Tag Archives: กฤษฎา พรเวโรจน์

ทาสรัก

ปลายสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เชียงน้อย เป็นรัฐอิสระขนาดเล็กที่อยู่ระหว่างชายแดนไทยและพม่า ปกครองในระบอบกษัตริย์มี เจ้าหลวงมหาชีวิต (สมภพ เบญจาทิกุล) ที่ชราและป่วยหนักเป็นผู้ปกครอง เจ้าหลวงมหาชีวิตกำลังรอคอย เจ้าชายตันละวินที่หายไปคราวเกิดสงครามกลางเมืองเมื่อยี่สิบปีก่อน เจ้าหญิงเอยาวดี (เข็มอัปสร สิริสุขะ) ทนดูบิดานอนหายใจรวยรินด้วยความทุกข์ไม่ไหว ตัดสินใจลอบหนีออกไปจากคุ้มหลวง เดินทางเข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับ อองดิน (ทฤษฎี สหวงษ์) นายทหารองครักษ์ และนักรบมือฉกาจผู้เงียบขรึม พร้อมด้วย นางติ๊ด (ดารณีนุช โพริปติ) พี่เลี้ยงอารมณ์ดี

ข่าวการเดินทางมาในประเทศไทยเข้ามาถึงหูคนใน วังเขียว ของ หม่อมนวล (ธัญญา โสภณ) ซึ่งมีบุตรชายแสนรักแสนหวงเพียงคนเดียว คือ ม.จ.ดาบปราบศัตรู หรือ ท่านดาบ (กฤษดา พรเวโรจน์) หม่อมนวลให้จัดเสลี่ยงออกไปรับเจ้าหญิง และให้ออกประกาศการต้อนรับเจ้าหญิงอย่างยิ่งใหญ่ที่หัวเมือง ในฐานะเจ้าหญิงผมหอม ผู้ทรงสิริโฉมงดงาม (เกิดจากการอาบน้ำบำรุงสมุนไพรตำรับโบราณทุกวันตั้งแต่เกิด) เจ้าหญิงเอยาวดีคือคู่หมั้นของท่านดาบ ทั้งสองไม่เคยพบหน้ากัน แต่หม่อมนวลก็หวังประโยชน์มหาศาลจากเชียงน้อยจึงสนับสนุนเต็มที่ ในขณะที่ฟ้ากำหนดให้เจ้าหญิงเอยาวดี เกิดท่ามกลางเส้นทางปูด้วยกลีบกุหลาบ มีหญิงอีกผู้หญิง กำเนิดขึ้นอย่างแร้นแค้นในเรือนทาสของคุณ พระพิพิธโอสถ (ภาณุเดช วัฒนสุชาติ)

อีวาด (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ) เป็นทาสตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก เพราะพ่อแม่เป็นทาสทั้งคู่ วาดเป็นเด็กฉลาด ทะเยอทะยาน สนใจใฝ่รู้ วาดยอมให้ คุณโนรี (โชติกา วงศ์วิลาศ) ลูกสาวพระพิพิธตบตี ระบายอารมณ์เพียงเพราะต้องการจะแอบฟังคุณโนรีเรียนเขียนอ่าน และยอมให้พระพิพิธเตะถีบเพียงเพื่อจะได้เข้าไปช่วยงาน และหาความรู้ในห้องเก็บยาของพระพิพิธ พร้อมกับดูแลแม่คือ นางวง (ชุดาภา จันทเขตต์) ระหว่างความลำบากยากแค้นนั้น วาดใช้ความจำอันแสนวิเศษของตน จดจำตำรายาของพระพิพิธจนกลายเป็นผู้มีความสามารถด้านการแพทย์แผนโบราณอยู่ เงียบ ๆ

นางวาดถูกขายให้กับโรงโสเภณีที่มี คุณพระพาณิชย์ หรือ จีนฮง (ประกาศิต โบสุวรรณ) เป็นเจ้าของ จีนฮงมีอาชีพค้าทาส และเปิดโรงโสเภณีใหญ่ที่สุดอยู่ในพระนคร ทนมือทนตีน ทนเจ็บตัวนั้นทนได้ แต่ให้ทนบำเรอกามแก่ผู้ชายทั่วทั้งพระนคร เห็นทีจะไม่ไหว วาดตัดสินใจหนีเข้าป่า เอาตัวรอดไปเจอกับขบวนเสลี่ยงต้อนรับเจ้าหญิงเอยาวดีที่หัวเมือง โดนมี นายขวด (พสิน เรืองวุฒิ) สมุนเอกจอมโหดของจีนฮงวิ่งถือดาบไล่ตามไปติด ๆ

ข้าง ฝ่ายเจ้าหญิงเอยาวดีนั้นก็กำลังว้าวุ่นใจอยู่กับขบวนที่มารอต้อนรับตนอยู่ หน้าเมืองเจ้าหญิงและคณะ มิปรารถนาที่จะเปิดเผยตน เพราะเกรงว่าหากเข้าไปอยู่ในวังแล้ว ความเป็นเจ้าหญิงจะทำให้ติดตามพี่ชายไม่สะดวก และกลุ่มของเจ้าหญิงเอยาวดีนั้นก็มีศัตรูติดตามอยู่เช่นกัน ศัตรูของเจ้าหญิงเอยาวดี คือทหารของ สมิงสินธู (ศานติ สันติเวชชกุล) อาแท้ ๆ ของเจ้าหญิงที่เป็นกบฏในนครเชียงน้อย

ในช่วงเวลาชุลมุนที่หัวเมืองนี่เอง อองดินพบกับวาดและได้ช่วยนางวาดสู้กับนายขวดอองดินขอให้วาดตอบแทนตน ด้วยการใส่ชุดเจ้าหญิงและขึ้นเสลี่ยง เพื่อเป็นตัวล่อกลุ่มศัตรู นางวาดทำตามเพราะเชื่อว่าตนจะหนีเข้าป่ารถข้างหน้า การณ์ไม่เป็นดังนั้น วาดหนีไม่ได้ เพราะหม่อมนวลมาพบเข้าและเข้าใจไปว่านางวาดคือเจ้าหญิงเอยาวดี เวลาเดียวกันนั้น เอยาวดีที่อยู่ในชุดของทาส หลุดออกจากการคุ้มกัน ของอองดินและนางพี่เลี้ยงถูกนายขวดจับตัวไปกับกลุ่มทาสที่ถูกซื้อมาเป็น กลุ่มใหญ่ที่กำลังจะเดินทางไปโรงโสเภณี เอยาวดีในบทบาทของนางทาสวาด เมื่ออยู่ปะปนกับนางมาสต่าง ๆ ก็ได้เรียนรู้ชีวิตอดสูของทาสหญิงทั้งหลายมากขึ้น ที่มีค่าเป็นเพียงสมบัติของพ่อหรือของผัว

เอยาวดีได้เพื่อนสนิทเป็นทาสด้วยกันชื่อ พี่ขาว (ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ) ทั้งสองมักมีเรื่องกับทาสหญิงขี้อิจฉา จอมเอาเปรียบ ชื่อ อีพริ้ง (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) เอยาวดีกำลังถูกทรมานให้รับแขกคนแรก อองดินคิดจะพาทั้งเอยาวดีและนางวาดออกไปจากเมืองหลวงเพื่อตัดปัญหาความ วุ่นวายทั้งหมด แต่เอยาวดีกลับปฏิเสธ หล่อนได้เบาะแส พี่ชายแล้ว โสเภณีที่เป็นชาวเชียงน้อยชื่อ นางบาง (ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) ที่ทำงานมาก่อนหน้า เล่าให้ฟังถึงกลุ่มแขกชาวเชียงน้อย ที่พูดถึงองค์ชายพลัดถิ่นของเขา เอยาวดีขออองดินอยู่ในโรงโสเภณีต่อไป อองดินไม่ยอม เอยาวดีจีงขอความช่วยเหลือจากสมองอันชาญฉลาดของนางวาด นางวาดจัดสมุนไพร ยาเมา ให้ผู้ชายที่มาใช้งานเอยาวดี จากนั้นก็จะให้นางบางและนางขาวทำหน้าที่นอนกับผู้ชายคนนั้นแทน ตื่นขึ้นมา ชายเหล่านั้นก็จะนึกไปว่าได้นอนกับเอยาวดีเป็นที่เรียบร้อย ด้วยวิธีนี้ เอยาวดีเชื่อว่าตนจะเอาตัวรอดไปได้

เอยาวดีและนางวาดตัดสินใจปลอมเป็นกันและกันต่อไป ทาสยังคงเป็นเจ้าหญิงและเจ้าหญิงยังคงเสี่ยงอันตรายอยู่ในโรงโสเภณีต่อไป วาดสวมบทบาทการเป็นเจ้าหญิง หม่อมนวลจอมงก เอาใจใส่ดูแลเต็มที่ ในขณะที่ ม.จ ดาบปราบศัตรู ไม่ยอมกลับบ้าน ท่านดาบอ้างเหตุราชกิจในหัวเมือง จงใจแสดงความไม่สนใจต่อเจ้าหญิงคู่หมั้น

แต่แล้ว ท่านดาบกลับไปพบกับเอยาวดี คู่หมั้นตัวจริงโดยบังเอิญในคืนหนึ่ง สหายของท่านดาบเห็นว่าท่านดาบกำลังเมา จึงคิดจะกลั่นแกล้งท่านดาบปราบศัตรู ด้วยการพานางโลมที่กำลังเลื่องชื่อจากโรงโสเภณีมากำนัล เอยาวดีพบกับท่านดาบโดยไม่รู้ว่าท่านดาบเป็นใคร ท่านดาบตกหลุมรักเอยาวดีทันที แต่เอยาวดีไม่มีเวลาคิดเป็นอย่างอื่น จัดการเอาสมุนไพรยาเมาให้ท่านดาบปราบศัตรูเสวย แม้ทั้งคู่จะไม่ได้มีสัมพันธ์กัน แต่ท่านดาบก็หลงใหลเอยาวดีจนถอนตัวไม่ขึ้น แม้ว่าหม่อมนวลจะพยายามให้ใกล้ชิดกับเจ้าหญิงองค์ปลอมในวัง แต่ท่านดาบก็ไม่สนใจ

นาย ก้าน (เบญจพล เชยอรุณ) ทาสยังรับใช้ใกล้ชิดจอมกะล่อนของท่านดาบ รู้ดีว่าหัวใจของท่านดาบนั้นอยู่ที่ใคร คุณหลวงอรรถ (วิศรุต วิจิตรานนท์) ข้าราชการฉ้อฉล ที่กำลังทรงอิทธิพล เคยมาเที่ยวที่โรงโสเภณี และคิดไปว่าตนได้นอนกับเอยาวดี หลวงอรรถหลงใหลเอยาวดี ทุ่มเงินขอซื้อเอยาวดีจากจีนฮง แต่จีนฮงปฏิเสธ หลวงอรรถจึงจัดสินใจดักฉุดเอยาวดี เดชะบุญที่ท่านดาบมาพบเข้าและช่วยได้ เอยาวดีจึงตัดสินใจหนีไปกบดานในชุมชนของชาวเชียงน้อย

ท่านดาบรับรู้เรื่องราวดังกล่าวก็ทำใจทอดทิ้งเอยาวดีไม่ได้ จำใจเป็นผู้พาเอยาวดี เดินทางขี่ม้าเข้าไปในชุมชนของชาวเชียงน้อยด้วยตนเอง อองดินว้าวุ่นใจนัก แม้จะรู้ว่าเอยาวดีปลอดภัย อองดินหลงรักเจ้าหญิงเอยาวดีฉันท์ชู้สาวมาตั้งแต่เด็ก การรับรู้ว่าเอยาวดีรอนแรมสองต่อสองเข้าไปในป่าพร้อมชายอีกคนนั้นทำให้หัวใจ อองดินเจ็บปวด นางวาดเองก็เศร้าสร้อยไม่ต่างกับอองดิน หลายวันมานี้นางวาดเริ่มใฝ่ฝันว่าเมื่อตนกับท่านชายดาบผูกสมัครรักใคร่กัน ในวันที่ความจริงถูกเปิดเผย เมื่อได้เป็นเมียเจ้า ตนก็จะปลอดภัยแถมยังพ้นจากสถานะของความเป็นทาส

หลวงอรรถเมื่อรู้ว่าเอยาวดีหายไป ภายใต้การปกป้องของท่านดาบไม้เบื่อไม้เมากับตนก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาพากลุ่มนักเลงออกติดตามท่านดาบไปตามทาง ชีวิตของเจ้าหญิงเอยาวดีและนางทาสวาดซึ่งสลับตัวกันผจญชีวิตและเรื่องราว ความรักของสองคู่จะลงเอยอย่างไรก็ต้องติดตามชมใน ละคร ทาสรัก

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร ทาสรัก

กฤษฎา  พรเวโรจน์   แสดงเป็น   ม.จ. ดาบปราบศัตรู หรือ ท่านดาบ
ทฤษฏี  สหวงษ์   แสดงเป็น  อองดิน
เข็มอัปสร  สิริสุขะ   แสดงเป็น  เจ้าหญิง เอยาวดี
เจนี่  เทียนโพธิ์สุวรรณ   แสดงเป็น  วาด
วิศรุต  วิจิตรานนท์   แสดงเป็น  คุณหลวงอรรถ
ธัญญา  โสภณ   แสดงเป็น  หม่อมนวล
สุเมธ  องอาจ   แสดงเป็น  เจ้าเมือง
นิลุบล อมรวิทวัส   แสดงเป็น   ภริยาเจ้าเมือง
ภาณุเดช  วัฒนสุชาติ   แสดงเป็น  หลวงโอสถ
โชติกา  วงศ์วิลาศ   แสดงเป็น  โนรี
เพ็ญเพ็ชร  เพ็ญกุล   แสดงเป็น  คุณเทพ
ศานติ  สันติเวชชกุล   แสดงเป็น  สมิงสินธู
สมภพ  เบญจาทิกุล   แสดงเป็น  เจ้าหลวง
ประกาศิต  โบสุวรรณ   แสดงเป็น  คุณพระพาณิชย์ หรือ จีนฮง
โชติกา  วงศ์วิลาศ   แสดงเป็น   โนรี
ดารณีนุช  โพธิปิติ   แสดงเป็น  ติ๊ด
เบญจพล  เชยอรุณ   แสดงเป็น  ก้าน
สกาวใจ  พูนสวัสดิ์   แสดงเป็น  พริ้ง
ปาจรีย์  ณ นคร   แสดงเป็น  หนิม
ชุดาภา  จันทเขตต์   แสดงเป็น  วง
พสิน  เรืองวุฒิ   แสดงเป็น  ขวด
ชมพู่  ก่อนบ่ายฯ   แสดงเป็น  ขาว
ปวันรัตน์  นาคสุริยะ   แสดงเป็น  บาง
โชติรส  แก้วพินิจ   แสดงเป็น   ไผ่
จอย  ชวนชื่น   แสดงเป็น   เหลือ

ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3 อสมท.
ในวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20:30 น. เริ่มตอนแรก วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2554

ดงผู้ดี

แขนภา ซัดเซพเนจรออกจากบ้าน ในระหว่างเดินทางซึ่งเป็นช่วงสงคราม แขนภาถูกรถชนจนสลบไป ครูสมพร ครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลมาพบเข้าจึงช่วยเหลือไว้ และแขนภา ความจำเสื่อม จำความเป็นไปเป็นมาของตนเองไม่ได้ จำได้เพียงว่าตนเองชื่อแข แขหรือแม่แขของครูสมพร ได้รับความเมตตาจากคุณครูอุปการะตัวเธอ รวมถึงลูกน้อยที่ติดท้องมาตอนที่ครูสมพรไปพบเข้า

แขทำงานดูแลทำความสะอาดภายในโรงเรียนเพื่อแลกกับการที่ครูสมพรให้การ ศึกษากับขม ลูกสาวของเธอเป็นอย่างดี แม้แขจะความจำเสื่อม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอจำได้คือบทเพลงนกขมิ้น แต่พอพยายามจะนึกต่อก็กลับนึกไม่ออก ในงานเลี้ยงส่งท่านผู้ว่าฯ ครูสมพรขอร้องให้แม่แขร้องเพลงนกขมิ้นให้กับวงเครื่องสายของโรงเรียน แม่แขร้องไปก็ค่อยๆ จดจำอดีตได้

ในงานนั้นเอง ชวาล หรือ พิทย์ รุ้งพราย มาถึงพอดี พอพบว่าผู้หญิงที่ร้องเพลงนกขมิ้นบนเวทีคือใคร เขาก็ดีใจอย่างมาก เพราะเขาพยายามตามหาแขนภามาเป็นเวลานานแล้วแต่ไม่เคยค้นพบ แต่ทว่า แขนภากลับมีอาการเลือดออกทางปากและจมูก และได้เสียชีวิตลงต่อหน้าต่อตาทุกคน ก่อนตาย แขนภาเห็นพิทย์ก็จำได้ และได้ฝากขม ลูกสาวไว้กับเขา ขมเสียใจมากที่แม่ตายจากไป พิทย์แนะนำตัวกับขมว่าเป็นพ่อของเธอ พิทย์พาขมไปที่บ้านพุทธชาด คืนวันนั้น รังสรรค์ลูกชายของคุณหญิงรัตนเดชากร จัดงานสมรสใหม่กับน้องสาวของเมียเก่า

พิทย์ ขอพบรังสรรค์บอกว่าเป็นเพื่อนเก่า รังสรรค์ตกใจมาก ไม่อยากเจอพิทย์ แต่พิทย์บอกว่าเอาลูกสาวมาฝากไว้ ขอให้เลี้ยงดูอย่างดี เสมอลูกคนอื่นๆ ของรังสรรค์ (ลูกติดเมียเก่า) รังสรรค์แค้นแทบกระอัก แต่ก็ต้องรับปาก เพราะมีเหตุผลที่จำใจต้องทำตามที่พิทย์ยื่นข้อเสนอ

พิทย์เป็นห่วงขมเลยฝากเอกสารเกี่ยวกับขมไว้กับลูกพี่ลูกน้องของเขาคือ ชาติสยาม และขอร้องให้ชาติสยามคอยดูแลขมแทนตัวเองในระหว่างที่ไม่อยู่ ขมต้องผจญชะตากรรมต่างๆ มากมายภายในบ้านพุทธชาด แต่เธอก็อดทนเพราะหวังว่าสักวันหนึ่งพ่อพิทย์จะมารับลูกขมออกไปจากบ้านหลัง นี้ และที่ขมมีกำลังใจอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะจดหมายที่พ่อเขียนส่งมาให้นั่นเอง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วส่วนใหญ่ชาติสยามจะเป็นผู้เขียนตอบจดหมายเหล่า นั้นหลังจากที่ชวาลได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ขมอายุได้ราว 10 ปี และเขียนมาเรื่อยกระทั่งถูกขมจับได้

ต่อมากระทั่งอีกวันก่อนขมจะอายุครบ 20 ปี ชาติสยามก็ได้เปิดพินัยกรรมที่ชวาลฝากไว้ โดยได้เปิดอ่านที่เรือนเล็กบ้านพุทธชาด ซึ่งได้เฉลยว่าที่แท้ขมก็คือบุตรีของรังสรรค์ทั้งยังเป็นเจ้าของเรือนเล็ก ซึ่งได้ตกเป็นของชวาลก่อนหน้านั้นแล้วจากภาระหนี้สินของรังสรรค์ และเป็นเหตุผลว่าทำไมที่ผ่านมารังสรรค์จึงไม่กล้าไล่ขมออกจากบ้าน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับบุหงาภรรยาของรังสรรค์จนถึงกับพยายามวางยาพิษแม่ สามีเพื่อให้ได้มรดกแต่ไม่สำเร็จทั้งยังถูกจับได้ ต่อมาบุหงาจึงสติแตกและไปทำร้ายรุ้งกาญจน์คู่หมั้นของชาติสยามด้วยความหึง หวงในตัวชาติสยามจนรุ้งกาญจน์เสียชีวิต ก่อนจะตายรุ้งกาญจน์ฝากฝังให้ขมช่วยดูแลชาติสยามต่อจากตน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บุหงาได้รับบาดเจ็บจนเป็นอัมพาตอีกทั้งยังไม่สามารถ พูดจาได้เนื่องจากกล่องเสียงถูกทำลาย ต่อมาในภายหลัง หลังจากที่ชาติสยามได้คลายความเศร้าแล้วและได้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ก็ได้กลับมาสู่ขอขมในที่สุด