Tag Archives: จีรนันท์ มะโนแจ่ม

อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง

พ่อขุนรามคำแหง ปกครองบ้านเมืองดุจพ่อปกครองลูก วัน หนึ่งพระองค์ได้พบชายแปลกหน้ามาที่โบสถ์ ประธานด้วยท่าทางน่าสงสัย เหมือนว่าจะกลัวถูกจับ พระองค์จึงมั่นใจว่ามิใช่ราษฏรของพระองค์แน่นอน จึงแอบซ่อนตัวอยู่เพื่ออยากรู้ว่าชายคนนี้มาที่นี่เพื่ออะไร

ชาย คนนี้มีชื่อว่า สามศร บุตรของขุนสามชน เจ้าเมืองฉอดที่ถูกพ่อขุนรามคำแหงตีทัพพ่ายไป และจากการทำยุทธหัตถีครั้งนั้นทำให้ขุนสามชนเสียชีวิตกลางป่า เหลือแต่ภรรยาและลูกชายที่มีอายุเพียง 9 ปี โดยหนีไปอาศัยอยู่กับ ครูดาบ ที่เมืองเมาะลำเลิง (เมืองมอญ) นาน 12 ปี ด้วยความแค้นของสามศรจึงเริ่มฝึกฝนฟันดาบจนเก่งกาจ เพื่อตั้งใจจะมาปลงพระชนม์พ่อขุนรามคำแหง

เรื่องราวของสามศรได้ถูกเปิดเผยจากปากของเขาเอง เมื่อถูกทหารจับตัวไว้ได้ขณะจะเข้าทำร้ายพ่อขุนรามคำแหง แม้ว่าสามศรจะถูกจับได้ แต่ก็ไม่ร้องขอชีวิตสักนิด พ่อขุนรามคำแหงเห็นว่า สามศรนั้นเก็บความลับได้ดี แถมยังเป็นคนกตัญญูรู้คุณคน น่าจะเป็นกำลังของพระองค์ได้ จึง ทรงไว้ชีวิตและจะเลี้ยงดู การคิดเช่นนี้พ่อขุนรามคำแหงถูกเหล่าทหารทัดทานมาโดยตลอด แต่พระองค์กลับไม่สนใจในคำทัดทานนี้เลย เวลาผ่านไป สามศรกลายเป็นคนโปรดของพ่อขุนรามคำแหง

 

อยู่มาวันหนึ่งพระองค์ทรงทราบว่า พระธิดากาบแก้ว ได้ทรงหนีตาม มะกะโท ไปในระหว่างที่พระองค์กำลังไปทำศึกสงคราม มะ กะโทเคยเป็นเด็กเลี้ยงช้าง พ่อแม่ตายหมด พ่อขุนรามคำแหง จึงนำมาชุบเลี้ยงไว้จนเป็นที่โปรดปราน แต่แล้วมะกะโทก็ทำร้ายพระองค์อย่างแสนสาหัส ทั้งคู่ถูกจับ ได้ต่างยอมรับผิดทุกประการและพระธิดาก็ทรงขอพระราชทานอภัยโทษเพื่อให้ พระองค์เห็นแก่ความรักของลูกทั้งสอง ในที่สุดพ่อขุนรามคำแหงทรงพระราชทานอภัยโทษให้ด้วยทรงเห็นว่าทุกคนคือลูก พ่อต้องให้อภัยลูกได้เสมอ แม้ลูกจะทำความผิดก็ตาม

อย่าง ไรก็ตามพ่อขุนรามคำแหงก็ยังถูกคัดค้านจากเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามศรที่เห็นว่ามะกะโททำทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ของตนเองมากกว่า ด้วยความคิดนี้ทำให้สามศรถูกเหล่าขุนนางเข้าใจผิดคิดว่าสามศรน้อยใจที่ พระองค์ไม่ได้แต่งตั้งให้มีฐานันดรเทียบเท่ามะกะโท เหล่าขุนนางจึงกราบทูลให้สามศรไปเป็นพ่อเมืองที่ห่างไกลยังถิ่นทุรกันดารและ ที่สำคัญกลัวสามศรจะกระทำเยี่ยงมะกะโท คือพาเจ้าหญิงเบญจมาศ หนีตามกันไป เพราะรู้ว่าทั้งสองรักใคร่กัน พระองค์จึงคิดหาวิธีป้องกันไว้ก่อน โดยพระราชทานเจ้าหญิงเบญจมาศแก่สามศร แต่สามศรกลับปฏิเสธ เพราะคิดว่าพ่อขุนรามคำแหงคิดจะกำจัดเขาให้สิ้นซึ่งเป็นการเข้าใจผิด อีกทั้งความรักของสามศรที่มีต่อเจ้าหญิงก็เป็นความรักบริสุทธิ์ที่ไม่ได้ ต้องการสิ่งตอบแทน ซึ่งความรักหนุ่มสาวของสามศรยังน้อยกว่าความรักประเทศชาติเสียอีก พ่อขุนรามคำแหงทรงเริ่มเข้าใจในความรักของสามศร และก็ยังให้สามศรอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเบญจมาศอยู่ดี

 

ในคืนวันแต่งงานสามศรก็ตั้งใจว่าจะยังไม่ร่วมหอลงโลงกับเจ้าหญิง ถ้ายังไม่สามารถทำภารกิจเพื่อประเทศชาติได้สำเร็จ นั่น ก็คือการไปตีแคว้นศรี วิชัยและแคว้นนครศรีธรรมราช ให้มารวมเป็นปึกแผ่นกับประเทศไทย เพราะรู้ว่าพ่อขุนรามคำแหงต้องการสองแคว้นนี้ สามศรจึงอยากทำให้สำเร็จจะได้นำมาเป็นบรรณาการแด่พ่อขุนรามคำแหง เมื่อเจ้าหญิงทรงทราบก็รู้สึกเสียพระทัย ทรงคิดว่าสามศรไม่รักพระองค์ แต่เมื่อฟังเหตุผลทั้งหมดจึงทรงยินยอมให้สามศรทำตามแผนการที่ตั้งไว้ แต่เจ้าหญิงทรงขอติดตามไปช่วยรบเพื่อบ้านเมืองของตนด้วย และเจ้าหญิงทรงทิ้งจดหมาย(เขียนจดหมาย) ให้พ่อขุนรามคำแหงได้ทรงทราบเรื่องราวทั้งหมด

เมื่อ เวลาผ่านไปชาวเมืองนครศรีธรรมราชที่อยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นศรี วิชัย เริ่มเห็นความผิดปกติของบ้านเมือง ทหารศรีวิชัยถูกลอบฆ่าเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เริ่มแข้งข้อไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติของเจ้าเมืองศรีวิชัยอีกต่อไป เจ้าเมืองศรีวิชัยโกรธมากจึงสั่งข้าหลวงจับกุมตัวเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชมา กักขังไว้ แล้วเจ้าเมืองศรีวิชัยได้แต่งตั้งข้าหลวงศรีวิชัยขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทน
พ่อ ขุนรามคำแหงทรงเดินทางมาประทับที่เมืองเพชรบุรี เพื่อรอฟังข่าวการศึกของสามศร โดยเจ้าหญิงเบญจมาศได้ทรงเดินทางมาทูลเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พระองค์ทรง ทราบว่า ขณะนี้สามศรได้ยึดเมืองนครศรีธรรมราชได้สำเร็จแล้ว และรอให้พ่อขุนรามคำแหงมาเป็นทัพใหญ่ในการรบกับแคว้นศรีวิชัยด้วยพระองค์เอง ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงก็ทรงตั้งพระทัยเช่นนั้น แต่ก่อนที่จะเสด็จออกรบ เจ้า เมืองเพชรบุรีได้กราบทูลว่าทางเกาะลังกามีพระพุทธสิหิงค์รูปงามน่าเคารพบูชา โดยใคร่อยากให้พ่อขุนรามคำแหงส่งพระราชสาส์นเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้า กรุงลังกา  พ่อขุนรามคำแหงทรงเห็นชอบเลยมีรับสั่ง ให้เจ้าเมืองเพชรบุรีดำเนินการด่วน และในที่สุดประเทศไทยก็ได้ขยายปึกแผ่นตามความปรารถนาของพ่อขุนรามคำแหง ส่วนสามศรก็สามารถทำการณ์ที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ

ชาว เกาะลังกาก็ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาถวายพ่อขุนรามคำแหง และพระองค์ก็ได้ประดิษฐานไว้บนแท่นหน้าเมืองกรุงสุโขทัย เพื่อให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินได้เคารพบูชากันทุกคน ดังจารึกที่ว่า “ในน้ำมีปลา นามีข้าว แผ่นดินของเรา นี่แสนอุดมสมบูรณ์ บ้านเมืองราบคาบ ด้วยอานุภาพพ่อขุนรามคำแหงค้ำจุนให้ชาติไทยไพศาล”

รายชื่อนักแสดง อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง

ณัฐวุฒิ  สกิดใจ   แสดงเป็น พ่อขุนรามคำแหง
ศุกลวัฒน์  คณารศ  แสดงเป็น สามศร
วรัทยา  นิลคูหา  แสดงเป็น เจ้าหญิงเบญจมาศ
ชนะพล  สัตยา   แสดงเป็น มะกะโท
อุษามณี  ไวทยานนท์  แสดงเป็น พระธิดากาบแก้ว
เคลลี่  ธนะพัฒน์  แสดงเป็น ขุนสามชน
จีรนันท์  มะโนแจ่ม  แสดงเป็น มเหสี
ภานุ  สุวรรณโณ  แสดงเป็น เสนาบดีศรีวิชัย
รังสิโรจน์  พันธุ์เพ็ง  แสดงเป็น พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
อานัส  ฬาพานิช  แสดงเป็น ฝ่ายเจ้ากรุงลังกา
วัชรบูลย์  ลี้สุวรรณ  แสดงเป็น ฝ่ายเจ้ากรุงลังกา
ฉลอง  ภักดีวิจิตร  แสดงเป็น พระเจ้ากรุงลังกา ในละคร อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง

ห้องหุ่น

เดช สัตยาภา ผู้คลั่งไคล้หลงใหลหุ่นปูนปั้นมากถึงขนาดสามารถปั้นหุ่นขี้ผึ้งด้วยฝีมือของตัวเอง ได้ ด้วยใจรักมิได้ร่ำเรียนมาและเมื่อมีเงิน เดชก็จะซื้อหุ่นปูนปั้นมาเก็บสะสมไว้ โดยเฉพาะที่ปั้นเป็นรูปคนเท่านั้น เดชเก็บหุ่นไว้ที่ห้องหนึ่งในบ้าน ดังนั้นภายในบ้านของเดช นอกจากอารีย์ เมียรักและลูก 3 คน คือ พรรณราย อัมรา และอภิรัฐ (อ๊อด) แล้วก็ยังมีหุ่นหลายตัว เช่น หุ่นชาวนา หุ่นท่านเจ้าคุณ หุ่นนักมวย หุ่นนางระบำ หุ่นทหารผ่านศึก หุ่นสาวเสิร์ฟ หุ่นตำรวจ หุ่นโจร หุ่นเด็ก หุ่นนักดาบ หุ่นนักยิงธนู หุ่นนางแบบสาวสวย (แม่เลี้ยง) หุ่นนางฟ้า หุ่นอารีย์ และหุ่นเดช ที่เขาทั้งซื้อไว้และปั้นเอง
เดช, อารีย์ อัมรา มักใช้เวลาส่วนใหญ่พูดคุยกันอยู่ในห้องหุ่น เดชและอัมรารักหุ่นมาก ส่วนอ๊อดไม่ค่อยใส่ใจหุ่นเหมือนอัมราพี่สาวเพราะยังเด็ก ชอบที่จะวิ่งเล่นมากกว่า สำหรับพรรณรายนั้นไม่สนใจหุ่นในบ้านเลยแถมยังไม่ชอบให้มีหุ่นอยู่ในบ้านด้วย

ในอดีต เดชเคยมีสัมพันธ์หญิงหนึ่ง ชื่อ พิไล ถึงขั้นมีลูกด้วยกันคนหนึ่ง แต่พิไล ไม่ซื่อแอบไปลักลอบได้เสียกับชายอื่น เพราะเดชมัวแต่หมกมุ่นกับการปั้นหุ่นเกินไป เดชจับได้ เดชจึงให้พิไลไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่นั้น แต่ขอลูกไว้กับตน โดยให้ทุกคนรับรู้ว่าอารีย์คือแม่แท้ๆ และไม่พูดถึงพิไลอีกเลย
เด็กหญิงคนนั้นคือ พรรณราย พรรณรายไม่เคยรู้เรื่อง ในอดีตของมารดาที่แท้จริงเพราะขณะนั้นยังเล็กมาก อารีย์ภรรยาของเดชคนต่อมาเป็นคนดี แม้เธอจะมีลูกคือ อัมรา และอ๊อด อารีย์รู้เรื่องพิไลมาโดยตลอด แต่อารีย์ก็ไม่เคยปริปาก เพียงแต่เก็บความหวาดวิตกว่าพิไลอาจจะกลับมาคืนดีกับเดช
อารีย์รู้สึกกังวล เพราะรู้ว่าเดชเคยรักพิไล และพิไลก็เป็นคนอารมณ์ร้าย เจ้าเล่ห์ แล้ววันหนึ่งพิไลก็ซมซานกลับมาจริง ๆ อารีย์กังวลเรื่องนี้ถึงกับช็อค และเพราะเธอเป็นโรคหัวใจเธอจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา วันที่อารีย์เสียชีวิต หุ่นผู้หญิงตัวหนึ่งซึ่งเดชปั้นเป็นตัวแทนของอารีย์ล้มลงแตกเองโดยไร้สาเหตุ

อัมราและอ๊อด รวมทั้งคนในบ้านอื่นๆ นอกจากเดชพากันแปลกใจที่พิไลจะดีกับพรรณรายคนเดียว ทั้ง ๆ ที่อัมราและอ๊อดมีนิสัยดีกว่าพรรณรายมาก ทั้งสองจะอ่อนน้อมไม่เคยแสดงกิริยารังเกียจพิไล แต่พิไลก็จะแสดงอาการลำเอียงไปทางพรรณราย ทั้งรูปร่างหน้าตานิสัยใจคอพรรณรายก็คล้ายคลึงพิไล แต่พรรณรายก็ไม่สะกิดใจแต่อย่างใด พิไลไม่ได้เล่น งานเหล่าลูกเลี้ยงตามลำพัง แต่ดึงเอา จันทร์แรม หลานสาวมาช่วยด้วย เมื่อจันทร์แรมพาเพื่อนชายมาด้วย 2 คน คือ สันติ,สฤษดิ์เดช หรือ อาร์ต จิตรกรและนักเขียนสมัครเล่น นิสัยดีที่เพิ่งเดินทางกลับจากอเมริกา
หลังจากเรียนสำเร็จและต้องการจะเรียนรู้ชีวิตชนบท กับประจักษ์ ชายที่หลงรักจันทร์แรมอยู่และกำลังจะเป็นทนายความ ขอติดตามมาด้วย จันทร์แรมหลงรักอาร์ต อยากให้เขามาเห็นหลักฐานของพิไลน้าสาวของเธอ จันทร์แรมยอมร่วมมือกับพิไลอย่างแข็งขัน เพราะอยากให้น้าพิไลได้สมบัติของเดช ประจักษ์เออออเพราะหลงรักจันทร์แรม

แต่เมื่อมาพบอัมรา ความเจ้าชู้ของประจักษ์ทำให้แอบลวนลามอัมรา แต่อัมราไม่เล่นด้วย จึงเจ็บแค้น อาร์ตมองสถานการณ์ในบ้าน “สัตยาภา” อย่างเป็นกลาง และเห็นใจว่าอัมรากำลังเศร้าหมองที่มารดาเพิ่งเสียชีวิต อาร์ตไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพิไลที่มักจะรังแกอัมราและอ๊อดเป็นประจำ
อาร์ตเริ่มรู้สึกประทับใจในกิริยาของอัมราที่ไม่กราดเกรี้ยว แม้เธอจะไม่ผิด อัมราจะรักพี่รักน้องมาก เธอยอมทุกอย่างจนน่าสงสาร อาร์ตแอบเข้าข้างเธออยู่เงียบๆ และรู้สึกเป็นสุขที่อยู่ใกล้เธอ อาร์ตมักจะมาบ้านเดชเสมอ โดยจันทร์แรมคิดว่ามาเพราะหลงใหลเธอ แต่ความจริง สันติอยากพบพูดจาและปลอบโยนอัมรามากกว่า จนจันทร์แรมจับได้และเริ่มไม่พอใจเกลียดชังอัมรามากขึ้น แต่อัมราก็ยังมีความสุขกับครอบครัวของเธอ และหุ่นมารดาที่เดชปั้นขึ้นใหม่หลังจากอารีย์เสียชีวิต

คุณนายผอบ เมียนายอำเภอแม่ของพงษ์ วัยรุ่นเกะกะเกเรที่มาชอบอัมราก็อยากกล่อมอัมราให้ไล่พิไลแม่เลี้ยงออกจากบ้าน แล้วเร่งให้พงษ์แต่งงานกับอัมราเพื่อหวังมรดกของเดช เพราะรู้ว่าหุ่นต่างๆ ขายได้ราคามาก และเป็นที่สนใจ พงษ์ใช้วิธีจีบทั้งนุ่มนวลและหยาบช้า แต่ก็ไม่สำเร็จทั้งสองกรณี
พิไลเห็นท่าไม่ดีก็ให้ประจักษ์อ้างว่าเดชให้เขาทำพินัยกรรมยกให้พิไล เพราะรู้ว่าเขาเป็นทนายแต่ประจักษ์ก็โดน หุ่น รุมทำร้ายถึงแก่ชีวิต ทำให้พิไลหมดทางที่จะมีอำนาจในบ้าน คุณนายผอบยุพรรณรายให้ไล่พิไลไปจนสำเร็จ แต่ในวันที่พรรณรายจะไล่พิไลไปนั้นเอง พิไลก็มีหลักฐานมาแสดงกับพรรณรายว่าตนคือแม่แท้ ๆ ของพรรณราย พิไลหาทางพิสูจน์ให้พรรณรายเชื่อจนได้
พรรณรายจากที่อยู่ข้างอัมราและอ๊อดและเกลียดชังพิไลมาตลอดก็กลับกลายเป็น ฝ่ายพิไล พิไลกำชับพรรณรายไม่ให้บอกใครว่าพรรณรายไม่ใช่ลูกอารีย์ ไม่เช่นนั้น สิทธิ์ในการจับจ่ายใช้สอยเงินทอง ในบ้านจะต้องตกเป็นของอัมราแทนที่จะเป็นของ พรรณราย เพราะพนมเพื่อของเดชผู้รู้เรื่องดี อ้างว่าเดชนั้นยกทุกอย่างให้อัมราตามพินัยกรรม

พรรณรายโกรธมากที่เดช ไม่ให้ส่วนแบ่งแก่เธอ จึงยิ่งจงเกลียดจงชังอัมราและอ๊อดมากขึ้น พิไล, จันทร์แรม, พรรณราย จึงรวมหัวกันคิดไล่อัมราและอ๊อดไปอยู่ห้องใต้บันได และบังคับให้อัมราที่เรียนดีมากออกจากโรงเรียน แต่อัมราไม่ยอม และสันติมาช่วยพูด พิไล จันทร์แรมและพรรณรายจึงใช้วิธีงดอาหาร งดเบี้ยเลี้ยง เมื่อสันติกลับไปแล้ว อัมรากับอ๊อดต้องวิ่งหาท่านผู้พิพากษาที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับเดชสมัยเดชยัง มีชีวิตอยู่ ท่านผู้พิพากษามาไกล่เกลี่ย อัมรากับอ๊อดจึงรอดพ้นจากการอดตายไปได้
แต่พิไล จันทร์แรมและพรรณรายกลับดุด่าอัมราและอ๊อดมากขึ้น กล่าวหาว่านำเรื่องในบ้านไปพูดให้คนข้างนอกหัวเราะเยาะ อาทร ลูกชายผู้พิพากษามาชอบอัมรา พงษ์ที่หลงรักอัมราจึงแอบยิงอาทรตาย ทำให้คุณนายบุญเรือน ภรรยาท่านผู้พิพากษา แม่ของอาทรโกรธแค้นอัมรามาก กล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุให้อาทรลูกชายของตนตาย

แต่วันรุ่งขึ้นนายจั่นก็ถูกฆ่าตาย โดยจับมือใครดมไม่ได้ ส่วนบุญเรือนเกิดสติฟั่นเฟือน พิไล จันทร์แรมและพรรณรายกล่าวหาว่าอัมราส่งคนไปทำร้ายทั้งจั่นและบุญเรือนจนมี อันเป็นไป หุ่นอาละวาดเอากับจันทร์แรมและพรรณราย แต่ทุกคนกลับกล่าวหาว่าอัมราจ้างคนมาแกล้งข่มขู่ สันติพยายามบอกทุกคนว่าอัมราบริสุทธิ์ เขาพยายามหาหลักฐานเพื่อช่วยเหลืออัมราทุกครั้งด้วยความรัก และสงสาร
สันติยังเชื่อว่าหุ่นอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงบอกทุกคนให้สังเกตแล้วทุกคนในบ้านก็เริ่มระแคะระคายว่าตัวการที่วิ่งไล่ ฆ่าและทำร้ายใครต่อใครนั้นคือ “หุ่น” ในห้องหุ่น แต่ไม่มีใครยอมรับความจริง กลับพุ่งข้อกล่าวหาไปที่อัมราแต่เพียงผู้เดียว โดยเฉพาะเมื่อพงษ์ลูกชายของคุณนายผอบมาตายในบ้านอัมราด้วยฝีมือของหุ่น อัมราก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรตาม

โดย การให้พรรณรายไปซ่อนตัว แล้วสั่งให้อัมราออกตามหา ด้วยความเป็นห่วงพี่สาว อัมราออกตามจนเกือบไม่ได้เข้าสอบ แต่หุ่นก็มาช่วยไว้อีก อัมราได้ไปสอบ พรรณรายเห็นความดีของอัมรา แต่ถูกพิไลยุแหย่จนสับสน ยิ่งเมื่อแน่ใจว่า สันติชายที่เธอหลงรักและแน่ใจว่าจะแต่งงานด้วยกลับมารัก อัมราอย่างเปิดเผย พรรณรายเสียใจผิดหวัง มิหนำซ้ำยังถูกหุ่นรุมหลอกหลอน พรรณรายเริ่มสติฟั่นเฟือนเหมือนคุณนายบุญเรือนอีกคน
พิไลเห็นพรรณรายมีอันเป็นไปก็ตัดสินใจขายหุ่นทั้งหมด แต่แล้วพ่อค้าที่ซื้อไปก็เจอฤทธิ์หุ่น จนต้องรีบนำเอามาคืน สันติรับซื้อหุ่นคืนโดยนำหุ่น ไปไว้ที่บ้านของเขาที่กรุงเทพฯ และขออัมราแต่งงาน อัมราเป็นสุขและอิ่มเอิบที่มีผู้พิทักษ์ที่ดีอย่างสันติ

แต่คนที่ผิดหวังอย่างหนักคือ พรรณราย พิไลสงสารลูกและเจ็บแค้นที่ลูกของตนพลาดทุกอย่าง เมื่อมีคนรู้ว่าตนเป็นใครและเคยทิ้งเดช ไปอย่างไร ทิ้งลูกคนเดียวไว้พิไลจึงลงมือช่วยเหลือพรรณรายเป็นครั้งสุดท้า
โดยการหลอกพาอัมราไปฆ่าแต่หุ่นช่วยได้อีก พิไลโกรธแค้นอย่างมาก จึงบุกเข้าไปวางเพลิงเผาห้องหุ่น และพิไลก็โดนไฟคลอกตาย พรรณรายและจันทร์แรมรอดมาได้หวุดหวิด แล้วในที่สุด อัมรา สันติ อ๊อด และพรรณรายก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในขณะที่จันทร์แรมหวาดกลัวชื่อ “อัมรา” ไปตลอดชีวิตถึงกับต้องไปอยู่โรงพยาบาลบ้า

สายรักสาละวิน

ลลิตา กับเพื่อนๆ มาเที่ยวพม่าในขณะนั้นมีการสู้รบกัน พะโบ ได้ช่วยลลิตากับเพื่อนๆ เอาไว้แล้วพาไปส่งชายแดน มิตรภาพของคนทั้งสองเริ่มต้นจากจุดนั้น พะโบเป็นคนเผ่าปกาเดอญอ บ้านของเขาเป็นชุมชนกลุ่มน้อยริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน เนื่องจากพะโบมีความรู้ทางด้านเคมีจึงมาทำเครื่องสำอางสมุนไพร ตะนะคา ส่วนลลิตาเป็นลูกสาวของ ลลิต นักธุรกิจใหญ่ และ อัมพร อัมพรนั้นเปิดสถานเสริมความงามผสมสมุนไพร ซึ่งต่อมาได้อ่านพบเกี่ยวกับตะนะคาจึงไหว้วาน พ่อเลี้ยงสุรพงษ์ ซึ่งค้าขายไม้และเฟอร์นิเจอร์ ( เบื้องหลังค้าไม้เถื่อนและยาบ้า ) ทำให้คุ้นเคยกับทางพม่าดี ช่วยติดต่อหาแหล่งซื้อสมุนไพรตะนะคาให้ พ่อเลี้ยงสุรพงษ์พาอัมพรมาติดต่อกับ ทุนเหม่ ฝั่งพม่า หลังจากนั้นจึงปล่อยให้ลลิตามาซื้อโดยลำพัง ทำให้พะโบและลลิตาซึ่งเคยประทับใจกันสนิทสนมกันมากขึ้นจนกลายมาเป็นความรัก ทุนเหม่รับรู้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ พยายามห้ามแต่ไม่เป็นผล ลลิตาตั้งท้องลลิตและอัมพรโกรธมาก พร้อมเรียกตัวกลับแต่ลลิตาไม่ยอม ลลิตาคลอดลูกสาวชื่อว่า มิยาวดี ( เมย ) แล้วพ่อเลี้ยงสุรพงษ์มาส่งข่าวว่าลลิตป่วยหนัก ต้องการเห็นลลิตาเป็นครั้งสุดท้าย ลลิตากลับมากรุงเทพฯ แม่จึงขอร้องไม่ให้เธอกลับไปอีก พร้อมทั้งพร่ำบอกเกี่ยวกับชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่จะถูกทำลายเพราะเธอ และถ้ากลับไปก็จะตัดขาดความเป็นแม่เป็นลูกกัน ในที่สุดลลิตาจึงต้องอยู่กรุงเทพฯ และแต่งงานกับ ธเนศ และมีลูกสาวอีกหนึ่งคนชื่อ น้ำเพชร พะโบพยายามตามหาลลิตาและก็ผิดหวังเมื่อรู้ว่าลลิตาแต่งงานไปแล้ว เขาเก็บรูปของลลิตาใส่ลิ้นชัก และก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูกสาว สอนการต่อสู้กับการใช้อาวุธต่างๆ ทุกครั้งที่ลูกถามถึงแม่ พะโบจะบอกว่าตายไปตั้งแต่มิยาวดีเกิด เมื่อมิยาวดีย่างเข้าสู่วัยรุ่นพะโบก็เสียชีวิตลงท่ามกลางความเสียใจสุดๆ ของมิยาวดี ระหว่างที่รวบรวมของของพ่อมิยาวดีตัดสินใจเปิดลิ้นชักที่ตนสงสัยมานาน วันนี้เองมิยาวดีได้เห็นรูปลลิตาเป็นครั้งแรก และสงสัยว่าเป็นรูปใครจึงไปถามทุนเหม่ หลังจากบ่ายเบี่ยงมีปากเสียงกันทุนเหม่จึงเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่อัดอั้นตันใจมานานแสนนาน และมิยาวดีก็ได้ซึมซับความเสียใจของพ่อ ที่พยายามปิดบังเธอไว้ตลอดมาจนตรอมใจตาย เธอทั้งผิดหวัง เสียใจ และเคียดแค้นแม่ ถึงกับลั่นปากจะออกตามหาแม่เพื่อที่จะได้บอกถึงความทุกข์ทรมานของพ่อ เวลาผ่านไปมิยาวดีโตเป็นสาวเต็มตัว มีเพื่อนสนิทชื่อ มะเหม่ ทั้งสองจะทาตะนะคาจนหน้าลายพร้อย แล้วเอาสินค้าไปขายโดยที่หน้าตาหน่อมแหน้มทำให้สินค้าขายดีกว่าใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอันธพาลใหญ่ หม่องโปติ๊ด ที่คอยตามตื้อ ร.ต.อ.ภาวิน เป็นนายตำรวจฝีมือดี มีอุดมการณ์ ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลใดๆ ภาวินย้ายมาปฏิบัติราชการที่ส.ภ.ต.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ภาวินพบมิยาวดีครั้งแรกเมื่อ ส.ต.ท.ยั่งยืน พาไปดูสาวพม่า ระหว่างนั้นหม่องโปติ๊ดกับพรรคพวกมาแทะโลมมิยาวดีจนมีเรื่องกัน ภาวินและยั่งยืนเข้าช่วยเหลือจึงถูกรุมแทบตาย มิยาวดีเข้าช่วยไล่อันธพาลออกไปหมด จะพาภาวินและยั่งยืนไปทำแผลเพื่อตอบแทนที่อุตส่าห์ช่วยเหลือ แต่พอไปถึงที่บ้านกลับโดนทุนเหม่ไล่ออกจากบ้าน เพราะเห็นว่าเป็นคนไทย ทางกรุงเทพฯ เมื่อลลิตาเห็นเครื่องสำอางตะนะคาที่ภาวินซื้อมาฝากน้ำเพชรก็ถึงกับตกใจหน้า ซีด และน้ำเพชรก็ชวนแกมบังคับลลิตาให้พาไปเยี่ยมภาวิน จึงเดินทางไปพร้อมกับครอบครัวของภาวิน เมื่อมาถึงรีสอร์ตทุก คนตื่นเต้นโดยเฉพาะลลิตาที่มีความกังวลผสมอยู่ด้วย ภาวินนำเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และมาลงเอยที่ตลาดเดิม มิยาวดีตกใจเมื่อเห็นลลิตา ส่วนลลิตาก็รู้สึกรักและเอ็นดูมิยาวดีอย่างประหลาด เมื่อมิยาวดีกลับถึงบ้านเธอรีบไปดูรูปแม่ เธอทั้งดีใจและเจ็บแค้นผสมปนเปกัน และเมื่อครอบครัวภาวินขอให้เธอนำเที่ยวฝั่งพม่า เธอตกลงทันทีลลิตาถามถึงพ่อแม่ของมิยาวดีด้วยใจระทึก มิยาวดีเล่าเรื่องพ่อให้ฟังอย่างจงใจ แถมบอกว่าพ่อของเธอตรอมใจตายเพราะคิดถึงแม่ตั้งแต่เธอยังเด็กๆ หลังจากนั้นมิยาวดีห่างเหินและเป็นศัตรูกับภาวินอย่างเปิดเผย มิยาวดีเกลียดทุกคนที่เกี่ยวข้องกับลลิตา ลลิตาขอให้มิยาวดีไปอยู่ด้วยโดยที่ไม่บอกว่าตัวเองเป็นแม่ มิยาวดีตกลงไปเพราะใจหนึ่งอยากอยู่ใกล้แม่อีกใจหนึ่งอยากจะทำลายครอบครัว ใหม่ของแม่ เมื่อมิยาวดีมาอยู่กรุงเทพฯ ลลิตาทำดีกับมิยาวดีทุกอย่าง แม้ว่ามิยาวดีจะพยศใส่ ทำให้ลลิตารู้ว่ามิยาวดีรู้ว่าเธอเป็นแม่ และเรื่องราวมาถึงจุดแตกหักเมื่อมิยาวดีถูกใส่ร้ายว่าเป็นขโมย แต่ลลิตาออกมาปกป้องพร้อมกับประกาศว่าเธอเป็นแม่แท้ๆ ของมิยาวดี ซึ่งสร้างความตกตะลึงแก่ทุกคน หลังจากพ้นข้อกล่าวหามิยาวดีตัดสินใจกลับพม่า โดยไม่พูดกับแม่สักคำภาวินตามมาพูดความรู้สึกที่มีต่อมิยาวดี แต่มิยาวดีไม่ฟังและจากไป ภาวินกลับมาฝั่งไทยและถูกพ่อเลี้ยงสุรพงษ์ที่หนีรอดจากการถูกจับมา ได้พาลูกน้องมาดักยิงภาวินได้รับบาดเจ็บสาหัส มิยาวดีอยู่ดูแลจนหายเป็นปกติ แล้วบอกให้ภาวินกลับไปหาน้ำเพชรที่กรุงเทพฯ ภาวินบอกน้ำเพชรเป็นคนบอกให้เขามาหามิยาวดี แล้วจะไม่ให้เขากลับไปไหนอีก ทุกคนที่ขัดแย้งเข้าใจกันดีไม่มีปัญหาอะไรแล้ว พ่อเลี้ยงสุรพงษ์ต่อสู้กับตำรวจโดยไม่ยอมให้จับกุมจึงถูกยิงตาย ภาวินขอมิยาวดีแต่งงานหลังจากเธอเรียนจบ มิยาวดีไม่ตอบแต่ภาวินก็ถือว่านั่นคือการยอมรับรักของเขา

รายชื่อนักแสดง สายรักสาละวิน
อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร รับบท ร.ต.อ.ภาวิน
จีรนันท์ มะโนแจ่ม รับบท มิยาวดี ( เมย )
วิชญะ จารุจินดา รับบท ภควัต
อินทิรา เกตุวรสุนทร รับบท น้ำเพชร
สรพงศ์ ชาตรี รับบท พะโบ
มัณฑนา หิมะทองคำ รับบท ลลิตา
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร รับบท ธเนศ
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท ทุนเหม่

ศัตรูคู่ขวัญ

“​เมื่อ​ความ​แค้น​ทำ​ให้ปลัดอำ​เภอหนุ่มต้องผูกพันกับ​ไกด์สาว​ถึงขั้น​ให้กำ​เนิดลูกน้อยฝา​แฝด ​และ​ความน่ารัก​ไร้​เดียงสาของ​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ก็​ได้นำพา​ความรัก​เข้ามาสู่หัว​ใจของ​ผู้​ให้กำ​เนิด ​ทำ​ให้ศัตรูกลับกลายมา​เป็นคู่รัก​ในที่สุด”

ภูมิพงษ์ หนุ่มรูปหล่อ ดี​ใจมาก​เมื่อผลสอบ​เป็นปลัดอำ​เภอผ่านฉลุย ​แม้จะ​ไม่​ได้​เป็นอาชีพที่​ใฝ่ฝัน ​แต่​ก็ยังดีกว่าที่​เขาต้อง​ไป​เรียนปริญญา​โทต่อตามที่มารดาต้อง​การ ​เพราะภูมิพงษ์อยากอยู่​เมือง​ไทยกับ ดาด้า ​แฟนสาวสวยที่​เพิ่งคบหากันมา ​แต่​ไม่ทันที่​เขาจะ​แจ้งข่าว​ให้มารดารู้ ​เมื่อกลับมา​ถึงบ้าน ​ก็พบว่า ม.ร.ว. ​เลขา ​ผู้​เป็น​แม่​เป็นลมพับ​ไป ​เนื่องจาก พล​โทพัฒน์ นายทหารที่​เพิ่ง​เกษียณอายุราช​การ บิดาของ​เขา รับสารภาพว่า​แอบ​เลี้ยงนาง​แบบสาวสวยอ่อนคราวลูก ชื่อ ​เยาวลักษณ์ ​ไว้​เป็นภรรยาอีกคน ภูมิพงษ์​โกรธมาก ​เพราะ ม.ร.ว.​เลขา​เป็น​ผู้หญิงที่​เพียบพร้อม​และ​เป็น​แม่ที่ดีมาตลอด ส่วน พรทิพย์ พี่สาว​ก็ยิ่ง​เรียบร้อยอ่อนหวาน​เหมือนมารดา ​การกระ​ทำของพล​โทพัฒน์​จึง​เท่ากับ​เป็น​การ​ทำร้ายจิต​ใจครอบครัวอย่าง​เลือด​เย็นที่สุด

นายพลพัฒน์ หลบหน้าครอบครัว​ไปอยู่ที่บ้านของ​เยาวลักษณ์ ​ซึ่งมีน้องสาวอีกคนชื่อ รสสุคนธ์ รสสุคนธ์​ไม่​เห็นด้วยกับพี่สาวที่ยอม​เป็น​เมียน้อยนายพล​เพื่อ​เห็น​แก่​ความสบาย ​แต่​ก็พูดอะ​ไร​ไม่​ได้มากนัก ​เพราะ​เยาวลักษณ์ช่วยส่ง​เสีย​ให้​เรียนจนจบ ภูมิพงษ์มาตามบิดาที่บ้าน​เยาวลักษณ์​เพราะคุณหญิง​เลขาล้มป่วยลง​เพราะตรอม​ใจ ภูมิพงษ์​เข้า​ใจว่ารสสุคนธ์คือ​เยาวลักษณ์​จึงด่าว่าอย่าง​เสีย ๆ หาย ๆ จนนายพลพัฒน์ต้อง​เข้ามาห้าม​และ​ไล่ภูมิพงษ์ออกจากบ้าน ​ทำ​ให้ภูมิพงษ์​แค้น​ใจมาก

รสสุคนธ์หาราย​ได้พิ​เศษด้วย​การ​เป็น​ไกด์ ​ให้กับ บริษัทของ สุพล พี่ชายของ สุทธิดา ​ซึ่ง​เป็น​เพื่อนสนิท สุพลชอบรสสุคนธ์มาก​จึง​ให้​ความช่วย​เหลือมาตลอด ​แต่รสสุคนธ์​เห็นสุพล​เป็น​แค่พี่ชาย​เท่านั้น รสสุคนธ์สอบ​เข้าบรรจุครูที่อุตรดิตถ์​ซึ่ง​เป็นบ้าน​เกิดของตัว​เอง​ได้ ท่านนายพลพัฒน์ ​และ

​เยาวลักษณ์​จึงพารสสุคนธ์​ไป​เลี้ยงส่ง ​แต่กลับ​ไป​เจอกับ ภูมิพงษ์ที่พา​แม่​และพี่สาวมาทานข้าวร้าน​เดียวกัน ​เยาวลักษณ์​จึง​แกล้ง​เอา​ใจนายพลพัฒน์​เต็มที่ ​ทำ​ให้ม.ร.ว.​เลขาทน​ไม่​ได้ ตบหน้า​เยาวลักษณ์ กลางร้านท่ามกลางคนมากมาย ​เยาวลักษณ์​เลยพาตำรวจ​และนักข่าวมาบ้านคุณหญิง​เลขา ​แจ้ง​ความข้อหา​ทำร้ายร่างกาย ​เพื่อหวัง​ให้ชื่อ​เสียงคุณหญิง​เลขา​เสียหาย ​ซึ่ง​ก็​ได้ผล วันรุ่งขึ้นวงสังคม​และหนังสือพิมพ์ซุบซิบ​เรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน คุณหญิงอับอายมากจน​ถึงขั้นช็อคต้อง​เข้า​โรงพยาบาล​และยื่นข้อ​เสนอขอหย่ากับนายพลพัฒน์ ​เยาวลักษณ์สะ​ใจมาก​เมื่อทุกอย่าง​เป็น​ไปอย่างที่วาง​แผน

คุณหญิง​เลขามี​เพื่อนสนิทอีกคน คือ สุดจิตต์ ​เป็น​เจ้าของ​ไร่ อยู่ที่ อ.ลับ​แล อุตรดิตถ์ สุดจิตต์มา​เยี่ยม​ไข้​และชวนคุณหญิง​ไปพักผ่อน​เพื่อสงบจิต​ใจ ภูมิพงษ์​เห็นดีด้วย​และถือ​โอกาสบอกว่าตัว​เองสอบ​ได้ปลัดอำ​เภอ​และจะ​ไปบรรจุที่นั้น​เช่นกัน

วัน​เดินทางมา​ถึง ภูมิพงษ์ตัดสิน​ใจ​ให้คุณหญิง​เดินทางด้วยรถ​ไฟ ​เพื่อ​เป็น​การ​เปลี่ยนบรรยากาศ ​แต่​ก็ต้องตก​ใจ ​เมื่อ​เห็นรสสุคนธ์อยู่​ในขบวนด้วย ภูมิพงษ์​เพิ่งรู้ว่า รสสุคนธ์กำลังจะ​ไป​เป็นครูที่อำ​เภอ​เดียวกับ​เค้า ​จึงตัดสิน​ใจอย่าง​เด็ดขาดว่าต่อ​ไปนี้จะ​แก้​แค้น​เยาวลักษณ์​และรสสุคนธ์​ให้รู้จัก​ความอับอาย​และ​เจ็บปวดบ้าง ! ภูมิพงษ์​แอบข​โมยกระ​เป๋าของรสสุคนธ์ รสสุคนธ์ตก​ใจมากที่กระ​เป๋าหาย​ไป​เพราะข้าง​ในมี​เงินที่​เยาวลักษณ์ฝากมา​ให้มารดา​เพื่อ​ใช้หนี้​และหนังสือรายงานตัว ภูมิพงษ์​ได้ที ​จึงต่อรอง​ให้รสสุคนธ์มา​เอากระ​เป๋าที่กระท่อมท้าย​ไร่​และปล้ำจูบรสสุคนธ์ ​แต่รสสุคนธ์ คว้ากระถางตีหัวภูมิพงษ์จนบาด​เจ็บ รสสุคนธ์ตก​ใจมาก พาภูมิพงษ์​ไปหาหมอที่สถานีอนามัย ​จึง​ได้พบกับหมอวุฒิ หมอสูติที่​เพิ่งย้ายมาประจำที่อุตรดิตถ์ หมอวุฒิดี​ใจมากที่พบภูมิพงษ์​เพราะ​ทั้งสอง​เป็น​เพื่อนกัน จากนั้นภูมิพงษ์​ก็​เปลี่ยน​แผน​ใหม่ ​โดย​ทำ​เป็นหลงรัก​และคอยตามจีบรสสุคนธ์ด้วย​ความจริง​ใจ ​แต่รสสุคนธ์พยายาม​ใจ​แข็ง​ไม่​เล่นด้วย ภูมิพงษ์​จึง​แสร้งหาย​ไปจากบ้านพัก ​โดยทิ้งจดหมาย​เล่าว่าตน​เป็นมะ​เร็ง​ในสมองขั้นสุดท้าย ​แต่​ไม่มี​ใครรู้ ​เมื่อถูกรสสุคนธ์ตีหัว​โรค​จึงกำ​เริบ รสสุคนธ์หลงกลตามภูมิพงษ์ ​ไป​ถึงกระท่อมชิง​เขา ​และที่นั่น รสสุคนธ์​ก็ตก​เป็นของภูมิพงษ์

ฝ่ายดาด้า​แฟนสาวภูมิพงษ์​เมื่อ​เห็น​แฟนหนุ่มขาด​การติดต่อ​ก็ตัดสิน​ใจ​เดินทางมาอยู่​เฝ้าภูมิพงษ์ ประจวบกับที่รสสุคนธ์ตั้งท้อง​และต้อง​การบอกภูมิพงษ์ ​แต่​ก็​เห็นภาพบาดตาระหว่างภูมิพงษ์กับดาดา​เสียก่อน ​จึงตัดสิน​ใจ​ไม่บอก รสสุคนธ์​เริ่มมีอา​การ​แพ้ท้อง ​เป็นลมบ่อยๆ ​เรื่อง​การตั้งท้องของรสสุคนธ์​แพร่​ไปทั่ว​เมือง ภูมิพงษ์พยายามคาดคั้นรสสุคนธ์ว่า ​เด็ก​ในท้อง​เป็นลูก​เขา​หรือ​ไม่ ​แต่รสสุคนธ์ยืนยันว่า​ไม่​ใช่ ดาด้าสัง​เกต​เห็นท่าที​เฉยชาของภูมิพงษ์​จึงรีบชวนภูมิพงษ์​ไป​เรียนต่อ จังหวะ​เดียวกันกับที่สุพล มา​เยี่ยมรสสุคนธ์​และรับรู้​ถึงปัญหา ​เขาตัดสิน​ใจรับ​เป็นพ่อ​เด็ก​ในท้อง​ให้รสสุคนธ์ ​ทำ​ให้ภูมิพงษ์ตัดสิน​ใจ​ไปต่างประ​เทศกับดาด้า วัน​แต่งงานสุพลกับรสสุคนธ์สุพล​โดน​เรียกตัวกลับกรุง​เทพกะทันหัน ระหว่างทาง​เกิดอุบัติ​เหตุรถคว่ำตาย​ในคืนนั้น​เอง รสสุคนธ์คลอดลูกออกมา​เป็นลูก​แฝดชายหญิง ชื่อ หนูนากับปลากัด รสสุคนธ์กัดฟัน​เลี้ยงครอบครัว​เพียงลำพังด้วย​ความลำบากกับ​เงิน​เดือนครู​เพียงน้อยนิด ​โชคดีที่​ได้หมอวุฒิ คอยช่วย​เหลือ ​เพราะหมอ​เอง​ก็​เริ่มรู้สึกรักรสสุคนธ์

​เยาวลักษณ์จับ​ได้ว่านายพลพัฒน์มี​เมียน้อยคน​ใหม่อีกคนที่สาวกว่าตัว​เอง นายพล​ก็ยัง​ไม่ยอมหย่ากับคุณหญิง​เลขา ​เยาวลักษณ์บุก​ไปตบ​เมียน้อยคน​ใหม่​ถึงบ้าน ​เยาวลักษณ์ยิงนายพลพัฒน์ จนบาด​เจ็บ ​และหนีหาย​ไป

5 ปีผ่าน​ไป ……. ภูมิพงษ์​แต่งงานกับดาด้า​แต่ยัง​ไม่มีลูก​เพราะดาด้า​ไม่สามารถมีลูก​ได้ ภูมิพงษ์กลับมา​เมือง​ไทย ​ไป​เยี่ยมสุดจิตต์ที่​ไร่ ​ทำ​ให้​เจอกับ​เด็ก​แฝดหนูนากับปลากัด ที่มักจะมา​เล่นที่​ไร่ของสุดจิตต์บ่อย ๆ สุดจิตต์​เอง​ก็​เอ็นดู​เด็ก​ทั้งสองมาก ​เพราะรู้จากสนคนงาน​ใน​ไร่ว่าภูมิพงษ์​เคย​แอบนัดพบรสสุคนธ์ที่กระท่อมท้าย​ไร่ สงสัยว่า​เด็ก​ทั้งสองน่าจะ​เป็นลูกของภูมิพงษ์ ภูมิพงษ์รู้สึกถูกชะตากับหนูนา​และปลากัดมากจน​เริ่มสงสัยว่า​เด็กจะ​เป็นลูกของตน ส่วนรสสุคนธ์ยัง​เจ็บปวดกับสิ่งที่ภูมิพงษ์​ทำ​จึงหนีห่างอยู่​เสมอ​และสั่งห้ามลูก​ไม่​ให้​เข้า​ใกล้ภูมิพงษ์อีก ​ถึงอย่างนั้นภูมิพงษ์​ก็ยังพยายาม​เข้ามา​ใกล้ชิดกับรสสุคนธ์​และ​เด็ก​ทั้งสองอยู่​เสมอ

รสสุคนธ์​เกิดปวดท้องอย่างกะทันหัน ​แม่​และยาย​ไม่อยู่บ้าน หนูนากับปลากัด​จึง​ไปตามภูมิพงษ์มาช่วยพารสสุคนธ์​ไป​โรงพยาบาล ปรากฎว่า​เป็น​ไส้ติ่งอัก​เสบ ภูมิพงษ์​เฝ้ารสสุคนธ์​ทั้งคืน ดาด้า​โกรธมากตามมาต่อว่าที่​โรงพยาบาล รสสุคนธ์​โม​โห​จึงออกจาก​โรงพยาบาลกลับบ้าน​ทั้งที่ยัง​ไม่หายดี ภูมิพงษ์ยิ่ง​แสดง​ความ​เป็นห่วงรสสุคนธ์จนออกนอกหน้า ดาด้าทน​ไม่​ไหว​เค้นถามภูมิพงษ์​เรื่อง​ความสัมพันธ์กับรสสุคนธ์ ภูมิพงษ์สารภาพว่า​เคยมีอะ​ไรกับรสสุคนธ์จริง​และสงสัยว่า​เด็กสองคนจะ​เป็นลูกของ​เขา ดาด้าช็อค หมอวุฒิ ตัดสิน​ใจบอกวัน​เวลาที่ รสสุคนธ์คลอด​ทำ​ให้ภูมิพงษ์ข​โมยตัว​เด็ก​ทั้งสอง​ไปตรวจดี​เอน​เอที่กรุง​เทพฯ ​และกำชับ​ไม่​ให้​เด็กบอกรสสุคนธ์ ผลออกมาว่าภูมิพงษ์​เป็นพ่อ​เด็ก ภูมิพงษ์รีบกลับ​ไปบอก​ความจริง​ให้คุณหญิง​เลขารู้ คุณหญิงตื่น​เต้นมากที่มีหลาน ​แต่​ก็ยัง​แค้นรสสุคนธ์อยู่ ​จึง​แนะนำ​ให้ดาด้าขอซื้อปลากัด​และหนูนา ​แต่รสสุคนธ์​ไม่ยอม ดาด้าขู่ว่าจะฟ้องศาล​เพราะศาลย่อมต้อง​ให้​เด็กอยู่กับพ่อ​เพราะ​แม่อย่างรสสุคนธ์​ไม่มีปัญญา​เลี้ยงดูลูก​ให้​การศึกษาที่ดี​ได้ รสสุคนธ์ตัดสิน​ใจพา ปลากัด ​และหนูนาหนี​ไป

ภูมิพงษ์คลั่ง​เมื่อลูก​และ​เมียหาย​ไป ​เที่ยวออกตามหากับหมอวุฒิ จน​ในที่สุด​ก็สืบรู้ว่ารสสุคนธ์พาลูกหนีมาอยู่กับสุทธิดาที่กรุง​เทพ ดาด้า​โกรธมากที่ภูมิพงษ์​ไม่ยอม​เลิกยุ่งกับรสสุคนธ์​และลูก​เสียที ​จึงจ้าง​ให้คนจับตัวหนูนากับปลากัด​ให้​แ​ก็งค์ค้า​เด็ก ​เหตุ​การณ์​ทั้งหมด​ทำ​ให้ภูมิพงษ์สงสารรสสุคนธ์ยิ่งขึ้น สองคนช่วยกันออกตามหาลูกทุกทาง ภูมิพงษ์​ให้​เพื่อนที่​เป็นตำรวจช่วยอีก​แรง

​เยาวลักษณ์หลังจากหนีคดี ​ก็​ได้​เปลี่ยนชื่อ​เป็น​เจ๊​เยาว์ ​ทำงานค้า​ทั้ง​ผู้หญิง​และ​เด็กหนูนากับปลากัดถูกพามาขายต่อ​ให้​เยาวลักษณ์ ​เด็ก​ทั้งสองบอกว่าตน​เป็นลูกรสสุคนธ์ ​เยาวลักษณ์ตะลึงที่พบหลานอย่าง​ไม่คาดฝัน ​จึงตัดสิน​ใจพาหลานกลับ​ไปส่ง ​แต่​ก็ถูกมา​เฟียที่ร่วม​แ​ก็งค์ขัดขวาง​ไล่ล่า ​แต่​ในที่สุด​เยาวลักษณ์​ก็พาหลานมา​ถึงมือตำรวจ ก่อนสิ้น​ใจ​เยาวลักษณ์​ได้บอกกับตำรวจว่าดาด้า​เป็นคน​เอา​เด็ก​ทั้งสองมาขาย ดาด้า​เข้าตาจน จับตัวรสสุคนธ์​แล้วหนีตำรวจ​ไป ​แต่​ก็​ไม่รอด ดาด้า​โดนตำรวจจับ ถูกพิพากษาจำคุก

รสสุคนธ์​และภูมิพงษ์ ​เพิ่งรู้ว่าหัว​ใจของตัว​เอง​ได้​แปร​เปลี่ยนจากศัตรูคู่​แค้น​เป็น​ความรัก​ไป​แล้ว …ภูมิพงษ์ขอรสสุคนธ์​แต่งงานอีกครั้ง ​เขาพารสสุคนธ์​และหลาน​ไปกราบนายพลพัฒน์ที่กลาย​เป็นชายชราที่มี​แต่​โรครุม​เร้า ด้วย​ความน่ารักของหลานย่า ​ทำ​ให้คุณหญิง​เลขา​ใจอ่อนตัดสิน​ใจ​ให้อภัยรสสุคนธ์​และ สามี ครอบครัวของภูมิพงษ์ กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง

แว่วเสียงซึง

เนตรดาว สาวน้อยชาวเหนือเติบโตมากับ แม่เฒ่าบุญ ผู้เป็นยาย รู้เพียงแต่ว่าแม่ของเธอชื่อ คำฟ้า กระโดดหน้าผาวังบัวบานตายเพราะถูกผู้ชายเมืองกรุงหลอก เนตรดาวได้พบกับ ภาคภูมิ หลานของ พ่อหลง มาเที่ยวในหมู่บ้านและได้รู้ว่าภาคภูมิเป็นลูกของ บัวโรย เพื่อนสนิทของคำฟ้า ภาคภูมิและเนตรดาวได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านจากการถูกกดราคาซื้อเครื่อง เรือนไม้ ทำให้มีเรื่องกับ เฉลิมชัย พ่อค้าคนกลางที่วางตัวเป็นผู้มีอำนาจในหมู่บ้าน เมื่อเฉลิมชัยเห็นเนตรดาวก็หลุดปากเรียกเนตรดาวว่าคำฟ้า ทำให้เนตรดาวเกิดความสงสัยว่าเฉลิมชัยเกี่ยวข้องกับตัวเองและแม่อย่างไร แม่เฒ่าบุญป่วยภาคภูมิจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่เนตรดาวปฏิเสธเพราะเกรงสายตาคนในหมู่บ้าน และแสดงท่าทีเมินเฉยจนภาคภูมิถอดใจกลับกรุงเทพฯ โดยก่อนไปแอบถ่ายรูปเนตรดาวไปด้วย ภาคภูมินำรูปเครื่องเรือนไม้มาให้ การุณ เจ้าของโรงงานเฟอนิเจอร์ดูเพราะอยากให้รับซื้อจากชาวบ้านมาขาย การุณเห็นภาพเนตรดาวถึงกับตะลึง การุณให้พาไปหาเนตรดาวทันทีทำให้ คมคาย ภรรยาสงสัยอย่างมาก การุณแสดงตัวเป็นพ่อของเนตรดาวแต่เนตรดาวไม่ยอมรับ แม่เฒ่าบุญจึงเล่าให้เนตรดาวฟังว่าการุณพาคำฟ้าหนีจากการถูกบังคับให้แต่ง งานกับเฉลิมชัยไปอยู่กรุงเทพฯ แต่คำฟ้าก็อุ้มท้องกลับมาอย่งคนชอกช้ำและไปคลอดลูกที่หน้าผาวังบัวบาน เมื่อแรกเกิดนั้นเนตรดาวไม่ยอมกินนมของคำฟ้า และจากสายตาของชาวบ้านที่มองอย่างเหยียดหยามทำให้คำฟ้าเป็นคนอ่อนแอ เมื่อถึงวันพระคำฟ้าจึงนำลูกไปติดกัณฑ์เทศน์ที่วัดก่อนจะไปกระโดดหน้าผาวัง บัวบาน เนตรดาวไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากการุณ จนกระทั่งแม่เฒ่าบุญตายเนตรดาวไร้ที่พึ่ง และด้วยความเป็นคนที่รักความก้าวหน้าเนตรดาวจึงมาอยู่กับการุณเพื่อเรียน หนังสือ สร้างความไม่พอใจให้กับคมคายและลูกสาวทั้งสองคือ พักตร์สินี และศิริยุพา นอกจากเนตรดาวต้องต่อสู้กับสามแม่ลูกอย่างหนักแล้ว ยังต้องคอยรบรากับ มะลิ สาวใช้ ภาคภูมิพาเนตรดาวไปพบกับบัวโรยและ ยายผ่องศิริ ญาติผู้ใหญ่ บัวโรยรู้สึกเอ็นดูเนตรดาวแต่ผ่องศิริเมื่อรู้ว่าเนตรดาวเป็นลูกของคำฟ้า ก็คิดว่าเนตรดาวจะใจง่ายเหมือนแม่จึงเกลียดเนตรดาว ศิริยุพาและพักตร์สินีวางแผนแกล้งเนตรดาวแต่ สุริยนต์ มารับเคราะห์แทน การพบกันครั้งนี้ทำให้เขาสนใจเนตรดาวทันที ศิริยุพาเอากระเป๋าสตางค์ไปวางในห้องเนตรดาวทำเป็นว่าเนตรดาวขโมยไป การุณคิดว่าเนตรดาวขโมยไปจริงจึงต่อว่าเนตรดาว เนตรดาวผิดหวังในตัวพ่อคิดหารายได้พิเศษมาส่งตัวเองเรียน ด้วยการไปเล่นซึงในโรงแรมของสุริยนต์ เฉลิมชัยรื้อฟื้นความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคมคาย เนตรดาวเข้ามาเห็นคมคายกลัวเนตรดาวจะเอาไปบอกการุณ จึงให้เฉลิมชัยจับตัวเนตรดาวเข้าโรงแรมม่านรูด แต่ภาคภูมิเข้าไปช่วยได้ทันการุณชวนภาคภูมิเข้ามาช่วยงานในบริษัท ทำให้ได้พบกับ มาลินี เลขาฯ ของการุณที่พยายามทอดสะพานให้ภาคภูมิ การุณมาดูเนตรดาวเล่นซึงที่โรงแรมจึงเห็นคมคายและเฉลิมชัยเข้าโรงแรมด้วยกัน การุณเสียใจมากแต่แล้วเหตุการณ์ก็ประดังเข้ามาที่การุณอีกครั้ง เมื่อเรือสินค้าเกิดระเบิดการุณเครียดจนช็อกเป็นอัมพาตคมคายฉวยโอกาสแกล้ง ไม่ให้เนตรดาวเรียน แต่เนตรดาวไม่ยอมแพ้หาเงินเรียนเอง พักตร์สินีและศิริยุพาไม่ยอมแพ้ทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเนตรดาว จนในที่สุดเนตรดาวก็ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย ความตึงเครียดถึงขีดสุดเมื่อคมคายโกรธที่การุณเข้าข้างเนตรดาว จึงทำร้ายการุณและไล่การุณและเนตรดาวออกจากบ้าน ภาคภูมิจึงให้ไปอยู่บ้านอีกหลังของเขา หลังจากไล่การุณและเนตรดาวไปแล้วคมคายคิดจะให้เฉลิมชัยเข้าไปบริหารงานแทนกา รุณ แต่ภาคภูมิขัดขวางโดยอ้างสิทธิ์ผู้ดูแลโรงงานตามคำสั่งของการุณ ความใกล้ชิดทำให้เนตรดาวเริ่มมีใจให้ภาคภูมิ ทำให้พักตร์สินีโกรธให้ภาคภูมิเลือกใครคนหนึ่ง ภาคภูมิจึงบอกว่าเขาคิดกับพักตร์สินีแค่น้องสาว พักตร์สินีแก้แค้นด้วยการเข้ามาในโรงงานและเผาซึงของเนตรดาว แต่ไฟลุกลามไหม้โรงงานบางส่วนคมคายติดอยู่ข้างใน เนตรดาวเอาชีวิตเข้าเสี่ยงช่วยจนปลอดภัย ภาคภูมิซื้อใจเนตรดาวอีกครั้งด้วยการฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปเอาซึงของเนตรดาวออก มาได้ ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จนเนตรดาวเรียนจบและเข้ามาบริหารโรงงานโดยมีภาคภูมิเป็นผู้ช่วย ในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เรื่องราวมิได้จบลงแค่นั้นเพราะยังมีอุปสรรคและการพลัดพรากที่เฝ้ารอขัด ขวางทางเดินแห่งรักของคนทั้งคู่ เนตรดาวจะมีชะตากรรมเหมือนแม่หรือไม่ และเสียงซึงจะสร้างปาฏิหาริย์อย่งไร ติดตามเอาใจช่วยเนตรดาวได้ในละคร แว่วเสียงซึง

รายชื่อนักแสดง แว่วเสียงซึง
ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับบท ภาคภูมิ
จีรนันท์ มะโนแจ่ม รับบท เนตรดาว / คำฟ้า
ณัฐพงษ์ ศิริสวัสดิ์ รับบท สุริยนต์
พิชชา อาภากาศ รับบท ศิริยุพา
พิมพ์พร จงอุทัยไพศาล รับบท มาลินี
นงนภัส พาศิรายุธ รับบท พักตร์สินี
เกรียงไกร อุณหะนันทน์ รับบท การุณ
ธีระพงษ์ เหลียวรักวงศ์ รับบท เฉลิมชัย
สุรัตนา ข้องตระกูล รับบท คมคาย

ลุย

ลุย หล่มสัก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เป็นเด็กกำพร้าเติบโตที่หล่มสักโดยมีพระอาจารย์รูปหนึ่งเลี้ยงดู ชีวิตเด็กวัดของลุยผกผันเมื่อผู้มีอิทธิพลในทางนักเลงถูกชะตาจึงขอไปเลี้ยง พระอาจารย์กำชับกับผู้มีอิทธิพลท่านนั้นว่า…ดวงลุยความตายขึ้นอยู่ในมือ เต็มพรืดไปหมด อบรมให้ดีก็จะดี แต่ถ้าร้ายจะร้ายยิ่งกว่ามหาโจร แต่ดูเหมือนว่าการจะอยู่ในเส้นทางชีวิตคนดีของลุยนั้นยากยิ่ง เพราะพ่อบุญธรรมของเขาทำงานให้กับองค์การลับซึ่งทำงานผิดกฏหมาย ลุยเติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมของอาชญากร…

หลายปีผ่านไป ลุยกลายเป็นหนุ่มรูปร่างบึกบึนแข็งแรงสมชายชาตรี เมื่ออายุ 21 ปีแข่งขันชกมวยชิงรางวัล แรงพลังของเขาทำให้คู่ชกบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนในแถบนั้นต่างพากันโจษจันชื่อ ลุย หล่มสัก

ลุย มีคนรักชื่อ ไทรงาม (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เป็นลูกสาวร้านขายอาหารในตลาด แต่เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงเลื่อย ลุยบุกเข้าไปฉุดเจ้าสาวหนีในวันแต่งไปใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ความรักของลุยที่มีให้ไทรงามไม่เคยจืดจาง มีเพียงเรื่องงานเท่านั้นที่เขาขอร้องไม่ให้หญิงสาวก้าวก่าย ไทรงามไม่เคยรู้ว่าลุยทำงานอะไร รู้แต่เพียงว่าลุยทำงานให้กับพ่อผู้มีพระคุณ และการทำงานแต่ละครั้ง ลุยได้เงินกลับมาทีคราวละมากๆ

วันหนึ่งเกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อพ่อของ ลุยถูกหักหลังถูกกลุ่มโจรฆ่าตาย ความแค้นทำให้ลุยเกรี้ยวกราด ลุยบุกเผาทำลายล้างพวกกลุ่มโจรที่ฆ่าพ่อจนราบคาบ แล้วพาไทรงามอพยพไปอยู่กับ กริช ลมกรด (อนุสรณ์ เตชะปัญญา) นายใหญ่ของพ่อ

กริช ลมกรด เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งองค์การที่พ่อเขาเคยทำงานให้ ทำเรื่องผิดกฏหมายทั้งค้าอาวุธเถื่อน สินค้าเถื่อนทุกชนิด รวมถึงของหนีภาษี ยาเสพติด ที่สำคัญ องค์การนี้รับจ้างฆ่าคน !

กริชชอบใจในฝีมือยิงปืนของลุยที่แม่นราวจับวาง ตำแหน่งของลุยเมื่อมาอยู่กับกริชจึงเป็น “มือปกาสิต” ซึ่งก็คือ “มือปืนอาชีพ” นั่นเอง

องค์การ ยังมีผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า (ทองขาว ภัทรโชคชัย) , เทียว สิบทิศ (เบคิม ฤทธิ์), ศักดา ปาฏิหาริย์ (ประกาศิต โบสุวรรณ) , และ ปกาศิต จอมพลัง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) จอมบงการหัวหน้าใหญ่

ลุยทำงานให้ กับองค์การอย่างดีเสมอมา ที่องค์การลุยมีโอกาสพบกับ สร้อยคีรี (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) อดีต คนรักเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นถึงกลุ่มผู้นำหญิงคนหนึ่ง ความรักในอดีตไม่สมหวังเพราะลุยรู้สึกตัวด้อยค่าจึงปล่อยให้สร้อยคีรีชอบพอ กับเพื่อนรักอีกคนหนึ่งของเขา ทันทีที่พบหน้ากันลุยกับสร้อยคีรีตระหนักว่ายังคงมีความรักและผูกพันระหว่าง กันเพียงใด สร้อยคีรีแอบช่วยเหลือลุยในหลายเรื่อง ไทรงามเองก็สังเกตเห็นและนึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เพราะเคยรู้ว่าสองคนนี้รักกันมากเพียงใด หากแต่ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ลุยกับสร้อยคีรีจึงตกลงจะเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

ผลงานและ ความจงรักภักดีของลุยต่อองค์การนับว่าน่าพอใจ แต่เมื่อลุยได้รู้ว่าไทรงามตั้งท้อง เขาเริ่มคิดอยากกลับตัวเป็นคนดีอยากถอนตัว ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้า ทอม (ด.ช.เขมะ วิถี) ลูกชายสุดที่รัก ลุยก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องการวางมือจากอาชีพนี้โดยเร็ว แต่เขาก็ถูกนายทั้งหลายต่อรองเรื่อยมา พร้อมๆ กับสร้อยคีรีเองก็เฝ้าเตือนเขาไม่ให้แสดงตัวว่าจะทำตัวออกห่างองค์การนัก เพราะเธอรู้ว่าลุยจะต้องได้รับอันตรายแน่นอน

จนทอมอายุได้ 5 ขวบ ลุยมีโอกาสช่วยเหลือ แวววัลย์ (แพร เอมเมอรี่) เด็กสาววัยรุ่นกำพร้าใจแตกจากเงื้อมือของอันธพาล แวววัลย์มีอดีตที่ไม่น่าจดจำ พ่อแม่ของเธอแยกทางกัน แม่หนีไปกับชู้หนุ่มคนใหม่ ส่วนพ่อถูกฆ่าตายจากการเข้าสู่วงการเมืองได้ไม่นาน แวววัลย์หลงรักลุยและชื่นชมมากเข้ามาเป็นเพื่อนเล่นกับ ทอม อยู่บ่อยๆ

ตอน แรกลุยไม่สบายใจที่แวววัลย์เข้ามาสนิทสนมเพราะกลัวไทรงามไม่สบายใจ แต่เมื่อทราบถึงอดีตของแวววัลย์ ลุยถึงกับต้องผงะ เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วแวววัลย์เป็นบุตรสาวของเหยื่อกระสุนของเขาในอดีตใน ยุคแรกๆ ที่เริ่มทำงานให้กับองค์กร ทำให้ลุยรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นเมตตาแวววัลย์เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งแวววัลย์เข้าใจดีและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ เธอเข้ามาอยู่เป็นเหมือนคนในครอบครัวของลุย เป็นพี่สาวของทอม

ลุยไม่ อยากขัดแย้งกับนายใหญ่ขององค์การ เขาจำต้องยอมรับงานฆ่านักการเมืองทุจริตคนหนึ่งจากองค์การ แต่งานนี้เองที่ลุยต้องเสียใจมากที่สุด เพราะเขาพลั้งมือลั่นกระสุนใส่เด็กสาวคนหนึ่งที่นักการเมืองคนนี้แอบล่อลวง มาจากผับ และทันทีที่พลิกร่างเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา กลับกลายเป็น แวววัลย์ ที่เผลอเข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุโดยไม่รู้ตัว !

ลุยแทบคลั่งด้วยความ เสียใจ…เขาไม่ตั้งใจจะดับชีวิตเด็กสาวคนที่ตัวเองฆ่า พ่อเธอเลย ลุยรู้สึกผิดในใจอย่างมาก เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะวางมือโดยเด็ดขาด เขาทำจดหมายแจ้งองค์การว่าต้องการลาออกและสัญญาว่าจะเก็บรักษาความลับ ทุกอย่างขององค์การไว้ แต่กริชไม่สนับสนุนการตัดสินใจของลุยเพราะรู้ดีว่าองค์การไม่เคยปล่อยให้ใคร เลิกอาชีพนี้ การออกจากองค์การทำได้เพียงสถานเดียวคือ..จบชีวิต !

กริช กับ เดือน แรมกล้า (ดนัย สมุทรโคจร) เพื่อนรักของลุยและ สร้อยคีรี พยายามคัดค้าน แต่ลุยตัดสินใจแน่วแน่ เขาพาเมียและลูกหนีไปประจวบเพื่อสร้างชีวิตใหม่ด้วยกัน โดยความช่วยเหลือของ สร้อยคีรี ที่หลอกล่อจนเหล่าเจ้านายขององค์การตายใจ ปล่อยให้ลุยหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

เมื่อลุยหนีไป ปกาศิต จอมพลัง สั่งให้ลูกน้องในองค์การออกล่าตัวพร้อมๆ กับจับตัวเดือนเพื่อนรักของลุยมาเพราะเชื่อว่าเดือนรู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ ไหน เดือนถูกซ้อมอาการสาหัสแต่เพราะความรักเพื่อนทำให้เดือนยอมทนเจ็บปิดปาก เงียบ ปกาศิตโกรธมากจะเล่นงานเดือนถึงตาย แต่ลูกน้องคนหนึ่งของปกาศิตบังเอิญคุยกับบอย (ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ — ตอนเด็ก / พลูภัทร อัตถปัญญาพล – ตอนโต) แล้วได้ข้อมูลว่า คนที่มารับทอมลูกของลุยคือ ไทรงาม และ ย้อย ศรีไทย เดือนจึงถูกปล่อยตัว และเป้าหมายของปกาศิตเปลี่ยนเป็นย้อยทันที

ย้อยเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ ลุยไว้ใจ เขากับเดือนเป็นเพียง 2 คนที่รู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ไหน เงินจากองค์การไม่สามารถทำให้ย้อยพูดถึงลุยได้ การใช้กำลังก็ไม่ได้ผล แต่การขู่ฆ่าเมียรักทำให้ย้อยจำต้องสารภาพหมดเปลือก !

แคล้ว ถูกส่งไปเก็บลุยที่ประจวบฯ แต่ด้วยฝีมือของลุยที่เหนือชั้นกว่าทำให้เขารอดและแคล้วกลายเป็นศพเสียเอง ก่อนตายลุยเค้นความจริงจากแคล้วแล้วก็ต้องแค้นใจอย่างมากเมื่อแคล้วกลับ สารภาพว่าคนที่บอกที่อยู่ของลุยคือ เดือน แรมกล้า เพื่อนรักของเขา !

ความ จริงผิดๆ ที่แคล้วพูดส่งเดชทำให้ลุยคิดว่าเดือนเป็นเพื่อนทรยศ ลุยรีบพาลูกเมียหนีไปชุมพร และวันรุ่งขึ้นก็ขึ้นเหนือเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยเพื่อให้องค์การไขว้เขว ชีวิตสงบสุขอย่างที่ลุยต้องการดูจะไกลห่างเสียแล้ว

ปกาศิตหงุดหงิดใจ อย่างมากที่ลุยรอดไปได้ เขาสั่งให้กริชไปจัดการลุยด้วยตัวเอง แต่กริชไม่ทำตาม ปกาศิตโกรธมาก ถ้าไม่ติดเรื่องผลประโยชน์ที่ต้องพึ่งพากันปกาศิตคงฆ่ากริชไปแล้ว

แต่เมื่อทำไม่ได้ ปกาศิตจึงเปลี่ยนเป็นเนรเทศกริชไปประจำการสาขาองค์การที่ฮ่องกงแทน

ก่อน ไปต่างประเทศกริชชวนเดือนไปตามหาลุยเพื่อจะเตือนเขา บอยคิดถึงทอมจึงขอตามพ่อไปด้วย กลุ่มของกริชคลาดกับลุยไปนิดเดียว คนที่ตามลุยเจอกลับเป็นคนของ เทียว สิบทิศ !

เทียวให้คนตามกริชมา ตั้งแต่กรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่ากริชต้องรู้ที่ซ่อนของลุย แม้กลุ่มของกริชจะคลาดกับลุย แต่ลูกน้องของเทียวปะทะกับลุยแบบเต็มๆ อดีตมือสังหารอย่างลุยเป็นฝ่ายชนะ ลุยตัดสินใจว่าเมื่อภาคใต้ไม่ปลอดภัย เขาจะย้ายไปทางเหนือแทน…

ลุยพาครอบครัวมาลงหลักปักฐานที่จอมบึง ราชบุรี โดยความช่วยเหลือจาก บุปผา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) กำนันหญิงกร้าว…เพื่อนเรียนของไทรงาม บุปผาช่วยเหลือทั้งเรื่องที่อยู่และที่ทางทำมาหากินให้กับทั้งคู่ หลายเดือนแล้วที่ไม่มีคนขององค์การมาตามล่า พวกเขาอยู่กันอย่างสุขใจ ลุยทำไร่ทำสวน เลี้ยงม้า ทำตัวเป็นชาวไร่เพื่อไม่ให้ชีวิตว่างโดยเปล่าประโยชน์

แต่เมื่อ อันตรายจากองค์การทุเลาเบาบางไป ชีวิตลุยกลับหนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิงเข้ามาผูกพัน ด้วยความแข็งแกร่งเกินหญิงของกำนันบุปผา ทำให้เธอเริ่มระหองระแหงกับ อัสนี (ภาณุ สุวรรณโณ) หนุ่มชาวบ้านที่ชอบพอกันมานานแล้ว อัสนีเป็นเหมือนหนุ่มที่ชีวิตพบแต่ความล้มเหลว ซึ่งต่างจากแฟนสาวโดยสิ้นเชิง ลุยเห็นปัญหานี้จึงพยายามช่วยเหลือให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน แต่กาลกลับทำให้อัสนีเข้าใจผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับลุยอย่างเปิดเผย…แม้บุปผาจะอธิบายยังไงอัสนีก็ไม่ฟัง

ครอบ ครัวลุยมีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 คนคือ ประดู่ (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) เด็กสาวกำพร้าที่มาอ้อนวอนขออยู่ด้วย ประดู่พูดได้แต่ไม่มีเสียงฟังทุกอย่างเข้าใจ เด็กสาวขยันช่วยเหลืองานบ้านงานเรือนทุกอย่าง และเป็นเพื่อนเล่นกับทอมได้เป็นอย่างดี

ลุยบริจาคเงินจำนวนหนึ่ง สร้างวัด โรงเรียน โรงพักตำรวจฯ และบริจาคให้การกุศลมากมาย ไทรงามรู้ดีว่าลุยต้องการสร้างกุศลเพื่อทดแทนความเลวร้ายที่เคยทำมา สร้างความประทับใจให้กับกำนันบุปผาเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันก็สร้างความไม่พอใจให้กับอัสนีด้วยเช่นกัน

ความใจบุญ ทำให้ลุยเป็นที่รักของทุกคนละแวกนั้น เขาได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อจอมบึง นักบุญปืนไว” เพราะครั้งหนึ่งลุยไปช่วยกำนันบุปผาและตำรวจปราบโจรกระเหรี่ยง ที่บุกเข้ายึดโรงพัก แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ชีวิตของลุยพลิกผันเพราะอัสนีแอบถ่ายภาพไปลงข่าว หนังสือพิมพ์ ! เพราะเริ่มสงสัยว่าลุยกำลังปิดปังสถานะที่แท้จริงกับใครบางคนอยู่ !

เช้า วันหนึ่งไทรงามจะไปส่งทอมที่โรงเรียนเพราะลุยป่วยเป็นไข้ แต่เมื่อไทรงามสตาร์ทรถเกิดเสียงระเบิดบึ้ม ! ไฟลุกท่วมรถ ! ลุยสะท้านไปทั้งร่างเมื่อเห็นบุคคลที่รักตายไปต่อหน้าต่อตา ลุยไม่โวยวาย เสียงเขาแหบหายมีเพียงน้ำตาเท่านั้นหลั่งออกมา

ประดู่เข้าใจความ รู้สึกของลุยดี ครั้งหนึ่งเธอเคยเสียใจอย่างเขามาแล้ว…ประดู่เป็นกำพร้าบ้านถูกโจรปล้น พ่อของเธอถูกยิง แม่และพี่ถูกเรียงคิวข่มขืนก่อนจะถูกไฟครอกตาย เพราะความสูญเสียครั้งนั้นทำให้ประดู่ร้องไห้สุดเสียง…ร้องจนเสียงหมดจน ถึงปัจจุบัน

ลุยหนีออกมาจากราชบุรีโดยไม่ร่ำลาบุปผาเลย…

ลุย เลือกแก้แค้นจองล้างจองผลาญ คนแรกที่ลุยบุกเข้าไปจัดการคือ เดือน เพื่อนรักของเขาซึ่งเชี่ยวชาญการใช้ระเบิด ลุยฆ่าเดือนโดยไม่ฟังคำอธิบายและรับบอยไปเลี้ยงเป็นลูก บอยรับรู้เพียงว่าพ่อเดือนตายด้วยน้ำมือของคนที่ฆ่าป้าไทรงามกับทอม

เมื่อหายโศกเศร้าเสียใจแล้ว บอยเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ลุยแทบล้มทั้งยืน…

เด็ก ชายเล่าว่า เทียว สิบทิศ มาหาเดือนเพื่อบังคับให้ไปจัดการลุย โดยให้ เด็ด (จักรกฤษณ์ คชรัตน์) ลูกน้องคนสนิทซ้อมพ่อทรมานสารพัด แต่เดือนไม่ยอมทรยศลุยเพื่อนรัก ขรรชัย อินทรีย์ (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ลูกน้องเทียวจึงอาสาทำงานแทน โดยรื้ออุปกรณ์จุดระเบิดไปจากโต๊ะเดือน

สิ่ง ที่บอยเล่าทำให้หัวใจลุยแทบหยุดเต้น เดือนไม่ได้เป็นเพื่อนเลว…แต่เขาต่างหากที่เลว ! เขาฆ่าเพื่อนรักได้ลงคอ… ลุยแค้นใจสาบานกับตัวเองว่าจะจองล้างจองผลาญคนทั้งสาม รวมทั้งผู้ยิ่งใหญ่ในองค์การทั้งหมดเพื่อเป็นการชดเชยให้ ไทรงาม ทอม และเดือน

ปฏิบัติการจองเวรของลุยเริ่มต้นขึ้น เด็ดถูกลุยส่งวิญญาณไปนรกคนแรก ตามด้วยขรรชัย ลุยเผาทั้งคู่เหมือนกับที่พวกมันทำกับไทรงามและทอม…ส่วน เทียว สิบทิศ ลุยได้ สร้อยคีรี อดีตคนรักเก่าให้ความช่วยเหลือ จึงจัดการกับเทียวได้อย่างง่ายดาย

เหลือคนที่ลุยต้องจัดการอีก 3 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า, ศักดา ปาฏิหาริย์ และปกาศิต จอมพลัง…

วัน หนึ่งลุยบังเอิญเจอกับ ปกาศิต จอมพลัง ที่ห้างสรรพสินค้าขณะพาลูกสาวไปซื้อของเล่น เขามีโอกาสฆ่าปกาศิตแต่ลุยทำไม่ลง เพราะปกาศิตกอดลูกสาวแน่น หนำซ้ำเด็กหญิงยังส่งยิ้มแสนบริสุทธิ์ให้อีกด้วย ลุยจึงปล่อยปกาศิตและไปเริ่มชีวิตใหม่ที่เกาะริมฝั่งภาคตะวันออกตามคำชวนของ สร้อยคีรี ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเหมือนคู่ชีวิตคนใหม่ของเขาไปแล้ว

อดีต สามีที่เสียชีวิตไปแล้วของสร้อยคีรีเป็นเพื่อนรักกับลุย สร้อยคีรีเป็นที่ปรึกษาพิเศษขององค์การ มีความสามารถในใช้เสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงทำงานหลายอย่างจนสัมฤทธิ์ผล สร้อยคีรีชวนลุยไปเป็นหุ้นส่วนโรงแรมบนเกาะแห่งนั้น

ลุยไปพบ ฟางแก้ว (มรกต กิตติสาระ) เจ้าแม่ผู้อิทธิพลแถบ ตะวันออกเพื่อขอพึ่งบารมี ทันทีที่เห็นหน้าลุย ฟางแก้วถึงกับพึงพอใจในความเป็นนักเลงกล้าหาญ แต่ลุยไม่มีจิตใจคิดถึงความรัก ความเศร้าภายในจิตใจยังคงตอกย้ำทำให้เขาตกอยู่ในห้วงของความเศร้าอยู่ไม่ คลาย

ฟางแก้วแสร้งทำเป็นไม่ไว้ใจลุย ยื่นข้อเสนอให้เขายอมมาเป็นมือขวาของเธอเพื่อสร้างอิทธิพลและเป็นศัตรูกับ องค์การอย่างถาวร ซึ่งความจริงแล้วเธอต้องการสนิทสนมกับลุยให้มากขึ้นกว่านี้ ซึ่งกลายเป็นประเด็นความโกลาหลในความรักระหว่าง ฟางแก้ว ลุย และ สร้อยคีรี ท่ามกลางอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้จากองค์การฯ

หลังจากประลองความ เป็นหญิงไปได้พักใหญ่ ระหว่างฟางแก้วกับสร้อยคีรีจึงยอมยุติศึกชิงนายชั่วคราว เมื่อตระหนักว่าทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกันคือองค์การ ทั้งสามคนร่วมมือกันเก็บ ศักดา ปาฏิหาริย์ ขณะมาเที่ยวที่เกาะ เพื่อให้ชีวิตสงบสุขของลุยสามารถดำเนินอยู่ได้ต่อไป !

หลังจากนั้น เป็นต้นมา…ฟางแก้วยอมหลีกทางสร้อยคีรี ลุยกับสร้อยคีรีจึงสามารถดำเนินกิจการโรงแรมได้ราบรื่น โดยมีฟางแก้วเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง แต่ยังไม่วายก่อสงครามกุหลาบแย่งชิงลุยมาเป็นคนรักระหว่างกันอยู่เนืองๆ แต่ไม่รุนแรง

สิบปีผ่านไป…เกาะแห่งนั้นเจริญมากขึ้น บ้านพักริมทะเลถูกดัดแปลงเป็นที่พักตากอากาศโก้หรู โรงแรมขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และแน่นอนว่ารีสอร์ทหรูหราที่สุดในย่านนั้น “ไข่มุกตะวันออก” เป็นของลุยและสร้อยคีรี นั่นเอง

ขณะนี้ลุยทำธุรกิจโรงแรมอย่างเต็ม ตัว ออกเดินทางรอบโลกไปกับกริชอยู่บ่อยๆ โดยยังระวังตัวจากองค์การเพราะไม่อยากมีเรื่องและเบื่อหน่ายการตามล่าชีวิต ระหว่างกันเต็มทนแล้ว

ลุยสนับสนุนบอยให้เรียนต่อการโรงแรม ปัจจุบันบอยดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่ไข่มุกรีสอร์ท รับผิดชอบบริหารรีสอร์ทแทนลุยได้อย่างเต็มตัว โดยมีผู้ช่วยสาวแสนสวยคือ ประดู่ เพื่อนสาวที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย โดยบอยไม่รู้เลยว่าด้วยความผูกพันทำให้ประดู่หลงรักบอย อย่างเต็มหัวใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้บอยมีความสุขได้

นอกจากบอยจะไม่รู้ว่าประดู่หลง รักแล้ว ยังทำเหมือนเธอเป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าน้องสาวทักทายและใกล้ชิดแบบถึงเนื้อ ถึงตัวอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้ประดู่ขัดใจมากที่สุด เห็นจะเป็นกรณีที่บอยพยายามจะยัดเยียดเธอให้เป็นแฟนกับ องศา (เขตต์ ฐานทัพ) เพื่อนนายแพทย์หนุ่มอายุเท่ากัน บุคคลิกคร่ำเคร่งเต็มไปด้วยความเชย หากแต่จิตใจเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี

ทั้งสามคนออกเที่ยวด้วยกัน บ่อยครั้ง บอยพยายามสร้างเรื่องจะทำให้ประดู่ชอบองศาให้ได้ แต่เหตุการณ์ทุกครั้งกลับทำให้บอยกับประดู่ต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนจึงดูอลเวงอยู่ไม่น้อย

เมื่อลุยออกเดินทาง ไปโปรโมทโรงแรมรอบโลก เขาสั่งเสียบอยว่าอย่าเพิ่งมีครอบครัว…ถ้าศัตรูอีก 2 คนยังไม่เลิกตามราวี เพราะลุยไม่อยากให้บอยมีชีวิตครอบครัวที่เศร้าเหมือนตัวเอง

แต่ดู เหมือนบอยจะทำในสิ่งที่ลุยเตือนไม่ได้ เขารู้สึกถูกชะตา น็อท (แซมมี่ เคาว์เวล) ลูกค้าสาวสวยของไข่มุกรีสอร์ทที่เดินทางมาพักพร้อมกับ เมธา (พีรวิชญ บุนนาค) คู่หมั้น ในตอนแรกห้องพักของรีสอร์ทเต็มหมด แต่พอบอยได้เจอน็อท เขายินดีให้เธอกับเมธาไปพักที่ห้องชุดส่วนตัว แถมลดราคาให้เป็นพิเศษ ตัวน็อทเองรู้สึกดีกับบอยตั้งแต่แรกเห็น ความสุภาพของบอยยิ่งทำให้หญิงสาวสบายใจที่จะพูดคุยด้วย

วันนั้น…บอยจึงรู้ว่าน็อทถูกพ่อบังคับให้มาเที่ยวกับคู่หมั้น คนที่เธอไม่ได้รักเลยสักนิด !

เมธา เป็นลูกชายของ ศักดา ปาฏิหาริย์ หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ขององค์การที่ตายไปแล้ว ความเป็นลูกเจ้าพ่อทำให้เมธาเป็นนักเลงชอบวางอำนาจ น็อทเบื่อเต็มทนกับการอยู่กับผู้ชายอย่างเมธา เธอยังไม่ได้มีอะไรกับเขาจึงเกลียดมากเวลาที่เขาแสดงความเป็นเจ้าของเธอออก นอกหน้า

น็อทอยากหนีไปให้ไกลๆ จึงหลอกให้เมธากลับไปกรุงเทพฯ เพื่อไปเอาของให้เธอ ส่วนเธอเองถือโอกาสนี้ไปล่องเรือเล่นกับบอย…

บอย ยินดีและเต็มใจอย่างมากที่จะพาน็อทไปเที่ยว เขาพาหญิงสาวไปยังหาดทรายแก้วเกาะส่วนตัวของลุยที่ไม่มีใครรู้จัก มนต์เสน่ห์ของทะเลสวยงามสะกดให้ทั้งคู่รักกัน ทั้งสองกลับไปที่ รีสอร์ทด้วยความสดชื่น แต่ก็ยังแฝงความกังวลใจ…บอยรู้สึกผิดที่ไปแย่งคู่หมั้นเมธา แต่เมื่อหัวใจเรียกร้อง เขาก็ยากจะต้านทาน

เมธาหัวเสียอย่างมากเมื่อ กลับมาถึงโรงแรมแล้วไม่เจอคู่หมั้น เขาหึงหวงบอยแทบบ้าแต่เก็บอาการไว้ เมธาสังเกตแววตาของน็อทและบอยที่มองกันบ่อยครั้ง มั่นใจว่าหัวใจของน็อทตอนนี้เป็นของบอยไปแล้ว

เมธาโกรธมากประกาศกลาง งานเลี้ยงว่าบอยเป็นคนเลวแย่งคู่หมั้นเขาไปอย่างหน้า ไม่อาย เมธาท้าให้บอยสู้กับตนอย่างลูกผู้ชาย บอยจำต้องรับคำท้าเพื่อไม่ให้ใครมองว่าเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ อ่อนแอ…วันรุ่งขึ้นบอยใช้ศิลปมวยไทยต่อสู้กับเมธาอย่างดุเดือด แน่นอนว่าพลังแห่งความรักมีอานุภาพมากกว่าพลังแค้น เขาชนะเมธาขาดลอย

เมธา ได้รับบาดเจ็บ น็อทจำต้องพาตัวเขากลับกรุงเทพฯ พร้อม ทองเพชร เหล็กกล้า แขกผู้ไม่ได้รับเชิญของโรงแรม ตอนนี้ทองเพชรมีกิจการทัวร์ใหญ่โต เขาสืบจนรู้ว่าสร้อยคีรีคือหุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ทไข่มุกตะวันออก ทองเพชรแปลกใจมากเมื่อได้เห็นบอย เพราะเขาจำได้ดีว่าบอยคือลูกของเดือนที่ลุยเก็บไปเลี้ยง

ทองเพชรเอา เรื่องไปเล่าให้ปกาศิตฟัง ทั้งสองเชื่อมั่นว่าสร้อยคีรีหักหลังองค์การและเป็นพวกเดียวกับลุย เขาต้องหาทางทำให้ลุยโผล่ออกมาให้ได้ สำหรับเรื่องของน็อท ปกาศิตจัดการให้น็อทเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของเมธา งานแต่งจะจัดขึ้นในปลายเดือน หญิงสาวตกใจอย่างมาก แม้จะทัดทาน อย่างไรก็ไม่ได้ผล

น็อทเสียใจมากหนีกลับไปหาบอยที่เกาะ สร้อยคีรีรู้ว่าน็อทเป็นลูกสาวปกาศิตศัตรูเก่าของลุยจึงเตือนบอย แต่ความเกลียดชังของคนในรุ่นพ่อไม่ได้ทำให้สองหนุ่มสาวหวั่นไหว ความรักทำให้ทั้งคู่เปิดเผยกายและใจกันอย่างลึกซึ้ง โดยประดู่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดทุกอย่าง แต่เธอจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพื่อ บอย คนที่เธอรัก

ปกาศิตโกรธ มากเมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนรักกับลูกของศัตรู เขากับทองเพชรส่งคนไปเก็บเจ้าแม่ฟางแก้วและสร้อยคีรีก่อนที่ลุยจะกลับมา ความแค้นของลุยกลับมาคุกรุ่นอีกครั้งเมื่อพบว่าสร้อยคีรีและฟางแก้วถูกฆ่า ตายอย่างทารุณ หลักฐานมีดที่ทิ้งไว้ทำให้เขารู้ทันทีว่าคนที่ลงมือคือใคร

ลุย นำมันกลับไปคืนให้ ทองเพชร เหล็กกล้า ด้วยตัวของเอง ลุยปลิดชีวิตของทองเพชรโดยไม่ยาก เขาโทรศัพท์ไปหาปกาศิต…ประกาศว่าเขากลับมาแล้ว และกำลังจะทวงหนี้ชีวิตด้วยชีวิต

ปกาศิตเริ่มหวาดวิตก…เพราะเหลือ เพียงตัวคนเดียว ตัวการใหญ่ขององค์การเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังรอดชีวิต ปกาศิตวางแผนร้ายขอร้องให้น็อทพาบอยมาพบ โดยอ้างว่าเขากับลุยมีเรื่องเข้าใจผิดกันหลายอย่าง บอยเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้ลุยกับเขาเข้าใจกันได้

ลุยวางแผนจัดการ ทุกอย่างในชีวิต แบ่งมรดกให้บอยและประดู่ กริช ลมกรดรับรู้เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจึงกลับมาจากฮ่องกงเพื่อช่วยจัดการ ปัญหาทุกอย่าง แต่แล้วขณะที่ลุยสารภาพกับกริชว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเดือนตายด้วยความเข้าใจผิด บอยบังเอิญมาได้ยินเข้า !

บอยเสียใจและแค้นใจมากเมื่อทราบว่าคนที่ตนเองเคารพรักกลายเป็นคนที่ฆ่าพ่อ จิตใจของบอยยามนี้มีทั้งความรักและความแค้น…

บอย ตัดสินใจเด็ดขาดจะฆ่าลุยเพื่อแก้แค้นแทนพ่อ เขาบุกเข้าไปหาลุยด่าว่าสารพัด กริชเข้ามาห้ามและชี้แจงให้ฟังว่าลุยฆ่าเดือนเพราะความเข้าใจผิด แต่บอยก็ไม่ฟังเสียง เขาเล็งปืนไปยังลุยที่นั่งสงบนิ่ง ยินดีให้บอยยิงเขาให้ตาย

บอยตัดสินใจลั่นไกปืน ! แชะ !! ปืน นั้นไม่มีกระสุน บอยคลานเข้าไปก้มลงกราบแทบเท้าลุย…บอกว่าคนที่เขาเหนี่ยวไกปืนยิงไปเมื่อ ครู่นี้คือคนที่ฆ่าพ่อ เขาได้ล้างแค้นให้พ่อแล้ว ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขณะนี้คือคนที่มีพระคุณยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

รุ่ง เช้า…เมื่อ ลุย บอย กริช เดินออกมาจากบ้านกลับถูกพวกของ ปกาศิต จอมพลัง และกลุ่มสมุนซึ่งมาซุ่มอยู่ระดมยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บอยรับอาสาฝ่ากระสุนปืนออกจากพวกเหล่าร้ายเพื่อไปเพื่อแจ้งตำรวจ แต่ก็ไปไม่รอด…บอยถูกเมธาซัดด้วยปืนสลบเหมือด

ลุยถูกยิงอย่างไม่มี ทางสู้ จึงใช้อุบายล่อให้พวกเหล่าร้ายบุกเข้ามาในบ้าน รอบบ้านของลุยเต็มไปด้วยระเบิดชนิดร้ายแรงสามารถถล่มพวกเหล่าร้ายทั้งหมดภาย ในพริบตาเดียว

ลุยกับกริชกระโดดหลบลงมาจากบ้าน แต่กริชโชคร้ายถูกกระสุนของปกาศิตคว่ำไป ลุยบ้าเลือดปักหลักยิงโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง… แต่ลุยพลาดถูกปกาศิตและเหล่าร้ายรุมยิงพรุนไปทั้งตัว ร่างของลุยลอยหมุนคว้างลงไปฟุบใกล้ๆ กับบอยซึ่งนอนสลบอยู่ ปกาศิต จอมพลัง กับสมุนโจรนับร้อยต่างโห่ร้องด้วยความยินดีที่พิชิตลุยลงได้

ด้วยลม หายใจเฮือกสุดท้าย…ลุยตะกายร่างคว้าปืนที่ตกอยู่ข้างๆ บอย เล็งยิงไปที่สวิชต์ลับซึ่งเป็นที่รวมของชนวนระเบิดที่ตนเองฝังไว้…

ด้วยวิญญาณของนักสู้ก่อนจะสิ้นลม…ลุยยิงเข้าไปที่กลางสวิชต์ระเบิด บ้านระเบิดแหลกลาญไปพร้อมกับชีวิตชั่วร้ายของ ปกาศิต จอมพลัง

การจบชีวิตลงของลุยและปกาศิตทำให้องค์การลับต้องล่มสลายลงไป

บอยกับน็อทหลังจากคลายจากความเศร้าโศกเสียใจแล้วจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน

ประดู่กับหมอองศาพบรักและยอมรับหัวใจซึ่งกันและกัน หลังจากผ่านเหตุการณ์อันตรายและความเศร้าโศกมาด้วยกัน

พวกเขาทั้งสี่คนตั้งใจจะใช้อดีตอันเลวร้ายของผู้มีพระคุณ เป็นเรื่องสอนใจให้กับตัวเองในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป

ความเลวร้ายและเวรกรรมมีอยู่จริงบนโลก…ไม่ช้าก็เร็วมันจะตามมาสนองตอบต่อผู้กระทำ ความดีงามต่างหาก…ที่จะยืนยงคงอยู่ตลอดไป

รายชื่อนักแสดงละึคร ลุย
วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทเป็น ลุย หล่มสัก
แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบทเป็น สร้อยคีรี
ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม รับบทเป็น ไทรงาม
พล พูลภัทร อรรถปัญญาพล รับบทเป็น บอย
แซมมี่ ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ รับบทเป็น น็อท
เขตต์ ฐานทัพ รับบทเป็น หมอองศา
ธันย์ชนก ฤทธินาคา รับบทเป็น ประดู่
แพร เอมเมอรี่ (แพร) รับบทเป็น แวววัลย์
อคัมย์ศิริ สุวรรณสุข รับบทเป็น กำนันบุปผา
ภาณุ สุวรรณโณ รับบทเป็น อัสนี
มรกต กิตติสาระ รับบทเป็น ฟางแก้ว
พีรวิชญ์ บุนนาค รับบทเป็น เมธา
ดนัย สมุทรโคจร รับบทเป็น เดือน แรมกล้า
อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบทเป็น กริช ลมกรด
โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบทเป็น ปกาศิต จอมพลัง
ทองขาว ภัทรโชคชัย รับบทเป็น ทองเพชร เหล็กกล้า
เบคิม ฤทธิ์ รับบทเป็น เทียว สิบทิศ
ประกาศิต โบสุวรรณ รับบทเป็น ศักดา ปาฎิหาริย์
ภูธฤทธิ์ พรหมบรรดาล รับบทเป็น ขรรชัย อินทรีย์
จักรกฤษณ์ คชรัตน์ รับบทเป็น เด็ด
ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ รับบทเป็น บอย (ตอนเด็ก)
ด.ช.เขมะ วิถึ รับบทเป็น ทอม
เลิศพร อารยะโกศล รับบทเป็น สถิตย์
เวนย์ ฟอลโคเนอร์ รับบทเป็น สิงห์

รุ่งทิพย์

มณเฑียร ภูมินทร์ กลับมาจากต่างประเทศก็ไปพักผ่อนที่เกาะด้วยความนิสัยเจ้าชู้จึงไปมีเรื่อง กับโต บ้านบึง นักเลงเจ้าถิ่น ถูกแทงเกือบตาย แต่ได้แก่นแก้วเด็กขายปลาหมึกตามชายหาดช่วยไว้ แล้วพาไปให้ยายพลายรักษา ทำให้มณเฑียรไปรับรู้เรื่องของแก่นแก้วว่าเป็นเด็กกำพร้าถูกแม่ทอดทิ้งไป ก่อนยายพลายตายมณเฑียรรับปากว่าจะดูแลแก่นแก้วให้อย่างดี และจะช่วยตามหาแม่ให้ด้วยถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานแค่แหวนและล็อกเก็ตที่ยายพลาย ให้ไว้ก่อนตาย มณเฑียรกรีดแขนสัญญาว่าจะกลับมาสร้างรีสอร์ทที่นี่เพื่อมารอแม่แก่นแก้วด้วย กัน จึงพาแก่นแก้วกลับกรุงเทพฯเพื่อไปขอเงินอดิศรมาสร้างรีสอร์ทที่เกาะ แต่ถูกอดิศรด่ากลับไปเรื่องเรียนไม่จบ และไม่เอาถ่านของเขา จึงน้อยใจออกจากบ้านกลับไปต่างประเทศทิ้งแก่นแก้วไว้ที่บ้านภูมินทร์ ด้วยความน่ารักและซื่อของแก่นแก้วทำให้อดิศรเอ็นดูให้พะเยาว์คอยสอนมารยาท และส่งเรียนหนังสือ สร้างความไม่พอใจให้กับนงนารถเมียของสิทธิชัยอย่างมาก เพราะยังหึงมณเฑียรอยู่นงนารถเคยเป็นแฟนกับมณเฑียรมาก่อน

แก่นแก้วมักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนของผู้หญิงบ่อยๆ ด้วยความสงสัยจึงลงไปดูและได้พบกับภัคคินีพี่สาวของมณเฑียรที่ป่วยสติไม่ ค่อยดี ภัคคินีเห็นหน้าแก่นแก้วก็เรียกว่ารุ่ง ตั้งแต่นั้นภัคคินีก็เป็นมิตรกับแก่นแก้วมากขึ้น แก่นแก้วจึงเล่าเรื่องแม่ให้ภัคคนีฟัง มณเฑียรหายไปจากบ้าน 3 ปี ไม่ติดต่อกับใครเลยนอกจากแก่นแก้วที่มณเฑียรส่งโปสการ์ดมาให้ทุกอาทิตย์ใกล้ วันงานแซยิดของอดิศรพะเยาว์จึงเตรียมเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้แก่นแก้ว แก่นแก้วจึงเอาแหวนกับล็อกเก็ตมาให้พะเยาว์กับอดิศรดู อดิศรเห็นก็บอกว่าเป็นของตระกูลเทพเทวา ก็ให้พะเยาว์เชิญ ม.ร.ว.ทิพย์มณี เทพเทวา มาร่วมงานแซยิดของอดิศรเห็นแก่นแก้วก็ถูกชะตาชอบมากคอยหาโอกาสมาพบแก่นแก้ว บ่อยๆ หลังงานแซยิด แก่นแก้วถูกลอบทำร้ายบ่อยๆ คนในบ้านก็ถูกข่มขู่ไม่ให้อุปการะแก่นแก้ว มณเฑียรกลับมาจากเมืองนอกเห็นแก่นแก้วเป็นสาวเต็มตัวก็ตะลึงและแสดงให้แก่น แก้วเห็นว่าตลอด3 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้ เพราะเขาซื้อที่ดินที่เกาะยายพลาย เริ่มสร้างรีสอร์ทเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติแล้วพาแก่นแก้วไปดู แก่นแก้วดีใจมากที่มณเฑียรไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้แต่พอกลับกรุงเทพฯเจอยุพาแฟน ของมณเฑียรตอนอยู่เมืองนอกมาหาก็รู้สึกเสียใจ ขณะที่มณเฑียรก็รู้สึกอึดอัดโดยไม่รู้ตัวเองว่าเพราะอะไร แก่นแก้วกลับไปเกาะเจอโต บ้านบึงศัตรูเก่ารุมทำร้าย บุญเห็นเหตุการณ์ก็เข้ามาช่วย กลับถูกรุมอีกคน แก่นแก้วกับมณเฑียรจึงพาไปรักษาตัวที่รีสอร์ท บุญถามหายายพลายพอรู้ว่าแก่นแก้วเป็นหลานก็เล่าเรื่องแม่ของแก่นแก้วให้ฟัง บุญอยู่ที่รีสอร์ทได้ไม่กี่วันก็ถูกพวกโรจน์จับตัวไปถามถึงแม่ของแก่นแก้ว บุญไม่รู้จึงถูกโรจน์ยิงตาย ทิพย์มณีเข้ามาตีสนิทกับนงนารถเพื่อหลอกถามความเคลื่อนไหวของพวกแก่นแก้ว

มณเฑียรเห็นทิพย์มณีมาส่งนงนารถก็สงสัย จึงปรึกษาเรื่องจะสืบเรื่องพ่อแม่ของแก้วจากตระกูลเทพเทวา สิทธิชัยจึงพาเทียนกับแก่นแก้วไปพบอาจารย์ธรรมกิจอดีตทนายประจำตระกูลเทพเท วา แต่ยังไม่ได้เรื่องอะไรมาก ธรรมกิจก็ถูกรถชนตายเสียก่อน มณเฑียรกับแก่นแก้วไปร่วมงานศพก็ได้รับซองเอกสารจากลูกชายของธรรมกิจบอกว่า พ่อฝากไว้ให้แก่นแก้ว เอกสารที่แก่นแก้วได้รับคือม้วนวิดีโอที่ธรรมกิจบันทึกบอกให้แก่นแก้วเก็บ แหวนและล็อกเก็ตไว้ให้ดี และให้ระวังว่าทิพย์มณีที่เห็นอาจเป็นตัวปลอม สิทธิชัยจึงนึกได้ว่ารุ่งคือเด็กที่วังเทพเทวาเพื่อนคอนแวนต์เดียวกับภัคคิ นี แก่นแก้วก็น่าจะเป็นลูกของรุ่งกับ ม.ร.ว.ทิพย์มณีตามที่ธรรมกิจบอกนงนารถใช้มารยาหลอกล่อจนรู้เรื่องธรรมกิจจาก สิทธิชัยแล้วก็หวังจะไปแบ็คเมล์ทิพย์มณี แต่ถูกทิพย์มณีทำร้ายและคอยสืบเรื่องแก่นแก้วมาให้ พรตเชิญแก่นแก้วไปร่วมงานปาร์ตี้ที่บ้าน มณเฑียรพยายามกีดกันอยู่แล้วจึงตามไปด้วย พรตแนะนำทุกคนให้รู้จักกับราศรีแม่เลี้ยงของเขา มณเฑียรเห็นสิทธิชัยก็มีท่าทีสนใจราศรีก็พอใจเพราะอยากให้สิทธิชัยเลิกกับนง นารถ ที่งานปาร์ตี้บ้านพรต แก่นแก้วได้รับเค้กลึกลับส่งมาให้บอกว่าเป็นเค้กครบรอบวันเกิด ม.ล.รุ่งทิพย์ แก่นแก้วมีความสุขมาก มณเฑียรไม่พอใจแก่นแก้วเรื่องพรตจนลืมตัวจะจูบแก่นแก้ว แต่พะเยาว์มาขัดจังหวะเสียก่อน มณเฑียรจึงให้สัญญากับพะเยาว์ว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกจนกว่าจะเคลียร์ตัวเอง ได้

มณเฑียรแน่ใจแล้วว่าโตบ้านบึงทำงานให้กับทิพย์มณี จึงจ้างชาติกับปลิวมาคุ้มกันแก่นแก้วและสอนศิลปะป้องกันตัวให้กับทุกคนใน รีสอร์ท ทิพย์มณีเห็นมณเฑียรคอยช่วยเหลือแก่นแก้วตลอดจึงไปหายุพาให้มาร่วมมือกัน กำจัดแก่นแก้ว ล่อให้แก่นแก้วไปหาที่วังแล้วให้โรจน์กับพวกดักยิงแก่นแก้ว แต่มณเฑียรตามมาช่วยไว้ได้ ยุพาพาพ่อมาพูดกับมณเฑียรเรื่องการแต่งงานแต่อดิศรรู้ว่ามณเฑียรรักแก่นแก้ว แต่ยังไม่รู้ตัวเองจึงช่วยมณเฑียรเลื่อนการแต่งงานออกไปได้ พรตพาราศรีไปที่รีสอร์ทแล้วขอแก่นแก้วกับมณเฑียร แก่นแก้วได้ยินก็เสียใจจึงตอบรับรักพรตเพราะต้องการประชดมณเฑียร แก่นแก้วได้รับจดหมายจากคนที่บอกว่าเป็นแม่อีก มณเฑียรจึงวางแผนจะล่อรุ่งให้ออกมาจึงให้อิศรนัดพบทิพย์มณีแล้วบอกว่าแหวน กับล็อกเก็ตของแก่นแก้วเป็นของจริง ทิพย์มณีจึงยอมรับแก่นแก้วเป็นลูกแล้วจะพากลับไปอยู่วัง แต่แก่นแก้วขออยู่เคลียร์งานรีสอร์ทอก่อน ทิพย์มณีกับโรจน์งงกับการกระทำของแก่นแก้ว แต่ก็มารู้ความจริงจากนงนารถว่าเป็นแผนล่อรุ่งออกมาจึงส่งเสริมศรีปลอมเป็น รุ่งไปหาแก่นแก้ว จนแก่นแก้วเชื่อแอบหนีไปอยู่ด้วย จึงติดกับดักทิพย์มณีและโรจน์ แต่มณเฑียรก็ตามไปช่วยไว้ได้

ยุพาเริ่มรุกเรื่องการแต่งงานกับมณเฑียรมากขึ้นและรู้ว่ามณเฑียรพยายามบ่าย เบี่ยง จึงไปต่อว่ากับแก่นแก้ว พอราศรีกับพรตมาขอแต่งงานแก่นแก้วจึงตอบตกลง ภัคคินีเห็นหน้าราศรีก็ช็อคถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลและถามถึงราศรีตลอด มณเฑียรโกรธจะกลับไปรีสอร์ทแก่นแก้วจึงบอกที่เธอรับปากแต่งงานกับพรต เพราะยุพามาต่อว่าเธอเป็นตัวถ่วงของมณเฑียร มณเฑียรจึงประกาศต่อหน้าบอกรักแก่นแก้วทุกคนในบ้านและไปบอกเลิกยุพา ยุพาโกรธมากจึงร่วมมือกับทิพย์มณีโยนข้อหาฆ่าเสริมศรีตายให้แก่นแก้ว แก่นแก้วถูกจับมณเฑียรรู้ว่าเป็นฝีมือของยุพาจึงยอมตกลงแต่งงานกับยุพา เพื่อช่วยแก่นแก้วแต่ยุพากับทิพย์มณีเล่นไม่ซื่อจะฆ่าแก่นแก้ว แต่ราศรีส่งยูซุฟมาช่วยแก่นแก้วไว้ และช่วยให้หลุดจากคดีฆ่าเสริมศรีด้วย ราศรีกับพรตมาคุยเรื่องแต่งงานแต่แก่นแก้วขอเรียนให้จบก่อน กำลังจะกลับ ภัคคินีเห็นราศรีจึงวิ่งตัดไปดักหน้ารถพรตเบรคไม่ทันชนภัคคินีสลบ ภัคคินีฟื้นมาพร้อมกับความทรงจำจึงบอกกับทุกคนว่า ราศรีคือรุ่งแม่ของแก่นแก้ว แล้วเล่าให้ทุกคนฟังว่าทิพย์มณีที่เห็นคือ ชัยมงคลแฝดน้องของทิพย์มณี ชัยมงคลฆ่าพ่อและพี่ชายตัวเองและพยายามฆ่ารุ่งและลูกในท้องด้วยเพราะต้อง การสมบัติ เธอเป็นคนช่วยรุ่งให้หนีไปอยู่ฮ่องกงจนได้พบกับภาคย์พ่อของพรต ส่วนอาการป่วยของเธอก็ไม่ได้เป็นเพราะอุบัติเหตุตกหน้าผาตามที่ชัยมงคลบอก แต่ถูกชัยมงคลไล่ยิงจนตกหน้าผาเพราะจับได้ว่าที่เธอยอมเป็นคู่หมั้นเพราะ ต้องการสืบเรื่องทิพย์มณีให้รุ่ง

แก่นแก้วอยากรู้ความจริงจากปากราศรี จึงไปหาที่บ้าน แต่ราศรีไม่ยอมรับว่าแก่นแก้วเป็นลูก แก่นแก้วเสียใจมาก ราศรีวางแผนกับยูซุฟแยกโรจน์และโตออกจากทิพย์มณี จึงส่งหลักฐานการตายของบุญและธรรมกิจให้ตำรวจ โตถูกจับข้อหาฆ่าบุญตายและโรจน์ถูกจับข้อหาร่วมกันฆ่าธรรมกิจ แล้วจ้างคนในคุกใหก่อกวนโรจน์แล้วบอกว่าคนที่วังเทพเทวาจ้างมาโรจน์คิดว่า ทิพย์มณีจะสั่งเก็บตัวเองจึงกลับคำสารภาพยอมรับข้อหาและซัดทอดทิพย์มณีเป็น ผู้จ้างวาน ทิพย์มณีหนีไปกบดานที่บ้านพักชายทะเลของท่านรัฐมนตรีพ่อของยุพา แล้วให้นงนารถล่อแก่นแก้วออกมาจากบ้าน นงนารถจึงแกล้งโทรมาหาแก่นแก้วแล้วบอกจะฆ่าตัวตาย แก่นแก้วเชื่อก็ออกไปช่วยจึงถูกทิพย์มณีจับไป ราศรีตามมาช่วยแก่นแก้วแต่เสียท่าถูกทิพย์มณีจับอีกคน ทิพย์มณีกับยุพากำลังช่วยกันฝังแก่นแก้วและราศรีทั้งเป็นสิทธิชัย มณเฑียรและตำรวจมาช่วยไว้ได้ ยุพาถูกตำรวจจับ ทิพย์มณีถูกยิงตาย พรตไปอยู่เมืองนอก ราศรีมาอยู่ที่รีสอร์ทกับมณเฑียรและแก่นแก้วอย่างมีความสุข

รายชื่อนักแสดงละคร รุ่งทิพย์

1. วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น มณเฑียร
2. จีรนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น รุ่งทิพย์ / แก่นแก้ว
3. เสกสรร ชัยเจริญ แสดงเป็น สิทธิชัย
4. สุวัจนี ชัยมุสิก แสดงเป็น นงนารถ
5. กรรชัย กำเนิดพลอย แสดงเป็น ทิพย์มณี / ชัยมงคล
6. อภิรดี ภวภูตานนท์ แสดงเป็น ราศี / รุ่ง
7. ณหทัย พิจิตรา แสดงเป็น ภัคคินี
8. พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ แสดงเป็น ยุพา
9. ชลิต เฟื่องอารมย์ แสดงเป็น อดิศร
10. ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น พะเยาว์
11. วุฒินันท์ ไหมกัน แสดงเป็น พรต
12. เลิศพร อารยะโกศล แสดงเป็น โรจน์

มนต์รักลูกทุ่ง

ตำนานความรักของคล้าว ที่รักอยู่กับทองกวาว แต่พ่อกับแม่ทองกวาวไม่ชอบเพราะความที่คล้าวจนและโดนยึดที่นาเพราะเป็นหนี้ กับพ่อจอม ทองก้อน และ ทับทิม เพราะความยากจนของคล้าวที่เป็นเพียงชาวนาทำให้ผู้ใหญ่ก้อนพ่อของทองกวาว พยายามกีดกัน ทองกวาวจึงเอาเงินที่มีอยู่มาให้คล้าวใช้หนี้ จอมโกรธที่ยึดที่นาของคล้าวไม่ได้ จึงไปต่อว่า ทองก้อน พ่อและแม่ของทองกวาว จึงส่งทองกวาวไปอยู่กับป้าทองคำที่กรุงเทพ โดยให้มีบุปผา  และหมึก ไปดูแล

ทองกวาวได้รู้จักกับธรรมรักษ์ หลานของป้าทองคำ ซึ่งป้าทองคำหวังจะให้หลานทั้งคู่แต่งงานกัน เพื่อสมบัติจะได้ไม่ตกเป็นของคนอื่น คล้าวเศร้าโศกเสียใจที่น้ำท่วมทุ่งนาข้าวเสียหาย ได้พวกคอยปลอบ จึงบอกบุญเย็น ให้ตามหาทองกวาว บุญเย็นพบทองกวาวที่กรุงเทพและบอกเรื่องคล้าว ทองกวาวขอให้บุญเย็นบอกคล้าวว่าทองกวาวอยากให้คล้าวมาสู่ขอแต่พ่อแม่ของ ทองกวาวกลับเรียกค่าสินสอดสิบหมื่น

ธรรมรักษ์เสียการพนัน หวังจะหลอกเอาเงินป้าทองคำจึงทำเป็นชอบทองกวาว โดยให้เพื่อนชื่อ ธีระ หัวหน้าวงดนตรีมากันบุปผา ทั้งหมดเดินทางมาบ้านทองกวาว แต่ด้วยความคิดถึงทองกวาวรีบมาหาคล้าวกลับพบว่าคล้าวอยู่กับสายใจ ทำให้ทองกวาวเข้าใจผิด ทองกวาวจึงตกลงหมั้นกับธรรมรักษ์ แต่ธรรมรักษ์มีฤทัยเป็นภรรยาอยู่ บุญเย็นจึงพาฤทัยมาบ้านทองกวาว ธรรมรักษ์โกรธมาก บอกฤทัยเป็นนักร้องในวงธีระ ฤทัยแกล้งตีสนิทกับคล้าวเพื่อให้ธรรมรักษ์หึง แล้วป้าทองคำจึงไล่ธรรมรักษ์และเมียกลับไป

แต่ข่าวการหมั้นของทองกวาวกับธรรมรักษ์ที่ทองก้อนประกาศไปเข้าหูเสือทุม ได้จับตัวทองกวาวและป้าทองคำไปเรียกค่าไถ่ คล้าวและตำรวจตาม ไปช่วยไว้ทัน คล้าวกับพรรคพวกได้ช่วยเหลือทองกวาวและป้าทองคำให้พ้นจากคนร้าย ซึ่งทำให้พ่อทองก้อนและแม่ทับทิมไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกัน

พระจันทร์ลายพยัคฆ์

พระจันทร์ลายพยัคฆ์ เรื่องราวระหว่าง สองสาวพี่น้องต่างสกุล แต่เพราะมาประสบเรื่องราวคล้าย ๆ กันเมื่อพ่อซึ่งเป็นตำรวจถูกขบวนการค้ายาเสพติดฆ่าตาย และเมื่อทั้งคู่ได้มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน และรักใคร่กลมเกลียวเหมือนเป็นพี่น้องสายโลหิตแท้ ๆ แต่ด้วยเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว ที่ทำให้ทั้งคู่ ต้องมาห้ำหั่นกันเอง ทำให้เกิดเป็นปมเรื่องราวความขัดแย้งขึ้น  จึงเป็นที่มาของละคร พระจันทร์ลายพยัคฆ์

จันทร์ ฉาย (อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ) ลูกสาวตำรวจที่เก็บความแค้นตั้งแต่เด็ก เช่น เดียวกับ ปานเดือน (ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม) และ ทิวา (ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว) ที่โตมาในครอบครัวตำรวจ จันทร์ฉายเห็นพ่อตัวเองกับพ่อของปานเดือนถูกพวกค้ายาเสพติดยิงตายต่อหน้าต่อตา นวล (ตุ้ม-รสริน จันทรา) แม่ของปานเดือน-ทิวา จึงรับอุปการะจันทร์ฉายเป็นลูกบุญธรรม ทั้ง 3 คน รักกันเหมือนพี่-น้องแท้ๆ แถมยกให้จันทร์ฉายเป็นพี่สาวคนโตคอยปกป้องน้องๆ

หลังเรียนจบปานเดือน กับจันทร์ฉายสอบเข้าเป็นนายร้อยตำรวจหญิงรุ่นเดียวกัน ทั้งคู่ถูกส่งไปฝึกกับ ผู้กองอานนท์ (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณาเรศ) นายตำรวจรูปหล่อแห่งกองปราบฯ ปานเดือนหลงรักอานนท์ตั้งแต่แรกพบ ผิดกับจันทร์ฉายที่ไม่ถูกชะตากับอานนท์เอาซะเลย ระหว่างฝึกภาคปฏิบัติจันทร์ฉายแสดงฝีมือ และคอยช่วยเหลือคนอื่น จนเพื่อนๆ รัก และยอมรับเธอมากกว่าปานเดือน น้องสาวที่ยึดติดกับกฎเกณฑ์จนไม่สนใจมิตรภาพของเพื่อน อานนท์จึงเลือกจันทร์ฉายเป็นผู้ช่วยคนใหม่แทน ไพลิน (เอมี่-เอมิกา บูเฮอร์) สายตำรวจที่ถูกพวกค้ายาฯ ฆ่าตาย เหตุนี้ทำให้ปานเดือนเข้าใจว่าพี่สาวจะแย่งอานนท์ เธอร่วมมือกับ ผู้กองชัชวาล (กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์) มือปราบคู่ปรับอานนท์ คอยตัดหน้าการจับกุมทีมของจันทร์ฉายทุกครั้ง

ต่อมาทีมอานนท์ได้รับ มอบหมายให้จับกุม ภูผา (เก่ง-ชาติชาย งามสรรพ์) หัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ แต่ก็ถูกชัชวาลกับปานเดือนจับกุมตัดหน้าจนเสียแผน แถมเธอยังเกือบถูกภูผาฆ่า โชคดีที่จันทร์ฉายไปช่วยทัน แต่จันทร์ฉายบันดาลโทสะยิงภูผาตาย!! ชำระแค้นที่มันเคยฆ่าพ่อของเธอ กับปานเดือนตาย การกระทำเกินกว่าเหตุทำให้จันทร์ฉายถูกลงโทษ อานนท์ขอร้องปานเดือนช่วยให้ปากคำเข้าข้างจันทร์ฉาย เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอพ้นผิด แต่ด้วยความอิจฉาที่เห็นอานนท์ห่วงใยพี่สาวปานเดือนเลยปรักปรำจันทร์ฉายจน ต้องติดคุก
แม้ภูผาจะถูกฆ่าแต่สมุนมันยังตามแก้แค้นปานเดือน -จันทร์ฉายไม่เลิก จนแม่ของพวกเธอต้องรับเคราะห์ถูกทำร้ายสาหัส แค้นครั้งนี้ทำให้ปานเดือนเกลียดจันทร์ฉายเพิ่มทวีคูณ เพราะคิดว่าพี่สาวเป็นต้นเหตุของเรื่องร้ายๆ หลังพ้นโทษจันทร์ฉายตามแก้แค้นคนทำร้ายแม่บุญธรรมอย่างเลือดเย็น ความผิดซ้ำๆ ทำให้เธอถูกไล่ออกจากราชการ แถมปานเดือนยังประกาศตัดพี่ตัดน้องกับจันทร์ฉาย ทิวาสงสารจันทร์ฉายแต่ไม่กล้าขัดปานเดือน จันทร์ฉายหมดหนทางเลยไปอยู่กับ สมชาย (บอล เชิญยิ้ม) อดีตพนักงานในผับภูผา ทั้งคู่สนิทกันตอนที่เธอปลอมเป็นนักร้องไปสืบคดีให้กองปราบ จันทร์ฉายกับสมชายหุ้นกันขายของจนกลายเป็นเพื่อนซี้

ไม่นาน วายุ (อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์) น้องชายต่างแม่ของภูผา มารับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งแทน ด้วยความที่ภูผาเคยดูถูกแม่วายุไว้มาก ทำให้เขาอยากล้างแค้นพี่ชายมากกว่าจะกำจัดศัตรู จึงแค่ให้ เมธี (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) มือขวาเก่าภูผาไปก่อกวนจันทร์ฉายจนทำมาหากินไม่ได้ อานนท์พยายามช่วยเหลือจันทร์ฉายทุกอย่างแต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง เพราะเธออยากให้อานนท์รักปานเดือน ส่วนเธอจนตรอกจนต้องบุกไปชำระแค้นกับวายุ จันทร์ฉายโชว์ฝีมือจัดการสมุนเมธีจนวายุทึ่ง! อยากได้เธอมาร่วมงาน แต่จันทร์ฉายไม่คิดทำงานผิดกฎหมาย จนวายุถูกศัตรูลอบทำร้าย และเธออยู่ในเหตุการณ์พอดีจึงปกป้องเขาจนปลอดภัย วายุขอให้จันทร์ฉายมาเป็นบอดี้การ์ด โดยสัญญาจะไม่ให้เธอยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด แถมยื่นเงื่อนไขเป็นเงินก้อนโตให้เธอไปรักษาแม่บุญธรรม จันทร์ฉายจึงยอมตกลง แต่การร่วมแก๊งของเธอทำให้ จอมขวัญ (ปอย-ปวีณา ตันฑ์ศรีสุโรจน์) ภรรยาภูผากับเมธีที่เป็นชู้รักกันไม่พอใจ เพราะพวกมันกำลังจะกำจัดวายุ และยึดอำนาจทั้งหมด ด้วยสัญชาตญาณตำรวจจันทร์ฉายอ่านเกมชั่วของชู้รักคู่นี้ออก จึงขัดขวางแผนร้ายของทั้งคู่ได้ทุกครั้ง

หลังปานเดือนกำจัดจันทร์ ฉายพ้นทาง เธอทำทุกทางให้ได้ใจอานนท์แต่ไม่เป็นผล แถมยังเจอศัตรูหัวใจคนใหม่อย่าง ดุจดาว (แก้มบุ๋ม-พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) ลูกสาว ท่านวิชาญ (เจี๊ยบ-ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) นักการเมืองใหญ่ ดุจดาวหลงเสน่ห์อานนท์จึงให้เขามาเป็นบอดี้การ์ด อานนท์กับปานเดือนเลยได้เข้านอกออกในบ้านวิชาญบ่อยๆ เลยรู้ว่าจันทร์ฉายไปทำงานให้วายุ วิชาญเดาปมแค้นของปานเดือนที่มีกับพี่สาวออก เลยหว่านล้อมให้เธอร่วมมือกำจัดพวกวายุได้ไม่ยาก ปานเดือนประกาศลากคอจันทร์ฉายเข้าตารางให้ได้ ที่สำคัญเกมนี้วิชาญยังมีเมธีกับจอมขวัญเป็นหนอนบ่อนไส้คอยล้วงความลับ และใส่ร้ายจันทร์ฉายให้วายุฟังบ่อยๆ แต่เขาไม่สนเพราะจันทร์ฉายเป็นคนดี วิชาญให้ ต้าเหว่ย (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) หัวหน้าขบวนการค้ายานรกชนกลุ่มน้อยหลอกซื้อยาจากวายุ พอวันส่งของต้าเหว่ยทำร้ายจนวายุตาบอดแล้วจับเป็นตัวประกัน วายุหว่านล้อมทุกวันจนต้าเหว่ยยอมช่วยเขา แต่หุ้นส่วนต้าเหว่ยไม่เอาด้วย พอถึงวันไถ่ตัวจันทร์ฉายอาสาถือเงินมาเอง ขณะแลกตัวประกันต้าเหว่ยส่งซิกให้จันทร์ฉายคุ้มกันให้วายุ ส่วนตัวเองยิงสกัดหุ้นส่วนเก่าตายคาที่ ช่วยวายุ-จันทร์ฉายรอดมาได้ ทำให้วายุกับต้าเหว่ยกลายเป็นหุ้นส่วนกันทันที

ตลอดเวลาที่วายุตา มองไม่เห็นจันทร์ฉายกับสมชายดูแลเขาอย่างดี ความดีของเธอทำให้วายุหลงรักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานตาของวายุก็มองเห็นปกติ แต่เขาทำเป็นตาบอดเหมือนเดิม เพราะอยากรู้ว่าใครคิดร้ายกับตัวเองบ้าง ถึงรู้ว่าเมธีกับจอมขวัญเป็นพวกวิชาญไปแล้ว แต่วายุไม่โวยวายตามเกมทั้งคู่ต่อ เขาเลยรู้ว่าปานเดือนก็ร่วมมือกับวิชาญ คอยบอกความเคลื่อนไหวของตำรวจให้ขบวนการค้ายาฯ ของวิชาญรู้ จนพวกมันหนีการจับกุมได้ทุกครั้ง เพื่อแลกกับตำแหน่งในราชการ และจะยืมมือวิชาญฆ่าจันทร์ฉาย ปานเดือนถลำลึกหลงผิดจนถอนตัวไม่ขึ้น

ไม่ นานเมธีก็หลอกวายุ-จันทร์ฉาย-สมชายไปให้ปานเดือนจับ งานนี้มีอานนท์กับ จ่าพงศ์ (ค่อม ชวนชื่น) ร่วมทีมด้วย จันทร์ฉายประจันหน้ากับอานนท์ เธอตัดสินใจปกป้องวายุจนอานนท์ต้องโต้กลับ วายุกลัวจันทร์ฉายถูกจับเลยเข้าชาร์จช่วยเธอ ทุกคนตะลึง! ที่ตาวายุมองเห็น เขาอาศัยทีเผลอรัวยิงตำรวจตายเป็นเบือ อานนท์แค้นแทบคลั่งที่สูญเสียเพื่อนๆ เขากระหน่ำยิงใส่รถวายุจนแล่นลับตาไป เมื่อถึงที่พักจันทร์ฉายอาละวาดวายุอย่างหนัก เพราะโกรธที่วายุปิดบังเรื่องการมองเห็น วายุรู้สึกผิดต่อเธอมากเขาขอโทษ และสัญญาจะวางมือจากธุรกิจผิดกฎหมายทุกอย่าง หากจันทร์ฉายยอมใช้ชีวิตด้วย แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธไร้เยื่อใย ก่อนเดินจากวายุไปทันที

ส่วนอานนท์ก็ ถูกผู้ใหญ่เร่งให้ปิดคดีวายุ เป็นจังหวะเดียวกับที่วายุมาตามหาจันทร์ฉายที่แฟลตอานนท์ 2 หนุ่ม แทบจะฆ่ากันให้ตาย โดยไม่รู้ว่าจันทร์ฉายกำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะเธอตัดสินใจไปกราบลา แม่นวล ที่บ้านเก่า ขณะที่แม่ลูกกอดลากันร้องไห้ ปานเดือนก็โผล่มาจ่อปืนใส่จันทร์ฉายต่อหน้าแม่ ทุกคนตกใจมากบอกให้จันทร์ฉายหนีไป แต่เธอไม่หนีแถมยอมมอบตัวให้ปานเดือนจับโดยดี ท่าทางปานเดือนเหมือนคนเสียสติ ทิวาชาร์จปานเดือนเพื่อให้จันทร์ฉายหนี แต่ปานเดือนตามไม่เลิก โชคดีที่วายุตามมาทันเขาพาจันทร์ฉายหนีตายไปกบดานบ้านเก่าบนเกาะส่วนตัว

ขณะ ที่วายุ-จันทร์ฉาย-สมชายไปถึงท่าเรือ อานนท์-จ่าพงศ์ก็เข้าสกัดจับ แต่ไม่ทันเจรจาจู่ๆ วิชาญก็ส่งสมุนมากำจัดวายุกับพวก งานนี้อานนท์กับจ่าพงศ์เลยต้องช่วยพวกวายุก่อน ระหว่างที่ต่างคนต่างหนีวิถีกระสุน สมุนวิชาญก็ยิงถังน้ำมันตรงที่จันทร์ฉายหลบอยู่ระเบิด!! ร่างของเธอหายไปในพริบตา ทำเอาอานนท์กับวายุช็อก! จนถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บทั้งคู่ จ่าพงศ์กับสมชายต่างก็ช่วยหัวหน้าตัวเองอย่างทุลักทุเล แต่ปานเดือนไม่เชื่อว่าจันทร์ฉายจะตายง่ายๆ เธอยังตามล่าล้างแค้นจันทร์ฉายแทบพลิกแผ่นดิน เรื่องราวการล้างแค้นของ 2 พยัคฆ์สาว ปานเดือน กับ จันทร์ฉาย จะจบลงยังไง? และอานนท์ จะหาทางออกให้หัวใจตัวเองได้หรือไม่?

รายชื่อนักแสดงนำในละคร พระจันทร์ลายพยัคฆ์

ศุกลวัฒน์ คณารศ     แสดงเป็น     อานนท์
พัชราภา ไชยเชื้อ     แสดงเป็น     จันทร์ฉาย
จีรนันท์ มะโนแจ่ม     แสดงเป็น     ปานเดือน
อรรคพันธ์ นะมาตร์     แสดงเป็น     วายุ
ชาติชาย งามสรรพ์     แสดงเป็น     ภูผา
ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์     แสดงเป็น     เมธี
ปวีณา ตันฑ์ศรีสุโรจน์     แสดงเป็น     จอมขวัญ
พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์     แสดงเป็น     ดุจดาว
เอมิกา บูเฮอร์     แสดงเป็น     ไพลิน
ศักราช ฤกษ์ธำรง     แสดงเป็น     ท่านวิชาญ
บอล เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     สมชาย
ค่อม ชวนชื่น     แสดงเป็น     จ่าพงศ์
กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์     แสดงเป็น     ผู้กองชัชวาล
จักรกฤษณ์ กนกพจนานนท์     แสดงเป็น     ชัย
ประชากร ปิยะสกุลแก้ว     แสดงเป็น     ทิวา
ไกรลาศ เกรียงไกร     แสดงเป็น     สารวัตรขจร
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์     แสดงเป็น     ต้าเหว่ย
ชูษี เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     ปกรณ์
ตูมตาม เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     คำรณ
รสริน จันทรา     แสดงเป็น     นวล

ผู้พิทักษ์สี่แยก

เช้าขึ้นตะวันส่อง “ถึงฝนจะตก ถึงฟ้าจะร้อง จะมีน้ำนองถนน จราจรนั้นก็ต้องสู้ทน เพื่อรับใช้ประชาชน……..”

เสียง เพลงของ สุรพล สมบัติเจริญ ดังกึก้องกังวานไปทั่วแฟลตตำรวจหลังนั้น ทุกคนดูจะคุ้นเคยกับเสียงเพลงนี้ เพราะได้ยินทุกเช้าในขณะที่จ่าชดออกจากห้องพักไปทำงาน เสียงเพลงดังกล่าวค่อยลง ค่อยลง จนไม่ได้ยินเมื่อจ่าชดลับตัวไป

จ่า ชด เป็นตำรวจจราจรมาทั้งชีวิต เป็นด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ ไม่มีอะไรที่จ่าชดจะรักเท่าอาชีพจราจร จ่าชดคนนี้นี่แหละคือตำรวจที่รำจราจรสวยที่สุดในประเทศไทย เรื่องราวของจ่าชดเป็นตัวอย่างของคนที่มีความสุขเพราะรักในงานที่ตนกำลังทำ อยู่ อยู่บนถนนหลายชั่วโมง ในแต่ละวัน จ่าชดรู้สึกว่าตนเองได้กำไรชีวิตมากมายมหาศาล เพราะบนถนนมีเหตุการณ์หลากหลายเกิดขึ้น จ่าชดได้เห็น ได้รู้ ได้ศึกษา และมีส่วนร่วมในเหตุการณ์เหล่านั้น จนกลายเป็นอาหารประจำวันของจ่าชดไปเสียแล้ว

เหตุการณ์ มีตั้งแต่การทำผิดกฎจราจรเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งปรากฏอยู่เสมอว่าผู้ขับขี่มักจะแก้ตัวไปต่างๆ นานาล้วนแต่เป็นข้อแก้ตัวที่น่าขำบ้าง น่าหมั่นไส้บ้าง หรือจับไปสงบสติอารมณ์ในห้องขังให้รู้แล้วรู้รอดไป การระงับ ไกล่เกลี่ย หรือจัดการกับกรณีพิพาทของรถชนกัน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจำ แต่ก็มาแบบแปลกๆ จนจ่าชดต้องเปิดตำราแทบไม่ทัน

จ่า ชดมีลูก 2 คน ลูกชายคนโตชื่อ ชีวิน อายุ 25 ปี เป็นครูสอนภาษาไทยในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง คนเล็กชื่อ แก่น อายุ 8 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนเดียวกันกับที่ชีวินสอนหนังสือสาเหตุที่จ่าชดแกมีลูกห่างกันอย่าง นี้เพราะแกรักงานยิ่งกว่าเมียนั่นแหละ เรื่องนี้ แก้ว แม่ของลูกทั้งสองคนรู้ดีที่สุด แก้วขายข้าวแกงอยู่หน้าแฟลต ทุกเช้าจะต้องมีกรณีพิพาทระหว่างแก้วกับจ่าชดเพราะแก้วชอบเอาของเหลือเมื่อ วานมาทำกับข้าวซ้ำ จ่าชดเกลียดที่สุด นอกจากนี้ยังชอบเอาน้ำมันค้างจนดำปี๋มาทอดปลาทอดหมูซ้ำแล้วซ้ำอีก จ่าชดเอ็ดตะโรถึงขั้นเอาน้ำมันเททิ้ง ทำให้แก้วโมโหเดือดดาลทะเลาะกันแทบจะตีกันตาย เรื่องนี้จ่าชดยอมไม่ได้เพราะเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นชนวนทะเลาะกันคือ แก้วทิ้งขยะไม่เลือกที่ บางทีสาดน้ำสกปรกไปหน้าแฟลต จ่าชดไม่ยอมทีเดียวเพราะแกเป็นคนมีจิตสาธารณะสูงยิ่ง ใครที่โดนจ่าชดจับฐานผิดกฎจราจรอย่าหวังเลยจะเอาเงินมายัดใส่มือจ่าชดง่ายๆ

วัน หนึ่งจ่าชดเห็น จ่าตุ้ม เพื่อนร่วมแฟลต รับเงินจากคนในรถที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จ่าชดแก่เห็นโต้งๆ แต่เห็นแก่หน้าเพื่อนจึงไม่พูดตอนนั้น กลับถึงแฟลตจ่าชดปิดประตูขอเคลียร์กับจ่าตุ้มว่าอย่าทำอีก เสียสถาบันผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จ่าตุ้มเถียงคอเป็นเอ็นว่าเอ็งจะมาทำตัวเป็นพ่อพระหรือไง สองจ่าเถียงกันลั่นแฟลตไม่มีใครยอมใคร จ่าตุ้มโกรธที่โดนว่าแบบไม่มีทางสู้จึงเถียงแบบข้างๆ คูๆ ขณะนั้น ตอง ลูกสาวจ่าตุ้มซึ่งเป็นตำรวจยศสิบตำรวจตรีสังกัดกองจราจร โผล่เข้ามาพอดีจ่าตุ้มแกจึงงัดไม่ตายขึ้นมาว่าต่อไปนี้ห้ามตองพูดกับชีวิน ลูกชายจ่าชด

เรื่อง นี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะชีวินหลงรักตองอย่างหัวปักหัวปำ แม้จ่าชดเองก็เอ็นดูตองเพราะเป็นตำรวจจราจรเหมือนตน ความจริงจะว่าไปมันก็เรื่องใม่ใหญ่เท่าไหร่หรอก เพราะตองเองไม่ชอบชีวินอยู่แล้ว เนื่องจากชีวินเป็นแค่ครูสอนภาษาไทยเชยๆ ตองนั้นเปรี้ยวขาดใจเวลาอยู่นอกเครื่องแบบ แต่ชีวินนั้นเชยจริงๆ ทั้งเชย ทั้งซื่อ ประมาณว่าเป็นคนโบราณกลับชาติมาเกิด เพราะชอบดนตรีไทย รักถึงขั้นหลงใหลภาษาไทย แต่ตองเกลียดภาษาไทยที่สุด เกลียดเพลงไทย เกลียดรำไทย ชอบฟังเพลงสตริง เพลงฝรั่ง ลูกทุ่งก็ไม่ชอบ แต่ชีวินชอบลูกทุ่ง ชอบลำตัด ทุกอย่างที่ชีวินชอบคือ ถูกปลูกฝังโดยจ่าชดนั่นเอง

พอ จ่าตุ้มห้ามตอง ตองเลยได้ที ตอนนี้ไม่มีคำว่าเกรงใจ ตองผลักไสชีวินด้วยคำพูด กริยา แถมยังยั่วเย้า หยอกล้อ ทำให้ชีวินเป็นตัวตลกขบขันต่างๆ นานา ชีวินหรือแสนดีไม่มีการโต้กลับ หน้าซื่อ ใจซื่อ รับกลศึกจากตองอย่างสงบ ทำให้ตองเซ็งเล็กๆ และเพิ่มระดับการรุกรานชีวินมากขึ้น เมื่อชีวินมาแบบความรักคับอก ตองยิ่งสวนกลับแรงๆ ทำเอาชีวินถอยกรูด แต่ยังคงไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบทั้งสิ้น จนกระทั่งเห็นหลายครั้งว่าตองสนิทสนมกับไอ้แม็ค คนขี่มอเตอร์ไซด์วินข้างแฟลต ชีวินเริ่มเศร้าซึมแล้วกลายเป็นการตอบโต้ให้ตองเห็นว่าชีวินเสียใจ ตองยิ่งสนุกแกล้งควงกับแม็คเย้ยชีวินบ่อยขึ้น แม็คนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชีวินเอาจริงจัง มีโอกาสแกล้งเป็นแกล้ง บางครั้งแกล้งหนักๆ เช่น เอาพรรคพวกมอเตอร์ไซด์ไปเร่งเครื่องล้อมไล่ชีวินให้วิ่งหนีไปมา ขนาดนี้ชีวินยังไม่โกรไม่ตอบโต้ ก้มหน้าก้มตาเดินกลับแฟลต โดยมีเสียงโห่ร้องเย้ยหยันพวกของแม็คตามหลัง

ครั้ง หนึ่ง แม็คบอกชีวินว่าตองนัดไปพบหลังวัด ชีวินแม้จะแปลกใจแต่เห็นหน้าซื่อของแม็คแล้วไม่สงสัยอะไร ชีวินคอยตองอยู่จนดึกมาก ในวัดมืดแต่ไม่มืดพอที่จะเห็นร่างของผีที่แม็คและพรรคพวกแต่งมาหลอกชีวิน ชีวินนั้นกลัวผีจนขึ้นสมอง วิ่งหนีจนหมดแรงล้มฟุบลง แม็คใจร้ายพอที่จะทิ้งให้ชีวินนอนตากน้ำค้างจนสว่าง ต่อจากนั้นชีวินก็ล้มเจ็บหนัก ไม่มีใครรู้จากปากชีวินเลยว่าเหตุใดจึงไปนอนหลับในวัด แม็คและพรรคพวกเตรียมถูกสอบสวนอยู่แล้ว แต่ต้องแปลกใจมากที่ไม่มีใครระแคะระคายว่าตนเป็นต้นเหตุ ส่วนตองไม่รู้เรื่องจนวันหนึ่ง ไอ้บื้อ สมุนคนหนึ่งของ แม็ค เมาแล้วพูดออกมา ตองถล่มแม็คปางตายว่านี่มันเกินไปแล้ว แม็คเถียงคอเป็นเอ็นว่าทำตามนโยบายของตองให้แกล้งชีวิน

ส่วน จ่าชดก็ยังคงสนุกกับงานโบกรถ ซึ่งแม้ว่าทุกสี่แยกจะมีไฟจราจรแล้วก็ตาม ตำรวจจราจรก็ยังจำเป็นในชั่วโมงเร่งด่วน จ่าชดโบกรถอย่างเข้มแข็ง แม้ว่าในวันปีใหม่ปีนี้จะได้ของขวัญเพียง 2 กล่อง เทียบกับเมื่อก่อนผิดกันราวฟ้ากับดิน

วัน โลกาวินาศของจ่าชดคือวันปีใหม่นั่นแหละ เริ่มด้วยตอนเช้าเจอคนเมาแล้วขับถึง 3 ราย แต่ละรายพูดแทบไม่รู้เรื่อง จ่าชดเบรกแตกตอนรายที่ 3 จึงสั่งสอนไปพอแรง แถมลามไปถึงพ่อแม่ว่าไม่อบรมสั่งสอนลูกให้รู้จักเคารพกติกาสังคม อย่างนี้สังคมจะสงบสุขได้อย่างไร หลังจากนั้นชั่วโมงหนึ่งพ่ออาเสี่ยของลูกชายวัยรุ่นคนนั้นมาพร้อมคำขู่ว่า สนิทกับนักการเมืองใหญ่พอที่จะทำให้จ่าชดกระเด็นไปอยู่ชายแดนที่กันดารที่ สุดก็ย่อมได้ จ่าชดหรือจะยอมในเมื่อเป็นฝ่ายถูก แกเถียงจนนักการเมืองต้องยอมถอย ต่อจากนั้นมีการวิ่งราวกระเป๋าถือ จ่าชดวิ่งตามจับเสียลิ้นห้อย รางวัลคือคำพูดสั้นๆ ว่า แส่หาเรื่อง กลับมาถึงสี่แยกเจอะผัวเมียทะเลาะกันกำลังลงมือตีกัน จ่าชดแกเข้าไปอย่างเร็วหวังว่าจะไปห้าม แต่พอวิ่งเข้าไปก็กระเด็นออกมาจนกระดอนไปหลายที่ เสียงตามหลังว่าอย่ายุ่งเรื่องผัวเมีย จ่าชดจ๋อยมากเดินคอตกมาโบกรถอย่างเดิม เจ้ากรรมจริงๆ โบกรถได้ไม่กี่ครั้งก็ถูกรถชนขาหักเสียก่อน เรื่องของเรื่องแกไปจับรถของลูกท่านหลานเธอพวกไฮโซเข้า เด็กหนุ่มปากเสียคนนั้นพูดจายียวนกับจ่าชดในที่สุดออกรถอย่างแรง จ่าชดต้องใส่เฝือกนอนเป็นมัมมี่อยู่ที่บ้าน ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลจ่าชุดถูกใจนางพยาบาลคนหนึ่งชื่อ ดวงใจ จนถึงขั้นอยากได้เป็นลูกสะใภ้ ซึ่งพยายามชักจูงชีวินให้รู้จักดวงใจดวงใจเป็นคนเงียบเรียบร้อยน่ารัก จ่าชดหวังว่าชีวินคงจะแต่งงานมีหลานให้อุ้ม แต่ดูชีวินไม่ออก ชีวินสุภาพและพูดคุยกับดวงใจเป็นอันดี ชีวินกำลังจะลืมตองได้แล้ว เมื่อเรื่องรู้ถึงหูตองเรื่องก็สมดังคำพังเพยว่า เนื้อตกน้ำชิ้นโต ตองหันมาเหล่ชีวินกับดวงใจ พลางนึกว่าหน้าจืดๆ อย่างนี้นะหรือชีวินจะชอบ เรื่องนี้ตองปรึกษาแม็ค โดยไม่ได้สังเกตหรอกว่าแม็คนั้นหน้าเสียเลยทีเดียว

ชีวิน ก้มหน้าก้มตาสอนหนังสือต่อไป เพียรพยายามเคี้ยวเข็นลูกศิษย์ให้ตั้งใจเรียนภาษาไทย ลูกศิษย์ที่ชอบก็มี ไม่ชอบก็มี พวกไม่ชอบก็ไม่สนใจเลยเหมือนไม่ได้เกิดเป็นคนไทย ชีวินจึงเหน็ดเหนื่อยกับการพร่ำสอนลูกศิษย์ตัวน้อยๆ เหล่านั้น แถมยังอาจจะไม่ได้ผลเพราะแก่นน้องชายที่เรียนอยู่ในโรงเรียนนี้ก็ร่วมอยู่ใน พวกไม่ชอบภาษาไทย ชีวินจึงเหนื่อยขึ้นเป็นสองเท่าเพราะต้องจัดการกับไอ้แก่นเป็นลำดับแรก ในบ้านจึงมีคู่กรณีเพิ่มอีก 1 คู่ นอกเหนือจากจ่าชดและแก้ว คือ ชีวินกับแก่น ในขณะที่พ่อถือหางลูกชายคนโต แม่ก็ถือหางลูกชายคนเล็ก ในบ้านจึงเปรียบเหมือนสนามมวยย่อยๆ เข้าไปทุกที

ความ จริงแก่นลูกชายจ่าชดถึงแม้ไม่ชอบภาษาไทย แต่เก่งวิชาอื่นๆ เช่น คณิตศาสตร์ สังคม และแม้แต่พลศึกษา ที่จริงแก่นเป็นเด็กดีทีเดียว เลิกโรงเรียนไม่ไปเที่ยวเล่นซนที่ไหนกลับบ้านแต่วัน เพื่อมาช่วยแม่ทำกับข้าวเตรียมขายวันรุ่งขึ้น เงินทองใช้ประหยัดไม่อยากได้โน่นอยากได้นี่เหมือนเด็กทั่วไป

จ่า ชดทำอุบายนัดหมายให้ชีวินไปเที่ยวกับดวงใจได้สำเร็จ ชีวินตามใจพ่อเพราะเห็นว่ายังเจ็บอยู่ แม็คเห็นสองคนไปกินข้าวด้วยกัน แต่ด้วยความในใจอีกนั่นแหละจึงไม่บอกตอง เจ้ากรรมเหลือเกินตองรู้เข้าจากไอ้บื้อ ตองลุยไปถึงร้านอาหารเข้าไปราวีกับชีวินและดวงใจอย่างมีชั้นเชิง ชีวินเงอะงะพยายามแก้ตัวกับตอง ตองตัดบทว่าไปพูดต่อที่แฟลต ให้ชีวินพาดวงใจไปส่งและต่อไปนี้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับดวงใจอีก ชีวินฟังอย่างเหวอๆ แต่ก็ทำตาม ขณะที่สองคนออกไปจากร้าน ตองก็เห็นแม็ค เท่านั้นแหละเหมือนลูกระเบิดลง ตองอาละวาดกับแม็คแบบปูพรม แม็คแก้ตัวว่ากำลังจะไปบอก แต่ตองนั้นหน้ามืดเสียแล้ว ชี้หน้าบอกแม็คว่าอย่าได้มาให้เห็นหน้าอีก

จ่า ชดรู้เรื่องก็เชียร์ลูกชายเต็มที่ว่าเอ็งไม่สงสารดวงใจเขาหรือ เขาโดนไอ้ตองราวีเสียขนาดนั้น ชีวินเถียงพ่อว่าตองเห็นโมโหแสดงว่าตองรัก จ่าชดบอกว่าจะเอามาเป็นแม่หรือไง จราจรผู้หญิงดุๆ อย่างนี้อย่าไปสน แต่ชีวินบอกพ่อว่าผมรักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนใจหรอก เขารักจราจรหญิงชื่อตองเพราะผู้หญิงคนนี้มีอาชีพเดียวกับพ่อ

วัน หนึ่งตองเข้าเวร พอแม็คขี่จักรยานยนต์รับจ้างผ่านมาแต่ไม่ใส่หมวกกันน็อค ตองโบกมือเรียกจับทันที ขณะที่กำลังเขียนใบสั่งจ่าชดเข้ามาถามไถ่ทั้งๆ ที่ตัวเองยังใส่เฝือกอยู่ มีเพื่อนตำรวจไปรับมาเที่ยวเล่นที่สี่แยก แม็คตอบว่าหมวกหายกำลังจะไปซื้อใหม่ ตองไม่ฟังเสียงฉีกใบสั่งดังแควกส่งให้แม็ค แม็คคอตกเพราะเสียใจเป็นทุนอยู่แล้ว จ่าชดทะเลาะกับตองหาว่าใจดำทำหน้าที่เข้มแข็งก็น่าชมอยู่ แต่บางครั้งก็ต้องมียืดหยุ่นบ้าง ตองยืนยันว่าต้องจับเพราะทำผิด จ่าชดว่าเขาก็กำลังจะไปซื้ออยู่แล้ว ตองเถียงว่าขี่มอเตอร์ไซด์ไปทำไมควรจะนั่งรถเมล์ไป

จ่า ชดอึดอัดเต็มทีกับขาที่ยังไม่หาย ชีวินกับดวงใจก็ยังไม่เห็นวี่แวว แถมไอ้ตองก็กำลังปรารถนาตัวลูกชายจ่าชดอยู่ จ่าชดกลุ้มใจเต็มทน จะพึ่งแม่แก้วปรึกษาหารือตามประสาผัวเมีย แม่แก้วก็ส่ายหน้าลูกเดียว ยุ่งเรื่องขายข้าวแกงก็แทบไม่มีเวลาอยู่แล้ว มีแต่แก่นลูกชายคนเล็กที่ทำให้ชื่นใจขึ้นบ้าง กลับจากโรงเรียนก็มาพูดคุยกับพ่อ เขียนการ์ตูนเล่นที่เฝือกของพ่อบ้าง ชวนพ่อคุยเรื่องจราจรบ้างคุยไปคุยมาแก่นก็หลงใหลในอาชีพจราจรขึ้นมาอย่างไม่ น่าเชื่อ

ดัง นั้นเมื่อครูกิจกรรมถามว่าแก่นจะเลือกเข้าชมรมไหน แก่นจึงตอบว่าชมรมจราจร ครูส่ายหน้าว่าไม่มีชมรมจราจร มีแต่ชมรมกีฬา ชมรมดนตรีไทยและสากล วิทยาศาสตร์ ฟุตบอลและอื่นๆ แก่นผิดหวังและในขณะที่พยายามคิดถึงกิจกรรมที่ตนไปมีส่วนร่วมทั้งๆ ที่ไม่ชอบแม้แต่อย่างเดียว ก็เผอิญเกิดรถชนเด็กนักเรียนหน้าโรงเรียนของแก่น เด็กคนนั้นบาดเจ็บสาหัสมาก แก่นเห็นเป็นโอกาสจึงยืนยันว่าเขาต้องการเข้าชมรมจราจร ในเมื่อโรงเรียนไม่มีชมรมนี้เขาจึงขอเป็นลูกเสือจราจร บรรดาครูถกเถียงกันอย่างเคร่งเครียดในที่สุดก็ตกลง แก่นเข้ารับการอบรมเป็นลูกเสือจราจรที่กองตำรวจจราจร เมื่อจบการอบรม สารวัตรจราจรมาเป็นประธานประดับโล่ และมอบเข็มขัดจราจรให้แก่ลูกเสือที่ผ่านการอบรมซึ่งมีอยู่ 1 คนเท่านั้น ในวันที่แก่นออกไปทำหน้าที่ลูกเสือจราจรเป็นวันแรก แก่นรู้สึกหัวใจพองโต เขาโบกมือให้รถหยุด ดูแลเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ ให้ข้ามถนนอย่างปอลดภัย เด็กๆ หลายคนเดินข้ามถนนด้วยท่าทางรื่นเริง เขารู้แล้วว่าพ่อรู้สึกอย่างไร เมื่อพ่อช่วยเหลือคนให้ปลอดภัยบนถนน แก่นยืนโบกรถตัวลอยด้วยความปลื้ม ทันใดรถคันหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็วมาก จวนจะถึงพวกเด็กๆ อยู่แล้ว แก่นวิ่งปราดออกไปขวางหน้ารถคันนั้
นอย่างทันควัน รถเบรกเสียงดัง

หน้า หม้อรถจ่อหน้าแก่นไม่ถึงเมตร แก่นได้รับคำชมเชย นักเรียนทั้งโรงเรียนรู้จัก แก่น วงศ์จราจร กันแทบทุกคน แก่นเอารางวัลจากโรงเรียนมามอบให้พ่อ จ่าชดกอดลูกยิ้มทั้งน้ำตา ต่อจากนั้นมีคนสมัครเป็นลูกเสือจราจรเพิ่มขึ้นทุกเดือนๆ ละ 2-3 คน ลูกเสือจราจรผลัดกันเข้าเวรจัดการเรื่องจราจรหน้าโรงเรียน

เรื่อง ของลูกชายคนเล็กดูเหมือนจะลงเอยด้วยดี แต่ลูกชายคนโตยังเรื่อยๆ เฉื่อยแฉะอยู่อย่างเดิม ดวงใจมาเยี่ยมจ่าชดเป็นครั้งคราว ทำให้จ่าชดอดคิดไม่ได้ว่าหญิงสาวชอบชีวิน เมื่อชีวินรู้ เขาทำตามที่พ่อบอกให้ทำ เช่น ไปหาดวงใจ ซื้อขนมไปให้ จนแล้วจนรอดยังไม่มีถ้อยคำใดหลุดจากปากชายหนุ่ม ส่วนตองตอนนี้มีแม็คเป็นคู่กัดเพราะดีกันแล้ว ตองแสดงออกกับแม็คได้ทุกอารมณ์รวมทั้งแผนการที่จะเอาชีวินกลับคืนมาจากดวงใจ

ความ จริงชีวินนั้นจิตใจยังมั่นคงอยู่กับตอง แต่เจ้ากรรมที่เห็นตองทีไรก็ต้องเห็นแม็คทุกที จิตใจจึงรวนเร ไม่รู้ว่าจะเดินหน้ากับตองดี หรือจะตามใจพ่อเรื่องดวงใจดี

ระหว่าง นั้นจ่าชดถอดเฝือกแล้ว พร้อมที่จะไปโบกรถยามเช้ายามเย็นช่วงรถติดอย่างเคย ยามนี้แกลืมทุกสิ่งนอกจากงานจราจร สีหน้าแกอิ่มเอิบสดชื่นและดูเหมือนจะรำจราจรได้สวยกว่าเคย จิตใจจ่าชดปลาบปลื้มที่มีส่วนช่วยให้ผู้คนมีความสุข เพราะแกโบกรถผ่านได้แคล่วคล่องรถแล่นไหลลื่นไม่ติดขัด แกเห็นสีหน้าคนหนึ่งหลังพวงมาลัยยิ้มแย้มดูอารมณ์ดี จ่าชดมีความสุขที่เอาชนะรถที่ติดเป็นตังเมได้ มีอุปสรรคนิดหน่อยก็ตรงจ่าตุ้มนั่นแหละ วันใดที่ต้องมาทำหน้าที่ด้วยกัน จ่าตุ้มมักจะทำท่าจับรถขับผิดกฎจราจรแบบลับๆ ล่อๆ ที่จ่าชดเกลียดนัก แกประกาศลั่นว่าถ้าเห็นใครรับเงินค่าปรับจากคนขับละก็ มีเรื่องกะแกแน่ๆ

พ่อ ดูมีความสุข น้องชายก็มีความสุข แม่ก็ขายของดีขึ้นเพราะตอนหยุดงานจ่าชดชิมอาหารทุกวันจนหาสูตรที่ลงตัวให้ อาหารอร่อยได้แล้ว คนก็ติดข้าวแกงแม่แก้วเป็นตังเม แต่ชีวินเล่าเขารู้ดีว่าพ่อหวังได้ดวงใจเป็นลูกสะใภ้ พ่ออาจจะคิดว่ามีลูกสะใภ้เป็นพยาบาลทำให้อุ่นใจในยามเจ็บป่วย เขาเองกำลังคิดว่ารักดวงใจพยาบาลสาวผู้อ่อนหวานนุ่มนวล หรือตองจราจรหญิงผู้ห้าวหาญดี

ตอง พักร้อนจึงไปชวนชีวินไปเที่ยวเขาใหญ่โดยลากแม็คไปด้วยเพื่อกันคนนินทา บอกแม็คว่าคราวนี้ต้องจัดการให้ชีวินเป็นแฟนตัวให้ได้ แม็คถามว่าจะยอมเป็นเมียชีวินหรือ ตองด่าแม็คไม่เลี้ยงเพราะในชีวิตไม่เคยคิดจะยอมมีอะไรกับใครก่อนแต่งงาน เพราะจ่าตุ้มสั่งสอนตั้งแต่เล็กให้รักนวลสงวนตัว ที่เขาใหญ่แม็คต้องหน้าชื่นอกตรมที่เห็นตองกับชีวินทำท่าจะเข้าใจกัน

รัก ครั้งนี้หวานยิ่งนัก ตองลืมไปเลยว่าชีวินทั้งเชยทั้งซื่อ จืดชืด แถมยังชอบสั่งสอนเวลาตองพูดภาษาไทยผิดๆ มีแต่ชีวินที่อบอุ่น อ่อนโยน จริงใจ สุภาพและให้เกียรติ ทำให้ตองรู้สึกเป็นผู้หญิงที่มีค่า ช่วงเวลาต่อมาเป็นความหวังของตองและชีวิน สองคนสร้างความฝันร่วมกัน อุปสรรคอันยิ่งใหญ่คือพ่อของทั้งสองคน แต่ชีวินและตองยินดีจะรอคอยเพื่อเอาความอดทนชนะใจจ่าทั้งสองคนให้ได้

วัน หนึ่งเกิดมีการปล้นและยิงต่อสู้ระหว่างคนร้ายกับตำรวจ คนร้ายวิ่งหนีมาทางที่จ่าชดกำลังปฏิบัติหน้าที่ จ่าชดไม่ฟังเสียงห้ามของใครๆ วันนั้นจ่าตุ้มก็อยู่ จ่าชดสะบัดจ่าตุ้มผู้ที่เข้ามาล็อคตัวจ่าชดไว้จนกลิ้งไปสามสี่ตลบ ตัวเองวิ่งปราดไล่ตามผู้ร้ายไป พร้อมทั้งตองผู้ซึ่งมาถึงพอดีเพื่อมารับจ่าตุ้ม ตองกระโดดลงจากรถวิ่งตามจ่าชดไป จ่าตุ้มแทบหัวใจวายจะขี่มอเตอร์ไซด์ตามไปก็ใช่ที่ ตองวิ่งตามจ่าชดจนทัน แต่เมื่อตองวิ่งเข้าจะชาร์ทจ่าชด ลูกกระสุนปืนของคนร้ายก็พุ่งเข้าที่ท้องของจ่าชดจนล้มคว่ำไป

จ่า ชดเจ็บคราวนี้ดวงใจดูแลพยาบาลอย่างดีมาก อาการจ่าชดเป็นตายเท่ากัน จ่าชดเสียเลือดมาก ดวงใจเท่านั้นที่มีเลือดกรุ๊ปบีลบ ซึ่งเป็นกรุ๊ปเลือดที่หายาก ดวงใจสละเลือดให้จ่าชดด้วยความเต็มใจ พ่อหายเจ็บเพราะดวงใจ ชีวินจะทำอย่างไรจึงจะตอบแทนความดีครั้งนี้

ตอง รับรู้จากปากของชีวินเอง ความกตัญญูของคนรักทำให้ตองปวดร้าวใจยิ่งนัก แม็คพยายามปลอบโยนแต่แม็คเป็นแค่เพื่อนรัก น้ำใจของแม็คไม่สามารถคลายความเจ็บช้ำของตองได้ ตองหายหน้าไปพักใหญ่เลิกแล้วงานจราจรที่รัก ในขณะที่จ่าชดไปสู่ขอดวงใจให้ชีวิน งานแต่งงานถูกวางแผนให้เรียบง่ายและสิ้นเปลืองน้อยที่สุด ตองกลับมาจ่าตุ้มมองดูความเศร้าซึมของลูกสาวด้วยความสงสาร พลางคิดว่าควรจะต้องทำอะไรสักอย่าง

ก่อน วันแต่งงานไม่กี่วัน จ่าตุ้มไปขอพบจ่าชด สองจ่าพูดจาถกเถียงกันเป็นนานสองนาน ในเวลาเดียวกัน ตองขอพบดวงใจ เพื่อขอร้องกันอย่างผู้หญิงต่อผู้หญิงว่าการที่ได้คนที่ไม่รักเรานั้นเป็น ความทุกข์ที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรยอม วันแต่งงานแท้ๆ เขายังไม่รักแล้ววันต่อๆ ไปล่ะ

งาน นี้เห็นได้ชัดว่าทั้งพ่อทั้งลูกคือ จ่าตุ้ม กับ ตอง นั้น มีหัวใจดวงเดียวกันคือหัวใจนักสู้ วันแต่งงาน จ่าชดและจ่าตุ้มแย่งกันทำหน้าที่จราจรกั้นขบวนขันหมากเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ด้วยน้ำใจของเพื่อนบ้านในฐานะพ่อของเจ้าบ่าวและพ่อของเจ้าสาว