Tag Archives: กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า

หมวยอินเตอร์

หมวยอินเตอร์ เป็นเรื่องราวของ ชญานุช หรือ นุช (เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเล็กของตระกูล จิตตินันท์ ซึ่งเป็นตระกูลคนไทยเชื้อสายจีนที่มีกิจการค้าข้าวสารรายใหญ่รายหนึ่งของประเทศ ที่มี เถ้าแก่ปอ (เกียรติ กิจเจริญ) ผู้เป็นเตี่ยและเป็นหัวหน้าครอบครัว นุชเป็นสาวยุคใหม่ที่แต่งตัวเปรี้ยวและชอบการแข่งรถซิ่ง เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ จึงมักสร้างความปวดหัวแก่เถ้าแก่ปอเป็นอย่างยิ่ง ที่สุดนุชต้องออกจากมหาวิทยาลัยเพราะเตี่ยไม่ให้เรียนต่อ ซึ่งนิสัยของนุช ผิดกับ พล (รวิช ไรวินทร์) พี่ชายคนโต และ ปัท (อาภรศรี ตัณมานะศิริ) พี่สาวคนรอง ที่เชื่อฟังเตี่ยมากกว่า โดยเฉพาะปัทเป็นคนที่หัวอ่อน ขี้กลัว มีบุคลิกไม่มั่นใจในตัวเองอย่างที่สุด ซึ่งพี่น้อง 3 คนนี้ได้ อี๊เง็ก (นัฏฐา ลอยด์) น้องสาวของแม่ทั้ง 3 คนนี้ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว คอยดูแลอยู่

นุชยังมีเพื่อนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีก คือ อร (นาเดีย นิมิตรวานิช) อรเป็นคนเก่งทำงานด้วยเรียนด้วย อรทำงานอยู่ที่บริษัทรับจัดงานโฆษณาและประชาสัมพันธ์แห่งหนึ่ง โดยที่มี ชาลี (สันติ วีระบุญชัย) หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เพิ่งเดินทางมาสู่ประเทศไทย เป็นทีมงานสำคัญของบริษัทและเป็นเจ้านายของอร การที่ชาลีกลับมาครั้งนี้เพื่อล้างแค้น ตระกูลของ คุณหญิงเอมจิตร (มณีนุช เสมรสุต) ที่เคยทำให้แม่ (ฟรอนต์ มอนโมเกอรี) ของเขาต้องตายเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งชาลีพบกับอรและนุชครั้งแรกด้วยความเข้าใจผิด ชาลีคิดว่านุชเป็นผู้หญิงขายบริการ ทำให้ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากัน

ชาลีวางแผนจนเข้าสู่ตระกูล วรประภา ของคุณหญิงเอมจิตรได้ในที่สุด โดยสนิทสนมกับลูก ๆ ทั้ง 3 คนของคุณหญิงเอมจิตร คือ บารมี (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต และเป็นหมอหนุ่มวัยใกล้เคียงกับชาลีและเป็นเจ้าของโรงพยาบาลของกิจการครอบครัว, สาธิต (กัณฑ์เอนก ทิพวรรณ) น้องชายคนรองที่ชอบนุชอยู่ แต่นุชไม่ชอบด้วย และ ศา (ชโลทร กาหลง) น้องสาวคนเล็กที่เรียนอยู่ที่เดียวกับนุชและอร ชาลีวางแผนให้ศามาชอบพอตนเอง เพื่อที่จะทำลายครอบครัวนี้

ต่อมา บริษัทของอรโดยประธานบริษัทต้องการให้นุชเข้าประกวด มิสไชนีส กาแล็คซี่ ที่มีสมาคมค้าข้าวไทย-จีน เป็นผู้สนับสนุน โดยมี เฮียเล้ง (วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์) นายกฯสมาคม เป็นประธาน อรต้องขอร้องแกมบังคับ ในที่สุดนุชก็ยอมประกวดอย่างไม่เต็มใจและไม่ตั้งใจ เพราะคิดว่าไม่นานคงตกรอบ ซึ่งงานครั้งนี้ชาลีและอรเป็นทีมงานจัดงานด้วย คุณหญิงเอมจิตร และ บารมีก็เป็นกรรมการ และก็มี นภา (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) และ อโนมา (สรวงสุดา ศรีธัญญรัตน์) เพื่อนที่โตมาด้วยกันของทั้งคู่เข้าประกวดด้วย โดยที่นภาและอโนมาก็เป็นเพื่อนที่คอยกลั่นแกล้งนุชมาตั้งแต่เด็กยันโต นภาเป็นลูกสาวของ อาไซ (กฤตย์ อัทธเสรี) เจ้าของกิจการข้าวบรรจุกระป๋องยี่ห้อ เมจิกไรท์ ผู้เป็นทั้งเพื่อนรักเพื่อนแค้นของเถ้าแก่ปอ ซึ่งอาไซเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของการประกวดครั้งนี้ และ มนัส (อรรถชาติ ศรีภักดี) พี่ชายจอมเพลย์บอยของนภากลับจากเมืองนอกหลังจากเรียนไม่จบ ก็ชอบนุชด้วย มนัสพยายามตามจีบนุชด้วยวิธีต่าง ๆ แต่นุชไม่เล่นด้วย และเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิดแทบทุกครั้ง บารมีก็ชอบนุชอยู่ โดยขอให้อรคอยช่วยเหลือ แต่อรกลับแอบชอบบารมีอยู่เงียบ ๆ ไม่กล้าบอก ขณะที่ปัทก็แอบชอบเงียบ ๆ กับ ภารดร หรือ ดร (กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์) พี่ชายของอรอยู่ แต่เถ้าแก่ปอไม่รู้ เพราะเถ้าแก่ปอกะเกณฑ์มาตลอดที่จะให้นุชแต่งงานกับดร

ในการประกวด นางงามต้องเก็บตัวที่พัทยา นุชต้องวิ่งสลับมาระหว่างบ้านกับพัทยาอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากเถ้าแก่ปอไม่ชอบการประกวดนางงามเป็นอย่างมาก โดยมีคนอื่น ๆ คอยช่วยเหลือ ทั้งยังต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งทุกรูปแบบจากนภาและอโนมา การตามรังควาญของมนัสและสาธิต ซ้ำยังจับสลากได้พักห้องเดียวกับ หลิงหลิง (ตรีชฎา เพชรรัตน์) ผู้เข้าประกวดคนสวยที่เป็นดาวเด่น โดยไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นกะเทยปลอมตัวมา และทำเย็นชากับนุช แต่การที่ชาลีกับนุชได้ใกล้ชิดกัน ทำให้ความรู้สึกของทั้งคู่ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ซึ่งนุชจะต้องทำให้เตี่ยของตนเองเปลี่ยนความคิดให้ได้ รวมถึงทัศนะคนอื่น ๆ ที่มีต่อกันด้วย การสนุกสนานวุ่นวายจึงเกิดขึ้น

เสาร์ 5

เสาร์ 5 เป็นเรื่องราวของชายหนุ่ม 5 คนที่เกิดวันที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5เหมือนกันและมีพลังพิเศษจากพระ 5 องค์อยู่ในตัวซึ่งต้องร่วมมือกันหยุด ยั้งกลุ่มก่อการร้าย จาร์ก้า ที่ขโมยอาวุธนิวเคลียร์มาจากยุโรปเพื่อใช้ข่มขู่เรียกเงินจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์จากประเทศเอเชียแล้วพวกเขาทั้ง 5 จะหยุดยั้งแผนการร้ายของจาร์ก้าได้หรือไม่

วิมานมังกร

ลัลล่า สาวสวยทายาทรุ่นที่ 6 ของตระกูลชุน กลับเมืองไทยหลังจากแม่พาไปซ่อนตัวที่แคนาดาเพราะพ่อถูกฆ่าตาย ลัลล่า ได้พบกับ พินธุ ชายหนุ่มที่คอยช่วยเหลือเธอให้รอดจากอุบัติเหตุหลายครั้ง ทั้งคู่ถูกชะตากัน จนกระทั่ง เสี่ยสาม ผู้เป็นอาพา ลัลล่า เข้ามากราบ อาม่า ความริษยาเกิดขึ้นทันทีเมื่อ จึงลิ้ม ได้พบกับ ลัลล่า พี่สาวต่างมารดาของเธอ แต่เพิ่งย่างเข้าตระกูลไม่ทันไร ลัลล่า ก็เผชิญการแย่งชิงสมบัติจนเบื่อหน่ายจนคิดจะกลับแคนาดา ก่อนกลับ ลัลล่า ไปดำน้ำแต่อากาศในถังหมด พินธุ ก็มาช่วยไว้อีก ส่วนแม่ของ ลัลล่า ถูกปองร้ายเสียชีวิต เธอหมดสิ้นทุกอย่าง ยกเว้น พินธุ คนรักที่จริงใจกับเธอ พินธุ ขอเธอแต่งงาน ลัลล่า ตอบตกลงทันที และยังรับ ลมเพ ลมพัด สองเด็กน้อยกำพร้ามาเป็นลูกบุญธรรม ปี่โป้ย ญาติผู้น้องชอบ ลัลล่า จึงขอ เสี่ยสอง และ เสี่ยสี่ ชวนมาช่วยงาน ลัลล่า ตอบตกลงเพราะต้องการตามหากระดูกพ่อเพื่อมาทำพิธี แต่ ลัลล่า ก็เจออุบัติเหตุหวิดตายหลายครั้ง ซึ่งเธอพบเงื่อนงำการโกงในบริษัท ส่วน จึงลิ้ม ก็แอบใกล้ชิด พินธุ ทั้งๆที่มี เฮง คนขับรถเป็นสามีลับๆ

วันหนึ่งความจริงถูกเปิดเผยจนได้ว่า พินธุ คือมือปืนที่รับใช้ใครคนหนึ่งเพื่อปลิดชีวิต ลัลล่า แต่เพราะความรักเขาจึงลงมือไม่ได้ ลัลล่า เสียใจมากจึงขอหย่า แต่ พินธุ ไม่ยอม เขาสืบจนพบคนบงการคือ เสี่ยสาม แต่ ลัลล่า ไม่เชื่อ เพราะดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี เสี่ยสาม ใช้ จึงลิ้ม ให้ทำลายครอบครัว ลัลล่า ขณะเดียวกัน ปานใจ เมียเก่าของ พินธุ ก็เข้ามาในชีวิต แต่แล้ว ลัลล่า ก็ตั้งท้อง พินธุ ทั้งดีใจทั้งขมขื่นเพราะ ลัลล่า ไม่ให้เข้าใกล้ เฮง เลยสบโอกาสขับรถชน ลัลล่า จนแท้ง พินธุ สามารถกระชากหน้ากาก เสี่ยสาม ทำให้ทุกคนตะลึง แต่ ลัลล่า คิดว่า พินธุ ทำเพื่อโยนความผิด เธอตั้งท้องอีกครั้ง ในขณะที่ อาม่า จำได้ว่าในบรรดาลูกทั้งหมด เสี่ยสาม เป็นคนเดียวที่ไม่เคยกอด ด้าน จึงลิ้ม ถูกไล่ออกจากบ้านเพราะเรื่อง เฮง ทั้งคู่ลำบากแสนสาหัสเพราะ จึงลิ้ม ตั้งท้อง วันคลอด จึงลิ้ม ขโมยลูก ลัลล่า ไป พินธุ กับ ลัลล่า ออกตามหาและกลับมาเป็นกำลังใจกันอีกครั้ง ขณะที่ เสี่ยสาม ย้อนกลับมาเพื่อทำลายทุกคน พินธุ หาทางปกป้องคนรัก แต่ ลัลล่า ยังเชื่อมั่นในตัว เสี่ยสาม และ จึงลิ้ม จึงตกอยู่ในอันตราย…ลัลล่า จะสามารถคลายปริศนาฆาตกรรมในตระกูลได้หรือไม่ ต้องตามกันเอาเองในละคร วิมานมังกร

รักอยู่หนใด

เมื่อ ทายาทหนุ่มธุรกิจพันล้าน ต้องมาประสบอุบัติเหตุกะทันหัน ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเมื่อจะต้องให้พี่ชายฝาแฝดมานั่งตำแหน่งผู้บริหารงาน แทนเขาภายใต้เงื่อนไขต้องทำกำไรให้บริษัทภายใน 1 ปี
ไม่เช่นนั้น จะต้องเสียเก้าอี้ให้กับญาติที่เป็นหุ้นส่วน สงครามการแย่งเก้าอี้เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขต้องไม่มี ใครรู้ว่าเกิดการสลับตัว กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่เว้นแต่ละวัน มิหนำซ้ำเขายังต้องมาเผชิญหน้ากับคนรักเก่าของน้องชายฝาแฝดในเรื่องของงาน เธอคนนั้นโกรธที่เขาเสมือนไม่รู้จักกับเธอเลย ความหมั่นไส้บังเกิดขึ้น เขาจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์วุ่นๆ รอบด้านอย่างไร

——————————————————————–

ทินน์ (เชื้อชาติ วงษ์สวัสดิ์) หนุ่มหล่อมาดเซอร์เดินออกมาจากสนามบินเพื่อขึ้นรถแท็กซี่ หลังจากเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาหลายชั่วโมงเพื่อมาพบแม่ที่ไม่ได้ติดต่อกัน มากว่ายี่สิบปี… ตั้งแต่จำความได้เขาก็มีแต่ วาทิน (วันชัย เผาวิบูลย์) พ่อของเขาเท่านั้น ดังนั้นเมื่อจู่ๆ นภางค์ (สุภัทรา ทิวานนท์) แม่ของเขาติดต่อมาหาทั้งคู่ก็สร้างความประหลาดใจให้ทินน์อย่างมาก นอกจากจะได้รู้ว่าแม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ (หลังจากที่วาทินมักจะเล่าเรื่องการหายไปของนภางค์แบบตลกบ้าง แปลกบ้าง ไม่ซ้ำเรื่องตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา) ทินน์ยังต้องประหลาดใจหนักไปอีกเมื่อได้รู้ว่าตัวเองมีน้องชาย แถมเป็นฝาแฝดเสียด้วย และยิ่งแทบไม่เชื่อหูว่าเหตุที่นภางค์ติดต่อมาก็เพื่อขอร้องให้ทินน์ช่วย เหลือเรื่องสำคัญ นั่นคือการกลับมาสวมรอยเป็น ไท (เชื้อชาติ วงษ์สวัสดิ์) น้อง ชายฝาแฝด เพื่อรับตำแหน่งทายาทธุรกิจคอนโดและอสังหาริมทรัพย์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า! ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเพราะทั้งไทและทินน์ผลัดกันมาบริหารบริษัท ในยามที่ไทไม่อยู่ทินน์ก็จะมาทำงานแทน และนภางค์กับโลมา (ภัทศรุจน์ นาคาฮาร่า) ต้องคอยแก้ปัญหาที่ไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องการเปลี่ยนตัวของไทกับทินน์

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ไท เคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไทบาดเจ็บสาหัสจนต้องผ่าตัดโดยด่วนทั้งยังไม่รู้ว่าหลังผ่าตัดแล้วจะมีโอกาส หายดีหรือไม่ ขณะที่กำหนดการรับตำแหน่งผู้บริหารกิจการอสังหาริมทรัพย์ของไทใกล้เข้ามา ทุกที นภางค์ครุ่นคิดหาทางแก้ปัญหาจนไมเกรนขึ้นหลายตลบ เพราะแม้ไทจะเป็นหลานที่ คุณนภ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ประธานใหญ่ของบริษัทผู้มีศักดิ์เป็นลุงของไทไว้วางใจให้สืบทอดตำแหน่งมากที่ สุด แต่ก็มีญาติคนอื่นๆที่หมายมั่นปั้นมือหวังอยากเป็นผู้สืบทอดนี้เช่นกัน โดยที่คู่แข่งตัวฉกาจคือ ชัชพล (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) ลูกชายของ นภัส (แวร์ โซว) ผู้เป็นน้องสาวของนภางค์ นั่นหมายความว่าหากไทไม่สามารถรับตำแหน่งในวันที่กำหนด หรือทำงานไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ภายในระยะเวลา 1 ปี คุณนภอาจจะเลือกให้ชัชพลเป็นผู้บริหารใหญ่แทน

นภางค์ปรึกษากับโลมา คนสนิทที่ทำงานใกล้ชิดเธอมาตลอดและเป็นผู้ที่เธอไว้วางใจมากที่สุด แต่ก็จนปัญญาทั้งคู่ กระทั่งนภางค์หวนนึกถึงทินน์ ลูกชายที่เธอไม่ได้พบหน้ามากว่ายี่สิบปี พลันแผนการก็สว่างวาบขึ้นมาในหัวว่าจะขอร้องให้ทินน์มารับบทเป็นไทในระหว่าง ที่ไทกำลังรักษาตัวเพื่อรักษาสิทธิ์การเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเอาไว้ก่อน เมื่อไทหายดีแล้วจึงค่อยให้ไทรับหน้าที่ต่อ โดยจะให้ทินน์มีสิทธิ์ถือหุ้นกิจการส่วนหนึ่งหลังจากเรื่องผ่านไปด้วยดี แต่ทินน์ปฏิเสธที่จะรับสิ่งตอบแทน เขายอมมาช่วยนภางค์ก็เพราะเห็นแก่วาทินที่ช่วยขอร้องอีกแรง อีกอย่างเขาก็ไม่นิยมสะสมเงินทอง รักที่จะอยู่แบบไร้เงินแต่ไม่ไร้อิสระมากกว่า

นภางค์โล่งอกที่เจอทางออกของปัญหา อีกใจหนึ่งก็แสนดีใจที่ทินน์จะมาอยู่ใกล้ๆ หลังต้องแยกจากกันเพราะคุณนภไม่พอใจอย่างมากที่นภางค์คบกับวาทินสมัยทั้งคู่ ยังหนุ่มสาว นภางค์ดื้อไม่ยอมเลิกคบ ทั้งยังแอบแต่งงานแล้วหนีไปอยู่ที่อเมริกา หวังจะไปสร้างครอบครัวที่นั่นพร้อมกับเฝ้ารอลูกที่กำลังจะเกิดมา แต่คุณนภก็ยังไม่ละความพยายาม บวกกับมีนภัสช่วยอีกแรงจนสืบหานภางค์พบ คุณนภกับนภัสมาเจอนภางค์กับไทที่บ้านระหว่างที่วาทินพาทินน์ไปหาหมอ ทำให้ทั้งคู่เข้าใจว่านภางค์มีไทเพียงคนเดียว รีบพาตัวนภางค์และไทกลับเมืองไทย ไม่ให้ติดต่อกับวาทินอีกอย่างเด็ดขาด นภางค์ใช้โอกาสสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทยโทรหาวาทินที่กำลัง เป็นห่วงอย่างหนัก ทั้งคู่ตัดสินใจว่าต่างคนต่างจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด ให้เป็นตัวแทนของกันและกันเวลาที่ต้องอยู่ห่างกัน ทำให้ไทอยู่กับแม่ และทินน์อยู่กับพ่อนับแต่นั้น

นภางค์ไม่เคยรู้เลยว่าทินน์กับไทมีบุคลิกและนิสัยต่างกันลิบลับทั้งที่เป็น ฝาแฝดกันแต่กลับกลายเป็นแฝดคนละขั้ว จนกระทั่งได้พบกัน และกลายเป็นปัญหาวุ่นๆ ให้เรื่องยุ่งยากขึ้นไปอีก ไทผู้เป็นน้องมีบุคลิกเงียบขรึม ใจเย็น สุภาพอ่อนน้อม ค่อนข้างเจ้าระเบียบเสียด้วยซ้ำ และยังทำงานเก่ง ทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มร้อย ตรงข้ามกับทินน์ที่ทำตัวตามสบาย อารมณ์เป็นใหญ่ พูดจาขวานผ่าซาก และเกลียดการอยู่ในกฎระเบียบเคร่งครัด ทำให้ทินน์ต้องถูกโลมาติวเข้มและแปลงโฉมจากหนุ่ม เซอร์กลายเป็นหนุ่มเนี้ยบหัวจรดเท้า ทินน์อึดอัดเหลือเกินแต่ก็ต้องทำตามที่วาทินขอร้องมา

เมื่อเข้ามาทำงานในบริษัท ทินน์ก็ถูกโลมาตามประกบติดทุกฝีก้าว เพื่อคอยคุมไม่ให้หลุดบุคลิกของทินน์ออกมา แต่ไม่นานนักคนรอบข้างก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของไทตัวปลอมที่ดูเหมือน ไม่เคยทำงานบริหารมาก่อน ตัดสินใจผิดๆ ถูกๆ แถมยังหลุดพูดจาโผงผางผิดวิสัยของไท สร้างความหนักใจให้แก่นภางค์อย่างมาก เพราะกลัวว่าจะต้องเสียตำแหน่งผู้สืบทอดกิจการให้กับชัชพล ลูกชายของนภัส ซึ่งต่างก็ไม่มีใครยอมให้ตำแหน่งนี้ตกไปอยู่ในกำมือของฝ่ายตรงข้ามอย่างเด็ด ขาด นภางค์จึงต้องลุ้นตัวโก่งให้การประเมินงานของคุณกฤษณ์ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และต้องอาศัยไหวพริบของโลมาช่วยเหลืออย่างมาก

ชัชพล หลานชายที่ไม่ค่อยเอาไหนของคุณนภพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้ บริหารใหญ่ให้ได้ ชัชพลคิดแผนเพื่อดึงตัวเองขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นนอกจากทินน์จะต้องเอาตัวให้รอดในการทำงานแล้ว ทินน์กับโลมายังต้องเผชิญกับปัญหาหอกข้างแคร่อย่างชัชพลอีก ซึ่งนับวันก็จะหาเรื่องจับผิดทินน์บ่อยขึ้น ทินน์ต้องระวังตัวแจ ไม่ให้ใครรู้เรื่องว่าเขาปลอมตัวมาเป็นน้องชายตัวเอง ชัชพลส่ง มะม่วง (กัญญกร พินิจ) เลขา สาวยอดนักสืบผู้รอบรู้เรื่องซุบซิบนินทาให้ช่วยสืบหาความผิดปกติของไทเพื่อ ใช้เป็นหลักฐานในการปลดไทออกจากตำแหน่ง ซึ่งทำให้มะม่วงกับโลมาต้องเปิดศึกชิงไหวชิงพริบกันอย่างดุเดือดทีเดียว เพราะมะม่วงก็ตามกัดไม่ปล่อยเลยจริงๆ จนเริ่มระแคะระคายทีหลังว่าไทตัวจริงกำลังพักฟื้นอยู่ที่ต่างจังหวัด ส่วนคนที่มาทำงานทุกวันนั้นเป็นตัวปลอม แต่ก็ยังมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าทินน์เป็นใคร ทำไมถึงหน้าเหมือนไทราวกับโคลนนิ่งกันขนาดนี้

ชัชพลกำลังตามจีบ โรสิตา (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า ) สาวสวยนักแต่งสวนที่เข้ามารับงานตกแต่งสวนในบริเวณคอนโดใหม่ แต่ก็ยังไม่สามารถชนะใจเธอได้สักที เพราะนอกจากโรสิตาจะปิดตัวเองและระมัดระวังอย่างที่สุดแล้วยังมีก้างขวางคอ ชิ้นสำคัญคือหลานสาวตัวแสบของโรสิตาที่ชื่อ แก้ม (นัทธินันท์ กุมชพร) ซึ่งเป็นเสมือนเพื่อนเพราะมีอายุไล่เลี่ยกันเพียงแค่มีศักดิ์เป็นหลาน อันที่จริงแก้มกำลังคิดปฏิบัติการหาแฟนให้โรสิตา หลังจากสังเกตว่าโรสิตามีอาการซึมเศร้าเหมือนคนอกหักมาเป็นเวลานาน แก้มคิดเอาเองว่าโรสิตาต้องเคยอกหักอย่างรุนแรงจากหนุ่มสักคนแน่ ดังนั้นแก้มจึงมุ่งมั่นสร้างภารกิจให้ตัวเองเป็นการหาแฟนให้โรสิตาให้ได้ แต่กับชัชพลแล้วแก้มไม่ค่อยถูกชะตานักจึงตั้งป้อมขัดขวางเสียแน่นหนา สร้างความยากลำบากให้กับชัชพลมากขึ้นไปอีก

โรสิตาเป็นผู้หญิงแกร่งที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองมาตลอด นอกจากเปิดร้านขายต้นไม้แล้วยังเป็นนักแต่งสวนที่มีฝีมือดีคนหนึ่งไม่น้อย หน้าบริษัทมืออาชีพ และเมื่อบริษัทของไทเปิดให้ประมูลงานจัดสวน แก้มจึงยุให้โรสิตาไปยื่นประมูล เมื่อโรสิตาพบกับทินน์ในคราบไทก็ต้องประหลาดใจเพราะไทคนนี้กลับจำเธอไม่ได้ แม้แต่นิดเดียว! โรสิตาเลียบเคียงทินน์ดูแล้วแต่ทินน์ก็ยังทำท่าว่าไม่รู้จักเธอ โรสิตาก็เปลี่ยนท่าทีเป็นบึ้งตึงและไม่ยอมพูดดีกับทินน์ พาลทำให้ทินน์หงุดหงิดไปว่า เธอเป็นใครกันแน่ถึงได้ทำท่าเหมือนโกรธเขามาแต่ชาติปางก่อนทั้งที่เขายังไม่ ทันทำอะไรเลย พอจะถามให้รู้เรื่องโรสิตาก็ปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดดีด้วยเสียแล้ว ทั้งสองจึงกลายเป็นคู่กัดกันไปโดยปริยาย

แก้มเดาถูก เพราะโรสิตาเคยอกหักอย่างรุนแรงจริงๆ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงเข้มแข็งอย่างโรสิตาต้องเสีย น้ำตาคือไทนั่นเอง… ย้อนไปสมัยที่โรสิตาเป็นนักศึกษาฝึกงานในโรงแรมต่างจังหวัด โรสิตาได้พบกับไทซึ่งเป็นเพื่อนร่วมฝึกงานจากต่างมหาวิทยาลัย ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ร่วมกันตลอดการฝึกงานอันยาวนาน และเกิดความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน แต่ไม่มีใครเอ่ยปากสารภาพรักออกมาเสียที ต่างคนต่างรักษาฟอร์มของตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ยังไม่มีใครล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์รักๆ ลับๆ นี้ จนกระทั่งการฝึกงานเสร็จสิ้น ทั้งที่เป็นเวลาที่ควรจะเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงต่อกันก่อนแยกย้ายจาก กันไป แต่ทั้งคู่กลับทะเลาะกันเสียนี่ ถึงขั้นไทหลุดประโยคสุดท้ายออกมาว่า ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ สู้ไม่เคยรู้จักกันตั้งแต่แรกคงดีกว่า

โรสิตากลับมาคิดทบทวนจนตัดสินใจจะสารภาพความรู้สึกกับไท แต่โชคไม่ดีเพราะเป็นช่วงที่ไทไปเรียนต่อต่างประเทศพอดี ไม่สามารถติดต่อกันได้ โรสิตาจึงจำต้องถอดใจเรื่องไท และมุ่งหน้าทำงาน ใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป และไม่รู้ว่าเป็นเพราะพรหมลิขิตหรือพระพรหมกำลังเล่นตลกกันแน่ เพราะในวันที่ไทประสบอุบัติเหตุนั้นก็เนื่องมาจากเขาเห็นโรสิตาอยู่ที่ร้าน ของเธอ ไทดีใจมากที่ได้เจอโรสิตาอีกครั้งจึงผลุนผลันกลับรถไม่ดูตาม้าตาเรือ ถูกรถอีกคันหนึ่งชนเข้าเต็มแรง ทำให้คลาดกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่โรสิตาก็ไม่รู้เลยว่าไทประสบอุบัติเหตุ… โรสิตาไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาร่วมงานกันอีกครั้งในวันนี้ หลังจากเจอท่าทางเฉยชาของไท(ตัวปลอม)ที่ทำเหมือนคนไม่เคยรู้จักกันจริงๆ และรู้ว่าไทเป็นทายาทเจ้าของธุรกิจพันล้านก็เข้าใจไปว่าไทคงไม่ได้จริงจัง อะไรกับผู้หญิงจนๆ อย่างเธอ แล้วพาลเกิดทิฐิว่าจะไม่ยอมให้ไทมาทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองอีกอย่างเด็ดขาด จึงวางท่าปั้นปึ่งใส่ไทนับแต่นั้น และเมื่อได้เจอกันบ่อยๆ ก็มีเหตุให้ต้องกระทบกระทั่งกันเสมอ ต่างคนต่างแรงเหมือนไฟกับน้ำมัน ไม่เคยยอมกันเสียที คนหนึ่งก็ตั้งใจแรงใส่เพราะโกรธที่ถูกลืม ส่วนอีกคนหนึ่งก็ไม่เข้าใจสักทีว่าเธอโกรธอะไรนักหนา พาลอยากกวนประสาทให้หนักกว่าเดิม โดยมีแก้มเป็นคนคอยไกล่เกลี่ย ซึ่งแก้มก็กระดี๊กระด๊าสุดขีดตั้งแต่(ถือวิสาสะ)ติดสอยห้อยตามโรสิตาเข้ามา ทำงานในคอนโด เพราะแก้มปลื้มพี่ไทสุดหล่อเอามากๆ ทั้งยังเป็นคนขู่โรสิตาว่าห้ามเบี้ยวงานเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต้องเสียค่าปรับให้ไทอีกบาน โรสิตาจึงต้องจำใจทำงานต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาว่าจ้าง ทั้งที่อยากหนีหน้าไทเต็มที

ปัญหาของทินน์ในคราบของไทยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อเขาพบกับ พัดชา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ผู้เป็นลูกสาวของหุ้นส่วนธุรกิจ ทั้งคู่ถูกบรรดาผู้ใหญ่จับคู่ให้หวังว่าจะได้แต่งงานกันในอนาคต เป็นคนที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด ตลกๆ อารมณ์ดี ใครชักจูงไปไหนก็เชื่อ เป็นคนคิดดี แต่ทำอะไรก็มักจะเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้เสมอจากความไร้เดียงสา พัดชาที่แอบรักไทมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาไทมีท่าทางเฉยๆ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือนัก พัดชาเคยคิดเสมอว่าต่อให้เธออยู่เฉยๆ สุดท้ายก็ได้ลงเอยกับไทอย่างแน่นอนเพราะผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงามด้วยอยู่แล้ว ชัชพลเห็นพัดชาเป็นคนซื่อแต่ตลกเดียงสา ชัชพลเห็นเป็นโอกาสป่วนไท แถมยังจะช่วยกันให้ไทกับโรสิตาห่างจากกัน จึงส่งมะม่วงเข้าไปตีสนิทพัดชา และใส่ไฟเรื่องโรสิตากำลังเข้ามาพัวพันกับไท พัดชาจึงเริ่มไม่มั่นใจเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นไทยังกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมคนใหม่ในแวดวงสังคม เพราะทินน์เริ่มรู้สึกสนุกในการใช้สถานะของไทเป็นสะพานให้สาวๆ เข้ามาติดพันมากหน้าหลายตา พัดชาจึงเริ่มรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาชนะใจไทให้ได้ก่อนที่ ทุกอย่างจะสายไป เกิดแรงฮึดให้มะม่วงเป็นที่ปรึกษาเรื่องไทจึงทำให้พัดชาตกเป็นเหยื่อของมะ ม่วงและชัชพล โรสิตาเห็นไท เปลี่ยนแปลงไป เป็นคนเจ้าชู้ รักสนุก ผิดกันไทคนที่เธอรู้จัก จึงหมั่นไส้ และหาทางค้นหาความจริงและคอยป่วนไทตลอด พัดชาแวะเวียนมาหาไทอยู่เสมอไม่ขาดตามคำแนะนำ(หรือยุแยง)ของมะม่วง ทั้งยังตามติดแจจนไทตัวปลอมแทบไม่เป็นอันทำอะไร โลมาจึงต้องรับบทหนักอีกเรื่องในการพยายามกันพัดชาออกจากไทให้มากที่สุด ทั้งยังต้องจัดการกับบ่างช่างยุอย่างมะม่วงอีก ทั้งโรสิตา พัดชา และมะม่วง พยายามหาความจริงว่าทำไมไทเปลี่ยนแปลงไปได้รวดเร็วแต่มีชั้นเชิงออกแนว กะล่อนเอาตัวรอด ผนวกกับมีโลมาเป็นผู้ช่วยที่ฉลาดเป็นกลด จึงเอาตัวรอดแล้วแคล้วคลาดทุกครั้ง

เมื่อไทอาการดีขึ้นแล้วก็รบเร้านภางค์ขอกลับมาทำงานทันทีด้วยความห่วงงาน ไม่ว่าทั้งหมอ โลมา และนภางค์จะห้ามปรามอย่างไรก็ยังดื้อ ปากก็บอกว่าตัวเองหายดีแล้ว นภางค์ใจอ่อนจึงอนุญาตให้ไทกลับไปสลับตัวกับทินน์เป็นบางวัน จะได้ลดความน่าสงสัยของทินน์ที่ชัชพลกำลังจับตาดูอยู่ได้บ้าง ไทได้พบกับโรสิตาที่คอนโดและตื่นเต้นมากที่ได้เจอ แต่โรสิตากลับมีท่าทางบึ้งตึงและพูดจาประชดประชันใส่เขาตลอดเวลา ไทได้แต่งุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นและมารู้จากทินน์ว่าระหว่างที่เขาปลอมตัวเป็น ไทนั้น ทินน์กับโรสิตาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด ไทอยากขอคืนดีกับโรสิตาแต่ยังไม่อยากบอกใครเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จึงได้แต่ขอร้องให้ทินน์ทำดีกับโรสิตาในวันที่เขาต้องมารับบทเป็นไท ทินน์ก็ดีได้ไม่เท่าไรไม่วายมีเรื่องให้ต่อปากต่อคำกันเหมือนเคย จนโรสิตาเริ่มสงสัยแล้วว่า ไทมีสองบุคลิกจนแทบจะเป็นคนละคนกัน หรือว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ?

ความสัมพันธ์ระหว่างทินน์กับโรสิตาที่ดูเหมือนจะเป็นคู่กัดเริ่มแปรเปลี่ยน ไปเป็นความรู้สึกดีๆ ใจหนึ่งทินน์ก็รู้สึกดีกับโรสิตามาก แต่อีกใจเขาก็แอบเศร้าเพราะรู้ดีว่าที่โรสิตาทำดีกับเขาก็เพราะเขาอยู่ใน คราบของไท ดังนั้นคนที่โรสิตารักจึงเป็นไท ไม่ใช่เขา โรสิตาเองก็รับรู้ถึงความรู้สึกดีๆในใจที่กลับคืนมาอีกครั้งกับไท (ทินน์) แม้ว่าไทคนนี้ดูแตกต่างจากคนที่เธอเคยรู้จัก กระทั่งเธอรู้เรื่องที่ทินน์กับไทสลับตัวกัน โรสิตาก็ต้องสับสนว่าแท้จริงแล้วเธอรักทินน์หรือไทกันแน่… ด้านพัดชาที่เฝ้าทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจไท แต่ก็เหมือนจะไม่สามารถทำได้ง่ายดายอย่างใจคิด จนวันหนึ่งทินน์พูดเตือนสติพัดชาให้เลิกทำตามคนอื่นให้เป็นตัวของตัวเองซึ่ง ไม่ได้เป็นเพื่อหวังให้คนอื่นมารัก พัดชาจึงคิดได้และกลับมาเป็นพัดชาคนเดิม และหันมาเอาใจใส่ไทอย่างเข้าใจมากขึ้น ในวันที่ไทเศร้าเรื่องรักสามเส้าระหว่างเขา โรสิตา และทินน์ ก็มีพัดชาที่คอยอยู่เป็นเพื่อน จนไทเริ่มมองพัดชาในแง่ดีมากขึ้น และค่อยๆ พัฒนาไปเป็นสงสาร และเข้าใจ และบอกกับตัวเองว่า ก็จะขอดูใจตัวเองก่อนว่าจริงๆ แล้วตัวเองชอบใครระหว่างโรสิตาและพัดชา … และโลมากับมะม่วงที่ต้องปะทะกันในการช่วยเหลือเจ้านายของทั้งคู่ก็กลายมา เป็นคู่รักอีกคู่หนึ่งที่พลิกความคาดหมาย เพราะใครๆ ก็เห็นว่าทั้งคู่เป็นศัตรูกันมา มะม่วงแอบหลงรักชัชพลมาตั้งแต่แรกจึงยอมทุ่มเททั้งกายและใจทำทุกอย่างเพื่อ ให้ชัชพลได้เป็นใหญ่แล้วตนเองก็จะหาทางเอาชนะใจชัชพล แต่ก็ต้องโดนโลมาคอยกัดอยู่ตลอดเพราะรูทัน และสุดท้ายชัชพลไม่เหลือใครนอกจากมะม่วงสาวสวยรวยเสน่ห์แต่ขี้วีน ซึ่งเป็นคนช่วยชัชพลวางแผนการต่างๆ นาๆ นภางค์กับนภัสจะมีกลยุทธอย่างไรช่วยเหลือลูกชายของตนให้เข้ามาเป็นผู้บริหาร ได้อย่างเต็มภาคภูมิ แล้วนภจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่านภางค์มีลูกแฝดอีกหนึ่งคน ชัชพลจะจีบโรสิตาสำเร็จหรือไม่ แล้วชัชพลจะลงเอยกับใคร

ความรักวุ่นๆ ของหนุ่มเซอร์เจ้าอารมณ์อย่างทินน์กับสาวปากแข็งอย่างโรสิตา จะลงเอยอย่างไร ไทเมื่อกลับมาทำงานแล้วพัฒนาความสัมพันธ์กับพัดชาอย่างไร ระหว่างคนหนึ่งเงียบ สุขุม เป็นสุภาพบุรุษ กับสาวสวยเปรี้ยวจี๊ดแต่โก๊ะ และชัชพลกับมะม่วงจะลงเอยกันเช่นไร ความวุ่นวายทั้งหลายแหล่จะเกิดขึ้นอย่างไร แถมยังมีนักแสดงรับเชิญอีกมากมายที่มาร่วมสร้างสีสัน ต้องติดตามชม “รักอยู่หนใด

ธิดาซาตาน

ณ ป่าดงดิบแถบชายแดน นายพรานรามราช กับนายพรายภูไพร เพื่อนร่วมสาบานที่เกิดเวลาเที่ยงคืนของคืนวันจันทรคราส วันเดียวปีเดียวกันตรงตามความเชื่อถือที่สืบต่อกันมาว่า หากใครเกิดวันดังกล่าวผู้นั้นคือทายาทอสูรที่สามารถฝึกฝนมนต์ดำจนบรรลุไสย เวทย์ขั้นสูงได้ ทั้งสองจึงร่วมกันติดตามค้นหาตำราอสูรมานานนับหลายปี แล้วในที่สุดความปรารถนาก็เป็นจริง แต่ด้วยความโลภในใจทำให้รามราชลืมความเป็นเพื่อน อยากจะครอบครองตำราอสูรไว้เพียงผู้เดียว ทั้งคู่หันมาห้ำหั่นแย่งชิงกันเอง รามราชถูกภูไพรเอาไฟจี้จนบาดเจ็บ ฉับพลันเกิดอาเพศถ้ำถล่มรามราชหนีไปได้ ทิ้งภูไพรกับตำราอสูรฝังในถ้ำนั้น

17 ปี ผ่านไป ธารใส, เพลิงพิศ, วายุตา, เอื้องทราย เด็กสาว 4 คนเติบโตขึ้นมาต่างทิศทางที่ต่างนิสัยใจคอและต่างสายเลือด แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือทั้ง 4 คนเกิดในวันที่พรานทั้งสองมอบตัวเป็นทายาทอสูร เพียงแตกต่างกันทำให้แต่ละคนมีธาตุที่ต่างกัน ซึ่งตามตำรามนต์ดำหากธาตุทั้งสี่ได้รวมตัวกันก็จะบังเกิดพลังร้ายแห่งอสูร ที่ไม่มีใครสามารถต้านทานได้ ธารใส เด็กสาวอายุ 16 เป็นลูกกำพร้าได้ แย้ม กับย้อย เก็บมาเลี้ยงดูเป็นลูก แย้มกับย้อยมีอาชีพเป็นพวกต้มตุ๋นหลอกชาวบ้าน และพยายามฝึกฝนให้ธารใสขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ต ด้วยความที่เป็นคนขลาดกลัวธารใสทำพลาดเกือบทุกครั้ง และล่าสุดก็โดนรปภ.ไล่ตามจับธารใสหนีรอดได้ทัน

แต่กลับไปวิ่งชนเข้า กับ เชนทร์ ลูกชายเจ้าของโรงเรียนมารตีคอมเมิร์ส เชนทร์เข้าใจว่าธารใสเป็นพวกหัวขโมย เพลิงพิศ เด็กสาวผู้แสนอาภัพต้องสูญเสียพ่อที่แสนดีไปตั้งแต่ยังเล็ก ทิ้งให้เธออยู่กับแม่ คุณหญิงแม่แม่เลี้ยงใจร้ายที่ฮุบมรดกของเธอไปจนหมด เพลิงพิศถูกเลี้ยงดูไม่ต่างกับสาวใช้ภายในบ้าน แถมยังโดน ชนก กลั่นแกล้งทารุณทุบตีทำร้ายจากแม่เลี้ยงและ หญิงนิล น้องสาวต่างมารดาอยู่เป็นประจำ ในขณะเดียวกัน วายุตา ลูกสาวมหาเศรษฐีที่โหยหาความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวมาโดยตลอดก็มี ดวงเดช พ่อที่ลุ่มหลงอยู่แต่เรื่องกามารมณ์กับเด็กสาวเอ๊าะๆ วัยเดียวกับตน และ นงนุช แม่ที่ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการช่วยเหลือเด็กกำพร้า

แต่ กลับหลงลืมที่จะกลับมาดูแลเอาใจใส่ลูกสาวคนเดียวของตนเอง จึงทำให้วายุตาไม่ต่างอะไรกับเด็กกำพร้าทางใจ วายุตาแอบหนีไปเทียวเจอกับกลุ่มเพื่อนชายที่พยายามจะลากวายุตาไปข่มขืน แต่วายุตากลับรอดมาได้อย่างหวุดหวิด และคนสุดท้าย เอื้องทราย สาวน้อยชาวเหนือแสนซื่อที่ถูกแม่เล้าหลอกซื้อตัวมาจะเอาเป็นลูกบุญธรรม แต่จริงๆ แล้วกลับบังคับให้มาขายตัว เอื้องทรายตัดสินใจหนีไปตายเอาดาบหน้า แต่ถูกกลุ่มลูกสมุนของแม่เล้าตามล่าเอาชีวิต เอื้องทรายหลบเข้าไปในรถของ มารตี รถพาเอื้องทรายมาถึงบ้านของมารตี และกลายมาเป็นสาวใช้ติดตามเชนทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมารตีในเวลาต่อมา การพบกันครั้งแรกของสี่สาวทายาทอสูรเกิดขึ้นในวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียน มารตีคอมเมิร์ส

ธารใสสอบชิงทุนการศึกษาเข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ของ โรงเรียน ส่วนวายุตาทนอยู่โรงเรียนเก่าต่อไปไม่ได้จึงลาออกแล้วมาเรียนต่อที่นี่ มารตีเจ้าของโรงเรียนให้เอื้องทรายมาเรียนที่โรงเรียนด้วย เพื่อคอยรับใช้เชนทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ ธารใส, วายุตา, เอื้องทราย ได้พบกับเพลิงพิศที่เป็นนักเรียนเก่าของที่นี่ แต่แทนที่จะเป็นการพบกันในฐานะเพื่อนใหม่ ธารใสกับเพลิงพิศกลับเป็นได้แค่ศัตรูแปลกหน้าเท่านั้น เพราะธารใสเป็นต้นเหตุให้เพลิงพิศ, วายุตา และเอื้องทราย โดนมารตีทำโทษให้อับอายเพื่อนนักเรียยนในวันแรกของการเรียน ความโชคร้ายของธารใสยังไม่จบลงเท่านั้น เชนทร์พบกับธารใสโดยบังเอิญและจำได้ว่าธารใสเป็นขโมยที่ถูกรปภ.ไล่ตามในห้าง

เชนทร์ ลากตัวธารใสไปหามารตีและบอกให้แม่ไล่ธารใสออก มารตีเชื่อเชนทร์แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อแย้มกับย้อยโผล่มาในคราบของ เศรษฐีน้ำมันชาวตะวันออกกลาง ซึ่งแย้มกับย้อยตั้งใจปลอมมาเป็นคนรวยเพราะอยากให้ธารใสมีฐานะทัดเทียม เพื่อนๆ มารตีไม่กล้าไล่ธารใสออก แต่จำเป็นต้องคัดชื่อออกจากนักเรียนทุน การมาเยือนของแย้มย้อยแทนที่จะช่วยธารใสกลับทำให้ชีวิตธารใสลำบากมากขึ้น เพราะธารใสต้องไปหางานพิเศษทำอย่างหนักเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเทอม ธารใสไปขอทำงานเพื่อหารายได้พิเศษในชมรมเชียร์ของโรงเรียน และได้พบกับเพลิงพิศที่มาทำงานพิเศษในชมรมนี้เช่นกัน เพลิงพิศไม่สนใจธารใสแม้ธารใสพยายามหาทางพูดคุยด้วย

ธารใสเห็นการฝึก ซ้อมของทีมเชียร์แล้วรู้สึกทึ่งและสนใจอยากเข้าร่วมบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเชนทร์ในฐานะประธานเชียร์และหญิงนิลหัวหน้าทีมเชียร์ ต่างพากันกีดกันธารใส ธารใสเห็นเพลิงพิศเต้นเชียร์ได้อย่างคล่องแคล่วเลยขอให้เพลิงพิศช่วยสอนให้ แต่เพลิงพิศปฏิเสธและยังไม่หายโกรธธารใส ด้านเพลิงพิศก็พยายามให้หญิงนิลรับเธอเข้าทีมเชียร์อีกครั้ง หญิงนิลเห็นธารใสและเกิดหมั่นไส้เลยสั่งให้ทั้งคู่ไปตั้งทีมเชียร์มาเต้น โชว์ให้ดู ถ้าทำได้ดีถูกใจเธอก็จะรับทั้งคู่เข้าทีมเชียร์ เพลิงพิศไม่อยากร่วมทีมกับธารใส แต่ด้วยความที่อยากเต้นมากเลยจำใจรับปากหญิงนิล เพลิงพิศกับธารใสเลยไปชวนวายุตากับเอื้องทรายมาร่วมทีมเชียร์ด้วย

ทั้ง 4 คน ฝึกซ้อมโดยมีเพลิงพิศเป็นคนสอนท่าเต้น เพลิงพิศแทบบ้าเพราะธารใสไม่มีพื้นฐานการเต้นเลย แถมยังฟังจังหวะดนตรีไม่เป็น เพลิงพิศจึงตกลงใจให้ธารใสเป็นตัวขึ้นไปยืนต่อตัวในช่วงท้ายของการเต้นเท่า นั้นพอ ผลปรากฎว่าเมื่อวันทดสอบมาถึงธารใสกลับเป็นตัวทำให้ความฝันของทีมพังทลาย เพราะเมื่อถึงช่วงต่อตัวธารใสกลับกลัวจนขาสั่น ตกลงมาทับ 3 สาวที่ยืนเป็นฐาน ทำให้ถูกเชนทร์กับหญิงนิลหัวเราะเยาะเย้ย ทำให้เพลิงพิศยิ่งเพิ่มความเกลียดชังธารใสมากขึ้น ชีวิตในโรงเรียนของธารใสกับเพลิงพิศไม่ต่างอะไรกันนัก ในขณะที่ธารใสโดนเพื่อนชายในห้องแกล้งอยู่เสมอๆ เพราะความเป็นคนขี้กลัวและอ่อนแอ ธารใสจึงเหมือนตัวตลกของห้องท่ามกลางความสะใจของเชนทร์และกลุ่มเพื่อนๆ

ส่วน เพลิงพิศก็โดนหญิงนิลคอยข่มเหงรังแก และใช้ความรุนแรงตบตีเพลิงพิศต่อหน้าเพื่อนๆ ให้อาย ความที่เพลิงพิศเป็นผู้หญิงแข็งกร้าว พูดจาดุดัน ผู้ชายต่างพากันไม่กล้าเข้าใกล้ เตอร์ เพื่อนสนิทที่คอยเอาแต่สนันสนุนเป็นลูกคู่ แต่จริงๆ แล้วแอบอิจฉาเชนทร์ ท้าให้เชนทร์นัดเดทกับเพลิงพิศ เชนทร์รับคำท้าทั้งๆ ที่ น็อต เพื่อนสนิทอีกคนที่คอยแอบเป็นกำลังใจให้พวกสี่สาวและเป็นเพื่อนที่จริงใจของ เชนทร์ ไม่เห็นด้วยที่เชนทร์จะคอยแกล้งพวกสี่สาว เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยปฏิเสธเขาเลย และในที่สุดเชนทร์ก็จีบเพลิงพิศสำเร็จ ข่าวนี้รู้ไปถึงหญิงนิลหญิงนิลแทบคลั่งที่เพลิงพิศตัดหน้าแย่งเชนทร์ไป ทั้งๆ ที่ใครๆ ก็รู้ว่าเชนทร์ควงอยู่กับหญิงนิล

หญิงนิลพาเพื่อนไป รุมทำร้ายเพลิงพิศจะกรีดหน้าให้เสียโฉม แต่ธารใสมาเจอและเอาชีวิตเข้าเสี่ยงช่วยเพลิงพิศจนตัวเองบาดเจ็บ วายุตากับเอื้องทรายเข้ามาช่วยเพลิงพิศกับธารใสไว้ได้ทัน ทำให้เพลิงพิศซึ้งในน้ำใจของธารใส มิตรภาพของคนทั้ง 4 จึงเริ่มนับจากนั้น หลังจากจีบเพลิงพิศสำเร็จเชนทร์ก็เลิกสนใจเพลิงพิศทำให้เพลิงพิศไม่เข้าใจ เตอร์เพื่อนสนิสของเชนทร์เลยได้ทีพูดจาเยาะเย้ยเพลิงพิศว่ามันเป็นแค่เกม เท่านั้น ทำให้ธารใสลืมตัวตบหน้าเชนทร์ เชนทร์โกรธมากประกาศตัวเป็นศัตรูกับพวก 4 สาวทันที สี่สาวถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ ภายในโรงเรียน มีวิธีเดียวที่จะสามารถอยู่รอดในโรงเรียนนี้ได้คือการรวมกลุ่มกันสู้เท่า นั้น 4 สาวจึงจับมือสาบานเป็นเพื่อนตายกันและตั้งชื่อแก็งค์ว่า กุหลาบไฟ

หลัง จากเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นในการเดินทางไปทัศนศึกษาในป่าทึบเขตชายแดน ชีวิตของสี่สาวก็เปลี่ยนไปเพราะธารใสได้พบกับตำราอสูรที่ซ่อนอยู่ในถ้ำด้วย ความบังเอิญ แต่สี่สาวไม่รู้ว่าตอนอยู่ในถ้ำมีเงาดำที่ตามติดสี่สาวออกมาด้วย เงาดำนั้นคือรามราชพรานหนุ่มเมื่อ 16 ปีก่อน ที่บัดนี้กลายเป็นชายแก่หน้าตาอัปลักษณ์ รามราชเฝ้าค้นหาตำราอสูรมา 16 ปีแต่กลับไม่พบ แล้วก็แปลกใจมากที่สี่สาวเจอตำราได้ง่ายดาย รามราชติดตามสี่สาวเข้ากรุงเทพแล้วสมัครเป็นภารโรงในโรงเรียนมารตีคอมเมิร์ส มารตีรับไว้เพราะรามราชไม่ต้องการเงินเดือนแค่อยากได้ที่พักและข้าวกิน 3 มื้อ แต่มีข้อแม้ว่าให้อออกมาทำงานตอนกลางคืนเพราะกลัวเด็กๆ จะตกใจกลัว แต่ก็มีเด็กๆ เห็นจนได้และตั้งฉายาว่าลุงหน้าผี

ธารใสทำผิด กฏของเชนทร์เชนทร์เลยสั่งลงโทษให้ธารใสไปล้างห้องน้ำชาย หลังเลิกเรียนธารใสเห็นลุงหน้าผีออกมาจากห้องน้ำ ธารใสตกใจหวีดร้องจนเป็นลมสลบไป ส่วนเชนทร์ก็รู้สึกว่าตัวเองแกล้งรุนแรงไปจึงแอบมาดูธารใส แต่เห็นธารใสเป็นลมสลบอยู่จึงอุ้มธารใสออกจากห้องน้ำ หญิงนิลมาเห็นเข้าคิดว่าเชนทร์กับธารใสมีอะไรกัน ข่าวนี้กระจายไปทั่วโรงเรียน และเป็นจุดขัดแย้งที่เริ่มประทุในใจของเพลิงพิศ ธารใสเล่าเรื่องชายที่เห็นในห้องน้ำให้เพื่อนๆ ในแก็งค์ฟัง เพลิงพิศคิดว่าน่าจะเป็นลุงเจ้าหน้าที่ภารโรงคนใหม่ของโรงเรียน ธารใสรู้สึกสงสารลุงหน้าผีเลยแอบเอาขนมไปวางไว้หน้าห้องพัก หลังจากเหตุการณ์ที่เชนทร์ช่วยธารใส เชนทร์ก็ดูมีพฤติกรรมแปลกๆ กับธารใสหลายอย่าง

ทั้งยังยกเลิกข้อห้ามต่างๆ ยิ่งทำให้หญิงนิลเกลียดพวกสี่สาวมากขึ้น มีการจัดแข่งขันเต้นเชียร์ประจำโรงเรียนทีมผู้ชนะจะได้เป็นดาวเชียร์ประจำ โรงเรียน แก็งค์กุหลาบไฟไม่กล้าแข่งขันแต่เผลอไปรับคำท้าของหญิงนิลเอาไว้ ทำให้สี่สาวกลุ้มใจหนักเพราะรู้ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางแข่งชนะพวกหญิงนิลได้ ในขณะนั้นเองธารใสพบว่าย้อยสามารถอ่านตำราที่พวกตนได้มาจากป่าได้จึงให้ย้อย แปลให้ฟังได้ความว่า ตำรานี้เป็นตำราอสูรเป็นวิชาไสยเวทย์โบราณ ผู้ฝึกฝนสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ดังใจปรารถนา แต่ต้องเป็นผู้เกิดในคืนจันทรคราสหรือคืนกำเนิดทายาทอสูร ทั้งหมดช่วยกันหามนต์ดำที่จะช่วยให้ชนะการแข่งขัน การแข่งขันเริ่มต้นระหว่างเต้นทีมกุหลาบไฟเต้นสู้แบบยิบตา

และแอบ ท่องมนต์ดำอสูรให้ตัวลอยกลางอากาศได้ ขณะเดียวกันก็เสกให้ทีมคู่แข่งขันเห็นงูพันคอเพื่อนในทีมจนล้มระเนระนาดไม่ เป็นท่า กุหลาบไฟชนะได้เป็นดาวเชียร์ของโรงเรียน และได้เข้าไปเดินยืดในชมรมเชียร์สมใจ แต่ก็โดนพวกหญิงนิลแกล้งให้เป็นได้แค่ตัวสำรองคอยซักเสื้อผ้าให้ทีมเชียร์ ลุงหน้าผีแอบดูเหตุการณ์ทั้งหมดและวางแผนแย่งตำราอสูรมาครองครอง ด้วยการพยายามหลอกเข้าไปตีสนิทกับสี่สาวและคอยช่วยเหลือสี่สาว จนกลายเป็นคนที่สี่สาวให้ความเคารพเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตำราอสูรให้ลุงหน้า ผีฟัง สี่สาวสามารถท่องมนต์เสกเบื้องต้นได้ เช่น เสกภาพผีในหนังสือให้ออกมาเป็นผีจริงหลอกคนได้ เสกภาพลวงตา ฯลฯ ภารกิจแรกที่แก็งค์กุหลาบไฟจัดการคือ การแก้แค้นบรรดาคนที่เคยข่มเหงรังแกตน

และ มนต์ดำอสูรก็ช่วยให้สี่สาวเต้นเชียร์ได้เก่งขึ้นจนไม่มีทีมไหนสามารเทียบติด ได้ และสามารถคว้าแชมป์มาให้โรงเรียนจนกลายเป็นคนดังประจำโรงเรียน ทำให้พวกหญิงนิลอิจฉามากขึ้นและหาทางกลั่นแกล้งพวกกุหลาบไฟ เพลิงพิศเริ่มหลงระเริงกับชื่อเสียงที่ตนมี และอิจฉาธารใสเรื่องเชนทร์ และความโดดเด่นของธารใสในการเต้นเชียร์ ลุงหน้าผีได้โอกาสยุแหย่ให้สี่สาวแตกกัน และยุให้เพลิงพิศขโมยเอาตำราอสูรมาฝึกฝนคนเดียว และโยนความผิดให้ธารใสว่าเป็นคนขโมย ไป ทำให้ทีมเต้นพ่ายแพ้ทีมของหญิงนิล ธารใสโดนไล่ออกจากแก็งค์กุหลาบไฟ ทุกๆ คนที่ชื่นชอบแก็งค์กุหลาบไฟพากันรังเกียจธารใส ยกเว้นเชนทร์ที่เห็นใจธารใสและคอยดูแลธารใสในตอนที่ไม่มีใครต้องการเธอ

ความ รักของทั้งคู่จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ด้านเพลิงพิศเมื่อได้ตำรามาก็แอบฝึกฝนตำราขั้นสูงร้ายกาจและอำมหิตมากขึ้น ทุกที ถึงขนาดต้องใช้เลือดสดๆ มาประกอบพิธีปลุกเสก จนทำให้บรรดาสัตว์เลี้ยงในโรงเรียนตายเกลื่อน ธารใสเห็นความผิดปรกติพยายามสืบหาความจริง การฝึกมนต์ดำปลุกเสกของเพลิงพิศพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพลิงพิศสั่งให้วายุตาไปเอาเส้นผมของทีมเชียร์ทุกคนมาปลุกเสก เพื่อมัดวิญญานของทุกคนให้เป็นทายาทอสูร ทำให้ทีมเชียร์เต้นกันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแข็งแรงเกินมนุษย์ ด้วยท่าเต้นและลีลาที่น่ากลัว เพลิงพิศร้ายกาจมากขึ้นด้วยการจับหญิงแม่และหญิงนิลมาเป็นหนูทดลอง เพลิงพิศเกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะฝึกมนต์ดำจากตำราสลับหน้าผิด เพลิงพิศกลายเป็นอสูรร้ายฆ่าแม่เลี้ยงตายและทำให้หญิงนิลเป็นบ้า

เพื่อนๆ ของหญิงนิลไม่มีหญิงนิลเป็นหัวหน้าทีมแล้ว จึงไปขอร้องให้ธารใสมาเป็นหัวหน้าทีมเพื่อเข้าแข่งขันสู้กับทีมของเพลิงพิศ ธารใสตอบตกลงโดยมีเอื้องทรายหนีจากทีมของเพลิงพิศมาอยู่กับธารใส เพื่อนรักกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ฟาดฟันกันด้วยมนต์ดำอสูร โดยใช้วิธีการแข่งขันเต้นเชียร์เป็นสนามประลองพลังของความดีและความชั่วร้าย ธารใสสู้เพลิงพิศไม่ได้เพลิงพิศได้ใจออกฆ่าคนเพื่อนำเลือดมาฝึกมนต์ดำ ธารใสกับเอื้องทรายพยายามเข้าขัดขวางแต่สู้มนต์ดำปลุกเสกไม่ได้ เชนทร์พิสูจน์รักแท้ที่มีต่อธารใสด้วยการเอาตัวเข้าช่วยธารใส และให้เอื้องทรายพาธารใสที่บาดเจ็บหลบหนีไป ทำให้เชนทร์ถูกเพลิงพิศจับตัวไว้เพื่อล่อให้ธารใสออกมา เพลิงพิศไม่สามารถฝึกมนต์ดำจนจบได้เพราะหน้าสุดท้ายหายไป

เลยปลุกเสก ตัวเองให้เข้าไปอยู่ในร่างกายของลุงหน้าผีทำให้เห็นภาพอดีตทั้งหมด ธารใสกับเอื้องทรายช่วยกันหาวิธีทำลายอำนาจอสูรของเพลิงพิศ และรู้ความจริงจากแย้มและย้อยว่าพ่อของเธอเป็นพรานป่า แอบเข้ามาเป็นแรงงานผิดกฎหมาย มาทิ้งธารใสไว้หน้าบ้านพร้องห่อผ้าเก่าๆ แล้วก็หายสาปสูญไป ธารใสค้นหาห่อผ้าจนเจอมีรูปของ ภูไพร ถ่ายคู่กับลุงหน้าผี และธารใสก็พบสิ่งสำคัญที่ทำให้ธารใสเอาชนะอำนาจอสูรร้ายของเพลิงพิศได้ นั่นก็คือตำราอสูรหน้าสุดท้าย ในคืนวันพระจันทร์ทรงกลดธารใสกับพวกเข้าไปช่วยเชนทร์ และต่อสู้กับเพลิงพิศสามารถเอาชนะเพลิงพิศได้ เพลิงพิศกลายเป็นคนบ้าหน้าตาอัปลักษณ์เพราะตำราอสูรย้อนเข้าตัว ธารใสจึงตัดสินใจทำลายตำราทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นพิษภัยกับคนอื่นต่อไป

รายชื่อนักแสดง ธิดาซาตาน

รพีภัทร เอกพันธุ์กุล รับบท เชนทร์
สาวิกา ไชยเดช รับบท ธารใส
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ รับบท เอื้องทราย
กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า รับบท เพลิงพิศ
ชมพูนุช ปิยธรรมชัย รับบท วาตุยา
ดนัย สมุทรโคจร รับบท น็อต
บินฑ์ บันลือฤทธิ์ รับบท รามราช
เวนส์ โฟลคอนเนอร์ รับบท ภูไพร
ดีแลนด์ รับบท เตอร์
ณัชชา วิทยากาศ รับบท หญิงนิล

คนเยอะเรื่องแยะ

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ที่ใดมีคน ที่นั่นย่อมมีปัญหา หนึ่งคนหนึ่งปัญหา มากคนก็มากปัญหา ยิ่งถ้าหลากวัยหลายอาชีพ แถมยังต่างกันทั้งนิสัย ความคิด ทัศนคติ และการใช้ชีวิต แต่ต้องมาอยู่ร่วมกันด้วยแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น

ที ชื่อจริง ธีระวัฒน์ เป็นเด็กหนุ่มต่างจังหวัดแสนซื่อ จริงใจ เข้ากรุงเทพฯ มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่ไม่มีเงินเช่าหอพัก เลยต้องอาศัยอยู่วัดนั้นทีวัดนี้ที จนโดนเพื่อนล้อ เรียกชื่อจริงว่า ทีละวัด จนกระทั่งดชคดี เมื่อจู่ๆ ป๋อง เพื่อนซี้ร่วมมหาวิทยาลัยจอมซ่าส์ตัวฮาป่วน ชวนมาอยู่ด้วยกันที่แฟลตฯ (ก่อนหน้านี้ป๋องอยู่กับพ่อ แต่พ่อป๋องเพิ่งย้ายไปทำงานต่างจังหวัด เหลือป๋องคนเดียว ป๋องเลยชวนทีมาอยู่ด้วยกัน)

และนั่นคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ทีได้พบและรู้จักกับเรื่องราวสนุกสนานของชีวิต ผู้คนมากหน้าหลายตา หลายชีวิตที่อาศัยและเวียนว่ายอยู่ในห้องพักแคบๆ ที่ถูกเรียกว่า บ้าน ภายในแฟลตฯ กลางกรุงแห่งนั้น

โบว์ สาวน้อยนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกับทีและป้อง เป็นสาวห้าวโผงผาง เปรี้ยวซ่าส์ ขาลุยเหมือนผู้ชาย แต่ลึกๆ แล้วจิตใจดี จริงใจ เสแสร้งไม่เป้น แรกๆ รำคาญ ความซื่อเด๋อด๋าของที และสุดท้ายก็หลงเสน่ห์ทีเข้าจนได้ โบว์อาศัยอยู่กับพ่อซึ่งเป็นนายตำรวจชื่อ คมสัน กับแม่เป็นแม่บ้านชื่อ บัว

น้อยหน่า สาวน้อยเพื่อนซี้ร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกับโบว์ เป็นสาวช่างฝัน เรียบร้อย อ่อนหวาน ขี้สงสาร เจ้าน้ำตา และเป็นขวัญใจของป๋อง น้อยหน่าอยู่กับพี่สาวชื่อ ชมพู่ นักร้องคาเฟ่ สาวสวยเซ็กซี่ ปากร้ายแต่ใจดี รักและหวงน้องสาวสุดหัวใจ

ครูจำแลง หนุ่มโสด เป็นครูสอนวิชาศีละรรม อยู่คนเดียว ถือศีล ธรรมะธัมโม ชอบปลูกฝังสั่งสอนให้คนในแฟลต ประพฤติตัวอยู่ในศีลในธรรม แต่ดันแอบชอบนักร้องคาเฟ่อย่างชมพู่ซะงั้น

ทวยเทพ กับ ปานเพชร คู่เศรษฐีสามีภรรยา อาศัยอยู่ในแฟลตตั้งแต่ยังยากจน สร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวยก็ยังไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่อื่น เป็นกิ่งทองใบหยก ทั้งงก เห็นแก่ตัว ใจร้าย ใจดำ ชอบดูถูกคนอื่นพอกันทั้งคู่

ร่าเริง หนุ่มไร้อารมณ์ เจ้าของร้านตัดผมใต้ถุนแฟลต ซึ่งเป็นจุดนัดพบ พูดคุย พบปะ สังสรรค์ของชาวแฟลตฯ

วิลลี่ หนุ่มโชเฟอร์สามล้อ อารมณ์ดี เฮฮา ไม่มีใครรู้ว่าบ้านอยู่ไหน แต่แวะเวียนมาจอดตุ๊กๆ ใต้แฟลตหน้าร้านตัดผมของเริงร่าทุกวัน ชมพู่จ้างให้คอยรับคอยส่งคาเฟ่

ตะขบ แม่ค้าขายกล้วยแขก ตั้งแผงอยู่หน้าร้านตัดผมของร่าเริง และเป็นคนเอะอะ เสียงดัง กระซิบที่หูหนวก คู่กัดตัวสำคัญของวิลลี่

หลาก ชีวิต หลายที่มา แต่เมื่อจำต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนครอบครัวใหญ่ ภายใต้หลังคาแฟลตเดียวกัน ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องราวมากมาย ซึ่งมีทั้งสนุกสนาน เฮฮา ชุลมุน วุ่นวาย แปลกประหลาด เหลือเชื่อ สารพัดเรื่อง และที่ขาดไม่ได้นั่นคือเรื่อง ความรัก

แต่ทุกเรื่องราววุ่นวายสนุก สนานสารพันที่เกิดขึ้นภายใต้แฟลตแห่งนี้ ก็ล้วนแต่เป็นตัวอย่างชีวิตที่แฝงข้อคิด ที่สามารถดัดแปลงและนำมาใช้เป็นบทเรียนสำหรับการดำเนินชีวิตที่มีความสุขต่อ ไปในสังคมทุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี

นักแสดงละคร คนเยอะเรื่องแยะ

ตะวัน จารุจินดา   แสดงเป็น  ที
กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า   แสดงเป็น  โบว์
พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร   แสดงเป็น  ท็อป
คีตภัทร อันติมานนท์   แสดงเป็น  น้อยหน่า
ชาญณรงค์ ขันทีท้าว   แสดงเป็น  ร่าเริง
อาภาพร นครสวรรค์   แสดงเป็น  ชมพู่
ภัทรา ทิวานนท์   แสดงเป็น  บัว
เอกพัน บรรลือฤทธิ์   แสดงเป็น  จ่าคมสัน
นุ้ย เชิญยิ้ม   แสดงเป็น  วิลลี่
ศิริพร อยู่ยอด   แสดงเป็น  ปานเพชร
กอบโชค คล้ายสำริด   แสดงเป็น  ทวยเทพ
ธีระวัฒน์ ทองจิตติ   แสดงเป็น  จำแลง
ชนิสา นันทมานพ   แสดงเป็น  ไอซ์
จันทร์พร จันทร์ทิพย์   แสดงเป็น  ตะขบ

ออกอากาศเมื่อ 17 มีนาคม 2550 – 8 มีนาคม 2551