Tag Archives: ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ

เสื้อสีฝุ่น

เสื้อสีฝุ่น เป็นเรื่องราวของ อวล สาวสวยคมขำวัยยี่สิบเอ็ด อวลเป็นคนร่าเริงช่างยิ้มหัวพูดคุย ใคร ๆ เห็น อวล ก็นึกถูกชะตาในความหน้า เป็นของอวล อวลแข็งแรงท่าทางออกจะเก้งกางไม่เหมือนผู้หญิงอ่อนหวานสักนิด แต่อวลก็ภูมิใจ ภูมิใจที่เป็นลูกของ นายอิง ช่างปูนฝีมือเยี่ยม อวลอยากเป็นอย่างพ่อ ชั่วชีวิตของอวลต้องปากกัดตีนถีบ แม่ขายข้าวแกง พ่อเป็นช่างปูน อวลยังมีน้องสาวอีกสองคน คือ อ่อน กับ อ่อง ที่เรียนหนังสือ ไม่มีใครยอมให้ความจนความท้อแท้มาครอบงำ อ่อง รับสอยเสื้อหารายได้พิเศษ และอวลเลิกเรียนมาเป็นคนงานก่อสร้าง คอยฝึกฝีมือจากพ่อ

ทั้งสองเป็น คนงานของเสี่ยสุเมธ เสี่ยมีคนงานมากมายแบ่งแยกทำงานหลายกลุ่ม กลุ่มของอวลกับพ่อ มักจะถูกจัดให้ทำงานด้วยกันกับคนงานอีก 7-8 คน อันมีลุง พาน น้าเวียน น้าม่อม พี่เก็บ จันทร์ เงิน แวว เวียน ผล กลิ้ง อัด และ จอง หนุ่มปูน อายุ 24 ที่แอบหลงรัก อวล แต่อวลไม่เคยสนใจ จองเป็นคนนิสัยดี เจียมตัว ขยัน และมีมานะทำงาน จนสามารถไต่เต้าจากการเป็นคนธรรมดามาเป็นช่างปูนด้วย เวลาไม่นานนัก จอง หน้าตาดี รูปร่างบึกบึน แม้แต่เก็บ กับ จันทร์ ยังแอบหลง ปลื้ม แต่อวลไม่สนจนวันหนึ่ง วิถีชีวิตของอวลก็เปลี่ยนไป เมื่อเสี่ยพาคนงานกลุ่ม ของอวล

ไปทำงานก่อสร้างบ้านของคุณจุไร ที่นั่น อวลได้พบกับ กริบ ซึ่งเป็นลูกชายของ คุณนายจุไร กริบ หล่อโก้ นิสัยนุ่มนวลน่ารัก อวลนั้นแอบหลงรักริบหมดใจ กลุ่มคนงานที่สนิทรักใคร่กันจนเหมือนญาติ สังเกตเห็นความผิดปกติของอวล อวลฝันหวาน และวาดหวังถึงขนาดอาสาเป็นคนใช้ให้คุณจุไร แทน หลาบ ซึ่งป่วยเข้าโรงพยาบาล ทั้งๆ ที่ อวล เกลียดการทำงานบ้านเป็นที่สุดอวลนั้น อยากอยู่ใกล้ๆ กริบ อยากเห็น อยากคุย อยากให้เขารู้ว่าอวลนั้นรู้สึกอย่างไรต่อ เขา แต่มันไม่ง่ายอย่างที่อวล คิด เพราะยังมี จิต คนครัวเก่าแก่ที่คอยจับสังเกต ความเคลื่อนไหวของอวลทุกระยะ

และยังมี ยง คนสวนจอมเจ้าชู้ที่แอบสนใจอวล แต่อวลนั้นไม่สนใจ หลายตนพยายามทัดทาน อวล ให้เลิกคิดฝันถึงกริบ แต่อวลนั้นทำไม่ได้ จากคน ที่เคยร่าเริง กลับกลายเป็นเงียบขรึม คิดมาก ยิ่งเมื่อกริบมีเพื่อนผู้หญิงมาหา อวลจะโกรธ เสียใจ น้อยใจในวาสนาของตัวเอง กริบนั้นพูดคุยกับอวลอย่างมี อัฐยาสัย และไม่ถือตัวประกอบกับ อวลเป็นคนสวย กริบจึงรู้สึกดีที่จะพูดคุย กับอวล ความสนิทสนมของทั้งคู่เป็นที่สอดส่องของเหล่าคนงานจองนั้นซึมเศร้า และเสียใจมากที่เดียว

แล้ววันหนึ่งอวลก็ถูกเจ้ายงเล่นงาน และด่าว่าอย่างรุนแรงที่แน่ใจว่า อวลนั้นแอบ ชอบกริบ แถมยังโดนตบ อวลนั้นเป็นที่ไม่ยอมใครอยู่แล้ว จึงได้เกิดทะเลาะกัน บวกกับแผลที่ถูกรถชนเพราะความเหม่อลอยยังไม่หายดี จึงสู้ไม่ได้ เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ อวลนั้นอายมาก จึงได้ประกาศออกมาว่าจะไม่มาเหยียบที่บ้านของ คุณจุไรอีกเลยอวลคับแค้น และน้อยใจในความจนของตนเอง จอง สงสารและ คอยดูแลปลอบใจ อวล ทำให้อวลเริ่มมองเห็นความดีของ จอง จองนั้นขออวล แต่งงาน แต่อวลขอผัดให้มีฐานะก่อนผ่อน อวลบังคับให้แม่นั้นเช้าร้านขาย ข้าวแกงแทนรถเข็น และยังบังคับให้พ่อออกจากงาน

ออกมาทำงานรับเหมา เอง จอง ออกตามด้วย ไม่นานร้านข้าวแกงก็ไปได้ดี นาย อิงกับจองก็มีงานเข้ามา จองจึงทวงสัญญากับอวล เรื่องแต่งงาน อวล พิสูจน์แล้ว ว่าจองนั้นรักอวลจริง เป็นคนดี ขยัน พ่อแม่ก็สนับสนุน อวลจึงรับปากแต่งงาน กับจอง เพราะคิดว่าตนเองควรรักที่เหมาะสมตัวเอง แต่พอกริบมาหาอวลที่ร้าน อวลก็เพิ่งจะเข้าใจยังลืมกริบไม่ได้ จึงทำให้จองน้อยใจ และเสียใจ หนีหายไป อวลนั้นบอกตัวเองว่าไม่สนใจ แต่พอนานเข้าเมื่อไม่มีจอง อวลก็เริ่มรู้สึก แต่จะไป ตามทิฐิจึงไปชวนจิต แม่ครัวบ้านคุณจุไรให้ไปเป็นเพื่อน จิตพาบุญเกิน

ผัวรุ่นน้องไปด้วย บุญเกินเป็นคนงานเพื่อนบ้านของจอง ที่หวังปอกลอก จิต แต่ ทั้งสามก็ไปมีเรื่องมีราวในผับ เพราะความเซ่อซ่าจน บุญเกิน ถูกยิงตายส่วนจอง ก็ถูกแทงบาดเจ็บสาหัสกริบ และ คุณจุไร มาช่วยเหลือดูแล และทำศพให้บุญ เกิน เป็นครั้งแรกที่อวล ได้พูดความในใจกับกริบ อวล ดีใจที่รูว่า กริบ เองก็สน ใจ อวลไม่น้อย อวลตัดสินใจแล้ว อวล กลับไปโลกของ อวลที่ร้านข้าวแกง ซึ่ง ทุกคนช่วยกันฟันฝ่า กลับไปหา จอง ที่รัก และเสียสละให้อวล ได้ทุกอย่าง

ความรักของจองชายหนุ่มที่รักเดียวใจเดียว จะสมหวังหรือไม่ อวลจะยอมแต่งงานกับจองหรือไม่ ติดตามชมได้ ใน “เสื้อสีฝุ่น

เสื้อสีฝุ่น

นักแสดงละคร เสื้อสีฝุ่น

แอน ทองประสม แสดงเป็น อวล
ชาตโยดม หิรัณยัาฐิติ แสดงเป็น จอง
กรุณพล เทียนสุวรรณ แสดงเป็น กริบ
เอมวลี จึงไพศาล แสดงเป็น อ่อน
กมลา กำภู ณ อยุธยา แสดงเป็น อ่อง
ดุสิตา อนุชิตชาญชัย แสดงเป็น อ้อน
มนตรี เจนอักษร แสดงเป็น อิง
นพชัย มัททวีวงศ์ แสดงเป็น บุญเกิน

สาปภูษา

ในอดีตกาล เจ้าสีเกด หญิงสาวฝีมือดีเรื่องการทอผ้าตาดทองที่เป็นที่กล่าวคลานกันในวัง ได้พบกัน หม่อมทัด ขุนนางตำรวจที่หลงรักเจ้าสีเกด หลังจากนั้นเขาก็ตามจีบทำให้เจ้าสีเกดหลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ จนเจ้าสีเกดตั้งท้อง แต่แล้วโชคชะตาก็ไม่เข้าข้าง เพราะหม่อมทัดจะต้องแต่งงานกับหม่อมฉาย ความผิดหวังครั้งนี้ทำให้ เจ้าสีเกด เกิดความอาฆาตแค้นพยาบาท เธอจึงทอผ้าตาดทองพร้อมกับสาปแช่งด้วยความโกรธแค้น ทุกเส้นด้ายในผืนผ้า ถูกตราตึงไว้ด้วยแรงพยาบาท ก่อนที่เจ้าสีเกดจะผูกคอตายพร้อมกับลูกในท้อง แม้กาลเวลาผ่านไปแต่ความอาฆาตมิได้ถูกลบเลือนสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน ไหมพิม หญิงสาวที่ชอบเรื่องผ้าโบราณ ได้เข้าทำงานที่ร้านตาดทอง ซึ่งมีปรีชญาเป็นเจ้าของ วันหนึ่งก็มีชายลึกลับ เข้ามาอาละวาดในร้านแต่ พชร สถาปนิกหนุ่มเข้ามาช่วยไว้ทัน ชายลึกลับจึงวิ่งออกไปจากร้าน แต่ก็ทิ้งห่อผ้าสีขาวไว้ ซึ่งในนั้นมีผ้าตาดทองโบราณที่สวยงามมากอยู่ มณีกัญญาหุ้นส่วนร้านตาดทอง สั่งให้นำผ้าไปเก็บไว้ในเซฟ แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะวิญญาณของ เจ้าสีเกด ได้ปรากฏขึ้น และจ้องหน้าคนทั้งสีด้วยความแค้น คือนั้นไหมพิมสะดุ้งตื่นกลางดึก และเห็นชายลึกลับกำลังงัดหน้าต่างบ้านเธออยู่ พชร มาช่วยไว้ทัน

ทาวิธ นายตำรวจหนุ่มที่แอบชอบไหมพิม ก็ส่ง ภาติยะ ลูกน้องของเขามาทำคดีให้ไหมพิม ซึ่งเมื่อภาติยะพบไหมพิม ก็ทำให้เข้าตกหลุมรักไหมพิม และพยายามจะนำเรื่องความคืบหน้าของคดี มาคุยกับไหมพิม ต่อมามณีกัญญากลัวว่าชายลึกลับจะกลับมาอีก เธอจึงนำผ้าตาดทองไปฝากไว้ที่บ้านของปรีชญา ด้วยเหตุนี้ทำให้มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้นหลายครั้งภายในบ้านของปรีชญา วิญญาณเจ้าสีเกดที่มากับผ้าตาดทอง วนเวียนอยู่ในบ้านของปรีชญา เมื่อได้เห็นหน้าทาวิธ คู่หมั้นของปรีชญาก็เกิดโกรธขึ้นมาจนให้เกิดลมกรรโชกแรง เพราะชาติที่แล้วทาวิธ ก็คือ หม่อมทัด ต่อมาทาวิธถูกยิงทำให้ต้องมาอยู่ที่บ้านของปรีชญาเพื่อง่ายต่อการดูแล ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าสีเกดได้เข้าร่างของไหมพิม แล้วทำให้ไหมพิมยั่วยวนทาวิธเพื่อจะหวังให้ความรักระหว่างทาวิธกับปรีชญา ต้องจบลงเหมือนกับความรักของเจ้าสีเกดในชาติที่แล้ว

ระหว่าง นั้น พชรได้พบกับ แทนไท และภุมรี สองสามีภรรยาที่จ้างให้พชรตกแต่งพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณให้กับภรรยาของเขา พชรจึงไปขอความช่วยเหลือเรื่องข้อมูลผ้าโบราณกับไหมพิม ความใกล้ชิดทำให้พชรแอบรักไหมพิมอย่างเงียบๆ คืนหนึ่งไหมพิมลงมาข้างล่างแต่ลืมว่าตัวเองนั้นใส่ชุดนอนอยู่ เมื่อทาวิธเห็นจึงนำผ้าตาดทองที่ตกอยู่มาคลุมให้ทันได้นั้นเองวิญญาณเจ้าสี เกดก็เข้าร่างไหมพิม ทำให้ไหมพิมจูบกับทาวิธ

พชรมาเห็นพอดีจึงเกิดความเข้าใจผิดกับไหมพิมหญิงที่ตนแอบรักว่าทำไมถึงหัก หลังปรีญชาได้ลงคอ พชรทำตัวเหินห่าง จนไหมพิมสงสัย จึงดักถามปรับความเข้าใจ ไหมพิมเสียใจมากที่พชรเข้าใจเธอผิด ขณะเดียวกันภาติยะก็คิดที่จะพาไหมพิมเข้าโรงแรม พชรที่คอยเฝ้าติดตามไหมพิมก็ช่วยไว้ได้ทัน

แทนไทที่นั่งสมาธิก็เห็นว่าเจ้าสีเกดเข้าสิงร่างไหมพิมอยู่จึงนำเรื่องนี้ไป บอกกับพชรว่าสิ่งที่เห็นไหมพิมทำนั้นเธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ทุกอย่างเกิดจากเจ้าสีเกดทั้งนั้น พชรนำเรื่องดังกล่าวไปบอกไหมพิมและนำสร้อยพระให้ไหมพิมใส่ ไหมพิมบอกพชรเรื่องความฝันที่เธอเห็นผู้หญิงโบราณนั่งปักผ้าด้วยความโกรธ แค้น ทั้งสองจึงเล่าเรื่องนี้ให้แทนไทฟัง แทนไทจึงแนะนำให้ไหมพิมนั่งสมาธิเพื่อสื่อสารกับเจ้าสีเกดว่าต้องการอะไร ซึ่งสิ่งที่เจ้าสีเกดต้องการก็คือ ฆ่าปรีชญา เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเจ้าสีเกดเข้าร่างไหมพิมและกำลังจะ ไปฆ่าปรีชญา ขณะนั้นแทนไทก็ทำการสวดมนต์พร้อมทำพิธีเผาผ้า ทำให้วิญญาณของเจ้าสีเกดออกจากร่างไหมพิมอย่างกะทันหัน

เวลาผ่านไป…ทุกคนเดินทางไปวัดเพื่อหล่อพระประธาน ซึ่งไหมพิมก็นำผ้าตาดทองหล่อรวมเข้าไปกับพระประธานด้วย เพื่อให้วิญญาณเจ้าสีเกดไปสู่คติและให้อโหสิกรรมให้กับทุกคน ทาวิธตัดสินใจบวชเพื่อชดเชยกับสิ่งไม่ดีในอดีตและกลับมาแต่งงานกับปรีชญาตาม ที่สัญญาไว้ และทุกคนก็เข้าใจไหมพิมมากขึ้นโดยเฉพาะมณีกัญญาที่ตอนแรกไม่ชอบไหมพิมเท่า ไหร่นัก เธอจึงเปิดโอกาสให้ไหมพิมรักพชรพี่ชายของเธอ

สร้อยแสงจันทร์

พุทธิ ( แพท ) นักโบราณคดีหนุ่ม และคอลัมนิสต์แห่งนิตยสาร “ธาร” พุทธิสืบค้นโบราณสถานโบราณวัตถุที่สาบสูญ แล้วนำมาเขียนลงนิตยสาร สิ่งที่เขาหามาตลอดชีวิตคือ “สร้อยแสงจันทร์” อัญมณีแห่งเมืองบังบด ซึ่งอยู่ในวิหารปักษาจำลอง เมลานี แฟนสาวของพุทธิ และเจ้าของนิตยสาร “ธาร” กับ เมษ พ่อของเมลานี ทำเป็นช่วยสืบหาตัว ดร.เมี่ยง ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกเมษจ้างให้เข้าไปขโมยสร้อยแสงจันทร์ พร้อมกับ บุญทา พรานป่า แต่ได้มาแค่ดวงเดียวโดยพุทธิไม่รู้ เมื่อพบกันพุทธิต้องประหลาดใจที่ดร.เมี่ยงกลายเป็นคนบ้าในโรงพยาบาลไปแล้ว แม้จะพูดจาแปลกๆ ยากที่จะเข้าใจ พุทธิได้เทวรูปนกจากดร.เมี่ยงที่เป็นกุญแจสำคัญช่วยให้เขาผ่านเข้าไปด้านใน ของวิหารปักษาจำลองได้ หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลพร้อมเทวรูป พุทธิเริ่มเห็นภาพแปลกๆ เหมือนตัวเองได้กลับเข้าไปอยู่ในอดีต จนเกือบทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกับรถของ เดือนเต็มดวง นักโบราณคดีของกองโบราณคดีกับ หมูอ้วน ทั้งสองช่วยนำร่างไร้สติของพุทธิไปส่งโรงพยาบาลแล้ว เดือนเต็มดวงพาหมูอ้วนกลับโดยไม่รู้ว่าหมูอ้วนแอบเอาเทวรูปนกของพุทธิมาด้วย เมื่อพุทธิรู้ตัวก็รีบตามเอาเทวรูปคืนจากเดือนเต็มดวง เดือนเต็มดวงสงสัยพฤติกรรมของพุทธิว่าจะเป็นพวกขโมยโบราณวัตถุไปขาย โดยอาศัยคราบนักโบราณคดีบังหน้า โดยมีเมษเป็นผู้บงการ จึงพยายามขัดขวางพุทธิทุกวิถีทางแต่ไม่สำเร็จ พุทธิมาพบ พ่อเฒ่าลี ที่หมู่บ้านกูย เพื่อขอความเช่วยเหลือในการเข้าไปในวิหารปักษาจำลอง โดยไม่รู้ว่าบุญทาแอบสะกดรอยตามไป จโกระ นกเทพในร่างอสูรจึงขัดขวางทุกคนไม่ให้เข้าไปข้างใน ยกเว้นแต่พุทธิคนเดียว เมื่อเข้าไปได้พุทธิก็ถูกมนต์สะกดของจโกระให้เห็นภาพอดีตที่เคยเป็น พุมมะ ทหารเอกของ กีรณะ เจ้าผู้ครองนครบังบด แล้วจโกระก็สะกดให้พุทธิช่วยดึงลิ่มที่ดร.เมี่ยงและบุญทาแทงตนจากการบุกรุก ครั้งที่แล้วออก ทำให้จโกระได้เป็นอิสระอีกครั้ง พุทธิก็ได้เห็นสร้อยแสงจันทร์ดวงที่เหลือที่ตาของจโกระเป็นครั้งแรก พุทธินำลิ่มมามอบให้เมษกับเมลานีเพื่อส่งมอบให้พิพิธภัณฑ์ แต่เมษต้องการสร้องแสงจันทร์อีกดวงหนึ่ง จึงใช้ให้เมษหลอกล่อให้พุทธพากลับเข้าไปที่วิหารอีกครั้ง เดือนเต็มดวงรู้ข่าวนี้จึงพยายามขัดขวาง การเข้าป่าครั้งนี้อยู่ในสายตาของกีรณะที่อยู่ในร่างของจโกระ และ อัปสะ ทั้งสองจับตัวพุทธิ เดือนเต็มดวง และเมลานี มาไว้ที่หน้าเทวรูปจโกระเพื่อรอการประหาร เมื่อเดือนเต็มดวงและพุทธิเห็นเทพจโกระ ทั้งคู่ก็ระลึกถึงเรื่องราวในอดีตได้ทั้งหมด ทำให้รู้ว่ากีรณะคือผู้ครองนครบังบดที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่รักใคร่ของประชาชน โดยมีมหาสีที่สวยและเพียบพร้อมคือ มณีจันทร์เทวี ซึ่งก็คือเมลานีในปัจจุบัน กีรณะไม่เคยล่วงรู้เลยว่าพุมมะทหารคนสนิทกับมณีจันทร์เทวีลักลอบเป็นชู้กัน ด้วยเพราะกีรณะรักและไว้ใจมณีจันทร์เทวีมาก วันหนึ่ง ณะจัน หรือเดือนเต็มดวงในปัจจุบัน นางรำผู้เลอโฉมถูกส่งตัวมาเป็นสนมให้กับกีรณะ ความสวยและความดีของณะจันไม่เพียงแต่ชนะใจกีรณะ แต่ยังทำให้พุมมะหลงรักด้วย มณีจันทร์เทวีไม่พอใจอย่างมาก จึงวางแผนเล่นเกมท้าพนันให้พุมมะทำให้ณะจันหลงรัก และเป็นโอกาสให้ ปะปาละ หรือพ่อเฒ่าลีในปัจจุบัน หลอกให้มณีจันทร์เทวีให้พุมมะไปขโมยสร้องแสงจันทร์ที่เมืองโขมด เมื่อมีสร้องแสงจันทร์มณีจันทร์เทวีจะมีอำนาจยิ่งใหญ่ และจะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะพุมมะชายเดียวที่นางรัก โดยที่กีรณะไม่สามารถขัดขวางได้ การขโมยสร้อง แสงจันทร์ของพุมมะทำให้เกิดสงครามระหว่างเมืองของกีรณะและเมืองโขมด สร้างความวุ่นวายและการอยากได้อำนาจในการครอบครองสร้องแสงจันทร์ เป็นเหตุให้มณีจันทร์เทวีกลืนสร้อยแสงจันทร์ลงไป ทุกคนเชื่อว่ามณีจันทร์เทวีถึงแก่ความตาย กีรณะเข้าใจว่าถูกพุมมะและณะจันหลอกให้ฆ่าคนดีอย่างมณีจันทร์เทวี กีรณะต้องจบชีวิตลงด้วยมือของณะจัน ก่อนสิ้นใจกีรณะได้สลายร่างรวมกับเทพจโกระ กลายเป็นนกจโกระรอวันที่จะแก้แค้นพุมมะกับณะจัน ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เมื่อพุทธิและเดือนเต็มดวงระลึกอดีตของตน ได้รู้สึกถึงความชั่วที่ได้ทำไว้ในอดีต เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็พยายามสืบเรื่องเมษกับเมลานี จนได้รู้เบื้องหลังของทั้งคู่ว่าได้เอาสมบัติของชาติไปขาย ทั้งสองตกลงจะช่วยกันแก้ไขความผิดทั้งในอดีตและปัจจุบัน ส่วนกีรณะก็ติดตามเอาชีวิตของพุทธิและเดือนเต็มดวงให้ได้เพื่อแก้แค้น ส่วนเมลานีเริ่มฟื้นอดีตได้แล้ว่าตนคือมณีจันทร์เทวี ที่ไม่เคยตายมานานเป็นพันปี พุทธิและเดือนเต็มดวงจะแก้ไขเหตุการณ์ในอดีต และนำสมบัติของชาติกลับคืนมาได้หรือไม่ ติดตามได้ในละคร “สร้อยแสงจันทร์

รายชื่อนักแสดง สร้อยแสงจันทร์
พัชฎะ นามปาน รับบท พุทธิ ( แพท ) / พุมมะ
ศรีริต้า เจนเซ่น รับบท เดือนเต็มดวง / ณะจัน
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท กีรณะ / จโกระ
รินลณี ศรีเพ็ญ รับบท เมลานี / มณีจันทร์เทวี
ศศิธร พานิชชนก รับบท สมิง / อัปสะ
ศานติ สันติเวชกุล รับบท เฒ่าลี / ปะปาละ
ทองขาว ภัทรโชคชัย รับบท เฒ่าบุญทา
เป็ด เชิญยิ้ม รับบท เมษ
สมชาย ศักดิกุล รับบท ดร.เมี่ยง
ภูมิสิทธิ์ ตั้งพินิจการ รับบท หมูอ้วน

ศิราพัชร ดวงใจนักรบ

มินาลิน รัฐอิสระเล็ก ๆ ที่มั่งคั่งด้วยเพชร ปกครองโดยผู้นำรัฐชื่อ วาสิน (สถาพร นาควิไล) มีภรรยาชื่อ เนตรา (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันคือ พชร (ศรราม เทพพิทักษ์) วาสินมีเพื่อนสนิทที่พ่อนำมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม คือ ดารัณ (อรรถชัย อนันตเมฆ) ทั้งสองเติบโตมาด้วยกันจนวาสินขึ้นเป็นผู้นำ ดารัณได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลด้านการทหารของมินาลิน เขามีอำนาจรองจากวาสิน

ต่อมาดารัณได้ทำการกบฎ ไพรสณฑ์ เป็นผู้บัญชาการทหารที่วาสินไว้ใจให้พาเนตราและพชรหนี แต่ไพรสณฑ์หักหลังวาสินและเข้าเป็นพวกของดารัณ โดยลวงสองแม่ลูกไปฆ่าทิ้ง แต่ถูกพชรฆ่าตายก่อน สองแม่ลูกได้รับการช่วยเหลือจาก มาดิสร์ (เวนช์ ฟอลโคเนอร์) ผู้นำรัฐอิสระเล็ก ๆ ชื่อรัฐ มินทุ โดยมาดิสร์บอกกับคนของเขาว่าทั้งสองเป็นญาติ ดารัณก่อการกบฏสำเร็จและจับวาสินไว้แล้วบังคับให้เปิดห้องนิรภัยที่เก็บ ศิราพัชร อัญมณีประจำตำแหน่งผู้นำแคว้น ซึ่งต้องใช้นิ้วของวาสินเป็นรหัส วาสินไม่ยอม ดารัณจึงตัดนิ้ววาสินและสั่งให้ ชาคร (พศิน เรืองวุฒิ) นำวาสินไปฆ่า

มาดิสร์มีลูกสาวชื่อบาจรีย์ (หยาดทิพย์ ราชปาล) และลูกชายชื่อ ภูษณะ (มาวิน ทวีผล) อดิสร (สรพงษ์ ชาตรี) ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษแห่งประเทศไทยเพื่อนรักของมาดิสร์มารับพชรไปเรียนการรบ พชรมาเรียนการทหารที่ประเทศไทยในนาม ชวิน อดิสรมีลูกชายที่เรียนทหารเหมือนกันชื่อ ธาม (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) และลูกสาวที่กำลังเรียนหมอชื่อ ลำธาร (ศรีริต้า เจนเซ่น)

วันหนึ่งระหว่างการฝึกการทหารอย่างหนัก พชรมีโอกาสได้ช่วยเหลือ ธาม ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต่อมาธามได้ช่วยชีวิตพชรในขณะที่จะถูกลอบฆ่าในระหว่างการฝึกภาคสนาม ทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นเพื่อนรักกัน

ลำธารจัดงานวันเกิดที่ร้านอาหารในวันที่เรียนจบ พชรแอบมอบของขวัญวันเกิดเป็นสร้อยเพชรที่เคยเป็นของพ่อใช้หมั้นแม่โดยฝากบริกรไปมอบให้เธอ วันแรกของการผ่าตัดจริงที่ น.ศ.แพทย์ลำธาร ต้องผ่าตัดด้วยตัวเองโดยมี น.ศ.แพทย์ ธีรัช (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) ลูกชายนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่หลงรักเธออีกคนคอยเป็นกำลังใจ และเธอก็สามารถผ่านการผ่าตัดได้เป็นอย่างดี ดารัณสั่งเก็บผู้ที่เขาส่งไปลอบสังหารพชร แต่มีมุกริน ภรรยา และดิสรณ์ ลูกชายที่ไม่เห็นด้วย

วาสินที่ใคร ๆ คิดว่าตาย กลับรอดชีวิตมาได้จากการช่วยเหลือของชาคร ชาครได้เข้ามาเป็นสายสืบโดยชาครมีเป้าหมายเพื่อจะให้วาสินฟื้นความจำ ในวันจบหลักสูตรขณะที่พชรเลี้ยงฉลอง คนของดารัณมาลอบฆ่าพชรแต่ว่าพชรก็ได้หลบหนีไปได้ พชรหนีมาจี้รถและบังคับให้คนขับรถพาเขาหนี แต่คนที่จี้มากลายเป็นลำธาร พชรพาลำธารบุกป่าฝ่าเข้าไปซ่อนตัวในถ้ำแห่งหนึ่งทางเหนือ โดยมีพวกดารัณตามฆ่าทั้งสองตลอดเวลา แต่ความที่หลงรักมาหลายปี พชรหลอกลำธารว่ามีสัตว์ร้าย มีอันตรายสารพัดจนลำธารต้องหนีระหกระเหินไปกันสองคนเป็นเวลาถึง 7 วัน ลำธารสัมผัสได้ถึงความเป็นสุภาพบุรุษและความเก่งกล้าสามารถ รวมถึงความอ่อนโยนที่พชรมีต่อเธอ จนทำให้เธอเกิดความรู้สึกพิเศษต่อเขา

ลำธารไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ เมื่อพชรต้องเปลี่ยนแผนการหนี ลำธารยืนยันจะเป็นตัวประกันไปจนถึงชายแดน ด้านผู้หมวดธามได้รับแจ้งจากพชรว่าได้จี้รถของลำธารหนี จึงตกใจแต่ก็ได้คำอธิบายจึงยอมทำตามแผนของพชรโดยปล่อยให้น้องสาวไปกับเขา และก็ได้ตามขึ้นไปที่ชายแดนเพื่อรับน้องสาวกลับบ้าน

พชรเดินทางกลับมินทุทั้งที่หัวใจของเขาอยู่กับลำธาร ชาครพาวาสินมาดักรอพบพชร พชรดีใจมากที่พ่อยังไม่ตายถึงแม้จะยังจำอะไรไม่ได้ เนตราพยายามดูแลวาสิน และทั้งหมดก็ร่วมกันวางแผนกู้มินาลินคืน จากการครอบครองรัฐโดยไม่มีคุณธรรมของดารัณ มินาลินที่เคยมีความสุขกลับตกต่ำ ประชาชนทุกข์ยาก มีการชุมนุมประท้วงดารัณโดยการนำของ พาริณ (ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ) เพื่อนสาวของพชร ทั้งสองแอบพบกันและร่วมกันวางแผนกู้มินาลินคืน การประท้วงของกลุ่มผู้ใช้แรงงานครั้งต่อ ๆ มามี พชร และชาครชักใยอยู่เบื้องหลัง

ลำธารเฝ้าติดตามเรื่องราวของมินาลินอย่างใกล้ชิด และก็อาสาไปกับทีมแพทย์เพื่อไปดูแลผู้บาดเจ็บที่มินาลิน ชาครถูกดารัณปลดออกจากตำแหน่งและให้ ราชิต (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) ขึ้นรับตำแหน่งแทน พชรได้รับบาดเจ็บหนีเข้ามารักษาตัวที่หน่วยแพทย์อาสา และได้พบกับแพทย์หญิงศิรพัชร (ลำธาร) ดารัณตามล่าพชรลำธารจึงพาพชรหนี ดารัณใช้ให้ราชิตสลายม๊อบโดยใช้กำลังและสั่งจับแกนนำกลุ่มแล้วตั้งข้อหากบฏ ส่วนผู้ร่วมประท้วงถ้าหนีไม่ทันก็ถูกจับกุมโดยไม่รู้ชะตากรรม เวคิน (อดิศร อรรถกฤษณ์) แกนนำคนสำคัญหนีมาได้โดยมีคนของพชรช่วย พาริณมองออกว่าพชรและลำธารรักกันเธอจึงพยายามเข้าใกล้ชิดพชร แต่พาริณก็ไม่สามารถทำให้พชรรักเธอได้

พชรเดินทางไปยังดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ รัฐมินทุจึงส่งภูษณะลูกชายของมาดิสร์เป็นตัวแทนมาเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อคอยช่วยพชร มานิตย์ นายทหารคนสนิทที่มีกำลังในมือพอสมควรเห็นว่าแผนของพชรช้าไป จึงชิงลงมือบุกเข้าไปเพื่อจับตัวดารัณก่อน แต่เกิดผิดพลาด จนพชรต้องนำกำลังเข้าไปช่วย

พาริณจับมือกับหมอธีรัช ที่จะทำให้พชรและลำธารเลิกร้างกัน และทั้งคู่ก็ทำสำเร็จ ทั้งสองจึงเข้าใจผิดกัน ความรักของทั้งสองคนจะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ และปฏิบัติการรบเพื่อกอบกู้เมืองมินาลินจะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน ละครศิราพัชรดวงใจนักรบ

เลดี้เยาวราช

เลดี้เยาวราช เป็นเรื่องราวของ หยกผกา หรือหยก ฝังใจมาตลอดว่า กิมฮุยพ่อของเธอเกลียดลูกผู้หญิงอย่างเธอกับฮวง พี่สาว รักแต่จื้อลูกชายคนโตคนเดียว หยกตั้งปณิธานว่าจะไปจากบ้าน ไปทำงานในร้านอาหารที่อังกฤษแล้วเก็บเงินกลับมาเปิดร้านติ่มซำแข่งกับเตี่ยผู้ได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือติ่มซำไร้เทียมทานแห่งถนนเยาว ราชให้ได้

อี้เค็งพยายามสอนให้หยกอดทนมาโดยตลอด จนกระทั่งหยกถูกไล่ออกมาจากบ้านขณะที่ฝนตกกระหน่ำ แถมกิมฮุยยังตามมาทุบตี ผู้ที่เข้ามาช่วยหยกไว้คืออรรณพหลานยายของคุณหญิงอัจฉราวดีเจ้าของที่ดินและตึกแถวย่านเยาวราช กิมฮุยตัดพ่อตัดลูกกับหยก และสั่งห้ามไม่ให้หยกไปงานแต่งงานของฮวง

อรรณพเป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ เป็นลูกชายคนเดียวของอัปสรวิไลนางเอกภาพยนตร์สาวใหญ่ที่ยังสวยและมีเสน่ห์ยั่วยวน อัปสรวิไลเคยผิดหวังในชีวิตรักและชีวิตแต่งงาน เพราะเธอเลือกแต่งงานกับอาทรผู้ชายที่มีฐานะทางสังคมด้อยกว่า ความแตกต่างกันทำให้ทั้งคู่เข้ากันไม่ได้ต้องหย่าขาดกันตั้งแต่อรรณพอายุ 3 ขวบ

อัปสรวิไลทุ่มเทความรักให้กับอรรณพเต็มที่ อรรณพเองก็รักแม่มาก ยอมทำตามใจแม่ทุกอย่าง จนกระทั่งอัปสรวิไลรู้เรื่องที่อรรณพคบหาอยู่กับหยก เธอจัดการจับคู่อรรณพกับสร้อยสุภางค์หลานสาวของเอมอรเพื่อนรัก อรรณพไม่ก้าวร้าวรุนแรงกับแม่แต่ก็ไม่ยอมแต่งงานกับสร้อยสุภางค์

อัปสรวิไลรู้จักกับแจ๊คกี้ หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน ลูกชายเถ้าแก่ลิ้มเศรษฐีชาวจีนที่ตั้งรกรากอยู่ในลอนดอน อัปสรวิไลยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้แจ๊คกี้เพราะคิดว่าเสน่ห์ของเธอจะมัดใจแจ๊คกี้ได้ โดยไม่รู้ว่าแจ๊คกี้แอบหมายตาหยกอยู่

แจ๊คกี้เจอกับหยกที่ลอนดอน ที่ร้านอาหารของราตรีภรรยาใหม่ของเถ้าแก่ลิ้ม ท่าทางเด็ดเดี่ยวและฝีมือการทำอาหารที่เยี่ยมยอดของหยก ทำให้แจ๊คกี้ปักใจว่าหยกคือผู้หญิงที่เขาใฝ่หามาตลอดชีวิต

อัปสรวิไลต้องการตามแจ๊คกี้ไปลอนดอนจึงได้บังคับให้อรรณพไปลอนดอนด้วย อรรณพอยากใกล้ชิดกับหยกจึงได้สอบชิงทุนไปเข้าคอร์สฝึกว่ายน้ำระดับสูงที่ลอนดอน ด้านหยกเองก็ได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในลอนดอน ทั้งสองคนมีความสุขมากเมื่อได้อยู่ด้วยกันที่ลอนดอน

เถ้าแก่ลิ้มต้องการให้แจ๊คกี้แต่งงาน เพราะต้องการให้แจ๊คกี้ลดความร้ายลงบ้าง แต่แจ๊คกี้กลับมองว่าการมีครอบครัวจะทำให้พ่อไว้ใจยอมปล่อยให้เขาเข้าไปดูแลทรัพย์สินทั้งหมดแทน แจ๊คกี้ตัดสินใจแต่งงานกับอัปสรวิไล เขาคิดว่าเมื่อได้สมบัติแล้วจะทิ้งอัปสรวิไลไปแต่งงานกับหยก

อัปสรวิไลรู้เรื่องอรรณพกับหยก จึงได้บอกให้สร้อยสุภางค์ตามมาอยู่ที่ลอนดอนด้วย ทั้งคู่ช่วยกันเล่นงานพร้อมทั้งกีดกันหยกกับอรรณพให้แยกจากกัน ด้านแจ๊คกี้เองก็แอบบีบบังคับให้อรรณพเลิกคบกับหยก ด้วยการส่งคนไปทำร้ายอัปสรวิไล

อรรณพถูกกดดันหนักจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ หยกเข้าใจผิดคิดว่าอรรณพจะกลับไปแต่งงานกับสร้อยสุภางค์ จึงได้ตัดสัมพันธ์กับอรรณพเด็ดขาด หยกลาออกจากร้านอาหารของราตรีไปเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองในลอนดอน พร้อมทั้งติดต่อซื้อร้านอาหารในศูนย์การค้าของคุณหญิงอัจฉราวดีที่สร้างตรงข้ามกับร้านของกิมฮุยไว้อีกร้านหนึ่งด้วย

หลังจากจื้อเรียนจบเป็นวิศวกรก็ได้ย้ายออกจากบ้านมาอยู่คอนโดฯ กับรักร้อยแฟนสาว จื้อติดพนันฟุตบอลและมีหนี้สินมากมาย จื้อถูกตามทวงหนี้ด้วยชีวิต กิมฮุยช็อกเข้าโรงพยาบาลเมื่อรู้เรื่องจื้อ หยกออกเงินค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด แต่ให้ฮวงเป็นคนออกหน้า

แจ๊คกี้บอกรักหยก หยกตัดสินใจบอกปฏิเสธไป แจ๊คกี้ประชดด้วยการไปมีสัมพันธ์กับสร้อย สุภางค์เย้ยอัปสรวิไล อัปสรวิไลถึงกับตัดขาดจากแจ๊คกี้ และระหว่างที่อัปสรวิไลต้องผ่าตัดรักษาตา อาทรก็ได้มาดูแลอัปสรวิไลตลอดเวลา ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ ตัดสินใจจะกลับไปใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้งทางภาคเหนือ

อรรณพตามมาปรับความเข้าใจกับหยก หยกเข้าใจถึงความรักที่อรรณพมีต่ออัปสรวิไล จึงได้ตัดสินใจกลับไปง้อกิมฮุย ด้วยการทำซาลาเปาไส้หยกไปให้ หลังจากที่อาทรกับอัปสรวิไลเดินทางไปภาคเหนือได้ไม่นาน หยกกับอรรณพก็ได้แต่งงานกัน

ริษยา

วังอโยธยาหรือวังเจ้ามีหม่อมชุลี เป็นเจ้าของวังและไม่ชอบสุงสิงกับใคร มีเพียงคนรับใช้ที่สนิทคือ อบสวาทและลูกสาว ม.ร.ว.วรรศิกา ผู้มีนิสัยเก็บกดเพราะถูกเลี้ยงให้อยู่ในกฎระเบียบประเพณีอย่างเคร่งครัด ที่วังอโยธยา หม่อมชุลีตั้งแง่เกลียดชังชนก เมื่อรู้ว่าชนกเป็นลูกของชวนชื่น เพราะคิดว่าชวนชื่นส่งลูกชายมาเพื่อเปรียบเทียบกับลูกชายของตน ชนกได้เจอกับคุณหญิงวรรศิกาแต่ก็ไม่ได้ถูกใจเพราะเห็นว่าเป็นคนที่เงียบขรึม คุณชายหริพันธ์ได้เป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาวรรณคดีอังกฤษ เขาเป็นที่ชื่นชอบของนิสิตสาวรวมทั้งชนนี น้องสาวของชนก หริพันธ์ได้เล่าถึงชนนีลูกสาวอีกคนของชวนชื่นให้หม่อมชุลีฟัง ทำให้หม่อมชุลีอยากเจอชนนี และเมื่อมีโอกาสได้เจอหน้ชนนีหม่อมชุลีก็คิดแผนร้ายขึ้นในใจ ไม่กี่วันต่อมา ท่านหญิงนวลก็มาสู่ขอชนนีให้กับคุณชายหริพันธ์ที่บ้านกรกตพงษ์ สร้างความแปลกใจให้กับนพและชวนชื่นมาก ชวนชื่นดีใจเพราะคิดว่าหม่อมชุลียกโทษให้เธอแล้ว และเมื่อถามชนนีก็รู้ว่าเธอหลงรักหริพันธ์จึงตัดสินใจให้ทั้งคู่แต่งงานกัน สร้างความเสียใจให้กับเจตต์ ชายหนุ่มที่แอบหลงรักชนนีอยู่ งานแต่งงานถูกกำหนดขึ้นทันทีหลังจากชนนีเรียนจบ หม่อมชุลีอยากให้จัดงานอย่างเงียบๆ เพราะไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย แต่ชนกและนพไม่ยอม หม่อมชุลีโกรธมากจึงไม่ไปร่วมงานของบ้านกรกตพงษ์ มีเพียงเจ้าบ่าวคนเดียวเท่านั้น เมื่อถึงเวลาส่งตัวญาติสนิทฝ่ายเจ้าสาวทุกคน ก็พากันเดิทางไปที่วังอโยธยาเพื่อส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว นพอาลัยอาวรณ์และเป็นห่วงชนนีมาก ชวนชื่นจึงเข้าไปคุยกับหม่อมชุลีและฝากฝังชนนีให้หม่อมชุลีช่วยดูแล แต่เมื่อชวนชื่นรู้ว่าหม่อมชุลียังไม่หายโกรธตนก็รู้สึกเสียใจและเป็นห่วง ชนนีขึ้นมา และเมื่อทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันชนนีก็ทราบว่าหริพันธ์มีความสัมพันธ์ ลึกซึ้งกับอบสวาท ทำให้เธอรู้สึกเสียใจมาก หริพันธ์ต้องไปราชการที่เชียงใหม่ โดยมีอบสวาทตามไปดูแลตามคำสั่งของหม่อมชุลี ชนนีเกิดป่วยขึ้นมาหม่อมชุลีไม่ให้ใครมาดูแล เพราะคิดว่าคงจะหึงอบสวาท วรรศิกาเป็นห่วงชนนีจึงแอบไปบอกให้ชนกรีบไปรับน้องสาวส่งโรงพยาบาลทำให้ หม่อมชุลีโกรธมากและยื่นคำขาดว่าไม่ต้องกลับมาที่วังอีกเพราะเต็มใจไปกันเอง หมอตรวจพบว่าชนนีป่วยเป็นลูคีเมียและตั้งครรภ์ แต่ด้วยพิษไข้ทำให้เธอแท้ง หริพันธ์กลับจากราชการที่เชียงใหม่ไม่พบชนนี หม่อมชุลีบอกว่าชนนีไม่สบายจึงรักษาตัวที่บ้าน หริพันธ์รู้สึกเป็นห่วงแต่ก็ทำได้เพียงแค่โทรไปถามข่าวคราวเท่านั้น ท่านหญิงนวลต่อว่าหม่อมชุลีที่ทำไม่ถูก และบอกความจริงว่าชนนีไม่สบายมากแล้วยังแท้งลูกอีกด้วย หริพันธ์ รู้สึกเสียใจ ผิดกับหม่อมชุลีที่รู้สึกสะใจที่สามารถเอาชนะชวนชื่นและนพได้ หริพันธ์ได้ปรับความเข้าใจกับชนนีพร้อมทั้งชวนเธอไปอยู่ต่างประเทศกับเขา พร้อมวรรศิกา หม่อมชุลีรู้ว่าหริพันธ์มาพบชนนีที่บ้านและวรรศิกาก็หนีออกจากบ้านไป สร้างความโกรธแค้นให้กับหม่อมชุลีจนโรคหัวใจกำเริบ จึงตัดสินใจยกสมบัติทั้งหมดให้กับอบสวาท แล้วหม่อมชุลีก็ตายไปพร้อมกับไฟแห่งความริษยาอาฆาต ที่ทำห้หม่อมชุลีมีแต่ความทุกข์ ไม่สงบมานาน เมื่อเสร็จพิธีศพหม่อมชุลี อบสวาทต้องการให้หริพันธ์มาอยู่ด้วยพร้อมทั้งจะยกสมบัติให้ทั้งหมด แต่หริพันธ์ปฏิเสธพร้อมทั้งบอกให้ทำทุกอย่างตามความประสงค์ของหม่อมชุลี วรรศิกาตัดสินใจไปต่างประเทศพร้อมกับพี่ชายเพื่อลืมชนกที่ไม่มีทีท่าจะรัก เธอเลย จนวันเดินทางมาถึงทุกคนมาส่งหริพันธ์ ชนนี และวรรศิกาที่สนามบินแล้วระหว่างที่กำลังร่ำลากัน ชนกก็ดึงวรรศิกาเข้ามากอด บอกรักเธอและให้เธอไปอยู่ที่โน่นก่อนแล้วจะตามไปทีหลัง ทุกคนยินดีไปกับความรักของทั้งคู่

นักแสดง ริษยา

มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช รับบท หม่อมชุลี
จริยา แอนโฟเน่ รับบท อบสวาท
นิธิ สมุทรโคจร รับบท ชนก
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท คุณชายหริพันธุ์
ลดา เองชวเดชาศิลป์ รับบท ชนนี
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ รับบท คุณหญิงวรรศิกา
พิสมัย วิไลศักดิ์ รับบท ท่านหญิงนวล
เกรียงไกร อุณหนันท์ รับบท นพ
สุพรรษา เนื่องภิรมย์ รับบท ชวนชื่น
กมลา กำภู ณ อยุธยา รับบท ยอดธิดา
ณัฐินี สิทธิสมาน รับบท เจียน
พิมพ์พรรณ บูรณะพิมพ์ รับบท พุด
แดน เหตระกูล รับบท เจตน์

รอยไหม

รอยไหม เป็นเรื่องราวของ เรริน (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) เห็นธาตุแท้ของ ธนินทร์(เจสัน ยัง) คู่หมั้นที่หมั้นกันเอาไว้หลายปีแล้วด้วยการจัดการของผู้ใหญ่ เพราะธนินทร์แอบขายผ้าทอผลงานของเธอโดยไม่บอกกล่าว เรรินโกรธมาก เดินทางขึ้นเชียงใหม่ทันที เธอต้องการสงบสติอารมณ์ ที่เชียงใหม่เรรินแวะเวียนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อชมการทอผ้า และที่แม่แจ่ม เธอได้พบ สุริยวงศ์ (อธิชาติ ชุมนานนท์) และได้ อาศัยรถของเขากลับเข้าเมืองด้วย เรรินได้ที่พักเป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของที่อัธยาศัยดีในคืนแรกที่พักเธอได้ยินเสียงเรียกชื่อตน เธอจึงลุกออกมาและได้พบชายคนหนึ่ง เขาพูดคุยกับเธอเหมือนรู้จักคุ้นเคยมานาน เขาแสดงความยินดีที่เธอกลับมาแล้ว สร้างความงงงวยให้เรรินเป็นอย่างมาก

เรรินพบว่าสุริยวงศ์เป็นน้องชายวันดารา(อรอนงค์ ปัญญาวงศ์)เจ้าของรีสอร์ตเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ และเมื่อรู้ว่าเรรินสนใจงานผ้าโบราณ เขาจึงอาสาพาเรรินไปพบ บัวเงิน(พิสมัย วิไลศักดิ์) ย่าของเขา เพราะบัวเงินครอบครองผ้าโบราณล้านนามากมาย นาทีแรกที่บัวเงินได้เห็นหน้าของเรริน ทุกอย่างกลับตาลปัตร บัวเงินไล่ตะเพิดและด่าทอเรริน รวมถึงแสดงความเกลียดชัง สร้างความงุนงงให้กับเรรินและสุริยวงศ์ บัวเงินรู้ดีว่ามณีรินกลับมาแล้ว เพื่อทวงแค้นของเธอ เรรินได้แวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้า และในบรรดาผ้าตระกูลล้านนา เธอรู้สึกผูกพันกับผ้ากลุ่มไทเขินจากเชียงตุงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผ้าซึ่งเจ้าของเดิมคือ เจ้านางมณีริน(ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) รวมถึงประวัติเรื่องเล่าชีวิตของเจ้านางมณีรินได้ดึงดูดความสนใจของเรริน เป็นอย่างมากจนเธออยากรู้จัก เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เมื่อรู้ว่าเรรินสนใจผ้าโบราณ จึงพาเธอเข้าไปชมผ้าผืนหนึ่งที่ยังทอไม่เสร็จและทันทีที่เรรินได้เห็นผ้าผืน นั้น เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์เธอเข้าไปนั่งลงและเริ่มทอผ้าผืนนั้นต่อทันที ช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับการทอผ้า และการได้พบชายแปลกหน้ายามวิกาล ทำให้เธอเหมือนได้หลุดไปสู่อีกมิติหนึ่งและได้รู้จักเจ้านางมณีริน

เจ้านางมณีริน เป็นเจ้าหญิงจากแคว้นเชียงตุงที่ถูกส่งตัวมาเชียงใหม่ เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าศิริวัฒนา(ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ทั้งที่เธอไม่ได้รู้สึกรักเขาเลย เจ้านางมณีรินหนีออกจากคุ้มเจ้าหลวงไปเที่ยวตลาด โดยมีนางคำเที่ยง(สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ) พี่เลี้ยงคนสนิทติดตามไปด้วย ที่ตลาด มณีรินได้รู้จัก เจ้าศิริวงศ์ (อธิชาติ ชุมนานนท์)และมิตรภาพเบ่งบานเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่างรู้ใจกันและกันจนก่อเกิดเป็นความรัก เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้ความจริงเรื่องสถานะของกันและกัน ความรักของคนทั้งคู่จึงกลายเป็นรักต้องห้าม

บัวเงินหม่อมของเจ้าศิริวัฒนา เมื่อรู้ว่ามณีรินเดินทางมาเพื่อแต่งงานกับศิริวัฒนา จึงคุมแค้นและต้องการกำจัดมณีรินให้พ้นทาง แล้วโชคเข้าข้างบัวเงินเมื่อ เจ้าหลวง (เผ่าทอง ทองเจือ) และพระชายา(ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ) ไว้วางใจให้บัวเงินเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลมณีริน มณีรินชอบทอผ้า พระชายาจึงมอบหมายให้บัวเงินเป็นครูสอนมณีริน บัวเงินเหยียบย่ำ ถากถางมณีริน ต่าง ๆ นานา แต่ฝีมือมณีรินยิ่งดีวันดีคืน ผลงานผ้าทอของมณีรินเป็นที่ปลาบปลื้มชื่นจิตพระชายาเป็นนักหนา และท่าทางศิริวัฒนาจะรักมณีรินมากขึ้นทุกวัน แต่โอกาสก็เข้าข้างบัวเงินเสมอ ครั้งหนึ่งบัวเงินจงใจผลักมณีรินตกน้ำ โดยตั้งใจจะให้เสียหน้า เฉย ๆ แต่มณีรินกลับจมน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ศิริวงศ์มาช่วยไว้ได้ทันเวลา ยิ่งทำให้ความผูกพันระหว่างมณีรินและศิริวงศ์กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในงานถวายผ้าห่มพระธาตุ เจ้าหลวงและพระชายาสั่งให้มณีรินและบัวเงินแข่งขันกับทอผ้า บัวเงินใช้กลโกงในการทอ ทำให้มณีรินไม่มีฝ้ายในการทอผ้า แต่ในนาทีสุดท้ายนั้นเองศิริวงศ์ ซึ่งล่วงรู้แผนการของบัวเงิน ก็ขนฝ้ายจำนวนมากมาให้มณีริน ผลการแข่งขันได้หักหน้าบัวเงินอย่างแรง เพราะมณีรินเป็นฝ่ายถูกตัดสินให้เป็นฝ่ายชนะด้วยฝีมือปักผ้าแบบเชียงตุง เพิ่มเข้าไป บัวเงินสะสมความแค้นต่อมณีริน และยิ่งรู่สึกว่าเจ้าหลวงลำเอียงเอ็นดูมณีรินมากกว่า

อีเม้ย(ชุดาภา จันทเขตต์) ขี้ข้าคนสนิทของบัวเงิน ออกความคิดช่วยกำจัดมณีรินโดยใส่งูเห่าไว้ในกระชุดอกไม้ หวังให้งูกัดมณีริน แต่คนที่รับเคราะห์ถูกงูกัดคือศิริวงศ์ มณีรินดูดพิษงูจากแขนศิริวงศ์ โดยไม่กลัวความตาย ทั้งคู่รักกันมากขึ้น และอีเม้ยเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ อีเม้ยถูกจับเฆี่ยนเพราะถูกจับได้ว่าเป็นผู้ต้องสงสัย แต่มณีรินขอชีวิตอีเม้ยไว้ไม่ถือโทษเพราะถือว่าไม่มีหลักฐาน

ศิริวัฒนา สนใจในตัวบัวเงินน้อยลงทุกที อีเม้ยออกความคิดทำเสน่ห์ยาแฝด ซึ่งเป็นเรื่องผิดอาญาแผ่นดิน ศิริวัฒนาล้มป่วยเพราะโดนของ ศิริวงศ์และมณีรินล่วงรู้แผนการของบัวเงิน และกำจัดมนต์ดำนั้นได้ เจ้าหลวงไม่ค่อยสบาย แต่อาการดีขึ้นด้วยอาหารที่มณีรินจัดขึ้นถวาย เจ้าหลวงจึงมอบหมายให้มณีรินดูแลเรื่องอาหารตลอดไป บัวเงินคุมแค้นและใช้โอกาสนี้ ยอกย้อนมณีริน โดยใส่ยาพิษในอาหาร หวังจะฆ่าเจ้าหลวง และกำจัดมณีรินไปพร้อม ๆ กัน อีเม้ยยอมเป็นฝ่ายรับเคราะห์แทนบัวเงิน โทษฐานวางยาเจ้าหลวง อีเม้ยฆ่าตัวตาย โดยสั่งเสียบัวเงินไว้ว่าวิญญาณของตนจะอยู่รับใช้บัวเงินตลอดไป บัวเงินล่วงรู้ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของมณีรินกับศิริวงศ์เพราะผีอีเม้ย บัวเงินแฉเรื่องเลวร้ายนี้ หวังให้ศิริวัฒนากำจัดมณีริน ศิริวัฒนาโกรธจัดแต่เมื่อทั้งมณีรินและศิริวงศ์ ยอมรับความจริง และให้ขอศิริวัฒนา เห็นใจในความรักแท้ ศิริวัฒนาก็อ่อนลง

วันสงกรานต์ ศิริวงศ์นัดพบมณีริน ผีอีเม้ยเข้าสิงครอบงำศิริวัฒนา ตามไปและพลั้งมือฆ่าศิริวงศ์ มณีรินเสียใจอย่างหนัก ต้องการตายตามชายที่รัก ศิริวัฒนารู้สึกผิดที่พลั้งมือฆ่าน้องชาย แต่ต้องการไถ่โทษด้วยการแต่งงานและดูแลมณีรินอย่างดีที่สุด ศิริวัฒนาออกคำสั่งให้มณีรินทอผ้าตุ๊มเพื่อให้ใช้ในพิธีแต่งงาน มณีรินมิได้ขัดขืน ตั้งใจทอผ้าตุ๊มให้เสร็จโดยหวังจะใช้ผ้าผืนนี้ผูกคอตายตามศิริวงศ์ บัวเงินขัดขวางมณีริน กรอกยาพิษจนมณีรินขาดใจตายคากี่ทอผ้า ศิริวงศ์ตรอมใจและตายตามในที่สุด

บัวเงินเหมือนอยู่ในนรกตลอดเวลาเจ็ดสิบปี เมื่อมณีรินกลับมาเกิดใหม่ในฐานะเรริน บัวเงินจึงยังคุ้มแค้น บัวเงินและผีอีเม้ยขัดขวางเรรินทุกวิถีทางไม่ให้เรรินทอผ้าผืนนั้นเสร็จ แต่ด้วยความช่วยเหลือของทั้งศิริวัฒนาและศิริวงศ์ เรรินก็ทอผ้าผืนนั้นเสร็จสมบูรณ์จนได้ บัวเงินสั่งผีอีเม้ย เข้าสิงธนินทร์เพื่อจับตัวเรรินไปฆ่า เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปอย่าลืมติดตามชมละคร รอยไหม

รายชื่อนักแสดง ละคร รอยไหม

สุริยวงศ์,เจ้าศิริวงศ์ รับบทโดย อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์

เรริน,เจ้าหญิงมณีริน รับบทโดย แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ

เจ้าสิริวัฒนา รับบทโดย ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ

ธนินทร์ รับบทโดย เจสัน ยัง

หม่อมบัวเงิน(วัยชรา) รับบทโดย พิสมัย วิไลศักดิ์

หม่อมบัวเงิน(วันสาว) รับบทโดย เมย์ เฟื่องอารมย์

วันดารา รับบทโดย อรอนงค์ ปัญญาวงศ์

วงพระจันทร์ รับบทโดย พิมลรัตน์ พิศลยบุตร

สรัญญา รับบทโดย ธนิดา กาญจนวัฒน์

พรรณวรินทร์ รับบทโดย รัชนี ศิระเลิศ

คำเที่ยง(แก่) รับบทโดย น้ำเงิน บุญหนัก

คำเที่ยง (สาว) รับบทโดย สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ

ไหมแม รับบทโดย วราพรรณ ทรัพย์ธนะอุดม

อีเม้ย รับบทโดย ชุดาภา จันทเขตต์

เจ้าหลวง รับบทโดย เผ่าทอง ทองเจือ

พระชายา รับบทโดย ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติภิภพ

สล่าพันธ์ รับบทโดย เกรียงไกร อุณหะนันท์

ไฟโชนแสง

วันทกานต์ (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) สาวสวยปราดเปรียวนายหน้ามืออาชีพเจ้าของฉายาแม่เล้าระดับชาติ เข้ามาในกระทรวงเพื่อขอพบท่านอธิบดี ที่นี่เองวันทกานต์ได้เจอ ชาติชาย (วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูก ชายเจ้าของบริษัท ชาติคอนสตรัคชั่น บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ และด้วยแววตาดุร้าย ทำให้ชาติชายเกิดสนใจในตัวผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา ผิดกับ ณัฐพร (ชล วจนานนท์) แฟนสาวของเขา แสดงทีท่ารังเกียจวันทกานต์อย่างออกนอกหน้า เพราะ วันทกานต์ คือต้นเหตุที่ทำให้ นายณัฐ (ตฤณ เศรษฐโชค) พ่อของเธอ อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องออกจากงานในข้อหาพัวพันกับคดีทุจริต

ในอดีตพ่อของวันทกานต์ กับ นายณัฐ และผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก เคยร่วมกันทำธุรกิจด้วยกัน ความที่ครอบครัวสนิทสนมกันทำให้ เทียนวรรณ (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) พี่สาวฝาแฝดของวันทกานต์รักใคร่ชอบพอกับ ณฐิน (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ลูกชายของนายณัฐ พี่ชายของณัฐพรไปโดยปริยาย ต่อมาเกิดความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจ พ่อของวันทกานต์ถูกลอบยิงจึงทำให้ เทียนวรรณ กับ ณฐิน ต้องเลิกรากันไป ส่วนวันทกานต์พยายามตามสืบความจริงจนรู้ว่าผู้มีอิทธิพลลึกลับคือ อนันต์ (ดิลก ทองวัฒนา) แห่งบริษัทอนันตกิจ นั่นเอง

เขมรัฐ (เจสัน ยัง) ทนายแฟนหนุ่มของวันทกานต์กังวลใจอยู่ลึกๆ เขาไม่ชอบให้วันทกานต์ทำอาชีพนี้ วันทกานต์ได้รับการติดต่อจากนายอนันต์ให้มาช่วยงานที่บริษัทอนันตกิจ ที่นั่นวันทกานต์ได้เจอกับณฐิน อดีตคนรักเก่าของเทียนวรรณที่แต่งงานกับ ตรีประดับ (เมย์ เฟื่องอารมณ์) ลูกสาวนายอนันต์ เพราะต้องกอบกู้ฐานะของครอบครัว ขณะเดียวกันบริษัทชาติคอนสตรัคชั่นก็ทาบทามติดต่อมาเหมือนกัน วันหนึ่งวันทกานต์มาที่บริษัทของชาติชาย ทันทีที่วันทกานต์เจอชาติชายก็มีอันต้องทะเลาะกันเนื่องจากก่อนหน้า ทั้ง 2 คนขับรถชน แต่เมื่อชาติชายเห็น คุณวดีลดา แม่ของเขา และ ศิริวดี พี่สาว ก็รีบเผ่นออกไป เพราะชาติชายหลอกวันทกานต์ว่าเป็นเพียงเซลล์แมนกระจอกๆ เท่านั้น

ด้าน วันทกานต์ ยังไม่ตกลงใจที่ทำกับบริษัทไหน เธอบอกเพียงแต่รอเวลาและข้อเสนอที่ดีกว่า ชาติชาย ตัดสินใจที่จะกล่อมให้วันทกานต์ยอมมาทำงานที่บริษัทชาติคอนสตรัคชั่นให้ได้

หมอปฐพี (อภิวัฒน์ บุณยสุขเมธี) โทรหา เทียนวรรณ บอกว่า “ก้อย” เด็ก ที่เทียนวรรณอุปการะอยู่ป่วย วันทกานต์สงสัยว่า ก้อยคงเป็นมากกว่าเด็กในอุปการะแน่ๆ ด้าน ณฐิน สงสัยว่า ก้อยจะเป็นลูกของตน จึงพยายามเค้นความจริง สุดท้าย เทียนวรรณจำใจต้องบอกความจริงว่าก้อยคือลูกของเขา และกำลังป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย ทำให้ณฐินรู้สึกผิดกับเทียนวรรณ และอยากรับผิดชอบ ตรีประดับให้นักสืบ สืบจนรู้ว่า ณฐินมาหาเทียนวรรณที่บ้าน จึงบุกมาที่บ้านและระรานเทียนวรรณ จนเทียนวรรณล้มแน่นิ่ง และแล้ววันทกานต์ก็รู้ความจริงว่า เทียนวรรณเป็นโรคหัวใจ และก้อยคือหลานในไส้แท้ๆ ของเธอ วันทกานต์จึงฝากฝังเทียนวรรณกับหมอปฐพี แต่เขาอ้ำอึ้ง แม้ว่าเขาจะรักเทียนวรรณ แต่เขาก็รู้ว่าลึกๆ แล้ว เทียนวรรณยังรักณฐินไม่มีเปลี่ยน

วันหนึ่งวันทกานต์มาเจรจางานกับ นายพลสรวุฒิ (สมภพ เบญจาธิกุล) หลัง การเจรจาวันทกานต์เห็นท่าไม่ค่อยดีจึงหนีเอาตัวรอด โชคดีที่ชาติชายมาเจอเข้าพอดีเลยช่วยไว้ทัน วันทกานต์คลับคล้ายคลับคลาว่าชาติชายคือหลานชายของ อาม่า (สินีนาฎ โพธิเวส) หญิง ชราเพื่อนบ้าน แต่ชาติชายปฎิเสธ หลังออกมาจากบ้านวันทกานต์ ชาติชายรีบแว่บเข้าไปหาอาม่าที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็ก ชาติชายเล่าให้อาม่าฟังว่าวันทกานต์จำเขาไม่ได้ เพราะวันทกานต์ย้ายไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่ยังเล็ก ตั้งแต่นั้นชาติชายก็กลายเป็นแขกประจำของบ้านวันทกานต์ไปโดยปริยายจน เขมรัฐ อดหึงไม่ได้

วัน หนึ่งขณะที่ชาติชายกำลังคุยกับอาม่า เทียนวรรณเข้ามาขอพบอาม่าและขอกู้เงินโดยเอาบ้านจำนอง เทียนวรรณขอให้ชาติชายปิดเป็นความลับ ทนายวิสุทธิ์ ทนายประจำบริษัทชาติคอนสตรัคชั่นเกษียณอายุ เลยแนะนำทนายมือดีอย่างเขมรัฐให้มาทำงานแทนเขา คุณวดีลดาพอใจเขมรัฐ ส่วนศิริวดีไม่พอใจเพราะเคยเป็นแฟนเก่าของเธอ

ศิริ วดีหาทางกลั่นแกล้งเขมรัฐอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งวันหนึ่งทั้งคู่มีปากเสียงกัน ทำให้เขมรัฐอดใจไม่ไหวปล้ำ ศิริวดี ส่วน ณฐิน ตัดสินใจขอหย่ากับ ตรีประดับ แต่เธอไม่ยอม ส่วน ณฐิน ยอมทิ้งทุกอย่างแล้วพาเทียนวรรณ กับ ลูกก้อย ไปรักษาตัวที่อเมริกา ทันใดนั้น ตรีประดับที่เมาคลุ้มคลั่งเข้ามาทำร้ายด่าทอณฐินและเทียนวรรณ

ศิริ วดี รู้ตัวว่าท้อง จึงแอบหนีไปทำแท้งจนตกเลือดอย่างหนัก แต่โชคดีที่หมอช่วยไว้ได้ทัน เขมรัฐมาหาศิริวดีที่รพ.ทำให้รู้ความจริง เขารู้สึกผิดกับศิริวดีมาก ด้านชาติชายสงสารพี่สาวจึงรับปากจะช่วยแยก เขมรัฐกับวันทกานต์

ด้าน เขมรัฐ มาสารภาพว่า เขาทำศิริวดีท้องต้องรับผิดชอบ วันทกานต์เสียใจกินเหล้าเมาจนเกิดอุบัติเหตุ ดีว่าชาติชายมาช่วยไว้ทันและพาไปที่บ้านเล็กริมทะเล ที่บ้านพักชายทะเลสองคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น ชาติชายดูแลเธออย่างดีจนวันทกานต์อดซาบซึ้งใจไม่ได้ ก่อนกลับกรุงเทพชาติชายขอวันทกานต์แต่งงาน วันทกานต์ตกลงเพราะเธอค้นพบแล้วว่าชาติชายคือคนที่รักและห่วงเธอเสมอมา วันทกานต์และชาติชายจดทะเบียนกันที่ต่างจังหวัด ทันทีที่ณัฐพรรู้ เธอโกธรแค้นวันทกานต์มาก

จงกล แม่ของณัฐพร ทนไม่ได้จึงโทรหาวันทกานต์ บอกเรื่องชาติชายรับปากศิริวดีให้ช่วยแยกเธอออกจากเขมรัฐ  วันทกานต์เสียใจมากโรคปวดหัวของเธอกำเริบ เธอมาหาหมอปฐพีผลการตรวจเธอเป็นเนื้องอกในสมอง เธอรู้ว่าเวลาของเธอเหลือน้อยเต็มที เธอจึงตัดสินใจร่วมงานกับนายอนันต์

วัน ทกานต์มาหาตรีประดับเพื่อขอให้เซ็นใบหย่าให้กับณฐิน ตรีประดับตกลง แต่วันทกานต์จะต้องเซ็นใบหย่ากับชาติชาย เมื่อกลับมาบ้านวันทกานต์ขอหย่ากับชาติชาย เธออ้างว่ารู้ความจริงหมดแล้วที่ชาติชายยอมแต่งงานกับเธอเพราะ ศิริวดีขอให้แยกเขมรัฐ ออกจาก วันทกานต์

วัน ทกานต์ไปหานายพลสรวุฒิเพื่อให้นายพลช่วยเหลือเซ็นใบผ่านทางการลักลอบขนไม้ เมื่อได้แล้วเธอนำไปให้นายอนันต์ ขณะเดียวกันเธอก็โทรแจ้งตำรวจ หนังสือพิมพ์ลงข่าวใหญ่ว่า วันทกานต์ร่วมมือกับนักธุรกิจใหญ่นายอนันต์ โดยลักลอบขนไม้เถื่อน ชาติชายวิ่งเต้นจนวันทกานต์ได้รับการประกันตัวออกมา วันทกานต์ล้มป่วย เธอรู้ดีว่าเวลาของเธอเหลือน้อยเต็มทน

ชาติ ชายพาวันทกานต์ใช้ช่วงเวลาสุดท้ายด้วยกันที่บ้านริมทะเล บนหาดที่สงบเงียบ…ไฟในหัวใจของวันกานต์ได้มอดลงแล้ว เหลือเพียงร่างที่บอบช้ำ ชาติชายร้องไห้ออกมาขณะที่ลมหายใจสุดท้ายของวันทกานต์ค่อยๆรวยรินและหยุด นิ่งไป          ติดตามเรื่องราวต่อไปใน ไฟโชนแสง

พริกไทยกับใบข้าว

กานติสา หรือ พริกไทย (ณัฐพร เตมีรักษ์) หลานสาวคนเดียวของ พลตรีสัณหเทพ คัมภีรยุทธ (มนตรี เจนอักษร) และ อาจารย์อุษา (ดวงตา ตุงคะมณี) เกิดมาพร้อมกับความอัปยศของตา ยาย และแม่ การิตา(สุนิสา เจทท์) เนื่องจากการิตาถูกข่มขืนจนท้อง ทำให้เธอกลายเป็นคนโรคจิต และผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พริกไทยได้รับการเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน โดยพลตรีสัณหเทพหวังที่จะครอบงำหัวใจพริกไทยไว้เพื่อปกป้องเธอมิให้ต้องพบ ความเลวร้ายเช่นเดียวกับแม่ของเธอ
 
วันหนึ่งเหตุการณ์ที่ท่านนายพลกลัวก็เกิดขึ้น ความผูกพันระหว่างพริกไทย กับ นักษัตร หรือ ใบข้าว (ณัฐรัฐ โมริส เลอ กรอง) ลูกชายคนเดียวของ พันตำรวจโทนรภัทร (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) และปณิตา (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) แม้ทั้งสองจะเทาะกันทุกครั้งที่เจอ แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกรักและผูกพันของคนทั้งสอง แม้พริกไทยจะสับสนกับความรู้สึกที่มีกับใบข้าว แต่ในใจลึกๆ แล้วพริกไทยก็รักใบข้าวเช่นกัน
 
ในบ้านของนรภัทร นากจากใบข้าว ยังมีสมาชิกในครอบครัวอีกคนคือ กรินทร์ (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ญาติผู้น้องของปณิตา ปลัดอำเภอหนุ่มลูกคนโปรดของ คุณบวร(ประกาศิต โบสุวรรณ) คหบดีเชื้อสายจีนและ กรพินทุ์ (นัฎฐา ลอยด์) ที่ย้ายจากต่างจังหวัดมารับราชการอยู่กรุงเทพฯ กรินทร์ ที่ใครๆ มองว่าสุภาพแสนดี แต่แท้จริงแล้ว กรินทร์ เป็นคนที่สร้างตราบาปให้กับการิตา จากตอนนั้นกรินทร์ก็เกลียดตัวเองที่ไม่กล้ารับความจริง จึงทำให้เขากลายเป็นโรคจิตอ่อนๆ ก่อนที่พริกไทยกับใบข้าวจะเข้าสู่วัยหนุ่มสาว มีเหตุการณ์รุนแรงกับครอบครัวคัมภีรยุทธอีกครั้ง เมื่อพลตรีสัณหเทพพาครอบครัวไปพักผ่อนที่ชายทะเลและได้พบกับครอบครัวของ ธำรง (เวนช์ ฟอลโคเนอร์) และ สิริรัตน์ (รุ้งทอง ร่วมทอง) ที่มีลูกชายหญิงคือ ธีรสิทธิ์ กับ ธีรนาถ(ชิดจันทร์ รุจิพรรณ) และครอบครัวของ ภาษิต(เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) พี่ชายของสิริรัตน์ กับ อินทิรา มีลูกชายหญิงเช่นกันคือ ภาพิต(วิรากานต์ เสณีตันติกุล) กับ อาสา
 
ภาพิต เด็กร้ายขี้อิจฉาทำร้ายพริกไทยให้การิตาเห็น ความที่เป็นโรคประสาทอยู่แล้วทำให้การิตาลงมือทำร้ายภาพิตกลับ เป็นเหตุให้อินทิราออกโรงรื้ออดีตของการิตาที่เคยถูกข่มขืนขึ้นมาประจาน การิตาที่รู้จุดของอินทิราว่าเป็นโรคหึงผัวเลยแกล้งยั่วว่าจะแย่งภาษิตมา เป็นของตัว อินทิราแค้นรีบพาครอบครัวกลับและโทรมาด่าการิตาด้วยเรื่องเดิม ผ่านไปเพียงวันเดียว อินทิราโทรมาตามภาษิตที่หายตัวไป การิตาเลยฉวยโอกาสยั่วไปว่าภาษิตอยู่กับตน อินทิราสติแตก พาลูกบึ่งรถมาเพื่อเล่นงานทั้งผัวและการิตา แต่โชคร้าย รถอินทิราพลิกคว่ำ อินทิรากับอาสาตายคาที่ มีเพียงภาพิตที่รอด ยังความบาดหมางมาให้ทั้งสองครอบครัว โดยเฉพาะภาพิตที่เจ็บจำฝังใจว่า แม่ของพริกไทย คือคนที่ฆ่าแม่และน้องของเธอ ทั้งคำประนามว่า ‘ฆ่าคนตาย’ และความรู้สึกผิดในจิตใต้สำนึกทำให้อาการคุ้มดีคุ้มร้ายของการิตารุนแรงขึ้น กรินทร์ยิ่งสงสารและรู้สึกว่าจะปล่อยการิตาให้แบกรับชะตากรรมเช่นนี้อีกไม่ ได้ จึงยอมเสี่ยงตายเข้าไปกราบเท้าขอขมาและยอมรับผิดต่อพลตรีสัณหเทพทุกอย่าง แล้วก็สมใจกรินทร์เพราะว่าที่พ่อตาซ้อมลูกเขยจนปางตายจริงๆ
 
เหตุการณ์เลวร้ายของครัวครัวคัมภีรยุทธก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้งกับการิตา เมื่อการิตาพบเหตุการณ์รุนแรงที่ทำให้เธอเกือบถึงแก่ชีวิต กรินทร์เข้าช่วยยอมตายแทน โชคดีที่ทั้งคู่รอดมาได้ กรินทร์ที่เจ็บหนักยังอุตส่าห์ยื่นมือเข้าดูแลการิตาอย่างจริงจังและจริงใจ จนการิตาอาการดีขึ้น ทำให้พลตรีสัณหเทพใจอ่อน ทั้งสองแต่งงานกันและมีทายาทเพิ่มขึ้นอีกคน คือ เกลือป่น หรือ การิศ (อเล็กซ์ เรนเดลล์)
 
ฝ่ายภาพิต ความเสียใจที่แม่ตาย เหลือแต่พ่อก็เป็นที่พึ่งไม่ได้ เพราะเวลานั้นภาษิตเองก็ไปมั่วคั่วอยู่กับ ไดอานา(พรรณชนิดา ศรีสำราญ) นางแบบสาว ถัดจากไดอานา ภาษิตก็ยังมีเมียอีกคน ทำให้ภาพิตกลายเป็นเด็กมีปัญหาทางใจอย่างรุนแรง เพราะรู้สึกเหมือนขาดทั้งพ่อและแม่ แถมยังเป็นคู่แข่งที่แพ้เปรียบทั้งธีรนาถที่นับวันยิ่งเติบโตกลายเป็นสาว พราวเสน่ห์ ครอบครัวก็อบอุ่น และพริกไทยที่เป็นที่รักของทุกคน มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ให้ความสนใจมิได้ขาด ไม่เว้นแม้แต่ธีรสิทธิ์ ที่สำคัญคือใบข้าว…ผู้ชายที่ภาพิตหลงรักตั้งแต่แรกพบ ทำให้ภาพิตเริ่มปล่อยตัวมั่วเหล้ายา จากการถูกเลี้ยงดูมาโดย “ห้ามมีรัก” จึงทำให้พริกไทยทำทุกวิถีทางเพื่อปิดกั้นใบข้าว เป็นช่องให้ธีรนาถ ที่หลงไหลคลั่งไคล้ใบข้าวคอยตามติด และมั่วนิ่มว่าใบข้าวเป็นแฟนเธอ ไดอาน่าได้พบกับภาพิตในสภาพน่าสมเพชสุดๆ ไดอาน่ารีบตามสิริรัตน์มาช่วยภาพิตและรับอุปการะไว้ ทั้งพูดให้สติและให้โอกาสสารพัด ภาพิตคิดกลับตัวกลับใจตามคำสอน แต่ภาพิตที่คิดกลับใจ กลับถูกธีรนาถกลั่นแกล้งเล่นอย่างเห็นสนุก ภาพิตถูกเด็กเกเรอย่างธีรนาถกดดันจนตะกอนแห่งความโกรธแค้นเกลียดชังในใจภา พิตคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง…และครั้งนี้ ความแค้นและประสบการณ์ส่งผลรุนแรงต่อคนทุกผู้ที่อยู่ใกล้มากมายกว่าอดีตทบ เท่าทวีคูณ…
 
และเรื่องราวก็สับสนวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง เมื่อภาพิตได้วางแผนที่จะกำจัดทั้งพริกไทยและครอบครัว เพื่อแก้แค้นให้แม่และน้องชายของเธอ แต่ใบข้าวได้เข้ามาช่วยไว้ได้ ทำให้แผนของภาพิตถูกเปิดโปง และใบข้าวก็ได้วางแผนทำให้ภาพิตสำนึกผิด ภาพิตรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปและสำนึกได้แล้ว พริกไทยกับการิตาจึงอโหสิกรรมให้ ภาพิตที่มีสภาพเหมือนซากดอกไม้แห้งๆ ขอร้องไดอาน่าให้จัดงานแฟชั่นโชว์ให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย
 
และเธอยังกระซิบขอให้ไดอาน่าจัดคนคู่หนึ่งที่จะมาใส่ชุดบ่าวสาวเป็นฟินา เล่ในงานโชว์ของเธอ ไดอาน่ารับปาก พริกไทยยินดีเป็นนางแบบให้ห้องเสื้อภาพิตา แต่ปัญหาคือ เธอจะไปตามคนที่มาใส่ชุดเข้าบ่าวได้ที่ไหน ไดอาน่า จึงไปกราบกรานขอร้องพลตรีสัณหเทพ ในที่สุด พลตรีสัณหเทพก็ตัดสินใจออกตามหาใบข้าวด้วยตัวเอง ซึ่งในที่สุด ก็ได้พบใบข้าวที่บ้านตากอากาศที่ใบข้าวได้พบกับพริกไทยเป็นครั้งแรก
 
แล้ววันนั้นก็มาถึงวันงานแฟชั่นโชว์ ที่พริกไทยต้องเดินออกมาเป็นคนสุดท้าย แล้วจู่ๆ ก็มีนายร้อยตำรวจหนุ่มหน้าตาคมขำคุ้นเคย เดินถือช่อดอกไม้ออกมาในชุดเจ้าบ่าวสีขาวโก ตรงหน้าพริกไทยขณะนี้คือนายร้อยตำรวจตรีนักษัตร พลโทสัณหเทพโดดขึ้นเวทีไม่ทัน แล้วก็ประกาศก้องกลางงานว่า ณ บัดนี้ คือฤกษ์ดีที่จะประกาศหมั้นให้กับหลานทั้งสอง…คือพริกไทย และ ใบข้าว
 
ธีรนาถ มีหมอหนุ่มศักดินาคอยตามดูแล ดูเหมือนความสุขสมหวังจะแผ่กระจายไปทั่วทุกหัวใจ แต่คุณตาจอมหวงหลานก็ยังไม่ยอมให้ “ใบผ่าน” กับใบข้าวง่ายๆ ใบข้าวยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองมากมาย คุณตาแม้จะแพ้ใจว่าที่หลานเขย แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายเสียทีเดียว ยังขู่ฟอดว่าถ้าวันใดที่ใบข้าวทำให้พริกไทยต้องเสียใจ รับรองว่าคุณตาจะทำให้ใบข้าวจดจำคุณตาคนนี้ไปจนวันตาย ใบข้าวจูงมือพริกไทยไปกราบคุณตาพร้อมกล่าววาจาออกมาเป็นสัญญาว่า พริกไทย กับ ใบข้าว จะดูแลต้นรักดัวยปุ๋ยแห่งความดีงาม จะไม่ยอมให้ความเกลียดชังใดๆ มาทำให้ต้นรักต้องกลายพันธุ์ผิดเพี้ยนไปได้อีกเลย

แผนรักแผนร้าย

ที่วังศิวาลัย ขณะที่อาการป่วยของ ม.ร.ว. นภดารา ศิวาวงศ์ (เดือนเต็ม สาลิตุลย์) กำลังทรุดหนัก เธอต้องการจะทำสิ่งหนึ่งก่อนสิ้นลม คือการสารภาพบาปที่เคยทำไว้ให้ ม.จ. นภัสรพี (สมบัติ เมทะนี) ท่านพ่อของเธอได้รับฟัง คือ เมื่อสิบห้าปีก่อน นภดารา ลอบรักกับ กานต์ (เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร) เด็กในบ้าน ทั้งคู่ปิดบังเป็นความลับไม่ให้ใครรู้นอกจาก แม่นมชื่น (นภาพร พงสกุล) แต่ไม่นาน กานต์เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถ และนภดาราพบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ ด้วยความกลัวว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง นมชื่นจึงร่วมมือกับหมอ พานภดาราหลบไปคลอดที่โรงพยาบาลซอมซ่อแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ

นภดารา กับ นมชื่น คิดว่าจะหาทางกลับมารับลูกสาวกลับไปภายหลัง จึงได้ทิ้งทารกน้อยนั้นไว้พร้อมกับจดหมายฝากฝัง,สร้อยกางเขน และแหวนประจำตระกูล เพื่อเป็นหลักฐาน แต่ทันทีที่นภดารากลับถึงวังศิวาลัย เธอได้ข่าวว่าโรงพยาบาลนั้นไฟไหม้วอดทั้งหลัง ตั้งแต่นั้นเรื่อยมา นภดาราล้มป่วยกระเสาะกระแสะด้วยความรู้สึกผิดบาปในใจ และก่อนที่จะสิ้นลมหายใจเธอขอร้องให้นภัสรพีช่วยตามหาเด็กน้อยคนนั้นให้เจอ นภัสรพี ตกลงทำตามความต้องการของลูกสาว และขอร้องให้นภดาราต้องพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อรอพบกับเด็กคนนั้น

สิบ เจ็ดปีผ่านไป ที่เชียงใหม่ กอหญ้า (เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี) สาวน้อยอ่อนหวานน่ารัก สดใส ผู้มีหน้าที่ต้องช่วย ยุพา (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) แม่บุญธรรมของเธอคอยดูแล ชิษณุพงศ์ (ว่าน-ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง) ชายหนุ่มที่ตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ยุพาเคยทำงานเป็นพยาบาลมาก่อนตอนสาวๆ และตอนนี้ก็มีรายได้เล็กๆน้อยๆ จากการรับจ้างดูแลคนไข้ตามบ้าน โดยมีกอหญ้าเป็นผู้ช่วย กอหญ้าดูแลชิษณุพงศ์อย่างดีละความร่าเริงสดใสของเธอทำให้ชิษณุพงษ์หลงรักจน หมดใจ ทั้งๆที่ไม่สามารถจะเห็นหน้าตาของเธอ แต่สำหรับกอหญ้า เขาเป็นเพียงผู้ชายแสนดี ที่น่าสงสารคนหนึ่งเท่านั้น

อิศร อดิศวร (ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) เดินทางมาที่หมู่บ้าน ระหว่างทางเขาขับรถเฉี่ยวกอหญ้า แม่อิศรจะเป็นฝ่ายผิด แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนใจร้อน โมโหฉุนเฉียว และนับถือเงินเป็นพระเจ้า จึงไม่เอ่ยขอโทษกอหญ้า แถมยังโวยวายที่กอหญ้าทำให้เขาเสียเวลา และจะเอาเงินฟาดเพื่อหัวชดใช้ค่าเสียหาย กอหญ้าเกลียดชายคนนี้อย่างที่สุด เลยต่อว่ากลับอย่างรุนแรงเช่นกัน เมื่อทั้งสองมาพบกันอีกครั้งที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งระหว่างอิศรมาเจรจาเรื่องที่จะเอาที่ดินของโบสถ์คืน เพราะ อรรถ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) พ่อของอิศร ต้องการจะสร้างรีสอร์ท เมื่อกอหญ้ารู้ก็รีบขับไล่อิศรอย่างเจ็บแสบ อิศรโกรธมากและคิดว่าจะปราบกอหญ้า ด้วยการเอาเธอมาเป็นผู้หญิงของเขาให้ได้ เลยยื่นข้อเสนอที่จะหาทางช่วยให้โบสถ์ไม่ถูกยึด ถ้ากหญ้ายอมแต่งงานกับเขา และให้เวลาตัดสินใจ 3 วัน กอหญ้าได้ยินข้อเสนอก็ยิ่งเกลียดผู้ชายคนนี้มากขึ้น

ในวันเดียวกัน นั้น ก็มีคนแปลกหน้าเข้ามาพบกับยุพาคือ ปราบ รักษ์สันติ (เอ๋-กษมา นิสสัยพันธุ์) นักสืบเอกชนที่ถูกจ้างให้ติดตามหาลูกสาวของนภดารา เขาสืบหาจนเจอว่านางพยาบาลที่เคยทำงานในโรงพยาบาลนั้น มียุพารวมอยู่ด้วย เขาตั้งใจจะมาขอข้อมูลจากเธอ แต่ทันทีที่เขาเห็นกอหญ้า เขาก็แน่ใจว่างานของเขาสำเร็จแล้ว เพราะกอหญ้ามีหน้าตาคล้ายคลึงกับนภดาราตอนสาวๆมาก และที่สำคัญกอหญ้าสวมสร้อยของนภดารา และ แหวนของกานต์อยู่ด้วย

ปราบ เล่าเรื่องทั้งหมดให้กอหญ้าฟังรวมทั้งเรื่องสร้อยที่กอหญ้าใส่ว่าเป็นสร้อย ประจะตระกูลของศิวาวงศ์ กอหญ้าเป็นทายาทของศิวาวงศ์และขอให้กอหญ้าไปกรุงเทพฯเพื่อพบท่านตา และท่านแม่ กอหญ้าปฏิเสธ ปราบจึงพูดถึงเรื่องที่ดินของโบสถ์ว่าท่านตาช่วยได้แน่นอน กอหญ้าจึงตกลงจะเดินทางลงไปกรุงเทพฯ เพื่อพบกับแม่และตาที่แท้จริงของเธอ โดยระหว่างที่คุยกันนั้น พเยีย (อ๋อม สกาวใจ พุลสวัสดิ์) เพื่อนของกอหญ้า ที่เคยเป็นเด็กกำพร้าด้วยกันมา เข้ามาได้ยินยุพากับกอหญ้าคุยกันถึงเรื่องนี้พอดี เลยเกิดนึกอยากเป็นอย่างกอหญ้าบ้าง และอยากได้สร้อยกางเขน จากกอหญ้ามาเป็นของตน เมื่อถึงวันที่กอหญ้ากับยุพาต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ พเยียได้ขอติดรถไปกรุงเทพด้วย แต่ระหว่างทางเกิดมีพายุฝนตกกระหน่ำ จนรถเกิดอุบัติเหตุคว่ำตกข้างทาง ปราบและยุพาตายคาที่ แต่พเยียไม่เป้นอะไร รีบลุกขึ้นแล้วเข้าไปเอาสร้อยจากกอหญ้า แต่กอหญ้ากลับฟื้นขึ้นมา ร้องให้พเยียช่วย พเยียตัดสินใจเอาท่อนไม้ตีกอหญ้าอย่างแรงที่ศีรษะ แล้วเอาสร้อยของกอหญ้าไป

พเยียเข้าสู่วังศิวาลัย ในฐานะหลานสาวคนใหม่ ทายาทคนเดียวของราชสกุลศิวาวงศ์ ในขณะเดียวกัน กอหญ้าที่กำลังจะสิ้นใจ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากอิศร ที่ขับรถผ่านมาพอดี อาการของเธอหนักมาก อิศรทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เธอมีชีวิตรอดจนสำเร็จ แต่กอหญ้ากลับกลายเป็นคนความจำเสื่อม จำได้แต่เพียงว่าเธอชื่อกอหญ้า และเกลียดอิศรมาก แต่เนื่องจากกอหญ้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน อิศรฉวยโอกาสพากอหญ้ากลับไปอยู่ที่บ้านของเขา และหลอกว่าเธอคือคู่หมั้น กอหญ้าไม่เชื่อและไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือก

อิศรพากอหญ้ากลับมา ที่บ้านของเขาในฐานะคู่หมั้น สร้างความไม่พอใจให้อรรถ ที่อิศรไปเก็บผู้หญิงกำพร้าข้างถนนมาเป็นคู่ และ สกุณา(ดี้ ชนานา นุตาคม) แม่เลี้ยงคนใหม่ ก็กลัวว่ากอหญ้าจะมามีส่วนแบ่งสมบัติของอรรถและตัวเองจะได้สมบัติน้อยลงจึง คอยใส่ไฟอรรถไล่กอหญ้าออกจากบ้าน ระหว่างที่กอหญ้ากับอิศร มีเพียง สุบรรณ ผู้ช่วยของอิศรเท่านั้นที่รู้ความจริงว่าอิศรกับกอหญ้าไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ทำให้กอ-หญ้าพยายามบอกตัวเองว่าเกลียดผู้ชายคนนี้ แต่แล้วหัวใจของเธอก็ค่อยๆซึมซับความรัก ที่เขามีให้ทีละน้อยๆ

ขณะ ที่ พเยียเข้ามาใช้ชีวิตใหม่ที่วังศิวาลัย เธอได้พบกับ ภาณพ (แซม-พนมกร ตังทัตสวัสดิ์) หลานชายของนภดารา ที่อาศัยอยู่ในวังศิวาลัยด้วย เธอสนใจเขาทันที ด้านนภดาราที่กำลังดีใจกับการกลับมาของลูกสาว เลยจัดงานฉลองเปิดตัวให้กับพเยีย และวันงาน อิศรที่เป็นเพื่อนกับภาณพ พากอหญ้ามาร่วมงานด้วย เมื่อพเยียเห็นกอหญ้าก็ตกใจแทบสิ้นสติ เพราะกลัวว่ากอหญ้าจะเล่าความจริง แต่พอรู้ว่ากอหญ้าจำเธอไม่ได้เลย ก็ถึงกับโล่งใจแต่เธอก็ยังกลัวว่าหากวันใดกอหญ้าจำความได้ เธอจะต้องถูกเฉดออกไปจากที่นี่ เลยคิดหาทางกำจัดกอหญ้าอีกครั้ง

ภาณพ เมื่อเจอกับกอหญ้าก็หลงรักทันทีแต่รู้ว่าเป็นคู่หมั้นเพื่อนก็ได้แต่ มองอย่างหมดหวัง ภาณพสงสัยเรื่องอิศรหมั้นกับกอหญ้าจึงตามสืบความจริงจนรู้จากสุบรรณว่าทั้ง หมดเป็นแผนของอิศร ภาณพบอกความจริงกับกอหญ้า กอหญ้าทั้งโกรธทั้งเสียใจจึงออกจากบ้านอิศร แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ภาณพเลยชวนมาอยู่ที่วังศิวาลัย เมื่อกอหญ้าเข้ามาอยู่ที่ศิวาลัย ก็เป็นที่รักของทุกคน โดยเฉพาะนภดารา ที่รักและเอ็นดูกอหญ้าราวกับลูกสาว สร้างความไม่พอใจให้พเยีย เลยหาทางกลั่นแกล้งกอหญ้าอยู่ตลอดเวลา นมชื่นสังเกตเห็นหลายๆอย่างในตัวกอหญ้าที่คล้ายคลึงกับนภดารา และเมื่อรู้ว่ากอหญ้าเป็นเด็กกำพร้ำ นมชื่นก็ยิ่งสงสัย

พเยีย กลั่นแกล้งกอหญ้าหนักขึ้นทุกวัน จนภาณพทนไม่ได้ประกาศหมั้นกับกอหญ้าเพื่อปกป้องเธอจากพเยีย อิศรหึงจนทนไม่ได้ขอหมั้นกับพเยียเพื่อประชดกอหญ้า แต่สุดท้ายก็ทนพเยียไม่ได้จึงขอถอนหมั้นพเยีย และจะหนีไปเชียงใหม่ ก่อนไปอิศรเขียนจดหมายเล่าประวัติกอ-หญ้า พร้อมกับส่งกล่องแหวนของกอหญ้าคืนมาให้หลังจากเก็บรักษาไว้ ตั้งแต่วันที่กอหญ้าประสบอุบัติเหตุ แต่กอหญ้ายังคงเสียใจจริงไม่ยอมเปิดกล่องดู

ที่เชียงใหม่ อิศรได้พบกับ ชิษณุพงศ์ ที่รักษาตาหายเป็นปกติและพยายามตามหากอหญ้าอยู่ พออิศรรู้ว่า พเยียเป็นใคร และที่สำคัญเป็นตัวอันตรายสำหรับกอหญ้า ทั้งคู่จึงรีบกลับมากรุงเทพฯ หลังจากพเยียถูกอิศรถอดหมั้น ก็ยิ่งแค้นกอหญ้า ไม่นานเธอได้เจอกับนภดล (เต้-ทัตพงษ์ พงษ์ทัต) คู่ขาเก่าโดยบังเอิญ นภดลเห็นพเยียร่ำรวยจึงคอยไถเงินพเยียและขู่ว่าถ้าไม่ให้ จะเปิดโปงความจริงทั้งหมด พเยียชวนนภดลร่วมมือกำจัดกอหญ้าโดยให้นภดลจับกอหญ้าไปข่มขืน แต่อิศรก็ตามไปช่วยกลับมาได้ ด้าน นมชื่นเริ่มสงสัยพเยียมากขึ้น ประกอบกับนมชื่นเจอแหวนของกอหญ้า และรู้ความจริงทั้งหมด พเยียจึงฆ่านมชื่นเพื่อปิดปาก นภัสรพีสงสัยในการหายไปของนมชื่น จึงตามสืบจนรู้ความจริงทั้งหมดและรู้ว่าพเยียฆ่านมชื่น นภัสรพี จึงถูกพเยียฆ่าปิดปากไปอีกคน

ในขณะที่ทุกคนไปงานศพนภัสรพี พเยียวางแผนให้นภดลมาจับตัวกอหญ้า แต่เจอภาณพกลับมาที่บ้านพอดี ภาณพรู้ความจริงทั้งหมด สู้กับนภ-ดลจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ นภดลจับตัวกอหญ้าไปได้ ภาณพโทรบอกเรื่องทั้งหมดแก่นภดารา และโทรบอกอิศรให้ตามไปช่วยกอหญ้า ส่วนนภดลโทรบอกพเยียว่าความลับแตกแล้ว พเยียจึงจับนภดาราไปจากงานศพและบังคับให้นภดาราเซ็นพินัยกรรม นภดารายอมเซ็นเพื่อแลกกับชีวิตของกอหญ้า แต่พเยียกลัวความผิดจึงคิดจะฆ่านภดาราและกอหญ้าให้ตาย

พเยียทำร้ายกอ หญ้า แต่การทำร้ายครั้งนี้ กลับทำให้ความทรงจำของกอหญ้ากลับมา เธอจำทุกอย่างได้หมด กอหญ้าพึ่งรู้ว่าทุกอย่างที่เธอคิดโทษอิศรนั้น เป็นความเข้าใจผิดของเธอเอง ส่วนเรื่องราวต่อไปจะลงเอยอย่างไร กอหญ้าจะรอดพ้นน้ำมืออันโหดร้าย ของพเยียได้หรือไม่ ติดตามชมได้ในละคร ” แผนรักแผนร้าย

นักแสดงละคร แผนรักแผนร้าย

ชาย – ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท “ อิศร ”
เจี๊ยบ – โสภิตนภา ชุ่มภาณี รับบท “ กอหญ้า ”
อ๋อม – สกาวใจ พูลสวัสดิ์ รับบท “ พเยีย ”
แซม – พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ รับบท “ ภาณพ ”
ว่าน – ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง รับบท “ ชิษณูพงศ์ ”
ตุ๊ก – เดือนเต็ม สาลิตุลย์ รับบท “ ม.ร.ว.นภดารา ”
แอ๊ด – สมบัติ เมทะนี รับบท “ ม.จ.นภัสรพี ”
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท “ อรรถ ”
เดือนเต็ม สาลิตุลย์ รับบท มรว.นภดารา
ชนานา นุตาคม รับบท สกุณา
ทัตพงษ์ พงษ์ทัต รับบท นภดล
นภาพร หงสกุล รับบท นมชื่น

นักแสดงรับเชิญ
ไพโรจน์ สังวริบุตร รับบท กานต์
พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา รับบท ยุพา
กษมา นิสสัยพันธุ์ รับบท ปราบ