่นๆ ในสังกัดพรระวี แต่จุดมุ่งหมายในการนี้ก็คือ ฆ่าทิ้ง
หนึ่งในหญิงสาวที่ถูกเพื่อนหลอกให้เข้ามาในกิจกาม ด้วยความหลงผิดคือเมยาวี เพราะเมยาวีต้องการประชดพ่อ ประชดชีวิต โชคดีที่กาเหว่า เห็น และตัดสินใจตามไปช่วย ท่ามกลางการต่อสู้ของแก๊งค์เปี๊ยกซ่าส์ ซึ่งนำโดยข้าวตู องุ่นและส้มซ่า โดยการช่วยเหลือของด้วงลูกพี่ใหญ่ ทำให้ทั้งหมดรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่โชคร้ายที่ระหว่างการต่อสู้กับพวกวิสูตร แววต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องกาเหว่าน้องสาวที่เธอรักที่สุดในชีวิต จ่าสุชาติตามมาทันได้เห็นลมหายใจสุดท้ายของแววดาว ซึ่งในที่สุด จ่าสุชาติก็กล้าสารภาพรักกับแววดาวแม้ว่าจะสายไปแล้วก็ตาม
เมศร์และอิงอรเป็นเบื้องหลังสำคัญของแก๊งค์เปี๊ยกซ่าที่ยกขบวนไปช่วยเมยาวีและกาเหว่าออกมาได้ อิงอรอธิบายถึงความรักของเมศร์ที่มีต่อยาวี รวมทั้งทำความเข้าใจในความรักบริสุทธิ์ที่เธอมีให้มายาวีตลอดมา สิ่งเดียวที่ทำให้ ความรักที่เธอมีให้มายาวี ต่างจากวิภาวีแม่แท้ๆ นั่นคือเธอไม่ได้ให้กำเนิดเมยาวีเท่านั้น ความรักที่เคยมีกำแพงกั้นระหว่างเมศร์ อิงอร และเมยาวีจึงหมดไป เมยาวียอมรับอิงอรและองุ่นเป็นครอบครัวเดียวกัน คิมหันต์ท้อแท้เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้ว พ่อของเขาคือคนบาปในคราบนักบุญ แต่ด้วยการให้กำลังใจของกาเหว่า คิมหันต์เลิกทำตัวเป็นเพลย์บอยและกลับใจมาทำงานเพื่อสังคมในฐานะนักสังคมสงเคราะห์ รณรงค์หาเงินช่วยเหลือหญิงถูกล่อลวงทางเพศ กาเหว่าให้ตั้งชื่อว่า “กองทุนแววดาวเพื่อผู้หญิงและเด็ก”
จากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ทำให้พรระวีเลิกเคี่ยวเข็ญให้กาเหว่าเป็นผู้หญิงพิเศษ และเลิกการเป็นเอเย่นต์ส่งเด็กอย่างเด็ดขาด เธอกลับมาขยายกิจการร้านเสริมสวยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยการช่วยเหลือของเจ๊อู๋ สายหยุดและนังกระจงที่ได้คิดเช่นกัน ด้วงได้ทุนเรียนต่อวิชาชีพช่างระดับสูง โดยการช่วยเหลือจากคิมหันต์และกาเหว่า ครอบครัวของเมยาวีเปิดโอกาส ให้การต้อนรับด้วงเป็นอย่างดี ด้วงได้สัมผัสความรักจากครอบครัวเมยาวี ทำให้รู้ว่าสิ่งที่เขาโหยหามาแสนนาน คือความรักความอบอุ่นที่เติมเต็มโดยครอบครัว
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท: ช่างปั้นเรื่อง
นักแสดง อุ่นไอรัก
ตะวัน จารุจินดา
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์
หมอผีไซเบอร์
หมอผีไซเบอร์ เป็นเรื่องราวของ คาถา เด็กหนุ่มวัยรุ่น เป็นลูกคนโตของ เดชา และวาณี และมีน้องชายอีกสองคนคือ อาคม และโอภาส คาถานั้นชอบทางด้านโบราณคดี และมีสัมผัสพิเศษสามารถมองเห็นภูติผีวิญญาณได้ โดย ดำรง คุณตาของเขาได้บอกว่ที่เขามีสัมผัสพิเศษเช่นนี้ ก็เพราะว่าเขามีจิตใจที่ละเอียดอ่อน ซึ่งคาถาก็มีเพื่อนคู่ใจที่คอยอยู่เคียงข้างเขานั่นก็คือ คุณนี หรือผีนางตานี นั่นเอง คุณนีได้คุ้มครองดูแลคาถาและครอบครัวมาตั้งแต่เขายังไม่เกิด ทั้งสองได้พบกันครั้งแรกด้วยความบังเอิญที่มีเหตุโจรร้ายบุกปล้นบ้านของคาถา แต่โดนคุณนีแสดงอิทธิฤทธิ์หลอกหลอนจนโจรเหล่านั้นหนีเตลิดไปด้วยความตกใจ กลัวสุดขีด ตัวคาถาเองก็สนใจเกี่ยวกับเรื่องภูติผีวิญญาณ และหมั่นเพียรศึกษาวิชาปราบผีจาก หลวงพี่มุนี พระรุ่นพี่ที่เคร่งครัดในธรรมวินัย เมื่อคาถามีวิชาอาคมแก่กล้าพอจึงช่วยจัดการกับบรรดาผีเร่ร่อน และผีที่ชาวบ้านมาขอร้องให้ช่วยไปปัดเป่าด้วยการจับใส่หม้อถ่วงน้ำ จนมาวันหนึ่งคาถาก็ทำกิจวัตรประจำวันของเขาเช่นเดิม แต่แล้วจู่ๆ ก็มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำด้วยท่าทีเหลืออด ท่าทางของเธอออกจะแก่นแก้วและเฮี้ยว เธอคือ พรายสายธาร เธอขึ้นมาโวยคาถาว่าหม้อที่เขาทิ้งลงไปในน้ำมันเกะกะบ้านช่องของเธอมาก มิหนำซ้ำยังมีหม้อบางใบหล่นลงมาโดนหัวของ พรายสายชล จนหัว โน คาถาแปลกใจแต่ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ นั่นยิ่งทำให้พรายสายธารเกิดความโมโหมากยิ่งขึ้น จนต้องหาเรื่องคอยกลั่นแกล้งคาถาสารพัดเพื่อที่จะล้างแค้น คาถาเองก็ไม่ยอมลดละเช่นกันแกล้งแหย่พรายสายธารให้ต้องโมโหทุกทีไป วันไหนที่ไม่ได้พบหน้าพรายสายธารคาถาก็ต้องแกล้งหาเรื่องไปเจอกับเธอจนได้ คาถาได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยเลือกเรียนที่คณะโบราณคดีและได้มาเจอกับ ชลธิชา นั้นเป็นสายที่บอบบาง นิสัยเรียบร้อย ขี้โรค อ่อนแอ หัวอ่อนไม่ค่อยทันคน อาศัยอยู่กับครอบครัวของ บราลี และมี อัมรินทร์ รุ่นพี่ไฮโซร่ำรวยที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันมาคอยตามจีบ คาถาพยายามเข้าไปทักชลธิชา แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยรู้จักเขามาก่อน คาถารู้สึกงงมากจึงเริ่มตามสืบเรื่องของเธอ จนรู้ว่าชลธิชานั้นแท้จริงแล้วเป็นคนละคนกับพรายสายธาร คาถาจึงจัดแจงพาทั้งสองมาพบกันเพื่อค้นหาความจริงว่า ทั้งสองคนนี้มีความเกี่ยวพันกันอย่างไรกันแน่ และทั้งหมดก็ได้มารู้ความจริงจากปากของ พรายสายน้ำ และพรายน้ำแข็ง ว่าพวกเธอทั้งสองคนเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน แต่เคราะห์ร้ายต้องพรากจากกันด้วยอุบัติเหตุเรือล่มขณะมาแล่นเรือท่องเที่ยว มีเพียงชลธิชาคนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิต ส่วนพรายสายธารก็ถูก 3 พรายนำตัวมาเลี้ยงไว้ที่คุ้มนางพราย และวิญญาณพ่อแม่ของพวกเธอถูก หมอผีคำอินทร์ จับตัวไปเป็นบริวาร เมื่อสองพี่น้องได้รับรู้ความจริงก็ยิ่งรักและผูกพันกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อชลธิชาถูกอัมรินทร์ ทำร้าย เพราะไปรู้เห็นว่าเขาเกี่ยวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดองค์กรใหญ่ อัมรินทร์บีบคอเธอจนขาดใจตายแล้วจับร่างเธอโยนลงน้ำ พรายสายธารผ่านมาพบร่างที่ไร้วิญญาณของชลธิชาจึงนำกลับไปชุบชีวิตที่คุ้มวัง พรายจนสำเร็จ และได้ปลอมตัวเป็นชลธิชาเพื่อไปแก้แค้นอัมรินทร์ อัมรินทร์เห็นพรายสายธารก็คิดว่าเธอคือชลธิชา ก็ตกใจเป็นอย่างมากที่ชลธิชายังไม่ตาย แต่ก็ทำใจดีสู้เสือแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งพรายสายธารก็แก้แค้นกลับมาอย่างเจ็บแสบที่สุด อัมรินทร์คิดว่าพรายสายธารต้องโดนผีเข้าแน่ๆ จึงไปตามลุงคำอินทร์หมอผีใจชั่ว ผู้มีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆ ของตนมาทำพิธีไล่ผี แต่ก็โดนพรายสายธารเล่นงานกลับจนแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง เมื่อคาถาได้เจอกับพรายสายธารที่ปลอมตัวเป็นชลธิชา เขาก็รู้สึกประหลาดใจกับกิริยายียวนกวนประสาทไร้มาดผู้หญิงนุ่มนิ่มเรียบ ร้อยอย่างที่เคยเป็น ทำให้เขาอดคิดไปไม่ได้ว่าอาจจะเป็นพรายสายธารคู่ปรับเี่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ ทุกเมื่อเชื่อวัน ด้านอัมรินทร์และคำอินทร์ยังคงทำความชั่วต่อไป พวกเขาฆ่าหลวงพี่มุนีและชิงคำภีร์ขมังเวทย์มาได้สำเร็จและเอามาใช้ในทางที่ ผิด คาถาคิดหาวิธีมาจัดการกับคนพวกนี้ ด้วยการประดิษฐ์เครื่องมือไฮเทคมาคอยขัดขวางการค้ายาบ้าของพวกมัน ทำให้อัมรินทร์โกรธเป็นอย่างมาก จึงวางแผนอุบาทว์เอาน้ำมันเสน่ห์ป้ายใส่พรายสายธาร ทำให้เธอตกอยู่ใต้อำนาจมนต์ดำ คาถาพยายามหาทางช่วยพรายสายธารจนพบคำภีร์แก้มนต์ดำ โดยข้อความในคำภีร์ระบุวิธีแก้ไว้ว่า ต้องใช้เลือดและรักแท้จากคนๆ หนึ่งที่มีมอบให้แก่เธออย่างบริสุทธิ์ใจ จึงจะคลายมนต์ดำของน้ำมันพรายได้ คาถาจึงรีบตามไปช่วยพรายสายธาร แต่พรายสายธารที่ยังไม่ได้สติกลับยิงคาถา คาถาพยายามกลั้นใจเดินเข้าไปหาพรายสายธารเพื่อที่จะกอดเธอเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยความรักที่มีให้แก่เธอสุดหัวใจทันใดนั้นก็ปรากฏเป็นแสงสว่างเรืองรองไป ทั่วบริเวณ โอบคลุมร่างของ คนทั้งสองเข้าด้วยกัน ด้วยอำนาจแห่งมนต์ขลังได้ช่วยปลดปล่อยจิตใจของพรายสายธารให้หลุดพ้นจากอำนาจ มืดได้เป็นผลสำเร็จ ติดตามความสนุกทั้งหมดนี้ได้ในละคร หมอผีไซเบอร์
รายชื่อนักแสดง หมอผีไซเบอร์
ตะวัน จารุจินดา รับบท คาถา
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ รับบท พรายสายธาร / ชลธิชา
คีตภัทร อันติมานนท์ รับบท บราลี
สุภัทศร มามีเกตุ รับบท ตานี / สาลินี
ศิวัส นฤภัย รับบท อัมรินทร์
อริษา วิลล์ รับบท ลิต้า
รอง เค้ามูลคดี รับบท พรายสายชล
โย่ง เชิญยิ้ม รับบท พรายน้ำแข็ง
ปิยะมาศ โมณยะกุล รับบท พรายสายน้ำ
สายลมกับสามเรา
นานา เด็กสาววัยรุ่นที่เติบโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้มาพัวพันกับคดีฆ่า คนตายโดยไม่เจตนา เธอกำลังจะพ้นจากการรอลงอาญาและกำลังจะเดินทางไปรายงานตัวต่อ เจนจิต พนักงานคุมประพฤติ ในวันสุดท้ายของการคุมประพฤติ นานา ลาเจ๊หน่อยเจ้าของร้านสัก ที่พัทยา แต่ในระหว่างทางนานาเจอกับร่องกล้า ทายาทเศรษฐีเจ้าของธุรกิจในเครือสารินคลับ ซึ่งมีทั้งสโมสรเรือใบ สปอร์ตคลับและอู่ต่อเรือ ที่เดินทางมาลอยอังคารกระดูกของพ่อและแม่ที่เพิ่งเสียชีวิตเพราะการเล่นเรือ ใบ ร่องกล้าขับรถเฉี่ยวนานาแต่ไม่เป็นอะไรมาก นานาโมโหที่ร่องกล้าไม่ยอมขอโทษ แถมยังเอาเงินฟาดหัวเพื่อให้เรื่องยุติ
นานา เจอ ฟรองซ์ จิ๊กโก๋จอมกวน ที่ร้านเจ๊หน่อย ฟรองซ์รู้ว่านานาจะไปกรุงเทพฯ จึงอาสาไปส่งที่ท่ารถ ระหว่างทางนานาได้พบว่ามียาเสพติดซ่อนอยู่ใต้ท้องรถ นานาคิดหนีแต่ฟรองซ์รู้ทันจึงเกิดการต่อสู้ ซึ่งระหว่างนั้น ร่องกล้า และ องศา น้องชายต่างมารดา ได้เห็นเหตุการณ์แต่เข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่กำลังพรอดรักกัน นานากับฟรองซ์สู้กันบนรถจนเป็นเหตุทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ฟรองซ์สลบไป นานารีบเก็บของหนี แต่เผลอหยิบโทรศัพท์ของฟรองซ์ติดมือไปด้วย ที่ท่ารถมีหญิงสาวคนหนึ่ง ฝากลูกไว้กับนานาแล้วหนีไป นานาจึงตกกระไดพลอยโจนพาเด็กเข้ากรุงเทพฯ ด้วย เธอพบจดหมายที่แม่ของเด็กเขียนบอกไว้ว่าจะมีคนชื่อเลียบหรือเล้งมารอรับอยู่ ที่ท่ารถ พอถึงกรุงเทพฯ นานารีบส่งเด็ก ให้กับ เล้ง น้องชายของชุ่ย แล้วรีบหนีไป แต่ทว่าตำรวจยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้นและมีข่าวของการตามจับเธอในทีวี ทำให้เธอต้องสมอ้างว่าเธอคือ เจ๊นา และออกไปพร้อมกับเล้ง เล้งพานานาไปพักอยู่กับสารินคลับ ซึ่งเป็นคลับของร่องกล้าที่ปิดกิจการชั่วคราว ร่องกล้าพบนานาอีกครั้งที่สารินคลับจึงไล่นานาออกไป จนได้พบกับ ส้มจี๊ด พี่สาวแสนดีเจ้าของร้านอาหารภายในคลับ ส้มจี๊ดพานานากลับมาที่สารินคลับและขอร้องให้ร่องกล้าพานานาไปอยู่ด้วย ร่องกล้าไม่กล้าปฏิเสธ จึงพานานากับตี๋น้อยไปพักที่บ้านตน
ร่องกล้ามีคู่หมั้น ซึ่งหมั้นหมายกันตั้งแต่อยู่ในท้องชื่อว่า มัดหมี่ วีเจชื่อดัง ลูกสาวนายตำรวจใหญ่ ไม่พอใจการเข้ามาอยู่ในบ้านของนานา และมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นประจำ
ดนู น้องชายขององศา ไม่พอใจและอิจฉาที่ร่องกล้าได้รับมรดกเกือบทั้งหมด จึงยุยงองศาน้องชายต่างแม่ของร่องกล้าให้เกลียดร่องกล้า องศาเองก็ไม่ชอบร่องกล้าอยู่แล้วเพราะคิดว่าร่องกล้าวางแผนฆ่าพ่อแม่เพื่อ ฮุบมรดก ดนูแอบทำธุรกิจผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติดในสารินคลับ และพัวพันกับ เสี่ยแป๊ะ เจ้าพ่อค้ายาเสพติด ส่วนฟรองซ์เมื่อฟื้นได้ให้การกับตำรวจว่านานาเป็นตัวการใหญ่ในการค้ายา หมวดโจ ตำรวจผู้ติดตามคดีนี้ เชื่อฟรองซ์และออกตามล่าตัวนานา
หลังจากที่ร่องกล้าขอร้องให้เลียบรับนานากับตี๋น้อยไปอยู่ในบ้านของ เลียบ พ่อของชุ่ยกับเล้ง และเลขาคนสนิทของพ่อร่องกล้า เลียบก็ตั้งแง่รังเกียจและกลั่นแกล้งนานากับตี๋น้อย เพราะคิดว่านานาเป็นเหตุทำให้ชุ่ย พี่ชายของเล้ง เสียคนจนต้องติดคุก ร่องกล้าให้นานามาทำงานที่ร้านของส้มจี๊ด และเมื่อเข้ามาทำงานนานาเริ่มสังเกตว่าร่องกล้าแอบชอบพี่ส้มจี๊ด จึงยื่นมือเข้ามาเป็นแม่สื่อให้เพื่อแลกกับการสงบศึกการไม่ชอบขี้หน้าซึ่ง กันและกัน ทำให้สองคนนี้ดูสนิทสนมกันมากขึ้น ส่วนเล้งเริ่มหลงรักพี่สะใภ้ของตนอย่างไม่รู้ตัว จากการที่ช่วยนานาดูแลตี๋น้อย และไม่พอใจที่ร่องกล้าและนานาชอบไปไหนต่อไหนกันสองคนและดูสนิทสนมกันมากกว่า แต่ก่อน ด้านมัดหมี่ ก็ไม่พอใจร่องกล้าที่ดูจะไปสนใจผู้หญิงแก่อย่างพี่ส้มจี๊ด และสนิทสนมกับนานามากกว่าตนเอง จึงได้ไปปรึกษาองศาเพื่อขอความช่วยเหลือ
ขณะนั้นเสี่แป๊ะ ก็ส่งคนออกตามล่าตัวนานาเพื่อจะเอาชิพเครือข่ายยาเสพติดในโทรศัพท์ของฟรองซ์ ที่มาตกอยู่ในมือของนานา ส่วนทางตำรวจ หมวดโจก็มาสืบคดีที่ร้านของส้มจี๊ด ทำให้นานาต้องหลบเอาตัวรอดทั้งตำรวจและลูกน้องโจรทุกครั้งไป
ร่องกล้าตัดสินใจสารภาพรักส้มจี๊ด แต่ส้มจี๊ดปฏิเสธเพราะคิดว่าร่องกล้าเป็นแค่น้องชาย ร่องกล้าเสียใจขับรถไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่ามีนานาที่พลาดโดนยานอนหลับที่ตนเองพยายามวางยาหมวดโจที่ร้านของ ส้มจี๊ดติดท้ายรถร่องกล้าไปด้วย ทั้งสองคนนั่งรถไปจนถึงท่าเรือพัทยา นานาได้รับรู้ว่าร่องกล้าเคยชอบการเล่นเรือใบเป็นชีวิตจิตใจ แต่ร่องกล้าเลิกแตะต้องเรือที่เค้ารักเพราะว่าพ่อกับน้าดาหวันตายด้วย อุบัติเหตุเรือคว่ำ และร่องกล้าเชื่อว่าตัวเองดูแลเรือของพ่อไม่ดี จึงเป็นสาเหตุให้พ่อตาย นานาให้ร่องกล้าลืมอดีตและก้าวต่อไปข้างหน้า จึงให้กำลังใจร่องกล้าให้กลับมาเล่นเรือใบอีกครั้ง ทั้งสองคนเล่นเรือใบออกไปในทะเลอย่างมีความสุข จนพลบค่ำมีพายุฝนตกหนัก ทำให้สองคนพลัดตกน้ำไปติดเกาะร้างกันสองคน มัดหมี่ตกใจกับการหายตัวไปของร่องกล้าจนออกตามหาและลากองศาไปเป็นเพื่อน แล้วขับรถหลงทางไปจนหลงป่ากันสองคน ทั้งสองคู่เริ่มที่จะมีความรู้สึกดีๆ ให้กันและกัน
คนอื่นๆ ตามร่องกล้าไปที่ท่าเรือที่พัทยา เล้งดูจะเป็นเดือดเป็นร้อนที่นานาหายไปมากกว่าใครๆ ร่องกล้ากับนานาหนีกลับมาได้ด้วยการขโมยเรือของโจรที่ติดตามนานาไปเกาะร้าง ส่วนองศากับมัดหมี่ก็ได้ชาวบ้านช่วยไว้
หลังจากกลับมาสองหนุ่มร่องกล้ากับเล้ง ต่างเริ่มรู้สึกกับนานามากกว่าคำว่าเมียเพื่อน และเมียพี่ จนนานาเริ่มรู้สึกแปลกใจ
เจนจิตสืบรู้ว่านานาทำงานอยู่กับร่องกล้าจึงมาพบร่องกล้าและเล่าเรื่องราว ของนานาให้ร่องกล้าฟัง เพื่อที่จะพาตัวนานาไปพิสูจน์ความจริง แต่ร่องกล้าปฏิเสธว่าไม่รู้จักนานา แต่หลังจากนั้นร่องกล้าพยายามสืบหาความจริงจากนานา และเริ่มคิดว่าคนที่เขารักจริงๆ ไม่ใช่พี่ส้มจี๊ดและไม่รู้สึกผิดที่จะคิดรักนานาไม่ใช่เจ๊นาเมียเพื่อน
วันหนึ่งตี๋น้อยป่วยเป็นไข้เลือดออก แต่นานาไม่สามารถให้เลือดกับตี๋น้อยได้ เล้งเริ่มสงสัยว่านานาไม่ใช่แม่ของตี๋น้อย จึงพยายามหาทางพิสูจน์ จนรู้ว่านานาเป็นเจ๊นาตัวปลอม และเล้งก็มีสิทธิ์ที่จะรักนานาได้อย่างเต็มหัวใจ
เมื่อร่องกล้า กับ เล้ง กำลังจะบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองกับนานา ชุ่ยพี่ชายของเล้งกลับพ้นโทษกลับมาอยู่กับครอบครัว นานาขอร้องให้ชุ่ยเก็บเรื่องตนเป็นเมียตัวปลอมเป็นความลับ และพยายามเล่นละครสวีทตบตาคนอื่น ร่องกล้าและเล้งต่างเศร้ากับภาพที่เกิดขึ้น
ในขณะเดียวกันหมวดโจก็พยายามล่าตัวนานา เจนจิตพยายามจะติดต่อเพื่อช่วยเหลือนานาให้พ้นข้อกล่าวหาต่างๆ ส่วนฟรองซ์ได้แหกคุกออกมาตามล่าตัวนานาด้วยอีกคน ร่องกล้ากับเล้งพยายามถามความจริงจากนานาและอยากช่วยนานาให้พ้นคดี
ส่วนเลียบเริ่มมองเห็นความดีของนานา แต่ความมาแตกเสียก่อนตอนที่เลียบเจอบัตรประชาชนของนานา ทำให้เลียบโกรธมาก แต่ก่อนที่เลียบจะจับนานาส่งตำรวจ ก็เกิดเรื่องที่โกดังที่พัทยา ซึ่งเป็นแผนของดนูกับเสี่ยแป๊ะ ที่จะกำจัดร่องกล้ากับเลียบ ชุ่ยขับรถพาร่องกล้ากับเลียบไปที่เกิดเหตุและถูกวางระเบิด เลียบบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งเข้ามารักษาที่กรุงเทพฯ
ในคืนที่นานาเฝ้าเลียบ ดนูได้ลอบเข้าฆ่าปิดปากเลียบ นานาพยายามช่วย ดนูหนีไปได้เลียบถูกยาพิษจนเสียชีวิต ทุกคนสงสัยนานาเป็นคนทำจากประวัติคดีเก่าของเธอ นานาปฏิเสธ ชุ่ยโกรธมากและบอกความจริงกับทุกคนว่านานาไม่ใช่เมียตน หมวดโจจับนานาเข้าคุก ร่องกล้าพยายามช่วยประกันตัวนานา และวางแผนให้ ฟรองซ์ตามมาเอาชิพข้อมูลจากนานา แต่โดนดนูซ้อนแผนไปจับตี๋น้อยเป็นตัวประกัน องศากับมัดหมี่พยายามขัดขวางดนู องศาจึงถูกยิง และบอกความจริงว่าเขาเป็นคนฆ่าพ่อและแม่ขององศาเอง
ดนูเรียค่าไถ่ตี๋น้อย เป็นชิพข้อมูลกับเงินหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐฯ หมวดโจพยามซ้อนแผนอีกชั้น แต่กลายเป็นนานาที่โดนจับไปแทนตี๋น้อย เล้งถูกดนูยิงอาการสาหัส ดนูพานานาไปขึ้นเรือเพื่อหนีไปต่างประเทศ ในขณะที่กำลังจะหนีขึ้นเรือ ดนูก็เห็นวิญญาณของเลียบมาช่วยนานา ดนูตกใจจนเสียสติและถูกตำรวจจับ ส่วนฟรองซ์ เสี่ยแป๊ะ กับพวก ถูกตำรวจวางแผนล้อมจับได้จนหมดทั้งแก๊ง
เมื่อนานาผ่านพ้นเหตุการณ์มาก็รีบมาเฝ้าเล้งด้วยความเป็นห่วง เมื่อเล้งฟื้นนานาก็ดูแลเล้งอย่างดี จนร่องกล้าเข้าใจผิดหนีไป ไปยังสถานที่ที่เขากับเธอเคยมีความสุขด้วยกัน นั่นคือ เกาะร้างที่ทั้งคู่ไปติดอยู่ด้วยกัน เล้งสารภาพรักนานา นานาขอบใจเล้งและบอกว่าเล้งคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เล้งเข้าใจและบอกให้นานาไปตามหาร่องกล้าและบอกความรู้สึกที่แท้จริงกับเขา นานาตามร่องกล้าไปที่เกาะแต่ไม่พบร่องรอยใดๆ นานานั่งร้องไห้อยู่ริมทะเลทั้งคืน และบอกความรู้สึกที่แท้จริงกับทะเล ร่องกล้าแอบฟังอยู่ตรงนั้นและก้าวออกมาบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองกับ นานาเช่นกัน
งานปาร์ตี้จัดขึ้นที่ร้านส้มจี๊ด ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตา ร่องกล้ากับนานา องศาหายดีและมีมัดหมี่ดูแลอยู่ใกล้ๆ ส่วนส้มจี๊ดมีหมวดโจเป็นบอดี้การ์ด ชุ่ยได้เจนจิตเป็นแม่ใหม่ของตี๋น้อย เล้งได้รู้จักกับเพื่อนของมัดหมี่และกลายเป็นรักแรกพบ เลียบได้มาปรากฏตัวในคืนนั้นและบอกว่าทั้งหมดคือแผน โดยเลียบอัดเสียดนูสารภาพความจริงก่อนที่จะลงมือฆ่าเลียบที่โรงพยาบาลมาเป็น หลักฐานทำให้นานาพ้นจากข้อกล่าวหา
ร่องกล้าออกเดินทางแล่นเรือรอบโลกตามความฝันของตัวเอง โดยมีนานาเป็นคู่บัดดี้ และคู่ชีวิตโดยไม่พรากจากกันตลอดไป
นักแสดงละคร สายลมกับสามเรา
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ … ร่องกล้า
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ … นานา
นันทศัย พิศลยบุตร … เล้ง
เกรียงไกร อุณหะนันท์ … เลียบ
ญดา โชติชูตระกูล … ส้มจี๊ด
อนุสรา วันทองทักษ์ … มัดหมี่
วัชระชัย สัตย์พิทักษ์ … องศา
ทองขาว ภัทรโชคชัย … ดนู
โจโจ้ ไมอ๊อกชิ … โจ
เมธี อมรวุฒิกุล … ชุ่ย
สาลินี ปันยารชุน … เจนจิต
ก้าว พึ่งบางกรวย … แสวง
โรบอทยอดรัก
เมื่อหุ่นยนต์ที่เป็นผลงานชิ้นโบแดง สัญชาติเกาหลีดันเครื่องรวนก่อนวันที่จะมาเมืองไทยเพียงวันเดียว หนุ่มน้อยผู้เป็นรองประธานบริษัทจึงต้องปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์ แต่ปัญหาไม่จบแค่นั้นเพราะพ่อหุ่นจำแลงของเราต้องมาอยู่กับครูสาวที่เกลียด เทคโนโลยียิ่งกว่าอะไร เรื่องวุ่น ๆ ก็เลยเกิดเมื่อหัวใจของเธอดันไปรักกับหุ่นยนต์จำแลงเข้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
นิจชิตา…ครูสาว จากโรงเรียนประถมต่างจังหวัด ผู้มีอุดมการณ์และรักความเป็นไทยอย่างแรงกล้า ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยมาที่เกาหลี เพื่อร่วมงานเปิดตัวหุ่นยนต์เทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท LE ผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเกาหลี นิจชิตาไม่เห็นด้วยเพราะเธอรู้สึกว่ามันคือการรุกคืบทางวัฒนธรรม และเป็นวิธีการล่าอาณานิคมแบบใหม่ของผู้ที่คิดว่าเจริญกว่าเท่านั้นเอง แม้ว่าเธอจะพยายามคัดค้านเท่าไหร่แต่สำหรับตำแหน่งครูเล็ก ๆ จากโรงเรียนต่างจังหวัดคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากจำใจไปตามคำสั่งนั้น
แต่ก็เกิดเรื่องจนได้เมื่อนิจชิตาเกิดหลงทางในเกาหลี ระหว่างหาทางไปโรงแรมเธอก็ได้พบกับชายชาวเกาหลีคนหนึ่งที่กำลังค้นหาอะไร บางอย่าง นิจชิตาพยายามเรียกชายคนนั้นเพื่อจะถามทาง แต่เมื่อชายคนนั้นหันมาสิ่งที่นิจชิตาเห็นอยู่ในมือชายคนนั้นก็คือ ชิ้นส่วนของมนุษย์ !!! นิจชิตาถึงกับหน้าซีดเผือดนี่เธอต้องมาเจอกับเหตุการณ์วุ่นวายอะไรอย่างนี้ ทำไมเธอต้องมาเจอกับไอ้ฆาตกรฆ่าหั่นศพในเกาหลีด้วย นิจชิตาพยายามหนีและร้องให้คนช่วยอย่างไม่คิดชีวิต ในที่สุดนิจชิตาก็รอดพ้นจากเจ้าฆาตกรโรคจิตได้อย่างหวุดหวิด และชายต้องสงสัยนั้นถูกจับทันที
นิจ ชิตารู้สึกภาคภูมิใจกับวีรกรรมของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าเรื่องวุ่น ๆ กำลังเกิดขึ้นเพราะชายต้องสงสัยที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตนั้น แท้ที่จริงเขาคือ คิมมินโฮ…ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของ คิมยองมิน…ประธานบริษัท LE ซึ่งเป็นบริษัทขายเครื่องไฟฟ้าและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในเกาหลี คิมมินโฮมีอีกชื่อว่าคิมหันต์ เพราะแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นลูกครึ่งไทย – เกาหลี และชิ้นส่วนมนุษย์ที่นิจชิตาเห็นนั่นก็คือ ส่วนประกอบของ ME 1 (เอ็ม-อี วัน) …หุ่นยนต์เพื่อความบันเทิง ซึ่งคิมมินโฮใช้เวลาในการค้นคว้าและประดิษฐ์ร่วมสิบปี แต่เกิดความผิดพลาดเนื่องจาก คิมยองมินแอบเพิ่มโปรแกรมบางอย่างเพื่อพัฒนา ME 1 ให้เป็นหุ่นยนต์เพื่อการศึกษา และต้องการจะใช้ ME1 เป็นตัวเบิกทางค้นหาสายแร่ทองคำที่ทางทีมวิจัยค้นพบว่ามีอยู่จริงในประเทศ ไทย
คิมมินโฮเจ็บใจที่อยู่ ๆ ตัวเองก็กลายเป็นฆาตกรโรคจิตไปซะงั้น ดีที่ ยุนอา…เลขาสาวสวยประจำตัวมาประกันตัวและบอกความจริงให้กับทางตำรวจฟัง แต่ยังไง๊ยังไง คิมมินโฮก็หมายแค้นนิจชิตาเอาไว้แล้วว่าชาตินี้อย่าได้เจอกับผู้หญิงสติไม่ ดีคนนี้อีกเลย
แต่เขาว่าเกลียดอะไรก็เจออย่างนั้นเมื่อวันรุ่งขึ้นที่นิจชิตาต้องไปงานแถลง ข่าวที่บริษัท LE เพื่อไปดูหุ่นยนต์ที่ทางบริษัทนี้คุยนักคุยหนาว่าเป็นเทคโนโลยีที่โลกต้อง ตะลึง แต่แล้วนิจชิตาก็ต้องตะลึงจริง ๆ เมื่อพบกับคิมมินโฮที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิต นิจชิตาต่อสู้อย่างสุดชีวิตโดยไม่รู้เลยว่าที่เธอกำลังเตะต่อยอยู่นั่นคือ เจ้าหุ่นต้นแบบ ME 1 ที่ถอดแบบทุกอย่างมาจากคิมมินโฮนั่นเอง แต่คนที่ต้องตะลึงที่สุดเห็นจะเป็นคิมมินโฮ เพราะสิ่งที่เขาเห็นก็คือนิจชิตากำลังทำลายสิ่งประดิษฐ์ที่มีค่าที่สุดใน ชีวิตของเขา
นิจชิตาเองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าชายที่เธอคิดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตนั้นแท้ จริงแล้วเป็นรองประธานบริษัทนั่นเอ นิจชิตากำลังจะขอโทษในสิ่งที่เธอทำ แต่คิมมินโฮที่กำลังโมโหกลับดูถูกเธอว่าเป็นพวกป่าเถื่อนไร้วัฒนธรรม ไม่รู้จักเทคโนโลยี นิจชิตากลับประเทศไทยพร้อมกับประกาศเลิกกินกิมจิ และทุกอย่างที่เป็นของเกาหลีตลอดชีวิต
แม้ว่านิจชิตาจะกลับประเทศไทยไปแล้ว แต่ปัญหาไม่ได้กลับไปกับเธอด้วย เพราะสิ่งที่เธอทิ้งไว้ก็คือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเจ้า ME 1 จนต้องใช้เวลาในการแก้ไขอีกหลายเดือน แต่จะทำยังไงในเมื่อคิมมินโฮมีสัญญาที่จะต้องมอบเจ้าหุ่น ME 1 ให้กับรัฐบาลไทยตามโครงการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและสารสนเทศภายในอาทิตย์นี้ คิมมินโฮผู้ถือคติว่าเสียเงินไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้จึงต้องคิดหาวิธีแก้ไข สถานการณ์นี้ให้ได้
ทางด้านนิจชิตาก็กำลังระบายอารมณ์ใส่ ภูชิต…ปลัดหนุ่มอนาคตไกล ที่หมายปองนิจชิตาไว้ตั้งแต่เห็นเธอเพียงครั้งแรก และการที่นิจชิตาได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปเกาหลีก็เพราะภูชิตมีส่วนในการ ผลักดันนั่นเอง โดยมี ลุงปุ่น…พ่อผู้บังเกิดเกล้าของนิจชิตาคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะลุงปุ่นมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นคนในเครื่องแบบตั้งแต่เด็ก แต่ในเมื่อชีวิตมันเลือกไม่ได้ งั้นขอมีลูกเขยเป็นคนในเครื่องแบบแทนก็ยังดี ภูชิตชักชวนนิจชิตาไปทำเนียบเพื่อพบกับท่านนายกรัฐมนตรี แต่นิจชิตากลับไม่สนใจเพราะเวลาที่เสียไปเธอเอาไปสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ ยังเป็นประโยชน์กว่า
วัน รุ่งขึ้นนิจชิตาไปโรงเรียนตามปกติ แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบตกมอเตอร์ไซค์เมื่อพบว่า คิมมินโฮมาปรากฏกายที่โรงเรียนเธอได้อย่างไร ภูชิตรีบเข้ามาห้ามแล้วบอกว่าคิมมินโฮที่นิจชิตาเห็นนั่นก็คือ หุ่นต้นแบบ ME 1 นั่นเอง และที่เขาชวนนิจชิตาไปพบท่านนายกก็เพราะมีพิธีมอบหุ่นต้นแบบให้กับทาง โรงเรียนของเรามาดูแล นิจชิตาค้านหัวชนฝาที่จะเป็นคนดูแลหุ่นสัญชาติเกาหลีนี้เพราะสิ่งที่เกิด ขึ้นที่เกาหลีทำให้นิจชิตาไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า แม้จะรู้ว่าเป็นแค่หุ่นยนต์ก็ตาม แต่ภูชิตกลับบอกว่านิจชิตาปฏิเสธไม่ได้เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศเลยทีเดียว แล้วอีกอย่างเด็ก ๆ ก็เป็นปลื้มทันทีเมื่อรู้ว่าจะมีหุ่นยนต์เสมือนคนมาช่วยสอน
แต่คนที่ไม่ปลื้มและอยากจะกลับเกาหลีทันทีที่เห็นหน้านิจชิตาก็คือคิมมินโฮ เพราะแท้ที่จริงแล้วเจ้าหุ่น ME 1 ที่ทุกคนเห็นอยู่นั่นก็คือ คิมมินโฮตัวจริงเสียงจริง ที่ตกกระไดพลอยโจนปลอมตัวเป็นหุ่นยนต์ของตัวเอง เพราะยุนอาเลขาสาวสุดสวยให้คำแนะนำว่าระหว่างที่หุ่นต้นแบบ ME 1 ส่งซ่อมนั่นคิมมินโฮต้องปลอมตัวมาเมืองไทยเพื่อรักษาชื่อเสียงของบริษัทเอา ไว้ ตอนแรกที่คิมมินโฮรับปากก็เพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องมาอยู่ในโรงเรียนของนิจ ชิตา แต่เมื่อเห็นเธอเข้าคิมมินโฮก็รู้ได้ทันทีว่า นิจชิตาจะต้องหาทางแกล้งเขาอย่างแน่นอน
แล้วมันก็เป็นอย่างที่คิมมินโฮกลัว เพราะนิจชิตานึกออกว่านี่เป็นทางเดียวที่เธอจะได้แก้แค้นคิมมินโฮให้รู้ว่า ที่จริงแล้วคนไทยก็มีดีเหมือนกัน ยุนอาเองก็กลัวว่านิจชิตาจะแกล้งคิมมินโฮจนความลับแตก จึงได้ดัดแปลงบ้านพักให้เป็นศูนย์บัญชาการเพื่อคอยช่วยเหลือคุณคิมอยู่ห่าง ๆ ก่อนที่เธอจะบอกเงื่อนไขกับนิจชิตาว่าหุ่น ME 1 ต้องส่งกลับมาที่ศูนย์บัญชาการทุกวันเพื่อเช็คความผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เรื่องวุ่น ๆ จึงเกิดขึ้นเมื่อคิมมินโฮต้องเล่นเป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานใกล้เคียงกับมนุษย์ ที่สุด โห…ทำไมมันถึงได้ซับซ้อนเช่นนี้ แต่คนที่ดีใจไม่ใช่เฉพาะเด็ก ๆ ยังมี ชุมพล อาจารย์พละบ้าพลัง เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันกับนิจชิตา พราะทันทีที่ชุมพลเห็นยุนอา ชุมพลก็ตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งรักทันที
ชีวิตในร่างหุ่นยนต์ของคิมมินโฮจึงเริ่มต้นขึ้น พ่อหุ่นจำแลงนาม ME 1 ของเราถูกนิจชิตาแกล้งต่าง ๆ นานา แม้คิมมินโฮจะไม่พอใจแต่เขาก็ต้องอดทนผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้ กว่าชีวิตจะผ่านไปแต่ละวันช่างยาวนานเหลือเกิน ทุกวันเขาได้แต่ลุ้นให้ถึงเวลาเลิกเรียนให้เร็วที่สุด เพราะเค้าจะได้มีชีวิตส่วนตัวสักที
การที่บริษัท LE ส่งหุ่นยนต์ ME 1 เข้ามาในประเทศไทย ทำให้ เฮียฮุย เจ้าของกิจการฮุยเจริญอิเลคทริค บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยรู้สึกไม่พอใจ เพราะคิดว่า LE จะเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ทางธุรกิจ เฮียฮุยจึงได้ใช้ให้ลูกน้องไปจัดการทำลายไอ้หุ่นกระป๋องนั่นทิ้งซะ แผนการขโมยหุ่น ME 1 จึงเกิดขึ้น แต่เพราะความฉลาดของยุนอา และเพราะ ME 1 ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่แท้จริง ทำให้ ME 1 หนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น นิจชิตาก็รู้สึกแปลก ๆ ทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับ ME 1 และเริ่มสับสนว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไรกับเจ้าหุ่นกระป๋องกันแน่ หรือว่า…
ความใกล้ชิดระหว่างนิจชิตากับ ME 1 ทำให้ปลัดภูชิตเริ่มไม่ไว้ใจ ปลัดภูชิตจึงเริ่มรุกเข้าทางพ่อ โดยให้ลุงปุ่นเปิดทางและหาโอกาสให้ นิจชิตาเองก็รู้ว่าลุงปุ่นพยายามช่วยภูชิตอยู่ จึงขอให้มะปราง เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมาคอยเป็นคู่กัดขัดขวางภูชิตไว้ มะปรางเต็มใจเป็นอย่างยิ่งเพราะไม่ชอบหน้าปลัดภูชิตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ช่วงเวลาของการเรียนรู้กันเริ่มขึ้น เมื่อโรงเรียนของนิจชิตาต้องไปมอบของให้โรงเรียนน้องที่ขาดแคลน ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีของโรงเรียน นิจชิตาอยากให้ ME 1 ไปด้วยเพราะคิดว่าเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสคงดีใจถ้าได้เห็นหุ่นยนต์ตัวจริง แต่ปัญหาอยู่ที่ชุด ME 1 เสียหายหนัก ต้องใช้เวลาซ่อมแซม ทำให้คิมมินโฮไม่สามารถไปค่ายในร่างของ ME 1 ได้ แต่เมื่อคิมมินโฮเห็นความตั้งใจจริงของนิจชิตาจึงพยายามหาสิ่งทดแทน แม้จะไม่ใช่หุ่นยนต์อย่างที่นิจชิตาอยากได้ แต่ก็สามารถสร้างความสนุกสนานให้เด็ก ๆ ได้ไม่แพ้กัน นิจชิตาเริ่มมองเห็นความอ่อนโยนในตัวของคิมมินโฮ ความรู้สึกดีต่อกันเริ่มก่อตัวขึ้นจนคิมมินโฮเอ่ยปากว่าอยากขอเริ่มต้นกับ นิจชิตาใหม่
แต่ แล้วอุปสรรคสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่างก็คือ ซึงมี สาวสวยไฮโซชาวเกาหลีคู่หมั้นหมายของคิมมินโฮ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อเร่งรัดให้คิมมินโฮจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุด ซึงมีเป็นทายาทคนเดียวของ ซอ เจ้าของธุรกิจกิมจิรายใหญ่ที่สุดในเกาหลี ผู้ซึ่งทำธุรกิจกิมจิบังหน้า แต่เบื้องหลังดำเนินธุรกิจการค้าที่ผิดกฎหมาย คิมยองมินหมั้นหมายให้คิมมินโฮแต่งงานกับซึงมี เพื่อให้ธุรกิจกิมจิของซอช่วยพยุงสภาพคล่องของบริษัท LE ในขณะที่ซอก็ยินดี เพราะซอเองก็ต้องการฟอกเงินผิดกฎหมายและชุบตัวเองให้เป็นนักธุรกิจที่มือ สะอาดนั่นเอง
ซึงมีโกรธที่คิมมินโฮมีใจให้กับนิจชิตา ความรู้สึกเสียหน้าและความต้องการเอาชนะทำให้ซึงมีส่งคนไปจัดการกับนิจชิตา แต่คิมมินโฮก็ช่วยนิจชิตาไว้ได้ นั่นยิ่งทำให้ซึงมีแค้นหนัก ซอเดินทางมาประเทศไทยเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ลูกสาว แต่กลับพบความจริงว่าบริษัท LE ที่ตนเข้าไปถือหุ้นกำลังจะล้มละลาย และความลับที่คิมยองมินปกปิดมาตลอดนั่นก็คือ จุดประสงค์ของการเดินทางมาประเทศไทยก็คือการกว้านซื้อที่ดินเพื่อสำรวจสาย แร่ทองคำอันเป็นขุมทรัพย์มหาศาล ความขัดแย้งครั้งนี้ทำให้นิจชิตาถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อให้คิมมินโฮเปิด เผยเรื่องทั้งหมด
คิมมินโฮวางแผนเข้าช่วยนิจชิตาได้สำเร็จ ซอและซึงมีถูกจับเนื่องจากทางการเกาหลีสืบทราบเรื่องธุรกิจผิดกฎหมายของซอ แต่สิ่งที่คิมมินโฮต้องแลกกับการช่วยชีวิตนิจชิตาก็คือ การที่นิจชิตาได้รู้ว่าคิมมินโฮเดินทางมาประเทศไทยเพื่อจุดประสงค์อะไร และยิ่งไปกว่านั้นก็คือการปลอมตัวเป็น ME 1 ของคิมมินโฮ นิจชิตาถึงกับอึ้งและรับไม่ได้กับความจริงทั้งหมดว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือ คนที่หลอกลวงเธอ หลอกลวงชาวบ้านมาตลอด
คิมมินโฮพยายามจะอธิบายให้ฟัง แต่นิจชิตารับไม่ได้กับสิ่งที่คิมมินโฮทำไว้กับเธอเพราะเธอเคยบอกแล้วว่าเธอ เกลียดคนโกหกที่สุด ถ้าจะมีคำพูดสุดท้ายที่จะพูดกับคิมมินโฮ เธอขอให้เขากลับเกาหลีไปซะ
คิมมินโฮจากเมืองไทยไปด้วยความเจ็บปวดที่ทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจ เช่นเดียวกับนิจชิตาที่แม้ว่าเธอจะบอกว่าเกลียดเขาและเป็นคนไล่เขาไปเอง แต่หัวใจเธอกลับไม่ได้บอกเช่นนั้น ชีวิตที่ไม่มีเจ้าหุ่นยนต์จอมยุ่งอย่างคิมมินโฮ เธอรู้สึกเหมือนว่าสีสันที่อยู่รอบ ๆ ตัวเธอกลับซีดจางไร้ชีวิตชีวา นิจชิตาตัดสินใจทำเรื่องขอเรียนต่อ เพื่อทิ้งความทรงจำทุกอย่างเอาไว้ที่เมืองไทย
หนึ่งปีผ่านไป… ก่อนที่นิจชิตาจะเรียนจบ เธอต้องเดินทางไปดูงานที่ประเทศเกาหลี แล้วหัวใจของนิจชิตาก็ต้องสั่นไหวอีกครั้งเมื่อได้พบกับคิมมินโฮ เธอหวังในใจลึก ๆ ว่าคิมมินโฮจะมาง้อเธอ แต่นิจชิตาก็ต้องเสียใจเมื่อพบท่าทางเย็นชาของคิมมินโฮราวกับว่าเธอและเขา ไม่เคยพบกันมาก่อน นิจชิตาตัดสินใจกลับประเทศไทยทันที
นิจชิตาพาหัวใจที่บอบช้ำกลับมายังบ้านเกิดตามเดิม แต่ทันใดนั้นเธอก็ต้องสับสนเมื่อเห็นคิมมินโฮมาปรากฏกายต่อหน้าเธอ จะเป็นไปได้ยังไงก็ในเมื่อเขาอยู่เกาหลีตอนที่เธอมา ก่อนที่คิมมินโฮจะเล่าความจริงทั้งหมดให้นิจชิตาฟังว่า ตลอดเวลาที่เขากลับเกาหลีไปไม่มีซักวันที่เขาไม่คิดถึงนิจชิตา และนั่นทำให้ทั้งวันทั้งคืนเขาขลุกอยู่แต่ในห้องทดลองเพื่อต้องการซ่อมเจ้า หุ่น ME 1 ให้เสร็จ
คิมมิ นโฮสารภาพกับนิจชิตาว่าเขาจะมาอยู่เมืองไทยกับเธอ เพราะเขารู้แล้วว่าไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพียงใด เขาก็ไม่สามารถสร้างหุ่นยนต์ที่มีความรักเหมือนมนุษย์ได้ นิจชิตาสงสัยว่าแล้วคิมมินโฮที่อยู่เกาหลีเป็นใคร คิมมินโฮสารภาพกับเธอว่าคิมมินโฮที่อยู่ที่เกาหลีตอนนี้คือ ME 1 ที่ซ่อมเสร็จแล้ว และเขาก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อนิจชิตาเพียงคนเดียว ติดตามชม ละคร โรบอทยอดรัก
นักแสดงละคร โรบอทยอดรัก
คณิน ขัดติยา รับบทเป็น คิมมินโฮ / ME 1
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ รับบทเป็น นิจชิตา
สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบทเป็น ปลัดภูชิต
ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร รับบทเป็น ยุนอา
นนทพันธ์ ใจกันทา รับบทเป็น ชุมพล
กล้วย เชิญยิ้ม รับบทเป็น ลุงปุ่น
อธิชนัน ศรีเสวก รับบทเป็น ปราง
กฤตย์ อัธเสรี รับบทเป็น คิมยองมิน
ธราภา กงทอง รับบทเป็น อีซึงมี
กลศ อัธเสรี รับบทเป็น ซอ
วิสรรค์ ฉัตรรังสิกุล รับบทเป็น เฮียฮุย
รุกฆาต
3 ปีผ่านไป…นับตั้งแต่การสลายลงของอาณาจักรราชสีห์ แผ่นดินเมืองพลแห่งอีสานสงบสุขอีกครั้งกัลป์ (ณัฐวุฒิ สะกิดใจ) กับ อัญชัญ (วรนุช วงษ์สวรรค์) เตรียมจัดพิธีแต่งงานที่เรียบง่ายแต่สมฐานะและความรักที่ทั้งสองมีให้กัน เพลิง (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) กับ ตะเภา (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ต่างดื่มด่ำไปกับความรักและความเข้าใจ ขณะที่ องอาจ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) และ กระรอก (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) พร้อมจะสร้างครอบครัวอันอบอุ่นและจริงใจ หากแต่เมฆหมอกแห่งความเลวร้ายกำลังก่อตัวขึ้นใหม่…โดยไม่มีใครรู้ตัว
รักได้ไหมถ้าหัวใจไม่เพี้ยน
ผู้ชายขี้เก๊ก ฟอร์มจัด เกลียดพวกผิดเพศทั้งที่ในใจยอมรับว่าหลงรักทอมเข้าให้แล้ว
เขาผิดปกติหรือเปล่าที่ชอบทอม แล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะได้แต่งงานกับเธอนะ..
ยัยปีเตอร์แพน
..ปั้นดาว..
สาวสวยที่ชอบแต่งตัวง่ายๆจนใครๆคิดว่าเธอเป็นทอม เมื่อมาเจอกับเขาผู้เกลียดทอม
ขึ้นสมองก็ทำให้เธอหมั่นไส้ ถ้าเขาคิดว่าเธอเป็นทอมแล้วจะมายุ่งกับเธอทำไม ลึกๆ
ในใจเธอก็รักเขาเข้าแล้วเช่นกัน แต่ตราบใดที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขารักเธอที่เป็นเธอ
ก็รอต่อไปเถอะ..อีตาหัวหน้าเผ่า
นักแสดงละคร รักได้ไหมถ้าหัวใจไม่เพี้ยน
เขตต์ ฐานทัพ —————– ธาวัน / หนึ่ง
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ —— ปั้นดาว / แพน
รพีภัทร เอกพันธ์กุล ———- ธัญธร / สอง
ไปรยา สวนดอกไม้ ———- ไข่แก้ว
สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ —— พีรพล
ปาลิตา โกศลศักดิ์ ———– เจนนี่
อมรพรรณ กองตระการ —— ช่อเพชร
พิชญา ศรีเทพย์ ————– ธัญมน / สาม
พัชรินทร์ จัดกระบวนพล —– พิไล
อินทิรา เกตุวรสุนทร ——— ดีดี้
วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ ———— พ่อของหนึ่ง สอง สาม
คนางค์ ดำรงหัด ————– แม่ของหนึ่ง สอง สาม
ภารกิจพิชิตดอกฟ้า
เสียงประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดล่าสุดดังไปทั้งหมู่บ้าน สมาชิกทุกคนพร้อมใจกันทิ้งภารกิจประจำวันเพื่อหยุดฟังหวย แม้กระทั่งชื่อหมู่บ้าน “ห้วยใหญ่” ก็ถูกทองปิดจนไม้โทหายกลายเป็นหมู่บ้าน “หวยใหญ่” เพราะความบ้าหวยแท้ๆ แต่ยกเว้น สมสนุก ที่ไม่สนใจหวยหรือการพนันใดๆ ทั้งสิ้น สมสนุกอยากเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ โดยมีความตั้งใจที่จะนำความรู้มาพัฒนาหมู่บ้าน สร้างอาชีพให้คนในหมู่บ้านเลิกความงมงายเสียที
ด้วยหวังว่าความเป็น แชมป์มวยของเขาจะพาเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยในฝันได้ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ สมสนุกได้มาพักอยู่กับ หลวงตาบูลย์ อีกมุมหนึ่งของเมือง น้องแก้ม ลูกสาวคนเดียวของ พล.ต.ต.จิรายุส ตำรวจมือปราบกับ คุณสินีนาฏ นักธุรกิจสาวใหญ่ กำลังจะไปมหาวิทยาลัยเป็นวันแรก และขอพ่อขากับแม่ขาไปมหาวิทยาลัยเองโดยมีรถของที่บ้านมาส่ง พอลงจากรถเธอหันไปเจอรถขายข้าวเหนียวหมูปิ้งที่อยากกินจนเกือบโดนรถเฉี่ยว
แต่ สมสนุกมาช่วยไว้ทันสบตาแรกที่ทั้งคู่เจอกัน สมสนุกก็ถูกใจน้องแก้มขึ้นมาทันทีความรู้สึกของหมามองเครื่องบินแวบขึ้นมา ทันที สมสนุกมาถึงมหาวิทยาลัยอย่างทุลักทุเล แล้วต้องพบความผิดหวังเมื่อทางมหาวิทยาลัยไม่รับเขาเข้าเรียน เพราะไม่รู้ว่าแชมป์มวยไทยงานวัดจะสร้างชื่อให้สถาบันตรงไหน แต่สถานการณ์มักสร้างวีรบุรุษเมื่อโจรจับอธิการบดีเป็นตัวประกัน สมสนุกช่วยอธิการบดีไว้ อธิการบดียินดีรับสมสนุกเข้าเรียนเป็นกรณีพิเศษ
ใน มหาวิทยาลัยสมสนุกได้พบเพื่อนร่วมก๊วน วอก หนุ่มหน้ามน สมเสร็จ ที่ชอบลืมตัวหยิบของชาวบ้านมาขายต่อ ฉวน ที่กวนประสาทได้อย่างถึงกึ๋น พี่ประโยชน์ ในมหาวิทยาลัยสาวเพียบและหนึ่งในหญิงที่แอบชื่นชอบวีรกรรมของสมสนุกก็คือ น้ำหวาน สาวหน้าหวานแต่นิสัยสุดห้าว ซึ่ง สิบทิศ ช้อปเปอร์หนุ่มมาดเท่ชอบน้ำหวานอยู่ ที่มหาวิทยาลัยยังมีน้องแก้มและ อนาวิน สาวๆ หลายคนอาจจะชื่นชมอนาวินแต่ไม่ใช่น้ำหวานแน่
น้ำ หวานไม่เข้าใจว่าผู้อะไรจะหน่อมแน้มได้ขนาดนั้น แต่อนาวินกลับชอบที่น้ำหวานเข้มแข็ง วันหนึ่งอนาวินและเพื่อนๆ หนีเที่ยวกันเหมือนเด็กๆ จนเรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทั้งหมดถูกผู้ร้ายไล่ล่าจนเกือบจะเอาตัวไม่รอด ดีที่แก๊งค์ช้อปเปอร์ของสิบทิศผ่านมาพอดีเลยช่วยมาได้ทัน สมสนุก, น้ำหวาน กับเพื่อนๆ ไม่เข้าใจว่าผู้ร้ายต้องการอะไร เพราะพวกเขาก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวเลยสักนิดเดียว มีเพียงอนาวินกับน้องแก้มเท่านั้นที่รู้ความจริง
ผู้ร้ายกลุ่มนี้คือ ผู้ไม่หวังดีที่ต้องการเก็บเจ้าชายอนาวินนั่นเอง สมสนุกไม่ละความพยายามที่จะเลิกชอบน้องแก้ม แถมยังหวังจะพิชิตใจพ่อขาแม่ขาของน้องแก้มใหได้ จนเกิดเรื่องราวหลายอย่างชุลมุนวุ่นวายทุกครั้งคะแนนที่น่าจะทำเพิ่มกลับ ยิ่งลดลงจนต่ำกว่าศูนย์ แต่สิ่งที่ทำให้สมสนุกยังมีกำลังใจก็คือน้องแก้มที่เริ่มเห็นใจดอกฟ้าเริ่ม โน้มตัวลงมา วิกฤติเกิดกับอนาวินอีกครั้งเมื่อทีมไล่ล่าตามมาเจอที่พำนักของเจ้าชาย
อนาวิน ได้รับการช่วยเหลือโดยบังเอิญจากน้ำหวาน น้ำหวานเอาอนาวินมาซ่อนในห้องนอนของตัวเอง ทั้งสองคนได้อยู่ใกล้ชิดกันจนขนลุกโดยไม่ไม่รู้ตัว เรื่องนี้สิบทิศถึงกับประกาศสงครามกับอนาวิน แต่ด้วยความดีของอนาวินกลับทำให้สิบทิศกลายเป็นหนึ่งในแก๊งค์ของอนาวินและสม สนุกไปแล้ว แล้วความจริงทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยว่าอนาวินเป็นเจ้าชายของประเทศพนาพิสุทธิ์ ทั้งหมดสัญญากันไว้ว่าจะรักษาความลับให้แก่กัน
ความรักของสมสนุกกับ น้องแก้มดูท่าจะราบรื่น เพราะน้องแก้มกับอนาวินเองก็รู้ใจตัวเองว่ามีความรู้สึกกันเพียงแค่พี่น้อง แต่อุปสรรคชิ้นโตคงหนีไม่พ้นพ่อขาแม่ขาของน้องแก้ม สมสมัย แม่ของสมสนุกไม่สบายหนักจนสมสนุกต้องกลับบ้านไปดูแล ทำให้ทั้งสมสนุกกับน้องแก้มห่างกัน น้องแก้มขอให้เพื่อนพาไปเยี่ยมสมสมัย จิรายุสกับสินีนาฏตามมาทันที เมื่อเห็นสภาพแวดล้องชนบทก็รับไม่ได้ จิรายุสลั่นวาจาทันที
ถ้า สมสนุกทำน้ำในคลองให้สะอาดและขจัดความบ้าหวยได้ภายในหนึ่งเดือนจะยอมเปิดทาง ให้ทั้งคู่คบหากัน เรื่องบำบัดน้ำเป็นหน้าที่ของอนาวินที่สั่งลูกน้องมาทำความสะอาดได้ในพริบตา ส่วนเรื่องหวยสมสนุกและเพื่อนๆ ช่วยกันอบรม สร้างงานและสร้างความคิดที่ถูกต้องให้ชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จนักเพราะมี รูด้า เจ้ามือหวยและเจ้าของบ่อนทรงอิทธิพล แถมยังเป็นนักการเมืองทรงอิทธิพลของประเทศพนาพิสุทธิ์
ที่หอบเงินมา ฟอกเงินในเมืองไทยเพื่อที่จะกลับไปโค่นอำนาจของเจ้าชายอนาวินอีกด้วย ทั้งหมดตั้งใจจะถอนรากถอนโคนให้ได้ เพื่อความรักของสมสนุกและแผ่นดินเกิดของอนาวินการผจญภัยเพื่อหัวใจจึงเกิด ขึ้น จิรายุสนำกำลังตามมาช่วยแต่เสียท่าถูกรูด้าจับตัวไป สมสนุกสวมหัวใจสิงห์พาเพื่อนๆ ไปช่วยเอาตัวกลับมาได้พร้อมจัดการกับรูด้าได้สำเร็จ จิรายุสแพ้ใจและความดีที่สมสนุกมีให้ต่อน้องแก้มยอมให้ทั้งสองคนคบกันได้
ทั้ง หมดกลับไปตั้งใจเรียนเพื่อทำความฝันของตนให้เป็นจริง สิบทิศยอมละทิ้งความเป็นหัวหน้าแก๊งค์ช้อปเปอร์กวนเมือง พี่ประโยชน์เรียนจบในวัยสามสิบกว่า และทำงานเป็นเรื่องเป็นราว ฉวนนำวิชาความรู้มาใช้ทำให้เขามีอาชีพทำมาหากินอย่างภาคภูมิ สมเสร็จหายมือไวสอบเป็นตำรวจ วอกเรียนเก่งจนจะไปต่อดอกเตอร์ อนาวินคบกับน้ำหวานด้วยความรักทั้งสองคนตั้งใจเรียน ก่อนจะวางแผนไปใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบในประเทศเล็กๆ ของอนาวิน
ส่วน หมาวัดอย่างสมสนุกเอาความรู้ไปทำให้ชาวห้วยใหญ่เลิกงมงายเรื่องหวยจนสำเร็จ และเผยแพร่ไปสู่หมู่บ้านที่รายรอบ ที่เด็ดกว่านั้นหมาวัดอย่างสมสนุกที่วันๆ ได้แต่ชะเง้อมองเครื่องบินลำสวยอย่างน้องแก้ม วันนี้เครื่องบินลำสวยถูกยิงตกลงมาให้เชยชมแล้ว ด้วยกระสุนความดีที่สมสนุกพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น คนดี…ซึ่งยังมีอีกมากมายในซอกหลืบนับร้อยมุมของสังคมไทย
รายชื่อนักแสดง ภารกิจพิชิตดอกฟ้า
ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท สมสนุก
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ รับบท น้องแก้ม
ธาวิน เยาวพลกุล รับบท อนาวิน
กชกร ศุภการกิจกุล รับบท น้ำหวาน
กฤษฎี พวงประยงค์ รับบท วอก
สลิล สุภาพงศ์ รับบท สมเสร็จ
ยังเติร์ก กัลป์ รับบท สิบทิศ
คุณาวุฒิ เหลืองเสรี รับบท ฉวน
ก้าว บางกรวย รับบท พี่ประโยชน์