Tag Archives: จิตตาภา แจ่มปฐม

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2

The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 เป็นเรื่องราวของผู้ที่มีสัมผัสพิเศษที่แต่ล่ะคนมีแตกต่างกัน

ญาณสื่อรัก
 
ญาณิน ผู้มีญาณวิเศษสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ขณะอยู่ในสมาธิ จำต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือติณห์ หนุ่มหัวนอกที่ไม่เชื่อเรื่องผีเลยสักนิด เพราะเห็นวิญญาณผีตายโหงมากมายอยู่ในที่ดินที่เขาจะสร้างรีสอร์ตริมแม่น้ำ ที่สำคัญ วิญญาณคุณหลวงพิชัยภักดีตาของชายหนุ่มปรากฏกายให้เธอเห็นและจ้างเธอด้วยทองคำจำนวนสิบแท่งเพื่ออยู่ช่วยหลานชายสร้าง รีสอร์ตจนแล้วเสร็จ ทว่าที่ดินผืนงามนี้ไม่เข้าใครออกใคร มีคนวางแผนชั่วเพื่อฮุบที่ดินชายหนุ่ม งานนี้เขาและเธอจึงต้องฝ่าด่านสารพัดทั้งผีและคนเลว
 
กับดักรักลวง
 
เล่ห์บ่วงมนตรา
 
สุคนธรส ผู้สามารถได้กลิ่นวิญญาณและสืบทอดวิชาไสยขาวมาจากหลวงปู่ของเธอ ตัดสินใจที่จะช่วยเสี่ยใหญ่เจ้าของตลาดสดหญิง-จำเริญ ที่กำลังถูกวิญญาณมุ่งร้าย ทว่ากลับเจอปัญหาเข้าเสียเองเมื่อคุณหญิงจะจับเธอแต่งงานกับบุตรชายเพราะเข้าใจผิดคิดว่าไตรรัตน์ทำมิดีมิร้ายจนเธอพลาดท่าเสียที หญิงสาวจะทำอย่างไรเมื่อต้องงัดวิชาคุณไสยที่เล่าเรียนออกมาใช้เพื่อช่วยเหลือชายหนุ่มที่มองว่าเธอมีพฤติกรรมไม่ต่างจากพวกสิบแปดมงกุฎ
 
มายาร้อยใจ
 
กรรัมภา ผู้สามารถใช้มือสัมผัสเพื่ออ่านความทรงจำจากวัตถุ ได้รับหน้าที่ช่วยเหลือปาร์คจุนจี ดาราลูกครึ่งไทย-เกาหลีที่เธอคลั่งไคล้ เขาถูกวิญญาณรังควานหลังจากพิมพ์พิลาศผู้เป็นย่าเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ จากความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาแต่เกิด ทำให้หญิงสาวสืบจนเข้าใกล้ความจริงและพบว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลัง ในสายตาของปาร์คจุนจี กรรัมภาเป็นแค่แฟนคลับโรคจิตและคุณหนูแบรนด์เนมแต่งตัวเว่อร์ แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกัน เจ้าชายแห่งโลกมายากลับมองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
 
เปลวไฟในสายลม
 
เนตรสิตางศุ์ ชอบทำอาหารมาก จึงคิดเมนูแปลกๆมา ผู้สามารถมองเห็นวิญญาณ ต้องรับหน้าที่ดูแลเคสใบหม่อน นางเอกละครเวทีที่ถูกฆาตกรรม ที่น่าหนักใจยิ่งกว่าคือ คำขอร้องของวิญญาณที่ต้องการหาตัวฆาตกรมาลงโทษ ยายน้องหนูผู้นุ่มนิ่มที่สุดในกลุ่มจึงต้องข้องเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แถมยังไม่ทราบว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่บังเอิญมีวรวรรธน์ คุณหมอนิติเวชหัวใจร็อกผู้มีวิญญาณตามเป็นพรวนมาคอยป้วนเปี้ยนให้หัวใจกระตุก สงสัยเคสนี้จะบานปลายเสียแล้ว เพราะจำนวนผู้เข้าข่ายต้องสงสัยเพิ่มขึ้นทุกที ชอบหมอวรรธ
 
นักแสดง The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2
 
หลุยส์ สก๊อต รับบท ติณห์
วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบท ไตรรัตน์
รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รับบท ปาร์คจุนจี/จุนจี
จรณ โสรัตน์ รับบท พงอินทร์
ฐกฤต ตวันพงค์ รับบท หมอวรวรรธ/หมอตาหนู
จิตตาภา แจ่มปฐม รับบท ญาณิน
กมลเนตร เรืองศรี รับบท สุคนธรส
ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด รับบท กรรณา
ตฤณญา มอร์สัน รับบท กรรัมภา
กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์ รับบท เนตรสิตางคุ์
สราวุธ มาตรทอง รับบท ร.ต.อ.ณัฐเดช/ผู้กองณัฐ
ธรรศภาคย์ ซี รับบท คิมซองซู
พริมรตา เดชอุดม รับบท เป้ย
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบท อรวรรณ/ป้าออ
อนันต์ บุนนาค รับบท คุณหลวงพิชัยภักดี
ธนากร โปษยานนท์ รับบท หมอสมคิด
รัชพล แย้มแสง รับบท ก๊อง
จริยา แอนโฟเน่ รับบท มิรันตรี
สุปราณี เจริญผล รับบท แม่ทิพย์
ทาริกา ธิดาทิตย์ รับบท พิมพิลาศ
อนุวัตน์ นิวาตวงศ์ รับบท ดร.แผนยุทธ
ศิรินทร์ ปรีดียานน์ รับบท เบญจา
นิโคล เทริโอ รับบท พิมอร
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท เจ๊หญิง
อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบท เสี่ยจำเริญ
นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบท ลีจองกุ๊ก
พรรษชล สุปรีย์ รับบท น้ำหนึ่ง
อัมราภัสร์ จุลกะเศียน รับบท สุพิชชา/พีช
ศานติ สันติเวชกุล รับบท กำนันพงษ์
นาตาลี เดวิส รับบท เคธี่
อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล รับบท อติเทพ
ณิชชาพันณ์ ชุนหะวงศ์วสุ รับบท อรวี
ประกาศิต โบสุวรรณ รับบท ทนายสมชาติ
สมมาตร ไพรหิรัญ รับบท ทนายสมชาย
วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบท ช่อเพชร
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท จารุณี
ดารัณ ฐิตะกวิน รับบท อาอี๊
สินีนาฏ โพธิเวช รับบท อาม่า
ด.ญ.วาศิตา แฮเมเนา รับบท โกเด้นเบบี้
ด.ญ.ชินารดี อนุพงษ์พิชาติ รับบท โบตั๋น

อเวจีสีชมพู

อเวจีสีชมพู เป็นเรื่องราวความรักต่างวัยของ ปะวะหล่ำ สายน้อยวัย 17 กับ โปดก น้าชายหนุ่มต่างสายเลือดที่ต้องมาแต่งงานกันตามคำขอร้องก่อนตายของแม่ของปะวะหล่ำ

แม่ของปะวะหล่ำถูกลอบยิงเสียชีวิตตั้งแต่ปะวะหล่ำยังเด็ก โดยฝากฝังให้โปดก ช่วยดูแลและแต่งงานกับปะวะหล่ำเพื่อให้เธอรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกา โดยเฉพาะศพลพ่อแท้ ๆ ของเธอ ศพลต้องการฮุบที่ดินสวนส้มโดยอาศัยความเป็นพ่อ เบื้องหลังความตายของถมปัดคือศพล ถาปนาตาของปะวะหล่ำชังศพล แต่ก็ขัดขวางการแต่งงานของโปดกกับปะวะหล่ำ เพราะคิดว่าโปดกต้องการสมบัติเหมือนกัน

ปะวะหล่ำเพิ่งเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีที่ 5 เท่านั้น ทำให้เรื่องแต่งงานจึงต้องปิดเป็นความลับ โปดกสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินปะวะหล่ำ และจะดูแลปะวะหล่ำอย่างดีจนกว่าปะวะหล่ำจะอายุครบ 20 ปี โดยจะเป็นผู้ปกครองปะวะหล่ำ แต่หากพบปะวะหล่ำพบคนที่รัก ในตอนที่ปะวะหล่ำมีอายุครบ 20 ปี  โปดกจะคืนอิสรภาพให้ ปะวะหล่ำเคารพโปดกอยู่แล้ว เพราะโปดกเลี้ยงและปกครองมาตั้งแต่เกิด จึงไม่ลำบากใจและยอมรับในทุกคำพูดของโปดก ศพลรวมหัวกับศก ผู้เป็นพ่อสร้างความสนิทสนมกับปะวะหล่ำ หวังให้ปะวะหล่ำตายใจและคืนสิทธิ์การเป็นผู้ปกครองให้โดยศพลและศกไม่รู้เลยว่าปะวะหล่ำแต่งงานกับโปดกแล้ว

ปะวะหล่ำดูแก่นแก้ว สู้คน แต่จริง ๆ แล้วอ่อนไหว พอศพลมาทำดีด้วยเธอจึงคิดจะแบ่งสวนส้มให้ แต่เรื่องกลับแตกว่าโปดกกับปะวะหล่ำเป็นสามีภรรยากันแล้ว ศพลจึงหมดหวังและโกรธถมปัด จินตนาเมียถมทอง น้องสาวของถมปัด มาที่สวนส้มเพื่อเอาสมปัดของถมปัด ปะวะหล่ำจึงให้ไปบ้าง แต่ถมทองก็ยังคงคอยมาสร้างความรำคาญใจให้กับโปดกและปะวะหล่ำเสมอ ๆ ศพลแค้นทั้งถมปัดและปะวะหล่ำ จึงไปเปิดเผยเรื่องการแต่งงานของปะวะหล่ำกับโปดกให้ทางโรงเรียนของปะวะหล่ำทราบ ปะวะหล่ำจึงถูกไล่ออกจากโรงเรียน

โปดกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปะวะหล่ำจึงเรียนระบบการศึกษานอกโรงเรียนอยู่กับบ้าน ปะวะหล่ำและโปดกจึงมีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น โปดกพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ ทำให้ปะวะหล่ำน้อยใจเพราะคิดว่าโปดก ไม่รักตนแล้ว

ศกและศพลใช้แผนชั่วในโกงที่ดินปะวะหล่ำ และพยายามซื้อตัวทัน คนงานเก่าแก่ แต่ไม่สำเร็จ โปดกเกรงว่าปะวะหล่ำอาจจะได้รับอันตราย จึงย้ายมาทำงานที่สวนเพื่อจะได้ดูแลปะวะหล่ำ ทำให้ความสัมพันธ์ทางใจของทั้งคู่ยิ่งผูกพันกันเพิ่มมากขึ้น ปะวะหล่ำเรียนการศึกษานอกโรงเรียนและสอบเทียบจนจบชั้นมัธยมปลาย โปดกโน้มน้าวให้ปะวะหล่ำเรียนวิชาที่จะนำความรู้มาพัฒนาสวนส้มได้ แต่ปะวะหล่ำไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายปะวะหล่ำก็เปลี่ยนใจเพราะตระหนักว่าจะต้องรักษาผืนแผ่นดินที่แม่ของเธอสร้างขึ้นมาไว้เป็นอนุสรณ์  ปะวะหล่ำโดยเธอสอบติดที่มัธยมเชียงใหม่ ภาควิชาอุตสาหกรรมอาหาร โปดกภูมิใจที่ปะวะหล่ำเข้าใจความหวังดีของเขา

ปะวะหล่ำโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่เรื่องของความรักของปะวะหล่ำยังเด็กเสมอในสายตาโปดก ศพลยังไม่เลิกราความต้องการจะครอบครองสวนส้ม เขายุคนงานในสวน จนคนงานลาออกเกือบหมด แต่โปดกและทันร่วมแรงร่วมใจจนชนะใจคนงานทั้งหมด

ที่มหาวิทยาลัยปะวะหล่ำได้เพื่อนสนิทรู้ใจคือ วิภาวรรณ และได้รู้จักกับวิภาค พี่ชายของวิภาวรรณ รุ่นพี่ร่วมชมรมเดียวกัน วิภาคหลงรักปะวะหล่ำ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มงอกงาม  ความรักเติบโตไปในทางที่ถูกที่ควร วิภาคพาปะวะหล่ำไปรู้จักกับพ่อแม่ ปะวะหล่ำเข้ากับพ่อแม่วิภาคได้ดี ส่วนโปดกก็เริ่มรู้ว่าปะวะหล่ำเกิดความรักกับคนวัยเดียวกัน โปดกเข้มงวดกับปะวะหล่ำมากขึ้นจนมีปากเสียงกันหลายครั้งเพราะหึงหวงในตัวปะวะหล่ำโดยไม่รู้ตัว แต่โปดกก็พยายามเตือนสติตัวเองและถอยออกมา

ศพลลงทุนทำสถานที่เที่ยวกลางคืน โดยได้นายทุนอย่างตติยะร่วมหุ้นด้วย ศกจะลงเล่นการเมืองต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงขายที่ดินสวนส้ม โปดกจึงแอบส่งคนไปซื้อไว้ ศพลเป็นหนี้ตติยะ เขาเห็นว่าตติยะถูกใจปะวะหล่ำ จึงคิดล้างหนี้ด้วยการขายลูกสาวกิน แต่โปดกมาช่วยได้ทัน ปะวะหล่ำมีวิภาคเยียวยา ส่วนโปดกก็ได้ศศิลดาที่ทำธุรกิจทางเหนือช่วยรักษาแผลใจ ศพลแค้นโปดกที่ขัดขวางทุกสิ่งที่เขาทำ จึงส่งมือปืนมาเก็บโปดก แต่ทันรับเคราะห์แทน ปะวะหล่ำรู้ความจริงว่าศพลคือคนบงการฆ่าแม่ของเธอ เธอเสียใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าพ่อแท้ ๆ ของตนเป็นผู้ทำลายชีวิตเธอ

โปดกจ้างสถาปนิกออกแบบรีสอร์ทในสวนส้มและบ้านหลังใหญ่ เพื่อเป็นเรือนหอให้ปะวะหล่ำและวิภาค วันที่ปะวะหล่ำจบการศึกษาวิภาคขอเธอแต่งงาน ทั้งโปดกและปะวะหล่ำน่าจะมีความสุข แต่ทั้งคู่กลับหม่นหมองเหมือนมีบางสิ่งที่อยู่ในใจยังไม่ถูกปลดปล่อยออกมา วันที่ปะวะหล่ำอายุครบ 20 ปี วิภาคหมั้นปะวะหล่ำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปะวะหล่ำเลือกแหวนเพชรให้โปดกหมั้นศศิลดา โปดกบอกความจริงกับวิภาคเรื่องสถานภาพของเขากับปะวะหล่ำ เพื่อแสดงความจริงใจให้วิภาครับทราบและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้วิภาคฟัง แต่วิภาคกลับรับความจริงนี้ไม่ได้รวมถึงพ่อแม่ของวิภาคก็เช่นกัน ปะวะหล่ำเสียใจ เธอไล่โปดกไปจากชีวิตเธอ ทั้งคู่ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน แม้จะเศร้าแต่โปดกก็ยกทุกอย่างให้ปะวะหล่ำ รวมทั้งเรือนหอซึ่งโปดกตั้งใจสร้างให้ปะวะหล่ำและวิภาคด้วย

ปะวะหล่ำไม่รู้ว่าศศิลดากับโปดกไม่ได้หมั้นกัน โปดกสารภาพว่าเขารักปะวะหล่ำคนเดียว ปะวะหล่ำดูแลรีสอร์ทที่เพิ่งเปิดตัว ทันมาบอกว่ามีลูกค้ามาเช่าเรือนหอ ปะวะหล่ำไปขอเรือนหลังนั้นคืนเพราะเธอไม่ต้องการให้ใครเช่า แต่ลูกค้าคนนั้นกลับเป็นโปดก โปดกสารภาพกับปะวะหล่ำว่าตลอดเวลา 4 ปี ที่ต้องแบบรับภาระปะวะหล่ำนั้น ในตอนแรกเขายอมรับว่าเขารู้สึกเหมือนเขาตกอยู่ในอเวจี แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยินดีเพราะสิ่งเหล่านี้มันกลายเป็นอเวจีสีชมพูสำหรับเขา

ปะวะหล่ำจะตัดสินใจอย่างไรกับคำสารภาพรักของโปดก วิภาคจะเปลี่ยนใจกลับมารักปะวะหล่ำหรือไม่ ศพลจะได้รับผลกรรมที่ก่อกับชีวิตของถมปัดและปะวะหล่ำอย่างไร ติดตามหาคำตอบ ได้ใน “อเวจีสีชมพู

มนต์รักลูกทุ่ง

คล้าว (ทฤษฎี สหวงษ์) คนจนนิสัยดี เป็นคนขยันทำมาหากิน เพื่อไถ่ที่นาที่ แม่คอน (ชุดาภา จันทเขต) ผู้เป็นแม่นำไปจำนองไว้กับจอม (สันติสุข พรหมศิริ) ผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้าน เจิด (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของจอม ที่หลงรัก ทองกวาว (จิตตาภาแจ่มปฐม) ลูกสาวคนสวยเศรษฐี พ่อก้อน (อนันต์ บุญนาค) กับ แม่ทับทิม (จินตหรา สุขพัฒน์) เป็นคนสวย น่ารัก เรียบร้อย เชื่อฟังพ่อแม่ แต่ทองกวาวไม่ชอบที่เจิดเป็นนักเลงอันธพาลหัวไม้ ทองกวาวมีญาติสนิทชื่อ บุปผา (ณัฎฐพัชร วิพันธครตระกูล) สาวสวยวัยไล่เลี่ยกันเป็นที่ปรึกษาหัวใจ ส่วนบุปผาชอบ พี่แว่น (เบญจพล เชยอรุณ) เพื่อนสนิทของนายคล้าว คล้าวเป็นหนุ่มเนื้อหอมมีสาว ๆ มาชอบมากมาย แต่ตนมีใจรักทองกวาวเพียงผู้เดียว ถึงแม้จะมี สายใจ ลูกสาวตามิ่ง (เป็ด เชิญยิ้ม) ขี้เมา คอยตามตื้อก็ตาม

ทองกวาวแอบไปพบคร้าวเสมอ เจิดเห็นเอามาฟ้องก้อน ก้อนทำโทษห้ามออกจากบ้าน เมื่อออกไปเจอคล้าวไม่ได้ คล้าวเลยแอบมาปีนบ้านหาทองกวาวนัดไปเจอกันที่เพิงกลางนา แต่แม่คอนไม่สบาย คืนนั้นคล้าวต้องอุ้มแม่ไปรักษาที่สุขศาลานอนเฝ้าแม่เลยไม่ได้ไปตามนัด ทองกวาวมารอคล้าวบังเอิญสายใจผ่านมาเจอทองกวาวเลยโกหกว่าคล้าวไม่มาเพราะ เพิ่งแยกกับตนที่บ้าน ทองกวาวเชื่อคำพูดของสายใจ และเมื่อเจิดเอารถคันใหม่มารับที่บ้านแม้จะไม่ชอบเจิด แต่ก็ทนความตื๊อและคะยั้นคะยอของพ่อกับแม่ไม่ไหวจึงยอมนั่งรถออกไปกับเจิด คล้าวกลับจากเฝ้าแม่พร้อมสายใจมาเจอเจิดกับทองกวาว ทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจผิดกัน บุปผา รู้เรื่องเข้าจึงแอบไปบอกความจริงกับคล้าว คล้าวไปหาทองกวาว และบอกสาเหตุที่ตนเองไม่ไปตามนัด

ก้อนกับทับทิมให้จอมไปหาฤกษ์ จะได้ให้เจิดยกขันหมากมาขอทองกวาว ทองกวาวรู้เรื่องก็ร้องไห้เสียใจ ด้านคล้าวรู้เรื่องจึงพาแม่ไปทาบทามขอหมั้นทองกวาวตัดหน้าเจิด ตาก้อนหัวเราะเยาะเรียกสินสอดเป็นจำนวนเงิน 10 หมื่น ก้อนกับทับทิม กลัวทองกวาวจะหนีตามคล้าวก็เลยตัดสินใจส่งทองกวาวไปกรุงเทพฯไปอยู่บ้านพี่ สาวก้อนชื่อ ทองคำ ให้เรียนตัดเย็บเสื้อผ้า โดยหลอกลูกสาวกับหลานสาวว่าเรียนจบเมื่อไหร่กลับมาบ้านก็ให้คล้าวมาสู่ขอได้ ทองกวาวกับบุปผาดีใจไปบอกเรื่องนี้กับคล้าวและแว่นว่าให้รออีกปี เมื่อไปถึงสองสาวตั้งใจเรียน ต่างส่งจดหมายมาให้คล้าวและแว่นแต่ก็โดนก้อนเอาเผาไฟหมด

ระหว่าง นั้นทองกวาวมีชายเจ้าชู้หลานป้าทองคำมาชอบชื่อ ธรรมรักษ์ (ศรันยู ประชากริช) ที่แอบมีเมียเป็นนักร้องชื่อ ฤทัย (ปิยะดา ตุรงคกุล) และลูกน้องของธรรมรักษ์ชื่อ ธีระ (ภุชงค์ โยธาพิทักษ์) มาติดพันบุปผา แต่ทองกวาวและบุปผาไม่สนใจ ทองกวาวพบ บุญยืน (เอกชัย ศรีวิชัย) ที่มาเป็นนักร้องในคลับของธรรมรักษ์ โดยบังเอิญ สองสาวเข้ามาสอบถามถึงได้รู้ว่าเพลงนี้แว่นฝากมาให้ร้องให้คนกรุงเทพฯ ฟัง ทั้งทองกวาวและคล้าวได้รู้ข่าวคราวซึ่งกันและกัน โดยผ่านทางบุญยืนเป็นสื่อกลาง

ด้วยความที่กลัวลูกลำบาก อยากให้แต่งงานกับคนรวยมีฐานะอย่างธรรมรักษ์ พ่อก้อนจึงโกหกลูกสาวทองกวาวว่าคล้าวลืมทองกวาวแล้ว และได้ สายใจเป็นเมียไปแล้ว ด้านบุญยืนชวนคล้าวมาเล่นดนตรีที่คลับเพิ่งเปิดใหม่ของฤทัยที่กรุงเทพ คล้าวลาแม่ไปกรุงเทพฯ เพชร น้องทองกวาวเห็นใจคล้าว จึงยอมบอกที่อยู่ของทองกวาว ระหว่างทางเรือเกิดล่ม กระดาษที่จดที่อยู่ทั้งของบุญยืนและทองกวาวละลายน้ำไม่สามารถอ่านได้

พวกคล้าวกับแว่นต่างก็ตามหาทองกวาว บุปผา และบุญยืน จนหมดกำลังใจตัดสินใจกลับ แต่ก็โชคดีมาพบบุญยืนโดยบังเอิญ บุญยืนว่าเรื่องที่จะไปเล่นดนตรีที่คลับนั้นสายไปแล้ว เพราะเห็นคล้าวไม่มาเจ้านายก็เลยรับนักดนตรีวงอื่นไปแล้ว แต่ก็มีงานเล่นดนตรีในงานประกวดเทพีเหมันต์ ทั้งหมดไปรอเล่นดนตรีก็เลยเห็นทั้งทองกวาวและบุปผาที่เข้าประกวดเทพีเหมันต์ แว่นแอบเอาโน๊ตเพลงไปวางให้นักดนตรีเล่น คล้าวขึ้นไปร้องเพลงออกทีวีในงานนี้คู่กับทองกวาวรุ่งขึ้นคล้าวพายเรือไปหา ทองกวาวที่บ้านทองคำ คล้าวเห็นทองกวาวเดินเล่นกับธรรมรักษ์ จึงเข้าใจผิดเกิดการวิวาทกับพวกธรรมรักษ์ ทองกวาวไล่คล้าวและให้เลิกกันดีกว่า คล้าวเสียใจมากจึงกลับบ้านนอก ด้านทองคำขอทองกวาวให้ธรรมรักษ์และบุปผาให้แก่ธีระ สองสาวที่กำลังอกหักตัดสินใจรับหมั้นกับธรรมรักษ์และธีระ

คล้าวกลับถึงบ้านจึงรู้ว่าจอมยึดนายึดบ้าน โดยปลอมหนังสือว่าแม่คอนไปยืมเงินตอนคล้าวไปกรุงเทพฯ และเมื่อได้ข่าวว่าทองกวาวรับหมั้นไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ คล้าวก็ตัดสินใจย้ายบ้านไปหาที่ทำกินใหม่โดยมีสายใจตามไปด้วยก้อนกลับบ้านมา เตรียมงานหมั้นและแต่งงาน เมื่อจอมรู้ว่าธรรมรักษ์ยอมทุ่มสินสอดแบบไม่อั้นเพื่อมาขอทองกวาว จึงคิดวางแผนปล้นสินสอด พร้อมจับตัวทองกวาวและป้าทองคำเป็นตัวประกันเรียกค่าไถ่ วันสุกดิบก่อนวันแต่งงาน พ่อก้อน แม่ทับทิมเมาเผลอบอกความจริงเรื่องที่ทำให้ ทองกวาว บุปผา คล้าว และแว่น เข้าใจผิดกัน เพชรรีบไปตามคล้าวเพื่อบอกความจริงแต่พอคล้อยหลังก็เห็นพวกเจิดเข้าปล้นเอา สินสอดและทองกวาวไปด้วยเพื่อเรียกค่าไถ่ เพชรรีบมาบอกคล้าวว่าพวกเจิดมาปล้นบ้านและจับเอาตัวทองกวาวไปด้วย คล้าวรีบติดตามไปช่วยและให้เพชรไปแจ้งตำรวจ พร้อมตามชาวบ้านมาช่วยคล้าว…….

คล้าวจะสามารถช่วยทองกวาวได้หรือไม่ และความรักระหว่างทองกวาวกับคล้าวและบุปผากับแว่นจะลงเอยกันเช่นไร ต้องติดตามใน ละครมนต์รักลูกทุ่ง ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ เวลา 20.30 น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครมนต์รักลูกทุ่ง

ไทรโศก

เหนือคุ้งน้ำแห่งไทรโศกบ้านของ พระยาธีระรัตน์ (ดิลก ทองวัฒนา) ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านว่า ไทรโศก พระยาธีระรัตน์มีบุตรชายหนึ่งคนชื่อ กิติ (วรวุฒิ นิยมทรัพย์) ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ เยื้อน (สันติสุข พรหมศิริ) เพื่อนร่วมสาบานของพระยาธีระรัตน์ พาลูกสาวมาที่บ้านไทรโศก ด้วยคดีฆ่าเมียและชู้ตาย โดยให้พระยาธีระรัตน์รับเลี้ยง บานเย็น (กมลชนก เขมะโยธิน) พร้อมทั้งโอนโฉนดที่ดินสองพันกว่าไร่ให้กับพระยาธีระรัตน์ โดยให้สาบานว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูบานเย็นเป็นอย่างดี และมอบที่ดินบางส่วนให้บานเย็นหลังจากที่บานเย็นโตจนออกเรือนแล้ว หลังจากพระยาธีระรัตน์รับปาก เยื้อนก็ฆ่าตัวตาย

พระยาธีระรัตน์ขึ้น มาอยู่ที่พระนครและได้ส่งลูกชายไปเรียนเมืองนอก บานเย็นจบแค่มัธยมต้นก็ออกจากโรงเรียนมาเป็นคนรับใช้พระยาธีระรัตน์ เพราะคุณหญิงชังว่าบานเย็นคือลูกสาวเยื้อนที่เคยเป็นคนรักเก่าของตนที่ถอน หมั้นไปแต่งกับแม่ของบานเย็น

พระยาธีระรัตน์เสวยสุขได้ไม่นานก็ป่วย เป็นอัมพาตจึงกลับไปที่ไทรโศก โดยมีบานเย็น เพิ่ม (รอน บรรจงสร้าง) ลูกเลี้ยง รวมทั้ง หวิน (ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) แม่ครัวและลูกชายชื่อ ดำ (ภูริ หิรัญญพฤกษ์) กิติกลับจากเมืองนอกโดยที่เรียนไม่จบอะไรเลย และยังทำตัวเป็นหนุ่มสังคม เที่ยวเตร่สุดท้ายก็ทำ อุษา (สุวัจนี ไชยมุสิก) ท้อง พระยาธีระรัตน์จึงเรียก เจน (ภานุเดช วัฒนสุชาติ) ทนายความประจำตระกูลจัดการพินัยกรรมโดยสั่งให้บานเย็นจดทะเบียนสมรสกับกิติ และมีทายาทด้วยกัน จึงจะยกนาสองพันไร่ให้ ส่วนดอกผลจากไร่นาให้คุณหญิงแต่พอเลี้ยงครอบครัวแต่ละเดือน

คุณหญิง จัดงานแต่งให้บานเย็นและกิติ โดยคุณหญิงวางอุบายให้อุษามอมเหล้า ใบ้ (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) หนุ่มกำพร้าที่ ยายอ่อน (พิสมัย วิไลศักดิ์) หมอตำแยนำมาเลี้ยงแต่เล็กและมาเข้าหอแทนกิติ บานเย็นตั้งท้องและคลอดลูกเป็นผู้ชายพร้อมกันกับอุษาซึ่งเป็นผู้ชายชื่อ อ๊อดหรือเกียรติกร (พิเชษฐไชย ผลดี) คุณหญิงพา ท่านเจ้าคุณยงยศฤงคาร (เกรียงไกร อุณหนันท์) มาตามหาลูกที่ไทรโศกเห็นลูกบานเย็นจึงตั้งชื่อว่า อู๊ด หรือ ยิ่งยง (พัชฎะ นามปาน) และพาไปที่พระนครทันที โดยไม่ให้บานเย็นไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด เพราะจะไปในฐานะน้องของอ๊อด

บาน เย็นบังเอิญได้พบทารกกำพร้าจึงรับเลี้ยงและตั้งชื่อว่า ไทรงาม (จิตตาภา แจ่มปฐม) ผ่านไป 20 ปี อู๊ดจบวิศวะจุฬา ไปงานรับปริญญา เด่นดาว (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) หลานเจ้าคุณยงยศศฤงคาร แต่ถูกไทรงามซึ่งเรียนจบแพทย์ศาสตร์มาดึงตัวไปรู้จักกับเพื่อน ๆ โดยคิดว่าเป็น ดำ (ภูริ หิรัญญพฤกษ์) ดำก็ทักเด่นดาวผิดเพราะเข้าใจว่าเป็นไทรงาม จึงทำให้ทั้งคู่รู้จักกันโดยบังเอิญ

อ๊อดหลงรักเด่นดาวแต่แรกเห็นจึง เร่งรัดพ่อแม่ให้ไปขอเด่นดาว เจ้าคุณยงยศฯ เข้าใจว่าทุกคนมาขอหลานสาวให้อู๊ด แต่เมื่อรู้ว่าเป็นอ๊อด เด่นดาวจึงปฏิเสธและได้พาเด่นดาวไปอยู่บ้านไทรโศก ทั้งหมดจึงยกโขยงตามอู๊ดไปที่ไทรโศก รวมทั้ง ทนต์ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) นักโทษเพิ่งพ้นโทษมาจากคุก ก็ตามไปแก้แค้นเจ้าคุณยงยศฯ ที่ไทรโศกด้วย อ๊อดมาเจอไทรงามก็หลงรักไทรงามอีก แต่จริงจังกว่าเด่นดาว ทำให้ อัมพริกา (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) ลูกสาว เสี่ยโอ (ศานติ สันติเวชกุล) เหน็บเจ็บ ๆ หลายครั้ง

เจ้าคุณฯ ตั้งแต่เจอไทรงามก็สงสัยเฝ้าถามคนที่อยู่ไทรโศกอย่าง เฟื้อ คนสนิท จนพบความจริงจากเจนว่าไทรงามคือหลานสาวที่เกิดจาก ฉัตรพงศ์ ลูกชายคนเดียวกับสาวใช้ที่พากันหนีออกจากบ้านเมื่อ 24 ปีก่อน อุษาได้เจอกับทนต์สามีเก่าจึงร่วมมือกันใช้สมุนไพรพิษต้มให้คุณหญิงกับกิติ ดื่มเพื่อให้เป็นอัมพาต อ๊อดหึงอู๊ดกระทั่งวางแผนกับอุษาและทนต์ฉุดไทรงามมาเป็นเมียแต่เรื่องกลับ เป็นว่าอ๊อดข่มขืนอัมพริกาแทน อุษารู้ว่าแผนแตกจึงมาบอกทนต์ กิติเห็นทั้งคู่เป็นชู้กัน ทนต์จึงทำร้ายกิติแล้วกรอกยาทำให้เป็นอัมพาตพูดไม่ได้ทันที

เพราะ ความริษยาอุษาจึงแสร้งบีบน้ำตาขอร้องไทรงามให้เลิกคบกับอู๊ดเพราะแท้จริง แล้วไทรงามกับอู๊ดเป็นแม่ลูกเดียวกัน พร้อมกับขอให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับเพราะไม่อยากให้อู๊ดเสียใจ ไทรงามจะแต่งงานกับอ๊อดและขอให้บานเย็นสบายใจว่าเธอทำด้วยความเต็มใจ อู๊ดบอกกับเด่นดาวว่าเขารักเธอแบบพี่ชาย ทำให้เธอกระโดดน้ำคิดฆ่าตัวตายแต่ดำช่วยไว้ทันและมีสร้อยขาดติดมือดำมา เจ้าคุณฯ เข้ามาประกาศกลางงานแต่งงานของอ๊อดกับไทรงามว่าไทรงามคือหลานสาวตระกูลยงยศ ศฤงคาร โดยมีหลักฐานคือสร้อย 3 เส้น อยู่กับเจ้าคุณฯ

เด่นดาวและไทรงาม คุณหญิงเจอจดหมายที่กิติเขียนว่าที่ตนเองมีสภาพแบบนี้เพราะโดนอุษาและชู้ทำ ร้าย คุณหญิงจึงไล่อุษาออกจากบ้าน เธอโกรธจัดจึงผลักคุณหญิงหัวฟาดพื้นหมดสติ กิติเห็นแต่ทำอะไรไม่ได้จึงช็อกตายคาเตียง อุษาจับคุณหญิงกรอกยาเหมือนที่เคยทำกับกิติ ทนต์ อ๊อด เสี่ยโอ รวมหัวกันวางแผนล้างแค้นตระกูลธีระรัตน์และยงยศศฤงคารด้วยการปล้นบ้านของ ทั้งสองตระกูลในวันสงกรานต์ ทนต์กับอุษาปล้นบ้านคุณหญิงเสร็จจะเผาบ้าน แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อคุณหญิงลุกขึ้นสู้ แล้วบอกอุษาว่าสมุนไพรพิษที่แท้แล้วคือน้ำชาธรรมดา อู๊ดเข้ามาช่วยคุณหญิงและบอกความจริงว่าพ่อแม่ที่แท้จริงคือใคร ก่อนจะหมดลมหายใจคาตักอู๊ด ขณะที่อุษาก็ตายคากองเพลิงไป

ทนต์ซ้อมเจ้าคุณฯ ที่ทำให้ตระกูลตนล่มจม พร้อมทั้งลวนลามเด่นดาวเพื่อทรมานเจ้าคุณฯ เล่น เจ้าคุณฯ ทนไม่ไหวจึงบอกทนต์ว่ากล้าข่มขืนลูกตนเองเชียวหรือ เจ้าคุณฯ โพล่งต่อว่าผู้หญิงที่ทนต์รักคือแม่ของเด่นดาวที่ไม่เคยมีอะไรกับ ฉัตรพงษ์ จังหวะนั้นเองอู๊ดยกพวกบุกเข้ามา เสี่ยโอ อ๊อด ทนต์ยิงใส่พวกอู๊ด เสี่ยโอกับอ๊อดหนีไปได้ ขณะที่ทนต์โดนใบ้ยิงสาหัส ทนต์เสียใจหนักเมื่อรู้ความจริงจากเฟื้อน้าแท้ ๆ ว่าเจ้าคุณฯ ไม่ได้เป็นคนทำตระกูลล่มจม แต่คนที่ทำคือพ่อของทนต์ที่ติดพนันจนล้มละลาย

เด่นดาวเข้ามากราบเท้าเรียกทนต์ว่าพ่อ ทนต์ละอายใจจึงฆ่าตัวตาย เจนเปิดพินัยกรรมคุณหญิงที่ฝากไว้โดยบอกว่าขอยกมรดกทั้งหมดของตนให้กับอู๊ด อ๊อดโผล่มากลางงานประกาศว่าเมื่อเขาไม่ได้อะไรเลย อู๊ดก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน จึงใช้ปืนยิงอู๊ดไม่ยั้ง เรื่องราววุ่น ๆ จะจบลงอย่างไร ติดตามชมได้ใน ละครไทรโศก

รายชื่อนักแสดง ไทรโศก

พัชฎะ  นามปาน   แสดงเป็น   ยิ่งยง
จิตตาภา  แจ่มปฐม   แสดงเป็น   ไทรงาม
ชาตโยดม  หิรัณยัษฐิติ   แสดงเป็น   ใบ้
กมลชนก  เขมะโยธิน   แสดงเป็น   บานเย็น
คะนึงนิจ  จักรสมิทธานนท์   แสดงเป็น   เด่นดาว
ภูริ  หิรัญญพฤกษ์   แสดงเป็น   ดำ
วรวุฒิ  นิยมทรัพย์   แสดงเป็น   กิติ
สุวัจนี  ไชยมุสิก   แสดงเป็น   อุษา
พิเชษฐไชย  ผลดี   แสดงเป็น   เกียรติกร
พิมพ์อักรษร  วินโกมินทร์   แสดงเป็น   อัมพริกา
ศุภกรณ์  กิจสุวรรณ   แสดงเป็น   ทนต์
รอน  บรรจงสร้าง   แสดงเป็น   เพิ่ม
ปวันรัตน์  นาคสุริยะ   แสดงเป็น   หวิน
ดวงตา  ตุงคะมณี   แสดงเป็น   คุณหญิงธีระรัตน์
ภานุเดช  วัฒนสุชาติ   แสดงเป็น   ทนายเจน
พิสมัย  วิไลศักดิ์   แสดงเป็น   ยายอ่อน
อรสา  พรหมประทาน   แสดงเป็น   อุไร
ศานติ  สันติเวชกุล   แสดงเป็น   เสี่ยโอ
ดิลก  ทองวัฒนา   แสดงเป็น   พระยาธีระรัตน์
สันติสุข  พรหมศิริ   แสดงเป็น   เยื้อน
ดารัณ  บุญยศักดิ์   แสดงเป็น   สมบุญ
เกรียงไกร  อุณหนันท์   แสดงเป็น   เจ้ายงยศ